101-001

Page 1

ปีที่ ๑ ฉบับที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ www.issuu.com/roiedder

แจกฟรี

คึดฮอด...แหน่บ่น้อ?

•ผญา : “คึดฮอด...แหน่บ่น้อ?” •เฮฮา อีหล่า-บักห�ำน่อย •โจ๊กปลาแดก •สัมภาษณ์ “อ้ายห�ำแกง” ดร.วีระพงษ์ ประสงค์จนี •ทีละก้าว : ก้าวแรก •จาก ๑๐+๑ ถึงเทือกเขาอัลไต •และอีกหลากหลายเรื ่องราวเพื กรกฏาคม ๒๕๕๖ •่อร้ชาวร้ อยเอ็ดอ เด้ยเอ็ อ ด1


บริษัท สถาปนิกทูเก็ตเตอร์ จ�ำกัด ให้บริการด้านงานวิชาชีพด้านที่ปรึกษาและออกแบบ งานสถาปัตยกรรม วิศวกรรมทุกสาขา เพื่อให้การลงทุนของลูกค้าเกิดความคุ้มค่ามากที่สุด 2 Roiedder • July 2013


R

oieditor’s Note

แจ้งให้แซบโดยทั่วกัน

ปีที่ ๑ ฉบับที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ www.issuu.com/roiedder

แจกฟรี

คึดฮอด...แหน่บ่น้อ?

•ผญา : “คึดฮอด...แหน่บ่น้อ?” •เฮฮา อีหล่า-บักห�ำน่อย •โจ๊กปลาแดก •สัมภาษณ์ “อ้ายห�ำแกง” ดร.วีระพงษ์ ประสงค์จนี •ทีละก้าว : ก้าวแรก •จาก ๑๐+๑ ถึงเทือกเขาอัลไต •และอีกหลากหลายเรื่องราวเพื่อชาวร้อยเอ็ด

บ้านของเฮา เมืองของเฮา เรื่องราวของเฮา

นี่

คื อ นิ ต ยสารที่ มี เ นื้ อ หาเกี่ ย วกั บ สามวรรค ข้างต้น และส�ำหรับคนร้อยเอ็ด คงไม่ต้อง อธิบายอะไรให้มากความ ขอขอบคุณบรรดามิตตานุมิตรทุกท่าน ที่มีส่วน ช่วยเหลือในการ “ท�ำคลอด” นิตยสารเล็กๆ เล่มนี้ และเมื่อคลอดออกมาแล้ว ก็คงต้องขอร้องท่าน ทั้งหลาย ได้โปรดช่วยกันดูแลให้เค้าเติบโตขึ้นเป็น นิตยสารที่ดีด้วยนะครับ ถือซะว่า “ร้อยเอ็ดเด้อ” เป็นลูกเป็นหลาน ของท่านก็แล้วกัน เด้อครับเด้อ! “ฮักร้อยเอ็ดบักคัก”

บก.

หมายเหตุ : ค�ำว่า Roied ใน Roiedder จะสะกด ด้วยตัว d ทั้งหมด (ไม่ใช้ Roiet หรือ Roi-et ตาม แบบที่นิยมใช้ทั่วไป เว้นไว้แต่ชื่อเฉพาะ) ด้วยเหตุผล ทางอักษรศาสตร์บางประการ

ที่ปรึกษา ศุภวัฒน์ ดีสงคราม จีรพรรณ ดลรักษ์ บรรณาธิการบริหาร พุฒิพงศ์ สุดหล้า บรรณาธิการ แพตรี มนปราณีต กองบรรณาธิการ ณัฐวิทย์ ขาวศรี ยุทธพงศ์ ขันประกอบ ธิติพันธุ์ อวนศรี ถ่ายภาพ โจอี้ คนล่าแสง พันธมิตร เพจ ร้อยเอ็ดโฟโต้, ร้อยเอ็ดซิตี้ ส�ำรวจโคก, เฮาฮักภาษาอิสาน และ สมาคมคนฮักผญา สร้างสรรค์โดย บริษัท สถาปนิกทูเก็ตเตอร์ จ�ำกัด ส�ำนักงานร้อยเอ็ดเด้อ ๒๕๙/๑ ถ.รณชัยชาญยุทธ ซอย ๑๗ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ๔๕๐๐๐ โทร.๐๘๙ ๕๕๖ ๔๔๓๓ e-mail : roiedder@gmail.com fanpage : facebook.com/roiedder ฝ่ายโฆษณา โทร.๐๘๘ ๕๗๒ ๓๗๑๓

กรกฏาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ

3


T

his issue

มีหยังแหน่?

Roiedder Magazine

ใบสมัครสมาชิกนิตยสาร

5

อัตราค่าจัดส่งหนังสือ : 360 บาท (1 ปี 12 ฉบับ) กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวผู้สมัครลงในใบสมัคร แล้วส่งมาที่ ส�ำนักงานนิตยสารร้อยเอ็ดเด้อ 259/1 ถ.รณชัยชาญยุทธ ซอย 17 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด 45000 โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาร้อยเอ็ด หมายเลขบัญชี 102-1-66057-2 ชื่อบัญชี นายแพตรี มนปราณีต ส่งหลักฐานการโอนเงินมาที่ roiedder@gmail.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 089 556 4433 ชื่อ............................นามสกุล................................. วัน/เดือน/ปีเกิด..........................เพศ ชาย หญิง ที่อยู่ เลขที่....................ตรอก................................... ซอย........................ถนน............................................ ต�ำบล..............................อ�ำเภอ................................. จังหวัด............................รหัสไปษณีย์........................ โทรศัพท์...........................โทรสาร............................. อีเมล์.......................................................................... ต้องการบอกรับการเป็นสมาชิก ตั้งแต่ฉบับที่...........จนถึงฉบับที่............... รวม..............ฉบับ ต้องการให้ออกใบเสร็จในนาม (ระบุชื่อบุคคลหรือนิติบุคคลและที่อยู่โดยละเอียด) ชื่อ.............................................................................. ที่อยู่............................................................................ ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................. กรณีสมัครสมาชิกในนามนิติบุคคลกรุณาระบุชื่อบุคคลหรือ แผนกซึ่งเป็นตัวแทนรับนิตยสารท้ายชื่อนิติบุคคลนั้นด้วย

ติ4ดต่Roiedder อลงโฆษณา โทร.2013088 572 3713 • July

6

8

12 11 14 16 18 20 23

22


R

oied’s Root บ้านเกิด-เมืองเกิน

ถ่ายภาพ : โจอี้ คนล่าแสง www.facebook.com/roietphoto

ประตูสาเกตนคร

ระตู ส าเกตนคร ตั ้ ง อยู ่ บ ริ เวณด้ า นหน้ า บึ ง พลาญชั ย อำ�เภอเมืองร้อยเอ็ด สร้างขึ้น เพื่อเป็นประตูเมืองร้อยเอ็ด และเพื่อสมมติเป็น ประตู​ูเข้าเมืองสีพี (กัณฑ์ที่ ๑๐ “นครกัณฑ์”) ใน ขบวนแห่ประเพณีงานบุญผะเหวด รู ป แบบทางสถาปั ต ยกรรมได้ จำ�ลองมาจาก ใบเสมาหินที่เมืองฟ้าแดดสงยาง อำ�เภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ตัวอักษรสองด้านเขียนด้วยอักษร ไทยน้อย และไทยใหญ่ อ่านว่า “สาเกตนคร” ปัจจุบันประตูสาเกตฯได้กลายเป็นสัญลักษณ์ สำ�คั ญ อย่ า งหนึ่ ง ของจั ง หวั ด ร้ อ ยเอ็ ด ที่ ส ามารถ เยี่ยมชมได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เสมือนกับจะบอก ว่า ร้อยเอ็ดยินดีต้อนรับทุกท่านเสมอ ไม่ว่าท่านจะ เป็นนักเดินทางเพื่อการท่องเที่ยว หรือเดินทางเพื่อ ที่จะกลับบ้าน กรกฏาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ

5


คึดฮอดเด้..คึดฮอดคองเมือบ้าน นาเก่าหม่องเคยด�ำ คึดฮอดต�ำกะปูใส่บักขาม ได้นั่งกินอยู่โพนน้อย ฝนฮ�ำฮอยคึดฮอดบ้าน เฮือนซานบ่อนเคยอยู่ คึดฮอดผู้เพินเลี้ยงอยู่เถียงน้อย เคยออยเว่า....แท่น้อ ~สาวไทบ้าน~

แม่ยังคงหลกกล้า ถ่าลูกมากลับต่าว ลูกสาวผู้เรียนอยู่พู่น ปีสามแล้วสิหม่อมา ปริญญากะจวนได้ ใกล้หม่อพอดีใจ วิทยาลัยแม่ส่งเรียน ลูกกะเพียรใจตั้ง หวังสิแทนคุณท่าน ได้ท�ำงานเป็นครูใหม่ สาวอีสานผู้ใฝ่ฮู้ ขอซูย้องมายกยอ ขอให้พากันตั้ง ยอความหวังเด้อของแม่ ขอให้สมมาดแม้น แทนคุณไท้อิแม่เฮา... เด้อ นางเด้อ

~บ่าวคนไกล~

แต่ละค�ำลูกจ�ำได้ ค�ำข้าวใหญ่แม่เคยจก หมกเอามาสู่กิน เฝ่าถวิลจนนางท้าว เป็นบ่าวมาป๋าไลจ้อย สาวนางคอยหนีไกลถิ่น ลูกทุกคนต่างหากิน ออกดิ้นรนต่างบ้าน บ่คือท่านผู้เพิ่นมี ค�ำดีดีแม่บอกไว่ อยู่เมืองไทอย่าลืมท่ง อย่าหลงลืมทางก�้ำ ไห่หล�่ำบ้านอีสานเฮา เอามื้อเนาว์เป็นมื้อยั้ง ไห่หันหลังกลับมาแหน่ มาเบิ่งเฒ่าเบิ่งแก่ เบิ่งพ่อแม่ผู้คองถ่า อย่ารอซ่าให่ต่าวคืน แน่เด้อท้าวนางเอ้ย

ตอน... “คึดฮอด...(แหน่บ่น้อ?)”

6 Roiedder • July 2013

~ไข่มุก~


L

ife & Rhyme ม่วนค�ำผญา พี่น้องเอ้ย... เจ้าผู้ไกลจากบ้าน สถานถิ่นเคยท�ำกิน ถวิลน�ำเงินทอง ที่หมายปองมาสู่เหย้า อดทนเอาเด้อแนวพ้อ ปัญหาน้อที่พ้อผ่าน คิดฮอดถึงคนอยู่บ้าน อย่าหาญเล่นค่อยเก็บออม เงินค่าแฮงให้ค่อยป้อม เก็บเมี้ยนห่อไว้ดีดี บุพการียังรอกลับ ยามต่าวคืนเมือบ้าน ฮอดงานนาอาสาสู้ หนักเบาเพิ่นบ่จ่ม ย่านแต่ลูกเจ้าหลงลม หลงเมืองไกลบ่คิดพ้อ พ่อแม่นี้เพิ่นทุกข์จน...อย่าลืมบ้านว่าทุกข์จน พี่น้องเอ้ย...

~บักห�ำหล่า คนบ้านนอก~

ภาพ : ร้อยเอ็ดโฟโต้ ค�ำ : สมาคมคนฮักผญา

เห็นสายฝนปนสายฟ้า น�้ำตาอ้ายกะโฮยหลั่ง ถ่าฟังข่าวเจ้าพ่อว้อ พ่อว่อ หวังมาพ้อพบกัน จากมื้อนั้นสายสัมพันธ์ฮักหมั่นแก่น ย้อนสายแนนก่อเกื้อ อุ่นห้องหม่องหัวใจ น�้ำตาไหลพรมร่าง ยามฟ้าต่างคืดฮอดแฮง โอ้ยน้อ เจ้าค�ำแพงดั่งหน่วยตา คิดฮอดมาน�้ำตาย้อย...นางเอ้ย

~มังกร เดียวดาย~

กรกฏาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ

7


R “ส

oiedder Interview ป้าด...ฅนรอ้ ยเอ็ดตัว้ หนิ!

วัสดีครับ อ้ายมีชื่อว่า “แกง” หรืออาจจะเรียก ว่า “บักห�ำแกง” เป็นชื่อเรียกติดปากที่พ่อแม่ ตั้งให้ตั้งแต่เด็ก เพื่อนสมัยเรียนจุฬาฯก็จะเรียกชื่อเล่นว่า “พงษ์” เพราะมาจากชื่อจริงคือ วีระพงษ์ ประสงค์จีน ตอน นี้อายุ 32 ปี และยังโสดสนิทครับ 555+ อ้ายเกิดและเรียนประถมถึงมัธยมที่อำ� เภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ปริญญาตรีเภสัชศาสตรบัณฑิต จุฬาฯ ปริญญาโทด้านประสาทวิทยาศาสตร์จาก Imperial College London และปริญญาเอกด้านเซลล์ต้น ก�ำเนิดจาก University College London ตอนเป็นเด็กน้อยอ้ายอยากเป็นพระเอกหมอล�ำ แต่ ชีวิตพลิกผัน ก็เลยได้มาเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่ ภาควิชา ชีวเคมีและจุลชีววิทยา คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยครับ”

นั่น

คื อ การแนะน� ำ ตั ว แบบเป็ น กั น เอ๊ ง -กั น เอง ของ “ดร.แกง” ด๊อกเตอร์หนุ่มหล่อจากทุ่ง กุลา และร้อยเอ็ดเด้อฉบับนี้จะพาทุกท่านมาท�ำความ รู้จักกับชีวิต ความคิด ความฝัน ของผู้ชายคนนี้กัน

ขอทราบหลักการใช้ชีวิตฉบับ ดร.แกง

อ้

ายยึ ด การเรี ย นรู ้ ต ลอดชี วิ ต เป็ น ส� ำ คั ญ อยู่ที่ไหน ท�ำอะไร ก็ถือว่าเป็นการเรียน รู้ได้ อ้ายเชื่อว่าช่วงเวลาการเรียนระดับปริญญาเอกใน ระยะเวลา 3-4 ปีนั้น นอกจากการเรียนเพียงอย่าง เดียว ก็น่าจะท�ำอะไรได้อีกเยอะในขณะที่เรียนปริญญา เอก อ้ายท�ำงานที่นอกเหนือจากงานวิจัยหลายอย่าง เพราะว่า “อ้ายอยากท�ำ” และคิดว่าหากไม่เริ่มท�ำก็ไม่รู้ ว่าจะได้ท�ำตอนไหน อ้ายไม่อยากรอเวลาจนเรียนจบ แล้วถึงไปเริ่มท�ำเรื่องต่างๆเหล่านี้ที่เมืองไทย เพราะ มันอาจจะสายเกินไปและไม่ทันท่วงที อ้ายถือคติอยู่ อย่ า งหนึ่ ง ว่ า ถ้ า ทรั พยากรรอบกายพร้อม เพื่อน ร่วมงานพร้อม และโอกาสมาเมื่อไหร่แสดงว่าเป็น โชคแล้ ว ที่ จ ะได้ ท�ำ เพราะอ้ายเองก็ได้เตรียมความ พร้อมของตัวเองไว้อยู่ระดับหนึ่งอยู่แล้ว

8 Roiedder • July 2013

เรื่องประทับใจในชีวิต

อนเด็กๆก็ช่วยแม่ขายผัก นอกจากนี้สนุกกับ การเป็นพ่อค้าขายไม้ดอกไม้ประดับ ต้นไม้ ที่น�ำมาขายก็ได้ทั้งจากที่เพาะปลูกเองและที่ไปซื้อมา จากสวนต้นไม้ที่ขายส่ง ตอนเช้าก็ขี่รถจักรยานพ่วง ท้ายด้วยรถเข็นไม้สมัยเก่าไปที่ร้านซึ่งห่างจากตลาด ประมาณ 10 กิโลเมตร จากนั้นก็ไปนั่งขายที่ตลาด ทั้งวันพอถึงเวลาที่แม่ต้องขนผักไปตั้งร้านขายที่ใหม่ ในตอนเย็นก็มาช่วยแม่ทางนี้ บางวันถ้ามีดอกไม้กระ ถางสวยๆที่ออกดอกได้ไม่นานนัก เช่น ดอกกุหลาบ ก็ จะบรรทุกใส่รถเข็นแล้วเดินขายตามหมู่บ้านเนื่องจาก ขายได้เร็ว ไม่มีสินค้าคงคลังเหลือให้ปวดหัว จากนั้น ก็ขายไปจนหัวค�่ำแล้วก็กลับไปช่วยแม่ขายผักแล้วก็เก็บ ร้านขายผัก กว่าจะถึงบ้านก็ประมาณสองทุ่ม ช่วงนั้นมี ความสุขมากเพราะชอบขายของ ชอบนับเงิน กเรื่องที่ประทับใจและภาคภูมิใจก็คงเป็นเรื่อง การศึกษา เพราะไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสไป ร�่ ำ เรี ย นไกลถึ ง เพี ย งนี้ ตอนที่ ไ ด้ รั บ ทุ น การศึ ก ษา ต่ อ เนื่องระดับปริญญาตรีจากมูลนิธิด�ำรงชัยธรรมก็ ถือว่าดีใจสุดๆแล้ว ตอนเรียนจบปริญญาตรีเขาก็มอบ รางวัลนั ก เรี ย นทุ น ยอดเยี่ ย มมู ล นิ ธิ ด� ำ รงชั ย ธรรมใน ปี พ.ศ. 2548 จากนั้นก็ได้รับรางวัลเยาวชนดีเด่น แห่งชาติ สาขาการศึกษาและวิชาการ งานประกาศ เยาวชนดีเด่นและผู้ท�ำคุณประโยชน์แก่เยาวชน เนื่อง ในวันเยาวชนแห่งชาติ 2548 จัดโดยกระทรวงพัฒนา สั ง คมและความมั่ น คงของมนุ ษ ย์ ตอนที่ ไ ปเรี ย นที่ ลอนดอนก็น�ำเสนองานวิจัยที่ท�ำในระดับปริญญาเอก และได้รับรางวัล The Anglo-Thai Society Educational Excellence Awards (การแพทย์) จัดโดย Anglo-Thai Society สาหรับนักศึกษาไทยในสหราช อาณาจักรที่มีผลงานวิชาการโดดเด่นในสาขาต่างๆ ใน ปี พ.ศ. 2553

อี

มีไผเป็นไอดอล?

อดอลของอ้ายก็มีหลายคนนะ ตอนนั้นเรียน ประมาณชั้น ม.3 อ้ายไปเข้าอบรมธรรมะ ไป ปฏิบัติธรรมในโครงการแสงธรรมน�ำชีวิต ที่ศูนย์ปฏิบัติ ธรรมเวฬุวัน จ.ขอนแก่น ไปเจอ นพ.กระแส ชนะวงศ์ ท่านไปพูดเรื่องชีวิตของท่าน พร้อมกับหลวงพ่อจรัญ ฐิตะธัมโม ท่านก็ไปให้พร ไปสั่งสอนเด็กๆ ท่านเล่าว่า


ดร.วีระพงษ์ ประสงค์จีน

“อ้ายห�ำแกง” แห่งทุ่งกุลา ส่งผ่านคุณค่าถึงพี่น้องชาวเมืองเกิน

ตอนเด็ ก หมอกระแสท่ า นยากจนมาก ต้ อ งไปขาย น�้ ำ อัดลมที่สถานี บขส. ขอนแก่น สู้ชีวิตจนได้มาเรียน โรงเรียนเตรียมอุดมฯ จนจบแพทย์จุฬาฯ ตอนที่ฟัง บรรยายก็จดบันทึกไว้มากมาย ระหว่างที่อ้ายนั่งรถบัส กลับบ้านเลยเอาที่จดมาสรุปเป็นความคิดของตัวเอง สั้นๆ ว่า “ขยันคือค�ำตอบ” และยึดถือมาตั้งแต่ ม.3 กิจการทุกอย่างถ้าอยากจะท�ำให้ส�ำเร็จต้องขยัน นอกจากนี้ยังมี ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ที่ ท่ า นจบการศึ ก ษาระดั บ ปริ ญ ญาเอกที่ อิ ม พี เ รี ย ล คอลเลจลอนดอน เห็นท่านเก่งและเรียนวิทยาการ ใหม่ๆที่เจ๋งมาก ก็เลยทำ�ให้อ้ายอยากไปเรียนที่นั่นด้วย

จนในที่สุดอ้ายก็ได้ไปเรียนปริญญาโทที่สถาบันนี้

ความฝันใฝ่ในอนาคต...

นด้ า นวิ ช าการก็ อ ยากจะทำ�หน้ า ที่ อ าจารย์ มหาวิทยาลัยให้ดีที่สุด พยายามผลักดันศาสตร์ สมัยใหม่ที่อ้ายมีความเชี่ยวชาญอยู่ ถ่ายทอดให้เด็กๆ รุ่นหลังได้เรียนรู้กันอย่างกว้างขวางทั้งในมหาวิทยาลัย และการเผยแพร่สู่สาธารณะ อีกทั้งอยากจัดกิจกรรมใน เชิงนวัตกรรมสังคม (social innovation) โดยเฉพาะ เด็กๆภูธรที่อาจจะไม่ค่อยได้มีโอกาสได้เรียนรู้วิทยาการ ใหม่ๆ ให้เขาได้รู้เท่าทันเทคโนโลยีและหันกลับมาสร้าง ความรู้และช่วยกันพัฒนาท้องถิ่นมากขึ้นครับ

กรกฏาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ

9


ในฐานะที่ เ ป็ น อาจารย์ ท างประสาทวิทยาศาสตร์ มีข้อเสนออะไรที่น่าจะเป็น ประโยชน์ต่อการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการ ศึกษาของบ้านเราบ้างครับ?

ารเรียนรู้ที่อ้ายคิดว่าน่าจะเหมาะกับเด็กไทย ในยุคนี้ น่าจะเป็นแบบนี้ครับ • ควรยึดตัวเราเองเป็นศูนย์กลาง มีการออกแบบที่ เหมาะสมกับแต่ละคน (personalized learning) • เลือกสื่อการเรียนการสอนในท้องถิ่นที่คุ้นหูคุ้น ตา เช่น ถ้าหยิบยกเรื่องควายมาเป็นพระเอกใน การด�ำเนินเรื่อง นอกจากจะสามารถเรียนรู้ได้ทั้ง วิชาพื้นฐานทั้งวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์แล้ว วิชาที่ทันสมัยอย่างเช่น พันธุกรรมของควายไทย หรือการโคลนนิ่งควาย ก็จะต่อยอดได้ไม่ยากนัก • มีการเปิดรับข้อมูลรอบข้างจากแหล่งเรียนรู้ใกล้ ตัวก่อน (local wisdom) เพื่อสร้างเครือข่าย ประสาทให้เชื่อมโยงกับสังคมพื้นเพได้ดี และเกิด ความภาคภูมิใจในวิถีชีวิตของบรรพบุรุษ และเมื่อ

10 Roiedder • July 2013

เราเพิ่มข้อมูลเชื่อมต่อกับศาสตร์ใหม่ๆของโลก ในยุคปัจจุบัน (global knowledge) ก็จะท�ำให้ เราไม่ ต กยุ ค ตกสมั ย ที่ ส�ำ คั ญ จะท�ำ ให้ เ ราเข้ า ใจ ท้องถิ่นมากขึ้น สามารถสร้างงานที่สัมพันธ์กับ ความต้องการของท้องถิ่น การเรี ย นรู ้ แ บบนี้ น ่ า จะสามารถน�ำ วิ ท ยาการดั ง กล่าวไปพัฒนาบ้านเกิดให้น่าอยู่ ลูกหลานก็ไม่ต้องจาก บ้านเพื่อไปค้นหาตัวเองในเมืองใหญ่ และจะท�ำให้เรา รู้สึกว่าการเรียนรู้ไม่ได้เกิดเฉพาะในห้องเรียน หากแต่ มันเกิดขึ้นได้ตลอดชีวิต (life-long learning)

ฝากถึงคนร้อยเอ็ด...

ยากให้ทุกคนภาคภูมิใจในความเป็นลูกหลาน เมื อ งร้ อ ยเอ็ ด ช่ ว ยกั น พั ฒ นาชุ ม ชนของตั ว เองตามก�ำลังความสามารถ และให้ความส�ำคัญ กับการศึกษา เพราะหากเยาวชนรุ่นหลังได้รับการ ศึกษาอย่างทั่วถึง มีประสิทธิภาพและมีคุณธรรม ก�ำกับแล้ว ก็เชื่อแน่ว่าบ้านเมืองของเราก็จะพัฒนา ไปในทางที่ถูกที่ควรอย่างยั่งยืนครับ


C เรื่

hill’Roied’dren

เรื่องและภาพโดย ครูบอย & ครูเมษ์

เฮฮา อีหล่า-บักห�ำน่อย

องราวต่อไปนี้ เป็นเหตุการณ์น่าอมยิ้ม ที่เกิด ขึ้นในโรงเรียนบ้านนอกของเด็กๆบ้านนา ลอง นึกถึงเราเองสมัยยังเด็กดูก็ได้ครับ ว่าเหมือนหรือต่างกัน อย่างไร

พ่

อของเด็กผู้หญิงระดับชั้นอนุบาลคนหนึ่ง เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน และเผาศพไป เมื่ อ วั น เสาร์ ที่ ผ่านมา วันนี้นักเรียนอนุบาลคนนั้นมาโรงเรียนตาม ปกติ ยิ้มหัว...หยอกล้อกับเพื่อนราวกับไม่มีอะไร เกิดขึ้น ครูได้ยินเธอโต้เถียงกับเพื่อนด้วยปัญหาบาง อย่างตามประสาเด็กอนุบาลดูเหมือนจะเถียงแพ้ เธอจึงข่มขู่เพื่อน “อย่ามาท�ำปากดีนะ พ่อเราเพิ่งตายใหม่ๆ เดี๋ยวก็บอกพ่อมาหลอกซะเลย!” … ดูเหมือนว่า เด็กๆจะรับมือกับความตายได้ ดีกว่าผู้ใหญ่อย่างเราอีกนะ

นวันเด็ก ครูโจ้เห็น ด.ช.ก้านกล้วยถือไอติม ที่ค่อยๆละลาย โดยไม่ยอมกินสักค�ำ จึง ถามด้วยความเป็นห่วง “ก้านกล้วย! คือบ่กินไอติม?” (ก้านกล้วย ท�ำไมไม่กินไอติม?) “มันเย็นครับ” ด.ช.ก้านกล้วยเงยหน้าขึ้น ตอบ “เฮ็ดจั่งได๋สิได้กินหละ” ครูโจ้ถามต่อด้วย ความอยากรู้อยากเห็น “ถ่าให้มันเซาเย็น” ด.ช.ก้านกล้วยตอบ พร้อมกับเป่าไอติมเบาๆ

ค�ำอีสานหาฟังยาก

ครู : คาบนี่เฮาสิมาเรียนภาษาท้องถิ่นกัน เด้อนักเรียน นักเรียน : ค้าบ!/ค่า! ครู : นักเรียนคึดว่าค�ำได๋ในภาษาอีสาน ที่ เด็กน้อยรุ่นใหม่ก�ำลังสิลืมไป เด็กชายจ่อย! ไส...ลองเสนอมาจักค�ำเบิ่งดู้ ด.ช.จ่อย : ค�ำว่า “บักหล่า” ครับ ครู : เป็นหยังคือเป็นค�ำนี่? อยู่เฮือนครู กะใซ่เอิ้นลูกครูอยู่ซุมื่อ ด.ช.จ่อย : ตั้งแต่กี้ผมกะได้ยินดู๋อยู่ครับ แต่ ซุมื่อนี่อิพ่ออิแม่เลาบ่ค่อยใซ่ค�ำนี้เอิ้นผมแล่ว ครู : แล้วพ่อแม่ใซ่ค�ำได๋เอิ้นเธอ? ด.ช.จ่อย : “บักสันดาน” ครับ!!

นี่มันค�ำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก หรือว่าค�ำขวัญวันงดถูสบู่โลกกันหนิ?

ภาพจาก โรงเรียนเทศบาลวัดสระทอง ส่งเข้าประกวดโดย ครูเมษ์ กรกฏาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ 11


ร้

อยเอ็ดได๋?

Roiedized by ไฉ่ ฉ�่ำ แฉะ

นฐานะคนร้อยเอ็ดคนหนึ่ง ผมก็มีความ ภูมิใจในจังหวัดตัวเอง ถึงแม้ว่าร้อยเอ็ด ของเราจะไม่ได้มีจุดเด่นหรือจุดน่าสนใจมาก นักเมื่อเทียบกับหลายๆจังหวัดในประเทศไทย แต่ ก็ มี ห ลายแง่ มุ ม ที่ เ ราสามารถอธิ บ ายได้ ถึงความงามและความน่าอยู่ของร้อยเอ็ดใน ทัศนะของเราได้ ละส� ำ หรั บ ร้ อ ยเอ็ ด เด้ อ ฉบั บ แรกนี้ คงจะไม่ พู ด ถึ ง ประวั ติ ข องจั ง หวั ด ร้อยเอ็ดไม่ได้...

มั ย เรี ย นมหา’ลั ย ผมมี เ พื่ อ นที่ ม าจากจั ง หวั ด ต่ า งๆทั่ ว ประเทศ แต่ส่วนใหญ่มักจะตอบหรืออธิบายถึงประวัติ ของจังหวัดตัวเองไม่ได้หรือได้แบบไม่มั่นใจเสมอ ในขณะที่ผม สามารถตอบได้อย่างเต็มปากและมั่นใจเพราะสมัยเด็กคุณครู ที่โรงเรียนสอนถึงประวัติเมืองร้อยเอ็ดอยู่หลายต่อหลายครั้ง ทั้งให้ท่องจ�ำจนมีองค์ความรู้หนึ่งที่ได้บันทึกลงในสมองส่วน ลึกว่า “เมืองร้อยเอ็ด มีสิบเอ็ดประตูเมือง แต่เมื่อก่อน เขียนเลขสิบเอ็ดเป็น 10+1 คือ 101 จึงเพี้ยนจน กลายมาเป็นชื่อว่า ร้อยเอ็ด” ในความรู้สึกผมก็ว่ามันแปลกๆอยู่ว่าจะเอาจ�ำนวนประตู เมืองมาตั้งเป็นชื่อเมืองท�ำไม? แต่ก็พอใจและภูมิใจว่าเป็น จังหวัดเดียวในประเทศไทยและอาจจะเป็นจังหวัดเดียวใน โลกด้วยซ�้ำที่สามารถเขียนเป็นตัวเลขได้ อีกอย่างหนึ่งที่ครูทุกโรงเรียนน่าจะสอนคือ ข้อ สันนิษฐานเรื่องที่มาของชนชาติไทย บ้างก็ว่าคน ไทยอยู่ที่นี่แหละไม่ได้มาจากไหนหรอก บ้างก็บอกอาจจะมา จากฟิลิปินส์ก็ได้เพราะหน้าตาเหมือนกัน แต่ข้อสันนิษฐานที่จ�ำขึ้นใจคือ คนไทยอพยพมาจาก เทือกเขาอัลไต ผมไม่รู้หรอกว่าเทือกเขาอัลไตอยู่ไหน แต่ก็เชื่อและได้ วาดภาพเทือกเขาอัลไตในจินตนาการของตนมาตลอด

มี

12 Roiedder • July 2013

จาก ๑๐+๑ จนเมื่ อ สั ก ต้ น ปี ที่ ผ ่ า นมาผมมี โ อกาสได้ อ ่ า นบทความ ของนักเขียนในนิตยสารสัพเพเหระฉบับหนึ่ง พูดถึงท่านทูต โซเวียต(ในสมัยนั้น)ได้เชิญนักเขียนดังกล่าวไปเที่ยวโซเวียต แล้ ว ถามว่ า อยากไปเที่ ย วไหน นั ก เขี ย นท่ า นนั้ น จึ ง บอก ว่ า อยากไปเที่ ย วเทื อ กเขาอั ล ไตเพราะคนไทยเชื่ อ ว่ า ตนมี บรรพบุรุษอพยพมาจากที่นั่น ท่านฑูตโซเวียตหัวเราะ แล้วบอกว่าเทือกเขาอัลไต เป็นภูเขาน�้ำแข็ง ไม่มีคนอยู่อาศัยได้หรอก ผมนี่หงายเงิบ1เลยครับ! แล้ ว ภาพเทื อ กเขาอั ล ไตที่ เ ป็ น ทุ ่ ง หญ้ า แห้ ง แล้ ง ปน ทะเลทรายแบบในหนังพวกมองโกเลียของผมล่ะ? ไม่ใช่ แบบนั้นแล้วเหรอ? การที่จะลบความเชื่อเก่าๆที่ฝังลึกในหัวมันไม่ใช่เรื่องง่าย นะครับ ก็ เ ลยจุ ด ประเด็ น ให้ ผ มลองค้ น เรื่ อ งเทื อ กเขาอั ล ไตดู สักกะหน่อย นอกจากจะได้ความรู้เพิ่มเติมมาว่า “อัลไท เป็นภาษาตุรกี สะกด “Alytau” หรือ “Altay” มาจากศัพท์ Al (ทองค�ำ) และ tau (ภูเขา) ใน ภาษามองโกเลีย เรียกว่า อัลทาอิน-อูลา หมายถึง เทือกเขาแห่งทองค�ำ และยังมีชื่อเรียกอื่นๆอีกตาม แต่ละถิ่นจะเรียก” แล้วยังปรากฏอีกว่า... “ปัจจุบันความเชื่อที่ว่าคนไทยอพยพมาจากเทือก เขาอัลไต ไม่ได้รับการสนับสนุนจากนักวิชาการส่วน ใหญ่แล้ว แต่ยังมีเนื้อหาแบบนี้ปรากฏในต�ำราเรียน อยู่” ผมพอเข้าใจนะครับว่านักประวัติศาสตร์นั้นก็พยายาม ศึกษาค้นคว้าตามองค์ความรู้ที่พัฒนาและเปลี่ยนแปลงไป เรื่ อ ยๆ สิ่ ง ที่ เ คยสรุ ป มาในอดี ต อาจจะเปลี่ ย นแปลงไปใน ปัจจุบันและอาจจะเปลี่ยนแปลงได้อีกในอนาคต แต่ไอ้เทือกเขาอัลไตนี่มันเป็นภูเขาน�้ำแข็งแบบเทือกเขา หิมาลัย ที่คนอยู่อาศัยไม่ได้นะครับ ผมว่ามันออกจะผิดเพี้ยนมากไปสักหน่อยนะ!


ถึงเทือกเขาอัลไต

ย้

ภาพประกอบ : ร้อยเอ็ดโฟโต้ อนกลับมาที่ 10+1 ผมก็ได้กลับไปลองค้นดูคร่าวๆ ทางเวบไซต์ทางวิชาการที่ได้รับการยอมรับเวบหนึ่ง

ปรากฏว่า “ปัจจุบันข้อสันนิษฐานที่ว่าเมืองร้อยเอ็ดน่าจะมีสิบ เอ็ดหัวเมือง อันเนื่องมาจากการเขียนจ�ำนวนตาม แบบภาษาลาวโบราณ โดยเลขสิบเอ็ดจะประกอบ ไปด้วยเลขสิบกับเลขหนึ่ง (10+1=101) ท�ำให้ เกิดการอ่านที่ผิดเพี้ยนเป็นค�ำว่าร้อยเอ็ดนั้น น่า จะเป็นสมมุติฐานที่คลาดเคลื่อน เพราะจากการ ตรวจสอบข้อความตัวอักษรธรรมในต้นฉบับใบลาน เรื่องต�ำนานอุรังคธาตุ2ไม่ปรากฏว่ามีจุดไหนที่เขียน ชื่อเมืองร้อยเอ็ดเป็นตัวเลข แต่กลับมีการเขียน ถึงเมืองร้อยเอ็ดเป็นตัวอักษรทุกจุด (มีทั้งหมด 59 จุด)...” ผมถึงกับหงายเงิบเป็นครั้งที่ 2 ภายในวันเดียวกัน! และผมเชื่อว่าก็คงมีอีกหลายๆเรื่องที่ผมอาจจะเข้าใจ ผิดหรือคลาดเคลื่อนอยู่ ซึ่งจริงๆไม่ได้เป็นความผิดของใคร คุณครูของผมก็คงเชื่ออย่างที่สอนผมเหมือนกัน เพียงแต่ว่า วันหนึ่งเมื่อเราเติบโตขึ้นมามีหน้าที่การงานต้องท�ำมีภาระ มากขึ้นท�ำให้เราไม่มีเวลาหรือไม่สนใจย้อนกลับไปตรวจสอบ เรื่องราวเหล่านี้เลย หตุการณ์ในวันนั้นท�ำให้ผมต้องหันมาเปลี่ยนมุมมอง ชีวิตใหม่ในหลายๆเรื่อง ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เชื่อ

ไปเสียทุกเรื่องนะครับ แต่บางเรื่องบางอย่าง สิ่งที่เราเข้าใจ และฝังลึกอยู่ในส่วนลึกของจิตใจอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่ เราคิดเสมอไป หรือเรื่องบางเรื่องที่เราคิดว่าเราถูกต้องที่สุด แล้วในวันนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงกลับกลายเป็นสิ่งที่ผิดก็ได้ใน อนาคต โลกมันหมุนอยู่ทุกวัน องค์ความรู้มันเปลี่ยนทุกวัน ทุก สิ่งทุกอย่างรอบข้างมันเปลี่ยนทุกวัน วันนี้ผมได้รู้ว่าคนไทย ไม่ได้อพยพมาจากเทือกเขาอัลไตแน่ๆ และจังหวัดร้อยเอ็ด ไม่ได้มีที่มาจาก 10+1 แน่ๆ แต่ที่แน่ๆ ความรู้ของผมในวัน นี้มันอาจเปลี่ยนแปลงไปก็ได้ และแน่นอนว่ามันอาจจะไม่แน่ก็ได้!! หงายเงิบ (กิริยา) ทุกคนน่าจะเข้าใจดี-ผู้เขียน ตำ�นานอุรังคธาตุ หนังสือเล่าตำ�นานการสร้างพระธาตุพนม กล่าวถึงเมืองใหญ่ชอ่ื “สาเกตนคร” ทีม่ เี มืองบริวารถึงร้อยเอ็ด หัวเมือง ส่วนร้อยเอ็ดของเรานั้นก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๑๘ และ ได้ตั้งชื่อเมืองว่า “ร้อยเอ็ด” เพื่อเป็นที่ระลึกถึงสาเกตนคร-บก. 1

2

กรกฏาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ 13


F

rom 1-0-1 to someone

เ ขี ย น ถึ ง ผู ้ ลั ง ค น

ผู้ฝากส่ง เลขที่ ๑๖ ม.๓/๑ โรงเรียนดอกค�ำใต้วิทยาคม อ�ำเภอดอกค�ำใต้ จังหวัดพะเยา ๕๖๑๒๐

กรุณาส่ง

สวัสดีจ้ะค�ำหอม วันนี้บ่ายแก่ๆ ฉันค้นลังเก็บของเก่าๆ ในบ้านเพื่อจะ จัดห้องใหม่ ไปเจอกล่องใส่บัตเตอร์คุ้กกี้สีแดง ข้างในมี จดหมายจากเธอ ฉันเปิดอ่านซ�้ำแล้วซ�้ำอีก เป็นนานกว่า ฉันจะยิ้มเศร้าๆออกมา กระทั่งแม่มาเรียกไปทานข้าวเย็น โน่นแหละ น�้ำตาของฉันก็คลอเบ้าให้แม่เห็น “เป็นอะไรไปลูก คิดถึงค�ำหอมอีกแล้วหรือ?” “อือ...แม่รู้ได้ไงครับ?” “คุ้กกี้กล่องนั้นแม่ก็ได้ชิม รสชาติมันฝาดเฝื่อนยังไงพิกล นะแม่ ว ่ า ” แม่ ต อบพร้ อ มกับยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเข้าครัวไป เตรียมส�ำรับกับข้าว แล้วความทรงจ�ำเกี่ยวกับเธอในครั้งนั้นก็กลับมา...

เดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๐

ที่โรงเรียน ฉันได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง จ่าหน้าซองถึง “คุณเลขที่ ๑๖ ม.๓/๑ โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ๔๕๐๐๐” จากผู ้ ส ่ ง “เลขที่ ๑๖ ม.๓/๑ โรงเรี ย นดอกค� ำ ใต้ วิทยาคม อ.ดอกค�ำใต้ จ.พะเยา ๕๖๑๒๐” เนื้อความในจดหมาย เริ่มจากการแนะน�ำตัวก่อน “สวัสดีค่ะ คุณเลขที่ ๑๖ ดิฉันชื่อ น.ส.อนุสรา ธารา ธรรมด�ำรง ชื่อเล่น ค�ำหอม อยู่เลขที่ ๑๖ ม.๓/๑...” ตามด้วยเหตุผลที่ต้องเขียน “จดหมายนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานวิชาภาษาไทย เราบังเอิญเลขที่ตรงกันและอยู่ห้องเดียวกัน” อืม...ความ บังเอิญก็ใช้เป็นเหตุผลได้ด้วยแฮะ และลงท้ายจดหมายเหมือนกับลอกกันมาทั้งประเทศ “กรุณาตอบจดหมายฉบับนี้กลับถึงดิฉันโดยด่วน ด้วยนะคะ เพราะถ้าคุณไม่ตอบ ดิฉันจะติด ร. วิชาภาษา ไทย” นฐานะที่ฉันเรียนชายล้วนมาเกือบสามปี ก็รู้สึกดีใจ อยู่ที่ได้เพื่อนต่างโรงเรียนเป็นผู้หญิง แต่บอกตามตรง ว่าช่วงเวลานั้นฉันชอบเล่นกับเพื่อนมากกว่า ท�ำให้เรื่องอื่นๆ กลายเป็นเรื่องน่าเบื่อไปหมด ฉันจึงตอบจดหมายไปแบบกวนๆ ประมาณว่า

14 Roiedder • July 2013

คุณเลขที่ ๑๖ ม.๓/๑ โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย อ�ำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ๔๕๐๐๐ “คนอะไรก็ไม่รู้ชื่อค�ำหอม--เช้ยเชย! คุณอย่าเสียเวลา เลย เราคงคบกันไม่ได้หรอก (ไม่รู้ใครบอกจะคบด้วย ตั้งแต่เมื่อไหร่!) เพราะผมน่ะมันระดับเดอะเบล๊ด ฮีโร่ พันธุ์นรกเชียวนะ ฮ่าๆๆ” มานึกดูแล้ว ครั้งนั้นฉันใช้ภาษาได้เชยระเบิดยิ่งกว่าชื่อ ค�ำหอมของเธอเสียอีก! ฉบั บ ต่ อ มาเธอค้ อ นฉั น วงใหญ่ “อุ ต ส่ า ห์ เขี ย นมาดี ๆ ท�ำไมต้องตอบไปกวนๆ เหมือนไม่อยากตอบแบบนั้น” แต่ท้ายจดหมายเธอบอกว่า ถึงยังไงเธอก็ยังอยากเป็น เพื่อนกับฉันอยู่ จดหมายฉบับนั้นฉันไม่ได้เขียนตอบกลับไป เพราะก�ำลัง สนุกอยู่กับการแข่งฟุตบอลลีกของห้อง ลังจากนั้นสองเดือน เธอก็เขียนมาอีก พร้อมกับส่ง บัตเตอร์คุ้กกี้กล่องสีแดงมาด้วย เธอต่อว่าฉันที่ไม่ ยอมตอบจดหมาย ไอ้ฉบับที่ตอบก็เขียนแบบขอไปที “ขอโทษถ้าท�ำให้คุณรู้สึกเสียเวลา ฉันจะไม่เขียนมารบก วนคุณอีก ป.ล. ฉันต้องย้ายบ้านไปจากอ�ำเภอดอกค�ำใต้ แล้ว และเราคงไม่ได้ติดต่อกันอีก ขนมคุ้กกี้กล่องนี้ให้ แทนค�ำขอบคุณที่ช่วยให้ฉันไม่ต้องติด ร. ภาษาไทย” ฉันรู้สึกได้ว่าเธอร้องไห้ น้อยใจที่ถูกรังแกทางจดหมาย ส่วนฉันนั้นรู้สึกเคว้งคว้างเหมือนต้องค�ำสาปจากจดหมาย ลูกโซ่ของพระครูวิจิตรธรรมโชติ เมื่อตั้งสติได้ฉันรีบเขียนจดหมายไปง้อเธอทันที เดือน นั้นฉันเขียนถึงเธอสองครั้ง จดหมายถูกตีกลับทั้งสองครั้ง กล่องคุ้กกี้สีแดงใบนั้นจึงมีจดหมายห้าฉบับ กับ ความรู้สึกผิดอีกหนึ่งกระบุงโกย งวันนี้เธอคงหายโกรธและลืมเรื่องนั้นไปแล้ว แต่ฉันไม่เคยให้อภัยตัวเอง แม้เวลาจะผ่านไป นานเพียงใด ฉันมักเป็นแบบนี้เสมอ จะเห็นคุณค่าของอะไร สักอย่าง ก็ต่อเมื่อสูญเสียมันไปแล้ว

ถึ


ด ห ม า ย ถึ ง ค� ำ ห อ ม C o m e H o m e, I Miss You.

มิ

ตรภาพนั้นงดงามนัก แต่ ใ นขณะเดี ย วกั น ก็ บอบบางยิ่ง

เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๖

พี่คนหนึ่งคิดท�ำนิตยสารแนวท้องถิ่นของร้อยเอ็ด เขาชวนให้ฉันมาช่วยเขียนคอลัมน์อะไรสักอย่างลงใน นิตยสารฉบับนั้น ฉันถามว่า ต้องการข้อเขียนแนวไหน พี่เขาให้โจทย์มาว่า “เขียนอะไรที่ท�ำให้คนอ่าน อ่านแล้วยิ้มได้” ฉันก็เลยมาคิดว่า เขียนจดหมายถึงเธอน่าจะท�ำให้ คนอ่านยิ้มได้ เพราะเวลากลับไปอ่านจดหมายเก่าๆ จากเธอแล้ ว ฉั น ก็ ยิ้ ม ได้ เ หมื อ นกั น แม้ จ ะเป็ น ยิ้ ม แบบเศร้าๆ ก็ตาม ฉันเพียงหวังว่าจดหมายถึงเธอ (ที่เธอไม่ได้อ่าน) นี้ จะเป็นเครื่องเตือนใจให้กับตัวเองได้บ้างว่า “มิตรภาพ นั้นงดงามนัก แต่ในขณะเดียวกันก็บอบบางยิ่ง” ฉบับนี้คงต้องพอแค่นี้ก่อน ไว้มีโอกาสฉันจะเขียน ถึ ง เธออี ก ถ้ า เทพเจ้ าแห่งจดหมายมีจริง ท่านคง ดลให้เธอได้อ่านสักวัน เหมือนกับที่ท่านเคยดลใจ คุณครูภาษาไทยของเธอสั่งให้เธอเขียนจดหมายถึง ฉันเมื่อ ๑๖ ปีก่อน

ฉั

นมั ก เป็ น แบบนี้ เ สมอ จะเห็นคุณค่าของอะไร สักอย่าง ก็ต่อเมื่อสูญเสีย มันไปแล้ว

คิดถึงเธอจริงๆนะค�ำหอม จาก “คุณเลขที่ ๑๖” ของเธอ

กรกฏาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ 15


Muan & More

Text by ด.ช.บุญกี้ ศรีอโยธยา

หลายกว่าม่วน

Life of Pi

“เ

เรื่องเหลือเชื่อบางเรื่อง ก็น่าคิด...เอาเรื่อง!!

ด็กหนุ่มที่ใช้ชีวิตอยู่บนเรือชูชีพกับเสือโคร่งงั้นรึ?” ผมสงสัย “แล้วจะมีอะไรมาเล่าเป็นหนังได้ตั้ง 2 ชั่วโมง หนังบ้าอะไรวะเนี่ย?” นั่นคือแวบแรกที่รู้สึกหลังจากที่ได้อ่านเรื่องย่อของ Life of Pi แต่เมื่อได้ดูจนจบเรื่อง ผมก็พบว่าตัวเองได้ตกอยู่ใต้มนต์สะกดของ “หนังบ้า” เรื่องนี้เข้าอย่างจัง! เรื่องย่อเขาว่าไว้อย่างนี้ครับ...

Molitor) ซึ่งเป็นสระว่ายน�้ำสาธารณะในกรุงปารีส โดยการ แนะน�ำของเพื่อนที่เป็นนักว่ายน�้ำระดับเทพ (และตาลุงนี่ แหละที่แนะน�ำให้นักเขียนคนนั้นมาพบกับพาย) เมื่อเข้าโรงเรียน ถูกเพื่อนและครูเรียกชื่อเพี้ยนเป็น “พิส ซิ่ง” (Pissing เป็นค�ำสแลง หมายถึงปัสสาวะ ในพากย์ไทยใช้ ว่า “ชิ้งฉ่อง”) เด็กชายพิสซีนก็มีหัวใจและเจ็บปวดเป็น เขาจึงตัดตัว อักษรอื่นๆในชื่อออกให้เหลือเพียงสองตัวหน้าคือ P กับ i แล้วบอกใครต่อใครว่าเขาชื่อ “พาย” (Pi)* แต่ก็อย่างที่ไฉ่ ฉ�่ำ แฉะว่าไว้ การที่จะลบความเชื่อเก่าๆ ที่ฝังลึกในหัวมันไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับ เขาสู ้ อ ดทนพิ สู จ น์ ตั ว เองวั น แล้ ว วั น เล่ า เพื่ อ ให้ ค นอื่ น ยอมรับเขาในชื่อพายให้ได้ ในที่สุดทุกคนก็เรียกเขาว่า “พาย” และลืมชื่อ “ไอ้ชิ้งฉ่อง” ไปเสียสนิท เรียกว่ารู้จักสร้างแบรนด์ให้กับตัวเองตั้งแต่ยังเป็นเด็กตัว เรื่องที่มาของชื่อ “พาย” แรกเกิดนั้นพระเอกของเราชื่อ “พิสซีน โมลิเตอร์ พา กะเปี๊ยก สมกับเป็นพระเอกจริงๆ พับผ่า! เทล” พ่อของเขาตั้งตามชื่อสระพิสซีน โมลิเตอร์ (Piscine

Life of Pi (“ไลฟ์ ออฟ พาย” ชื่อภาษาไทย “ชีวิต อัศจรรย์ของพาย”) สร้างขึ้นจากนวนิยายผจญ ภัยแฟนตาซีของ ยานน์ มาร์เทล ถ่ายทอดเรื่อง ราวของเด็กหนุ่มชาวอินเดียชื่อ พาย พาเทล ที่มี ชีวิตรอดจากเหตุการณ์เรือล่ม โดยใช้ชวี ติ อยูใ่ นเรือ ชูชพี ถึงเป็นเวลา 227 วัน กับบรรดาสิงสาราสัตว์ นานาชนิด รวมถึงเสือเบงกอลตัวมหึมา พายต้อง ใช้ชีวิตเพียงล�ำพังกับเจ้าสัตว์ร้ายนี้โดยใช้ความรู้ ไหวพริบ และศรัทธาทั้งหมดเพื่อให้มีชีวิตรอด เป็นเรื่องที่พาย พาเทล เล่าถึงชีวิตของตัวเองในวัย หนุ่มให้กับนักเขียนคนหนึ่งฟัง เริ่มด้วยการเล่าถึงปูมหลัง และครอบครัวของเขาในวัยเด็ก ซึ่งมีแง่มุมที่น่าสนใจไม่ น้อย...อันผมจะขอสปอยล์สักนิด

16 Roiedder • July 2013


มจะไม่ ก ล่ า วอะไรเกี่ ย วกั บ เนื้ อ หาของหนั ง ไป มากกว่านี้ ประเดี๋ยวท่านที่ยังไม่ได้ดูจะหมดสนุก เสียเปล่า บอกได้แค่ว่านี่เป็นหนังที่สามารถสร้างแรงบันดาล ใจ เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ที่ท�ำให้ได้ฉุกคิดตลอดทั้งเรื่อง และแถมยังมีหักมุมแทบตีลังกาในตอนท้ายอีกด้วย ผมรู ้ สึ ก เสี ย ดายที่ ไม่ได้ดูแบบสามมิติในโรงหนัง คงจะสนุกกว่าดูคนเดียวหน้าจอคอมเป็นไหนๆ ต้องปรบมือให้ทั้งทีมสร้างภาพยนตร์ และผู้เขียน หนังสือ (ยานน์ มาร์เทล) ที่มีผลงานดีๆออกมาประดับ โลกเบี้ยวๆใบนี้ หนั ง ได้ รั บ รางวั ลออสการ์ถึง 4 รางวัล ได้แก่ ก�ำกับภาพยอดเยี่ยม, เทคนิคภาพยอดเยี่ยม, ดนตรี ประกอบยอดเยี่ยม และ อัง ลี ผู้ก�ำกับภาพยนตร์ ยอดเยี่ยมแห่งปี 2012 *Pi (π) เป็นค่าคงที่ค่าหนึ่ง เกิดจากการน�ำ เส้ น รอบวงหารด้ ว ยเส้ น ผ่ า นศู น ย์ ก ลางของ วงกลม จะได้เลขทศนิยมไม่รู้จบ ค่า Pi ที่เรารู้จักกันคือ 3.14 หรือ 22/7 นั้นเป็น เพี ย งค่ า ใกล้ เ คี ย งที่ อ นุโลมใช้ในคณิตศาสตร์ พื้นฐาน ส�ำหรับการค�ำนวณที่ละเอียดเช่นการหา ขนาดของไฮโดรเจนหรือขนาดของจักรวาล ต้อง ใช้ค่า Pi ที่มีทศนิยมถึง 39 ต�ำแหน่ง Pi ถือเป็นตัวเลขมหัศจรรย์ค่าหนึ่ง เพราะเป็น จ�ำนวนจริงที่มีพิกัดของตัวมันเองบนเส้นจ�ำนวน แต่ยังไม่มีใครพบค่าที่แท้จริงของมัน ซุ ป เปอร์ ค อมพิ ว เตอร์ ใ นปั จ จุ บั น สามารถ ค�ำนวณค่า Pi ได้ทศนิยมถึง 10,000,000,000,000 (สิบล้านล้านต�ำแหน่ง) แต่นั่นก็ยังไม่จบ..!!

ในส่วนของนวนิยายต้นเรื่องก็ติดอันดับหนังสือ ขายดี และยังได้รับรางวัลแมนบุคเคอร์ของสหราชอาณาจักรอีกด้วย (ฉบับแปลภาษาไทยใช้ชื่อว่า “การ เดินทางของพาย พาเทล” แปลโดย ตะวัน พงศ์บุรุษ ส�ำนักพิมพ์เอิร์นเนส พับลิชชิ่ง) ใครชอบดูหนัง แนะน�ำให้รีบหาหนังเรื่องนี้มาดู ใครชอบอ่านหนังสือ แนะน�ำให้รีบหาหนังสือเล่มนี้มา อ่าน ของเค้าดีจริงๆ ขอบอก! ขอบอก! ในความเห็นของผม เรื่องราวการผจญภัยของพาย ไม่ได้มีเพียงเนื้อหาที่สนุกและฉากที่อลังการเท่านั้น แต่ หนังได้มอบโจทย์ส�ำคัญบางอย่างให้ผู้ชมได้เอาไปคิด ต่อ...และควรอย่างยิ่งที่เราจะสละเวลาคิด พื่อให้ “การต่อสู้เอาตัวรอด” ใน “เรือชูชีพ” ของเรานั้นมีพลัง และก่อเกิดเป็นเรื่องราวที่ งดงาม...ไม่รู้จบ

“เ

หนือสิ่งอื่นใด คือ อย่าสิ้นหวัง” ~พาย พาเทล~

กรกฏาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ 17


โJoke Pladax

จ๊ก...ปลาแดก

ฮักกัน...อย่างแวร้งงง..!!

A: เมื่อวานไปงานแต่งมา B: เป็นได๋แหน่ หมอ? A: เจ้าบ่าวเฮ็ดเจ้าสาวฮ้องไห่ บักอย่างคักเลย B: ตี้? คือสิซึ้งแฮงเนาะ... เจ้าบ่าวเซอร์ไพรส์อิหยังเจ้าสาว? A: มันบ่มา..!!

บ่ว่าหยังสิเกิดขึ่น...

ผู้บ่าว : น้องจ�ำได้บ่มื้ออ้ายพารถล้ม? ผู้สาว : จ�ำได้...น้องกะไปกับอ้าย ผู้บ่าว : น้องจ�ำได้บ่มื้ออ้ายถูกยิง? ผู้สาว : จ�ำได้...น้องกะอยู่กับอ้าย ผู้บ่าว : มื้อไฟไหม้บ้านอ้ายล่ะ? ผู้สาว : จ�ำได้...น้องกะอยู่กับอ้าย ผู้บ่าว : แล่วตอนได๋มึงสิออกไปจากชีวิตกู อิโตซวย!

ทีเด็ดอ้ายห�ำแหล่

อ้

ายห�ำแหล่ เลาเพิ่งแต่งงานใหม่ แต่เนื่องจากบ่ เคยผ่านประสบการณ์ กะเลยไปถามหมู่ว่าคน แต่งงานกันคืนแรกสิต้องเฮ็ดจั่งได๋ หมู่กะพอสิฮู้วิธีอยู่ แต่บ่ฮู้ว่าสิอธิบายจั่งได๋ พอดี เหลียวไปเห็นหมาก�ำลังxxxกันอยู่กลางถนน กะเลย บอกไปว่า หมู่ : มึงเห็นหมาสองโตนั่นมันเฮ็ดกันบ่? ให่มึง เฮ็ดคือหมานั่นล่ะ เฮ็ดได้บ่? ห�ำแหล่ : กูสิลองเบิ่งล่ะกัน หลังผ่านคืนนั่นไป ตอนเซ้า อ้ายห�ำแหล่ไปพ้อหมู่ ผู้เก่าอยู่ตลาด หมู่เลยถาม หมู่ : เป็นได๋มึง ได้เฮ็ดคือกูบอกบ่? ห�ำแหล่ : เฮ็ดอยู่ หมู่ : เป็นจังได๋ล่ะ ดีบ่? ห�ำแหล่ : กะมีแฮงดี หมู่ : ฮ่าๆๆ แต่ว่ามึงเฮ็ดจักเทือวะ เบิ่งหน้าคือ เป็นทรงสีเมือยๆ ห�ำแหล่ : เฮ็ดได้เทือเดียวกะเมื่อยพอตายแล้ว ลองเบิ่ ง ซั่ น แหล่ ว มึ ง ...กั่ ว กู สิ ล ากเจ้ า สาวลง มากลางถนนได้!!

รถคันนี้ เฉพาะกิจอีหลี พี่น้อง!!

ภาพจาก อ.เมืองสรวง โดย ครูเมษ์

18 Roiedder • July 2013


เอื้อเฟื้อความฮาโดย “เฮาฮักภาษาอิสาน”

เป็นเจ้าสิเลือกหยังเอ๋า?

A : มื้อวานครับ B : เป็นหยังครับ? A : ไปเที่ยวป่ามา พ้อเทวดา ผู้ฮักษาป่าเขาแหม๋ะครับ B : อิหลีตี้ครับ? A : เพิ่นมีพรให่เลือกสองข้อ.. B : อิหยังแหน่ครับ? A : ระหว่างควมจ�ำดี กับ ห�ำใหญ่ สิเลือกเอาหยังว่าซั่น B : แล้วเจ้าเลือกอิหยัง? A : เออ...เลือกอิหยังว่ะ ข่อยจ�ำบ่ได้!!

อีแหล่โสตาย

A : มื้อวานแมะน้อง B : เป็นหยังครับ เอื้อย? A : เอื้อยไปคัดโตนักกีฬา แลน 100 เมตรมา B : คือคักแท้เอื้อยผม กรรมการเขา จับเวลาให่เอื้อยได้จักวิล่ะ? A : เกือบๆ 8 วินาที.. B : ป้าด...ใซ่เวลาหน่อยกว่าทีมชาติ พุ่นตั้วนั่น เอื้อยเฮ็ดได้จั่งได๋? A : เอื้อยแล่นได้ 7 วิฯ... วิฯที่ 8 เอื้อยเตาะขาเจ้าของ ล้มหัวสัก ปากคาบขี่ดิน!!

อิแมบอกว่า...

ซายหล่า : อิแมคับ มาให่หล่าถามแน อิแม : ถามหยังน้อค�ำแพงเอ้ย? ซายหล่า : ตายแล้วเฮาสิไปไสคับ? อิแม : อ้อ...ตายแล้วเฮากะสิไปอยู่ในควม ทรงจ�ำของ “คนที่ฮักเฮา” ตั๊วค�ำแพง ซายหล่า : (ขี่หูขี่ตาย้อยยัมยาง)...ซึ้งในค�ำ เว่าอิแมแฮง ภาษาอีสานน่าฮู้

สนับสนุนโดย ชมรมศิลปวัฒนธรรมอีสาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสนอค�ำว่า“ฮ�ำฮีฮ�ำฮอน”

ค�ำอ่าน : “HUM HE HUM HORN” ความหมาย : (กิริยา) ร�ำพึงร�ำพัน ตัวอย่าง : “เขาบ่ฮักเฮาแล้ว โตสิไปฮ�ำฮีฮ�ำฮอนน�ำเขา เฮ็ดหยัง” = “เขาไม่รักเราแล้ว เธอจะไป ร�ำพึงร�ำพันถึงเขาท�ำไม” กรกฏาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ 19


E

ndless Journey

เทียวทาง...บ่สุดเส้น

ายละเอี ย ดเหล่ า นั้ น ท� ำ ให้ บ างครั้ ง ความ หมายของจุ ด หมายลดความส� ำ คั ญ ลง ระหว่างการเดินทางเราเก็บเกี่ยวอะไรได้บ้าง ผม ถามใจตัวเอง

ทีละก้าว

Mr.tambourine Man

ก้าวแรก

“เ

“ชีวิตคือการเดินทาง” เธอบอกผมเพียงเท่านั้นก่อนเดินจากไป

ธอเดินทางครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? ในความหมาย ของการท่องเที่ยวนะ” เธอหล่นบทสนทนา มัน ท�ำให้ผมย้อนกลับมาทบทวนตัวเองอยู่นาน เธอเล่นจ�ำกัด ความมาให้ด้วย ค�ำตอบนั้นมีให้ไม่ยาก ผมเพียงสงสัยอยู่ว่าเธอต้องการ อะไรมากกว่านั้น มี บ างคนว่ า มนุ ษ ย์ เ ป็ น สั ต ว์ เ ดิ น ทาง เราเดิ น ตาม สัญชาตญาณ เป็นไปโดยแรงขับธรรมชาติ เหตุผลของเรา นั้นมากมายจนค�ำตอบดูจะไร้ความหมายไปเลย เราเคลื่อน จากที่หนึ่งสู่อีกที่ ระหว่างนั้นกั้นไว้ด้วยเส้นทางและวิธีการที่ เราแต่ละคนเลือกเอง เดินเท้า โบกรถ ปั่น บิด ขับ หรือ บิน รายละเอียดเหล่านั้นท�ำให้บางครั้งความหมายของจุด หมายลดความส�ำคัญลง ระหว่างการเดินทางเราเก็บเกี่ยว อะไรได้บ้าง ผมถามใจตัวเอง “เดือนที่แล้ว ไปงานแต่งเพื่อนที่อุบล มีคนพาทัวร์” ผมตอบก่อนที่เธอจะต้องรอมันนานเกินไป ร้ า นกาแฟที่ เรานั่ ง มี ผู ้ ค นผ่ า นทางมากมายด้ ว ยเป็ น

20 Roiedder • July 2013

สถานี พั ก รถ แต่ ดู แ ต่ ล ะคนจะไม่ ไ ด้ เร่ ง รี บ อะไร ในร้ า น กาแฟความเชื่องช้าขับให้บรรยากาศและรสชาติของกาแฟ ดีขึ้น บางคนมาพร้อมสมุดบันทึก หนังสือซักเล่ม โน้ตบุค แท็บเล็ต เพียงพอส�ำหรับการเดินทางอยู่กับที่แล้ว เราก�ำลังเดินทางมุ่งสู่ทะเลตะวันออก หากคิดจะพัก ผ่อน ทะเลเป็นจุดหมายแรกๆที่ผมนึกถึง แต่ส�ำหรับเธอ ภูเขาดึงดูดใจมากกว่า “เขาไปไหนซะล่ะ?” ผมถามด้วยรู้สึกว่าเธอหลีกเลี่ยงที่ จะกล่าวถึงเขาผู้เป็นแฟนคนนั้น “ท�ำงาน” เธอตอบเพียงสั้นๆก่อนค่อยๆละเลียดกาแฟ แก้วแรกของวัน “บุหรี่มั้ย?” ผมชวน “ซักหน่อยก็ดี” อยู่กับเธอก็ดีแบบนี้ ผมไม่ต้องกังวล กับกลิ่นบุหรี่ด้วยเข้าใจว่าส�ำหรับคนไม่สูบกลิ่นของมันแรง เพียงใด เราออกมานั่งชานข้างนอกหลังผมได้กาแฟในมือ


มชอบขับรถ โดยเฉพาะทางไกล ยิ่งไปเที่ยวด้วยแล้วยิ่ง ชอบใจ ระหว่างขับรถมักเกิดความคิดหรือแรงบันดาลใจ ดีๆเสมอๆ จะว่าผมเสพติดมันก็ได้ การอยู่กับที่เลยไม่ค่อยถูกโรค กับผมนัก คงไม่ต่างจากเธอ ผู้ที่มีกล้องไม่ห่างตัว เธอชอบถ่ายรูป และ การเดินทางช่วยให้ได้ภาพดีๆเยอะ เธอบอกเล่าในครั้งหนึ่ง เรา สองคนดูจะมุจุดเชื่อมกันที่การไม่ชอบอยู่ติดที่ ได้เปลี่ยนวิว ใหม่ๆให้ชีวิตแล้วรู้สึกหายใจสะดวกขึ้น “เป็นไงบ้างช่วงนี้ ท�ำงานยัง?” เธอถามขึ้นระหว่างม่านควัน “ก็สบายดี ไปเรื่อยๆ ยังไม่ได้ท�ำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน” เธอ หัวเราะเบาๆพลางยิ้ม “แล้วงานที่ท�ำอยู่เป็นไงบ้าง?” ผมถามกลับ “อยู่กับเรื่องเดิมๆ ปัญหาเดิมๆ สนุกหน่อยก็ตรงได้คิดอะไร เองบ้าง และมีเวลาให้เที่ยว” เธอบรรจงเขี่ยบุหรี่เบาพลางเหลือบ ตาขึ้นมองฟ้า “อากาศแถวนี้ดีนะ ได้กลิ่นทะเล เหมือนกับว่ามันอยู่ไมไกล” เธอต่อความ “อีกไม่ไกลก็ถึงท่าเรือแล้ว” ผมตอบกลับ พลางคิดไปว่า ยิ่ง ใกล้ทะเล บรรยากาศยิ่งดูโปร่ง ชวนให้หายใจโล่งคอ ความเวิ้งว้าง เป็นเสน่ห์ของทะเล ปลายตาสุดขอบฟ้าตัดผื่นน�้ำเหมือนกับว่าไม่มี อะไรจะมาจ�ำกัดจินตนาการเราได้เลย การได้แบ่งปันวันเวลาเหล่านี้กับคนรักช่างเป็นห้วงเวลาแห่ง ความสุข แม้ระหว่างเราจะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม

“ท�ำไมชอบมาเกาะนี้จัง?”

เธอถามขึ้นหลังเราเคลื่อนรถ

มุ่งหน้าท่าเรือ ภาพจ�ำของเกาะนี้มีต้นจ�ำปาโบราณ ปุ่มปมของมันบ่งบอก กาลเวลาที่มันเติบโตและหยั่งราก เกาะขนาดเล็ก หาดเล่นน�้ำ ขนาดย่อมแต่บรรจุความเป็นทะเลไว้ได้หมด โขดหินหน้าผาเชิญ ชวนให้ปีนป่าย “คงเพราะมันไม่มีอะไร” ผมตอบกลับด้วยหมายความตามนั้น จริงๆ มันเป็นเกาะที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษกว่าเกาะทั่วไป ไม่มีสถานที่ ที่จ�ำเป็นต้องไป มีแต่ภาพวิถีของคนเกาะที่คอยบริการคนเดินทาง ผู้อยากหลบหลีกความวุ่นวาย คนเมืองกรุงใกล้ๆได้อาศัยพักผ่อน สุดสัปดาห์ คนเมืองไกลอย่างผมได้ย้อนวันเวลาและกลับมาทบทวนตัวเองภายใต้บรรยากาศอันโปร่งเบาสบายใจ เธอเงียบไปอย่างที่ผมไม่อาจรู้ได้เลยว่าเธอคิดอะไรอยู่ อยู่ๆผมก็นึกถึงวันนั้นที่เราต้องลาจากกัน (อ่านต่อฉบับหน้า)

มั

นเป็ น เกาะที่ ไ ม่ ไ ด้ มี อะไรพิ เ ศษกว่ า เกาะ ทั่วไป ไม่มีสถานที่ที่จ�ำเป็น ต้องไป มีแต่ภาพวิถีของคน เกาะที่ ค อยบริ ก ารคนเดิ น ทางผู้อยากหลบหลีกความ วุ่นวาย” กรกฏาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ 21


กะปอมก่า (กิ้งก่า)

ตั

วสีน�้ำตาลไหม้จะเรียก “ขี่กะปอม” ถ้าตัวสีน�้ำเงินเหมือนในภาพเรียก “ขี่กะท่าง”

กะปอมก่าเป็นหน้าต่างอีกบาน ที่ควรตริตรอง เนื่องจากจ�ำนวนกะปอมก่าในท้องถิ่นเหลือน้อย ถดถอยแรงในการด�ำรงเผ่าพันธุ์ อีสานนั้นกินกิ้งก่าในฤดูแล้ง (มี.ค.-เม.ย.) นอกฤดูนั้นจะไม่แตะต้อง เมื่อพบเห็นอยากให้เราชื่นชมมันบ้าง อย่ามองแต่เป็นอาหารอย่างเดียว เหลือช่องว่างให้เขาได้เพิ่มจ�ำนวนเพื่อเลี้ยงดูเราจะดีกว่า 22 Roiedder • July 2013

“กะปอมก่า หลับตาเข้าบ่วง เข้าบ่วงแล้ว จั่งค่อยมืนตา...” ~คาถาจับกะปอมก่า~

fb/SamruachKhok


R

oiedflection เหตุเกิด ณ 101

วันและวัย หนึ่งหนึ่ง ผ่านเร็วรี่ สิ่งไหนที่ ดีดี ก็ท�ำเถอะ สิ่งที่มัน เสียเสีย อย่าท�ำเยอะ สิ่งเคยท�ำ เลอะเลอะ กลับไปล้าง คนที่อยู่ ใกล้ใกล้ อย่าลืมรัก อดีตที่ หนักหนัก ลืมเสียบ้าง พกความฝัน สวยสวย ช่วยถางทาง แล้วปล่อยสิ่ง ต่างต่าง ให้เป็นไป ~ตรีจีรา~

กรกฏาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ 23


Available online at www.issuu.com/roiedder

Search “ร้อยเอ็ดเด้อ” and become a fan.

ติดต่อลงโฆษณา โทร. 088 572 3713

24 Roiedder • July 2013


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.