»¡Ë¹éÒã¹AD ÍԪԵѹ.pdf 1 9/7/2557 15:07:25
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
AD àºÕÂÃì·Ô¾Âì.pdf 1 8/7/2557 9:00:17
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
AD ÇÃóÀ¾.pdf 1 30/6/2557 8:03:09
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
AD ÁÔµ«Ù.pdf 1 3/7/2557 11:55:17
½†Ò¢ÒÂáÅÐÈٹ ºÃÔ¡ÒÃ
à» ´ºÃÔ¡Ò÷ءÇѹ
ÁÒ໚¹¤Ãͺ¤ÃÑÇÁÔµ«Ù¡ÑºàÃÒÊÔ¤Ð!
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
ºÃÔÉÑ· ÁÔµ«ÙÍÂظÂÒ (ä·Â¸Ò´Ò) ¨íÒ¡Ñ´ Çѧ¹ŒÍÂ
035-215040 ÍÂظÂÒ
035-235015 ÊÒÂàÍà«ÕÂ
035-346888
AD ÍÒ»Ôâ¡é.pdf 1 30/6/2557 7:45:09
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
AAPICO HITECH PUBLIC COMPANY LIMITED
99 Moo 1, Hitech Industrial Estate Tambol Ban-Lane, Ampur Bang Pa-In, Ayuthaya 13160 THAILAND Tel : (66 35) 350880 Fax : (66 35) 350881 E-mail : aapico@aapico.com Website : www.aapico.com
AAPICO AMATA COMPANY LIMITED
700/483 Amata Nakorn Industrial Estate, Moo2, Tambol Ban-Kao, Ampur Panthong, Chonburi 20160 THAILAND Tel : 66(0) 38 717200 Fax : 66 (0) 38 717187
AAPICO FORGING PUBLIC COMPANY LIMITED Tel : 66(0) 38 213355-59 Fax : 66 (0) 38 213360
AAPICO PRECISION COMPANY LIMITED Tel : 66(0) 38 213355-59 Fax : 66 (0) 38 213360
AAPICO PLASTICS PUBLIC COMPANY LIMITED Tel : 66(0) 2 3153456 Fax : 66 (0) 2 3153334
AAPICO ITS COMPANY LIMITED
99 Moo 1, Hitech Industrial Estate Tambol Ban-Lane, Ampur Bang Pa-In, Ayuthaya 13160 THAILAND Tel : (66 35) 350880 Fax : (66 35) 350881 E-mail : aapico@aapico.com Website : www.aapico.com
p.006AD àÍçÁ.«Õ+·ÇÕ¼Å+¹Ôâ»Ã.pdf 1 7/7/2557 13:24:11
บริษัท นิโปร (ประเทศไทย) จํากัด
NIPRO (THAILAND) CORPORATION LIMITED
ประกอบกิจการผลิตเครื่องมือแพทย
C
M
Y
TEL.0-3520-1618-24 10/2 หมู 8 ต.บางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา 13110
ºÃÔÉÑ· ·ÇռżÅÔµÀѳ± ¨íÒ¡Ñ´
CM
MY
CY
CMY
K
ºÃÔÉÑ· àÍçÁ.«Õ.àÍÊ.ʵÕÅ ¨íÒ¡Ñ´ ( ÁËÒª¹ ) ໚¹¼ÙŒ¼ÅÔµâ¤Ã§ÊÌҧàËÅç¡
¢¹Ò´ãËÞ‹·Ñé§ã¹»ÃÐà·È áÅÐ µ‹Ò§»ÃÐà·ÈÁÕ¡íÒÅѧ¡ÒüÅÔµ »ÃÐÁÒ³ 4,000-5,000 µÑ¹ µ‹Íà´×͹ ÁÕ¨íҹǹ¾¹Ñ¡§Ò¹»ÃÐÁÒ³ 550 ¤¹»˜¨¨ØºÑ¹ÊÔ¹¤ŒÒÃŒÍÂÅÐ 90 Ê‹§ä»Âѧ»ÃÐà·ÈÞÕè»Ø†¹ â´ÂºÃÔÉÑ·Ï ä´ŒÃѺÁҵðҹ S Grade ¨Ò¡»ÃÐà·ÈÞÕè»Ø†¹, AISC , ISO 9001 : 2008, ISO / IEC 17025 : 2005, OHSAS 18001 : 2007 áÅÐ EN ISO 3834 Part2
70 Moo 2 Changyai Bangsai Ayutthaya 13290 Tel : 035-283191-4 , 035-372961-6 Fax : 035-372967 , 035-283314 Website : www.mcssteel.com E-mail : info@mcssteel.co.th
AD à¨ÕÂàÁé§ Ë¹éÒ7.pdf 1 30/6/2557 7:51:40
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
p.007AD à¤Ã×èͧËÍÁ.pdf 1 9/7/2557 14:56:07
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
E d i t o r ’s T a l k คณะที่ปรึกษา ศ.ดร.กฤช เพิ่มทันจิตต, นิเวศน กันไทยราษฎร ดร.วัลลภ อารีรบ, ดร.สุมิท แชมประสิทธิ์ ดร.พิชัย ทรัพยเกิด ฝายกฎหมาย สมคิด หวังเชิดชูวงศ, ทวิช อมรนิมิตร บรรณาธิการอํานวยการ ศุภกิจ ศิลปรังสรรค บรรณาธิการบริหารสายงานบุคคล พงษศักดิ์ พรณัฐวิฒิกุล บรรณาธิการการบริหารสายงานการตลาด ปณณศักดิ์ ศิลปรังสรรค กองบรรณาธิการ ชานันท หัสสรังสี, จุฑามาศ วองเลขา ชางภาพ กร พงศไพบูลยเวชย กราฟคดีไซน ศศิธร ดวงแสง, ชานันท หัสสรังสี ผูอํานวยการฝายขายโฆษณา กชกร รัฐวร ผูจัดการฝายโครงการ วิษณุ เกิดศิริ, เปรมยุดา ประพฤติธรรม ประสานงานภาครัฐ ชัชชัย สุโกสิ ฝายขาย ชนิกานต นาคสวัสดิ์ ฝาย IT และประสานงาน ชานันท หัสสรังสี, จุฑามาศ วองเลขา ฝายการเงิน-การบัญชี ดวงตา พิมลศิริ
นิตยสาร SBL เคยนําเสนอเรื่องราว ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปเมื่อชวง ตนป 2556 เมื่อเราไดหวนกลับมาเยี่ยม เยือนอยุธยาอีกครั้ง เรายิ่งพบวาจังหวัดนี้ ยังมีเรื่องราวนาสนใจอีกมากมาย ที่พรอม ใหคุณผูอานไดสัมผัส อาทิ ทานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ดร.วิฑูรย สิมะโชคดี กับภารกิจสําคัญ ที่ ส อดรั บ กั บ นโยบายของ คสช.ท า น ผู ว า ฯ วิ ท ยา ผิ ว ผ อ ง นําเสนอไอเดีย การชวยเหลือชาวนาอยางยั่งยืน พรอม ความพยายามทํ า ให ข า ราชการเป น ที่ พึ่ ง ของประชาชนได โครงการพุ ท ธ อุทยานมหาราช อ.มหาราช ตนแบบการสรางสังคมอุดมคติ คุณูปการของ พระอุบาลี พระอริยสงฆผูเสียสละและอุทิศตนใหแกการเผยแผพระพุทธศาสนา ยังดินแดนตนกําเนิด เรื่องราวความเกงกลาของนายขนมตม นักมวยคาดเชือก แหงอโยธยา ที่ไปสรางเกียรติภูมิของแมไมมวยไทยและชนชาติไทยใจหาญให เปนที่ประจักษบนผืนแผนดินพมา กิจกรรม “วันเดียวเที่ยวอยุธยา” ณ อนุสรณ สถานฯ ทุง หันตรา ซึง่ นักทองเทีย่ วจะไดทงั้ ความสนุกสนาน ความรู และของทีร่ ะลึก ประทับใจเพียงหนึง่ เดียวติดมือกลับบาน และทีจ่ ะขาดไมไดคอื หนวยงานราชการ ตางๆ พรอมทัง้ องคกรปกครองทองถิน่ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึง่ เปนฟนเฟอง สําคัญในการขับเคลื่อนใหอยุธยาเจริญกาวหนา ตางพรอมใจกันนําเสนอผลการ ดําเนินงานที่โดดเดน และพรอมจะอาแขนรับการเขามาของประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียนในไมชานี้ ทายนี้ กระผมในนามของนิตยสาร SBL ใครขอขอบพระคุณหนวยงาน หรือองคกรทั้งของภาครัฐและเอกชน ที่ใหการสนับสนุนการดําเนินงานดวยดีมา โดยตลอด และขอถือโอกาสนี้ กราบขออภัยหากมีสิ่งใดขาดตกบกพรอง และ ขอนอมรับคําติชมทุกประการครับ ดวยรักและขอบคุณจากใจ
บริษัท สมารท บิซิเนส ไลน จํากัด 9/4-6 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220 เบอรโทร 02- 522-7171 www.smart-sbl.com
ติดตอคุณศุภกิจ ศิลปรังสรรค โทรศัพท 08-1442-4445, 08-4874-3861 e-mail : supakit.s@live.com
(ศุภกิจ ศิลปรังสรรค) บรรณาธิการอํานวยการ
หจก.อู น.พุแคเจริญยนต บริการ ตอตัวถังรถบรรทุก - ดั้มพ ตอพวง รถทุกชนิด โดยชางผูชํานาญงาน ราคาเปนกันเอง หจก. อู น.พุแคเจริญยนต
53 หมู 10 ต.พุแค อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี 18240 Tel : 036-369324, 036-230009 Phone : 081-3727336, 087-2406569 Fax : 036-369581 e-mail : n.pukae@hotmail.com
คุณคํานึง เกตุชีพ
Contents 98
146
170
ใตรมพระบารมี เสนทางพบปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เสนทางพบผูวาราชการจังหวัด เสนทางพบอุตสาหกรรมจังหวัด เสนทางพบทองถิ่นจังหวัด เสนทางอนุรักษ เสนทางพบ สนง.เกษตร เสนทางพบ สนง.ทชจ. เสนทางพบ สนง.พัฒนาชุมชน เสนทางพบ สนง.ทองเที่ยวและกีฬา เสนทางพบ สนง.วัฒนธรรม เสนทางพบ สพป.อย. 1 เสนทางพบ สพป.อย. 2 รร.อนุบาลพระนครศรีอยุธยา วัดใหญชัยมงคล วัดพนัญเชิงฯ วัดทาการอง
58
174
90
158
90 18 23 31 43 52 58 66 68 70 72 74 78 82 87 90 94 96
96
98 102 106 110 116 118 122 124 126 128 130 132 135 136 138 140 142 145 146 152 155 156 158 160 162
พิพิธภัณฑพระอุบาลี วันเดียวเที่ยวอยุธยา รําลึกนายขนมตม นายก อบจ.สตรีดีเดน แผนที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อบต.บานปอม ทต.ทาหลวง อบต.โพธิ์เอน ทต.อรัญญิก อบต.หนองปลิง อบต.สนามชัย อบต.ตานิม ทต.ภาชี อบต.กระจิว ทต.อุทัย อบต.บานหีบ อบต.บานชาง อบต.หนองไมซุง พุทธอุทยานมหาราช อบต.บานใหม อบต.วังนอย ทต.ลําตาเสา อบต.พยอม ทต.ลาดบัวหลวง อบต.สิงหนาท
94 164 168 170 174 180 181 184
ทต.บานสราง ทต.บางกระสั้น อบต.บานโพ เสนทางพบเกษตรกรดีเดน เสนทางสุขภาพ เสนทางความงาม เสนทางสู AEC
31
AD Zojorushi.pdf 1 30/6/2557 8:10:26
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
AD ¢éÒǵÃҩѵÃ.pdf 1 24/6/2557 14:33:30
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
º·¤ÇÒÁ ¢éÒǵÃҩѵÃ.pdf 1 24/6/2557 14:32:52
¢ŒÒÇÊÕÊ´¨Ò¡µÃҩѵÃ... ·Ò§àÅ×Í¡ãËÁ‹à¾×èͼٌºÃÔâÀ¤
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
“¢ŒÒǵÃҩѵÔ ¾ÅÔ¡â©Áǧ¡ÒâŒÒÇä·Â à» ´µÑÇ New Segment “¢ŒÒÇÊÕÊ´” à·Ã¹´ ãËÁ‹¢Í§¡ÒúÃÔâÀ¤¢ŒÒÇ â´ÂÂÖ´¤Í¹à«ç»µ “¢ŒÒÇÊÕÊ´ ¨Ò¡µÃҩѵà àª×èÍ㹤ÇÒÁÁÕªÕÇÔµ” ·ÕèÃѺ»ÃСѹ¤ÇÒÁÊ´ãËÁ‹ àËÁ×͹à¾Ôè§à¡ÕèÂÇ ¨Ò¡·Ø‹§¹Ò ÁÑè¹ã¨ã¹¤Ø³ÀÒ¾ ¤Ñ´àÅ×Í¡¨Ò¡áËÅ‹§·Õè´Õ·ÕèÊØ´ã¹ÀÒ¤ÍÕÊÒ¹¤Çº¤ØÁ ·Ø¡¢Ñ鹵͹¡ÒüÅÔµ ¹ÒÂÊØàÁ¸ àËÅ‹ÒâÁÃҾà »Ãиҹ¤³Ð¼ÙŒºÃÔËÒà ¡ÅØ‹Á¸ØáԨ¡ÒäŒÒ ÃÐËÇ‹Ò§»ÃÐà·È (ÃѺ¼Ô´ªÍº¸ØáԨ¢ŒÒÇáÅÐÍÒËÒÃ) à¤Ã×Íà¨ÃÔÞâÀ¤Àѳ± à» ´à¼ÂÇ‹Ò ¢ŒÒǵÃҩѵõÃÐ˹ѡáÅÐÂÖ´ÁÑè¹»ÃѪÞÒ 3 »ÃÐ⪹ ¢Í§·‹Ò¹ »Ãиҹ¸¹Ô¹· à¨ÕÂÃǹ¹· ÁÒâ´ÂµÅÍ´¤×Í äÁ‹Ç‹Ò¨Ð·íÒ¸ØáԨ㴸ØáԨ¹Ñé¹ µŒÍ§¡‹ÍãËŒà¡Ô´»ÃÐ⪹ 3 »ÃСÒà ¤×Í »ÃÐ⪹ µ‹Í»ÃÐà·ÈªÒµÔ »ÃÐ⪹ µ‹Í»ÃЪҪ¹ áÅлÃÐ⪹ µ‹ÍºÃÔÉÑ· ¨Ö§Ã‹ÇÁÁ×͡ѺªÒǹÒã¹â¤Ã§¡ÒÃÊ‹§àÊÃÔÁ »ÅÙ¡¢ŒÒÇËÍÁÁÐÅÔ »‚ 2556/57 à» ´µÑÇ “¢ŒÒÇÊÕÊ´” (Fresh Milling) «Ö觶×Í໚¹¤ÃÑé§áá¢Í§àÁ×ͧä·Â·Õè¼ÙŒºÃÔâÀ¤¨Ðä´ŒÃѺ»Ãзҹ¢ŒÒÇ·ÕèÍØ´Áä»´ŒÇ ¤Ø³¤‹Ò áÅФÇÒÁÍËÍ·Õèᵡµ‹Ò§¨Ò¡¢ŒÒÇÊÒ÷ÑèÇä»à¾ÃÒÐ໚¹¢ŒÒÇ·Õ輋ҹ¡Ãкǹ ÇÔ¸Õ¡ÒÃÊÕÊ´æáÅÐÇÔ¸Õ¡ÒèѴà¡çºÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁÊ´ãËÁ‹¢Í§¢ŒÒÇà»Å×Í¡ ·Õè¨Ð·íÒãËŒ ¼ÙŒºÃÔâÀ¤ÃÙŒÊÖ¡àËÁ×͹䴌ÃѺ»Ãзҹ¢ŒÒÇ ·Õèà¾Ôè§à¡çºà¡ÕèÂÇÁÒ¨Ò¡Ãǧ¢ŒÒÇâ´ÂµÑé§ à»‡ÒËÁÒÂÂÍ´¢Ò» ´ÊÔé¹»‚ ¾.È. 2558 ´ŒÇÂÁÙŤ‹Ò 100 ŌҹºÒ· à¤Åç´ÅѺ¢Í§¢ŒÒÇÊÕÊ´¨Ò¡µÃҩѵà àÃÔèÁ¨Ò¡¡ÒäѴàÅ×Í¡áËÅ‹§ à¾ÒлÅÙ¡·Õè´Õ·ÕèÊØ´ ã¹á¶ºÀÒ¤ÍÕÊÒ¹ ¨Ò¡á»Å§¹Òà¡ÉµÃ¡ÃÊÁÒªÔ¡ ·ÕèࢌÒËÇÁ â¤Ã§¡ÒÃÊ‹§àÊÃÔÁ»ÅÙ¡¢ŒÒÇËÍÁÁÐÅԡѺ·Ò§ºÃÔÉÑ· ÃÇÁ¡Ç‹Ò 5,000 äË ã¹ »‚¡ÒüÅÔµ 56/57 â´ÂºÃÔÉÑ·Ï ä´Œà¢ŒÒÁÒª‹Ç´ÙáÅàÃ×èͧ¢Í§Ãкº¡ÒúÃÔËÒà ¨Ñ´¡ÒáÒÃà¡ÉµÃ µÑé§áµ‹á»Å§¹Ò ¨Ñ´ËÒàÁÅ紾ѹ¸Ø ¾ÃŒÍÁ·Ñé§ãËŒ¤ÇÒÁÃÙŒ ¢Ñ鹵͹¡ÒûÅÙ¡¢ŒÒÇËÍÁÁÐÅÔãˌ䴌¼Å¼ÅÔµ´Õ ÃÒ¤ÒÊÙ§ µŒ¹·Ø¹µíèÒ ÍÕ¡·Ñé§ ÃѺ«×éÍ¢ŒÒÇà»Å×Í¡¤×¹â´ÂµÃ§¨Ò¡à¡ÉµÃ¡ÃÊÁÒªÔ¡·íÒãËŒ¢ŒÒÇ·Ø¡àÁÅç´·Õèä´ŒÁÒ à»‚›ÂÁä»´ŒÇ¤سÀÒ¾áÅÐÊÒÁÒöµÃǨÊͺŒ͹¡ÅѺ䴌·Ø¡¢Ñ鹵͹¡ÒüÅÔµ â¤Ã§¡ÒÃÊ‹§àÊÃÔÁ»ÅÙ¡¢ŒÒÇËÍÁÁÐÅÔ ã¹¤ÃÑ駹Õé ¹Ñºà»š¹¤ÇÒÁËÇÁ Á×ÍÃÐËÇ‹Ò§ºÃÔÉÑ·Ï ¡ÑºªÒǹҼٌ»ÅÙ¡¢ŒÒÇËÍÁÁÐÅÔ à¾×èÍÊÌҧ¤ÇÒÁÂÑè§Â×¹ ËÇÁ¡Ñ¹ ¤×Í ºÃÔÉÑ·ÏÁÑè¹ã¨ã¹¤Ø³ÀÒ¾¢Í§Çѵ¶Ø´ÔºµÒÁÁҵðҹ¢Í§¢ŒÒÇ µÃҩѵâ³Ðà´ÕÂǡѹ¡çµÃÐ˹ѡ¶Ö§»˜ÞËÒ´ŒÒ¹¡ÒõÅÒ´¢Í§à¡ÉµÃ¡Ã¼ÙŒ
»ÅÙ¡¢ŒÒÇ â´ÂÃѺ«×éÍÇѵ¶Ø´Ôºã¹ÃÒ¤Ò·ÕèÊÙ§¡Ç‹ÒÃÒ¤Ò·ŒÍ§µÅÒ´¨Ð·íÒãËŒà¡ÉµÃ¡Ã ÁÕ¤ÇÒÁÁÑè¹ã¨ÁÒ¡¢Öé¹ à¾ÃÒÐÁÕµÅÒ´ÃͧÃѺ¼Å¼ÅÔµ·Õèṋ¹Í¹ «Ö觺ÃÔÉÑ·Ï ä´Œ´íÒà¹Ô¹¡ÒÃâ¤Ã§¡ÒÃÊ‹§àÊÃÔÁÏ Í‹ҧµ‹Íà¹×èͧ áÅÐã¹»‚ 57/58 ¨Ðà¾ÔèÁ ¾×é¹·Õè¡ÒÃà¾ÒлÅ١໚¹ 8,696 äË àÍ¡Åѡɳ ¾ÔàÈɢͧ “¢ŒÒÇÊÕÊ´” àÃÔèÁ´ŒÇ¡ÒäѴ¢ŒÒÇà»Å×Í¡ Ê´ãËÁ‹äÁ‹à¡Ô¹ 3 à´×͹ ¡‹Í¹¨Ð¹íÒÁÒ¼‹Ò¹¡Ãкǹ¡ÒÃà¡çºÃÑ¡ÉҤسÀÒ¾ãËŒ ¤§¤ÇÒÁÊ´ãËÁ‹ àËÁ×͹à¾Ôè§à¡çºà¡ÕèÂǨҡÃǧ ´ŒÇÂà·¤â¹âÅÂÕ¡ÒÃà¡çº¢ŒÒÇ änj㹠Grain Cooler ·ÕèÍسËÀÙÁÔ¤§·Õè 25 ͧÈÒà«Åà«ÕÂÊ ¡‹Í¹¨Ð¹íÒÁÒ ¡Ðà·ÒÐà»Å×Í¡ãˌ໚¹¢ŒÒǡŌͧ à¾×èͺÃèØŧ¶Ø§ÀÒÂã¹ 24 ªÑèÇâÁ§ ¨Ò¡âçÊÕ ¢Í§µÃҩѵà áŌǨѴà¡çºã¹µÙŒáª‹ ³ ¨Ø´¢Ò·ÕèÍسËÀÙÁÔ 15 ͧÈÒà«Åà«ÕÂÊ ·íÒãËŒ¢ŒÒÇ·Õèä´ŒÁÕ¡ÅÔè¹ËÍÁ¡Ç‹Ò ¹Ø‹Á¡Ç‹Ò ÍËÍÂ¡Ç‹Ò áÅÐÁդس»ÃÐ⪹ ÁÒ¡¡Ç‹Ò ¢ŒÒÇÊÒ÷ÕèÍÒÂØ෋ҡѹ ᵋ¼‹Ò¹¡ÒâѴÊÕÁÒ¹Ò¹ ¢³Ð¹Õé ¢ŒÒÇÊÕÊ´ÁÕÇÒ§¨íÒ˹‹Ò·Õè⫹ Eathai ¢Í§ËŒÒ§ Central Embassy «Ö觨ÐÁÕà¤Ã×èͧÊÕ¢ŒÒÇ Magic Mill ÊաѹẺʴæ áÅÐ ÊÒÁÒöàÅ×͡䴌NjҵŒÍ§¡ÒÃÊÕẺ¢ŒÒÇ¢ÒÇ ËÃ×Í¢ŒÒǡŌͧ(ÁÕ¨ÁÙ¡¢ŒÒÇ-Germ Rice) ä´ŒÍÕ¡´ŒÇ áÅÐÀÒÂã¹»‚ 2557 ¹Õé ·Ò§ºÃÔÉÑ·Ï ÁÕá¼¹¡ÒâÂÒÂÊÒ¢Ò·Õè¨íÒ˹‹Ò ¢ŒÒÇÊÕʴËÇÁ¡Ñº Tops ¨íҹǹ 16 ÊÒ¢Ò ä´Œá¡‹ » ›¹à¡ÅŒÒ, ¾ÃÐÃÒÁ 2, Ãѵ¹Ò¸ÔàºÈà , ºÒ§¹Ò, ¾ÃÐÃÒÁ 3, ᨌ§ÇѲ¹Ð, ÅÒ´¾ÃŒÒÇ, ªÔ´ÅÁ, ¾ÃÐÃÒÁ 9, ÃÒª¾Ä¡É , ÊØ¢ÒÀÔºÒÅ 3, ¿ Çà¨Íà ¾Òà ¤ÃѧÊÔµ, ºÒ§ÃÑ¡, ¾Ø·¸Á³±Å, ῪÑè¹äÍᏴ áÅкҧᤠ໚¹µŒ¹
AD ÃéÒ¹¹ÒÂãËè1.pdf 1 30/6/2557 7:46:57
‹ÒÂ í¨ Ë¹à¿Íà ¹Ôà¨ÍÃ à¡‹Ò ãËÁ‹ §Ò¹ÁØ¡ ä·Â¨Õ¹ à¤Ã×èͧà§Ô¹ Ò
Ìҹ¹ÒÂãËÞ‹
C
M
Y
CM
MY
à¤Ã×èͧ·Í§àËÅ×ͧ §Ò¹¡ÃÐàº×éͧ ¢Í§ÊÐÊÁ ¢Í§µ¡áµ‹§ºŒÒ¹
ÃѺ«×éÍ¢ÒÂáÅ¡à»ÅÕè¹ ·Ñ駻ÅÕ¡ áÅÐ Ê‹§
5 0 3 9 4 6 0 0 â·Ã.08
CY
CMY
K
70 Á.5 µ.ËѹÊѧ Í.ºÒ§»ÐËѹ ¨.¾Ãй¤ÃÈÃÕÍÂظÂÒ
AD ºÔ꡺ÐËÁÕè.pdf 1 30/6/2557 7:54:27
ÊÒ¢Ò ÍÂظÂÒ
¶¹¹ÊÒÂàÍàªÕÂ
ºÔ꡺ÐËÁÕè & Êàµç¡
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
â·Ã.035-706-501
AD ÈÃÕÍÂظÂÒ.pdf 1 3/7/2557 13:07:43
ºÃÔÉÑ· ÈÃÕÍÂظÂÒàËÃÕÂ޷ͧ ¨íÒ¡Ñ´
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
126 Á.8 µ.˹ͧ¢¹Ò¡ Í.·‹ÒàÃ×Í ¨.¾Ãй¤ÃÈÃÕÍÂظÂÒ
â·Ã.089-891-5300, 084-775-3618
AD ÈÃÕÍÂظÂÒ.pdf 2 3/7/2557 13:07:43
ºÃÔÉÑ· ÈÃÕÍÂظÂÒàËÃÕÂ޷ͧ ¨íÒ¡Ñ´
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
ใตรมพระบารมี
โครงการฟารมตัวอยาง อันเนื่องมาจากพระราชดําริ
สมเด็จพระนางเจาสิริกิติ์ เนื่องจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตองประสบปญหาอุทกภัยอยูบ อ ยครัง้ ทําให ราษฎรไดรบั ความเดือนรอนและทุกขยากอยาง ตอเนือ่ ง สมเด็จพระนางเจาฯ พระบรม ราชินีนาถ จึงพระราชทานความชวยเหลือ แกราษฎร ผานการจัดตั้ง “โครงการฟารม ตัวอยางอันเนื่องมาจากพระราชดําริ” ณ หนองงู เ ห า ตํ า บลบางระกํ า อํ า เภอ นครหลวง เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2553
ที่มาโครงการ สมเด็ จ พระนางเจ า ฯ พระบรม ราชิ นี น าถ ได มี พ ระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ พระราชทานความช ว ยเหลื อ ให แ ก ผู ประสบความเดือดรอนจากภาวะอุทกภัย โดยทรงมอบให พลเอก ณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ และคณะ เดินทาง มาพบปะประชาชนจากตํ า บลบางระกํ า และตํ า บลปากจั่ น จํ า นวน 150 คน ที่ ศาลาประชาคมอําเภอนครหลวง ไดแจง
วัตถุประสงคของโครงการและสอบถาม ความสมั ค รใจในการเลื อ กอาชี พ ที่ ถ นั ด และเดินทางไปดูสถานที่บริเวณหนองงูเหา สาธารณประโยชน จากนั้ น ทรงมอบให พลเอก ณพล บุ ญ ทั บ รองสมุ ห ราช องครักษ เปนประธานคณะทํางาน ดําเนิน การ “โครงการฟารมตัวอยางอันเนื่อง มาจากพระราชดําริ สมเด็จพระนางเจา สิ ริ กิ ติ์ พระบรมราชิ นี น าถ” ที่ บ ริ เ วณ หนองงูเหาสาธารณประโยชนหมูที่ 4, 5, 6 ตําบลบางระกํา อําเภอนครหลวง
โครงการฟาร์มตัวอย่าง
อันเนื่องมาจากพระราชดําริ ในสมเด็จพ เจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ประสบอุทกภัย หน ตําบลบางระกํา อําเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอย
18
วัตถุประสงค เพื่อพระราชทานความชวยเหลือใหแกผูประสบ ความเดือดรอนจากภาวะอุทกภัย ในรูปแบบของการ ทําฟารมตัวอยาง ซึง่ ประกอบดวยกลุม อาชีพตามความ สนใจของราษฎรในพื้นที่ โดยแบงออกเปน 6 กลุม ได แ ก กลุ ม เลี้ ย งปลา เลี้ ย งกุ ง และแปรรู ป อาหาร กลุมเพาะเห็ด กลุมทําการเกษตร กลุมเลี้ยงไก เปด กลุมหัตถกรรม กลุมทํานา กลุมแมบาน การบริหารโครงการ นายเรวัต อัมพวานนท นายอําเภอนครหลวง จัด Farm Workshop ทุกวันเสาร เวลา 10.00 น. เพื่อ ติดตามงาน แกปญ หาการดําเนินงาน ตลอดจนวางแผน กิจกรรม
Ayutthaya 19
ผลการดําเนินงาน โครงการฟารมตัวอยางฯ ฟารมตัวอยาง อันเนือ่ งมาจากพระ ราชดําริฯ หนองงูเหา อําเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีผลการดําเนิน งาน อาทิ • การปรับปรุงภูมทิ ศั น มีการปรับปรุง พืน้ ทีด่ า นทิศทางตะวันตกเฉียงใตประมาณ 47 ไร พร อ มติ ด ตั้ ง เครื่ อ งสู บ นํ้ า ทํ า การ ระบายนํ้ า ลงสู ค ลองธรรมชาติ เพื่ อ นํ า พื้นดินสวนที่เหลือประมาณ 37 ไร มาใชใน การปลูกขาวแบบขึ้นนํ้า พรอมปลูกพืชผัก สวนครัวบนคันนา • การปลู ก พื ช บริ เ วณขอบหนอง ได นํ า พื ช ล ม ลุ ก มาปลู ก ได แ ก ถั่ ว ลิ ส ง ทานตะวั น มะเขื อ เทศ พื ช ผั ก สวนครั ว เหนื อ ขอบบ อ ขึ้ น ไปได ป ลู ก ไม ที่ เ รี ย กว า “หลุมพอเพียง” จํานวน 50 หลุม ตนกลวย ที่สํานักงานคณะกรรมการวิจัยแหงชาตินํา
กระชังปลา
กระชังกบ
มาให 200 ตน ขนุนพันธมหาราช เห็ด เจริญงดงามดี ใน ชวงตอไปสถานีพัฒนาที่ดินจะนํามะพราวนํ้าหอมมาปลูก คั่นระหวางตนมะมวง • การกอสรางอาคารและโรงเรือนในฟารม ได กอสรางอาคารผลิตปุยหมักขนาด 3 x 5 เมตร ติดกับโรงเห็ด • การประชาสัมพันธกิจกรรมของฟารม วันที่ 14 กุมภาพันธ 2554 “เทศกาลแจกรอยยิ้ม ชิ ม อาหารอร อ ยวั น แห ง ความรั ก ” ภายในงานมี ก าร จํ า หน า ยอาหารจากผลิ ต ผลในฟาร ม ผลิ ต ภั ณ ฑ ชุ ม ชน การแขงขันพายเรือผลัด 4 x 100 เมตร มีการประกวดเรือ โบราณกวา 30 ลํา กลางคืนมีแหเรือไฟ 2 ลํา ขบวนเรือ สงตัวเจาสาว การจดทะเบียนสมรสบนแพกลางหนองงูเหา การปลูกไมมงคลประจําวันเกิดหรือราศีเกิด เปนตน วันที่ 26 กุมภาพันธ 2554 เอกอัครราชทูตโปรตุเกส ประจําประเทศไทยพรอมภริยาและบุตรไดเดินทางมาถาย ทํารายการ “กุสุมาพาทูตเที่ยวไทย” วันที่ 4 มีนาคม 2554 พิธีกรรายการ “อําเภอยิ้ม” ของ มหาดไทยแชนแนล ไดมาถายทําภาพกิจกรรมของฟารม ตัวอยาง วันที่ 20 มีนาคม 2554 พลเอก ณพล บุญทับ รอง สมุหราชองครักษ ในสมเด็จพระนางเจาฯ พระบรมราชินนี าถ และคณะนายทหารจากกองราชองครักษ ไดเดินทางมารวม กิจกรรม “ฟารมตัวอยาง อยุธยาไตรกีฬา ครั้งที่ 8” 20
ผูวาฯกับโครงการฟารมตัวอยางฯ นายวิ ท ยา ผิ ว ผ อ ง ผู ว า ราชการ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปดเผยถึง ความคื บ หน า โครงการฟาร ม ตั ว อย า ง อันเนื่องมาจากพระราชดําริในสมเด็จ พระนางเจาฯ พระบรมราชินีนาถ วา จากการที่อําเภอนครหลวงประสบอุทกภัย เมื่ อ ป 2554 ทํ า ให ร าษฎรได รั บ ความ เดื อ ดร อ นกว า 9 พั น ครั ว เรื อ น สมเด็ จ พระนางเจ า ฯ พระบรมราชิ นี น าถ มี พระราชเสาวนียใหจัดตั้งหมูบานเศรษฐกิจ พอเพียงเพื่อชวยเหลือผูประสบอุทกภัยขึ้น บนพื้นที่ 180 ไร ที่ตําบลบางระกํา เพื่อเปด
โอกาสใหราษฎรเลือกอาชีพที่ตนเองถนัด ประกอบอาชีพ ซึ่งในชวง 8 เดือนที่ผานมา มีผลผลิตออกจําหนายแลว สามารถสราง รายไดใหกับราษฎรในพื้นที่ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ ทางอําเภอนครหลวงจะนําผลผลิตที่ ไดจากโครงการฯ นําขึ้นทูลเกลาฯ ถวาย “ดําเนินการมาเปนเวลา 8 เดือน เปนการเตรียมคน สถานที่ เริม่ เขาสูช ว ง ทีจ่ ะมีผลผลิตตอบแทน ตัง้ เปาเมือ่ ครบ 1 ป ก็จะหาทางสรางรายได เพือ่ แบงเบา พระราชภาระของสมเด็จพระนางเจาฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ใหการสนับสนุน คาแรง งบประมาณการบริหารจัดการ ภายในฟารมใหลดนอยลง ทุกวันนี้มี คาใชจายประมาณ 4 แสนบาท” ผูว า ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กลาววา การดําเนินการในโครงการฟารม ตั ว อย า งฯ จะทํ า ให ร าษฎรมี ร ายได จ าก ผลผลิตเพิ่มมากขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ขึ้นอยางยั่งยืน
Ayutthaya 21
AD »ØëÂÁéÒºÔ¹ µÃ§¢éÒÁÊÒûÅÑ´.pdf 1 30/6/2557 7:47:28
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
Ayutthaya 23
เส้นท�งพบกระทรวงอุตส�หกรรม
ดร.วิฑูรย สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
นับตั้ งแต่ คณะรั ก ษ�คว�มสงบแห่ ง ช�ติ หรื อ คสช. เข้ามาแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองคืนความสงบสุข ให้คนในชาติ และบริหารประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้ กระทรวงอุตส�หกรรม โดย “ดร.วิฑูรย สิมะโชคดี” ปลัดกระทรวงอุตส�หกรรม จึงขานรับนโยบายด้าน อุ ต สาหกรรมของคสช. ซึ่ ง สอดรั บ กั บ คำ า ขวั ญ ของ กระทรวงฯ ที่ว่า “กระทรวงอุตสาหกรรม เปนที่พึ่งของ ผูประกอบการและประชาชนอยางแทจริง” ทำ�องคกรโปร่งใสต�มนโยบ�ย คสช. เพื่อให้การทำางานของกระทรวงอุตสาหกรรมมีความ โปร่งใส ตามนโยบายการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ของ คสช. กระทรวงฯจึงได้แต่งตัง้ คณะกรรมการประเมิน ผลการจัดทำามาตรฐานความโปร่งใส ของ ของสำ�นักง�น ปลัดกระทรวงอุตส�หกรรม เพื่อให้การบริหาร ราชการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นที่เชื่อ ถือไว้วางใจจากประชาชน รวมถึงเพื่อป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต 24
กระทรวงอุตสาหกรรมในวันนี้ จะให้บริการแบบ “ข้าราชการมืออาชีพ” โดยยึดหลักการของวัฒนธรรม “ASSA-ASIA”
ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าว ประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วย งานภายในและภายนอกรวม 8 ท่าน ได้แก่ รองปลัดกระทรวง อุตสาหกรรมเป็นประธาน ผูแ้ ทนจากภาควิชาการ ผูแ้ ทนจากกลุม่ ผู้ใช้บริการ และผู้แทนสื่อมวลชน เป็นต้น โดยคณะกรรมการจะ ทำาหน้าที่ตรวจสอบและประเมินผลความโปร่งใสในการทำางาน ของข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานใน 4 มิติ ได้แก่ ด้าน นโยบายผูบ้ ริหาร ด้านการเปดเผยข้อมูล ด้านการใช้ดลุ ยพินจิ และ ด้านกลไกรับเรื่องร้องเรียน กระทรวงอุตสาหกรรมในวันนี้ จะให้บริการแบบ “ข้าราชการ มืออาชีพ” โดยยึดหลักการของวัฒนธรรม “ASSA-ASIA” คือ Advise (ให้คำาแนะนำา) Service (ให้การบริการ) Support (ให้การ สนั บ สนุน) Assist (ให้ การช่ วยเหลือ ) และ Accountability (รับผิดชอบ) Suggestion (เสนอแนะ) Integrity (ซื่อตรง) และ Assa (อาสา) เร่งรัดออกใบอนุญ�ต รับนโยบ�ย คสช. กระทรวงอุ ต ส�หกรรม ได้ปรับลดขั้นตอนการอนุญาต ทั้งหมด จากเดิมกำาหนดภายใน 90 วัน ลดลงเหลือ 45 วัน กรณี เป็ น โรงงานใหญ่ ที่ มี ปั ญ หาสิ่ ง แวดล้ อ ม และ 30 วั น ในกรณี ทั่วไป อย่างไรก็ตามนโยบายของ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญช�ก�รทห�รอ�ก�ศ รองหัวหน้�คณะรักษ�คว�มสงบ แห่งช�ติ (คสช.) ในฐานะ หัวหน้�ฝ�ยเศรษฐกิจ มีนโยบายให้ลด ลงเหลือ 30 วันในทุกกรณี ซึ่งสามารถทำาได้หากเอกสารประกอบ คำาขออนุญาตครบถ้วน เมื่อเจ้าหน้าที่ลงรับเรื่องก็นับเป็นวันที่ 1 ในการดำาเนินการตามขั้นตอน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องออกใบรับเรื่อง ราวคำาขอฯพร้อมกับระบุวนั ทีใ่ ห้มารับใบอนุญาตแก่ผยู้ นื่ คำาขอด้วย โดยเร็วๆ นี้กระทรวงฯ จะประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า ผูป้ ระกอบการจะต้องเตรียมเอกสารประกอบคำาขออนุญาตใดบ้าง คาดว่าไม่เกิน 10 รายการ เพื่อแก้ไขปัญหาการขอเอกสารเพิ่ม ในส่วนของการพิจารณาออกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง.4) จะยึดหลักมาก่อนได้กอ่ น (First in First out) โดยกรมโรงงาน อุตสาหกรรม (กรอ.) แจ้งว่าสามารถเริ่มดำาเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2557 เป็นต้นไป ระหว่างนีผ้ ปู้ ระกอบการสามารถตาม เรื่องได้ ผ่านทางเว็บไซตของ กรอ. หรือ ศูนยอำานวยความสะดวก ให้กับนักลงทุนและผู้ประกอบการ (Service Center for Investor and Entrepreneur: SCIE) ซึ่งเป็นบริการใหม่ของกระทรวงฯ ที่ แสดงถึงคุณภาพและความโปร่งใส ที่ผู้ขออนุญาตจะสามารถ ติดตามตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน Ayutthaya 25
ทั้งนี้การปรับลดขั้นตอนการพิจารณาออกใบอนุญาตประกอบ กิจการโรงงาน (รง.4) จาก 90 วันเหลือ 30 วัน อาจทำาให้หลายฝาย เป็นห่วงในคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม รวมทั้งความปลอดภัยของ ประชาชนที่อยู่โดยรอบโรงงานอุตสาหกรรม แต่ขอย้ำาว่าแม้กระทร วงฯ จะลดระยะเวลาการพิจารณาลง แต่ยังคงให้มีความเข้มงวด ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกฉบับ เพราะหากเข้มงวดถูกต้องตั้งแต่ ก่อนก่อสร้างโรงงาน และมีการกำาหนดเงือ่ นไขในการออกใบอนุญาต ตามความเหมาะสมของแต่ละประเภทโรงงานแล้ว จะช่วยลดปัญหา ข้อร้องเรียนต่างๆ จนถึงการลดอุบัติเหตุอุบัติภัยได้ โดยกระทรวง อุตสาหกรรมมีมาตรการในการกำากับดูแลภาคอุตสาหกรรมอย่าง ใกล้ชิด เช่น การตรวจโรงงานตามแผน และใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ตัง้ แต่การติดตัง้ อุปกรณตรวจวัดคุณภาพอากาศ และระบบตรวจวัด คุณภาพน้ำาแบบออนไลน
ขอยํ้าว่าแม้กระทรวงฯ จะลดระยะเวลาการ พิจารณาลง แต่ยังคงให้มีความเข้มงวดตาม กฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกฉบับ 26
เปดศูนยอำ�นวยคว�มสะดวกนักลงทุน กระทรวงอุตส�หกรรม ได้เปด “ศูนยอำ�นวย คว�มสะดวกให้กับนักลงทุนและผู้ประกอบก�ร” (Service Center for Investor and Entrepreneur: SCIE) เพื่อติดตามเรื่องราวการขออนุญาตต่างๆ ที่ อยู่ในอำานาจหน้าที่ของกระทรวงอุตสาหกรรม โดย ศูนยฯ จะติดต่อประสานงานกับทุกหน่วยงานในสังกัด กระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้งเป็นศูนยฯให้คำาแนะนำา แก่ ผู้ ป ระกอบการในการปฏิ บั ติ ต ามขั้ น ตอนต่ า งๆ ยึดมั่นการบริการที่มีประสิทธิภาพ และสะดวกรวดเร็ว โดยได้มอบหมายให้น�ยหทัย อูไ่ ทย ผูต้ รวจร�ชก�ร กระทรวงอุตส�หกรรม เป็น ผู้อำ�นวยก�รศูนยฯ มีที่ทำาการ ณ ห้องโถงชั้น 1 อาคารสำานักงานปลัด กระทรวงอุตสาหกรรม ศูนย SCIE จะมีรองอธิบดี 1 คนและเจ้าหน้าที่ จาก 4 หน่วยงานออกใบอนุญาตสลับกันมาประจำา การ โดยมีอำานาจหน้าที่ คือ 1) รับเรื่องราวข้อขัดข้อง ต่างๆ จากนักลงทุนและผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและ ชาวต่างประเทศในการติดต่อกับหน่วยงานในสังกัด กระทรวงอุตสาหกรรม 2) ให้ศนู ยฯ ติดตามเรือ่ งราวการ พิจารณาคำาขออนุญาตต่างๆ จากหน่วยงานในสังกัด ให้ เป็นไปตามข้อกำาหนดตามกฎหมายหรือกำาหนดระยะ เวลาต่างๆ ตามระเบียบหรือประกาศแล้วแต่กรณี และ 3) ให้ศูนยฯ อธิบายและชี้แจงนักลงทุนและผู้ประกอบ การอย่างชัดเจน ในขั้นตอนต่างๆ พร้อมกับแจ้งวันที่ จะให้มารับใบอนุญาตฯ หรือกำาหนดเวลาแล้วเสร็จใน เรื่องนั้นๆ และจะรายงานการติดตามเรื่องการอนุญาต ของศูนยฯ ต่อปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมทราบทุกวัน ในกรณีที่นักลงทุนและผู้ประกอบการทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ มีปัญหาอุปสรรคอันเนื่องมาจาก การขออนุญาต หรือติดต่อประสานงานในเรื่องต่างๆ กั บ หน่ ว ยงานต่ า งๆในสั ง กั ด กระทรวงอุ ต สาหกรรม ทั้ง 22 หน่วยงาน สามารถแจ้งขอรับความช่วยเหลือ ต่ อ ศู น ย SCIE ดั ง กล่ า วโดยตรง หรื อ ติ ด ต่ อ ได้ ที่ โทร. 0 2202 3866 โทรสาร 0 2202 3877 ในวัน เวลา ราชการ หรือ www.industry.go.th (click ทีศ่ นู ยอาำ นวย ความสะดวกให้กับนักลงทุนและผู้ประกอบการ)
(สสว.) เพื่อหารือแนวทางการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (SMEs) โดยคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ได้ เข้ามานำาเสนอแนวคิดที่รวบรวมจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่ว ศูนย์ SCIE เป็นบริการใหม่ของ ประเทศมี 3 ประเด็น คือ 1.การระดมสมองเพื่อนำาเสนอมาตรการ กระทรวงฯ ที่แสดงถึงคุณภาพและ ในการสนับสนุน SMEs เสนอโครงการเร่งด่วนที่ชื่อว่า “SMEs ความโปร่งใส ที่ผู้ขออนุญาตจะสามารถ Live Strong” เพื่อสร้างความเข้มแข็งในทุกด้านที่จำาเป็น 2.การ จัดตั้งสภาเอสเอ็มอี เพื่อเป็นตัวแทนของเอสเอ็มอีรายย่อยในการ ติดตามตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ประสานนโยบายกับภาครัฐ จากที่ปัจจุบันมีรูปแบบเป็นสมาคมฯ และ3.การปรับปรุงหลักสูตรโครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจ อุตสาหกรรม (คพอ.) ของ กสอ. ทีใ่ ช้มากว่า 30 ปี ให้ทนั สมัยกับยุค ย้ำ�นโยบ�ยโรงง�นสีข�ว กระทรวงอุตส�หกรรม มีบันทึกสั่งการหน่วยงาน ดิจติ อลไอที และให้มกี ารเชือ่ มโยงธุรกิจสร้างสัมพันธภาพระหว่าง ในสังกัด และอุตสาหกรรมจังหวัด ให้ร่วมกันปราบปราม สมาชิกเก่าและใหม่หลังจบโครงการ และหยุดยัง้ การแพร่ระบาดของยาเสพติด ตามคำาสัง่ คสช. 41/2557 โดยขอความร่วมมือสถานประกอบการทุกโรงงาน ที่อยู่ในการกำากับดูแล ให้เฝ้าระวัง ตรวจสอบ มิให้มีการ ซุกซ่อน จำาหน่าย และเสพยาเสพติด ในสถานประกอบ การ หากพบการกระทำาผิด ให้แจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยทันที (จากข้อมูลล่าสุดในปัจจุบนั ประเทศไทยมีโรงงาน ทั้งสิ้น 138,177 โรง จ้างคนงาน 5.4 ล้านคน) พร้อมกัน นี้ได้สั่งการกำาชับให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงอุตสาหกรรม (ประมาณ 4,627 คน) ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยเด็ดขาด หากพบการกระทำาผิด ให้แจ้งหน่วยงานที่รับ ผิดชอบ และลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดโดยทันที ม�ตรก�รช่วยเหลือเอสเอ็มอีร�ยย่อย กระทรวงฯ มีการประชุมร่วมกับสม�คมส่ ง เสริ ม และสิง่ ทีส่ มาคมฯ เสนอขอการสนับสนุนผ่านทางกระทรวงฯ ผู้ป ระกอบก�รวิ ส �หกิ จ ขน�ดกล�งและขน�ดย่ อ ม ไทย (ATSME) กรมส่งเสริมอุตส�หกรรม (กสอ.) และ เพือ่ ผลักดันต่อ ได้แก่ 1) กองทุนเพือ่ ผูป้ ระกอบการวิสาหกิจขนาด สำ�นักง�นส่งเสริมวิส�หกิจขน�ดกล�งและขน�ดย่อม กลางและขนาดย่อม“รัฐร่วมเอกชน” 2) โครงการเตรียมพร้อม เอสเอ็มอีสู่ตลาดอาเซียน AEC 3) การพัฒนาแรงงานภาคบริการ และภาษา 4) โครงการส่งเสริม E-Commerce สำาหรับ SMEs 5) โครงการประเมินศักยภาพเพือ่ ปรับตัวสูส่ ากล 6) โครงการสร้าง นวัตกรรมจากงานวิจัย 7) โครงการพัฒนาฝีมือแรงงานช่างเชื่อม สามจี และ 8) การตั้งจุดกระจายสินค้าเอสเอ็มอีภายในประเทศ ลักษณะเป็น SMEs Plaza หรือ SMEs Center รวมถึงในประเทศ เพื่อนบ้าน เพื่อแสวงหาโอกาส ขายสินค้าได้ตลอดปี ซึง่ ในเบือ้ งต้นนัน้ ได้มอบให้ กสอ. ประสานกับ สสว. พิจารณา ว่า เรื่องใดที่ดำาเนินการได้เลย ก็ขอให้เร่งดำาเนินการ สำาหรับ Ayutthaya 27
มาตรการส่งเสริมเอสเอ็มอีที่ตรงกันก็จะเร่งดำาเนินการ โดยแบ่ง ความรับผิดชอบให้ชดั เจนว่าหน่วยงานใดจะเป็นเจ้าภาพ ส่วนการ จัดตั้งสภาเอสเอ็มอี เพื่อเป็นองคกรเดียวที่ทำาหน้าที่เป็นตัวแทน ของเอสเอ็มอีทั่วประเทศ ขอให้เชิญเครือข่ายจาก SMEs ทุกกลุ่ม เข้าร่วมหารือกันด้วย โดยจะเร่งสรุปข้อเสนอต่างๆ เพื่อหารือเชิง นโยบายต่อ คสช.ต่อไป จัดก�รขยะให้กรีน ปัจจุบันพบว่ามีกากหรือขยะอุตสาหกรรมปนอยู่ในบ่อขยะ จึงเป็นโจทยทหี่ น่วยราชการต้องนำากลับมาพิจารณา และปรับปรุง ระบบการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมให้ดีขึ้น และตอบโจทย เรื่องการลักลอบทิ้งขยะอุตสาหกรรมให้ได้
โครงการเร่งด่วนที่ชื่อว่า “SMEs Live Strong” เพื่อสร้างความเข้มแข็ง ในทุกด้านที่จําเป็น 28
โดยหลักวิชาการแล้ว การจัดการขยะให้กรีน ต้อง เริ่มต้นที่แหล่งกำาเนิด คือไม่ให้เกิดของเสีย ใช้ให้เป็น ของดีให้หมดหรือใช้วัตถุดิบให้หมด ทำาได้อย่างนี้จะเกิด ประโยชนที่สองต่อ นอกจากเป็นการลดการใช้ทรัพยากร แล้ว ยังไม่เกิดของเสียทีต่ อ้ งไปกำาจัดอีกด้วย หากมีของเสีย เกิดขึน้ ก็ควรจะพิจารณาส่งต่อให้ผทู้ สี่ ามารถใช้ประโยชน ต่อไปได้ เช่น ใช้เป็นวัตถุดิบสำาหรับอุตสาหกรรมอื่น หรือ ใช้เป็นพลังงานในเตาเผาอุตสาหกรรมที่ได้รับอนุญาต เหล่านีเ้ ป็นหลักการการจัดการเพือ่ ให้เกิด zero waste to landfill หมายถึงไม่ให้มีของเสียฝังกลบ เพราะหลุมฝัง กลบมีประเด็นทีต่ อ้ งติดตามควบคุมดูแลทัง้ ในช่วงใช้งาน และในช่วงที่ปดการใช้งานแล้ว เรื่องนี้ทำาให้สหภาพยุโรปออกกฎหมายห้ามฝังกลบ สำาหรับของเสียบางประเภท โดยเฉพาะของเสียทีส่ ามารถ ใช้ประโยชนได้อีก และของเสียที่ย่อยสลายได้ โดยมี แนวคิดว่าการฝังกลบของเสียจะเป็นหนทางสุดท้ายเมื่อ จนปัญญาหาวิธีการจัดการอื่น ในการฝังกลบจะก่อให้เกิดกาซมีเทนจากการย่อย สลายอินทรียสารในขยะ หากมีการสะสมมากก็อาจจะ ติดไฟได้ดว้ ยตัวเอง ดังนัน้ การลดการฝังกลบจะลดความ เสีย่ งในการก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนและสิง่ แวดล้อม และทำาให้ลดการปลดปล่อยมีเทนซึง่ เป็นกาซเรือนกระจก ด้วย (กาซมีเทนมีศกั ยภาพในการทำาให้เกิดภาวะโลกร้อน 23 เท่าของคารบอนไดออกไซด) แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าการเผาทำาลายขยะจะเป็น วิธีที่ได้รับการยอมรับ แต่หมายความว่าเราจะต้องหา วิธีจัดการเอาทรัพยากรกลับมาใช้เป็นประโยชนให้ได้ เป็ น ลำ า ดั บ แรกก่ อ นกรณี บ่ อ ขยะที่ แ พรกษา จั ง หวั ด สมุทรปราการนี้ มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องถึง 12 ฉบับ และ มีหน่วยราชการทีเ่ กีย่ วข้องหลายหน่วยงาน และมีเอกชน จำานวนมากทีท่ าำ ผิดกฎหมายด้วย คำาถามทีว่ า่ ใครจะต้อง รับผิดชอบก็คงต้องว่ากันไปตามเนื้อผ้า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาพบว่ามีหลายท้องถิ่นหันมา สนใจเทคโนโลยีจัดการขยะมูลฝอยแบบใช้ความร้อน ซึ่ง มี อ ยู่ หลายตั ว ด้ ว ยกั น และแน่ นอนที่ จ ะต้ อ งคิ ด ค่ า ความคุ้มทุนด้วยว่าเหมาะสมไหมกับประโยชนที่จะได้ รับ เช่น การร่อนเอาพลาสติกมาทำาเป็นแท่งเชื้อเพลิง หรือเอามาทำาไพโรไลซิสเป็นน้ำามันดำา ซึ่งต้องคำานึงถึง
ภาคประชาชน ต้องมีส่วนร่วม ในการบริโภคสินค้าและบริการ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมี ความรับผิดชอบต่อสังคม ปัจจัยทางเทคนิคในเรื่องคุณสมบัติและการปนเปอนของ พลาสติกที่ได้ การจัดการปัญหามลพิษที่เกิดขึ้น รวมถึง ปัจจัยเศรษฐศาสตร คือ มูลค่าของผลิตภัณฑที่ได้ ซึ่งขึ้น อยู่กับค่าเชื้อเพลิงในตลาด หลายโครงการมีอันต้องพับ ไปหรือหยุดประกอบกิจการเนื่องจากอุปสรรคจากทั้งสอง ปัจจัยที่กล่าวมา แต่นนั่ ไม่ได้หมายถึงให้ละเลยการฟน ฟูบอ่ ขยะชุมชน แต่ตอ้ งมีการบูรณาการกันระหว่างผูผ้ ลิต คือ บ่อขยะ และ ผู้บริโภค คือ อุตสาหกรรม ต้องมาดูว่าผู้บริโภคต้องการ อะไร แล้วผู้ผลิตต้องทำาอย่างไรถึงจะส่งมอบสินค้าตาม ที่ลูกค้าต้องการได้ โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชน และสิ่งแวดล้อม ดังนั้นเพื่อให้การจัดการขยะเป็นกรีน จึงไม่ได้อยู่แค่ ที่เทคโนโลยีจัดการขยะ แต่อยู่ที่การลดการเกิดขยะและ แยกขยะเพือ่ ให้นาำ กลับไปใช้ประโยชนได้ แต่ทสี่ าำ คัญทีส่ ดุ คือ การบูรณาการการทำางาน และการแก้ปัญหาร่วมกัน ของส่วนราชการ และผูเ้ กีย่ วข้องอย่างเป็นระบบครบวงจร
ยั่งยืนด้วยสีเขียว นโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนตามแนวทาง “อุตสาหกรรมสีเขียว” (Green Industry :GI) เป็นการจัดทำา นโยบายแบบบูรณาการเพื่อมุ่งสู่การเป็นสังคมคารบอนต่ำา (Low Carbon Society) และสอดคล้องกับนโยบายของประเทศในเรื่อง การพัฒนา “สูก่ ารผลิตและการบริโภคอย่างยัง่ ยืน” (Sustainable Consumption and Production) ดังนั้น “อุตสาหกรรมสีเขียว” จึงมีความสอดคล้องกับภาคส่วนอื่นๆ ปัจจุบนั การส่งเสริมประชาชนและผูบ้ ริโภคให้เลือกซือ้ สินค้า หรือเลือกใช้บริการทีเ่ ป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อมและมีความรับผิดชอบ ต่อสังคมในประเทศไทย ยังมีขอ้ จำากัด เนือ่ งจากจำานวนสินค้าและ บริการของกลุ่มนี้ในตลาด ยังมีจำานวนน้อย ดังนั้น นโยบายการ พัฒนาอุตสาหกรรมตามแนวทาง “อุตสาหกรรมสีเขียว” จึงเป็น ตัวเร่งทีส่ าำ คัญในการส่งเสริมให้มกี ารผลิตสินค้า และบริการทีเ่ ป็น มิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคม ในท้องตลาดมากขึ้น “กรอบความคิด” หรือ “ทัศนคติ” ที่มีความสำาคัญอย่างยิ่ง อีกประการหนึ่ง ต่อการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรม เพื่อก้าวสู่ การพัฒนาที่ยั่งยืนและเป็นเลิศในอนาคต ได้แก่ การบูรณาการ หรือการมีสว่ นร่วมของทุกภาคส่วน - ภาคอุตสาหกรรม ต้องมีความมุ่งมั่นและ ตัง้ ใจในการประกอบการทีเ่ ป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม และมีความรับผิดชอบต่อสังคม - ภาครั ฐ ต้ อ งมี ค วามโปร่ ง ใสใน การจัดทำานโยบายและการดำาเนินการ ตลอดจนสร้างการมีส่วนร่วมของทุก ภาคส่วนอย่างจริงใจ - ภาคประชาชน ต้องมีจิตสำานึก และมี ส่ ว นร่ ว มในการปรั บ เปลี่ ย น พฤติ ก รรมการบริ โ ภคสิ น ค้ า และ บริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและ มีความรับผิดชอบต่อสังคม ในวันนี้ ก�รพัฒน�อย่�งยัง่ ยืน จึง เปนเรือ่ งทีภ่ �คอุตส�หกรรมหลีกเลีย่ ง ได้ย�ก จึงมีแต่ควรจะต้องยึดเอ�หลักก�ร ของ “อุตส�หกรรมสีเขียว” ไปประยุกต ปฏิบัติ เพร�ะ “อุตส�หกรรมสีเขียว” เปน “อุตส�หกรรมแห่งอน�คต” อย่�งแท้จริง
Ayutthaya 29
AD »µ·ÍÂظÂÒ.pdf 1 7/5/2556 13:58:09
สารผูวาราชการ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ชื่อว่าเป็นเมือง อู่ข้าว-อู่น�้า มาแต่อดีต เพราะมีพื้นที่ราบลุ่มเหมาะ แก่ ก ารเพาะปลู ก และยั ง มี แ ม่ น�้ า ไหลผ่ า น 4 สาย ซึ่ ง ในป จ จุ บั น อยุ ธ ยามี พื้ น ที่ เ พาะปลู ก ข้ า ว ราวหนึ่ ง ล้ า นไร่ และด้ ว ยความที่ อ ยุ ธ ยาเคย เป็ น ราชธานี ม านานกว่ า สี่ ร ้ อ ยปี จึ ง กลายเป็ น อู ่ อารยธรรมที่ ส� า คั ญ ของประเทศไทย และเป็ น รากเหง้ า ของวิ ถี ชี วิ ต ศิ ล ปวั ฒ นธรรม ตลอดจน ประเพณี ที่ ดี ง ามของคนไทย ซึ่ ง ร่ อ งรอยแห่ ง ความเจริ ญ รุ ่ ง เรื อ งในอดี ต ได้ ก ลายเป็ น มรดก การท่ อ งเที่ ย วทางประวั ติ ศ าสตร์ แ ละวั ฒ นธรรม ที่ส�าคัญ จนได้รับการยกย่องให้เป็นเมือง “มรดก โลก” ทางวั ฒ นธรรม จากองค์ ก าร UNESCO ซึง่ ส่งผลให้จงั หวัดมีรายได้จากการท่องเทีย่ วจ�านวน ไม่น้อย นอกจากนี้ อ ยุ ธ ยายั ง เป็ น ศู น ย์ ก ลางการ คมนาคมขนส่ง ทั้งทางบก ทางน�้า และทางราง จึงมีผปู้ ระกอบการมาตัง้ โรงงานแปรรูปสินค้าเกษตร คลังสินค้าขนาดใหญ่ และโรงงานอุตสาหกรรมที่ หลากหลาย เพื่อจัดเก็บสินค้าและผลิตสินค้าส่ง ไปยังกรุงเทพมหานคร และส่งออกไปต่างประเทศ โดยในปีงบประมาณ 2556 มีโรงงานอุตสาหกรรม ที่ได้รับอนุญาตประกอบการทั้งหมดจ�านวน 2,270 โรงงาน มีเงินทุนรวม 389,381.38 ล้านบาท จาก องค์ประกอบต่างๆ เหล่านี้ ท�าให้เศรษฐกิจของ อยุธยามีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องทุกปี ถ้าเราทําอยุธยาของเราให้นาอยู นาลงทุน และนาเที่ยว ก็จะเปน ระยะเวลากว่าห้าปีครึ่ง หรือประมาณ 2,000 ประโยชนแกคนอยุธยาเอง เราจะสามารถเพิ่มรายได้ของเรา สามารถ วั น ที่ ผ มมาด� า รงต� า แหน่ ง ผู ้ ว ่ า ราชการจั ง หวั ด เพิ่มชีวิตความเปนอยูของเราให้ดีขึ้นได้ด้วยตัวเราเอง พระนครศรีอยุธยา ผมมีความภาคภูมใิ จอย่างยิง่ ทีไ่ ด้ ท�าหน้าทีข่ า้ ราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ซึ่งมีโอกาสรับใช้ชาวอยุธยาให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ ดีขึ้นอย่างเต็มก�าลังความสามารถ และในโอกาสนี้ (นายวิทยา ผิวผ่อง) ผมอยากเรียนฝากพี่น้องชาวอยุธยาว่า... ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา Ayutthaya 31
เสนทางพบ
ผูวาราชการจังหวัด 2,000 วัน หรือกวาหาปครึ่ง ซึ่ง “นายวิทยา ผิวผอง” ผูวาราชการจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ทุม เททัง้ เวลา ความ คิด จิตใจ และศักยภาพทั้งหมดที่มี ให กับการพัฒนาจังหวัดอยุธยาจนมีความ เจริ ญ ก า วหน า ขึ้ น อย า งเป น รู ป ธรรม ผานโครงการตางๆ มากมายทีท่ า นริเริม่ ขึ้ น ทั้ ง นี้ เ พื่ อ ให บ รรลุ เ ป า หมายของ ราชการที่วา...ประชาชนอยูดีมีสุข นิตยสาร SBL ไดรบั เกียรติอยางสูง จากทาน เปดใจใหสมั ภาษณถงึ แนวคิด สําคัญในการทํางาน ความมุงหวังตอ ระบบราชการไทย รวมถึ ง แนวทาง การสร า งความเข ม แข็ ง ให กั บ ชาวนา ไทย และผลงานแหงความภาคภูมิใจ ของทาน ในฐานะที่เปนขาราชการใน พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว
32
ศูนยกลางจากอดีตถึงปจจุบัน คือรากฐานสําคัญสู AEC “อยุ ธ ยาเป็ น ราชธานี เ ก่ า ของประเทศไทยเรามาถึ ง สี่ ร ้ อ ยกว่ า ปี ความเป็นราชธานีเก่า คือเป็นศูนย์กลางของประเทศมาแต่เดิม จึงเป็น รากเหง้าของความเป็นคนไทย วิถชี วี ติ ศิลปวัฒนธรรม สิง่ ต่างๆ ทีเ่ ราใช้ชวี ติ อยู่ในประเทศไทยในขณะนี้ 80% มาจากวิวัฒนาการสมัยกรุงศรีอยุธยา สิ่ ง นี้ คื อ จุ ด เด่ น ของอยุ ธ ยา นอกจากนี้ ก ารเป็ น ศู น ย์ ก ลางของประเทศ จะท�าให้เป็นศูนย์กลางของการคมนาคม การขนส่ง เป็นศูนย์กลางของ ศิลปวัฒนธรรม วิถชี วี ติ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในเรือ่ งของการเป็นศูนย์กลางใน เรื่องอู่ข้าวอู่น�้าของประเทศด้วย “การทีเ่ ราเป็นศูนย์กลางของประเทศ ศูนย์กลางวัฒนธรรม การคมนาคม ในขณะเดียวกันเราก็มีประวัติศาสตร์เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับนานาชาติอยู่ โดยตัวของอยุธยาเอง มีความสัมพันธ์เรื่องการค้า ความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศ ความสัมพันธ์เรื่องศาสนา เรื่องของการอยู่อาศัยของผู้คนที่เข้ามา ท�ามาหากินในอยุธยา อันนี้เป็นจุดเด่นอีกประการหนึ่งที่ท�าให้คนอยุธยา สามารถที่จะปรับตัวให้เข้ากับความเป็นสากล หรือความเป็นนานาชาติได้ ง่าย เพราะความเป็นมาของอยุธยาเป็นในลักษณะนี้มาโดยตลอด คือมี หมู่บ้านของนานาชาติอยู่ในพื้นที่ อ�าเภอพระนคร หรือในเขตเมือง มีคนต่าง ชาติต่างภาษาอยู่ด้วยกัน ดังนั้นการที่เราจะเปดเป็น AEC หรือประชาคม อาเซียน ก็คอื การน�าคนหลายชาติหลายภาษามาพบปะกัน มาติดต่อค้าขาย กัน มาท่องเทีย่ วมาพบกัน คนอยุธยาเขาได้เปรียบตรงนี้ เพราะเขาคุน้ เคยกับ บรรยากาศแบบนี้มาตั้งแต่บรรพบุรุษ และความเป็นอยู่ในขณะนี้ก็ยังเป็น เมืองนานาชาติอยู่ เรามีหมู่บ้านฮอลันดา หมู่บ้านญี่ปุน หมู่บ้านโปรตุเกส หมูบ่ า้ นฝรัง่ เศส ซึง่ คนเหล่านัน้ ส่วนหนึง่ สืบทอดเชือ้ สายมาจากชาวต่างชาติ”
นายวิทยา ผิวผอง ผูวาราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระบบโลจิสติกส ขับเคลือ่ นเศรษฐกิจอยุธยา “ถ้าจังหวัดเราเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ ของประเทศ เป็นศูนย์กลางการขนส่งทางน�้า ทางบก ทางราง ก็จะท�าให้อยุธยาเจริญเติบโต ได้ มีคนอยากจะมาลงทุน มีคนอยากจะมา อยู่อาศัย เพราะเข้ากรุงเทพก็สะดวก ขนส่ง ก็ ง ่ า ย ผู ้ ป ระกอบการก็ ใ ช้ ก ารขนส่ ง ทางน�้ า ลดค่าใช้จ่ายไปได้ถึง 3-4 เท่า คนอยู่อยุธยา ถ้ามีทางด่วน มีทางพิเศษสามารถที่จะวิ่งเข้า กรุงเทพได้ภายใน 30 นาที หรือรถไฟไฮสปีด 15 นาที คนก็มาอยู่อยุธยา ไม่ต้องไปอยู่แออัด ในเมืองหลวง ผมเชื่อว่าถ้าเรามีระบบโลจิสติ กส์ของประเทศไทย ทั้งทางบก ทางราง และ ทางน�้าที่สมบูรณ์แบบ คนก็จะมาลงทุน มาอยู่ อาศัยในอยุธยาเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจอยุธยาก็จะ หมุนได้ดว้ ยตัวมันเอง ซึง่ เราก็โชคดีทมี่ โี ครงการ ของรัฐบาลเก่าหรือโครงการของเราเองมากมาย เช่น เรามีมอเตอร์เวย์จากบางปะอินไปโคราช มี มอเตอร์เวย์จากบางปะอินไปนครสวรรค์ เรามี โทลเวย์จากรังสิตมาลงที่ต่างระดับบางปะอิน ที่ต่างระดับบางปะอินเรามีทางพิเศษที่จะไป บางปะหัน ไปลพบุรี ไปนครสวรรค์ ถ้าโครงการ เหล่ า นี้ เ สร็ จ ในปี 60 ผมเชื่ อ ว่ า อยุ ธ ยาจะมี เศรษฐกิจดีกว่านี้ 2-3 เท่าตัว”
รากเหง้าของความเป็นคนไทย วิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม สิ่งต่างๆ ที่เราใช้ชีวิต อยู่ในประเทศไทยในขณะนี้ 80% มา จากวิวัฒนาการสมัยกรุงศรีอยุธยา สิ่งนี้คือจุดเด่นของอยุธยา Ayutthaya 33
เปลี่ยนคานิยมระบบราชการ เพื่อประชาชนอยูดีมีสุข “ตอนนี้ที่เราเน้นคือ สิ่งที่ท�าให้ประเทศเราประสบปญหา อยู่คือ วัฒนธรรมองค์กรของราชการ ซึ่งมีจุดอ่อนอยู่ 2-3 ประเด็น หนึ่งคือเน้นในเรื่องความเป็นนิทรรศการ คือไม่เป็น จริงเป็นจัง เป็นการโชว์เฉยๆ แต่เราต้องเปลี่ยนวัฒนธรรม องค์กรตรงนี้ให้ได้ ระบบราชการต้องมุ่งความส�าเร็จมากกว่า เดิม คือเราต้องท�างานลักษณะกึง่ เอกชนหรือเอกชนเลย ระบบ ราชการเดิมไม่ได้ค�านึงถึงความคุ้มค่า ไม่ค�านึงถึงผลส�าเร็จ เพราะว่าไม่ใช่เงินของตัวเอง ไม่ใช่งบประมาณของตัวเอง สอง คือ การประเมินผลในระบบราชการก็ไม่ได้เอาจริงเอาจังอะไร เพราะฉะนั้ น ข้ า ราชการก็ แ ค่ ท� า งานให้ มั น เสร็จๆ ไป จะได้ผลไม่ได้ผล จะคุ้มค่าไม่ คุ้มค่า ไม่ต้องรับผิดชอบ เราต้องเปลี่ยน ค่ า นิ ย มตรงนี้ ใ หม่ เปลี่ ย นวั ฒ นธรรม องค์กรของระบบราชการใหม่ ต้องมุ่ง ความส�าเร็จ มุ่งความคุ้มค่า ซึ่งมัน ก็รวมไปถึงความโปร่งใส การ ตรวจสอบได้ เพื่ อ ให้ บ รรลุ เปาหมายมากขึ้น “ซึ่ ง เป า หมายในการ ท� า งานของผม หรื อ ที่ ผ ม บ อ ก กั บ เ พื่ อ น ร ่ ว ม ง า น ตลอดว่าเปาหมายของราชการ คือ ประชาชนอยู่ดีมีสุข คุณจะ เป็นสรรพากร คุณจะเป็นสัสดี คุ ณ จะเป็ น ช่ า งโยธา หรื อ คุณจะเป็นปลัด อ�าเภอ หรือ
34
คุณจะเป็นอะไรก็ตาม เปาหมายในการท�างานของคุณ ไม่ใช่ท�างานบนโตะของคุณให้ส�าเร็จ ไม่ใช่เขียนแบบให้ จบ ไม่ใช่เก็บภาษีให้ได้ ไม่ใช่รกั ษาคนให้หายปวย...สิง่ นัน้ เป็นเพียงแค่เครือ่ งมือหรือทิศทางไปสูค่ วามส�าเร็จเท่านัน้ “คุณต้องตั้งเปาหมายในการท�างานของพวกคุณ ให้ เลยไปถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนให้ได้ ไม่ใช่ว่าคุณ เก็บภาษีครบแล้วจบไม่ใช่ ไอ้ภาษีที่คุณเก็บมา คุณจะท�า อย่างไรให้เป็นประโยชน์ตอ่ ประชาชน บ้านทีค่ ณ ุ ออกแบบ มาไม่ใช่ว่าคุณออกแบบเสร็จแล้ว กว้างยาวเท่านั้นเท่านี้ วัสดุเท่านั้นเท่านี้แล้วจบ...ไม่ใช่ ถ้าท�าอย่างนั้น ท�าได้แค่ นั้น เราจ้างบริษัทเอกชนมาออกแบบ จ้างบริษัทเอกชน มาเก็บภาษีง่ายกว่า ควบคุมได้ดีกว่าที่จะต้องมีระบบ ราชการ ทีจ่ ะต้องดูแลกันตลอดชีวติ แต่ประสิทธิภาพการ ท�างานอาจจะต�่ากว่าที่เราจ้างบริษัทเอกชนมาท�าด้วยซ�้า ฉะนั้นสิ่งที่จะทดแทนความเป็นข้าราชการได้คือ ต้องเอา เปาหมายในการดูแลประชาชนมาเป็นเครือ่ งชดเชยในการ ท�างานของข้าราชการ” ไอเดียเด็ด ชวยชาวนาเขมแข็ง “เราคุยกับชาวนาเรามา 3-4 ปีแล้วว่า อย่าหวังเพียง ราคาข้าวสูง เราพูดมาตลอดว่าชาวนาจะยืนอยู่ได้ จะมี รายได้พอ มีความเป็นอยู่ที่ดี ชาวนาต้องไม่หวังราคาข้าว สูง เพราะหนึง่ เป็นโครงการของรัฐบาลเป็นนโยบายซึง่ อาจ จะเปลี่ยนแปลงได้ ฉะนั้นถ้าชาวนาหวังพึ่งรัฐ แต่เมื่อเกิด การเปลี่ยนแปลงก็จะเกิดผลกระทบกับชาวนา ดังนั้นเรา ต้องยืนอยู่บนความมั่นคงและปลอดภัย อย่างที่เราเสนอ ให้กับชาวนาคือ ลดต้นทุนการผลิต ตอนนี้ชาวนาจ้างเขา ทุกขั้นตอน ใช้เครื่องจักรทั้งหมด ไม่มีการใช้แรงงานคน จ้างเขาไถ จ้างเขาด�า จ้างเขาฉีดยาฆ่าแมลง จ้างเขาเกีย่ ว จ้างเขาขนส่งไปโรงสี ตอนนีเ้ ราพยายามให้เขารวมกลุม่ กัน 100 ไร่ขึ้นไป แล้วก็ให้เขาซื้อเครื่องจักรกลในการเกษตร เอง โดยกู้จากสหกรณ์ กู้จากกลุ่ม ตั้งกลุ่มขึ้นมาแล้วก็ใช้ ถ้าเขามีเครื่องมือการเกษตรหรือเครื่องจักรกลการเกษตร ของเขาเอง เขาก็จะจ่ายเพียงค่าน�้ามันเท่านั้นเอง จาก 300 บาท มันจะเหลือไม่เกิน 150 บาท ฉะนั้นสิ่งที่เรา รณรงค์ คือคุณต้องลดต้นทุนการผลิต โดยการมีเครือ่ งจักร กลเป็นของกลุ่ม เพื่อไม่ต้องจ้างเขา แต่ท�ากันเอง “ถ้าใครรวมกลุ่มได้ เราก็แจกเครื่องสีข้าวเป็นรางวัล เพราะถ้าชาวนาขายข้าวทัง้ หมด เขาต้องไปซือ้ ข้าวเปลือก
ของตัวเองกลับมาในราคาที่ต่างกัน 4-5 เท่า แต่ถ้าเขาเก็บ ข้าวเปลือกไว้สว่ นหนึง่ พอเวลาจะทานก็เอามาสีครัง้ ละถัง ครั้งละสองถัง ค่าใช้จ่ายก็จะอยู่ในกลุ่ม คนที่ดูแลเครื่อง ก็ได้ปลายข้าว ได้ร�า ได้แกลบไว้ใช้ คนที่เป็นสมาชิกก็มา สีฟรี อย่างนี้เขาก็มีข้าวกิน ซึ่งลดค่าใช้จ่ายที่จะไปซื้อข้าว ตัวเองกลับมากิน เพราะขายข้าวเปลือกเกวียนละแค่หมื่น กว่าบาท แต่ซอื้ ข้าวสารเกวียนละสามหมืน่ ข้าวตัวเองแท้ๆ แต่ทผี่ า่ นมาชาวนาเขาไม่เก็บข้าวไว้เพราะเขาไม่มเี ครือ่ งสี
ผมเชื่อว่าถ้าเราเป็นโลจิสติกส์ของ ประเทศไทย...คนก็จะมาลงทุน มาอยู่ อาศัยในอยุธยาเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจอยุธยา ก็จะหมุนได้ด้วยตัวมันเอง
ตอนนีเ้ ราแจกเครือ่ งสีประจ�ากลุม่ ให้ เขาก็เก็บข้าวส่วนหนึง่ ไว้ แล้วเอามาสีกินได้ในภายหลัง “นอกจากนี้เราก็มี โครงการปลูกข้าวกินเอง เพื่อสอน ให้คนรู้จักกระบวนการในการท�านา และสามารถที่จะท�าด้วย ตัวเองได้ แทนที่จะมานั่งโทรศัพท์สั่งอย่างเดียว แต่ตัวเองต้อง รู้ ว่าถ้ามีนา 2-3 ไร่ต่อครอบครัว ก็ท�าเองได้ นอกจากนี้เราขอ ให้เกษตรกรในอยุธยาลดการผลิตลงเหลือปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้ สอดคล้องกับนโยบายรับจ�าน�าข้าวที่จะรับจ�าน�าปีหนึ่งไม่เกิน 2 ครั้ง แต่เราเน้นในเรื่องการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ เราต้องการ พันธุ์ข้าวปลูกดี ต้องบ�ารุงรักษาดี น�้าพอดี ถ้า 2 ครั้งต่อปีเรา สามารถควบคุมตัวนี้ได้ จะช่วยลดต้นทุนการผลิต และลด ความเสี่ยง คือลดการลงทุนไปหนึ่งครั้งโดยท�านาเพียงแค่ 2 ครั้ง แต่ได้ผลผลิตเท่ากับท�านา 3 ครั้งก็จะได้ค่าตอบแทน หรือผลตอบแทนที่เท่ากันหรือมากกว่าโดยไม่ต้องเสี่ยงกับ การถูกน�้าท่วม “ที่ส�าคัญคือรู้อยู่แล้วอยุธยาหน้าน�้า น�้าท่วมคุณจะไป เสี่ยงท�าไม เราก็เสนอว่าไม่ได้ให้คุณเลิกหรือหยุดเราให้คุณ รวมกลุ่ม รวมแล้วกลุ่มนี้ 100 ไร่ 200 ไร่ เราก็จะปล่อยน�้าเข้า นา หาที่เอาน�้าไปเก็บเพื่อไม่ให้เกิดอุทกภัย ถ้าเรามีทุ่งนาอยู่ เก้าแสนกว่าไร่ แล้วเราเอาไปเก็บได้สักครึ่งหนึ่งรับรองน�้าไม่ ท่วมอยุธยา ใครที่ร่วมโครงการกับเรา เราไปท�าขอบเขตของ กลุ่มเขาให้ 500 ไร่ 1,000 ไร่ เราก็ปล่อยน�้าเข้าไปเก็บ แล้วเรา ก็แจกพันธุก์ งุ้ พันธุป์ ลาทีม่ นั ตัวใหญ่หน่อย กะว่าสีเ่ ดือนเนีย่ เขา มีผลผลิตจากกุ้งจากปลาที่เราแจก ตอนที่เขาเกี่ยวข้าวข้าวที่ มันตกอยู่ในทุ่งนา ซังข้าว ตอข้าว วัชพืชที่ยังอยู่เมื่อปล่อยน�้า เข้าไปก็จะเป็นอาหารปลาอย่างดี คราวนี้ปลากินพืช ก็ไม่ต้อง ให้อาหาร มันมีอาหารของมันเอง ที่ส�าคัญ คือ พวกโรค แมลง ศัตรูพชื ทัง้ หลาย โดนน�า้ ท่วม โดนปลากินไปหมด แล้วเราก็แช่ นาตั้งสามสี่เดือนมันปรับปรุงคุณภาพดินไปในตัว ความชื้น และตะกอนของน�้าที่ตกไปก็จะไปเป็นปุ๋ยธรรมชาติให้ ยิ่งเรา เลีย้ งปลาเลีย้ งกุง้ ไอ้พวกนีข้ ปี้ ลา เมือกปลา คาวปลา มันท�าให้ เป็นปุย๋ ต่อพืน้ ดิน ฉะนัน้ เรามัน่ ใจว่าจากสามเหลือสอง แล้วมา เพิม่ ผลผลิตให้คณ ุ หนึง่ เราดูเรือ่ งพันธุข์ า้ วปลูก สองดูเรือ่ งการ ปรับปรุงดินตรงนี้ เรามัน่ ใจว่าเราสามารถเพิม่ ผลผลิตได้ 20 % โดยที่ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม “นี่ คื อ สิ่ ง ที่ เ ราคิ ด ว่ า ถ้ า เขาท� า อย่ า งนี้ ร่ ว มโครงการ ตรงนี้ ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิตให้ได้ เว้นการเสี่ยง ชาวนาเราไม่จ�าเป็นต้องพึ่งราคาข้าวที่สูง เพราะอะไร ที่เรา Ayutthaya 35
ต้องอาย ถ้าเราเป็นเกษตรกรก็ให้ลูกไป เรี ย นเกษตร ลู ก ก็ จ ะกลั บ มาอยู ่ กั บ เรา เพราะเรามีทุนทางสังคมอยู่ เราจะได้ใช้ เรามีที่นา เรามีเครื่องมือทางการเกษตร เรามีภูมิปญญา มีประสบการณ์ท�านา ท�า สวน ท�าไร่ แต่ถ้าลูกเราไปเรียนเป็นช่างกล เป็ น เจ้ า หน้ า ที่ ก ารเงิ น การบั ญ ชี ลู ก เรา ต้องไปแข่งกับคนอื่นที่มีทุนทางสังคมสูง กว่า ท�าให้มีโอกาสชนะเขาน้อย แต่ถ้าลูก เรากลับมาใช้ทุนทางสังคมที่พ่อแม่มี ลูก จะแข่งกับคนอื่นได้ เราอย่าไปดูถูกอาชีพ เกษตรว่าจน ที่จนเพราะเรายังท�าไม่ถูก เรายังต้นทุนสูง เรายังผลผลิตต�่า เรายัง ไม่มกี ารรวมกลุม่ เรายังไม่รจู้ กั ใช้เครือ่ งทุน แรง ดังนัน้ ถ้าลูกเราเรียนในสาขาทีเ่ รามีทนุ ทางสังคมแล้วมาต่อยอดกับอาชีพของเรา ผมว่าไม่ตอ้ งกลัวอดตาย แทนทีเ่ ราจะเลือก หนทางอนาคตให้ลูกด้วยการไล่ลูกออก จากบ้าน เรามาเรียกลูกเรากลับมาอยู่กับ บ้านเถอะครับ”
เน้นว่าไม่ต้องพึ่งราคาข้าวที่สูง ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากให้ชาวนามีรายได้สูง แต่ข้าวมันเป็นตัวแปรส�าคัญของค่าครองชีพ เพราะคนไทยทุกคนกินข้าว คนทีข่ ายรองเท้าแตะก็กนิ ข้าว คนทีข่ สี่ ามล้อก็กนิ ข้าว คนทีเ่ ป็นข้าราชการก็กนิ ข้าว คนที่เป็นนายแบงค์ก็กินข้าว ผมจึงบอกชาวนาว่า อย่าไปหวังเรื่องราคา ข้าวสูง คุณต้องหวังว่า คุณมีส่วนต่างของผลผลิตสูง คือคุณต้องลดต้นทุน คุณให้ต�่า คุณต้องเพิ่มผลผลิตคุณให้สูง คุณต้องหลีกเลี่ยงความเสี่ยงให้ได้ “แล้ ว ทุ ก วั น นี้ เราไล่ ลู ก เราออกจากบ้ า นทุ ก ครอบครั ว เลย ให้ ลู ก ไปเรี ย นสาขาวิ ช าอื่ น ที่ ไ ม่ ใ ช่ อ าชี พ ของครอบครั ว ฉะนั้ น เราบอกว่ า ไม่ 36
เศรษฐกิจพอเพียง ทางเลือกทางรอด ของคนไทย “ ปรั ช ญาเศรษฐกิ พ อเพี ย งของ พระเจ้ า อยู ่ หั ว ถ้ า เราเอามาใช้ ใ ห้ เ ป็ น ประโยชน์ให้มันตรงกับที่พระราชโอวาทก็ จะเป็นประโยชน์ เศรษฐกิจพอเพียงก็คือ พออยู่ พอกิน พึ่งพากัน เกื้อกูลกัน มีหลัก ประกันในชีวิต ผมว่าเราเอามาใช้กันไม่ ตรงนัก เรามาบอกว่าต้องท�าทุกอย่าง ต้อง ประหยัด ต้องไม่สุรุ่ยสุร่าย ไม่ใช้ในเรื่องที่ ไม่เป็นประโยชน์ ที่จริงไม่ใช่ ที่จริงก็คือว่า ท�าอย่างไรให้คนในสังคมดูแลช่วยเหลือกัน “ในโครงการนี้เรามีการเก็บสถิติหรือ ว่ า เก็ บ การใช้ จ ่ า ยของแต่ ล ะครั ว เรื อ น เรียกว่าบัญชีครัวเรือนท่านบอกว่าให้จดไว้ แล้วเราน�ามาดูว่าควรจะใช้อะไรไม่ควรใช้ อะไร แล้วเราต่อยอดไปจากนีอ้ กี แทนทีจ่ ะ
เศรษฐกิจพอเพียงก็คือ พออยู่ พอกิน พึ่งพากัน เกื้อกูลกัน มีหลักประกัน ในชีวิต... เรามาบอกว่าต้องท�าทุกอย่าง ต้องประหยัด ต้องไม่สุรุ่ยสุร่าย ที่จริง ไม่ใช่ ที่จริงก็คือว่าท�าอย่างไรให้คนใน สังคมดูแลช่วยเหลือกัน
ดูเป็นรายบ้าน แต่ดูเป็นรายหมู่บ้าน หรือรายต�าบลว่าคนในหมู่บ้านนี้ เดือนหนึ่งกินอะไรบ้าง กินไข่ไก่ 600 ฟอง ใช้สบู่ 500 ก้อน กินน�้าปลา 300 ขวด กินผัก กินปลา แล้วเรามาดูกันว่าในหมู่บ้านเรานี่มีอะไรที่ เราผลิตได้ คนนีห้ มูน่ ที้ า� น�า้ ปลาเก่ง หมูน่ ที้ า� สบูเ่ ก่ง ท�าสบู่ ไม่ใช่ทกุ ครัว เรือนท�าสบู่ ทุกครัวเรือนท�าน�้าปลา ไม่ใช่ทุกครัวเรือนปลูกผัก เลี้ยงไก่ ไม่ใช่ เราแบ่งกันท�าตามถนัด และก็คา้ ขายกันในหมูบ่ า้ น ผมเคยซือ้ สบู่ ลักส์ สบู่ไลฟ์บอย สบู่ปาล์มโอลีฟ ผมมาให้คุณสมศรีในหมู่บ้านนี้ซึ่งมี
Ayutthaya 37
ทักษะในการท�าสบู่ และทุกคนในหมูบ่ า้ นซือ้ สบูส่ มศรีไปใช้ สบู่ สมมติว่าก้อนละ 15 บาท สมศรีอาจจะขายไม่ถึง 15 บาท ถ้า ลูกค้าในหมูบ่ า้ นรวมกันซือ้ สบูส่ มศรี 300 ก้อน สมศรีกจ็ ะปลด ตัวเองจากความเป็นคนยากจนทีม่ รี ายได้ตา�่ กว่าเกณฑ์ 30,000 จากเงินของคนในหมูบ่ า้ นทีช่ ว่ ยกัน สบูส่ มศรีอาจจะหอมสูส้ บู่ ลักส์ไม่ได้ แต่มนั จะหอมกว่าตรงทีเ่ ราเสียเงินไป 15 บาท เราได้ สบูม่ าหนึง่ ก้อนแต่เราได้ชว่ ยสมศรีให้มคี วามเป็นอยูด่ ขี นึ้ แล้ว ผมเชื่อว่าถ้าทุกหมู่บ้านท�าได้อย่างนี้ เวลาเรามีงานบวชลูก มี งานศพ พ่อ แม่ บุพการี มีงานแต่งลูกสาว สมศรีทเี่ ราซือ้ สบูเ่ ขา ทุกวัน ต้องมาช่วยเรา ไม่เหมือนกับซื้อจากโรงงาน นี่คือหลัก พึ่งพาตัวเอง เศรษฐกิจพอเพียง คุณไม่ต้องใช้สบู่ที่หอมมาก คุณไม่ต้องกินน�้าปลาที่อร่อยที่สุด แต่สิ่งที่คุณกินคุณใช้เป็น รายได้ของคนในหมู่บ้านคุณ คุณช่วยเขาให้มีรายได้ คุณให้ เขาอยู่ในสังคมได้ เขาก็จะช่วยคุณ อันนี้คือการพึ่งพาซึ่งกัน และกัน”
เรามีความเป็นชาติ เป็นบ้านเมือง เป็น ประเทศได้ในขณะนี้ เพราะพระมหากษัตริย์ เพราะบรรพบุรุษปกปอง คุ้มครอง แผ่นดินนี้ไว้ให้เรา 38
เทิดทูน 3 สถาบันหลักของชาติไทย คือสิง่ ทีภ่ าคภูมใิ จ “ชาติเราอยู่ได้ เพราะสถาบันหลัก 3 สถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ฉะนัน้ เปาหมายทีผ่ มภูมใิ จทีไ่ ด้มา อยู่ที่นี่คือ ดูแลสามสถาบันนี้อย่างเป็นรูปธรรม และก็มีผล งานทีภ่ มู ใิ จได้ น�าเสนอคนอืน่ ได้ เรือ่ งแรกคือเรือ่ งสถาบัน พระมหากษัตริย มาอยู่ที่นี่เรามีโครงการพระราชด�าริ เรา ได้สนองภารกิจ และพระราชกรณียกิจของพระบรมวงศา นุวงศ์ และของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ หลายครั้ง ที่เราได้รับเสด็จฯ ได้ถวายงาน เรื่องที่ส�าคัญคือเราท�าให้ ประชาชนได้เห็นความส�าคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่อดีตมาจนปจจุบัน ว่าเรามีความเป็นชาติเป็นบ้าน เมืองได้ เป็นประเทศได้ในขณะนี้ เพราะพระมหากษัตริย์ เพราะบรรพบุรุษปกปอง คุ้มครองแผ่นดินนี้ไว้ให้เรา เป็น มรดกให้ มีภาษาเป็นของตัวเอง มีวฒ ั นธรรมเป็นของตนเอง มีความเป็นชาติเป็นของเราเอง ถ้าเราไม่มพี ระมหากษัตริย์ เป็นผูน้ า� ไม่มบี รรพบุรษุ ทีเ่ สียสละหรือมีความสามารถ เราก็ คงเป็นเหมือนชาติอนื่ ทีไ่ ม่มปี ระเทศ มีแต่ความเป็นเชือ้ ชาติ ของเขา เช่น มอญ กะเหรีย่ ง ไทยใหญ่ แต่เรามีประเทศไทย ประเทศสยามเพราะอะไร เพราะบรรพบุรุษเรา พระมหา กษั ต ริ ย ์ ใ นอดี ต ท� า สงครามป อ งกั น แผ่ น ดิ น ไว้ ถื อ ดาบ ถือหอก ถือง้าว เข้าไปสู้กันตัวต่อตัว ตาต่อตา ฟนต่อฟน แลกกันด้วยเลือดเนื้อและชีวิต นี่คือสิ่งที่บรรพบุรุษหรือ พระมหากษัตริย์แสดงไว้ หรือว่าท�าไว้ให้เรา ผมพยายาม ให้คนในประเทศไทย ในอยุธยา คิดถึงในเรื่องนี้ให้มาก “สิ่งที่ภูมิใจที่สุดของเรา คือการรับเสด็จที่ทุ่งมะขาม หย่อง (วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ.2555) หลังจากที่น�้าท่วม อยุธยา พระบาทสมเด็จพระเจาอยูห วั สมเด็จพระนาง เจาฯ พระบรมราชีนีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุ ดาฯ เสด็จฯมาให้ก�าลังใจคนอยุธยา ทรงเยี่ยมประชาชน ทีถ่ กู น�า้ ท่วม ทอดพระเนตรการแสดง ทรงติดตามโครงการ พระราชด�าริของพระองค์ทา่ นทีท่ งุ่ มะขามหย่อง ซึง่ เป็นพืน้ ดินแห่งพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ท่านทรงผูกพันกับ แผ่นดินนี้ซึ่งมีประวัติศาสตร์เรื่องราวมาตั้งแต่สมัยพระ สุริโยทัย สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระองค์ท่าน ทรงน�าเรื่องราวนั้นมาสร้างพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระ สุริโยทัย และพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวร มหาราช เพือ่ ให้เด็กและเยาวชน คนไทยได้รปู้ ระวัตศิ าสตร์
หน้านี้ว่า พื้นแผ่นดินตรงนี้เป็นที่ที่บรรพบุรุษ และพระมหา กษัตริย์ไทยในอดีตได้ สละชีพ สละเลือดเนื้อแลกไว้ “ฉะนัน้ เราก็เลยก�าหนดว่าวันที่ 25 พฤษภาคมของทุกปี ซึง่ เป็นวันทีเ่ สด็จฯ เป็นวันส�าคัญของจังหวัด เราจะมีการเฉลิม ฉลองเพือ่ ร�าลึกถึงการเสด็จพระราชด�าเนินของพระองค์ทา่ น มีการอนุรกั ษ์วฒ ั นธรรมของคนอยุธยาไว้โดยการประกวดเรือ ประกวดเพลงเรือซึง่ เป็นวิถชี วี ติ ของคนอยุธยาทีอ่ ยูก่ บั สายน�า้ มาตลอด รวมทัง้ เราก็จะให้พนี่ อ้ งประชาชน ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนทัว่ ไป มาร่วมกันปลูกข้าวในทีน่ าของพระองค์ทา่ น 7 ไร่ ที่อยู่ริมทุ่งมะขามหย่อง เราลงมือปลูกข้าวในวันที่ 25 พฤษภาคม เมื่อเกี่ยวในเดือนกันยายน ก็น�าไปทูลเกล้าฯ ถวายเป็นพันธุ์ข้าวปลูก ซึ่งพระองค์ท่านจะได้พระราชทาน ให้ กั บ ประชาชนหรื อ เกษตรกรต่ อ ไป เพราะฉะนั้ น วั น นี้ ก็จะเป็นวันส�าคัญของคนอยุธยา ที่จะแสดงความจงรัก
ภักดี เชิดชู เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และส�านึกใน พระมหากรุณาธิคุณโดยน�าพระบรมราโชบาย น�าโครงการ พระราชด� า ริ ข องพระองค์ ท ่ า น มาท� า ให้ เ กิ ด ประโยชน์ ต่อเนื่องกันไปทุกปี “เรื่องที่สองคือสถาบันศาสนา อยุธยาถือว่าเป็น จังหวัดที่มีวัดมากที่สุด มีวัดส�าคัญ มีวัดหลวงอยู่ถึง 14 วัด มากที่สุดในประเทศไทย ยกเว้นกรุงเทพ ยังมีวัดร้างอีก 500 กว่าวัด มีวัดที่มีภิกษุอยู่ 500 กว่าวัด มีคนมาไหว้พระ เก้าวัดภายในครึ่งวันก็ไหว้กันครบแล้ว แต่เราก็มีเรื่องของ พระสงฆ์ รู ป หนึ่ ง เป็ น พระสงฆ์ ไ ทยที่ มี คุ ณู ป การต่ อ พุทธศาสนาอย่างยิ่งคือพระอุบาลีมหาเถระ ซึ่งผมไปทราบ เรื่องราวของท่านเมื่อคราวไปศรีลังกา ก็กลับมาคิดว่าท�า อย่างไรให้คนไทยได้รู้จักพระอุบาลีมหาเถระ เพราะว่าคน ไทยเราไม่รู้จักเลย ท่านเดินทางไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ ศรีลังกา เมื่อ พ.ศ.2296 มาถึงตอนนี้ ก็ 261 ปี ปีที่แล้ว พ.ศ. 2556 เราก็ร่วมมือกับประเทศศรีลังกา สร้างพิพิธภัณฑ์พระ อุบาลีมหาเถระขึน้ ทีว่ ดั ธรรมาราม อ�าเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเฉลิมฉลอง วาระครบ 260 ปี ในการเดินทางไปเป็นสมณทูตของท่าน เปิดให้ผู้คนเข้าชม เรื่ อ งราวของพระพุ ท ธศาสนา ความเป็ น มาเป็ น ไปของ พระพุ ท ธศาสนา ประวั ติ ข องพระอุ บ าลี ม หาเถระ ภิ ก ษุ ที่ยิ่งใหญ่ และมีคุณูปการต่อพุทธศาสนาอย่างยิ่งองค์นี้ แสดงถึงผลงานและความเสียสละของท่านที่ได้เดินทาง ไปฟื้นฟูพระพุทธศาสนาที่ประเทศศรีลังกา จนท�าให้เกิด พุทธศาสนานิกายสยามวงศ์และท�าให้ประเทศศรีลงั กากลับ มาเป็นแผ่นดินแห่งพุทธภูมอิ กี ครัง้ ตอนนีก้ ไ็ ด้เปิดพิพธิ ภัณฑ์
Ayutthaya 39
พระอุ บ าลี ม หาเถระให้ ป ระชาชนเข้ า ชมแล้ ว นี่ก็คือเรื่องที่สองที่ผมท�าให้กับอยุธยา “เรื่องที่สามคือความเปนชาติ เราน�าเสนอ การอยู่ร่วมกันอย่างสันติหรืออย่างเกื้อกูล ของคน อยุธยา ไม่ว่าจะเป็นคนต่างชาติ ต่างภาษา ต่าง ศาสนามาอยูใ่ นอยุธยา เราถือว่าเป็นคนในอยุธยา หมด ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาแล้วคิดอย่างนี้ คน อยุธยาอาจมีความคิดที่แตกต่างกัน เสื้อแดง เสื้อ เหลือง เสือ้ ฟา เสือ้ ขาว แต่สงิ่ ทีม่ นั เป็นเครือ่ งยึดโยง ไม่ให้เขาทะเลาะกันคือวิถีชีวิตเดิม คนมุสลิมอยู่ ในหมู่บ้านคนไทยพุทธ คนไทยพุทธอยู่ในหมู่บ้าน มุสลิมไม่เคยทะเลาะกัน วัดมีงานมุสลิมก็มาช่วย มุสลิมมีงานพระก็ไปช่วย มันหาที่ไหนในโลกไม่ ได้ สิง่ นีค้ อื ความเป็นชาติ ความเป็นวิถชี วี ติ ของคน อยุธยา สิ่งเหล่านี้มันจะท�าให้คนอยุธยาสามารถ ที่จะพัฒนาบ้านเมืองของตนเองในโอกาสที่เราจะ เข้าสู่ประชาคมอาเซียนได้จากวิถีชีวิตแบบนี้ เรา จะปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นได้ เพราะเรามองคน ต่างชาติว่าเป็นคนในบ้านเดียวกับเรา เราไม่ได้ มองคนต่างชาติเหมือนคนแปลกหน้า เราก็อยู่กับ คนต่างชาติหรือคนแปลกหน้ามาห้าหกร้อยปีแล้ว ถ้าจะมีคนต่างชาติเพิ่มมาอีกคนสองคนก็ไม่น่ามี อะไรแตกต่างไปจากเดิม และการที่เข้าไปหาเขา การจะคบค้าสมาคม มันเป็นวิถีชีวิตเดิม อันนี้คือ ความเป็นชาติ “แต่สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นรูปธรรมมากกว่านั้นก็ คือ เมื่อผมมาใหม่ๆ ศาลากลางแห่งนี้คนมองไม่ เห็น เพราะหนึ่งเพิ่งย้ายออกมาจากข้างใน คนก็ถาม ศาลากลางอยู่ที่ไหน ตอนแรกก็มืดครึ้มทางเข้า-ออกก็ ไม่ได้อยูข่ า้ งหน้า เข้า-ออกด้านข้าง ฉะนัน้ คนทีผ่ า่ นถนน สายเอเชียมองไม่เห็น ไม่รู้ว่าศาลากลางอยู่ที่ไหน สิ่งที่ ผมท�าคือ หนึ่งผมท�าหน้าบ้านศาลากลางซึ่งเป็น CITY HALL เป็นศาลาประชาคม ศาลากลางของจังหวัดที่ เป็นศูนย์รวมของจังหวัดให้คนเห็น คนที่มาศาลากลาง เขาจะได้ภูมิใจว่าคนอยุธยาไม่ได้น้อยหน้าใคร สถานที่ ราชการสวยงามสะอาดเรียบร้อย สะดวกสบาย แล้วเรา ก็นา� เสนอส่วนทีม่ นั เป็นความส�าคัญ เช่นแหล่งท่องเทีย่ ว 40
สถานทีส่ า� คัญ วิสยั ทัศน์ของคนอยุธยาให้เขาเห็นจากหน้าบ้าน “นี่คือสิ่งที่ผมคิดว่าผมท�าให้อยุธยาอย่างเป็นรูปธรรม คน มาตรวจสอบ มาถ่ายรูปได้ มาสัมผัสได้ว่ามันคืออะไร ห้าปี ครึ่ง หรือประมาณ 2,000 วันที่ใช้ชีวิตที่นี่จนเหมือนกับว่าเป็น บ้านเกิดเมืองนอน วิถชี วี ติ ผมอยูท่ นี่ ไี่ ม่เคยไปค้างคืนทีก่ รุงเทพ เลย ห้าปีครึ่งอยู่ที่นี่จนชิน นี่ก็ใจหายถึงเวลาที่จะเกษียณอายุ ราชการสิ้นเดือนกันยายนนี้ ต้องเปลี่ยนที่นอนไปนอนที่อื่น ไป
ในโอกาสที่เราจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ได้ เข้าสู่ความเป็นสากลจากพื้นฐานตรงนี้ จากวิถีชีวิตแบบนี้ เราจะปรับตัวให้เข้ากับ คนอื่นได้ เพราะเรามองคนต่างชาติ ว่าเป็นคนในบ้านเดียวกับเรา
นอนที่ใหม่จะไม่คุ้นแต่ก็คิดว่าสิ่งที่เราได้ฝากไว้กับคนอยุธยา ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของทุ่งมะขามหย่อง พิพิธภัณฑ์พระอุบาลี ศาลากลางจังหวัด หรืออนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดี ทุ่งหันตรา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นแหล่งรายได้ เป็นแหล่ง ความรู้ของคนอยุธยา นับเป็น Master Piece ชิ้นหนึ่ง ที่ท�าขึ้น เพื่อคนอยุธยา จะเป็นประโยชน์ต่อคนอยุธยาในอนาคตอย่าง มากมายนั้น จะท�าให้คนอยุธยาคิดถึงเราบ้าง” ศักยภาพของเมืองอยุธยา&บุคลากร คือความประทับใจ “หนึ่งคือ อยุธยาเป็นศูนย์กลางของประเทศไทยมาแต่ ในอดีต มาถึงขณะนี้ก็ยังเป็นศูนย์กลางถึงจะไม่ได้เป็นที่ตั้ง
เมืองหลวงก็ตาม แต่เราถือว่าเรามีศักยภาพ มีทุนสูง มี ทีม่ าทีไ่ ป มีเรือ่ งราว เราจะท�าอะไรก็ตาม ก็สามารถใช้สร้าง ความสนใจให้คนได้ ท�าอะไรที่นี่ลงแรงน้อยก็สามารถ ประสบความส�าเร็จได้ง่าย เพราะมีทุนเดิมสูงอยู่แล้ว “สองคือ ข้าราชการทีม่ าอยูท่ นี่ ี่ ล้วนแต่เป็นข้าราชการ ชั้นหัวกะทิทั้งนั้น เพราะถือว่าเป็นหัวเมืองหลักอยู่ใกล้ กรุงเทพ คนที่มาอยู่ที่นี่ส่วนใหญ่ก็จะอาวุโส อาวุโสใน ทางราชการไม่ ใ ช่ แ ก่ แต่ อ าวุ โ สที่ ว ่ า มี ต� า แหน่ ง สู ง มี ประสบการณ์สูง เขาจึงเลือกมาอยู่ที่เมืองอยุธยา ฉะนั้น เมื่อเราท�าโครงการอะไร หรือคิดโครงการอะไรขึ้นมา เรา ก็มีบุคลากรหรือเพื่อนร่วมงานที่สามารถช่วยพาโครงการ เราไปสู่เปาหมายปลายทางได้ อันนี้คือความประทับใจ ของการท�างานอยู่ที่นี่ “ผมเชื่อว่าห้าปีกว่าๆ เท่าที่ได้ท�างาน ก็คุ้มกับที่เขา จ่ายเงินเดือนให้กับผม แต่ผมก็คงไม่ได้หนีไปจากอยุธยา เลย ก็คงจะได้แวะเวียนกลับมา ได้ดูได้ท�าอะไรให้กับคน อยุธยาอีกตามโอกาสหรือจังหวะ หรือตามเทศกาลต่างๆ ผมก็คงฝากพี่น้องอยุธยาไว้ว่า ถ้าเราท�าอยุธยาของเราให้ น่าอยู่ ให้มนั น่าลงทุน ให้มนั น่าเทีย่ ว ก็จะเป็นประโยชน์แก่ คนอยุธยาเอง เราก็จะสามารถเพิม่ รายได้ของเรา สามารถ เพิ่มชีวิตความเป็นอยู่ของเราให้ดีขึ้นได้ด้วยตัวเราเอง” Ayutthaya 41
p.042AD ¡ÒúԹàª×èÍà¾ÅÔ§.pdf 1 8/7/2557 12:54:50
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
สารอุตสาหกรรมจังหวัด พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดที่เป็นราชธานีเก่า เป็นนครประวัติศาสตร์ เป็นเมืองมรดกโลก มีแม่น�้าไหลผ่าน 4 สาย ได้แก่ แม่นา�้ เจ้าพระยา แม่นา�้ ป่าสัก แม่นา�้ น้อย แม่นา�้ ลพบุรี และเป็นจังหวัดทีม่ กี ารลงทุนอุตสาหกรรมมากเป็นอันดับ ต้นๆ Positioning ในการลงทุนภาคอุตสาหกรรมของจังหวัด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และชิน้ ส่วนของรถยนต์ ปัจจุบนั จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีโรงงานอุตสาหกรรม กว่า 2,300 โรง ตัง้ อยูใ่ นนิคมอุตสาหกรรม 3 แห่ง เขตประกอบ การอุตสาหกรรม 2 แห่ง และในสวนอุตสาหกรรม ชุมชน อุตสาหกรรม อีกหลายแห่ง นอกจากนัน้ ยังมีโรงงานทีก่ ระจาย อยูใ่ นพืน้ ทีต่ า่ งๆ ของจังหวัดมีเงินลงทุน 3.8 แสนกว่าล้านบาท มีการจ้างงานมกากว่า 250,000 คน โดยเฉพาะปี 2557 นี้ มี ผูล้ งทุนในภาคอุตสาหกรรมทีไ่ ด้รบั ใบอนุญาตประกอบกิจการ โรงงาน (รง.4) แล้ว 37 โรงงาน เงินลงทุน 5 พันกว่าล้านบาท มี การจ้างงานเพิม่ ขึน้ 1,500 คน และอยูใ่ นขัน้ ตอนการขออนุญาต อีกหลายราย อย่างไรก็ตามความเจริญเติบโตในภาคอุตสาหกรรม ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็ต้องค�านึงถึงผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย ทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจน คุ ณ ภาพชี วิ ตของชุ มชนที่ อยู ่ โ ดยรอบโรงงาน ซึ่ง เป็น เรื่อ ง ท้าทายทีจ่ ะต้องท�าให้ผปู้ ระกอบกิจการโรงงานสามารถอยูร่ ว่ ม กับชุมชน ภาคเกษตรกรรม การท่องเที่ยว แหล่งน�้าธรรมชาติ
(นายสุรศักดิ์ เฉลิมเกียรติทวี) อุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
Ayutthaya 43
เสนทางพบอุตสาหกรรมจังหวัด
นายสุรศักดิ์ เฉลิมเกียรติทวี
อุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
44
สถานการณ์บ้านเมืองมีความสงบขึ้น ภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มขยายตัวลงทุน เพิ่มขึ้น มีการเร่งรัดการใช้จ่าย มีมาตรการ ปองกันปญหาด้านอุทกภัยเปนรูปธรรม เกิดความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
อุตสาหกรรมอยุธยากับอนาคตที่สดใส จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดที่มีท�าเลที่ตั้งที่เหมาะสม กับการท่องเที่ยว เมืองน่าอยู่ และน่าลงทุน เป็นจุดศูนย์กลางการ เดินทางทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคใต้ ซึ่งช่วง กลางปีงบประมาณ 2557 สถานการณ์บ้านเมืองมีความสงบขึ้น ภาค อุตสาหกรรมมีแนวโน้มขยายตัวลงทุนเพิม่ ขึน้ มีการเร่งรัดการใช้จา่ ย มีมาตรการป้องกันปัญหาด้านอุทกภัยเป็นรูปธรรม เกิดความเชือ่ มัน่ ของ ผูล้ งทุน ประกอบกับพืน้ ทีข่ องจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีนคิ มอุตสาหกรรม 3 แห่ง ประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน นิคมอุตสาหกรรมบ้าน หว้า(ไฮเทค) นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร เขตประกอบการอุตสาหกรรม 2 แห่ง ได้แก่ เขตประกอบการ บริษทั สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ�ากัด (มหาชน) เขตประกอบการ แฟคเตอรี่แลนด์วังน้อย พร้อมทั้งมีชมชน อุตสาหกรรม และสวนอุตสาหกรรมอีกหลายแห่ง ประกอบกับมีสถาน ประกอบกิจการขนาดใหญ่มชี อื่ เสียง ทีเ่ ป็นแม่เหล็กทีด่ งึ ดูดผูป้ ระกอบ กิจการทีเ่ ป็น Subcontract อืน่ มาตัง้ อยูใ่ กล้ ซึง่ การประกอบกิจการปัจจุบนั จะใช้ระบบการผลิตแบบทันเวลาพอดี (Just – in - time Production Systems) ประกอบกับมีโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าทีไ่ ด้รบั อนุญาตแล้ว 7 โรง และอยูร่ ะหว่างการขออนุญาตอีก 3 โรง และในบางพืน้ ทีม่ กี ารเดิน ท่อกาซธรรมชาติผา่ น มีการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ให้เชือ่ มโยงอย่าง บูรณาการ (Logistics Network Integration ) ระบบการขนส่งสนับสนุนและ ทางหลวงพิเศษ (Motorway) การขนส่งทางน�า้ รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็ว สูง ทีจ่ ะเกิดขึน้ ในอนาคต รวมทัง้ ศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าของห้าง สรรพสินค้า ใหญ่ทไี่ ด้มาลงทุนตัง้ อยูใ่ นพืน้ ทีแ่ ล้ว จากข้อมูลดังกล่าวข้าง ต้น ท�าให้นกั ลงทุนเห็นศักยภาพของจังหวัด เมือ่ มีการลงทุนแล้วจะได้ เปรียบกว่าพืน้ ทีอ่ นื่ ๆ Ayutthaya 45
“ศูนยบริการทันใจ” รวดเร็ว-โปรงใส ตามนโยบาย คสช. การเร่งรัดการพิจารณาออกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง.4) ที่ค้างการพิจารณา ต้องยอมรับว่ามีปัญหาอุปสรรคพอสมควร ทั้งในด้านข้อกฎหมาย เอกสารประกอบการพิจารณาต้องครบถ้วน การประกาศฯ รับฟังข้อความคิดเห็นจากประชาชน และความเห็นจาก อ�าเภอ อปท. และประชาชน เกี่ยวกับความเหมาะสมของท�าเลที่ตั้ง โรงงาน ซึ่งต้องบูรณาการกับทุกภาคส่วน พร้อมทั้งมีการปรับเปลี่ยน ระยะเวลาในการออกใบอนุญาต/ขยายโรงงาน จากเดิม 90 วัน เป็น 30 วัน ต้องปรับเปลีย่ นยุทธศาสตร์ ปรับปรุงฐานข้อมูล ขัน้ ตอนการด�าเนิน การ ติดตามผลและตรวจสอบเร่งรัดเจ้าหน้าที่ฯ ที่รับผิดชอบอย่างเป็น ระบบฯ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ปรับปรุงความล่าช้าของการด�าเนิน การทีส่ ามารถให้บริการได้โดยไม่ตอ้ งรอนาน เช่น การแจ้งเปลีย่ นแปลง เลขทีต่ งั้ /ส�านักงาน/ขยาย และการแจ้งประกอบฯ การเปลีย่ นแปลงการ ติดตั้งเครื่องจักรที่ไม่เข้าข่ายขยายฯ การโอนใบอนุญาตฯ ส่วนการต่อ อายุใบอนุญาตฯ ให้ตรวจสอบความถูกต้องก่อนใบอนุญาตสิน้ อายุ จึง ได้จัดตั้ง “ศูนยบริการทันใจ” (Express Services Center) เพื่อให้ บริการกับผูป้ ระกอบกิจการ ประชาชน ด้วยความรวดเร็ว ใช้เวลาในการ ด�าเนินการไม่เกิน 30 นาที สามารถรับเอกสารกลับได้เลย ซึ่งได้รับการ ตอบรับจากผู้ประกอบกิจการ และประชาชนที่มารับบริการอย่างดียิ่ง อุตสาหกรรมจะยิ่งใหญ ตองรับผิดชอบใหญยิ่ง การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจะมองด้านตัวเลขทางเศรษฐกิจ อย่างเดียวไม่ได้ ต้องค�านึงถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามมาอย่าง มากมายเช่นกัน โดยเฉพาะปัญหาด้านสิง่ แวดล้อม ความปลอดภัยจาก การประกอบกิจการภาคอุตสาหกรรม ปัญหาจากประชากรแฝงมากมาย ปัญหาด้านสังคม ปัญหาการขาดแคลนโครงสร้างพืน้ ฐาน จุดทีส่ า� คัญผู้ ประกอบกิจการและชุมชนจะต้องสนับสนุนช่วยเหลือเกือ้ กูลร่วมมือซึง่ กัน และกัน ซึง่ จะน�าไปสูก่ ารพัฒนาทีย่ งั่ ยืน และอยูร่ ว่ มกันได้อย่างมีความสุข การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมสูอ่ ตุ สาหกรรมฐาน ความรูเ้ ชิงสร้างสรรค์ และ เป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม ครั้งแรกที่เข้ารับราชการที่กองสิ่งแวดล้อมโรงงาน กรมโรงงาน อุตสาหกรรม ดูแลโรงงาน ที่มีน�้าทิ้งจากการประกอบกิจการโรงงาน เกิดปัญหาแม่น�้าเน่าเสีย ต้องตรวจเฝ้าระวังการลักลอบระบายน�้าเสีย ลงในแหล่งรับน�า้ ตรวจเฝ้าระวังตลอด 24 ชม. โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ต่อมาก็ให้ดแู ลตรวจสอบ ทัง้ มลพิษทางน�า้ และอากาศ เพราะฉะนัน้ ใน ด้านการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมดังกล่าว จึงเป็นประสบการณ์ ที่ สะสมมาตั้งแต่เริ่มเข้ารับราชการ
อาศัยประสบการณ์ที่ได้รับจากการ รับราชการตั้งแต่ครั้งแรก หาสาเหตุที่ท�าให้เกิด ปญหา โดยต้องดูขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่เริ่มต้น วิเคราะห์หาสาเหตุ แจ้งให้แก้ไขจุดที่เกิดปญหา 46
ศูนย์บริการทันใจ Express Services Center
โครงการส่งเสริมและพัฒนาการบริหาร จัดการน�้าในโรงงานอุตสาหกรรม มีวัตถุประสงค์ที่จะลดปริมาณการใช้น�้าลง ร้อยละ 5 และน�าน�้าเสียที่บ�าบัดแล้ว มาใช้ประโยชน์ร้อยละ 5 ภารกิจพิชิตปัญหาโรงงานอุตสาหกรรม ปัญหาเหตุเดือดร้อนจากการประกอบกิจการโรงงาน เป็น ปัญหาทีใ่ ห้ความส�าคัญในการด�าเนินการอย่างเร่งด่วน แนวคิด เราต้องคิดว่าเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนเอง ก็จะทราบว่า ประชาชนทีไ่ ด้รบั ความเดือดร้อนต้องการอะไร ใช่ครับ ต้องการ ให้ความเดือดร้อนได้รบั การแก้ไขโดยเร็ว และต้องยุตไิ ม่เกิดขึน้ อีกโดยเร็ว จึงได้แบ่งการร้องเรียนจากการประกอบกิจการไว้ 2 ลักษณะ 1. เหตุเดือนร้อนร�าคาญครั้งคราว 2. เหตุเดือดร้อน ร�าคาญซ�้าซาก ส�าหรับเหตุเดือดร้อนร�าคาญซ�้าซาก เป็นเหตุ เดือดร้อนที่แก้ไขได้ยาก แต่เป็นความเดือดร้อนที่ต้องแก้ไข โดยเร็วที่สุด เป็นความเดือดร้อนส่งผลกระทบต่อประชาชน เป็นเวลานาน และบ่อยครั้งซ�้าซากไม่จบสิ้น ซึ่งอาจเกิดตาม ฤดูการผลิต หรือความบกพร่องของโรงงาน จึงต้องแก้ไขโดย อาศัยความร่วมมือหลายฝ่ายทัง้ โรงงานอุตสาหกรรม ประชาชน ในพื้นที่ อปท. และส่วนราชการ เข้าไปร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ ยุตโิ ดยเร็วไม่ตอ้ งเสียเวลาไปแก้ไขอีกจะได้ไปพัฒนาด้านอืน่ ๆ ต่อไป อาศัยประสบการณ์ทไี่ ด้รบั จากการ รับราชการตัง้ แต่ครัง้ แรกหาสาเหตุที่ท�าให้เกิดปัญหา โดยต้องดูขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่เริ่มต้น วิเคราะห์หาสาเหตุแจ้งให้แก้ไขจุดที่เกิดปัญหา ซึ่งบางครั้งกว่าจะหาสาเหตุเจอต้องเฝ้าดูกันเป็นวันๆ เลย ก�าหนดแผนการตรวจสอบก�ากับดูแลโรงงานทีม่ ปี ญ ั หาด้านสิง่
แวดล้อม ความปลอดภัย โรงงานทีม่ กี ารจัดท�าประเมินความเสีย่ ง กาก ของเสียอันตราย โรงงานที่ต้องปฏิบัติตามรายงานวิเคราะห์ผลกระทบ ด้านสิง่ แวดล้อม โรงงานใดทีป่ ล่อยมลพิษออกนอกโรงงานก็ดา� เนินการ ตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด อุตสาหกรรมเป็นมิตร ประชาชนเป็นสุข ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ มีวิถีชีวิตด้านการเกษตร วันหนึ่งพบว่า มีการมาก่อสร้างอะไรไม่รู้ อยู่ใกล้กับชุมชนที่เขาอยู่เหมือนสิ่งแปลก ปลอม ต่อมารู้ว่าเป็นโรงงานอุตสาหกรรมไม่รู้ว่าท�าอะไร มีมลพิษหรือ มีสารเคมีที่ส่งผลกระทบหรือไม่อย่างไร ค�าถามเหล่านี้ต้องมีค�าตอบ ดังนั้น นโยบายต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ด�าเนินการโครงการต่างๆ ให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานเข้าร่วมเป็น โครงการที่ดูแลด้านสิ่งแวดล้อมความปลอดภัย เปิดเผยข้อมูลซึ่ง สามารถให้ผปู้ ระกอบการฯ สามารถอยูร่ ว่ มกับชุมชนได้อย่างมีความสุข
ได้แก่ โครงการธรรมาภิบาลสิง่ แวดล้อมสถานประกอบการ โครงการส่ง เสริมและพัฒนาการบริหารจัดการน�า้ ในโรงงานอุตสาหกรรม โครงการ สร้างและพัฒนาเครือข่ายอุตสาหกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม โครงการ อุตสาหกรรม สีเขียว และให้ผู้ประกอบกิจการมีการใช้คู่มือปฏิบัติงาน ประจ�าโรงงาน เพื่อให้ผู้ประกอบกิจการสามารถปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อก�าหนดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย ซึ่งผู้ประกอบกิจการจะสามารถลดปัญหาต่างๆ ลงได้ นอกจากนี้ยัง มีโครงการของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน 1 (พระนครศรีอยุธยา ,สระบุรี ,ปทุมธานี ,นนทบุรี ) มีการด�าเนินการโครงการดังนี้ 1. โครงการส่งเสริมและพัฒนาการบริหารจัดการน�้าในโรงงาน อุตสาหกรรมขึ้นเมื่อปีงบประมาณ 2554 – 2556 โดยมีระยะเวลา ด�าเนินการ 3 ปี มีวัตถุประสงค์ที่จะลดปริมาณการใช้น�้าลงอย่างน้อย ร้อยละ 5 และน�าน�้าเสียทีบ่ า� บัดแล้วมาใช้ประโยชน์อย่างน้อยร้อยละ 5 ในการด�าเนินการจะคัดเลือกโรงงานอุตสาหกรรมทีม่ กี ารปล่อยน�า้ ทิง้ 500 ลบ.ม./วัน มาพัฒนาและปรับปรุงระบบการผลิตให้สามารถใช้นา�้ ลด ลง โดยก�าหนดไว้จะด�าเนินการปีละ 200 โรงงาน เป็นเวลา 3 ปี มีโรงงาน ทีร่ ว่ มโครงการทัง้ สิน้ 601 โรง รวมปริมาณน�า้ ใช้รวมทัง้ สิน้ 17,833,958 Ayutthaya 47
ลบ.ม./เดือน โรงงานสามารถประหยัดได้รวมทัง้ สิน้ ปีละ 1,289,225 ลบ.ม./ เดือน และโครงการควบคุมบริหารจัดการน�า้ ทิง้ ในคลองสาธารณะเขต อุตสาหกรรม 2. โครงการควบคุมบริหารจัดการน�้าทิ้งในคลองสาธารณะเขต อุตสาหกรรม ระยะเวลาด�าเนินโครงการ 3 ปี ตั้งแต่ปี 2554 – 2556 เป็นโครงการที่มีหัวหน้ากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน 1 ได้รับมอบ หมายให้สา� นักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นเจ้าภาพ หลักในการด�าเนินการ 2.1 ติดตั้งระบบสารสนเทศของระบบตรวจสอบคุณภาพน�้า อัตโนมัตขิ องกลุม่ จังหวัดภาคกลางตอนบน 1 เพือ่ วิเคราะห์และรายงาน ผลสถานการณ์น�้าให้ผู้เกี่ยวข้อง 2.2 ติดตัง้ ระบบเตือนภัยเมือ่ คุณภาพน�า้ เกินเกณฑ์มาตรฐาน ที่ก�าหนด และบันทึกข้อมูลรายงานสถานการณ์คุณภาพน�้าทั้งทาง ฟิสกิ ส์และเคมี โดยมีการติดตัง้ ระบบตรวจสอบคุณภาพน�า้ ทัง้ หมด 19 จุด ท�าให้ทราบปัญหาการเกิดน�า้ เน่าเสียมาจากส่วนใด เพือ่ ทีจ่ ะเข้าไป แก้ไขปัญหาได้ทันที ไม่ต้องรอให้เกิดการร้องเรียน
มีการติดตั้งระบบตรวจสอบคุณภาพน�้า ทั้งหมด 19 จุด ท�าให้ทราบปญหาการเกิดน�้าเน่า เสียว่ามาจากส่วนใด เพื่อที่จะเข้าไปแก้ไขปญหาได้ ทันที ไม่ต้องรอให้เกิดการร้องเรียน 48
จุดยุทธศาสตรของกิจการเหมืองแรและอุตสาหกรรม พื้นฐาน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาไม่มีประทานบัตรเหมืองแร่ แต่มีการประกอบกิจการหรือธุรกิจเกี่ยวกับแร่ รวมทั้งกิจการ ต่อเนื่องจากแร่หลายชนิด เช่น โรงแต่งแร่ โรงถลุงแร่ ร้านซื้อ แร่ เก็บแร่ รวมทัง้ การน�าเข้าและส่งแร่ออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นจุดยุทธศาสตร์ส�าคัญของ การขนส่งทางน�้า โดยเฉพาะแม่น�้าป่าสักที่อ�าเภอนครหลวง และกลุ ่ ม โรงงานอุ ต สาหกรรมต่ า งๆ ทั้ ง ในและนอกนิ ค ม อุตสาหกรรม ซึ่งเป็นแหล่งที่ใช้แร่เป็นวัตถุดิบในการผลิตเป็น ล�าดับต้นๆ ของประเทศรองจากสระบุรี และสมุทรปราการ เช่น โรงงานผลิตขวดแก้ว กระจก ทีต่ อ้ งใช้แร่ทรายแก้วเป็นวัตถุดบิ หรือโรงงานกลุม่ อุตสาหกรรมยานยนต์และอิเลคทรอนิกส์ ทีใ่ ช้ โลหะสังกะสีเป็นวัตถุดบิ ในการผลิต รวมทัง้ โรงงานผลิตยิปซัม่ บอร์ดที่ใช้แร่ยิปซั่มเป็นวัตถุดิบในการผลิต 1. การประกอบธุรกิจแร การซื้อแร่และเก็บแร่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีสถานประกอบการเกี่ยวกับ การซื้อแร่และเก็บแร่จ�านวน 17 ราย กระจายตัวอยู่ในอ�าเภอ ต่างๆ ทีเ่ ป็นกลุม่ โรงงานอุตสาหกรรมและการขนส่งทางน�า้ ซึง่ ส่วนใหญ่เป็นร้านซือ้ และเก็บแร่เหล็ก แมงกานีส พลวง สังกะสี ยิปซั่ม ทรายแล้ว และแร่อื่นๆ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเซรามิค การส่งแร่ออกนอกราชอาณาจักร อ�าเภอนครหลวง และอ�าเภอท่าเรือ เป็นจุดยุทธศาสตร์ ส�าคัญในการขนส่งล�าเลียงสินค้าทางน�้า เนื่องจากมีต้นทุนต�่า และขนส่งได้ในปริมาณมากในคราวเดียว โดยหลักๆ แล้วจะ เป็นการส่งออกแร่เหล็ก แมงกานีส โดโลไมต์ หินอุตสาหกรรม ชนิดหินปูนที่ใช้ส�าหรับท�าปูนขาว และแร่ยิปซั่ม ซึ่งเหมือง แร่ ทั่ ว ประเทศจะท� า การขนแร่ ม าเก็ บ กองยั ง เขตจั ง หวั ด พระนครศรีอยุธยา และขอใบอนุญาตส่งออกต่ออุตสาหกรรม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีความสะดวกต่อผู้ประกอบ การทั้งการขออนุญาต และการขนถ่ายล�าเลียงสินค้าตาม แม่น�้าป่าสัก-แม่น�้าเจ้าพระยา-อ่าวไทย จนกระทั่งไปขนถ่าย ขึ้นเรือเดินสมุทรที่เกาะสีชัง ไปยังต่างประเทศ ในครึ่งปีแรกของปี 2557 มีแร่เหล็ก ยิปซั่ม และแร่ แมงกานีส ที่ผลิตในประเทศและส่งออก รวมทั้งแร่ที่น�าเข้า มาจากต่างประเทศและส่งออกเป็นสินค้าผ่านแดน ประมาณ 85,000 เมตริกตัน มูลค่าโดยรวมประมาณ 450 ล้านบาท 2. อุตสาหกรรมพื้นฐาน เป็นอุตสาหกรรมทีต่ อ่ เนือ่ งจากแร่ ทัง้ การพัฒนาคุณภาพ แร่และการใช้แร่เพื่อให้มีมูลค่าเพิ่มทั้งด้านคุณภาพ ปริมาณ และคุณค่าด้านการน�าไปใช้ประโยชน์ ดังนี้
โรงแต่งแร่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีโรงแต่งแร่จ�านวน 4 โรง กระจาย ตัวไปในท้องที่ต่างๆ ตามแหล่งยุทธศาสตร์การขนส่งและการใช้ แร่ ดังนี้ 2.1 โรงแต่งแร่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตร จ�านวน 2 โรง ใน ท้องทีอ่ า� เภอนครหลวง ท�าการแต่งแร่ แบไรต์ โดไลไมต์ ทีใ่ ช้สา� หรับ อุตสาหกรรมปุย และอาหารสัตว์ 2.2 โรงแต่งแร่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเซรามิค จ�านวน 1 โรง ใน ท้องที่อ�าเภอภาชี ท�าการแต่งแร่หลายชนิด ซึ่งน�ามาจากเหมือง อืน่ รวมทัง้ น�าเข้าจากต่างประเทศ มาท�าการบดแต่ง ปรับปรุง และ พัฒนาให้มีคุณภาพและมูลค่าสูงขึ้น และป้อนให้กับกลุ่มโรงงาน เซรามิคในพื้นที่จังหวัดสระบุรีเป็นหลัก โรงถลุงแร่ มีจ�านวน 1 โรง ในพื้นที่อ�าเภอลาดบัวหลวง เป็นโรงถลุง แร่พลวงที่น�าแร่ทั้งจากเหมืองในประเทศและน�าเข้ามาจากต่าง ประเทศ มาถลุงให้เป็นโลหะพลวง หรือฝุ่นพลวงออกไซด์ และ
ภาคประชาชน ต้องมีส่วนร่วมในการบริโภค สินค้าและบริการ ที่เปนมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีความรับผิดชอบต่อสังคม
ป้อนให้กับอุตสาหกรรมต่อเนื่อง จ�าพวกการหล่อโลหะ การผลิต โลหะที่ต้องการแรงเสียดทานสูง รวมทั้งอุตสาหกรรมสี ทั้งในและ ต่างประเทศ 3. การปองกันและปราบปรามการกระทําความผิดตาม กฎหมายวาดวยแร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นจุดยุทธศาสตร์ในการขนส่งรวม ทั้งเป็นแหล่งพักแร่เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร ดังนั้นจึงมีการ ลักลอบขนถ่ายแร่ลงเรืออยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสํานักงานอุตสาหกรรม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รว่ มกับกรมสอบสวนนคดีพเิ ศษ ใช้มาตรการเฝ้าระวังป้องปรามที่เข้มงวดรวมทั้งการปราบปรามที่ เด็ดขาด โดยมีการตรวจยึดแร่เหล็กและเรือล�าเลียงขนถ่ายสินค้า ในแม่น�้าป่าสัก ของขบวนการลักลอบท�าแร่เถื่อน ที่จะลักลอบส่ง แร่ไปต่างประเทศ ได้แร่และของกลางมูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท ความคาดหวังตอผูประกอบการอุตสาหกรรม การปรับเปลี่ยนและพัฒนาอุตสาหกรรม สู่อุตสาหกรรมฐาน ความรู้เชิงสร้างสรรค์ การขยายตัวของอุตสาหกรรมจากภาพของ อุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดมลพิษมลภาวะ เป็นอุตสาหกรรมที่เป็น มิตรต่อสิ่งแวดล้อม การน�าแนวคิดอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (EcoIndustrial Town) มาใช้อย่างจริงจัง ซึ่งขณะนี้เริ่มลงมือท�าแล้วใน บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ�ากัด (มหาชน) และเมื่อมีภาค อุตสาหกรรมเกิดในพื้นที่ ประชาชนให้การตอบรับ อยากให้มา อยู่แล้วสร้างความเจริญ สร้างรายได้ ชุมชน มีงานท�าแทนการต่อ ต้าน โดยคาดหวังภาคอุตสาหกรรมเป็นอุตสาหกรรมสะอาด และ อุตสาหกรรมสีเขียว เพือ่ ให้อตุ สาหกรรมและประชาชนสามารถอยู่ ร่วมกันได้อย่างมีความสุข และยั่งยืน Ayutthaya 49
หจก.อู น.พุแคเจริญยนต บริการ ตอตัวถังรถบรรทุก ดั้มพ ตอพวง รถทุกชนิด โดยชางผูชํานาญงาน ราคาเปนกันเอง อู น.พุแคเจริญยนต ไดกอตั้งขึนเมื่อป 2538 โดยคุณคํานึง เกตุชีพ และทีมชางผู ชํานาญการ ดานรถยนตและรถบรรทุก ทุกชนิด รวมทั้งการตอกระบะคั้มพรถบรรทุกใหมพรอม ลูกพวง เทเลอรดั้มพ กระบะพื้นเรียบ เปนตน และตอมาในป 2547 ไดจดทะเบียนเปน หางหุนสวนจํากัด เพื่อรองรับลูกคาในเครือ ขายผูประกอบกิจการทางดานโลจิสติกส และ รับงานของบริษัทประกันภัยทุกบริษัท โดยมุง เนนงานดสนคุณภาพสูงทั้งงานซอมและงาน ตอกระบะดั้มพ รวมถึงงานในดานตางงๆ เชน งานเคาะ พนสี งานดัดคัชซีรถ ชวงลาง งานดาน เครือ่ งยนต และอืน่ ๆ อีกมากมาย ดวยเครือ่ งมือ และเทคโนโลยีทที่ นั สมัย พรอมดวยบุคคลากรผู มากดวยความสามารถและประสบการณ
คุณคํานึง เกตุชีพ
หจก. อู น.พุแคเจริญยนต 53 หมู 10 ต.พุแค อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี 18240
Tel : 036-369324, 036-230009 Phone : 081-3727336, 087-2406569 Fax : 036-369581 e-mail : n.pukae@hotmail.com
เส้นทางพบท้องถิ่นจังหวัด
มีเปาหมายให อปท. สรางความอยูดี มีสุข ใหกับพี่นองประชาชนในจังหวัด พระนครศรีอยุธยา
52
นายวีรณรงค อังคารชุน
ทองถิ่นจังหวัดพระนครศรีอยุธยา “รวดเร็ว ถูกตอง และเปนไปตามนโยบาย” คื อ คติ พ จน์ ป ระจ� ำ ใจของ “นายวี ร ณรงค อั ง คารชุ น ” ท้ อ งถิ่ น จั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยา ซึ่งได้ปฏิบัติภำรกิจตำมวิสัยทัศน์ของกรมส่ ง เสริ ม การปกครอง เพื่ อ ให้ อ งค์ ก รปกครองส่ ว นท้ อ งถิ่ น เป็นมืออำชีพและเป็นกลไกส�ำคัญ ในกำรพัฒนำจังหวัด พระนครศรีอยุธยำให้เจริญก้ำวหน้ำอย่ำงยัง่ ยืน โดยยึด หลักกำรบริหำรงำนทีส่ ำ� คัญคือ “ทํางานตามนโยบาย ผูบังคับบัญชา เปนกันเองกับผูใตบังคับบัญชา ให ทุกคนไดมีสวนรวมในการแสดงความคิดเห็น รับ ฟงขอเสนอแนะ และคิดหาวิธีการทํางานเพื่อให งานออกมาดีที่สุด” ทั้งนี้ท่ำนได้รับแรงบันดำลใจใน กำรท�ำงำนจำก “นายวิทยา ผิวผ่อง” ผู้ว่าราชการ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีสไตล์กำรท�ำงำนที่ ท่ำนยกย่องชืน่ ชมคือ...การมองปญหาอยางรอบดาน มุงเนนที่เปนรูปธรรม ตองมีขอมูลในเชิงลึก และ เขาถึงปญหาอยางรวดเร็ว นิตยสาร SBL ขอน�ำเสนอบทสัมภำษณ์ ท่าน วีรณรงค อังคารชุน เกี่ยวกับเป้ำหมำยและแนวทำง
สนับสนุนบุคลากรทางการศึกษาของ อปท.ใหมีความรูและศึกษาเกี่ยวกับ AEC
กำรพัฒนำ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยำ ให้มีควำม เข้มแข็งและยั่งยืนก่อนที่จะก้ำวสู่กำร เป็น AEC ดังนี้ ภาพรวมของ อปท.อยุธยา องค์ ก รปกครองส่ ว นท้ อ งถิ่ น ใน จั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยำ ประกอบ ด้วยองค์กำรบริหำรส่วนจังหวัด 1 แห่ง เทศบำลนคร 1 แห่ง เทศบำลเมือง 3 แห่ง เทศบำลต�ำบล 32 แห่ง และ องค์กำร บริหำรส่วนต�ำบล 121 แห่ง โดยทุกแห่ง ต่ำงมีศักยภำพของตัวเองที่แตกต่ำงกัน ไป และด้วยควำมที่พระนครศรีอยุธยำ เป็นเมืองมรดกโลก เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทำงประวัติศำสตร์ที่ส�ำคัญ หน่วยงำน ภำคเอกชนจึงให้ควำมสนใจที่จะเข้ำมำ ร่วมมีสว่ นด�ำเนินกำรด้ำนต่ำงๆ เช่น กำร จัดท�ำสื่อประชำสัมพันธ์ กำรสนับสนุน กิจกรรมต่ำงๆ ของท้องถิ่น ส่งเสริม อปท. ให้เข้มแข็ง & สร้าง ความอยู่ดีมีสุข ในบทบำทภำรกิจหน้ำที่ และวิสัยทัศน์ของ กรมส่ ง เสริ ม การปกครอง คือ เป็นองค์กรที่มีสมรรถนะสูงในกำร ส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็ น กลไกในกำรพั ฒ นำจั ง หวั ด และ องค์ ก รปกครองส่ ว นท้ อ งถิ่ น ได้ อ ย่ ำ ง Ayutthaya 53
การบริหารงานหรือการกําหนด นโยบายในการปฏิบัติงาน ตองมาจากประชาชนในพื้นที่
54
ยั่ ง ยื น ส� ำ นั ก งำนฯ จึ ง ก� ำ หนดวิ สั ย ทั ศ น์ ใ ห้ สอดคล้อง คือเป็นหน่วยงำนหลักในกำรส่งเสริม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นกลไกในกำร พัฒนำจังหวัด โดยมีเป้ำหมำยให้องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิน่ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยำ สำมำรถ ปฏิบัติงำนตำมอ�ำนำจหน้ำที่ของ อปท. ได้อย่ำง ถูกต้อง ตำมกฎหมำย ระเบียบวิธีปฏิบัติ สร้ำง ควำมอยู่ดีมีสุขให้กับพี่น้องประชำชนในจังหวัด พระนครศรีอยุธยำ
แผนการรุกและรับก่อนเข้าสู่ AEC องค์ ก รปกครองส่ ว นท้ อ งถิ่ น มี อ�ำนำจหน้ำที่เกี่ยวกับกำรจัดกำรศึกษำ ทั้งที่จัดกำรศึกษำโดยองค์กรปกครอง ส่ ว นท้ อ งถิ่ น เอง หรื อ สนั บ สนุ น งบ ประมำณในกำรภำรกิจด้ำนกำรศึกษำ ให้ ห น่ ว ยงำนอื่ น โดยเฉพำะจั ง หวั ด พระนครศรีอยุธยำเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทำงประวัตศิ ำสตร์ จึงถือเป็นเรือ่ งส�ำคัญ และเร่ ง ด่ ว น ในเบื้ อ งต้ น ส� า นั ก งาน Ayutthaya 55
ส่งเสริมการปกครองท้องถิน่ จังหวัดฯ ได้ ส นั บ สนุ น ให้ อ งค์ ก รปกครองส่ ว น ท้องถิ่น มีควำมรู้ควำมเข้ำใจ เตรียม กำรรับผลกระทบจำกปญหำสังคมและ สำธำรณสุข พัฒนำทักษะควำมรู้ด้ำน ภำษำอังกฤษ และภำษำของประเทศ เพือ่ นบ้ำน และมุง่ เน้นให้ อปท.สนับสนุน บุคลำกรทำงกำรศึกษำของ อปท.ให้มี ควำมรู้และศึกษำเกี่ยวกับ AEC เพื่อให้ น�ำไปถ่ำยทอดให้กับนักเรียนเพื่อน�ำไป ถ่ำยทอดให้แก่บุคคลในครอบครัว
ผลการด�าเนินงานตามนโยบายภาครัฐ ส� า นั ก งานส่ ง เสริ ม การปกครองท้ อ งถิ่ น จังหวัดฯ ให้ควำมส�ำคัญกับนโยบำยของรัฐบำลที่ ต้องน�ำมำปฏิบัติในระดับท้องถิ่น เพื่อประโยชน์ของ พี่น้องประชำชนอย่ำงเต็มที่ ไม่ว่ำจะเป็นปญหำด้ำน ยำเสพติด ซึง่ ได้สง่ เสริมให้ อปท.เห็นควำมส�ำคัญและ ตระหนักถึงปญหำเหล่ำนี้ หรือแม้แต่เรื่องกำรเร่งรัด เบิกจ่ำยงบประมำณเพือ่ กระตุน้ เศรษฐกิจของประเทศ ทั้งงบประมำณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ ของส�ำนักงำนก็จะก�ำชับเจ้ำหน้ำที่ให้ถือปฏิบัติด้วย ควำมรวดเร็ว
การสงเสริมให อปท. มีความเปนมืออาชีพ ดวยการใหความรู แนะนําการปฏิบัติงาน และการจัดโครงการฝกอบรม
56
ภารกิจที่ สถจ.อยุธยา ภาคภูมิใจ กำรร่วมมือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัด ให้ร่วม สนับสนุนในกิจกรรมของจังหวัดพระนครศรีอยุธยำ จ�ำนวนหลำย กิจกรรม เช่น ในเรื่องกำรร่วมสร้ำงพิพิธภัณฑ์พระอุบำลี กิจกรรม ต่ำงๆ ในสวนสำธำรณเฉลิมพระเกียรติทงุ่ หันตรำ ทีย่ งั ต้องอำศัยงบ ประมำณจำกองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ นอกจำกจะสร้ำงอนุสรณ์ สถำนแห่งควำมจงรักภักดีเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยังต้องใช้งบประมำณ ปรับปรุงดูแลและขับเคลื่อนกิจกรรมต่ำงๆ เพื่อให้ทุ่งหันตรำมีชีวิต ชีวำ และเป็นที่รู้จักแก่ประชำชนทั่วไปและต่ำงจังหวัด เพื่อสร้ำง รำยได้ให้แก่ประชำชนในพื้นที่ได้ต่อไปในอนำคต นโยบายต้องมาจากประชาชนในพื้นที่ แนวทำงกำรส่งเสริมให้เกิดควำมร่วมมือระหว่ำง อปท. ต่ำงๆ กับประชำชนในพื้นที่ โดยส่วนใหญ่แล้วมีควำมร่วมมือที่ดีต่อกัน เพรำะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยที่ใกล้ชิดกับประชำชน มำกที่สุด ดังนั้น กำรบริหำรงำนหรือกำรก�ำหนดนโยบำยในกำร ปฏิบัติงำน ต้องมำจำกประชำชนในพื้นที่
อยากใหอปท.ตางๆ มีความรัก ความสามัคคี ความเอื้ออาทร ความรวมมือระหวางทองถิ่น
ทิศทางการพัฒนาสู่ อปท.มืออาชีพ กำรส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีควำมเป็นมือ อำชีพ ด้วยกำรให้ควำมรู้ แนะน�ำกำรปฏิบัติงำน โดยกำรสอนงำน และกำรจัดโครงกำรฝกอบรมให้ควำมรู้แก่ผู้บริหำร สมำชิกสภำ พนักงำนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ อย่ำงสม�ำ่ เสมอ โดยเฉพำะ ด้ำนกฎหมำยต่ำงๆ โดยเชิญวิทยำกรผู้ทรงคุณวุฒิทำงหน่วยงำน ต่ำงๆ เช่น กรมส่งเสริมกำรปกครองท้องถิ่น วิทยำกรจำก ปปช. ศำลปกครองกลำง และ สตง.เป็นต้น งำนด้ำนกำรประชำสัมพันธ์ สนง. ได้พฒ ั นำปรับปรุงเว็บไซต์ของ สนง.ให้มคี วำมทันสมัยเพือ่ เป็น ช่องทำงให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ในกำรประชำสัมพันธ์งำน และกิจกรรมต่ำงๆ เพื่อให้เป็นที่รู้จักแก่ประชำชนทั่วไป
ฝากถึง อปท. และภาคส่วนต่างๆ เนื่ อ งจำกองค์ ก รปกครองส่ ว นท้ อ งถิ่ น ในจั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยำ ส่ ว นมำกแล้ ว เป็ น อปท.ที่ มี รำยได้น้อย ต้องอำศัยงบประมำณโดยกำรจัดสรรจำกรัฐบำล สถจ.อยุธยา จึงต้องชี้แนะให้องค์กรปกครอง ส่ ว นท้ อ งถิ่ น ใช้ เ งิ น งบประมำณให้ คุ ้ ม ค่ ำ เพื่ อ แก้ ไ ขป ญ หำควำมเดื อ ดร้ อ นของพี่ น ้ อ งประชำชนในพื้ น ที่ รวมทัง้ ส่งเสริมให้มกี ำรเพิม่ รำยได้โดยกำรพัฒนำกำรจัดเก็บรำยได้ให้มปี ระสิทธิภำพ และลดรำยจ่ำย ทีไ่ ม่จำ� เป็น นอกจำกนี้ สถจ.อยุธยา ก็อยำกให้อปท.ต่ำงๆ มีควำมรัก ควำมสำมัคคี ควำมเอือ้ อำทร ควำมร่วมมือระหว่ำง ท้องถิ่น รวมถึงกำรบูรณำกำรกับภำคส่วนต่ำงๆ ในกำรปฏิบัติหน้ำที่ และกำรจัดกิจกรรมต่ำงๆ จะท�ำให้ท้องถิ่น มีควำมเจริญก้ำวหน้ำและเข้มแข็ง Ayutthaya 57
เสนทางการอนุรักษ
เราอยากทําใหพอยิ้ม
พูดถึง “วังชางอยุธยา แลเพนียด” หลายๆ ทานคงจะคุน เคยกัน ดี เพราะชางของทีน่ ไี่ ดรว มงานสําคัญๆ ทัง้ ในระดับจังหวัด ระดับ ประเทศ และระดับนานาชาติ นับครั้งไมถวน ผูซึ่งอยูเบื้องหลัง ความสําเร็จของชางแสนรูเ หลานีค้ อื “คุณลายทองเหรียญ มีพนั ธ”ุ หรือคุณออม ชายหนุมวัยกลางคน ผูทุมเทเกือบทั้งชีวิตใหกับการ อนุรักษสายพันธุชางไทย คุณออมเลาถึงแรงบันดาลใจที่ทําใหเขากาวสูเสนทางสายนี้วา เริ่มจากคุณพอซึ่งปลูกฝงเรื่องคุณคาของชีวิตสัตวใหเขาตั้งแตอายุได เพียงสิบขวบ จากนั้นมาเขาก็ เริ่มสนใจและรํ่าเรียนทางดาน สัตววิทยา และไดสง ตอคําสอน จากรุนปูสูรุนหลาน “พอจบออกมาเราก็ อ ยู กับสัตวมาตลอด ทําฟารม กุง ทําฟารมโคนม แตมันก็ เปนอะไรที่ยังไมใช ตอนนั้น มีลูกก็สอนลูกใหเห็นคุณคา ของชี วิ ต ระหว า งสั ต ว ที่ มี ราคาแพงกั บ สั ต ว ที่ มี ร าคา ถูก อยางเชนปลาหางนกยูง 58
50 สตางค กับสุนัขหลายหมื่น เราก็สอนเขาใหเขารักสัตว และเห็นคุณคา วามันก็คอื ชีวติ เหมือนกัน เราตองทุม เทการ รักษาใหเทากัน ถาปลาหางนกยูงไมสบายเราก็ตอ งพาไปหา หมอ ไมใชปลอยใหปลาหางนกยูงตายเพราะมันราคา 50 สตางค อยางนั้นไมได” ความรักและเมตตาตอสัตวอยางเทาเทียมของเขา ไดบม เพาะ ใหเด็กผูหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งมีจิตใจออนโยนและรักสัตว และ ปจจุบันไดกลายเปนสัตวแพทยหญิงที่ชวยดูแลรักษาชางใน วังชางอยุธยาดวย เมื่ อ ถามถึ ง ป จ จั ย แห ง ความสํ า เร็ จ ของวั ง ช า งอยุ ธ ยา แลเพนียด คุณออมบอกวาเกิดจากอานุภาพแหงความเชื่อมั่น และศรัทธาอันแรงกลา ที่จะทําโครงการอนุรักษสายพันธุชาง ไทยเพื่อใหพอยิ้ม “คือจริงๆ แลวผมเปนคนมีความเชื่อในสิ่งลี้ลับมาก แลวก็ไดเขามาอยูในเพนียดหลวง ซึ่งชาวบานจะกลัวมาก แตเราเขามาอยูอยางกลมกลืนดวยความเคารพ ความ ศรัทธา แลวความเชือ่ มัน่ ก็สรางทุกอยางใหกบั มนุษย อยาง โครงการนี้ก็ทําดวยแรงกลาเพราะเราทําในสิ่งที่ชอบ โดย สวนตัวเราก็ชอบพระนเรศวร และเราอยากทําใหพอยิ้ม อยากทําใหทานคลายใจ ใหทานไดรูวามีคนกลุมหนึ่งนะที่ สนใจปญหาเรื่องชางที่มีปญหามาอยูตลอด นี่คือสิ่งที่เรา ลงทุนกัน 20 ป ลูกชางเราเกิดมานี่ 58 แลว อีกไมเกินเดือนก็ 60 เรายังไมเคยขายลูกชางเราเลย และไมเคยขายชางออก ไปเลยแมแตเชือกเดียว เพราะเราคิดวาเราสะสมสมบัตทิ มี่ ี คาที่สุดของโลกเอาไว” ทายสุด คุณออม แหงวังชางอยุธยา แลเพนียด ไดฝาก แงคิดดีๆ ที่ไดจากความผูกพันใกลชิดกับชาง...สัตวที่มีขนาด ใหญที่สุดในโลกวา “สัตวมนั เปนโลกอีกโลกหนึง่ ถาใครรักสัตวหรือรักตนไม ก็จะมีทผี่ อ นคลายใหตวั เอง และยิง่ เราเขาใจสัตวได เราก็จะ เขาใจมนุษยคนอืน่ ได หรือบางทีตัวเราเองไมเขาใจมนุษย คนอืน่ เลย แตเราอยูก บั สัตวเราก็มคี วามสุขได มันมีทงั้ สอง มุม สัตวจะกลอมเกลาเราใหเห็นวาเราสามารถแชรกันได”
AD º.¤ÅͧÊǹ¾ÅÙ.pdf 1 23/6/2557 14:47:31
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
º·¤ÇÒÁ¤ÅͧÊǹ¾Ù.pdf 1 23/6/2557 14:45:40
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
“ÍÂظÂÒ«ÔµÕé¾Òà ¤ ÍҳҨѡÃáË‹§äÅ¿ŠÊäµÅ ¢Í§¤¹·Ñ¹ÊÁÑ” ´ŒÇÂÃٻẺ¡ÒÃ㪌ªÕÇÔµ·Õèà»ÅÕè¹ä»Í‹ҧÃÇ´àÃçǢͧ¤¹Âؤ¹Õé·íÒãËŒËÅÒÂÊÔè§ËÅÒÂÍ‹ҧµŒÍ§ÁÕ¡ÒûÃѺà»ÅÕè¹ µÒÁä»´ŒÇ “Èٹ ¡ÒäŒÒÍÂظÂÒ¾Òà ¤” ¡çઋ¹à´ÕÂǡѹ ¶Ö§áÁŒ¨Ð໚¹Èٹ ¡ÒäŒÒ㹴ǧ㨢ͧªÒÇÍÂظÂÒÁÒ¹Ò¹¡Ç‹Ò 15 »‚áÅŒÇ ¡çÍÂÙ‹ã¹ÃÐËÇ‹Ò§¡ÒûÃѺà»ÅÕè¹ÊÙ‹ÃÙ»Åѡɳ ãËÁ‹ã¹¹ÒÁ¢Í§ “ÍÂظÂÒ«ÔµÕé¾Òà ¤” ÍҳҨѡÃáË‹§äÅ¿ŠÊäµÅ ¢Í§¤¹·Ñ¹ÊÁÑ ¤Ø³»ÃÒ³Õ ´‹Ò¹ªÑÂÇÔâè¹ ¡ÃÃÁ¡ÒÃÍíҹǡÒà ºÃÔÉÑ· ¤ÅͧÊǹ¾ÅÙ ¨íÒ¡Ñ´ ¡Å‹ÒǶ֧ÈÑ¡ÂÀÒ¾¡ÒÃàµÔºâµ¢Í§¸ØáԨÈٹ ¡ÒäŒÒÇ‹Ò “»‚ 55 ໚¹ª‹Ç§·ÕèàÈÃÉ°¡Ô¨ã¹ ÍÂظÂÒ¤‹Í¹¢ŒÒ§·Õè¨ÐºÙÁ áÅÐÁÕ»ÃЪҡÃὧ·ÕèÁÒ·íÒ§Ò¹ã¹ÍÂظÂÒà¡×ͺ 3 áʹ¤¹ ã¹µÑǨѧËÇÑ´àͧ¡çÁÕ»ÃЪҡûÃÐÁÒ³ 7-8 áʹ »ÃСͺ¡ÑºÍÂظÂÒ¡ç໚¹à«ç¹àµÍà ¢Í§ÀÒ¤¡ÅÒ§ Èٹ ¡ÒäŒÒÍÂظÂÒ¾Òà ¤àͧ¡çÁÕ¼ÙŒÁÒ㪌ºÃÔ¡Òä‹Í¹¢ŒÒ§Ë¹Òṋ¹ ¾×é¹·Õè¢ÒÂàÃÔèÁäÁ‹¾Íµ‹Í¤ÇÒÁµŒÍ§¡Òâͧ¼ÙŒàª‹Ò ÍÕ¡·Ñ駷Õè¨Í´Ã¶¢Í§àÃÒ¡çàµçÁµÅÍ´ àÃÒàŤԴNjÒÁѹäÁ‹¾Íµ‹Í¤ÇÒÁµŒÍ§¡ÒÃáŌǹРàÃÒµŒÍ§¢ÂÒ µŒÍ§ÃÕâ¹àÇ·ãËŒ Èٹ ´Ù·Ñ¹ÊÁÑ¢Öé¹ µŒÍ§·íÒÍÐäÃãËŒ¤¹ÍÂظÂÒáÅФ¹¨Ñ§ËÇÑ´ã¡ÅŒà¤Õ§ÁÒ㪌ÍÂظÂÒ ¾Òà ¤ÁÒ¡¢Öé¹”ÃٻẺ¢Í§¡ÒûÃѺâ©ÁÊÙ‹ “ÍÂظÂÒ«ÔµÕé¾Òà ¤” ¹Õé ¶Ù¡Í͡Ẻ ÁÒà¾×èÍãËŒµÍºÊ¹Í§µ‹Í¤ÇÒÁµŒÍ§¡ÒÃáÅÐäÅ¿ŠÊäµÅ ¢Í§¤¹ÍÂظÂÒàͧ “â¤Ã§¡ÒÃàÃÒ¨ÐÍ͡Ẻ㹤͹àÊç¾· à«ÁÔàÍÒ· ´Íà àËÁ×͹ ¤ÍÁÁÙ¹ÔµÕé ÁÍÅÅ ·Õè¡íÒÅѧÎÔµµÍ¹¹Õé ໚¹¡ÒüÊÁ¼ÊÒ¹¡Ñ¹ÃÐËÇ‹Ò§ÍÔ¹´Íà ÁÍÅÅ «Öè§à»š¹ËŒÒ§·ÕèÍÂÙ‹ã¹Ã‹Á¡Ñº¤ÍÁÁÙ¹ÔµÕé ÁÍÅÅ à¾×èÍãËŒ¹‹Òà´Ô¹ÁÒ¡¢Öé¹ áÅŒÇàÃÒ¡çÁͧNjҵ͹¹Õé¿Øµ«ÍÅ¡íÒÅѧÎÔµ àÃÒ¡çÍÂÒ¡ãËŒÍÂظÂÒÁÕʹÒÁ ¿Øµ«ÍÅ ÁÕ¿ µà¹Êà«ç¹àµÍà à¾×èÍãˌ໚¹Ê¶Ò¹·ÕèÍÍ¡¡íÒÅѧ¡ÒÂãËŒ¤¹ÍÂظÂÒ ä´ŒÁÒ㪌·ÕèÍÂظÂÒ«ÔµÕé¾Òà ¤ä´Œ·Ø¡Çѹ” ¤Ø³»ÃÒ³Õ ´‹Ò¹ªÑÂÇÔâè¹ ¡ÃÃÁ¡ÒÃÍíҹǡÒÃ
º·¤ÇÒÁ¤ÅͧÊǹ¾Ù.pdf 2 23/6/2557 14:45:42
” é Õ ¹ æ Ç ç Ã à ‹ Á Ë ã Á © â ¤ Ã Ò ¾ é Õ µ Ô « Ò “ÍÂظÂ
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
“àÃÒ¡ç¨Ñº¤Í¹àÊç¾· ¹Õé ᵋàÃÒäÁ‹ä´Œ¤Ô´ ¢Í§àÃÒ¤¹à´ÕÂÇàÃÒ·íÒà«Íà àÇ ÊÑÁÀÒɳ ¼ÙŒÁÒ㪌 ºÃÔ¡Òáçä´ŒÍÍ¡ÁÒÇ‹Òà¢ÒÍÂҡ䴌ˌҧ·Õè·Ñ¹ÊÁÑ ÁÒ¡¢Öé¹ µÍºÊ¹Í§äÅ¿ŠÊäµÊ ÁÒ¡¢Öé¹ÍÂÒ¡ä´Œ¾×é¹ ·ÕèÊÕà¢ÕÂÇ ÍÂҡ䴌ʶҹ·ÕèÍÍ¡¡íÒÅѧ¡Ò ÍÂÒ¡ 䴌ʶҹ·Õè¨Í´Ã¶·Õè¡ÇŒÒ§¢ÇÒ§ÁÒ¡¢Öé¹ à»š¹Èٹ ¡ÅÒ§¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒËÃ×ÍÁÕ·ÕèàÃÕ¹¾ÔàÈÉ¡ç´Õ à¢Ò¨Ð ä´ŒäÁ‹µŒÍ§Ê‹§ÅÙ¡ä»àÃÕ¹·ÕèÍ×è¹ ÁÕÌҹÍÒËÒÃàÂÍÐæ àÃÒ¡çàÍҼŨҡ¡ÒÃà«Íà àÇ ·Ñé§ËÅÒ·Ñ駻ǧÁÒ »ÃÐÁÇÅáÅСç·íÒ¡ÒÃÍ͡ẺNjÒàÃÒ¤ÇèеŒÍ§ÁÕ ÍÐäúŒÒ§ ÁÕ⫹ÍÐäúŒÒ§ã¹â¤Ã§¡ÒâͧàÃÒà¾ÃÒÐ ¾×é¹·Õè¢Í§àÃÒ¤‹Í¹¢ŒÒ§àÂÍеÑé§ 101 äË Áѹ¡ç àËÁ×͹໚¹àÁ×ͧ·ÕèÃÇÁ·Ø¡Í‹ҧänj㹹Õé ÁÒ㪌ªÕÇÔµ ÍÂÙ‹ä´ŒàÅÂʋǹâ¤Ã§¡Òõ‹Íä»ã¹Í¹Ò¤µàÃÒ¡ç¨Ð ÊÌҧµÖ¡á¶ÇÊíÒËÃѺ¤¹·ÕèÍÂÒ¡·íÒ¸ØáԨᵋNjÒäÁ‹ ÍÂÒ¡ÍÂÙ‹ã¹ËŒÒ§¨Ðä´ŒÁÕÍÔÊÃÐÁÒ¡¢Öé¹à¾ÃÒÐã¹ËŒÒ§¡® ¡µÔ¡ÒàÂÍÐÅѡɳÐàËÁ×͹໚¹«ÔµÕéàÃÒ¡çàÅÂÁÒÃÕ áºÃ¹´ ª×èͧ͢àÃÒãËÁ‹à»š¹...ÍÂظÂÒ«ÔµÕé¾Òà ¤” â©ÁãËÁ‹¢Í§ “ÍÂظÂÒ«ÔµÕé¾Òà ¤” ÍҳҨѡ÷ÕèÃǺÃÇÁäÅ¿ŠÊäµÅ ¤¹ÃØ‹¹ãËÁ‹änj͋ҧ ¤Ãº¤ÃѹáÅÐãËÞ‹·ÕèÊØ´¹Õé ¨Ðà» ´ãËŒªÒÇÍÂظÂÒ ÊÑÁ¼ÑʡѺ¤ÇÒÁá»Å¡ãËÁ‹ä´ŒÀÒÂã¹à´×͹ÊÔ§ËÒ¤Á ·Õè¨Ð¶Ö§¹Õé “µÍ¹¹Õé ⠤ç¡ÒÃʹÒÁ¿Ø µ «ÍÅÊÃŒ Ò § àÊÃç¨áÅŒÇ ¨Ðà» ´ã¹ÍÕ¡Êͧà´×͹¢ŒÒ§Ë¹ŒÒ ໚¹ ʹÒÁ¿Øµ«ÍÅÍÔ¹´Íà ¢¹Ò´Áҵðҹ 3 ʹÒÁ ºÃÔàdzã¡ÅŒæ ¡Ñ¹¡ç¨ÐÁÕÌҹ¢ÒÂà¤Ã×èͧ¡ÕÌÒ áÅÐ ¡çÁÕÌҹÍÒËÒ÷ÕèÍÂÙ‹´ŒÒ¹¹Í¡áÅŒÇàÃÒ¡ç¨Ñ´â«¹¹Ôè§ ãËÁ‹·Ñé§ËÁ´·Õè¨Í´Ã¶¡ç¨Ð·íÒËÅѧ¤ÒãËŒ¡Ñº¼ÙŒãªŒºÃÔ¡Òà à¾ÔèÁ¢Öé¹ áÅÐÁÕ·Õè¨Í´Ã¶ªÑé¹ãµŒ´Ô¹ÁÒ¡¢Öé¹ ¹Í¡¨Ò¡ ¹Ñé¹àÃÒÂѧÁդ͹àǹªÑè¹ÎÍÅÅ «Öè§ÊÒÁÒö¨Ø¤¹ä´ŒÍÕ¡ 2,000 ¤¹ à¾ÃÒÐàÃÒÍÂÒ¡ãËŒÁÕÍÒ¤Ò÷Õ褋͹¢ŒÒ§ ãËÞ‹ ໚¹ÍÕàÇŒ¹· ÎÍÅÅ ·Õè㪌㹡ÒÃáÊ´§ÊÔ¹¤ŒÒ
“ËÃ×Í㪌¨Ñ´¡ÒûÃЪØÁä´Œ¤×Í·Ø¡¤¹ÁÒ㪌»ÃÐ⪹ µ‹Ò§æ ä´Œ â´ÂäÁ‹ÁÕ¢ŒÍ¨íÒ¡Ñ´ áÅÐàÃÒ¡çÍÂÒ¡ãËŒ ໚¹Èٹ ÃÇÁ¢Í§¤Ãͺ¤ÃÑÇ ¤×Íà´ç¡æ ÁÒàÃÕ¹ ¾ÔàÈÉ áÁ‹ÁÒªçÍ»» œ§ ¾‹Íä»àÅ‹¹¡ÕÌÒä´Œ¤ÃºÇ§¨Ã áÅÐÁÒä´Œº‹Í¢Öé¹” Íա˹Ö觤ÇÒÁᵡµ‹Ò§·Õè¨Ðä´ŒÊÑÁ¼Ñʨҡ “ÍÂظÂÒ«ÔµÕé¾Òà ¤” ¤×Í ¡ÒÃ໚¹Èٹ ÃÇÁ¢Í§ ¤ÇÒÁºÑ¹à·Ô§áÅÐʶҹ·Õè¾Ñ¡¼‹Í¹ÂÒÁ¤íèҤ׹´ŒÇ “àÃÒÁͧNjҵ͹àÂç¹æ ¤¹ÍÂظÂÒäÁ‹ÃÙŒ Ç‹Ò¨Ðä»ä˹ ËÃ×ͶŒÒ仡ç¨Ðä»ÍÂÙ‹µÒÁ¨Ø´µ‹Ò§æàÃÒ ÍÂÒ¡¨ÐãËŒ¤¹ÁÒ㪌ªÕÇÔµµÍ¹àÂç¹·Õè¹Õèä´Œ´ŒÇÂàÃÕÂ¡Ç‹Ò à»š¹Èٹ ÃÇÁ·ÕèáΧ¤ àÍÒ· ¡çÇ‹Òä´Œà¾ÃÒе͹àÇÅÒ¡Å Ò§¤× ¹ ÁÕ Ã Œ Ò ¹ÍÒËÒÃÍÂÙ ‹ ´ Œ Ò ¹¹Í¡·Õè » ´ ´Ö ¡ ˹‹ Í Â ËÃ×ͺÃÔàdzÍÒ¤ÒþҳԪ ·ÕèÍÂÙ‹´ŒÒ¹¹Í¡ ¡çÊÒÁÒö » ´ËÅѧà·Õ觤׹ä»áÅŒÇ µÕ˹Öè§ µÕÊͧ à¾×èÍãËŒ¤¹ ä´ŒÁÒ㪌ªÕÇÔµàÇÅÒ¡ÅÒ§¤×¹”
¡‹Í¹¨º¡ÒÃʹ·¹Ò ¤Ø³»ÃÒ³Õ ´‹Ò¹-ªÑÂÇÔâè¹ ¡ÃÃÁ¡ÒÃÍíҹǡÒà 䴌¡Å‹ÒǶ֧¡ŒÒÇ Â‹Ò§¢Í§¸ØáԨÈٹ ¡ÒäŒÒ¨Ò¡Çѹáá ÊÙ‹Çѹ·Õèä´Œ ·Ø‹Á§º¡Ç‹Ò˹Ö觾ѹŌҹºÒ·à¾×èÍ»ÃѺÃÙ»Åѡɳ áÅÐ ¡ÒúÃÔ¡ÒÃÊÙ‹ “ÍÂظÂÒ«ÔµÕé¾Òà ¤” Ç‹Ò “àÁ×èÍ 15 »‚·ÕèáÅŒÇ ÍÒ¨¨ÐÁÕ¤¹à¢ŒÒˌҧ àÃÒà©ÅÕèÂÇѹÅÐäÁ‹¶Ö§ËÁ×蹤¹áµ‹ÂÍ´àÃÒ¡çâµ¢Öé¹ àÃ×èÍÂæ ¨¹ÁÒ ³ »˜¨¨ØºÑ¹ à©ÅÕèÂáÅŒÇÇѹ˹Öè§ ¡ç»ÃÐÁÒ³ 8 ËÁ×蹤¹ àÊÒà ÍҷԵ ºÒ§Çѹ ¡ç໚¹áʹáÅŒÇá·¹·Õèà¢Ò¨ÐµŒÍ§à¢ŒÒ仫×éͧ͢㹠¡ÃØ§à·¾Ï ¡çà»ÅÕè¹ÁÒ«×éͧ͢ã¹ÍÂظÂÒ«ÔµÕé¾Òà ¤ ¨Ò¡¡Ò÷íÒà«Íà àÇ ¤ÇÒÁ¶Õèâ´Âà©ÅÕè¡ç¨ÐÁÒÍҷԵ ÅÐ 1 ¤ÃÑé§ áµ‹ºÒ§¤¹¡çÁÒÍҷԵ ÅÐ 3 ¤ÃÑé§ ºÒ§¤¹ÁÒ¡Ô¹¢ŒÒÇ·Õè¹Õè·Ø¡Çѹ à¾ÃÒÐàÃÒÊÒÁÒö µÍºÊ¹Í§äŵ ÊäµÅ ¢Í§ÅÙ¡¤ŒÒä´ŒºÒ§¤¹äÁ‹à¤Â ࢌÒÌҹ» œ§Â‹Ò§ äÁ‹à¤Â¡Ô¹ä¨á͹· äÁ‹à¤Â¡Ô¹âÍ-ÍÔªÔ äÁ‹à¤Â¡Ô¹ÊØ¡ÕéẺÃÒ§ËÁع àÃÒ¡ç໚¹¼ÙŒ¹íÒÊÔè§ ãËÁ‹æ ·Õè㹡Ãا෾ÏÁÕ ËÃ×Í·ÕèÍ×è¹æ ÁÕ àÍÒÁÒãËŒ¤¹ ÍÂظÂÒáÅФ¹¨Ñ§ËÇÑ´ã¡ÅŒà¤Õ§ÅÐáÇ¡¹Õéä´ŒÁÒ㪌 ºÃÔ¡ÒÃà¾×èÍà¾ÔèÁËÃ×Íà»ÅÕè¹á»Å§ãËŒªÕÇÔµà¢ÒÁÕÊÕÊѹ ÁÒ¡¢Öé¹ ÁÕ¤ÇÒÁÊØ¢ÁÒ¡¢Öé¹ ¡ç¢Í½Ò¡·Ø¡·‹Ò¹ãËŒ ÁÒªçÍ»» œ§·ÕèÈٹ ¡ÒäŒÒÍÂظÂÒ«ÔµÕé¾Òà ¤ à¾ÃÒÐ àÃҾÌÍÁãËŒºÃÔ¡Òä‹Ð”
เสนทางคนรักรถ
»ÃÐàÊÃÔ° ÍÍⵌ à«Íà ÇÔÊ »ÃÐàÊÃÔ° ÍÍⵌ à«Íà ÇÔÊ เพื่อนแทของคนรักรถ
คุณประเสริฐ บุญอวน ผูบริหาร “ประเสริฐ ออโต เซอรวิส”
“ตรงไปตรงมา ซื่อสัตยตอลูกคา ทําใหดีที่สุด” คือคติประจําใจของ คุณประเสริฐ บุญอวน ผูบริหาร “ประเสริฐ ออโต เซอรวิส” ตัวแทนจําหนายและติดตั้ง แกสรถยนตเวอรซุสซึ่งลูกคาที่มาใชบริการตางมั่นใจ และประทับใจในความทุมเทและความใสใจในทุกรายละเอีย ดของเขา คุณประเสริฐเลาวา เขาเคยทํางานเปนผูจัด การศูนยบริการดานรถยนตและอะไหลของบริษัทสยา มกลการอยูประมาณ 10 ป จนเมื่อป 2537 เขาจึง เบนเข็มมาประกอบธุรกิจสวนตัวดานยานยนตที่ครํ่า หวอดมานาน “ตอนนั้นผมลงทุนประมาณ 7 แสนบาท ใชเวลาไมนานก็ใชหนี้ที่ยืมพี่ชายมาไดหมด เพราะผมไป อบรมเรื่องการติดตั้งแกสกับกระทรวงแรงงานบาง กระทรวงพลังงานบางซึ่งเปนตัวสรางความมั่นใจให กับลูกคาวา ผมไมไดมาติดตั้งโดยที่ไมไดมีความรูนะ อีกอยางผมเรียนมาทางดานวิศวะฯ เกี่ยวกับกระบวน การการผลิตซึ่งก็เปนตัวการรองรับการติดตั้งอยู เหมือนกัน
สนใจติดตอ โทร.
อันนี้ก็เปนสิ่งหนึ่งที่สรางความเชื่อมั่นใหกับลูกคา อีกอยางหนึ่งก็คือ แบรนดสินคาที่มันติดตลาดแลว” นอกเหนือจากองคความรู ประสบการณทํางาน และ สินคาแบรนดคุณภาพอยาง Versus จะทําใหเขาประสบ ความสําเร็จไดอยางรวดเร็วแลว หัวใจสําคัญที่ขาดไมได ก็คือคติประจําใจที่เขายึดมั่นมาตลอด “ตรงไปตรงมา ซื่อสัตยตอลูกคา ทําใหดีที่สุดเทาที่เราทําได” ซึ่งจุดนี้ เองทําใหลูกคาสวนใหญที่มาใชบริการ ตางบอกกัน ปากตอปากถึงคุณภาพและการบริการจาก ประเสริฐ ออโต เซอรวิส โดยเฉพาะอยางยิ่งในยุคโลกออนไลน ที่เพียงแคคลิก ลูกคาก็จะทราบไดวารานไหน ที่ใด บริการดี และถือเปนกระบอกเสียงใหกับธุรกิจนั้นๆ โดย อัตโนมัติ
081-347-0972, 035-234-090
“ลูกคาสวนใหญก็มาตามคําแนะนําบางสวนการโปรโมทก็เพิ่งมามีชวงหลังๆเพราะการตลาดผม ก็ไมคอยเกง ที่อื่นเขาทีมเซลสวิ่งไปตามศูนย แตเราทํางานคนเดียว เราก็ประหยัดไวแลวเอามาบริการดีๆ ใหลูกคาดีกวา เปนสวนลดใหลูกคาไป เพราะถาเทียบราคากับที่อื่นแลว ของผมถูกที่สุดในจังหวัดอยุธยา ที่อื่นเขาติดแพงกวานี้ประมาณ 2,000 ผมถึงบอกวาการตลาดผมไมคอยเกงแตผมคิดวาสิ่งที่ทําใหลูกคาบอก ตอๆ กัน เพราะผมเนนวาเราตองมี 1. ความซื่อสัตย 2. ความปลอดภัย 3. การดูแลหลังการขายครับ”
กอนจากกัน คุณประเสริฐ บุญอวน ผูบริหาร “ประเสริฐ ออโต เซอรวิส”ไดกลาวทิ้งทายวา “สิ่งที่ผมทํา ผมตั้งใจวาตองทําใหมันดี วันนี้ดีแคนี้ พรุงนี้ก็ตองดีขึ้นอีกนิด พยายามพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ แตกอนนี้ก็เปนดินหินดินทรายเหมือนอูทั่วไปแหละก็พัฒนามาเรื่อยๆ พอมีอะไรหนอยก็เอามาใหลูกคา มีหอง ลูกคา มีกาแฟบริการเพื่อใหลูกคาสบายขึ้นบางเปนสิ่งตอบแทนลูกคาที่มาใชบริการที่นี่ผมก็อยากใหคนที่อยู ในอยุธยาและในเขตปริมณฑลที่เคยใชบริการของผมหรือไมเคยใช ก็ลองมาใชบริการของอูประเสริฐดูบาง เพราะนอกจากความซื่อสัตยและความจริงใจแลวบริการหลังการขายนี่ ผมจะดูแลใหเปนอยางดีทุกคันครับ”
AD à¨ÃÔ·ÃѾÂì¶ÒÇÃ.pdf 1 30/6/2557 7:52:07
ºÃÔÉÑ· à¨ÃÔÞ·ÃѾ ¶ÒÇà ¤ŒÒàËÅç¡ ¨íÒ¡Ñ´
C
M
Y
CM
MY
CY
ºÃÔËÒÃâ´Â
´Ã.¸¹¹¹· ÊÔÁÁÒ¡ØÅ
¡ÅÂØ·¸ ¡ÒõÅÒ´ÊíÒËÃѺâç§Ò¹¤Ñ´á¡¢ÂÐà¾×èÍÃÕä«à¤ÔÅ ã¹»ÃÐà·Èä·Â
ÃѺ«×éÍ-¢Ò àÈÉàËÅç¡·Ø¡ª¹Ô´ ÃѺ»ÃÐÁÙÅàÈÉàËÅç¡âç§Ò¹
CMY
K
TEL.081-732-8333 1/3 ËÁÙ‹8 µ.µÅÒ´à¡Õº Í.ºÒ§»ÐÍÔ¹ ¨.¾Ãй¤ÃÈÃÕÍÂظÂÒ
เสนทางพบการทางพิเศษฯ
กทพ. เชื่อมตอสองเมืองหลวงไทย
ขยายทางดวน “อุดรรัถยา-พระนครศรีอยุธยา”
การทางพิเศษแหงประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม จัดทําโครงการทางพิเศษสายอุดรรัถยาพระนครศรีอยุธยา เพื่อเชื่อมตอสองเมืองหลวงไทย กรุงเทพมหานครสูพระนครศรีอยุธยา รวมถึงพัฒนาเมือง อุตสาหกรรม เกษตรกรรม และการทองเที่ยว ซึ่งกอใหเกิดประสิทธิภาพในการเดินทาง การขนสงสินคา และจะเปน ประโยชนตอเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ กทพ.ไดมีการรวมลงนามในบันทึกความเขาใจวาดวยความรวมมือในการพิจารณาการเชื่อมตอทางพิเศษจาก กรุงเทพมหานครเขาสูจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2557 ที่ผานมา ซึ่งมี นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผูว า การการทางพิเศษแหงประเทศไทย (กทพ.) และ นายวิทยา ผิวผอง ผูว า ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปนผูร ว มลงนาม ณ หองรับรองศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกทัง้ เมือ่ วันที่ 12 มีนาคม 2557 กทพ. ไดจดั การ ประชุมสัมมนาครั้งที่ 1 ปฐมนิเทศโครงการ งานศึกษาความเหมาะสม ทางดานวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และ ผลกระทบสิ่งแวดลอม ณ โรงแรมวรบุรี อโยธยา คอนเวนชั่น รีสอรท จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อใหประชาชนและ ผูม สี ว นเกีย่ วของทุกฝาย ไดรบั ทราบขอมูลโครงการอยางถูกตอง และนําเสนอขอมูล ความเปนมา วัตถุประสงค ขอบเขต การศึกษา และแนวทางการศึกษา รวมทัง้ รับฟงความคิดเห็นจากผูม สี ว น เกี่ยวของและหนวยงานในพื้นที่ เพื่อรวบรวมขอคิดเห็นตางๆ และนําไป วิเคราะห เพื่อดําเนินการโครงการฯ ใหสอดคลองกับความตองการของ ประชาชนสวนใหญในทองถิ่น การดํ า เนิ น โครงการทางพิ เ ศษสายอุ ด รรั ถ ยา-พระนครศรี อยุธยา เปนกาวแรกของการกอสรางทางพิเศษ ที่เชื่อมตอระหวาง กรุงเทพมหานครกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อดีตเมืองหลวงของไทย กทพ. รูสึกภูมิใจที่ไดมีสวนรวมในการพัฒนาโครงขายใหครอบคลุม ทั่วถึงยิ่งขึ้น โครงการนี้จะดําเนินการขยายทางพิเศษอุดรรัถยาไปจนถึง อําเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมุงเนนถึงการพัฒนา เมือง อุตสาหกรรม เกษตรกรรม และการทองเที่ยว และดวยสาเหตุ อันเนื่องมาจากมีการขยายตัวของที่อยูอาศัย และการใชพื้นที่ในเชิง พาณิชย และอุตสาหกรรมขนาดใหญ รวมถึงบริเวณดังกลาวมีนิคม อุตสาหกรรมขนาดใหญตั้งอยูเปนจํานวนมาก โครงการนี้จะทําใหเกิด ประสิทธิภาพในการเดินทาง การขนสงสินคา และจะเปนประโยชนตอ เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ อีกทั้งการเดินทางของประชาชนสวนใหญจะใชทางหลวงแผนดิน หมายเลข 32 เปนเสนทางหลักในการเดินสูภาคกลางตอนบนและ ภาคเหนือ ปจจุบันเสนทางสายนี้เริ่มเกิดปญหาการจราจรติดขัด ดังนั้น เพื่อเปนการพัฒนาโครงขายทางพิเศษและรองรับความตองการในการ เดินทางและขนสงสินคา กทพ. จึงไดวางแผนการตอขยายโครงขายทาง พิเศษอุดรรัถยา ไปบรรจบกับทางหลวงแผนดินหมายเลข 32 บริเวณ อ.บางปะหัน เพื่อเปนอีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทางที่สะดวก รวดเร็ว และสามารถเชือ่ มโยงกับพืน้ ทีก่ รุงเทพมหานคร นอกจากนี้ กทพ. ยังไดมี การวางแผนใหมกี ารเชือ่ มตอจากทางพิเศษฯไปยังศูนยศลิ ปาชีพบางไทร ซึง่ รวมระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร ทัง้ นี้ ไดผนวกการศึกษาปรับปรุง ทางพิเศษอุดรรัถยา ชวงบางพูน-บางไทร ระยะทาง 16 กิโลเมตร ซึ่งเปน ทางพิเศษระดับดินใหเปนทางพิเศษยกระดับอีกดวย Ayutthaya 65
เสนทางพบเกษตรจังหวัด
นายไพศาล สังขมงคล
เกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วิสัยทัศน และเปาประสงค
สํานักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป น องค ก รที่ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพในการส ง เสริ ม และ พัฒนาการเกษตรทีย่ งั่ ยืน โดยมีเปาประสงครวมดังนี้ 1. มีขีดความสามารถในการแขงขันทางการ ตลาดสินคาเกษตรสู AEC 2. ยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร องคกร เกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน 3. เปนตนแบบการทํางานสงเสริมการเกษตรสู smart officer อยางมีประสิทธิภาพ
ยุทธศาสตรการพัฒนา
1. พัฒนาประสิทธิภาพการผลิต การจัดการสินคาเกษตร และเชื่อมโยงตลาดสูมาตรฐาน สากล โดยมีเปาประสงคพัฒนาขีดความสามารถในการแขงขันทางการตลาดสู AEC โดยใชกลยุทธ ลดตนทุนการผลิต การใชสารชีวภัณฑแทนสารเคมี, การพัฒนาคุณภาพการผลิตพืช/การจัดการ สินคาเกษตรใหปลอดภัยและเปนมิตรกับสิง่ แวดลอม, และเชือ่ มโยงกับระบบการผลิตและการตลาด สูม าตรฐานสากล ผลทีจ่ ะไดรบั คือ เกษตรกร/แปลง/ฟารมทีผ่ า นมาตรฐานความปลอดภัยของจังหวัด เพิ่มมากขึ้น 66
2. พัฒนาเกษตรกร องคกรเกษตรกรและ วิสาหกิจชุมชน ใหมีความเขมแข็ง เปาประสงค พัฒนาประสิทธิภาการผลิต การจัดการสินคา เกษตรและเชื่อมโยงตลาดสูมาตรฐานสากล โดยมีกลยุทธพัฒนาการผลิตสินคาและบริการ ใหไดรับรองมาตรฐาน (Primary GMP), พัฒนา รูปแบบบรรจุภัณฑที่แปลกใหมนาสนใจเปน เอกลักษณ และ สงเสริมและพัฒนาแหลงเรียน รูก ารผลิตอาหารแปรรูปทีไ่ ดมาตรฐานของชุมชน ผลที่จะไดรับคือ ผลิตภัณฑอาหารแปรรูปที่ได รับรองมาตรฐาน (Primary GMP) เพิ่มมากขึ้น 3. พัฒนาศักยภาพงานสงเสริมการเกษตร ระบบสารสนเทศ และการใหบริการทางการ เกษตร ใหพรอมรับการเปลีย่ นแปลง เปาประสงค เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต การจัดการ สินคาเกษตร และเชื่อมโยงตลาดสูมาตรฐาน สากล โดยมี ก ลยุ ท ธ ส ง เสริ ม สนั บ สนุ น การ ทํางานของเจาหนาทีส่ ง เสริมการเกษตรสู Smart Extension office, สงเสริมสนับสนุนการใช เทคโนโลยีสารสนเทศทีท่ นั สมัย ทันตอเหตุการณ และสงเสริมการใหบริการทางการเกษตรในพืน้ ที่ อยางมีประสิทธิภาพ ผลที่จะไดรับ คือ ความ สํ า เร็ จ ของการพั ฒ นาศั ก ยภาพงานส ง เสริ ม การเกษตร สู Smart office
การยกระดับภาคการเกษตรสู AEC
1. พั ฒ นาประสิ ท ธิ ภ าพการผลิ ต การ จัดการสินคาเกษตร เพื่อเพิ่มความสามารถใน การแขงขัน และเชือ่ มโยงตลาดสูม าตรฐานสากล 2. ลดตนทุนการผลิต การใชสารชีวภัณฑ แทนการใชสารเคมีหรือลดปจจัยการผลิตที่ไม จําเปน ปลูก-พืชพันธุดี ตรงตามความตองการ ของตลาด พั ฒ นาคุ ณ ภาพการผลิ ต พื ช /การ
จัดการสินคาเกษตรใหปลอดภัยและเปนมิตร กับสิ่งแวดลอม 3. การจัดอบรมใหความรูดานพืช การ จั ด การผลิ ต พื ช ปลอดภั ย การแปรรู ป ถนอม อาหาร การตลาด เพื่อเตรียมความพรอมรับ สถานการณเขาสู AEC 4. ปรับกระบวนการผลิตและวิธีการผลิต ให มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพและคุ ณ ภาพโดยให ค วาม สําคัญตอการพัฒนาและยกระดับคุณภาพคน 5. สรางมูลคาเพิ่มของวัตถุดิบการเกษตร โดยสงเสริมการแปรรูปผลผลิตการเกษตร ลด ต น ทุ น การผลิ ต และยกระดั บ คุ ณ ภาพและ มาตรฐานของสินคาเกษตรและผลิตภัณฑ ให ตรงกับความตองการของตลาดผูบริโภคทั้งใน และตางประเทศ 6. เพิ่ ม ขี ด ความสามารถ ทั ก ษะของ เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร ใหมีขีดความ สามารถในการเปนผูประกอบการได สามารถ ตัดสินใจและวางแผนการผลิตเชื่อมโยงกับการ ตลาด การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการ มีการ ใชระบบขอมูลขาวสารดานการผลิต ราคาสินคา และการตลาดเปนเครือ่ งมือในการทําธุรกิจ รวม ทั้งการแปรรูปสินคาและการตลาด 7. ผลิตและพัฒนาบุคลากรในภาคการ ผลิตที่แทจริง(Smart farmer) เพื่อใหทันกับ การปรับเปลี่ยนโครงสรางการผลิตและตลาด แรงงาน โดยพัฒนากลไกและสรางเครือขาย ความร ว มมื อ ให เ กิ ด ความเชื่ อ มโยงระหว า ง สถาบันการศึกษา สถาบันฝกอบรม สถาบัน เฉพาะทาง และสถานประกอบการในภาคการ ผลิตตางๆ
3 โครงการสําคัญเพื่อยกระดับเกษตรกร อยุธยา
โครงการพัฒนาเกษตรกรปราดเปรื่อง (Smart Farmer) (กลุมสงเสริมและพัฒนา เกษตรกร) พัฒนาอาสาสมัครเกษตรหมูบาน จํ า นวน 1,456 ราย โดยมี ก ารจั ด เวที เ รี ย นรู บทบาทหน า ที่ ข องอาสาสมั ค รฯ การจั ด ทํ า บัญชีครัวเรือนเกษตรกร การผลิตสินคาเกษตร ปลอดภั ย เพื่ อ ยกระดั บ อาสาสมั ค รฯให เ ป น เกษตรกรปราดเปรื่อง (Smart Farmer) โครงการลดความเสี่ยงการระบาดศัตรู พืช (กลุมอารักขา) เพื่อปองกันการระบาด ศัตรูพืชอยางมีประสิทธิภาพ โดยการจัดตั้งศูนย
จัดการศัตรูพชื ชุมชน (ศจช.) อบรมแกนนํา ศจช. โดยใชกระบวนการเรียนรูแ บบมีสว นรวม มีกลุม เปาหมายคือเกษตรกร 16 อําเภอๆ ละ 1 ศูนยๆ ละ 25-30 ราย โครงการปลูกขาวกินเอง (กลุมสงเสริม และพั ฒ นาการผลิ ต ) ป ญ หาสํ า คั ญ ของ เกษตรกรผูปลูกขาวในอยุธยา ไดแก ตนทุน การผลิ ต ต อ ไร สู ง เมล็ ด พั น ธุ ข า วไม เ พี ย งพอ และขาดความระมั ด ระวั ง ในการใช ส ารเคมี ซึ่ ง ป ญ หาเหล า นี้ ทํ า ให ต น ทุ น การผลิ ต สู ง ขึ้ น และส ง ผลกระทบต อ สภาพแวดล อ มและสุ ข อนามั ย ของ ฯลฯ เพื่ อ เป น การแก ป ญ หาดั ง กลาว จึงดําเนินการโครงการปลูกขาวกินเอง โดยใหชาวนาจากกทม.และจังหวัดใกลเคียง มารวมทํานากับชาวนาอยุธยา รวมเรียนรูว ธิ กี าร ทํานา (โยนกลา) วิถชี วี ติ การทํานา ปลูกขาวดวย ตนเอง และไดขาวที่ปลอดภัยไปรับประทาน ในครัวเรือน และแจกญาติพี่นอง ตลอดจนได ทองเที่ยวแหลงที่สําคัญของอยุธยา เปนการ ประชาสัมพันธใหคนไทยและชาวตางชาติไดรจู กั จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ผลการดําเนินงานที่ภาคภูมิใจ
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริฯ (กลุมสงเสริมและพัฒนาเกษตรกร) ไดแก 1. โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ในพระราชดําริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพือ่ พัฒนาเด็กและเยาวชน ให มี ชี วิ ต ความเป น อยู ที่ ดี ขึ้ น โดยมุ ง เน น ให นักเรียน ครู และผูป กครอง รวมกันทําการเกษตร
ในโรงเรี ย น แล ว นํ า ผลผลิ ต ที่ ไ ด ม าประกอบ อาหารกลางวัน ซึง่ นอกจากจะชวยแกปญ หาการ ขาดแคลนอาหารกลางวันแลว ยังทําใหนกั เรียน ไดรบั ความรูด า นโภชนาการ และดานการเกษตร แผนใหมที่สามารถไปใชประกอบอาชีพตอไป 2. โครงการสายใยรักแหงครอบครัว ใน พระราชูปถัมภของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อสรางความรักความ อบอุน ใหกบั สถาบันครอบครัว โดยไดดาํ เนินงาน ตั้งแตป 2550 จนถึงปจจุบัน มีการดําเนินงาน ครอบคลุมทุกอําเภอๆ ละ 1 จุด ยกเวนอําเภอ บางบาล ดําเนินการ 2 จุด รวม 17 จุด มีสมาชิก ที่เขารวมโครงการฯ ทั้งหมด 2,038 คน โครงการพัฒนาคุณภาพสินคาเกษตร สู ม าตรฐาน (พื ช ผั ก ) โดยมี วั ต ถุ ป ระสงค เพื่อพัฒนาเกษตรกรใหสามารถผลิตพืชผักที่ ปลอดภั ย จากสารเคมี แ ละการปนเป อ นของ จุลนิ ทรีย เพือ่ ใหเกษตรกรไดรบั ความรูเ รือ่ งระบบ การจัดการคุณภาพการปฏิบตั ทิ างการเกษตรทีด่ ี (GAP พืช) และมีความรูเ รือ่ งเกษตรอินทรีย และ เพือ่ สรางโอกาสทางการตลาดใหสามารถแขงขัน ไดทั้งตลาดภายในและตางประเทศ โครงการศูนยจดั การศัตรูพชื ชุมชน เพือ่ ถายทอดความรูความเขาใจอยางถูกตองใน กระบวนการควบคุมศัตรูพืช โดยวิธีการเรียนรู ดวยตนเองจากโรงเรียนเกษตรกร ทําใหเกษตร มี ค วามรู ค วามเข า ใจ มี ทั ก ษะ และสามารถ แกปญหาไดดวยตนเอง ปจจุบันมีการตั้งศูนย จัดการศัตรูพืชชุมชนขึ้นในพื้นที่ 16 อําเภอๆ ละ 1 ศูนย โดยมีสมาชิกศูนยละ 30 คน
การชวยเหลือเกษตรกรจากโครงการรับจํานําขาว ประเด็นปญหา 1. เกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปลูกขาวไมพรอมกัน และไมตรงตามกรอบระยะเวลาการรับจํานําตามที่รัฐบาล กําหนด คือ นาป 1 ครั้ง เก็บเกี่ยวเดือนตุลาคม 56-28 กุมภาพันธ 2557 และนาปรัง 1 ครั้ง เก็บเกี่ยวเดือน ตุลาคม 57-30 กันยายน 2557
แนวทางการชวยเหลือ 1. นําเสนอใหรัฐบาลรับจํานําปละ 2 ครั้ง โดยไมตอง กําหนดเปนกรอบระยะเวลานาป – นาปรัง
2. ผลผลิตเฉลี่ยตอไรตํ่า ขาวนาป 625 กก./ไร ทําให 2. จัดทําขอมูลตนทุนและผลผลิตของเกษตรกรที่ เกษตรกรไมสารมารถนําผลิตที่ไดมากกวาเขารวมโครงการ ไดตามความเปนจริง เสนอให กขช. ไดรับทราบ รับจํานําได ตองขายในราคาที่ตํ่ากวาโครงการรับจํานํา เพื่อปรับผลผลิตเฉลี่ย/ไรใหสูงขึ้น เปน 900 กก./ไร (ตนทุนการผลิตขาวเฉลี่ย 4,800บ./ไร) 3. เกษตรกรนําขาวเปลือกไปเขารวมโครงการรับจํานํากับ รัฐบาลแลว ปรากฏวายังไมไดรับเงินจากรัฐบาล
3. ติดตอประสานงานกับหนวยงานที่เกี่ยวของ เชน การคาภายในจังหวัด,ธกส,มติที่ประชุม ครม. นํามา แจงและประชาสัมพันธใหเกษตรกรไดทราบ Ayutthaya 67
เสนทางพบสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม
นายสุรชัย อจลบุญ
ผูอํานวยการสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอม พระนครศรีอยุธยา
สํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (สนง.ทสจ.อย.) เป น หน ว ยงานราชการ สวนภูมิภาค ในสังกัดกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดลอม โดยมีพันธกิจ ในการสงวน อนุรักษ พั ฒ นาและฟ น ฟู ทรั พ ยากรธรรมชาติ แ ละสิ่ ง แวดล อ ม เพื่ อ การใช ป ระโยชน อ ย า งยั่ ง ยื น โดย ส ง เสริ ม สนั บ สนุ น ให ป ระชาชนและทุ ก ฝายทีเ่ กีย่ วของมีสว นรวม เพือ่ ใหสอดคลอง กับวิสัยทัศนของ สนง.ทสจ.อย. ที่วา “รวม อนุรักษทรัพยากรธรรมชาติอยางรูคุณคา และรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอมที่ดี เพื่อ คุณภาพชีวิตของประชาชน” ยุทธศาสตร เปาประสงค และกลยุทธ สํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (สนง.ทสจ.อย.) ได กํ า หนดยุ ท ธศาสตร เปาประสงค และกลยุทธในการพัฒนาไวดังนี้ คือ 68
ยุทธศาสตร - เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม - สงเสริมการมีสว นรวมของประชาชนใน การรักษาฐานทรัพยากรธรรมชาติและความ สมบูรณของระบบนิเวศ - รักษาคุณภาพสิ่งแวดลอมใหอยูใน ระดั บ มาตรฐานคุ ณ ภาพสิ่ ง แวดล อ มเพื่ อ คุณภาพชีวิตของประชาชน เปาประสงค - เสริมสรางการมีสวนรวมของทุกภาค สวนในการอนุรักษ รักษา ฟนฟูทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดลอมเพื่อการพัฒนาที่ ยั่งยืน - อนุรักษ ปองกัน รักษา ฟนฟูทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดลอมใหอยูในระดับที่ เหมาะสมเพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน กลยุทธ - สงเสริมการมีสว นรวมของทุกภาคสวน ในการอนุรกั ษ รักษา ฟน ฟูทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอม
- เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติ สิง่ แวดลอม และศิลปกรรม ของทุกภาคสวน - กํากับ ดูแล เฝาระวัง อนุรักษ รักษา และฟน ฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอม ใหอยูในระดับมาตรฐาน อํานาจหนาที่ สํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (สนง.ทสจ.อย.) มีอาํ นาจหนาทีใ่ นการปฏิบตั ิ ภารกิจดังนี้คือ - จั ด ทํ า แผนจั ด การสิ่ ง แวดล อ มของ จังหวัดและแผนปฏิบัติก ารเพื่อ การจัดการ คุณภาพสิ่งแวดลอมในระดับจังหวัด รวมทั้ง ติดตาม ประเมินผล และตรวจสอบสถานการณ สิ่งแวดลอมของจังหวัด - ดําเนินการตามกฎหมายวาดวยปาไม กฎหมายวาดวยปาสงวนแหงชาติ กฎหมาย วาดวยสวนปา กฎหมายวาดวยเลื่อยโซยนต กฎหมายวาดวยการสงวนและคุม ครองสัตวปา
และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวของตามที่ไดรับ มอบหมาย - กํากับ ดูแลการประกอบกิจการนํา้ บาดาล ตามกฎหมายวาดวยนํ้าบาดาลและกิจการ ประปา - สงเสริม เผยแพร และสรางการมีสวน รวมของประชาชนในการสงวน อนุรักษ และ ฟ น ฟู ท รั พ ยากรธรรมชาติ แ ละสิ่ ง แวดล อ ม ของจังหวัด - รวมหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของ หนวยงานอืน่ ทีเ่ กีย่ วของหรือทีไ่ ดรบั มอบหมาย โครงการสําคัญในรอบปที่ผานมา สํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (สนง.ทสจ.อย.) ไดดําเนินโครงการสําคัญๆ ในรอบปที่ผานมาดังนี้ - โครงการประชาอาสาปลูกปา 800 ลาน กลา 80 พรรษา มหาราชินี เพือ่ เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจาฯ พระบรมราชินีนาถ - โครงการอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอม - โครงการปรับปรุงภูมิทัศนหอนาฬกา อนุสรณสถานแหงความจงรักภักดี (ทุง หันตรา) - โครงการอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมกับกองทุนพัฒนาไฟฟา โรงไฟฟาวังนอย - โครงการพั ฒ นาประสิ ท ธิ ภ าพการ จั ด การสิ่ ง แวดล อ มโดยการมี ส ว นร ว มของ ชุมชน กิจกรรมพระนครศรีอยุธยาเมืองสะอาด สนั บ สนุ น ชุ ม ชนลดนํ้ า เสี ย และปลอดขยะ (Zero Waste)
แนวนโยบายเรงดวนในการแกไขปญหา สนง.ทสจ.อย.มีแนวนโยบายเรงดวน เพื่อดําเนินการแกไขปญหาดานทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดลอมที่พบบอยครั้ง อาทิ ปญหาปริมาณขยะ ควรดําเนินการแกไข โดยการสงเสริมใหมีการคัดแยกขยะ ตั้งแต ตนกําเนิดของขยะ เชน บาน โรงเรียน วัด ฯลฯ ปญหานํ้าเนาเสียของชุมชนอันเกิด จากครัวเรือน ควรดําเนินการแกไขโดยการ สงเสริมใหครัวเรือนมีการกําจัดของเสียหรือ บําบัดนํ้าเบื้องตน กอนปลอยออกสูแหลง นํ้าสาธารณะ และปญหาที่จะพบบอยไดใน หนารอนคือ ปญหาไฟไหมกองขยะ ควร ดําเนินการโดยบังคับใชกฎหมายที่เกี่ยวของ อยางเครงครัด รวมมือแกไขใสใจสิ่งแวดลอม ถึงแมวาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะ ประสบปญหาทางดานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอมอยูบาง แตชาวอยุธยาซึ่ง เปรียบไดกับเจาของบาน จึงควรมีสวนรวม ในการดูแลแกไข และปองกันปญหาตางๆ ที่ จะเกิดขึ้นได เชน - มี ค วามตระหนั ก ในบทบาทและ หน า ที่ ที่ พึ ง มี ต อ ทรั พ ยากรธรรมชาติ แ ละ สิ่ ง แวดล อ มในจั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยา ซึ่ ง อาจก อ ให เ กิ ด การเปลี่ ย นความคิ ด และ พฤติกรรมไปในทิศทางที่สงเสริมการอนุรักษ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม - การลดการเสือ่ มสูญ คือไมใชทรัพยากร อยางฟุม เฟอย ควรใชทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอมใหคุมคาที่สุด - การนํากลับมาใชซํ้า คือ การนําวัสดุที่ สามารถใชงานซํ้าไดมาใชใหม เชน การใชถุง หูหิ้วใสสิ่งของ ฯลฯ
- การนํากลับมาใชประโยชนใหม คือ การนําวัสดุเครือ่ งมือเครือ่ งใชทชี่ าํ รุดหรือเสือ่ ม สภาพมาใชประโยชนใหม - การลดปญหาขยะ เชน การใชภาชนะ ที่นํามาใชซํ้าได เชน ปนโต กลองขาว การใช กระดาษทัง้ 2 หนา การใชวสั ดุธรรมชาติทยี่ อ ย สลายงายแทนการใชโฟมหรือวัสดุทยี่ อ ยสลาย ยาก เชน ใบตอง กาบกลวย รวมทัง้ การบริจาค เสื้อผา เครื่องนุงหม - การคัดแยกขยะ โดยแยกขยะออกเปน 4 ประเภท ไดแก ขยะยอยสลายได ขยะรีไซเคิล ขยะทั่วไป และขยะอันตราย จากใจ ผอ. ถึงชาวอยุธยา การดูแลและรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอม ไมไดเปนเรื่องของหนวยงาน ใดหนวยงานหนึ่งหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต เปนเรื่องของทุกภาคสวน ไมวาจะเปนหนวย งานราชการ องคกรปกครองสวนทองถิ่น ผูมี สวนไดสว นเสีย ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และผู ที่ เ ข า มาอาศั ย หรื อ ทํ า งานในจั ง หวั ด พระนครศรีอยุธยา ความตระหนักและความรวมมือรวมใจ ของทุกฝายเทานั้น ที่จะชวยใหการดูแลรักษา ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอมใหเปนไป อยางมีประสิทธิภาพได กระผมจึงอยากใหทกุ ภาคสวนมีจติ สํานึกในการอนุรกั ษ บํารุงรักษา ดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมใน จั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยา ให มี ค วามอุ ด ม สมบูรณและคงอยูสืบตอไป Ayutthaya 69
เสนทางพบสนง.พัฒนาชุมชน
สํานักงานพัฒนาชุมชน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นายประมวล มุงมาตร พัฒนาการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพระนครศรีอยุ ธ ยา สังกัดกรมการพัฒนาชุมชน ตั้งอยู ณ ศูนยราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มี นายประมวล มุงมาตร พัฒนาการจังหวัด พระนครศรีอยุธยา บริหารงานตามวิสยั ทัศนที่ วา “เปนหนวยงานหลัก ในการบริหารจัดการ ชุมชนใหนา อยู” ภายใตกรอบการดําเนินงาน ตาม พันธกิจ ดังนี้คือ พัฒนาการการเรียนรู และการมีสวนรวมของคนในชุมชน สงเสริม และพัฒนาการการบริหารจัดการชุมชน สงเสริม อาชี พ และการดํ า เนิ น ชี วิ ต ตามหลั ก ปรั ช ญา เศรษฐกิ จ พอเพี ย ง และพั ฒ นาองค ก รและ เครือขายในการทํางานเชิงบูรณาการ ประเด็นยุทธศาสตร 1. สงเสริมและพัฒนาสินคา OTOP 2. สงเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของ คนในชุมชน 3. สงเสริมกระบวนการเรียนรูและการมี สวนรวมทุกภาคสวนในการบริหารจัดการชุมชน
70
4. พัฒนาขีดสมรรถนะองคกร สํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไดใหความสําคัญกับประเด็นยุทธศาสตร การสงเสริมและพัฒนาสินคา OTOP ซึ่งเปน นโยบายสําคัญของรัฐบาล ที่ตองการใหเกิด การสรางงาน สรางอาชีพ สรางรายได และสราง โอกาสใหประชาชน โดยการสงเสริม สนับสนุน ใหประชาชนในหมูบาน/ชุมชน นําทรัพยากร และภู มิ ป ญ ญาของท อ งถิ่ น มาพั ฒ นาเป น สินคาและบริการเพื่อเพิ่มมูลคาผลิตภัณฑใหมี เอกลักษณทโี่ ดดเดนสวยงาม ซึง่ มีภาครัฐใหการ สนับสนุน ดานวิชาการ องคความรู เทคโนโลยี สมั ย ใหม และการเข า ถึ ง แหล ง เงิ น ทุ น เพื่ อ พัฒนาขีดความสามารถในการบริหารจัดการ การผลิตและการตลาด การพัฒนาคุณภาพ มาตรฐาน และเชื่อมโยงสินคาจากหมูบาน/ ชุมชนสูตลาดทั้งในประเทศและตางประเทศ การส ง เสริ ม ให ผู ผ ลิ ต ผู ป ระกอบการ OTOP มีความพรอมและมีความเขมแข็งกอน เขาสูประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนม ดวยการ พั ฒ นาผลิ ต ภั ณ ฑ ใ ห มี คุ ณ ภาพ มาตรฐาน บรรจุ ภั ณ ฑ มี ค วามเหมาะสม ส ง เสริ ม การ
ขายด ว ยเครื อ ข า ยไอที แ ละเครื อ ข า ยชุ ม ชน ผลิ ต ภั ณ ฑ ไ ม ป ลอมปนไม เ ป น มลพิ ษ ต อ สิ่งแวดลอม คุณภาพสูงพรอม ราคามาตรฐาน บรรจุ ภั ณ ฑ ส วยหรู เชื่ อ มโยงการท อ งเที่ ย ว ตลอดจนมีการฝกอบรมใหผูผลิต ผูประกอบ การ OTOP เปนนักขายมืออาชีพและอบรม ภาษาตางประเทศ การสงเสริมและพัฒนาสินคา OTOP สุดยอดผลิตภัณฑ OTOP เดนจังหวัด (Provincial Star OTOP:PSO) จั ง หวั ด พระนครศรีอยุธยา ไดคัดสรรผลิตภัณฑ ที่มี เอกลักษณภูมิปญญาทองถิ่น มีคุณคาเปนที่ นิ ย ม มี ศั ก ยภาพด า นการผลิ ต และด า นการ ตลาด เปนผลิตภัณฑที่นิยมของผูบริโภคเปนที่ รูจักอยางแพรหลาย เปนของฝาก ของที่ระลึก ใครมาเทีย่ วอยุธยาแลวไมซอื้ ผลิตภัณฑเหลานี้ กลับไปฝาก ผูที่เคารพ นับถือ คนที่อยูทางบาน ถือวามาไมถึงอยุธยาไดแก โรตีสายไหม,ผลิต ภัณฑอรัญญิก,ผาขาวมาและผลิตภัณฑผา ขาวมา, สบูและแชมพูสมุนไพรจากธรรมชาติ และนํ้าลูกยอ ทั้งนี้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได คั ด เลื อ กสุ ด ยอดผลิ ต ภั ณ ฑ OTOP เด น จังหวัด ไดแก เครื่องใชบนโตะอาหารจาก
Junction โรงแรมปทุมวัน ปริ้นเซส เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยมีการแสดงมินิแฟชั่นโชว จากนางแบบและนายแบบ จากกลุม บุคคลแนว หนาในสังคม และนิทรรศการกระเปาผาทอจาก เกลียว ตลอดจนเปดโอกาสใหผูที่สนใจสั่งจอง กระเปาที่ไดออกแบบพิเศษมาเพื่องานนี้โดย เฉพาะ รายไดสวนหนึ่งมอบใหมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย
สแตนเลส ของ บริษัท โพธิ์ทอง อรัญญิกแฮนดดิเวอรค จํากัด อําเภอนครหลวง (โดยนายพสิษฐ นาคะบุตร) ไดรับรางวัลชนะเลิศ การประกวดผลิ ต ภั ณ ฑ OTOP ดีเดนระดับประเทศ ป 2556 การพั ฒ นาผลิ ต ภั ณ ฑ โ ดยเครื อ ข า ย องคความรู (Knowledge–Based OTOP : KBO) เป น การบู ร ณาการและผนึ ก กํ า ลั ง ของ สถาบันการศึกษาในพื้นที่จังหวัด องคกร ปกครองสวนทองถิ่น เชน อบต. อบจ. เทศบาล เครือขายกลุมผูผลิต OTOP หนวยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวของ ปราชญชาวบาน ผูทรง คุณวุฒิ สนับสนุนสงเสริมใหกลุมผูผลิต OTOP ผลิตสินคาที่มีคุณภาพไดมาตรฐาน สามารถ จํ า หน า ยได ใ นตลาดทั้ ง ในและต า งประเทศ และป 2556 จังหวัดพระนครศรีอยุธยาไดสง ผล งานเครือขายองคความรู (Knowledge-Based OTOP : KBO) ผลิตภัณฑ “ผาทอ อยุธยา” ได รับรางวัลชมเชยการประกวดผลงานเครือขาย องคความรู (Knowledge-Based OTOP : KBO ระดับประเทศ การจั ด งาน Bangkok Runway & Charity Exhibition นายวิ ท ยา ผิ ว ผ อ ง ผูวาราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได สนับสนุนการดําเนินงานโครงการหนึ่งตําบล หนึง่ ผลิตภัณฑ อยางตอเนือ่ ง ดวยการสนับสนุน ใหชุมชน ไดใชทรัพยากรและภูมิปญญาทอง ถิ่นผนวกกับองคความรูสมัยใหม เพื่อยกระดับ มาตรฐานของสินคา OTOP โดยเฉพาะกระเปา ที่ทํามาจากผาทอเกลียวผักตบชวา ที่มีการ ตั ด เย็ บ อย า งประณี ต พิ ถี พิ ถั น จนกลายเป น
กระเปาถือสวยงามคุณภาพเยีย่ ม ไมแพกระเปา ซุปเปอรแบรนด จากตางประเทศ และเมื่อปที่ ผานมากระเปาผาทอเกลียวผักตบชวาไดเปด ตัวเปนครั้งแรกของโลกบนรันเวยแฟชั่น ใน ฐานะ Green Product สรางความประทับใจ และจุดกระแสแฟชั่นใหกลุมเซเลบริตี้ของไทย และตางประเทศ เพื่ อ เป น การขยายผลสํ า เร็ จ จั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยาจึ ง ร ว มกั บ บริ ษั ท ที วี อาลาคารต จํากัด จัดงาน Bangkok Otop Runway&Charity Exhibitions ขึ้นอีก ในวัน ที่ 31 มีนาคม 2557) ณ ชั้น B หอง Executive
ศูนยผาขาวมาทุงหันตรา นายวิทยา ผิ ว ผ อ ง ผู ว า ราชการจั ง หวั ด และนาง วาสินี ผิวผอง นายกเหลากาชาดจังหวัด พระนครศรี อ ยุ ธ ยา ได ใ ห ค วามสํ า คั ญ ใน การสงเสริม สนับสนุนกลุมอาชีพทอผาขาวมา ดวยการนําผาขาวมา มาสรางคุณคา สราง มูลคาเพิ่ม พัฒนารูปแบบการใชประโยชนให สวยงามทันสมัยในยุคปจจุบัน เชน นํามาตัด เย็บเปนเสื้อผา กางเกง หมวก รองเทา กระเปา หมอน ของใช ของฝาก ของที่ระลึก เครื่อง ประดับ ผามาน ผาปูโตะ ฯลฯ พรอมทั้งรณรงค ให ข า ราชการ และประชาชนสวมใส เ สื้ อ ที่ ตั ด เย็ บ จากผ า ขาวม า และริ เ ริ่ ม จั ด งาน อยุธยา...สงเสริมภูมิปญญาผาขาวมาไทย ในป พ.ศ. 2552 มีการเดินแบบชุดผาขาวมา ใน ป พ.ศ. 2553 มีการเดินแบบแฟชัน่ ชุดผาขาวมา นานาชาติ และป พ.ศ. 2554 ในงานยอยศยิง่ ฟา อยุธยามรดกโลก ซึ่งการจัดงานดังที่กลาวมา ทําใหประชาชนในจังหวัดเกิดความตื่นตัว และ เห็นความสําคัญของผาขาวมามากขึน้ นอกจาก นี้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไดจัดตั้ง “ศูนยผา ขาวมาทุง หันตรา” ณ อนุสรณสถานแหงความ จงรักภักดี (ทุงหันตรา)โดยรวบรวมผาขาวมาที่ ผลิตในประเทศไทยมากกวา 40 จังหวัดและ ผาขาวมาจากนานาประเทศ ทั่วโลก พรอมทั้ง ผลิตภัณฑจากผาขาวมาหลากหลายชนิด ป 2556 ในการประชุ ม คณะรั ฐ มนตรี อย า งเป น ทางการนอกสถานที่ ณ จั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยา โดยจั ง หวั ด พระนครศรี อยุธยา ไดตัดเสื้อสูทจากผาขาวมามอบให คณะรัฐมนตรี ทําใหกระแสการนําผาขาวมา มาสรางคุณคา มูลคาเพิ่ม แพรกระจายไป ทั่วประเทศ ผลทําใหกลมทอผาขาวมา กลุม ตัดเย็บเสื้อผาทั่วประเทศ หันมาตัดเย็บเสื้อผา จากผาขาวมา สงไปขายตามเทศกาลตางๆ และ ไดรับความสนใจ ความตองการจากประชาชน ทําใหกลุมฯ มีรายไดเพิ่มขึ้นอยางมาก ผลิต ไมทันความตองการ Ayutthaya 71
เสนทางพบทองเที่ยวและกีฬาจังหวัด
นายพิ ช ย ั เป ย มทองคํ า ทองเที่ยวและกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พระนอนวัดสะตือมาไว ซึ่งนักทองเที่ยวก็จะ ไดศกึ ษาความเปนมาทัง้ เรือ่ งขนบธรรมเนียม ประเพณีของแตละอําเภอ สวนรูปแบบของกิจกรรม “วั น เดี ย ว เที่ ย วอยุ ธ ยา” ก็ จ ะมี ก ารจั ด กิ จ กรรม Walk Rally เพื่ อ ให ผู ที่ เ ข า ร ว มกิ จ กรรม ได ไ ปหาคํ า ตอบ ซึ่ ง จะมี ก ารจั ด คํ า ตอบ ไว ตามจุ ดสํ า คั ญ ของแต ละอํา เภอเพื่อ ชิง ของรางวั ล นอกจากนี้ ยั ง มี กิ จ กรรมกี ฬ า อีกคือ ฟุตซอล เซปก-ตะกรอ เปตอง และ กิจกรรมทางนํ้า เชน ลองแพ ลองซุง และ พายเรื อ ชิ ง ธง ซึ่ ง นั ก ท อ งเที่ ย วสามารถ เข า ชมได ฟ รี ส ว นการเข า ร ว มกิ จ กรรม Walk Rally จะมีคา ใชจา ยเปนคาจัดกิจกรรม สํ า นั ก งานท อ งเที่ ย วและกี ฬ าจั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยา เปนหนวยงานหลัก และคาอาหารกลางวันคนละ 150 บาท สวน ในการพั ฒ นาคุ ณ ภาพการท อ งเที่ ย วไปสู ค วามยั่ ง ยื น พร อ มทั้ ง พั ฒ นากี ฬ าขั้ น พื้ น ฐาน กิ จ กรรมกี ฬ าจะมี ค า ใช จ า ยซึ่ ง กํ า หนดไว เพื่ อ นํ า ไปสู ม าตรฐานสากล โดยมี นายพิ ชั ย เป ย มทองคํ า ท อ งเที่ ย วและกี ฬ า แตกตางกันแลวแตชนิดกีฬาครับ จั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยา เป น ผู บ ริ ห าร สํ า นั ก งานท อ งเที่ ย วและกี ฬ าจั ง หวั ด พระนครศรีอยุธยา ซึง่ ทานกรุณาแนะนํากิจกรรม เทศกาล และสถานทีท่ อ งเทีย่ วทีโ่ ดดเดน แนะนําที่เที่ยวใหมโดนใจ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พรอมบอกกลาวถึงการเตรียมความพรอมใหแกบคุ ลากรดาน นอกจากอนุ ส รณ ส ถานแห ง ความ การทองเที่ยวกอนสูประชาคมอาเซียนดวย จงรักภักดี (ทุงหันตรา) ที่กลาวไปแลว เราก็ ยั ง มี ส ถานที่ ท อ งเที่ ย วเชิ ง เกษตรคื อ “วันเดียวเที่ยวอยุธยา” เฮฮา ประทับใจ ไดความรู สวนแตงเมลอนและแคนตาลูป ที่อําเภอ กิจกรรม “วันเดียวเที่ยวอยุธยา” เปนกิจกรรมที่ทานผูวาฯ วิทยา ผิวผอง มีดําริให จัดขึ้นเพื่อผูเขารวมกิจกรรม ทั้งประชาชนในจังหวัด ตางจังหวัด และชาวตางชาติ ไดมาเห็น สถานทีท่ อ งเทีย่ วแหงใหมของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คืออนุสรณสถานแหงความจงรัก ภักดี (ทุงหันตรา) ซึ่งเปนสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว 80 พรรษา มีลกั ษณะคลายเมืองจําลอง ยกสถานทีเ่ ดนๆ ของดีของขึน้ ชือ่ ของแตละอําเภอทัง้ 16 อําเภอ มาไวที่นี่ ไมวาจะเปนปราสาทนครหลวงของอําเภอนครหลวง บานทรงไทยของอําเภอ บางประหั น สถานี ร ถไฟและหั ว รถจั ก รรถไฟของอํ า เภอภาชี อํ า เภอท า เรื อ ก็ จํ า ลอง 72
บางไทร ซึ่ ง เป น แหล ง ผลิ ต และจํ า หน า ย แตงเมล อ น และแคนตาลู ป หลากหลาย สายพันธุ มีผลผลิตตลอดปสามารถเดินลง ไปชมภายในสวน และทดลองชิมได พรอม ทั้ ง สามารถเลื อ กซื้ อ เป น ของฝากให กั บ ครอบครัวได อยุธยา...เที่ยวไดตลอดป มีดีตลอดศก จั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยา ไดจัด กิจกรรมสงเสริมการทองเที่ยวในวันสําคัญ ตางๆ ที่เคยจัดมาอยางเปนประจําทุกป ปนี้ เราก็ยังคงมีการจัดกิจกรรมกันเชนเดิม เชน งานยอยศยิ่งฟาอยุธยามรดกโลก ในชวง เดือนธันวาคม ภายในงานจะมีการแสดง แสง สี เสียงบริเวณอุทยานประวัติศาสตร พระนครศรีอยุธยา การออกราน มหรสพ การแสดงศิ ลปวัฒนธรรมพื้นบาน สินคา เกษตร สินคาหนึง่ ตําบลหนึง่ ผลิตภัณฑ หรือ จะเปนงานลอยกระทงตามประทีปศูนย ศิลปาชีพบางไทร วันที่ 6 พฤศจิกายน จะ มีกจิ กรรมการแสดงแสง สี เสียง และสือ่ ผสม การประกวดกระทง โคมแขวน การประกวด นางนพมาศ การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย พื้นบาน และการออกรานจําหนายสินคา อุปโภคและบริโภค การแสดงภาคบันเทิง เวลากลางคืน ณ ศูนยศิลปาชีพบางไทร อําเภอบางไทร สวนในตัวเมืองอยุธยาก็จะ มีการจัดงานลอยกระทงกรุงเกา (สี่มุม เมื อ ง) มี ก ารประกวดกระทง โคมแขวน การประกวดนางนพมาศ การประกวดนาง นพมาศนานาชาติ การประกวดรองเพลง ลูกทุง การแสดงทางวัฒนธรรมไทยพื้นบาน และการออกรานจําหนายสินคาอุปโภคและ บริโภค
ผนวกการท อ งเที่ ย วและกี ฬ าให เ ป น หนึ่งเดียว จั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยามี ง าน มหกรรมไหว ค รู ค รอบครู ม วยไทยโลก (ไหว ค รู ม วยไทยนายขนมต ม ) ซึ่ ง จั ด ต อ เนื่องเปนประจําทุกปชวงวันที่ 17 มีนาคม ในกิจกรรมดังกลาวจะรวมงานทองเที่ยว และกีฬาเขาดวยกัน เปนการเผยแผศิลปะ การตอสูปองกันตัวแบบไทย สูสายตาชาว ตางชาติและนักทองเที่ยวที่มารวมงาน ทั้งนี้ จะมีนักมวยไทยจากหลากหลายประเทศ เข า ร ว มงานดั ง กล า ว อาทิ ประเทศจี น ญี่ปุน อุสเบกีสถาน เยอรมนี สเปน อังกฤษ เวียดนาม เกาหลี เปนตน เตรี ย มรั บ มื อ AEC เพื่ อดู แลนั ก เที่ ย ว ตางชาติ จั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยา ได มี โอกาสจัดกิจกรรมตางๆ เพื่อเตรียมความ พรอมของบุคลากรดานการทองเทีย่ ว ในการ รองรับการเปนประชาคมอาเซียน (AEC) ได เริ่มกิจกรรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรดาน การทองเที่ยวดานการใชภาษาตางประเทศ อาทิ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุน ที่ นิ ย มใช เ ป น ภาษาหลั ก ในการเข า สู ประชาคมอาเซี ย นเพื่ อ การสื่ อ สารนํ า ทองเที่ยวและการชวยเหลือนักทองเที่ยว
ฝากถึงนักทองเที่ยวและชาวอยุธยา ก อ นอื่ น ผมของฝากชาวอยุ ธ ยาทุ ก ท า นว า ท า นสามารถที่ จ ะปฏิ บั ติ ตั ว เป น เจาบานที่ดีไดงายๆ คือการยิ้ม การทักทาย การใหความชวยเหลือ การสอดสองดูแล ความปลอดภัยแกนกั ทองเทีย่ ว สวนหนวยงาน ทองเที่ยวคงจะตองชวยจัดระบบ ทั้งเรื่อง ของการจอดรถยนต การติดตั้งปายบอกฅ สถานที่ การรักษาความสะอาดใหนา ดู นาอยู สุดทายของเชิญชวนนักทองเที่ยว ได เขามาเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมี ทัง้ การทองเทีย่ วทางประวัตศิ าสตร มีโบราณ สถาน มี วั ด ที่ ส วยงาม มี แ หล ง ท อ งเที่ ย ว เชิงเกษตร สวนแตงเมลอน และแคนตาลูป สวนกลวยไม ตะโกดัด มีอาหารอรอย หรือ จะนั่งเรือชมทัศนียภาพยามเย็นและคํ่าคืน ก็ไดครับ
Ayutthaya
73
เสนทางพบสนง.วัฒนธรรมจังหวัด
อัจฉรา ออนจันทร วัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา “วั ฒ นธรรมไม ใ ช ข องคนใดคน หนึ่ง วัฒนธรรมเปนของทุกคน” จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปน ราชธานีเกา 417 ป ความเจริญรุงเรื่อง ในอดี ต ยั ง มี ใ ห เ ห็ น จากหลั ก ฐานทาง ประวั ติ ศ าสตร ไม ว า จะเป น โบราณ สถาน โบราณวัตถุที่ไดมีการจัดแสดงใน พิพธิ ภัณฑหลายแหงเชน พิพธิ ภัณฑสถาน แหงชาติเจาสามพระยา พิพธิ ภัณฑสถาน แห ง ชาติ จั น ทรเกษม และพิ พิ ธ ภั ณ ฑ ทองถิ่นตางๆ ในทุกอําเภอ พื้นที่ในทุกอนู ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาสืบคนจาก
74
หลักฐานทางประวัติศาสตรและคําบอก เลาจะมีเรื่องราวทางประวัติศาสตรทั้งสิ้น ภู มิ ป ระเทศของกรุ ง ศรี อ ยุ ธ ยามี แมนํ้าสามสายใหญๆ เปนหัวใจในการ ดําเนินชีวิตตั้งแตอดีตจนถึงปจจุบัน ใน อดีตใชเสนทางคมนาคมทางนํ้าเปนหลัก กรุ ง ศรี อ ยุ ธ ยาเป น เมื อ งท า ที่ สํ า คั ญ ใน แถบทวีปเอเชียมีการทําการคาขายกับ หลายประเทศ ทําใหกรุงศรีอยุธยามีความ สัมพันธกับหลายประเทศ ไมวาจะเปน ญีป่ นุ โปรตุเกส ฮอลันดา เปอรเซีย ฝรัง่ เศส และอีกหลายประเทศ ยังมีหลักฐานการ ตัง้ หมูบ า นของประเทศตาง ๆ อยูใ นจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ด า นศาสนา พระอุ บ าลี ม หาเถระ พระภิกษุสงฆในสมัยกรุงศรีอยุธยาไดนํา พระพุทธศาสนาไปเผยแพรในประเทศ ศรี ลั ง กา ในขณะที่ ป ระเทศศรี ลั ง กา พระพุ ท ธศาสนาเสื่ อ มโทรมลง ไม มี พระภิกษุสงฆ มีแตสามเณร ทําใหไมมี พระภิ ก ษุ ส งฆ สื บ ทอดพระพุ ท ธศาสนา ศรีลังกาไดขอพระภิกษุไทยไปเผยแพร และฟ น ฟู พ ระพุ ท ธศาสนา ซึ่ ง ตรงกั บ สมั ย พระเจ า อยู หั ว บรมโกศฯ ในสมั ย กรุงศรีอยุธยา พระเจาอยูหัวบรมโกศฯ พิ จ ารณาให พ ระอุ บ าลี ม หาเถระ และ พระสงฆ ไ ทยจํ า นวน 18 รู ป เดิ น ทาง ไปประเทศศรีลังกา ซึ่งการเดินทางของ คณะสงฆไทยครั้งแรกไมสําเร็จเกิดเรือ อับปาง ตองเดินทางครัง้ ทีส่ องจึงสําเร็จใช ระยะเวลาในการเดินทางสามเดือน และ เผยแพร ฟ น ฟู พ ระพุ ท ธศาสนาสํ า เร็ จ ใชระยะเวลาเจ็ดป ทําใหพระพุทธศาสนา ในศรี ลั ง กาเป น พระพุ ท ธศาสนานิ ก าย สยามวงศเจริญรุง เรืองมาจวบจวนปจจุบนั
จากบริบทที่กลาวมาขางตนจะเห็น ไดวาสภาพวิถีชีวิตวัฒนธรรมของจังหวัด พระนครศรี อ ยุ ธ ยามี แ บบหลากหลาย การทํางานทางดานวัฒนธรรมในจังหวัด พระนครศรีอยุธยา จะตองรูใหลึก และจะ ทําโดยลําพังไมได โดยสวนตัวจะทํางาน ใน Concept “วั ฒ นธรรมไม ใ ช ข อง คนใดคนหนึ่ง วัฒนธรรมเปนของทุก คน” เพราะฉะนั้นจะทํางานในบทบาท วั ฒ นธรรมจั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยา จะสงเสริมและกระตุนใหทุกคนรักและ หวงแหนวั ฒ นธรรมของตนเอง ทุ ก คน เปนเจาของวัฒนธรรม โดยใชระบบการ สรางเครือขายทางวัฒนธรรม เครือขาย
วัฒนธรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีทุกระดับตั้งแตระดับตําบล อําเภอ และ จังหวัด เปนจังหวัดทีม่ าเครือขายทีเ่ ขมแข็ง ในระดับตนๆ ของประเทศไทย นอกจากเครื อ ข า ยวั ฒ นธรรมที่ เขมแข็ง ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยายัง โชคดี อี ก อย า งหนึ่ ง คื อ ผู ว า ราชการ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาคนปจจุบัน คือ นายวิทยา ผิวผอง เปนผูที่ใหความ สําคัญกับงานทางดานวัฒนธรรม เปน ผูนําในการทํางานรวมกันกับเครือขาย วั ฒ นธรรมโดยมี สํ า นั ก งานวั ฒ นธรรม จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเปนผูประสาน ให เ กิ ด กิ จ กรรมทางด า นวั ฒ นธรรมใน หลายด า น จะขอกล า วมาเป น เพี ย ง ตัวอยางเล็กนอยเชน ความสัมพันธกับตางประเทศ ไดสรางความสัมพันธกับประเทศ ตางๆ มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เชน ประเทศศรีลังกา ประเทศญี่ปุน เปอรเซีย ฝรั่งเศส ในเทศกาลอยุธยา-นานาชาติ การสร า งความสั ม พั น ธ กั บ นานา ประเทศทําอยางตอเนื่องทําให มี MOU รวมกัน เปนขอตกลงและการใหความ
ร ว มมื อ กั น ระหว า งสองประเทศ เช น ประเทศศรี ลั ง กา ได ม อบพระอุ บ าลี มหาเถระแกะสลักดวยไมมะฮอกกานีให กับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ จังหวัด พระนครศรีอยุธยาไดทํา MOU กับเมือง แคนดี้ ตกลงรวมกันเปนพีน่ อ งกัน จังหวัด พระนครศรีอยุธยาไดจัดสรางพิพิธภัณฑ พระอุบาลีขึ้นที่วัดธรรมารามโดยความ รวมมือกันในวาระโอกาสที่ป พ.ศ. 2556 เปนปครบรอบ 260 ปแหงการเดินทาง เพื่อไปฟนฟูพระพุทธศาสนาในศรีลังกา ของพระอุบาลีมหาเถระ ภูมิปญญาพื้นบาน การแสดงพื้นบาน จั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยาได จั ด งานเปดโลกทัศนวัฒนธรรมขึ้น โดยนํา ภูมิปญญาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกมาเผยแพร ที่ทําใหคนหันมาสนใจ และรูจักกันทั้งประเทศในครั้งที่พระบาท สมเด็จพระเจาอยูหัว สมเด็จพระนางเจา พระบรมราชิ นี น าถ พร อ มด ว ยสมเด็ จ พระเทพรั ต นราชสุ ด า สยามบรมราช กุ มารี เสด็ จทุ ง มะขามหย อง เมื่ อวั นที่ 25 พฤษภาคม 2555 ไดนําเพลงเรือ ซึ่ง เปนเพลงพื้นบานในอดีต แสดงตอหนา
พระพักตร ทั้งสามพระองค ทําใหเพลง เรือไดรบั ความสนใจ และเมือ่ มีงานแตละ ครั้งก็จะนําเพลงพื้นบานที่มีอยูในจังหวัด พระนครศรีอยุธยาออกมาเผยแพรตอไป บทสรุป งานวัฒนธรรมเปนเรื่องเกี่ยวกับวิถี ชีวิตตั้งแตเกิดจนตาย วัฒนธรรมจังหวัด เปนผูแทนกระทรวงวัฒนธรรมที่ตั้งอยูใน พื้นที่แตละจังหวัดทําหนาที่อนุรักษ ฟนฟู สงเสริม สนับสนุน งานวัฒนธรรมในพื้นที่ การรั ก ษาวั ฒ นธรรมคื อ การรั ก ษาชาติ ถาทุกคนรูห นาทีข่ องแตละคนชวยกันดูแล รักษาวัฒนธรรมของตนเองใหเขมแข็ง และดํารงอยูแ ลว ประเทศชาติกจ็ ะมีความ สงบประชาชนมีความสุข ประเทศชาติจะ มีความมั่นคงสืบไป
Ayutthaya 75
เสนทางพบประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัด
ดร.จิระพันธุ พิมพพันธุ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สุภาพสตรีทานนี้ คือผูที่มีบทบาททั้ง ในดานการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอยางยิ่ง แม ปจจุบันทานจะมีทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิเปน ที่เคารพนับถือ แกบุคคลทั่วไป แตทานยัง ดูแข็งแรงสดใส กระฉับกระเฉง จนแทบไม นาเชื่อวา...นี่หรือคือสุภาพสตรีสูงวัยที่อายุ อานามล ว งเข า เลขแปดแล ว ท า นผู นี้ คื อ ดร.จิระพันธุ พิมพพันธุ ประธานสภา วัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่ง ทานไดสละเวลาอันมีคาพูดคุยถึงบทบาท ของสภาวัฒนธรรมจังหวัด และภารกิจดาน การสงเสริมวัฒนธรรมและประเพณีที่ดีงาม ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
76
บทบาทและภารกิจของสภาวัฒนธรรมจังหวัดฯ กอนอื่นตองเรียนชี้แจงวา บทบาทและ ภารกิ จ ของสภาวั ฒ นธรรมกั บ วั ฒ นธรรม จังหวัดกอนนะคะ คือวัฒนธรรมจังหวัดนั้น เปนขาราชการของกระทรวงวัฒนธรรมโดยตรง สวนของของเราก็เปนองคกรวัฒนธรรม ที่ขึ้น กับกระทรวงวัฒนธรรมเหมือนกัน แตเปนการ รวมตัวกันของประชาชนที่มุงมั่นจะจรรโลง วัฒนธรรมของจังหวัดใหดีขึ้น ซึ่งในจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ก็จะมีองคกรและเครือ ขายมากมาย เชน เครือขายวิชาการ เครือขาย ด า นสร า งสรรค วั ฒ นธรรม เครื อ ข า ยด า น นักคิด ดานนักปราชญชาวบาน 4-5 เครือขาย ก็มารวมตัวกันเขา แลวก็เลือกกรรมการและ ประธานขึ้นมา บทบาทหนาทีข่ องเราก็คอื ทําอยางไร จะรักษาประเพณี วัฒนธรรมของจังหวัด เราใหไดนานไดมาก ยกตัวอยางเชน ประเพณี สงกรานตของเราที่ทําทุกป ทําอยางไรจะ รักษาไวใหเปนแบบโบราณของเราไวได เชน มีเด็กที่เปนหัวแกละหัวจุก หรือประเภทที่ เปนนุง ผานุง มาตักบาตรหรือมากอเจดียท ราย อะไรแบบนี้ ซึ่งยุคหลังๆ ตอมาจะหายไป เรา ก็พยายามจะฟนฟูขึ้นมา ครั้ ง หนึ่ ง มี ก ารเป ด งานวั น มรดกโลก เป น งานของกาชาดและจั ง หวั ด เราก็ เ อา วัฒนธรรมแตละอําเภอ 16 อําเภอมาแสดง กัน บางอําเภอก็จะมีลําตัด บางอําเภอก็มี คํากลอน บางอําเภอก็มีการแตงเรือ บาง อําเภอก็จะมีเด็กหัวแกละหัวจุก มีการรดนํ้า มีการบวชนาค เพราะฉะนั้นแตละอําเภอก็ จะแตกตางกันออกไป แลวในงานก็มีการ ประกวดกัน อยางเรื่องของอาหารพื้นบาน ก็ มีแกงบอนอําเภอบางปะอิน ซึ่งเดี๋ยวนี้เราลืม ไปแลว แกงบอนจะอรอยมากเหมือนแกงสม แกงขีเ้ หล็กอําเภออุทยั แกงสมอําเภอนครหลวง ก็จะมีแกงตางๆ แลวก็จะมีพวกขนม อยาง ขนมกงจากผั ก ไห ขนมกระยาสารทจาก นครหลวง และก็กจิ กรรมตางๆ ทีเ่ ราพยายาม สืบเสาะหาคนนํามาลงทะเบียนไว แลวพยายาม รณรงคใหเขาทําตอ แลวก็สนับสนุนเขา
รอยแรงรวมใจ รักษาไวซึ่งวัฒนธรรม ทางจังหวัดก็ชว ยมากเลย เขามีวฒ ั นธรรม จังหวัด มีวฒ ั นธรรมอําเภออีก 16 อําเภอ และ มีวฒ ั นธรรมตําบลอีก 219 ตําบล ถาจําไมผดิ มีเยอะมาก นักวิชาการเหลานั้นจะชวยกัน สืบคนวัฒนธรรม นอกจากทีเ่ ห็นประจักษ เชน ทําพัด ทํางอบ ทํามีด ก็ตอ งสืบคนของโบราณ ของโบราณสืบคนอะไรบาง เชน มีไหมเพลง เหเรือครัง้ โบราณ ซึง่ เมือ่ ครัง้ ทีใ่ นหลวงเสด็จฯ ที่ ทุ ง มะขามหย อ ง ก็ มี เ พลงเห เ รื อ โบราณ เพลงกลอมลูกมีไหม ลําตัดสมัยโบราณมี ไหม ลิเกของเราก็มีเปนลิเกที่มีชื่อเสียงมาก นอกจากนั้นก็มีพิธีทําขวัญขาว ซึ่งเดี๋ยวนี้ ไมมีแลว เราก็พยายามรื้อฟนพิธีทําขวัญ ขาว หลังจากที่เราลองทําแยกหนาที่จาก วัฒนธรรมจังหวัด ไปสูอ าํ เภอ ไปสูต าํ บล ไปสูหมูบาน จึงทําใหวัฒนธรรมของเรา ไมสูญหาย แลวก็เพิ่มพูนหรือคงไวซึ่ง วัฒนธรรมที่ดีงามของเราไวไดคะ และงานอีกสวนที่เราพยายามติดตาม คือ เรื่องคนที่สูงอายุตั้งแต 90 ขึ้นไปมีกี่คน แลวทานสามารถเลาอะไรใหเราฟงไดไหม เราก็จะบันทึกเปนประวัตศิ าสตร ทานอาจจะ หลงลืมบาง แตก็ยังดีกวาที่ไมรูอะไรเลย อัน นีก้ ไ็ ปทํามา แลวปรากฏวาคนอยุธยามีตงั้ แต อายุ 90-100 ปคนสุดทาย 104 ป มีมากกวา 10 คน บางทานก็เลาวาสมัยกอนนั้นมีพิธี หัวลานชนกันอะไรแบบนี้ เปนเรือ่ งทีส่ นุกสนาน เมื่อกอนนั้นทําอะไรกิน ก็มาเลาใหฟง เราก็ พยายามเก็บขอมูลจากผูสูงอายุนี้ไว
อี ก จุ ด หนึ่ ง ที่ ดี คื อ ท า นผู ว า ราชการ จังหวัด (นายวิทยา ผิวผอง) ตองการให วัฒนธรรมของเราเปนตัวนําในการประกอบ พิธีตางๆ เชน พิธีมงคลสมรส พิธีศพ ทํา อยางไรถึงจะถูกตอง วิธีการกราบไหว การ จุดธูปบูชา การทําขวัญนาค หรืออะไรตางๆ ทําใหมันถูกตองตามวัฒนธรรมดั้งเดิม ก็เลย ขอใหทางวัฒนธรรมของเราจัดการอบรมที่ เรียกวา “พิธีกรนอย” เปนการอบรมเด็กตาม โรงเรียนตางๆ ขณะเดียวกันก็ใหตวั วัฒนธรรม ทีเ่ ปนรองประธานก็ดี หรือวาประธานก็ดี เปน คนไปบรรยายประกอบ ฉะนั้นระยะหลังๆ การทําพิธีตางๆ จึงดูดีขึ้น เมื่อกอนที่เรายัง ไมไดทําบางครั้งก็ทํากันไมคอยถูกตองตาม แบบแผนนัก อันนีเ้ ปนนโยบายของทานผูว า ฯ ในการที่อนุรักษฟนฟูการประกอบพิธีกรรม ตางๆ ใหเปนไปตามแบบโบราณ ฟน วัฒนธรรมไทยใหเขมแข็ง กอนกาวไกล สูอาเซียน เมื่อไมนานมานี้ ทานนายกอบจ. และ ท า นวั ฒ นธรรมจั ง หวั ด ได จั ด อบรมเรื่ อ ง “วัฒนธรรมไทยกาวไปสูอาเซียน” ดิฉันก็
ไปเปนวิทยากรบรรยาย เรารูวาอาเซียนมีถึง 10 ประเทศ เราก็มามองดูประเทศตางๆ วา แตละประเทศที่เขายังคงรักษาวัฒนธรรม ของเขาไวได เชน ประเทศลาวถาจะไปติดตอ กับราชการตองนุง ผาซิน่ ซึง่ เราก็ยงั ไมเขมงวด ขนาดนั้น ทีนี้เราก็เลยคิดวาปนี้ป 57 เหลือ อีกไมกเี่ ดือนจะถึงป 58 เราตองรีบรณรงควา ทําอยางไร เด็กของเราจะเขาใจวาวัฒนธรรม ไทยเปนเรื่องสําคัญ แมแตภาษาพูด ภาษา พูดก็เปนวัฒนธรรมไทย กิริยามารยาท การ ไหว การเคารพผูใหญก็เปนวัฒนธรรมไทย ดิฉนั เลาใหเขาฟงวา...รูไ หมวาตางชาติ เห็นเราไหว เห็นเรายิม้ เขารูเ ลยวาเราเปนคน ไทย เพราะคนไทยจะไหวไมเหมือนใคร ยิ้ม ไมเหมือนใคร เพราะฉะนั้นเราตองรักษาไว เราก็จะฝกเด็กทั้งเรื่องการแตงกาย การไหว การยิม้ การพูด รวมทัง้ การรับประทานอาหาร ให รู จั ก การรั บ ประทานอาหารไทยๆ บ า ง เหมือนกับตางชาติ เชน ประเทศอินโดนีเชีย หรือมาเลเซียเขาทานอาหารของเขา แตของ เราควรจะมีอะไรบงบอกวาเปนคนไทยบาง เด็กในปจจุบันทานนํ้าพริกเปนไหม...อะไร แบบนี้ เราก็จะไปฝกเขา เพราะนี่เปนเรื่อง ใหญที่เราจะตองคิดทําภายใน 5- 6 -7 เดือน นี้ เราก็กาํ ลังหางบประมาณอยูเ พราะตองไป รณรงคตามโรงเรียน ไปตามหมูบาน เพื่อจะ รักษาเอกลักษณไทยของเราไว เพราะอีกไม กี่วันก็จะมีคนตางแดนตั้ง 9 ประเทศ เดินเขา มาอยูใ นประเทศไทย ถาเราไมเขมแข็งพอเรา ก็อาจจะตามเขาไปโดยไมรูตัว
ร ว มรั ก ษาวั ฒ นธรรม-ประเพณี ที่ ดี ง าม ของอยุธยา ในฐานะที่ ดิ ฉั น ก็ เ ป น คนอยุ ธ ยา นะคะ ดิฉันคิดวาอยุธยานี่เปนเมืองที่ ดี ที่ สุ ด ในโลกเพราะถาพูดถึงวัตถุโบราณ ดิฉันไปหลายประเทศมาก อิตาลี อียิปต ไป มาหมดแลว ไมมีสวนไหนเลยที่จะเหมือน ประเทศไทย เพราะว า ประเทศไทยเรามี โบราณสถาน มี โ บราณวั ต ถุ ม ากมายโดย เฉพาะในอยุธยามองทางไหนก็จะมีโบราณ วัตถุ และยิ่งกลางคืนก็ยิ่งสวย แสง สี เสียง สวยมาก ฉะนั้นดิฉันอยากจะใหชาวอยุธยา ชวยกันรักษาไวซงึ่ สิง่ เหลานี้ โดยเฉพาะอยาง ยิง่ ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ประเพณีของอ ยุยาที่เราเปนเมืองราชธานีเกา และเปนนคร แหงประวัติศาสตร อยากจะใหรักษาไว โดย เฉพาะวัฒนธรรมของเราทัง้ ดานการพูด ดาน อาหาร ดานการแตงกาย ความเปนมิตรไมตรี กับชาวตางชาติ การสวัสดีดวยการยิ้มแยม แจมใส ดิฉนั หวังเปนอยางยิง่ วาคนอยุธยา ซึง่ เปนคนในเมืองหลวงเกา 417 ป จะรักษาไว ซึ่งวัฒนธรรมไทยเพื่อใหเปนตัวอยางที่ดีของ คนทั่วประเทศคะ
Ayutthaya 77
เส้นทางพบส�านักงานเขตพื้นที่การศึกษา
สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา พระนครศรีอยุธยา เขต 1
(Phranakhon Si Ayutthaya Primary Education Service Area Office 1)
ส�านักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาประถม ศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 มีโรงเรียน ในสังกัดทั้งภาครัฐและเอกชน จ�านวน 210 โรงเรียน มีนักเรียน จ�านวน 56,947 คน ผู้บริหาร-ครู และบุคลากร จ�านวน 2,850 คน มีเขตพื้นที่รับผิดชอบใน 9 อ�าเภอ ได้แก่ อ� า เภอพระนครศรี อ ยุ ธ ยา อ� า เภอท่ า เรื อ อ�าเภอนครหลวง อ�าเภอบางปะหัน อ�าเภอ บ้ า นแพรก อ� า เภอภาชี อ� า เภอมหาราช อ� า เภอวั ง น้ อ ย และอ� า เภออุ ทั ย ปั จ จุ บั น มี นายภิ ร มย์ นั น ทวงค์ ด�ารงต�าแหน่ง ผู ้ อ� า นวยการส� า นั ก งานเขตพื้ น ที่ ก าร ศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเปาประสงค์ วิ สั ย ทั ศ น์ ส� า นั ก งานเขตพื้ น ที่ ก าร ศึ ก ษาประถมศึ ก ษาพระนครศรี อ ยุ ธ ยา เขต 1 เป็ น องค์ ก รหลั ก ในการส่ ง เสริ ม สนับสนุน การจัดการศึกษาขัน้ พืน้ ฐานอย่าง ทั่วถึง มีคุณภาพได้มาตรฐาน 78
พั น ธกิ จ ส่ ง เสริ ม สนั บ สนุ น และ พัฒนาการจัดการศึกษา ให้ประชากรวัย เรียนทุกคนได้รับการศึกษาอย่างมีคุณภาพ เน้ น พั ฒ นาผู ้ เ รี ย นให้ มี ค วามรู ้ คุ ณ ธรรม จริยธรรม และความสามารถตามมาตรฐาน การศึกษาขั้นพื้นฐาน เปาประสงค์ 1. ผู้เรียนทุกคนมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2. ประชากรวัยเรียนทุกคนได้รบั โอกาส ในการศึ กษาภาคบั ง คั บ อย่า งมีคุณภาพ ทั่วถึง และเสมอภาค 3. ครูและบุคลากรทางการศึกษาสามารถ ปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ 4. ส�านักงานเขตพื้นที่การศึกษาและ สถานศึกษามีความเข้มแข็ง สามารถบริหาร จัดการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล และ
ขับเคลื่อนการศึกษาภาคบังคับ สู่คุณภาพ ระดับมาตรฐานสากล หลักการบริหารงานตามนโยบาย “โรงเรียนดีทุกอย่าง” ส�านักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาประถม ศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 เป็น หน่วยงานที่สนับสนุน ส่งเสริมการศึกษา โดยมุ ่ ง นั ก เรี ย นเป็ น ส� า คั ญ จากแนวคิ ด ดังกล่าว จึงได้ก�าหนดนโยบาย “โรงเรียนดี ทุกอย่าง” ซึ่งได้แก่ 1. นักเรียนดี – นิสัยดี ความรู้ดี ความ สามารถดี สุขภาพดี และบุคลิกภาพดี 2. ครู-บุคลากรดี – ความรู้ดี สอนดี บุ ค ลิ ก ภาพดี ประพฤติ ดี และมี เ มตตา ต่อศิษย์ 3. ผูบ้ ริหารดี – ความรูด้ ี ความสามารถ ดี มีคณ ุ ธรรมดี บุคลิกภาพดี เป็นผูน้ า� ทางการ เปลี่ยนแปลง 4. การเรียนการสอนดี – ยึดมาตรฐาน และตัวบ่งชี้ตามหลักสูตร เน้นผู้เรียนเป็น ส�าคัญ เน้นกระบวนการคิด (คิด ท�า น�าเสนอ) ผู้เรียนปฏิบัติจริง เรียนรู้อย่างมีความสุข 5. การบริหารดี – โปร่งใสและเป็นธรรม ความรับผิดชอบต่อผลส�าเร็จของงาน การ มีส่วนร่วมของทุกฝ่ายเน้นประโยชน์สูงสุด แก่ผู้เรียน 6. อาคารสถานที่ดี – สะอาด ร่มรื่น สวยงาม เอื้อต่อการเรียนรู้ ส้วมสุขสันต์ 7. สื่ออุปกรณ์ดี – เพียงพอ พร้อมใช้ ทันสมัย ใช้จริง แนวทางสู่โรงเรียน 7 ดี ทิศทางการท�างานให้ได้ผลดีดังว่าทั้ง 7 อย่ า ง ซึ่ ง เป็ น งานที่ เ ราท� า กั น อยู ่ แ ล้ ว ดูเหมือนง่าย แต่เวลาท�าอาจยากในบางแง่ บางมุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของผล ที่เกิดกับนักเรียน ซึ่งนักเรียนจะดีได้ ก็ต้อง พัฒนาผ่านกระบวนการที่ดี ทั้งระบบบริหาร จัดการและการเรียนการสอน โดยมีปัจจัย สนับสนุนพร้อมพรั่ง ปัจจัยส�าคัญยิ่งไม่ใช่ ใครที่ไหนคือพวกเราที่เอาใจใส่นั่นเอง
การวัดผล และประเมินผลปฏิบัติงานตาม โครงการ/กิจกรรมต่างๆ ในรอบปีการศึกษา ให้เสร็จสิ้น และเตรียมวางแผนใหม่เพื่อปี การศึกษาต่อไป
การสร้างเสริมประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และคุณภาพของการศึกษา การพัฒนาเด็ก ให้มศี กั ยภาพทีจ่ ะเรียนรูไ้ ด้ดว้ ยตนเอง ครูจะ ต้องเป็นผู้สนับสนุนส่งเสริม บทบาทของครู ในการสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกศิษย์ สร้าง โอกาสให้กับลูกศิษย์ ให้นักเรียนมีทักษะ ในการคิด มีนิสัยใฝ่รู้ใฝ่เรียน เร่งปฏิรูปการ เรียนรู้ทั้งระบบให้สัมพันธ์เชื่อมโยงกันโดย มุง่ ทีค่ ณ ุ ภาพผูเ้ รียน และผลสัมฤทธิ์ บุคลากร ทุกคนมีหน้าที่ ท�าตามหน้าที่ ความคิดดีส่ง ผลต่อการปฏิบัติงาน ครูท�าการสอนให้ครบ มั่นใจว่านักเรียนก็จะได้รับประโยชน์และมี คุณภาพครบสมบูรณ์ตามหลักสูตร รวมถึง
สพป.อย.เขต 1 เตรียมพร้อมสู่ AEC ส�านักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาประถม ศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 มีแผนการ เตรียมความพร้อมให้กับโรงเรียนในสังกัด ก่อนเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ใน ปี 2558 ดังนี้ 1. การพั ฒ นาการเรี ย นรู ้ ภ าษา อังกฤษ แบบ EBE (English Bilingual Education) ปีการศึกษา 2557 (สังคมศึกษา วิทยาศาสตร์ ศิลปะ) โดยจะขยายให้เต็ม พื้ น ที่ ส� า หรั บ โรงเรี ย นขนาดเล็ ก ให้ มี 1 ห้ องเรี ยนในระดั บชั้ น ประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนขนาดกลางขึ้นไป ระดับชั้นประถม ศึกษาปีที่ 1 และระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4 2. การพัฒนาครูภาษาอังกฤษเพื่อ การสื่อสาร แบบ CLT (Communicative Language) เป็นการเตรียมครูสอนภาษา อังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนละ 1 คน 3. การพัฒนาครูภาษาอังกฤษให้มี ทักษะตามกรอบมาตรฐานสากล CEFR (The Common Europran Framework of Referrence for Language) ส�าหรับครู ผู้สอนในโรงเรียนขยายโอกาสระดับมัธยมศึกษา 4. การพัฒนาการเรียนรูภ้ าษาอังกฤษ แบบ CLE (Concentrated Language Encountered) โดยให้โรงเรียนเตรียมครูชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 อบรม เน้นการสอนภาษา เพื่อการสื่อสารตามธรรมชาติ 5. จั ด ตั้ ง ศู น ย์ PEER (Primary Education English Resoure Center ) เพื่อ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลงานหรือวิธีปฏิบัติ ที่ เ ป็ น เลิ ศ ภาษาอั ง กฤษส� า หรั บ ผู ้ บ ริ ห าร สถานศึกษา ครูและนักเรียน 6. การวางแผนพั ฒ นาตนเอง ID Plan (Individual Development Plan) Ayutthaya 79
การใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยมี วัตถุประสงค์พฒ ั นาคนให้มคี วามสามารถใน การใช้ภาษาอังกฤษเพือ่ การสือ่ สารดีขนึ้ กว่า เดิม เปาหมายคือข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึ ก ษาทุ ก คนทั้ ง ในส� า นั ก งานเขต พื้นที่การศึกษาและโรงเรียน(ยกเว้นนักการ/ ภารโรง)ส�าหรับครู ผู้บริหาร บุคลากรใน ส�านักงาน 7. การสอนแบบ MEP (Mini Emglish Program) ด้วยภาษาอังกฤษในทุก วิชายกเว้นภาษาไทย และสังคมศึกษา ที่ โรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา อ�าเภอ พระนครศรีอยุธยา 8. จัดตั้งศูนย์อาเซียนศึกษา ระดับ อ� า เภอ ได้แก่ โรงเรียนวัดใหญ่ชัยมงคล (ภาวนารั ง สี ) อ� า เภอพระนครศรี อ ยุ ธ ยา โรงเรี ย นประชาผดุ ง วิ ท ย์ อ� า เภอท่ า เรื อ โรงเรียนนครหลวง(พิบูล ย์ประเสริฐวิทย์) อ�าเภอนครหลวง โรงเรียนชุมชนวัดระโสม อ�าเภอภาชี โรงเรียนชุมชนวัดสุเมธ อ�าเภอ มหาราช โรงเรียนโพธิ์ราษฎร์บ�ารุง อ�าเภอ บ้านแพรก โรงเรียนวังน้อยวิทยาภูมิ อ�าเภอ วังน้อย และโรงเรียนเชาวน์วัศ อ�าเภออุทัย 9. ให้ความรู้แก่นักเรียน เกี่ยวกับ ความร่วมมือของประชาคมอาเซียน ซึ่ง ประกอบด้วย 3เสาหลัก ได้แก่ ความร่วม มือในด้านการเมือง และความมั่นคง ด้าน เศรษฐกิจ ด้านสังคมและวัฒนธรรม โรงเรียน Wold Class มาตรฐานสากล ส�านักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาประถม ศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 มีโรงเรียน มาตรฐานสากล (World-class Standard School) เป็ น โรงเรี ย นที่ จั ด ขึ้ น โดยมี วั ต ถุ ป ระสงค์ ใ นการพั ฒ นาผู ้ เ รี ย นให้ มี ศั ก ยภาพเป็ น พลโลก (World Citizen) ยกระดั บ การจั ด เรี ย นการสอนเที ย บเคี ย ง มาตรฐานสากล (World Class Standard) และยกระดับการบริหารจัดการด้วยระบบ คุณภาพ ( Qulity System Management) ในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาที่เทียบ เคียงกับหลักสูตรมาตรฐานสากล โดยน�า 80
โรงเรี ย นโดยพั ฒ นาบุ ค ลากรหลั ก ของ โรงเรี ย นมาตรฐานสากลเกี่ ย วกั บ การจั ด ท� า แผนกลยุ ท ธ์ ส� า หรั บ ผู ้ เ รี ย นจะต้ อ งมี คุ ณ ลั ก ษณะที่ มี ค วามเป็ น เลิ ศ วิ ช าการ สื่อสารได้อย่างน้อย 2 ภาษา ล�้าหน้าทาง ความคิ ด ผลิ ต งานอย่ า งสร้ า งสรรค์ ซึ่ ง ส�านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พระนครศรีอยุธยา เขต 1 มีโรงเรียนระดับ Wold Class จ� า นวน 3 โรงเรียน ได้แ ก่ โรงเรี ย นอนุ บ าลพระนครศรี อ ยุ ธ ยา และ โรงเรี ย นวั ด นาค จั ด การศึ ก ษาในระดั บ ชั้ น ประถมศึ ก ษาปี ที่ 6 โรงเรี ย นประตู ชั ย จั ด การศึ ก ษาในระดั บ ชั้ น ประถม ศึ ก ษาปี ที่ 6 และชั้ น มั ธ ยมศึ ก ษาปี ที่ 3
จุดเด่นจากหลักสูตรต่างๆ เช่น หลักสูตร English Program (EP) หลักสูตรความเป็น เลิศเฉพาะทาง (วิทย์-คณิต ภาษา อาชีพ ดนตรี กีฬา)โดยทุกหลักสูตรปรับเนื้อหาวิชา พื้นฐานต่างๆ ให้มีความเข้มข้นเทียบเคียง กับมาตรฐานสากล และจัดให้มกี จิ กรรมการ เรียนการสอน กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน รายวิชา เพิ่มเติม 3 วิชา ได้แก่ ทฤษฎีองค์ความ รู้ (Theory of Knowledge) การเขียนเรียง ความขั้นสูง (Extended Essay) และการ สร้างโครงงาน ( Create Project Work) การ พัฒนาการเรียนสาระการเรียนวิทยาศาสตร์ คณิ ต ศาสตร์ โดยใช้ ภ าษาอั ง กฤษ การ พัฒนาครูผู้สอนในสาระการเรียนรู้ภาษา ต่างประเทศที่ 2 (ภาษาจีน ภาษาฝรั่งเศส ภาษาญี่ ปุ ่ น และอื่ น ๆ) สาระการเรี ย นรู ้ คณิ ต ศาสตร์ วิ ท ยาศาสตร์ เ พื่ อ ใช้ ภ าษา อั ง กฤษในการจั ด การเรี ย นการสอน การ พัฒนาผู้บริหารโรงเรียนในการใช้ IT และ การใช้ภาษาอังกฤษ พัฒนาระบบบริหาร
โครงการช่วยเหลือนักเรียนให้มีคุณภาพ ชีวิตที่ดีขึ้น 1. โครงการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือ นั ก เรี ย นยากจนขาดแคลน ส� า นั ก งาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อน�า ดอกผลไปช่วยเหลือนักเรียนในเรื่องทุนการ ศึกษา การประสบอุบัติภัยต่างๆ เป็นรางวัล การกระท�าความดีและการบรรเทาทุกข์ที่ เกิดจากการขัดสน ยากจน ขาดแคลน โดย ปัจจุบันมียอดกองทุนดังนี้ 1.1 กองทุ น เมตตาเยาวชน จ� า นวน 5,307,617.77 บาท 1.2 กองทุนหลวงพ่อรวย ปาสาทิโก จ�านวน 1,000,000 บาท 2. โครงการจิ ต อาสาพั ฒ นาที่ อ ยู ่ อาศัยนักเรียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วย เหลื อ นั ก เรี ย นที่ ป ระสบปั ญ หาที่ อ ยู ่ อ าศั ย ช�ารุดทรุดโทรมให้มีที่พักอาศัยให้มีสภาพ แข็งแรง ปลอดภัย โดยมีเปาหมายในการ สร้างบ้านให้นกั เรียนยากจนให้กลุม่ โรงเรียน ละ 1 หลัง จ�านวน 23 หลังๆ ละ 100,000150,000 บาท ซึ่งขณะนี้ด�าเนินการไปแล้ว จ�านวน 21 หลัง 3. การดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้ พ้ น ภั ย ยาเสพติ ด จากสภาพสั ง คมที่ เปลี่ ย นแปลงไปอย่ า งรวดเร็ ว ของจั ง หวั ด
พระนครศรี อ ยุ ธ ยา ท� า ให้ เ กิ ด ปั ญ หายา เสพติดในหมู่เยาวชนที่เข้ามาเกี่ยวข้องใน ด้ า นการด� า รงชี วิ ต และระบบการศึ ก ษา ส�านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พระนครศรีอยุธยา เขต 1 ได้ตระหนังถึงภัย ดังกล่าว จึงได้ด�าเนินการจัดระบบการดูแล ช่วยเหลือนักเรียนให้พน้ ภัยยาเสพติด โดยเร่ง ส่งเสริมทักษะชีวิตให้แก่นักเรียน พัฒนาวิธี การเรียนรูจ้ ากนักเรียนเป็นรายบุคคล ส�ารวจ จัดท�าข้อมูลเพื่อคัดกรองพฤติกรรมนักเรียน ทีถ่ กู ต้อง เป็นปัจจุบนั และน�าไปสูก่ ารด�าเนิน การที่มีประสิทธิภาพ บูรณาการการด�าเนิน งานเพื่ อ ป อ งกั น แก้ ไ ขปั ญ หายาเสพติ ด กั บ หน่ ว ยงานที่ เ กี่ ย วข้ อ งอย่ า งเป็ น ระบบ จัดกิจกรรม “จิตสังคมบ�าบัด” เพื่อปองกัน การแพร่ระบาดของยาเสพติดเข้าสู่สถาน ศึกษา และพัฒนาบริการแนะแนว โดยจัด กิจกรรมพัฒนานักเรียนเพื่อนที่ปรึกษาด้วย อีกวิธหี นึง่ ซึง่ จากการด�าเนินการดังกล่าวท�าให้ ทุกภาคส่วนในสังคมมีทัศนคติ และความ เชื่อที่ถูกต้องตรงกันว่า “เด็กไม่ใช่ปัญหา ของสังคม” แต่ปัญหาสังคมส่งผลกระทบ ต่ อ พฤติ ก รรมเด็ ก ซึ่ ง พฤติ ก รรมของเด็ ก สามารถเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้ ผลการด�าเนินงานที่โดดเด่นของ สพป. อย.เขต 1 1. เร่งปฏิรูปการเรียนรู้ทั้งระบบให้ สั ม พั น ธ์ เ ชื่ อ มโยงกั น โดยมุ ่ ง คุ ณ ภาพ ผู้เรียน และผลสัมฤทธิ์ผู้เรียน การปฏิรูป การเรียนการสอนยุคใหม่ การพัฒนาระบบ การสอน การวัดผล การประเมินผลให้ได้ มาตรฐาน และเชื่อมโยงกับหลักสูตร การ เรี ย นการสอน การพั ฒ นาผู ้ เ รี ย น ค� า ว่ า “ปฏิรปู การเรียนรู”้ ทีว่ า่ มีพลังมากมาย เพราะ เป็นตัวต้นเหตุที่ท�าให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทัง้ หัว ทัง้ ตัว และจิตใจของผูเ้ รียนให้มคี ณ ุ ภาพ ดี ขึ้ น เราต้ อ งการเด็ ก ที่ มี ทั ก ษะในการ
ท�างาน รู้จักคิด รู้จักแก้ปัญหา มีการท�างาน ร่วมกัน ใช้สื่อและการสื่อสารที่ท�าให้เกิด ความรวดเร็วฉับไว ในระหว่างที่ลงมือท�าครู จะเติมอะไรลงไปก็สุดแต่ใจปรารถนา ตรง นี้เป็นสิ่งส�าคัญที่ให้พวกเราช่วยกันท�าให้ ส�าเร็จ มันเป็นคุณภาพแท้ๆ ของเด็กเลยที เดียว ผลจากการปฏิรูปการเรียนรู้จึงเกิด ความส�าเร็จของการจัดการศึกษา ท�าให้ได้ รับรางวัลต่างๆ จากการท�ากิจกรรมในงาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติที่ผ่านมา 2. โครงการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือ นักเรียนยากจนขาดแคลน ส�านักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ น�าดอกผลไปช่วยเหลือนักเรียนในเรื่องทุน การศึกษา การประสบอุบัติภัยต่าง ๆ 3. โครงการจิ ต อาสาพั ฒ นาที่ อ ยู ่ อาศั ย นั ก เรี ย น โดยมี วั ต ถุ ป ระสงค์ เ พื่ อ ช่วยเหลือนักเรียนทีป่ ระสบปัญหาทีอ่ ยูอ่ าศัย ช�ารุดทรุดโทรมให้มีที่พักอาศัยให้มีสภาพ แข็งแรง ปลอดภัย
คิ ด วิ เ คราะห์ การแก้ ป ั ญ หา การใช้ ICT การสื่ อ สาร การมี จิ ต สาธารณะ มี ส� า นึ ก ต่ อ ส่ ว นรวม นั่ น คื อ ความสามารถในการ ท�างานมากกว่ามีความสามารถในการจดจ�า เนื้ อ หา วิ ธี ก ารในการสอนเด็ ก จึ ง จ� า เป็ น ต้องปรับให้สอดคล้องกับสิ่งที่ต้องการโดย การให้เด็กลงมือท�าจริงๆ ก้าวข้ามการมีเพียง ความรู้ไปสู่การคิดให้ได้ เพราะการลงมือ ท�าจริงๆ จะท�าให้เด็กรู้จักวางแผนในการ
ศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 ถนนอยุธยา-อ่างทอง ต�าบลลุมพลี อ�าเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์ ๐-๓๕๒๖-๘๕๔๑-๒ โทรสาร ๐-๓๕๗๐-๔๘๐๒ http://www.aya 1.go.th
ทิศทางการพัฒนาของ สพป.อย.เขต 1 การยกระดับคุณภาพนักเรียน เพื่อให้ นักเรียนมีจิตส�านึกในความเป็นไทย มีจิต สาธารณะอยู่อย่างพอเพียงพร้อมสู่ AEC มีภูมิ คุ ้ม กันการเปลี่ ยนแปลงในสัง คมพหุ วัฒนธรรม ให้นักเรียนสามารถวิเคราะห์แก้ ปัญหาและเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์มีทักษะจ�าเป็น ในศตวรรษที่ 21 PISA ในปี 2558 มีอันดับ สูงขึ้น ผลสัมฤทธิ์กลุ่มสาระหลักเพิ่มขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์ ของฐานเดิม โดยมีแนวปฏิบัติ ในการท�ากิจกรรมหน้าเสาธงครบถ้วนให้ นักเรียนรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ส�านึกบุญคุณผู้ท�าประโยชน์
หลักสูตรดี ครูดี เด็กดีแน่ หลักสูตรแย่ ครูดี ยังพอไหว หากเด็กแย่ ครูดี มีทางไป หากครูแย่ แก้อะไร ไม่ได้เลย ส�านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม Ayutthaya 81
เส้นทางพบส�านักงานเขตพื้นที่การศึกษา
นายดําหริ งิมสันเทียะ ผอ.สพป.อย.เขต
สพป.อย.2 กับการพัฒนา ความเปนอยุธยาของนักเรียน ส� า นั ก งานเขตพื้ น ที่ ก ารศึ ก ษา ประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 2 เป็นหน่วยงาน ทางการศึกษา ท�าหน้าทีส่ ง่ เสริมการจัดการศึกษขั้นพื้นฐาน ในพื้นที่ ของอ�าเภอบางปะอิน บางบาล บางไทร บางซ้าย ผักไห่ ลาดบัวหลวง และอ�าเภอ เสนา ของจั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยา โดยมีที่ตั้งอยู่ที่อ�าเภอเสนา ซึ่งมี นาย ด� า หริ งิ ม สั น เที ย ะ เป็ น ผู ้ อ� า นวย การส�านักงานเขตพื้นที่การศึกษา ได้ ให้ ค วามส� า คั ญ ในการพั ฒ นาคุ ณ ภาพ ของนักเรียน โดยเฉพาะเรื่องของความ ภาคภู มิ ใ จในตนเอง ความมี ส� า นึ ก รั ก บ้านเกิด มีอัตลักษณ์ที่ส�าคัญ จึงได้ส่ง เสริมและพัฒนาคุณลักษณะความเป็น 82
จุ ด เน้ น นั ก เรี ย นทุ ก คนมี ค วาม ส�านึกในความเป็นไทย และมีคณ ุ ลักษณะ ความเป็นอยุธยา การจัดท�ากรอบหลักสูตรระดับท้องถิน่ 1. การก� า หนดเป้ า หมายและ จุดเน้นในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ให้ สอดคล้องกับ ความต้องการในระดับชาติ และระดับท้องถิ่น 2. การจัดท� าสาระการเรียนรู้ท้อง ถิ่น โดยเน้นกรอบสาระการเรียนรู้เกี่ยว กับจังหวัดให้สถานศึกษาน�าไปใช้ โดย บูรณาการในกลุม่ สาระการเรียนรู้ หรือจัด ท�ารายวิชาเพิม่ เติม หรือจัดท�าในกิจกรรม พัฒนาผู้เรียนตามที่เห็นเหมาะสม เพื่อ พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะโดดเด่น คือ “ความเป็นอยุธยา” ตามค�าขวัญ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้แก่ ราชธานี เก่า อู่ข้าวอู่น�้า เลิศล�้ากานท์กวี และ คนดีศรีอยุธยา อยุธยาของนักเรียน ทั้งนี้ได้จัดท�าเป็นงานวิจัยเรื่องการบริหาร จัดการเรียนรูส้ คู่ วามเป็นอยุธยาของนักเรียนประถมศึกษา โรงเรียนสังกัดส�านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พระนครศรีอยุธยา เขต 2 ซึ่งเป็นผลงานที่เรามีความภาค ภูมิใจที่จะน�าสาระส�าคัญ ให้ท่านได้รับทราบ ดังนี้ จัดท�ากรอบหลักสูตรระดับทองถิ่นซึ่งได้ก�าหนดนโยบาย วิสัยทัศน์ พันธกิจ และจุดเน้น ดังนี้ นโยบาย ส่งเสริมสนับสนุนให้นกั เรียนมีคณ ุ ธรรม จริยธรรม คุณลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ตามหลักสูตร และมีคณ ุ ลักษณะความ เป็นอยุธยา วิสัยทัศน์ ส�านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พระนครศรีอยุธยา เขต 2 เป็นองค์การคุณภาพที่มุ่งส่งเสริม และบริการการจัดการศึกษาให้ทวั่ ถึง เสมอภาค มีคณ ุ ธรรม และ คุณภาพ เน้นความเป็นอยุธยา ก้าวสู่สากล พันธกิจ พัฒนาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อพัฒนา ผู้เรียนให้มีคุณลักษณะความเป็นอยุธยา Ayutthaya 83
ราชธานีเก่า หมายถึง การพัฒนา จากแบบทดสอบ แบบสังเกตพฤติกรรม ความรู้ ความเข้าใจ และความภูมิใจของ และแบบสอบถาม เลิ ศ ล�้ า กานท์ ก วี หมายถึ ง การ นั ก เรี ย นเกี่ ย วกั บ ประวั ติ ค วามเป็ น มา ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ราชวงศ์ พัฒนาความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และ กษัตริยข์ องกรุงศรีอยุธยา ความรูเ้ กีย่ วกับ โบราณสถาน โบราณวัตถุที่ส�าคัญสมัย อยุธยา รวมทัง้ ประวัตศิ าสตร์สมัยอยุธยา ทีเ่ กีย่ วข้องในท้องถิน่ ทีต่ นอาศัยอยู่ ซึง่ วัด ได้จากแบบทดสอบและแบบสอบถาม อู ่ ข ้ า วอู ่ น�้ า หมายถึง การพัฒนา ความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และความ ภู มิ ใ จของนั ก เรี ย น ที่ เ กี่ ย วกั บ อาชี พ และภู มิ ป ญ ญาท้ อ งถิ่ น ประกอบด้ ว ย เกษตรกรรม การท�าหัตถกรรม การท�า อาหารคาว-หวานทีม่ กี ารประดิษฐ์ อาหาร ที่มีเครื่องเคียง รวมทั้งสินค้าที่มีชื่อเสียง ของจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ซึ่งวัดได้ 84
ความภู มิ ใ จของนั ก เรี ย น ในด้ า นการ แต่งค�าประพันธ์ ที่ได้ศึกษาเรียนรู้จาก วรรณคดีทมี่ คี ณ ุ ค่าในสมัยอยุธยา รวมทัง้ บทร้องในการละเล่นของเด็กไทย บทร้อง
บทประพั น ธ์ ส� า นวนโวหารในท้ อ งถิ่ น อยุธยา ที่แสดงอารมณ์ในด้านต่างๆ ซึ่ง วัดได้จากแบบทดสอบและแบบสอบถาม คนดี ศ รี อ ยุ ธ ยา หมายถึ ง การ พั ฒ นาความรู ้ ความเข้ า ใจ และการ ประพฤติปฏิบตั ติ นของนักเรียน ตามแบบ อย่างคุณธรรมของคนดีศรีอยุธยา รวม ทั้งการประพฤติปฏิบัติตนของนักเรียน ตามคนดี ข องอยุ ธ ยาสมั ย ป จ จุ บั น ใน ด้านความกตัญูกตเวที ความซื่อสัตย์ สุ จ ริ ต ความกล้ า หาญ ความเสี ย สละ ความอดทน อดกลัน้ พึง่ ตนเอง ความขยัน หมั่นเพียร จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหา กษัตริย์ ซึ่งวัดได้จากแบบทดสอบและ แบบสังเกตพฤติกรรม ก� า หนดกรอบแนวคิ ด ในการพั ฒ นา ความเป็นอยุธยาของนักเรียน เริ่ ม จากการศึ ก ษาสภาพป จ จุ บั น ป ญ หา ในการบริ ห ารจั ด การเรี ย นรู ้ สู ่ ความเป็ น อยุ ธ ยาของโรงเรี ย น ศึ ก ษา กระบวนการบริหารจัดการศึกษา ศึกษา จุ ด เด่ น จุ ด ด้ อ ย โอกาสและอุ ป สรรค ในการบริหารจัดการเรียนรู้สู่ความเป็น อยุธยาของโรงเรียนในสังกัด เพื่อน�ามา ก�าหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ กลยุทธ์ แผน งาน/โครงการ ในการบริหารจัดการเรียน
รูส้ คู่ วามเป็นอยุธยาของนักเรียน จั ด ท� า คู ่ มื อ การบริ ห าร จั ด การเรี ย นรู ้ แ ละคู ่ มื อ ครู การจั ด กิ จ กรรมการเรี ย นรู ้ สู ่ ความเป็นอยุธยาของนักเรียน ประกอบด้ ว ยคู ่ มื อ ครู ก ารจั ด กิจกรรมการเรียนรู้สู่ความเป็น อยุ ธ ยา ตามค� า ขวั ญ จั ง หวั ด พระนครศรีอยุธยา และเอกสาร ประกอบการจั ด กิ จ กรรมการ เรียนรู้ของนักเรียน ตั้งแต่ระดับ ชั้นประถมศึกษาปที่ 1-6 รวมทั้ง สิ้น 48 เล่ม ผลส� า เร็ จ ของการพั ฒ นา ความเป็นอยุธยา “อาสาสมั ค รน� า เที่ ย ว รุ ่ น เยาว์ เล่ า ประวั ติ ศ าสตร์ ” เพื่ อ ประชาสั ม พั น ธ์ พ ระนครศรี อ ยุ ธ ยา น่ า เที่ ย ว โดยนั ก เรี ย นมี ค วามรู ้ ความ เข้ า ใจประวั ติ ศ าสตร์ ข องจั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยา และสามารถเป็ น ยุวมัคคุเทศก์ น�าเที่ยวสถานที่ส�าคัญใน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การแสดงผลการด� า เนิ น งานการ บริหารจัดการเรียนรู้สู่ความเป็นอยุธยา ของศูนย์พัฒนาคุณภาพและมาตรฐาน
การศึกษาอ�าเภอ ซึง่ ตัง้ อยูใ่ นแต่ละอ�าเภอ รวม 7 ศูนย์ ประกอบด้วย ศูนย์พัฒนา คุณภาพและมาตรฐานการศึกษาอ�าเภอ บางปะอิน บางบาล บางไทร บางซ้าย ผักไห่ ลาดบัวหลวง และอ�าเภอเสนา ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนมีความ รู้ ความเข้าใจ ความพึงพอใจ และความ ภูมิใจในความเป็นอยุธยา ตามค�าขวัญ จั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยาอยู ่ ใ นระดั บ มากทุกด้าน Ayutthaya 85
เสนทางพบสถาบันการศึกษา
ตัง้ อยูเ ลขที่ 1 หมูท ี่ 3 ตําบลทาวาสุกรี อําเภอ พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป ด ทํ า การสอนตั้ ง แต ชั้ น อนุ บ าลป ที่ 1-ชั้ น ประถมศึกษาปที่ 6 ปจจุบันมีนักเรียน 1,904 คน ผู อํ า นวยการโรงเรี ย นคนป จ จุ บั น คื อ นายจําเนียร คุณเผือก วิสัยทัศน นักเรียนมีความพรอมทุกดานเต็มศักยภาพ มีคณ ุ ธรรมนําความรู สูค วามเปนเลิศทางวิชาการ สืบสานความเปนไทย ใสใจเศรษฐกิจพอเพียง ภายใตการมีสวนรวมของบุคลากร และชุมชน ที่เขมแข็ง
โรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา
นายจําเนียร คุณเผือก
นายอํานาจ เภทพอคา
นายธวิช สุดใจ
โครงการพิเศษที่ดําเนินการ คําขวัญ 1. โครงการจัดการเรียนการสอน “เรี ย นดี มี นํ้ า ใจ รู วิ นั ย พลานามั ย ตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการเปน สมบูรณ” ภาษาอังกฤษ (MEP) เพื่ อ ใช ภ าษาอั ง กฤษเป น สื่ อ ในการ ปรัชญาโรงเรียน พั ฒ นาศั ก ยภาพ ความรู ความสามารถ “เพียบพรอมคุณธรรม เลิศลํ้าวิชาการ และทักษะภาษาอังกฤษของผูเรียน ที่คํานึง สืบสานเอกลักษณไทย” ถึ ง ความสามารถพื้ น ฐานในการใช ภ าษา สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม คานิยมอันดี 86
นางกัญชรส เนตรนุช
งาม ตลอดจนการจัดการเรียนรู ตามบริบท ของความเปนไทยผสมผสานกับความเปน สากล โดยเปดสอนตั้งแตระดับชั้นประถม ศึกษาปที่ 1-6 ระดับ ชั้นละ 2 หองเรียน 2. โครงการความเปนเลิศสูอ จั ฉริยภาพ ทางวิทยาศาสตรและคณิตศาสตร เพื่อพัฒนาความสามารถดานทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตรและคณิตศาตร ใหสงู ขึน้ การเรียนการสอนจัดใหเรียนประจํา
ห อ งเรี ย นปกติ แ ละโรงเรี ย นจั ด ห อ งเรี ย น พิเศษทางดานวิทยาศาสตรและคณิตศาสตร เพิ่มเติมเรียนในวันเสารเวลา 08.30 น.15.30 น. 3. โครงการเรียนภาษาจีน ด ว ยคณะกรรมการสถานศึ ก ษา โรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา ไดเห็น วาภาษาจีน จะเปนภาษาสําคัญในอนาคต ทัง้ ในดานการศึกษา ดานเศรษฐกิจ จึงอนุมตั ิ ใหโรงเรียนไดเปดทําการเรียนการสอนภาษา จีน ตั้งแตระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 1-6 สัปดาหละ 1 ชั่วโมง โดยไดจางครูผูสอน ชาวจีนมาจัดกิจกรรม 4. โครงการชวนกันทําดี วันนีว้ นั พระ ในปจจุบันนี้ เด็กไทยเราหางไกลจาก ศาสนาและหลักธรรมคําสอนของศาสนา โรงเรี ย นจึ ง จั ด กิ จ กรรม เพื่ อ ส ง เสริ ม ให เด็กไดใกลชิดศาสนา และซึมซับหลักธรรม คําสั่งสอนของศาสนา โดยนักเรียนใสเสื้อ สีขาวที่มีขอความดานหลังวา “ชวนกันทําดี วันนีว้ นั พระ” สําหรับนักเรียนทีน่ บั ถือศาสนา
อื่นจะไมมีขอความดานหลัง นักเรียนทุกชั้น จะเวียนไปทําบุญที่วัดในวันพระ สวดมนต และฟงธรรม 5. คายวิชาการ เพื่อพัฒนานักเรียนชั้นประถมศึกษา ปที่ 6 ใหมีทักษะทางวิชาการเต็มศักยภาพ และพร อ มสํ า หรั บ การศึ ก ษาต อ ระดั บ ชั้ น มั ธ ยมศึ ก ษาป ที่ 1 โดยจั ด กิ จ กรรมค า ย วิ ช าการในกลุ ม สาระการเรี ย นรู ภ าษา ไทย คณิตศาสตร วิทยาศาสตร ภาษาตาง ประเทศ สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ในชวงปดภาคเรียนที่ 1 และติวเขมเติมเต็ม ศั ก ยภาพในช ว งเดื อ นมกราคม ถึ ง เดื อ น กุมภาพันธ โดยเนนสอนซอมสําหรับนักเรียน ที่ยังไมเขาใจเนื้อหาในทุกสาระการเรียนรู และการสอนเสริมสําหรับนักเรียนที่มีความ สามารถพิเศษ สงผลให C ผลการทดสอบระดับชาติขนั้ พืน้ ฐาน (O-NET) ชัน้ ประถมศึกษาปที่ 6 ปการศึกษา 2556 คะแนนเฉลี่ ยของโรงเรี ยน สู ง กว า คะแนนเฉลี่ ยระดั บ ประเทศทุ กกลุ ม สาระ การเรียนรู C ผลการทดสอบระดับชาติขนั้ พืน้ ฐาน (O-NET) ชัน้ ประถมศึกษาปที่ 6 ปการศึกษา 2556 กลุมสาระการเรียนรูคณิตศาสตร มี นักเรียนไดคะแนนเต็ม 100 คะแนน จํานวน 8 คน 6. โครงการพัฒนาหลักสูตรสูม าตรฐาน สากล (World-Class Standard School) เป น นวั ต กรรมการจั ด การศึ ก ษา ที่ สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาแหงชาติ นํ า มาใช เ ป น มาตรการเร ง ด ว นในการยก ระดั บ คุ ณ ภาพการศึ ก ษาของไทย โดย ไดดําเนินการนํารองรุนที่ 1 จํานวน 500 โรงเรี ย น ทั้ ง ในระดั บ ประถมศึ ก ษาและ มัธยมศึกษา ตั้งแตปการศึกษา 2553 และ รุนที่ 2 จํานวน 232 โรงเรียน โดยมีเปาหมาย หลักของการยกระดับคุณภาพ คือ เปนเลิศ ทางการศึกษา สือ่ สารสองภาษา ลํา้ หนาทาง ความคิด ผลิตงานอยางสรางสรรคและรวม กันรับผิดชอบตอสังคมโลก โดยมีเครื่องมือ สําคัญในการพัฒนา คือ การศึกษาคนควา ดวยตนเอง (Independent Study : IS)
โรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา ได เขารวมโครงการในรุนที่ 1 มีการดําเนินการ ตามเปาหมายหลักอยางตอเนื่อง สงผลใหผู เรียนมีคุณภาพ มีผลงานเปนที่ประจักษ ทั้ง ในระดับประเทศและตางประเทศ 7. โครงการปลูกตนจิตสาธารณะ โรงเรียนไดจัดทําโครงการ “ปลูกตน จิตสาธารณะ” สงเสริมใหผูเรียนมีความรูคู คุณธรรม สรางจิตสํานึกใหมีจิตสาธารณะ ที่มุงทําประโยชน และสรางสิ่งที่ดีงามให สังคม โดยใหนักเรียนทุกคนฝกการมีสวน รวมทํากิจกรรมสาธารณะ นําขวดนํ้าดื่มที่ ดืม่ หมดแลว จัดเก็บรวมกันไวเปนสวนกลาง แลวนําไปขาย นําเงินที่ขายได ไปจัดซื้อกลา ตนไม นํากลาไมไปปลูกรวมกันในสถานที่ ที่สําคัญตางๆ ซึ่งเปนการสอนใหผูเรียนมี จิตสาธารณะดวยการปฏิบัติจริง ผลการดําเนินงานของโรงเรียนอนุบาล พระนครศรีอยุธยา 1. ได รั บ รางวั ล พระราชทาน ระดั บ ประถมศึกษา ขนาดใหญ ในปการศึกษา 2549
Ayutthaya 87
2. ไดรับรางวัลพระราชทาน ระดับกอนประถมศึกษาขนาดใหญ ในปการศึกษา 2550 3. นักเรียนไดรับรางวัลพระราชทาน ระดับประถมศึกษา ขนาด ใหญ ในปการศึกษา 2552 ไดแก เด็กหญิงวงศรวี โตทวิวงศ 4. นักเรียนไดรบั การคัดเลือกเปนตัวแทนประเทศไทย เขารวมการ แขงขันคณิตศาสตรนานาชาติ จํานวน 4 คน ไดแก เด็กชายณัฐนนท ตั้งจิตธรรม เปนตัวแทนประเทศไทยเขารวม แขงขันคณิตศาสตรนานาชาติ ณ ประเทศอินเดีย ป 2009 ไดรับรางวัล เหรียญเงิน เด็กชายณัฐนนท ตั้งจิตธรรม เปนตัวแทนประเทศไทยเขารวม แขงขันคณิตศาสตรนานาชาติ ณ ประเทศอินโดนีเซีย ป 2010 ไดรับ รางวัลเหรียญทอง เด็กชายภูผา ทองรักษ เปนตัวแทนประเทศไทยเขารวมแขงขัน วิทยาศาสตรนานาชาติ ณ ประเทศฟลิปปนส ป 2011 ไดรับรางวัล เหรียญเงิน เด็กชายสุภวัช อินทปชฌาย เปนตัวแทนประเทศไทยเขารวม แขงขันคณิตศาสตรนานาชาติ ณ ประเทศอินเดีย ป 2011 ไดรับรางวัล รางวัลเหรียญทอง ประเภททีมและประเภทกลุม รางวัลเหรียญเงิน ประเภทบุคคล 5. นักเรียนไดรับรางวัลยุวกาชาดดีเดน ประจําป 2555 ไดรับโล พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ไดแก เด็กหญิงกัลยณัช วงศสุกรรม 7. นักเรียนไดรับการคัดเลือกเปนตัวแทนของมูลนิธิยุวทูต 6. นักเรียนไดรับเหรียญทองระดับประเทศ กิจกรรมประกวด มารยาทไทยในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 63 ประจําปการ ความดี กระทรวงการตางประเทศ ไปรวมกิจกรรม ณ ประเทศ ศึกษา 2556 ณ เมืองทองธานี ไดแก เด็กหญิงกานตอง ลพพึ่งชู และ ศรีลังกา ไดแก เด็กชายศรันย สุวรรณพงษ เว็บไซตของโรงเรียน http://www.anubanay.ac.th/ เด็กชายคหบดี จันทกะพอ
88
p.086AD ÀÑ·Êì +»Ô´¹Ô¡+sbl.pdf 1 9/7/2557 12:22:13
ËÇÁà´Ô¹·Ò§ä»¡ÑºàÃÒ
SBL MAGAZINE
(¹ÔµÃÊÒÃàÊŒ¹·Ò§ÍصÊÒË¡ÃÃÁáÅз‹Í§à·ÕèÂÇ) www.smart-sbl.com
µÔ´µ‹Íŧâ¦É³Ò C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
Tel. 0-2522-7171 ºÃÔÉÑ· ÊÁÒà · ºÔ«Ôà¹Ê äŹ ¨Ó¡Ñ´
52 «ÍÂÃÒÁÍÔ¹·ÃÒ 99 á¡ 2 ¶¹¹ÃÒÁÍÔ¹·ÃÒ á¢Ç§¤Ñ¹¹ÒÂÒÇ à¢µ¤Ñ¹¹ÒÂÒÇ ¡ÃØ§à·¾Ï 10230 â·Ã. 0-2522-7171 á¿¡« . 0-2971-7747 E-mail : sbl2553@gmail.com
เสนทางพบสํานักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดย...นายธัญเทพ หมื่นยุทธ
วัดใหญชัยมงคล… ชัยชนะและศักดิ์ศรีของชาติไทย จากวัดปาแกว สูวัดเจาพระยาไทย วัดใหญชยั มงคล เดิมชือ่ “วัดปาแกว” หรือ “วัดเจาพระยาไทย” ตั้งอยูทางทิศตะวันออกเฉียงใตของเกาะพระนคร (ปจจุบันเปนพื้นที่ ตําบลคลองสวนพลู อําเภอพระนครศรีอยุธยา) คาดวาสรางราว พ.ศ. 2043 เปนทีพ่ าํ นักของพระสงฆไทยซึง่ ไปบวชทีส่ าํ นักพระวันรัตนวงศ ในลังกา หรือที่เรียกเปนภาษาไทยวา “คณะปาแกว” พระสงฆคณะ ปาแกว ที่เดินทางกลับมายังกรุงศรีอยุธยา ได ทําใหพระพุทธศาสนาในสมัยนั้นเจริญรุงเรืองมากขึ้น จนวัดปาแกว ไดกลายเปนวัดชั้นนําทางดานอรัญวาสี พระเถระที่ควบคุมดูแลวัด จึงไดนามวา “สมเด็จพระวันรัตน” (พระพนรัตน) ตามพระนาม พระวันรัตนมหาเถระในลังกาทวีป ตอมาจึงเรียกชื่อวัดปาแกวอีก อยางหนึ่งวา “วัดเจาพระยาไทยคณะปาแกว” วัดปาแกว หรือ วัดเจาพระยาไทย เปนวัดที่มีบริเวณกวางใหญ ชาวบานจึงพากันเรียกสัน้ ๆ วา “วัดใหญ” และเปนวัดทีม่ คี วามสําคัญ ทางประวัตศิ าสตร ในฐานะทีเ่ ปนพระอารามหลวง ซึง่ มีพระเจาแผน ดินทรงผนวชหลายพระองค และเปนที่ประกอบการพระราชพิธี สําคัญๆ โดยอุโบสถของวัดเคยเปนที่ซึ่งคณะบุคคลที่คิดกําจัดขุนว รวงศาธิราชกับทาวศรีสุดาจันทร มาประชุมเสี่ยงเทียนอธิษฐาน ซึ่ง การครัง้ นัน้ ก็สาํ เร็จผลดี จึงอัญเชิญพระเฑียรราชาลาผนวช ขึน้ ครอง ราชยสมบัติ ทรงพระนามวา “สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ” ปูชนียวัตถุสําคัญของวัดใหญชัยมงคล ปูชนียวัตถุสาํ คัญของวัดใหญชยั มงคลทีย่ งั มีใหเห็นจนปจจุบนั คือ พระเจดียช ยั มงคล ซึง่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงโปรดฯ
90
ใหสรางขึ้น เพื่อเปนอนุสรณแหงอภัยทานแกเหลาแมทัพที่ไมยอม กรีฑาทัพเขาชวยเหลือพระองค และเพื่อเปนอนุสรณแหงชัยชนะใน สงครามยุทธหัตถี ในป พ.ศ. 2135 พระเจดี ย ชั ย มงคลเป น พระเจดี ย ที่ มี ค วามสู ง ใหญ ที่ สุ ด ใน พระนครศรีอยุธยา โดยมีความสูงจากพืน้ ดินราว 1 เสน 10 วา ทัง้ นีเ้ พราะ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงมีพระราชประสงคที่จะลบลาง ความอัปยศแกกรุงศรี จากสาเหตุที่พระเจาหงสาวดีบุเรงนอง ไดเขายึดกรุงศรีอยุธยาเมือ่ พ.ศ.2112 ในรัชกาลสมเด็จพระมหินทราธิราช ซึ่งในครั้งนั้น พระเจาหงสาวดีบุเรงนอง ไดสรางพระเจดียใหญแบบ มอญขึ้นเพื่อเปนอนุสรณแหงชัยชนะ และใหเรียกพระเจดียนั้นวา “ภูเขาทอง” ชาวบานจึงพากันเรียกวัดนั้นวา “วัดภูเขาทอง” จึงนับไดวา พระเจดียชัยมงคล เปนปูชนียวัตถุสําคัญยิ่งของ กรุงศรีอยุธยาและของชาติไทยในปจจุบนั เพราะเปรียบเสมือนเครือ่ ง
เตือนใจใหคนไทยไดระลึกถึงความกลาหาญ และความเสียสละ ของ พระมหากษัตริยและบรรพบุรุษไทย ที่ไดพลีชีพปกปองเอกราชของ ชาติไทยมาจนถึงทุกนี้ สวนปูชนียวัตถุสําคัญอีกแหงของวัดใหญชัยมงคลคือ อุโบสถ ซึ่งเปนที่ประดิษฐาน พระพุทธชัยมงคล พระประธานศักดิ์สิทธิ์ ของวัด ซึง่ ในสมัยตอมามีการคนพบชัยมงคลคาถาบรรจุอยูใ นอุโบสถ ดวย นอกจากนี้แลว ภายในวัดยังมี วิหารพระพุทธไสยยาสน โบราณสถานศาลาดิน และศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ กอสรางแลวเสร็จในป พ.ศ. 2544 อีกดวย จากวัดรางสูวัดราษฎร ราวป พ.ศ. 2309 กอนที่จะเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สองนั้น กองทัพหงสาวดีไดยกพลมาประชิดพระนครศรีอยุธยา และกองทัพ บางสวนไดยึดเอาวัดปาแกวหรือวัดใหญเปนฐานที่มั่น หลังจากตี กรุงศรีอยุธยาไดสําเร็จ ในป พ.ศ. 2310 แลว วัดปาแกวก็ถูกทิ้งให กลายเปนวัดราง ตนไมขึ้นปกคลุมจนมีสภาพเหมือนปา
Ayutthaya
91
ในสมัยตอมา พระฉลวย สุธมฺโม แสวงหาสถานที่ปฏิบัติ ธรรม จึงไดชกั ชวนคณะศรัทธาใหชว ยกันถากถางตนไม และเมือ่ พระ ฉลวยจะออกจาริกอีกครั้ง จึงไดไปนิมนตพระครูภาวนาพิริยคุณ (เปลื้อง วิสฏโฐ) เจาอาวาส วัดยม อําเภอบางบาล ใหมาปกครอง ดูแลวัดใหญชัยมงคลตอ พระครูภาวนาพิริยคุณ จึงไดนําคณะพระ ภิกษุสงฆ สามเณร และแมชี ฟน ฟูวดั แหงนีจ้ นไดรบั การยกฐานะจาก วัดรางเปนวัดราษฎร ทีม่ พี ระภิกษุจาํ พรรษา ตัง้ แตป พ.ศ. 2500 และ ไดชื่อวา “วัดใหญชัยมงคล” ตอมาพระครูภาวนาพิริยคุณ ไดรับพระราชทานสมณศักดิ์เปน “พระครูภาวนารังสี” จนถึงพ.ศ. 2536 ทานไดมรณภาพลง พระครู พิสทุ ธิบ์ ญ ุ สาร (แกน ปุญ ฺ สมฺปนฺโน) ผูช ว ยเจาอาวาสจึงไดรบั การ แตงตั้งเปนเจาอาวาส ในป พ.ศ.2537 พระครูพิสุทธิ์บุญสาร มีความชํานาญพิเศษดานนวกรรม การแสดงพระธรรมเทศนา การอบรมกรรมฐานและบรรยายธรรม และเปนพระที่มีทัศนะในการปกครองวัดคือ “สามัคคี ระวังสตรี และเงินตรา” ปจจุบันพระครูพิสุทธิ์บุญสาร อายุ 69 ป พรรษา 47 ดํารงสมณศักดิ์ พระครูเจาอาวาสอารามราษฎร เทียบเทาผูชวย เจาอาวาสพระอารามหลวง ชั้นเอก วัดใหญชัยมงคล...วัดพัฒนาตัวอยางดีเดน ป จ จุ บั น วั ด ใหญ ชั ย มงคล ภายใต ก ารปกครองดู แ ลโดย พระครู พิ สุ ท ธิ์ บุ ญ สาร (แก น ปุ ฺ ญ สมฺ ป นฺ โ น) เจ า อาวาส พระมหาสํารอง ชยธมฺโม และ พระมหาบรรณ ปฺญาธโร ผูช ว ย เจาอาวาส และคณะศรัทธา ไดชว ยกันพัฒนาวัดในหลายๆ ดาน อาทิ ดานการพัฒนาถาวรวัตถุ วัดใหญชัยมงคลไดรับการยกยอง ใหเปน วัดพัฒนาตัวอยาง ในป พ.ศ. 2539 และตอมายังไดรับการ ยกยองอีกวาเปน วัดพัฒนาตัวอยางที่มีผลงานดีเดน พ.ศ. 2547 ดานการพัฒนาบุคคลากร วัดใหญชยั มงคล ไดพฒ ั นาบุคคล ากรพระภิกษุจนเปนที่ยอมรับ เห็นไดชัดจากการที่พระภิกษุจาก วั ด ใหญ ชั ย มงคล ได รั บ การคั ด เลื อ กให ไ ปดํ า รงตํ า แหน ง เป น เจาอาวาสวัดตางๆ ในเขตอําเภอพระนครศรีอยุธยาพรอมกันถึง 3 รูป ในป พ.ศ. 2551
92
ดานการพัฒนาการศึกษาปริยัติธรรม วัดใหญชัยมงคล มี การเรียนการสอนหลักสูตรพระปริยัติธรรมทั้งแกพระสงฆ สามเณร แมชี อุบาสก อุบาสิกา นักเรียนนักศึกษา ตลอดจนผูต อ งขังในเรือนจํา ปจจุบนั มีหลักสูตรตางๆ ดังนี้ นักธรรมชัน้ ตรี นักธรรมชัน้ โท นักธรรม ชัน้ เอก ธรรมศึกษาตรี ธรรมศึกษาโท ธรรมศึกษาเอก หลักสูตรระยะ สัน้ สําหรับพระภิกษุใหม หลักสูตรศีลธรรมสําหรับนักเรียน หลักสูตร ศีลธรรมสําหรับผูตองขัง หลักสูตรพระปริยัติธรรม แผนกบาลี ด า นการพั ฒ นาจิ ต ใจ วัดใหญชัยมงคล รักษามาตรฐาน การปฏิบัติธรรมตามแนวทางของหลวงปูพระครูภาวนารังสี อดีต เจาอาวาส ที่เนนในเรื่องของกิจวัตร และพระกรรมฐาน พรอมทั้ง เปดกวางใหผูที่ใฝในการปฏิบัติ ไดมาฝกหัดขัดเกลาในขั้นเบื้องตน จนที่ สุ ด วั ด ใหญ ชั ย มงคลได รั บ การคั ด เลื อ กจากมหาเถร สมาคม ใหเปนสํานักปฏิบตั ิ ธรรมประจํ า จั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยา แหงที่ 3
รวมทําบุญกับวัดใหญชัยมงคล มั่นใจศรัทธา บูชาเกิดผล ขอเชิญ ที่วัด ทําบุญดวยตัวทานเอง แตหากไมสะดวกสามารถโอนเขาบัญชีได ดังนี้ “ธนาคารธนชาต สาขาอยุธยา ชือ่ บัญชีวดั ใหญชยั มงคล ประเภท ออมทรัพย เลขทีบ่ ญ ั ชี 343-2-30834-9” โอนแลวกรุณาแจงรายละเอียด มาที่ info@watyaichaimongkol.net ขอขอบพระคุณ : ขอมูลวัดใหญชัยมงคล จัดทําโดย พระมหานัธนิติ สุมโน
Ayutthaya
93
เสนทางพบสํานักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดย...นายธัญเทพ หมื่นยุทธ
เมื่ อ เอ ยถึ ง วั ด พนั ญ เชิ ง ฯ ต า งพากั น นึ ก ถึ ง องค “หลวงพ อ โต” หรื อ “พระพุ ท ธไตรรั ต น นายก” พระพุทธรูปปางมารวิชยั ทีม่ ขี นาดใหญทสี่ ดุ ในประเทศไทย ซึ่งเปนที่เคารพสักการะของชาวไทย และตางชาติมาชานาน โดยเฉพาะวันหยุดเสารอาทิตย หรือชวงเทศกาลก็มกั จะคลาคลํา่ ไปดวยผูค น ที่เดินทางไปกราบไวขอพรจากทาน ปูนียวัตถุสําคัญ พระพุ ท ธไตรรั ต นนายก (หลวงพ อ โต) พระพุทธรูปปูนปนปางมารวิชัย หนาตักกวาง 7 วา 10 นิ้ว สูงตลอดรัศมี 9 วา 2 ศอก สรางเมื่อปชวด พ.ศ.1867 ก อนสร า งกรุ ง ศรี อยุ ธ ยาเปน ราชธานี 26 ป แตไมสามารถระบุไดวา ใครเปนผูส ราง ปจจุบนั องคพระปดทองใหมทั้งองคจนงดงามมลังเมลือง ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ขององคหลวงพอโตนี้ เคยมีชาว กรุงเกาเลาวา ในอดีตกาลกอนเสียกรุงศรีอยุธยา แก พม า มี นํ้ า พระเนตรไหลออกมาจรดพระนาภี จากปาฏิหาริยนี้เองจึงยิ่งเปนที่เลื่อมใสศรัทธา แก พุ ท ธศาสนิ ก ชนทั้ ง ชาวไทย ชาวไทยเสื้ อ ชายจี น และชาวต า งชาติ ต า งมาสั กการะขอพร ใหชีวิต ประสบแตความสุขความเจริญ นอกจากนีย้ งั มี พระ พุทธรูปทอง และพระพุทธรูปนาก ปางมารวิชัย สมัยสุโขทัย และพระพุทธรูปปูนปน ปางมารวิชัย สมัยอยุธยา ประดิษฐานอยูในพระวิหารดวย
สักการะหลวงพอโต….
วัดพนัญเชิงวรวิหาร 94
เทศกาลประจําปของวัดพนัญเชิง ในแตละปวัดพนัญเชิงจะมีเทศกาลประจําปที่ สําคัญๆ 4 งาน ซึ่งนักทองเที่ยวและพุทธศาสนิกชน สามารถเขารวมงานไดดังนี้คือ 1.งานสงกรานต 13 มษายน เปนงานใหญมี การนมัสการและเวียนเทียนประทักษิณรอบองคพระ ติดตอกันถึง 5 วัน 2. งานสรงนํ้าและหมผาถวาย วันแรม 8 คํ่า เดือนเมษายน มีการสรงนํ้าและเปลี่ยนผาหมผืน ใหม สวนผืนเกาทีใ่ ชมาตลอด 1 ป จะฉีกเปนชิน้ เล็กๆ แจกจายใหนําไปบูชา 3. งานทิ้งกระจาดหรืองานงิ้วเดือน 9 จะมี การแสดงงิ้วและมหรสพอื่นๆ เลนประชันกันอยาง ครึกโครม จะมีผูคนนับหมื่นหลั่งไหลกันมานมัสการ นับเปนงานทิ้งกระจาดที่ใหญที่สุดในประเทศไทย เลยทีเดียว
4. งานตรุษจีน เปนงานใหญอีกงานหนึ่ง จะมีการเปดประตู พระวิหารหลวงไวทั้งวันทั้งคืนตลอด 5 วันที่จัดงาน พระเทพรัตนากร เจาอาวาสนักพัฒนา แหงวัดพนัญเชิง พระเทพรัตนากร ฉายา กตสาโร อายุ 70 พรรษา 50 วิทยฐานะ น.ธ.เอก ปจจุบันดํารงตําแหนง เจาอาวาสวัดพนัญเชิง พระอาราม หลวงชั้นโท และเจาคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สมณศักดิ์ พ.ศ. 2531 เปนพระครูสัญญาบัตรผูชวยเจาอาวาสพระอาราม หลวง ชั้นเอก ในราชทินนามที่ “พระครูสาธุกิจโกศล”
พ.ศ. 2536 เปนพระครูสัญญาบัตร รองเจาอาวาสพระอาราม หลวง ชั้นเอก ในราชทินนามเดิม พ.ศ. 2542 เป น พระราชาคณะชั้ น สามั ญ ที่ “พระพิ พั ฒ น วราภรณ” พ.ศ. 2547 ไดรับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เปนกรณีพิเศษ ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 12 สิงหามหาราชินี เปนพระราชาคณะชั้นราช ที่ “พระราชรัตนวราภรณ บวรศาสนกิจ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี” พ.ศ. 2552 ไดรับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ ในวโรกาสวัน เฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2552 เปนพระราชาคณะชั้นเทพ ที่ “พระเทพรัตนากร สุนทรศีลาจาร สุวิธานศาสนกิจ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี” รางวัลและเกียรติคุณที่ไดรับ พ.ศ. 2537 ไดรับพระราชทานรางวัลเสาเสมาธรรมจักร ใน ฐานะผูบ าํ เพ็ญคุณประโยชนตอ พระพุทธศาสนา สาขาอนุรกั ษมรดก ไทยทางพระพุทธศาสนา พ.ศ. 2546 ไดรับการถวายปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต กิตติมศักดิ์ สาขาวิชาสังคมสงเคราะหศาสตร จากมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. 2547 ไดรับรางวัล “บุษราคัมมณีศรีราชภัฏ” ประจําป พุทธศักราช 2546 จากทางสถาบันราชภัฏพระนครศรีอยุธยา และ ไดรับการถวายปริญญากิตติมศักดิ์ ครุศาสตรบัณฑิต สาขาการ บริหารการศึกษา พ.ศ. 2549 ได รั บ การถวายปริ ญ ญาปรั ช ญาดุ ษ ฎี บั ณ ฑิ ต กิ ต ติ ม ศั ก ดิ์ สาขาวิ ช าการบริ ห ารการศึ ก ษา จากมหาวิ ท ยาลั ย รามคําแหง พ.ศ. 2552 ไดรับการถวายโลเกียรติคุณพรอมเกียรติบัตร และเข็ม “มทร.สุวรรณภูมิเกียรติคุณ” สาขาภาษาและวรรณกรรม จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ พ.ศ 2554 รางวัลผูทําคุณประโยชนตอพระพุทธศาสนา ภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ ราชวิทยาลัย
Ayutthaya
95
เสนทางพบสํานักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดย...นายธัญเทพ หมื่นยุทธ
วัดทาการอง…
สุขาเจริญตา ธรรมะเจริญใจ
วั ด ท า การ อ ง ตั้ ง อยู ที่ ห มู 6 ตํ า บลบ า นป อ ม อํ า เภอ พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สันนิษฐานวาสราง ขึน้ ในสมัย สมเด็จพระไชยราชาธิราช ราวป พ.ศ. 2076 และกลาย เปนวัดรางมาตั้งแตครั้งกรุงศรีอยุธยาแตก ในป พ.ศ.2310 ปจจุบัน พระครูสุทธิปญญาโสภณ เจาอาวาสวัดทาการอง ไดพัฒนา สิ่งตางๆในวัดใหสวยงามเจริญตาเจริญใจขึ้น จนกลายเปนวัดที่ พุทธศาสนิกชนและนักทองเทีย่ วนิยมมาสักการบูชาขอพรจาก หลวง พอรัตนมงคล หรือ หลวงพอยิ้ม พระพุทธรูปเกาแกและศักดิ์สิทธิ์ สมัยอยุธยา ทีม่ พี ทุ ธลักษณะงดงามยิง่ โดยเฉพาะพระโอษฐทงี่ ดงาม และยิ้มใหแกผูมาสักการะขอพรเสมอ สุขาเจริญตา ธรรมเจริญใจ พระครูสุทธิปญญาโสภณ ไมเพียงแตจะพัฒนาสิ่งตางๆ ใน วัดใหสวยงามเจริญหูเจริญตาขึน้ เทานัน้ แมกระทัง่ เรือ่ งของหองสุขา 96
ที่หลายๆ วัดมองขาม ทานก็พัฒนาจนไดรางวัลสุดยอดสวมแหงป ระดับจังหวัดถึง 3 ปซอน จากกรมอนามัยมา กระทรวงสาธารณสุข โดยทานไดเริ่มปรับปรุงสวมไปพรอมๆ กับการพัฒนาวัดแหงนี้ เพือ่ ใหญาติโยมทีเ่ ขามาทําบุญ มีความพึงพอใจ ใหมคี วามสุข ความ สบายใจ ที่ไดใชสวมสะอาด พรอมทั้งหวังผลใหคนที่มาใชสวม ได นํารูปแบบการดูแลไปปรับใช กับสวมที่บานดวย ทานยํ้าวาไมตอง ลงทุนสรางใหมใหเสียงบประมาณ เพียงแตปรับปรุงสวมที่มีอยู ให สะอาด ปลอดภัย และพอเพียงคือรูจักใชวัสดุที่หาไดในทองถิ่น เชน
ใชพชื สมุนไพรอยาง มะกรูดมากําจัดกลิน่ ในหองสวม หาตนไมที่ มีอยูม าตกแตงใหดสู วยงามสบายตา เปนตน จุดเดนของสวมใน วัดคือ การแยกสวมสําหรับผูชาย-ผูหญิง สวมสีมวงสําหรับสาว ประเภทสอง สวมสําหรับคนพิการและผูสูงอายุ ที่มีสิ่งอํานวย ความสะดวกพิเศษ และทุกหองยังมีการติดเครื่องปรับอากาศ และชองระบายอากาศ เพื่อใหมีความโปรงสบาย และอางลาง มือ ถังขยะ ไวพรอม และมีรองเทาแตะใหเปลี่ยนกอนเขาไปใช หองสวม เพื่อกันสิ่งสกปรกที่ติดมากับรองเทาอีกดวย ลาสุด วัดทาการองเพิ่งเปดอาคารสวมสาธารณะหลังใหม โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล อดีตรัฐมนตรีชวยวาการกระทรวง สาธารณสุ ข และผูบริหารกรมอนามัย ผูวาราชการจั ง หวั ด พระนครศรีอยุธยา รวมเปนประธาน ในพิธีเปดอาคารสวม สาธารณะดังกลาวดวย และพรอมที่จะสงเสริมสนับสนุนใหวัด ทาการอง เปนตนแบบของการดูแลสวมสาธารณะใหสะอาด นา ใช ตามโครงการพัฒนาสวมสาธารณะไทยตอไป
รานอรอยริมนํ้าวัดทาการอง ที่วัดทาการองนี้ ยังมีสิ่งที่นักทองเที่ยวไมควรพลาดอยางยิ่งคือ การเลือกชิมเลือกช็อปปงของอรอยที่หากินไดยากที่บริเวณตลาดนํ้า และตลาดริมนํ้า ซึ่งจะมีพอคาแมขายนําอาหารไทยโบราณมาจําหนาย มากมาย อาทิ ขนมหวานแบบไทยๆ สารพัดที่วางมาเต็มลําเรือ ขนม ไขปลาโบราณ มีลักษณะเหมือนพวงไขสีสมๆของปลาโรยหนาดวย มะพราวขูดขาวนากิน ทองมวนสดนุมเหนียวหวานมันหอมงา วุนนํ้าผล ไมสีสวยสดนารับประทานใสในกระทงใบตอง ไอศกรีมกะทิสด เมี่ยงคํา ทรงเครือ่ ง ทอดมันปลากรายหอมๆ หมูสะเตะนํา้ อาจาดรสเลิศ ยําแหนม ปลาสม กวยเตีย๋ วเรือ ปลาหมึกยัดไสอวบอวนพรอมนํา้ จิม้ รสจีด๊ จาด กวย จั๊บนํ้าขน ผัดไท สาธยายไมหมด แตรับรองวาพุงกางแนๆ คะ อิม่ อรอยแลวก็อยาลืมไปทําทานใหอาหารปลาทีแ่ พริมนํา้ ดวย นะคะ หรือจะไปนั่งเรือชมวิถีชีวิตริมเจาพระยาก็ไดคะ รับรองวา คุณจะประทับใจกับการมาเยือนวัดทาการองไมลืมเลยคะ
Ayutthaya
97
เสนทางทองเที่ยว
พิพิธภัณฑ
พระอุบาลีมหาเถระ พระสมณฑูตแหงสยามประเทศ
98
ประเทศไทยเราไดรับ การยกยองใหเปนศูนยกลางพุทธศาสนาโลก นํามา ซึง่ ความภาคภูมใิ จสูเ หลาพุทธศาสนิกชนอยางมาก ปจจุบนั มีวัดไทยกระจายอยูทั่วโลก และพระภิกษุสงฆไทยหลายรูปก็ไดรับ นิมนตไปเผยแผพระพุทธศาสนาอยูม ไิ ดขาด แตเราชาวพุทธหลายคนอาจยัง ไมทราบมากอนวาเมือ่ 261 ปทแี่ ลวนัน้ ประเทศไทยก็เคยสงสมณทูตไปฟน ฟูพระพุทธ ศาสนา บนดินแดนศรีลงั กาซึง่ เปนตนกําเนิดแหงพุทธศาสนา หนึง่ ในพระภิกษุสงฆทเี่ สียสละ เดินทางไปดวยความยากลําบากในครั้งนั้นคือ พระอุบาลีมหาเถระ ดังนั้น เพื่อเปนการเฉลิมฉลองในโอกาสครบ 260 ป (พ.ศ. 2556) แหงการสถาปนา พระพุทธศาสนาสยามนิกาย ในประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา และ เพื่อนอมระลึกถึงพระอุบาลีมหาเถระ พระอริยสงฆที่ทําคุณประโยชนตอพระพุทธศาสนา รัฐบาลศรีลังกาและจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจึงไดรวมกันจัดสราง พิพิธภัณฑพระอุบาลี มหาเถระ ขึ้น ณ วัดธรรมาราม อําเภอวังนอย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พระสมณทูตผูสละชีพเพื่อธรรมพลี นายวิทยา ผิวผอง ผูว า ราชการจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ไดเลาถึงมูลเหตุของการ จัดสราง พิพธิ ภัณฑพระอุบาลีมหาเถระ วา “ขอเทาความกอนวา ในอดีตเรารับ พุทธศาสนามาจากศรีลังกา แตวาศรีลังกา เองถูกอาณานิคมรุกรานบาง มีการเปลี่ยน กษัตริยบาง พระพุทธศาสนาถูกทําลายจน ยุคหนึ่งไมมีพระอยูเลย เณรก็บวชกันเองไม ได เพราะไมมีพระอุปชฌาย ไมมีพระกรรม วาจาจารย แตมีกษัตริยองคหนึ่งตองการ จะฟนฟูพุทธศาสนาใหกลับคืนมาสูแผนดิน ศรีลงั กา จึงไดทาํ เรือ่ งมาขอพระมหากษัตริย Ayutthaya
99
ไทย ซึง่ ตรงกับสมัยพระเจาอยูห วั บรมโกศ กษัตริยอ งคที่ 31 ของกรุงศรีอยุธยา ประมาณ พ.ศ.2294 พระเจาอยูหัวบรมโกศ ก็เลือก พระสงฆที่มีความรูความเชี่ยวชาญในเรื่อง พระไตรปฎก ในเรือ่ งของวิปส สนากรรมฐาน เรื่องของพระธรรมวินัย คัดเลือกได 18 รูป แลวสงไปเปนพระธรรมทูตที่ศรีลังกา” “พระภิ ก ษุ ก ลุ ม นี้ ก็ มี พ ระอุ บ าลี ม หา เถระ กับพระอริยมุนี และพระรูปอื่นๆ การ เดิ น ทางครั้ ง แรกไม ป ระสบความสํ า เร็ จ เพราะเรือแตกที่นครศรีธรรมราช แตพระ ทั้งหมดก็ยังยืนยันวาจะเสียสละไปเผยแพร ไปฟนฟูพุทธศาสนาที่ศรีลังกา แมจะตอง ใชเวลาเดินทาง 5 เดือน 4 วัน อยูบนเรือ สินคาของชาวฮอลันดา เรือก็แวะไปเมือง โนนเมืองนี้ นี่คือความยากลําบากในการ เดินทางกวาจะไปถึงศรีลังกา พระเจาอยูหัว บรมโกศก็ พ ระราชทานพระพุ ท ธรู ป พระ ไตรปฏก พระพุทธบาทจําลอง เพื่อที่จะนํา ไปฟนฟูพุทธศาสนาใหม กษัตริยศรีลังกา ก็ พ ระราชทานสวนดอกไม ใ ห เ ป น วั ด ผู ก พัทธสีมา มีการสรางโบสถ มีการบวชกุลบุตร กุลธิดา เพราะทีน่ นั่ มีพระภิกษุณี และก็มกี าร บวชพระสงฆถึง 700 รูป มีการบวชสามเณร 3,000 รูป แลวทานก็วางหลักศาสนาใหม กรรมวิธีในทางศาสนา การสวดพระปริตร การใหศีลใหพร การอาราธนาศีล ศาสนพิธี ตางๆ ก็ดูวาที่เมืองไทยเปนอยางไร เพราะ เราเปนคนไปปรับปรุงฟนฟูใหเขา”
100
“แตพระอริยมุนีทานอยูไดเพียง 3 ป ก็มรณภาพที่นั่น สวนพระอุบาลีอยูไดอีก 6 ปทาน ก็มรณภาพที่นั่น คนศรีลังกาก็นับถือทานเหมือนตัวแทนพระพุทธเจา เพราะทําใหศรีลังกา กลับมาเปนพุทธภูมิอีกครั้งหนึ่ง สมัยกอนพระพุทธเจาเสด็จไปที่ศรีลังกาเอง ไปเผยแพร ไปสอน ไปแกปญหา ความขัดแยงของคนที่นั่น พอศาสนาพุทธเสื่อมสลายไป พระอุบาลี กับพระอริยมุนีทําใหพุทธศาสนากลับมาเจริญรุงเรืองในศรีลังกาอีกครั้ง และเขาปฏิบัติ เครงครัดกวาเรา เขาอยูในหลักศาสนามากกวาเรา ความศรัทธาก็สูงกวาเรา ทางโนนเขาเก็บ อัตถบริขาร เก็บกุฏิ เก็บเรือ่ งราวของทานไวเปนอยางดี รวมทัง้ พระราชสาสนของพระเจาอยูห วั บรมโกศ ที่สงไปกับพระอุบาลีเขาก็ยังเก็บไว” “กรมพระยาดํารงราชานุภาพ เขียนถึงทานวาการที่พระอุบาลีไดเปนสมณฑูตไปฟนฟู พุทธศาสนาที่ศรีลังกา เปนการสละชีพเพื่อเปนธรรมพลี คือเอาชีวิตไปสานตอ หรือไปฟนฟู ศาสนาใหศรีลังกาทั้งชีวิต เปนการเสียสละอยางยิ่ง เพราะพระสงฆไปชุดนั้น 18 รูป ไดกลับ มาเมืองไทย 7 รูปเทานั้น มรณภาพที่นั่น 11 รูป อันนี้คือการเสียสละชีวิตเพื่อเปนธรรมพลี ทานมองวาเปนเรื่องที่ยิ่งใหญมาก”
ชมอะไรในพิพิธภัณฑพระอุบาลีมหาเถระ ภายในอาคารพิพิธภัณฑพระอุบาลีมหาเถระ จัดแบงเนื้อหาการนําเสนอ ออกเปน 7 โซน โดยมีแนวคิดหลักในการนําเสนอเรื่อง “ธรรมพลี” ของพระอุบาลี มหาเถระ ซึ่งประกอบดวย ความเสียสละ ความวิริยะ อุตสาหะ และผลงานการ กอบกู ฟนฟูพระพุทธศาสนา ดังนี้ โซน 1 อาจาริยบูชา พระอุบาลีมหาเถระ เปนเรือ่ งราวพระอุบาลีมหาเถระ ขามนํา้ ขามทะเล ในภารกิจกอบกูพ ระพุทธ ศาสนา ภายในโซนนี้มีรูปเคารพพระอุบาลี ซึ่งแกะสลักจากไมมะฮอกกานี มีความสูง 1.80 เมตร นํ้าหนัก 117 กิโลกรัม ตั้งอยูบนแทนกลางหองหนา ธรรมมาสน วัดธรรมาราม
โซน 2 ประดิษฐานลังกาวงศในสยาม นํ า เสนอ Timeline การรั บ อิ ท ธิ พ ลพระพุ ท ธ ศาสนาลังกาวงศในประเทศไทย โซน 3 วิกฤติพระพุทธศาสนาบนแผนดิน ลังกา นํ า เสนอภาพพุ ท ธศาสนาในลั ง กา สาเหตุ ที่ พระพุทธศาสนาเสื่อมจนสูญสิ้นไปจากลังกา โซน 4 ภารกิจกอบกูพระพุทธศาสนา นําเสนอในเรื่องความวิริยะอุตสาหะ และความ มุงมั่นของพระอุบาลีมหาเถระ ในการเดินทางขาม นํ้าขามทะเล เพื่อกอบกูและฟนฟูพระพุทธศาสนา นําเสนอดวย Multimedia Light and Sound โซน 5 ประดิษฐานสยามวงศในลังกา นําเสนอเรื่องราวการเผยแพรพระพุทธศาสนา ในลังกา และนําเสนอผลงานพระอุบาลีที่ไดเผยแพร พระพุทธศาสนาตลอด 3 ป กอนมรณภาพ โซน 6 สายสัมพันธสองแผนดิน นํ า เสนอความสั ม พั น ธ ร ะหว า งประเทศไทยศรีลังกา เนื่องในโอกาสครบรอบ 260 ป ในป พ.ศ. 2556 แหงการประดิษฐานสยามวงศในประเทศศรีลงั กา นําเสนอผาน Slide Show ภาพถายจากนิทรรศการชุด “Two Nation One Family” โซน 7 เที่ยวเมืองเกาเขาถึงธรรม นําเสนอเสนทางการทองเที่ยวเพื่อเรียนรูพระพุทธ ศาสนาลังกาวงศ ที่ประดิษฐานในประเทศไทยในสมัย อยุธยา
พิพิธภัณฑพระอุบาลีมหาเถระ วัดธรรมาราม เปดใหเขาชมอยางเปนทางการ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม 2556 สนใจเขาชม และเที่ยวโบราณสถานวัดธรรมาราม ไดที่ หมู 6 อูทอง ประตูชัย อําเภอวังนอย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โทรศัพท 035 723 346
Ayutthaya 101
เสนทางทองเที่ยว
า ย ธ ุ ย อ ว ่ ั ท ว ย ่ ี ท ัวนเดียวณเ สถานฯ ทุงหันตรา ณ อนุสร
บนเนื้อที่กวา 143 ไร ของ อนุสรณสถานแหง ความจงรักภักดี (ทุงหันตรา) เปนสถานที่ทองเที่ยว สํ า คั ญ แห ง หนึ่ ง ของจั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยา ซึ่ ง ทางจังหวัด ฯ จัด สรางขึ้นบนสวนสาธารณะเฉลิ มพระเกียรติเดิม เพือ่ เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จ พระเจาอยูหัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 สัญลักษณโดดเดนของทีน่ คี่ อื พระพุทธรูปปางประจํา พระชนมวาร ของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว ความสูง 9.84 เมตร ซึ่งสรางขึ้นจากนํ้าพักนํ้าแรง และความจงรักภักดีของชาวอยุธยาทั้ง 16 อําเภอ นอกจากนี้ ภ ายในยั ง มี ก ารจํ า ลองเอาจุ ด เด น หรื อ เอกลักษณสําคัญของอําเภอตางๆ ทั้ง 16 อําเภอ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาไว ณ ที่แหงนี้ดวย 102
อยุธยาเมืองจําลอง เอาใจคนไทย ทานผูวาฯ วิทยา ผิวผอง ไดกลาวถึงความนาสนใจของ อนุสรณสถานแหงความจงรักภักดี (ทุงหันตรา) วา “อยุธยามี 16 อําเภอ แตละอําเภอก็มีจุดเดนของตนเอง มี แหลงทองเที่ยว มีวัฒนธรรม มีวิถีชีวิต มีภูมิปญญาของตนเอง แต คนมาเที่ยวอยุธยาสวนใหญจะไมคอยไดคางคืน และคนไทยเราจะ ไมชอบเคลื่อนยาย หมายถึงลงจุดนี้ แลวตองยายไปจุดนั้น จุดโนน แบบนักทองเที่ยวตางชาตินี่เขาขี่จักรยานจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่ง แต คนไทย เขาใหเดินหรือใหเคลือ่ นยายหนอย ก็เรียกวาวงแตก บอกให เดินไปอีกหนอย 200 เมตร ไมไปแลว นอนแลว ถาตองยายอําเภอ จากอําเภอพระนครไปอําเภอภาชี ไมมีใครอยากไปแลว พอไปถึงก็ ไมลงแลวบอกขอนอนรอในรถ”
Ayutthaya
103
“ดัง้ นัน้ เราจึงจําลองเอาความหลากหลายทางวัฒนธรรม ความ หลากหลายทางภูมิปญญาของแตละอําเภอมาไวในสถานที่เดียว เลยคือที่ อนุสรณสถานแหงความจงรักภักดี (ทุงหันตรา) แลวก็ จัดเปนกิจกรรมทองเที่ยวในชื่อ วันเดียวเที่ยวทั่วอยุธยา เราใหเขา เดิน หรือวาใหเขานั่งรถรางรอบหนึ่ง เขาจะไดเห็นความเปนอยุธยา ทัง้ 16 อําเภอ ทัง้ ประวัตศิ าสตร เรือ่ งราวภูมปิ ญ ญาของคน 16 อําเภอ จะอยูในเมืองจําลองที่เดียว” วันเดียวเที่ยวอยุธยา เพื่อประชาสัมพันธ อนุสรณสถานแหงความจงรักภักดีฯ (ทุงหันตรา) ใหประชาชนโดยทั่วไปและผูที่มาทองเที่ยวไดรูจักมาก ยิ่งขึ้น จังหวัดฯจึงไดจัดทําโครงการ “วันเดียวเที่ยวอยุธยา” ขึ้นทุก วันเสาร-อาทิตย ระหวางวันที่ 15 กุมภาพันธ จนถึง 20 กันยายน 2557 ซึ่งนักทองเที่ยวจะไดสนุกสนาน เพลิดเพลิน และไดรับความ รูจากกิจกรรมทองเที่ยวหลากหลายรูปแบบ อาทิ
การแขงขัน Walk Rally เพลิดเพลินกับการแขงขัน 18 ฐาน ความรู ในบริเวณเมืองจําลอง โดยวิทยากรผูมากประสบการณ นอกจากสรางความสุข ยังแฝงสาระความรูเกี่ยวกับเมืองอยุธยา และชวยหลอหลอมทีมผูเขารวมกิจกรรม ใหสมัครสมานกลมเกลียว เหมาะสําหรับการทําทีม Work การแขงขันกีฬา ทาประลองความสามารถกับหลากหลายชนิด กีฬา อาทิ ตะกรอ ฟุตบอล เปตอง กีฬาทางนํ้า รวมเชียรและเปน กําลังใจ เรียนรูกฎ กติกา มารยาท และลุนรับรางวัลสําหรับผูชม ควบคุมการแขงขัน โดยคณะกรรมการผูทรงคุณวุฒิ WorkShop สงเสริมความรู ภูมิปญญาทองถิ่น ชมการสาธิต ภูมิปญญาทองถิ่นของแตละอําเภอ อาทิ ปนอิฐ ตีมีด สานงอบ ทําสบู อาหารชาววังฯ และรวม WorkShop นําผลงานที่มีเพียง หนึ่งเดียวในโลกกลับบานเปนที่ระลึก ทั้งนี้ทานผูวาฯ ไดกลาวถึง WorkShop ซึ่งเปนไฮไลตของ กิจกรรมวันเดียวเที่ยวอยุธยาวา “แตละอําเภอจะนําเสนอวิดีโอ พรีเซ็นเทชั่นเรื่องละ 3 นาที เพื่อให คนที่ ม าท อ งเที่ ย วได รั บ สาระของ เรื่องราวนั้นอยางเปนรูปธรรม ไมใช เพียงรูจักชื่อเฉยๆ เราอยากใหเขา รูเรื่องราวของแตละอําเภอ แลวนํา กลับไปใชเปนประโยชนได แลวไมใช เพียงสัมผัสดวยสายตา แตไดเห็น กระบวนการโดยที่ไมตองลงมือทํา ยกตัวอยางเรือ่ งการตีมดี เขาก็จะเห็น กระบวนการจากเหล็กแผนหนึง่ กลาย มาเปนมีดทีใ่ ชในการประกอบอาหาร วาตองใชกระบวนการมากนอยแค ไหน เขาไมตองตีมีดกับเรา แตเขา เอามีดที่เราตีเสร็จแลวกลับไปเปนที่ ระลึกได แลวใหเขาไปตอยอดหรือมี
104
สวนรวมกับสิง่ ทีไ่ ดรบั อีก เชน เอามีดไปตอกตราเปนชือ่ -นามสกุลเขา เปนมีดประจําตระกูล หรือวามาแตงลวดลายของมีดใหเปนอยางที่ เขาอยากไดดวยฝมือของเขาเอง” “หรือในเรื่องของสบู คือตอนนี้สินคาโอท็อปของเราทําสบูขาย กันเยอะ แตวา เราตองหาจุดใหไดวา ทําอยางไรใหเขาอยากซือ้ สบูข อง เรา วิธกี ารของเราก็คอื วา เราสอนวิธที าํ สบูใ หเขาดูวา จากวัตถุดบิ จน กลายเปนสบูท าํ อยางไร แตสบูข องเราจะมีขอ ความ หรือวามีขอ ความ ใสแทนชื่อยี่หอของสบูเดิม เชน รักเธอคนเดียว รักคุณเทาฟา ดวยรัก และคิดถึง สบูกอนนี้จะมีมูลคาทันทีเลย ผมเชื่อวาเขาอยากจะซื้อ เอาไปฝากคนอืน่ คนทีไ่ ดรบั ก็จะเซอรไพรส เปนวิธกี ารตอยอดสินคา หรือภูมิปญญาที่เราผลิตใหเปนที่ประทับใจ หรือเปนที่นาสนใจแก คนที่มาเที่ยวได” “หรืออยางบางอําเภอเขามีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เชน หลวงปู ทวดองคใหญที่สุดในโลกเขาก็เอาหลวงปูทวดจําลองมาตั้งไว แลวทําอยางไรถึงจะเชื่อมโยงภูมิปญญาเขากับหลวงพอทวด กับความเชื่อของคน เขาก็ทําเปนลูกประคํายิงเลเซอรเปนตัว อักษร ลูกหนึ่งตอหนึ่งคําเปนคาถาบูชาหลวงพอทวด นะโม โพธิสัตโต อาคันตายะ อิติภควา ทําเปนเซ็ทให วานี่คือคาถา บูชาหลวงพอทวดนะ และก็มีที่รอย มีตะขอ มีจี้ให เขาก็มา รอยเอง รอยไปก็ทองคาถาบูชาหลวงพอทวดไป ตอหนาองค จําลองหลวงพอทวด หรือถาเขาไมรอยเอง จะซื้อไปฝากคน อื่นมันก็มีความหมาย หรือหลวงพอปาน ที่อําเภอเสนา เรามี ผายันตหลวงพอปาน เราก็จะทําเปนที่สกรีนคาถาใหเขาสกรีน เอง เขาก็จะเห็นคาถาหลวงพอเขาก็จะจําได เหลานีค้ อื สิง่ ทีเ่ รา อยากใหเขามาเที่ยวอยุธยา เมืองจําลองเที่ยวแควันเดียวทั่ว อยุธยา แลวไดทั้งความรู ไดมีสวนรวม ไดของที่ระลึกกลับไป ซึ่งที่นี่จะเปนศูนยการเรียนรู ศูนยการทองเที่ยว และศูนยการ พักผอนของคนอยุธยาดวย”
แวะช็อปจุใจ ที่ศูนยโอท็อปผาขาวมาโลก เมือ่ สนุกสนานกับการเทีย่ วแบบไดสาระความรูแ ละของทีร่ ะลึก ทั้ง 16 อําเภอแลว กอนกลับอยาพลาดช็อปสินคา OTOP ของที่ ระลึก เครื่องเงิน สินคาจักสาน มีดอรัญญิก โรตีสายไหม ผลไมกวน ราคายอมเยาใหเลือกช็อปจุใจ โดยเฉพาะผลิตภัณฑจากผาขาวมา ของศูนยโอท็อปผาขาวมานานาชาติ “เรารณรงคในเรื่องของผาขาวมามา 4 ถึง 5 ป ตอนนี้ ติดตลาดแลว” ทานผูวาฯ กลาวอยางภาคภูมิใจ “ผมเชื่อวาใน ประเทศไทยจะมีแหลงผลิตผาขาวมาหลายสิบจังหวัด แตทุก คนจะติดปากวาผาขาวมาอยุธยา เราก็พยายามสนับสนุนคน ทีผ่ ลิตในจังหวัดเราและตางจังหวัดดวย โดยเรารับเปนตัวแทน จําหนายผาขาวมาจากทุกจังหวัด รวมทั้งตางประเทศดวย ฉะนั้นถาใครจะมาซื้อผาขาวมาของทุกจังหวัดในประเทศไทย มาที่ศูนยทุงหันตราศูนยเดียวซื้อไดหมดทุกราย จะเอาแบบ อีสาน ภาคเหนือ ภาคใต ภาคกลาง หรือจะเอาแบบประเทศ ลาว พมา เวียดนาม อินโดนีเซีย เรามีใหเลือกหมด ฉะนั้น จุดเดนศูนยผาขาวมาอยุธยาคือ เปนศูนยจําหนายผาขาวมา นานาชาติ”
และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวที่นาสนใจของกิจกรรม “วันเดียว เทีย่ วทัว่ อยุธยา” ณ อนุสรณสถานแหงความจงรักภักดีฯ (ทุง หันตรา) ที่เที่ยวใหมใกลๆ กรุงเทพฯ ที่เราไมอยากใหคุณพลาดคะ สนใจ สอบถามเพิม่ เติมไดที่ สํานักงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชัน้ 2 ศาลา กลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ติดตอ : นายสมเกียรติ มวงงาม มือถือ : 089-9009533 โทร./โทรสาร 035-336554 ตอ 22 Ayutthaya
105
เสนทางทองเที่ยว
รําลึก
นายขนมตม…
วีรบุรุษนักสูแหงอโยธยา “คนไทยนี้มีพิษสงรอบตัว แมมือเปลายังเอาชนะคนไดถึง เกาคนสิบคน นีห่ ากวามีเจานายดี มีความสามัคคีกนั ไมขดั ขากันเอง และไมเห็นแกความสุขสวนตัวและโคตรตระกูลแลว ไฉนเลย กรุงศรีอยุธยาจะเสียทีแกขาศึก” คือขอความซึ่งพระเจามังระ แหงกรุงอังวะ ตรัสแกขุนนาง พมา ในคราวที่ “นายขนมตม” ขึ้นชกตอหนาพระที่นั่งและ สามารถเอาชนะนักมวยพมาไดอยางราบคาบถึงสิบคน และ ในภาวะที่บานเมืองของเราขณะนี้ ตองการคนฝมือดี ที่เปยมดวย คุณธรรมและความเสียสละ ประกอบกับความสมัครสมานสามัคคีใน หมูป ระชาชนคนไทย เพือ่ นําพาประเทศกาวพนวิกฤติ เราจึงอยากจะเชิญ ชวนทานผูอาน ไดรวมกันรําลึกถึงวีรกรรมของ “นายขนมตม” วีรบุรุษ ผูเปยมดวยความจงรักภักดีตอชาติ ศาสน กษัตริย และสรางชื่อเสียง เกียรติประวัติใหเปนที่ประจักษ เพื่อใหเกิดกําลังใจตอสูกับวิกฤตครั้งนี้ ใหได อยาใหใครประเทศไหนตองมาดูหมิ่นคนไทยดังเชนที่ พระเจามังระเคยตรัสไว จากเด็กกําพรา สูวีรบุรุษนักสูแหงอโยธยา นายขนมตม เกิดวันอังคาร เดือนยี่ ปมะเมีย พ.ศ. 2293 ในสมัยพระเจาอยูหัวทายสระ ที่บาน กุม (ปจจุบันคือ ตําบลบานกุม อําเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) บิดาชื่อนายเกิด มารดาชื่อนางอี่ มีพี่นอง 2 คนคือ นางเอื้อย และนายขนมตม นายขนมตมตองไปอยูว ดั ตั้งแตอายุราว 10 ป เพราะพอแมและพี่ สาวถูกทหารพมาฆาตายหมด เมื่อเริ่มเขา วัยหนุม นายขนมตมไดฝกฝนวิชาแมไม มวยไทย จนถึงสมัยพระเจาเอกทัศน กรุง ศรีอยุธยาถูกพมาตีแตกเปนครั้งที่สอง นาย ขนมตมและชาวอโยธยาบางสวนจึงถูกกวาดตอนไปเปนเชลยศึกที่ เมืองพมา 106
ในพงศาวดารกลาววา เมื่อพระเจามังระโปรดใหปฏิสังขรณและกอ เสริมพระเจดียช เวดากองในเมืองยางกุง เปนการใหญนนั้ ครัน้ งานสําเร็จลง ในป พ.ศ. 2317 พอถึงวันฤกษงามยามดี คือวันที่ 17 มีนาคม จึงโปรดให ทําพิธียกฉัตรใหญขึ้นไวบนยอดเปนปฐมฤกษ แลวไดทรงเปดงานมหกรรม ฉลองอยางมโหฬาร ขุนนางพมากราบทูลวา “นักมวยไทยมีฝมือดียิ่งนัก” พระเจามังระ จึงตรัสสั่งใหเอาตัวนายขนมตม นักมวยดีมีฝมือตั้งแตครั้งกรุงเกามาถวาย พระเจามังระไดใหจัดมวยพมาเขามาเปรียบกับนายขนมตม โดยจัดใหชก ตอหนาพระที่นั่ง ปรากฏวานายขนมตมชกพมาไมทันถึงยก นักมวยพมา ก็แพถึงเกาคนสิบคนก็สูไมได พระเจามังระทอดพระเนตรแลวถึงกับทรง ยกพระหัตถตบพระอุระ ตรัสสรรเสริญนายขนมตมวา “คนไทยนี้มีพิษสง รอบตัว แมมือเปลายังเอาชนะคนไดถึงเกาคนสิบคน นี่หากวามี เจานายดี มีความสามัคคีกัน ไมขัดขากันเอง และไมเห็นแกความ สุขสวนตัว และโคตรตระกูลแลว ไฉนเลย กรุงศรีอยุธยาจะเสียทีแก ขาศึก” (ขอมูล : ศูนยขอมูลกลางทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม) Ayutthaya 107
จากศาลพอปู สูอ นุสาวรีย “นายขนมตม” ชาวตําบลบานกุม ตางรําลึกถึงความ สามารถและเกียรติประวัติของนายขนมตม ซึ่งไดรับการยกยองใหเปนบรรพบุรุษผูเกง กลาแหงบางบาล โดยลูกหลานชาวบาน กุมตางพาเรียกทานวา “พ อ ปู ข นมต ม ” และสรางศาลพอปูขนมตมไวที่บริเวณวัด จุ ฬ ามณี ตํ า บลบ า นกุ ม อํ า เภอบางบาล เพือ่ สักการะขอพรใหสมหวังและเกิดกําลังใจ ในการดําเนินชีวิต ตอมาในป 2555 มีการกอตั้ง “ชมรม คนบานกุมบางบาลลูกหลานนายขนม ตม” ขึ้น เพื่อจัดสรางอนุสาวรียนายขนมตม โดยจัดสรางเปนรูปหลอโลหะขนาด 2 เทา ตั้งอยูบนฐานเกาเหลี่ยม ฐานทั้งเกาดานจะ เปนประติมากรรมนูนตํา่ ทาแมไมมวยไทยทัง้ 9 ทา ไดแก ทาจระเขฟาดหาง ทาปกษา แหวกรัง ทาชวาซัดหอก ทาหักงวงไอยรา ท า หั ก คอเราวั ณ ท า วิ รุ ณ หกกลั บ ท า ยก เขาพระสุเมรุ ทาปกลูกทอย และทาอิเหนา แทงกฤช นอกจากอนุ ส าวรี ย น ายขนมต ม ที่ โรงเรียนวัดจุฬามณีแลว ชาวพระนครศรีอยุธยา ยังพรอมใจกันสราง “อนุสาวรีย นายขนมตม” ไวที่บริเวณสนามกีฬากลาง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเปนอนุสติ เตือนใจและใหลกู หลานไทยยึดถือเปนแบบ อยาง ในความจงรักภักดีตอชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริยสืบไป 108
รําลึกครูมวยไทย “นายขนมตม” จากวี ร กรรมที่ น ายขนมต ม ชกชนะนั ก มวยพม า เมื่ อ วั น ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2317 จึงถือวาวันที่ 17 มีนาคม ของทุกป เปน วันเกียรติประวัติของนักมวยไทย และเปนวันมวยไทย จั ง หวั ด พระนครศรีอยุธยา จึงรวมกับ การทองเที่ยวแหงประเทศไทย (สํานักงานพระนครศรีอยุธยา) และหนวยงานที่เกี่ยวของ ไดจัด งาน “ ไหวครูมวยไทยนายขนมตม” ขึ้นเปนประจําทุกป ณ สนาม กีฬากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยในปนี้จัดขึ้นเปนครั้งที่ 10 ระหวางวันที่ 13-21 มีนาคม 2557 ที่ผานมา ทั้ ง นี้ เ พื่ อ รํ า ลึ ก ถึ ง นายขนมต ม นั ก มวยไทยที่ ส ร า งชื่ อ เสี ย ง เกียรติยศใหกับสยามประเทศ และเพื่อสงเสริมการทองเที่ยวของ จังหวัดฯ ซึง่ ปนมี้ นี กั มวยชาวตางชาติตอบรับเขารวมกวา 60 ประเทศ รวมเกือบพันคน กิจกรรมภายในงานนี้ประกอบดวย พิธีบวงสรวง อนุสาวรียนายขนมตมที่สนามกีฬากลางฯ พิธีไหวครูและครอบครู มวย จัดอบรมศิลปะการปองกันตัวแบบไทย จัดแขงขันชกมวยไทย และจัดนิทรรศการมวยไทยนายขนมตม สําหรับนักทองเที่ยวผูชื่นชอบศิลปะแมไมมวยไทย สามารถ เดินทางไปสักการะอนุสาวรียนายขนมตม ตนตํารับแหงศิลปะการ ตอสูของไทย ไดที่โรงเรียนวัดจุฬามณี หมูที่ 6 ต.บานกุม อ.บางบาล จ.พระนครศรี อ ยุ ธ ยา อยู ห า งจากทุ ง มะขามหย อ ง ประมาณ 6 กม.ตามเสนทางหลวงหมายเลข 347 ขึ้นทางเหนือแลวเลี้ยวเขา ทางหลวงหมายเลข 309 ไปทางอ.ปาโมก ก็จะถึงทางแยกซายมือ เขาวัดจุฬามณีคะ
Ayutthaya 109
เสนทางพบบุคคลสําคัญ
นางสมทรง พันธเจริญวรกุล นักการเมืองทองถิ่นสตรีดีเดน (ประเภทองคการบริหารสวนจังหวัด) 110
ด้วยความรัก ความผูกพัน และความ อบอุ่นเปนกันเอง... ท�าให้ผู้คนที่รู้จัก ท่าน มักเอ่ยนามของท่านอย่างสนิทสนม ว่า “ซ้อ”
“นางสมทรง พันธเจริญวรกุล” ดํารงตําแหนง นายก องค ก ารบริ ห ารส ว นจั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยา มา เปนสมัยที่ 3 ทานไดสรางผลงานจนเปนที่ประจักษแก สายตาประชาชนชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาอยาง ตอเนื่องและสมํ่าเสมอ จนไดรับการยกยองชื่นชมจาก ผูคนทั่วไปและไดรับรางวัลการรันตีผลงานมากมาย ท า นนายกฯสมทรง มีความเสียสละเพื่อประโยชน สวนรวม อันกอใหเกิดความสุขกับพีน่ อ งประชาชนอยางเสมอ มาและทั่วถึง อีกทั้งการบริหารงบประมาณทางราชการและ เสียสละงบประมาณสวนตัวใหกับสังคมสวนรวมอยางเสมอ ภาค และไดรับประโยชนอยางสูงสุดอยางทั่วถึง ทานไมเคย เลือกที่รัก มักที่ชัง โดยใหความสําคัญกับทุกคน และดูแล เอาใจใสทั้งภายในองคกร และนอกองคกร ประสานความ รวมมือกับองคกรภายนอก ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาค ประชาชน ที่มีจิตอาสา มารวมงานกันอยางอบอุน ยึดระบบ การทํางานเปนทีม ยึดหลักความสมัครสมานสามัคคี ความ มีนํ้าใจ จิตใจที่แข็งแกรง และความตั้งใจจริงของทาน จึง เปนกาวใจที่ดีในการประสานความรวมมือจากทุกภาคสวน ดวยหัวใจที่เต็มเปยมไปดวยการเสียสละเพื่อสวนรวม อยางแทจริง และทํามาอยางตอเนื่องสมํ่าเสมอ เปนระยะ เวลายาวนานเกือบ 10 ป ผลงานของทานจึงเปนที่ประจักษ ชัดและเปนที่ยอมรับของทุกองคกร ทุกหนวยงาน โดยเฉพาะ อยางยิ่ง...ชนะใจประชาชนอยางทวมทน ทานจึงเปนที่รัก และเปนที่พึ่ง ของประชาชนอยางแทจริง ดวยความรัก ความ ผูกพัน และความอบอุนเปนกันเองระหวาง นายก อบจ. หญิง นางสมทรง พันธเจริญวรกุล กับพีน่ อ งประชาชนและ หนวยงานตางๆ ทําใหผูคนที่รูจักทาน มักเอยนามของทาน อยางสนิทสนมวา “ซ อ สมทรง” อีกทั้งทานยังไดรับการ ขนานนามอันบงบอกถึงบุคลิก และลักษณะที่โดดเดนของ ตัวทานอยางหลากหลาย อาทิ “หญิงเหล็ก” “แมพระของชาววังนอย” “นึกอะไรไมออกบอก ซอ สมทรง” “พี่สาวใหญ ผูมีแตให” นายกฯ สมทรง พันธเจริญวรกุล เสียสละประโยชน สวนตน โดยไมหวังสิ่งตอบแทนอื่นๆ ซึ่งแรงบันดาลใจที่ ทําให “หญิงเหล็กนายก อบจ.” ในวัย 66 ป กับ 6 เดือน Ayutthaya 111
ทานนี้ มีกําลังใจและมีพลังที่จะปฏิบัติภารกิจอยางไม เห็นแกเหน็ดเหนื่อยก็คือ “รอยยิ้มและความสุขของ ประชาชน” เกียรติประวัตอิ นั เกิดจากความตัง้ ใจในการทําคุณ งามความดีของทาน การันตีไดจากรางวัลตางๆ ทีไ่ ดรบั มากมาย อาทิ รางวัลแมดเี ดนในระดับจังหวัดและระดับชาติ รางวัลสตรีไทยดีเดน รางวัลนักการเมืองทองถิ่น ประเภทองคการ บริหารสวนจังหวัด รางวัลครอบครัวรมเย็น รางวัลผูใหการสนับสนุนศาสนาอิสลาม ฯลฯ ทานนายกฯ สมทรง พันธเจริญวรกุล กลาว เปดใจวา “ทุ ก รางวั ล ที่ ไ ด รั บ ล ว นเป น ความภาคภู มิ ใ จ สําหรับดิฉันทั้งสิ้น ที่ทุกองคกร ทุกหนวยงานเห็นถึง ความตั้งใจจริงของดิฉัน และมีอีกรางวัลที่ดิฉันรูสึกวา เปนรางวัลชีวิต ที่ดิฉันจะไมมีวันลืม จะเปนพลังแรง ใจใหดิฉันทํางานเพื่อประชาชนตอไป อยางไมหยุดยั้ง ก็คือ...รางวัลที่ประชาชนรวมตัวกันเองจัดงานแสดง ความยินดีทดี่ ฉิ นั ไดรบั รางวัลตางๆ จากภาครัฐมอบให และในงานวันนัน้ ไฮไลตของงานทีด่ ฉิ นั ไมทราบมากอน เลย คือประชาชนไดมอบรางวัลใหดฉิ นั เปนสายสะพาย แตไมมีมงกุฎนะคะ และขอความบนสายสะพายนั้นมี ขอความทีอ่ า นแลวทําใหดฉิ นั รับรูไ ดทนั ทีวา ประชาชน รักดิฉันไมนอยไปกวาที่ดิฉันรักประชาชนเลย” “ดิ ฉั น จึ ง หายเหนื่ อ ยและมี พ ลั ง ขึ้ น อย า งน า อัศจรรย และความคิดของดิฉันในเวลานั้น ก็คือ...ไม วาสุขหรือทุกขประการใด ดิฉนั จะอยูเ คียงขางกับพีน่ อ ง ประชาชนชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาตลอดไป ดิฉนั ไมมวี นั ทอดทิง้ ประชาชน เพราะรางวัลทีป่ ระชาชนมอบ ใหดิฉันคือคําวา ‘นายกของประชาชน’ ” “ตลอดระยะเวลาเกื อ บ 3 สมั ย ที่ ป ระชาชน มอบความไววางใจใหดิฉันมาดํารงตําแหนงอันทรง เกียรตินี้ ดิฉันไดใชความความรูความสามารถ และ ประสบการณที่ดิฉันมีใหกับประชาชน ทํางานตาม นโยบายที่ไดใหไวกับประชาชน 8 ดาน ซึ่งนโยบายใน แตละดาน ดิฉันจะใหความสําคัญไมยิ่งหยอนไปกวา 112
ข้อความบนสายสะพายนั้นมีข้อความ ที่อ่านแล้ว ท�าให้ดิฉันรับรู้ได้ทันทีว่า ประชาชนรักดิฉัน ไม่น้อยไปกว่าที่ดิฉัน รักประชาชนเลย นายกของประชาชน
Ayutthaya 113
ดิฉันไม่มีวันทอดทิ้งประชาชน เพราะรางวัล ที่ประชาชนมอบให้ดิฉันคือค�าว่า ‘นายกของประชาชน’ 114
กัน โดยจะเนนในเรือ่ งทีจ่ ะทําใหพนี่ อ งประชาชนมีความสุข มีสขุ ภาพ มีความเปนอยูท ดี่ ี สงเสริมทุกสาขาอาชีพในเรือ่ ง เศรษฐกิจ และสงเสริมสนับสนุนดานการศึกษา ใหเด็ก และเยาวชนไดพฒ ั นาอยางเต็มศักยภาพ เด็ก สตรี คนชรา ผูดอยโอกาส คือกลุมที่ดิฉันจะไมละเลย ปรับปรุงสนาม กีฬาเพื่อสงเสริมการออกกําลังกายของประชาชนทุกเพศ ทุกวัย”
จากความมุ่งมั่นของดิฉันในเรื่องของ สิ่งแวดล้อม ท�าให้ดิฉันได้รับเกียรติ รับ ‘บัตรประจ�าตัวอาสาสมัครพิทักษ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (ทสม)’
“ในด า นสิ่ ง แวดล อ ม ดิ ฉั น ให ค วามสํ า คั ญ เป น อย า งยิ่ ง สนั บ สนุ น ทั้ ง ภาครั ฐ และภาคเอกชน โดยเฉพาะเยาวชนให มี จิตสํานึก และเห็นความสําคัญของสิ่งแวดลอม อนุรักษแมนํ้า คู ค ลอง ดิ ฉั น รณรงค เ ชิ ง รุ ก ในการสร า งจิ ต สํ า นึ ก ในทุ ก พื้ น ที่ โดยมีเ ครือขายอาสาสมัครพิทักษทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่ ง แวดล อ มประจํ า หมู บ า น (ทสม) ซึ่ ง เป น กลไกสํ า คั ญ ในการ ขับเคลื่อน และจากความมุงมั่นของดิฉันในเรื่องของสิ่งแวดลอม ทําใหดิฉันไดรับเกียรติ รับ ‘บัตรประจําตัวอาสาสมัครพิทักษ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอม (ทสม)’ จาก กรม สงเสริมคุณภาพสิ่งแวดลอม ในป พ.ศ.2555 และไดรับมอบ เสื้อเครือขาย ทสม. จาก ผศ.ดร.กิติชัย รัตนะ อาจารยประจํา คณะวนศาสตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร ซึ่งเปนอีกหนึ่งสิ่ง ที่ดิฉันภูมิใจมากคะ” Ayutthaya 115
เส้นทางพบองค์การบริหารส่วนตําบล (อ.พระนครศรีอยุธยา)
องคการบริหารสวนตําบลบานปอม นโยบายการบริหารงานองค์การบริหาร ส่วนตําบล 1. ด้านโครงการสร้างพื้นฐาน 1) การก่อสร้าง ท�านุบา� รุงรักษา ปรับปรุง ซ่อมแซมถนน สะพาน ทางระบายน�้า 2 ) การพัฒนาแหล่งน�า้ เพือ่ การเกษตร เช่น ขุดลอก คู คลอง และแหล่งกักเก็บน�้า 3) การพั ฒ นาแหล่ ง น�้ า เพื่ อ อุ ป โภค บริโภค การขยายเขตการประปา ส่งเสริม ข้อมูลทั่วไป องค์ ก ารบริ ห ารส่ ว นตํ า บลบ้ า นป้ อ ม ตั้ ง อยู ่ ห มู ่ ที่ 3 ต� า บลบ้ า นป้ อ ม อ� า เภอ การประปาหมู่บ้านและประปาผิวดิน 4) การพัฒนา ปรับปรุงขยายบริการ พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพนื้ ทีค่ วามรับผิดชอบจ�านวน 11 หมูบ่ า้ น เนือ้ ที่ โดยรวมประมาณ 15.15 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 9,466 ไร่ จ�านวนประชากรรวมทัง้ สิน้ ไฟฟ้าสาธารณะ ระบบแสงสว่าง 2. ด้ า นสั ง คม การศึ ก ษา ศาสนา 6,881 คน เป็นชาย 3,285 คน เป็นหญิง 3,596 คน จ�านวนครัวเรือนรวมทัง้ สิน้ 2,202 ครัวเรือน ศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และภูมิปญญา 1) สนั บ สนุ น การป้ อ งกั น และแก้ ไ ข ปัญหายาเสพติด 2) การสร้างความอบอุ่นในครอบครัว ส่งเสริมบทบาทของสถาบันครอบครัว 3) การส่งเสริมการแข่งขันกีฬาทุกระดับ การออกก�าลังกายและนันทนาการ 4) สนับสนุนการศึกษาทัง้ ในระบบ และ นอกระบบทุกระดับตามแนวทางการปฏิรูป การศึกษาให้สอดคล้องกับวิถชี วี ติ ของชุมชน และภูมิปัญญาท้องถิ่น “สภาพแวดล้อมน่าอยู่ สาธารณูปโภคพร้อมพลัน การศึกษาสร้างสรรค์ความรู้ สู่คุณภาพชีวิต พัฒนาเศรษฐกิจแบบยั่งยืน” คือวิสยั ทัศน์ (vison) ขององค์การบริหารส่วนตําบลบ้านป้อม ปัจจุบนั มี นายอภิชาติ สุขสมบูรณ์ ซึ่งเป็น “คนรุ่นใหม่ ไฟแรง” ด�ารงต�าแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนตําบล บ้านป้อม ผูท้ มุ่ เทให้กบั งานบริหารจัดการจน อบต.บ้านป้อมได้รบั การคัดเลือกเป็น “องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดี” ประจ�าป 2555 จาก คณะกรรมการการ กระจายอํานาจ สํานักปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี
118
5) สนับสนุนให้โอกาสประชาชนทุกวัย เข้าถึงการสื่อสารไร้พรมแดน รวมทั้งการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ 6) สนับสนุนให้ประชาชนทุกระดับ ได้ มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเรียนรู้อย่างเสมอภาค และเป็นธรรม 7) ส่งเสริมกิจกรรมทางศาสนาทั้ง 3 ศาสนา ท�านุบ�ารุง รักษา และบูรณะโบราณ สถาน โบราณวัตถุ ศาสนาสถาน 8) ส่งเสริมและสนับสนุนการสืบสาน วัฒนธรรมแหล่งมรดกโลก ประเพณีทสี่ า� คัญ และภูมิปัญญาท้องถิ่น 3.ด้านการสาธารณสุข การสังคม สงเคราะห์ 1) ส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมของ ศูนย์สาธารณสุขมูลฐานต�าบล/หมู่บ้านและ 2) ส่งเสริมสนับสนุนการป้องกัน แก้ไข โรคระบาดและโรคภัยต่าง ๆ 3) ส่งเสริมสนับสนุนการช่วยเหลือ และ สงเคราะห์แก่ผู้ด้อยโอกาสทางสังคมผู้สูง อายุ และผู้พิการ 4) สนับสนุนสวัสดิภาพ ส่งเสริมความ เข้มแข็งทางด้านความรู้ ความช�านาญการ ในการปฏิบตั หิ น้าทีข่ องกลุม่ อาสาสมัคร เช่น อปพร. อสม. เป็นต้น 4. ด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว 1) การพั ฒ นาเศรษฐกิ จ พอเพี ย งใน ชุมชนให้พงึ่ ตนเองตามแนวทางพระราชด�าริ เพิ่มรายได้ของประชาชน กลุ่มออมทรัพย์ ต่าง ๆ ให้เกิดทุนหมุนเวียนในการประกอบ อาชีพ 2) ส่งเสริมและสร้างอาชีพเสริมให้กับ ประชาชน เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัว 3) การพัฒนาโบราณสถาน และโบราณ วัตถุให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ 4) จัดตั้งจุดประชาสัมพันธ์การท่อง เที่ยวประจ�าต�าบล 5. ด้านสิ่งแวดล้อม 1) ส่งเสริมการสร้างจิตส�านึกในการ รักษาความสะอาดของบ้านเมือง การก�าจัด ขยะอย่างถูกวิธี
2) พัฒนาสภาพแวดล้อม และปรับปรุง สภาพภูมิทัศน์ให้สวยงาม 3) ส่ ง เสริ ม การอนุ รั ก ษ์ ท รั พ ยากร ธรรมชาติ แ ละสิ่ ง แวดล้ อ มตามแนวพระ ราชด�าริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระราชเสาวนี ย ์ ส มเด็ จ พระนางเจ้ า พระบรมราชินีนาถ 6. ด้ า นการป้ อ งกั น และบรรเทา สาธารณภัย 1) ฝึกอบรมและทบทวนอาสาสมัคร ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(อปพร.) 2) จัดโครงการฝึกอบรมการช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยเบื้องต้น 3) จัดหาแนวทางในการป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัยอย่างยั่งยืน 7. ด้านการบริหารและการเมือง 1) บริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล 6 ประการ คือ หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม
หลักการมีส่วนร่วม หลักความถูกต้อง หลัก ความโปร่งใสและตรวจสอบได้ หลักความ คุ้มค่า 2) พั ฒ นาและปรั บ ปรุ ง ระบบการ บริหารขององค์การบริหารส่วนต�าบลให้มี ความทันสมัยและมีประสิทธิภาพ 5 ด้าน คือ ด้านบุคลากร ด้านการพัฒนารายได้ ด้าน ยานพาหนะ ครุภณ ั ฑ์ วัสดุ อุปกรณ์ ด้านการ บริหารจัดการ 3) ส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชน มีส่วนร่วมในการบริหารงานองค์การบริหาร ส่วนต�าบล 4) สนับสนุนการเลือกตัง้ ทุกระดับให้มี ความบริสุทธิ์ ยุติธรรม 5) ส่งเสริมให้มีการพัฒนาบุคลากรทั้ง ฝ่ายการเมืองและฝ่ายประจ�าในด้านองค์ ความรู้และการบริการประชาชน
119
6 เดื อ น 6 ผลงานเพื่ อ คุ ณ ภาพชี วิ ต ชาวบ้านป้อม 1. การแก้ ไ ขปั ญ หาน�้ า ท่ ว ม นาย อภิชาติ สุขสมบูรณ์ นายกองค์การบริหาร ส่วนตําบลบ้านป้อม ได้ทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ ในการช่วยเหลือพี่น้องชาวบ้านป้อม อย่ า งสุ ด ความสามารถ รวมทั้ ง ติ ด ต่ อ ประสานงานขอรับการช่วยเหลือจากหน่วย งานต่ า งๆ ทั้ ง ภาครั ฐ และเอกชน ท� า ให้ พี่น้องชาวบ้านป้อมได้คลายความทุกข์โศก จากปัญหาน�้าท่วม และรู้สึกว่าเกิดความ ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 2. การปรับปรุงภูมทิ ศั น์ทงั้ 11 หมูบ่ า้ น เพื่ อ รองรั บ การท่ อ งเที่ ย วที่ ก� า ลั ง ขยายตั ว โดยเริ่ ม จากการตั ด แต่ ง ต้ น ไม้ ถางหญ้ า ท�าความสะอาดถนนเส้นทางท่องเที่ยวและ ถนนสายรองภายในหมู่บ้าน 3. การแก้ไขปัญหาสิง่ แวดล้อม รณรงค์ ให้ประชาชนคัดแยกขยะ นอกจากจะท�าให้ ประชาชนชนมีอาชีพ มีรายได้แล้ว ยังท�าให้ ลดภาวะโลกร้อนอีกด้วย 4. จัดกิจกรรมดีๆ ให้กับกลุ่มเด็กและ เยาวชนในช่วงปดเทอมภาคฤดูร้อน ดังนี้ กิจกรรม “เตรียมความพร้อมเข้าสูป่ ระชาคม อาเซียนภาษาอังกฤษปดเทอม” กิจกรรม อบรม “มัคคุเทศก์น้อย” กิจกรรม ส่งเสริม คุ ณ ธรรม และจริ ย ธรรมให้ กั บ เด็ ก และ เยาวชน 5. ฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันและ บรรเทาภัยฝ่ายพลเรือน(อพปร.) 6. ฝึ ก อบรมการช่ ว ยเหลื อ ผู ้ ป ระสบ ภัยเบื้องต้นซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมหนีไฟ ประจ�าป 2557 แหล่งท่องเที่ยวสําคัญ ในเขต อบต.บ้านป้อม 1. วัดกษัตราธิราชวรวิหาร เป็นวัด โบราณสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีพระ ปรางค์เป็นประธานของวัด ในสมัยรัชกาล ที่ 1 เจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ กรม พระราชวัง และกรมขุนอิศรานุรักษ์ (เกศ) ทรงปฏิสงั ขรณ์ขนึ้ ใหม่ทงั้ พระอาราม ในสมัย 120
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดกษัตราธิราช” สถานที่สําคัญภายในวัด คือ พระ ประธานในพระอุโบสถที่มีแท่นฐานผ้าทิพย์ ปูนปัน ฝมอื ประณีตงดงาม ใบเสมาของพระ อุโบสถเป็นใบเสมาคูแ่ กะสลักลวดลายวิจติ ร บรรจง และมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่เคารพ นับถือ คือ หลวงปู่เทียม
2. วัดไชยวัฒนาราม เป็นพระอาราม หลวงเก่ า ในสมั ย อยุ ธ ยาตอนกลาง ที่ มี ความสวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของอุทยาน ประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา สร้างขึ้น ในรั ชสมั ย พระเจ้ า ปราสาททอง เมื่อ ป พ.ศ. 2173 เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระราชมารดา ความสําคัญของวัดไชยวัฒนาราม ที่มีมาในอดีต ได้แก่ เป็นที่บ�าเพ็ญพระ ราชกุศลของพระมหากษัตริย์ เป็นที่ถวาย พระเพลิ ง พระศพพระมหากษั ต ริ ย ์ แ ละ พระบรมวงศานุ ว งศ์ เป็ น ที่ พ� า นั ก ของ พระราชาคณะฝ่ายอรัญวาสี เป็นที่บรรจุ พระอั ฐิ ก รมพระราชวั ง บวรสถานมงคล เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ (เจ้าฟ้ากุ้ง) และเจ้าฟ้า สังวาล 3. วัดท่าการ้อง เป็นวัดโบราณที่มีมา แต่สมัยอยุธยาตอนกลาง โดยการรวมวัด 2
วัดเข้าด้วยกัน คือ วัดท่าและวัดการ้อง สร้าง ขึ้นราว พ.ศ. 2092 ประวัติศาสตร์กล่าวว่า สร้างในสมัยสมเด็จพระชัยราชาธิราชสมัย อยุธยาตอนต้น อีกทัง้ ก่อนอยุธยาจะเสียกรุง บริเวณแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งค่ายของแม่ทัพ ใหญ่ แห่งพม่า คือ เนเมียวสีหบดี ปัจจุบัน ยังคงเหลือสถาปัตยกรรมสมัยกรุงศรีอยุธยา หลายแห่ ง ได้ แ ก่ ศาลาการเปรี ย ญไม้ สั ก ริ ม แม่ นํ้ า เจ้ า พระยา พระอุ โ บสถ ประดิ ษ ฐานพระพุ ท ธรั ต นมงคลหรื อ หลวงพ่อยิม้ เมือ่ สงครามโลกครัง้ ที่ 2 วัดท่า การ้องได้ถูกดัดแปลงเป็นโรงเรียนนายร้อย ฝ่ายช่างเทคนิค โดยได้ใช้ศาลาการเปรียญ เป็นห้องเรียน
ปัจจุบันวัดท่าการ้องได้รับการพัฒนา โดยพระครู สุ ท ธิ ป ญ ญาโสภณ (เจ้ า อาวาส) จนมีภูมิทัศน์ที่สวยงาม ห้องน�้า สะอาด ตลาดน�้ากรุงเก่งที่สร้างงานสร้าง อาชีพให้แก่คนในชุมชน ตลอดจนเป็นแหล่ง เรียนรู้แก่คนทุกวัย 4. วั ด ธรรมมาราม เป็นวัดโบราณ สร้างแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในอดีตเมื่อพม่า ยกทัพมาล้อมกรุงศรีอยุธยาคราใด ก็จะมา ตั้งค่ายที่วัดนี้ทุกครั้ง เพื่อควบคุมเส้นทาง
คมนาคมทางน�้า เพราะเหนือวัดนี้ไปเพียง เล็กน้อยคือที่หัวแหลม เป็นปากน�้าลพบุรี ไหลมาบรรจบกั บ แม่ น�้ า เจ้ า พระยา อั น เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ส�าคัญแห่งหนึ่ง และ ป้ อ งกั น การเคลื่ อ นย้ า ยก� า ลั ง ของไทยมา จากภายนอกเสริ มก� าลัง ในเมือ งหลวงได้ เป็นอย่างดี เพราะด้านหลังวัดธรรมาราม เป็นทุ่งกว้าง มีชื่อว่า “ทุ่งประเชต” อันเป็น หนึ่ ง ในสามของทุ ่ ง ที่ มี ก ารสั ป ระยุ ท ธกั น อย่างโชกโชนระหว่างไทยกับพม่า ทุง่ ทัง้ สาม มีนามดังนี้ คือ ทุง่ พุดเลา ทุง่ ชายเคือง และ ทุ่งประเชต 5. พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ พ ระอุ บ าลี มหาเถระ มี พิ ธี เ ป ด เมื่ อ วั น ที่ 26 ธั น วาคม 2556 ณ วั ด ธรรมาราม เพื่อเฉลิมฉลอง 260 ป (พ.ศ. 2556) แห่ ง การสถาปนาพระพุ ท ธศาสนา สยามนิ กาย ในประเทศสาธารณรัฐ สั ง คมนิ ย มประชาธิ ป ไตยศรี ลั ง กา น้ อ มระลึ ก ถึ ง พระอุ บ าลี ม หาเถระ พระอริ ย สงฆ์ ที่ ท� า คุ ณ ประโยชน์ ต ่ อ พระพุทธศาสนา สมควรยกย่องให้เป็น บุคคลส�าคัญของโลกแห่งปอีกด้วย จากใจ..นายอภิ ช าติ สุ ข สมบู ร ณ์ (นายกนวล) ถึงพี่น้องชาวบ้านป้อม “ผมพรอมที่จะพาชุมชนของ เรา พัฒนาสูความเปนเลิศ ทั้งทาง ดานคุณภาพชีวิตที่ดี ไฟฟา ถนน นํ้าประปา ปรับปรุงภูมิทัศนชุมชนให นาอยู มีความรูเทาเทียมกัน มีสุขภาวะ ที่ ดี สนั บ สนุ น และพั ฒ นาภู มิ ป ญ ญา ทองถิ่นของชุมชนบานปอม ใหพี่นอง ประชาชนมีรายไดเพิม่ มากขึน้ สนับสนุน ใหเยาวชนหางไกลยาเสพติด ดูแลผูสูง วัย ผูดอยโอกาส ใหมีความเปนอยูอยาง ปกติสุขในสังคม พรอมพัฒนาทุกๆ ดาน อยางยั่งยืนครับ”
ติดต่อนายกองค์การบริหารส่วนตําบลบ้านป้อม
โทร 08-9901-6654 ID CODL : panpom 1
Ayutthaya 121
เสนทางพบเทศบาลตําบล (อ.ทาเรือ)
เทศบาลตําบลทาหลวง
“เทศบาลตําบลทาหลวง จะเปนเมืองนาอยู ชุมชนเขมแข็ง แหลง ทองเที่ยวยั่งยืน” คื อ วิ สั ย ทั ศ น ข องเทศบาลตํ า บลท า หลวง ซึ่ ง มี สํ า นั ก งานตั้ ง อยู เ ลข ที่ 104 ถนนสายทาเรือ-ทาลาน หมูที่ 7 ตําบลจําปา อําเภอทาเรือ จังหวัด พระนครศรีอยุธยา ปจจุบนั เทศบาลตําบลทาหลวง มี นายเชษฐา ปทุมรังสี เปน นายกเทศมนตรี ซึ่งไดเขารับประทานโลประกาศเกียรติคุณ “องคกร ตนแบบ” ดานการพัฒนาระบบการจัดการสุขาภิบาลอาหาร (กรมอนานัยที่ 1) โดย พระเจาวรวงคเธอ พระองคเจาศรีรัศม พระวรชายา ในสมเด็จ พระบรมโอรสาธิราช วันที่ 16 สิงหาคม 2555 ณ ศูนยประชุมอิมแพ็ค เมืองทอง ธานี อําเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี สถานที่สําคัญของ ทต.ทาหลวง วัดสะตือ (พุทธไสยาสน) วัดสะตือ ตัง้ อยูเ ลขที่ 140 บานทางาม หมูท ี่ 6 ตําบลทาหลวง อําเภอทาเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สังกัดคณะสงฆมหานิกาย ศาลาดินหรือวิหารสมเด็จ หลังเดิมเปนอาคารไมโปรงมุงดวยสังกะสี ลักษณะการกอสรางใชสลักเดือยแทนตะปู สมเด็จพุฒาจารยโต ไดมาพักอาศัย เมื่อคราว มาคุมการกอสรางองคพระพุทธไสยาสน ตอมาไดมีการปรับปรุงและ กอสรางวิหารคูเปนอาคารชุดเชื่อมตอกับศาลาดิน ศาลานํ้าหรือศาลาริมแมนํ้า ปาสัก เจดียยอมุมไมสิบสอง ตั้งอยูบริเวณเศียรองคพระพุทธไสยาสน วัดสะตือ สรางขึน้ เปนวัดนับแต พ.ศ. 2400 เดิมตัง้ อยูท างทิศเหนือขึน้ ไปไม ไกลนัก ทีเ่ รียกวา วัดสะตือ เพราะมีตน สะตือใหญเปนนิมติ ตอเมือ่ สมเด็จพระพุฒ าจารย (โต) พรหมรังสี ไดมาดําเนินการสรางพระพุทธไสยาสนแลว วัดสะตือจึง ไดยา ยมาตัง้ ทีบ่ ริเวณพระนอนนีแ้ ละ เรียกนามตามชือ่ ตําบลวา “วัดทางาม” กาล ตอมา สมเด็จพระพุทธเจาหลวง รัชกาลที่ 5 ไดเสด็จไปทรงนมัสการพระพุทธบาท ไดเสด็จขึ้นที่ทาตําบลนี้ 2 ครั้ง แตนั้นมาจึงเรียกตําบลวา “ตําบลทาหลวง” และ เรียกนามวัดวา “วัดทาหลวง” แตตอ มากลับไปเรียกวา “วัดสะตือ” ตามนามเดิม 122
อีก ซึ่งยุติตองกันกับการเสด็จประพาสตนครั้งที่ 2 ตามจดหมายเหตุรชั กาลที่ 5 ระบุไวตอนหนึง่ วา “วัน ที่ 31 กรกฎาคม ร.ศ. 125 (พ.ศ. 2449) ไดกินขาวกลางวัน ทีว่ ดั ทางาม ทรงทําครัวและเสวยทีต่ รงบริเวณใตเศียรพระ นอนใหญ และทีเ่ รียกกันวา ทาหลวง นัน้ เกิดขึน้ ใหม เพราะ พระจุลจอมเกลาฯ เสด็จมานมัสการรอยพระพุทธบาท 2 ครั้ง ขึ้นที่ทางามทั้ง 2 ครั้ง ตามพระราชนิพนธ รัชกาลที่ 5 ในจดหมายเหตุเรื่องเสด็จประพาสตน ครั้งที่ 2 วัดทางาม ดังกลาวนั้นหมายถึง “วัดสะตือ” ในปจจุบัน และ ที่วัดนี้
มีโรงเรียนประถมศึกษาของทางราชการตั้ง อยู ใ นบริ เ วณที่ดินของวัด วัด สะตือ ไดรับ พระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งหลังวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2498 เขตวิสุงคามสีมา กวาง 10 เมตร ยาว 24 เมตร การกอสรางพระพุทธไสยาสน ในป พุทธศักราช 2413 กอนที่เจาประคุณสมเด็จ พุฒาจารยโต จะมรณภาพ 3 ป สมเด็จฯโต มรณภาพเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2415 (ที่ กรุงเทพฯ) ไดมาทําการกอสรางพระพุทธรูป กออิฐถือปูนปางพุทธไสยาสน ณ หมูบาน ที่ ถื อ กํ า เนิ ด ที่ วั ด ท า งาม ป จ จุ บั น คื อ วั ด สะตือ ตําบลทาหลวง อําเภอทาเรือ จังหวัด พระนครศรีอยุธยา ซึ่งพระนอนใหญมีขนาด ยาว 1 เสน 6 วา สูง (ตั้งแตพื้นถึงรัศมี) 8 วา ฐาน ยาว 1 เสน 10 วา กวาง 4 วา 2 ศอก หรือ ยาว 52 เมตร กวาง 9 เมตร สูง 16 เมตร องคพระโปรง เบื้องพระปฤษฎางค ทําเปน ชองกวาง 2 ศอก สูง 1 วา สถานที่กอสราง องคพระประดิษฐานอยูกลางแจง ณ ที่ริม คูวัด ดานตะวันออก ซึ่งอยูริมแมนํ้าปาสัก งานประจําปวัดสะตือ พระพุ ท ธไสยาสน ตั้ ง แต อ ดี ต จนถึ ง ปจจุบัน ไดมีผูมากราบไหว บนบาน เมื่อ ไดรับความสําเร็จก็แกบนดวยขนมจีนทั้ง กระจาด โดยมีค วามเชื่อ วาเปนของชอบ ของพวกทาส เนื่องจากในสมัยที่ทําการชวย สมเด็จ สรางพระนอนมักทําขนมจีนมาเลี้ยง พระพุทธไสยาสน (หลวงพอโต) เปนพระพุทธ
รู ป ที่ มี ข นาดใหญ ม าก มี อ ายุ ก ารสร า งที่ ยาวนานกวารอยป ทางกรมศิลปากร ไดจด ทะเบียนขึ้นเปนโบราณสถาน เมื่อป 2543 ปจจุบันมีประชาชนจากทั่วสารทิศ เดินทาง มานมัสการกราบไหวมีการขอพรและโชค ลาภตาง ๆ ซึ่งมักจะประสบผลตามที่ตั้งใจ ขอไว มีการแกบนดวยการปดทอง การนํา อาหารคาวหวานมาถวาย ซึ่งจะตองนํามา ถวายกอนเวลา 12.00 น. มีการรํากลองยาว ไปรอบ ๆ องคพระพุทธไสยาสนตามจํานวน รอบที่ บนไว เคยมีผูมาบนและประสบผล สําเร็จจึงรําแกบนเปน 1,000 รอบ (1 รอบ องคพระนอน ยาวประมาณ 122 เมตร)
นักเรียนและชุมชน การประกวดทูตสืบสาน ประเพณี ล อยกระทง และมี ก ารแสดงให ชมฟรี วันพอแหงชาติ วันที่ 5 ธันวาคม ของ ทุกป ทต.ทาหลวง ไดรวมงานวันพอแหง ชาติ ณ ที่วาการอําเภอทาเรือ มีกิจกรรมวาง พานพุม ถวายปน โตพระภิกษุสงฆ ในชวงคํา่ ไดมีการจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล ณ ลานจอดรถวัดสะตือ โครงการจักรยานเพื่อนอง นายกฯ เชษฐา ปทุมรังสี พรอมคณะ ผูบริหาร เปนประธานในพิธีมอบจักรยานให แกนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดถลุงเหล็กฯ จํานวน 50 คัน โดยมอบใหกับเด็กนักเรียน ชั้นป.4-ป.6 ที่มีความประพฤติดี เรียนดี แต ขาดทุนทรัพย
กิจกรรมสําคัญของ ทต.ทาหลวง วันขึ้นปใหม วันที่ 1 มกราคมของทุก ป เทศบาลตําบลทาหลวง จัดกิจกรรมวัน ขึ้นปใหม ทําบุญถวายภัตตราหารเชาแด พระสงฆ เพื่อเปนสิริมงคลแกตนเองและ ครอบครัว วั น ป ย มหาราช วั น ที่ 23 ตุ ล าคม ของทุกป นายเชษฐา ปทุ ม รั ง สี นายก เทศมนตรี ตํ า บลท า หลวง พร อ มด ว ย คณะผูบริหาร ไดนําพวงมาลาดอกไมสัก การะและถวายบังคม บริเวณหนาที่วาการ อํ า เภอท า เรื อ เพื่ อ เป น การรํ า ลึ ก ถึ ง พระ มหากรุณาธิคุณ ประเพณีลอยกระทง ทต.ทาหลวง ไดจัดกิจกรรมประเพณีลอยกระทงขึ้นทุกป โดยมีการประกวดกระทงประดิษฐประเภท Ayutthaya 123
เสนทางพบองคการบริหารสวนตําบล (อ.ทาเรือ)
องคการบริหารสวนตําบลโพธิ์เอน อาชีพเกษตรกรรม 72% (เกษตรกรมีที่ดิน เปนของตนเอง) เปนขาราชการ พนักงาน โรงงาน อุ ต สาหกรรมรั บ จ า ง 11% และ อาชีพอื่นๆ 17%
“ตํ า บลเข ม แข็ ง ส ง เสริ ม การ ศึกษา สิ่งแวดลอมที่ดี เศรษฐกิจพอ เพียง ดํารงไวซึ่งวัฒนธรรม คุณภาพ มั่นคงอยางยั่งยืน” คื อ วิ สั ย ทั ศ น ก ารพั ฒ นาของ องคการบริหารสวนตําบลโพธิ์เอน ตํ า บลโพเอน อํ า เภอท า เรื อ จั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยา ซึ่ ง ตั้ ง อยู ท างทิ ศ ใตหางจากที่วาการอําเภอประมาณ 8 กิโลเมตร มีเนือ้ ทีท่ งั้ หมดประมาณ 10.42 ตร.กม. หรือประมาณ 6,510 ไร โดยมี นายภูวดล สุภาทร เปน นายกองคการ บริหารสวนตําบลโพธิ์เอน ประวัติความเปนมา ในสมั ย โบราณ ตํ า บลโพธิ์ เ อนมี ตนโพธิ์เอนขึ้นอยูริมแมนํ้าปาสัก ตอมา มีศิลาถูกนํ้าพัดลอยตามกระแสนํ้ามา ชาวบานไดชวยกันนําศิลาไปผูกไวกับ ตนโพธิ์ กระแสนํ้าที่แรงทําใหตนโพธิ์ได เอนตามศิลา และในที่สุดก็ไมสามารถ รั้งศิลานั้นไวได ศิลาจึงลอยตามกระแส นํ้าไปอยูที่วัดนครหลวงจนถึงปจจุบันนี้ สวนชาวบานบริเวณตนโพธิเ์ อนจึงพากัน เรียกวา “ หมูบานโพธิ์เอน ” ซึ่งปจจุบันก็ คือตําบลโพธิ์เอน 124
นโยบายการบริหารงาน 1. นโยบายดานโครงสรางพืน้ ฐาน ให ความสําคัญกับการพัฒนาโครงสรางพืน้ ฐาน ในงานสาธารณูปโภค สาธารณูปการ เพื่อ ให ป ระชาชนได รั บ ความสะดวกและ ปลอดภั ย ในชี วิ ต และทรั พ ย สิ น โดยมี แนวทางการดําเนินการดังนี้
ขอมูลทั่วไป ตําบลโพธิ์เอน เปนพื้นที่ที่มีความอุดม สมบู ร ณ เนื่ อ งจากมี แ ม นํ้ า ป า สั ก และคลอง ชลประทานไหลผานกลางตําบล ซึ่งในพื้นที่มี คลองชลประทาน 2 สาย ถนนสายหลัก 2 เสน แบงการปกครองเปน 6 หมูบาน ไดแก หมูที่ 1 บานกระดาษ หมูท ี่ 2 บานโพเอน หมูท ี่ 3 บานบาง มวง หมูที่ 4 บานสามเรือน หมูที่ 5 บานตะเคียน ดวน หมูที่ 6 บานใหมสามเรือน โดยมีประชากร รวมทั้งสิ้น 3,147 คน แยกเปนชาย 1,467 คน เปนหญิง 1,680 คน ประชากรสวนใหญประกอบ
1.1 ดานการคมนาคม กอสราง ซอมแซม และบํ า รุ ง รั ก ษาถนนภายในหมู บ า น ให ประชาชนสะดวกและปลอดภัยในการสัญจร 1.2 ดานระบบประปา สราง ปรับปรุง ซอมแซมระบบประปาใหสามารถผลิตนํ้า ใหเพียงพอกับความตองการของประชาชน และพัฒนานํ้าใหมีคุณภาพดีขึ้น 1.3 ดานไฟฟาและแสงสวาง ขยาย เขตไฟฟาใหครบทุกหลังคาเรือน ขยายเขต และซอมแซมไฟสาธารณะ เพื่อเพิ่มความ ปลอดภัยในชีวติ และทรัพยสนิ ของประชาชน 2. นโยบายทางด า นการพั ฒ นา คุณภาพชีวติ ใหความสําคัญกับการพัฒนา การคุ ณ ภาพชี วิ ต การศึ ก ษา สวั ส ดิ ก าร ต า งๆ และความปลอดภั ย ในชี วิ ต และ ทรัพยสนิ โดยมีแนวทางการดําเนินการดังนี้ 2.1 ด า นคุ ณ ภาพชี วิ ต เสริ ม สร า ง สุ ข ภาพของประชาชน ส ง เสริ ม การกี ฬ า ปองกันและเฝาระวังโรคติดตอ ใหความ รู เ รื่ อ งสาธารณสุขมูล ฐาน จัด ใหมีส ภาพ แวดลอมที่ดี 2.2 ดานการศึกษา พัฒนาคุณภาพการ ศึกษาของโรงเรียนในเขตอบต. ปรับปรุงศูนย เด็กเล็กใหมสี ภาพแวดลอมทีด่ ี มีการจัดการ เรียนการสอนทีด่ มี คี ณ ุ ภาพ และเพียงพอตอ ความตองการของประชาชน สนับสนุนแหลง การเรียนรูใหกับประชาชนในเขตพื้นที่ 2.3 ด า นสวั ส ดิ ก ารสั ง คม ให ก าร สงเคราะหและพัฒนาคุณภาพชีวติ ผูส งู อายุ, ผูพิการ, ผูดอยโอกาสในสังคม สนับสนุน กิจกรรมของกลุม สตรี กลุม อสม. และองคกร ตางๆที่ทําคุณประโยชนใหกับสังคม 2.4 ดานการปองกันและแกไขปญหา ยาเสพติด สนับสนุนกิจกรรมชุมชน/หมูบาน เขมแข็ง เพื่อใหการปองกันและปราบปราม ยาเสพติดเปนไปอยางตอเนื่อง 2.5 ดานความปลอดภัยในชีวิตและ ทรัพยสิน สงเสริมกิจกรรมของอาสาสมัคร ปองกันภัยฝายพลเรือน (อปพร.) เพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพในการปฏิบตั งิ านดานการชวย เหลือผูประสบภัยตาง ๆ
3. นโยบายทางด า นทรั พ ยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดลอม แกไขปญหา ขยะมูลฝอย และสรางจิตสํานึกใหประชาชน ตระหนักถึงปญหาขยะมูลฝอย แกไขปญหา นํา้ ทวมขัง ปรับปรุงแหลงนํา้ บําบัดและฟน ฟู ทรัพยากรธรรมชาติที่เสื่อมลง ฯลฯ 4. นโยบายดานเศรษฐกิจ ใหความ สําคัญกับการสงเสริมการประกอบอาชีพทั้ง ในดานเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม โดย สนับสนุนการทําเกษตรกรรมใหเหมาะสมกับ พื้นที่ ถายทอดความรูในการประกอบอาชีพ ตางๆ เพื่อสรางรายไดเพิ่มขึ้น สนับสนุน อุตสาหกรรมในครัวเรือน ฯลฯ 5. นโยบายดานศาสนา วัฒนธรรม และประเพณี สื บ สานขนบธรรมเนี ย ม ประเพณีไทย วัฒนธรรมและวิถีชีวิตความ เปนใหคงอยูตอไป 6. นโยบายดานการเมืองการบริหาร ยึดหลักการบริหารกิจการบานเมืองที่ดี โดย เปดโอกาสใหประชาชนเขามามีสวนรวม ในทุกขั้นตอน เพื่อความโปรงใสและตรวจ สอบได นําระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเขา
มาใชเพื่อใหการบริการประชาชนรวดเร็ว มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ จั ด ฝ ก อบรมและพั ฒ นา พนักงานของอบต.และลูกจางอยางตอเนือ่ ง ฯลฯ กิจกรรมสําคัญ จัดงานวันพอแหงชาติ วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2556 จัดกิจกรรมวันเด็กแหงชาติ วันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2557 มอบผาหมตานภัยหนาวแกชาวตําบล โพเอน วันที่ 15 มกราคม พ.ศ.2557 จัดโครงการฝกอบรมปองกันและระงับ อัคคีภัยเบื้องตน วันที่ 30-31 มีนาคม พ.ศ. 2557 Ayutthaya 125
เสนทางพบเทศบาลตําบลอรัญญิก อําเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เทศบาลตําบลอรัญญิก “หั ต ถกรรมมี ด ลื อ ลั่ น โบราณ สถานวั ด ใหญ เ ทพนิ มิ ต วิ ถี ชี วิ ต ฝ ง นํ้าปาสัก เอกลักษณประเพณีไหวครู บูชาเตา” คื อ คํ า ขวั ญ ของเทศบาลตํ า บล อรัญญิกซึ่งมีสํานักงานตั้งอยูเลขที่ 99 หมูที่ 8 ตําบลทาชาง อําเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยูหางจาก จังหวัดฯ ประมาณ 30 กิโลเมตร เทศบาล ตําบลอรัญญิก โดยไดรบั การยกฐานะจาก สุขาภิบาลอรัญญิก เมือ่ วันที่ 25 พฤษภาคม 2542 ประกอบดวย 3 ตําบล ไดแก ตําบล ทาชาง (8 ชุมชน) ตําบลพระนอน (4 ชุมชน) และ ตําบลสามไถ (7 ชุมชน) รวมพื้นที่ ทั้ ง สิ้ น 35 ตารางกิ โ ลเมตร ป จ จุ บั น มี นายไพบูลย ศรีสขุ เปน นายกเทศมนตรี โดยบริ ห ารงานภายใต วิ สั ย ทั ศ น ก าร พัฒนาที่วา
126
“อรัญญิกเมืองนาอยู มีดลือชื่อคู บาน ภูมปิ ญ ญาทองถิน่ ไทย เศรษฐกิจ พอเพียง กาวไกลในทางพัฒนา ประชา มีสุข” จุดเดนของอรัญญิก เทศบาลอรัญญิก เปนแหลงผลิต มี ด อรั ญ ญิ ก ที่ มี คุ ณ ภาพ มี เ อกลั ก ษณ โดยการนํ า เอาภู มิ ป ญ ญาท อ งถิ่ น มา สร า งสรรค ใ ห เ ป น ผลิ ต ภั ณ ฑ ที่ มี ค วาม โดดเดน มีชื่อเสียงเปนที่รูจักอยางแพร หลายทั้งในประเทศและตางประเทศ โดยมีประวัติความเปนมาเกี่ยวกับ มี ด อรั ญ ญิ ก ว า หมู บ า นต น โพธิ์ (ม.6 ต. ทาชาง) และบานไผหนอง (ม.7 ต.ทาชาง) เปนแหลงผลิตมีดมาตั้งแตครั้งโบราณ ในสมัยกอนมีตลาดการคา มีโรงบอนอยู ทีบ่ า นอรัญญิก (ปจจุบนั คือตําบลปากทา
อําเภอทาเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) ซึ่งอยูไมไกลจากบานตนโพธิ์ และบาน หนองไผมากนัก ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร มีผูคนนําสินคามาซื้อขายแลก เปลี่ยนกันมากมายในยุคนั้น ชาวบานก็ นําเอามีดไปขาย เมื่อคนที่ซื้อไปใชเห็น วาคุณภาพดี จึงบอกตอๆ กันไปวามีด คุณภาพดี “อรัญญิก” เลยเรียกติดปาก ไปหาซื้อมีดที่ตองไปอรัญญิก ที่จริงแลว คื อ หมู บ า นต น โพธิ์ หมู บ า นไผ ห นอง และหมูบานอื่นๆ จึงเปนที่มาของคําวา “มีดอรัญญิก และเมื่อครั้งที่มีการจัดตั้ง สุขาภิบาลในเขตชุมชนของตําบลทาชาง ตํ า บลสามไถ และตํ า บลพระนอน จึ ง ได นํ า ชื่ อ ของมี ด อรั ญ ญิ ก มาตั้ ง เป น ชื่ อ สุ ข าภิ บ าลอรัญญิก และเปลี่ยนแปลง ฐานะเป น เทศบาลตํ า บลอรั ญ ญิ ก ใน ปจจุบัน สืบสานประเพณี “ไหวครู บูชาเตา” “ไหวครู บูชาเตา” เปนประเพณี เก า แก ข องชาวอรั ญ ญิ ก ซึ่ ง จั ด ขึ้ น เพื่ อ ไหว ค รู ช า งตี มี ด ดาบของบ า นต น โพธิ์ และบานไผหนอง ตําบลทาชาง อําเภอ นครหลวง สืบเนื่องจากบรรพบุรุษของ ชาวบานตนโพธิ์ และไผหนองนั้น เปน ชาวเวียงจันทน ที่เขามาตั้งรกรากตั้งแต สมัยกรุงรัตนโกสินทรตอนตน และสิ่งที่ ชาวบานตําบลทาชางทุกคนยังคงยึดถือ ปฏิบัติสืบตอกันมาจนเปนประเพณีคือ ไหวครู บูชาเตา ซึ่งทุกบานจะจัดขึ้นใน ชวงเชาตรูของวันพฤหัสบดี ที่ตรงกับวัน ขึน้ 7 คํา่ เดือน 6 (ประมาณเดือนเมษายน -พฤษภาคม) ของทุกป ตามแตค วาม สะดวก ทั้งนี้เพื่อรําลึกถึงพระคุณครูบา อาจารยที่ไดสืบทอดศิลปะการตีมีดดาบ และเพื่อความเปนสิริมงคลของตน
พิ ธี ก รรมเริ่ ม จาก ผู ทํ า พิ ธี ไ หว ค รู กลาวบทชุมชนเทวดา ไหวพระรัตนตรัย จากนั้ น ก็ ก ล า วอั น เชิ ญ ครู บ าอาจารย ตลอดจนพระบู ร พาจารย ทั้ ง ครู ไ ทย ครูลาว ครูจนี ครูมอญ ทีไ่ ดประสิทธิประสาท วิชาตีเหล็กให มารับเครือ่ งบูชาสังเวยและ ประสาทพรใหแกผูเขารวมพิธี ใหประสบ แตความสุขความเจริญ ทําการปดทอง เครื่องมือทุกชิ้น และทํานํ้ามนตธรณีสาร ประพรมเครือ่ งมือและผูเ ขารวมพิธที กุ คน เพื่อความเปนสิริมงคล
สนใจ OTOP อรั ญ ญิ ก ติ ด ต อ เทศบาลตําบลอรัญญิก เลขที่ 99 หมูท ี่ 8 ตําบลทาชาง อําเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13260 โทร.035-761491 Fax.035-761492
Ayutthaya 127
เสนทางพบองคการบริหารสวนตําบล (อ.นครหลวง)
องคการบริหารสวนตําบลหนองปลิง “เกษตรกรรมกาวหนา การศึกษาดี เดน เศรษฐกิจรุงเรือง พลเมืองสุขภาพ ดี มีอาชีพเสริมทีเ่ หมาะสม การคมนาคม ทันสมัย รวมใจพัฒนา รักษาสิง่ แวดลอม เพียบพรอมวัฒนธรรม นําสูช มุ ชนเขมแข็ง” คือวิสยั ทัศนของ องคการบริหารสวน ตําบลหนองปลิง ซึง่ มีสาํ นักงานตัง้ อยูห มูท ี่ 1 ตําบลหนองปลิง อําเภอนครหลวง จังหวัด พระนครศรีอยุธยา มีเนือ้ ทีท่ งั้ หมดประมาณ 11.05 ตร.กม. หรื อ ประมาณ 6.905 ไร ปจจุบันมี นายสํ า รวย กองอรรถ เปน นายกองคการบริหารสวนตําบลหนองปลิง และ นายไพศาล มุงทวีเกียรติ เปน ปลัด องคการบริหารสวนตําบลหนองปลิง ขอมูลทั่วไป องค ก ารบริ ห ารส ว นตํ า บลหนอง ปลิ ง แบ ง เขตการปกครองออกเป น 5 หมูบาน ไดแก หมูที่ 1 บานมาบพระจันทร หมูที่ 2 บานดอนกลาง หมูที่ 3 บานหนอง โคก หมูที่ 4 บานสระขุด หมูที่ 5 บานหนอง ปลิง มีจาํ นวนประชากรรวมทัง้ สิน้ 2,089 คน ประชากรสวนใหญมีอาชีพเกษตรกรรม ซึ่ง ทํารายไดใหกับประชากรภายในตําบลมาก ที่สุด โดยพืชที่นิยมปลูก ไดแก ขาว ผลไม 128
พืชไร และพืชผักทั่วไป นอกจากนี้เกษตรกร สวนใหญยังนิยมเลี้ยงสัตว เชน ไก เปด วัว ควาย ฯลฯ เพือ่ บริโภคภายในครอบครัว และ นําบางสวนมาจําหนายเพื่อเปนรายไดเสริม ยุทธศาสตรการพัฒนาในชวง 3 ป ยุทธศาสตรที่ 1 : ดานโครงสราง พื้นฐาน วัตถุประสงค เพื่อมุงหวังให ตําบล หนองปลิง ไดมีเสนทางคมนาคมที่ครบถวน และตอบสนองตอความตองการของชุมชน ในทุกดานมีระบบประปาที่ถูกสุขลักษณะ
มีแหลงนํ้าใชที่เพียงพอตอการเกษตรกรรม และคมนาคม การระบายนํ้าที่ดี มีระบบ แผนการควบคุมการวางผังเมืองที่ดี มีไฟฟา สองสวางอยางทั่วถึงมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาใหบริการแกประชาชน ยุทธศาสตรที่ 2 : ดานการสงเสริม คุณภาพชีวิต วั ต ถุ ป ระสงค มุ ง หวั ง เพื่ อ ยกระดั บ คุณภาพชีวิตของประชาชนในตําบลใหได รับโอกาสในการศึกษาการพัฒนาศักยภาพ ทางด า นร า งกาย จิ ตใจ สติป ญ ญา การ กีฬา ภูมิปญญาทองถิ่น และรูรักษาสงเสริม ภูมิปญญา ขนบธรรมเนียมประเพณี และ วั ฒ นธรรมอั น ดี ง ามของท อ งถิ่ น เพื่ อ ให ประชาชน เด็กและเยาวชนในพื้นที่ไดรับ
การศึกษาอยางทั่วถึง เพื่อใหประชาชนไดมี สุขภาพ สุขภาพจิต และสติปญญาที่ดีและ มีประสิทธิภาพ เพื่อสงเสริมใหประชาชน ไดออกกําลังกายและเลนกีฬาอยางทั่วถึง และเพื่อสงเสริมอนุรักษภูมิปญญา และ ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมอันดี ของทองถิ่น ยุทธศาสตรที่ 3 : ดานการจัดระเบียบ ชุมชน / สังคม และความสงบเรียบรอย วัตถุประสงค เพือ่ รักษาสงบเรียบรอย และความปลอดภัยในชีวติ ทรัพยสนิ สงเสริม ใหชุมชนไดมีสวนรวม ในการปกครองและ การพั ฒ นาท อ งถิ่ น ตนเอง การยกระดั บ ใหประชาชน ผูนําชุมชนสมาชิกตลอดจน ขาราชการ ลูกจางในตําบลเปนผูมีความ รู ความสามารถในทุกดาน สามารถพึ่งพา ตนเองได เป น สั ง คมที่ เ ข ม แข็ ง มี ค วาม ปลอดภัยในชีวิตและทรัพยสิน ยุทธศาสตรที่ 4 : ดานการวางแผน สงเสริมการลงทุน และพานิชยกรรม วัตถุประสงค เพือ่ สงเสริมประสิทธิภาพ
ตลอดไปรวมทั้ ง ให มี ก ารพั ฒ นาการจั ด กิจกรรมการแสดงเพลงพื้นบานการแสดง ของกลุมชนที่มีประเพณีและวัฒนธรรมของ ตนเองใหมีประสิทธิภาพอยางยั่งยืนตอไป ยุทธศาสตรที่ 6 : ดานศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณีและภูมิปญญาทองถิ่น วัตถุประสงค เพือ่ อนุรกั ษศลิ ปวัฒนธรรม จารี ต ประเพณี และภู มิ ป ญ ญาท อ งถิ่ น เพื่อสงเสริมและสนับสนุนวัฒนธรรมและ ภูมปิ ญ ญาทองถิน่ และเพือ่ รักษาและสงเสริม ภูมิปญญาขนบธรรมเนียมประเพณี และ วัฒนธรรมอันดีงามของทองถิ่น การวางแผนและความร ว มมื อ ระหว า ง องคกรและประชาชนในทองถิน่ เพือ่ สงเสริม การลงทุน การพานิชยกรรม และการพัฒนา เศรษฐกิ จ ภายในพื้ น ที่ และเพื่ อ อนุ รั ก ษ รักษา ฟนฟูวัฒนธรรมทองถิ่น ยุทธศาสตรที่ 5 : ดานการบริหาร จัดการ การอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดลอม และการทองเที่ยว วัตถุประสงค มุงพัฒนาปรับปรุงดาน การผังเมือง และพัฒนาบูรณะแหลงทอง เที่ยวที่เปนแหลงทองเที่ยวทางธรรมชาติ สถานที่ทองเที่ยวทางประวัติศาสตร โบราณ วัตถุและวัฒนธรรมพื้นบานใหคงอยูยั่งยืน
จากใจนายกฯ องคการบริหารสวนตําบลหนองปลิง ไดดําเนินการปรับปรุงการบริหารและการ บริ ก ารประชาชนให ถู ก ต อ งตามหลั ก ธร รมาภิ บ าล ประสานการพั ฒ นาปรั บ ปรุ ง การบริหารโครงสรางพื้นฐานดานอุปโภค และสาธารณูปโภคใหไดมาตรฐาน เพียง พอแก ก ารขยายตั ว ของชุ ม ชนในอนาคต ทั้ ง ยั ง ส ง เสริ ม ให ป ระชาชนได ป ระกอบ อาชีพเสริม เพื่อเพิ่มรายไดลดรายจายให เพียงพอแกการดํารงชีพ และยังสงเสริม ภูมิปญญาทองถิ่น ฟนฟูศิลปวัฒนธรรม พัฒนาทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดลอม ให เปนชุมชนที่นาอยูอยางยั่งยืน และมีความ สุขทุกครัวเรือน Ayutthaya 129
เสนทางพบองคการบริหารสวนตําบล (อ.บางไทร)
องคการบริหารสวนตําบลสนามชัย
ขอมูลทั่วไป องคการบริหารสวนตําบลสนามชัย มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 17.90 ตาราง กิ โ ลเมตร หรื อ ประมาณ 11,184 ไร ประกอบดวยเขตพื้นที่ของทั้ง 2 ตําบล รวมกัน คือ ตําบลสนามชัยและตําบล บานแปง รวม 11 หมูบาน สภาพพื้นที่มี ลักษณะเปนทีร่ าบลุม ประชากรสวนใหญ จะตัง้ ถิน่ ฐานอยูบ ริเวณฝง แมนาํ้ ลําคลอง และประกอบอาชีพดานการเกษตรเปน หลัก โดยมีการทํานา ทําสวน ทําไร และ มี ก ารรวมกลุ ม ของประชาชนในพื้ น ที่ เพื่อสรางผลิตภัณฑของทองถิ่นจําหนาย เชน การทําดอกไมประดิษฐ การทําไร แคนตาลู ป การทํ า ขนมอบ ขนมกลี บ ลําดวน ขนมเปยะ เปนตน
“การเกษตรยั่ ง ยื น เป น พื้ น ฐาน ขยายโอกาสด า นการศึ ก ษา พั ฒ นา สุ ข ภาพอนามั ย ชาวประชาร ว มใจ ภายใตหลักธรรมาภิบาล” คือวิสัยทัศนขององค ก ารบริ ห าร ส ว นตํ า บลสนามชั ย ซึ่ ง มี ที่ ทํ า การ ตัง้ อยูเ ลขที่ 55 หมู 6 ตําบลสนามชัย อําเภอ บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตัง้ อยู หางจากที่วาการอําเภอบางไทร ไปทาง ทิ ศ ตะวั น ออกเฉี ย งเหนื อ ประมาณ 4 กิโลเมตร ปจจุบันมี นายอมร ขมิ้นสน ดํารงตําแหนง นายกองคการบริหาร สวนตําบลสนามชัย กิจกรรมและผลงานที่ผานมา เทศกาลสงกรานต เปนกิจกรรม สืบสานประเพณีอันดีงามของไทย เพื่อ แสดงความกตัญูตอผูสูงอายุ เพื่อให เด็กและเยาวชนไดเห็นคุณคาประเพณี อันดีงาม ซึ่งเปนเอกลักษณประจําชาติ ใหคงอยูสืบไป โดยมีประชาชนเขารวม กิจกรรมเปนจํานวนมาก
130
วันพอแหงชาติ 5 ธันวามหาราช จัดงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จ พระเจาอยูห วั เนือ่ งในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช โดยคณะผูบริหาร ขาราชการ เจาหนาที่ ลูกจาง และประชาชนในพื้นที่ ไดนอม ถวายความจงรักภักดี รวมในปกปองและ เทิดทูนสถาบันหลักของชาติใหธํารงอยู เปนศูนยรวมจิตใจ นํามาซึ่งความรักและ สามัคคีของตนในชาติสืบไป
สถานที่สําคัญและสถานที่ทองเที่ยว เจดีย วัดสนามไชย ตั้ ง อยู ก ลางสวนบริ เ วณสามแยก บางไทร ซึ่งเปนสวนที่แมนํ้านอยไหลมา บรรจบกับแมนาํ้ เจาพระยา เปนเจดียท รง สี่เหลี่ยมยอมุมไมสิบสอง อายุประมาณ 211 ป ฐานมีบันไดขึ้น 3 ทางคือ ทาง
ทิศเหนือ ทิศใต และทิศตะวันตก กรม ศิลปากรไดขึ้นทะเบียนเปนโบราณสถาน ของจั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยา และ ได รั บ การบู ร ณะจากสํ า นั ก โบราณคดี ที่ 3 กรมศิลปากร เปนที่เรียบรอยแลว เจาอาวาสวัดสนามไชย องคปจจุบันคือ พระครูปลัดอภิชาติ ขนฺติโก หลวงพอวัดนอย วัดสิงหสุทธาวาส หลวงพอวัดนอย เปนพระพุทธรูป ซึ่ ง ประดิ ษ ฐาน ณ พระวิ ห าร วั ด สิ ง ห สุทธาวาส หมูที่ 3 ตําบลบานแปง เปน พระพุทธรูปปูนปนสมัยอูทอง ไมปรากฏ แน ชั ด ว า ผู ใ ดสร า ง แต สั น นิ ษ ฐานว า สร า งในสมั ย ต น กรุ ง ศรี อ ยุ ธ ยา เป น พระประธานองคใ หญสุด ในพระวิหาร และยังมีพระพุทธรูปรวมอยูบนแทนชุกชี อีก 9 องค รวมเปน 10 องค
ชื่อของหลวงพอวัดนอยนี้ มีชื่อเรียก หลายชื่อดวยกัน อาทิ หลวงพอพุทธกมล หลวงพอพิสดารโลก หลวงพอภิญญะ ลามะจักสุรัตนบวรสุวร ฯลฯ ตามตํานาน เลาวาชือ่ ของหลวงพอวัดนอย สันนิษฐาน วานาจะมาจากคําวา “เจานอย” ซึ่งใน สมัยรัชการที่ 3 มีพระสงฆรูปหนึ่งชอบ ปลี ก วิ เ วกได ม าบวชและจํ า พรรษาที่ วัดนี้ จนกระทั่งไดมรณภาพลง ชาวบาน จึงเรียกพระพุทธรูปองคนี้วา “หลวงพอ เจานอย” หรือ “หลวงพอนอย” ตามชื่อ พระสงฆรูปดังกลาว หลวงพอวัดนอยเปนพระพุทธรูปที่ ชาวบานในเขตอําเภอบางไทร จังหวัด พระนครศรีอยุธยา เคารพศรัทธาและ มักจะมาบนบานศาลกลาวขอใหสมหวัง อยูเสมอ หากประสบความสําเร็จก็จะ แกบนดวยไขตมหรือละคร และหากบาน
ใดจัดงานบวช กอนที่จะนํานาคไปทําพิธี ที่วัด มักจะแหนาคมาสักการะหลวงพอ นอยทุกครัง้ จนเปนประเพณีสบื ตอกันมา จนถึงปจจุบัน ส ว นวั ด น อ ยนี้ เ ดิ ม ที เ ป น วั ด ร า ง มี เพียงวิหารอยูหลังเดียว ปจจุบันไดขอ อนุ ญ าตสํ า นั ก งานพระพุ ท ธศาสนา แหงชาติ รวมเปนวัดเดียวกันกับวัดสิงห สุทธาวาส เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2552 เจาอาวาสวัดสิงหสุทธาวาส องคปจจุบัน คือ พระอธิการแสนศักดิ์ จิตตะทันโต
Ayutthaya 131
เสนทางพบองคการบริหารสวนตําบล (อ.บางปะหัน)
องคการบริหารสวนตําบลตานิม
“โครงสรางพืน้ ฐานครอบคลุม สนับสนุน กีฬาและการศึกษา รักษาสภาพแวดลอม สงเสริมหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” คื อ วิ สั ย ทั ศ น ใ นการพั ฒ นาท อ งถิ่ น ของ องค ก ารบริ ห ารส ว นตํ า บลตานิ ม ซึ่ ง ตั้ ง อยูหมูที่ 2 ตําบลตานิม อําเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยูหางจากอําเภอ บางปะหัน ไปทางทิศตะวันออกราว 3 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 11.84 ตารางกิโลเมตร หรือ 7,375 ไร แบงเขตการปกครองออกเปน 8 มี ประชากรทั้งหมด 3,582 คน ประชากรสวน ใหญประกอบอาชีพรับจางทั่วไป และอาชีพ เกษตรกร องค ก ารบริ ห ารส ว นตํ า บลตานิ ม มี นายสุพจน นาราคราม ดํารงตําแหนง นายก องคการบริหารสวนตําบลตานิม โดยบริหาร งานภายใต ก รอบพั น ธกิ จ คื อ “ให บ ริ ก าร และดําเนินการจัดทําโครงสรางพื้นฐานที่ จําเปนแกประชาชนในพื้นที่ ใหไดความ สะดวกและมีมาตรฐาน สนับสนุนกีฬาใน กลุมเด็กและเยาวชน” ยุ ท ธศาสตร ก ารพั ฒ นาตามแผนพั ฒ นา 3 ป (2558-2560) 1.ยุทธศาสตรการพัฒนาดานโครงสราง พื้นฐาน 1.1 กอสราง ปรับปรุง บํารุง ซอมแซม รักษาถนน ทอระบายนํ้า 1.2 กอสราง ปรับปรุง ซอมแซม ระบบ ประปาหมูบาน 1.3 ปรับปรุง ซอมแซม ขยายเขตจําหนาย ไฟฟาและไฟฟาสาธารณะ 2. ยุทธศาสตรการพัฒนาดานการสง เสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต 132
2.1 การสงเสริมและพัฒนาอาชีพ 2.2 สงเสริมและพัฒนาดานการเกษตร 2.3 สงเสริมและสนับสนุนดานการศึกษา และการกีฬา 2.4 เพิม่ ชองทางในการรับรูขอมูลขาวสาร ที่ทันสมัยใหกับประชาชน 2.5 สงเสริมสุขภาพอนามัย 2.6 สงเสริมสวัสดิการชุมชน 3. ยุทธศาสตรการพัฒนาดานการจัด ระเบียบชุมชน/สังคม และการรักษาความ สงบเรียบรอย 3.1 การรักษาความสงบเรียบรอยและ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพยสิน 3.2 การมีสว นรวมทางดานการเมืองทองถิน่ 4. ยุ ท ธศาสตร ก ารพั ฒ นาด า นการ บริหารจัดการอนุรกั ษทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอม 4.1 การสรางจิตสํานึกและความตระหนัก ในการจั ด การทรั พ ยากรธรรมชาติ แ ละ สิ่งแวดลอม
4.2 การจัดการขยะ 4.3 การปองกันนํ้าทวม 5. ยุ ท ธศาสตร ก ารพั ฒ นาด า นศิ ล ป วัฒนธรรม จารีตประเพณี และภูมปิ ญญา ทองถิ่น 5.1 การสงเสริมและอนุรกั ษศลิ ปวัฒนธรรม จารีตประเพณี และภูมปิ ญ ญาทองถิน่ 6. ยุทธศาสตรการบริหารและจัดการ ขององคการบริหารสวนตําบล 6.1 การพัฒนาบุคลากรและงานกิจการ สภา 6.2 การบริหารจัดการองคกร ผลการพัฒนาในปงบประมาณ 2556 1. ยุทธศาสตรการพัฒนาดานโครงสราง พื้นฐาน แนวทางการพั ฒ นา การก อ สร า ง ปรั บ ปรุ ง บํ า รุ ง ซ อ มแซมรั ก ษาถนน ท อ ระบายนํ้ า ได แ ก ก อ สร า งถนน คอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.) หมูท ี่ 2 ต.บางนาง รา กอสรางถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.) บริเวณขางบาน นางทองคํา หมูที่ 4 ต.ตานิม วางทอระบายนํ้าคอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.) พรอมบอพัก หมูที่ 2 ต.ตานิม ขุดดินวางทอ ระบายนํ้า หมูที่ 3 ต.ตานิม ซอมแซมสะพาน ไม หมูที่ 4 ต.บางนางรา กอสรางรั้วหนา อบต. ตานิม จัดซุมเฉลิมพระเกียรติ ถมดินปรับปรุง
ภูมิทัศนในเขตพื้นที่ อบต.ตานิม กอสรางที่ตั้ง เครื่องออกกําลังกายในพื้นที่ อบต.ตานิม แนวทางการพั ฒ นา การก อ สร า ง ปรับปรุง ซอมแซมระบบประปาหมูบาน ไดแก อุดหนุนประปาหมูบ า น หมูท ี่ 2 ต.ตานิม อุดหนุนประปาหมูบาน หมูที่ 3 ต.บางนางรา แนวทางการพัฒนาดานการปรับปรุง ซอมแซม ขยายเขตไฟฟา ไฟฟาสาธารณะ ได แ ก ขยายเขตไฟฟ า สาธารณะ หมู ที่ 4 ต.ตานิม 2. ยุ ท ธศาสตร ก ารพั ฒ นาด า นการ สงเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต แนวทางการพัฒนาการสงเสริมและ พัฒนาดานการเกษตร ไดแก จัดซื้อวัสดุ การเกษตร แนวทางการพั ฒ นา ส ง เสริ ม และ สนั บ สนุ น ด า นการศึ ก ษาและการกี ฬ า อาหารกลางวัน ไดแก การจัดบริการอาหาร เสริม (นม) แกศพด. วัดโตนด และศพด. บาน ตานิม สนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการ ศึกษา จัดซื้อวัสดุ/อุปกรณกีฬา สนับสนุน กิจกรรมการแขงขันกีฬาระดับอําเภอ แนวทางการพัฒนา การเพิ่มชองทาง ในการรับรูขอมูลขาวสารที่ทันสมัยใหกับ ประชาชน ไดแก จัดซื้อหนังสือพิมพหมูบาน อินเตอรเน็ตตําบลบริการประชาชน ปรับปรุง ซอมแซมระบบเสียงตามสาย/หอกระจายขาว สื่อสารประชาสัมพันธ แนวทางการพั ฒ นาการส ง เสริ ม สุ ข ภาพอนามั ย ได แ ก สนั บ สนุ น กิ จ กรรม ด า นสาธารณสุ ข มู ล ฐาน โครงการพั ฒ นา
สาธารณสุขมูลฐาน หมูที่ 1-4 ต.ตานิม และ หมู ที่ 2-5 ต.บางนางร า โครงการควบคุ ม ปองกันโรคไขเลือดออก โครงการปองกันโรค พิษสุนขั บา และคุมกําเนิดสุนขั (แมว) สงเสริม กิจกรรมการออกกําลังกายแกประชาชน ตรวจ สุขภาพกลุมวัยทอง / ผูสูงอายุ แนวทางการพั ฒ นา การส ง เสริ ม สวัสดิการชุมชน ไดแก สงเคราะหเบี้ยยังชีพ ผูสูงอายุ คนพิการและผูปวยเอดส สนับสนุน เกี่ยวกับกิจกรรม สังคมสงเคราะหดานอื่นๆ อุดหนุนกิ่งกาชาดอําเภอบางปะหัน 3. ยุทธศาสตรการพัฒนาดานการจัด ระเบียบชุมชน/สังคม และการรักษาความ สงบเรียบรอย แนวทางการพั ฒ นาการรั ก ษาความ สงบเรียบรอยและความปลอดภัยในชีวิต และทรัพยสิน ไดแก โครงการปองกันและ แกไขปญหายาเสพติดในชุมชน อุดหนุนศูนย ป อ งกั น และแก ไ ขป ญ หายาเสพติ ด ตั้ ง จุ ด บริการประชาชนในชวงเทศกาลปใหม ตั้งจุด บริการประชาชนในชวงสงกรานต แนวทางการพั ฒ นา การมี ส ว นร ว ม ทางด า นการเมื อ งท อ งถิ่ น ได แ ก อบต. เคลื่อนที่ (จัดประชุมประชาคมหมูบาน) สง
เสริมอบรมใหความรูแกประชาชนและศึกษา ดูงาน อุดหนุน อสม.ตําบลตานิม และ ตําบล บางนางรา 4. ยุ ท ธศาสตร ก ารพั ฒ นาด า นการ บริ ห ารและจั ด การอนุ รั ก ษ ท รั พ ยากร ธรรมชาติ แนวทางการพัฒนา การจัดการขยะ ไดแก จัดการขยะชุมชนเขต องคการบริหาร สวนตําบล รายจายใหไดมาซึง่ บริการ (คาจาง เหมาคนงานเก็บขยะ) คาธรรมเนียมในการ เก็บขนขยะมูลฝอย 5. ยุ ท ธศาสตร ก ารพั ฒ นาด า นการ พั ฒ นาด า นศิ ล ปะ วั ฒ นธรรม จารี ต ประเพณี และภูมิปญญาทองถิ่น แนวทางการพัฒนาการสงเสริมและ อนุรักษศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี และภูมิปญญาทองถิ่น ไดแก สงเสริมการ ดําเนินกิจกรรมตามขนบธรรมเนียมประเพณี โครงการธรรมทัศน สงเสริมคุณธรรม กิจกรรม ถวายเทียนพรรษา กิจกรรมทําบุญและรดนํ้า ดําหัวผูสูงอายุในวันสงกรานต กิจกรรมวัน สําคัญอื่นๆ ของทางราชการ อุดหนุนที่ทําการ ปกครองอําเภอบางปะหัน อุดหนุนที่ทําการ ปกครองจังหวัด 6. ยุ ท ธศาสตร ก ารพั ฒ นาด า นการ บริหารจัดการองคการบริหารสวนตําบล แนวทางการพั ฒ นา การพั ฒ นา บุคลากร ไดแก จัดสงบุคลากร อบต.เขารับ การฝกอบรมจากหนวยงานอื่นๆ สนับสนุน และสงเสริมใหบคุ ลากรไดรบั การศึกษาสูงขึน้ แนวทางการ พั ฒ น า ก า ร บ ริ ห า ร จัดการองคกรเพื่อเพิ่ม ประสิ ท ธิ ภ าพการให บริการประชาชน ไดแก จั ด ซื้ อ วั ส ดุ / อุ ป กรณ / ค รุ ภั ณ ฑ สํ า นั ก ง า น สนับสนุนโครงการจัดตั้ง ศูนยรวมขอมูลขาวสาร การจั ด ซื้ อ จั ด จ า งของ อปท. ระดั บ ตํ า บล งบ ประมาณดํ า เนิ น การ บริหารงานบุคคล Ayutthaya 133
p.134AD sbl.pdf 1 9/7/2557 12:26:41
ËÇÁà´Ô¹·Ò§ä»¡ÑºàÃÒ
SBL MAGAZINE
(¹ÔµÃÊÒÃàÊŒ¹·Ò§ÍصÊÒË¡ÃÃÁáÅз‹Í§à·ÕèÂÇ) www.smart-sbl.com
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
µÔ´µ‹Íŧâ¦É³Ò
Tel. 0-2522-7171 ºÃÔÉÑ· ÊÁÒà · ºÔ«Ôà¹Ê äŹ ¨Ó¡Ñ´
52 «ÍÂÃÒÁÍÔ¹·ÃÒ 99 á¡ 2 ¶¹¹ÃÒÁÍÔ¹·ÃÒ á¢Ç§¤Ñ¹¹ÒÂÒÇ à¢µ¤Ñ¹¹ÒÂÒÇ ¡ÃØ§à·¾Ï 10230 â·Ã. 0-2522-7171 á¿¡« . 0-2971-7747 E-mail : sbl2553@gmail.com
เสนทางพบเทศบาลตําบล (อ.ภาชี)
“ภาชีเมืองนาอยู การคมนาคมสะดวก สิ่งแวดลอมไมเปนพิษ กาวนําดานเศรษฐกิจ ทุกชีวิตปลอดภัย” คือวิสยั ทัศนของเทศบาลตําบลภาชี ซึง่ ตัง้ อยูเ ลขที่ 111 หมู 2 ตําบลภาชี อําเภอภาชี จังหวัด พระนครศรีอยุธยา โดยตั้งอยูหางจากตัวอําเภอเมืองฯ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 30 กิโลเมตร ไดรับการยกฐานะจากสุขาภิบาลเปนเทศบาล เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2542 มีพื้นที่ รับผิดชอบประมาณ 7.47 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่จํานวน 7 หมูบาน 14 ชุมชน ปจจุบันมี นายสเกน จันทรผดุงสุข ดํารงตําแหนง นายกเทศมนตรีตําบลภาชี
เทศบาลตําบลภาชี ประวัติความเปนมาของอําเภอภาชี ที่มาของการตั้งชื่ออําเภอวา “ภาชี” สืบเนื่องจากบริเวณที่ตั้งของ อําเภอ เปนทางแยกของทางรถไฟสายเหนือ และสายตะวันออกเฉียง เหนือ เดิมชาวบานเรียกวา “ปาซี” ซึ่งแปลวา แบงหรือแยก และตอมาได เรียกเพี้ยนเปน “ภาชี” ในเบือ้ งตนไดมกี ารจัดสรางทีท่ าํ การอําเภอขึน้ เรียกวา “ทีท่ าํ การบาน ภาชี” โดยมีเขตการปกครองประกอบดวย ตําบลพระแกว ตําบลไผลอ ม และ ตําบลดอนหญานาง ซึ่งเดิมตําบลดังกลาวขึ้นอยูกบั อําเภอนครหลวง และ ตําบลโคกมวง ตําบลกระจิว ตําบลหนองนํ้าใส ซึ่งขึ้นอยูกับอําเภออุทัย ในป พ.ศ. 2479 ทางราชการไดเห็นความสําคัญของที่ทําการบาน จึงยกฐานะของที่ทําการบานภาชีขึ้นเปน “กิ่งอําเภอภาชี” อยูในความ ควบคุมดูแลของอําเภออุทยั ตอมามีความเจริญกาวหนามากขึน้ ประชากร หนาแนนขึ้น และเนื่องจากบริเวณที่ตั้งที่เปนชุมทางรถไฟบานภาชี มี ถนนยุทธศาสตรตดั ซอยมาจากถนนพหลโยธิน ยาวประมาณ 19 กิโลเมตร จึงเปนอําเภอที่มีความสําคัญทางยุทธศาสตร ดานการคมนาคม และ การคาขาย จึงยกฐานะจากกิ่งอําเภอภาชีเปนอําเภอภาชี เมื่อป พ.ศ. 2496 โดยแยกออกจากอําเภออุทัย มีเขตการปกครองรับผิดชอบ 8 ตําบล คือ ตําบลภาชี ตําบลโคกมวง ตําบลหนองนํ้าใส ตําบลไผลอม ตําบล ดอนหญานาง ตําบลระโสม ตําบลพระแกว และตําบลกระจิว สํานักงานเทศบาลตําบลภาชี เลขที่ 111 หมู 2 ตําบลภาชี อําเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13140 โทรศัพท 0-3531-1021 โทรสาร. 0-3531-1506 website : www.phachi.go.th Facebook : เทศบาลตําบลภาชี
สถานที่สําคัญของตําบลภาชี ในพื้นที่ตําบลภาชี เปนที่ตั้ง ของ “สถานีรถไฟชุมทางบาน ภาชี” ซึง่ สรางขึน้ กอนป พ.ศ. 2490 แต ไ ด ถู ก ระเบิ ด พั ง เสี ย หายสมั ย สงครามโลกครั้ ง ที่ 2 จึ ง ได มี ก าร สรางสถานีรถไฟใหมขึ้นทดแทนในป พ.ศ. 2490 แลวเสร็จในป พ.ศ. 2492 โดยสรางเปนอาคารชั้นเดียวหลังคา ไมถือปูน มีเนื้อที่ยาว 30 เมตร กวาง 15 เมตร หลังจากสรางเสร็จไดทําการ เปดใชงานเมือ่ วันที่ 1 ตุลาคม 2492 โดยมีนายพิเชษฐ มีลาภ เปน นายสถานีรถไฟคนแรกของสถานีรถไฟชุมทางบานภาชี อายุการ ใชงานของสถานีรถไฟนับแตสรางเสร็จจนถึงปจจุบันเปนเวลา 65 ป นับเปนชุมทางรถไฟที่สําคัญแยกไปภาคเหนือ และภาคอีสาน มี รถไฟผานทั้งขาขึ้นและขาลงวันละ 140 ขบวน มีผูโดยสารใชงาน วันละประมาณ 1,500 คน ซึ่งสวนมากเปนนักเรียนและผูที่ทํางาน จากใจนายกฯ “ผมและสมาชิกทุกทาน ไดรบั ความไววางใจจากพีน่ อ งชาวภาชี ให มีโอกาสเขามาพัฒนาตําบลภาชีของเรา ผมและสมาชิกทุกทาน ตลอด จนขาราชการ พนักงานลูกจางเทศบาลตําบลภาชี ขอทุมเทแรงกาย แรงใจในการพัฒนาทองถิน่ ใหเจริญกาวหนา แกไขปญหาความเดือดรอน ในดานตางๆ เพือ่ ใหพนี่ อ งตําบลภาชีมคี ณ ุ ภาพชีวติ ทีด่ ยี งิ่ ขึน้ ครับ” Ayutthaya 135
เสนทางพบองคการบริหารสวนตําบล (อ.ภาชี)
องคการบริหารสวนตําบลกระจิว “เกษตรกรรมนําทาง เสนทางรถไฟ ถิ่นไทยชาวมอญ องคกรเขมแข็ง” คื อ คํ า ขวั ญ ประจํ า ตํ า บลกระจิ ว ซึ่ ง อยูภายใตการบริหารของ องคการบริหาร สวนตําบลกระจิว เลขที่ 40/5 หมูท ี่ 3 ตําบล กระจิว อําเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13140 อยูหางจากอําเภอภาชีไปทางทิศใต ประมาณ 7 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 8,581 ไร หรือประมาณ 13.73 ตร.กม. ป จ จุ บั น มี นายคุ ณ พจน แพรดํ า ดํารงตําแหนง นายกองคการบริหารสวน ตํ า บลกระจิ ว โดยบริ ห ารตามวิ สั ย ทั ศ น การพัฒนาตําบลกระจิวที่วา “เปนแหลงผลิตขาวคุณภาพ การ คมนาคมสะดวก การศึกษากาวหนา การ กีฬากาวไกล ประชาชนมีสุขภาพดี รักษา ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรม นอมนําวิถีพอเพียง เคียงคูสิ่งแวดลอม” ประวัติความเปนมา สันนิษฐานวา “ตําบลกระจิว” เดิมเปน ที่ อ ยู ข องชนชาวมอญ ซึ่ ง อพยพจากทาง ภาคเหนือ อันเนื่องมาจากสาเหตุทางการ เมือง ในอดีตบริเวณนี้เปนที่ราบลุมมีแมนํ้า ไหลผ า น มี ค วามอุ ด มสมบู ร ณ เ หมาะสม แกการทํามาหากิน อีกทั้งการขนสงสินคา 136
ขอมูลทั่วไป องค ก ารบริ ห ารส ว นตํ า บลกระจิ ว แบงการปกครองเปน 8 หมูบาน มีครัวเรือน ทั้งหมด 1,049 ครัวเรือนจํานวนประชากร รวม 3,801 คน เพศชาย 1,812 คน เพศหญิง 1,989 คน ราษฎรสวนใหญประกอบอาชีพทํา นาเปนหลัก และรับจางเปนอาชีพรอง สวน แรงงานในวัยหนุม สาวจะประกอบอาชีพ รับจางในยานอุตสาหกรรมนอกเขตพื้นที่ ยุทธศาสตร และแนวทางการพัฒนา 3 ป 1. ดานการพัฒนาโครงสรางพืน้ ฐาน อาทิ ปรับปรุงและซอมแซมถนนในหมูบาน และระหวางพื้นที่อื่นเพื่อใหการสัญจรไป มาได ส ะดวก ขยายกํ า ลั ง กระแสไฟฟ า
ก็ทําไดสะดวก ชาวบานจึงตั้งบานเรือนอยู บริเวณลํานํ้าหนาวัดขุมแกว (หมูที่ 1 ใน ปจจุบนั ) คนสวนใหญมกั เรียกชาวบานกลุม นี้วาชาวหมูบานกระจิว ซึ่งคําวา “กระจิว” เปนภาษามอญแปลวาเลียบฝงแมนํ้า ตํ า บลกระจิ ว เดิ ม เป น สภาตํ า บล ต อ มาได ย กฐานะขึ้ น เป น องค ก ารบริ ห าร สวนตําบล ในป พ.ศ. 2540 และยกฐานะขึน้ เปนองคการบริหารสวนตําบลขนาดกลาง ตามประกาศ ลงวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2551 จนถึงปจจุบัน
ใหเพียงพอติดตั้งไฟฟาสาธารณะใหทั่วถึง ขุดลอกคู คลอง ทีต่ นื้ เขิน รณรงคใหประชาชน ช ว ยกั น ดู แ ลรั ก ษาแหล ง นํ้ า และขุ ด ลอก วัชพืชอยางสมํ่าเสมอ ฯลฯ 2. ดานการพัฒนาเมืองนาอยูและ ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดลอม อาทิ ปรับปรุงภูมิทัศน จัดซื้อรถขยะ กอสรางเตา เผาขยะ สรางจิตสํานึกและความตระหนัก ในทรั พ ยากรธรรมชาติ แ ละสิ่ ง แวดล อ ม สงเสริมการปลูกตนไมในสวนสาธารณะฯลฯ 3. ดานการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม พัฒนาคุณภาพชีวิต และการรักษาความ สงบเรียบรอย อาทิ จัดอบรมใหเด็กและ เยาวชนไดรับทราบถึงปญหาและโทษของ ยาเสพติด และหาทางปองกัน อบรมปองกัน โรคติดตอตางๆ สนับสนุนการจัดตั้งกลุม อาชีพ จัดหาแหลงเงินทุน หรือจัดตั้งกลุม ออมทรัพยฯ ฯลฯ 4. ดานการพัฒนาศิลปวัฒนธรรม ศาสนา และภูมิปญญาทองถิ่น อาทิ จัด อบรมใหความรูแกเด็กและเยาวชนในดาน วั ฒ นธรรมท อ งถิ่ น จั ด งานวั น สํ า คั ญ ทาง
ศาสนา วั น สํ า คั ญ ทางรั ฐ พิ ธี จั ด กิ จ กรรม วั น สํ า คั ญ ต า งๆ ส ง เสริ ม ดารผลิ ต สิ น ค า ภูมิปญญาทองถิ่น ฯลฯ 5. ดานการพัฒนาการกีฬาและการ ศึกษาขั้นพื้นฐาน อาทิ สนับสนุนจัดสราง สวนสาธารณะ สวนสุขภาพ และลานกีฬา เพือ่ การพักผอนหยอนใจ ออกกําลังกาย และ ทํากิจกรรมสันทนาการ สนับสนุนการจัดตั้ง วงดนตรีไทย การแขงขันกีฬา จัดตั้งศูนย พัฒนาเด็กเล็ก อบรมใหความรูแกครูพี่เลี้ยง เด็ก จัดซื้ออาหารเสริมนม และอาหารกลาง วันสําหรับเด็กอนุบาล สนับสนุนการจัดจาง ครูผูฝกสอนดานกีฬา ฯลฯ 6. ดานการพัฒนาดานการเมืองการ บริ ห าร อาทิ จัดตั้งทีมงานในการปฏิบัติ หนาที่แตละดาน ปรับปรุงระบบการทํางาน ปรับปรุงระบบขอมูลสารสนเทศ ฝกอบรม ใหความรูแกพนักงาน ลูกจาง ผูน าํ ชุมชน ศึกษาดูงาน การปรับลดการใชจา ยงบประมาณ การเผยแพรใหความรู อํานาจหนาที่ของ อบต.ใหประชาชนทราบ ฯลฯ 7. ด า นการพั ฒ นาด า นการคลั ง อาทิ จัดทําขอมูลขาวสาร การมีสวนรวม ของประชาชน การจัดซื้อจัดจางที่บริสุทธิ์ โปรงใสสามารถตรวจสอบได อบรมใหความ
รูใ นการเกษตรแผนใหม เพือ่ ใหใชทดี่ นิ อยาง เต็มที่ สงเสริมการสรางงานและจางงานใน พื้นที่ เผยแพรความรูในการประกอบอาชีพ เสริม ฯลฯ กิจกรรมสําคัญ - จัดงานปรองดองสมานฉันท วันที่ 16 มิถุนายน 2557 - มอบเงินกองทุนชวยเหลือชาวนา วัน ที่ 3 มิถุนายน 2557 - จัดงานประเพณีสงกรานต วันที่ 10 เมษายน 2557 - จั ด งานวั น เด็ ก แห ง ชาติ วั น ที่ 10 มกราคม 2557 - จัดงานวันพอแหงชาติ 4 ธันวาคม 2556 - เปดศูนยไอที 2 กันยายน 2556 Ayutthaya 137
เสนทางพบเทศบาลตําบล (อ.อุทัย)
เทศบาลตําบลอุทัย
“สาธารณู ป โภคครบครั น สร า ง สรรคเมืองนาอยูแบบมีสวนรวมและ ยั่งยืน” คื อ วิ สั ย ทั ศ น ข อง เทศบาลตํ า บล อุทัย ซึ่งตั้งอยูเลขที่ 88 หมูที่ 12 ตําบล อุทยั อําเภออุทยั จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยูหางจากตัวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 15 กิโลเมตร ปจจุบันมี นายอรรถพร บุญจิตรากุล ดํารงตําแหนง นายกเทศมนตรี ตําบลอุทัย
อาวุธใหชอื่ วา “บานธนู” หมูบ า นทีใ่ หเสบียง อาหารใหชื่อวา “บานขาวเมา” หมูบานที่ นางโพและนายพรานกับพรรคพวกรวมใจ กันสูร บกับพมาใหชอื่ วา “บานโพสาวหาญ” กับ “บานพรานนก” และบริเวณที่นําทัพ มาถึงตอนสวางและมีชัยชนะ จึงใหชื่อวา “อุทัย” หมายความวา แสงอาทิตยรุงอรุณ และคลองแยกบริเวณทีม่ ชี ยั ชนะนัน้ ก็ใหชอื่ วา “คลองชนะ” ซึ่งใชเปนชื่อประจําตําบล นั้นๆ จนถึงปจจุบันนี้
เปดดินแดนอุทัย ในอดีตอําเภออุทัยมีสภาพพื้นที่อุดม สมบูรณเหมาะกับการเกษตร ประชากร จึงมีอาชีพทําการเกษตรเปนจํานวน แต ด ว ยที่ ตั้ ง ของอํ า เภออุ ทั ย อยู ห า งจากตั ว เมืองไมกี่กิโลเมตร อีกทั้งยังเปนเมืองแหง อุตสาหกรรม จึงทําใหอําเภออุทัยเจริญ กาวหนาอยางรวดเร็ว และในปจจุบันนี้ กลายเปนเมืองแหงอุตสาหกรรมไปเสีย แลว แตก็ยังพอมีประชากรจํานวนหนึ่งที่ ยังคงทําอาชีพการเกษตรอยูบาง สวนชื่ออําเภออุทัยนั้น คนเฒาคนแก เลาสูกันวา ตอนที่พระยาตาก (สิน) ไดไป ทําศึกกับพมาจนมีชยั ชนะ และไดสถาปนา กรุงศรีอยุธยา พระยาตาก (สิน) ก็ไดใหชื่อ หมูบานที่เคยนําทัพผาน เชน หมูบานที่ทํา
ขอมูลทั่วไปของตําบลอุทัย เทศบาลตําบลอุทัย เดิมเปนสุขาภิ บ าลตํ า บลอุ ทั ย ต อ มาได มี พ ระราช บัญญัติเปลี่ยนแปลงฐานะสุขาภิบาลเปน เทศบาล พ.ศ.2542 จึงไดรับการยกฐานะ
138
เปนเทศบาลตําบลอุทัย โดยมีผลบังคับใช ตั้งแตวันที่ 25 พฤษภาคม 2542 มีพื้นที่ใน ความดูแล 3.95 ตารางกิโลเมตร แบงเขต การปกครองออกเปน 8 ชุมชน มีจํานวน ประชากรทั้งสิ้น 4,155 คน แยกเปนชาย 2,012 คน เปนหญิง 2,143 คน ประชากร สวนใหญประกอบอาชีพรับจาง คาขาย และเกษตรกรรม
ยุทธศาสตรการพัฒนา นายอรรถพร บุญจิตรากุล นายก เทศมนตรีตาํ บลอุทยั มีนโยบายการพัฒนา ในดานตางๆ ดังนี้ 1. นโยบายดานโครงสรางพื้นฐาน - พัฒนาเกี่ยวกับการประปาใหมีนํ้า ประปาที่ไดมาตรฐาน ครอบคลุมทุกพื้นที่ - ปรั บ ปรุ ง ถนนหาทางเพื่ อ อํ า นวย ความสะดวกในการคมนาคมและการ สัญจรไปมาของประชาชน - ปรั บ ปรุ ง รางระบายนํ้ า พร อ มวาง ทอระบายนํ้าตามถนนสายตางๆ เพื่อรับ ปริมาณนํ้าฝนในชวงฤดูฝน และปองกัน ปญหานํ้าทวมในอนาคต - ปรับปรุงภูมิทัศนในเขตเทศบาลให ดูสะอาดและสวยงาม บานเมืองจะไดนา อยูนาอาศัย 2. นโยบายดานสังคม - ส ง เสริ ม และสนั บ สนุ น พระพุ ท ธ*ศาสนา ทั้ ง ในด า นกิ จ กรรมวั น สํ า คั ญ ของทางพระพุทธศาสนา และหลักธรรม ศีลธรรมตางๆ - สงเคราะหเบี้ยยังชีพใหแกผูพิการ ผู สู ง อายุ และสนั บ สนุ น ผู ย ากไร ผู ด อ ย โอกาส - ให ค วามร ว มมื อ ในการป อ งกั น ปราบปราม และแกไขปญหายาเสพติด - สงเสริมและสนับสนุนการกีฬาเพื่อ สุขภาพ และใชเวลาวางใหเกิดประโยชน พรอมทั้งปองกันปญหาการติดยาเสพติด - สงเสริมและอนุรกั ษ ศิลปวัฒนธรรม และประเพณีของทองถิ่นและของชาติ 3. นโยบายดานการศึกษา - สงเสริมเด็กทีเ่ รียนดีแตยากจน โดย การแจกทุนการศึกษา - สนั บ สนุ น โรงเรี ย นเกี่ ย วกั บ การ ศึกษาและการเรียนรูของเด็กนักเรียน รวม ถึ ง การพั ฒ นาปรั บ ปรุ ง สถานศึ ก ษาให มี ความพรอมมากขึ้น
- จัดตั้งศูนยพัฒนาเด็กเล็ก เพื่อให เด็กไดมีสถานที่เรียนรูกอนเขาเรียนในชั้น อนุบาลตอไป 4. นโยบายดานสาธารณสุข - สงเสริมใหประชาชนมีสวนรวมใน การดูแลรักษาความสะอาดและกําจัดขยะ มูลฝอย - สงเสริมใหประชาชนออกกําลังกาย เพื่อสุขภาพพลานามัยที่ดีและแข็งแรง - จัดทําโครงการสาธารณสุขเคลือ่ นที่ ในการตรวจรางกาย ทําหมันและฉีดวัคซีน ปองกันโรคพิษสุนขั บาสําหรับสุนขั และแมว - มีการสงเสริมและพัฒนาทองถิ่นให สะอาด ปราศจากมลพิษตางๆ - สงเสริมใหรานคาจําหนายอาหาร และผลิตอาหารทีส่ ะอาดถูกสุขอนามัยดวย โครงการ กรีน ฟูด กูด เทส 5. นโยบายด า นการรั ก ษาความ ปลอดภัย - จัดสงบุคลากรเขารับการอบรมดาน การรักษาความปลอดภัยในดานตางๆ - จัดซื้ออุปกรณและเครื่องมือที่ทัน สมัย เพื่อใชในการรักษาความปลอดภัย - มีการจัดทําแผนปฏิบัติการ
- จัดเวรยามเพือ่ รักษาความปลอดภัย และรับแจงเหตุดวนเหตุราย - มี ก ารเตรี ย มความพร อ มในการ รักษาความปลอดภัย เพื่อจะไดมีความ พรอมในการออกปฏิบัติการจริง 6. นโยบายดานการจัดการ - มีการวางแผนการบริหารงาน ตรวจ สอบ และประเมินผลงานของเทศบาล - ดําเนินการตามโครงการใหเปนไป ตามความตองการของประชาชน - มีการจัดหาเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อใชในการบริหารจัดการและบริการ - สงเสริมและพัฒนาบุคลากรใหมี ความรู ความสามารถ และสามารถใช เทคโนโลยีในดานตางๆ ได 7. นโยบายดานเศรษฐกิจ - มีการจัดทํางบประมาณ โดยยึดถือ ยุทธศาสตรการพัฒนาแนวทางการปฏิบัติ และใชจายเงินงบประมาณอยางคุมคา - มีการพัฒนาระบบการจัดเก็บภาษี ตางๆ ที่เปนรายไดของเทศบาล - สงเสริมและพัฒนาอาชีพกลุม แมบา น และกลุมอาชีพตางๆ ในเขตเทศบาล - จัดตลาดนัดชุมชนเพื่อใหประชาชน ไดคาขาย
Ayutthaya 139
เสนทางพบองคการบริหารสวนตําบล (อ.อุทัย)
“มุง สูก ารพัฒนาระบบสาธารณูปโภค สงเคราะห ผู ด อ ยโอกาสทางสั ง คม นําพาการเรียนรูสูชุมชน เปนสังคม แหงการพัฒนาที่ยั่งยืน” คือวิสัยทัศนขององค ก ารบริ ห าร ส ว นตํ า บลบ า นหี บ ซึ่ ง ตั้ ง อยู ห มู ที่ 1 อําเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีเนื้อที่ทั้งหมด 22.21 ตารางกิโลเมตร ปจจุบันมี นายสมศักดิ์ งามสมสุข ดํารง ตําแหนง นายกองคการบริหารสวน ตําบลบานหีบ ประวัติความเปนมา กล า วกั น ว า ในสมั ย กรุ ง ศรี อ ยุ ธ ยา เป น ราชธานี บริ เ วณตํ า บลบ า นหี บ นี้ เปนคายพักของทหารพมา ซึ่งปจจุบันคือ โรงเรียนวัดบานหีบ หมู 1 ในปจจุบนั โดย ทหารพมาไดขนหีบเงินหีบทองที่ไดจาก
140
องคการบริหารสวนตําบลบานหีบ
โดยแบงการปกครองออกเปน 12 หมูบ า น เปนหมูบ า นทีอ่ ยูน อกเขตเทศบาลทัง้ หมด มีประชากรทั้งสิ้น 3,624 คน แยกเปน ชาย 1,820 คน หญิ ง 1,804 คน มี ความหนาแนนเฉลี่ย 115 คน/ตร.กม. ขอมูลทั่วไป องคการบริหารสวนตําบลบานหีบ ราษฎรส ว นใหญ ป ระกอบอาชี พ ด า น ไดรบั การยกฐานะตามประกาศกระทรวง การเกษตร ไดแก การทํานา ปลูกผัก สวน มหาดไทย ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ 2540 อาชีพอืน่ ๆ ไดแก รับจางทํางานในโรงงาน การปลนสะดมชาวบานมาไวที่บริเวณนี้ และไดขนานนามบริเวณนีว้ า “บานหีบ” หรือ “ตําบลบานหีบ”
นโยบายการบริหารงาน อบต.บานหีบ นายสมศั ก ดิ์ งามสมสุ ข นายก องคการบริหารสวนตําบลบานหีบ ได แถลงนโยบายการบริหารงาน ตอสภา องคการบริหารสวนตําบลบานหีบ โดยมี รายละเอียด ดังนี้ 1. นโยบายดานโครงสรางพืน้ ฐาน ประกอบดวย ปรับปรุง ซอมแซมเสนทางคมนาคม ขนสงระหวางหมูบาน ตําบล อําเภอให ได ม าตรฐาน, ซ อ มแซมถนนดิ น ลู ก รั ง ภายในหมูบ า นและถนนสายหลัก, พัฒนา ระบบการกอสราง ปรับปรุง บํารุงรักษา สาธารณูปโภคตางๆ, สงเสริมการขยาย การใหบริการดานอุปโภคบริโภค, สงเสริม
มาตรการในการปองกันและแกไขปญหา นํ้าทวม 2. นโยบายดานเศรษฐกิจ ประกอบ ดวย ส ง เสริ ม ความรู แ ก เ กษตรกรตาม แนวทางทฤษฎีใหม, สงเสริมใหเกษตร สามารถจัดหาปจจัยการผลิตที่สําคัญๆ, สงเสริมโครงการตางๆ ขององคกรภาค ประชาชน, สงเสริมและสนับสนุนการ ลงทุ น ในอุ ต สาหกรรมขนาดเล็ ก หรื อ อุ ต สาหกรรมในครั ว เรื อ น, ส ง เสริ ม กิจกรรมที่สอดคลองตามแนวเศรษฐกิจ พอเพียง, จัดหานํ้าใหเพียงพอสําหรับ การเกษตรและการอุปโภคบริโภค 3. นโยบายดานสังคมและสงเสริม คุณภาพชีวิต ประกอบดวย เสริ ม สร า งความเป น ป ก แผ น แก สถาบันครอบครัวโดยใชมาตรการจูงใจ, สงเสริมภูมิปญญาทองถิ่นตามแนวทาง โครางการหนึ่งตําบลหนึ่งผลิตภัณฑ, สง เสริมการจัดกิจกรรมรวมกันของชุมชน, สงเสริมใหมีการชวยเหลือดูแลผูสูงอายุ ผูพิการไมใหเปนผูถูกทอดทิ้งทางสังคม, สนั บ สนุ น กิ จ กรรมต า งๆ ของสถาบั น ศาสนา, ใหความรวมมือกับสวนราชการ ในการป อ งกั น ปราบปรามยาเสพติ ด ตลอดจนเฝาระวัง 4. นโยบายดานการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ประกอบดวย การเพิ่มขีดความสามารถของครูผู ดูแลเด็ก, สนับสนุนการจัดการเรียนการ สอนใหมีความสอดคลองกับสถานภาพ, ปรับปรุงภูมิทัศนศูนยพัฒนาเด็กเล็กให เหมาะสมกั บ การเรี ย น, จั ด หาทุ น การ ศึกษาใหนักเรียนที่ขาดแคลน, สงเสริม อนุรักษวัฒนธรรม จารีตประเพณีทองถิ่น ที่เปนเอกลักษณและจุดเดนของ อบต., สงเสริมงานศิลปะ, สงเสริมการจัดงานรัฐ พิธี การจัดกิจกรรมงานวันสําคัญตางๆ, สงเสริมการจัดแขงขันกีฬาประเภทตางๆ
ทีจ่ ดั ขึน้ , จัดทําแหลงประชาสัมพันธขอ มูล ขาวสาร 5. นโยบายดานการเมืองและการ บริหาร ประกอบดวย สนับสนุนการจัดทําแผนยุทธศาสตร การพั ฒ นาและแผนพั ฒ นาตํ า บล, สนั บ สนุ น บุ ค ลากรผู ป ฏิ บั ติ ง านของ องคการบริหารสวนตํา บล ผูนําชุมชน ใหมีการเพิ่มพูนความรูความเขาใจใน บทบาทหนาที่ ระเบียบ กฎหมาย, พัฒนา ศั ก ยภาพและขี ด ความสามารถของ องคกรอยางตอเนื่องเพื่อรองรับภารกิจ ถายโอนจากสวนราชการตางๆ, สนับสนุน การมี ส ว นร ว มของทุ ก ภาคส ว นในการ บริหารและการตรวจสอบ
6. นโยบายดานการจัดระเบียบ ชุมชน/สังคม ประกอบดวย สงเสริมกระบวนการมีสวนรวมของ ประชาชน ชุมชน กลุม อาสาสมัคร ,พัฒนา ระบบปองกัน บรรเทาและระงับอุบัติภัย เพื่ อ ให ส ามารถช ว ยเหลื อ ผู ป ระสบภั ย ไดอยางรวดเร็ว ,สงเสริมสนับสนุนการ พัฒนาสังคมเพื่อใหชุมชนนาอยูสังคมมี ความสุข 7. นโยบายดานการสงเสริมการ ทองเที่ยว ประกอบดวย ประชาสั ม พั น ธ ส ถานที่ ท อ งเที่ ย ว ผานสือ่ ตางๆ, รณรงคและประชาสัมพันธ เกี่ยวกับอุบัติเหตุโดยมีการแนะนําเสน ทางคมนาคมเพือ่ ปองกันและลดอุบตั เิ หตุ 8. นโยบายสาธารณสุข ประกอบ ดวย รณรงคและเผยแพรใหความรูค วาม เขาใจแกประชาชนถึงอันตรายจากโรค ภัยตางๆ, สงเสริมประชาสัมพันธความรู ความเขาใจในดานการดูแลรักษาสุขภาพ อนามัย, สงเสริมโครงการภาครัฐและ ภาคเอกชนที่มุงบําบัด รักษา ฟนฟูผูติด ยาเสพติด, สนับสนุนงบประมาณดาน สาธารณสุขเพือ่ ปองกันและระงับการเกิด โรคติดตอ, การเสนอรางขอบังคับตําบล วาดวยการสาธารณสุขเพื่อควบคุมดูแล กิ จ การที่ เ กี่ ย วข อ งและมี ผ ลกระทบต อ สุขภาพอนามัยของประชาชน 9. นโยบายด า นการอนุ รั ก ษ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ประกอบดวย สงเสริมและสนับสนุนใหประชาชน องคกรตางๆ เขามามีสว นรวมในการอนุรกั ษ ป อ งกั น และแก ไ ขป ญ หาสิ่ ง แวดล อ ม, สงเสริมดานอนามัยสิง่ แวดลอม, สงเสริม การจัดสรางสวนสุขภาพประจําหมูบาน, พั ฒ นาพื้ น ที่ ข องตํ า บลให มี ภู มิ ทั ศ น ที่ สวยงาม รมรื่น เปนระเบียบเรียบรอยโดย มุงไปสูความเปนชุมชนนาอยู Ayutthaya 141
เส้นทางพบองค์การบริหารส่วนตําบล (อ.อุทัย)
องคการบริหารสวนตําบลบานชาง
ตําบลบ้านช้างเปน 1 ใน 11 ต�าบล ของอ�าเภออุทยั จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มี พืน้ ทีท่ งั้ หมด 4,175 ไร่ แบ่งการปกครองออก เป็น 7 หมูบ่ า้ น โดยมีทที่ า� การองค์การบริหาร ส่วนต�าบลบ้านช้าง ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ปัจจุบันมี นายวิทยา คงเวหน ด�ารงต�าแหน่ง นายก องค์การบริหารส่วนตําบลบ้านช้าง และ มี ส.ต.อ.บุญธรรม เกิดผล เป็น ปลัด องค์การบริหารส่วนตําบลบ้านช้าง
142
ประวัติความเปนมา กล่าวกันว่าในสมัยที่กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี บริเวณต�าบลบ้านช้างเป็นที่พักของ ช้างปาที่จับต้อนได้ และยังเป็นสถานที่คัดเลือกช้างปาเข้าเพนียด หรือ เพนียดคล้องช้างใน ปัจจุบนั เพือ่ น�าช้างไปใช้ในราชการสงคราม จึงขนานนามบริเวณสถานทีแ่ ห่งนีว้ า่ “บ้านช้าง” หรือ “ต�าบลบ้านช้าง” ในปัจจุบนั โดยได้รบั การยกฐานะเป็นองค์การบริหารส่วนต�าบล เมือ่ วัน ที่ 9 กรกฎาคม 2547 และปรับขนาดจากเล็กเป็นขนาดกลางเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2553 เขตองค์การบริหารส่วนตําบลบ้านช้าง องค์การบริหารส่วนตําบลบ้านช้าง แบ่งการปกครองออกเป็น 7 หมู่บ้าน ดังนี้ หมู่ที่ ชื่อหมู่บ้าน ชื่อ-สกุล ผู้ใหญ่บ้าน-กํานัน หมู่ที่ 1 บ้านโตนดเตี้ย นายเผอิญ มีทีปี หมู่ที่ 2 บ้านขวิดเหนือ นายสมบัติ ประสพสม หมู่ที่ 3 บ้านขวิดใต้ นางขวัญเรือน บุญญิกา หมู่ที่ 4 บ้านช้าง นายสมศักดิ์ ศรีสวาสดิ์ หมู่ที่ 5 บ้านช้าง นางจ�าแรง คงโพธิ์ หมู่ที่ 6 บ้านกลาง นายทศพร จันทร์รัศมี(ก�านัน) หมู่ที่ 7 บ้านล�าตาเสา นางสุดา เหมือนแม้น
สภาพข้อมูลทั่วไป เนื่ อ งจากลั ก ษณะภู มิ ป ระเทศของ ต�าบลบ้านช้างเป็นที่ราบลุ่ม มีความอุดม สมบู ร ณ์ ทรั พ ยากรน�้ า และดิ น เหมาะสม แก่การท�าการเกษตร ราษฎรส่วนใหญ่จึง ประกอบอาชีพทางการเกษตร มีพนื้ ทีท่ า� การ เกษตรจ�านวน 3,261 ไร่ โดยการท�านาเป็น อาชีพหลัก ทั้งนี้เพราะพื้นที่นาของต�า บล อยู ่ ใ นเขตชลประทาน จึ ง สามารถผั น น�้ า เข้าคลองส่งน�้าชลประทานได้ จึงสามารถ ท�านาได้ตลอดปีโดยไม่มีปัญหาใดๆ และ มีอาชีพรับจ้างเป็นอาชีพรอง (รับจ้างมีทั้ง รั บ จ้ า งทั่ ว ไป และรั บ จ้ า งประจ� า ในย่ า น อุตสาหกรรม) ศักยภาพของอบต.บ้านช้าง ด้านการศึกษาและศาสนา ในพื้นที่ของ อบต.บ้านช้าง มีโรงเรียน ประถมศึกษา 1 แห่ง คือโรงเรียนบ้านช้าง หมู่ที่ 3 มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ของ อบจ. พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ต�าบลบ้าน ช้าง และมีทอี่ า่ นหนังสือพิมพ์ประจ�าหมูบ่ า้ น 1 แห่ง มีวัด 1 แห่ง คือวัดเทพกุญชร หมู่ที่ 3 ด้านสาธารณสุข มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�าบล 1 แห่ง และศูนย์สาธารณสุขมวลชนประจ�า หมู่บ้าน 7 แห่ง
ด้านสังคมสงเคราะห์ มีศนู ย์สงเคราะห์ ราษฎรประจ�าหมู่บ้าน 7 แห่ง การบริการพื้นฐาน/สาธารณูปโภค การคมนาคม ใช้เส้นทางที่แยกออก จากทางหลวงจังหวัดฯ อ�าเภออุทยั ถนนสาย หลักคือ ถนนบ้านสร้าง-ยายกะตา ซึ่งเชื่อม ต่อระหว่างบ้านยายกะตา หมู่ที่ 4 ต�าบล อุทัย, ต�าบลบ้านช้าง หมู่ที่ 1-7 และหมู่ที่ 1 ต�าบลบ้านสร้าง อ�าเภอบางปะอิน และ เชื่อมต่อกับต�าบลล�าตาเสา อ�าเภอวังน้อย, ต� า บลหนองน�้ า ส้ ม อ� า เภออุ ทั ย จั ง หวั ด พระนครศรีอยุธยา ส่วนเส้นทางที่ใช้กันใน ต�าบลคือ ถนนเลียบคลองช่องสะเดาทั้งสอง ฝัง่ ซึง่ เป็นเส้นทางทีเ่ ชือ่ มต่อระหว่างหมูบ่ า้ น ต่าง ๆ ตลอดทั้งต�าบล ไฟฟ้ า ต�าบลบ้านช้าง มีไฟฟ้าครบ ทั้ง 7 หมู่บ้าน อยู่ในความรับผิดชอบของ เขตการไฟฟ้ า ส่ ว นภู มิ ภ าควั ง น้ อ ยอ� า เภอ วังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ประปา ต�าบลบ้านช้างใช้น�้าประปา ทั้ง 7 หมู่บ้าน การมีสว่ นร่วมในการพัฒนาท้องถิน่ ของคนในชุมชน อบต.บ้านช้าง มีกลุ่ม มวลชนจั ด ตั้ ง ขึ้ น ดั ง นี้ ลู ก เสื อ ชาวบ้ า น ตัวแทนประชาคมต�าบลทุกหมู่ อาสาสมัคร สาธารณสุขมวลชนทุกหมู่ คณะกรรมการ ศู น ย์ กี ฬ าต� า บล กลุ ่ ม สตรี อ าสาพั ฒ นา ต�ารวจชุมชน กลุ่มอาชีพต่างๆ กลุ่มท�านา, กลุ่มสตรีตัดเย็บเสื้อผ้าโหล, กลุ่มเยาวชน คณะกรรมการต่อต้านยาเสพติด ชมรมผู้สูง อายุต�าบลบ้านช้าง
143
เครื่ อ งมื อ และอุ ป กรณ์ ต ่ า งๆ ที่ สําคัญของ อบต.บ้านช้าง มียานพาหนะ และเครื่ อ งมื อ จ� า เป็ น เพื่ อ ใช้ บ ริ ก ารประ ชาน ได้แก่ รถยนต์ปกอัพ 3 คัน รถตู้ 1 คัน รถบรรทุกน�า้ ดับเพลิงเอนกประสงค์ 1 คัน รถ กระเช้าไฟฟ้า 1 คัน รถกู้ชีพกู้ภัย 1 คัน รถ ฟาร์มแทรกเตอร์พร้อมเครื่องตัดหญ้าไหล่ ทาง 1 คัน รถจัดเก็บขยะ 1 คัน ผลการดําเนินงานที่ผ่านมา งานด้านสาธารณสุข • ส่ ง เสริ ม ให้ ป ระชาชนมี สุ ข ภาพ ร่างกายแข็งแรงด้วยการออกก�าลังกายใน โครงการ “อบต.บ้านช้างไร้พุง” • การแลกเปลี่ยนเรียนรู้นวัตกรรมด้าน สุขภาพ กองทุนหลักประกันสุขภาพต�าบล บ้านช้าง อ�าเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา • ประกวดหนูน้อยสุขภาพดีเริ่มต้นที่ นมแม่
• รณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออก • ตั้งจุดตรวจหาสารเสพติด ด้านการส่งเสริมการศึกษา วัฒนธรรม และประเพณี • จัดงานวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช โดยชาวต�าบลบ้านช้าง ร่วมใจ แสดงความจงรักภักดี • มอบทุ น การศึ ก ษาให้ กั บ เด็ ก ด้ อ ย โอกาส รร.บ้านช้าง • เปดโอกาสให้เด็กนักเรียนโรงเรียน บ้านช้าง ทัศนศึกษา+เยีย่ มชม อบต.บ้านช้าง • จัดประเพณีสงกรานต์ รดน�้าด�าหัวผู้ สูงอายุของต�าบลบ้านช้าง ด้านการบริหาร • จัดงาน 120 ปีมหาดไทย ท้องถิ่น ร่วมใจบริการประชาชน • จัดประชาคมหมู่บ้าน
งานด้านส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ • ส่ ง เสริ ม OTOP ต� า บลบ้ า นช้ า ง ให้ เ ป็ นที่ รู ้ จั ก ซึ่ ง ได้ แ ก่ งานถักไหมพรม, เชื อ กถั ก (สนใจติ ด ต่ อ ได้ ที่ คุ ณ รุ ่ ง รั ต น์ 081-573-9252 )
14
แผนภู มิโครงสร้ างการแบ่ 10. แผนภู มิโครงสรางการแบ งสวนราชการงส่วนราชการ โครงสรางสวนราชการองคการบริหารสวนตําบลบานชาง ปลัดองคการบริหารสวนตําบลบานชาง (นักบริหารงาน อบต.๘) รองปลัดองคการบริหารสวนตําบลบานชาง (นักบริหารงาน อบต.๗)
สํานักงานปลัด (นักบริหารงานทั่วไป ๖) 1. งานบริหารทั่วไป 2. งานนโยบายและแผน 3. งานปองกันและบรรเทาสาธารณภัย 4. งานกฎหมายและคดี ๕. งานสวัสดิการและพัฒนาสังคม
144
สวนการคลัง (นักบริหารงานคลัง ๖) 1. งานการเงินและบัญชี 2. งานพัฒนาและจัดเก็บรายได 3. งานทะเบียนทรัพยสินและพัสดุ
สวนโยธา (นักบริหารงานชาง ๗) 1. งานกอสราง 2. งานออกแบบและควบคุมอาคาร 3. งานประสานสาธารณูปโภค ๔. งานรักษาความสะอาด
เสนทางพบองคการบริหารสวนตําบล (อ.อุทัย)
องคการบริหารสวนตําบลหนองไมซุง
“ชุมชนเขมแข็ง ศูนยรวมแหลงเพาะ เห็ดฟาง ใสใจสิง่ แวดลอม พรอมสงเสริม การทองเทีย่ ว” คือวิสัยทัศนการพัฒนาของ องค ก าร บริหารสวนตําบลหนองไมซุง ซึ่งตั้งอยู เลขที่ 27 ต.หนองไมซงุ อําเภออุทยั จังหวัด พระนครศรีอยุธยา โดยตั้งอยูทางทิศตะวัน ออกห า งจากอํ า เภออุ ทั ย ประมาณ 14 กิโลเมตร ปจจุบันมี นายชลิต หามนตรี ดํารงตําแหนง นายกองคการบริหารสวน ตําบลหนองไมซงุ ขอมูลทัว่ ไป ตําบลหนองไมซงุ มีพนื้ ทีท่ งั้ หมด 20.99 ตร.กม. หรือประมาณ 9,423 ไร พืน้ ทีส่ ว น ใหญเปนพืน้ ทีน่ า และทีเ่ ลีย้ งปศุสตั ว มีคลอง ชลประทานเปนแหลงนํ้าหลักในการทําการ เกษตร แบงการปกครองออกเปน 9 หมูบ า น ประชากรสวนใหญประกอบอาชีพทางการ เกษตรและหัตถกรรม และบางสวนประกอบ อาชีพรับจางในโรงงานอุตสาหกรรม พันธกิจการพัฒนาองคการบริหารสวน ตําบล - พั ฒ นาโครงสร า งพื้ น ฐาน ระบบ สาธารณูปโภค และสาธารณูปการตาง ๆ
- สงเสริมอาชีพ ทัง้ อาชีพหลักและอาชีพ เสริม เพิ่มความรูและทักษะเกี่ยวกับอาชีพ ใหแกประชาชน - สงเสริมการศึกษา การศาสนา ศิลป วัฒนธรรม ประเพณี และภูมปิ ญ ญาทองถิน่ - จั ด ให มี ก ารสั ง คมสงเคราะห และ สวัสดิการสังคมแกคนชรา คนพิการ คนยากไร ผูประสบสาธารณภัย และผูประสบปญหา ตาง ๆ ทีส่ มควรไดรบั การสงเคราะห เปนตน - สงเสริมกระบวนการประชาคม การ พัฒนาแบบประชาชนมีสวนรวม ประชาชน ไดรบั รูข อ มูลขาวสารตางๆ ขององคการบริหาร สวนตําบลโดยชองทางการประชาสัมพันธทมี่ ี ประสิทธิภาพ - ปรับปรุงระบบการบริหารจัดการ พัฒนา คุณภาพบุคลากรขององคการบริหารสวน ตําบลี เพื่อการใหบริการประชาชน โดยยึด หลักธรรมาภิบาลหรือหลักการบริหารจัดการ บานเมืองทีด่ ี - ปองกันและแกไขปญหาสังคมตางๆ เชน ปญหายาเสพติด ปญหาอาชญากรรม เปนตน - สงเสริมกิจกรรมดานสาธารณสุข เชน การออกกํ า ลั ง กาย การป อ งกั น โรคต า งๆ เปนตน
- ปองกันและแกไขปญหาสิ่งแวดลอม เชน ปญหาขยะ ปญหานํ้าเนาเสีย ปญหา วัชพืชในลําคลองปญหามลพิษจากสารเคมี ตางๆ เปนตน แผนพัฒนาสามป (ป พ.ศ. 2557-2559) 1. การบริหารภารกิจเพือ่ ใหเกิดประโยชน สุขแกประชาชน 2. การบริหารงานเพื่อใหเกิดผลสัมฤทธิ์ ตอภารกิจ ของ อปท. 3. การบริหารภารกิจยางมีประสิทธิภาพ และเกิดความคุม คาในเชิงภารกิจ 4. การลดขัน้ ตอนการปฏิบตั งิ าน 5. การปรับปรุงภารกิจของ อปท. 6. การอํ า นวยความสะดวกและตอบ สนองความตองการของประชาชน 7. การประเมินผลการปฏิบตั งิ าน โครงการที่มีการบูรณาการการปฏิบัติ งานร ว มกั บ ส ว นราชการ หรื อ อปท. ประกอบดวย 1. ดานโครงสรางพืน้ ฐาน 2. ดานการสงเสริมคุณภาพชีวติ 3. ดานการจัดระเบียบชุมชน/สังคม และ การรักษาความสงบเรียบรอย 4. ดานการวางแผน การสงเสริมการลงทุน พาณิชยกรรม และการทองเทีย่ ว 5. ดานการบริหารจัดการและการอนุรกั ษ ทรัพยากรธรรมชาติสงิ่ แวดลอม 6 ) ดานศิลปะ วัฒนธรรม จารีตประเพณี และภูมปิ ญ ญาทองถิน่ Ayutthaya 145
บนเส้นทางธรรม
ความเปนมาและเปาหมาย
โครงการพุทธอุทธยานมหาราช เกิดขึน้ จากแนวคิดทีต่ อ้ งการ เห็นโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ โดยยึดตามหลักการ “บวร” อันหมายถึง บ้าน วัด โรงเรียน หรือรวมถึงหน่วยราชการ และองค์กรเอกชน มูลนิธิ ซึ่งแต่ละภาคส่วนไม่ว่าจะเป็น บ.บ้าน อัน หมายถึง ชุมชน บุคคล หรือชาวบ้าน ว.วัด หรือคณะสงฆ์ อันเป็น หน่วยงานที่ส่งเสริมคุณธรรม และธ�ารงไว้ซึ่งหน้าที่ในการสร้างเสริม ความเป็นคนดีมีศีลธรรม และ ร. โรงเรียน องค์กรด้านการศึกษา หน่วยงานราชการ ได้มีการรวมตัวกันท�าภารกิจอันเป็นประโยชน์ต่อ สังคม ได้ท�าในสิ่งที่เป็นมิติใหม่ของสังคม ให้เป็นต้นแบบของการ บริหารจัดการในลักษณะแบ่งหน้าที่กันท�า แต่มีเป้าหมายสุดท้าย ร่วมกัน คือประโยชน์สขุ ของสังคม ช่วยเหลือ เอื้อเฟอต่อชุมชน สังคม และประชาชน ด้วยวิธีการที่ยั่งยืนโดยเริ่มต้นด้วยการ เสียสละประโยชน์สุขส่วนตน รวมถึง ก�าลังทรัพย์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เป็นโครงการเพื่อสังคม
โครงการพุทธอุทยานมหาราช… มิติใหมเพื่อประโยชนสุขตอสังคม 146
“บ” หมายถึง บ้าน หรือชาวบ้าน ชุมชน สังคม ประชาฃนทั่ว ไป ทัง้ ทีใ่ กล้โครงการและรวมถึงประชาชนทัว่ ไปทีจ่ ะได้รบั ประโยชน์ จากโครงการนี้ในด้านต่างๆ เช่น ความเจริญของพื้นที่ การสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างคุณธรรม สร้างจิตส�านึกให้รจู้ กั การเสียสละเพือ่ ส่วน รวม ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมทางอ้อม ให้กับผู้ที่ได้มาเยี่ยมชมที่ โครงการ และน�าแนวทางไปประยุกต์ใช้ “ว” หมายถึง วัด มูลนิธิ องค์กรการกุศล ทีจ่ ะต้องพัฒนาปรับตัว ปรับแนวคิดใหม่ว่าต้องท�าเพื่อสังคมส่วนรวม ไม่คิดแบบธุรกิจ แต่ ต้องคิดแบบการให้กลับคืนแก่สังคมอย่างไร ให้แบบมีคุณค่า แบบ มีปัญญา สร้างจิตส�านึกที่ดีแก่ประชาชน “ร” หมายถึง ราชการ โรงเรียน การเข้ามามีส่วนร่วมของภาค ส่วนราชการ เพื่อประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และประชาชนในด้าน ต่างๆ
ด้วยเหตุนี้จึงได้เกิดแรงบันดาลใจว่าต้องลงมือท�าเท่านั้นจึงจะ ส�าเร็จ และได้ซื้อที่ดินจ�านวน 200 ไร่ จากบสก. ซึ่งนับว่าเป็นความ โชคดีที่ได้ที่ดินที่เหมาะสมทั้งขนาด ท�าเล และสภาพแวดล้อมที่ยัง ที่มาของชื่อโครงการพุทธอุทธยานมหาราช ที่มาของชื่อ “โครงการพุทธอุทธยานมหาราช” เนื่องจากตั้ง คงเป็นธรรมชาติ จึงได้หารือร่วมกับคณะสงฆ์ โดยมี สมเด็จพระวัน อยู่บนพืน้ ที่รอยต่ออ�าเภอบางปะหันและอ�าเภอมหาราช ของจังหวัด รัต รักษาการเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต วัดบวรนิเวศ และสมเด็จ พระนครศรีอยุธ ยา ต่อเนือ่ งกับอ�าเภอป่าโมก อ�าเภอเมือง ของจังหวัด พระธีรญาณมุนี วัดเทพศิรนิ ทราวาส เลขาธิการคณะสงฆ์ธรรม อ่างทอง ซึ่งเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์เป็นเส้นทางเดินทัพของสมเด็จ ยุต กรรมการมหาเถรสมาคม ตลอดจนพระเถระผู้ใหญ่หลาย พระนเรศวรมหาราช จึงได้ใช้ชอื่ ว่า “พุทธอุทยานมหาราช” เพือ่ ความ รูป ซึ่งทางคณะสงฆ์ผู้ใหญ่ก็ได้เห็นชอบ และมีหลักการเป้าหมาย เป็นสิริมงคลจากความตั้งใจของ ของ นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิ เดียวกันเพื่อด�าเนินการตั้งวัดขึ้นมาใหม่ รวมถึงสร้างโรงเรียนขึ้นมา พัฒน์ ประธานมูลนิธพ ิ ระเทวราชโพธิสตั ว์ ร่วมกับคณะสงฆ์ได้มี ในพื้นที่เดียวกัน นอกจากนี้ ทางคณะสงฆ์ยังมีความตั้งใจจะให้เป็น แนวคิดดังกล่าว และมีปณิธานแน่วแน่ทจี่ ะด�าเนินโครงการให้ประสบ “โครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ ความส�าเร็จและเป็นรูปธรรม เพือ่ ให้เป็นตัวอย่างในท่ามกลางกระแส เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชินนี าถ” ของสังคม ทีม่ แี ต่การเอาก�าไรและประโยชน์สว่ นตนเป็นตัวตัง้ จนละ ปัจจุบันได้ตั้งวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชื่อว่า “วัดวชิรธรรมาราม” มี ลืมหลักที่ว่า “ทุกคนตายแล้วเอาอะไรไปไม่ได้” และมีแต่คนเอา เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศ รักษาการเจ้าอาวาส เปรียบซึ่งกันและกัน ไม่เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตน ก่อให้เกิดความ รูปแรก เสียหายในทุกภาคส่วน ล้วนด�าเนินไปในทางที่เสื่อมสลายในระยะ ยาว และสังคมไทยสอนหรือบอกกันยาก ต้องท�าให้เห็น แม้ว่าจะ เป็นเรื่องยากล�าบาก ซึ่งต้องใช้พละก�าลัง แรงกาย แรงใจ และทุน ทรัพย์จ�านวนมากก็ตามที เพื่อให้เป็นสถานที่เห็นด้วยตาอย่างเป็น รูปธรรม และปฏิบัติไปตามปณิธานที่ตั้งใจไว้ เพื่อให้เกิดผลอย่าง แท้จริงว่า โครงการลักษณะนี้สามารถท�าได้จริง หากทุกฝ่ายร่วมมือ ร่วมใจกันด้วยความเสียสละ
Ayutthaya 147
การด�าเนินโครงการ
1. สร้างสถานที่ท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนา ศิลปวัฒนธรรม เพื่อให้เป็นศูนย์รวมใจของประชาชน และเพื่อ ให้เลีย้ งตัวเองได้จากการท่องเทีย่ ว ซึง่ จะมีความยัง่ ยืน จึงได้สร้างรูปเหมือนหลวงพ่อทวดเหยียบน�า้ ทะเลจืด ซึง่ เป็น พระเถระที่ประชาชนทั่วประเทศมีความศรัทธา และจะเป็นรูปเหมือนตัวแทนพระสงฆ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก หน้าตัก 24 เมตร ความสูงรวมฐาน 51 เมตรสร้างด้วยปูนหุ้มโลหะส�าริดเคลือบสีทอง ซึ่งตามประวัติในสมัยกรุง ศรีอยุธยา หลวงพ่อทวดเคยได้เดินทางมาพ�านักอยู่ที่กรุงศรีอยุธยาเป็นระยะเวลาหลายสิบป และได้สร้างคุณ ประโยชน์ให้กับบ้านเมืองในสมัยนั้น ซึ่งเป็นการน้อมร�าลึกถึงบารมีธรรมแห่งพระเถระรูปส�าคัญของประเทศไทย ในอดีต 2. โครงการสร้างวัดใหม่ขนึ้ มาทัง้ หมดประกอบด้วย อุโบสถ กุฏสิ งฆ์ หอฉัน เสนาสนะศาลาอเนกประสงค์ เพือ่ เฉลิมพระเกียรติ และถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั และสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์ พระบรม ราชินีนาถ โดยมี พล.อ.ต. อาวุธ เงินชูกลิ่น ศิลปนแห่งชาติ และอาจารย์วนิดา พึ่งสุนทร ศิลปนแห่งชาติ เป็น ผู้ออกแบบงานสถาปัตยกรรมการสร้างวัดของคณะสงฆ์ธรรมยุต โดยมีสมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศฯ เป็นประธานอ�านวยการ สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดเทพศิรนิ ทราวาส เป็นประธานด�าเนินการ พร้อมด้วยคณะกรรมการมหาเถรสมาคมฝ่ายธรรมยุตทั้งหมด โดยมีส�านักงานทรัพย์สินส่วน
หลวงปูทวดพระเถระคู่แผ่นดินกรุงศรีอยุธยา
นามหลวงปู่ทวด คนทั่วไปจะรู้จักกันว่าท่านเป็นพระเมืองใต้เพียงเท่านั้น แต่แท้จริงแล้ว ท่านมีความเกี่ยวพันกับกรุงศรีอยุธยา อย่างยิ่ง ก่อนที่จะเดินทางกลับไปจ�าพรรษาอยู่ที่วัดพะโคะ จังหวัดสงขลา และวัดช้างให้ ตามล�าดับต�านานประวัติของท่านนั้น มี บันทึกจารึกไว้อย่างเป็นทางการในเอกสารเก่าโบราณครั้งแผ่นดินกรุงศรีอยุธยาเรียกว่า “พระต�าราบรมราชูทิศเพื่อกัลปนาหัว เมืองพัทลุง” ซึ่งจารึกไว้กว่า 400 ปล่วงมาแล้ว เป็นเอกสารประวัติศาสตร์ที่สามารถยืนยันการมีตัวตนจริงของหลวงปู่ทวดได้ และที่ ส�าคัญท่านมีสมณศักดิ์เป็นถึง “สมเด็จพระราชาคณะ” ที่ สมเด็จพระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์ มีความหมาย คือ เป็นพระ อาจารย์ที่มีคุณอันยิ่งใหญ่ ต่อพระราชฉายาเดิมของท่านคือ พระภิกษุ ปู สามีราโม จึงมีนามว่า “สามีราม” อยู่ในสมณศักดิ์ ท่านบวช ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และต่อมาจึงได้มาศึกษาเล่าเรียนต่อที่กรุงศรีอยุธยา ท่านได้ประกอบคุณงามความดี เป็นผู้เรียงอักขระพระไตรปฎก 84000 พระธรรมขันธ์ จากเมล็ดทองค�าที่ราชทูตจากลังกามา ท้าประลองภูมิธรรม เมื่อครั้งสมัยอยุธยา และทราบด้วยญาณว่าอักขระถูกแอบเก็บไว้ 7 ค�า คือค�าว่า สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ อัน เป็นหัวใจพระอภิธรรมคัมภีร์ จนกระทั่งท�าให้ราชทูตจากลังกายอมศิโรราบ ในความสามารถและสติปัญญาอันเลิศล�้าของพระภิกษุ ปู สามีราโม กู้ชื่อกรุงศรีอยุธยาไว้ได้ จากนั้นท่านจึงเป็นที่เคารพบูชาของพระเจ้าแผ่นดิน และประชาชนอย่างมาก ท่านได้พ�านักจ�าา พรรษาอยู่กรุงศรีอยุธยายาวนานหลายสิบป แล้วจึงได้จาริกธุดงค์กลับไปปักษ์ใต้ ดังนั้น หลวงปูทวด จึงเปรียบเสมือนพระอริยสงฆ์คู่แผ่นดินของกรุงศรีอยุธยา นับตั้งแต่อดีตกาลกว่า 400 ปก่อนจวบจนยุค ปัจจุบนั นี้ หาใช่เพียงพระดังจากแดนใต้เท่านัน้ มหาสังฆบารมีของท่านยิง่ ใหญ่ไปทัว่ แผ่นดินไทย ถือกันว่า ท่านคือ พระศรีอริยเมต ไตรโพธิสัตว์ จุติลงมาโลกมนุษย์ เพื่อบ�าเพ็ญบารมี โปรดสรรพสัตว์ ทุกผู้ทุกนาม
148
พระมหากษัตริย์ เป็นผู้วางผังโครงการและสนับสนุนการก่อสร้าง วิหาร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามพระพุทธรูปประจ�าวิหารว่า “พระพุทธเมตตา เสนานาถ” และตราสัญลักษณ์ 84 พรรษา ให้กองทัพบกเป็น เจ้าภาพ อัญเชิญประดิษฐานเป็นพระประธานประจ�าวิหาร 3. การสร้างโรงเรียนระดับชั้นมัธยม ด�าเนินการต่อเนื่องหลัง จากสร้างวัดเรียบร้อยแล้ว รวมถึงการช่วยเหลือสนับสนุนโรงเรียน ในชุมชนใกล้เคียง เพื่อยกระดับและพัฒนาคุณภาพการศึกษา 4. โครงการศูนย์แสดงและจ�าหน่ายสินค้า SME และโอท็อป ถาวร เพื่อสร้างโอกาสในทางการจ�าหน่ายให้กับผู้ผลิต ภายใต้ ระบบสหกรณ์และระบบธุรกิจเพือ่ สังคม (SOCIAL ENTERPRISE) ภายใต้แนวคิดประโยชน์สุขของทุกฝ่าย โดยไม่เอาก�าไรสูงสุดเป็น
ตัวตัง้ เป็นรูปแบบนวัตกรรมใหม่ของธุรกิจเพือ่ สังคม (INNOVATION SOCIAL ENTERPRISE) หรือ ISE 5. พื้นที่การค้าส�าหรับชุมชน เพื่อให้ชาวบ้านได้มีที่ขายสินค้า ชุมชน สินค้าโอท็อป ซึ่งต้องใช้หลักดึงคนมาก่อนเพื่อให้ชาวบ้านได้ ค้าขายได้อย่างยัง่ ยืน ให้มคี วามหลากหลาย ช่วยคนให้มที ที่ า� กิน และ ระบายสินค้าภูมปิ ญ ั ญาชาวบ้าน และสร้างโอกาสให้กบั ผลผลิตท้อง ถิ่น ซึ่งจะต้องสร้างชุมชนใหม่ขึ้นมาผนวกกับชุมชนดั้งเดิม และปลูก ฝังให้เกิดการรับผิดชอบต่อการอยู่ร่วมกันในชุมชน 6. โครงการพัฒนาพื้นที่ตามแนวพระราชด�าริ เศรษฐกิจพอ เพียง ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง โครงการพุทธอุทยานมหาราช กั บ สถาบั น เศรษฐกิ จ พอเพี ย ง มหาวิ ท ยาลั ย ราชภั ฎ ราช นครินทร์ อ�าเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมหน่วยงานภาค รัฐ อาทิ กรมพัฒนาที่ดิน ส�านักงานเกษตรจังหวัด และ โครงการ แก้มลิง ตามพระราชด�าริ หนองเจ็ดเส้น มูลนิธิชัยพัฒนา ใน พื้นที่ของจังหวัดอ่างทอง ซึ่งอยู่ติดกับโครงการพุทธอุทยานมหาราช
Ayutthaya 149
เพื่อบริหารจัดการน�้า และด้านการเกษตร การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทางการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่า 7. พื้นที่เกษตรและการอนุรักษ์ธรรมชาติคืนสู่หลักการ ใน น�้ามีปลา ในนามีข้าว เน้นความเขียวสดชื่นตามธรรมชาติแนว อนุรักษ์ แหล่งน�้าและต้นไม้ มีการท�านา ปลูกไม้ผล ไม้ดอก ไม้กินได้ ไม่ท�าลายธรรมชาติ น�าเสนอทฤษฎี “บ้านนอกคอกนา พาชีวิต เปนสุข สงบ ร่มเย็น” 8. โครงการหอศิลปกรุงสยามและพิพิธภัณฑ์ จัดตั้งหอศิลป เพื่อเป็นสถานที่แสดงงานนิทรรศการทางด้านศิลปะแขนงต่างๆ เช่น ประติมากรรม จิตรกรรม ฯลฯ เปดเวทีให้กับผู้สร้างสรรค์งาน ศิลป ได้มสี ถานทีแ่ สดงและจ�าหน่ายผลงาน โดยจะมีการจัดกิจกรรม หมุนเวียนตลอดทั้งป เพื่อพัฒนาฝมือเชิงช่างของคนไทย ยกระดับ สร้างมูลค่า ทั้งยังให้ความรู้และการศึกษาแก่เยาวชนและผู้ที่สนใจ
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. เป็นตัวอย่างแก่คนที่มีก�าลังในด้านต่างๆ ที่จะได้เห็นว่า โครงการแบบนี้ สามารถท�าได้จริง 2. ประชาชนจะได้ประโยชน์ในหลายๆ ด้านทัง้ ส่งเสริมศีลธรรม เศรษฐกิจ สังคม ยกระดับชุมชน ปลูกฝังการเอื้อเฟอเผื่อแผ่ การรู้จัก เสียสละ และการให้ต่อสังคม
150
3. ท�าให้เห็นว่า เราต้องรักษา และอยู่ร่วมกับธรรมชาติ 4. ความยั่งยืนและสัมฤทธิ์ผลในระยะยาวอย่างเป็นรูปธรรม ตามหลักการ “บวร” 5. สร้างสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของท้องถิ่น และประเทศ ชาติขึ้นมา 6. ประชาชนได้มีที่ท�ามาหากิน และขายสินค้าที่เกี่ยวเนื่องได้ 7. เป็นตัวอย่างการคิดแบบสร้างสรรค์ แนวครีเอทีฟ อีโคโนมิค โดยการประยุกต์มิติทางวัฒนธรรม สังคม ประวัติศาสตร์ และ พระพุทธศาสนาเข้าด้วยกันอย่างยั่งยืน 8. จะเป็นศูนย์การประชุม อบรม สัมมนา ทางด้านคุณธรรม จริยธรรมของประเทศไทย
เกียรติยศแห่งชีวิตที่ขอฝากไว้ในแผ่นดิน
นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพฒ ั น์ ประธานมูลนิธพ ิ ระเทวราช โพธิสัตว์และนายกองค์การบริหารส่วนต�าบลบ้านใหม่ ได้กล่าว ถึงความภาคภูมิใจในการจัดสร้างพุทธอุทยานมหาราช ว่า “ขอเรียนวาสถานทีแ่ หงนีส้ รางขึน้ จากอุดมคติของผม และไดรบั ความรวมมือจากหลายๆ ฝายไมวาจะเปนคณะสงฆ ระดับพระเถระ ชัน้ ผูใ หญ ซึง่ ผมไดหารือกับทานวาผมจะทําโครงการในลักษณะนีข้ นึ้ โดยทีไ่ มเอากําไร ไมเอาเงินเปนตัวตัง้ คิดเพียงวา....ตายแลวก็ขอฝง ชือ่ ไวในแผนดินนี้ วาไดสรางขึน้ จากคนเล็กๆ คนหนึง่ ผมใชเงิน สวนตัว 60 ลานซื้อที่ดินเปลาๆ ขึ้นมา อยางหลวงปูทวดองคนี้ถือวา เปนหลวงปูทวดที่ใหญที่สุดในประเทศไทยในขณะนี้ ใหญกวาวัด หวยมงคล 3 เทา เป น เกี ย รติ ย ศ เกี ย รติ ป ระวั ติ ใ นชี วิ ต ของ ผมเองก็คือวา สํานักงานทรัพยสินสวนพระมหากษัตริยไดเปน เจาภาพบริจาคเงินสรางวิหาร เปนจํานวนเงินทั้งสิ้น 94 ลาน บาท ซึ่งถือวาเปนเกียรติประวัติยิ่งใหญสูงสุดในชีวิตของผม และพระประธานของวัด ทานผูบ ญ ั ชาการทหารบก พลเอกประยุทธ จันทรโอชา เปนเจาภาพในนามกองทัพบกสรางพระพุทธรูปองคนี้ ดวยมูลคา 8 ลาน 5 แสนบาท และเปนพระพุทธรูปองคเดียวในมหารัช สมัย 84 พรรษา ทีพ ่ ระบาทสมเด็จพระเจาอยูห วั ทรงพระราชทาน นามวา พระพุทธเมตตาเสนานาถ และสมเด็จพระนางเจาสิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกลาใหสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จแทนพระองคในการเท ทองหลอพระพุทธรูป ที่พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แลว ก็ไดอญ ั เชิญมาประดิษฐานทีต่ าํ บลบานใหม อําเภอมหาราช จังหวัด พระนครศรีอยุธยาแหงนี้ นับวาเปนเกียรติประวัตขิ องอําเภอมหาราช และตําบลบานใหม เปนสิ่งที่นาภาคภูมิใจ” และฃื่อวัดวฃิรธรรมาราม ก็มาจากฃื่อของนายวัฃรพงศ์ ที่เป็น ผู้ยกที่ดินถวายสร้างวัด
โครงการพุทธอุทยานมหาราช มูลนิธิพระเทวราชโพธิสัตว์ วัดวชิรธรรมาราม 115 หมู่ 4 ต.บ้านใหม่ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา 13150 โทรศัพท์ 089-2400239 แฟกซ์ 035-639250 http://www.facebook.com/TheBigLuangphorthuad
Ayutthaya 151
เส้นทางพบองคการบริหารส่วนตําบล (อ.มหาราช)
“ชุมชนเกษตรอินทรีย ละมุดดีบาน ใหม พระใหญหลวงปูทวด” คื อ ค� า ขวั ญ ของ ตํ า บลบ้ า นใหม่ อ�าเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อั น เป็ น ที่ ตั้ ง ของ โครงการพุ ท ธอุ ท ยาน มหาราช ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นจากอุดมคติของ นายวัชรพงศ ระดมสิทธิพัฒน ประธาน มูลนิธิพระเทวราชโพธิสัตว ผู้ซึ่งอาสา เข้ามาดูแลรับใช้พี่น้องชาวต�าบลบ้านใหม่ ในฐานะของ นายกองคการบริหารส่วน ตําบลบ้านใหม่ พลิกมิติใหม่ ให้ตําบลบ้านใหม่ นายวัชรพงศ ระดมสิทธิพฒ ั น นายก อบต.บ้านใหม่ ได้กล่าวในงานสภากาแฟ ซึ่งจัดขึ้นที่พุทธอุทยานมหาราช เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2557 ว่า
152
องคการบริหารสวนตําบลบานใหม อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา “บ้ า นใหม่ เ ป็ น อบต.ที่ เ ล็ ก ที่ สุ ด ของ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีอยู่ด้วยกันแค่ 4 หมู่ คนแค่สองพันกว่าคนเท่านั้นเอง เมื่อ ผมได้รบั ความไว้วางใจจากพีน่ อ้ งชาวต�าบล บ้านใหม่เข้ามาเป็นนายกฯ ผมก็เปลีย่ นโลโก้ ใหม่ เปลีย่ นค�าขวัญใหม่เป็น...ชุมชนเกษตร อินทรีย ละมุดดีบา นใหม พระใหญหลวง ปูทวด ส่วนวิสัยทัศนการพัฒนาของอบต. บ้านใหม่ของผมคือ ทําใหประชาชนอยูด มี ี สุขอยางยั่งยืน ตามหลักการ “บวร” บ้าน วัด และราชการ ไม่ต้องรวยสุดขีด แต่ทุก คนสามารถมีอยู่มีกิน 3 มื้อ ไม่อดไม่อยาก
มีกินทุกมื้อไปจนกระทั่งตาย ใช้ชีวิตตามที่ ในหลวงท่านบอกคือ พออยู่ พอกิน พอเพียง พอใช้ พอมี นั่นคือเรามีความสุข” “ผมไม่ใช่นกั การเมือง และไม่เคยคิดจะ มาเล่นการเมือง แต่ที่มาเป็นนายกองค์การ บริหารส่วนต�าบลครั้งนี้ ก็เพราะความขัด แย้ง แข่งขันกัน และผมเข้าข้างใครไม่ได้ จึง ต้องออกตรงกลาง คือ ลงสมัครเองไปเลย ผมไม่ใช่คนอยุธยา ทั้งทะเบียนบ้านมีผมคน เดียว ไม่มีญาติ พี่น้อง ไม่มีเพื่อนร่วมรุ่น มา แบบข้ามาคนเดียว ม้วนเดียวจบ สุดท้ายชาว บ้านเลือกผมเป็นนายก
เพราะชาวบ้านต้องการเห็นการเปลีย่ นแปลงของชุมชน ต้องการ ความหวังที่ดีกว่า ต�าบลบ้านใหม่ แม้จะอยู่ติดสายเอเชีย แต่ก็ล้า หลังมากจนได้ชอื่ ว่า อบต.อนาถา ทีส่ ดุ ในอยุธยา หรืออาจจะบ๊วยอยู่ อันดับท้ายๆ ของประเทศ แม้แต่เงินเดือนของข้าราชการและพนักงาน องค์การบริหารส่วนต�าบลก็ไม่มจี ะจ่าย พูดไปคงเป็นเรือ่ งตลก แต่มนั คือเรือ่ งจริง ซึง่ หลังจากทีผ่ มเริม่ เข้ามาบริหารในองค์การบริหารส่วน ต�าบลบ้านใหม่ได้ไม่ถึงหกเดือน ทุกอย่างเริ่มเข้าสู่ระบบ โครงการ ไม่น้อยกว่า 40 โครงการ ได้รับการถูกผลักดันออกมา ถนนหนทาง ตรอกซอกซอย น�า้ ประปา รถขยะ ถังขยะ ไฟฟ้า ฯลฯ และคุณภาพชีวติ ของคนในต�าบลบ้านใหม่เริ่มเปลี่ยนแปลงเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น การบริหารงานขององค์การบริหารส่วนต�าบลง่ายมาก เพราะ เขามีงบประมาณจัดสรรมาให้ มีคนให้ มีอ�านาจให้ มีระเบียบให้ ยึดถือปฏิบัติ และที่ส�าคัญไม่ได้คิดก�าไร ขาดทุน แบบบริษัทธุรกิจ มีที่ไหนในโลก ที่ให้นายกองค์การบริหารส่วนต�าบล มีหน้าที่ใช้เงิน ให้คุ้มค่ากับงบประมาณ เราก็แค่ท�าตามหน้าที่ตรงไปตรงมา ไม่มี นอกไม่มใี น ไม่มบี นโต๊ะใต้โต๊ะ ดังนัน้ องค์การบริหารส่วนต�าบลบ้าน ใหม่ยคุ นี้ จะต้องไม่มกี ารทุจริตเด็ดขาดและผมเป็นนายกปากจัด จน ชาวบ้านให้ฉายา เพราะพูดตรงไปตรงมาชัดเจน ไม่มอี า�้ อึง้ ถูกคือถูก ผิดคือผิด ไม่มเี อาใจชาวบ้านแบบไร้สาระหรือแบบรักษาคะแนนนิยม ด่าสวนได้ทุกตลาด เพราะผมไม่ใช่นักการเมือง แต่ผมมาท�าหน้าที่ เพื่อบ้านเมือง เพื่อประเทศชาติ คนที่จะมาอยู่ตรงนี้ได้ต้องพร้อมจะ เสียสละได้ ที่ส�าคัญต้องตัดใจได้กับผลประโยชน์ที่มีผู้มาเสนอให้ แม้บางคนจะไม่ชอบใจแต่เราต้องยึดถือความถูกต้องมากกว่า ทีจ่ ะท�าให้ทกุ คนถูกใจ แต่ไม่ถกู ต้อง ถ้าเป็นแบบนัน้ ไม่เอา ซึง่ สุดท้าย ชาวบ้านเข้าใจและเริม่ คิดถึงส่วนรวม คิดถึงเหตุและผลความถูกต้อง มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลถึงคุณภาพของชุมชน ท�าให้ชุมชนเข้มแข็งใน ระยะยาว ทุกคนจะได้ประโยชน์เท่าเทียมกัน บนเส้นทางของนายก อบต. มือใหม่ มีอะไรทีน่ า่ สนใจและอยาก ท�าอีกมากวันนี้ เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศของเราชุมชนของเรา อย่า รังเกียจการเมือง สุดท้ายแล้วการเมืองมีผลต่อวิถชี วี ติ ของตัวเราและ ลูกหลานของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คนดีมีคุณภาพต้องลงมาสู่
การเมืองในทุกระดับโดยเฉพาะท้องถิน่ ทีใ่ กล้ชดิ ประชาชนมากทีส่ ดุ คนดีชั่วไม่ได้อยู่ที่ลมปากใคร ทุกอย่างอยู่ที่การกระท�าของเราเอง เงินทองตายไปเอาไปไม่ได้เหลือเพียงแต่อนุสรณ์ความดีทที่ งิ้ ไว้มใิ ห้ อนุชนรุ่นหลัง สังคมไทย คนดี คนเก่ง ยังมีอีกมากแต่มักจะทนแรง เสียดทานไม่ได้ ใจไม่ถึงและเก่งแต่ไม่กล้าเลยถอยกันหมด สังคม ก�าลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่าน ชาวบ้านคิดได้ คิดเป็น มากขึ้นแพ้ชนะ อนาคตอยู่ที่คุณภาพของคนและผลของงานเท่านั้น ฟื้นชีวิตละมุดร้อยปี ของดีบ้านใหม่ “ชาวบ้านปลูกละมุดกินเป็นเรื่องปกติ ตอนที่ผมหาเสียง ผม ไปเห็นต้นละมุดแต่ชาวบ้านไม่ได้สนใจ ปล่อยเหี่ยวตามยถากรรม ทิ้งๆ ขว้างๆ ชาวบ้านขายอยู่โลละ 5 บาท 10 บาท และก็ไม่รู้จะขาย ใคร พอผมเป็นนายกฯ ผมสั่งส�ารวจละมุดว่ามีกี่ต้น ในอ�าเภอบ้าน ใหม่มี 600 กว่าต้น ต้นที่อายุตา�่ สุด 50 ปี อายุสงู สุด 120 ปี โอ้โห... น่าทึง่ หวาน กรอบอร่อย ผมเอามาขายที่นี่ (พุทธอุทยานมหาราช) โลละ 50 บาทหมดก่อน เพราะผมใส่เรือ่ งราวลงไปบอกว่านีค่ อื ละมุด อันดับหนึ่งของพระนครศรีอยุธยา ละมุดต้นเก่าโบราณ อายุ 50 ปี 70 ปี 80 ปี 100 ปี หวาน กรอบ อร่อย หากินยาก 1 ปีมีหนเดียว มีน้อยมาก พอคนเริ่มรู้ว่ามีคุณค่า หากินได้ยาก มันจะฉุดละมุด ในต�าบลตามไปด้วยทั้งหมด 153
“ผมเอาคอนเซ็ปทมาจากต้นชาเมือง จีนที่ยูนนาน ชาอายุ 1,500 ปี คนจะกินชา ต้นนี้ มีสตางคอย่างเดียวกินไม่ได้นะ ต้อง ประมูล ชาต้นนี้ปีหนึ่งผลิตได้ไม่มาก แต่ เขาประมูลชาต้นนี้ปีหนึ่งเป็นล้าน โดยขาย ความเป็น 1,500 ปี กินแล้วอาจจะอายุยืน น้องๆ ต้นชา ใครกินละมุดบ้านใหม่ต้น 120 ปี อาจจะอายุยืนสักประมาณ 118 ปี ใกล้ๆ กับต้นละมุด ผมพยายามใส่ Story เรื่องราว ให้มนั มีคณ ุ ค่า และก็ผลักดันว่าเราเป็นละมุด ปลอดสารพิษ ก็ท�าให้ละมุดมีราคาขึ้น จาก 5 บาท 10 บาท เป็น 20-30 หรือ 50 บาท ชาวบ้านก็มีรายได้เพิ่ม เขาอยู่ได้ เดือนหนึ่ง ได้ 2,000-3,000 บาท ปีหนึ่งก็หลายหมื่น บาท จากที่ไม่มีรายได้ ได้แต่ตัดทิ้ง ตอนนี้ ต้นละมุดบ้านใหม่เริ่มหวง เริ่มดูแลกันมาก ขึน้ ต่อไปดีไม่ดอี าจขายได้โลละ 70-80 บาท นะครับ ผมอยากให้ละมุดบ้านใหม่ เหมือน ทุเรียนเมืองนนทให้ได้ ” 4 แนวทางสู่ชีวิตดีมีสุข “ผมมี 4 แนวทาง คือ ริเริ่ม สนับสนุน สร้างสรรค และส่งเสริม ริเริ่มธุรกิจเพื่อ สังคม (Social Enterprise) ซึ่งเป็นเทรนด ของโลกแห่งอนาคต การประกอบธุรกิจทุก วันนี้ ทุกคนท�าเพื่อก�าไร แต่คุณเป็นทุกข คุ ณ ต้ อ งตะเกี ย กตะกายหาความร�่ า รวย แต่ธุรกิจเพื่อสังคมหมายความว่าผลก�าไร 30% 50% หรือ 70% คืนให้สังคม คือเรา อยูไ่ ด้ สังคมก็อยูไ่ ด้ดว้ ย มีความสุขด้วยนีค่ อื Social Enterprise ท่านมีชัย วีระไวทยะ และมูลนิธิต่างๆ อย่างแม่ฟาหลวง ดอยตุง ท�าตัวนี้อยู่ และรัฐบาลก็ตั้งกองทุน เกี่ยวกับ ธุรกิจเพื่อสังคม แต่ยังไม่แพร่หลาย ซึ่งผม จะเอามาบริหารควบคู่กับระบบราชการของ บ้านใหม่ สนับสนุน พัฒนาและสงเสริม ผลผลิ ต เกษตรอิ น ทรี ย เมื่อเรามีบริษัท บริหารจัดการได้ เราก็ส่งเสริมให้ชาวบ้าน ปลูกแล้วเอาผลผลิตมาขาย สรา งสรรค การท อ งเที่ ย วระดั บ ประเทศ คื อ พุ ท ธ อุทยานมหาราช เรามีที่ขายของ มีคนมา เที่ยวมาซื้อของ บ้านใหม่มี 2,000 คน เลี้ยง 154
คนได้แน่นอน สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้าง รายได้ สงเสริมการแปรรูปสินคาเกษตร “ครั ว ชุ ม ชน คนบ้ า นใหม่ ” ผมจะท� า ร้ า น ข้าวแกงที่ชาวบ้านจะท�าอาหารมาขายบ้าน ละหนึ่งอย่าง เช่น บ้านนี้พะโล้อร่อยเอา มา บ้านนี้ท�าแกงไก่อร่อยเอามา บ้านนั้น ท�าผัดขิงอร่อยหรือ ท�าแกงเผ็ดอร่อย ไปท�า มาผมมีคนขายให้ คุณไม่ต้องท�าเจ้าเดียว 10 หม้อ ไม่มีทางอร่อย แต่ถ้าคุณช�านาญ 1 อย่าง ท�ามามีรายได้รายวันแน่นอน 500 บาทต่อวัน แล้วถามว่าเอาวัตถุดิบมาจาก ไหน ก็ปลูกไง ผลิตเอง แปรรูปเอง ขายเอง ด้วยคนในท้องถิ่น คนในชุมชน ฉะนั้นชุมชน
อยู่ได้ ยั่งยืนและเติบโตแข็งแกร่ง แต่ทุกคน ต้องไม่โลภนะ เอาพออยู่ พอกิน พอใช้และ พอเพียงก่อน เราอยู่ได้ ตื่นขึ้นมามีข้าวกิน 3 มื้อ ลูกมีเงินไปโรงเรียน นี่คือสิ่งที่ผมจะท�า และก็จะพัฒนาปจจัยพื้นฐาน น�้า ไฟ ถนน ภูมทิ ศั น นีค่ อื พืน้ ฐานทัว่ ไป แต่หวั ใจสําคัญ คือหลักคิดครับ หลักคิดคือหัวใจที่ตอง เปลี่ยนแปลง เพราะความคิดของคนไทย นี้คิดซ�้าซาก ยกตัวอย่าง เห็นเขาขายไอ้นี่ดี ก็จะขายตามกันอย่างนี้ สุดท้ายก็ทะเลาะ กันก่อนเพราะว่าขายเหมือนกัน แล้วก็เจง เหมือนกัน เพราะฉะนัน้ ต้องเปลีย่ นความคิด เสียใหม่ เปลี่ยนวิธีคิดใหม่”
เสนทางพบองคการบริหารสวนตําบล (อ.วังนอย)
“องคการบริหารสวนตําบลวังนอย เปนชุมชนนาอยู เปนตําบลการเกษตร สงบรมเย็น เปนตําบลนาอยู คูคุณธรรม ชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ประชาชนอยูดีมีสุข” คือวิสยั ทัศนการพัฒนาของ องคการบริหารสวนตําบลวังนอย ซึง่ มีสาํ นักงานตัง้ อยูเ ลขที่ 59 หมู 3 ตําบลวังนอย อําเภอวังนอย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดิมตําบลนี้เคยเปนพระราชวังเดิม ในสมัยกรุงศรีอยุธยา อยูติดกับพระราชวังบางปะอิน เมื่อมีการตั้งตําบลขึ้นมาจึงใชชื่อวา “ตําบล วังนอย”ปจจุบันมี นายอําพล อัจจาครุ เปน นายกองคการบริหารสวนตําบลวังนอย
องคการบริหารสวนตําบลวังนอย
ขอมูลทั่วไป 5. การพัฒนาดานการบริหารจัดการ และ อบต.วั ง น อ ย มี เ นื้ อ ที่ ป ระมาณ 26 อนุรักษทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอม ตร.กม. หรือประมาณ 16,250 ไร แบงการ 6. การพัฒนาการสาธารณสุข ปกครองออกเปน 8 หมูบาน ไดแก หมูที่ 1 7. การพัฒนาดานการเมืองการบริหารองคการ บานลาดทราย หมูที่ 2 บานลาดทราย หมู บริหารสวนตําบล ที่ 3 บานบึงวังนอย หมูที่ 4 บานคลองหก หมูที่ 5 บานคลองหา หมูที่ 6 บานคลองสี่ กิจกรรมเดนในป 2556 หมูท ี่ 7 บานคลองสี่ และหมูท ี่ 8 บานคลอง ของ อบต.วังนอย กิจ รรมวันสงกรานต หก ประชากรสวนใหญประกอบอาชีพทํา นา รับจางตามโรงงานอุตสาหกรรม รับจาง อบต.วังนอย ไดจดั กิจกรรม ทั่วไป คาขาย และอาชีพเสริมรายไดของ รดนํ้ า ดํ า หั ว ผู สู ง อายุ ใน ชุมชน หมู 1-8 กลุมแมบาน กิจกรรมปลอยปลาคืน สูธรรมชาติ อบต.วังนอย พันธกิจของ อบต.วังนอย รวมกับ โรงเรียนวัดมณฑล 1. การพัฒนาโครงสรางพื้นฐานที่ดี 2. การพัฒนาดานสังคมและคุณภาพ ประสิทธิ์ ปลอยปลาคืนสูธรรมชาติ ชีวิต กิจกรรมถวายเทียนพรรษา อบต.วังนอย รวมกับโรงเรียน 3. การพั ฒ นาด า นการศึ ก ษา เด็ ก วัดมณฑลประสิทธิ์ ถวายเทียนพรรษา ณ วัดมณฑลประสิทธิ์ เยาวชน และประชาชน และวัดสันติธรรมาราม (วัดตาลเดี่ยว) 4. การพัฒนาดานเศรษฐกิจ Ayutthaya 155
เสนทางพบเทศบาลเมืองลําตาเสา (อ.วังนอย)
เทศบาลเมืองลําตาเสา “เปนองคกรที่มุงสูความเปนเมือง นาอยูอยางยั่งยืน” คือวิสัยทัศนการพัฒนาของ เทศบาล เมืองลําตาเสา ซึ่งตั้งอยูหางจากจังหวัด พระนครศรีอยุธยาไปทางทิศใตระยะทาง 21 กิโลเมตร และอยูหางจากกรุงเทพมหานคร ไปทางทิศเหนือระยะทาง 65 กิโลเมตร เทศบาลเมืองลําตาเสา มีเนื้อที่ 36 ตารางกิ โ ลเมตร มี พื้ น ที่ ก ารปกครองของ เทศบาลเมืองลําตาเสา ครอบคลุม 4 ตําบล จํานวน 17 หมูบาน 26 ชุมชน ปจจุบันมี นางสมศรี ตันจรารักษ ดํารงตําแหนงนายก เทศมนตรีเมืองลําตาเสาและเปนประธาน สันนิบาตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
156
พันธกิจการพัฒนาทองถิ่น 1. พัฒนาระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ และโครงสรางพื้นฐาน 2. รักษาความสะอาด รวมทั้งกําจัดมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล 3. จัดใหมีและบํารุงสวนสาธารณะ สถานที่พักผอนหยอนใจ 4. สงเสริมการพัฒนาสตรี เด็ก เยาวชน ผูสูงอายุและคนพิการ 5. ปองกันและระงับโรคติดตอ 6. สงเสริมการศึกษาอบรม และการประกอบอาชีพ 7. รักษาความสงบเรียบรอยของทองถิ่น 8. บํารุงศิลปะ จารีตประเพณี ภูมปิ ญ ญาทองถิน่ ศาสนา และวัฒนธรรมอันดีของทองถิน่ 9. สงเสริมการมีสวนรวม และการรับฟงความคิดเห็นของประชาชน ยุทธศาสตรและแนวทางการพัฒนา 3 ป (พ.ศ. 2558-2560) ยุทธศาสตรที่ 1 ดานโครงสรางพื้นฐานและสิ่งแวดลอม แนวทางการพัฒนา 1.1 ปรับปรุงและพัฒนาระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการและการผังเมือง 1.2 ปรับปรุงและพัฒนาการจัดเก็บขยะและสิ่งปฏิกูล 1.3 สงเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอม ยุทธศาสตรที่ 2 ดานคุณภาพชีวิตและสังคม แนวทางการพัฒนา 2.1 สงเสริมและสนับสนุนดานสุขภาพและการสาธารณสุข 2.2 สงเสริมและสนับสุนนดานการศึกษา การกีฬา และนันทนาการ 2.3 สงเสริมและสนับสนุนการพัฒนาอาชีพและเศรษฐกิจ
2.4 ส ง เสริม การสังคมสงเคราะห และพั ฒ นา คุณภาพชีวิตเด็ก เยาวชน สตรี ผูสูงอายุ คนพิการ และ ผูดอยโอกาส ยุทธศาสตรที่ 3 ดานความปลอดภัยในชีวิต และทรัพยสิน แนวทางการพัฒนา 3.1 ส ง เสริม และสนับสนุนการปอ งกันภัยจาก อาชญากรรมและยาเสพติด 3.2 ส ง เสริม และสนับสนุนการปอ งกันภัยจาก อุบัติเหตุจราจร 3.3 ส ง เสริม และสนับสนุนการปอ งกันภัยจาก สาธารณภัยอื่นๆ ยุทธศาสตรที่ 4 ดานการบริหารจัดการที่ดี แนวทางการพัฒนา 4.1 ส ง เสริ ม และสนั บ สนุ น การมี ส ว นร ว มของ ประชาชนและสรางความเขมแข็งใหชุมชน 4.2 พัฒนาบุคลากรใหมีศักยภาพ มีคุณธรรม และจริยธรรม 4.3 ปรับปรุงและพัฒนาเครื่องมือเครื่องใชและ ระบบการปฏิบัติงานใหมีประสิทธิภาพ 4.4 สงเสริมและสนับสนุนการประชาสัมพันธ และ การเผยแพรขอมูลขาวสาร ยุทธศาสตรที่ 5 ดานศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีและภูมิปญญาทองถิ่น แนวทางการพัฒนา 5.1 สงเสริมและบํารุงการศาสนา 5.2 สงเสริมและสนับสนุนการอนุรักษและฟนฟู ศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีทองถิ่น 5.3 สงเสริมและสนับสนุนการอนุรักษภูมิปญญา ทองถิ่น ผลการดําเนินงานที่ผานมา • โครงการจัดงานวันเทศบาล ประจําป 2557 วันที่ 24 เมษายน พ.ศ.2557 ณ อาคารอเนกประสงค เทศบาลเมืองลําตาเสา • โครงการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวา มหาราช ประจําป พ.ศ. 2556 โดยมีพิธีวางพานพุม และจุ ด เที ย นชั ย ถวายพระพรชั ย มงคล ในวั น ที่ 4 ธันวาคม 2556 และกิจกรรมพิธีบรรพชา/ อุปสมบท เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวฯ • โครงการปองกันและแกไขปญหายาเสพติด เชิงรุก วันที่ 10 กรกฎาคม 2556
• โครงการ No place for Drug ของตํารวจภูธรภาค 1 • “สภากาแฟชาววั ง ” กิจกรรมพบปะหารือกับผูวาราชการจังหวัดฯ ณ อนุสรณสถานแหงความจงรักภักดี (ทุงหันตรา) วันที่ 8 สิงหาคม 2556 • มอบวัสดุ อุปกรณ ชวยเหลือผูประสบอุทกภัย หมูที่ 7 ตําบลําไทร วันที่ 26 มิถุนายน 2556 สถานที่สําคัญของเทศบาลเมืองลําตาเสา • ศูนยพัฒนาเด็กเล็กสังกัดเทศบาลเมืองลําตาเสา • ศูนยฟตเนส เทศบาลเมืองลําตาเสา และชมรมแอรโรบิค • ศูนยบริการขอมูลขาวสารอินเตอรเน็ทตําบล • ศูนยปอ งกันและบรรเทาสาธารณภัย เมืองลําตาเสา (035-271-939) และ หนวยพยาบาลฉุกเฉิน โทร.1669 • กลุมสตรีชุมชนเทศบาลเมืองลําตาเสา แปรรูปอาหาร (นํ้าพริกเผา) และ นํ้ายาอเนกประสงค
ติดตอเทศบาลเมืองลําตาเสา หมายเลขโทรศัพท 035-275797-8 E-mail www.lamtasao.go.th Facebook เทศบาลเมืองลําตาเสา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา Ayutthaya 157
เสนทางพบองคการบริหารสวนตําบล (อ.วังนอย)
องคการบริหารสวนตําบลพยอม
นายผดุงศักดิ์ ทองสาร นายกเทศมนตรีตําบลสรางโศก
“พยอมงามนํ้ า ใส ฝ ก ใฝ ใ นธรรม เลิศลํ้าเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตดี สามัคคี ปรองดอง” คือคําขวัญขององคการบริหารสวน ตํ า บลพยอม ซึ่งมีสํานักงานตั้งอยูเลขที่ 999 หมูที่ 5 ต.พยอม อ.วังนอยจ.พระนครศรีอยุธยา ปจจุบนั มี นายลือชัย แสงเงินออน เปน นายกองคการบริหารสวนตําบลพยอม สภาพทั่วไปของอบต.พยอม ตําบลพยอม มีพื้นที่ทั้งหมด 20.92 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 13,075 ไร แบ ง เขตปกครองออกเป น 5 หมู บ า น มี ประชากรรวมทั้งสิ้น 12,414 คน ประชากร ในตําบลพยอมสวนใหญประกอบอาชีพดาน การเกษตรกรรม คาขาย รับจางทั่วไป และ รับจางในโรงงานอุตสาหกรรม วิสัยทัศน “พัฒนาโครงสรางพื้นฐาน มุงเนน การศึกษา ดูแลคุณภาพชีวิต สงเสริม เศรษฐกิจชุมชน” พัฒนาโครงสรางพื้นฐาน การเปน ผู นํ า รุ น ใหม ที่ มี วิ สั ย ทั ศ น ก า วไกล นายก ลือชัย แสงเงินออน ไดวางแผนพัฒนาเพือ่ รองรับความเจริญกาวหนาทีก่ าํ ลังจะเกิดขึน้ สูช าวพยอม เพือ่ ใหชาวพยอมมีคณ ุ ภาพชีวติ ที่ดีขึ้น และสอดคลองกับการเปลี่ยนแปลง 158
ในอนาคต สิ่งที่สําคัญคือตองใหประชาชน มีสวนรวมไปดวยกัน ใหประชาชนรวมคิด รวมเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไป เขาใจ และ เขาถึง โดยคํานึงถึงประโยชนของประชาชน เปนสําคัญ รวมใจเปนหนึ่งเดียว เพื่อใหการ พัฒนาไปถึงจุดหมายปลายทาง ตามแผน ยุ ท ธศาสตร ที่ ว างไว เพื่ อ ให ช าวพยอมมี คุณภาพชีวิตที่ดี และดํารงชีวิตอยางเปนสุข มุง เนนการศึกษา การพัฒนาสรรสราง สิ่งใดก็ตาม จะประสบผลสําเร็จไดนั้นตอง เริ่มตนที่คน จึงมุงเนนในเรื่องการพัฒนาคน โดยเริม่ ตนและใหความสําคัญกับการพัฒนา เด็กเล็กเปนจุดเริ่ม เพราะเด็กเล็กเปนชวงที่ สําคัญที่สุดของชีวิต หากดูแลอยางถูกตอง จะสงผลใหเติบโตเปนผูใหญที่มีคุณภาพทั้ง สติปญญาและบุคลิกภาพ ที่ผานมาพบวา เด็กในชวงกอนวัยเรียน ถือเปนชวงทองของ ชีวิต วัยดังกลาวมักถูกละเลย จึงทําใหเด็ก สวนใหญมีปญหาเรื่องการพัฒนาการลาชา เราจึงเนนที่การพัฒนาเด็ก ตองการสราง ศูนยพัฒนาเด็กเล็กที่มีการบริหารจัดการ อยางมีคณ ุ ภาพ สะอาด ปลอดภัย ซึง่ จะชวย สงเสริมการเรียนรูของเด็กเล็กที่มีคุณภาพ มากขึ้น และเมื่อมีการเชื่อมตอกันทั้งดาน
การศึกษาและสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ ควบคูกันไปแลวนั้น จะทําใหอนาคตในวัน ขางหนาพวกเขาเหลานี้ จะเปนกําลังสําคัญ ในการพั ฒ นาตํ า บลของเราต อ ไปในวั น ขางหนา ดู แ ลคุ ณ ภาพชี วิ ต นโยบายดู แ ล คุณภาพชีวิต ไดตระหนักถึงปญหาในดาน สุขภาพ จึงไดเกิดแนวคิดที่จะกอตั้ง “ศูนย การแพทย ค รอบครั ว และชุ ม ชน” ขึ้น เพื่อรองรับการใชบริการดานสุขภาพของ ประชาชนในพืน้ ที่ ต.พยอม และเพือ่ เปนการ ชวยคัดกรองโรคเบือ้ งตน สรางมาตรฐานการ ดูแลสุขภาพที่ดีใหกับประชาชนในพื้นที่ จึง ไดนําแผนงานเขาสูสภาอบต.พยอม เพื่อรับ ฟงความเห็นขาราชการ เมือ่ เสนอผานสภา ก็ เขาสูข นั้ ตอนการจัดตัง้ ศูนยรวมถึงการศึกษา ดูงานจากทีต่ า งๆ ทัง้ หนวยงานรัฐและเอกชน โดยจะมีการใหบริการแบบบูรณาการ ทัง้ การ รักษา สงเสริม ปองกัน และฟนฟูสภาพ เขา ดวยกัน ทําใหชอ งวางระหวางศูนยการแพทย ครอบครัว และโรงพยาบาลหมดไป ส ง เสริ ม เศรษฐกิ จ ชุ ม ชน การส ง เสริมอาชีพ อบต.พยอมไดกอตั้งศูนยฝก อาชีพชุมชนนวดแผนไทยเพื่อสุขภาพ รวม
กับ กศน.อําเภอวังนอย เปดหลักสูตรอบรม นวดแผนไทยเพื่อสุขภาพ ซึ่งเราไดจัดอบรม ไปแลวถึง 3 รุน และยังไดจัดใหมีการนวด แผนไทยเพื่อฟนฟูสมรรถภาพของรางกาย แบบตอเนื่องในกลุมผูปวยเรื้อรังและผูปวย ติดเตียงในเขต อบต.พยอม เพื่อใหการนวด แผนไทยเปนอีกอาชีพหนึ่ง ที่สรางรายไดที่ มัน่ คงใหกบั ชาวพยอม สอดคลองกับปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง ชุมชนเขมแข็ง มีการแลก เปลี่ยนความรู และสรางมาตรฐานทั้งดาน ทักษะความชํานาญในการใชความรูว ชิ าการ นําไปประกอบอาชีพไดอยางยั่งยืน ยุทธศาสตรและแนวทางการพัฒนา ยุ ท ธศาสตร ที่ 1 การพั ฒ นาด า น โครงสรางพื้นฐาน การพัฒนาบานเมืองใหมีความเจริญ รุงเรือง สะดวกสบาย กับการใชชีวิตประจํา วันของประชาชนดานสาธารณูปโภค ตอง ประกอบไปดวย ถนน ประปา แสงสวาง ฯลฯ ดังนั้นอบต.พยอมจึงไดมีโครงการกอสราง ตางๆ เพื่อความสะดวกสบายในการสัญจร และความสวยงาม ควบคูก บั ความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพยสินของประชาชนตําบล พยอม ยุทธศาสตรที่ 2 ยุทธศาสตรการ พัฒนาดานเศรษฐกิจ การพั ฒ นาศั ก ยภาพทางด า น เศรษฐกิ จ ของท อ งถิ่ น มิ ใ ช เ พี ย งการ พั ฒ นาที่ ตั ว บุ ค คล แต ต อ งสนั บ สนุ น ภูมิปญญาทองถิ่น พัฒนาคนใหมีอาชีพ เพื่อใหประชาชนตําบลพยอม สามารถ สรางอาชีพเลี้ยงตนเองและอยูในสังคม ดวยความกินดีอยูดี อีกทั้งยังสนับสนุนดาน การฝกอาชีพใหชุมชนมีชองทางในการทํา กิน โดยจัดทําโครงการดังนี้ โครงการศูนย ฝกอาชีพนวดแผนไทยเพื่อสุขภาพ สงเสริม อาชีพตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ยุทธศาสตรที่ 3 ยุทธศาสตรการ พัฒนาดานคุณภาพชีวิตและคุณคาทาง สังคม เพื่อสงเสริมและพัฒนาดานคุณภาพ ชีวิต เด็ก สตรี เยาวชน และประชาชน รวม
ถึงการดูแลรักษาความสงบเรียบรอยและ ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพยสินของ ประชาชนในพื้นที่ตําบลพยอม ยุทธศาสตรที่ 4 ยุทธศาสตรการ พั ฒ นาด า นการศึ ก ษา ศาสนา ศิ ล ป วั ฒ นธรรม ประเพณี และภู มิ ป ญ ญา ทองถิ่น อบต.พยอมเล็งเห็นถึงการสนับสนุน ดานการศึกษาทั้งใน และนอกระบบ การ ศึกษาในระดับกอนวัยเรียน ระดับประถม
และระดั บ มั ธ ยมศึ ก ษา โดยประสานการ สนับสนุนงบประมาณใหกับโรงเรียนตางๆ และศูนยพฒ ั นาเด็กเล็ก อบต.พยอม รวมไป ถึงการพัฒนาสงเสริมดานกีฬา นันทนาการ สื บ สานวั ฒ นธรรม และประเพณี ท อ งถิ่ น อบต.พยอม พรอมสนับสนุนและสงเสริม ด า นการศึ ก ษาขั้ น พื้ น ฐาน และส ง เสริ ม สนับสนุนกิจกรรมกีฬา และนันทนาการของ เด็กและเยาวชน รวมถึงการอนุรักษ สืบสาน วัฒนธรรม และประเพณีทองถิ่นที่ดี ยุทธศาสตรที่ 5 ยุทธศาสตรการ พั ฒ นาด า นสร า งจิ ต สํ า นึ ก และความ ตระหนักในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอม เรงพัฒนาและดูแลรักษาความสะอาด ในพื้ น ที่ ตํ า บลพยอม พร อ มทั้ ง เฝ า ระวั ง รักษา บําบัด ฟนฟู ทรัพยากรธรรมชาติ และ สิ่งแวดลอมที่ยั่งยืน ยุทธศาสตรที่ 6 ยุทธศาสตรการ พั ฒ นา ด า นการเมื อ งการบริ ห ารและ การพัฒนาบุคลากร บริหารกิจการบานเมืองที่ดีตามหลัก ธรรมาภิบาล โปรงใสตรวจสอบได และสง เสริมสนับสนุนวิธีชีวิตประชาธิปไตย การมี สวนรวมของประชาชน เรงปรับปรุงพัฒนา ประสิทธิภาพการบริการสะดวก รวดเร็ว เปน ธรรม และมีประสิทธิภาพ ดวยความตั้งใจ ทํางานดวยความมุงมั่น ของขาราชการ เจาหนาที่ พนักงาน ลูกจาง อบต.พยอม บวกกับปณิธานและวิสัยทัศนอันกวาง ไกล ของคณะผูบริหารอบต.พยอม โดย ยึ ด หลั ก บนพื้ น ฐานที่ สํ า คั ญ คื อ เสี ย ง ทุกเสียงของชาวตําบลพยอมตองรับฟง เพื่อที่จะไดมีความพรอมในการที่จะแกไข ป ญ หา ความเดื อ ดร อ น และตอบสนอง ความต อ งการของประชาชนชาวตํ า บลพ ยอม ใหอยูดี กินดี มีความปลอดภัยในชีวิต และทรัพยสนิ อันจะทําใหอบต.พยอมพัฒนา ไปสูทิศทางในดานตาง ๆ พรอมกับพี่นอง ประชาชนชาวตําบลพยอม อยางยัง่ ยืนตอไป ในอนาคตขับเคลือ่ นสูอ นาคตทีด่ กี วา ความ สุขที่ดีสามารถสรางได ดวยศักยภาพใหม ของชาวพยอม Ayutthaya 159
เสนทางพบเทศบาลตําบล (อ.ลาดบัวหลวง)
เทศบาลตําบลลาดบัวหลวง
“เทศบาลน า อยู แหล ง นํ้ า เพี ย งพอ ทองเที่ยวเชิงนิเวศน เกษตรปลอดภัย อนามัยคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจเฟองฟู ควบคูการศึกษา แหลงพัฒนายั่งยืน” คือวิสัยทัศนการพัฒนาเทศบาลตําบล ลาดบัวหลวง ซึ่งตั้งอยูหางจากตัวจังหวัด พระนครศรีอยุธยาไปทางทิศตะวันตกเฉียง ใต ประมาณ 65 กิโลเมตร มีพื้นที่ 3.8 ตร.กม. ประดวย 2 หมูบาน คือหมูที่ 2 และหมูที่ 3 ตําบลลาดบัวหลวง ปจจุบันมี ด.ต.ลพ บุ ต รดี ดํ า รงตํ า แหน ง นายกเทศมนตรี ลาดบัวหลวง และมี นายพันวิทย ชูจักร ดํารงตําแหนง ปลัดเทศบาลลาดบัวหลวง สภาพเศรษฐกิจและสังคมโดยภาพรวม ประชากรภายในเขตทต.ลาดบัวหลวง ทั้งหมดมี 2,645 คน แยกเปนชายจํานวน 1,294 คน หญิง จํานวน 1,351 คน มีจํานวน ครัวเรือนประมาณ 593 ครัวเรือน ประชากร สวนใหญประกอบอาชีพทางดานการเกษตร (ทํานา ทําสวนผลไม และเลี้ยงสัตว) และ คาขาย และมีความเปนอยูแบบพึ่งพาอาศัย กันและกัน ใหความชวยเหลือและสงเสริม
160
ตอกัน ทําใหเศรษฐกิจของชุมชนมีรายได คล อ งตั ว เพราะมี ก ารซื้ อ ขายแลกเปลี่ ย น สินคาและบริการภายในชุมชน และภายใน เขตทต.ลาดบัวหลวงมีโรงงานอุตสาหกรรม 2 แห ง ด วยกั น คื อ โรงงานเรเซอร จํ า กั ด และโรงงานอุตสาหกรรมเครื่องหอมไทยจีน จํากัด สรุปผลการดําเนินงานในปที่ผานมา ในรอบปที่ผานมา ทต.ลาดบั ว หลวง ไดมุงเนนแกไขปญหาและตอบสนองความ ตองการของประชาชนในทองถิ่นเปนสําคัญ อาทิ 1. การพัฒนาทองถิ่น ดานโครงสรางพืน้ ฐาน กอสราง ปรับปรุง และซ อ มแซมเส น ทางการคมนาคมให ไ ด มาตรฐาน ปรั บ ปรุ ง และขยายระบบ สาธารณูปโภค สาธารณูปการใหเพียงพอ และทั่วถึง สามารถตอบสนองความตองการ ของประชาชนมากที่สุด ดานทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอม เทศบาลไดกาํ หนดแนวทางการพัฒนา บําบัด และฟน ฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอม
และสร า งจิ ต สํ า นึ ก ในด า นการกํ า จั ด ขยะ มูลฝอย ศึกษาระบบการจัดวางระบบนํ้าเสีย ดานเศรษฐกิจ ไดกําหนดแนวทางการ พัฒนา สงเสริมสนับสนุนอาชีพ และกลุม อาชีพใหแกประชาชนในทองถิ่น ตลอดจน สนับสนุนสถานที่ทองเที่ยวเชิงเศรษฐกิจ ด า นการพั ฒ นาสั ง คม เทศบาลได กําหนดแนวทางไว 7 แนวทางประกอบดวย การพัฒนาใหการรักษาและสงเสริมสุขภาพ อนามั ย ของประชาชน ส ง เสริ ม กี ฬ าและ นันทนาการในชุมชน สงเสริมดานการศึกษา ทั่วไปในระบบและนอกระบบ ดําเนินการสง เสริมศิลปวัฒนธรรมประเพณี สงเสริมความ เขมแข็งของชุมชน สงเสริมสวัสดิการและ สังคมสงเคราะห ด า นการเมื อ ง-การบริ ห าร เทศบาล ไดดําเนินการจัดซื้อ วัสดุ-อุปกรณเครื่องมือ เครื่ อ งใช ใ นการปฏิ บั ติ ง านส ว นต า งๆของ เทศบาล ซึ่งทําใหสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ การปฏิ บั ติ ง านการบริ ห ารของเทศบาลได มากขึ้น และไดพัฒนาสงเสริมประสิทธิภาพ การปฏิ บั ติ ง านของพนั ก งานเทศบาลและ ลูกจาง ในการใหบริการประชาชน สามารถ สรางความเชือ่ มัน่ ศรัทธาและไววางใจใหกบั ประชาชนเปนอยางดี 2. การพัฒนาดานการเมืองการบริหาร ประชาชนในเขตเทศบาล ไดรับการสง เสริมใหมีสวนรวมทางการเมืองการบริหาร มากขึ้น และในชุมชนก็มีการรวมกลุมของ ชุมชน ประชาชน กลุมอาชีพ และกลุมอาสา สมัครตางๆ มากขึ้น รวมทั้งเทศบาลไดใช
ระบบเสี ย งตามสาย เพื่ อ ประชาสั ม พั น ธ ขาวสารของทางราชการใหประชาชนไดรับ ทราบขอมูล ดานการดําเนินการเกี่ยวกับการรักษา ความสงบเรียบรอย ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพยสิน โดยมีระบบการแจงเพลิงไหม ตลอด 24 ชั่วโมง การอบรมอาสาสมัครปอง ภัยฝายพลเรือน โดยประชาชนในทองถิ่นได ใหความสนใจเปนจํานวนมาก และชวยลด ความรุนแรงของปญหาเมื่อเกิดอัคคีภัยและ อุบัติเหตุตางๆ ได ยุทธศาสตรและแนวทางการพัฒนาใน ชวงสามป 1. ยุทธศาสตรการพัฒนาดานโครงสราง พื้นฐาน แนวทางการพัฒนา 1. ขยายระบบบริการดานโครงสราง พืน้ ฐานทัง้ ทางบก ทางนํา้ ถนน ไฟฟา ประปา และดานอื่นๆ 2. พัฒนาแหลงนํ้าเพื่ออุปโภคบริโภค 2. ยุทธศาสตรการพัฒนาดานคุณภาพ ชีวิตและสวัสดิการสังคม แนวทางการพัฒนา 1. การสงเสริมและพัฒนาอาชีพ 2. การสงเสริมและพัฒนาการศึกษา
3. การสงเสริมและพัฒนาดานสาธารณะสุข 4. การปองกันยาเสพติด 5. การสงเคราะห สตรี เด็ก ผูสูงอายุ ผู ดอยโอกาส ผูพิการ ผูปวยเอดส 6. การสงเคราะหและชวยเหลือผูประสบ ภัยพิบัติ 3. ยุ ท ธศาสตร ด า นการจั ด ระเบี ย บ ชุ ม ชน สั ง คม และการั ก ษาความสงบ เรี ย บร อ ยและรั ก ษาความปลอดภั ย ใน ชีวิตและทรัพยสิน แนวทางการพัฒนา 1. ดานความสงบเรียบรอย และความ ปลอดภัยในชีวิตและทรัพยสิน 2. การส ง เสริ ม ความเข ม แข็ ง ของ ชุมชน/การมีสวนรวม 3. การสงเสริมประชาธิปไตย/การมี สวนรวม 4. ยุทธศาสตรดานเศรษฐกิจ / การ วางแผน / สงเสริมการลงทุนและพาณิชย แนวทางการพัฒนา 1. การเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผน 2. การสงเสริมการลงทุนและพาณิชย 5. ยุทธศาสตรดานสิ่งแวดลอมและ การอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติ แนวทางการพัฒนา 1. สรางจิตสํานึกและตระหนักในการ
จัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม 2. จัดระบบบําบัดนํ้าเสีย 3. กําจัดและจัดการขยะ 4. ป อ งกั น และแก ไ ขป ญ หาจากภั ย ธรรมชาติ 6. ยุทธศาสตรดานการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมประเพณี และภูมปิ ญ ญาทองถิน่ แนวทางการพัฒนา สงเสริมคุณธรรม ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปญญา ทองถิ่น 7. ยุทธศาสตรดา นการบริการประชาชน แนวทางการพัฒนา 1. พัฒนาและสงเสริมการนําเทคโนโลยี สมัยใหมมาใชเพื่ออํานวยความสะดวกแก ประชาชนอยางรวดเร็ว โดยการบริการแบบ เบ็ดเสร็จ ครบวงจร ณ จุดเดียว 2. พั ฒ นาประชาสั ม พั น ธ เผยแพร ขอมูลขาวสารตางๆ 8. ยุทธศาสตรการพัฒนาดานเศรษฐกิจ ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงไปสูค วาม ยั่งยืน แนวทางการพัฒนา สงเสริมการสราง และพัฒนาการรวมกลุมอาชีพ 9. ยุทธศาสตรดานการเมือง บริหาร และการพัฒนาทรัพยากรบุคคล แนวทางการพัฒนา 1. สงเสริมและปลูกฝงอุดมการณให แกประชาชนในทองถิ่นมีความรูความเขาใจ ในรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริยเปนประมุข 2. ส ง เสริ ม เพิ่ ม บุ ค ลากรให มี ค วาม รู ความสามารถในการปฏิบัติหนาที่ใหเกิด ประสิทธิภาพมากขึ้น 3. พัฒนาวัสดุ-อุปกรณ และสถานที่ ใหเพียงพอเหมาะสมกับการปฏิบัติงาน Ayutthaya 161
เสนทางพบองคการบริหารสวนตําบล (อ.ลาดบัวหลวง)
องคการบริหารสวนตําบลสิงหนาท ของ ตําบลสิงหนาท มีกลุมอาชีพที่โดดเดน ดังนี้
“เปนศูนยการบริการที่ดี สนับสนุน การศึกษา สรางสุขภาพที่ดี ขจัดมลพิษ สิง่ แวดลอม พรัง่ พรอมการคมนาคม สราง คานิยมทางวัฒนธรรม หนุนนําการเปน เขตปลอดยาเสพติ ด ยกระดั บ คุ ณ ภาพ ชีวิตประชาชน” คื อ วิ สั ย ทั ศ น ก ารพั ฒ นาขององค ก าร บริหารสวนตําบลสิงหนาท ซึ่งตั้งอยูเลขที่ 7 หมูที่ 5 ตําบลสิงหนาท อําเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปจจุบันมี นาย ชัยวิทย พีเทียรพงศ เปน นายกองคการ บริหารสวนตําบลสิงหนาท มีรองนายกฯ 2 ทานคือ นายไอยุป พระจันทรศรี และ นายสมาน ยินดีสิทธิ์ และมี นายชาญชัย สุ ร วั ฒ นาประเสริ ฐ เป น ปลั ด องค ก าร บริหารสวนตําบลสิงหนาท องคการบริหารสวนตําบลสิงหนาท มี พื้นที่รับผิดชอบรวมทั้งสิ้น 17,199 ไร คิดเปน พื้นที่ 27,519 ตารางกิโลเมตร แบงเขตการ ปกครองออกเปน 7 หมูบาน ซึ่งประชาชนสวน ใหญประกอบอาชีพเกษตรกรรม อาทิ ทํานา ปลูกไมผลและพืชผักตางๆ ปลูกหญาแพงโก ลา เลี้ยงโคเนื้อ เลี้ยงแพะ ฯลฯ ทั้งนี้ องคการ บริหารสวนตําบลสิงหนาท นําโดย นายกฯ ชัยวิทย พีเทียรพงศ ไดสงเสริมการรวม กลุมอาชีพของชาวตําบลสิงหนาท ใหมีความ มัน่ คงและเกิดการพัฒนาอยางยัง่ ยืนตามแนว พระราชดําริเรือ่ งเศรษฐกิจพอเพียง ซึง่ ในพืน้ ที่
126
กลุมปศุสัตว หมูที่ 1 จําหนายสบู นมแพะ นํ้านมแพะ เนื้อแพะ และเนื้อโค คุณภาพดี ในอดี ต ชาวชุ ม ชนหมู ที่ 1 ส ว นใหญ ประกอบอาชีพเลี้ยงแพะ และโคเนื้อเพื่อการ บริโภคนํ้านมและเนื้อ เมื่อไดรับการสนับสนุน จากปศุ สั ต ว อํ า เภอและปศุ สั ต ว จั ง หวั ด ประกอบกับทางกรมพัฒนาพลังงานทดแทน และอนุรกั ษพลังงาน กระทรวงพลังงาน ไดเขา มาใหความรูเรื่องของการใชพลังงานทดแทน จากมูลสัตว เพื่อผลิตเปนแกสหุงตมสําหรับ ใชในครัวเรือน นายสมศักดิ์ แสงสุวรรณ ประธานกลุมปศุสัตว หมูที่ 1 จึงไดรวบรวม คนในชุ ม ชนเพื่ อ จั ด ตั้ ง เป น “กลุ ม ปศุ สั ต ว หมูที่ 1” ขึ้น โดยมีการดําเนินงานในรูปแบบ ของธนาคารโค กระบือ ดวยการใหยืมตาม เงื่อนไขที่กลุมกําหนด ปจจุบันกลุมปศุสัตว หมูที่ 1 มีสมาชิก 40 ราย แบงเปนสมาชิกผูเลี้ยงแพะ จํานวน 21 ราย และผูเลี้ยงโคเนื้อ จํานวน 19 ราย แพะที่เลี้ยงสวนใหญเปนแพะพันธุพื้นเมือง และพันธุเนื้อผสม (บอซาแน) ซึ่งนอกจากการ เลี้ยงเพื่อบริโภคเองแลว ปจจุบันทางกลุมฯ ยังไดแปรรูปผลผลิตเปนสินคาจําหนายดวย อาทิ สบูนมแพะ นํ้านมแพะ เนื้อแพะ และ เนื้อโคคุณภาพดี ผูท สี่ นใจสัง่ ซือ้ สินคา หรือตองการศึกษา ดูงาน ติดตอไดที่ องคการบริหารสวนตําบล สิ ง หนาท โทร.081-9464417 หรื อ นาย สมศักดิ์ แสงสุวรรณ กลุมปศุสัตว หมู 1 ตําบลสิงหนาท อําเภอลาดบัวหลวง จังหวัด พระนครศรีอยุธยา โทร. 091-1022285
กลุมศูนยขาวชุมชนนิคมการเกษตร ตําบลสิงหนาท หมูที่ 4 จําหนายพันธุขาว และขาวไรซเบอรี่เพื่อสุขภาพ สืบเนื่องจากวิถีชีวิตของชาวนาไทยสวน ใหญ ตองพึ่งพาฟาฝนตามธรรมชาติเปนหลัก ปไหนฝนดีผลผลิตขาวที่ไดก็จะดี หากปไหน ฝนแลงหรือนํ้าทวมก็จะสงผลเสียหายอยาง หนัก ประกอบกับชาวนาสวนใหญตองการ เพิ่มผลผลิตใหมากขึ้นโดยหวังที่จะมีรายได เพิ่มมากขึ้น จึงนิยมใสปุยเคมีและใชสารเคมี ในการกําจัดศัตรูขาว จากความเชื่อดังกลาว นี้ ไมเพียงทําใหชาวนาตองไปกูหนี้ยืมสินเพื่อ จายคาปุยคายาเปนวงจรตอเนื่องแลว ยังสง ผลเสียตอสุขภาพของชาวนาในระยะยาวดวย ชาวนาหมูที่ 4 ตําบลสิงหนาท ก็เปน หนึง่ ในบรรดาชาวนาทีต่ อ งประสบปญหาจาก อาชีพที่เรียกไดวาเปนกระดูสันหลังของชาติ และนีเ่ องจึงเปนจุดเริม่ ตนให นายกฯชัยวิทย พีเทียรพงศ ซึ่งเปนผูนําหมูบานในขณะนั้น นายดํารง ไตรอุโภค นายสายัณต นุชคุม และ นายจําเนียร ทองพุม ไดรวมกลุม เพือ่ ปลูกขาว พันธุพ นื้ เมืองขึน้ ในป พ.ศ. 2549 โดยมีแนวคิด หลักคือ การทํานาแบบปลอดสารพิษ ตอมาในป 2550 มีหนวยงานตางๆ เขา มาสนั บ สนุ น การดํ า เนิ น งานของกลุ ม เช น สํานักงานปฏิรูปที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน ไดให ความรูเรื่องการปรับปรุงดิน เครื่องคัดแยก เมล็ ด พั น ธุ สมาชิ ก ในกลุ ม ฯจึ ง ได ป รั บ ปรุ ง พืน้ ทีท่ าํ นาใหม และปลูกขาวเมล็ดพันธุ กข41 กข47 กข31 กข 49 ทวาการดําเนินงานก็ยัง ไมประสบผลสําเร็จเทาที่ควร เนื่องจากยัง ไม ไ ด มี ก ารศึ ก ษาความต อ งการของตลาด ประกอบกั บ ในป นั้ น ต อ งประสบป ญ หาฝน ตกหนัก สมาชิกในกลุม ฯจึงไดรว มกันคิดแกไข ปญหา โดยเริ่มจากการศึกษาความตองการ
ของตลาด ซึ่งพบวาลูกคาสวนใหญตองการ เมล็ดพันธุขาว กข41 กข47 กข31 โดยเฉพาะ พันธุขาวที่ลูกคาตองการและมีราคาสูงที่สุด คือ กข49 สวนขาวสําหรับบริโภคทีไ่ ดรบั ความ นิยมจากผูบริโภคมากที่สุดและมีราคาดีคือ ขาวหอมมะลิปทุมฯ และขาวไรซเบอรี่ ซึ่งมี สรรพคุณในการตอตานอนุมูลอิสระ ปองกัน โรคมะเร็ ง ลดความเสี่ ย งต อ โรคเบาหวาน โรคสมองเสื่อม โรคหัวใจ ชวยลดระดับไขมัน และโคเรสเตอรอล ชะลอความชรา และชวย เรื่องระบบขับถาย ป จ จุ บั น กลุ ม ศู น ย ข า วชุ ม ชนนิ ค ม การเกษตรตํ า บลสิ ง หนาท มีสมาชิก 32 ราย มีเงินทุนหมุนเวียนภายในกลุมประมาณ 520,000 บาท โดยสมาชิกในกลุมฯ จะปลูก พันธุขาวซึ่งเปนที่ตองการของตลาดเพื่อให สามารถจําหนายไดในราคาสูง โดยเฉพาะขาว ไรซเบอรี่ อยางไรก็ตามสมาชิกในกลุมฯตาง ยึดมั่นในแนวคิดสําคัญที่วา...ขาวและเมล็ด พันธุข า วทีป่ ลูก จะตองใชวธิ กี ารดูแลรักษาโดย ธรรมชาติ ปลอดภัยจากสารพิษ เพือ่ สุขภาพที่ ดีของชาวนาและผูบ ริโภค อีกทัง้ ยังเปนการลด ตนทุนการผลิต ซึ่งสงผลใหสมาชิกในกลุมฯ มี คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอยางเห็นไดชัด สนใจสั่งซื้อเมล็ดพันธุขาว กข41 กข31 กข47 และกข49 และข า วสํ า หรั บ บริ โ ภค ไดแก ขาวหอมมะลิปทุมฯ และขาวไรซเบอรรี่ หรือตองการศึกษาดูงานติดตอไดที่ องคการ บริหารสวนตําบลสิงหนาท โทร.081-9464417 หรือ นายสายันต นุชคุม นิคมเกษตรเศรษฐกิจ พอเพี ย ง หมู 4 ตํ า บลสิ ง หนาท อํ า เภอ ลาดบั ว หลวง จั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยา โทร. 081-5867232 กลุม ผักปลอดสารพิษบานหลุมทองหลาง หมูท ี่ 5 จําหนายผักปลอดสารพิษมาตรฐาน GAP อาชีพหลักของชาวบานหลุมทองหลาง
หมูที่ 5 ตําบลสิงหนาท คือการทํานา ทําสวน และปลูกผักพื้นบาน เชน กระเพราะ โหราพา ผักบุงจีน ตะไคร มะเขือพวง ฯลฯ เพื่อสงขาย ใหกับตลาด แตในอดีตที่ผานมา ชาวบาน มักจะประสบปญหาพืชผักถูกกดราคาจาก พอคาคนกลาง ในขณะที่ตนทุนการผลิตก็สูง ขึ้นเพราะตองใชสารเคมี ทําใหมีรายรับไมพอ กับรายจาย กํ า นั น บั ญ ชา พวงสวั ส ดิ์ นายโชติ สายด ว ง และนางชม อ ย สายด ว ง จึ ง เกิ ด แนวคิ ด ว า หากชาวบ า นยั ง ปลู ก พื ช ผั ก โดย ใชสารเคมีและตางคนตางทําแบบนี้ จะไม สามารถตอรองราคากับพอคาได จึงกอตัง้ เปน “กลุม ผักปลอดสารพิษบานหลุมทองหลาง หมูท ี่ 5” ขึน้ เพือ่ รวมกลุม กันปลูกพืชผักปลอด สารพิษ ซึ่งนอกจากจะสงผลดีตอสุขภาพทั้ง ของเกษตรกรผูปลูกและผูบริโภคแลว ยังชวย ลดตนทุนการผลิต ผลผลิตที่ไดก็มีคุณภาพดี และสามารถจําหนายไดราคาดีอีกดวย ทั้งนี้สมาชิกที่เขารวมกลุมตองปฏิบัติ ตามข อ กํ า หนดของกลุ ม คื อ การปลู ก ผั ก ที่ไดมาตรฐาน GAP (Good agricultural practice) ซึ่ ง เป น การผลิ ต พื ช เพื่ อ ให ไ ด ผลผลิ ต ได ม าตรฐานปลอดภั ย ปลอดศั ต รู พืช และคุณภาพถูกใจ ซึ่งเมื่อไดผลผลิตตาม เกณฑมาตรฐานแลว จะนํามาจําหนายใหกับ ศูนยกลางรับซือ้ และตรวจสอบคุณภาพผัก ซึง่ ตั้งอยูที่บานของกํานันบัญชาดวย ปจจุบันกลุมผักปลอดสารพิษบานหลุม ทองหลาง หมูที่ 5 มีสมาชิก 50 คน ปลูกผัก พื้นบาน มากกวา 20 ชนิด เชน ผักหวาน บาน ใบบัวบก ผักแพรว ดอกแขยง คาวทอง ลาเที ย โต คึ่ น ฉ า ย เป น ต น ซึ่ ง ป จ จุ บั น ผั ก ปลอดสารพิษของกลุม ฯไมไดสง ขายเฉพาะใน ประเทศไทยเทานั้น แตยังสงออกไปจําหนาย ยังประเทศตางๆ เชน เยอรมัน อังกฤษ และ ประเทศในกลุ ม สหภาพยุ โ รปด ว ย โดยส ง ผานบริษัท all way fresh บริษัท ไทยพัฒนา
ฟูด บริษัท PDI บริษัท ชัชวาลย และบริษัท ธนะศาสตร ทํ า ให ส มาชิ ก ในกลุ ม มี ร ายได ประมาณ 10,000 บาทตอเดือน จึงนับได วาการดําเนินงานของกลุมผักปลอดสารพิษ บานหลุมทองหลาง ประสบความสําเร็จอยาง มาก เพราะนอกจากจะสร า งรายได ใ ห กั บ คนในชุมชนแลว คนในชุมชนและผูบริโภคยัง ไดรับประทานผักปลอดสารพิษที่สดใหมได คุณภาพ ซึง่ จะชวยใหสขุ ภาพรายกายแข็งแรง และปลอดภัยจากสารเคมีทอี่ าจเปนสาเหตุให เกิดโรครายดวย สนใจสัง่ ซือ้ ผักปลอดสารพิษ หรือตองการ ศึกษาดูงาน ติดตอไดที่ องคการบริหารสวน ตํ า บลสิ ง หนาท โทร.081-9464417 หรือ กํานันบัญชา พวงสวัสดิ์ เลขที่ 25 หมู 5 ตําบลสิงหนาท อําเภอลาดบัวหลวง จังหวัด พระนครศรีอยุธยา โทร. 089-8043854 Ayutthaya 127
เส้นทางพบเทศบาลตําบล (อ.บางปะอิน)
เทศบาลตําบลบานสราง
เทศบาลตําบลบ้านสร้าง ได้รับการยกฐานะจากสุขาภิบาลมาเป็น เทศบาลต�าบลบ้านสร้าง เมือ่ พ.ศ.2542 อยูใ่ นเขตพืน้ ทีข่ องต�าบลบ้านสร้าง อ�าเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นเทศบาลขนาดกลาง อยูห่ า่ ง จากตัวจังหวัดประมาณ 13 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 7.06 ตารางกิโลเมตร แบ่งการบริหารออกเป็น 8 หมู่บ้าน 18 ชุมชน ปัจจุบันมี นายมาโนช หัทยามาตย เป็นนายกเทศมนตรี นายวุฒิชัย หัทยามาตย และ นายบุญมาก มวงมัง่ มี เป็นรองนายกเทศมนตรี และมี นายวีระ แสงรัสมี เป็นประธานสภาเทศบาล
สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐานของเทศบาล ด้ า นเศรษฐกิ จ ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ค้าขาย รับจ้างในโรงงานอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมในครัวเรือน เช่น เย็บผ้าโหล การเกษตรกรรม อาชีพเกษตรกรรมที่ส�าคัญ ได้แก่ การท�านา และ การเลี้ยงสัตว์ เลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงเป็ด และประมง เป็นต้น การพาณิ ช ยกรรมและการบริ ก าร การประกอบธุรกิจการค้า ได้แก่ ร้านขาย เสื้อผ้ากีฬา ร้านขายอาหาร และร้ายขาย ของช� า จ� า นวน 175 แห่ ง มี ก ารลงทุ น ด้านธุรกิจบ้านจัดสรร อาคารชุด อาคาร พาณิชย์ตา่ งๆ และมีตลาดสดเทศบาลต�าบล บ้านสร้าง จ�านวน 1 แห่ง การอุ ต สาหกรรม ส่ ว นใหญ่ เ ป็ น อุตสาหกรรมขนาดย่อมและอุตสาหกรรม ในครัวเรือน เช่น การเย็บผ้า-โหล ซึ่งเขต 126
ทต.บ้านสร้างนับเป็นแหล่งเย็บผ้าโหลที่ส�าคัญและใหญ่ ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้แล้ว ยังมีการ รับประกอบชิน้ งานย่อยในอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้า อิเลคทรอนิกส์ ฯลฯ จากนิคมอุตสาหกรรม โรจนะ การปศุสัตว ส่วนใหญ่อยู่บริเวณพื้นที่ หมู่ 5 ต�าบล บ้านสร้าง ซึ่งมีการท�าฟาร์มไก่ไข่ ผลิตไข่ไก่ ออกจ�าหน่าย
ในพื้นที่ต่างๆ จ�านวนมาก นับว่าเป็นแหล่ง อุตสาหกรรมด้านปศุสัตว์ในการผลิตไข่ไก่ที่ ใหญ่ที่สุดในภาคกลาง ด้านสังคม ศาสนา ประชาชนส่ ว นใหญ่ นั บ ถื อ ศาสนาพุทธ คิดเป็นร้อยละ 100 ของ จ�านวน ประชากรทัง้ หมด มีวดั 2 วัด คือวัดบ้านสร้าง และวัดกลางเกาะระก�าหรือวัดท�าใหม่ และมี ศาลเจ้า 1 แห่ง คือ ศาลเจ้าพ่อร่มขาว กีฬาและนันทนาการ มีสถานที่การ ออกก�าลังกาย สวนสาธารณะ และสนาม เด็ ก เล่ น ในชุ ม ชนต่ า งๆ โดยมี ส นามกี ฬ า เอนกประสงค์ 6 แห่ง และสวนสาธารณะ 9 แห่ง และมีสนามฟุตซอลในร่มทีไ่ ด้มาตรฐาน และสนามหญ้าเทียม 1 แห่ง วัฒนธรรมประเพณี เทศบาลได้ให้ ความส� า คั ญ อย่ า งมาก และส่ ง เสริ ม การ รวมกลุม่ ของประชาชนทีม่ วี ถิ ชี วี ติ ทีแ่ สดงถึง อัตลักษณ์ วัฒนธรรม และขนบธรรมเนียม ประเพณีของท้องถิ่น โดยจัดให้มีประเพณี วั น สงกรานต์ ใ นเดื อ นเมษายนของทุ ก ปี ประเพณีกวนข้าวทิพย์ ช่วงเดือนพฤษภาคม, ประเพณี แ ห่ เ ที ย นเข้ า พรรษาช่ ว งเดื อ น กรกฎาคม และประเพณี ล อยกระทง ช่ ง เดือนพฤศจิกายน ของทุกปี ด้านการศึกษา เทศบาลได้ให้ความ ส�าคัญ เกี่ยวกับการศึกษาของเยาวชนใน
ท้องถิ่นเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีศูนย์พัฒนา เด็กเล็กของเทศบาลจ�านวน 2 แห่ง ซึ่งใน อนาคตทางเทศบาลจะมี ก ารยกฐานะให้ เป็นโรงเรียนอนุบาล เพื่อรองรับจ�านวนเด็ก ที่เพิ่มขึ้น และมีโรงเรียนระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาของสังกัด สพฐ. ในพื้นที่ อีก 2 โรงเรียนคือ โรงเรียนวัดบ้านสร้าง และ โรงเรียนวัดท�าใหม่ การสาธารณสุ ข เทศบาลต� า บล บ้านสร้าง ให้ความส�าคัญการส่งเสริมสุข ภาพของประชาชน ตั้ ง แต่ แ รกเกิ ด ถึ ง สู ง อายุ การควบคุมและป้องกันโรค การรักษา พยาบาลและการฟื้นฟูสุขภาพ การควบคุม และป้ อ งกั น ยาเสพติ ด การควบคุ ม และ ป้องกันโรคจากสัตว์สู่คน โดยมีจุดมุ่งหมาย ให้ประชาชนสุขภาพดี ปราศจากโรคภัยไข้ เจ็บ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งสามารถให้ บริการครอบคลุมพื้นที่ได้ทั้งต�าบล 1. มี ห น่ ว ยบริ ก ารการแพทย์ ฉุ ก เฉิ น (EMS) มีรถพร้อมอุปกรณ์การปฐมพยาบาล เบื้องต้น ให้บริการประชาชนในเวลาเกิด อุ บั ติ เ หตุ ฉุ ก เฉิ น หรื อ การปฐมพยาบาล เบื้องต้นอื่นๆ โดยไม่เสียค่าบริการใดๆ 2. มี ก ารจั ด ตั้ ง ศู น ย์ อ บสมุ น ไพรเพื่ อ สุขภาพ (Bansang Spa) โดยมีวตั ถุประสงค์ เพื่ อ การดู แ ลสุ ข ภาพของประชาชน และ กระตุ้นเตือนให้ประชาชนให้เกิดการปรับ เปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อการมีสุขภาพ
อนามัยที่ดี ด้วยวิธีการทางธรรมชาติ โดยใช้ สมุนไพรธรรมชาติ 3. มีศูนย์บริการสาธารณสุข 1 แห่ง คือ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�าบลลาน เท ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดของกระทรวง สาธารณสุข
127
นโยบายของนายกเทศมนตรี กระผม นายมาโนช หั ท ยามาตย นายกเทศมนตรี ตํ า บลบ้ า นสร้ า ง ได้ ก�าหนดแนวนโยบายในการบริหารราชการ ส่วนท้องถิ่นของเทศบาลต�าบลบ้านสร้าง โดยจะยึดหลักการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นเป้าหมายการพัฒนาท้องถิ่น ด้วยการ สร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการร่วม คิด ร่วมแก้ไขปัญหา ร่วมก�าหนดทิศทาง การพัฒนาให้เป็นไปตามความต้องการของ ประชาชน เปดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนร่วม ในการจัดท�าแผนพัฒนาเทศบาล เพื่อผลัก ดันการแก้ไขปัญหาและพัฒนาท้องถิ่นไปสู่ เป้าหมายได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งเป็นการ อาศั ย ความร่ ว มมื อ จากประชาชนในเขต เทศบาลให้เกิดความตระหนัก ในการแก้ไข ปัญหาร่วมกัน อันน�าไปสูค่ วามร่วมมืออย่าง จริงจัง ระหว่างฝายการเมือง ฝายพนักงาน ประจ�า กลุ่มองค์กรเอกชน และประชาชน เพื่ อ สร้ า งประชาคมในเขตเทศบาลให้
เข้มแข็ง การเดินหน้าในการแก้ไขปัญหาของท้องถิ่น และการพัฒนาในทุกด้านอย่าง สอดคล้องกันตามความเหมาะสมของท้องถิ่น มุ่งเน้นการบริหารจัดกิจการบ้านเมืองที่ ดี หรือการยึดหลัก “ธรรมาภิบาล” เป็นส�าคัญอันหมายถึงการบริหารราชการด้วยความ ซื่อสัตย์ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ยึดถือประโยชน์ ของส่วนรวมเป็นเป้าหมายของการพัฒนา นอกจากนี้ ในการบริหารของเทศบาลต�าบล บ้านสร้าง กระผมให้ความส�าคัญกับการท�างานในเชิงบูรณาการ ประสานความร่วมมือจาก ทุกภาคส่วน จากความต้องการของหลายฝาย ทัง้ ภาคประชาชน ชุมชน กลุม่ องค์กรต่างๆ และ หน่วยงานภาครัฐอืน่ ๆ ในระดับท้องถิน่ ไปจนถึงระดับจังหวัด ระดับภูมภิ าค และสอดคล้อง กับนโยบายของรัฐบาลต่อไป 164
Ayutthaya 165
เสนทางพบเทศบาลตําบล (อ.บางปะอิน)
นายผดุงศักดิ์ ทองสาร นายกเทศมนตรีตําบลสรางโศก
“บางกระสัน้ เมืองนาอยู เชิดชูวฒ ั นธรรม ไทย หางไกลยาเสพติด พัฒนาคุณภาพ ชีวิต เศรษฐกิจรุงเรือง” คือคําขวัญของตําบลบางกระสั้น ซึ่ง อยูในการปกครองของ เทศบาลตําบลบาง กระสั้น เลขที่ 89 หมูที่ 6 ตําบลบางกระสั้น อําเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่ ง ได รั บ การยกฐานะเป น เทศบาลตํ า บล ตั้งแตวันที่ 23 สิงหาคม 2550 ปจจุบันมี นายสมทรง ลีวัฒนะ ดํารงตําแหนง นายก เทศมนตรีตําบลบางกระสั้น ซึ่งมีสโลแกน ประจําตัววา “นายกที่มีแตให” ขอมูลทั่วไป ตํ า บลบางกระสั้ น ตั้ ง อยู ห า งจาก อําเภอบางปะอิน เปนระยะทางประมาณ 5 กิ โ ลเมตร และอยู ห า งจากตั ว จั ง หวั ด พระนครศรีอยุธยา ประมาณ 22 กม. มีเนือ้ ที่ ทั้งหมด 18.912 ตร.กม. หรือประมาณ 11 ,820 ไร เทศบาลตําบลบางกระสั้น แบง การปกครองออกเปน 17 หมูบาน จํ า นวนประชากร ณ เดื อ น มี น าคม 2556 ประมาณ 11,415 คน แยกเปนชาย 5,333 คน หญิง 6,082 คน มีจํานวนครัว เรือน จํานวน 4,563 ประชากรสวนใหญ ประกอบอาชีพรับจางในกระบวนการผลิต ของโรงงานอุตสาหกรรม คนงานทั่วไป และ 168
เทศบาลตําบลบางกระสั้น คนงานเกษตร ซึ่งรายไดของประชากรสวน ใหญ ตอคนตอป จะมีรายไดเฉลี่ยประมาณ 42,000-100,000 บาท : คน : ป วิสัยทัศนการพัฒนา ตําบลเขียวสะอาด มีความอุดมสมบูรณ จากแม นํ้ า เจ า พระยา ระบบชลประทาน มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ โครงสร า งพื้ น ฐานทั่ ว ถึ ง สุ ข ภาพอนามั ย ดี ถ ว นหน า มี ค วามสงบ สันติสุข ปลอดยาเสพติด ประชาชนมีอาชีพ และรายได เปนแหลงการคาอุตสาหกรรม ทุกภาคสวนมีสวนรวมในการพัฒนา การ ศึ ก ษามี คุ ณ ภาพ อนุ รั ก ษ ศิ ล ปะประเพณี วัฒนธรรม นโยบายการบริหาร การพัฒนาทองถิ่นของทต.บางกระสั้น นัน้ เปนการสรางความเขมแข็งของชุมชน ใน
การรวมคิด รวมแกไขปญหา รวมสราง รวม จัดทําสงเสริมความเขมแข็งของชุมชน ใน เขตพื้นที่ของทต.บางกระสั้น ใหมีสวนรวม ในการพัฒนาทองถิ่นในทุกดาน การพัฒ นาทต.บางกระสัน้ จะสมบูรณได จําเปนตอง อาศัยความรวมมือของชุมชนในพื้นที่ ให เกิดความตระหนักรวมกันแกไขปญหา และ ความเขาใจในแนวทางการแกไขปญหากัน อยางจริงจัง ทต.บางกระสั้นยังไดเนนใหคน เปนศูนยกลางของการพัฒนาในทุกกลุม ทุก วัยของประชากร นอกจากนั้นยังไดเนนการ สงเสริม และสนับสนุนใหการศึกษา และ พัฒนาเยาวชนใหพรอมที่จะเปนบุคคลากร ที่มีคุณภาพ โดยยึดกรอบแนวทางในการ จัดระเบียบการศึกษา สวนดานการพัฒนา อาชี พ จะเน น พั ฒ นาเศรษฐกิ จ ชุ ม ชนพึ่ ง ตนเองในทองถิ่น และยังจัดใหตั้งเศรษฐกิจ พอเพียงโดยสวนรวม
ผลการดําเนินงาน 48 โครงการในป 2556 ยุ ท ธศาสตร ที่ 1 การพั ฒ นาด า น โครงสรางพื้นฐาน ดําเนินโครงการทั้งสิ้น 5 โครงการ ใชงบประมาณจํานวน 8,172,500 บาท อาทิ โครงการขุดลอกลํารางสงนํา้ และ โครงการกอสราง ปรับปรุงถนน ยุ ท ธศาสตร ที่ 2 การพั ฒ นาด า น เศรษฐกิจชุมชน ดําเนินโครงการทั้งสิ้น 1 โครงการ ใชงบประมาณจํานวน 999,000 บาท ไดแก โครงการจางงานเพือ่ แกไขปญหา การวางงาน ยุ ท ธศาสตร ที่ 3 การพั ฒ นาด า น คุณภาพชีวติ และคุณคาทางสังคม ดําเนิน โครงการทั้งสิ้น 34 โครงการ ใชงบประมาณ จํานวน 16,385,050 บาท ไดแก โครงการจัด งานประเพณีลอยกระทง สงกรานต แหเทียน พรรษา โครงการ 5 ธันวามหาราช โครงการ วันแมแหงชาติ อุดหนุนที่ทําการปกครอง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อุดหนุนที่ทําการ ปกครองอําเภอบางปะอิน โครงการจัดหา สือ่ การเรียนการสอนของศูนยพฒ ั นาเด็กเล็ก โครงการพัฒนากาเรียนรูเ ด็ก และผูป กครอง ของศูนยพัฒนาเด็กเล็ก อุดหนุนคาอาหาร กลางวันโรงเรียนในเขตตําบลฯ โครงการจัด ซื้อวัสดุ ครุภัณฑประจําศพด. สนับสนุนคา ใชจายการบริหารสถานศึกษาฯ โครงการ ศึกษาดูงานสําหรับบุคลากรทางการศึกษา โครงการสงเคราะหเบี้ยยังชีพผูสูงอายุ คน พิการ และผูปวยเอดส โครงการสงเคราะหผู ประสบภัยพิบัติ โครงการจัดงานวันเด็กแหง ชาติ โครงการจัดหาและสนับสนุนอุปกรณ กีฬาประจําหมูบาน โครงการปองกันและ ควบคุมโรคพิษสุนขั บา โครงการปองกันและ ควบคุมโรคไขเลือดออก โครงการปองกัน
และคบคุมโรคไขหวัดนก โครงการปองกัน และควบคุ ม โรคไข ห วั ด 2009 อุ ด หนุ น กองทุนหลักประกันสุขภาพแหงชาติ อุดหนุน วัดบางเคียนวิเชียรฉายเพื่อดําเนินโครงการ สงเสริมความรวมมือวัด บาน โรงเรียนเพื่อ ปองกัน และแกไขปญหายาเสพติด โครงการ ปองกันและแกไขปญหายาเสพติดตําบล โครงการเพิม่ พูนประสิทธิภาพ จนท. ปองกัน และบรรเทาสาธาณภัย/อปพร. โครงการ จั ด หาอุ ป กรณ ใ นการปฏิ บั ติ ง านสํ า หรั บ เจาหนาที่ปองกันและบรรเทาสาธารณภัย โครงการสายตรวจชุมชน ยุ ท ธศาสตร ที่ 4 การพั ฒ นาด า น ระบบจั ด การทรั พ ยากรธรรมชาติ แ ละ สิ่ ง แวดล อ ม ดํ า เนิ น โครงการทั้ ง สิ้ น 3 โครงการ ใชงบประมาณจํานวน 1,641,214 บาท ไดแก โครงการบางกระสั้นเมืองนาอยู โครงการจัดหาภาชนะรองรับขยะมูลฝอย
โครงการจัดหาเครื่องมือเครื่องใชในการเก็บ และกําจัดขยะมูลฝอย ยุทธศาสตรที่ 5 การพัฒนาดานการ บริหารจัดการ ดําเนินโครงการทั้งสิ้น 13 โครงการ ใชงบประมาณจํานวน 1,617,449 บาท ได แ ก โครงการฝ ก อบรม สั ม มนา และศึ ก ษาดู ง านทั้ ง ในและต า งประเทศ ของผูบริหารทองถิ่นฯ โครงการฝกอบรม เสริ ม สร า งคุ ณ ธรรม จริ ย ธรรมพนั ก งาน เทศบาล และชุมชนในตําบลบางกระสั้นฯ การอุ ด หนุ น ศู น ย ร วมข อ มู ล จั ด ซื้ อ จั ด จ า ง องคกรปกครองสวนทองถิน่ โครงการแขงขัน กีฬา พนักงานเทศบาลบางกระสั้น โครงการ ส ง เสริ ม การมี ส ว นร ว มของประชาชนใน การบริหารราชการสวนทองถิ่น โครงการ สนับสนุนการเลือกตั้งระดับชาติและระดับ ทองถิ่น โครงการปรับปรุงและ พัฒนาเว็บไซต ทต.บางกระสั้น โครงการจัดทําและทบทวนแผน ยุ ท ธศาสตร ก ารพั ฒ นา/แผน พั ฒ นาสามป โครงการอบรม และทั ศ นศึ ก ษาแก ผู นํ า ชุ ม ชน และประชาชน เพื่อพัฒนาทอง ถิน่ โครงการลดขัน้ ตอนและขยาย เวลาปฏิบัติราชการเพื่อบริการ ประชาชน โครงการแข ง ขั น กี ฬ าทศบาล สัมพันธ โครงการจัดซื้อครุภัณฑตางๆ ของ หนวยงานในเทศบาลตําบลบางกระสั้น
Ayutthaya 169
เสนทางพบองคการบริหารสวนตําบล (อ.บางปะอิน)
องคการบริหารสวนตําบลบานโพ “ทองถิน่ นาอยู เชิดชูคณ ุ ธรรม งามลํา้ นํา้ ใจ ไพรฟาหนาใส ชีวิตทรัพยสินปลอดภัย หาง ไกลยาเสพติด พิชติ ความยากจน บนพืน้ ฐาน เศรษฐกิจพอเพียง” คื อ วิ สั ย ทั ศ น ข ององค ก ารบริ ห ารส ว น ตํ า บลบ า นโพ ซึ่ ง ตั้ ง อยู เ ลขที่ 23/2 ตํ า บล บานโพ อําเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรี-อยุธยา ปจจุบนั มี นายรัตนะ พันธุส วัสดิ์ ดํารงตําแหนง นายกองคการบริหารสวนตําบลบานโพ ขอมูลทัว่ ไป องคการบริหารสวนตําบลบานโพ มีพื้นที่ ทัง้ หมด 13.564 ตร.กม. โดยแบงเปนพืน้ ทีใ่ นตําบล บานโพ 7.959 ตร.กม. และตําบลขนอนหลวง 5.605 ตร.กม.แบงเขตการปกครองเปน 14 หมูบาน อยู ในตําบลบานโพ 9 หมูบ า น และตําบลขนอนหลวง 5 หมูบ า น มีประชากรทัง้ สิน้ 4,639 คน สวนใหญ ประกอบอาชีพรับจาง ทัง้ ในโรงงานอุตสาหกรรม และรั บ จ า งทั่ ว ไป บางส ว นประกอบอาชี พ รั บ ราชการ คาขาย ประมงพืน้ บาน และทําเกษตรกรรม
170
นโยบายการพัฒนาของผูบ ริหาร 1. ดานการบริหารจัดการองคการ มีนโยบายในการบริหารจัดการองคการ เพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพในการบริการ 4 ขั้นตอน คือ การวางแผน การปฏิบตั ิ การตรวจสอบ และการ ประเมินผลตามมาตรฐานและความพึงพอใจของ ผูร บั บริการ 2. ดานโครงสรางพืน้ ฐาน มีนโยบายกอสรางและปรับปรุงโครงสราง พืน้ ฐานทุกชนิด เพือ่ รองรับความเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจ ตามความตองการของประชาชน รวม ทัง้ เพือ่ ใหสอดคลองกับแผนพัฒนาองคการบริหาร สวนตําบล และยุทธศาสตรจงั หวัด 3. ดานเศรษฐกิจและอาชีพ มีนโยบายมุงเนนการพัฒนาดานเศรษฐกิจ ให มี คุ ณ ภาพ สนั บ สนุ น และส ง เสริ ม ให แ ก ประชาชน และสรางมูลคาเพิ่มของสินคาและ บริการ เพือ่ สรางรายไดใหกบั ชุมชน 4. ดานการศึกษา มี น โยบายให ป ระชาชนมี ส ว นร ว มในการ พัฒนาการศึกษา และสงเสริมภูมิปญญาทองถิ่น พรอมทัง้ นําหลักธรรมทางศาสนา พัฒนาคุณภาพ ของคนดานการศึกษา 5. ดานการเมืองการปกครอง มีนโยบายมุงเนนสงเสริมและสนับสนุนการ ปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหา กษัตริยเ ปนประมุข สงเสริมการบริหารการพัฒนา 6. ดานการพัฒนาการสงเสริมคุณภาพชีวติ มีนโยบายมุงเนนการพัฒนาคุณภาพของคน เพื่อใหสอดคลองกับการเจริญเติบโต และการ
เปลีย่ นแปลงของวิทยาการสมัยใหม สนับสนุนการ มีคณ ุ ภาพชีวติ ทีด่ ี ของประชาชนตามกลุม อายุ ซึง่ จะนําไปสูค วามสุขของครอบครัว และชุมชน 7. ดานศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และประเพณี มี น โยบายมุ ง เน น ฟ น ฟู ป ระเพณี ใ นตํ า บล บานโพ ตําบลขนอนหลวง ใหประชาชนมีสวน รวมสงเสริมวัฒนธรรมและจารีตประเพณี และ ภูมปิ ญ ญาทองถิน่ พรอมทัง้ การนําหลักธรรมทาง ศาสนา ขนบธรรมเนียมประเพณี มาใชในชีวิต ประจําวัน 8. ดานความปลอดภัยชีวติ และทรัพยสนิ มีนโยบายมุงเนนการบริการประชาชนทุก ระดับ และใหประชาชนสามารถพึง่ พาตนเองได ตลอดจนสรางความปลอดภัยในชีวติ และทรัพยสนิ การประชาสัมพันธใหความรูด า นการปองกันและ บรรเทาสาธารณภัย ใหแกประชาชน 9. ดานการใหบริการ มีนโยบายเพื่อใหการบริการที่สะดวกสลบาย แกชาวอบต.บานโพ อาทิ จัดหนวยชุมชนสัมพันธ สงเสริมการออกกําลังกาย จัดตั้งศูนย Hotline ของ อบต. เพื่อแจงเหตุฉุกเฉิน จัดหนวยบริการ เคลื่อนที่ จัดตั้ง Web site ขององคการบริหาร สวนตําบล ฯลฯ สถานทีท่ อ งเทีย่ วสําคัญในเขต อบต.บานโพ หมูบานเสากระโดง และวัดทองบอ เปน ชุมชนมอญที่เครงครัดในศาสนา ประเพณี และ วัฒนธรรมที่สืบทอดมาชานาน มีสิ่งที่นาสนใจ ไดแก เสากระโดงเรือสําเภาโบราณ พระพุทธรูป หยก อายุ 2,000 ป คัมภีรใบลาน คัมภีรงาชาง
คัมภีรใบขอย ศาลาการเปรียญซึ่งเปนศิลปะแบบ มอญ พิพิธภัณฑพื้นบานวัดทองบอ และศูนย ศึกษาชุมชนชาวมอญ จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช สมัยโบราณตางๆ มากมาย ตลาดโกงโคง เปนตลาดยอนยุคที่ผูซื้อตอง โกงโคงซือ้ สินคาตามแบบฉบับตลาดโบราณ และ พบกับวิถชี วี ติ ของไทยในอดีตทีถ่ กู รือ้ ฟน ขึน้ มาเพือ่ อนุรกั ษวฒ ั นธรรมไทยเอาไว เกาะพระ เปนเกาะกลางแมนํ้าเจาพระยา ซึ่งชาวบานมีความเปนอยูอยางเรียบงายและ มี ชี วิ ต ผู ก พั น กั บ สายนํ้ า และมี จุ ด เด น ที่ ส ภาพ แวดล อ มทางธรรมชาติ ที่ ยั ง คงสภาพเดิ ม จึ ง มี ก ารจั ด โครงการส ง เสริ ม การท อ งเที่ ย วเชิ ง อนุ รั ก ษ บริ เ วณเกาะพระ หมู ที่ 5, 7 ตํ า บล บานโพ เพือ่ สัมผัสกับวิถชี วี ติ ชาวเกาะพระ ศาสนสถานทีส่ าํ คัญของตําบลบานโพ วัดบานพาสน ตั้งอยูที่ หมู 1 ตําบลบานโพ สรางราวป พ.ศ.2200 ในวัดมีพระพุทธรูปทีส่ าํ คัญ ทีค่ นนิยมบูชาคือ “หลวงพอมงคล” วัดโพธิ์ สรางราวปพ.ศ.2300 มีรูปเหมือน สมเด็จพระพุฒาจารย โต พรหมรังสี และรูปเหมือน หลวงปูคง และมี “หลวงพอโพธิ์ทองศักดิ์สิทธิ์” พระพุทธรูปปูนปน ปางมารวิชยั ศิลปะสมัยอยุธยา วัดบานเลนสระกระจับ สรางขึน้ เมือ่ ป พ.ศ. 2295 ปูชนียวัตถุสําคัญ ไดแก พระพุทธรูปสมัย เชียงแสน และพระประธานในพระอุโบสถ วัดทองบอ ทีต่ งั้ ชุมชนมอญบานเสากระโดง ตัง้ อยูท หี่ มูท ี่ 4 ตําบลขนอนหลวง อําเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประวั ติ ค วามเป น มา หมู บ า นเสากระโดง เดิมเรียกกันตามภาษามอญวา กวานปราสาท และวั ด ทองบ อ ก็ มี ก ารเรี ย กกั น แต เ ดิ ม ว า เพียรปราสาท ตอมาไดเปลี่ยนมาเปนวัดทองบอ เนือ่ งจากบริเวณทีต่ งั้ หมูบ า นในอดีต เปนดานขนอน
สมัยกรุงศรีอยุธยา มีการใชเรือสําเภา ในการขนสง สินคา และเดินทางเกิดเหตุ อัปปางลงเรือพรอม เสากระโดง ลอยมาติดอยูแ ถวหมูบ า นนี้ จนทําให ผูค นผานไปมา เรียกหมูบ า นวาหมูบ า นเสากระโดง ปจจุบัน เสากระโดงไดเก็บรักษาไว ในบริเวณ วัดทองบอ เปนโบราณวัตถุ และสัญลักษณของ หมูบ า นเสากระโดง วัฒนธรรมประเพณี ชาวบาน ในชุมชนมอญบานเสากระโดง เครงครัดในศาสนา จะรวมถือศีลฟงธรรม ในวันพระและวันสําคัญ ทางศาสนา รวมทั้งรวมกิจกรรมทางศาสนา เชน เทศกาลสงกรานต เทศกาลเขาพรรษา ประเพณี การตักบาตรนํ้าผึ้ง เทศกาลออกพรรษา การแห โน แมที่วัฒนธรรมไดเปลี่ยนไปตามสภาพสังคม ทีเ่ ปลีย่ นไปแตพระภิกษุสงฆทวี่ ดั ทองบอ ยังรักษา เอกลักษณการสวดพระอภิธรรมภาษามอญตลอด มา ประเพณีสงกรานตมกี าร แหโน (หางหงส-ธง ตะขาบ) การละเลนพืน้ บาน การแตงกายชุดมอญ การรับประทานขาวแช วัดโปรดสัตว มีพระพุทธรูปประธานประจํา อุโบสถ ซึ่งเปนที่เคารพสักการะของประชาชน ตําบลขนอนหลวง และตําบลใกลเคียง จะมีงาน ปดทองพระประธานเปนประจําทุกๆ ป ในเวลา ปกติประชาชนทีส่ ญ ั จรทางนํา้ ผานหนาอุโบสถ จะ ทําความเคารพ และจะวักนํา้ เสยศีรษะบาง วักนํา้ ขึน้ มาประพรมสินคาทีจ่ ะนําไปขายบาง วัดทําเลไทย ในอุโบสถมีพระประธานปาง สมาธิ สรางประมาณ พ.ศ.2359 วิหารดานเหนือ ประดิษฐาน “หลวงพอดํา” พระพุทธรูปโบราณ วิหารดานใต ประดิษฐานรูปหลอ “สมเด็จพระ นเรศวรมหาราช” และ “สมเด็จพระเจาตากสิน มหาราช”
สมุ ด โน ต ปกไม อั ด , นํ้ า ยาล า งจานกลิ่ น ผล ไม, ปลอกหมอนเย็บดวยมือ ติดตอไดที่ คุณ อรุ ณี ราชอิ ท ร โทร.081-9472358 กระเป า ผ า ลดโลกร อ น ติ ด ต อ ได ที่ คุ ณ โม โทร.035 -795661 เปาแกว ติดตอไดที่ คุณการตูน โทร. 086-1369692 ถักโครเชรูปตุกตา, ถักโครเชร กลองกระดาษทิชชู, เสื้อถักดวยไหม ติดตอ ไดที่ คุณเล็ก ไวยจิรา โทร.083-7857213 นํ้ายา เอนกประสงค ติดตอไดที่ คุณอรรถพล ผลเกิด โทร.083-8198856 บานรักสมุนไพร ติดตอไดที่ คุ ณ เพ็ ญ สุ ข ธรรมโอรส โทร.089-2427615 ตระกราปานศรนารายณ ติดตอไดที่ คุณกาหลง โพธิ์งาม โทร. 087-7682899 ดอกไมผลิตจาก ตนโสน ติดตอไดที่ คุณสุจนิ ต จําแนกทรัพย โทร. 089-0490946 ตระกราทางมะพราว ติดตอไดที่ คุณประนอม ภาคาแพทย โทร. 080-4396348 โคมไฟไมแกะสลัก ติดตอไดที่ คุณปรัชฌาวัฒน พรหมสาขา ณ สกลนคร โทร. 081-3850609 สินคา OTOP “ถาวร พารค” ศูนยการคาแหง ใหม ในอําเภอบางปะอิน “เงินทุกบาท ทุกสตางค ที่ทานจับจายใชสอยภายในศูนย จะจายคืนภาษี ใหกบั ชุมชน” รานอาหารแนะนําในเขตตําบลบานโพ ไดแก รานครัวธนากร (เมนูเด็ด พลากุง แมนาํ้ , แกงคัว่ หอยขม) รานครัวกันเอง (เมนูเด็ด ผัดซีโ่ ครงเมีย นอย, ตมยําปลาเคา) รานครัวเดน (เมนูเด็ด ปลา ตะเพียนไรกาง, ตมยําปลามา) รานสวนอาหาร บานไผ (เมนูเด็ด เมีย่ งปลาเผา, ฉูฉ ปี่ ลานํา้ เงิน)
อบต.บานโพ ชวนชิมชวนช็อปสินคา OTOP ขนมเบื้ อ ง ติ ด ต อ ได ที่ คุ ณ ขวั ญ ยื น ไวย โภคา โทร.083-7101625 กระจกรูปการตูน, โคมไฟไมแกะสลัก, พวงกุญแจทําจากไมอัด, Ayutthaya 171
p172-173º·¤ÇÒÁàºÕÂÃì.pdf 1 9/7/2557 14:21:21
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
p172-173º·¤ÇÒÁàºÕÂÃì.pdf 2 9/7/2557 14:21:25
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
เส้นทางพบเกษตรกรดีเด่น
อีกหนึ่งความภูมิใจของ
คุณลุงมานิตย แยมประยูร
คุ ณ ลุ ง มานิ ต ย์ หรื อ นายมา นิตย์ แย้มประยูร เกษตรกรดีเด่น ชา วอ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่ง นิตยสาร SBL เคยแนะน�าให้ท่านผู้ อ่านรูจ้ กั ไปเมือ่ ปทผี่ า่ นมา ในปนี้ คุณ ลุงมานิตย์มีเรื่องราวเกี่ยวกับความ ภาคภูมิใจของท่านมาบอกเล่า นอก เหนื อ จากการพิ สู จ น์ ใ ห้ โ ลกเห็ น ว่ า เกษตรกรไทยก็ไม่น้อยหน้าใคร สร้างบ้านเรือนไทย อนุสรณ์เพื่อคน รุ่นหลัง ปัจจุบันสวนเกษตรของคุณลุงมา นิตย์ ไม่เพียงแต่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยว เชิ ง เกษตรกรรมเท่ า นั้ น แต่ ยั ง เป็ น ที่ ศึกษาดูงาน และที่ฝึกงานของเกษตรกร ทั่วไทย และนักศึกษาด้านพืชสวนจาก มหาวิทยาลัยชัน้ น�าด้วย ซึง่ ในอดีตเคย มีนักศึกษาประดับปริญญา เอกจากญี่ ปุ น มาขลุ ก อยู ่ กั บ คุ ณ ลุ ง เพื่ อ เก็ บ เกีย่ วความรูจ้ นกระทัง่ ส�าเร็จเป็น ดร. มา แล้วด้วย
174
ด้วยเหตุทมี่ ผี มู้ าขอฝึกงานและต้อง พักอยู่ที่สวนเป็นเวลานาน คุณลุงจึงเกิด แรงบันดาลใจในการสร้างบ้านเรือนไทย ขึ้น โดยใช้งบประมาณราว 4 ล้านบาท สร้างจากไม้เนื้อแข็งที่เป็นไม้มงคลด้วย “บ้านหลังนี้มีร้อยล้านพันล้าน ก็สร้างไม่ได้ เพราะสร้างจากไม้พยุง และไม้ชิงชัน” คุณลุงเกริ่นน�าก่อนจะเล่าถึงที่มา ของการปลูกบ้านเรือนไทยหลังนี้ว่า “บ้านหลังโน้นที่ลุงสร้างไว้ก็ยก ให้ลูกสาวคนเล็กไป ทีนี้ลุงก็อยากมี บ้านของตัวเองไว้อยู่เองบ้าง เพราะ อนาคตมันไม่แน่นอน ลูกดีก็ดี เดี๋ยว ไม่ดีมันไล่เราไม่ให้อยู่บ้าน เราก็ต้อง ปลูกเตรียมไว้ แล้วที่นี่เราก็ให้ลูกไป” “ แ ล ้ ว ลุ ง ก็ คิ ด ว ่ า อ ย า ก ห า บรรยากาศดีๆ ปลูกแล้วน�้าไม่ท่วม ปลูกบนภูเขาเลย ให้มันสูงเลย เรา มาปลูกไว้ตรงนี้ เพื่อให้เด็กที่ดูงาน ฝึ ก งานไว้ พั ก ผ่ อ น คนมาหาผมมา เยี่ยมผมก็ใช้พักผ่อนได้ ท�าอะไรได้ เราก็มาอยู่ด้วย ลุงก็ตั้งใจไว้อย่างนี้ นะ”
บ้านเรือนไทยของคุณลุงมานิตย์ มีลักษณะเด่นคือเป็นเรือนไทยโบราณ ทรงปั้นหยา เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาการ สร้างบ้านตามแบบฉบับโบราณไว้ ซึ่ง นอกจากจะให้ความสวยงามอย่างไทย แท้แล้ว ยังเหมาะกับสภาพอากาศ 3 ฤดู ในบ้านเราด้วย “บ้านลุงจะประหยัดค่าใช้จ่าย เรื่ อ งไฟฟ้ า คื อ มั น อยู ่ สู ง มั น ก็ เ ย็ น หน้าลมใต้ ก็รับลมใต้ได้ หน้าลม เหนือ ลุงก็รับลมเหนือได้ ลุงปลูก หอคอยไว้ ส องด้ า นเลย รั บ ลมทั้ ง เหนื อ ทั้ ง ใต้ ว างแผนไว้ เ สร็ จ ท� า ที เดียวให้มนั จบ ไม่ตอ้ งท�าหลายเทีย่ ว ลุงอายุป่านนี้แล้วท�างานไม่เคยผิด พลาดเพราะใช้หลักธรรมะเสมอ ท�า อะไรก็อยากจะทิง้ ไว้ให้คนรุน่ หลังได้ ดูได้เห็น” ภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น ปั จ จุ บั น สวนของคุ ณ ลุ ง มานิ ต ย์ จะปลู ก ล้ ว ยไม้ น านาชนิ ด เช่ น พั น ธุ ์ แคทลียา แวนด้า ม็อคคาร่า กล้วยไม้ ตระกูลช้าง และตระกูลหวาย จ�าหน่าย Ayutthaya 175
พัฒนาสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่เน้นเรื่องกลิ่น หอมมาก่อนเป็นอันดับแรกเสมอ โดยมี ทายาทคือลูกชายและลูกสาวทีม่ ารับไม้ ต่อจากคุณลุง “ตอนนี้ ก็ มี ค นโตแหละครั บ มา ท� า ทั้ ง เพาะเมล็ ด ติ ด ป ก จะเก่ ง เรื่องสายพันธุ์ ก็เอาพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ที่ดีๆ มาผสมกันก็ใช้ได้หมด ก็ถือว่า เก่งแทนผมได้ครับ” คุณลุงกล่าวอย่าง ภาคภูมิใจ
ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุน จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย และที่ปากคลอง ตลาด สร้างรายได้ให้กับครอบครัวปละ กว่า 2 ล้านบาทเลยทีเดียว “การปลูกต้นไม้ของลุงนี่ไม่ค่อย มีปญหาเหมือนคนอื่นเขา ลุงปลูก ต้นไม้ไม่ค่อยเหมือนใคร เพราะลุง เล่นม็อคกับแคท เพราะคนปลูกกัน น้อย ตลาดเขานิยมปลูกหวายกัน ลุง ก็ไม่เอา ลุงก็หนั มาเล่นม็อคกับแคทลี ยา เพราะว่าการปลูกม็อค ปลูกแคทนี่ รายได้มันช้า ต้องใช้เวลา ในขณะที่ สวนกล้วยไม้ของคนอื่นๆ จะปลูกไม้ หวายซะ 80 เปอร์เซ็นต์” ถึ ง แม้ ว ่ า กล้ ว ยไม้ จ ะสร้ า งทั้ ง ชื่ อ เสี ย งและรายได้ ใ ห้ กั บ คุ ณ ลุ ง และ ครอบครัวมากว่า 20 ป ทว่าปัจจุบนั สวน กล้วยไม้ของคุณลุงมานิตย์ ก็ยังมีการ 176
เคล็ดลับสู่เกษตรกรมืออาชีพ เ ป ็ น ที่ ท ร า บ กั น ดี ว ่ า จั ง ห วั ด พระนครศรีอยุธยานั้น มักจะถูกน�้าเอ่อ ท่วมอยู่บ่อยครั้ง สวนเกษตรบนพื้นที่ กว่า 120 ไร่ของคุณลุงมานิตย์ ก็หนีไม่ พ้นเช่นกัน หลังจากเผชิญน�้าท่วมหนัก ในป 2549 คุณลุงได้วางแผนปองกัน พื้นที่สวนด้วยคันดินกั้นน�้าสูงเกือบ 5
เมตร และปรับที่สวนให้สูงขึ้นด้วย ใน ขณะที่ฤดูแล้งอยุธยาก็เป็นอีกพื้นที่หนึ่ง ที่ขาดแคลนน�้าเพื่อการเกษตร ซึ่งในจุด นี้คุณลุงได้เล่าถึงการรับมือกับปัญหา เรื่องน�้าแล้งว่า “ ก่อนจะปลูกอะไร ลุงต้องเตรี ยมไว้หมดทุกอย่าง ลุงมีบ่อพักน�้าตั้ง 4 ไร่ 5 ไร่ เตรียมพักน�้าไว้ก่อน ถ้า น�้าในคลองชลประทานไม่ปล่อยมา ก็ใช้น�้าในบ่อได้อะไรได้ การจัดการ ของลุงใช้ระบบนีห้ มด คือคิดก่อนท�า ไม่ใช่ปญหาเกิดแล้วค่อยมาท�า ไม่มี ครับชีวิตลุง” นอกจากการบริหารจัดการน�า้ อย่าง มีประสิทธิภาพแล้ว การวางแผนก่อน ลงมือปลูกพืชเพือ่ การค้า และคุณสมบัติ ของการเป็ น เกษตรกรที่ ดี ก็ มี ค วาม ส�าคัญไม่แพ้กนั ทีจ่ ะท�าให้เกษตรกรผูน้ นั้ ประสบความส�าเร็จ
ต้นไม้สักต้นสองต้นในบ้านของตัว เอง ให้มันร่มรื่น อากาศจะได้ดีขึ้น กันโลกร้อนด้วย เราจะได้สร้างป่า ในชุมชนเรา อ�าเภอเรา จังหวัดเรา ลุงก็อยากจะฝากไว้ให้อนุรักษ์ต้นไม้ กัน อยากจะให้ปลูกต้นไม้กันเยอะๆ โลกจะได้ไม่ร้อน ฝนก็จะตกต้องตาม ฤดูกาล นีแ่ หละครับทีล่ งุ อยากฝากไว้” แหละทั้ ง หมดนี้ คื อ แนวคิ ด และการด� า เนิ น ชี วิ ต ของ “คุ ณ ลุ ง มานิ ต ย์ แย้ ม ประยู ร ” เกษตรกร ดี เ ด่ น แห่ ง อ� า เภอเสนา จั ง หวั ด พระนครศรีอยุธยา คนธรรมดาที่ไม่ ธรรมดา
“ลุงก็อยากจะฝากไว้นะ เราเป็น เกษตรกรไม่ว่าจะปลูกกล้วยไม้ จะ ปลูกข้าว หรือเกษตรกรรมทุกสิ่งทุก อย่ า ง อยากให้ เ กษตรกรเรา ขยั น อดทน ซื่ อ สั ต ย์ ก่ อ นจะปลู ก อะไร คิดสักนิดนึง ดูตลาดว่าตลาดเมือง นอกต้องการไหม ผู้บริโภคต้องการ ไหม เราก็ปลูกตัวนั้นไป ไม่ใช่ว่าเรา ไม่ได้มองตลาดเลย แล้วเรามาปลูก ไป เราก็จะพลาด นี่แหละครับการ ท�างานของผม อยากให้เกษตรกรดู เป็นตัวอย่าง คือคิดก่อนท�า”
คนธรรมดาก็ท�าให้โลกน่าอยู่ได้ ใครทีม่ โี อกาสไปเทีย่ วทีส่ วนเกษตร ของคุณลุงมานิตย์ คงจะติดใจกับสภาพ สวนที่อุดมสมบูรณ์ ร่มรื่นด้วยไม้นานา พันธุ์ ทั้งไม้พื้นถิ่นและไม้หายาก ไม่นับ รวมกล้วยไม้สสี วยหลากหลายสายพันธุ์ จนนึกอยากจะมีสวนที่ร่มรื่นบ้าง คุณลุง มานิตย์จึงฝากวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้บ้าน ของเรา ชุมชนของเรา และโลกของเรา น่าอยู่ว่า “เราจะมีทแี่ ค่รอ้ ยตารางวา หรือ ไร่สองไร่ ก็ชว่ ยกันอนุรกั ษ์ตน้ ไม้ ปลูก Ayutthaya 177
โรงแรม สวีท อินน Sweet inn 80 หมู 9 ต.บานกรด อ.บางประอิน จ.พระนครศรีอยุธยา 13160
T.081-991-9480, 035-706716-8
โรงแรม สวีท อินน
เสนทางสุขภาพ
กินใหอารมณดีกันเถอะ
คุณเคยสงสัยไหมคะวา บางวันคุณก็จะอารมณ ดี สดชื่น กระปรี้กระเปรา โลกสวยทั้งวัน แตบางวันดู เหมือนเปนวันโลกแตก ทําอะไรก็แยไปหมด หรือไมก็ รูสึกเหนื่อยหนาย เซื่องซึม ไมอยากทําอะไรเลย มีงานวิจัยคนพบวาอาหารที่เรากินเขาไปนั้น มีผลตอ อารมณของคนเราคะ เรามาดูกันวาจะรับประทานอาหาร อะไรและอยางไร จึงจะทําใหอารมณดีขึ้นได 1. ตองรับประทานอาหารใหครบทุกมื้อ โดยเฉพาะ อาหารเชา อาจจะหาอาหารงายๆ เชน ขนมปงโฮลวีทสัก แผน หรือ ขนมปงกรอบธัญพืชสัก 2-3 แผนรองทอง อยา
ปลอยใหทองวางเด็ดขาด ระหวางวันก็อาจจะรับประทานมื้อเล็กๆ แตบอยขึ้น เพื่อ ปองกันไมใหระดับนํ้าตาลในเลือดตก 2. รับประทานอาหารใหครบ 5 หมู อยางพอเพียงกับความตองการของรางกาย หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงและมีคาดัชนีนํ้าตาลสูง 3. เลือกรับประทานอาหารที่มีคาดัชนีนํ้าตาลตํ่า เชน ขาวซอมมือ ขาวกลอง ขนมปงโฮลวีท ผักและผลไมที่มีเสนใยมาก และมีรสไมหวาน เพราะรางกายจะคอยๆ ยอยและดูดซึมชาๆ สงผลใหระดับนํ้าตาลในเลือดคงที่สมํ่าเสมอ 4. งดดื่มชา กาแฟ เครื่องดื่มนํ้าดํา และแอลกอฮอล หันมาดื่มนํ้าสกัดจากผัก หรือผลไมสด นํ้าผลไมคั้นสด หรือนํ้าเปลาธรรมดาแทน 5. ออกกําลังกายอยางตอเนื่องสัก 20 นาทีตอวัน เพราะรางกายจะหลั่งฮอรโมน แอนโดรฟนออกมา ทําใหคณ ุ รูส กึ สดชืน่ กระปรีก้ ระเปรา และมีความสุข และทีส่ าํ คัญ จะชวยลดความกังวลและความเครียดลงได เพียงงายๆ แคนี้ คุณก็เปนเจาของอารมณดี สดชืน่ รืน่ เริงไดทงั้ วันแลวคะ
นอนใหสุขภาพดีกันเถอะ วาดวยเรื่องกินใหอารมณดีไป แลว คราวนี้มาดูกันวา การนอนของ เราจะมีผลอยางไรตอสุขภาพกายและ สุขภาพใจอยางไรกันคะ บางคนเชื่อวาตองนอนใหครบ วันละ 8 ชั่วโมง แตในความเปน จริง แตละคนตองการเวลาใน การนอนที่แตกตางกัน หากนอน หลับอยางมีคณ ุ ภาพแลวก็ไมจาํ เปนตองนอนใหครบ 8 ชัว่ โมง ก็สามารถตื่นอยางสดชื่น กระปรี้กระเปราไดเชนกัน ควรนอนหลับกอนหาทุม เพราะเปนชวงเวลาที่รางกายผลิต สารและฮอรโมนตางๆ ที่จําเปนตอรางกาย โดยเฉพาะเด็กและวัยรุน รางกายจะผลิตโกรทฮอรโมนออกมาชวยเรื่องการเจริญเติบโตของ รางกาย และทําใหสูงไดอีกดวย ไมควรดื่มแอลกอฮอลกอนนอน เพราะจะทําใหรูสึกปวดหัว หนักหัว และไมกระปรี้กระเปราตอนตื่นนอน และถาดื่มแอลกอฮอล บอยๆ จะทําใหเกิดภาวะตับอักเสบ ซึ่งเปนสาเหตุของโรคตับแข็ง หรือ โรคตับอักเสบได ไมควรออกกําลังกายกอนนอน เพราะคิดวาเมือ่ รางกายออนเพลีย จากการออกกําลังกายจะทําใหหลับดีขนึ้ ทัง้ นีเ้ พราะขณะออกกําลังกาย เลือดจะถูกสูบฉีดมาหลอเลีย้ งกลามเนือ้ และผิวหนัง ทําใหรา งกายเกิด อุณหภูมิสูงขึ้น อาจจะทําใหนอนไมหลับได ตืน่ นอนใหเปนเวลา เพราะคนทํางานสวนใหญคดิ วาวันหยุดหรือ เสาร-อาทิตยไมตองรีบไปทํางาน จึงขอหลับเอาแรงชดเชยวันที่ตอง ตื่นเชา แตผลกลับตรงกันขามยิ่งนอนตื่นสายมากเทาไหร รางกายก็ ยิ่งเหนื่อย เพลีย อาจปวดเมื่อยเนื้อตัวได ใครที่เคยเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับเรื่องการนอนหลับพักผอน ก็ยัง ไมสายทีจ่ ะแกไขพฤติกรรมการนอนของเราใหถูกตอง เพื่อใหมี สุขภาพกายและใจที่ดีกันนะคะ
ระวั ง ! โรคผิวหนังที่มากับหนาฝน
เสนทางความงาม
ผานหนารอนหฤโหดมาได ทําเอาหลายๆ คนเริ่มเย็น อกเย็นใจ เพราะไมตองกลัววาผิวพรรณจะดํากราน เหี่ยวแกเพราะแดดเผา แตคุณทราบหรือไมคะวา อากาศชื้นๆ แฉะๆ ในฤดูฝนนี้ ก็อาจเปนสาเหตุ ใหเกิดโรคผิวหนังไดคะ ดังนั้นเราจึงมีวิธีรับมือกับ ปญหาผิวในหนาฝนมาฝากคะ การดูแลเสนผมและหนังศีรษะ เมื่อผมเปยกฝน ควรสระผมดีกวาเช็ดแหงเฉยๆ เพราะนํ้าฝนอาจมีเชื้อ ไวรัสซึง่ เปนสาเหตุของโรคหวัด เหมือนทีห่ ลายๆ คนพูดวา ฝนตกหยิมๆ มักจะทําใหเปนหวัดคัดจมูกได ทีแ่ ทกม็ สี าเหตุ จากเชือ้ ไวรัสจากนํา้ ฝนนีเ่ อง เมือ่ สระผมแลวควรเปาแหงทุก ครั้ง เพื่อปองกันการเกิดเชื้อราบนหนังศีรษะคะ ซึ่งอาการที่ บงบอกวาเกิดเชื้อราแลวคือ คันศีรษะ เสนผมหักเหลือแตตอ สั้นๆ มีเม็ดบวมคลายเปนฝ ซึ่งหากมีอาการดังกลาวควรไป พบแพทยทันที การดู แ ลผิ ว หน า หากผิ ว หน า เป ย กฝนควร ล า งออกด ว ยนํ้ า สะอาดทั น ที ที่ สํ า คั ญ อย า ขยี้ ต า ขณะที่ใบหนาหรือมือเปยกฝน เพราะเชื้อโรคอาจ เขาสูดวงตาได นอกจากนี้ในหนาฝนยังอาจพบวา จะมีสิวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เพราะความชื้นในอากาศทําให เชื้ อ แบคที เ รี ย ซึ่ ง เป น สาเหตุ ข องสิ ว เจริ ญ เติ บ โต ได ดี ยิ่ ง ได สั ม ผั ส กั บ นํ้ า ฝนที่ มี เ ชื้ อ โรค ฝุ น ละออง หรือสารเคมี ก็ยิ่งทําใหเกิดสิวไดงาย จึงควรทําความ สะอาดผิวหนาวันละ 2 ครัง้ และทาดวยมอยสเจอไรเซอร อยางสมํ่าเสมอ
การดูแลผิวพรรณทั่วเรือนราง หาก ตัวเปยกฝนควรอาบนํ้าและเปลี่ยนเสื้อผา ใหมทนั ที เพือ่ ปองกันผิวอับชืน้ ซึง่ เปนสาเหตุ ใหเชื้อราทําลายผิวได ลองสังเกตดูนะคะ วาตามหนาอกและลําตัว โดยเฉพาะตาม ซอกหลืบที่อับชื้นไดงาย เชน ขอพับ รักแร ขาหนีบ หรือใตราวนม ฯลฯ มีวงดางสีขาว สี เ นื้ อ หรื อ สี นํ้ า ตาลร ว มกั บ มี ขุ ย สี ข าวๆ หรื อไม และอาจคนมีอ าการคัน รว มดว ย ถามีแสดงวาโรคเกลื้อนกําลังมาเยือนคะ รีบไปพบแพทยดกี วาปลอยใหคนั คะเยอเสีย บุคลิกนะคะ และหากเปนไปไดควรสวมใส เสื้อผาที่ทําจากเสนใยฝายบางๆ ที่ระบาย ความชื้นไดดี จะทําใหสบายเนื้อสบายตัว ไดมากทีเดียวคะ การดูแลเทา เมื่อนํ้าทวมขังเราคงหนี ไมพนที่จะตองลุยนํ้ากันอีก โรคนํ้ากัดเทา อาจถามหานะคะ สังเกตดูตามซอกนิ้วเทา นะคะ วามีผิวลอกเปนขุยขาวๆ เปอยยุย หรือไม และที่นากลัวกวาคือในที่ที่มีนํ้าขัง อาจมีพยาธิบางชนิด ที่พรอมจะชอนไชเขา เทาเราไดคะ ถาเลี่ยงไดก็เลี่ยงนะคะ แตถา เลี่ยงไมไดก็รีบลางเทาแลวเช็ดใหแหงคะ และถาเริ่มมีอาการของโรคที่วาก็ควรไปหา แพทยทันทีนะคะ ทราบขอมูลอยางนี้กันแลว ก็อยา ปลอยใหความเย็นชุมฉํ่าจากสายฝนมา ทํารายทําลายผิวของเราไดนะคะ
Hanapella º·¤ÇÒÁ 1.pdf 1 15/11/2556 17:31:25
Hanapella º·¤ÇÒÁ2.pdf 1 15/11/2556 17:30:14
¹ŒÍ§Êµ Í» ¾ÃÔµµÕéà§Ô¹ÅŒÒ¹
¤Ø³»Ø‡Á਌Ңͧ¼ÅÔµÀѳ±
เสนทางสู AEC
อีกไมกี่เดือนแลวนะคะ ที่ AEC จะเขา มามีบทบาทตอวิถีชีวิตของผูคนในประเทศ สมาชิก ซึ่งแตละประเทศตางก็มีธรรมเนียม ปฏิบัติ วัฒนธรรม และขอหามที่แตกตาง กัน เราจึงขอนําเสนอสิ่งที่เปนขอหามหรือ สิ่งที่ไมควรกระทํา ในประเทศสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว และกัมพูชา มา ฝากคะ เผือ่ วาคุณๆ มีโอกาสเขาไปเยือนหรือ ลงทุนทําธุรกิจทีน่ นั่ จะไดทราบถึงธรรมเนียม ปฏิบัติของเขาลวงหนาคะ
สิ่งที่ควรทํา-ไมควรทําในลาว สิ่งที่ควรทํา C ชาวลาวกลาวทักทายดวยคําวา “สบายดี” C ควรเคารพต อ กฎระเบี ย บ และ วัฒนธรรมอันดีงามของชาวลาว ดวยความ สุภาพ C รักษาความสะอาดของสถานที่ทอง เที่ยวตางๆ C แตงกายใหสุภาพเรียบรอยเมื่อจะ เขาชมหรือถายภาพวัดและพระพุทธรูป C ควรถอดรองเทากอนเขาบาน โบสถ วิหาร หรือสถานที่ที่มีปายหามใสรองเทา C กอนจะถายรูปบุคคลใดตองไดรับ อนุญาตกอน สิ่งที่ไมควรทํา D หามแจกจายหรือเผยแพรใบปลิว ตางๆ โดยไมไดรับอนุญาต D หลีกเลีย่ งการพูดคุย วิพากษวจิ ารณ ในประเด็นทีอ่ าจกอใหเกิดการโตแยงรุนแรง เชน การเมืองการปกครอง 184
ขอหามและธรรมเนียมปฏิบัติใน และ
ลาว กัมพูชา
D การจับมือถือแขน การกอด และการ จูบกันในที่สาธารณะถือเปนสิ่งที่ไมสุภาพ D การมีเพศสัมพันธกบั ชาวลาวทีไ่ มใช คูสมรสเปนเรื่องผิดกฎหมาย D หามพักคางคืนทีบ่ า นคนลาวโดยไม แจงตอผูใหญบานกอน Dไมควรแตะตอง หรือเขาชมในบริเวณ สถานที่ที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์กอนไดรับอนุญาต D เพศหญิงไมควรแตะตอง หรือสัมผัส พระสงฆและสามเณร D ไมควรสัมผัส หรือแตะตองศีรษะ ผูอื่น เพราะชาวลาวถือวาศีรษะเปนของสูง D ไมควรใชเทาชีห้ รือเตะสิง่ ของ เพราะ ถือวาไมสุภาพ และไมใหเกียรติผูอื่น สิ่งที่ควรทํา-ไมควรทําในกัมพูชา สิ่งที่ควรทํา C คํากลาวทักทายคือ “อรุณซัวซะเดย” (สวัสดีตอนเชา) และ “ทิวาซัวซะเดย” (สวัสดี ตอนเที่ยง-เย็น) C ควรใหความเคารพตอผูส งู อายุ เชน ใหผูสูงอายุเริ่มรับประทานอาหารกอนผูอื่น C หากไดรบั เชิญไปรับประทานอาหาร ควรใหเจาของบานเริ่มรับประทานกอนผู มาเยือน C เมื่อเดินผานผูที่กําลังสนทนากันอยู ควรกมศีรษะเล็กนอย C เมื่อขับขี่ยานพาหนะผานวัดควร ชะลอความเร็วลง และควรถอดหมวกทุก ครัง้ เมือ่ เขาเขตวัด และเมือ่ พบพระภิกษุสงฆ C ตองถอดรองเทากอนเขาบานผูอื่น ทุกครั้ง C เวลาสงของใหผูอื่นควรสงพรอมกัน สองมือ หรือไมก็สงของดวยมือขวา สิ่งที่ไมควรทํา D ไมควรวิพากษวจิ ารณการเมือง และ หามถายภาพสัญลักษณทางทหาร
D ไม ค วรเรอหรื อ แคะฟ น ขณะรั บ ประทานอาหาร D ไมควรเดินขามเทาคนอื่น และไม ควรชี้เทาไปที่ผูอื่น โดยเฉพาะผูหญิงควรนั่ง เก็บปลายเทา D เมื่อเขาเขตวัดไมควรใชมือถือ หรือ เครื่องเลน MP3 ไมสงเสียงดัง และไมสวม หมวก D ผูหญิงไมควรแตงหนาจัด หรือแตง ตัวไมสุภาพเมื่อเขาเขตวัด D ไมควรเปดของขวัญตอหนาผูให ทันที และไมควรหอของขวัญดวยกระดาษสี ขาว เพราะถือวาเปนสีของการไวทุกข D หามสัมผัสศีรษะของคนอื่น เพราะ ถื อ ว า ศี ร ษะเป น ส ว นที่ สํ า คั ญ ที่ สุ ด ของ รางกาย D ในที่ ส าธารณะผู ห ญิ ง ไม ค วรใส กระโปรงสัน้ และโชวหวั ไหล ผูช ายควรใสเสือ้ มีปกและกางเกงขายาว D ไมควรแตะเนื้อตองตัวชาวกัมพูชา ที่เปนเพศตรงขาม เพราะอาจทําใหเขาใจ ผิดกัน
p09 HANA.pdf 1 16/11/2556 12:04:52
µÑÇá·¹¨íÒ˹‹Ò¨ѧËÇÑ´ÃÐÂͧ
¤Ø³¾ÅÍ (Ìҹ¾ÅÍÂÊÇ ˌҧáËÅÁ·Í§) T.087-110-4532, ¤Ø³ºÕÁ (ÌҹºÕºÕª Í» µÅÒ´¹Ñ´ÊµÒà ) T.081-055-8283, ¤Ø³áÁç¡ (·ÑºÁÒ) T.086-331-6330
AD F&N.pdf 1 29/1/2557 17:20:11