วิจัยเรื่อง การวิเคราะหตัวแปรจําแนกกลุมนักศึกษาคณะ บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนสูงและต่ํา
A Discriminant Analysis of Students in School of Business Administration, Bangkok University with High and Low Academic Achievement. โดย
ผศ. นฤมล ธนการพาณิช
1
โลกในยุคคริสตศตวรรษที่
21 เปนยุคของการแขงขันและ พัฒนาในดานตาง ๆ เชน การเมือง เศรษฐกิจและสังคม สิง่ หนึ่งที่เปนปจจัยสําคัญของการพัฒนา คือ มนุษย ซึ่งมนุษย เปนทรัพยากรที่สําคัญทีส่ ุดของชาติที่จะขับเคลื่อนสังคมโลก ใหมีความเจริญกาวหนา โดยอาศัยเครื่องมือที่ดที ี่สุด คือ การศึกษา เพราะการศึกษาเปนปจจัยสําคัญที่ทําใหสังคม ประเทศชาติมีความกาวหนาและพัฒนาในรูปแบบตาง ๆ ดังนั้น การจัดการศึกษาจําเปนตองเนนถึงองคประกอบที่ สงเสริมและสนับสนุนคุณภาพของการศึกษา ซึ่งองคประกอบ ที่สําคัญมากประการหนึ่ง คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นักศึกษา
2
บทนํา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง คะแนนผลการเรียนซึ่งเปนตัวกําหนด ผลสําเร็จทางการเรียน ในกรณีผูที่สําเร็จการศึกษาตามเกณฑที่กําหนดดวย คะแนนผลการเรียนตั้งแตระดับปานกลางถึงระดับสูง ยอมไมเกิดปญหาความ ลาชาของเวลาการศึกษาใหครบตามหลักสูตร และปญหาการสูญเปลาจากการ ลงทุนดานการศึกษาเนื่องจากถูกใหออกจากมหาวิทยาลัยกลางคัน โดย ผูสําเร็จการศึกษาสามารถนําผลการเรียนไปเปนหลักฐานสําคัญและรับรองการ มีความรูในการประกอบอาชีพ หรือสามารถศึกษาในขั้นสูงตอไป ซึ่งปญหาที่ กลาวขางตนอาจจะเกิดขึ้นกับผูที่มีคะแนนผลการเรียนต่ํา หรือมีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนต่าํ ดวยปจจัยที่เกี่ยวของกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่แตกตางกัน ดังนั้น จึงควรศึกษาใหทราบถึงปจจัยพื้นฐานที่จําแนกนักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนสูงและต่ํา และนําผลการศึกษาไปพัฒนาหลักสูตร ตํารา วิธีการเรียนการสอนตอไป ซึ่งมีผลโดยตรงตอการพัฒนามนุษยใหไดตรงที่ สุด เปนผลใหการพัฒนาประเทศไดอยางมีประสิทธิภาพและเต็มศักยภาพ
3
4
พัฒนามนุษยเพื่อการพัฒนาในดานอื่นตอไป ผูวิจัยจึงได ทําการศึกษา การวิเคราะหตัวแปรจําแนกกลุมนักศึกษาคณะ บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพที่มีผลสัมฤทธิท์ างการเรียนสูง และต่ํา โดยเนนที่ตัวแปรดานนักศึกษา ไดแก พฤติกรรมการเรียน แรงจูงใจใฝสัมฤทธิ์ เจตคติตอการเรียนของผูเรียน และความมีวินัย ในตนเองของผูเรียน และคาดวาตัวแปรทั้ง 4 ตัวแปร นาจะเปนตัว แปรที่จําแนกนักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิท์ างการเรียนสูงและต่ํา เพื่อ ประโยชนในดานการปรับปรุงการเรียนการสอนตอไป
5
1. เพื่อวิเคราะหตัวแปรที่สามารถจําแนกกลุมนักศึกษาคณะ บริหารธุรกิจ 2. เพื่อคนหาตัวแปรที่ดีในการจําแนกกลุมนักศึกษาคณะ
บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพที่มีผลสัมฤทธิท์ างการ เรียนสูงและต่ํา
3. เพื่อสรางสมการจําแนกกลุมนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงและ ต่ํา 6
1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง คะแนนเฉลี่ยสะสม ตั้งแตภาคการศึกษาที่ 1 ปการศึกษา 2553 ถึงภาค การศึกษาที่ 2 ปการศึกษา 2553 2. นักศึกษา หมายถึง นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ระดับปริญญาตรี ภาคปกติ ชั้นปที่ 2 ปการศึกษา 2554 3. นักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง หมายถึง นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพชั้นปที่ 2 ปการศึกษา 2554 ที่มีคะแนนเฉลี่ยสะสมตั้งแต 7
4. นักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ํา หมายถึง นักศึกษา คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพชั้นปที่ 2 ป การศึกษา 2554 ที่มีคะแนนเฉลี่ยสะสมต่ํากวาหรือเทากับ 2.00
5. พฤติกรรมการเรียน หมายถึง การกระทําของนักศึกษา
ที่เกี่ยวของกับการมาเรียน การเตรียมตัวในการเรียน วิธีการเรียน การรวมมือในการทํากิจกรรม และการฝก ปฏิบัติงาน 6. แรงจูงใจใฝสัมฤทธิ์ หมายถึง แรงกระตุนที่ทําใหนักศึกษามี ความมุงมั่น ความพยายาม และความรับผิดชอบ เพื่อประสบ ผลสําเร็จในการเรียนตามวัตถุประสงคที่ตั้งไว 8
7. เจตคติตอการเรียนของผูเรียน หมายถึง ความรูสึก หรือความคิดของผูเรียนตอการเรียน ซึ่งแสดงออกเปนพฤติกรรม ในลักษณะชอบ หรือไมชอบ อาจจะเห็นดวยหรือไมเห็นดวย ซึ่ง คาดวาเปนตัวกําหนดผลสัมฤทธิท์ างการเรียน 8. ความมีวินัยในตนเองของผูเรียน หมายถึง การปฏิบัติตนเอง ของนักศึกษา โดยเนนเรื่องของการบังคับใหปฏิบัติตามระเบียบ ของมหาวิทยาลัย การตรงตอเวลา แตงกายถูกระเบียบ ตั้งใจ เรียน เปนผลใหเปนผูที่มีความรับผิดชอบสูง บริหารจัดการ ชีวิตไดอยางเหมาะสม 9
9. การวิเคราะหจําแนก เปนเทคนิคทางสถิติสําหรับจําแนก ความแตกตางระหวางหนวยที่นํามาวิเคราะหวาควรจะอยูใน กลุมใด ของกลุมที่แบงออกเปน 2 กลุมหรือมากกวา โดยตัว แปรที่นํามาศึกษาสามารถอธิบายความแตกตางของหนวย วิเคราะหที่อยูตางกลุมกัน พรอมทั้งสามารถสรางสมการเพื่อ พยากรณหนวยวิเคราะหใด ๆ วาควรจะอยูในกลุมใด
10
1. ประชากรและกลุมตัวอยาง
การวิจัยครั้งนี้มีประชากรในการวิจัยเปนนักศึกษาระดับปริญญาตรี ภาคปกติ ชั้นปที่ 2 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพที่ ลงทะเบียนเรียนในภาคการศึกษาที่ 1/2554 มีกลุมตัวอยางเปน นักศึกษาระดับปริญญาตรี ภาคปกติ ชั้นปที่ 2 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพที่สุมมา จากการใชวิธีการสุมแบบกลุม (Cluster Sampling) ไดจํานวนนักศึกษาที่เปนตัวอยางทั้งสิ้น 960 คน คัดแบงเปน 2 กลุมจากจํานวนนักศึกษา 338 คน คือ กลุม นักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง มีคะแนนเฉลี่ยสะสมตั้งแต 2.75 – 4.00 จํานวน 155 คน และกลุมนักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนต่ํา มีคะแนนเฉลี่ยสะสมต่ํากวาหรือเทากับ 2.00 จํานวน 183 คน 11
ประกอบดวย ตัวแปรเกี่ยวกับขอมูลทั่วไป ไดแก เพศ ภูมิลําเนา (จังหวัดและภาค) ผลการเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่พัก ขณะศึกษาในปจจุบัน อาชีพของบิดา และรายไดรวมของครอบครัว ตอเดือน ตัวแปรตนซึ่งเปนตัวแปรจําแนก ประกอบดวย พฤติกรรมการเรียน แรงจูงใจใฝสัมฤทธิ์ เจตคติตอการเรียนของ ผูเรียน และความมีวินัยในตนเองของผูเ รียน และตัวแปรตามซึ่ง เปนตัวแปรจัดกลุม ไดแก ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนซึ่งแบงเปน 2 ระดับคือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ต่ํา 12
วิธีดําเนินวิจยั 1. เครื่องมือการวิจัย ประกอบดวยแบบสอบถาม 2 สวน
โดยที่สวนที่ 1 เปนแบบสํารวจขอมูลทั่วไป และสวนที่ 2 เปนแบบวัดความ คิดเห็นของนักศึกษาในดานตาง ๆ 4 ดาน มีรายละเอียดดังนี้
สวนที่ 1 แบบสํารวจขอมูลทั่วไป ไดแก เพศ ภูมิลําเนา (จังหวัดและภาค) ผลการเรียนในระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย ระดับเกรดเฉลี่ยสะสมของ นักศึกษาในขณะนี้ ที่พักขณะศึกษาในปจจุบัน อาชีพ ของบิดา และรายไดรวมของครอบครัวตอเดือน
13
วิธีดําเนินวิจัย
1. เครื่องมือการวิจยั
สวนที่ 2 แบบวัดความคิดเห็นของนักศึกษาในดานตาง ๆ 4 ดาน ที่ไดรับการพิจารณาจากผูทรงคุณวุฒิ คือ
ดานที่ 1 เปนแบบวัดความคิดเห็นดานพฤติกรรมการเรียน เปนแบบมาตรประมาณ คา 5 ระดับ ดานที่ 2 เปนแบบวัดความคิดเห็นเกี่ยวกับแรงจูงใจใฝสัมฤทธิ์ เปนแบบมาตร ประมาณคา 5 ระดับ ดานที่ 3 เปนแบบวัดความคิดเห็นเกี่ยวกับเจตคติตอการเรียนของผูเรียน เปนแบบ มาตรประมาณคา 5 ระดับ ดานที่ 4 เปนแบบวัดความคิดเห็นเกี่ยวกับความมีวินัยในตนเองของผูเรียน เปนแบบ มาตรประมาณคา 5 ระดับ 14
วิธีดําเนินวิจัย
15
วิธีดําเนินวิจัย
ผูว ิจัยดําเนินการเก็บรวบรวมขอมูลในเดือนสิงหาคม – กันยายน 2554 จากกลุมตัวอยางที่เปนนักศึกษาระดับปริญญาตรี ภาคปกติ ชั้นปที่ 2 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จํานวนทั้งสิ้น 338 คน คัดแบงเปน 2 กลุม คือ กลุมทีม่ ีผลสัมฤทธิท์ างการเรียนสูง คือกลุมนักศึกษาที่มีคะแนนเฉลี่ยสะสมตั้งแตภาคการศึกษาที่ 1 ป การศึกษา 2553 ถึงภาคการศึกษาที่ 2 ปการศึกษา 2553 ตั้งแต 2.75 – 4.00 จํานวน 155 คน และกลุมทีม่ ีผลสัมฤทธิท์ างการเรียนต่ํา คือ กลุมนักศึกษาทีม่ ีคะแนนเฉลี่ยสะสมตั้งแตภาคการศึกษาที่ 1 ป การศึกษา 2553 ถึงภาคการศึกษาที่ 2 ปการศึกษา 2553 ต่ํากวา หรือเทากับ 2.00 จํานวน 183 คน 16
วิธีดําเนินวิจัย
17
วิธีดําเนินวิจัย การวิเคราะหขอมูลทางสถิติดวยโปรแกรมสําเร็จรูปทางสถิติ เพื่อวิเคราะห 1. หาตัวแปรที่เกี่ยวกับความคิดเห็นของนักศึกษาดาน พฤติกรรมการเรียน ดานแรงจูงใจใฝสัมฤทธิ์ ดานเจตคติตอ การเรียนของผูเรียน และดานความมีวินัยในตนเองของผูเรียน เพื่อจําแนกกลุมนักศึกษาทีม่ ีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงและ ต่ํา โดยการวิเคราะหจําแนก (Discriminant Analysis) แบบ ขั้นตอน (Stepwise) โดยวิธี วิลค แลมปดา นําเสนอในรูปของ ตารางแสดงสมการจําแนก
18
วิธีดําเนินวิจัย 3. การวิเคราะหขอมูล (ตอ)
19
ตัวแปร พฤติกรรมการเรียน เจตคติตอการเรียนของผูเรียน แรงจูงใจใฝสัมฤทธิ์ ความมีวินัยในตนเองของผูเรียน
คา Wilk’s Lambda 0.494 0.698 0.859 0.931
Sig. 0.000** 0.000** 0.000** 0.000**
20
21
2. ตัวแปรที่ดีในการจําแนกกลุมนักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิท์ างการ เรียนสูงและต่ํา แสดงดวยตารางที่ 2 และ 3 ดังนี้
ตัวแปร พฤติกรรมการเรียน เจตคติตอการเรียนของผูเรียน (คาคงที่)
สัมประสิทธิค์ าโนนิคอล 1.788 1.355 -10.050
22
จากตารางที่ 2
ผลการวิเคราะหตัวแปรที่ดีที่สามารถจําแนกกลุม นักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิท์ างการเรียนสูงและต่ํา ไดอยางมี นัยสําคัญทางสถิตทิ ี่ระดับ 0.01 มี 2 ตัวแปร ไดแก พฤติกรรม การเรียน และเจตคติตอการเรียนของผูเรียน และสามารถสราง สมการจําแนกกลุมแสดงในรูปของคะแนนดิบไดดังนี้คือ Y = -10.050 + 1.788 (พฤติกรรมการเรียน) + 1.355 (เจต คติตอการเรียนของผูเรียน)
23
ลําดับ
ตัวแปร
สัมประสิทธิค์ าโนนิคอล
1
พฤติกรรมการเรียน
0.832
2
เจตคติตอการเรียนของผูเรียน
0.519
จากตารางที่ 3 พบวา พฤติกรรมการเรียนเปนตัวแปรจําแนกกลุม นักศึกษาที่มีความสําคัญมากที่สุดหรือดีที่สุด และรองลงมาคือ เจตคติตอ การเรียนของผูเรียน ซึ่งสามารถสรางสรางสมการจําแนกกลุมแสดงในรูป ของคะแนนมาตรฐานไดดังนี้คือ
Z = 0.832 (พฤติกรรมการเรียน) + 0.519 (เจตคติตอการ เรียนของผูเรียน)
24
ตารางที่ 4: การประเมินสมการจําแนกประเภทของกลุมนักศึกษาที่มี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงและต่ํา
Function
Eigen value
1
1.403
Percent of Cumulative Canonical Wilk’s Chi- df Sig. Variance Percent Correlation Lambda Square
100.0
100.0
0.764
0.416 290.245 2 0.000
ตารางที่ 4 เมื่อพิจารณาจากสหสัมพันธคาโนนิคอล (Canonical Correlation) ซึ่งมีคาสูงเทากับ 0.764 แสดงวาสมการดังกลาวมีอํานาจในการจําแนกกลุมสูง และ สอดคลองกับคาวิลค แลมบดา (Wilk’s Lambda) ซึ่งมีคาต่ําเทากับ 0.416 25 ดังนั้น จึงกลาวไดวา สมการดังกลาวมีอํานาจในการจําแนกกลุมไดดี
พยากรณ
กลุม
จริง
นักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง (จํานวน) (รอยละ) นักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ํา (จํานวน) (รอยละ)
154
กลุมสูง 138
182
(89.6) 22
(10.4) 160
(12.1)
(87.9)
กลุมต่ํา 16
รอยละของจํานวนทีพ่ ยากรณไดถูกตองเทากับ 88.8 26
จากตารางที่ 5 พบวา จากกลุมจริงของนักศึกษาที่ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนสูง 154 คน ผลการพยากรณไดนักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนสูง 138 คน คิดเปนรอยละ 89.6 และนักศึกษาที่มี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ํา (ซึ่งไมตรงกับความจริง) 16 คน คิดเปน รอยละ 10.4 สวนกลุมจริงของนักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ํา 182 คน ผลการพยากรณไดนักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ํา 160 คน คิด เปนรอยละ 87.9 และนักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง (ซึ่งไมตรง กับความจริง) 22 คน คิดเปนรอยละ 12.1 ดังนั้นตัวแปรทั้ง 4 ตัวแปร รวมกันสามารถจําแนกกลุมนักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงและต่ํา ไดรอยละ 88.8 27
จากผลการวิจัย ดังนี้ 1. ตัวแปรที่สามารถอธิบายความแตกตางระหวางกลุม นักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิท์ างการเรียนสูงและต่ํา ไดแก พฤติกรรมการเรียน แรงจูงใจใฝสมั ฤทธิ์ เจตคติตอการเรียน ของผูเรียน และความมีวินัยในตนเองของผูเรียน และสมการ จําแนกกลุมที่ไดสามารถจําแนกกลุมนักศึกษาไดถูกตองรอย ละ 88.8 28
2. ผลจากการวิเคราะหจําแนกกลุมแบบขั้นตอน พบวา ตัว แปร 2 ตัวแปรคือพฤติกรรมการเรียน และ เจตคติตอการเรียน ของผูเรียน เปนตัวแปรทีด่ ีที่มีความสําคัญมากที่สดุ และรองลงมา ตามลําดับ ที่จําแนกกลุมนักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิท์ างการเรียนสูง และต่ํา และสมการจําแนกกลุมที่ไดสามารถจําแนกกลุม นักศึกษาไดถูกตองรอยละ 88.8 โดยเปนกลุมนักศึกษาที่มี ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนสูงไดถูกตองรอยละ 89.6 และกลุม นักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิท์ างการเรียนต่ําไดถูกตองรอยละ 87.9 29
เมื่อพิจารณาตัวแปรจําแนกกลุมที่ดี พบวา ตัวแปร พฤติกรรม การเรียน ซึ่งสามารถจําแนกกลุมนักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนสูงและต่ําไดดีที่สุด เชน พฤติกรรมตาง ๆ เหลานี้ คือ นักศึกษาอานบทเรียนลวงหนา นักศึกษาจดบันทึกทุกครั้งขณะ เรียน นักศึกษาถามอาจารยผูสอนทันทีเมื่อมีขอสงสัย นักศึกษา มีสมาธิและจิตใจจดจอขณะเรียน นักศึกษามีสวนรวมในการแสดง ความเห็นเมื่ออาจารยเปดโอกาส เปนตน เปนพฤติกรรมโดยสวน ใหญของนักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง 30
ตัวแปรที่
2 ที่สามารถจําแนกกลุมนักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนสูงและต่ําไดดีรองลงมา คือ เจตคติตอการเรียน ของผูเรียน เชน นักศึกษาตองการเพิ่มเติมความรู นอกเหนือจากเนื้อหาในหองเรียน นักศึกษารูสึกกระตือรือรน ในการเขาเรียน และ นักศึกษาคิดวาการเรียนทําใหผูเรียนมีการ คิดอยางเปนระบบ เปนตน ซึ่งเจตคติที่ดตี อ การเรียน ยอม สงเสริมใหผูเรียนมีแนวโนมทีจ่ ะมีผลสัมฤทธิท์ างการเรียนสูง 31
3. จากสมการจําแนกกลุมที่ไดคือ Z = 0.832 (พฤติกรรมการเรียน) + 0.519 (เจตคติตอการ เรียนของผูเรียน) พบวา สัมประสิทธิ์คาโนนิคอลของตัวแปร พฤติกรรมการเรียน (0.832) มีคามากกวาตัวแปรเจตคติตอการ เรียนของผูเรียน (0.519) ดังนั้น ตัวแปรจําแนกกลุมนักศึกษา คณะบริหารธุรกิจ ชั้นปที่ 2 ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงและต่ํา ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพที่สําคัญที่สุด และรองลงมาตามลําดับ คือ ตัวแปรพฤติกรรมการเรียน และตัวแปรเจตคติตอการเรียน ของผูเรียน 32
ขอเสนอแนะ
ขอเสนอแนะแบงเปน 2 ดาน คือ ดานการนําผลการวิจัยไปใชประโยชน และดานการทําวิจัยครั้งตอไป
1. การนําผลวิจัยไปใชประโยชน การนําผลวิจัยครั้งนี้ไปใชประโยชน เปนการเนนที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การเรียนของนักศึกษาดวยการสรางพฤติกรรมการเรียนที่ดี และการสราง เจตคติที่ดีตอการเรียนของผูเรียน เพื่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น โดย ไมไดคํานึงถึงตัวแปรอื่น ๆ ในกลุมปจจัยที่เปน พื้นความรูเดิมของนักศึกษา คุณภาพการสอนของผูสอน และสิ่งแวดลอม ซึ่งอาจมีตัวแปรในกลุมปจจัย เหลานี้ที่ใชอธิบายผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาไดเชนเดียวกัน สําหรับการใชประโยชนจากผลวิจัยครั้งนี้ ผูเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ต่ําควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเรียนของตนเอง โดยมีอาจารยผูสอน และผู ที่เกี่ยวของใหคําแนะนําการเรียนดังนี้ คือ 33
ขอเสนอแนะ 1. การนําผลวิจัยไปใชประโยชน
1) ดานนักศึกษา ควรสรางพฤติกรรมการเรียนที่ดี ตั้งแตกอ นเขาชั้นเรียน ขณะเรียน และหลังเลิกเรียน โดยมี การวางแผน การดําเนินการ และสรุปผลพฤติกรรมที่กระทํา ตลอดจนแกไขพฤติกรรมใหเปนไปตามทีว่ างแผนไว
34
ขอเสนอแนะ 2) ดานอาจารยผูสอน แนะนําและชวยหามาตรการให นักศึกษามีพฤติกรรมการเรียนที่ดี เชน แนะนําการเตรียมตัว กอนเรียน โดยนักศึกษาควรจัดเตรียมความพรอมเกี่ยวกับ อุปกรณการเรียน ไดแก เครื่องเขียนและหนังสือประกอบการ เรียน ตลอดจนอานบทเรียนลวงหนา แนะเทคนิควิธีการเรียนให สัมฤทธิ์ผลทางการเรียนสูง เชน ทําการบาน จดบันทึก และสรุป ยอเนื้อหาที่เรียนมาแลว ตลอดจนหามาตรการใหนักศึกษาตรงตอ เวลาในการเขาชั้นเรียน โดยหากิจกรรมใหนักศึกษาทําในชั้นเรียน เชน มีการทดสอบยอยในชวงตนชั่วโมงกอนการเรียนเพื่อกระตุน ใหนักศึกษาตรงตอเวลาในการเขาชั้นเรียน เปนตน 35
ขอเสนอแนะ
3) หนวยงานที่เกี่ยวของ เชน ฝายแนะแนวการศึกษา ของมหาวิทยาลัย ควรรวมมือกับอาจารยผูสอนใหคําปรึกษา และแนะนํานักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิท์ างการเรียนต่ํา ให ปรับปรุงพฤติกรรมการเรียนที่จะทําใหสอดคลองกับ ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนที่สูงขึ้นตอไป
36
ขอเสนอแนะ 1) การวิจัยครั้งนี้ ไดทาํ การศึกษาเฉพาะนักศึกษาระดับ ปริญญาตรี ภาคปกติ ชัน้ ปที่ 2 คณะบริหารธุรกิจ ดังนั้น ควรขยายกลุมนักศึกษาเปาหมายที่ทําการศึกษาเพิ่มอีก 2 ชั้นป คือ ชั้นปที่ 3 และชั้นปที่ 4 ในคณะเดียวกัน เพื่อ เปรียบเทียบตัวแปรจําแนกกลุมนักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนสูงและต่ําของ 3 ชั้นปดังกลาว และประโยชนใน การปรับปรุงวิธีการเรียนสําหรับนักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนต่ําของแตละชั้นป 37
ขอเสนอแนะ
2) ควรทําการวิจัยในลักษณะเดียวกัน โดยเพิ่มตัว แปรอื่น ๆ ในดานพื้นฐานความรูเ ดิม และดานคุณภาพ การสอน ซึง่ เปนตัวแปรที่ใชอธิบายผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนของนักศึกษาไดเชนเดียวกัน
38