ระบำดวงวดึงส์

Page 1

ระบำดำวดึงส์ ชื่อ

ระบำดำวดึงส์

ประเภทการแสดง ระบำ ประวัตทิ ี่มา

ระบำดำวดึงส์ เป็ นกำรแสดงมำตรฐำนที่เป็ นฉบับไทยอีกชุดหนึ่ง ซึ่ งสมเด็จเจ้ำฟ้ ำ กรมพระยำนริ ศรำนุวตั ติวงศ์ได้ทรงนิพนธ์บทร้องขี้ประกอบกำรแสดงในบท ละครดึกดำบรรพ์ เรื่ องสังข์ทอง ตอนที่ ๒ ตอนตีคลี ฉำกดำวดึงส์ ในฉำกนี้ มีพระ อินทร์ กบั พระมเหสี ประทับอยูบ่ นแท่น พระวิศนุกรรม และพระมำตุลี นัง่ อยูช่ ้นั ลดสองข้ำง พวกคนธรรพ์ประจำเครื่ องดนตรี อยูด่ ำ้ นหน้ำ เหล่ำเทวดำนำงฟ้ ำเข้ำ นัง่ เฝ้ ำสองข้ำง เริ่ มเปิ ดฉำกเหล่ำเทวดำนำงฟ้ ำก็จบั ระบำถวำย

กำรแสดงเรื่ องนี้จดั แสดงที่ดรงละครดึกดำบรรพ์ ริ มถนนอัษฎำงค์ (วังบ้ำนหม้อ) ปลำยสมัย พระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยูห่ วั รัชกำลที่ ๕ แห่งกรุ งรัตนโกสิ นทร์ เนื้อร้องของระบำพรรณนำถึง ควำมงดงำมควำมโอฬำรของสวรรค์ช้นั ดำวดึงส์ และควำมมโหฬำรตระกำรตำในทิพย์สมบัติของพระ อินทร์ ตลอดจนควำมงดงำมของเหล่ำเทวดำนำงฟ้ ำในสรวงสวรรค์ หม่อมเข็ม กุญชร ณ อยุธยำ (หม่อมเจ้ำ ในพระยำเทเวศร์ วงศ์วิวฒั น์) เป็ นผูค้ วบคุมฝึ กหัดคิดท่ำรำ ต่อมำกำรแสดงชุดนี้ได้นำมำจัดเป็ นชุดเอกเทศ จึงนำออกด้วยเพลงเหำะ และรำตำมเนื้อร้องในเพลง ตะเขิ่ง, เจ้ำเซ็น แล้วจบท้ำยด้วยเพลงรัว นับเป็ นระบำชุดหนึ่งที่ได้ปรับปรุ งทำงดนตรี และทำงรำให้ได้ กะทัดรัด จนเป็ นนำฏศิลป์ ไทยชุดหนึ่งที่ได้ยึดถือเป็ นแบบระบำแสดงควำมรื่ นเริ งบันเทิงใจ ซึ่ งศิลปิ นได้ อนุรักษ์ไว้เป็ นแบบแผนสื บต่อมำจนถึงทุกวันนี้


รูปแบบ และลักษณะการแสดง เป็ นกำรรำของเหล่ำเทวดำนำงฟ้ ำ ลักษณะท่ำรำที่สำคัญ คือท่ำรำจะไม่มีควำมหมำยตรงกับ เนื้อร้อง แต่จะเป็ นท่ำรำที่มีควำมสอดคล้องกลมกลืนกันตลอดทั้งเพลง ข้อสังเกตอีกประกำรหนึ่งคือ ท่ำรำบำงท่ำได้ปรับปรุ งเลียนแบบท่ำเต้นในพิธีแขกเจ้ำเซ็น ได้แก่ กำรใช้ท่ำรำยกมือขึ้นประสำน ไขว้กนั ไว้ที่อก และขยับฝ่ ำมือตบอกเบำ ๆ ตำมจังหวะพร้อมกำรเคลื่อนเท้ำไปด้วย กล่ำวกันมำว่ำท่ำ รำแบบนี้ เจ้ำฟ้ ำกรมหลวงพิทกั ษ์มนตรี พระอนุชำของสมเด็จพระศรี สุริเยนทรำมำตย์ พระบรม รำชินีในพระบำทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้ำนภำลัย รัชกำลที่ ๒ ทรงประดิษฐ์ข้ ึน เมื่อประมำณสอง ร้อยกว่ำปี มำแล้ว โดยทรงเลียนแบบมำจำกกำรเต้นทุบอกในพิธีเต้นเซ็นของชนนับถือลัทธิศำสนำ อิสลำมนิกำยเจ้ำ เซนวึ่งใรั่งเรี ยกว่ำ Shiites โดยทรงปรับท่ำทำงให้ดูน่มุ นวลอ่อนช้อยไปตำมหลักนำฏศิลป์ ไทย


ระบาดาวดึงส์ ระบำดำวดึงส์เป็ นระบำมำตรฐำนที่สร้ำงสรรค์รูปแบบท่ำรำใหม่ แตกต่ำงจำกระบำมำตรฐำนแบบ ดั้งเดิม เช่น ระบำสี่ บทที่ท่ำรำตีบทควำมหมำยของคำร้องระบำดำวดึงส์เป็ นระบำประกอบในกำร แสดงละครดึกดำบรรพ์เรื่ องสังข์ทอง ตอนตีคลี ซึ่ งจัดแสดงที่โรงละครดึกดำบรรพ์ วังบ้ำนหม้อ ปลำยสมัยสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยูห่ วั รัชกำลที่ ๕ แห่งกรุ งรัตนโกสิ นทร์ บทร้องเป็ นพระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้ำบรมวงศ์เธอเจ้ำฟ้ ำกรมพระยำนริ ศรำนุวดั ติวงศ์ พรรณนำถึงควำมงดงำมโอฬำรของสวรรค์ช้นั ดำวดึงส์และทิพยสมบัติของพระอินทร์ หม่อมเข็ม กุญชร ณ อยุธยำ ได้ปรับปรุ งท่ำรำเลียนแบบท่ำเต้นในพิธีแขกเจ้ำเซ็นซึ่ งเจ้ำฟ้ ำกรมหลวงพิทกั ษ์ มนตรี ทรงประดิษฐ์ในรัชสมัยพระบำทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้ำนภำลัย ดนตรี ที่ใช้ประกอบกำรแสดงชุดนี้ ใช้วงปี่ พำทย์ดึกดำบรรพ์ซ่ ึ งสมเด็จฯ เจ้ำฟ้ ำกรมพระยำ นริ ศรำนุวดั ติวงศ์ทรงปรับปรุ งแตกต่ำงจำกวงปี่ พำทย์เครื่ องคู่และเครื่ องใหญ่ คือ ลดเครื่ องดนตรี บำงชิ้นให้มีเสี ยงทุม้ นุ่มนวล ไม่แกร่ งกร้ำวเสียงแหลมสูง เครื่ องบรรเลง ได้แก่ ระนำดเอกตีดว้ ยไม้ นวม ระนำมทุม้ ระนำดทุม้ เหล็ก ฆ้องวงใหญ่ ขลุย่ เพียงออ ขลุ่ยอู้ ซออู้ ตะโพน กลองตะโพนคู่ ( ถอดเท้ำตั้งขึ้นตีแทนกลองทัด ) ฉิ่ ง ฆ้องหุ่ยเจ็ดลูก (๗ เสี ยงเรี ยงลำดับ) กลองแขก ทำนองเพลง ประกอบลีลำท่ำรำ คือ เพลงเหำะ เพลงตะเขิ่ง เพลงเจ้ำเซ็น เพลงรัว ในส่วนของกำรแต่งกำย ตัวพระเทพบุตร แต่งกำยยืนเครื่ องเต็มตัว นุ่งผ้ำยกตีปีกจีบโจงไว้ หำงหงส์ทบั บนสนับเพลำเชิงงอน สวมเสื้ อรัดรู ปปักดิ้นเลื่อมลำยกนกแขนสั้นเหนือศอก ติดกนก ปลำยแขน สวมเครื่ องประดับถนิมพิมพำภรณ์ครบชุด ศิรำภรณ์ชฎำยอดชัย ตัวนำงอัปสร แต่งกำย ยืนเครื่ องนำงเต็มตัว นุ่งผ้ำยกจีบหน้ำนำงทิ้งชำยพก สวมเสื้ อในนำงรัดรู ป ห่มผ้ำห่มนำงเต็มผืนปัก ดิ้นเลื่อมลำยกนก สวมเครื่ องประดับถนิมพิมพำภรณ์ครบชุด ศิรำภรณ์มงกุฎกษัตริ ย ์ ลีลำท่ำรำจะ ผสมผสำนนำฏศิลป์ ไทยกับท่ำเต้นทุบอกในพิธีแขกเจ้ำเซ็น ท่ำรำเข้ำคู่พระ - นำง ในรู ปแบบรำหมู่


เพลงเหำะ รัว ใช้แม่ท่ำนำฏศิลป์ ไทย ต่อจำกนั้นเป็ นกำรผสมผสำนท่ำรำไทยกับท่ำเต้นในพิธีเจ้ำเซ็น ซึ่ งดูสง่ำงำม กำรแสดงชุดนี้ใช้เวลำแสดงประมำณ ๘ นำที

บทร้ อง ดำวดึงส์เทวโลกมโหฬำร เป็ นที่อยูส่ ำรำญฤทัยหรรษ์ สำรพัดงำมจริ งทุกสิ่งอัน สำรพันอุดมสมใจปอง เทพบุตรผุดพรรณโฉมยง งำมทรงอำภรณ์ไม่มีหมอง นำงอัปสรงอนสงวนนวลละออง งำมทรงเครื่ องทองและเพชรนิล สมเด็จพระอัมริ นทร์ปิ่นมงกุฎ ทรงวชิรำวุธธนูศิลป์ รักษำเทวสี มำเป็ นอำจิณ อสุรินทร์ อรี ไม่บีฑำ (ซ้ ำ) อันอินทรปรำสำททั้งสำม (ซ้ ำ) ทรงงำมสูงเงื้อมกลำงเวหำ สี่ มุขหุ้มมำศสะอำดตำ ใบระกำแกมแก้วประกอบกัน ช่อฟ้ ำช้อยเฟื้ อยเฉื่ อยชด (ซ้ ำ) บรำลีที่ลดมุขกระสัน (ซ้ ำ) มุขเด็ดทองคำดกนกพัน บุษบกสุวรรณชำมพูนุท (ซ้ ำ) รำชยำนเวชยันตร์ รถแก้ว (ซ้ ำ) เพริ ศแพร้วกำกงอลงกต (ซ้ ำ) แอกงอนอ่อนสลวยชวยชด (ซ้ ำ) เครื อขดช่อตั้งบัลลังก์ลอย รำยรู ปสิ งห์อดั หยัดยัน สุบรรณจับนำคหิ้ วเศียรห้อย (ซ้ ำ)


ดุมพรำววำววับประดับพลอย แปรกแก้วกำบช้อยสะบัดบัง เทียมด้วยสิงธพเทพบุตร ทั้งสี่ บริ สุทธิ์ดงั่ สี สงั ข์ มำตลีอำจขี่ขบั ประดัง ให้รีบรุ ดสุดกำลังดังลมพำ


ชื่อสมาชิก 1. นางสาว ภีรดา ศตสุขกิตต์ 2. นางสาว ฐิติมา ตุรงค์เรือง คณะ วิทยาลัยการฝึกหัดครู สาขา นาฏศิลป์ไทย


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.