Neverletmego_แผลลึก หัวใจสลาย

Page 1



แผลลึก หัวใจสลาย Never Let Me Go Kazuo Ishiguro นารีรัตน์ ชุนหชา

เขียน แปล

‘ earnest

publishing

NeverLetMeGo.indb 1

9/8/11 1:19 PM


แผลลึก หัวใจสลาย

Never Let Me Go Kazuo Ishiguro เขียน บรรณาธิการ บรรณาธิการบริหาร ศิลปกรรม ออกแบบปก

นารีรัตน์ ชุนหชา แปล

วิลาส วศินสังวร ชญานุช วศินสังวร สนพ. เอิร์นเนส พับลิชชิ่ง เฉลิมพันธุ์ ปัญจมาพิรมย์

Never Let Me Go Copyright © Kazuo Ishiguro 2005

บริษัท เอิร์นเนส พับลิชชิ่ง จ�ากัด 610/35-36 ถนนทรงวาด แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 10100 โทรศัพท์: 02 223 9460-3 โทรสาร: 02 622 4419 Facebook : http://www.facebook.com/EarnestPublishing จัดพิมพ์: บริษัท โอ.เอส. พริ้นติ้ง เฮ้าส์ จ�ากัด 113/13 ซอยวัดสุวรรณคีรี ถนนบรมราชชนนี แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700 โทรศัพท์: 02 424 6944 โทรสาร: 02 434 3802 จัดจ�าหน่ายทั่วประเทศ: บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จ�ากัด 108 หมู่ 2 ถนนบางกรวย-จงถนอม แขวงมหาสวัสดิ์ เขตบางกรวย นนทบุรี 11130 โทรศัพท์: 02 423 9999 โทรสาร: 02 499 9561-3 www.naiin.com สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2561 © บริษัท เอิร์นเนส พับลิชชิ่ง จ�ากัด ลิขสิทธิ์บทแปลภาษาไทย © นารีรัตน์ ชุนหชา พ.ศ. 2554 เลขมาตรฐานสากลประจ�าหนังสือ 978-616-7691-45-9 พิมพ์ครั้งที่ 2 มีนาคม 2561 ราคา 280 บาท

NeverLetMeGo_Credit.indd 2

8/3/2561 BE 02:17


ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ คาสึโอะ อิชิงุโระ เป็นบรมครูในการเล่าเรื่อง นิยายแต่ละเล่มของเขา ใช้เวลาในการประพันธ์กว่า 5 ปี เขาได้รับรางวัล Man Booker Prize ในปี 1989 จากเรื่อง เถ้าถ่านแห่งวารวัน นิตยสารไทม์ยกให้เขาเป็นหนึ่งในห้าสิบ สุดยอดนักเขียนนับตั้งแต่ปี 1945 นิยายเรื่อง Never Let Me Go หรือ แผลลึก หัวใจสลาย ตีพิมพ์ ครั้งแรกในปี 2005 และได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิง Man Booker Prize และ National Book Critics Circle Award ในปีนั้น รวมถึง Arthur C. Clarke Award ในปีถัดมา นิตยสารไทม์ยกย่องให้ แผลลึก หัวใจสลาย เป็นนิยายดี ที่สุดในปี 2005 และจัดอยู่ในนิยายภาษาอังกฤษ 100 เล่มที่ยอดเยี่ยมที่สุด นับแต่ปี 1923 จนถึงปี 2005 แผลลึก หัวใจสลาย บอกเล่าเรื่องราวผ่าน แคธี เอช. หญิงสาวใน วัย 31 ปี ที่ย้อนทวนความทรงจ�าไปในสมัยที่เรียนอยู่ในเฮลแชม สถานที่พิเศษ ที่มุ่งมั่นมอบการศึกษา หาใช่เพื่อประกอบอาชีพในอนาคตไม่ โรงเรียนแห่งนี้ อุดมไปด้วยความลึกลับมากมาย เฉกเช่นเดียวกับมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ ก่อตัวขึ้นภายในกลุ่มของนักเรียนประจ�าด้วยกัน การเปิดลิ้นชักแห่งความทรงจ�า นี้ ไม่เพียงแต่จะเปิดเผยเรื่องราวที่ตกหล่นในอดีต หากยังส่งผลกระทบกระเทือน ความเปราะบางในห้วงอารมณ์ของมนุษย์ด้วย

ส�ำนักพิมพ์ เอิร์นเนส พับลิชชิ่ง

NeverLetMeGo.indb 3

9/8/11 1:19 PM


NeverLetMeGo.indb 4

9/8/11 1:19 PM


ขอขอบคุณ

คุณสุชาดา คงปิยาจารย์

NeverLetMeGo.indb 5

9/8/11 1:19 PM


NeverLetMeGo.indb 6

9/8/11 1:19 PM


แผลลึก หัวใจสลาย Never Let Me Go

คาสึโอะ อิชิงุโระ เป็นนักเขียนญี่ปุ่น-อังกฤษ เกิดเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 1954 ที่นางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น แต่ไปเติบโตที่อังกฤษ จบการศึกษาระดับ ปริญญาโทด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์จากมหาวิทยาลัยอีสต์แองเกลีย และ กลายมาเป็นคนสัญชาติอังกฤษในปี 1982 อิชิงุโระเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในยุคปัจจุบัน ได้รับรางวัล Man Booker Prize ในปี 1989 จากเรื่อง เถ้าถ่านแห่งวารวัน นิตยสารไทม์ ยกย่องให้อิชิงุโระจัดอยู่ในล�าดับที่ 32 ของ 50 นักเขียนอังกฤษที่ยอดเยี่ยม ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1945

NeverLetMeGo.indb 7

9/8/11 1:19 PM


NeverLetMeGo.indb 8

9/8/11 1:19 PM


ผลงานของ คาสึโอะ อิชิงุโระ A Pale View of Hills (1982, Winifred Holtby Prize) An Artist of the Floating World (1986, Whitbread Book of the Year Premio Scanno shortlisted for the Booker Prize) The Remains of the Day (1989, Booker Prize) The Unconsoled (1995, Cheltenham Prize) When We Were Orphans (2000, shortlisted for the Booker Prize) Never Let Me Go (2005, Corine Internationaler Buchpreis Serono Literary Prize Casino de Santiago European Novel Award shortlisted for the Booker Prize) Nocturnes (2009, Giuseppe Tomasi di Lampedusa International Literary Prize)

NeverLetMeGo.indb 9

9/8/11 1:19 PM


ค�านิยม “นี่คือนิยายชั้นเยี่ยม สร้างความสะเทือนใจและน่าขนลุกได้พอๆ กับ The Handmaid’s Tale ของ Margaret Atwood หรือ The Chrysalids ของ John Wyndham” - The Times

“หลักแหลม...สิง่ ทีต่ อนแรกดูเหมือนจะเป็นเรือ่ งวัยเด็กในโรงเรียน ประจ� า ชนบทที่ ง ดงามและเรี ย บง่ า ย กลั บ กลายเป็ น เรื่ อ งร้ า ยและน่ า วุ่นวายใจอย่างสุดซึ้ง หนังสือที่ตั้งค�าถามไปยังระดับความลึกที่สุดของ การเป็นมนุษย์” - Vogue

“อิชิงุโระปฏิเสธที่จะน�าเสนอความมีเหตุมีผลทางวิทยาศาสตร์ อย่างแข็งขัน และทางเลือกในการก่อร่างสร้าง Never Let Me Go ก็เป็นการกล่อมเกลาในเรื่องอารมณ์ล้วนๆ ดังเช่นหนังสือเล่มก่อนหน้า ของ อิชิงุโระ นิยายเรื่องนี้ด�าเนินไปโดยผ่านภาษาช�ารุด ค�าศัพท์จ�ากัด ผละหนีจากความเจ็บปวดที่เกี่ยวข้อง...Never Let Me Go เป็นภาพ ของวิถีที่เราอาศัยอยู่แล้ว ยักย้ายไปยังดินแดนที่ปั้นแต่งขึ้น เป็นนิยาย ทีส่ มบูรณ์แบบแปลกๆ ทางนามธรรม ไร้วฒ ั นธรรมอ้างอิง และเรียกร้อง หัวใจที่ยิ่งใหญ่กว่าองค์ความรู้ใดๆ” - Evening Standard

NeverLetMeGo.indb 10

9/8/11 1:19 PM


“เงามืดมิดที่สุดที่เคว้งคว้างอยู่ในหนังสือ คือความคิดที่ว่าเด็ก สามคนไม่เคยมีพ่อแม่ ไม่รู้กระทั่งความหมายของมัน กระนั้นพวกเขาก็ ยังปรารถนาความปลอดภัย ตัวตนคนที่จะเป็นผู้ปกครอง และความรัก ของอีกฝ่าย นี่คือชัยชนะยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงของอิชิงุโระ วิธีที่เขาส�ารวจ แรงกระตุ้นของมนุษย์เมื่อมิติหลักใหญ่ขาดหายไป” - Esquire

“อิชิงุโระยอดเยี่ยมเสมอในการน�าเสนออดีต และวัยเด็ก ในรูป ของความเจ็บปวดรวดร้าวอันเป็นสากล แต่ไม่น่าจะเคยยอดเยี่ยมเท่ากับ นิยายเรื่องนี้มาก่อน...อดีตอาจจะเป็นดินแดนของสิ่งสูญหาย ทุกสิ่งที่ จ�าเป็นต้องปล่อยเลยไป แต่ในนิยายชาญฉลาดเล่มนี้ ยังเป็นสถานที่ ซึ่งสิ่งสูญหายอาจถูกน�ากลับคืนมา และไถ่ถอนบาปผิด” - New Statesman

NeverLetMeGo.indb 11

9/8/11 1:19 PM


NeverLetMeGo.indb 12

9/8/11 1:19 PM


แผลลึก หัวใจสลาย Never Let Me Go

NeverLetMeGo.indb 13

9/8/11 1:19 PM


NeverLetMeGo.indb 14

9/8/11 1:19 PM


แด่ ลอร์นำ และ นำโอมิ

NeverLetMeGo.indb 15

9/8/11 1:19 PM


NeverLetMeGo.indb 16

9/8/11 1:19 PM


อังกฤษ ปลำยทศวรรษ 1990

NeverLetMeGo.indb 17

9/8/11 1:19 PM


NeverLetMeGo.indb 18

9/8/11 1:19 PM


ภำคหนึ่ง

NeverLetMeGo.indb 19

9/8/11 1:19 PM


NeverLetMeGo.indb 20

9/8/11 1:19 PM


บทที่หนึ่ง

ฉันชื่อแคธี เอช. อายุสามสิบเอ็ดปี ฉันท�าหน้าที่เป็นผู้ดูแลมากว่า สิบเอ็ดปีแล้ว นัน่ ฟังดูเป็นเวลานานไม่นอ้ ย หากพวกเขายังอยากให้ฉนั รับหน้าที่ นี้ต่อไปอีกแปดเดือน จนถึงสิ้นปีนี้ นั่นจะกินเวลาถึงเกือบสิบสองปีเลยทีเดียว ฉันรู้ดีว่าการเป็นผู้ดูแลนานขนาดนี้ ไม่จ�าเป็นต้องมีเหตุผลมาจากการที่พวกเขา คิดว่าฉันท�างานนี้ได้อย่างดีเยี่ยม ยังมีผู้ดูแลชั้นยอดอีกหลายคนถูกแจ้งให้หยุด หลังจากท�างานไปได้เพียงสองหรือสามปีเท่านั้น และฉันยังพอนึกออกว่ามีผู้ดูแล อย่างน้อยหนึ่งคนที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนถึงสิบสี่ปี ทั้งที่ท� างานได้ห่วยสิ้นดี ดังนั้นนี่จึงไม่ใช่การอวดอ้างแต่ประการใด แต่ก็นั่นแหละ ความจริงคือพวกเขา พอใจกับผลงานของฉัน และส่วนใหญ่แล้ว ฉันก็พอใจเช่นกัน ผู้บริจาคของฉัน มักมีแนวโน้มฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่คาด ระยะเวลาในการเยียวยาของพวกเขาน่า ประทับใจ และแทบไม่มีคนไหนเลยถูกจัดอยู่ในข่าย ‘น่าร้อนใจ’ แม้แต่ก่อน การบริจาคครั้งที่สี่ก็ตาม โอเค ฉันอาจจะ อวดอ้าง ก็ได้ แต่การที่ฉันสามารถ ท�างานได้เป็นอย่างดี มีความหมายส�าหรับฉันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การ ท�าให้ผู้บริจาคของฉันรักษา ‘อาการสงบ’ ไว้ได้ ฉันได้สร้างความรู้สึกเชื่อมั่น บางอย่างขึ้นมาในตัวผู้บริจาค ฉันรู้ว่าเมื่อไรควรอยู่ใกล้และปลอบใจพวกเขา เมื่อไรควรปล่อยให้พวกเขาอยู่ตามล�าพัง เมื่อไรควรรับฟังทุกสิ่งที่พวกเขาอยาก พูด และเมื่อไรควรยักไหล่เพียงเล็กน้อย แล้วบอกให้พวกเขาโยนมันทิ้งไป 21

NeverLetMeGo.indb 21

9/8/11 1:19 PM


คำสึโอะ อิชิงุโระ

อย่างไรก็ตาม ฉันไม่ได้ถือว่าตัวเองเก่งกล้ากว่าใคร ฉันรู้จักบรรดาผู้ ดูแล ซึ่งยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ ที่ท�างานได้ดีเท่า แต่ไม่ได้รับการยอมรับแม้ครึ่ง เดียวของฉัน ถ้าคุณเป็นหนึ่งในนั้น ฉันเข้าใจได้ว่าคุณคงรู้สึกน้อยเนื้อต�่าใจ ทั้ง เรื่องห้องพักของฉัน รถของฉัน เหนือสิ่งอื่นใด การที่ฉันสามารถเลือกคนที่ฉันจะ ดูแลได้ ทั้งฉันยังเป็นนักเรียนเฮลแชม ซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้วที่จะท�าให้ใครบางคน รู้สึกเขม่นขึ้นมาได้เหมือนกัน พวกเขาจะพูดว่า แคธี เอช. หล่อนสามารถเลือก ได้ และหล่อนก็ชอบเลือกแต่พวกเดียวกัน พวกที่มาจากเฮลแชม หรือบ้านที่มี สิทธิพิเศษอื่นๆ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหล่อนมีประวัติดีเลิศ ฉันเคยได้ยินมามาก แน่ใจว่าคุณต้องได้ยินมามากกว่าอีก และบางทีก็อาจมีอะไรในนั้น ทว่าฉันไม่ใช่ คนแรกที่สามารถเลือกได้ ทั้งย่อมไม่ใช่คนสุดท้าย และไม่ว่าอย่างไร ฉันก็ท�า หน้าที่ดูแลผู้บริจาคที่เติบโตมาจากบ้านทุกประเภท อย่าลืมว่าเมื่อเวลาของฉัน สิ้นสุดลง ฉันจะท�างานนี้มาสิบสองปีเต็ม และช่วงเวลาที่ฉันเลือกได้ ก็เพียงแค่ หกปีหลังเท่านั้น แล้วท�าไมพวกเขาจะท�าเช่นนั้นไม่ได้เล่า? เหล่าผู้ดูแลไม่ใช่เครื่องจักร คุณพยายามสุดความสามารถเพื่อผู้บริจาคทุกคน แต่ท้ายที่สุด มันก็ท�าให้คุณ หมดสิ้นเรี่ยวแรง คุณไม่มีทางมีพละก�าลังและความอดทนเหลือคณานับ ดังนั้น เมื่อคุณมีโอกาสเลือก แน่นอน คุณย่อมเลือกคนประเภทเดียวกับคุณ นั่นเป็น เรื่องธรรมดา ไม่มีทางที่ฉันจะท�างานมาได้นานขนาดนี้ หากฉันเลิกสนใจความ รู้สึกของผู้บริจาคทุกย่างก้าว และไม่ว่าอย่างไร หากฉันไม่มีโอกาสได้เลือก ฉัน จะหาทางใกล้ชดิ รูธและทอมมีอกี ครัง้ ได้อย่างไร หลังจากตลอดระยะเวลาหลายปี ที่ผ่านมา? ทุกวันนี้ แน่นอน มีผู้บริจาคที่ฉันรู้จักเหลืออยู่น้อยยิ่งกว่าน้อย ดังนั้น ในเชิงปฏิบัติแล้ว ฉันจึงไม่มีโอกาสได้เลือกมากนัก อย่างที่บอกไป งานจะยาก ขึ้นมา หากคุณไม่มีความผูกพันลึกซึ้งกับผู้บริจาค และเมื่อปลายปีมาถึง แม้ฉัน จะคิดถึงการเป็นผู้ดูแลแค่ไหน มันก็ถูกต้องแล้วที่จะเลิกงานนี้ไปในท้ายที่สุด บังเอิญว่ารูธเป็นผู้บริจาคคนที่สามหรือสี่เท่านั้นที่ฉันได้เลือก ตอนนั้น เธอมีผดู้ แู ลทีไ่ ด้รบั มอบหมายอยูแ่ ล้ว ฉันจ�าได้วา่ ฉันต้องใช้กา� ลังภายในมากทีเดียว 22

NeverLetMeGo.indb 22

9/8/11 1:19 PM


แผลลึก หัวใจสลำย

แต่ในท้ายที่สุด ฉันก็สามารถจัดการได้ และชั่วขณะแรกที่ฉันได้พบเธออีกครั้ง ที่ศูนย์พักฟื้นในโดเวอร์ ความขัดแย้งทั้งมวลระหว่างเรา ขณะที่พวกมันไม่ได้ เลือนหายไปอย่างสิ้นเชิง ดูเหมือนแทบไม่มีความส�าคัญมากเท่ากับเรื่องอื่นเลย อย่างเช่น การที่เราเติบโตขึ้นมาด้วยกันที่เฮลแชม การที่เรารู้จักและจดจ�าเรื่อง ต่างๆ ที่คนอื่นไม่ล่วงรู้ ฉันคิดว่าหลังจากนั้นเป็นต้นมา ฉันก็เริ่มเสาะหาผู้บริจาค ที่มาจากอดีตร่วมกัน และหากท�าได้ ก็เลือกผู้ที่มาจากเฮลแชม หลายครั้ง ในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ฉันพยายามทิ้งเฮลแชม ไว้เบื้องหลัง ฉันบอกตัวเองว่าไม่ควรมองย้อนกลับไปในอดีตมากนัก แต่ก็มาถึง จุดที่ฉันเลิกต้านทานโดยสิ้นเชิง เนื่องจากผู้บริจาครายหนึ่งที่ฉันเคยดูแลตอนรับ หน้าที่นี้เป็นปีที่สาม เป็นปฏิกริยาของเขาเมื่อฉันบอกว่าฉันมาจากเฮลแชม เขา เพิ่งผ่านการบริจาคครั้งที่สามมา ผลไม่ค่อยดีนัก และเขาคงรู้ว่าเขาไม่น่าจะรอด เขาหายใจแทบไม่ออกอยู่แล้ว หากเขายังคงมองมาทางฉันแล้วพูดว่า “เฮลแชม พนันได้เลยว่าที่นั่นต้องสวยแน่” จากนั้นเช้าวันต่อมา ขณะที่ฉันพยายามชวนคุย เพื่อให้เขาลืมเรื่องเจ็บปวด ฉันถามเขาว่า เขาเติบโตมาจากที่ไหน เขาบอกชื่อ สถานที่แห่งหนึ่งในดอร์เซ็ท แล้วใบหน้าของเขาภายใต้รอยฟกช�า้ ก็เริ่มบิดเบี้ยว อย่างน่ากลัว ฉันจึงรูว้ า่ เขาไม่อยากนึกถึงมันเลย หากเขาต้องการฟังเรือ่ งเกีย่ วกับ เฮลแชมมากกว่า ตลอดห้าถึงหกวันหลังจากนั้น ฉันจึงเล่าทุกอย่างที่เขาอยากรู้ เขาจะ นอนอยู่อย่างนั้น รับฟังอย่างสนอกสนใจยิ่ง พร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนตลอดเวลา เขาถามฉันไม่ว่าเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็ก เรื่องครูผู้ปกครองของเรา เรื่องที่เรามี หีบเก็บของสะสมไว้ใต้เตียง ฟุตบอล ราวน์เดอร์ ทางเดินเล็กๆ ทีพ่ าคุณเดินไป รอบบ้านใหญ่ ผ่านไปทั่วบริเวณ บึงเป็ด อาหาร ทิวทัศน์จากห้องศิลปะที่มอง เห็นสนามหญ้าท่ามกลางหมอกยามเช้า บางครั้งเขาจะให้ฉันเล่าเรื่องเดิมซ�้าแล้ว ซ�้าเล่า เรื่องที่ฉันเคยเล่าให้เขาฟังแล้ววันก่อน เขาจะถามราวกับว่าฉันไม่เคย เล่าให้เขาฟังเลย “คุณมีโรงเล่นกีฬามั้ย?” “ครูผู้ปกครองคนไหนที่คุณชื่นชอบ เป็นพิเศษ?” ในตอนแรก ฉันคิดว่านี่เป็นฤทธิ์ของยา แต่ต่อมาจึงเริ่มเข้าใจว่า ความคิดของเขาแจ่มชัดดีอยู่ สิ่งที่เขาต้องการ ไม่ใช่แค่การได้ฟังเรื่องเกี่ยวกับ 23

NeverLetMeGo.indb 23

9/8/11 1:19 PM


คำสึโอะ อิชิงุโระ

เฮลแชม แต่เพื่อจะ จดจ�า เฮลแชม ราวกับว่ามันเป็นอดีตวัยเด็กของเขาเอง เขารูว้ า่ เขาใกล้จะบรรลุถงึ จุดสิน้ สุดแล้ว เขาจึงขอให้ฉนั บรรยายเรือ่ งต่างๆ ให้ฟงั เพื่อมันจะได้ตกผลึกอยู่ในตัวเขา เพื่อที่ในช่วงค�่าคืนที่นอนไม่หลับ ด้วยฤทธิ์ยา ความเจ็บปวด และความอ่อนล้า เส้นคั่นระหว่างสิ่งที่เคยเป็นความทรงจ�าของ ฉันกับของเขาจะได้พร่าเลือน นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันเริ่มเข้าใจ เข้าใจอย่างถ่องแท้ ว่าเราช่างโชคดีแค่ไหน ทอมมี รูธ ฉัน และพวกเราที่เหลือทุกคน § เมื่อขับรถไปรอบชนบทในตอนนี้ ฉันยังคงเห็นสิ่งต่างๆ ที่คอยเตือน ให้ฉันนึกถึงเฮลแชม ฉันอาจจะผ่านหัวมุมท้องทุ่งที่เต็มไปด้วยหมอก หรือเห็น บางส่วนของบ้านหลังใหญ่ไกลสุดสายตาขณะขับรถลงข้างหุบเขา กระทั่งแนว ต้นป๊อปล่าร์ที่ทอดสูงขึ้นไปบนเนิน ฉันมักจะคิดว่า “อาจจะเป็นที่นี่ก็ได้! ฉันพบ แล้ว! นี่แหละ เฮลแชม จริงๆ ด้วย!” จากนั้นฉันก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ และ ขับรถต่อไป ความคิดลอยเลื่อนไปเรื่องอื่น แล้วก็ยังมีอาคารกีฬาพวกนั้น ฉัน มองเห็นมันอยู่ทั่วไปในท้องที่ชนบท ตั้งอยู่ปลายสนาม อาคารส�าเร็จรูปหลังเล็ก สีขาวที่มีหน้าต่างเรียงสูงขึ้นไปอย่างผิดธรรมชาติ แทบจะอยู่ใต้ชายคา ฉันคิด ว่าพวกเขาสร้างอาคารในแบบเดียวกันนี้ในยุคห้าศูนย์และหกศูนย์ ซึ่งอาจเป็น ช่วงเวลาเดียวกับที่โรงพละของเราถูกสร้างขึ้น ถ้าฉันขับรถผ่านอาคารแบบนั้น ฉันมักมองดูมันนานตราบเท่าที่จะท�าได้ แล้ววันหนึ่งฉันคงขับรถชนเป็นแน่ แต่ ฉันก็ยงั ไม่เลิกท�า ไม่นานมานี้ ฉันขับรถผ่านทุง่ โล่งกว้างของแถบวอร์เชสเตอร์ไชร์ และเห็นอาคารหลังหนึ่งข้างสนามคริกเก็ตที่ดูเหมือนโรงพละของเราที่เฮลแชม มาก จนท�าให้ฉันถึงกับเลี้ยวรถกลับไปดูอีกครั้ง เรารักโรงพละของเรามาก อาจเป็นเพราะมันท�าให้เรานึกถึงกระท่อม หลังเล็กแสนน่ารักที่คนชอบวาดในหนังสือภาพตอนที่เราเป็นเด็ก ฉันจ�าได้ว่า พวกเราตอนอยู่ชั้นประถมฯ ชอบอ้อนวอนครูผู้ปกครองให้พาพวกเราไปเรียนวิชา ถัดไปที่โรงพละแทนที่จะเป็นห้องเรียน จากนั้นเมื่อเราอยู่ชั้นมัธยมฯ ตอนเราอายุ 24

NeverLetMeGo.indb 24

9/8/11 1:19 PM


แผลลึก หัวใจสลำย

สิบสองย่างสิบสาม โรงพละกลายเป็นสถานที่ที่เราจะแอบขลุกอยู่กับเพื่อนสนิท ในยามที่เราอยากจะปลีกตัวจากเด็กเฮลแชมที่เหลือคนอื่นๆ โรงพละนั้นใหญ่พอจะรองรับเด็กสองกลุ่มได้โดยไม่ต้องข้องเกี่ยวกัน ในฤดูร้อน กลุ่มที่สามอาจแกร่วอยู่นอกชานได้ แต่ถ้าให้ดีที่สุด คุณกับเพื่อน มักอยากจะครอบครองสถานที่ทั้งหมดนั้นไว้เป็นของกลุ่มตัวเอง ดังนั้นจึงมักจะ มีเรื่องกระทบกระทั่งกันอยู่เสมอ ครูผู้ปกครองมักบอกให้เราท�าตัวมีวัฒนธรรม ในเรื่องนี้ แต่ในเชิงปฏิบัติแล้ว คุณจ�าเป็นต้องมีคนเจ๋งๆ อยู่ในกลุ่ม เพื่อจะ ได้มีโอกาสในการยึดครองโรงพละในช่วงพักหรือเวลาไม่มีชั้นเรียนมากกว่า แม้ ตัวฉันจะไม่ใช่เด็กติ๋ม แต่ฉันคิดว่า ความจริงน่าจะเป็นเพราะรูธ เราถึงได้ขลุก อยู่ที่นั่นบ่อยขนาดนั้น โดยปกติแล้ว พวกเรามักกระจายตัวกันตามม้านั่งและม้านั่งยาว กลุ่ม เรามีห้าคน หกคนถ้าเจนนี บี. มาสมทบด้วย แล้วก็สุมหัวกันเม้าท์สนุกปาก มี บทสนทนาประเภทหนึ่งเกิดขึ้นได้เฉพาะตอนที่คุณหลบผู้คนอยู่ในโรงพละเท่านั้น เราอาจถกกันถึงเรื่องที่ก�าลังกลัดกลุ้มใจ หรือเราอาจลงท้ายด้วยการแผดเสียง หัวเราะลั่น หรือโกรธกระฟัดกระเฟียด ส่วนใหญ่แล้ว เป็นช่วงเวลาผ่อนคลาย กับเพื่อนสนิทของคุณชั่วครู่ชั่วยาม ฉันก�าลังนึกถึงบ่ายวันหนึ่ง เราขึ้นไปยืนบนม้านั่งและเก้าอี้ยาว มุงกัน รอบหน้าต่างบานสูง ท�าให้เรามองเห็นสนามทิศเหนือได้อย่างชัดแจ้ง เด็กชาย สิบกว่าคนในชั้นเดียวกับเราและมัธยมปลายก�าลังเล่นฟุตบอลกันอยู่ แสงแดด ส่องจ้า แต่ก่อนหน้านั้นคงมีฝนตก เพราะฉันจ�าได้ว่าแสงแดดส่องประกายบน ผืนหญ้าที่แฉะไปด้วยโคลน ใครบางคนพูดขึ้นว่าเราไม่ควรมองโจ่งแจ้งนัก แต่ก็แทบไม่มีใครขยับ ถอยออกมาเลย จากนั้นรูธก็พูดว่า “เขาไม่สงสัยอะไรแม้แต่นิดเดียว ดูสิ เขา ไม่สงสัยอะไรเลยจริงๆ ด้วย” เมื่อเธอพูดเสร็จ ฉันมองเธอ เพื่อค้นหาสัญญาณของการไม่เห็นพ้อง กับสิ่งที่เด็กผู้ชายทั้งหมดก�าลังจะท�ากับทอมมี แต่วินาทีถัดมารูธก็หัวเราะออก มาเบาๆ ก่อนจะพูดว่า “เจ้าทึ่มเอ๊ย!” 25

NeverLetMeGo.indb 25

9/8/11 1:19 PM


คำสึโอะ อิชิงุโระ

ฉันเริ่มตระหนักว่า ส�าหรับรูธและคนอื่นๆ ไม่ว่าพวกเด็กผู้ชายเลือกจะ ท�าอะไร ก็ล้วนเป็นเรื่องห่างไกลจากพวกเรานัก ไม่ว่าเราจะเห็นด้วยหรือไม่ ก็ ไม่เกี่ยวกับพวกเขา เราเกาะกลุ่มกันรอบหน้าต่าง ณ ขณะนั้น ไม่ใช่เพราะเรา ยินดีกับการคาดหวังว่าจะได้เห็นทอมมีถูกกลั่นแกล้งให้อับอายอีกครั้ง แต่เป็น เพียงเพราะว่าเราได้ยินแผนการล่าสุดนี้มาก่อน จึงสนใจใคร่จะได้เห็นมันปรากฏ ในตอนนั้น ฉันไม่คิดว่าสิ่งที่พวกเด็กผู้ชายปฏิบัติต่อกันจะส่งผลลึกซึ้งยิ่งกว่า ที่เห็น ส�าหรับรูธ ส�าหรับคนอื่นๆ มันเป็นสิ่งที่อยู่ห่างไกล และเป็นไปได้ว่ามัน เป็นเช่นนั้นส�าหรับฉันด้วย หรือฉันอาจจะจ�าผิด บางทีกระทั่งตอนนั้น เมื่อฉันเห็นทอมมีรีบร้อน เดินเข้ามาในสนาม ความยินดีปรีดาฉายอยู่บนใบหน้า จากการที่จะได้รับการ ยอมรับกลับเข้าไปในกลุ่มอีกครั้ง พร้อมที่จะเล่นกีฬาที่เขาสามารถนัก บางทีฉัน อาจจะรู้สึกเจ็บปวดอยู่ลึกๆ ก็เป็นได้ ที่ฉันจ�าได้ก็คือ ฉันสังเกตเห็นว่าทอมมีใส่ เสื้อโปโลสีฟ้าที่เขาได้มาจากงานขายของเมื่อเดือนก่อน ตัวที่เขาภาคภูมิใจนัก ภูมิใจหนา ฉันจ�าได้ว่าตัวเองก�าลังคิดว่า “เขางี่เง่าจริงๆ ด้วยที่ใส่เสื้อตัวนี้เล่น บอล เสื้อจะเละเทะไม่มีชิ้นดี แล้วทีนี้เขาจะรู้สึกอย่างไรหนอ?” ฉันพูดออกเสียง ไม่ได้จ�าเพาะเจาะจงไปที่ใครว่า “ทอมมีใส่เสื้อของเขาด้วย เสื้อโปโลตัวโปรด ของเขา” ฉันไม่คดิ ว่าจะมีใครได้ยนิ เพราะทุกคนก�าลังหัวเราะลอรา ตัวฮาประจ�า กลุ่มเรา เธอก�าลังล้อเลียนสีหน้าแบบต่างๆ ของทอมมีที่เปลี่ยนไปขณะเขาวิ่ง โบกมือ ตะโกน และรวบตัวคู่ต่อสู้ เด็กผู้ชายคนอื่นก�าลังเคลื่อนตัวไปรอบสนาม อย่างเอื่อยเฉื่อย สุขุม แบบที่พวกเขาท�าเวลาอบอุ่นร่างกาย แต่ทอมมีตื่นเต้น ดูพร้อมที่จะออกตัวเต็มอัตราศึก ฉันพูดเสียงดังขึ้นในตอนนี้ว่า “เขาต้องตายแน่ ถ้าท�าเสื้อตัวนั้นเละ” ครั้งนี้รูธได้ยิน แต่เธอคงคิดว่าฉันตั้งใจพูดให้เป็นเรื่องตลก เพราะเธอหัวเราะไม่เต็มเสียงนัก จากนั้นก็พูดจาแดกดันบ้าง พวกเด็กผู้ชายหยุดเตะลูกบอล แล้วมายืนรวมตัวกันบนโคลน หน้าอก ของพวกเขากระเพื่อมขึ้นลงเชื่องช้าขณะเฝ้ารอให้การคัดเลือกทีมเริ่มขึ้น กัปตัน สองคนที่ก้าวออกมานั้นมาจากชั้นมัธยมสาม แม้ทุกคนจะรู้ว่าทอมมีเป็นผู้เล่นที่ 26

NeverLetMeGo.indb 26

9/8/11 1:19 PM


แผลลึก หัวใจสลำย

เก่งกว่าทุกคนในชั้นปีนั้น พวกเขาก็โยนเหรียญเพื่อเลือกตัวผู้เล่นคนแรก จากนั้น คนที่ชนะก็จ้องมองกลุ่มนักกีฬา “ดูเขาสิ” ใครคนหนึ่งข้างหลังฉันพูดขึ้น “เขาเชื่อมั่นมากเลยว่าเขาต้อง ถูกเลือกเป็นคนแรก ดูเขาสิ!” ขณะนั้นมีอะไรบางอย่างน่าขบขันในตัวทอมมี บางอย่างที่ทา� ให้คุณคิด ว่า อ๋อ ใช่สิ ถ้าเขาทึ่มขนาดนั้น เขาก็สมควรได้รับสิ่งที่ก�าลังจะมาถึง เด็กชาย คนอื่นแสร้งท�าเป็นไม่สนใจวิธีการคัดเลือก แสร้งท�าเหมือนไม่สนใจว่าตนเองจะ ได้รับเลือกเป็นล�าดับที่เท่าไหร่ บางคนพูดคุยกันเบาๆ บางคนผูกเชือกรองเท้า ใหม่ ที่เหลือเพียงจ้องมองเท้าขณะที่พวกเขาย�า่ อยู่บนโคลน แต่ทอมมีก�าลังมอง เด็กชั้นมัธยมฯ 3 อย่างกระตือรือร้น ราวกับว่าชื่อของเขาถูกเรียกขานแล้ว ลอรายังคงเปิดการแสดงตลอดการคัดเลือกทีม แสดงสีหน้าหลายหลาก ตามที่ปรากฏบนใบหน้าของทอมมี เริ่มจากกระตือรือร้นสดใส งุนงงกังวลเมื่อ การคัดเลือกผ่านไปสี่คนแล้ว และเขายังไม่ถูกเลือก เจ็บปวดและบ้าคลั่งเมื่อเขา เริ่มเข้าใจแล้วว่าก�าลังเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่ได้หันกลับไปมองลอราบ่อยนัก เพราะ ฉันก�าลังมองทอมมีอยู่ ฉันรู้ว่าเธอก�าลังท�าอะไร เพราะคนอื่นพากันหัวเราะและ ยุยงส่งเสริมเธอ จากนั้นเมื่อทอมมีถูกทิ้งให้ยืนอยู่คนเดียว เด็กผู้ชายเริ่มพากัน หัวเราะคิกคัก ฉันได้ยินรูธพูดว่า “มาแล้ว เดี๋ยวนะ ให้เจ็ดวินาที เจ็ด หก ห้า...” เธอนับไม่ทนั ครบ ทอมมีกแ็ ผดเสียงร้องลัน่ ส่วนพวกเด็กผูช้ ายทีต่ อนนี้ หัวเราะร่าออกมาเต็มที่ ก็เริ่มออกวิ่งหนีไปยังสนามด้านทิศใต้ ทอมมีก้าวตาม พวกเขา ยากจะบอกได้ว่าเป็นสัญชาตญาณของเขาที่คิดจะไล่ตามพวกนั้นไป ด้วยความโกรธ หรือเขาเกิดคลั่งที่ถูกทิ้งไว้ให้เหลือคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นอะไร ไม่นานเขาก็หยุด และยืนนิง่ ถลึงตามองพวกเขา ใบหน้าเป็นสีแดงก�่า จากนัน้ เขาก็เริ่มกรีดร้องตะโกนค�าสบถด่าทอสับสนจับความหมายไม่ได้ ก่อนจะถึงตอนนั้น เราเคยได้เห็นอาการโมโหรุนแรงของทอมมีมาแล้ว มากมายหลายครั้ง ดังนั้นเราจึงลงจากม้านั่ง กระจายตัวกันไปรอบห้อง เรา พยายามจะเริ่มสนทนากันเรื่องอื่น แต่ก็ยังมีเสียงทอมมีเป็นฉากหลังครั้งแล้ว 27

NeverLetMeGo.indb 27

9/8/11 1:19 PM


คำสึโอะ อิชิงุโระ

ครั้งเล่า และแม้ตอนแรกเราจะแค่กลอกตาไปมา พยายามเป็นไม่สนใจ ท้าย ที่สุด อาจจะสิบนาทีเต็มหลังจากที่เราขยับห่างออกมา เราก็กลับไปที่หน้าต่าง อีกครั้ง เด็กคนอื่นไม่อยู่ในรัศมีที่จะมองเห็นแล้ว และทอมมีก็ไม่พยายาม ส่งเสียงผรุสวาทไปทางทิศใดอีก เขาเพียงพูดพล่าม ยกมือยกไม้ไปมา ไปยัง สายลม ไปยังเสารั้วใกล้ที่สุด ลอราบอกว่าเขาน่าจะก�าลัง ‘ซ้อมละครเชกสเปียร์’ อยู่ ใครบางคนชี้ให้เห็นว่า ทุกครั้งที่เขากรีดร้อง เขาจะยกเท้าข้างหนึ่งสูงขึ้นจาก พื้น ‘เหมือนหมาก�าลังฉี่’ ที่จริงแล้ว ฉันสังเกตเห็นท่าทางการยกเท้าแบบนั้นด้วย เหมือนกัน แต่สงิ่ ทีท่ า� ให้ฉนั สะกิดใจคือ ทุกครัง้ ทีเ่ ขากระทืบเท้ากลับลงพืน้ อีกครัง้ เศษโคลนจะกระเด็นขึ้นมาเปรอะหน้าแข้งเขาเสมอ ฉันนึกถึงเสื้อที่เขาหวงแหน อีกครั้ง หากเขาอยู่ไกลเกินกว่าที่ฉันจะมองเห็นว่าตัวเขาเปื้อนโคลนมากแค่ไหน “ฉันว่ามันออกจะโหดไปหน่อยนะ” รูธพูด “ที่พวกนั้นชอบท�ากับเขา แบบนั้น แต่มันก็เป็นความผิดของเขาเอง ถ้าเขารู้จักท�าวางเฉยซะ พวกนั้นก็ คงจะเลิกยุ่งกับเขา” “พวกนั้นก็ยังคงตามแกล้งเขาจนได้แหละ” ฮานนาห์พูด “เกรแฮม เค. ก็อารมณ์ร้ายพอกัน แต่นั่นมีแต่จะท�าให้พวกนั้นปฏิบัติต่อเขาอย่างระมัดระวัง มากขึ้น เหตุผลที่พวกเขาชอบเล่นงานทอมมีก็เพราะเขาเป็นคนเรื่อยเฉื่อย” จากนัน้ ทุกคนก็พดู ขึน้ มาพร้อมกัน เกีย่ วกับเรือ่ งทีท่ อมมีไม่เคยพยายาม ใช้ความคิดสร้างสรรค์ การที่เขาไม่เคยเอาของมาร่วมออกงานแลกเปลี่ยนฤดู ใบไม้ผลิเลย ฉันคิดว่าที่จริงแล้ว ในตอนนั้น พวกเราทุกคนต่างแอบหวังว่าครู ผู้ปกครองสักคนจะออกมาจากบ้านเพื่อเอาตัวเขาไป และแม้เราจะไม่มีส่วนร่วม ในแผนการกลั่นแกล้งทอมมีให้โกรธ เราก็ยังไป เป็น ผู้ชมแถวหน้า และเราก็ เริ่มรู้สึกผิด ทว่ายังไม่มีทีท่าว่าจะมีครูผู้ปกครองมาสักคน เราจึงได้แต่พากัน แลกเปลี่ยนความเห็นว่าท�าไมทอมมีถึงสมควรได้รับทุกอย่างที่เขาได้รับ จากนั้น เมือ่ รูธมองนาฬิกาของเธอและบอกว่า แม้จะพอมีเวลา เราก็ควรกลับเข้าบ้านใหญ่ ได้แล้ว ไม่มีใครกล่าวแย้ง ทอมมียังคงฮึดฮัดอยู่ตอนที่เราออกมาจากโรงพละ ตัวบ้านใหญ่ต้อง 28

NeverLetMeGo.indb 28

9/8/11 1:19 PM


แผลลึก หัวใจสลำย

เดินข้ามไปทางซ้ายมือ และเนื่องจากทอมมีก�าลังยืนอยู่ในสนามเบื้องหน้า เรา จึงไม่มีความจ�าเป็นใดต้องเฉียดใกล้เขา อย่างไรก็ตาม เขาก�าลังหันหน้าไปทาง อื่น และดูเหมือนจะไม่สังเกตเห็นพวกเราเลย กระนั้น ขณะพวกเพื่อนของฉัน ออกเดินไปตามขอบสนาม ฉันกลับเริ่มเดินเฉไปทางเขา ฉันรู้ว่าการท�าเช่นนี้ ย่อมท�าให้คนอื่นกังขา แต่ฉันก็เดินต่อ แม้จะได้ยินเสียงรูธกระซิบรบเร้าเรียก ให้กลับไปก็ตาม ฉันคิดว่าทอมมีคงไม่ชินกับการถูกรบกวนในช่วงที่เขาก�าลังคลุ้มคลั่ง โวยวาย เพราะปฏิกริยาแรกที่เขาตอบสนองเมื่อฉันเข้าไปใกล้ คือหยุดจับจ้อง มองฉันครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่งเสียงต่อ มัน เหมือน เขาก�าลังเล่นละครเชกสเปียร์ อยู่จริงๆ แล้วฉันก็เดินขึ้นเวทีไปหาเขาขณะก�าลังแสดงละครอยู่ แม้แต่เมื่อฉัน ทักว่า “ทอมมี เสื้อสวยของนาย นายก�าลังท�าให้มันเลอะเทอะอยู่นะ” ก็ไม่มี สัญญาณบ่งชี้ว่าเขาจะได้ยินแต่อย่างใด ฉันจึงเหยียดมือไปวางบนแขนเขา หลังจากนั้น ทุกคนคิดว่าเขาตั้งใจ ท�ามัน แต่ฉันแน่ใจว่ามันเป็นอุบัติเหตุ แขนของเขาแกว่งไปมาตลอด โดยเขา ไม่รู้ว่าฉันก�าลังจะวางมือลง อย่างไรก็ตาม จังหวะที่เขายกมือขึ้น เขาก็ปัดมือ ฉันออก กระทบข้างแก้มฉัน มันไม่เจ็บแม้แต่นดิ เดียว หากฉันก็รอ้ งอุทานออกมา พร้อมกับเด็กผู้หญิงส่วนใหญ่ที่อยู่กันด้านหลัง ตอนนั้นเองที่ทอมมีดูจะรับรู้ถึงการด�ารงอยู่ของฉัน ของคนอื่นๆ ของ ตัวเขาเอง ของความจริงที่ว่าเขาอยู่ในสนามหญ้า ก�าลังท�าตัวดังเช่นที่เขาเคย ท�ามาเสมอ พร้อมกับจ้องมองฉันอย่างโง่ทึ่ม ไม่รู้ประสา “ทอมมี” ฉันบอกเขาห้วนๆ “โคลนเปื้อนเสื้อนายเต็มไปหมด” “แล้วท�าไมเหรอ?” เขาพึมพ�า แต่แม้จะพูดเช่นนั้น เขาก็ก้มลง สังเกต เห็นรอยเปื้อนสีน�้าตาล แล้วก็สะกดตัวเองไม่ให้ร้องออกมาอย่างตกใจ ฉันเห็น ความประหลาดใจบนสีหน้าของเขา ท�าให้รู้ซึ้งถึงความรู้สึกที่เขามีต่อเสื้อโปโล ตัวนั้น “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก” ฉันพูด ก่อนที่ความเงียบจะท�าให้เขาเก้อ “มัน ซักออกได้ ถ้านายท�าเองไม่ได้ ก็เอาไปให้ครูโจดีซักให้สิ” 29

NeverLetMeGo.indb 29

9/8/11 1:19 PM


คำสึโอะ อิชิงุโระ

เขาส�ารวจเสื้อของตน จากนั้นพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ยังไงก็ไม่ เกี่ยวกับเธออยู่แล้ว” เขาดูจะรูส้ กึ เสียใจขึน้ มาทันทีทพี่ ดู จบ และมองหน้าฉันกระดาก ราวกับ หวังจะให้ฉันพูดอะไรบางอย่างปลอบใจเขา แต่ฉันเริ่มรู้สึกหมดความอดทนกับ เขาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีพวกเด็กผู้หญิงก�าลังมองอยู่ และเท่าที่ฉันรู้ ยังมีคนอื่นที่หน้าต่างของตัวบ้านใหญ่อีก ฉันจึงหันกลับพร้อมกับยักไหล่ เพื่อ ไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ รูธยกแขนโอบไหล่ฉันขณะเราเดินจากมา “อย่างน้อยเธอก็ท�าให้เขา เงียบลงได้” เธอบอก “เธอไม่เป็นไรนะ? ยัยหมาบ้า”

30

NeverLetMeGo.indb 30

9/8/11 1:19 PM


บทที่สอง

ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ผ่านมานานแล้ว ฉันอาจจะจ�าบางอย่างคลาดเคลื่อน ไปบ้าง แต่ความทรงจ�าของฉันในเรื่องนี้คือว่า การที่ฉันได้เข้าไปหาทอมมีบ่าย วันนัน้ เป็นส่วนหนึง่ ของเหตุการณ์ส�าคัญทีเ่ วลานัน้ ฉันน�ากลับมาคิดซ�้าแล้วซ�า้ เล่า บางอย่างที่เกี่ยวข้องกับแรกผลักดันภายในที่ท�าให้ฉันกล้าเข้าไป และฉันก็ลืมไป หมดแล้วเมื่อทอมมีเรียกให้ฉันหยุดไม่กี่วันหลังจากนั้น ฉันไม่รู้ว่าสถานที่ที่คุณอยู่เป็นอย่างไร แต่ที่เฮลแชม เราต้องตรวจ สุขภาพแทบทุกอาทิตย์ มักเป็นห้อง 18 ชั้นบนสุดของบ้าน กับพยาบาลทริชา หน้าดุ หรือที่เราเรียกเธอว่า แม่กา เช้าวันนั้นแสงแดดสดใส กลุ่มของพวกเรา ก�าลังเดินขึ้นบันไดกลางเพื่อไปรับการตรวจร่างกายจากเธอ ในขณะที่อีกกลุ่มซึ่ง เธอตรวจเสร็จแล้วก�าลังกลับลงมา ดังนั้นบันไดจึงเต็มไปด้วยเสียงจ้อกแจ้กจอแจ ฉันก�าลังก้าวขึ้นบันได ก้มหน้า ก้าวตามส้นเท้าของคนที่อยู่ข้างหน้า ขณะมีเสียง ใกล้ตัวดังขึ้นมาว่า “แคธ!” ทอมมีอยู่ในกระแสธารของกลุ่มที่กา� ลังเดินลงมา หยุดกึกที่กลางบันได ใบหน้ายิ้มกว้างชวนให้ฉันหงุดหงิดเหลือก�าลัง บางทีหากเป็นก่อนหน้านั้นสัก สองสามปี ถ้าเราบังเอิญเดินมาพบคนที่เราชอบ เราก็จะท�าหน้าแบบนั้น แต่ ตอนนั้นเราอายุสิบสาม และนี่ก็เป็นสถานการณ์ที่เด็กผู้ชายมาพบกับเด็กผู้หญิง ท่ามกลางผู้คนมากมาย ฉันอยากจะโพล่งออกมาว่า “ทอมมี โตซะทีได้มั้ย?” 31

NeverLetMeGo.indb 31

9/8/11 1:19 PM


คำสึโอะ อิชิงุโระ

หากยังห้ามตัวเองไว้ และพูดเพียงว่า “ทอมมี นายขวางทางคนอื่นอยู่นะ ฉัน ก็ด้วย” เขาเงยหน้ามอง และแน่นอนว่าการจราจรด้านบนก�าลังชะงัก ชั่วขณะ หนึ่งเขาดูตื่นตระหนก เขาจึงเบียดตัวแนบกับผนังข้างฉัน เพื่อให้คนอื่นสามารถ ผ่านไปได้ จากนั้นเขาบอกว่า “แคธ เราตามหาเธอแทบแย่ เราอยากขอโทษเธอน่ะ คือเราเสียใจ เสียใจมาก จริงๆ แล้ว เมื่อวันก่อน เราไม่ได้ตั้งใจจะท�าเธอเลย เราไม่เคย คิดจะท�าร้ายผู้หญิง ถึงแม้ต้องท�า เราก็ไม่เคยอยากท�า เธอ หรอก เราเสียใจ เสียใจมากๆ เลย” “โอเค มันเป็นอุบัติเหตุ ก็แค่นั้น” ฉันพยักหน้าให้เขา ท�าท่าจะผละ ออกมา แต่ทอมมีพูดต่อน�้าเสียงร่าเริง “เสื้อตัวนั้นไม่เป็นไรแล้ว ซักออกหมดแล้วละ” “ก็ดีนี่” “ไม่เจ็บใช่เปล่า? ที่เราต่อยโดนน่ะ?” “แหงละ กะโหลกแตก สมองกระเทือน ประมาณนั้น แม้แต่แม่กาก็ คงมองออก ถ้าฉันขึ้นไปถึงที่นั่นได้นะ” “เอาจริงนะ แคธ ไม่โกรธกันแน่นะ? เราเสียใจมากจริงๆ ไม่ได้โกหก” ในที่สุดฉันก็ยิ้มให้เขา และตอบโดยไม่ประชดประชันว่า “นี่ ทอมมี มันเป็นอุบัติเหตุ แล้วฉันก็ลืมไปแล้วร้อยเปอร์เซ็นต์ ฉันไม่เก็บเอามาแค้นเคือง นายเลยแม้แต่นิดเดียว” เขายังคงท�าหน้าไม่มั่นใจ แต่ตอนนี้เด็กนักเรียนชั้นโตกว่าก�าลังดุนหลัง เขา บอกให้เขาเดินไป เขารีบยิ้มแล้วตบไหล่ฉัน เหมือนที่เขาท�ากับเด็กผู้ชาย อายุน้อยกว่า ก่อนจะเบียดตัวตามคนอื่นลงไป และเมื่อฉันเริ่มก้าวเท้าขึ้นบันได ต่อ ก็ได้ยินเสียงเขาตะโกนจากข้างล่างขึ้นมาว่า “แล้วเจอกันนะ แคธ!” ฉันรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดน่าขายหน้าเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีใครน�ามาซุบซิบ นินทาหรือกล่าวล้อแต่ประการใด และฉันต้องยอมรับว่า ถ้าไม่ได้เจอกันบนขั้น บันไดครั้งนั้น ฉันอาจจะไม่ได้สนใจปัญหาของทอมมีในช่วงหลายสัปดาห์ต่อมา 32

NeverLetMeGo.indb 32

9/8/11 1:19 PM


แผลลึก หัวใจสลำย

ฉันได้เห็นเหตุการณ์บางเรื่องด้วยตนเอง แต่ส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นการ รับฟังจากคนอื่นมากกว่า เมื่อได้ยิน ฉันจะสอบถามคนโน้นคนนี้จนกระทั่งฉันได้ เรื่องราวทั้งหมด มีเหตุการณ์ระเบิดอารมณ์เกิดขึ้นหลายครั้ง อย่างตอนที่ทอมมี ยกโต๊ะในห้อง 14 ขึ้นมาทุ่มสองตัว ท�าให้ข้าวของข้างในโต๊ะหล่นกระจายลงมา กองกับพื้น ขณะที่นักเรียนทั้งห้อง ซึ่งสามารถหลบออกมาข้างนอกได้ พากันกั้น ประตูไว้ไม่ให้เขาออกมา มีครั้งหนึ่งที่ครูคริสโตเฟอร์ต้องตรึงแขนเขาไว้ ไม่ให้เขา โถมเข้าใส่เรจจี ดี. ในช่วงการซ้อมฟุตบอล ทุกคนเห็นได้เช่นกันตอนที่นักเรียน ชายชั้นมัธยมฯ 2 ออกไปวิ่งที่สนาม ทอมมีเป็นคนเดียวที่ไม่มีคู่วิ่ง เขาวิ่งเก่ง มาก และมักจะแซงน�าหน้าคนอื่นสิบถึงสิบห้าหลาได้อย่างรวดเร็ว นี่อาจช่วย ปิดบังความจริงที่ว่าไม่มีใครอยากวิ่งกับเขามากกว่า จากนั้นก็มีข่าวลือว่ามีการ กลัน่ แกล้งเขาแทบทุกวัน ส่วนใหญ่เรือ่ งเหล่านีเ้ ป็นเรือ่ งเดิมๆ อย่างมีของแปลกๆ บนเตียงเขา หนอนในอาหารเช้า แต่บางเรื่องก็ดูร้ายกาจสุดกู่ เช่น มีบางคนเอา แปรงสีฟันของเขาไปขัดโถส้วม ขนแปรงสีฟันที่รอเขาอยู่จึงเปรอะไปด้วยอุจจาระ ขนาดร่างกายและพละก�าลังของเขา และฉันเดาว่าอารมณ์ของเขาด้วย ท�าให้ ไม่มีใครกล้าแกล้งเขาในทางกายภาพ แต่เท่าที่ฉันจ�าได้ อย่างน้อยก็มีเรื่องใน ท�านองนี้เกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ เป็นเวลาถึงสองเดือน ฉันเคยคิดว่า ไม่ช้าก็เร็วคงมี ใครเริ่มพูดขึ้นว่า มันชักจะเลยเถิดมากไปแล้ว หากมันก็ยังด�าเนินไปเช่นนี้เรื่อยๆ โดยไม่มีใครคิดจะท�าอะไรเลย ฉันเคยยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเองครั้งหนึ่งในหอพักหลังจากไฟดับแล้ว ใน กลุ่มเด็กมัธยมฯ พวกเราจะพักกันห้องละหกคน เราจึงเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ ซึ่ง มักจะนอนคุยกันเรื่องวงในมากๆ ในความมืดก่อนจะหลับไป ที่นั่นคุณสามารถ คุยเรื่องที่คุณไม่คิดว่าจะคุยที่อื่นได้ ไม่แม้แต่ที่โรงพละ ดังนั้นวันหนึ่ง ฉันจึงยก เรื่องทอมมีขึ้นมา ฉันไม่ได้พูดอะไรมากนัก เพียงแค่สรุปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา และบอกว่ามันไม่เป็นธรรมเท่าไร เมื่อพูดจบ มีความเงียบแบบแปลกๆ แขวน นิ่งในความมืด และฉันก็รู้สึกว่าทุกคนก�าลังรอการตอบสนองจากรูธ ซึ่งมักจะ เกิดขึ้นทุกครั้งที่มีประเด็นชวนอึดอัดใจขึ้นมา ฉันรอ จากนั้นได้ยินเสียงถอนใจ จากมุมห้องด้านที่รูธอยู่ ก่อนเธอจะพูดขึ้นว่า 33

NeverLetMeGo.indb 33

9/8/11 1:19 PM


คำสึโอะ อิชิงุโระ

“ก็น่าคิดนะ แคธี มันไม่ดีเลย แต่ถ้าเขาอยากให้มันหยุด เขาก็จา� เป็น ต้องเปลีย่ นทัศนคติของเขาเอง เขาไม่มอี ะไรมาร่วมในงานแลกเปลีย่ นฤดูใบไม้ผลิ ด้วย แล้วเขามีส�าหรับเดือนหน้ามั้ยล่ะ? ฉันพนันได้เลยว่าไม่มี” ฉันคงต้องอธิบายสักหน่อย ทีเ่ ฮลแชม เราจัดงานแลกเปลีย่ นปีละสีค่ รัง้ คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว จะเป็นงานใหญ่ประมาณ นิทรรศการและขายของ อะไรก็ตามที่เราได้สร้างสรรค์ขึ้นมาในช่วงสามเดือน หลังจากงานแลกเปลี่ยนครั้งก่อน ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด ภาพลายเส้น งานปั้น ‘ประติมากรรม’ ทุกประเภท ที่ท�าจากสิ่งของทุกอย่าง แล้วแต่ใครจะเกิดแรง บันดาลใจขึน้ มาในช่วงนัน้ อาจเป็นกระป๋องถูกทุบ หรือฝาขวดติดบนกระดาษแข็ง ของทุกชิ้นที่คุณส่งเข้าร่วมโครงการ คุณจะได้รับเหรียญแลกเปลี่ยนตอบแทน ครูผู้ปกครองจะเป็นผู้ก�าหนดว่าผลงานชิ้นเอกของคุณมีมูลค่าเท่าไหร่ จากนั้น ในวันแลกเปลี่ยน คุณสามารถน�าเหรียญของคุณไปซื้อของชิ้นที่คุณชอบ มีกฎ อยู่แค่ว่า คุณจะซื้อได้เฉพาะผลงานท�าจากนักเรียนในชั้นปีเดียวกับคุณเท่านั้น แต่นั่นก็ยังท�าให้เรามีของให้เลือกมากมาย เนื่องจากพวกเราส่วนใหญ่มีแรง บันดาลใจล้นเหลือตลอดช่วงระยะเวลาสามเดือน เมื่อมองย้อนกลับไปในตอนนี้ ฉันสามารถเข้าใจได้ว่า เพราะเหตุใด งานแลกเปลี่ยนถึงมีความส�าคัญต่อพวกเรามากนัก ซึ่งก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ฉัน จะกล่าวถึงภายหลัง ในการสร้างคลังสะสมสมบัติส่วนตัวของพวกเรา สมมติว่า ถ้าคุณอยากตกแต่งผนังห้องรอบเตียง หรืออยากได้ของบางอย่างพกติดกระเป๋า ไปไหนต่อไหน และวางบนโต๊ะในห้องโน้นห้องนี้ คุณก็จะหามันได้ในงานแลก เปลี่ยน และฉันก็เข้าใจได้อีกเช่นกันว่า งานแลกเปลี่ยนส่งผลลึกซึ้งกว่านั้นต่อ เราทุกคนอย่างไร ถ้าคุณคิดเรื่องนี้ให้ดี การที่ต้องคอยอาศัยเพื่อนๆ ผลิตของ ที่อาจกลายมาเป็นสมบัติล�้าค่าของคุณ นั่นย่อมส่งผลส�าคัญต่อสัมพันธภาพของ คุณไม่มากก็น้อย เรื่องของทอมมีเป็นตัวอย่างได้ดี หลายครั้งวิธีที่คุณถูกประเมิน ทีเ่ ฮลแชม วิธที คี่ ณ ุ ได้รบั ความนิยมและนับถือ เกีย่ วข้องอย่างยิง่ กับความสามารถ ในการ ‘สร้างสรรค์’ ของคุณ รูธกับฉันมักร�าลึกถึงสิ่งเหล่านี้เสมอ เมื่อไม่กี่ปีมานี้ เมื่อฉันได้เป็น 34

NeverLetMeGo.indb 34

9/8/11 1:19 PM


แผลลึก หัวใจสลำย

ผู้ดูแลเธอที่ศูนย์พักฟื้นในโดเวอร์ “ทั้งหมดนั้นเป็นส่วนหนึ่งในความพิเศษของเฮลแชม” ครั้งหนึ่งเธอเคย บอก “การที่พวกเราได้รับการสนับสนุนให้เล็งเห็นคุณค่าของผลงานกันและกัน” “จริง” ฉันเห็นด้วย “แต่บางครั้ง พอฉันนึกถึงงานแลกเปลี่ยนในตอนนี้ หลายอย่างดูแปลกชอบกล อย่างเช่น บทกวี ฉันจ�าได้ว่าพวกเราได้รับอนุญาต ให้ส่งบทกลอนเข้าร่วมได้ แทนที่จะเป็นแค่รูปวาดหรือภาพเขียน และที่แปลก ก็คือ เราทุกคนคิดว่ามันดีทีเดียว เราคิดว่ามันสมเหตุสมผลแล้ว” “ท�าไมจะไม่ล่ะ? กวีเป็นสิ่งส�าคัญออก” “แต่เราก�าลังพูดถึงงานของเด็กเก้าขวบนะ กลอนสัน้ ๆ ตลกๆ เขียนผิด เขียนถูกจดในสมุดการบ้าน เราใช้เหรียญที่แสนมีค่าของเราจ่ายไปกับสมุดที่เต็ม ไปด้วยงานแบบนั้น แทนที่จะเป็นของน่ารักส�าหรับตกแต่งรอบเตียงนอน ถ้าเรา ชอบกวีของใครสักคนมากขนาดนั้น ท�าไมเราถึงไม่ขอยืมมาลอกลงในสมุดของ เราเองซะเลยล่ะ? แต่เธอคงจ�าได้ว่ามันเป็นยังไง พอถึงงานแลกเปลี่ยน เราก็ จะยืนตาละห้อย เลือกไม่ถูกระหว่างกลอนของซูซี่ เค. กับยีราฟที่แจ๊คกีชอบท�า” “ยีราฟของแจ๊คกี” รูธพูดพลางหัวเราะ “มันสวยจริงๆ ด้วย ฉันก็เคย มีตัวนึง” เราคุยกันลักษณะนี้ในช่วงเย็นของวันที่แสนสบาย นั่งกันอยู่ที่ระเบียง เล็กๆ ของห้องพักฟื้นของรูธ มันเป็นช่วงสองสามเดือนหลังการบริจาคครั้งแรก ของเธอ เมื่อเธอผ่านช่วงแย่ที่สุดมาแล้ว ฉันมักเจาะจงเวลาเยี่ยมเป็นช่วงเย็น เพื่อที่เราจะได้ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงอยู่ข้างนอกนั่น เฝ้ามองพระอาทิตย์ คล้อยลงเหนือหลังคาบ้านต่างๆ คุณสามารถมองเห็นหมู่เสาอากาศและจาน ดาวเทียม และบางครั้ง ที่ไกลโพ้น เส้นระยิบระยับของน�า้ ทะเล ฉันจะเอาน�้าแร่ กับขนมปังกรอบมาด้วย เราจะนั่งตรงนั้น คุยกันเรื่องสัพเพเหระที่เข้ามาในความ คิด ศูนย์ที่รูธพักในตอนนั้น เป็นหนึ่งในศูนย์ที่ฉันชอบมากที่สุด และฉันคงชอบ มากหากจะได้ใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตที่นั่น ห้องพักฟื้นมีขนาดเล็ก แต่มัน ถูกออกแบบมาอย่างดีและสะดวกสบาย ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าผนัง พื้น ปูด้วย กระเบื้องสีขาวเป็นเงา ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี จนเมื่อคุณเดินเข้าไปเป็น 35

NeverLetMeGo.indb 35

9/8/11 1:19 PM


คำสึโอะ อิชิงุโระ

ครั้งแรก คุณจะรู้สึกราวกับก�าลังเข้าไปในห้องกระจก แน่นอน คุณไม่ได้เห็นเงา ตัวคุณสะท้อนกลับออกมา แต่คุณแทบรู้สึกว่ามันเป็นเช่นนั้น เมื่อคุณยกแขน ขึ้น หรือเวลาที่ใครลุกขึ​ึ้นนั่งบนเตียง คุณจะรู้สึกถึงเงาจางๆ เคลื่อนไหวอยู่ใน กระเบื้องรอบตัว อย่างไรก็ตาม ห้องของรูธในศูนย์นั้นยังมีหน้าต่างกระจกเลื่อน บานใหญ่ เธอจึงมองเห็นภายนอกจากบนเตียงได้โดยง่าย แม้เมื่อเธอนอนหนุน หมอน เธอก็ยังคงมองเห็นท้องฟ้ากว้าง และหากอากาศอุ่นพอ เธอก็สามารถ รับอากาศสดชื่นได้ตามต้องการ เพียงก้าวออกไปยังระเบียง ฉันชอบการไปเยี่ยม เธอทีน่ นั่ ชอบการพูดคุยเรือ่ ยเปือ่ ยของเรา ตลอดช่วงฤดูรอ้ นไปจนถึงฤดูใบไม้รว่ ง นั่งที่ระเบียงนั้นด้วยกัน คุยเรื่องเฮลแชม กระท่อม อะไรก็ตามที่ลอยเข้ามาใน ห้วงความคิด “ที่ฉันว่า” ฉันพูดต่อ “หมายถึงตอนที่เราอายุเท่านั้น ตอนอายุสิบเอ็ด เราไม่ได้สนใจในงานกวีของเพื่อนสักหน่อย แต่จ�าได้มั้ย เด็กอย่างคริสตีน่ะ? คริสตีโด่งดังมากเรื่องเขียนกวี เราทุกคนพากันชื่นชมหล่อนในเรื่องนั้น กระทั่ง เธอด้วย รูธ เธอไม่กล้าข่มคริสตีด้วยซ�้า ทั้งหมดก็เพราะเราคิดว่าหล่อนเขียน กวีเก่ง แต่เรารู้เรื่องกวีซะที่ไหนกัน เราไม่สนใจมันสักหน่อย ก็แปลกดีนะ” แต่รูธไม่เข้าใจประเด็นของฉัน หรือเธออาจจงใจหลบเลี่ยงมัน เธออาจ ตั้งใจที่จะจดจ�าเรื่องของพวกเราในแบบที่ดูดีกว่าที่เป็นจริงๆ หรือบางทีเธออาจ รู้สึกได้ว่าการสนทนาของฉันจะน�าไปทางไหน และไม่อยากให้เราไปถึงตรงนั้น อย่างไรก็ตาม เธอถอนใจยาวก่อนจะบอกว่า “พวกเราทุกคนคิดว่ากวีของคริสตีไพเราะมาก แต่ฉันสงสัยว่าเราจะคิด ยังไงกับมันตอนนี้ หวังว่าเราจะมีสักเล่มเหลืออยู่บ้างนะ อยากรู้จังว่าเราจะคิด ยังไง” จากนั้นเธอก็หัวเราะและบอกว่า “ฉัน ยัง มีบทกวีของปีเตอร์ บี. อยู่นะ แต่นั่นหลังจากนั้นนานแล้ว ตอนที่เราอยู่ชั้นมัธยมฯ 4 ฉันคงแอบปลื้มเขาอยู่ นึกไม่ออกเลยว่ามีเหตุผลอื่นใดที่ฉันจะอยากซื้อกวีของเขา บ้าบอคอแตกชะมัด เขาเอาจริงเอาจังเหลือเกิน แต่คริสตี หล่อนยอดนะ ฉันจ�าได้เลย ตลกดี หล่อน เลิกเขียนกวีทันทีตอนที่หล่อนหันไปวาดภาพ และก็ท�าได้ไม่ดีเท่า” ฉันขอย้อนกลับไปเรื่องทอมมีสักนิด สิ่งที่รูธพูดตอนนั้นในหอพักของเรา 36

NeverLetMeGo.indb 36

9/8/11 1:19 PM


แผลลึก หัวใจสลำย

หลังจากไฟปิด เรื่องที่ทอมมีเป็นคนสร้างปัญหาของเขาขึ้นมาเอง อาจเป็นการ สรุปแบบที่นักเรียนเฮลแชมส่วนใหญ่คิดในตอนนั้น แต่เมื่อรูธพูดขึ้นมานั่นเอง ฉันก็นึกขึ้นได้ขณะนอนอยู่ที่นั่น ว่าเพราะการที่เขาไม่ยอมท�าอะไรนั่นเองที่ท�าให้ เกิดเรื่องซ�้าซากมาตั้งแต่ตอนอยู่ชั้นประถมฯ และฉันก็ตระหนักขึ้นมา พร้อมกับ ความรู้สึกเย็นเฉียบไปทั้งตัว ว่าเรื่องร้ายกาจทั้งมวลที่ทอมมีได้ประสบมา ไม่ใช่ เพียงเป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือน หากยาวนานเป็นปีทีเดียว ทอมมีกับฉันได้คุยเรื่องนี้กันเมื่อไม่นานมานี้ เขาเล่าถึงบทเริ่มต้นความ ทุกข์ระทมของเขา ช่วยยืนยันถึงความคิดในคืนนั้นของฉัน เขาเล่าว่าเหตุการณ์ เริ่มต้นเมื่อบ่ายวันหนึ่งในชั้นเรียนวิชาศิลปะของครูเจอราลดีน ทอมมีบอกฉันว่า เขาชอบการเขียนภาพมาตลอดจนกระทัง่ วันนัน้ แต่ในห้องเรียนของครูเจอราลดีน วันนั้น ทอมมีได้วาดภาพสีน�้าภาพหนึ่ง เป็นช้างตัวหนึ่งยืนอยู่ในทุ่งหญ้าสูง นั่น คือจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด เขาบอกว่าเขาตั้งใจวาดภาพนั้นให้เป็นเรื่องตลก ฉันตั้งค�าถามเขามากมายในเรื่องนี้ เพราะสงสัยว่า แท้จริงแล้ว คงเหมือนกับ เรื่องส่วนใหญ่ตอนเราอายุเท่านั้น คือ คุณไม่ได้มีเหตุผลอะไรชัดเจนนัก ก็แค่ ท�าออกมา คุณท�ามันเพราะคุณคิดว่ามันอาจเรียกเสียงหัวเราะ หรือเพราะคุณ อยากเห็นว่ามันจะก่อให้เกิดความโกลาหลอย่างไร และเมื่อคุณถูกขอให้อธิบาย หลังจากนั้น ก็ดูเหมือนจะไม่สมเหตุสมผลเลยแม้แต่น้อย เราทุกคนล้วนเคยท�า แบบนี้มาแล้วทั้งนั้น ทอมมีไม่ได้พูดแบบนี้เสียทีเดียว แต่ฉันคิดว่าต้องใช่แน่ อย่างไรก็ตาม เขาวาดภาพเจ้าช้างตัวนี้ ออกมาเหมือนอะไรที่เด็กอายุ น้อยกว่านั้นสักสามปีจะวาด เขาใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาที และท�าให้ทุกคนโปกฮา แน่นอน แม้เขาจะไม่ได้คาดหวังก็ตาม กระนั้น มันก็คงจะไม่น�าไปสู่เหตุการณ์ อะไรอีก หากครูเจอราลดีนไม่ใช่ครูสอนในวันนั้น ซึ่งฉันว่านี่เป็นเรื่องพิลึกทีเดียว ครูเจอราลดีนเป็นครูผปู้ กครองคนโปรดของเด็กทุกคนตอนเราอายุเท่านัน้ เธอเป็นคนอ่อนโยน พูดจานุ่มนวล และปลอนโยนเวลาที่คุณต้องการ แม้เมื่อ คุณท�าเรื่องไม่ดี หรือถูกครูผู้ปกครองคนอื่นดุว่า และหากเธอบังเอิญต้องเป็น คนดุเสียเองแล้ว หลังจากนั้นอีกหลายวันเธอก็จะให้ความสนใจคุณเป็นพิเศษ ราวกับว่าเธอเป็นหนี้อะไรคุณ โชคร้ายส�าหรับทอมมีที่ครูเจอราลดีนเป็นคนสอน 37

NeverLetMeGo.indb 37

9/8/11 1:19 PM


คำสึโอะ อิชิงุโระ

วิชาศิลปะในวันนั้น ไม่ใช่ครูโรเบิร์ต หรือครูเอมิลี ซึ่งเป็นหัวหน้าครูผู้ปกครอง หากเป็นสองคนนั้น ทอมมีอาจจะโดนเอ็ดนิดหน่อย เขาอาจหัวเราะ สิ่งเลวร้าย ที่สุดที่ใครจะนึกก็คือ มันเป็นตลกห่ามๆ จนนักเรียนบางคนเห็นเขาเป็นตัวตลก ทว่าครูเจอราลดีนก็คือครูเจอราลดีน เรื่องไม่เป็นไปแบบนั้น เธอกลับพยายาม อย่างสุดก�าลังที่จะมองภาพของเขาด้วยใจเมตตา และแสนเข้าอกเข้าใจ เธอ อาจกลัวไปเองว่าทอมมีจะถูกพวกเพื่อนต�าหนิ จึงเลยเถิดไปอีกขั้ว ถึงขั้นหาจุด ยกขึ้นมาเยินยอจนได้ ทั้งยังชี้มันออกมาให้ทุกคนในชั้นเห็น นั่นคือจุดเริ่มต้น ของความไม่พอใจ “หลังจากพวกเราออกจากห้อง” ทอมมีทวนความทรงจ�า “เราก็เริ่ม ได้ยินพวกเขาพูดแบบไม่แคร์ว่าเราจะได้ยินด้วย” ฉันสงสัยว่าก่อนหน้าที่เขาจะวาดรูปช้าง ทอมมีคงรู้สึกว่าตัวเองท�าได้ ไม่ดีเท่าคนอื่น ภาพวาดของเขาดูเหมือนกับเด็กนักเรียนชั้นเล็กกว่า และเขา ก็พยายามปิดซ่อนความจริงไว้เท่าที่จะท�าได้ โดยแกล้งวาดแบบเด็กๆ ไปเลย แต่หลังจากภาพช้าง ความจริงก็ถูกเปิดเผยออกมา และตอนนี้ทุกคนก็พากัน คอยดูว่าเขาจะท�าอะไรต่อไป ดูเหมือนเขาจะพยายามอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่ทันที่เขา จะเริ่มท�าอะไร ก็มีเสียงเย้ยหยันและหัวเราะเยาะขึ้นมารอบตัว ยิ่งเขาพยายาม มากแค่ไหน มันก็ยิ่งออกมาน่าหัวเราะมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น ในเวลาไม่นาน ทอมมีก็กลับไปตั้งแนวป้องกันเดิมของเขา คือท�างานที่ดูเหมือนเด็กเล็ก งานที่ ประกาศว่าเขาไม่สนใจแม้แต่น้อย จากจุดนั้นเรื่องนี้ก็ดิ่งลึกลงเหวไปทุกที ช่วงเวลาหนึง่ เขาไม่เพียงทนทุกข์ทรมานเฉพาะในห้องเรียนศิลปะเท่านัน้ แม้นั่นจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เพราะในช่วงชั้นประถมฯ เราเรียนศิลปะเยอะมาก แล้วมันก็ลุกลามใหญ่โตขึ้น เขาถูกทิ้งในการเล่นกีฬา เด็กผู้ชายไม่ยอมนั่งข้าง เขาที่โต๊ะอาหาร หรือแกล้งท�าเป็นไม่ได้ยินถ้าเขาพูดอะไรขึ้นมาในหอพักเมื่อปิด ไฟแล้ว ตอนแรกมันก็ไม่ค่อยโหดเท่าไรนัก เวลาผ่านไปหลายเดือนโดยไม่มีเหตุ อะไรเกิดขึ้น จนเขาคิดว่าเรื่องซาลงแล้ว จากนั้นบางอย่างที่เขาท�า หรือคู่อริ คนหนึ่งของเขา อย่างเช่น อาร์เธอร์ เอช. ก็กวนทุกอย่างให้เกิดขึ้นอีกครั้ง ฉันไม่แน่ใจว่าการปะทุอารมณ์ของทอมมีเริ่มเมื่อไหร่ จากความทรงจ�า 38

NeverLetMeGo.indb 38

9/8/11 1:19 PM


แผลลึก หัวใจสลำย

ของฉันคือว่า ทอมมีเป็นที่รู้จักในเรื่องอารมณ์รุนแรงของเขามาตลอดแม้กระทั่ง สมัยอยู่ในห้องเด็กอ่อน แต่เขาบอกฉันว่ามันเพิ่งเริ่มเมื่อทุกอย่างเริ่มเลวร้ายลง อย่างไรก็ตาม การระเบิดอารมณ์เหล่านีเ้ องทีก่ ระตุน้ ผูค้ น เร่งให้ทกุ อย่างเลยเถิด มากขึ้น และในช่วงที่ฉันก�าลังพูดถึง ฤดูร้อนที่เราอยู่ชั้นมัธยมฯ 2 เมื่อเราอายุ สิบสาม นั่นคือตอนที่เรื่องกลั่นแกล้งร้ายกาจพุ่งขึ้นถึงขีดสุด จากนั้นทุกอย่างก็หยุด ไม่ถึงกับชั่วข้ามคืน แต่ก็รวดเร็ว อย่างที่บอก ฉันเฝ้าดูเหตุการณ์ในช่วงนั้นอย่างใกล้ชิด ดังนั้นฉันจึงเห็นสัญญาณต่างๆ ก่อน คนส่วนใหญ่ มันเริ่มต้นในช่วงเวลาหนึ่ง อาจเป็นหนึ่งเดือน หรือนานกว่านั้น การกลั่นแกล้งด�าเนินไปอย่างสม�่าเสมอ แต่ทอมมีก็สามารถควบคุมอารมณ์ได้ บางครั้งฉันเห็นได้เลยว่าเขาเกือบหลุด แต่เขาก็สามารถสะกดตัวเองไว้ได้ การ ตอบสนองเช่นนี้สร้างความผิดหวัง ขนาดท�าให้คนอื่นขุ่นเคืองด้วยซ�้าไป จากนั้น คนก็ค่อยๆ เบื่อ การกลั่นแกล้งเริ่มเป็นไปอย่างเฝือ จนกระทั่งวันหนึ่ง ฉันรู้สึก ว่าไม่มีเรื่องแกล้งกันแบบนั้นนานกว่าสัปดาห์ เพียงเฉพาะเรื่องนี้คงไม่มีความส�าคัญอะไรมากนัก หากฉันยังสังเกต เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นอีก เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น อเล็กซานเดอร์ เจ. และปีเตอร์ เอ็น. เดินกับเขาไปยังสนามเล่นกีฬา ทั้งสามคุยกันปกติ มีความ แตกต่างเล็กน้อย แต่เห็นได้ชัด ในน�้าเสียงของคนอื่นเมื่อเอ่ยชื่อเขา จากนั้น ครั้งหนึ่ง ก่อนสิ้นสุดช่วงพักยามบ่าย กลุ่มของเรานั่งอยู่บนสนามหญ้าใกล้สนาม ทิศใต้ เด็กผู้ชายก�าลังเล่นฟุตบอลกันตามปกติ ฉันร่วมวงคุยกับพวกเพื่อน แต่ สายตาคอยมองหาทอมมี ฉันสังเกตเห็นว่าเขาอยู่ใจกลางวงฟุตบอลพอดี ถึง จุดหนึ่งเขาสะดุด แล้วทรงตัวขึ้นได้ เขาวางบอลบนพื้นเพื่อเตะลูกกินเปล่าเอง ขณะที่เด็กผู้ชายคนอื่นกระจายตัวคอยจ้อง ฉันเห็นอาร์เธอร์ เอช. หนึ่งในหัวโจก ที่คอยแกล้งเขา ยืนอยู่ด้านหลังห่างจากทอมมีไม่กี่หลา เริ่มล้อเลียนเขา โดย เลียนแบบท่าทางการยืนคุมลูกบอลด้วยมือท้าวสะโพกของทอมมี ฉันเฝ้ามอง อย่างใกล้ชิด แต่ไม่มีเด็กคนไหนรับสัญญาณของอาร์เธอร์เลย ทุกคนมองเห็น อยู่แล้ว เพราะสายตาทุกคู่ก�าลังจับที่ทอมมี รอการเตะของเขา และอาร์เธอร์ ก็อยู่หลังเขาเลย หากก็ไม่มีใครสนใจ ทอมมีเตะบอลลอยข้ามสนามหญ้า เกม 39

NeverLetMeGo.indb 39

9/8/11 1:19 PM


คำสึโอะ อิชิงุโระ

ด�าเนินต่อไป และอาร์เธอร์ เอช. ก็ไม่ได้พยายามท�าอย่างอื่นอีกหลังจากนั้น ฉันยินดีพอใจกับพัฒนาการที่เห็นทั้งหมด ทั้งที่ไม่เข้าใจนัก ไม่มีความ เปลี่ยนแปลงในงานของทอมมี ชื่อเสียงในด้าน ‘ความคิดสร้างสรรค์’ ของเขา ยังต�่าเตี้ยเหมือนที่เคยเป็น เห็นได้เลยว่าการสิ้นสุดเรื่องกลั่นแกล้งนี้ช่วยได้มาก แต่สงิ่ ทีด่ จู ะเป็นปัจจัยส�าคัญกลับเป็นสิง่ ทีแ่ ตะต้องได้ยากกว่า มีบางอย่างเกีย่ วกับ ตัวทอมมีเอง วิธีที่เขาน�าเสนอตัวเอง วิธีที่เขามองจ้องหน้าคน และพูดคุยแบบ เปิดเผย อารมณ์ดขี องเขา มันแตกต่างจากเมือ่ ก่อน และช่วยพลิกเปลีย่ นทัศนคติ ของคนที่อยู่รอบตัวเขา ทว่าที่มาของทั้งหมดนี้ยังคลุมเครือ ฉันเฝ้าฉงน และตัดสินใจจะลองเลียบเคียงถามเขาเมื่อเรามีเวลาคุยกัน ตามล�าพัง โอกาสมาถึงหลังจากนั้นไม่นาน ขณะที่ฉันก�าลังเข้าแถวรับอาหาร กลางวัน และมองเห็นเขาอยู่ข้างหน้าอีกไม่กี่ที่ในคิว มันอาจฟังดูพกิ ล แต่ทเี่ ฮลแชม แถวอาหารกลางวันเป็นหนึง่ ในสถานที่ ที่เหมาะมากในการคุยเรื่องส่วนตัว เนื่องจากเสียงก้องสะท้อนในห้องโถงใหญ่ เสียงอึกทึกอื้ออึงและเพดานสูง นั่นหมายความว่าตราบใดที่คุณพูดเสียงเบา ยืน ชิดกัน และระวังว่าเพื่อนรอบข้างก�าลังสนใจคุยกันเองอยู่ คนอื่นย่อมไม่มีทาง แอบได้ยินสิ่งที่คุณพูด อย่างไรก็ตาม เราไม่มีทางเลือกอื่นมากนัก สถานที่ที่ ‘เงียบ’ มักเลวร้ายที่สุด เพราะเป็นไปได้ว่าจะมีใครสักคนผ่านเข้ามาในรัศมีการ ได้ยินเสมอ และทันทีที่คุณมีท่าทางเหมือนพยายามจะหลบไปหาที่คุยเรื่องลับ ทุกคนดูเหมือนจะรู้สึกได้ในชั่วเวลาไม่กี่นาที ท�าให้โอกาสนั้นหมดไปโดยปริยาย ดังนั้นเมื่อฉันเห็นทอมมีอยู่ข้างหน้าฉันถัดไปไม่กี่คน ฉันจึงโบกมือให้ เขามาหา กฎมีอยู่ว่า แม้คุณจะไม่สามารถลัดคิวไปข้างหน้าได้ แต่ถ้าย้อนไป ข้างหลังไม่เป็นไร เขาตรงเข้ามาหาฉันด้วยรอยยิ้มพริ้มใจ เรายืนกันอยู่ครู่หนึ่ง โดยไม่ได้คุยมากนัก ไม่ใช่เพราะเขิน แต่เป็นเพราะเรารอให้ความสนใจใคร่รู้ จากการที่ทอมมีถอยคิวไปข้างหลังซาลงก่อน จากนั้นฉันจึงพูดกับเขาว่า “ช่วงนี้นายดูแฮปปี้กว่าเดิมนะ ทอมมี ทุกอย่างดูจะดีขึ้นเยอะเลย” “เธอเห็นทุกอย่างเลยนี่ แคธ” เขาตอบโดยไม่มีวี่แววเสียดสีในน�้าเสียง แม้แต่น้อย “จริง ทุกอย่างโอเคมากเลย เราก�าลังไปได้ดีเลยแหละ” 40

NeverLetMeGo.indb 40

9/8/11 1:19 PM


แผลลึก หัวใจสลำย

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ? นายได้พบพระเจ้ามาหรือยังไง?” “พระเจ้า?” ทอมมีงงไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็หัวเราะ บอกว่า “อ๋อ เข้าใจละ เธอพูดถึงเรื่องที่เราไม่ค่อยจะ... โมโหเท่าไร” “ไม่ใช่แค่นั้นหรอก ทอมมี นายเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวเอง ฉัน คอยดูอยู่ นั่นแหละ ฉันถึงถาม” ทอมมียักไหล่ “เราคงโตขึ้นนิดหน่อยมั้ง คนอื่นก็เหมือนกัน คงไม่จม อยู่กับเรื่องเดิมๆ ได้ตลอดเวลาหรอก มันน่าเบื่อไง” ฉันไม่พูดอะไร เพียงจ้องมองเขาตรงๆ จนกระทั่งเขาหัวเราะออกมา ก่อนจะบอกว่า “แคธ เธอนีจ่ นุ้ จริงๆ แฮะ โอเค ก็คงมีบางอย่าง อะไรบางอย่าง ที่เกิดขึ้น ถ้าเธออยากรู้ เราจะเล่าให้ฟัง” “งั้นก็ว่ามาสิ” “เราจะเล่าให้เธอฟัง แคธ แต่เธอห้ามเอาไปแพร่ต่อ ตกลงมั้ย? สอง สามเดือนก่อน เราได้คุยกับครูลูซี หลังจากนั้นเราก็รู้สึกดีขึ้นมาก มันอธิบายยาก แต่ครูพูดอะไรบางอย่าง ท�าให้รู้สึกดีขึ้นมาก” “ครูพูดอะไรเหรอ?” “เอ่อ... จริงๆ แล้ว มันอาจฟังดูประหลาด ตอนแรกเราก็รู้สึกยังงั้น ครูบอกว่าถ้าเราไม่อยากเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ ถ้าเราไม่รู้สึกอยากเป็น อย่างนั้น ก็ไม่เห็นเป็นอะไร ไม่มีอะไรผิด ครูบอกแบบนั้น” “ครูบอกนายแบบนั้นเหรอ?” ทอมมีพยักหน้า แต่ฉันหันหน้าไปทางอื่นแล้ว “งี่เง่าชะมัด ทอมมี ถ้านายอยากเล่นเกมงี่เง่า ฉันก็ไม่อยากยุ่งด้วย แล้ว” ฉันรูส้ กึ โกรธจริงๆ เพราะฉันคิดว่าเขาโกหก ในขณะทีฉ่ นั สมควรจะได้รบั ความเชื่อมั่นจากเขา เมื่อมองเห็นเด็กผู้หญิงที่ฉันรู้จักอยู่ด้านหลัง ฉันจึงผละไป หาเธอ ทิ้งให้ทอมมียืนอยู่ตรงนั้น ฉันเห็นว่าเขาตกใจและหน้าเสีย แต่หลังจาก เวลาหลายเดือนทีฉ่ นั เฝ้าเป็นห่วงเรือ่ งเขาอย่างมาก ฉันรูส้ กึ เหมือนถูกทรยศ และ ไม่สนใจอีกแล้วว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร ฉันคุยกับเพื่อน คิดว่าน่าจะเป็นมาทิลดา 41

NeverLetMeGo.indb 41

9/8/11 1:19 PM


คำสึโอะ อิชิงุโระ

อย่างร่าเริงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และแทบไม่มองกลับไปทางเขาตลอดเวลาที่ เราอยู่ในแถว แต่ขณะที่ฉันถือถาดไปยังโต๊ะ ทอมมีเดินมาข้างหลังฉัน บอกอย่าง รวดเร็วว่า “แคธ เราไม่ได้หลอกเธอนะ ถ้าเธอคิดแบบนั้น มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เราจะเล่าให้ฟังถ้าเธอให้โอกาสเราแค่ครึ่งเดียวก็พอ” “อย่าเพ้อเจ้อน่า ทอมมี” “แคธ เราจะเล่าให้เธอฟัง เราจะลงไปที่บึงหลังอาหารเที่ยง ถ้าเธอไป ที่นั่น เราจะเล่าให้ฟัง” ฉันมองเขาอย่างไม่พอใจ เดินจากมาโดยไม่ตอบแม้แต่ค�าเดียว แต่ ฉันเริ่มนึกถึงความเป็นไปได้ว่าเขาคงไม่ได้แต่งเรื่องครูลูซีขึ้น และเมื่อนั่งลงกับ พวกเพื่อน ฉันก็พยายามคิดว่า หลังจากนี้จะแอบหลบลงไปที่บึงโดยไม่ท�าให้ ใครสงสัยใคร่รู้ขึ้นมาได้อย่างไร

42

NeverLetMeGo.indb 42

9/8/11 1:19 PM


บทที่สำม

บึงตั้งอยู่ทางทิศใต้ของบ้านใหญ่ หากจะไปที่นั่น คุณต้องออกทาง ประตูหลัง เดินลงไปตามทางเดินคับแคบคดเคี้ยว แหวกผ่านพุ่มต้นไม้รก ซึ่ง แม้แต่ในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงยังกีดขวางทางเดินอยู่ดี หรือหากไม่มีครูผู้ปกครอง อยูแ่ ถวนัน้ คุณก็สามารถเดินตัดแปลงต้นรูบาร์บได้ ไม่วา่ อย่างไร เมือ่ คุณออกมา ถึงแล้ว คุณจะได้พบกับบรรยากาศสงบเงียบรอท่าอยู่ พร้อมทั้งฝูงเป็ด หญ้ากก และไม้ริมน�้า อย่างไรก็ตาม สถานที่นี้ไม่เหมาะแก่การพูดคุยเรื่องลับกันสักเท่าไร ไม่ดีเท่ากับแถวอาหารกลางวันเลย แรกสุด คุณอาจถูกพบเห็นได้อย่างชัดเจน จากตัวบ้านใหญ่ และการที่เสียงเดินทางข้ามน�้าก็ยากจะท�านายได้ว่ามันจะดัง ไปถึงไหนบ้าง หากมีคนอยากแอบฟัง วิธีง่ายที่สุดคือเดินอ้อมทางเดินด้านนอก แล้วหมอบซุ่มในพุ่มไม้ที่อยู่อีกฟากของบึง แต่ในเมื่อฉันเป็นฝ่ายทิ้งเขาออกมา จากแถวอาหารกลางวัน ฉันคิดว่าฉันต้องท�าให้ดีที่สุด ตอนนั้นเป็นช่วงกลาง เดือนตุลาคมแล้ว แต่วันนั้นมีแดดส่อง ฉันจึงตัดสินใจว่าฉันจะท�าเป็นเดินเล่น เรื่อยเปื่อยไปจนถึงที่นั่น แล้วก็บังเอิญไปเจอทอมมีเข้า อาจเป็นเพราะฉันตัง้ ใจจะท�าให้เกิดความรูส้ ึกเช่นนัน้ ถึงแม้จะไม่คิดว่า มีใครเฝ้ามองอยู่จริงๆ ฉันจึงไม่ได้ทรุดกายลงนั่งเมื่อฉันเจอเขานั่งอยู่บนหินแบน ก้อนใหญ่ไม่ไกลจากริมน�้า วันนั้นน่าจะเป็นวันศุกร์หรือสุดสัปดาห์ เพราะฉันจ�า ได้ว่าเราสวมเสื้อผ้าของเราเอง ฉันไม่แน่ใจว่าทอมมีใส่ชุดอะไร อาจเป็นเสื้อ 43

NeverLetMeGo.indb 43

9/8/11 1:19 PM


คำสึโอะ อิชิงุโระ

ฟุตบอลตัวเก่าทีเ่ ขาชอบใส่แม้วา่ อากาศจะเย็น แต่ฉนั ใส่เสือ้ คลุมส�าหรับวิง่ สีแดง เลือดนก มีซิปข้างหน้า ซึ่งฉันได้มาจากงานขายของตอนชั้นมัธยมฯ 1 ฉันเดิน อ้อมเขา และยืนหันหลังให้บึง หันหน้าไปยังตัวบ้าน เพื่อที่ฉันจะได้มองเห็นหาก มีคนมามุงที่หน้าต่าง เราคุยกันเรื่องทั่วไปในช่วงแรก ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ที่แถวอาหารกลางวัน ฉันไม่แน่ใจว่าท�าไปเพื่อทอมมี หรือว่าเพื่อคนที่อาจจะ แอบมองอยู่ ฉันพยายามท�าท่าไม่ให้ดูจงใจ และขยับจะเดินต่อ ฉันเห็นแวว ตืน่ ตระหนกพาดผ่านสีหน้าของทอมมี แล้วฉันก็รสู้ กึ สงสารทีแ่ กล้งเขาขึน้ มาทันที แม้ฉันจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ฉันจึงพูดเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า “อ้อ จริงสิ ตอนนั้นนายพูดว่าอะไรนะ? ที่ว่าครูลูซีบอกอะไรนายน่ะ?” “เอ่อ...” สายตาของทอมมีมองผ่านฉันไปยังบึง แสร้งท�าเป็นว่านี่เป็น เรื่องที่เขาลืมไปแล้วเช่นกัน “ครูลูซี อ๋อ เรื่องนั้น” ครูลูซีเป็นครูผู้ปกครองที่ใจกว้างที่สุดในเฮลแชม แม้คุณจะเดาไม่ออก หากดูเพียงรูปลักษณ์ภายนอกของคุณครู รูปร่างของเธออ้วนเตี้ย ราวกับสุนัข บูลด็อก ผมสีด�าแปลกประหลาดของเธอที่เมื่อมันยาวจะชี้ขึ้นไปข้างบนไม่เคย ปิดหูหรือคออวบอ้วนของเธอได้เลย ทว่าเธอเป็นคนที่แข็งแรงและคล่องแคล่ว มาก กระทั่งเมื่อเราโตแล้ว พวกเราส่วนใหญ่ แม้แต่เด็กผู้ชาย ยังไม่สามารถ วิ่งชนะเธอได้เลย เธอเล่นฮ็อคกีได้วิเศษสุด และสามารถประคองตัวเล่นกับพวก เด็กมัธยมฯ ในสนามฟุตบอลได้ ฉันจ�าได้ว่าเคยนั่งดูเธอครั้งหนึ่ง เมื่อเจมส์ บี. พยายามกระแทกเธอให้ล้มขณะเธอเลี้ยงลูกผ่านเขาไป แต่กลับกลายเป็นเขาที่ ล้มคะม�าเสียเอง ตอนเราอยู่ชั้นประถมฯ เธอไม่เคยเป็นได้อย่างครูเจอราลดีน ซึ่งคุณจะโผเข้าหาเวลามีเรื่องร้อนใจ ที่จริงแล้ว เธอไม่ค่อยพูดกับเรามากนัก ตอนพวกเรายังเล็ก จนขึ้นมัธยมฯ แล้วนั่นแหละ ที่เราเริ่มนึกชอบสไตล์ห้วนๆ ตรงๆ ของเธอ “นายจะพูดอะไรบางอย่าง” ฉันบอกทอมมี “เกี่ยวกับครูลูซีที่บอกนาย ว่า ถึงจะไม่มีหัวคิดสร้างสรรค์ ก็ไม่เป็นไร” “ครูพูดแบบนั้นจริงๆ ครูบอกว่าเราไม่จ�าเป็นต้องกังวล ไม่ต้องสนใจ ว่าคนอื่นจะพูดอะไร ผ่านมาได้สองเดือนแล้วละ หรืออาจจะนานกว่านั้น” 44

NeverLetMeGo.indb 44

9/8/11 1:19 PM


แผลลึก หัวใจสลำย

ที่ตัวบ้านใหญ่ เด็กประถมฯ สองสามคนหยุดอยู่ที่หน้าต่างข้างบันได มองดูเรา หากฉันก็ย่อตัวลงไปหน้าทอมมี แล้วเลิกเสแสร้งใดๆ “ทอมมี ที่ครูพูดแบบนั้นตลกชะมัด นายแน่ใจว่าฟังไม่ผิดนะ?” “แน่นอน เราฟังไม่ผิดหรอก” เสียงของเขาแผ่วลงทันที “ครูไม่ได้พูด แค่ครั้งเดียว เราอยู่ในห้องของครู แล้วครูก็พูดกับเราเป็นเรื่องเป็นราวเลย” ทอมมีเล่าว่าเมือ่ ครูขอให้เขามายังห้องท�างานของครูหลังวิชาศิลปวิจกั ษณ์ เขานึกว่าคงได้ฟังเทศนาอีกบทให้เขาพยายามมากขึ้น แบบที่เขาโดนมาจากครู ผู้ปกครองคนอื่น รวมทั้งครูเอมิลี มาหมดแล้ว แต่ขณะที่พวกเขาก�าลังเดินจาก บ้านใหญ่ไปยังเรือนต้นไม้ ซึ่งเป็นบ้านพักของพวกครูผู้ปกครอง ทอมมีก็เริ่มรู้สึก เฉลียวใจว่านี่คงไม่เหมือนทุกครั้ง จากนั้นเมื่อเขานั่งลงบนเก้าอี้นวมของครูลูซี เธอยังคงยืนอยู่ข้างหน้าต่าง ครูก็ขอให้เขาเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ตามที่เขาเห็น ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา ทอมมีจึงเริ่มทบทวนทุกอย่างอีกครั้ง แต่ก่อนจะเล่าถึงครึ่ง เรื่อง ครูก็เป็นคนพูดบรรยายขึ้นมาเอง ครูบอกว่าเธอรู้จักเด็กนักเรียนมากมาย ที่พบว่าตัวเองไม่มีความสามารถทางด้านงานสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นระบายสี วาดภาพ เขียนกวี ออกมาไม่ได้เรือ่ งนับเป็นเวลาหลายปี จากนัน้ วันหนึง่ พวกเขา ก็เจอจุดหักเห และเบ่งบานความสามารถออกมา เป็นไปได้ว่าทอมมีอาจจะเป็น หนึ่งในนั้น ทอมมีเคยได้ฟงั เรือ่ งแบบนีม้ าหมดแล้ว ทว่าท่าทางบางอย่างของครูลซู ี ท�าให้เขาตั้งใจฟัง “เราคิดว่า” เขาบอก “ครูกา� ลังจะชีน้ า� ไปสูอ่ ะไรบางอย่าง อะไรบางอย่าง ที่แตกต่าง” แน่นอน ไม่นานครูกพ็ ดู ถึงเรือ่ งทีท่ อมมีไม่คอ่ ยเข้าใจ แต่ครูย�้าบ่อยครัง้ จนในที่สุดเขาก็เริ่มรู้เรื่อง เธอบอกว่าหากทอมมีพยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว แต่ เขาก็ยังท�าได้ไม่ดีนัก ก็ไม่เป็นไร เขาไม่จ�าเป็นต้องกังวลในเรื่องนี้ ทุกคนผิด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนนักเรียนหรือครูผู้ปกครองที่จะลงโทษเขาในเรื่องนี้ หรือกดดัน เขาไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม มันไม่ใช่ความผิดของเขาแม้แต่น้อย และเมื่อทอมมี เริ่มประท้วงว่า ครูลูซีพูดอย่างไรก็ได้ แต่ทุกคนก็ยัง คิด ว่าเป็นความผิดของ 45

NeverLetMeGo.indb 45

9/8/11 1:19 PM


คำสึโอะ อิชิงุโระ

เขาอยู่ดี ครูถอนใจ มองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วพูดว่า “มันอาจไม่ช่วยเธอเท่าไรนัก แต่ขอให้เธอจดจ�าไว้ว่า อย่างน้อยยังมี คนหนึ่งที่เฮลแชมมีเชื่ออีกอย่าง อย่างน้อยก็มีคนหนึ่งที่เชื่อว่าเธอเป็นนักเรียน ที่ดีมาก ดีเท่ากับทุกคนที่ครูเคยรู้จัก ไม่ว่าเธอจะมีความคิดสร้างสรรค์มากหรือ น้อยก็ตาม” “ครูไม่ได้วางกับดักนายใช่ไหม?” ฉันถามทอมมี “คงไม่ใช่วิธีล่อหลอก ให้นายตายใจหรอกนะ?” “ไม่มีทางเป็นอย่างนั้นได้แน่นอน ถึงยังงั้น...” เป็นครั้งแรกที่เขาดูกังวล ว่าจะมีคนแอบได้ยิน จึงหันมองข้ามไหล่ไปยังตัวบ้าน พวกเด็กชั้นประถมฯ ที่ หน้าต่างเลิกสนใจและหายไปแล้ว เด็กผู้หญิงในชั้นเดียวกับเรากลุ่มหนึ่งก�าลัง เดินไปยังโรงพละ แต่พวกเขาอยู่ห่างออกไปมาก ทอมมีหันมาหาฉัน พูดแทบ จะเป็นเสียงกระซิบว่า “ถึงยังงั้น ตอนที่ครูพูดมาทั้งหมด ครู ตัวสั่น ด้วย” “หมายความว่ายังไง ตัวสั่น?” “ตัวสั่น แบบโกรธจัด เห็นได้ชัดเลย ครูโกรธมาก โกรธแบบลึกๆ อยู่ ข้างใน” “โกรธใครเหรอ?” “เราก็ไม่แน่ใจ ไม่ใช่เราอยู่แล้ว นั่นแหละที่ส�าคัญที่สุด!” เขาหัวเราะ จากนั้นก็มีสีหน้าเคร่งขรึมอีกครั้ง “เราไม่รู้ว่าครูโกรธใคร แต่โกรธมากเลยแหละ” ฉันลุกขึ้นอีกครั้ง เพราะเริ่มรู้สึกปวดน่อง “มันแปลกพิลึกเลย ทอมมี” “ที่ตลกก็คือ การได้คุยกับครูช่วยได้จริงๆ ช่วยได้มากเลยด้วย ที่เธอ บอกตอนแรกว่าทุกอย่างดูเหมือนจะดีขึ้นมากส�าหรับเรา มันเป็นเพราะเรื่องนี้ แหละ เพราะหลังจากนั้น เวลานึกถึงสิ่งที่ครูพูด เราว่าครูพูดถูก มันไม่ใช่ความ ผิดของเรา โอเค เราอาจจะท�าได้ไม่ดี แต่ลึกๆ แล้ว มันไม่ใช่ความผิดของเรา นี่นา นั่นคือสิ่งที่ท�าให้มันแตกต่าง และทุกครั้งที่เรารู้สึกปั่นป่วนสับสนอะไรพวก นี้ เราก็จะเห็นภาพครูเดินไปเดินมา หรือเรานั่งอยู่ในชั่วโมงของครู ครูไม่ได้พูด ถึงเรื่องที่เราคุยกันวันนั้น แต่เราก็จะมองครู บางครั้งครูก็จะมองเรา แล้วพยัก 46

NeverLetMeGo.indb 46

9/8/11 1:19 PM


แผลลึก หัวใจสลำย

หน้าให้ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ก่อนหน้านี้เธอถามว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า นี่แหละที่เกิดขึ้น แต่ฟังนะ แคธ อย่าไปปริปากบอกเรื่องนี้ให้ใครฟัง ได้มั้ย?” ฉันพยักหน้า แต่ถามต่อว่า “ครูให้นายสัญญาด้วยเหรอ?” “เปล่า เปล่า ครูไม่ได้ให้เราสัญญาอะไรทั้งนั้น แต่เธอต้องไม่บอกใคร นะ เธอต้องสัญญาจริงๆ นะ” “ตกลง” กลุ่มเด็กผู้หญิงที่มุ่งหน้าไปยังโรงพละสังเกตเห็นฉัน จึงโบกมือ ให้ และร้องเรียก ฉันโบกมือตอบ บอกทอมมีว่า “ฉันต้องไปแล้ว ไว้เราค่อย คุยกันเรื่องนี้ต่อ” หากทอมมีไม่สนใจ “ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง” เขาพูดต่อ “ครูพูดอีกเรื่องที่ เราไม่เข้าใจ เราก�าลังอยากถามเธออยู่ ครูพูดประมาณว่า เราถูกสอนมาไม่พอ อะไรท�านองนั้น” “ถูกสอนไม่พอ? นายหมายถึงครูคิดว่าเราควรจะเรียนหนังสือให้หนัก กว่าที่เป็นอยู่นี้เหรอ?” “เปล่า เราไม่คิดว่าครูหมายความอย่างนั้น ที่ครูก�าลังพูดก็คือ เอ่อ เกีย่ วกับ พวกเรา สิง่ ทีจ่ ะเกิดขึน้ กับพวกเราในวันหนึง่ การบริจาค อะไรพวกนัน้ ” “แต่เราถูก สอน เรือ่ งพวกนัน้ มาแล้วนี”่ ฉันพูด “สงสัยจังว่าครูหมายถึง อะไร ครูคิดว่าเรายังไม่รู้เรื่องอะไรอีกเหรอ?” ทอมมีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นส่ายหน้า “เราไม่คิดว่าครูจะหมายถึง อย่างนั้น ครูแค่คิดว่าเรายังไม่ได้ถูกสอนเรื่องนั้นให้มากพอ เพราะครูบอกว่าครู ตั้งใจจะคุยกับพวกเราเรื่องนั้นด้วยตัวเอง” “แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ?” “เราก็ไม่แน่ใจ เราอาจจะเข้าใจผิดทัง้ หมดก็ได้ แคธ เราไม่รเู้ หมือนกัน บางทีครูอาจจะหมายถึงเรื่องอื่นไปเลยก็ได้ เรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องกับการไร้ความ คิดสร้างสรรค์ของเรา เราไม่เข้าใจจริงๆ” ทอมมีจ้องมองฉัน ราวกับหวังว่าฉันจะมีค�าตอบให้ ฉันใช้ความคิดต่อ ไปอีกพักหนึ่ง จากนั้นบอกว่า “ทอมมี ลองคิดทวนดูดีๆ ซิ นายบอกว่าครูโกรธ...” 47

NeverLetMeGo.indb 47

9/8/11 1:19 PM


คำสึโอะ อิชิงุโระ

“ก็มันดูเหมือนอย่างนั้น ครูนิ่งเงียบ แต่ตัวสั่น” “ก็ได้ ยังไงก็ช่าง เอาเป็นว่าครูโกรธ ตอนครูเริ่มโกรธขึ้นมา ถึงได้พูด เรื่องนั้นใช่มั้ย? เรื่องที่ว่าเราไม่ได้ถูกสอนมามากพอเกี่ยวกับการบริจาค กับอะไร ท�านองนั้น?” “คิดว่าอย่างงั้นแหละ...” “เอาละ ทอมมี คิดสิ ท�าไมครูต้องยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด? ครูก�าลังพูด เรื่องนาย กับนายที่ไร้ความคิดสร้างสรรค์ จากนั้น ทันทีทันใดครูก็เริ่มเรื่องนั้น ขึ้นมา ความเกี่ยวข้องอยู่ที่ตรงไหน? ท�าไมครูถึงยกเรื่องการบริจาคขึ้นมาพูด? เรื่องนั้นมันเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ของนายยังไง?” “ไม่รู้สิ เราว่ามันคงมีเหตุผลบางอย่าง บางที เรื่องหนึ่งอาจท�าให้ครู นึกถึงอีกเรื่องขึ้นมา แคธ เธอชักเอาจริงเอาจังกับมันจริงๆ แล้วนะนี่” ฉันหัวเราะ เพราะเขาพูดถูก ฉันออกอาการคิ้วขมวดมุ่น ง่วนครุ่นคิด ออกอย่างนั้น ที่จริงแล้ว ในใจฉันก�าลังมุ่งไปหลายเส้นทางในเวลาเดียวกัน และ เรื่องเล่าของทอมมีเกี่ยวกับบทสนทนาของเขากับครูลูซี ก็ทา� ให้ฉันนึกไปถึงเรื่อง บางอย่าง อาจเป็นชุดเรื่องราวที่เกี่ยวโยงกัน เหตุการณ์เล็กๆ จากอดีตเกี่ยวกับ ครูลูซีที่ท�าให้ฉันไม่เข้าใจในเวลานั้น “ก็แค่ว่า...” ฉันหยุด ถอนหายใจ “ฉันไม่รู้จะบอกยังไงถูก แม้แต่กับ ตัวเอง ทว่าทัง้ หมดนี้ สิง่ ทีน่ ายเล่ามันเข้ากันพอดีกบั เรือ่ งอืน่ อีกหลายเรือ่ งทีย่ งั คง เป็นปริศนา ฉันคิดเรื่องพวกนี้อยู่เสมอ อย่างเช่น ท�าไมมาดามถึงชอบมาเอา ภาพดีที่สุดของพวกเราไป เพื่ออะไรกันแน่?” “เพื่อไปไว้ในแกลเลอรีไง” “แต่แกลเลอรีของหล่อน มัน คือ อะไรกันล่ะ? หล่อนชอบมาหยิบฉวย งานดีที่สุดของพวกเราไป หล่อนต้องมีภาพเป็นตั้งๆ แล้วละตอนนี้ ฉันเคยถาม ครูเจอราลดีนว่า มาดามมาที่นี่นานแค่ไหนแล้ว ครูบอกว่าตั้งแต่เริ่มมีเฮลแชม เลยแหละ แกลเลอรี คือ อะไรล่ะ? ท�าไมหล่อนต้องมีแกลเลอรีไว้รวบรวมงาน ที่พวกเราท�าด้วยล่ะ?” “หล่อนอาจจะขายมันก็ได้ ที่นั่น ข้างนอกนั่น พวกเขาขายทุกอย่าง” 48

NeverLetMeGo.indb 48

9/8/11 1:19 PM


แผลลึก หัวใจสลำย

ฉันส่ายหน้า “ไม่ใช่หรอก มันต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ครูลูซีคุยกับนาย เกี่ยวกับเรา เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าวันหนึ่งเราต้องเริ่มบริจาค ฉันไม่รู้ว่าท�าไม ฉันมี ความรู้สึกแบบนี้มาได้พักหนึ่งแล้ว ว่าทุกอย่างเกี่ยวพันกัน ถึงแม้ฉันจะไม่รู้ว่า เกี่ยวกันยังไงก็ตาม ฉันต้องไปก่อนละ ทอมมี เราอย่าเพิ่งบอกใครเรื่องที่เราคุย กันวันนี้เลยนะ” “ไม่หรอก แล้วก็อย่าบอกใครเรื่องครูลูซีด้วยละ” “แต่นายจะบอกฉันใช่ไหม ถ้าครูพูดอะไรแบบนั้นกับนายอีก?” ทอมมีพยักหน้า จากนั้นช�าเลืองมองไปรอบตัวอีกครั้ง “อย่างที่เธอว่า เธอควรไปได้แล้ว แคธ ไม่งั้นเดี๋ยวจะมีใครมาได้ยินเราเข้า” แกลเลอรีที่ทอมมีกับฉันพูดถึง เป็นสิ่งซึ่งพวกเราทุกคนเติบโตขึ้นมา พร้อมกับมันก็ว่าได้ ทุกคนพูดถึงราวกับว่ามันมีอยู่จริง แม้ว่าที่จริงแล้ว จะไม่มี ใครในหมู่พวกเรารู้แน่ว่ามันมีอยู่ ฉันแน่ใจว่าฉันเป็นหนึ่งในคนส่วนใหญ่ที่จ�า ไม่ได้ว่าเริ่มได้ยินชื่อมันครั้งแรกเมื่อไหร่หรืออย่างไร แน่นอนว่าไม่ได้มาจากพวก ครูผู้ปกครองอยู่แล้ว พวกเขาไม่เคยเอ่ยถึงแกลเลอรีเลย และยังมีกฎเป็นที่รู้กัน ว่าเราไม่ควรยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดต่อหน้าพวกเขา ฉันคิดว่ามันคงเป็นเรือ่ งทีพ่ ดู กันสืบมาจากรุน่ สูร่ นุ่ ในหมูน่ กั เรียนเฮลแชม ฉันจ�าได้ว่าครั้งหนึ่งตอนที่ฉันน่าจะอายุห้าหรือหกขวบ ก�าลังนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวเล็ก ข้างอแมนดา ซี. มือของพวกเราเปียกเลอะไปด้วยดินเหนียวสร้างแบบ จ�าไม่ได้ ว่าตอนนั้นมีเด็กคนอื่นอยู่กับพวกเราหรือเปล่า หรือครูคนไหนเป็นผู้ดูแล เท่าที่ ฉันจ�าได้คือ อาแมนดา ซี. ซึ่งโตกว่าฉันหนึ่งปี ก�าลังมองดูสิ่งที่ฉันก�าลังท�าอยู่ แล้วร้องขึ้นมาว่า “สวยมากเลย จริงๆ นะ แคธี! เจ๋งสุดๆ เลย! มันต้องได้ไป อยู่ในแกลเลอรีแหงเลย!” ในตอนนั้นฉันคงรู้จักเรื่องแกลเลอรีแล้ว เพราะฉันจ�าได้ถึงความรู้สึก ตื่นเต้นและภาคภูมิใจตอนที่เธอพูดเช่นนั้น และหลังจากนั้นครู่หนึ่ง ฉันก็คิดกับ ตัวเองว่า “งี่เง่าจริงๆ พวกเรายังไม่มีใครฝีมือดีพอส�าหรับแกลเลอรีซักหน่อย” เมือ่ เราโตขึน้ เรายังคงพูดถึงแกลเลอรีกนั ต่อมา ถ้าคุณอยากจะเอ่ยชม ผลงานของใครสักคน คุณจะต้องบอกว่า “มันดีพอส�าหรับแกลเลอรีเลย” และ 49

NeverLetMeGo.indb 49

9/8/11 1:19 PM


คำสึโอะ อิชิงุโระ

หลังจากที่เรารู้จักการพูดจาเสียดสี เวลาเห็นผลงานแย่ๆ ที่น่าหัวเราะเยอะ เรา ก็จะพูดว่า “โอ้ ใช่เลย! ชิ้นนี้ส่งตรงไปยังแกลเลอรีโลด!” แต่เราเชื่อเรื่องแกลเลอรีจริงๆ หรือ? ทุกวันนี้ฉันไม่แน่ใจ อย่างที่บอก เราไม่เคยเอ่ยถึงมันต่อหน้าครูผู้ปกครองเลย และเมื่อมองย้อนกลับไป ฉันรู้สึก เหมือนกับว่า นี่คือกฎที่เราตั้งขึ้นมาใช้เองมากกว่า เช่นเดี​ียวกับเรื่องอื่นที่ครูผู้ ปกครองได้ก�าหนดไว้ มีตัวอย่างหนึ่งซึ่งฉันจ�าได้จากตอนที่เราอายุราวสิบเอ็ดปี เราอยู่ในห้อง 7 เช้าวันหนึ่งในฤดูหนาวที่มีแสงแดดส่อง เราเพิ่งเสร็จสิ้นจาก ชั้นเรียนของครูโรเจอร์ พวกเราบางคนอยู่ต่อเพื่อพูดคุยกับเขา เรานั่งกันบนโต๊ะ ฉันจ�าไม่ได้แน่ชัดว่าเราก�าลังคุยกันเรื่องอะไร แต่เหมือนเคย ครูโรเจอร์ก�าลัง ท�าให้เราหัวเราะแล้วหัวเราะอีก จากนั้น แครอล เอช. ก็พูดขึ้นสลับเสียงหัวเราะ ของเธอว่า “ครูอาจเอามันไปใส่ไว้ในแกลเลอรีเลยนะนั่น!” ทันใดนั้น เธอก็ยกมือ ขึน้ ปิดปากพร้อมกับร้องว่า “อุบ๊ !” บรรยากาศยังคงเป็นแบบตามสบายเหมือนเดิม แต่เราทุกคนรู้ รวมทั้งครูโรเจอร์ ว่าเธอพลาดแล้ว อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องคอขาด บาดตายอะไร คงประมาณเหมือนกับที่ใครบางคนเผลอหลุดค�าหยาบคายออก มา หรือเรียกครูผู้ปกครองด้วยสมญานามที่ตั้งกันเองต่อหน้าเจ้าตัว ครูโรเจอร์ ยิ้มใจดี ราวกับจะบอกว่า “ปล่อยให้มันผ่านไป เราจะท�าเป็นว่าเธอไม่ได้พูดก็ แล้วกัน” แล้วเราก็คุยกันต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หากส�าหรับเรา แกลเลอรียังคงอยู่ในดินแดนสายหมอก แต่ความจริงที่ มั่นคงแน่นอนกว่า คือการปรากฏตัวของมาดาม ส่วนใหญ่ปีละสองครั้ง บางครั้ง อาจสามหรือสี่ เพือ่ เลือกผลงานดีทสี่ ดุ ของพวกเราไป เราเรียกหล่อนว่า ‘มาดาม’ เพราะหล่อนเป็นชาวฝรั่งเศส หรือเบลเยี่ยม ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าที่ไหนแน่ และนั่นเป็นค�าที่ครูผู้ปกครองเรียกหล่อน หล่อนเป็นหญิงสาวร่างสูงโปร่ง ผมตัด สั้น น่าจะยังอายุไม่มาก แม้ในตอนนั้นเราจะไม่ได้นึกถึงหล่อนเช่นนั้น หล่อน มักสวมชุดสูทสีเทาเรียบกริบ และแตกต่างจากพวกคนสวน แตกต่างจากพวก คนขับรถซึ่งน�าข้าวของเครื่องใช้มาให้พวกเรา แตกต่างจากทุกคนที่เข้ามาจาก ข้างนอกทั้งสิ้น หล่อนจะไม่พูดกับเรา และรักษาระยะห่างจากพวกเราไว้ด้วย สีหน้าเย็นเยียบ เป็นเวลาหลายปีที่เราคิดว่าหล่อนเป็น ‘คนหัวสูง’ แต่แล้วใน 50

NeverLetMeGo.indb 50

9/8/11 1:19 PM


แผลลึก หัวใจสลำย

คืนหนึ่ง ช่วงที่เราอายุประมาณแปดขวบ รูธก็มีทฤษฎีใหม่มาแจกแจง “หล่อนกลัวพวกเรา” เธอประกาศ เราก�าลังนอนกันอยู่ในความมืดในหอพัก ในชั้นประถมฯ พวกเราอยู่ หอพักห้องละสิบห้าคน ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีการพูดคุยกันแบบสนิทสนมเป็นเรื่อง เป็นราวมากเท่าตอนที่เราได้อยู่ในหอพักมัธยมฯ แต่ส่วนใหญ่เด็กที่อยู่ใน ‘กลุ่ม’ ของเราจะเตียงใกล้กัน และเราก็มีกิจวัตรที่ต้องคุยกันในตอนกลางคืนเสมอ “หมายความว่าไง ที่ว่ากลัวพวกเราน่ะ?” บางคนถาม “หล่อนจะกลัว พวกเราได้ไง? เราจะท�าอะไรหล่อนได้?” “ไม่รเู้ หมือนกัน” รูธตอบ “ฉันก็ไม่รู้ แต่แน่ใจว่าหล่อนต้องเป็นแบบนัน้ ฉันเคยคิดว่าหล่อนก็แค่ท�าตัวเป็นพวกหัวสูง แต่มีอย่างอื่นอีก ตอนนี้ฉันแน่ใจ มาก มาดามกลัวพวกเรา” เราถกเถียงกันเรื่องนี้ต่อมาอีกหลายวัน พวกเราส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย กับรูธ แต่นั่นก็ยิ่งท�าให้เธอมุ่งมั่นจะพิสูจน์ว่าตัวเองคิดถูกมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น ในที่สุดเราจึงตกลงตามแผนที่จะพิสูจน์ทฤษฎีของเธอในครั้งต่อไปที่มาดามจะมา เยือนเฮลแชม แม้การมาของมาดามจะไม่มีการประกาศให้รู้ แต่เห็นได้ชัดเมื่อใกล้ วันที่หล่อนจะมา สิ่งที่เกิดก่อนการมาของหล่อน จะเริ่มหลายอาทิตย์ก่อนหน้า นั้นแล้ว โดยการที่พวกครูผู้ปกครองจะพากันเลือกค้นหาจากผลงานของเรา ทั้ง ภาพเขียน ภาพร่าง งานปั้น ความเรียง กวีทั้งหลาย มักกินเวลาอย่างน้อยสอง สัปดาห์ ในตอนท้ายจะมีงานสี่หรือห้าชิ้นจากทุกชั้นประถมฯ และมัธยมฯ ได้ เข้าไปอยู่ในห้องบิลเลียด ในช่วงเวลานั้นห้องบิลเลียดจะถูกปิด แต่ถ้าคุณขึ้น ไปยืนบนก�าแพงระเบียงเตี้ยด้านนอก คุณจะสามารถมองผ่านหน้าต่างเห็นกอง สิ่งของใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อครูเริ่มจัดวางมันบนโต๊ะและขาตั้งอย่าง เป็นระเบียบเรียบร้อย เหมือนย่อส่วนงานแลกเปลี่ยนของเรา คุณก็จะรู้แล้วว่า มาดามจะมาถึงภายในวันหรือสองวันจากนั้น ฤดูใบไม้ร่วงที่ฉันก�าลังพูดถึง เราจ�าเป็นต้องรู้ไม่เพียงแค่วัน แต่ยังต้อง รู้ช่วงเวลาจริงๆ ที่มาดามจะมา เนื่องจากหล่อนมักอยู่ไม่เกินหนึ่งหรือสองชั่วโมง 51

NeverLetMeGo.indb 51

9/8/11 1:19 PM


คำสึโอะ อิชิงุโระ

เท่านัน้ ดังนัน้ ทันทีทเี่ ราเห็นการจัดแสดงข้าวของในห้องบิลเลียดนี้ เราจึงตัดสินใจ ว่าต้องคอยผลัดกันเฝ้าดู งานนีง้ า่ ยขึน้ มากด้วยลักษณะการวางต�าแหน่งอาคาร เฮลแชมตัง้ อยูใ่ น แอ่งราบ มีสนามลาดสูงขึ้นไปทุกด้าน นั่นหมายความว่า จากหน้าต่างห้องเรียน แทบทุกบานในตัวบ้าน และแม้กระทัง่ ในโรงพละ คุณสามารถมองเห็นถนนแคบๆ ที่ทอดยาวผ่านสนามลงมาจนถึงประตูทางเข้าบ้านได้อย่างชัดเจน ประตูรั้วเองก็ ยังมีระยะห่างจากบ้านพอสมควร จากตรงนั้น พาหนะใดก็ตามจะต้องแล่นบน ทางโรยกรวด ผ่านพุ่มไม้และแปลงดอกไม้ ก่อนจะถึงสนามหญ้าหน้าตัวบ้าน ในที่สุด บางครั้งเวลาอาจผ่านไปหลายวันโดยที่เราไม่เห็นยานพาหนะแม้แต่คัน เดียววิ่งผ่านถนนแคบๆ นั้นเข้ามา ที่เข้ามาบ่อยมักเป็นรถกระบะหรือรถบรรทุก พร้อมกับข้าวของเครื่องใช้ กับคนสวนหรือคนงาน หายากที่จะเป็นรถยนต์ ซึ่ง หากได้เห็นสักคนวิ่งมาจากที่ไกลลิบ ก็มักจะท�าให้เกิดความโกลาหลจอแจใน ห้องเรียนได้ทุกคราว บ่ายวันที่รถยนต์ของมาดามปรากฏให้เห็นก�าลังเคลื่อนข้ามสนามเข้า มา วันนั้นลมพัดแรงและแสงแดดส่อง เมฆฝนเริ่มก่อตัวขึ้นเล็กน้อย เราอยู่ใน ห้อง 9 ที่ชั้นหนึ่งด้านหน้าบ้าน และเมื่อเสียงกระซิบกระซาบอึงอลไปทั่วห้อง ครูแฟรงค์ที่น่าสงสาร ซึ่งก�าลังพยายามสอนเราให้สะกดค�า ก็ได้แต่งงว่าท�าไม เราถึงตื่นเต้นกันขึ้นมาทันทีทันใดขนาดนั้น แผนการที่เราคิดกันขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ทฤษฎีของรูธง่ายๆ ก็คือ เรา ผู้ ร่วมขบวนการนี้ มีด้วยกันหกคน จะซุ่มรอมาดามอยู่ที่ไหนสักแห่ง จากนั้นก็จะ ‘วิ่งยั๊วเยี๊ย’ ไปรอบตัวเธอพร้อมๆ กัน เราจะยังคงรักษามรรยาทและท�าเหมือน ปกติ แต่ถ้าเรากะจังหวะได้เหมาะ และหล่อนไม่ทันระวังตัว รูธยืนยันว่าเราจะ ได้เห็นว่าหล่อนกลัวพวกเราจริงๆ สิ่งที่เราเป็นกังวลมากคือว่า เราจะพลาดโอกาสในช่วงเวลาสั้นๆ ที่ หล่อนอยู่ที่เฮลแชม แต่เมื่อชั้นเรียนของครูแฟรงค์ใกล้หมดเวลา เราก็มองเห็น มาดาม ก�าลังจอดรถของหล่อนอยู่ที่สนามเบื้องล่างนั้นเอง เราประชุมกันอย่าง เร่งร้อนที่หน้าห้อง จากนั้นก็ตามคนอื่นๆ ลงบันไดไป เอ้อระเหยอยู่ด้านในของ 52

NeverLetMeGo.indb 52

9/8/11 1:19 PM


แผลลึก หัวใจสลำย

ประตูทางเข้า เรามองออกไปยังสนามหญ้าสว่างไสว มาดามยังคงนั่งอยู่หลัง พวงมาลัย ค้นข้าวของในกระเป๋าถือของหล่อน ในที่สุดหล่อนก็ออกจากตัวรถ และเดินมาทางเรา หล่อนสวมชุดสูทสีเทาที่ใส่ประจ�า สองแขนโอบกอดกระเป๋า แน่น เมื่อได้สัญญาณจากรูธ เราทุกคนก็เดินเตร่ออกไป มุ่งหน้าไปทางหล่อน แต่ท�าเป็นเลื่อนลอยราวอยู่ในความฝัน จนเมื่อหล่อนหยุดชะงักในทันใด เราต่าง พึมพ�าว่า “ขอโทษค่ะ คุณครู” ก่อนจะแยกย้ายจากไป ฉันไม่เคยลืมความเปลี่ยนแปลงแสนประหลาดที่เกิดขึ้นกับพวกเราหลัง ชั่วขณะเวลานั้นได้เลย จนกระทั่งตอนนั้น เรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับมาดาม แม้ จะไม่เชิงเป็นเรื่องตลกเสียทีเดียว แต่ก็เป็นเรื่องส่วนตัวที่เราอยากจัดการกันเอง ในกลุ่มของเรา เราไม่เคยคิดกันเท่าไรว่าตัวมาดามหรือใครก็ตามจะท�าอะไรกับ เรื่องนี้ ฉันหมายถึง จนกระทั่งตอนนั้น มันเป็นเพียงเรื่องไม่สลักส�าคัญซึ่งต้องใช้ ความกล้านิดหน่อย มาดามเองก็ไม่ได้ท�าอะไรมากไปกว่าที่เราคาดเดาว่าหล่อน จะท�า หล่อนเพียงแต่ยืนตะลึง และรอให้พวกเราผ่านไป หล่อนไม่ได้กรีดร้อง หรืออุทานออกมาด้วยซ�้า แต่พวกเราตั้งใจเตรียมจับปฏิกริยาของหล่อนอยู่แล้ว และนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ส่งผลต่อเรามากเหลือเกิน เมื่อหล่อนหยุดเดิน ฉันเงย หน้าขึ้นมองหล่อนอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ฉันแน่ใจเช่นนั้น ฉันยังคง จ�าได้อยู่จนทุกวันนี้ถึงอาการสั่นเทาที่ดูเหมือนหล่อนพยายามสะกดข่มไว้ ความ หวาดกลัวว่าเราอาจจะสัมผัสโดนตัวหล่อน และแม้เราจะเดินเลยผ่านไป เรา ทุกคนก็รู้สึกถึงมัน ราวกับว่าเราเดินจากแสงแดดเข้าไปในที่ร่มหนาวเย็น รูธ พูดถูกว่ามาดาม กลัว พวกเรา แต่หล่อนกลัวพวกเราในแบบที่ใครสักคนกลัว แมงมุม เราไม่ได้เตรียมรับเรื่องนี้ เราไม่เคยคาดคิดสงสัยมาก่อนเลยว่า เรา จะรู้สึกอย่างไรถ้าถูกมองแบบนั้น ถ้าต้องกลายเป็นแมงมุมในสายตาใคร เมื่อเราเดินข้ามสนามมาถึงพื้นหญ้า เรากลายเป็นเด็กอีกกลุ่มหนึ่ง แตกต่างจากกลุ่มที่ยืนใจเต้นรอให้มาดามออกจากรถยนต์ของหล่อนโดยสิ้นเชิง ฮานนาห์ดูพร้อมจะระเบิดน�้าตาออกมาทุกขณะ แม้กระทั่งรูธยังตัวสั่น จากนั้น คนหนึ่งในพวกเรา ฉันคิดว่าเป็นลอรา ก็พูดออกมาว่า “ถ้าหล่อนไม่ชอบพวกเรา แล้วท�าไมถึงต้องมาเอาผลงานของพวกเรา 53

NeverLetMeGo.indb 53

9/8/11 1:19 PM


คำสึโอะ อิชิงุโระ

ไปด้วย? ท�าไมหล่อนไม่ปล่อยเราไว้ห่างๆ? ใครขอให้หล่อนมายุ่งที่นี่เหรอ?” ไม่มีใครตอบ เราเดินต่อไปยังโรงพละโดยไม่พูดอะไรถึงเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นอีก เมื่อมองย้อนกลับไปจากตอนนี้ ฉันเข้าใจได้ว่าเรายังเล็กเหลือเกินตอน ที่รู้เรื่องบางอย่างของตัวเราเอง ว่าเราเป็นใคร เราแตกต่างจากครูผู้ปกครอง แตกต่างจากคนข้างนอกอย่างไร ทว่าเรายังไม่เข้าใจความหมายของมันเลย ฉัน แน่ใจว่า ในวัยเด็กของคุณเอง คุณก็ต้องมีประสบการณ์แบบของพวกเราใน วันนัน้ แม้ในรายละเอียดจะไม่เหมือนกัน แต่ความรูส้ กึ ภายในก็ตอ้ งใกล้เคียงกัน เพราะไม่ว่าครูผู้ปกครองของคุณจะพยายามเตรียมตัวคุณดีแค่ไหน การพูดคุย วีดีโอ การถกเถียง ค�าเตือนทั้งหมดนี้ล้วนไม่สามารถท�าให้คุณอุ่นใจได้ ไม่แม้ คุณจะอายุแปดขวบ และคุณอยู่รวมกันในสถานที่อย่างเฮลแชม เมื่อคุณมีครู ผู้ปกครองแบบที่เรามี เมื่อพวกคนสวนและคนส่งของพูดตลกและหัวเราะกับคุณ พร้อมกับเรียกคุณว่า ‘ที่รัก’ ไม่ว่าอย่างไร บางอย่างต้องมีทางไปที่ไหนสักแห่ง มันต้องไปสักที่ เพราะเมื่อช่วงเวลานั้นมาถึง มีบางส่วนในตัวคุณก�าลังรอคอยอยู่ อาจจะตั้งแต่ ตอนที่คุณอายุแค่ห้าหรือหกขวบ ที่มีเสียงกระซิบในหัวของคุณว่า “วันหนึ่ง อาจ ไม่นานนับจากนี้ เธอจะรูว้ า่ มันรูส้ กึ เช่นไร” คุณจึงเฝ้ารอ แม้คณ ุ จะไม่คอ่ ยรูอ้ ะไร นัก รอให้ถึงเวลาที่คุณตระหนักรับรู้ว่า คุณแตกต่างจากพวกเขามากแค่ไหน รู้ว่ามีคนอยู่ข้างนอกนั่น คนเช่นมาดาม คนที่ไม่ได้เกลียดคุณ หรือมุ่งร้ายใดๆ ต่อคุณ แต่ก็เป็นคนที่ตัวสั่นเมื่อคิดถึงคุณ คิดถึงว่าคุณถูกน�ามายังโลกนี้อย่างไร และเพราะเหตุใด และคนที่หวาดหวั่นกับความคิดว่ามือคุณจะสัมผัสต้องมือเขา ครั้งแรกที่คุณมองเห็นตัวคุณอยู่ในแววตาคนเช่นนั้น มันเป็นช่วงขณะที่เย็นเยียบ จับขั้วหัวใจ มันเหมือนกับการเดินผ่านกระจกที่คุณเดินผ่านเป็นประจ�าทุกวัน ตลอดชีวติ แล้วทันใดนัน้ มันกลับสะท้อนให้คณ ุ เห็นอะไรบางอย่างอีก บางอย่าง ที่ช่างรบกวนจิตใจ และแสนประหลาด

54

NeverLetMeGo.indb 54

9/8/11 1:19 PM


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.