ผู้นำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน

Page 1

ผูนําที่เราเชื่อมั่น

ขาราชการของแผนดิน

นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผูอํานวยการโรงพยาบาลนาน


ผลงานภาพ ผลงานภาพ พีรวัศ พีกีรวั่ศศิริ กี่ศิริ


“ ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตัว เป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ เป็นกิจที่หนึ่ง ลาภทรัพย์ และเกียรติยศ จะตกแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์ ”

พระบรมราชปณิธานของสมเด็จพระบรมราชชนก


ตอ. ๓๓

ส�ำนึก หน้าที่ พลีเพื่อชาติ องอาจ มาดมั่น ไม่หวั่นไหว ยืนหยัด เพื่อพี่น้อง เผ่าผองไทย หัวใจ แกร่งกล้า ท้าอธรรม์ คือหนึ่ง คนดี ศรีเมืองน่าน ชื่นชม อุดมการณ์ ที่คงมั่น ผู้น�ำ ผู้ชี้ทาง สว่างพลัน เพื่อนขวัญ ผองเรา ชาว ต.อ. จากเพื่อน ต.อ.๓๓

นี่แหละข้าราชการของแผ่นดิน... นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน


ข้าราชการของแผ่นดิน

พิษ - ณุนามท่านนี้ ณุ คือข้าราชการไทย ขันติ แต่หาญกล้าไกล พงษ์ เพื่ออุดมการณ์ข้าฯ

เกรียงไกร แกร่งกล้า สู้เพื่อ คุณธรรม ของแผ่น ดินไทย.

จากเชียงรายท่านย้ายมาเมืองน่าน เพื่อสร้างสานงานรักษาพาสดใส พัฒนาโรงพยาบาลน่านก้าวไกล ที่พึ่งใจเจ็บป่วยไข้ได้พึ่งพา พิษณุ ขันติพงษ์ นามท่านนี้ บุคคลที่กล้าแกร่งแรงทุกท่า ส่งเสริมงานสา’สุขเพื่อประชา ได้ดูแลรักษาทั้งกายใจ เมื่อถึงคราวบ้านเมืองเกิดปัญหา ท่านก้าวมาอย่างกล้าหาญและยิ่งใหญ่ พิทักษ์สิทธิคุณธรรมข้าราชการไทย ไม่เกรงภัยอุดมการณ์สานศรัทธา จวบวันนี้คราวเกษียณเวียนมาถึง ยังตราตรึงคุณความดีที่หาญกล้า สองปีผ่านท่านสร้างงานสานพัฒนา ด้วยศรัทธาคงมั่นอยู่คู่ดวงใจ ขออ�ำนาจคุณพระรัตนตรัย อวยพรชัยให้ท่านสุขเกษมใส เจริญธรรมเจริญเกียรติเกริกก้องไกล เจริญใจทุกทิวาราตรีเทอญ.

ปริญญา แสงรัตนา ร้อยกรอง


CONTENTS

สารบัญ 006 008 035 061 069 079 082 102 124 142 156 163 168 174 175

ประวัติ สารแสดงมุทิตาจิต เส้นทางชีวิต คุณค่า ความคิด ความหมาย เบตง เชียงราย น่าน สารจาก ‘คนเจียงฮาย’ สารจาก ‘โฮงยาไทย’ สารจาก ‘คนน่าน’ สารจาก ‘คนโฮงบาลน่าน’ 10 ผลงานเด่นโรงพยาบาลน่าน ช่วงด�ำรงต�ำแหน่งผู้อ�ำนวยการ รพ.น่าน วารสารโรงพยาบาลน่าน “สารจาก ผอ.” Humannized health care : การดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจ บนพื้นฐานของความรู้ ข้าราชการของแผ่นดิน หมอพิษณุ ในมุมมองของ...หมอพัชรี “ข้อคิด ค�ำคม” หมอณุ บทบรรณาธิการ กองบรรณาธิการ


ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น

ข้าราชการของแผ่นดิน

นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน


ประวัติ ประวัติส่วนตัว ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด ชื่อคู่สมรส ที่อยู่ปัจจุบัน

นายแพทย์พษิ ณุ ขันติพงษ์ 21 มีนาคม พ.ศ. 2497 แพทย์หญิงพัชรี ขันติพงษ์ 136/37 ม.4 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย 57000

ประวัติการศึกษา และสถาบันที่ส�ำเร็จการศึกษา ​ พ.ศ. 2513 ประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนอัสสัมชัญ ล�ำปาง ​ พ.ศ. 2515 ประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พญาไท ​พ.ศ. 2519 วิทยาศาสตร์บณ ั ฑิต สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ​ พ.ศ. 2521 แพทยศาสตร์บณ ั ฑิต คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (รุ่น 15 รหัส 157070) ​ พ.ศ. 2522 ประกาศนียบัตรแพทย์ฝกึ หัด โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ​พ.ศ. 2526 ประกาศนียบัตรชั้นสูงทางวิทยาศาสตร์การแพทย์คลินิก สาขาสูติ-นรีเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ​ พ.ศ. 2527 วุฒิบัตรแสดงความรู้ความช�ำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาสูต-ิ นรีเวชศาสตร์ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือใบประกอบโรคศิลปะ สาขา สูตินรีเวชกรรม วันที่เริ่มปฏิบัติราชการในโรงพยาบาล วันที่ 2 เดือน เมษายน พ.ศ 2522 ประวัติการรับราชการจนถึงปัจจุบัน ​พ.ศ. 2521 - 2522 แพทย์ฝึกหัด โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ​ พ.ศ. 2522 - 2524 นายแพทย์ โรงพยาบาลเบตง จังหวัดยะลา ​พ.ศ. 2524 - 2527 แพทย์ประจ�ำบ้าน ภาควิชาสูติ - นรีเวชศาสตร์ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ​พ.ศ. 2527 - 2555 นายแพทย์สาขาสูตนิ รีเวชกรรม รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ จังหวัดเชียงราย ​พ.ศ. 2555 - 2557 ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน จังหวัดน่าน


รางวัลดีเด่น ​ - รางวัลบุคลากรทางการแพทย์ดเี ด่น ประเภท “สูติแพทย์ดีเด่น” จาก “โครงการเครือข่าย สุขภาพมารดาและทารกเพื่อครอบครัวของเด็กและเยาวชนไทย” ในพระอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์พระวรชายาฯ (27 พ.ค. 2551) - รางวัลบุคคลดีเด่น ประจ�ำปี 2551 สาขาแพทย์ ของชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาล ทั่วไป มูลนิธินายแพทย์บญ ุ ยงค์ วงศ์รักมิตร (11 ก.ย. 2551) - โล่ประกาศเกียรติคณ ุ “แพทย์อทุ ศิ ตนด้วยความวิรยิ ะอุตสาหะในการพัฒนางานอนามัยแม่ และเด็ก” จังหวัดเชียงราย (31 ก.ค. 2545) - เกียรติบัตร “ข้าราชการดีเด่น” โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ (11 ก.พ. 2550) - เกียรติบัตร “กรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนดีเด่น” ประจ�ำปี 2553 ด้านการส่งเสริม เครือข่ายการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กเพื่อป้องกันการกระท�ำผิด (30 ก.ย. 2553) - โล่ประกาศเกียรติคณ ุ “ประธานคณะกรรมการงานอนามัยแม่และเด็ก ผูอ้ ทุ ศิ ตนพัฒนางาน อนามัยแม่และเด็ก” ตั้งแต่ปี 2542-2554 เขตตรวจราชการสาธารณสุขที่ 15-16 (8 ก.ค. 2554) - รางวัล “จริยธรรมสรรเสริญ” ประจ�ำปี 2554 ของแพทยสภา (27 ก.ย. 2554) ​ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ​ - พ.ศ. 2535 ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.) ​ - พ.ศ. 2537 ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (ท.ช.) ​ - พ.ศ. 2540 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.) ​ - พ.ศ. 2543 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.) ​ - พ.ศ. 2548 มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)


สารแสดงมุทิตาจิต

แด่...หมอณุ


ธรรมกถาแสดงความยินดี

“การกระท�ำ ส�ำคัญกว่าค�ำพูด”

ในโอกาสที่นายแพทย์พิษณุ ขันติพงษ์ ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน เกษียณอายุราชการ ภายใต้การน�ำของท่านผูอ้ ำ� นวยการโรงพยาบาลน่าน ได้รบั ความร่วมมือ ช่วยเหลือในการจัดกิจกรรมต่างๆ เป็นอย่างดียิ่ง ส่งผลให้การดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะพระภิกษุ-สามเณร ได้รับการดูแล ส่งเสริมป้องกัน ผ่านทางกิจกรรมต่างๆ ทีท่ ำ� ร่วมกัน ท่านมีความเป็นกันเอง เปีย่ มด้วยรอยยิม้ มิตรภาพและ ความจริงใจ ไม่ถือตัว เรียกได้ว่า “การกระท�ำ ส�ำคัญกว่าค�ำพูด” มีความสามารถทางด้านการบริหาร ด้วยบุคลิกภาพส่วนตัวที่เป็นผู้ที่มีความสุขุม มิตรภาพ เปี่ยมล้นด้วยรอยยิ้ม และความมีมนุษยสัมพันธ์ ท�ำให้ตลอดการท�ำงานในหน้าที่เป็นไปด้วยความราบรื่น ประสบความส�ำเร็จ เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ ข้าราชการการแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งผู้บริหารในหน่วยงานต่างๆ ได้ อีกทั้งหากไม่ถามถึง ตัวเลขอายุแล้ว จะไม่เชือ่ เลยว่าท่านจะครบเกษียณอายุราชการแล้ว ทัง้ นีเ้ ป็นเพราะท่านมีการดูแลสุขภาพ ของตนเองเป็นอย่างดี ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ เพราะฉะนั้น อาตมาภาพในนามของที่ปรึกษาของคณะสงฆ์จังหวัดน่าน และในนามของ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุช้างค�้ำวรวิหาร ผู้จัดการ/ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนนันทบุรีวิทยา พระปริยัติธรรม จึงขอกล่าวสดุดี นายแพทย์พษิ ณุ ขันติพงษ์ เป็นบทกวีว่า “นายแพทย์พษิ ณุ ขันติพงษ์ จรรยาบรรณ ด้านแพทย์สูง มุ่งยืดถือ เป็นคุณหมอ ขอได้ช่วย ด้วยฝีมอื นี่แหละคือ ชื่อการงาน ด้านศรัทธา ผู้อ�ำนวยการ โรงพยาบาลน่าน ผู้เชี่ยวชาญ การช่วยเหลือ เพื่อรักษา อุดมการณ์ ท่านเลิศล�้ำ น�ำจรรยา หวังเพียงว่า บรรดาคน พ้นโรคภัย อาการป่วย ด้วยโรคพิษ ฤทธิ์เกินต้าน ทรมาน เกินทานทน คนป่วยไข้ คุณหมอตรวจ ส�ำรวจกาย พร้อมภายใน ไม่เท่าไร คนไข้เบา ทุเลาคลาย ถึงงานหนัก สักเท่าไร ในโรงพยาบาล คุณหมอท่าน ไม่ขานบ่น อดทนหลาย ผลงานเด่น เน้นบริการ ด้วยหัวใจ ทั้งหญิงชาย หายป่วย ไร้กังวล “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 9 ครบวาระราชการ...หมอณุ


เป็นคุณหมอ ยุคใหม่ ให้นบั ถือ ด้วยฝีมอื ทันสมัย ได้มรรคผล คุณภาพ มาตรฐาน งานและคน ทั่วแห่งหน ไว้วางใจ ในผลงาน ทั้งนิสัย ใฝ่ทางบุญ หนุนไม่ขาด ท่านใส่บาตร เพื่อศาสน์สงฆ์ ส่งประสาน ท�ำทุกเช้า เอาใจจิต อุทศิ ทาน มาช้านาน ท่านกระท�ำ ด�ำรงตน เมตตาธรรม น�ำจิตใจ ในตัวท่าน คุณหมอนั้น มั่นศรัทธา น�ำพาผล ค�่ำรักษา ธรรมดา สามัญชน คนทุกคน ทุกชนชั้น ท่านดูแล ขอสรรเสริญ เจริญนาม ผู้งามเลิศ สุดประเสริฐ ก�ำเนิดมา ค่าสูงแท้ นามหมอพิษณุ ขันติพงษ์ ในดวงแด คือเพชรแท้ แก่วงการ ด้านแพทย์ไทย ถึงเวลา ข้าราชการ ท่านก�ำหนด ไปตามกฎ ลุเกษียณ เวียนเงื่อนไข คุณความดี มีเปี่ยมล้น ปนน�้ำใจ เปรียบไม่ได้ ในทุกสิ่ง จะอิงแทน ขออัญเชิญ พระไตรรัตน์ อันศักดิ์สิทธิ์ ทั้งเทวฤทธิ์ ได้ประสาท อ�ำนาจแสน พระบารมี องค์กษัตริย์ ไทยดินแดน สวรรค์แคว้น แม้นห่างไกล ได้ให้พร ให้นายแพทย์พษิ ณุ ขันติพงษ์ จงมั่นคง สมประสงค์ จงทุกด้าน หวังสิ่งใด ให้ส�ำเร็จ เสร็จทุกอย่าง สมที่ท่าน ท�ำงานดี มีคุณธรรม เจริญด้วย ลาภยศ สรรเสริญสุข ห่างจากทุกข์ โรคภัย ความขัดสน เป็นที่รัก เทพเทวา ประชาชน ขอให้ผล ติดตาม ทุกชาติไป ” ดังนัน้ ในโอกาสครบรอบเกษียณอายุราชการของท่านผูอ้ ำ� นวยการโรงพยาบาลน่าน นายแพทย์ พิษณุ ขันติพงษ์ นี้ อาตมาภาพขออาราธนาคุณพระศรีรตั นตรัย พุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ พระพุทธมหานาค พระพุทธเจ้าหลวง พระพุทธนันทบุรศี รีศากยมุนี และสิง่ ศักดิส์ ทิ ธิโ์ ปรดดลบันดาลให้ นายแพทย์พษิ ณุ ขันติพงษ์ มีความสุขกายสุขใจพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ตลอดไป จงประสบแต่สรรพ สิริสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผลตามมโนมัยเจตนา และเจริญรุ่งเรืองในคุณธรรมของพระบรม ศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ายิ่งๆ ขึ้นไปให้มกี ำ� ลังกาย ก�ำลังใจ ก�ำลังสติปัญญา ก�ำลังทรัพย์ ปราศจาก ภัยพิบัติ อกุศลกรรม พ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสาร สมบัติ ธรรมสารสมบัติ ปรารถนาสิ่งใด ที่ชอบประกอบด้วยธรรม ก็ขอให้ความปรารถนานั้น ๆ จงพลันส�ำเร็จ สมดังความปรารถนา ให้มเี มตตาธรรม และความกตัญญูกตเวทิตาธรรมเป็นเรือนใจ ช่วยพัฒนาชีวิต พัฒนาประเทศชาติ บ�ำรุงพระพุทธศาสนา ด้วยการท�ำดี พูดดี คิดดี ตลอดไป เทอญ ขออ�ำนวยอวยพร (พระธรรมนันทโสภณ)

ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดน่าน เจ้าอาวาสวัดพระธาตุช้างค�้ำวรวิหาร ผู้จัดการ/ผู้รบั ใบอนุญาต โรงเรียนนันทบุรีวิทยา พระปริยัติธรรม

10

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน


ธรรมกถาแสดงความยินดี

ซื่อสัตย์ในวิชาชีพของตนเอง นายแพทย์พษิ ณุ ขันติพงษ์ ผูอ้ ำ� นวยการ โรงพยาบาลน่าน นับว่าเป็นบุคคลส� ำคัญของ จังหวัดน่านโยงไปถึงจังหวัดเชียงรายขยายถึง ประเทศชาติบ้านเมืองเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพราะ คุณหมอพิษณุ เป็นผู้มีความตั้งใจในการท�ำงาน ซื่อสัตย์ในวิชาชีพของตนเอง มีหลักบริหารการ จัด การที่ดี บริห ารจัด การโรงพยาบาลอย่ างมี ศักดิ์ศรี ด�ำรงตนเป็นผู้น�ำทางจิตวิญญาณของ ผู้คนที่ได้พบเห็น เป็นผู้ปรับตัวปรับจิตให้ทันโลก ทันเหตุการณ์เสมอมา ระยะเวลาทีผ่ ่านมาจะเห็น ได้ว่ามีผลงานปรากฎเป็นที่ยอมรับในหมู่คณะ แพทย์และบุคลากรของโรงพยาบาลน่านมาโดย ตลอด ในขณะเดียวกันก็ไม่ทอดทิ้งหน้าที่การ งานที่เคยปฏิบัติมาแล้ว เช่น เมื่อกลับไปจังหวัด เชี ย งรายก็ เ ข้ า ไปเยี่ ย มเยื อ นแพทย์ พยาบาล รวมถึงบุคลากรของโรงพยาบาลเชียงรายประชา นุเคราะห์ จึงเป็นที่รักและเคารพของหน่วยงาน เพราะมีความรู้ที่ดี มีประสบการณ์ที่ยาวนาน มี จิตอาสาที่แน่นอน จึงท�ำให้การปฏิบัติหน้าที่เป็น ประโยชน์กบั สังคมและส่วนรวมอย่างชัดเจน การที่คุณหมอพิษณุ ได้มีผลงานและ ประสบการณ์เป็นที่ยอมรับตามเหตุผลข้างต้น เพราะผู้อ�ำนวยการพิษณุ ได้มีการพัฒนาตนเอง ตลอดเวลาตามหลั ก ธรรมพอที่ จ ะสรุ ป ได้ ดั ง นี้ เป็นผู้ศึกษาดูงาน ประสานความคิด ตามติด อุดมการณ์ ปรับฐานความรู้ ฟื้นฟูศาสนา

วัฒนธรรม น�ำนวัตกรรมมาปรับใช้ รู้จักการ วิจัยติดตามผล ในวโรกาสที่นายแพทย์พิษณุ ขันติพงษ์ ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดน่านจะเกษียณ อายุ ร าชการ ซึ่ ง เป็ น ไปตามกฎกติ ก า ท� ำ ให้ ข้ า ราชการของกระทรวงสาธารณสุ ข และ โรงพยาบาลน่ า นต้ อ งขาดบุ ค ลากรที่ มี ค วามรู ้ ความสามารถร่วมกันบริหารจัดการไปอีกท่าน หนึ่ ง ถึ ง อย่ า งไรก็ ต ามในฐานะที่ ข ้ า พเจ้ า เป็ น ผูร้ จู้ กั คุน้ เคยและเข้าใจคุณหมอท่านหนึง่ เข้าใจว่า ท่านคงไม่ทอดทิง้ และละงานทีท่ า่ นชืน่ ชอบมาเป็น ชีวิตจิตใจอยู่แล้ว ความรู้ความสามารถที่มีอยู่ใน ตัวของท่าน แม้แต่จะเกษียณราชการก็คงสามารถ น�ำไปใช้เมื่อมีจิตอาสาที่จะเข้าร่วมงานบริหาร จัดการในสถานที่ต่างๆ ที่มีความต้องการท่าน พร้ อ มนี้ ข ้ า พเจ้ า ขอถื อ โอกาสอ้ า งเอา คุ ณ พระศรี รั ต นตรั ย และสิ่ ง ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ ที่ ทุ ก คน เคารพนั บ ถื อ จงดลบั น ดาลประทานพรให้ คุณหมอพิษณุมคี วามสุขความเจริญ ประกอบไป ด้วยจตุรพิธพรชัยทั้ง 4 ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ตลอดไปตลอดกาลด้วยเทอญ พระรัตนมุณี รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย ผู้อ�ำนวยการวิทยาลัยสงฆ์เชียงราย “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 11 ครบวาระราชการ...หมอณุ


สารแสดงมุทิตาจิต

Keep Moving Albert Einstein เคยกล่าวว่า “Life is like riding a bicycle. To keep balance, you must keep moving.” ไม่ได้เชียร์ให้คุณหมอพิษณุ ขันติพงษ์ไปร่วมชมรมจักรยานหลังเกษียณนะครับ แต่อยากสุ่ย ให้คุณหมอพิษณุท�ำประโยชน์ต่อ สังคมไปอีกนานๆ การพบกันครั้งสุดท้ายในร้าน ลาบที่น่าน ผมต้องอ้าปากค้างฟังคุณหมอพิษณุ เล่าเรื่องที่ออกไปท�ำงานร่วมกับชุมชนมากมาย หลายเรื่องล้วนแต่น่าประทับใจ อยากเห็นอย่าง นี้มานานแล้วครับ อยากเห็นพวกหมอๆ ออกไป สร้างเครือข่าย ดึงเอาชุมชนเป็นพวก แล้วงานใน รพ.ก็จะง่ายขึน้ การรักษาก็จะได้ผลดีขนึ้ คุณหมอ พิษณุทำ� เรือ่ งนีไ้ ด้ดี เพราะได้เปรียบอยูแ่ ล้ว ทัง้ รูป ร่างหน้าตาและน�้ำใจ พ บ คุ ณ ห ม อ พิ ษ ณุ ค รั้ ง แ ร ก เ มื่ อ หลายปี ก ่ อ นยั ง นึ ก ในใจว่ า “ท� ำ ไมหมอคนนี้ หล่ออย่างนี้วะ” ดีใจนิดๆ ว่าไม่ใช่รุ่นเดียวกัน ไม่งั้นคงท�ำความหนักใจให้ผมไม่น้อย แต่ท่จี �ำได้ ไม่ลืมคือคุณหมอพิษณุอู้กำ� เมืองใส่ผม คงคิดว่า ผมนามสกุลไทยเหนือ แต่ก�ำเมืองของผมมันยัง แหลวแตวมาก คุณหมอพิษณุคงร�ำคาญเลยต้อง อู้ไทยกับผมจนบัดเดี๋ยวนี้

12

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

Benjamin Franklin เคยบอกไว้ว่า “Life ‘s tragedy is that we get old too soon and wise too late” ส่วนใหญ่แล้วเราปล่อยให้อายุมา ก่อนความฉลาด แต่คุณหมอพิษณุเป็นคนฉลาด อยู่แล้วแถมยังท�ำงานหนักโดยไม่ต้องสร้างภาพ เมื่ออยู่รพ.เชียงรายฯ ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของ MCH Board ที่มีประสิทธิภาพ และช่วยผลักดันให้เกิด การบูรณาการส่งเสริมพัฒนาการเด็กล้านนา หรือ Lanna Child Development Integration Project LCDIP ทีก่ ำ� ลังขยายไปทัว่ ประเทศขณะนี้ ครั้นไปเป็นผอ.รพ.น่านยิ่งมีความสุขเพราะชุมชน ทีน่ ่านเข้มแข็งอยู่แล้ว ด้วยอัธยาศัยไมตรีทดี่ ี และ ความจริงใจ ท�ำให้ได้งานที่เป็นประโยชน์ทั้งใน และนอกรพ.อย่างน่าภูมิใจ คุณหมอพิษณุครับ เกษียณแล้วก็ขจี่ กั รยานชีวติ ไปเรือ่ ยๆ ไปไหนก็ได้ มีคนอยากต้อนรับทัง้ นัน้ เขาดีใจทีไ่ ด้พบคุณหมอ และอยากขอบคุณกระทรวงสาธารณสุขทีส่ ง่ หมอ ที่ ดี ม าท� ำ ให้ ชี วิ ต เขามี ค วามสุ ข เพราะการมี สุขภาพดีท้งั กายและใจ Keep Moving นะครับ นพ.วัลลภ ไทยเหนือ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข 21 พ.ค. 57


สารแสดงมุทิตาจิต

“คนดีของแผ่นดิน” โอกาสที่จะได้พบคนดีๆ ท�ำงานอย่างมี ประสิทธิภาพ หาได้ไม่ยาก ดังเช่น นายแพทย์ พิษณุ ขันติพงษ์ เมือ่ ผมได้มารับต�ำแหน่งผูต้ รวจ ราชการสาธารณสุข ท่านเป็นสูต-ิ นรีแพทย์ ทีด่ แู ล งานและผูร้ ว่ มงานในวิชาชีพเดียวกันทัง้ 8 จังหวัด ภาคเหนือตอนบน ได่แก่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัด เชียงราย จังหวัดพะเยา จังหวัดแพร่ จังหวัด น่าน จังหวัดล�ำพูน จังหวัดล�ำปาง และจังหวัด แม่ฮ่องสอน เป็นอย่างดี สร้างผลงานอนามัยแม่ และเด็กได้ดเี ยี่ยม ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ด้วย คุณภาพงาน ความอาวุโส และเป็นที่ยอมรับของ ผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชา และผู้ร่วมงาน จึงได้รับการแต่งตั้งให้ด�ำรงต�ำแหน่งผู้อ�ำนวยการ โรงพยาบาลน่าน ในช่ ว งที่ ด� ำ รงต� ำ แหน่ ง ผู ้ อ� ำ นวยการ โรงพยาบาลน่ า น ได้ เ กิ ด วิ ก ฤตทางการเมื อ ง นายแพทย์พิษณุ ขันติพงษ์ ได้เลือกที่จะเป็น ข้าราชการที่ดี โดยไม่ยอมรับและต่อต้านการโกง ทุจริตทุกรูปแบบ ยืนหยัดต่อสู้ในสิ่งที่ถูกต้อง

นี่แหละ “คนดีของแผ่นดิน” ที่มุ่งมั่นใน อาชีพของตนเองให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียม หรือ ล�้ำหน้ากับอารยะประเทศ และส�ำนึกกับค�ำว่า “ข้าราชการ” ที่ต่อต้านการโกง และทุจริตทุก รูปแบบ โดยยืนหยัดต่อสูด้ ำ� เนินการในสิง่ ทีถ่ กู ต้อง อธิบายผู้เห็นต่างให้เกิดความเข้าใจถึงความเป็น ข้าราชการ ที่จะต้องท�ำงานเพื่อประชาชนและ ประเทศชาติโดยสุจริต สมแล้วครับ คุณหมอพิษณุ หรือ นายแพทย์พิษณุ ขันติพงษ์ ผู้อ�ำนวยการ โรงพยาบาลน่าน ข้าราชการในพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หวั คนดีคนหนึ่งของแผ่นดินไทย

นพ.ทนงสรรค์ สุธาธรรม อดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 13 ครบวาระราชการ...หมอณุ


สารแสดงมุทิตาจิต

แบบอย่างที่ดีของข้าราชการ ผมกับณุเป็นเพือ่ น ตอ.33 ด้วยกัน แต่เริม่ มาสนิทกันเมือ่ ตอนเรียนแพทย์เชียงใหม่ เบือ้ งต้น รูว้ า่ เป็นเด็กอัสสัมล�ำปาง ตัง้ แต่ปี 1 เราหัวหกก้นขวิด กันพอสมควร ตามประสาวัยรุน่ ณุมคี วามสามารถ หลายด้าน โดยเฉพาะดนตรีประเภทเครื่องเป่า เช่น ขลุย่ Mouth organ เป็นทีเ่ ลือ่ งลือในหมูเ่ พือ่ นฝูง โดยทั่วไป ปี 4 เราเคยเล่นดนตรีในโรงหนังเพื่อ หาเงิ น ไปออกค่ า ย เป็ น ความทรงจ� ำ ชั้ น ยอด จุดเทียน ผมเล่น Guitar ณุเป่า Mouth organ ยังจ�ำ ได้ ถึ ง ทุ ก วั น นี้ เมื่ อ จบแยกย้ า ยกั น ไปตามทาง แต่ก็ยังพบปะสังสรรกันเป็นระยะ จนในช่วงหลัง ของชีวติ ราชการ ณุขนึ้ มาเป็นรองแพทย์ทเี่ ชียงราย กับ สุทั ศ น์ ก็ ยิ่ ง เห็ น ฝี มื อ ตลอดจนแนวคิ ด และ ทักษะการบริหารมากมาย เมื่อเป็น ผอ.รพ.น่าน ณุก็แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ จนเป็นที่ยอมรับของ ชาวน่าน ปัจจุบันก็เป็นขวัญใจของเพื่อนๆ ทั้งใน Social Media และในสังคมโดยทั่วไป โดยเฉพาะ การเป็นข้าราชการที่ดี ทุ่มเท เป็นแบบอย่างที่ดี ของข้าราชการในปัจจุบัน

14

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

โอกาสที่ณุจะเกษียนนับว่า กระทรวง สาธารณสุ ข ต้ อ งขาดผู ้ บ ริ ห ารที่ มี ฝ ี มื อ ดี ไ ปอี ก 1 คน ก็ขอให้ชีวิตหลังเกษียณของณุ ได้ทำ� ตาม ความฝันทีเ่ ตรียมไว้มาตลอด ขอให้โชคดี สุขภาพดี มีความสุขกับครอบครัว และเป็นที่รักของทุกๆ คนตลอดไป

นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ (เป๋) ปลัดกระทรวงสาธารณสุข


สารแสดงมุทิตาจิต

คุณหมอเปรียบเสมือนน้องชาย จากการได้รู้จกั นพ.พิษณุ ณ โรงพยาบาล เบตง จังหวัดยะลา เมื่อ 30 กว่าปีก่อน กล่าวได้ ว่าท่านเป็นตัวอย่างของแพทย์รุ่นน้องที่น่าชื่นชม ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นผู้เสียสละขันอาสาไป เป็นแพทย์ใช้ทนุ 2 ปีที่อำ� เภอเบตง จังหวัดยะลา ทั้งๆ ที่อำ� เภอเบตงในยุคนั้น (30 ปีก่อน) ห่างไกล ความเจริญเป็นเมืองดุเพราะมีทงั้ จคม. หรือโจร จีนคอมมิวนิสต์มาลายา และขจก. หรือขบวนการ โจรก่อการร้าย การคมนาคมไม่สะดวกตามฉายา เบตง เมือง 500 โค้ง คุณหมอพิษณุเองมีสิทธิอยู่ ที่เบตง 1 ปี และโรงพยาบาลศูนย์ยะลาอีก 1 ปี แต่คณ ุ หมอก็ได้ตดั สินใจอยู่ทรี่ พ.เบตงถึง 2 ปี แม้ ทางรพ.เบตงจะมีข้อจ�ำกัดอยู่มาก ตลอดระยะเวลาที่ได้ร่วมงานกันท่าน เป็นผู้คิดดี พูดดี ท�ำดี เป็นที่รักใคร่ของเจ้าหน้าที่ ทั้งรพ.และผู้ป่วย รวมถึงญาติผู้ป่วย ถ้าหากเรา ได้ยินเสียงหัวเราะจากกลุ่มไหน เข้าไปดูจะพบ คุณหมอพิษณุอยู่ด้วยทุกครั้ง ท่านเป็นผู้ที่มี IQ. EQ, AQ, MQ,.......ZQ ดี คุณหมอพิษณุจะพูดถึง คุณพ่อของคุณหมอบ่อยๆ ว่าท่านเคยสอนว่ายังไง

แสดงว่าคุณพ่อได้สร้างภูมิคุ้มกันไว้ให้ลูกได้เป็น อย่างดี ไม่เพียงเฉพาะในเรื่องงานประจ�ำ ด้าน การกีฬา ดนตรี ร้องเพลงก็ไม่ธรรมดา สมัยที่ ท�ำงานอยู่ด้วยกันที่เบตง เราอยู่ด้วยกันเหมือน ครอบครั ว คุ ณ หมอก็ เ ปรี ย บเสมื อ นน้ อ งชาย คนหนึ่ง ในโอกาสแห่งวันเกษียณอายุราชการนี้ จึงขอให้คุณความดีทั้งหลายที่คุณหมอได้ท�ำมา จงเป็ น เกราะคุ ้ ม ครองให้ คุ ณ หมอใช้ ชี วิ ต หลั ง เกษียณอย่างมีความสุข ได้ชว่ ยเหลือผูด้ อ้ ยโอกาส และประเทศชาติ ต ่ อ ไปอย่ า งมี ค วามสุ ข และ ภาคภูมใิ จ

ด้วยรักจาก พญ.นุจินต์ เศรษฐบุตร 2 มิถุนายน 2557 “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 15 ครบวาระราชการ...หมอณุ


สารแสดงมุทิตาจิต

ณุที่รัก พี่รู้จักณุครั้งแรกเมื่อณุมาเป็น intern ที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี เมื่อ 36 ปีที่ แล้ว หรือเมือ่ ปี 2521 ตอนนัน้ พีเ่ ป็นหมอ Med เป็น staff คนเดียวในแผนก Med ที่คอยดูแลการเรียน การสอนส�ำหรับ intern จ�ำได้ว่าเจอหมอ intern รุ่นนั้นมีจบจากเขียงใหม่ มาพร้อมกับ คุณหมอ สุทัศน์ (ผอ.รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์) และ คุณหมอชัยพร ทองประเสริฐ ณุและเพื่อนๆ เป็นหมอหนุ่มที่สดชื่น สนุกสนาน ร่าเริง มีความ รับผิดชอบมาก ตัง้ ใจท�ำงาน มีมนุษยสัมพันธ์ดกี บั เพื่อนร่วมงานทุกกลุ่ม แต่ออกจะกวนๆ ทั้ง 3 คน โดยเฉพาะคนที่มีหนวดเหมือนแขกขาว ณุมาท�ำงานที่แผนก Med ที่พี่มีแพทย์ ใช้ ทุนท�ำ งานช่ว ยแผนกพี่ คือ คุณหมอพัชรี เราท�ำงานกันไปอย่างมีความสุข สนุกสนาน ได้ เรียนรู้อะไรมากมายทั้งวิชาการและอื่นๆ แม้งาน จะหนัก เพราะคนท�ำงานน้อย คนไข้เยอะมาก ณุเอาหัวใจมาไว้ท่แี ผนก Med เมื่อไรพี่ก็ไม่รู้ แต่ แว่วๆ มาเรือ่ ยๆ ท่ามกลางความดีใจแม้พจี่ ะไม่ได้ ท�ำหน้าที่เป็นกามเทพ แต่พี่ก็แอบลุ้น เพราะสนิท กับทั้งคู่ รักทั้งสองคน รู้ว่าสองคนนี้เหมาะสมกัน

16

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

มากๆ แม้ความสูงจะต่างกันก็ไม่ใช่ปญ ั หา ทัง้ สอง คนเป็นคนดี อบอุ่น เข้ากันได้ดี very compatible แล้วต่อมา พัชไปเรียนต่อที่รามา จนจบบอร์ด Med ณุกจ็ บ บอร์ดสูตฯิ และแล้วพัชและณุกส็ ร้าง ครอบครัวที่แสนอบอุ่นที่เชียงราย พีไ่ ด้ไปเยีย่ มทีบ่ า้ นแสนสวยของณุและพัช มี แ ต่ ค นกล่ า วขวั ญ ถึ ง บ้ า นณุ เวลาคุ ย กั น ถึ ง เชียงรายท�ำให้อยากไปดูบ้าน ตอนนั้นพี่ก็ยังอยู่ บ้านหลวงที่อุบลอยู่เลย ท�ำให้พี่อยากมีบ้านของ ตัวเอง บ้านณุเป็นแรงบันดาลใจให้พี่จริงๆ พี่ไป บ้านณุ 3-4 ครั้ง เคยไปค้างด้วย 1 ครั้ง บ้านณุ มี ต ้ น ไม้ ดอกไม้ ม ากโดยเฉพาะดอกไม้ ไ ทยๆ พีไ่ ม่ได้ไปเยีย่ มทีบ่ า้ นอีกระยะหลังๆ ทีไ่ ปเชียงราย เพราะไม่มีเวลาเหมาะสม แต่ก็ถามข่าวอยู่เสมอ กับพัช ยังจ�ำได้ถึงพี่ไปเยี่ยมณุที่คลินิกซึ่งมีคนไข้ มากจริงๆ ณุเป็นขวัญใจของคนไข้สตู -ิ นรีเวชจริงๆ มีพัชเป็นผู้จดั การใหญ่ของคลินิก และคลินิกยังมี เพลงเบาๆ คลอตลอดถ้าจ�ำไม่ผิด เรายังคุยกัน ถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นแบบไม่น่าเกิด และณุกับพัช ก็ผ่านมาด้วยดี ขอบคุณส�ำหรับความรัก และไว้ วางใจที่มอบให้พี่สาวคนนี้


ณุเป็นคนเปิดเผย จริงใจ ตั้งใจท�ำงาน ตรงไปตรงมา มี vision ในการท�ำงานท�ำให้ได้ รับการ promote ในต�ำแหน่งบริหาร จนเป็นรอง แพทย์ที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ และมา เป็น ผอ.รพ.น่าน ซึง่ มีวฒ ั นธรรมเฉพาะของตนเอง บุคลากรทุกท่านที่เป็นผู้บริหารตั้งแต่ อ.บุญยงค์ ผอ.คณิต ล้วนแต่เป็นผู้ที่มีความสามารถ มี คุณธรรมสูง สร้างความเจริญให้รพ.น่านมากมาย ใครๆ ก็อยากมาเป็นผูบ้ ริหารในทีๆ่ ดีๆ เช่นนี้ เมือ่ ทราบว่าณุได้รบั การคัดเลือก พีก่ ด็ ใี จมากและได้มี โอกาสไปเยี่ยมณุที่น่านในฐานะที่ณุเป็นผู้บริหาร สูงสุดเมื่อต้นปี 2557 นี้ ได้เจอพัชด้วย แม้จะเป็น เวลาสั้นๆ แต่ก็ซึมซับได้ถึงความรักที่บุคลากรใน รพ.มอบให้ณุ แม้ว่าณุจะไม่ใช่ลูกหม้อของชาว น่าน เหมือนผอ.ท่านอื่นๆ ได้เห็นความเป็นผู้น�ำ ในภาวะวิ ก ฤตของบ้ า นเมื อ งที่ ต ้ อ งการผู ้ น� ำ ที่ เข้มแข็ง มีจุดยืนที่เด่นชัด ถูกต้อง ณุเป็นคนมีน�้ำใจมาก เคารพนับถือผู้มี อาวุโส ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม กับพี่หรือพี่เดาะ ตัง้ แต่ไหนแต่ไรมา เราไม่เคยลืมกันเลย เวลาณุมา อุบลฯ ต้องมาหาพี่ ถามถึงเสมอ เอาของมาฝาก มาเยี่ยมที่บ้านอุตส่าห์เอาต้นไม้มาฝาก บางทีก็ ฝากมาตอนพีไ่ ปเชียงราย ความรูส้ กึ ดีๆ ทีม่ ตี อ่ กัน มันมีค่ามาก ไม่เฉพาะกับพี่ กับคนอื่นๆ ก็เช่นกัน เวลาพวกอุบลฯ ไปเชียงราย หรือเจอพวกมาจาก อุบลฯ ก็จะฝากความคิดถึงมาเสมอ ต่อไปนี้คุณจะมีเวลาที่ไม่ต้องแบกความ รั บ ผิ ด ชอบมากเท่ า ที่ เ ป็ น อยู ่ ข ณะนี้ นั บ ตั้ ง แต่ 1 ต.ค. 57 เป็นต้นไป ชีวติ ทีเ่ กษียณราชการ คือจุด เริ่มต้นของชีวิตอิสระ อิสระที่จะท�ำสิ่งที่ตนคิดว่า ดีทสี่ ดุ ส�ำหรับครอบครัว ญาติมติ ร ส�ำหรับชุมชน และประเทศชาติ ณุกบั พัชก็จะมีเวลาอยู่ด้วยกัน มากขึ้น ไปท่องเที่ยวในอีกหลายที่ที่ยังไม่ได้ไป ด้วยกันอย่างมีความสุข มีเวลาทีจ่ ะท�ำอะไรให้กบั สังคมทีเ่ ชียงรายอีกมากมายตามทีต่ งั้ ใจไว้ รวมทัง้ ที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ท่เี ป็นยิ่งกว่าบ้าน

ขอบคุณส�ำหรับความรัก และไว้วางใจ ที่มอบให้พี่สาวคนนี้

สิง่ ทีณ ่ ทุ ำ� มาตลอดท�ำให้ชวี ติ เจริญก้าวหน้า และก้าวต่อไปได้ ก้าวต่อไปของณุ คือท�ำหน้าที่ ของตนให้ดที สี่ ดุ ท�ำหน้าทีส่ ามีให้ดที สี่ ดุ ท�ำหน้าที่ หมอให้ดที สี่ ดุ ท�ำหน้าทีค่ รูให้ดที สี่ ดุ และท�ำหน้าที่ ของคนไทยให้ดีที่สุด และนี่คือสิ่งที่ณุได้ท�ำเป็น แบบอย่างให้แก่ลูกน้อง รุ่นน้อง รุ่นลูกศิษย์ที่ เชียงรายและน่าน ขอแสดงความชื่นชมที่ณุได้ปฏิบัติหน้าที่ ราชการมาอย่างดีท่สี ุดแล้ว ขอต้อนรับสู่ชีวิตอิสระหลังเกษียณ

รักและคิดถึง พญ.วิภาดา เชาวกุล (พี่ย่า) อดีตหัวหน้ากลุ่มงานอายุรกรรม และหัวหน้ากลุ่ม พรส. รพ.สรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 17 ครบวาระราชการ...หมอณุ


สารแสดงมุทิตาจิต

แบบอย่างให้คนรุ่นหลังจดจ�ำและท�ำสิ่งดีๆ เคยสงสัยว่าท�ำไมผูบ้ ริหารจึงเลือกพีพ่ ษิ ณุ เป็ น ผู ้ อ� ำ นวยการโรงพยาบาลน่ า น ค่ อ นข้ า ง จะแปลก เพราะผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน เป็นการส่งไม้ต่อๆ กันมาของคนน่านโดยตลอด เพราะเป็นพื้นที่พิเศษที่สร้างคนดีมากมายจาก ปูชนียบุคคล อาจารย์บุญยงค์ วงศ์รักมิตร การสร้างคนดีทไี่ ม่ตอ้ งสะสมทรัพย์สมบัติ แต่สะสม ความดีงามด้วยการอุทิศตนเพื่อชาวบ้านอย่าง หมดหัวใจ แม้หลายคนจะไม่ได้อยูท่ ำ� งานต่อทีน่ า่ น แต่ก็ได้รับแนวทางการด�ำเนินชีวิตที่ดีงามติดตัว สร้างความดีไว้ให้เกิดกับประเทศไทย ​ ด้ ว ยการสั่ ง สมวั ฒ นธรรมดี ง ามเช่ น นี้ ทุกคนที่น่านจึงสนุกกับการให้บริการประชาชน มากกว่าการเป็นผูบ้ ริหาร ประกอบกับการเปลีย่ น แ ปลงบริบทของงานการให้บริการสุขภาพที่ต้อง มีการสร้างเครือข่ายการให้บริการ ด้วยการร่วมกัน บ ริหารทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อประชาชน ร่วมคิด ร่วมท�ำ ร่วมกันแบ่งปัน และใช้ทรัพยากร

18

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

​ แม้จะเป็นสิ่งที่ชาวน่านท�ำอยู่แล้ว แต่ น่านต้องมีผู้บริหารที่เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ แ ละไม่ผิดหวังเลยที่ได้พี่พิษณุมาท�ำการพัฒนา ทีมให้กระฉับกระเฉง มีการบริหารคน เงิน และ เ ครื่ อ งมื อ แพทย์ ทั้ ง ในจั ง หวั ด และข้ า มจั ง หวั ด การน�ำทีมจากโรงพยาบาลอืน่ ๆ ไปให้บริการทีน่ า่ น เ พื่อที่ชาวน่านไม่ต้องเดินทางไปรักษาที่ไกลๆ เ ช่น การผ่าตัดโรคหัวใจบางชนิด และทีโ่ ดดเด่น ก็ คื อ การเป็ น ผู ้ น� ำ ที่ ก ล้ า ต่ อ กรกั บ ความ น่ า กลั ว ของระบอบการเมื อ งการปกครอง ที่ ส ร้ า งความต้ อ งการให้ ป ระชาชนคิ ด ถึ ง ค วามร�่ ำ รวย โดยไม่ คิ ด ถึ ง ความถู ก ต้ อ ง จ นไม่อาจแยกแยะว่าอะไรคือถูกต้อง อะไร คือผิด พี่พิษณุท�ำการกระตุกต่อมจริยธรรมของ ผู้บริหารและของทุกคนให้อยู่ในกรอบศีลธรรม มิหลงใหลได้ปลืม้ กับยศ ต�ำแหน่งทีอ่ าจได้มาด้วย วิ ธีก ารที่ มี ค วามเคลื อ บแคลงในธรรมาภิ บ าล ที่พิษณุท�ำให้ดู มิใช่เพียงแต่พูด อันเป็นสุดยอด วิชาที่ อาจารย์บุญยงค์ สร้างวัฒนธรรมนี้


พี่ มี น�้ ำ ใจและห่ ว งใยน้ อ งๆ ที่ อ ยู ่ ต าม อ�ำเภอ วันหยุดคือวันทีจ่ ะเห็นพีพ่ ษิ ณุอยูต่ ามพืน้ ที่ อ�ำเภอต่างๆ เป็นการสร้างขวัญก�ำลังใจได้ดที ี่สุด พี่พิษณุคิดเรื่องการจัดบริการสุขภาพ (service plan) นานแล้ว ด้วยความที่เป็นหมอสูติฯ ท�ำให้ มองเห็นปัญหาอมตะตลอดกาลคือการเสียชีวิต ทั้งของแม่และของลูก การคลอดก่อนก� ำหนด ภาวะการขาดออกซิเจนระหว่างคลอด ที่ยังคง เป็นปัญหา แม้การพัฒนาการบริการ รวมทั้งการ คมนาคมดีขึ้น แต่ปัญหานี้ยังมี อันเป็นดัชนีชี้วัด ของการจัดบริการของประเทศได้เป็นอย่างดี ว่ามี ประสิทธิภาพและคุณภาพหรือไม่ การสร้ า งเครื อ ข่ า ยงานอนามั ย แม่ และเด็ก ( MCH ) ที่มีพี่พิษณุ เป็นผู้น� ำร่อง ทุ ก คนต้ อ งมาดู ง านที่ เ ชี ย งรายที่ พี่ พิ ษ ณุ ร ่ ว ม สร้ า งผลงานที่ เ ป็ น จุ ด เปลี่ ย นของการพั ฒ นา งาน ท� ำ ให้ ล ดอั ต ราการตายของแม่ แ ละลู ก อย่างชัดเจน แม้จะยังต้องการการพัฒนาต่อไป ให้คณ ุ ภาพ ประสิทธิภาพดียงิ่ ขึน้ ในการท�ำระบบ

บ ริการสุขภาพของเขตบริการสุขภาพที่ 1 จึงน�ำ เ รื่องนี้มาเป็นยุทธศาสตร์เขต และมอบหมายให้ พี่พิษณุเป็นผู้น�ำในการสร้างเครือข่ายการดูแล แม่และเด็ก เพือ่ เด็กในเขตล้านนาเป็นเด็กทีม่ กี าร พัฒนาการทั้งด้านร่างกายและจิตใจ สติปัญญา ผลการท�ำงานที่ผ่านมาทั้งหมด จะท�ำให้ พี่เป็นแบบอย่างให้คนรุ่นหลังจดจ� ำและท�ำสิ่ง ดี ดี ดั่ ง เช่ น ที่ เ กิ ด ขึ้ น ในดิ น แดนล้ า นนา และ ป ระเทศไทย และน่าจะเป็นสิ่งที่พี่พิษณุมีความ สุขที่แท้จริง และเป็นอีกท่านหนึ่งที่จะจารึกใน ประวัตศิ าสตร์งานสาธารณสุขและการแพทย์ของ ประเทศไทย

ด้วยจิตศรัทธา นพ.ค�ำรณ ไชยศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 19 ครบวาระราชการ...หมอณุ


สารแสดงมุทิตาจิต

GOOD LUCK WITH LOVE

นายแพทย์มานิตย์ ขันติพงษ์ อายุ 71 ปี เป็นคุณอาของหมอพิษณุ จบแพทย์เชียงใหม่รุ่น 5 เป็นศัลยแพทย์อยู่ที่นครดัลลัส มลรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเวลานานกว่า 40 ปี หลังเกษียณจากงานได้ศึกษา พุทธศาสนาและได้เขียนบทความ Food of Thought ลงใน facebook

20

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

WHAT IS DEFINED THE LEGACY OF OUR LIFE ? In the modern civilization and high technology in the worldly place. The circumstances changed but the true nature of all creatures are still the same such as the human’s life is still complicated and uncertain. We still were born one time and we have only one life to live on the mother earth. We should not be wasted our life and our time on the world. What would you do to fulfill the meaning of our life? In Buddhism 1. The Buddha teaches everyone on the walk of life has a potential to be the Buddha’s nature. The potential without action is futile. Every Buddhist has to study, be trained and practice contemplative reflection of an ultimate truth of the Buddha-Dhamma and develop the wisdom of life by him or herself and implement the wisdom to every task of daily life.


2. Everyone has a freedom of choice to choose what you want to be and to do in life. The decision is in front of you. No one or thing can force you if you don’t give up power to other. You must make the decision with the intellectual and spiritual knowledge but not by emotional feeling, egoism and ignorance. 3. An ultimate truth of the Buddha-Dhamma is everyone has inner power with in the heart and mind to control the integrity, dignity and destiny. YOU ARE YOUR OWNSAVIOR. NO ONE OR THINGS CAN SAVE YOU. The key point, you must practice contemplative refection by yourself and develop the wisdom according to the Buddha-Dhamma path, and then YOU ARE YOUR OWN SAVIOR. The ignorance andemotion will lead you live in miserly. 4. Buddhism is self-reliant religion: It means that the Buddha had laid down the Buddha-Dhamma path to everyone on the walk of life for over 2600 years ago. Everyone has to walk on the path by his or herself. Every Buddhist has to study and practice contemplative reflection to truly understand and clearly see an ultimate truth of the Buddha-Dhamma within the heart and mind by his or her own will. The Buddha cannot hand on the wisdom to you. It is self-reliance. There are four folds of self-reliance. 1. Rely on Dhamma, but not on the teacher. The Dhamma is an ultimate truth of the nature. It is timeless. It is relevant in the present and also is relevant in the past and the future. Other words it has no beginning, middle and the end. Similarity: the cycle of the wheel.

We call the wheel of Dhamma. But the teacher is human being. He comes and gone and his idea and opinion will change according to the time and age. 2. Rely on the meaning, but not the words. We should truly understand and clearly see the whole meaning of Buddha-Dhamma, but we should not just blindly memorize the word for quarrel or play word game. 3. Rely on the wisdom, but not our own knowledge. The wisdom is spiritual knowledge from our practice insight contemplative reflection of the law of nature. It is the guidance of the right direction of our life leading to think and live in less suffering but our own knowledge is the worldly knowledge from the attachment to emotional feeling like or dislike and egoism with impure mind. It always change and unreliable. 4. Rely on the ultimate truth, but not the apparent truth. We should think and live according to an ultimate truth of the Buddha-Dhamma path but not blindly follow heresies just for the sake of convenience. 5. WHAT IS THE MEANING OF LIFE ? Many people are wondering around on “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 21 ครบวาระราชการ...หมอณุ


their life until the end of their life without fulf illing the meaning of life. They are wasted their life and time on the earth. The Buddha had laid down the meaning of life to everyone on the walk of life to practice contemplative reflection to fulf ill the meaning of life. 1. Individual meaning of life 2. Social meaning of life. INDIVIDUAL MEANING OF LIFE: Every Buddhist has to study, be trained and practice contemplative reflection on an ultimate truth of the Buddha-Dhamma until truly understand and clearly see the reality of life and universe by self-reliance. The highest attainment is the blissful state of mind. It is NIBBANA OR NIVERNA. Everyone can enjoy every moment of your life on the way where you are going and you don’t have to wait for the highest attainment. You can realize that all phenomena of life have

22

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

the cause and effect, the purpose and consequence, what is right and wrong ? You think and live your life by following the Buddha-Dhamma path. You will gradual develop a good quality of the unconditional loving-kindness and compassion to all humankind within the heart and mind. We recognize that we cannot survival alone in this world. We are interconnected or interdependent or inter-being and we must support and help each other. We should love each other and learn to live together with peace, harmony and happiness. We recognize that giving is better that receiving. We will gradual to develop caring, helping and giving to others are suffering without any reward back. We must apply our intellectually and spiritually to all of our thoughts, worlds and actions. Otherwise we will look like a fool man or woman. The human has a tendency to receiving more than giving and they have a habitual habit don’t help themselves. SOCIAL MEANING OF LIFE : When we had attained the individual meaning of life, The Buddha always teaches us to promote the growth of society, community and nation or the world to live with zest, joy, peace, harmony and happiness by caring, helping, sharing to each other because everyone has a different level of intellectually and spiritually. We have to help people who are lower level than us and encourage and take the action to help them to develop strength within their hearts and minds to see the new opportunity of life with our thoughts, words and actions. The society, community and nation and the world will be peaceful, harmony and happy.


WHAT IS DEFINED THE LEGACY OF LIFE ? The Buddha teaches the legacy of life does not depend on the wealth, fame, power and status that we acquired during our lifetime. These are the external factors of the worldly place. We must realize that all external phenomena come from the cause of the right circumstances and the right circumstances don’t last forever. All external factors will be gone with the brisk of our eyes. We cannot bring any thing with us after we dead even the love one and family and we walked alone on the road after death. People will be immediate to forget our name, status and power even our bodies don’t desegregate yet. The legacy of life is def ined by love and wholesome deeds, caring, helping and giving and a good quality of the thought and word and action to benefit the other, society and community and the nation more than his or her own benefif it. He or she always promotes the growth of society, community and the nation to be in peace, equally, harmony and happiness. I kwon from my heart and my mind that an Honorable Dr. Pisanu Kantipong : The chief executive officer of administrator of Nan hospital is a good person who has fulf ill his meaning of his life according to principle of Buddhism. His character is upright, straightforward, honesty, integrity, and worthy, trustworthy. His heart and mind fulf ill with love and compassion, sympathetic joy and equanimity (Metta, Karuna, Mudita and Upekkha) It is the Buddha-Dhamma of BHAHMAVIHARA

(HOLY ABIDINGS OR SUBLIME STATE OF MIND. He practices generosity and caring, helping to all people around him and all humankind without any reward back. It doesn’t matter who they are from the lower to the higher people in the society and community and the nation. His thought, word and action permeate to people around him. He is the hard worker for the benefit to other with his best ability unconditionally. He is risking his life for equally, peace, harmony and happiness for our beloved nation and all bothers and sisters. I congratulate to Dr, Pisanu for his retirement. I wish and bless him to enjoy every moment of his life and his love one. I am sure you will continue to practice the continuous education system of the Buddhism. You will think and live with zest, joy, healthy body, happy mind, peace and happiness on the way where you are going. GOOD LUCK WITH LOVE. Love always, Dabuay “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 23 ครบวาระราชการ...หมอณุ


สารแสดงมุทิตาจิต

`

การเตรียมตัวก่อนเกษียณ และการใช้ชีวิตหลังเกษียณ

​ บทความฉบับ นี้แทนสารมุทิต าจิต เพื่อ เ ป็นการตอบแทนคุณงามความดีของนายแพทย์ พิษณุ ขันติพงษ์ ที่ผมรู้จักท่านมาตั้งแต่วัยเรียน จ นถึ ง วั น ที่ ป ระสบความส� ำ เร็ จ สู ง สุ ด ในชี วิ ต ใ นการเกษี ย ณอายุ ร าชการอย่ า งสมภาคภู มิ รวมทั้งชื่นชมชีวิตของท่านที่งดงาม มีคุณค่ายิ่ง ​ทัง้ นี้ นอกจากจะสือ่ แทนสารมุทติ าจิต เพือ่ เ ป็นการตอบแทนคุณงามความดีของนายแพทย์ พิษณุ ขันติพงษ์แล้ว บทความฉบับนี้ ยังขอสือ่ สาร เพื่อเป็นประโยชน์แก่ทกุ ๆ ท่านด้วย การเตรียมตัวก่อนเกษียณ ​ การเตรียมเพือ่ รับเกษียณนัน้ ต้องท�ำตัง้ แต่ ยังอยู่ในวัยท�ำงาน หรือเมื่อเริ่มท�ำงานเลย ยิ่ง เตรียมตัวเร็วเท่าไร ก็จะยิง่ พร้อมทีจ่ ะเกษียณมาก เท่านั้น ค�ำว่า “เกษียณ” อายุ ตามพจนานุกรม แปลว่า สิน้ ก�ำหนดเวลารับราชการ ผูท้ รี่ บั ราชการ มีก�ำหนดเวลารับราชการ ถึงอายุ 60 ปี แล้วให้ เกษียณอายุ คือ ไม่ต้องท�ำงานอีกต่อไป ส่วนจะ รั บ เงิ น บ� ำ เหน็ จ หรื อ บ� ำ นาญแล้ ว แต่ จ ะเลื อ ก ส� ำ หรั บ ผู ้ ท� ำ งานบริ ษั ท รั ฐ วิ ส าหกิ จ ธนาคาร ข้าราชการในต�ำแหน่งพิเศษ เช่น ตุลาการ ฯลฯ ก็ จะมีกำ� หนดให้เกษียณอายุแตกต่างกัน ถ้าเราเชือ่ ตามหลักของพระพุทธศาสนาที่ว่า ผลย่อมเกิด จากเหตุ เหตุดใี ห้ผลดี เหตุไม่ดใี ห้ผลไม่ดี เราก็จะ

24

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

สามารถก�ำหนดชีวติ ในวัยหลังเกษียณได้วา่ จะอยู่ อ ย่างเป็นสุข หรือ จะอยู่อย่างเป็นทุกข์ทรมาน จนกว่าจะสิ้นใจ ​ เมือ่ อยูใ่ นวัยท�ำงาน เรามีสงั คมทีอ่ ยูร่ ว่ มกัน ทั้งผู้บังคับบัญชา เพื่อนฝูง ผู้ร่วมงาน ผู้ใต้บังคับ บั ญชา มีชื่อเสียง เกียรติยศ และมีทรัพย์สิน เงินทอง ทีจ่ ะใช้จา่ ยได้อย่างสะดวกสบาย สิง่ ต่างๆ เ ห ล่านี้จะหมดไปเมื่อวัยชรา และย่างเข้าสู่วัย เกษียณอายุ การเตรียมตัวให้ดแี ละพร้อมเสมอจะ ช่ วยลดปัญหาต่างๆ ที่จะตามมา ถ้าต้นทุนชีวิต สูงก็จะมีความสุขมาก สรุปต้นทุนชีวิต ที่ควรเตรียมพร้อม คือ 1. ต้นทุนทางสังคม ถ้าอยากให้มีคนรัก เรา ดูแลเรา และจริงใจต่อเรา เราก็ต้องปฏิบตั ติ ่อ เขาก่อน ทุกระดับและทุกวัย 2. ต้นทุนทางทรัพย์สนิ ต้องหมัน่ เก็บหอม ร อ มริบ ระมัดระวังการเงิน การใช้จ่าย โดยไม่ ประมาท 3. ต้นทุนทางสุขภาพ ต้องดูแลรักษา สุ ขภาพร่างกายให้แข็งแรงเสมอ​ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพใจ ธ รรมข้อที่ปฏิบัติแล้ว อยู่ก็มีคนรัก จาก ก็ มีคนเสียดาย ตายก็มีคนคิดถึง คือ คิหิปฏิบัติ ข้อ สังคหวัตถุ 4 ได้แก่


1. ทาน ​ การเป็นผู้ให้เสมอ ​​​ 2. ปิยวาจา มีวาจาไพเราะอ่อนหวาน ​ 3. อัตถจริยา ช่วยเหลือในการงาน ​ 4. สมานนัตตา มีความเสมอต้นเสมอปลาย คือ มีความโอบอ้อมอารี วจีไพเราะ สงเคราะห์ ชุ ม ชน วางตน เหมาะสมในขณะปฏิบัติง า นให้ยึด หลักธรรมที่ครองใจคน ได้แก่ พรหมวิหาร 4 คือ 1. เมตตา ​ อยากให้ผู้อ่นื มีสุข ​​​ 2. กรุณา​ ​อยากให้ผู้อ่นื พ้นทุกข์ ​ 3. มุทิตา​ ​ยินดีเมื่อผู้อ่นื ได้ดี ​​​ 4. อุเบกขา วางเฉย ไม่ซ้ำ� เติมผู้อ่นื การใช้ชีวิตหลังเกษียณ ​ สิง่ ทีต่ ้ อ งเตือนตนอยูท่ กุ ขณะจิต คือ ความไม่ จีรงั ของโลกนี้ ทุกสิง่ ในโลกนี้ ไม่มอี ะไรเทีย่ งแท้แน่นอน มีเกิดแล้วต้องมีดบั มีรงุ่ โรจน์แล้วต้องมีเสือ่ มถอย เมือ่ วันเกษียณมาถึง ความรูส้ กึ ของคนอาจจะแตกต่างกัน อาจเป็นวันแห่งความยินดีทไี่ ด้รสู้ กึ ถึง ความอิสระ ได้ อยูใ่ นโลกทีไ่ ม่มเี วลามาก�ำหนด ในทางตรงข้าม คนที่ ไม่ได้เตรียมตัวเกษียณ อาจรูส้ กึ หดหู่ เศร้าใจ ทุกอย่าง เป็ นอดีตไปหมดแล้ว บางคนปรับตัวให้เข้ากับ การ เ ป ลีย่ นแปล ง ต่ อก ารด�ำรงชีวติ ใหม่ไม่ได้ ก็เจ็บป่วย และเสียชีวติ เร็วกว่าทีค่ วรเป็น ระยะเวลาการมีชีวิตหลังเกษียณ ​ ผู้ที่เกษี ย ณอายุโดยทั่วไป มีระยะเวลาการมี ชีวิตหลังเกษียณ ๕ ระยะ คือ ๑. ระยะทีม่ คี วามสุขทีส่ ดุ ​เป็นระยะแรกทีเ่ ริม่ เกษียณ มีความรูส้ กึ อิสระทัง้ ด้านเวลาและการงาน ๒ . ระยะขม ขื่ นใ จ เกิดความไม่ สบายใจ จ า ก สาเหตุต่ า ง ๆ ที่เปลี่ยนแปล งไป เช่น รายได้ ไม่พอเพียง ไม่มีงานท�ำ มีเวลาว่างมากเกินไป ไม่มี เพื่อนฝูง เป็นระยะที่ก่อให้เกิดอาการทางจิตใจมาก บางคนทุกข์ ท รมานในระยะนี้ยาวนาน จนเจ็บป่วย และเสียชีวิต

ค�ำ ว่า “อคติ ” คือสิ่งที่ไม่ควรจะท�ำ หรือไม่ควรตัดสิน ไม่ควรคิด เพราะว่ามี “อคติ” มี ฐ านมีรากมาจากความไม่ดี ความไม่ดนี ี้มี อยู่ว่า อาจเป็นอคติในทางที่ไม่ชอบ คือความ เ ก ลียดชัง ห รือความโกรธ ก็จะตัดสินไปใน ทางทีไ่ ม่ถกู ต้อง เป็นอคติจากความกลัว ก็เลย ตัดสินไม่ตรง ไม่เป็นกลาง เป็นอคติในทางทีไ่ ด้ เห็นผลประโยชน์ ถ้าปราศจากอคติแล้ว ก็จะ ถูกต้องตามหลักวิชา ถูกต้องตามบทกฎหมาย ที่ มีอยู่ และเป็นไปตามกฎของความยุติธรรม คือ ความดี ความถูกต้อง พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2536 ในชีวิตประจ�ำวัน ถ้าใครสักคน ท�ำผิดต่อคุณ คุณอาจเลือกวิธีโต้ตอบเขาชนิดตาต่อตา ฟันต่อฟัน หรือหันหลังลาขาด อย่างไม่นกึ เสียดาย แต่หากใครคนนั้น คือ คนที่คุณผูกพันด้วยหัวใจ ไม่ว่าเขาท�ำผิดต่อ คุณร้ายแรงแค่ไหน คุณก็พร้อมให้อภัยเขา โดยปราศจากข้อแม้ ... คุณจะให้อภัยเขาด้วยความรัก ทัศนีย์และอุรุดา ให้รู้สึกรักมากขึ้น จาก Home ความรัก ความสุข ความทรงจ�ำ จงเข้าใจในความปรารถนาดีจากคนที่รักเรา มีคนที่รกั เรา แต่เราไม่ค่อยจะรัก ความปรารถนาดีจากคนที่รักเรา ย่อมเป็นสิ่งที่ดีเสมอ จากคนในครอบครัว พี่น้อง เพื่อนที่ดี อย่างน้อยสิ่งเหล่านั้น ควรจะสะกดใจเราได้บ้าง ​​มัชฌิมาปกร ​ คมความคิด ชีวิตมีสุข “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 25 ครบวาระราชการ...หมอณุ


3. ระยะปรับตัวใหม่ เป็นระยะที่ปรับตัวเข้า กับสังคมและชีวิตความเป็นจริงหลังเกษียณได้แล้ว 4. ระยะคงสมดุล เป็นระยะทีจ่ ดั การ เรือ่ งของ ตนเองได้ดี สามารถพึง่ ตนเองได้ ไม่ตอ้ งพึง่ พาใครมาก 5. ระยะสุดท้ายของชีวติ เป็นระยะทีส่ ขุ ภาพ ร่างกายเสือ่ มโทรมมาก ต้องพึง่ พาผูอ้ นื่ อาจมีการเจ็บ ป่วยบ่อย จนถึงช่วงสุดท้ายของชีวติ คือ ถึงแก่กรรม จิตส�ำนึกและพฤติกรรมในชีวิตหลังเกษียณ ​มี 3 แบบ คือ 1 . วิถีชีวิตเพื่อท�ำให้ตนเองเป็นที่ยอมรับ ท�ำงานในด้านที่ตนเองชอบ โดยเฉพาะงานอดิเรก ที่ นอกเหนือจากงานในวิชาชีพ จะท�ำให้เราเป็นคนมีคณ ุ ค่า 2. วิถชี วี ติ เพือ่ หาเงิน ท�ำงานเพือ่ มีรายได้เสริม แต่ไม่ควรท�ำอย่างเต็มที่เหมือนเดิม ไม่ควรลงทุนใดๆ ทั้งสิ้น ควรใช้จ่ายอย่างระมัดระวังที่สุด 3. วิ ถีชีวิตเพื่อกลับสู่สังคม ถ้าคนที่สั่งสม ต้น ทุ น บารมีมาตลอดเวลา จะสามารถเข้าสู่สงั คมได้ โดยไม่ ยาก อุทิศตนโดยใช้ความรู้ความสามารถและ ประสบการณ์ท่มี ีอยู่ให้เป็นประโยชน์ ​ การที่จะมีชีวิตหลังเกษียณให้มีความสุข โดย ก าร ห มั่นพัฒนาตนสู่จุดมุ่งหมายชีวิตที่สูงขึ้น ให้มี ความสุขในการด�ำเนินชีวิตมากยิ่งขึ้น ด้วยการเข้าถึง ธ รรมะ มีจิตใจเป็นอิสระ รู้เท่าทันความจริงของโลก และชีวติ วางจิตให้เป็นอุเบกขา จะท�ำให้จติ ใจมีความสุข อยู่ตลอดเวลา ท�ำให้ชีวติ มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ตอ น จ บ ของชีวิตเรา ต่างจากตอนจบของตัว ละคร เพราะบทบาทของละครหนังสือหรือภาพยนตร์ ถูก ก�ำ หนดตอนจบไว้แล้วโดยนักประพันธ์ แต่ในชีวติ จ ริ ง เ ร าเป็นผู้เขียนบทเองและยังแสดงเองอีกด้วย ดังนั้นตอนจบของละครชีวิต เราสามารถออกแบบได้ ตามที่ต้องการให้เป็น ผศ.นพ.สมพันธ์ ผดุงเกียรติ

26

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ความสุขอันแท้จริง จะด�ำรงคงอยู่ได้ไปชั่ว กาลนาน ก็คอื “คุณงามความดี” ที่มีอยู่ในจิตใจ และตัวตนของแต่ละคน ​​​นรีภพ สวัสดิรักษ์ อตฺตนา กุรุเต ลกฺขิ ํ อลกฺขิ ํ กุรุเตตฺตนา น หิ ลกฺขิ ํ อลกฺขิ ํ วา อญฺโญ อญฺญสฺส การโก ​​(ขุ. ชา. ๒๗.๕๖. ๑๕๐) บุคคลสร้างสิริมงคลด้วยตนเอง และสร้างสิ่งที่มิใช่สิริมงคลด้วยตนเอง เพราะคนอื่นจะสร้างสิริมงคล หรือสิ่งที่มใิ ช่สิริมงคลให้คนอื่นหาได้ไม่ จ ง ท�ำ ใ ห้เหมือนผู้เขียนบทละครชั้นน�ำ ที่ เ ขี ย นจากตอนจบของแต่ละบท ย้อนกลับมาที่ ต้ น เ รื่ อ ง วางพล็อตเรื่องของชีวิตให้เป็นการจบ อย่างมีความสุข แล้วค่อยๆ เขียนบทตอนต้นเรือ่ ง ให้มีแนวทางไปตามบทสรุปนั้น ​​​​​​​ทันตแพทย์สม สุจีรา ​​ ​​​​​ เดอะท็อปซีเคร็ต โ ล ก นี้แจ่มใส ส�ำหรับคนใจกว้าง โลกนี้ อ้างว้าง ส�ำหรับคนใจด�ำ ​ พระพุทธพจนวราภรณ์ ​ มงคลชีวิตประสิทธิพร ชีวิตที่ไม่ได้ช่วยคนอื่น คือ ชีวิตที่ไม่มคี ่า แม่ชีเทเรซาร์ เอกสารอ้างอิง 1. พระคั น ธสาราภิวงศ์, คุณธรรมของคนดี, พิมพ์ครั้งที่ 3 : กรกฎาคม 2553, ล�ำปาง, ประยูร สาส์นไทย การพิมพ์. 2. บุญเทือง โพธิเ์ จริญ, แผนทีช่ วี ติ วัยเกษียณ, กรุงเทพฯ: ฐานบุ๊คส์, 2551.


สารแสดงมุทิตาจิต

คุณหมอที่ชาวน่านรัก ​ ในปี 2515-2523 เป็นระยะที่เด็กคนหนึ่ง ที่เรียนจากโรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร จ.น่าน ซึ่งเคยเป็นเด็กขายกะปิ ปลาร้า ที่ตลาด และขาย ขนมทีโ่ รงหนัง ได้พยายามเรียนจบ มศ.5 และสอบ เข้าแพทย์ได้จนจบมาเป็นแพทย์ และได้เรียนต่อ เ ป็นแพทย์ทางศัลยกรรม จากการสนับสนุนของ อ.นพ.บุญยงค์ วงศ์รกั มิตร นายแพทย์ผอู้ �ำนวย การขณะนัน้ หลังจบแพทย์เฉพาะทางอาจารย์ได้ บ อกให้เป็นอาจารย์แพทย์ต่อ เพื่อจะได้ช่วย ช าวน่านที่เจ็บป่วยรพ.น่านได้ส่งต่อมารักษาที่ รพ.สวนดอก จากสิง่ เหล่านีจ้ งึ ท�ำให้มคี วามตัง้ ใจท�ำตาม ช าวน่านที่มาหาจะบอกประชาสัมพันธ์ว่าเป็น ลุงบ้าง ป้าบ้าง ญาติบ้าง โดยที่รู้จักผมแต่ชื่อ พ อเจอกันก็ไม่รู้จักกันบ้าง จนถูกประชาสัมพันธ์ ต่อว่า อาจารย์นี้ช่างกระไร ญาติก็ยังไม่รู้จัก มี ป้าคนหนึ่งเคยถามว่าขอโทษนะ อาจารย์ตอน เ ป็นเด็กเคยขายของที่ตลาดไหม ก็บอกเคยขาย กะปิ ปลาร้า แล้วป้าเคยซือ้ ไหม ป้าบอกว่าเคยซือ้

25 สตางค์ ผมก็พูดต่อว่านัน่ แหละเงิน 25 สตางค์ นี่แหละ ท�ำให้หมอเป็นหมอในปัจจุบัน ป้าคนนั้น ร้องไห้โฮด้วยความตื้นตันใจ จากความรู ้ สึ ก ที่ ตั ว เองต้ อ งให้ ค วาม อดทน พยามยามเรียนด้วยตัวเองมาตลอด เรียน ผิดเรียนถูกบ้าง ขณะเรียนก็ไม่ค่อยมีคนสอน มาก เนื่องจากอาจารย์และแพทย์ขณะนั้นมีน้อย ไม่คอ่ ยมีทปี่ รึกษาจนจบ เห็นรุน่ น้องๆ ต้องล�ำบาก เหมือนตัวเอง จึงอยากเป็นพีท่ คี่ อ่ ยสอน น้องๆ ได้ เรียนรู้ ไม่ต้องดิ้นรนมากให้สมกับที่ ผอ.น่านหวัง จึงเปิดการติวนอกเวลาทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ตั้งแต่ 2 ทุ่มถึงสี่ทุ่ม เราพูดกันว่าติวแค่ อาทิตย์ละ 5 วันเท่านัน้ พอติวเสร็จก็พานักศึกษา ไ ปอยู่ห้องฉุกเฉินจนถึงเที่ยงคืน บางครั้งก็จะซื้อ ขนมมาเลีย้ ง บางคืนก็เป็นตือคาโค น�ำ้ หวานหรือ กินข้าวต้มรอบดึกต่อก่อนนอน บางวันก็ไปอยูห่ อ้ ง ผ่าตัดช่วยดมยา และยกพวกช่วยผ่าตัด ทัง้ หมดนี้ จ ะมีนักศึกษาแพทย์อยู่ร่วมตลอด ซึ่งทุกคนก็ เ รียนด้วยความตั้งใจและเอาใจใส่ และเกือบจะ “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 27 ครบวาระราชการ...หมอณุ


ไม่มีนักศึกษาคนไหนขาดเรียนเลย แพทย์ประจ�ำ บ้านศัลย์ฯ จะชอบใจมากที่ผ่าตัดโดยมีที่ปรึกษา และพร้อมลงมือช่วยทันทีที่ต้องการ ​ ในปี 2519-2520 ผมก็ได้รู้จกั นศพ. ปี 5 ทีข่ นึ้ มาเรียนแผนกศัลยกรรม เขาเป็นคนตัง้ ใจใฝ่รู้ เข้าห้องติวทุกครัง้ และนัง่ อยูด่ า้ นหลังทางซ้ายมือ อยู่เสมอ ไม่ค่อยพูด แต่ถ้าถามก็จะตอบ ถ้าไม่รู้ ห รือไม่เข้าใจก็จะถาม และมักจะตามไปที่ห้อง ฉุกเฉิน ไปห้องผ่าตัดและไปกินข้าวต้มรอบดึก เสมอตลอดเวลาทีอ่ ยูห่ น่วยศัลยศาสตร์ และยังพบ อีกครั้งตอนอยู่ปี 6 พ.ศ. 2520-2521 ก็ยงั มีโอกาส ส อนอีกครั้ง เลยมีความรู้สึกที่สนิทกันเหมือน พี่กับน้อง ซึ่งนักศึกษามักจะเรียกผมว่าพี่เกือบ ทุกคน นักศึกษาผู้นี้ คือ นศพ.พิษณุ ขันติพงศ์ ห ลั ง จบแล้ ว ได้ ไ ปเรี ย นต่ อ ทางสู ติ น รี เ วชที่ โ รง พ ยาบาลราชวิถี หลังจบแล้วก็ได้กลับมาเป็น แพทย์ทางสูต-ิ นรีเวช ที่รพ.เชียงราย ขณะที่อยู่รพ.เชียงราย ก็เป็นแพทย์ที่ เ อาใจใส่ ดู แ ลรัก ษาผู้ ป่ วยทางสูตินรีเวชวิทยา อย่างดีเยีย่ มมาตลอด จนมีผปู้ ว่ ยฝากท้องจ�ำนวน มาก แต่ นพ.พิษณุกไ็ ม่เคยย่อท้อหรือเหนือ่ ยอ่อน ป ระการใด แต่ก็ยังทุ่มเทกายและใจให้ผู้ป่วย มาตลอด ซึ่งผมก็ได้ข่าวและชืน่ ชมมาตลอด และ ม ารู้จากน้องสาวและน้องเขยที่อยู่เชียงรายว่า

28

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ลูกของเขาทั้งสองก็ฝากท้องกับ นพ.พิษณุ และ ห มอก็ได้ท�ำคลอดและดูแลให้อย่างดีเยี่ยมทั้ง 2 คน ทั้งน้องสาวและน้องเขยก็ดีใจและขอบคุณ ที่ คุ ณ หมอได้ ดู แ ลเอาใจใส่ ใ ห้ อ ย่ า งดี เ ยี่ ย มมา ตลอด ญาติๆ ชมมากว่าคุณหมอใจดี เอาใจใส่ ดูแลเขาดีมาตลอด โดยทีย่ งั ไม่รเู้ ป็นญาติกบั ผม นี่ ถ้ารู้จะดีมากขนาดไหน ผมเลยถือโอกาสผสมโรง ว่า เห็นไหมหมอเชียงใหม่ก็จะดียังงี้ทุกคนแหละ (หาเสียงให้คณะแพทย์แล้ว) ​ เนื่องจากการท�ำงานของ นพ.พิษณุ อยู่ ที่เชียงรายมาตลอด จึงได้ข่าวไม่เยอะเท่าที่ควร จนกระทัง้ มีการประชุมศิษย์เก่าสวนดอกทีโ่ รงแรม โฆษิต จ.ขอนแก่น กลางปี 2556 ที่นั่นได้มศี ิษย์ เก่าของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาประชุมจ�ำนวนมาก และมีงานเลีย้ งในกลางคืน ทีน่ นั้ ได้เจอปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ด้วย ซึง่ พอเจอกันท่านปลัดก็ตรง ม าหาและกอด บอกว่าดีใจมากที่พบอาจารย์ ถ ามทุกข์สุขและอวยพรให้มีความสุข รู้สึกภูมิใจ ดีใจที่ศิษย์เก่าของเรามีความก้าวหน้าในหน้าที่ การงานจนก้าวสู่ต�ำแหน่งสูงสุดในราชการแพทย์ โ ดยเป็นปลัดกระทรวงสาธารณสุขคนปัจจุบัน แ ละที่นี่ก็ได้พบ นพ.พิษณุ ด้วย ได้ทักทายกัน แ ละถามถึงการงานและก็ได้ทราบข่าวว่าอาจ


เป็นผู้หนึ่งจาก 2 ท่าน ที่จะได้รับแต่งตั้งไปเป็น ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่านแทน นพ.นิวัตชัย ที่จะเกษียณในสิ้นเดือนกันยายน 2556 นี้ ก็ได้ ขอแสดงความยินดีและขออวยพรให้ได้ไปอยูน่ า่ น และได้ฝากดูแลชาวน่านให้ด้วย เพราะเป็นสิ่งที่ ผมเคยอยากไปอยู่ แต่กไ็ ม่ได้ไป ทุกครัง้ ทีม่ แี พทย์ ที่ อ ยากไปน่ า น ก็ จ ะฝากขอให้ ดู แ ลชาวน่ า น ทุกครัง้ นพ.พิษณุ ก็บอกว่ายินดีมาก ถ้าได้ไปและ จะทุม่ เทดูแลให้อย่างเต็มที่ และสุดความสามารถ เลย ได้ฟังแค่นี้กป็ ลื้มใจ และดีใจที่ชาวน่านจะได้ แพทย์ดๆี มาอยู่ในไม่ช้า ​ ในที่สุดหลังจากที่เชียร์สุดใจมาพักหนึ่ง ก็ได้ข่าวว่า นพ.พิษณุ ได้ย้ายจากโรงพยาบาล เ ชียงรายไปเป็นผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน อย่างที่หวังในวันที่ 26 พ.ย. 2556 รู้สกึ ดีใจและ ข่าวดีได้รับคือนพ.พิษณุ ได้ทุ่มเทการบริหารการ บริการของโรงพยาบาลอย่างมาก ผูป้ ว่ ยทีไ่ ปรักษา ประทับใจอย่างมาก เพิม่ ขวัญก�ำลังใจให้เจ้าหน้าที่ แ พทย์ พยาบาล ที่ปฏิบัติงานอย่างมาก บางที แพทย์ พยาบาลท�ำงานจนเลยเวลาราชการ บาง ครั้งถึงมืดค�่ำ ผู้อ�ำนวยการก็จะแวะมาเยี่ยม และ สั่งห้องครัวท�ำข้าวต้ม อาหารขึ้นเลี้ยงตอนดึก จึง เป็นทีซ่ าบซึง้ ประทับใจต่อผู้ปฏิบตั งิ านทุกๆ ท่าน เป็นก�ำลังใจให้ผู้ปฏิบตั งิ านอย่างสม�ำ่ เสมอตลอด

​ ได้แอบหาเบอร์โทรของ ผอ.พิษณุ แล้ว ก็ โ ทรหาของแสดงความยิ น ดี อวยพรและให้ ก�ำลังใจ ซึ่งผอ.พิษณุ ก็ขอบคุณ และเต็มใจที่จะ ท�ำงานจนกว่าจะเกษียณ มีโอกาสเจอและโทร คุยกับผอ. หลายครัง้ และทุกครัง้ ทีไ่ ปน่านจะเชิญ มาทานข้าวด้วยกัน เช่น ในงานแต่งงานของหลาน วันเปิดร้านขนมใหม่ของหลานสาวทั้ง 2 (ส้ม และนุช) ก็ต้องตื่นเต้น ดีใจ และซึ้งใจอย่างมาก ที่ ผอ. เอาแจกันดอกไม้ไปให้และให้พรในวัน เปิดร้านขนมและกาแฟที่น่าน ด้วยตัวเองทั้งๆ ที่ ก�ำลังจะบินไปประชุมที่กรุงเทพฯ และหลานคน นี้ที่ไปเปิด facebook พบว่าวันเกิด ผอ. เป็นวัน ที่ 21 มี.ค. ก็โทรมาบอก ผมเลยให้เตรียมของไป อวยพรผอ. แทน และมีโอกาสโทรอวยพรในวันนัน้ ด้วย ท�ำให้ ผอ.พิษณุ ตื่นเต้นและดีใจเช่นกัน เป็นที่น่าภูมใิ จของบุคลากร รพ.น่าน ที่ ทุกๆ คน เวลามีปญ ั หา เข้าปรึกษาได้เสมอ ประตู ห้องผอ. จะเปิดให้เจ้าหน้าที่ทุกๆ คนเข้าหาได้ ตลอด ผอ.จะช่วยแก้ปัญหาหลายๆ อย่าง รวมทัง้ แนะน�ำเรื่องต่างๆ ได้เป็นอย่างดี บางอย่างที่อาจ ไม่มีใครเลยท�ำมาก่อน เช่น การแนะน�ำเกี่ยวกับ อย่าพยายามผ่อนอะไรๆ มากเกินตัว เช่น ห้าม ผ่อนรถใหม่โดยไม่จ�ำเป็น การกู้เงินที่เจ้าหน้าที่ ต่างคนต่างค�้ำประกันกัน ปัญหาการท�ำงานท�ำให้ “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 29 ครบวาระราชการ...หมอณุ


เจ้าหน้าทีห่ ลายคนรูจ้ กั ประเมินตัว และระมัดระวัง เรือ่ งการกูเ้ งินหรือผ่อนอะไรๆ หลายๆ อย่างมากขึน้ ปัญหาเงินเดือนไม่พอใช้ก็ลดลงเอง ท�ำให้การ ท�ำงานของบุคลากร รพ.น่าน ก็มคี วามสุข มีความ สามัคคีมาก เพราะผอ.ให้ก�ำลังใจและสนับสนุน และเป็นที่ปรึกษาที่ดีตลอด ​ ทีป่ ระทับใจอีกอย่างทีเ่ จอด้วยตัวเอง คือ มีแพทย์ผู้หนึ่งอยากกลับไปอยู่น่าน และอยากจะ เรียนทาง Orthopedic อยากขอทุนทีน่ า่ น จึงติดต่อ ผ อ.ด้วยตัวเอง เพราะคิดว่าแพทย์ผู้นี้น่าจะเป็น แ พทย์ท่ีดี มีความรับผิดชอบ และต่อไปคงไป ช่วยดูแลผู้ป่วยที่น่านได้ดี จากการที่ดูด้วยตัวเอง แ ละสอนด้วยตัวเองมาตลอด ผอ.ก็ขอต�ำแหน่ง พิเศษให้ และก็เคลียร์กับแพทย์ท่านอื่นๆ ที่จะ ข อต�ำแหน่งนี้โดยแจ้งให้ทราบว่าเป็นต�ำแหน่ง นอกเหนือโควตาปกติ แพทย์อ่นื ที่จะขอต�ำแหน่ง โควตาอืน่ ก็ยงั ขอได้และให้อย่างเดิม ท�ำให้ทกุ คน เข้าใจ และแพทย์ผู้น้กี ็จะได้เรียนต่อ Orthopedic ในปี 2557 นี้ และน่านก็จะได้แพทย์ท่ดี ีอีก 4 ปี ข้างหน้าอย่างแน่นอน ​ ครั้งหลังสุดที่เจอ ผอ.พิษณุ ได้คุยกัน หลายๆ อย่าง และได้ทราบว่าจะเกษียณในเดือน กันยายนนี้แล้ว เลยรู้สึกสะดุ้งว่าท�ำไมเกษียณ เร็วมาก ความรู้สกึ ยังไม่น่าจะเร็วขนาดนี้ เพราะ เ หมือนกับว่าเพิ่งจบไปไม่นาน แต่ความจริงก็คือ

30

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ค วามจริง วันเวลาที่ผ่านมาก็รวดเร็วตามกาล เ วลา แต่สิ่งที่ยังคงมั่นคงอยู่ คือ ความดีงาม, สิ่งดีๆ ที่ ผอ.พิษณุ ท�ำให้รพ.น่านและชาวน่าน สิ่งที่ ผอ.พิษณุ ทุ่มเทกายและใจ บริหารรพ.น่าน ท�ำให้เติบโตและก้าวหน้า จะประทับใจ ซาบซึง้ ใจ ของทุกๆ คนในรพ.น่าน และชาวน่านที่ใช้บริการ และจะอยู่ในหัวใจของชาวน่านอย่างไม่รู้ลมื ​ ผมและชาวน่านดีใจที่ ผอ.พิษณุ ได้เป็น ผอ.อยู่ รพ.น่าน และได้ทมุ่ เททุกอย่างเพือ่ ชาวน่าน และรพ.น่าน แม้จะเป็นช่วงทีไ่ ม่นานมาก แต่กน็ าน พอทีจ่ ะอยูใ่ นใจของชาวน่านอย่างไม่รลู้ มื และเป็น ห มอที่ชาวน่านรักมากผู้หนึ่ง ผมดีใจ ภูมิใจที่มี รุ่นน้องผู้หนึ่งที่ก้าวหน้าจนเป็นผอ.ที่ดี ท�ำงาน อย่างเสียสละมาตลอด โดยไม่เห็นแก่ความเหนือ่ ย ย าก และก็ตั้งใจเขียนบทความนี้มาให้ในโอกาส ที่เกษียณ ซึ่งเข้าใจว่ารพ.น่าน น่าจะท�ำหนังสือ ที่ระลึกไว้ ขอเป็นส่วนหนึ่งที่ท�ำหน้าที่นี้ ท้ า ยนี้ สุ ด นี้ ก็ ข ออวยพรให้ ผอ.พิ ษ ณุ มีความสุข มีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ และพบ แ ต่สิ่งที่ดีงาม ปราศจากโรคาพยาธิภัยทั้งปวง ต ลอดไป และผมก็จะรัก ภูมิใจในน้องของผม คนนี้ตลอดไปเช่นกัน. ผศ.นพ.วินัยศักดิ์ ขัตติพัฒนาพงศ์


สารแสดงมุทิตาจิต

“คนต้นแบบ หรือ Role Model” ในช่วงชีวิตของผมนั้นนิยมชมชอบที่จะ สัมผัสกับผู้ที่เรียกได้ว่า “คนต้นแบบ หรือ Role M odel” Role Model ของผมนั้นไม่จ�ำเป็นต้อง อยู่เหนือทุกคนในทุกด้าน หากแต่เพียงมีจดุ ที่น่า สนใจ มีจุดที่พเิ ศษกว่าคนอื่นในด้านใดด้านหนึ่ง ผมย่อมยอมรับนับถือให้เป็น Role Model อาจารย์นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ นับเป็น Role Model ส�ำหรับผมเป็นยอดอาจารย์ทนี่ บั ได้วา่ เป็นทีเ่ คารพนับถือ ด้วยใจจริง “ขอเพียงทุม่ เทแรง ก ายและแรงใจปฏิบัติหน้าที่ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพือ่ ให้งานทีร่ บั ผิดชอบประสบความส�ำเร็จ” นีค่ อื สิ่งที่ผมนึกถึงทุกครั้งที่พูดถึงอาจารย์ นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ การท�ำงานจนครบเกษียณอายุราชการ นั้นนับเป็นเกียรติประวัติของบุคคลที่รับราชการ ก ารสิ้นสุดระยะเวลาปฏิบัติราชการถือว่าท่านได้ บรรลุภารกิจการปฏิบัติราชการของท่านแล้ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อาจารย์นพ. พิษณุ ขันติพงษ์ ท่านได้ปฏิบัติราชการและได้ สร้างผลงานทีม่ ปี ระโยชน์แก่วงการงานอนามัยแม่

และเด็กเป็นอย่างมาก ตามหน้าทีค่ วามรับผิดชอบ ของท่าน ในฐานะพีใ่ หญ่ของวงการอนามัยแม่และ เ ด็กในเขตภาคเหนือตอนบน อาจารย์นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ ได้ทำ� หน้าทีม่ าครบเกษียณอายุราชการ 6 0 ปี ในต�ำแหน่งผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน แ ละเป็นอดีตประธานคณะกรรมการอนามัยแม่ และเด็ก อาจารย์นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ ได้ใช้ความ รู้ ความสามารถ ในการพัฒนางานอนามัยแม่และ เ ด็กของเครือข่ายบริการสุขภาพที่ 1 (เชียงใหม่ เ ชียงราย ล�ำพูน ล�ำปาง พะเยา แพร่ น่าน แ ม่ฮ่องสอน) ในฐานะประธานคณะกรรมการ อ นามัยแม่และเด็กมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 ท�ำให้งานอนามัยแม่และเด็กของเครือ ข่ายบริการสุขภาพที่ 1 ได้เติบโตก้าวหน้า มีความ เ จริญรุ่งเรืองมาตามล�ำดับ อาจารย์นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ ได้กระตุน้ ผลักดัน ให้คณะกรรมการทุก คน มีความมุง่ มัน่ มีพลังขับเคลือ่ นการพัฒนางาน อนามัยแม่และเด็กมาโดยตลอด “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 31 ครบวาระราชการ...หมอณุ


วั น นี้ เมื่ อ ท่ า นต้ อ งมาเกษี ย ณอายุ ร าชการพวกเราทุกคนก็รู้สึกเสียดายในความรู้ ความสามารถทีไ่ ด้ทำ� ไว้กบั งานอนามัยแม่และเด็ก ของเครือข่ายบริการสุขภาพที่ 1 แห่งนี้ ในโอกาสที่ อาจารย์นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ เกษียณอายุราชการนี้ ผมหวังว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ Role Model ท่านนี้ จะได้พกั ผ่อนและหาความสุขให้ กับตัวเองบ้าง ผมมั่นใจว่าตลอดเวลาหลายสิบปี ที่ผ่านมาอาจารย์นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ ทุ่มเท เพือ่ คนอืน่ มามากมายนัก และผมก็ยงั มัน่ ใจอีกว่า หลังจากนีไ้ ป อาจารย์นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ ก็ยงั คง นึกถึงคนอื่นเป็นส�ำคัญอีกเช่นกัน

32

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ในฐานะเพื่อนร่วมวิชาชีพสูตินรีแพทย์ เ ป็นรุ่นน้อง และร่วมท�ำงานเป็นคณะกรรมการ อ นามัยแม่และเด็กเครือข่ายบริการสุขภาพที่ 1 ผ มขออาราธนา ขออ�ำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และคุณความดีที่ท่านได้ท�ำไว้ ได้ โปรดดลบันดาลให้ อาจารย์นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ พร้อมครอบครัวจงประสบแต่ความสุขความเจริญ ด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสาร สมบัตทิ กุ การให้ อาจารย์นพ. พิษณุ ขันติพงษ์ ได้ มีชวี ติ ทีม่ คี วามสุข ให้สมกับความดีงามทีอ่ าจารย์ สร้างสมมาครับ ด้วยมุทิตาจิต ​นพ.สุธิต คุณประดิษฐ์


สารแสดงมุทิตาจิต

พี่พิษณุ พี่ใหญ่ MCH board ในหมู่คนท�ำงานอนามัยแม่และเด็กใน 8 จังหวัดภาคเหนือ คงไม่มีใครไม่รู้จกั นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ พีณ ่ เุ ป็นหมอสูตทิ ไี่ ม่ใช่หมอทีท่ �ำงานแค่ งานในรพ.อย่างเดียว จากปัญหาทีไ่ ด้พบจากการ ดูแลคนไข้ พี่ณุได้คิดต่อจากปัญหาที่พบมองไกล ออกไปรอบตัว และคิดแก้ไขอย่างเป็นระบบ เป็น เ ครือข่ายขยายออกไป ตลอดเวลาหลายปีที่พี่ณุ ได้มาท�ำงานในฐานะประธาน MCH board พีณ ่ ไุ ด้ พยายามที่จะสร้างเครือข่ายให้เข้มแข็ง เครือข่าย ที่อยู่กันเหมือนพี่ดูแลน้อง สอนน้อง เป็นตัวอย่าง ทีด่ ใี ห้นอ้ งๆ ได้ดำ� เนินรอยตาม ให้พวกเราสามัคคี เป็นน�้ำหนึ่งใจเดียวกัน สอนให้พวกเราเป็นแพทย์ ที่ดี เสียสละ มีอุดมการณ์และเป้าหมายชีวิตที่ มีคุณค่า เป็นข้าราชการที่ดี ตอบแทนคุณของ แ ผ่นดิน พี่ณุท�ำงานด้วยความสนุก มีพลังและ สร้างสรรค์สิ่งดีงามต่างๆ มากมาย เป็นที่รักและ แบบอย่างที่ดีของน้องทุกคน ในโอกาสที่ พี่ ณุ จ ะเกษี ย ณอายุ ก าร ท�ำงาน พวกเราทุกคนรูส้ กึ เสียดายทีค่ นทีย่ งั มีพลัง

ทัง้ ความคิด ความสามารถ ทีย่ งั มีอยูอ่ ย่างเหลือล้น ต้ อ งออกไปจากความเป็ น ข้ า ราชการ แต่ เ รา เชื่อว่าพี่ณุคงจะไม่หยุดท�ำงานตามที่ราชการได้ ก�ำหนดไว้ แต่พี่ณุจะท�ำงานต่อไปในอุดมการณ์ ที่จะมอบให้แก่สังคมและแผ่นดิน ด้วยพลังและ ความสามารถที่ยังเปี่ยมล้น และพวกเราชาว MCH น้องๆ ของพี่ณุก็คงจะได้ข้อชี้แนะ ความ ช่วยเหลือ และก�ำลังใจจากพี่ณุพี่ใหญ่ของเรา ต่อไป พี่ณุจะอยู่ในดวงใจและเป็นแบบอย่างที่ดี ของพวกเราชาว MCH ตลอดไปครับ

นพ.อร่าม ลิ้มตระกูล ประธานคณะกรรมการอนามัยแม่และเด็ก เขตพื้นที่เครือข่ายบริการที่ 1 “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 33 ครบวาระราชการ...หมอณุ



เส้ น ทางชี ว ต ิ คุณค่า ความคิด ความหมาย

เบตง เชียงราย น่าน เบตง ในช่วงท้ายๆ ของการเป็นเป็นแพทย์ ฝึกหัดที่รพ.สรรพสิทธิประสงค์ ผมได้เลือกไป ฝึกงานที่รพ.จิตเวชพระศรีมหาโพธิ์ อุบลฯ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ได้รู้จัก ผอ.พญ.ปรีดา นรกานบริ รั ก ษ์ ท่ า นเป็ น คนที่ มี อั ธ ยาศั ย ดี มาก ได้แสดงให้ผมเห็นถึงปัญหาการขาดแคลน จิตแพทย์ทั่วประเทศ รพ.พระศรีฯ ขนาด 1,000 เตียง อัตราครองเตียง 100% แต่มีแพทย์เพียง 2 ท่านเท่านั้น(รวมผอ.) เป็นเหตุให้ไม่สามารถดูแล คนไข้ได้เต็มที่ ไม่มีการท�ำจิตวิเคราะห์หรือการ ท�ำ Psychotherapy เลย อีกทั้งมีคนไข้เสียชีวิต จากโรคทางสมองทีม่ านอนรพ.ด้วยปัญหาทางจิต ทุกเดือน ท�ำให้ผมตกลงที่จะไปเรียนต่อจิตเวชที่ รพ.สมเด็จเจ้าพระยาโดยทุนของรพ.พระศรีฯ ซึ่งผมได้ชวนหมอสุทัศน์บั้ดดี้ให้ไปเป็นจิตแพทย์ ด้วยกัน แต่ก็ได้ยื่นข้อเสนอกับกองสุขภาพจิต

เรื่องความมุ่งมั่น ผมอยากให้รุ่นน้องๆ หมั่นฝึกฝนตนเองให้มาก เพราะความเป็นแพทย์ ไม่ใช่เพียงแค่เรียนจบ ได้ปริญญารับรองเท่านั้น (ในขณะนั้น) ขอไปเทรนเลยโดยไม่ต้องรอให้ครบ ใช้ทุน 1 ปี (ขณะนั้นจิตเวชเป็นสาขาขาดแคลน สามารถไปเทรนได้หลังใช้ทนุ ครบ 1 ปี) เนื่องจาก ต้องการให้มีความรู้เต็มที่ก่อนจะมาท�ำการรักษา คนไข้จิตเวช แต่ไม่ส�ำเร็จทางแพทย์สภาไม่ยอม ผมยังจ�ำได้ที่ถูก staff รพ.สรรพสิทธิฯ ล้อเลียน ว่ า “คิ ด ดี แ ล้ ว เหรอที่ จ ะเป็ น จิ ต แพทย์ รู ้ ห รื อ เปล่าว่าจิตแพทย์เขาจะต้องให้คนอื่นประเมิน “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 35 ครบวาระราชการ...หมอณุ


ทุกเช้า” เขาจะถามเพื่อนแพทย์ว่า “เช้านี้คุณ ดู ดี น ะ ผมดู เ ป็ น ไงมั่ ง ครั บ ” ต้ อ งขอขอบพระ คุณอ.ปรีดาที่สนับสนุนเต็มที่ อาจารย์จะมีวิธี การตรวจสอบความเหมาะสมของเราว่ า เป็ น จิตแพทย์ที่ดีได้หรือเปล่าโดยการสั่งเบียร์ให้ทาน ทุกครั้งเวลาทานอาหารเที่ยง ทีแรกผมก็แปลกใจ ทีอ่ าจารย์คะยัน้ คะยอให้ดมื่ ต่อมาจึงรูว้ า่ อาจารย์ จะประเมินพฤติกรรมหลังดื่มแอลกอฮอล์ว่ามี พฤติ ก รรมเปลี่ ย นแปลงหรื อ ไม่ เนื่ อ งจากเคย ผิดหวังที่ส่งแพทย์ไปเรียนต่อแล้วเกิดอาละวาด หลังดื่มแอลกอฮอล์ หลังจากจบแพทย์ฝึกหัดรพ.สรรพสิทธิ ประสงค์ จ.อุบ ลราชธานี อาจารย์นพ.อุทัย เจนพาณิชย์ ผอ.ได้แจ้งว่าผมและนพ.สุทัศน์ ศรีวิไล ได้รับการคัดเลือกจาก staff ให้รับเป็น อาจารย์แพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขต อุบลฯ หลังจบแพทย์ใช้ทุน 2 ปีแล้วให้ไปเทรน แพทย์ ป ระจ� ำ บ้ า นสู ติ น รี เ วชและศั ล ยกรรมที่ มหาวิทยาลัยขอนแก่นแล้วมาปฏิบัติงานที่อุบลฯ ซึ่งขณะนั้นมีโครงการที่จะส่ง นักศึกษาแพทย์ มาฝึกงานปี 4-5-6 ที่อุบลฯ ผมจับฉลากอยู่ที่ รพ.สรรพสิทธ์ฯ ไม่ได้ เพื่อนๆ ที่จับได้ไม่ยอมแลก ส่วนหมอสุทศั น์จบั ได้ เนือ่ งจากเป็นบัด๊ ดีก้ นั ตัง้ ใจ ว่าไปไหนก็จะไปด้วยกัน หมอสุทัศน์จึงสละสิทธิ์ ผมจ�ำได้วา่ ตอนนัน้ เราสองคนไม่ตอ้ งการ จับฉลากอีกแล้ว จึงเดินไปดูต�ำแหน่งที่ว่างพบ ว่าทางใต้ว่างหมดพอเห็นชื่อรพ.เบตง รพ.ยะหา รพ.ยะลา ชื่อเพราะดี จึงลงสมัครที่รพ.เบตง หมอ สุทัศน์ ที่รพ.ยะลา ตอนนั้นไม่รู้เลยว่าอยู่ที่ไหน ของแผนที่รู้แต่เพียงว่าอ.เบตงเป็นอ�ำเภอที่อยู่ ใต้สดุ ของไทย จากนัน้ มีเพือ่ นๆ จากจุฬาฯ รามาฯ เชียงใหม่ มาร่วมลงชื่อด้วยเพราะคิดว่าน่าจะดี ที่สุดทางใต้ ยะลาจึงเป็นจ.แรกทางภาคใต้ที่มี คนสมัครครบหมดทั้ง 5 ต�ำแหน่ง

36

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

สู่โรงพยาบาลเบตง วันที่สสจ.ยะลา พาไปรายงานตัวกับ ผู้ว่า ราชการจังหวัดนายมนตรี ตะหง่าน พอรู้ว่าผม เป็นคนเหนือและจะไปอยู่รพ.เบตง ท่านหัวเราะ และบอกว่าหมอจะไปเจอคนบ้านเดียวกันเยอะ เลย ทีแรกผมนึกว่าท่านพูดเล่น ปรากฏว่าเบตง เป็นเมืองชายแดนจึงมีสาวเหนือมาขายบริการ มากมาย เบตงอยู่ห่างจากยะลาไม่ถงึ 200 กม. แต่ เส้นทางวกวนผ่านภูเขาหลายลูกจึงใช้เวลานาน กว่า 3 ชม. สมัยนัน้ แท็กซีจ่ ะเป็นรถเบนซ์หางปลา นั่งเบียดกันเต็มที่ 7 คน มีถุงพลาสติคแจกเวลา อยากอาเจีย น ช่ ว งนั้น เบตงจะสงบปราศจาก โจรแขก (ขบวนการโจรแบ่งแยกดินแดน) แต่ เป็นเขตอิทธิพลของโจรจีน (คอมมิวนิสต์มาลายู) โจรจีนเหล่านี้มาจากประเทศจีนหนีร่นมาสมัย สงครามปฏิวัติวัฒนธรรม จะออกปฏิบัติการใน พื้นที่มาเลย์ แล้วกลับมากบดานอยู่ฝั่งไทยมีการ ขุดอุโมงอยูใ่ นป่าลึก ภายหลังไทยอนุญาตให้ทหาร มาเลย์เข้ามาปราบปราม จึงท�ำให้กลุ่มโจรจีน ถูกท�ำร้ายสูญหายไป กลุ่มโจรแขกจึงเข้ามาเบตง ได้ สมัยนั้นกลุ่มโจรแขกจะอาละวาดอยู่ระหว่าง เส้นทางไปเบตงแถวรามัน บันนังสตา บางครัง้ จะ


ยิงกราดลงมาจากเขาหรือตั้งด่านจี้รถแท็กซี่ ถ้า ใครพูดภาษายาวีได้ก็ปล่อยตัวไป ถ้าพูดไม่ได้ก็ ยิงทิง้ ตอนนัน้ ผมต้องหัดพูดชือ่ ทีอ่ ยูเ่ ป็นภาษายาวี แต่ช่วงหลังพวกนี้รู้ทันใช้ให้อ่านคัมภีร์อัลกุรอาน แทนถ้าไม่ได้กย็ งิ ทิง้ ขณะนัน้ เบตงมีคนจีนราว 80 % ไทยมุสลิม 20 % อยู่ร่วมกันอย่างสันติ รพ.เบตงขณะนั้นมีขนาด 150 เตียงมี แพทย์ประจ�ำแล้ว 4 คน นพ.มนตรี เศรษฐบุตร เป็น ผอ.ทุกคนสมัยนัน้ ซี 7 หมดมีผมเป็นน้องเล็ก ซี 4 สมัยนัน้ เงินเดือน 2,700 บาท (ตอนเป็นแพทย์ ฝึกหัด 2,400 บาท ค่าเวรเหมาจ่าย 400 บาท ต่อเดือน อยู่เวรวันเว้นวันหรือเว้น 2 วันแล้วแต่ แผนก) ได้ค่าเวร 150 บาท ทั้งคืนทั้งวัน ขณะนั้น ผมตั้ ง ใจว่ า จะท� ำ งานเป็ น แพทย์ อ ย่ า งเต็ ม ที่ ไม่เปิดคลินิก (แม้ว่าชาวบ้านจะขอร้องให้เปิด คลินิกที่ตลาดโดยไม่คิดค่าเช่า หลังจากเริ่มมี ชื่อเสียงในการทุ่มเทให้กบั งาน) ผมชอบผ่าตัดจึง เดินราวน์วอร์ดวันละหลายๆ ครัง้ เพือ่ หาเคสผ่าตัด ผมดู ค นไข้ ทั้ ง รพ.ไม่ เ กี่ ย งว่ า เป็ น คนไข้ ข องพี่ ๆ ท่านใด ถ้ามีข้อบ่งชี้ต้องผ่าตัดผมจะขอพี่เพื่อท�ำ ผ่าตัดเอง และในช่วงที่พี่ๆ ไปคลินิกช่วงเย็นผม อาสาอยู่เวรให้โดยไม่เอาค่าตอบแทน จึงท�ำให้ เป็นที่รักของพี่ๆ ทุกคน เวลาที่กลับบ้านหรือไป ประชุมจังหวัด พี่ๆ จะให้ pocket money หรือ บรั่นดีไปด้วย

คนไข้บางคนนั้น แม้เราจะทุ่มเทสักเพียงใด ก็ไม่สามารถจะยื้อชีวิตไว้ได้ บางครั้งเราก็ต้องท�ำใจไว้เหมือนกัน กับความผิดหวังที่จะพบได้ ในชีวิตความเป็นหมอ ช่ ว งแรกๆ ผอ.บอกให้ ท� ำ ป้ า ยติ ด ที่ หน้าห้องตรวจของผมว่า “หมอพิษณุ เป็นคน เหนือแต่ก�ำเนิดจึงไม่สามารถพูดภาษายาวีได้” เนื่องจากมีคนไข้หลายคนร้องเรียนว่าผมเรียน หมอแล้วหยิง่ ลืมก�ำพืดตัวเองไม่ยอมพูดภาษายาวี คงเป็ น เพราะผมผิ ว คล�้ำ และผมหยิ ก หน้ า ตา เหมือนคนมุสลิม ทีน่ า่ ข�ำคือมีหลายคนจะยกลูกสาว ให้ทลี ะ 2-3 คน ท�ำเอาเกือบต้องเป็นเขยเบตงแล้ว ผมมักบอกรุ่นน้องว่า อยากให้ออกไป ท�ำงานใช้ทนุ ในที่ห่างไกล เวลา 2-3 ปี ประเดี๋ยว เดียวแต่เราจะได้ประสบการณ์มากมาย อยาก ให้ ท�ำ งานทุ่ ม เทอย่ า งเต็ม ที่โ ดยไม่ ค�ำ นึง ถึง ค่ า ตอบแทน ผมไปเบตง ผอ.ให้เลือกว่าจะอยู่บ้าน พักใกล้พยาบาลหรือใกล้บา้ นผอ. ผมรีบเลือกใกล้ บ้านผอ.จะได้ผูกท้องกับบ้านผอ.ด้วย “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 37 ครบวาระราชการ...หมอณุ


38

ตั้ ง แต่ วั น แรกที่ อ ยู ่ เ บตงจนวั น สุ ด ท้ า ย ผมทานข้าวเย็นบ้านผอ.ทุกวันพร้อมน�้ำมังสวิรัติ ยี่ห้อแบล็คเลเบิ้ล 4 วันขวด(ขวดใหญ่) ท่านขอให้ นายด่านส่งให้ครั้งละลัง เพราะน�ำเข้าจากมาเลย์ ท�ำงานครบอาทิตย์ก็เกิดเหตุระเบิดโรงหนังตอน เที่ยงคนงานมาตามผมที่บ้านพัก พอวิ่งไปถึงที่ ER (ตึกอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน) ก�ำลังชุลมุนไปหมด พี่ หมอท่านหนึ่งอยู่เวรก�ำลังพยายามท�ำ cut down เด็กอายุราวสิบขวบ แต่ผมดูแล้วคงไม่รอดเพราะ สมองกระจุยแล้ว เสียงโอดครวญเต็มไปหมด จ�ำได้ว่าครั้งนั้นมีคนตาย 13 คนบาดเจ็บเกือบ ร้อย ผมอยู่ในห้องผ่าตัดทั้งคืนทั้งวันกับอาจารย์ นพ.เกรียงศักดิ์ ภูพ ่ ฒ ั น์ ตัดขาคนไปหลายคน จ�ำ ได้ว่าวันนั้นโรงหนังฉายหนังเรื่อง “ไอ้หนุ่มซึงตึ้ง” จากเหตุการณ์ครั้งนั้นผมจึงได้ค้นคว้าต�ำราเกี่ยว กับการเกิดอุบตั ิเหตุหมู่ (“mass casualty”) ผมจึง ริเริ่มท�ำแผน “กุหลาบแดง” ให้รพ.เบตงไว้รบั เหตุ ฉุกเฉินกรณีท่มี ีผู้บาดเจ็บคราวละมากๆ ผมได้เรียนรูอ้ ย่างมากมายจากพีๆ่ แพทย์ และพยาบาลทั้งในเรื่องการดูแลรักษาคนไข้ว่า ต้องมีความมุง่ มัน่ และการวางตัวในสังคม ผอ.ให้ ผมเป็นสมาชิกโรตารีก่ ติ มิ ศักดิ์ (ไม่ตอ้ งจ่ายเงินค่า สมาชิก) ร่วมประชุมทุกเดือนเพือ่ จะได้รจู้ กั คนในวง การอืน่ ๆ จึงเป็นพืน้ ฐานให้ผมเข้าคนได้งา่ ยจนถึง ทุกวันนี้ และได้ไปเยีย่ มโรตารีเ่ มืองอีโป มาเลย์ดว้ ย เรื่ อ งความมุ ่ ง มั่ น นั้ น มี อ ยู ่ ค รั้ ง หนึ่ ง ที่ ท�ำให้ผมเข้าใจว่าคนไข้นั้นไม่ตายง่ายๆ ถ้าเรา มุง่ มัน่ เอาชนะจริง มีเด็กฝาแฝดในตลาดมานอนที่ รพ.ด้วยช็อคจากไข้เลือดออก ซึง่ ในขณะนัน้ อัตรา ตายสูงมาก อาจารย์พญ.นุจนิ ต์ เศรษฐบุตร ซึง่ จบแพทย์ประจ�ำบ้านจากรพ.เด็ก (สมัยนัน้ เรียนปี เดียว) ทุม่ เทเต็มทีผ่ ลัดกันเฝ้ากับผมทัง้ คืน ทัง้ ๆ ที่ เลือดออกทุกทวาร แต่เราสามารถรักษาชีวิตได้ ทั้งคู่ เป็นที่โจษจันกันทั่วเมือง ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ผมโชคดีที่ได้เห็นตัวอย่างของการเป็น แพทย์ที่ดีของอ.นุจินต์ และอ.เกรียงศักดิ์ท�ำให้ พยายามเจริญรอยตามมาตลอด เรื่องความมุ่ง มั่นผมอยากให้รุ่นน้องๆ หมั่นฝึกฝนตนเองให้ มากเพราะความเป็นแพทย์ไม่ใช่เพียงแค่เรียน จบได้ปริญญารับรองเท่านั้น ยังจ�ำได้ว่ามีคนไข้ คนหนึ่งเป็นอิสลามอายุสามสิบเศษก�ำลังท้องได้ 8 เดือนกว่ามารพ.ด้วยมาลาเรียขึ้นสมอง ไม่รู้ตัว ผมเอาเลือดไปตรวจย้อมแล็บดูเอง พบว่าเป็น Pf. อัตราการติดเชื้อในเม็ดเลือดแดงสูงมาก ตาม ต�ำราอัตรารอดชีวิตแทบไม่มี ผมอ่านต�ำราอย่าง ละเอียดและรู้ว่ามักตายจากภาวะน�้ำท่วมปอด ผมนอนเฝ้าทีว่ อร์ดจนดึก คิดว่าน่าจะปลอดภัยถึง เช้า จึงไปนอนที่บ้านทั้งๆ ที่ไม่ได้อยู่เวร จนตีสาม พยาบาลตามว่าคนไข้หยุดหายใจ ผมรีบไปช่วย ฟื้นคืนชีพเป็นชั่วโมง แต่ก็ต้องยอมแพ้ จ�ำได้ว่า ขณะเดินกลับบ้านคิดและอธิษฐานตลอดทางว่า ขอให้วิญญานคนไข้ได้กลับมาบอกหน่อยว่าผม ท�ำพลาดตรงไหน แต่ก็ไม่มีวี่แววเลย จึงเชื่อว่า คนไข้คงหมดอายุจริง ท�ำให้ผมได้รู้ว่าคนไข้บาง คนนั้นแม้เราจะทุ่มเทสักเพียงใดก็ไม่สามารถจะ ยื้อชีวิตไว้ได้ บางครั้งเราก็ต้องท�ำใจไว้เหมือนกัน กับความผิดหวังที่จะพบได้ในชีวิตความเป็นหมอ


ผมจึงอยากให้บรรดา คุณหมอทั้งหลายให้เกียรติ และยอมรับวิชาชีพพยาบาล

ทุกวันหลังมื้อเที่ยงที่โรงครัวผมจะไปพัก อยูท่ บี่ า้ นพีพ ่ ร ซึง่ เป็นพยาบาลและจะมีพยาบาล สาวโสดวิรัตน์ ตุ๊ก และตุ๊ คุยแหย่เล่นกันช่วยให้ ไม่ เ หงาและท� ำ ให้ เ ราเข้ า ใจงานของพยาบาล มากขึ้น ผมชื่นชมและยกย่องพยาบาลเสมอว่า เป็นคนที่มีบทบาทส�ำคัญในการดูแลรักษาคนไข้ แต่ก็เหมือนการปิดทองหลังพระ คนไข้มักไม่เห็น ความส�ำคัญเท่าใด ผมจึงอยากให้บรรดาคุณหมอ ทัง้ หลายให้เกียรติและยอมรับวิชาชีพพยาบาลจะ ท�ำให้การท�ำงานราบรืน่ และจะเป็นผูช้ ว่ ยทีแ่ สนดี ตลอดไป แพทย์จำ� นวนมากมีภรรยาเป็นพยาบาล แต่กน็ า่ แปลกทีไ่ ม่เคยมีลกู หมอเรียนพยาบาลเลย อาจเป็นเพราะงานหนักก็เป็นได้ หลังท�ำงานได้ปเี ศษผมก�ำลังคิดว่าจะเรียนอะไร ดี ขณะนั้นที่เบตงมีคนไข้อุบัติเหตุมอเตอร์ไซด์ แทบทุกวันเพราะใช้เป็นพาหะนะส�ำคัญในการขี่ ขึ้นดอยเพื่อไปกรีดยาง และเกือบทั้งหมดจะเป็น close fracture femur ตอนเป็นแพทย์ฝึกหัดอยู่ รพ.สรรพสิทธิฯ์ ได้เรียนรูเ้ รือ่ งกระดูกจากอาจารย์ นพ.บัณฑิต ชวกุล ท�ำให้มีความมั่นใจในการ รั ก ษาโดยการใส่ เ หล็ ก รั ก ษากระดู ก ต้ น ขาหั ก ผมท�ำการระงับความรู้สึกเฉพาะส่วนด้วยตนเอง โดยวิธีฉีดยาชาเข้าไขสันหลัง มีพยาบาลวิสัญญี ช่วยวัดสัญญานชีพ ผมท�ำผ่าตัดจนเหล็กทีใ่ ส่หมด ได้ท�ำหนังสือขอเหล็กจากรพ.เลิศสิน เนื่องจาก

สมัยนั้นก�ำลังเริ่มใช้วิธี AO plate อาจารย์นพ. พงษ์ศกั ดิ์ หัวหน้าแผนกกระดูกส่งมาให้สว่ นหนึง่ ซึ่ ง ผมใช้ กั บ คนไข้ จ นหมดจึ ง ท� ำ หนั ง สื อ ขอไป ใหม่ จ�ำได้ว่าตอนนั้นอาจารย์จัดประชุมวิชาการ ครั้งแรกที่รพ.เลิศสินเรื่องอุบัติเหตุทางออโธปิดิค อาจารย์ทำ� หนังสือเชิญให้ผมเข้าร่วมประชุมพร้อม กับให้หอบฟิลม์ คนไข้ไปเรียนรูด้ ว้ ย อาจารย์ชมว่า ท�ำผ่าตัดใส่เหล็กได้ดี สวยงามไม่แพ้คนทีจ่ บเทรน อาจารย์จึงจองตัวให้เ รียนเป็นหมอกระดูกทุน รพ.เลิศสิน แต่ผมได้ขอสละสิทธิ์เนื่องจากเบื่อ และเหนื่อยมากแล้ว (สมัยนั้นใช้สว่านมือแพทย์ ต้องหมุนเจาะเอง ไม่มสี ว่านลมเหมือนปัจจุบัน) ในที่สุดผมก็ตัดสินใจได้ว่าจะเรียนอะไร เนือ่ งจากมีเด็กแรกเกิดทานนมแล้วอาเจียน คล�ำได้ ก้อนที่บริเวณลิ้นปี่ เอ็กซเรย์เห็นลักษณะเฉพาะ ของโรค pyloric stenosis เนื่องจากอยู่ไกล รพ. มหาวิ ท ยาลั ย สงขลานคริ น ทร์ (มอ.)ที่ ส งขลา ซึ่ ง มี แ พทย์ ผู ้ เ ชี่ ย วชาญศั ล ย์ เ ด็ ก และช่ ว งนั้ น สถานการณ์ไม่ดีมีการอาละวาดของกลุ่มโจรแขก อาจารย์พญ.นุจินต์ จึงขอให้ทำ� ผ่าตัดที่เบตง ผม จ�ำได้ว่าต้องอ่านต�ำราหลายรอบเพื่อให้มีความ มั่นใจ วันนั้นอาจารย์พญ.นุจินต์ ดมยาเองโดย ใช้ อี เ ทอร์ ด ร็ อ ป ผอ.และผมช่ ว ยกั น ท� ำ ผ่ า ตั ด จ�ำได้วา่ ท�ำ pyloroplasty (ผ่าตามยาวแล้วเย็บตาม ขวาง) ท�ำให้รูขยายกว้างขึ้นใช้เวลาไม่นานก็เสร็จ “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 39 ครบวาระราชการ...หมอณุ


พบว่าเย็นนั้นเด็กเริ่มดูดนมได้ ท�ำให้ลือกันไปทั้ง ตลาดว่าสามารถผ่าตัดเด็กแรกเกิดได้ คนในตลาด รวบรวมเงินซือ้ ตูอ้ บเด็กให้รพ. ท�ำให้ผมรูส้ กึ ว่าเด็ก ทีม่ คี วามพิการแต่กำ� เนิดน่าสงสาร ถ้าไม่ได้รบั การ รักษาให้ทนั ท่วงทีทำ� ให้เสียชีวติ ได้ จึงมีความมุง่ มัน่ ว่ า จะเรี ย นศั ล ย์ เ ด็ ก เพื่ อ ช่ ว ยแก้ ไ ขความพิ ก าร แต่ก�ำเนิดให้โอกาสเด็กที่เกิดมาผิดปกติ และ ได้สมัครเข้าเรียนที่รพ.เด็ก อาจารย์นพ.ศรีวงค์ หัวหน้าแผนกฯ รับเป็นการส่วนตัวแล้ว ใกล้ครบใช้ทนุ สองปีผมเก็บเงินได้เกือบ สองหมื่ น จึ ง ถามหมอพั ช รี ว ่ า จะเที่ ย วหรื อ ซื้ อ เครือ่ งเสียง หมอพัชอยากเทีย่ ว ผมจึงชวนคุณพ่อ และหมอพัชไปเที่ยวเบตง และวางแผนไปเที่ยว สิงคโปร์ ปีนัง ปรากฏว่ามีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถงึ เนื่ อ งจากช่ ว งนั้ น กลุ ่ ม โจรแขกอาละวาดหนั ก นายอ�ำเภอเบตงประพัฒน์พร บ�ำเพ็ญสิทธิ์ สัง่ ให้ปิดเส้นทางไม่อนุญาตให้รถวิ่ง ผมขออนุญาต ให้รถรพ.ไปรับก็ไม่ได้ ขณะนั้นคนขับรถรพ.ชื่อ ฮูเซ็ง ที่สนิทกับผมก็บอกว่าจะลองช่วยติดต่อให้ หายไปค่ อ นวั น ก็ ม าบอกข่ า วดี ใ ห้ ท ราบที่ บ ้ า น ผอ.กลางดึกว่า ทางผูใ้ หญ่ของกลุม่ โจรซึง่ ขณะนัน้ อยู่ที่อ.รามัน ยินยอมเปิดเส้นทางให้พร้อมบอก ว่าจะเปิดเส้นทางทั้งวันที่ไปรับและวันกลับด้วย เนื่องจากผมมีบุญ คุณกับ คนของเขาที่เราช่ วย ดูแลรักษายามเจ็บป่วย ฮูเซ็งจึงขออนุญาตให้

40

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

รถแท็กซี่ตามรถรพ.ไปอีกหลายสิบคันโดยเก็บ ค่าธรรมเนียมเข้ากระเป๋าได้หลายตังค์ ท�ำให้ผม ได้เห็นความส�ำคัญว่าการเป็นแพทย์นั้นใครๆ ก็ ให้เกียรติไม่มีใครคิดปองร้าย และในเวลาคับขัน บางครั้งคนที่ไ ด้ชื่อว่า เป็นโจรก็อาจช่ว ยเราได้ ขอเพียงเราประกอบวิชาชีพด้วยความบริสุทธิ์ จึ ง ขอให้ เ พื่ อ นแพทย์ ช ่ ว ยกั น รั ก ษาเกี ย รติ แ ละ ศรัทธาในวิชาชีพนี้ให้คงอยู่ตลอดไป หลายๆ ท่านอาจสงสัยว่าผมเลือกเรียน ศัลยฯ เด็กแล้วท�ำไมมาเป็นสูติแพทย์ วันที่ไป สมัครแพทย์ประจ�ำบ้านที่แพทยสภา กระทรวง สาธารณสุข (ขณะนั่นยังอยู่ที่วังเทเวศร์) วันนั้น เป็นวันสุดท้ายผมไปกับหมอสุทัศน์ ปรากฏว่า ต้นสังกัดผมที่รับทุนศัลย์เ ด็กคือรพ.ล�ำปางถูก ยกเลิกเพือ่ เอาทุนให้กบั วิทยาลัยแพทย์พระมงกุฏ จึงไม่มีรายชื่อให้เข้าเรียนได้ ผมก็งงมากว่าเกิด อะไรขึ้น ทั้งๆ ที่มีหนังสือส่งตัวอนุมัติให้มาเรียน ศัลย์เด็กรพ.เด็กซึ่งเซ็นต์โดยปลัดฯ ผมจึงขอเข้า พบปลัดฯ อาจารย์นพ.ประกอบ ตูจ้ นิ ดา (โดยที่ เลขาหน้ า ห้ อ งไม่ ย อมให้ เ ข้ า พบ) ผมรู ้ สึก ดีใ จ มากที่พบว่าผู้บริหารสูงสุดมีความเป็นธรรมเเละ เมตตาสูง พอรู้ว่ามาจากเบตงท่านรีบลุกจาก เก้าอี้มาโอบไหล่พร้อมบอกว่ามีเรื่องอะไรให้ช่วย คุณหมอเสียสละไปท�ำงานเสียไกล ท่านขอบคุณ และบอกไม่มีโอกาสไปเยี่ยม พอรู้ว่าเป็นเรื่อง


โควต้ า แพทย์ ป ระจ� ำ บ้ า น ท่ า นให้ เ ลขาฯ รี บ ต่อสายถึงเลขาฯแพทยสภา อาจารย์นพ.อดุลย์ วิริยเวชกุล ปรากฏว่าขณะนั้น 11.30 น. เลขาฯ อ.อดุลย์ไปทานข้าวติดต่อไม่ได้ ท่านชวนให้ผม ทานข้าวด้วยบอกว่าไม่มีเวลาไปทานข้างนอก แม่บ้านจัดปิ่นโตให้ ผมปฏิเสธ ท่านจึงนัดให้ไป พบอีกครัง้ บ่ายโมง ปรากฏว่ากว่าจะติดต่อเลขาฯ แพทยสภาได้กบ็ า่ ยสองโมง และเลขาฯแพทยสภา ยืนกรานไม่มีต�ำแหน่งให้ผมเรียน เนื่องจากปีนั้น รพ.รามาธิบดีงดเทรน 1 ปี ท่านจึงถามว่าผมอยาก เรียนอะไรนอกจากศัลย์เด็ก ผมจึงบอกว่าแผนก สูติฯก็ได้ ท่านจึงต่อรองว่าให้ผมเรียนโดยไม่ต้อง มีต้นสังกัดแต่แพทยสภาไม่ยอม ท่านจึงเขียนใน สัญญาการรับทุนแพทย์ประจ�ำบ้านว่าอนุมัติให้ ไปเรียนสูตนิ รีเวชได้ โดยไม่มตี น้ สังกัดพร้อมเซ็นต์ ชื่อก�ำกับ ด้วยความที่ผมกังวลว่าผู้ใหญ่จะผิดใจ กันจึงไปดูตำ� แหน่งทีก่ ารเจ้าหน้าทีพ่ บว่าต�ำแหน่ง ที่รพ.เชียงรายว่าง จึงเซ็นต์ช่อื รับทุน กลับไปบอก ท่านปลัดฯ ยังจ�ำได้วา่ ท่านชืน่ ชมว่าขนาดเราผูน้ อ้ ย ยังกังวลว่าผูใ้ หญ่จะผิดใจกัน ท่านจึงบอกว่าถ้าเรียน จบแล้วอยากไปอยู่ที่ใดให้บอก แม้ท่านเกษียณ แล้วก็จะช่วย แล้วท่านก็ต่อสายถึงคุณดวงเดือน จนท.แพทยสภาให้ ช ่ ว ยดู ที่ เ รี ย นให้ ผ มด้ ว ย เนื่องจากไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนว่าจะเรียนสูติฯ

ในทีส่ ดุ ผมก็เป็นแพทย์ประจ�ำบ้านแผนก สูตินรีเวช รพ.ราชวิถี (รพ.หญิง) ผมเลือกที่นี่ เนื่องจากมีคนไข้คลอดติดอันดับต้นๆ ของโลก จะได้ มี ป ระสบการณ์ ใ นการดู แ ลคนไข้ ม าก ผมเล่าเรื่องนี้เพื่อที่จะบอกให้ทุกคนได้รู้ว่าสมัย ก่อนนั้นผู้ใหญ่ท่ดี ีจริงๆ นั้น ยังมีแน่นอนครับและ ท่านพร้อมให้เราเข้าพบได้ทกุ เวลา และอนาคตนัน้ เป็นของไม่แน่นอน เราต้องพร้อมที่จะเผขิญกับ ความเปลี่ยนแปลงได้ทุกเวลา ไม่แน่อาจจะท�ำให้ ได้พบสิ่งที่ดขี ึ้นก็ได้

“ขอบคุณที่เป็นคนดี” 41 ครบวาระราชการ...หมอณุ


สู่เชียงราย ผมกั บ หมอพั ช รี เ ดิ น ทางไปเชี ย งราย วั น แรกได้ รั บ ความอนุ เ คราะห์ จ ากอาจารย์ พญ.เรณู ศรีสมิต ซึง่ ขณะนัน้ เป็นหัวหน้ากลุม่ งาน สูติฯ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ท่านแสดง ความยินดีมากที่ผมมาอยู่ด้วยและตลอดเวลา ท่านดูแลผมเหมือนเป็นน้องชายคนหนึ่ง ท�ำให้ รู้สึกอบอุ่นตลอดเวลาที่อยู่ รพ.เชียงรายประชา นุเคราะห์ โดยปกติผมจะเป็นคนชอบวิชาการและ ชอบสอนจึงริเริม่ ท�ำ perinatal conference ระหว่าง สู ติ ฯ กั บ เด็ ก ประสบความส� ำ เร็ จ เป็ น อย่ า งดี และยังจัดเป็นประจ�ำถึงปัจจุบัน ก่อนที่จะมา อยู่เชียงรายบรรดาอาจารย์ท่ีราชวิถีเห็นพ้องกัน ที่จะขอตัวผมกลับไปเป็นอาจารย์ที่รพ.ราชวิถี

42

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ผมท� ำ งานได้ ร าว 3-4 เดื อ นก็ ไ ด้ รั บ โทรเลข จากอาจารย์พญ.เผ่าประยูร ถามว่าไม่อยาก กลับไปท�ำงานที่ราชวิถีหรือจดหมายมาขอตัวผอ. 3 ฉบับแล้วไม่เห็นว่าอย่างไร รุ่งขึ้นผมและหมอ พัชรีจงึ เข้าพบอาจารย์นพ.สมบัติ อินทรลาวัลย์ ผอ.รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ท่านบอกกับผม ว่าจดหมายยังอยู่ในลิ้นชักทั้ง 3 ฉบับ ท่านอ่าน แล้วแต่ไม่ได้แจ้งให้ผมทราบ ผมยังจ�ำได้วา่ ท่านได้ พูดว่า “หมอลองคิดดูกแ็ ล้วกัน ผมเพิ่งจะได้เพชร น�้ำงามมาเม็ดหนึ่ง ยังไม่ทันจะได้ช่นื ชมก็มคี นมา ขอไป ผมจะคิดอย่างไร หมออยูท่ ำ� อะไรดีๆ ให้รพ. เชียงรายประชานุเคราะห์ สักปีกย็ งั ดี” สมัยนัน้ ถ้า ต้นสังกัดยอมทางรพ.ราชวิถีสามารถขอโอนตัว ข้ามกรมโดยไม่ต้องใช้ทุน แต่ถ้าทางต้นสังกัด


กรณีเจอเคสที่ยาก ผมจะบอกลูกทีมทุกคน ดังๆ ว่า “ ใจเย็นๆ ค่อยๆ ท�ำ เดี๋ยวก็เสร็จ ” ไม่อนุญาตผมต้องจ่ายสี่แสนเพื่อไปรับราชการ ใหม่ที่ราชวิถี และก็คงจะไปอยู่กับโปรเฟสเซอร์ กรี น ที่ โ อ็ ค แลนด์ เนื่ อ งจากได้ คุ ย กั น ไว้ แ ละ อาจารย์ที่รพ.ราชวิถีส่วนใหญ่จะไปเรียนต่อที่นี่ ผู้บริหารที่เก่งและเข้าใจคนจะสามารถประสบ ความส�ำเร็จในการเอาชนะใจคนได้โดยง่าย จาก ค�ำพูดของผอ.วันนั้นท�ำให้ผมอยู่เชียงรายมานาน ถึง 28 ปี หลังจากอยู่เชียงรายได้ร่วมปีใช้ชวี ติ กับหมอ พัชรีสองคน หลังเลิกงานไม่รู้จะท�ำอะไร ดูวิดิโอที่ เช่าจากร้านจนหมดทุกเรื่องแล้ว เพื่อนๆ ก็เปิด คลินิกกันเกือบทุกคน ขณะนั้นที่ รพ.เชียงราย ประชานุ เ คราะห์ มี วั ฒ นธรรมที่ ดี ง ามในการ เปิ ด คลิ นิ ก แพทย์ จ ะเปิ ด เฉพาะเวลาเย็ น ใน วั น ราชการ ผมถื อ ว่ า เป็ น สิ่ ง ที่ ดี ง ามไม่ มี ก าร เบียดบังเวลาราชการ ผมเคยมีโอกาสพูดคุยกับ อาจารย์นพ.เสม พริ้งพวงแก้ว ผอ.คนแรกของ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ เรื่องการท�ำคลินิก ท่านบอกว่าสมัยท่านก็เปิดเหมือนกันมีลูกหลาย คน ล�ำพังเงินเดือนไม่พอใช้ เปิดที่บ้านพักหน้า รพ.ตอนเย็นๆ คนไข้ในตลาดมาหาบ้าง ตัวท่าน เองท�ำงานที่รพ.ถึงทุ่ม สองทุ่มทุกวัน เมื่อมีคนไข้ เด็กที่บ้านก็จะมาตาม พอได้ค่าขนมให้ลูกบ้าง แสดงว่าค่าตอบแทนแพทย์นนั้ ได้คอ่ นข้างน้อยเมือ่ เทียบกับหน้าทีร่ บั ผิดชอบมาช้านานแล้ว ถ้าให้คา่

ตอบแทนที่มากพอ คงจะไม่มีความจ�ำเป็นต้อง เปิดคลินิก จะได้ทุ่มเทให้กบั งานราชการได้เต็มที่ และไม่มีเรื่องธุรกิจมาท�ำให้เกิดการบริการสอง มาตรฐาน ผมถือหลักว่าแม้เราจะมีคนไข้พิเศษ ส่วนตัว เราก็ตอ้ งดูแลคนไข้ทวั่ ไปในความรับผิดชอบ ให้ดเี ช่นกัน ไม่เพียงเลือกทีจ่ ะดูแลแต่คนไข้สว่ นตัว จนทอดทิง้ คนไข้ทวั่ ไป ผมปฏิบตั งิ านเป็นสูตแิ พทย์ เปิดคลินิครับฝากครรภ์มาเกือบ 30 ปี ไม่เคย มีเรื่องร้องเรียนแต่อย่างใด ผมจึงตัดสินใจเปิดคลินิค “สนง.แพทย์ พิษณุ-พัชรี” ชื่อเท่ห์ดี เปิดช่วง 5 โมงเย็นถึง 2 ทุ่ม รู้เ ลยว่า เหมือนติดคุกเพราะเป็นความ รับผิดชอบที่ผูกพันกับคนไข้โดยเฉพาะคนท้องที่ ฝากพิเศษให้ทำ� คลอดด้วย จะไปไหนต้องวางแผน ไว้ล่วงหน้านานพอควร และฝากคนไข้ให้เพื่อน ร่วมงานดูแลแทนด้วย สมัยนั้นผมท�ำคลอดแบบ ไม่เจ็บด้วยโดยใช้ epidural block แบบ single shot จ�ำได้ว่าเคยเก็บรวบรวมเคสไว้ถึง 5,000 รายแต่ ไม่ได้รายงาน เมื่อท�ำคลอดเด็กทุกครั้งผมจะวาง เด็กบนหน้าท้องคุณแม่พร้อมสอนเด็กตั้งแต่แรก ว่า “ให้เป็นเด็กดี รักคุณพ่อคุณแม่ รักสิง่ แวดล้อม และโลกของเรา” คนไข้มคี วามสุขจากการคลอด เนื่องจากไม่ทรมาน ทุ ก ครั้ ง ที่ ท� ำ คลอดหรื อ ผ่ า ตั ด ผมจะ ผิวปาก ร้องเพลงเพราะเชือ่ ว่าถ้า surgeon อารมณ์ดี ลูกทีมก็ไม่เครียดการท�ำผ่าตัดจะส�ำเร็จเรียบร้อย “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 43 ครบวาระราชการ...หมอณุ


ถ้าศัลยแพทย์อารมณ์เสียหงุดหงิดจะท�ำให้ผู้ช่วย กลัว การผ่าตัดยิ่งผิดพลาดได้ง่าย ดังนั้นกรณี เจอเคสที่ย ากผมจะบอกลูกทีม ทุกคนดัง ๆ ว่ า “ใจเย็นๆ ค่อยๆ ท�ำเดี๋ยวก็เสร็จ” คงเป็นเพราะ ผมจะท�ำตัวเป็นน�้ำที่ไม่เต็มแก้วจึงพร้อมที่จะรับ ฟังค�ำสอนเพือ่ เอาไปพัฒนาให้เกิดประโยชน์เสมอ ในขณะที่เรียนอยู่ที่รพ.ราชวิถี ทุกครั้งที่มีโอกาส ผมจะเข้าช่วยผ่าตัดกับอาจารย์ทุกคนจนบ่อย ครั้งที่อาจารย์อนุญาตให้ท�ำผ่าตัดเคสส่วนตัว หรือชวนไปช่วยผ่าตัดในวันหยุดที่รพ.เอกชนด้วย ท�ำให้ได้เห็นวิธีผ่าตัดที่สวยงาม ประณีต และ การแก้ปัญหากรณีที่มีความยุ่งยากขณะผ่าตัด ผมเชื่อว่าการควบคุมอารมณ์ในขณะที่เผชิญกับ สถานการณ์ที่คับขันเป็นสิ่งจ�ำเป็นที่แพทย์ทุกคน ต้องฝึก เนื่องจากงานของเราขึ้นอยู่กับความเป็น ความตายของชีวิตคน ที่คลินิกของผมไม่สนับสนุนให้ฝากคลอด พิเศษ โดยหมอพัชรีผจู้ ดั การจะแนะน�ำคนไข้ทกุ คน ว่าเรามีหมอเวรที่อยู่เวรตลอดเวลาเป็นหมอที่จบ เฉพาะทางสามารถช่วยเหลือได้ทุกเวลาอยู่แล้ว หมอพิษณุกเ็ ดินทางไปสอนหนังสือบ่อยไม่คอ่ ยได้ อยู่ทกุ วัน ผมว่าเป็นสิง่ ทีด่ ที เี่ ราได้สอื่ สารกับคนไข้

44

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ไว้กอ่ นท�ำให้คนไข้เข้าใจตัง้ แต่แรก ผมกับหมอพัชรี ตกลงกันไว้ก่อนตั้งแต่เปิดคลินิกว่า เราไม่ได้ มุง่ หวังว่าจะต้องร�ำ่ รวยเพียงแค่ได้ชว่ ยเหลือคนไข้ ที่ไม่ว่างจะไปรพ.เพื่อพบเราหรือต้องการความ เห็นที่สอง ผมไม่เคยใช้สิทธิว่าเป็นคนไข้ส่วนตัว ต้องจองห้องพิเศษให้ด้วย หรือได้คิวผ่าตัดเร็ว กว่าคนอื่น กรณีที่เป็นคนไข้นรีเวชผมถือว่าป่วย เป็นโรคถ้าต้องท�ำผ่าตัดจะท�ำการรักษาให้โดยไม่ เรียกร้องค่าตอบแทนใดๆ จึงท�ำให้เรามีความสุข ไปไหนก็มีแต่คนไข้ที่เข้ามาทักทายตลอดแม้แต่ ปีนกี้ ม็ คี ณ ุ หมอจบใหม่หลายคนมาขอถ่ายรูปด้วย ว่าผมเป็นคนท�ำคลอดให้ คุณแม่ตั้งใจให้เป็นคุณ หมอเหมือนคุณลุงหมอ ที่เชียงรายพ่อแม่หลาย คนขออนุญาตตั้งชื่อลูกว่าพิษณุ จึงมีคนชื่อพิษณุ มากมายที่เชียงราย ท�ำให้รู้สึกปลื้มใจที่สุดและ ใช้เป็นแรงบันดาลใจให้เป็นเด็กดีได้ หลังจากอยู่เชียงรายได้ปีเศษอาจารย์ซ่งึ ลาออกไปอยู ่ ร พ.เอกชนมี ชื่ อ ที่ ก ทม.โทรศั พ ท์ มาชวนให้ไปท�ำงานด้วยกัน บอกว่าเงินเดือน ขั้นต�่ำ 200,000 บาท ตรวจคนไข้วันละราว 5 ราย ผ่าตัดใหญ่เดือนละ 2-3 ราย แต่ข้อดีคอื มีประชุม วิชาการ 7 ครั้งต่อสัปดาห์ และจะส่งไปเรียนที่


อเมริกาโดยไม่มีข้อผูกมัด ผมยังจ�ำได้ที่อาจารย์ แซวว่าท�ำคลอดได้น�้ำปลากี่โหล ขณะนั้นได้เงิน เดือนซี 5 ราว 7,500 บาท รวมค่าอยู่เวรอีกราว 2,500 บาท แต่ตรวจคนไข้ราว 120 คนต่อวัน ผ่าตัดมดลูกบางวัน 5 ราย จนถูกล้อเลียนว่า คนเชี ย งรายมดลู ก จะหมดแล้ ว ผมจึ ง ปฏิ เ สธ อาจารย์เนือ่ งจากคิดแล้วว่าอยูเ่ ชียงรายน่าจะเกิด ประโยชน์กับประชาชนมากกว่า และคุ้มค่ากับ ที่ได้เรียนมานาน แม้ว่าจะรายได้น้อยแต่เราก็ไม่ เดือดร้อนมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างสบายๆ ครั้งหนึ่งคุณพ่อซึ่งอยู่ลำ� ปางไปประชุมไล อ้อนที่เชียงรายกับเพื่อนๆ ก่อนกลับท่านบอกกับ ผมว่า “พ่อรู้สึกภูมิใจในตัวลูกที่เพื่อนๆ สโมสร ไลอ้อนเชียงรายต่างก็ชมว่าลูกเป็นหมอที่ดีเป็น ทีร่ กั และศรัทธาของคนเชียงรายมาก ขอให้รกั ษา ความดีนไี้ ว้ตลอดไป” ผมจ�ำได้วา่ ตัวเองน�ำ้ ตาคลอ

ขอให้มีความภูมิใจ ที่เป็นหมอที่ดี เป็นที่รักของทุกคน มากกว่าการเป็นหมอที่ร�่ำรวย

ด้วยความปลืม้ ใจทีท่ ำ� ให้คณ ุ พ่อมีความสุข เมือ่ มี โอกาสผมมักพูดกับหมอรุน่ น้องและบรรดาคุณพ่อ คุณแม่ทสี่ ง่ ให้ลกู เรียนแพทย์วา่ ขอให้มคี วามภูมใิ จ ทีล่ กู เป็นหมอทีด่ เี ป็นทีร่ กั ของทุกคน มากกว่าการ เป็นหมอที่ร�่ำรวย เมื่อท�ำงานชียงรายระยะหนึ่งคุณหมอ ปีเตอร์ จาก CDC อเมริกา (ปัจจุบนั อยูท่ สี่ ำ� นักงาน ใหญ่ แ อตแลนต้ า ) มาท� ำ งานวิ จั ย เกี่ ย วกั บ โรคเอดส์ได้มาเยี่ยมห้องคลอดและมอบเครื่อง คอมพิวเตอร์ให้พร้อมเจ้าหน้าที่มาสอนการเก็บ ข้อมูลโดยเริ่มจากสมุดบันทึกการคลอด ผมจึงได้ ทราบผลงานที่เราท�ำมาตลอดหลายปีพบปัญหา แม่และเด็กมากมาย จึงด�ำเนินการแก้ไขโดยตั้ง คณะท�ำงานทั้งกลุ่มงานสูติฯ และเด็กร่วมกัน ท�ำได้ระยะหนึ่งพบว่าปัญหาส่วนใหญ่อยู่นอก รพ.(จากโรงพยาบาลชุมชน) เราจึงขยายงานทั้ง จังหวัดโดยมีฝ่ายส่งเสริมฯสสจ.เป็นผู้ประสาน งาน พอดีกับที่ขณะนั้นราว พศ.2543 อาจารย์ นพ.วั ล ลภ ไทยเหนื อ อธิ บ ดี ก รมอนามั ย มีค�ำสั่งให้ต้งั คณะกรรมการ MCH ทุกจังหวัด ผม ได้รบั การแต่งตัง้ เป็นกรมการ MCH เชียงรายมีอา จารย์พญ.เรณู ศรีสมิต เป็นประธาน มีการจัด ประชุมวิชาการทั้งจังหวัดเพื่อให้เห็นความส�ำคัญ ของการเก็บข้อมูลที่ถูกต้อง ครอบคลุมและมี องค์ความรู้ในทิศทางเดียวกัน ผมได้จัดประชุม “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 45 ครบวาระราชการ...หมอณุ


perinatal conference ทั้งจังหวัดแบบพี่สอนน้อง ออกนิเทศน์งานโรงพยาบาลชุมชน สถานีอนามัย ท�ำให้เราสามารถแก้ไขปัญหามาได้ระดับหนึ่ง อาจารย์พญ.เรณู จึงมอบหมายให้เป็นประธาน MCH เชียงรายแทน ครั้งหนึ่งขณะจัดประชุมวิชาการทั้งจังหวัด ประจ�ำปี (ได้งบสนับสนุนจากสสจ.) ทีร่ ร.เวียงอินทร์ มีประกวดการน�ำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อการ แก้ไขปัญหาแม่และเด็กของ MCH แต่ละอ�ำเภอ ผมเป็นประธานกรรมการ จ�ำได้ว่าวันนั้นมีการ น�ำเสนอกันอย่างสนุกสนานมาก บางอ�ำเภอน�ำ เอากลองยาวมาร่วมด้วย ขณะนั้นผมอายุ 40 ปี ก�ำลังคิดว่าคนเราเกิดมาเพื่ออะไร เพราะขณะ นั้นมีทุก อย่ า งเพีย งพอแล้ ว ทั้ง บ้ านรถและสิ่ง อ�ำนวยความสะดวก เวลานัน้ เจ้าหน้าทีร่ พ.ขุนตาล ก�ำลังเล่าให้ฟังถึงปัญหาที่ว่าชาวเขาเผ่าม้งอยู่ ในที่สูงพื้นที่ห่างไกลมีปัญหาเรื่องการฝากครรภ์ (ผมเคยน� ำ ที ม ไปเยี่ ย มและแนะน� ำ ให้ ใ ช้ วิ ธี “คลินกิ ฝากครรภ์เคลือ่ นที”่ ) ปรากฏว่ารพ.ขุนตาล ได้จัดทีมเจ้าหน้าที่ออกฝากครรภ์เคลื่อนที่ ออก ครั้ ง แรกก็ มี ป ั ญ หาว่ า รถเสี ย ระหว่ า งทางต้ อ ง ช่วยกันขนเครือ่ งมือขึน้ ไปถึงก็เย็นแล้ว จ�ำเป็นต้อง ค้างคืนบนดอย ท�ำการส�ำรวจพบว่าม้งเลี้ยงไก่ มากมีไข่มากมายแต่คนม้งท�ำไข่ดาวหรือไข่เจียว ไม่เป็น ต้มไข่กนิ อย่างเดียว ผักก็เยอะท�ำเป็นแต่ตม้

46

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

เราต้องเข้มแข็งในงาน วิชาการ แต่ขณะเดียวกัน ก็ต้องอ่อนโยนในการเข้าหา ผู้อื่น เพื่อให้งานนั้นส�ำเร็จ

เจ้าหน้าที่จึงสอนให้ท�ำไข่เจียว ไข่ดาวและผัดผัก น�้ ำ มั น หอย ตบท้ า ยด้ ว ยไข่ ห วาน ปรากฏว่ า อาหารเย็ น มื้ อ นั้ น ทั้ ง เจ้ า หน้ า ที่ แ ละชาวบ้ า น รับประทานกันอย่างมีความสุข ผมเกิดความปิติ ในใจทันทีว่าเจ้าหน้าที่ คุณหมอ คุณพยาบาล ท�ำงานหนักด้วยความยากล�ำบากแล้วยังไปสอน ท�ำกับข้าวอีก (ต่อมาไข่หวานกลายเป็นของหวาน ประจ�ำหมู่บ้านม้ง) ผมได้คิดในทันทีว่าคนเรา นั้นเกิดมาเพื่อท�ำความดี ผมได้วิพากษ์ขอบคุณ รพ.ขุ น ตาลที่ น� ำ เสนอสิ่ ง ดี ๆ ท� ำ ให้ ผ มได้ พ บ สัจจธรรม ผมพูดไปด้วยน�้ำเสียงสั่นเครือร้องไห้ ด้วยความปิติท�ำให้ทุกคนในห้องประชุมวันนั้น กว่า 200 ชีวิตร้องไห้สะอึกสะอื้นกันด้วยความสุข


ต่อมาด้วยความเข้าใจในงานที่ท�ำท่าน ผู ้ ต รวจราชการ สมั ย นั้ น อาจารย์ น พ.ทนง สรรค์ สุธาธรรม ได้ให้ผมเป็นประธานกรรมการ MCH ของเขต (คลอบคลุ ม พื้ น ที่ 8 จั ง หวั ด ตั้ ง แต่ แ ม่ ฮ ่ อ งสอน เชี ย งใหม่ ล� ำ พู น ล� ำ ปาง เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน) พวกเราท�ำงาน มีความสุขมากแม้ว่าตัวชี้วัดเราจะยังไม่บรรลุเป้า แต่เป็นตัวเลขจริงและมีการพัฒนาดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ ง อาจารย์ ย อมรั บ และเข้ า ใจในเหตุ ผ ลพร้ อ ม สนับสนุนหาทุนให้พวกเราจัดการประชุมระดับเขต เป็นประจ�ำทุกๆ ปี แม้จะแบ่งพืน้ ทีเ่ ป็น 2 เขต (เขต 15,16) ท่านผู้ตรวจทั้งสองเขตก็ยังคงสนับสนุน ให้ ผ มเป็ น ประธานท�ำ งานแม่ แ ละเด็ก เป็ น เขต เดียวกันเหมือนเดิม ผมได้เรียนรู้อะไรมากมาย จากการเป็นประธานท�ำงานร่วมกันกับพี่ๆ น้องๆ ทั้งเขต เป็นพื้นฐานส�ำคัญในการเป็นผู้บริหาร ผมได้บอกกับทีมงานทุกคนว่า ขอเพียงเรามีความ มุ่งมั่นและศรัทธาในสิ่งที่ท�ำเราจะต้องประสบ ความส�ำเร็จสักวันหนึ่ง ผมบอกว่า “เราต้องเข้ม แข็งในงานวิชาการ แต่ขณะเดียวกันก็ตอ้ งอ่อนโยน ในการเข้าหาผู้อ่นื เพื่อให้งานนั้นส�ำเร็จ” งานแม่และเด็กนี้ท�ำให้ผมได้รับศรัทธา และความไว้วางใจจากผู้ร่วมงานและผู้บริหาร ท�ำให้งานด้าน OSCC (One stop crisis center) ศู น ย์ ช ่ ว ยเหลื อ เด็ ก และสตรี ที่ ถู ก กระท� ำ รุนแรง บ้านสคูล (S-cool) ศูนย์พฒ ั นาคุณภาพ ชีวิตวัยรุ่นและงานด้านอื่นๆ ที่ผมเป็นแม่งาน ประสบความส�ำเร็จเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป มีสิ่งหนึ่งที่ผมถือเป็นสิ่งส�ำคัญในการ ท�ำงานให้สำ� เร็จคือ “ความมุง่ มัน่ ” ในราวปี 2551 ผมได้สมัครไปท�ำงานที่ รพ.นราธิวาสฯ เนื่องจาก ขาดแคลนสู ติ แ พทย์ ร าว 2 สั ป ดาห์ ครั้ ง นั้ น จ�ำได้ว่า อาจารย์นพ.ทนงสรรค์ ผู้ตรวจราชการ

ผมจึงมีความเชื่อมั่นว่า ไม่มีอะไรที่เราท�ำไม่ส�ำเร็จ ถ้าเรามีความมุ่งมั่น และท�ำ ในสิ่งที่มีความปรารถนาดี ต่อคนไข้แท้จริง นพ.สุทัศน์ ผอ.รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ อดีต ผอ.รพ.นราธิวาสฯ เดินทางไปส่งด้วยและมี นพ.ณรงค์ (ปลัดฯในปัจจุบนั ) เป็นผูต้ รวจราชการ เขตนราธิ ว าส รอรั บ ด้ ว ย อาจารย์ ท นงสรรค์ เคยบอกกั บ ผมว่ า ให้ น ้ อ งๆ ไปก็ ไ ด้ พิ ษ ณุ ไ ม่ จ�ำเป็นต้องไปเอง ผมบอกกับอาจารย์ว่าถ้าผม ไปเองจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีน้องๆ จะได้อยากไป ต่อจากผม ถ้าเราเองยังไม่กล้าไปแล้ว ขอร้องให้ น้องๆ ไปคงจะไม่มีใครยอมไป หลังจากกลับมา แล้วอาจารย์ให้ผมเดินสายพูดเพื่อให้หมอรุ่นน้อง เดินทางไปช่วยรพ.ที่ขาดแคลนตามนโยบายของ อาจารย์น้สี �ำเร็จ มีคนสมัครไปอีกหลายคน “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 47 ครบวาระราชการ...หมอณุ


ในวันแรกทีเ่ ริม่ งานทีร่ พ.นราธิวาสฯ เป็น วันอาทิตย์ผมไปราวน์คนไข้ร่วมกับแพทย์ใช้ทุน ปี1 สองคน จ�ำได้ว่าคนหนึ่งชื่อ นพ.รุจฬี จบ แพทย์จากปากีสถาน อีกคนจบ มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์(มอ.) ทั้งคู่มีความกระตือรือร้น และตัง้ ใจในการเป็นแพทย์ทดี่ มี าก วันนัน้ มีคณ ุ แม่ อิสลามอายุ 45 ปี มาคลอดบุตรเมือ่ คืนเป็นลูกคน ที่ 15 เรียกว่าไหลคลอดเลยทีเดียว เด็กหนักเพียง 2,400 กรัม ผมถามพยาบาลและน้องหมอว่าได้ แนะน�ำเรือ่ งท�ำหมันแล้วยัง ทัง้ หมดตอบเป็นเสียง เดียวกันว่า คนไข้ยนื ยันไม่ทำ� โชคดีทมี่ ะพูดไทยได้ ผมเริม่ สนทนากับคนไข้ดว้ ยความสนใจว่าผมเป็น หมอมาจากเชี ย งรายต้ อ งชื่ น ชมมะมากที่ เ ป็ น คุณแม่ของแผ่นดิน เพราะมีลูกหลายคน ผมถาม ว่าจ�ำชือ่ จริงของลูกได้ทกุ คนมัย้ ลูกคนที่ 8 ชือ่ จริง ว่ า อะไร มะคิ ด อยู ่ น านแล้ ว ก็ เ ริ่ ม ไล่ ชื่ อ ตั้ ง แต่ คนที่ 1 ถึงคนที่ 8 ตอบได้ ผมถามใหม่ว่าคนที่ 4 ชื่ออะไร มะตั้งท่าจะไล่ใหม่ ผมจึงบอกว่าไม่ ต้องแล้วล่ะ ผมถามหมอทั้งสองว่าคุณแม่มีลูกกี่คน ทัง้ คูต่ อบว่าสามคน ผมบอกว่าได้ดมื่ นมทุกวันมัย้ ทั้งคู่ตอบว่าได้ดื่มทุกวันเช้าและก่อนนอน ผม บอกว่าสมมุติว่านมกล่องละ 5 บาท ตกวันละ 10 บาทต่อคน มะมีลูก 15 คนอยากให้ลูกเรียน เก่งเป็นหมอเหมือนหมอทั้งสองคนหรือเปล่า วัน

48

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

นึงเฉพาะค่านมวันละ 150 บาท แล้ว ค่าเรียน หนังสือค่าเสือ้ ผ้าชุดนักเรียนอีกล่ะมากมาย ลูกมะ จะได้เป็นหมอหรือเปล่า มะไม่อยากให้ลูกเรียน สูงๆ มีงานดีๆ ท�ำเหรอ ผมใช้เวลาคุยกับมะนาน ราวครึ่งชั่วโมง ผมไม่ได้บอกเกี่ยวกับอันตรายที่ จะเกิดกับแม่เนือ่ งจากมีลกู มาก เหมือนเจ้าหน้าที่ ของเราชอบท�ำกันคือขู่ให้กลัว แต่ให้แม่ได้เห็นถึง อนาคตของลูกซึ่งผมเชื่ออย่างที่สุดว่าไม่มีแม่คน ไหนหรอกที่ไม่อยากให้ลูกได้ดี ปรากฏว่ า เกิ ด สิ่ ง มหั ศ จรรย์ ขึ้ น ในวั น นั้น มะคุณแม่วัย 45 ปี ลูก 15 คน ตัดสินใจ ท�ำหมัน สามีที่นั่งอยู่ข้างๆ ท�ำท่าโวยวายไม่ให้ท�ำ แต่มะยืนยันที่จะท�ำ ผมจึงให้หมอรุจฬี set OR ท� ำ หมั น เช้ า นั้ น เลย ไม่ อ ดอาหารก็ ไ ม่ เ ป็ น ไร ใช้ยาชาเฉพาะที่ร่วมกับยานอนหลับก็พอ ผมไป ห้องผ่าตัดเหมือนฮีโร่ที่แปลกประหลาดเพราะไม่ เคยมีเคสท�ำหมันมานานกว่า 10 ปี แล้ว เครือ่ งมือ hook ที่ใช้เกี่ยวท่อน�ำไข่ไม่รู้อยู่ที่ไหนแล้ว ผมจึง ได้สอนคุณหมอทั้งสองท�ำหมันหลังคลอดโดย ประยุกต์ใช้ด้าม forceps แทน hook อย่างง่ายๆ ไม่ ไ ด้ ร บกวนในช่ อ งท้ อ ง คนไข้ ก็ ไ ม่ เ บ่ ง ท� ำ ให้ เสร็ จ เร็ ว และปลอดภั ย วั น นั้ น ผมมี มี ค วามสุ ข มาก “ผมจึงมีความเชือ่ มัน่ ว่าไม่มอี ะไรทีเ่ ราท�ำไม่ ส�ำเร็จ ถ้าเรามีความมุ่งมั่นและท�ำในสิ่งที่มีความ ปรารถนาดีต่อคนไข้แท้จริง”


ผมถูกชักจูงแกมบังคับจากผอ.สุทัศน์ท่ยี ้าย มาเป็นผอ.รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ผู้ที่ผ่าน การเป็นนักบริหารมายาวนาน เป็นนักบริหารมือ อาชีพที่เคยชวนผมให้เป็นผู้บริหารตั้งแต่ 10 กว่า ปี ก ่ อ น ขณะที่ เ ริ่ ม เป็ น ผอ.รพ.สมุ ย และบอก เคล็ ด ลั บ หลั ก การบริ ห ารว่ า ใช้ ค วามดี และ common sense จึงบอกว่าผมเหมาะสมที่จะเป็น นักบริหารที่ดีได้ ขณะนั้นผมก�ำลังมีความสุขกับ งานบริการ งานวิชาการและบริหารคณะท�ำงาน เพื่อการสร้างเครือข่ายจึงไม่ได้สนใจนัก อีกทั้ง ไม่มโี อกาสทีเ่ หมาะสมด้วย ผอ.สุทศั น์บอกกับผม ว่าถึงเวลาที่จะเป็นผู้บริหารแล้ว หรือจะยอมให้ สิ่งดีๆ ที่ผมสร้างมาจะต้องเสื่อมลงจากผู้บริหาร คนอื่นที่ไม่เข้าใจ ผมจึงยอมมาเป็นรองผอ.ฝ่าย ทรัพยากรบุค คลและการเงิน และมีโอกาสไป อบรม นบส.รุ่นที่ 25 ได้รบั เลือกเป็นเอกฉันท์จาก เพื่อนร่วมรุ่นให้เป็นประธานรุ่นโดยไม่ยอมให้มี คูแ่ ข่ง ได้รบั ประสบการณ์ดๆี มากมายจากครูใหญ่ และอาจารย์แม่ที่ดูแลพวกเราเหมือนลูกตลอด จนอาจารย์และพีๆ่ นักบริหารช่วยกันอบรมฟูมฟัก ให้เป็น “นักบริหารที่ดี เก่งและมีความสุข” ซึ่งรุ่น นี้เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่จะต้องอยู่ในความทรงจ�ำของ วิทยาลัยนักบริหารสาธารณสุข(วนส.)และคณะ อาจารย์ที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายตั้งแต่วันแรก จวบจนวันสุดท้ายของการอบรม ผมมีโอกาสได้เรียนรูเ้ กีย่ วกับการบริหารจาก ผอ.สุทัศน์ เพื่อนสนิทอย่างมากมายที่สามารถน�ำ ไปใช้ในการท�ำงานในหน้าที่ผู้บริหารต่อไป ถึงแม้ จะเป็นเพือ่ นรุ่นเดียวกันแต่ประสบการณ์ด้านการ บริหารนั้นสามารถแนะน�ำผมได้มากมาย ทั้งยัง เป็นคนทีช่ กั จูงผมขึน้ มาเป็นผูบ้ ริหาร ต้องขอบคุณ เพื่อนมา ณ ที่นี้ด้วย เมื่ อ เริ่ ม ท� ำ งานด้ า นบริ ห ารก็ รู ้ เ ลยว่ า จ� ำ เป็ น ที่ จ ะต้ อ งมี ก ารสร้ า งนั ก บริ ห ารรุ ่ น ใหม่

ทดแทน เนื่องจากผู้บริหารที่ดีและเก่งนั้นมีความ ส�ำคัญต่อสาธารณสุขมาก บางคนเหมาะที่จะ เป็นนักวิชาการ บางคนเหมาะที่จะเป็นผู้บริหาร แต่อาจยังไม่ชอบ เราคงต้องส่งเสริมและสนับสนุน ต่อไป หมดสมัยแล้วที่จะส่งเสริมคนที่เราชอบ เป็นการส่วนตัวเพื่อจะมาแทนที่ แต่ต้องดูท่คี วาม สามารถ ความเหมาะสมและมองผลประโยชน์ ของส่วนรวม และประเทศชาติเป็นส�ำคัญ การส่งเสริมคนดีเป็นหน้าที่ส�ำคัญของ ผู ้ บ ริ ห าร และคงต้ อ งใช้ ส ายตาของผู ้ บ ริ ห าร หลายๆ คนช่วยกันมองหาคนรุ่นใหม่เพื่อน�ำมา ขั ด เกลาให้ มี ค วามพร้ อ มทุ ก ด้ า นจะท� ำ ให้ ก าร ท�ำงานคล่องตัวและเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป ส�ำหรับผมเมื่อได้สัมผัสผู้บริหารมากพอสมควร แล้วคิดว่าผู้ทพี่ ร้อมจะเป็นผู้บริหารระดับสูงควรมี คุ ณ สมบั ติ อ ย่ า งน้ อ ย 4 ข้ อ คื อ ต้ อ งไม่ มี ภาระเรื่องรายได้ ไม่มีปัญหาเรื่องครอบครัว (จะอยูท่ ไี่ หนก็ได้) มีเป้าหมายทีจ่ ะไปท�ำให้กบั องค์กรและที่ส�ำคัญต้องเป็นคนดี ผมจ�ำได้ว่าครูใหญ่(อ.นพ.สุจริต) เคยเน้น เรือ่ งคุณสมบัตขิ องผูบ้ ริหารทีด่ ี ข้อสุดท้ายนัน้ ยาก และส�ำคัญที่สุด คือ ต้องหมั่นฝึกตนให้มีความ อดทน ประพฤติตนเป็นคนดีเพื่อเป็นแบบอย่าง ที่ดีส�ำหรับบุคลากรทุกคนในองค์กร จะท�ำให้เกิด ความศรัทธา การบริหารงานจะส�ำเร็จได้โดยง่าย “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 49 ครบวาระราชการ...หมอณุ


ก้าวแรกที่ ‘ โฮงยาน่าน ’

28 พ.ย. 55


มุ่งสู่น่าน 2 วัน ก่ อ นที่จ ะมีค�ำ สั่ง ให้ ไ ปท�ำ หน้ า ที่ ผอ.โฮงบาลน่าน ขณะทีผ่ มอยูส่ นามบินสุวรรณภูมิ ก�ำลังรอเครื่องกลับเชียงราย นพ.ณรงค์ ปลัด กระทรวงสาธารณสุข โทรศัพท์บอกว่าจะให้ไป เป็นผอ.น่าน โอเคมั้ย ผมตอบว่าถ้าท่านให้ผมไป ผมก็ไป ปลัดฯ บอกถามก่อนว่าอยากไปหรือเปล่า ผมจึงตอบว่าโอเค อีกสองวันค�ำสัง่ ก็ออก ผมมีเวลา เตรียมตัวไม่นานเพื่อเดินทางไปน่าน เนื่องจาก ปลัดฯ ต้องการให้ไปเร็วที่สุด ผอ.สุทัศน์เตรียมความพร้อมและปรึกษา เรื่องวันที่พร้อมเดินทางเป็นวันที่สะดวกที่สุดและ ไปประชุมจังหวัดเพื่อเปิดตัวด้วยในวันรุ่งขึ้น ผม เป็นคนถือเอาฤกษ์สะดวกเป็นหลัก เพราะเชื่อว่า เป็นฤกษ์ดีที่สุดของเรา คือ เราพร้อม ผู้บริหาร รุ่นพี่ๆ หลายท่านบอกว่าเป็นงานที่ท้าทายเพราะ น่ า นไม่ เ คยมี ผ อ.จากข้ า งนอกมาก่ อ น แต่ ผ ม รู ้ สึ ก เหมื อ นกลั บ บ้ า นเนื่ อ งจากเคยมาฝึ ก งาน 3 สัปดาห์ขณะเป็น นักศึกษาแพทย์ปี 5 ยังมี ความประทับใจชาวรพ.น่านโดยเฉพาะอาจารย์นพ. บุญยงค์และบรรยากาศการท�ำงานแบบพีๆ่ น้องๆ อีกทัง้ มี จนท.รพ.หลายๆ คนรวมทัง้ นพ.นิวตั ชัย ผอ.รพ.น่าน แสดงความจ�ำนงค์อยากให้ผมไปเป็น

ผอ.โฮงบาลน่าน มีอยู่ครั้งหนึ่งเอาเค้กที่อร่อย ที่สุดของน่านไปติดสินบนถึงเชียงราย น้องแก้ว พยาบาลแผนกเด็กขึ้นเวที HA ที่เมืองทองธานี พร้อมกับผมในหัวข้อ “ผู้ป่วย...ครูผู้ยิ่งใหญ่” ประกาศบนเวทีว่าต้องการอาจารย์หมอพิษณุไป เป็นผอ.รพ.น่าน ผมจึงบอกว่าให้ช่วยกันส่งเสียง ดังๆ ให้ปลัดฯ ได้ยนิ ผมรู้เลยว่าไม่เหงาเพราะมี เพื่อนตั้งแต่ยงั ไม่ได้ไปรับต�ำแหน่ง ผมต้องขอขอบคุณนพ.นิวัตชัย ผอ.คนก่อน และจนท.ทุกท่านที่ได้จัดพิธีต้อนรับอย่างอบอุ่น และเรียบง่าย มีเจ้าหน้าที่ทุกระดับมายืนเข้าแถว ต้อนรับพร้อมกับมอบดอกกุหลาบสีแดงตลอด เส้นทาง มีการมอบบัตรประจ�ำตัวผอ.รพ.น่าน โดย นพ.ปิยะพงษ์ รองผอ.ฝ่ายการแพทย์ ซึ่งเป็นคีย์การ์ดเพื่อผ่านเข้าห้องพักแพทย์ด้วย ผมได้ ไ ปสั ก การะซุ ้ ม พระและศาลพระภู มิ ร พ. ตลอดจนเสาหลักเมือง วัดส�ำคัญๆ เข้าพบเจ้าคณะ จังหวัด ตลอดจนพระเถระผูใ้ หญ่และผูว้ า่ ราชการ จังหวัด พร้อมรองฯ โดยเฉพาะรองฯ อดิศร คุ้นเคยกันตั้งแต่เชียงราย ผมได้กราบฝากเนื้อ ฝากตัวกับอาจารย์นพ.บุญยงค์ ซึ่งในวันนั้นผม รู้สึกได้เลยว่าเหมือนกลับมาบ้านเพราะสัมผัสได้ ถึงความอบอุ่นและเมตตา ในวันนั้นมีผอ. 7 คน (อ.นพ.บุญยงค์ อ.นพ.คณิต อ.นพ.นิวัตชัย อ.นพ. สมบูรณ์ศักดิ์ ผอ.สุทัศน์ และผอ.ป้ายแดงพิษณุ) “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 51 ครบวาระราชการ...หมอณุ


ส�ำหรับงานกลางคืนจัดที่ รร.เทวราช ผม ประทับใจมากที่มีผู้ร่วมงานมากมายทั้งทีมที่มา ส่งจากเชียงรายและทีมเจ้าบ้านน่าน มีผอ.อยู่ถึง 6 คนขาดผอ.สุทศั น์ ที่ต้องขึ้นเครื่องไปกทม. ผม ได้บอกกับทุกคนในคืนนั้นว่านโยบายผมมี 2 ข้อ หนึ่งรักษาวัฒนธรรมสิ่งที่ดีงามให้คงอยู่ตลอดไป สองต่ อ ยอดสิ่ ง ที่ ดี ง ามให้ ส มบู ร ณ์ แ ละขยายสู ่ รพ.อื่นให้เกิดความดีงามในกระทรวงสาธารณสุข งานวันนั้นได้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจ ความสมานสามัคคีของจนท.ทีจ่ ดั การแสดงต่างๆ ที่ส�ำคัญคือ ในงานเป็นเขตปลอดเหล้า 100 % ท�ำให้ทีมที่มาส่งจากเชียงรายต้องแบกเหล้ากลับ ไปด้วย งานเลิกสีท่ มุ่ ผมทราบว่าเป็นเช่นนีท้ กุ งาน ไม่ว่าจะจัดงานอะไรก็ตามทั้งของสสจ. รพ. หรือ ส่วนราชการอื่นจะเลิกไม่เกินสี่ทุ่ม แสดงถึงความ เป็นเมืองวัฒนธรรมที่ดีจริง รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ชาวบ้าน นิยมเรียก “โฮงยาไทย” เมื่อมาอยู่รพ.น่านผม มักเรียก “โฮงยาน่าน” แต่เจ้าหน้าที่หลายคน บอกว่าชาวน่านเรียก “โฮงบาลน่าน” ผมจึง นิยมใช้ค�ำนี้มากกว่ารพ.น่าน เพราะดูขลังดี ผม เริ่มงานด้วยการเดินส�ำรวจรพ.ทุกวันวันละหลาย ครั้ง พยายามเดินเข้าหาทุกหน่วยงานทั้งฝ่าย บริหาร ฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายบริการ เพื่อได้เห็น มุมมองต่างๆ บางครัง้ เพือ่ การปรับปรุงแก้ไข บาง

52

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ครั้งเพื่อการพัฒนา ที่ส�ำคัญคือได้พบผู้คนทั้งคน ไข้ ญาติและเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ผมพยายาม บอกเจ้าหน้าที่ทุกคนว่า “ให้เริ่มต้นวันด้วยรอย ยิม้ เสมอ รอยยิม้ ของเราจะท�ำให้คนไข้หายเร็วขึน้ และมี ค วามสุ ข ” การได้ พู ด คุ ย ด้ ว ยตนเองจะ ได้รับรู้ข้อมูลโดยตรงจากคนไข้และเจ้าหน้า ที่ โดยเฉพาะระดั บ ล่ า ง เราจะได้ ท ราบปั ญ หา ทันที บางครั้งฝ่ายบริหารยังไม่ทราบเลย ดังนั้น ผู้บริหารจึงควรบริหารด้วยการเดิน (Management by walking around) อาจารย์นพ.บุญยงค์ได้เล่า ให้ผมฟังว่าท่านใช้วิธีนี้บริหารงานมาโดยตลอด ผมขอให้หัวหน้าฝ่ายบริหารทุกคนเดินทุกเช้าเพื่อ รับรูป้ ญ ั หาต่างๆ ก่อนทีจ่ ะนัง่ ประจ�ำในห้องท�ำงาน ผมขอให้เจ้าหน้าทีท่ ุกคนช่วยกันท�ำให้ โฮงบาลน่านเป็นเหมือน “บ้านหลังใหญ่ของคน น่านในยามเจ็บป่วย” ทุกคนจึงต้องให้การดูแล เหมือนญาติมิตร น่านมีรพ.ขนาดใหญ่แห่งเดียว ไม่มีรพ.เอกชน ผมบอกว่าไม่ใช่ว่า “คนน่านไม่มี ที่ไปจึงต้องมาที่เรา แต่ต้องท�ำให้คนน่านทุกคน รู้สึกอยากมารักษาที่โฮงบาลน่าน แม้จะเจ็บป่วย อยู่ที่ใด” หน้าทีข่ องผูบ้ ริหารทีส่ ำ� คัญอีกอย่างคือต้อง ออกพบสังคมนอกรพ.ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อ เปิดตัวให้ทุกคนรู้จักและประชาสัมพันธ์งานของ รพ. โดยบุคลิกส่วนตัวแล้วผมถือว่าถนัดเนือ่ งจาก


ชอบทีจ่ ะรูจ้ กั คนมากหลากหลายอาชีพ และความ เป็นแพทย์นนั้ ได้เปรียบอยู่แล้ว มีแต่คนอยากรู้จกั ขอเพียงเราท�ำตัวติดดินเท่านัน้ เวลาใครขอร้องให้ ดูแลด้านการเจ็บป่วยเป็นต้นว่าห้องพิเศษ ความ สะดวกสบาย เราจะต้องรีบบริการให้ทันทีแล้ว เวลาที่รพ.ต้องการอะไร คนเหล่านี้จะเป็นผู้ช่วย ที่แสนดี ผมขอให้ผู้บริหารทุกคนต้องเข้าใจใน บทบาทนี้ใ ห้ ดีว ่ า มีค วามส� ำคัญต่ อ องค์ กรเป็ น อย่างมาก แต่ไม่ควรท�ำอะไรในทางทีผ่ ดิ จริยธรรม ทางการแพทย์ ห รื อ ขอให้ แ พทย์ ท� ำ ในสิ่ ง ที่ ผิ ด จริยธรรม เช่น ใบรับรองแพทย์เท็จ ผู้บริหารต้อง รับผิดชอบปฏิเสธค�ำขอร้องที่ไม่ถูกต้อง ผมมีโอกาสคุยกับอาจารย์นพ.เสม พริง้ พวงแก้ว ผอ.คนแรกของรพ.เชียงรายประชา นุเคราะห์ เรือ่ งงานสาธารณสุขท่านบอกว่า “งาน ทางการแพทย์และสาธารณสุขจะไม่มีทางส�ำเร็จ ถ้าไปไม่ถงึ ชุมชน” ผมมีประสบการณ์การท�ำงาน มานานพอที่จะรู้ว่าชุมชนเป็นเป้าหมายส�ำคัญใน การแก้ไขปัญหาสาธารณสุข เราต้องคืนข้อมูลให้ ชุมชนและชวนชุมชนมาช่วยกันแก้ปัญหา โดย เราเป็นผูใ้ ห้การสนับสนุนด้านวิชาการและทุนบาง ส่วน ผมจึงสนับสนุน นพ.พงศ์เทพ(หมอบอย) รองผอ.ฝ่ายปฐมภูมิ ในงานเชิงรุกเป็นพิเศษโดย เฉพาะเรื่องอาหารปลอดภัย เนื่องจากน่านยัง มีปัญหาเรื่องโรคท้องร่วง การทานอาหารไม่ถูก สุขอนามัย เช่น ลาบดิบ ถือเป็นปัญหาสาธารณสุข มูลฐานที่ส�ำคัญ โฮงบาลน่านใช้ข้าวที่ปรุงเลี้ยง คนไข้จากโรงสีขา้ วพระราชทานท่าวังผา ใช้เนือ้ หมู อนามัย บ้านทุง่ ขามทีเ่ ลีย้ งแบบชาวบ้านไม่ตอ้ งใช้ สารเคมีหรือยาใดๆ สนับสนุนเมนูอาหารปลอดภัย ที่ให้เกียรติบัตรพร้อมป้ายรับรองร้านค้าที่ปรุง อาหารได้ตามมาตรฐาน โฮงบาลน่านไม่มหี มอผ่าตัดสมอง ทุกปี จะมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซด์ราว

60-80 คน อัตราการสวมหมวกกันน็อกต�่ำกว่า 50% ทัง้ ๆ ทีเ่ ป็นกฏหมายมากว่า 13 ปีแล้ว ผมจึง ได้เริม่ โครงการหมวกกันน็อกรุ่นพิเศษสีม่วงสดใส ด้านหน้าเป็นโลโก้โฮงบาลน่านด้านหลังเป็นรูป ปู่ม่านย่าม่าน เพื่อให้เป็นสัญญลักษณ์เมืองน่าน ให้คนอยากใส่ จ�ำหน่ายใบละ 100 บาท ในครั้งที่ สมเด็จพระเทพฯ เสด็จเปิดอาคารสิรเิ วชรักษ์ บริษทั กลางฯ ท�ำถวายจ�ำนวน 300 ใบ เพือ่ พระราชทาน ให้ผอ.โฮงบาลน่านผมได้กราบทูลพระองค์ว่า ครัง้ แรกขอให้อาจารย์วนิ ยั ปราบริปู แห่งหอศิลป์ ริมน่าน เขียนเป็นรูปปูม่ า่ นสวมหมวกกันน็อกและ ให้ย่าม่านกระซิบว่า “ขับรถดีๆ...เน้อ” พระองค์ ทรงพระสรวลท�ำให้ภาพที่บันทึกดูสวยงามและ มีความหมายผมจึงคิดที่จะติดเพื่อให้ประชาชน ได้เห็นความส�ำคัญที่พระองค์ทรงห่วงใย โดยติด หน้ารพ.พร้อมถ้อยค�ำ “ชาวโฮงบาลน่านขอชืน่ ชม ผู้ขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่สวมหมวก กันน็อก” ผมเรียนปรึกษาอาจารย์นพ.บุญยงค์ เห็นควรขอพระบรมราชานุญาตเพือ่ ติดทัว่ จังหวัด น่านด้วย อาจารย์คิดค�ำให้ว่า “ด้วยพระบารมี ปกเกล้าฯ เราชาวน่านพร้อมใจสวมหมวก กันน็อก” เราได้รับความร่วมมือจากเทศบาล อบจ. กองบังคับการต�ำรวจน่านให้ขึ้นคัทเอ้าท์ ใหญ่ทั่วทั้งจังหวัด โดยเราส่งไฟล์ให้หน่วยงานไป ท�ำเอง ผมพยายามที่จะสร้างวัฒนธรรมที่ดีงาม โดยไม่จำ� เป็นต้องบังคับใช้กฏหมาย แต่คงต้องใช้ เวลาและความมุ่งมั่นอีกมากเพื่อความปลอดภัย “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 53 ครบวาระราชการ...หมอณุ


ในชีวิตของประชาชน โฮงบาลน่านเริ่มท�ำเป็น ตัวอย่างโดยตั้งแต่ 1 มี.ค. 57 ทุกคนที่ขับขี่หรือ ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เข้าโฮงบาลน่านต้อง สวมหมวกกันน็อก ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่รพ.ไม่ปฏิบัติ ตามจะถูกลงโทษหักคะแนนการประเมินผลงาน 0.5% ถ้าเป็นผู้บริหารเป็น 1% และทุกคนต้อง ต่อทะเบียนรถจักรยานยนต์เพื่อใช้สิทธิเมื่อเกิด อุบตั เิ หตุ ไม่งนั้ 15,000 บาทแรกต้องออกเอง เพือ่ เป็นตัวอย่างให้กับประชาชนในการปฏิบัติตาม กฏหมายและเคารพกฏจราจร จากชีวิตที่ผ่านมายาวนานท�ำให้ผมได้เห็น ว่า “คนเราอาจเกิดมาไม่เท่ากัน แต่เวลา ตายนั้นควรต้องตายอย่างสมศักดิ์ศรี” ผมจึง ให้นโยบาย “good death” โฮงบาลน่านมีทีม การรักษาประคับประคอง หรือ palliative care ในการดูแลคนไข้ระยะสุดท้ายจึงต่อยอดให้โดย การที่พยายามให้คนไข้จากไปอย่างสงบ ในบ้าน ที่อาศัยมานาน บนเตียงที่นอนทุกวัน ท่ามกลาง ญาติสนิทมิตรสหาย มากกว่าที่จะตายในรพ.ที่ มี แ ต่ ค วามวุ ่ น วายและคนแปลกหน้ า แต่ ต ้ อ ง ให้จากไปอย่างสงบจริง เราจึงมีทั้งเครื่องผลิต ออกซิเจน เครื่องดูดเสมหะ เครื่องฉีดยามอร์ฟีน เข้าใต้ผวิ หนัง ให้ยมื ไว้ทบี่ า้ นและมีแพทย์ไปเยีย่ ม ที่บ้าน กรณีเสียชีวิตที่รพ.เราจะท�ำพิธีขอขมาศพ และการถอดอุปกรณ์ทางการแพทย์จะต้องท�ำ

54

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ด้วยความนุ่มนวลและให้เกียรติ มีการปิดม่าน ให้เรียบร้อย การน�ำร่างไปเก็บจะมีเปลที่ตกแต่ง ด้วยผ้าคลุมสีเขียวอ่อนมีผ้าระบายเรียบร้อย เจ้า หน้าที่ต้องเข็นด้วยความระมัดระวังเหมือนยังมี ชีวติ อาคาร “ห้องเก็บศพ” หลังเดิมอยู่รมิ แม่นำ�้ น่านมีป้ายอาคารใหญ่เห็นแต่ไกล ตัวอาคารทาสี เหลืองเก่าๆดูบรรยากาศวังเวงไม่มีใครอยากเดิน ผ่าน ผมได้ปรับปรุงและทาสีใหม่เป็นสีเขียวและ ขาวให้ดูสดใส พร้อมปรับภูมิทัศน์ให้สวยงามให้ ชื่ออาคารใหม่ว่า “อาคารสุขาวดี” ผมให้งดโลงศพอนาถาเนื่องจากญาติ พี่ น ้ อ งแม้ จ ะจนเพี ย งใดคงไม่ อ ยากใช้ โ ลงศพ อนาถา ให้ใช้โลงศพอย่างดีพอควรมีผ้าบุภายใน เรียบร้อย พร้อมมีกระถางธูปและพิมพ์ชื่อติด โลงให้เรียบร้อย ราคา 2,000 กว่าบาท แต่ญาติ ซื้อในราคาที่จ่ายได้แล้วแต่จะให้กี่บาทก็ได้เรียก เป็น “โลงศพส�ำหรับผูท้ ตี่ อ้ งการ” พอดีมีกลุม่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ BAM จัดทอดผ้าป่า ซื้อตู้เย็นเก็บศพให้ใหม่เก็บได้ 4 ร่าง(ของเดิมผม ให้รพ.เวียงสาและเฉลิมพระเกียรติ) และก่อตั้ง “กองทุนสุขาวดี” ไว้ด� ำเนินการตามโครงการ มีผู้บริจาคมากมายเพื่อให้ผู้ที่จากไปไม่ต้องกังวล ห่วงคนที่อยู่ข้างหลัง ผมหวังที่จะเห็นรพ.ทุกแห่ง ของสาธารณสุขเป็นเช่นนี้หมด จะได้ให้บริการ อย่างสมบูรณ์แบบ


ในช่วงเวลาแห่งความสุขของการท�ำงานที่ โฮงบาลน่าน ผมถือว่ามีโอกาสทีด่ คี รัง้ หนึง่ ในชีวติ ทีม่ โี อกาสได้รบั เสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 26 ก.พ. 2556 ใน พิธีเปิดอาคาร “สิริเวชรักษ์” และพระราชทาน เครือ่ งมือแพทย์ พระองค์ทรงใช้เวลาอยูท่ โ่ี ฮงบาล น่านนาน 3 ชั่วโมงเต็ม เสวยอาหารกลางวัน ที่ ห ้ อ งภู ฟ ้ า กั บ เจ้ า หน้ า ที่ ร พ. และทรงรั บ การ ตรวจพระทนต์โดยแพทย์ประจ�ำพระองค์ที่กลุ่ม งานทันตกรรม ผมมีโอกาสกราบทูลพระองค์ถึง ปัญหาการขาดแคลนบุคลากร จึงต้องมีเครือ่ งมือ ที่ทันสมัยเพื่อทดแทนแรงงานที่ขาด พระองค์ ทรงมีรับสั่งเรื่องของคนเป็นเรื่องของสาธารณสุข แต่เรื่องพัฒนาคนหรือเครื่องมือแพทย์ให้ทำ� เรื่อง เสนอขึ้นไปพระองค์จะทรงพิจารณาให้ เดือน ส.ค. 56 ทรงมีรับสั่งมาทางพระสหายว่า ผอ.รพ. น่าน จะให้ช่วยอะไรยังไม่เห็นท�ำเรื่องขึ้นมา ผม ในฐานะผอ. รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ

ที่มีต่อรพ.น่าน และพสกนิกรชาวน่าน จึงได้ท�ำ เรื่องขอพระราชทานเครื่องมือจ�ำนวน 9 รายการ รวมเป็ น เงิ น 8,176,000 บาท พระองค์ ท รง พระราชทานให้ทั้งหมดตามที่ขอ เป็นพระมหา กรุณาธิคุณอย่างที่สุด อีกทั้งยังมีโอกาสได้ร่วม โต๊ะเสวยในพระต�ำหนักธงน้อยทัง้ 2 ปี ซึง่ พระองค์ ทรงมีรับสั่งถามถึงกิจการรพ.ด้วยทั้งสองปี แสดง ถึงความห่วงใยที่มตี ่อพสกนิกรชาวน่าน ตลอดเวลาทีท่ ำ� งานผมฝึกตนเองไม่ให้มคี วาม รู้สึกเกลียดใคร ผมพยายามรักทุกคนเพียงแต่ รักมากรักน้อยต่างกันไป คนทีร่ กั มากมักได้รบั การ มอบหมายงานให้ท�ำมากด้วย เนื่องจากไว้วางใจ พยายามให้โอกาสทุกคนเพราะเชือ่ ว่าไม่มใี ครทีจ่ ะ ไม่ดีไปทุกอย่าง ผมพยายามให้หัวหน้ากลุ่มงาน หัวหน้างานทุกคนพยายามพูดคุยเอาใจใส่และ ให้โอกาสผู้ร่วมงานทุกคน เราพึงดูแลผู้ร่วมงาน เหมือนเป็นญาติสนิทจะท�ำให้องค์กรมีความสุข ประสบความส�ำเร็จตลอดไป “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 55 ครบวาระราชการ...หมอณุ


ผมต้องขอบคุณ สถาบันรับรองคุณภาพ สถานพยาบาล(สรพ.) ที่ให้ผมไปพูดเกี่ยวกับ engagement หรือความผูกพันในองค์กร ผมชี้ให้ ทุกคนเห็นว่าการที่ผู้บริหารดูเพียงความพึงพอใจ การไม่ ข อย้ า ยหรื อ ลาออกของเจ้ า หน้ า ที่ เ ป็ น ตัวชี้วัดส�ำคัญ ความจริงแล้วจริงอยู่สิ่งที่ดูนั้น ไม่ ผิ ด แต่ ที่ เ จ้ า หน้ า ที่ ไ ม่ ข อย้ า ยหรื อ ลาออกไป ท�ำงานทีอ่ นื่ อาจเป็นเพราะท�ำงานทีน่ สี่ บายถึงแม้ เงินเดือนอาจน้อยกว่าแต่ท�ำงานสบาย ไม่เครียด จึงไม่อยากย้ายเพราะกลัวว่าจะล�ำบาก จึงต้อง ดูลึกไปถึงการทุ่มเทของจ้าหน้าที่ ที่ยอมเสียสละ ท�ำงานหนักเพื่อความภูมิใจในความส�ำเร็จของ องค์กรโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน โฮงบาลน่านมีวัฒนธรรมที่ดีงามที่สั่งสม กันมาตั้งแต่สมัย อาจารย์นพ.บุญยงค์เพื่อให้ผู้ที่ เข้ามาอยู่ใหม่อุ่นใจและปฏิบัติตาม “สอนให้จ�ำ ท� ำ ให้ ดู อยู ่ ใ ห้ เ ห็ น ” เป็ น ค� ำ สอนที่ ส มบู ร ณ์ อยู่ในตัวแต่ต้องอาศัยรุ่นพี่ๆ ปฏิบัติต่อเนื่องกัน

56

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

รุน่ น้องๆ ทีจ่ ะเป็นรุน่ พีต่ อ่ ไปก็ปฏิบตั ติ อ่ วัฒนธรรม ที่ดีงามนั้นอาจถูกกระทบโดยปัจจัยภายนอกได้ บ้าง เช่น ทุนนิยม วัตถุนิยม แต่จะถูกท�ำลาย ได้จากคนข้างในเท่านั้น ผมจึงพยายามกระตุ้น น้องรุ่นใหม่ให้เจริญรอยตามรุ่นพี่ ที่น่านจะได้ เปรียบตั้งแต่แรกจากแพทย์ใช้ทุนที่เลือกมาน่าน จะเลือกมาเพราะ “รู้ว่างานหนัก พี่ๆ สอนดีและ ได้ท�ำมาก” จึงถือได้ว่าเป็นแหล่งที่ผลิตหมอดีๆ ให้กับกระทรวงสาธารณสุข เป็นที่รู้กันว่าหมอที่ ผ่านรพ.น่านทุกคนเป็นที่ไว้ใจได้ ผมจึงพยายาม ผลักดันเพือ่ ให้ได้เป็นศูนย์แพทย์ฯ เพือ่ ผลิตหมอที่ ดีมีคุณธรรมให้สงั คม คงต้องขอฝากผอ.คนต่อไป สานงานต่อให้ส�ำเร็จ ช่วงเวลาปีสุดท้ายของอายุราชการผม ถือว่าเป็นประสบการณ์อันส�ำคัญครั้งหนึ่งในชีวิต ขณะที่มีความวุ่นวายทางการเมือง โฮงบาลน่าน ถือว่าเป็นรพ.คุณธรรม เป็นที่ทราบกันมานาน ตั้งแต่สมัยอาจารย์นพ.บุญยงค์ ที่มีการต่อสู้กับ


ผูก้ อ่ การร้าย เราท�ำการรักษาทุกคน ทุกฝ่ายไม่เลือก ว่าจะอยู่ฝ่ายใดจนเป็นที่เลื่องลือ เมื่อมีกฏหมาย นิรโทษกรรมทีไ่ ร้คณ ุ ธรรม ผมในฐานะผูน้ �ำองค์กร ได้ตัดสินใจครั้งส�ำคัญร่วมกับเจ้าหน้าที่รพ.ทุก ระดับต่อต้านกฏหมายนีเ้ ป็นหน่วยงานแรกๆ ของ ประเทศ และเมือ่ ประชาคมสาธารณสุขมีมติปฏิรปู ก่อนการเลือกตั้งและรัฐบาลต้องลาออก รพ.น่าน ขึ้นป้ายสนับสนุนทันที จนเป็นเหตุให้กลุ่มคน ที่สนับสนุนการเลือกตั้งท�ำหนังสือร้องเรียนผู้ว่า ราชการจังหวัด และจะเดินขบวนมาขับไล่ผอ.ที่ รพ. ผมได้เห็นน�้ำใจของชาวโฮงบาลน่านและชาว สาธารณสุขน่านตลอดจนประชาชนชาวน่านที่ได้ มาแสดงพลังร่วมกันท�ำให้อีกฝ่ายไม่กล้ามา ผม ได้อ่านประกาศแถลงการณ์ประกาศจุดยืนของ โฮงบาลน่าน 5 ข้อ ทีบ่ ริเวณหน้าอาคารสิรเิ วชรักษ์ พร้อมให้ค�ำมั่นสัญญาว่าเราจะดูแลคนไข้ทุกคน ด้ ว ยหั ว ใจโดยไม่ เ ลื อ กสี ห รื อ ความคิ ด เห็ น ที่ แตกต่าง และผมขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องเป็นสี ขาวในโฮงบาลน่านคอยดูแลปกป้องไม่ให้ใครมา ท�ำร้ายองค์กรหรือคนของเราอย่างเด็ดขาด ผมมี ค วามภู มิ ใ จในโฮงบาลน่ า นที่ เจ้าหน้าที่ทุกคนทั้งอดีตและปัจจุบันมีความจงรัก ภักดีต่อชาติศาสนาและสถาบันพระมหากษัติย์ จะไม่ยอมให้ใครจะมาจาบจ้วงอย่างเด็ดขาด และ พร้อมที่จะต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นทุกรูปแบบ

ผมเชื่อว่าชาวโฮงบาลน่านจะยังคงมีจิตวิญญาน เช่นนี้ตลอดไป ตลอดระยะเวลาที่ ป ฏิ บั ติ ห น้ า ที่ ผ อ. โฮงบาลน่าน ตั้งแต่วันแรกผมรู้สกึ เป็นคนในบ้าน ไม่ได้เป็นคนแปลกหน้า จึงท�ำให้ทุกวันที่ผ่านไป เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นที่อยากท�ำให้บ้าน ของเราสมบูรณ์แบบที่สุด และคนในบ้านมีความ สุขเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน จึงจะสามารถ ท�ำให้คนที่มาเยี่ยมเยียนบ้านเรามีความสุขด้วย ผมถือเป็นนโยบายปฏิบัติมาตลอดให้เจ้าหน้าที่ ทุกระดับต้องเป็นตัวอย่างในการดูแลสุขภาพและ เคารพ ปฏิบัติตามกฏหมาย เหมือนที่บอกว่า “เราต้องปฏิรูปตัวเรา องค์กรเราก่อน” ผมมีอาจารย์นพ.บุญยงค์ผเู้ ปรียบเสมือนพ่อที่ มีคำ� ชีแ้ นะดีๆ ให้ตลอด อาจารย์นพ.คณิต อาจารย์ นพ.นิ วั ต ชั ย เปรี ย บเสมื อ นพี่ ช าย โดยเฉพาะ พี่ นิ วั ต ชั ย ทานข้ า วเที่ ย งด้ ว ยกั น แทบทุ ก วั น ผมได้รู้จักกัลยาณมิตรที่น่านอีกมากมาย เช่น อ.วิ นั ย ปราบริ ปู แห่ ง หอศิ ล ป์ ริ ม น่ า น คุณวรพงษ์และคุณต๊ะ ผู้ที่มีใจเป็นกุศลช่วยหา เครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้รพ.มาตลอด อาซ้อสุพรรณี รร.เทวราช ผู้มีใจบุญช่วยรพ. ทุกครั้งที่ร้องขอและ......หลายๆๆๆคน ตลอดจน เจ้าหน้าที่รพ.ทุกระดับที่ช่วยกันท�ำงานด้วยหัวใจ จึงท�ำให้การท�ำงานประสบความส�ำเร็จเป็นอย่างดี 35 ปีในชีวิตราชการ ในความเป็นแพทย์ ผมเชื่อว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ให้การดูแลคนไข้อย่าง เต็มความสามารถ ด้วยความระมัดระวังและ ปรารถนาดี ต ่ อ คนไข้ แ ละญาติ ในความเป็ น นักวิชาการผมได้ใช้ความรูค้ วามสามารถถ่ายทอด ให้ ทุ ก คน ทุ ก อาชี พ และทุ ก ครั้ ง ที่ มี โ อกาสให้ เข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพ สาธารณสุขและพยายาม สอดแทรกเรื่องคุณธรรมจริยธรรม ในความเป็น นักบริหารผมได้ท�ำหน้าที่ทุกอย่างเท่าที่จะท�ำได้ และพร้อมรับผิดชอบในสิ่งที่ท�ำทุกประการ “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 57 ครบวาระราชการ...หมอณุ


แถลงการณ์ ผอ.โฮงบาลน่าน ณ เวลา 12:00 น.

1. โฮงบาลน่านมีประวัติยาวนาน ในการเป็นกลางดูแลคนไข้ทุกคนเท่าเทียมกัน : ไม่เลือก ว่าเป็นใคร เชื้อชาติใด ฐานะใด หรือสีอะไร เราดูแลคนไข้ทุกคนด้วยหัวใจอย่างเต็มความสามารถ ด้วยความระมัดระวังและด้วยความปรารถนาดีต่อคนไข้และญาติ สมัยอาจารย์นายแพทย์บุญยงค์ วงค์รักมิตร ครั้งที่มีการปะทะกันกับผู้ก่อการร้าย พวกเรารักษาทุกคนที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะ ไม่ว่าจะเป็นทหาร ต�ำรวจ พลเรือน อส.หรือแม้แต่ผู้ก่อการร้ายก็ตาม ได้ช่วยชีวิตคนมากมาย ซึ่งเรา ได้ยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน โดยยึดหลักมนุษยธรรม 2. โฮงบาลน่านได้ชอื่ ว่าเป็นรพ.แห่งคุณธรรม จริยธรรม มีผบู้ ริหารทีเ่ ปีย่ มคุณธรรมมาโดย ตลอด : พวกเรามีหน้าทีช่ ว่ ยเหลือผูท้ รี่ ะทมทุกข์จากการเจ็บป่วยตลอด 24 ชม. แม้แต่ในวันหยุดเทศกาล ก็ไม่เว้น ทุกคนจึงจ�ำเป็นต้องมีจริยธรรม คุณธรรมที่ดีงาม จึงจะท�ำให้งานบรรลุผลได้ดี ในปัจจุบัน เป็นยุคที่สังคมเสื่อมโทรมด้วยการขาดคุณธรรม จริยธรรมที่ดีงาม ท�ำให้เกิดการโกงกิน คอรัปชั่นและ การแทรกแซงการท�ำงานของข้าราชการประจ�ำ จึงเป็นเหตุให้พวกเราทุกคนต้องการทีจ่ ะเห็นการปฏิรปู เพือ่ การเปลีย่ นแปลงไปในทางทีด่ ขี นึ้ ก่อนการเลือกตัง้ เพือ่ จะได้ให้โอกาสคนทีม่ คี ณ ุ ธรรมเข้ามาบริหาร ประเทศ ประจวบกั บ มี แ ถลงการณ์ ข องประชาคมสาธารณสุ ข ซึ่ ง ประกอบไปด้ ว ยตั ว แทนจาก วิชาชีพต่าง ๆ ใน สธ. โฮงบาลน่านเป็นหนึ่งในประชาคมสาธารณสุข ผมจึงสั่งให้ขึ้นป้ายรพ.น่าน สนับสนุนปฏิรูปก่อนเลือกตั้งและรัฐบาลต้องลาออก ตามแถลงกาณ์ของประชาคม สธ. โดยผมเป็น ผู้รับผิดชอบเองในฐานะผู้น�ำองค์กร เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนของโฮงบาลน่าน (โฮงบาลน่าน เป็นรพ.แห่งแรก ๆ ที่แสดงจุดยืนคัดค้านพรบ.นิรโทษกรรม เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ผิดหลักคุณธรรม) 3. เคารพในความคิดเห็นทีแ่ ตกต่าง แต่ไม่แตกแยก : ผมถือว่าทุกคนทีท่ ำ� งานในรพ. ไม่วา่ จะมีความคิดทางการเมืองทีแ่ ตกต่างกันหรืออยูก่ นั คนละสี จะต้องให้เกียรติซงึ่ กันและกัน ไม่เหยียดหยาม ดูถูกหรือด่าทอกัน แต่ต้องมีความสมานสามัคคีกัน ท�ำงานเพื่อดูแลรักษาคนไข้เป็นส�ำคัญ ต้องเห็น ประโยชน์ของคนไข้และส่วนรวมเป็นส�ำคัญ ทั้งยังจะต้องช่วยกันสอดส่องดูแลซึ่งกันและกัน ไม่ให้ใคร เข้ามาท�ำร้ายคนของเรา หรือท�ำลายรพ.ของเรา ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน ทุกคนมีความส�ำคัญไม่ว่าจะ อยู่ในต�ำแหน่งหน้าที่ใด ทุกคนเป็นคนโฮงบาลน่านเหมือนกัน 4. หน้าทีข่ า้ ราชการรับใช้แผ่นดิน ไม่ใช่รบั ใช้กระแสทางการเมือง : ผมเป็นข้าราชการเป็น ข้าของแผ่นดิน เป็นคนของประชาชน เป็นตัวแทนของพระราชา ผมถือว่าพวกเราทุกคนทีท่ ำ� งานในรพ.น่าน และรพ.ทุกแห่งของ สธ. เป็นข้าของแผ่นดิน ทุกคนจึงมีหน้าที่ต้องมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริยอ์ ย่างทีส่ ดุ เราจะไม่ยอมให้ใครมาจาบจ้วงหรือท�ำร้ายสถาบันทัง้ สามอย่างเด็ดขาด 5. การยึดมัน่ ท�ำหน้าทีข่ องตนเองให้ดที สี่ ดุ : ท�ำหน้าทีด่ แู ลรักษาคนไข้และบริการประชาชน อย่างเต็มความรูค้ วามสามารถ ด้วยความระมัดระวังและปรารถนาดี อีกทัง้ ยึดยึดมัน่ ประโยชน์เพือ่ เพือ่ น มนุษย์และประเทศเป็นทีต่ งั้ ดัง่ พระราชด�ำรัสของพระราชบิดาทีว่ า่ “ขอให้ถอื ประโยชน์สว่ นตนเป็นทีส่ อง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง ลาภทรัพย์และเกียรติยศ จะตกเป็นแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรง ธรรมะแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์”

ที่ส�ำคัญที่สุดเรามีหน้าที่ต้องสร้างสิ่งที่ดีงามให้สังคม เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณของแผ่นดิน

58

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ ผอ.โฮงบาลน่าน วันที่ 29 มกราคม 2557


ผอ.โฮงบาลน่าน ตอบค�ำถามเจ้าหน้าที่ว่า

ท�ำไมเราข้าราชการจึงไม่เป็นกลาง ?

ผมบอกว่า...เราต้องเป็นกลางทางการเมือง ด้วยการไม่อ�ำนวยความสะดวก หรือ ให้อภิสิทธิ์พรรคใดพรรคหนึ่ง ให้ได้เปรียบในการเลือกตั้ง แต่ในการท�ำงาน ต้องค�ำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติเป็นหลัก ความเป็นกลาง ระหว่าง ถูกผิดหรือชั่วดี นั้น...ไม่มีครับ

ข้าราชการต้องอยู่ข้างความดี ความถูกต้องอยู่เสมอครับ !

“ขอบคุณที่เป็นคนดี” 59 ครบวาระราชการ...หมอณุ


“ผมขอให้พวกเราทุกคนที่รับราชการ ได้ ส�ำนึกอยู่เสมอว่าเรารับเงินเดือนจากภาษีอากร ของประชาชน เราจึงเป็นข้าของแผ่นดิน คนของ ประชาชนและตัวแทนของพระราชา จึงควรส�ำนึก ในหน้าที่ที่ควรปฏิบัติให้สมกับที่เป็นข้าราชการ ของแผ่นดิน” ในที่ สุ ด วาระราชการของผมก็ ค งต้ อ ง จบลงตามกติกา แต่สังคมและโลกกว้างยังรอให้ เราน�ำเอาประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ ที่สะสมมายาวนานไปท�ำให้เกิดประโยชน์ต่อไป ขอเพียงเราอย่าหยุดเพียงเพราะเกษียณ วั น เกิ ด ปี นี้ ผ มได้ ไ ปกราบขอพรจาก อาจารย์นพ.บุญยงค์ ท่านโอบกอดผมพร้อมบอก ว่ายังมีเวลาอีก 20 ปี ที่ผมจะท�ำงานเพื่อสังคม ต่อไป ผมก็คิดเช่นเดียวกันกับท่าน หลังเกษียณ เราไม่ มี ก รอบของเวลามาจ� ำ กั ด ผมคิ ด ว่ า จะ ท�ำงานร่วมกับชุมชนเพื่อให้งานด้านการแพทย์ และสาธารณสุขส�ำเร็จโดยท�ำงานเชื่อมโยงกับ ทางโรงพยาบาล พร้อมกันนั้นการสร้างคนดีให้ สังคมก็ถือเป็นงานมี่ส�ำคัญและท้าทาย ผมจะยัง คงท�ำงานกับวัยรุน่ และเด็กด้อยโอกาส เพือ่ ให้เป็น ก�ำลังส�ำคัญของประเทศต่อไป ผมต้องขอกราบขอบพระคุณพ่อแม่ที่ได้ สนับสนุนให้ผมเรียนแพทย์ ขอบพระคุณครูบาอาจารย์ที่ได้อบรม สัง่ สอนทัง้ วิชาความรู้ ตลอดจนจริยธรรม คุณธรรม ขอบคุณพี่ๆ น้องๆ เพื่อนร่วมวิชาชีพที่ ประพฤติตนเป็นแบบอย่างทีด่ ีของการเป็นแพทย์

60

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ผมขอสัญญาว่า จะยังคงเป็น หมอณุ คนเดิมของทุกๆ คน จนกว่าชีวิตจะหาไม่ ขอบคุณเพื่อนร่วมงานทุกๆ วิชาชีพที่ ท�ำให้การดูแลคนไข้เป็นผลส�ำเร็จ ขอบคุณหมอพัชรี ที่เป็นก�ำลังใจและ ที่ปรึกษาในทุกๆ เรื่อง ขอบคุณทุกคนที่เป็นคนดี และขอขอบพระคุ ณ คนไข้ ผู ้ ซึ่ ง เป็ น ครูผู้ยิ่งใหญ่ ให้ผมได้เรียนรู้อย่างมากมาย ผมขอสั ญ ญาว่ า จะยั ง คงเป็ น หมอณุ คนเดิมของทุกๆ คน จนกว่าชีวิตจะหาไม่

“ขอขอบคุณที่เป็นคนดี” ‘หมอณุ’


, สารจาก ‘ คนเจียงฮาย


สารแสดงมุทิตาจิต

หมอณุ : ผู้มีหัวใจงามดั่งทองค�ำ เกือบยีส่ บิ ปีทผ่ี า่ นมา นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ (หมอณุ ) ได้ ร ่ ว มเปิ ด แนวคิ ด ใหม่ ที่ เ ชื่ อ มโยง สหวิชาชีพเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเด็กและสตรีที่ถูก ละเมิดทางเพศ โดยโรงพยาบาลเชียงรายประชา นุเคราะห์ เป็นศูนย์กลาง เป็น one stop service ซึ่งผู้ถูกล่วงละเมิดจะได้เข้ารับการตรวจเยียวยา รั ก ษาทางกายและใจที่ ศู น ย์ โ ดยหน่ ว ยงานที่ เกี่ยวข้อง ทั้งนักสังคมสงเคราะห์ นักกฎหมาย ต�ำรวจ อัยการ จะมาท�ำงานร่วมกันอย่างใกล้ชดิ ท�ำให้พยานหลักฐาน ร่องรอยต่างๆ ถูกบันทึก ไว้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ทันท่วงทีและผู้ถูก ละเมิดได้รบั การคุม้ ครอง ปกป้องตามเจตนารมณ์ ตามกฎหมาย ไม่ถกู สอบถาม ซ�ำ้ ซากจากขัน้ ตอน แต่ละหน่วยงานอย่างที่ผ่านมา ​S-cool คือ การพัฒนาเยาวชนที่ถูก กร ะท� ำ ด้ ว ยความรุ ่ น แรงทั้ ง กายและใจมี ศู น ย์ ปฏิบตั งิ านทีโ่ รงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เช่นเดียวกัน เพื่อให้เป็นบ้านที่ปลอดภัย (safe) และร่มเย็นเป็นสุข (cool) โดยเยาวชน เพือ่ เยาวชน

62

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ได้รบั การสนับสนุนจากหมอณุอย่างต่อเนือ่ ง จนมี ผลที่ยั่งยืนถึงทุกวันนี้ ​หมอณุ ได้ทุ่มเทจิตใจสติปัญญาและ พลังทุกทางทีม่ อี ยูร่ ว่ มมือหน่วยงานภาคประชาชน ภา ครัฐเอกชนท�ำให้บริการทางการแพทย์และ สาธารณสุข เอื้อประโยชน์ต่อบุคคลผู้ด้อยโอกาส ทา งสังคมอย่างกว้างขวาง งานส�ำคัญอีกอย่าง ที่หมอณุเป็นหลักอย่างเข้มแข็ง คือ “โครงการ ตรวจ DNA เพื่อคืนสัญชาติให้คนไทยถวาย ในหลวง” ซึ่งท�ำให้ผู้ท่พี ่อ แม่ ญาติ มีสัญชาติ ไทยแต่ตนเองไม่มหี ลักฐานการเกิด ตกหล่นทาง ทะเบียนต้องอยู่ในสถานะไร้สญ ั ชาติ​ท�ำให้ได้เข้า ร่วมโครงการตรวจสารพันธุกรรม (DNA) กับพ่อแม่ พี่น้อง หรือญาติร่วมสายโลหิต เมื่ อได้หลักฐาน ยืนยันทางการแพทย์ ส่งให้ส�ำนักทะเบียนราษฎร์ ในพื้นที่ ก็ได้เพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎร์ ในจังหวัด เชียงรายมีผู้ได้คืนสัญชาติไทยนับพั นคน ทั้งยัง ขย ายผลไปสู่จังหวัดอื่นๆ โดยโครงการ วุฒิสภา เช่น จังหวัดตราด


จั งหวัดอุบลราชธานี กรุงเทพมหานคร เป็นต้น โดยคณะท�ำงานโครงการตรวจ DNA ของจังหวัด เชียงราย ยังด�ำเนินการอยูอ่ ย่างต่อเนือ่ ง ประกอบ ด้ วยผู้แทนของส�ำนักทะเบียนทั้ง 18 อ�ำเภอกับ ผู้แทนองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน สิทธิสถานะ ​ด้วยจิตใจที่งดงาม มีอัธยาศัย ไมตรี อ่ อนน้อม ถ่อมตน มีคุณธรรมจริยธรรม เป็น นั กบริหารที่กล้าตัดสินใจ เป็นนักประสานสิบ ทิ ศ เมื่อหมอณุได้รับด�ำรงต�ำแหน่งผู้อ�ำนวยการ โรงพยาบาลจังหวัดน่าน จึงได้พฒ ั นาโรงพยาบาล น่ านให้ก้าวไกล สร้างขวัญก�ำลังใจให้บุคลากร ทุกระดับ ให้บริการทัง้ เชิงรุกและดูแลรักษาอย่างมี ประสิทธิภาพ ได้ปลูกจิตส�ำนึกความเป็นพลเมือง

ที่รับผิดชอบต่อแผ่นดินเกิด ผ่านสื่อด้านต่างๆ อย่างกว้างขวาง ​เดือนตุลาคม 2557 นี้ หมอณุจะเกษียณ อา ยุราชการแล้ว จะได้มีเ วลามาท�ำงานภาค ประชาสังคมได้มากขึ้น โดยคู่ขวัญชีวิต พญ.พัชรี อยู ่ เ คี ย งข้ า ง ขอผลบุ ญ คุ ้ ม ครองให้ ห มอณุ มี สุ ขภาพแข็งแรง มีปัญญาสว่างไสว เป็นมิ่งขวัญ แล ะต้ น แบบของบุ ค คลากรทางการแพทย์ สาธารณสุขตลอดไปค่ะ

​​

พี่แดง เตือนใจ (กุญชร ณ อยุธยา) ดีเทศน์ วันที่ 2 มิถุนายน 2557 “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 63 ครบวาระราชการ...หมอณุ


สารแสดงมุทิตาจิต

ฉือจี้เมืองไทย ผมรูจ้ กั ท่านผูอ้ ำ� นวยการพิษณุ ขันติพงษ์ ม า ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2533 ซึ่งเป็นช่วงที่ผมย้ายมา ท�ำ งานที่โรงพยาบาลพะเยา วันเสาร์-อาทิตย์ ผมก็ ก ลั บ มาเชี ย งราย เพราะแม่ บ ้ า นยั ง อยู ่ เชียงราย ลูกสาวคนกลางเป็นนักจิตวิทยาท�ำงาน ที่ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ สามี เป็ นศัลยแพทย์ มีบ้านพักในโรงพยาบาล ซึ่งอยู่ ติด กับบ้านพักของคุณหมอพิษณุ เมื่อพบปะกัน คุณหมอพิษณุกใ็ ห้ความเคารพในฐานะเป็นแพทย์ รุน่ พี่ (ความจริงรุน่ พ่อ รุน่ ลุง) ทักทายไต่ถามทุกข์สขุ แสด งความเป็ น ห่ ว งในเรื่ อ งสุ ข ภาพ ต่ อ มา ประมาณต้นปีพ.ศ. 2539 ผมเกษียณอายุราชการ มาไ ด้ประมาณ 6 เดือน ก็ได้มาพักอาศัยกับ ลู ก สาวและลู ก เขยที่ บ ้ า นในโรงพยาบาล ก็ มี โอก าสได้พบกับคุณหมอพิษณุและคุณหมอพัชรี เกือบทุกวัน ประมาณ ปีพ.ศ. 2552 ผมได้สมัครและได้ รับ คัดเลือกเป็นกรรมการสงเคราะห์สถานพินิจ คุ้ มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงราย ซึ่งมี คุณ หมอพิษณุ เป็นประธานกรรมการ การที่ได้ ท�ำง านร่วมกัน ผมพบว่าคุณหมอพิษณุ เป็นผู้ท่ี มีมนุษย์สัมพันธ์ดีเยี่ยม และเก่งในประสานงาน

64

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

กับห น่วยงานราชการและองค์กรเอกชนต่างๆ ได้เ ป็นอย่างดี และได้พยายามกระตุ้นให้เกิด กิจก รรมต่างๆ ตามกรอบที่ได้รับมอบหมายจาก กรมพินิจฯ ที่เป็นประโยชน์แก่เด็กและเยาวชน ท� ำ หน้ า ที่ ด ้ ว ยความเข้ ม แข็ ง และได้ ท ราบว่ า คุณหม อยังรับหน้าที่เป็นประธานกรรมการของ องค์ก รสาธารณประโยชน์อื่นอีกด้วย และเมื่อ คุ ณ หม อย้ า ยไปรั บ ต�ำ แหน่ ง เป็ น ผู ้ อ�ำ นวยการ โรงพย าบาลน่าน ก็ยังเป็นห่วงและติดตามการ ท�ำงานของคณะกรรมการสงเคราะห์ฯ อยูเ่ สมอมา นับว่า เป็น “จิตอาสา” คนส�ำคัญคนหนึ่งของ เชียงร าย และเป็นจิตอาสาที่ยังไม่เกษียณจาก งานประจ�ำ ซึ่งพบได้ไม่มากนัก ใน โ อ กาสที่คุณหมอพิษณุ จะเกษียณอายุ ราชการในปลายเดือนกันยายน 2557 นี้ ผมดีใจ แทนคนเชี ยงรายอย่างมากที่จะได้คุณหมอพิษณุ กลับมาช่วยงานด้านสาธารณะต่างๆ อีก และขอ ตั้งจิ ต อ ธิษฐาน อ้างถึงคุณพระศรีรัตนตรัยและ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ในสากลโลก คุณความดีต่างๆ ทีค่ ณ ุ หมอพิษณุได้ทำ� ไว้ เป็นเหตุปจั จัยให้คณ ุ หมอ พิษณุและครอบครัวมีความเจริญ มีความสุขสงบ มากๆ และตลอดไป

นายแพทย์อ�ำพน ศิริบุญมา นายกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ผู้สูงอายุ จังหวัดเชียงราย

“คนบางคนชอบพูด แต่ไม่ท�ำ คนบาง คนชอบท�ำ แต่ไม่ชอบพูด คนที่ทั้งพูดและท�ำ คือ คุณหมอพิษณุ ขันติพงษ์ ถ้าจะค้นหา ฉือจี้ เมืองไทย คุณหมอพิษณุใช่เลยค่ะ” อุ​​​​​ ดมศรี ศิริบุญมา นายกสมาคมแม่ดเี ด่นแห่งชาติ ประจ�ำจังหวัดเชียงราย


สารแสดงมุทิตาจิต

ผู้พร้อมที่จะให้ พร้อมที่จะช่วยเหลือ ข อ แ ส ด งคว า มยินดีเป็นอย่างยิ่ง ใน ความมีวริ ยิ อุตสาหะ ปฏิบตั หิ น้าทีช่ ว่ ยเหลือเพือ่ น มนุษย์, สังคม และประเทศชาติได้อย่างสมบูรณ์ สวยงาม จนกระทั่งเกษียณอายุราชการ 30 กว่าปีก่อนเคยได้ยนิ กิตติศัพท์ ความ เป็นคุณหมอหล่อ อารมณ์ดี เป็นกันเองกับคนไข้ และได้รบั ค�ำบอกเล่าจากน้องสาวซึง่ ฝากท้องและ คลอดกั บคุ ณ หมอ ปัจจุบันหลานชายที่คุณหมอ ท�ำคลอดให้มอี ายุ 29 ปี และระยะเวลา 6 ปีทไี่ ด้ท�ำงานกรรมการ สงเ ค ร า ะ ห์เ ด็ กและเยาวชน สถานพินิจจังหวัด เชี ย งราย คุ ณ หมอด�ำรงต�ำแหน่งประธานคณะ กรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนสถานพินิจ จังหวัดเชียงราย ได้ทำ� งานใกล้ชดิ และได้รบั ความ ไว้ ว างใจจากคุณหมอให้ปฏิบัติหน้าที่แทนท่าน (บางโอกาส) จึงไม่สงสัยเลยกับกิตติศพั ท์ที่เคย ได้ ยิ น มา ท่ า นเป็นผู้ที่มีจติ เป็นสาธารณะสูงมาก พร้อมที่จะให้ พร้อมที่จะช่วยเหลือ

ชี วิ ต ห ลั ง เ ก ษี ย ณขอให้ คุ ณ หมอ จงป ร ะ ส พ แต่ ค ว ามสุข มีพลังกายและพลังใจ ท�ำงานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ สังคมและประเทศ ชาติต่อไปอีกนาน....เท่านาน

ด้วยรักและนับถือยิ่ง (แม่) เฉลียว สันดุสิต ประธานกรรมกาสงเคราะห์เด็กและเยาวชน สถานพินจิ ฯ จังหวัดเชียงราย “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 65 ครบวาระราชการ...หมอณุ


สารแสดงมุทิตาจิต

ผู้มีความรื่นรมย์ในการรับใช้ผู้อื่น

`

ฉันหลับและฝันว่าชีวิตคือความรื่นรมย์ ฉันตื่นและเห็นว่าชีวติ คือการรับใช้ ฉันปฏิบัติและตระหนัก การรับใช้เป็นความรื่นรมย์ รพินทรนาถ ฐากุร (ค.ศ.1861- 1941)

รพินทรนาถ ฐากุร เป็นกวีชาวเอเซีย คนแรกที่ ไ ด้ รั บ รางวั ล โนเบล บทกวี ข องท่ า น อ่อนหวาน งดงาม แต่ทรงคุณค่าในปรัชญาทีล่ ำ�้ ลึก พลันที่ได้อ่านบทกวีข้างบนนี้ท�ำให้ผม ระลึกถึงบุคคลต่างๆ ทีผ่ า่ นมาในชีวติ จ�ำนวนเพียง ไม่กคี่ น ซึง่ มีความรืน่ รมย์ในการท�ำงานรับใช้ผอู้ นื่ คุณหมอพิษณุ เป็นคนหนึง่ ทีไ่ ด้รบั พรจากสรวงสวรรค์ ให้มคี วามสุขความพอใจในการปฏิบตั งิ าน ในการ ให้ บ ริ ก ารแก่ ผู ้ เ จ็ บ ป่ ว ย ผู ้ ด ้ อ ยโอกาส และ แก่เพื่อนฝูง จึงไม่น่าแปลกใจว่าเกิดมีหนังสือ ที่ระลึกเล่มนี้ขึ้นมา การเขี ย นยกยอผู ้ อื่ น นั้ น หากมิ ไ ด้ เ ป็ น ความจริงก็จะเกิดอาการกระดากขัดเขิน ไม่อยาก ให้ใครมาอ่าน แม้เจ้าตัวเองก็ไม่อยากอ่านซ�้ำ

66

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ผมเขียนบทความสั้นๆ นี้ เพื่อจะเรียน ให้คุณหมอพิษณุทราบว่า ขอให้คุณหมออ่าน ข้อความต่างๆ ในหนังสือเล่มนี้ด้วยความรื่นรมย์ ยินดี เพราะเป็นที่ประจักษ์แจ้งมาหลายขวบปี แล้วว่า คุณหมอเป็นผู้มีความรื่นรมย์จากการ รับใช้ผู้อื่น

ด้วยความรักและทราบซึ้ง นคร พงษ์น้อย ณ ไร่แม่ฟ้าหลวง ต้นฤดูฝน 2557


สารแสดงมุทิตาจิต

S_cool house : ความภาคภูมิใจของหมอณุ บ้านสคูล (S_cool house) ศูนย์เยาวชนจังหวัดเชียงราย ภายใต้การดูแลของ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ บ้านสคูล องค์กรสาธารณประโยชน์ ถู ก จั ด ตั้ ง ขึ้ น ในเดื อ นธั น วาคม 2547 ภายใต้ โครงการพัฒนารูปแบบการให้บริการวางแผน ครอบครัวและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ส�ำหรับเยาวชนในจังหวัดเชียงราย ซึ่งได้รับทุน สนับสนุนจากโครงการเอดส์โลก (Global AIDS Program), ศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้าน สาธารณสุข (TUC) ภายใต้การท�ำงานด้วย ความมุ่งมั่นและการน�ำของนายแพทย์พิษณุ ขัน ติพงษ์ และทีมงานที่เข้มแข็ง อันได้แก่ ผู้จัดการ บ้านสคูล น.ส.เกศกานดา รตจีน,เจ้าหน้าที่ และวิทยากร น.ส.วรรษชล สุขวันดี และนาย อนุสรณ์ บ�ำรุงกูล พร้อมทัง้ น้องๆ แกนน�ำไฟแรง จากสถาบันการศึกษาในจังหวัดเชียงราย ด้วยการ ท�ำงานทีไ่ ม่ยอ่ ท้อ มองเห็นถึงปัญหาและตระหนัก

ในสถานการณ์ ที่ เ กิ ด ขึ้ น ของนายแพทย์ พิ ษ ณุ ต่อวัยรุ่นและเยาวชนในจังหวัดเชียงราย “บ้าน สคูล–บ้านแห่งการเรียนรู้” จึงก่อก�ำเนิดขึ้น เพื่อตอบสนองต่อปัญหาด้านอนามัยเจริญพันธุ์ ทักษะชีวิต เพื่อให้วัยรุ่นในจังหวัดเชียงราย ได้ รับภูมิคุ้มกันและสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างเหมาะสม บ้านสคูล กับการสร้างสิง่ แวดล้อมทีเ่ ป็น มิ ต รส� ำ หรั บ เยาวชนในการเรี ย นรู ้ ด ้ า นอนามั ย เจริญพันธุ์ เชือ้ เอชไอวี โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การคุมก�ำเนิด และทักษะชีวติ เรามีทางเลือกและ กิจกรรมที่หลากหลายเพื่อตอบสนองให้เกิดการ เรียนรู้มากยิ่งขึ้น กิจกรรมสร้างสรรค์ดังกล่าว ได้แก่ การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องอนามัย เจริญพันธุ์ของวัยรุ่น การอบรมสุดมันส์ ในเรื่อง อนามัยวัยรุน่ สิทธิเด็ก ยาเสพติด ทักษะชีวติ การ ให้ค�ำปรึกษาเพื่อลดพฤติกรรมเสี่ยงด้วยช่องทาง ทีเ่ ข้าถึง ทัง้ โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต บริการส่งต่อไป ยังองค์กรทางการแพทย์และเครือข่ายบริการอืน่ ๆ โดยมีอาสาสมัครเยาวชนท�ำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง ไม่ ต รี ต รา การสร้ า งเมล็ ด พั น ธุ ์ ก ารท�ำ งานแก่ “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 67 ครบวาระราชการ...หมอณุ


แกนน�ำของสถาบันการศึกษาและองค์กรเครือข่าย ด้านเด็กและเยาวชน การผลิตสื่อเผยแพร่เรื่อง อนามัยเจริญพันธุ์ ทักษะชีวิต ที่ตรงกับความ ต้องการของวัยรุน่ การให้บริการเชิงรุกในโรงเรียน ชุมชน รวมทัง้ บริการภายในบ้านสคูล ทีส่ ร้างพืน้ ที่ และแรงดึงดูดให้เกิดการแลกเปลี่ยนร่วมกัน อาทิ เช่น มุมส�ำหรับใช้อนิ เตอร์เน็ต มุมอ่านหนังสือ มุม เล่นดนตรี มุมดูหนัง และพื้นที่ส�ำหรับท�ำกิจกรรม อื่นๆ ที่วัยรุ่นสนใจ รวมทั้งการสร้างสื่อการสอนที่ ตรงกับความต้องการกับกลุ่มวัยรุ่นอย่างแท้จริง ตลอดระยะเวลา การท�ำงานเกือบ 10 ปี บ้านสคูล เราได้สร้างสรรค์ความรู้ ความเข้าใจ และสร้างความตระหนัก อันเป็นแนวทางการ ด�ำเนินชีวิตแก่ “กลุ่มวัยรุ่น” ด้วยความมุ่งหวังที่ จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ รวมทั้ง เป็นส่วนที่ช่วยเหลือและเข้าถึงเด็กและเยาวชนที่ ประสบปัญหาต่างๆ ในชีวติ ทัง้ ในเรือ่ งการปรับตัว การเรียน ความรักและหลายๆ เรือ่ งทีว่ ยั รุน่ จะต้อง ประสบ ในขณะเดียวกันก็สร้างเมล็ดพันธุ์แกนน�ำ ที่ มี ศั ก ยภาพให้ แ ก่ อ งค์ ก รภาครั ฐ และเอกชน สถาบันการศึกษาในจังหวัดเชียงราย ให้เกิดพลัง และกลุ่มคนที่จะท� ำงาน อันเป็นประโยชน์ต่อ สังคมในอนาคตต่อไป

68

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน


, สารจาก ‘ โฮงยาไทย


สารแสดงมุทิตาจิต

แด่...คุณหมอนักพัฒนา ดิฉันมีโอกาสได้รู้จักร่วมท�ำงานกับคุณ หมอพิษณุ ขันติพงษ์ ที่จังหวัดเชียงรายตั้งแต่ ปีพ.ศ.2527 พื้นเพของคุณหมอเป็นชาวล�ำปาง หลังจบแพทย์ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในปีพ.ศ. 2521 คุณหมอพิษณุได้ไปท�ำงานที่โรงพยาบาล เบตงอยู่ 2 ปี จึงไปเรียนต่อสาขาสูตนิ รีเวชศาสตร์ จนได้รับวุฒิบัตรผู้มีความรู้ความช�ำนาญในการ ประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขาสูต-ิ นรีวิทยา จาก นัน้ ได้ย้ายมารับราชการในต�ำแหน่ง นายแพทย์ 5 ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ พร้อม คุณหมอพัชรี ขันติพงษ์ ภริยาซึ่งได้รับวุฒิบัตร สาขาอายุรศาสตร์ ขณะนั้ น โรงพยาบาลเชี ย งรายประชา นุเคราะห์เป็นโรงพยาบาลทั่วไป ขนาด 600 เตียง นายแพทย์สมบัติ อินทรลาวัณย์ เป็นผูอ้ ำ� นวยการ โรงพยาบาล ดิฉันด�ำรงต�ำแหน่งหัวหน้ากลุ่มงาน สูตนิ รีเวชกรรม จ�ำได้วา่ ดิฉนั ดีใจมากทีม่ สี ตู แิ พทย์ มาเพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 6 คน ทั้งดิฉันด้วย จาก

70

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

การที่ได้รู้จักและท�ำงานร่วมกับคุณหมอพิษณุ ได้เห็นถึงความมุมานะ ตั้งอกตั้งใจขยันขันแข็ง เป็นผู้เสียสละไม่เกี่ยงงาน หนักเอาเบาสู้ และ พร้อมที่จะช่วยเหลืองานของส่วนรวมอยู่เสมอ คุณหมอเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ทั้งด้าน บริหาร บริการ และวิชาการ นอกจากนั้นยังเป็น ผูท้ มี่ บี คุ ลิกและอัธยาศัยอันดีงาม มีมนุษยสัมพันธ์ ที่ดีกับบุคคลทั่วไป ให้ความเคารพต่อแพทย์ที่ อาวุโส รักความถูกต้อง ความยุตธิ รรม ท�ำให้คณ ุ หมอ ได้รับความไว้วางใจและยกย่องชื่นชม จากทั้ง ผู้บงั คับบัญชา เพือ่ นร่วมงาน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ และผู้ป่วยที่มารับบริการ ในช่ ว งเวลาดั ง กล่ า ว โรงพยาบาล เชียงรายประชานุเคราะห์อยูร่ ะหว่างการพัฒนาใน ทุกๆ ด้าน และได้รบั การยกฐานะเป็นโรงพยาบาล ศูนย์ในเวลาต่อมาในปีพ.ศ.2531 จึงต้องอาศัย ความร่วมมือร่วมใจจากบุคลากรทางการแพทย์ ทุกสาขา ในการที่จะช่วยกันสร้างความเชื่อมั่น


ความศรัทธาและความไว้วางใจจากประชาชน ชาวเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง คุณหมอพิษ ณุถือเป็นก�ำลังส�ำคัญคนหนึ่งในการช่วยเหลือ ผลักดันและพัฒนาโครงการต่างๆ ของโรงพยาบาล ทัว่ ไปของกระทรวงสาธารณสุข ปัญหาส�ำคัญของ จังหวัดเชียงรายและของเขต 10 (ปัจจุบันคือเขต 1) ในขณะนั้นคือปัญหาอัตราการตายของมารดา และทารก รวมทั้งปัญหาทารกแรกเกิดน�้ำหนักต�่ำ กว่าเกณฑ์ คุณหมอพิษณุได้มาช่วยพัฒนางาน อนามัยแม่และเด็กทั้งในระดับจั​ังหวัดและระดับ เขต มี ก ารท� ำ งานร่ ว มกั น กั บ กุ ม ารแพทย์ ข อง โรงพยาบาลเชี ย งรายประชานุ เ คราะห์ ใน การจั ด ที ม ออกนอกนิ เ ทศน์ เ ยี่ ย มเยี ย นและให้ ค�ำปรึกษาด้านวิชาการแก่น้องๆ ที่ปฏิบัติงานอยู่ ในโรงพยาบาลชุมชน คุณหมอรับเป็นพี่เลี้ยงให้ ค� ำ ปรึ ก ษาด้ า นสู ติ น รี เ วชกรรมแก่ แ พทย์ โรงพยาบาลชุมชนในจังหวัดเชียงรายตลอด 24 ชั่วโมง ท�ำให้แพทย์รุ่นน้องรู้สึกอบอุ่น เกิดความ

มั่นใจในการท�ำงานและไม่รู้สกึ โดดเดี่ยว นอกจากงานอนามัยแม่และเด็กแล้ว ใน สมัยทีด่ ฉิ นั เป็นผูอ้ ำ� นวยการโรงพยาบาลเชียงราย ประชานุ เ คราะห์ ระหว่ า งปี พ .ศ.2536-2546 คุณหมอพิษณุยังได้ริเริ่ม และช่วยพัฒนาศูนย์ ช่วยเหลือเด็กและสตรีทถี่ กู กระท�ำรุนแรงอย่างเป็น รูปธรรมและยังช่วยรับงานเป็นประธาน/กรรมการ โครงการต่างๆ อีกหลายโครงการ อาทิเช่น การ ควบคุมโรคติดเชือ้ ในโรงพยาบาล กรรมการเภสัช บ�ำบัด กรรมการบริหารความเสีย่ ง กรรมการด้าน สิ่งแวดล้อม และที่ส�ำคัญคือเป็นหนึ่งในทีมที่ช่วย พัฒนาคุณภาพมาตรฐานโรงพยาบาลที่ส่งผลให้ โรงพยาบาลเชี ย งรายประชานุ เ คราะห์ เป็ น โรงพยาบาลศูนย์แห่งแรกของประเทศไทย ที่ผ่าน การรับรองคุณภาพมาตรฐานจากสถาบันพัฒนา และรับรองคุณภาพโรงพยาบาล หรือที่เรียกว่า HOSPITAL ACCREDITATION ซึง่ สิง่ นีจ้ ะเกิดขึน้ ไม่ ได้เลย หากขาดทีมน�ำในทุกระดับ ของทุกสาขา “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 71 ครบวาระราชการ...หมอณุ


วิชาชีพในโรงพยาบาล เป็นสิ่งที่ดิฉันภาคภูมิใจ ในความร่วมมือของลูกน้องทุกๆ คน ที่มีส่วนร่วม ตราบจนถึงทุกวันนี้ ในด้านการประชาสัมพันธ์ คุณหมอพิษณุ ได้จดั รายการวิทยุ "คุยกับหมอโฮงยาไทย" ทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัด เชียงราย ซึ่งได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักของ คนทัว่ ไป จากความส�ำเร็จและผลงานดีเด่นในด้าน ต่างๆ ท�ำให้คุณหมอพิษณุได้รับโล่รางวัลต่างๆ มากมาย ทัง้ ในระดับจังหวัด ระดับเขต และระดับ ประเทศ กล่าวได้ว่าคุณหมอพิษณุเป็นแบบอย่าง ของแพทย์ ที่ ดี ที่ แ พทย์ รุ ่ น หลั ง ควรยึ ด ถื อ เป็ น ต้ น แบบในการด� ำ เนิ น วิ ช าชี พ แพทย์ ที่ ยึ ด ถื อ ประโยชน์ของประเทศชาติและส่วนรวมเป็นล�ำดับ ที่หนึ่ง ดังพระบรมราโชวาทของสมเด็จพระราช บิดาที่พระราชทานแก่แพทย์ทกุ คน นอกจากคุณหมอพิษณุ จะอุทิศตนให้ กับงานและความรับผิดชอบในหน้าทีท่ ไี่ ด้รบั มอบ หมายแล้ว ยังเป็นผู้มคี วามสุจริต โปร่งใส ยึดมั่น ในความถูกต้องและความเป็นธรรม มีวิสัยทัศน์ที่ กว้างไกล คุณหมอรับราชการและมีความเจริญ ก้าวหน้ามาตามล�ำดับ จนด�ำรงต�ำแหน่งสุดท้าย คื อ ผู ้ อ� ำ นวยการโรงพยาบาลน่ า น เสี ย ดายที่

72

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

คุณหมอจะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายน 2557 ที่จะถึงนี้ ทั้งๆ ที่ยังมีความรู้ ความสามารถ มี ศั ก ยภาพที่ จ ะปฏิ บั ติ ห น้ า ที่ ต ่ อ ไปได้ อี ก นาน ท� ำ ให้ ก ระทรวงสาธาณสุ ข ต้ อ งขาดทรั พ ยากร บุคคลที่มีคณ ุ ค่าไปอีก 1 คน ดิฉันในฐานะอดีตผู้บังคับบัญชา และ รักคุณหมอพิษณุเหมือนน้องช้ายคนหนึ่ง จึงขอ ถือโอกาสนี้อวยพรให้ผลแห่งกรรมดี และคุณ งามความดีทงั้ หลายทีค่ ณ ุ หมอได้ประพฤติปฏิบตั ิ มาโดยตลอด จงช่วงส่งผลเกื้อหนุนให้คุณหมอ และครอบครัวประสพความสุข ความส�ำเร็จใน บั้นปลายชีวิต มีพลังกายพลังใจเข้มแข็งในการ ที่จะช่วยเหลือสังคม และประเทศชาติสืบต่อไป ตราบนานเท่านาน

แพทย์หญิงเรณู ศรีสมิต 28 พฤษภาคม 2557


สารแสดงมุทิตาจิต

ความเป็นเพื่อนและงานของเรา “เหมือนฟ้าลิขิต” ณุ เ ป็ น เพื่ อ นที่ รั ก และสนิ ท กั น มากกั บ ผมในกลุ่มที่สนิทกันในรุ่น 15 MED พวกเราเล่น กีฬาด้วยกัน ท�ำกิจกรรมของรุ่นด้วยกัน ณุชอบ เล่ น เทนนิ ส และเล่ น ดนตรี ถนั ด เป่ า ขลุ ่ ย และ เมาท์ออร์แกน เป็นนักร้องวง “ไข่หวาน” ของรุ่น 15 MED ตอนงาน Goodbye senior เคยอาเจียน ราดใส่ผม จบแพทย์เชียงใหม่เราไป Intern อุบลฯ ด้วยกัน เป็นเชียงใหม่รนุ่ แรกทีไ่ ป Intern ทีอ่ บุ ลฯ มี ห้าคน มีผม, ณุ, ณรงค์ วงษา, ชัยพร ทองประเสริฐ, พิสิฐ เอื้อวงศ์กุล เป็นที่ประทับใจมาก ขณะอยู่ Intern อุบลฯ พี่ปรีดา ผอก.รพ.ศรีมหาโพธิ์ (รพ.จิตเวช) มาชวนให้ไปเรียนเป็นจิตแพทย์ ทั้งผมและณุ พี่บอกว่าสองคนนี้มนุษย์สัมพันธ์ ดีอยากให้ไปเป็นจิตแพทย์ (เกือบไปแล้ว) เกิด Accident นิดหน่อย เลยไม่ได้ไปเรียน ผมและณุ เ ลยไปจั บ ฉลากและไปอยู ่ ยะลาด้วยกัน ผมอยู่ที่รพ.ยะลา ณุไปเบตง ผม รับทุนทีย่ ะลาเรียนศัลยกรรมทัว่ ไป ส่วนณุไปเรียน สูติ-นรีเวชและไปอยู่เชียงราย ผมอยู่ยะลา ณุอยู่ เชียงราย ไม่เคยคิดว่าจะได้มาท�ำงานด้วยกัน

แต่ตอ้ งเรียนว่าเหมือนฟ้าลิขติ จึงได้มาท�ำงานร่วม กันที่เชียงราย จะเห็นว่าความเป็นเพื่อนและงาน ของเราไม่วา่ จะอยูท่ ไี่ หน มันต้องมีความเชือ่ มโยง อยู่เสมอ ต้องขอแสดงความยินดีกบั ณุ ที่เกษียณ ราชการในปี 57 นี้ โดยประสบความส�ำเร็จใน ทุกอย่าง ทั้งทางส่วนตัว ครอบครัว สังคม และมี เพื่อนที่รักมากมาย ซึ่งน้อยคนนักที่จะได้อย่างณุ

​​​​​​

รักเพื่อนเสมอ สุทัศน์ ศรีวิไล (157052) ผอ.รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 73 ครบวาระราชการ...หมอณุ


สารแสดงมุทิตาจิต

“สุดยอดหมอสูติภูธร” ผ ม รู ้ จั ก และได้ ยิ น ชื่ อ คุ ณ หมอพิ ษ ณุ ตัง้ แต่สมัยเรียนแพทย์ประจ�ำบ้าน รพ.ราชวิธี กรม การแพทย์ ขณะนั้นอาจารย์ใน รพ.ราชวิถี พอรู้ ว่ า ไ ด้ ทุนเชียงรายมาเรียน ทุกท่านต่างกล่าวถึง นพ.พิ ษ ณุ “หมอสูติเชียงราย” ให้ได้ฟัง ท�ำให้ อยากรู้จกั ว่าเป็นใครกัน พอจบได้มาท�ำงานเป็น สูตแิ พทย์ในปีพ.ศ.2536 ได้มโี อกาสร่วมงานกับพีณ ่ ุ ตัง้ แต่นนั้ มา จนกระทัง่ พีณ ่ ไุ ด้เป็นหัวหน้ากลุม่ งาน ในปี พ .ศ.2547 ตลอดระยะเวลาที่ได้ร่วมงานกัน รู้ สึ ก ทึ่งกับพลังอันเหลือเฟือของพี่ณุ ในการอุทิศ ตนท�ำงาน โดยเฉพาะงานด้านงานอนามัยแม่และ เด็ก พีณ ่ เุ ป็นสูตแิ พทย์ทมี่ องเห็นว่าถ้าท�ำงานแบบ ตัง้ รับ คงไม่สามารถท�ำให้สขุ ภาพของแม่และเด็ก ดี ขึ้ น ได้ จึงริเริ่มก่อตั้งคณะกรรมการงานอนามัย แ ม่ แ ล ะ เ ด็กจังหวัดเชียงราย ตั้งแต่ปีพ.ศ.2543 ไ ด้ ทุ่ ม เทการท�ำงานพร้อมกับสร้างทัศนคติใน การท�ำ งานให้กบั ทีม จนงานประสบความส�ำเร็จ ขยายไปสู่จังหวัดอื่นๆ ในเขตภาคเหนือตอนบน จนได้รับต�ำแหน่งเป็นประธานระดับเขตในปีพ.ศ. 2546 มีผลงานในระดับประเทศให้การยอมรับ จน ท�ำให้งานอนามัยแม่และเด็ก (MCH) เป็นงานหลัก

74

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ของ ก ร ะ ท ร ว ง ส าธารณสุขในปัจจุบัน (Service plan) สมกั บ รางวัล “แพทย์อุทิศตนด้วยความ วิริยะ อุตสาหะ ในการพัฒนางานอนามัยแม่ และเด็ก” ท�ำให้พวกเรา MCH มีแนวทางในการ ท�ำงานที่ชัดเจนจนถึงทุกวันนี้ ​ นอกจากงานด้ าน MCH แล้ว พี่ณุยัง ให้ค วามส�ำ คั ญ กับสตรีวัยรุ่น เป็นผู้ก่อตั้งศูนย์ เยาวชนบ้านสคูล (S-cool) เพื่อพัฒนาเยาวชน แ ละเ ค รื อ ข่ า ย ใ ห้เข้าถึงบริการสุขภาพและ ลดพฤติ ก รรมความเสี่ยง จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือ เด็กและสตรีทถ่ี กู กระท�ำรุนแรง (OSCC) ผลงาน ของพีณ ่ มุ มี ากมายรวมทัง้ รางวัลเกียรติคณ ุ ทีไ่ ด้รบั ท�ำให้สตู แิ พทย์จากส่วนกลาง อาจารย์ในโรงเรียน แพทย์ต่างหันมามอง “หมอสูติภูธร” คนนี้ด้วย ความทึ่ ง ท�ำ ใ ห้ ไ ด้รับเชิญเข้าเป็นกรรมการ ราชวิทยาลัยสูติ ในปีพ.ศ.2553 ท�ำให้บรรดาชาว หมอสูตภิ ธู ร ได้รบั การยอมรับและให้ความส�ำคัญ จากส่วนกลางมากขึน้ ท�ำให้เห็นว่าหมอสูตภิ ูธรที่ เป็นหมอทีท่ รงคุณค่าอย่างยิง่ ของวงการสูตแิ พทย์ ​ไม่เฉพาะด้านงานพี่ณ,ุ หมอณุ ยังเป็น ตั วอย่ า งของแพทย์ ในการอุทิศตนเพื่อผู้ป่วย ด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์ เป็นผู้ท่มี ีบุคลิกที่ สนุกสนาน เป็นกันเอง คอยให้ก�ำลังใจ เป็นผู้น�ำ ครอบครัวทีอ่ บอุ่น ให้กำ� ลังใจน้องๆ แพทย์ในการ ท�ำงาน สอนให้รู้จักพอเพียง เป็นคนจริงใจ และ จริงจัง เมื่อครบวาระเกษียนปีน้ี คงเป็นแค่ส้นิ สุด งานสายราชการเท่ า นั้น เพราะพี่ณุคงดีใจที่โลก ใบนี้เปิดกว้างขึ้น ให้ผู้ชายคนนี้ได้เข้าไปโลดแล่น อุทศิ ตน ทุม่ เทท�ำงานเพือ่ สังคมอย่างไม่มที สี่ นิ้ สุด พวกเราจะคอยติ ด ตามดูพี่ชายของเรา พี่ณุของ น้อ งๆ The idol MCH “สุดยอดหมอสูตภิ ูธร” คนนี้ตลอดไป ด้วยรักและผูกพัน นายแพทย์จุลพงศ์ อจลพงศ์ ประธานคณะกรรมการงานอนามัยแม่และเด็ก เชียงราย


สารแสดงมุทิตาจิต

“มนุษย์ผู้มีหัวใจของ ความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง” คุ ณหมอพิษณุ ขันติพงษ์ ทีข่ า้ พเจ้ารูจ้ กั เป็ นคนร่ าเริง สนุกสนาน รักศิลปะและเสียงเพลง เป็นคนทีม่ มี นุษยสัมพันธ์ดเี ยีย่ ม การเจรจาเป็นเลิศ มีจติ ใจกว้างขวาง เป็นคนทีม่ คี วามเมตตา กรุณา และมุทติ า อย่างเต็มเปีย่ ม เป็นผูท้ ใี่ ห้อย่างไม่สนิ้ สุด เป็นค น ที่อ่อนโยน อ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ทะยานอยาก (แม้มโี อกาสได้เป็นผูบ้ ริหารระดับ สูงตัง้ นานแล้ว แต่กป็ ฏิเสธ) เป็นค น ที่มีอุดมการณ์และยึดมั่นอย่าง ซือ่ ตรงด้วยคุณธรรม เป็นค น ที่มีความฉลาดทั้ง 8 ด้านของ ดร.โฮวาร์ด การ์ดเนอร์ เป็นคนทีส่ ามารถเรียนรูไ้ ด้อย่างลึกซึง้ ใน ทุกๆ เรือ่ ง และน�ำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างกว้างขวาง เป็ น ค น ที่ เ ป็ น ครู ด ้ ว ยจิ ต วิ ณ ญาณที่ ถ่ายทอดความรูด้ ว้ ยความรัก ความปรารถนาดีตอ่ ศิษย์และน้องๆ

เป็นคนทีบ่ ริหารงานต่างๆ แบบพ่อดูแลลูก พีด่ แู ลน้อง เป็นคนทีม่ คี วามคิดก้าวหน้า ขณะเดียวกัน มีจติ ใจทีอ่ อ่ นเยาว์ ท�ำให้สามารถเข้าใจเด็กวัยรุน่ ถึง วัยชรา เป็นค นที่มีความกตัญญูกตเวทิตา ต่อ ประ เทศ ชาติ พระมหากษัตริย์ บิดามารดา ผูม้ ี พระคุณและผูป้ ว่ ย เป็นคนทีม่ ศี รัทธาต่อพระพุทธศาสนาและ เป็นพุทธมามกะทีด่ ี เป็ น ค นที่มีภ รรยาที่แ สนดี (พญ.พัช รี ขันติพงษ์) เป็นคนทีท่ กุ คนสามารถถือเป็นแบบอย่าง และประพฤติตามได้อย่างสนิทใจ เป็นคนทีม่ คี นรักมากเท่าผืนเสือ่ คนชังเท่า ผืนหนัง (กลับกับสุภาษิต) เป็นค นที่โลกควรจารึกไว้ว่าเป็นผู้หนึ่งที่ ท�ำให้โลกสวยงาม เป็นคนทีข่ า้ พเจ้ารูส้ กึ เป็นเกียรติและภาค ภูมใิ จทีไ่ ด้มโี อกาสรูจ้ กั ได้เป็นน้องสาว ได้เป็นผูร้ ว่ มงาน ด้ว ยคุ ณสมบัตอิ นั งดงามเหล่านี้ แม้ทอง เนือ้ แท้ยงั มิอาจเปรียบได้ ทีเ่ ป็นได้นนั่ ก็คอื “มนุษย์ผมู้ หี วั ใจของความเป็นมนุษย์ อย่างแท้จริง” ​เนือ่ งในโอกาสทีพ่ พี่ ษิ ณุจะเกษียณอายุ ราชการ ขออาราธนาคุณพระศรีรตั นตรัยตลอดจน สิง่ ศัก ดิส์ ทิ ธิท์ งั้ หลายในสากลโลกได้มาอ�ำนวยพร ให้พพ่ี ษิ ณุและพีพ่ ชั รี มีสขุ ภาพทีแ่ ข็งแรง มีโอกาส พั ฒนาจิ ตใจ จนถึงทางแห่งการพ้นทุกข์ในเร็ววัน ด้วยเทอญ พญ.พัชราพร แซ่เอ้า โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 75 ครบวาระราชการ...หมอณุ


สารแสดงมุทิตาจิต

บริหารงาน บริหารคน คือ ตัวตนของคุณหมอณุ…. ใ คร ที่ เคยท�ำงานกับคุณหมอณุ ย่อม ปร ะทับใ จในความเป็นคนที่มีคุณภาพเป็นเลิศ ของท่าน… คุณหมอณุมีอะไรที่เป็นแบบอย่างดีๆ มากมาย ​ อา รมณ์ดี : ไม่มีใครเกินคุณหมอณุ คุ ณห มอณุ ไ ม่ เ คยโกรธใคร ที่ เ ห็ น ประจ� ำ คื อ อารมณ์ดีเสมอๆ เสียงผิวปากเป็นเพลงจะน�ำมา ก่ อน ที่จะเห็นตัวคุณหมอณุ… ท�ำงาน ท�ำคลอด ก็มีเสียงร้องเพลงที่ไพเราะ ครวญไปด้วย ช่วยให้ บรรยากาศในการท�ำงานดีขึ้น ….มีเสียงทักทาย กับผู้ร่วมงานทุกครั้งที่เจอ นี่คือคุณหมอณุ ​ มนุ ย สั ม พั น ธ์ เ ป็ น เลิ ศ : ทั้ ง จั ง หวั ด เชีย งรายไม่มใี ครไม่รู้จกั คุณหมอณุ หัวหน้าส่วน ร า ชก าร องค์กรเอกชน เจ้าอาวาสวัด พ่อค้า ประชาชน นักข่าว สโมสรต่างๆ ฯลฯ รูจ้ กั คุณหมอณุ รูจ้ กั ในความเป็นกันเอง ท�ำงานเก่ง รวดเร็ว จริงใจ และธรรมดาๆ ไม่ยดึ พิธีการ ดังนั้นถ้ามีงานมีการ ที่สำ� คัญของโรงพยาบาลหรือมีปัญหาขององค์กร คุ ณหมอณุเอ่ยปาก ก็จะได้รับความช่วยเหลือ

76

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

จ า กทุกภาคส่วนทันที….คุณหมอณุสามารถช่วย ป ร ะชาสัมพันธ์การบริจาคเงินชื้ออุปกรณ์ให้กับ ตึ กสงฆ์อาพาธ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ในวันเดียวได้ 10 ล้านบาท ไม่ธรรมดา ท�ำงานเก่ง บริหารงานเก่ง : ทุกคนที่ ท�ำ ง านกับคุณหมอณุ จะรู้ว่าท่านเก่งในทุกเรื่อง เก่ ง ในการพูดในที่สาธารณะ รอบรู้และรู้จริงใน ทุกเรือ่ งทีพ่ ดู พูดได้จงู ใจและสร้างประโยชน์ให้กบั ผู้ ฟังทุกกลุ่มวัย…ท่านท�ำงานทุกชิ้นด้วยความ ตัง้ ใจและใส่ใจในรายละเอียด ฉับไวและให้เกียรติ ผู้ ร่วมงาน ท่านกล่าวถึงความดีของทุกคนที่ได้ ช่ว ย งานจนประสบผลส�ำเร็จ ทั้งต่อหน้าและ ลับ ห ลัง ด้วยความจริงใจ… ผู้ร่วมงานภูมิใจ และ ป ระทับใจในการที่ท่านให้เวลาและใส่ใจกับ ทุก ชิ้นงาน แม้ว่าท่านจะขึ้นไปด�ำรงต�ำแหน่ง ผูบ้ ริหารระดับสูงทีม่ งี านรับผิดชอบมากมายก็ตาม ท่า น ก็จะท�ำหน้าที่ของท่านอย่างดีตลอด ไม่ว่า จะเป็น Perinatal coference, ประชุมวิชาการงาน อนา มัยแม่และเด็กของจังหวัดและเขต ประชุม


อะไ ร ก็ ต าม ตลอดเวลาที่ ท ่ า นเป็ น ประธาน ท่านไม่เคยทิง้ ให้ทปี่ ระชุมว้าเหว่หาผูน้ ำ� … ประทับใจ ในความรับผิดชอบทีท่ า่ นมีอย่างสม�ำ่ เสมอ ครัง้ หนึง่ ที่ ต้องเดินทางไปเยี่ยมและนิเทศงานอนามัยแม่ และ เ ด็กจังหวัดแม่ฮ่องสอน ท่านไม่สบายมาก ท่านยังอุตสาห์เดินทางไปในฐานะประธานฯ ทัง้ ๆ ทีข่ ณะนัน้ ท่านพูดไม่มเี สียงออกมาเลย ท่านจิบน�ำ้ อุ่ น รับกระแสพลังจากคุณหมอพัชราพร เพียง เพื่ อจะให้มเี สียง จะได้ทำ� งานในวันรุ่งขึ้น ทุกคน จึงประทับใจในความรับผิดชอบทีท่ า่ นมีให้กบั งาน และผู้ร่วมงาน คุ ณ หมอณุเป็นผู้น�ำการเปลี่ยนแปลงที่ เป็นรูปธรรม เป็นผู้พัฒนางานอนามัยแม่และเด็ก ให้กลับมามีชวี ติ ชีวา จนท�ำให้งานอนามัยแม่และ เด็กภาคเหนือ 8 จังหวัดของพวกเรา เป็นทีก่ ล่าวขาน ที่ ก่อให้เกิดความรัก ความสามัคคี มีการท�ำงาน เป็ น ที ม ช่ ว ยเหลื อ กั น ระหว่ า งเครื อ ข่ า ย…. ท่ า น สร้ า งเครื อ ข่ า ยการดู แ ลวั ย รุ ่ น ที่ เ รี ย กว่ า “บ้ า นสคูล” เครือข่ายการดูแลเด็กและสตรี หรือ OSCC ที่โด่งดัง และอีกมากมาย แก้ ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเป็น ระบบ : คุณหมอณุเป็นนักเจรจา ไกล่เกลี่ยและ ต่อรองทีด่ ี ท่านมีการศึกษาข้อมูลและแนวทางการ แก้ ปัญหาที่เอื้อผลประโยชน์ของทั้ง 2 ฝ่ายอย่าง

เป็ น ระบบและฉับไว มีเครือข่ายให้การช่วยเหลือ มากมาย งานจึงส�ำเร็จด้วยดีเสมอมา ประทับใจ และเป็นการเรยนรูท้ ดี่ ี คือ เรือ่ งการสลับทารกแรก เกิ ด ระหว่าง 2 ครอบครัวนาน 20 กว่าวัน เศร้า และ รุนแรงมากในความรู้สึก แต่คุณหมอณุเร่ง ให้ ไ ด้ข้อมูลที่เป็นจริง ส่งเครือข่ายเข้าเยี่ยมเยียน ครอบครัวเด็กทันที วางแผนการดูแลด้านจิตใจ จัด ระบบการแจ้งข่าว ยอมรับความผิดและเปิดเผย ด้ว ยการมีพยานของ 2 ครอบครัว, โรงพยาบาล และภาคเอกชน ท�ำให้เรื่องที่เริ่มต้นเลวร้าย ด้วย ความโกรธ การไม่ยอมรับในตัวทารก จบลงด้วย ควา ม สุขของทุกฝ่ายและยังให้การดูแลเอาใจใส่ อย่ า งต่อเนื่อง จนทุกฝ่ายกลายมาเป็นเพื่อนที่ดี ต่อกัน ซื่ อสั ต ย์ สุ จ ริ ต และพอเพี ย ง : คุณ ห มอณุเป็นแบบอย่างที่ดีเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต ต้องบอกว่าไม่เคยโกงเวลาราชการ หลายครัง้ ที่ พ วกเราคณะกรรมการงานอนามัยแม่และเด็ก ออก นิเทศงาน ทั้งภายในจังหวัดและต่างจังหวัด 8 จั งหวั ด ภาคเหนื อ ท่ า นท� ำ งานเต็ ม เวลา ให้ ป ระโยชน์เต็มที่กับหน่วยงานที่เสียสละเวลา ต้อ นรับพวกเรา จนเป็นที่รู้กันว่าจะไม่มกี ารเที่ยว ในเวลาท�ำงานกับคุณหมอณุ… อีกทั้งยังมอบเงิน ค่าตอบแทนที่ได้รับจากการนิเทศงาน เงินรางวัล บุคคลดีเด่น ให้ไว้ใช้ในการพัฒนางานอนามัยแม่ และเด็ก… สุดยอดจริงๆ ดู แ ลตนเองเพื่อจะได้ดูแลผู้อื่น : แม้ งาน จ ะยุ่งและมีมากขนาดไหน คุณหมอณุ จะ ดูแลสุขภาพร่างกายด้วยการออกก�ำลังเป็นประจ�ำ สม�่ำ เสมอและดูแลสุขภาพจิตด้วยการท�ำบุญ ตักบา ตรทุกเช้า แม้ไม่ได้อยู่ที่บ้าน ท่านก็จะ มอบหม ายให้แม่บ้านท�ำหน้าที่แทน ท่านศรัทธา ในพุทธศาสนาและความดีงาม จึงท�ำให้ท่านเป็น ผู้มี ความสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ…แบบ อย่างที่ดี “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 77 ครบวาระราชการ...หมอณุ


เสีย สละเวลาเพื่อสังคมที่ดี : เวลาใน วันเส าร์ อาทิตย์ ท่านไม่ได้ไปตีกอล์ฟ แต่ท่าน ให้เว ลากับเด็กวัยรุ่นที่บ้านสคูล ท่านมีความสุข ในการ พูดคุย หาทางเลือกที่ดี ที่ถูกต้องให้กับ กลุ่ม เด็กวัยรุ่นจนเป็นผู้นำ� เป็นพ่อและเป็นเพื่อน กับบ้านสคูล… คุ ณ ห มอณุ ตั้ ง ใจและให้ เ วลากั บ การ ประชา สัมพันธ์งานบริการสุขภาพแก่ประชาชน โดยท�ำหน้าที่เป็นผู้ด�ำเนินการวิทยุ (ดีเจ) “คุยกับ หมอโฮงยาไทย” มานาน 10 กว่าปี แบบอย่างที่ดีเหล่านี้ ผู้ร่วมงานทุกคน ประทั บ ใจและกล่ า วถึ ง เสมอๆ ในโอกาสที่ คุณหมอณุครบวาระการท�ำงานราชการที-่ ดี จึงขอ ยกเอาสิง่ ดีๆ ทีค่ ณ ุ หมอได้ทำ� ให้ไว้เป็นตัวอย่างใน การเรี ยนรู้ร่วมกัน และขอกราบขอบพระคุณที่ให้ โอกาสได้เรียนรูก้ ารท�ำงาน และการครองตนทีด่ .ี .. อังคณา โสภณ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์

78

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน


, สารจาก ‘ คนน่าน


สารแสดงมุทิตาจิต

“ ขอบคุณพี่หมอณุ พี่ที่แสนดี ” โรงพย าบาลน่าน มีวัฒนธรรมองค์กร ที่เข้ มแข็งมาก ด้านความซื่อสัตย์สุจริต และการ ใส่ใจป ระชาชนในทุกมิติ เป็นต้นแบบด้านการ บริหารทีด่ ี วันแรกทีท่ ราบข่าวว่าจะมีผอู้ ำ� นวยการ คนใหม่จากจังหวัดเชียงรายมาแทนพีห่ มอนิวตั ชัย ที่จะเกษียณอายุราชการ ซึ่งไม่ใช่ลูกหม้อดั้งเดิม ของโรงพยาบาลน่านเหมือนที่ผ่านๆ มา ก็ให้รู้สึก กังวลถึงความลงตัวระหว่างอ�ำนาจการบริหารของ ผูน้ ำ� กับความเข้มแข็งขององค์กร แต่ภายหลังจาก ได้มีโอกาสพูดคุย ประชุมร่วมและมีความร่วมมือ กันท�ำงา นด้านสุขภาพ ก็มีความมั่นใจมากขึ้น ทุกขณะ จนเห็นชัดว่า ผอ.พิษณุ สามารถใช้ความ เข้มแข็ง วัฒนธรรมองค์กรด้วยภาวะผู้น�ำ องค์ ความรู้แ ละความมีน�้ำใจที่มีอยู่มากมายในตัวตน ได้อย่าง ลงตัวน่ายกย่อง พี่หมอณุ ชาญฉลาด ที่จะเชิ ญผู้บริหารและบุคคลากรเดิมที่เกษียณ อายุไปกลับมาเสียสละช่วยงานโรงพยาบาลน่าน ให้เกียรติทงั้ ผูร้ ว่ มงานและกัลยาณมิตรนอกองค์กร บรรยากาศเป็นไปอย่างมิตรไมตรีมคี วามสุข ​เทศบาล เมืองน่าน ก�ำหนดวิสัยทัศน์ ใน การจะเ ป็นเมืองแห่งคนอายุยืน และวางเป้า หม ายที่จ ะเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในประเทศไทย

80

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ซึ่งตัวชี้วัดที่ส�ำคัญ คือ การเป็นเมืองปลอดภัย จน ได้รับ การรับรองจากองค์การอนามัยโลก เทศบาลเมืองน่านจะไม่มที างประสบความส�ำเร็จ ได้เลย ห ากมิได้รับความช่วยเหลือเกื้อกูลจาก บุ คลากรที่ทรงคุณค่าของโรงพยาบาลน่าน ที่มี ผู้อ�ำนวยการชื่อพิษณุ ขันติพงษ์ อย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดสาย เช่นทีผ่ า่ นมา กัลยาณมิตรนีก้ อ่ ให้เกิด คว ามไว้วา งใจ เชื่อมั่นว่าเราจะไม่ทอดทิ้งกันใน ทุกปัญหาของบ้านเมือง เราได้รว่ มกันท�ำงานตาม ค�ำ สอนของ หมอบุญยงค์ ทีบ่ อกว่าขอให้พวกเรา “ท�ำ งานด้วย ความรู้ อย่างเต็มความสามารถ ด้วยความระมัดระวัง และด้วยความปรารถนาดี” ขอบคุณพี่หมอณุ พี่ที่แสนดี จริงใจ กล้าตัดสินใจ ทีจ่ ะยืนอยูบ่ นความถูกต้อง เราคงมิได้เห็นบ่อยนัก ที่นักวิชาการ และผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขที่ งานล้นมือ จ ะร้อยเรียงองค์ความรู้ทางวิชาการ มาเป็นความรู้แบบเรียบง่าย สู่ท้องถิ่นและชุมชน สามา รถสร้าง วัฒนธรรมสุขภาพดี จนน�ำพาให้ โรงพยาบาลน่าน ได้รบั รางวัลต่างๆ มากมาย นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน


สารแสดงมุทิตาจิต

“ผมนึกว่าคุณหมอเป็นเพื่อนศิลปินเสียอีก” ถ้อ ยค�ำที่ผ มบอกความรู้สึกแรกรู้จักกับ หมอใหญ่แห่งโรงพยาบาลน่าน นายแพทย์พษิ ณุ ขันติพงษ์ เมื่อช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 เพราะผม ไม่คิดว่าชาย ที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ผิวคล�้ำ ใบหน้า คล้ายชายอาหรับ สวมหมวกคาวบอย กางเกงยีน เก่าเท่ๆ สวมเสือ้ ยีนสีซดี ปะติดผ้าสีประมาณเพิม่ สีสนั บนยีน จะเป็นหมอใหญ่ ตามภาษาชาวล้านนา เรีย กผู้อำ� นวยการโรงพยาบาล หลังจากนั้นผมก็ รู้สึกเป็นกันเองกับหมอใหญ่พษิ ณุตลอดมา ​คว ามเป็นผู้ บริหารองค์กรใหญ่ ที่สร้าง คว าม สัมพันธ์กับผู้คนได้ส�ำเร็จอย่างรวดเร็วของ หม อใ หญ่พิษณุ ท�ำให้ผมได้รับการทาบทามน�ำ ผลงานศิลปะไปประดับอาคารใหม่สริ เิ วชรักษ์ เพือ่ รับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี องค์ประธานเปิดอาคารสิรเิ วชรักษ์ ท�ำ ให้ผมตอบรับ ทั นทีด้วยความเต็มใจที่ได้รับ เกี ยร ติร่วมกับ ช า วโรงพยาบาลน่านถวายความ จงรัก ภักดีต่อพระองค์ท่าน เยี่ยงปวงชนชาวไทย พึงปฏิบัติ ​ พอถึงเวลาผมมีโอกาสกราบทูลถวายภาพ ผลงานจิตรกรรมขนาดใหญ่ 4 ภาพทีป่ ระดับหน้า ห้อ งป ระชุมพุทธมนต์โชติคณ ุ เพือ่ พระองค์จะได้ พ ระ รา ชทานให้กบั โรงพยาบาลน่าน โดยมิทนั ได้

บอกกล่าวกับหมอใหญ่พษิ ณุลว่ งหน้าแต่อย่างใด ​ต่อ มาในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2556 เ ป็ นช่วงที่รพ.น่าน จัดงานแสดงมุทิตาจิตให้กับ อาจารย์บุญยงค์ วงศ์รักมิตร อายุ 80 ปี จึง เ ป็ นโ อกาสให้ผมแสดงความรู้สึกเคารพรักและ ศรั ทธ าต่อบุคคลอันเป็นที่รักของชาวน่าน ผมจึง ขอโอกาสแสดงการมีสว่ นร่วมกับชาวรพ.น่าน โดย ขอมอบภาพขนาดใหญ่ทปี่ ระดับจัดเป็นห้องเสวย ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุ ม ารี อีก 4 ภาพให้กบั นายแพทย์บญ ุ ยงค์ เพื่อ ท่านจะได้มอบให้กบั รพ.น่าน ​ ทีเ่ ล่ามานีค้ อื ผลงานของหมอใหญ่พษิ ณุ ที่ ผมคบหาและรู้จกั ผมคงไม่ต้องบอกแล้วล่ะว่า ผมรักและศรัทธาท่านแค่ไหนนะครับ

วินัย ปราบริปู ​หอศิลป์ริมน่าน “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 81 ครบวาระราชการ...หมอณุ


, สารจาก ‘ คนโฮงบาลน่าน


สารแสดงมุทิตาจิต

2 ปี ในต�ำแหน่ง ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน ล�ำดับที่ 6 คุณหมอพิษณุ ขันติพงษ์ เป็นผูอ้ ำ� นวยการ โรงพยาบาลน่านคนแรกในรอบ 20 ปี ทีม่ าจากทีอ่ นื่ เ ดิมทีผู้อ�ำนวยการที่นี่จะมาจากรองผู้อ�ำนวยการ ที่น่านทุกคน จึงเป็นครั้งแรกที่ชาวโรงพยาบาล น่านมีโอกาสได้จัดงานต้อนรับผู้อ�ำนวยการใหม่ จึงเป็นบรรยากาศที่ทุกคนตื่นเต้น ตั้งใจรอ และ มีส่วนร่วมค่อนข้างมากงานหนึ่งทีเดียว นับว่า แ ปลกที่คุณหมอพิษณุ ขึ้นเป็นผู้อ�ำนวยการเมื่อ อ ายุใกล้ๆ จะเกษียณแล้ว (ราว 58 ปี) จึงเป็น ผู้อ�ำนวยการที่ด�ำรงต�ำแหน่งในระยะเวลาที่ไม่ นานนักเพียง 2 ปีเท่านั้น แต่เป็น 2 ปีที่มคี ุณค่า ต่อชีวิตของท่านเป็นอย่างยิ่ง เพราะท่านได้สร้าง คุณูปการแก่โรงพยาบาลน่าน แก่ชาวน่านอย่าง ไม่น่าเชื่อ ท่านได้น�ำประสบการณ์จากการท�ำงาน ใ นโรงพยาบาลศูนย์ขนาดใหญ่ (รพศ.เชียงราย) ม าปรับใช้พัฒนาและบริหารจัดการโรงพยาบาล น่านให้ประสบความส�ำเร็จก้าวหน้าเป็นอย่าง ม าก สามารถผ่ า นการประเมิ น คุ ณ ภาพตาม มาตรฐาน HA ในปี 2556 ซึง่ เป็นปีแรกทีม่ าบริหาร โ รงพยาบาลน่าน และยังผ่านเกณฑ์มาตรฐาน

ใ นงานด้านอื่นๆ อีกหลายงานอีกด้วย ท่านเป็น นักพูด นักเขียน นักประชาสัมพันธ์ตวั ยง มีความ จ งรักภักดีในสถาบันฯ ยึดมั่นในหลักธรรมทาง พระพุทธศาสนา วัฒนธรรมประเพณีทอ้ งถิน่ อย่าง เ หนียวแน่น เป็นนักบริหารที่ใช้เทคโนโลยีการ สื่อสารสมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี จึงใช้ระยะเวลา สัน้ ๆ ในการครองใจคนโรงพยาบาลน่านได้แทบจะ ทัง้ หมดเลยก็วา่ ได้ มีการตัดสินใจและเป็นนักต่อรอง ( Negotiator) ที่ดี สามารถจัดการกับปัญหาได้ ทุกรูปแบบอย่างรวดเร็ว ด้วยบุคลิกภาพที่น่า เ กรงขาม จึ ง แก้ ไ ขปั ญ หาทางด้ า นโครงสร้ า ง องค์กรที่เรื้อรังมานานได้ส�ำเร็จ จัดวางระบบการ บ ริหารให้เหมาะสมโดยเฉพาะการจัดการบริหาร ง านบุคคล การจัดวางบุคคลให้เหมาะสมกับ งาน โดยเตรียมบุคลากรด้านการบริหารรุ่นใหม่ๆ เ พื่ อ รั บ ผิ ด ชอบองค์ ก รในอนาคต และการจั ด โครงสร้างองค์กรต่างๆ ให้ลงตัว และทีส่ �ำคัญเป็น ผู้บริหารที่ใช้หลักการบริหารด้วยการเดินส�ำรวจ (Management by Walking Around) ในหน่วยงาน ต่างๆ อยูเ่ ป็นประจ�ำจึงรอบรูป้ ญ ั หาและความเป็น ไปภายในองค์กรเป็นอย่างดี รวมทั้งการปรับปรุง “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 83 ครบวาระราชการ...หมอณุ



วิสัยทัศน์ให้เข้ากับสถานการณ์และเป็นจุดขาย ด้านคุณภาพของโรงพยาบาลทีว่ า่ “โรงพยาบาล น่านบริการด้วยหัวใจ มีคุณภาพ ทันสมัย ทีท่ กุ คนไว้วางใจ” ซึง่ สามารถน�ำจุดเด่นทีฝ่ งั แน่น เ ป็นวัฒนธรรมของชาวโรงพยาบาลน่านออกมา เป็นรูปธรรม น�ำเสนอให้สงั คมรับรู้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ท่านยังเป็นนักคิดสร้างสรรค์ สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เช่น การจัดท�ำโครงการ ร ณรงค์ ก ารใช้ ห มวกนิ ร ภั ย ระดั บ จั ง หวั ด การ ป รับปรุงสิ่งแวดล้อมและภูมิทัศน์อาคารเก็บศพ ให้สวยงามเหมาะสม และเปลีย่ นชือ่ เป็น “อาคาร สุขาวดี” รวมทัง้ จัดตัง้ กองทุนสุขาวดี เพือ่ หาทุนจัด ซื้อตู้เย็นเก็บศพที่ได้มาตรฐาน และจัดซื้อโลงศพ ส�ำหรับผู้ยากไร้ เป็นต้น คุณหมอพิษณุ ขันติพงษ์ ซึ่งผ่านการ ฝึ ก อบรม นบส. (และต่ อ มาเป็ น วิ ท ยากรใน หลักสูตร นบส.ด้วย) เป็นกรรมการราชวิทยาลัย สูติ-นรีแพทย์ มีภรรยาเป็นอายุรแพทย์ระดับทรง คุณวุฒิ ทีม่ ผี ลการท�ำงานทีไ่ ด้รบั การยอมรับทัง้ ใน ประเทศและต่างประเทศ ด้วยที่ไม่มีบุตรด้วยกัน จึงสามารถให้เวลาแก่การท�ำงานในหน้าที่ และ การสร้ า งประโยชน์ ใ ห้ แ ก่ ส าธารณะได้ อ ย่ า ง เต็มที่ นับว่าเป็นแพทย์ที่กว้างขวาง เป็นที่รู้จัก เป็นอย่างดีในแวดวงการแพทย์ทั้งในกระทรวง สาธารณสุขและต่างกระทรวงฯ มีมติ รสหายเพือ่ น ร่วมรุ่นที่ด�ำรงต�ำแหน่งส�ำคัญๆ มากมาย อาทิ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารโรงพยาบาล ทั้ ง ในกระทรวงสาธารณสุ ข และโรงพยาบาล

มหาวิ ท ยาลั ย ผู ้ บ ริ ห ารระดั บ สู ง ในกระทรวง มหาดไทย ต�ำรวจ ทหาร เป็นต้น จึงปรากฏว่าการ ติดต่อประสานงานต่างๆ รวมทั้งการส่งต่อผู้ป่วย ไปยังสถานบริการระดับสูงอืน่ ๆ เป็นไปโดยสะดวก ได้รับความร่วมมือตอบสนองเป็นอย่างดียิ่ง นอกจากนี้ ยั ง มี เ ครื อ ข่ า ยเชื่ อ มโยง แนบแน่นกับกลุ่มองค์กรอื่นๆ หลายองค์กรทั้งใน ราชการและเอกชน เห็นได้จากมีกลุ่มผู้สูงอายุ จ�ำนวนหลายสิบคนจากจังหวัดเชียงราย เดินทาง มาให้ก�ำลังใจถึงโรงพยาบาลน่านภายหลังที่มา รับต�ำแหน่งแล้วระยะหนึ่ง แสดงให้เห็นถึงความ ผูกพันกับกลุ่มเหล่านี้อย่างเหนียวแน่น ที่สำ� คัญ ได้เกิดปรากฎการณ์ที่ไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก คือ ผู้อ�ำนวยโรงพยาบาลน�ำเจ้าหน้าที่ ลุกขึ้น ประกาศตัวต่อต้านรัฐบาลทีด่ ำ� เนินนโยบายไม่ถกู ต้อง มี ป ั ญ หาความไม่ โ ปร่ ง ใสในการด� ำ เนิ น งาน จนต่อมาเกิดมีแนวร่วมขึ้นมากมายทั้งในภาครัฐ และประชาชน และเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการ เมืองในที่สุด ในระยะ 2 ปี ที่ เ ป็ น ผู ้ อ� ำ นวยการ โรงพยาบาลน่าน คุณหมอพิษณุ นับว่าโชคดี อย่างยิ่งที่มีโอกาสได้เฝ้ารับเสด็จและสนองงาน ในพระองค์ ส มเด็ จ พระเทพรั ต นราชสุ ด าฯ สยามบรมราชกุมารี ณ โรงพยาบาลน่าน ใน วโรกาสที่ได้เสด็จพระราชด�ำเนินทรงเปิดอาคาร สิรเิ วชรักษ์ เมือ่ เดือนกุมภาพันธ์ 2556 ซึง่ พระองค์ฯ ได้พระราชทานรถยนต์พยาบาลฉุกเฉิน ครุภัณฑ์ ทางการแพทย์จ�ำนวนหลายรายการ ในปี 2556 และ 2557 รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 17 ล้านบาท นั บ เป็ น ขวั ญ ก� ำ ลั ง ใจแก่ ค ณะเจ้ า หน้ า ที่ โรงพยาบาลน่านอย่างหาทีส่ ดุ มิได้ นอกจากนีท้ า่ น ยังได้ให้การสนับสนุนภารกิจของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมช.สาธารณสุข ในการปฏิบัตงิ านใน พื้นที่จังหวัดน่านให้ดำ� เนินไปด้วยดีในช่วงที่ดำ� รง ต�ำแหน่งอีกด้วย แม้มีทัศนคติทางการเมืองที่ แตกต่างกันก็ตาม “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 85 ครบวาระราชการ...หมอณุ


การปฏิบตั ใิ นฐานะผูอ้ ำ� นวยโรงพยาบาล น่านระยะเวลา 2 ปีนั้นนับว่าค่อนข้างสั้น แต่ คุณหมอพิษณุ ก็สามารถด�ำเนินการ หรือผลักดัน ให้งานส�ำคัญๆ ประสบความส�ำเร็จได้จำ� นวนมาก ดังที่กล่าวแล้ว ผมเชื่ อ ว่ า ยั ง มี ง านอี ก จ� ำ นวนมาก เช่นกันที่ยังคงค้างคาอยู่ในใจ หรือ ยังด�ำเนิน การไม่บรรลุความส�ำเร็จดังที่ต้องการ อาจจะ ด้วยเหตุปัจจัยต่างๆ ที่ไม่เอื้ออ�ำนวย แต่ท่าน ก็ได้ริเริ่มไว้หรือวางแนวทางไว้ให้แล้ว เชื่อว่า ผู ้ บ ริ ห ารคนใหม่ จ ะยิ น ดี ส านต่ อ ให้ ส� ำ เร็ จ ใน โอกาสต่ อ ไป ในทรรศนะของผมมองว่ า คุ ณ หมอพิ ษ ณุ เป็ น ผู ้ บ ริ ห ารที่ มี ค วามรู ้ ค วาม สามารถรอบด้าน ท่านสามารถด�ำรงต�ำแหน่ง ใดๆ ก็น่าจะได้ แม้แต่ต�ำแหน่งผู้ตรวจราชการ กระทรวงสาธารณสุขยุคใหม่ หรือต�ำแหน่งอื่นๆ ที่สูงกว่า ก็น่าจะมีความเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง เชือ่ ว่าท่านสามารถปฏิบตั งิ านในต�ำแหน่งดังกล่าว นัน้ ได้เป็นอย่างดี แต่นา่ เสียดายทีต่ อ้ งเกษียณอายุ ราชการในปี 2557 นี้แล้ว ในโอกาสที่คุณหมอพิษณุ ขันติพงษ์ จะ เกษียณราชการในเดือนกันยายน 2557 นี้ ผม เชื่อว่าคุณงามความดีทั้งหลายที่ท่านได้กระท�ำ ไว้ในอดีตก็ดี ที่โรงพยาบาลน่าน จังหวัดน่านก็ดี

86

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

จะช่ ว ยให้ ท ่ า นใช้ ชี วิ ต หลั ง เกษี ย ณอย่ า งมี ความสุ ข กั บ ครอบครั ว และเชื่ อ ว่ า ท่ า นยั ง จะ ท�ำคุณประโยชน์ให้แก่สังคม วงการแพทย์และ สาธารณสุขต่อไปอีกนาน เพราะความเป็นบุคคล ที่ มี ค วามรอบรู ้ มี ค วามสามารถ มี คุ ณ ธรรม จริยธรรม ที่จะยังประโยชน์ต่อสังคมและประเทศ ชาติ อี ก มากมาย และที่ ส� ำ คั ญ ขอให้ ท ่ า นและ ภรรยา มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ มีความสุข ตลอดไป

ด้วยความปรารถนาดี จากใจผมและคุณหมอพนิดา ​​นายแพทย์บุญยงค์ วงศ์รักมิตร


สารแสดงมุทิตาจิต

บันทึกจากเพื่อนถึงเพื่อนผู้อ�ำนวยการ ในช่วงวาระทีท่ า่ นผูอ้ ำ� นวยการนิวตั ชัย สุจริตจันทร์ เกษียณราชการ รพ.น่าน อยู่ในช่วง ขาดแคลนผูส้ บื ทอดต�ำแหน่งผูอ้ ำ� นวยการ ดิฉนั ซึง่ เ ป็นผู้อาวุโสสูงสุดไม่มีความประสงค์ที่จะท�ำงาน ผู้บริหารสูงสุดต�ำแหน่งนี้ เพราะเห็นว่าเหมาะใน ต�ำ แหน่งแพทย์นักวิชาการมากกว่างานบริหาร ขณะเดียวกันก็เป็นกังวลว่า แล้วจะหาใครมาเป็น ผู้ อำ� นวยการต่อเล่า แม้จะไม่มีอำ� นาจแต่งตั้งเอง แต่ก็จะคอยมองว่าใครกันนะที่เหมาะสม หนึง่ ในรายชือ่ ทีแ่ ว๊บเข้ามา คือ นพ.พิษณุ ขัน ติ พงษ์ รองผู้อำ� นวยการ รพ.เชียงรายประชา นุเ คราะห์น่ไี งเล่า ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมากที่ จะมาด�ำรงต�ำแหน่งสืบทอด แต่ขณะเดียวกันก็คดิ ว่า แล้วเขาจะอยากมาเป็นผู้อำ� นวยการ รพ.น่าน หรือ เพราะมีหลายๆ โรงพยาบาล ให้เลือกในขณะ นั้ น จึงได้ด�ำเนินการเชื่อมสัมพันธ์ด้วยตนเองใน ฐานะเพือ่ นร่วมห้อง 136 โรงเรียนเตรียมอุดม รุ่น 33 และให้น้องพยาบาล “ตามจีบ” ในวาระ ต่างๆ ทีไ่ ปประชุม ซึง่ น่าจะมีผลให้ทา่ น ผอ.สนใจ รพ.น่าน มากขึ้น และแล้วในที่สุดความพยายาม ก็ป ระสบความส�ำเร็จ เมื่อท่านได้เลือกและได้รบั

แต่งตั้งมาเป็น ผอ.โรงพยาบาลน่านจริงๆ ซึ่งท่าน คงจ ะ จ�ำ ได้ว่า ได้รับการต้อนรับอย่างเอิกเกริก เกรี ย ง ไ กรมากแค่ไหน เพราะพวกเราเห่อผอ. คนใ ห ม่ ม าก 2 ปีที่ท่านมาอยู่กับเราพวกเรา มีค ว า ม สุข และภาคภูมิใจมากในความเป็น ผูอ้ ำ� นวยการทีม่ งุ่ มัน่ เด็ดเดีย่ ว มีวสิ ยั ทัศน์กา้ วไกล และสนั บ สนุนให้ทุกอย่างเป็นไปได้ ซึ่งจะขอยก ตัวอย่างโดยสังเขป ดังนี้ 1. วิสัยทัศน์ “โรงพยาบาลน่าน บริการ ด้ว ยหั ว ใจ ทันสมัย ที่ทุกคนไว้วางใจ” ท่านเป็น ผู้ ร่ ว มกับทีมผู้บริหาร 30 กว่าคน ไปร่วมก�ำหนด วิสั ย ทั ศ น์ แผนยุทธศาสตร์ของ รพ.น่าน ตั้งแต่ วัน แ ร ก จ น ถึงวันสุดท้าย 3 วันที่พาลันรีสอร์ท อ.เวี ย งสา จ.น่าน ได้ใจพวกเราไปเต็มๆ ท�ำให้ ทีมงานมีความหวังว่า สิ่งที่เราอยากให้เป็นน่าจะ เป็ น ไ ป ไ ด้จริงๆ ภายใต้การน�ำของ ผอ.ท่านนี้ สิง่ ทีเ่ ห็นเชิงประจักษ์ คือ โครงการ “Good Death” “ห้ อ ง สุ ข าวดี” “โครงการบริจาคโลงศพแด่ผู้ที่ ต้อ ง ก า ร ” “โครงการ Paperless” การบริหาร จัด ก า ร บุ คคลที่มีปัญหาเรื้อรังในองค์กร และที่ ส�ำคัญคือผ่าน HA ฉลุย ในเดือนตุลาคม ปี 56 “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 87 ครบวาระราชการ...หมอณุ


2. M a n a g ement By Walking Around เจ้าหน้าที่ทุกคนในรพ.น่าน จะได้พบ ผอ.ท่ า น นี้เดินทักทายผู้ป่วย เจ้าหน้าที่สอดส่อง มองหาปั ญ หาการบริการผู้ป่วยด้วยตนเอง และ เป็น ก�ำ ลั ง ใจมองเห็นความเป็นไปขณะท�ำงาน ทั้ง ใ น เ ว ล า และนอกเวลาราชการ ท่านจึงเป็น ผู้บริหารที่ Management By Fact อาศัยข้อมูล ที่เ ป็ น จริ งในทุกๆ เรื่อง และท่านก็จะให้ความรัก ความเอ็นดูแก่ผรู้ ว่ มงาน ด้วยการ “กอด” จนพวก เราเริ่มชินและบางคนเริ่มกอดท่านตอบบ้างแล้ว 3. ส ร้ า ง ผู้น�ำรุ่นใหม่ เป็นผลงานที่ โดดเด่นอีกอย่างทีต่ อ้ งจารึกไว้ ในอดีตผูอ้ ำ� นวยการ ท่านก่อนๆ จะทราบว่าพวกหมอไม่ค่อยชอบงาน บริหาร จึงให้ทำ� แต่งานบริการ/วิชาการ และท่าน ก็จะ เ ก ร ง ใ จ ในการใช้งานท่านเหล่านั้น จึงต้อง ท�ำงานบริหารเองเกือบทั้งหมด แต่ผอ.พิษณุ เห็น ความจ�ำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพด้านบริหารของ บุคลากรในรพ.น่าน ท่านจึงประกาศตัง้ แต่วนั แรก ๆ ทีม่ าท�ำงานว่า จ�ำเป็นต้องมีผนู้ ำ� รุน่ ใหม่มาบริหาร ต่อ แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่หลายท่าน จึง ได้รบั การวางตัวพัฒนาศักยภาพด้วยการสอนงาน และส่งฝึ ก อบรมพร้อมทั้งให้โอกาสปฏิบัตงิ านใน ต�ำแหน่งต่างๆ ยุคนีจ้ งึ ได้ชอ่ื ว่ามีรองผู้อำ� นวยการ และผูช้ ว่ ยผูอ้ ำ� นวยการมากทีส่ ดุ เป็นประวัตกิ ารณ์ และท่านเหล่ า นั้ นก็มแี ววที่จะเป็นดาวรุ่ง พุ่งแรง เป็นก�ำลังส�ำคัญของโรงพยาบาลน่าน ในอนาคต อย่างแน่นอน 4. มีจดุ ยืนทางการเมืองทีแ่ น่วแน่และ มัน่ คง ซึง่ ท่านได้แสดงออกในทุกทีท่ กุ โอกาสทีจ่ ะ สนับสนุนคนดี และขัดขวางคนชั่วไม่ให้มอี ำ� นาจ ในการปกครองประเทศ ดังทีเ่ ราได้เห็นผลงานของ ท่านทั้งในเวทีระดับจังหวัดและระดับประเทศ มี แฟนเพจ Facebook ทัง้ ประเทศติดตามให้กำ� ลังใจ ท่านมากมาย

88

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

สุ ด ท้ายใน ฐานะเพื่ อ นตั ว น้อยๆ ขอบอกว่าภา คภูมิใจในเพื่อนคนนี้มาก และรู้สึก เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสท�ำงานร่วมกันใน ช่วงเวลาอันมีคณ ุ ค่า 2 ปีนี้ และขออวยพรให้เพือ่ น มีชวี ติ หลังเกษียณทีม่ คี วามสุข มีคณ ุ ค่าต่อสังคม อย่างที่ท่านได้ตั้งใจไว้

พญ.วราภรณ์ เตชะเสนา นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ด้านเวชกรรม (สาขากุมารเวชกรรม)


สารแสดงมุทิตาจิต

“อบอุ่นและเป็นกันเอง” แม้วา่ ผมจะรูจ้ กั พีพ่ ษิ ณุ ขันติพงษ์ มานาน กว่าสิบปี เนื่องจากผมได้ร่วมเป็นคณะกรรมการ อนามัยแม่และเด็กเขต 15-16 (เขตบริการสุขภาพ ที่ 1 ในปัจจุบนั ) ซึง่ พีพ่ ษิ ณุ เป็นประธานกรรมการ อยู ่ ใ นขณะนั้ น และเป็ น ผู ้ ที่ มี ส ่ ว นส� ำ คั ญ ที่ สุ ด ที่ท�ำให้งานอนามัยแม่และเด็กของเขตมีความ ก้าวหน้าโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ในระดับประเทศ รวมทั้งรับทราบถึงผลงานมากมายที่พี่พิษณุได้ สร้ า งไว้ จ นเป็ น ที่ ย อมรั บ ในระดั บ ประเทศ ซึ่ ง ยืนยันได้จากรางวัลเกียรติยศมากมายที่ได้รับ เช่น รางวัลบุคคลดีเด่นสาขาแพทย์ ของชมรม โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป มูลนิธิ นายแพทย์บุญยงค์ วงค์รักมิตร และรางวัล สูติแพทย์ดีเด่น เป็นต้น แต่จากการได้ท�ำงาน เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรงกับพี่พิษณุ ท�ำให้มี โอกาสเห็นผลงานด้านบริหารของพี่พิษณุอย่าง แท้จริง ซึง่ แม้วา่ เป็นผูอ้ ำ� นวยการโรงพยาบาลน่าน ในระยะเวลาไม่นาน แต่ได้ฝากผลงานมากมาย ให้กับโรงพยาบาลน่านและจังหวัดน่าน ซึ่งคงไม่ สามารถกล่าวถึงได้หมดในที่นี้

พี่ พิ ษ ณุ ส ามารถสร้ า งวิ สั ย ทั ศ น์ ข อง โรงพยาบาลน่านขึ้นใหม่ แต่สามารถเชื่อมโยง สอดคล้ อ งกั บ วั ฒ นธรรมองค์ ก รที่ ดี แ ละมี อ ยู ่ แล้วไปสู่การปฏิบัติมากขึ้น นั่นคือวิสัยทัศน์ที่ว่า “บริการด้วยหัวใจ” เกิดนโยบายการเสียชีวติ อย่าง มีศักดิ์ศรี (good death) คือการเสียชีวิตที่ที่บ้าน ไม่ทุกข์ทรมานท่ามกลางสิ่งแวดล้อมและผู้คน อันเป็นที่รัก สนับสนุนให้เกิดกระบวนการดูแล ผู ้ ป ่ ว ยระยะสุ ด ท้ า ยที่ บ ้ า นได้ อ ย่ า งครบวงจร ให้ก�ำลังใจ สนับสนุนและผลักดันให้ เกิดการ พัฒนาระบบ palliative care ร่วมจัดหาอุปกรณ์ ทางการแพทย์เพื่อให้ผู้ป่วยใช้ที่บ้านจนเป็นที่ ยอมรั บ และเห็ น ความส� ำ คั ญ ของประชาชน ทั่วไป องค์กรการกุศลและภาคเอกชนต่างๆ ได้ ร่วมสนับสนุนทุนและอุปกรณ์การแพทย์จ�ำนวน มาก รวมถึงการพัฒนาระบบการดูแลหลังการ เสียชีวิตด้วยการมีกองทุนสุขาวดี พี่พิษณุเน้นย�ำ้ แก่ทุกคนเสมอว่าต้องการให้ประชาชนชาวน่าน มาโรงพยาบาลน่าน ไม่ใช่เพราะไม่มีทางเลือก เนือ่ งจากเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่แห่งเดียวใน “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 89 ครบวาระราชการ...หมอณุ


จังหวัด แต่อยู่ที่ไหนก็อยากให้คิดถึงโรงพยาบาล น่านเพราะการบริการด้วยหัวใจ เป็นมิตรและ อบอุน่ พีพ่ ษิ ณุเป็นผูท้ มี่ มี นุษยสัมพันธ์ทเี่ ยีย่ มยอด ระยะเวลาเกื อ บสองปี ที่ น ่ า นเป็ น ที่ รู ้ จั ก ของ คนน่ า นทุ ก ระดั บ ทั้ ง ภายในและภายนอก โรงพยาบาลมากกว่ า คนที่ อ ยู ่ น ่ า นมานั บ สิ บ ปี เสียอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่นน้องและผู้ใต้บงั คับ บัญชาได้รับการดูแลเอาใจใส่ให้ความเป็นกันเอง ไม่ว่าในหรือนอกเวลาราชการ พี่พิษณุจะเยี่ยม ให้กำ� ลังใจเจ้าหน้าทีท่ กุ หน่วยงานในโรงพยาบาล รวมถึงการไปเยีย่ มแพทย์รนุ่ น้องและเจ้าหน้าทีใ่ น โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง เมื่อนึกถึงเรื่องนี้แทบ ทุกคนจะนึกถึงภาพที่พี่พิษณุโอบไหล่ให้ก�ำลังใจ ส่งรอยยิ้มอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง อย่างไร ก็ตามพี่พิษณุมีสไตล์การท�ำงานการตัดสินใจที่ เด็ดขาด รวดเร็ว รักความยุติธรรม ความถูกต้อง บุคลากรทีม่ ปี ญ ั หาการท�ำงานได้รบั การปรับเปลีย่ น

90

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

โดยเร็ว สิ่งไหนเห็นว่าถูกต้องจะเป็นผู้น�ำในการ ด�ำเนินการโดยไม่ค�ำนึงถึงลาภ ยศ ต�ำแหน่ง พี่พิษณุมีทักษะความเป็นครูสูงมากและมีทักษะ ในการถ่ายทอดไปสู่ผู้อื่น โดยเฉพาะรุ่นน้องและ ผูใ้ ต้บงั คับบัญชา ผ่านการพูด การเขียน หรือสือ่ ด้าน ต่างๆ อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ซึ่งไม่ใช่แต่เรื่องการ แพทย์และสาธารณสุขเท่านัน้ แม้แต่การด�ำรงตน อย่ า งพอเพี ย งก็ เ ป็ น สิ่ ง หนึ่ ง ที่ พี่ พิ ษ ณุ ใ ห้ ค วาม ส�ำคัญ เมือ่ พีพ่ ษิ ณุทราบว่าเจ้าหน้าทีโ่ รงพยาบาล มีการกู้เงินมากก็ได้จัดประชุมพบปะเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลหลายรุน่ จนครบ และพบปะเฉพาะผูม้ ี ปัญหาอีกหลายครั้ง เพื่อให้แนวคิดในการด�ำเนิน ชีวิต ท�ำให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าผู้บริหารให้ความ ส�ำคัญ โรงพยาบาลน่านมีผู้อ�ำนวยการที่เป็น แบบอย่ า งต่ อ เนื่ อ งกั น มาหลายรุ ่ น โดยเฉพาะ อาจารย์ น ายแพทย์ บุ ญ ยงค์ วงค์ รั ก มิ ต ร ปูชนียบุคคลทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ได้ วางรากฐานและเป็นแบบอย่างที่ดี และพัฒนา ต่อเนือ่ งมาถึงพีค่ ณิต ตันติศริ วิ ทิ ย์ และพีน่ วิ ตั ชัย สุ จ ริ ต จั น ทร์ พี่ พิ ษ ณุ เ ป็ น ผู ้ อ� ำ นวยการ โรงพยาบาลน่านคนแรกในรอบกว่าสี่สิบปี ที่ไม่ เคยท�ำงานทีโ่ รงพยาบาลน่านมาก่อน แต่สามารถ เชือ่ มต่อ ต่อเติม และพัฒนาสิง่ ทีด่ ขี ององค์กรต่อจาก ผูน้ ำ� รุน่ ก่อนๆ ให้กา้ วหน้าต่อๆ ไปได้เป็นอย่างดี ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าหลังเกษียณ ราชการ พีพ่ ษิ ณุ ยังมีพลังกาย พลังใจ พลังสมอง และยังท�ำประโยชน์ให้กับวงการสาธารณสุขและ ประเทศชาติได้อีกมาก ขออ�ำนาจสิ่งศักดิ์สิทธ์ ในสากลโลกและคุณความดีที่พี่ได้กระท�ำมาได้ อ�ำนวยพรให้พี่พิษณุและครอบครัว มีความสุข ความเจริญ มีพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงตลอดไป ​​​​​​นพ.ปิยะพงษ์ จงรักษ์ รองผู้อ�ำนวยการฝ่ายการแพทย์ รพ.น่าน


สุปราณี ยะวิญชาญ

นพพร ธนามี

กอบกุล สุคนธวารินทร์

กัลยา ผลบุญ

ด้วยจิตคารวะ..... นายแพทย์พิษณุ ขันติพงษ์ นักบริหารมืออาชีพที่แกร่งกล้า ท่านพัฒนางานด้วยใจให้สืบสาน Walk around เป็นหลักการที่ท�ำงาน ตราบชั่วกาลยึดมั่นนิรันดร์เอย พว.นพพร ธนามี รองผู้อ�ำนวยการฝ่ายการพยาบาล รพ.น่าน 2 ปีส�ำหรับกาลเวลาที่ผ่านมา ได้ท�ำงานร่วมกับท่านผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน นายแพทย์ พิษณุ ขันติพงษ์ ขอชื่นชมด้วยใจว่าท่านเป็นผู้บริหารขั้นเทพ ที่เข้าถึงง่าย เข้าใจคน พว.สุปราณี ยะวิญชาญ รพ.น่าน ท่านผอ.พิษณุ ขันติพงษ์ เป็นผู้บริหารที่ยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง ทุกๆ สิ่งที่ท่านคิด หรือกระท�ำท่านจะชวนใ ห้ พ ว ก เราชาวรพ.น่านมองในมุมของผู้ป่วยเป็นล�ำดับแรกเสมอ เป็นผู้บริหารที่ เก่งคิด เก่งงาน และที่ เ ก่ งมากๆ คือ เก่งคน ท�ำให้โรงพยาบาลน่านพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจนเป็นที่ ยอมรับอย่างกว้างขวาง แม้ว่าระยะเวลาที่ท่านมาด�ำรงต�ำแหน่งเพียง 2 ปี ท่านจะอยู่ในความทรงจ�ำของ ชาวโรงบาลน่านตลอดไป ในโอกาสที่ท่านเกษีย ณ อายุราชการ ขอกราบอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โปรดจงอ�ำนวยอวยพรให้ท่ านและครอบครัว จงประสพแต่ความสุขความเจริญ และเป็นก�ำลังส�ำคัญใน การช่วยพัฒนาประเทศชาติให้จริญรุ่งเรือง ด้วยความเคารพ พว.กัลยา ผลบุญ “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 91 ครบวาระราชการ...หมอณุ


สารแสดงมุทิตาจิต

เดิมทีร่ ู้จกั ท่านผอก.พิษณุ ขันติพงษ์ และพวกเราชาวอนามัยแม่และเด็กจะเรียกกันติดปาก ว่า “คุณหมอณุ” ในฐานะทีท่ ่านเป็นประธาน MCH Borad เขต 15,16 (เดิม) ท่านจะท�ำงานอย่างมุ่งมัน่ เกินร้อยในการพัฒนาอนามัยแม่และเด็ก จนเป็นทีป่ ระจักษ์และยอมรับนับถือของชาวสาธารณสุข 2 ปี ที่ท่านมาเป็นผู้อำ� นวยการโรงพยาบาลน่าน เป็นตัวอย่างที่ดีในหลายๆ ด้าน เช่น การเป็นแพทย์ที่ดี เป็นนักประสานสิบทิศ การปลูกฝังให้เราเป็นข้าราชการทีด่ ี (ทุกวันจันทร์ ต้องน�ำทีมสวมใส่เครือ่ งแบบ) เป็นข้าของแผ่นดิน ยึดมัน่ ในความซีอ่ สัตย์ ความถูกต้อง ตามระเบียบกฎเกณฑ์ ทุกปัญหาท่านสามารถ ช่วยเหลือพวกเราได้ (ที่สำ� คัญท่านจะรู้ปัญหาก่อนพวกเราเสมอ) ท่านมีโอกาสมักจะสอนทีมบริหาร การพยาบาลอยูเ่ สมอว่า ให้ยดึ หลักธรรมาภิบาล โปร่งใส ยึดผูป้ ว่ ยเป็นศูนย์กลาง ตลอดจนข้อคิด ต่างๆ ในการท�ำงานให้ใช้หลักธรรมะมาแก้ไขปัญหา ทุกอย่างเป็นเชิงป้องกัน ท่านพร้อมรุก! ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสวมหมวกกันน็อก การรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ ไม่กินของดิบๆ สุกๆ ตลอดจนการป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ล้วนเป็นความ ปรารถนาดีของท่านต่อชาวจังหวัดน่าน ที่ไม่อยากให้คนน่านต้องป่วยเป็นโรค มีสุขภาพที่แข็งแรง ตลอดไป ท่านอาทรทุกเรือ่ งแม้กระทัง่ ในวาระสุดท้ายของชีวติ ผูป้ ว่ ยให้มคี วามสุข โดยปรับปรุงห้องเก็บศพ ให้น่าอยู่ ชื่อว่า “ห้องสุขาวดี” ซึ่งเป็นความภาคภูมใิ จที่ชาวรพ.น่านไม่เคยลืม ท่านจะจุดประกายคนน่านด้วยเสียงเพลง “น่านนะซิ” จะได้ยนิ ทุกครัง้ ทีม่ แี ขกมาเยือน และ เมื่อมีโอกาส ท�ำให้เรารักเมืองน่านมากยิ่งๆ ขึ้นไป อยากให้ท่านอยู่เมืองน่าน น๊าน นาน และโอกาสที่ ท่านเกษียณอายุราชการ ก็ขออ�ำนาจสิง่ ศักดิส์ ทิ ธิท์ งั้ หลายในจังหวัดน่าน โปรดคุม้ ครองท่านให้ มีอายุ วรรณะ สุขะ พลานามัยที่แข็งแรงตลอดไป เจ้า... พว.กอบกุล สุคนธวารินทร์

92

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน


สารแสดงมุทิตาจิต

เมื่อถึงวันเวลาฟ้าก็เปลี่ยน ต้องอ�ำลาจากกันแสนอาลัย คุณความดีประจักษ์เป็นหลักฐาน พัฒนาชาติไทยให้ยืนยง ระยะทางจักเป็นเครื่องพิสูจน์ม้า ผ่านร้อนเย็นอุปสรรคมามากมาย ขออัญเชิญพระไตรรัตน์มาปกป้อง เกียรติภูมจิ ะปรากฏเป็นหลักเรือน

กาลเกษียณเวียนมาน่าใจหาย แต่สายใยความผูกพันยังมั่นคง ตรากตร�ำงานอย่างซื่อสัตย์มิไหลหลง เกียรติด�ำรงก้องปรากฏมิวางวาย วันเวลาบอกคุณค่าของคนได้ ความดีงามที่สร้างไว้มมิ ีเลือน จงคุ้มครองให้มสี ุขหาใครเหมือน คอยย�ำ้ เตือนตราตรึงตราบนิรนั ดร์

ขอขอบคุณ กลอนวันเกิด โดยคุณ doohub จาก toursisaket.com

คนดี มีคุณค่า แบบอย่างของ “ความกล้าหาญ” ผมเข้ามาท�ำงานโรงพยาบาลน่าน ตัง้ แต่ ปลายปีพ.ศ.2547 นับถึงปัจจุบันก็เป็นเวลา 8 ปี (ไปปฏิบัติงานสสจ.น่าน 2 ปี) ได้มีโอกาสท�ำงาน ร่วมกับท่านผู้อำ� นวยการจ�ำนวน 3 ท่าน ซึ่งแต่ละ ท่านมีรปู แบบการท�ำงานทีแ่ ตกต่างกัน เมือ่ ปีพ.ศ. 2547 ผมท�ำงานร่วมกับ ท่านนายแพทย์คณิต ตั น ติ ศิ ริ วิ ท ย์ ท่ า นเป็ น คนที่ บ ริ ห ารงานแบบ พอเพียง มีความละเอียดรอบคอบ มีความเป็น ห่วงใยผู้ใต้บังคับบัญชามาก เป็นแบบอย่างที่ดี ส�ำหรับการรู้จกั ใช้ชีวิตแบบพอเพียง ท่านต่อมาปี พ.ศ.2552 ได้ทำ� งานร่วมกับนพ.นิวตั ชัย สุจริตจันทร์ ซึ่งท่านเป็นคนท�ำงานรวดเร็วมาก ท่านพยายาม ท� ำ ทุ ก อย่ า งให้ บุ ค ลากรภายในโรงพยาบาลมี อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ และสถานที่ทำ� งาน สะดวก สบาย พบท่านที่ไหน พูดคุยปรึกษาได้ ทุกเรื่อง เป็นคนที่ให้เกียรติคนสูงมาก ​ส�ำหรับท่านผู้อ�ำนวยการท่านปัจจุบัน (น า ย แพทย์พิษณุ ขันติพงษ์) ท่านเป็นคนที่มี ทักษะในการสือ่ สารด้วยการพูดทีเ่ ก่งมาก มีความ เชีย่ วชาญด้านการปฏิสมั พันธ์ทางสังคมสูง ถือว่า เป็ น ยุคที่โรงพยาบาลน่านเปิดสู่สังคมภายนอก อย่ า งเต็มตัว ท่านน�ำพาโรงพยาบาลน่านมุ่งสู่ ชุมชน งานส่งเสริมป้องกันเป็นเยีย่ ม เป็นท่านหนึง่

ที่ สังคมเมืองน่าน ให้ความเคารพ นับถือ เป็น แบ บ อ ย่างให้กับเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลน่าน ในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะความกล้าหาญที่จะ ปร ะ ก าศตัวเป็นศัตรูกับความไม่ถูกต้อง โดยไม่ เก ร ง กลัวอ�ำนาจมืด ซึ่งผมประทับใจอย่างมาก ผม รู้สึกเสียดายความรู้ ความสามารถของท่าน ซึ่ ง ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่ โรงพยาบาลน่านจะได้ คนดีมีคณ ุ ค่าอย่างท่านมาท�ำงานอีก ​ ในโอกาสที่ท่าน จะเกษียณอายุราชการ ในวันที่ 30 กันยายน 2557 นี้ ด้วยบุญบารมีทที่ า่ น ได้กระท�ำอันเป็นกุศลแก่คนจังหวัดน่าน ขอบุญนัน้ จงดลบันดาลให้ท่านและครอบครัว มีความสุขใจ สบายกาย ปรารถนาสิ่งใด อันเป็นบุญ เป็นกุศล จงส�ำเร็จทุกประการ

น​ ายร่วมศักดิ์ ยะใหม่วงศ์ รองผู้อ�ำนวยการฝ่ายบริหาร รพ.น่าน “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 93 ครบวาระราชการ...หมอณุ


สารแสดงมุทิตาจิต

ภาคภูมิใจที่มีผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน ชื่อ นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ มีแพทย์รนุ่ พีท่ า่ นหนึง่ เคยกล่าวว่า บุคคล เมือ่ เกษียณอายุราชการไปแล้ว ไม่มอี ะไรเหลืออยู่ ทัง้ ลาภ ยศ ต�ำแหน่ง ผูค้ นทีห่ อ้ มล้อม แต่คงเหลือ ป ระวัติการท�ำงาน ประสบการณ์ไว้ให้เพื่อคน รุ่นหลังได้เรียนรู้ และรุ่นน้องที่เคารพนับถือมาขอ ค�ำชี้แนะ ​ เรื่ อ งราวการท� ำ งานของ พี่ ณุ หรื อ นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ เป็นเรื่องราวที่น่าเรียนรู้ ซึ่ง ควรจะบันทึกไว้เพือ่ ให้ แพทย์หรือเจ้าหน้าทีว่ งการ แ พทย์-สาธารณสุขรุ่นหลังได้รับรู้ เพื่อเป็นแบบ อย่างของการเป็น ผู้น�ำ ผู้บริหาร-จัดการ นักการ สาธารณสุข เป็นครู และเป็นพี่ที่ดี เสียดายว่าผม มีส่วนร่วมในการบันทึกประวัติชีวิตของพี่ณุได้ เพียงแค่ 2 ปีที่ร่วมงานกัน แต่กเ็ ป็น 2 ปี แห่งการ เรียนรูท้ นี่ า่ จดจ�ำ จึงขออนุญาตน�ำเรือ่ งราวมาเล่า สู่กันฟังไว้ ณ ที่นี้ ​ ( ผ ม คิ ด อ ยู ่ ตั้ ง น า น ว ่ า จ ะ เ รี ย ก ว ่ า นายแพทย์พษิ ณุ หรือ หมอพิษณุ หรือพี่ณุ ดี แต่ ด้ ว ยความสนิ ท สนมและเคารพรั ก จึ ง ขอใช้ สรรพนามเรียกชื่อว่าพี่ณุ เพื่อแสดงถึงความเป็น พี่ชายที่น่าเคารพนับถือของแพทย์รพ.น่าน)

94

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

หมอณุ ผู้บริหารที่น่าประทับใจ ​ ก่ อ นที่ พี่ ณุ จะมาเป็ น ผู ้ อ� ำ นวยการที่ โ รงพยาบาลน่าน มีแต่คนถามว่าใครจะมาเป็น ผอ.คนใหม่ เมื่อพี่แอ๊ว (พญ.วราภรณ์ เตชะเสนา) บ อกว่ า อาจจะเป็ น นพ.พิ ษ ณุ ขั น ติ พ งษ์ ร องผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชา นุเคราะห์ ก็มแี พทย์ทรี่ จู้ กั พีณ ่ ุ หลายคนทีด่ ใี จ และ บอกว่าถ้ามาจริงก็เป็นโชคดีของโรงพยาบาลน่าน เมื่อพีณ ่ มุ าท�ำงานจริงๆ ทุกคนก็คิดตรงกันว่าเป็น โชคดีของโรงพยาบาลน่านจริงๆ ดังที่มีครั้งหนึ่ง ที่อาจารย์บญ ุ ยงค์ วงศ์รักมิตร เคยพูดว่า “ฟ้าส่ง หมอพิษณุมาให้โรงพยาบาลน่าน เพื่อมาพัฒนา โรงพยาบาลน่าน” ​ใครที่ ไ ด้ พ บปะพู ด คุ ย กั บ พี่ พิ ษ ณุ แ ล้ ว คงอดทีจ่ ะรู้สกึ ประทับใจในความคิด และมุมมอง ที่กว้างไกลไม่ได้ และเมื่อพูดคุยแล้วก็จะจากไป ด้วยความรูส้ กึ ดี คงเป็นเพราะพีพ่ ษิ ณุเป็นผูบ้ ริหาร ทีใ่ ห้เกียรติผ้อู นื่ รับฟังความคิดเห็นของผู้ร่วมงาน แ ล ะชื่นชมการท�ำงานของคนอื่น แต่ถ้าจะติก็ติ แบบแนะน�ำให้ความเห็นเพือ่ การพัฒนามีจติ วิทยา ในการพูดสูง เหมือนว่าจะคิดกลั่นกรองอยู่ตลอด


เวลาในทุกค�ำที่พูด แต่ก็พูดได้แบบเป็นธรรมชาติ ซึ่งผมเข้าใจว่าเพราะความเป็นตัวของพี่ณุเองที่ เ ข้าอกเข้าใจผู้อื่นและให้เกียรติผู้อื่น จึงใช้ค�ำพูด ได้เหมาะสมทุกครั้งในการพูดคุยและการประชุม ผู้น�ำตามธรรมชาติ ​พีณ ่ เุ คยบอกว่าผูน้ ำ� มีหลายอย่าง ผมเชือ่ ว่ าพี่ณุจัดเป็นผู้น�ำตามธรรมชาติ เพราะมีความ ส า มารถของผู้น�ำที่ดีก็คือ เป็นผู้ที่คนอื่นอยาก เดินตาม ในช่วงแรกทีม่ าท�ำงานในฐานะผู้อำ� นวย การโรงพยาบาลน่าน พี่ณุจะให้แนวคิด หลักคิด ใ น การท�ำเรื่องต่างๆ ก่อนที่จะคุยไปถึงในราย ละเอียดของเรือ่ งนัน้ ๆ ซึง่ ถือว่าเป็นบทบาทส�ำคัญ ทีผ่ นู้ ำ� พึงท�ำคือ การชีท้ ศิ ทางทีถ่ กู ต้องให้กบั ผูร้ ว่ มทาง ด้วยความทีพ่ ณ ี่ เุ ป็นคนทีเ่ ห็นประโยชน์ของผู้ป่วย แ ล ะชาวบ้านเป็นที่ตั้ง ดังนั้นการชี้ทิศทางต่างๆ จึงท�ำให้การก�ำหนดแนวทางการท�ำงานเป็นไปได้ ง่ ายและการประชุมเป็นไปได้ง่าย เพราะจะไม่ไป ในทิศทางที่ผลประโยชน์ของประชาชนจะเสียไป

​ พี่ ณุ สื่ อ สารได้ อ ย่ า งเป็ น ธรรมชาติ ทั้ ง ผ่ านเฟสบุค ไลน์ต่างๆ ด้วยเรื่องราวการท�ำงาน ในแต่ละวัน และชี้น�ำแนวคิดผ่านสื่อออนไลน์ให้ เ จ้าหน้าที่ได้รับทราบได้อย่างต่อเนื่องเป็นประจ�ำ ท�ำ ให้ทุกคนในโรงพยาบาลโดยเฉพาะหัวหน้า งานได้รับรู้สไตล์ของผู้บริหาร และสามารถน�ำไป ประกอบกับการตัดสินใจในการท�ำงานของแต่ละ คนแต่ละฝ่ายได้ บริหารองค์กรแพทย์ เรือ่ งยากทีเ่ ป็นเรือ่ งง่าย น่ าสนใจว่ า การบริ ห ารองค์ ก รแพทย์ ใครๆ ว่าเป็นเรื่องยาก แต่พี่ณทุ �ำให้เป็นเรื่องง่าย ด้ ว ยการเข้ า ประชุ ม องค์ ก รแพทย์ เ ป็ น ประจ�ำ ทุก สัปดาห์ ถ้าไม่ติดภารกิจเร่งด่วน และชี้น�ำ แนว คิดต่างๆ เสนอแนะความเห็นผ่านประธาน องค์กรแพทย์ ซึ่งคือพี่แอ๊ว ด้วยความที่พี่แอ๊ว นับถือพี่ณุอยู่แล้ว และมีส่วนในการเชิญชวนพี่ณุ มาท�ำงานที่น่าน พี่แอ๊วซึ่งเป็นแพทย์อาวุโสที่ แพทย์รุ่นน้องนับถือ จึงสามารถน�ำแนวคิดของ ผู้อ�ำนวยการในหลายๆ เรื่องมาบริหารแพทย์ได้ “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 95 ครบวาระราชการ...หมอณุ


ไม่ยากอย่างที่คิด ดังตัวอย่างเช่น พี่ณุบอกว่า ใน เวรห้องฉุกเฉินทุกเวรจะต้องมี staff รุ่นพี่ดูแล ไม่ใช่มแี ต่ intern รุน่ น้อง ซึง่ ตอนแรก แพทย์หลาย คนก็บอกท�ำไม่ได้ แต่เมือ่ เป็นนโยบายผูอ้ ำ� นวยการ (ทีท่ กุ คนศรัทธา) เรือ่ งนีก้ ท็ ำ� ได้ เพราะพีณ ่ ขุ อให้ทำ� ไม่ใช่บังคับให้ท�ำ และเพราะเป็นสิ่งที่พึงท�ำด้วย แต่ในหลายๆ เรื่อง พี่ณุก็เข้าใจว่าภาระงานของ แพทย์ในโรงพยาบาลน่านมีมาก จึงไม่ได้เรียกร้อง หรือรีดประสิทธิภาพของแพทย์มากขึ้นไปอีก ด้ ว ยความที่ เ ป็ น คนสบายๆ พี่ ณุ จึ ง ทักทาย เข้าไปคุยกับแพทย์รนุ่ น้องทุกคนอย่างเป็น กันเอง จ�ำชื่อแพทย์ทกุ คนได้ พี่ณุมักจะเดินไปที่ ห้องตรวจผู้ป่วยนอก ห้องฉุกเฉิน ตึกผู้ป่วยใน ทั้ ง ในเวลาราชการและนอกเวลาราชการเพื่ อ ทักทายน้องแพทย์ และสอบถามสาระทุกข์สุขดิบ และส่ ว นหนึ่ ง เพื่ อ รวบรวมปั ญ หา และเข้ า ใจ ปั ญ หาของการบริ ก ารที่ แ ออั ด และน� ำ ไปหา แนวทางแก้ปญ ั หา เช่น ในการเดินเยีย่ มตึกผูป้ ว่ ยใน ก็พบว่ามีผปู้ ว่ ยแผลกดทับหลายคนในตึกเดียวกัน ท�ำให้นดั ประชุมหลายฝ่ายเพือ่ ก�ำหนดแนวทางใน การลดแผลกดทับ โดยให้ศกึ ษาข้อมูลก่อนว่าเป็น จากแผลกดทับในโรงพยาบาล หรือที่บ้าน พบว่า มีทั้ง 2 ส่วน จึงให้จัดซื้อที่นอนลมไฟฟ้าจ�ำนวน 20 ตัวเพิ่มจากเดิมมีอยู่แล้ว และกระจายไปตาม

96

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ตึกที่มักจะมีผู้ป่วยที่เสี่ยง และมีทีมดูแลอุปกรณ์ ดังกล่าว รวมทั้งขอรับบริจาคจากสโมสรโรตารี่ เพิม่ เพือ่ น�ำมาใช้กบั ผูป้ ว่ ยทีบ่ า้ นด้วย น่าสนใจว่า เคยนั่งคุยกับแพทย์หลายคนที่บางครั้งอาจจะ ไม่เห็นด้วยกับผู้อ�ำนวยการในบางประเด็น แต่ ทุกคนจะลงท้ายด้วยชืน่ ชมพีณ ่ ใุ นเรือ่ งต่างๆ และ ก็ยอมท�ำตามทีพ่ ณ ี่ เุ สนอต่อไป นัน่ คือพีณ ่ สุ ามารถ เข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจของแพทย์ทกุ คนได้แล้ว งานสร้างเสริมสุขภาพ...เริ่มต้นที่ตัวเองเป็น แบบอย่าง ​ พี่ณุบอกว่าเราจะบอกให้คนอื่นท�ำ เรา ต้องท�ำตัวเราให้ได้กอ่ น พีณ ่ ตุ นื่ แต่เช้าปัน่ จักรยาน ออกก�ำลังกายและไปใส่บาตรทุกเช้า และได้เรียนรู้ ปัญหาของชุมชน และน�ำมาเล่าให้ฟังเพื่อแก้ ปัญหาเป็นประจ�ำ เช่น ไปสังเกตว่ามีแหล่งมัว่ สุม ข องเด็ ก วั ย รุ ่ น ที่ ไ หน มี ช าวบ้ า นเล่ า ให้ ฟ ั ง ว่ า หลอดไฟแตกเพราะวัยรุน่ ยิงหนังสติก๊ แตก และมา พลอดรักกันที่นั่น ซึ่งท�ำให้ได้ข้อมูลมาพูดคุยและ หาแนวทางแก้ปัญหาต่อ ​ เรื่ อ งสุ ข ภาพเจ้ า หน้ า ที่ พี่ ณุ ไ ด้ บ อก น โยบายว่าเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลน่านต้อง เ ป็ น แบบอย่ า งไม่ สู บ บุ ห รี่ ทั้ ง ในและนอก โ รงพยาบาล โดยให้น�ำเจ้าหน้าที่ที่สูบบุหรี่มา


เลิกบุหรี่ในคลินิกเลิกบุหรี่ทุกคน และใครที่เลิกได้ จ ะได้พิจารณาความดีความชอบเป็นกรณีพิเศษ ในรอบนั้น ​ เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลน่านต้องใส่ ห มวกกันน๊อกขณะขับขี่ทุกคน ทั้งกลางวันและ กลางคืน ทัง้ ในและนอกโรงพยาบาล เป็นนโยบาย ที่ผอ.พิษณุบอกกับเจ้าหน้าที่ทุกคน โดยก�ำชับ ห ลายครั้งและมีบทลงโทษถึงลดการพิจารณา ค วามดี ค วามชอบลง 0.5 % จนเจ้ า หน้ า ที่ โ รงพยาบาลน่านใส่หมวกกันน๊อก 100 % และ ประชาชนทีส่ วมหมวกกันน๊อกขับขีเ่ ข้ามารพ.น่าน 92.8 % เมือ่ ด�ำเนินการในเจ้าหน้าทีแ่ ละผูข้ บั ขีเ่ ข้ามา ในโรงพยาบาลส�ำเร็จ พี่ณุจึงได้ขบั เคลื่อนต่อโดย หลังจากได้มโี อกาสถวายรายงานเรือ่ งปัญหาการ ใส่หมวกนิรภัยในจังหวัดน่านแก่สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงได้ อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเทพฯ ซึ่ ง ทรงถื อ หมวกกั น น๊ อ ก และขอพระราชทาน อนุญาตให้ตดิ ป้าย “ด้วยพระมหากรุณาธิคณ ุ เรา ชาวน่านพร้อมใจใส่หมวกกันน๊อก” ซึง่ ได้ประสาน กั บ ผู ้ บั ง คั บ การต� ำ รวจจั ง หวั ด น่ า น และขอ สนับสนุนค่าป้ายจากห้างร้าน จึงได้ตดิ ป้ายขึน้ ทัว่ จั ง หวั ด น่ า นเพื่ อ เป็ น การรณรงค์ ใ ห้ ค นน่ า นใส่ หมวกกันน๊อกกันมากขึ้น

รวมทัง้ พีณ ่ ไุ ด้ออกไปให้ความรูท้ โี่ รงเรียน มัธยม โดยน�ำกรณีตัวอย่างผู้ป่วยเยาวชนหญิง อ ายุ 17 ปีที่เมาสุราและไม่สวมหมวกกันน๊อก ที่นอนไอซียูไปเล่าให้ฟัง และขอความร่วมมือกับ ผูอ้ ำ� นวยการโรงเรียนในการตรวจตรา จากการส�ำรวจ ที่แยกจราจร พบว่าประชาชนสวมหมวกกันน๊อก เพิ่มขึ้นจาก 40.6 % ในปีพ.ศ.2555 เป็น 70.9 % ในปีพ.ศ.2557 มีความเป็นครูอยู่ในหัวใจเสมอ ​ ทุกครัง้ ทีม่ กี ารออกไปนอกพืน้ ที่ ทัง้ คุยกับ นักเรียน คุยกับครู หรือชาวบ้าน พี่ณุมักจะหา เ วลาออกไปร่ ว มให้ ข ้ อ คิ ด ให้ ค วามรู ้ เ สมอ ค งเพราะมีความเป็นครูอยู่ในหัวใจ ห่วงใยและ อยากจะแก้ปญ ั หา การทีผ่ บู้ ริหารระดับสูงออกไป ร่วมกิจกรรมข้างนอกโรงพยาบาลบ้าง นับเป็น ข วัญก�ำลังใจให้คนท�ำงาน และท�ำให้หน่วยงาน อื่นๆ เห็นว่าเรื่องนี้มีความส�ำคัญ ​ เป็นเพราะไม่ต้องกังวลในการไปต้อนรับ ผู้หลักผู้ใหญ่ของกระทรวงฯ ท�ำให้พี่ณุมีเวลาให้ กับการท�ำงานกับชุมชนค่อนข้างมาก และด้วย ค วามสนใจในเรื่องของงานสร้างเสริมสุขภาพ ท�ำให้พี่ณุจัดสรรเวลาให้กับการท�ำงานร่วมกับ หน่วยงานอื่นๆ “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 97 ครบวาระราชการ...หมอณุ


98

งานอาหารปลอดภัย เรื่องแรกๆ ที่เริ่มท�ำ ​ ด้วยความทีโ่ รงพยาบาลเชียงรายประชา นุเคราะห์ที่พี่ณุเคยท�ำงาน มีชื่อเสียงด้านอาหาร ป ลอดภัยในโรงพยาบาล ดังนั้น พี่ณุจึงได้ขับ เ คลื่อนงานอาหารปลอดภัยในโรงพยาบาลน่าน โดยการให้โรงครัวสัง่ ซือ้ ข้าวจากโรงสีพระราชทาน ในสมเด็จพระเทพฯ 100% ซึ่งเป็นข้าวปลอดสาร เคมี และสัง่ หมูอนามัยซึง่ เลีย้ งโดยชุมชน ทีล่ ดการ ใ ช้สารเคมี และให้มีการสั่งซื้อผักปลอดสารพิษ จ ากชุมชนต่างๆ ในจังหวัดน่าน เพื่อเป็นการ สนับสนุนชุมชนอีกทางหนึ่ง

ค รอบครั ว เสนอ และขอสนั บ สนุ น เครื่ อ งผลิ ต ออกซิเจนจ�ำนวน 100 ตัว ที่นอนลมไฟฟ้า 20 ตัว จากสโมสรโรตารี่ เพือ่ น�ำมาให้ผปู้ ว่ ยถุงลมโป่งพอง และอัมพาตติดเตียงใช้ทบี่ า้ น จนน�ำไปสูก่ ารจัดตัง้ ศูนย์ให้ยืมอุปกรณ์ฯ ของเขตเทศบาลเมืองน่าน แ ละของบประมาณองค์การบริหารส่วนจังหวัด น่าน จัดซื้อเพื่อใช้ในเขตจังหวัดน่าน และก�ำลัง ขยายไปสู่องค์การบริหารส่วนต�ำบลและเทศบาล ทั้งจังหวัดน่าน ซึ่งจะท�ำให้ผู้ป่วยที่มีฐานะไม่ดี สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ทใี่ ช้ดแู ลทีบ่ า้ นได้ครบถ้วน ต่อไป

ก ารตั้ ง ศู น ย์ ใ ห้ ยื ม อุ ป กรณ์ เ พื่ อ ดู แ ลผู ้ ป ่ ว ย ที่บ้าน ​ พี่ณุเป็นหลักส�ำคัญที่ท�ำให้เกิดศูนย์ให้ ยื ม อุ ป กรณ์ เ พื่ อ การดู แ ลผู ้ ป ่ ว ยที่ บ ้ า น โดย ส นับสนุนงบประมาณของโรงพยาบาลน่านเพื่อ จัดซือ้ อุปกรณ์ เช่น เตียงฟาวเลอร์ ทีน่ อนลมไฟฟ้า เ ครื่ อ งฉี ด มอร์ ฟ ี น เข้ า ใต้ ผิ ว หนั ง เครื่ อ งผลิ ต อ อกซิเจน เพื่อใช้กับผู้ป่วยระยะสุดท้าย ตามที่ พ ญ.วาลิ ก า รั ต นจั น ทร์ แพทย์ เ วชศาสตร์

เป็นนักสื่อสารประชาสัมพันธ์ตัวยง ​ในทุ ก วั น พฤหั ส จะเห็ น ภาพพี่ ณุ ใ น f a cebook ที่ออกรายการวิทยุของสถานีวิทยุแห่ง ประเทศไทยประจ�ำจังหวัดน่าน และเคเบิล้ ท้องถิน่ ทุกสัปดาห์ เพือ่ น�ำเรือ่ งราวดีๆ ทีโ่ รงพยาบาลน่าน ได้ทำ� ไปเล่าสูก่ นั ฟัง และรับฟังข้อแนะน�ำติชมจาก ผูฟ้ งั ทางบ้านมาพัฒนาโรงพยาบาล และน�ำเรือ่ งราว ข อ งผู้ป่วยที่สามารถป้องกันได้ ไปสื่อสารให้เกิด การป้องกันโรคในชุมชน ผมสัมผัสได้วา่ พีณ ่ ไุ ม่ได้มา

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน


เ พ ราะจ� ำ เป็ น ต้ อ งมาในฐานะผู ้ อ� ำ นวยการ โ ร งพยาบาลน่าน แต่มาออกรายการวิทยุด้วย ความสุขทีอ่ ยากมาแบ่งปันแง่คดิ และให้ขอ้ มูลกับ สั งคมการประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ นอก โรงพยาบาล ​น่าแปลกใจว่าผมท�ำงานในจังหวัดน่าน ม า 20 กว่ า ปี แต่ รู ้ จั ก คนในหน่ ว ยงานนอก โ ร งพยาบาลน่านน้อยกว่าพี่พิษณุซึ่งท�ำงานมา เพียง 2 ปี ซึง่ แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการ เข้าสังคม การรับความช่วยเหลือและการให้ความ ช่ วยเหลือกับหน่วยงานอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี ด้วย ความทีเ่ ป็นนักสังคมตามธรรมชาติ ท�ำให้พพี่ ษิ ณุ มี เพื่อนอกวงการสาธารณสุข และนอกวงการ ราชการจ�ำนวนมาก ทีส่ ามารถดึงมาช่วยเหลืองาน โรงพยาบาลน่านได้ ​ดั ง เช่ น เมื่ อ ต้ อ งการจั ด ตั้ ง กองทุ น แก้ ปั ญหาหมวกนิรภัยในจังหวัดน่าน ก็สามารถ หาเงินมาจ�ำนวน 300,000 บาท จากผูส้ นใจท�ำบุญ แ ล ะร่วมกับบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัย จ า กรถในการจัดหาหมวกกันน๊อกที่มีมาตรฐาน ราคา 100 บาท และมีรูปปู่ม่านย่าม่านกระซิบรัก บันลือโลกติดไว้ทหี่ มวกกันน๊อก เพือ่ รณรงค์ให้คน น่าน โดยเฉพาะเด็กนักเรียนน่านใส่กนั ตลอดเวลา

ขันติพงษ์ และเชื่อว่าชาวจังหวัดน่านส่วนใหญ่ก็ ค งรู้สึกเช่นกัน ในโอกาสที่พี่ณุก�ำลังจะเกษียณ อ ายุ ราชการในช่วงเดือนกันยายน พ.ศ.2557 นี้ แม้จะเสียดายเพียงใด แต่พณ ี่ กุ ต็ อ้ งอ�ำลาจากชีวติ ราชการทีโ่ รงพยาบาลน่าน แต่เชือ่ ว่าพีณ ่ ยุ งั คงเป็น ที่ ป รึ ก ษาให้ กั บ โรงพยาบาลน่ า น และวงการ สาธารณสุขต่อไป ​มี คนถามว่าผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาล น่านคนต่อไปเป็นใคร อาจจะไม่ส�ำคัญ เพราะว่า โรงพยาบาลน่านได้มวี ัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็ง ที่ว างรากฐานอิฐก้อนแรก ตั้งแต่อาจารย์นาย แพทย์บุญยงค์ วงศ์รกั มิตร มาต่อเติมเสา ก�ำแพง ที่น พ.คณิต ตันติศิริวิทย์ และมาใส่หลังคาที่ น พ .นิวัตชัย สุจริตจันทร์ จนมาตกแต่งอย่าง สวยงามในสมัยนพ.พิษณุ ขันติพงษ์ เชื่อว่าถ้ามี ผู้อ�ำนวยการคนใหม่ที่ดี ย่อมจะสามารถต่อเติม เ ส ริมแต่งความงดงามต่อไปได้ แต่ถา้ มีผอู้ �ำนวย ก า รที่มีปัญหามา วัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็ง ย่ อมเป็นเกราะที่ดีส�ำหรับผู้ที่จะมาท�ำลาย และ เขาคงจะอยู่ไม่ได้ แต่เชื่อว่าวัฒนธรรมองค์กรที่ดี ย่ อมสามารถสร้างและเปลี่ยนแปลงคนใหม่ที่ เ ข้ามาเพื่อปฎิบัติตามธรรมเนียมปฎิบัติที่ดีของ โรงพยาบาลน่านต่อไป

ท�ำไมใครๆ ก็รัก ​ ค งเป็นเพราะพี่ณุให้เกียรติทุกคน ให้ เ กี ยรติคนท�ำงาน ในการประชุมทุกครั้ง พี่ณุจะ กล่าวชื่นชมทุกคนที่มีส่วนในการท�ำงานให้ส�ำเร็จ และขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ที่มีส่วนร่วมในการ ท�ำงาน ไม่มีการต�ำหนิต่อหน้า แต่อาจจะแนะน�ำ ลับหลัง นั่นท�ำให้คนส่วนใหญ่รกั ผอ.คนนี้ ​ ผม เชื่ อ ว่ า แทบทุ ก คนที่ ท� ำ งานใน โรงพยาบาลน่าน น่าจะคิดตรงกันว่ารูส้ กึ ภาคภูมใิ จ ที่มีผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่านชื่อนพ.พิษณุ

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้ช่วยผู้อ�ำนวยการฝ่ายปฐมภูมิ โรงพยาบาลน่าน “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 99 ครบวาระราชการ...หมอณุ


สารแสดงมุทิตาจิต

“Change” ย้อนไปเมื่อเกือบสองปีที่แล้วมีชายร่าง สู งใหญ่ ที่มาพร้อมหนวดบนใบหน้า มาพร้อม เสียงหัวเราะอันเป็นเอกลักษณ์ มาปฏิบัตงิ านใน ต�ำแหน่งผู้อำ� นวยการที่โรงพยาบาลน่าน ช่วงแรกทีม่ า ท่านยังติดมาจากเชียงราย ที่ จะแทนตัวเองว่า “อาจารย์” แต่พวกเราก็ไม่ ยอมให้ท่านเป็นอาจารย์ เมือ่ มาอยู่ทนี่ ่านเรามีแต่ พี่น้องแพทย์ ท่านก็เป็นพี่ณุของเราโดยปริยาย ท่านมาพร้อมกับพลังและความสามารถ ในตั ว มาสร้ า งความเปลี่ ย นแปลงให้ กั บ งาน หลายๆ ด้านของโรงพยาบาลน่าน ถึงกับการกล่าว ว่ายุคของท่าน ผ.อ.ท่านนี้ คือ ยุค “change” งา นที่ผมได้รับความไว้วางใจจากท่าน คือ เรื่องพื้นที่สีเขียวและการจัดการสิ่งแวดล้อม ท�ำใ ห้ผมได้ใช้ความก�ำลังความสามารถเท่าที่ จะพึ งมี ท�ำตามความฝันเรื่องการสร้างสรรพื้นที่ สีเขียว การจัดการสิ่งแวดล้อมในโรงพยาบาลให้ เหมาะกับการรักษา เยียวยา และฟื้นฟู แต่สงิ่ ทีส่ ำ� คัญทีส่ ดุ ทีไ่ ด้เรียนรูจ้ ากท่าน ก็ คือการให้โอกาส ทัง้ โอกาสในการแสดงสามารถ และโอกาสในการแก้ไขเมือ่ ยามพลาดพลัง้ ซึง่ เป็น

100

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

สิ่งที่ไม่ได้สามารถหามาได้ง่ายๆ สิ่ งที่ผมได้เรียนรู้จากท่านอีกอย่างหนึ่ง ก็คื อ การเป็นคนที่รู้กว้างในศาสตร์ต่างๆ ด้ ว ย ความที่ ท ่ า นเข้ า กั บ ผู ้ อื่ น ได้ ง ่ า ย และมี มนุษ ยสัมพันธ์ที่ดีมากมาย ท�ำให้ท่านมีเพื่อนฝูง และคนรู้จักมากมายในหลายวงการ ท�ำให้ท่านมี ความรู้เรื่องต่างๆ คอยแนะพวกเราอยู่เสมอ และ ท่านยังตอกย�้ำให้พวกเราอยูเ่ สมอถึงความส�ำคัญ ของการการยืนหยัดเคียงข้างความถูกต้อง อย่าง มั่นคง เป็นเวลาไม่นาน แต่สงิ่ ทีเ่ ราได้เรียนรูจ้ าก ท่านมากมายเหลือเกิน

ขอบคุณมากนะครับพี่ณุ นพ.ณัฐธร ดาราพงศ์สถาพร ผู้ช่วยผู้อ�ำนวยการ ฝ่ายจัดการสิ่งแวดล้อมและพลังงาน


สารแสดงมุทิตาจิต

​จากภาพลักษณ์ของท่าน ใคร ๆ มักจะถาม ย�ำ้ ว่า “เป็นคุณหมอเหรอ ?” เมือ่ แนะน�ำใครต่อใครว่า ผู้อ�ำ นวยการโรงบาลน่านค่ะ (คงดูจากการแต่งตัว แบบเท่ ๆ หน้าตาเข้มๆ) จริงแล้วท่านเป็นคนใจดี อารมณ์ ดี มีมนุษยสัมพันธ์ดีมากทั้งภายในและ ภายนอกองค์กร ท�ำงานรวดเร็วบนพืน้ ฐานของความ ถูกต้องชอบธรรม ขอขอบพระคุณผูอ้ ำ� นวยการทีใ่ ห้ความ ส�ำคัญแ ละเห็นคุณค่าของผู้ร่วมงานทุกระดับ และให้โ อกาสได้ท�ำงานร่วมด้วยความรัก ความเมตตา ความอุ่นอบ และความเอื้ออาทรตลอดมา และต้องขออภัยหากท�ำงานผิดพลาดไปบ้าง (ท่านพูดเร็วค่ะหนูฟังไม่ทัน เขียนก็อ่านไม่ค่อยออกค่ะ) ​ในวาร ะเกษียณราชการ ขอให้กุศลผลบุญจากคุณงามความดีที่ท่านได้ท�ำมา กลับเป็นสิ่งดีดี สูต่ วั ท่านหลายร้อยหลายพันเท่า และขอให้ผอู้ �ำนวยการมีสขุ ภาพกายและใจเข้มแข็งตลอดไปนานนานค่ะ พรลดา อิงคสวัสดิ์ เลขานุการผู้อ�ำนวยการ รพ.น่าน ก ระผมรู้สึกปลาบปลื้มยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับเลือกให้มาเป็น พนักงานขับรถประจ�ำการให้ทา่ นผูอ้ ำ� นวยการ เป็นระยะเวลายาวนานถึง 2 ปี ใน ความรู้สึกของกระผม รู้สึกใจหายเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้ทราบข่าวว่าท่าน ผูอ้ ำ� นวยการจะต้องเกษียณอายุราชการ กระผมรูส้ กึ ไม่อยากให้ผอู้ ำ� นวยการ จะต้องเกษียณอายุราชการไปเลย เนือ่ งจากระยะเวลาทีผ่ า่ นมาผูอ้ �ำนวยการ ได้ให้ความช่วยเหลือเกือ้ กูลกระผมมาโดยตลอด ท่านผูอ้ ำ� นวยการมีความ เป็นกันเอง ไม่ถือตัวและเป็นคนที่รักลูกน้องโดยไม่แบ่งชั้นวรรณะ ​ ตลอดระยะเวลาทีเ่ ป็นพนักขับรถให้ทา่ น รูส้ กึ ประทับใจว่าท่านเป็น ผู้บริหา รที่เป็นห่วงลูกน้อง ทุกครั้งท่านจะสอบถามเสมอเรื่องที่พัก เรื่อง อ า หารการ กิน “กินข้าวหรือยัง?” เป็นค�ำถามที่ได้ยินเป็นเรื่องปกติ แสดงว่าท่านมีเมตตาเป็นห่วงเรา ตลอดเวลา สิ่งที่โดดเด่นของท่านอีกอย่างหนึ่งก็คือ ท่านจะชื่นชมผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา พูดถึงเรื่องการ พัฒนาโรงพยาบาลให้ฟงั อยูเ่ สมอ ทีส่ ำ� คัญท่านเอาจริงเอาจังโดยเฉพาะเรือ่ งหมวกกันน็อก หากนัง่ รถไปแล้ว พบเห็นเจ้าหน้าทีโ่ รงพยาบาลน่านไม่สวมหมวกกันน็อก หากมีเบอร์โทรศัพท์ จะโทรหาเจ้าหน้าทีค่ นนัน้ ทันที ​ สุดท้ายนี้ กระผมขออาราธนาคุณพระศรีรตั นตรัยและสิง่ ศักดิส์ ทิ ธิท์ งั้ หลาย ช่วยคุม้ ครองให้ทา่ น ผู้อ�ำนวยการ มีแต่ความสุขความเจริญ มีสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่สมบูรณ์แข็งแรง คิดสิ่งใดก็ขอให้ ท่านสมปรารถนาตลอดไป ​​​​​​​​​​ควร ก�ำเนิดสูง พนักงานขับรถประจ�ำการ ผอ.รพ.น่าน “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 101 ครบวาระราชการ...หมอณุ


NAN Hospital

๑๐ ผลงานเด่น โรงพยาบาลน่าน

ช่วงดำ�รงตำ�แหน่งผู้อำ�นวยการ รพ.น่าน ของ...นพ.พิษณุ ขันติพงษ์


1

การด�ำเนินงานรณรงค์สวมหมวกกันน็อก 100%

แนวคิด เ นื่องจากโรงพยาบาลน่านมีข้อจ�ำกัด ใ น การให้ บ ริ ก าร / ต้ อ งส่ ง ต่ อ ในกลุ ่ ม โรค Severe Head Injury, multiple trauma เนื่องจาก ข า ดแพทย์ เ ฉพาะทางด้ า นศั ล ยกรรมระบบ ป ร ะสาท จึ ง ต้ อ งส่ ง ผู ้ ป ่ ว ยไปรั ก ษาต่ อ ใน โ ร งพยาบาลที่ มี ศั ก ยภาพสู ง กว่ า นอกจากนี้ จ า กการเก็บข้อมูลผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกที่มา รั บบริการของโรงพยาบาลน่านพบว่า หากไม่มี ม า ตรการเฝ้าระวังและการป้องกันที่ดี การบาด เจ็บจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ดั ง นั้ น เพื่ อ ป้ อ งกั น และลดอั ต ราการ บ า ดเจ็บ ผู้บริหารโรงพยาบาลจึงเน้นนโยบาย ใ น การลดปัญหาอุบัติเหตุและการบาดเจ็บทาง ส ม อง ด้วยการรณรงค์ให้บุคลากรโรงพยาบาล แ ล ะผู้รับบริการมีการสวมหมวกกันน็อกทุกครั้ง เ มื่อขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ และเพื่อ ส่ งเสริมให้ทุกกลุ่มมีความรู้ ความเข้าใจ และ มี ส่ ว นร่ ว มในการสร้ า งเสริ ม ความปลอดภั ย ร ว มถึงการด�ำเนินงานเพื่อให้ตอบสนองต่อการที่ เทศบาลเมืองน่าน ได้รบั การรับรองจากองค์การ

อ น ามัยโลกให้เป็นชุมชนปลอดภัยระดับโลก ซึ่ง ต้ องเป็นเมืองที่ปลอดภัยทุกประเด็น โดยเฉพาะ ความปลอดภัยทางถนน การด�ำเนินงาน โ รงพยาบาลน่านมีการด�ำเนินงานเพื่อ รณรงค์การสวมหมวกนิรภัยมาตั้งแต่ปี 2554 ทั้ง ใ น กลุ่มบุคลากรของโรงพยาบาลและกลุ่มผู้รับ บริการ ดังนี้ 1. กลุ่มบุคลากรโรงพยาบาล 1.1 มีการก�ำหนดแผนงานและสนับสนุน งบประมาณ ในการด�ำเนินกิจกรรมเพือ่ ส่งเสริมสุข ภาพอย่างชัดเจน 1 .2 บุคลากรทุกคนรับทราบนโยบาย เรือ่ งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพและมีพฤติกรรม สุ ขภาพที่ ดี เ ช่ น ไม่ ดื่ ม เครื่ อ งดื่ ม แอลกอฮอล์ แ ล ะสูบบุหรี่ในเขตโรงพยาบาล ไม่ดื่มเครื่อง ดื่ ม แอลกอฮอล์ น อกเวลาราชการ จนเป็นเหตุ ใ ห้เกิดอุบัติเหตุ การทะเลาะวิวาท สวมหมวก นิ รภัยในขณะขีแ่ ละซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ และ ค า ดเข็มขัดนิรภัยในขณะขับและนั่งในรถยนต์ “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 103 ครบวาระราชการ...หมอณุ


ทุกครั้ง และได้มีกิจกรรมเพื่อรณรงค์ให้บุคลากร มีการสวมหมวกนิรภัยอย่างต่อเนือ่ ง ดังนี้ • จัดงานรณรงค์สวมหมวกกันน็อก 100 % ในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ตอ่ เนือ่ ง ทุกปี โดยผูบ้ ริหารเป็นผูน้ ำ� ทีมในการรณรงค์ทกุ ครัง้ • จั ด ท� ำ มาตรการด้ า นการขั บ ขี่ ป ลอดภัยบนท้องถนน ประกาศให้บุคลากรถือ ป ฏิบัติโดยเคร่งครัด หากไม่ปฏิบัติตามจะมีการ ด�ำเนินการตามมาตรการดังกล่าวต่อไป • จัดรณรงค์สวมหมวกกันน็อก 100 % ร่วมกับบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ กันยายน 2556 2. กลุ่มผู้รับบริการ 2.1 จั ด ท� ำ ป้ า ยประกาศให้ ผู ้ รั บ บริ ก าร ทราบว่ า โรงพยาบาลน่ า น เป็ น เขตสวมหมวก กันน็อก 100% 2.2 ผู้บริหารเป็นผู้น�ำในการรณรงค์สวม หมวกกันน็อกที่ประตูทางเข้าโรงพยาบาลทุกวัน 3. การด�ำเนินการร่วมกับเครือข่ายต่างๆ 3.1 การประชุมหารือการด�ำเนินงานร่วม กับบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ใน การจัดหาหมวกกันน็อกเพื่อใช้ในการรณรงค์อย่าง ต่อเนื่อง 3.2 ท� ำ โครงการร่ ว มกั บ บริ ษั ท กลาง คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จัดท�ำหมวกกันน็อก แบบพิเศษสีม่วง มีรูปปู่ม่านย่าม่านติดที่ด้านหลัง มีโลโก้โรงพยาบาลน่านติดที่ด้านหน้า 3.3 จัดท�ำป้ายรณรงค์สวมหมวกกันน็อก ติดที่โรงพยาบาลน่าน หน่วยงานราชการและถนน สายต่างๆ 3.4 ร่ ว มรณรงค์ ขั บ ขี่ ป ลอดภั ย ร่ ว มกั บ หน่วยงานราชการต่างๆ

104

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน


3.5 ร่ ว มด� ำ เนิ น งานโครงการปกป้ อ ง สมองลู ก น้ อ ยร่ ว มกั บ เทศบาลเมื อ งน่ า น โดย มี กิ จ กรรม ได้ แ ก่ ก ารเป็ น วิ ท ยากรสอนเรื่ อ ง การป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจรใน

โรงเรียน ร่วมงานพิธีปลุกเสกหมวกกันน็อกใน โครงการปกป้องสมองลูกน้อย และแถลงข่าวต่อ สื่อมวลชนทุกแขนงร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ 10 10

ผลการด�ำเนินงาน

ปผลการสํ ารวจการสวมหมวกกันนน็น็ออกของผูใชรถจั องนองน านาานรวจการสวมหมวกกันน็อกของผูใชรถจักรยานยนตที่เขาโรงพยาบาลนาน สรุสรุ ปผลการสํ ารวจการสวมหมวกกั ถจักกรยานยนต รยานยนตในเขตเทศบาลเมื ในเขตเทศบาลเมื สรุปผลการสํ สรุปผลการสํารวจการสวมหมวกกันน็อกของผูใชรถจักรยานยนตที่เขาโรงพยาบาลนาน

สรุปผลการส�ำรวจการสวมหมวกกันน็อกของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ในเขตเทศบาลเมืองน่าน

แผนภู อยละของการสวมหมวกกันนน็น็ออกของผู กของผูขขับับขีขี่ร่รถจั านระหว าง าง แผนภู มิทมี่ 1ิที่ ร1อรยละของการสวมหมวกกั ถจักกรยานยนต รยานยนตในเขตเทศบาลเมื ใแผนภู นเขตเทศบาลเมื องน านระหว มิที่ 3 รอองน ยละของการสวมหมวกกั นน็อกของผูขับขี่รถจักรยานยนตเขาโรงพยาบาลนานระห แผนภู ม ิ ท ่ ี 3 ร อ ยละของการสวมหมวกกั นน็อกของผูขับขี่รถจักรยานยนตเขาโรงพยาบาลนานระห ป 2555 2557 ป 2555 - 2557 2555 - 2557 2555 - 2557

แผนภูมิท่ี 1 แสดงให้เห็นว่า ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ใน

แผนภูมวกกั มทิ นี่ เ3ห็นแสดงให้ เห็นว่า ผูข้ บั ขีร่ ถจักรยานยนต์เข้า แผนภูมิที่ 1 แสดงใหเห็นวา ผูขับขี่รถจักรยานยนตในเขตเทศบาลเมืองนานมีแผนภู อัตราการใช มิที่ 3 หแสดงให วา ผูขับขี่รถจักรยานยนตเขาโรงพยาบาลนานมีอัตราการใชหมวกก เขตเทศบาลเมื อ งน่ า นมี อ ั ต ราการใช้ ห มวกกั น น็ อ ก หมวกกั นน็อกระหว่าง น็อกระหว างปมิท2555 – 2557 เเพิ อยละ 40.6 เปในนเขตเทศบาลเมื รอยละ 70.99ระหว ิท–ี่โรงพยาบาลน่ 32557 แสดงให เห็น ว้นาาจากร ผูนมี ขับออขียละ ่รัตถจัราการใช้ ก78.77 รยานยนต โรงพยาบาลน แผนภู ี่ 1 แสดงให ห็น่มวมากขึ า ผูข้นับจากร ขี่รถจั กรยานยนต องน นมี2555 อัตมราการใช หเพิมวกกั างปาแผนภู ่มมากขึ เปนรเขอายละ 92.78 านมีอัตราการใชหมวกกัน

ระหว่ างปี เพิ2555 2557อยละ เพิ่ม40.6 มากขึ อยละ 2555 – 2557 ่มมากขึ อยละ ระหว40.6 างป 2555 – ปี2557 เพิ่มมากขึ ้นจากรเพิ อยละ 78.77้นเปจากร้ นรอยละ 92.7878.77 เป็น น็อกระหวางป 2555 – 2557 ่มมากขึ–้นจากร เปน้นรจากร้ อยละ 70.99 นร้อยละ 70.99 นน็อกของผูซอนทายรถจักรยานยนตแผนภู ร้อองนยละ แผนภูมิที่ 2 รอเป็ ยละของการสวมหมวกกั ในเขตเทศบาลเมื าน 92.78 นน็อกของผูซอนทายรถจักรยานยนตเขาโรงพยาบาลนานระ มิที่ 4 รอยละของการสวมหมวกกั ระหว - 2557 แผนภู มิท-ี่ 42557 รอยละของการสวมหมวกกั นน็อกของผูซอนทายรถจักรยานยนตเขาโรงพยาบาลนานระห แผนภู มิทาี่ งป 2 ร2555 อยละของการสวมหมวกกั นน็อกของผูซอนทายรถจักรยานยนต ในเขตเทศบาลเมื องนาน ป 2555 ป 2555 - 2557 ระหวางป 2555 - 2557

แผนภูมิที่ 2 แสดงใหเห็นวา ผูซอนทายรถจักรยานยนตในเขตเทศบาลเมืองนานมีอัตราการใชหมวก แผนภูมิที่ 4 แสดงใหเห็นวา ผูซอนทายรถจักรยานยนตเขาโรงพยาบาลนานมีอัตราการใชหม กันน็อกระหวางป 2555 – 2557 เพิ่มมากขึ้นจากรอยละ 7.1 เปนรอยละ 24.84 น็อกระหวแผนภู างป ม2555 2557 ยละ มิทเพิเี่ ห็4่มนมากขึ ห็ยละนว่ก75.68 ารยานยนต ผู้ขเปับนขีรเข่รอาถจั ก84.72 รยานยนต์ แผนภูมทิ ี่ 2 แสดงให้เห็นว่า ผูซ้ อ้ นท้ายรถจักรยานยนต์ ิที่ แผนภู 4 –แสดงให วาแสดงให้ ผูซ้นอจากร นทาอเยรถจั โรงพยาบาลน านมีอัตราการใชหมว

แผนภูมิที่ 2 แสดงใหเห็นวา ผูซอนทายรถจักรยานยนตในเขตเทศบาลเมืองนานมีอัตราการใชหมวก โรงพยาบาลน่ า นมี อั ต75.68 ราการใช้ ห มวกกั องน่ านมีอยละ อัตราการใช้ มวกกั น็อกางป 2555เข้–า2557 น็อนกระหว เพิ่มมากขึ้นจากร อยละ เปนรอยละ 84.72 น น็ อ ก กันน็อกระหวางป ในเขตเทศบาลเมื 2555 – 2557 เพิ่มมากขึ ้นจากร 7.1 เปนรอหยละ 24.84

ระหว่างปี 2555 – 2557 เพิ่มมากขึ้นจากร้อยละ 7.1 เป็นร้อยละ 24.84

ระหว่างปี 2555 – 2557 เพิม่ มากขึน้ จากร้อยละ 78.77 เป็นร้อยละ 92.78

“ขอบคุณที่เป็นคนดี” 105 ครบวาระราชการ...หมอณุ


“ เราต้องเป็น ตัวอย่างที่ดีให้สังคม ในการดูแลสุขภาพ และการรักษากฎหมาย “

เจ้าหน้าที่รพ.น่านทุกคน กรณีที่ไม่ปฏิบัติตาม กฎหมาย กฎจราจร เช่น พรบ.คุ้มครองบุคคลที่สาม ใน การใช้ยานพาหนะ เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วท่านจะต้องเสีย เงิ น เอง 15,000 บาทก่ อ น จึ ง จะใช้ สิ ท ธิ ต่ อ ไปได้ โรงพยาบาลจะไม่ออกค่าใช้จ่ายให้ และ ผมยังจะลงโทษ ด้วยถ้าเมาแล้วขับ หรือ ไม่สวมหมวกกันน็อก หรือไม่ คาดเข็มขัดนิรภัย เพราะผมพูดเสมอว่า “เราต้อ งเป็น ตัวอย่างที่ดีให้สังคม ในการดูแลสุขภาพและการรักษา กฎหมาย” เพื่อให้สังคมน่าอยู่สาหรับลูกหลานเราต่อไป นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ ผู้อานวยการโรงพยาบาลน่าน

106

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน


2

การพัฒนาระบบเวชระเบียนอิเลคทรอนิกส์ (Paperless) แนวคิด โรงพยาบาลน่ า นเป็ น โรงพยาบาล ทั่วไป ขนาด 523 เตียง จากสถิติการบริการ โรงพยาบาล ปี 2554 – 2556 พบว่ามีผู้รับบริการ จ� ำ นวน 275,470/298,736/300,609 รายตาม ล�ำดับ ในอดีตพบว่าระบบการบันทึกข้อมูลลง ใน OPD Card มียุ่งยากในการจัดเก็บ การค้นหา การท�ำลาย การ Scan การเขียนด้วยลายมือที่ไม่ ชัดเจน การใช้กระดาษจ�ำนวนมาก ปัญหาการ ลงบันทึกข้อมูลย้อนหลังทีไ่ ม่ครบถ้วน ไม่สมบูรณ์ ไม่ทันเวลา จากข้อมูลปัญหาดังกล่าว ผู้อำ� นวยการ โรงพยาบาลน่ า นจึ ง มี แ นวคิ ด ในการพั ฒ นา ระบบข้ อ มู ล อิ เ ลคทรอนิ ก ส์ (Paperless) โดย ได้ ม อบหมายให้ ศู น ย์ เ ทคโนโลยี ส ารสนเทศ โรงพยาบาลน่าน พัฒนาโปรแกรม ProDoc เพื่อ มุ่งสู่ระบบ Paperless

กลวิธีด�ำเนินการ 1. ศึกษาปัญหา อุปสรรค ความต้องการ ขั้นตอนการบริการของแต่ละแผนก 2. ประชุมผูเ้ กีย่ วข้องเพือ่ ร่วมกันออกแบบ วิ เ คราะห์ ร ะบบเวชระเบี ย นอิ เ ลคทรอนิ ก ส์ (Paperless) 3. พั ฒ นาโปรแกรมเพื่ อ รองรั บ ระบบ เวชระเบียนอิเลคทรอนิกส์ (Paperless) 4. ทดสอบและอบรมการใช้งานโปรแกรม ให้แก่ผู้ใช้งานทุกระดับ ทุกแผนก 5. น�ำร่องการใช้งาน ระบบเวชระเบียน อิเลคทรอนิกส์ (Paperless) 6. ประเมิ น ผลเพื่ อ การพั ฒ นาอย่ า ง ต่อเนื่อง ผลการด�ำเนินการ โรงพยาบาลน่าน ได้เริ่มด�ำเนินการใช้ งานโปรแกรม ProDoc เพื่อมุ่งสู่ระบบเวชระเบียน อิเลคทรอนิกส์ (Paperless) ในคลินิกน�ำร่องตั้งแต่ วันที่ 4 มีนาคม 2557 พบว่า สามารถลดใช้ “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 107 ครบวาระราชการ...หมอณุ


กระดาษจากการพิมพ์ OPD card, การพิมพ์ผล Lab, ผลชิ้นเนื้อ, ผลอ่านFilm เป็นต้น ความทันเวลา ในการลง DX วันต่อวันจากเดิม = 0.1% เพิ่มขึ้น ในคลินิกน�ำร่อง=92 % เนื่องจากมีการบันทึก เวชระเบียนลงในระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งส่วนของ แพทย์ พยาบาล และสหสาขาที่เกี่ยวข้อง ส่งผล ให้ ก ารตรวจสอบประวั ติ ผู ้ ป ่ ว ยย้ อ นหลั ง ท�ำ ได้ สะดวกรวดเร็วมากขึ้น และสามารถขยายผลการ ด�ำเนินการไปยังคลินิกบริการอื่นๆ ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2557 การพัฒนาในอนาคต พัฒนาโปรแกรม ProDoc เพื่อรองรับ ระบบเวชระเบี ย นอิ เ ลคทรอนิ ก ส์ (Paperless) ให้ ค รอบคลุ ม รองรั บ การท� ำ งานได้ ทุ ก แผนก และขยายผลไปยั ง ระบบเวชระเบี ย นผู ้ ป ่ ว ยใน เพื่ อ สามารถให้ บ ริ ก ารรั ก ษาพยาบาลอย่ า งมี ประสิทธิภาพ อภิปราย ​การพั ฒ นาระบบบริ ก าร โดยการน�ำ ระ บบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในโรงพยาบาล น่ านนั บ เป็ น อี ก หนึ่ ง ความท้ า ทาย เนื่ อ งจาก โปรแกรม ProDoc ที่ทางโรงพยาบาลใช้น้ี พัฒนา โป รแกรมโดยโปรแกรมเมอร์ประจ�ำโรงพยาบาล ซึง่ นับได้วา่ มีความกล้าหาญมากในการรับพัฒนา โป รแกรมเพื่อรองรับระบบ Paperless เพราะใน โร งพยาบาลส่ ว นใหญ่ มั ก เลื อ กใช้ โ ปรแกรม ส�ำเร็จรูป ทีไ่ ด้ออกแบบมาอย่างดีแล้ว เพราะต้อง เสียเวลากับการศึกษาระบบด้วย ทีมงานอาจต้อง พบกับความยากล�ำบากหลายๆ ด้าน เนื่องจาก ผู้ ใช้มีความคาดหวังสูงในการที่จะใช้โปรแกรม อีก ทั้งเนื่องจากเป็นโปรแกรมที่เราพัฒนาเองผู้

108

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ใช้ จึงสามารถร้องขอและเสนอความต้องการที่ หลากหลาย แต่ความมุง่ มัน่ ตัง้ ใจทีจ่ ะพัฒนาระบบ ให้มคี วามก้าวหน้าทันสมัยสอดคล้องกับวิสยั ทัศน์ องค์ ก รและความร่ ว มมื อ ร่ ว มใจจากทุ ก ฝ่ า ยที่ เกี่ยวข้องท�ำให้ระบบสามารถด�ำเนินต่อไปและ ขยา ยผลไปสู่แผนกที่มีความเฉพาะเจาะจงอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นเป็นล�ำดับ ปั ญหาอุปสรรคที่พบ มีหลากหลายทั้ง จาก ตัวโปรแกรมที่ยังไม่สมบูรณ์ ระบบแม่ข่าย ที่ ยั ง ไม่ มี ร ะดั บ ความปลอดภั ย เพี ย งพอกั บ การ ใช้งาน การปรับตัวของเจ้าหน้าที่ในการใช้ เทค โนโลยี การสร้างความเข้าใจอันดีต่อการ ร่ว มกันพัฒนาระบบ ความมุ่งมั่นในผลลัพธ์ที่ ต้อ งการให้ผู้ใช้บริการได้รับการดูแลรักษาที่มี ประสิทธิภาพ รวดเร็ว ถูกต้อง ปลอดภัย จึงยังคง เป็นสิง่ ท้าทายทีเ่ ราทุกคนจะต้องร่วมมือกันพัฒนา เพื่อก้าวไปสู่ความส�ำเร็จในอนาคตต่อไป


3

การดูแลผู้ป่วยระยะท้ายแบบประคับประคอง (Palliative care )

แนวคิด กา รดูแลแบบประคับประคองในผู้ป่วย ระยะท้าย เป็นวิธกี ารดูแลโดยมุง่ หมายเพือ่ “เพิม่ คุณภาพชีวิต” ของผู้ป่วยที่ป่วยด้วยโรคที่คุกคาม ต่อชีวติ โดยให้การป้องกันและบรรเทาความทุกข์ ทรม านต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยและครอบครัว ด้ว ยการเข้าไปดูแลปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นตั้งแต่ ในร ะยะแรกๆ ของโรค รวมทั้งท�ำการประเมิน ปัญ หาสุขภาพทั้งทางด้าน กาย ใจ สังคม และ จิตวิญญาณอย่างละเอียดครบถ้วน การด�ำเนินงาน เพื่ อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการการ รักษาตัง้ แต่ในโรงพยาบาลจนกระทัง่ กลับสูช่ มุ ชน ทาง ห น่วยบริบาลบรรเทาได้จัดรูปแบบการดูแล อย่างเป็นระบบ เรียกว่า “CARE MODEL” โดย มีรายละเอียดดังนี้ 1. C – Continuity care & Call cen t e r จัดให้มีการดูแลต่อเนื่องได้แก่ บริการ ผู้ ป่ วยนอก และ บริการเยี่ยมดูแลที่บ้าน รวมทั้ง การ ใ ห้ บ ริก ารติด ต่ อ ทางโทรศัพ ท์ เพื่อ ปรึกษา ปัญ หาของผู้ป่วยที่บ้าน ด้วยบริการ call center โดยทีมแพทย์และพยาบาลตลอด 24 ชั่วโมง

2. A – Academic จัดให้มีการประชุม เชิงปฏิบตั กิ าร สัมมนา เพือ่ ให้ความรูเ้ รือ่ งการดูแล แบบประคับประคอง (Palliative care) แก่บคุ ลากร ทางการแพทย์ ในสหสาขาวิชาชีพต่างๆ อาสา สมั ค รสาธารณสุ ข (อสม.) ผู ้ ดู แ ลผู ้ ป ่ ว ย และ ประชาชนทัว่ ไป เนือ่ งจากรูปแบบการดูแลดังกล่าว เป็นเรือ่ งใหม่ในชุมชน 3. R – Ready ครอบครัวและผู้ป่วย มี ความพร้อมก่อนกลับบ้าน ได้เข้าร่วมการประชุม ครอบครัวเพื่อเข้าใจภาพรวมของความเจ็บป่วย และร่วมวางแผนการดูแลในอนาคต รวมทัง้ วิธกี าร ดูแล พยาบาลผู้ป่วยทีบ่ า้ น การรับมือกับปัญหาที่ อาจเกิดขึน้ และช่องทางในการติดต่อกับทีมรักษา 4. E – Medical Equipment จัดตั้ง ศูนย์เครื่องมืออุปกรณ์ที่จ�ำเป็นในการดูแลที่บ้าน หมุนเวียน ได้แก่ เครื่องผลิตออกซิเจน เครื่องดูด เสมหะ เตียงป้องกันแผลกดทับ เตียงปรับระดับ และ เครื่องให้ยาบรรเทาอาการทางใต้ผิวหนัง เป็นต้น เพือ่ ให้ครอบครัวมีความสะดวกและมัน่ ใน ในการดูแลต่อเนือ่ งทีบ่ า้ น รวมทัง้ มีการจัดตัง้ ศูนย์ สาธิตการเรียนรู้เพื่อการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 109 ครบวาระราชการ...หมอณุ


ผลการด�ำเนินงาน ลำ�ดับ

กิจกรรมการดูแลแบบประคับประคอง

1

จำ�นวนผู้ป่วยที่ลงทะเบียนการดูแลแบบประคับประคอง Cancer Non cancer จำ�นวนผู้ป่วยที่ได้รับการรักษา/บรรเทาอาการปวด ด้วยยากลุ่มโอปิออยด์ จำ�นวนผู้ป่วยหรือครอบครัวที่ได้รับการวางแผนการดูแลตนเองล่วงหน้า (Advance care plan) จำ�นวนผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน/ชุมชน จำ�นวนผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลแบบประคับประคองที่เสียชีวิตที่บ้าน จำ�นวนผู้ป่วยผู้ป่วยที่ได้รับบริการเครื่องมือทางการแพทย์ที่บ้าน - เตียงโรงพยาบาล - เครื่องผลิตออกซิเจน/ถังออกซิเจน - ที่นอนลม - เครื่องดูดเสมหะ - เครื่องให้ยาทางใต้ผิวหนัง ร้อยละของระดับความพึงพอใจการให้บริการของผู้ป่วยและญาติที่ได้รับการดูแล แบบประคับประคอง จำ�นวนครั้งที่มีการอบรม/สัมมนาเพื่อพัฒนาระบบการดูแลเครือข่ายจังหวัดน่าน

2 3 4 5 6

7 8

ปี54 ปี55 ปี56 210 98 112 87 186

534 251 283 243 431

793 337 456 630 721

36 36

114 94

355 134

NA 5 28 NA 24 70 NA 5 25 NA 4 9 NA 0 5 92.66 96.66 97.66 4

3

4

การพัฒนาในอนาคต ปี

Service

2556 - 2557 - Consultation (IPD, OPD) - OPD palliative - Home care - IPD palliative (Hospice) 4 เตียง - Palliative Care Center 2557 - 2560 - IPD palliative (Hospice) 6 เตียง - Palliative care center

110

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

Academic

Network

- Palliative rotation for internist - อบรมพยาบาลประสานงาน แต่ละหอผู้ป่วย แห่งละ 1 คน - อบรม Home caregiver

- Conference ร่วมกับ รพช. 1 ครั้ง / 2 เดือน Conference ร่วมกับ รพ.สต. 1 ครั้ง / 2 เดือน - ออกนิเทศน์เครือข่าย อย่างสม�่ำเสมอ - เผยแพร่ความรู้ภาค ประชาชน

- จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรม บุคลากร (คอร์สระยะสั้นและระยะยาว) - งานวิจัยเกี่ยวกับ palliative 3 เรื่อง/ปี


การอบรมเชิงปฏิบัติการ การดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ณ โรงพยาบาลน่าน

“ผอ.อยากให้คนน่าน ลิ้นลมอย่างมีศักดิ์ศรีและมีความสุข ได้อยู่ท่ามกลางคนที่รักในครอบครัว บนเตียงที่นอนที่บ้าน ที่เคยนอนมาตลอดชีวิต” นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน


4

ศูนย์ช่วยเหลือและให้บริการ ยืมอุปกรณ์ฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยที่บ้าน

แนวคิด ปัจจุบนั มีผปู้ ว่ ยส่วนหนึง่ ทีแ่ พทย์ลงความเห็น ให้กลับบ้าน และฟื้นฟูสุขภาพต่อเนื่องที่บ้าน โดยสอนและฝึกทักษะแก่ญาติเพื่อการดูแลต่อ ที่บ้าน เพื่อลดความแออัด ลดต้นทุนในการรักษา พยาบาลและลดค่าใช้จา่ ยของผูป้ ว่ ยและครอบครัว แต่ผู้ป่วยส่วนหนึ่งอาจจะต้องใช้อุปกรณ์ในการ ฟื้นฟู ส่งเสริมสุขภาพต่อเนื่องที่บ้าน เพื่อป้องกัน แผลกดทับ โรคปอดอักเสบจากการนอนนาน บรรเทาอาการเจ็บปวด ลดความทุกข์ทรมาน อ� ำ นวยความสะดวกแก่ ผู ้ ดู แ ลและสร้ า งความ มั่นใจแก่ญาติ ซึ่งความมุ่งหวังเพื่อให้ผู้ป่วยใน จังหวัดน่าน ได้รับการบริการดูแลสุขภาพที่บ้าน อย่างเท่าเทียมและสมศักดิ์ศรี จึงเห็นควรจัดตั้ง ศูนย์สนับสนุนอุปกรณ์เพื่อฟื้นฟูสุขภาพที่บ้าน โดยจั ด หาอุ ป กรณ์ ฟ ื ้ น ฟู สุ ข ภาพให้ ผู ้ ป ่ ว ยยื ม หมุ น เวี ย นในชุ ม ชน ได้ รั บ งบประมาณใน การด�ำเนินงานจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ เทศบาลเมืองน่าน จ�ำนวน 344,900 บาท การด�ำเนินงาน เน้นการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายใน พื้นที่ในการดูแลสุขภาพประชาชน มีการจัดตั้ง

112

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ศูนย์ช่วยเหลือและให้บริการยืมอุปกรณ์ฟื้นฟู สุ ข ภาพผู ้ ป ่ ว ยที่ บ ้ า น ได้ แ ก่ เตี ย งปรั บ ระดั บ เครื่องดูดเสมหะ เตียงลม เครื่องให้ยาใต้ผวิ หนัง เครื่องผลิตออกซิเจน และด�ำเนินการให้ผู้ป่วยยืม จากการประเมิ น สภาพของผู ้ ป ่ ว ย โดยแพทย์ เวชศาสตร์ครอบครัว ผลการด�ำเนินงาน เกิ ด ภาคี เ ครื อ ข่ า ยการดู แ ลสุ ข ภาพแบบ มีส่วนร่วม ผู้ป่วยและ ครอบครัวมีความพึงพอใจ ผู้ป่วยระยะท้ายเสียชีวติ ที่บ้านอย่างสมศักดิ์ศรี การพัฒนาในอนาคต ขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด ซึ่ง ในปีงบประมาณ 2557 โดยองค์การบริหารส่วน จังหวัดน่าน ได้ให้การอุดหนุนงบประมาณเพื่อ ด� ำ เนิ น โครงการฯ ดั ง กล่ า ว เป็ น จ� ำ นวนเงิ น 892,000 บาท


5

โรงพยาบาลน่านอาหารปลอดภัย : ข้าวโรงสีพระราชทานและหมูอนามัยบ้านทุ่งขาม

แนวคิด โรงพยาบาลน่าน เป็นโรงพยาบาลประจ�ำ จังหวัด ขนาด 523 เตียง ให้บริการอาหารผู้ป่วย ในที่นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลน่าน เฉลี่ย 450 คน/วัน จ�ำนวน 3 มือ้ /วัน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ ผู้อำ� นวยการโรงพยาบาลน่าน มีความมุ่งมั่นที่จะ จัดหาวัตถุดบิ ทีม่ คี ณ ุ ภาพ ปลอดภัย และเป็นแบบ อย่ า งที่ ดี ใ นการดู แ ลสุ ข ภาพด้ า นโภชนาการ รวมทั้ ง สนั บ สนุ น กิ จ กรรมของชุ ม ชน จึ ง มอบ นโยบายให้กลุม่ งานโภชนศาสตร์(โภชนาการ) และ งานพัสดุจัดซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพและปลอดภัย ประกอบอาหารบริการให้ผู้ป่วยใน กลวิธีด�ำเนินการ กลุ ่ ม งานโภชนศาสตร์ ( โภชนาการ) ได้ ประสานกั บ งานพั ส ดุ ก ลาง ด� ำ เนิ น การติ ด ต่ อ และท� ำ ข้ อ ตกลงจั ด ซื้ อ ข้ า วสารจากโรงสี ข ้ า ว พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ตั้งอยู่ ที่ บ้านห้วยเดือ่ หมู่ 3 ต�ำบลศรีภมู ิ อ�ำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน และจัดซื้อเนื้อหมูช�ำแหละจากกลุ่ม วิสหกิจชุมชนเลี้ยงหมูบ้านทุ่งขาม ตั้งอยู่ที่บ้าน ทุ่งขาม หมู่ 8 ต�ำบลไชยสถาน อ�ำเภอเมือง จังหวัดน่าน

การพัฒนาในอนาคต ในอนาคตทางโรงสีพระราชทานฯ วางแผน ให้สมาชิกปลูกข้าวอินทรีย์(ออร์แกนนิก) ขายให้ โรงพยาบาลน่าน เพือ่ หุงบริการให้ผปู้ ว่ ย และกลุม่ วิสหกิจชุมชนเลีย้ งหมูบา้ นทุง่ ขามวางแผนพัฒนา ศั ก ยภาพของสมาชิ ก กลุ ่ ม เพื่ อ ให้ ส ามารถส่ ง เนื้อหมูช�ำแหละให้โรงพยาบาลน่าน 100 % ทั้งนี้ เพือ่ ความปลอดภัยและการมีสขุ ภาพทีด่ ขี องผูป้ ว่ ย

“ขอบคุณที่เป็นคนดี” 113 ครบวาระราชการ...หมอณุ


ปริมาณที่สั่งในปีงบ 2557 (ต.ค.56 - ก.พ.57)

รายการ

ปริมาณที่สั่งในปีงบ 2557 (ต.ค.56 - ก.พ.57)

ข้าวสารจ้าว

14,660 กก.

หมูเนื้อแดง

750 กก.

ข้าวสารกล้อง

650 กก.

ซี่โครงอ่อน

300 กก.

ข้าวสารเหนียว

875 กก.

ขาหมู

150 กก.

16,185 กก.

รวม

1,200 กก.

รวม

114

รายการ

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน


6

“เมนูชูสุขภาพ” เมนูทางเลือกของคนรักษ์สุขภาพ

แนวคิด จากการตรวจผู ้ ป ่ ว ยและกลุ ่ ม เสี่ ย ง โรคเบาหวาน โรคความดั น โลหิ ต สู ง ผู ้ ป ่ ว ย ส่วนใหญ่รับประทานอาหารถุงปรุงส�ำเร็จที่ปรุง รสชาติ หวาน มัน เค็ม เพิ่มรสชาติด้วยผงชูรส จึ ง ไม่ ส ามารถเลื อ กอาหารสุ ข ภาพที่ เ ป็ น เมนู ทางเลือก ลดความหวาน มัน เค็ม แก่ผู้บริโภคได้ การด�ำเนินงาน 1. การหาแนวร่วมและการประชาสัมพันธ์ เมนูชูสุขภาพ 2. พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอาหาร ถุงโดยให้ความรูค้ ณ ุ ลักษณะ/ขัน้ ตอนการปรุงและ ออกประเมิ น อาหารปรุ ง ส� ำ เร็ จ ตามเกณฑ์ เ มนู ชูสุขภาพ 3. สร้ า งขวั ญ ก� ำ ลั ง ใจผู ้ บ ริ ห ารภาคี เครือข่าย มอบป้ายร้าน ชุดกันเปือ้ นประชาสัมพันธ์ เมนูชูสุขภาพ ติดตามประเมินการจ�ำหน่ายเมนู ชูสุขภาพ

ผลการด�ำเนินงาน มีผเู้ ข้าร่วมโครงการฯ จ�ำนวน 55 แผงลอย ในตลาดสด 5 แห่งในเขตเทศบาลเมืองน่าน มีเมนู ชูสุขภาพวางจ�ำหน่ายเป็นทางเลือกแผงลอยละ 2-3 เมนู การพัฒนาในอนาคต ประชาสัมพันธ์เมนูชูสุขภาพแก่ผู้บริโภค ขยายการด�ำเนินงานเมนูชสู ขุ ภาพในโรงเรียนและ ร้านอาหารต่อไป

“ขอบคุณที่เป็นคนดี” 115 ครบวาระราชการ...หมอณุ


7

จิตอาสาด้านดนตรีบ�ำบัดโรงพยาบาลน่าน (ดนตรีในสวนสวย) ปี2557

แนวคิด จิตอาสาเป็นการท�ำในสิ่งที่ก่อประโยชน์ ต่อผู้อื่นด้วยความเต็มใจโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน การเป็นจิตอาสาจะได้กุศลผลบุญและความสุข จากผู้ให้และผู้รับ การปลูกฝังเยาวชนให้เป็น จิ ต อาสาส่ ง ผลให้ เ ยาวชนเมื่ อ เติ บ ใหญ่ มี จิตสาธารณะรู้จักการเสียสละ ท�ำคุณประโยชน์ ต่ อ เพื่อ นมนุษ ย์ ก่ อ ให้ เกิด คุณธรรมจริยธรรม สังคมจะพบแต่ความสุขความเจริญและความสุข ที่เกิดจากการมีสุขภาพดี เป็นภาวะที่เป็นสุขทั้ง ทางร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ โดย เฉพาะด้านอารมณ์ ซึ่งในปัจจุบันพบว่าคนไทยมี ความเครียดและวิตกกังวลมากขึน้ ส�ำหรับจังหวัด น่านจากการส�ำรวจในช่วงปี 2550 – 2553 พบผูป้ ว่ ย ทีภ่ าวะซึมเศร้าสะสมถึง 1,479 ราย ดังนัน้ แนวคิด การใช้ดนตรีสร้างพลังในการบ�ำบัด รักษาโรคภัย ไข้เจ็บต่างๆ ลดความวิตกกังวล ความตึงเครียด ของจิตใจร่างกายสงบ การไหลเวียนเลือดเป็น ปกติ การหายใจผ่อนคลายส่งผลต่อความเจ็บปวด ลดลง ทั้งช่วยให้ผู้ป่วยผู้รับบริการและเจ้าหน้าที่

116

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ผู้ให้บริการ ในโรงพยาบาลน่าน ได้รับฟังและ เกิดอารมณ์ที่มีความสุข คาดว่าจะเป็นส่วนหนึ่ง ที่ท�ำให้ปัญหาของความวิตกกังวลลดลงได้ การด�ำเนินงาน ประชาสัมพันธ์ทุกช่องทาง จดหมายถึง โรงเรียน ชุมชนต่างๆ กลุ่มชมรมดนตรีไทย สากล สมั ค รใจมาเป็ น จิ ต อาสาเล่ น ดนตรี ร้ อ งเพลง การแสดงต่างๆ ให้ผมู้ ารับบริการโรงพยาบาลน่าน เวทีดา้ นหลังอาคารผูป้ ว่ ยนอก ช่วงเวลา 12.00 น. - 13.00 น. ทุกวัน


ผลการด�ำเนินงาน การด�ำเนินโครงการช่วง ตค.56 ถึง กพ.57 มีการแสดงดนตรีจ�ำนวน 9 ครั้ง จากการส�ำรวจ จากผู้มารับบริการและเจ้าหน้าที่พบว่าส่วนใหญ่ ร้อยละ 93.6 เห็นด้วยและชอบการน�ำดนตรีจาก จิตอาสามาแสดงให้ผู้รับบริการโรงพยาบาลน่าน ส่วนผู้ชอบและไม่เห็นด้วย ร้อยละ 6.4 ส�ำหรับ เสียงดนตรีจะท�ำให้มีความสุขเพลิดเพลิน ท�ำให้ บรรยากาศผ่อนคลาย ส่วนใหญ่เห็นด้วยร้อยละ 94.6 และไม่เห็นด้วย ร้อยละ 15.4

การพัฒนาในอนาคต - จัดตั้งชมรมจิตอาสาแสดงดนตรีใน สวนสวยจากทุกหน่วยงานในโรงพยาบาลน่าน และจัดสรรเวลามาร่วมแสดงด้วย - จัดพืน้ ทีเ่ ป็นทีพ่ บปะพูดคุย แลกเปลีย่ น ความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ได้ผ่อนคลายความ ตึงเครียดช่วงเวลาพักเที่ยงในศาลาสวนสวย - มี ร ้ า นเครื่ อ งดื่ ม เพื่ อ สุ ข ภาพเล็ ก ๆ น่ า รั ก ในมุ ม ใดมุ ม หนึ่ ง ของสวนพื้ น ที่ สี เ ขี ย ว โรงพยาบาลน่าน “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 117 ครบวาระราชการ...หมอณุ


8

การพัฒนาอาคารและก่อตั้งกองทุนสุขาวดี

แนวคิด ตามที่โรงพยาบาลน่าน มุ่งมั่นในการ บริการบริการดูแลผูป้ ว่ ยระยะสุดท้าย ทีต่ อบสนอง ต่อความเป็นมนุษย์และเอื้อเฟื้อต่อประชาชน ญาติผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต ประกอบกับอาคาร พักศพหลังเดิม มีการทรุดโทรมตามกาลเวลา มี ส ภาพไม่ ส วยงาม และไม่ เ หมาะสมอั น ควร แก่ เ ป็ น สถานที่ ที่ พ� ำ นั ก สุ ด ท้ า ยของผู ้ เ สี ย ชี วิ ต ที่โรงพยาบาลน่าน จึงเห็นควรให้มีการพัฒนา ภูมิทัศน์ต่างๆ ของอาคารพักศพเดิม ให้มีความ สวยงาม ร่มรื่น สะดวกสบาย เหมาะสมและ พัฒนาการบริการต่างๆ ดังนี้ การด�ำเนินงาน 1. ปรับภูมิทัศน์ทั้งภายในและภายนอก โดยเปลีย่ นชือ่ จากอาคารพักศพเดิม เป็น “อาคาร สุ ข าวดี ” ทาสี ใ หม่ ด ้ ว ยโทนสี เ ขี ย วสดชื่ น มี สวนหย่อมทัง้ บริเวณด้านหน้าและด้านข้างอาคาร เพื่อเป็นที่พักของผู้รับบริการ 2. ปรั บ ปรุ ง เตี ย งเข็ น ศพให้ เ รี ย บร้ อ ย เหมาะสม จัดท�ำโดมคลุมผ้าในกรณีเคลื่อนย้าย ศพจากหอผู้ป่วยไปยังอาคารสุขาวดี

118

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

3. จัดพืน้ ทีร่ ดน�ำ้ ศพให้เหมาะสม มีฉากกัน้ มี ค วามพร้ อ มในด้ า นอุ ป กรณ์ ใ นการท� ำ พิ ธีไ ว้ บริการ 4. ให้ บ ริ ก ารกรณี ต ้ อ งการรถส่ ง ศพ ที่บ้าน โดยการติดต่อพยาบาลประจ�ำหอผู้ป่วย เพื่อประสานงาน อบต./อบจ. ใกล้บ้าน 5. จั ด ตั้ ง กองทุ น “สุ ข าวดี ” เพื่ อ ให้ บริการญาติผู้เสียชีวิต กรณีต้องการโลงศพ ญาติ สามารถติดต่อพยาบาลประจ�ำหอผู้ป่วย หรือ งานสังคมสงเคราะห์ งานเก็บรักษาศพ กลุ่มงาน พยาธิวิทยา เพื่อขอรับโลงศพ พร้อมกระถางธูป และ ป้ายชื่อผู้ถึงแก่กรรมข้างโลงศพ โดยไม่เสีย ค่าใช้จ่าย หรือ โดยบริจาคค่าใช้จ่ายตามก�ำลัง ทรัพย์ 6. ร่วมกับบริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุ ง เทพพาณิ ช ย์ จ� ำ กั ด และผู ้ มี จิ ต ศรั ท ธา ทอดผ้าป่าสามัคคีในการจัดซือ้ ตูเ้ ย็นเก็บศพให้แก่ โรงพยาบาลน่ า นและสบทบกองทุ น สุ ข าวดี เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2556


ผลการด�ำเนินงาน ปัจจุบันกองทุนสุขาวดีมีเงินสบทบใน กองทุน 184,536.26 บาท มีผู้ร่วมบริจาคจ�ำนวน 60 ราย (ข้อมูล ณ มี.ค.57) มีคณะกรรมการดูแล กองทุนอย่างเป็นรูปธรรม น�ำโดย พญ.วรางรัตน์ เอกอนันต์กุล หัวหน้ากลุ่มงานพยาธิวิทยา ให้ บ ริ ก ารแก่ ผู ้ รั บ บริ ก ารโรงพยาบาลน่ า นได้ ครบวงจร ช่วยแบ่งเบาภาระแก่ผู้มีรายได้น้อย และช่ ว ยเหลื อ ผู ้ ข าดแคลนทุ น ทรั พ ย์ ไ ด้ ต าม วั ต ถุ ป ระสงค์ ข องกองทุ น รวมทั้ ง ผลจากการ พัฒนาภูมิทัศน์ปรับปรุงโครงสร้างอาคารสุขาวดี ท�ำให้อาคารสุขาวดีปัจจุบัน มีความร่มรื่น สงบ เหมาะสมที่จะเป็นที่พำ� นักสุดท้ายของผู้วายชนม์ และเป็นที่พึงพอใจของผู้รับบริการ

“ขอบคุณที่เป็นคนดี” 119 ครบวาระราชการ...หมอณุ


9

“ธนาคารขยะรีไซเคิล” การจัดการสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพ

แนวคิด ปริมาณขยะมูลฝอยที่เพิ่มมากขึ้น เป็น ปัญหาสิง่ แวดล้อมทีส่ ำ� คัญทีก่ ำ� ลังทวีความรุนแรง มากขึ้นเรื่อยๆ องค์กรภาครัฐขนาดใหญ่ อย่าง โรงพยาบาลน่าน ที่มีขยะมูลฝอยทั่วไป มากถึง วันละ 1,389 กิโลกรัม ขยะติดเชื้อมากถึงวันละ 162 กิโลกรัม เมื่อคิดเป็นปริมาณขยะทั้งหมด ตลอดทั้งปี 2556 มากถึง 559 ตัน การด�ำเนินงาน โรงพยาบาลน่านได้เล็งเห็น และตระหนัก ถึงความส�ำคัญของปัญหานีด้ ี จึงมีความพยายาม ในการสร้างจิตส�ำนึกที่ดีในการจัดการขยะและ รักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อให้บุคคลากรได้ตระหนัก ถึงความส�ำคัญของการคัดแยกขยะต้นทางอย่าง เป็นระบบ ร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมรอบตัว รู้จัก การอนุรกั ษ์พลังงาน เพื่อช่วยประหยัดทรัพยากร ธรรมชาติ อีกทั้งยังเป็นการแปรขยะมูลฝอยที่ ไร้ค่า ให้กลับมาเป็นสิ่งที่มีมูลค่า จึงได้มีการ ก่อตัง้ “ธนาคารขยะรีไซเคิล โรงพยาบาลน่าน”

120

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

และ “กลุ่มฮักสิ่งแวดล้อม โรงพยาบาลน่าน” ขึ้นเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555 โดยเปิด ด�ำเนินการรับฝากขยะรีไซเคิลโดยให้หน่วยงาน ต่างๆ บุคลากรในโรงพยาบาลและบุคคลภายนอก ที่เป็นสมาชิกของธนาคารน�ำขยะรีไซเคิลมาฝาก มีสมาชิกทั้งหมดจ�ำนวน 152 ราย ผลการด�ำเนินงาน ตลอดทั้ ง ปี 2556 ที่ ผ ่ า นมา มี ปริมาณกระดาษ 40 ตัน ขวดน�้ำเกลือ 11 ตัน ขวดพลาสติก 3 ตัน กระป๋อง 1.7 ตัน พลาสติก 1.4 ตัน ถุงพลาสติก 1.3 ตัน สายน�้ำเกลือ 687 กิโลกรัม กล่องนม 309 กิโลกรัม syringe ฉีดยา 142 กิโลกรัม เมื่อคิดรวมทั้งหมดแล้ว ปริมาณขยะ รี ไ ซเคิ ล ทั้ ง หมดมี จ� ำ นวนมากถึ ง 145,726.54 กิโลกรัม คิดเป็นขยะที่น�ำมารีไซเคิลได้มากถึง ร้อยละ 26.09 และมีเงินหมุนเวียนจากการซือ้ ขาย ขยะรีไซเคิล 309,172 บาท ธนาคารขยะได้น�ำ รายได้สว่ นหนึง่ ไปเป็นกองทุนขยะเพือ่ สิง่ แวดล้อม สนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ภายในโรงพยาบาลน่าน


โดยเจ้าหน้าทีโ่ รงพยาบาลน่าน ให้ความร่วมมือใน การจัดการขยะเป็นอย่างดี มีการถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจจากพีส่ ่นู ้องในองค์กร ขยายความคิด และการปฏิบตั ไิ ปยังผูป้ ว่ ยและญาติทมี่ ารับบริการ นอกจากนี้ ยังท�ำให้เห็นคุณค่าของวัสดุ บางประเภทว่าสามารถน�ำกลับมาใช้ได้หลายครัง้ ต่อยอดไปถึงการก่อตั้งธนาคารวัสดุเหลือใช้เพื่อ ให้บริการกับหน่วยงานต่างๆ ในโรงพยาบาลน่าน และด� ำ เนิ น การภายใต้ ชื่ อ กลุ ่ ม ฮั ก สิ่ ง แวดล้ อ ม โรงพยาบาลน่านขึน้ เพือ่ ร่วมกันท�ำกิจกรรมต่างๆ เพื่อสิ่งแวดล้อมภายในโรงพยาบาล อาทิเช่น การน�ำถุง CAPD (น�ำ้ ยาล้างไตทางหน้าท้อง) ซึง่ ไม่ สามารถเข้าสู่กระบวนการ recycle ได้ มาท�ำเป็น ผลิตภัณฑ์ตา่ งๆ เช่น กระเป๋า ผ้ากันเปือ้ น กางเกง และเสื้อกันฝนเพื่อจ�ำหน่าย และยังได้น�ำรายได้ หลังจากหักค่าใช้จา่ ย ไปเป็นกองทุนส�ำหรับผูป้ ว่ ย ระยะท้าย ของโรงพยาบาลน่านอีกด้วย ในอีกด้านหนึ่งธนาคารขยะรีไซเคิลยัง ท�ำ หน้ า ที่เ ป็ น ศู น ย์ ฟ ื ้ นฟูผู้ ป ่ วยจิต เวช ที่ม ารับ บริ ก ารในโรงพยาบาลน่ า น มาท� ำ กิ จ กรรม คั ด แยกขยะ เพื่ อ ฝึ ก สมาธิ สร้ า งความมั่ น ใจ ฝึกการท�ำงานร่วมกับผูอ้ น่ื และยังสามารถท�ำเป็น อาชีพหลังจากกลับคืนสู่สังคมได้ รวมทั้งยังมีการ

ส่งต่อแนวคิดนี้ไปยังเครือข่ายโรงพยาบาลชุมชน เปิดให้มกี ารศึกษาดูงานจากหน่วยงานทัง้ ภายใน ภายนอกจังหวัด เพือ่ ส่งเสริมให้มกี ารคัดแยกขยะ และจัดตั้งธนาคารขยะภายในหน่วยงานอีกด้วย “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 121 ครบวาระราชการ...หมอณุ


10

โครงการดูแลอนามัยช่องปากผู้พิการ ในเขตเทศบาลเมืองน่าน

แนวคิด ผูพ้ กิ ารเป็นบุคคลผูด้ อ้ ยโอกาสกลุม่ หนึง่ ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพอนามัยของ ตนเอง จากการเจ็บป่วยที่ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ กับความพิการ ทีส่ ำ� คัญยังเป็นภาระของครอบครัว ในการดูแลเอาใจใส่ การบริการเชิงรุกด้วยการ เข้ า ไปดู แ ลสุ ข ภาพผู ้ พิ ก ารในชุ ม ชน จึ ง เป็ น สิ่งส�ำคัญและจ�ำเป็นอย่างยิ่ง ที่ผู้พิการควรจะ ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนในการดูแลสุขภาพ ปัญหาการดูแลสุขภาพอนามัยในช่องปากของ ผู้พิการ ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทันตแพทย์และเจ้าหน้าที่ ทันตสาธารณสุข จะต้องเข้าไปดูแล พร้อมให้ความรู้ ค�ำแนะน�ำ รวมถึงการให้การบ�ำบัดรักษาทาง ทันตกรรมให้แก่ผพู้ กิ ารในรายทีม่ ปี ญ ั หา วิธีด�ำเนินการ ดังนัน้ ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุข เขต เมืองน่าน ร่วมกับกองสาธารณสุขและสิง่ แวดล้อม เทศบาลเมืองน่าน กลุ่มงานทันตกรรม กลุ่มงาน สุขศึกษาและกลุม่ งานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาล น่ า น จึ ง ได้ ด� ำ เนิ น “โครงการดู แ ลอนามั ย

122

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ช่องปาก ผู้พิการ ในเขตเทศบาลเมืองน่าน ประจ�ำปี 2556” ขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้ผพู้ กิ าร ได้รบั การดูแลสุขภาพอนามัย ในช่ อ งปากและสร้ า งขวั ญ และก� ำ ลั ง ใจให้ แ ก่ ผู้พิการและญาติผู้ดูแล มีเป้าหมาย คือ ผู้พิการ ในชุมชนเขตเทศบาลเมืองน่าน มีระยะเวลาการ ด�ำเนินการ จ�ำนวน 6 วัน ระหว่างวันที่ 15-30 กรกฎาคม 2556 ครอบคลุ ม ทั้ ง 31 ชุ ม ชน ในเขตเทศบาลเมืองน่าน และได้รับการสนับสนุน งบประมาณ จากกองทุนหลักประกันสุขภาพใน ระดับท้องถิ่น/พื้นที่ (สปสช.) เทศบาลเมืองน่าน ผลการด�ำเนินการ จากการศึ ก ษาข้ อ มู ล ของผู ้ รั บ บริ ก าร จ�ำนวนทั้งสิ้น 123 ราย พบว่าเป็นชาย 64 ราย (52.0%) หญิง 59 ราย (48.0%) ส่วนใหญ่ อายุ 61ปีขึ้นไป (39.8%) จบการศึกษาระดับ ประถม ศึกษา (52.0%) ผู้พิการส่วนใหญ่ ไม่ได้ท�ำงาน (66.7%) จากแบบสอบถามความพึงพอใจของผูร้ บั บริการ พบว่า


• พอใจกับความรู้ ความสามารถ ให้ความรู้ได้ ชัดเจนของผู้ให้บริการ มากที่สุด (56.9%) • ผู ้ ใ ห้ บ ริ ก ารมี ก ารบริ ก ารที่ ดี ยิ้ ม แย้ ม แจ่ ม ใส เป็นมิตร มากที่สุด (66.7%) • พึงพอใจ สถานที่ให้บริการ มาก (53.7%) • ความพร้อมของอุปกรณ์ มากที่สุด (49.6%) • ระยะเวลามีความเหมาะสม มากที่สุด (50.4%) • อาหารว่างมีความเหมาะสม มากที่สุด (50.4%) • มีความรูค้ วามเข้าใจ หลังจากทีเ่ ข้าร่วมกิจกรรม มากที่สุด (64.2%) • สามารถน� ำ ความรู ้ ไ ปใช้ ใ นชี วิ ต ประจ� ำ วั น มากที่สุด (73.2%). การพัฒนาในอนาคต ร่วมกับเทศบาลเมืองน่าน โดยการขอรับ การสนับสนุนงบประมาณต่อเนือ่ งปีที่ 2 จากกองทุน จากกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น/ พื้นที่ (สปสช.) เทศบาลเมืองน่าน เพื่อติดตาม เยี่ยมบ้านและประเมินการปฏิบัติในการดูแลรักษา ช่องปากของผูป้ ว่ ยและญาติถงึ ครัวเรือน เพือ่ พัฒนา การแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

“ขอบคุณที่เป็นคนดี” 123 ครบวาระราชการ...หมอณุ


วารสารโรงพยาบาลน่าน

“สารจาก ผอ.”


ด้วยรักและศรัทธา ​นับตัง้ แต่กา้ วแรกทีก่ า้ วเข้าสูป่ ระตูรวั้ โรงพยาบาล เมือ่ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2555 ในการด�ำรง ต�ำแหน่งผูอ้ ำ� นวยการโรงพยาบาลน่าน ผอ.พิษณุ ขันติพงษ์ ก็เริม่ บรรจงปลายปากกาฝากข้อเขียนแรก ในวารสารโรงพยาบาลน่าน ด้วยการเขียน “สารส่งความสุขปีใหม่ 2556” ในวารสาร ฯ ปีที่ 5 ฉบับที่ 50 เป็นการส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ให้กบั ชาวโฮงบาลน่าน (นามที่ท่านเรียกขาน) และนับตั้งแต่นั้น เป็ นต้นมา พวกเราชาวโฮงบาลน่าน ก็ได้อ่านข้อคิด ค�ำเขียน ที่สะท้อนมุมมอง วิสัยทัศน์ ที่เป็นการ ถอดรหัสความคิด ประสบการณ์ เรื่องราวต่างๆ ตามทัศนะของท่าน ซึ่งบทความทั้งหลายเหล่านี้ เป็น บทความทีม่ คี ณ ุ ค่ายิง่ ทีเ่ มือ่ ผูอ้ า่ นได้สมั ผัสแล้ว ย่อมก่อเกิดประโยชน์ อันจะน�ำไปเป็นข้อคิด ข้อปฏิบตั ิ ทัง้ ในการด�ำเนินชีวติ ส่วนตัวและชีวติ การท�ำงาน ผ่านบทความประจ�ำของท่านทัง้ สองบทความ ทีต่ พี มิ พ์ เป็นประจ�ำในวารสารฯ ทุกเดือน อันได้แก่คอลัมน์ “สารจากผอ.” และ “Humannized health care : การดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจ บนพื้นฐานของความรู้” ​บ ทความที่ปรากฏในหนังสือที่ระลึกเล่มนี้ เป็นเพียง 10 บทความจากทั้งสองคอลัมน์ที่ถูก คั ด สรรมา ทั้งนี้ ผอ.พิษณุ ได้เกริ่นไว้ว่าจะได้มกี ารรวบรวมบทความจากทั้งสองคอลัมน์ที่มีเรื่องราว หลากหลายจากบทความกว่า 40 บทความเป็นพ็อกเก๊ตบุ๊คในอนาคตอันใกล้นี้ ​ ในวาระที่ผอ.พิษณุ ขันติพงษ์ “หมดวาระราชการ” ในปีนี้ ผมในฐานะบ.ก.วารสารฯ ต้องขอ กราบขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูง ที่ได้ให้ข้อคิด ค�ำแนะน�ำและให้การสนับสนุนการจัดท�ำวารสารฯ ข อ ง เรามาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหนือสิ่งอื่นใด ขอบพระคุณในความเอ็นดู ความเมตตา ความเอือ้ อาทรทีใ่ ห้กบั ผมเองนัน้ เป็นแรงหนุนส่งพละก�ำลังกาย ก�ำลังใจของผม ตลอดระยะเวลาทีไ่ ด้ ร่วมท�ำงานกับท่านเสมอมา ​ด้วยรักและศรัทธา ​กิติศักดิ์ แก้วนิ่ม บรรณาธิการวารสารโรงพยาบาลน่าน

“ขอบคุณที่เป็นคนดี” 125 ครบวาระราชการ...หมอณุ


ตีพิมพ์ครั้งแรก วารสารโรงพยาบาลน่าน ปีที่ 5 ฉบับที่ 58 เดือนสิงหาคม 56

1

“ตั้งใจท�ำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด”

เดือนนี้ เป็นเดือนที่มีวันแม่ให้พวกเรา ไ ด้คิดถึงบุญคุณของท่าน ที่ได้เลี้ยงเรามาจน เ ติบใหญ่เราจึงควรได้แสดงความกตัญญูกตเวที ใ นการท�ำสิ่งที่ดีๆ ให้ท่านเป็นกรณีพิเศษ เช่น บริจาคโลหิตหรือสร้างสิง่ ดีๆ ให้สงั คม อะไรก็ได้ให้ ท่านภูมิใจเหมือนที่ผมเคยบอกทุกครั้งที่มีโอกาส ว่า “แม่จะดีใจที่สุดที่รู้ว่าลูกๆ ของท่านเป็นคนดี มีคุณค่าในสังคม ไม่จ�ำเป็นต้องร�่ำรวยหรือมีชื่อ เสียงโด่งดัง” และก็คงไม่คิดถึงท่านเฉพาะวันแม่ นะครับ ขอให้คิดถึงท่านทุกๆ วัน เพราะเราไม่รู้ หรอกว่าท่านจะอยู่กบั เราไปอีกนานเท่าใด ถึงเดือนนีท้ กุ ครัง้ ชาวโฮงบาลน่านจะรูส้ กึ ตืน่ เต้น คอยลุน้ กับระดับน�้ำน่านว่าจะมีโอกาสเข้า ท่วมรพ.หรือไม่ เนื่องจากอยู่ใกล้แม่นำ�้ ผมมอง ดูกระแสน�้ำที่ไหลเชี่ยวและระดับน�้ำที่เพิ่มอย่าง รวดเร็วในช่วงฝนตกหนักต้นเดือน ติดตามระดับ น�้ำที่วดั ที่ท่าวังผา (N64) ซึ่งจะวิกฤติเมื่อระดับน�ำ้ สูงกว่า 9. น�้ำจะใช้เวลาราว 5/6 ชม.จึงจะถึงใน เมือง ซึ่งมีสถานีวัดน�ำ้ ที่บริเวณสะพาน (N1) จะ

126

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

วิกฤติเมื่อระดับน�้ำสูงกว่า 7.0 น�้ำจะท่วมในเขต เมืองได้ ผมได้ประสานงานกับ ทางป้องกันบรรเทา สาธารณภัยจ.น่าน ในการส่งข้อมูลทุก 1 ชม. ท�ำให้เราได้ทราบล่วงหน้าพร้อมรับสถานการณ์ ทั้งนี้ผมได้เปิด war room โดยมอบหมายให้ รองบริหารฯ เป็นผู้ด�ำเนินการ ต่อไปเราก็ไม่ต้อง กังวลมาก เพราะมีระบบที่รองรับอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ขอให้มกี ารซ้อมกันบ้างในยามทีป่ กติเพือ่ การเตรียมพร้อมไม่ประมาท ในปีนถี้ อื ว่าเราโชคดี ทีป่ ริมาณน�ำ้ มีไม่มากเกินก�ำลังทีท่ างจังหวัดรับได้ แต่มีพอในเทศกาลแข่งเรืออย่างแน่นอน วันที่ 6 สค.ที่ผ่านมา ได้มีเหตุการณ์ ส�ำคัญเกิดขึ้นในรพ.น่านของเรา เนื่องจากมีพิธี รับรูปหล่อหมอชีวกโกมารภัจจ์ ซึง่ ทางเจ้าภาพ คุ ณ แม่ ศิ ริ ว รรณ คุ ณ ศุ ภ มิ ต ร คุ ณ วิ ภ าพร กิ จ จาพิ พั ฒ น์ แ ละครอบครั ว เป็ น ผู ้ ส ร้ า ง ถวายและมอบผ่านทางท่านพระเดชพระคุณ หลวงพ่ อ พระโสภณธรรมสาร เจ้ า อาวาส วัดป่าดาราภิรมย์ (พระอารามหลวง) อ� ำเภอ


แม่ ริ ม จั ง หวั ด เชี ย งใหม่ โดยติ ด ต่ อ ผ่ า นทาง พระมหาณรงค์ศักดิ์ สุวัณณกิตติ เจ้าอาวาส วัดพญาวัด จ.น่าน ทางรพ.น่านน�ำโดย อาจารย์ นพ.บุ ญ ยงค์ ประธานมู ล นิ ธิ พ ระครู พุ ท ธมนต์ โชติคณ ุ เป็นผูเ้ ตรียมการ จัดให้มขี บวนแห่น�ำโดย ผอ.ถื อ เครื่ อ งสั ก การะน� ำ หน้ า ขบวนตามด้ ว ย ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ซึง่ แต่งตัวในชุดไทยน�ำพา ข้าวตอกดอกไม้เพื่อบูชา ผมได้ เ ห็ น การมี ส ่ ว นร่ ว มของพวกเรา ตั้งแต่ นศพ.ปี 6 (extern) 2 คน ที่มาอยู่กบั เรา ร่วมแต่งชุดไทยนุง่ ผ้าโจงกระเบน รวมทัง้ เจ้าหน้าที่ รพ.ตั้งแต่เภสัชกร พยาบาล กลุ่มสนับสนุนและ คนงานทีต่ า่ งก็อดทนแต่งชุดไทยทัง้ ๆ ทีอ่ ากาศร้อน และเสื้อผ้าบางชุดเวลาเหงื่อออกจะคันมากด้วย แต่ทุกคนก็ยิ้มแย้มแจ่มใส บางคนยังต้องหาบน�ำ้ ทีม่ ขี า้ วตอกดอกไม้อกี ด้วย มีขบวนฆ้องกลองจาก ชุมชนร่วมให้ความครึกครื้นด้วย เมื่ อ เดิ น ทางเข้ า เขตรพ.น่ า น ก็ เ กิ ด เหตุการณ์อนั น่าอัศจรรย์ ทั้งๆ ที่แดดออกเปรี้ยง ผมมองเห็นเมฆฝนก้อนใหญ่เริ่มเคลื่อนบดบัง ดวงอาทิตย์ ท้องฟ้ามืดลงในทันทีจนผมต้องถอด แว่ น ตากั น แดดและอากาศเย็ น ลงทั น ใด และ เมื่อเราอัญเชิญรูปหล่อหมอชีวกเข้าประจ�ำแท่น ภายในบริ เ วณซุ ้ ม พระของรพ.ที่ มี รู ป หล่ อ พระครูพมุ ทธมนต์โชติคณ ุ ฝนก็ได้เทกระหน�ำ่ ลงมา

จวบจนพิธีเสร็จฝนก็หยุดตกทันที แสดงถึงความ ศักดิ์สิทธิ์ของหมอชีวก ซึ่งเป็นหมอประจ�ำองค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านมีประวัตใิ นการ รักษาคนไข้ในสมัยนัน้ อย่างยอดเยีย่ ม ทัง้ ด้านการ ใช้ยาสมุนไพร การท�ำผ่าตัดรักษาโรคที่หมอคน อื่นๆ รักษาไม่ได้ และที่ส�ำคัญท่านยังประกอบ วิชาชีพโดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ท่านไม่ เพียงแต่มคี วามสามารถในการใช้สมุนไพร แต่ยงั มี ความสามารถในการท�ำผ่าตัดรักษาด้วย สมควรที่ พวกเราควรเอาเป็นแบบอย่าง ทัง้ นีค้ นไข้และญาติ จะได้มีที่พึ่งทางใจในการเคารพบูชารูปหล่อหมอ ชีวกนี้ ควบคูไ่ ปกับการดูแลรักษาของพวกเราด้วย ในเดือน ก.ค. - ส.ค.นี้ รพ.น่านได้จดั ให้ มีการสอบคัดเลือกพนักงานราชการ 8 ต�ำแหน่ง แต่มีผู้มาสมัครสอบถึง 712 คนทีเดียว แสดงให้ เห็นว่ามีคนทีต่ ้องการมาท�ำงานทีร่ พ.น่านกันมาก ผมได้กล่าวกับผู้เข้าสอบทุกคนก่อนสอบว่าให้มี ความมั่นใจในขบวนการสอบ เนื่องจากผมได้ให้ ทางส่วนกลาง (กระทรวงสาธารณสุข) เป็นผู้ออก ข้อสอบโดยส่งทางอีเมลถึงผมโดยตรง และผมได้ ว่าจ้างให้คนนอกเป็นผูถ้ า่ ยเอกสารข้อสอบในห้อง ท�ำงานผมเอง พร้อมเก็บข้อสอบไว้อย่างดีในห้อง จนถึงเวลาสอบและการตรวจข้อสอบ ผมได้ส่งให้ ทางส่วนกลางเป็นผู้ตรวจด้วยและแจ้งผลคะแนน ให้ผมทางอีเมลเช่นกัน “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 127 ครบวาระราชการ...หมอณุ


ขณะเดียวกัน เมือ่ ผ่านข้อเขียนแล้ว การ สอบสัมภาษณ์จะมีคณะกรรมการทีม่ คี ณ ุ วุฒแิ ละ ให้คะแนนด้วยความเป็นธรรม ในฐานะของผอ.ผม ขอขอบคุณผู้เข้าสอบทุกคนที่ให้เกียรติรพ.น่าน และขอเป็ น ก�ำ ลังใจให้ ทุกคนท� ำให้ ดีที่สุด แต่ อย่างไรก็ตามคงต้องมีผทู้ ผี่ ดิ หวังมากกว่า 700 คน ผมไม่อยากให้ทกุ คนทีส่ อบไม่ได้หมดก�ำลังใจ แต่ขอให้มุมานะมากขึ้น ไม่แน่ว่าการที่สอบ เป็นพนักงานราชการไม่ได้ในครัง้ นี้ อาจท�ำให้ เรามีโอกาสได้งานหรือท�ำธุรกิจอื่นที่ประสบ ความส�ำเร็จดีกว่า ในขณะเดี ย วกั น ผมขอให้ พ วกเราที่ ท�ำงานในรพ.อยู่แล้ว มีความภูมิใจในงานที่ท�ำ ไม่วา่ จะในต�ำแหน่งหน้าทีใ่ ด ขอให้ตงั้ ใจท�ำหน้าที่ ของเราให้ดที ี่สุด และภายในวันที่ 1 ต.ค.นี้ จะมี การให้ลูกจ้างชั่วคราวของรพ.เข้าเป็นพนักงาน กระทรวงสาธารณสุข ซึง่ จะมีความมัน่ คงในอาชีพ มากขึ้น โดยมีสัญญาจ้าง 4 ปี และมีสิทธิต่างๆ เพิ่มขึ้นเกือบเท่าข้าราชการ แต่ยังคงใช้เงินบ�ำรุง ของรพ.จ้างและจะต้องผ่านการประเมิน 70 % ขึ้ น ไป ผมจึ ง ขอให้ หั ว หน้ า งานและผู ้ ท่ี ไ ด้ รั บ มอบหมาย ประเมิ น ลู ก จ้ า งอย่ า งจริ ง จั ง เพื่ อ ให้ มั่ น ใจว่ า ทุ ก คนที่ ผ ่ า นการประเมิ น เป็ น ผู ้ ที่ มีประสิทธิภาพเหมาะสม ที่จะได้เข้าสู่ต�ำแหน่ง พนักงานกระทรวงสาธารณสุขด้วยความภาคภูมใิ จ

128

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ส�ำหรับบางคน ที่ไม่ผ่านการประเมิน ผมจะน�ำเข้าคณะกรรมการบริหารพิจารณาอีกครัง้ เพื่ อ ให้ ไ ด้ รั บ ความเป็ น ธรรมและผู ้ ที่ ผ ่ า นการ ประเมินแล้วจะถือว่าใน 6 เดือนแรก เป็นการ ทดลองงาน ถ้าประเมินแล้วไม่ผ่านก็เลิกจ้างได้ เช่นกัน ทั้ ง นี้ ผ ม แ ล ะ ผู ้ ป ร ะ เ มิ น ทุ ก ร ะ ดั บ ไม่ต้องการที่จะให้ใครคนใดคนหนึ่งไม่ผ่านการ ประเมิน จึงขอให้พวกเราตั้งใจท�ำงานให้ดีที่สุด ขอให้มีศรัทธาในวิชาชีพมีความรักในองค์กรและ มีความสุขในการท�ำงาน ไม่ควรคิดถึงค่าตอบแทน หรือผลประโยชน์ใดๆ ที่ได้รับเพื่อให้ได้ผลงาน อย่างแท้จริง ผมขอเอาใจช่ ว ยให้ พ วกเราทุ ก คน สามารถผ่านการประเมินครั้งนี้ ได้เป็นพนักงาน กระทรวงสาธารณสุขของรพ.น่านอย่างมีศักดิ์ศรี ผมขอขอบคุณชาวโฮงบาลน่านทุกคน แทนชาวน่าน ที่ได้ท�ำงานด้วยหัวใจบนพื้นฐาน ความรู้ เป็นที่พึ่งของชาวน่านยามเจ็บป่วยและ ขอให้พวกเราได้รกั ษาวัฒนธรรมที่ดีนี้ไว้ตลอดไป


ตีพิมพ์ครั้งแรก วารสารโรงพยาบาลน่าน ปีที่ 5 ฉบับที่ 60 เดือนตุลาคม 56

2

“โรงพยาบาลน่าน คือ บ้านหลังใหญ่ของพวกเรา”

ในที่สุดวันที่พวกเรารอคอยกันมานาน 17-18 ตุลาคม 56 วันที่ชาวโฮงบาลน่านจะต้อง รับการเยี่ยมส�ำรวจจากสถาบันรับรองคุณภาพ (สรพ.) เพื่อ re-accredit หรือรับการประเมินซ�ำ้ หลังจากที่เราผ่านการประเมินครั้งแรกเมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมาเพื่อจะได้รับการยืนยันว่าโฮงบาลน่าน ของเรานั้นยังเป็นรพ.ที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน ของสรพ.(ของประเทศ)อยู่หรือไม่ เนื่องจากงาน คุณภาพไม่มีวันสิ้นสุดจะยังคงมีการพัฒนางาน อย่ า งต่ อ เนื่ อ ง เพื่ อ ให้ เ กิ ด ประโยชน์ สู ง สุ ด ต่ อ ประชาชนที่มารับบริการ ไม่เหมือนงานบางอย่าง ที่ผ่านการสอบหรือประเมินแล้วก็สิ้นสุด ผมบอกกับทุกๆ คนอยู่เสมอว่า เราต้อง มีการพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา ถ้าหยุดนิ่ง เมื่อใดก็หมายความว่าตายแล้ว ดังนั้นองค์กร ใดก็ตามทีม่ กี ารพัฒนาอยูต่ ลอดเวลาจึงจัดว่าเป็น องค์กรที่มีชีวิต เช่นเดียวกัน เราทุกคนก็จะต้อง มีการพัฒนาตัวเราเองอยู่ตลอดเวลาพยายามที่ จะปรับปรุงในส่วนที่ยังไม่ดีพอ ขอเพียงแต่ให้

เรายอมรับตนเองในส่วนที่ยังมีความบกพร่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนิสัยส่วนตัว หรือจิตใจที่มีแต่ ความอิ จ ฉาริ ษ ยา ความโลภ ความขี้ เ กี ย จ ไม่กระตือรือร้น มองโลกในแง่ร้าย ฯลฯ จะท�ำให้ เกิดความเปลี่ยนแปลงในชีวิตไปในทางที่ดีขึ้น องค์กรก็จะได้รบั ผลประโยชน์ไปด้วย คณะผู้เยี่ยมส�ำรวจทั้งสี่ท่านผมรู้จักมา ก่อนจากการท�ำงานคุณภาพโดยเฉพาะอาจารย์ ผ่องพรรณ เป็นผู้เยี่ยมส�ำรวจรุ่นแรกๆ และเป็น ผู้ที่พูดถึง case manager ทางการพยาบาลให้ฟัง อาจารย์รณชัยเป็นผู้เยี่ยมส�ำรวจที่หลายๆ คน กลัวในหน้าตาท่าทางและค�ำถามที่ตรงๆ แบบ ลูกทุ่ง แต่ทุกค�ำถามจะตรงเป้าที่เราต้องการจะ ทราบด้วย อาจารย์ปรมินทร์เป็นครูพี่เลี้ยงที่ ให้ค�ำปรึกษาที่ดี และอาจารย์กนกรัตน์เหมือน ครูแนะแนวที่ให้ข้อแนะน�ำดีๆ โดยตลอด ผมจึง มีความรู้สึกเหมือนได้อยู่ท่ามกลางกัลยาณมิตร อีกครั้ง ท�ำให้รู้สึกมีความสุขมากที่ได้พบกันอีก อาจารย์ผ่องพรรณบอกเพิ่งทราบว่าผมมาเป็น “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 129 ครบวาระราชการ...หมอณุ


เราต้องมีการพัฒนาตนเอง อยู่ตลอดเวลา ถ้าหยุดนิ่งเมื่อใด ก็หมายความว่า...ตายแล้ว

ผอ.ที่ น ่ า น ท่ า นเพิ่ ง กลั บ จากเชี ย งรายมองหา ผมไม่พบ บอกเจอผมคราวนี้หน้าตามีความสุข มาก ผมจึงบอกอาจารย์ว่ามีความสุขเพราะได้ ท�ำงานอยู่ท่ามกลางคนดี และวัฒนธรรมองค์กร ที่ดีงาม เหมือนกับอาจารย์ทั้งสี่ที่มีหน้าตาอิ่ม เอิบไปด้วยความสุขเนื่องจากท�ำสิ่งดีๆ ให้สังคม ให้เกิดคุณภาพในรพ.ทุกๆ แห่ง เพื่อประโยชน์ต่อ ประชาชนยามเจ็บป่วย ในวั น แรกของการตรวจเยี่ ย มผมเกิ ด ความประทับใจมากที่ได้เห็นอาจารย์บุญยงค์ อาจารย์นิวัตชัย อดีตผอ. พี่พิกุลอดีตหัวหน้า พยาบาล และเภสัชกรนิคม อดีตรองผอ.อยู่ใน ห้องประชุมด้วย ผมถือเป็นภาพที่สวยงามที่สุด เป็นวัฒนธรรมทีด่ งี าม ผูท้ เี่ กษียณแล้วยังคงมาให้ ก�ำลังใจและเป็นสักขีพยานในงานทีเ่ ราท�ำต่อจาก รุน่ ของท่าน ผมได้รบั การขอร้องจากหมอวราภรณ์ หมอวสันต์และทีมงานคุณภาพให้เป็นผูน้ ำ� เสนอ ข้อมูลและผลงานของรพ. ผมตอบรับด้วยความ ยินดีและถือเป็นหน้าทีท่ ผี่ ้นู �ำควรกระท�ำเนือ่ งจาก จะแสดงถึงความมุง่ มัน่ ขององค์กรในด้านคุณภาพ อย่างแท้จริง ผมได้เห็นสไลด์ในคืนวันที่จะน�ำเสนอ ครัง้ เดียวเนือ่ งจากต้องเดินทางไปประชุมเชียงใหม่ กลับถึงน่านคืนนั้นเกือบห้าทุ่ม มึนๆ จากการ เดินทางที่ยาวนาน ซ้อมพูดในใจหนึ่งรอบ ไม่มี

130

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

สคริปใดๆ แต่พูดด้วยหัวใจเนื่องจากเป็นงานที่ พวกเราท�ำจริงๆ และผมมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยจึง ทราบความเป็นมาเป็นอย่างดี โดยปกติผมมัก จะเตรียมสไลด์เองจะได้รู้ว่าควรจะพูดอะไรก่อน หลังเป็นการล�ำดับเรือ่ งราวต่างๆ จะได้สอดคล้อง กันท�ำให้ผู้ฟังเข้าใจได้โดยง่ายและสรุปสั้นๆ ผม มีเวลาพูดเพียง 15 นาทีแต่ก็สบายใจทีอ่ าจารย์ รณชัยบอกให้พดู ได้เต็มทีเ่ พราะผมบอกว่ามีเรือ่ ง อยากพูดอยากอวดอาจารย์มากมาย ผมใช้เวลาพูด 20 นาที รู้สึกได้เลยว่า พูดได้ดีเพราะมีความสุขจากการน�ำเสนอตลอด เวลา อารมณ์ที่พูดออกมามีทั้งความภาคภูมิใจ ความสุขที่เกิดจากการได้มาท�ำงานในองค์กรที่มี วัฒนธรรมทีด่ งี าม มีผลงานเป็นทีย่ อมรับ มีสงิ่ ดีๆ ที่เกิดจากค�ำสอน และการปฏิบัติจากรุ่นสู่รุ่นมา ตั้ ง แต่ ส มั ย อาจารย์ บุ ญ ยงค์ ที่ มี ค� ำ สอนเตื อ น ใจรุ่นพี่ๆ ทุกคนว่า “สอนให้จ�ำ ท�ำให้ดู อยู่ ให้เห็น” ซึ่งในปัจจุบันจะพบหาได้ยากในองค์ กรอื่นๆ แม้ในรร.แพทย์ ผมดีใจที่หลังการน�ำ เสนอแล้วท�ำให้บรรยากาศความตึงเครียดของ ทุกๆ คนหายไป อาจารย์บุญยงค์บอกกับผมว่า “หมอเริ่มต้นได้ดีมากที่พูดว่าเป็นบรรยากาศของ กัลยาณมิตร เพราะโดยปกติแล้วทุกคนจะรู้สึก เหมือนว่าเป็นการสอบไล่ ท�ำให้ทุกคนเครียด แต่ ถ้าเป็นการเยี่ยมแบบกัลยาณมิตรคือมีมิตรไมตรี


ต่อกันมีการเสนอแนะสิ่งดีๆ ให้ จึงท�ำให้ทุกคน เกิดความสบายใจ” คี ย ์ จ ากกลุ ่ ม งานสุ ข ศึ ก ษา ได้ โ พสใน เฟสบุ้คว่า “มีแต่เสียงชื่นชมผอ. ในการน�ำเสนอ ผลงานต้อนรับอ.สรพ. เมื่อวาน และให้ก�ำลังใจ พวกเราชาวรพ.น่านทุกคน ยังจ�ำข้อความนี้ได้ โรงพยาบาลน่าน คือ บ้านหลังใหญ่ของพวกเรา “ผ่านไม่ผา่ น” ไม่สำ� คัญ แต่..พวกเราทุกคน พร้อม จะพัฒนาโรงพยาบาลน่านของเรา ให้”ผ่าน” แน่ น อน” ผมขอขอบคุณ ทุก คนอีก ครั้ง ที่ตั้ง ใจ ท�ำงานท�ำหน้าทีท่ ไี่ ด้รบั มอบหมายอย่างเต็มความ สามารถ ด้วยความระมัดระวังและด้วยความ ปรารถนาดีต่อผู้ป่วยและญาติ สมดังค่านิยมร่วม ที่เราได้ยึดถือกันมาตั้งแต่สมัยอาจารย์บุญยงค์ และขอบคุณทีมงานคุณภาพที่ท�ำสไลด์น�ำเสนอ และเตรียมพวกเราทุกคนให้พร้อมรับการตรวจ เยี่ยม และผมได้พูดมาตลอดว่าขอให้พวกเรา ท�ำใจให้สบายท�ำตัวเหมือนปกติ การขึ้นเวรก็เป็น ไปตามปกติไม่จำ� เป็นต้องจัดเวรเอาพีๆ่ ขึน้ ท�ำงาน ในวันเยี่ยมส�ำรวจและเวลาอาจารย์ซักถามก็ขอ ให้ทุกๆคนมีโอกาสตอบไม่ควรตอบเพียงคนเดียว และขอให้ตอบตามที่เราท�ำจริง อาจารย์จะได้ ชีแ้ นะในสิง่ ทีเ่ ราสามารถน�ำมาพัฒนาให้ถกู ต้องได้ ผมบอกว่าถึงอย่างไรเราก็ต้องช่วยกัน พั ฒ นาให้ เ ราผ่ า นการประเมิ น ให้ ไ ด้ เ พื่ อ จะให้

ชาวน่ า นเกิ ด ความมั่ น ใจและความไว้ ว างใจ ในรพ.ของเราว่ า มี คุณ ภาพได้ ม าตรฐานระดั บ ประเทศ ซึ่งในเช้าวันนั้นผมได้ไปออกรายการ “เช้านี้....ที่น่าน” ทางสวท.และเคเบิ้ลทีวีน่านเพื่อ อธิบายให้ชาวน่านรู้จกั ค�ำว่าคุณภาพรพ.หรือ HA และความส�ำคัญความภาคภูมใิ จในการทีร่ พ.น่าน ของทุกคนจะพัฒนาให้ได้มาตรฐาน เพือ่ ให้ทกุ คน ไว้วางใจ เมือ่ เจ็บป่วยไม่วา่ อยูท่ ใี่ ดก็คดิ ถึงรพ.น่าน อยากกลับมารักษาที่รพ.น่าน ผมได้ ส รุ ป ในตอนท้ า ยว่ า สิ่ ง ต่ า งที่ อาจารย์ผู้ตรวจเยี่ยมชี้แนะเป็นสิ่งที่เราทราบกัน ดีแล้วเป็นส่วนใหญ่ เพียงแต่เรายังไม่อยากท�ำ อาจเป็นด้วยจาก อย่างนี้ก็ดีอยู่แล้ว ไม่อยากเพิ่ม งานอีกคนก็มีน้อย ยังไม่เห็นมีปัญหาอะไร ฯลฯ จริงๆ แล้วสิ่งต่างๆ ที่เป็นของใหม่ดูเหมือนว่าจะ ยุง่ ยาก แต่ถา้ เราท�ำให้ดแี ล้วจะเป็นการลดขัน้ ตอน การท�ำงาน เกิดความปลอดภัยต่อคนไข้ เป็นผลดี ต่อองค์กร จึงขอให้ถือเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้ พัฒนารพ.ของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคนไข้ หลายๆ อย่างที่อาจารย์แนะเป็นต้นว่าหัวหน้าหอ ผูป้ ว่ ย รองฯ บริหารต้องเดินส�ำรวจพืน้ ทีร่ บั ผิดชอบ ของตัวเองทุกเช้า เพื่อจะได้เห็นปัญหาที่อาจเกิด ความเสี่ยงได้ทุกเวลาก่อนท�ำงานอื่น เหมือนกับ ที่ผมเคยบอกให้ทุกๆ คนในทีมบริหารให้ปฏิบัติ เป็นประจ�ำ อาจารย์บุญยงค์ท่านปฏิบัติให้เห็น “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 131 ครบวาระราชการ...หมอณุ


เป็นตัวอย่างอยู่ตลอดเวลาว่าการบริหารที่ดี คือ การบริหารโดยการเดินตรวจรอบๆ รพ.ทั้งหมด เราจะได้พบเห็นปัญหาด้วยตนเอง ได้สมั ผัสได้ยนิ ได้ฟังผู้ปฏิบัติทุกๆ ระดับ ซึ่งผมได้จดจ� ำและ ปฏิบัติตามโดยตลอดทั้งยังได้น�ำไปสอนผู้บริหาร รุ่นใหม่ๆ อยู่เสมอๆ อย่างไรก็ตามถือได้ว่าสิ่งต่างๆ ที่เราท�ำ หลังจากผ่านการประเมินเมื่อสองปีก่อนนั้นได้ ส่งผลให้เราประสบความส�ำเร็จผ่านการประเมิน รอบใหม่อีก ซึ่งเราจะต้องผ่านการเยี่ยมส�ำรวจ อีกในสามปีข้างหน้า (พศ.2559) ผมจึงขอให้เรา น�ำงานคุณภาพเข้าสู่งานประจ�ำ ทีมคุณภาพจะ ต้องไม่นั่งอยู่ในส�ำนักงานแต่ต้องออกเยี่ยมพื้นที่ ในทุกๆ PCT จึงจะเกิดการพัฒนาคุณภาพอยู่ ตลอดเวลา ให้วงล้อคุณภาพได้หมุนไปข้างหน้า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคนไข้และองค์กร แล้วเราจะได้ไม่ต้องตื่นเต้นหรือกังวลใดๆ ในการ ตรวจเยี่ยมครั้งต่อไป ดังที่อ.บุญยงค์ได้กล่าว ตอนท้ายที่ exit ว่า “เราจะได้บอกกับทางสรพ. ว่าเมื่อไหร่จะมาเยี่ยมส�ำรวจอีก เพราะเราเตรียม พร้อมตลอดเวลา” ขอแสดงความชืน่ ชมและขอบคุณชาวโฮงบาล น่านทุกๆ คนรวมทั้งผู้ที่เกษียณแล้วที่ได้ช่วยกัน ท�ำงานอย่างมีคุณภาพ และอย่าลืมว่าเราต้อง น�ำงานคุณภาพอยู่กับตัวไปทุกๆ ที่ไม่ว่าจะเป็น

132

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ทีบ่ า้ นทีช่ มุ ชน และต้องน�ำค�ำสอนดีๆ “สอนให้จำ� ท�ำให้ดู อยู่ให้เห็น” ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ใน ทุกที่ ทุกเวลา


ตีพิมพ์ครั้งแรก วารสารโรงพยาบาลน่าน ปีที่ 6 ฉบับที่ 61 เดือนพฤศจิกายน 56

3

​ “เวลาติดปีก” ค�ำกล่าวนี้ไม่เกินความ จ ริงเลย ในวันที่ 28 พ.ย. 56 ก็ครบปีที่ผมได้ ม าด�ำรงต�ำแหน่งผอ.โฮงบาลน่าน มีความรู้สึก เหมือนเพิ่งมาได้ไม่นาน แต่พอนึกย้อนหลังก็รู้สึก ว่าได้เรียนรู้และท�ำอะไรมากมายในช่วงเวลาที่ ผ่านมา ต้องขอขอบคุณปลัดกระทรวงสธ. ที่ให้ โ อกาสได้มาอยู่ที่นี่และขอบคุณพวกเราทุกคน ที่ให้โอกาสผมได้ท�ำงานร่วมด้วย แม้จะเป็นช่วง สั้นๆ แต่มีความรู้สกึ ผูกพันอย่างมาก ดังที่ผมได้ ไ ปเป็นวิทยากรให้ศูนย์คุณภาพภาคเหนือเรื่อง “engagement” ซึ่งหมายถึงความผูกพันที่มีกับ อ งค์กร แต่เป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งมากกว่าผูกพัน ทั่ ว ไป ที่ มี โ ดยการทุ ่ ม เทท� ำ งานสร้ า งสิ่ ง ดี ง าม พัฒนาองค์กร ยอมทีจ่ ะท�ำงานหนักขึน้ เหนือ่ ยขึน้ เพื่อองค์กร ให้ได้ความภูมใิ จในการเป็นส่วนหนึ่ง ขององค์กร ​ ผมได้ ย กตั ว อย่ า งโฮงบาลน่ า นของ เ ราที่บุคลากรมีความผูกพันอย่างมาก จนเป็น วั ฒ นธรรมที่ ดี ง ามจากรุ ่ น สู ่ รุ ่ น โดยมี อาจารย์

สอนให้จ�ำ ท�ำให้ดู อยู่ให้เห็น นพ.บุญยงค์ วงค์รักมิตร เป็นตัวอย่างที่ดีงามให้ เ ราได้เห็นได้สัมผัสในการกระท�ำมาโดยตลอด ตามค�ำสอนของอาจารย์ทวี่ า่ “สอนให้จำ� ท�ำให้ดู อ ยู่ให้เห็น” ผมจึงขอให้พวกเราช่วยกันรักษา วัฒนธรรมที่ดีงามนี้ไว้ ให้คงอยู่คู่โฮงบาลน่าน ของเราตลอดไป ​ ผมต้องขอขอบคุณทีมงานทุกคน ที่ได้ ช่วยกันจัดงานมุทติ าจิต 80 ปี อาจารย์บญ ุ ยงค์ ใน วันที่ 9-10 พ.ย. 56 ทีผ่ า่ นมา เราจะเห็นได้เลยว่าความ ผูกพันของบรรดาศิษย์เก่าที่เคยอยู่โฮงบาลน่าน นั้ น มี ม ากขนาดไหน มี ก ารรวมตั ว กั น กั บ ศิ ษ ย์ ปั จ จุ บั น เตรี ย มงานกั น เป็ น อย่ า งดี พี่ ๆ รุ ่ น เกษียณไปแล้วมาร่วมด้วยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น พีส่ มสิทธิ์ (ปัจจุบนั ยังปฏิบตั งิ านอยู่รพ.บ�ำราศฯ) พี่อุทัย (อดีตผอ.รพ.ชลประทาน) พี่ดาวฤกษ์ (อดีตผอ.รพ.พระปกเกล้าจันทบุรี ปัจจุบนั ช่วยงาน อ ยู่ท่สี ธ.) พี่เทียม (อดีตผอ.รพ.สระบุรี ปัจจุบัน ช่วยงานอยู่ที่ สธ.) พี่อนุวัฒน์ (ผู้อ�ำนวยการ สรพ.) ฯลฯ “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 133 ครบวาระราชการ...หมอณุ


​ในช่ ว งบ่ า ยวั น เสาร์ มี ก ารพู ด คุ ย กั น ถึ ง งานที่ อาจารย์ได้ท�ำนอกเหนือจากงานสธ. โดยตรงหลัง ลาออกจากราชการ เช่น งานอนุรกั ษ์เมืองเก่า งาน สืบสานโครงการพระราชด�ำริ (โครงการปิดทอง ห ลังพระ) งานวิทยาลัยชุมชน ซึ่งแขกรับเชิญ แต่ละท่านได้เล่าถึงประสบการณ์ท่ไี ด้ร่วมท�ำงาน กับอาจารย์บุญยงค์ ท�ำให้เราได้เห็นถึงความ มุ่งมั่นที่อาจารย์ได้ท�ำอย่างจริงจัง ไม่ใช่ว่ามีแต่ เ พียงชื่อเป็นที่ปรึกษาหรือคณะกรรมการเท่านั้น อาจารย์ไปนัง่ เรียนร่วมด้วยในเรือ่ งต่างๆ ทีย่ งั ไม่รู้ จ นเข้าใจอย่างถ่องแท้ สามารถน�ำมาปฏิบัติได้ เ ป็นการเปิดโลกทัศน์ให้พวกเราได้รู้ว่ายังมีเรื่อง ต่างๆ ภายนอกรพ.ทีม่ คี วามส�ำคัญต่อชีวติ สภาพ สิ่งแวดล้อม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของ ประชาชนในทีส่ ดุ ผมคิดว่าคงจะมีพวกเราหลาย ๆ คนสนใจ และคิดที่จะมีส่วนร่วมในงานที่อาจารย์ ไ ด้ท�ำไว้ หลังการเสวนาเรามีโอกาสได้ฟังข้อคิด ต่างๆ จากอาจารย์ซ่งึ ผมถือว่าเป็น “ต�ำนานที่มี ชีวิต” มีการถ่ายภาพร่วมกันเป็นภาพที่สวยงาม ม าก คงจะเป็นภาพประวัติศาสตร์อีกภาพหนึ่ง ของชาวโฮงบาลน่าน หลังจากนั้น เราได้จัดให้ศิษย์เก่านั่งรถ รางชมเมืองโดยมี อาจารย์สมเจตน์ วิมลเกษม ท� ำ หน้ า ที่ เ ป็ น มั ค คุ เ ทศก์ กิ ต ติ ม ศั ก ดิ์ บรรยาย ค�ำเมืองให้ได้อรรถรส ท�ำให้เกิดความประทับใจ

134

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

เป็นอย่างยิง่ ในภาคกลางคืนนัน้ เป็นบรรยากาศที่ เป็นกันเองระหว่างพีๆ่ น้องๆ โดยมี อาจารย์บญ ุ ยงค์ เ ป็นพี่ใหญ่ ทุกคนพร้อมใจกันมีการถ่ายภาพ อ าจารย์ร่วมกับศิษย์เก่า ขณะรับหนังสือ 80 ปี พร้อมขอให้ อาจารย์เซ็นชือ่ ในหนังสือ มีการเลือก รับประทานอาหารที่จัดเป็นซุ้มๆ จากกลุ่มงาน ต่างๆ และมีหมูย่างโอ่งของผู้บังคับการจังหวัด ทหารบกน่าน พลตรีวจิ กั ขฐ์ สิรบิ รรสพ ทีเ่ ลือ่ งชือ่ ในความอร่อยและหาซือ้ ไม่ได้ ท่านผบ.มาแนะน�ำ ด้วยตัวเองด้วย ระหว่างนัน้ ดนตรี “คนลายเมือง” บรรเลงเพลงสไตล์คนั ทรีเ่ บาๆ พร้อมไฮไลท์ เพลง “หมอบุญยงค์” ทีบ่ รรจงแต่งขึน้ เพือ่ เป็นเกียรติแก่ อาจารย์ แสดงถึงความระลึกถึงบุญคุณที่ย่งิ ใหญ่ ที่อาจารย์ได้ท�ำไว้ให้เมืองน่าน จากนั้นมีการฉายวิดิทัศน์ประวัติผลงาน ข องอาจารย์ที่พวกเราได้จัดท�ำขึ้นรวมถึงเพลง “ พรานทะเล” ที่อาจารย์เคยร้องในงานหนึ่งได้ บันทึกเสียงร้องด้วย หลังจากนั้นพิธีกร(หน่อยกับ คีย์) ได้เชิญอาจารย์กล่าวเปิดงาน ซึ่งอาจารย์ ไม่กล่าว แต่ร้องเพลงให้พวกเราฟังหลายๆ เพลง บางเพลงมีการหยอกเย้าอาจารย์พนิดาด้วยเป็น บ รรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างแท้จริง เ สร็จแล้วมีการท�ำเซอร์ไพรส์โดยการร้องเพลง แ ฮปปี้เบิร์ดเดย์และให้อาจารย์เป่าเค้ก จากนั้น ผมในฐานะเจ้าบ้านเป็นตัวแทนศิษย์ปจั จุบนั กล่าว


ผมขอให้ทุกคน ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางในการด�ำเนินชีวิต

ถึงอาจารย์ ก่อนกล่าวผมขออนุญาตเป่าขลุ่ยทีไ่ ม่ ได้เป่ามานานมากแล้วให้ อาจารย์ฟังเป็นกรณี พิเศษในเพลง “กลิ่นโคลนสาบควาย” ทีผ่ มเคย เล่นในวงกรรมาชน วงแรกของเชียงใหม่ตั้งแต่ เมื่อ 14 ต.ค.2516 ที่ประตูท่าแพขณะมีการชุมนุม ของนศ.และเป่าเม้าท์ออร์แกนประกอบการร้อง เพลง “น่านนะซิ” ให้บรรดาศิษย์เก่าทีม่ าจากต่าง แดนฟัง ก่อนที่จะกล่าวอวยพรให้อาจารย์อยู่เป็น ร่มโพธิ์ร่มไทรพวกเราให้นาน..น้าน..น่าน จากนั้นได้เชิญบรรดาศิษย์เก่ากล่าวถึง ความทรงจ�ำความประทับใจทีม่ ตี อ่ อาจารย์ แต่ละ ท่านกล่าวโดยไม่ต้องเตรียมตัวมาแต่อย่างใด เพราะเป็นการกล่าวจากใจ ท� ำให้ค�่ำคืนนั้นมี ความหมายมากๆ เสร็จแล้วมีการถ่ายภาพร่วมกัน อีกครั้ง แสดงถึงความรักความผูกพันที่มีต่อกัน เป็นวัฒนธรรมอันดีงาม ทีค่ วรแก่การรักษาให้คงไว้ ตลอดไป ผมขอขอบคุ ณ ที ม งาน ที่ ช ่ ว ยกั น ท� ำ หนังสือมุทิตาจิต 80 ปี อาจารย์บญ ุ ยงค์ ที่นำ� ทีม โดยหมอปุ้ย (พรชัย) ซึ่งจะมีการพิมพ์เพิ่ม เพื่อ แจกให้กับรพ.ทุกแห่ง สสจ.ทุกแห่ง และเพิ่มข้อ เขียนของผู้เกี่ยวข้องกับทาง ชมรมรพศ./รพท. พร้ อ มภาพและข้ อ คิ ด ดี ๆ ที่ ไ ด้ จ ากงานมุ ทิ ต า จิตครั้งนี้ด้วย จะได้เป็นหนังสือที่มีคุณค่าเป็น อย่างยิ่ง ที่ส�ำคัญจัดท�ำขึ้นโดยทีมงานรพ.น่าน

ผมมี อี ก เรื่ อ งหนึ่ ง ที่ อ ยากบอกกล่ า ว ให้พวกเราทราบ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ของเรา คนหนึ่ง ท�ำผิดโดยไม่ได้เจตนาทั้งๆ ที่เป็นเรื่อง ร้ า ยแรง โดยเจ้ า หน้ า ท่ า นนั้ น ได้ ป ลอมแปลง เอกสารราชการ (ใบรับรองเงินเดือน) พร้อมกับแก้ไข ตั ว เลขเงิ น เดื อ นที่ รั บ จริ ง (แก้ ไ ขเปลี่ ย นแปลง เอกสารราชการ) ด้วย ซึง่ ถือเป็นความผิดทางวินยั ที่ร้ายแรง โชคดีที่เราตรวจพบก่อน จึงได้เรียกมา ตักเตือนพบว่าเหตุผลทีท่ �ำเช่นนัน้ เพียงเพือ่ น�ำไป เป็นเอกสารในการกู้เงินธนาคารให้พี่สาวที่กทม. จะท�ำให้กู้เงินในวงเงินได้มากขึ้น จากค�ำแนะน�ำ ของพนักงานธนาคาร ผมจึงอยากขอเตือนทุกๆ คนว่า ก่อน ที่จะท�ำอะไรที่ต้องมีการบิดเบือน แต่งเติม หรื อ แก้ ไ ขเอกสารราชการ ต้ อ งส� ำ นึ ก อยู ่ เ สมอว่ า เป็ น การกระท� ำ ผิ ด จะอ้ า งว่ า ไม่ รู ้ นั้ น ไม่ ไ ด้ ถ้ า มี อ ะไรที่ ไ ม่ แ น่ ใ จ ขอให้ ปรึ ก ษาหั ว หน้ า งานหรื อ ผมได้ ทุ ก เวลา อย่ า ท�ำให้เกิดปัญหาก่อนแล้วจะให้ช่วยตามแก้ไข จะเป็นการสายเกินแก้ ผมขอให้ทุกคนใช้หลัก เศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางในการด�ำเนินชีวิต จะท�ำให้มีความสุขได้โดยไม่จ�ำเป็นต้องสร้างหนี้ ให้เป็นภาระต่อไปในอนาคต ​ ผมขอขอบคุณทุกคนทีช่ ว่ ยกันท�ำงานเพือ่ บ ริการคนไข้ ให้เหมือนกับเป็นบ้านหลังใหญ่ ส�ำหรับทุกคนที่ระทมทุกข์จากการเจ็บป่วย ขอให้ ถือเสียว่าเราเป็นพีน่ อ้ งทีเ่ กิดมาร่วมทุกข์รว่ มสุขกัน สักวันหนึ่งเราก็คงต้องเจ็บป่วย ถึงเวลานั้นจะได้ มีคนดูแลเราเหมือนเมื่อเราดูแลคนไข้ให้ดที ี่สุด. “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 135 ครบวาระราชการ...หมอณุ


ตีพิมพ์ครั้งแรก วารสารโรงพยาบาลน่าน ปีที่ 6 ฉบับที่ 64 เดือนกุมภาพันธ์ 57

4

“สุขจากการเป็นผู้ให้ ย่อมยิ่งใหญ่กว่าสุขจากการเป็นผู้รับ”

ในที่สุดโฮงบาลน่านของเราก็มีอายุครบ 58 ปีเต็มในวันที่ 21 ก.พ. 57 ที่ผ่านมา ปีน้เี ราจัด ท�ำบุญวันเกิดรพ.พร้อมกับเปิดตึกพิเศษ 32 ห้อง ที่สร้างแทนตึกพิเศษ 200 ปีที่ได้ร้ือไป (ผมเพิ่ง ทราบว่าชือ่ ตึกพิเศษ 200 ปีมาจากปีทสี่ ร้างตึกนัน้ เป็นปีฉลองกทม.ครบ 200ปี) ชือ่ ตึกใหม่นกี้ �ำลังรอ พระราชทานนามจากสมเด็จพระเทพฯ ตึกนี้มี 4 ชั้นเป็นตึกพิเศษที่รับคนไข้ทุกแผนกโดยมีเงื่อนไข เหมือนการรับคนไข้เข้าห้องพิเศษอื่นๆ เพียงแต่ สามารถรับ ได้ ทุก แผนกเพื่อ ให้ ค นไข้ ได้ พักฟื ้ น อย่างสุขสบาย เนื่องจากเป็นตึกใหม่และมีการ ตกแต่งภายในทีล่ งตัวโดย index living mall รพ.จะ มีรายได้เพิ่มจากราคาห้องที่สูงขึ้นด้วย ชั้น 4 จะ ให้บริการพระสงฆ์ท่อี าพาธเป็นอันดับต้น จึงต้อง ขอความร่วมมือจากแพทย์ทุกท่านที่จะต้องตาม ไปรักษาคนไข้ด้วย ​ในวันนัน้ เราได้มพี ธิ สี งฆ์เพือ่ ความเป็นสิริ มงคลด้วย เสร็จแล้วได้มกี ารมอบช่อดอกไม้แสดง คว ามยินดีกับคุณหมอเพชรดี โอฬารริกสุภัค

136

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ที่ได้รับคัดเลือกเป็น อายุรแพทย์ดีเด่นจากราช วิ ทยาลัยอายุรแพทย์ประจ�ำปี 2557 รพ.น่าน เป็นรพ.แรกที่มีอายุรแพทย์ดีเด่น 2 คน(คนแรก ได้แก่นพ.นิวัตชัย อดีตผอ.รพ.) ทุกคนที่ได้ทราบ ข่ าวต่างก็ร่วมแสดงความยินดีเนื่องจากผู้ร่วม งา นทุกคนได้เห็นคุณความดีที่หมอเพชรได้ท�ำ กั บคนไข้ทุกวัน พร้อมกันนั้นมีการมอบรางวัล บุ คคลที่มจี ริยธรรมดี 4 ท่านจากชมรมจริยธรรม ขอ งกลุ ่ ม การพยาบาล ได้ แ ก่ คุ ณ ละเอี ย ด รั กษ์เลิศวงศ์ พยาบาลหัวหน้าตึกผู้ป่วยนอก คุ ณนิธิมา อ่อนดี พยาบาลคลินคิ วัณโรค คุณ ฉวีวรรณ ค�ำวัง พนักงานผู้ช่วยเหลือคนไข้ตึก ผู ้ ป ่ ว ยนอกและคุ ณ เสถี ย ร จิ ต ตวงศ์ พั น ธุ ์ เจ้ า หน้ า ที่ ศู น ย์ เ ปล ทั้ ง 4 ท่ า นท� ำ งานดี แ ละ มีอัธยาศัยดีเป็นที่รักของผู้ร่วมงาน ผ มได้เสนอคณะกรรมการบริหารรพ.ให้ มี การคัดเลือกคนดีศรีโฮงบาลน่านประจ�ำเดือน เดือนละ 1 คนโดยมีคณะกรรมการคัดเลือกจาก ทุ กฝ่ายและไม่ให้ซำ�้ คน จะเป็นการสร้างคนดีให้


สังคมทุกเดือนและมีการมอบรางวัลในวันเกิด รพ.ให้เกียรติบัตรพร้อมเงินรางวัล เพื่อให้เกิด ความภาคภูมใิ จทีไ่ ด้รบั การยอมรับจากผู้ร่วมงาน และรพ.เป็นเกียรติแก่วงค์ตระกูลสืบไป ในวันนั้นได้มกี ารมอบของที่ระลึกส�ำหรับ แขกผู้มีเกียรติและผู้มีอุปการะคุณที่บริจาคเงิน ให้รพ.ในการสร้างตึกพิเศษนี้รวม 6 ล้านเศษ ผมได้กล่าวขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมครั้งนี้ ผมบอกกับทุกคนว่ารพ.น่านอายุครบ 58 ปี ถ้า เป็นคนก็ใกล้จะเป็นผูส้ งู อายุ แต่รพ.น่านยังคงเต็ม ไปด้วยพละก�ำลัง การพัฒนาที่ไม่หยุดยั้งพร้อม กับการท�ำงานที่ท�ำด้วยหัวใจในการดูแลคนไข้ดุจ ญาติมิตร ทันสมัยด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ เนื่องจากขาดแคลนบุคลากร มีคุณภาพเพราะ ผ่านการรับรองจากสรพ.ในระดับประเทศ และที่ ทุกคนไว้วางใจ ไม่ว่าจะอยู่ท่ไี หนก็คิดถึงรพ.น่าน ในยามเจ็บป่วย เราได้จัดนิทรรศการผลงานเด่น เพื่อเผยแพร่ให้คนทั่วไปรับรู้ด้วย เสร็จแล้วได้พา ผูท้ มี่ าร่วมงานเดินดูอาคารจนทัว่ ได้รบั การชืน่ ชม เป็นอย่างมาก ผมขอขอบคุณพวกเราทุกคนที่มี ส่วนร่วมในการจัดงานครัง้ นีท้ งั้ ฝ่ายสุขศึกษา กลุม่ การพยาบาลและฝ่ายบริหาร ท�ำให้งานส�ำเร็จเป็น อย่างดี ในช่ ว งที่ผ ่ า นมามีวิก ฤติท างการเมือ ง เนื่องจากประชาคมสาธารณสุขได้มีมติให้ปฏิรูป

ก่ อนเลือกตั้งพร้อมกับให้รัฐบาลลาออก ผมใน ฐานะผูน้ ำ� องค์กรจึงได้ให้รพ.ขึน้ ป้ายสนับสนุนประ ชา คมฯ เป็นเหตุให้ทางนปช.น่านไม่พอใจมีการ ยื่นหนังสือถึงผวจ.ให้ผมปลดป้ายนั้นลงพร้อมกับ มี ข่าวว่าจะบุกมาที่รพ.น่านด้วยหลังยื่นหนังสือที่ ศาลากลางแล้ว ผมได้เห็นถึงศรัทธาของพวกเรา ที่มีต่อคุณธรรมจริยธรรม ที่เรายึดถือมาตลอดใน กา รท�ำงานของเรา ทุกคนเป็นห่วงผอ.พร้อมกับ แส ดงพลังเพื่อปกป้องรวมถึงเจ้าหน้าที่สาธารณ สุขอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรพช. รพสต. สสอ.และสสจ. ผมได้เตรียมการไว้แล้วเพือ่ รับเหตุการณ์ ถ้ านปช.น่านมารพ.โดยให้ทางดร.ไหล่จัดเตรียม น�้ำเย็นต้อนรับ ผมจะออกไปพบที่หน้าอาคาร สิริเวชรักษ์ โดยไม่ให้เข้าไปในตัวอาคารเพื่อไม่ให้ รบกวนการท�ำงานของเจ้าหน้าทีแ่ ละคนไข้ พร้อม กับอ่านแถลงการณ์ 5 ข้อของผอ.โฮงบาลน่าน และแสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าไม่ปลดป้าย แต่นปช. ไม่ได้เดินทางมารพ. ผมได้ชแี้ จงจุดยืนให้ผวจ.และ สสจ.ทราบในฐานะผู้บงั คับบัญชา เวลาเที่ยงเศษ ได้มีการรวมตัวกันของชาวโฮงบาลน่านทั้งแพทย์ พยาบาลและเจ้ า หน้ า ที่ ทุ ก ระดั บ ตลอดจน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่มาจากหน่วยบริการทั่ว จังหวัดน่าน และยังมีประชาชนน่านทั้งผู้สูงอายุ และวัยรุ่นญาติคนไข้อีกมากมายมาร่วมกันให้ ก�ำลังใจผอ. ผมได้อ่านแถลงการณ์ 5 ข้อและ “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 137 ครบวาระราชการ...หมอณุ


แส ดงจุดยืนที่ชัดเจนพร้อมยืนยันว่ารพ.น่านเป็น รพ .คุณธรรมเราไม่ยอมรับรัฐบาลที่ไร้คุณธรรม จริยธรรม แม้ว่าจะปลดหรือขับไล่ผม คนใหม่ก็ จะ ยังมีจุดยืนที่เหมือนเดิม ผมต้องขอขอบคุณ พว กเราทุกๆ คน รวมถึงอาจารย์นพ.บุญยงค์ที่ เป็นก�ำลังใจให้โดยตลอด ผ มได้ขอร้องให้พวกเรามีความสามัคคี กั นแม้ว่าจะมีความคิดเห็นที่ต่างกันแต่ต้องไม่ แตกแยกกัน ให้เกียรติซงึ่ กันและกัน ไม่ใช้คำ� พูดหรือ ท่ าทางที่แสดงการดูถูกคนที่คิดต่าง ต้องร่วมมือ กั นท�ำงานเพื่อคนไข้ ยึดเอาประโยชน์ของคนไข้ แล ะรพ.เป็นศูนย์กลาง และขอให้สอดส่องดูแล ซึง่ กันและกันไม่ให้ใครมาท�ำร้ายคนโฮงบาลน่านได้ ปี นี้ ส มเด็ จ พระเทพฯได้ พ ระราชทาน เค รื่องมือแพทย์ให้รพ.น่านทุกรายการที่ขอรวม 8 ล้านบาทเศษ ผมได้ท�ำหนังสือทูลเชิญพระองค์ เสด็จรพ.น่านเป็นการส่วนพระองค์เพือ่ พระราชทาน เค รื่องมือแพทย์ รับฟังรายงานความคืบหน้าใน

138

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

การแก้ปัญหาต่างๆ ที่เคยกราบทูลเมื่อปีกลาย ปลู ก ต้ น ไม้ ที่ ส วนแม่ พ ลอยและเสวยอาหาร กลางวันในโอกาสเสด็จทรงงานที่น่านแพร่และ พะเยา แต่ในปีนี้พระองค์ทรงมีพระราชกรณียกิจ มากจึงไม่สามารถเสด็จรพ.น่านได้ ผมจึงขอให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องท�ำหนังสือถวายรายงาน ความคืบหน้าแทน เพื่อให้สมกับที่พระองค์ท่านมี เมตตากับโฮงบาลน่านมาโดยตลอด เนื่องจากระยะนี้มีหนังสือร้องเรียนเรื่อง พฤติกรรมบริการบ่อย ผมทราบว่าพวกเราท�ำงาน หนักมากแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเป็นงานที่เรารัก งานที่ได้ท�ำบุญช่วยเหลือคนอื่น จึงขอให้คิดว่า คนไข้เป็นผู้ที่น่าเห็นใจที่สุด จึงขอให้คิดว่าคน ไข้ทุกๆ คนเป็นเหมือนญาติของเราเอง สัก วันหนึ่งตัวเราหรือคนใกล้ชิดเราก็ต้องป่วย และต้องการคนดูแลรักษาเช่นกัน และในช่วงนี้ มีพวกเราท�ำผิดระเบียบพัสดุการจัดซื้อจัดจ้าง เช่นกัน จึงอยากจะขอให้ค�ำนึงถึงความถูกต้อง ตามระเบียบราชการเป็นอันดับแรก ถ้ามีปัญหา สงสัยขอให้ปรึกษาหัวหน้าหรือที่ผอ.ได้ทุกเวลา ขณะเดี ย วกั น ยั ง มี เ จ้ า หน้ า ที่ ร พ.ปลอมแปลง เอกสารทางราชการ ผมขอเตือนว่าเป็นการท�ำผิด วินัยร้ายแรง อย่าเห็นว่ามีคนอื่นท�ำได้ ถ้าทราบ ขอให้แจ้งหัวหน้าหรือผอ.โดยตรง อย่าปล่อยให้ เกิดความเสียหายจะท�ำให้ต้องออกจากราชการ และติดคุกได้ ขอให้คดิ เสมอว่าเราเป็นคนโฮงบาลน่าน ต้องมีคุณธรรมจริยธรรม เป็นตัวอย่างที่ดีในการ รักษาสุขภาพ เคารพกฏหมายโดยเฉพาะกฏหมาย จราจร ขอให้ทุกคนปฏิรูปตัวเรา องค์กรเราก่อน จึงจะไปปฏิรูปคนอื่นองค์กรอื่น ​ขอขอบคุณทุกคนทีต่ งั้ ใจท�ำงาน และขอ เป็นก�ำลังใจให้ท�ำงานต่อไปอย่างมีความสุข “ สุขจากการเป็นผู้ให้ ย่อมยิ่งใหญ่ กว่าสุขจากการเป็นผู้รับ”


ตีพิมพ์ครั้งแรก วารสารโรงพยาบาลน่าน ปีที่ 6 ฉบับที่ 66 เดือนเมษายน 57

5

เดือนนี้มีเหตุการณ์ส�ำคัญเกิดขึ้นมากมายเริ่ม จากการรับน้องใหม่ปนี มี้ แี พทย์ 21 คนทันตแพทย์ 6 คน เภสัชกร 3 คน โดยแพทย์ต้องหมุนเวียน ไปอยู่รพ.ปัว 3 เดือนอีก 9 เดือนอยู่โฮงบาลน่าน พยาบาลอยู่โฮงบาลน่าน 13 คน โดยทั่วไปจะมี การอบรมน้องใหม่ก่อนท�ำงาน ซึ่งแต่เดิมจะท�ำ รวมทั้งเขต แต่ปีน้ี ให้แยกกันจัด งานนีค้ ุณหมอ เสาวลักษณ์ผู้ช่วยผอ.ฝ่ายการศึกษาเป็นแม่งาน เริ่ ม ตั้ ง แต่ ก ารเรี ย นรู ้ เ กี่ ย วกั บ ระเบี ย บราชการ ต่างๆ วิชาการเกี่ยวกับโรคฉุกเฉินต่างๆ และ ความผิดพลาดทีอ่ าจเกิดขึน้ ได้ในการท�ำงาน งาน คุณภาพรวมถึงเรื่องการบริหารความเสี่ยง ผมได้ ขอให้มีการออกไปเรียนรู้นอกรพ.ด้วย เป็นต้นว่า คุณสมชายแห่งบริษทั ดอยซิลเวอร์ ผูผ้ ลิตและส่ง ออกเครือ่ งเงินไปทัว่ โลก มีรายได้นบั 100 ล้านบาท ต่อปี ​ ผมเคยพูดคุยกับคุณสมชายจึงทราบว่า ท่านเป็นชนเผ่าเมีย่ น การศึกษาจบแค่ชนั้ มัธยมต้น แต่สามารถน�ำพาบริษัทให้ประสบความส�ำเร็จได้

“วัฒนธรรมองค์กรที่ดีงาม ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น” แ ละมีการปกครองลูกน้องหลายร้อยคนแบบพี่ๆ น้องๆ ท่านได้เล่าถึงว่าต้องใช้ความเพียรพยายาม อ ย่างมากมาย เดินจนรองเท้าสึกหลายคู่เมื่อ 2 0 ปีก่อน เพื่อหาลูกค้าซื้อเครื่องเงินที่ผลิตด้วย งานฝีมอื อย่างปราณีต ผมต้องการให้น้องใหม่ได้ ท ราบถึงความเพียรที่ต้องมีความพยายามอย่าง มากในการทีจ่ ะประสบความส�ำเร็จในชีวติ จากนัน้ ผมได้พาไปฟังคุณสุพจน์ เต็งไตรรัตน์ ทีเ่ วียงสา ผู้สร้างเฮือนรถถีบ สะสมรถถีบนับร้อยคันและ มีอายุมากกว่า 100 ปีหลายคัน ที่สำ� คัญทุกคัน ยังขี่ใช้การได้ แต่ละคันล้วนมีประวัติมายาวนาน อ ะไรเป็นแรงบันดาลใจให้ท่านสร้างขึ้นและเป็น ก ารลงทุนที่ไม่หวังผลตอบแทน ผมจึงหวังที่จะ ใ ห้บรรดาน้องๆ ได้เห็นถึงคนที่ยอมสละเงินทอง และทรัพย์สินส่วนตัวเพื่อสร้างสิ่งดีๆ ไว้ให้อนุชน รุน่ หลัง เพือ่ ทีจ่ ะเกิดแรงบันดาลใจในการเสียสละ เพื่อส่วนรวมต่อไป ผมได้ พ าน้ อ งๆ ไปชม “หอศิ ล ป์ ริมน่าน” เพื่อฟังอาจารย์วินัย ปราบริปู ศิลปิน “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 139 ครบวาระราชการ...หมอณุ


ช าวน่านผู้สร้างผลงานที่มีชื่อเสียงมากมายแล้ว ก ลับมาสร้างสรรสิ่งดีๆ ให้บ้านเกิด พูดให้ฟัง เกีย่ วกับงานศิลปะกับชีวติ เพือ่ ให้นอ้ งๆ ได้เข้าใจใน การเสพงานศิลป์เพื่อการพัฒนาสมองซีกขวา ให้ มีความสุขและผ่อนคลายจากงานประจ�ำได้บ้าง ท�ำให้เกิดการมองโลกทางบวกและให้การดูแล คนไข้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผมได้เล่าให้ทุกคน ฟังว่าอาจารย์ไปถึงมิติที่สามแห่งชีวิตแล้ว โดย การวาดรูปเพื่อให้คนอื่นมีความสุขไม่ได้มุ่งหวัง ที่จะขายภาพแต่เพียงอย่างเดียว และอาจารย์ ได้มอบภาพวาดในสไตล์ Abstract รวม 8 ภาพ ให้กับรพ.น่านแสดงไว้ที่ชั้น 5 อาคารสิริเวชรักษ์ เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสชื่นชม จะได้ผ่อนคลาย จากความเครียดในชีวติ ประจ�ำวัน (มูลค่ามากกว่า 2 ล้านบาท) สุดท้ายผมได้พาน้องๆ ไปวัดอรัญญาวาส เพื่ อ ฟั ง พระครู พิ ทั ก ษ์ เ ล่ า ถึ ง งานอนุ รั ก ษ์ สิ่งแวดล้อม เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มฮักเมืองน่าน ซึ่ง พระอาจารย์ได้เล่าให้ฟังถึงแรงบันดาลใจที่ท�ำให้ เห็ น ความส� ำ คั ญ และสนใจในการที่ จ ะช่ ว ย อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้มีความอุดมสมบูรณ์เพื่อ อนุชนรุ่นหลัง และให้พรเพื่อเป็นศิริมงคลในการ เริ่มปฏิบัติงานดูแลรักษาคนไข้ต่อไป ผมถื อ ว่ า สิ่ ง เหล่ า นี้ เ ป็ น สิ่ ง ที่ ส� ำ คั ญ นอกเหนือจากความรู้ทางการแพทย์ท่ีรุ่นพี่ต้อง ทบทวนให้ ซึง่ ส่วนใหญ่จะเป็นโรคท้องถิน่ เพือ่ ให้ เกิดความมัน่ ใจในตัวเอง การเข้าใจคนอืน่ ๆ ไม่วา่ จะเป็นแพทย์รนุ่ พี่ พยาบาล เจ้าหน้าทีส่ ายวิชาชีพ

140

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

อื่นรวมทั้งฝ่ายสนับสนุนด้วย เพื่อที่จะเข้าใจเรื่อง การท�ำงานเป็นทีม และการให้เกียรติซงึ่ กันและกัน ทุกๆ หน้าที่ต่างก็มีความส�ำคัญ ผมไม่ยอมให้มี ฤดู ใ บไม้ ร ่ ว งในโฮงบาลน่ า นเหมื อ นที่ อื่ น ๆ เนื่องจากเป็นฤดูที่มีน้องใหม่เริ่มท�ำงาน ผมถือ ว่าพี่ๆ จะต้องดูแลน้องให้ดีจนกว่าจะมั่นใจว่า เกิดความปลอดภัยต่อคนไข้จึงจะให้ท�ำงานได้ เราจึงต้องมีการเตรียมพร้อมทุกปีในช่วงเวลานี้ หรือเมื่อมีเจ้าหน้าทีย่ ้ายมาใหม่ เนื่องจากเปลี่ยน สถานที่ท�ำงานใหม่แม้จะเคยผ่านงานที่อื่นๆ มา ก่อนก็ตาม ผมขอให้ทางศูนย์คุณภาพท�ำแนวทาง ปฏิบตั ใิ ห้ชดั เจนเมือ่ มีเจ้าหน้าทีใ่ หม่มาร่วมท�ำงาน ในรพ.ด้วยจะได้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และ ผมขอร้องให้พวกเราทุกคนช่วยกันดูแลน้องใหม่ เหล่านี้ให้ดีเพื่อให้มีความรู้สึกเหมือนเป็นญาติพี่ น้องสร้างความอบอุ่นเหมือนเป็นครอบครัวใหญ่ เพราะเขาเหล่านี้แหล่ะที่จะรับช่วงต่อวัฒนธรรม การท�ำงานที่ดีงาม และดูแลสุขภาพอนามัยของ ประชาชนรวมทั้งพวกเราต่อไป ในวันที่ 18-19 เมษายน 57 ที่ผ่านมา เราได้รับเกียรติจากคณะกรรมการบริหารของ สรพ.มาเยี่ยมรพ.พร้อมกับร่วมในพิธีรดน�้ำด�ำหัว ตามประเพณีปี๋ใหม่เมือง ผมถือเป็นโอกาสอัน ดีที่พวกเราจะได้เรียนรู้และแสดงความคิดเห็น เกีย่ วกับงานคุณภาพ เป็นการสะท้อนให้ทางสรพ. ได้เห็นปัญหาในการท�ำงานด้านคุณภาพของรพช. เล็กๆ ที่อยู่ในที่ห่างไกลและมีการเปลี่ยนผอ.บ่อย ผมได้ น� ำ เสนอผลงานความภาคภู มิ ใ จและ ข้อจ�ำกัดในการท�ำงานของเรา ซึ่งคณะกรรมการ แสดงความชื่นชมพวกเรามาก ผมได้ขอบคุณ สรพ.ทีม่ กี ารพัฒนางานคุณภาพมาโดยตลอดและ ได้กล่าวให้ก�ำลังใจน้องๆ รพช.ว่าจะต้องมีการ ช่วยเหลือกันในระดับจังหวัด จะต้องช่วยกันท�ำให้


ทุกรพ.ผ่านการประเมินเพื่อสร้างความมั่นใจให้ คนน่านว่าการให้บริการของสธ.ได้มาตรฐานทั้ง จังหวัด ผมขอเพียงให้พวกเรายึดคอนเซ็ป ที่ว่าเอาคนไข้เป็นศูนย์กลางอย่าเอาตัวเรา เป็ น ศู น ย์ ก ลางเท่ านี้ง านคุณภาพก็จ ะเกิด ขึ้น อย่างยั่งยืน ในวันที่18 ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เราได้มี การจัดพิธรี ดน�ำ้ ด�ำหัวตามประเวณีปใ๋ี หม่เมืองโดย จัดให้มีขบวนแห่พระพุทธรูปให้ประชาชนรดน�้ำ เพื่อความเป็นศิริมงคล มีขบวนกลองยาวของ จนท.สนามพร้อมสาวงามฟ้อนร�ำไปด้วย ขบวนแห่ เริม่ จากอาคารสุขาวดีออกไปนอกรัว้ รพ.น่าน ผ่าน สสจ.มาถึงบริเวณด้านหน้าอาคารสิริเวชรักษ์ ท�ำ พิธบี ริเวณพืน้ ทีด่ า้ นหน้าอาคาร ขัน้ ต้นเราให้ทกุ คน ทีน่ ำ� น�ำ้ ส้มป่อยมาใส่ในสลุงก่อนจากนัน้ เรียนเชิญ บรรดาผู้มพี ระคุณต่อรพ. เจ้าหน้าที่รพ.ที่เกษียณ อายุแล้วรวมถึงเครือข่าย เช่น ชมรมผู้สูงอายุ จิตอาสา เทศบาลฯลฯ ผมในฐานะผอ.เป็นผูก้ ล่าวน�ำ ขอสูมาคาราวะ อวยพรและกล่าวขอพร จากนั้น ตัวแทนของผู้สูงอายุกล่าวให้พร รอบสองนั้นผม และคณะกรรมการบริหารรพ.รวมถึงกรรมการ บริหารสพร.นั่งให้บรรดาน้องๆ ด�ำหัวต่อ เสร็จจากนัน้ พวกเราได้เดินทางไปทีบ่ า้ น สวนอาจารย์บุญยงค์ อาจารย์พนิดาเพื่อท�ำพิธีสู มาคาราวะและขอพร ครัง้ นีม้ คี ณะกรรมการบริหาร

สรพ.ร่วมด้วย ปีนอี้ าจารย์ได้กล่าวถึงการตัดสินใจ อันกล้าหาญเด็ดเดี่ยวเลือกเดินในเส้นทางที่ถูก ต้องของปลัดฯ ณรงค์ รวมถึงรพ.น่านของเรา ด้วยก่อนที่จะให้พรพวกเราเพื่อเป็นสิริมงคลใน การท�ำงานดูแลคนไข้ต่อไป อาจารย์ได้ประพรม น�้ำมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ (ผมเชื่อว่าน�้ำธรรมดาที่อยู่ ในมือของคนที่ท�ำความดีเป็นที่นับถือของผู้คน มาตลอดชีวิต ย่อมเป็นน�้ำมนต์อนั ศักดิ์สิทธิ์อย่าง แน่นอน) ให้กบั พวกเราด้วย ผมต้องขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่มีส่วน เกีย่ วข้องกับการจัดงานครัง้ นีภ้ ายใต้การดูแลของ นพ.สุพจน์ ผู้ช่วยผอ.ฝ่ายกิจการพิเศษ ผมขอให้ พ วกเราปฏิ รู ป ตนเอง ตั้ ง ใจ ท�ำงานในหน้าที่ให้ดีที่สุดพร้อมกับรักษาระเบียบ วิ นั ย ราชการให้ ส มกั บ เป็ น ข้ า ราชการที่ ดี ข อง แผ่นดิน ดังทีป่ ลัดฯ ผูเ้ ป็นผูบ้ งั คับบัญชาสูงสุดของ พวกเราต้องการ เพื่อเป็นตัวอย่างให้ข้าราชการ หน่วยงานอื่นเอาอย่าง ผมต้องขอโทษทุกคนที่ถูกโทรศัพท์ข่มขู่ เนื่ อ งจากผมไม่ ย อมเอาป้ า ยแสดงจุ ด ยื น ของ โฮงบาลน่านลงเพราะเราถือว่าเป็นการกระท�ำที่ ถูกต้องในการเลือกข้างที่ถูกต้องและดีงาม ขอให้ พวกเราระมัดระวังตัวเองด้วย พยายามเดินทาง ไปเป็นกลุ่มและช่วยกันสอดส่องดูแลซึ่งกันและ กันรวมถึงรพ.น่านที่รกั ของเราด้วย ขอบคุณครับ “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 141 ครบวาระราชการ...หมอณุ


Humannized health care

การดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจ บนพื้นฐานของความรู้


ตีพิมพ์ครั้งแรก วารสารโรงพยาบาลน่าน ปีที่ 5 ฉบับที่ 57 เดือนกรกฎาคม 56

1

“คุณหมอและพยาบาล ล้วนแต่เป็นเทวดาและนางฟ้าทั้งน้าน”

ผมมักจะพูดถึงความโชคดีของพวกเรา ที่ ได้ประกอบอาชีพเพือ่ หาเลีย้ งตัวเองและครอบครัว โดยท�ำงานในแวดวงสาธารณสุข นอกจากจะได้ เงินตอบแทนแล้ว ยังได้บุญกุศลจากการได้ช่วย คนไข้ท่เี จ็บป่วยให้หายจากโรคด้วย ​ ถ้าเราจะแบ่งคนที่อยู่โรงพยาบาลออก เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก sufferers : หมายถึง ผู้ที่ระทมทุกข์จากการเจ็บป่วยทั้งทางร่างกาย และจิตใจ ซึง่ ตามความเป็นจริงแล้วกลุ่มนีไ้ ม่ได้มี เพียงคนไข้เท่านัน้ ทีท่ กุ ข์ แต่รวมถึงคนรอบข้างด้วย ไ ม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ สามี ภรรยา ญาติพี่น้อง ต ลอดจนคนรู ้ จั ก พวกเราทุ ก คนคงเคยมี ประสบการณ์กันมาบ้างแล้ว เวลามีใครเจ็บป่วย ที่เราเกี่ยวข้องด้วย เราจะรู้สึกกังวลไปด้วยตาม ความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้อง ​ผมจะมองเห็นทุกครั้งที่ลูกป่วย พ่อแม่ จะเป็นทุกข์ยิ่งกว่าลูกเสียอีก หรือเมื่อคราวพ่ออุ้ย ป่วย แม่อยุ้ ดูปว่ ยหนักกว่าอีก มันเป็นเรือ่ งธรรมดา

ที่เราจะพบได้ทกุ ๆ วัน หลายคนคงเคยเห็นเมื่อมี คนไข้มาจากอ�ำเภอรอบนอกจะมีญาติๆ ตามกัน มาเต็มรถทีเดียว ​ ​ผมจึงอยากให้พวกเราทีท่ ำ� งานด้านนี้ ได้ ค�ำ นึงถึงจิตใจของคน อื่นๆ ในกลุ่มนี้ นอกเหนือ จากคนไข้ด้วย ​ อีกกลุ่มหนึ่งคือ healers : เป็นกลุ่ม ผู้รักษาเยียวยา ซึ่งก็รวมถึงแพทย์ พยาบาลและ เจ้าหน้าทีโ่ รงพยาบาลทุกระดับ มีหน้าทีช่ ว่ ยเหลือ ใ ห้ คนไข้และญาติได้พ้นจากความทุกข์ที่เกิดขึ้น จากการเจ็บป่วย ทีต่ อ้ งเน้นว่าทุกระดับนัน้ ก็เพราะ ว่าทุกๆ หน้าทีม่ คี วามส�ำคัญร่วมกันหมด เป็นการ ท�ำง านเป็นทีมที่จะต้องร่วมกันท�ำงานโดยยึดเอา คนไข้เป็นศูนย์กลาง ​ ผมเชื่อเสมอว่าทุกปัญหาทางการแพทย์ มีทา งออกเสมอ ถ้ายึดเอาคนไข้เป็นศูนย์กลาง ผมมั กจะบอกกับพวกเราอยู่เสมอว่าในเวลานี้เรา โชคดีที่อยู่ในกลุ่มผู้รักษาเยียวยา แค่สักวันหนึ่งที่ “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 143 ครบวาระราชการ...หมอณุ


เราต้องไปอยูใ่ นกลุม่ คนไข้ เราต้องการคนทีจ่ ะมา รักษาดูแลเราอย่างไร เราจะได้คดิ แล้วว่าเมือ่ ก่อน เราเป็นผู้รกั ษาแบบนั้นหรือไม่ ​ ผมจึงขอเพียงให้พวกเรามีใจคิดถึงคนไข้ และญาติสักนิด เราจะท�ำงานได้อย่างมีความสุข และกลุ่มคนไข้และญาติก็จะมีความสุขไปด้วย เคยมีพระภิกษุทา่ นหนึง่ พูดถึงพวกเราว่า อาชีพหมอ พยาบาล ครู นั้น มีบุญมาก เพราะ ท�ำงานที่ได้บุญทุกวัน ในขณะที่บางอาชีพ เช่น คนขายเนื้อ คนงานโรงฆ่าสัตว์ เมื่อใดที่ท�ำงาน ของตนก็ได้บาปไปด้วย ผมจึงหมั่นอธิษฐานอยู่ เสมอให้ได้เกิดเป็นหมอทุกๆ ชาติ ขณะเดียวกัน อาชีพของเราที่ต้องช่วยเหลือคนไข้ ถ้าเราท�ำไป โดยไม่ได้ปรารถนาดีต่อคนไข้ เราคงต้องมีบาป เพิม่ เป็นทวีคณ ู แน่ แต่กค็ งยากทีจ่ ะให้คนรุน่ ใหม่ๆ ที่อายุยังน้อยเข้าใจ เพราะยังมีข้อข้องใจเรื่อง บาปกรรมและมีความต้องการในวัตถุมาก ผมจึง ขอเพียงแค่ท�ำให้เต็มความสามารถ ท�ำด้วย ความระมัดระวัง และท�ำด้วยความปรารถนาดี ต่อคนไข้ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ผมเคยได้ มี โ อกาสพู ด คุ ย กั บ พระ อาจารย์หลวงพ่อค�ำเขียนฯ วัดป่าสุขโต ชัยภูมิ ท่านได้เล่าให้ฟังว่ามีครั้งหนึ่งท่านอาพาธหนัก รักษาตัวอยูใ่ นโรงพยาบาล ตอนนัน้ ไม่คอ่ ยรูส้ กึ ตัว ท่านคิดว่าตายไปแล้วเพราะเห็นคนใส่ชุดขาว ทั้ ง หญิ ง ชายมาอยู ่ ร อบตั ว ท่ า นเต็ ม ไปหมด คิดว่าอยูบ่ นสวรรค์แล้วมีแต่นางฟ้าและเทวดา แต่ พอได้สติท่านก็รู้ได้ว่า ชุดขาวที่เห็นนั้นเป็นแพทย์ และพยาบาลทีก่ ำ� ลังช่วยชีวติ ท่าน ท่านจึงได้บอก ว่า “คุณหมอและพยาบาล ล้วนแต่เป็นเทวดาและ นางฟ้าทัง้ น้าน” เราจึงควรภูมใิ จในวิชาชีพของเรา และเดินหน้าท�ำหน้าที่ของเราให้ดีท่ีสุด ไม่ต้อง ค�ำนึงถึงสิ่งตอบแทนทางวัตถุ เพราะสิ่งที่ได้มา นั้ น มี คุ ณ ค่ า มากเกิ น กว่ า ที่ จ ะประเมิ น ราคาได้

144

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ทีมที่ดีจึงต้องประกอบไปด้วย ทีมงานที่ดี และมีการท�ำงาน ประสานกันได้ดีด้วย คนไข้จึงจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด แ ละจะติดตัวเราตลอดไป คิดถึงเมื่อใดก็เป็นสุข แต่สำ� หรับพวกเราบางคนทีเ่ อารัดเอาเปรียบคนไข้ ก็อาจจะเป็นเทวดาหรือนางฟ้าตกสวรรค์กไ็ ด้ ผมยังจ�ำได้ เมื่อครั้งเป็นแพทย์ใช้ทนุ อยู่ โรงพยาบาลเบตง เวลาบ่ายแก่ๆ ทุกวันผมจะเดิน เยีย่ มคนไข้ทกุ หอผูป้ ว่ ย เมือ่ พบว่ามีปญ ั หาจ�ำเป็น ต้องได้รบั การผ่าตัด ผมจะท�ำผ่าตัดทันที วันหนึ่ง ข ณะเยี่ยมห้องคลอดพบว่ามีคนไข้ตั้งครรภ์ครบ ก�ำหนดและสงสัยรกเกาะต�่ำ จ�ำเป็นต้องท�ำผ่าตัด แต่ขณะนัน้ ขาดเลือด ผมตัง้ ใจบริจาคเลือดแต่พบ ว่าเป็นคนละกรุ๊ป จึงยังไม่สามารถท�ำผ่าตัดได้ สักครู่หนึ่งพยาบาลที่ห้องคลอดก็แจ้งให้ทราบว่า มีเลือดตรงกับกรุ๊ปของคนไข้แล้ว และคนไข้เริ่ม เจ็บครรภ์พร้อมมีเลือดออกมากขึน้ ผมจึงท�ำผ่าตัด โดยด่วนปรากฏว่าเป็นรกเกาะต�่ำ เกือบทั้งหมด ปลอดภัยทั้งแม่และลูก หลังผ่าตัดผมได้ทราบว่ามีน้อง พยาบาลซึ่งจบมาไม่นาน อยู่เวรที่ห้องฉุกเฉิน เป็ น คนบริ จ าคเลื อ ดให้ หลั ง ได้ ท ราบข่ า วว่ า คนไข้ ต ้ อ งการเลื อ ดด่ ว น น้ อ งพยาบาลคนนี้ เป็นคนที่ตั้งใจท�ำงานมากๆ เป็นลูกชาวสวนยาง ผมเคยสนับสนุนขอให้ทางกระทรวงสาธารณสุข ส่งเรียนแพทย์ต่อ แต่ในขณะนั้นยังไม่มีนโยบาย โครงการ new track เหมือนปัจจุบัน ไม่งั้นเราคง มีหมอดีๆ เพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่ง


แต่กไ็ ม่เป็นไร อย่างน้อยเราก็มพี ยาบาล ดีๆ อยู่ในทีมไว้ดูแลคนไข้ ซึ่งต้องท�ำงานเป็นทีม โดยทุกคนต่างก็มีความส�ำคัญในการท�ำหน้าที่ ของตน จะขาดส่วนใดส่วนหนึ่งนั้นไม่ได้ ทีมที่ดี จึงต้องประกอบไปด้วยทีมงานที่ดีและมีการ ท�ำงานประสานกันได้ดดี ว้ ย คนไข้จงึ จะได้รบั สิ่งที่ดีที่สุด จึงขอฝากไปถึงคุณหมอ พยาบาลและ บุคลากรทางการแพทย์ทเี่ พิง่ จบใหม่ๆ ว่าอย่าเกิด ความทะนงตัว ไม่ว่าเราจะเรียนเก่งสักเพียงใด เมื่ อ จบมาแล้ ว เราจะต้ อ งให้ ค วามส� ำ คั ญ กั บ ผู้ร่วมงานและรุ่นพี่ ๆ เนื่องจากงานของเรานั้นไม่ สามารถที่จะท�ำให้ส�ำเร็จเพียงคนเดียวได้ จึงต้อง มีมนุษยสัมพันธ์ทดี่ ใี นการท�ำงานเป็นทีม เริม่ ด้วย การให้เกียรติผู้อื่นก่อน และอย่าลืมคิดถึงค�ำว่า “ ใจเขา...ใจเรา” อยูเ่ สมอ เราจะเป็นอีกคนหนึง่ ที่ ประสบความส�ำเร็จและเป็นที่รักของทุกคน. “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 145 ครบวาระราชการ...หมอณุ


2

ตีพิมพ์ครั้งแรก วารสารโรงพยาบาลน่าน ปีที่ 5 ฉบับที่ 58 เดือนสิงหาคม 56

“รักษาโรคให้หายได้ในบางครั้ง ท�ำให้ทุเลาได้บ่อยกว่า แต่ต้องให้รู้สึกสบายได้ทุกเวลา”

ฮิปโปเครติส บิดาแห่งแพทย์แผนตะวันตก ได้กล่าวไว้กว่า 2,400 ปี มาแล้วว่า “To cure sometimes ,to relieve often,to comfort always” น่าจะมีความหมายว่า “รักษาโรคให้หายได้ใน บางครั้ง ท�ำให้ทุเลาได้บ่อยกว่า แต่ต้องให้รู้สึก สบายได้ทุกเวลา” หมายความถึงว่าการรักษา โรคให้หายขาดนั้นอาจมีได้เพียงบางโรค การ ช่วยให้อาการทุเลานั้นท�ำได้บ่อยครั้งกว่า แต่การ ท�ำให้คนไข้รู้สกึ สบายนั้นท�ำได้ทุกๆ เวลา ท่านได้ พยายามเตือนให้เรารู้สึกอยู่เสมอว่า อย่าเอาแต่ จะรักษาโรคทีค่ นไข้เป็นให้หาย หรือเพียงแต่รกั ษา ตามอาการเท่านั้น แต่ควรค�ำนึงถึงความรู้สกึ ของ คนไข้ซงึ่ จะต้องรูส้ กึ สบายอยูต่ ลอดเวลา ไม่รสู้ กึ ว่า เกิดความเจ็บปวดหรือทุกข์ทรมาน แม้โรคที่เป็น นั้นจะรุนแรงเพียงใด แต่ในบางครั้งเรามักจะลืม คิดถึงจิตใจของคนไข้ซงึ่ ก็เป็นคนเหมือนกันกับเรา มั ก มองเห็ น แต่ ป ั ญ หาคื อ โรคที่ ป ่ ว ยอยู ่ เ ท่ า นั้ น มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะวินิจฉัยและรักษาให้ถึง ทีส่ ดุ แม้บางครัง้ วิธกี ารรักษานัน้ จะมีผลข้างเคียง ที่รุนแรง หรือส่งผลกระทบต่อการด�ำเนินชีวิตของ เขาก็ตาม

146

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ผมคิดว่าเราต้องเอาผูป้ ว่ ยเป็นศูนย์กลาง เคารพในการตัดสินใจของคนไข้และญาติ ทีส่ ำ� คัญ กว่านั้น คือ การให้ข้อมูลต้องให้ด้วยใจที่เป็นก ลาง ทั้งด้านบวกและลบ ให้ข้อมูลอย่างครบถ้วน ที่สุดและไม่ควรเอาความรู้สึกหรือผลประโยชน์ ของเราใส่ไปด้วย นอกเสียจากกรณีทคี่ นไข้รอ้ งขอ ให้หมอช่วยตัดสินใจให้ โดยเฉพาะในปัจจุบันนี้ มีการศึกษาวิจัยกับคนไข้อย่างมากมาย พวกเรา หลายคนที่ต้องการท�ำการศึกษา บางครั้งมักหวัง เพียงให้คนไข้เข้าโครงการด้วย โดยไม่ได้คำ� นึงถึง ผลลบที่อาจเกิดขึ้นกับคนไข้ จึงควรต้องค�ำนึงถึง สิทธิผปู้ ว่ ยทุกครัง้ นอกเหนือจากการพิจารณาของ คณะกรรมการจริยธรรม เพือ่ รักษาสัมพันธภาพที่ ดีระหว่างคนไข้และทีมแพทย์ทรี่ กั ษา จึงควรท�ำทุก อย่างด้วยความหวังดีตอ่ คนไข้ ดังเช่นค่านิยมร่วม (core value) ของรพ.น่านทีใ่ ช้กนั มาตัง้ แต่ อาจารย์ นพ.บุญยงค์ วงค์รักมิตร เป็นผู้อ�ำนวยการว่า เจ้าหน้าที่รพ.น่านทุกคนจะต้อง 1.ปฏิบัติหน้าที่ ให้เต็มความสามารถ (quality care) 2.ปฏิบตั ิ หน้ า ที่ ด ้ ว ยความระมั ด ระวั ง (risk care) 3.ปฏิบตั หิ น้าทีด่ ว้ ยความปรารถนาดีตอ่ คนไข้


และญาติ(humanized care) ทุกครั้งที่เราจะ รักษาคนไข้ถา้ ยึดหลักทัง้ 3 ข้อนี้ จะท�ำให้ได้ชอื่ ว่า “ให้การดูแลด้วยหัวใจ บนพื้นฐานของความรู้” อย่างแท้จริง เราจะท�ำงานด้วยความสบายใจไม่ ต้องกังวลว่าใครจะมาฟ้องร้องเมื่อผลการรักษา ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ โดยเฉพาะเมื่อมีความ ผิดพลาดเกิดขึ้น ไม่ควรปกปิดแต่ต้องรีบแจ้งให้ ผู้บริหารและทีมบริหารความเสี่ยงทราบอย่าง ละเอียด เพี่อหาทางช่วยให้เกิดความเสียหาย น้อยทีส่ ดุ และต้องเยียวยาด้านจิตใจของคนไข้และ ญาติดว้ ย ทีมแพทย์ไม่ควรหลบหน้าหรือหลีกเลีย่ ง แต่ต้องไปเยี่ยมดูแลให้บ่อยครั้งที่สุด เพื่อแสดง ความรับผิดชอบและความจริงใจในการรักษา ในปั จ จุ บั น วิ ท ยาการทางการแพทย์ ก้าวหน้าไปมาก ท�ำให้ความคาดหวังของคนไข้และ ญาติมีมากขึ้น อีกทั้งบางครั้งการมองคนไข้เป็น ผูร้ บั บริการเราเป็นผูใ้ ห้บริการ ท�ำให้ความสัมพันธ์ ที่ ดี ร ะหว่ า งคนไข้ แ ละแพทย์ ห ายไป เมื่ อ เกิ ด ปัญหาในการรักษาจึงน�ำไปสูก่ ารฟ้องร้องมากขึน้ ท�ำให้ผมคิดถึงคนไข้รายหนึ่งที่ผมยังจ�ำได้ แม้ เหตุการณ์จะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม คนไข้เป็นหญิงไทยคู่อายุ 35 ปี ตั้งครรภ์ ครบก�ำหนด อาชีพแม่บา้ น เป็นครรภ์ที่ 2 ลูกชายคน โตคลอดปกติอายุ 10 ขวบแล้ว สามีเป็นทหารอยู่ ต่างจังหวัด ผมนัดมานอนรพ.เพื่อชักน�ำให้คลอด เพราะตั้งครรภ์ 41 สัปดาห์แล้ว เวลา 7 โมงเช้า เริ่มมีมูกเลือดออก ปากมดลูกเปิด 1-2 ซม.ได้ รับการรักษาโดยการให้นำ�้ เกลือ งดอาหารและน�ำ้ และติดตามการคลอดใกล้ชิด 3 ชม.ต่อมาได้ ท�ำการตรวจภายในเพื่อดูความก้าวหน้าของการ คลอดหลังตรวจเสร็จ ถุงน�้ำคร�่ำแตกคนไข้บ่น แน่นหน้าอกทันที ผมรีบตะโกนบอกพยาบาล ว่ า ภาวะฉุ ก เฉิ น เตรี ย มช่ ว ยฟื ้ น คื น ชี พ เพราะ คิดถึงภาวะน�้ำคร�่ำเข้ากระแสเลือดอุดกั้นในปอด (amniotic f luid embolism) ไม่ทันขาดค�ำคนไข้

หยุดหายใจ เขียว รีบท�ำการช่วยฟื้นคืนชีพ คนไข้ ไม่รู้สึกตัว แต่สญ ั ญาณชีพดีขึ้น ผมได้อธิบายให้ สามีรับทราบอาการและแนวทางการรักษาตั้งแต่ แรกและบอกความคืบหน้าเป็นระยะๆ ตลอดจน การพยากรณ์โรคว่ามีอตั ราการเสียชีวิตสูง พร้อม กั บ ให้ ต ามญาติ พี่ น ้ อ งคนไข้ ใ ห้ ม าเยี่ ย มด้ ว ย ผมได้รายงานหัวหน้ากลุ่มงานทราบและจัดทีม รั ก ษาประกอบด้ ว ยอายุ ร แพทย์ กุ ม ารแพทย์ แพทย์ ผู ้ เ ชี่ ย วชาญทางหั ว ใจ ไต ต่ อ มไร้ ท ่ อ ศั ล ยแพทย์ ท างสมอง วิ สั ญ ญี แ พทย์ รวมทั้ ง สูติแพทย์ท่านอื่นๆ ด้วย เพื่อให้การช่วยเหลือ อย่างดีที่สุด เนื่องจากโอกาสที่คนไข้จะเสียชีวิต สูงมาก เมื่ออาการคงตัวแล้วจึงได้ผ่าตัดคลอด และลงท้ายด้วยการตัดมดลูก เนือ่ งจากเลือดออก ไม่หยุดจากมดลูกไม่แข็งตัวและภาวะ DIC. ทารก แรกคลอดมีภาวะขาดออกซิเจนแรกเกิด ได้รบั การ ดูแลโดยกุมารแพทย์อย่างใกล้ชิด แต่ก็เสียชีวิต ในอีก 3 วัน คนไข้ได้รับการดูแลต่อใน ICU โดย ไม่รู้สึกตัว ผมได้ อ ยู ่ ดู แ ลอย่ า งใกล้ ชิ ด โดยตลอด ไม่ได้ไปคลินิกเย็นนั้น อยู่ร่วมกับสามีและญาติ ผมได้อนุญาตให้สามีและญาติเข้าเยี่ยมดูอาการ ทุกเวลา ให้จบั มือคนไข้พดู คุยให้กำ� ลังใจ ผมเชือ่ ว่า คนไข้ยงั คงรับรู้ได้ และท�ำให้ญาติมสี ่วนในการได้ ดูแลคนไข้ ทั้งยังเห็นพวกเราช่วยกันอย่างดีที่สุด คนไข้เสียชีวิตราว 4 ทุ่มวันนั้น ผมและสามี กอดกันร้องไห้ด้วยความเห็นใจ สามีเอ่ยค�ำ ขอบคุณนับครัง้ ไม่ถว้ น แม่คนไข้บอกว่าหมอ ช่วยดีที่สุดแล้วลูกสาวคงมีบุญอยู่แค่นี้ ผมจึงเชื่ออยู่เสมอว่าถ้าเราท�ำให้ครบทั้ง 3 ข้อตามทีอ่ าจารย์บญ ุ ยงค์แนะน�ำ ก็ไม่ตอ้ งกลัวว่า ใครจะมาฟ้องร้องเรา และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กับคนไข้ ระหว่างการรักษาถ้าเราอยูร่ ว่ มกับคนไข้ และครอบครัว พร้อมช่วยเหลือด้วยความเห็นอก เห็นใจ ย่อมเป็นการดูแลด้วยหัวใจ บนพื้นฐาน ของความรู้อย่างแท้จริง “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 147 ครบวาระราชการ...หมอณุ


3

ตีพิมพ์ครั้งแรก วารสารโรงพยาบาลน่าน ปีที่ 5 ฉบับที่ 59 เดือนกันยายน 56

ขอเพียงเอาผู้ที่ได้รับผลกระทบนั้นเป็นศูนย์กลาง

ปัญหาเรื่องความรุนแรงในเด็กและสตรี ในสังคมไทยยังเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ เรายังไม่สามารถเข้าถึง เพราะส่วนใหญ่เป็นเรื่อง ในครอบครัว ไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ถือเป็นเรื่อง น่าอายจึงท�ำให้ผถู้ กู กระท�ำถูกละเลย และผูก้ ระท�ำ ไม่ได้รับการบ�ำบัดหรือเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จึงเป็นปัญหาที่หลบซ่อนรอให้พวกเราค้นหาและ ช่วยกันแก้ไขเยียวยาด้วยหัวใจอย่างแท้จริง โดย ไม่มีค�ำว่าบาปกรรมหรือหลีกเลี่ยงว่าไม่ใช่หน้าที่ ของเราทีจ่ ะช่วยเหลือผูท้ ถี่ กู กระท�ำ จนกว่าคนนัน้ จะเป็นคนที่เรารู้จักหรือเกี่ยวข้องด้วย ตัวอย่างที่ ผมจะเล่าต่อไปนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และ ท�ำให้ผมมีความสุขทุกครัง้ ทีค่ ดิ ถึง และยังคงอยูใ่ น ความทรงจ�ำของผมที่ไม่มีวันลืม ดญ.อายุ 14 ปี เป็นลูกสาวคนเดียว พ่อแม่ มีอาชีพทํานา อยู่ในอ�ำเภอรอบนอก เป็นเด็ก เรียบร้อยเรียนเก่งเป็นหัวหน้าห้องเพือ่ นๆ รักทุกคน และเป็ น ที่ รั ก ของครู ไ ด้ ร างวั ล เรี ย นดี ม ารยาท งามของโรงเรียน วันหนึ่งครูเชิญผู้ปกครองไป พบเนื่องจากเด็กมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ไม่ตั้งใจ เรียนการเรียนตกตํา่ ไม่เล่นกับเพือ่ นๆ ชอบเก็บตัว

148

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผิด หรือ ถูก

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

อยู่คนเดียว ไม่ทาํ หน้าที่หัวหน้าห้อง แม่เด็กบอก กับครูว่าทีบ่ ้านก็เหมือนกันเด็กไม่ยอมออกไปเล่น กับเพือ่ นเหมือนเมือ่ ก่อน และยังปัสสาวะใส่ทนี่ อน ทุกวัน แม่ต้องซักผ้าปูที่นอนทุกวัน ครูจึงแนะนํา ให้แม่พาไปหาหมอบอกว่าอาจเป็นโรคเบาหวาน แม่พาเด็กไปตรวจที่รพ. กุมารแพทย์ คลําได้ก้อนทีท่ ้องน้อยสงสัยเนือ้ งอกจึงส่งปรึกษา สูติแพทย์ พอดีผมอยู่เวรตรวจโอพีดีพบว่าเด็ก ไม่พูดอะไรเลย คลําได้ก้อนที่เหนือหัวเหน่าขนาด ประมาณมดลูกตั้งครรภ์ 16 สัปดาห์ จึงนําไปทํา อัลตร้าซาวด์ พบว่าเด็กตัง้ ครรภ์ได้ 16 สัปดาห์ จึงส่ง เด็กไปให้นักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยา ซั ก ประวั ติ อ ย่ า งละเอี ย ด พบว่ า เด็ ก ไม่ เ คยมี ประวัติใกล้ชดิ ผู้ชายมาก่อน มีเพียงครั้งเดียวเมื่อ ประมาณ 4 เดือนก่อน คุณลุงซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ของแม่ได้ขอตัวเด็กไปช่วยดูแลลูกสาวที่กําลัง เป็นไข้ ภรรยาลุงเสียชีวิตเมื่อ 6 ปีก่อน มีลูกสาว คนเดียวเรียนอยู่มหาวิทยาลัยในจังหวัด เด็กได้ ช่วยเช็ดตัวพี่สาวดูแลจนไข้ลง ลุงขอให้เด็กค้าง ที่บ้านโดยให้นอนอีกห้องหนึ่ง เด็กให้ประวัติว่า เวลา 4 ทุ่ม ได้ยินเสียงประตูเปิดแล้วก็จําอะไร


ไม่ได้เลย จิตแพทย์เชื่อว่าเด็กใช้กลไกในการ ป้องกันตัวเองโดยการลืม (ถ้าจะให้จําได้ต้องใช้ วิธสี ะกดจิต) จําได้เพียงว่าตอนเช้ารูส้ กึ แสบเวลาฉี่ และเจ็บบริเวณจิ๋มพร้อมมีเลือดออกด้วย ผมจึง น�ำข้อมูลทีไ่ ด้เข้าหารือในคณะกรรมการช่วยเหลือ เด็กและสตรีที่ถูกกระท�ำรุนแรงของรพ. ซึ่งมีผม เป็นประธาน คณะกรรมการฯ ตั ด สิ น ว่ า ให้ ทํ า แท้ ง เพื่ อ เป็ น การช่ ว ยเหลื อ เด็ ก ที่ ค วรมี อ นาคตไกล ไม่ควรต้องมารับกรรมจากสิง่ ทีล่ งุ ท�ำไว้ และควรมี แนวทางในการนําตัวลุงไปลงโทษ ขณะนัน้ ยังไม่มี พรบ.คุม้ ครองเด็ก จึงได้เรียนปรึกษามูลนิธพิ ทิ กั ษ์ เด็กที่กทม. ซึ่งได้แนะนําให้พาเด็กไปแจ้งความ จึงจะเอาผิดลุงได้ และต้องคํานึงถึงสิทธิเด็กใน ครรภ์ด้วยกรณีที่จะทําแท้ง แต่คณะกรรมการฯ พิจารณาแล้วเห็นควร ท�ำแท้งเนื่องจากเด็กถูกข่มขืนและครรภ์เพิ่งได้ 16 สัปดาห์เด็กในครรภ์ยังไม่มีสิทธิ์ เนื่องจาก เกิดออกมายังไม่มีชีวิตรอด นักสังคมสงเคราะห์ ชักชวนให้แม่พาเด็กไปแจ้งความตามค�ำแนะน�ำ ตอนแรกแม่ไม่ยอมเนื่องจากกลัวว่าพ่อซึ่งเป็นคน อารมณ์ร้อนจะไปท�ำร้ายลุงซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ แต่ ในที่สุดก็ยอมให้นักสังคมสงเคราะห์พาไปแจ้ง ความในวันอาทิตย์ แต่ต�ำรวจไม่สามารถรับแจ้ง ความได้เนื่องจากเด็กไม่ยอมพูดสักค�ำ ผมจึง โทรศัพท์ปรึกษาอัยการจังหวัดซึ่งเป็นเครือข่าย คณะท�ำงานด้วย ท่านแนะน�ำให้ตำ� รวจเชิญตัวลุง ไปสอบสวนในฐานะผู ้ ต ้ อ งสงสั ย ได้ วั น จั น ทร์ ร้อยเวรเชิญตัวลุงไปสอบสวนและโทรศัพท์แจ้งผม ว่าจากประสบการณ์เป็นสารวัตรสอบสวน 10 ปี เชื่อว่าลุงบริสุทธิ์ ผมจึงขอให้คณะกรรมการฯ พิ จ ารณาอี ก ครั้ ง เป็ น ไปได้ ไ หมว่ า เด็ ก หลอก พวกเรา ซึง่ ทุกคนลงความเห็นเป็นเอกฉันท์วา่ เชือ่ เด็กได้และมัน่ ใจว่าลุงเป็นคนท�ำ ผมจึงเชิญคุณลุง มาพบที่รพ.ซึ่งก็พบว่าลุงรูปร่างสันทัดยกมือไหว้ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ท�ำแน่นอน เป็นคนรักหลาน

และธรรมะธรรมโมเข้าวัดฟังเทศน์ทกุ วันพระ ผมจึง ขอเจาะเลือดลุงเพื่อตรวจ DNA ยืนยันความ บริสทุ ธิซ์ งึ่ ลุงก็ยนิ ยอม ผมจึงเจาะเลือดเด็กพร้อม เจาะน�้ำคร�่ำส่งตรวจที่คณะนิติเวชคณะแพทย์ฯ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อตรวจ DNA ยืนยัน ความเป็นพ่อแม่ลกู ก่อนท�ำแท้งผมได้เชิญครูใหญ่ มาให้ขอ้ มูลว่าเด็กเป็นเนือ้ งอกในท้อง แต่จะรักษา ด้วยยาจะท�ำให้เด็กอ่อนแอจึงไม่อนุญาติให้ใคร เยี่ยม เพื่อให้ครูใหญ่บอกกับเพื่อนๆ ที่โรงเรียน จะได้ไม่เป็นห่วง (ผมยอมโกหกครูใหญ่เพือ่ ให้คนรู้ น้อยทีส่ ดุ เพือ่ ประโยชน์ของเด็ก และก็บอกเด็กใน ท�ำนองเดียวกัน ซึ่งเด็กก็รับรู้ว่าเป็นก้อนเนื้องอก) ผมได้ทำ� แท้งโดยวิธี condon balloon ซึง่ ก็สำ� เร็จโดย ปลอดภัย ผมรู้เลยว่าเด็กเป็นทีร่ กั ของเพือ่ นๆ จริง เพราะเพือ่ นๆ ได้นำ� นกกะเรียนทีพ่ บั ด้วยกระดาษ ใส่ขวดแก้วมาฝากเป็นพันๆ ตัว เด็กอยูโ่ รงพยาบาล ราว 1 สัปดาห์กก็ ลับบ้าน “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 149 ครบวาระราชการ...หมอณุ


1 เดือนต่อมาเด็กมาตรวจตามนัดผมจ�ำ ไม่ได้เพราะเด็กใส่ชุดนร.สะอาดเรียบร้อยร่าเริง แจ่มใส ส่งเสียงทักทายมาแต่ไกลว่าคุณหมอ จ�ำหนูไม่ได้เหรอ หนูเป็นเนื้องอกคุณหมอรักษา หายไม่มกี ้อนแล้ว พร้อมกับใช้มือลูบบริเวณท้อง ให้ดแู ละยังบอกด้วยความมัน่ ใจว่าหนูจะเป็นหมอ ในอนาคตเพือ่ มารักษาคนอืน่ ทีไ่ ม่สบายเหมือนหนู ผลการตรวจ DNA พบว่า 99.99% เป็นพ่อแม่ลกู กัน ลุงหลบหนีแต่ถูกจับได้ และตัดสินจ�ำคุกในที่สุด เด็กคนนี้ให้ความรู้สกึ หลายๆ อย่างที่มี คุณค่าต่อความเป็นแพทย์ของผม ​1. การเป็นแพทย์เราต้องรักษาผู้ป่วย แบบองค์รวม ทั้งกายจิตวิญญาณและสังคม ​ 2. การท�ำงานให้ครบองค์รวม ต้องท�ำ เป็นทีม พร้อมเปิดใจรับฟังความเห็นทุกๆ คนก่อน ที่จะสรุป ​ 3. แพทย์ต้องมีความมุ่งมั่นในการช่วย เหลือผู้ป่วยให้ถงึ ที่สุด ​ 4. ถึงแม้เป็นแพทย์เราก็สามารถสร้าง ความเป็นธรรมให้สงั คมได้ แม้อาจจะยากล�ำบาก บ้าง ​ 5. ผมมี ค วามสุ ข มากที่ อ ย่ า งน้ อ ยได้ ช่วยเหลือเด็กคนหนึ่งให้กลับมาร่าเริงเป็นคนดีให้ สังคม มีอนาคตทีส่ ดใส (โดยทัว่ ไปจากการติดตาม พบว่าเด็กเหล่านีห้ ลังคลอดลูกแล้วมักจะเป็นคนที่

150

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

รูส้ กึ ว่าต�ำ่ ต้อย ไร้ซงึ่ ศักดิศ์ รีจะไม่ประสบผลส�ำเร็จ ในชีวิต) และที่ส�ำคัญได้สร้างแรงบันดาลใจให้ เด็กคนนี้ ที่ต้องการจะเป็นหมอเพื่อช่วยผู้ป่วยที่ เดือดร้อน ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าเธอท�ำได้ จะเป็นหมอ ที่ดีในอนาคต ผมต้ อ งขอขอบคุ ณ ที ม งานที่ มี ส ่ ว น เกี่ยวข้องทุกคน ขอบคุณพ่อแม่ที่สนับสนุนให้ ผมเรียนแพทย์และหวังว่าผู้ป่วยรายนี้คงจะสร้าง แรงบันดาลใจให้พวกเรามีความภูมิใจในวิชาชีพ และพร้อมทุม่ เทท�ำงานเพือ่ ช่วยเหลือผูป้ ว่ ยทุกคน อย่างเต็มความสามารถ การดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจ บนพื้นฐาน ความรู้ ไม่จ�ำเป็นว่าจะต้องเป็นความเจ็บป่วยที่ เกิดจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ แต่การเจ็บป่วยนั้น อาจเกิดจากการทีไ่ ด้รบั ผลกระทบจากการกระท�ำ บางอย่าง เช่น ถูกข่มขืน ก็ถือได้ว่าเราต้องแสดง ความเห็นใจและพยายามหาทางช่วยเหลือให้ดี ที่สุดส�ำหรับผู้ได้รบั ผลกระทบนั้น สิ่ ง ที่ เ ราท� ำ อาจจะไม่ มี ใ ครกล้ า ตั ด สิ น ว่าผิดหรือถูก ขอเพียงเอาผู้ที่ได้รับผลกระทบนั้น เป็นศูนย์กลาง โดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทนใดๆ เราจะมีความภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ เดือดร้อน ให้กลับมาใช้ชวี ติ ตามปกติได้อกี ครัง้ หนึง่ จึงถือว่าเป็นการดูแลผูป้ ว่ ยด้วยหัวใจอย่างแท้จริง


4

ตีพิมพ์ครั้งแรก วารสารโรงพยาบาลน่าน ปีที่ 5 ฉบับที่ 60 เดือนตุลาคม 56

​(บทความเรื่อง Humanized health care ตอนนี้ ผมเขียนขึน้ เป็นกรณีพเิ ศษเนือ่ งในโอกาสที่ ห ม อ พั ช รี ขั น ติ พ งษ์ เกษี ย ณอายุ ร าชการ ทั้ งนี้เพราะหมอพัชรีเป็นผู้ที่ริเริ่มและผลักดันให้ โครงการ Palliative care เกิดขึ้นในรพ.เชียงราย ประชานุเคราะห์ และยังเป็นผูท้ แี่ ปลค�ำว่า Humanized health care ไว้ว่า “การดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจ บนพื้นฐานของความรู้” ซึง่ ผมถือว่าสมบูรณ์แบบ ในความหมายอย่างแท้จริง ผมขอแสดงความชืน่ ชมในการเป็นแพทย์ ที่ ดีของคนไข้ เป็นพี่ที่ดีของแพทย์รุ่นน้อง เป็น เพือ่ นร่วมงานทีด่ ขี องทีมงาน เป็นผูบ้ งั คับบัญชาที่ ดีของลูกน้อง เป็นผู้บริหารที่ดีของทีมบริหาร เป็น ค น ดีของเพื่อนๆ และเป็นภรรยาที่ดีท่สี ุดของผม ผ ม ต้องขอขอบคุณแทนคนไข้ ลูกศิษย์และคนที่ เคยได้รบั การดูแลเอาใจใส่ในเรือ่ งต่างๆ จากหมอ พัชรีและเชือ่ ว่าชีวติ ในวัยหลังเกษียณอายุราชการ จะท�ำให้คณ ุ หมอมีความสุขและยังจะท�ำงานทีเ่ ป็น ประโยชน์ต่อคนไข้และสังคม อีกทั้งยังเป็นที่พึ่ง และที่รักของพวกเราตลอดไป)

“น�ำเอาใจเขามาใส่ใจเรา” “การให้บริการด้วยหัวใจ” นั้น ท�ำได้ ไ ม่ ง ่ า ยจ� ำ เป็ น ต้ อ งได้ รั บ การฝึ ก ฝนอยู ่ อ ย่ า ง ส ม�่ำเสมอและมีความเข้าใจในการ “น�ำเอาใจ เ ข า ม าใส่ใจเรา” เราจะสามารถให้บริการได้ อย่างเป็นอัตโนมัติ ค รั้งหนึ่งมีคุณยายซึ่งเป็นคนเก่าคนแก่ ของเมืองน่าน ป่วยอยู่ห้องพิเศษรพ.น่าน ผมจึง เ ที ย วไปเยี่ยมบ่อยๆ เนื่องจากตัวท่านเองหรือ บรรดาลูกหลานมักมีเรื่องเก่าแก่เป็นต�ำนานเมือง น่ า นเล่าให้ผมฟังอยู่บ่อยๆ เช้าวันหนึ่งเมื่อผมไป เ ยี่ ยมก่อนท�ำงาน ท่านเล่าว่าเมื่อคืนท่านนอน ไม่หลับ เนื่องจากได้ยนิ เสียงร้องครวญครางด้วย ความเจ็บปวด ตัวท่านเองคิดว่าน่าจะเป็นเสียง ของวิญญาณของคนไข้ทเี่ สียชีวติ แล้ว จึงท�ำให้ใจ ไม่ เ ป็นปกติกังวลไปต่างๆ นาๆ แต่กไ็ ม่กล้าบอก ใครได้แต่นอนสวดมนต์อยู่เงียบๆ ขณะเดียวกัน ลู ก ส าวซึ่ ง นอนเฝ้ า คุ ณ แม่ ไ ด้ ยิ น เสี ย งเช่ น กั น แต่คดิ ว่าเป็นเสียงของคนไข้หอ้ งข้างๆ จึงสวดมนต์ อุ ทิ ศส่วนกุศลให้เพื่อบรรเทาความทุกข์ทรมาน จ า ก ค วามเจ็บป่วย ผมจึงสอบถามพยาบาลที่ ก�ำลังส่งเวรกันอยู่ ก็ได้ทราบว่ามีคนไข้คณ ุ ตาอายุ “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 151 ครบวาระราชการ...หมอณุ


82 ปีปว่ ยเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย ก ระจายไปทั่วร่างกาย แพทย์ผู้รักษาได้สั่งยา มอร์ฟีนแก้ปวดให้ทกุ 4 - 6 ชม. แต่คุณตายังร้อง ครวญครางตลอดคืน ผมได้ไปเยี่ยมคุณตาพร้อม ใ ห้ก�ำลังใจญาติๆ ที่เฝ้าอยู่ คุณตายังร้องครวญ ค รางตลอดเวลาสร้างความทุกข์ระทมกับญาติ และผูไ้ ด้ยนิ เป็นอย่างยิง่ ผมได้เข้าไปจับแขนคุณตา แ ละพู ด ว่ า ขอให้ คุ ณ ตาหลั บ พั ก ผ่ อ นให้ ส บาย คุณตาได้ท�ำหน้าที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว ลูกหลาน เติบโตประสบความส�ำเร็จ ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว ​ ผมจึงรีบปรึกษาแพทย์วิสัญญี เพื่อให้ ย าแก้ปวดร่วมกับยานอนหลับทางหลอดเลือด เ พื่อให้คุณตานอนหลับอย่างสงบไม่ต้องทนทุกข์ ทรมานอีกต่อไป ผมจึงกลับไปห้องคุณยายพร้อม เ ล่าความจริงให้ฟังว่า เป็นเสียงร้องครวญคราง ของคุณตาทีป่ ว่ ยในระยะสุดท้าย และผมได้ให้การ รักษาแล้วคืนนีค้ งไม่มเี สียงรบกวนให้เป็นกังวลอีก ต อนเย็นผมแวะไปเยี่ยมก่อนเข้าบ้านพัก พบว่า คุณตาหลับส่งเสียงกรนเบาๆ ญาติทกุ คนมีสหี น้า ค ลายทุกข์ลงพร้อมยกมือไหว้ขอบคุณ ผมจึงได้ เ ข้าไปจับมือคุณตาพร้อมพูดประโยคเดิมเมื่อ ตอนเช้า เพือ่ ให้ทา่ นหลับพักผ่อนอย่างมีความสุข ก ารเดิ น ทางของท่ า นก� ำ ลั ง จะสิ้ น สุ ด ลงแล้ ว ผ มเข้ า ไปเยี่ ย มห้ อ งคุ ณ ยายปรากฏว่ า ทั้ ง สอง ค นต่างกล่าวขอบคุณ ที่ท�ำให้ไม่ได้ยินเสียงร้อง ค รวญครางอีก และต่างก็บอกว่าจะสวดมนต์ให้ คุณตาเพื่อนห้องข้างเคียงให้จากไปอย่างสงบ ซึง่ คุณตาท่านนัน้ ก็ได้จากไปอย่างสงบในวันรุง่ ขึน้ ​ ผมได้บอกกับแพทย์ พยาบาลทุกคนว่า เป็นหน้าทีข่ องเราทีจ่ ะต้องดูแลคนไข้ทกุ คน ไม่ว่า จะยากดีมจี นหรือเป็นคนชาติใดๆ ก็ตามให้ดที สี่ ดุ โ ดยเฉพาะในระยะสุดท้ายของชีวิตจะต้องท�ำให้ จากไปอย่างสงบ ปราศจากความทุกข์ทรมานใดๆ และมีศกั ดิศ์ รีของความเป็นคน เริม่ ตัง้ แต่การสร้าง ค วามเข้าใจกับญาติๆ ว่าคนไข้ป่วยอยู่ในระยะ

152

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

สุดท้ายของโรคแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้การรักษาที่ เป็นการรบกวนร่างกาย หรือหรือจิตใจของท่านอีก เพื่อให้ได้รับการยินยอมจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุก คน ทั้งนี้จะต้อง “ยึดเอาคนไข้เป็นศูนย์กลาง” แต่ถ้าญาติๆ ไม่ยินยอมก็สมควรท�ำการรักษาต่อ ตามสมควร ถ้ า ญาติ เ ข้ า ใจก็ ใ ห้ ป รึ ก ษากั บ ทีม palliative care (การรักษาแบบประคับ ประคอง) ของรพ.เพือ่ ให้การรักษาแบบเป็นขัน้ ตอน จนกว่าคนไข้จะจากไปอย่างสงบ หรือในกรณีที่ ทางทีมสามารถท�ำความเข้าใจกับคนไข้และญาติ ในการทีน่ ำ� คนไข้กลับไปรักษาต่อทีบ่ า้ น ผมถือว่า เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด เนื่องจากการที่คนเรา สามารถตายอยู่บนเตียงที่เคยนอนทุกวัน ในบ้าน ที่อาศัยมาตลอดชีวิตและจากไปท่ามกลางญาติ พี่น้องเพื่อนสนิทมิตรสหาย ย่อมดีกว่าที่จะตาย อย่ า งโดดเดี่ ย วในรพ. ท่ า มกลางความสบสน วุ ่ น วายในการรั ก ษาพยาบาลคนไข้ แ ละเสี ย ง เครื่องช่วยหายใจที่ดังรอบๆ ตัว โดยทางรพ.จะมี เครื่องผลิตออกซิเจน เครื่องฉีดมอร์ฟีนแก้ปวด ตามความจ�ำเป็น และยังจัดทีมแพทย์พยาบาล รวมทั้งเครือข่ายออกไปเยี่ยมบ้านอีกด้วย ไม่ได้ เป็ น การผลั ก ไสไล่ ส ่ ง คนไข้ ใ ห้ ไ ปตายนอกรพ. เพือ่ ลดสถิตอิ ตั ราตายในรพ. จะต้องไม่มกี ารบังคับ หรือเคี่ยวเข็ญกับญาติ แต่ต้องค�ำนึงถึงความ ประสงค์ของคนไข้เป็นศูนย์กลาง ​ เราจะได้ มี ค วามภู มิ ใ จกั บ การได้ ดู แ ล คนไข้จนถึงวินาทีสดุ ท้าย ให้สมกับทีเ่ ขาได้เกิดมา เป็นมนุษย์คนหนึ่ง แม้ว่าต้นทุนชีวิตอาจแตกต่าง


กันก็ตามแต่เชื่อว่าเขาได้ท�ำสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นบ้าง ไม่มากก็นอ้ ยตลอดชีวติ ของเขา ผมจึงถือเป็นเรือ่ ง ส�ำคัญ ในการทีจ่ ะท�ำให้คนไข้ทกุ คนได้ตายอย่างมี ศักดิศ์ รีของความเป็นมนุษย์ เราควรให้เกียรติและ ดูแลร่างกายของเขาหลังเสียชีวิตให้ดีด้วย ผมขอร้องให้แพทย์ พยาบาล ผู้ช่วย เหลื อ คนไข้ เจ้ า หน้ า ที่ ผู ้ เ กี่ ย วข้ อ งตลอดจน คนงานเปล ต้องเคารพร่างที่ปราศจากวิญญาณ ของคนไข้ ทุ ก คนไม่ ว ่ า จะเป็ น ใครก็ ต าม เวลา ท� ำ ความสะอาดร่ า งกายหรื อ ถอดเครื่ อ งมื อ ทางการแพทย์ออกหลังเสียชีวิต ต้องให้เกียรติ ทุกครั้ง โดยควรท�ำอย่างนุ่มนวลและควรปิดม่าน ให้เป็นส่วนตัวด้วย ไม่ใช่ว่าจะเปิดเผยส่วนหนึ่ง ส่วนใดของร่างกาย หรือที่ไหนก็ได้เพราะเสีย ชีวิตแล้ว เช่นกันเวลาเข็นเปลไปห้องเก็บศพ ก็ ต้องเข็นให้ดี ไม่ใช่เข็นเหมือนส่งสิ่งของเท่านั้น ต้ อ งค� ำ นึ ง อยู ่ เ สมอว่ า ครั้ ง หนึ่ ง เขาก็ เ คยมี ชี วิ ต มีความรูส้ กึ นึกคิด มีครอบครัวอันเป็นทีร่ กั เหมือน เรา ไม่เว้นแม้แต่คนต่างด้าวที่เข้ามาพึ่งพาการ รักษาพยาบาลในรพ.ของเรา การท�ำความสะอาด ร่างกายหรือฉีดยาฟอร์มาลีน ก็ต้องท�ำด้วยความ เคารพด้ ว ยเช่ น กั น และจะต้ อ งเช็ ด เลื อ ดหรื อ สารคัดหลั่งต่างๆ ให้สะอาดอย่างที่สุดเพื่อเป็น การให้เกียรติต่อคนไข้เป็นครั้งสุดท้าย ​ ขณะเดี ย วกั น ผมก� ำ ลั ง ปรั บ ภู มิ ทั ศ น์ บริเวณห้องดับจิต (ห้องเก็บศพ) ซึ่งให้เปลี่ยนชื่อ ใหม่เป็น “ห้องสุขาวดี” เพื่อให้ดูดีเป็นธรรมชาติ ส ะอาด สงบและสวยงาม มีสวนหย่อมพร้อม

ม้าหินให้นั่งเล่น เพื่อให้เห็นว่าการตายนั้นเป็น เรือ่ งธรรมดาของชีวติ ไม่ให้มบี รรยากาศทีอ่ มึ ครึม น่ากลัว น่ารังเกียจ ไม่มีใครอยากเดินใกล้ และ จะจัดให้มพี นื้ ทีส่ ำ� หรับญาติทตี่ อ้ งการท�ำพิธรี ดน�ำ้ ศ พ ซึ่งทางรพ.ยินดีที่จะด�ำเนินการให้ ขอเพียง แจ้งให้รพ.ทราบเพื่อเป็นการอ�ำนวยความสะดวก อี ก ครั้ ง หนึ่ ง รวมทั้ ง การเขี ย นใบมรณะบั ต ร ผมถือเป็นหน้าที่ส�ำคัญที่แพทย์ผู้รกั ษาจะต้องรีบ เขียนให้เร็วที่สดุ เพื่อญาติจะได้นำ� ไปด�ำเนินการ ตามกฎหมายต่อไป เช่นกันกับโลงศพเราจะมีโลง ส�ำหรับผู้ที่มีความต้องการ ผมจะไม่ให้เรียกว่า “โลงศพอนาถา” เพราะเชือ่ ว่าไม่วา่ จะยากดีมจี น เพียงใดก็ตาม คงไม่มีญาติคนใดจะให้บรรจุคนที่ ตายในโลงศพอนาถาอย่างแน่นอน แต่จะเรียกว่า เป็น “โลงศพส�ำหรับผูท้ ตี่ อ้ งการ” ราคาแล้วแต่ บริจาคให้รพ.ตามก�ำลัง ผมจะขอให้เป็นโลงที่มี คุณภาพพอสมควร มีผา้ บุขา้ งใน พร้อมกับกระถาง ธูปทีพ่ ร้อมจะน�ำไปประกอบพิธไี ด้เลย จะได้ไม่เป็น การรบกวนญาติที่ยังมีชีวิต และให้ผู้ที่ตายไป ไม่ต้องห่วงกับค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ​ สิ่งเหล่านี้ถ้าเราท�ำได้จะเป็นการดูแล ค นไข้ด้วยหัวใจ บนพื้นฐานความรู้อย่างแท้จริง ผมจึงขอความร่วมมือทุกคนในรพ.ได้โปรดปฏิบตั ิ ตามอย่างเคร่งครัด ให้เกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กร ที่ดีงาม เพราะสักวันหนึ่งเราก็ต้องตายจากโลกนี้ ไ ปเช่นกัน ขอให้พวกเราได้ภูมิใจในงานที่เราท�ำ ได้ดูแลคนไข้ต้งั แต่เกิดจนตายอย่างดีที่สุด ​ขอขอบคุณทุกคนทีเ่ ข้าใจในความส�ำคัญ ของงานทีเ่ ราได้รบั มอบหมาย และตัง้ ใจท�ำหน้าที่ ของเราให้ดที สี่ ดุ ไม่วา่ ใครจะมองว่าบางอย่างเป็น งานทีต่ ำ�่ ต้อย แต่ขอให้มคี วามภาคภูมใิ จ ถ้าเราได้ ท�ำ ให้ดีที่สุด งานที่ดูต�่ำต้อยก็จะเป็นงานที่สูงส่ง ส�ำห รับผู้ที่ได้รับผลของงานนั้น ดังนั้นขอให้เดิน ยืดอกได้อย่างสง่าผ่าเผยในทุกๆ ที่ ทุกๆ เวลา. “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 153 ครบวาระราชการ...หมอณุ


5

ตีพิมพ์ครั้งแรก วารสารโรงพยาบาลน่าน ปีที่ 6 ฉบับที่ 64 เดือนกุมภาพันธ์ 57

“ท�ำอย่างไรเราจึงจะได้รับความไว้วางใจ ในการท�ำหน้าที่ของเรา รู้สึกว่ามันช่างยากเหลือเกิน”

ครัง้ หนึง่ มีแพทย์รนุ่ น้องซึง่ ในสายตาของ ผมถื อว่าเป็นแพทย์ที่ดีมากในการเอาใจใส่ดูแล คนไข้ได้ถามผมว่า “ท�ำอย่างไรเราจึงจะได้รับ ความไว้วางใจในการท�ำหน้าที่ของเรา รู้สึกว่ามัน ช่างยากเหลือเกิน” ​ ผม ได้ บ อกให้ คุ ณ หมอท่ า นนั้ น ไปว่ า เ ป็น ธรรมดาที่เกิดความรู้สึกเช่นนั้น ก็คงจะเป็น เ หมื อนกั น ถ้ า เราเป็ น คนไข้ ใ นยามที่ เ จ็ บ ป่ ว ย ร้ายแรง ก็ตอ้ งอยากได้แพทย์ทไี่ ว้ใจได้เป็นผูร้ กั ษา ค งต้ องอาศัยเพื่อนๆ หรือคนรู้จักที่อยู่ในวงการ แพทย์เป็นคนแนะน�ำ แต่มันก็ไม่ยากจนเกินไปที่ จะท�ำให้คนไข้เกิดความไว้ใจในตัวเรา โดยเราต้อง ให้ความจริงใจกับเขาก่อน ว่าเราจะดูแลเขาให้ดี ที่สุด เหมือนเป็นคนในครอบครัวของเรา ​ก็เ หมือนกับที่เราไว้วางใจคนบางคน เป็นต้นว่าพ่อแม่ของเรา เพราะเรามีความเชื่อมั่น ว่าไม่มวี นั ทีท่ า่ นจะท�ำในสิง่ ทีไ่ ม่ดตี อ่ เรา เนือ่ งจาก เ ร าได้เห็นท่านท�ำแต่สิ่งดีๆ ให้เรามาตั้งแต่เกิด โดยเฉพาะในยามทีเ่ ราเจ็บป่วย ท่านดูจะเป็นกังวล และเจ็บป่วยมากกว่าเราเสียอีก อดหลับอดนอน ค อ ยเช็ดตัวยามไข้สูง ต้มข้าวต้มป้อนเรายามที่

154

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

เราทานอะไรไม่ได้ ท่านได้ทำ� สิ่งต่างๆ เหล่านี้มา โดยตลอด แม้เราเติบโตเป็นผูใ้ หญ่มคี รอบครัวแล้ว ก็ยังคงเป็นห่วงอยู่ไม่เสื่อมคลาย เราจึงไว้ใจท่าน ได้โดยสนิทใจ ผมเชือ่ ว่าในชีวติ ความเป็นแพทย์ของเรา ถ้าเราท�ำให้คนไข้และญาติไว้วางใจเราเหมือนเป็น คนในครอบครัว ก็ถอื ว่าเราประสบความส�ำเร็จใน วิชาชีพ แ ต่ การที่เราจะท�ำให้ผู้อื่นโดยเฉพาะ คนไข้ ผูซ้ งึ่ ก�ำลังมีความทุกข์ทรมานจากความเจ็บ ป่ ว ย เกิดความไว้วางใจ พร้อมที่จะให้เราท�ำการ รั ก ษา ก็ขึ้นกับว่าเราได้ท�ำให้เขาไว้วางใจหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีที่พบกันครั้งแรก เราคงจ�ำได้ว่า ใ น ก า รตรวจคนไข้ด้วยตนเองครั้งแรกๆ เมื่อจบ แพทย์นั้น ทุกคนก็คงมีความรู้สกึ ตื่นเต้นไม่ค่อย มั่นใจในตนเองนัก ​แต่เมือ่ เวลาผ่านไปเราก็จะมีความมัน่ ใจ ม า ก ขึ้น เชื่อมั่นตนเองมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผ ม เ ชื่อว่าคนไข้จะไว้วางใจในตัวเราก็คงอยู่ที่ว่า เรามีความตั้งใจในการที่จะดูแลเขา หรือไม่ท่าที ที่แสดงออกมีความจริงใจเพียงใด มีการเอาใจใส่


ใ นตัวเขาอย่างไร ความรู้ความสามารถบางครั้ง เขาอาจได้รมู้ าก่อนแล้ว แต่ความประทับใจนัน้ ขึน้ กับการแสดงท่าทีการเอาใจใส่ การพูดจาอธิบาย ด้วยภาษาทีเ่ รียบง่าย และใบหน้าทีย่ มิ้ แย้มแจ่มใส เ ชื่ อ หรื อ ไม่ ว ่ า โดยส่ ว นใหญ่ คนไข้ ไ ม่ ไ ด้ เ ลือกหมอที่เก่งที่สุด แต่เขาจะเลือกหมอ ที่ดูแลเอาใจใส่เขาดีที่สุด ​สมัยที่ผมเป็นแพทย์ใช้ทุนอยู่รพ.เบตง ใหม่ๆ มีคนไข้ในตลาดมารพ.ด้วยอาการเจ็บแน่น ลิ้นปี่แบบเฉียบพลัน ผมตรวจดูเบื้องต้นคิดว่าน่า จ ะ เป็นโรคกระเพาะอาหารทะลุ ได้ส่งเอ็กซเรย์ ยื นยั น พบว่ า ภาวะเจ็ บ ท้ อ งเกิ ด จากกระเพาะ อาหารทะลุจริง จ�ำเป็นต้องได้รบั การผ่าตัดโดยด่วน ผ ม ได้อธิบายให้คนไข้และญาติฟังอย่างละเอียด แ ต่ทั้งหมดยืนกรานไม่ยอมรับการผ่าตัด ซึ่งใน ขณะนั้นคนไข้รู้สกึ ดีขึ้นปวดท้องน้อยลง ผมจึงได้ เรียนปรึกษาแพทย์รนุ่ พี(่ นพ.เกรียงศักดิ์ ภูพ ่ ฒ ั น์) ซึง่ ท่านท�ำงานอยูท่ รี่ พ.เบตงมานานกว่า 10 ปีแล้ว เ ป็นที่นับถือของคนไข้ทั้งเบตง เนื่องจากเป็น แ พ ทย์ที่เก่ง ดูแลคนไข้เหมือนญาติ ท่านรีบพา ผ ม มาคุยกับคนไข้และญาติอีกครั้ง ท่านดูฟิลม์ แ ล้วบอกคนไข้ว่าต้องรีบผ่าตัดทันที ทั้งยังให้ค�ำ ยื นยันด้วยว่าผมมาจากรพ.ที่กทม. เก่งมากเป็น หมอผ่าตัดมือหนึ่ง ท�ำเอาผม ตัวลอยเชียวล่ะ คนไข้เริม่ มีทา่ ทีเชือ่ ว่าเป็นโรคนีจ้ ริง แต่ยงั ค ง ไม่ค่อยเชื่อในตัวผมนัก พี่เกรียงศักดิ์บอกว่า จ�ำ เป็นต้องผ่าตัด ถ้าทิ้งไว้จะอันตรายถึงชีวิตได้ คนไข้ถามว่าโอกาสตายมีไหม? ผมยังคงจ�ำได้ว่า พีห่ มอบอกกับคนไข้วา่ การทีเ่ รานัง่ รถจากเบตงไป ยะล าปลอดภัยไหม? (เนื่องจากเส้นทางคดเคี้ยว ต้องขึน้ เขาลงเขามากอีกทัง้ ยังมีขบวนการโจรแบ่ง แยกดินแดนคอยดักจี้ ปล้น หรือยิงลงมาจากบน เขาระหว่างทางอยู่บ่อยๆ) มีใครกล้ารับประกันว่า ปลอดภัย 100 % หรือเปล่า แต่พวกเราก็เดินทาง กันบ่อยๆ ไม่เห็นเป็นอะไร

คนไข้จงึ เริม่ เชือ่ และพีห่ มอยังบอกด้วยว่า จะเข้าไปช่วยผมผ่าตัดด้วย คราวนีค้ นไข้และญาติ ยิ้มเลย วั นรุ ่ ง ขึ้ น พี่ ห มอไปพู ด กั บ คนไข้ ว ่ า ผม ผ่า ตัดได้ดีมาก ผ่าเร็วและเสียเลือดน้อย โชคดี ของ คนไข้ที่ได้ผมเป็นคนผ่าตัดให้ ผมไปเยี่ยม คนไข้วนั ละ 2-3 ครั้ง จนออกจากรพ. ตั้งแต่วนั นั้น เป็นต้นมา คนไข้เที่ยวไปคุยให้ทุกคนในตลาดฟัง ถึงความเก่งของผม ท�ำให้ผมไปทานก๋วยเตี๋ยวใน ตลา ดไม่ต้องจ่ายเงินอีกเลย มีแต่คนออกเงินให้ และทุกคนไว้ใจให้ผมเป็นคนผ่าตัดรักษา ในกรณี ที่ มีความจ�ำเป็น บางครั้งผมแนะน�ำให้ไปผ่าตัด ที่ รพ.หาดใหญ่ คนไข้ก็ไม่ไปขอให้ผมผ่าตัดให้ที่ รพ.เบตง ผมจึงคิดว่ารุน่ พีม่ สี ว่ นส�ำคัญในการทีจ่ ะ สร้างความมัน่ ใจในตัวเราในฐานะหมอใหม่ ไม่วา่ จะจ บใหม่หรือมาอยู่ใหม่ให้กับคนไข้และญาติ เช่ นเดี ย วกั น เจ้ า หน้ า ที่ ใ นรพ.ของเราก็ ส� ำ คั ญ เช่ นกัน ในการที่จะให้ค�ำแนะน�ำต่อคนไข้กรณีที่ เจ็ บป่วยให้มาหาเราเป็นผู้รกั ษา เราจึงต้องสร้าง ความสัมพันธ์ท่ดี ีกับผู้ร่วมงาน และส�ำคัญที่สุดก็ คือ ตัวเราเอง ที่จะต้องรักษาคนไข้ด้วยหัวใจบน พื้ นฐานของความรู้ ต้องมีความปรารถนาดีต่อ คนไ ข้อย่างจริงใจ คนไข้จึงจะมีความมั่นใจและ วาง ใจในตัวเรา ไม่มีความคลางแคลงใจในกรณี ที่ผลการรักษาไม่เป็นไปดังที่หวัง ดั งที่ผมได้เขียนในบทความครั้งก่อนว่า คนไ ข้จะยังคงเชื่อถือ และวางใจในตัวเราแม้จะ เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงทีค่ าดไม่ถงึ ขอเพียงแต่ เรา ต้องไม่ปิดบังปัญหาที่เกิดขึ้น และไม่หนีหน้า ปล่อยให้ทมี แพทย์ทา่ นอืน่ รักษาแทน ต้องมีความ จริงใจในการแก้ปญ ั หาและหมัน่ ดูแลอย่างใกล้ชดิ คอยอธิบายอาการที่เปลี่ยนแปลง เพียงเท่านี้เรา ก็ยังคงความสัมพันธ์ที่ดีกับคนไข้และญาติ และ ไม่ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาเหล่านี้จะยังคงมาให้เรา รักษาตลอดไป. “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 155 ครบวาระราชการ...หมอณุ


ข้าราชการของแผ่นดิน

นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน


หน้าที่ของข้าราชการ รับใช้แผ่นดิน ไม่ใช่รับใช้กระแสการเมือง 1 พ.ย. 2556 ตอนตีสองเช้าตรู่ สภาผูแ้ ทน ราษ ฏร 301 คน มีการการออกพระราชบัญญัติ นิรโทษกรรม ยกผิดให้คดีคอรัปชัน่ และคดีอาญา 3 พ.ย. 2556 ​เครือข่ายแพทย์ อาจารย์ แพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์และครอบครัว ต่อ ต้าน พรบ.นิ รโทษกรรม น�ำโดย นพ.สวรรค์ กาญ จนะ ออกแถลง การณ์ คั ด ค้ า น พ.ร.บ. นิรโทษกรรม (หมอวางเข็มฉีดยาเปิดหน้าสู้ นสพ. แนวหน้า 3 พ.ย. 2556) และไม่เป็นทีน่ า่ แปลกใจว่า ในทีส่ ดุ ภายใต้ การน�ำของพี่ณุ ก็มีแถลงการณ์คดั ค้านออกมา​ 7 พ . ย. 2556 แถ ลงการณ์ คั ด ค้ า น พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ชาวรพ.น่านถือว่า พ.ร.บ.นี้ ขัด ต่ อหลักธรรมา ภิบาล และขอเรียกร้องให้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร น�ำร่างนี้ออกไปเสีย ในฐานะทีเ่ คยเป็นผูน้ ำ� แพทย์ประจ�ำบ้าน น�ำการต่อสู้ต้งั แต่สมัย พ.ค.ทมิฬ 35 สู้กับรัฐบาล รสช. การเคลื่อนไหวที่คัดค้านต่อต้านรัฐบาล ทั้ง ทหารและพลเรือนไม่ว่ายุคไหนล้วนมีความเสี่ยง ผมทายใจในฐานะผู้ บริหารอย่างพี่ณุ เลือกที่จะ

ท�ำให้ ดูเป็นตัวอย่างให้สมกับค�ำว่า “ข้าราชการ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” มวลมหาประชาชน 23 พ . ย . 2556 ผมขึ้นเวทีราชด�ำเนิน พร้อมกล่าวประโยคค�ำทานพุทธทาส “ถ้าวันนีถ้ กู ต้องก็ไม่ตอ้ งกลัววันพรุง่ นี”้ ก่อนทีจ่ ะมีการเดิน ครั้ง ใหญ่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2556 ​ที่มวลมหา ประชา ช น นับล้านเดินออกสู่ท้องถนน จาก การ รวมตัวของเครือข่ายแพทย์ พยาบาลอาสา ชมรม แพทย์ชนบท เครือข่ายแพทย์เก้าสถาบัน พัฒนา ไปสูก่ ารจัดตัง้ เครือข่ายอาสาสมัครทางการแพทย์ การท�ำงานทุกอย่างจะส�ำเร็จได้ จะต้อง ร่วมมือกันและต้องอาศัยก�ำลังใจที่กล้าหาญ จุดเปลี่ยนอันหนึ่งที่ มีผลต่อการก�ำหนด ท่าทีท่สี �ำคัญของการเลือกตั้ง 10 มกราคม 2557 ผมอยู่ในห้องประชุม ไพจิตร ปวะบุตรทีท่ า่ นปลัดณรงค์​สหเมธาพัฒน์ นัง่ อยู่ มีแถลงการณ์ ประชาคมสาธารณสุขฉบับที่ 3 “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 157 ครบวาระราชการ...หมอณุ


ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง “ประชาคมสาธารณสุข ได้กา้ วข้ามความ อึมครึมของสถานการณ์ทางการเมือง ให้แนว ปฏิบัติที่ชัดเจน แจ้งต่อสังคม ถึงจุดยืนของพวก เราชาวสาธารณสุข” (พิษณุ ขันติพงษ์ 10 ​ม.ค. 57) 11 มกราคม 2557คุ ณ tanu ส่ ง ข้อความไลน์มาให้ผมดูพร้อมข้อความ “ติดป้าย โรงพยาบาลน่านสนับสนุนการปฏิรูปก่อนการ เลื อ กตั้ ง แม้ ผ วจ.โทรหาทราบว่ า ไม่ ห วั่ น ไหว มาให้ผมดู” น�ำ้ ใจทีไ่ ด้ในยามยาก มีคา่ มากกว่าทรัพย์ เป็นนับแสน หลังจากที่มีข่าวการตั้งกรรมการสอบ ท่านปลัดกระทรวง นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ 12 ​มกราคม 2557 ผมได้รว่ มกับเครือข่าย บุคลากร ประชาคมสาธารณสุข ให้กำ� ลังใจท่าน ปลัดฯ ณ กระทรวงสาธารณสุข 20 ​มกราคม 2557 เครือข่ายแพทย์ แสดงพลังเดินแสดงเจตนารมย์ ปฏิรปู ก่อนเลือกตัง้ พี่ณุได้แสดงความเห็นไว้ว่า 21 มกราคม 2557 “ขอขอบคุณตัวแทนของ พวกเราประชาคมสาธารณสุข ทีอ่ อกมาแสดงพลัง ร่วมกับมวลมหาประชาชนเมือ่ วานนี้ ถ้าไม่ถงึ ทีส่ ดุ เราคงไม่ออกมาเช่นนี้ งานของพวกเราในการดูแล สุขภาพประชาชนก็หนักอยูแ่ ล้ว แต่พวกเราก็ทำ� ได้ ด้วยหัวใจ ด้วยความสุข แต่ครั้งนี้พวกเราออกมา เพื่อ ให้เกิดความถูกต้องในระบบการเมืองไทย เพื่อลูกหลานของพวกเรา” บททดสอบผู้น�ำ เมื่อมีภัยมา 28 มกราคม 2557 ผมได้ รั บ ข้ อ มู ล จากไลน์ จ ากคุ ณ Tanu ว่ า จะมี น ปช.ไปแอ่ ว รพ.น่านจะมีผู้แทนประมาณ สี่ถึงห้าคนไปยื่น หนังสือต่อผูว้ า่ ฯ เพือ่ แสดงจุดยืนในการเคารพต่อ ความคิดเห็นส่วนบุคคล และไม่เห็นด้วยทีอ่ งค์กร ด้านสาธารณสุขทีแ่ สดงออกในนามองค์กรของรัฐ

158

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

ทางผอ.ณุ ยินดีชี้แจงทุกฝ่ายพร้อมจัด สถานทีใ่ ห้ผมู้ คี วามคิดเห็นต่าง แต่จะขอสงวนสิทธิ์ ไม่ให้ผ้ชู มุ นุมเข้าไปในอาคาร เกรงจะรบกวนผู้มา รับบริการ นี่คงเป็นบททดสอบผู้บริหารอย่างพี่ณุ อีกครั้งหนึ่ง 30 มกราคม 2557 หมอเมื อ งน่ า น ประกาศก้อง ขรก.เป็นข้าแผ่นดิน “ถูก-ผิด/ดี-ชั่ว” ไม่มีกลาง (ผู้จดั การ ออนไลน์) ในการแสดงความเห็น การออกแถลงการณ์ การติดป้ายก็เป็นหนึ่ง น�ำมาซึ่งผู้เห็นด้วยและ ไม่เห็นด้วย 10 กพ 2557 “การท�ำความดี ท�ำสิ่งที่ ถูกต้องนัน้ ท�ำได้ทนั ที“ (นายแพทย์พษิ ณุ ขันติพงษ์) 27 กุ ม ภาพั น ธ์ 2557 ประชาคม สาธารณสุข รณรงค์ติดป้าย ไม่เอาความรุนแรง และรั ฐ บาลโกงและเช่ น เคย แม้ จ ะมี แ รงต้ า น การคุกคาม รพ.น่านภายใต้การน�ำของ ผอ.นพ. พิ ษ ณุ ก็ ยั ง คงเจตนาแน่ ว แน่ ท�ำ สิ่ ง ที่ ถู ก ต้ อ ง จนกระทั่งกลายเป็นประเด็น 10 มีนาคม 2557 ผอ.รพ.น่านแจงปลด ป้ายต้านแค่ช่วง 5 วันเพื่อความเหมาะสม ยันไม่ เกีย่ วค�ำสัง่ รมว.สาธารณสุข (โดย ASTV ผู้จดั การ ออนไลน์) 29 มีนาคม 2557 โปรดจ�ำไว้เป็นบทเรียน ส�ำหรับนักการเมืองรุ่นหลัง “ผลประโยชน์ของ


“ขอบคุณที่เป็นคนดี” 159 ครบวาระราชการ...หมอณุ


160

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน


ส่วนรวม ประชาชนและประเทศชาติต้องมาก่อน ประโยชน์ส่วนตนเสมอ และที่ส�ำคัญจะต้องไม่ ให้มีผลประโยชน์ทับซ้อนใดๆ มาเกี่ยวข้องอย่าง เด็ดขาด” (นายแพทย์พษิ ณุ ขันติพงษ์) เหตุการณ์ ความรุนแรง ขมขู่คกุ คามรพ. บุคลากรด้วยอาวุธ สงคราม เกิดขึ้นต่อเนื่อง 21 ​เมษายน 2557 ​หลังจากที่ผมทราบ ข่าวว่า มีระเบิดเอ็มเจ็ดสิบเก้าลงที่บ้านท่านปลัด ผมได้อ อกแถลงการณ์ในสื่อประณาม (แนวหน้า โพสต์ทูเดย์​ 21 เมษ ายน 2557) มีการนัดไปให้ ก�ำลังใจท่านปลัดณรงค์

“พี่ ณุ เ ป็ น ตั ว อย่ า งต้ น แบบของน้ อ งๆ เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมขอเดินตามรอยพี่ครับ” แม้ ร ะยะเวลาอั น สั้ น ที่ ผ มรู ้ จั ก พี่ ณุ ผมชอบความเป็นคนนักเลงของพี่ณุ ใจกว้า ง ยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง ท�ำตามความรู้สึกตัวเอง และความรู ้ สึ ก ภู มิ ใ จที่ ไ ด้ เ ป็ น ข้ า ราชการใน พระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว ทั้ ง ค� ำ พู ด และ การกระท�ำ

ใจนักเลง ไม่ทิ้งเพื่อนในยามยาก 22 เมษายน 2557 , 12 พฤษภาคม 2557 ภาพของพีณ ่ ใุ นชุดข้าราชการสีกากี พีอ่ ุ๊ พีส่ ทุ ศั น์ รองปลัด ฯ วชิร ะ และปร ะชาคมสาธารณสุข ให้ก�ำลั งใจปลั ดที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อพี่ณุ พี่สุทัศ น์ สสจ.รพช. มีภัย ต่างเป็นก�ำลังใจซึ่งกัน และกัน ในที่สุดผมกับพี่ณุ ก็มาพบกัน 24 เมษายน 2557 ท่านปลัดฯ ณรงค์ เดินทางมาราชการที่ตรัง ผมได้มอบพระบารมี ปกเกล้า และกล่าวค�ำพูดว่า “ผมให้ก�ำลังใจพี่ณรงค์ไม่ใช่เพราะท่าน เป็นปลัด แต่ในฐานะที่ท่านท�ำสิ่งที่ถูกต้อง” ครัง้ นีเ้ ป็นครัง้ ทีส่ อง หลังจากทีผ่ มพบพีณ ่ ุ ตอนเดือนมีนาคม 2556 ​ที่เชียงราย เมื่อครั้งที่ไป อบรมหลักสูตรรองแพทย์รนุ่ 7 ผมเขียนในเฟซบุค๊ ว่า “วั น นี้ พ บได้ พ บและนั่ งทานข้ า วกั บ ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน ต้นแบบของพี่น้อง ชาวสาธารณสุข จุดยืนชัดเจน ใจกว้าง มองการไกล” พี่ณุตอบว่า “ดีใจครับ ที่ได้พบกับฮีโร่ ตัวจริง ข้าราชการที่ดี เป็นตัวอย่างได้อีกคนหนึ่ง ของข้าราชการสธ.”

นพ.สวรรค์ กาญจนะ ผู้อ�ำนวยการ รพ.บางขันและรองผู้อ�ำนวยการ ฝ่ายการแพทย์ รพ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราช ผู้ประสานงานเครือข่ายแพทย์พยาบาล อาสาผู้ช่วยเหลือประชาชน เครือข่ายแพทย์ เสรีไทยสีขาว “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 161 ครบวาระราชการ...หมอณุ



หมอพิ ษ ณุ ในมุมมองของ...หมอพัชรี ​36 ปีที่รู้จักกันมา และยังมีโอกาสได้ ใช้ชีวิตร่วมกันถึง 33 ปี มีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้น มากมาย... เมือ่ ครัง้ ทีห่ มอพัชรีเป็นแพทย์ใช้ทนุ ปีที่ 1 แล ะหมอพิษณุเป็นแพทย์ฝึกหัดที่โรงพยาบาล สรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี หมอพิษณุ ต่าง จา กเพื่อนๆ ที่เคยรู้จักหมอพิษณุเป็นคนร่าเริง เฮ ฮา คุยเก่ง ร้องเพลงเก่ง ดื่ม(เหล้า)ก็เก่ง เป็น ที่รักของคนที่รู้จัก โดยเฉพาะสตรีตั้งแต่เด็กเล็ก สาวสาว คุณแม่คณ ุ ยาย ตอนนั้นมีเงินเท่าไหร่ก็ ใช้...เกือบหมด ระหว่างที่หมอพิษณุเป็น Intern อยู่ที่อุบลฯ หมอพิษณุได้ลูกยุจากคุณยายของ ศั ลยแพทย์คนหนึ่งที่อยู่ใกล้หอพักของเราให้จีบ หมอพัชรี ด้วยแรงยุทำ� ให้เพือ่ นๆ หมอพิษณุเดือดร้อน คุณหมอสุทศั น์ ศรีวไิ ล เพือ่ นสนิทของหมอพิษณุ ด้ วยความเป็นห่วงก็ขอนัดพี่พัชรีไปกินข้าวเย็น เพื่อเล่าเรื่องหมอพิษณุในอดีตตั้งแต่รู้จักกันมา ระหว่างที่หมอพิษณุรอการกลับจากกินข้าวเย็นก็

อัดเพลง folk song ใส่เทปไว้ 1 ม้วน เมื่อเอาเทป มา ให้หมอพัชรี พร้อมกับค�ำพูดว่า “ถ้าแต่งงาน กั บเพื่อนหมออื่นๆ ที่มาจีบ ชีวิตก็คงราบเรียบไม่ ตื่นเต้นเปรียบเหมือนเรือที่ลอยในอ่างน�ำ้ แต่ถ้า รักกับหมอพิษณุชวี ิตก็จะมีรสชาติ ตื่นเต้น ไม่น่า เบื่อ เหมือนเรือที่ลอยในมหาสมุทรเผชิญคลื่นลม หรือพายุบ้าง” หมอพิษณุขอโอกาสให้ลองคบกัน ดู ก่อน หมอพัชรียินดีให้โอกาสเพราะคิดว่าอดีต คือเรื่องที่ผ่านไปแล้ว เราควรอยู่กบั ปัจจุบัน

“ขอบคุณที่เป็นคนดี” 163 ครบวาระราชการ...หมอณุ


หลังจากหมอพิษณุท� ำงานเป็ นแพทย์ ฝึก หัด 1 ปี หมอพิษณุจบั ฉลากเป็นแพทย์ใช้ทนุ ที่ อุบลฯ ต่อไม่ได้ จึงตัดสินใจกับคุณหมอสุทัศน์ ศรี วิไล เพื่อนสนิทซี้ปึ๊ก ตัดสินใจเลือกไปใช้ทุน จัง หวัดที่ไม่มีใครอยากไป จะได้ไม่ต้องผิดหวัง กั บ การจั บ ฉลากอี ก แล้ ว หมอพิ ษ ณุ ก็ เ ลื อ ก โรง พยาบาลเบตง...ใต้สุดของของสยาม ก่อน หมอพิษณุจะไปเบตง ได้มอบสมุดบัญชีธนาคาร ซึ่ งมีเงินเก็บจากการท�ำงานอยู่ประมาณ 6,000 บาท เป็นค่ามัดจ�ำความรัก สมัยนั้นการติดต่อ ไม่มโี ทรศัพท์มอื ถือ โทรศัพท์ทางไกลก็ไม่งา่ ย ไม่มี Line ไม่มี facebook การติดต่อส่งข่าวกันโดยการ เขี ยนจดหมายส่งทางไปรษณีย์ อุบล-เบตง-อุบล คุณ หมอพิษณุเป็นคนมีศิลปะ หน้าซองจดหมาย ทุก ฉบับจะมีภาพวาดลายเส้นด้วยปากกาเป็น รูป ดอกไม้ต่างๆ (ยังเก็บไว้อยู่...โรแมนติคดี) 2 ปี ที่หมอพิษณุไปอยู่เบตง เราส่งจดหมายติดต่อกัน

164

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

อย่างสม�ำ่ เสมอ ได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวหาที่ เบตง 2 ครั้ง ครั้งหนึ่งถนนยะลา-เบตงปิดเพราะ โจ รใต้ เนื่องจากหมอพิษณุได้ไปช่วยคนเบตง ไว้มากมายเพียงแค่เอ่ยปากกับคนขับรถว่าท�ำ อย่างไรดี พ่อกับแฟนจะมาเที่ยวหาแล้วถนนยัง ไม่เปิด...ตกเย็นคนขับรถก็มาบอกว่าทางสะดวก แล้วไปรับพ่อกับแฟนได้แล้ว ห มอพิษณุเ ป็นคนไม่ปิดบัง เปิดเผย ไม่หลอกลวงมีอะไรก็เล่าหมด ท�ำให้เรารู้สึกว่า เขาซื่อสัตย์ จริงใจ ดังนั้นการชอบพอกันเราก็ ต้องยอมรับความเป็นตัวตนของซึง่ กันและกัน ไม่ใช่ต้องการให้เขาเปลี่ยนเป็นอย่างโน้น อย่างนี้แบบที่เราต้องการ เมื่อหมอพิษณุใช้ทุนใกล้หมดก็ตัดสินใจ จะไปเรียนศัลยกรรมเด็ก โดยขอทุนโรงพยาบาล ล�ำปาง จบแล้วก็จะได้กลับไปอยูบ่ า้ น (หมอพิษณุ เป็ นคนล� ำ ปาง) แต่ พ อวั น สุ ด ท้ า ยที่ ม าสมั ค ร


ปรา กฏว่าทุนศัลยกรรมเด็กโรงพยาบาลล�ำปาง ไม่ มี แ ล้ ว หมอพิ ษ ณุ ก็ เ คว้ ง จึ ง ขอเข้ า พบปลั ด กระ ทรวงซึ่งตอนนั้นคือ อาจารย์นายแพทย์ ประ กอบ ตู้จินดา อาจารย์เป็นผู้มีเมตตาสูง เห็ นอกเห็ น ใจแพทย์ รุ ่ น น้ อ งซึ่ ง ไปท� ำ งานอยู ่ ชาย แดน อาจารย์ได้ให้ความช่วยเหลือและหา ทุน ให้เลือกใหม่ หมอพิษณุได้เลือกสูติ-นรีเวช โรง พยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ หมอพัชรี จึง เชื่อในเรื่องชะตาฟ้าลิขิตส่วนหนึ่ง อีกส่วนเรา ลิขิตเอง เราแต่งงานกันเมือ่ หมอพัชรีเรียน Med ที่ รามาฯ ส่วนหมอพิษณุเรียนสูติฯ ที่รพ.หญิง เรา เลื อกแต่งงานกันแบบเรียบง่าย ฤกษ์สะดวก แม้ จนปัจจุบนั ไม่วา่ จะท�ำอะไรเปิดคลินกิ ขึน้ บ้านใหม่ ก็ฤ กษ์สะดวกหมด ไม่ได้จัดงานใหญ่โต ลางาน เพี ยง 3 วัน วันหนึ่งท�ำบุญและพิธีสมรสหมู่ที่ รพ.สงฆ์ อีกวันก็แห่ขันหมาก สวมแหวนและกิน เลี้ยงโต๊ะจีนเพียง 5-6 โต๊ะ มีเฉพาะญาติและ เพื่อนสนิทจริงๆ เท่านั้น เราจดทะเบียนสมรสที่ เขตบางรัก (เพราะบ้านหมอพัชรีอยู่ส่พี ระยา) ซึ่ง ในวันวาเลนไทน์จะมีคนแห่มาจดทะเบียนที่เขต นี้มากมาย อาจารย์นพ.ประกิต วาทีสาทกกิจ ได้ ให้ของขวัญวันแต่งงานเป็นบัตรล่องเรือแม่นำ�้ เจ้ าพระยาของโรงแรมโอเรียลเต็ลพร้อมอาหาร เย็นบนเรือ

เมื่อจบแล้วเราสองคนจึงได้มาท�ำงาน ที่ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ตั้งแต่ พ.ศ.2527 เป็นต้นมา ขณะนัน้ เชียงรายยังเป็นเมือง เล็กๆ เงียบๆ เราทัง้ สองไม่มคี วามคิดจะเปิดคลินกิ เลยในตอนต้น แต่พออยูๆ่ ไป ตกเย็นไม่มอี ะไรท�ำ ดูห นังโดยการเช่าดูทุกวัน ดูอยู่หลายเดือนจึง ตัด สินใจเปิดคลินิก วัฒนธรรมที่เชียงรายเปิด คลิ นิกเฉพาะตอนเย็นเท่านั้น หมอพิษณุเป็นคน อาร มณ์ดีไม่เคยโกรธ ยิ้มแย้มทักทาย ท�ำคลอด ผ่าตัดก็รอ้ งเพลง แม่ๆ ทัง้ หลายมักจะบอกว่าลูกๆ อาร มณ์ดีเหมือนคุณหมอ เด็กๆ เชียงรายเป็น ลูกหมอพิษณุ (ท�ำคลอด) ร่วมหลายพันคน ตอน นี้เด็กๆ ที่หมอพิษณุทำ� คลอดรุ่นแรกๆ ก็เป็นหนุ่ม เป็ นสาวบางคนก็มาฝากครรรภ์ต่อ หมอพิษณุ จะไ ม่ ค ่ อ ยยอมไปเที่ ย วแม่ ส ายเพราะคนรู ้ จั ก มากมายก็จะเข้ามาทัก และจะให้ลกู ๆ ทีห่ มอพิษณุ ท�ำคลอดมาดู มารู้จกั ...นี่ไงหมอที่ท�ำคลอดลูก เมื่ อ หมอพั ช รี หั ด เรี ย นเล่ น อิ เ ล็ ก โทน โดยเ ล่นตามตัวโน๊ต ต้องอาศัยความพยายาม แสนสาหัส แต่หมอพิษณุสามารถเล่นเพลงนัน้ ได้ แบบ by heart ได้ แต่ไม่สามารถเล่นตามตัวโน๊ต จึง ท�ำให้เข้าใจค�ำว่าพรสวรรค์เป็นอย่างดี หมอพิษณุ มีพรส วรรค์ด้านดนตรี เล่นกีต้าร์ เป่าขลุ่ย เป่า เม้าท์ออร์แกน เล่นอิเล็กโทนโดยหัดเอง แกะโน้ต เอง ไม่ต้องไปเรียนกับใครที่ไหน และยังร้องเพลง “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 165 ครบวาระราชการ...หมอณุ


ได้ไพ เราะอีกต่างหาก ได้อัดเพลงรักทั้งไทยและ ฝรั่ง (folk song) ให้หมอพัชรีไว้ 1 ม้วน เอาไว้ฟัง เมื่อ คนหนึ่งอยู่อบุ ลฯ อีกคนอยู่เบตง มีเพลงหนึ่ง ที่หมอพิษณุชอบร้องคือเพลง “พี่สาวครับ” ของ จรัล มโนเพชร...พี่สาวครับ ตอนนี้ผมฮักพี่แล้ว ครับ จะฮักพี่บ่มีหน่าย จะฮักพี่ตลอดปายยย... อีกเ รื่องที่น่าประทับใจคือหมอพิษณุมี ความจ�ำเป็นเลิศ จ�ำชื่อคนไข้ สามี เรื่องราวต่างๆ ที่คนไข้เล่าให้ฟัง เรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาใน ชีวิต และสามารถรื้อฟื้นความจ�ำน�ำมาเล่าเรื่อง ได้ ท�ำให้หมอพิษณุเป็นคนคุยเก่งมีเรื่องราวที่นำ� มาเล่าสูก่ นั ฟังในวงสนทนาได้เสมอๆ เวลาไปเทีย่ ว ที่ไหนก็จะได้เพื่อนใหม่อยู่เสมอๆ และทุกคนก็จะ สนุกสนานกับการช่างคุย ช่างแหย่ของหมอพิษณุ ได้ไปเทีย่ วอินเดียกับหลวงพ่อค�ำเขียน สุวณ ั โณ แห่งวัดป่าสุคะโต ชัยภูมิ ตลอดเวลาที่นั่งรถก็ จะมีการปุจฉา-วิสัชนา เรื่องต่างๆ ท�ำให้การเดิน ทางมีความหมายและไม่นา่ เบือ่ ผูร้ ว่ มเดินทางก็มี ความสุข หมอพิษณุจะเอาใจสตรีสูงวัยเก่ง จะ มีการโทรหาแม่หมอพัชรีทุกวัน แม่ของเพื่อนที่ อยู่กรุงเทพเป็นระยะ โทรหาคุณยายที่ไปเที่ยว

166

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

จิ่วจ้ายโก่วด้วยกันจนสนิทกันมาก ใครได้คยุ ด้วย จะมีความสุขเพราะช่างเย้าช่างแหย่ อารมณ์ดี ไม่เคยโกรธใคร การใช้ ชี วิ ต ร่ ว มกั น เหมื อ นกั บ การเดิ น ทางในเรือ สามารถเดินทางไปได้ ชมวิวสวยงาม ไป ดื่มด�่ำกับธรรมชาติที่ผ่านเข้ามา แต่บางครั้งก็ พบกับพายุเล็กบ้างใหญ่บา้ งแต่เราก็สามารถผ่าน พ้นพายุแต่ละครั้งมาได้จนถึงทุกวันนี้ ขอบคุณและขอโทษในทุกๆ เรือ่ งทีผ่ า่ นมา และเราจะช่วยกันตลอดไป...

​​​​​หมอพัช แพทย์หญิงพัชรี ขันติพงษ์


Endless Love เราจะช่วยกันตลอดไป


“ข้อคิด ค�ำคม” หมอณุ

“เท่าที่ติดตามข่าวเรื่องP4P,ฟังประชุมเรื่องนี้ก็หลายครั้ง ได้รับฟัง ความคิดเห็นและเหตุผลที่แตกต่างกันออกไปของคนในวงการสาธารณสุข (ผู้ให้บริการ) แต่ยังไม่เคยได้มีโอกาสรับฟังความคิดเห็นของผู้ป่วย (ผู้มารับ บริการ) ของเราเลย ว่าเขาอยากจะให้เราใช้ระบบ P4P กับเขาไหม ? ทั้งๆ ที่ ผู้ได้รับหรือเสียผลประโยชน์มากที่สุดก็คือ กลุ่มคนเหล่านี้” ผมคิดว่า “ไม่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตาม เรามักนึกถึง ตัวเราก่อนเสมอว่าจะมีผลกระทบในทางได้หรือเสียผลประโยชน์ โดยมักลืม ผูท้ อี่ าจได้รบั ผลกระทบนีด้ ว้ ย จึงต้องคิดให้ดี คิดให้มากและต้องท�ำให้ผทู้ อี่ าจได้รบั ผลกระทบนัน้ เกิดความ มั่นใจว่าเราจะให้ความเปลี่ยนแปลงนั้น มีผลกระทบน้อยที่สุดหรือมีแต่ผลดีเกิดขึ้นเท่านั้น”

“การท�ำสิ่งที่ดีหรือถูกต้องนั้น มักเห็นผลตอบแทนเป็นนามธรรม เป็นความสุขทางใจที่ได้ทำ� สิ่งดีๆ ได้ท�ำตามกฏระเบียบหรือช่วยเหลือเกื้อกูล ผูท้ เี่ ดือดร้อน โอกาสทีจ่ ะได้รบั สิง่ ตอบแทนเป็นวัตถุสงิ่ ของหรือเงินทองมักมีขอ้ จ�ำกัด โดยเฉพาะบางครั้งยังต้องเสียสละความสุขส่วนตัวด้วย แต่การท�ำสิ่งที่ ไม่ดหี รือไม่ถกู ต้องนัน้ มักได้รบั สิง่ ตอบแทนเบือ้ งต้นเป็นทรัพย์สนิ เงินทองหรือ เป็นรูปธรรมให้เห็นชัดเจน จึงเป็นสิ่งจูงใจให้คนรุ่นใหม่ท�ำตามได้ง่ายกว่า” เราจึงควรร่วมกันสนับสนุนและส่งเสริมคนดีในสังคม ก่อนทีจ่ ะ สูญพันธุ์

168

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน


ขอวิงวอนนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และผู้บริหารระดับสูงผู้ทรงเกียรติ

​ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองเราขณะนี้ ล้วนเกิดขึ้นเนื่องจากการขาดจิตส�ำนึกที่ดีในการ เข้ามาบริหารประเทศของนักการเมืองและผู้บริหารส่วนใหญ่ แม้ว่าจะได้รับการเลือกตั้งเข้ามาอย่าง ถู กต้องตามระบอบประชาธิปไตย อย่างไรก็ตามถ้าถามสส. สว.หรือผู้บริหารระดับสูงทุกคนว่าท่านได้ เข้ามาในวิธีที่ถูกต้องจริงแล้วหรือ ทุกคนย่อมต้องรู้คำ� ตอบเป็นอย่างดี ท่านปฏิบัติตามกฏหมายเลือกตั้ง หรือไม่ ท่านใช้ระบบวิง่ เต้นหรือเงินทองเพื่อให้ได้มาซึ่งต�ำแหน่งหรือไม่ เ มื่อท่านได้อาสาเข้ามาเพื่อบริหารบ้านเมือง ท่านได้คิดทบทวนดูหรือไม่ว่าระหว่างที่ท่านด�ำรง ต�ำแหน่งนั้น ท่านได้ทำ� อะไรให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและบ้านเมืองบ้าง นอกเหนือจากการแสวงหา ผลประโยชน์ต่างๆ ที่เอื้อให้การออกกฎหมายก็ดี การท�ำโครงการต่างๆ มากมายก็ดี ท่านท�ำเพื่อตัวเอง พวก พ้องหรือกลุ่มผู้ได้รบั ผลประโยชน์เพียงบางกลุ่ม หรือว่าท�ำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติประชาชน สิง่ ต่างๆ ทีเ่ กิดขึน้ ในบ้านเมืองขณะนี้ ท่านย่อมต้องรูแ้ ก่ใจดีวา่ ถูกต้องตามคุณธรรม จริยธรรมหรือไม่ แม้แต่ ในขณะนีท้ า่ นไม่รแู้ ก่ใจเลยหรือว่า ท�ำไมคนจ�ำนวนมากมายนับล้านคนต้องทนทุกข์ทรมานออกมาร่วมกัน ต่อต้านพวกท่าน สิ่งเหล่านี้ไม่ท�ำให้คุณธรรมในใจท่านหวั่นไหวบ้างเลยหรือ ท่านยังคงคิดว่าตัวเองท�ำถูก อยูต่ ลอดจริงหรือ ท่านหลอกตัวเองหรือเปล่า ลองเหลียวมองดูคนอืน่ ทีไ่ ม่ใช่พรรคพวกท่านซิวา่ ทุกคนเขา ยังคงชื่นชม นับถือท่านหรือไม่ ต�ำแหน่งของท่านที่ทรงเกียรตินั้นยังมีอยู่จริงหรือเปล่า ​ ชีวิตที่เกิดมาแล้วคงไม่มีอะไรที่จะเลวร้ายไปกว่า การไร้ซึ่งเกียรติยศและศักดิ์ศรี ผมขอวิงวอน ให้บรรดานักการเมือง หรือข้าราชการประจ�ำระดับผู้บริหารระดับสูง ทีข่ นั อาสามาบริหารประเทศได้โปรด หยุดคิดและท�ำเพือ่ ประเทศชาติ ประชาชนอีกสักครัง้ ให้สมกับทีท่ า่ นได้ตงั้ ปณิธานไว้ตงั้ แต่แรกทีอ่ าสาเข้ามา เป็นข้าราชการ เป็นนักการเมืองรับใช้ชาติ ประชาชน ตัดสินใจท�ำในสิ่งที่ถูกต้องตามมโนธรรมในใจท่าน ยอมออกมาเป็นคนธรรมดา ปล่อยให้คนอื่นที่ทุกคนยอมรับเข้ามาท�ำหน้าที่บริหารประเทศภายใต้ระบบ คุณธรรมจริยธรรม โดยไม่จ�ำเป็นต้องไปอ้างอิงถึงประเทศอื่นๆ เพราะเป็นประเทศไทยของเราเอง ​ ผ มต้องขอขอบคุณนักการเมืองและผู้บริหารที่ดีทุกท่านที่ ได้ท�ำหน้าที่ของท่านอย่างสมเกียรติ ผมเชื่อว่าทุกท่านไม่ได้ยดึ ติดกับต�ำแหน่งต่างๆ ที่เป็นเพียงหัวโขนเท่านั้น และหวังที่จะเห็นทุกคนในชาติ มีค วามสุขไม่แตกแยกกัน แม้อาจแตกต่างกันบ้างทางความคิด แต่ก็รักและปรารถนาดีต่อประเทศไทย ของเราอย่างแท้จริง “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 169 ครบวาระราชการ...หมอณุ


มีผู้บริหารหลายคนถามผมว่า “จะรู้ได้ยังไงว่าอย่างไหนเป็นสิ่งที่ ถูกต้อง สิ่งที่ดีงาม” ผมตอบไปว่า “ใช้วิจารณญานของเราเอง เพียงแต่ขอให้ก้าวข้าม ตัวเอง ไม่คำ� นึงถึงผลประโยชน์สว่ นตัวและลดอัตตาในตัวตนลง ด้วยคุณธรรม มโนธรรมในใจ เราจะรู้ได้เองว่าอะไรเป็นความดีงามและความถูกต้อง ไม่จ�ำเป็นต้องหาเหตุผลหรือข้ออ้างใดๆ มาพิสูจน์”

ผม นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ ผอ.โฮงบาลน่าน จบแพทยศาสตร์ บัณฑิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระหัส 157070 ขอชืน่ ชมคณะอาจารย์ และเพือ่ นร่วมวิชาชีพทางการแพทย์ มช.ทีก่ ล้า ออกมาแสดงจุดยืนทีช่ ดั เจน ไม่เพียงแต่ทำ� หน้าทีข่ องตนเองเนือ่ งจากสามารถ เอาตัวรอดได้ไม่ว่าสถาณการณ์บ้านเมืองจะเป็นเช่นไร แต่ด้วยความห่วงใยที่มีต่อสังคมและประเทศชาติจึงกล้าออกมา ประกาศจุดยืนในแนวทางที่จะท�ำให้เกิดความสงบและคุณธรรมในบ้านเมือง “ผมมีความภาคภูมใิ จทีไ่ ด้เป็นศิษย์สถาบันแห่งนี้ และจะเคารพ เทิดทูนสถาบันนี้ตลอดไป”

นักการเมืองและผูบ้ ริหารมักจะอาศัยช่องโหว่ของกฏหมายมาแสวงหา ผลประโยชน์ให้ตนเองและพรรคพวก โดยไม่ค�ำนึงถึงคุณธรรม จริยธรรม และ จะมีเหตุผลต่างๆ นานา เป็นข้ออ้างเพื่อให้การกระท�ำต่างๆ นั้น ดูชอบธรรม คนทัว่ ไปมีทงั้ รูแ้ ละไม่รเู้ ท่าทัน แต่คนทีร่ สู้ ว่ นใหญ่มกั ไม่อยากเข้าไปยุง่ ขอเพียง เอาตัวรอดได้ก็พอแล้ว จึงท�ำให้คนเหล่านี้ได้ใจเกิดความคะนองท�ำในสิ่งที่ เลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่คำ� นึงถึงผลที่จะตามมาในภายหลัง โดยเฉพาะ คนรุ่นลูกรุ่นหลานทีจ่ ะตกอยู่ในภาวะทีส่ งั คมไร้ซงึ่ คุณธรรม คนทีท่ ำ� ความดีก็ ถูกมองว่าเป็นคนโง่ แล้วประเทศนี้จะอยู่ได้อย่างไร ขอให้พวกเราช่วยกันน�ำจริยธรรมกลับมาเพื่อให้สังคมดีขึ้น จริยธรรมง่ายๆ ก็คือการท�ำใน สิ่งดีๆ ที่ควรท�ำ และไม่ท�ำในสิ่งที่ไม่ควรท�ำ ทั้งนี้ขอให้เริ่มที่ตัวเราและเริ่มเดี๋ยวนี้เลย

“รุ่นพี่นั้นมีหน้าที่ให้ค�ำแนะน�ำเมื่อเห็นน้องกระท�ำในสิ่งที่ผิด และที่ส�ำคัญกว่านั้น คือ ต้องท�ำในสิ่งที่ถูกให้เป็นตัวอย่างแก่รุ่นน้อง”

170

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน


“คุณค่าของความเป็นคน อยู่ที่ไหน”

ท�ำไมคนที่มีต�ำแหน่งใหญ่โตจึงต้องหวงและห่วงเก้าอี้หรือต�ำแหน่ง ตัวเอง ทั้งที่หน้าที่และความรับผิดชอบของคนที่มีตำ� แหน่งสูงจะต้องอยู่คู่กัน เสมอ ที่ส�ำคัญอย่างยิ่งทุกคนมีหน้าที่ที่จะท�ำให้คนไทยมีความสุข เมื่อเกิด ความแตกแยกภายในประเทศอย่างรุนแรง ทุกคนไม่มคี วามสุข แล้วท�ำไมผู้มี ความรับผิดชอบโดยตรง จึงไม่ยอมรับพร้อมแสดงความรับผิดชอบโดยการ ลาออกเพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นเข้ามาท�ำหน้าที่แทน เหมือนกับประเทศที่ เจริญแล้ว เช่น ญี่ปุ่น นายกฯ พร้อมลาออกเมื่อบริหารประเทศไม่สำ� เร็จตาม เป้าหมาย หรือไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน โดยไม่จำ� เป็นต้องอ้างว่ามาจากเสียงข้างมากที่ประชาชน เป็นผู้เลือกให้เข้ามาบริหารประเทศ แต่บ้านเราผู้บริหารต้องปล่อยให้เรื่องลุกลามใหญ่โตจนมีผู้เสียชีวิต แล้วตนเองก็ต้องออกจากต�ำแหน่งในที่สุด ท�ำไมจึงไม่ออกจากต�ำแหน่งอย่างสง่างามตั้งแต่แรก บางคน ให้ความเห็นว่าคงกลัวที่จะต้องถูกสอบสวนด�ำเนินคดีในภายหลัง หรือกลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้กลับมา อยู่ในต�ำแหน่งอีก ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมีหน้าที่โดยตรงและเมื่อก่อน ไม่เคยอยู่ในต�ำแหน่งก็ไม่เห็นเป็นอะไร แสดงว่าต�ำแหน่งที่ใหญ่โต คงมีอำ� นาจมากท�ำให้เกิดการเสพติด ต�ำแหน่งไม่ยอมลุกออกไปง่ายๆ ทัง้ ยังหลงเชือ่ แต่ขอ้ มูลผิดๆ ในทางบวกทีค่ นใกล้ชดิ รายงาน ท�ำให้ประเมิน สถานการณ์ผดิ พลาด ปล่อยให้เรือ่ งลุกลามบานปลายในทีส่ ดุ สรุปแล้วทุกสิง่ เกิดขึน้ เพราะความยึดติดใน ตัวตน ท�ำให้เกิดความเห็นแก่ตวั โดยลืมนึกถึงคนอื่นๆ ที่อยู่ร่วมกับเรา ผมจึงขอวิงวอนให้ทกุ ท่านที่อยู่ใน ต�ำแหน่งที่เกี่ยวข้อง ได้โปรดคิดถึงประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนให้มากกว่าตัวเอง รีบตัดสิน ใจลาออกก่อนที่จะเกิดความเสียหายมากกว่านี้ แล้วเราจะมีความภูมใิ จในสิ่งที่ท�ำในวันนี้ จะได้ไม่เป็นตราบาปให้ตนเองและลูกหลาน พวกเรา ทุกคนควรคิดถึงสัจธรรมที่ว่า “เกิดมามือเปล่าตายไปก็มือเปล่าเช่นกัน”

“จิ้งจกเปลี่ยนสี” ช่วงนี้มีคนพูดประโยคนี้บ่อย เป็นธรรมดาทุกที่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ก็ต้องมีการปรับตัวเองให้อยู่กบั การเปลี่ยนแปลงนั้นได้ เพียงแต่คนไม่ใช่สัตว์ที่มีการปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อม เพียงแค่การ เอาชีวิตรอด คนมีสมองที่สามารถคิด วิเคราะห์ และแยกแยะด้วยเหตุผล เพียง แต่ขอให้คิดข้ามผลประโยชน์ส่วนตัว และที่สำ� คัญ ต้องลดอัตตาลง จะท�ำให้ใจ เปิดกว้างที่จะรับข้อมูลต่างๆ ด้วยความใสสะอาด การเปลี่ยนตัวเองด้วยความ เข้าใจในสิ่งที่ถูกต้อง จะยั่งยืนและมีคุณค่ามากขึ้น ​ เราไม่ได้เกิดมาเพียงเพื่อตัวเองหรือคนรอบข้าง ยังมีส่วนรวม สังคมภายนอกที่กว้างใหญ่รอให้ เ ราร่วมสร้างสิ่งดีงาม เพื่อความอยู่รอดของคนทั้งหมด ดังค�ำสอนของพระราชบิดาที่ว่า “ความส�ำเร็จ ที่แท้จริงมิได้ขึ้นอยู่กับการเรียนเพียงเพื่อรู้ แต่อยู่กับการน�ำความรู้นั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ มนุษยชาติ” “ขอบคุณที่เป็นคนดี” 171 ครบวาระราชการ...หมอณุ


“ขอให้ท�ำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ดูแลพสกนิกรที่ท่านรักและเป็นห่วง ให้สมกับเป็นข้าราชการที่พระองค์ ทรงไว้วางพระราชหฤทัย” “หมอที่ดี คือ หมอที่ค�ำนึงถึงประโยชน์ของคนไข้ก่อนตัวเอง” ​ ผมยังจ�ำได้ครัง้ ทีเ่ ข้าชีแ้ จงกับคณะกรรมาธิการสาธารณสุข ที่รัฐสภา เรื่องความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับรพ.น่าน ร่วมกับประชาคม สาธารณสุข มีกรรมาธิการท่านหนึ่งถามว่า “พวกหมอกับพยาบาลมี จุดคุณธรรมในสมองที่ไม่เหมือนคนอื่นหรือเปล่า จึงท�ำให้มีคุณธรรม จริยธรรมมากกว่า อาชีพอื่นๆ” ผมได้ตอบว่า “พวกเราคงไม่ได้มีจุดอะไรในสมองที่แตก ต่างคนอื่น เพียงแต่ได้รบั การสั่งสอนอบรมในเรื่องคุณธรรมจริยธรรม ตลอดจนได้เห็นการปฏิบัติตนของ รุ่นพี่ๆ ที่ต่อเนื่องกันมา พวกเราท�ำงานกับชีวิตคน เรื่องคุณธรรมจริยธรรมจึงมีความจ�ำเป็นมาก เมื่อเกิด ความวุน่ วายในบ้านเมืองจากระบบการเมืองทีไ่ ร้คณ ุ ธรรม จึงท�ำให้พวกเรารับไม่ได้ ต้องออกมาเคลือ่ นไหว ต่อต้านแบบอหิงสา ตามระบอบประชาธิปไตย” พวกเราควรมีความภาคภูมิใจในวิชาชีพที่ทุกๆ วงการให้การยอมรับในการมีคุณธรรม จริยธรรม และต้องช่วยกันรักษาวัฒนธรรมที่ดีงามนี้ให้คงไว้ตลอดไป

มีคนถามกันอย่างมากมายว่า “ประเทศไทย จะได้อะไรหลังการปฏิรูป” ผมต้องขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตภาพนี้ ทีส่ รุป ไว้เป็นอย่างดีวา่ อะไรเป็นตัวถ่วงประเทศไทย แทนทีจ่ ะเอาแต่ ถามหรือวิพากษ์วจิ ารณ์คนอืน่ ให้ดทู ตี่ วั เราเองก่อน เราได้ท�ำ หน้าที่ตามบทบาทความรับผิดชอบของชีวิตเราดีแล้วยัง ทุ ก บทบาททุ ก หน้ า ที่ ล ้ ว นมี ค วามส� ำ คั ญ ทั้ ง สิ้ น ขอเพียงเราถือเอาผลประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติเป็นส�ำคัญ เพียงแค่นี้ประเทศไทยที่รักของเราก็ จะมีความมั่นคง คนในชาติมั่งคั่งไปด้วยความสุข เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ท่ามกลางความสงบสุขของสังคม อย่างแน่นอน ผมจึงขอให้ทกุ คนเริ่มปฏิรูปตัวเองก่อน “ท�ำในสิ่งที่ควรท�ำและต้องไม่ท�ำในสิ่งที่ไม่ควรท�ำ” ขอขอบคุณมวลมหาประชาชนทุกคน ทีท่ ำ� ให้เราได้มโี อกาสปฏิรปู ประเทศอีกครัง้ และขอให้ประสบความ ส�ำเร็จตามจุดมุ่งหมายของทุกคน

172

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน


น่านนะสิ ศิลปิน : ศุ บุญเลี้ยง

..นาน นานเท่าใด กว่าจะเดินทางไกลออกไปพบเจอ เมืองที่มีหมอกมัวสลัว ๆ และสายฝนพร�ำ จ�ำ ๆ ขึ้นใจ เส้นทางอันห่างไกลผ่านไพรพนา ข้ามภูผา ข้ามฟ้าให้มาพบเจอ โอ้เจ้านกนางแอ่นเจ้ารู้ เจ้าจึงโผบินจากแดนใด มาหาถิ่นเกาะถิ่นพักใจ ไกลแสนไกลไม่ย่อไม่ท้อ มีกี่คนที่ดั้นด้นมา ด้วยรับรู้ว่ามีเมืองนี้ งามเหมาะสมพอดิบพอดี ให้มาพักพิง น่านนะสิ น่านนะสิ มากี่ที ๆ อยากอยู่นาน ๆ ​ ..วายยังไม่วาย ตลาดยังมีความหมายยังคงขายดี ยามค�่ำคืนไม่มีแสงสี ยังมีบัวลอย บัวลอยไข่หวาน ไม่ต้องเติมน�้ำตาลก็หวานจับใจ ด้วยรอยยิ้มป้านิ่มสดใส ละไมละมุน ​ น่านนะสิ น่านนะสิ กินกี่ที ๆ ก็ยังติดใจ เก็บบันทึกภาพความสดใส อยากให้ใครชื่นชมแบ่งปัน เก็บความฝันเมืองน่านนิรันดร์ ร้อยความทรงจ�ำ เก็บความงามของน่านวันนี้ เก็บดีๆ ให้ลูกให้หลาน เก็บน่านนี้ให้นานเนิ่นนาน หรือจางหายไป น่านนะสิ น่านนะสิ นานกี่เดือนกี่ปี ก็ยังงดงาม น่านนะสิ น่านนะสิ เก็บน่านให้ดีๆ ให้นาน น้าน น่าน.....


บทบรรณาธิการ อีกครั้งของทีมงาน (ชุดเดิม) ที่ได้รับ หน้าที่จัดท�ำหนังสือ เพื่อแสดงมุทิตาจิต ส�ำหรับ ผู้เกษียณอายุราชการ ซึ่งเมื่อเริ่มจัดท�ำแนวคิด ห ลักของตัวหนังสือมักจะพยายามที่จะบันทึก เรือ่ งราว สิง่ น่าจดจ�ำ น่าประทับใจ ของผูท้ จี่ ะเกษียณ ในวาระเกษียณอายุราชการ ความหมายของการ เ กษียณมักจะสร้างความรู้สึกว่า ถึงเวลาละวาง จ ากหน้าที่ หัวโขนหนึ่ง ซึ่งเราสวมบทบาทมา ใ นช่วงเวลาหนึง่ ของชีวติ (น่าจะเกินครึง่ ของชีวติ ) ห ลายคนอาจคิดถึงเวลาที่จะได้หยุดช่วงเวลา เร่งด่วน เร่งรีบของชีวิตงาน ​แต่เราก็ได้เรียนรูว้ า่ ประสบการณ์ ความ รอบรู้ และความเข้าใจในชีวติ และงานอย่างลึกซึง้ รวมทัง้ ต้นทุนทางสังคมทีม่ ขี องผูเ้ กษียณ สามารถ ส ร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นอย่างมากมาย ดังปรากฏ ให้เห็นจากพีๆ่ ทีเ่ กษียณไปแล้ว ทีย่ งั คงมีบทบาท ส ร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นกับสาธารณสุขและ สั งคมเมืองน่านเรื่อยๆ มา ที่ชัดเจนที่สุด ท่าน อาจารย์นายแพทย์บญ ุ ยงค์ วงศ์รกั มิตร ซึง่ พีณ ่ ุ และพวกเราได้ยดึ เป็นต้นแบบ ก็ได้แสดงให้เห็นว่า ชี วิตหลังเกษียณ สามารถสานต่อสร้างสรรค์ สิ่งดีงาม ก่อเกิดเป็นต�ำนานที่กว้างขวางกว่าช่วง ชีวิตข้าราชการ เ ชื่ อ มั่ น เช่ น กั น พี่ ณุ ในวาระเกษี ย ณ ต า มวัยแต่ใจและกายเกินร้อย คงเป็นแค่ช่วง เ ป ลี่ยนผ่านถอดหัวโขน “ข้าราชการที่ดี” ออก เท่านัน้ แต่ภายใต้หวั โขนคือ “คนดีของสังคม” จะ ยังด�ำรงอยู่ สร้างสรรค์สงิ่ ดีๆ ให้เกิดขึน้ เป็นต�ำนาน บ ท ใหม่ หากชีวิตถูกเปรียบเป็นการปั่นจักรยาน ตามทีท่ า่ นอาจารย์นายแพทย์วลั ลภ ไทยเหนือ ได้เปรียบเปรยไว้ ว่าต้องปั่นไปเรื่อยๆ เพื่อรักษา ส ม ดุล หยุดปั่นก็จะล้ม พี่ณุก็คงจะเป็นเหมือน

174

ผู้น�ำที่เราเชื่อมั่น ข้าราชการของแผ่นดิน นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลน่าน

นักปัน่ น่องเหล็ก ทีพ่ ร้อมจะคว้าชัยชนะในทุกสนาม เหมือนอดีตนักปัน่ ในต�ำนาน แลนซ์ อาร์มสตรอง ( ซึ่งยังไงพี่ณุก็ยังเหนือกว่าแน่นอน เพราะเธอ เ ป็น CA testis และถูกตัดทิ้งไปแล้ว) ขอเพียง แ ต่พณ ี่ อุ ย่าลืมเมืองน่าน (น่านนะสิ) แบ่งปันสิง่ ดีๆ ม า ให้เกิดที่เมืองน่านบ้าง (อย่างน้อยก็โครงการ บ้านสคูลสาขาน่าน ก่อนเกษียณ) ท้ า ยนี้ ในความมุ ่ ง หวั ง อั น สู ง สุ ด ของ ก อ งบรรณาธิการในการทุ่มเทพลังกายและใจ จัดท�ำหนังสือพิเศษเล่มนี้ คือ การทีผ่ ไู้ ด้ครองครอง ไ ด้ศึกษาและค้นพบคุณค่าจากเรื่องราวทั้งมวลที่ ร้ อยเรียง น�ำไปสู่ “แรงบันดาลใจ” ของพวกเรา ช า วสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิง่ กับคนรุน่ ใหม่ เ พื่ อ บ่ ม เพาะให้ เ มล็ ด พั น ธุ ์ แ ห่ ง ความดี ได้ มี “ ก�ำลังใจ” ในการท�ำงานดูแลรักษาคนไข้ ด้วย ค ว า มสุข ความภาคภูมิใจในวิชาชีพ สืบสาน เจตนารมณ์ของ “บุคคลต้นแบบทีด่ ”ี อย่างหมอณุ แ ล ะ เป็นตัวตายตัวแทน จากรุ่นสู่รุ่น สืบต่อไป ไม่มีที่สิ้นสุด จากใจ...กองบรรณาธิการ


กองบรรณาธิการ ที่ปรึกษา นพ.บุญยงค์ วงศ์รักมิตร นพ.ปิยะพงษ์ จงรักษ์ พญ.วราภรณ์ เตชะเสนา ทพ.ช่อฉัตร เส็งพานิช พญ.เสาวลักษณ์ ชนม์ยืน นางนพพร ธนามี นายร่วมศักดิ์ ยะใหม่วงศ์

ขอขอบคุณ

พญ.พัชรี อาจารย์วินัย นางนิรชรา

ขันติพงษ์ ปราบริปู โลหะโชติ

ทีมบรรณาธิการ

นพ.พรชัย งามสิทธิฤกษ์ นางสาวปริญญา แสงรัตนา นางอุลี ศักดิ์สุวรรณ นางรุ่งทิพย์ กาละดี นางอุทัยวรรณ สกลวสันต์ นายกิติศักดิ์ แก้วนิ่ม นายวีระโชติ ใจสุธำ� นายวิเชษฐ์ ไชยช่อฟ้า

พิมพ์ที่ หจก.อิงค์เบอร์รี่ น่าน


แด่...หมอณุ ตั้งแต่เริ่มเดิมที ที่เราเห็น ไม่เคยเป็น อย่างเช่นทุกวันนี้ มีเพียงห้องเล็ก ๆ คนน้อยๆ อย่างที่มี มาวันนี้เปลี่ยนไป เหมือนพริบตา คนๆ หนึ่งยอมทำ� ไม่ท้อถอย ไม่ยอมเหนื่อยแม้แต่น้อย แม้อ่อนล้า คนๆ นี้ ยอมแม้ที่ สละเวลา เพื่อความก้าวหน้า ขององค์กร อย่างมั่นคง จนวันนี้ องค์กรมีหน้าตา ใครๆ ต่างรู้ว่า ได้บรรลุวัตถุประสงค์ มีทุกสิ่ง ทุกอย่างตามเจตจำ�นง และเสริมส่ง “จิตตปัญญา” ยิ่งขึ้นไป และวันนี้ พวกเราจะสานต่อ เจตนา จะไม่ท้อ ต่อสิ่งไหน ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร จะก้าวไป ตามความคิดท่าน อย่างมั่นคง

เจตน์ คูสุวรรณ จิตตปัญญาโฮงยาไทย


ผลงานภาพเขียน อาจารย์วินัย ปราบริปู


ความเปนกลาง ระหวาง ถูกผิด หรือ ชั่วดี นั้นไมมี ขาราชการตองอยูขางความดี ความถูกตอง อยูเสมอ นพ.พิษณุ ขันติพงษ์

ผูอํานวยการโรงพยาบาลนาน


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.