คำ�นำ� รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาภาพถ่าย จัดทำ�ขึ้นมาเพื่อให้ ผู้ที่มีความสนใจในเรื่องของการถ่ายภาพได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม โดยเฉพาะในเรื่องของ การใช้เอ็ฟเฟ็กซ์สำ�หรับภาพถ่าย ในรายงานเล่มนี้ได้กล่างถึงเทคนิคเอ็ฟเฟ็กซ์ที่น่าสนใจไว้ให้ ผู้อ่านได้ศึกษา ในเรื่องของ Effect Light Painting ซึ่งคณะผู้จัดทำ�หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยต่อผู้ อ่าน และสุดท้ายนี้หากมีเนื้อหาส่วนใดผิดพลาดหรือไม่ครบทางคณะผู้จัดทำ�ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย คณะผู้จัดทำ�
สารบัญ Effect Light Painting อุปกรณ์ วิธีการถ่ายภาพ ตัวอย่างภาพที่ถ่ายได้ อ้างอิง
1 3 5 7 10
“Special Effect” การถ่ายภาพแบบ Special Effect คือการถ่ายภาพในมุมมองที่แตก ต่างจากการถ่ายภาพทั่วไป เพื่อให้ได้ภาพในเทคนิคที่แปลกใหม่ โดยขึ้นอยู่กับ ผู้ถ่ายว่าจะมีความคิดสร้างสรรค์ หรือ ไอเดียเจ๋งๆในการถ่ายภาพออกมาให้ ผู้ชมดูได้อย่างไร?
Effect Light Painting การถ่ายภาพแบบ Special Effect มีมากมายหลายเทคนิคแล้วแต่ มุมมองของแต่ละบุคคล มีเทคนิคการถ่ายภาพเทคนิคหนึ่งเรียกว่า Light Painting เป็นเทคนิคที่น่าสนใจมาก มันก็คือการวาดหรือแต้มสีในภาพ ด้วยแสง เป็นเทคนิคสร้างภาพถ่ายอันแปลกตาชนิดที่เรียกว่า มองด้วย ตาเปล่าไม่เห็น ตอนถ่ายไม่รู้ว่าภาพจะออกมามีหน้าตาอย่างไร ต้องเสร็จ เป็นภาพออกมาแล้วจึงจะเห็น นี่คือเสน่ห์ของเทคนิคนี้ Light Painting ใช้ เทคนิคการถ่ายภาพโดยเปิดชัตเตอร์เป็นระยะเวลาหลายๆวินาที และมีการ เคลื่อนไหวของแหล่งแสงในภาพ เช่น ไฟฉาย ดอกไม้ไฟ หรือแหล่งแสงอื่นๆ ทำ�ให้ภาพที่ได้ เกิดเป็นเส้นสายของแสงสว่าง สีสันสวยงาม เป็นลวดลาย หรือตัวอักษร จะมีภาพภ่ายด้วยเทคนิค Light Painting ให้ดูดังนี้
1
2
อุปกรณ์
3
ก่อนอื่นอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมก็ได้แก่ 1. กล้องถ่ายภาพที่สามารถถ่ายโหมดชัตเตอร์ B ได้ หรือกล้องที่สามารถเปิดชัตเตอร์ได้ ต่ำ�กว่าปกติ เช่น 15 วินาที หรือ 30 วินาที
2. ขาตั้งกล้อง
3. ไฟฉายหรือแหล่งกำ�เนิดแสงอื่นๆ
4
วิธีการถ่าย
5
เข้าสู่ขั้นตอนกันเลย 1. ควรถ่ายในสถานที่มืด หรือสถานที่กลางแจ้งในเวลากลางคืน ใช้ขา ตั้งกล้องเพื่อช่วยให้ภาพไม่สั่นไหว 2. ให้เลือกใช้โหมด Manual (M) จึงจะใช้โหมดชัตเตอร์ B ได้ นักถ่าย ภาพบางคนจะสงสัยว่าทำ�ไมกล้องตัวเองถึงไม่มีโหมดชัตเตอร์ B นั่นอาจเป็น เพราะคุณยังไม่ได้เลือกใช้โหมด Manual (M) 3. ตั้งค่า ISO 100 เปิดรูรับแสง F 11 เป็นค่ากลางไว้ก่อน 4. ปรับชัตเตอร์สปีดให้เป็นโหมดชัตเตอร์ B (หมุนไปทางชัตเตอร์ส ปีดช้าจนสุด) โหมด B หรือ Bulb นี้ เป็นโหมดถ่ายภาพที่เราสามารถเปิด ชัตเตอร์ค้างไว้ได้ตามใจเราว่าอยากจะให้นานแค่ไหนตราบจนเราจะปล่อยมือ จากปุ่ม พูดง่ายๆ คือพอกดก็คือเริ่มถ่าย เมื่อปล่อยก็จะหยุดถ่าย และถ้าใช้ โหมดชัตเตอร์ B กล้องจะไม่วัดแสงให้ เราต้องกะเอาเอง 5. ใช้ Manual Focus ครับ ก่อนถ่ายเราอาจจะมองไม่ตัวบุคคล อาจ จะใช้ไฟฉายช่วงส่องดูเพื่อหาจุดโฟกัส และดูด้วยว่าเฟรมภาพของเราดีแล้ว หรือยัง มีอะไรหลุดเฟรมหรือไม่ 6. ซักซ้อมการเคลื่อนไหวกันให้ดี เพื่อดูว่าน่าจะใช้เวลาประมาณกี่ วินาที แล้วลองถ่ายภาพด้วยระยะเวลาที่น่าจะเกิดขึ้น โดยยังไม่ต้องทำ�การ เคลื่อนไหวไฟฉายหรือแสงจริงๆ ทั้งนี้ก็เพื่อจะเช็คดูว่า แสงของบรรยากาศ แวดล้อมสว่างหรือมืดเกินไปหรือไม่ ถ้ามืดเกินไปก็ลองเพิ่มหน้ากล้องให้กว้าง ขึ้น ถ้าสว่างเกินไปก็ลองลดหน้ากล้องให้แคบลง
6
ตัวอย่างภาพ ที่ถ่ายได้ 7
8
9
อ้างอิง http://www.ilovetogo.com/Article http://www.electron.rmutphysics.com/science-news/index. php?option=com_content&task=view&id=1438&Itemid=4 http://www.zoomcamera.net/ http://123warnii.blogspot.com/2013/02/blog-post_2475.html
10