1
กฎหมายที่ประชาชนควรรู ้ ในการดาเนินชีวติ ประจาวัน ประชาชนโดยทัว่ ไปจะต้องเกี่ยวข้องกับกฎหมายอย่างเลีย่ ง ไม่ได้ ดังนัน้ ประชาชนจึงมีความจาเป็ นทีจ่ ะต้องมีความรูค้ วามเข้าใจเกี่ยวกับกฏหมายบางอย่างทีค่ วรทราบ เพือ่ อานวยความสะดวกและรักษาสิทธิ ตลอดจนผลประโยชน์ทป่ี ระชาชนควรจะได้รบั ข้อ แนะนาข้อกฎหมายทีป่ ระชาชนควรทราบดังนี้ ๑. ทะเบียนราษฎร - บุตรเกิด ถ้าเกิดในบ้าน ให้เจ้าบ้านแจ้ง ถ้าเกิดนอกบ้านให้มารดาแจ้ง ภายใน
๑๕ วัน
นับแต่วนั เกิด - ชื่อบุตร ให้เจ้าบ้านบิดาหรือมารดาแล้วแต่กรณี แจ้ งชื่อบุตรพร้อมกับการแจ้งเกิด ถ้าจะ เปลีย่ นชื่อให้แจ้งภายใน ๖ เดือน นับตัง้ แต่วนั แจ้งชื่อครัง้ แรก - ย้ายบ้าน ให้ผูย้ า้ ยหรือผูท้ เ่ี จ้าบ้านมอบอานาจแจ้งออกจากบ้านเดิม ภายใน ๑๕ วัน และ เมือ่ ไปอยู่บา้ นใหม่ให้แจ้งภายใน ๑๕ วันเช่นกัน - คนตาย ถ้าตายในบ้าน ให้เจ้าบ้างแจ้ง ถ้าตายนอกบ้านให้ผูท้ ไ่ี ปกับผูต้ าย หรือผูท้ พ่ี บศพ เป็ นผูแ้ จ้ง ภายใน ๒๔ ชม. นับแต่เวลาตายหรือเวลาพบศพ แจ้งที่ไหน กรณี บตุ รเกิด, ตัง้ ชื่อบุตร, ย้ายบ้านหรือคนตาย ให้แจ้งดังนี้ - ในเขตเทศบาล ให้แจ้งทีส่ านักงานท้องถิน่ ซึง่ ตัง้ อยู่ทส่ี านักงานเทศบาล - นอกเขตเทศบาล ให้แจ้งทีส่ านักทะเบียนตาบล (บ้านกานัน) หรือสานักทะเบียนทีผ่ ูว้ ่า ราชการจังหวัดแต่งตัง้ (เช่นเขตกรมทหาร) - ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้แจ้งทีส่ านักงานทะเบียนท้องถิน่ ซึง่ ตัง้ อยู่ทว่ี ่าการเขต ความผิด - ถ้าไม่แจ้งเกิดภายในกาหนดเวลา มีความผิดตามกฎหมาย มีโทษปรับไม่เกิน ๒๐๐ บาท - ถ้าไม่แจ้งการตายภายในเวลา มีความผิดตามกฎหมาย มีโทษปรับไม่เกิน ๒๐๐ บาท ๒. บัตรประจาตัวประชาชน - คนไทยซึง่ มีอายุตงั้ แต่ ๑๕ ปี บริบูรณ์ข้นึ ไปจนถึง ๗๐ ปี บริบูรณ์ ต้องไปขอทาบัตรทีอ่ าเภอ หรือทีว่ ่าการเขตภายใน ๖๐ วัน นับตัง้ แต่วนั ทีอ่ ายุครบ ๑๕ ปี บริบูรณ์ - บัตรประจาตัวประชาชนชารุดหรือสูญหาย ต้องยืน่ คาร้องขอมีบตั รใหม่ภายใน ๓๐ วัน นับตัง้ แต่ บัตรเดิมชารุดหรือสูญหาย (ต้องไปแจ้งบัตรหายทีส่ ถานีตารวจ) - อายุของบัตร กาหนดใช้ได้ ๖ ปี เมือ่ ถึงกาหนดสิ้นอายุบตั รต้องไปติดต่อขอทาบัตรภายใน ๖๐ วัน นับตัง้ แต่วนั สิ้นอายุ ณ อาเภอท้องทีท่ ช่ี ่อื ในทะเบียนบ้าน
2 ความผิด - ผูถ้ อื บัตรผูใ้ ดไม่อาจแสดงบัตรได้ในเมือ่ เจ้พา นักงานขอตรวจ มีโทษปรับไม่เกิน ๑๐๐ บาท - ผูไ้ ม่มสี ญั ชาติไทย ยื่นคาร้องขอมีบตั รโดยแจ้งข้อความเท็จต่อเจ้าพนักงานว่าตนมีสญั ชาติไทย มีโทษปรับไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท หรือจาคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือทัง้ จาทัง้ ปรับ - ไม่ยน่ื คาขอมีบตั รภายในกาหนดเวลา มีโทษปรับไม่เกิน ๕๐๐ บาท - บัตรหมดอายุไม่ต่อบัตรภายในกาหนด มีโทษปรับไม่เกิน ๒๐๐ บาท ๓. รับราชการทหาร - กาหนดเวลาแสดงตนลงบัญชีทหารกองเกิน ชายไทยอายุย่างเข้า ๑๘ ปี ต้องไปแสดงตน เพือ่ ลงบัญชีทหารกองเกินในเดือนพฤศจิกายนของปี ทอ่ี ายุย่างเข้า ๑๘ ปี - สถานทีแ่ สดงตนเพือ่ ลงบัญชีทหารกองเกิน คือทีว่ า่ การอาเภอหรือกิ่งอาเภอทีเ่ ป็ นภูมลิ าเนาทหาร ๔. การรักษาความสะอาด - ห้ามขีดเขียน วาดรูปภาพบนรัว้ ผนังอาคาร ต้นไม้หรือสิง่ ใดในทีส่ าธารณะ หรือเห็นได้จาก ทีส่ าธารณะนัน้ ถ้าฝ่ าฝื นมีโทษปรับไม่เกิน ๒๐๐ บาท ๕. การเรี่ยไร - ผูท้ าการเรี่ยไร ต้องมีใบอนุญาตให้ทาการเรี่ยไรติดตัว และต้องออกใบรับให้ผูบ้ ริจาค ๖. หนังสือมอบอานาจ - การมอบอานาจเป็ นการตัง้ ตัวแทนเพือ่ ทาการสาหรับการมอบอานาจให้กระทาการเกี่ยวกับ ทีด่ นิ เป็ นเรื่องสาคัญ ควรใช้หนังสือมอบอานาจของกรมทีด่ นิ ๗. เอกเทศสัญญา - กูย้ มื การกูย้ มื กันเกินกว่าห้าสิบบาท จะต้องมีหลักฐานเป็ นหนังสือแสดงว่ามีการกูย้ มื เงิน กันจริง และต้องลงลายมือชื่อผูก้ ดู ้ ว้ ย กฎหมายให้คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี - การจานอง คือการกูย้ มื โดยมีทรัพย์สนิ เป็ นประกัน โดยทัว่ ไปได้แก่ทด่ี นิ บ้านพร้อมที่ ดิน เรือยนต์ (๕ ตันขึ้นไป) สัตว์พาหนะ ได้แก่ ช้าง ม้า วัว ควาย หรือสังหาริมทรัพย์อ่นื ซึง่ กฎหมายหากบัญญัติ ไว้ให้จดทะเบียนเฉพาะกาล โดยทรัพย์ยงั อยู่ทผ่ี ูจ้ านอง การจานองต้องทาเป็ นหนังสือและจดทะเบียนต่อ พนักงานเจ้าหน้าที่ - เช่าซื้อ ต้องทาเป็ นหนังสือแ ละปิ ดอากรแสตมป์ เว้นแต่เช่าซื้อเครื่องมือการเกษตรไม่ตอ้ ง ปิ ดอากรแสตมป์ - เช่าทรัพย์ เช่าบ้านหรือทีด่ นิ ไม่เกิน ๓ ปี ต้องทาเป็ นหลักฐานเป็ นหนังสือลงลายมือชื่อ ผูเ้ ช่าและให้เช่า หากเกิน ๓ ปี ต้องทาเป็ นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
3 ๘. กฎหมายที่ดิน - เมือ่ โฉนดใบจอง หรือ น .ส.๓ ชารุด สูญหาย หรือเป็ นอันตราย ต้องติดต่ออาเภอหรือ สานักงานทะเบียนทีด่ นิ เพือ่ ขอออกใบใหม่หรือใบแทน มิฉะนัน้ ผูอ้ ่นื ทีไ่ ด้หนังสือสาคัญไปอาจนาไปอ้างสิทธิทา ให้เจ้าของเดิมเสียประโยชน์ได้ - ทีด่ นิ มือเปล่า เจ้าของควรดูแลรักษาให้ดี อย่าทอดทิ้งหรือปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า หากมีผูม้ า ครอบครองก็หาทางไล่ออกไปเสีย มิฉะนัน้ เจ้าของจะเสียสิทธิ์ไป นอกจากนี้หากมี นส.๑ ก็ควรหาทางขอ นส.๓ แล้วต่อไปก็ขอมีโฉนดให้เรียบร้อย เพราะจะทาให้ได้ประโยชน์มากขึ้น และปลอดภัยจากการเสียสิทธิมากขึ้น - ทีด่ นิ มีโฉนด อย่าทอดทิ้งหรือปล่อยให้รกร้างหรือให้คนอื่นครอบครองไว้นาน ๆ อาจเสีย สิทธิได้เช่นกัน - การทานิตกิ รรม ต้องทาให้สมบูรณ์ตามกฎหมาย โดยทาทีอ่ าเภอหรือสานักงานทะเบียนทีด่ นิ ๙. อาวุธปื น - ผูท้ ป่ี ระสงค์จะขอมีอาวุธปื น เพื่ อใช้หรือเก็บไว้ป้องกันตัวหรือทรัพย์สนิ ให้ยน่ื คาร้องขอ ตามแบบ ป.๑ ต่อนายทะเบียนท้องที่ ๑. กรุงเทพมหานคร ได้แก่ ผูบ้ งั คับการกองทะเบียนกรมตารวจ ๒. จังหวัดอื่น ๆ ผูว้ ่าราชการจังหวัดเป็ นนายทะเบียนท้องทีจ่ งั หวัด - การแจ้งอาวุธปื น เมือ่ ผูไ้ ด้รบั อนุญาตให้มแี ละใช้อาวุธปื นย้ายภูมลิ าเนาต้องแจ้งย้าย อาวุธปื นต่อนายทะเบียนภายใน ๑๕ วัน นับแต่วนั ย้าย และถ้าย้ายไปต่างท้องทีใ่ ห้แจ้งการย้ายต่อนายทะเบียน ท้องทีใ่ หม่ภายใน ๑๕ วัน นับแต่วนั ทีย่ า้ ยไปถึงอีกด้วย - การรับมรดกปื น เป็ นหน้าที่ของทายาทหรือผูค้ รอบครอง ต้องไปแจ้งการตายต่อ นายทะเบียนท้องที่ ภายใน ๓๐ วัน นับตัง้ แต่วนั ทราบการตายและยืน่ คาร้องขอรับมรดกอาวุธปื นนัน้ ต่อไป - ใบอนุญาตสูญหายหรือชารุดอ่านไม่ออก ให้ยน่ื คาร้องขอรับใบแทนต่อนายทะเบียน ท้องทีภ่ ายใน ๓๐ วัน นับแต่วนั ทราบเหตุ - อาวุธปื นหายหรือถูกทาลาย ให้เจ้าของแจ้งเหตุพร้อมด้วยหลักฐานและส่งมอบใบ อนุญาต ต่อนายทะเบียนท้องทีท่ ต่ี นเองอยู่ หรือนายทะเบียนท้องทีท่ เ่ี กิดเหตุภายใน ๑๕ วัน นับแต่วนั ทราบเหตุ ความผิดและโทษของอาวุธปื น - มีและใช้อาวุธปื นโดยไม่ได้รบั อนุญาต ต้องระวางโทษจาคุกตัง้ แต่ ๑-๑๐ ปี และ ปรับตัง้ แต่ ๒,๐๐๐-๒๐,๐๐๐ บาท - พกพาอาวุธปื นติดตัวไปในเมือง หมูบ่ า้ น หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รบั อนุญาตให้พก เว้นแต่กรณีมเี หตุจาเป็ นเร่งด่วน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน ๕ ปี หรือปรับไม่เกิน ๑๐,๐๐๐๐ บาท หรือทัง้ จาทัง้ ปรับ - ผูใ้ ดพกพาอาวุธปื นไปโดยเปิ ดเผย หรือพาไปทีช่ มุ ชนทีไ่ ด้จดั ให้มขี ้นึ เพือ่ มนัสการ การรื่นเริง
4 การมหรสพ หรือการอื่นใด ต้องระวางโทษจาคุกตัง้ แต่ ๖ เดือน ถึง ๕ ปี และปรับตัง้ แต่ ๑,๐๐๐- ๑๐,๐๐๐ บาท แม้ว่าผูน้ นั้ จะได้รบั อนุญาตพกพาอาวุธปื นหรือกรณีเร่งด่วนก็ตาม โทษของอาวุธสงคราม - ผูใ้ ดทา ประกอบ ซ่อมแซม -ซื้อ-มี-ใช้-สัง่ หรือนาเข้า ซึง่ อาวุธสงคราม มีโทษจาคุกตัง้ แต่ ๒ ปี ถึงตลอดชีวติ - ผูใ้ ดมีและใช้อาวุธสงคราม ในการกระทาความผิดกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘, ๓๑๓, ๓๒๗, ๓๓๙ หรือ ๓๔๐ มีโทษจาคุกตลอดชีวติ ถึงประหารชีวติ - ผูใ้ ดค้าหรือจาหน่ายอาวุธสงคราม มีโทษจาคุกตัง้ แต่ ๒๐ ปี ถึงตลอดชีวติ ถ้าอาวุธ สงครามโดยสภาพมีอานุภาพไม่รา้ ยแรง มีโทษจาคุกตัง้ แต่ ๒ ปี ถึงตลอดชีวติ
เรื่องอืน่ ๆ ที่น่าสนใจ ประชาชนธรรมดาจะจับกุมผูก้ ระทาผิดได้หรือไม่ ? โดยปกติแล้วการจับกุมผูก้ ระทาผิดนัน้ เป็ นอานาจและหน้าทีข่ องเจ้าพนักงาน ซึง่ คาว่า เจ้าพนักงานทีว่ ่านี้มคี วามหมายกว้างขวาง ขึ้นอยู่กบั ว่ากฎหมายในแต่ละเรื่องนัน้ จะบัญญัตใิ ห้ใครเป็ นเจ้า พนักงาน เช่น เจ้าหน้าทีศ่ ุลกากร เป็ นเจ้าพนักงานตามกฎหมายศุลกากร มีอานาจหน้าทีใ่ นการจับกุมความผิด เกี่ยวกับการขนสินค้าหนีภาษี เจ้าหน้าทีส่ รรพสามิต เป็ นเจ้าพนักงานตามกฎหมายสรรพสามิต มีอานาจหน้าที่ จับคุมความผิดเกี่ยวกับสรรพสามิต ฯลฯ เป็ นต้น ส่วนตารวจ นายอาเภอ ปลัดอาเภอ นัน้ จัดอยู่ ใน ประเภทพนักงานฝ่ ายปกครอง มีอานาจหน้าทีจ่ บั กุมความผิดได้ทกุ ประเภท แม้ว่าความผิดนัน้ ๆ จะมีเจ้า พนักงานโดยเฉพาะอยู่แล้วก็ตาม เช่น ความผิดตามกฎหมายศุลกากรกฎหมายสรรพสามิต ตารวจ นายอาเภอ ปลัดอาเภอ ก็ยงั มีอานาจหน้าทีใ่ นการจับกุมได้ สาหรับประชาชนหรือทีเ่ รียกว่าราษฎรธรรมดานัน้ โดยปกติไม่มอี านาจและหน้าทีใ่ นการ จับกุมผูใ้ ดได้ เพราะประชาชนธรรมดาไม่ได้เป็ นเจ้าพนักงาน แต่อย่างไรก็ดกี ฎหมายไม่ได้หา้ มโดยเด็ดขาดตายตัวว่ามิให้ประชาชนธรรมดาจับกุมผูก้ ระทา ความผิดโดยสิ้นเชิง บทบัญญัตทิ เ่ี ป็ นข้อยกเว้นไว้ให้ประชาชนธรรมดามีอานาจทีจ่ ะจับกุมผูก้ ระทาผิด ได้เฉพาะในบางกรณีดงั ต่อไปนี้เท่านัน้ ๑. เมื่อเจ้าพนักงานร้องขอให้ช่วยจับ กรณีน้ ีจะต้องเป็ นเรื่องทีม่ หี มายจับอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็ นความผิดฐานใดก็ตาม และ เจ้าพนักงานผูม้ หี น้าทีจ่ ดั การตามกฎหมายหรือจับตามหมายจับนัน้ ได้รอ้ งขอให้ประชาชนธรรมดาช่วยจับกุม
5 ผูก้ ระทาผิดตามทีห่ มายจับระบุไว้ ข้อนี้จะต้องพึงระวังให้ดวี ่าถ้าเป็ นกรณีทเ่ี จ้าพนักงานจะจับกุม โดยไม่มี หมายจับแม้เจ้าพนักงานจะร้องขอให้ประชาชนธรรมดาช่วยจับ ประชาชนธรรมดาก็ไม่มอี านาจในการจับกุม มีขอ้ สังเกตว่าคาร้องขอของเจ้าพนักงานเช่นนี้ไม่ถอื เป็ นคาสัง่ ของเจ้าพนักงาน ดังนัน้ ประชาชนผูไ้ ด้รบั คาร้องขอจะปฏิบตั ติ ามคาร้องขอนัน้ หรือไม่กไ็ ด้ ๒. เมื่อพบการกระทาผิดซึ่งหน้าเฉพาะความผิดประเภทที่กฎหมายระบุไว้ กรณีน้ ีประชาชนผูพ้ บการกระทาผิดนัน้ สามารถเข้าทาการจับกุมได้ทนั ที โดยไม่ตอ้ งคอยให้ เจ้าพนักงานร้องขอ อย่างไรก็ดอี านาจในการจับกุมของประชาชนธรรมดาตามข้อ ๒ นี้ ค่อนข้างจะมีขอบเขต จากัดอยู่เฉพาะแต่ความผิดประเภททีร่ ะบุไว้ในท้าย ป .วิอาญาเท่านัน้ และต้องเป็ นกรณีทพ่ี บการกระทาผิด ซึง่ หน้าอีกด้วย ซึง่ เงือ่ นไขนี้นบั ว่าเป็ นปัญหาอยู่ไม่นอ้ ยสาหรับผูท้ ไ่ี ม่เคยเรียนกฏหมายมาก่อน เพราะจะไม่ ทราบว่าความผิดประเภทใดบ้างทีก่ ฎหมายระบุไว้ในบัญชีทา้ ย และก็ไม่ทราบว่าทีเ่ รียกว่าความผิดซึง่ หน้ามี ขอบเขตความหมายแค่ไหน เพราะถ้อยคานี้เป็ นคาทางกฏหมายซึง่ มีความ หมายเฉพาะไม่จาเป็ นต้องนามาเขียน ในทีน่ ้ ี แต่จะขอนาเอาความผิดซึง่ หน้าทีร่ ะบุอยู่ในบัญชีทา้ ยประมวลกฏหมายวิธพี จิ ารณาความอาญาเฉพาะที่ พบอยู่เสมอ เพือ่ เป็ นแนวทางในการจดจา - ความผิดต่อเจ้าพนักงาน - ความผิดฐานหลบหนีจากทีค่ ุมขัง - ความผิดต่อศาสนา - ความผิดปลอมแปลงเงินตรา - การก่อการจราจล - ข่มขืน กระทาชาเรา - ทาร้ายร่างกาย - ฆ่าคนตาย - หน่วงเหนี่ยวกักขัง - ลักทรัพย์ - วิง่ ราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ กรรโชกทรัพย์ ๓. เมื่อประชาชนผูเ้ ป็ นนายประกันผูต้ อ้ งหาหรือจาเลยที่ได้หลบหนี ประกันหรือจะหลบหนี ประกัน โดยเฉพาะเมือ่ ไม่สามารถจะขอความช่วยเหลือจากเจ้าพนักงาน ให้จบั กุมได้ทนั ท่วงทีเท่านัน้ ไม่ใช่เป็ นเจ้าหน้าทีท่ จ่ี ะต้องปฏิบตั ิ และถ้าเป็ นกรณีอ่นื นอกเหนือจากทีก่ ล่าวมานี้ ประชาชนธรรมดาก็ไม่มี อานาจทาการจับกุมผูก้ ระทาผิดได้เลย ผลทางกฎหมาย กรณีทป่ี ระชาชนธรรมดามีอานาจตามกฎหมายทีจ่ ะจับกุมผูก้ ระทาความผิดได้ ดังกล่าวมา
6 ในข้อ ๑-๓ นี้ ประชาชนผูท้ าการจับกุมย่อมได้รบั ความคุม้ ครองตามกฎหมาย เช่นไม่มคี วามผิดฐานทาให้ผู ้ ถูกจับเสือ่ มเสียอิสรภาพเสรีภาพ หรือหากผูจ้ ะถูกจับนัน้ ต่อสูข้ ดั ขวางประชาชน ผูจ้ บั ก็มอี านาจใช้กาลังป้ องกัน ตนได้พอสมควรแก่เหตุ ในทานองกลับกัน ถ้าเป็ นกรณีไม่มอี านาจจับกุมได้ตามกฎหมาย ผูจ้ บั ก็ตอ้ งมีความผิดฐาน ทาให้เสือ่ มเสียเสรีภาพ และอาจมีความผิดฐานอืนติ่ ดตามมามากมาย เช่น บุกรุก ทาร้ายร่างกาย ฯลฯ เป็ นต้น
คาแนะนาการจดจาตาหนิ รูปพรรณ บุคคล และยานพาหนะของคนร้าย การก่ออาชญากรรม การก่อการร้าย ถือได้ว่าเป็ นผลของการกระทาของบุคคลทัง้ สิ้น บุคคล ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องในแง่ของผูก้ ระทา ดังทีเ่ ราเรียกว่า "คนร้าย" หรือ "ผูร้ า้ ย" ประกอบกับการวิวฒั นาการ ทางเทคโนโลยีป่ จั จุบนั ได้เจริญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว จึงทาให้การกระทาความผิดของคนร้ายมักจะใช้ ยานพาหนะต่าง ๆ เพือ่ การหลบหนีอย่างรวดเร็ว พาหนะทีใ่ ช้ เช่น รถยนต์ , รถจักรยานยนต์ ฯลฯ ในช่วงเวลา ทีค่ นร้ายลงมือกระทาความผิดและหลบหนีนนั้ คนร้ายย่อมพยายามจะใช้เวลาให้รวดเร็วทีส่ ุด เพือ่ มิให้มผี ูใ้ ด พบเห็น และเพือ่ ให้รอดพ้นจากการสืบสวนติดตามจับกุมของเจ้าหน้าทีต่ ารวจ พนักงานรักษาความปลอดภัยหรือประชาชนทัง้ หลาย ย่อมมีโอกาสได้พบเห็นการกระทา ความผิดได้งา่ ยกว่าเจ้าหน้าที่ตารวจ ทัง้ นี้ เนื่องจากหากคนร้ายเห็นเจ้าหน้าทีต่ ารวจมักจะไม่กระทาความผิด ดังนัน้ การทีท่ ่านได้มโี อกาสพบเห็นการกระทาผิดดังกล่าวแล้วนัน้ ถ้าท่านได้ถกู ซักถามถึงเหตุการณ์ทเ่ี กิดขึ้น ท่านอาจจดจาได้เฉพาะเหตุกว้าง ๆ เท่านัน้ ในรายละเอียดอันสาคัญ เช่น รูปพรรณ ของคนร้าย การหลบหนี ด้วยวิธใี ด ท่านอาจจะตอบไม่ถกู ทัง้ นี้เพราะท่านอาจไม่สนใจมากนัก หรืออาจเนื่องจากการทีท่ ่านยังไม่ทราบ ว่าหลักการทีจ่ ะสังเกตจดจารูปพรรณคนร้ายยานพาหนะทีใ่ ช้หลบหนีเป็ นอย่างไร และมีความสาคัญอย่างไร จึงต้องจดจาสิง่ เหล่านัน้ การจดจาตาหนิรูปพรรณของคนร้าย ยานพาหนะของคนร้ายได้ดนี นั้ มีความสาคัญมาก ต่อการสืบสวนจับกุมกระทาความผิดมาลงโทษ ทัง้ นี้เนื่องจากถ้าท่านสามารถจดจารูปร่าง หน้าตา ตาหนิ รูปพรรณของคนร้าย และลักษณะรูปพรรณคล้ายกับข้อมูลของท่าน หรือนาไปสเก๊ตช์ภาพคนร้าย แล้วประ กาศ สืบจับโดยทัว่ ไป ส่วนยานพาหนะทีใ่ ช้นนั้ ย่อมเป็ นแนวทางในการสืบสวนไปถึงตัวผูเ้ ป็ นเจ้าของ และผูท้ ใ่ี ช้ ยานพาหนะนัน้ ซึง่ อาจสันนิษฐานได้ว่าเป็ นคนร้ายทีไ่ ด้กระทาความผิด อันเป็ นประประโยชน์ต่อการสืบสวน การปฏิบตั งิ านของเจ้าหน้าทีต่ ารวจเป็ นอย่างยิง่ ในผลงานของตารวจ ทีผ่ ่านมาเป็ นจานวนมากทีพ่ ลเมืองดี เช่น ท่านทัง้ หลาย ได้แสดงความสามารถในการสังเกตจดจาตาหนิรูปพรรณคนร้าย และยานพาหนะทีใ่ ช้เป็ นอย่างดี เป็ นผลให้ตารวจสามารถพิชติ คดีสาคัญ ๆ แล้วได้ตวั คนร้ายมาลงโทษในทีส่ ุด ดังนัน้ เพือ่ เป็ นการผนึกกาลังร่วมกันระหว่างตารวจกั บประชาชน ในอันทีจ่ ะป้ องกัน ปราบปรามอาชญากรรม การก่อความวุ่นวายต่าง ๆ พวกเราต้องช่วยกันทุกวิถที างในอันทีจ่ ะป้ องกันมิให้เกิด
7 เหตุหรือหากมีเกิดขึ้นเราก็สามารถจดจาข้อมูลของคนร้าย และนามาลงโทษได้ เพือ่ รักษาความสงบ เรียบร้อย ความปลอดภัยแก่สงั คม หรือสถานที่ ทีท่ ่านดูแลรักษาให้คงอยู่ตลอดไป ในการนี้จงึ ขอแนะนาวิธกี าร จดจาตาหนิรูปพรรณคนร้าย ลักษณะยานพาหนะต่าง ๆ มาให้ ท่านได้รบั ทราบ เพือ่ เป็ นแนวทางในการสังเกตจดจา และโดยเฉพาะอย่างยิง่ ตาหนิรูปพรรณของคนร้าย หาก ท่านสามารถจดจารายละเอียดได้มาก โอกาสทีท่ างตารวจจะจับกุมคนร้ายก็มมี ากขึ้นด้วย การสังเกตจดจาตาหนิ รูปพรรณบุคคล หรือคนร้าย ๑. หลักของการสังเกตจดจาตาหนิรูปพรรณ มีดงั นี้ ๑.๑ สังเกตจดจาสิง่ ทีใ่ หญ่เห็นง่ายไปสู่สง่ิ ทีเ่ ล็กเห็นยาก ๑.๒ สังเกตจดจาลักษณะเด่น ตาหนิไปสู่ลกั ษณะปกติธรรมดา ๑.๓ พยายามอย่าจดจาทุกสิง่ ทุกอย่าง แต่ให้จดจาบางสิง่ บางอย่างทีท่ ่านจดจาได้อย่าง แม่นยา ๑.๔ เมือ่ คนร้ายหลบหนีไปแล้วอย่าถามผูอ้ ่นื ว่าเห็นอะไร ให้รบี บันทึกตาหนิรูปพรรณที่ ท่านเห็นและจดจาได้ ลงในสมุดหรือกระดาษทันที ๑.๕ มอบรายละเอียดให้กบั เจ้าหน้าทีต่ ารวจผูม้ หี น้าทีเ่ กี่ยวข้อง ๒. สิง่ ที่สามารถจดจาได้งา่ ย และควรจดจาก่อน ๒.๑ เพศ เป็ นชาย หญิง กะเทย ๒.๒ วัยเด็ก วัยรุ่น ผูใ้ หญ่ แก่ ฯลฯ อายุประมาณเท่าใด ๒.๓ รูปร่าง สูง เตี้ย อ้วน ผอม สันทัด ฯลฯ ๒.๔ ผิวเนื้อ ขาว ขาวเหลือง ดา ซีด เหีย่ วย่น ฯลฯ ๒.๕ เชื้อชาติ ดูจากใบหน้า เป็ นคนไทย จีน ลูกครึ่ง แขก ฯลฯ ๒.๖ รูปหน้า รูปไข่ กลม ยาว เหลีย่ ม ฯลฯ ๒.๗ ผม สัน้ หงอก หนา หยิก ตัดทรงอะไร หวีอย่างไร ฯลฯ ๒.๘ ปาก กว้าง แคบ ใหญ่ ริมฝี ปากหนา ฯลฯ ๒.๙ หู กางใหญ่ เล็ก ติ่งหูแหลม ฯลฯ ๒.๑๐ ตา เล็ก โต พอง โปน ตาชัน้ เดียว ตาเข สวมแว่นตา แว่นกันแดด ฯลฯ
๓. สิง่ ที่เป็ นจุดเด่นผิดปกติ ตาหนิ ที่อาจจดจาได้งา่ ย ๓.๑ ตาหนิแผลเป็ นบนใบหน้า ไฝ ปาน หูด เนื้อติ่ง มีลกั ษณะอย่างไร อยู่ส่วนไหนของร่างกาย ๓.๒ แผลเป็ น มีลกั ษณะอย่างไร ขนาดเท่าใด อยู่ทส่ี ่วนไหนของร่างกาย ๓.๓ ลายสัก สักรูปอะไร สีอะไร อยู่ทส่ี ่วนไหนของร่างกาย
8 ๓.๔ ความพิการ ตาบอด หูหนวก ใบ้ แขนขาด้วน ลีบ ปากเบี้ยว ฯลฯ ๓.๕ ท่าทางการเดิน เดินตัวตรง ตัวเอียง ขากะเผลก ๓.๖ สาเนียงการพูด พูดช้า เร็ว ติดอ่าง สาเนียงเป็ นคนไทย จีน ฝรัง่ หรือสาเนียงคนภาคใด ๓.๗ การกระทาบ่อย ๆ สูบบุหรี่จดั พูดเอามือปิ ดปาก ติดยาเสพติด เวลาพูดเอามือ ล้วงกระเป๋ า ๓.๘ การแต่งกาย จดจาเสื้อ กางเกง เช่น แขนสัน้ -ยาว, ขาสัน้ -ยาว ฯลฯ แบบของเสื้อ กางเกง เช่น ยีน เสื้อยืด เสื้อเชิ้ต เครื่องแบบนักศึกษา สีอะไร ลายแบบไหน มีตวั เลขอะไรหรือไม่ รองเท้าที่ สวมเป็ นชนิดใด สีอะไร แบบใด ๓.๙ เครื่องประดับ มีเครื่องประดับอะไรบ้าง ทีเ่ ห็นได้ชดั เช่น แว่นตา นาฬกิ า แหวน สร้อย กระเป๋ าถือ ฯลฯ ๔. กรณี ท่คี นร้ายมีการพรางใบหน้า เช่น สวมแว่นตากันแดด สวมหมวกกันน็อค สวมหมวก สวมหน้ากาก คลุมศีรษะ ด้วยถุง ฯลฯ ก็ให้พยายามจดจาสิง่ ทีใ่ ช้พราง และจดจาส่ว นอื่น ๆ ของร่างกายทีม่ ไิ ด้พรางและจดจาได้งา่ ย ดังทีเ่ คยได้กล่าวมาแล้ว การสังเกตจดจายานพาหนะของคนร้าย หรือผูต้ อ้ งสงสัย ๑. มีหลักใหญ่ ๆ ดังนี้ ๑.๑ สังเกตจดจาสิง่ ทีใ่ หญ่ เห็นง่าย ไปสู่สง่ิ ทีเ่ ล็กเห็นยาก ๑.๒ สังเกตจดจาตาหนิ รอยชน สติกเกอร์ จุดเด่นต่าง ๆ ๑.๓ พยายามสังเกตอย่าจดจาทุกสิง่ ทุกอย่าง แต่ให้จดจาบางสิง่ ทีท่ ่านจาได้อย่างแม่นยา ๑.๔ เมือ่ คนร้ายหลบหนีไปแล้ว อย่าถามผูอ้ ่นื ว่าเห็นอย่างไร ให้รบี บันทึกลักษณะเอาไว้ ทันที ๑.๕ มอบรายละเอียดให้กบั ตารวจผูม้ หี น้าทีเ่ กี่ยวข้อง ๒. สิง่ ที่สามารถจดจาได้งา่ ยและควรจดจาก่อน ๒.๑ ประเภทรถ เป็ นรถจักรยานยนต์ รถเก๋งส่วนบุคคล รถยนต์แท็กซีส่ าธารณะ รถบรรทุก รถปิ ก๊ อัพ รถสามล้อเครื่อง รถจิป๊ ฯลฯ ๒.๒ สีของรถ เป็ นรถสีใด บริเวณใด เป็ นสีชนิดธรรมดา ลูไซด์ ฯลฯ ๒.๓ ความเก่า-ใหม่ เป็ นรถค่อนข้างใหม่หรือเก่า ๒.๔ ยีห่ อ้ เป็ นรถยีห่ อ้ รุ่นปี พ.ศ.ใด (ต้องฝึ กดูและจดจายีห่ อ้ ต่าง ๆ) ๒.๕ หมายเลขทะเบียน ดูได้จากแผ่นป้ ายทะเบียน ให้จดจาทัง้ ตัวอักษรและหมายเลข ถ้าเป็ นรถต่างจังหวัด ให้ จดจาชื่อจังหวัดด้วย แผ่นป้ ายทะเบียนของรถประเภทต่าง ๆ จะแตกต่างกันไป เช่น รถเก๋งส่วนบุคคลแผ่นป้ ายจะเป็ นพื้นสีขาว ตัวเลขและตัวอักษรสีดา (เป็ นป้ ายของทางราชการ) ติด
9 ข้างหน้า-หลัง รถแท็กซีแ่ ผ่นป้ ายจะเป็ นพื้นสีเหลือง ตัวเลขอักษรสีดา ติดข้างหน้า -หลัง แผ่นป้ าย รถจักรยานยนต์จะเป็ นพื้นสีขาว ตัวเลขอักษรสีดา ติดข้างหลังแผ่นเดียว อนึ่งในการสังเกตแผ่นป้ ายทะเบียนพยายามสังเกตด้วยว่า เป็ นแผ่นป้ ายทีต่ ดิ ไว้อย่างหลวม หรือติดอย่างแน่นหนา หรือมีการพรางเลขตัวอักษรของแผ่นป้ ายนัน้ ๆ หรือไม่ ด้วยวิธใี ด (ปัจจุบนั คนร้าย มักใช้แผ่นป้ ายทะเบียนปลอม หรือมีการพรางหมายเลขทะเบียน และตัวอักษรให้ผดิ ไปจากความเป็ นจริง) ๓. สิง่ ทีเ่ ป็ นตาหนิรอยชนจุดเด่นทีเ่ ห็นได้ชดั ๓.๑ ตาหนิ เช่น กระจกแตก สีลอก มีรอยเจาะทีต่ วั ถังของรถ ฯลฯ ๓.๒ รอยชน รอยบุบ รถมีรอยถูกชนบริเวณใดมากน้อยอย่างไร มีรอยบุบทีใ่ ด ๓.๓ จุดเด่น เป็ นรถทีแ่ ต่งเพือ่ ใช้แข่งขัน มีเสาอากาศ ติดอุปกรณ์พเิ ศษต่าง ๆ กับรถ ฯลฯ ๓.๔ สติกเกอร์ ฟิ ลม์ ติดสติกเกอร์บริเวณใด เป็ นรูปหรือเครื่องหมาย หรือข้อความ อย่างไร มีตดิ ฟิ ลม์ กรองแสงทึบมาก-น้อยทีใ่ ด อย่างไร ๓.๕ แผ่นป้ ายทีต่ ดิ กับกระจกด้านหน้า ได้แก่ ป้ ายแผ่นป้ ายวงกลมแสดงการเสียภาษี แผ่นป้ ายผ่านเข้า-ออก ของสถานทีต่ ่าง ๆ บางครัง้ ระบุช่อื ไว้ทแ่ี ผ่นป้ าย ถ้าเห็นให้จดจาไว้ดว้ ยแผ่นป้ ายแสดง สิทธิพเิ ศษต่าง ๆ เช่น การจอดรถ การประกันภัย ฯลฯ ๓.๖ เสียงของเครื่องยนต์ แตร จดจาว่ามีเสียงอย่างไร รถบางประเภทมีเสียง เครื่องยนต์ เสียงแตรเฉพาะตัว เสียงรถแข่ง รถปกติ รถสามล้อ รถจักรยานยนต์ ย่อมแตกต่างกัน บางครัง้ ไม่เห็นยานพาหนะก็อาจสันนิษฐานได้ว่าเป็ นยานพาหนะอะไร แต่ตอ้ งอาศัยความชานาญพอสมควร ทัง้ หมดทีไ่ ด้แนะนามานี้ เป็ นเพียงแนวทางในการทีท่ ่านจะใช้ในการสังเกตจดจาตาหนิ รูปพรรณของบุคคล ลักษณะของยานพาหนะทีต่ อ้ งสงสัย การทีท่ ่านจะจดจาได้ดนี นั้ ขึ้นอยู่กบั ว่าท่านมีความ สนใจและมีการฝึ กฝน ในการจดจาตามแนวทางนี้มากน้อยเพียงใด วิธกี า รฝึ กจดจานัน้ ไม่ใช่ของยาก ท่านอาจ ฝึ กฝนจดจาบุคคลทีเ่ ดินผ่านไปมา หรือยานพาหนะทีผ่ ่านไปมา แล้วลองบันทึกสิง่ ทีท่ ่านจดจาได้ แล้วนาไป ตรวจสอบกับบุคคล ยานพาหนะจริง อย่างไรก็ตามข้อสาคัญของการสังเกตจดจาจะเป็ นประโยชน์ต่อการ สืบสวนของตารวจก็คือ ข้อมูลทีแ่ ม่นยาใกล้เคี ยงกับความเป็ นจริงมากทีส่ ุด ดังนัน้ หากท่านไม่แน่ใจในข้อมูล ใด ๆ ก็ไม่ควรใช้วธิ เี ดาหรือคิดเอาเอง เพราะถ้าให้ขอ้ มูลเหล่านี้กบั ตารวจแล้ว อาจทาให้เกิดการไขว้เขวสับสน แก่การปฏิบตั งิ านของตารวจอย่างแน่นอน
การปฐมพยาบาลผูป้ ่ วย เนื่ องจากประสบอุบตั เิ หตุและอุบตั ภิ ยั ต่าง ๆ การปฐมพยาบาล เป็ นการรักษาพยาบาลโดยรีบด่วนเป็ นพิเศษแก่ผูป้ ่ วยก่อนนาตัวส่งโรงพยาบาล หลักทัว่ ไปในการให้การปฐมพยาบาล
10 ๑. ห้ามไม่ให้คนมุงล้อมตัวผูป้ ่ วย ๒. ให้นอนพักนิ่ง ๆ ๓. คอยสังเกตชีพจร, การหายใจ และอาการผูป้ ่ วยตลอดเวลา ๔. ก่อนนาผูป้ ่ วยไปพบแพทย์ควรได้รบั การปฐมพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ๕. การเคลือ่ นย้ายผูป้ ่ วยต้องปฏิบตั ใิ ห้ถกู ต้องตามวิธี หากเคลือ่ นย้ายไม่ถกู วิธี ผูป้ ่ วย อาจ เป็ นอัมพาตตลอดชีวติ หรืออาการจะรุนแรงมากจนรักษาพยาบาลไม่ได้ ๖. ควรมีรายการเกี่ยวกับตัวผูป้ ่ วยและการพยาบาลทีใ่ ห้ไปแล้วด้วย ๗. ในรายการเกี่ยวกับคดี ควรจดปัญหาสาเหตุ, สถานทีเ่ กิดเหตุ, เวลา, อาการและบาดแผลไว้ ๘. อย่าทาการรักษาผูป้ ่ วยด้วยตนเอง การปฏิบตั ขิ น้ั ตอนเมื่อพบผูป้ ่ วยทาดังนี้ ๑. ห้ามเคลือ่ นย้ายผูป้ ่ วยเป็ นอันขาด จนกว่าจะแน่ใจว่าผูป้ ่ วยไม่มกี ระดูกหัก ๒. ถ้ามีอาการเลือดออกต้องห้ามเลือดก่อน ๓. ถ้าหยุดหายใจต้องทาการผายปอด ๔. ในกรณีคนไข้ยงั ไม่รูส้ กึ ตัวห้ามไม่ให้คนไข้ด่มื นา้ หรือยาใด ๆ เป็ นอันขาด ๕. พยายามให้ผูป้ ่ วยนอนตะแคงหน้าไปด้านใดด้านหนึ่ง เงยคางไว้ ถ้ามีอาเจียนเต็มปาก ต้องควักออกให้หมด ๖. ผูท้ าการปฐมพยาบาลต้องมีความรอบรู ้ สติดี , รูจ้ กั ดัดแปลงของใช้ เช่น ไม้กระดาน , ผ้าเช็ดหน้า, ผ้าปูโต๊ะ, เศษผ้า, เชือก, เศษไม้ นามาใช้ให้เป็ นประโยชน์ ๗. ส่งผูป้ ่ วยไปรับการรักษาทีถ่ กู ต้องต่อไป จากสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาล ทีใ่ กล้ทส่ี ุด
การแจ้งข่าวอาชญากรรม ในกรณีทท่ี ่านทราบข่าวเกี่ยวกับอาชญากรรม ซึง่ ไม่ใช้เป็ นเหตุทเ่ี ร่งด่วน เช่น รูต้ วั หรือทราบ แหล่งหลบซ่อนของคนร้าย เพือ่ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าทีต่ ารวจในการป้ อ งกันและปราบปรามอาชญากรรม ในฐานะทีท่ ่านเป็ นพลเมืองดีคนหนึ่ง ขอให้ท่านแจ้งข่าวสารให้เจ้าหน้าทีต่ ารวจได้ทราบ โดยวิธใี ดวิธหี นึ่งทีท่ ่าน จะสะดวกดังนี้ ๑. ทางโทรศัพท์ โดยโทรศัพท์แจ้งต่อสถานีตารวจท้องที่ ๒. ทางจดหมาย ขอให้ท่านเขียนแจ้งข่าวสารได้ โดยท่านจะแจ้งนามของท่านหรือไม่กไ็ ด้
จ่าหน้าซองถึง
11 สารวัตรใหญ่ หรือสารวัตรท้องที่ หรือจะส่งโดยตรงถึงกองบังคับการตารวจภูธร ๖ อ.เมือง จว.ขอนแก่น ๓. พบเป็ นการส่วนตัว ซึง่ ท่านอาจจะสละเวลาไปพบตารวจทีส่ ถานี หรืออาจจะขอให้ตารวจไปพบท่านก็ได้ สาหรับการให้ขา่ วสารแก่เจ้าหน้าทีต่ ารวจนัน้ ทางเจ้าหน้าทีต่ ารวจมีความยินดีและพร้อม เสมอทีจ่ ะรับข่าวสารจากท่าน ทัง้ ข่าวสารทีท่ างเข้าเจ้าหน้าทีต่ ารวจได้รบั จากท่านจะถือว่าเป็ นสิง่ ทีม่ คี ุณค่ามาก โดยจะเก็บรักษาไว้เป็ นความลับ ข้อเตือนใจ ๑. อย่าแจ้งข่าวเท็จ อันเป็ นการกระทาทีไ่ ม่ใช่เป็ นพลเมืองดี ทัง้ อาจเกิดผลเสียหายต่อ ส่วนรวมและตัวท่านเองด้วย ๒. ข่าวทีม่ รี ายละเอียดมากเท่าใด ย่อมเกิดประโยชน์ต่อ การปฏิบตั งิ านของเจ้าหน้าทีต่ ารวจ มากขึ้นเท่านัน้
ข้อความที่ควรแจ้งแก่เจ้าหน้าที่ตารวจ ๑. เหตุทเ่ี กิด. . . . . . . . . . . . . . . . . . . รายละเอียดโดยย่อ . . . . . . . . . . . . . . . . ๒. สถานที่ . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .ตรอก, ซอย. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ถนน . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .สถานทีใ่ กล้เคียง . . . . . . . . . . . . . . . . . . ๓. ชื่อผูแ้ จ้ง . . . . . . . . . . . . . . . . . . .โทรศัพท์ . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
การรักษาสถานที่เกิดเหตุ ในการสืบสวนคดีอาญานัน้ พยานหลักฐานทีเ่ จ้าหน้าทีต่ ารวจได้พบและรวบรวมได้จาก สถานทีเ่ กิดเหตุ มีส่วนสาคัญอย่างยิง่ ทีจ่ ะนาไปสู่การจับกุมและนาตัวผูก้ ระทาความผิดมาดาเนินคดีตามกฏหมาย อย่างไรก็ตามในทางปฏิบตั แิ ล้ว เจ้าหน้าทีต่ ารวจต้องประสบอุปสรรคมากมายในการรวบรวมพยานหลักฐาน จากสถานทีเ่ กิดเหตุ เนื่องจากประชาชนทีช่ อบมุงดูเมือ่ เกิดเหตุการณ์ ชาวบ้านทีอ่ ยู่ใกล้เคียง ญาติพน่ี อ้ ง เพือ่ นฝูง มักจะเข้ามาในบริเวณทีเ่ กิดเหตุ และทาลายหลักฐานร่องรอยต่าง ๆ ทีค่ นร้ายอาจทิ้งไว้ให้ลบ เลือ่ น หายไปเสียโดยมิได้เจตนา ซึง่ ผลเสียทีเ่ กิดขึ้นตามมาคือพยานหลักฐานทีส่ าคัญได้สูญเสียไปอย่างน่าเสียดาย ดังนัน้ เมือ่ ท่านอยู่ในสถานทีเ่ กิดเหตุ หรือไปถึงสถานทีเ่ กิดเหตุเป็ นคนแรก ควรดาเนินการ ดังนี้ ๑. แจ้งเหตุการณ์ทเ่ี กิดขึ้นหรือได้พบเห็นให้เจ้าหน้าทีต่ ารวจ สถานีตา รวจทีอ่ ยู่ใกล้เคียง หรือศูนย์รวมข่าววิทยุ โดยเร็วทีส่ ุด
12 ๒. สอบถามชื่อ หรือจดจาลักษณะและเครื่องแต่งกายของบุคคลทีอ่ ยู่ในสถานทีเ่ กิดเหตุ หรือสถานทีใ่ กล้เคียง เพือ่ แจ้งให้กบั เจ้าหน้าทีผ่ ูร้ บั ผิดชอบทราบในภายหลังได้โดยง่าย ๓. สังเกต จดจา และบันทึก ๓.๑ สภาพแวดล้อม ซึง่ เปลีย่ นไปได้โดยง่าย เช่น กลิน่ ดินปื น กลิน่ นา้ หอม กลิน่ แก๊ส และกลิน่ นา้ มันเบนซิน ๓.๒ สภาพดินฟ้ าอากาศ เช่น ฝนตก ฟ้ าคนอง หรือแดดออก มีเมฆหรือฟ้ าใส ๓.๓ ลักษณะการแต่งกาย และเสื้อผ้า ของผูบ้ าดเจ็บหรือผูเ้ สียชีวติ ๔. ไม่เคลือ่ นย้ายวัตถุต่าง ๆ จากสถ านทีเ่ กิดเหตุ เว้นแต่กรณีมี ความจาเป็ นในการช่วยชีวติ คนเจ็บ ๕. ไม่หยิบ จับ วัตถุต่าง ๆ ในสถานทีเ่ กิดเหตุ ๖. ในกรณีมผี ูเ้ สียชีวติ ไม่ควรแตะต้องหรือเคลือ่ นย้ายศพโดยเด็ดขาด ยกเว้นเป็ นกรณี เพือ่ ตรวจสอบว่ายังคงมีชวี ติ อยู่หรือไม่ ๗. ดูแลมิให้ผูท้ ไ่ี ม่มสี ่วนเกี่ยวข้อง เข้าไปทาการหยิบ จับ โยกย้าย สับเปลีย่ น นาไป หรือ ทาลายวัตถุต่าง ๆ และร่องรอยในสถานทีเ่ กิดเหตุ ๘. แจ้งข้อมูลต่าง ๆ ทีไ่ ด้รบั ทราบและให้ความร่วมมือเมือ่ เจ้าหน้าทีต่ ารวจมาถึงสถานทีเ่ ดเหตุ กิ