มหาสาร Free Magazine
Is Am Are
องุ่นแดนอิสาน
The Story of Stuff
Pongthorn Thanatkha
Vol. 01
สารคาม Film
หนังดัง ประจำ�เดือน
2
สารบัญ C o n t
e n t
IS AM ARE
6
สารคามYUMMY
8
THE STORY OF STUFF
10
WELL BEING
12
IMAGERY
15
MONTHอะไรกัน
16
สารคามFILM 17
NOP CHATHONGYOT WATAGARN U-PATCHA PLOYLADA PHIMSAN WARINYA CHANDEE
IS AM ARE องุ่นแดนอิสาน Story by Ploylada Phimsan
องุ่นแดนอีสาน ต้ อ งบอกว่ า เพิ่ ง ทราบจริ ง ๆ ว่ า ในจั ง หวั ด มหาสารคามของเรา มีสวยองุ่นอยู่ด้วย และ ไม่ได้มีแค่องุ่นเท่านั้นนะคะ ยังมีผลละไม้อีก หลายอย่าง ด้วยความที่ถ้าเดินทางไปเองนั้น คงไปไม่ถึงแน่ๆ คะ โชคดีที่ชาวบ้านใจดีมากๆ พาเราเดิ น ทางไปที่ ไร้ อ งุ่ น ที่ บ้ า นหนองโก ตำ�บลหนองแสน อำ�เภอวาปีประทุม จังหวัด มหาสารคาม เมื่อมาถึงสวน ดูพื้นที่โดยรอบ(ตามภาพ) แห้ง แล้งกันดารเหลือเกิน ทำ�ให้ประหลาดใจมาก ว่าเขาทำ�สำ�เร็จได้อย่างไร คงตองใช้ความ อดทน ความขยัน เวลา เสาะแสวงหาความรู้ และอีกมากมาย กว่าที่สวนองุ่นแห่งนี้ จะเดิน ทางมาถึง ณ จุดนี้ได้
6
เดินเข้ามาอีกสักหน่อยก็เริ่มที่จะเห็นต้นลำ�ไย ออกผลดกกล้นหลามย้อยออกนอกรั้ว และแล้ว ก็มาถึงศูนย์เรียนรู้เกษตรกรบ้านกุดนาดี โดย นายเริ่ม อุดมฉวี และที่นี่ได้รับการสนับสนุนโดย สำ�นักงาน ธกส. จังหวัดมหาสารคาม (กลุ่มเครือ ข่ายทฤฎีใหม่ และเกษตรผสมผสาร ปี 2546) เข้ามาถึงในสวนแล้ว ก็เจอทางตรงไปตัวบ้านเลย ข้างๆนั้น มีเรือนเพาะชำ� ในตัวบ้านมีพื้นที่พอ ประมาณ เข้าไปเจอรถผลผลิตที่กำ�ลังจะออกไป จัดจำ�หน่าย คุณลุงมีกระกาศณียบัตรมากมาย ทั้งเป็นกรรมการ ความรู้ด้านประมง หรือแม้แต่ เคยได้รับรางวัลที่หนึ่ง ในการประกวดเกษตรกร และสถาบันเกษตรดีเด่นระดับจังหวัด ปี 2547 อีกด้วย ทีนี้มาทำ�ความรู้จักกับเจ้สของหัวใจ (เอ้ ย ) เจ้ า ของสวนคะ คุ ณเริ ่ ม อุ ด มฉวี และ คุณคำ�กอง อุดมฉวี
คุ ณ เริ่ ม เริ่ ม ต้ น อาชี พ เกตรกรด้ ว ยการซื้ อ ไม้ ประดับมาประดับตกแต่งบ้าน ต่อมาก็ทำ�กิ่ง พั น ธุ์ ไ ปจำ � หน่ า ยตามตลาดนั ด ใกล้ เ คี ย ง คุ ณ เริ่ม มีพื้นที่ดินทั้งหมด 27 ไร่ แบ่งเป็นที่ทำ�นา 10 ไร่ ทำ�บ่อเก็บกักน้ำ� 7 ไร่ เป็นสวนผสมผล ไม้และบ้านประมาณ 10 ไร่ บ่อน้ำ�มีอยู่หลาย บ่อ ขุดลึกประมาณ 3.5 เมตร ปลูกล้อมรอบไป ด้วยไม้ผลต่างๆ เช่น มะไฟ มะม่วง พุทรา ลำ�ไย ลำ�ไยปิงปอง มะพร้าว ฯลฯ คุณเริ่มพาชมรอบๆ มี บ่ อ น้ำ � ใหญ่ ป ลู ก เรื อ นพั ก เล็ ก ๆ และศาลา ข้างๆ น่ารัก น่าอยู่มากเลยคะ อีกทั้งยังเลี้ยง ปละในกระชังด้วย ทำ�เรื่องต้นไม้ขายก็ค่อนข้าง ประสบความสำ�เร็จเรื่อยมา จนปี 2545 ท่าน ได้เริ่มมาสนใจองุ่นคะ ไปเรียนรู้ที่สวนดงทิพย์ จ.เพชรบูรณ์ 1 วัน เจ้าของสวนเค้าแนะนำ�ท่าน ว่า “ไม่ต้องไปเรียนรู้ ไปปลูกดูเลย”
ท่ า นก็ ไ ปซื ้ อ กิ ่ ง พั น ธุ ์ อ งุ ่ น มาจากราชบุ ร ี ค ะ เป็นพันธ์ไวท์มะละกา กับพันธุ์แบล๊ค โอปอล์ คน ขายกิ่งพันธ์เค้าถามท่านว่า จะเอาไปปลูกที่ไหน ท่านตอบว่า ที่จังหวัดมหาสารคาม คนขาย หัวเราะใหญ่เลย เขาว่ามันจะได้ผลรื้อออ?? พอ ท่านเอามาปลูกจริงๆ ชาวบ้านแถวนั้นก็หัวเราะ กันอีก เขาหาว่าไอ้นี่มันบ้าไปแล้ว จนถึงตอนนี้ก็ ปลูกได้ 6 – 7 ปีแล้ว ลำ�ต้นใหญ่อยู่เหมือนกัน คะ ช่วงนี้เก็บไปขายมากแล้ว เหลือไม่ค่อยเยอะ ท่านให้มาชมตอนช่วงปีใหม่ จะมีผลเยอะและ สวยกว่านี้ช่วงนี้มาก นอกจากจะปลูกได้ผลไปขายได้แล้ว ก็ยังตอน กิ่งขาย แล้วยังเป็นผู้ดูแลสวนองุ่นให้คนดังแถว ปากช่องอีกด้วย เป็นวิทยากรให้ความรู้ด้วย งาน ชุกจริงๆเลยนะคะ และที่น่าสนในมากขึ้นตอนนี้ ที่สวนทำ�ไวน์องุ่นได้แล้วนะคะ ชิมแล้ว รสชาติดี มากเลยคะ
ถึ ง ตอนนี้ ก็ ไ ด้ เวลากลั บ แล้ ว ต้ อ งบอกว่ า มา แล้วติดใจเลยคะ การตอนรับก็น่ารัก ชาวบ้าน เป็นกันเอง อากาศถึงจะร้อนไปนิด แต่ไม่เป็น ปัญหาเมื่อเราอยู่ใต้ร่มไม้ นั่งเล่นที่ศาลา จิบ ไวท์บรรยากาศยามเย็น แปบเดียวก็ต้องกลับ ขอขอบคุณท่านเจ้าของสวนอุดมฉวีค่ะ ที่ให้ รายละเอียดและต้อนรับอย่างดียิ่ง และทุกท่าน ที่ติดตามชมคะ
7
สารคาม YUMMY พาชิมอาหาร ร้านข้าวหอม Story by Ploylada Phimsan Photo Watagarn U-patcha
8
ร้ า นข้ า วหอมเป็ น อี ก หนึ่ ง ร้ า น ที่คราวนี้มหาสารจะมาแนะนำ�ให้ผู้อ่านได้ ทำ�ความรู้จักค่ะ ความน่าสนใจของร้านที่ผู้ อ่านต้องสัมผัสด้วยตัวเองเลยคงหนีไม่พ้น บรรยากาศที่น่านั่ง เพราะภายในร้านตกแต่ง แบบเรียบง่าย ดูโล่ง โปร่ง สบาย เหมาะ สำ � หรั บ การรั บ ประทานอาหารแบบเป็ น ส่วนตัว ร้านข้าวหอมเป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำ�หรับคนที่กำ�ลังหาร้านอาหารอร่อยๆ ที่ อยู่ไม่ไกลไปไม่ยาก...ใกล้กับมหาวิทยาลัย มหาสารคามเท่านั้นเองค่ะ นอกจากอาหาร ประเภทจานเดี ย วแล้ ว ...สเต็ ก ของร้ า นนี้ ก็อร่อยไม่แพ้ร้านไหน และเมนูเด็ด ด่วน โดนใจเลยก็ต้องยกให้เมนู สเต็กหมูน้ำ�จิ๋ม แจ่ว โดยร้านตั้งอยู่ในโซนหน้ามหาวิทยาลัย มหาสารคาม...สามารถเดินทางได้สะดวก แถมยังเปิดบริการทุกวันอีกด้วย
นอกจากจะโดดเด่นในเรื่องของบรรยากาศ แล้ ว เรื่ อ งอาหารก็ ถื อ เป็ น จุ ด เด่ น อี ก อย่ า ง หนึ่งเพราะทางร้านตั้งใจทำ�เองทุกขั้นตอน ทำ � ให้ แ ต่ ล ะเมนู ล้ ว นเป็ น เมนู อ ร่ อ ยที่ ไ ม่ ว่ า จะสั่งจานไหน ก็ครบเครื่อง ครบรสทุก เมนูแน่นอน นอกจากนี้ทางร้านยังได้เลือก ใช้วัตถุดิบเกรดเอเพื่อให้อาหารทุกอย่างมี รสชาติที่ดีที่สุด แถมยังมีอาหารหลากหลาย ประเภทให้เลือกทานทั้งของว่าง เครื่องดื่ม หรือแม้แต่อาหารฝรั่งและอาหารจานเดียว เมนู ข องทางร้ า นจะเปลี่ ย นแปลงไปตาม ฤดูกาลทำ�ให้อาหารในแต่ละเดือนนั้นแตก ต่างกัน ส่วนจะอร่อยขนาดไหนนั้นลองไป ชิมกันเลยดีกว่า
9
PONGTHORN THANATKHA vampiresbt 10
THE STOY OF STUFF ทำ�ความรู้จักกับช่างภาพคนดัง Story by Watagarn U-patcha Photo Nop Chathongyot
แนะนำ�ตัวหน่อยครับ แบต พงศ์ธร ถนัดค้า ครับ เรียนด้านไหนมา จบสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัย มหาสารคาม ทำ�ไมถึงเลือกเข้ามาเรียนในสาขาวิชานี้ ในตอนสมัย ม.ปลาย เป็นคนที่ชอบเล่นคอม ชอบทำ�โฟโตช๊อปเล่นและได้ลองเขียนWeb เล่น ก็รู้สึกว่ามันสนุกดีเลยอยากเรียนอะไรที่มันเกี่ยว กับสิ่งที่ตัวเองเออรู้สึกดีกะมันมีความสุขในการ เรียน เริ่มสนใจในการถ่ายภาพตั้งแต่เมื่อไหร่ทั้งๆที่ไม่ เกี่ยวกับสาขาที่เรียน จริงๆมันก็มาแบบไม่ได้ตั้งใจจะเริ่มเลย แรก เลยคื อ ปี ส ามเท่ า ที่ จำ � ได้ ช่ ว งนั้ น รู้ สึ ก กล้ อ ง คอมแพคกำ�ลังบูม ก็เลยนึกอยากได้ซักตัว เลย ลองขอทุนที่บ้านให้ซื้อให้ซักตัวแต่พอวันที่ไปซื้อ คุณพ่อเลยบอกเอากล้องพวกใหญ่เลยเผื่อได้ใช้ ทำ�งาน นั่นแหละ คือจุดเริ่มต้นกับกล้องตัวแรก แล้ ว พอได้ เริ่ ม หั ด ถ่ า ยมั น ก็ เ กิ ด ความรู้ สึ ก สนุ ก เราได้เจออะไรๆใหม่ๆ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ทำ�ให้ เริ่มถ่ายรูปอย่างจริงจัง สไตล์การทำ�งานเป็นอย่างไรบ้าง สไตล์การทำ�งานก็จะมาในแนวสโต๊ปแฟลช หรือ แฟลชแยก สร้างแสง เขียนแสงจากแฟลช เข้าไปในภาพครับ ส่วนใหญ่จะถ่ายภาพบุคคล เลยจะดูลุยๆหน่อยแต่ก็เพื่องานที่ดีให้ลูกค้าก็ ต้องทำ�แต่จริงๆก็มีหลากหลายแนวที่ทำ� แต่เแค่
เราไม่ได้พรีเซนต์ออกไป เพราะคิดว่าอยากให้ สไตล์เนี้ยเป็นเอกลักษณ์ของเราเลย ลูกค้าคิดถึง ภาพอย่างนี้ให้คิดถึงเรา ประมานนี้ครับ จุดที่พีคที่สุดในชีวิตการทำ�งาน เริ่มต้นงานแรกของผมเลยในสายอาชีพนี้คือ 1500 บาท งานแต่งเช้า-เย็น รวมค่าเดินทาง แต่ อันที่จริงก็แทบไม่เหลืออะไร แต่ด้วยความอยาก ลองอีกทั้งเป็นงานของพี่ชายเพื่อนก็เลยลองรับ งานดู วันนั้นคือจุดเริ่มต้นของสายอาชีพ และก็ เริ่มรับงานมาเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้ ส่วนช่วงที่พีค ที่สุดก็น่าจะเป็นปลายปีที่ผ่านมาช่วงรับปริญญา ของภาคอีสานเรารู้สึกจะรับงานเกือบ 20 วัน จากวันละ 1500 นับเป็นเวลาปีกว่าๆผมกลาย เป็นวันละ 5000 ขึ้นไปแล้วครับ มีอะไรที่คิดว่าเป็นปัจจัยหลักที่ทำ�ให้ผลงานของ ตัวเองพัฒนา ดูภาพของช่างภาพที่เก่งๆเยอะๆหาเทคนิค ใหม่ๆเรื่อยๆอย่าคิดว่าตัวเองเก่ง ถ้าคิดว่าตัวเอง เก่งแล้ว พัฒนาการจะหยุดทันที อย่าหลงคำ�ชม แรงบันดาลใจในการทำ�งาน คือ ทุกครั้งที่ส่งงานแล้วฟิดแบคลูกค้าทุกคนคือแรง บัลดาลใจในการทำ�งานที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้น งานทุกงานเราต้องทุ่มเทเต็มที่เพื่อให้ได้งานที่ดี ที่สุดครับ ช่างภาพที่ชื่อชอบ - Auzypand5 - Supawat Denamporn - Waran Rbj Suwanno
- Pakpoom Tirachittanuwattana - Sitphotograph - Jakawin - Emily Soto - Scott Kelby - Joemcnally ปัจจุบันทำ�อะไรอยู่บ้างครับ ทำ�ธุรกิจส่วนตัวครับเป็นร้านชุดนิสิตเล็กๆและ พึ่ ง เปิ ด ตั ว กั บ เวดดิ้ ง เฮาส์ อี ก ร้ า นหนึ่ ง ครั บ ชื่ อ The House Gallery วางแผนจะทำ�อะไรต่อไปในอนาคต ทำ�งานสายนี้ไปเรื่อยๆพัฒนางานไปเรื่อยๆ และก็อาจจะลองจับงานออแกไนเซอร์ดูซักงาน ฮ่าๆเพราะบางทีไปถ่ายงานแล้วเจอทีมไฟเจอ ออแกไนซ์ห่วยแตก จนอยากทำ�มันซะเอง ฝากอะไรกับผู้อ่านสักหน่อยครับ ทำ�ในสิ่งที่ชอบแล้วคุณจะมีความสุขในการ ทำ�งาน แต่สิ่งที่คุณชอบที่คุณจะทำ�นั้นต้องตอบ ให้ ไ ด้ ว่ า มั น จะเป็ น ท่ อ น้ำ � เลี้ ย งให้ คุ ณ ได้ จ ริ ง ๆ อาจจะเริ่มจากลองๆดูก่อนแล้วค่อยปลีกออกมา เต็มตัวเมื่อคุณคิดว่ามันถึงเวลา สุดท้ายอย่าหยุด อยู่กับที่ หาอะไรใหม่ๆเรียนรู้ให้กับสมอง โลก ทุกวันนี้มันเร็วมาก คุณหยุดแปปเดียวคนอื่นเค้า แซงคุณหมดและนะครับ (ยิ้ม)
11
WELL BEING วิ่งอย่างไรให้ยั่งยืน Story by Nop Chathongyot Photo Watagarn U-patcha
กีฬาที่คนมหาสารคามให้ความนิยม คือกีฬาวิ่งซึ่งเป็นกีฬา ที่ง่ายไม่ต้องใช้อุปกรณ์ ขอแค่มีรองเท้าซักคู่ส่วนสถานที่นั้น สบายมากแล้วแต่คุณจะชอบแบบไหน สนามหญ้า ลู่วิ่ง สนาม กี่ฬา แม้กระทั่งทางดินแดน คุณก็สามารถวิ่งได้ การวิ่งเป็นวิธี ที่ เบิร์น ไขมันที่ดีที่สุด คอลั่มนี้ จึงจะเสนอ ว่าวิ่งอย่างไรให้ ยั่งยืน เป็นวิธีวิ่งที่ถูกต้อง คำ�แนะนำ�ต่างๆ
วิ่งอย่างไรให้ยั่งยืน ตามความบาดเจ็บจากการวิ่งก็เป็นสิ่งที่ไม่จำ�เป็นอยู่นั่นเองกล่าวคือเกือบ ร้อยละร้อยที่เราสามารถป้องกันได้ และสามารถหลีกเลี่ยงได้แน่นอน พูดอีกอย่างได้ว่ากว่าจะเป็นนักวิ่งผู้มีประสบการณ์ได้ ก็ไม่จำ�เป็นต้องก่อ ร่างสร้างสานจากประสบการณ์บาดเจ็บมาอย่างโชกโชนที่นักวิ่งรุ่นพี่ๆบอก ได้แต่ว่าความฉลาดเฉลียวและสามัญสำ�นึกแบบธรรมดาก็จะมีส่วนช่วยที่จะ ดูดซับปริมาณและระดับความร้ายแรงได้เกือบหมดสิ้น จริงอยู่เป็นไปไม่ได้ที่เราจะขับรถจนเชี่ยวชาญโดยไม่เคยประสบอุบัติเหตุ เลยแต่เป็นไปได้ที่จะเป็นนักขับมือทองที่มีระเบียนบันทึกประวัติอุบัติเหตุ จำ�นวนน้อยมากได้
12
ข้อถกเถียงที่น่ารับฟัง ก็จะเป็นในทำ�นองที่ว่า“แล้วเราจะเรียนรู้ความ ผิดพลาดจำ�นวนมากเพื่อสรุปบทเรียนครั้งแล้วครั้งเล่าได้อย่างไรถ้าเรามี ประสบการณ์ผิดพลาดน้อย” คำ�ตอบก็คือ บทเรียนจากผู้อื่นไงครับ ที่นักวิ่งจะต้องพัฒนาให้มีขึ้น คือบุคลิก ถ่างหู ถ่างตา ตัวเองอยู่ตลอด เวลา ที่จะสดับรับฟังประสบการณ์ของผู้อื่นว่า เขาวิ่งอย่างนี้ เขาฝึกมาอย่าง นี้ แล้วเกิดอะไรขึ้นตามมา ไม่ว่าเขาผู้นั้นจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ทุกชีวิตล้วนมี บทเรียนที่ผนึกแน่นกับความเป็นตัวของเขาดูไปเถิด พิจารณาให้ดี ไตร่ตรอง ให้แยบคาย แล้วเราจะเห็น เพื่อเราจะไม่ต้องตามเส้นทางที่เขาเคยเดินอย่าง ต้อยๆไปเหยียบกับระเบิด ครั้งแล้ว ครั้งเล่า พวกเราจะต้องดูแลกันเอง พวกเราจะต้องเรียนรู้ประสบการณ์จากรุ่น พี่ และเราจะต้องเตือนรุ่นน้อง หรือนักวิ่งผู้กำ�ลังเข้ามาในวงการใหม่ๆ ที่แม้ เขาอาจจะไม่มาถามเรา แต่มันเป็นสำ�นึกพันธกิจที่จำ�เพาะนักวิ่งชั้นดีเท่านั้น จะไปให้คำ�ชี้แนะและทักท้วง เท่าที่จะมีความสามารถ เมื่อกล่าวอย่างถึงที่สุด นักวิ่งแต่ละคน ล้วนมีบทบาทที่จะประเทือง วงการให้สูงส่งหรือฉุดรั้งตกต่ำ� ให้ก้าวหน้าหรือล้าหลังได้เสมอ เรามีความ สามารถผลัดกันเป็นกัลยาณมิตรซึ่งกันและกันได ใช่หรือไม่ครับว่าการ สะสมองค์ความรู้ในระดับประชาคมนักวิ่ง ย่อมบังเกิดพัฒนาขึ้นทีละน้อย
จากการถั ก ทอสายใยของความรู้ เรื่ อ งวิ่ ง จากนั ก วิ่ ง ปั จ เจกหลายๆคนที่ พยายามแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นประการสำ�คัญนั่นเอง แต่สิ่งที่เราจะสังเกตเห็นได้ จากนักวิ่งบ้านเราเป็นส่วนใหญ่ มักจะยังพอ มีมิติรับรู้รับฟังความเห็นจากผู้อื่นอยู่บ้าง แต่มักจะไม่นิยมบอกต่อ (รับ แต่ ไม่ส่ง) ในข้อสรุปของตนเอง อาจจะเป็นเพราะหวั่นเกรงข้อหา “เสือก” เลย เท่ากับปล่อยให้เพื่อนนักวิ่งผู้ที่ยังไม่รู้ให้งมโข่งต่อไป หรือเกรงว่าจะ เสีย ความรู้สึกที่พูดไปแต่เขาไม่นำ�พา เตือนแล้วไม่เป็นผล ที่อาจให้ความหมาย ว่า “เสียหน้า” กระทั่งอาจจะย่ำ�แย่กว่านี้คือ “ความแล้งน้ำ�ใจ” “ช่างเธอปะไร” “เจ็บก็เรื่องของเธอ” “ดีซิ เธอจะได้วิ่งไม่ทันฉัน ฉันจะได้ไม่ต้องเหนื่อยนัก” น่าเสียดายที่แม้เราจะอยู่ในยุคข่าวสารแล้ว แต่ความไม่ถนอมรักยังแอบแฝง ตัวอยู่อย่างเงียบๆใต้กะโหลกหนามาตลอดหลายยุคสมัย เรื่องอย่างนี้ คนไทยถนัดนัก ที่พวกเราต้องปลุกตัวเองให้รู้ตื่นและลุก ขึ้นไปให้พ้นจากความเคยชินเหล่านี้ด้วยตัวเอง ที่ในตำ�ราวิ่งต่างประเทศไม่ เคยมีบอกไว้ สิ่งที่นักวิ่งใหม่ควรทราบ (และบางที อาจเป็นนักวิ่งเก่าบางรายด้วย)
1) อุปกรณ์ ต้องเหมาะสม
ทุกชนิดกีฬา ต่างต้องการอุปกรณ์ที่เหมาะสมทั้งนั้น ที่เห็นและเป็น อยู่ก็คือ ได้ของย่อมเยาในชั้นต้นที่คุณภาพย่อมต้องเป็นไปตามราคาเป็น ธรรมดา ต่อเมื่อพัฒนาความสามารถและเอาจริงเอาจังขึ้นมา เราถึงค่อยไป เลือกเอาของที่มีคุณภาพขึ้นมาใช้ จนกระทั่ง Turn Pro เป็นมืออาชีพจึงค่อย หันมาใช้ของเจ๋ง แต่จำ�เพาะการวิ่ง เนื่องจากเป็นกีฬาที่ถูกที่สุด (เท่าที่จะนึกออกตอนนี้) ดัง นั้นผู้เข้ามาวิ่งแรกๆ ก็ไม่มีความจำ�เป็นมากนักที่จะต้องไปไต่ระดับจากของ ราคาย่อมเยาเสมอไป แม้จะเล่นของท็อป-ควอลิตี้ ทันทีก็ย่อมไม่เหลือวิสัย กระเป๋าสตางค์จะเอื้อมถึงโดยไม่เดือดร้อนเพียงแต่ขอให้ถูกชนิดกับประเภท ของเท้าเราก็พอแล้ว ที่สเต็ปต่อมาก็คือต่อหน้าชั้นวางรองเท้าในร้านขาย ที่มีวางโชว์เกลื่อนกลาดล้วนสวยๆทั้งนั้นที่ออกแบบมาโค้งเว้าแปลกๆสีสัน ฉูดฉาด หลังจากงงอยู่สักระยะหนึ่ง จึงรู้ตัวว่า “ฉันจะซื้อคู่ไหนดีเนี่ยะ” สำ�หรับคำ�ถามเกี่ยวกับเรื่องรองเท้าวิ่งที่ถูกถามบ่อยที่สุด ก็คือ “คู่ไหน ดีที่สุด” ถามกันให้ไขว่ คำ�เฉลยคือ “ไม่มีครับ” แต่ละยี่ห้อผลิตรองเท้า มาหลายชนิด เพื่อสนองตอบหลายเป้าหมาย หลายภารกิจ หลายชนิด ของคนใส่ แม้จะเป็นในหมวดกีฬาวิ่งด้วยกัน ยังมีรองเท้าซ้อม มีรองเท้า แข่ง ซึ่งแต่ละชนิดยังแบ่งซอยย่อยไปอีกเป็น รองเท้าวิ่งที่เน้นความนิ่ม ลดแรงกระแทก รองเท้าวิ่งที่เน้นการทรงตัว รองเท้าวิ่งที่เน้นการควบคุม ความเคลื่อนไหวหรือรองเท้าวิ่งที่ตอบสนองผู้ที่มีน้ำ�หนักมากๆ เยอะแยะไป หมด รวมทั้งยังมีชนิดที่ออกแบบมาสำ�หรับผู้ที่มีรูปแบบชีวกลจำ�เพาะ (BioMechanical differ) ต่างๆหลากหลาย ที่ผู้เขียนกล่าวอย่างนี้ไปผู้อ่านก็จะรู้สึกคล้ายๆกับว่า ยังไม่ได้คำ�ตอบที่ตรงใจ
“แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงเล่าว่า ฉันมีชีวกลแบบไหน” นั่นน่ะซิครับ...ต้องศึกษาดูตัวเองก่อน อันนี้คงจะต้องเริ่มจากการ หาความรู้ คงไม่พ้นการอ่าน ที่พอจะหาได้จากบทความวิ่งมากมาย ทั้งของ ผู้เขียนเองและท่านอื่น ในเน็ตก็มี ที่ว่าด้วยธรรมชาติของเท้ามนุษย์เป็นเช่น ไร เมื่อวิ่งเท้ามีแรงขนาดไหนในการกระทบพื้น หนักขนาดไหน แล้วค่อย จำ�เพาะลงมา ทดสอบดูตัวเอง แต่ละคนจัดเข้าหมวดหมู่ชนิดใด แล้วจึงไป ถึงขั้นหารองเท้าที่เข้ากับความเป็นเท้าของตัวเองภายหลัง ส่วนชุดวิ่งและเครื่องเคราประกอบอื่นที่เมื่อเปรียบเทียบกับรองเท้าวิ่ง แล้ว มีความสำ�คัญที่จัดได้ว่า ไม่ค่อยจำ�เป็นเลย ชุดวิ่งที่เหมาะสมกับบ้านเรา คือชุดวิ่งที่ให้การระบายง่าย แห้งเร็ว และ ใส่แล้วเคลื่อนไหวสะดวก เป็นเสื้อกล้ามเนื้อโปร่ง หน้าตาก็เป็นแบบที่พวก เราเห็นๆกัน ที่ไม่ใช่ก็คือ เป็นเสื้อยืดแขนสั้น เสื้อผ้าร่ม แขนยาว-ขายาว ยกฮู้ ดปิดหัว วิ่งแล้วมีเสียงสวบสาบ หรือเนื้อผ้าวอร์ม ร้อนระเบิดระเบ้อ นั่นเป็น ของเมืองหนาวครับ
2) ฝึกอย่างฉลาด
อย่าฝึกอะไรในวันนี้ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้เราจะฝึกอะไร ผู้เขียนหมายความ ว่า คุณต้องมีแผน มีตารางวิ่ง วันนี้ฝึกอะไร วันหน้าฝึกอะไร ซึ่งมันจะ ประกอบกันขึ้นมาได้ก็ต่อเมื่อ มันมีเป้าหมายวิ่งเสียก่อนว่า ทุกวันนี้คุณจะวิ่ง ไปทำ�ไม นั่นคือ เราอาจจะวิ่งเพื่อสุขภาพ หรือวิ่งเพื่อแข่งขัน หรือวิ่งเพื่อแสวงหาความภาค ภูมิใจ หรือวิ่งเพื่อเงิน (ซองรางวัล) ที่แม้บางเป้าหมายจะสามารถไปพร้อมๆ กันได้ แต่เราก็ต้องหมายตาลงจุดหลัก จุดรองไว้ จะได้รู้ว่า วันคืนที่ผ่าน ไป เราได้ทำ�อะไรบ้าง ไม่เลื่อนลอยไปกับการผัดวันประกันพรุ่ง นี่ยังรวม ทั้งเป็นการกระตุ้นการจัดการอะไรบางอย่าง เช่น การที่ยังไม่รู้ประเด็นใด ประเด็นหนึ่ง ทำ�ไงจะได้รู้ จะต้องไปถามใคร นี่ผ่านมาสองสัปดาห์แล้ว ยัง ไม่มีอะไรคืบหน้า ถ้าหากเราไม่รู้เรื่องนั้นแล้ว เราจะดีไซน์สูตรฝึกได้อย่างไร กัน ดังนั้นเพื่อประสิทธิภาพของการวิ่ง เราจะต้องใส่เงื่อนไขเวลาลงไปใน ตารางด้วย เมื่อกล่าวถึงตารางวิ่ง ให้บันทึกลงไปให้ละเอียดด้วยว่าข้างหน้าจะฝึก อะไร (ให้ลงดินสอไว้ จะได้ลบได้) เมื่อฝึกแล้วมันกลายเป็นอดีต ที่เรากลับมา บันทึกใหม่ให้เป็นตัวหมึกว่า ได้ฝึกอะไรไปจริงๆ บ่อยครั้งที่สิ่งแวดล้อมมัน พาเราคลาดเคลื่อนไป ดูไปเถิด นักวิ่งที่ยิ่งเอาจริงเอาจังเท่าไร เป็นผู้มีฝีเท้าหรือมากประสบการณ์ เท่าไร จะพบว่าพวกเขามีตารางวิ่ง ที่จำ�เพาะเจาะจงมากเป็นเงาตามตัว เท่านั้น พวกเขามีความสามารถที่จะย้อนหลังมาดูได้ตลอดเวลาว่า ณ ช่วง กลางปีที่แล้ว เขาวิ่งอะไรบ้าง ทั้งฝึกและแข่ง และระดับความสามารถขณะ นั้น เป็นอย่างไร ความละเอียดของแผนตารางฝึกวิ่ง ที่โดยทฤษฎีบอกว่า ยิ่งละเอียดยิ่งดี แต่ ในทางปฏิบัติ เราบันทึกแค่พออ่านย้อนหลังให้ผู้วิ่งสามารถ Recall ได้แจ่ม แจ้งว่า ตัวเขาได้ไปทำ�อะไรมาถึงได้บาดเจ็บอย่างนั้น หรือที่ฝีเท้าขึ้นมาได้จน ทุกวันนี้ เขามีแผนฝึกเป็นอย่างไร ส่วนใครที่จะบันทึกละเอียดกว่านั้น ก็ไม่ เป็นปัญหา แต่เห็นสมควรให้มีกันทุกคน แม้กระทั่งวิ่งเพื่อสุขภาพ
13
3) หาเส้นแดงของตัวเองให้พบ
ที่ตัวเราเท่านั้นที่ต้องเป็นพระเอกเอาการเอางานคนอื่นเขาจะมารู้ดีกว่า ตัวเราได้อย่างไร ก็โดยการลองถูกลองผิดไง และใช้สามัญสำ�นึกหว่านโปรย ลงไป ให้มันถูกมากกว่าผิด ที่ถ้านักวิ่งไม่ทึบจนเกินไป เขาย่อมจะตระหนัก ว่า ลิมิตของตัวเขาเองอยู่ตรงไหน ที่เกินไปกว่านั้นจะโอเวอร์เทรนหรือ บาดเจ็บ (โยนิโสมนสิการ) พร้อมๆกันนั้นความรู้ภายนอกที่เราแสวงหา เข้ามาจะช่วยขยายประสบการณ์ลองผิดลองถูกนั้นให้แน่ใจยิ่งขึ้น หรือ อาจจะเป็นการเตือนให้รู้ว่าที่ผ่านมา เราผิดทาง จะได้ทบทวน ตะล่อมให้ เข้าถูกที่และปลอดภัย (ปรโตโฆษะ) ย้อนกลับมาที่เรื่องเส้นแดง ที่เมื่อเรา หาเส้นแดงของตัวเองพบแล้ว เราก็จะรู้ตำ�แหน่งแหล่งที่ตัวเองจะได้ฝึก ได้ เล่น ได้แข่ง อยู่ Somewhere ใต้เส้นแดงนั้น แต่เมื่อผ่านการยกระดับการ รับรู้ทั้งภายในที่ไตร่ตรองอย่างรอบคอบกับความรู้ภายนอกที่เราแสวงหา อย่างสม่ำ�เสมอจากกัลยาณมิตรต่างๆ เราอาจพบว่า บางครั้งบางคราว เรา อาจ “ไปท่องเที่ยวนอกจักรวาล” ด้วยการเหาะเหินเดินอากาศ เหนือเส้น ลิมิตแดงของตัวเองชั่วขณะ เพื่อจะได้รู้ว่า โลกข้างนอกนั้นเป็นอย่างไร เพื่อ จะให้ตัวของเราลิ้มรสชาติของการพัฒนา และ กระตุ้นต่อมจินตนาการให้ เพริศแพร้ว ขอขีดเส้นใต้ “ชั่วขณะ” แล้วก็กลับมายังถิ่นฐานบ้านช่องตัวเอง ใต้เส้นแดง ก้มหน้าก้มตาฝึกวิ่งกันต่อไป ที่ไม่ว่าทางช้างเผือกที่ไปเห็นมาจะ เพริศแพร้วขนาดไหน เราย่อมต้องคุมกำ�เนิดความใฝ่ฝันมิให้เตลิดเปิดเปิง มากนัก แม้วิตามินจะเป็นเม็ดอุดมแต่หากสวาปามเข้าเยอะเกินขนาดย่อมมี พิษร้ายและเป็นภัยได้เสมอ
4) พิจารณามิติเรื่องการขาดซ้อม อย่างเป็นภาพรวม
โลกมันมีสองด้านครับ ที่ด้านแรก ความเป็นจริงบอกเราว่า การซ้อมนั้น สำ�คัญมาก จงต่อเนื่องแผนซ้อมอย่างเคร่งครัด การที่จะพัฒนาไปได้ด้วยดี ก็ต่อเมื่อขยันฝึก ไม่เหนื่อยหน่ายและท้อถอย แต่ในอีกด้านหนึ่ง คือความ รู้จักการยืดหยุ่นปรับตัวและปรับแผนฝึกวิ่ง ให้สอดรับกับสถานการณ์แวด ล้อมอื่นๆรอบตัวเรา อย่าลืมว่าตัวเราไม่สามารถจะวิ่งๆๆๆๆ เท่านั้น แต่มีงา น , เมีย , ลูก , ครอบครัว , เพื่อนและนาย ที่พวกนี้ยังประกอบไปด้วยดาว บริวาร คือ ความคาดหวังต่างๆอีกร้อยแปดพันประการ ดังนั้นเราจะต้อง จัดการรูปแบบและองศาความสัมพันธ์กับปัจจัยเหล่านี้ อย่างเป็นพลวัต การเกาะติดประเด็นใดประเด็นหนึ่งอย่างเหนียวแน่นจนเกินไป ให้ระวังว่า จะไม่ต่างจากคนดื้อรั้น , เผด็จการ และโหดร้ายต่อตัวเองและตัวละครรอบ ตัวถ้าเป็นเช่นนั้นโซลูชั่นสุดท้ายมันก็จะไม่เอื้อให้คุณประสบความสำ�เร็จใดๆ ได้เลย ให้พวกเราสังเกต ราวหลอดไฟที่แขวนพาดโยงอยู่ตามแนวรั้วของ สถานที่ราชการในวันสำ�คัญ เช่น วันเฉลิมพระชนมพรรษา ที่แต่ละระยะที่ แน่นอนจะมีหลอดไฟอยู่หลอดหนึ่งเสมอ เป็นระยะที่ตายตัว เวลาเสียบปลั๊ก ไฟฟ้า จะสว่างพรึบสวยงามเป็นระเบียบ แต่ลองดูให้ดี มันจะมิเป็นเช่นนั้น เสมอไป ด้วยว่าหลอดไฟบางหลอด แม้จะมีอยู่แต่ไม่สว่าง อาจจะเป็นเพราะ หลอดขาดหรืออะไรก็แล้วแต่ บางทีหลอดก็หายไปเฉยๆ เหลือแต่จุ๊บขั้ว ต่อ เมื่อเราถอยห่างออกไปมองจากระยะไกล เราจะไม่เห็นข้อบกพร่องเหล่า นั้น มันยังดูรักษาความเป็นแนวและระเบียบของมันอยู่ ในความเป็นระเบียบนั้น เรามักจะเห็นภาวะไร้ระเบียบคู่ขนานไปเสมอ ใน ความสว่างไสว เราจะพบความมืดมนเจือปนอยู่ร่ำ�ไป ในความฉลาดเฉลียว จะพบความโง่เขลาแอบซ่อนอยู่เป็นประจำ�ไม่เว้นแม้กระทั่งในความรักที่
14
คิวปิดเทวดาน้อยไม่เคยละวางคันธนูเอาเลย ข้อใหญ่ใจความก็คือ เราจะอยู่ในท่ามกลางสถานการณ์ที่แหว่งโหว่ขาดหาย และ Non-Perfect นี้ได้อย่างไร ค่อยๆมองไปและทำ�ความเข้าใจกับโลกและชีวิตว่าเราควรพากเพียรใช้ความ มานะพยายามไปกับการรักษาความเป็น Pattern ของมันมากกว่าความ สมบูรณ์พร้อม นี้ย่อมจะทำ�ให้ เราไปกับแผนฝึกได้อย่างปราศจากแรงเสียด ทานมากนัก และเมื่อมีแรงเสียดทานต่ำ�กว่า นักวิ่งก็ย่อมประสบความสำ�เร็จ มากกว่านั่นเองครับ อย่างนี้ ถ้ามีหัว เรายังเอาไปปรับใช้กับแง่มุมอื่นๆของ ชีวิตได้อีกด้วย
5) ให้รู้จักเลือกคบหา
ใครที่จะเป็นประโยชน์กับการวิ่งของเรา ให้เจาะเข้าไป ไม่ใช่หมายความ ว่าให้คบเฉพาะบางคนที่เอื้อประโยชน์ให้เราเท่านั้น ใครที่ไม่มีประโยชน์ไม่ คบ ไม่ใช่อย่างนั้น นั่นมันเป็นไมตรีทั่วไป แต่ชีวิตมันกว้างและมีปริมณฑล เหลือเฟือ ที่ให้เราสามารถจัดสรรพื้นที่ให้กับ Someone ที่อาจอำ�นวย ประโยชน์จำ�เพาะมากกว่าผู้อื่นในการวิ่งได้ คือความสามารถในการแสวงหา ปัจจัยที่ส่งเสริมการวิ่งของเราให้เป็นไปได้ด้วยดีนั่นเอง เช่น - หมอที่เป็นเพื่อนนักวิ่งของเรา - Podiatrist - Chiropractors - Massage therapist
6) โปรดตระหนักว่า การวิ่ง ปราศจากสูตรสำ�เร็จ
สูตรวิ่งฟรีไซส์ สูตรเดียว ที่ใช้ได้ทุกขนาด เป็นแนวปฏิบัติเดียวที่ใช้ได้กับ นักวิ่งทุกคน นั้น ไม่มีครับ - สูตรวิ่งสุดยอดอย่างนั้น อาจมีอยู่ แต่มันยังไม่ได้ถูกเขียนขึ้นมา - ไม่มีรองเท้าวิ่งยี่ห้อใดที่จะใส่แล้วดี ไปหมดทุกราย - ไม่มีการจัดวิ่งใด (Race Directing) ใด ที่จะสามารถจัดได้เยี่ยมยอดถูกใจ กับนักวิ่งทุกคน ได้แค่จับใจคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดเท่านั้นเอง ไม่ใช่ทั้งหมด - อย่าเอาสูตรฝึกของเราไปให้ใคร ไม่ใช่เพราะหวง แต่มันคนละขนาด อย่า พาคนไปตาย อย่าไปเอาสูตรของผู้อื่นมาฝึก - อย่าตัดสินการกระทำ�ของนักวิ่งอื่นด้วยความฝันของเรา ด้วยเป้าหมายการ วิ่งของเรา -อย่าด่วนระบายสี และระบุองศาความถูกต้อง พวกนักวิ่งที่ฝึกคอร์ ทว่า “เครียด” ว่า “เสียสุขภาพ” อย่าทระนงตัวว่า LSD ดีที่สุด - อย่าเที่ยวไปพูดว่า “วิ่งเนี่ยะดีที่สุด ดีกว่ากีฬาอื่นใดทั้งหมด” ไม่ไหวอย่าง นี้ไม่สร้างสรรค์ อย่าทำ�ตัวเป็นสาเหตุให้เพื่อนนักกีฬาอื่นเขาเหม็นหน้าเรา ใครโดนเข้าไปเต็มๆ อย่าโกรธกัน ก็เพราะรักตัวเองนั่นแหละ เค้าถึงได้สะกิดไงล่ะ
IMAGERY รูปมีอยู่ว่า...
Photo By Panupong Koatdee
15
16
I Frankenstein
ฉายวันนี้ 13.00 ,17.00,19.00 I, Frankenstein เล่าเรื่องราวของ อดัม (แอ ร่อน แอ็คฮาร์ท) สิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นโดย ดร. แฟรงเกนสไตน์ มีความสามารถและทักษะ ฝีมือที่ผ่านกาลเวลามากว่า 200 ปี เขาต้อง อยู่ท่ามกลางการต่อสู้ของ 2 เผ่าพันธุ์ ที่หมาย จะยึดครองโลกนี้ ซึ่งเขากลายเป็นความหวัง สุดท้ายที่จะหยุดยั้งเหตุการณ์นี้ให้ได้ หนัง I, Frankenstein กำ�กับโดย สต๊วร์ต บีท ตี้ (Stuart Beattie) ซึ่งเคยมีผลงานการเขียน บทและกำ�กับโดย 30 Days of Night และ G.I. Joe: The Rise of Cobra
สีเรียงเซียนโต๊ด ฉายวันนี้ 11.00,13.00 15.00,19.00,21.00 และ 23.00 สีเรียงเซียนโต๊ด หนังคนตัดเซียนแบบไทยๆที่ ได้ นนทรีย์ นิมิบุตร มาควบคุมงานสร้างให้ โดย หนังได้ ชาคริต แย้มนาม มารับบทเป็น โต๊ด นัก มายากลฝีมือเยี่ยม ที่ถูก เซียน (เทพ โพธิ์งาม) และเรียง (โจ๊ก อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ) ที่บ้า การพนันเข้าสายเลือดดึงตัวมาช่วยเพื่อให้ล้ม โต๊ะพนัน โดยมี สี (ภัทรา อธิราษฏร์กุล) สาวโค โยตี้รับหน้าที่เป็นนางนกต่อ เกมหักเหลี่ยมเฉือน คมระหว่างสี เรียง เซียน โต๊ด กับเจ้าพ่อนักพนัน จึงเริ่มต้นขึ้น
กาลครั้งหนึ่ง จนวันนี้
สารคามFILM
ฉายวันนี้ 11.00,15.00,17.00,21.00,23.00 จากตัวอย่างหนังบอกเราว่าอารักษ์รับบทเป็น ชายหนุ่มชื่อต้นที่กำ�ลังจะแต่งงานกับหญิงสาว ชื่อตาล (อาภา ภาวิไล) แต่เขาก็ยังไม่ลืมแก้ว (อธิศาพัฒน์ วงศ์เงินยวง) รักแรกในวัยมัธยมที่ มีความสำ�คัญต่อเขามาก และเธอก็หายไปจาก ชีวิตของเขาเฉยๆ จนทำ�ให้เขาต้องตามหารัก แรกที่สัญญากันไว้ว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไปนี้ ก่อนที่จะแต่งงานกันได้
หนังดังประจำ�เดือน By Nop Chathongyot
17