How to be happy 1
คำ�นำ� รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา 1103206 การออกแบบสิ่งพิมพ์ โดยมีจุดประสงค์ เพื่อการศึกษาความรู้ที่ได้จากเรื่องการทำ� Booklet ซึ่ง รายงานนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับHow to be happy ทำ�อย่างไรให้ตัวเองมีความสุข โดย 24 วิธี ผู้จัดทำ�ได้เลือก หัวข้อนี้ในการทำ� Booklet เนื่องมาจากเป็นเรื่องที่น่าสนใจ รวมถึงเป็นการแนำ�วิธีที่ทำ�ให้ตัวเองมีความสุข ผู้จัดทำ�หวังว่าหนังสือBookletเล่มนนี้จะช่วยแนนำ�ทุกคนได้
2
ความสุข คือสิ่งที่เราทุกคนแสวงหา และเราต่างนิยามความสุขด้วยสิ่งต่างๆ ที่ได้มาไม่ว่างานที่ดี คู่ครองที่ใช่ อาหารที่ชอบ ทริปเที่ยวในฝัน หรือสิ่งของที่เราปรารถนา แต่เมื่อได้สิ่งเหล่านั้นมา ไม่นานความสุขที่มีก็หายไป ราวกับความสุขนั้นมีวันหมดอายุ
3
สารบัญ เรื่อง 1. ชื่นชมสิ่งที่ทำ�ให้คุณดูพิเศษ 2. ลดความไม่มั่นใจ 3. เขียนสิ่งที่ต้องการพัฒนา 4. หัวเราะให้ตัวเอง 5. ยินดีกับสุขภาพของตัวเอง 6. พูด “ขอบคุณ” เสมอ 7. ออกกำ�ลังกาย 8. ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ 9. เลือกสิ่งที่ชอบบนร่างกาย 10. ดูแลผิวของตัวเอง 11. มุ่งเป้าหมายในส่วนที่ถนัด 12. รักเพื่อนร่วมงาน
หน้า 6 8 10 12 14 16 18 20 22 24 26 28
4
เรื่อง
สารบัญ
13. อ่านข่าว 14. เรียนรู้ภาษาใหม่ 15. ให้เวลากับตัวเอง 16. พักผ่อนให้เพียงพอ 17. รักพ่อแม่ 18. รักพี่น้องของคุณ 19. เรียนรู้ที่จะยอมรับคำ�ขอโทษ 20. พูด “ขอโทษ” เสมอเมื่อทำ�ผิด 21. ชื่นชมธรรมชาติ 22. ออกไปขับรถเล่นบ้าง 23. ทำ�ความสะอาดทุกซอกทุกมุม 24. ล้อมรอบด้วยสิ่งที่คุณรัก
5
หน้า 30 32 34 36 38 40 42 44 46 48 50 52
บทที่1 ชื่นชมสิ่งที่ทำ�ให้คุณดูพิเศษ ลองสังเกตตัวเองว่ามีดีอะไร เช่น พูดได้สี่ภาษา วาดภาพได้ดี มีมนุษยสัมพันธ์ใน การสร้างเพื่อนใหม่ๆ หรืออาจจะเป็นเรื่องง่ายๆ อย่างเช่นรู้จักร้านอร่อยแถวบ้าน ซึ่งคนทั่วไปไม่ค่อยรู้ ฯลฯ เชื่อเถอะว่า คนทุกคนมีดีในแบบที่ตัวเองเป็น และใช่ว่าทุกคนจะทำ�สิ่งเหล่านี้ได้อย่างที่เราทำ�
6
“มีดี” อาจไม่ได้แปลว่า ดีหรือเก่งที่สุด แต่อาจหมายถึงสิ่งที่ทำ�แล้วดีต่อใจ พอชอบสิ่งนั้น เราก็จะทำ�ได้ดี
7
“ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ” อย่าคิดมาก
8
บทที่2 ลดความไม่มั่นใจ การรู้สึกไม่มั่นใจไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะทุกคนล้วนมีเรื่องไม่มั่นใจด้วยกันทั้งนั้น ลองสำ�รวจดูว่าเราไม่มั่นใจในเรื่องอะไร แล้วลิสต์เรื่องเหล่านั้น เพื่อตรวจสอบดูว่าเราสามารถแก้ไขได้ไหม หรือบางเรื่องอาจเป็นปัญหาเล็กๆ ที่หากมองดีๆ อาจไม่ใช่เรื่องที่ทำ�ให้เราต้องเสียความมั่นใจก็ได้นะ
9
บทที่3 เขียนสิ่งที่ต้องการพัฒนา มองตัวเองอย่างซื่อสัตย์ แล้วเลือก ‘ข้อเสีย’ ที่ต้องการแก้ไขและทำ�ให้ได้ เช่น ถ้ารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนตื่นสาย ลองหัดตื่นเช้าขึ้นด้วยการตั้งนาฬิกาเร็วกว่าเดิมทีละนิด เช่น 5 หรือ 10 นาทีก็ได้ แล้วค่อยๆ ขยับไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาที่ตั้งใจไว้
10
หาเวลานิ่งๆ 10-15 นาที หยิบกระดาษปากกาขึ้นมาเขียนข้อดีและข้อเสีย แล้วเลือกข้อเสียที่สุดมาหนึ่งเรื่อง แล้วจัดการมันซะ
11
ผลการศึกษาของประเทศนอร์เวย์พบว่า คนที่หัวเราะหรือมีอารมณ์ขันจะมีอายุยืนกว่าคนที่ไม่ค่อยหัวเราะ
1212
บทที่ 4 หัวเราะให้ตัวเอง ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ ดังนั้นจึงไม่แปลกถ้าบางครั้งเราจะทำ�อะไรผิดพลาดไปบ้าง อย่าซีเรียสเกินไป ผ่อนปรนให้ตัวเองบ้าง หัวเราะให้กับความผิดพลาดนั้น แล้วเริ่มต้นใหม่
13
บทที่ 5 ยินดีกับสุขภาพของตัวเอง ‘ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ’ พุทธวจนนี้ยังคงเป็นจริงเสมอ แต่คนส่วนใหญ่อาจไม่ได้นึกถึง กว่าจะรู้ซึ้งก็ตอนที่ป่วยหนัก ฉะนั้นหากวันนี้เรามีสุขภาพแข็งแรง เดินสบาย กินอร่อย นอนสนิท จงยินดีกับความปกตินี้เถอะนะ ว่าเราช่างโชคดีจริงๆ
14
สุขภาพดีไม่ได้หมายถึงเอวเอสหรือซิกแพค แต่คือการไม่เจ็บป่วยและมีชีวิตอย่างปกติสุข
1515
“คำ�ว่า ขอบคุณ คือกุญแจสำ�คัญของความสุข” Gurmukh Kaur Khalsa คุรุผู้สอนโยคะและการทำ�สมาธิชาวอเมริกัน
16
บทที่ 6 พูด “ขอบคุณ” เสมอ การรู้จักพูดคำ�ว่า “ขอบคุณ” ต่อสิ่งต่างๆ ที่มีและเป็นอยู่ตอนนี้ จะช่วยให้เราตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่มากกว่า จะไปหมกหมุ่นถึงสิ่งที่ขาดและอยากได้มา ลองมองดูสิ่งที่เรามีอยู่ตอนนี้สิ แม้รองเท้าที่สวมจะคู่เก่าไปบ้าง แต่อย่างน้อยมันก็พาเราเดินไปไหนมาไหนได้ในทุกๆ วัน หรือแม้แต่เพื่อนและคนใกล้ตัวที่คอยเป็นเพื่อนคุยและที่ปรึกษา นั่นก็เป็นเหมือนของขวัญในชีวิตเลยล่ะ
17
บทที่ 7 ออกกำ�ลังกาย ออกกำ�ลังกายนั้นดีและไม่ยาก แค่ 30 นาที 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็ช่วยทำ�ให้เรามีสุขภาพที่ดี แถมยังทำ�ให้เรารู้สึกดีกับตัวเองด้วยนะ เอาล่ะ ลองหากีฬาที่ชอบ เช่น โยคะ วิ่ง ปั่นจักรยาน ตีปิงปอง เล่นฟุตบอล หรืออะไรก็ได้ แล้วเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้เลย ลองดู!
18
วิ่งหรือเดิน 30 นาทีต่อวัน ป้องกันการเพิ่มของน้ำ�หนักตัว
1919
“กินน้อยตายยาก กินมากตายเร็ว” คาถาสั้นๆ ที่ นพ.เฉก ธนะศิริ ผู้เฒ่าวัย 94 ปี ที่ยังแข็งแรงให้ไว้
20
บทที่ 8 ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ กินอาหารไม่ดี ร่างกายก็ย่ำ�แย่ พอร่างแย่ ใจก็ยากจะเบิกบาน ลองหันมาทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ลดหวาน ลดมัน ลดรสจัด ทานผักและผลไม้ โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตอย่างพอดี จะช่วยให้สุขภาพดีขึ้น ขับถ่ายสะดวก บวกกับรูปร่างที่ดีกว่าเดิม ก็ดีต่อใจเราด้วยนะ
21
บทที่ 9 เลือกสิ่งที่ชอบบนร่างกาย ไม่จำ�เป็นต้องหล่อสวยแบบดารา เราก็รักหน้าตาหรือร่างกายของเราได้ แค่เลือกหนึ่งหรือสองสิ่งบนร่างกายที่ชอบ หรืออาจมีคนชมให้ได้ยินบ่อยๆ เช่น ตาหรือปาก นิ้วหรือเรียวขา แก้มกลมๆ ลักยิ้มเก๋ๆ ก็ได้ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ บางทีก็เป็นเสน่ห์และทำ�ให้เราดูน่ารัก ในแบบของตัวเอง ยากที่ใครจะลอกเลียนแบบได้
22 22
การมองเห็นความสวยงามจากสิ่งใกล้ตัวไม่ใช่เรื่องยาก ฝึกได้ด้วยการลองมองหาความงามจากจุดที่เราอยู่ แล้วจะพบว่าทุกๆ ที่มีความสวยงามเสมอ แม้แต่ตัวของเราเอง
23
ควรล้างหน้าด้วยน้ำ�อุณหภูมิห้อง จะช่วยรักษาความชุ่มชื้นบนใบหน้า
24
บทที่ 10 ดูแลผิวของตัวเอง ปล่อยให้หน้าเมือกๆ เพราะเหงื่อไคล บางทีอาจเป็นสัญญาณของการละเลยที่จะดูแลตัวเอง ดังนั้น ลองล้างหน้าทุกวัน ใช้โลชั่นหรือครีมบำ�รุงผิวเพิ่มเติมดูหน่อย สิ่งเล็กๆ นี้จะช่วยให้ผิวหน้าของเราผุดผ่องมากขึ้น พอหน้าผ่องแล้วส่องกระจก “เอ๊ะ… ใครน่ะ ดูดีจัง”
25
บทที่ 11 มุ่งเป้าหมายในส่วนที่ถนัด มีคนส่วนน้อยที่จะได้ทำ�งานที่ชอบร้อยเปอร์เซ็นต์ หากงานที่ทำ�มีบางอย่างชวนให้หงุดหงิดหรือน่าเบื่อ ลองมองหาจุดที่ชอบและถนัดในงานนั้น แม้จะเป็นจุดเล็กๆ อย่างการได้ออกเดินทาง การได้ใช้ความคิดเงียบๆ คนเดียว หรือการได้เรียนรู้เทรนด์ใหม่ๆ อะไรก็ได้สักอย่างที่สอดรับกับตัวเรา แล้วโฟกัสไปที่งานส่วนนั้น ตั้งใจทำ� และลองหาทางต่อยอดจากสิ่งที่ชอบดูนะ ไม่แน่อาจได้เห็นโอกาสใหม่ให้เราได้เข้าใกล้งานที่ชอบมากขึ้น
26
หมั่นสังเกตดูว่า สิ่งใดที่ทำ�แล้วไม่ฝืน รู้สึกเป็นธรรมชาติ สิ่งนั้นอาจเป็นสิ่งที่เราถนัด
27
“จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” (คัมภีร์ไบเบิล, มัทธิว 22:37–39)
28
บทที่ 12 รักเพื่อนร่วมงาน ทุกคนต่างอยากเป็นเพื่อนกับใครสักคน เพื่อนร่วมงานของเรา (รวมถึงตัวเรา) ก็เช่นกัน ถึงแม้เพื่อนร่วมงานของเราจะไม่มีอะไรเหมือนกันเลย มีไลฟ์สไตล์ ความคิดต่างจากเรามาก ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะให้ความเป็นมิตร ทำ�ความรู้จัก และชื่นชมในตัวคนที่ทำ�งานด้วยไม่ได้สักหน่อย ลองสร้างมิตรภาพให้เกิดขึ้นกับเพื่อนสักคน แล้วคุณจะรู้สึกอยากตื่นไปทำ�งานมากขึ้น
29
บทที่ 13 อ่านข่าว โลกเปลี่ยนไปทุกวัน การติดตามข่าวสารต่างๆ ว่าเหตุการณ์บ้านเมืองช่วงนี้เป็นอย่างไร จะช่วยให้เรามองโลกได้กว้างขึ้น ไม่ตกยุค แถมยังช่วยให้เรามีคลังความรู้เอาไปต่อยอดในชีวิตประจำ�วัน รวมถึงช่วยให้มีบทสนทนาที่น่าสนใจเวลาคุยกับคนอื่นอีกด้วย
30
โหลดแอพอย่าง Twitter, Flipboard, Feedly, Google News ติดโทรศัพท์ไว้ รับรองไม่พลาดข่าวสำ�คัญ
31
อยากเรียนภาษาอะไร ลองเสิร์จหาในอินเทอร์เน็ตได้เลย ในกรณีที่อยากเรียนภาษาอังกฤษ
32
บทที่ 14 เรียนรู้ภาษาใหม่ การรู้ภาษาใหม่คือการเปิดโลกเลยล่ะ เพราะจะช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูล ความรู้ รวมถึงวัฒนธรรมที่อยู่ในภาษานั้นๆ นอกจากนี้ ยังช่วยให้เราได้เพื่อนใหม่ และช่วยเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับชีวิตอีกด้วยนะ
33
บทที่ 15 ให้เวลากับตัวเอง เวลาเป็นสิ่งมีค่า การใช้เวลาไปกับอะไร บ่งบอกว่าเราให้คุณค่ากับสิ่งใด ถึงบางวันเราจะยุ่งไปบ้าง แต่อย่าลืมเผื่อเวลาให้กับตัวเอง อาจจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ สักชั่วโมงต่อวันสำ�หรับทำ�สิ่งที่รัก เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง ดูซีรีส์ก่อนนอน หรือนั่งสมาธิ เพราะในยุคที่เร่งรีบ เวลาคือความหรูหรา ที่แม้แต่เศรษฐีก็อาจหาได้ยากกว่าคนธรรมดาที่รู้จักให้เวลากับตัวเอง
34
การตื่นเช้าคือจุดเริ่มต้นของการบริหารเวลา
35
วางสมาร์ทโฟนให้ห่างตัว แล้วทำ�สมาธิก่อนนอน จะช่วยให้การนอนมีคุณภาพมากขึ้น
36
บทที่ 16 พักผ่อนให้เพียงพอ รู้หรือไม่แค่นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ก็ช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพดีและสดใส ลองพยายามเข้านอนในเวลาเดิมที่ไม่ดึกจนเกินไป วางความกังวลทิ้งไว้ข้างหมอน แล้วจะได้นอนหลับเต็มตื่น เพื่อมีแรงพลังในการเริ่มต้นวันใหม่
37 37
บทที่ 17 รักพ่อแม่ บางเวลาชีวิตก็พัดพาเราให้ไกลบ้าน จนลืมว่าบุคคลที่รักเราที่สุดคือคนใกล้ตัว ที่ดูแลเรามาตั้งแต่เกิดจนเติบใหญ่ แม้บางเวลาจะยุ่งมากแค่ไหน ลองหาเวลาสักห้านาทีโทรหาพูดคุย และแวะไปหาใช้เวลาโอบกอดสนทนา หรือออกไปเที่ยวด้วยกัน เชื่อเถอะว่าช่วงเล็กๆ เหล่านี้ จะสร้างความสุขให้เราและพ่อแม่จนรู้สึกอิ่มในหัวใจ
38
“ใครหนอรักเราเท่าชีวัน ใครหนอใครกันให้เราขี่คอ…” ยังจำ�ความรู้สึกตอนที่ร้องเพลงนี้ได้หรือเปล่า
39
หาเวลานัดกินข้าวตามประสาพี่น้องกัน เดือนละครั้ง ช่วยกระชับความสัมพันธ์ได้ไม่น้อย
40
บทที่ 18 รักพี่น้องของคุณ ถึงจะไม่ได้คุยกันบ่อย ขัดแย้งกันบ้าง แต่สายใยของพี่น้องนั้นยากจะตัดขาด หากมีเวลาลองถามไถ่พี่น้องของเราบ้างว่า ช่วงนี้เป็นยังไง ปรึกษาช่วยเหลือกันบ้างตามกำ�ลัง เพราะหลายครั้งเวลาโตขึ้น หน้าที่และภาระที่มี ก็ทำ�ให้เราต่างหลงลืมเพื่อนที่ดีที่สุดคนนี้
41
บทที่ 19 เรียนรู้ที่จะยอมรับคำ�ขอโทษ ไม่มีใครไม่เคยพลาดพลั้ง หากเพื่อนหรือคนสำ�คัญเดินเข้ามาขอโทษอย่างจริงใจ เพราะพวกเขาทำ�บางอย่างลงไป จงยกโทษและให้อภัย ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร รู้สึกไหมหัวใจกำ�ลังพองโต
42
“คนที่อ่อนแอไม่เคยรู้จักการให้อภัย การให้อภัยเป็นคุณลักษณะของคนเข้มแข็ง” มหาตมะ คานธี
43
ขอโทษด้วยด้วยคำ�ง่ายๆ จริงใจ และอย่าอ้างนั่นอ้างนี่
44
บทที่ 20 พูด “ขอโทษ” เสมอเมื่อทำ�ผิด บางครั้งเราเองก็เป็นฝ่ายผิด อาจโดยตั้งใจหรือพลั้งเผลอ จงยอมรับในความผิดพลาด แล้วกล่าวขอโทษคนที่เราทำ�ผิด แม้อีกฝ่ายจะไม่สนใจหรือยอมรับคำ�โทษก็ไม่เป็นไร เพราะอย่างน้อยที่สุด ในฐานะคนที่ทำ�ผิด เราได้ทำ�สิ่งที่ควรทำ� และกล้าหาญที่จะยอมรับความผิดนั้นแล้ว ซึ่งสิ่งนี้จะทำ�ให้เราไม่มีอะไรติดค้างในใจ
45
บทที่ 21 ชื่นชมธรรมชาติ ธรรมชาติช่วยให้มีความสุขอย่างรู้สึกได้ ลองมองหาพื้นที่สีเขียวในละแวกบ้านหรือที่ทำ�งาน ไม่จำ�เป็นต้องเป็นสวนสาธารณะใหญ่ แค่เป็นพื้นที่เล็กๆ หรือสวนหย่อมที่มีต้นไม้โอบล้อม แล้วมองหาม้านั่งหรือต้นไม้ที่ให้ความรู้สึกว่านี่คือ “ที่ของฉัน” ที่ให้เรามานั่งทอดอารมณ์ได้อย่างสงบสุข
46
การออกเดินเล่นแถวบ้านและที่ทำ�งาน จะช่วยให้เราพบมุมสงบง่ายขึ้น
4747
เปิด Google Maps แล้วเสิร์จหาของดีที่ซ่อนอยู่ในละแวกบ้านกันเถอะ
48
บทที่ 22 ออกไปขับรถเล่นบ้าง การออกเดินทางเปลี่ยนบรรยากาศ ไม่ว่าจะขับรถ ปั่นจักรยาน เพื่อเสาะหาสถานที่น่าสนใจใกล้บ้านในวันหยุด เช่น ห้องสมุด สวนสาธารณะ คาเฟ่ลับ ร้านหนังสือ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวในชุมชน จะช่วยเปิดตาให้เรารู้จักย่านที่อยู่อาศัยมากขึ้น ว่าในละแวกบ้านที่เราอยู่ ยังมีอะไรให้ค้นหาเยอะกว่าที่คิด
49
บทที่ 23 ทำ�ความสะอาดทุกซอกทุกมุม ความสกปรกนอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพแล้ว ยังไม่เจริญตาเจริญใจ การทำ�ความสะอาด จัดสิ่งของต่างๆ ให้เข้าที่และเป็นระเบียบ ไม่ว่าโต๊ะทำ�งาน ห้องหับต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เราใช้เป็นประจำ� จะช่วยให้ชีวิตในแต่ละวันราบรื่น เรียบง่าย ไม่วุ่นวาย หรือต้องหงุดหงิดกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการหาของไม่เจอ
50
วิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้บ้านเป็นระเบียบและสะอาด คือจัดการแยกของที่ไม่ได้ใช้หรือไม่จำ�เป็นออก
51
ของสิ่งใดเห็นแล้วทำ�ให้อมยิ้มได้ นั่นแหละ ของที่จุดประกายความสุข!
52
บทที่ 24 ล้อมรอบด้วยสิ่งที่คุณรัก ของที่มีคุณค่าทางใจคือวัตถุแห่งความทรงจำ� การตกแต่งบ้านด้วยรูปของคนที่เรารัก ของฝากจากทริปวันหยุดที่แสนสนุก หรือภาพวาดที่เราชอบ จะย้ำ�เตือนว่าอะไรที่ทำ�ให้เรามีความสุข และทำ�ให้เรารู้สึกดีที่อยู่บ้าน ราวกับบ้านนั้นเป็นวิมานของเรา
53
“เราไม่สามารถหาความสงบสุขได้จากโลกภายนอก ตราบใดที่เรายังไม่ได้สร้างความสงบ สุขขึ้นภายในจิตใจของเราเสียก่อน”
54
ขอขอบคุณ เนื้อหาและรูปภาพประกอบ https://becommon.co/life/happiness-is-all-around/
55
56