สารบัญ บทน�ำ
3
ภาค 1: ขอต้อนรับสู่โลกนี้ การเกิดของหลาน ฟื้นคืนปัญญา นั่งตัก ความสมบูรณ์แบบของหลาน
11 17 20 22
ภาค 2: เกี่ยวกับครอบครัวของหลาน พ่อของหลานกับพ่อของตา ความลับของคุณยายชารอน คุณยายแซนดี้ของหลาน
31 39 46
ภาค 3: หลานกับตา, แซม ให้โอกาสความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจให้ประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย มองเห็นตัวตน IX
61 65 70
ความผิดหวังและความปรารถนาของเรา ความโกรธและความยุติธรรม เยียวยาบาดแผลของเรา
77 82 88
ภาค 4: ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณของหลาน เพศสัมพันธ์ ค�ำหลอกลวง และความหมายของการเป็นชาย อันตรายของความปรารถนา แสงจ้าและน�้ำนิ่ง สามมิลลิเมตรของหลาน คนที่ลอยน�้ำ การเดินทางภายใน
97 101 104 112 118 122
ภาค 5: สิ่งที่รอหลานอยู่ข้างหน้า สูญเสียจุกนมหลอก สิ่งที่ต้องจ�ำเกี่ยวกับพวกเด็กเกเร ดูแลพ่อแม่ของหลาน แผนที่เดินทาง ความสุขหมายถึงอะไร X
131 136 142 148 156
ใบฟิก
161
ภาค 6: ที่ทางของหลานบนโลกนี้ กรุ่นกลิ่นสันติภาพ เป็นคน “มีประสิทธิภาพ” หลานกับเจ้าเสือ บทเรียนในความตาย ขยายภาชนะให้ใหญ่ขึ้น ของขวัญวันเกิดหลานส�ำหรับตา
171 177 182 187 192 198
บทส่งท้าย กล่าวลา เรือนรับรอง
205 209
แหล่งข้อมูล ค�ำขอบคุณ เกี่ยวกับผู้เขียน เกี่ยวกับผู้แปล
210 212 219 221 XI
1
2
บทน�ำ
ผู้อ่านที่รัก ตอนหลานชายที่รักยิ่งของผมเกิดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2000 หัวใจผมเปีย่ มด้วยความปีตแิ ละความรัก ปูย่ า่ ตายายทุกคน รับรู้ได้ถึงความรู้สึกนี้ และถ้าโชคดีพอ เราจะรู้สึกถึงสายสัมพันธ์ พิเศษที่เรามีต่อหลาน ทว่าในช่วงหลายปีนบั ตัง้ แต่แซมเกิด ผมกับแกได้สร้าง สายสัมพันธ์ในรูปแบบที่ต่างออกไป ตอนแซมเกิด ผมเป็นชายแก่อายุห้าสิบสามที่เป็น อั ม พาตมานานยี่ สิ บ ปี ซึ่ ง นั บ เป็ น เวลาไม่ น ้ อ ยกั บ การมี ชี วิ ต ในสภาพดังกล่าว เพราะร่างกายของคนคนนั้นจะเสื่อมถอย อย่างมาก ผมล้มป่วยหลายครั้ง และป่วยหนักในช่วงสองสามปี หลัง ผมจึงไม่รวู้ า่ ตัวเองจะโชคดีได้อยูจ่ นถึงวันทีค่ วามสัมพันธ์ของ เรางอกเงยในช่วงหลายปีนี้หรือไม่ ผมไม่รู้ว่าผมจะมีโอกาสบอก แซมถึงสิ่งต่างๆ ที่ผมเฝ้าสังเกตจากมุมมองบนวีลแชร์หรือไม่ เหตุ ผ ลหนึ่ ง ที่ มุ ม มองของผมต่ า งจากคนอื่ น ก็ คื อ 3
ผมประกอบอาชีพด้านจิตวิทยามานานถึงสามสิบห้าปี ผมเฝ้าดู ผู้คนทนทุกข์ ก้าวไปข้างหน้า และเติบโตขึ้นจากประสบการณ์ ขณะที่บางคนข้ามไม่พ้นความเจ็บปวด ผมเฝ้าดูผู้คนเผชิญปีศาจ ในตน เปิดใจให้สมาชิกครอบครัวที่ห่างเหิน พวกเขาสอนผม อย่างมากเกี่ยวกับความกล้า ความโหยหา และความหมายของ การเป็นมนุษย์ โชคดีที่ผมยังมีมุมมองด้านอื่นด้วย ช่วงยี่สิบปีที่ผ่าน มาผมจัดรายการวิทยุแนวจิตวิทยา เสียงในครอบครัว (Voices in the Family) ที่ เ ปิ ด สายให้ ค นโทรเข้ า มาคุ ย ออกอากาศ โดยองค์กรกระจายเสียงสาธารณะแห่งฟิลาเดลเฟีย ผมได้ฟงั เสียง นับหมื่นพันที่โทรมาบอกเล่าสิ่งที่พวกเขาปรารถนา สิ่งที่พวกเขา ต้องดิ้นรน สิ่งที่พวกเขาได้ข้ามผ่าน ในช่วงสิบปีมานี้ผมยังเขียน คอลัมน์ลงหนังสือพิมพ์ ฟิลาเดลเฟีย อินไควเรอร์ โดยได้รับ จดหมายหลายสิบฉบับต่อสัปดาห์จากผู้อ่านที่ต้องการแบ่งปัน ความคิดและประสบการณ์ หนังสือสอนเรื่องจิตวิทยาให้ผมได้เล็กน้อย แต่การ เป็นอัมพาตสอนให้ผมนัง่ นิง่ ๆ และเปิดหูเปิดใจให้กว้างเพือ่ รับฟัง นับจากวินาทีทแี่ ซมลืมตาดูโลก ผมรูท้ นั ทีวา่ ผมอยาก บอกเล่าเรื่องราวชีวิตและความรัก อยากสอนให้แกเข้าใจความ หมายของการมีพ่อแม่ที่เป็นมนุษย์ผู้เปราะบาง ผมอยากให้แกรู้ 4
เกีย่ วกับโรงเรียน เห็นความส�ำคัญของเพือ่ นๆ และรูว้ า่ บางทีพวก เขาก็อาจใจร้ายกับเรา ผมอยากสอนแกเรื่องยาเสพติด เพศ สัมพันธ์ ความรัก การงาน การเงิน และทุกสิ่งทุกอย่าง ผมอยากให้แกได้รู้จักผมด้วย ผมจึงลงมือเขียนจดหมายเหล่านี้ขึ้น ด้วยหวังจะ บอกเล่าเรื่องราวมากมายให้แซมรับรู้ แน่นอน ผมรู้ดีว่าอีกหลาย ปีกว่าแกจะสนใจสิ่งที่คุณตาเขียนถึงแก แต่เมื่อเริ่มลงมือเขียน แล้ว ผมเกิดความมัน่ ใจว่า...ไม่วา่ อย่างไร...สักวันหนึง่ แซมจะต้อง ได้อ่านจดหมายเหล่านี้ แต่ความคาดหวังนั้นก็เปลี่ยนไป ตอนแซมอายุ ยั ง ไม่ ถึ ง สองขวบดี พ่ อ แม่ ข องแซม และผมพบว่าแกมีอาการบางอย่างของโรคออทิซึม ซึ่งเป็นความ บกพร่องทางสมองที่เปลี่ยนการรับรู้และปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ของบุคคลนั้นโดยสิ้นเชิง...เป็นความบกพร่องที่จะเปลี่ยนแปลง ชีวิตของแซม การค้นพบนี้ท�ำให้ลูกสาวของผม แม่ของแซม ใจสลาย ผมร้องไห้ไปกับเธอ ไม่เพียงเพราะเธอเป็นลูกสาวของผม แต่เพราะที่ผ่านมาเธอต้องใช้ชีวิตกับคนพิการมาตลอด ถึงตอนนี้ ยังจะต้องมาอยู่กับคนพิการไปตลอดชีวิตอีก แล้วผมก็ร้องไห้ สงสารแซม แต่ผมรู้ว่าผมมีเรื่องจะบอกแกเพิ่มขึ้น ผมอยากให้ แกเข้าใจความหมายของค�ำว่า “แตกต่างจากคนอื่น” ผมอยาก 5
สอนแกถึงสิง่ ทีผ่ มได้เรียนรูจ้ ากการเผชิญความทุกข์ยากทีผ่ มต้อง ประสบแทบทุกวัน และสอนเรื่องที่ผมเกรงว่าแกจะต้องประสบ ในชีวิตของแกเอง ผมอยากบอกแกด้วยว่า ความสงบสุขจะเกิด ขึ้นเมื่อเราหยุดต่อสู้ขัดขืน เหนือสิง่ อืน่ ใด ผมอยากให้แซมรูจ้ กั ความรัก ผมอยาก ให้แกรู้ว่าแอนดรูว์ ลอยด์ เว็บเบอร์ พูดถูกเผงที่ว่า “ความรัก เปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง” ผมอยากให้แกเป็นที่รักอย่างเปี่ยมล้น ได้สัมผัสทุกรสชาติของความรัก ทั้งอยากให้เข้าใจด้วยว่าเมื่อ แกเติบโตขึ้น การให้ความรักอาจส�ำคัญกว่าการได้รับความรัก ด้วยซ�้ำ ทว่าในสภาพของเด็กออทิสติก ผมอดสงสัยไม่ได้ ว่าค�ำพูด ความปรารถนา การแสดงความรัก และข้อสังเกต เกี่ยวกับชีวิตที่ผมมอบให้ จะมีความหมายกับแกหรือไม่ อาการ ออทิสติกมีหลายรูปแบบ และส�ำหรับเด็กที่มีอาการดังกล่าว เราไม่อาจคาดการณ์อนาคตใดๆ หากแซมเป็นออทิสติกแบบ รุนแรงที่สุด แกจะไม่สามารถอ่านหรือเข้าใจสิ่งที่ผมอยากสื่อสาร กับแกได้ เมื่อแรกตรวจพบอาการ แซมหยุดพูดอ้อแอ้แ ละ ไม่ออกเสียง อีกปีครึ่งต่อมาแกจะโขกศีรษะกับพื้นเวลาโมโห และร้องลั่นเวลาได้ยินเสียงดัง ผมสงสัยว่าแกจะอ่านจดหมาย 6
ของคุณตาได้ไหม แม้จะตั้งค�ำถามแบบนั้น แต่มันก็ไม่ได้ท�ำให้ ผมหยุดเขียนจดหมายต่อ ไม่ว่าแซมจะพิการระดับไหนผมก็ยัง ต้องบอกเล่าเรื่องราว แสดงความรัก และอุทิศตนให้แก่หลาน คนนี้ ความที่ผมมีหวังเสมอผมจึงแทบบอกได้ว่า แกจะรับรู้ถึง ความรักและบทเรียนที่ผมพยายามจะสื่อ ผมกังวลว่าจะมีเวลา ไม่พอเขียนทุกสิ่งที่อยากบอกแกมากกว่า แต่ถึงตอนนี้ ปรากฏว่าผมมีเวลาพอ ทุกบทในหนังสือเล่มนีเ้ ป็นจดหมายทีผ่ มเขียนถึงแซม บางฉบับเป็นเรื่องราวชีวิตของผม ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับ สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ แต่ทุกฉบับคือเรื่องราวความหมายของการ เป็นมนุษย์
7