นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 2 ไทรถเข็
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
3
4
Editor’s talk ไทรถเข็น
คอลัจ่ มบการศึ น์กาลครั ้งหนึ่ง ได้ยนิ คำ�ว่า “ชีวติ คือการเรียนรู”้ และ ในฐานะที กษาสายครู “การเรียนรูต้ ลอดชีวติ ” มานับครัง้ ไม่ถว้ น แต่กไ็ ม่ได้รสู้ กึ ลึกซึง้ อะไรมากมาย จน กระทัง่ ... เมือ่ กลางเดือนทีแ่ ล้ว ได้มโี อกาสออกไปสัมผัสกับบรรยากาศนอกเมือง ได้ใช้เวลาและชีวติ อย่างคุม้ ค่าภายในเวลา 1 วัน ออกเดินทางแต่เช้าตรู่ เพือ่ จะได้ ไปพบเห็นอะไรที่ “แตกต่าง” จากการใช้ชวี ติ ประจำ�วันทีห่ นีไม่พน้ “ตืน่ กนิ ทำ�งาน กลับบ้าน กินข้าว เข้านอน” วนเวียนอยูแ่ บบนีท้ กุ วัน ยอมลงทุนตืน่ เช้า ฉีกการ ใช้ชวี ติ ในแนวเดิมเพือ่ ทีจ่ ะไปใช้ชวี ติ ในแบบ “ลูกทุง่ ” หนึง่ ในความใฝฝันของใคร หลายคนทีอ่ ยากมีทด่ี นิ เป็นของตัวเอง มีสตั ว์เลีย้ ง เมือ่ ถึงเวลาผัก ผลไม้ซง่ึ ปลูก เอาไว้งอกงามก็จะนำ�ไปขายและนำ�เงินที่ได้ไปซื้อวัสดุอุปกรณ์มาเพิ่มผลผลิตใน ครัง้ ต่อๆ ไป ดูงา่ ยเหมือนในฝันอย่างไรอย่างนัน้ เคยลองนึกถึงภาพเวลาทีเ่ ล่นเกม “Harvest Moon” ซึง่ เป็นเกมทำ�สวน แบบในชีวติ จริงทีต่ อ้ งถางหญ้า ปลูกผัก รดน้�ำ ผัก เลีย้ งไก่ เลีย้ งวัว เลีย้ งหมู ใช้เวลา หลายวันกว่าพืชผักเหล่านั้นจะโตจนสามารถเก็บผลผลิตได้ มีการจีบผู้หญิงและ ขอแต่งงาน มีการผูกมิตรกับเพือ่ นบ้านและขอร้องให้เพือ่ นบ้านมาช่วยในยามทีเ่ รา ต้องการความช่วยเหลือ ไม่วา่ จะช่วยรดน้� ำ เก็บผัก เลีย้ งสัตว์ เป็นเกมวางแผน ทีส่ นุกและไม่เสียเงิน แต่... เกมกับชีวติ จริงแตกต่างกัน... เวลาในชีวติ จริงและ เวลาในเกมต่างกัน 1 ชัว่ โมงในเกมเร็วพอๆ กับ 1 นาทีในชีวติ จริง และชีวติ ในเกม “ไม่เหนือ่ ย” เหมือนการใช้ชวี ติ จริงๆ ก้าวแรกทีเ่ หยียบย่างลงไปในพืน้ ที่ “บ้านสวายสอ” จุดนัดหมายของเรา พร้อมกับโจทย์ทต่ี ง้ั ไว้ในใจว่า “วันนีฉ้ นั จะไปจับปลา หว่านแห ขุดปูและพายเรือ” เมือ่ มองไปทางไหนก็ดแู ปลกตาไปหมด ตึกรามบ้านช่องจากทีเ่ คยอยูอ่ ย่างแออัด ยัดเยียดในตัวเมือง ก็ดบู างตาลง บ้านแต่ละหลังตัง้ อยูห่ า่ งๆ กัน ตามเขตพืน้ ที่ เขตใครเขตมัน บ้านสุดหรูกเ็ ป็นเพียงครึง่ ตึกครึง่ ไม้ รถคันหรูของบางครอบครัว เป็นเพียงมอเตอร์ไซค์คนั เก่าๆ ทีพ่ อขับไปไหนมาไหนได้สะดวก (ดีกว่าเดิน) แต่ก็ มองไม่เห็นสีหน้าแววตาแสดงความเดือดร้อนของผูเ้ ป็นเจ้าของ เริม่ ต้นกิจกรรมแรก ของวัน ก็เก้ๆ กังๆ นัง่ ดูเขาหว่านแห ทำ�หน้าทีช่ ว่ ยปลดปลาทีต่ ดิ แหออกมาใส่ ถังน้� ำ กรีด๊ บ้าง ล้มลุกคลุกคลานเพราะความตกใจบ้าง แต่รสู้ กึ ได้ถงึ ความสุข สนุกสนานระคนอิม่ เอมใจ ไม่มคี วามเครียดเข้ามาปะปนเลยแม้แต่นอ้ ย ไม่รสู้ กึ กดดันแม้วา่ เวลาจะผ่านไปนานเท่าใดก็ตาม ผ่านมื้อเที่ยงไปด้วยฝีมือการตำ�ส้มตำ�ที่เป็นของตัวเองอย่างแท้จริง... ย้�ำ ! เป็นของตัวเองอย่างแท้จริง เพราะไม่เคยได้รบั สูตรลับเป็นมรดกตกทอดมาจาก บรรพบุรษุ แต่อย่างใด อร่อยก็ตอ้ งว่าอร่อย ไม่อร่อยก็ยงั คงต้องบอกว่าอร่อยอยูด่ ี ตบท้ายด้วยมะพร้าวน้�ำ หอม หวาน ต้นทีส่ งู เกือบ 10 เมตร ด้วยความพยายามจะ เก็บกินเองแต่ไม่ส�ำ เร็จผล ต้องยืนกอดโคนต้นมะพร้าวแถมหอบฮักๆ หลังจากปีน ขึน้ ไปได้ไม่ถงึ หนึง่ เมตรก็ตอ้ งไหลลูล่ งมา เป็นภาระให้นอ้ งๆ ต้องปีนขึน้ ไปเก็บมา ให้กนิ หลังจากอิม่ หนำ�สำ�ราญแล้ว ก็ออกเดินทางไปขุดปู น้องๆ เค้าแบกจอบ แบกเสียม แบกถังน้� ำ ตัวเราแค่แบกร่ม ขุดปูกบั เขาก็ไม่เป็น แต่ดว้ ยความอยากรู้ อยากเห็น เห็นเค้าเอาไม้ไปแหย่รปู ู ก็แหย่กบั เค้าด้วย แหย่ไปแหย่มาเจออะไรนิม่ ๆ นึกว่าเป็นงู ไม่ทนั ได้รอดูกว็ ง่ิ หน้าตัง้ ทิง้ ร่มไว้กลางทาง นิตยสารสะบายดี บุรรี มั ย์ ส�ำนักงาน เค.เอส. ริชเชส 40/70 ถ. อินจันทร์ณรงค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรรี มั ย์ 31000
ติhttp://www.sabaideeburiram.com/ ดต่อโฆษณา ติดต่อลงโฆษณา 085 612 1010, 087 458 8547
6
15 กิจกรรมสุดท้ายในวันนัน้ ก็คอื การพายเรือเก็บบัวสาย จะเรียกว่าพายเรือ ก็ไม่อาจพูดอย่างเต็มปากเต็มคำ� เรียกว่า นัง่ เรือให้นอ้ งช่วยกันพาย แล้วดึงสายบัว ด้วยความยากลำ�บากก็วา่ ได้ เรือลอยไปฉิวบ้าง ลอยลำ�อยูน่ ง่ิ ๆ เอือ่ ยๆ บ้าง เรือ จมน้�ำ บ้าง เปียกปอนเกือบทัง้ ตัว ทัง้ ทีน่ �ำ้ ลึกแค่เพียงหัวเข่า แต่กจ็ มไปพร้อมกับเรือ ทัง้ ทีย่ งั นัง่ อยู่ เย็นชุม่ ฉ่�ำ จนถึงลำ�คอ ตลอดการเดินทางในวันนัน้ ได้เรียนรูอ้ ะไรมากมายหลายๆ อย่าง เป็น การเรียนรูท้ ไ่ี ม่สามารถหาได้จากห้องเรียนในระดับชัน้ ใดๆ เรียนรูท้ จ่ี ะพึง่ พาตัวเอง ตลอดจนการใช้ชวี ติ กับผูร้ ว่ มเดินทาง การเอาใจเขามาใส่ใจเรา เรียนรูท้ จ่ี ะอยูอ่ ย่าง พอเพียงกับธรรมชาติทม่ี อบของขวัญล้�ำ ค่าให้กบั เรา ข้าว น้� ำ อาหาร ไม่มอี ะไรที่ จะได้มาโดยทีไ่ ม่ตอ้ งเสียอะไรไป วันนีเ้ รียนรูท้ จ่ี ะเป็นผูร้ บั เพือ่ ทีส่ กั วันจะได้เป็นผูใ้ ห้ อย่างเต็มภาคภูม ิ ซึง้ แล้วกับคำ�ว่าชีวติ คือการเรียนรูแ้ ละการเรียนรูต้ ลอดชีวติ ต้อง ขอขอบคุณน้องซิงและน้องจิว๋ ทีท่ �ำ ให้รวู้ า่ มิตรภาพมีคา่ มากกว่าเงินทองในกระเป๋า และขอขอบคุณทีมงานทุกๆ คน ทีร่ ว่ มเดินทางและเหน็ดเหนือ่ ยไปด้วยกัน แต่ไม่วา่ จะเหน็ดเหนือ่ ยสักปานใด พวกเราก็ไม่ลมื ทีจ่ ะเก็บภาพความสวยงามของท้องทุง่ และสายธารในช่วงเวลาทีพ่ ระอาทิตย์ชงิ พลบมาฝากผูอ้ า่ นทุกท่าน เหนือ่ ยแต่กส็ ขุ ใจ และขอส่งมอบความสุขเหล่านัน้ มายังแฟนๆ สะบายดี บุรรี มั ย์ ทุกท่านผ่านเรือ่ งราว และภาพน่ารักๆ ในคอลัมน์นะคะ สวัสดีคะ่ ด้วยรัก วีรวรรณ คชรัตน์ บรรณาธิการ
บรรณาธิการบริหาร วีรนุช คชรัตน์ บรรณาธิการ วีรวรรณ คชรัตน์ บริหารทัว่ ไป วรพช คชรัตน์ ทีป่ รึกษา ผศ.สุธามาศ คชรัตน์ อ.วันดี เธียรสวัสดิก์ จิ ทีป่ รึกษาฝ่ายต่างประเทศ ผศ.เรืองศักดิ์ อัมไพพันธ์ ทีป่ รึกษาฝ่ายสุขภาพและกีฬา ผศ.พรพรรณ ค�ำเมือง ทีป่ รึกษาฝ่ายภาษาไทยและวรรณคดีไทย ผศ.บุณย์เสนอ ตรีวเิ ศษ ทีป่ รึกษาฝ่ายโบราณคดีและประวัตศิ าสตร์บรุ รี มั ย์ รศ.ดร.สมมาตร์ ผลเกิด ฝ่ายช่างภาพและกราฟฟิคดีไซน์ วัฒนา จันทร์เจริญ, นักเขียนกิตติมศักดิ์ วิวฒั น์ โรจนาวรรณ นักเขียนประจ�ำคอลัมน์ วิภาวี สิงหวศิน, พีรยิ า หาญบ�ำรุงธรรม,ฝ่ายการตลาด วรัญญา ละขะไพ
Contents 20th May 2016 นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
18
27 6
15
18
ฅ.ฅนบุรีรัมย์
ครูภูมิสิทธิ์
สะบายพุง
Book’n Bed
มหัศจรรยแห่งท้องนา ณ
กับสวนเกษตร ในโครงการพระราชดำ�ริ
อาหารสไตล์ฟิวชั่น ผสมผสานรสชาติที่ลงตัว
ขุดปู หาปลา พายเรือเก็บสายบัว
ห้วยแสงเหนือ
27
31
44
กาลครั้งหนึ่ง
ภาพเก่าเล่าเรื่อง
ตะลุยต่างแดน
ป้าอ้อนขนมจีน ร้านเล็กๆ แต่ครบรส
44
ผู้คน บ้านเรือน เมืองบุรีรัมย์ ตอนเก็บศพไร้ญาติเมื่อปี พ.ศ. 2504
เว้
เมืองมรดกโลก
31
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 6 ไทรถเข็
ครูภูมิสิทธิ์ ชนะทะเล
กับสวนเกษตรในโครงการพระราชดำ�ริ
Phumsit’s Garden
ครูภูมิสิทธิ์ ชนะทะเล ฅ.ฅนบุรีรัมย์
7
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
ดูเหมือนท้องฟ้าจะไม่เป็นใจนัก เมื่อเริ่มต้น ออกเดินทาง ท้องฟ้ามืดครึ้ม เสียงฟ้าคำ�รามครืนครั่น ส่งแสงแลบแปลบปลาบ ดูท่าว่าอีกไม่นานฝนคงเทลงมา เป็นแน่ แต่เมื่อได้นัดหมายกันแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ต้อง เดินหน้า วันนี้ สะบายดีฯจะพาทุกท่านไปพบปะพูดคุย กับคุณครูท่านหนึ่ง ผู้ซึ่งนอกจากมีความรักและศรัทธา ในอาชีพครูแล้ว ท่านยังมีความศรัทธาอย่างแรงกล้า ต่อการเกษตรกรรม ซึ่งถือเป็นอาชีพหลักของคนไทย เป็นกระดูกสันหลังของชาติ ท่านได้สร้างชื่อเสียงให้กับ จังหวัดบุรีรัมย์และนับวันก็ทำ�ให้คนรู้จักบุรีรัมย์ของเรา มากยิ่งขึ้น ด้วยความที่ท่านเป็นคนชอบคิดค้น ศึกษา หาความรู้ใหม่ๆ ด้วยตนเอง ลองผิดลองถูกมาอย่าง มากมาย ในที่สุดท่านก็ประสบความสำ�เร็จในการผลิต มะนาวพันธุ์ใหม่ซึ่งให้ผลดก ลูกโต เปลือกบาง น้ำ�หอม ลำ�ต้นแข็งแรง รสชาติกลมกล่อม จากครูโรงเรียนเล็กๆ คนหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตเฉกเช่นคนธรรมดาสามัญ แถมยังมี หนี้สินติดตัว พลิกผันตัวเองมาจนถึงจุดที่เรียกได้ว่า “ประสบความสำ�เร็จ” หลายท่านอาจเคยรูจ้ กั ท่านมาบ้าง แต่อีกหลายคนอาจยังไม่เคยพบเห็น วันนี้ สะบายดี บุ รี รั ม ย์ จ ะขอพาผู้ อ่ า นทุ ก ท่ า นไปเรี ย นรู้ แ ละรั บ ฟั ง เรื่องราวดีๆ จากคุณครู “ภูมิสิทธิ์ ชนะทะเล” ช่วยแนะนำ�ตัวให้ชาวบุรีรัมย์รู้จักหน่อยค่ะ สวัสดีครับ ผมชื่อภูมิสิทธิ์ ชนะทะเล เป็นครู สอนอยู่โรงเรียนบ้านตาราม ตำ�บลสองชั้น อำ�เภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ ผมเรียนจบสาขาเกษตรศาสตร์ จาก มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ในสมัยที่เรียนนั้นยังเป็น วิทยาลัยครูอยู่เลยครับ รับราชการครูอยู่แล้ว ทำ�ไมถึงได้หันมาจับงานทางด้าน การเกษตรล่ะคะ ความคิดของผมคือตัวผมเองจบสาขาเกษตร แล้วก็เห็นปัญหาว่าคนมากมายหลายคนที่ทำ�สวนแล้ว ไม่ประสบความสำ�เร็จ มีความคิดว่า เอ.. ทำ�ไมชาวบ้าน เขาถึงไปไม่รอด ไม่ได้ดูถูกนะ แต่เก็บเอามาตั้งคำ�ถาม ก็เลยอยากจะลองทำ�ดู ดูสิว่าเรามีความรู้ เรียนมาแล้ว จะทำ�ได้ไหม คิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าถึงจะเจ๊งก็ไม่เป็นไร แต่กอ่ นไร่นาส่วนผสมดังมาก เลยคุยกับแม่บา้ น แม่บา้ น บอกว่าอยากจะทำ�ก็ทำ� ตอนนั้นพ่อแบ่งนาให้ 10 ไร่ เริ่มต้นการทำ�การเกษตรอย่างที่ตั้งใจไว้อย่างไรคะ ตอนแรกมีเงินอยู่ประมาณ 20,000 - 30,000 แต่ใจใหญ่ไง เราตั้งใจมาก เอารถแทรกเตอร์มาไถเลย (หัวเราะ) วางแผนว่าจะแบ่งเนื้อที่อย่างไร เขียนเเพลน ว่าตรงไหนจะเป็นถนนตรงไหนจะเป็นสระ แล้วก็ไถเลย ตามทฤษฎีที่เราเรียนมาเลย ทำ�เป็นคันกันน้ำ�เข้าออก
8
ครูภูมิสิทธิ์ ชนะทะเล ฅ.ฅนบุรีรัมย์
สะบายพุง
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 8 ไทรถเข็
จากนั้นก็เริ่มเป็นหนี้เป็นสินด้วยการเจาะบ่อบาดาล แล้วก็เอารถแม๊คโครมาลง ตอนแรก กำ�ลังทำ�ๆ อยู่ มีคนบ้าเดินผ่านมา เขาถามผมว่า “ครู ครูบ้าหรือดี มาทำ�ให้ที่นาเสียหมด” คนบ้านะว่าผม (หัวเราะ) ผมก็ยิ้มๆ แล้วก็ไม่ได้ตอบอะไร ผมก็ทำ�ของผม ไปเรื่อยๆ พอเริ่มปีที่ 2 ก็เริ่มหว่านปลาในสระ ปลาเต็มเลย คนบ้าคนเดิมนั่นแหละเดินผ่านมาอีก แกก็บอกว่า “เออครู... เข้าท่าดีเนาะ ทำ�นาให้มีปลา มีอะไรแบบนี้สุดยอดเลย” ผมก็ยิ้มๆ คิดว่า “เออ รอบนี้แกชมเราแฮะ คนบ้าชมกูเด้นี่ (หัวเราะ)” ตอนนั้นก็ได้ปลาเป็นส่วนใหญ่ พอทำ�ไป สักพัก ทีนี้เริ่มเกิดปัญหา เพราะที่เราทำ�เป็นร่องน้ำ� เอาแม๊คโครมาขุด วาดฝันไว้ว่าอยากทำ�แบบร่องจีน เพราะเคยเห็นที่เค้าปลูกแถวดำ�เนินสะดวก ทีเ่ อาเรือ มาวิ่งในร่องน้ำ�แล้วพ่นน้ำ�ขึ้นรดต้นไม้ทั้งสองข้าง เราคิดของเรานะ (หัวเราะ) แต่พอฝนตกมาเท่านั้น ทุกอย่างไหลมารวมกันหมดเลย คันดินก็พงั ทลายลง เพราะที่ดินของเรามันเป็นดินทราย ก็มานั่งคิดที่จะ แก้ปัญหา พยายามสู้อยู่กับปัญหานี้ แก้ปัญหานี้อยู่ นานแต่มันไมไหว แล้วแก้ปัญหาอย่างไรคะ ตอนนั้นเกษตรทฤษฎีของในหลวงดังมาก โครงการตามแนวพระราชดำ�ริ พอดังปั๊บทางจังหวัด ทางเกษตรอำ�เภอ ออกมามอง มาดูว่าครูภูมิสิทธิ์
ทำ�จริงไหม พอเห็นทำ�จริงเขาก็เข้ามาช่วยส่งเสริม ท่านนายอำ�เภอทองสุขก็รีบเข้ามา (ตอนนี้เสียชีวิต แล้ว) เข้ามาส่งเสริมมาลุยด้วยกัน จากนั้นก็มีผู้ว่า เข้ามาตรวจแล้วส่งเรื่องสวนของผมเข้าไปประกวด ระดับอำ�เภอและจังหวัดในที่สุดผมก็ได้ที่ 1 ได้ไปรับ พระราชทานโล่จากสมเด็จพระเทพฯ ที่วังจิตรลดา ผมแต่งตัวอย่างดีเลย เพราะตั้งแต่ผมเรียนจบมา ใบปริญญาบัตรก็ยังไม่ได้ไปรับเลย (หัวเราะ) หลังจากที่ผมสร้างชื่อเสียงให้จังหวัดไป ทางผู้ว่าฯ ท่านมาถามว่าผมอยากได้อะไร ผมเลย บอกไปว่า “ผมอยากได้ถนนให้คนที่จะเข้ามาดูงาน เดินทางได้สะดวก” สมัยนั้นมีมูลนิธิมาจากจังหวัด อุทัยธานี มากันเป็นรถบัสเลย เขามาดูงานที่สวนผม ทางลำ�บากมาก จังหวัดก็มาทำ�ถนนให้ใหม่ แล้วเขา ถามว่าอยากได้อะไรอีก ผมบอกว่า “อยากได้สระ 10 ลูก” เขาก็ให้มาเลย (หัวเราะ) ผมแบ่งให้ชาวบ้าน ผมเอาแค่ 3 ลูก นี่คือสิ่งที่ผมได้รับมาจากเกษตร ทฤษฎีใหม่ ในสวนนี้แบ่งพื้นที่ใช้สอยอย่างไรคะ ผมยึดตามโครงการของในหลวง ผมแบ่ง 30 % เป็นสระน้ำ�ซึ่งผมใช้เลี้ยงปลา นาข้าว 30 % ผมอ่านเจอในหนังสือในหลวงท่านพูดว่า “ชาวนา หรือคนที่ทำ�นา ถ้าซื้อข้าวเขากินนี่ถือว่าดูถูกตัวเอง อย่างแรง” เราก็ได้ข้าวของเรานี่แหละกิน อีก30%
เป็นไม้ผล ไม้ยืนต้นให้ร่มเงา ใครไปใครมาก็บอกว่า บ้านครูเย็น และเมือ่ มีลมแรงต้นไม้กช็ ว่ ยกันลมให้เรา เขายอมหักยอมตายก่อนเรา นั่นคือความมหัศจรรย์ ฉะนั้นรอบสวนผมจะมีต้นไม้ใหญ่เป็นรั้ว อีก 10% สุดท้าย ก็เป็นที่อยู่อาศัย เป็นบ้าน คอกหมู โรงรถ ในหลวงท่านเป็นคนเก่งมากเลย ผมอ่าน เจอในหนังสือท่านบอกว่า “น้ำ�” สำ�คัญมาก ถ้าเรา ขุดสระไม่ลึกพอ ใน 1 วันน้ำ�จะแห้ง 1 เซนติเมตร ปีหนึ่งมี 365 วัน น้ำ�ก็จะแห้งไป 3 เมตร 65 เซนติเมตร ฉะนั้นถ้าเราขุดสระแค่ 3 เมตร น้ำ�ก็จะ ติดลบ ต้องขุดสระลึกอย่างน้อยประมาณ 4 เมตร ถ้าน้ำ�แห้ง 365 เซนติเมตร ก็จะยังเหลือน้ำ�อีก 35 เซนติเมตร ผมก็ได้แนวคิดของท่านมาทำ�มาต่อยอด ครูบอกว่าที่สวนไม่เคยมีของหายเลย ครูทำ�อย่างไร คะ ผมใช้หลักเอาคนเป็นรั้วครับ เวลาที่ผมมี ผลไม้หรือมีปลาผมก็เอาไปแจกชาวบ้าน แต่ก่อนนี่ เคยมีชาวบ้านเอาวัวเอาควายเข้ามาเลี้ยงในสวนผม วัวควายก็เหยียบคันดินพังทลาย ผมก็ไม่พูดอะไรเลย กลัวมีปัญหากัน หลังจากนั้นพอผมหว่านแหหาปลา ผมก็เอาปลาไปให้เขาเลย หลังจากนั้นปัญหาที่เคยมี ก็หมดไป แถมเวลาผมไม่อยู่เขายังมาดูแลสวนให้ผม อีกครับ (หัวเราะ)
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 01 ไทรถเข็
2). ออกดอกตลอดทั้งปี ผลดก การติดลูกมีลักษณะ 2000/300/2000/300 สลับกันไป 3 ปีแล้ว นั่นคือรอบแรกติดลูกประมาณ 2000 ลูก พอลูกเริ่มแก่ พอจะเก็บได้ก็ออกดอกและติดลูกอีกประมาณ 300 ลูก พอเริ่มเก็บ ก็ออกดอกและติดลูกรอบใหม่อีก 2000 ลูก หมุนกันไปอย่างที่ว่านี้ ขนาดของลูกมะนาวใหญ่เกือบเท่าลูกเทนนิส เวลาแก่ไปลูกจะเป็นสีทอง 3). น้ำ�เยอะ เปลือกนิ่ม เปลือกบาง 4). รสชาติกลมกล่อม ไม่เปรี้ยวแหลม และมีกลิ่นหอมมาก แค่เอาเล็บขูดที่เปลือกกลิ่นเตะจมูกเลย ผมให้ชื่อว่า “มะนาวแป้นเมืองแปะ” จริงๆ ผมตั้งไว้หลายชื่อที่จะเลือก มีทั้ง แป้น เซราะกราว (ตามคุณเนวิน ชิดชอบ) บางคนก็บอกว่าแป้นยูไนเต็ด แป้น ภูมิสิทธิ์ แป้น คสช. มาจากครูสองชั้น คนสองชั้น (หัวเราะ) เราตั้งขึ้นมา ไว้เฉยๆ แล้วก็มีแป้นเมืองแปะด้วยอีกชื่อหนึ่ง แล้วก็มาวิเคราะห์ว่าจะเอา อันไหนดี เลยเลือกแป้นเมืองแปะ เพราะบางคนลืมตำ�นานของบุรีรัมย์ ไปแล้ว ที่ว่าบุรีรัมย์นี้มาจากต้นแปะที่มีมากจนเรียกว่าเมืองแปะก่อนที่ จะเปลี่ยนเป็นจังหวัดบุรีรัมย์ ผมก็เลยเอาตัวนี้ เพราะคิดว่ามันแปลกดีนะ แล้วมะนาวเราก็ส่งไปขายเกือบทุกจังหวัด เขาก็จะรู้จักบุรีรัมย์มากขึ้น
ครูเลี้ยงหมูหลุมด้วยใช่มั้ยคะ หมูหลุมนี่เป็นอย่างไรคะ หมูหลุมแตกต่างจากการเลี้ยงหมูทั่วไป หมูหลุมเราเลี้ยงเพื่อเอามูล ของมัน ตอนแรกก็จะขุดหลุมแล้วก็เอาไม้มากั้นๆ ขุดลึกเหมือนกับเลี้ยงปลา แต่เราไม่ได้ใส่น้ำ� แต่ใส่หมลงไปูแทน ใน 1 หลุมก็มีหมูอยู่ 1 - 2 ตัว แต่ก่อนที่ เราจะใส่หมูเราต้องใส่แกลบดำ� แกลบขาว เป็นชั้นๆ เลย จะกำ�หนดเลยว่า มีเกลือ มีรำ�เป็นชั้นๆ ชั้นละ 5 หรือ 10 เซนติเมตร ก็ว่ากันไป เราต้องใส่เกลือ เพื่อปรับสภาพของเสียที่ออกมาจากตัวหมู แล้วยังไปช่วยย่อยสลายฟางและ แกลบที่เราใส่ไว้ในหลุม ส่วนรำ�ละเอียดจะช่วยทำ�ให้เกิดการย่อยสลายเร็วขึ้น แล้วเราก็ต้องคอยเปลี่ยนตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นหรือเรื่องสัตว์ หมูพวกนี้ เลี้ยงง่าย กินง่าย มะม่วงดิบมะม่วงสุก โยนเข้าไปเลย ต้นกล้วยตัดๆ โยน คือทุกอย่างมันกินได้หมดเลยแล้วมันก็ขับถ่ายอยู่ในนั้น เราก็รดน้ำ�บ้างเพื่อให้ ย่อยสลายเร็วขึ้น แป๊บเดียวมันก็เป็นเศษดินสีดำ� ไม่มีกลิ่น ใช้ไปทำ�เป็นปุ๋ย ผมเลี้ยงอยู่ 3 คอก หมูป่ามีอยู่ 4 ตัว แต่ก่อนมีเยอะกว่านี้ ตอนแรกก็เลี้ยง หมูป่าพันธุ์แท้ครับ ตอนหลังเอามาผสมก็ออกเป็นกลางๆ กลายเป็นคล้ายๆ หมูป่ากระโดนๆ (หัวเราะ) แท้มากเกินไปมันอันตรายครับ มันดุ และผมไม่ได้ เลี้ยงพวกมันไว้กินเนื้อ แต่เลี้ยงไว้สำ�หรับเก็บมูลมันเอาไปทำ�เป็นปุ๋ย มีสาร อาหารครบหมดเลย อีกความสำ�เร็จของครูคือปลูกมะนาวสายพันธุ์ของตัวเอง ไม่ทราบว่าชื่อพันธุ์ อะไรคะและแตกต่างจากพันธุ์อื่นๆ อย่างไร มะนาวพันธุ์ของผม แตกต่างจากพันธุ์อื่นอย่างไรนั้น มีอยู่หลายข้อ 1). มีความต้านทานโรคได้ดี ปลูกมา 9 ปีแล้วยังแข็งแรงไม่เคยเป็นโรคเลย
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
liBRary Cafe “เติมเต็มวันสบายๆ ด้วยร้านคาเฟ่รูปแบบใหม่ สไตล์ Chic & Chill ที่มีหนังสือให้ทุกท่าน เลือกอ่านกว่าหนึ่งพันเล่ม พร้อมดื่มด่ำ�ไปกับ กาแฟถ้วยโปรด ในมุมอ่านหนังสือที่สบายที่สุด แห่งแรกและแห่งเดียว ในจังหวัดบุรีรัมย์” The Library Cafe' Buriram
Drink Read Chill คาเฟ่อยู่ในโครงการบุรีรัมย์ คาสเซิล หลังสนามไอโมบาย สเตเดียม ใกล้ Watsons คาเฟ่เปิดวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 10.30 - 21.00 เสาร์ - อาทิตย์ 10.00 - 21.00 น. โทร 044600844
12
ครูภูมิสิทธิ์ ชนะทะเล
ฅ.ฅนบุรีรัมย์ สะบายพุง
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 21 ไทรถเข็
“
ความสุขของการทำ�เกษตร สำ�หรับผม มันอยู่ตรงที่ผลผลิต เราทำ�ด้วยใจ แล้วผลผลิตที่ได้ มามันคือความภูมิใจของเรา
”
มะนาวที่ปลูกต้องอย่าลืมว่า “น้ำ�ต้องสะอาด ปุ๋ยต้องสะอาด คนเลี้ยง ใจต้องสะอาด” ขนาดนั้นเลยนะ มะนาวแป้นเมืองแปะของเรา ถ้าเอาน้ำ�สกปรก มารดวันเดียวเท่านั้นแหละเชื้อราขึ้นเลย ถ้ามีเชื้อราแล้วจะติดเชื้อแคงเกอร์ตาย (โรคแคงเกอร์ที่เกิดกับต้นมะนาว จะมีลักษณะเป็นแผลกลมบนใบ แล้วจะขยาย ใหญ่ ฟู นูน คล้ายฟองน้ำ� มีสีเหลืองแก่ถึงเหลืองเข้ม เมื่อเป็นมากขึ้นก็ทำ�ให้ได้ ผลผลิตน้อยลงและไม่นานนักต้นมะนาวก็จะตาย) เราต้องรดน้ำ�ธรรมชาติยิ่งดี ทราบมาว่าครูไม่ได้ขายลูกมะนาวแล้วปลูกมะนาวเพื่ออะไรคะ ผมขายกิ่งมะนาว ใช้วิธีเสียบกิ่งขาย บางทีก็มีคนมาซื้อที่สวนถ้าเขา บ้านอยู่ใกล้ๆ แต่ถ้าอยู่ไกลเขาก็โทรมาสั่งซื้อแล้วก็ส่งไปทางไปรษณีย์ ผมก็สร้าง นวัตกรรมใหม่ในการเสียบกิ่งแล้วครอบไว้ด้วยขวดพลาสติกเพื่อเร่งให้กิ่งมะนาว งอกรากเร็วเพราะเขาไม่ถูกอากาศเลย เวลาส่งทางไปรษณีย์ก็ไม่มีปัญหา ส่งไป หลายจังหวัดแล้วครับ เช่น ร้อยเอ็ด สระบุรี เชียงใหม่ สงขลา ตอนนี้ที่เสียบ กิ่งไว้ถูกขายไปหมดแล้ว ก็ไม่พอขายครับเพราะพอเขาเอาไปปลูกแล้วได้ผลดีเขา ก็สั่งอีกและบอกต่อ ตั้งแต่ทำ�สวนมา ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ครูคิดว่าชีวิตดีขึ้นไหมคะ แน่นอนครับ ที่เคยมีหนี้สินก็มีเงินใช้หนี้ ชีวิตดีขึ้นมาก มีหน้ามีตา ใครๆ ก็รู้จัก ไม่ลำ�บากเหมือนเมื่อก่อนครับ ลูกๆ ไปเรียนก็มีเงินให้เขาไปโรงเรียน จนเรียนจบมีงานมีการทำ�กันทุกคน ถ้ามีคนสนใจและอยากขอเข้ามาดูงานหรืออยากให้ครูช่วยเป็นวิทยากรให้ความรู้ ไม่ทราบว่าครูจะช่วยได้ไหมคะ ยินดีอย่างยิ่งครับ ผมจะให้คำ�แนะนำ�โดยไม่มีปิดบังอำ�พรางเลยครับ ที่ผ่านมาผมก็ไปเป็นวิทยากรให้หลายแห่ง หรือจะเข้ามาที่สวนผมก็ได้ครับ มาดู ของจริงเลยว่าผมทำ�ระบบน้ำ�อย่างไร ทำ�ปุ๋ยอย่างไร เชิญได้เลยครับ อยากให้ครูฝากถึงผู้ที่อ่านหนังสือ คนที่สนใจจะปลูกมะนาวหรือทำ�สวนเหมือนครู หน่อยค่ะ ก็อยากให้ข้อคิดว่าถ้าคุณอยากทำ�สวน อยากปลูกมะนาว ก็ขอให้ใจ คุณเต็มร้อย ยิ่งทำ�เกษตรทฤษฎีใหม่กิจกรรมมันเยอะ ไม่ต้องเก่งมากก็ได้แต่ขอ ให้เรียนรู้แก้ปัญหาให้ได้ ผมก็ไม่ใช่ว่าจะเก่งอะไร แต่เราอยากจะเอาชนะปัญหา พอแก้ปัญหาได้ก็ดีใจ มีความสุข แล้วก็คือเราได้ตอบแทนบุญคุณในหลวงแล้ว เราคิดแบบนี้ อยากบอกว่ามันไม่ได้ยากอะไรหรอกแต่ขอให้ใจคุณเต็มร้อย คือรัก เขามากๆ อย่าลืมว่าการเกษตรไม่ว่าพืชหรือสัตว์ ถ้าคุณไม่รักเขาเขาก็ไม่รักคุณ ยกตัวอย่างเช่น คุณซื้อมะนาวมา 1 ต้น มะนาวต้นนี้เป็นมะนาวที่ดีมากเลย ลูกใหญ่ ลูกดกมากตลอดปีอะไรอย่างนี้ คุณซื้อมาต้นละ 2000 บาท พอคุณมาปลูกแล้ว ไม่ดูแล ถ้าคุณไม่รักเขาเขาก็ไม่รักคุณ มันก็ตายแค่นั้นเอง เป็นอย่างไรบ้างคะ สวนมะนาวของคุณครูภูมิสิทธิ์ คงพอเป็นกำ�ลังใจให้กับบรรดาครูด้วยกัน ชาวไร่ชาวสวน รวมไปถึงผู้สนใจทุกท่านในเรื่องของการใช้ชีวิต ไม่คิดยอมแพ้ต่ออุปสรรคที่เข้ามาในชีวิต และพร้อมที่จะฝ่าฟันเพื่อให้ไปถึงจุดหมาย โดยไม่คิดย่อท้อเลยแม้สักครั้ง ยอมเหนื่อยกายแต่ให้ได้มาซึ่ง สิ่งที่ล้ำ�ค่ามากกว่าเงินทอง นั่นคือ “คุณค่าในการใช้ชีวิต” และ “ใช้ชีวิตอย่างมีค่า” หวังว่าทุกท่านคงได้ ข้อคิด ตลอดจนรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากเรื่องราวของคุณครูภูมิสิทธิ์ ชนะทะเล นะคะ สบายดีฯ ขอเป็น กำ�ลังใจให้กับผู้ที่กำ�ลังลุกสู้ด้วยตัวเองอย่างไม่ท้อถอยค่ะ ส่วนท่านที่สนใจจะไปเยี่ยมชมและศึกษาเรียนรู้จากคุณครู ก็สามารถโทรศัพท์ติดต่อท่านได้ที่ หมายเลข 080 726 1310 หรือจะเข้าไปที่เฟสบุ๊ก “สวนครูภูมิสิทธิ์” ก็ได้ค่ะ หากอยากขับรถไปเองก็ไป ตามเส้นทางบุรีรัมย์ - สุรินทร์ ก่อนถึงหมู่บ้านสองชั้นจะมีป้ายบอกทางว่า “สวนครูภูมิสิทธ์” ให้เลี้ยวขวา ไปตามลูกศรและขับต่อไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร ก็ถึงแล้วค่ะ
สัปดาห์ร้านหนังสืออิสระ ประจำ�ปี 2559 17 - 26 มิถุนายน พ.ศ. 2559 พบรายการพิเศษที่ “ร้านน้ำ�พุบุ๊คสโตร์”
วันที่ 17 - 26 มิถุนายนที่กำ�ลังจะถึงนี้ ร้านน้ำ�พุบุ๊คสโตร์ จัดรายการพิเศษคืนกำ�ไรให้กับลูกค้าชาวบุรีรัมย์ พบกับหนังสือราคาสุด พิเศษของสำ�นักพิมพ์์มติชน สำ�นักพิมพ์บ้านหนังสือ สำ�นักพิมพ์นาคร สำ�นักชนนิยมฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการภาพถ่ายที่คนรุ่นใหม่ต้อง ไม่เคยเห็น ณ ที่ใดมาก่อน รวมภาพถ่าย “งานล้างป่าช้าครั้งแรกของ จังหวัดบุรีรัมย ปี พ.ศ. 2504” ภาพถ่ายอายุมากกว่า 50 ปี มีที่นี่ที่เดียว ในช่วงคืนวันที่ 17 มิถุนายน 2559 มีกิจกรรม “ชมหนังเก่า” - “งานล้างป่าช้าครั้งที่ 2 ของบุรีรัมย์ ปี พ.ศ. 2519” - “ในหลวง-ราชินีเสด็จฯ บุรีรัมย์ ปี 2498” - “ช้างและคนในป่าเมืองน่าน เมื่อ 90 ปีก่อน” จะสนุกและน่าเก็บรักษาไว้ยิ่งอย่างไรนั้น ต้องมาชมให้ได้ คืนวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2559 / ฟัง “ไหว้เจ้าจีนอย่างไร เหล่าเอี๊ย จึง ปอห่อ” โดย - เจริญ ตันมหาพราน กูรูเรื่องจีนชาวเยาวราช และคุณณรงค์ ธำ�รงค์อนันต์สกุล เหล่าซืออ๋า จาก เซียนซือตั๊ว บุรีรัมย์ งานนี้มีให้ชมฟรีตลอด 17 - 26 มิถุนายนนี้ ไม่เพียงเฉพาะ ชาวจีนเท่านั้นนะคะ ที่ควรรักษาเรื่องราวเก่าๆ แต่ยังรวมไปถึงลูกหลาน ชาวบุรีรัมย์ ก่อนจะถูกกลืนอารยธรรมเก่าๆ ด้วยเรื่องราวและสิ่งใหม่ๆ อย่าพลาดนะคะ!!! สอบถามรายละเอียดโทร ร้านน้ำ�พุบุ๊คสโตร์ 044-611813 (รายการดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม)
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 41 ไทรถเข็
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
Robinson
Book’n Bed อาหารสไตล์ฟิวชั่น ผสมผสานรสชาติที่ลงตัว
เปิดเบาๆ มีอาหารรสชาติแซบนัวให้เลือกทาน หลากหลายเมนู บริการดี เป็นกันเองกับลูกค้า ที่สำ�คัญราคาก็พอประมาณและอยู่ไม่ไกลจาก ตัวเมืองจนเกินไปนัก ซึ่งในบุรีรัมย์ ร้านอาหาร ร้านหนึ่งมีคุณสมบัติครบครันตามที่บรรยายมา ส สเต๊กอกไก่สอดไส้แฮมชี และเรากำ�ลังจะพาทุกท่านไปลองลิ้มชิมรสดู ในวันนี้ก็คือ “ร้านบุ๊ค แอนด์ เบ้ด (Book ’n Bed)” สภาพอากาศที่ ร้ อ นอบอ้ า วอย่ า งนี้ บุ๊ค แอนด์ เบ้ด ตั้งอยู่ใจกลางเมือง จะทำ�อะไรสักอย่างเป็นต้องคิดถึงความเย็นก่อน เพี ย งขั บ รถเข้ าไปในซอยหาญชนะหรื อ ซอย เป็นอันดับแรก แม้แต่ในเรื่องของอาหารการกิน โรงแรมวงษ์ทองเดิม ซึ่งในปัจจุบันก็คือโรงแรม ก็เช่นกัน อาหารที่เคยมีรสชาติถูกปาก แต่พอ บุรีเทล ไม่เพียงมีคุณสมบัติดังได้กล่าวมาแล้ว ต้องนั่งทานไปเช็ดเหงื่อไป ความอร่อยก็หายไป ยังมีที่จอดรถสะดวกสบาย รสชาติอาหารอร่อย บางเมนูทั้งเผ็ดทั้งร้อนทำ�เอาเหงื่อไหลไคลย้อย สามารถต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง รวมถึงเหล่า ยังกับนั่งกินอยู่ข้างกองไฟก็ไม่ปาน ความอร่อย คนพิเศษหรือเพื่อนพ้องน้องพี่ที่เดินทางมาเที่ยว ก็แทบไม่หลงเหลือเลยทีเดียว ยามนี้ จะมองหา จังหวัดบุรีรัมย์ของเราได้สบายๆ ไม่ว่าจะชอบ ร้านอาหารทั้งทีก็ต้องเลือกสรรกันหน่อย ต้องทั้ง อาหารแนวอีสาน อาหารไทยหรือเมนูไสตล์ฝรั่ง อร่อย บรรยากาศดี เย็นสบาย มีเพลงเพราะๆ ก็รับรองได้ว่าท่านและแขกของท่านจะต้อง ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน ยิ่งเรื่องการบริการ และความเป็นกันเองกับลูกค้าแล้วล่ะก็หาย ห่วงได้เลย Book ’n Bed เป็นร้านอาหาร สไตล์ครอบครัวซึ่งเกิดจากแรงบันดาลใจ ของ “คุณถิรชาติและคุณพัศพร กิติสุนทรพงษ์” เจ้าของร้าน ที่มีความคิดว่าอยากทำ� ธุรกิจเล็กๆ อยู่ที่บ้าน จึงเปิดเป็นเกสต์เฮ้าส์ ให้เช่า มีห้อง 3 - 4 ห้อง มีมุมกาแฟเล็กๆ พล่าปลาแซลมอน อาหารเช้านิดหน่อยและมีมุมเล็กๆ ให้เช่า
ผัดไทยกุ้งสด
ไอศครีมกล้วยทอด
หนังสือ คล้ายกับถนนข้าวสารที่กรุงเทพฯ หรือ Bed’n Breakfast ที่มีอยู่ทั่วโลก โดยตั้งใจว่าจะให้เป็นธุรกิจในฝัน ตั้งชื่อว่า Book ’n Bed ซึ่งหมายถึงมีหนังสือให้เช่า (Book) แถมมีที่ให้พัก (Bed) แต่พอทำ�ไป สักพัก มีอาหารหลากหลายชนิดเพิ่มขึ้นมา จึงเปลี่ยนเป็นร้านอาหารแบบเต็มตัว จาก ร้านเล็กๆ ในฝัน ก็ไม่ได้เป็นเพียงร้านเล็กๆ อีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นร้านใหญ่ร้านหนึ่ง ของจังหวัดเลยทีเดียว
16
Book’n Bed สะบายพุง
สะบายพุง
61 คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง ไทรถเข็น
ส้มตำ�ปูม้า
Fusion Food, Good Taste & Best Service
อเมริกัน เบรคฟาสท์
สันในหมูผัดคอนยัค
บุ๊ค แอนด์ เบ้ด เป็นร้านอาหารแบบครอบครัว ที่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มหลากสไตล์หลายรูปแบบ ความอร่อยและคุณภาพที่ส่งผ่านไปยังลูกค้านั้น ส่วนหนึ่ง มาจากการคัดสรรวัตถุดิบที่ผ่านการรับรองจากทั้งในและ ต่างประเทศ เนื้อนำ�เข้าจากต่างประเทศ เนื้อโพนยางคำ� อันดับหนึ่งของไทย เนื้อหมูเกรดดี แซลมอนสดนำ�เข้าจาก นอร์เวย์แช่เย็น Chil ing ไม่แช่แข็ง สด สะอาด ปลอดภัย และได้มาตรฐาน ส่วนเมนูที่ลูกค้าส่วนใหญ่มาลองลิ้มชิมรสแล้ว ถึงกับหลงรักก็มีไม่น้อย เช่น สเต็กสันนอกเนื้อ แกงเลียง ตำ�ปูม้า ผัดไทยกุ้งสด ลาบอบชีส เบอร์เกอร์เนื้อ ตำ�ถั่วหมูกรอบ นอกจากนีย้ งั มีอาหารหลากหลายรูปแบบให้ทา่ น ได้เลือกรับประทานตามใจชอบ มีบริการอาหารเช้าแบบ ยูโรเปี้ยนหรืออเมริกันเบรคฟัสต์ มีสเต็กและพวกอบชีส อาหารญี่ปุ่นจำ�พวกแซลมอนสด ซาชิมิ หรืออาหารปิ้งย่าง สไตล์เกาหลี หลังจากเมนูหลักๆ แล้วก็ต้องตบท้ายด้วย กาแฟหรือขนมหวาน ซึ่งที่นี่ก็มีบริการอีกมากมายให้เลือก
Book ‘n Bed is a family-style restaurant run by Khun Thirachart and Khun Pitsaporn Kitisunthornpong. Based on their inspiration to own a small business and work at home, they opened a guest house of about 3-4 beds, including a tiny coffee corner and a bit of breakfast as well as books for rent. This is the starting point of the name Book ‘n Bed which refers to books and beds for rent. Later, with a variety of dishes for guests, they have decided to open a restaurant and it is turned to สันในหมูย่างจิ้มแจ่ว be a famous place for customers and their มาล้างปากได้เต็มที่ อาทิ น้ำ�ส้มคั้น กล้วยปั่น- visitors or friends. Book ‘n Bed also serves many โยเกิร์ต โกโก้ แอปเปิ้ลปั่น สตรอเบอรี่ปั่น สมูทตี้ต่างๆ ชาร้อน ชาเย็น รวมทั้งขนมหวาน different kinds of drinks. All materials for และไอศกรีม แค่ยกตัวอย่างเมนูอาหารที่เอ่ยมา cooking are carefully selected. The menus ก็ทำ�เอาหลายท่านออกอาการอยากรับประทาน usually ordered are beef sirloin steak, spicy mixed vegetable soup, spicy minced meat กันแล้วใช่ไหมคะ Book’n Bed เปิดบริการความอร่อย and cheese salad, beef burger, etc. Euroพร้อมเสิร์ฟทุกวัน วันละ 2 ช่วงเวลา ช่วงเช้า pean and American breakfasts are availตั้งแต่เวลา 08.00 - 15.00 น. และช่วงเย็นเวลา able. Book ‘n Bed is located in Buriram 17.00 - 21.00 น. ช่วงนี้มีโปรโมชั่นพิเศษ เพียง “Check in” ที่ร้านแล้วกดแชร์ ท่านจะได้รับ downtown, about 500 meters from the bus เวลคัม ดริงค์ (Welcome Drink) พร้อมเสิร์ฟ station and opposite Buritel. It is opened ให้ถึงที่ หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โทร daily from 8.00 a.m. - 3 p.m. and from 044 601671 - 3 และ 091 418 7999 หรือ 5 - 9 p.m. Chek-in now and you’ll get free จะเข้าไปที่ Facebook : Book ’n Bed ก็ได้ welcome drink. For more information แล้วอย่าลืมมาที่ Book ’n Bed กันนะคะ call 044 601671 - 3, 091 418 7999 or Facebook : Book ’n Bed. พบกันใหม่ฉบับหน้าค่ะ Enjoy your meals.
15
หมบู่ า้ นทอ่ งเที่ยวไหม “บนิตา้ มหั นสนวนนอก” ยสารสะบายดี บุรีรัมย์ ศจรรย์เมืองแปะ
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 81 ไทรถเข็
มหัศจรรย์แห่งท้องนา ณ ห้วยแสงเหนือ ขุดปู หาปลา พายเรือเก็บสายบัว Huay Saeng Neua : Beauty of Nataural
(ต่อจากฉบับที่แล้ว) เมษายน 59 เราไป "นอนกลางดิน กินกลางทุ่ง" กันที่บ้านสวายสอ หว่านแห ได้ปลาหมอมาทอดกินกับส้มตำ� ทั้งตำ�ลาว ตำ�ชั่ว ตบท้ายด้วยตำ�มะยม อิ่มหมีพีมันทั้งที่ ไม่มีเงินในกระเป๋าซักบาท จากนั้นก็พักเอาแรง รอเวลาสำ�หรับการเดินทางอีกครั้ง หลังจากได้พักและผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าแล้ว พวกเราก็เตรียมตัว ออกไปเรียนรู้และหาประสบการณ์ในชีวิตจริงกันอีกรอบ ดูเหมือนทุกคนยังคงรู้สึกสนุกกับ วิถีชีวิตบ้านทุ่งกันอยู่ สังเกตได้จากทีท่าที่กระฉับกระเฉง บางคนก็เตรียมร่มเตรียมหมวก กันแดด บ้างก็หอบเสื่อหอบหมอน บางคนก็สะพายแหพร้อมครุถัง และที่จะลืมไม่ได้เลย
นั่นก็คือ "จอบ" กับ "เสียม" ขึ้นรถแล้วก็มุ่งตรงสู่ "ห้วยแสงเหนือ" โดยทางลัด "ห้วยแสงเหนือ" หรืออีกชื่อหนึ่งที่พวกเราส่วนใหญ่ไม่รู้สึก คุ้นหูว่า "ศูนย์อนุรักษ์นกกระเรียนพันธุ์ไทยห้วยแสงเหนือ อ่างเก็บน้ำ� ห้วยจระเข้มาก" เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ�ที่มีความอุดมสมบูรณ์ 1 ใน 6 แห่ง ของประเทศ อยู่ในเขตตำ�บลสะแกโพรง อำ�เภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ถูกจัดให้เป็นเขตที่พักอาศัยของนกกระเรียนพันธุ์ไทยซึ่งเป็นสัตว์ป่า คุ้มครอง 1 ใน 15 ชนิดที่ใกล้สูญพันธุ์ไปจากประเทศไทย ซึ่งถูกนำ� มาจากสวนสัตว์นครราชสีมาเพื่อเพาะเลี้ยง ผสมพันธุ์และวางไข่ตาม ธรรมชาติในกรงเลี้ยงบริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าชั่วคราวห้วยแสงเหนือ
19
มหัศจรรย์แห่งท้องนา ณ ห้วยแสงเหนือ มหัศจรรย์เมืองแปะ
เมื่อลูกนกกระเรียนได้ถือกำ�เนิดออกมา เจ้าหน้าที่ บุรีรัมย์้ยง จะปล่อยให้ลูกนกใช้นิชตีวยสารสะบายดี ิตอยู่กับพ่อแม่ในกรงเลี จนถึงอายุ 1 ปี หรือสภาพร่างกายเหมาะสมดีแล้ว สามารถระวังภัยให้กับตัวเองได้ ก็จะนำ�ไปปล่อย ให้ใช้ชีวิตตามธรรมชาติในพื้นที่ชุ่มน้ำ� ส่วนใหญ่ นักท่องเที่ยวหรือนักดูนกอยากลงพื้นที่มาดูนกที่ อาศัยอยู่ตามธรรมชาติอย่างแท้จริง แต่ธรรมชาติ ของนกซึ่งเป็นสัตว์มีปีก เราไม่สามารถคาดเดาได้ ว่านกจะอยู่ในพื้นที่หรือไม่ จึงนำ�นกมาเลี้ยงไว้ใน กรงเลี้ยงเพื่อให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจได้ศึกษา สังเกตลักษณะ สามารถเฝ้ามองพฤติกรรมและฟัง เสียงร้องของนกได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ก็ยังมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้และเจ้าหน้าที่ ของสวนสัตว์ให้คำ�แนะนำ�อย่างใกล้ชิด ฉะนั้น หากเราไปดูนกในท้องทุ่งตามธรรมชาติแล้วไม่ เห็น สามารถมาดูที่ศูนย์ฯ ห้วยแสงเหนือได้ หลายท่ า นที่ ส นใจและอยากจะไปเที่ ย วชม นกกระเรียนพันธุ์ไทยกันที่ห้วยแสงเหนือแห่งนี้ สามารถเข้าไปได้หลายเส้นทาง แต่ที่ง่ายๆ และ มั่นใจว่าท่านจะไม่หลงทางมีอยู่สองทางหลักๆ ทางแรกเป็นเส้นทางที่แยกจากถนนหลวงสาย บุรีรัมย์ - นางรอง ประมาณ กม. 16 จะมีป้าย บอกทางไปบ้านหนองมะเขือ เมื่อทะลุออกจาก หมู่บ้านจะมองเห็นอ่างเก็บน้ำ�ห้วยจระเข้มาก ทางที่สองเข้าทางโครงการชลประทานบุรีรัมย์ ถนนสายบุรีรัมย์ - ประโคนชัย ประมาณ กม. 10 เลี้ยวขวาตรงป้ายขนาดใหญ่ที่บอกตำ�แหน่งของ โครงการฯ ขับเข้าไปอีกประมาณ 2.7 กิโลเมตร จะถึงบริเวณอ่างเก็บน้ำ� ให้ขับรถต่อไปตามถนน ลาดยางบนทำ�นบดินซึ่งเป็นเส้นทางผ่านไปยัง บ้านหนองมะเขือ เส้นทางนี้สามารถทะลุออกไป ยังทางหลวงสายบุรีรัมย์ - นางรองได้ด้วย ที่นี่บรรยากาศดีมากโดยเฉพาะช่วง เช้าๆ หรือช่วงเย็นแดดร่มลมตก สามารถมอง เห็นพระอาทิตย์ขึ้นและตกลับฟ้าสวยงามทีเดียว
พวกเราขับรถตามน้องซิงและน้องจิ๋วที่ขับรถมอเตอร์ไซค์นำ�หน้าลัดเลาะไปตามเส้นทางลัดจากบ้าน สวายสอ มุ่งหน้าไปยังอ่างเก็บน้ำ�ห้วยจระเข้มาก ขับไปได้สักพักใหญ่ ก็ถึงที่จอด เราจอดรถที่ฝั่งทิศตะวันตกของ อ่างเก็บน้� ำ ใกล้กบั ท่อระบายน้�ำ ออกสูท่ งุ่ นา มองไปรอบๆ บรรยากาศแสนจะปลอดโปร่ง แม้ความร้อนจากแสงแดด จะยังลามเลียผิวกายแต่ก็เริ่มลดดีกรีความรุนแรงลงบ้างด้วยว่าตะวันบ่ายคล้อยแล้ว ทีมงานต่างก็เริ่มทำ�หน้าที่ บ้างแบกจอบ แบกเสียม บ้างถือร่มเตรียมปฏิบัติการ ตากล้องแบกกล้องตัวใหญ่เตรียมพร้อมเก็บภาพทุกช็อต ไหนๆ ก็มาถึงแหล่งน้ำ�ที่เต็มไปด้วยพืชและสัตว์น้ำ�นานาชนิด ก็ถือโอกาส ปล่อยเจ้าเต่าตัวน้อยที่ได้รับมาจากคุณยายตอนไปลงปลาที่หมู่บ้านหนองม่วงเมื่อเช้า ซะเลย นึกถึงที่คุณยายถามว่า "เอาไหมล่ะนาง ยายยกให้" ก็เลยถือเป็นการให้ชีวิตใหม่ กับเจ้าเต่าตัวน้อยตัวนี้ สาธุ...ขอให้คุณยายได้รับอานิสงส์แห่งการให้ชีวิตนี้ร่วมกันนะคะ เสร็จจากปล่อยเจ้าเต่าลงสู่ผืนน้ำ�ที่กว้างใหญ่แล้วก็ถึงเวลา "ขุดปูนา" กันสักที วาดภาพไว้ก่อนมาว่า เราจะลงลุยขี้โคลน วิดโคลนใส่ตะกร้าเอาน้ำ�ล้าง แล้วเราก็จะได้ ปูตัวเขื่องๆ มาทำ�ลาบปูแสนอร่อย ยิ่งได้เห็นว่าข้างๆ ที่นาผืนนี้ มีหนองน้ำ�ใกล้จะแห้ง อยู่แล้วด้วย เตรียมถลกขากางเกง และปลดเชือกรองเท้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเรา เดินตามซิงและจิ๋วไม่ห่าง หากแต่ต่างกันตรงที่เราตื่นเต้นและตื่นตากับสิ่งที่ไม่ค่อยจะได้ เห็นในชีวิตประจำ�วัน พลัน! ซิงก็เอ่ยปากว่า "พวกพี่ๆ อย่าไปเดินบนคันแทนานะครับ นอกจากบุ้งที่ติดอยู่ตามต้นหญ้า ต้นไม้น้อยๆ แล้ว อาจจะโชคดีมีงูโผล่ออกมานะครับ"
ยังไม่ทันที่น้องซิงจะพู(ขอขอบคุ ดจบ พวกเราก็ ระโดดลงมาอยู ณข้อมูลกจากคุ ณเจช ่บ- นพื้นอินาเรี สรียายบร้อยแล้ว ภายในเวลาไม่ กตี่วนัินกาทีวิจัยภาคสนาม ติดตามนกกระเรียนพันธุ์ไทย ไทธานี อดี ไทรถเข็ สวนสัตว์ดบนผื เพีน ย้นงหญ้ าและวัชพืชที่ขึ้นแซมซังข้าวซึ่งหลงเหลือจาก ุสคอลั ิต นนามี ที่แ้งละศึ มผูน์้ลกงพืาลครั หนึก่งษาข้อมูลของนกกระเรียนพันธุ์ไทย ฤดูอย่เก็าบงใกล้ เกี่ยชวทีิด่ผ) ่านพ้นไป นึกถึงสมัยเป็นเด็ก พ่อจะชอบพาไปเล่นที่นาเสมอ หยิบเอาซังข้าวมาทำ�เป็นปี่ให้เป่าเล่น นี่กระมังที่เค้าเรียกกันว่าของขวัญจาก ธรรมชาติ ไม่ต้องใช้เงิน ไม่ต้องมีความหรูหราฟู่ฟ่าฟุ่มเฟือย เพียงวัสดุรอบตัว ที่หาได้กับภูมิปัญญาไทย เราก็มีของเล่นจากธรรมชาติได้ตั้งมากมาย ไม่ว่า จะเป็นม้าก้านกล้วย เดินกะลา วิ่งกระสอบ เดินโถกเถก ตีไก่ ที่นำ�เอา หัวของหญ้าแห้วหมูมาตีกันและอีกหลายๆ อย่างที่เคยทำ�เมื่อสมัยยังเป็นเด็ก ความสุขมีค่ามากกว่าเงินทองจริงๆ ไม่นานนักเราก็เข้าสู่สถานการณ์จริงของการ "ขุดปูนา" มันช่างต่าง จากภาพที่คิดเอาไว้ในหัวลิบลับ ซิงบอกว่าหน้าร้อนแบบนี้ ปูมันจะขุดรูอยู่ เพื่อไม่ให้กระดองของมันแห้ง และเพื่อเป็นการเอาชีวิตรอดท่ามกลางฤดูร้อน เพื่อรอให้ฤดูฝนที่นำ�พาความชุ่มฉ่ำ�คืนสู่ผืนนาอีกครั้ง เราเดินหารูปูกันสักพัก ซิงก็เริ่มขุด ขุด แล้วก็ขุด เอาไม้มาแหย่รูปู ตื้นบ้าง ลึกบ้าง จับได้ก็เห็นเพียง ปูนาตัวน้อยๆ นึกสงสารจึงปล่อยกลับคืนสู่ผืนนา เพราะถึงเรานำ�ไปปรุงเป็น อาหาร ก็คงมีน้ำ�และเนื้อไม่มากอยู่ดี รสชาติก็คงไม่อร่อยนะ พวกเราขับรถไปต่อ ลัดเลาะริมห้วยในเส้นทางที่จะไปบรรจบกับ ชลประทาน วนหาที่จอดอยู่สักพัก ก็เจอที่เหมาะๆ ใต้ร่มไม้ ท่ามกลางแสงแดด ยามบ่ายแก่ๆ ไม่เพียงแต่เราเท่านั้นที่ชอบชื่นชมความงามของธรรมชาติ ยัง เหลือบไปเห็นฝรั่งตาน้ำ�ข้าวมานอนอาบแดดอย่างเป็นสุข (ฮ่าๆๆ สุกจนแดง ไปทั่วทั้งตัวเลยทีเดียว) จอดรถยังไม่ทันไร ก็พากันลงไปปูเสื่อ ล้มตัวลงนอน ส่วนพวกที่ยังมีแรงเหลือ ก็ไปเดินถ่ายรูป วักน้ำ�ใส่กันเล่นอย่างสนุกสนาน มองไปรอบๆ บริเวณ รู้สึกถึงความสงบเงียบ หยิบหนังสือที่ยังอ่าน ค้างอยู่มาอ่านต่อ เปิดเพลงเบาๆ จากโทรศัพท์พอให้ฟังสบายๆ สายลมเย็นๆ พัดมาเอื่อยๆ ได้ยินเสียงน้ำ�กระทบตามขอบดินและก้อนหินเป็นระลอกคลื่น แบบเบาๆ อันที่จริงไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงต่างจังหวัด เราก็สามารถใช้ชีวิต แบบสโลว์ไลฟ์ได้ ห่างจากตัวเมืองเพียงไม่กี่กิโลเมตร เราก็รู้สึกผ่อนคลายได้ ทอดตามองออกไปข้างหน้า เห็นเรือหาปลาของชาวบ้านลอยลำ�อยู่ หว่านแห บ้าง วางเบ็ดราวบ้าง ต่างใช้ชีวิตท่ามกลางแสงแดดและสายลมอย่างไม่ต้อง เร่งรีบและร้อนรน แสงแดดอ่อนลงเรื่อยๆ ซิงและจิ๋วลากเรือขุดมา 2 ลำ� พร้อมกับ ไม้พาย พาพวกเราล่องเรือไปเก็บสายบัวกันอย่างสนุกสนาน นั่งเพลิดเพลิน ไปกับสายน้ำ�เย็นที่สัมผัสท้องเรือแล้วกระเซ็นผ่านมาถูกที่ขาทั้ง 2 ข้าง เราถูก ห้อมล้อมไปด้วยฝูงนกนานาชนิดที่บินขวักไขว่ไปมา บ้างโฉบลงจับปลาในน้ำ� บ้างไล่จับแมลง บ้างก็ซุ่มตัวนอนแอบอยู่กับพืชน้ำ�อย่างเงียบๆ หวังรอให้ปลา หรือบรรดาสัตว์ในน้ำ�ว่ายมาใกล้ๆ แล้วก็จะได้อาหารอันโอชะให้อิ่มไปอีกรอบ ก่อนจะกลับเข้ารัง ฝูงผึ้ง แมลงภู่และแมลงปอต่างบินวนไปมาเกาะดอกบัว ดอกนั้นทีดอกนี้ที รู้สึกเพลิดเพลินใจยิ่ง มือเอื้อมถอนสายบัวในขณะที่สายตา ก็ดื่มด่ำ�กับธรรมชาติรอบตัว เผลอแผล็บเดียวก็ได้สายบัวกองโต แสงอาทิตย์กำ�ลังจะลับขอบฟ้า พวกเราเร่งพายเรือกลับมา ณ จุด เริ่มต้น ซิงเหวี่ยงแหรอบสุดท้ายก่อนกลับ บรรยากาศยามนี้ช่างเป็นภาพที่ดู งดงามจริงๆ บอกกับตัวเองว่า "มันอาจเป็นภาพที่ไม่ได้หาดูยากจนเกินไปนัก ความยากอยู่ที่จะมีคนสักกี่คนที่ตั้งใจมาตามดูภาพเหล่านี้" ความมืดโรยตัวเข้ามา เป็นสัญญาณว่าถึงเวลาที่ทุกชีวิตต้องกลับ รังนอน พวกเราเองก็เช่นกัน ขากลับเราวกมาออกทางด้านหน้าของโครงการ ชลประทาน มาโผล่ตรงปากทางซึ่งบรรจบกับทางหลวงประโคนชัย - บุรีรัมย์
02
มหัศจรรย์แห่งท้องนา ณ ห้วยแสงเหนือ มหัศจรรย์เมืองแปะ
21
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
22
มหัศจรรย์แห่งท้องนา ณ ห้วยแสงเหนือ
มหัศจรรย์เมืองแปะ
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 22 ไทรถเข็
อีกไม่นานก็จะถึงบ้าน ท้องไส้เริ่มส่งเสียงบอกว่า เลยเวลาอาหารเย็นมาแล้วนะ หลายเมนูจากสายบัววิ่งปรู๊ด เข้าสู่สมอง ทั้งแกงส้มสายบัวใส่ปลาทู ผัดสายบัวหมูสับ แกงกะทิสายบัว แล้วคงยังมีเหลือพอล้างให้สะอาดปาดมา จิ้มกับน้ำ�พริกปลาทูได้อีก คืนนี้คงได้หลับสบายหลังจากที่ เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ามาตลอดทั้งวัน บ๊าย บายค่ะ พบกันฉบับหน้านะคะ (ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณเจช - อิสรียา ไทธานี อดีตนักวิจัย ภาคสนาม ติดตามนกกระเรียนพันธุ์ไทย สวนสัตว์ดุสิต ผู้ ลงพื้นที่และศึกษาข้อมูลนกกระเรียนพันธุ์ไทยอย่างใกล้ชิด)
After lunch and having some rest at Sing’s house we took another trip to Huay Saeng Neua. Some of Buriram people may have ever heard the name “Huay Saeng Neua” as it is the name of a place, but may only a small number of Buriram citizens have ever known the name of “Thai flamingo species conservation center of Huay Saeng Neua”. This center is located near Huay Jorakhemaak Reservoir, Sakaeprong Subdistrict, Muang district, Buriram province. Huay Saeng Neua is one of six superabundance wetlands in Thailand and is suitable for being a conservation place of Thai flamingo which is one of 15 wildlife endangered species. We went there attentively to learn new local lifestyle such as digging crabs and picking lotus stems. A variety of birds flew over the reservoir to find some more food from nature before going back to sleep. We have learned many lessons for our real life which we can say it is a “long life learning”. The best lesson is learning to be a good listener and sharer. Thank you Sing and Jew for being good guides. Thank you staff from Sabaidee Buriram for being good fellow travellers.
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
แอด สยามคิด
4 4สวนน้ 2 ไทรถเข็น ำ � สุ ด หรรษา ท้ า ลมร้ อ นในบุ ร ี ร ั ม ย์ คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง
Play Park Buriram
สนุกชุ่มฉ่ำ�ให้หนำ�ใจกับสวนน้ำ� “เพลย์พาร์ค บุรีรัมย์” สวนน้ำ�ระบบเกลือ พร้อมให้บริการ 3 โซน ได้แก่ Fun Zone สำ�หรับเด็กเล็ก ความลึก 10 - 70 ซม. Happy Zone สำ�หรับเด็กโตและผู้ใหญ่ความลึก120 ซม. และ Healthy Zone สำ�หรับผู้ที่ชื่นชอบการนวด ด้วยสปานวด 6 หัว บำ�บัดน้ำ�ด้วยระบบเกลือช่วยเพิ่ม ความชุ่มชื้นให้กับผิวและไม่ให้ทำ�ให้ผมแตกปลาย นอกจากนี้ยังทำ�ความสะอาดสระทุกวัน เพื่อป้องกัน เชื้อโรคที่อาจปะปนมากับน้ำ� พร้อม Life Guard ดูแล ความปลอดภัย มีบริการให้เช่าอุปกรณ์ว่ายน้ำ� อาหาร และเครื่องดื่ม ค่าบริการ 50 - 70 บาท เด็กสูงไม่เกิน 90 ซม. ผู้พิการและชาวไทยอายุ 65 ปีขึ้นไป เข้าฟรี เวลาเปิด - ปิด : 10.00 - 19.00 น. ทีอ่ ยู่ : 222 ม. 2 ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรรี มั ย์ (ห่างจาก
อ.เมือง 4 กม. อยูใ่ นอบต.บ้านยาง ทางไปสนามบิน อ.สตึก) Facebook : สวนน้�ำ เพลย์พาร์ค บุรรี มั ย์ Play Park Buriram
โทร : 094 - 4535462
Nayramit Water park Buriram สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับเครื่องเล่น ต่างๆ และสไลเดอร์อีกมากมายใน “สวนน้ำ� เนรมิตร บุรีรัมย์” ค่าเข้า 80 - 120 บาท ส่วน เด็กคนไหนที่ไม่มีชุดว่ายน้ำ�ล่ะก็ ทางสวนน้ำ�ยังมี บริการเช่าชุดว่ายน้ำ�ในราคา 40 - 60 บาทอีกด้วย นอกจากความสนุกของสระว่ายน้ำ�ขนาดใหญ่ สวนน้ำ�ยังมีบริการเสื้อชูชีพสำ�หรับเด็กเล็ก มีซุ้ม ให้นั่งพักผ่อนและมีอาหารไว้บริการสำ�หรับลูกค้า ที่เล่นมาเหนื่อยๆ หิวๆ อีกด้วย เวลาเปิด - ปิด : 10.00 - 20.00 น. ทีอ่ ยู่ : บ้านโกรกขีห้ นู 88 ม. 3 ถ.บุรรี มั ย์ พุทไธสง Facebook : สวนน้�ำ เนรมิตบุรรี มั ย์ Nayramit water park Buriram โทร : 087 - 7781343 และ 087 - 4505904
4 สวนน้ำ�หรรษา ท้าลมร้อนในบุรีรัมย์ นิตยสารสะบายดีบุรีรัมย์
25
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
สวนน้ำ�แฟมิลี่ปาร์ค ลำ�ปลายมาศ คลายร้อนในวันสบายๆ ช่วงหน้าร้อน ไปกับสวนน้ำ�แห่งความสนุกสนาน เพลิดเพลินกับ สไลเดอร์สีสันสวยงาม น้ำ�ใสสะอาด บรรยากาศดี มีเพลงให้ฟังผ่อนคลาย ในราคาเบาๆ 50 - 80 บาท พร้อมกับศูนย์อาหารเครื่องดื่ม ร้านกาแฟ ร้านเช่าชุด ครบวงจร นอกจากนี้ยังมีระบบรักษา ความปลอดภัย ให้ทุกท่านอุ่นใจทุกครั้งเมื่อมาใช้ บริการ มาเล่นน้ำ�กันให้หนำ�ใจ เย็นชุ่มปอดกันดี กว่า ร้อนนี้เจอกันนะคะ เวลาเปิด - ปิด : 10.00 - 19.00 น. ทีอ่ ยู่ : บ.หนองกระโดน ถนนสายลำ�ปลายมาศชุมพวง อ.ลำ�ปลายมาศ จ.บุรรี มั ย์ Facebook : สวนน้�ำ แฟมิลป่ี าร์ค ลำ�ปลายมาศ โทร : 099 - 9011558
บ้านสวน Fruit & Gardens
สวนเกษตรปราณีตพัฒนาบนพื้นฐาน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยคุณโสภณ ซารัมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม อีกหนึ่งผลงานสวนเกษตรที่พร้อมให้ท่านเข้าไป สัมผัสได้ฟรี ทั้งผลไม้ ผักและที่สำ�คัญสำ�หรับใคร ที่ชอบเล่นน้ำ�ดื่มด่ำ�ลำ�ธารและน้ำ�ตกเย็นสดชื่น ที่สร้างขึ้นเอง บุคคลภายนอกสามารถเข้ามาลง เล่นน้ำ�ได้ฟรี นอกจากนี้ยังมีขนม นม น้ำ� ไอศครีม รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ของสดๆ จากไร่ ให้ทุกคน ได้เลือกซื้อเลือกหากันอย่างเต็มอิ่ม เวลาเปิด - ปิด : 8.00 - 17.00 น. ทีอ่ ยู่ : 199 หมู่ 4 ต.เมืองแฝก อ.ลำ�ปลายมาศ จ.บุรรี มั ย์ Facebook : สวนผักผลไม้ บ้านสวนฟรุต๊ การ์เด้นส์ โทร : 094 - 8421111
22
ทุ่งปอเทือง
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 62 ไทรถเข็
แอดสยามคิด
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
ป้าอ้อนขนมจีน ร้านเล็กๆ แต่ครบรส Small but great ใครจะเชือ่ ว่า ด้วยเมนูทแ่ี สนจะธรรมดา บ้านๆ ไม่มอี ะไร สลับซับซ้อนเลยนีแ่ หละ ทีท่ �ำ ให้เราต้องแวะเวียนกลับมาทีน่ ่ี ครัง้ แล้ว ครัง้ เล่า... หากขับรถเข้ามาในซอยโรงแรมบุรเี ทล (หรือโรงแรมวงษ์ทอง เดิม) แล้วขับไปจนสุดซอยจะมองเห็นป้ายเล็กๆ บอกชือ่ ซอยมหาราชา และใกล้ๆ กับจุดตัดของซอยทัง้ สอง เยือ้ งไปทางขวามือเล็กน้อยจะ มองเห็นร้านขายอาหารร้านเล็กๆ อยูร่ า้ นหนึง่ และทีน่ แ่ี หละ... ร้าน “ขนมจีนป้าอ้อน” กว่า 30 ปีแล้ว ทีป่ า้ อ้อน - อ้อน สวัสดิส์ งิ ห์ ได้แสดง ฝีมอื การทำ�ขนมจีนน้�ำ ยา ส้มตำ�และขนมหวาน ไว้บ้ ริการลูกค้าทีช่ อบ รับประทานอาหารประเภทเส้น แม้วา่ เวลาจะผ่านไปยาวนานแต่รา้ น แห่งนีก้ ย็ งั คงขายดิบขายดีเป็นเทน้�ำ เทท่า ด้วยฝีมอื และความพยายามที่ จะคิดค้นและปรับปรุงสูตรจนได้ความอร่อยทีล่ งตัวอย่างเช่นในปัจจุบนั ป้าอ้อนบอกเราว่า ป้าเรียนจบแค่ ป.4 เมือ่ แต่งงานออกเรือนมาเป็น แม่บา้ นก็อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อบ้าน เพราะไหนจะเลีย้ งลูก ไหนจะหาเงินส่งให้ลกู เรียน ก็เลยเริม่ ต้นทำ�ขนมจีนน้�ำ ยาออกมาขาย เมือ่ ก่อนป้าหาบขนมจีนเร่ขายไปทัว่ แต่เมือ่ นานๆ เข้าก็เริม่ ปวดเมือ่ ย กล้ามเนือ้ และด้วยอายุทม่ี ากขึน้ ก็ท�ำ ให้เดินไปไหนมาไหนไกลลำ�บาก จึงมาเปิดร้านเล็กๆ ขายอยูท่ บ่ี า้ นของแม่ ต่อมา... ก็ได้ยา้ ยมาขายอยู่ ทีป่ จั จุบนั นีซ้ ง่ึ เป็นบ้านของตัวเอง เมนูเด็ดของร้านที่ลูกค้ามาแล้วมักจะต้องสั่งก็คือขนมจีน น้�ำ ยาไก่ ใส่นอ่ ง ใส่เครือ่ งใน นอกจากนัน้ ก็ยงั มีขนมจีนน้�ำ ยาปลากะทิ
น้�ำ ยาปลาลาวหรือทีห่ ลายๆ คนเรียกกันว่า น้�ำ ยาปลาโดก เผ็ดแซ่บสะใจ ได้รสชาติ และหอมน้�ำ ปลาร้า จัดคูก่ นั มากับสารพัดส้มตำ� ไม่วา่ จะเป็นตำ�ไทย ตำ�ลาว ตำ�ผสม ตำ�พริกกระเทียม หรือจะให้ปา้ อ้อนตำ�ขนมจีนใส่ลงไปเป็นตำ�ซัว่ ก็ได้นะคะ ทีเด็ดอยูท่ ่ี ความอร่อยและรสชาติทไ่ี ม่เปลีย่ นแปลง ลูกค้าบางคนชอบกลิน่ ขิง ป้าอ้อนก็จะใส่ขงิ หัน่ ฝอยลงไปในส้มตำ�เพือ่ เพิม่ กลิน่ หอม แถมยังเป็นสมุนไพรช่วยขับลมและมีสรรพคุณ เป็นยาอายุวฒั นะชัน้ ยอดอีกด้วย จะเอารสชาติเผ็ดจีเ๋ ปรีย้ วจีด๊ ถึงใจอย่างไรก็สง่ั ได้เลย ป้าอ้อนยินดีจดั ให้ หลังจากเผ็ดร้อนได้ทแ่ี ล้ว ก็ตอ้ งตบท้ายด้วยของหวานหลากหลายเมนูท่ี สับเปลีย่ นเวียนหมุนกันไปในแต่ละวัน ไม่วา่ จะเป็นกล้วยบวชชี สาคูถว่ั ดำ� สาคูขา้ วโพด
28
ขนมจีนป้าอ้อน กาลครั้งหนึ่ง
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 82 ไทรถเข็
หรือฟักทองแกงบวด พิเศษหน่อยในวันเสาร์และวันอาทิตย์ จะมี เมนูเพิม่ เติมเข้ามาให้อร่อยกันอีกอย่าง นัน่ ก็คอื “หมีก่ ะทิ” ป้าอ้อน บอกว่าสิง่ สำ�คัญในการทำ�อาหารให้บริการลูกค้า คือเรือ่ งคุณภาพ ไม่วา่ จะเป็นการคัดสรรวัตถุดบิ มาปรุงอาหาร เรือ่ งความสะอาด ในทุกขัน้ ตอนของการทำ�อาหาร ตลอดจนความสะอาดและร่มรืน่ ของร้าน สำ�หรับน้�ำ ดืม่ ของทีน่ ่ี ป้าอ้อนมีน�ำ้ ดืม่ เย็นๆ ไว้บริการฟรี ปกติปา้ อ้อนจะเปิดขายขนมจีนทุกวัน แต่หากวันไหนที่ ป้าอ้อนรูส้ กึ ไม่คอ่ ยสบายตัว ก็จะขอหยุดพัก เพราะร่างกายทีเ่ ริม่ อ่อนล้าลง นานๆ ที จะมีสกั ครัง้ หนึง่ ร้านเปิดตัง้ แต่เวลา 9.00 น. ถึง 16.00 น. หรือจนกว่าของจะหมด ซึง่ แล้วประมาณบ่ายสอง ถึงบ่ายสามของก็จะเริม่ หมด ราคาเริม่ ต้นของขนมจีนและส้มตำ� อยูท่ ่ี 25 บาท หากเพิม่ เติมเครือ่ งใน น่อง ขนมจีน หรือสัง่ พิเศษ ก็คดิ ราคาเพิม่ ขึน้ มาหน่อย แต่กค็ มุ้ ค่ากับความอิม่ และอร่อยนะคะ ใครทีห่ าร้านไม่ถกู หรืออยากทราบว่าร้านเปิดหรือไม่เปิด โทรมาได้ ทีห่ มายเลข 08 - 4282 - 2548 สำ�หรับฉบับนีล้ ากันไปก่อนนะคะ ติดตามอ่านกันได้ใหม่ในฉบับหน้า สวัสดีคะ่
Knomjean is a kind of food mostly favored among Thais throughout Thailand. Knomjean has different names according to various parts of Thailand. In the north of Thailand, it is called knom Sen (ขนมเส้น) which is always eaten with Nam ngeaw (น้ำ�เงี้ยว) whereas in the northeast it is named “khaw Poon (ข้าวปุ้น)”, eaten with Nam Ya Pa (น้ำ�ยาป่า) or Nam Ya Pla Dok (น้ำ�ยาปลาโดก). In the central part of our country, it is called knomjean which is always eaten with Nam Ya Kati (น้ำ�ยากะทิ) or curry. The name of knomjean becomes Nomjean in the south and usually eaten with Kaeng Tai Pla (แกงไตปลา) or Nam Ya.
Pa On- On Swadsing- started selling knomjean over 30 years ago. At her food stall, there are many types of Nam Ya such as chicken curry, Nam Ya Kati, Nam Ya Pa, and Nam Prik. In addition, some Thai sweets and various types of papaya salad are made daily. Pa On knomjean is served every day from 9 a.m. - 4 p.m. Just go along Harnchana Soi (ซอยหาญชนะ) in front of Buritel hotel (โรงแรมบุรีเทล) until you come to the end of the soi. At the junction, you wil see her shop just across the soi on your right. For more information call 0842822548. Enjoy your meal.
Contact
ตำ�ถาด
ร้านถั่วทอด เกี๊ยวกรอบ โรงเรียนอนุบาล ตัง้ อยูต่ รงสามแยกก่อนถึงร้านซาซากิ เยือ้ งโรงเรียนอนุบาลบุรรี มั ย์ ร้านเปิดทุกวัน จันทร์ - ศุกร์ 9.00 - 16.30 น. วันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 9.00 - 20.00 น. โทร : 088 371 3762
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์ นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 03 ไทรถเข็
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
Art Gallery: Souvenir: Art workshop เปนที่รวมการจัดแสดงงานสีน้ำ งานศิลปะ โปสการด ของที่ระลึก งานออกแบบดีไซนแปลกๆที่หายากจากนักออกแบบ สินคาทองถิ่นที่คัดสรรแลว หนังสือภาพสวยๆ อุปกรณงานศิลปะ
Watercolor FOR KIDS ความถนัดทางสถาปตย
พบกับหลักสูตร การเขียนสีน้ำ การเขียนการตูน การเรียนรูทางศิลปะดานตางๆ การออกแบบ ความถนัดทางสถาปตย สำหรับเด็ก เยาวชนและบุคคลทั่วไป นำโดยครูพร สอนศิลปและสีน้ำ และศิลปน ครูศิลปะดานตางๆที่หลากหลาย
"มาลองเขียนสีน้ำ แลวคุณจะรักสีน้ำ "
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมไดที่ สีน้ำอะเตอลิเยร ในโครงการ Buriram Castle
Facebook; Srinam Artelier Tel 086-245-8552(พี่น้ำ), 062-325-8552(อ.พร)
Watercolor And Sketching
ภาพเก่าเล่าเรื่อง วิวัฒน์ โรจนาวรรณ/ โครงการตามหาเมืองแป๊ะ/www.facebook/”Wiwat Rojanawan”
31
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
1
ภาพเก่าเล่าเรื่อง ผู้คน บ้านเรือนเมืองบุรีรัมย์ ตอนเก็บศพไร้ญาติเมื่อปี พ.ศ. 2504 ในปี พ.ศ. 2503 มีชาวจีนโพ้นทะเล กลุม่ หนึง่ ในเขตเทศบาลเมืองบุรรี มั ย์ ทีม่ าตัง้ รกราก ในเมืองบุรรี มั ย์ตง้ั แต่สมัยต้นรัชกาลที่ 7 ต่างพากัน คิดถึงสิง่ ยึดเหนีย่ วจิตใจทีเ่ คยปฏิบตั มิ าก่อน สมัยที่ ยังอาศัยอยูบ่ นแผ่นดินใหญ่จนี จงึ ได้รว่ มกันอัญเชิญ “กิมโล้ว (กระถางธูปทอง)” ขององค์ “โป๊ยเซียน โจวซือ” จาก “เหม่งหยิง้ เสีย่ งตัว๊ นครราชสีมา ให้มา ตรวจตราอาคารบ้านเรือนพืน้ ทีใ่ นเขตเทศบาลเมือง บุรรี มั ย์ โดยมี “นายเป๊กฮึง แซ่ซอ้ื ” เจ้าของโรงสีขา้ ว ธัญวัฒน์ เป็นหัวหน้าคณะดำ�เนินการ ต่อมาในปี พ.ศ. 2504 “มูลนิธสิ ว่างจรรยาธรรมสถานบุรรี มั ย์” จึงได้เริม่ ก่อตัง้ และได้รบั อนุญาตให้เข้าร่วมเป็นองค์กรสมาชิกของ “สมาคม
พุทธมามกะสงเคราะห์การกุศลแหงประเทศไทย” อันเป็นศูนย์รวมระดับประเทศของ “มูลนิธสิ ว่างฯ” ในประเทศไทย จากนั้นจึงได้กำ�หนดให้มีการจัดงาน “ล้างป่าช้า” หรือ “เก็บศพไร้ญาติ” ครัง้ แรกของ เมืองบุรรี มั ย์ ซึง่ ความเชือ่ เรือ่ ง การนำ�ศพผูไ้ ร้ญาติ ขึน้ มาบำ�เพ็ญกุศลนัน้ เป็นความเชือ่ ทีส่ บื ทอดต่อกัน ตัง้ แต่สมัยพุทธกาล แล้วจึงขยายเข้ามาสูแ่ ผ่นดินจีน ในทีส่ ดุ ชาวจีนโพ้นทะเลในประเทศไทย จึงนำ�มา ปฏิบตั ติ อ่ โดยเชือ่ ว่าเมือ่ ได้น�ำ อัฐขิ องศพไม่มญี าติ ทีฝ่ งั อยูต่ ามวัดต่างๆ ในเมืองบุรรี มั ย์ แล้วขุดขึน้ มา ทำ�ความสะอาดและฌาปนกิจ จากนัน้ ก็ท�ำ พิธสี วดพระอภิธรรมโดยพระภิกษุของพระพุทธศาสนา
ผูว้ ายชนม์จะได้ไปผุดไปเกิด ส่วนผูร้ ว่ มในพิธขี ดุ ศพ ล้างป่าช้า ก็จะได้บญุ กุศลอย่างมหาศาล การล้างป่าช้าครัง้ แรก ได้รบั ความสนใจ จากชาวบุรรี มั ย์เชือ้ สายจีนเป็นอย่างมาก ต่างพากัน สมัครเข้าไปช่วยงานในหน้าทีต่ า่ งๆ อย่างล้มหลาม ดังในภาพถ่ายทีไ่ ด้น�ำ มาให้ชมกัน ซึง่ นอกจากทำ�ให้ ทราบถึงประเพณีอย่างหนึ่งของชาวจีนแล้วยังทำ�ให้ เราได้เห็นโฉมหน้าของผูค้ น การแต่งกาย บ้านเรือน และเรือ่ งราวของเมืองบุรรี มั ย์ เมือ่ 55 ปีกอ่ น ผูค้ นทีป่ รากฏในภาพ ส่วนใหญ่กล็ ม้ หาย ตายจากไปมากแล้ว ผูท้ ย่ี งั มีชวี ติ อยู่ ก็แก่ชราจนจำ� เค้าเดิมได้ยาก
32
ภาพเก่าเล่าเรื่อง วิวัฒน์ โรจนาวรรณ/ โครงการตามหาเมืองแป๊ะ/www.facebook/”Wiwat Rojanawan”
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 23 ไทรถเข็
เหมือนแต่ละภาพถ่ายในเล่มนี้ จะเตือนเราว่า “ไม่มอี ะไรอยูค่ งที่ แม้แต่ ประเพณีจนี ซึง่ ยังคงมีอยูแ่ ละปฏิบตั สิ บื ต่อ กันมานาน อย่างพิธกี รรมทีป่ ฏิบตั กิ นั อยูใ่ น “มูลนิธสิ ว่างจรรยาธรรมสถานบุรรี มั ย์” ใน ทุกวันนี้การปฏิบัติก็ไม่เข้มข้นเหมือนอดีต เมือ่ 55 ปี ก่อน
2
2
5 3
4 คำ�บรรยายภาพ ภาพที่ 1 : กะโหลกและกระดูกของศพไม่มีญาติ ที่ขุดขึ้นมาจากหลุมศพของวัดใด วัดหนึ่งของเขตจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งชี้ตำ�แหน่งที่ฝังศพด้วยการเข้าทรง “โป๊ยเซียน โจวซือ” ดำ�เนินการโดย “มูลนิธิสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์” ซึ่งในภาพกำ�ลัง อยูใ่ นระหว่างการตรวจสอบวันทีแ่ ละเดือนของการดำ�เนินงาน ปัจจุบนั ทราบแล้วว่า ดำ�เนินการในปี พ.ศ. 2504 ภาพที่ 2 : “ขบวนแห่นักสวดจีน กำ�ลังเดินผ่านตึกแถวหลังสถานีรถไฟบุรีรัมย์ บริเวณห้องแถวตัง้ แต่ “ร้านบุรรี มั ย์ฟาร์มาซี” ไปจนถึง “ร้านแตงข้าวมันไก่” ซึง่ ใน ช่วงปี พ.ศ. 2504 ยังไม่มีร้านดังกล่าวเข้ามาอยู่ตึกแถวกลางๆ ขบวนแห่ จะเห็น ป้ายไม้บอกว่าเป็น “ธนาคารไทยพัฒนา จำ�กัด “ ซึ่งธนาคารนี้ยุบไปนานแล้ว ภาพที่ 3 : “ขบวนแห่ของ นักขุดศพไร้ญาติ” กำ�ลังเดินผ่านถ.นิวาศ หัวแถวอยูต่ รง รั้วสังกะสี ซึ่งเป็นตำ�แหน่งของตึกคอนกรีต 3 ชั้น ของ “ร้านมงคลพาณิชย์” ที่ อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง จะสังเกตุการณ์เห็นว่า ในปี พ.ศ. 2559 ห้องแถวไม้ทั้ง 2 ชั้น และชั้นเดียว บริเวณนี้สร้างเป็นตึกคอนกรีตเกือบหมดแล้ว
6 ภาพที่ 4 : “การล้างป่าช้าหรือการขุดศพไร้ญาติ ครัง้ แรกของเมืองบุรรี มั ย์ ดำ�เนินการ โดย “มูลนิธิสว่างจรรยาธรรมสถาน บุรีรัมย์” ซึ่งนับเป็นสาขาที่ 20 ของสมาคม พุทธมามกะสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ได้มีการตั้งกองอำ�นวยการจัดงานที่บริเวณ “โรงสีข้าวธัญวัฒน์” ในอดีต แต่ในปี พ.ศ. 2559 จะเป็นบริเวณที่เรียกกันว่า “โกดัง อาร์เอสก่อสร้าง ด้านหน้าสุดของภาพ มีกลุ่มคนทั้งนั่งและยืน คงกำ�ลังประชุม เตรียมการจัดงานนี้อยู่ ภาพที่ 5 : “เป็นภาพการประกอบพิธที างศาสนาแบบจีนหรือแบบลัทธิเต๋า ของกรรมการ มูลนิธสิ ว่างจรรยาธรรมสถานบุรรี มั ย์ คนที่ 2 จากขวา คือ นายเป๊กฮึง แซ่ชอื๊ เจ้าของ โรงสีข้าวธัญวัฒน์และโรงหนังบุรีรัมย์ภาพยนตร์ ซึ่งเป็นประธานการจัดงานครั้งนี้ ส่วนคนแรก คือ นายหมั่งเซ้ง แซ่เอี๊ย หรือ นายสุเทพ ชัชวาลวงศ์ ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. 2505 - 2511 ได้รบั เลือกตัง้ เป็น ประธานกรรมการมูลนิธสิ ว่างจรรยาธรรมบุรรี มั ย์ ภาพที่ 6 : “บุคคลทัง้ 10 ในภาพนี้ อยูใ่ นระหว่างทำ�หน้าทีเ่ ป็น “หน่วยปฐมพยาบาล” ของขบวนแห่ท่ีจะนำ�อัฐิที่ผ่านพิธีทางศาสนาทั้งไทยและจีน ไปบรรจุที่สุสานสว่างจรรยาธรรม ที่บ้านโคกวัด ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ บุคคลในภาพนี้ หลายคนคงเสียชีวิตตามอายุขัย แต่ยังมีอีกหลายท่านยังมีชีวิตอยู่ (เจ้าของภาพทั้งหมด : มูลนิธิสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์ ถ่ายในปี พ.ศ. 2504)
ภาพเก่าเล่าเรื่อง วิวัฒน์ โรจนาวรรณ/ โครงการตามหาเมืองแป๊ะ/www.facebook/”Wiwat Rojanawan”
35
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์ นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 43 ไทรถเข็
วันวิสาขบูชา ประสูติ ตรัสรูแ้ ละปรินพิ พาน สำ�หรับชาวพุทธ วันขึน้ 15 ค่�ำ เดือน 6 หรือวันวิสาขบูชา ของทุกๆ ปี ถือเป็นวันทีม่ คี วามยิง่ ใหญ่และมีความสำ�คัญอย่างยิง่ เนื่องจากเป็นวันคล้ายกับวันที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรง ประสูติ ตรัสรูแ้ ละเสด็จดับขันธปรินพิ พาน ซึง่ ในปีนว้ี นั วิสาขบูชา ตรงกับวันศุกร์ท่ี 20 พฤษภาคม 2559 พระพุทธองค์ทรงตรัสความจริงแห่งชีวิตให้ทุกคนได้ ทราบว่า ชีวติ นีเ้ ต็มไปด้วยปัญหา มนุษย์ทกุ คนล้วนมีความทุกข์หรือ ปัญหาเหมือนๆ กัน ไม่มใี ครทีจ่ ะมีความสมบูรณ์เพียงอย่างเดียว แต่เมือ่ มีปญั หาใดๆ เกิดขึน้ ไม่วา่ จะเล็กน้อยหรือยิง่ ใหญ่สกั เพียงใด ก็ตาม ขอให้เข้าใจว่าย่อมต้องมีสาเหตุท�ำ ให้เกิดปัญหาขึน้ และ สาเหตุหลักทีท่ �ำ ให้เกิดปัญหาหรือความทุกข์ขน้ึ ในชีวติ ก็คอื ตัณหา หรือความอยากต่างๆ ซึง่ ประกอบไปด้วยความยึดมัน่ ถือมัน่ ไม่มที ่ี สิน้ สุด คือ ความอยากจะมีอยากจะได้ อยากจะเป็นนีเ่ ป็นนัน่ ความรูส้ กึ เบือ่ หน่ายจนไม่อยากจะเป็นอะไรต่อไปอีก ความโง่งมงาย ความยึดมัน่ ถือมัน่ ความไม่รจู้ กั พอ เป็นต้น พระพุทธองค์ทรงสัง่ สอน ต่อไปอีกว่า ทุกข์คอื ปัญหาของชีวติ ทีก่ ล่าวมาแล้วนัน้ สามารถทีจ่ ะ แก้ไขได้ทง้ั สิน้ เมือ่ ทุกข์ทใ่ี ดก็จงดับหรือแก้ไขตรงนัน้ ด้วยว่าไม่มี ความทุกข์หรือปัญหาใดๆ ในโลกนีท้ เ่ี ราจะดับไม่ได้ สำ�หรับหนทาง ทีจ่ ะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ นัน้ ก็จะต้องปฏิบตั ติ ามหลักคำ�สอน ของพระพุทธองค์ ด้วยการทำ�ความเข้าใจให้ถกู ต้อง คิดให้ถกู ต้อง พูดให้ถกู ต้อง ทำ�แต่สง่ิ ทีถ่ กู ต้อง เลีย้ งชีพด้วยความถูกต้อง หมัน่ เพียร ในสิง่ ทีถ่ กู ต้อง ตัง้ สติหรือระลึกถึงแต่สง่ิ ทีถ่ กู ต้องและตัง้ ใจแน่วแน่ ในทางทีถ่ กู ต้อง หากว่าเราได้ลงมือกระทำ�อย่างจริงจังแล้ว ในทีส่ ดุ ทุกๆ ปัญหาในชีวติ ก็จะดีขน้ึ เป็นลำ�ดับ ดังนัน้ ในโอกาสทีว่ นั วิสาขบูชาเวียนมาถึงอีกครัง้ ในปีน้ี จึงควรที่จะพากันน้อมรำ�ลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระ สัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงมีต่อชาวโลกและร่วมกันทำ�ความดีและ บำ�เพ็ญบุญกุศล ถวายเป็นพุทธบูชา
ขอขอบคุณข้อมูลประกอบจาก https://www.gotoknow.org/posts/489739
BURIRAM’S BEST BUYS นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
ตึกแถวบ้านหนองโพรง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้� ำ 1 ห้องครัว พร้อมพืน้ ทีซ่ กั ล้าง ทีจ่ อดรถ แถมฟรี ปัม๊ น้�ำ และถังน้�ำ ใกล้หา้ งสรรพสินค้าต่างๆ ทางสัญจรหลายทาง โทร คุณสุชาดา 088 803 8231 คุณก้อง 086 879 9931
ขาย
โครงการ บุปผชาติโฮม 2 ห้องนอน 2 ห้องน้� ำ 1 ระเบียง 1 พืน้ ทีอ่ เนกประสงค์ ทีจ่ อดรถ หน้ากว้าง 6 เมตร ใกล้ทกุ ห้างไม่หา่ งเมือง เริม่ ต้น 2.1 ล้านบาท โทร 089 717 5734 044 613 723 คุณวรากร เงยวิจติ ร
สนใจลงโฆษณาขาย/เช่า บ้าน ที่ดิน ห้องพัก โรงแรม อพาร์ทเมนต์ คอนโด
โทร. 087 4588547 คุณโจ้ 085 6121010 คุณก้อย หรือติดต่อที่บ้านสะบายดี 40/70 ถ.อินจันทร์ณรงค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
ขาย
12ราศี
เปิดดวง
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 63 ไทรถเข็
ประจำ�เดือนเมษายน 2559
- ประสบการณ์การตรวจดวงตั้งแต่อายุ 16 ปี
- ปัจจุบันอยู่สังกัดของเว็บไซต์ ญาณเทพ (www.yantep.com) - ปี 2558 ติดอันดับ 57 หมอดูระดับพระกาฬ ในนิตยสารแพรว (fortune) - รับจองคิวตรวจดวงทุกวันทาง ราศีเมษ (14 เมษายน – 14 พฤษภาคม)
ราศีพฤษภ (15 พฤษภาคม – 14 มิถุนายน)
การงาน ช่วงนี้จะมีการวางแผนต่อยอด ธุรกิจ มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้นเป็นลำ�ดับ ขอแค่คุณ ตัง้ ใจและเชือ่ มัน่ ในตนเอง เพศชายระวังถูกชักจูง ได้งา่ ย เพศหญิงระวังอาการปวดท้อง พกยาติดตัว ตลอดก็จะดี การเงิน อาจจะมีเรื่องใช้จ่ายภายในบ้านมากขึ้น อย่างเห็นได้ชัด ความรัก ระยะนีจ้ ะถูกคนรักเอาใจเป็นพิเศษ คนโสด มีโอกาสถูกมอง หรือได้รับความสนใจมากขึ้น
การงาน ใครทีค่ ดิ จะโยกย้ายเปลีย่ นแปลง ไม่แนะนำ� ให้เปลี่ยนงาน ย้ายงานในเดือนนี้ สุขภาพถือว่าดี ไม่มีปัญหา ระวังคุณอาจจะไปล่วงรู้ถึงคำ�นินทา ที่คนอื่นได้นินทาคุณไว้ หนักแน่นไว้ และไม่ต้อง ใส่ใจในคำ�นินทา หรือคำ�สบประมาท ความรัก มีโอกาสถูกคนอื่นยุแยงตะแคงรั่ว ขอให้ หนักแน่นให้มาก
ราศีกรกฎ (17 กรกฎาคม – 16 สิงหาคม)
การงาน ระวังถูกตำ�หนิ ใครกำ�ลังเรียนระมัดระวัง เกรดตก ขยัน ตั้งใจและมีสติจะช่วยให้ดีขึ้น ความรัก ระวังมีปัญหาขัดใจกับคนรัก หรือเพื่อน เพราะความไม่เข้าใจ คนโสดหัวใจกระชุม่ กระชวย
การงาน จะมีการพบปะญาติพี่น้อง หรือเพื่อนเก่า การเงิน หมดไปกับงานเลีย้ ง สังสรรค์ งานเข้าสังคม ภายนอกคุณดูรา่ เริง แต่ภายในยังดูเศร้าหมอง ควร หาเวลาผ่อนคลายเติมความสดชื่นให้ชีวิต ความรัก เดือนนีค้ ณุ จะดีทงั้ เดือน ความรักมีโอกาส ตกหลุมรักใครได้งา่ ย ระวังรักซ้อน เจอคนมีเจ้าของ
ราศีมังกร ( 15 มกราคม – 12 กุมภาพันธ์)
การงาน ในระยะนี้คุณคิดอยากที่จะหา อะไรทำ�อยูต่ ลอด จัดระเบียบกับมันั สักหน่อยรับรอง ว่าสำ�เร็จได้ด้วยดีแน่นอน การงานการเรียนในช่วงนี้ ยังปกติดี และมีแนวโน้มว่ามันจะทำ�ให้คณุ มีความสุข ความรัก ต่างคนต่างยุ่ง อาจห่างกันสักพัก คนโสด มีความสุขกับชีวติ ส่วนตัวและเพือ่ นฝูง คนมีครู่ ะวังมี ปากเสียงกันเพราะความเข้าใจผิด
ราศีพิจิก (17 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม)
การงาน คุณอาจจะหงุดหงิดเพราะเรื่อง เงินทองของคุณ ส่งผลให้คณุ ขาดสมาธิในการทำ�งาน การเงิน ระวังเงินจะหมดไปกับการเข้าสังคม งาน สังสรรค์ หรือการซื้อของใช้มากมาย ความรัก ระมัดระวังความปากไวใจเร็วอาจสร้าง ความขัดแย้ง คนโสดถูกมองข้าม
ราศีกุมภ์ (13 กุมภาพันธ์ – 14 มีนาคม)
การงาน คุณกำ�ลังกังวลถึงอนาคตต่อจากนี้ โดยเฉพาะคนทำ�งาน เดือนนีง้ านหนัก งานเครียด พยายาม อย่ามีปากเสียงหรือไปขัดคอใคร เสีย่ งต่อการทำ�งานร่วมกัน ลำ�บาก การเงิน มีเรือ่ งให้เสียเงินโดยใช่เหตุ ประหยัดไว้ ก็จะดี อดทนและมุง่ มัน่ อย่ากังวลกับอนาคตมากเกินไป แล้วจะดีเอง ความรัก คนมีคแู่ ละคนโสด ช่วงนีจ้ ะดู เหงาใจ ถึงแม้มใี ครอยูใ่ นใจแต่กย็ งั เหงาอยู่ อดทนกับ ความเหงาสักพัก หรือหาอะไรน่ารักๆ ทำ�ร่วมกันจะดี
ราศีมิถุน (15 มิถุนายน – 16 กรกฎาคม)
การงาน เดือนนี้คุณมีเกณฑ์ได้เดินทาง ไปในที่ที่อยากไป หรือมีโอกาสได้ไปไหนมาไหน กับคนรัก ครอบครัว เพื่อนๆ มากขึ้น การเงิน เก็บเงินไม่ค่อยอยู่ การลงทุน ใจเย็นๆ เดือนนีย้ งั ไม่เหมาะกับการลงทุนด้วยเงินจำ�นวนมาก ความรัก ระวังพากันเสียเงินไปกับเรือ่ งไร้สาระ คน โสดมีอารมณ์เหงามากเป็นพิเศษ
ราศีสิงห์ (17 สิงหาคม – 16 กันยายน)
การงาน เดือนนี้มีเรื่องจุกจิกๆ เข้ามา กวนใจไม่ขาดสาย สร้างความน่ารำ�คาญตลอดทั้ง เดือน ระวังมีเรือ่ งขุน่ ข้องหมองใจกับเพือ่ นร่วมงาน จะมีงานยากมาให้คุณต้องฝ่าฟัน ความรัก ให้ระวังความไม่เชื่อใจ หรือขี้บ่นจะเป็น เหตุให้ทะเลาะเบาะแว้ง ปล่อยวางจะดีเอง
ราศีตุลย์ (18 ตุลาคม – 16 พฤศจิกายน)
092 294 3269
ราศีกันย์ (17 กันยายน – 17 ตุลาคม)
การงาน เดือนนี้คุณจะได้เดินทาง และ เป็นการเดินทางที่มีความสุข ความรัก คุณอยากมีเวลาว่างให้ตัวเองซักหน่อย อยากมีเวลาสร้างความสุขกับคนรักหรือคนในครอบครัว แน่นอนคุณจะสมหวังไม่อย่างใดก็อย่างหนึง่ ความรัก ใครอยู่ไกลมีโอกาสได้เจอ หรือมีโอกาสสร้างเรื่อง ราวดีๆ ร่วมกัน ราศีธนู (16 ธันวาคม - 14 มกราคม)
การงาน หมั่นสร้างผลงาน ตั้งใจเข้าไว้ อนาคตอันใกล้คุณจะได้รับข่าวดีจากมัน การเงิน มีโอกาสได้เงินมาแบบฟลุคๆ หรือได้มาโดย ไม่ต้องลงทุน ลงแรงมากมาย ระวังสุขภาพที่เกิด จากการทานอาหารไม่ระมัดระวัง ความรัก เรียบง่ายไม่มีปัญหาหนักหนาคาใจ
ราศีมีน (15 มีนาคม – 13 เมษายน)
การงาน ใครที่อยู่ไกลบ้านจะได้มีโอกาส กลับบ้านมาหาครอบครัว คนในครอบครัว คนรักจะให้ การช่วยเหลือคุณในหลายๆ เรือ่ ง ระวังการเปลีย่ นแปลง แบบกะทันหัน จากดีเป็นร้าย จากร้ายเป็นดี จงมี สติ ใครตกงานมีโอกาสได้งานเร็วๆ นี้ การเงิน มีคนคอยช่วยเหลือ ส่วนความรัก ระยะนี้ มีโอกาสไกลกัน ห่างกัน คุยกันน้อยลง พยายามหา เวลาดูแลกันให้มากขึ้นจะดี
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์ นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
38
นางด้ง
ตำ�นานเมืองบุรีรัมย์
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 83 ไทรถเข็
นางด้ง
ประเพณีโบราณ ความสนุกสนาน เชื่อมความสัมพันธ์ในชุมชน นอกจากพิธีกรรม “เลี้ยงผีโรง” ที่มีการสืบทอดต่อกันมา ยาวนานแล้ว ยังมีการละเล่นอีกชนิดหนึง่ ทีเ่ รียกว่า “นางด้ง” ซึง่ แต่เดิม เป็นการละเล่นของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและได้เผยแพร่กนั ออกไป ตามภาคต่างๆ ตามการย้ายถิ่นฐานของผู้คน นางด้งมีวิธีการเล่นที่ คล้ายคลึงกับการ “เลี้ยงผีโรง” ตรงที่จะมีการเซ่นสรวงดวงวิญญาณ เพื่อให้มาเข้าสิงร่างทรง แต่จะแตกต่างกันตรงที่ “นางด้ง” นั้น เป็น การละเล่นเพื่อความสนุกสนานเป็นหลัก การเล่นนางด้งมักจะเล่นกันในตอนเย็น หลังจากแสงอาทิตย์ ลับขอบฟ้าไปแล้ว ดังนัน้ ในตอนบ่ายก็จะเป็นช่วงเวลาทีต่ อ้ งตระเตรียม อุปกรณ์ไว้ให้พร้อม ได้แก่ ผ้าขาวม้า ดอกไม้ ธูป เทียน กระด้งสำ�หรับ ฝัดข้าว สากสำ�หรับตำ�ข้าว แต่มขี อ้ แม้วา่ สากและกระด้งทีน่ �ำ มาใช้นนั้ จะต้องเป็นของแม่หม้ายและจะต้องแอบเอามาใช้โดยไม่บอกให้เจ้าของ ทราบ หรือพูดง่ายๆ ก็คอื ขโมยมานัน่ เอง ส่วนความเชือ่ ทีม่ าพร้อมกับ การเล่นนางด้งนัน้ ก็แตกต่างกันไป บางท้องถิน่ ผูเ้ ฒ่าผูแ้ ก่จะเล่าให้ฟงั ว่าเป็นการละเล่นเพือ่ ขอฝน ทำ�ให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล แต่บางแห่ง ท่านก็บอกว่าเป็นเพียงภูมปิ ญั ญาแบบท้องถิน่ ทีส่ งั่ สมกันมาช้านาน เพือ่ ให้เกิดความรัก ความสามัคคีกลมเกลียว ความอบอุน่ และความเข้าใจ ในการอยู่ร่วมกันของคนในชุมชน หลังสิน้ แสงตะวัน กองไฟกองใหญ่ถกู จุดขึน้ เพือ่ ไล่ความมืด ทีค่ บื คลานเข้ามา หนุม่ ๆ สาวๆ คนเฒ่าคนแก่ตลอดจนลูกเล็กเด็กแดง ในหมู่บ้านที่อยากเข้าร่วมเล่นร่วมชมต่างพากันมาล้อมวงในบริเวณที่ กำ�หนดไว้ หญิงสาวผูท้ ไี่ ด้รบั เลือกให้เป็นนางด้ง จะนัง่ ลงตรงกลางวง ในมือถือดอกไม้ธูปเทียนประนมไว้ มีผ้าผูกปิดตาเอาไว้ หญิงสาวอีก 2 คนทีร่ บั หน้าทีเ่ ป็นคนถือกระด้ง ยืนขนาบอยูส่ องข้าง เมือ่ พร้อมแล้ว คนที่นั่งอยู่รอบๆ วงก็จะพากันร้องเพลงวนไปวนมาเพื่อเชิญวิญญาณ ผีนางด้งให้มาเข้าทรง คำ�ร้องมีอยูว่ า่ “นางด้งเอย เข้าป่าระหง เข้าดง ไม้หมาก เข้าสากไม้แดง ตะแกรงร่อนข้าว ด้งน้อยฝัดข้าว อ่อนแยะ อ่อนยาย ขนดินขนทรายให้แม่นางด้ง”
เมือ่ ผีนางด้งเข้าสิงร่างทรง กระด้งของหญิงสาวทีถ่ อื ไว้ จะเริม่ กวัดแกว่งไปมาเอง เนื้อตัวของผู้หญิงที่เป็นร่างทรงจะเริ่มสั่น จากนั้น ก็จะค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วฟ้อนรำ�อย่างสวยงาม ทั้งที่ไม่เคยได้เรียนศิลปะ การร่ายรำ�มาแต่อย่างใด เมื่อนางด้งนำ�กระด้งไปกวักหรือไปแตะที่ใคร ผู้นั้นจะต้องออกมารำ� ชาวบ้านก็จะพากันตีกลองร้องเพลง ให้จังหวะ อย่างสนุกสนาน จนในที่สุดก็อาจจะลุกขึ้นรำ�กันหมดทั้งวง ชาวบ้าน บางคนทีร่ กั สนุก อยากจะหยอก อยากจะแกล้ง ก็จะพากันไปขโมยสาก ตำ�ข้าวของนางด้งไปซ่อน นางด้งก็จะโมโหและนำ�กระด้งไปไล่ฟาด ผู้ที่ ขโมยไปจะต้องนำ�มาคืนหรือนางด้งจะต้องหาสากให้พบ หลังจากที่สนุกสนานกันไปจนเป็นที่พอใจแล้ว ก็จะมีการ ทำ�นายทายทักเรื่องราวในหมู่บ้าน บ้างก็ถามถึงเรื่องการทำ�ไร่ทำ�นา ฝนฟ้าอากาศ บ้างก็ถามเรื่องเนื้อคู่ว่าเป็นคนบ้านไหน อยู่ทางทิศใด ซึ่งเรื่องนี้มีผู้ใหญ่บางท่านได้เล่าให้ฟังว่า มันเป็นกุศโลบาย เพราะคนที่ เป็นนางด้งนัน้ บางทีเค้าจะทราบมาก่อนแล้วว่าลูกหลานบ้านไหนมีใจรัก ชอบพอกับคนบ้านไหน หรือ หากไม่ได้ผูกสมัครรักใคร่ชอบพอกันแล้ว หากชีบ้ อกว่าสองบ้านไหนเป็นเนือ้ คูก่ นั แล้ว ก็อาจจะเริม่ มีใจชอบพอกัน ไปเอง การละเล่นนางด้ง ถือได้ว่าเป็นมรดกของชาติ แม้จะมีความ คล้ายคลึงและแตกต่างกันไปบ้างตามสภาพแวดล้อมของแต่ละชุมชนก็ตาม เช่น บางพื้นที่ก็จัดขึ้นในหมู่บ้าน ในขณะที่บางแห่งอาจจัดขึ้นในวัด เครื่องเซ่น อุปกรณ์ที่ใช้ หรือแม้วิธีการละเล่นที่อาจผิดแผกแตกต่างกัน ไปบ้าง เป็นต้น นางด้งเป็นการละเล่นที่หาชมได้ยากยิ่งในปัจจุบัน เนื่องจากผู้คนในยุคสมัยนี้ต่างมองว่าเป็นเรื่องงมงาย ล้าหลัง และแม้ จะมองว่าเป็นเพียงการละเล่นเพือ่ ความสนุกสนานหรือเพือ่ ทำ�ให้เกิดความ รักใคร่กลมเกลียวกันในหมูค่ นทีอ่ ยูใ่ นชุมชนเดียวกันก็ตาม แต่ดว้ ยสภาพ แวดล้อม สภาพวิถชี วี ติ สังคมและความเป็นอยูข่ องคนในปัจจุบนั ก็ท�ำ ให้ การเล่นนางด้งนับวันจะยิ่งจางหายและถูกลืมเลือนไปในที่สุด
ละลม เมืองลับแล ตำ�นานเมืองบุรีรัมย์
39
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
ขอขอบคุณเรื่องราวจาก คุณครูเพลินจันทร์ โสตขวัญฟ้า ข้าราชการบำ�นาญโรงเรียนบ้านถนนหัก (เพียรประจงวิทยา) อำ�เภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ และข้อมูลจาก https://www.gotoknow.org/posts/496092 http://sunti-apairach.com/06/06F.htm http://xn--k3chbgks4ae1jybbf4lnc8bc.blogspot.com
ายรำ� 40 อักษราร่ไทรถเข็ น
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
04 คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง
ฝันถึง... ประชาคม ฝันถึงการอยู่ร่วม วิถีการอยู่กิน ฝันถึงมิตรภาพ ประชาชนชื่นชม ฝันถึงฐานการผลิต หัวใจที่แบ่งปัน ฝันถึงเศรษฐกิจ โอกาส ทุน เสรี ฝันถึงความมั่งคง ข้ามอุปสรรคสารพัน ฝันถึงสุขสวัสดิ์ ไม่มีใครสูงต่ำ� ฝันถึงหนึ่งวิสัยทัศน์ ฝันถึงการปรากฏ ฝันถึงหนึ่งสังคม ฝันถึงการแปลงเปลี่ยน
การหลอมรวมแผ่นดิน แผ่นดินเดียว ไม่แฝงบาปกดข่ม ความกลมเกลียว ใช่ฐานคิดแข่งขัน ตลาดเดียว ทุกชีวิตมีศักดิ์ศรี ประชาธิปเตียว ร่วมปักธงฝ่าฟัน การเมืองเดียว วิถีวัฒนธรรม วัฒนธรรมเดียว ที่ฉายชัดอนาคต อัตลักษณ์เดียว หนึ่งประชาคมอาเซียน ไม่ง่ายเลยทีเดียว!
ภูรี ทีป์ธัช triwiset-0169@hotmail.com
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 24 ไทรถเข็
Place : อ่างเก็บน้ำ�ห้วยเมฆา อำ�เภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์
อ่างเก็บน้ำ�ห้วยเมฆา อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ นิตยสารสะบายดีบุรีรัมย์
43
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
Photy by : ยุรธีร์ ภูริภัทรเศรษฐ์
44
เว้ เมืองมรดกโลก ตะลุยต่างแดน
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 44 ไทรถเข็
เว ้
Amazing in Hue -ต่อจากฉบับที่แล้ว ลืมตาตืน่ ขึน้ มาอีกครัง้ คณะทัวร์ของพวกเรา กำ�ลังเดินทางไปยังที่พัก ระหว่างที่ก�ำ ลังสะลึมสะลืออยู่ นัน้ ก็ได้ยนิ เสียงไกด์พดู ชือ่ ชือ่ หนึง่ ซ้�ำ ไปซ้�ำ มา พอจับใจ ความได้ว่าขณะนี้เรามาถึง “เมืองเว้” เมืองท่องเที่ยว ขึน้ ชือ่ อีกแห่งหนึง่ ของประเทศเวียดนามกันแล้ว อากาศ รอบข้างเย็นสบาย อุณหภูมอิ ยูท่ รี่ าวๆ 22 องศาเซลเซียส บรรยากาศครึ้มๆ ปราศจากแสงแดด ดูทีท่าเหมือนว่า ฝนกำ�ลังจะตก พวกเรารีบเก็บกระเป๋าเข้าทีพ่ กั ล้างหน้า ล้างตาเตรียมตัวไปเที่ยวกันต่อ ด้วยว่าเรามีเวลาอยู่ที่นี่ ไม่กี่วัน เว้ หรือ เหว (อ่านว่า หวอ-เอ-เหว ไม่ใช่ หอเอ-วอ-เหว) เป็นเมืองเอกของจังหวัดถัวเทียน-เหว (Thua Thien Hue) ประเทศเวียดนาม เป็นเมืองที่คนไทย
รู้จักกันค่อนข้างแพร่หลาย เพราะมีทัวร์ท่องเที่ยวของไทยมาลง ที่เมืองเว้เป็นประจำ� เมืองเว้ อยู่ห่างจากจังหวัดมุกดาหารของ ไทยและเมืองสะหวันนะเขตของลาว ใช้เวลาในการเดินทาง ประมาณ 9 ชั่วโมง เรียกว่าออกเช้าถึงเย็นได้ภายในวันเดียว เป็นอีกหนึง่ เส้นทางท่องเทีย่ วระหว่างประเทศไทย-ลาว-เวียดนาม ที่ประหยัดและสะดวก เว้ เป็นเมืองเล็กๆ ตัง้ อยูต่ อนกลางของประเทศเวียดนาม อยูร่ มิ ฝัง่ แม่น�้ำ หอมซึง่ เป็นแม่น�้ำ สายสำ�คัญทีไ่ หลผ่านใจกลางเมือง ห่างจากฝัง่ ทะเลจีนใต้เพียง 2-3 ไมล์ ห่างจากนครโฮจิมนิ ห์ไป ทางเหนือประมาณ 644 กิโลเมตรและประมาณ 540 กิโลเมตร ทางตอนใต้ของกรุงฮานอย พืน้ ทีส่ ว่ นใหญ่เป็นทีร่ าบสูง เต็มไปด้วย หินภูเขาไฟ หาดทราย เนินทราย และทะเลสาบ นอกจากนี้ ยังเป็นเขตพื้นที่ป่าไม้ที่สำ�คัญที่สุดของเวียดนามอีกด้วย สภาพ อากาศในเมืองเว้นั้นค่อนข้างร้อนตลอดทั้งปี มีเพียง 2 ฤดูคือ ฤดูรอ้ นซึง่ เริม่ ตัง้ แต่ชว่ งปลายเดือนตุลาคม - เมษายน และฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - ตุลาคม อุณหภูมิสูงสุดโดยเฉลี่ย 40 องศาเซลเซียสในหน้าร้อนและต่�ำ สุดเฉลีย่ ประมาณ 20 องศาเซลเซียสในหน้าหนาว แม้วา่ เมืองเว้ จะผ่านการต่อสูแ้ ย่งชิงและได้รบั ความ บอบช้�ำ จากสงครามมาหลายครัง้ ทัง้ จากสงครามรวมชาติเวียดนาม จากการบุกโจมตีของฝรัง่ เศสและจากการเข้ายึดครองของญีป่ นุ่ ในมหาสงครามเอเชียบูรพา แต่ร่องรอยแห่งความเจริญรุ่งเรือง
เวียดนาม
ตะลุยต่างแดน
45
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
ในอดีต ความงดงามของโบราณสถานและคุณค่าทางวัฒนธรรมตาม แบบฉบับของตนเองก็ยงั คงหลงเหลืออยูอ่ กี มากมาย ในปี พ.ศ. 2536 องค์การยูเนสโกจึงได้ประกาศขึน้ ทะเบียนให้ เว้ เป็นเมืองมรดกโลกทาง วัฒนธรรม หลากหลายไปด้วยเรือ่ งราวน่าสนใจให้ผคู้ นได้เข้าไปศึกษา และเยี่ยมชม ไม่ว่าจะเป็นพระราชวัง สุสานจักรพรรดิ แม่น้ำ�หอม ล้วนแล้วแต่เป็นมนต์เสน่หด์ งึ ดูดนักท่องเทีย่ วจากทัว่ โลกให้มาเยีย่ มเยือน เว้ เมืองมรดกโลกทีย่ งั คงตัง้ ตระหง่านอยูร่ มิ แม่น�้ำ หอมและไม่ได้สญู หาย ไปพร้อมกับกาลเวลาแห่งนี้ สถานทีท่ อ่ งเทีย่ วทีส่ �ำ คัญของเมืองเว้ซงึ่ นักท่องเทีย่ วส่วนมาก จะไม่ยอมพลาด ได้แก่ นครจักรพรรดิหรือนครต้องห้าม (Imperial Enclosure หรือ Forbidden Purple City) สุสานจักรพรรดิตือดึ๊ก (Tomb of Tu Duc) สุสานจักรพรรดิมนิ ห์มาง (Tomb of Minh Mang) สุสานของพระเจ้าไคดิงห์ (Tomb of Khai Dinh) อุโมงค์หวิงห์ม็อก (Vinh Moc Tunnel) วัดเทียนมู่ (Thien Mu) และสะพานเหี่ยนเลือง (Hien Luong) สถานทีแ่ ต่ละแห่งจะสวยงามและทรงคุณค่าอย่างไรนัน้ ฉบับ หน้าเราจะพาทุกท่านไปเดินเทีย่ วชมเมืองเว้กนั แบบเต็มอิม่ โดยจะเริม่ จากวัดเทียนเทียนมูก่ นั ก่อน ซึง่ จะมีความสวยงามและแตกต่างจากวัด ในบ้านเราอย่างไรนัน้ ติดตามอ่านต่อกันได้ในฉบับหน้านะคะ สำ�หรับ ฉบับนี้ สวัสดีค่ะ ขอขอบคุณข้อมูลประกอบการเดินทางจาก http://travel.mthai.com/world-travel/63126.html
สำ�นักงานจัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์
ลม้ ลุตำ�แหน่ กนยืน ง งานว่ า ง ไทรถเข็ 40 64จังหวัดบุรีรัมย์ ประจำ�เดือน พฤษภาคม 2559 อักษราร่ายรำ� คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง
สำ�นักงานจัดหางาน จังหวัดบุรีรัมย์ เว็บไซต์ : www.doe.go.th/buriram
บจก.โตโยต้าบุรีรัมย์ 1. พนักงานขาย (12 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 21+ (ปวส.+) สนใจติดต่อ 140 ม.10 ถ.บุรรี มั ย์-นางรอง ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรรี มั ย์ 30310 โทร. 044-690101-2 คุณวุฒินันท์ แสนแก้ว พนักงานบุคคล บจก.เบสท์-แพค คอนกรีต (2) 1. ช่างเครื่องยนต์ (1 อัตรา) ช (อายุ) 25-40 (ปวช. - ปวส.) 2. เจ้าหน้าที่ IT (1 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 25-40 (ปวส.) 3. เจ้าหน้าที่สโตร์ (1 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 18+ (ปวช.) 4. พนักงานคลังสินค้าสำ�เร็จรูป (2 อัตรา) ช (อายุ) 20-35 (ม.3+) 5. พนักงานขับรถ (4 อัตรา) ช (อายุ) 25-45 (ป.6) สนใจติดต่อ 150 ม.2 ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ 31000 โทร. 044-6643337, 092-7854150 บมจ.โออิชิ กรุ๊ป 1. แม่บ้าน (3 อัตรา) ญ (อายุ) 20+ (ม.6 - ป.ตรี) 2. พนักงานเสิร์ฟ (10 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 22+ (ม.3+) 3. ผู้ช่วยกุ๊ก (7 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 35+ (ม.6 - ป.ตรี) 4. พนักงานรายชั่วโมง (3 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 35+ (ม.6 - ป.ตรี) สนใจติดต่อ 30/2 ม.2 ห้องเลขที่ L15 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000 โทร. 097-2982369 คุณนันทวัน อินทรอำ�นวย บมจ.ไมด้าแอสเซ็ท 1. พนักงานเก็บเงิน (4 อัตรา) ช (อายุ) 21+ (ม.3 - ป.ตรี) 2. พนักงานตรวจสอบ (4 อัตรา) ช (อายุ) 21+ (ม.6 - ป.ตรี) 3. ตัวแทนขาย (5 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 18+ (ไม่จำ�กัดวุฒิ) สนใจติดต่อ 369/3-5 ม.10 ถ.บุรรี มั ย์-นางรอง ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรรี มั ย์ โทร.089-2803027, 044-617062,044-690076 คุณปรีดา น้อยพรหม หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น 1. ผู้ช่วยผู้จัดการ (1 อัตรา) ช (อายุ) 21+ (ปวช.) 2. พนักงานขับรถ (1 อัตรา) ช (อายุ) 21-35 (ม.6) 3. คนทำ�สวน (1 อัตรา) ช (อายุ) 21-45 (ไม่จำ�กัดวุฒิ) สนใจติดต่อ 30/2 ม.15 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โทร.044-614431,086-3658117 คุณเอกราช ชิดชอบ ฝ่ายบุคคล หจก.เรืองแสงไทย 1. พนักงานขับรถ (3 อัตรา) ช (อายุ) 35+ (ไม่จำ�กัดวุฒิ) สนใจติดต่อ 114 ม.14 ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000 โทร.044-666484-9, 083-3728954 คุณชัชชญา นะรารัมย์ บุคคล ร้านสยามยนต์บุรีรัมย์ 1. พนักงานขาย (2 อัตรา) ญ (อายุ) 18-35 (ม.3) สนใจติดต่อ 20/1-2 ถ.สมรรถการ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000 โทร. 044-611481 คุณวรเศรษฐ์ ศักดิ์ศิรินุกูล ผู้จัดการร้าน บจก.ราชสีมา พี.เอเอส แอนด์ ดี 1. พนักงานขาย (2 อัตรา) ช (อายุ) 18-35 (ม.3) สนใจติดต่อ 42 ม.16 ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000 โทร. 082-7463739 คุณสร้อยทิพย์ อรรคบุตร พนักงานแอดมิน
บจก.ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) 1. พนักงานโรงงาน (7 อัตรา) ช (อายุ) 21-45 (ไม่จำ�กัดวุฒิ) 2. ช่างไฟฟ้า (3 อัตรา) ช (อายุ) 21-45 (ปวช.) 3. พนักงานการขาย (2 อัตรา) ญ (อายุ) 23+ (ป.ตรี) 4. พนักงานบัญชี-การเงิน (2 อัตรา) ญ (อายุ) 23+ (ป.ตรี) สนใจติดต่อ 30/2 ม.4 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000 โทร. 044-614431 คุณสุปรียา พรมงาม ธุรการฝ่ายบุคคล บจก.อาร์.เอ็ม.ซี. ฟาร์ม 1. วิศวกรโยธา/ก่อสร้าง (2 อัตรา) ช (อายุ) 25+ (ปวส. - ป.ตรี) 2. แม่บ้าน (2 อัตรา) ญ (อายุ) 18+ (ไม่จำ�กัด) 3. คนสวน (2 อัตรา) ช (อายุ) 18+ (ไม่จำ�กัด) สนใจติดต่อ 53 ม.13 ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000 โทร. 044-612895 คุณฐิติทา ปิ่นวนิชย์กุล ฝ่ายบุคคล บจก.ไทยลอตเต้ สาขาบุรีรัมย์ 1. พนักงานขายเงินสด หน่วยรถมอเตอร์ไซต์ (1 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 20+ (ปวส.) 2. พนักงานขายเงินสด หน่วยรถยนต์ (1 อัตรา) ญ (อายุ) 20+ (ไม่จำ�กัดวุฒิ) สนใจติดต่อ 8/35-36 ถ.ปลัดเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000 โทร. 086-3695469 คุณกอบแก้ว แสงงาม จนท.ธุรการสาขา บจก.โฮม เมก้ามาร์ท 1. พนักงานคลังสินค้า (3 อัตรา) ช (อายุ) 22-32 (ม.6) 2. นักงานขนส่ง (3 อัตรา) ช (อายุ) 22-32 (ม.3) 3. พนักงานซ่อมบำ�รุง (2 อัตรา) ช (อายุ) 22-32 (ม.6) 4. พนักงานจัดเรียงสินค้า (2 อัตรา) ช (อายุ) 22-32 (ม.6) 5. พนักงานธุรการ (2 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 22-32 (ปวส.) 6. พนักงานทำ�ความสะอาด (2 อัตรา) ญ (อายุ) 35+ (ม.3) 7. พนักงาน PC (2 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 22-32 (ม.6) 8. พนง.รักษาความปลอดภัย (4 อัตรา) ช (อายุ) 35+ (ม.3) สนใจติดต่อ 555 ม.1 ถ.รอบเมือง ต.อิสาน อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000 โทร. โทร.044-602602 คุณปริญญาภรณ์ สหุนาฬุ เจ้าหน้าที่บุคคล บจก. เพ ลา เพลิน บูติค รีสอร์ท 1. พนักงานแผนกต้อนรับ (1 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 23+ (ป.ตรี) 2. พนักงานต้อนรับ (1 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 23+ (ป.ตรี) 3. พนักงานเก็บเงิน (1 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 23+ (ปวช. ขึ้นไป) 4. ประชาสัมพันธ์ (1 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 23+ (ป.ตรี) 5. ช่างซ่อมบำ�รุง (ไฟฟ้า) (1 อัตรา) ช (อายุ) 23+ (ป.ตรี) 6. เจ้าหน้าที่สันทนาการ (1 อัตรา) ช (อายุ) 23+ (ไม่จำ�กัดวุฒิ) 7. เจ้าหน้าที่ จป.วิชาชีพ(1 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 23+ (ไม่จำ�กัดวุฒิ) 8. เจ้าหน้าที่บุคคล (1 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 23+ (ไม่จำ�กัดวุฒิ) 9. เจ้าหน้าที่บัญชี(1 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 23+ (ไม่จำ�กัดวุฒิ) สนใจติดต่อ 252 ม.7 ต.หนองขมาร อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ 31190 โทร. 061 948 1510 คุณจุฑาสรณ์ ทาละลัย ผู้จัดการฝ่ายบุคคล
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 84 ไทรถเข็