Get creative for a brighter kid

Page 1


1

คำบอกเล่ำจำกผูอ้ ่ำน “หนังสื อเล่มนี้ ยอดเยีย่ มมาก ถ้าไม่ได้อ่านตอนนี้ อาจเสี ยใจเมื่อสายไปเพราะ ลูกโตไปแล้ว”

“เป็ นหนังสื อที่จะเปลี่ยนอนาคตของลูกหลาน และอนาคตของชาติ ให้คิดเป็ น ... คิดดี... และคิดต่างไปจากเดิม อันจะนาพาครอบครัวของคุณ สังคมและประเทศชาติไทย ไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเดิม”

“บนชั้นหนังสื อที่วางขายอยูเ่ ป็ นร้ อยๆ เล่ม ทั้งร้อยเล่มต่างมีคานิ ยมที่ดีกนั ทั้งหมดเลย แต่อาจมีหนังสื อที่ดีจริ งๆ อยูเ่ พียงสามสี่ เล่มเท่านั้น ดังนั้น...อย่าเชื่ อคานิ ยม! (รวมทั้งคานิ ยมข้างบนนี้ )”

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


2

บทบรรณำธิกำร เมื่อคิดถึงความคิดสร้างสรรค์ เรามักนึกถึงสัญญลักษณ์รูปหลอดไฟ แต่วนั นี้อยากให้ลองมอง “ความคิดสร้างสรรค์” เป็ นเหมือนสวิตช์เปิ ดปิ ด หลอดไฟ หมายความว่าบางสถานการณ์ก็ควรเปิ ดหลอดไฟเพื่อให้มองเห็นหนทางสว่าง ไสว และบางสถานการณ์ก็ควรปิ ดหลอดไฟเพราะอาจทาให้ร้อนเกินไป อย่างไรก็ตามขอให้เรามีหลอดไฟแห่ งความคิดสร้างสรรค์อยูใ่ นตัว เตรี ยมพร้อมที่จะเปิ ดปิ ดสลับไปมาอยูต่ ลอดเวลาก็ยอ่ มดีกว่าไม่มีหลอดไฟ หวังว่าหนังสื อเล่มนี้ ซ่ ึ งเขียนโดยอาจารย์ศรัณย์ จันทพลาบูรณ์ วิทยากรชื่อดัง ด้านความคิดสร้างสรรค์ของไทย จะเป็ นบานประตูที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านรู ้แนวคิด และวิธีการสร้างลูกให้เก่งคิด เก่งสร้างสรรค์ และสอนลูกให้มีหลอดไฟอยูใ่ นตัวและรู ้จกั เปิ ดปิ ดสวิตช์ความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างคล่องแคล่ว เชิญพลิกอ่านหน้าต่อไปได้เลยครับ เฮ้...เปาะแปะๆ

ต่อทอง ทองหล่อ บรรณาธิการ tortong@thinkbeyondbook.com

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


3

สำรบัญ หน้า 

แรงบันดาลใจของความคิดสร้างสรรค์

ผมก็เป็ นพ่อคนครับ

สรรค์สร้าง..อย่าง...สร้างสรรค์

เลี้ยงลูกอย่างไรให้สร้างสรรค์?

อะไรที่สาคัญต่อการพัฒนาความคิดสร้ างสรรค์?

ทาไมเราต้องเลี้ยงลูกให้มีความคิดสร้างสรรค์ ?

5 จิตคิดเพื่ออนาคต (Five Minds for the Future)

เด็กๆ เขามีความคิดสร้างสรรค์ยงั ไงกันเหรอ

ถ้าลูกหลานมี IQ สู งอยูแ่ ล้วจะทาให้ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ใช่ไหม?

มีอะไรบ้างที่ทาให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์?

พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และทักษะการทางาน

วิธีพฒั นาทักษะการคิดสร้างสรรค์ของเด็กๆ

กระตุน้ แรงจูงใจให้สร้างสรรค์

แบบทดสอบแรงจูงใจภายในและภายนอก

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


4 

หยุดตัวการทาลายความคิดสร้างสรรค์

วิธีหลบกระสุน...เสริ มเกราะให้ความคิดสร้างสรรค์

ขอร้องคุณพ่อคุณแม่อย่าคิดแบบนี้

อยากให้ลูกเป็ นเด็กสร้างสรรค์...คุณพ่อคุณแม่ควรคิดอย่างไร?

วิธีแปลงบรรยากาศในบ้านให้สร้างสรรค์

มาเปลี่ยนบรรยากาศในบ้านให้สร้างสรรค์กนั เถอะ

บทส่งท้ายก่อนบ๊ายบาย

ประวัติผเู้ ขียน

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


5

แรงบันดำลใจของควำมคิด สร้ำงสรรค์ เริ่ มต้นตั้งแต่ผมไปเรี ยน MBA ที่ประเทศสหรัฐอเมริ กา ไปอยูก่ บั ครอบครัว เชอร์แมนเป็ นเวลา 3 ปี ชื่อ ดร.มาร์ค เชอร์แมน (Dr.Mark Sherman) ซึ่งเป็ นจิตแพทย์ ที่จบปริ ญญาเอก กับนางฮารี่ เชอร์แมน (Mrs.Hallis Sherman) ซึ่งเป็ นนักการศึกษา สามีภรรยาคู่น้ ี เป็ นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์มาก ทั้งสองคนมักทาอะไรแปลกๆ ให้ผม ประหลาดใจเสมอ ที่สาคัญมีไอเดียแปลกๆ ในการดาเนินชีวิต ทาให้ผมชอบและซึมซับ วิธีการคิด เรี ยกว่า ได้ตน้ แบบมาแบบไม่รู้ตวั ระหว่างที่อยูก่ บั ครอบครัวเชอร์ แมน นางฮารี่ ได้มอบหนังสื อให้ผมมาอ่าน 2 เล่ม เขียนโดย Dr.Edward de Bono ซึ่งเป็ นปรมาจารย์ดา้ นความคิดสร้างสรรค์ เล่ม แรกเรื่ อง Lateral Thinking และเล่มที่สองเรื่ อง Six Thinking Hat ทั้งสองเล่มล้วน เป็ นหนังสื อเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ เมื่อผมได้อ่านจบแล้ว รู ้สึกติดใจ ประทับใจ จึงได้ ลองนาไปใช้ และนี่คือแรงบันดาลใจอันดับแรก เมื่อเรี ยนจบผมก็กลับมาเมืองไทย เริ่ มทางานด้านการตลาด จึงนาวิธีคิด สร้างสรรค์ต่างๆ มาสร้างให้เกิดไอเดียใหม่ๆ ในการทาการตลาด ช่วยให้ผลงานทางการ ตลาดแปลก แตกต่าง โดดเด่นไม่ซ้ าใคร ลูกค้าตื่นตัว แถมได้ผลตอบรับดีมากอีกด้วย นี่คือ แรงบันดาลใจอันดับสอง จากความไม่หยุดนิ่ง ผมจึงศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอีก และได้เจอแนวคิดของ ASTD (American Society of Training and Development) ในการแกะกรอบ

ที่กกั ขังความคิดสร้างสรรค์ท้ งั 9 กรอบ และวิธีการทาลายกรอบเหล่านั้น ตลอดจนเทคนิค 11 เทคนิ คในการปั่ นความคิดใหม่ๆ และนี่ คือ เป็ นแรงบันดาลใจอันดับสาม

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


6

การเรี ยนรู้ควรเป็ นไปอย่างต่อเนื่ อง ผมจึงได้เดินทางไปอเมริ กาอีกครั้ง เพื่อไป ร่ วมงาน Creative Problem Solving ซึ่งจัดโดย CEF (Creative Education Foundation) งานนี้ ได้พบปะและได้รับแรงบันดาลใจจากนักคิดสร้างสรรค์ที่มาร่ วม

จากทัว่ โลกเลย และยังได้พบกระบวนการคิดสร้างสรรค์ที่เป็ นขั้นตอนเป็ นรู ปธรรม จับ ต้องได้ คิดไปตามขั้นตอนที่วางไว้ก็จะได้ความคิดใหม่ๆ ออกมา ทั้งหมดนั้นเป็ นแรงบันดาลใจให้ผมตัดสิ นใจลาออกจากการเป็ นพนักงาน ประจามาเปิ ดบริ ษทั สัมมนาและฝึ กอบรม ชื่อว่าบริ ษทั 37.5 องศาเซลเซียส ที่เน้น หลักสูตรด้านความคิดสร้างสรรค์ ด้วยการผสมผสานแนวคิดของนักคิดสร้างสรรค์ท่าน อื่นๆ เช่น Leonado Da Vince รวมทั้งนักคิดสร้างสรรค์คนไทยอีกหลายท่านเข้าไป เพิ่มเติมกับหลักสูตรต่างๆ เช่น หลักสูตร Creative Thinking เพื่อให้พนักงานรู้วิธีการ คิดสร้างสรรค์ และหลักสูตร Creative Leadership เพื่อให้บุคลากรระดับหัวหน้ามี แนวทางในการบริ หารให้แผนกตนมีความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้ง Creative Organiztion Development เพื่อวางระบบให้องค์กรเป็ นองค์กรสร้างสรรค์

แรงบันดาลใจยังคงทาให้ผมค้นหาไอเดียใหม่ๆ ให้กบั บริ ษทั 37.5 องศา เซลเซียสนี้ ตลอดเวลา ให้มีความแปลกแตกต่างจากทัว่ ๆ ไป ไม่ว่าจะเป็ น การจัดห้องเรี ยน ที่บรรยากาศสบายๆ เช่น ไม่มีโต๊ะเรี ยน ใช้เก้าอี้สนาม เสื่ อ เบาะ เก้าอี้ชายหาดแทน แถมมี ตุก๊ ตาให้ผเู้ ข้าอบรมเอาไว้กอด หรื อเอาไว้เล่น แม้แต่ถ่ายรู ปกันสนุกสนานได้ เพราะทาไม ห้องเรี ยนต้องเป็ นแบบเดิมล่ะ มี Live Lecture ที่ทาให้ผเู ้ รี ยนไม่ตอ้ งจด ให้ความสนใจกับความคิดของ ตนเองได้เต็มที่ โดยมีเจ้าหน้าที่ช่วยจดคาบรรยายให้ และพิมพ์ออกมาแจกเลยเมื่อจบการ อบรม

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


7

มี Reminding Card เป็ นสมุดเล่มเล็กๆ ที่รวบรวมเรื่ องหลักๆ ของเนื้ อหาที่ ได้เรี ยนไปให้กบั ผูเ้ ข้าอบรม เมื่อกลับไปทางาน ก็สามารถพกติดตัวและหยิบมาเปิ ดดูได้ สะดวก นอกจากนั้น ในแง่การตลาด ยังหาไอเดียแปลกๆ มาใช้ เช่น มีส่วนลดฟัน น้ านม ให้กบั ลูกค้าใหม่ ครั้งแรกเพียงครั้งเดียว มีส่วนแถมฟันแท้ ให้กบั ลูกค้าต่อเนื่ อง เป็ น ต้น และแรงบันดาลใจล่าสุ ดของผมก็ยอ้ นกลับไปสู่จุดเริ่ มต้นที่ Dr.Edward de Bono ด้วยการไปผ่านการฝึ กอบรมเพื่อเป็ นวิทยากรอย่างเป็ นทางการ (Certified Instructor) ในหลักสู ตร The Power of Perception (TM) ซึ่ งเป็ นแนวคิดล่าสุ ดของ

ปรมาจารย์ดา้ นความคิดสร้ างสรรค์ท่านนี้ อีกครั้ง แรงบันดาลใจของผมอาจจะมาจากคาคมของไอน์สไตน์ที่กล่าวว่า “การทาสิ่ ง เดิมซ้ าแล้วซ้ าเล่า แล้วคาดหวังว่าผลลัพธ์จะแตกต่างไปจากเดิม นัน่ คือความฟั่ นเฟื อน” ซึ่ง ผมมักมองหาผลลัพธ์ที่ต่างไปจากเดิมเสมอ แต่ไม่อยากฟั่นเฟื อน ผมจึง “คิดต่าง” ไปจาก เดิม ซึ่งเราเรี ยกมันว่า “ความคิดสร้างสรรค์”

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


8

ผมก็เป็นพ่อคนครับ ตัวผมเองก็มีลูกครับ ชายหนึ่ ง หญิงหนึ่ ง ผมก็เหมือนผูอ้ ่านที่อยากให้ลูกเติบโตขึ้นมาอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ผมจึงพยายามประยุกต์เอาสิ่ งที่ได้เรี ยนรู้มาใช้กบั ลูกๆ ทั้งการพยายามไม่สร้ างกรอบความคิดให้ลูก พยายามธารงรักษาความคิดอิสระ และความอยากรู้อยากเห็นที่เด็กๆมีอยูแ่ ล้วตามธรรมชาติให้คงอยู่ และพยายามเสริ มเพิ่มสิ่ ง ที่เด็กๆ มักขาด เช่น ความอดทนในการอยูใ่ นสภาวะไม่รู้คาตอบ พยายามทาด้วยการการพูดจากัน การแนะนากัน และการทากิจกรรมร่ วมกัน ………..

การ์ตูนของ ดช.ธรรมชาติ จันทพลาบูรณ์ ได้รับการตีพิมพ์ในหนังสื อ หมัด ภาพระบายสี ของ ดญ.น้ าใจ จันทพลาบูรณ์ ถูกพิมพ์ในหนังสื อสอนภาษาไทย ให้เด็กต่างชาติ บทความเรื่ อง “ช้าง” ของ ดช.ธรรมชาติ ได้รับความสนใจจากนักวิชาการทาง การศึกษา

.............. ส่ วนหนึ่งของผลลัพธ์ขา้ งต้นอาจมาจากการนาแนวคิดที่อยูใ่ นหนังสื อเล่มนี้ ไปใช้ ซึ่ งถ้าผมนาแนวคิดในหนังสื อเล่มนี้ ไปใช้ได้จริ ง คุณผูอ้ ่านก็น่าจะนาไปใช้ได้จริ งเช่นกัน ใช่ม้ ยั ครับ เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


9

สรรค์สร้ำง..อย่ำง...สร้ำงสรรค์

เพราะคุณพ่อแม่ผปู ้ กครองตระหนักว่าการมี “ความรู้ ” ในเรื่ อง ต่างๆ จะทาให้ลูกหลานของเรามีอนาคตสดใส เราจึงส่งพวกเขาให้ได้เรี ยนใน สถานศึกษาที่ดี และเพราะคุณพ่อแม่ผปู ้ กครองตระหนักว่าการมี “จิตใจ” ที่งดงาม จะทาให้ลูกหลานของเราดาเนินชีวติ อย่างมีความสุข เราจึงอบรมสัง่ สอน คุณธรรมและจริ ยธรรมแก่พวกเขา และถ้าหากคุณพ่อแม่ผปู ้ กครองตระหนักว่าการมี “ความคิด” ที่ แปลกใหม่ จะเป็ นทักษะที่จาเป็ นสาหรับลูกหลานในการทางานในอนาคต เราก็สามารถเตรี ยมความพร้อมให้พวกเขามีความคิดสร้างสรรค์ได้เช่นกัน

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


10

แล้ วจะเลีย้ งลูกหลานของเราอย่ างไร ให้ มีความคิดสร้ างสรรค์ ? คาถามนี้เป็ นคาถามที่เกิดขึ้นในระหว่างฝึ กอบรมเรื่ องการคิด สร้างสรรค์ที่ผมจัดสัมมนาให้กบั ผูบ้ ริ หารขององค์กรต่างๆ มีหลายต่อหลายครั้งในช่วงพักเบรกที่ผรู ้ ่ วมรับการฝึ กอบรมเดินมา ถามคาถามเกี่ยวกับลูกๆ ของเขา เช่น

จะทายังไงให้ ลกู หลานมีความคิดสร้ างสรรค์ ? จะตอบลูกยังไง..เมื่อลูกถามคาถามอย่ างนั้นอย่ างนี้

?

จะทายังไงไม่ ให้ ลกู มีกรอบความคิดมาครอบ... เหมือนอย่ างทีเ่ ราเคยโดนครอบ ? ยิง่ ตอบ...ยิง่ คุยกัน...ยิง่ ลงลึก...ยิง่ หมดเวลา...ยิง่ เสี ยดายที่ไม่ได้ช่วย อะไรได้มากอย่างที่ใจอยากทา และคิดว่าเรื่ องนี้มีเนื้อหาที่ตอ้ งคุยกันเยอะ จึง น่าจะมีเวลามาคุยกัน

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


11

จากที่ผมดาเนินการฝึ กอบรมเรื่ องความคิดสร้างสรรค์สาหรับผูใ้ หญ่ มาเป็ นเวลาหลายปี ก็มีความสงสัยเช่นเดียวกับผูเ้ ข้ารับการฝึ กอบรม เหมือนกันครับ ผมจึงเริ่ มศึกษาหาข้อมูลเรื่ องของความคิดสร้างสรรค์สาหรับเด็ก เพิ่มเติม จนพบเรื่ องราวและผลงานวิจยั ดีๆ จาก ดร.เทเรซ่า เอ็ม มาบาล์ อาจารย์ที่ Havard Business School ผูซ้ ่ ึงศึกษาวิจยั ค้นคว้าเรื่ องความคิด สร้างสรรค์ของเด็กมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1975 (โอ้โห...นานตั้ง 30 กว่าปี เลยเหรอ เนี่ย)

เพราะเรื่องลูกมีความสาคัญมากกว่ า ทีจ่ ะเป็ นแค่ เรื่องแทรกระหว่ างพักเบรกครั บ และนัน่ จึงเป็ นเหตุทาให้เกิดการจัดสัมมนาและหนังสื อเล่มนี้ข้ ึนมา แต่ตอ้ งออกตัวก่อนนะครับว่า ผมไม่ใช่นกั วิชาการ ไม่ใช่แพทย์ ผูเ้ ชี่ยวชาญ ไม่ใช่นกั จิตวิทยาด้านพัฒนาการเด็ก ไม่ใช่นกั การศึกษา และ ไม่ใช่นกั วิจยั แต่ผมเป็ นเพียงผูช้ ายคนหนึ่งที่สนใจเรื่ อง “ความคิด สร้างสรรค์”

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


12

แหม..ชวนให้นึกถึงบทเพลง “ฉันไม่ใช่ผวู ้ เิ ศษ” ขึ้นมาทันทีเลยล่ะ...

“ฉันไม่ ใช่ ผ้ วู ิเศษ...ทีจ่ ะเสกความคิดสร้ างสรรค์ ให้ เธอ ไม่ มีฤทธิ์เดช ไม่ มีราชรถเลิศเลอ... แต่ ฉันมีใจพิเศษ จะพาเธอผ่ านคืนนี้ไป ฉันเป็ น...เพียงผู้ชาย (คุณพ่อ)... คนนี้ทมี่ ีใจมั่นรัก...ความคิดสร้ างสรรค์ ” ด้วยความปรารถนาและเจตนารมณ์ที่ผมต้องการช่วยคุณพ่อแม่ ผูป้ กครองให้คลายความสงสัย และอานวยประโยชน์แก่ผอู ้ ื่นที่สนใจให้ สามารถนาวิธีการต่างๆ ไปสรรค์สร้างลูกหลานให้สร้างสรรค์ได้ และเท่านั้น ยังไม่เพียงพอครับ ผมยังมีความหวังที่ไกลไปกว่านั้นอีกว่า เมื่อเด็กไทย ทั้งหลายถูกหล่อหลอม ถูกปลูกฝัง และถูกพัฒนาเรื่ องการคิดสร้างสรรค์ดว้ ย หัวใจกันอย่างจริ งจังแล้ว เด็กจะเติบโตขึ้นมาเป็ นผูใ้ หญ่ที่มีความคิด สร้างสรรค์ และนาสิ่ งเหล่านั้นมาพัฒนาประเทศชาติให้ไปสู่เศรษฐกิจและ สังคมแห่งความสร้างสรรค์ได้ต่อไปในอนาคต

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


13

ถ้อยคาต่างๆ ที่ร้อยเรี ยงอยูใ่ นหนังสื อเล่มนี้ ส่วนหนึ่งของเนื้อหา นามาจากการถอดเทปในการสัมมนาหัวข้อ “เลี้ยงลูกหลานอย่างไรให้มี ความคิดสร้างสรรค์ (Creative Parenting)” ที่ผมบรรยายในวันที่ 21 สิ งหาคม พ.ศ.2553 หนังสื อเล่มนี้อาจจะมีการใช้ภาษาพูดบ้าง อ่านแล้วเหมือนได้นง่ั คุย กันกับผมจริ งๆ เลยนะครับ เพราะผมตั้งใจให้เป็ นภาษาที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย และปฏิบตั ิตามได้ง่ายอีกด้วย ขอให้อ่านหนังสื อเล่มนี้กนั แบบสบายๆ อย่าเครี ยด อย่าซีเรี ยส อ่าน กันให้เพลิดเพลินเจริ ญใจนะครับ ขออวยพรให้ท้ งั คุณผูอ้ ่านและคุณพ่อแม่ผปู ้ กครองประสบ ความสาเร็ จในการทาให้ลูกหลานเป็ นเด็กที่เติบโตเป็ นผูใ้ หญ่ที่มีความคิด สร้างสรรค์กนั ทุกคนเลยนะครับ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


14

เลี้ยงลูกอย่ำงไรให้สร้ำงสรรค์? การเลี้ยงลูกให้สร้างสรรค์ ผูอ้ ่านจะนึกถึงอะไรครับ? ใช่การปล่อยให้ลูกได้มีโอกาสขีดเขียน วาดรู ปข้างฝาบ้านได้หรื อ เปล่านะ? หรื อให้เขามีความคิดเป็ นของตัวเอง? มีอะไรอีกบ้างครับ? .......... ผมขอถามอีกนิดก่อนที่จะอ่านต่อไปนะครับว่า อ่านหนังสื อเล่มนี้ แล้วจะนาไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไรบ้าง? คาดว่าส่วนใหญ่ที่อ่านหนังสื อเล่มนี้ คงมีลูกมีหลานกันทั้งนั้น แต่สาหรับคนที่ไม่มีลูกหรื อไม่มีหลาน ก็สามารถอ่านได้เหมือนกัน เพราะอาจจะนาไปใช้ประโยชน์กบั ลูกหลานของคนรอบข้าง ลูกศิษย์หรื อคน ที่คุณรักก็ได้นะ ไม่วา่ จะเป็ นลูกหลานของพี่ น้อง ลุง ป้ า น้า อา อาอี๊ อาเจ็ก ลูกของเพื่อน หลานของเพื่อน ฯลฯ ได้ท้ งั นั้น เรี ยกว่าใช้ได้กบั เด็ก ทัว่ ราชอาณาจักรกันเลยทีเดียว เอาล่ะ...งั้นเราเริ่ มกันเลยดีกว่านะครับ เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


15

ผมลองเริ่ มนึกดูวา่ คุณพ่อแม่ ผูป้ กครองส่วนใหญ่ มักจะคิดอะไรอยู่ ในใจแบบนี้หรื อเปล่านะ

เอ๊ ะ...เราจะเลีย้ งลูกให้ มีความคิดสร้ างสรรค์ กนั ไปทาไม? เราก็แค่ให้ลูกเขาเรี ยนคณิ ตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ สังคมศาสตร์ เก่งๆ ก็พอแล้วนะ เดี๋ยวก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ แล้วจะให้เขา คิดสร้างสรรค์กนั ไปทาไมกันนักกันหนา

เอ๊ ะ...ตอนทีเ่ รายังเป็ นเด็กมีความคิดเป็ นยังไงบ้ างนะ

?

แล้ วอะไรล่ ะ? ทีม่ ันเป็ นตัวทาลายความคิดสร้ างสรรค์ ของ เด็ก ถ้าเราหาเจอ เราจะได้เตะโด่งให้มนั ไปไกลๆ

คาถามที่สาคัญต่อไปคือ...

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


16

อะไรที่สำคัญ่​่อกำรพันนำควำมคิด สร้ำงสรรค์? ผมได้ พบว่ามี 2 ประเด็นที่สาคัญ คือ

หนึ่ง ทัศนคติของคุณพ่ อแม่ ผ้ ปู กครองก็เป็ นเรื่องสำคัญ พ่อแม่ควรจะมีทศั นคติอย่างไรต่อความคิดสร้ างสรรค์ เดี๋ยวเรามาดูกนั ในบทถัดๆ ไป

สอง บรรยำกำศในบ้ ำน ทาอย่างไรจึงจะมีบรรยากาศในบ้ านทีส่ ง่ เสริ มการมีความสร้ างสรรค์ ของเด็ก บรรยากาศที่วา่ นี ้ผมไม่ได้ หมายถึง ติดวอลเปเปอร์ อะไร ใช้ แสงสีสสี นั อะไรยังไง แต่หมายถึง “ปฏิสมั พันธ์ทมี่ ีตอ่ กันในบ้ าน” ครับ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


17

เป็ นอย่างไรบ้ างครับ? เพียงแค่เริ่มต้ นจากความคิดและความสงสัย ของคุณพ่อแม่ผ้ ปู กครองอย่างเราๆ เท่านันนะครั ้ บ ก็พบว่ามีมากมายหลาย ประเด็นทีน่ า่ รู้และน่าสนใจจริ งๆ ตอนนี ้เราพร้ อมทีจ่ ะค้ นหา สารวจ และทดสอบกันหรื อยังล่ะครับ? ถ้ าพร้ อมแล้ ว...ผมขอให้ สายตาทุกคูท่ ี่ได้ อา่ น มาร่วมกันเพลิดเพลิน ไปกับการค้ นหาคาตอบจากหนังสือเล่มนี ้ด้ วยกันได้ เลยครับ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


18

ทำไมเรำ่้องเลี้ยงลูกให้มีควำมคิด สร้ำงสรรค์ ?

มีการวิจยั พบว่ า ในปัจจุบัน 86% ของคนทีป่ ระสบความสาเร็จใน การทางาน พบว่ า พวกเขาเหล่ านั้นมีความสามารถ 2 อย่ างทีโ่ ดดเด่ นกว่ าคน อืน่ ว่าแต่มนั คืออะไรกันนะ? ลองเดาสิ ครับ คืออะไรบ้าง มีหลายคนสงสัยว่า เอ๊ะ..ทาไมคนบางคนทางานแล้วประสบ ความสาเร็ จดี แต่ทาไมคนบางคนทางานแล้วไม่ค่อยประสบความสาเร็ จ นักวิจยั ก็เลยไปรวบรวมคนทางานมาจานวนหนึ่ง เป็ นพันเป็ นหมื่นคน คัดมา เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


19

เฉพาะคนที่ประสบความสาเร็ จนะครับ จานวน 100 คน แล้วมาทาการ สัมภาษณ์ท้ งั 100 คน เรามาเจาะใจครับว่า มีอะไรดีกนั บ้าง? นักวิจยั เขาค้นพบว่าตัวแปรมีเยอะแยะมากมายเลย เช่น  IQ ดีก็มี (IQ: ความฉลาดด้านสติปัญญา)  EQ สูงก็มี (EQ: ความฉลาดด้านอารมณ์)  AQ เพียบก็มี (AQ: ความฉลาดด้านฝันฝ่ าอุปสรรค)  ทัศนคติดกี ็มี

โอ้ โห! อะไรต่างๆ เยอะแยะไปหมดเลย ดูไปแล้ วเหมือนจะจับ ประเด็นอะไรไม่ได้ แต่พอไปวิเคราะห์ความสัมพันธ์กนั แล้ วพบว่า คุณสมบัติ 2 อย่างที่ ผู้ประสบความสาเร็ จทัง้ 86% มีร่วมกัน ก็คือ... ลองทายดูไหมครับว่า 2 อย่างนี ้คืออะไร? ...ติ๊กต๊ อก...ติ๊กต๊ อก... คาตอบคือ...

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


20

มนุษยสัมพันธ์ และ ความคิดสร้ างสรรค์ สาเหตุที่นาผลวิจยั ขึ้นมากล่าวก่อน เพราะผมต้องการสื่ อให้รู้วา่ เรื่ องที่เราจะอ่านนี้มนั สาคัญ ไม่ใช่เรื่ องเล่นๆ เรากาลังมอบสิ่งทีจ่ ะทาให้ ลูกหลานประสบความสาเร็จ เหมือนดังที่คน 86% ประสบความสาเร็ จมาแล้ว แล้วทาไม 2 อย่างนี้จึงทาให้คนประสบความสาเร็ จ? เรามาเริ่ มที่ ความคิดสร้ างสรรค์ ทักษะแรกก่อนเลยนะครับ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


21

ทาไมความคิดสร้ างสรรค์ จึงเป็ นหนึ่งในปัจจัยทีท่ าให้ คนประสบความสาเร็จ ความคิดสร้ างสรรค์

(Creativity) คืออะไร?

มันคือความคิดเหมือนเดิมหรือความคิดทีต่ ่ างไปจากเดิม ครับ? คาตอบคือ “คิดต่างไปจากเดิม” ดังนั้น ความคิดสร้างสรรค์จึงเป็ นจุดกาเนิดของพัฒนาการและการ ปรับปรุ งอะไรต่อมิอะไรให้ดีข้ นึ อีกมิติหนึ่ง นอกจากจะคิดต่างไปจากเดิมแล้ว ความคิดสร้างสรรค์ เป็ นความคิดที่เหมือนหรื อต่างจากคนอื่นครับ? คาตอบคือ คิดต่างจากคนอื่นครับ เพราะถ้าคิดเหมือนกับคนอื่นแล้ว “โดดเด่น มั้ย” เอาล่ะ ขอสรุ ปง่ายๆ เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ดงั นี้...

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


22

ความคิดสร้ างสรรค์ คือ การคิดต่ างจากเดิม และ การคิดต่ างจากคนอืน่

ซึ่งจะทาให้เกิด

การพัฒนา

และ

ความโดดเด่ น

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


23

แล้ว

มนุษย์ สัมพันธ์ ล่ะ มาเกี่ยวอะไรด้วยครับ.....

คนบางคนมีความคิดดีนะ คิดต่างจากเดิม คิดต่างจากคนอื่น แต่ครั้น จะนาความคิดไปสู่การปฏิบตั ิ กลับไม่ประสบความสาเร็ จเท่าที่ควร เนื่องจาก มนุษยสัมพันธ์ไม่ดี ไม่มีใครให้ความร่ วมมือ ก็เลยเป็ นความสาเร็ จที่เล็กแบบ ว่า...จุ๋มจิ๋ม...จุ๋มจิ๋ม ต่างจากคนที่มีมนุษย์สมั พันธ์ดี มีเพื่อนร่ วมงานเห็นด้วย หัวหน้า งานก็สนับสนุน ลูกน้องก็ลุยด้วย ลูกค้าก็เอาด้วย จึงประสบความสาเร็ จใน ระดับขั้นเทพ...ว้าว! สิ่ งที่กล่าวมานั้นเป็ นผลงานวิจยั ของต่างประเทศครับ

แต่ ถ้าหันมามองถึงเด็กไทยบ้ างล่ ะ ระหว่าง 2 ทักษะนี้ส่วนใหญ่เด็กไทยเรามีทกั ษะไหนกันบ้างแล้ว? คาตอบคือน่าจะเป็ น มนุษย์ สัมพันธ์ ใช่ไหมครับ เด็กไทยส่วนใหญ่บุคลิกยิม้ แย้มแจ่มใส ลูกหลานเราอาจจะมีมนุษย์ สัมพันธ์ดีอยูแ่ ล้ว จากนี้ไป...พรุ่ งนี้เป็ นต้นไป... ถ้าเราเลี้ยงลูกให้มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น ลูกหลานเราก็มี โอกาสที่จะประสบความสาเร็ จได้มากขึ้น เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


24

แต่ส่ิ งที่ผมกล่าวไปนั้นคือ ทักษะของคนที่สามารถประสบ ความสาเร็ จได้ในปั จจุบนั ผูอ้ ่านหลายท่านอาจคิดในใจว่า กว่าลูกหลานจะโตขึ้นมาทางาน อนาคตอาจเปลี่ยนไปแล้วก็ได้ สองสิ่ งนี้จะเป็ นความสามารถที่ทาให้คนประสบความสาเร็ จใน อนาคตได้จริ งหรื อเปล่า? ถ้าอย่างนั้น ผมจะขอชวนคิดถึงเรื่ องอนาคตตั้งแต่บดั นี้เลยครับ มาดูกนั ว่าคนที่จะประสบความสาเร็ จในอนาคตจะต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง? ผูอ้ ่านพอจะคุน้ ๆ หรื อเคยได้ยนิ ชื่อคุณ โฮเวิร์ด การ์ดเนอร์ (Howard Gardner) กันไหมครับ? ท่านนี้เป็ นปรมาจารย์อยู่ Harvard Business School นะครับ

ซึ่งท่านได้กล่าวไว้วา่

“ในอนาคต...คนทีจ่ ะประสบความสาเร็จได้ นั้น จะต้ องมีทกั ษะและสภาวะจิตคิดเพือ่ อนาคต เป็ นคนทีส่ ามารถเผชิญหน้ ากับปัญหาต่ างๆ ในอนาคตได้ ” ทั้งปั ญหาที่ "คาดว่ าจะเกิด" และ "ปัญหาทีไ่ ม่ ได้มกี ารคาดคิดว่ าจะ เกิดขึน้ " ตลอดจนสามารถแก้ไขปั ญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้โดยใช้

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


25

เหตุและผล ควบคู่ไปกับการคิดสร้างสรรค์เชิงบวก เพื่อนาไปสู่การตัดสิ นใจ อย่างมีประสิ ทธิภาพ อ๊ะ อ๊ะ! คุณพ่อคุณแม่ผปู ้ กครองอยากรู ้แล้วใช่ไหมครับว่า เจ้าสภาวะจิตคิดเพือ่ อนาคต เนี่ยมันคืออะไรกันนะ? เราไปทาความรู ้จกั กับเจ้าตัวนี้กนั เลยดีกว่าครับ!

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


26

5 จิ่คิดเพื่ออนำค่ (Five Minds for the Future) จากหนังสื อ “จิต 5 ปั้ นยอดมนุษย์" (Five Minds for the Future)

ซึ่งแต่งโดย Mr. Howard Gardner, Harvard Business

School พอจะอธิ บายสรุ ปความหมายง่ายๆ ได้ ดังนี้ 1.

จิตชานาญการ (The Disciplinary Mind) หมายถึง ความรู ้ ทักษะ และความสามารถที่เรี ยนกันมาในโรงเรี ยน

เช่น คณิ ตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ สังคมศาสตร์ เป็ นการฝึ กฝนจน เกิดความเชี่ยวชาญในสาขาวิทยาการต่างๆ หรื ออย่างน้อยคือ ความชานาญใน วิชาชีพ

2.

จิตสังเคราะห์ (The Synthesizing Mind) หมายถึง ความสามารถในการเชื่อมโยง ความคิดเชิงประมวล

ความคิดในการบูรณาการ เอาศาสตร์ต่างๆ มาผสมผสานกัน และสามารถ ถ่ายทอดไปยังผูอ้ ื่น

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


27 3.

จิตสร้างสรรค์ (The Creating Mind) หมายถึง ความสามารถในการจินตนาการ ค้นพบความคิดต่างไป

จากเดิม

4.

จิตเคารพ (The Respectful Mind) หมายถึง จิตใจที่ให้ความเคารพนับถือ เพื่อนมนุษย์ดว้ ยกัน แม้วา่ จะ

มีความ แตกต่างกัน

5.

จิตจริ ยธรรม (The Ethical Mind) หมายถึง การเติมเต็มความรับผิดชอบของบุคคลในฐานะที่เป็ นทั้ง

คนทางานที่ดี และประชากรที่มีคุณค่าของโลก

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


28

ผมขอขยายความเจ้า จิตสร้ างสรรค์ (Creating mind) หมายถึง ความสามารถในการจินตนาการ ที่คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองจะ พัฒนา สรรค์สร้างลูกหลานให้เป็ นเด็กหรื อผูใ้ หญ่ในอนาคตที่มีทกั ษะและ ความสามารถในการค้นพบ

มองปัญหาใหม่ ๆ ได้ อย่างชัดเจน เห็นวิธีการแก้ปัญหานั้นๆ และสร้ างปรากฎการณ์ ใหม่ ๆ ทีต่ ่ างไปจากเดิม จะเห็นได้วา่ ทั้งผลการวิจยั ที่บอกว่าความคิดสร้างสรรค์เป็ นหนึ่งใน สองของความสาเร็ จของคนในปัจจุบนั และจากแนวคิดให้มองไปสู่อนาคต เมื่อลูกหลานเราโตขึ้น เจ้าตัวจิตคิดสร้างสรรค์ หรื อ Creating Mind ก็ยงั เป็ น 1 ใน 5 จิตคิดเพื่ออนาคตตามที่โฮเวิร์ด การ์ดเนอร์ ได้กล่าวไว้

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


29

คุณพ่ อคุณแม่ ครับ...

ตอนนี้ได้ คาตอบแล้ วใช่ ไหมว่ า เราจะให้ ลกู หลานคิดสร้ างสรรค์ กนั ไปทาไม? ก็เพราะว่า...

ความคิดสร้ างสรรค์ เป็ นสิ่ งที่ทาให้ลูกหลานเรา

ประสบความสาเร็จในการทางาน ทั้งในปั จจุบนั และในอนาคตไงละครับ (ชิมิ ชิมิ)

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


30

เด็กๆ เขำมีควำมคิดสร้ำงสรรค์ยังไง กันเหรอ

เราคิดว่าความคิดของเด็กๆ เป็ นไงกันบ้างครับ? 

เขามองอะไรอย่างมีจนิ ตนาการ...

เขามองอะไรเล็กจิว๋ ต่างจากผูใ้ หญ่…

เขามองอะไรอย่างไร้ เดียงสามั้ย...

เขามองอะไรอย่างอยากรู้ อยากเห็น…

เขามองอะไรอย่างตรงไปตรงมา ไม่คดเคี้ยวอย่างผูใ้ หญ่เนอะ...

และเขามองอะไรสนุกสนาน...

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


31

ทั้งหมดนี่คือความคิดสร้างสรรค์ของเด็กแบบใสใส ซึ่งคุณพ่อแม่ ผูป้ กครองมีหน้าที่รักษาสิ่ งนี้ไว้ ในขณะเดียวกันก็ใส่เพิ่มหรื อพัฒนาสิ่ งที่เขา ยังขาดอยูใ่ ห้เติมเต็ม เราอาจจะยังไม่รู้จกั ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กให้ดีพอ ดังนั้นผม ขอนาเสนอบทความของเด็กคนหนึ่ง เรื่ องนี้เป็ นความคิดของเด็กซึ่งเกิดขึ้นใน ขณะที่เขากาลังรอคุณแม่ไปรับกลับบ้าน เขานัง่ อยูห่ น้าเครื่ องคอมพิวเตอร์ที่โรงเรี ยน วันดีคืนดีเขาก็เคาะไป เคาะมา พิมพ์ไปพิมพ์มา เสร็ จปั๊ ปก็พิมพ์คาเครื่ องไว้อย่างนั้น คุณครู มาเห็นเข้า คุณครู ก็ตกใจ เอ๊ะ!! นี่ใครพิมพ์ทิ้งไว้เนี่ย เด็กกี่ขวบคิดเนี่ย !! ก็เลยนาบทความนี้ ไปให้ผอู ้ านวยการโรงเรี ยน ผูอ้ านวยการได้อ่าน ก็อ้ ึงและทึ่ง จึงนาบทความนี้ ให้คุณครู ท้ งั โรงเรี ยนได้อ่านเพื่อที่จะบอกว่า

“อย่ าประเมินความคิดของเด็กต่าไปนะ เด็กเขามีศักยภาพเยอะ” หลังจากนั้น ก็มีนกั การศึกษาท่านหนึ่งมาเห็นบทความนี้ จึงขอ สาเนาไปเผยแพร่ ต่อ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


32

เรามาอ่านกันครับว่าเขาเขียนไว้วา่ อย่างไรบ้าง?

โรงช้าง โรงช้าง โรงช้าง ในโรงเรียน โรงช้าง ในโรงเรียน ที่นกั เรียน อยากให้เป็นโรงเล่น โรงช้าง ในโรงเรียน ที่นกั เรียน อยากให้เป็นโรงเล่น แต่มนั ก็ไม่เป็น โรงช้าง ในโรงเรียน ที่นกั เรียน อยากให้เป็นโรงเล่น แต่มนั ก็ไม่เป็น เพราะมันเป็นไป ไม่ได้ แต่อาจเป็นไปได้ ในอนาคต ใครจะไปรู้ เพราะทุกสิง่ ทุกอย่าง มีโอกาสเกิดขึน้ ได้ และทุกสิง่ ทุกอย่าง เมือ่ เกิดมา ล้วนหายไป เพราะเราทาลายมัน ด้วยความทันสมัย เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


33

นิยามของความทันสมัย ทาลายนิยามของความล้าสมัยจนแทบไม่เหลือ และเมือ่ ความทันสมัยเกิดขึน้ นานนับปี นิยามของความทันสมัยยิง่ กว่าก็จะเดินทาง มาขยีค้ วามทันสมัยซึง่ ล้าสมัยแล้วจนแทบไม่เหลือ เป็นอย่างนีเ้ ป็นวงจร เหมือนปลาใหญ่กนิ ปลาเล็ก ปลาใหญ่มากกินปลาใหญ่ ปลา เล็กกินซากปลาใหญ่มาก และปลาใหญ่กนิ ปลาเล็ก อีกที..... มันประหลาด ประหลาดร้าย แย่จริงๆ แต่กด็ ใี นแง่หนึง่ นัน่ สิ ดีในแง่หนึง่ เพราะมีดใี นเสีย มีเสียในดี แล้วถ้าไม่มดี ี ก็ไม่มเี สีย ถ้าไม่มเี สีย ก็ไม่มีดี นอกเรือ่ ง นิยามของความนอกเรือ่ งคือ การพูดอย่างหนึง่ แล้วจูๆ่ ก็พดู เรือ่ งทีม่ ันคนละ โลก แล้วเราก็บอกเรือ่ งนอกเรือ่ งจากมีดใี นเสีย มีเสียในดี เป็นเรือ่ ง นอกเรือ่ ง นอกเรือ่ งจริงๆ นนนอออกกกเรือ่ งงง

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


34

แล้วทาไมต้องนอกเรือ่ ง และเราก็นอกเรือ่ งเรือ่ งนอกเรือ่ งเป็นเรือ่ งนิยามของ ทาไม ทาไม คือคาถาม ทีเ่ ปลีย่ นทุกสิง่ เป็นคาถาม..... เช่น ทาไมนกต้องบิน ทาไมเรามี 2 ขา ทาไม ทาไม ทาไม ทาไม ทาไม แล้วทาไม นามาสูค่ าตอบ เช่น นกต้องบิน เพราะมันอยากบิน คนมี 2 ขา เพราะพระเจ้าคิดว่าสัตว์ประเสริฐมี 4 หรือ 6 หรือ 8 หรือ 100 ขา แล้วมันดูอปั มงคล พระเจ้า ตลกน่า_

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


35

เป็ นอย่างไรบ้ างครับ ความคิดของเด็กคนนี ้ ..... เด็กคนนี ้มีชื่อจริ งว่า ด.ช.ธรรมชาติ จันทพลาบูรณ์ (เอ๊ ะ เอ๊ ะ นามสกุลคุ้นจัง) เป็ นบทความที่เขียนเล่นๆ ตอนอายุ 9 ขวบ (โอ้ พระเจ้ าจอร์ ด 9 ขวบ คิดได้ ไง ลูกใครเนีย่ )

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


36

ถ้ำลูกหลำนมี IQ สูงอยู่แล้วจะทำให้ ไม่มคี วำมคิดสร้ำงสรรค์ใช่ไหม? จริ งหรื อไม่...ที่ลูกเอาเซลล์สมองทั้งหัวไปคิดเรื่ องคณิ ตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ตรรกะ เหตุผล จนกระทัง่ ไม่มีเซลล์สมองเหลือไปคิดอะไร แปลกๆ ใหม่ๆ ถ้าคิดแบบนี้แสดงว่าเรามองว่ามันสัมพันธ์แบบสวนทางกัน แบบว่า อันหนึ่งมีมาก อีกอันหนึ่งมีนอ้ ย ซึ่งถ้าเป็ นอย่างนั้นจริ งเนี่ย เราก็อาจจะบอก ได้วา่ การที่ลูกมี IQ สูงอยูแ่ ล้ว จะทาให้เขาไม่มีความคิดสร้างสรรค์ แค่ลด IQ ลงหน่อยไม่ตอ้ งไปท่องตารามาก เดี๋ยวไม่มีสมองเหลือไปคิดสร้างสรรค์ ... มันใช่อย่างนั้นเหรอครับ? เรามาดูพร้อมกันครับว่า...

ความคิดสร้ างสรรค์ กับความฉลาด

(IQ)

(Creativity)

นั้นเกีย่ วกันมั้ย?

.....

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


37

คำตอบคือ ไม่ เกี่ยวกันครับ จากผลการวิจยั พบว่า ความคิดสร้างสรรค์ พบในเด็กที่ฉลาดมาก และฉลาดปานกลาง ดังนั้น IQ เขาจะพัฒนาอย่างไรก็ปล่อยไปได้เลยครับ ดันได้เต็มที่ ไม่มาเบียดบังความคิดสร้างสรรค์เลย เพราะสมองสองซีกแบ่งกันทางาน สมองซีกซ้ายทางานด้าน IQ ส่วนสมองซีกขวาทางานด้านคิดเชิงสร้างสรรค์ ในทางตรงกันข้าม หากจะเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ก็ไม่ตอ้ งกลัวว่า มันจะไปลด IQ ทาให้เกรดต่าลง เพราะมันไม่สมั พันธ์กนั และไม่เกี่ยวกัน ครับ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


38

มีอะไรบ้ำงที่ทำให้เด็กมีควำมคิด สร้ำงสรรค์? นักวิจยั พบว่ามี 3 องค์ประกอบหลักๆ ครับ ถ้าประกอบกันได้ป๊ับ ก็ จะออกมาเป็ นความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก

องค์ประกอบแรก ทักษะหลัก (Domain skills) คือ ความรู ้ที่เรี ยนในโรงเรี ยนนัน่ ล่ะครับ

องค์ประกอบที่สอง ความคิดสร้ างสรรค์ และทักษะ การทางาน (Creative thinking & working skills) คือ ทักษะในการคิด รู ้วา่ คิดยังไงมันถึงจะออกมาแปลก รู ้วา่ ความคิดที่ออกมาแปลกๆ แล้ว ทายังไงมันถึงจะไปใช้ได้

และองค์ประกอบที่สามครับ แรงจูงใจจากภายใน (Intrinsic Motivation)

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


39

คือ แรงจูงใจที่ทาให้คิดอะไรแตกต่างไปจากเดิม ในการที่จะคิด สร้างสรรค์

องค์ประกอบแรกทักษะหลัก (Domain Skills) ผมคิดว่าไม่ตอ้ ง ห่วงนะ เพราะคุณครู ที่โรงเรี ยนช่วยจัดการให้คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองแล้ว องค์ประกอบที่สองความคิดสร้างสรรค์และทักษะการทางาน (Creative thinking & working skills) อันนี้ตอ้ งช่วยหน่อยนะครับ ซึ่งเรา จะคุยเรื่ องนี้กนั ต่อไปเยอะหน่อย และองค์ประกอบที่สามสาคัญที่สุดคือแรงจูงใจภายใน (Intrinsic Motivation) มีคนบอกว่าเรื่ องนี้เป็ นจิ๊กซอว์ที่หายไป (Missing Link) ใน

การที่จะทาให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ เราอาจจะใช้เวลาเกี่ยวกับเรื่ องนี้เยอะ เหมือนกันนะครับ องค์ประกอบทั้งหมด ถ้าคุณพ่อแม่ผปู ้ กครองอยากจะพัฒนาทั้ง 3 องค์ประกอบนี้ตอ้ งพึงกระทาด้วยความสนใจและความตื่นเต้ นที่จะ เรี ยนรู ้นะครับ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


40

“อย่ ายัด...อย่าเยียด... อย่ าเครียด...อย่ าเอาจริงเอาจัง.... แต่ ทาแบบสนุกสนุก” ทาจนกระทัง่ ลูกหลานพูดว่า...... “สนุกจังเลยคุณแม่ สอนอีกสิ ” “สอนอีกสิ ครับ..คุณอา” “เพลินจังเลยค่ะ...คุณป้ า” “ตื่นเต้นจังเลย..คุณลุง” “เอาอีก เล่นอีกคะคุณพ่อ” ฯลฯ เอาล่ะ ขอขยายความองค์ประกอบต่างๆ ต่อนะครับ สาหรับทักษะ หลัก (Domain Skills) ผมไม่ตอ้ งพูดถึงนะ เรามาคุยกันเรื่ ององค์ประกอบที่ สองและสามกันเลยนะครับ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


41

พันนำควำมคิดสร้ำงสรรค์และทักษะ กำรทำงำน องค์ประกอบที่สอง คือ ความคิดสร้ างสรรค์ และทักษะการทางาน (Creative thinking & working skills)

ความคิดสร้ างสรรค์ และทักษะการทางาน หมายถึง ความทุ่มเททีจ่ ะคิด มีสมาธิได้ ยาวนานและ ต่ อเนื่อง คิดแล้วเจาะลึกลงไปเรื่ อยๆ ดาดิ่งลงไปในความคิด คิดเรื่ อยๆ เป็ นนิสยั ของการคิดไม่เลิก แม้วา่ จะยาก ก็ยงั คิดไม่เลิก แม้วา่ จะคิดไม่ออก ก็ยงั ไม่เลิกคิด ซึ่งตรงนี้คุณคุณพ่อแม่ผปู ้ กครองช่วยได้เยอะครับ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


42

เพราะโดยนิสยั เด็กเด็กแล้ว คิดไม่ออก...ก็จะเลิกคิด (ผูใ้ หญ่เวลาคิด ไม่ออก ก็จะเลิกคิดเหมือนกัน หุหุ) เพราะว่ามันน่าเบื่อ มันไม่สนุก ดังนั้น เราจะทายังไงให้เด็กเขาคิดได้นาน..นาน จะได้พฒั นา ความคิดสร้างสรรค์ ถ้างั้นตามมาดูวธิ ีการพัฒนาทักษะการคิดสร้างสรรค์ของเด็กๆ กัน ครับ ว่ามีวธิ ีไหนบ้าง?

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


43

วิธีพันนำทักษะกำรคิดสร้ำงสรรค์ ของเด็กๆ วิธีแรกนะครับ 1.

ชวนคิด ชวนคุย สร้ างนิสัยการคิดไม่ เลิก เช่น ขับรถไปเจอขบวนรถแรลลี่รู้สึกสงสัยขึ้นมาว่า เอ๊ะ...ทาไมรถ

ที่ไปแรลลี่ทุกคัน ต้องติดสติกเกอร์ดว้ ย?

แม่ ถาม: “ลูกรู้ มยั้ ว่ า เขาติดสติกเกอร์ บนรถกันทาไม? แม่ เห็น สติกเกอร์ ปตท.บ้ าง บริ ดสโตนบ้ าง?”

ลูกตอบ: “ไม่ ร้ ู เหมือนกันแม่ เขาติดกันทาไม คิดไม่ ออกอ่ ะ” ขับไปอีกสัก 10 นาที .....

แม่ ถาม: แล้ วเขาติดสติกเกอร์ กนั ทาไม? แข่ งแรลลี่ ทาไม? ต้ อง ติดรอบรถ ติดทาไม?

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


44

ลูกตอบ: “เป็ นสี สัน ติดเป็ นโฆษณาให้ สปอนเซอร์ หรื อว่ าอาจจะทา ให้ ไม่ หลงขบวนค่ ะ”

แม่ ถาม: เออ..ก็จริ งเนอะ เอ๊ ะ..ลูกรู้ มยั้ สติกเกอร์ ติดแล้ วไม่ ดียงั ไง

ลูกตอบ: ทาให้ รถเป็ นรอยค่ ะ

แม่ พูดเสริ ม: ใช่ ลกู เพราะกาวเหนียวทาให้ สีรถเสี ยเนอะ แล้ วคน ที่ รักรถ ทายังไงลูกรู้ มัย้ เขาฉี กเฉพาะขอบแปะไว้ หรื อเอาสก๊ อตเทปมาแปะ ใหม่

แม่ ถาม: เอ๊ ะ..จะมีใครมัย้ ที่ อยากแข่ งแรลลี่ อยากร่ วมกิจกรรม อยากจ่ ายเงิน อยากสนุกด้ วย แต่ ไม่ ไปเพราะว่ ารั กรถ กลัวสี รถเสี ย สี ถลอก มีมยั้ เอ๊ ะ..แล้ วทาไงดี นอกเหนือจากการติดสติกเกอร์

ลูกตอบ: ไม่ ร้ ู เหมือนกันแม่

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


45

แม่ คิด: ….วันนีไ้ ม่ ร้ ู ไม่ เป็ นไร วันรุ่ งขึน้ แม่ ยงั ถามต่ อ.........

แม่ ถาม: เอ๊ ะลูก เมื่อวานเราคุยกันค้ างไว้ เนอะ ตกลงว่ า นอกจาก วิธีการติดสติกเกอร์ และมันมีวิธีอื่นอีกมัย้ เอ่ ย ที่ จะทาให้ สีรถไม่ เลอะ

ให้ ชวนคิดและคุยกันต่ อ ฝื นธรรมชาติเด็ก สร้ างนิสัยไม่ ล้มเลิก

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


46

2. ถำมคำถำมอะไรเอ่ ย? วิธีชวนคิด ชวนคุย สร้างนิสยั การคิดไม่เลิกอีกวิธีหนึ่งคือ ถาม คาถามแบบเด็กเด็ก มุขฮาฮา พวกคาถามอะไรเอ่ย? แบบขาขา สนุกสนุก ด้วยกัน เช่น

คาถาม: ลูกรู้ มยั้ ปลาอะไร สองตัวยี่สิบ?

คาตอบ: ปลาตัวละ 10 บาทครั บ หรื อ

แม่ คิดว่ า...ปลาตัวหนึ่ง 5 บาท และอีกตัวหนึ่ง 15 บาท

หนูคิดว่ า...ปลาตัวละ 20 บาทแถมหนึ่งตัวค่ ะ ผูอ้ ่านคิดว่ามีคาตอบอื่นๆ อีกมั้ยครับ ลองฝึ กคิดต่อยอดกับลูกๆ และทั้งครอบครัวได้เลย

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


47

ตัวอย่ างคาถามสนุกๆ

รู้ มยั้ ลูก ขี่ช้างจับอะไร (ติ๊กต๊อกๆๆๆ คิดไปเรื่ อยๆ ฝึ กนิสยั การคิดไม่เลิก)

…รู ้ม้ ยั ลูก งูอะไรทาเหมือนหมา

(ได้คาตอบยัง แม้วา่ จะยาก อย่าเพิ่งไม่เลิกคิด)

…ลูกรู ้ม้ ยั สี อะไรหวานที่สุด

(ยอมมั้ย ยอมมั้ย.....)

…รู ้ม้ ยั ลูก ปลาอะไรสุ ภาพที่สุด

(ดาดิ่งความคิดไปเรื่ อยๆ ยื้อไว้ๆ)

ถ้ าลูกคิดไม่ออกล่ะ จะทาอย่ างไร หากคิดไม่ออกอีก คิดใหม่ต่อไป แต่อย่าเพิ่งรี บเฉลยคาตอบ ฝื น นิสยั เด็ก สร้างนิสยั ไม่เลิกคิดแม้จะยาก เพื่อฝึ กคิดกันต่อไป เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


48

เวลาถามว่ายอมมั้ย...เด็กจะบอกว่า “ยอม ขอเฉลยหน่อยค่ะ เฉลย เลยครับพ่อ นะๆๆๆ” แต่คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองต้องบอกว่า “อย่าเพิ่งยอมนะลูก คิด... คิด... คิด...” เพื่อฝึ กเป็ นนิสยั ต่อไปเรื่ อยๆ หลายครอบครัวที่เล่นกันแบบนี้เป็ นกิจวัตร ซึ่งมันเป็ นธรรมชาติ ของคนถามคาถามที่อยากจะบอกคาเฉลยแต่ตอ้ งฝื นธรรมชาติไว้หน่อยครับ เพื่อให้ลูกหลานฝึ ก คิด...คิด... คิด... “ยอมมั้ย ยอมมั้ย” ถ้าลูกบอกว่า ยอม คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองก็ตอบ แบบขาขาไปอีกว่า “อย่ายอมลูก อย่ายอม..คิด..คิด..คิด..” (คิด คิด เท่าไหร่ คิดไม่ออก สักที อิอิ) แล้วต่อมาลูกของเราจะมีนิสยั ที่ไม่ยอมเลิกคิดเอง มีการค้นพบว่า คนทีค ่ ดิ สร้ างสรรค์ ไม่ ใช่ คนทีฉ่ ลาดกว่ า

คนอื่นนะครับ แต่ เป็ นคนทีม่ ีนิสัยในการยือ้ มากกว่ าคนอื่น เป็ นคนที่หาไอเดียใหม่ๆ ไม่ออก แล้วจะ...ไม่อยากเลิกคิด คิดไม่ ยอมเลิก

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


49

สักพักเดี๋ยวไอเดียดีๆ ก็จะแว้บขึ้นมาเอง วิธีการนี้ใช้ได้กบั ทุกๆ ไอเดียเลยครับ

ผมเน้ นให้ ความสาคัญว่ า คุณพ่อแม่ ผ้ ปู กครองต้ องฝื นนิสัยเด็ก เพราะธรรมชาติของเขา ถ้าคิดไม่ออกก็จะเลิกคิด ฉะนั้น พยายามยื้อ ช่วงนี้ขอให้ผอู ้ ่าน คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองอึดไว้ก่อนนะครับ คาเฉลยผมจะไปหยอดไว้ตามบทต่างๆ ให้ เป็ นไง...ยอมมั้ย ยอมมั้ย...

"อย่ าเพิง่ ยอมครับ"

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


50

3. คิดแหวกรูปแบบเดิม ของเดิมคิดยังไง ลองคิดให้แปลก แหวกรู ปแบบเดิม อันนี้ผมว่าไม่น่าเป็ นห่วง เพราะเด็กมีธรรมชาติชอบคิดต่างจากรู ป แบบเดิมๆ อยูแ่ ล้ว เห็นด้วยมั้ยครับ? แต่ผ้ ใู หญ่ มักจะไปห้ ามให้เขาอย่าคิดแหวกแนวจากรู ป แบบเดิม ดังนั้น ขอให้ดึงตัวเองนิดนึง ลูกหลานเราอาจจะคิดอะไรแตกต่าง แปลกประหลาดในบางครั้ง

ปล่ อยให้ เขาคิดและพยายามดึงตัวเองไว้ ว่าอย่ าไป ห้ ามเด็กคิดแตกต่ าง อย่าพยายามให้เด็กคิดเหมือนเรา

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


51

4. เปิ ดโอกำสให้ มีทำงเลือกไว้ ไห้ เยอะๆ นำนๆ พยายามตั้งคาถามให้เด็กตอบ เช่น

พ่ อถาม: เสาร์ อาทิ ตย์ นีล้ กู ๆ อยากไปเที่ ยวไหนกันดี?

ลูกตอบ: ไม่ อยากไปไหนอ่ ะพ่ อ (โอเค นั่นเป็ นแค่ หนึ่งทางเลือก เราอย่ าเพิ่งปิ ดประเด็น)

ลูกตอบ: ไปทะเล (เราอย่ าเพิ่งตัดสิ นใจว่ าจะไม่ ไป หรื อไปทะเล)

พ่ อถาม: เอ๊ ะ...นอกจากไม่ ไปไหนเลย กับไปทะเล แล้ วไปไหน อีกดีล่ะ?

ลูกตอบ: ไปสวนสนุก Dream World ค่ ะ (เรายังไม่ ต้องปิ ดประเด็น)

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


52

พ่ อถาม: นอกจากไม่ ไปไหนเลยอยู่บ้านสบายสบาย พักผ่ อนนะ หรื อไปทะเล หรื อไป Dream World แล้ วไปไหนอีกดี?

ลูกตอบ: ไป Central

พ่ อถาม: นอกจากไป Central แล้ วไปไหนอีกดี (คุณพ่ อแม่ ผ้ ูปกครองต้ องพยายามถามเยอะๆ ว่ า ไปไหนอีกดี เพื่อให้ ได้ คาตอบเยอะๆ)

ลูกตอบ: ไปสวนสัตว์ ไปปลูกต้ นไม้ ไปขี่จักรยาน ไปว่ ายนา้ ไป พิพิธภัณฑ์ เด็ก ไปปิ คนิคที่ สวนสาธารณในหมู่บ้าน ไปเป็ นอาสาสมัคร ฯลฯ

การเปิ ดทางเลือกเยอะๆ ให้ได้มากที่สุดเท่าไหร่ ยงิ่ ดี เพราะว่า ลองสังเกตดูนะครับ ความคิดแรกๆ หรื อหลังๆ ที่มนั แปลก คาตอบคือความคิดหลังๆ ใช่ม้ ยั ครับ?

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


53

เพราะว่าโดยธรรมชาติความคิดแรกๆ

จะเป็ นความคิด

ใกล้ ตัว เคยเห็นมา เคยฟังมา เคยทาบ่อยๆ ถ้าเราหยุดอยูแ่ ค่น้ นั 2 ไอเดีย หรื อ 3 ไอเดียแรก แล้วปิ ดประเด็น ทันที ความคิดก็จะเดิมๆ ซ้ าไปซ้ ามา แต่ถา้ เราชวนเปิ ดประเด็นไปเรื่ อยๆ ความคิดหลังๆ ที่ออกมาจะซ้ าความคิดแรกๆ ไม่ได้ ไอเดียที่ 4 ที่ 5,6,7,8… ก็จะเริ่ มแตกต่างจากไอเดียที่ 1, 2, 3 และยิง่ มากขึ้นมากขึ้น ไอเดียก็จะยิง่ ฉีกกรอบ

ยิง่ แปลก และ แหวกแนวจากรูปแบบเดิมครับ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


54

5. ยัง้ กำรตัดสิน ไม่ ตัดสินว่ ำผิดหรือถูก จาบทความของเด็กชายธรรมชาติ ได้ม้ ยั ครับ? (ถ้าจาไม่ได้ให้ กลับไปดูหน้า xx-xx นะจ๊ะ) เรื่ อง “มีดใี นเสีย มีเสียในดี”

พยายามให้ความคิดนั้น มันเป็ นสเปคตรัม (Spectrum) อย่าให้มนั มีแต่มุมขาว หรื อมุมดา ขาวหมายถึงความถูกต้องสุดๆ และดาหมายถึงผิดสุดๆ ลองมีความคิดให้มนั อยูต่ รงสี เทาๆ ให้ได้ เพราะมันอาจจะถูกก็ได้ หรื ออาจจะผิดก็ได้ อย่าเพิ่งไปตัดสิ นมัน และเพราะว่า มุมขาวและมุมดา มันจะเป็ นความคิดเดิมที่คนอื่นเขา คิดมาแล้ว ความคิดใหม่คือบริ เวณความคิดสี เทาๆ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


55

ยิง่ คนมีความยืดหยุน่ ทางความคิดมาก ยิง่ ทาให้มีความคิด สร้างสรรค์เยอะ ตัวอย่ างของการไม่ ตดั สินว่ าผิดหรือถูก ตัวอย่ างที่ 1

พ่ อถามว่ า: นายเคน(ว้ าว ใช่ เคน ธี รเดช หรื อเปล่ า) ไปตีหัวนาย โตโน่ ลูกคิดว่ า นายเคน ทาผิดหรื อทาถูก

ลูกตอบว่ า นายเคนทาผิดครั บ (ผิดเป็ นสี ดา)

พ่ อชวนคุย: เออลูก...นายเคน เขาอาจจะถูกมากขึน้ บ้ างมัย้ ที่ ไป ตีหัวนายโตโน่ น่ะ (ทาให้เป็ นสี เทาๆ หน่อย...)

ถ้านายโตโน่ไปเตะนายเคนก่อน ก็เลยโดนตีหวั กลับ เจ๊ากันไป

นายเคนกับนายโตโน่เล่นเกมส์ตีหวั กันอยู่ เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


56

(อย่าเพิ่งปิ ดประเด็น)

แล้วมันจะมีอะไรอีก ที่ทาให้ถูกมากขึ้นอีกมั้ย?

นายโตโน่ของร้องนายเคนให้ช่วยตีหวั ให้หน่อย เพราะปวดหัวมาก เลย ถ้าข้อเท็จจริ งเป็ นเช่นนี้ ตกลงตอนนี้นายเคนก็เปลี่ยนกลายจากดา เป็ นขาวไปแล้ว เพราะนายเคนตีหวั เพราะช่วยเหลือนายโตโน่

ตัวอย่ างของการไม่ ตดั สินว่ าผิดหรือถูก ตัวอย่ างที่ 2 พ่อแม่อย่างเราคงเคยเจอเหตุการณ์ที่ลูกนอนตื่นสายโด่ง แล้วคุณปู่ คุณย่า คุณยาย คุณตา หรื อทุกคนในบ้าน ก็จะคิดว่า ลูกเรา ขี้เกียจ ขี้เซา ไม่มีวนิ ยั เพราะการที่เด็กนอนตื่นสายดูเหมือนเป็ นสิ่ งที่ไม่ดี เป็ น สิ่ งที่ผิด แต่มนั อาจจะถูกต้องมากขึ้นมั้ย? ....ถ้าหากว่า 

ลูกอาจกาลังนอนคิดถึงสิ่ งที่เรี ยนมาเมื่อวาน กาลังประมวลความคิด

ลูกอาจจะกาลังเชื่อมโยงวิชาคณิ ตศาสตร์คู่กบั วิทยาศาสตร์

ลูกอาจจะกาลังจินตนาการถึงการบ้านที่กาลังจะทาส่งคุณครู หรื อ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


57 

ร่ างกายของลูกอาจจะกาลังหลัง่ ฮอร์โมนทาให้ร่างกายสูงใหญ่ เพราะฉะนั้น สิ่ งที่อาจจะดูวา่ ผิด อาจจะเป็ นสิ่ งที่ถูกก็ได้ นอกจากช่วยให้ลูกคิดได้แล้ว เราก็ตอ้ งเป็ นแบบอย่างด้วย ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างความคิดที่มีความยืดหยุน่ เป็ นความแบบมี

สเปคตรัมสี ดา เทาแก่ เทาอ่อน ขาวจัว๊ ะ... จากดาเปลี่ยนเป็ นขาว

ลองเปลีย่ นจากขาวเป็ นดาดูบ้าง แต่ในทางตรงกันข้าม เช่นเดียวกันครับ ลองมาดูกลับด้านจากมุม ขาวไปเป็ นมุมดากันบ้างมั้ย? อะไรที่ดูเหมือนเป็ นสิ่ งที่ถูกต้องสาหรับเด็ก เช่น ลูกเห็นพ่อขยันล้างรถทุกวัน ลูกจึงเห็นว่าเป็ นสิ่ งที่ถูกต้อง เอาล่ะ...ลองเปลี่ยนจากมุมขาวทาให้เป็ นมุมดา การที่พอ่ ล้างรถทุกวัน มันอาจจะเป็ นสิ่ งที่ไม่ดีก็ได้ ถ้าหากว่า... 

ทาให้พอ่ ไม่มีเวลาเล่นกับหนู หรื อ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


58 

ถ้าพ่อเอาเวลาล้างรถไปทาอย่างอื่นที่พอ่ ถนัด และได้เงินมากกว่า แล้วไปเสี ยเงินจ่ายค่าล้างรถแค่ 60 บาท (ราคานี้รถเก๋ งหรื อมอเตอร์ ไซด์เนี่ย) เราควรลองฝึ กให้คิดจากความคิดขาวๆ ให้กลายเป็ นสี เทา ให้ได้

เหมือนกันครับ เพื่อให้มีความคิดที่ยดื หยุน่ มีสมมติฐานที่หลากหลายและไม่ ยึดติดอยูก่ บั ความคิดใดเพียงความคิดหนึ่ง หลังจากที่ชวนเด็กให้มีความคิดหลากหลาย ทั้งนี้เพื่อให้เด็กมี ความรู ้ผิดชอบชัว่ ดี คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองควรสอนสิ่ งที่ถูกและผิดตามความ เป็ นจริ ง เป็ นการสรุ ปความเข้าใจระหว่างกันเหมือนสอนลูกทากับข้าวหลายๆ วิธี แล้วสุดท้ายจึงมีขอ้ สรุ ปว่าวิธีไหน เป็ นวิธีที่ทากับข้าวได้อร่ อยที่สุด

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


59

ขออนุญาตทบทวนวิธีพฒั นาทักษะการคิดสร้างสรรค์ของเด็กๆ กันอีกครั้ง (กลัวลืม) 1.

ชวนคิด ชวนคุย สร้างนิสยั การคิดไม่เลิก

2.

ถามคาถามอะไรเอ่ย?

3.

คิดแหวกรู ปแบบเดิม

4.

เปิ ดโอกาสให้มีทางเลือกไว้ไห้เยอะๆ นานๆ

5.

ยั้งการตัดสิ น ไม่ตดั สิ นว่าผิดหรื อถูก

วิธีสุดท้ายที่จะนาเสนอ คือ

6.

มองกว้างเห็นความสัมพันธ์ เคยได้ยนิ ประโยคที่พดู ว่า “เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว” มั้ยครับ ถามลูกสิ วา่ การเด็ดดอกไม้มนั จะทาให้สะเทือนถึงดวงดาวได้ยงั ไง ให้ชวนคิด...ชวนลูกคิด...คิด...คิด ลองมองภาพกว้างๆ มองหาความสัมพันธ์กนั ต่อสิ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


60

คุณแม่ถาม: ลูกจ้ะ...ทาไมเด็ดดอกไม้จึงต้องสะเทือนถึงดวงดาว

ลูกตอบ: ต้นไม้อาจตายนะแม่ พอต้นไม้ตายก็เลยทาให้น้ าท่วม (อืมม…เป็ นไปได้แฮะ)

คุณแม่ถามว่า:..น้ าท่วมแล้วเป็ นไงต่อ?!

ลูกตอบ: น้ าอาจจะท่วมสูงไปถึงดวงดาวเลย ดังนั้น ดาวก็เลยเปี ยกค่ะ (จะถูกจะผิดไม่เป็ นไรนะครับ)

ถึงลูกจะตอบมาแบบไหนก็ตาม ก็อย่าไปวิจารณ์วา่ ถูกหรื อผิด เพราะเรากาลังจะฝึ กเขาให้มองอะไรแบบกว้างๆ เห็นความสัมพันธ์ เอาล่ะ... อ่านมาถึงตอนนี้แล้ว หวังว่าคุณพ่อแม่ผปู ้ กครองจะได้วธิ ีการพัฒนา ความคิดสร้างสรรค์สาหรับลูกหลานไปใช้กนั แล้วนะครับ ไม่วา่ จะเป็ นการไม่ยอมหยุดคิด คิดแหวกรู ปแบบเดิม เปิ ดทางเลือก ไม่มีผิดหรื อถูก และมองเห็นความสัมพันธ์กว้างๆ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


61

ลองนาไปปฏิบตั ิดู และผมขอย้าอีกครั้งว่า

อย่ ายัด... อย่าเยียด... อย่ าเครียด... แต่ สนุกสนุก...ขาขาไว้ นะครับ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


62

กระุ่้นแรงจูงใจให้สร้ำงสรรค์ ยังจา 3 องค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์ได้ไหมครับ บทที่แล้ว ผมพาทุกท่านไปเรี ยนรู ้วา่ เราจะทาอย่างไรเพื่อพัฒนา องค์ประกอบด้านความคิดสร้างสรรค์และทักษะการทางานไปแล้วเรี ยบร้อย องค์ประกอบตัวต่อไปคือ แรงรู งใจภายใน (Intrinsic motivation)

แรงจูงใจภายใน (Intrinsic Motivation) ฟังแล้วดูงงๆ ภายใน อะไร ใช่กาลังภายในเหมือนในหนังจีนหรื อเปล่า…ไม่ใช่นะครับ แรงจูงใจภายใน หมายถึง แรงขับดันทีม ่ าจากภายในตัว

บุคคล และเป็ นแรงขับที่ทาให้บุคคลนั้นแสดงพฤติกรรม โดยไม่ หวัง รางวัลหรื อแรงจูงใจภายนอก พูดง่ายๆ ก็หมายถึง มีความสุ ขทีไ่ ด้ คด ิ สนุกกับโอกาสที่ได้ แสดงออก เกิดมุมมองใหม่ในสิ่ งที่คิด รู ้สึกผ่อนคลาย เหมือนได้เล่นกับ ความคิดใหม่ๆ และสุดท้ายสนุกดีที่ได้คิด เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


63

แรงพวกนี้เป็ นแรงจูงใจที่จะทาให้คนคิดสร้างสรรค์ เป็ นการทาเพือ่ ตัวเอง คิดเพื่อตนเอง เพราะสนใจ คิดแล้ วมันส์

คิดแล้ วสนุก เพือ่

ความพอใจของตนเอง และเพื่อเอาชนะความท้าทายของตนเอง สาหรับเด็กเมื่อได้คิดอะไรใหม่แล้วก็มีความสุข รักษาความสุขที่ เด็กได้คิด ให้สนุกกับการที่เด็กได้แสดงออก อยากคิดอะไรใหม่ๆ มีมุมมอง ใหม่ รู ้สึกสบาย พอได้คิดอะไรใหม่ก็เหมือนได้เล่น แต่ได้เล่ นกับ

ความคิดนัน่ เอง นีค่ ือแรงจูงใจที่มีพลังมาก ที่จะทาให้คนมีความคิดสร้างสรรค์ รักษาสิ่ งนี้ไว้ครับ แรงจูงใจภายในมีอยู่ในตัวเด็กอยู่แล้ ว อย่าไป เปลี่ยน เพราะมันเป็ นธรรมชาติของความคิดสร้างสรรค์ และเป็ นธรรมชาติ ของวัยเด็ก โปรดอย่าไปทาลายหรื อลดมันด้วยการใส่แรงจูงใจภายนอกเข้าไป แล้ วแรงจูงใจภายนอกหมายถึงอะไร ?

แรงจูงใจภายนอก (Extrinsic Motivation) หมายถึง แรงจูงใจที่มาจากภายนอก เป็ นต้นว่า คาชม หรื อรางวัล

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


64

เช่น อย่าบอกกับลูกหลานว่า

...การที่ คิดสร้ างสรรค์ ของลูกจะทาให้ ได้ รับความนิยมมากขึน้ ...ความคิดของลูกจะสร้ างความประทับใจให้ ผ้ ูอื่น ...ทาแล้ วจะมีรายได้ พิเศษ และทาแล้ วจะเป็ นที่ ร้ ู จักมากขึน้ ...ลูกคิดอีกสิ คนอื่นๆ เขาชอบไอเดียลูกกันทั้งนั้นเลยน่ ะ ...คิดอะไรให้ อาหน่ อยสิ เดี๋ยวให้ เงิน ...คิดเพื่อที่จะเก่ งขึน้ ในอนาคต

ทาไมพ่อแม่ถึงไม่ตอ้ งชมล่ะ? ไม่ตอ้ งให้แรงจูงใจภายนอกเหรอ? เหตุผลทีพ่ ่ อแม่ ผู้ปกครองไม่ ควรชม เพราะเราไม่ อยากสร้ าง แรงจูงใจภายนอกให้ เกิดขึน้ มาก จนอาจจะมาทดแทนแซงหน้ าแรงจูงใจ ภายใน ทั้งนี้เพื่อรักษาให้แรงจูงใจภายในให้เข้มแข็งกว่าแรงจูงใจภายนอก อันจะนามาสู่ความคิดทีส่ ร้ างสรรค์ กว่ า และเป็ นอิสระกว่ าครับ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


65

เราควรพยายามทาให้ “แรงจูงใจภายใน” ยังเป็ น "แรงจูงใจตัวแม่" ต่อไป เพราะเด็กที่คิดจากแรงจูงใจภายนอก (Extrinsic Motivation) จะ ทาให้ความคิดที่ออกมามีความสร้างสรรค์นอ้ ยกว่าเด็กที่คิดจากแรงจูงใจ ภายใน (Intrinsic Motivation) เช่น ถ้าเด็กคิดเพื่อให้คุณครู พึงพอใจ เขาจะคิดอะไรออกมาเพื่อเอา ใจคุณครู และคิดเพื่อให้เข้าทางคุณครู ผลงานที่ออกมาก็จะงั้นๆ แหละครับ

ในทางตรงกันข้าม หากเด็กคิดออกมาจากแรงจูงใจภายใน (Intrinsic Motivation) เขามันส์ เขาอยากคิด เขาอยากทา ทาแล้วสนุก ความคิดจะออกมาแบบสร้างสรรค์มาก จะแปลกมาก นอกจากนี้อย่ าใช้ แรงจูงใจภายนอก (Extrinsic Motivation)

เป็ นตัวล่ อ แต่ถา้ มันจะเกิดก็ให้มนั เกิดขึ้นเองได้ ให้

เป็ นผลพวงหรื อผลพลอยได้จากการได้คิดแล้ว เช่น ทาไปแล้วบังเอิญดัง ผลงานเสร็ จแล้วบังเอิญรวย ไม่ใช่ทา เพราะเงื่อนไขในขณะที่กาลังคิดหรื อก่อนคิดสร้างสรรค์ ตัวอย่างหนึ่ง คือ คนเขียนเรื่ อง Harry Porter งานเขียนของเขาเกิด จากแรงจูงใจภายใน (Intrinsic Motivation) แต่แรงจูงใจภายนอก เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


66 (Extrinsic Motivation) เกิดขึ้นเองหลังจากที่ออกหนังสื อไปแล้ว ขายดิบ

ขายดี และดังระเบิดระเบ้อ ถล่มทลาย กลายเป็ นเศรษฐีคนใหม่ไปเลย

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


67

ขอเน้ นครับขอเน้ น: ถ้าจะจูงใจให้ลูกคิดสร้างสรรค์ ขอให้ใช้เรื่ องแรงจูงใจภายใน (Intrinsic Motivation) เพราะมันจะ ส่ งผลต่อเด็กในระยะยาว ซึ่ งคุม้ ค่า

กว่าครับ คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองสนับสนุนลูกหลานได้เต็มที่ในการให้พวกเขา ได้คิดแปลก หรื อคิดต่าง สาหรับแรงจูงใจภายนอก (Extrinsic Motivation) ใช้ได้ในการ จูงใจทัว่ ๆ ไปกับทุกๆ เรื่ อง ยกเว้นเรื่ องการคิดสร้างสรรค์นะครับ เรื่ องทัว่ ไปก็อย่างเช่น ถ้าลูกหลานสอบได้ที่ 1 จะให้รางวัล ถ้าวิง่ แข่งชนะจะพาไปเที่ยว เป็ นต้น

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


???????????????????????????????? ??????????????????? ?? มาสนุกกัน ?? ?? คาถามเพิม่ ความคิดสร้างสรรค์ ?? ?? ?? ?? ขีช ?? ่ ้ างจับอะไร…? ?? ...ติ๊กต๊อกๆๆๆ ?? ?? คิดไปเรื่อยๆ ...ฝึ กนิสยั การคิดไม่เลิก ?? ?? ?? ....... ?? ?? ?? ยอมยัง ยอมยัง ?? ?? ?? ?? ?? ?? ตอบ จับแน่นๆ เดี๋ยวตก จับแน่นๆ นะน้องนะ ?? ?? ?? ?? ?? ????????????????????????????????

68

!

:

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


69

เปลี่ยนบรรยากาศกันบ้างดีกว่าครับ ผมมีแบบทดสอบมาฝากให้กบั ลูกหลานได้ลองทา ขอให้คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองนาแบบทดสอบนี้ไปนัง่ พูดคุยกันกับพวก เขา แล้วจะได้คาตอบว่า สิ่ งทีล่ กู หลานทาอยู่ทุกวันนี้นั้น

เกิด

จากแรงจูงใจภายในหรือแรงจูงใจภายนอก เมื่อรู้แล้ว ท่านจะได้ ปรับปรุ งและแก้ไขโดยการลดแรงจูงใจภายนอกลง ...จนกระทัง่ ไม่ใช้เลย ควรพยายามอย่างที่สุดถึงที่สุดเพือ่ ให้แรงจูงใจภายในเป็ นตัว แม่ ต่อไป

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


70

แบบทดสอบแรงจูงใจภำยในและ ภำยนอก (สาหรับลูกหลานตอบ) กรุ ณาให้ลูกหลานตอบว่า “ใช่” เฉพาะข้อที่เห็นด้วยครับ แต่หากไม่ แน่ใจ ก็ไม่ตอ้ งตอบ ให้ขา้ มข้อนั้นๆ ไปเลยครับ คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมบันทึกด้วยครับว่าข้อไหนตอบว่าอะไรบ้าง ข้อ ใช่

ไม่

คาถาม

แน่ใจ 1

หนูไม่ตอ้ งคอยระวังว่าคุณพ่อแม่ผปู ้ กครองจะดุ เมื่อหนูจะขออนุญาตทาในสิ่ งที่หนูอยากทา

2

หนูคิดมากว่า คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองหรื อครู จะพูด อย่างไรในสิ่ งที่หนูทา

3

หนูทาสิ่ งต่างๆ เพื่อที่หนูจะได้เรี ยนรู ้ในสิ่ งนั้นๆ

4

เมื่อหนูมีทางเลือกที่จะทาอะไร หนูมกั จะเลือกทา ในสิ่ งที่หนูอยากจะทา

5

หนูตอ้ งการที่จะให้คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองและคุณครู รู ้วา่ หนูสามารถทาสิ่ งนี้ได้ดี

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


71

6

หนูทาสิ่ งต่างๆ ด้วยความอยากรู ้อยากเห็นด้วยตัว ของหนูเอง

7

หนูหวังว่าสักวันหนึ่ง หนูจะสามารถหาเงินได้มาก จากการทาสิ่ งที่หนูอยากทา

8

หนูชอบทาสิ่ งนี้ เพราะมีบางคนกาลังจ้องมองหนู อยู่

9

ยิง่ สิ่ งที่หนูทามีความท้าทายมากเท่าไร ก็ยงิ่ สนุก กับมันมากขึ้นเท่านั้น

10

หนูทาสิ่ งนี้ เพราะคุณพ่อแม่ผปู ้ กครองหรื อครู บอก ว่า หนูมีพรสวรรค์ในเรื่ องนี้

11

หนูรู้สึกสนุกที่จะเห็นในสิ่ งที่หนูทาได้

12

หนูทาสิ่ งนี้ เพราะคุณพ่อแม่ผปู ้ กครองหรื อคุณครู ต้องการให้ทา

13

หนูชอบทาสิ่ งนี้เพื่อตัวหนูเอง

14

เมื่อหนูทาสิ่ งนี้สาเร็ จ หนูอยากรู ้วา่ คนอื่นจะพูด อย่างไร

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


72

15

หนูชอบที่จะเล่นมากกว่าทาเป็ นการเป็ นงาน

16

บางครั้ง เวลาที่หนูทาสิ่ งนี้ หนูก็มกั จะลืมเรื่ องอื่นๆ

17

หนูไม่รู้จะทาไปทาไม ถ้าไม่มีใครรู ้เห็นในสิ่ งที่ทา ลงไป

18

หนูรู้สึกดีมาก เมื่อรู ้วา่ ตัวเองกาลังทาอะไรอยู่

19

ส่วนใหญ่หนูทาสิ่ งนี้โดยที่ไม่รู้วา่ หนูรู้สึกอย่างไร กับมัน

20

เมื่อหนูทาสิ่ งนี้ หนูชอบที่จะตัดสิ นใจด้วยตัวเองว่า จะทามันอย่างไร

21

หนูชอบเมื่อมีบางคนให้คาแนะนาว่าจะทามัน อย่างไร

22

หนูรู้สึกผิดหวังจริ งๆ ถ้าไม่สามารถจะทาสิ่ งนี้ได้ อีกต่อไป

23

หนูทาสิ่ งนี้เพราะคนอื่นๆ บอกว่า หนูเก่งในเรื่ องนี้

24

หนูมีความสนุกสนานมาก เมื่อได้ทาสิ่ งนี้

25

หนูชอบทาสิ่ งนี้มากที่สุด เมื่อหนูทามันได้ง่าย

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


73

26

บางครั้ง หนูเหมือนลืมเวลา เมื่อได้ทาสิ่ งนี้

27

หนูมีความสนุกสนานในการทาสิ่ งนี้ เพราะหนูทา มันได้ดีกว่าเด็กคนอื่นๆ

28

หนูทาสิ่ งนี้เพราะจาเป็ นต้องทา

29

หนูหวังว่าสักวันหนึ่ง หนูจะมีชื่อเสี ยงจากการทา สิ่ งนี้

30

หนูคน้ พบสิ่ งใหม่ๆ ภายในตัวเอง เมื่อได้ทาสิ่ งนี้

31

หนูตอ้ งการที่จะได้รับรางวัลหรื อของขวัญจากการ ทาสิ่ งนี้

32

สิ่ งที่ทามีความสาคัญต่อหนูมาก

สิ่งทีอ่ าจเกิดขึน้ ระหว่ างการทาแบบสอบถาม ผมเคยให้คุณป้ าคนหนึ่งนาแบบทดสอบนี้ไปใช้กบั หลานสาว และ กลับมาเล่าให้ผมฟังว่า หลานชอบมากเลย แต่ช่วงแรกๆ ที่ทาแบบทดสอบ หลานจะงงๆ ว่า “สิ่ งนั้น” หลานก็งงว่าสิ่ งนั้นคืออะไร...? คุณป้ าจึงใช้วธิ ียกตัวอย่าง แทนคาว่า “สิ่ งนั้น” เช่น จากประโยคที่วา่ หนูชอบทาสิ่ งนั้น เราก็ลองเปลี่ยนเป็ นยกตัวอย่างให้เด็กฟังว่า เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


74

สิ่ งนั้นที่ เราพูดถึงก็คืออย่ างเช่ น...หนูชอบร้ องเพลง ชอบเล่นเปี ยโน ชอบขี่จักรยานด้ วยความอยากรู้ อยากเห็นจากตัวของหนูเอง ไม่ ใช่ เป็ นเพราะ คุณแม่ บังคับหรื อคุณครู สั่งให้ ทา ใช่ มยั้ คะ ปรากฎว่า บรรยากาศในการทาแบบทดสอบระหว่างคุณป้ ากับคุณ หลานสนุกสนานมาก เราลองทาแบบที่คุณป้ าเล่าให้ฟังก็ได้นะครับ นัน่ คือ การยกตัวอย่ าง ประกอบเพือ่ ความเข้ าใจยิง่ ขึ้นครับ

.....

ถ้ าทาเสร็จแล้ ว จะเฉลยแล้ วครับ Extrinsic Motivation คือ ข้อ 2, 5, 7, 8, 10, 12, 14, 17, 19, 21, 23, 25, 27, 28, 29, 31

คาแนะนา เป็ นแรงจูงใจภายนอก ผูป้ กครองควรหาวิธีการลดลง Intrinsic Motivation คือ ข้อ 1, 3, 4, 6, 9, 11, 13, 15, 16, 18, 20, 22, 24, 26, 30, 32

คาแนะนา เป็ นแรงจูงใจภายใน ควรรักษาการจูงใจภายในนี้ไว้ต่อไป

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


75

หยุด่ัวกำรทำลำยควำมคิด สร้ำงสรรค์

คาว่า “อย่า” อย่าทาอย่างนั้น อย่าทาอย่างนี้ หยุดพูดคาว่า “อย่า” เถอะครับ

อย่ าห้ ามอะไรทีม่ ันไม่ เป็ นอันตรายถึงชีวิต และ ร่ างกาย ไม่เดือดร้อนผูอ้ ื่น ปล่ อยให้ เขาทาเถอะ ผิดพลาดบ้ างก็ ให้ เกิดการเรียนรู้ไปเอง ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กๆ เขาเป็ นยังไงกันบ้าง? เขาคิดไป เรื่ อยๆ ใช่ม้ ยั ครับ? เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


76

เราเรี ยกการคิดอย่างนี้วา่

คิดด้ น หรื อ Divergent Thinking

แต่พอเริ่ มโตมาเป็ นผูใ้ หญ่มกั จะด้นไม่ค่อยออกเนอะ เพราะวันดีคืน ดี มีคนไปบอกเขาว่า "นี่เธอ...หยุดคิดได้ แล้ ว" "นี่เธอ....หยุดเพ้ อเจ้ อได้ แล้ ว" "นี่เธอ....คิดให้ มนั เหมือนคนอื่นเขาหน่ อยสิ " ดังนั้น จากความคิดทีเ่ ป็ นอิสระ

ทีค่ ดิ ไปเรื่อยๆ ก็เลย

มีกรอบมาครอบหัวเขาไว้ ซึ่งหน้าที่ของคุณพ่อแม่ผปู้ กครองอีกอย่าง หนึ่งก็คือ เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


77

พยายามอย่ าเอากรอบไปใส่ เด็ก เพื่อให้เด็กยังคงความคิด แบบ “คิดด้น" (Divergent Thinking) เอาไว้ได้ตลอดไปนะครับ จากประสบการณ์ที่ผมจัดอบรมเรื่ องความคิดสร้างสรรค์ให้กบั ผูใ้ หญ่มาเป็ นหมื่นๆ คน และผมถามคาถามว่า

อะไรคือกรอบทีข่ งั ความคิดของผู้ใหญ่ ไว้ ? คาตอบอันดับหนึ่งที่ออกมาคือเรื่ อง ความกลัว และใครเป็ นคนที่ใส่ความกลัวให้พวกเขา? พอมีความกลัวเยอะ มันก็ขงั ความคิดของเราไว้ ไม่ ใช่ คด ิ ไม่

ออกหรอก แต่คดิ แล้ วไม่ ยอมให้ ความคิดนั้นออกมา ดังนั้นถ้าเราทาลายความกลัวแล้ว ความคิดนั้นก็จะออกมา ผมย้านะครับว่า ไม่ใช่คิดไม่ออก แต่คิดแล้ว ไม่ยอมให้ความคิดนั้น ออกมา เพราะเรามักติดกรอบ และกรอบนั้นก็คือ “ความกลัว”

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


78

เมื่อเรารู ้ทนั แล้ว จากนี้ไปอย่ าไปใส่

"ความกลัว" ให้ กบั

ลูกหลาน ขอให้ใส่เฉพาะที่มนั จาเป็ นจริ งๆ เช่น ใส่ความกลัวเฉพาะเรื่ องที่ ถ้าเด็กทาแล้วเป็ นอันตรายต่อร่ างกายหรื อทาให้ผอู ้ ื่นเดือดร้อน นอกนั้นแล้ว อย่าไปกลัวเลยนะครับ

นอกจากนี้ความกลัวแล้ว มีเรื่ องอะไรอีกบ้างครับ? ที่ทาลาย ความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก แทบไม่น่าเชื่อว่า ยังมีกระสุ นทาลายความคิดสร้ างสรรค์

ของเด็กอีกหลายอย่าง มีอะไรบ้าง? มาดูกนั ครับ…

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


79

ปั ง้ ! กระสุ นทาลายความคิดสร้ างสรรค์ ลูกทีห่ นึ่ง คือ การประเมิน

การตาหนิจะทาลายความคิดสร้ างสรรค์ ของเด็ก เป็ นต้นว่า "ไม่สวย ไม่ดี ไม่เข้าท่าเลย" แต่ที่น่าแปลกไปกว่านั้นคือ การชมเชยก็ทาลายและลด

ความคิดสร้ างสรรค์ ลงได้ ทาไมมันเป็ นแบบนั้นได้ล่ะครับ!? เพราะเมื่อได้รับคาชมแล้วก็จะไม่พฒั นาต่อ หยุดแล้ว จบแค่น้ นั เลย ได้ผลงานแบบเป็ นความคิดเดิม ดังนั้น ไม่วา่ จะตาหนิวา่ ไม่ดี หรื อชมเชยว่าดี ก็คือ การประเมินทั้งคู่ ซึ่งจะทาให้ความคิดสร้างสรรค์ลดลง และทาลายความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก ลง เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


80

ถ้าเราทาให้ลกู หลานรู้ สึกว่ ากาลังถูกเฝ้ ามองอยู่กท ็ าลาย

ความคิดสร้ างสรรค์ ครับ เคยมีนกั วิจยั สงสัยว่า “ระหว่างปล่อยให้เด็กทาอะไรต่อมิอะไรต่างๆ ได้เอง กับ คอยมองดูอยู่ แล้วผลลัพธ์ของความคิดสร้างสรรค์จะเป็ นอย่างไร? จากการวิจยั ศึกษาพบว่า พ่ อแม่ ทม ี่ ีลกู คิดสร้ างสรรค์ เขาจะ

ปล่ อยลูกให้ ทากิจกรรมต่ างๆ เต็มที่ มีอิสระ แต่ กม็ ีกฎ กติกามารยาททีต่ กลงร่ วมกัน เช่น อย่าทาเลอะเทอะนะลูก ลองมาจับเข่าคุยกันใหม่หน่อยนะครับคุณพ่อคุณแม่วา่ เราประเมิน ไอเดียของลูกบ้างมั้ย เราไปประเมินลูกมากน้อยแค่ไหน "อันนี้ดีนะลูก" "อันนี้ห่วยนะลูก" บางทีเราอาจเผลอเนอะ เผลอไปประเมินไอเดียเขา แนะนาแนวทางขจัดกระสุ นลูกที่ 1 พยายามหยุดตัวเอง ปิ ดปากตัวเอง กัดลิ้นตัวเอง (ล้อเล่นครับ) เมื่อ รู ้สึกอยากจะประเมิน เพราะการประเมินความคิดจะไปทาลายความคิด สร้างสรรค์ของลูกเรานัน่ เองครับ เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


81

ปั ง้ !

โป้ง!

กระสุ นทาลายความคิดสร้ างสรรค์ ลูกทีส่ อง คือ การให้ รางวัล

เด็กคิดสร้างสรรค์เพราะเขาอยากทา เกิดจากแรงจูงใจภายใน (Intrinsic Motivation)

ถ้าเราไปให้ของรางวัลจะเป็ นการเพิม่ แรงจูงใจภายนอก (Extrinsic Motivation)

แทนที่แรงจูงใจภายในจะแข็งแรง กลับกลายทาให้ยงิ่ อ่อนแอลง การให้รางวัลเป็ นการทาลายแรงจูงใจภายใน (Intrinsic Motivation) อ้าว...ทาไมล่ะครับ?

ผมขอถามว่าเด็กคิดสร้างสรรค์เพือ่ ความมันส์ หรื อทาเพื่อให้ได้ รางวัล …เด็กทาเพราะเขาสนุก มันส์ การมุ่งให้ได้รางวัลจะลดการสารวจไอเดียอื่นๆ เพิ่มเติมอีก เพราะแค่ไอเดียมาสองสามไอเดียก็ได้รับรางวัลแล้ว ก็จะจบแค่น้ นั ไม่มีไอเดียที่ 4,5,6… อีกต่อไป

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


82

แนะนาแนวทางครับ ลองเปลี่ยนจากการให้รางวัล เป็ น “การให้โบนัส” แทน เพราะ การที่ลูกคิดอะไรดีๆ แปลกๆ ออกมาเท่ากับว่าเขาได้รางวัล จากความมันส์ที่ได้คิดไปแล้ว ส่วน “การให้โบนัส” เป็ นเหมือนผลพลอยได้ที่เรามอบให้เขาจาก การที่เขาได้คิดโดยไม่ได้คาดหวังมาก่อนว่าจะได้รับ แปลไทยเป็ นไทยให้ เข้าใจมากขึ้นระหว่างความแตกต่างของคาว่า “รางวัล” กับ “โบนัส” ว่า

การให้ รางวัลเป็ นตัวล่อเพื่อให้เด็กคิดสร้างสรรค์ออกมา ส่วนการให้ โบนัสเป็ นของขวัญพิเศษที่ให้หลังจากที่เด็กคิด สร้างสรรค์ออกมาแล้วโดยไม่มีเงื่อนไขนัน่ เอง

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


83

ปั ง้ !

โป้ง!

ปั ง้ !

กระสุ นทาลายความคิดสร้ างสรรค์ ลูกทีส่ าม คือ การแข่ งขัน

เราจัดให้มีการแข่งขันกันในบ้านบ้างมั้ยครับ? แข่งอย่างอื่นโอเคนะ แข่งวิง่ เร็ วได้ ยิง่ แข่งเท่าไหร่ ยงิ่ วิง่ เร็ วเท่านั้น แข่งความรู ้ แข่งท่องจา ดีครับ ยิง่ แข่งเท่าไหร่ ยงิ่ จาได้ ยิง่ แม่นยา ยิง่ จาได้มากขึ้นเท่านั้น ยกเว้นในเรื่ องความคิดสร้างสรรค์ ยิง่ แข่งเท่าไหร่ ยิง่ ลดลงเท่านั้น มีการทดลองให้เด็กแบ่งเป็ น 2 กลุ่มเหมือนๆ กัน แล้วปล่อยให้ ทางานศิลปะ โดยแบ่งทีมเป็ น 2 กลุ่ม ได้แก่ ทีมที่มีการแข่งขัน กับอีกทีมที่ไม่ มีการแข่งขัน ไม่มีการประเมิน แถมไม่ให้รางวัลด้วยนะ ถามว่า...ทีมไหนจะคิดสร้างสรรค์มากกว่ากัน หลังจากส่งผลงานให้ผเู ้ ชี่ยวชาญด้านความคิดสร้างสรรค์พิจารณา ผลปรากฎว่า ทีมที่ไม่มีการแข่งขัน ไม่มีการประเมิน ไม่ให้รางวัล มีผลงาน ออกมาสร้างสรรค์มากกว่า มีไอเดียเจ๋ งล้ าเลิศกว่าทีมที่มีการแข่งขัน มีการ ประเมิน และมีการให้รางวัลอีกนะครับ เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


84

กระสุนลูกที่สามเป็ นลูกผสมของการประเมิน และการให้รางวัล การประเมินว่าคนนี้ดีกว่าคนโน้น ประเมินว่าไอเดียนี้ ดีกว่าไอเดีย โน้น ซึ่งต้องผ่านการประเมินใช่ม้ ยั ครับ? ถึงจะได้ผชู ้ นะเลิศ แล้วจึงให้รางวัล เรื่ องการแข่งขันเนี่ยสองเด้งเลยครับ เจอเข้าไปสองลูกกระสุน โป้ ง โป้ ง สลบ... ยิง่ ให้มีการแข่งขันมากเท่าไหร่ ก็ยงิ่ ลดความคิดสร้างสรรค์ลงเท่านั้น แนะนาแนวทางครับ ถ้าอยากให้รางวัล อาจทาด้วยการจับสลาก คนที่ได้รางวัลไปก็ เพราะว่าโชคดี หรื อจะให้รางวัลกับทุกคนเลยก็ได้ ไม่วา่ กัน ขอย้านะครับว่า ไม่ควรใช้การแข่งขันกับเรื่ องความคิดสร้างสรรค์ ส่วนการแข่งขันด้านอื่นๆ เช่น แข่งเรี ยน แข่งเกรด แข่งเป่ ากบ แข่ง ว่ายน้ า แข่งกินเก่ง แข่งล้างจาน แข่งสวดมนต์ แข่งฯลฯ...นั้น ยิง่ แข่ง ยิง่ เก่ง ครับ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


85

ปั ง้ !

โป้ง!

ปั ง้ !

ป้าง!

กระสุ นทาลายความคิดสร้ างสรรค์ ลูกทีส่ าม คือ การจากัดทางเลือก

การจากัดทางเลือก หมายความว่า การปิ ดโอกาสไม่ให้มีไอเดียที่ หลากหลายครับ ทาให้ลดความน่าสนใจในการคิดสร้างสรรค์ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ กล่าวในตอนที่เรี ยนหนังสื อว่า....

“การถูกจากัดว่ าจะต้ องเรียนอะไร เรียนอย่ างไร เป็ นความเจ็บปวดในการคิดสร้ างสรรค์ ของไอน์ สไตน์ ” ลองเปลี่ยนมาคิดเยอะๆ หาทางเลือกเยอะๆ จาได้ม้ ยั ครับว่า ไอเดียหลังๆ จะสร้างสรรค์มากกว่าไอเดียแรกๆ ถ้าเราไปจากัดทางเลือก เราจะได้แค่ไอเดียที่ใกล้ตวั ซ้ าเดิม

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


86

แต่ถา้ มีทางเลือกเยอะๆ ก็จะยิง่ ฉี กกรอบ และแปลกแหวกแนวไป จากรู ปแบบเดิมๆ

วิธหี ลบกระสุน...เสริมเกรำะให้ ควำมคิดสร้ำงสรรค์ 

เปลี่ยนจากการเสนอรางวัลก่อนคิดสร้างสรรค์ เป็ นการให้โบนัสใน ภายหลังคิดไปแล้ว เรี ยกว่าเป็ นผลพลอยได้ ลูกของเราจะไม่รู้วา่ ถ้า คิดแล้วจะได้รางวัล เราควรให้รางวัลโดยทาให้ลูกประหลาดใจ ไม่ คาดคิดว่าจะได้รางวัล

ไม่ควรมีเงื่อนไขในการให้รางวัลก่อนให้ลูกคิดสร้างสรรค์

ถ้าจะมีการประกวดแข่งขัน ควรทาเพื่อให้เกิดบรรยากาศของความ ตื่นเต้น สนุกสนาน ไม่ได้ทาเพื่อที่จะเอาชนะ

ไม่มีขอ้ จากัดในการคิดสร้างสรรค์เพื่อความสนุกในการคิดและทา แต่ตอ้ งจากัดพฤติกรรมที่อาจส่งผลเสี ยต่อตนเองและผูอ้ ื่น

ข้อห้ามดังกล่าวนี้ เราไม่ ได้ ห้ามเขาคิด

ไม่ ได้ ห้ามให้ เขา

สนุก และ ไม่ได้หา้ มแรงจูงใจภายใน (Intrinsic Motivation) เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


87

แต่จากัดพฤติกรรมที่อาจส่งผลเสียต่อตนเองและผูอ้ ื่น แยกระหว่าง ความคิด อารมณ์ ความสนุก และพฤติกรรม

???????????????????????????????? โปรดให้เด็กเป็ นผูเ้ ลือกด้วยตัวเองที่จะประพฤติตวั อย่างเหมาะสม ??????????????????? ?? มาสนุกกัน ?? ?? คาถามเพิม่ ความคิดสร้างสรรค์ ?? ?? ?? ?? งอู ะไรทาเหมือนหมา? ?? ?? ...ติ๊กต๊อกๆๆๆ ?? ?? ได้คาตอบยังครับ แม้วา่ จะยาก แต่ไม่เลิกคิด ?? ?? . . . . . . . ?? ?? ?? ?? ยอมยัง ยอมยัง ?? ?? ?? ?? ?? ?? ?? !

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


88

ตอบ: งูเห่ าไงครับ (โฮ่ง โฮ่ง)

???????????????????????????????? ???????????????????

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


89

ขอร้องคุณพ่อคุณแม่อย่ำคิดแบบนี้

มีความคิดบางอย่างที่คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองอาจมีโดยที่ไม่รู้ตวั ว่ามัน เผลอไปทาลายความคิดสร้างสรรค์ของเด็กเข้า ซึ่งถ้าเรารู ้ เราคงเปลี่ยน ความคิดใช่มย๊ั ครับ มีทศั นคติอะไรบ้างครับที่คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองควรปรับ ตัวอย่างเช่น

อย่ าคิดว่ าเด็กทาไม่ ได้ รู ้ม้ ยั ครับว่า? เด็กเขามีอะไรมากกว่าที่เราคิดนะ ขอให้เราได้ปลดปล่อยเขาออกมาเถอะ รับรอง "ไม่ธรรมดา"

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


90

มาดูสิครับว่า ทัศนคติของเด็กเด็กเป็ นอย่างไรบ้าง? โดยผ่านบทเพลงนี้ “The Wall” ของ Pink Floyd We don’t need no education

"เด็กเขามีทศั นคติว่า เขาไม่ ต้องการการศึกษาหรอก" We don’t need no thought control

"เด็กเขาไม่ ต้องการอะไรมาควบคุมความคิดเขาหรอก" No dark sarcasm in the class room

“เด็กเขาบอกว่ า อย่ ามีการเสียดสีในห้ องเรียนนะ” Teacher, leave them kids alone

“คุณครู ปล่ อยเด็กๆ อย่ าไปยุ่งกับเขามากเลย” Hey! Teacher, leave them kids alone

“คุณครู ปล่ อยเด็กๆ อย่ าไปยุ่งกับเขามากเลย” You’re just another brick in the wall

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


91

“คุณคืออิฐอีกก้อนหนึ่งในกาแพง ทีไ่ ปก่อเป็ นกาแพงล้ อมกรอบความคิด กักกันความคิดของเด็ก”

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


92

เพลงข้างต้นนี้ อาจจะพูดถึงคุณครู แต่ผมก็อยากจะฝากถึงคุณพ่อแม่ผปู ้ กครองด้วยว่า เราอย่ าเป็ นอิฐอีกก้ อนหนึ่งในกาแพงทีล่ ้ อมกรอบ

ความคิดของเด็กนะครับ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


93

อยำกให้ลูกเป็นเด็กสร้ำงสรรค์...คุณ พ่อคุณแม่ควรคิดอย่ำงไร? 1.

ให้ เสรีภาพแก่ลูกหลาน โดยลองนา “หลักการ 4 ไม่” ไปใช้

พ่อแม่ไม่ ควรวางอานาจ เช่น นี่ฉนั เป็ นแม่เธอนะ! (ประโยคนี้ ...โดนใจหลายคน)

ไม่ กลัวจนเกินไป เมื่อเด็กทาอะไรเสี่ยงๆ ถ้าไม่ถึงกับบาดเจ็บ ไม่เลือดตกยางออก ไม่ถึงแก่ชีวติ ปล่อยเขาเสี่ ยงเถอะครับ ให้ เสรี ภาพกับเขา ทาไมเราถึงเน้นการกล้าเสี่ ยง? จาได้ม้ ยั ว่า? กรอบที่ครอบความคิด

ของผูใ้ หญ่คืออะไรครับ? ความกลัวใช่ม้ ยั ? ความกลัวกับความกล้ามันตรงข้ามกัน คนที่ข้ ีกลัวมักจะไม่กล้าเสี่ ยง ทาอะไรก็กลัวไปหมด ดังนั้น จึงพยายามเน้นว่าให้เด็กเขาทาอะไรเสี่ ยงๆ บ้าง

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


94

พอเขากล้าเสี่ ยง "ทาแล้วไม่เจ็บหรอก ไม่เลือดตกยางออกหรอก ไม่ ถึงตายหรอก ทาไปเถอะลูก" อีกหน่อยพอโตขึ้น เขาจะไม่มีกรอบความกลัว และพอไม่มีกรอบความกลัว ก็ไม่มีอะไรไปสกัดกั้นความคิดเขา เขาก็จะไม่มี อาการคิดแล้ว ไม่ยอมให้ความคิดมันออกมา แต่เขาจะคิดแล้วให้ความคิดนั้น ออกมาได้ 

ไม่ ห้ามเด็กทากิจกรรมต่ างๆ เราไม่ควรห้ามตรงๆ...แต่ควร ถามคาถาม และชวนให้เด็กฝึ กคิด เช่น “เอ๊ะ...ลูกทาแบบนี้ จะทาให้พอ่ แม่เดือดร้อนมั้ยคะ?” “เอ๊ะ...ถ้าลูกทาแบบนี้จะทาให้คุณอาเดือดร้อนมั้ยเอ่ย?” ถ้าตอบว่า ไม่เดือดร้อนก็ทาเถอะลูก

ไม่ ควบคุมจนเกินไป ควรปล่อยให้ทากิจกรรม หรื อให้ ลูกเล่นตามลาพัง ปั้ นอะไรก็ได้ คิดเอาเองลูกเอ้ย แต่ไม่ใช่บอกว่า แม่อยากได้โดเร

มอนลูกปั้ นโดเรมอนให้แม่หน่อยนะ ลองปล่อยให้เขาคิดเองว่าอยากปั้ นอะไร รางวัลที่ได้คือความสนุก แต่ผลที่ได้ยงิ่ ใหญ่กว่านั้นครับ นัน่ คือ การ พัฒนาอิสรภาพทางความคิดของเด็กให้เกิดขึ้นและติดตัวเขาตลอดไป เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


95

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


96 2.

ยอมรับนับถือในตัวลูกของเรา

ยอมรับนับถือลูก เช่น ไม่เข้าห้องเด็กโดยไม่ได้เคาะประตูก่อน นี่คือ การแสดงออก

ในเรื่ องการให้ความเคารพ แม้วา่ เขาจะเป็ นลูกเรา แม้วา่ เขาจะอายุนอ้ ยกว่า ไม่ได้หมายความว่า เขามีความเป็ นคนน้อยกว่าเรานะ เพียงแต่เขาเกิดหลังเราเท่านั้นเอง ฉะนั้น ความเป็ นคนเท่ากัน ถ้าเราขออนุญาตเขา เวลาเขาอยากได้ อะไรเขาก็จะขออนุญาตเราเหมือนกัน นัน่ คือ ความเท่าเทียม เป็ นหนึ่งสิ่ งที่ทาให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ หากเราเริ่ มปฏิบตั ิให้เขาดูเป็ นตัวอย่างก่อน เด็กก็จะซึมซับและปฏิบตั ิตามโดย ผูป้ กครองไม่ตอ้ งพยายามสอนในภายหลัง 

มั่นใจในความสามารถและความเป็ นเอกลักษณ์ ของ เขาอย่างที่เขาเป็ น พ่อแม่หลายคนชอบพูดกับลูกว่า ไม่เห็นเป็ นเหมือนลูกข้างบ้านเลย

“ห้ามเปรี ยบเทียบเด็ดขาด” นะครับ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


97 

ชื่นชมในความเป็ นความเป็ นดั้งเดิม (Originality) ความเป็ นต้นฉบับอย่างที่เขาเป็ น เขาวาดอะไรมา เขาคิดอะไรมา เขาประกอบอะไรมา เขาประดิษฐ์

อะไรมา เขาปะปะแปะแปะอะไรมา มันอาจจะดูไม่สวยเหมือนอย่างงานฝี มือ รู ปการ์ตูนเขาอาจจะไม่มีลายเส้นเหมือนอย่างคนวาดโดเรมอน เส้น อาจจะขะหยุกขะหยักขะหยุกขะหยุย ให้ชื่นชมในความขะหยุกขะหยักขะหยุกขะหยุยที่ไม่เหมือนใคร ประเด็นสาคัญคือ เรากาลังให้เขามีความเชื่อมัน่ ในฝี มือ ในความคิด และในทักษะของตัวเขาเอง ยิง่ ถ้าเด็กมีความเชื่อมัน่ มากเท่าไหร่ ยิง่ ทาให้มีความคิดสร้างสรรค์ มากยิง่ ขึ้นเท่านั้น

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


98 3.

ความใกล้ ชิดทางอารมณ์ …แค่ ไหนถึงจะสร้ างสรรค์ ปกติแล้ว เราให้ความอบอุ่นกับลูกหลานแบบเต็มที่เลยมั้ยครับ? ความอบอุ่นเป็ นเรื่ องสาคัญ... แต่สาหรับการฝึ กทักษะความคิด

ความใกล้ชิดของคนในครอบครัวอาจจะไม่จาเป็ นต้องมีมาก การวิจยั พบว่า ครอบครัวที่เด็กมีความคิดสร้างสรรค์สูง จะไม่มี ความเป็ นเอกภาพ (Unity) มากนัก ออกแนวแบบครอบครัวที่ไม่ค่อยคิดคล้อยตามกันเท่าไหร่ นกั สมาชิกอาจจะคิดต่างกัน ถกเถียงกันในบางเวลา ถ้าคิดเหมือนกันแล้วเป็ นไงครับ? ...ก็จะคิดตามๆ กันไปใน ความคิดที่มีอยูเ่ ดิมเดิม ไม่มีส่ิ งแปลกใหม่ การวิจยั พบว่า ครอบครัวที่สร้างสรรค์จะมีความสัมพันธ์อบอุ่นไม่ มากนัก เป็ นประมาณปานกลาง (แต่ก็ไม่ถึงกับต้องทาให้ครอบครัวที่อบอุ่นดี อยูแ่ ล้วต้องแตกแยกนะครับ) เพราะอะไรครับ? ให้ความอบอุน่ มากแล้วมันไม่ดีเหรอ พออบอุ่นมากมันมีเยือ่ ใยต่อกันมาก มีส่ิ งที่เรี ยกว่า Dependendcy มีการพึ่งพิงกันมาก ก็เลยขาดความเป็ นตัวตน ฉะนั้น พยายามทาให้เด็กไม่ตอ้ งมาอิงพ่อแม่มากเกินไปนัก เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


99

แต่ตอ้ งให้รู้วา่ “รักนะ จุ๊บ จุบ๊ ” และยอมรับในความเป็ นตัวเขานะครับ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


100 4.

เน้ นทีค่ ุณค่ า...มิใช่ กฎ พบว่าบ้านที่เด็กมีความคิดสร้างสรรค์สูง มักมีกฎในบ้านไม่มากนัก มาลองทายกันเล่นๆ ครับว่า ครอบครัวเด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์

ปานกลาง เฉลี่ยแล้วบ้านหนึ่งมีกฎในบ้านสักกี่ขอ้ ? และบ้านของเด็กที่มี ความคิดสร้างสรรค์มาก มีกฎในบ้านเฉลี่ยสักกี่ขอ้ ? เดาครับ...เดาเล่นๆ มีขอ้ มูลจากประเทศสหรัฐอเมริ กาพบว่า บ้ านของเด็กทีม ่ ี

ความคิดสร้ างสรรค์ ปานกลางจะมีกฎในบ้ านเฉลีย่ 6 กฎ ต่างจากบ้ านของเด็กทีม ่ ีความคิดสร้ างสรรค์ สูงเฉลีย่

น้ อยกว่ า 1 กฎ สงสัยมั้ยครับว่า? ทาไมน้อยกว่า 1 กฎ เพราะบางบ้ านอาจจะไม่ มีกฎเลย ค่าเฉลี่ยจึงออกมาน้อยกว่า 1 กฎ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


101

บ้ านทีเ่ ด็กมีความคิดสร้ างสรรค์ สูง มีกฎน้ อยครับ แต่ มีการตั้งคุณค่ า

(Value) ว่า บ้านเราให้คุณค่า (Value) กับอะไร? แล้วให้

เด็กตัดสิ นใจเองว่าจะประพฤติอย่างไร? เพื่อให้ได้ตามคุณค่านั้น เช่น บ้านเรานะให้คุณค่าเรื่ องความกตัญญู ดังนั้น ไม่มีกฎว่า วันแม่ วันพ่อของทุกปี ลูกจะต้องเอาพวงมาลัยมาไหว้มากราบพ่อแม่นะ คุณค่าบ้าน เราคือความกตัญญู พฤติกรรมอะไรที่ทาแล้วจะบรรลุเรื่ องความกตัญญูให้ ตัดสิ นใจเอาเอง ไม่ได้เป็ นกฎเป็ นกติกาครับ ตัวอย่างคุณค่าภายในบ้าน เช่น บ้านเราให้คุณค่าเรื่ องการเรี ยนเป็ น สาคัญ หรื อให้คุณค่าเรื่ องสุขภาพแข็งแรง อารมณ์แจ่มใส ดังนั้น ต้องเข้านอน เร็ วจะได้ไม่ป่วย สมองปลอดโปร่ ง ส่งผลให้สุขภาพแข็งแรง อาจมีขอ้ สงสัยอีกว่า ถ้ามีกฎน้อย ระเบียบวินยั จะไม่หย่อนยาน เหรอ? การวิจยั พบอีกว่า เด็กๆ ในบ้ านทีม ่ ีกฎน้ อย

แต่ มีการตั้ง

คุณค่ า จะมีปัญหาด้ านระเบียบวินัยน้ อยกว่ าบ้ านทีม่ ีกฎ มากมาย แต่ ไร้ คุณค่ า ทีน้ ีถา้ หากจาเป็ นต้ องมีกฎล่ะครับ?

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


102

สามารถทาได้ดว้ ยการเชื่ อมโยงกฎเข้ ากับแรงจูงใจภายใน (Intrinsic motivation) เช่น พ่อแม่อยากจะมีกฎเหลือเกินว่า เล่นแล้วต้องเก็บของเล่นนะ ห้ามทิ้งไว้เลอะเทอะ ช่วยเติมเข้าไปในแรงจูงใจภายใน (Intrinsic motivation) ด้วยครับ ตัวอย่างการเชื่อมโยงกฎเข้ากับแรงจูงใจภายใน เช่น  การเก็บของเล่นให้เข้าที่ “เล่นแล้วเก็บของเล่นเข้าที่ดว้ ยนะลูก” (นี่ คือกฎนะ) ครั้งต่อไปจะได้หยิบมาเล่นได้เลย สนุกต่อได้เลย ไม่ตอ้ ง มานัง่ หา ไม่ตอ้ งมาถามว่าของเล่นหนูอยูท่ ี่ไหน เก็บให้เข้าที่เข้าทาง นะ (นี่คือ แรงจูงใจ... ชิมิ)”  ระวังอย่าให้แต่กฎเพียงอย่างเดียว เช่น อย่าบอกเพียงแต่วา่ “ห้าม เปิ ดฝากล่องดินน้ ามันทิ้งไว้นะ” (นี่คือ กฎล้วนๆ) แต่น่าจะพูดว่า “ก่อนที่จะเล่นปั้นดินน้ ามันกัน แม่ขอคุยเรื่ องที่น่าเบื่อๆ นิดหน่อย ก่อนนะว่าจะทายังไงดีล่ะเวลาเราปั้ น หากดินเหลือแล้วเราสามารถ นามาปั้ นครั้งต่อไปได้อีก” แต่ถา้ ลูกเปิ ดฝาทิ้งไว้มนั จะแห้งนะ ถ้า งั้นเราควรดึงเฉพาะดินที่เราจะปั้น ดึงออกมา แล้วที่เหลือก็ปิดไว้ คราวหน้าเราจะได้มาสนุกกับมันอีก โดยที่มนั ไม่แข็งตัว (นี่คือ แรงจูงใจ)

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


103

สรุ ปว่า ควรบอกกฎ

แจ้ งกติกาซะก่อน และพยายาม

หาทางเชื่อมโยงเข้ าไปที่แรงจูงใจภายใน (Intrinsic Motivation) ด้วยนะครับ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


104 5.

ความสาเร็จ ไม่ ใช่ เกรด พ่อแม่ที่มีทศั นคติเอื้ออานวยต่อความคิดสร้างสรรค์ของเด็กจะไม่

ค่อยคิดคานึงถึงเกรดผลการเรี ยนเท่าไหร่ ครับ แต่จะคานึงถึงความสาเร็ จ มากกว่า พ่อแม่กลุ่มนี้จะสนับสนุนให้เด็กทาดีที่สุดเพื่อบรรลุส่ิ งที่ยอดเยีย่ ม พ่อแม่กลุ่มนี้จะบอกว่า เกรดสูง หรื อไอคิวสูงมีความสาคัญน้อยกว่า การที่ลูกมีจินตนาการ และความซื่อสัตย์ พ่อแม่กลุ่มนี้จะเชื่อมโยงเกรดเข้ากับแรงจูงใจภายใน (Intrinsic motivation)

เช่น การเรี ยนให้ได้เกรดดี จะช่วยทาให้ลูกเลือกเข้าเรี ยนคณะที่ลูก ชอบได้ตามอัธยาศัย ซึ่งวิธีการนี้จะทาให้เด็กรู ้จกั คิดเชื่อมโยงและรู ้จกั กระตุน้ ตัวเองให้ ประสบความสาเร็ จ โดยอาศัย แรงจูงใจภายใน (Intrinsic motivation) นัน่ เอง

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


105 6.

พ่ อแม่ ทเี่ ลีย้ งลูกให้ สร้ างสรรค์ มักมีทศั นคติทเี่ ป็ นอิสระ และแอ็ค ทีฟ (Active)

พ่อแม่มกั รู ้สึกมัน่ คงในตนเอง มีความเชื่อมัน่ ไม่ตอ้ งพึ่งแบรนด์ เนม

ไม่ค่อยคานึงถึงสถานภาพทางสังคม ไม่ตามกระแสสังคม ใครจะ ขับรถเบนซ์เรื่ องของเขา ฉันอยากขับนิสสันมาร์ช

มีความสามารถสูง และมีความสนใจในสิ่ งที่หลากหลาย ชอบอะไร หลายๆ อย่าง ชอบดูหนังหลายประเภท ชอบไปดูโชว์ดว้ ย ชอบไป งานวัดด้วย ชอบไปงานอีเวนท์ดว้ ย ชอบอะไรที่หลากหลาย

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


106 7.

เป็ นพ่ อแม่ ทเี่ ห็นคุณค่ าของความคิดสร้ างสรรค์

 ให้เด็กรู ้สึกมัน่ ใจว่า พ่อแม่ให้การสนับสนุน ไม่ใช่เป็ นเงื่อนไขนะ ไม่ได้ทาเพราะพ่อแม่สนับสนุนนะ แต่มน่ั ใจ ว่า ไม่วา่ จะทาอะไรก็แล้วแต่ พ่อแม่จะให้การสนับสนุน  ปลื้มปิ ติที่เห็นลูกแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์  เป็ นคู่หูบดั ดี้กบั ลูกทากิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ ร่ วมกัน

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


107 8.

เป็ นพ่ อแม่ ทมี่ วี สิ ัยทัศน์ เราควรเป็ นพ่อแม่ที่มีความเป็ นตัวของตัวเอง ควรตระหนักอยูเ่ สมอว่าคุณธรรมและความรับผิดชอบที่เด็กพึงมีตอ่

สถานการณ์ต่างๆ ในอนาคตเป็ นเรื่ องสาคัญมากสาหรับเด็กๆ ดังนั้นจึงควร สอดแทรกคุณธรรมและความรับผิดชอบควบคู่ไปกับพรสวรรค์ดา้ นความคิด สร้างสรรค์ที่เด็กมีอยู่ เพื่อให้มีความคิดที่สร้างสรรค์ (Creative) แบบ สร้างสรรค์ (Constructive) ไม่ใช่แบบทาลาย (Destructive) มองว่าเด็กสามารถทาสิ่ งสร้างสรรค์ที่ยงิ่ ใหญ่ได้ตามพรสวรรค์และ ทักษะตามที่เด็กมี พ่อแม่พวกนี้จะมองว่าเด็กแต่ละคนจะมีพรสวรรค์ที่ แตกต่างกัน และพ่อแม่จะเข้าใจลูกตนเองว่ามีพรสวรรค์ดา้ นใด ให้เขาเป็ น แบบที่เขาเป็ น 9.

ขาขา ฮา ฮา กร๊ ากๆ พบว่าบ้านที่เด็กมีความคิดสร้างสรรค์เนี่ย จะมีมุกฮาตรึ ม คุยกันทั้ง

วัน มุกเพียบ ปล่อยมุกกันป๊ าปๆๆ 

อากันแหลก หยอกล้อ เพื่อกระตุน้ ความคิดใหม่ๆ

มีภาษาและคาศัพท์ที่รู้กนั และใช้กนั เฉพาะในครอบครัว ตรงนี้ น่าสนใจมาก ผมอยากชวน ให้ลองทาดูนะครับ ลองตั้งภาษา เล่นๆ กันในบ้านดีม้ ยั ? ขาขา

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


108

อาจจะเป็ นภาษาที่มีความหมายใกล้เคียง หรื อมีเสี ยงพ้อง เสี ยงเลียนแบบ ตัวอย่างเช่น เรามาหาคาใหม่ที่ใช้แทนคาว่า "สวัสดี" กันในบ้านดีกว่า เอาแบบความหมายเหมือนนะ เช่น ...ปิ ติพบ "เจอกันแล้ว ดีใจไง" หรื อใช้เสี ยงใกล้เคียง "สวีดดั " หรื อต่างภาษา เช่น ธรี โคลกู๊ด "Three Cold Good = ซาหวัด ดี*

*ซา ภาษาจีนแปลว่าสาม = Three หวัด ภาษาอังกฤษ = Cold ดี ภาษาอังกฤษ = Good

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


???????????????????????????????? ??????????????????? ?? มาสนุกกัน ?? ?? คาถามเพิม่ ความคิดสร้างสรรค์ ?? ?? ?? ?? ปลาอะไรสุภาพทีส่ ุ ด? ?? ?? ...ติ๊กต๊อกๆๆๆ ?? ?? ได้คาตอบยังครับ แม้วา่ จะยาก แต่ไม่เลิกคิด ?? ?? . . . . . . . ?? ?? ?? ?? ยอมยัง ยอมยัง ?? ?? ?? ?? ?? ?? ตอบ ปลาคร๊าฟฟฟ (ครับผม...สุภาพที่ซู๊ด) ?? ?? ?? ?? ?? ????????????????????????????????

109

!

:

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


110

วิธีแปลงบรรยำกำศในบ้ำนให้ สร้ำงสรรค์

ผมอยากชวนทุกท่านทาแบบประเมินวัดบรรยากาศความคิด สร้างสรรค์ภายในบ้าน ซึ่งมีท้ งั หมด 50 ข้อ กรุ ณาเลือกในสิ่ งที่บา้ นเราเป็ น จริ งๆ จะได้รู้วา่ บรรยากาศในบ้านเอื้อต่อความคิดสร้างสรรค์ของลูกหลาน มากน้อยแค่ไหน เชิญสนุกสนานกับการทาแบบทดสอบได้เลยครับ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


111

แบบประเมินบรรยากาศความคิดสร้ างสรรค์ในบ้ าน หมายเหตุ ให้สอบถามคุณพ่อแม่ผปู ้ กครองและลูก..ช่วยกันตอบนะครับ เพียง ตอบว่า “ใช่” หรื อ “ไม่ใช่” ในข้อต่างๆ ข้ อ

คาถาม หนูสามารถที่จะถามคาถาม โดยไม่ตอ้ งกังวลว่ามัน

1

จะทาให้หนูดูโง่ หนูมีทางเลือกมากมายในการทาสิ่ งใดสิ่ งหนึ่งให้

2

สาเร็ จ

3

หนูมกั จะรู ้วา่ จะได้อะไร ถ้าหนูทาสิ่ งนั้นได้ดี

4

มันมีกฎเกณฑ์มากมายในบ้านนี้ หนูมกั จะถูกถามว่า หนูมีความคิดอย่างไรในเรื่ อง

5

ต่างๆ ที่เกิดขึ้น

6

ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงสิ่ งต่างๆ ในบ้านนี้

7

หนูตอ้ งได้รับอนุญาตก่อนที่จะทาอะไรใหม่ๆ

8

คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองให้ความสนใจในสิ่ งที่หนูพดู

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


112 9

สิ่ งที่สาคัญที่สุดในบ้านนี้คือ การเป็ นคนที่ดีที่สุด คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองสนับสนุนหนูให้มีความคิด

10

สร้างสรรค์

11

มักจะมีคนบอกหนูวา่ ควรจะทาสิ่งต่างๆ อย่างไร คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองมักจะจับตามองหนูวา่ หนูจะ

12

ทาอะไร และจะทาอย่างไร คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองสนับสนุนให้หนูคน้ หาวิธีการ

13

ทาสิ่ งต่างๆ ด้วยตัวเอง

14

มีการแข่งขันมากมายในบ้านหนู

15

หนูแสดงความเห็นได้วา่ หนูจะทาอะไรในบ้าน

16

หนูรู้เหตุผลเบื้องหลังของกฎต่างๆ ที่มีข้ ึนในบ้าน

17

หนูได้รับอนุญาตให้ทาในสิ่ งที่หนู พอใจที่จะทา ความคิดของหนูมีส่วนสาคัญในการตัดสิ นใจใน

18

บ้านนี้ คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองให้สินบน เพื่อให้หนูทาในสิ่ งที่

19

เขาต้องการ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


113 20

คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองชอบทาในสิ่งที่สร้างสรรค์

21

หนูถูกลงโทษเมื่อทาผิดพลาดในบ้าน

22

คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองชอบในสิ่ งที่เขาทา

23

คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองมีความอดทนกับหนู

24

หนูตอ้ งไม่มีปากเสี ยงในบ้าน คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองสนับสนุนให้หนูคิดหาทาง

25

ใหม่ๆ ในการทาสิ่ งต่างๆ

26

การทางานเป็ นสิ่ งที่สนุกสนานในบ้านนี้ สิ่ งที่ทาส่วนใหญ่ก็เพื่อที่จะให้คุณพ่อแม่ผปู ้ กครอง

27

ของหนูพอใจ หนูได้พบผูใ้ หญ่ที่มีความแตกต่างหลากหลายและ

28

น่าสนใจในบ้านนี้

29

คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองรู ้สึกละอายในตัวหนู

30

คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองชอบให้หนูถามคาถามมากๆ

31

หนูรู้สึกถูกกดดันในการทาสิ่ งที่ดี

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


114 32

การรักษาความเรี ยบร้อยในบ้านเป็ นสิ่ งที่สาคัญ

33

หนูมีอิสรภาพที่จะทาอะไรก็ได้ในบ้านนี้

34

คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองชอบหนูจริ งๆ ผลการเรี ยนที่ดีของหนูเป็ นสิ่ งที่สาคัญสาหรับคุณ

35

พ่อแม่ผปู ้ กครอง

36

มีเรื่ องสนุกสนานและเสี ยงหัวเราะมากในบ้านนี้ คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองให้ความเคารพยอมรับนับถือ

37

ในตัวหนู มันเป็ นเรื่ องโอเคที่หนูจะบอกความรู ้สึกของหนูให้

38

คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองรู ้ คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองพยายามค้นหาว่า หนูสนใจใน

39

เรื่ องอะไรบ้าง

40

คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองมักจะหาสิ่ งใหม่ๆ ทา หนูถูกสอนว่า คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองเป็ นผูถ้ ูกต้อง

41

เสมอ

42

หนูเห็นสิ่ งที่น่าสนใจมากมายในบ้านนี้

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


115

คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองมักจะบอกรายละเอียดในสิ่ งที่ 43

จะต้องทาให้หนูรู้

44

หนูรู้สึกว่าเป็ นคนพิเศษในบ้านนี้

45

คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองมักจะเสนอแนะกิจกรรมใหม่ๆ

46

หนูมีอิสระที่จะทาสิ่ งที่ตอ้ งการในบ้านนี้ เหตุผลหลักที่หนูทางานในบ้าน ก็เพื่อที่จะให้ได้

47

รางวัล ได้เงิน และได้รับการปฏิบตั ิที่ดี คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองสนับสนุนหนูให้ใช้จินตนาการ

48

ตอนที่หนูเล่นอยูค่ นเดียวหรื อเล่นกับเพื่อน

49

หนูถูกวิพากษ์วจิ ารณ์มากจากคนในบ้าน

50

คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองชอบใช้เวลาอยูก่ บั หนู

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


116

เฉลย สาหรับข้อ 1,2,5,8,10,13,15,16,17,18,20,22,23,25,26,28,30,33,34,36,37,38 ,39,40,42,44,45,46,48,50

ในแต่ละข้อ ถ้าตอบใช่ ให้ไฟเขียว 1 ดวง ถ้าตอบไม่ใช่ให้ไฟแดง 1 ดวง สาหรับข้อ 3,4,6,7,9,11,12,14,19,21,24,27,29,31,32,35,41,43,47,49

ในแต่ละข้อ ถ้าตอบใช่ ให้ไฟแดง 1 ดวง ถ้าตอบไม่ใช่ให้ไฟเขียว 1 ดวง

คุณผูอ้ ่านอาจจะเขียนบันทึกเป็ นคาย่อก็ได้ครับ ข คือ ไฟเขียว = บรรยากาศเปิ ด ด คือ ไฟแดง = บรรยากาศปิ ด

ไฟเขียวกี่ขอ้ ไฟแดงกี่ขอ้ นาผลรวมของไฟเขียว ลบ ผลรวมของไฟ แดง ถ้าไฟเขียวมากกว่ า ขอแสดงความยินดีดว้ ยกับบรรยากาศ

ในบ้ านทีเ่ อื้ออานวยต่ อความคิดสร้ างสรรค์ ของเด็ก เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


117

ดูในแต่ละข้อว่า อะไรที่เป็ นไฟเขียวอยู่ แล้วรักษาไว้นะครับ ส่วนอะไรที่เป็ นไฟแดง ลองเปลีย่ นให้ เป็ นตรงกันข้ ามกับ ประโยคนั้นดูนะครับ คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองจะได้รับประโยชน์จากแบบทดสอบนี้ มากขึ้น หากเราเปลีย่ นข้ อทีเ่ ป็ นไฟแดงให้ เป็ นตรงกันข้ ามได้ ไม่มีอะไรต้องดีที่สุด “บรรยากาศทีด ่ ีทสี่ ุ ดและสิ่งสาคัญ

ทีส่ ุ ดในบ้ านคือ การเป็ นคนทีด่ ีเท่ าทีจ่ ะดีได้ ไม่ มีลมิ ิต” ดีที่สุดอาจจะมี Scale เต็มร้อยคะแนน แต่ดีเท่าที่จะดีได้ เต็มที่แล้วได้ 90 หรื อ 120 คะแนนก็ได้ "ไม่มีลิมิตครับ"

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


???????????????????????????????? ??????????????????? ?? มาสนุกกัน ?? ?? คาถามเพิม่ ความคิดสร้างสรรค์ ?? ?? ?? ?? สีอะไรหวานทีส่ ุ ด? ?? ?? ...ติ๊กต๊อกๆๆๆ ?? ?? ได้คาตอบยังครับ แม้วา่ จะยาก แต่ไม่เลิกคิด ?? ?? . . . . . . . ?? ?? ?? ?? ยอมยัง ยอมยัง ?? ?? ?? ?? ?? ?? ตอบ สีน้ าตาล (555 หวานมาก) ?? ?? ?? ?? ?? ????????????????????????????????

118

!

:

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


119

มำเปลี่ยนบรรยำกำศในบ้ำนให้ สร้ำงสรรค์กันเถอะ เคยสงสัยไหมครับว่าบ้านที่เด็กมีความคิดสร้างสรรค์เยอะ กับบ้าน ที่เด็กไม่คอ่ ยคิดสร้างสรรค์น้ นั มีความแตกต่างกันอย่างไร? ลองไปดูผลการวิจยั กันครับ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


120

1.

ให้ บ้านมีสิ่งของอะไรแปลกๆ บ้ าง งานวิจยั พบว่า บ้านที่มีเด็กคิดสร้างสรรค์น้ นั สภาพแวดล้อมภายใน

บ้านจะ “ไม่ ธรรมดา” คาว่าไม่ธรรมดานี้ ไม่ได้หมายถึงว่าบ้านนั้นจะต้องออกแบบให้ หรู หราอลังการแปลกตาเหมือนถอดแบบมาจากบ้านที่อยูใ่ นนิตยสารตกแต่ง บ้านนะครับ[U1] ไม่ได้เป็ นแบบนั้นครับ แต่มนั จะมีบางอย่างที่แตกต่าง “เป็ นเอกลักษณ์ ” ในบ้านไม่มีอะไรที่เหมือนคนอื่น ปั้ นเอง วาดเอง ทาเอง ไม่จาเป็ นต้องเหมือนคนอื่น มีความหลากหลายครับ กระปุก กระป๋ อง แปลกๆ เพราะความหลากหลายมันขึ้นอยูก่ บั สิ่ งที่เด็กคิด สิ่ งที่เด็กสารวจ ค้นหา ยิง่ มีส่ิ งต่างๆ เหล่านี้หลากหลายเท่าไหร่ ยิง่ มีแรงบันดาลใจหลากหลายมากขึ้นเท่านั้น

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


121 2.

เล่นกับเด็กๆ ...ไม่ ต้องบอกวิธีการเล่น ลองปล่อยให้เขาเล่นเอง ไหลลื่นไปกับวิธีเล่นของเด็กแม้วา่ จะเป็ น

การเล่นที่ผดิ ผมเคยเห็นนะครับ พ่อแม่บางคนแกะของเล่น พร้อมเปิ ดคู่มือ เล่น ตามขั้นตอนของคู่มือ แต่บา้ นที่สร้างสรรค์ เขาจะซื้อของเล่นมา "อ้าวลูกเล่นนะ" แต่ไม่ บอกวิธีเล่น และก็เห็นแล้วล่ะว่าเล่นผิดวิธี "ลองดูสิ ลองเล่นดูสิ" เขาอาจจะหา วิธีเล่นใหม่ก็ได้ ใครเคยซื้อเลโก้ให้ลูกเล่นบ้าง? และมีตน้ แบบมาให้ ลูกก็นง่ั ต่อให้เหมือนต้นแบบ พยายามหลีกเลี่ยงครับ แบบนั้นจะไม่ค่อยสร้างสรรค์ การสร้างสรรค์คือ ให้ลูกต่อเอง เป็ นตัวอะไรก็ได้ ให้คิดเอง ออกแบบเองจะดีกว่า

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


122 3.

ให้ การสนับสนุนการนาความคิดไปทาจริง มีตวั อย่างอยากเล่าให้ฟังว่า แม่ของสตีเฟ่ น สปิ ลเบิร์กหรื อผูก้ ากับ

ภาพยนตร์ชื่อดังซึ่งถือว่าเป็ นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์สูงมากคนหนึ่ง แม่ ของเขาสนับสนุนเด็กชายสตีเฟ่ นที่นึกเล่นๆ ขึ้นมาว่าอยากจะทาหนังน่ากลัว และเขาบอกแม่วา่ "มีอยูฉ่ ากหนึ่งนะเป็ นฉากที่มีเลือดสาดเต็มครัว" จากนั้นแม่จึงออกไปห้างสรรพสินค้าเพื่อไปหาซื้อเชอรี่ มา ต้มเชอรี่ ในหม้อความดัน พอสักพักแล้วมันจะเดือด ความดันจะทาให้น้ าเชอรี่ ปุดปุ๊ ดปู๊ ดพุง่ ขึ้นมาเลอะเทอะกระจายไป ทัว่ ห้องครัว แม่รีบบอกกับสตีเฟ่ นว่า "ถ่ายไว้เลยลูก ถ่ายเลยลูก...เลือดเต็มครัวเลย" นี่เป็ นตัวอย่างของการสนับสนุนให้นาความคิดไปสู่การลงมือ กระทา แต่กรณี น้ ีไม่แน่ใจว่า บ้านเราจะโดนเซนเซอร์หรื อเปล่านะครับ.... ฮิ ฮิ ฮิ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


123 4.

เด็กทีส่ ร้ างสรรค์ มักจะเจอการย้ ายบ้ านบ่ อย ต่อไปนี้เป็ นตัวอย่างในประเทศสหรัฐฯ เพราะคนอเมริ กนั ไม่ค่อย

ซื้อบ้านกัน จะอยูอ่ พาร์ทเมนท์ ว่าแต่...ทาไมย้ายบ้านบ่อยทาให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ล่ะ? เพราะได้เปลี่ยนสถานที่ เจอสังคมใหม่ เจอความหลากหลายของ คน เจอความหลากหลายของสิ่ งแวดล้อม ต้องปรับตัวเข้ากับคนอื่น ดังนั้น จะ มีความยืดหยุน่ สูง ทั้งหมดนี้เป็ นคุณสมบัติของการคิดสร้างสรรค์ แต่เราคงย้ายบ้านได้ไม่ค่อยบ่อยเหมือนคนอเมริ กนั คนไทยถ้าซื้อบ้านแล้วซื้อเลยไม่คอ่ ยย้ายบ้านบ่อยนัก แล้วทาไงดีล่ะที่จะประยุกต์ไอเดียนี้ได้? อาจจะพาลูกไปนอนบ้านเพื่อนของลูกบ้าง ผลัดกันให้เพื่อนลูกมานอนบ้านเราบ้าง เราพาลูกไปนอนบ้านเพื่อนเราบ้าง ……ดีเหมือนกันนะครับ........

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


124 5.

บ้ านทีส่ ร้ างสรรค์ นะเสี ยงดังกันจัง (Noisy Home) เล่นกันจังเลย ส่วนใหญ่เวลาลูกหลานเสี ยงดัง มักโดนดุใช่ม้ ยั ครับ? “อย่าเสี ยงดัง หนวกหู” ซึ่งคุณพ่อแม่ผปู ้ กครองกาลังทาตัวเป็ นเพชรฆาตความคิดนะ เพราะการเสี ยงดัง การพูดคุยกันเยอะ การถกเถียงกันเยอะ เป็ นการแสดงออกถึงความคิดนะครับ ดังนั้น ยิง่ ดัง ยิง่ ดี อย่าไปราคาญเลยครับ แต่อย่าให้ดงั ไปรบกวน

ชาวบ้านล่ะ (อ้าว เด็กเด็ก เจี้ยวจ้าวกันได้เลย เย้ยย)

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


125 6.

มี “2 ช” มาฝากทีจ่ ะช่ วยเพิม่ บรรยากาศความคิด สร้ างสรรค์ ภายในบ้ าน ลองเดาสิ ครับ “ช” อะไรกับ “ช” อะไร 2 ช ที่ผมกาลังจะพูดถึงนี้ ใช้ในกรณี ที่ลูกเขาประดิษฐ์อะไรมา วาด

รู ปอะไรมา เพ้นท์โน่นนี่ เอากระดาษมาแปะ แปะ เอาดินมาปั้ นเป็ นกระปุก กระป๋ อง ทาอะไรที่สร้างสรรค์ “2 ช” ที่นามาฝากนี้ ได้แก่ หนึ่งคือ โชว์ ให้คุณพ่อแม่ผปู ้ กครอง นาสิ่ งที่ลกู หลานคิด ลูกหลานทามาแปะข้าง ฝา มาตั้งในชั้นโชว์ มาประดับภายในบริ เวณบ้าน หรื อบริ เวณสวนรอบบ้าน สองคือ

ใช้

เอาสิ่ งประดิษฐ์ที่ลูกหลานทาเอามาใช้จริ ง ในบ้านมีผลงานที่ ลูกหลานคิดสร้างสรรค์เต็มไปหมดเลย ดีนะครับ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


126

บทส่งท้ำยก่อนบ๊ำยบำย เอาละครับ ตอนนี้เราก็มาถึงส่วนท้ายของหนังสื อเล่มนี้กนั แล้ว ก่อนสุดท้ายและท้ายสุด ผมขอเชิญชวนให้ท้ งั คุณผูอ้ ่าน และคุณพ่อ แม่ผปู ้ กครองทั้งหลาย นาวิธีการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ที่ผมได้กล่าวไว้ ไปใช้กบั ลูกลูกหลานหลานกันนะครับ เมื่อเห็นความสาคัญแล้วว่า "ทาไมจึง ต้องเลี้ยงลูกหลานให้มีความคิดสร้างสรรค์?"

เพราะเด็กทีส่ ร้ างสรรค์ ในวันนี้ จะเติบโตเป็ นผู้ใหญ่ ทสี่ ร้ างสรรค์ ในวันหน้ า

เริ่ มต้นจากการปรับทัศนคติก่อนก็ดีนะครับ

อย่าทาลายความคิดสร้างสรรค์ของเด็กๆ หยุดห้ามโน่นนี่ นัน่ ห้ามคิดนอกกรอบ

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


127

ปล่อยให้เด็กมีอิสระทางความคิด และให้เขาเป็ นตัวของ ตัวเอง แบบทาดีเท่าที่จะดีได้ ไม่มีลิมิต จากนี้ไป ลองนาวิทยายุทธ์ที่ได้อา่ นจากเล่มนี้ไปประลองฝี มือกับ ลูกหลานกันดีกว่า

ทาไปเถอะครับ ทาแบบสนุกสนุก สร้างความตื่นเต้น ขาๆ

ให้บรรยากาศในบ้านเอื้อต่อการคิดสร้างสรรค์ของเด็กเด็ก ไม่วา่ จะเป็ นการ

ชวนคิด ชวนคุย ชวนคิดแหวกรู ปแบบเดิมเพื่อจะได้ไอเดีย แปลกๆ ใหม่ๆ และ

พยายามเปิ ดทางเลือกไว้นานนานอย่าเพิ่งรี บปิ ดประเด็น

ไม่ย้งั การตัดสิ น

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


128

ไม่ตดั สิ นว่าผิดหรื อถูก

ชวนมองกว้างเห็นความสัมพันธ์

ทั้งหมดนี้ ขอเน้นครับว่าอย่านาแรงจูงใจภายนอก (Extrinsic Motivation) ซึ่ งได้แก่ ของรางวัล หรื อคาชมต่างๆ มาเป็ น

เงื่อนไขในการให้เด็กเขาคิดสร้างสรรค์

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


129

หากผูอ้ ่าน คุณพ่อแม่ผปู ้ กครองมีขอ้ มูล อยากนามาแบ่งปั น หรื อมีขอ้ กังวลใจ มีคาถาม สงสัยเกี่ยวกับการคิดสร้างสรรค์ของลูกหลาน ทักทายกันง่ายๆ กับผมได้ที่ ajarn.sarun@gmail.com หรื อ เฟสบุ๊คที่

https://th-th.facebook.com/sarun.chantapalaboon

สามารถติดตามอ่านเรื่ องราวดีๆ แบบนี้ได้อีกในหนังสื อเล่มต่อไป ของผมนะครับ มาลุน้ กันต่อว่าในอนาคตเวลาลูกหลานโตขึ้นมา เขาควรจะมี ความคิดสร้างสรรค์กนั ยังไง? มันจะเหมือนกันหรื อมันจะต่างกันกับตอนที่เขาเป็ นเด็กมั้ย? ถ้ามันเหมือนกัน อะไรที่เราควรจะรักษาไว้? ถ้ามันต่างกัน อะไรที่เราควรจะเพิม่ เติมเข้าไป? เป็ นการเติมช่องว่าง ระหว่างวัยเด็ก เตรี ยมให้เขาเติบโตเป็ นผูใ้ หญ่ที่คิดสร้างสรรค์ในอนาคต จะทากิจกรรมอะไรที่ช่วยให้ลูกมีความคิดสร้างสรรค์?

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


130

และยังมีเรื่ องอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายให้ติดตามภาคสอง แล้ วพบกันใหม่ ครับ ..... “Three Cold Good” คิดออกมั้ยว่าคืออะไร ยอมมั้ย ยอมมั้ย...."อย่าเพิง่ ยอมนะครับ"

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


131

ประวั่ิผู้เขียน ชื่อ ศรัณย์ จันทพลาบูรณ์ เกิด มีนาคม พ.ศ. 2505 สู ง 173 ซ.ม. นา้ หนัก 80 ก.ก.

การศึกษา 

MBA (with distinction) De Paul University, Chicago, Illinois, USA

บริ หารธุรกิจ (เกียรตินิยมอันดับ2) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ผ่านการรับรองการเป็ นวิทยากร (Certified Instructor)ใน หลักสูตร The Power of Perception ของ Dr. Edward de Bono จาก Edward de Bono International Network อย่าง

เป็ นทางการ เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


132 

ร่ วมฝึ กอบรมและรับประกาศนียบัตรในหลักสูตรต่างๆ อาทิเช่น

การพัฒนาประสิ ทธิภาพบุคลากร (Human Performance Improvement: HPI) จากสมาพันธ์การฝึ กอบรมและพัฒนา

บุคคลากรแห่งสหรัฐอเมริ กา (American Society of Training and Development: ASTD) 

Leadership and Team Development for Managerial Success โดย American Management Association : AMA

การปลดปล่อยศักยภาพภายในบุคคล (Unleash the Power within) บรรยายโดย Anthony Robbins ณ. ประเทศสิ งคโปร์

เข้าร่ วมสัมมนางาน

ASTD 2004 International Conference

& Exposition, จัดโดย สมาพันธ์การฝึ กอบรมและพัฒนาบุคลากร

แห่งสหรัฐอเมริ กา (American Society of Training & Development: ASTD) ณ.กรุ งวอชิงตันดีซี 

ร่ วมรับฟังการบรรยายจาก Dr. Edward de Bono เรื่ อง ความคิด สร้างสรรค์ กรุ งเทพฯ

ร่ วมสัมมนาในงาน 2006 International Creative Problem Solving Institute ณ มลรัฐอิลินอยส์ สหรัฐอเมริ กา

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


133

ประสบการณ์ อนื่ ๆ 

แสดงภาพยนตร์โฆษณา ผลิตภัณท์ เป็ ปซี่ ฮานามิ และ เดอะมอลล์

ตัวประกอบละครโทรทัศน์ ออกอากาศทางช่อง 7 สี ในโครงการ โทรทัศน์ทองคา

พิธีกรรายการโทรทัศน์รายการ “ลูกคนดัง” ผลิตโดย บ.เรดิ โอสปอต

หน้าปก นิตยสาร G.M. และนิตยสาร Go Training

พิธีกรรายการโทรทัศน์รายการ “โลกสวยด้วยมือเรา” ผลิตโดย บ. แกรมมี่เอ็นเทอร์เทนเมนท์

ดี.เจ. เฉพาะกิจรายการวิทยุ F.M. 94.5 LOVE FM.

พิธีกรรายการโทรทัศน์รายการ “Shopping @ Channel 10” ผลิตโดย ยูบีซี (สอบผ่านรับใบอนุญาตผูป้ ระกาศฯ จากกรม ประชาสัมพันธ์)

การทางาน ปั จจุบนั 

CLO (Chief Learning Officer) บ.37.5 องศาเซลเซี ยส จากัด

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


134 

วิทยากรรับเชิญให้แก่สมาคมและองค์กรต่างๆ อาทิเช่น สมาคมการ จัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย

(PMAT) สมาคมการจัดการ

ธุรกิจแห่งประเทศไทย(TMA) สมาคมส่งเสริ มเทคโนโลยีไทยญี่ปุ่น(TPA)

AIS, Shin Corp, NECTEC, Unilever, Toyota

ธนาคารกรุ งเทพ ปูนซีเมนต์ไทย เป็ นต้น อดีต 

ผูอ้ านวยการฝ่ าย บ. ยูไนเต็ด บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชัน่ จากัด (ยูบีซี)

Vice President บ. สยามทีวี แอนด์ คอมมิวนิ เคชัน ่ จากัด

ผูจ้ ดั การทัว่ ไป บ.มีเดียพลัส จากัด

ผูจ้ ดั การฝ่ ายการตลาด และผูจ้ ดั การฝ่ ายขาย บ.ฟูจิโฟโต้ฟิลม์ (ประเทศไทย) จากัด

ผูช้ ่วยผูจ้ ดั การผลิตภัณฑ์ บ.เนสท์เล่ โปรดักส์ (ประเทศไทย) จากัด

ผูบ้ ริ หารงานวิจยั บ.โอกิลวีแ่ อนด์เมเธอร์ แอ็ดเวอร์ไทซิ่ง (ประเทศ ไทย) จากัด

เนื้อหาในการสังสรรค์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ใช้สาหรับกระจายให้กลั ยาณมิตรและผู้ทสี่ นใจได้อ่านเท่านั้น ห้ามนาไปใช้เผยแพร่ เพือ่ การค้า ก่อนได้รบั การอนุญาต


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.