21_

Page 1

21st Century Skills: The Challenges Ahead 1

เอกสารประกอบ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ความท้าทายในอนาคต 21st Century Skills: The Challenges Ahead

ดร. ศิริวรรณ ฉัตรมณีรุ่งเจริญ นางสาววรางคณา ทองนพคุณ

คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต


21st Century Skills: The Challenges Ahead 2

คานา เอกสารฉบับนี้ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต และสานักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษา จังหวัด พังงา กระบี่ และภูเก็ต ได้ร่วมมือวางแผนและ สรุปสาระสาคัญจากหนังสือ เอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนการสร้างและพัฒนารูปแบบการ พัฒนาวิชาชีพครู โดยประเด็นเรื่องทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นกรอบการพัฒนา และเป็นเป้าหมายหนึ่งในการพัฒนาวิชาชีพครูครั้งนี้ โดยเอกสารฉบับนี้ประกอบด้วยเอกสาร เนื้อหา แผนการจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการฯ และแบบบันทึกกิจกรรม เพื่อใช้ในการประชุมเชิง ปฏิบัติการ “ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ความท้ายทายในอนาคต (21st Century Skills: The Challenges Ahead )” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างและพัฒนารูปแบบหรือโปรแกรม สาหรับพัฒนาวิชาชีพครูระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาโดยใช้รูปแบบ Coaching ที่เน้นการ พัฒนาชุมชุนแห่งการเรียนรู้ (Professional Learning Development) เน้นกระบวนการพัฒนา ครูในโรงเรียน (School-based Practicum) เพื่อก่อให้เกิดชุมชนแห่งวิชาชีพ (Professional Community) ซึ่งสามารถขยายสู่การเรียนรู้และสร้างชุมชนระหว่างโรงเรียนหรือองค์กรและ หน่วยงานอื่น ๆ ได้ โดย เนื้อหาหลักในเอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏิบัติการฯนี้ นาเสนอใน ประเด็นของ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21: สาคัญอย่างไร คืออะไร และจะทาสาเร็จได้อย่างไร การ จัดการเรียนรู้ที่สามารถสะท้อนถึงการปลูกฝังทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 แก่ผู้เรียน กรณีศึกษาที่เน้น เรื่องการเรียนรู้จากรากฐานปัญหา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารฉบับนี้จะเป็น ประโยชน์ต่อผู้ได้รับ และขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่มีส่วนช่วยให้เกิดการพัฒนา เอกสารชุดนี้ขึ้นมา “ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ความท้ายทายในอนาคต (21st Century Skills: The Challenges Ahead)” ได้อย่างสาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี คณะผู้จัดทา


21st Century Skills: The Challenges Ahead 3

สารบัญ บทนา

ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21: ทักษะเพื่อการดารงชีวิตในศตวรรษที่ สาคัญอย่างไร คืออะไร และ 21 จะทาสาเร็จได้อย่างไร แนวคิดทักษะแห่งอนาคตใหม่: การ เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และกรอบ แนวคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สอนอย่างไรให้นักเรียนได้ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21

หลักสูตรแบบไหนที่เหมาะสม วิธีการสอนสาหรับ 21 Century Skills ครูต้องวัดและประเมินผลการเรียนรู้ นักเรียนอย่างไร

การนาทฤษฎีไปใช้ใน ตัวอย่างกิจกรรมการจัดการ กิจกรรมที่ 1 จัตุรัสพิศวง การปฏิบัติ เรียนรู้ กิจกรรมที่ 2 Magic Box กิจกรรมที่ 3 เรื่องเล่าเช้านี้ กิจกรรมที่ 4 ปริศนาอาชีพ กิจกรรมที่ 5 Think about Words กิจกรรมที่ 6 Little Penguin กิจกรรมที่ 7 Food Designer กิจกรรมที่ 8 สะพานกระดาษ กิจกรรมที่ 9 ลอยหรือจม กิจกรรมที่ 10 กังหันมหัศจรรย์


21st Century Skills: The Challenges Ahead 4

กรณีตัวอย่าง

เอกสารอ้างอิง

กรณีศึกษา: การเรียนรู้จาก ปัญหา รากฐานสาหรับการ จัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริม ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21


21st Century Skills: The Challenges Ahead 5

บทที่ 1 ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21: สาคัญอย่างไร คืออะไร และจะทาสาเร็จได้อย่างไร ทักษะเพื่อการดารงชีวิตในศตวรรษที่ 21 (21st Century Skills) คืออะไร มีความสาคัญอย่างไร นางสาววรางคณา ทองนพคุณ อาจารย์สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ปัจจุบันเป็นยุคที่โลกมีความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว อันสืบเนื่องมาจากการใช้ เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ ของทุกภูมิภาคของโลกเข้าด้วยกัน กระแสการปรับเปลี่ยน ทางสังคมที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 21 ส่งผลต่อวิถีการดารงชีพของสังคมอย่างทั่วถึง ครูจึงต้อง มี ความตื่นตัวและเตรียมพร้อมในการจัดการเรียนรู้เพื่อเตรียมความพร้อมให้นักเรียน มีทักษะสาหรับ การออกไปดารงชีวิตในโลก ในศตวรรษที่ 21 ที่เปลี่ยนไปจากศตวรรษที่ 20 และ 19 โดยทักษะ แห่ง ศตวรรษที่ 21 ที่สาคัญที่สุด คือ ทักษะการเรียนรู้ (Learning Skill) ส่งผลให้มีการ เปลี่ยนแปลงการจัดการเรียนรู้เพื่อให้ เด็กในศตวรรษที่ 21 นี้ มีความรู้ ความสามารถ และทักษะ จาเป็น ซึ่งเป็นผลจากการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนการเตรียม ความพร้อมด้านต่างๆ ที่เป็นปัจจัยสนับสนุนที่จะทาให้เกิดการเรียนรู้ดังกล่าว ทักษะแห่ง ศตวรรษที่ 21 (21st Century Skills) วิจารณ์ พานิช (2555: 16-21) ได้กล่าวถึง ทักษะเพื่อการดารงชีวิตในศตวรรษที่ 21 ดังนี้ สาระวิชาหลัก (Core Subjects) ประกอบด้วย ภาษาแม่ และภาษาสาคัญของโลก ศิลปะ คณิตศาสตร์ การปกครองและหน้าที่พลเมือง เศรษฐศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์


21st Century Skills: The Challenges Ahead 6

โดยวิชาแกนหลักนี้จะนามาสู่การกาหนดเป็นกรอบแนวคิดและยุทธศาสตร์สาคัญ ต่อการจัดการเรียนรู้ในเนื้อหาเชิงสหวิทยาการ (Interdisciplinary) หรือหัวข้อสาหรับ ศตวรรษที่ 21 โดยการส่งเสริมความเข้าใจในเนื้อหาวิชาแกนหลัก และสอดแทรก ทักษะ แห่งศตวรรษที่ 21 เข้าไปในทุกวิชาแกนหลัก ดังนี้ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ความรู้เกี่ยวกับโลก (Global Awareness) ความรู้เกี่ยวกับการเงิน เศรษฐศาสตร์ ธุรกิจ และการเป็นผู้ประกอบการ (Financial, Economics, Business and Entrepreneurial Literacy) ความรู้ด้านการเป็นพลเมืองที่ดี (Civic Literacy) ความรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Literacy) ทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม จะเป็นตัวกาหนดความพร้อมของนักเรียนเข้าสู่โลกการ ทางานที่มีความซับซ้อนมากขึ้นในปัจจุบัน ได้แก่ ความริเริ่มสร้างสรรค์และนวัตกรรม การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา การสื่อสารและการร่วมมือ ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี เนื่องด้วยในปัจจุบันมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่าน ทางสื่อและเทคโนโลยีมากมาย ผู้เรียนจึงต้องมีความสามารถในการแสดงทักษะการคิดอย่างมี วิจารณญาณและปฏิบัติงานได้หลากหลาย โดยอาศัยความรู้ในหลายด้าน ดังนี้ ความรู้ด้านสารสนเทศ ความรู้เกี่ยวกับสื่อ ความรู้ด้านเทคโนโลยี ทักษะด้านชีวิตและอาชีพ ในการดารงชีวิตและทางานในยุคปัจจุบันให้ประสบความสาเร็จ นักเรียนจะต้องพัฒนาทักษะชีวิตที่สาคัญดังต่อไปนี้ ความยืดหยุ่นและการปรับตัว การริเริ่มสร้างสรรค์และเป็นตัวของตัวเอง


21st Century Skills: The Challenges Ahead 7

ทักษะสังคมและสังคมข้ามวัฒนธรรม การเป็นผู้สร้างหรือผู้ผลิต (Productivity) และความรับผิดชอบเชื่อถือได้ (Accountability) ภาวะผู้นาและความรับผิดชอบ (Responsibility) ทักษะของคนในศตวรรษที่ 21 ที่ทุกคนจะต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต คือ การเรียนรู้ 3R x 7C 3R คือ Reading (อ่านออก), (W)Riting (เขียนได้) , และ (A)Rithemetics (คิดเลขเป็น) 7C ได้แก่ Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมี วิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปญ ั หา) Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม) Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ต่าง กระบวนทัศน์) Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การ ทางานเป็นทีม และภาวะผู้นา) Communications, Information, and Media Literacy (ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรูเ้ ท่าทันสื่อ) Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร) Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้)


21st Century Skills: The Challenges Ahead 8

แนวคิดทักษะแห่งอนาคตใหม่: การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และกรอบแนวคิดเพื่อการเรียนรู้ใน ศตวรรษที่ 21 การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เป็นการกาหนดแนวทางยุทธศาสตร์ในการจัดการเรียนรู้ โดย ร่วมกันสร้างรูปแบบและแนวปฏิบัติในการเสริมสร้างประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ใน ศตวรรษที่ 21 โดยเน้นที่องค์ความรู้ ทักษะ ความเชี่ยวชาญและสมรรถนะที่เกิดกับตัวผู้เรียน เพื่อ ใช้ในการดารงชีวิตในสังคมแห่งความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน โดยจะอ้างถึงรูปแบบ (Model) ที่ พัฒนามาจากเครือข่ายองค์กรความร่วมมือเพื่อทักษะแห่งการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (Partnership For 21st Century Skills) (www.p21.org ) ที่มีชื่อย่อว่า เครือข่าย P21 ซึ่งได้ พัฒนากรอบแนวคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยผสมผสานองค์ความรู้ ทักษะเฉพาะด้าน ความชานาญการและความรู้เท่าทันด้านต่างๆ เข้าด้วยกัน เพื่อความสาเร็จของผู้เรียนทั้งด้านการ ทางานและการดาเนินชีวิต กรอบแนวคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 กรอบแนวคิดในการจัดการเรียนรู้ แห่งศตวรรษที่ 21 ที่แสดงผลลัพธ์ของนักเรียนและปัจจัย ส่งเสริมสนับสนุนในการจัดการเรียนรู้เพื่อรองรับศตวรรษที่ 21

ภาพ กรอบแนวคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (21st Century Learning Framework) (http://www.qlf.or.th/)


21st Century Skills: The Challenges Ahead 9

กรอบแนวคิดเชิงมโนทัศน์สาหรับ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เป็นที่ยอมรับในการสร้างทักษะ การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (Model of 21st Century Outcomes and Support Systems) ซึ่ง เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางเนื่องด้วยเป็นกรอบแนวคิดที่เน้นผลลัพธ์ที่เกิดกับผู้เรียน (Student Outcomes) ทั้งในด้านความรู้สาระวิชาหลัก (Core Subjects) และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ที่ จะช่วยผู้เรียนได้เตรียมความพร้อมในหลากหลายด้าน รวมทั้งระบบสนับสนุนการเรียนรู้ ได้แก่ มาตรฐานและการประเมิน หลักสูตรและการเยนการสอน การพัฒนาครู สภาพแวดล้อมที่ เหมาะสมต่อการเรียนในศตวรรษที่ 21 การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ต้องก้าวข้าม “สาระวิชา” ไปสู่การเรียนรู้ “ทักษะแห่ง ศตวรรษที่ 21” (21st Century Skills) ซึ่งครูจะเป็นผู้สอนไม่ได้ แต่ต้องให้นักเรียนเป็นผู้เรียนรู้ ด้วยตนเอง โดยครูจะออกแบบการเรียนรู้ ฝึกฝนให้ตนเองเป็นโค้ช (Coach) และอานวยความ สะดวก (Facilitator) ในการเรียนรู้แบบ PBL (Problem-Based Learning) ของนักเรียน ซึ่งสิ่งที่ เป็นตัวช่วยของครูในการจัดการเรียนรู้คือ ชุมชนการเรียนรู้ครูเพื่อศิษย์ (Professional Learning Communities : PLC) เกิดจากการรวมตัวกันของครูเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทาหน้าที่ ของครูแต่ละคนนั่นเอง


21st Century Skills: The Challenges Ahead 10

แผนการอบรมกิจกรรมที่ 1 ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 (21 Century Skills) ชื่อกิจกรรม 21st Century Skills Jigsaw จุดประสงค์ 1.

กระตุ้นความสนใจและการมีส่วนร่วมผู้เข้ารับการอบรม

2.

ตรวจสอบความรู้เดิมเกี่ยวกับทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ของผู้เข้ารับการอบรม

ขั้นตอนดาเนินกิจกรรม 1. วิทยากรหาความรู้เดิมของผู้เข้ารับการอบรมเกี่ยวกับทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 และปัจจัยที่ มีผลต่อการเกิดทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 โดยนาเสนอรูปภาพที่ 1 ”ทักษะของคนใน ศตวรรษที่ 21” ให้ผู้เข้ารับการอบรมแบ่งกลุ่มกลุ่มละ 5-6 คน ร่วมกันอภิปรายและแสดง ความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปภาพ แล้วบันทึกลงในกระดาษที่แจกให้

รูปภาพที่ 1 ”ทักษะของคนในศตวรรษที่ 21” (http://romanpaduka1.wordpress.com/)


21st Century Skills: The Challenges Ahead 11

2. เมื่อหมดเวลาวิทยากรและผู้เข้ารับการอบรมร่วมกันอภิปรายสิ่งที่เกี่ยวกับความหมายและ ความสาคัญของทักษะต่างๆ ที่ส่งผลต่อตัวนักเรียน 3. วิทยากรนาเสนอรูปภาพที่ 2 “กรอบแนวคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21” ให้ผู้เข้ารับ การอบรมแบ่งกลุ่มกลุ่มละ 5-6 คน ร่วมกันอภิปรายและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ ความหมายและความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปภาพ แล้วบันทึกลงในกระดาษที่แจกให้ 4.

รูปภาพที่ 2 “กรอบแนวคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21” 5. เมื่อหมดเวลาวิทยากรและผู้เข้ารับการอบรมร่วมกันอภิปรายเปรียบเทียบความเหมือนและ ความแตกต่าง บันทึกลงในกระดาษที่แจกให้และร่วมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ภายในกลุ่ม 6. วิทยากรอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ซึ่งประกอบไปด้วย การเรียนรู้ 3R x 7C โดยเน้นในความสามารถด้านการอ่านออกเขียนได้ (Literacy), การคิดคานวณ (Numeracy), และ ความสามารเชิงเหตุผล (Reasoning Ability) ที่เหมาะสมตาม ระดับชั้นของผู้เรียน 7. วิทยากรและผู้เข้ารับการอบรมร่วมกันอภิปรายเพื่อสรุปการทากิจกรรม โดยใช้คาถาม ต่อไปนี้


21st Century Skills: The Challenges Ahead 12

คาถาม จากกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนโดยเน้นให้ผู้เรียนเกิดทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จะมี การพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนให้มีทักษะใดบ้าง คาตอบ ครูผู้สอนนอกจากเป็นผู้มอบความรู้ผ่านการสอนให้กับนักเรียนเพียงอย่างเดียว แต่ครูยัง ต้องเป็นผู้ออกแบบกระบวนการเรียนรู้ที่จะทาให้นักเรียนเกิดทักษะในการแสวงหาความรู้ด้วย ตนเอง นอกจากความรู้ในแต่ละสาขาวิชาแล้ว นักเรียนยังต้องมีทักษะที่สาคัญ 3 ด้าน คือ 1. ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม นั่นคือ การคิดวิเคราะห์เป็น รู้จักการแก้ไขปัญหา และมีความคิด สร้างสรรค์ 2.ทักษะชีวิตและอาชีพ โดยเน้นการทางานร่วมกับผู้อื่น มีภาวะผู้นาและความ รับผิดชอบ มีทักษะทางสังคมและเข้าใจความแตกต่างทางวัฒนธรรม และ 3.ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี กล่าวคือ ความสามารถในการใช้สื่อหรือเทคโนโลยีในการค้นหาข้อมูลรวมทั้ง การผลิตสื่อ หรือเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ ทั้ง 3 ทักษะนี้เรียกรวมกันเป็นทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ซึ่งถือเป็นทักษะของกาลังคนที่ประเทศทั่วโลกและประเทศในกลุ่มประชาคมอาเซียน มีความ ต้องการและให้การยอมรับ


21st Century Skills: The Challenges Ahead 13

บทที่ 2 สอนอย่างไรให้นักเรียนได้ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ดร. ศิริวรรณ ฉัตรมณีรุ่งเจริญ อาจารย์สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต

จากวิสยั ทัศน์ในบทที่ 1 หลายคนมีคาถามเกิดขึ้น “การศึกษาในศตวรรษที่ 21 ควรจะมี ลักษณะอย่างไร ” โดยที่การศึกษาในประเทศไทยนั้นได้ยึดหลักของการจัดการเรียนการสอนที่ เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ตามความคิดของนักคอนสตรัคติวิสต์ (Constructivist) ที่เชื่อว่าการ เรียนรู้เกิดจากการที่ผู้เรียนเป็นผู้สร้างความรู้ นักจิตวิทยาที่มีอิทธิพลต่อการจัดการเรียนรู้ที่เน้น ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง คือ Piaget นักจิตวิทยาชาวสวิส และ Vygotsky นักจิตวิทยาชาวรัสเซีย Piaget เน้นการมีปฏิสัมพันธ์ที่ช่วยให้เกิดการปรับเปลี่ยนโครงสร้างความรู้ความคิด

เกิดการ

เชื่อมโยงประสบการณ์เดิมกับประสบการณ์ใหม่ ส่วน Vygotsky อธิบายหลักการสาคัญว่าผู้เรียน จะมีความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองได้ในระดับหนึ่ง

และจะสามารถก้าวไปยังระดับการ

เรียนรู้ที่สูงขึ้นตามศักยภาพที่มีอยู่เมื่อได้รับการแนะนาช่วยเหลือจากผู้รู้

แนวความคิดของทั้ง

Piaget และ Vygotsky มีส่วนที่คล้ายคลึงกันตรงการมีปฏิสัมพันธ์เพื่อนาสู่การเชื่อมโยงระหว่าง ประสบการณ์เดิมและประสบการณ์ใหม่ และการไปถึงระดับที่ผู้เรียนมีศักยภาพ แต่เมือ่ ยุคสมัยเปลี่ยนแปลง ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีท่เี กิดขึ้น ทาให้วงการ การศึกษาในประเทศไทยจาเป็นต้องตอบสนองต่อความท้าทายที่ต้องเผชิญอยู่นี้ เราต้องการ รูปแบบการทางานที่สามารถพัฒนากรอบความคิดเพื่อการเรียนรู้แห่งศตวรรษที่ 21 เพื่อที่สามารถ จัดการศึกษาตอบสนองต่อความต้องการที่กาลังเปลี่ยนแปลงของสังคมซึ่งเยาวชนไทยกาลังเผชิญ อยู่ จากบทแรกเราทราบนิยามของทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ในบทนี้เราจะมาตีความหมายและ พยายามทาความเข้าใจว่าครูที่มีหน้าที่สอนนั้นจะออกแบบบทเรียนอย่างไรเพื่อให้นักเรียนสามารถ บรรลุเป้าหมายเกิดทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เมื่อเราอ่านนิยามของทักษะแห่งศตรรษที่ 21 จะเห็น ได้มุมมองของนักการศึกษาที่ต้องการให้นักเรียนในอนาคตมีคุณลักษณะดัง 4 ประการนี้


21st Century Skills: The Challenges Ahead 14

1. วิถีทางของการคิด ได้แก่ สร้างสรรค์ คิดวิจารณญาณ การแก้ปัญหา การเรียนรู้และ ตัดสินใจ (Ways of Thinking. Creativity, Critical Thinking, Problem-solving, decision- Making and Learning) 2. วิถีทางของการทางาน ได้แก่ การติดต่อสื่อสาร และการร่วมมือ (Ways of Working. Communication and Collaboration) 3. เครื่องมือสาหรับการทางาน ได้แก่ เทคโนโลยีสารสนเทศ และความรู้ด้านข้อมูล (Tools for Working. Information and Communications Technology (ICT) and Information Literacy) 4. ทักษะสาหรับดารงชีวิตในโลกปัจจุบัน ได้แก่ ความเป็นพลเมือง ชีวิตและอาชีพ และ ความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม (Skills for Living in the World. Citizenship, Life and Career, and Personal and Social Responsibility) จากการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและสภาพแวดล้อมในยุคปัจจุบนั ทาให้การจัดการ เรียนการสอนต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น โดยนักการศึกษาได้มีการนาเสนอหลักการเรียนรู้ใน ศตวรรษที่ 21 ซึ่งสามารถสรุปประเด็นสาคัญของลักษณะการจัดการเรียนรู้ได้ดังนี้ 1. มนุษย์มีรูปการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ผู้สอนจึงต้องใช้วิธีการสอนที่หลากหลาย หากผู้สอน นารูปแบบการเรียนรู้แบบใดแบบหนึ่งไปใช้กับผุ้เรียนทุกคนตลอดเวลา อาจทาให้ผู้เรียน บางคนเกิดอาการตายด้านทางสติปัญญา 2. ผู้เรียนควรเป็นผู้กาหนดองค์คสามรู้ของตนเอง ไม่ใช่นาความรู้ไปใส่และให้ผู้เรียนดาเนิน รอยตามผู้สอน 3. โลกยุคใหม่ต้องการผู้เรียนซึ่งมีวินัย มีพฤติกรรมที่รู้จักยืดหยุ่นหรือปรับเปลี่ยนให้เข้ากับ สถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นแบบเผด็จการ แบบให้อิสระ หรือแบบประชาธิปไตย 4. เนื่องจากข้อมูลข่าวสารในโลกจะทวีเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ทุกๆ 10 ปี โรงเรียนจึงต้องใช้วิธี สอนที่หลากหลาย โดยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ กัน


21st Century Skills: The Challenges Ahead 15

5. ให้ใช้กฎเหล็กของการศึกษาที่ว่า “ระบบที่เข้มงวดจะผลิตคนที่เข้มงวด” และ “ระบบที่ ยืดหยุ่นจะผลิตคนที่รู้จักคิดยืดหยุ่น ” 6. สังคม หรือชุมชนที่มั่งคง ร่ารวยด้วยข้อมูลข่าวสาร ทาให้การเรียนรู้สามารถเกิดขึ้นได้ใน หลายๆ สถานที่ 7. การเรียนรู้แบบเจาะลึก (Deep Learning) มีความจาเป็นมากกว่าการเรียนรฝฦแบบผิว เผิน (Shallow Learning) หมายความว่า จะเรียนอะไรต้องเรียนให้รู้จริง ให้รู้ลึก รู้รอบ ไม่ใช่เรียนแบบงูๆ ปลาๆ ดังจะเห็นจากในอดีตว่ามีการบรรจุเนื้อหาไว้ในหลักสูตรมาก เกินไป จนผู้เรียนไม่รู้ว่าเรียนไปเพื่ออะไร และสิ่งที่เรียนไปแล้วมีความสัมพันธ์อย่างไร ระบบส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 การพัฒนากรอบความคิดที่ครอบคลุมเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 นั้นจาเป็นต้อง จะต้องสร้างระบบส่งเสริมเพิ่มขึ้นจาก ทักษะเฉพาะด้าน องค์ความรู้ ความชานาญการและ ความสามารถในการเรียนรู้ด้านต่างๆ เพื่อช่วยให้นักเรียนรอบรู้ มีความสามารถที่จาเป็นและ หลากหลาย เครือข่าย P21 ได้ระบุระบบส่งเสริมให้นักเรียนได้รอบรู้ทักษะการเรียนรู้ที่สาคัญ ใน ศตวรรษที่ 21 ไว้ด้วยกัน 5 ระบบดังนี้: 1. มาตรฐานการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (21st Century Standards) 2. การประเมินผลทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (Assessments of 21st Century Skills) 3. หลักสูตรและวิธีการสอนในศตวรรษที่ 21 (21st Century Curriculum and Instruction) 4. การพัฒนาวิชาชีพในศตวรรษที่ 21 (21st Century Professional Development) 5. บรรยากาศการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (21st Century Learning Environments)


21st Century Skills: The Challenges Ahead 16

มาตรฐานในศตวรรษที่ 21 ( 21st Century Standards ) จุดเน้น 1). เน้นทักษะ ความรู้และความเชี่ยวชาญที่เกิดกับผู้เรียน 2). สร้างความรู้ความเข้าใจในการเรียนในเชิงสหวิทยาการระหว่างวิชาหลักที่เป็นจุดเน้น 3). มุ่งเน้นการสร้างความรู้และเข้าใจในเชิงลึกมากกว่าการสร้างความรู้แบบผิวเผิน 4). ยกระดับความสามารถผู้เรียนด้วยการให้ข้อมูลที่เป็นจริง การใช้สื่อหรือเครื่องมือที่มี คุณภาพจากการเรียนรู้ในสถานศึกษา การทางานและในการดารงชีวิตประจาวัน ผู้เรียนได้ เรียนรู้อย่างมีความหมายและสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ 5). ใช้หลักการวัดประเมินผลที่มีคุณภาพระดับสูง การประเมินทักษะในศตวรรษที่ 21 (Assessment of 21st Century Skills) จุดเน้น 1). สร้างความสมดุลในการประเมินผลเชิงคุณภาพ โดยการใช้แบบทดสอบมาตรฐานสา หรับการทดสอบย่อยและทดสอบรวมสาหรับการประเมินผลในชั้นเรียน 2). เน้นการนาประโยชน์ของผลสะท้อนจากการปฏิบัติของผู้เรียนมาปรับปรุงแก้ไขงาน 3). ใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับการทดสอบวัดและประเมินผลให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 4). สร้างและพัฒนาระบบแฟ้มสะสมงาน (Portfolios) ของผู้เรียนให้เป็นมาตรฐานและมี คุณภาพ (Edwards, 1950.) หลักสูตรและการสอนในศตวรรษที่ 21 ( 21st Century Curriculum and Instruction ) 1). การสอนให้เกิดทักษะการเรียนในศตวรรษที่ 21 มุ่งเน้นเชิงสหวิทยาการของวิชาแกน หลัก 2). สร้างโอกาสที่จะประยุกต์ทักษะเชิงบูรณาการข้ามสาระเนื้อหา และสร้างระบบการ เรียนรู้ที่เน้นสมรรถนะเป็นฐาน (Competency-based ) 3). สร้างนวัตกรรมและวิธีการเรียนรู้ในเชิงบูรณาการที่มีเทคโนโลยีเป็นตัวเกื้อหนุน การ เรียนรู้แบบสืบค้น และวิธีการเรียนจากการใช้ปัญหาเป็นฐาน ( Problem-based Learning ) เพื่อการสร้างทักษะขั้นสูงทางการคิด


21st Century Skills: The Challenges Ahead 17

การพัฒนาทางวิชาชีพในศตวรรษที่ 21 ( 21st Century Professional Development ) 1). จุดมุ่งหมายสาคัญเพื่อการสร้างครูให้เป็นผู้ที่มีทักษะความรู้ความสามารถในเชิงบูรณา การ การใช้เครื่องมือและกาหนดยุทธศาสตร์สู่การปฏิบัติในชั้นเรียน และสร้างให้ครูมีความ สามรรถในการวิเคราะห์และกาหนดกิจกรรมการเรียนรู้ได้เหมาะสม 2). สร้างความสมบูรณ์แบบในมิติของการสอนด้วยเทคนิควิธีการสอนที่หลากหลาย 3). สร้างให้ครูเป็นผู้มีทักษะความรู้ความสามารถในเชิงลึกเกี่ยวกับการแก้ปัญหา การคิด แบบวิจารณญาณ และทักษะด้านอื่นๆที่สาคัญต่อวิชาชีพ (Halpern. 1998) 4). เป็นยุคแห่งการสร้างสมรรถนะทางวิชาชีพให้เกิดขึ้นกับครูเพื่อเป็นตัวแบบ ( Model ) แห่งการเรียนรู้ของชั้นเรียนที่จะนาไปสู่การสร้างทักษะการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนได้ อย่างมีคุณภาพ 5). สร้างให้ครูเป็นผู้ที่มีความสามารถวิเคราะห์ผู้เรียนได้ทั้งรูปแบบการเรียน สติปัญญา จุดอ่อนจุดแข็งในตัวผู้เรียน เหล่านี้เป็นต้น 6). ช่วยให้ครูได้เกิดการพัฒนาความสามารถให้สูงขึ้นเพื่อนาไปใช้สาหรับการกาหนดกล ยุทธ์ทางการสอนและจัดประสบการณ์ทางการเรียนได้เหมาะสมกับบริบททางการเรียนรู้ 7). สนับสนุนให้เกิดการประเมินผู้เรียนอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างทักษะและเกิดการ พัฒนาการเรียนรู้ 8). แบ่งปันความรู้ระหว่างชุมชนทางการเรียนรู้โดยใช้ช่องทางหลากหลายในการสื่อสารให้ เกิดขึ้น 9). สร้างให้เกิดตัวแบบที่มีการพัฒนาทางวิชาชีพได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน สภาพแวดล้อมทางการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ( 21st Century Learning Environment ) 1). สร้างสรรค์แนวปฏิบัติทางการเรียน การรับการสนับสนุนจากบุคลากรและ สภาพแวดล้อมทางกายภาพที่เกื้อหนุน เพื่อช่วยให้การเรียนการสอนบรรลุผล 2). สนับสนุนทางวิชาชีพแก่ชุมชนทั้งในด้านการให้การศึกษา การมีส่วนร่วม การแบ่งปัน สิ่งปฏิบัติที่เป็นเลิศระหว่างกันรวมทั้งการบูรณาการหลอมรวมทักษะหลากหลายสู่การ ปฏิบัติในชั้นเรียน 3). สร้างผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากสิ่งที่ปฏิบัติจริงตามบริบท โดยเฉพาะการเรียนแบบ โครงงาน 4). สร้างโอกาสในการเข้าถึงสื่อเทคโนโลยี เครื่องมือหรือแหล่งการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ


21st Century Skills: The Challenges Ahead 18

5). ออกแบบระบบการเรียนรู้ที่เหมาะสมทั้งการเรียนเป็นกลุ่มหรือการเรียนรายบุคคล 6). นาไปสู่การพัฒนาและขยายผลสู่ชุมชนทั้งในรูปแบบการเผชิญหน้าหรือระบบออนไลน์ ที่กล่าวมาทั้งหมดในเบื้องต้นนั้น เป็นการสร้างกรอบแนวคิดของการพัฒนาทักษะการ เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ที่ผ่านกระบวนการวิจัยโดย Partnership for 21st Century Skills เป็นตัวแบบที่นาเสนอในรายละเอียดของตัวแปรหรือองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับ การพัฒนาศักยภาพทางการเรียนรู้ในสังคมยุคใหม่ที่ต้องคานึงถึง และต้องสร้างให้เกิด ขึ้นกับผู้เกี่ยวข้องกับการศึกษาทุกฝ่ายทั้งครู นักเรียน ผู้บริหาร ผู้ปกครอง ชุมชนและผู้มี ส่วนได้เสียทุกฝ่าย (Stakeholders)

แผนภาพที่ 2 ภาพแสดงความสัมพันธ์ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาในศตวรรษที่ 21 การสอนทีจ่ ดั ว่ามีประสิทธิภาพ ครูน้นั ต้องมีคณ ุ สมบัติมากกว่าการเป็นผู้ท่ที าหน้าที่สอน (Instructor) ครูต้องมีลักษณะของผู้ที่สามารถชี้แนะการเรียนรู้ (Learning Coaching) และ สามารถทาหน้าที่เป็นผู้นานักเรียนท่องเที่ยวไปสู่โลกแห่งการเรียนรู้ได้ (Learning Travel Agent) จากที่กล่าวมานั้นบทบาทของครูจากยุคสมัยก่อนจาเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อก้าวสู่ยุคแห่ง ศตวรรษที่ 21 ครูในโลกยุคใหม่ต้องมีความรอบรู้มากกว่าการเป็นผู้ดูแลรายวิชาที่สอนเท่านั้น แต่ ครูมีบทบาทของการเพิ่มพูนความรู้แก่นักเรียน เสริมสร้างทักษะที่จาเป็นต่อการประกอบอาชีพ


21st Century Skills: The Challenges Ahead 19

ในศตวรรษที่ 21 การจัดการเรียนรู้นั้นต้องมีความสัมพันธ์ มีขั้นตอนและกระบวนการที่เป็นลาดับที่ ผู้เรียนสามารถมีส่วนร่วมกับการเรียนการสอน เช่น การกาหนดปัญหาที่สนใจและการทากิจกรรม กลุ่ม เพื่อให้ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์และสามารถบูรณาการกับรายวิชาอื่นๆ ได้

ในศตวรรษที่ 21 ไอซีทีได้เข้ามาบทบาททางการศึกษาและเป็นส่วนหนึ่งของ ชีวิตประจาวันของคนทั่วโลก ไอซีทีในปัจจุบันจึงไม่ใช่เป็นเพียงแหล่งข้อมูลข่าวสาร เท่านั้น “ครูสามารถบูรณาการความก้าวหน้าทางไอซีทีกับการจัดการเรียนรู้ได้อย่างไร ” การเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยี (Technology-based Learning) ครอบคลุมวิธีการเรียนรู้ หลากหลายรูปแบบได้แก่ การเรียนรู้บนคอมพิวเตอร์ (Computer-based Learning) การเรียนรู้ บนเว็บ (Web-based Learning)ห้องเรียนเสมือนจริง (Virtual Classrooms) ความร่วมมือ ดิจิตอล (Digital Collaboration) เป็นต้นผู้เรียนสามารถเรียนรู้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท เช่น อินเทอร์เน็ต (Internet) อินทราเน็ต (Intranet) เอ็กซ์ทราเน็ต (Extranet) การถ่ายทอดผ่าน ดาวเทียม (Satellite broadcast) แถบบันทึกเสียงและวิดีทัศน์ (Audio/Video Tape) โทรทัศน์ที่ สามารถโต้ตอบกันได้ (Interactive TV) และซีดีรอม (CD- ROM) การเรียนรู้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีความสาคัญมากขึ้นเป็นลาดับแต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเปลี่ยนแปลง อย่างไม่หยุดนิ่งของเทคโนโลยี ทาให้ผู้สอนจาเป็นต้องศึกษา หาความรู้และเตรียมพร้อมตนเอง เพื่อให้สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเหล่านี้ในการเรียนการสอนวิธีการเตรียมตัวในการ ใช้เทคโนโลยีในการสอนคือ เทคนิครู้เขารู้เรา โดยสิ่งที่ครูต้องรู้มี 2 ประการคือ (1) การรู้และเข้าใจ ศักยภาพของทรัพยากรที่โรงเรียนมี เช่น ครูต้องรู้ว่าในโรงเรียนมีอะไรที่สามารถใช้เป็นประโยชน์ ในการเรียนการสอนโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้ โดยปกติแล้วสิ่งที่โรงเรียนมีคือ ห้อง คอมพิวเตอร์ ห้องโสตทัศนศึกษา ห้องเรียนที่มีเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ หรือแบบโน๊ตบุ๊ค รวมไปถึงระบบขยายเสียง (2) ครูต้องมีความรู้ด้านเทคโนโลยีที่สามารถนามาใช้ ในการเรียนการสอน รวมไปถึงข่าวสารข้อมูลต่าง ๆ โปรแกรมประยุกต์ที่เป็นประโยชน์ในการเรียน การสอน สื่อภาพและเสียง วิดิทัศน์ ข่าวและประเด็นที่เป็นที่สนใจ เป็นต้น เทคโนโลยีที่ครูสามารถ นามาใช้ในการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงแนวคิด มีจานวนมาก และ


21st Century Skills: The Challenges Ahead 20

ครูสามารถเลือกใช้ได้ตามความถนัดหรือความสนใจ ดังที่ บุปผชาติ ทัฬหิกรณ์ (2551) ยกตัวอย่าง ดังต่อไปนี้ การใช้วิดิทัศน์ การใช้ภาพและเสียง ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเนื้อหาที่เป็นนามธรรม การใช้วิดิทัศน์มีทั้ง ภาพยนตร์ แอนนิเมชั่น วีดีโอคลิป โปรแกรมกราฟฟิกซึ่งแหล่งที่สามารถหาวิดิ ทัศน์เหล่านี้ คือ อินเตอร์เนต ซีดี ดีวีดี ที่มาพร้อมกับหนังสือเรียน (Textbook) ภาพยนตร์ สารคดี เวบไซต์ต่าง ๆ ทั้งนี้ วิดิทัศน์จะทาหน้าที่เป็น เพียงสื่อหรือแหล่งการเรียนรู้ของครูเท่านั้น โดยไม่ สามารถนามาทดแทนการสอนได้ ครูต้องสร้างบริบท (Context) หรืออรรถบท (Theme) ของ บทเรียนโดยใช้วิดิทัศน์เป็นสื่อ การเรียนรู้จึงจะมีความหมายสาหรับผู้เรียน เพลงและเสียง เพลงเป็นสื่อที่เข้าถึงผู้เรียนได้ดี ทั้งนี้มีการใช้เพลงเพื่อการเรียนการสอนมานานแล้ว ในวิชา เคมีเนื้อหาที่ใช้เพลงในกิจกรรมการเรียน ยกตัวอย่างเช่น ตารางธาตุ ทั้งนี้เพลงมีทั้งแบบสาเร็จที่ครู สามารถนามาใช้ได้ หรือการใช้ทานองแล้วใส่เนื้อร้องเอง รวมไปถึงให้ผู้เรียนมีส่วนประพันธ์ทานอง หรือคาร้องที่สอดคล้องกับเนื้อหาที่เรียน ก็เป็นเทคนิคที่กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี นอกจากนี้เสียงยังมีส่วนสาคัญในการสร้างความเข้าใจ ยกตัวอย่างเช่น ให้นักเรียนเรียงลาดับเสียง จากการทาปฏิกิริยาของธาตุอัลคาไลน์ (หมู่ ๑A) กับน้า จากโซเดียม (Na) ไปจนถึง แฟรนเซียม (Fr) เพื่อเรียงลาดับความรุนแรงของการเกิดปฏิกิริยา จากนั้นจึงนาไปสู่การอภิปราย โปรแกรมประยุกต์ (Application Program) ครูสามารถใช้โปรแกรมประยุกต์ในการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนได้มากมาย โดย อาจจะเริ่มต้นจากการใช้โปรแกรมประจาเครื่อง เช่น Microsoft Word Excel และ PowerPoint ไปจนถึงโปรแกรมเฉพาะ เช่น Crocodile Chemdraw หรือโปรแกรมกราฟฟิก เช่น Autodesk MAYA ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทักษะของครูเองว่าคุ้นเคย กับโปรแกรมใด นอกจากนี้ครูยังสามารถสร้าง ภาพยนตร์สั้นได้เอง โดยใช้โปรแกรมตัดต่อภาพยนตร์เช่น Movie Maker หรือ Ulead โดยใน ปัจจุบันกล้องถ่ายรูปหรือโทรศัพท์ก็สามารถถ่ายทาคลิปสั้น ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ทางการ เรียน นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมชนิด Freeware ที่ไม่สงวนลิขสิทธิ์การใช้งาน ที่ครูสามารถดาวน์โหลด เพื่อใช้เป็นสื่อในการเรียนได้ ตัวอย่างการใช้โปรแกรมประยุกต์ เทคโนโลยีการสื่อสาร (Communication Technology) เทคโนโลยีการสื่อสารในปัจจุบันก้าวหน้าไปมาก และสามารถดาวน์โหลดหรืออัพโหลด เพื่อแลกเปลี่ยนเนื้อหา (Content) ได้อย่างรวดเร็วทั้ง ภาพ เสียง ข้อความ วีดีโอ ทั้งแบบ


21st Century Skills: The Challenges Ahead 21

Synchronize และ Asynchronize เทคโนโลยีสื่อสารที่เป็นที่นิยมคือ เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Online Social Network) การใช้เครื่องมือค้นหา บนเว็บ (Search Engine) การโต้ตอบผ่าน กระดานสนทนา (Web Board) การเขียนบล๊อก (Blog) การโต้ตอบโดยใช้วีดิทัศน์ เช่น Youtube.com รวมไปถึงสื่อเนื้อหาอิเล็กโทรนิกส์ (Electronic Content) ต่างๆ ที่สามารถเข้าถึง ได้ผ่านอินเทอร์เนต เช่น เว็บไซต์ของรายการโทรทัศน์ สมาคมวิชาชีพครู องค์กรวิทยาศาสตร์ต่างๆ


21st Century Skills: The Challenges Ahead 22

แผนการอบรมกิจกรรมที่ 2 ห้องเรียนแห่งศตวรรษที่ 21 จากกิจกรรมที่ 1ผู้เข้ารับการอบรมและวิทยากรอภิปรายถึงการจัดการเรียนการสอน อย่างไรที่สะท้อนการส่งเสริมทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ในประเด็นหัวข้อต่อไปนี้ (ตอบ ตามความเข้าใจ) รายวิชา หลักสูตร วิธีการสอน วิธีการวัดและประเมินผล บริบทห้องเรียน บทบาทหน้าที่ของครู และนักเรียน


21st Century Skills: The Challenges Ahead 23

บทที่ 3 ตัวอย่างกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ดร. ศิริวรรณ ฉัตรมณีรุ่งเจริญ อาจารย์สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต กิจกรรมที3่ . 1 จัตุรัสพิศวง จุดมุ่งหมายของกิจกรรม กิจกรรมเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ อุปกรณ์

ซองกระดาษบรรจุ กระดาษตัด

5 ชิ้น จานวน 1 ซอง

วิธีดาเนินกิจกรรม 1) ผู้เข้ารับการอบรมแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน 2) วิทยากรแจกซองกระดาษให้ทุกกลุ่ม ให้สมาชิกในกลุ่มนากระดาษ 4 ชิ้น มาช่วยกันต่อ เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส 3) เมื่อต่อได้แล้ววิทยากรเพิ่มกระดาษให้อีกหนึ่งชิ้น เป็นกระดาษ ชิ้นที่ 5 และให้ต่อเป็น รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสอีกครั้ง

ภาพที่ 3 ภาพแสดงกิจกรรมจัตุรัสพิศวง


21st Century Skills: The Challenges Ahead 24

กิจกรรมที่ 3.2 Magic Box จุดมุ่งหมายของกิจกรรม กิจกรรมเสริมความเข้าใจเรื่องจินตนาการ

+ เหตุผล ทักษะการ

ติดต่อสื่อสาร และการทางานกลุ่ม อุปกรณ์

กล่องเขียนข้อความและ ระบายสี โดยแต่ละด้านของกล่องมีสี ตัวเลข มุม และ

รูปทรงที่แตกต่างกัน วิธีดาเนินกิจกรรม 1. แจกกล่องชุดที่ 1) กลุ่มละลูก โดยให้ทายด้านทีว่ ่างเปล่าว่าควรมีรูปทรง สี ตัวเลขใด โดย ใช้ข้อมูลความสัมพันธ์ของสี ตัวเลข และรูปทรงจากด้านที่มองเห็นโดยห้ามสัมผัสกล่อง 2. ต่อมา ให้แต่ละกลุ่มทานายสิ่งของที่อยู่ภายในกล่องตามหลักฐานที่ได้จากการสังเกต การ ได้ยินเสียงโดยการเขย่า

ภาพที่ 4 ภาพแสดงกิจกรรม Magic Box


21st Century Skills: The Challenges Ahead 25

ภาพที่ 5 ภาพตัวอย่าง Magic Box


21st Century Skills: The Challenges Ahead 26

กิจกรรมที่ 3.3 เรื่องเล่าเช้านี้ จุดมุ่งหมายของกิจกรรม กิจกรรมเสริมทักษะการอ่าน เขียน การคิดวิจารณญาณ การทางานกลุ่ม และ การสนทนาสื่อสาร อุปกรณ์

1. บทความจากข่าว หนังสือพิมพ์ เว็บไซต์ YOUTUBE 2. ปากกาเมจิก 3. กระดาษบรู๊ฟ

วิธีดาเนินกิจกรรม 1. ผู้เข้ารับการอบรมศึกษาสถานการณ์ที่ 1-3 และปัญหาจากสถานการณ์ และร่วมตอบ คาถามและข้อสงสัยในแต่ละสถานการณ์ สถานการณ์ที่ 1 ในเวลาตอนเช้าและตอนเย็น ยุวดีได้สังเกตถึงลักษณะการบินของฝูงบิน โดยยุวดี ได้ถ่ายรูปภาพบันทึกเหตุการณ์นั้นไว้ ดังรูปต่อไปนี้ ยุวดีจึงมีข้อสงสัยว่า “ทาไมนกจึงบินเป็นฝูง คล้ายอักษรตัว Y” ผู้เข้ารับการอบรมช่วยอธิบายปรากฎการณ์นี้ให้เธอฟังได้อย่างไร

ที่มา www.google.com


21st Century Skills: The Challenges Ahead 27

สถานการณ์ที่ 2 เช้าวันหนึ่งเจตมัยและเคที่ได้ขึ้นไปดูวิวที่จุดชมวิว และเขาได้ถ่ายรูปเคที่ ไว้ โดยจุดชมวิวนี้เป็นบริเวณที่ยื่นออกจากไหล่เขา ขณะที่เจตมัยกาลังถ่ายรูปเขาได้สังเกตเห็นว่า ผมของเคที่ตั้งขึ้น ดังรูป และเพียง 5 นาทีที่เจตมัยและเคที่เดินลงไปจากจุดชมวิว ฟ้าได้ผ่าลงมา ณ จุดชมวิวนั้น จากเหตุการณ์ดังกล่าวทาให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บ 5 คน ให้ผู้เข้ารับการ อบรมร่วมกันอธิบายถึงปรากฎการณ์นี้ได้อย่างไร

ที่มา www.google.com


21st Century Skills: The Challenges Ahead 28

สถานการณ์ที่ 3 จากเหตุการณ์ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่าทุกครั้งที่ ผู้ก่อการร้ายเมื่อมีการลงมือก่อเหตุแล้ว จะมีการสกัดกั้นกาลังเจ้าหน้าที่ตารวจและทหารโดยการ โปรยตะปูเรือขวางตามท้องถนนและเป็นหลุมบ่อเพื่อขัดขวางการทางานของเจ้าหน้าที่ ถ้าท่านเป็น หนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ ท่านจะออกแบบรถนาขบวนอย่างไร

ที่มา www.google.com


21st Century Skills: The Challenges Ahead 29

กิจกรรมที่ 3.4 ปริศนาอาชีพ จุดมุ่งหมายของกิจกรรม กิจกรรมเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ คิดเปรียบเทียบ และคิด วิจารณญาณ บอกความสาคัญของอาชีพจากภาพได้ อุปกรณ์ จิ๊กซอว์ภาพอาชีพ วิธีดาเนินกิจกรรม 1.

แบ่งผู้เข้ารับการอบรมออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน

2.

แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาเลือกหมายเลขที่ต้องการเปิด เมื่อวิทยากรดึงรูปภาพ ออกมาให้ทายว่าเป็นอาชีพอะไร และระบุความสาคัญของอาชีพนั้น

หมายเลขที่บังภาพไว้ 1

5

9

13

17

2

6

10

14

18

3

7

11

15

19

4

8

12

16

20


21st Century Skills: The Challenges Ahead 30

ภาพที่ 1

2

3

รูป


21st Century Skills: The Challenges Ahead 31

4

(ปรับรุงจาก สุวิทย์ มูลคาและคณะ, 2554)

กิจกรรมที่ 3.5 Think about Words จุดมุ่งหมายของกิจกรรม กิจกรรมเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์ อุปกรณ์ ใบกิจกรรม เรื่อง

Think about Words

วิธีดาเนินกิจกรรม 1.

ผู้เข้ารับการอบรมรายบุคคลหาคามาเติมหลังคาว่า “มือ” ให้ได้ความหมายและมี จานวนคามากที่สุด ในเวลา 5 นาที มือ………………………………….มือ…………………………………..มือ…………………………………… มือ………………………………….มือ…………………………………..มือ…………………………………… มือ………………………………….มือ…………………………………..มือ…………………………………… มือ………………………………….มือ…………………………………..มือ…………………………………… มือ………………………………….มือ…………………………………..มือ…………………………………… (ปรับรุงจาก สุวิทย์ มูลคาและคณะ, 2554)


21st Century Skills: The Challenges Ahead 32

กิจกรรมที่ 3.6 Little Penguin จุดมุ่งหมายของกิจกรรม กิจกรรมเสริมทักษะการแก้ปัญหา การคิดสร้างสรรค์ ทักษะอาชีพ อุปกรณ์ 1. ถ้วยทาขนมกระดาษ ถ้วยละ 10 บาท 2. ถ้วยทาขนมอลูมินัมฟอยด์ ถ้วยละ 15 บาท 3. ก้อนสาลี ก้อนละ 5 บาท 4. ไม้฾ไอติม แท฾งละ 5 บาท 5. แผ่นโฟม แผ฾นละ 30 บาท 6. พลาสติกกันกระแทกสาหรับห่อของ แผ่นละ 20 บาท 7. กระดาษหนังสือพิมพ์ แผ่นละ 5 บาท 8. ถุงพลาสติก ถุงละ 10 บาท วิธีดาเนินกิจกรรม 1. วิทยากรเปิดคลิปวีดิโอบางส่วนของสารคดีที่เกี่ยวกับสภาวะโลกร้อนและธารน้าแข็งละลาย ให้฾ผู้฾ เข้าร่วมอบรมได้รับชม เพื่อให้฾เห็นถึงปัญหาและผลกระทบของสภาวะโลกร้฾อน 2. วิทยากรทาการแบ่งกลุ่มผู้เข้าร่วมอบรมออกเป็นกลุ่มละ 4-5 คน จากนั้นให้฾ผู้เข้าร่วมอบรมแต่฾ ละ กลุ่มแสดงบทบาทสมมติเป็นทีมงานวิจัยซึ่งประกอบไปด้วยนักวิทยาศาสตร์ นักเศรษฐศาสตร์ และวิศวกรเพื่อ ร่฾วมกันทาการออกแบบและสร้างบ้านให้นกเพนกวินที่กาลังได้รับผลกระทบจาก ปัญหาสภาวะโลกร้฾อน โดย วิทยากรและผู้ข้าร่วมอบรมร่วมกันอภิปรายถึงบทบาทของ นักวิทยาศาสตร์ นักเศรษฐศาสตร์และวิศวกร โดย สมมติให้฾ใช้฾น้าแข็งเป็นนกเพนกวิน โดยมี


21st Century Skills: The Challenges Ahead 33

จุดประสงค์หลักคือพยายามให้฾บ้านหลังที่สร้างสามารถป้องกันการถ่฾ายโอนความร้อนจากภายนอก สู่฾ภายในตัวบ้านให้฾ได้฾มากที่สุด โดยภายใต้งบประมาณที่กาหนด 3. ผู้เข้าร่วมอบรมแต่฾ละกลุ่มทาการชั่งมวลของน้าแข็งตอนเริ่มต้น และบันทึกค่าลงในใบกิจกรรม เรื่อง Help me please!!!!! 4.ผู้เข้าร่วมอบรมแต่฾ละกลุ่฾มออกแบบและสร้฾างบ้านให้นกเพนกวินภายใต้฾งบประมาณหลังละไม่฾เกิน 200 บาท โดยเลือกใช้฾อุปกรณ์สาหรับสร้างบ้านนกเพนกวินที่กาหนดไว้ให้ (ใช้฾เวลา 30 นาที) 5. ผู้เข้าร่วมอบรมแต่฾ละกลุ่มเมื่อสร้างเสร็จแล้วต้องนาบ้านนกเพนกวินที่มีนกเพนกวิน (น้าแข็ง) อาศัย อยู่ไปวางไว้ในกล่องพลาสติกและปิดฝาทิ้งไว้฾นานประมาณ 15 นาที แล้วให้นาน้าแข็งที่อยู่ ในบ้านออกมาชั่ง น้าหนักอีกครั้ง เพื่อหามวลสุดท้ายและบันทึกลงในใบกิจกรรมที่ 3.2 และบันทึก การคานวณต้นทุนในการสร้างบ้าน 6. ตัวแทนแต่฾ละกลุ่มนาเสนอผลจากการบันทึกมวลสุดท้ายและต้นทุนในการสร้างบ้าน 7. วิทยากรประกาศว่าบ้านนกเพนกวินของกลุ่มใดที่สามารถสร้างบ้านที่รักษาความเย็นได้ ฾ดีที่สุด และ ประกาศให้กลุ่มนั้นเป็นผู้ชนะเลิศ 8. ผู้เข้าร่วมอบรมร่วมกันอภิปรายถึงสาเหตุที่บ้านนกเพนกวินของกลุ่มที่ชนะเลิศสามารถปูองกัน การ ถ่ายโอนความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้านได้฾ดีที่สุด และร่วมกันหาสาเหตุของบ้านบางกลุ่ม ที่ป้องกันการถ่ายโอนความร้อนได้ดี ขั้นสรุป วิทยากรถามคาถามเพื่อให้฾ผู้เข้าร่วมอบรมร่วมอภิปรายว่า จากการทากิจกรรมบ้านนกเพนกวิน - ท่านได้นาความรู้และทักษะใดบ้างมาใช้ในการทากิจกรรมนี้ ฾ (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์และคณิตศาสตร์)


21st Century Skills: The Challenges Ahead 34

- จากกิจกรรมนี้เกี่ยวข้องกับการออกแบบสร้างบ้านอย่างไร (ใช้แนวคิดเรื่องการถ่ายโอน ความร้฾อน สมบัติของวัสดุ การนาความร้฾อนและสมบัติการเป็นฉนวน) - จากกิจกรรมนี้ใช้ความรู้฾ทางเทคโนโลยีมาใช้฾เพื่อการออกแบบอย่างไร (ช่วยในการ ออกแบบสร้างบ้านเพนกวิน) - จากกิจกรรมนี้ใช้ความรู้฾ทางวิศวกรรมศาสตร์มาใช้เพื่อการออกแบบอย่างไร (การเลือกวัสดุ อุปกรณ์ที่เหมาะสม - จากกิจกรรมนี้คณิตศาสตร์เกี่ยวข้องกันอย่างไรกับการออกแบบสร้างบ้าน (ช่วยในกา คานวณต้นทุน เพื่อสร้างบ้านให้คุ้มค่ากับราคา) - จากกิจกรรมนี้มีการบูรณาการความรู้ที่กล่าวมาทั้งหมดอย่างไร (สามารถเลือกใช้ความรู้฾ และ เทคโนโลยีได้฾เหมาะสมกับการออกแบบ รวมถึงสามารถเลือกวัสดุอุปกรณ์ ได้฾อย่าง คุ้มค่฾ากับราคา)


21st Century Skills: The Challenges Ahead 35

กิจกรรมที่ 3.7 Food Designer จุดมุ่งหมายของกิจกรรม กิจกรรมเสริมทักษะการแก้ปัญหา การคิดสร้างสรรค์ ทักษะด้านการ สื่อสาร ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ อุปกรณ์ที่ใช้แต่ละกลุ่ม

1

ช็อกโกแลตเวเฟอร์

2 แท่ง/กลุ่ม

2

กล้วยและผลไม้ตามฤดูกาล

1 ผล/กลุ่ม

3

ข้าวแต่น

5 ชิ้น/กลุ่ม

4

คุ้กกี้โอริโอ

1 ชิ้น/กลุ่ม

5

ขนมปัง

1 แผ่น/กลุ่ม

6

แตงกวา

2 ลูก/กลุ่ม

7

โดนัท

1 ชิ้น/กลุ่ม

8

ป็อกกี้

1 กล่อง/กลุ่ม

9

นมกล่อง

1 กล่อง/กลุ่ม

10

นมเปรี้ยว

1 กล่อง/กลุ่ม

11

กระดาษขาวเทา

1 แผ่น/กลุ่ม

12

แผ่นใส

1 แผ่น/กลุ่ม

13

สีเมจิก

1 แท่ง/กลุ่ม

14

สก็อตเทปใส

1 ม้วน/กลุ่ม


21st Century Skills: The Challenges Ahead 36

15

กรรไกร

1 อัน/กลุ่ม

16

มีด

1 ด้าม/กลุ่ม

วิธีดาเนินกิจกรรม 1. ผู้เข้าร่วมอบรมแต่ละกลุ่มศึกษา ข่าว เรื่อง การขาดสารอาหารของกลุ่มวัยรุ่น 2. ผู้เข้าร่วมอบรมในแต่ละกลุ่มแบ่งหน้าที่เพื่อสืบค้นข้อมูลที่จาเป็นสาหรับการออกแบบ พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสาหรับเด็กวัยรุ่น อายุระหว่าง 13- 15 ปี เพื่อช่วยลดปัญหาจาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากข่าวในข้อ 1 โดยผู้เข้าร่วมอบรมต้องสืบค้นข้อมูล อาทิเช่น - สารอาหารและประเภทของสารอาหาร - แหล่งที่ได้มาของสารอาหารแต่ละประเภท - ประโยชน์ของสารอาหารแต่ละประเภท และความบกพร่องที่เกิดขึ้นเมื่อขาด สารอาหารหรือการบริโภคสารอาหารเหล่านั้นมากเกินไป - ปริมาณและสารอาหารที่วัยรุ่นจาเป็นต้องใช้ในช่วงวัย - ค่าพลังงานและคุณภาพอาหาร 10 ชนิด 3. ผู้เข้าร่วมอบรมเลือกวัตถุดิบ 7 ชนิดจากวัตถุดิบที่วิทยากรเตรียมไว้ 10 ชนิด เพื่อนามา ออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเป็นรูปลักษณ์ต่างๆ ให้น่าสนใจและดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย โดยออกแบบลงในกระดาษ A4 โดยสามารถสืบค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต 4. วางแผนและระบุส่วนต่างๆของผลิตภัณฑ์อาหารที่ออกแบบ เช่น ล้อรถ สร้างจากขนมปัง สอดไส้โอริโอ เป็นต้น 5. ผู้เข้าร่วมอบรมลงมือสร้างผลิตภัณฑ์อาหารที่ได้ออกแบบจากข้อ 3 และ ข้อ 4 6. ผู้เข้าร่วมอบรมคานวณค่าพลังงานและคุณค่าอาหารของผลิตภัณฑ์อาหาร อาทิ ค่า พลังงานรวม (Kcal) โปรตีน (g) คาร์โบไฮเดรต (g) แร่ธาตุ อาทิ แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก (mg) และวิตามินต่างๆ เช่น เอ บี 1 บี2 ซี เป็นต้น


21st Century Skills: The Challenges Ahead 37

7. ผู้เข้าร่วมอบรมนาเสนอผลิตภัณฑ์อาหารของกลุ่มตนเอง อธิบายแนวคิดการออกแบบ การ สร้างและผลิต กระบวนการผลิต 8. ผู้เข้าร่วมอบรมศึกษาและตอบคาถามต่อไปนี้ - ท่านได้เรียนรู้อะไรจากการทากิจกรรมนี้ - ท่านคิดว่ากิจกรรมนี้ส่งเสริมทักษะใดบ้าง


21st Century Skills: The Challenges Ahead 38

กิจกรรมที่ 3.8 สะพานกระดาษ จุดมุ่งหมายของกิจกรรม กิจกรรมส่งเสริม ทักษะการทางานเป็นทีม การร่วมมือ การสื่อสาร การแก้ปัญหา การคิดวิเคราะห์ การคิดสร้างสรรค์ อุปกรณ์ กระดาษขนาด

A4 จานวน 2 แผ่น

หนังสือปกแข็ง จานวน หัวน็อตอะลูมิเนียม จานวน

2 เล่ม 20 ตัว

วิธีดาเนินกิจกรรม 1. ผู้เข้ารับการอบรมแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน 2. วิทยากรแจกอุปกรณ์ทั้งหมดให้ทุกกลุ่ม ให้สมาชิกในกลุ่มนากระดาษ A4 หนึ่งแผ่นมา ว่างระหว่างหนังสือสองเล่มซึ่งวางขนานกันทางด้านยาว วางหนังสือทั้งสองให้มี ระยะห่าง 20 เซนติเมตร วางกระดาษ A4 ที่ได้รับด้านบนช่องว่างระหว่างหนังสือทั้ง 2 เล่ม นาเอาหัวนอตมาวางไว้ด้านบนกระดาษ ซึ่งจะวางได้ไม่มากเนื่องจากระดาษจะตก ลงมาจากหนังสือ 3. ให้ผู้เข้ารับการอบรมร่วมกัน พับกระดาษเป็นรูปร่างต่างๆ แล้วนาเอาหัวนอตมาวางไว้ ด้านบน โดยให้โจทย์ปัญหาคือ หาวิธีจัดวางและพับกระดาษในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ วางหัวนอตได้จานวนมากที่สุด ลองเขียนการพับกระดาษและการวางหัวนอตรูปแบบ ต่างๆ ลงในช่องว่างด้านล่าง


21st Century Skills: The Challenges Ahead 39

รูปประกอบ กิจกรรมสะพานกระดาษ

รูปแบบการพับกระดาษและตาแหน่งที่วางลูกแก้วที่ผู้เข้ารับการอบรมได้ร่วมกันคิดนั้น จะ แตกต่างกันไปตามความคิดสร้างสรรค์และพื้นความรู้ ประสบการณ์เดิมของผู้เข้ารับการอบรมแต่ ละคน ผลจากการทากิจกรรม ผู้เข้ารับการอบรมจะได้ทางานรวมกันเป็นกลุ่มเพื่อทาการแก้ปัญหา มีการสื่อสารและ ร่วมมือกัน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างสมาชิกในกลุ่ม มีการคิดสร้างสรรค์และลองผิดลอง ถูกในการหารูปแบบการพับกระดาษ ตาแหน่งการวางกระดาษหรือที่วางหัวนอตลงบนกระดาษ และการคิดวิเคราะห์ในการแก้ไข หาจุดผิดเพื่อนามาปรับแก้กระบวนการแก้ไขปัญหาต่อไปซึ่งเป็น สิ่งที่ได้จากการเรียนรู้จากปัญหา (Problem-based Learning)


21st Century Skills: The Challenges Ahead 40

กิจกรรมที่ 3.9 ลอยหรือจม จุดมุ่งหมายของกิจกรรม กิจกรรมส่งเสริม ทักษะการทางานเป็นทีม การร่วมมือ การสื่อสาร การ แก้ปัญหา การคิดวิเคราะห์ การคิดสร้างสรรค์ อุปกรณ์ ดินน้ามัน จานวน ลูกแก้ว จานวน

3 ก้อน 20 ลูก

อ่างใส่น้า วิธีดาเนินกิจกรรม 1. ผู้เข้ารับการอบรมแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน 2. วิทยากรแจกอุปกรณ์ทั้งหมดให้ทุกกลุ่ม ให้สมาชิกในกลุ่มนาดินน้ามันมาปั้นเป็น ภาชนะรูปร่างต่างๆ แล้วนามาลอยบนน้าในอ่างใส่น้า วางลูกแก้วลงไปในภาชนะดิน น้ามันเพิ่มจานวนลูกแก้วที่ใส่ไปจนกว่าภาชนะจมลง โดยให้โจทย์ปัญหาคือ หาวิธีการ ปั้นดินน้ามันเป็นภาชนะรูปร่างใด ที่จะสามารถใส่ลูกแก้วได้จานวนมากที่สุดโดยที่ ภาชนะดินน้ามันจะไม่จมน้า 3. วาดรูปแบบการปั้นดินน้ามันเป็นภาชนะในรูปแบบต่างๆ ลงในช่องว่างด้านล่าง

รูปประกอบ กิจกรรมลอยหรือจม


21st Century Skills: The Challenges Ahead 41

รูปแบบและวิธีการปั้นภาชนะดินน้ามันใส่ลูกแก้วที่ผู้เข้ารับการอบรมได้ร่วมกันคิดนั้น จะ แตกต่างกันไปตามความคิดสร้างสรรค์และพื้นความรู้ ประสบการณ์เดิมของผู้เข้ารับการอบรมแต่ ละคน ผลจากการทากิจกรรม ผู้เข้ารับการอบรมจะได้ทางานรวมกันเป็นกลุ่มเพื่อทาการแก้ปัญหา มีการสื่อสารและ ร่วมมือกัน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างสมาชิกในกลุ่ม มีการคิดสร้างสรรค์ในการคิด รูปแบบการพับกระดาษ ตาแหน่งการวางกระดาษหรือที่วางหัวนอตลงบนกระดาษ และการคิด วิเคราะห์ในการแก้ไข หาจุดผิดเพื่อนามาปรับแก้กระบวนการแก้ไขปัญหาต่อไปซึ่งเป็นสิ่งที่ได้จาก การเรียนรู้จากปัญหา (Problem-based Learning)


21st Century Skills: The Challenges Ahead 42

บทที่ 4 กรณีศึกษา: การเรียนรู้จากปัญหา รากฐานสาหรับการจัดการเรียนรู้ ที่ส่งเสริมทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 นางสาววรางคณา ทองนพคุณ อาจารย์สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต

การเรียนรู้จากปัญหาหรือการเรียนรู้แบบ PBL (Problem-Based Learning) การเรียนรู้จากปัญหาหรือการเรียนรู้แบบ PBL (Problem-Based Learning) เป็นวิธีการ เตรียมพร้อมให้ผู้เรียนสามารถรับมือกับปัญหา หัดเป็นนักแก้ปัญหา โดยครูเป็นโค้ช (Coach) หรือ ผู้ให้ความช่วยเหลือเท่านั้น วิธีการสอนแบบนี้จะเน้นให้ผู้เรียนเป็นผู้ตัดสินใจในการแสวงหาความรู้ และรู้จักการรวมกลุ่มทางานเป็นทีมเพื่อแก้ไขปัญหา โดยเน้นให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง และสามารถนาทักษะที่ได้มาใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตประจาวันได้ ปัญหาที่ครูนามาใช้นั้นจะมี ความเกี่ยวข้องกับความรู้ที่เรียนหรือนามาจากสถานการณ์จริงก็ได้ แนวทางการจัดการเรียนรู้จากปัญหา (PBL) มีแนวคิดสาคัญ ดังนี้ (บุญเลี้ยง ชุมทอง : 2556) 1. ให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้อย่างแท้จริง (Student-centered Learning) เป็นผู้กาหนดสิ่งที่ต้องการเรียนรู้ด้วยตนเอง 2. จัดกลุ่มผู้เรียนเป็นกลุ่มย่อยขนาดเล็ก (ประมาณ 3 – 5 คน) โดยมีการอภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในกลุ่ม เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ไปด้วยกัน 3. ครูทาหน้าที่ เป็นผู้ให้คาแนะนา (Coach) หรือผู้อานวยความ สะดวก (Facilitator) แก่ผู้เรียนในการแสวงหาแหล่งข้อมูล การศึกษาข้อมูล และการวิเคราะห์ ข้อมูล 4. ใช้ปัญหาเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และการแก้ปัญหา 5. มีการบูรณาการเนื้อหาของความรู้ (Content Integration) โดยเกี่ยวข้องกับ ศาสตร์หรือความรู้ความสามารถของผู้เรียน 6. ผู้เรียนมีการศึกษาค้นคว้า และแสวงหาข้อมูลด้วยตนเอง (Self-directed Learning) 7. ผู้เรียนได้ลงมือแก้ปัญหา รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล สรุปและประเมินผล


21st Century Skills: The Challenges Ahead 43

8. ผู้สอนมีการประเมินผลการเรียนรู้ทั้งทางด้านเนื้อหา ทักษะกระบวนการ และการ ทางานกลุ่มของผู้เรียน การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้ และนาเอา ความรู้ที่ได้นั้นมาแก้ปัญหา การจัดการเรียนการสอนแบบ PBL จะมีขั้นตอนหลัก 3 ขั้นตอน ดังนี้ 1. การจัดเตรียมการเรียนการสอน ได้แก่ การกาหนดวัตถุประสงค์ และเนื้อหาพื้นฐานที่ ผู้เรียนต้องแสวงหาความรู้ การกาหนดปัญหาให้สอดคล้องกับสภาพจริงของสังคมและ แนวทางการประเมินผล 2. การจัดการเรียนการสอน เป็นการนาเอาแผนการจัดการเรียนการสอนที่ได้เตรียมไว้มา ใช้กับผู้เรียนตามกระบวนการ 2.1 ระบุปัญหา (Problem Identification) ผู้เรียนจะต้องระบุปัญหาที่แท้จริงได้ โดยใช้กระบวนการคิดที่มีเหตุผล ลักษณะคาถามที่ดี จะเป็นปัญหาที่พบบ่อย มี ความสาคัญและเป็นสถานการณ์จริงมีข้อมูลประกอบ เป็นปัญหาที่ครอบคลุมการ เรียนรู้หลายสาขาวิชา มีลักษณะกระตุ้นให้ผู้เรียนสนใจงานที่กาลังทาอยู่และมองเห็น ทิศทางในการทางานต่อไป 2.2 การเรียนการสอนในกลุ่มย่อย (Small Group Tutorial Learning) เพื่อให้ ผู้เรียนมีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ระดมความคิด ความรู้มาช่วยกันแก้ปัญหา และแสวงหาข้อมูลเป็นความรู้ใหม่ โดยผู้เรียนกาหนดแนวทางการค้นคว้าหาความรู้ โดยอาศัยการทางานเป็นกลุ่ม 2.3 การแสวงหาข้อมูลด้วยตนเอง (Self-directed Learning) ผู้เรียนแต่ละคน จะต้องไปแสวงหาความรู้ และรับผิดชอบงานในส่วนของตัวเองที่มีต่อกลุ่ม เพื่อใช้ใน การแก้ปัญหา 3. การประเมินผลการเรียนการสอน ผู้เรียนประเมินผลตนเอง (Self Evaluation) และ การประเมินผลการปฏิบัติการของสมาชิกกลุ่ม (Peer Evaluation) โดยเน้นที่ กระบวนการเรียนของผู้เรียน ใช้การประเมินจากสภาพจริง (Authentic Assessment) ที่ดูจากความสามารถในการปฏิบัติงาน


21st Century Skills: The Challenges Ahead 44

บทบาทของผู้สอนในการจัดการเรียนรู้จากปัญหา (PBL) ผู้สอนจะเป็นผู้จัดประสบการณ์ให้กับผู้เรียน ให้มีวิธีการเรียนที่ถูกต้องและเสริมสร้าง ความคิดในระดับสูง เป็นผู้อานวยความสะดวกในการเรียนรู้ สร้างบทเรียนที่กระตุ้นให้ผู้เรียนได้ เรียนรู้ในเนื้อหาที่เป็นแนวคิดสาคัญของปัญหานั้นๆ ครูจะมีบทบาทหน้าที่ ดังนี้ 1. ครูพยายามถามกระตุ้นให้ผู้เรียนคิดวิเคราะห์ตลอดการเรียนการสอน 2. แนะนาให้ผู้เรียน เรียนรู้ผ่านขั้นตอนการเรียนรู้ทีละขั้น 3. ส่งเสริมผลักดันให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในระดับที่ลึกซึ้ง 4. หลีกเลี่ยงการให้ความเห็นต่อการอภิปรายของผู้เรียน บ่งชี้ว่าถูกหรือผิด บทบาทของผู้เรียนในการจัดการเรียนรู้จากปัญหา (PBL) ผู้เรียนที่จะประสบความสาเร็จในการเรียนรู้จากปัญหานี้ จะต้องมีความรู้พื้นฐานที่ เหมาะสมกับปัญหาที่เรียนมีความสามารถในการสื่อสาร เนื่องจากเป็นการเรียนเป็นกลุ่มย่อย ให้ ความร่วมมือภายในกลุ่ม มีความรับผิดชอบและตระหนักในงานที่ได้รับมอบหมาย มุ่งมั่นทางานให้ สาเร็จ รวมทั้งมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการทางาน หลังจากได้เรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก ผู้เรียนจะได้พัฒนาทักษะต่างๆ ดังนี้ 1. ความสามารถในการเรียนรู้จากปัญหา ซึ่งจะฝึกฝนให้มีประสบการณ์และความสามารถ ในการค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมด้วยตนเอง 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา ผู้เรียนจะได้ฝึกทักษะการแก้ปัญหาและนาไปใช้ในการ ทางานได้ 3. ความสามารถในการชี้นาหรือเริ่มต้นการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ แสวงหาข้อมูลอย่างอิสระ โดยครูผู้สอนเตรียมโครงสร้างและคอยอานวยความสะดวก จัดหาปัจจัยสนับสนุนในการค้นคว้าหาข้อมูล ผู้เรียนจะได้เรียนรู้วิธีการทางานและการ จัดการทรัพยากรต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ 4. ความสามารถในการเรียนกลุ่มย่อย การทางานรวมกันเป็นกลุ่มย่อยผู้เรียนจะได้ฝึกการ ทางานร่วมกับผู้อื่นในกลุ่มที่มีสมาชิกแตกต่างกัน เรียนรู้ที่จะรับฟัง วิเคราะห์ข้อมูล


21st Century Skills: The Challenges Ahead 45

และวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ เป็นโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และ พัฒนาการเรียนรู้ของตนเองจากการประเมินและให้ข้อมูลของเพื่อนร่วมกลุ่ม และการ ประเมินตนเอง การเรียนรู้แบบ PBLที่จะฝึกและสร้างทักษะในศตวรรษที่ 21 ให้กับนักเรียนได้จริงและ หลากหลาย การทางานทั้งหมดที่ครูปล่อยให้นักเรียนได้ลงมือทาจริงด้วยตนเอง ไม่ชี้นาหรือให้ คาปรึกษาจนเกินไป ซึ่งจะไม่ได้เปิดโอกาสให้นักเรียนได้คิดหาทางแก้ปัญหาเอง ไม่ด่วนบอก คาตอบก่อน แต่จะมีการบอกหรือให้คาแนะนาในกรณีที่ผิดหัวข้อหรือเข้าใจผิด หรือไม่ได้ใช้เหตุผล เอาเสียเลย ครูจึงจะให้ข้อคิดบ้าง ให้เขาได้ดิ้นรน ต่อสู้ พยายามคิดและลงมือแก้ไขปัญหาจาก สติปัญญาของตนเอง การทางานจะเกิดขึ้นตามลาดับอย่างเป็นธรรมชาติ ได้แก่ สังเกตและศึกษา ข้อมูล เกิดข้อสงสัยที่จะเป็นปัญหา คาดเดาคาตอบ รวบรวมวิเคราะห์ข้อมูล ในที่สุดจะนาไปสู่ คาตอบที่แท้จริงได้ ขั้นตอนการทางานหรือการเรียนรู้เหล่านี้ เป็นขั้นตอนการทางานของคนทางาน จริงๆอยู่แล้ว ดังนั้นหากครูเปิดโอกาสหรือออกแบบกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติ "คิดเองทาเอง" ด้วยเหตุและผล ก็จะทาให้นักเรียนได้ใช้กระบวนการเหล่านี้ในการเรียนรู้ โดยวิชา วิทยาศาสตร์จะเรียกว่า วิธีการทางวิทยาศาสตร์(scientific method) เราจะเสริมสร้างทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการเรียนรู้จากปัญหาได้อย่างไร ในการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลักหรือการเรียนรู้แบบ PBL นี้ ครูผู้สอนจะทาหน้าที่เป็นผู้ ตั้งคาถาม และเป็นคนตั้งปัญหาเพื่อสร้างบรรยากาศของการเรียนรู้ และจะไม่ตั้งเป้าหมายว่า จะต้องได้คาตอบที่ถูกต้อง นักเรียนที่ตอบผิดถือว่าใช้ไม่ได้ เพราะเครื่องมือที่สาคัญที่สุดของการ เรียนรู้และการเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21 คือ คาถามกับปัญหา ครูผู้สอนจะเตรียมตัวและวางแผนจัดทาคาถามสาหรับนักเรียนเพื่อใช้ในการเรียนรู้จาก ปัญหา 1. กาหนดหัวข้อ โดยอ้างอิงจากหลักสูตรและตัวชี้วัดเพื่อกาหนดขอบเขตของความคิดและ แนวคิดสาคัญที่จะให้ผู้เรียนได้ค้นคว้า 2. ทาแผนภาพแนวคิด/แผนผังมโนทัศน์ (Concept Mapping) ที่เกี่ยวข้องกับปัญหา โดยใช้ หัวข้อหรือแนวคิดหลักเป็นจุดเริ่มต้น 3. ตรวจดูหลักสูตรและตัวชี้วัดเพื่อกาหนดหัวข้อย่อยที่จะรวมเข้าไปในด้วย


21st Century Skills: The Challenges Ahead 46

4. กาหนดตัวชี้วัดหรือผลการเรียนรู้คาดหวังในวิชาและระบุคาถามสาคัญ รวมทั้งแนวคิดสาคัญ ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่คาดหวังของนักเรียน ซึ่งจะกาหนดให้นักเรียนใช้ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ใน การตั้งคาถามการแก้ไขปัญหา การคิดเชิงวิพากษ์ ความคิดสร้างสรรค์ การตั้งสมมติฐานและ การคิดทบทวน โดยเน้นไปที่กระบวนการคิด 5. ออกแบบสถานการณ์จาลองหรือยกตัวอย่างปัญหาที่ทาให้เกิดความสนใจของนักเรียนและใช้ เป็นเค้าโครงสาหรับรายวิชา โดยใช้ความรู้และความเข้าใจในแนวคิดสาคัญรวมเข้าไปในผลการ เรียนรู้คาดหวัง 6. จัดทาแนวการสอนที่รวบรวมแนวทางการสืบค้นเพื่อสังเกตสิ่งที่นักเรียนทาและใช้ในการตั้ง คาถาม ในการเรียนรู้จากปัญหา นักเรียนต้องค้นคว้าและตรวจสอบความน่าเชื่อถือ ความคลาดเคลื่อน สมมติฐานที่พิสูจน์จากการค้นพบ จากนั้นครูจะทางานร่วมกับนักเรียนเพื่อ หาวิธีการนาเสนอ อาจเลือกนาเสนอผลงานเป็นวิดีโอและพาวเวอร์พอยต์ จัดโต้วาที อภิปราย ร่วมกัน การเขียนเชิงสร้างสรรค์ และทบทวนความก้าวหน้าของตนเอง ในระหว่างการสอนครูควรประเมินความเข้าใจของนักเรียนด้วยการให้นักเรียนตอบคาถาม สั้นๆเขียนเรียงความหรือเขียนบันทึกการสืบค้น (Inquiry Journal) ของตนเอง ซึ่งจะมี รายละเอียดเกี่ยวกับ คาถามเบื้องต้น การค้นคว้า คาถามต่อเนื่องและบันทึกประจาวัน/สัปดาห์ เกี่ยวกับแนวคิดสาคัญที่ได้เรียนรู้ ขั้นตอนการสืบค้น การประยุกต์ใช้กับเนื้อหาอื่น คาถามหรือ ความรู้ใหม่ และความเกี่ยวข้องกับชีวิตตนเอง การเรียนรู้แบบ PBL นี้ให้ผลการเรียนรู้ด้านสาระวิชาดีกว่าหรือเท่ากับวิธีการจัดการเรียนรู้ แบบอื่น แต่เมื่อวัดผลการเรียนรู้ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จะพบว่า นักเรียนกลุ่มที่เรียนรู้แบบ PBL จะมีการเรียนรู้สูงกว่าวิธีการเรียนรู้แบบอื่นมาก โดยมีผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ ๖วรพจน์ วงศ์กิจ รุ่งเรืองและอธิป จิตตฤกษ์ : 2554) ในการทดสอบนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และปีที่ 5 ของโรงเรียนที่ใช้การเรียนรู้แบบ PBL เปรียบเทียบกับนักเรียนของโรงเรียนที่ใช้การสอนแบบเดิม โดยให้ทาโครงการแก้ปัญหาขาดแคลน ที่อยู่อาศัยในหลากหลายประเทศ ได้ผลว่า นักเรียนจากโรงเรียนที่มีการเรียนรู้แบบ PBL ได้


21st Century Skills: The Challenges Ahead 47

คะแนนสูงกว่าในการทดสอบการคิดอย่างมีวิจารณญาณ (Critical Thinking) และการทดสอบ ระดับความมั่นใจต่อการเรียนรู้ มีผลการวิจัยส่วนหนึ่งพบว่า นักเรียนได้รับผลประโยชน์จากการเรียนรู้แบบ PBL ในการเพิ่ม ความสามารถด้านการความชัดเจนหรือเข้าใจปัญหา ความสามารถในการให้เหตุผลดีขึ้น สามารถ โต้แย้งแสดงความคิดเห็นได้เก่งขึ้น วางแผนโครงการที่ซับซ้อนดีขึ้น มีแรงจูงใจต่อการเรียนสูงขึ้น รวมทั้งมีความรับผิดชอบต่อการทางานมากขึ้น ตัวอย่างการจัดการเรียนรูจ้ ากปัญหา (การเรียนรูแ้ บบ PBL) กรณีศึกษาที่ 1 ในการจัดการเรียนการสอนรายวิชาภาษาอังกฤษในระดับชั้น ม. 3 ใน หัวข้อ “เทคนิคการสอนอ่านภาษาอังกฤษจากสื่อจริง” 1. ให้นักเรียนดูถุงขนมยี่ห้อต่าง ๆ ประมาณ 2-5 ชิ้น โดยอ่านชื่อยี่ห้อของถุงขนมนั้น แล้วส่ง ตัวแทนออกมาเขียนคาศัพท์ทั้งชื่อ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ตามความเข้าใจ 2. ครูลบชื่อภาษาไทยออก ให้นักเรียนช่วยกันอ่านชื่อยี่ห้อขนมที่เป็นภาษาอังกฤษ เช่น เทสโต = TASTO เป็นต้น 3. เข้าสู่กิจกรรมที่ 1 ครูเขียนชื่อขนมภาษาอังกฤษโดยไม่เขียนภาษาไทยและให้นักเรียนฝึกอ่าน อีกครั้งและสังเกตการสะกดคา จากนั้นให้นักเรียนเทียบอักษรภาษาอังกฤษและภาษาไทย เช่น T A S T O T= ท A=สระเอ S=ส T=ต O=สระโอ 4. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปรียบเทียบตัวอักษรภาษาไทย-ภาษาอังกฤษ โดยแจกใบความรู้ ประกอบ แล้วตอบคาถามในใบความรู้ เช่น สระของภาษาอังกฤษมีกี่ตัว อักษรของภาษาอังกฤษมี กี่ตัว ครูและนักเรียนช่วยกันตอบ เช่น พยัญชนะของภาษาอังกฤษมีจานวน 26 ตัว แบ่งเป็นสระ 5 ตัว คือ A, E, I, O ,U ส่วนที่เหลือเป็นตัวอักษร เป็นต้น นักเรียนฝึกการเทียบอักษรจนครบทุกตัว 5. นักเรียนทางานกลุ่มโดยครูแจกถุงขนมยี่ห้อต่าง ๆกัน กลุ่มละ 1 ถุง ให้นักเรียนเทียบอักษร จากนั้นหมุนเวียนถุงขนมไปให้ครบทุกชนิด


21st Century Skills: The Challenges Ahead 48

6. กิจกรรมที่ 2 ให้นักเรียนวิเคราะห์ฉลากของขนมโดยใช้แผนผังความคิด (Concept Mapping) สรุปข้อมูลตามความคิดของตนเอง 7. กิจกรรมที่ 3 ครูอธิบายเพิ่มเติม เกี่ยวกับการสร้างคาโดยใช้อักษรที่เทียบไว้จากตัวอย่างที่ศึกษา มาแล้ว โดยยกตัวอย่างบัตรคา เช่น T A S T O T = ท หรือ ต Tree-ต้นไม้ A = สระเอ And-และ S = ส Sunny-ส่องสว่าง T = ต Today-วันนี้ O = สระโอ orange-ส้ม 8. นักเรียนทางานกลุ่มโดยสร้างคาจากอักษรต่างๆ จากถุงขนมที่นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษามาแล้ว ให้สมาชิกในกลุ่มออกมานาเสนอโดยอ่านคาศัพท์ที่ได้จากการสร้างคาโดยใช้ตัวอักษรในถุงขนมแต่ ละชนิด 9. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มแข่งกันสร้างคาศัพท์จากอักษรตามชื่อสินค้าที่ได้ยิน โดยครูอ่านชื่อสินค้า นั้น 2-3 ครั้ง 10. ครูอธิบายเพิ่มเติม โดยแจกใบความรู้เกี่ยวกับ Parts of speech ซึ่งเป็นหัวใจของหลักการ สอนภาษาอังกฤษ โดยสอนให้ละเอียดครูอาจหาแบบฝึกมาช่วยฝึกเพื่อให้ผู้เรียนมีความแม่นยา เรื่อง Parts of speech มากขึ้น กรณีศึกษาที่ 2 ครูจตุมาศเริ่มบทเรียนโดยใช้คาถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียนว่า “เมื่อ นักเรียนต้องการดื่มน้าเย็นนักเรียนใส่น้าแข็งลงในแก้วน้า ถ้านักเรียนต้องการทาให้น้าแข็งเย็น เพิ่มขึ้นนักเรียนมีวิธีการอย่างไร” จากนั้นครูจตุมาศให้นักเรียนนาเหตุการณ์ที่คุณครูจตุมาศมา กาหนดปัญหาและตั้งคาถาม สืบเสาะและวางแผนการหาคาตอบ เพื่อนามานาเสนอแลกเปลี่ยน หน้าชั้นเรียน โดยคุณครูจตุมาศจบบทเรียนด้วยคาถามที่ว่า “ไอศกรีมได้จากกระบวนการใด” ดัง วิดีทัศน์ด้านล่าง


21st Century Skills: The Challenges Ahead 49

ที่มา: http://www.youtube.com/watch?v=p9561JZCeWk


21st Century Skills: The Challenges Ahead 50

แผนการอบรมกิจกรรมที่ 4 Brainstorming จุดประสงค์ 1.

อธิบายความหมายและความสาคัญทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ได้

2.

บอกเหตุผลและความสาคัญของการจัดการเรียนรู้เพื่อให้เกิดทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ได้

ขั้นตอนดาเนินกิจกรรม 1. วิทยากรยกตัวอย่างการจัดการเรียนการสอนโดยเน้นให้เกิดการพัฒนาทักษะแห่งศตวรรษ ที่ 21 โดยยกตัวอย่างและให้ชมคลิปวีดีโอตัวอย่าง (เรื่อง เด็กยุคใหม่สู่แห่งศตวรรษที่ 21 โดยสานักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพเยาวชน (สสค.) : http://m.youtube.com/watch?v=Ez_ChozXXjI) 2. แบ่งผู้เข้ารับการอบรมออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คนร่วมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนความ คิดเห็นภายในกลุ่มหลังจากชมคลิปวีดีโอตัวอย่างแล้วเขียนแนวทางการจัดกิจกรรมการ จัดการเรียนรู้ กิจกรรมตัวอย่าง 3 กิจกรรม สรุปในประเด็นวิธีการจัดการเรียนรู้เพื่อ ส่งเสริมให้นักเรียนพัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 บันทึกลงในกระดาษที่แจกให้ 3. วิทยากรนาอภิปรายร่วมกับผู้เข้ารับการอบรม เกี่ยวกับความคิดเห็นและข้อมูลได้จากคลิป วีดีโอตัวอย่าง สรุปจากกิจกรรมตัวอย่าง 3 กิจกรรมในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับวิธีการจัดการ เรียนรู้แห่งศตวรรษที่ 21 ดังนี้ จากกิจกรรมตัวอย่าง 3 กิจกรรม คือ เกมสะพานกระดาษ, เกมลอบหรือจม, และ ฉลองวันเกิด จะส่งเสริมให้นักเรียนเกิดทักษะต่างๆดังนี้ - ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) - ทักษะด้านความร่วมมือและการทางานเป็นทีม (Collaboration and Teamwork) - ทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)


21st Century Skills: The Challenges Ahead 51

- ทักษะการใช้ชีวิต เช่น การจัดการด้านเศรษฐศาสตร์และการเงิน ข้อมูลที่ได้จากคลิปวีดีโอตัวอย่างนั้นนอกจากการพัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นเป้าหมายของการจัดกิจกรรมนี้แล้ว ยังมีการแสดงความคิดเห็นของ ผู้ปกครองเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ในปัจจุบัน และยกตัวอย่างผลงานวิจัยที่ เกี่ยวข้อง เช่น การวัดคะแนนทดสอบทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เปรียบเทียบ ระหว่างนักเรียนเพศ-หญิง/ชาย นักเรียนจากสถานศึกษา-รัฐบาล/เอกชน ซึ่ง ชี้ให้เห็นความสาคัญของการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนเพื่อการเรียนรู้ แห่งศตวรรษที่ 21 4. วิทยากรร่วมกับผู้เข้ารับการอบรมวิเคราะห์ข้อมูลจาก กิจกรรมที่ 1 ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 (21st Century Skills) กับวิธีการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เพื่อนามาปรับใช้กับการเรียนการสอนของตนเอง บันทึกสิ่งที่จะนาไปปรับปรุงการจัดการ เรียนการสอนของตนเอง ลงในกระดาษที่แจกให้ 5. วิทยากรสรุปความสาคัญของวิธีการจัดการเรียนรู้ที่ทาให้ผู้เรียนเกิดทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ซึ่งส่งผลต่อการเข้าร่วมประชาคมอาเซียนของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2558 โดย นาเสนอรูปภาพด้านล่าง “คุณลักษณะของเด็กไทยในประชาคมอาเซียน” ซึ่งผู้เรียนจะต้อง มีทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เป็นพื้นฐาน


21st Century Skills: The Challenges Ahead 52

รูปภาพ “คุณลักษณะของเด็กไทยในประชาคมอาเซียน” (http://asean.opec.go.th/index.php/develope_viwe/viwe/6)

21ST-CENTURY SKILLS In a digital world, students must be prepared for new technologies and new ways of working. Developing these 21st-century skills in the classroom can transform economies and communities ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ในโลกแห่งดิจิตอล ผู้เรียนจาเป็นต้องเตรียมพร้อมสาหรับเทคโนโลยีสมัยใหม่และวิธีการทางานรูปแบบใหม่ ดังนั้นการพัฒนา ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 นี้ในห้องเรียนสามารถเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจและสังคมได้ …………………………………………………………………………………..


21st Century Skills: The Challenges Ahead 53

แบบวิเคราะห์แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวศตวรรษที่ 21 แผนการสอนรายคาบเรื่อง......................................................วิชา...........................................................ระดับชั้น.......... ชื่อโรงเรียน.........................................................................ชื่ออาจารย์.............................................................................. ชื่ออาจารย์ที่พิจารณาแผน................................................................................................................................................

คาชี้แจง ให้ท่านพิจารณาแผนการจัดการเรียนรู้/แผนการสอนในแต่ละข้อว่าเป็นไปตามเกณฑ์ที่กาหนดหรือไม่ หากไม่เป็นไป ตามเกณฑ์โปรดให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุง องค์ประกอบของแผน

เป็นไป

ไม่เป็นไป

ตาม

ตาม

เกณฑ์

เกณฑ์

..............

...............

ข้อเสนอแนะในการปรับปรุง

1. ด้านจุดประสงค์/เป้าหมายการสอน 1.1 สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ 1.2 เน้นที่พฤติกรรมระดับสูงของผู้เรียน หรือทักษะการคิดขั้นสูง

............................................................................. ..............................................................................

...............

...............

1.3 ระบุครบทั้ง 3 ด้าน คือพุทธิพิสัย

.............................................................................. ..............................................................................

ทักษะพิสัย และจิตพิสัย ...............

...............

.............................................................................

2.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์

...............

...............

..............................................................................

2.2 มีการเขียนในรูปแนวคิดที่นักเรียน

..............

..............

..............................................................................

2. ด้านเนื้อหา

ต้องเรียนรู้

.............................................................................. ..............................................................................


21st Century Skills: The Challenges Ahead 54 2.3 จัดลาดับเนื้อหาเหมาะสมกับผู้เรียน ...............

...............

..............................................................................

2.4 มีการเชื่อมโยงกับชีวิตประจาวัน

...............

..............................................................................

...............

ชุมชนท้องถิ่น

..............................................................................

3.ด้านกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ขั้นนา 3.1 มีการตรวจสอบความรู้เดิมของ

...............

...............

ผู้เรียน 3.2 มีกิจกรรมที่ดึงดูดและกระตุ้น ความสนใจของผู้เรียน

.............................................................................. ..............

..............

.............................................................................. ..............................................................................

3.3 มีการเข้าสู่บทเรียนด้วยคาถามหรือ ปัญหาที่น่าสนใจ

..............................................................................

...............

...............

.............................................................................. .............................................................................. ..............................................................................

ขั้นสอน 3.4 นักเรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการ ...............

...............

เรียนรู้ 3.5 ครูมีการถามคาถามที่กระตุ้นการ คิดของนักเรียน

.............................................................................. ...............

...............

..............................................................................

3.7 กิจกรรมการสอนส่งเสริมการมี

3.8 มีกิจกรรมที่หลากหลายตอบสนอง ต่อความแตกต่างของผู้เรียน

.............................................................................. ...............

..............

..............................................................................

...............

...............

.............................................................................. .............................................................................

3.9 บทบาทของครูเป็นเพียงผู้เสนอแนะ มากกว่าผู้บรรยาย

.............................................................................. ..............................................................................

3.6 คาถามของครูมีแนวทางการตอบ

ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนและครู และ ระหว่างผู้เรียนด้วยกัน

.............................................................................

..............

..............

..............................................................................


21st Century Skills: The Challenges Ahead 55 3.10 เน้นกิจกรรมที่เน้นทักษะการอ่าน ออก เขียนได้ และคิดเป็น 3.11 มีคาถามที่กระตุ้นทักษะการคิด อย่างมีวิจารณญาณ หรือคิดสร้างสรรค์

.............................................................................. ...............

...............

..............................................................................

...............

...............

.............................................................................. ..............................................................................

3.12 เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีการปฏิบัติ จริง

..............

.............

..............................................................................

3.13 มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศร่วม ในการจัดการเรียนการสอน เช่น เป็นสื่อ แหล่งเรียนรู้ หรือผลงานของนักเรียน

..............................................................................

...............

...............

............................................................................. .............................................................................. ..............................................................................

ขั้นสรุป

..............................................................................

3.14 เน้นการจัดกิจกรรมให้นักเรียน สรุปความรู้ด้วยตนเอง

...............

..............

..............................................................................

3.15 ส่งเสริมกิจกรรมให้นักเรียนมี ทักษะการสื่อสาร เช่น การนาเสนอ การ อภิปรายในกลุ่ม

..............

..............

..............

..............

.............................................................................. ..............................................................................

3.17 มีการประเมินการเรียนรู้ของ ผู้เรียนตามสภาพจริง

.............................................................................. .............................................................................

3.16 เตรียมคาถามหรือวิธีการ ประเมินผลการเรียนรู้ที่ชัดเจน

..............................................................................

...............

..............

..............................................................................

...............

...............

..............................................................................

4. ด้านสื่อและอุปกรณ์ 4.1 มีการเตรียมสื่อที่หลากหลาย 4.2 ใช้สื่อที่เหมาะสมและสอดคล้องกับ จุดประสงค์ เนื้อหา และกิจกรรม 4.3 มีการใช้เทคโนโลยีร่วมในการจัดการ เรียนรู้

.............................................................................. ..............

.............

..............................................................................

..............

...............

..............................................................................


21st Century Skills: The Challenges Ahead 56 .............................................................................. .............................................................................. ..............................................................................

5. ด้านการวัดและประเมินผล 5.1 มีการวัดประเมินผลการเรียนรู้ก่อน ระหว่าง และหลังการสอน 5.2 มีวิธีการวัดและประเมินที่ หลากหลาย

...............

...............

..............................................................................

..............

..............

.............................................................................. ..............................................................................

5.3 วิธีการวัดและประเมินการเรียนรุ้ ของผู้เรียนเหมาะสมและสอดคล้องกับ จุดประสงค์/เป้าหมายการสอน 5.4 มีวิธีการวัดแลประเมินผลงานหรือ ชิ้นงานของนักเรียน

.............................................................................. ...............

..............

..............................................................................

..............

..............

.............................................................................. ..............................................................................

5.5 มีการวัดและประเมินผล กระบวนการหาคาตอบของนักเรียนเพื่อ ตอบคาถามหรือแก้ปัญหา

................

...............

............................................................................. .............................................................................. .............................................................................. ..............................................................................


21st Century Skills: The Challenges Ahead 57

ตัวอย่างแบบวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เกณฑ์การพิจารณาให้คะแนน ระดับคะแนน ผลงาน

4

1. การมีส่วนร่วมใน กิจกรรม

นักเรียนฟังความ คิดเห็นของคนอื่นและ ให้ข้อเสนอแนะแก่ กลุ่มเสมอๆ เพื่อบรรลุ ถึงเป้าหมายของงาน สมาชิกในกลุ่มมีการ ร่วมมือประสานกัน ทางานเป็นอย่างดี 2. การนาเสนอผลงานของ สามารถนาเสนอ กลุ่ม ผลงานโดยการอธิบาย ที่สื่อความหมายให้ ผู้ฟังเข้าใจอย่างชัดเจน ถูกต้อง และสอดคล้อง กับข้อมูลที่กลุ่มมีอยู่ 3. การอภิปราย

แสดงความคิดเห็นที่ เหตุผลและเป็น ประโยชน์ต่อกลุ่มและ ชั้นเรียนตลอดเวลา

4. ใบบันทึกกิจกรรม

ตอบคาถามถูกต้องทุก ข้อคาถามและมีการ อธิบายคาตอบอย่าง เป็นเหตุเป็นผล

3 นักเรียนฟังความ คิดเห็นของคนอื่นและ ให้ข้อเสนอแนะแก่ กลุ่มบ่อยครั้ง สมาชิก ในกลุ่มมีการร่วมมือ ประสานกันทางาน บ่อยครั้ง

2

บางครั้งมีการรับฟัง ความคิดเห็นและให้ ข้อเสนอแนะในการ ทางาน บางครั้ง นักเรียนมีการละเลย ในหน้าที่ของตนเอง และสร้างความ เดือดร้อนให้กลุ่ม ไม่สามารถนาเสนอ สามารถนาเสนอ ผลงานโดยการอธิบาย ผลงานโดยการอธิบาย ที่สื่อความหมายให้ ที่สื่อความหมายให้ ผู้ฟังเข้าใจอย่างชัดเจน ผู้ฟังเข้าใจอย่างชัดเจน แต่ถูกต้องและ แต่ไม่ถูกต้องและไม่ สอดคล้องกับข้อมูลที่ สอดคล้องกับข้อมูลที่ กลุ่มมีอยู่ กลุ่มมีอยู่ แสดงความคิดเห็นที่ ไม่ค่อยแสดงความ เหตุผลและเป็น คิดเห็นที่เป็นเหตุผล ประโยชน์ต่อกลุ่มและ และเป็นประโยชน์ ต่อ ชั้นเรียนบางครั้ง กลุ่มและชั้นเรียน ตลอดเวลา ตอบคาถามถูกต้อง ตอบคาถามถูกต้องทุก บางข้อคาถามและมี ข้อคาถามแต่มีการ การอธิบายคาตอบ อธิบายคาตอบที่ไม่ อย่างเป็นเหตุเป็นผล เป็นเหตุเป็นผล

1 ไม่มีการรับฟังความ คิดเห็นของสมาชิกใน กลุ่มและไม่ร่วมแสดง ความคิดเห็น เพิกเฉย ต่อการทางานกลุ่ม และสร้างความ เดือดร้อนแก่กลุ่ม นาเสนอผลงานโดย การอธิบายที่สื่อ ความหมายให้ผู้ฟัง เข้าใจไม่ชัดเจน ไม่ ถูกต้องและไม่สอด คล้องกับข้อมูลที่กลุ่มมี อยู่ ไม่แสดงความคิดเห็น ใดๆเลยเมื่อมีการ อภิปราย

ไม่ได้ตอบคาถามเลย และไม่มีการอธิบาย คาตอบอย่างเป็นเหตุ เป็นผล


21st Century Skills: The Challenges Ahead 58 แบบประเมินการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของกลุ่ม ชื่อ .................................................................... นามสกุล............................................................................. ระดับชั้น...............................................ห้อง...................วันที่ ....................................................................... คาชี้แจง

ให้นักเรียนประเมินสมาชิกในกลุ่มของตนเอง โดยใช้เกณฑ์ที่กาหนดให้ด้านล่าง ระดับคะแนน 4 คือ นักเรียนฟังความคิดเห็นของคนอื่นและให้ข้อเสนอแนะแก่กลุ่มเสมอๆ เพื่อ บรรลุถึง เป้าหมายของงานสมาชิกในกลุ่มมีการร่วมมือประสานกันทางาน เป็นอย่างดี ระดับคะแนน 3 คือ นักเรียนฟังความคิดเห็นของคนอื่นและให้ข้อเสนอแนะแก่กลุ่มบ่อยครั้ง สมาชิกใน กลุ่มมีการร่วมมือประสานกันทางานบ่อยครั้ง ระดับคะแนน 2 คือ บางครั้งมีการรับฟังความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะในการทางาน บางครั้ง นักเรียนมีการละเลยในหน้าที่ของตนเองและสร้างความเดือดร้อนให้กลุ่ม ระดับคะแนน 1 คือ ไม่มีการรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่มและไม่ร่วมแสดงความคิดเห็น เพิกเฉยต่อการทางานกลุ่มและสร้างความเดือดร้อนแก่กลุ่ม

ชื่อกลุ่ม ........................................................................................................................................................................ สมาชิกในกลุ่ม ระดับคะแนน 4 3 2 1 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7.


21st Century Skills: The Challenges Ahead 59 แบบประเมินการนาเสนอผลงานของกลุ่ม ชื่อกลุ่ม ........................................................................................ระดับชั้น................ห้อง................................... อาจารย์ประจาวิชา........................................................................วันที่................................................................

คาชี้แจง

ให้นักเรียนประเมินกลุ่มที่นาเสนอผลงาน โดยใช้เกณฑ์ที่กาหนดให้ด้านล่าง ระดับคะแนน 4 คือ สามารถนาเสนอผลงานโดยการอธิบายที่สื่อความหมายให้ผู้ฟังเข้าใจอย่าง ชัดเจน ถูกต้อง และสอดคล้องกับข้อมูลที่กลุ่มมีอยู่ ระดับคะแนน 3 คือ ไม่สามารถนาเสนอผลงานโดยการอธิบายที่สื่อความหมายให้ผู้ฟังเข้าใจอย่าง ชัดเจน แต่ถูกต้องและสอดคล้องกับข้อมูลที่กลุ่มมีอยู่ ระดับคะแนน 2 คือ สามารถนาเสนอผลงานโดยการอธิบายที่สื่อความหมายให้ผู้ฟังเข้าใจอย่าง ชัดเจน แต่ไม่ถูกต้องและไม่สอดคล้องกับข้อมูลที่กลุ่มมีอยู่ ระดับคะแนน 1 คือ นาเสนอผลงานโดยการอธิบายที่สื่อความหมายให้ผู้ฟังเข้าใจไม่ชัดเจน ไม่ ถูกต้องและไม่สอด คล้องกับข้อมูลที่กลุ่มมีอยู่

ชื่อกลุ่มที่นาเสนอผลงาน 4 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8.

ระดับคะแนน 3 2

1


21st Century Skills: The Challenges Ahead 60 แบบประเมินการทางานของตนเอง (นักเรียน) ชื่อนักเรียน........................................................................................ระดับชั้น................ห้อง............................... อาจารย์ประจาวิชา.............................................................................วันที่...........................................................

ตอนที่ 1

คาชี้แจง: ให้นักเรียนประเมินตนเองในการทางาน โดยใช้เกณฑ์ที่กาหนดให้ด้านล่าง ระดับคะแนน 4 คือ นักเรียนทาทุกครั้ง ระดับคะแนน 3 คือ นักเรียนทาบ่อยครั้ง ระดับคะแนน 2 คือ นักเรียนทาบางครั้งบางคราว ระดับคะแนน 1 คือ นักเรียนไม่เคยทาเลย การทางานของตนเอง 4

ระดับคะแนน 3 2

1

ด้านการมีส่วนร่วมในกิจกรรมกลุ่ม ด้านการอภิปรายร่วมกับสมาชิกในกลุ่มคนอื่นๆ ตอนที่ 2 คาชี้แจง: ให้นกั เรียนยกตัวอย่างกิจกรรมทีท่ าและแสดงว่านักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมกลุม่ และมีส่วนร่วมในการอภิปราย การทางานของตนเอง ด้านการมีส่วนร่วมในกิจกรรมกลุ่ม

ด้านการอภิปรายร่วมกับสมาชิกในกลุ่มคนอื่นๆ

ตัวอย่างกิจกรรม ................................................................................... .................................................................................... ................................................................................... .................................................................................. ................................................................................... .................................................................................... ................................................................................... ..................................................................................


21st Century Skills: The Challenges Ahead 61 แบบประเมินการสอนของครูผู้สอน อาจารย์ประจาวิชา........................................................................วันที่................................................................

คาชี้แจง ให้นักเรียนเขียนสิ่งที่ชอบ และสิ่งที่ต้องการให้อาจารย์เปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการสอนของอาจารย์ลง ในตารางด้านล่าง สิ่งที่นักเรียนชอบต่อการสอนของอาจารย์ ................................................................................... .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. ................................................................................. ................................................................................... .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................

สิ่งที่อยากให้อาจารย์เปลี่ยนแปลงต่อการสอนของ อาจารย์ .......................................................................................... .......................................................................................... ......................................................................................... .......................................................................................... .......................................................................................... ........................................................................................... ........................................................................................... ........................................................................................... ........................................................................................... ............................................................................................


21st Century Skills: The Challenges Ahead 62

เอกสารอ้างอิง บุญเลี้ยง ทุมทอง. 2556. ทฤษฏีและการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู.้ กรุงเทพฯ. บุปผชาติ ทัฬหิกรณ์. 2551. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการเรียนการสอน. พิมพ์ ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: โครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดาริ สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ แห่งชาติ. วรพจน์ วงศ์กิจรุ่งเรือง และอธิป จิตตฤกษ์. 2554. ทักษะแห่งอนาคตใหม่/ โดย James Bellanca และ Ron Brandt. กรุงเทพฯ : openworlds. สุวิทย์ มูลคาและคณะ. 2554. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นการคิด. กรุงเทพฯ: อี เค บุ๊คส์. Edwards ,TB. 1950. Measurement of some aspects of critical thinking. Journal of Experimental Education, 18:263–278. Halpern, DF. 1998. Teaching critical thinking for transfer across domains: Disposition, skills, structure training, and metacognitive monitoring. American Psychologist. 53:449–455.


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.