สารบัญ คํานํา ชีวประวัติหลวงปูสมชาย ฐิตวิริโย
1
ประวัติพระญาณวิลาศ (เจาอาวาสวัดเขาสุกิม)
5
ความเปนมาของวัดเขาสุกิม จันทบุรี
7
ที่อยู แผนที่ และขอมูลติดตอ วัดเขาสุกิม
9
แผนที่ทองเที่ยววัดเขาสุกิม
10
12 สถานที่สําคัญภายในวัดเขาสุกิม
11
หนังสือเลมนี้จัดทําขึ้น เพื่อเปนคูมือใหแกกลุมนักทองเที่ยวที่เดินทางมา ทองเที่ยวยังวัดเขาสุกิม จันทบุรี ซึ่งเนื้อหาภายในเลมจะประกอบไปดวยขอมูล บรรยายเกี่ยวกับประวัติของหลวงปูสมชาย ฐิตวิริโย ผูกอตั้งวัดเขาสุกิม พระญาณวิลาศ (บุญ สิริปุญโญ ) เจาอาวาสวัดเขาสุกิม ตลอดจนขอมูลแนะนํา เกี่ยวกับสถานที่สําคัญภายในวัด เชน โบสถจตุรมุข , ตึก 60 ป เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งจะทําใหนักทองเที่ยวไดทราบความเปนมาและความสําคัญของแตละสถานที่ อันเปนสิ่งที่มีคุณคาและควรแกการอนุรักษตามเจตจํานงของหลวงปูที่ไดเก็บรักษา ไวใหสือทอดตอรุนลูกรุนหลานสือตอไป
หลวงปูสมชาย ฐิตวิริโย ทานเปนชาวจังหวัดรอยเอ็ด เกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2468 ตรงกับวันอังคารขึ้น 15 ค่ํา เดือน 5 ปฉลู เวลาเที่ยงวัน ณ หมูบานเหลางิ้ว ตําบลจังหาร อําเภอจังหาร จังหวัดรอยเอ็ด ในตระกูลที่เปนชาวฮินดู หลวงปูสมชายเปนบุตรคนที่ 2 บิดาชื่อนายสอน มติยาภักดิ์ มารดาชื่อนางบุญ มติยาภักดิ์ มารดาของทานเปนบุตรีคนเล็ก ของคุณหลวงเสนา ผูนําศาสนาฮินดูในทองถิ่นนั้น หลวงปูสมชาย ฐิตวิริโย ทานมีพี่นองรวมบิดามารดาเดียวกันเพียง 2 คน คือ 1. นายหนู มติยาภักดิ์ 2. สมชาย มติยาภักดิ์ วันที่หลวงปูสมชายกําเนิดนั้นเปนวันตรงกับเวลาประกอบพิธีทางศาสนา พอเริ่มขบวนแห มารดาของทาน ก็ใหกําเนิดทานซึ่งทําใหพิธีการทางศาสนาที่กําลังกระทําอยูตองหยุดชะงักลง ดวยนิมิตหมายอันนี้ คุณตาหรือคุณหลวงเสนา จึงไดทํานายไววา "หลวงปูสมชาย จะเปนผูเปลี่ยนแปลงศาสนาเดิมของตระกูล" และก็เปนไปตามนั้น เพราะทานมีความสนใจในธรรมะทางพระพุทธศาสนา ทานชอบอานหนังสือ เกี่ยวกับพระพุทธศาสนามาก โดยทานมีอุปนิสัยในทางธรรมตั้งแตอายุ 16 ป ทานไดใชชีวิตอยูในทาง ฆราวาสจนถึงอายุ 19 ป
การบรรพชา-อุปสมบท หลวงปูสมชายไดเดินทางไปฝากตัวเปนศิษยกับทานอาจารยเพ็ง วัดปาศรีไพรวัลย อยูฝกฝนอบรม พอสมควรจึงไดบรรพชาเปนสามเณร ณ วัดเหนือ อําเภอเมือง จังหวัดรอยเอ็ด มีทานเจาคุณพระโพธิมุนี เจาคณะจังหวัดรอยเอ็ด ธรรมยุตเปนพระอุปชฌาย วันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2487 ตรงกับวันจันทรขึ้น 15 ค่ํา เดือน 7 ปวอก พํานักจําพรรษา ณ วัดปาศรีไพรวัลย 1 พรรษา ขณะนั้นทานมีอายุประมาณ 19 ป
ในระหวางที่จําพรรษาอยูไดยินกิตติศัพทวา หลวงปูมั่น ภูริทตฺตเถร "เปนพระอรหันตผูหมดจด จากกิเลส" ใครจะไดเห็นพระอรหันตขีณาสพในสมัยปจจุบัน จึงกราบลาทานอาจารยและติดตาม พระอาจารยปอง จนฺทสาโร และคณะ 4 – 5 รูป เดินทางมุงสูสํานักหลวงปูมั่น จนลุถึงเขตสาขาสํานัก หลวงปูมั่นคือ สํานักทานอาจารยกู วัดปาบานโคกมะนาว ซึ่งเปนสํานักหนาดานอยูรอบนอก จึงไดอยู ฝกฝนอบรมจิตใจและมารยาท เมื่อสมควรแลวไดพากันไปมอบกาย ถวายตัวเปนลูกศิษยหลวงปูมั่น เมื่อปลายป พ.ศ. 2487 ที่วัดปาหนองผือ ตําบลนาใน อําเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ขณะที่ยังเปนสามเณรอยู หลังจากเขาไปมอบกายถวายตัวเปนลูกศิษย ภูริทตฺตเถรแลว ทานก็ไดตั้งใจศึกษาธรรมะขอวัตรปฏิบัติทั้งปวง เมื่อเห็นวาจวนจะถึงฤดูกาลพรรษาจึงไดกราบลาหลวงปูมั่น ออกไปบําเพ็ญและจําพรรษา อยูกับทานพระอาจารยกงมา จิรปุญโญ วัดดอยธรรมเจดีย อ.เมือง จ.สกลนคร ที่สํานักหลวงปูมั่น เมื่อป พ.ศ. 2488 เพื่อคอยเวลาไปศึกษาธรรมะในโอกาสตอไป เมื่อทาน อาจารยอายุครบ 20 ป พอที่จะทําการญัติติจตุตถกรรมเปน พระภิกษุในบวรพระพุทธศาสนาไดแลว หลวงปูมั่น ภูริทตฺตเถร ก็ได มอบผาสังฆาฏิใหผืนหนึ่ง มีขันธ 11 ขันธ ชอน-สอม ทองเหลือง 1 คู รวมในการอุปสมบท หลวงปูสมชายเห็นวาเปนผาของครูบาอาจารยที่ทานเคยใชมาแลว ลูกศิษยไม ควรเอามาใช เพราะจัดอยูในประเภทบริโภคเจดียควรแกการกราบไหวสักการบูชาแกศิษยานุศิษย ทานจึง เก็บเอาไว หลวงปูมั่นไดทราบเจตนาจึงไดสั่งใหคุณแมนุม ชุวานนท ซึ่งเปนโยมอุปฏฐากของทานที่สําคัญ คนหนึ่งจัดการหาผาสังฆาฏิใหมมาถวาย เมื่อจัดบริขารทุกอยางเรียบรอยแลว หลวงปูมั่นไดสั่งใหทานเจาคุณพระธรรมเจดีย (จูม พนฺธุโสเถร) เปนพระอุปชฌาย หลวงปูฝน อาจาโร เปนพระกรรมวาจาจารย สั่งใหทานพระ อาจารยกงมา จิรปุญโญ เปนพระอนุสาวนาจารย ทําการอุปสมบทกรรม ณ พัทธสีมา วัดศรีโพนเมือง อ.เมือง จ.สกลนคร โดยมีหลวงปูฝน อาจาโร เปนเจาอาวาส
หลังจากการไดรับอุปสมบท หลวงปูสมชายไดออกบําเพ็ญสมาธิ
แสวงหาโมกขธรรมโดยตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมตลอดมาเพื่อพิสูจนความจริง ในพระศาสนาซึ่งทานไดออกเดินทางไปกรรมฐานในภาคเหนือและภาคอีสาน ผานเกือบทุกจังหวัด รวมทั้งยังขามไปในเขตประเทศลาวและประเทศพมา การเดินธุดงคปฏิบัติกรรมฐานของทานนั้น ทานเปนพระที่ปฏิบัติอยางจริงจัง เด็ดเดี่ยว และประกอบดวยเคยมีบารมีมาแตกอน ทานจึงเปนพระ ที่มีบุญญาอภินิหารมากมาย ชาวบานตางพากันเลื่อมใสศรัทธา เมื่อครั้งทานไดเดินทางกลับมาพักที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบขีรีขันธ มีลูกศิษยของอาจารยทานหนึ่ง แนะนําวาจังหวัดจันทบุรีเปนสถานที่ประกอบพรอมไปดวยสัปปายะ มีสถานที่ที่สงบและมีบริเวณ หลายแหงเหมาะแกการบําเพ็ญภาวนา หลวงปูจึงตกลงใจมาจันทบุรีเพื่อทดลองดู เมื่อ พ.ศ. 2504 และจึงนํามาสูการกอตั้งวัดเขาสุกิมตอมา
มรณภาพ
เมื่อหลวงปูสมชายทานไดพัฒนากอตั้งวัดเขาสุกิมแหงนี้เรื่อยมานับตั้งแตอดีตจนทําใหวัดเขาสุกมิ
ในวันนี้กลายเปนวัดที่ใหญและเจริญมากมีประชาชนมากมายเดินทางเขามาเที่ยวชม นอกจากนีไ้ มเพียงแต หลวงปูสมชายทานจะไดมีการกอสรางพัฒนาวัดเขาสุกิมเทานั้น แตทานยังไดพัฒนาสถานที่ภายนอกวัดอีก มากมาย ไมวาจะเปนโรงพยาบาล โรงเรียน ทุนการศึกษา การแจกจายเครื่องอุปโภค บริโภคแกชาวบาน และในถิ่นทุรกันดาร ฯลฯ ทั้งในจังหวัดจันทบุรีและที่จังหวัดอื่น ๆ อยางมากมาย สวนที่เปนศาสนวัตถุที่หลวงปูสมชายทานไดมีดําริและมีความปรารถนาแรงกลาที่จะสรางใหเปน ศาสนสมบัติคูบานคูเมืองอีกอยางหนึ่งนั่นก็คือ พระมหาเจดียที่มีนามวา “บูรพาฐิตวิริยาประชาสามัคคี” ซึ่ง ขณะนี้กําลังกอสรางอยูทางภูเขาดานทิศตะวันออกของวัดเขาสุกิม โดยหลวงปูส มชาย ฐิตวิรโิ ย ทานไดเลือก สรางพระมหาเจดียแหงนี้ใหเปนแบบสถาปตยกรรมสมัยยุครัตนโกสินทร โดยเลือกวางหลักปกฐานสรางอยู ทางดานทิศตะวันออกของตัววัดเขาสุกิม ซึ่งสูงจากพื้นราบประมาณ 99 เมตร
โดยแบบเจดียที่จะสรางนั้นจะมีความสูงจากฐานพระเจดียถึงยอดรวม 119 เมตร โครงสรางฐานกวาง 99 เมตร แบงเปน 7 ชั้น รอบองคพระเจดียจ ะประดิษฐานพระพุทธรูปจํานวน 84,000 องค เทากับ จํานวนพระธรรมขันธดวย พระมหาเจดีย “บูรพาฐิตวิริยาประชาสามัคคี” แหงนี้หลวงปูทานไดมีดําริจะ สรางขึ้นเพื่อใชเปนสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เปนที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหินออนกับ พระพุทธรูปางประทานพร 101 องค เปนพิพิธภัณฑเก็บอัฐบริขาร และยังใชเปนสถานที่ปฏิบัติธรรม ของพุทธบริษัทสี่อีกดวย แลวเมื่อมาถึงตนป พ.ศ. 2548 ในขณะที่กําลังวางโครงการที่จะเริ่มกอสรางพระมหาเจดียแหงนี้ อยูนั้นหลวงปูสมชาย ฐิตวิริโย ทานก็ไดอาพาธดวยโรคไตวายเรื้อรังอยางตอเนื่องมากอนหนานี้ถึง 4 ป จนตองสงเขารักษาตัวทีโ่ รงพยาบาลวิชัยยุทธเปนการเรงดวน จนเมื่อวันเสารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2548 ขึ้น 12 ค่ําเดือน 7 ประกา เวลา 10.40 น. หลวงปูสมชาย ฐิตวิริโย หรือ พระวิสุทธิญาณเถระ (สมณะศักดิ์ของหลวงปูในสมัยนั้น) ก็ไดมรณภาพลง ดวยอาการไตวายฉับพลัน ซึ่งหลังจากหลวงปูสมชายไดมรณภาพลงแลวในชวงเชาของวันเสารที่ 15 เมษายน 2549 ซึ่ง พระอาทิตยโคจรเคลื่อนเขาสูราศีเมษ ทางวัดเขาสุกิมจึงไดสานตอเจตนารมณของหลวงปูสมชายตอไป โดยเริ่มทําการตอกเสาเข็มวางศิลาฤกษการกอสรางพระมหาเจดียบรู พาฐิตวิริยาประชาสามัคคีมานับจาก วันนั้น
เจาคุณพระญาณวิลาศ
เดิมทานชื่อ บุญ ทาศรี เกิดเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2491 ตรงกับวันศุกร ขึ้น 1 ค่ํา เดือน 2 ปชวด ที่บานกองโค ต.อรุม อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ เปนบุตรของนายมั่ง และ นางลออ ทาศรี มีพี่นองทั้งหมด 9 คน โดยทั่วไปทานมีนิสยั โอบออมอารี ชอบชวยเหลือ ผูอื่นเสมอ และมีความศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนา ทานมีความเลื่อมใสในองคหลวงปูส มชาย ฐิตกิรโิ ย จึงได เดินทางมาที่จังหวัดจันทบุรี ตามคําแนะนําบอกกลาวของ ญาติผูใหญ ซึ่งอยูที่จังหวัดจันทบุรีและไดทําการบรรพชา อุปสมบทที่วัดจันทนาราม อ.เมือง จ.จันทบุรี (ธรรมยุต) เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2516 โดยมีพระศรีวสิ ุทธินายก (สมณศักดิ์ในขณะนั้น) ปจจุบันคือพระเทพสารสุธี เจาคณะจังหวัดจันทบุรี เปนพระอุปชฌาย ทานมีความ ชํานาญในดานนวกรรมการกอสราง เครื่องจักรกลวางแผน ออกแบบโครงการตางๆ ตัดเย็บจีวร และบมบาตร เปนตน เมื่อครบ 4 พรรษา ทานไดรับแตงตั้งใหเปนผูดูแลสํานักสงฆแหลมเสด็จ ดํารงตําแหนงอยู 1 ป พรรษาที่ 5 ทานไดรับมอบหมายจากหลวงปูสมชาย ฐิตวิริโย ใหมารักษาการหัวหนาสํานักสงฆเนินดินแดง อยูจําพรรษาจนถึงพรรษาที่ 9 หลวงปูสมชาย ฐิตวิริโย ทานไดเมตตาใหเขามาชวยงานที่วัดเขาสุกิม และ ดวยความขยันหมั่นเพียร มีความวิริยะอุตสาหะปฏิบัตดิ ีปฏิบตั ิชอบมาโดยตลอด หลวงปูสมชาย ฐิตวิรโิ ย จึงเสนอเจาคณะจังหวัดแตงตั้งเปนเจาอาวาสวัดเขาสุกมิ ตั้งแตป พ.ศ.2526 เปนตนมา ดวยความสามารถ ในดานการปกครอง การเผยแผ การพัฒนา การบําเพ็ญประโยชน และดานอื่นๆ ทานจึงไดรับ การโปรดเกลาฯ แตงตั้งเปนพระราชาคณะมีราชทินนามที่ "พระญาณวิลาศ" ในป พ.ศ.2535 และทาน ยังไดรับการแตงตั้งใหเปน เจาคณะตําบลเขาบายศรี และเจาคณะอําเภอทาใหม - นายายอาม (ธรรมยุต) จังหวัดจันทบุรีในเวลาตอมา
ทานไดสนองงานของครูบาอาจารย รับภารธุระพระพุทธศาสนามาตลอดโดยเฉพาะการสานตอ
ปฏิปทาของหลวงปูสมชาย ฐิตวิริโย ในการดําเนินการกอสราง "เจดียบูรพาฐิตวิริยา ประชาสามัคคี" ซึ่ง ปจจุบันไดดําเนินการกอสรางถึงชั้นที่ 2 แลว ทานไดพัฒนาวัดเขาสุกิมจนเปนวัดที่มีชื่อเสียงเปนที่รูจักของ สาธุชนทั่วไป มีผลงานเปนที่ประจักษมากมาย อาทิ ทานไดพัฒนาวัดจนทางวัดไดรับรางวัลตางๆ เชน "วัดพัฒนาตัวอยาง" "วัดอุทยานการศึกษา" "วัดพัฒนาตัวอยางดีเดน" และเปน "ศูนยพัฒนาจิตเฉลิม พระเกียรติ" ป พ.ศ.2545 เปน "ศูนยปฏิบัติธรรมประจําจังหวัดแหงที่ 1" พรอมทั้งงานดาน การสงเคราะหบําเพ็ญประโยชน, การเผยแผ, การสงเสริมการบรรพชาและอุปสมบท และใหมีการปฏิบัติ บําเพ็ญภาวนา ทําใหวัดเขาสุกิมมีความเจริญมีการขยายสาขาวัดไปทั่วประเทศถึง 61 สาขา และมี คุณความดีอีกนานัปการ ทานพระญาณวิลาศ ทานเปนพระมหาเถระผูเพียบพรอมดวยศีลาจารวัตรอันดีงามมีความตั้งใจ เสียสละ ทุมเท และอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาและประเทศชาติ มาเปนระยะเวลานาน อันกอใหเกิด ประโยชนตอสังคมทั่วไปอยางเห็นไดชัด ทานจึงไดรับการถวายรางวัลพุทธคุณูปการกาญจนเกียรติคุณ เพื่อยกยองเชิดชู และประกาศเกียรติคุณใหปรากฏแผไพศาล จากคณะกรรมาธิการศาสนา ศิลปะและ วัฒนธรรม สภาผูแทนราษฎร เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2553 จากผลงานอันทรงคุณคาของทานที่เพิ่มขึ้น ตามลําดับนั้น ทําใหคณะบุคคลสถาบันการศึกษา ตางๆ ไดยกยองเชิดชูเกียรติของทาน โดยเมื่อ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2553 ที่ผานมา ทางสภา การศึกษา มหามกุฏราชวิทยาลัย ไดประชุมและมี มติเปนเอกฉันทเห็นสมควรถวายปริญญา ศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชา พุทธศาสตร แดทานพระญาณวิลาศ
ใน ป พ.ศ. 2509 พันโทสนิท พรอมดวย
คุณนายประนอม บูรณะคุณและคุณรัตนา เอกครพานิช ไดมีจิตศรัทธา บริจาคที่ดิน จํานวน 6 ไร 50 ตารางวา ถวายเพื่อสรางวัด ตอจากนั้น ประชาชนชาวบานไดเขามาสนับสนุน สงเสริมดานตาง ๆ เพิ่มมากขึ้น เปนตนวาไดชวยกัน บริจาคทุนทรัพยในการสรางกุฎิกรรมฐานขนาดเล็กขึ้นจํานวนหลายหลัง เพื่อทดแทนกุฏิชั่วคราวที่ได จัดสรางไวในครั้งแรกทีไ่ ด ชํารุดทรุดโทรมลงไปและไดทําการปลูกสรางสิ่งอํานวยความสะดวกดานอื่นๆ อีก หลายอยางเพื่อถวายแกพระภิกษุ สามเณรและผูปฏิบตั ิธรรม
ในระยะเวลาตอมา กุฏิกรรมฐานขนาดเล็กก็ไดพัฒนาขึ้นเปนกุฏิกรรมฐานขนาดถาวรขนาด สองชั้นมี ทางเดินจงกรมยาว 25 กาว ทั้งชั้นลางและชั้นบน ตลอดระยะเวลาที่หลวงปูสมชาย ฐิตวิริโย ไดกาวขึ้นมา บนภูเขาสุกิมแหงนี้ นับเปนระยะเวลาถึง 30 ปเศษ ( 2507-2543 ) หลวงปูทานเปนผูบุกเบิกริเริ่ม และ สรางสรรคภูเขาซึ่งเปนปาดงดิบ ใหเปนวัดที่รมริ่น เปนสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระภิกษุสาม เณรและผูที่ สนใจปฏิบัติกรรมฐาน เปนสถานที่ทัศนาการของประชาชนทั้งชาวไทยและชาวตางประเทศ วัดเขาสุกิมได พัฒนา ขึ้นมาอยางชาๆ แตทุกสิ่งทุกอยางที่เกิดขึ้น ไดแก ศาสนสถาน ศาสนสมบัติ ศาสนวัตถุ เชน เสนาสนะ กุฎิ อาคาร สิ่งของตางๆ และวัตถุโบราณตางๆ ทีม่ ีอยูในวัดเขาสุกิมทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นดวย บุญญาบารมีของหลวงปูสมชาย ฐิตวิริโย ทั้งสิ้น กลาวคือทุกสิ่งทุกอยางเกิดขึ้นดวยพลังศรัทธาของ ประชาชนที่มีความเคารพนับถือเลื่อมใสพิจารณาแลวจึงไดเสียสละทุนทรัพยจัดสรางและบริจาคสิ่งของ สนับสนุนเปนประจําวันมิไดขาดทุกสิ่งทุกอยางเกิดขึ้นจากผูที่มีศรัทธานํามาถวายทั้งสิ้น
วัดเขาสุกิมมีเนื้อที่ในการขออนุญาตสรางวัด จํานวน 6 ไร 50 ตารางวา มีเนื้อที่เปนของวัด 3,344 ไร ตอมาไดยกที่ใหโรงเรียนมัธยมวัดเขาสุกิม 50 ไร และโรงพยาบาลวัดเขาสุกมิ 14 ไร จึงเหลือ เนื้อที่ของวัด 3,280 ไร หลวงปูสมชาย ฐิตวิริโย ไดเริ่มบุก เบิก จนเปนที่รูจักของผูปฏิบัติธรรมและสาธุชน ทั่วไปเปนที่ศักดิส์ ิทธิ์ เปนสถานทีม่ ีความสําคัญอีกแหงหนึ่งของจังหวัดจันทบุรี ในแตละวันที่วัดเขาสุกิมจะมีสาธุชน เดินทางไปกราบนมัสการ หลวงปูสมชาย ฐิตวิริโย เปนประจํา มิไดขาดทั้งประชาชนในทองถิ่นและ ตางจังหวัด ตลอดจนทั้งชาวตางประเทศ บุคคลที่ไปนั้นไมเฉพาะพุทธศาสนิกชน เทานั้น ศาสนิกในศาสนา อื่นก็ไดไปเยี่ยม นมัสการอยูเ ปนประจํา เชน ศาสนาคริตส อิสลาม ซิกส เปนตน หลวงปูสมชาย ฐิตวิริโย ทานไดจดั ระบบการบริหารการปกครอง เปนไปตามระเบียบแบบแผนของ กรมการศาสนาและมหาเถรสมาคม คือ ทานไดแตงตั้งใหลูกศิษยของทานเปนเจาอาวาสมีหนาที่ในการ บริการปกครองคอยสอดสองดูแลและอบรมสั่งสอนพระภิกษุสามเณร และเปนผูประสานงานกับทาง ราชการ คณะสงฆฝายปกครองโดยตัวของหลวงปูสมชาย ฐิตวิริโย เปนประธานสงฆของวัด
วัดเขาสุกิมตั้งแตเริ่มแรกจนถึงปจจุบัน มีเจาอาวาสมาแลว 3 รูป ลําดับไดดังนี้... 1. พระอธิการคําพันธ สิริปฺโญ เปนเจาอาวาส ตั้งแตป พ.ศ. 2508-2517 (ค.ศ.1965-1974) 2. พระอธิการคําพันธ คมฺภรี ญาโณ เปนเจาอาวาส ตั้งแตป พ.ศ. 2517-2526 (ค.ศ.1974-1983) 3. พระญาณวิลาส (บุญ สิริปฺโญ) เปนเจาอาวาส ตั้งแตป พ.ศ. 2526- ปจจุบัน(ค.ศ. 1983-ปจจุบนั )
จุดหองน้ํา : 1. 2. 3. 4.
ลานจอดรถดานลาง ตึก 60 ป เฉลิมพระเกียรติ ชั้น 1 โรงอาหาร ตึกธรรมวิจัย
1. สระน้ํา
สระน้ํานี้เปนสระน้าํ ที่ไมไดเกิดขึ้นตามธรรมชาติ แตเปนสระน้ําที่เกิดขึ้นจากพระวิสุทธิญาณเถร หรือ หลวงปูสมชาย ฐิตวิริโย เปนผูใหขุดขึ้นเพื่อใหประชาชนที่อยูในชุมชนใกลวัดไดใชประโยชนจากน้ําเพือ่ การ อุปโภค บริโภคและใชในการทําไรทําสวนในฤดูแลง ดังเปนที่ทราบกันวา ประชาชนสวนใหญที่อาศัยอยูใน จังหวัดจันทบุรีมีอาชีพในการทําสวนผลไม เชน ทุเรียน เงาะ ซึ่งในสระน้ําจะมีสัตวน้ําอาศัยอยูมากมาย เชน ปลาดุก ปลานิล เตา เปนตน ซึ่งทางวัดไดประกาศใหเปนเขตอภัยทาน คือ หามทุกคนเขามาจับ สัตวน้ําทุกชนิดในสระ แหงนี้ หากทานสนใจที่จะชมความสวยงามของปลาที่เจริญเติบโตอยางเปนธรรมชาติ ทานสามารถซื้อขนมปง และอาหารปลาจากซุมที่ทางวัดจัดไวใหเพื่อความสะดวกของทุกทาน ซึ่งในทาง พุทธศาสนาการใหอาหารปลา คือ การทําทานอยางหนึ่ง
2. อนุสรณสถาน 50 ป จัดสรางขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปของวัดเขาสุกิม เพื่อใชเปนที่ประดิษฐานรูปหลอของ พระวิสุทธิญาณเถร (หลวงปูสมชาย ฐิตวิริโย) ซึ่งสรางไวเพื่อเปนอนุสรณสถานและใหบรรดา ศิษยานุศิษยรวมทั้งกลุม นักทองเที่ยวได กราบไหวบูชา ทางวัดไดประกอบพิธีเททอง หลอรูปเหมือนของ พระวิสุทธิญาณเถร (หลวงปูสมชาย ฐิตวิรโิ ย) ในวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2557
3. หลวงพอพระพุทธโคดม หลวงพอพระพุทธโคดม เปนศิลปะสมัยอยุธยา สรางเปนที่ระลึก ครบรอบ200ปกรุงรัตนโกสินทร สรางถวายเมื่อ พ.ศ.2525 สวนศาลาดานขางทั้ง2 ฝง สรางไวสําหรับเปนที่พักผอน ทุกทานสามารถเขาไปนั่งพักได สวนสะพานที่ทานมองเห็นอยูนั้น เปนสะพานที่เชื่อมตอไปยังสถานที่สําหรับพระสงฆ หรือ อุบาสก อุบาสิกา ไปนั่งวิปสสนากรรมฐาน ซึ่งทางวัดกําหนดใหเปน เขตหวงหามสําหรับพระสงฆและผูปฏิบัติธรรมของวัดเทานั้น
4. ตึก 60 ป เฉลิมพระเกียรติ อยูวิทยานุสรณ
ตึก 60 ป เฉลิมพระเกียรติ อยูวิทยาอนุสรณ มีทั้งหมด 4 ชั้นสรางขึ้นเพื่อถวายเปนพระราชกุศล
แดองคพระบาทสมเดจพระเจาอยูห ัวรัชกาลที่ 9 และมีความสําคัญ คือ เปนสถานที่ประดิษฐานรูปปนหุน ขี้ผึ้งของครูบาอาจารยสายปฏิบัตหิ ลาย องคดวยกัน และยังเปนสถานที่เก็บ รวบรวมวัตถุโบราณ เครื่องมุก เครื่องปนลายครามของเมืองจีน และ สิ่งของอื่นๆ ที่ควรแกการศึกษาคนควา อีกมากมาย หลวงปูสมชาย ฐิตวิริโย ทานได อุทิศสิ่งของทั้งหลายที่ศิษยานุศิษยนํามา ถวายนั้น ใหเปนสมบัติของ พระศาสนา และใหเปนสมบัติของประเทศไทย เพื่อเปนประโยชนแกผูที่สนใจศึกษาคนควา ไมวาจะเปน ประชาชนคนไทย หรือชาวตางชาติ ทางวัดเปดใหเขาชมเปนประจําทุกวัน โดยไมเรียกเก็บคาธรรมเนียม ใดๆ ทั้งสิ้น
4. ตึก 60 ป เฉลิมพระเกียรติ อยูวิทยานุสรณ ตึก 60 ป ฯ จะประกอบไปดวยการจัดแสดงแตละชัน้ ดังนี้
ชั้นที่ 1 เปนชั้นที่ใชเปนที่ประดิษฐาน
พระพุทธรูปและใชสําหรับเปนที่ทําบุญ ฟงธรรมและประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ในวันพระตางๆ และภายในชั้นนี้ในระหวาง ทางเดินเขายังมีตโู ชวตั้งเรียงรายจัดแสดง ของที่ระลึกจากพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว รัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศานุวง เมื่อครั้งที่ไดเดินทางเสด็จ นอกจากนี้ยังเปด ใหพักคางคืนสําหรับผูที่ตองการจะมาปฏิบตั ิธรรม ซึ่งทางวัดไดจัดอํานวยความสะดวกให ทุกอยางทั้งที่พักและอาหารโดยมิไดเรียกเก็บคาใชจายใดๆทั้งสิ้น
ตึก 60 ป เฉลิมพระเกียรติ อยูวิทยานุสรณ ชั้นที่ 2
จะเปนที่เก็บพระบรมสารีริกธาตุและที่ตั้งพระศพของพระวิสุทธิญาณเถร หรือหลวงปู สมชาย ฐิตวิรโิ ย การจัดแสดงพระธาตุของหลวงปูสมชาย ที่มีลักษณะเปนพระธาตุสีตางๆ คลายพลอยที่ ถือวาเปนสิ่งมหัศจรรย ซึ่งพระธาตุ ดังกลาวนี้ จากคําบอกกลาวของคนที่ ใกลชิดกับหลวงปูเลาวากอนทีห่ ลวงปู สมชายจะมรณภาพ ทานไดตดั เล็บ ผม และฟอกเลือดไวและมีพยาบาลไดเก็บ เลือดไวเพื่อสงตรวจแตภายหลังพบวา ของเหลานี้กลายเปนพระธาตุนั่นเอง
และในชั้น 2 นี้ ยังเปนที่จัดแสดงขอมูลตางๆเกี่ยวกับวัดเขาสุกิม ใหสาํ หรับนักทองเที่ยวและผูที่สนใจ จะศึกษา ไดเขามาอาน โดยจะมีประวัติความเปนมาของวัดเขาสุกิมตั้งแตอดีตจนถึงปจจุบัน รวมไปถึง ภาพถายของหลวงปูสมชายเมื่อตอนสมัยตางๆ
ตึก 60 ป เฉลิมพระเกียรติ อยูวิทยานุสรณ ชั้นที่ 3
หากนักทองเที่ยวทานใดที่เดินทางมาที่วัดและตองการที่จะทําบุญถวายสังฆทาน ชั้นที่ 3 นี้ จะมี พระสงฆนั่งรอรับถวายเครื่องสังฆทาน ปะพรมน้ํามนตและแจกของที่ระลึกจากทางวัด ซึ่งทางวัดยังคอย อํานวยความสะดวกใหกับนักทองเที่ยวโดยมีชุดสังฆทานจัดจําหนายไว พรอมใหนักทองเที่ยวสามารถ ทําบุญไดทันที ใกลเคียงกันยังมีรานที่ขายของที่ระลึกเครื่องรางปลุกเสกจากทางวัด เหรียญหลวงปูรุนตางๆ นักทองเที่ยวสามารถเชาซื้อไดที่บริเวณนี้
นอกจากนี้เมื่อเดินถัดไปทางดานหลังหองยังมีพิพิธภัณฑจดั แสดงโบราณวัตถุ เชน เครื่องมือเครื่องใช จานชาม เครื่องประดับ ที่ขุดเจอจากอดีตในสมัยลพบุรหี รือยุค บางเชียง เปนตน ตลอดจนของเกาสะสม ตางๆที่หาดูไดยากในปจจุบัน
ตึก 60 ป เฉลิมพระเกียรติ อยูวิทยานุสรณ ชั้นที่ 4 วิหารบูรพาจารยอุทิศอยูวิทยานุสรณ ซึ่งเปนชั้นสุดทาย ประกอบดวย 5 หอง ไดแก หองที่ 1 เปนกุฏิเจาอาวาส คือ พระญาณวิลาศ หองที่ 2 หองจัดแสดงชุดเฟอรนิเจอรประดับมุก ซึ่งสวนใหญ จะนําเขาจากประเทศจีน หองที่ 3 หองจัดแสดงชุดเฟอรนิเจอรประดับหยกนําเขาจากประเทศจีนเชนกัน หองที่ 4 จะเปนพิพิธภัณฑหุนขี้ผงึ้ จะเปนหุนขี้ผึ้ง ของพระที่อยูในสายเดียวกันกับหลวงปูสมชาย รวมทั้ง พระที่เปนพระอาจารยของหลวงปูสมชายดวย เชน หลวงปูฝน หลวงปูเสาร หลวงปูแหวน เปนตน ปจจุบันพระอาจารยทานตางๆที่ไดจําลองหุนขี้ผึ้งนั้น ไดมรณภาพทั้งสิ้นแลว
5. หลวงพอศิลา มหามงคล หลวงพอศิลา มหามงคล จะตั้งอยูบริเวณ
ลานอุโบสถซึ่งเปนอีกหนึ่งสถานที่ ทีก่ ลุม นักทองเที่ยวควรจะมาสักการะกราบไหวเพื่อความ เปนศิริมงคล โดยทางวัดจะมีดอกไมธูปเทียน จัดเตรียมไวให สําหรับผูทตี่ องการจะกราบไหว สักการะหลวงพอ ทั้งนี้เราสามารถบริจาค คาดอกไมธูปเทียนไดตามกําลังศรัทธา นอกจากนี้สําหรับผูที่ตองการจะ ทําบุญในการบูรณะ หรือรวมบุญกอสรางตึกอาคารวัตถุตางๆ ก็สามารถรวมทําได ณ บริเวณนีเ้ ชนกัน
6. ตําหนักเจาฟาเพชรรัตน สมเด็ จ พระเจ าภคิ นีเ ธอ เจ า ฟา เพชรรั ต น ร าชสุ ด าฯ และพระนางเจ า สุวั ทนา พระวรราชเทวี ในพระบาทสมเด็จพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา เจาอยูหัว (รัชกาลที่6) แหงราชวงศจักรี ไดทรง สรางและทรงประกอบพิธีถวายใหแกพระภิกษุสงฆ ในพุทธศักราช 2521 เพื่ออุทิศถวายแด พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลาเจาอยูหัว ปจจุบันทางวัดไดจัดไวสําหรับใหพระอาคันตุกะที่ เดินทางมาที่วัดไดจําวัด
7. ตึกธรรมวิจัย
ตึกธรรมวิจัย เปนตึก 4 ชั้น เดิมไดทําเปนพิพิธภัณฑสถานซึ่งรวบรวมโบราณวัตถุที่ญาติโยมไดนํามา
บริจาคถวายไวใหเปนสมบัติของชาติและพระศาสนา ซึ่งปจจุบันไดยา ยของสวนใหญมาเก็บรักษาไวที่ชนั้ 3 ของตึก 60 ปเฉลิมพระเกียรติแลว สําหรับชั้นที่ 4 ใชเปนที่สําหรับใหสาธุชนทั่วไปไดเขาไปนั่งปฏิบัตสิ มาธิ ตามแนวทางการปฏิบตั ิสมาธิของหลวงปูสมชาย ฐิตวิริโย และกราบไหวสักการะหลวงพอทองพระพุทธรูป ศักดิ์สิทธิ์ที่ทางจัดจัดสรางขึ้น ซึ่งถือเปนพระพุทธรูปองคแรกของวัดเขาสุกิม สวนชั้น 2 เปนหองพักคางคืน สําหรับผูที่เดินทางมาปฏิบัตเิ ปนหมุคณะ
8. ตําหนักสมเด็จพระสังฆราช เปนตําหนักที่สรางขึ้น เพื่อตอนรับการเสด็จของพระสังฆราชและเพื่อเปนที่จําวัด เนื่องจากบอยครั้งที่ สมเด็จพระสังฆราช หรือรองสมเด็จพระสังฆราช ทานไดเสด็จมายังวัดเพื่อทําพิธีวางศิลาฤกษในการ กอสรางตึกหรือปูชนียสถานตางๆภายในวัด จึงถือเปนพื้นที่สําคัญและไมไดเปดใหนักทองเที่ยวเขาไปเที่ยว ชม ถือเปนเขตหวงหาม
9. รอยพระพุทธบาทจําลองและสถานที่ระลึกอดีตชาติ รอยพระพุทธบาท ถือเปนสิ่งศักดิ์ที่ประชาชนใหความเคารพและสักการะกราบไหวทางวัดจึงได
จําลองขึ้นเพื่อใหนักทองเที่ยวไดเขามากราบไหวของพร
สถานที่ระลึกอดีตชาติ สถานที่นี้เปนสถานที่ที่หลวงปูสมชาย ฐิตวิริโย นั่งสมาธิและระลึกชาติได วา
ในปางกอนทานเคยเปนพระฤาษีอยูที่ตรงนี้ แลวทานก็ไดขุดพบขวานฟาซึ่งขวานดังกลาวพบวาสามารถ กันฟาผาได
10. หอสมุดฟูตระกูลอนุสรณ อาคารฟูตระกูลอนุสรณเปนอาคารสีเหลืองสองชั้น ชั้นบนเปนหองพักรับรองมีสี่หอง ชั้นลางเปน
หอสมุดเปนสถานที่รวบรวมหนังสือ เอกสาร ตํารา และพระไตรปฏก เปนสถานที่สําหรับคนควา ของพระสงฆ แ ละประชาชนทั่ ว ไป ซึ่ ง เป ด ให ผู ที่ สนใจสามรถเข าไปอา นไดซึ่ง สว นใหญเ ปนตํ ารา เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เปนการบริการความรูแก นักทองเที่ยว
11. อุโบสถจตุรมุข
อุโบสถนีส้ รางขึ้นเพื่อใชประกอบพิธีกรรมตางๆทางศาสนาของวัดเขาสุกิม มีทั้งหมด 2 ชั้น พระประธานอุโบสถชั้นลางเปนพระพุทธรูปศิลาเขียวซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวและ สมเด็จพระนางเจาพระบรมราชินีนาถ ไดเสด็จพระราชดําเนิน ทรงประกอบพิธีเททองหลอพระประธานเมื่อ วันที่ 3 เมษายน พุทธศักราช 2520
12. เจดียบูรพาฐิตวิริยาประชาสามัคคี เปนสถาปตยกรรมสมัยกรุงรัตนโกสินทร
ทางวัดเขาสุกิมและศิษยานุศิษยไดรวมกันจัดสราง ขึ้นตามเจตจํานงของพระวิสุทธิญาณเถร (หลวงปูส มชาย) ที่ปรารถนาจะสรางใหเปน ศาสนสมบัติคูบานคูเมือง พระบาทสมเด็จ พระเจาอยูห ัว ทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ ให พล.อ.อ กําธน สินธวานนท องคมนตรีเปนผูแทน พระองคประกอบพิธีวางศิลาฤกษ วันที่ 14 เมษายน 2538
พระมหาเจดีย “บูรพาฐิตวิริยาประชาสามัคคี” แหงนี้หลวงปูทานไดมดี ําริจะสรางขึ้นเพื่อใชเปน สถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีรกิ ธาตุ เปนที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหินออนกับพระพุทธรูปางประทาน พร 101 องค เปนพิพิธภัณฑเก็บอัฐบริขาร และใชเปนสถานที่ปฏิบัติธรรมของพุทธบริษัทสี่และเปดให พุทธศาสนิกชนทั่วไปไดกราบไหวสักการบูชา
วัดเขาสุกิม จันทบุรี ที่อยู : ตําบลเขาบายศรี อําเภอทาใหม จันทบุรี เบอรโทรศัพท : 039-495243 , 081-9418384 อีเมล : wadkhaosukim.circlecamp.com
ฝกปฏิบัติธรรม ถือศีล ตามแนวทางหลวงปูสมชาย
แบบเดี่ยว หรือเปนหมูคณะ ทางวัดมีบริการ ฟรี….. พรอมตอนรับศาสนิกชนทุกคน
จัดทําโดย อาจารยรัจนชีวา แซตัน นักศึกษาคณะนิเทสศาสตร สาขาโฆษณา รุน 54