สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้ง ในสื่อสาร ธมอ. ประจ�ำเดือนกันยายน-ธันวาคม ซึ่งในฉบับนี้ทางผู้จัดท�ำ ยังคง ร้อยเรียง ตามโครงสร้างเดิม ด้วยคอลัมน์ประจ�ำต่าง ๆ ซึ่งปรารถนาให้ผู้อ่านได้รับข้อคิด ก�ำลังใจและรับรู้ความเคลื่อนไหว ด้านต่าง ๆ ของคณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ในประเทศไทย และคอลัมน์ที่พิเศษส�ำหรับฉบับนี้ ที่ผู้จัดท�ำได้หลอมรวม ความรัก ความรูค้ ณ ุ ต่อองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช “พระราชา ผูท้ รงธรรม องค์กษัตริยแ์ ห่ง ความดี พ่อผูท้ มุ่ เทเพือ่ ประโยชน์สขุ ของปวงชนชาวสยาม” ผ่านทางภาพแห่งความประทับใจและบทสัมภาษณ์ซสิ เตอร์ ธรรมทูต ธมอ. ในแขวงไทย ทั้งนี้ด้วยหัวใจที่น้อมร�ำลึกพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้ นอกจากนี้ โอกาสเทศกาลแห่งความสุข ความยินดีแห่งการบังเกิดมาขององค์พระกุมารเจ้า สื่อสาร ธมอ. ฉบับนี้ ขอเป็นส่วนหนึ่งแห่งความสุข ความยินดีของท่านผู้อ่าน ทั้งขอส่งความสุข ความรัก ความปราถนาดีแก่ทุกท่าน วอนขอพระกุมารเจ้า ได้โปรดอวยพรทุกท่านให้เปีย่ มด้วยพระพรนานัปการ และมีแต่ความรักน�ำพาในทุกก้าวเดิน เพราะ ความรัก...ยิ่งใหญ่และส�ำคัญมากกว่าอื่นใด ...กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเกาะแห่งหนึ่งซึ่งรวบรวมความรู้สึกทั้งหมดอาศัยอยู่ด้วยกัน ทั้งความสุข ความเศร้า ความรูแ้ ละอืน่ ๆ รวมทัง้ ความรัก วันหนึง่ มีประกาศไปยังความรูส้ กึ ทัง้ หมดว่า เกาะก�ำลังจะจม ดังนัน้ ทัง้ หมด จึงเตรียมเรือเพื่อที่จะหนีออกจากเกาะ ความรักเท่านั้นที่ตัดสินใจอยู่บนเกาะ ความรักต้องการที่จะอยู่จนกระทั่งวินาที สุดท้าย เมื่อเกาะเกือบจะจมแล้วความรักจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือ ความรวยแล่นเรือผ่าน ความรวยตอบว่า... ไม่ได้หรอกฉันรับเธอไม่ได้ เพราะเรือฉันน่ะ เต็มไปด้วยทองและเงินแล้ว มันไม่มีที่ให้คุณ ความรักจึงตัดสินใจจะถาม ความเห็ น แก่ ตั ว ซึ่ ง ผ่ า นมา เหมือนกันด้วยเรือล�ำงาม ความเห็นแก่ตัวช่วยฉันด้วย ฉันช่วยคุณไม่ได้หรอก ความรัก คุณน่ะเปียก อาจจะ ท�ำให้เรือฉันเปียกด้วย ความเศร้าได้พายเรือผ่านมา ความรักก็ได้เอ่ยขอความ ช่ ว ยเหลื อ อี ก ความเศร้ า ตอบว่า โอ้ความรัก ฉันก�ำลังเศร้ามากเลย ฉันต้องการอยู่คนเดียว ขอโทษนะ ความสุขได้ผ่านความรักไป เหมือนกัน แต่เขาไม่ได้ยินแม้เสียงร้องเรียกขอความช่วยเหลือของความรัก เพราะมั ว แต่ ก� ำ ลั ง สุ ข ทันใดนั้นมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา มานี่ความรัก ฉันจะรับคุณไปเอง เสียงนั้น เ ป ็ น ข อ ง ช า ย ช ร า คนหนึ่ง ความรักรู้สึกขอบคุณและดี ใจเป็ น อย่ า งมากจนลื ม ถามชื่ อ ว่ า ใครเป็ น ผู ้ ใ จดี คนนัน้ เมือ่ พวกเขามาถึงแผ่นดินที่แห้ง ชายชราก็จากไปตามทางของเขา ส่วนความรักก็ นึ ก ขึ้ น มาได้ ว ่ า ลื ม ถามชื่ อ ชายชราคนนั้ น ความรั ก จึ ง ถามความรู ้ แ ล ะ ช า ย ช ร า คนอืน่ ๆ ใครเหรอ ที่เป็นคนช่วยฉัน ความรู้ตอบว่า เวลา ...ความรั ก : แต่ทำ� ไมเวลาจึงช่วยฉันล่ะ ? ความรูย้ มิ้ ในความรอบรู ้ ของ ของตัวเอง แล้วตอบความรักว่า....ก็เพราะว่า มีเพียง เวลาเท่านั้นที่เข้าใจว่า ความรักยิ่งใหญ่แค่ไหน น่ะสิ… บ.ก.
สวั ส ดี ค ่ ะ 3
สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน เมื่ อ หวนระลึ ก ถึ ง วั น พฤหั ส บดี ที่ 13 ตุ ล าคม พุทธศักราช 2559 วันวิปโยคแห่งประวัติศาสตร์ชาติไทย ด้วยการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ 4
ซึง่ น�ำความโศกเศร้ามาสูด่ วงใจทุกดวงของพสกนิกรชาวไทย ทีต่ า่ งน้อมร�ำลึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ อันหาทีส่ ดุ มิได้ของ พระมหากษัตริย์ ผูท้ รงเป็นพ่อหลวงของแผ่นดิน นับตัง้ แต่ พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ ทรงมอบพระชนมชีพด้วย พระราชหฤทัยที่มุ่งมั่นว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่ อ ประโยชน์ สุ ข แห่ ง มหาชนชาวสยาม” “ที่ ข อง ข้าพเจ้าในโลกนี้ คือการได้อยู่ท่ามกลางประชาชนของ ข้าพเจ้า นั่นคือ คนไทยทั้งปวง” พระองค์ทรงครอง แผ่นดิน ครองหัวใจไทยทั้งแผ่นดิน ...ธ ทรงเป็นศูนย์ รวมใจไทยทุกดวง... เพราะทรงทุม่ เทพระวรกายเพือ่ คนไทย ด้วย “ธรรมะของพระราชา” ทรงเฝ้าดูแลประชาราษฎร ทั่วอาณาจักรใกล้ไกล ทรงหวังให้เรามี “พอเพียง” และ “เพียงพอ” “ทรงเป็นนิยามแห่งความดี เป็นอัญมณีที่ เลิศล�้ำ ... ด้วยน�้ำพระทัยที่เมตตา” หยดน�้ำหยาดเหงื่อ ของพระองค์หยดลงทีไ่ หน ทุกข์รอ้ นจะพลันสลาย ทุกข์ภยั
จะไม่อาจแผ้วพาน พระองค์เคยตรัสไว้ว่า “เราท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันของเรานั้นสูง เหลือเกิน เดิมพันของเรานั้นคือบ้าน คือ เมือง คือความสุขของคนไทยทัว่ ประเทศ” “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ข้าพเจ้า ก็จะเลือกท�ำแต่สงิ่ ทีเ่ ป็นประโยชน์ ซึง่ นัน่ เป็นสิ่งที่เพียงพอแล้วส�ำหรับข้าพเจ้า” พระราชด�ำรัสเหล่านี้ ช่างเป็นพระวินจิ ฉัยล�ำ้ เลิศ สูงส่งของพระองค์สมดังพระนาม “ภูมิพลอดุลยเดช” “ภูม”ิ หมายความว่า แผ่นดิน และ “พล” หมายความว่า พลัง รวมกันแล้วหมายถึง พลังแห่งแผ่นดิน “อดุลย” หมายความว่า ไม่อาจเทียบได้ และ “เดช” หมายความว่า อ�ำนาจ รวมกันแล้วหมายถึง อ�ำนาจที่ไม่อาจเทียบได้ เราทุกคนต่างซาบซึ้งและประทับใจในพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจของพระองค์ “พระมหากษัตริย์ ผู้ประเสริฐยิ่ง” ตลอดพระชนมชีพ 89 พรรษา และ การเสวยราชสมบัติ 70 ปี ช่างโชคดีที่แผ่นดินนี้มีราชา ผู้ทรงธรรม ผู้ทรงสอนให้เรายิ้มสู้ ได้เรียนรู้ความพอดี ภาคภูมิใจในสิ่งที่เรามี และอยู่อย่างสุขสบาย ทรงเป็น ในหลวงของแผ่นดินที่ทรงรัก ทรงเป็นห่วงและไม่ทรง ทอดทิ้งราษฎรของพระองค์ ดังที่ทรงตั้งปฏิญญาไว้ว่า “ถ้ า ประชาชนไม่ ทิ้ ง ข้ า พเจ้ า แล้ ว ข้ า พเจ้ า จะทิ้ ง ประชาชนอย่างไรได้” น�ำ้ พระทัยเมตตาช่างเปีย่ มล้น แม้รกั ทีเ่ รามีให้พอ่ มากมายเพียงใด ก็ไม่ถงึ เศษเสีย้ วหนึง่ ทีพ่ อ่ รัก เรา พระองค์ ท รงเป็ น ที่ รั ก ยิ่ ง และเทิ ด ทู น ของประชา นานาชาติและของผองชนชาวไทยอย่างแท้จริง เราจะ มุง่ หน้าก้าวเดินไปตามค�ำพ่อสอน และสร้างบุญน้อมอุทศิ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ต่อไป เทศกาลคริสต์มาสเป็นเทศกาลซึ่งมีความหมาย ส� ำ คั ญ ในคริ ส ตศาสนาใกล้ ม าถึ ง แล้ ว แก่ น แท้ ข อง
“วันคริสต์มาส” คือ การฉลองความรักของพระเจ้าที่ทรง มอบแก่มนุษยโลกจนถึงกับ“ทรงส่งพระบุตรพระองค์เดียว มาในโลก[...]ความรั ก อยู ่ ท่ี ว ่ า พระเจ้ า ทรงรั ก เรา [...] ถ้ า พระเจ้ า ทรงรั ก เราเช่ น นี้ เราก็ ค วรจะรั ก กั น ด้ ว ย” (1 ยอห์น 4,9-11) ถ้อยค�ำจากพระคัมภีร์แสดงประจักษ์ ในพระจริ ย วั ต รอั น งดงามยิ่ ง ของพระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดชตลอดพระชนมชี พ บนผืนแผ่นดินไทย เราต่างมั่นใจว่า บัดนี้ดวงพระวิญญาณ ของ “พ่ อ หลวงของเรา” สถิ ต ณ สรวงสวรรค์ ใน พระอาณาจักรแห่งความรักของพระเจ้าตลอดนิรันดร์ ทรงเฝ้ามองดูเราอยู่ที่นั่นจากฟากฟ้า ทรงปรารถนาให้ พวกเรารักกันและกัน และด�ำรงมั่นในปณิธานหาญกล้า กระท�ำความดีตามรอยพระบาทของพระองค์สืบไป ขอพระบารมีของพระองค์บันดาลให้ทุกท่านมี ความสุ ข และขอพระพรแห่ ง ความรั ก ความยิ น ดี และสันติสุขของพระเยซูกุมารจงสถิตกับทุกท่าน
สุขสันต์คริสต์มาส และสวัสดีปีใหม่ 2560 ค่ะ ซิสเตอร์อันนา มารีอา ตอวิเชียร
อธิการิณีเจ้าคณะแขวง คณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์แห่งประเทศไทย
5
สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน...ส�ำหรับ สื่อสาร ธมอ. ฉบับนี้ผู้เขียนก็ได้รวบรวมเรื่องราวเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นทั้ง ในระดับประเทศ ระดับแขวง และระดับหมู่คณะ เพื่อแบ่งปันให้กับทุกท่านได้ทราบความเป็นไปในทุกระดับ โดยรายละเอียดและภาพนัน้ สามารถติดตามได้มากขึน้ ที่ www.fma.or.th ซึง่ ขณะนีไ้ ด้มกี ารปรับเปลีย่ นแล้วตัง้ แต่ วันที่ 8 ธันวาคม 2016 เรามาเริ่มกันเลยค่ะ ที่ข่าวแรก...
ประสบการณ์ที่บ้านเกิดผู้ร่วมก่อตั้งคณะ... ซิ ส เตอร์ อ มริ น ทร์ ฤทั ย คงถาวร และ ซิสเตอร์วารี อาคมทน ได้รว่ มโครงการ “มอร์เนเซ” ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2016 ทีบ่ า้ นมอร์เนเซ อเล็กซานเดรีย ตุรนิ ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนักบุญมาเรีย มัสซาแรลโล ผู้ร่วมก่อตั้งคณะ พร้อมกับนักศึกษาจาก Casa Madre Ersilia Canta รวมประมาณ 50 กว่าคน นับเป็นประสบการณ์ชีวิตฝ่ายจิตที่เลอค่าอย่างยิ่ง และจะจดจ�ำไปอีกนานแสนนาน...
ร่วมประชุมสัมมนาผู้ประสานงาน... เมื่ อ วั น ที่ 14-20 กั น ยายน 2559 ซิ ส เตอร์ กุ ล ธิ ด า แก้ ว อุ ด ร ได้ เข้ า ร่ ว มประชุ ม สั ม มนาผู ้ ป ระสานงานด้ า นสิ ท ธิ มนุษยชน ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ร่วมกับ ผู้แทนประเทศต่าง ๆ ได้แก่ จากกัมพูชา ฟิลิปปินส์ อินเดีย ไอแลนด์ โปรตุ เ กส รวมทั้ ง บรรดา อาสาสมัคร ( VEDES ) จากสเปน อิตาลี เอกกวาดอร์ อเมริกา โดย Human Right Office International Institute Maria Ausiliatrice – IIMA
6
ประชุมผู้รับผิดชอบการบริหารจัดการ...
ระหว่างวันที่ 14- 25 พฤศจิกายน 2559 ซิสเตอร์พรพิมล อ่อนไถล ผู้รับผิดชอบด้านการบริหารจัดการระดับ แขวง ได้เข้าร่วมประชุมผูร้ บั ผิดชอบด้านการบริหารจัดการระดับโลก ทีบ่ า้ นศูนย์กลางของคณะทีก่ รุงโรม ประเทศอิตาลี มีผู้เข้าร่วมจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก กว่า 80 คน โดยมีซิสเตอร์วิลมา ตัลโลเน ผู้รับผิดชอบงานด้านการบริหารจัดการ ระดับคณะและสมาชิกในฝ่าย ด�ำเนินการประชุม และมีมาเดอร์อีวอง แรงกว๊อท อัคราธิการิณีคณะธิดาแม่พระองค์ อุปถัมภ์อยู่เคียงข้าง ร่วมแบ่งปันให้ข้อคิดและการแนะน�ำต่าง ๆ
อบรมสัมนาผู้ดูแลแบบซาเลเซียน... ระหว่างวันที่ 2-4 ตุลาคม 2559 ที่บ้านธารพระพร สามพราน ฝ่ายอบรมของคณะในแขวงไทย ได้จดั อบรมผูท้ ที่ ำ� หน้าที่ ในการเป็นผู้ดูแลนักเรียนประจ�ำและพนักงาน โดยมีคณะซิสเตอร์ และคณะครูเข้าร่วมอบรมจ�ำนวนประมาณ 50 คน
“ครูซาเลเซียนกับปีพระเมตตา” ..โอกาสปีแห่งเมตตาธรรม ฝ่ายอภิบาลด้านงาน ค�ำสอน คณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ ได้จัดฟื้นฟูจิตใจ ครูคาทอลิกในเครือฯ ระหว่างวันที่ 7-8 ตุลาคม 2016 ที่บ้านธารพระพร สามพราน มีผู้เข้าร่วมรับการอบรม จ�ำนวน 114 คน โอกาสนี้ในวันที่ 7 ตุลาคมคุณพ่อบรรจง สันติสขุ นิรนั ดร์ ได้เป็นวิทยากรอบรมในหัวข้อ “ครูซาเลเซียน กับปีพระเมตตา” และคุณครูที่เข้าร่วมยังได้ร่วมกิจกรรม อื่น ๆ ที่แขวงได้จัดขึ้นด้วย
7
Welcome Mother dear… ตัวแทนสมาชิก ธมอ. ผู้ ฝึ ก หั ด เยาวชน และครู จากหมู ่ ค ณะมารี ย ์ อุ ป ถั ม ภ์ สามพราน และหมูค่ ณะมารีย์ นิรมลทิน สามพราน ได้รว่ มให้ การตัอนรับ มาเดอร์อีวอง แรงกว๊อท อัคราธิการิณีคณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ อย่างอบอุ่นและเปี่ยมด้วยความยินดี เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2016 โอกาสทีม่ าเป็นผูเ้ ทศน์ให้ขอ้ คิดโอกาสการเข้าเงียบประจ�ำปีของอธิการิณเี จ้าคณะแขวงในภาคพืน้ เอเชียและโอเชียอาเนีย
จงเป็นเพื่อนร่วมทางเปี่ยมความเมตตา ....ซิสเตอร์คณะธิดาแม่พระ องค์อปุ ถัมภ์ ระดั บ เชี ย -โอเชอาเนี ย จ� ำ นวน 10 ประเทศ 17 แขวง ได้เข้าเงียบฟืน้ ฟูจติ ใจ ประจ�ำปี ระหว่างวันที่ 12-19 ตุลาคม 2016 ที่ บ ้ า นธารพระพร สามพราน นครปฐม โดยมีมาเดอร์อวี อง แรงกว๊อท อัครธิการิณีคณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ เป็นผู้เทศน์และแบ่งปันข้อคิด ในหัวข้อ “จงเป็นเพื่อนร่วมทางเปี่ยมความ เมตตา เพื่อจะได้เป็นธรรมทูตแห่งความหวังและความยินดี
สมาพันธ์ระดับเอเชียตะวันออก (CIAO) ระหว่างวันที่ 22-23 ตุลาคม 2559 มาเดอร์อีวอง แรงกว๊อท อัคราธิการิณีคณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ ได้เป็นประธานในการประชุม ของสมาชิ ก ธมอ. ระดั บ เอเชี ย ตะวั น ออก (CIAO-East Asian Interprovincial Conference) จ�ำนวน 10 ประเทศ ที่บ้านธารพระพร สามพราน นครปฐม โดยมีอธิการิณเี จ้าคณะแขวงและผูแ้ ทนสมาชิกเข้าร่วม ประชุม จ�ำนวน 18 คน
ประชุมผู้ปกครองอัสปีรันส์... ฝ่ายการอบรม คณะซิสเตอร์ธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ ได้จัดการ พบปะผู ้ ป กครองผู้ฝึกหัด ของคณะ และผู้สนใจ ระหว่างวันที่ 25-27 พฤศจิกายน 2559 บ้านธิดารักษ์ จอมทอง เชียงใหม่ 8
ทัศนศึกษาดูงานการศึกษา ณ ประเทศญี่ปุ่น ซิสเตอร์ดาริณี หมั้นทรัพย์ และซิสเตอร์ผกามาศ มาสอน ได้ไปทัศนศึกษาดูงานด้านการศึกษา ณ ประเทศญีป่ นุ่ ร่วมกับคณะ ผูบ้ ริหารการศึกษาคาทอลิก หลักสูตรการพัฒนาภาวะผูน้ ำ� ทางการ ศึกษาคาทอลิก รุ่นที่ 2 จ�ำนวน 28 คน ระหว่างวันที่ 13 – 19 พฤศจิกายน 2559
ฝ่ายการศึกษา ธมอ. ศึกษาดูงาน ...วันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 ฝ ่ า ย ก า ร ศึ ก ษ า ค ณ ะ ใ น แข ว ง ไ ท ย และสมาชิกผูป้ ระสานงานแขวง จ�ำนวน 13 คน ได้ ไ ปศึ ก ษาดู ง านที่ โรงเรี ย นเซนต์ คาเบียร์ล แผนกหลักสูตรพัฒนาส่งเสริม วิชาการและคุณธรรม (พสวค.) โดยได้รับ การต้อนรับอย่างอบอุ่นและการแบ่งปันหลักสูตร พสวค. อย่างละเอียด ในบรรยากาศที่เป็นกันเองและเปี่ยมด้วยมิตรภาพ
ค่ายกระแสเรียก 2016
…ระหว่ า งวั น ที่ 3-5 ธั น วาคม 2016 ณ บ้านสเตลลา มารีส ชะอ�ำ ซิสเตอร์ คณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ ได้จัดค่าย กระแสเรี ย กมิ ต รมารี ย ์ 2016 ในหั ว ข้ อ "Come and See!" ซึ่งมีนักเรียนตั้งแต่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ขึ้นไป ได้มาร่วมค่ายเป็นจ�ำนวน 95 คนจากสถาบันในเครือฯ และจากวัดต่าง ๆ โดยมีพี่เลี้ยงและ บรรดาซิสเตอร์ 17 คน ที่ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมที่หลากหลาย มีเนื้อหาสาระ เพื่อการพบปะกับพระเจ้า และเรียนรู้จักคณะ ซิสเตอร์มากขึ้น ผ่านทางการรู้จักนักบุญผู้ตั้งคณะและกิจกรรมเกมสร้างสรรค์ต่าง ๆ ซึ่งได้ด�ำเนินไปในบรรยากาศซาเลเซียน เรียบง่าย สนุกสนาน เป็นกันเอง เต็มด้วยมิตรภาพ และความยินดี
“รัก รับใช้ ด้วยใจยินดี”
...SSYV-VEDES Thai...ฝ่ายอภิบาลเยาวชนระดับแขวง ได้จัดการ อบรมประจ�ำปีของกลุ่มเยาวชนอาสาสมัคร SSYV ระหว่างวันที่ 9-13 ธันวาคม 2016 ณ บ้านธิดารักษ์ จอมทอง ซึ่งมีสมาชิกจาก 4 สถาบันจาก โรงเรียนเซนต์เมรี่ ธิดานุเคราะห์ มารี ย ์ อุ ป ถั ม ภ์ แ ละนารี วุ ฒิ พร้ อ มกั บ คณะครู ตัวแทนกลุ่ม VIDES พยาบาลอาสา และคณะซิส เตอร์ รวม 72 คน 9
มหาไถ่ศึกษา บึงกาฬ งานน�ำเสนอโครงงาน PBL (Project Base Learning) ระดับ ประถม...วั น ที่ 23 กั น ยายน 2559 โรงเรียนมหาไถ่ศึกษา บึงกาฬ ได้จัดวัน น�ำเสนอผลงานการเรียนรูแ้ บบ PBL ของ นักเรียนระดับประถมตามระดับห้อง “1 ห้อง 1 โครงงาน” โดยมีชุมชม ผู้ปกครองร่วมเป็นวิทยากรให้ความรู้ นายเผด็จ ดงยะโสภา นายกเทศมนตรี เทศบาลต�ำบลวิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานเปิดงาน สวดสายประค�ำเดือนแม่พระ หมู ่ ค ณะบึ ง กาฬ ได้ จั ด การสวดสาย ประค� ำ ในเดื อ นตุ ล าคม เมื่ อ วั น ที่ 27 ตุลาคม 2559 มีพี่น้องสัตบุรุษ ครู และนักเรียนมาร่วมเป็นก�ำลังใจสวด เป็ น จ� ำ นวนมาก หลั ง ภาวนาคุ ณ พ่ อ ปรีชา ศิลาโครต เจ้าอาวาส เป็นประธานในการอวยพรสัตบุรุษ
ธิดานุเคราะห์ หาดใหญ่ ฟื้นฟูจิตใจนักเรียนคาทอลิก เมื่อวันที่ 5-6 พฤศจิกายน 2559 โอกาสปีแห่งเมตตาธรรม โรงเรียนธิดานุเคราะห์ หาดใหญ่ ได้จดั การฟืน้ ฟูจติ ใจ เข้าค่ายค�ำสอนในโรงเรียน ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ซึ่งมีจ�ำนวน นักเรียนเข้าร่วม 45 คน ฉลองนักบุญมาเรีย มัสซาแรลโล...โรงเรียนธิดานุเคราะห์ หาดใหญ่ ได้จัดฉลองนักบุญมาเรีย มัสซาแรลโล ผู้ตั้งคณะซิสเตอร์ธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2559 พร้อมกับการเปิดสัปดาห์ห้องสมุด นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดการแสดงละครฉากเล็ก และโอกาสเริ่มปีที่ 140 ของการส่งธรรมทูตไปประเทศอเมริกา และ 85 ปี ในการเข้ามาใน ประเทศไทย
10
หอพักหญิงนิรมล หัวหมาก... รั บ รางวั ล หอพั ก ติ ด ดาว...ซิ ส เตอร์ ม าร์ ก าริ ต า เปเรส อธิการิณีหอพักหญิงนิรมลทิน หัวหมาก และซิสเตอร์วนิดา มาลาวาลย์ ได้เข้ารับมอบรางวัลหอพักติดดาว ครัง้ ที่ 8 ณ ห้อง ศักดิ์ ผาสุขนิรนั ต์ อาคารหอประชุมพ่อขุนรามค�ำแหงมหาราช มหาวิทยาลัยรามค�ำแหง โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามค�ำแหง เป็น ประธานมอบรางวัล เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2016 ซึ่งหอพัก หญิงนิรมล ได้รับรางวัลเป็นหอพักระดับดีเยี่ยม (5 ดาว) ติดต่อกันเป็นปีที่ 8 ด้วยใจรู้คุณ...เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2016 หมู่คณะหัวหมาก ได้ อ�ำลาและขอบคุณ คุณพ่อดาเนียล คุณ พ่ อ เจ้ า วั ด กลุ ่ ม คาทอลิ ก ชาวเกาหลี เนือ่ งจากครบวาระในการปฏิบตั หิ น้าที่ ก า ร อ ภิ บ า ล สั ต บุ รุ ษ ด ้ ว ย ค ว า ม กระตือรือร้น ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เราทุกคนขอบคุณท่านด้วยใจกตัญญู และขอพระเจ้าอวยพรท่านในภารกิจใหม่
มารีย์อุปถัมภ์ สามพราน “ม.อ. ..ใช้สอื่ อย่างสร้างสรรค์ ร่ ว มสานฝั น ผั น โลกให้ ง ดงาม”... ระหว่ า งวั น ที่ 5-9 กั น ยายน 2559 โรงเรียนมารีย์อุปถัมภ์ สามพราน ได้จัด สัปดาห์สื่อศึกษา ในหัวข้อ “ม.อ (มารีย์ อุปถัมภ์)....ใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ ร่วม สานฝัน ผันโลกให้งดงาม” ภายใต้แนวคิดของอุดมการณ์ประจ�ำปี “Save the world with a merciful heart” สัปดาห์พระคัมภีร์ 2016… โรงเรียนมารีย์อุปถัมภ์ สามพราน ได้ จั ด สั ป ดาห์ พ ระคั ม ภี ร ์ โอกาสปี แ ห่ ง เมตตาธรรม ในรู ป แบบกิ จ กรรมที่ หลากหลาย เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้ ศึกษาเรียนรู้จักพระวาจาของพระเจ้า และเข้าใจ มากยิ่งขึ้นถึงการมีใจเมตตา ระหว่างวันที่ 7-11 พฤศจิกายน 2016 11
วิสุทธิวงศ์ กี ฟ าสี สั ม พั น ธ์ . ..โรงเรี ย น วิสทุ ธิวงศ์ ได้จดั กิจกรรมกีฬาสี ระหว่าง วันที่ 8-10 พฤศจิกายน 2559 โดยใน ปี นี้ ได้ เ ปลี่ ย นรู ป แบบการแข่ ง ขั น เป็ น ระดั บ ชั้ น ส่วนแผนกอนุบาลได้ แบ่งการแข่งขันเป็นสี ซึ่งการแข่งขันกีฬา ส่งเสริมให้นักเรียนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย มีระเบียบวินัย มีการพัฒนาทักษะทางด้านกีฬา อีกทั้งได้รับความสนุกสนาน ร่วมเสกสุสานประจ�ำปี ... เมือ่ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2559 คณะซิสเตอร์ คณะครู นั ก เรี ย น พร้ อ มทั้ ง บรรดา สัตบุรษุ ของวัดวิสทุ ธิวงศ์ โพนสูง ได้รว่ ม พิ ธี บู ช าขอบพระคุ ณ โอกาสสมโภช นักบุญทั้งหลายและระลึกถึงผู้ล่วงลับ โอกาสวันเสกสุสานประจ�ำปี โดยมีพระสังฆราชยอแซฟ ลือชัย ธาตุวิสัย เป็นประธานในพิธี
บ้านนารีวุฒิ.. เดือนแห่งแม่พระสายประค�ำ 2016.... ตลอดเดือนแม่พระแห่งสาย ประค�ำ หมู่คณะนารีวุฒิได้ร่วมกันสวด สายประค�ำพร้อมกับสัตบุรุษ ทั้งที่วัด นักบุญยอแซฟ วัดน้อยของหมูค่ ณะ และ ตามบ้านสัตบุรุษ คุณครูและนักเรียน
ปิ ด ปี ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ แ ห่ ง เมตตา ธรรม...เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2016 หมู่คณะได้ร่วมพิธีปิดปีศักดิ์สิทธิ์แห่ง เมตตาธรรมระดับสังฆมณฑลราชบุรี ที่ อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก ด้วยการนมัสการศีลมหาสนิท การรับศีล อภัยบาปและร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ 12
เซนต์เมรี่... การติดตามเด็กในหมู่บ้าน... วันที่ 11-13 ตุลาคม 2559 หมู่คณะได้ ออกไปเยี่ยมเยียนเด็กที่หมู่บ้านสองคอน หมูบ่ า้ นแก่งกระเบาและหมูบ่ า้ นดอนทอย จั ง หวั ด สกลนคร โดยได้ จั ด กิ จ กรรม ศูนย์เยาวชนระยะสั้น เพื่อสร้างความคุ้นเคยและความเป็นกันเอง “ธนชาต ริ เ ริ่ ม ...เติ ม เต็ ม เอกลักษณ์ไทย” ครั้งที่ ๔๔... ซิสเตอร์ ทองอยู่ กิจสกุล ผู้อ�ำนวยการโรงเรียน เซนต์เมรี่ และคุณครูจงจิต สมงาม พร้อม กั บ เด็ ก หญิ ง สกุ ล กาญจน์ ศรี ว รสาร นั ก เรี ย นชั้ น ป 4/1 เข้ า รั บ รางวั ล พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในรางวัลชนะเลิศ การแข่งขันอ่านฟังเสียง ระดับประถม ศึกษาตอนต้น ใน“โครงการธนชาต ริเริ่ม... เติมเต็มเอกลักษณ์ไทย”ครั้งที่ 44 ประจ�ำปี 2558 เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
บ้านมารีย์นิรมลทิน สามพราน มหัศจรรย์แห่งความรักเมตตา...คณะซิสเตอร์ คณะครู ผู้ร่วมงานและนักเรียนธิดารักษ์ พร้อมใจกันแสดงออก ถึงความกตัญญูรู้คุณต่อคณะผู้ใหญ่ ต่อผู้มีพระคุณ และเป็นพิเศษขอบคุณซิสเตอร์สายสมร ศิริรัตนกูล อธิการิณี เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2559 ด้วยการแสดงละครที่กล่าวถึงพระนางมารีย์นิรมลทิน และการแสดงเล็กๆ น้อย ๆ ของนักเรียนธิดารักษ์ พร้อมกับพิธถี วายบูชาขอบพระคุณ ด้วยความรักและรูค้ ณ ุ ในบรรยากาศแบบครอบครัว นอกจากนี้ ในเย็นวันที่ 7 ธันวาคม คณะ ซิสเตอร์ คุณครู และนักเรียนธิดารักษ์ได้ไปร่วมวจนพิธีกรรม เตรียมฉลองแม่พระนิรมลทินที่บ้านซาเลเซียนอีกด้วย
13
หอพักหญิงเอาซีลีอุม ศิ ษ ย์ เ ก่ า จั ด กิ จ กรรม... เย็นวันที่ 25 สิงหาคม 2559 ตัวแทน พี่ ศิ ษ ย์ เ ก่ า หอพั ก หญิ ง เอาซี ลี อุ ม ศาลาแดง ได้มาจัดกิจกรรมให้น้อง ๆ ที่หอพัก เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี และแบ่งปันประสบการณ์จากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง พร้อมทั้ง เชิญชวนทุกคน ให้ร่วมกันแบ่งปันสิ่งที่ดีแก่สังคม เพราะทุกอย่าง ที่เกิดขึ้นในชีวิตล้วนเป็นพระหรรษทานทั้งสิ้น กตัญญูรู้คุณ.... หมู่คณะได้ ฉลองกตัญญูระดับหมู่คณะ เมื่อวันที่ 30 สิ ง หาคม 2559 เพื่ อ สื บ สาน จิ ต ตารมณ์ ข องคุ ณ พ่ อ บอสโก และ มาเดอร์มัสซาแรลโล ในการแสดงออก ซึ่งความกตัญญูรู้คุณต่อพระเจ้า ผู้ใหญ่ และขอบคุณซึ่งกันและกัน จาริ ก แสวงบุ ญ ...ระหว่ า ง วันที่ 24 กันยายน 2016 กลุ่มคริสตชน อิตาเลียน ได้จาริกแสวงบุญไปยังวัด อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก โอกาสนี้ มีซิสเตอร์เอสเตรีนา ปรันโด และซิสเตอร์แอลด้า บารัตติโน เข้าร่วม โดยมีคุณพ่อชาร์ลส์ เวลาร์โดเป็นผู้น�ำ พบปะบรรดาธรรมทู ต ... วันที่ 15 ตุลาคม 2559 พระสังฆราช Claudio Cipolla ประมุขสังมณฑล Padova ได้มาพบปะพูดคุยกับบรรดา ธรรมทู ต ที่ เ ป็ น สั ต บุ รุ ษ ในสั ง ฆมณฑล ของท่าน โดยมีคุณพ่อแฟรงค์ ซิสเตอร์ เอสเตรี น าและซิ ส เตอร์ อั น นามาเรี ย เข้าร่วมประชุมที่บ้านศาลาแดง
14
ความชื่นชมยินดีในการเป็น
ธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ โอกาสพบปะกั บ มาเดอร์ อี ว อง แรงกว๊ อ ท อั ค ราธิ ก าริ ณี คณะธิดาแม่พระองค์อปุ ถัมภ์ ในการเตรียมฉลองครบรอบ 180 ปีแห่ง ชาตกาลของนักบุญมาเรีย โดเมนิกา มัสซาแรลโล ความโอนเอียงใน ความเป็นสตรีพร้อมกับสายตาทีม่ องการณ์ไกลและการไวในความรูส้ กึ พร้อมทั้งความใฝ่ฝันและโครงการอบรมเยาวชนของคุณพ่อบอสโก และมาเดอร์มัสซาแรลโล นั่นเองที่เป็นจิตตารมณ์ที่ผลักดันภารกิจ ของธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์และน�ำทางให้กระท�ำภารกิจทั่วโลกด้วย ความรั ก และความกระตื อ รื อ ร้ น ให้ เราพู ด คุ ย กั บ มาเดอร์ อี ว อง แรงกว๊อท ในฐานะที่ท่านด�ำรงต�ำแหน่งอัคราธิการิณีของคณะธิดา แม่พระองค์อุปถัมภ์มาถึง 8 ปี
ความชื่นชมยินดีในการรักและรู้สึกเป็นที่รัก
ผูส้ มั ภาษณ์...ปัจจุบนั มาเดอร์สามารถสือ่ สารอะไร กับโลกเกีย่ วกับชีวติ และกิจการของมาเดอร์มสั ซาแรลโล มาเดอร์อีวอง...ในฐานะผู้ร่วมตั้งคณะ ธมอ. กับ คุณพ่อบอสโก มาเดอร์มสั ซาแรลโลยังคงทันสมัยอยูเ่ พราะ ความจริงใจของท่าน ข่าวสารของท่านยังเก็บรักษาความ สดชืน่ ของสิง่ ทีเ่ รียบง่ายและแท้จริง เพราะมาจากชีวติ และ ไปสู่ชีวิต ดังที่ ธมอ.รุ่นแรก ๆ ได้ก่อให้เกิด “จิตตารมณ์ มอร์เนเซ” อันเป็นบรรยากาศที่มั่งคั่งด้วยการปฏิสัมพันธ์ ที่แสดงถึงความไว้วางใจ ความหวังและความยินดีที่ได้รัก และรู้สึกว่า ตนเป็นที่รัก มอร์เนเซเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ แถบ มอนเฟราโต ที่ซึ่งมาเดอร์มัสซาแรลโลได้ถือก�ำเนิดมา ได้รู้จักคุณพ่อบอสโกและได้เริ่มต้นกิจการของท่าน ที่นี่ บรรดานักบวชและเยาวชนได้รับการดึงดูดจากชีวิตหนึ่งที่ เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักต่อพระเยซูเจ้าและอุทิศให้แก่ ผู้อื่นด้วยความห่วงใยเยี่ยงมารดาของพระมารดามารีย์ ผูส้ มั ภาษณ์...ปัจจุบนั จิตตารมณ์มอร์เนเซ มีความ โอนเอียงไปในรูปแบบหรือลักษณะใด
มาเดอร์อีวอง...ในโลกที่มีร่องรอยของลัทธิปัจเจก นิยมเข้มข้น การเป็นประจักษ์พยานของท่าน แสดงถึงการ ร่วมเป็นหนึ่งเดียวที่มีคุณค่ายิ่งใหญ่ ในฐานะ ธมอ. เราอยู่ แนวหน้าด้านการอบรมในที่ที่ส่วนใหญ่เป็นชายขอบ เรา เอาใจใส่การส่งเสริมพัฒนาสตรี โดยมั่นใจว่า “การให้ การอบรมสตรีเป็นการอบรมประชาชาติ” ภาพลักษณ์ อันโดดเด่นของพระมารดามารีย์ในคณะ ท�ำให้เราเป็น ผูอ้ ปุ ถัมภ์พร้อมกับแม่พระองค์อปุ ถัมภ์ มีความตระหนักถึง การเลียนตามแบบฉบับของพระมารดามารีย์ เป็นการเริ่ม กระบวนการแห่ ง ความเมตตากรุ ณ า ความสั ม พั น ธ์ หนึ่งเดียวและการเป็นจิตหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งผลักดันให้ ยิ่งเพิ่มความเอาใจใส่มากขึ้นแก่ผู้ที่อยู่ชายขอบสังคม ผู้สัมภาษณ์...โอกาสใดคือช่วงเวลาที่งดงามที่สุด และโอกาสใดทีย่ ากล�ำบากทีส่ ดุ ในหน้าทีร่ บั ผิดชอบของ ท่าน มาเดอร์อวี อง...โอกาสทีง่ ดงามคือ โอกาสทีม่ าเดอร์ เห็นความก้าวหน้าและการเติบโตด้านกระแสเรียกของ สมาชิก ที่เจริญชีวิตในการตอบ “ค่ะ” ของตนกับพระเจ้า 15
ด้วยความซือ่ สัตย์อย่างสร้างสรรค์ แม้จะอยูใ่ นสถานการณ์ ที่ ย ากล� ำ บาก มาเดอร์ เ บิ ก บานยิ น ดี เ มื่ อ มี ก ารรั ก ษา ความเป็นหนึ่งเดียวกัน เมื่อมีการรักษาความหวังและ ความเชื่อ ที่ให้รสชาติแก่ชีวิต เมื่อเราออกจากความมั่นคง ของเราเพื่อการกลับใจด้านงานอภิบาลที่พระสันตะปาปา ฟรังซิสทรงก�ำชับไว้อย่างมาก มาเดอร์มีความยินดีเมื่อ ได้ยินการที่พระศาสนจักรให้คุณค่าแก่สิ่งที่เราเป็น ไม่ใช่ เพียงแต่การ รับใช้ที่เรากระท�ำ และเมื่อ ธมอ. ขอไปเป็น ธรรมทูตหรือให้การเอาใจใส่ผอู้ พยพ แม้แต่ในประเทศของ ตนเอง ช่วงเวลาที่ยากล�ำบากและการทดลองก็ไม่ได้ขาด หายไป นั่นคือ สงคราม การขาดแคลนอาหาร ภัยพิบัติ ทางธรรมชาติ สภาพการณ์แห่งความเหน็ดเหนื่อยและ ความขัดสนด้านการปฏิสัมพันธ์ ซึ่งสามารถท�ำให้ภารกิจ ต่าง ๆ อ่อนแอลง
ของไทยให้ส�ำเร็จได้ฉันใด เราก็เป็นเช่นนั้นด้วย แม้เราจะ มีความแตกต่างด้านภาษา ความเป็นอยู่และวัฒนธรรม แต่เราก็สามารถกลับเป็น “นักศิลปะ” ในการสร้างสะพาน ซึ่งรวมเอาการคิด การปฏิสัมพันธ์และการกระท�ำไว้ใน รูปแบบใหม่ ซึ่งเอื้อให้มีความเป็นหนึ่งเดียวและเกิดสันติ ในพระศาสนจักรและในถิ่นที่เราอยู่ เราเปิดตัวต่อการ เป็ น จิ ต หนึ่ ง ใจเดี ย วกั น ซึ่ ง ก่ อ ให้ เ กิ ด ความเป็ น ผู ้ น� ำ การพัฒนากิจการย่อย ๆ ให้คุณค่าแก่การออกเงินกู้นอก ระบบ (เป็ น สิ่ ง ที่ ถู ก ต้ อ งตามกฎหมาย แต่ ยั ง ไม่ มี ใ น ประเทศไทย)โดยเฉพาะเพือ่ ช่วยบรรดาสตรี อย่างไรก็ตาม ความพยายามของเราในอันดับแรกไม่ได้ตอบสนองต่อ การท้าทายในตัวของมันเอง แต่เป็นตัวเราเองที่เป็นการ ท้ า ทาย โดยการท� ำ ประสบการณ์ แ ห่ ง ความเป็ น หนึ่ ง เดียวกัน ในความแตกต่าง
การให้คุณค่าแก่ความแตกต่าง
การเจริญชีวิตกระแสเรียกด้วยความซื่อสัตย์ที่ สร้างสรรค์
ผูส้ มั ภาษณ์...ในการบรรยายตอนหนึง่ เร็ว ๆ นีใ้ น ประเทศไทย ท่านได้ชมเชยความงดงามของพวงมาลัย เพราะประกอบด้ ว ย ดอกไม้ น านาชนิ ด ซึ่ ง แสดงถึ ง ความส�ำคัญของการให้คุณค่าแก่ความแตกต่างและน�ำ ไปสู ่ การเสวนา เพื่ อ ให้ ก ลั บ เป็ น ความงดงามและ ความกลมกลืนนัน้ ธมอ. จะท�ำให้ความคิดนีก้ ลับเป็นจริง ได้อย่างไร มาเดอร์อีวอง...เป็นการท้าทายอันยิ่งใหญ่ส�ำหรับ คณะระดับนานาชาติที่กระจายอยู่ใน 94 ประเทศ ใน 5 ทวีป มีความแตกต่าง แต่ก็ไม่ท�ำให้ความเป็นหนึ่งเดียวนั้น เป็นไปไม่ได้เอาเสียเลย ผลของการท�ำงานด้วยความ พากเพียรอดทน สุภาพ สงบเงียบเหมือนการร้อยพวงมาลัย 16
ผู้สัมภาษณ์...อะไรคือความหมายของการเป็น ผู้ใหญ่สูงสุดของ ธมอ. มาเดอร์อีวอง...การได้รับพระคุณแห่งการเป็น มารดาแบบใหม่ เ พื่ อ เป็ น ดั ง ครรภ์ ที่ โ อบรั บ ธมอ.และ เยาวชนในยุคนี้นั้น มาเดอร์มั่นใจว่า พระมารดามารีย์องค์ อุปถัมภ์ทรงเป็นผู้ใหญ่แท้จริงของหมู่คณะ ดังที่มาเดอร์ มัสซาแรลโล ได้ถอื ว่าเป็นดังนี้ มาเดอร์ได้ทำ� ประสบการณ์
แห่งการถูกส่งไปของมาเดอร์ โดยยอมให้พระมารดามารีย์ ทรงจูงมือไป และมองไปยังชีวิตของพระนางในฐานะสตรี เจ้าสาว มารดาและสานุศิษย์ เพียงแต่ด้วยการมอบตนไว้ มาเดอร์ก็สามารถค�้ำจุนความรับผิดชอบในการปลุกเร้าใจ และการปกครองคณะ ร่วมกับคณะทีป่ รึกษากลาง มาเดอร์ พยายามรือ้ ฟืน้ การตอบ “ค่ะ” ในแต่ละวัน เพือ่ ตระหนัก ถึงการรับใช้ ความต้องการแห่งชีวิตและความยินดีของ ธมอ. เพื่ อ ว่ า พวกเขาด้ ว ยจะสามารถให้ ก� ำ เนิ ด ชี วิ ต ท่ามกลางเยาวชนในยุคสมัยนี้ ความรับผิดชอบได้เรียกร้อง มาเดอร์ ใ ห้ เ ป็ น สายสั ม พั น ธ์ แ ห่ ง ความเป็ น หนึ่ ง และ เครื่องหมายแห่งเอกภาพส�ำหรับทั่วทั้งคณะ โดยเป็น ประกั น ถึ ง ความซื่ อ สั ต ย์ ต ่ อ พระพรพิ เ ศษที่ ไ ม่ ห ยุ ด นิ่ ง สืบทอดจากมาเดอร์มัสซาแรลโล ซึ่งมาเดอร์เป็นผู้สืบ ต�ำแหน่งของท่านคนที่ 9
ผู้สัมภาษณ์...มาเดอร์จะแนะน�ำอะไรแก่เยาวชน ทีไ่ ม่มนั่ ใจในการติดตามรอยเท้าของมาเดอร์มสั ซาแรลโล มาเดอร์อีวอง...เพื่อจะไม่กลัวและมีความไว้วางใจ มาเดอร์ขอบอกว่า “จงยินดีเถิด อย่ากลัว” เป็นค�ำเตือน ของพันธสัญญาใหม่ที่กล่าวแก่เยาวสตรีผู้หนึ่ง ซึ่งได้สร้าง โครงการชีวิตของตนตามขนบธรรมเนียมประเพณีในยุค สมั ย ของเธอ พระเจ้ า ซึ่ ง ทรงเข้ า มาในชี วิ ต ของมาเรี ย เป็นทีม่ าของความไม่แน่นอนและความซับซ้อน แต่คำ� ตอบ ของ พระนาง เป็นการมอบฝากไว้กับพระองค์ ในส่วนลึก ของแต่ละชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย ก็ด�ำเนินไปด้วยการมอบ ฝากไว้ดังเช่นมาเรียแห่งนาซาแร็ธ องค์ประกอบที่เป็น กุญแจส�ำคัญตามการเข้าใจทั่วไป คือ ถ้าเราอยู่บนหนทาง ที่ถูกต้อง ก็จะเป็นความยินดี “ความยินดี” ตามที่มาเดอร์ มัสซาแรลโลกล่าวคือการมี ดวงใจที่รักพระเจ้ามากเป็น เครื่องหมาย ใครรักพระเยซูเจ้าก็เข้าได้กับทุกคนและ ปรารถนาจะน�ำความรักของตนไปสู่ผู้อื่น
17
ในหลวง...รัชกาลที่ ๙ กับพระอัจฉริยภาพด้านการสื่อสาร น้อมร�ำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ แด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช ส�ำหรับ พระราชกรณียกิจทุกด้านของพระองค์ทา่ น ทีเ่ อือ้ ประโยชน์ สุขอย่างแท้จริงแก่ประชาชนคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิง่ ใน พระอัจฉริยภาพด้านการสื่อสาร ซึ่งฝ่ายสื่อสารมวลชน ในสื่อสาร ธมอ. ฉบับนี้ ขอน้อมน�ำพระมหากรุณาธิคุณมา แบ่งปัน ซึ่งได้คัดน�ำมาจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ได้เขียนไว้ อย่างชัดเจน "การสื่ อ สารเป็ น ปั จ จั ย ที่ ส� ำ คั ญ ยิ่ ง อย่ า งหนึ่ ง ใน การพัฒนาสร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้า รวมทั้งรักษา ความมัน่ คงและความปลอดภัยของประเทศด้วย ยิง่ ในสมัย ปัจจุบัน ที่สถานการณ์ของโลกเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกขณะ การติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ ย่อมมีความ ส�ำคัญมากเป็นพิเศษ ทุกฝ่ายและทุกหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้อง กับการสื่อสารของประเทศ จึงควรจะได้ร่วมมือกันด�ำเนิน งานและประสานผลงานกันอย่างใกล้ชิด และสอดคล้อง ส�ำคัญที่สุด ควรจะได้พยายามศึกษาค้นคว้าวิชาการและ เทคโนโลยีอันทันสมัย ให้ลึกและกว้างขวาง แล้วพิจารณา 18
เลือกเฟ้นส่วนที่ดี มีประสิทธิภาพแน่นอน มาปรับปรุงใช้ ด้ ว ยความฉลาดริ เริ่ ม ให้ พ อเหมาะพอสมกั บ ฐานะ และสภาพบ้านเมืองของเรา เพือ่ ให้กจิ การสือ่ สารของชาติ ได้ พั ฒ นาอย่ า งเต็ ม ที่ และสามารถอ� ำ นวยประโยชน์ แก่การสร้างเสริมเศรษฐกิจ สังคม และเสถียรภาพของ บ้านเมืองได้อย่างสมบูรณ์แท้จริง" ข้อความข้างต้น เป็นพระราชด�ำรัสของพระบาท สมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว ภู มิ พ ลอดุ ล ยเดชฯ ที่ ไ ด้ ท รง พระราชทาน ณ พระต�ำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ เนื่องในโอกาสการจัดงาน วันสื่อสารแห่งชาติครั้งแรก ในปี พ.ศ. ๒๕๒๖ โดยจัดร่วม กับงานครบรอบ ๑๐๐ ปี ของการสถาปนากรมไปรษณีย์ โทรเลขและการเฉลิมฉลองปีการสือ่ สารโลก การสือ่ สารใน ประเทศไทยได้เริม่ ต้นขึน้ เมือ่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาจุ ฬ าลงกรณ์ พระจุ ล จอมเกล้ า เจ้ า อยู ่ หั ว ได้ ท รง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนา "กรมไปรษณีย์และ กรมโทรเลข" ขึ้น เมื่อวันที่ ๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๒๖ และ ได้ทรงแต่งตัง้ ให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรงั ษี
สว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช เป็นผู้ส�ำเร็จ ราชการทัง้ กรมไปรษณียแ์ ละกรมโทรเลขเป็นพระองค์แรก ต่ อ มาในปี พ.ศ. ๒๔๔๑ ทั้ ง ๒ กรมนี้ ได้ ร วมเป็ น กรมเดียวกัน มีช่ือใหม่ว่า "กรมไปรษณีย์โทรเลข" ตลอด ระยะเวลาที่ ผ ่ า นมา กิ จ การสื่ อ สารของไทยได้ พั ฒ นา ก้าวหน้ามาเป็นส�ำดับ มีการจัดตัง้ หน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้องกับ การสื่อสารของทางราชการขึ้นอีกหลายหน่วยงาน เช่น กรมประชาสัมพันธ์ บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จ�ำกัด และองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย เป็นต้น ในส่วนของภาคเอกชน ก็มีบริษัทห้างร้านที่ด�ำเนินกิจการ ด้านการสื่อสารเพิ่มมากขึ้น หน่วยงานเหล่านี้ได้ร่วมกัน สนองพระราชปณิธานในอันทีจ่ ะพัฒนากิจการสือ่ สารของ ประเทศให้เจริญก้าวหน้าตลอดมา จนบัดนี…้ (ทีม่ า : http:// siweb.dss.go.th/sci60/team47/tetch06.htm)
ตลอดระยะเวลาอันยาวนานแห่งการครองราชย์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในรัชกาลที่ ๙ ภาพที่ คนไทยหลายคนคุ้นเคยก็คือ การที่พระองค์ท่านเสด็จ พระราชด�ำเนินไปประกอบพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่เพือ่ ประโยชน์ของพสกนิกรชาวไทยทั่วทุกท้องที่ ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ที่ทุรกันดาร พื้นที่เสี่ยงภัย ฝนตก น�้ำท่วม ดอยสูง ก็ มิได้ทรงย่อท้อ
อุปกรณ์ประกอบพระราชกรณียกิจที่ขาดไม่ได้คือ วิทยุสื่อสาร กล้องถ่ายรูป และแผนที่ โดยเฉพาะวิทยุ สื่อสารนั้น ทรงโปรดมาก ทรงศึกษา ค้นคว้า ทดลอง ทรงตรวจซ่อมและปรับแต่งเครือ่ งวิทยุสอื่ สารทีท่ รงใช้งาน ด้วยพระองค์เอง และพระราชทานค�ำแนะน�ำในการพัฒนา ปรับปรุงระบบวิทยุสื่อสาร ระบบสายอากาศ เพื่อให้ สามารถท�ำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สื่อสารได้ในระยะ ทางไกล ๆ ไม่มีการบกวนระหว่างกัน อันเป็นผลให้กิจการ วิ ท ยุ สื่ อ สารทั้ ง ของหน่ ว ยงานราชการทหาร ต� ำ รวจ พลเรือน และวิทยุสมัครเล่นในสมัยนั้น เจริญก้าวหน้า อย่างมาก เจ้าของบทความนี้ ได้อัญเชิญค�ำแนะน�ำเกี่ยวกับ การน�ำวิทยุสื่อสารออกไปใช้งานในกรณีที่ฝนตก ซึ่งเป็น ความตอนหนึ่ ง ที่ ไ ด้ พ ระราชทานค� ำ แนะน� ำ ไว้ แ ก่ ศู น ย์ ควบคุมข่ายวิทยุอาสาสมัคร หรือ "ศูนย์สายลม" ของกรม ไปรษณีย์โทรเลข โดยทรงใช้พระนามเรียกขานทางข่าย วิทยุสื่อสารนี้ว่า "VR009" อันเป็นนามเรียกขาน ที่กรม ไปรษณีย์โทรเลขในสมัยนั้น ทูลเกล้าฯ ถวาย เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2524 (ในแต่ละข่ายวิทยุสอื่ สารก็มี พระนามเรียก ขานเป็นการเฉพาะในข่ายวิทยุสื่อสารนั้น ๆ แตกต่างกัน ไป อาทิ กส.9, เดโชชัย 1) เมื่อจ�ำเป็นต้องน�ำวิทยุสื่อสารมือถือออกไปใช้งาน ในกรณีที่ฝนตกหรือน�้ำท่วม แล้วเกรงว่า น�้ำจะกระเด็น ใส่เครื่องหรือเครื่องตกน�้ำ พระองค์ท่านได้พระราชทาน ค�ำแนะน�ำไว้วา่ "...(ให้นำ� เครือ่ งวิทยุสอื่ สาร) ใส่ถงุ พลาสติก วิธใี ส่ถงุ พลาสติกก็ถา้ กลัวว่า ตกน�ำ้ ก็ตอ้ งใส่ 2 ชัน้ ใส่เข้าไป แล้วก็ผูกด้วยหนังสติ๊ก แล้วก็ใส่อีกชั้นหนึ่ง กลับหัวกัน 19
แล้วก็ผกู หนังสติก๊ อย่างนัน้ ไม่เข้า ลงทะเลยังได้...อย่างนัน้ เสี ย งก็ อ อกมาได้ ดี พ อสมควร นอกจากบางที จ ะมี กรอบแกรบนิดหน่อย แต่ว่าเปลี่ยนอะไรต่าง ๆ ก็หมุนได้ จากข้างนอก ใส่ถงุ พลาสติกก็สามารถหมุนปุม่ หรือท�ำอะไร ได้หลายอย่าง เสียดายเครื่องก็ต้องระมัดระวังอย่างนั้น... (เครือ่ งทีใ่ ส่ถงุ พลาสติกแล้ว) อาจใส่ในกระเป๋าหรือสะพาย ไว้ก็ได้..."
ในคราวเกิดวาตภัยที่ต�ำบลสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เมื่อ พ.ศ.2539 จัดเป็นอุบัติภัยธรรมชาติ ที่มีความรุนแรง สร้างความเสียหายให้แก่ประชาชนในท้องถิน่ เป็นอย่างมาก พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ อดีตอธิบดีกรมไปรษณียโ์ ทรเลข ผู ้ ซึ่ ง เคยถวายงานด้ า นการสื่ อ สารแด่ พ ระบาทสมเด็ จ พระเจ้าอยู่หัว ได้เล่าไว้ว่า "...มีนักวิทยุอาสาสมัครจ�ำนวน หนึ่ ง ได้ เ สี ย สละเดิ น ทางออกไปช่ ว ยเหลื อ บรรเทา สาธารณภัยครั้งนั้นด้วยความเต็มใจ โดยวางแผนจัดตั้ง โครงข่ายเฉพาะกิจขึ้นในบริเวณที่เกิดเหตุ สามารถเชื่อม ต่อประสานงานกับศูนย์ควบคุมข่าย "สายลม" โดยมีการ รายงานข่าวสถานการณ์ทเี่ กิดขึน้ จริงให้นกั วิทยุอาสาสมัคร ส่วนราชการ และหน่วยงาน ทีเ่ กีย่ วข้องทราบทางวิทยุเป็น ระยะ ๆ เมื่อความได้ทราบถึงพระกรรณพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงติดต่อเข้ามาที่ศูนย์ควบคุมข่าย "สายลม" และได้พระราชทานค�ำแนะน�ำวิธีการจัดข่าย การสื่อสารเฉพาะกิจดังกล่าว โดยให้น�ำรถยนต์ที่ติดตั้ง เครื่องรับ-ส่งวิทยุ เป็นสถานีวิทยุเคลื่อนที่ ไปจอดปฏิบัติ การในบริเวณจังหวัดราชบุรี โดยให้พิจารณาคัดเลือก สถานที่สูง ๆ เพื่อเป็นสถานีถ่ายทอดข้อความการรายงาน ข่าวระหว่างนักวิทยุอาสาสมัครทีก่ ำ� ลังปฏิบตั หิ น้าทีอ่ ยู่ ใน พืน้ ทีเ่ หตุการณ์ กับศูนย์ควบคุมข่าย "สายลม" และนักวิทยุ 20
อาสาสมัครอื่น ๆ ที่มีสถานีวิทยุซึ่งมีประสิทธิภาพ ในการ ท�ำงานสูง สามารถติดต่อสื่อสารได้ในรัศมีไกลเป็นพิเศษ (สถานีวิทยุที่ใช้สายอากาศที่มีแกนสูง รับส่งสัญญาณวิทยุ ในทิศทางเดียว และสามารถบังคับทิศทางของสายอากาศ ได้) "นอกจากนี้ ยังได้พระราชทานค�ำแนะน�ำก�ำชับ เรื่องแบตเตอรีป่ ระจ�ำเครือ่ งวิทยุทใี่ ช้ปฏิบตั งิ านว่า จะต้อง เตรียมแบตเตอรี่ส�ำรองที่ได้ประจุไฟเต็มไว้ไปให้เพียงพอ การบรรจุแบตเตอรี่เข้าในกระเป๋าหีบห่อสัมภาระ จะต้อง ระมั ด ระวั ง ให้ มี ก ารใช้ ฉ นวนหุ ้ ม ห่ อ ขั้ ว แบตเตอรี่ ใ ห้ ดี มิฉะนัน้ อาจเกิดปัญหาท�ำให้แบตเตอรีม่ กี ารลัดวงจรไฟฟ้า ระหว่างขั้วแบตเตอรี่เมื่อไปสัมผัสกับพวงกุญแจ หรือสิ่งที่ เป็นโลหะอื่น ๆ ที่ปะปนอยู่ ท�ำให้ประจุไฟในแบตเตอรี่ ส�ำรองนั้น หมดไปเสียก่อนที่จะน�ำออกมาใช้งาน พระราชกระแสแนะน�ำวิธีปฏิบัติต่าง ๆ ที่พระบาท สมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว ได้ ท รงพระกรุ ณ าพระราชทาน แก่นักวิทยุอาสาสมัครที่จะออกไปปฏิบัติงานทางวิทยุอยู่ นานเกือบครึ่งชั่วโมง ได้สร้างเสริมขวัญและก�ำลังใจให้ แก่ ผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างยิ่ง..." พระมหากรุณาธิคณ ุ ทีพ่ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทรงมีตอ่ พสกนิกรชาวไทยในบางแง่มมุ ทีค่ นไทยหลายคน อาจจะไม่เคยรับรู้มาก่อนเช่นนี้ เป็นความทรงจ�ำที่งดงาม เป็นสิ่งที่ประจักษ์ชัดแล้วว่า ทุกสิ่งที่ทรงกระท�ำนั้น ล้วน เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนชาวไทยโดยแท้... (http://www.dmcr.go.th)
ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ร�ำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
โดย ยุพา ชูลีระรักษ์
พระมารดา “ผู้บรรเทา” พระนางพรหมจารีมารีย์ นอกจากจะทรงเป็นผู้ได้ รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใด ๆ แล้ว พระนางยังทรงเป็น “มารดา” ได้ดีกว่าผู้หญิงทุกคนอีกด้วย เพราะพระนาง ทรงเป็ น มารดาของสมาชิกทั้ง ครบของพระศาสนจักร เฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ยังไม่ได้บรรลุถึงความเป็นหนึ่งเดียว อย่างสมบูรณ์กับพระเจ้า กล่าวคือ ผู้ที่ยังจาริกอยู่ใน ท่ามกลางอันตรายและความทุกข์ยาก ซึ่งบุคคลเหล่านี้ มีทงั้ มนุษย์ทยี่ งั มีชวี ติ อยูใ่ นโลกนีแ้ ละบรรดาวิญญาณในไฟ ช�ำระทั้งหลาย แม้กระทั่งสังคายนาวาติกันที่ 2 เอง ก็ยังได้ เน้นถึงบทบาทหน้าที่แห่งการเป็นผู้ให้ความบรรเทาของ พระนางมารียต์ อ่ บุคคลเหล่านีด้ ว้ ย อาศัยการเสนอวิงวอน ขอต่อพระเจ้าแทน เฉพาะอย่างยิ่งส�ำหรับวิญญาณใน ไฟช�ำระที่ไม่สามารถท�ำอะไรเพื่อตนเองได้อีกต่อไปแล้ว จึงต้องเฝ้ารอคอยความช่วยเหลือแต่เพียงอย่างเดียว
พระนางมารี ย ์ เ องได้ ยื น ยั น ถึ ง บทบาทหน้ า ที่ นี้ ผ่านทาง นักบุญบรียิดแห่งสวีเดนว่า “เราคือมารดาของ ทุกวิญญาณทีอ่ ยูใ่ นไฟช�ำระ เพราะตลอดเวลาเราได้ภาวนา วิงวอนขอต่อพระเจ้า เพื่อทุเลาบรรเทาความทุกข์ทรมาน มากมายของวิญญาณเหล่านั้น พระเจ้าทรงพอพระทัย เช่นนี้ พระองค์จึงทรงให้พวกเขาได้ลดความทุกข์ทรมาน ลงบ้างจากการลงโทษแห่งพระยุตธิ รรมอย่างเคร่งครัดของ พระเจ้า”(Revelationes, 138) ซึ่งความทุกข์เหล่านั้นจะ ปรากฏใน 3 รูปแบบคือ ทางหู ทางตา และด้วยไฟที่ร้อน แรงมากสุดจะทนทานได้ แต่อาศัยค�ำเสนอวิงวอนของ พระมารดามารีย์ วิญญาณเหล่านั้นจึงได้รับความบรรเทา ให้ความทุกข์เบาบางลง... เพียงแค่ได้ยินพระนามของ พระนางมารีย์ พวกเขาก็รู้สึกชุ่มชื่นขึ้นแล้ว นักบุญอัลฟองโซ มารีย์ เดอ ลิกัวรี (ค.ศ. 16961787) ได้ เขี ย นไว้ ว ่ า บรรดาผู ้ ที่ มี ค วามศรั ท ธา ต่ อ พระมารดานั้ น คื อ ผู ้ มี ค วามสุ ข ยิ่ ง นั ก ตั้ ง แต่ ใ นโลกนี้ พวกเขาก็ได้รับความช่วยเหลือจากพระนาง และแม้อยู่ใน ไฟช�ำระ พวกเขาก็ยงิ่ ได้รบั การดูแลและได้รบั ความบรรเทา มากขึน้ อีก เพราะเหตุวา่ พวกเขาอยูใ่ นสภาพ ทีไ่ ม่สามารถ จะท�ำอะไรเพื่อช่วยเหลือตนเองได้เลย เมื่อใดเล่าที่ความช่วยเหลือของพระนางมารีย์จะ ปรากฏในรูปแบบที่พิเศษกว่า... ซิสเตอร์เปาลา แห่งนักบุญเทเรซา ผู้ก�ำลังอยู่ในขั้น “คารวียะ” (Venerabile) ได้แบ่งปันว่า วันเสาร์คือวันที่ พิ เ ศษกว่ า ส� ำ หรั บ ดวงวิ ญ ญาณที่ มี ค วามศรั ท ธาต่ อ พระมารดาของพระเจ้า เพราะจะเป็นวันแห่งความบรรเทา มากกว่าวันอื่น ๆ แต่วันที่พิเศษสุดนั้นก็คือ วันสมโภช พระนางมารีย์ รับเกียรติเข้าสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ
21 21
จะเป็นวันแห่งอิสรภาพที่ยิ่งใหญ่ส�ำหรับวิญญาณในไฟ ช�ำระที่ศรัทธาต่อพระมารดา เพราะในวันนั้นวิญญาณ มากมายจะได้รับพระราชทานอภัยโทษและได้ไปสวรรค์ นี่คือปาฏิหาริย์ที่วิญญาณได้รับจากความช่วยเหลือของ พระนางมารีย์ พระมารดาแห่งความบรรเทา
นักบุญโฟสตีนา โควัลสกา (ค.ศ. 1905-1938) เป็นผู้หนึ่งที่เราทราบจากชีวประวัติว่า เธอได้เสวนากับ พระเยซูเจ้าอยู่บ่อย ๆ ได้เขียนไว้ในสมุดบันทึกว่า “ฉัน ได้ถามพระเยซูเจ้าว่า “ลูกจะต้องภาวนาเพื่อใครอีก” พระเยซูเจ้าทรงตอบฉันว่า ในคืนต่อไปเราจะให้เธอรูว้ า่ จะ ต้องภาวนาเพือ่ ใคร ฉันเห็นทูตสวรรค์ประจ�ำตัว ทีบ่ อกฉัน ให้ติดตามท่านไป ทันใดนั้น ฉันก็พบตัวเองอยู่ในที่ที่มี ควันหนาทึบ มีไฟลุกท่วม ณ ทีน่ นั้ มีวญ ิ ญาณทีท่ กุ ข์ทรมาน อยู่เป็นจ�ำนวนมากมายมหาศาล วิญญาณเหล่านั้นล้วน ภาวนาด้วยความร้อนรน แต่ก็ไม่เกิดผลอันใด ต่อตนเอง 22
มีแต่พวกเราเท่านัน้ ทีจ่ ะช่วยพวกเขาได้ เปลวไฟทีแ่ ผดเผา พวกเขานั้นไม่ได้ท�ำอะไรแก่ฉัน ทูตสวรรค์ยังคงน�ำทางฉัน อยู่ตลอดเวลา ฉันถามวิญญาณเหล่านั้นว่า ความทุกข์ ทรมานทีใ่ หญ่ทสี่ ดุ คืออะไร พวกเขาตอบเป็นเสียงเดียวกัน ว่า สิง่ ทีท่ ำ� ให้พวกเขามีความทุกข์ทรมานทีย่ งิ่ ใหญ่ทสี่ ดุ คือ ความปรารถนาอันแรงกล้าทีจ่ ะพบกับ พระเจ้า ฉันมองเห็น แม่พระทีเ่ สด็จเยีย่ มเยียนวิญญาณในไฟช�ำระ พวกเขาขาน นามพระนางว่า “ดาราสมุทร” เพราะพระนางทรงน�ำ ความบรรเทาไปให้ แ ก่ พ วกเขา ฉั น อยากจะพู ด คุ ย กั บ พวกเขานานอีกสักหน่อย แต่เทวทูต ได้บอกให้ฉันออก ไปจากที่นั่น เราจึงได้ออกมาจากประตูของคุกแห่งความ ทุกข์นั้น ฉันได้ยินเสียงแว่วมาจากห้วงลึกของใจที่บอกว่า ความเมตตากรุณาของเราไม่ได้ต้องการสิ่งนี้ แต่เป็น การเรียกร้องจากความยุติธรรม ตั้งแต่นั้นมา ฉันจึงมี ความใกล้ชิดมากขึ้นกับวิญญาณในไฟช�ำระ...” นีจ่ งึ เป็นอีกหนึง่ เสียงทีย่ นื ยันว่า พระนางพรหมจารี มารีย์ทรงเป็นผู้ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับวิญญาณในไฟ ช�ำระเป็นพิเศษ ดังนั้น เราแต่ละคนที่เป็นลูกของพระนาง แล้วตั้งแต่วันที่รับศีลล้างบาป จึงไม่ควรนิ่งเฉยหรือปล่อย ปละละเลยที่จะกระชับสัมพันธ์ฉันบุตรกับพระนางให้ มั่นคงแน้นแฟ้นมากยิ่งขึ้นทุกวัน ตั้งแต่ในโลกนี้ แม้ว่าการ มองในมุมนี้อาจจะดูเหมือนเป็นความเห็นแก่ตัวไปสักนิด แต่ก็แน่นอนว่า เป็นความปรารถนาของแม่พระด้วย ที่จะ ให้ลูกทุกคนของพระนางเจริญชีวิตอย่างดีและประสบ ความส�ำเร็จ ด้วยการน�ำวิญญาณของตนไปสูค่ วามรอดพ้น อย่างไม่ต้องทนทุกข์ทรมานไปตลอดนิรันดร เราหลาย ๆ คนคงจะมีความรัก ความศรัทธาต่อ พระนางมารีย์เป็นอย่างมากอยู่แล้ว จะมีวิธีไหนบ้าง ที่จะ สานสัมพันธ์กบั พระมารดามารียใ์ ห้ลกึ ซึง้ แน่นแฟ้นมากไป กว่าที่เป็นอยู่...?
- การส่งใจถึงพระมารดาบ่อย ๆ เป็นวิธีหนึ่งที่ ง่ายที่สุด ดังเช่นลูกน้อยที่ผูกพันกับแม่ คิดถึงแม่บ่อย ๆ การคิดถึงเช่นนี้ ไม่ใช่ในแบบโรแมนติก ซาบซึ้งตรึงใจ หวนหา แล้วจบเพียงแค่นนั้ ทว่าเป็นความคิดถึงบุคคลเขา ที่รักเราและปรารถนาจะให้เราได้ดี กล่าวคือ ให้เราเป็น คนดี ท�ำสิ่งดี หลีกเลี่ยงความชั่ว เลือกสิ่งที่ดีกว่าตาม แนวทางที่พระเยซูเจ้าทรงสอน อยู่กับปัจจุบัน แต่มองยัง อนาคต แล้วเอาเป้าหมายในอนาคตนัน้ มาพัฒนาคุณภาพ ชีวิตในปัจจุบันให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ - การรั บ ศี ล อภั ย บาปและศี ล มหาสนิ ท ด้ ว ย ความศรัทธาลึกซึ้งอย่างแท้จริง เพราะพระมารดามารีย์ ทรงเป็ น คนกลางระหว่ า งเรามนุ ษ ย์ กั บ พระเยซู เจ้ า พระบุ ต รของพระนาง ความปรารถนาหนึ่ ง เดี ย วของ พระนางก็คือ ให้มนุษย์มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับ พระเยซูเจ้า ยึดพระองค์แต่ผู้เดียวเป็นศูนย์กลางของชีวิต และมิ ใช่ สิ่ ง อื่ น ใดทั้ ง สิ้ น ทุ ก สิ่ ง ที่ พ ระนางทรงกระท� ำ ล้วนมีเป้าหมายนี้เท่านั้นคือ น�ำมนุษย์ทุกคนไปหาองค์ พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงเป็นจุดเริ่มและจุดจบของสรรพสิ่ง ทั้งปวง ผ่านทางพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรของพระนาง ซึง่ ทรงเป็นคนกลางแต่ผเู้ ดียว ศีลศักดิส์ ทิ ธิด์ งั กล่าวเป็นศีล ที่เรารับกันเป็นประจ�ำ เราจึงควรท�ำให้การรับศีลนี้เกิดผล สูงสุดด้วยการสร้างความตระหนักรู้อยู่ตลอดเวลา เฉพาะ อย่างยิง่ ทุกครัง้ ทีเ่ รารับศีลศักดิส์ ทิ ธิท์ งั้ สองนี้ เพราะผลของ ศีลต่อวิญญาณของเรานัน้ ยิง่ ใหญ่นกั แต่ทงั้ นีท้ งั้ นัน้ ก็ขนึ้ อยู่ กั บ ความรู ้ ตั ว และความตั้ ง ใจของแต่ ล ะคนขณะรั บ ศี ล ศักดิ์สิทธิ์นั้น - การสวดสายประค�ำอย่างศรัทธา เราทราบดี จากการปรากฏของพระนางมารีย์ในหลาย ๆ แห่งว่า พระนาง พอพระทัยให้บุตรของพระนางสวดสายประค�ำ เป็นอย่างยิ่ง การสวดสายประค�ำด้วยความศรัทธาร้อนรน
จะช่วยตัวเราเองและผูอ้ นื่ ได้อย่างมากมาย เพราะปัจจุบนั พระศาสนจักรสอนเราว่า การสวดสายประค�ำ พร้อมกับ การร�ำพึงถึงธรรมล�้ำลึกทั้ง 4 ภาคนั้น เป็นการร�ำพึงถึง ธรรมล�้ำลึกทั้งครบของพระเยซูคริสตเจ้า ดังนั้นการสวด สายประค�ำบ่อย ๆ จึงเป็นโอกาสให้เราได้ใกล้ชดิ กับพระเจ้า และเข้าลึกในพระธรรมล�้ำลึกของพระองค์มากขึ้นเรื่อย ๆ ผ่านทางการขานพระนามพระมารดามารีย์ซ�้ำ ๆ บ่อย ๆ ใน “บทวันทามารีย์” ถ้าสังเกตให้ดีเราจะพบว่า ค�ำกล่าว นีส้ อดคล้องตรงกันกับความเชือ่ ถือและค�ำแนะน�ำทีม่ มี าแต่ อดีตว่า ในวันสมโภชพระนางมารีย์รับเกียรติเข้าสู่สวรรค์ ทั้งกายและวิญญาณนั้น ให้เราสวดสายประค�ำให้ได้ถึง 15 สาย ซึ่งเราอาจท�ำกันมาตามธรรมเนียมปฏิบัติโดยที่ ไม่ทราบอย่างชัดเจนนัก ถึงสาเหตุและผลที่จะได้ แต่จาก การศึกษานี้ เราพอจะพบความสัมพันธ์วา่ ในวันทีเ่ ราฉลอง แม่พระได้เข้าสูส่ วรรค์นนั้ พระนางจะน�ำวิญญาณมากมาย ไปสวรรค์ พ ร้ อ มกั บ พระนางด้ ว ย จึ ง เป็ น ที่ แ น่ น อนว่ า การสวดสายประค�ำนัน้ ผูส้ วดจะได้อานิสงส์จากการได้ชดิ สนิ ท กั บ พระและแม่ พ ระมากขึ้ น ในเวลาเดี ย วกั น จะ สามารถช่วยผู้อื่นได้อย่างมากมายเช่นเดียวกัน เป็นที่ชัดเจนว่า วิธีทั้งสามซึ่งได้กล่าวมาข้างต้นนี้ ไม่ใช่เรือ่ งใหม่เลย เป็นสิง่ ทีเ่ ราท�ำกันอยูเ่ ป็นประจ�ำอยูแ่ ล้ว 23
จึงไม่ใช่ส่ิงยากที่จะหาเวลามาปฏิบัติ ไม่จ�ำเป็นต้องขอ อนุญาตท�ำโครงการใหม่ ๆ เพือ่ เสริมความศรัทธา เพียงแค่ ท�ำให้สิ่งที่ปฏิบัติอยู่แล้วนั้นมี “คุณภาพ” มากขึ้น อาจจะ โดย ใส่ใจ ให้เวลา ให้คุณค่า ตั้งใจ ฯลฯ มากขึ้น และลด หรือค่อย ๆ ก�ำจัดตัวแปรที่เป็นอุปสรรคท�ำให้กิจศรัทธา นั้นบรรลุถึงเป้าหมายแท้จริงลง เพราะจริง ๆ แล้วสิ่งที่เรา กล่ า วมานี้ มี คุ ณค่าในตัว เองอยู่แ ล้ว –เช่น เดียวกับศีล ศัก ดิ์ สิทธิ์ - แต่ จะเกิด ผลเท่าไรนั้น ขึ้นกับตัว ผู้รับหรือ ผู้ปฏิบัติมากกว่า นอกจากวิธีทั้งสามที่เสนอมาแล้ว ยังมีอีกมากมาย หลายวิธีที่จะช่วยส่งเสริมความรักความศรัทธาของเราต่อ แม่พระได้ เพียงแต่ขอให้เรามีความรักต่อพระนางเป็น พืน้ ฐานส�ำคัญ เมือ่ มีความรักแล้ว ความคิดริเริม่ สร้างสรรค์ มากมายก็จะตามมา... การท�ำเช่นนี้เป็นที่พอพระทัยของ
24
พระเยซูเจ้าอย่างแน่นอน เพราะพระองค์ทรงปรารถนาให้ มนุษย์มากมายรัก “แม่” ของพระองค์ ด้วยเหตุทพี่ ระองค์ ได้ทรงมอบพระนางให้มารดาของมนุษย์ ทั้งปวง ณ แทบ เชิงกางเขน (เทียบ ยน. 19:25-27) เรามีความเชื่อมั่นอย่างลึกซึ้งว่า พระนางมารีย์ ทรงเป็น “ผู้บรรเทา” ทั้งส�ำหรับผู้เป็นและผู้ตาย เพราะ ความเป็นมารดา พระนางจึงไม่สามารถปล่อยลูกของ พระนางให้อยู่ในความทุกข์ทรมานโดยนิ่งดูดายได้ แต่เรา ซึ่งจาริกอยู่ในโลกนี้ ยังอยู่ในสภาพที่สามารถจะให้ความ ช่วยเหลือแก่ตนเองและแก่วิญญาณในไฟช�ำระได้ เราจึง ควรจะเจริญชีวิตอย่างกระตือรือร้น ดังผู้เป็น “มือขวา” ของแม่พระ ในการมอบความปลอบโยนและความบรรเทา แก่ผู้ทุกข์ยาก ทั้งที่ยังอยู่ในโลกนี้และบรรดาผู้ล่วงลับ ที่รอคอยความช่วยเหลือของเราอยู่
วันวาน... กลับมาพบกันอีกครัง้ ในคอลัมน์ “วันวาน” ในฉบับนี้ เราจะพาท่านผู้อ่านไปพบกับความเป็นมาของการเขียน ประวัติเรื่องราวของคณะ (Storiografia) วิธีการที่ ธมอ. ได้ใช้เขียนประวัติศาสตร์ของตนพร้อมกับการไตร่ตรองใน บางแง่มุม เป็นระยะเวลายาวนานกว่า 100 ปีมาแล้ว ที่พวกเขาไม่เพียงแต่เริ่มเก็บรวบรวมข้อมูล และบอกเล่า เรื่ อ งราวชี วิ ต ในช่ ว งเริ่ ม แรก พวกเขายั ง ได้ ตี ค วาม จัดระเบียบและการสอนเกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านั้น Morrou J. แบ่ ง การเขี ย นประวั ติ ศ าสตร์ (Storiografia) ออกเป็นการเล่าเรื่องราวชีวิตที่ผู้คนได้ ด�ำเนินมา un passato vissuto และเล่าเรือ่ งราวทีผ่ เู้ ขียน เขียนจากการตีความ un passato rivissuto dallo storico ในแง่ ที่ ป ระวั ติ ศ าสตร์ เ กิ ด จากการน� ำ ข้ อ มู ล ที่ ไ ด้ ม า ประติ ด ประต่ อ เป็ น เรื่ อ งราว มี ก ารตี ค วาม และค้นหาความส�ำคัญของเหตุการณ์นั้น ๆ และเชื่อมโยง กับเหตุการณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
อะไรคื อ สาเหตุ ข องวิ วั ฒ นาการในการเขี ย น ประวัติเรื่องราวของคณะ
การเปลีย่ นตัวบุคคล ทีท่ ำ� การบันทึกประวัตศิ าสตร์ และการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ทางสังคม ทุกวันนี้เราให้ ความส�ำคัญกับการค้นคว้าหาหลักฐานเชิงประวัติศาสตร์ มากขึ้น ในคณะของเราก็เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิธีการเขียนประวัติศาสตร์ในปัจจุบัน จะค�ำนึงถึงเกณฑ์ ใหม่ ๆ อาทิ การใส่ใจกับ “เรื่องราวของชีวิตประจ�ำวัน และความเป็นรูปธรรม” รายละเอียดซึ่งต้องไม่หยุมหยิม จนเกินไป ข้อขัดแย้งต่าง ๆ ความเข้มของเสียงที่ใช้ใน
การเล่า ที่ซ่อนอยู่หรือที่ถูกหลงลืมไป เขียนประวัติศาสตร์ โดยไม่เพียงห่วงจะเล่าแต่ว่า ได้ท�ำอะไรหรือมีเหตุการณ์ อะไรที่ เ กิ ด ขึ้ น แต่ สื่ อ ถึ ง ความสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า งบุ ค คล ไม่เฉพาะผู้ที่มีบทบาทเอก แต่รวมถึงผู้ที่อยู่ในบทบาทรอง อื่น ๆ ด้วย การเปลี่ยนทัศนะในการศึกษาตามสาขาที่ศึกษา เช่น ด้านประวัติเรื่องราวของบุคคล ด้านเทวศาสตร์ และด้านประวัตศิ าสตร์เชิงวิพากษ์ ฯลฯ การศึกษาค้นคว้า ทางด้านประวัตศิ าสตร์มใิ ช่เพียงการสะท้อนเรือ่ งราว ที่ ไร้ ชีวิต แต่เป็นการค้นคว้าหาความหมายอย่างมีจุดมุ่งหมาย เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ การกระตุ้น ปลุกเร้าใจ และเป็นการวางโครงการสู่อนาคต การค้นพบแหล่งข้อมูลใหม่ ๆ ซึง่ เปิดสูก่ ารค้นคว้า ในวงกว้างและลึกกว่า ท�ำให้มีการตรวจสอบข้อมูลเดิมที่มี การยืนยันไว้ ในคณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ การเขียนประวัติ เรือ่ งราวของคณะในรอบ 10 ปีนี้ มีววิ ฒ ั นาการทีเ่ ด่นชัดทัง้ ในด้านเนื้อหาและการด�ำเนินเรื่อง สังเกตได้จากขั้นตอน ต่าง ๆ ได้ดังนี้ 1. การถ่ายทอดเรือ่ งราวของคณะด้วยการเล่าสืบ ต่อกันมา ก า ร ถ ่ า ย ท อ ด เรื่ อ ง ร า ว ค ว า ม ท ร ง จ� ำ ท า ง ประวัติศาสตร์และชีวิตจิตของผู้ตั้งคณะ ส่วนใหญ่อยู่ใน รูปแบบ การเล่าสืบต่อกันมา ความทรงจ�ำในระยะแรกเริม่ ของคณะ ฝั ง แน่ น อยู ่ ใ นชี วิ ต ความเป็ น อยู ่ ข องคณะ ของเรา
25
มีการพูดถึง แหล่งข้อมูลที่เป็นลายลักษณ์อักษร ค่อนข้างน้อยมาก อาจไม่ได้ค�ำนึงว่ามีอยู่ด้วยซ�้ำไป 2. เรือ่ งราวของคณะทีถ่ กู ร่างไว้ (ปี 1887-1897) ในคณะเราไม่อาจพูดถึง “ความทรงจ�ำขาดหายไป” เหมือนกับคณะนักบวชยุคแรก ๆ หลายคณะ ที่ต้องสืบค้น หาต้นก�ำเนิดของคณะ ซึ่งอยู่ระหว่างต�ำนานเรื่องเล่าและ ความเป็นจริงที่มีการกล่าวอ้างถึงการตั้งคณะของพวกเขา ตั้งแรกเริ่มของคณะ ธมอ. ได้มีการเก็บหลักฐาน เกี่ยวกับต้นก�ำเนิดของคณะ แม้ว่าจะไม่มากมายเหมือน คณะซาเลเซียน แต่ก็นับได้ว่า เป็นเอกสารที่มีหลักฐาน นักประวัติศาสตร์บางท่านถึงกับพูดถึง “เอกสารที่เก็บ ชั ด เจนเพี ย งพอ เพื่ อ ที่ จ ะเข้ า ใจและน� ำ มาเขี ย น รวบรวมจากการเล่าต่อ ๆ กันมา” เพื่อจะหมายถึง ธรรม ประวัติศาสตร์ได้ ประเพณี ซึ่ ง กลั บ กลายเป็ น เอกสารส� ำ คั ญ ทางด้ า น ประวัติศาสตร์ของคณะ คุณพ่อ Pietro Braido ได้ให้ข้อ สังเกตว่า แน่ละ่ ประสบการณ์ชวี ติ ถือได้วา่ เป็นแหล่งข้อมูล ยิ่งกว่านั้นยังเป็นเอกสารส�ำคัญทางประวัติศาสตร์ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะถอดรหัสเพื่อเข้าใจ เพราะเหตุนี้เราอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะหยุด อยู่ที่เพียง บางส่ วนโดยขาดภาพรวม หรือมองรายละเอียดแบบ เหมารวม ในสมั ย แรกเริ่มของคณะ การอบรมก็ใช้วิธีการ เดียวกันนี้คือ นวกจารย์จะถ่ายทอดพระพรพิเศษหรือ แหล่งข้อมูลแรก (Le fonti primarie) ซึ่งเป็น มรดกฝ่ายจิตของผูต้ งั้ คณะให้กบั นวกเณรี โดยการเล่าสิง่ ที่ บรรดา ธมอ. ได้ ก ระท� ำ และวิ ธี ก ารที่ พ วกเขาได้ ใช้ เอกสารทีท่ รงคุณค่าของคณะ คือ จดหมายจ�ำนวน 68 ฉบับ ที่ ม าเดอร์ มั ส ซาแรลโลเขี ย น ระหว่ า งปี 1874-1881 ในศูนย์เยาวชน กิจการโรงเรียน และในภารกิจอื่น ๆ เรือ่ งราวแรกเริม่ ของคณะ จะยกย่องคุณพ่อบอสโก จดหมายเหล่านี้สอดคล้องกับแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ที่มีการ เป็นพิเศษ เล่าถึงสิ่งที่คุณพ่อกระท�ำพรสวรรค์ อัศจรรย์ กล่าวถึงหมู่คณะแห่งแรกของ ธมอ. และความสัมพันธ์ที่ ต่าง ๆ รวมถึงพระญาณเอื้ออาทรของพระเป็นเจ้าที่มีต่อ คณะมีกับคณะซาเลเซียน พระสังฆราช หรือคณะนักบวช ท่าน เกี่ยวกับมาเดอร์มัสซาแรลโล ก็จะกล่าวถึงคุณธรรม คณะอืน่ และกับทางบ้านเมือง เป็นแหล่งข้อมูลทีเ่ กีย่ วข้อง ต่าง ๆ ของท่าน เช่น ความสุภาพ ความนอบน้อมเชื่อฟัง กับคุณพ่อบอสโก คุณพ่อเปสตารีโน ส�ำนักพระสังฆราช ความซือ่ สัตย์ตอ่ คุณพ่อบอสโก ศิลปะในการปกครองคณะ ของ Acqui จิตตาธิการซาเลเซียนสมัยแรกเริ่มของคณะ ความรักต่อเยาวชนหญิง ความเคร่งครัดในการปฏิบัติ บรรดาสมาชิก ธมอ. บรรดานวกเณรี รวมทัง้ นักเรียนประจ�ำ ฯลฯ พระวินัยของคณะ 26
ในสมัชชาครั้งแรกของคณะปี 1884 ที่ประชุมได้ เห็นความส�ำคัญที่จะเขียนประวัติเรื่องราวของหมู่คณะ ตามบ้านต่าง ๆ เพื่อน�ำมาใช้ในการเขียนประวัติเรื่องราว ของคณะ โดยให้มีการรวบรวมเหตุการณ์ส�ำคัญ ๆ ของ แต่ละบ้าน การเปิดบ้านใหม่ อนุสรณ์สถาน และอื่น ๆ เพื่อน�ำมาเขียนสอดแทรกบันทึกไว้ใน “บันทึกเหตุการณ์ ของคณะ (Cronistoria)” ในสมัชชาครั้งที่สองของคณะปี 1886 ได้มีการ ก�ำหนดให้ทกุ หมูค่ ณะเขียนบันทึกเหตุการณ์บา้ น (Cronaca) ซึ่งต้องมีลายมือชื่อของอธิการิณีของบ้านและลายมือชื่อ ของสมาชิกอีกท่านหนึ่งรับรอง
ลายมือในชือ่ ว่า “สมุดบันทึกเหตุการณ์ของคณะใหม่ คณะ ธิดาแม่พระองค์อปุ ถัมภ์ – มอร์เนเซ 1872” ใน 2 หน้าแรก มีการบันทึกสรุปเกี่ยวกับการตั้งคณะ และอีก 20 หน้าต่อ มาเป็นเรือ่ งราวเกีย่ วกับชือ่ บุคคลและภารกิจต่าง ๆ ในสมัย แรกเริ่มของคณะ (1872-1881) ซึ่งเราพบว่า แต่ละหน้าก็ มีรอ่ งรอยการตรวจแก้ไขของ ซิสเตอร์ Rosalia Pestarino และ Madre Clelia Genghini (หนึง่ ในคณะทีป่ รึกษาและ เลขานุการของคณะ ปี 1913) และต้น ๆ หน้าแรกมีเขียน ค�ำว่า “ไม่ใช้” นั่นหมายความว่า ได้มีการคัดลอก 20 หน้า ข้างต้นและ เรียบเรียงใหม่ในบันทึกเล่มใหญ่ (Grande registro) ซึ่งคุณพ่อบอสโกปรารถนาให้แต่ละปี มีการน�ำ ข้อมูล จากบันทึกเหตุการณ์ระดับบ้านมารวมในบันทึกเล่ม ใหญ่และส่งให้กับศูนย์กลางของคณะ ในหน้าแรก ๆ ของบันทึกเหตุการณ์เล่มใหญ่นี้ เรายังพบว่า มีการแก้ไขเรียบเรียงใหม่ในแบบที่กว้างกว่า จากลายมือทราบได้ว่าเป็น Madre Emilia Mosca (Consigliere scolastiche) ทีไ่ ด้เขียนตัง้ แต่วนั ที่ 6 กันยายน 1893 ถึงวันที่ 4 กันยายน 1896 แม้ในบันทึกเล่มใหญ่นี้ก็ ยังมีการแก้ไขและเสริมเติมบางจุดด้วยลายมือของ ซิสเตอร์ Clelia Genghini การเขียนบันทึกเหตุการณ์นี้ มิได้แบบ เขียนวันต่อวัน แต่เขียนขึ้นภายหลัง อาจเป็นเพราะเพื่อ เตรียมส�ำหรับครบ 25 ปีแห่งการก่อตั้งคณะ (1897) ในสมัชชาครัง้ ทีส่ ามของคณะปี 1892 ทางคณะเห็น ความจ�ำเป็นที่จะให้มีบุคคลหนึ่งที่รับผิดชอบเขียนบันทึก เหตุ ก ารณ์ ต ามจริ ง เพื่ อ เป็ น ประวั ติ ศ าสตร์ ข องคณะ ก�ำหนดให้มีการระบุเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับช่วงเวลานั้น เหตุการณ์บ้านเมือง เหตุการณ์พระศาสนจักร อุปสรรคที่ พบหรื อ การสนั บ สนุ น ที่ ไ ด้ รั บ โดยให้ เ หตุ ผ ลของสิ่ ง ที่ ซิสเตอร์ Rosalia Pestarino หลานของคุณพ่อ เกิดขึ้น ….. (อ่านต่อฉบับหน้า...) Domenico Pestarino จิตตาธิการคนแรกของคณะธิดา แม่พระองค์อุปถัมภ์ ร่วมกับคุณครูท่านหนึ่งในกลุ่มแรก ๆ ได้รับหน้าที่รวบรวมและบันทึกภารกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง กับการก่อตั้งคณะในช่วงเริ่มต้นคณะที่มอร์เนเซ บันทึก เหตุการณ์บ้านหรือ Cronaca เล่มแรกนี้ ถูกเขียนขึ้นด้วย 27
เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
เวลาของการเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า เป็น ช่ ว งเวลาเริ่ ม ต้ น ของปี พิ ธี ก รรม ในระหว่ า งที่ เ ตรี ย ม การสมโภช การบังเกิดมาของพระเยซูเจ้า เทศกาลนีน้ ำ� เรา ให้ระลึกถึงการรับเอากายเป็นมนุษย์ของพระบุตรของ พระเจ้า ในฐานะ “พระผู้ไถ่” ในขณะเดียวกัน เป็นเวลาที่ เตรียมจิตใจเพือ่ เปิดสูก่ ารรอคอย การเสด็จมาครัง้ ที่ 2 ของ พระคริสตเจ้าในวาระสุดท้าย ซึ่งพระองค์จะเสด็จมาดัง “ผู้พิพากษาอันชอบธรรม” นี้คือ เวลาแห่งการรอคอย การกลับใจ ความชื่นชมยินดีและการต้อนรับ เพือ่ การเตรียมตัวสูก่ ารเฉลิมฉลองพระคริสตสมภพ เชิญชวนเราเลียนแบบท่าทีจากองค์ประกอบต่าง ๆ ของ ถ�้ำพระกุมาร พระนางมารี ย ์ พระมารดาของพระเยซู เ จ้ า ขอโมทนาพระคุณในการตอบรับโครงการแห่งการบังเกิด
28
มาเป็นมนุษย์ของพระเยซูเจ้า โดยพระนางมารียต์ อบรับว่า “ข้าพเจ้าคือผู้รับใช้ของพระเจ้า จงเป็นไปกับข้าพเจ้าตาม วาจาของท่านเถิด” ให้เราเพ่งสายตายังพระนาง เลียนแบบ ในความเงียบสงบ พระนางมารียท์ รงเก็บเรือ่ งทัง้ หมดไว้ใน พระทัยและยังทรงค�ำนึงถึงอยู่ พระนางมารีย์ทรงเฝ้า รอ คอยเป็นเวลา 9 เดือน เพื่อมอบพระเยซูเจ้าเป็นของขวัญ แก่โลก เราเช่ น เดี ย วกั น จงมอบพระเยซู เ จ้ า แก่ โ ลก และระลึกถึงพระวาจาของพระองค์อยู่เสมอ หากเราจะ กระท�ำสิ่งใด จงเปิดใจต้อนรับพระองค์ ให้พื้นที่ในดวงใจ ของเราแด่พระองค์ ทูตสวรรค์ ทูตสวรรค์ผนู้ ำ� ข่าวดี ได้กล่าวแก่คนเลีย้ ง แกะว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเราน�ำข่าวดีมาบอกท่าน ทั้ ง หลาย เป็ น ข่ า วดี ที่ จ ะท� ำ ให้ ป ระชาชนทุ ก คนยิ น ดี
อย่างยิ่ง วันนี้ในเมืองของกษัตริย์ดาวิด พระผู้ไถ่ ประสูติ เพื่อท่านแล้ว พระองค์คือ พระคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้า ท่านจะรูจ้ กั พระองค์ ได้จากเครือ่ งหมายนี้ ท่านจะพบกุมาร คนหนึ่ ง มี ผ ้ า พั น กายนอนอยู ่ ใ นรางหญ้ า ” ทั น ใดนั้ น ทูตสวรรค์อีกจ�ำนวนมากปรากฏ มาสมทบกับทูตสวรรค์ องค์นั้น ร้องสรรเสริญพระเจ้าว่า “พระสิริรุ่งโรจน์จงมีแด่ พระเจ้าในสวรรค์สงู สุด และบนแผ่นดิน สันติจงมีแก่มนุษย์ ที่พระองค์โปรดปราน” เหมื อ นดั ง เช่ น ทู ต สวรรค์ ให้ เราน� ำ ข่ า วดี แ ห่ ง การบังเกิดมาของพระผูไ้ ถ่โลก และจงประกาศเครือ่ งหมาย ของการประทับอยู่ของพระองค์ ดังนี้ พระเยซูเจ้า พระองค์ทรงประทับอยู่ในใจของผู้ที่ รู้จักรักทุกคน พระเยซู เจ้ า เราจะสามารถพบกั บ พระองค์ ใ น พระวาจาของพระองค์ พระเยซูเจ้า เราจะพบกับพระองค์ในศีลศักดิ์สิทธิ์ พระเยซู เจ้ า เราจะพบกั บ พระองค์ ใ นพี่ น ้ อ งซึ่ ง หิวกระหาย ไม่มีที่อยู่อาศัย ทุกข์ยากล�ำบาก ผู้ที่ต้องการ รอยยิ้มและการใส่ใจ เราทั้งหลายจงเข้ามาพบปะกับพระองค์ในพิธีบูชา มิสซาแล้วนัน้ เราจะจดจ�ำพระองค์ได้ในพีน่ อ้ งทีเ่ ราพบกับ เขาในเส้นทางแห่งชีวิตประจ�ำวัน คนเลี้ยงแกะ ทูตสวรรค์กล่าวแก่คนเลี้ยงแกะว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเราน�ำข่าวดีมาบอกท่านทัง้ หลาย เป็น ข่าวดีทจี่ ะท�ำให้ประชาชนทุกคนยินดีอย่างยิง่ วันนีใ้ นเมือง ของกษัตริยด์ าวิด พระผูไ้ ถ่ ประสูติ เพือ่ ท่านแล้ว พระองค์ คือ พระคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้า ท่านจะรู้จักพระองค์ได้ จากเครื่องหมายนี้ ท่านจะพบกุมารคนหนึ่งมีผ้าพันกาย นอนอยูใ่ นรางหญ้า” คนเลีย้ งแกะจึงรีบไปและพบพระนาง มารี ย ์ โยเซฟและพระกุ ม ารซึ่ ง บรรทมอยู ่ ใ นรางหญ้ า เมื่อคนเลี้ยงแกะเห็น ก็เล่าเรื่องที่เขาได้ยินมาเกี่ยวกับ พระกุมาร ทุกคนที่ได้ยินต่างประหลาดใจในเรื่องที่คน เลี้ยงแกะเล่าให้ฟัง ให้ เราฟั งพระวาจาของพระเจ้าและปฏิบัติตาม โดยปราศจากข้อสงสัย
จงวิ่งไปหาพระองค์ เพราะพระองค์ทรงรอเราอยู่ ทรงรอเราในบูชามิสซา รอเราในเพื่อนพี่น้อง ที่ทนทุกข์ ที่ ต ้ อ งการ....ทรงรอเรา..... ในความสุ ภ าพถ่ อ มตน ในความต้องการความช่วยเหลือ ในมิตรภาพ เฉพาะใน พระองค์เท่านัน้ ในความรักของพระองค์ เราถึงจะสามารถ กระท�ำสิ่งใหญ่โตได้ ถ�้ำ คือสถานที่ที่เปิดต้อนรับพระเยซูเจ้า แม่พระ และนักบุญโยเซฟ “เมื่อเดินทางไปถึงสถานที่นั้น ก็ถึงเวลาที่พระนาง มารีย์ครบก�ำหนดเวลาจะคลอดบุตร พระนางคลอดบุตร เป็นชาย เอาผ้าพันกายและวางในรางหญ้า เพราะไม่มี ที่ว่างในโรงแรมใด ๆ เลย” ให้เราต้อนรับพระเจ้าผู้ทรงถูกปฏิเสธจากโลก ให้เราต้อนรับพระองค์ ผู้ซึ่งประทับอยู่ในพี่น้องที่ ทนทุกข์และต้องการความช่วยเหลือ ให้ดวงใจของเราเป็น ที่ลี้ภัยแก่พวกเขาและให้พระพรของพระเจ้าอยู่กับเรา ตลอดเส้นทางที่เราจะเดินไป วั ว เป็ น สั ต ว์ ที่ ม นุ ษ ย์ ใ ช้ ป ระโยชน์ ม าตั้ ง แต่ สมัยโบราณ เพื่อช่วยทุ่นแรงในงานหนักและงานด้าน เกษตรกรรม ให้เราเลียนแบบลักษณะของการแบ่งเบา ภาระหนักและความล�ำบากร่วมส่วน ในความล�ำบากของ พระเยซูเจ้าในการเผยแผ่พระวรสารในโลก หัวใจของเรา จงพร้อมทีจ่ ะหันไปยังเพือ่ นพีน่ อ้ งแต่ละคน ผูซ้ งึ่ พระเจ้าได้ วางเขาไว้ต่อหน้า และให้ความอบอุ่นแก่เขาด้วยความรัก ในใจของเรา ลา เป็นสัตว์ที่มนุษย์มองเห็นถึงคุณค่า เนื่องจาก ความสามารถที่ท�ำงานได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เราจง เลียนแบบอย่างในการเป็นคนงานทีไ่ ม่รจู้ กั เหน็ดเหนือ่ ยใน การประกาศพระวาจาของพระเยซูเจ้าให้แก่โลก ให้เรายอม แบกรับภาระหนักของกันและกัน ก้าวเดินไปพร้อมกัน โดยปราศจากความเหนื่ อ ยล้ า และถวายพระเกี ย รติ แด่พระเจ้า
29
ดวงดาวที่ฉายส่อง พระคริสตเจ้าเป็นความสว่าง ส่องโลก ดาวหางเป็นเครื่องหมายแห่งการประทับอยู่ของ พระเจ้าในโลก เราแต่ ล ะคนจะต้ อ งเป็ น เครื่ อ งหมายของการ ประทับอยู่ของพระเจ้าในโลกใบนี้ทุก ๆ วัน และจะต้องชี้ ให้ผู้ที่แสวงหาพระเจ้า พบกับเส้นทางที่พวกเขาสามารถ ค้นพบได้ ดวงดาวไม่ได้กล่าว สิ่งใดแก่บรรดานักปราชญ์ พวกเขาเพี ย งแต่ เ ห็ น ดวงดาวส่ อ งแสงและได้ เ ดิ น ทาง ติดตามดวงดาวไป เราจะต้ อ งเป็ น เช่ น เดี ย วกั น แบบอย่ า งชี วิ ต ที่ ศักดิ์สิทธิ์ของเราจะกล่าวกับโลก โลกไม่ ไ ด้ ต ้ อ งการค� ำ พู ด ใด ๆ แต่ ต ้ อ งการเห็ น พระเจ้า และจะเห็นได้โดยอาศัยแบบอย่างที่ศักดิ์สิทธิ์ ของเรา ที่แสดงออกถึงความรักและความยินดีเท่านั้น นักปราชญ์ นักปราชญ์ทตี่ ดิ ตามดวงดาว และเข้าไป ภายในบ้าน เห็นทารกน้อยและมารดา พวกเขาต่างโน้มตัวลงนมัสการพระองค์ และเปิด ของขวัญที่น�ำมาถวาย ได้แก่ ทองค�ำ ก�ำยาน และมดยอบ เช่ น เดี ย วกั บ บรรดานั ก ปราชญ์ จงให้ ด วงดาวน� ำ ทาง เพื่อเราจะได้พบกับพระเยซูเจ้า เราจะมอบถวายดวงใจ ของเราแด่พระองค์ และวอนขอให้ชีวิตของเราเป็นดังของ
ขวัญเพื่อความรอดของเพื่อนพี่น้อง ลูกแกะ ลูกแกะที่ผู้เลี้ยงน�ำมายังทุ่งหญ้า ในคืนที่พระเยซูเจ้าบังเกิดมา บรรดาคนเลี้ยงแกะ เฝ้าฝูงแกะในทุ่งหญ้านอกเมือง เราเองเป็นดังเช่นแกะน้อยของพระเยซูเจ้า พระองค์ ทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ฝูงแกะคือผูท้ ฟี่ งั พระวาจาของพระองค์ น�ำไปปฏิบตั ิ และเชื่อในพระองค์ หากแกะตัวหนึ่งหายไปจากฝูง พระองค์จะละแกะ ตัวอื่นไว้ และออกตามหาตัวที่หายไป จงปล่อยให้พระเยซู เจ้าเลี้ยงดูเรา ความเชื่อของเราจะไม่มีวันสั่นคลอน แต่จะได้รับ การเสริมก�ำลังให้เข้มแข็งอยู่เสมอ
บทภาวนา
ข้าแต่พระเจ้า ขอโปรดให้เราได้เป็นธรรมทูตแห่งพระวรสารของพระองค์ ขออย่าให้ความเชื่อในพระองค์สูญสิ้นไป แต่ทรงเพิ่มพูนพละก�ำลังให้มีมากยิ่งขึ้นเสมอ ความเชื่อช่วยเราให้ก้าวเดินไปข้างหน้าได้ เราเชื่อถึงพระวจนาตถ์ของพระองค์ และขอให้ทุกสิ่งส�ำเร็จตามพระประสงค์ของพระองค์ บัดนี้ เป็นเวลาที่รอคอย พระองค์จะทรงเสด็จมาพิพากษา เราทั้งหลายต้องตื่นเฝ้าและพร้อมเสมอ บัดนี้ เป็นเวลาแห่งการกลับใจ เปลี่ยนแปลงชีวิต และกลับกลายเป็นคนที่ดีมากขึ้น บัดนี้ เป็นเวลาแห่งความชื่นชมยินดี ให้เรารักพระเจ้า และรักเพื่อนพี่น้องของเรา บัดนี้ เป็นเวลาแห่งการต้อนรับ ให้ดวงใจของเรากลับกลายเป็นเหมือนถ�้ำที่เบธเลเฮ็ม จงต้อนรับพระเยซูเจ้า นักบุญโยเซฟ และแม่พระเข้ามาในดวงใจของเรา พระนางมารีย์จะขับกล่อม นักบุญโยเซฟจะคอยปกป้องและพระกุมารเยซูจะประทานความยินดีใหญ่หลวงแก่เรา 30
เมฆ และ กองทราย
นั้นเคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว เจ้าเมฆน้อยที่ยังลังเลใจ ตัดสินใจเคลื่อนตัวต�่ำลงมา จนกระทั่งเกือบสัมผัสกับ ผืนทราย “เธอก�ำลังท�ำอะไรน่ะ? รีบไปเดี๋ยวนี้!” สายลม ร้ อ งตะโกนไล่ ห ลั ง เมฆน้ อ ย แต่ เ จ้ า เมฆน้ อ ยก็ มิ ไ ด้ เคลื่อนย้ายไปไหน กลับหยุดนิ่งกว่าเดิม และจ้องมองยัง กองทรายที่ดูน่าอัศจรรย์มาก แล้วเจ้าเมฆน้อยก็ค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้าใกล้ กองทรายสีทองที่ก�ำลังต้องลมอยู่นั้น ทีละนิดทีละนิด
โดยปกติ มนุษย์เรามักเคลื่อนที่เข้าหาสิ่งที่เขารู้สึก สั ม ผั ส ถึ ง ความสุ ข เสมอ แต่ บ ่ อ ยครั้ ง การแสวงหานั้ น อาจจะดูเหมือนการไล่ล่าอย่างไม่มีสิ้นสุด ไม่เต็ม ไม่อิ่ม ไม่พอ... แล้วนั่นคือ ความสุขที่แท้จริงหรือ “ความสุข คือ อะไร?” ความหมายของความสุ ข อาจแตกต่ า งกั น ไป บางคนอาจคาดหวังและผูกความสุขไว้กับความส�ำเร็จที่ ใหญ่โต แต่กับบางคน ความสุขของเขาอยู่บนเส้นทาง กองทรายเงยหน้าขึ้น ยิ้มให้กับก้อนเมฆ และกล่าว อยู่ในระหว่างทางเดินที่ทอดยาวไกล เขาสามารถพบ อย่างอารมณ์ดีว่า “หวัดดี” ความน่ารักของกองทรายฉาย ความสุขได้ ในก้าวเล็ก ๆ ของชีวิต เหมือนอย่างเมฆน้อย ส่องจากประกายวับวาวของเธอ ซึง่ ได้ถกู พัดให้เป็นรูปร่าง ก้อนนี้... ตามสายลม มีทั้งส่วนที่กระจัดกระจายและที่รวมตัวกัน มีเมฆกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่ง (เป็นที่ทราบกันแล้วว่า “หวัดดีจา้ ฉันชือ่ โอลา” เมฆน้อยแนะน�ำตัวเองแก่ ชีวิตของเมฆนั้นสั้นมาก ๆ และเคลื่อนที่ตลอดเวลา) ก�ำลัง กองทราย เคลื่อนผ่านเหนือพื้นที่ทะเลทรายสะฮาร่าอันกว้างใหญ่ “ส่วนฉัน ชื่อ หนึ่งเดียว” กองทรายตอบ เมฆผู้เชี่ยวชาญต่างกล่าวกันว่า “วิ่งเร็วเข้า! ถ้าเราหยุดที่นี่ “ชีวิตข้างล่างเป็นไงบ้าง” เราต้องตายแน่ ๆ...” “ก็...มีดวงอาทิตย์ทฉี่ ายส่องลงมา และสายลมร้อน แต่...เมฆก้อนน้อย ยังมีความสงสัย และอยากรู้ อยากเห็นเหมือนกับเด็กทัว่ ๆ ไป จึงปล่อยให้เมฆก้อนอืน่ ๆ นิดหน่อย แต่ก็เรียบง่ายดีนะ และเธอล่ะ” 31
“ชีวิตของฉันเหรอ ทุก ๆ วัน พวกเราก็พบกับดวง เรื่องเล่าช่างดูเรียบง่าย สดชื่น และเปี่ยมด้วยพลัง อาทิตย์และสายลม....มีการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ในท้องฟ้า แห่งมิตรภาพทีง่ ดงาม จริงใจ ...การสละชีวติ เพือ่ เพือ่ น คือ อยู่ตลอดเวลา” ความสุขระหว่างทาง ทีเ่ มฆน้อยตัดสินใจมอบเป็นของขวัญ “อย่างนั้นเหรอ ...ส่วนชีวิตฉันนั้น...สั้นมากเลย ให้กับเพื่อน ที่ก�ำลังรอคอยชื่นชมกับความหมาย แห่งชีวิต เป็นความสุขที่ท้าทายความกล้าหาญ ความเสียสละ และ เมื่อสายลมพัดมา บางทีอาจท�ำให้ฉันหายวับไป” ความรักที่มีอิสรภาพพร้อมจะเลือก ตัดสินใจ ท�ำให้คุณค่า “แล้วเธอเสียใจไหม” ชีวติ ของตนเองเปล่งประกาย กลับกลายเป็นความสุขทีล่ น้ “ก็นิดหน่อย บางครั้งฉันรู้สึกว่า ยังไม่ทันท�ำอะไร ออกสู่ผู้คนรอบข้างด้วยความรักจริงใจ ค�ำพูดเหล่านี้ เลย” อาจเป็นแค่แนวความคิดที่สวยหรูดูดี แต่จะไม่เกิดขึ้นใน “ฉันก็เหมือนกัน ในที่สุด ฉันต้องถูกเปลี่ยนให้เป็น ชีวิตจริงหากไม่มีการลงมือกระท�ำ สายฝนและตกลงไป นั่นคือ ชะตาชีวิตที่แน่นอนที่สุดของ ชีวิตที่มีความหมาย มีคุณค่าและมีความสุข จึง ฉัน” ไม่ขึ้นอยู่กับว่า เขาจะรักษาชีวิตของเขาเพื่อตัวเองได้นาน ุ ค่า และมีความสุข กองทรายหยุดคิด และกล่าวต่อว่า “เธอรู้ไหม เพียงใด แต่...ชีวติ จะมีความหมาย มีคณ ที่ สุ ด เมื่ อ เขายอมที่ จ ะมอบชี วิ ต และส่ ง ต่ อ ความสุ ข นั่นเราเรียกว่า “ฝนจากสวรรค์” เชียวนะ” “จริงเหรอ! ฉันไม่รู้มาก่อนว่า ฉันเป็นอะไรที่ส�ำคัญ ด้วยความรักเมตตาต่อเพื่อนพี่น้อง ดังบทภาวนางดงามนี้ ที่ว่า “พระเจ้าข้า โปรดให้ลูกเป็นดังแท่งเทียนที่พร้อม ขนาดนั้น” เมฆตอบพร้อมเสียงหัวเราะชอบใจ หลอมละลาย เพื่อให้แสงสว่างแก่ผู้คน และความอบอุ่น “ฉั น เคยได้ ยิ น กองทรายอาวุ โ สเล่ า ให้ ฟ ั ง ว่ า แก่ทุกสิ่ง” ฝนงดงามมาก เมื่อฝนตกลงมาจะท�ำให้เราถูกปกคลุมไป ด้วยสิ่งมหัศจรรย์ที่เราเรียกว่า หญ้าและดอกไม้”
“โอ! จริงด้วย ฉันก็เคยเห็นพวกเขา”
“แต่ บ างที ฉั น อาจไม่ เ ห็ น มั น เลยก็ เ ป็ น ได้ ” กองทรายกล่าวสรุปอย่างเศร้า ๆ โอลา เมฆน้อยนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดว่า “ฉัน... ฉันสามารถกลายเป็นฝนได้นะ”
“แต่มันหมายความว่า... เธอต้องตายไม่ใช่เหรอ”
“แต่ . .. มั น จะท� ำ ให้ เ ธอจะเต็ ม ไปด้ ว ยดอกไม้ ” เมฆน้อยกล่าวด้วยความตื่นเต้นยินดี จากนั้นปุยก้อนเมฆ น้อย ๆ สีขาวนั้น ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเข้มมืดครึ้ม และกลับกลายเป็นน�้ำฝนที่โปรยปรายเหนือกองทรายนั้น และแล้ว ไม่นานต่อมา เนินทรายเล็ก ๆ นี้ ก็ถูกปกคลุมไป ด้วยทุ่งดอกไม้ที่งดงาม 32
โดย นาถณรินทร์ บุญสวัสดิ์
เพราะท�ำงานกับเด็กยุคใหม่... ครูจึง (เข้าใจความ) เจ็บปวด....
ย้อนกลับไปเมื่อราว ๆ 10 กว่าปีที่แล้ว ช่วงเวลา แห่ ง การค้ น หาทางเดิ น ชี วิ ต ของเด็ ก มั ธ ยมตอนปลาย โรงเรียนหญิงล้วน ที่ต้องเผชิญกับความสับสนวุ่นวายทั้ง เรื่องความรัก การใช้ชีวิต การวางแผน อนาคต การศึกษา ของตนในระดับที่สูงขึ้น และอีกหลากหลายเรื่องราวที่ ช่วงชีวิตของการเป็นวัยรุ่นจะต้องเผชิญ ตอนนั้นเรื่องที่ ส� ำ คั ญ ที่ สุ ด ของฉั น ก็ ค งเป็ น เรื่ อ งของการสอบเข้ า มหาวิทยาลัย เพือ่ จะใช้เป็นเครือ่ งมือในการหาเลีย้ งชีพตน ในภายภาคหน้า ไม่ง่ายเลยกับการคาดเดาในสิ่งที่ตนเอง ไม่แน่ใจและเข้าใจไปเองว่า เราเป็นแบบนั้น เราชอบสิ่งนี้ โดยปราศจากการตัดสินที่แน่นอนจากเครื่องชี้วัดใด ๆ
ซีรีย์...วัยใส...ในสื่อสาร ธมอ. ฉบับนี้ เสนอตอน “เพราะท� ำ งานกั บ เด็ ก ยุ ค ใหม่ . .ครู จึ ง (เข้ า ใจความ) เจ็ บ ปวด” ซึ่ ง เป็ น บทความเขี ย นของครู ศิ ษ ย์ เ ก่ า ธิ ด า แม่พระองค์อปุ ถัมภ์คนหนึง่ ทีส่ ะท้อนถึงความเข้าใจทีม่ ตี อ่ เยาวชนยุคปัจจุบัน ที่พวกเขาไม่อาจหลีกพ้นกระแสสังคม ในหลากหลายรูปแบบของโลกที่เวียนหมุนไป โดยมีสื่อ เทคโนโลยีต่าง ๆ รวมทั้งการแข่งขันมากมายในทุกระดับ เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตของพวกเขา...
นอกจากคนใกล้ ตั ว และพื้ น ฐานความเป็ น มนุ ษ ย์ ที่ ถู ก หล่อหลอมมา คนใกล้ตัวในช่วงเวลานั้นที่ฉันก�ำลังจะ กล่าวถึงนอกจากครอบครัวแล้วก็คงเป็นบุคคลที่เรียกว่า.. “ครู” ฉั น เลื อ กเรี ย นคณะครุ ศ าสตร์ เพื่ อ หวั ง ว่ า เมื่ อ เรียนจบมาแล้วจะได้ประกอบอาชีพครูในโรงเรียนเล็ก ๆ ที่ต่างจังหวัด ตลอดเวลา 4 ปีที่เรียนที่คณะครุศาสตร์ 1 ปี ที่ได้ใช้ชีวิตท่ามกลางเด็กนักเรียน ภายใต้บทบาทสมมติที่ ใช้ ชื่ อ ว่ า นิ สิ ต ฝึ ก สอน และประสบการณ์ ก ารเป็ น ครู โรงเรียนชายล้วนปีที่ 7 ณ ปัจจุบัน ท�ำให้รู้เลยว่าอาชีพนี้ ไม่ง่ายเลย.. การท�ำงานกับมนุษย์ที่ชื่อว่าเด็ก/เยาวชน/ 33
วัยรุ่น ต้องใช้ทั้งสมอง-จิต-กาย ในการเสริมสร้างการเรียน รูใ้ ห้กบั พวกเขา ท่ามกลางโลกปัจจุบนั ทีห่ มุนเร็วเกินกว่าใจ ของเด็กหลายคนที่จะตามทัน ผู้ใหญ่หลายคนมองว่า ชีวิตเด็ก ๆ ในปัจจุบันช่างน่าศิวิไลซ์เสียเหลือเกิน เด็ก ๆ ยุคนี้เกิดมาท่ามกลางเครื่องอ�ำนวยความสะดวกต่าง ๆ มากมาย มีสิ่งที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มีสื่อและแหล่งเรียนรู้ที่ หลากหลาย เข้ า ถึ ง ได้ ง ่ า ยและรวดเร็ ว แต่ ท ่ า มกลาง ความเจริญเหล่านี้ ฉันมองเห็นถึงความน่าสงสารและ ความเจ็บปวดในการใช้ชีวิตของเด็กในยุคที่โลกหมุนเร็ว กว่าใจในขณะนี้ อย่างเช่น ในเรื่องของสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ที่อยู่ในมือของพวกเขา สิ่งนี้นับว่าเป็นปัญหาใหญ่อันดับ ต้น ๆ ที่ฉันได้เจอกับนักเรียนอยู่ทุก ๆ วัน การที่โทรศัพท์ เป็นมากกว่าโทรศัพท์นั้น ท�ำให้เด็กในยุคปัจจุบันตกเป็น เหยื่อของเรื่องที่ไม่เหมาะสม บางคนหลงเข้าไปในเกม ออนไลน์จนรูต้ วั อีกที การเรียนก็เสียหายไปมากแล้ว ยิง่ ไป กว่านั้นบางคนหลงไปกับเกมจนหมดเนื้อหมดตัว เมื่อไม่มี ก็เริม่ ทีจ่ ะหา เมือ่ หายากก็เลือกใช้วธิ ที งี่ า่ ยในการแก้ปญ ั หา ของตน บ้างขโมยเงินพ่อแม่ บ้างหลอกเอาเงินเพื่อน บ้างอดข้าวอดอาหาร เพือ่ ไว้ใช้เงินซือ้ ระดับของตนในเกมส์ เพือ่ ไปยกระดับตนให้อยูใ่ นจุดทีส่ งู สุดให้จนได้ บางคนหลง ไปกั บ สื่ อ Social เพี ย งเพราะอยากมี ตั ว ตนในสั ง คม ต้องการเป็นทีย่ อมรับจากจ�ำนวน like จ�ำนวน comment จอมปลอมที่ประดิษฐ์ขึ้นจากมิตรภาพที่อยู่ในโลกเสมือน จริงในอินเทอร์เน็ต จนบางครัง้ เผลอยอมแลก เพือ่ ให้ได้มา ซึ่งความเป็น“เน็ตไอดอล”(วัยรุ่นมักใช้เรียกผู้ที่โด่งดังใน สือ่ ออนไลน์ในช่องทางต่าง ๆ) ด้วยศักดิศ์ รีความเป็นมนุษย์ ที่ตนมี จนลืมคิดถึงสิ่งที่จะตามมาในอนาคต บางคนต้อง ถูกเลีย้ งดูในสังคมของพ่อแม่ทตี่ อ้ งท�ำงานมาก ๆ เพือ่ ให้ได้ มาซึ่งเงินทองที่จะใช้ส�ำหรับชีวิต ครอบครัวและลูกน้อย สุดทีร่ กั ของตน จนไม่มเี วลาได้รบั รูถ้ งึ สิง่ ทีเ่ ด็กในครอบครัว นั้นต้องการจริง ๆ เลย จะต้องส่งความรักผ่านทางสิ่งของ ที่คิดว่า ลูกจะดีใจและจะมีชีวิตที่ดีเมื่อมีข้าวของที่มีราคา เหล่านี้อยู่ในครอบครอง บางคนถูกขีดเส้นชีวิต จนไม่มี โอกาสได้เป็นตัวของตัวเอง ไม่มีโอกาสได้ใช้ความคิด 34
สร้างสรรค์ ไม่ได้เลือกในสิง่ ทีต่ นต้องการจริง ๆ ชีวติ อยูก่ บั การเรี ย น การกวดวิ ช า การเคี่ ย วเข็ ญ จนไม่ ไ ด้ ท� ำ ความเข้าใจในธรรมชาติของชีวติ ทีค่ วรจะได้ประสบ พบเจอ จริงอยู่ว่าเมื่อพวกเขาเข้าสู่วัยผู้ใหญ่จนกระทั่งท�ำงาน พวกเขามีความสามารถในด้านวิชาการก็จริง แต่การใช้ชวี ติ กับผู้คนรอบข้าง การปรับตัว การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า กลับไม่สามารถจัดการอะไรได้เลย แม้ว่าจะเป็นเรื่องยาก หรือง่ายเพียงไหน สุดท้ายก็เป็นเขาที่ไม่สามารถใช้ชีวิตใน สังคมได้ และเลือกที่จะปิดมากกว่าที่จะปรับเข้าหาสิ่ง ต่าง ๆ ขาดโอกาสในการท�ำงาน หรือร้ายไปกว่านั้นกลาย เป็นมลพิษให้แก่ผู้ร่วมงาน ส่งผลให้สังคมแย่ไปกว่าเดิม ยังมีปัญหาน้อยใหญ่อีกหลายเรื่องราว ที่ฉันได้พบ เจอในแต่ละวัน กับเด็กและวัยรุ่นที่ในยุคปัจจุบันที่ไม่ง่าย เลยกับการเป็นวัยรุน่ ทีด่ ใี นยุคสมัยนี้ แต่ฉนั ก็เชือ่ ว่า ไม่ยาก เกินกว่าความพยายามของทุกฝ่ายทีม่ เี ป้าหมายเดียวกันใน การน�ำพาวัยรุน่ ผูซ้ งึ่ จะเป็นก�ำลังส�ำคัญต่อไปของชาติบา้ น เมือง เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตให้เต็มไปด้วยภูมิต้านทานต่อเรื่อง เลวร้ายต่าง ๆ รอบด้าน ต่อสู้กับการหมุนของโลกที่เร็วจน เหวี่ยงเรื่องดีและร้ายให้ผสมกัน จนมนุษย์เราใช้ชีวิตได้ ยากขึ้น สุดท้ายฉันอยากให้ก�ำลังใจแก่วัยรุ่น และเพื่อนครู ทุกท่านที่ท�ำงานกับวัยรุ่นสมัยนี้ ให้สามารถก้าว ข้ามผ่าน ความท้าทายต่าง ๆ ที่พร้อมเข้ามาให้เราได้เผชิญอยู่ตลอด เวลา อยากให้แต่ละบทบาทฟังตัวเองให้มากและอย่าลืม เหลือพืน้ ทีใ่ นการฟังเสียงสะท้อนจากคนอืน่ ๆ เพือ่ เติมเต็ม ในส่วนทีข่ าด ยอมรับความแตกต่างหลากหลายของคนใน สังคม ใช้ชีวิตที่ได้เกิดมาอย่างมีค่า หากเราท�ำได้ ผลของ การกระท�ำของเราอาจจะไม่ได้ทำ� ให้โลกเกิดการเปลีย่ นแปลง ไปมากมายนัก แต่อย่างน้อยฉันก็มั่นใจว่า “พวกเรา” จะไม่ท�ำให้โลกแย่ไปกว่านี้ ครูเข้าใจพวกเธอนะ.. สู้ต่อไปวัยรุ่น ^^ นาถณรินทร์ บุญสวัสดิ์
รัชกาลที่ 9 กับคณะซาเลเซียนและการศึกษาเพื่ออาชีพ โดย อ.ดร.พัทธ์ธีรา นาคอุไรรัตน์ n.padtheera@gmail.com
วันที่ 13 ตุลาคม 2559 เวลา 15.52 นาฬิกา นับเป็นวันเวลาส�ำคัญทีต่ อ้ งจารึกไว้วา่ โลกได้สญ ู เสียบุคคล ที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ จากการเสด็จสู่สวรรคาลัย ของพระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว ภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่เคารพรักเทิดทูน ไม่เพียง เฉพาะคนไทยเท่านั้น หากแต่รวมถึงชาวต่างชาติด้วย ค�ำถามว่าเหตุใดคนจ�ำนวนมากในโลกใบนี้ถึงได้รัก พระองค์มากมายเพียงนี้ อาจจะหาค�ำอธิบายได้ ผ่าน พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจต่าง ๆ นานัปการ ที่ ห าดู ไ ด้ ไ ม่ ย ากนั ก แต่ ห ากจะถามว่ า พระองค์ ท รง พระมหากรุณาธิคุณต่อชาวคาทอลิก และโรงเรียนใน เครือคาทอลิก อาจจะพอมีข้อมูลอยู่บ้างว่า ในช่วงที่ พระองค์ทรงพระเยาว์ ได้เข้ารับการศึกษาช่วงสั้น ๆ ในโรงเรียนมาแตร์เดอี กรุงเทพมหานคร แต่หากจะถามว่า พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ต่อชาวคณะซาเลเซียน อาจมีเพียงไม่กี่คนที่พอจะบอกเล่าให้พวกเราได้รับรู้ว่า พระองค์ทรงพระเมตตาต่อพวกเราอย่างไร บทความนี้ ผูเ้ ขียนขออาสารวบรวมมาให้ผอู้ า่ นได้รบั ทราบว่า พระองค์ ทรง พระกรุ ณ าต่ อ พวกเราชาวคณะซาเลเซี ย นและ ครอบครัวซาเลเซียนที่ไหนและอย่างไร
อันทีจ่ ริง พระมหากรุณาธิคณ ุ ของพระมหากษัตริย์ ไทยต่อคณะซาเลเซียนมีมาตั้งแต่ในรัชสมัยของพระบาท สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) แล้ว เอกสาร หลักฐานทางประวัตศิ าสตร์จารึกไว้วา่ เมือ่ วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2477 (ค.ศ.1934) ทรงเสด็จเข้าร่วมในพิธีสถาปนา คุณพ่อยอห์น บอสโก ผู้ก่อตั้งคณะซาเลเซียน เป็นนักบุญ ที่กรุงโรม (25 ปี ไทย-วาติกัน, 2537: 145) ในรั ช สมั ย ของพระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว รัชกาลที่ 9 การเสด็จพระราชด�ำเนินมาทรงเปิดอาคาร ฝึกงานช่างกลโรงงานและตึกอาคารเรียนห้าชั้น พร้อมทั้ง ได้เสด็จพระราชด�ำเนินทอดพระเนตรกิจการต่าง ๆ ของ โรงเรียนทุกแผนก เมือ่ วันที่ 5 กรกฎาคม พุทธศักราช 2519 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินนี าถ นับเป็นพระมหากรุณาธิคณ ุ อย่างหาที่ เปรียบมิได้ ต่อนักเรียนและคณะผู้บริหารโรงเรียนดอน บอสโก ทีบ่ ริหารและด�ำเนินงานโดยคณะซาเลเซียนแห่งแรก ในประเทศไทย ยังความปลาบปลื้มและเป็นก�ำลังใจที่ ส�ำคัญต่อการด�ำเนินงานด้านการพัฒนาสังคม มุง่ ตรงทีเ่ ด็ก และเยาวชนโดยตรง ผ่านระบบการให้การศึกษาและการ ฝึกอาชีพ (ที่มา : เว็บไซต์วิทยาลัยเทคโนโลยีดอนบอสโก) 35
เป็ น ที่ ต ระหนั ก ดี ว ่ า พระเจ้ า อยู ่ หั ว รั ช กาลที่ 9 ทรงเห็ น ความส� ำ คั ญ ของ การศึกษาอย่างยิง่ โดยเฉพาะ ในเรื่องการศึกษาที่จะสร้าง อาชี พ ให้ กั บ พสกนิ ก รของ พระองค์ ดังพระบรมราโชวาทที่พระราชทานแก่บัณฑิต ซาเลเซียนได้กราบบังคมทูลเชิญฯ ไม่เว้นแม้กระทั่งใน ุ พ่อโรเซ่นต์ได้ระดมทุนเพือ่ การสร้าง วิ ท ยาลั ย วิ ช าการศึ ก ษา เมื่ อ วั น ที่ 29 พฤศจิ ก ายน ชายแดนใต้ คราวทีค่ ณ โรงเรียนส�ำหรับเด็ก ๆ ในชายแดนใต้ โดยได้รบั การบริจาค พ.ศ. 2514 ความตอนหนึ่งว่า "... การให้ ก ารศึ ก ษาแก่ เ ด็ ก ต้ อ งเริ่ ม ตั้ ง แต่ เ กิ ด จากกษัตริยโ์ บดวง และพระราชีนฟี าบิโอลา แห่งเบลเยีย่ ม ขั้นต้นก็ต้องสอนให้รู้จักใช้อวัยวะและประสาทส่วนต่าง ๆ ในครั้ ง นั้ น พระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว ก็ ไ ด้ ท รง ต้องคอยควบคุมฝึกหัด จนสามารถใช้อวัยวะและประสาท พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพฯ เสด็จมาเป็น ส่วนนั้น ๆ ท�ำกิจวัตรทั้งปวงของตนเองได้ เมื่อสามารถท�ำ ประธานเปิดอาคารเรียนอีกครั้งในวันที่ 25 กันยายน กิจวัตรของตัวได้แล้ว ถัดมาก็ตอ้ งสอนให้รจู้ กั ท�ำการต่าง ๆ พ.ศ. 2543 (สมาคมศิ ษ ย์ เ ก่ า ดอนบอสโก กรุ ง เทพฯ ให้รู้จักแสวงหาสิ่งต่าง ๆ ตามที่ต้องการให้ได้มากขึ้น และคณะฯ 2549, น. 41-42) ยังความปลาบปลื้มเป็น เพื่อท�ำให้ชีวิตมีความสะดวกมีความสบาย การให้การ ล้นพ้นต่อคณะซาเลเซียนและพสกนิกรในชายแดนใต้ ทีจ่ ะ ศึกษาขั้นนี้ ได้แก่ การฝึกกายให้มีความคล่องแคล่ว ช�ำนิ ได้มีโรงเรียนดี ๆ ให้บุตรหลานของพวกเขาได้ร�่ำเรียน
ในพื้นที่อันจ�ำกัดเช่นนี้ คงไม่สามารถจะบอกเล่าได้ ช�ำนาญและสามารถในการปฏิบัติ ประกอบกับการสอน วิชาความรู้ต่าง ๆ อันเป็นพื้นฐานส�ำหรับการประกอบ หมดถึ ง พระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ ของพระบาทสมเด็ จ พระเจ้าอยู่หัวรัช กาลที่ 9 ที่ทรงมีต่อคณะซาเลเซียน อาชีพเลี้ยงตัว” และไม่เพียงแต่ทรงให้ข้อคิดเท่านั้น พระองค์ยัง และคนในครอบครัวของซาเลเซียนทุกคน ในฐานะที่เป็น ทรงปฏิบัติให้เป็นแบบอย่าง ภาพพระองค์ทรงใช้กบไสไม้ พสกนิกรใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ ในห้วงเวลาแห่ง ด้วยพระองค์เองเพือ่ ประกอบเรือใบมด ภาพพระองค์ทรงงาน ความเศร้าโศกเสียใจกับการเสด็จสูส่ วรรคาลัยของพระองค์ บนพื้นในห้องท�ำงานที่ผู้สื่อข่าวชาวต่างชาติสัมภาษณ์ นัน้ ผูเ้ ขียนอยากเชิญชวนเราท่านทุกคน ได้รว่ มกันส่งเสริม พระองค์ และภาพอีกหลาย ๆ ภาพ ที่พระองค์ทรงแสดง การศึกษาเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนไทยของเราให้เป็น ให้เห็นความส�ำคัญของการสร้างอาชีพ บนฐานของความรู้ ผู ้ ที่ มี ค วามรู ้ ลึ ก ซึ้ ง และแตกฉานในทางทฤษฎี และมี และการลงมือท�ำอย่างเอาจริงเอาจัง จนโครงการพัฒนา ความมุ ่ ง มั่ น ที่ จ ะปฏิ บั ติ ฝ ึ ก ฝนจนเกิ ด ความช� ำ นาญ อาชีพต่าง ๆ ในรัชสมัยที่พระองค์ทรงครองราชย์ ได้สร้าง และสามารถยึดเป็นอาชีพที่จะสร้างคุณประโยชน์ต่อการ การพัฒนาคุณภาพชีวติ ให้กบั พสกนิกรไทยจ�ำนวนมหาศาล พั ฒ นาตนเองและประเทศชาติ เพื่ อ สื บ สานตามรอย พระปณิธานที่ทรงปรารถนาจะเห็นพสกนิกรของพระองค์ นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ มีการพัฒนาคุณภาพชีวิต มีอาชีพที่เลี้ยงตัวได้ เพื่อถวาย 9 ยั ง ทรงพระกรุ ณ าโปรดเกล้ า ฯ ให้ ส มเด็ จ พระเทพ เป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ผู้เสวยสวรรค์ชั้นฟ้า รัตนราชสุดาฯ เสด็จแทนพระองค์ในวาระต่าง ๆ ที่คณะ 36
โอกาสครบ 140 ปี กลุ่มซาเลเซียนผู้ร่วมงาน
ความฝันของคุณพ่อบอสโกกลับเป็นจริงในกลุ่มฆราวาสซาเลเซียน โดย ซิสเตอร์ เอมีเลีย ดิมัสซี
จาก ความฝันที่ท�ำนายอนาคต “คณะซาเลเซียนผูร้ ว่ มงาน ถือก�ำเนิดจากความคิด ค�ำนึงถึงพระพรพิเศษของคุณพ่อบอสโก” ซิสเตอร์เลสลี ซานดีโก ผูป้ ระสานงานกลุม่ ซาเลเซียนผูร้ ว่ มงานคณะธิดา แม่พระองค์อปุ ถัมภ์ระดับโลก ได้กล่าวถึงคุณพ่อบอสโกว่า ท่านมีความปรารถนาอย่างยิ่งที่จะเตรียมบรรดาฆราวาส ให้ร่วมงานกับนักบวชซาเลเซียน ในภารกิจการอบรมตาม รูปแบบการเผยแผ่ข่าวดีแบบซาเลเซียน นับจาก 140 ปีที่ผ่านมา คุณพ่อบอสโกได้เคยมี ความเชื่อมั่นเช่นนี้ และยังคงมีการสานต่อจนถึงปัจจุบัน เป็นต้น ในปีหลัง ๆ นี้ มีการพยายามทีจ่ ะให้เป็นทีป่ ระจักษ์ ที่ เชื่ อ ถื อ ได้ ใ นกลุ ่ ม ซาเลเซี ย นผู ้ ร ่ ว มงาน ที่ เ ป็ น ผู ้ ที่ มี ความมั่งคั่งในมิติของความเป็นมนุษย์ ตามมุมมองของ นักบุญฟรังซิส เดอ ซาลส์ หมายถึง การมีวิสัยทัศน์ใน เชิ ง บวกถึ ง ตนเองในความเป็ น จริ ง ในพระศาสนจั ก ร และในโลก มองเห็นพระเจ้าและทุกสิ่งด้วยสายพระเนตร แห่งพระเมตตาของพระองค์ การด� ำ เนิ น ชี วิ ต แห่ ง ศี ล ล้ า งบาปด้ ว ยความยิ น ดี รู้ส�ำนึกตนและรับผิดชอบ ถึงเงื่อนไขของการเป็นบุตร พระเจ้า เป็นสาวกของพระเยซูเจ้า อันจะส่งผลให้เกิด มีเอกลักษณ์ที่เด่นชัด และน�ำสู่การปฏิบัติตนตามแนวคิด ตามวิถชี วี ติ คริสตชน ตามความคิดแรกเริม่ ของคุณพ่อบอสโก ซาเลเซียนผู้ร่วมงานในโลก คือ เป็นผู้ร่วมงานที่ทุ่มเทต่อ แผนการของพระเจ้าในบริบทต่าง ๆ ตามภารกิจซาเลเซียน ในครอบครัว ในการอบรมเยาวชน ในความมุ่งมั่นด้าน สังคมและการเมือง คุณโนเอมี แบร์โตลา ผู้ประสานงาน คณะซาเลเซียนผู้ร่วมงานระดับโลก กล่าวว่า “ฉันได้เข้า เป็นซาเลเซียนผู้ร่วมงานในปี ค.ศ.1990 ด้วยความมั่นใจ และด้วยความปรารถนาที่จะติดตามพระคริสตเจ้า ใน
พระศาสนจักร ตามพระพรพิเศษของคุณพ่อบอสโกที่ฉัน รักตัง้ แต่เด็ก ฉันได้ใช้จติ ตารมณ์นใี้ นการอบรมลูก ๆ อบรม บรรดาศิษย์เก่าของคณะธิดาแม่พระองค์อปุ ถัมภ์ อยากจะ ช่ ว ยพวกเขาให้ ไ ด้ รั บ การพั ฒ นาตนมากยิ่ ง ขึ้ น และมี ความปรารถนาอยากจะช่วยบรรดาเยาวชนที่มีโอกาส น้อยกว่าฉัน ฉันจึงเริ่มท�ำข้อตั้งใจที่จะเป็นดังนักอบรม ซาเลเซียนทั้งในโรงเรียน ในศูนย์เยาวชน ในการสอน ค�ำสอน เพื่อช่วยบรรดาเยาวชน และเป็นต้น เยาวชนที่อยู่ ในความต้องการมากกกว่า” 37
สภาพความจริงในปัจจุบัน ซาเลเซียนผูร้ ว่ มงานได้ทำ� ให้ภารกิจของพวกเขาใน โลกกลั บ เป็ น จริ ง อาศั ย แผนการอบรมบรรดาสตรี และการส่งเสริมสิทธิมนุษย์และชีวติ คริสตชน ซิสเตอร์เลสลี เล่าถึงโครงการโยเลีย ที่ช่วยเด็กข้างถนน เป็นทางเลือก ข้อเสนอแนะเชิงอบรม อาศัยระบบป้องกัน การต้อนรับ และการอยู ่ เ คี ย งข้ า ง เพื่ อ ช่ ว ยให้ เ ยาวชนหญิ ง เติ บ โต ทั้งด้านร่างกาย จิตวิทยา และชีวิตฝ่ายจิต “อบรมด้วย การใช้คา่ นิยม” โดยใช้ศลิ ปะการแสดง การละเล่น เหมือน กับในสมัยที่คุณพ่อบอสโกเคยท�ำ การแสดงละครเพลงที่ ศูนย์ซาเลเซียนผู้ร่วมงานที่เม็กซิโก โครงการ “หลังเลิก เรียน” ได้มกี ารท�ำแล้วทีศ่ นู ย์ซาเลเซียนผูร้ ว่ มงานทีฮ่ อ่ งกง โดยได้มีการรวบรวมเด็ก ๆ และเยาวชน เพื่อมาช่วยกัน สอนการบ้าน สอนค่านิยมทั้งด้านมนุษย์และด้านชีวิต คริสตชนในแบบง่าย ๆ ไม่เป็นทางการ ด้วยการละเล่น การต้อนรับ และการเป็นพยาน เป็นแบบอย่างแก่กัน ในแถบไอบีเรีย ซาเลเซียนผูร้ ว่ มงานได้กอ่ ตัง้ องค์กรทีไ่ ม่ขนึ้ กับทางภาครัฐ (ONG) เพื่อตอบสนองต่อความต้องการ ของผู ้ ที่ อ ยู ่ ใ นความต้ อ งการและคนยากจนมากกว่ า เป็นโครงการทีไ่ ด้รบั การสนับสนุนจากผูม้ พี ระคุณมากกว่า พันคน ที่ยินดีให้ความร่วมมือในการจัดระบบการท�ำงาน ระดั บ แขวงของกลุ ่ ม ซาเลเซี ย นผู ้ ร ่ ว มงาน ที่ ฮ าราเร เมืองหลวงของซิมบับวี (Zimbabwe) มีการจัดตั้งศูนย์ ซาเลเซียนผู้ร่วมงาน ด้วยการท�ำงานอภิบาลด้านการสอน ค�ำสอน ศูนย์เยาวชน เปียโรและมารีอา หลุยซา บอตโตเน เล่าว่า “เราได้พยายามส่งเสริมชีวิตทางครอบครัว อาศัย คณะซิสเตอร์ธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ที่เวียดามัสเซีย โรม มีเยาวชนประมาณ 800 คน จากอายุ 3 ขวบจนถึงอายุ 19 ปี ให้พวกเขาได้มาโรงเรียน ร่วมกิจกรรมศูนย์เยาวชน และให้ครอบครัวของพวกเขาได้รับการอบรมตามแบบจิต ตารมณ์ซาเลเซียน และก�ำลังท�ำโครงการที่ให้มีความคิด ริเริ่มที่หลากหลาย แนะน�ำให้พวกเขารู้จักชีวประวัติของ บรรดานักบุญในครอบครัว ซาเลเซียน หาโอกาสให้มีการ 38
สวดภาวนาด้ ว ยกั น อบรมการปฏิ บั ติ ต นในการร่ ว ม พิธีกรรมให้แก่เด็ก ๆ จัดการอบรมให้กับเยาวชนเรื่อง การเตรียมตัวสู่ชีวิตครอบครัวและส�ำหรับครอบครัวที่ ประสบปัญหา ช่วยให้ครอบครัวมีการติดต่อสัมพันธ์กบั ทาง โรงเรียน ทั้งหมดนี้เพื่อช่วยยกระดับชีวิตของพวกเขาให้ดี ขึ้น”
หัวใจการอภิบาล ซิสเตอร์เลสลี กล่าวถึงการด�ำเนินงานด้านการ ปกครองและการปลุกเร้า จะส�ำเร็จได้ต้องมาจาก 3 ระดับ คือ ระดับบ้าน ระดับแขวง และระดับโลก คณะซาเลเซียน ผูร้ ว่ มงานจากหลากหลายภาษา วัฒนธรรม และประเพณี กลับเป็นหนึง่ เดียวกันด้วยความมุง่ มัน่ ในการอบรมเยาวชน จากความรักต่อพระเยซูเจ้า และ พระมารดาองค์อุปถัมภ์ ท�ำให้เรามีดวงใจแห่งการอภิบาล ด้วยการอบรมให้แก่ ทุกระดับชนชั้น ซาเลเซียนผู้ร่วมงานตอบรับต่อความ ต้องการเร่งด่วนในสภาพสถานการณ์จริง และด้วยความ กล้าหาญ ในมุมมองของคุณธรรมคริสตชน ให้ความร่วมมือ ร่วมงาน เพื่อส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของบุคคล โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง ในเด็กและเยาวชนที่อยู่ในความต้องการมากกว่า เป็นความฝันทีก่ ลับเป็นจริง และมีการด�ำเนินอย่างต่อเนือ่ ง เป็นเวลายาวนานหลายปี เพราะเป็นความฝันเชิงท�ำนาย ของคุณพ่อบอสโก บุคคลที่ถูกส่งมาจากพระเจ้า (นิตยสาร Bollettino เดือนมิถุนายน 2016)
ส�ำหรับเรือ่ งเล่าคุณธรรมฉบับนี้ ขอเริม่ ด้วยเรือ่ งราว ที่แสนประทับใจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ที่ชาวไทยทั้งแผ่นดิน น้อมร�ำลึกพระมหากรุณาธิคุณและร่วมถวายความอาลัย ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ส่ ว นเรื่ อ งที่ ส อง เป็ น เรื่ อ งราวของเหตุ ก ารณ์ ที่ เกิดขึ้นในชีวิต และยากที่จะบอกว่า ดีหรือไม่ดี เราจึงต้อง ใช้ ชี วิ ต อย่ า งมี ส ติ แ ละสมดุ ล เหมื อ นที่ นั ก บุ ญ มาเรี ย มัสซาแรลโล สอนไว้วา่ “เมือ่ มีความสุขก็จงอย่าดีใจจนเกิน ไป มีความทุกข์ก็อย่าได้เสียใจให้มากเกินไป”
By Little Star ว่า ไส้ติ่งก�ำลังจะแตก พอหมอบอกอย่างนั้น พระองค์ก็ ทรงติดต่อ ไปที่ในหลวง และเห็นในหลวงท่านทรงวิ่งจาก เชิงเขาลูกโน้นมาเลย ห่างกัน 1 กิโลเมตร พระองค์ทา่ นทรง ให้ ฮ. มารับ (ฮ.พระที่นั่งที่เสด็จฯ มา) พร้อมตรัสว่า “เดี๋ยวเราจะกลับทางเรือเอง ให้เอาคนไข้ไปส่งก่อน” ก่อนที่ประตู ฮ.จะปิด เราเห็นในหลวงทรงโบกพระหัตถ์ เราซาบซึง้ มาก บอกกับตัวเองว่า เราจะตายไม่ได้ และหลัง จากรักษา หายแล้ว กลับมาอยูบ่ า้ น ยังพระราชทานเงินให้ ครั้ ง ละ 3-5 พั น บาทอี ก หลายครั้ ง ทุ ก วั น นี้ เวลานั่ ง ดู โทรทัศน์ เห็นพระองค์ท่านก็จะพนมมือไหว้ตลอด เพราะ รู้สึกว่า พระองค์ท่านได้มอบชีวิตใหม่ให้กับเรา...
พระราชาแห่งความเมตตา เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อครั้งเสด็จพระราชด�ำเนินมาเยี่ยม ราษฎรที่บ้านคุ้งโตนด ต.เขาแดง เมื่อกว่า 40 ปีก่อน โดย นางซุบ ยอดแก้ว ที่ปวดท้องมาร่วมครึ่งเดือน แต่ต้องการ ไปรับเสด็จ จึงให้คนหามใส่แคร่มา นางเล่าว่า ...ตอนนั้น ไม่รู้ว่าเป็นไส้ติ่ง แต่ปวดท้องมาครึ่งเดือนแล้ว นอนซม แต่พอมีคนบอกว่า ในหลวงจะเสด็จฯ มา ก็อยากไปรับเสด็จ แต่ ป วดท้ อ งจนเดิ น ไม่ ไ หว ก็ ใ ห้ ค นหาม ใส่ เ กวี ย นไป แต่ ใ นหลวง เสด็ จ ฯ ไปที่ ตี น เขาอี ก ลู ก คนละฟาก ทอดพระเนตรเรื่องจะระเบิดเขา ท�ำทางเข้าออกหมู่บ้าน พอดีสมเด็จพระราชินี เสด็จฯ ทรงเยี่ยมราษฎร แล้วทอด พระเนตร เห็นตนนั่งหน้าซีด พิงเพื่อนอยู่ ก็ตรัสถามว่า เป็นอะไร เจ็บมากี่วันแล้ว ตนก็บอกว่า เจ็บมาครึ่งเดือน เห็นจะได้ พระองค์จึงให้หมอที่มาด้วยตรวจดู …หมอบอก
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช ทรงเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ ความยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่าน อยู่ในการอุทิศตนเพื่อความผาสุกร่มเย็นของประชาชน การเสด็ จ สู ่ ส วรรคาลั ย ของพระองค์ ท ่ า น เป็ น ความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของประชาชนชาวไทย คนไทยทั้ง โลกร�่ำไห้เมื่อทราบข่าวนี้ และปฏิญาณตนจะเดินตามรอย พระองค์ ท ่ า นในการท� ำ ความดี ต ่ อ ไป เราทุ ก คนโชคดี เหลือเกินที่เกิดในร่มพระบารมีของพระองค์ท่าน 39
ดี หรือไม่ดี ยากที่จะบอก
พระองค์ก็เข้าใจค�ำพูดของคนสนิทที่บอกว่า“ดีหรือไม่ดี ยากที่ จ ะบอก” เพราะถ้ า พระองค์ มี นิ้ ว ครบสมบู ร ณ์ พระองค์ ต ้ อ งถู ก ฆ่ า โดย คนป่ า พวกนั้ น อย่ า งแน่ น อน พระราชาจึ ง สั่ ง ปล่ อ ยตั ว คนสนิ ท และขอโทษเขา แต่ พระราชากลับประหลาดใจ เมื่อ คนสนิทกลับไม่โกรธ พระองค์เลย ในทางตรงข้ามเขากลับบอกว่า มันไม่ใช่เรื่อง เลวร้ายอะไรเลยที่ท่านขังข้าไว้ ท�ำไมงั้นหรือ เพราะว่าถ้า พระองค์ไม่ขังข้าไว้ ข้าก็จะต้องตามท่านไปในป่าและใน เมื่อท่านไม่เหมาะจะถูกบูชายัญ ข้าคงจะถูกน�ำไปบูชายัญ แทนเป็นแน่ อีกครั้งกับค�ำที่ว่า ดีหรือไม่ดี ยากที่จะบอก
นานมาแล้ว มีพระราชาองค์หนึง่ พระราชาองค์นมี้ ี คนสนิทคนหนึ่งที่พระองค์สนิทมาก และมักจะพาไปไหน มาไหนด้วยเสมอในทุกๆ ที่ แล้ววันหนึง่ พระราชาก็ถกู สุนขั ตัวหนึง่ กัดนิว้ จนเป็นแผลฉกรรจ์มาก พระราชาจึงถามคน สนิทว่า นีเ่ ป็นลางไม่ดขี องพระองค์หรือเปล่า คนสนิทกลับ ตอบว่า “ดี หรือไม่ดี ยากทีจ่ ะบอก”และในทีส่ ดุ พระราชา ก็ถูกตัดนิ้วและพระราชาก็ถามคนสนิทอีกว่า นี่เป็นราง ไม่ดีของพระองค์หรือเปล่า คนสนิทกลับตอบว่า “ดี หรือ ไม่ดี ยากทีจ่ ะบอก” วันหนึง่ พระราชาก็ได้เสด็จออกป่าล่า สัตว์ พระองค์ทรงตื่นเต้นมาก แล้วก็มุ่งเข้าไปในป่าลึก เรื่องนี้อาจกล่าวได้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นใน เข้าไปเรือ่ ย ๆ เมือ่ มารูต้ วั อีกทีกพ็ บว่า พระองค์ได้หลงทาง โลกนี้ ไม่สามารถสรุปได้อย่างแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ เสียแล้ว แต่ก่อนที่อะไรจะเลวร้ายไปกว่านั้น พระองค์ก็ได้ ว่า ดี หรือไม่ดี พบกับชนเผ่าพืน้ เมืองในป่าแห่งนัน้ คนป่าพวกนัน้ ต้องการ
บางครั้ ง สิ่ ง ที่ ดี อาจจะกลายเป็ น สิ่ ง ที่ เ ลวร้ า ย ในขณะที่สิ่งที่เลวร้ายอาจกลายเป็นดีได้ ถ้าในชีวิตของเรา มีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้น จงขอบคุณพระเจ้า จงชื่นชมยินดี จงมี ความสุขและสนุกสนานกับมัน แต่อย่าไปยึดติด จงพร้อม ทีจ่ ะ ปล่อยวางและมีความสุขอย่างมีสติ ถ้าบางครัง้ ในชีวติ มีสิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้น จงอย่าทุกข์โศกจนสูญเสียความหวัง จับพระราชาไปบูชายัญ แต่พวกเขาก็พบว่า พระราชา เพราะมันอาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เราคิดก็ได้ ในอดีต มีบางครั้งที่เราทุกข์โศกกับสิ่งที่เกิดขึ้น นิว้ ขาด จึงรีบปลดปล่อยพระราชา เพราะเชือ่ ว่า พระราชา ไม่ใช่มนุษย์ทสี่ มบูรณ์เลย และไม่เหมาะทีจ่ ะน�ำไปบูชายัญ แต่ เ มื่ อ มองย้ อ นกลั บ มา เราพบว่ า มั น มี สิ่ ง ดี ที่ ซ ่ อ นอยู ่ พระราชาจึงตัดสินใจกลับพระราชวังในที่สุด และสุดท้าย จงชื่นชมยินดีกับวันนี้ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเสมอ
40
นิทานคริสต์มาส บาทหลวงบุญเลิศ ปณีตัธยาศัย ซดบ. ผู้แปล
และบ่นพึมพ�ำ “เพราะเหตุนี้เราจึงมาเพื่อแกะที่หายไป” แกะด�ำร้องออกมาด้วยความสุข แล้วทูตสวรรค์เริ่มต้น ขับร้องเพลง “พระสิริรุ่งโรจน์” จากสวรรค์
“เพราะเหตุนี้เราจึงมาเพื่อแกะที่หายไป” กาลครัง้ หนึง่ แกะตัวหนึง่ เกิดมาแตกต่างจากตัวอืน่ แกะทั่วไปจะสีขาว แต่แกะตัวนี้กลับสีด�ำเหมือนน�้ำมันดิน เวลาที่มันเดินผ่านสนาม แกะทุกตัวจะหัวเราะเยาะมัน เพราะในฝูงทุกตัวสีขาวหมด มันเหมือนรอยเปื้อนหมึก บนผ้าปู ทีน่ อนสีขาว “ดูซิ แกะด�ำ ตัวอะไรนี”่ แม้แต่เพือ่ น แกะก็ตะโกนตามหลังว่า “ไอ้แกะประหลาด ไม่รู้เหรอว่า แกะต้องเหมือนกัน ทุกตัวต้องมีขนสีขาว” เจ้าแกะด�ำ ไม่อาจทนค�ำดูถกู ต่อไป เพราะทุกค�ำพูดเหมือนหินทีเ่ ขวีย้ ง ใส่มา จนไม่อาจทนไหว ดังนั้น มันจึงตัดสินใจออกจากฝูงขึ้นไปบนภูเขา เพียงล�ำพัง อย่างน้อยทีน่ นั่ ก็มสี นั ติและได้พกั ผ่อนใต้ตน้ สน แต่ แ ม้ บ นภู เขาจะมี สั น ติ แต่ ห ลั ง จากดวงอาทิ ต ย์ ล า ขอบฟ้าและค�ำ่ คืนเริม่ ต้นขึน้ เจ้าแกะก็พดู กับตัวเองว่า “ฉัน จะอยูท่ นี่ ไี่ ด้ยงั ไง จะต้องอยูค่ นเดียวหรือ” เย็นวันนัน้ ขณะ ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยน�้ำตา มันเห็นถ�้ำที่มีแสงสว่างลาง ๆ อยู่แต่ไกล มันคิดในใจว่า “ฉันจะไปนอนข้างในนั้น” และเริ่มวิ่งไป มันวิ่งราวกับมีบางอย่างที่ดึงดูด “เธอเป็น ใคร” เสียงหนึ่งถามขึ้นเมื่อมันก�ำลังจะเข้าไป” เจ้าแกะด�ำ ตอบว่า “ฉันเป็นแกะที่ไม่มีใครต้องการ ฉันเป็นแกะด�ำ เพือ่ น ๆ ขับไล่ฉันออกจากฝูง” “พวกเราก็เหมือนกัน เรา หาที่พักตามโรงแรมไม่ได้ เราเลยต้องมาอยู่ที่นี่ ฉันชื่อโย เซฟ และนี่ภรรยาของฉัน มารีย์ นี่ไงลูกของเราที่พึ่งเกิด” แกะด�ำรู้สึกยินดีอย่างมาก มันได้เห็นทารกเยซูก่อนใคร เพื่อน มันพูดกับทั้งสองว่า “เขาคงหนาว ปล่อยให้ฉันอยู่ ใกล้ ๆ ไหม เขาจะได้อนุ่ ขึ้น” มารียแ์ ละโยเซฟยินยอมด้วย รอยยิ้ม แกะด�ำจึงเข้าไปใกล้ ๆ เบียดตัวกับทารก และห่ม ทารกน้อยด้วยความรักอาศัยขนของมัน หนูนอ้ ยเยซูตนื่ ขึน้
พระเยซูเจ้าทรงเริ่มต้นชีวิตที่ต�่ำต้อย ตั้งแต่แรกเริ่ม เครือ่ งหมายทุกอย่างทีท่ ตู สวรรค์แจ้งแก่ผเู้ ลีย้ งแกะ เพื่อค้นหาพระผู้ไถ่ที่เกิดมา เป็นเครื่องหมายแห่งความ ต�่ำต้อย ทูตสวรรค์กล่าวว่า นี่คือเครื่องหมายเพื่อค้นพบ พระผูไ้ ถ่ทบี่ งั เกิดมา ท่านจะพบทารกพันผ้าอยูใ่ นคอกสัตว์ และถูกวาง บนฟางในรางหญ้าส�ำหรับสัตว์ (อ้าง ลก. 1:12) พระราชาแห่งสวรรค์ พระบุตรของพระเจ้าต้องการ เกิดเช่นนี้ เพื่อท�ำลายความหยิ่งจองหอง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ ท�ำให้มนุษย์ผดิ พลาดไป บรรดาประกาศกได้ทำ� นายไว้แล้ว ว่า พระผู้ไถ่ของเราต้องเป็นดังมนุษย์ที่ต�่ำต้อยที่สุดใน แผ่นดินและน่าอับอายมาก มนุษย์รังเกียจพระองค์มาก เหลือเกิน ถูกมองว่าเป็นนักดื่ม คนหลอกลวง ผู้ละเมิด พระบัญญัติ และคนนอกรีต นอกนั้นพระองค์ต้องรับ ความอัปยศมากมายในการทรมาน ทรงถูกทอดทิ้งจาก ศิษย์ของพระองค์ ยิ่งกว่านั้น ศิษย์คนหนึ่งขายพระองค์ ด้วยเงิน 30 เหรียญ และอีกคนหนึง่ ปฏิเสธไม่รจู้ กั พระองค์ ทรงถูกมัดให้เดินไปตามถนน เยี่ยงนักโทษ ถูกเฆี่ยนเยี่ยง ทาส ถูกเยาะเย้ยราวกับเป็นคนบ้า ถูกล้อว่าเป็นกษัตริย์ ถูกตบตี ถ่มน�้ำลายรดใบหน้า และที่สุดถูกประหารให้ตาย บนกางเขนตรงกลางระหว่างโจรสองคน ราวกับว่าเป็น คนเลวที่สุดในโลก ดังนั้น นักบุญเบอร์นาร์ด จึงกล่าวว่า ความสูงส่งของสิง่ เหล่านีค้ อื การถูกกระท�ำให้ตำ�่ ต้อยทีส่ ดุ แต่ข้าแต่พระเยซูเจ้า “ยิ่งพระองค์แสดงให้ข้าพเจ้าเห็น ความท้อแท้และความอัปยศมากเพียงใด ก็ยงิ่ ท�ำให้ขา้ พเจ้า รักและเทิดทูนพระองค์มากเพียงนั้น”
41
การนอน...เพื่อชะลอวัยและสุขภาพ ในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ใช้เวลาในแต่ละวันไปกับ การเรียน การท�ำงาน หรือการท�ำกิจกรรมต่าง ๆ จนลืม การพักผ่อนที่เพียงพอ และมัก ไม่ค�ำนึงถึงความส�ำคัญ ของการนอนหลับ เพราะคิดว่าเป็นเพียงแค่กิจกรรมหนึ่ง ทีต่ อ้ งท�ำในชีวติ ประจ�ำวันอยูแ่ ล้ว ในทางกลับกัน การนอน หลับทีไ่ ม่เพียงพอ อาจส่งผลให้ภมู คิ มุ้ กันของร่างกายลดลง ซึง่ อาจเป็นสาเหตุทำ� ให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา นอกจากนัน้ ยังมีผลท�ำให้อารมณ์ไม่aคงที่ และมีสมาธิในการท�ำงานที่ สั้นลง อีกทั้งยังส่งผลเสียต่อผิวพรรณและท�ำให้แก่ก่อนวัย เมลาโทนิน (Melatonin) ซึ่งเป็นสารที่มีบทบาทส�ำคัญ อีกด้วย หลายอย่าง เช่น ช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจและความ ดันโลหิต และที่ส�ำคัญสารนี้ยังมีหน้าที่ควบคุมการนอน การนอนหลับมีความส�ำคัญต่อสุขภาพร่างกายและ หลับอีกด้วย ถ้าคนเราอดนอนหรือนอนหลับไม่เพียงพอ ก็ จะท�ำให้ประสิทธิภาพในการท�ำงานของร่างกายรวมทัง้ ผิว ผิวพรรณอย่างไร? พรรณด้อยลง ทั้งนี้ มีสาเหตุจาก
1. ระบบภูมคิ มุ้ กันของร่างกายลดลง โดยการอดนอน จะท� ำ ให้ ร ะบบภู มิ คุ ้ ม กั น ของร่ า งกายท� ำ งานหนั ก ขึ้ น ซึ่ ง เลื อ ดจะมี เ ม็ ด เลื อ ดขาวเพิ่ ม ขึ้ น และเม็ ด เลื อ ดขาว เหล่านีจ้ ะสลายตัวในเวลาต่อมา จึงท�ำให้ความสามารถของ ร่างกายในการต้านทานต่อเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส การนอนหลับ หมายถึง สภาวะทีร่ า่ งกายตัดการรับ เสียไป รู ้ ต ่ อ สิ่ ง แวดล้ อ ม และโดยปกติ ร ะหว่ า งการนอนหลั บ 2. ระบบจัดเก็บความทรงจ�ำหรือระบบประสาท ร่างกายจะไม่มีการเคลื่อนที่ คนเราใช้เวลาถึงหนึ่งในสาม จะมีประสิทธิภาพลดลง โดยอวัยวะที่ส�ำคัญคือ ฮิปโป ของแต่ละวันไปกับการนอนหลับ ถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่ง แคมปัส (Hippocampus) จะท�ำหน้าที่ถ่ายโอนข้อมูลที่ การพักผ่อนที่ดีที่สุด อีกทั้งยังช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวหนัง เรียนรูใ้ นระหว่างวันเข้าสูค่ วามทรงจ�ำระยะยาว ซึง่ อวัยวะ หรื อ อวั ย วะที่ สึ ก หรอของเรา และยั ง ช่ ว ยปรั บ สมดุ ล ชิน้ นี ้ จะท�ำงานตอนทีเ่ รานอนหลับเท่านัน้ และจะท�ำงาน ฮอร์โมนของร่างกายด้วย นอกจากนี้ ยังมีสารส�ำคัญต่าง ๆ ได้ดีหากร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ที่ร่างกายหลั่งออกมาในช่วงระยะเวลาดังกล่าว เช่น สาร 42
3. อารมณ์เครียดและเปลีย่ นแปลงได้งา่ ยโดยไม่มี เหตุผล มีอาการง่วงนอนหรือรู้สึกไม่สดชื่นตลอดทั้งวัน 4. ระบบการย่อยอาหารผิดปกติ โดยร่างกายจะ ต้องใช้เวลามากขึ้นถึง 40 เปอร์เซนต์ เพื่อจัดการกับระดับ น�้ ำ ตาลในเลื อ ดหลั ง รั บ ประทานอาหารประเภท คาร์โบไฮเดรต และการมีระดับน�้ำตาลในเลือดสูงนาน ๆ จะท�ำให้แก่เร็ว 5. หากเราอดนอนนาน 1 สัปดาห์ หรือนอน วันละ 4 ชั่วโมงโดยประมาณ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนที่ จ�ำเป็นในการควบคุมปริมาณกล้ามเนื้อและไขมันน้อยลง ท�ำให้ร่างกายสะสมไขมันมากขึ้น
8. ในด้านของผิวหนัง สารเมลาโทนิน เป็นสารที่ มีบทบาทส�ำคัญในการปกป้องเซลล์ผิวหนังจากสารอนุมูล อิสระต่าง ๆ และสารเมลาโทนินจะถูกสร้างมากที่สุดใน เวลากลางคืนขณะที่เรานอนหลับ ถ้าเราอดนอนหรือนอน น้อย ก็จะท�ำให้มีการสร้างสารนี้ลดลง ส่งผลให้เกิดการ อักเสบหรือภูมิแพ้ของผิวหนังได้ง่ายขึ้น
เทคนิคในการช่วยให้นอนหลับสบายเพื่อสุขภาพ ร่างกายและผิวพรรณที่ดี
6. หากคนเรานอนไม่ถึงวันละ 8 ชั่วโมง ร่างกาย ก็จะผลิตสารเลปติน (Leptin) น้อยลง ซึง่ เลปตินมีบทบาท ในการควบคุ ม ความอยากอาหาร เพราะฉะนั้ น ยิ่ ง เรา อดนอน เลปตินก็จะถูกผลิตออกมาน้อยลง ท�ำให้เรามี ความอยากอาหารเพิ่มขึ้น เช่น อยากทานขนมหวาน และอาหารมัน ๆ ซึง่ เป็นอุปสรรคต่อการควบคุมและลดน�ำ้ หนักได้
1. จัดตารางเวลาการนอนให้เหมาะสมและเป็น เวลา ซึ่งความต้องการในการนอนหลับของคนเราขึ้นอยู่ กับช่วงอายุหรือวัย ยิ่งอายุน้อยยิ่งต้องการนอนมากและ ความต้องการ นอนหลับส�ำหรับผู้ใหญ่โดยทั่วไปแล้ว ประมาณ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน นอกจากนี้ ช่วงเวลาเข้านอน ก็เป็นสิ่งส�ำคัญ เพราะฮอร์โมนและสารต่าง ๆ ที่จ�ำเป็นใน การก่อให้เกิดสุขภาพร่างกายและผิวพรรณทีด่ ี จะผลิตเป็น เวลาตามที่ร่างกายก�ำหนด เวลาที่แนะน�ำให้ควรเข้านอน ไม่ควรจะเกิน 4 ทุ่มของแต่ละคืน
7. สูญเสียโอกาสที่ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth hormone) ในขณะหลับ ซึ่งโกรทฮอร์โมนจะ ช่ว ยให้ คุ ณดู อ ่ อนเยาว์ โดยการสร้างสมดุลระบบการ เผาผลาญอาหาร และช่วยซ่อมแซมเซลล์ต่าง ๆ ดังนั้น หากขาดฮอร์ โ มนชนิ ด นี้ ผิ ว หนั ง ก็ จ ะหย่ อ นคล้ อ ยและ 2. สร้างบรรยากาศในห้องนอนให้เหมาะสม เช่น เหี่ยวย่นได้ ห้องนอนควรจะเงียบ ไม่มีเสียงรบกวน อุณหภูมิในห้อง 43
ต้องเย็นพอดีและควรจะปิดไฟให้มดื นอกจากนี้ ไม่ควรน�ำ อุปกรณ์หรือสิ่งอ�ำนวยความสะดวกอื่น ๆ เข้าไปไว้ใน ห้องนอน เช่น คอมพิวเตอร์ หรือโต๊ะท�ำงานจะท�ำให้เรา รู้สึกกังวลตลอดเวลาจนเกิดอาการนอนไม่หลับ
5. กดจุดบริเวณใบหน้าก่อนนอน ด้วยการใช้ ปลายนิ้วนวดวนเป็นวงกลม ไปเรื่อย ๆ ตามหัวคิ้ว ขมับ ร่องจมูก คาง และมุมปาก ช่วยให้การนอนหลับสบายและ หลับสนิทขึ้น
3. ควรเลือกหมอนและเตียงนอนให้เหมาะสมกับ สรี ร ะของร่ า งกาย รวมทั้ ง หมั่ น เปลี่ ย นผ้ า ปู ที่ น อน และปลอกหมอนหรือน�ำมาซักทุกอาทิตย์ เพือ่ จะได้ชว่ ยลด การสะสมของฝุ่นและไร ซึ่งอาจท�ำให้ผิวหน้าอ่อนแอ เกิดสิว และอาจเป็นโรคภูมิแพ้ได้ง่ายขึ้น 4. หากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายร่างกายก่อนนอน เช่น การอาบน�้ำอุ่น ฟังเพลงจังหวะสบาย ๆ หรือการ นั่ ง สมาธิ ซึ่ ง ช่ ว ยให้ ร ่ า งกายหลั่ ง สารเอนโดรฟี น 6. กลิ่นของน�้ำมันหอมระเหย ได้แก่ น�้ำมันหอม (Endorphine) ออกมา ท�ำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและ ระเหยจากลาเวนเดอร์ จะช่วยให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ช่วยให้นอนหลับได้สบายยิ่งขึ้น และช่วยให้การนอนหลับสบายยิ่งขึ้น ท่านอนหงายเป็นท่านอนที่ดีต่อสุขภาพ เพราะ 8. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เป็นท่านอนทีไ่ ม่มอี ะไรมากดทับหน้าอก ช่วยให้ระบบทาง เดินหายใจ ท�ำงานได้อย่างคล่องตัวที่สุด เมื่อนอนหงาย เช่น ชา กาแฟ หรือ น�้ำอัดลม เพราะคาเฟอีนจะกระตุ้นให้ กระดู ก สั น หลั ง จะได้ รั บ การรองรั บ จากที่ น อน ท� ำ ให้ ร่างกายตื่นตัว ท�ำให้นอนหลับได้ยาก จึงแนะน�ำให้ดื่มชา สามารถวางตัวอยูใ่ นแนวธรรมชาติได้ดที สี่ ดุ (ยกเว้นผูป้ ว่ ย คาโมมายด์อุ่น ๆ หรือนมอุ่น ๆ ก่อนนอน เพื่อช่วยให้นอน หรือสตรีมีครรภ์) นอกจากนี้ ท่านอนหงายจะช่วยให้หลีก หลับได้ดีขึ้น แต่ไม่ควรดื่มน�้ำมากก่อนเข้านอน เพราะ เลี่ยงการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ดีที่สุด เพราะการนอน อาจท� ำ ให้ ต ้ อ งตื่ น กลางดึ ก บ่ อ ย ๆ เพื่ อ มาเข้ า ห้ อ งน�้ ำ ตะแคงหรือการนอนคว�่ำนาน ๆ จะท�ำให้เกิดแรงกดทับ นอกจากนี้ อาหารจ�ำพวกมันเทศ เผือก กลอย ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต และผลิตภัณฑ์โฮลเกรนต่าง ๆ ช่วยให้ ซึ่งก่อให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า ร่างกายผลิตสารเซโรโทนิน (serotonin) ท�ำให้นอนหลับ สบาย
เอกสารอ้างอิง : สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี สาขาชีววิทยา. สาระน่ารู้เกี่ยวกับการนอนหลับ ตุลาคม 2553 44
บทความพิเศษ...
"ในหลวง... ในดวงใจ ธมอ. ไทย ..." โอ้พระพ่อภูมีศรีประเทศ เหล่าปวงข้าพระบาทต่างอาดูร ขอให้พ่อจงสู่สุขคติ ความดีที่พ่อท�ำจงด�ำรง ลูกจะท�ำความดีตามรอยพ่อ เหล่าเทวารับพ่อสู่สวรรคาลัย บทประพันธ์บทนี้ซึ่งเป็นบทประพันธ์ของคุณครู จิ น ตนา สกุ ล ดี ครู โรงเรี ย นมารี ย ์ อุ ป ถั ม ภ์ สามพราน ที่ ไ ด้ ก ลั่ น กรองจากความรู ้ สึ ก ที่ รั ก และเทิ ด พระเกี ย รติ พระองค์ทา่ น พร้อมทัง้ ขอน้อมร�ำลึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จนตลอดกาล เมื่อกล่าวถึง “ในหลวง...ในดวงใจ ธมอ.ไทย” ผู ้ เขี ย นคิ ด ถึ ง อะไร... ตลอดชี วิ ต ของผู ้ เขี ย น ตั้ ง แต่ จ� ำ ความได้ก็เห็นแต่รูปภาพของพระองค์ท่านที่ติดไว้ตาม ฝาผนังบ้าน ได้ยินชื่อพระองค์บ่อยๆ ได้เห็นพระองค์ใน โทรทัศน์เมื่อมีโอกาสได้ดูทีวี ได้เห็นสิ่งดีงามมากมายที่ พระองค์ได้ทรงกระท�ำ และได้รับผลแห่งความพระทัยดี ของพระองค์ทที่ รงด�ำริโครงการต่าง ๆ พระองค์ทรงกระท�ำ ความดีมากมายบนผืนแผ่นดินไทย ต่อชนชาวไทยทุกคน โดยไม่แยกชั้นวรรณะ ดังพระราชกรณียกิจที่ได้เห็นเป็น
พระปกเกศมาลาลับดับสิ้นสูญ ความโศรกเศร้าทวีคูณอาลัยองค์ สมด�ำริบุญที่สร้างกุศลส่ง อย่างมั่นคงอยู่กับปวงชาวไทย เพื่อสานต่อเจตนาอันยิ่งใหญ่ เทิด ธ ไว้ในดวงใจตลอดกาล เด่นชัดตลอดพระชนมชีพของพระองค์ท่าน ผู้เขียนรู้สึก ภูมใิ จ ดีใจ ทีไ่ ด้เกิดเป็นคนไทย และพร้อมจะเล่าขานต่อไป ว่า “ฉันเกิดในรัชกาลที่ ๙” ผู ้ เขี ย นมั่ น ใจว่ า ความรู ้ สึ ก ที่ รั ก ที่ ก ตั ญ ญู รู ้ คุ ณ ที่เสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ ๙ นั้น คงไม่ ไ ด้ เ ป็ น ความรู ้ สึ ก ของผู ้ เขี ย นเพี ย งผู ้ เ ดี ย วเท่ า นั้ น แต่ เ ป็ น ของคนไทยทั่ ว ทั้ ง ประเทศ....เป็ น ของทุ ก คน ในสื่ อ สาร ธมอ. ฉบั บ บนี้ ผู ้ เขี ย นจึ ง ได้ ร วบรวมภาพ ความประทั บ ใจที่ ห มู ่ ค ณะธิ ด าแม่ พ ระองค์ อุ ป ถั ม ภ์ ทั่วประเทศไทยประทับใจ พร้อมทั้งบทสัมภาษณ์สั้น ๆ ถึ ง ความประทั บ ใจในชี วิ ต และพระราชกรณี ย กิ จ ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช ของ บรรดาซิ ส เตอร์ ธ รรมทู ต ของคณะ ที่ เข้ า มาท� ำ งานใน เมืองไทย อยู่ไต้ร่มโพธิสมภารของพระองค์ท่าน…
45
ภาพแห่งความประทับใจ…ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เมื่อจะต้องเขียนเกี่ยวกับความประทับใจที่มีต่อ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ก็รู้สึกว่ามีหลายเรื่องหลายประเด็น ที่โดดเด่นขึ้นมาในสมอง จนรู้สึกว่าจับต้นชนปลายได้ยาก ว่าเรื่องใดเป็นยอดที่สุด แต่แล้วความคิดก็มาหยุดอยู่ ที่ว่า “พระองค์ท่านทรงเป็นอัจฉริยะบุคคลที่เปี่ยมด้วย พระเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้” - ทรงเป็ น อั จ ฉริ ย ะบุ ค คลในด้ า นพระปรี ช า สามารถมากมายหลายด้านเกินกว่าที่จะพบได้ในบุคคล ทั่วไป ซึ่งล้วนแต่เป็นความรู้ ความสามารถที่รู้จริง รู้ลึก รู้กว้าง ที่ถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง และ พระปรีชาสามารถมากมายนี้มิได้น�ำประโยชน์ไปสู่บุคคล ใดลุคคลหนึ่งหรือเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น แต่ไปถึง ทุก ๆ คน เป็นต้นผู้ที่ยากจนขัดสน เดือดร้อนกว่าเป็น อันดับแรก จนกระทั่งดูเหมือนว่าในพระราชหฤทัยของ พระองค์ท่าน ไม่มีคนไทยคนใดที่ขาดหายไป นอกนั้นยังมี พื้นที่เพียงพอเพื่อโอบอุ้มคนอื่นที่อยู่ในความยากล�ำบาก และรอคอยความช่วยเหลืออีกด้วย
- พระเมตตาของพระองค์ ท� ำ ให้ ท รงทุ ่ ม เท พระวรกายในการทรงงานโดยไม่หยุดหย่อน ทรงก้าวข้าม อุปสรรค และข้อจ�ำกัดทั้งมวลด้วยพระวิริยะอุตสาหะ จนพระภารกิจแห่งการเป็นพ่อหลวงของพสกนิกรไทย ส� ำ เร็ จ สมบู ร ณ์ ใ นดวงใจของปวงชนชาวไทยทุ ก คน มี หลายคนตั้ ง ค� ำ ถามว่ า ท� ำ ไมพระองค์ ท ่ า นจึ ง ได้ ท รง เหน็ดเหนื่อยพระวรกายเช่นนี้ ทั้ง ๆ ที่ทรงเป็นถึงพระเจ้า 46
แผ่ น ดิ น ที่ น ่ า จะอยู ่ อ ย่ า งพระราชาในพระราชวั ง ก็ ไ ด้ แต่ เ พราะพระเมตตาอั น ยิ่ ง ใหญ่ พระองค์ จึ ง มิ ไ ด้ ท รง เลือกปฏิบัติเช่นนั้น แม้นั่นจะหมายถึงความยากล�ำบาก ความเหน็ดเหนื่อย การสละพระองค์และการเสี่ยงภัย อันตรายที่คาดคิดไม่ถึงที่พระองค์ได้ทรงรับไว้ตลอด 70 ปี เพื่ อ แลกกั บ การอยู ่ ดี กิ น ดี แ ละความเจริ ญ รุ ่ ง เรื อ งของ ปวงชนชาวไทย พสกนิกรของพระองค์ จึงถือว่าพระเมตตา ของพระองค์ท่านช่างยิ่งใหญ่หาที่สุดมิได้อย่างแท้จริง
- ภาพแสดงถึ ง การทุ ่ ม เท เสี ย สละความสุ ข ส่วนพระองค์ โดยไม่ค�ำนึงถึงความล�ำบากส่วนพระองค์ เองเลย เพื่อท�ำความดี/ประโยชน์สุขให้กับประชาชน ประเทศชาติมากที่สุดเท่าที่สามารถ
- ภาพแสดงถึ ง ความเป็ น อั ฉ ริ ย สามารถของ พระองค์ ที่ ไ ม่ อ ยู ่ นิ่ ง แต่ ย อมล� ำ บากเพื่ อ ค้ น คว้ า ผลิ ต สร้างสรรค์ พัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น อย่างวิริยะ อุตสาหะ โดยไม่ค�ำนึงถึงความเหน็ดเหนื่อย ของพระองค์เองเลย
- พระองค์ทรงงานด้วยความรักและขยันขันแข็ง เพือ่ ความเจริญของประชาชนชาวไทย ในภาพพระองค์ถอื แผนที่ สะพายกล้อง พูดคุยซักถาม และเปลี่ยนความคิด เห็นกับผู้ที่เกี่ยวข้อง แม้จะทรงเป็นพระราชา ทีมงาน ทรงเป็นผู้น�ำที่ไม่ได้นั่งบนบัลลังก์ และรับสั่งให้ใคร ๆ ท�ำงาน แต่ทรงลงพื้นที่ทรงงานด้วยองค์เอง ทรงศึกษา ทดลอง พัฒนาอย่างต่อเนื่องโครงการในพระราชด�ำริมี มากมายหลายพันโครงการ ทรงทุม่ เท สละพระองค์เองไป ทุกที่เพื่อความดีและความสุขของคนไทยทั้งแผ่นดิน… พวกเรารักพ่อหลวง และภูมิใจที่ได้เกิดในรัชกาลของ พระองค์
- รูปภาพนี้แสดงถึงความใกล้ชิดเป็นกันเองของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั และประชาชนของพระองค์ โดยเฉพาะนักเรียน พระองค์ทรงประทานพระราชทรัพย์ ส่วนพระองค์เพื่อก่อตั้งโรงเรียน ทรงสอน และส่งเสริม การศึกษาทัง้ ในและนอกระบบ ทรงมีกระแสด�ำรัสถึงความ ส�ำคัญของครูในหลายโอกาส ทรงต้องการยกย่องนักเรียน และโรงเรียนที่ดี ทรงปรารภว่า “มีนักเรียนจ�ำนวนมาก ซึ่งมีความประพฤติดี และมีความมานะพยายามศึกษา เล่าเรียนได้ผ ลดี รวมทั้งมีโรงเรียน ซึ่งจัดการศึกษาดี จนนักเรียนสอบได้ผลดีมากเป็นส่วนรวม นักเรียนและ โรงเรียนทีม่ คี ณ ุ สมบัตดิ งั กล่าว สมควรจะได้รบั พระราชทาน รางวัล" - ภาพถือแผนที่ พระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงถือ แผนที่ตลอดเวลา เพราะ พระองค์มพี ระประสงค์ที่ จ ะ รู ้ จั ก ทุ ก ท ้ อ ง ที่ ที่ ประชากรของพระองค์ อาศัยอยู่ ทรงพร้อมที่จะ ลงไปเยีย่ มเยียนประชาชน ทุ ก พื้ น ที่ เพื่ อ สั ม ผั ส ถึ ง ความเป็นอยูข่ องพวกเขา เพื่อจะทรงรับทราบว่าพวกเขาประสบปัญหาใด มีความ ต้องการในเรือ่ งใด ฯลฯ ทัง้ นีเ้ พือ่ พัฒนาชีวติ และความเป็น อยูใ่ ห้ดขี นึ้ ดุจนักอบรม ทีพ่ ร้อมจะลงพืน้ ทีท่ กุ หนแห่งของ 47
เด็ ก และเยาวชน เพื่ อ จะสามารถรั บ รู ้ ถึ ง สภาพและ ความต้องการของพวกเขา สามารถน�ำเขาให้ได้รบั การพัฒนา ในทุกด้าน เฉพาะอย่างยิง่ น�ำเขาให้รจู้ กั และรักพระมากขึน้
- ภาพอยู่กับประชาชน พระองค์ทรงมิใช่เป็น เพียงพระมหากษัตริย์ที่อยู่ต�ำแหน่ง ฐานะสูงสุดเท่านั้น แต่ทรงพร้อมจะอยู่ท่ามกลางประชาชน ด้วยความรัก ห่ ว งใย ดุ จ บิ ด าที่ มี ค วามเป็ น ห่ ว งและรั ก บุ ต รทุ ก คน ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยทุกคน
- ภาพนี้ เ ป็ น ภาพครอบครั ว ของพระองค์ ท ่ า น พระองค์ทรงท�ำงานหนักมากมายอยู่แล้ว แต่พระองค์ยัง ทรงมีเวลาให้แก่ครอบครัวของพระองค์เสมอ เป็นภาพที่ เราที่อยู่ในสังคมปัจจุบันนี้ได้เลียนแบบอย่างของพระองค์
- ทรงเป็ น นั ก สื่ อ สารมวลชนที่ ทั น สมั ย ใช้ ทุ ก อุปกรณ์สอื่ สาร เพือ่ ให้งานทีท่ รงรัก นัน่ คือออกเยีย่ มเยียน และดูแลประชาชน ได้บรรลุผลส�ำเร็จในพระหัตถ์มีกล้อง ถ่ายภาพ ที่แขนทรงมีแผนที่ ในกระเป๋าเสื้อ มีอุปกรณ์ - เป็ น ภาพรวมในภารกิ จ ของพระองค์ ท ่ า นใน เพื่อการติดต่อสายพระเนตรมองไกล แน่วแน่ ความคิด ครอบครัวทีไ่ ม่ใช่สายเลือดเดียวกัน แต่พระองค์ทรงห่วงใย คงพุ ่ ง ไปยั ง ความต้ อ งการของคนไทย ดวงใจเต้ น เพื่ อ ความสุขของประชาชนของพระองค์ ประชาชนเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกับพระองค์ท่าน 48
- ทรงเป็ น คนหนึ่ ง ในพวกเรา เป็ น ประชาชน คนธรรมดา ไม่เหมือนพระราชา ทรงลดพระองค์ลงนั่ง บนพื้นเดียวกับพสกนิกร พิงพระองค์ที่รถคันที่วิ่งบุกป่า ฝ่าดงเปรอะเปื้อนฝุ่นดิน ไม่ได้สนใจยศถาบรรดาศักดิ์ รู ป นี้ แ สดงให้ เ ห็ น ว่ า พระองค์ ท รงอยู ่ ใ กล้ ชิ ด การยกย่องให้เกียรติให้ความเคารพ การดูแลเอาใจใส่พเิ ศษ ทรงลืมความเป็นกษัตริย์เพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิด ได้เข้าใจ ประชาชน รั ก ผู ้ อ าวุ โ ส ทรงเหน็ ด เหนื่ อ ยจากงานแต่ ความร้อนของอากาศ ความเหน็ดเหนื่อย ความไม่สะดวก ไม่เคยท้อใจ สบาย ความหิว ความกระหาย ประชาชนจึงสัมผัสได้ ถึงพระทัยของกษัตริย์ ผู้อยู่ที่สูงสุดของประเทศ ว่าเป็น ดวงใจของบิดาผู้รักห่วงใยลูก ๆ อย่างแท้จริง 49
ในหลวง ในดวงใจ ธมอ. ไทย สัมภาษณ์ ความประทับใจ ซิสเตอร์ธรรมทูต ธมอ. จากการสัมภาษณ์ ซิสเตอร์อาเดไลเด ซูแปร์ติโน ธรรมทูตชาวอิตาลี ท่านประทับใจ ในความรัก เสียสละ ที่อุทิศตน ท�ำดีเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนมากกว่าอยู่อย่างมีความ สุขในวัง คิดค้นทุกวิถีทางเพื่อให้ความช่วยเหลือ ทุ่มเทพัฒนาประเทศชาติ การไม่ถือศักดิ์ของ การเป็นกษัตริย์ ท�ำตัวเหมือนประชาชนทัว่ ไป และการรักคนด้อยโอกาส ยากจนและหาหนทาง ช่วยเหลือพวกเขาเป็นต้นชาวบ้านที่อยู่บนดอยต่าง ๆ เช่นโครงการหลวง โครงการมากมาย มากกว่า 4000 โครงการ ซิสเตอร์เอสเตรีนา ปรันโด ธรรมทูตชาวอิตาลี ได้กล่าวว่า “ซิสเตอร์อยู่ในเมืองไทย 67 ปี แล้ว ซิสเตอร์ได้ฟัง ได้อ่าน ได้ติดตามพระบรมราโชวาทในเย็นวันก่อนวันคล้าย วันพระราชสมภพทุกปีของพระองค์ท่านโดยตลอด เพราะซิสเตอร์พบถึงความเข้มข้นของ เนื้อหาต่าง ๆ ที่พระองค์ท่านตรัสมาจากดวงพระทัยของการเป็นบิดาที่รักความดีของ บรรดาลูกของพระองค์ทุกคน
ซิสเตอร์นาเดีย แฟร์โร ธรรมทูตชาวอิตาลี ท่านได้แบ่งปันว่า “ถ้าจะถามว่าประทับ ใจอะไรในพระองค์ท่าน บอกได้เลยว่า ประทับใจในความสุขุมรอบคอบที่ยิ่งใหญ่และ ความสุภาพถ่อมตนของพระองค์ท่าน ต่อหน้าประชาชนของพระองค์และในการแบ่งปัน เรื่องราวต่าง ๆ ต่อผู้คนมากมายในทุกระดับ
50
ซิสเตอร์อเมเดอา กีนี ธรรมทูตชาวอิตาลี ได้กล่าวถึงความประทับใจในพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ด้วยเช่นกันว่า “ซิสเตอร์ประทับใจในความซื่อเรียบง่าย ของพระองค์ทา่ น ในการทักทายต่อบุคคลทุกระดับ เฉพาะอย่างยิง่ ทรงสุภาพถ่อมตนอย่างมาก กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือหรือผู้ต�่ำต้อย พระปรีชาของพระองค์สนองต่อความต้องการ เร่งด่วนของพวกเขาเสมอ ในการที่จะช่วยค�้ำจุนและพัฒนาพวกเขาให้ก้าวหน้าและผ่านพ้น ความยากล�ำบากในรูปแบบต่าง ๆ และผู้ที่ได้รับความเมตตา ความช่วยเหลือของพระองค์ ต่างก็มีใจรักรู้คุณต่อพระองค์ท่านอย่างมาก” ซิสเตอร์แอลด้า บารัตติโน ธรรมทูตชาวอิตาลี ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ซิสเตอร์มีหลายสิ่ง หลายอย่างที่ประทับใจในองค์พระมหากษัตริย์ไทยพระองค์นี้เป็นอย่างมาก แต่สิ่งที่ซิสเตอร์ ประทับใจมากกว่าหมดก็คอื พระปรีชาสามารถของพระองค์ ทีท่ รงสามารถดูแลรับใช้ประชากร ของพระองค์ได้อย่างครบสมบูรณ์ในการให้ความรูท้ กุ ด้าน ทัง้ นีเ้ พือ่ ประโยชน์สขุ ของประชากร ของพระองค์ พระปรีชาที่สร้างสรรค์ในการคิดโครงการต่าง ๆ มากมาย เพื่อประโยชน์สุขของ ประชานชนชาวไทยอย่างแท้จริง” ซิสเตอร์เทเรซีนา อันเดรออตตี ธรรมทูตชาวอิตาลี ได้แบ่งปันถึงความประทับใจในหลวง รัชกาล ที่ 9 เช่นกันว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงครองราชย์ เจ็ดทศวรรษ พระองค์ทรงเป็นแสงน�ำทางของประเทศไทย พระองค์ได้รับการยกย่องว่าเป็นดังบิดาที่เปี่ยมด้วยความรักและทรงพระปรีชาสามารถ “ใน บรรดาพระมหากษัตริย์ที่มีอยู่ในโลกปัจจุบันนี้ ไม่มีพระองค์ใดทรงงานหนัก เพื่อประโยชน์สุข ของประชาชนเท่ากับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั อีกแล้ว” พระองค์ทา่ นมีความเข้าใจต่อสภาพ ปัญหาของผู้คน ทรงพระปรีชาสามารถในด้านวิทยาศาสตร์ ประยุกต์ใช้เพื่อผลประโยชน์ และการพัฒนาทางด้านอาชีพและความเป็นอยูข่ องประชากรของพระองค์ จากการทรงงานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แสดงให้เห็นถึงความพากเพียรอดทน และเปี่ยมด้วยพระเมตตา คุณของพระองค์ต่อประชากรชาวไทย ซิสเตอร์มาร์การิตา เปเรส ธรรมทูตชาวโคลัมเบีย ประทับใจในหลวง ในความสุภาพ ของท่านที่ลดองค์ลงมาอยู่ใกล้ชิดกับประชาชน ริเริ่มโครงการดี ๆ มากมายเพื่อความอยู่เย็น เป็นสุขของประชาชน พระองค์ทา่ นมีความหนักแน่นมัน่ คงในการท�ำความดี แม้วา่ จะมีกระแส ที่ต่อต้าน หรือขัดขวางเนื่องจากขัดผลประโยชน์ส่วนตน แต่พระองค์ท่านก็ยังมั่นคงที่จะ ท�ำความดีต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน ซิสเตอร์เชื่อว่าเดี๋ยวนี้ท่านคงได้รับรางวัลอยู่ในสวรรค์ แล้วท่านเป็นนักบุญองค์หนึ่งจริง ๆ 51
ซิสเตอร์มารีอันนา แมร์โล ธรรมทูตชาวอิตาลี พระองค์ท่านมีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ และยึดประชาชน ยึดความดีของประชาชนเป็นศูนย์กลาง ด้วยการพัฒนาโครงการพระราชด�ำริ ต่าง ๆ โดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยส่วนพระองค์ ซิสเตอร์ประทับใจมากในโครงการหลวง ต่าง ๆ ทีท่ า่ นได้ดำ� ริและส่งเสริมสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมทุกกระบวนการ จนกระทัง่ ชาวดอย ชาวชนบทได้อยูด่ กี นิ ดีมากขึน้ ห่างไกลยาเสพติด มีความเจริญแม้ในถิน่ ทุรกันดาร เพราะท่านได้ ไปถึงไม่เพียงแต่สั่งการ แต่ลงพื้นที่ ด�ำริ และยังทรงพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ พระองค์ท่าน เจริญชีวิตอย่างเห็นได้ชัดว่าในดวงใจของท่านมีแต่ประชาชน ท่านเป็นคนดีมากจริง ๆ นอกจาก นี้ พระองค์ท่านยังทรงเป็นผู้ที่มีความกตัญญูรู้คุณ รักแม่มาก ดูแลแม่จนลมหายใจสุดท้าย ซิสเตอร์อันนา มาเรีย โมเซเล ธรรมทูตจากประเทศอิตาลี ได้กล่าวว่า “สิ่งที่ซิสเตอร์ ประทับใจใน รัชกาลที่ ๙ คือพระองค์มีความเฉลียวฉลาด พระองค์มีพระทัยที่กว้างใหญ่ และได้ใช้ชีวิตไม่ใช่เพื่อตนเองแต่ใช้ชีวิตเพื่อประชาชน รักและได้น�ำความเจริญก้าวหน้ามาสู่ ประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่ยากจน”
ซิสเตอร์อันนา กราสซี ธรรมทูตชาวอิตาลี เล่าว่า “ตั้งแต่ซิสเตอร์มาท�ำงานที่เมืองไทย เป็นเวลา 42 ปี สิง่ ทีป่ ระทับใจมาก คือภาพทีพ่ ระองค์ทา่ นเสด็จไปเยีย่ มประชาชนตามโครงการ พระราชด�ำริตา่ ง ๆ พระองค์ได้นำ� สันติวธิ เี พือ่ แก้ไขปัญหาต่างๆ ทีเ่ กิดขึน้ ในประเทศไทย ซิสเตอร์ ได้มีโอกาสอยู่ในช่วงการปฎิวัติใหญ่ ๆ 2 ช่วง และมีเหตุการณ์ที่ส�ำคัญ ๆ ที่ได้เกิดขึ้น คือเหตุการณ์การปฏิวัติที่สถานทูตไทยในเขมร ที่มีการเหยียบย�่ำธงชาติ และพระองค์ทรงตรัส สอนว่า อย่าไปถือโทษโกรธพวกเขา แต่ให้อภัยพวกเขา ในช่วงโอกาสการเฉลิมฉลอง ครบ 60 ปี แห่งการครองราชย์ของพระองค์ท่าน ประชาชนชาวไทยได้แสดงความกตัญญูรู้คุณต่อ พระองค์ท่าน ประทับใจภาพที่ประชาชนต่างภาวนาขอให้พระองค์มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน
เพื่อร่วมถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว ในรั ช กาลที่ ๙ ทั้ ง ร่ ว มส� ำ นึ ก ในพระมหา กรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ที่ทรงทุ่มเทพระองค์ปฏิบัติพระราช กรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทยอย่างมิได้ ทรงค�ำนึงถึงความสุขส่วนพระองค์...ในฐานะเป็นคนไทย เราทุกคนขอน้อมถวายค�ำภาวนาและคุณความดีในรูปแบบ ต่าง ๆ เพื่อพระองค์ท่าน ทั้งที่เรามั่นใจแน่ว่า พระองค์ท่าน ทรงสถิ ต อยู ่ ใ นสรวงสรรค์ แ ล้ ว พร้ อ มกั บ องค์ พ ระเจ้ า พระบิดา พระบุตรและพระจิต พร้อมกับเทพเทวาและ บรรดานักบุญทัง้ หลาย กระนัน้ ก็ดี ภาพทีผ่ เู้ ขียนรวบรวมจาก 52
กิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียนในเครือ ธมอ. จะเป็นภาพที่ ปรารถนาจะหลอมรวมเป็นค�ำขอบพระคุณและถวายแด่ พระองค์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช พระมหากษั ต ริ ย ์ ผู ้ ท รงเป็ น ที่ รั ก ยิ่ ง ของปวงชนชาวไทย โดยนับตั้งแต่ วันที่ 13 ตุลาคม 2559 วันเสด็จสวรรคตของ พระองค์ จวบจนวั น นี้ ในรู ป แบบของการท� ำ จิ ต อาสา การร่วมไว้อาลัย การสวดภาวนาในช่วงเวลาต่าง ๆ การตัง้ ใจ ท� ำ หน้ า ที่ ข องตนเอง การร่ ว มหรื อ จั ด กิ จ กรรมร� ำ ลึ ก ใน พระมหากรุณาธิคุณในรูปแบบของการแสดง และอื่น ๆ เราอยากบอกกับพระองค์ว่า “พวกเรารักพระองค์ค่ะ”
ร่วมไว้อาลัยแด่พ่อหลวง…
กิ จกรรมบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9
53
ร่ วมถวายสักการะพระบรมศพ ในหลวง รัชกาลที่ 9
ร่ วมถวายค�ำภาวนาถวายแด่ดวงพระวิญญาณพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยการ ร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ วจนพิธีกรรม สวดสายประค�ำ และการท�ำสมาธิ
ร่ วมท�ำดีเพื่อพ่อหลวง...รัชกาลที่ ๙
ซิสเตอร์คณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ นักเรียนและบุคลากรผู้ร่วมงานทุกระดับของโรงเรียนในเครือ ธมอ. แห่งประเทศไทย ต่างซาบซึง้ ในพระมหากรุณาธิคณ ุ อันหาทีส่ ดุ มิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ล อดุลยเดช พระมหากษัตริย์ไทย ในรัชกาลที่ ๙ ที่ทรงคุณอย่างมากมายต่อแผ่นดินไทย ต่อประชากรไทย และต่อเราแต่ละคน เราจะจด จะจ�ำ จะท�ำ และสานต่อพระราชปณิธาณของพระองค์ท่าน เท่าที่สามารถ แต่สุดก�ำลัง... พวกเราแสนจะ โชคดีที่เกิดเป็นคนไทย อยู่ในแผ่นดินไทย และเราจะภาคภูมิใจเสมอไป ...ช่างโชคดีที่แผ่นดินนี้…มีราชาผู้ทรงธรรม… 54