เพราะเป็นผู้ปกครองทอสี

Page 1














แม ออย อันนา ต นโมก ๒ / อิงค ต นก ามปู ๓ สิ่งที่ผู ปกครองได เรียนรู และเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิต และ หรือ ได หลักคิดจากการเป นผู ปกครองโรงเรียนทอสี มากมายค ะ จากการเป นผู ปกครองโรงเรียนทอสีมาร วม ๑๐ ป ก็ได เป นนักเรียนไปด วยค ะ ดูเหมือนว าจะเป นนักเรียนมากกว า มีทั้งเรื่องการใช ชีวิต การเลี้ยงลูก การทำงาน โดยหลักๆแล วชีวิตคือการเรียนรู เราจะเป นนักเรียนตลอดชีวิต มีเรื่องอะไรที่เกิดขึ้น ก็นำมาเรียนรู ได ไม ว าสิ่งนั้นจะทำให เรารู สึกอย างไร และไม มีเรื่องอะไรช าไปที่จะเรียนรู หรือ ไม มีอะไรที่เรารู หมดแล ว ชีวิตคือการเรียนรู การได อยู ทอสีได มีโอกาสฟ งคำสอนของครูบาอาจารย และทำให มีสติในการใช ชีวิตมากขึ้น ได รู ว าการปฏิบัติไม จำเป นต องทำในวัด หรือ สถานปฏิบัติธรรมอย างเดียว เราต องทำให ได ในชีวิตประจำวัน และที่บ าน ทำให ได ทุกวันทุกขณะดูใจตัวเอง ดูการกระทำ ว าเราคิดเราเกิดอารมณ ใดในเวลานั้นๆ มีโอกาสได พัฒนาศีล ๕ ให บริสุทธิ์มากขึ้น ได เข าใจจ�ดมุ งหมายการถือศีล ๘ เพื่อให อยู ง าย กินง าย ลดละสิ่งที่มากระตุ นกิเลส รู จักคำว าเพียร ๔ ทำให รู จักพิจารณาทุกข (ป ญหา) ที่เราเห็นว าต องแก ไข หรือต องป องกันอย างไร หรือต องพัฒนาตนเองด านไหน รู ว าลูกของเราทุกคนไม เหมือนใคร มีจ�ดด อยจ�ดเด นที่ไม เหมือนกัน ลดการคาดหวังในตัวลูกได ดียิ่งขึ้น แต ก็ยังพยายามหาวิธีที่จะช วยให ลูกได พัฒนาจ�ดที่ยังด อยอยู ให ดีขึ้น ยอมรับว ายากมาก แต นี่แหละค ะคือการใช เพียร ๔ และ อริยสัจ ๔ มาใช เรามุ งในการทำเหตุ แต ปล อยผลค ะ ที่ทอสีเป ดโอกาสให ผู ปกครองที่อยากพัฒนาสิ่งใดก็ให มีโอกาสได ทำ โดยได ทำกิจกรรมในโรงเรียนร วมกับคุณครู ผู ปกครอง และนักเรียน ทำให มีโอกาสในการเรียนรู กิจกรรมนั้นๆ เช น ม วนชื่นฯ, ค ายเบิกบาน, งานฝ ายงามฯ, ทำกิจกรรมกับลูกๆในห อง, การร วมกันจัดแฟมิลี่ทริป ฯลฯ ผลที่ตามมาคือการเรียนรู มากมาย เป นตัวกิจกรรมนั้นๆ รู จักชุมชน รู จักวิธีทำงาน รู จักวิธีการวางใจ ได เจอป ญหาในงาน ได รู ว าป ญหามีแน ๆ และมีทุกๆงาน และป ญหาก็ทำให เราเกิดป ญญา และรู ว าป ญหายังไงเราก็ต องผ านมันไปค ะ รู ว าการทำงานเมื่อมีความคาดหวังความทุกข มักตามมา คือป ญหามันจะใหญ ขึ้นโดยใช เหตุค ะ ต างกับทำงานที่มุ งที่เหตุให ดีที่สุด โดยผ านการคิดวิเคราะห เตรียมการอย างดีดว ยนะคะ (เต็มที่ จัดเต็ม) ด วยใจทีเ่ ป นกุศล และปล อยวางผลจะออกมาเป นอย างไรค ะ ในทุกๆ งานไม วา จะเป นอย างไร เราจะมีเรือ่ งให ได เรียนรูท กุ งาน และได มติ รภาพเพิม่ ขึน้ ทุกงานค ะ และได เรียนรูเ รือ่ งคนมากๆค ะ ไม มีใครในโลกนี้จะมีแต ดี หรือร ายนะคะ ทุกคนมีทั้ง ๒ ด าน แล วแต เราจะมองค ะ สิ่งสุดท าย คือได เรียนรู ว าชีวิตเราสั้น รีบทำในสิ่งที่มีความหมาย และมีประโยชน กับตนเองและผู อื่นให มากที่สุด ตามหลักพุทธศาสนา อย าประมาทค ะ มองทุกอย างว าสิ่งที่เกิดกับเรานั้นเรานำมาใช ประโยชน ได ทุกอย างค ะ จะชอบหรือไม ชอบก็ตาม และ ให อภัยกับตัวเองกับเรื่องในอดีตเริ่มต นใหม ทุกวันค ะ และสิ่งสำคัญที่ได จากการเป นผู ปกครองทอสีคือการได เจอกัลยาณมิตร รอบๆตัว ในทุกด าน หาที่ไหนไม ได แล วค ะ


พ อธเนษ แทน ต นสาละ ๒ / นาน ต นก ามปู ๓ ความคิดเริ่มต นตัวเองต องการเลี้ยงลูกไม ให เป นภาระของสังคม โตขึ้นมาดูแลตัวเองได ใช ชีวิตอย างมีความสุข และถ ายิ่งดีคือมีประโยชน ต อสังคมด วย บวกกับความเชื่อที่ว าการสั่งสอนหรือปลูกฝ งสิ่งใดให กับลูกๆ ต องให ตั้งแต เล็กๆ เพราะตอนโตไม ทันแน จึงมองหาโรงเรียนที่เล็กๆ คุณครูมีเวลาดูแลเอาใจใส ใกล ชิดกับเด็กๆ และยิ่งเป นการประยุกต แนวทางคำสอนของพระพุทธเจ ามาเป นแนวทางการสอนวิถีพุทธ ซึ่งเมื่อส งลูกเข ามาเรียน ก็กลายเป นว าไม ใช เรียนเฉพาะลูกเท านั้นเป นการเรียนของพ อแม ไปด วย กลับมาเรียนรู อีกครั้งพร อมกับลูก เพราะแนวทางของโรงเรียนเป นการทำงานร วมกันแบบไตรสิกขา ครู นักเรียน พ อแม ในการพัฒนาเด็ก ฉะนั้นถ าขาดส วนใดส วนหนึ่งไปก็ย อมจะไม สมบูรณ แน นอนคำสอนแรกๆ ที่ได รับชัดเจนกับแนวทางปฏิบัติที่ต องเปลี่ยนไปอย างมาก คำสอนนั้นคือ "พ อแม ผู แสดงโลก" ที่พระอาจารย ชยสาโร (ประธานที่ปรึกษาของโรงเรียน) ได ให ไว ต องยอมรับว าเกิดความเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งความคิด การกระทำ การแสดงออกกับผู อื่น เพราะเราระลึกอยู เสมอว า ลูกๆเรากำลังเรียนรู อยู ตลอดเวลา ที่บ านเรียนรู จากพ อแม ญาติพี่น อง คนใกล ชิด ที่โรงเรียนเรียนรู ทั้งด านวิชาการและวิชาชีวิต เมื่อพูดถึงคำนี้ "วิชาชีวิต" ยอมรับว าถ าไม ได ส งลูกเข าเรียนที่นี่ ก็คงไม รู จัก และไม ใช มีแต วิชาชีวิตของลูกๆ แต มีของพ อแม ด วย เช น การอบรมห องเรียนพ อแม และสิปปทายกอืน่ ๆ อีกมากมาย เพือ่ เสริมให พอ แม ได เข าใจในพัฒนาการของลูกๆในแต ละช วงวัย เพื่อสอดประสานการสอนไปพร อมๆ กับแนวทางของโรงเรียน อีกการเรียนรู หนึ่งที่ขาดไม ได เลย กับการจัดให ของโรงเรียน คือการเรียนรู ทางธรรมะ จากคำสอนของพระพุทธเจ า ผ านการจัดอบรมธรรมะ ซึ่งทางโรงเรียนคัดสรร พระอาจารย และผู รู มาช วยอบรมขัดเกลา ตักเตือน ให น อมนำคำสอน วิธีปฏิบัติ เพื่อความสุขสงบของชีวิต ขอยกตัวอย างที่ได และนำมาปฏิบัติจนถึงทุกวันนี้ เป นเรื่องการขับรถที่พระอาจารย ประสงค ปริปุณฺโณ ท านเล าว า บนท องถนนที่รถรามากมาย การขับรถก็รีบร อน แก งแย งกัน บางคนใครขับแซง ขับปาดหน า บีบแตรใส ไม ได จะโกรธเป นฟ นเป นไฟ ต องเอาคืน ขับตามไปปาดแซงขวางหน าให จอด เพื่อจะเอาเรื่อง แต ปรากฏว าในรถคันนั้น มีคนบาดเจ็บอยู เลือดนองทั้งตัว เมื่อได ฟ งเรื่องนี้มันแทงใจตัวเองสุดๆ เราไม เคยคิดถึงเรื่องแบบนี้ และเราก็เคยขับรถแบบนี้แต ไม ถึงกับขับปาดแซงไปจอดขวางหน า แต ทุกครั้งก็จะพยายามขับรถแซงไปปาดหน าเอาคืน มานั่งนึกย อนตอนเกิดเหตุแบบนั้น ใจมันร อนร� มไปหมด ไม ใช แต ตัวเราเอง แต ครอบครัวเราที่นั่งอยู ในรถด วยกัน ก็ร อนร� มกลุ มใจไปด วย จากเรื่องเล าในวันนั้น การขับรถในชีวิตประจำวันเปลี่ยนไปตลอดกาล ใครขับรถปาดหน า บีบแตรใส คิดในใจเสมอว า เค าต องมีคนเจ็บอยู ในรถ แซงไปก อนเลยครับ ขอให โชคดี ปลอดภัย นี่เป นเพียงตัวอย างหนึ่งของคำสอนเท านั้น แต จริงๆ แล วยังมีอีกมากมายที่ได เรียนรู และนำมาปรับใช กับชีวิตในทางที่ดีขึ้น ทั้งได เห็นพัฒนาการของลูกๆ ลูกๆ มีความสุข ตื่นแต เช าอยากมาโรงเรียนทุกวัน ไม อยากขาดเรียน สิ่งเหล านี้เกิดขึ้น ตั้งแต วันที่เราส งลูกๆ มาเรียนที่นี่ "โรงเรียนอนุบาลทอสี"


พ อชัย เชรี อ.๒ ดอกกล วยไม ชีวิตมีการเรียนรู และการเปลี่ยนแปลงอยู ตลอดเวลา ขึ้นอยู กับว าในห วงเวลานั้นเรา “จับ ยึด ถือ” อะไรเป นหลักในการสร างความสุขของชีวิต อย างชีวิตในวัยเด็กจนวัยทำงาน เรา “จับ ยึด ถือ” เอาตัวเองและวัตถุ เป นหลักในการสร างความสุขของชีวิต พอแต งงานมีครอบครัวมีลูก เราก็ “จับ ยึด ถือ” เอาความสุขของครอบครัวเป นหลักในการสร างความสุขของชีวิต ช วงเวลาที่ครอบครัวเราเริ่มมีป ญหา ฐานะทางการเงินเริ่มวิกฤติ ก็เป นช วงที่ลูกเราได เริ่มเข ามา อยู โรงเรียนทอสี เราได เริ่มเรียนรู สังคมกัลยาณมิตร ได เห็นความเอื้อเฟ อของคุณครูและของเพื่อน ผู ปกครองในโรงเรียนแห งนี้ เราค อยๆซึมซับและเรียนรู ที่จะแบ งป นและเอื้อเฟ อต อผู อื่น เราเริ่ม “จับ ยึด ถือ” เอาความสุขของผู อื่นมากขึ้น จนกลายเป นความทุกข ในใจเราเอง พัฒนาจนกลายเป นความเหนื่อยหน าย ท อแท กับสังคมนี้ คุณครูบางท านเริ่มเป นห วงในทัศนคตินี้ เราเลยมีโอกาสได คุยกับครูอ อนแบบเป ดใจครั้งแรก “ถ าครูอ อนคิดและรู สึกแบบคุณพ อ โดยที่ครูอ อนไม จัดการอะไรบางอย างกับความคิดและความรู สึกนั้น ครูอ อนคงเลิกทำโรงเรียนไปนานแล ว” นั่นคือประโยคเดียวในการสนทนาเกือบ 1 ชั่วโมง ที่เป ดใจเราสู การเรียนรู และการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม จาก ครูแห งครู ครูผู มีหัวใจเป นครูโดยแท ประโยคเดียวสั้นๆ จากครูอ อนนั้นช วยเตือนเราให มีสติ สติที่ช วยพาเราย อนไปถึงอดีต อดีตที่เราเคยใช ป ญญาแก ไขป ญหาต างๆในชีวิต ซึ่งแท จริงนั้นมันคือป ญหาที่เราไม เคยแก ได เพราะเราคิดไปเองว าเรามีป ญญา เรามีความฉลาด แต เมื่อขาดสติ ป ญญานั้นย อมไม เกิดประโยชน ต องขอบคุณโรงเรียนทอสีจากใจจริง ที่มีการจัดกิจกรรมต างๆที่มุ งพัฒนาผู ปกครองจนทำให เราได รู ว า

“ป ญญาที่ขาดสติกำกับ ย อมไม ใช ป ญญาที่จะนำพาชีวิตสู ความสุข” จะมีสักกี่โรงเรียนในโลกใบนี้ ที่มุ งพัฒนาเด็กและผู ปกครองไปพร อมๆกันในแนวทางเดียวกัน จนผู ปกครองหัวใจเล็กๆคนหนึ่งได มีโอกาสในการเรียนรู และการเปลี่ยนแปลง เพื่อพัฒนาตนเองให เป น “ผู แสดงโลกที่ดีต อบุตร”


แม แหม ม แพรวา ต นประดู ๑ / ป ณณ ต นก ามปู ๒ จากพ อแม รังแกฉัน สู พ อแม ผู แสดงโลก บทเรียนที่เคยอ านแล วประทับใจทั้งสองบทนี้มีความเหมือนและแตกต าง ทั้งเวลา เนื้อหา สาระ แต ในฐานะพ อแม ก็ได นำมาใช ในการอบรม บ มเพาะพฤติกรรมการปฏิบัติของลูกในแต ละยุคสมัย หากท านใดไม เคยอ านบทใดบทหนึ่ง ก็ขอเชิญชวนให ลองอ านโดยเฉพาะ “พ อแม ผู แสดงโลก” เขียนโดยพระอาจารย ชยสาโร ซึ่งสามารถนำมาเป นหลักของพ อแม ชาวทอสีในการดูแลลูกๆได อย างเป นรูปธรรมอย างมาก การสร างโอกาสให ลูกเริ่มต นปฏิบัติตามแนวพุทธตั้งแต เล็กๆ มีผลต อความคิด พิจารณาจิตใจเมื่อเขาเติบโตขึ้น อย างเห็นชัด เป นรูปธรรมต อมาสู วัยร� น และวัยทำงาน เวลาเกือบ 15 ป ที่เห็นลูกเติบโต ความเชื่อมั่นในคุณงามความดี สร างให เด็กๆมีบุคลิกภาพ สง างาม เข าใจโลกทั้งทางตรงและทางอ อม รอบคอบ ทันจิต ทันเหตุการณ เรียนรู การแก ป ญหาด วยสติป ญญา นับเป นคุณค าอันควรแก การฝ กฝน ความเก งนั้นสำคัญเช นไร ความดีก็เป นคุณสมบัติที่ต องบ มเพาะไปพร อมกันเช นกัน คงไม มีคำบอกเล ายืนยันใด จะดีไปกว าการได ลองลงมือปฏิบัติของครอบครัวทอสีที่ผ านมาทุกคน ผลที่ได อาจไม เท ากัน แต เราจะเรียนรู การใช “เมตตา” ควบคู ไปกับ “ป ญญา” เพื่อมุ งพัฒนาชีวิต จิตใจในลูก คนรอบข าง สังคมไทยและโลกต อไปอย างแน นอน กราบขอบคุณพระอาจารย ชยสาโร คุณยายทอสี คุณตาดุษฎี ขอบคุณครูอ อนและครูโรงเรียนทอสี ที่มุ งมั่นในการนำหนทางแห งพุทธสู การศึกษาไทย


พ อกุ ก ป น ป น

ต นกล วย ๓ / แป ม แป ม ต นโมก ๓

กว า ๖ ป ที่ได เข ามาในรั้วทอสี โรงเรียนวิถีพุทธ ที่มีหลักการเรียนการสอน ปรัชญาโรงเรียน คำศัพท แต ละคำ แปลเป นภาษาไทยแล วยังงงเลย “เอาน าอย างน อยคงดีสำหรับลูก” นี่คือสิ่งที่ผมบอกกับตัวเองและครอบครัวในเวลานั้น ภายหลังจากที่ลูกได มาเรียนที่โรงเรียนทอสี จากเด็กที่กลัวสิ่งไม คุ นเคย กลัวการเปลี่ยนแปลง กลัวออกนอกหน า กลัวจนไม กล าที่จะเริ่มเรียนรู อะไรใหม ๆเลย ก็สามารถปรับตัวเข ากับ สิ่งใหม ๆในชีวิตเขาได อย างน าประหลาดใจ ต อมาโรงเรียนก็แนะนำให พ อแม มาเรียนด วย เรียนการเลี้ยงดูลูกในแต ละวัยใน โรงเรียนพ อแม ก็รู สึกว าทอสีให ความสำคัญกับการเลี้ยงดูลูก ตั้งแต อยู ที่บ าน โรงเรียนมีกิจกรรมให พ อแม ทำอะไร ผมก็อาสาช วยทำตามความถนัดในสายงานตามปกติ ที่พอจะมีเวลาทำได แต ให เข าปฎิบตั ธิ รรมนีเ่ หมือนถูกบังคับยังไงไม รู แต ด วยความที่เป นคนเป ดกว างทางความคิด ก็ลองทำตามดูอย างไม เต็มใจ คิดเพียงว าอย างน อย ก็เป นส วนหนึ่งที่มีผลต อการเรียนของลูกเรา ให ธรรมก็ทำ ขอให คุณแม ก็ทำไปก อนแล วกัน พ อต องทำงาน (ขณะนั้นตัวผมเองก็ยังอยู ในวังวนทำงานเพื่อเงิน เงิน…ที่เป นสิ่งเดียวที่จะทำให ชีวิตสุขสบาย ชีวิตช วงนั้นไม ต างอะไรกับหนูถีบจักรและเป นหนูที่ตั้งใจวิ่งเต็มที่อยู บนสายพานอย างไม รู จักเหนื่อย)

ในป ที่เป นมหาอุทกภัยครั้งสำคัญของคนเมืองกร�ง ที่ทำให เห็นถึงความกลัวของคนไม ว าจะยากดีมีจน ก็ไม สามารถหนีความกลัวนี้ได บ างก็นง่ั หน าจอนับวันเวลา รอลุน น องน้ำทีจ่ ะมาเยีย่ มบ าน ใครที่ไม อยากรอก็หนีไปอยูท อ่ี น่ื เหตุการณ ครัง้ นัน้ ทำให เห็นถึงความสำคัญของคำว า สติ แต สำหรับผมที่แม เพียงเข ามาเรียนรู ไปพร อมกับลูกที่ทอสีได เพียงป เศษ กับรู สึกว าเรามีความแข็งแรงทางจิตใจมากกว าหลายๆคนในเวลานั้น และในช วงเวลาเดียวกันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตการงาน ที่เป นเหตุให ต องแยกออกจากธุรกิจที่ได ร วมก อตั้งมา เปรียบได กับคนที่ถูกถีบ ให ออกจากสายพานความมั่นคงในชีวิต ในวินาทีแรกๆกลับไม ได รู สึก ช็อค หรือเสียศูนย แน นอนในเวลาต อมาก็มีความรู สึกหวั่นไหว สลับกับความไม แน ใจในหนทางข างหน าเป นระยะๆ แต สิ่งที่เป นหลักคิดสำคัญที่สุดในชีวิตครั้งนี้ มาจากการที่คุณแม ไปปฎิบัติธรรมผู ปกครอง นำโดยพระอาจารย ประสงค ปริปุณโณ แล วกลับมาถ ายทอดให ฟ ง เรื่องชายสามคนกับเก าอี้หนึ่งตัว ที่ท านสอนว า ทำไมเราจึงยอมให อดีต และอนาคต มาทับถมตัวเราให มีความทุกข แต ที่จริงแล ว เราสามารถมี ความสุข ได ที่นี่ เดี๋ยวนี้ ด วยใจของเราเอง ณ วินาทีนั้นเองทำให ได กระชากสติให กลับมาทบทวนสิ่งที่เราดำเนินชีวิตตั้งแต เกิดมาถึงป จจ�บัน สิ่งที่พ อผมสอนมา สิ่งที่ผมได เก็บเกี่ยวประสบการณ ชีวิตที่ผ านมา สิ่งที่โรงเรียนทอสี พระอาจารย ชยสาโร คุณครูอ อน แม แจง และกัลยาณมิตรทอสี ทำให ดู อยู ให เห็น และที่สำคัญที่สุด ก็คือสิ่งที่ถูกค นพบมากว า ๒๖๐๐ ป ของพระสัมมาสัมพุทธเจ า ที่ผมได เรียนรู หลักธรรมคำสอน ผ านทางพระอริยสงฆ ที่ยิ่งศึกษา ยิ่งได คำตอบ ให กับทุกคำถามในชีวิต ไม ว าจะทางโลกธุรกิจ หรือทางการดำเนินชีวิตในป จจ�บัน *ทุกวันนี้สังคมเราถูกกระตุ นในดำเนินชีวิตอย างเร งรีบ ทำให ความคิด ความสัมพันธ ของคน หมุนเร็วโดยไม รู ว าอะไรเร็ว อะไรช า โดยเฉพาะโลกเสมือนจริง เป นตัวเร งทำให เกิดวัฒนธรรมเร งรีบ การเติบโตที่ขาดทักษะวิชาชีวิต ทำให คาดการณ อะไรไม ได เลยว า อนาคตจะเป นเช นไร แต การร วมกันเรียนรู ทั้ง เด็ก ครู ผู ปกครอง ณ โรงเรียนทอสี โรงเรียนพุทธป ญญา คือ ทางรอดที่แท จริงในอนาคต ความเป นกัลยาณมิตรที่ช วยกันอุดรอยรั่ว ทำในสิ่งที่คนอื่นไม ทำ โรงเรียนเป นตัวเชื่อม เป นหน วยงานเดียวที่เข าถึงครอบครัวมากที่สุด ที่มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมได เป นความหวังเดียวในวันนี้ เด็กๆที่เติบโตในสังคมเล็กๆ ง ายๆ สงบๆ ช าๆ จะมีประสบการณ หล อหลอมให เติบโตมา ด วยคุณธรรม ๑๒ ประการ จะเป นภูมิคุ มกันในอนาคตอย างไม ต องสงสัย และสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ทำให ผมและครอบครัว เป น อิสระจากความกลัว อย างแท จริง (ย อหน าสุดท ายข อความส วนหนึ่งได มาจาก การปฎิบัติธรรมนำโดย พระมหาพงศ นรินทร ณ วันอังคารที่ ๑๕ กันยายน ๕๘)


แม แจน เจน ต นปอกระสา ๓ ตอนแรกที่ตัดสินใจให เจนมาเข าทอสีเพราะคิดว า โรงเรียนทอสีได นำหลักคำสอนทางพุทธศาสนามาใช ในการสอน ซึ่งน าจะทำให เจนได ใช ชีวิตใกล ชิดกับศาสนามากกว าการพาไปวัดเดือนละครั้ง หรือแค พาไปใส บาตร และส วนตัวก็ไม ได เป นคนใกล วัดขนาดที่จะสวดมนต นั่งสมาธิเป นประจำ สิ่งที่ทอสีให อย างแรกคือการให มาปฏิบัติธรรม ทำให เป นคนใจเย็นขึ้นและมีสติมากขึ้นเวลาจะทำอะไร ตอนมาอยู ที่ทอสีแรกๆ ที่ต องเข าปฏิบัติธรรมอย างน อย ๖ ครั้งต อป ป แรกๆ จะเข าให แค ครบ ๖ ครั้ง พอครบก็จะพอเลย ไม คิดจะมาเข าฟ งเพิ่ม ทำเพราะเป นหน าที่ๆ ต องทำเพราะรับปากโรงเรียนไว แล ว แต ช วงหลังๆ มา รู สึกว าตัวเองโชคดีที่มาอยู ที่ทอสี เพราะพระอาจารย แต ละรูปที่ทอสีเชิญมาเป นพระอาจารย ที่มีชื่อเสียง และเทศน แล วได ข อคิดนำไปใช ในชีวิตประจำวันและใช กับลูกได ช วงป หลังๆ เลยจะเข าให ได มากที่สุด เพราะเห็นว ามีประโยชน กับตัวเองและครอบครัว ไม ใช เข าแค ครบเพราะเป นหน าที่ อย างที่สองที่ทอสีให คือ กัลยาณมิตร ได เพื่อนใหม ที่ทอสีที่สามารถคุยได ทุกเรื่องและสามารถฝากลูกได ไม มีการแข งกัน คอยช วยเหลือกัน คอยให กำลังใจกันและแบ งป นความรู และได คุณครูที่เป นกัลยาณมิตรที่จะคอยช วยดูแล ให คำแนะนำเรื่องพฤติกรรม ของเจน อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญของการมาอยู ที่ทอสีคือคำสอนของท านอาจารย ชยสาโรที่บอกว าเราคือ พ อแม ผู แสดงโลก ดังนั้นเราอย าเอาแต พูด แต ต องทำให ลูกเห็นอยากให ลูกทำอะไรเป นแบบไหนเราต องทำก อน แม แจนอยากให เจนมีจิตสาธารณะ ช วยเหลือผู อื่น รู จักความกตัญู แม แจนทำเป นตัวอย างให เจนเห็น หนึ่งในนั้นคือการรับอาสามาเป นแม งานในการจัดงานม วนชื่น บอกเจนเสมอว าเจนต องตอบแทนบุญคุณของครู ของโรงเรียนทอสี การรับเป นแม งานก็เหมือนเป นการแสดงให เจนเห็นเป นตัวอย างว า เราไม จำเป นต องบริจาคทรัพย เสมอไป แต เราสามารถช วยได หลายทาง เช นการมาช วยงานม วนชื่น เราเสียสละเวลาและแรงงานของเรามาช วยงานก็เป นทางหนึ่งเหมือนกันที่ช วยได


แม อ อย เอิน ต นก ามปู ๑ / อิน ต นโมก ๑ สิ่งที่ได รับขณะเป นผู ปกครอง ของนักเรียนโรงเรียนทอสีทั้งสองคน - การเลี้ยงดูลูกให เป นไปในทิศทางเดียวกัน, รู ว าสิ่งไหนควรทำและสิ่งไหนไม ควรทำ ไม ว าจะอยู ที่บ านหรือที่โรงเรียน - การเรียนการสอนที่สนับสนุนให เกื้อกูลซึ่งกันและกัน การเอาใจเค ามาใส ใจเรา ทำให เด็กๆมีความโอบอ อมอารี - เสริมสร างความสัมพันธ ระหว างผู ปกครองด วยกันเวลามีกิจกรรมต างๆ ซึ่งผู ปกครองต างมีแนวความคิดที่คล ายกัน ทำให เหมือนได มาพบปะเพื่อนใหม ซึ่งป จจ�บันคบกันมาเป นเวลามากกว าสิบป - การเรียนรู วิถีของชาวพุทธ อันเป นวิถีของชาวทอสี ทำให ลูกๆและตัวคุณแม เองได รู จักการ ทำวัตรสวดมนตร , นั่งสมาธิและการปฏิบัติธรรม - การที่ให เด็กๆได มีโอกาสใส บาตรตอนเช าในวันพระ หรือฟ งเทศน โดยเฉพาะ เรียนรู การไหว , การกราบที่ถูกต อง ซึ่งคุณแม ก็พลอยได อานิสงค ไปด วย เลยรู สึกว าทางโรงเรียนได ให โอกาสทั้งเด็กและผู ปกครองในการเรียนรู สิ่งใหม ๆ ไปพร อมๆกัน เช น เรื่องของการประหยัดพลังงานและการคัดแยกขยะ ที่สุดของข อคิดที่ได รับและนำมาปฏิบัติจนถึงทุกวันนี้คือ การปฏิบัติธรรม อันกลายเป นวิถีของครอบครัว ส วนตัวแล วยิ่งรู สึกดีใจมากที่น องอินได บวชเณร ที่วัดเขาแผงม า ระหว างป ดเทอมชั้น ป.๕ ซึ่งการที่อินตัดสินใจบวชก็มาจากการที่เค าถูกหล อหลอมจากโรงเรียนทอสีในการเดินทางแบบวิถีพุทธ คิดดี ทำดี พูดดี และเรียนรู การเป นชาวพุทธที่ประเสริฐ ทั้งนี้คุณแม ก็ต องกราบนมัสการท านอาจารย ชยสาโรของพวกเราชาวทอสี ที่ท านได เมตตา อบรมสั่งสอนพวกเราสม่ำเสมอตลอดมา กราบขอบพระคุณ คณะผู บริหารโรงเรียนทอสี คุณครู และพี่เลี้ยงทุกๆท าน ที่มีจิตเมตตาก อตั้งและสานต อโรงเรียนที่ดีให ลูกๆ ของพวกเราได ศึกษาทั้งวิชาเรียนและวิชาชีวิตค ะ


พ ออ อด โอ ต ต นกล วย ๑ / ออม ต นสาละ ๑ / เอื้อง ต นสาละ ๒ ๑๖ ป ที่ได อยู ร วมกันมาในรั้วทอสี วันเวลาที่ได คอยเฝ าดูลูกๆเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต อนุบาล จนจบประถม ออกไปต อสู กับสังคมภายนอก จากเด็กตัวน อยๆของพ อ,แม และคุณครู ไปเป นวัยร� นเข าสู รั้วมัธยม และมหาวิทยาลัย แต เราจะสังเกตเห็นได ว า ลูกๆทอสีของเรา ได ถูกบ มเพาะ ปลูกฝ งเมล็ดพันธุ ที่ดีมาตั้งแต เล็ก ทำให เป นเสมือนมีเกราะป องกันสิ่งต างๆรอบตัว ทำให เขาได รู จักคิด ไตร ตรอง และยับยั้งชั่งใจ ไม ให ทำในสิ่งที่นอกลู นอกทางมากเกินไปจนสุดโต ง ถึงแม จะมีทำผิดพลาดพลั้งไปบ าง แต เด็กทุกคนก็พร อมที่จะเรียนรู ต อสู และแก ไขป ญหาต างๆที่เข ามาในชีวิตได อย างดี โดยใช สติ ดูแล วก็วางใจได ว า เด็กๆจะสามารถเติบโตต อไปเป นคนดีของสังคม ตามเจตนารมณ ของพ อแม และโรงเรียน โดยมีหลักธรรมะ ของพระอาจารย ชยสาโร เป นหลักในการดำเนินชีวิต ส วนโรงเรียนเองนั้นก็ยังมีความอบอุ น ความเป นกัลยาณมิตรยังอยู เช นเดิม แม สถานที่จะเปลี่ยนแปลงไป มีตึกใหม เกิดขึ้น โรงเรียนมีชื่อเสียงเป นที่รู จักมากขึ้น คุณครูก็หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามวิถีชีวิตของแต ละคน แต เมื่อมีอะไรให ช วยเหลือกัน ก็มีผู อาสาเข ามาช วยเหลือกันอย างเต็มที่ สุดท ายนี้ก็ขอเป นกำลังใจ ให โรงเรียนทอสี โรงเรียนวิถีพุทธ ได บ มเพาะต นกล าแห งความดีนี้ต อไป แม จะเพียงส วนน อยนิดในสังคมก็ตาม แต มั่นใจได ว าชุมชนทอสีของเรา จะไม ไปสร างป ญหาเพิ่มเติมให แก สังคมแน นอน จากใจกัลยาณมิตร


แม หน อย มุก ต นก ามปู ๒ / โมกข ต นสาละ ๒ หลักคิดจากการได เป นผู ปกครองโรงเรียนทอสี

"เราสามารถพัฒนาขึ้นได ในทุกๆ ด าน" จากเดิมที่คิดว าเราเองไม ทำสิ่งชั่ว ไม ทำผิดศีล มั่นใจว าชีวิตตนเองดีอยู แล ว จึงหลงติดอยู แต เพียงเท านั้น แต การได เจอสังคมทอสี มีกัลยาณมิตร เป นทั้งตัวอย างและผู ให คำแนะนำ มีพระอาจารย ชยสาโร ชี้ให เห็นความจริงที่เราไม เคยมอง มีหลักธรรมที่ถอดกระบวนการคิดสู ความดีและความสำเร็จ ทำให เรามีหลักชีวิต มีเป าหมายที่สมดุล…ทุกคนในครอบครัวมีทิศทางที่เป นกุศล มีที่วางใจอันเป นสุข พร อมสำหรับก าวต อ ๆ ไปในวันข างหน า ระลึกใจพระคุณของโรงเรียนเสมอค ะ


แม ตู ใจดี ต นกล วย ๓ / เพิ่มพูน ต นปอกระสา ๓ / พูนผล ดอกจำป “ไตรสิกขา นักศึกษา (ชุมชน) กัลยาณมิตร” คือ ๓ คำแรกที่ปรากฏเข ามาในหัวเมื่อมีใครถามถึงโรงเรียนทอสี โรงเรียนวิถีพุทธ โรงเรียนที่เลือกให กับลูกๆ ทั้งสามคน ยังจำได ว าครั้งแรกที่สมัครเข าโรงเรียนนี้ ตัวเองไม ได คิดมากไปกว า “ทอสี” เป นโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีความอบอุ นเป นกันเองแบบวิถีไทย แต ก็ไม ป ดกั้นความเป นสากลที่เป ดโอกาสให เด็กๆ ได เรียนรู ผ านการทำกิจกรรมอย างโรงเรียนอินเตอร ฯ จนเมื่อลูกได เข ามาเรียน ก็พบว า โรงเรียนทอสีมีอะไรมากกว านั้น และให พวกเรามากกว านั้น พวกเราที่ไม ใช แค เด็กๆ แต ยังรวมถึงพ อแม และคุณครู กระบวนการเรียนรู และพัฒนาตนเองแบบไตรสิกขา ที่แต เดิมไม ได ใส ใจสนใจ ก็ได ซึมซับไปเองว า คือ การพัฒนาทุกๆ มิติ ทั้งทางความคิด จิตใจ และการกระทำ โดยมีองค ประกอบ ๓ กลุ มที่สัมพันธ กัน คือ ครู พ อแม และเด็กๆ ถ าใครคนใดคนหนึ่งขาดความรู ความเข าใจ การเรียนรู และการพัฒนาก็อาจจะสะดุด ยังจำได อีกว า รู สึกประหลาดใจมากที่โรงเรียนมีจัดอบรมพ อแม ตั้งแต ก อนลูกเข าเรียน เพื่อเตรียมความพร อมของทั้งพ อแม และเด็กๆ รวมทั้งการจัดอบรมตลอดป การศึกษา นี่ยังไม นับรวมถึงการปฏิบัติธรรม สำหรับการอบรมครูก็มีในลักษณะเดียวกัน ดังนั้น ต องยอมรับว าการเป นพ อแม และคุณครูโรงเรียนนี้ไม ได ง าย ไม ได สบาย มีบ างที่รู สึกอึดอัดติดขัด แต เมื่อเวลาผ านไปก็พบว า การเข ามามีส วนร วมเป นหนึ่งในสมาชิกของชุมชนแห งนี้ก็ไม ได แย และอึดอัดอย างที่คิด ความรู สึกดีๆ ได เกิดขึ้นเมื่อมีกัลยาณมิตร ทั้งครูและผู ปกครองเข ามาร วมด วยช วยกัน ให คำแนะนำ ให ความเป นกันเอง และมีความหวังดีให แก กัน ทำให เรายอมปรับตัวเป นน้ำไม เต็มแก วที่พร อมจะรับกับความรู และประสบการณ ใหม ๆ โดยไม มีอคติ เปรียบดังการเป นนักศึกษากันอีกครั้ง ณ เวลานี้ ก็ยังเชื่อมั่นว า การตัดสินใจให ลูกเข ามาเรียนในโรงเรียนทอสีนี้ เป นการลงทุนที่ได ผลตอบแทนที่ไม ใช แค คุ ม แต เป นกำไร…กำไรชีวิตของทุกๆ คน


แม นก อู ต นประดู ๓ / เอิร ท ต นก ามปู ๓ / อูโน ต นปอกระสา ๓ เวลาเจอเพื่อนๆหรือคนรอบข างถามถึงโรงเรียนที่ลูกเรียนโรงเรียนอะไรเราจะตอบว าโรงเรียนทอสี คนเหล านั้นมักจะพูดทำนองเดียวกันว าเป นโรงเรียนทางเลือกไม ค อยเน นเรื่องเรียน เน นเรื่องธรรมะ (สวดมนต นั่งสมาธิ) ซึ่งเป นความคิดที่คนรอบข างรู สึกและเป นความคิดของตัวเองช วงแรกก อนนำลูกเข ามาศึกษาโรงเรียน ในช วงลูกคนแรกเข ามาเรียนโรงเรียนนี้เริ่มเข าเนิร สเซอรี่ ช วงนั้นเป นช วงที่เราอยู ในชีวิตการทำงาน ไม ได ค อยเข ามาร วมกิจกรรมของโรงเรียนมากนัก จึงไม ค อยรู จักครอบครัวอื่นๆในชั้นเรียนของลูก แต กิจกรรมหลักๆของโรงเรียนมิได ขาด สิ่งที่ได เรียนรู และเปลี่ยนแปลงในช วงแรก เป นกิจกรรมการปฏิบัติธรรมซึ่งตัวเองมักไม เลือกที่จะทำ และกิจกรรมอบรมต างๆ แต พอได เข าร วมบ อยครั้งขึ้น ก็รู สึกดีเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ได เข าร วม ได แง คิดซึ่งบางทีที่เรามองข ามไปหรือหลักธรรมในการใช ชีวิตและการดูแลลูก เป นสิ่งที่คอยเตือนสติให เราได เสมอเมื่อเวลาเราขาดสติ ซึ่งโรงเรียนอื่นๆเท าที่เราเคยเจอไม มีกิจกรรมดังกล าวเลย หลังจากนั้นลูกคนที่ ๒ และ ๓ ก็ทยอยเข าโรงเรียนมา ชีวิตในวัยทำงานหมดไป ลาออกจากงานมาเป นแม บ าน ดูแลลูกอย างจริงจังเพื่อหวังว าจะดูแลลูกชายทั้งสามให ดีที่สุด หลังจากนั้นเริ่มมีเวลาเข ามาร วมกิจกรรมโรงเรียนมากขึ้น สิ่งที่ได เรียนรู จากการร วมกิจกรรมคือความเป นกัลยาณมิตรของผู ปกครอง ความน ารักเอื้ออาทร ความช วยเหลือ และปรึกษาระหว างกันมีมากมาย กิจกรรมอาสาบางอย างเป นทำงานร วมกันเป นทีมทำให เรากลายเป นเพื่อนสนิท คุยกันมาตลอดจนถึงป จจ�บันถึงแม ลูกไม ได อยู ชั้นเรียนเดียวกันก็ตาม ในระหว างที่ลูกเรียนในแต ละชั้นป ความเป นกัลยาณมิตรของคุณครูที่มีให กับลูกเป นอีกหนึ่งที่ประทับใจ คุณครูโรงเรียนนี้สามารถบอกรายละเอียด เป นรายบุคคลได อย างดีเยี่ยม คอยเป นทั้งที่ปรึกษา,แก ไขพฤติกรรมต างๆและบ มเพาะพฤติกรรมดีๆให กับลูก เป นไปในทางเดียวกันทั้งที่โรงเรียนและที่บ าน แนะนำให แม ในพยายามปรับตัวในพฤติกรรมและอารมณ ต างๆที่มีกับลูก อย างไรก็ตามตั้งแต ลูกย างเข ามาเรียนจนถึงป จจ�บัน หลักคิดที่โรงเรียนคอยเตือนอย างสม่ำเสมอคือ พ อแม ผู แสดงโลกก็เป นอีกหนึ่งความสำคัญของครอบครัวเรา พยายามทำและเปลี่ยนแปลงเราสองคนให เป นผู แสดงโลก ให ดีที่สุดสำหรับลูกของเรา เรายังเชื่อมั่นว าต นกล าทั้งสามต นนี้จะถูกบ มเพาะในโรงเรียนแนวทางพุทธป ญญาแห งนี้ และเติบโตเป นต นไม ใหญ ที่แข็งแรงในวันหน า


แม จ� ม ไม ต นโมก ๒ / มีนา ต นประดู ๓ ขอเริ่มด วยการขอขอบคุณโรงเรียนที่ได สอนวิชาชีวิต ไม ใช แค ลูก แต รวมถึงพ อแม แม แต คนใกล ชิดก็พลอย ได รับผลดีไปด วย โดยส วนตัวได น อมนำคำสอนของท านชยสาโร ที่ได เมตตานำคำสอนของพระพุทธเจ า มาย อยให เข าใจง าย และสามารถนำมาใช ได ในชีวิตจริง จากแต ก อนเป นคนไม เข าวัด ไม ฟ งเทศน ไม เคยศึกษาธรรมะ แต เมื่อได ฟ งท านชยสาโร ครั้งแรก รู สึกว า สิ่งที่ท านสอน ใช เลย! ค นหามานาน อายุสี่สิบเพิ่งมาเจอแสงสว าง จึงพยายามให ความร วมมือกับทุกกิจกรรมสำคัญๆ ที่ทางโรงเรียน ขอ โดยเฉพาะการปฏิบัติธรรม จากเคยเป นคน ทุกข ง าย สุขยาก กลายเป นคน ทุกข ยากขึ้น สุขง ายขึ้น ความอยากมี อยากได อยากเป น ลดลง จากเคยขี้โมโห ขี้หงุดหงิด ใจร อน ก็ใจเย็นขึ้น อารมณ ดีขึ้น มีเมตตา และเข าใจผู อื่นมากขึ้นหลายครั้งที่เจอป ญหาในชีวิต ก็นำคำสอนมาเป นแนวทางการแก ไขป ญหา ทุกครั้งก็ผ านมาได ด วยดี ทั้งนี้ “ตนเป นที่พึ่งแห งตน” พยายามลงมือปฏิบัติตามสมควร ฝ กไว ก อน ถึงเวลาจะได นำมาใช ได นอกจากนี้ยังแอบเห็นเพื่อนๆ ทอสี หลายครอบครัวที่นำคำสอนไปใช ล วนแล วแต มีความเปลี่ยนแปลงไปในทางดีขึ้น นอกจากเรื่องธรรมมะ สิ่งที่ได เรียนร� และชอบมากคือ วิถีทอสี เช น กิจกรรมรักษ โลก กินเป นอยู เป น เรียนรู คุณครูและผู บริหารที่รับฟ งความคิดเห็นผู ปกครอง ได ฝ กการเป นผู ปกครองที่เป นกัลยาณมิตรมากๆคะ คิดว าหายากในสังคมทุกวันนี้ สิบกว าป ที่อยู ในรั้วทอสี คุณแม ก็ยังคงเป นนักศึกษาวิชาชีวิต และตั้งใจว าจะศึกษาธรรมะไปตลอดชีวิตที่เหลือ ค อยๆ ทำไปแบบไม คาดหวังใดๆ ขนาดคุณแม แค ให ความร วมมือเข าร วมปฏิบัติกับโรงเรียน แค มาส งลูกเช า-เย็น ยังได สิ่งที่มีค าไปขนาดนี้ แล วลูกที่มาเรียนทั้งวัน มาหลายป เชื่อว าเด็กย อมได อริยทรัพย ติดตัวอยู ภายใน รอวันเบ งบาน และคิดว าลูกจะนำมาใช ได แน นอนเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม


พ อเช็ค แก ม ต นสาละ ๑ / กล อม ต นก ามปู ๒ แต ก อนนี้ . . . ยามต องการคำตอบ ต อคำถามหลักๆ ที่สำคัญๆ ของชีวิต เหมือนกำลังทำข อสอบปรนัย ที่มีคำตอบให เลือกหลายข อเหลือเกิน ก .. ข .. ค .. ง .. จ .. ฉ .. .. แถมตัวเลือกท ายๆ ยังมีข อที่ถูกทุกข อ และผิดทุกข อ ทุกครั้งที่กาคำตอบ ไม มีครั้งไหนที่มั่นใจได ว า คำตอบที่กาไปนั้น ถูก หรือ ผิด แน แท หรือเปล า .. จะเอาอะไรเป นเครื่องตัดสิน ทุกวันนี้ผมตอบคำถามเหล านั้นได คำถามถึงการเกิดมา คำถามถึงคุณค าและความหมายของการมีและการใช ชีวิต ------------------------------------กระทั่งถึงคำถามต อเป าหมายของชีวิต ซึ่งนอกจากจะทำให ผมรู ว าจะปรับเปลี่ยนทิศทาง และวิถี ในการเดินทางอย างไรแล ว ยังทำให ผมเป นนักเดินทางที่สามารถจัดการป ญหาระหว างทางได ขอบคุณกัลยาณมิตรและประตูแห งการเรียนรู ของชีวิต บานที่เขียนไว ข างหน าว า .. “ทอสี”


พ อเทียน ไม ต นโมก ๒ / มีนา ต นประดู ๓ คิดให ดีๆนะ ก อนเอาลูกเข าโรงเรียนทอสี โรงเรียนนี้ ผู ปกครองต องสวดมนต (กว าลูกจะเรียนจบ สวดไม ได ให มันรู ไป) โรงเรียนนี้ ผู ปกครอบต องนั่งสมาธิ (มีสองทางเลือก ว าจะนั่งพื้นหรือเก าอี้) โรงเรียนนี้ ผู ปกครองต องฟ งเทศน (ไม ว างมาก็ไม เป นไร แต เช็คชื่อจร า) โรงเรียนนี้ เวลามีกิจกรรมผู ปกครองต องล างจานเอง (อ าววว …. เหรอ) โรงเรียนนี้ ผู ปกครองต องเตรียมกระบอกน้ำมาเอง (ลืมทุกครั้ง) โรงเรียนนี้ กีฬาสีไม มีการให เหรียญทอง (ป ไหนโชคดีได รับแจกกระบอกน้ำ) โรงเรียนนี้ ไม ส งเสริมให นักเรียน เรียนพิเศษ (อ าวววว เสาร อาทิตย จะให ลูกทำอะไรละทีนี้) โรงเรียนนี้ ให เด็กไปเข าค ายในป าตั้งแต ป.๔ (ใจจะ ขะ ขะ ขาด รอนรอน) โรงเรียนนี้ ไม มีการบอกว านักเรียนสอบได ที่เท าไหร (จาก อ.๑ ถึง ป.๖ ไม มั่นใจเลยว าลูกเราเรียนเก งรึเปล า) โรงเรียนนี้ ไม มีการขึ้นป ายหน าโรงเรียนว านักเรียนได รางวัลชนะเลิศที่สนามสอบไหนบ าง (ไม โฆษณาเล ยยยยย คู แข งโรงเรียนอื่นในซอยก็ตั้งหลายแห ง จะแข งกะเขายังไงอะ) ใช ครับสิบป ที่ผมเป นผู ปกครองโรงเรียนนี้ ต องบอกเลยว าโรงเรียนทอสีแตกต างจากโรงเรียนอื่นอย างมาก สิ่งที่ผมได เรียนรู จากการเป นผู ปกครองโรงเรียนคือ โรงเรียนมีความตั้งใจอย างมากที่จะสร างให นักเรียนเป นคนดี ตามหลักศาสนาพุทธ นอกจากนี้ยังมีความตั้งใจอย างยิ่งยวดที่จะพัฒนาผู ปกครองไปพร อมๆกันด วย ดังนั้นพ อแม ก็ควรที่จะเรียนรู ฝ ก ฝ น พัฒนา ขัดเกลา เพื่อเป นตัวอย างการเป นนักเรียนที่ดีและมนุษย ที่ดีให กับลูกไปด วย มันอาจจะไม ใช เรื่องง ายในช วงป แรกๆ แต พอรู ตัวอีกที หันกลับไปมองตัวเองก็รู สึกชื่นใจระคนแปลกใจว า “เรามาถึงจ�ดนี้ได อย างไร” พ อเทียน (มณเฑียร อมรเลิศวิมาน)


แม จ า พาร ท ต นประดู ๒ สำหรับแม จ า สุดาพร สมพงษ แม น องพาร ท ขอแบ งเป น 2 ส วนนะคะ ก็คือส วนของตัวเองและส วนของลูก ขอเริ่มจากส วนของตัวเองก อน อยากจะบอกว าตัวเองมีความเปลี่ยนไปทางด านความคิดและนำวิถีพุทธมาปรับใช ในชีวิตประจำวัน ฟ งดูอาจจะจับต องไม ได เอาเป นว า เมื่อก อนก็รู ว าอะไรคือบาปบุญแต ก็ไม ได รู สึกกับคำว าบาปบุญเหมือนกับในป จจ�บัน เมือ่ ก อนก็รน ู ะว านีค่ อื บาปแล วก็จะไม ทำ หรือทำอย างนี้ได บญ ุ มันเป นความรูส กึ ว ามันหยาบๆ เผินๆ แต จริงๆแล วมันมีอะไรลึกซึง้ กว านั้นทำให เกิดการระวัง การสำรวม การคิดมันมากกว าเมื่อก อนเยอะ หรือมีอีกเรื่องขอเล าขำๆนิดนะคะ โดยปกติตัวเอง มีนิสัยขี้ลืมถึงขั้นมือวางติดอันดับ เวลาลืมจะหาของทำให ใครกระทบ ไม ได รู สึกผิดเท าไหร ก็เพราะไม ได ตั้งจะลืม แล วไงมันลืมไปแล วจะอะไรนัก และไม รู จะแก อย างไรก็มันลืม วนอยู อย างนั้นลืมไปเรื่อยๆ จนเมื่อวันนึงมาอ านเจอคำสอน ของหลวงปู ชา (กราบสาธุ…เจ าค ะ) ท านสอนให สำนึกได ว า มันเป นการสร างกรรมให กับคนรอบข างได ทำให คนอื่นเป นทุกข แม จะไม ตั้งใจก็ตาม (คือจำไม ได ถึงคำของท าน หรือ ท านกล าวถึงเรื่องอะไรนะคะ) รู แต ว าทำให ได สำนึกขึ้นมา และจากสิ่งที่พระอาจารย ชยสาโร สอนไว ว าวิธีที่จะไม ให ลืมก็รู จักทวน ทำอะไรให ช าลง จากคำสอนของท าน ทุกวันนี้ก็ยังลืมแต น อยลงมาก และเวลาลืม รู สึกผิดอย างจริงใจ ขอบอกว าสิ่งเหล านี้มีผลต อการอยู ร วมกับผู อื่นมากๆนะคะ จากการเรียนรู ธรรมมะทำให เราระมัดระวัง (แต ถ าระวังไม ทันก็ยังเผลออยู นะคะแต ก็ยังรู ว าควรไม ควร) วิถนี ท้ี ำให เราเบียดเบียนตัวเองหรือเบียดเบียนผูอ น่ื น อยลง (คงไม สามารถทำได ทง้ั หมด ^^) ทัง้ ในด านของการกระทำและคำพูด ทุกวันนี้รู สึกว า ตัวเองมีบุญเหมือนกันนะที่ได นำลูกเข าเรียนที่โรงเรียนทอสี ได มาเจอกับคุณครูอ อนที่มีความเมตตา มีความมุ งมั่นที่จะให ผู ปกครองทุกคนใช ชีวิตอย างถูกต องพยายามให ผู ปกครองได เรื่องของการปฎิบัติธรรมจริงๆ ก็อาจจะคิดได ว าไม ต องมาอยู ทอสีอยากไปปฏิบัติธรรมก็ไปปฏิบัติได แต สำหรับแม จ าแล ว สภาพแวดล อมความเป นสังคมพุทธ ของโรงเรียน กลุ มคนที่คิดเหมือนกันนั้น เอื้ออำนวยให เข าใจได ง ายขึ้น อยู ข างนอกกับกลุ มคนที่ห างไกลจากวิถีพุทธ มันก็ทำให เราเกิดกิเลสได ง าย เมื่อก อนคำว าศีล ๕ เราก็ท องกันได ทุกคนว าศีล ๕ มีอะไรบ างไม ควรทำผิดศีล ก็แค กลัว ทำได บ างไม ได บ างบางข อ แต ตอนนี้ไม ใช แค รู เหมือนเมื่อก อน รู เพียงแค ว าต องนำมาปฏิบัติให ได เพราะมีส วนสำคัญ ต อการใช ชีวิตอย างมาก ตลอดระยะเวลาที่อยู ทอสีมา ๘ ป โรงเรียนก็จัดให ผู ปกครองมาปฎิบัติธรรมตลอด และแม จ าโชคดีมากขึ้นไปอีก ที่ได เคยไปปฏิบัติธรรมครูกับท านพระอาจารย ชยสาโร ๕ ครั้ง "อยากจะบอกว านี่คือสิ่งที่มีค าที่สุดในชีวิตตั้งแต เกิดมา มีค าจริงๆซึ่งก็บรรยายออกมาไม ได ว าคำว ามีค านั้นคือ อะไรแค ไหน” กราบขอบพระคุณท านพระอาจารย ชยสาโร คุณครูอ อน และแม แอ ด (พอศรี) ที่ทำให แม จ าได มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมครั้งนั้น ส วนของลูกที่มีผลต อตัวเอง พาร ทจะเป นอย างไรก็ตามในมุมมองของคนอื่นแต สำหรับแม จ าเขามีภูมิต านทาน มีความคิด มีวิถีพุทธติดตัวมา สิ่งนี้มีค ามากสำหรับแม จ า พูดได เต็มปากว าเขาได รับสิ่งเหล านี้มาจากโรงเรียนทอสีค ะ… กราบของพระคุณทุกๆท านที่มีส วนต อยอดความเป นวีถีพุทธด วยค ะ แม จ า (แม น องพาร ท)


แม จูน เจ็ม ต นปอกระสา ๒ / จีน ต นประดู ๓ สิ่งที่ได เรียนรู และเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิต ได มาเป นคุณแม ทอสีป นี้ก็ขึ้นป ที่ ๑๒ แล ว วันแรกที่จูงลูกสาววัย ๓ ขวบกว าๆ ใส ชุดเอี๊ยมกระโปรงม วง เดินลากกระเป า ตัวสูงจากพื้นไม เท าไหร มาส งให กับมือครูอู ด เชื่อมั่นว าลูกจะได อยู ในสภาพแวดล อมที่จะเอื้อให เขาได เติบโตขึ้นตามธรรมชาติ และมีความสุขในวัยเด็กชองเขา ไม ได นึกเลยว า นี่เป นจ�ดเริ่มต นของการเดินทางเส นใหม ของตัวเองเช นกัน มาวันนี้มองย อนกลับไป เราได อะไรจากโรงเรียนมากมายเหลือเกิน ได เป นศิษย มีครู ได ศึกษาธรรมะ ได มีพุทธศาสนา เป นหลักใน การดำเนินชีวิต สิ่งสำคัญคือได รู จักให โอกาส ให โอกาสตัวเอง ให โอกาสคนใกล ตัว แต ก อนชีวิตจะรีบเร ง ด วนคิด ด วนสร�ป ด วนตัดสินใจ ยังไม ทันมองไม ทันฟ ง ชีวิตดูวุ นวายไปหมด จัดการไม ได กับความสุขทุกข ป ญหา หลงอยู กับสิ่งปร�งแต ง เหมือนไม รู ตัว ตั้งแต มาอยู ที่ทอสี* ได ฟ งธรรม ได ปฏิบัติธรรม ได พบพระอาจารย ชยสาโร เราเริ่มรู จักที่จะให โอกาสตัวเองหยุดคิด หยุดฟ งมองตามความเป นจริง ช วงแรกๆคิดไม เป นเลย มีคำถามก็อยากถามพระอาจารย อย างเดียว อยากได คำตอบจากท าน โดยไม ต องคิดเอง พระอาจารย ท านเมตตามาก ท านก็ไม ตอบ ท านจะถามกลับให ไปคิดเอง ผ านไปป สองป ไปฟ งธรรมเป นประจำ (ไปฟ งธรรมไม ต องดิ้นรนหา โรงเรียนจัดให อนุโมทนาสาธุคะ) อ านหนังสือมากขึ้น พอมีคำถาม ก็จะแค นึกว า ถ าถามพระอาจารย คิดว าท านจะตอบอย างไร คำพูดคำสอนตัวหนังสือต างๆก็จะปรากฏขึ้นมาให เลือกใช คำตอบสุดท ายมักจะเป น 'ตามความเป นจริง' ทุกสิ่งทุกอย างเป นเหตุเป นป จจัยทั้งนั้น อธิบายได ตอนนี้แค ต องฝ กสติ ให โอกาสตัวเองช าลงซักนิด พยายามดูลมหายใจทุกครั้งที่นึกขึ้นได อย างน อยให จับสติตัวเองให ได ใน แต ละวัน ตั้งโจทย ให ตัวเองแต ละวัน วันนี้จะไม พูดเพ อเจอ พูดแต สิ่งดีๆ อีกวันก็ฝ กเรื่องอนิจจัง ความไม แน นอน ก อนจะทำอะไรก็ คิดเผื่อไว นิดว า มันอาจจะไม เป นอย างที่เราคิด ทุกข ก็จะเบาลง เพราะตามความเป นจริง ไม มีอะไรแน นอนอยู แล ว คิดแบบนี้แล ว เราก็ได ให โอกาสตัวเอง คิดดีทำดี อยู ในความเป นจริง คนใกล ตัวโดยเฉพาะลูกก็จะได อานิสงค ตรงนี้ไปด วย ใช หลักธรรมในการคุยกับเขาเรื่องชีวิตประจำวัน ใช คำสอน ของพระอาจารย ด วย เด็กทอสีจะเชื่อธรรมะ เชื่อคำของพระอาจารย มากกว าเชื่อแม อีก พออิงธรรมะปุ บ มักจะโต แย งไม ออก เขารู อยู ว าดีว าจริง เราแค คอยช วยโยงให เขา เป นเรื่องๆไป เป นการเชื่อมประสบการณ กับคำสอนที่เขาได ยิน เข าใจมั่งไม เข าใจมั่งแล วแต วัย แต ก็ได รับฟ งเข าไปแล วหละ มาอยู ทอสีเหมือนได มาเป ดหูเป ดตา นับว าเป นบุญที่วันนั้นยังเดินมาจนถึงทอสีเมื่อ ๑๑ ป ก อน เดินเข าทอสีทุกวันนี้ ก าวเข ามากก็รู สึกถึงความร มเย็น ความอ อนโยน เมตตากร�ณา ของทั้งพระอาจารย คณะครู และตัวสถานที่เอง ต องขอขอบคุณสำหรับการให อย างไม มีข อแม นี้ ขออนุโมทนาสาธุกับโรงเรียนทอสีด วยคะ


แม แอ ด พิณ ต นสาละ ๑ / พิชชี่ ต นประดู ๒ ก อนอื่นต องขอบอกก อนเลยว าดีใจมากค ะ ที่ลูกสาว ๒ คน ได มาเรียนและจบที่โรงเรียนทอสี และดีใจมากไปกว านั้น คือ ลูกได มาศึกษามัธยมต อที่โรงเรียนป ญญาประทีป เมื่อครั้งที่หาโรงเรียนให ลูกใหม ๆ มาชมโรงเรียนทอสีแล วก็ชอบทันที เพราะเป นแนวโรงเรียนในใจคุณแม อยู แล ว คือไม เน นวิชาการ แต เน นการเตรียมความพร อม แต สิ่งที่ลูกๆ ได จากโรงเรียนทอสี มากกว าที่แม คิด สอนให เด็กๆได เรียนรู จากธรรมชาติ สิ่งรอบตัว และให ลงมือปฏิบัติ ฝ กหัดช วยเหลือตัวเองและผู อื่น คุณแม ก็เพิ่งมาเรียนรู ว าสิ่งที่โรงเรียนสอนเด็กๆมา เรียกขบวนการนี้ว า วิชาชีวิต และที่ดีมากและเห็นผลมาก คือ แนววิถีพุทธ มาเป นส วนหนึ่งในขบวนการเรียนการสอนของโรงเรียนทอสีและป ญญาประทีป สิ่งที่ลูกได ใช แค วิชาการแต สิ่งสำคัญที่ได คือ วิชาชีวิต คุณธรรม จริยธรรม บอกได เลยค ะว าเห็นผลกับลูกมากค ะ อย างน อยลูกก็ได ภูมิต านทานในตัวที่ดีค ะ นอกจากลูกจะได แล วผู ปกครองก็ได เรียนรู สิ่งดีๆมีประโยชน จากโรงเรียนและนำมาใช ในการดำเนินชีวิตได ด วย ได มีโอกาสปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ ซึ่งทำให รู สึกว ามีสติ สมาธิในการดำเนินชีวิตประจำวันดีขึ้นมาก ได เรียนรู การอยู ร วมกันอย างเป นกัลยาณมิตรที่ดีระหว างพ อแม -ลูก คุณครูกับผู ปกครอง ผู ปกครองในโรงเรียนด วยกันเอง วิธีการสื่อสารกับลูก และสิ่งที่คุณแม ได เรียนรู ที่สำคัญคือ ทุกอย างจะราบลื่นสำเร็จไปด วยดีได ทางบ านต องให ความร วมมือที่ดีกับทางโรงเรียน เป นไปในทางเดียวกัน ถึงจะสำเร็จเห็นผลกับเด็กค ะ ร วมกันและช วยกันพัฒนาไปด วยกันระหว าง ครู เด็ก และทางบ าน ด วยการศึกษาโรงเรียนวิถีพุทธนี่เอง ทำให การเลี้ยงดูลูกง ายขึ้น สื่อสารกันก็ง ายขึ้น แม จะเป นช วงวัยร� นก็ตาม การดำเนินชีวิตก็อยู ในความไม ประมาท มีสติ สมาธิมากขึ้น ได หลักคิด ไตรสิกขา ศีล สมาธิ ป ญญา มาเป นแนวคิดในการดำเนินชีวิตประจำวัน


แม วรรณ ไบร ท ต นโมก ๒ ๙ ป ในโรงเรียน ทอสี และ เกือบ ๑ ป ที่ โรงเรียน ป ญญาประทีป เป นช วงเวลาที่มีคุณค า และ มีความสุขสำหรับแม วรรณ ลูกชายน องไบร ท และครอบครัว มากๆ ค ะ ทุกอย างในทอสี ไม ว าจะเป นชื่ออาคาร คำสอนหรือบทความดีๆ ที่ติดอยู ตามที่ต างๆ ในโรงเรียน ตลอดจนถึง สื่อสารของทางโรงเรียน ถึง ผู ปกครอง การบ านลูก การจัดอบรมต างๆ ให กับผู ปกครอง และที่สำคัญและเป นประโยชน มากที่สุด คือ การให ผู ปกครองต องเข าปฏิบัติธรรมอย างน อยป ละ ๖ ครั้ง ทุกสิ่งทุกอย างในทอสีและป ญญาประทีป ได เปลี่ยนวิธีคิดในการเลี้ยงดูลูก และวิธีการดำเนินชีวิต ทั้งของตัวแม วรรณเอง และวิธีการคิดและปฎิบัติต อผู อื่น โดยเฉพาะธรรมคำสอนที่แม วรรณได เรียนรู จากพระอาจารย ชยสาโรและพระอาจารย ท านอื่นๆ ทำให แม วรรณได หันมาตั้งใจในการพัฒนาตนเอง มากกว าการเพ งโทษผู อื่นเหมือนในอดีต เมื่อก อนแม วรรณจะรู สึกว า ”ทุกข ง าย ทุกข นาน และสุขยาก“ แต ป จจ�บัน แม วรรณได เปลี่ยนตัวเองเป นคนที่ “สุขง าย ทุกข ยาก” ตอนเข ามา โรงเรียนทอสี ใหม ๆ ก็มักจะได ยินคนพูดกันว า เรียนโรงเรียนวิถีพุทธ ออกไปจะไปสู หรือ แข งขันกับคนอื่นได เหรอ แม วรรณคิดว าได พิสูจน ด วยตนเองแล วว า ท ามกลางการแข งขันและการเปลี่ยนแปลง ในโลกป จจ�บัน การนำเอาวิถีพุทธเข าไปใช ในที่บ านและที่ทำงานกลับทำให สถานการณ ต าง ๆ ดีขึ้นโดยลำดับ ส วนทอสีรักษ โลก คือ การรวมตัวของครูและผู ปกครองที่มีความมุ งมั่นอยากช วยกันดูแลโลกใบนี้ โดยเฉพาะประเทศของเรา สังคมของเราให เป นสังคม ขยะเป นศูนย (zero waste) ทีมทอสีรักษ โลกเป นทีมที่ดีที่สุดทีมหนึ่งที่แม วรรณเคยทำงานร วมกับผู ปกครองมา ทีมของเราแม ทุกคนจะ มีภารกิจมากแต ก็ช วยเหลือกันเต็มที่ คอยให กำลังใจกัน จนสามารถออกไปทำงานจิตอาสา zero waste ตามวัด และสถานที่ต าง ๆ มาไม น อยกว า ๑๐ งานและเผยแพร คอนเซ็ปนี้ให ผู อื่นได ไปทำในองค กรของตัวเองมา ก็หลายๆ แห งในช วงเวลาไม กีป และได รับผลตอบรับชื่นใจกลับมาทุกครั้ง พวกเราก็จะยังคงมุ งมั่นทำงานต อไป โดยหวังว าจะมีส วนผลักดันให เกิดสังคมขยะเป นศูนย (zero waste) ในประเทศไทยได ในอนาคตอันใกล นี้ สำหรับแม วรรณ ถ าจะให พูดถึงทอสี และ ป ญญาประทีปเพียงประโยคเดียว แม วรรณอยากบอกว า

“ทอสีและป ญญาประทีป คือ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งในโลกนี้และโลกหน าเลยค ะ”


พ อโป ง ป าน ต นปอกระสา ๒ ผมพาลูกมาเข าอนุบาล ๑ ที่ทอสีเมื่อป ๒๕๔๘ ตอนนั้น ทอสียังเป นโรงเรียนเล็ก ๆ อยู เลยครับ ถ าเทียบกับป จจ�บัน ตอนนี้ลูกผมจบแล วก็ไปต อที่โรงเรียนป ญญาประทีป ซึ่งเป นโรงเรียนประจำระดับมัธยมศึกษา ต อเนื่องจากโรงเรียนทอสีครับ ถ านับกันป นี้เป นป ที่ ๑๐ ที่ผมและครอบครัวผูกพันธ กับทอสีมานานพอสมควร สิ่งที่ผมและครอบครัวได เรียนรู จากทอสีนับตั้งแต ลูกมาเข าเรียนและรู สึกประทับใจ คือ วิชาชีวิตที่โรงเรียนปลูกฝ งให เด็กแล วก็ซึมซับ มาถึงผู ปกครองโดยไม รู ตัว วิชาชีวิตสอนให เราดำเนินชีวิตตามความเหมาะสม เหมือนกับเศรษฐกิจพอเพียง แต ก็ไม ลืมให หันหลังกลับไปดู สิ่งแวดล อมที่อยู รอบๆตัวเรา สอนให ดำรงชีวิตได ในสังคมป จจ�บันที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยมีคุณธรรมควบคู กันไป สิ่งที่โรงเรียนปลูกฝ งให ลูกทำให เกิดการเปลี่ยนแปลงต อพ อแม เช นกัน นั่นคือโรงเรียนได นำธรรมะเข ามาเป นจ�ดเปลี่ยนในชีวิตเลยก็ว าได สำหรับครอบครัวผม เมื่อก อนครอบครัวเราก็เป นชาวพุทธทั่วๆ ไปตามทะเบียนบ าน ทำบุญตักบาตรเหมือนคนอื่นทำกัน แต ทอสีทำให ผมและครอบครัวได เข าใจพุทธศาสนาอย างแท จริงด วยความเมตตาของพระอาจารย ชยสาโร ธรรมะมีส วนเปลี่ยนแปลงครอบครัวผมค อนข างมาก ผมและภรรยาได มีโอกาสเข าร วมปฏิบัติธรรม ที่ทางโรงเรียนจัดให การได เข ามาฝ กขัดเกลากิเลสตัวเองบ อยครั้งผมว ามันทำให เราใช ชีวิตไม เหมือนเดิมอีกต อไป เราคิดมากขึ้น ใส ใจกับสิ่งรอบตัวระมัดระวังในการ ที่จะทำอะไรแล วกระทบผู อื่น สิ่งเหล านี้เป นความรู สึก ละเอียดอ อนที่ครอบครัวผมได รับได เรียนรู จากการเข าปฏิบัติธรรม แม จะยังมีหลุดบ าง กิเลสก็ยังมีอยู แต ผมว า เป นจ�ดเริ่มต นที่ดีต อชีวิตผมและครอบครัว ผมไม คิดว าจะมีโรงเรียนไหนให สิ่งที่มีคุณค าแบบนี้กับผู ปกครองครับ สิ่งที่ผมประทับใจอีกเรื่องคือความสัมพันธ ระหว างคุณครูกับผู ปกครอง คุณครูที่ทอสีผมใช คำว ามีใจที่เป นครู อย างแท จริงโดยเฉพาะครูใหญ ใจดี เช น ครูอ อน ซึ่งเป นแบบอย างให กับคุณครูทั้งโรงเรียน ท านมีเมตตาและ อ อนน อม ให เกียรติกับทุกๆคน ป จจ�บันลูกผมจบไปแล วแต ทุกครั้งที่ได กลับไปทอสีความผูกพันธ ที่มีให กัน มันยังเหมือนเดิมอบอุ นอยู เสมอ มันรู สึกอย างนั้นจริงๆครับ ครอบครัวผมได เรียนรู ลูกผมได รับการบ มเพาะเมล็ดพันธุ ที่ดีงามให เกิดขึ้นในใจของเค าตั้งแต วัยอนุบาล ผมเชื่อว าวันนึงเมื่อเค าเติบโตเมล็ดพันธุ ที่ดีงามจะผลิตดอกออกผลในภายภาคหน าสามารถทำทั้ง ประโยชน ตนประโยชน ท านได ตามที่โรงเรียนทอสีได ปลูกฝ งสิ่งที่ดีงามนี้แก ลูกผมครับ ขอบคุณโรงเรียนทอสีครับ


พ อมีน ฟ นน า อ.๓ ดอกจามจ�รี / ตินติน อ.๑ ดอกแก ว วิถีทอสี วิถีชีวิต วิถีพุทธ ครอบครัวของผมเป นครอบครัวที่นับถือศาสนาพุทธ สมัยที่ผมยังเด็ก ผมต องไปทำบุญที่วัด ตักบาตร ฟ งเทศน ทุกสัปดาห ทำให ภายในใจของผมผูกพันกับศาสนาพุทธเรื่อยมา แต ยังไม มีโอกาสปฏิบัติธรรมอย างจริงจัง เมื่อผมได ลูกสาวคนแรก ผมเริ่มมองหาโรงเรียนที่ไม ใช วิถีแบบเดิมๆ ที่ผมเคยเรียนมา คำแรกที่ผมรู จักโรงเรียนทอสี คือ “โรงเรียนวิถีพุทธ” แม ผมจะยังไม ได ตัดสินใจเลือกโรงเรียนให ลูก แต ผมเชื่อว าภายในจิตใจลึกๆแล ว ผมเลือกทอสี เพราะคำว า "พุทธ" สำหรับผมคือคำตอบของทุกสิ่งทุกอย าง คือความจริงแท สุดท ายที่ผมจะต องอยู ด วย จนเมื่อลูกสาวคนแรกได เข ามาอยู ที่โรงเรียนทอสี วิถีชีวิตของผมก็เริ่มเปลี่ยนไป ผมได เริ่มปฏิบัติธรรมในป แรก การปฏิบัติธรรม ๖-๗ ครั้ง ทำให ผมรู สึกชอบและสงบ ประกอบกับแนวทางปฏิบัติธรรมจากร� นพี่ที่ทำงานคนหนึ่ง ที่แนะนำให ผมปฏิบัติตามแนวทางของหลวงปู ดู วัดสะแก จึงทำให ผมเริ่มปฏิบัติธรรมอย างจริงจัง ในทุกๆเช าที่ตื่นขึ้นมา และรู สึกว าเป นสิ่งที่ต องทำทุกวัน ดังคำสอนของหลวงปู ดู ที่ว า… "ถ าวันไหนยังกินข าวอยู ก็ต องทำ วันไหนเลิกกินข าวแล วนั่นแหละจึงค อยเลิกทำ" แนวทางของโรงเรียนทอสีนั้น ตามความรู สึกของผมเป นเส นทางสายกลาง ตามหลักของพระพุทธเจ า ไม ตึงและหย อนจนเกินไป ทำให ผู ปกครองรู สึกผ อนคลาย และมีทางออกเสมอตามเหตุและผล โดยไม ยึดติดกับสิ่งใดๆ เมื่อมี ศีล สมาธิ และเกิดป ญญาตามหลักไตรสิกขา ทุกอย างมีทางออกของมันเสมอ ตลอดหลายป ที่ผ านมา ผมกับภรรยาเทียวรับส งลูก มาร วมปฏิบัติธรรม, เดินทางไปปฏิบัติธรรมที่บ านบุญ, มาสอนลูกๆ ในโครงการ "อยากเห็นลูกน อยค อยๆก าวไกล", มาร วมกิจกรรมละครภาษาอังกฤษ, มาเล นกีฬาร วมกับคุณพ อคุณแม ท านอื่นๆ รวมทั้งคุณครู และร วมกิจกรรมต างๆที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น จนเทียบได ว าครึ่งหนึ่งของเวลาที่ผ านไป เป นเวลาที่ต องเกี่ยวข องกับโรงเรียนทอสี นั่นหมายความว า "วิถีชีวิตของโรงเรียนทอสี เป นส วนหนึ่งของวิถีชีวิตของครอบครัวเรา" โดยความรู สึกที่แท จริง ครอบครัวเราสมบูรณ เราอยู กับลูก อยู กับโรงเรียน เรามีเวลาในการทำงานน อยลง แต นั่นเป นสิ่งที่เราเลือก และมันคือสมดุลของครอบครัวเรา หากย อนเวลากลับไป เราจะไม เสียดายเวลาต างๆนั้น เพราะเราได ทำดีที่สุดแล ว ขอขอบคุณโรงเรียนแห งนี้ที่ทำให เรารู สึกมั่นคงในแนวทางที่แตกต างจากสังคมโดยรวม เรายังมั่นใจในเส นทางที่เราเลือกควบคู กับแนวทางที่โรงเรียนได ให กับลูกอันเป นที่รักของเรา


แม กุ ง พ อหนุ ม ข าวกล า ต นกล วย ๒ / ข าวเจ า ต นสาละ ๒ ครอบครัวของเรามีโอกาสที่ดีมากที่ได เข ามาเป นส วนหนึ่งในรั้วโรงเรียนทอสี เราได หลักคิดที่มีประโยชน มากมายจากชุมชนกัลยาณมิตรแห งนี้ หลักคิดที่เราประทับใจและได รับประโยชน อย างมาก คือ การใช หลักไตรสิกขาในการพัฒนาชีวิตที่ดำเนินไปทั้ง ๓ ด าน จากแนวทางนี้เราได ฝ กศึกษาในด านศีล ซึ่งสอนให เราเริ่มต นที่ การกิน อยู ดู ฟ ง ให เป น และเมื่อเรารักษาศีล ศีลก็จะรักษาเรา เราได ฝ กศึกษาด านสมาธิ เพื่อพัฒนาจิตใจในด านต างๆเช น ความเมตตา ความเข มแข็ง ความพอใจ และท ายที่สุดได ฝ กศึกษาด านป ญญาเพื่อ "รู เท าทัน รู เห็นตรงตามความเป นจริง" ชุมชนการศึกษาวิถีพุทธแห งนี้ให ความสำคัญกับวิชาชีวิตทัดเทียมกับวิชาการจึงเป นโอกาสอันดีที่เด็กๆ จะได พัฒนาตนเป นคนที่ทั้งเก งและดีมีทักษะในการดำเนินชีวิตควบคู กันไป ในขณะเดียวกันพ อและแม ก็ได รับโอกาสในการเรียนรู และปฏิบัติธรรมกับ ครูบาอาจารย และพระอาจารย หลายๆท าน ทำให เราได พัฒนาตนไปพร อมกับลูกๆซึ่งมีประโยชน อย างยิ่ง เพราะพ อแม คือบุคคลแรกๆที่เป นผู แสดงโลกนี้แก ลูก การเป นส วนหนึ่งในชุมชนทอสีทำให เราได ใกล ชิดพุทธศาสนายิ่งขึ้น ซึ่งทำให เราได เรียนรู หลักคิด หลักธรรมในการดำเนินชีวิตซึ่งมีประโยชน เป นที่สุดดังที่ครูบาอาจารย ได กล าวไว ว า "คำสั่งสอนของพระพุทธเจ าเป นระบบการศึกษาที่อุดมสมบูรณ ที่สุดที่เคยปรากฏในโลกมนุษย "


แม ก อย บาส ต นประดู ๒ สานุช เศรษฐบุตร ในฐานะการเป นผู ปกครอง โรงเรียนได ให สติ และหลักคิดในการเลี้ยงลูก เรื่องของการควรฝ กให ลูกรู จักพึ่งตัวพึ่งตน การสอนให ลูกรู จักคิดแยกแยะ ควร/ไม ควร จากการที่ โรงเรียนสอนเรื่องคุณค าแท คุณค าเทียม การอบรมสั่งสอนที่ลูกได รับ ช วงที่อยู ทอสี เมื่อลูกเป นวัยร� น เมื่อเราพูดคุยหรือตักเตือน โดยพูดถึงสิ่งที่โรงเรียนเคยสอน หรือที่พระอาจารย เคยเทศน ลูกก็เข าใจได ง ายขึ้น ของแถมที่ได จากโรงเรียน คือ พ อแม ก็พลอยได เข าใกล ศาสนาพุทธไปด วยอย างไม รู เนื้อรู ตัว และมีเพื่อนใหม ๆ ที่เป นผู ปกครองของเพื่อนลูกซึ่งยังคบหากันมาจนทุกวันนี้ ในยามที่ลูกๆโตกันไปแล ว เมื่อมีโอกาสได มาร วมเป นเจ าหน าที่ของโรงเรียน ทำให ได เห็นการทำงานเบื้องหลังของคุณครูและเจ าหน าที่ว ามีความใส ใจและทุ มเทกันเป นอย างมาก เพื่อดูแลลูกของเรา ที่สำคัญคือ เรารู สึกได ว าโรงเรียนนี้ เป นที่ทำงานที่มีความจริงใจ และตั้งใจสนับสนุนการนำธรรมมะมาใช ในชีวิตและการทำงาน ชีวิตคนเราจะพบว าความสุขและความทุกข ในการทำงานมีความเหมือนหรือคล ายกัน ในการทำงานทุกที่ แต ที่นี่ทำให เรามองเห็นสุข ทุกข อย างเท าทัน และยังมีเพื่อนร วมงาน (ที่ตกอยู ในสถานการณ เดียวกัน) ช วยยกธรรมะมาเตือนสติกันและกันได ทุกข อาจจะไม ได หมดไปในทันที แต ว าบรรยากาศการทำงานก็ดีขึ้นเยอะ


แม โส เซร า ต นสาละ ๒ ก อนอื่น เขาบอกว าแม โส และพ อศรา ได ศึกษาธรรมมะ กันมาก อนที่จะมีเซร า และเมื่อถึงวันที่ เซร าจะต องเข าโรงเรียน เราก็เลยค นหาโรงเรียนที่เหมาะสมสอดคล องกับ วิถีของครอบครัวเรา เพื่อให โรงเรียนช วยอบรมสั่งสอนลูกของเราไปในแนววิธีพุทธ และก็มาจบลงที่ โรงเรียนทอสี จากการค นหามาหลายโรงเรียน เมื่อเราได ตัดสินใจเลือกโรงเรียนทอสีแล ว ก็ไม เคยรู สึกผิดหวังเลย ลูกมีความสุขทุกวันที่ได มา โรงเรียนตั้งแต วันแรกจนถึงวันนี้ เกือบจะครบ ๙ ป เพราะลูกไม เคยบ นเบื่อ หรือไม อยากมา โรงเรียนเลย เพราะว ากลับจากโรงเรียนลูกก็จะมี เรื่องราวมากมายเล าให ฟ ง ทุกวัน บ งบอกว ามีความสุข ที่โรงเรียนนี้มีความเป นกัลยาณมิตร ให กันอย างมาก ทั้งจากคุณครู ผู ปกครอง และ เด็ก ทั้ง ๓ ฝ ายนี้มีความสนิทสนม อบอุ น เกื้อกูลซึ่งกันและกัน และที่โรงเรียนนี้พ อและแม ก็ได มีโอกาสได พัฒนาคุณธรรมในตนเองให งอกงามขึ้น จากการที่ได มีโอกาสปฏิบัติธรรม ฟ งธรรมจากพระอาจารย หลายๆท าน ที่ท านได เมตตามา อบรมสั่งสอน ลูกอยู ที่นี่มีความเข าใจธรรมมะเพิ่มทุกวันผ านการเรียน การสอน ในวิชาการ ที่ได เรียนจากคุณครู สิ่งเหล านี้มันค อยๆงอกงามและเพิ่มพูนขึ้นตามลำดับ โดยที่มันค อยๆซึมซับ ไปที่ละน อย ลูกมีความเข าใจโลกตามความเป นจริง มีความเข าที่จะปรับตัวให เข ากับ เหตุการณ หรือสถานการณ ได ดี ลูกสามารถแยกแยะ สิ่งดี ไม ดีได ร� จักการช วยเหลือ และแบ งป น การอยู ร วม และการมีส วนร วมได ดีซึ่งสิ่งเหล านี้มันเป นสิ่งที่พ อ แม ปรารถนาให เป น สิ่งที่แม โสได รับอีกอย างก็คือ รู ว าโรงเรียนทอสี นี้ตั้งใจที่จะอบรม และสั่งสอน พัฒนาให เด็กได เติบเป นเด็กที่สมบูรณ ตามหลักศีล สมาธิ และป ญญา จริงๆ และสิ่งยืนยันว าลูกมีความสุขจริงๆกับโรงเรียนทอสี คือจบจากที่นี่ลูกตั้งใจไป เรียนต อที่ป ญญาประทีป ที่เดียวเท านั้น ขอบคุณค ะ


แม ตุ ม ธัญญ า ต นก ามปู ๒ / ป วย ต นโมก ๒ / เมี่ยง ต นประดู ๓ หลักคิดและสิ่งที่ได จาก โรงเรียนทอสี เป น คำถามที่เหมือนจะไม ยาก แต พอลองนั่งนึกจริงๆ ก็ไม ง ายเหมือนกันนะคะ… สิ่งที่เราได จากทอสี… ก็คล ายๆกับสิ่งที่ลูกได คือ ค อยๆ ได ค อยๆ ซึม เข ามาเรื่อยๆ ตามระยะเวลาที่ได รู จัก… ตามโอกาสที่ได เรียนรู อย างหนึ่งที่รู สึกและรับรู ว าได จาก ทอสี คือ บทบาท การเป นแม … เมื่อเริ่มเข ามาเป นส วนหนึ่งใน รั้วทอสี ได รับหนังสือเล มหนึ่งคือ… “ พ อแม คือผู แสดงโลก “ อย างที่บอก… มาโดยไม รู ตัว อยู ในสำนึกของเรา… เป นตัวรั้ง ตัวยึดเหนี่ยว ให เราไม ลอยละล อง ไปตามกิเลส อย างน อยเราก็จะนึกอยู เสมอว า มีสายตาอีก 3 คู คอยเฝ าดูเราอยู การที่เราจะคิดอะไร จะทำอะไร ถูกดึงให ช าลง คิดและตั้งสติให มากขึ้นก อนที่จะทำ… ถัดมาคือได หลักในการเลี้ยงลูก… เลี้ยงลูกต องเลี้ยงให คนอื่นรัก เป นหลักที่ใช เลย และควรอย างยิ่งที่จะต องพยายามทำให ได สุดท าย… เรื่องที่ชอบและนำไปใช อยู เสมอคือ การทักทายและการลากันด วยการไหว บางครั้งอาจจะบังเอิญได พูดคุยกัน ทั้งๆที่ไม รู จักกัน และเมื่อจบการสนทนา เราจะนำวัฒนธรรมของทอสีไปใช .. ลากันด วยการไหว สิ่งที่ได กลับมา เราจะได เห็นรอยยิ้มของผู ที่รับไหว เรา และแววตาที่เป นมิตรมากยิ่งๆขึ้นเสมอค ะ


แม ใหญ ป อบ ต นกล วย ๑ / ปพน ต นสาละ ๑ / พอ ต นก ามปู ๒ หลักคิด ๑. เรื่องการศึกษา “ชีวิต คือ การศึกษา” เป นเรื่องการเรียนรู ชีวิต ทุกสิ่งมีความสัมพันธ และมีผลกระทบต อกัน ซึ่งนั้นคือ “วิชาชีวิต” เป นหลักสูตรที่ใช ในโรงเรียน เราจึงต องเรียนรู ไปตลอดชีวิต ถึงแม จะรู แล วก็ยังต องนำไปปฏิบัติใช ให เกิดทักษะ จึงถือว ารู จริง ดังนั้น การศึกษาจึงเป นเรื่องเป ดกว างให เรียนรู ได อยู ตลอด ทำให เราไม คับแคบหรืออคติ ไม ประมาทในการขวนขวายและเป น”นักศึกษาตลอดชีวิต” ๒. เรื่องการเป นพ อแม โรงเรียนสอนการเป นพ อแม ที่ถูกต องให กับผู ปกครอง ด วยแนวคิด “พ อแม คือผู แสดงโลก” พ อแม จึงจำเป นที่ต องมีต นทุนที่ดี ได แก ไตรสิกขา และฝ กจิตอยู เสมอๆ พ อแม ต องมีความชัดเจนและ ความสม่ำเสมอในการเลี้ยงดูและอบรมลูก นับว าได ประโยชน จากข อนี้มากเช นกัน ๓. เรื่องการพึ่งพาตนเอง การพึ่งพาตนเอง ช วยให เด็กมีความเชื่อมั่น พัฒนาความสามารถอย างเป นธรรมชาติ รู จักอดทน รอคอย และสามารถแก ป ญหาเป น เป นการส งเสริมทักษะการใช ชีวิต

สิ่งที่ได จากโรงเรียนทอสี รู จักโรงเรียนทอสีมา ๒๐ ป ลูกจบไปแล ว ๓ คน เป นช วงชีวิตที่ดีที่ได รับการศึกษาจริงๆ คือ การเรียนรู หลายอย างไปพร อมกับลูกด วย ได เพื่อนใหม ๆที่ดี ได พัฒนาตนเอง และภูมิใจในหลายๆเรื่อง คือ ๑. ภูมิใจในผู บริหารที่มีความตั้งใจจริงและมุ งมั่นในการสร างโรงเรียนวิถีพุทธ ซึ่งแน นอนต องบากบั่นฝ าฟ น อุปสรรคมากมาย จนทำให ผู คนรู แจ งถึงการศึกษาวิถีพุทธ คืออะไร และดีอย างไร ในป จจ�บันได รับความสนใจ สูงมาก นั้นเป นข อพิสูจน แล วว าการศึกษาตามหลักของพระพุทธองค สามารถนำไปปรับใช ได จริง ๒. ภูมิใจที่เลือกการศึกษาวิถีพุทธให ลูก โรงเรียนทอสีได บ มเพาะเด็กจากภายใน ปลูกฝ งสิ่งดีๆให ลูก ทำให ลูกเติบโตมีความคิดความอ านที่ถูกต อง รู ผิดชอบชั่วดี รู หน าที่ ไม เป นภาระหนักใจให พ อแม ๓. ภูมิใจที่มีเพื่อนดี สังคมกัลยาณมิตรในทอสี ทั้งโอบอ อมอารีและอบอุ น มีทุกข สุขแลกเปลี่ยนแบ งป นกันเสมอ ไม เหงาเลย แม ลูกๆจะจบแล ว แต ความเป นกัลยาณมิตร ยิ่งแน นแฟ นกว าเดิม ครอบครัวของเราขอขอบคุณ โรงเรียนทอสี ที่มิได ต องการแค ให ลูกเรียนแล วจบการศึกษา แต ยังมุ งหวังให ลูกและพ อแม นำหลักธรรม และการปฏิบัติธรรม นำไปใช ต อยอดให เกิดประโยชน กับชีวิตด วย


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.