SBL บันทึกประเทศไทย - จังหวัดบึงกาฬ ฉบับที่ 89

Page 1

นิตยสารแนะน�ำแหล่งท่องเที่ยวและของดีจังหวัดบึงกาฬ ประจ�ำปี 2562

Magazine

สุดปลายอีสาน

จังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย EXCLUSIVE นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ “ผมเน้นการสร้างทีม ทีมบึงกาฬ”

SPECIAL INTERVIEW “ภูมิใจที่พี่น้องอยู่ดีกินดี” นายธวัชชัย ศรีทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ

UNSEEN IN THAILAND

หินสามวาฬ Vol.9 Issue 89/2019

www.issuu.com

_

.indd 5

“บูรณาการทุกภาคส่ วน เพื่ อจรรโลงพระพุ ทธศาสนา” นายธวัฒชัย ทองสุกนอก ผอ.พศจ.บึงกาฬ “มุ่งเน้นผลประโยชน์ ของประชาชนเป็นส� ำคัญ” นายนิพัฒน์ พรเรืองวงศ์ ท้องถิ่นจังหวัดบึงกาฬ

อลังการวาฬแหวกว่ายกลางป่าบึงกาฬ

4/3/2562 16:57:49


“หลวงพ่อพระใหญ่” 2

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 2

วัดโพธาราม

28/2/2562 9:33:15


หลวงพ่อพุทธโสธร (หลวงพ่อเศรษฐี) วัดศรีบุญเรือง

3

.indd 3

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

3

26/2/2562 16:11:30


SUNNY WAY RUBBER

(THAILAND) CO.,LTD. บริษัท ซันนี่เวย์ รับเบอร์(ไทยแลนด์) จ�ำกัด

วิสัยทัศน์(Vision)

เราจะเป็นผู้น�ำในการผลิตยางธรรมชาติที่มีคุณภาพและ ได้รับการยอมรับในระดับสากล

พันธกิจ(Mission)

1. ผลิตและจ�ำหน่ายยางธรรมชาติที่มีคุณภาพสูง เพื่อตอบสนอง

ความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้า 2. บริ ห ารภายใต้ ร ะบบธรรมาภิ บ าลด้ ว ยความรั บ ผิ ด ชอบ ต่อสังคม คู่ค้า และพนักงานและสอดคล้องตามมาตรฐานสากล

นโยบายคุณภาพ

มุ่งมั่นผลิตยางที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ สอดคล้องตาม มาตรฐานสากล ISO 9001 รวมทัง้ พัฒนาระบบบริหารงานคุณภาพอย่าง ต่อเนื่อง เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า

ความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการท�ำงาน

บริษัทฯ ได้ให้ความส�ำคัญในด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมในองค์กรเป็นอันดับหนึ่ง และสนั บ สนุ น กิ จ กรรม ความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง และปฏิบัติตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงการ สนับสนุนกิจกรรมเพื่อสอดคล้องกับนโยบายสิ่งแวดล้อม เพื่อให้องค์กรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถอยู่ร่วมกัน ได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน

ที่ตั้ง 4

เลขที่ 158 หมูท่ ี่ 5 ต�ำบลค�ำแก้ว อ�ำเภอโซ่พสิ ยั จังหวัดบึงกาฬ 38170 SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

2

.indd 4

042-490627

27/2/2562 15:38:36


บริษัท ซันนี่เวย์ รับเบอร์(ไทยแลนด์) จ�ำกัด ผลิตภัณฑ์ของบริษัท ซันนี่เวย์ รับเบอร์ (ไทยแลนด์) จ�ำกัด

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

2

.indd 5

5

27/2/2562 15:38:39


ส� ำ นั ก งาน ธ.ก.ส. จั ง หวั ด บึ ง กาฬ...มิ ต รแท้ เ กษตรกร

คณะผู้บริหาร

6

. . .

นายเสรี ปัตถา

นายครรชิต สุพรรณดร จ.อ.เสวียน สุดแสง นายนิรันดร สารผล นายถนอม ชัยเพชร นายจุมพล ปัญญามงคล นายทนงศักดิ์ ศรีหล้า นายอารีย์ คล่องขยัน นายทองม้วน เทพดู่ นายสุรศักดิ์ ชาญณรงค์ นายโศภิษฐ์ ศรีนุเคราะห์

ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดบึงกาฬ ผู้ช่วยผู้อ�ำนวยการส�ำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดบึงกาฬ ผู้จัดการสาขาบึงกาฬ ผู้จัดการสาขาเซกา ผู้จัดการสาขาปากคาด ผู้จัดการสาขาโซ่พิสัย ผู้จัดการสาขาพรเจริญ ผู้จัดการสาขาศรีวิ ไล ผู้จัดการสาขาบึงโขงหลง ผู้จัดการสาขาบุ่งคล้า ผู้จัดการสาขาหอค�ำ

SBL บันทึกประเทศไทย I ฉะเชิงเทรา

2

.indd 6

27/2/2562 17:25:57


กิจกรรมเด่น ปี 2562 ธ.ก.ส. มอบโชคครั้งใหญ่แก่ผู้ฝากเงินกับ สมุดเล่มสีแดง ออมทรัพย์ทวีโชค วั น ที่ 28 มกราคม 2562 ส� ำ นั ก งาน ธ.ก.ส.จั ง หวั ด บึ ง กาฬ ร่ ว มกั บ สาขาในสั ง กั ด จั ด งานจั บ รางวั ล ออมทรั พ ย์ ท วี โ ชค ครั้ ง ที่ 17 ณ บริ เ วณหน้ า ห้ า ง ดี ดี ซุ ป เปอร์ ส โตร์ อ� ำ เภอศรี วิ ไ ล จั ง หวั ด บึ ง กาฬ มอบโชคครั้ ง ใหญ่ แก่ ผู้ ฝ ากเงิ น ออมทรั พ ย์ ท วี โ ชค เป็ น การมอบโชค อย่ า งต่ อ เนื่ อ งจั บ รางวั ล ทุ ก 6 เดื อ น แก่ ผู้ ที่ ฝ ากเงิ น คงไว้ ใ นบั ญ ชี ตั้ ง แต่ 3 เดือนขึ้นไป ก่อนจับรางวัลจะได้รับสิทธ์ลุ้นรางวัล 1 สิทธิ์ ต่อเงินฝาก จ� ำ นวน 2,000 บาท และ 3 สิ ท ธิ์ ต่ อ เงิ น ฝาก 5,000 บาท โดยจะจั ด ท� ำ เป็ น คู ป องลุ ้ น โชค ในครั้ ง นี้ มี คู ป องเพื่ อ จั บ รางวั ล ทั้ ง สิ้ น จ� ำ นวน 3.1 ล้ า นคู ป อง นอกจากลุ ้ น โชคยั ง ได้ รั บ ดอกเบี้ ย อี ก ด้ ว ย ส�ำหรับรางวัลในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย รถยนต์กระบะ จ�ำนวน 2 คัน รถจั ก รยานยนต์ จ� ำ นวน 35 คั น สร้ อ ยคอทองค� ำ 50 สตางค์ จ� ำ นวน 144 เส้น Smart TV 40 นิ้ว จ�ำนวน 110 เครื่อง เป็นต้น รวมมูลค่ากว่า 5.6 ล้ า นบาท และผู ้ โ ชคดี ที่ ไ ด้ รั บ รางวั ล ที่ 1 จ� ำ นวน 2 รางวั ล ได้ แ ก่ นางไพรแพรว รั ก ษ์ ศี ล ขั น ธ์ ลู ก ค้ า ธ.ก.ส.สาขาบึ ง กาฬ และ นางณี พระคุ ณ ละ ลู ก ค้ า ธ.ก.ส.สาขาศรี วิ ไ ล ส� ำ หรั บ โชคครั้ ง ที่ 3 ธนาคารจะสุ ่ ม จั บ คู ป องบั ต รของผู ้ ที่ พ ลาดโอกาส เพื่ อ จั บ รางวั ล ระดั บ ประเทศอี ก ครั้ ง หนึ่ ง ในวั น ที่ 16 มี น าคม 2562 นี้ รวมมู ล ค่ า ของรางวั ล หลายล้ า นบาท สอบถามข้ อ มู ล เพิ่ ม เติ ม ได้ ที่ ธ.ก.ส. ทุ ก สาขา

จัดนิทรรศการในงานวันยางพารา จังหวัด บึงกาฬ ปี 2562

ส� ำ นั ก งาน ธ.ก.ส. จั ง หวั ด บึ ง กาฬ ได้ เ ข้ า ร่ ว มจั ด นิ ท รรศการในงาน วั น ยางพารา จั ง หวั ด บึ ง กาฬ ปี 2562 เมื่ อ วั น ที่ 13-19 ธั น วาคม 2561 เพื่ อ ให้ ค วามรู ้ ด ้ า นสิ น เชื่ อ และผลิ ต ภั ณ ฑ์ ต ่ า งๆ ของธนาคาร พร้ อ มทั้ ง ให้ ค� ำ แนะน� ำ โครงการต่ า งๆ ตามนโยบายของรั ฐ ที่ ธ นาคารได้ รั บ มอบหมายจากรั ฐ บาล

งานวันเด็ก ประจ�ำปี 2562

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ทุกสาขาในจังหวัด บึ ง กาฬ ได้ จั ด กิ จ กรรมงานวั น เด็ ก แห่ ง ชาติ ประจ� ำ ปี 2562 ในวั น ที่ 12 มกราคม 2562 โดยมี กิ จ กรรมมากมายส� ำ หรั บ เด็ ก ๆ และรั บ ของ ที่ ร ะลึ ก สุ ด น่ า รั ก ส� ำ หรั บ น้ อ งๆ เด็ ก ๆ ที่ น� ำ เงิ น มาฝากในงาน

CHACHOENGSAO I SBL บันทึกประเทศไทย

. . .

2

.indd 7

7

27/2/2562 17:26:01


Let’s Go Thailand With SBL บันทึกประเทศไทย

HISTORY OF THE PROVINCE

TOURIST ATTRACTIONS SBL บันทึกประเทศไทย

Let's go thailand.indd 8

www.sbl.co.th SBL MAGAZINE

THE VILLAGERS IN THE PROVINCE SBL บันทึกประเทศไทย

. - 04/03/2562 17:21:44 PM


2.indd 999

3/8/2561 9:24:03


EDITOR’S TALK Akkarapong Sillaparungson

SBL

บั น ทึ ก ประเทศไทย ฉบั บจั ง หวั ด บึ ง กาฬ บึ ง กาฬเป็ น จั ง หวั ด ที่ มี ศั ก ยภาพ หลากหลายด้าน ที่โดดเด่นอย่างยิ่งคือ ด้ า นการเกษตร เนื่ อ งจากมี ก ารปลู ก ยางพารามากที่ สุ ด ในภาคตะวั น ออก เฉียงเหนือ และเป็นอันดับที่ 8 ของประเทศ ด้ า นท� ำ เลที่ ตั้ ง บึ ง กาฬเป็ น ประตู เ ชื่ อ ม การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวกับ กลุ่มประเทศอาเซียน และจีนตอนใต้ ได้ เป็ น อย่ า งดี อี ก ทั้ ง ยั ง เป็ น จุ ด ก่ อ สร้ า ง สะพานข้ า มแม่ น�้ ำ โขงแห่ ง ที่ 5 เชื่ อ ม บึงกาฬ-ปากซัน(สปป.ลาว) ด้านสังคม วัฒนธรรม ประเพณี สังคมของชาวบึงกาฬ มีความสงบสุข น่าอยูอ่ าศัย และน่ามาเยือน ด้วยว่ามีพระอริยะสงฆ์หลายรูปทีม่ ชี อื่ เสียง และเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนทุกคน บึงกาฬมีเสน่หด์ า้ นการท่องเทีย่ วทีห่ ลายๆ จั ง หวั ด ในภาคอี ส านไม่ มี ไม่ ว ่ า จะเป็ น แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมะที่ส�ำคัญ ซึ่ ง พุทธศาสนิกชนหลายๆ ท่าน ปรารถนา ที่จะเดินทางมาแสวงบุญ มีสภาพป่าเขา

อันอุดมสมบูรณ์และเป็นต้นก�ำเนิดของ น�ำ้ ตกทีส่ วยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หลายแห่ง เป็นต้น ในนามของนิตยสาร SBL ผมรู้สึกดีใจ อย่ า งยิ่ ง ที่ ไ ด้ ร ่ ว มเป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ในการ ประชาสัมพันธ์จังหวัดน้องสุดท้องของ ประเทศไทยนี้ ให้ชาวไทยได้รจู้ กั กันมากขึน้ จึงขอถือโอกาสนีข้ อบพระคุณผูว้ า่ ราชการ จังหวัดบึงกาฬ นายนิรตั น์ พงษ์สทิ ธิถาวร และนายธวัชชัย ศรีทอง รองผู้ว่าราชการ จังหวัดบึงกาฬ ผู้เป็นก�ำลังส�ำคัญในการ พัฒนาจังหวัดบึงกาฬให้เจริญก้าวหน้า เข้มแข็งและยัง่ ยืน นายธวัฒชัย ทองสุกนอก ผู้อ�ำนวยการ ส�ำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดบึงกาฬ นายนิพัฒน์ พรเรืองวงศ์ ท้ อ งถิ่ น จั ง หวั ด ฯ และนางบ� ำ เพ็ ญ พร สุ ริ ย กมล ท่ อ งเที่ ย วและกี ฬ าจั ง หวั ด ฯ รวมถึงหน่วยงานราชการ องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น องค์กรศาสนา และบริษัท ห้างร้านต่างๆ ที่ได้ร่วมผนึกก�ำลังในการ ประชาสัมพันธ์ครั้งนี้อย่างดียิ่ง

อัคราพงษ์ ศิลปรังสรรค์

บรรณาธิการอ�ำนวยการ นิตยสาร SBL บันทึกประเทศไทย

บริษัท สมาร์ท บิซิเนส ไลน์ จ�ำกัด 9/4-6 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ 10220 โทร. 0-2522-7171 แฟกซ์. 0-2971-7747 FACEBOOK : SBL บันทึกประเทศไทย

Editor's talk .

.indd 10

EMAIL : sbl2553@gmail.com

Website

Facebook

. - 06/03/2562 10:08:25 AM


BUNG KAN SBL MAGAZINE 2019

คณะผู้บริหาร

นิตยสาร SBL บันทึกประเทศไทย

คณะที่ปรึกษา ศ.ดร.กฤช เพิ่มทันจิตต์ พลเอกสรชัช วรปัญญา ดร.นิเวศน์ กันไทยราษฎร์ ดร.ประยุทธ คงเฉลิมวัฒน์ ดร.ชาญ ธาระวาส ดร.สุมิท แช่มประสิท ดร.วัลลภ อารีรบ ดร.พิชัย ทรัพย์เกิด ดร.ไอศูรย์ ดีรัตน์ ดร.สุเทษณ์ จันทรุกขา ดร.อรรถสิทธิ์ ตันติวิรัชกุล

บรรณาธิการอ�ำนวยการ อัคราพงษ์ ศิลปรังสรรค์ บรรณาธิการงานบุคคล พงษ์ศักดิ์ พรณัฐวุฒิกุล วนัสกฤษณ์ ศิลปรังสรรค์ บรรณาธิการการตลาด ปัณณ์ฐาโชค ธนสานสิทธิโชติ ฝ่ายกฎหมาย สมคิด หวังเชิดชูวงศ์ ทวิช อมรนิมิตร

กองบรรณาธิการ

นิตยสาร SBL บันทึกประเทศไทย

ฝ่ายประสานงานโครงการ ภาครัฐและเอกชน

ผู้จัดการ

จิร โกมลทองทิพย์

คณะทีมงาน

ไพรัตน์ กลัดสุขใส นายมงคล แพร่ศิริพุฒิพงศ์ นายธนิน ตั้งธ�ำรงจิต

ฝ่ายประสานงานข้อมูล

ผู้จัดการฝ่ายประสานงานข้อมูล นันท์ธนาดา พลพวก

ฝ่ายประสานงานข้อมูล

ศุภญา บุญช่วยชีพ นงลักษณ์ เทียมเกตุทวีโชค

นักเขียน

คุณิตา สุวรรณโรจน์

ฝ่ายศิลปกรรม

ผู้จัดการฝ่ายศิลปกรรม พัชรา ค�ำมี

กราฟิกดีไซน์

พิมพ์พิสุทธิ์ พังจูนันท์ วรเชษฐ สมประสงค์ ธีระวัฒน์ ระวาดชัย

ช่างภาพ

ชัยวิชญ์ แสงใส ปณต ปิติจารุวิศาล กิติวัฒน์ ทิศมั่ง วิทยา ประเสริฐสังข์

ตัดต่อวีดีโอ

วัชรกรณ์ พรหมจรรย์ ฝ่ายบัญชี / การเงิน

บัญชี

ปัฐมาภรณ์ แสงบุราณ

ผู้จัดการฝ่ายการเงิน สุจิตรา แดนแก้วนิต

การเงิน

ชวัลชา นกขุนทอง วนิดา ศรีปัญญา

ตลาดต้ อ งชมริ ม โขง

Editor's talk .

.indd 11

www.sbl.co.th

. - 04/03/2562 11:45:11 AM


ฉบับที่ 89 จังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2562

BUENG KAN 2019

CONTENTS

issuu จังหวัดบึงกาฬ “ สัมผัสเสน่ห์ริมฝั่งโขง ” จังหวัดเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์อันน่าหลงใหล เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง มีน�้ำตก ภูเขา แม่น�้ำโขง

74

บันทึกเส้นทางความเป็นมา และท่องเที่ยว

หินสามวาฬ @ภูสิงห์

22

ใต้ร่มพระบารมี “โครงการอ่างเก็บน�้ำบึงโขงหลง อันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ”

จากอ่างเก็บน�้ำบึงโขงหลงสามารถหล่อเลี้ยงชีวิตราษฎรในจังหวัดบึงกาฬ กว่าสี่แสนคน อีกทั้งยังเป็นแหล่งประมงที่ส�ำคัญ

27

SPECIAL INTERVIEW

บันทึกเส้นทางพบผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ

104 104

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร

วัดโพธาราม

44

องค์การบริหารส่วนต�ำบลโนนสมบูรณ์

SPECIAL INTERVIEW

บันทึกเส้นทางพบรองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นายธวัชชัย ศรีทอง

48

107 108

วัดป่าพันล�ำ

110

องค์การบริหารส่วนต�ำบลชัยพร

SPECIAL INTERVIEW

112

นายธวัฒชัย ทองสุกนอก

118

บันทึกเส้นทางพบส�ำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดบึงกาฬ

52

วัดสว่างอารมณ์ (ถ�้ำศรีธน) วัดสุทธิวนาราม

SPECIAL INTERVIEW

บันทึกเส้นทางพบส�ำนักงานท้องถิ่นจังหวัดบึงกาฬ นายนิพัฒน์ พรเรืองวงศ์

.indd 12

4/3/2562 17:05:52


142 124 130

@วัดเจติยาศรีวิหาร(ภูทอก)

@ตลาดต้องชมริมโขง

หินสามวาฬ @ภูสิงห์

146

120

136

144

122

138

146

154

124

140

148

156

130

142

150

วัดสว่างพัฒนา วัดสว่างมีชัย วัดอรัญญานี วัดป่าวิเวกธรรมคุณ

วัดสังฆธรรมาราม องค์การบริหารส่วนต�ำบลศรีชมภู วัดบึงสาราษฎร์

วัดไตรภูมิ วัดศรีบุญเรือง

วัดจิตตภาวันนที

152 .indd 13

องค์การบริหารส่วนต�ำบลบุ่งคล้า

วัดสุทธาวาส

ริมโขงฝั่งเช้า

152

วัดศิลาราษฎร์ วัดอรัญญวิเวก

ภูทอ

วัดเวฬุวัน

158

วัดถ�้ำแสงธรรม

158 6/3/2562 10:20:04


W O R K L IF E

บันทึกเส้นทางพบส�ำนักงาน กศน.จังหวัดบึงกาฬ

สำ�นักงาน กศน.จังหวัดบึงกาฬ “รับรู้ ใส่ใจ ให้โอกาสทางการศึกษาอย่างทั่วถึง” ส�ำนักงาน กศน.จังหวัดบึงกาฬ บริหารงานโดย

ดร.จรูญศักดิ์ พุดน้อย ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงาน กศน. จังหวัดบึงกาฬ และ นายประเวช เหล่าประเสริฐ รองผู้อ�ำนวยการส�ำนักงาน กศน. จังหวัดบึงกาฬ

ผลงานที่โดดเด่นในไตรมาสที่ 1 -2 ของปี 2561 ส�ำนักงาน กศน.จังหวัดบึงกาฬ ได้รับนโยบายจากรัฐมนตรี ในการช่วยเหลือและติดตามประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบ การศึกษา ทีม่ ชี ว่ งอายุ 3-18 ปี โดยจังหวัดบึงกาฬ มีจำ� นวนประชากร วัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษา จ�ำนวน 9,145 คน โดยแบ่ง เป็นช่วงอายุ 3-14 ปี จ�ำนวน 2,896 คน 15-18 ปี 3,815 คน และอายุมากกว่า 18 ปี จ�ำนวน 2,434 คน โดยได้มอบหมาย ให้กับ ครู กศน.ต�ำบล และเจ้าหน้าที่ ที่รับผิดชอบที่อยู่ในพืน้ ที่ ทัง้ 53 ต�ำบล ได้ดำ� เนินการส�ำรวจข้อมูล ทัง้ 9,145 คน โดย ส�ำนักงาน กศน.จังหวัดบึงกาฬ มีรูปแบบและแนวทาง ในการเก็บข้อมูล และด�ำเนินการช่วยเหลือดังนี้

แนวทางการด�ำเนินงาน กศน. บึงกาฬ

ดร.จรู ญ ศั ก ดิ์ พุ ด น้อ ย

ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงาน กศน. จังหวัดบึงกาฬ

1. การส�ำรวจและจัดเก็บข้อมูลโดยครู กศน.ร่วมกับผู้น�ำ ท้องที่ ผู้น�ำท้องถิ่น โดยใช้กลยุทธ์ “เคาะประตูบ้าน รุกถึงที่ ลุยถึงถิ่น” 2. วิเคราะห์ข้อมูลประชากรเบื้องต้นแบ่งออกเป็น 11 กลุ่ม โดยการสัมภาษณ์ข้อมูลในพื้นที่จริง 3. เน้นการด�ำเนินงานแบบบูรณาการภารกิจในพื้นที่ร่วมกัน กับหน่วยงานสังกัดส�ำนักงาน กศน. 4. ลงทะเบี ย นเรี ย นการศึ ก ษานอกระบบกั บ สถานศึ ก ษา สังกัดส�ำนักงาน กศน. 5. ส่งต่อข้อมูลในการร่วมกันจัดการศึกษาให้กบั สถานศึกษา สังกัด สพป. สพม. อาชีวะศึกษา เพื่อด�ำเนินการต่อไป 6. ก�ำกับ ติดตาม และรายงานผลอย่างต่อเนื่อง

ติดต่อสอบถามได้ที่ 14

.

2

ส�ำนักงาน กศน. จังหวัดบึงกาฬ ที่อยู่ : 456 ม.1 ถ.บึงกาฬกลาง-บึงสวรรค์ ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ โทรศัพท์ : 042492733

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 14

4/3/2562 13:34:33


สภาพปัญหาและผลการส�ำรวจ

สภาพปัญหา

3-14 ปี 15-18 ปี 18>ปี

รวม

ร้อยละ

1,009

284

145

1,438

15.72

[2] ไปเรียนต่างประเทศ

460

115

30

605

6.62

[3] ไม่มีตัวตนในพื้นที่(ย้ายไปอยู่ที่อื่น เป็นระยะเวลานาน ไม่สามารถติดตามได้)

470

366

138

974

10.65

[4] เด็กพิการ

174

91

22

287

3.14

[5] เด็กปกติที่ไม่ได้เข้ารับการศึกษาด้วยเหตุผลต่างๆ

391

817

232

1,440

15.75

[6] เด็กออกกลางคัน

147

551

91

789

8.63

[7] จบการศึกษาภาคบังคับ ม.3

82

863

308

1,253

13.70

[8] จบการศึกษา ม.ปลาย ปวช. หรือ เทียบเท่า

0

247

915

1,162

12.71

[9] เสียชีวิต

87

95

33

215

2.35

[10] ด�ำเนินการแล้วพร้อมส่งต่อ

76

230

46

352

3.85

[11] อายุ 18 ปีขึ้นไป

0

156

474

630

6.89

2,896

3,815

2,434

9,145

100.00

[1] ไปเรียนในสถานศึกษาภายในประเทศ ที่ไม่มีฐานข้อมูลนักเรียน

รวม

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

.

2

.indd 15

15

27/2/2562 17:16:32


W O R K L IF E

บันทึกเส้นทางพบส�ำนักงานปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ

สำ�นักงานปศุสัตว์ จังหวัดบึงกาฬ วิสัยทัศน์ เป็นองค์กร น�ำและขับเคลื่อนการพัฒนา อาชีพด้านปศุสัตว์ สู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน พันธกิจ 1. จัดท�ำแผนยุทธศาสตร์โครงการ/แผนงาน และงบประมาณที่ ได้รับให้สอดคล้องกับแผนงาน/โครงการของจังหวัด/กลุ่มจังหวัด/ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเพิ่มศักยภาพงานด้านปศุสัตว์ 2. พัฒนาระบบเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกัน และบ�ำบัดโรคสัตว์ ให้ได้มาตรฐานการบริหารสู่ไทยแลนด์ 4.0 3. ยกระดั บ คุ ณ ภาพสิ น ค้ า ปศุ สั ต ว์ ใ ห้ ไ ด้ ม าตรฐาน เพื่ อ สร้ า ง ความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค 4. พัฒนาและส่งเสริมอาชีพด้านการปศุสัตว์สู่มาตรฐานสากล ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 5. ควบคุม ก�ำกับ ดูแล และบังคับใช้กฎหมายของกรมปศุสัตว์ ให้เป็นไปตามระเบียบและข้อบังคับที่ก�ำหนด

นายสัต วแพทย์ ดร.สมพร พรวิเศษศิริกุล ปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ

บุคลากร

ข้าราชการ 18 คน ลูกจ้างประจ�ำ 1 คน พนักงานราชการ 7 คน จ้างเหมาบริการ 25 คน รวมทั้งสิ้น 51 คน

ปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ และหัวหน้ากลุ่มฝ่าย

ปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ หัวหน้ากลุ่มฝ่ายและปศุสัตว์อ�ำเภอ

ส�ำนักงานปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ 16

ตั้งอยู่ที่ 471 หมู่ 1 ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ 38000 โทร. 042-492734-5 โทรสาร. 042-492735 : pvlo_bkr@dld.go.th : http://pvlo-bkr.dld.go.th/index.php/th/

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

1

.indd 16

27/2/2562 17:11:22


สำ�นักงานโยธาธิการ

และผังเมืองจังหวัดบึงกาฬ “เป็นองค์กรแกนน�ำของประเทศในด้านการผังเมือง การพัฒนาเมือง และการอาคารให้มีความน่าอยู่ ปลอดภัย รักษาสภาพแวดล้อม ประหยัดพลังงานและมีอัตลักษณ์”

ส� ำ นั ก งานโยธาธิ ก ารและผั ง เมื อ งจั ง หวั ด บึ ง กาฬ ตั้ ง อยู ่ ที่ ศาลากลางจังหวัด ชัน้ 3 บ.ท่าไคร้ ถ.บึงกาฬ-นครพนม ต.บึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ 38000

นายอนุชา เจริญพันธ์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดบึงกาฬ

พันธกิจ 1. สนับสนุน ก�ำหนด ก�ำกับ และพัฒนาปรับปรุงให้งานผังเมือง และโยธาธิ ก าร มี ม าตรฐานวิ ช าการ ที่ ส ามารถสนองต่ อ ความต้องการทางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนา อย่างยั่งยืน 2. สร้างการมีส่วนร่วมกับภาครัฐและประชาชน ในการวางแผน การด�ำเนินการพัฒนาเมือง ท้องถิ่น และชุมชน 3. พัฒนา ปรับปรุง ส่งเสริมธรรมาภิบาลและประสิทธิภาพ การบังคับใช้กฎหมาย การใช้ประโยชน์ทดี่ นิ การผังเมืองและโยธาธิการ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน

ค่านิยม

• • • • • •

มีจิตสาธารณะ กล้ายืนหยัดท�ำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่เลือกปฏิบัติ ซื่อสัตย์และมีความรับผิดชอบ โปร่งใส ตรวจสอบได้ มุ่งสัมฤทธิ์ผลของงาน

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส�ำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดบึงกาฬ โทรศัพท์ 0-4249-2495-6 โทรสาร 0-4249-2495

PRACHINBURI I SBL บันทึกประเทศไทย

1

.indd 17

17

4/3/2562 13:36:29


W O R K L IF E

บันทึกเส้นทางพบศูนย์การศึกษาพิเศษประจ�ำจังหวัดบึงกาฬ

ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำ�จังหวัดบึงกาฬ สังกัดส�ำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจ�ำจังหวัดบึงกาฬ สังกัดส�ำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ส� ำ นั ก งานคณะกรรมการการศึ ก ษาขั้ น พื้ น ฐาน กระทรวงศึ ก ษาธิ ก าร มี บ ทบาทหน้ า ที่ ในการจัดส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษา ในลักษณะให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่ม และเตรียมความพร้อมส�ำหรับเด็กพิการตั้งแต่แรกเกิด หรือแรกพบความพิการส�ำหรับ เด็กพิการทุกประเภทในจังหวัดบึงกาฬ ปั จ จุ บั น ศู น ย์ ก ารศึ ก ษาพิ เ ศษ ประจ� ำ จั ง หวั ด บึ ง กาฬ ตั้ ง อยู ่ เ ลขที่ 221 หมู ่ 3 บ้านหนองแวง ถนนบึงกาฬ-หนองคาย ต�ำบลวิศิษฐ์ อ�ำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ

วิสัยทัศน์

“ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจ�ำจังหวัดบึงกาฬ เป็นศูนย์เตรียมความพร้อมเด็กพิการในระยะ แรกเริ่ม พร้อมทั้งให้บริการทางการศึกษาพิเศษ และพั ฒ นาคุ ณ ภาพชี วิ ต คนพิ ก าร โดยการมี ส่วนร่วมของครอบครัว ชุมชน และสังคม”

นายดาวเทีย ม บับที ผู้อ�ำนวยการ

หลักฐานการสมัครเข้ารับบริการ

ผู้ขอรับการบริการจากศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจ�ำจังหวัดบึงกาฬ จะไม่เสียค่าบริการใดๆ ทัง้ สิน้ เพียงแต่น�ำหลักฐานต่างๆ ประกอบการสมัครเพื่อ เข้ารับบริการ ดังนี้ 1. ส�ำเนาสูติบัตร 2. ส�ำเนาทะเบียนบ้าน 3. รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว จ�ำนวน 2 รูป 4. บัตรประจ�ำตัวคนพิการ (ถ้ามี) 5. เอกสารรับรองความพิการ (ถ้ามี)

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 18

ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจ�ำจังหวัดบึงกาฬ โทรศัพท์ 042-490649 โทรสาร 042-490650 เว็บไซต์ www.bksped.com Facebook : ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจ�ำจังหวัดบึงกาฬ / ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ : buengkan_se@hotmail.com

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

1

.indd 18

4/3/2562 13:41:01


แขวงทางหลวงชนบท บึงกาฬ “พัฒนา เพิ่มคุณค่า เติมต่อโครงข่ายทางให้สมบูรณ์ อย่างพอเพียงและยั่งยืน เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน” (Perfect the national road networks on a sustainable basic for the happiness and welfare of the people)

นายอนุชิต ดีชัยทน

ผู้อ�ำนวยการแขวงทางหลวงชนบทบึงกาฬ

คื อ วิ สั ย ทั ศ น์ ข องแขวงทางหลวงชนบทบึ ง กาฬ ส� ำ นั ก งาน ทางหลวงชนบทที่ 15 (อุด รธานี) ซึ่งก่อตั้งขึ้น เมื่อปี 2554 พร้อมกับ จั ง หวั ด บึ ง กาฬ ที่ เ ป็ น จั ง หวั ด ล� ำ ดั บ ที่ 77 ของประเทศ โดยตั้ ง อยู ่ เลขที่ 121 หมู ่ ที่ 3 บ้ า นโคกงาม ต� ำ บลโนนสมบู ร ณ์ อ� ำ เภอเมื อ ง จั ง หวั ด บึงกาฬ 38000 ปัจ จุบันมี นายอนุชิต ดีชัยทน ด�ำรงต�ำแหน่ง ผู ้ อ� ำ นวยการแขวงทางหลวงชนบทบึงกาฬ

ภารกิจหลัก 1. วางแผนส�ำรวจ ออกแบบ ตรวจสอบและวิเคราะห์ ทางวิศวกรรมเกีย่ วกับงานก่อสร้าง งานบ�ำรุงทางหลวงชนบท งานอ�ำนวยความปลอดภัยทางหลวงชนบท 2. วางแผนและด� ำ เนิ น การก่ อ สร้ า ง และบ� ำ รุ ง รั ก ษา โครงข่ายทางหลวงชนบท 3. ด� ำ เนิ น การวิ เ คราะห์ แ ละวิ จั ย ทดสอบตรวจสอบ วัส ดุแ ละคุณภาพงานก่อสร้าง งานบ�ำรุงรักษาทางหลวง ชนบท และให้บ ริก ารแก่องค์ก รปกครองท้อ งถิ่น 4. วางแผนและบริหารงานซ่อมบ�ำรุงรักษาเครื่องจักรกล และยานพาหนะ 5. ด� ำ เนิ น การเกี่ ย วกั บ การอนุ ญ าตตามกฎหมายว่ า ด้วยทางหลวง 6. ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของ หน่วยงานอื่น ที่เกี่ยวข้องหรือได้รับ มอบหมาย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทรศัพท์ : 0-4249-0744 โทรสาร : 0-4249-0745 E-mail : buengkan@drr.go.th

PRACHINBURI I SBL บันทึกประเทศไทย

.indd 19

19

4/3/2562 13:50:33


W O R K L IF E

บันทึกเส้นทางการศึกษา

โรงเรียนบึงกาฬ นักเรียนดี มีความรู้ ก้าวสู่อนาคต คติพจน์โรงเรียน ปญฺญา โลกสฺมํิ ปชฺโชโต (ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก) ปรัชญาโรงเรียน ความรอบรู้ น�ำไปสู่ความส�ำเร็จ

นายศั ก ดาเดช ทาซ้ า ย ผู้อ�ำนวยการโรงเรียนบึงกาฬ

ยืน

โรงเรี ย นบึ ง กาฬ เป็ น โรงเรี ย นขนาดใหญ่ พิ เ ศษ มาตรฐานสากล (World Class Standard School) สั ง กั ด ส� ำ นั ก งานเขตพื้ น ที่ ก ารศึ ก ษามั ธ ยมศึ ก ษา เขต 21 ตั้ ง อยู ่ เลขที่ 211 หมู่ 1 ถนนบึงกาฬ-พังโคน ต�ำบลบึงกาฬ อ�ำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ เปิดท�ำการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2509

20

2

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 20

27/2/2562 16:10:45


โรงเรียนบึงกาฬ มีการจัดหลักสูตรการเรียนการสอน ระดั บ ชั้ น ม.1-ม.6 ตรงตามมาตรฐาน ของหลั ก สู ต ร กระทรวงศึกษาธิการ พร้อมหลักสูตรที่ส่งเสริมทักษะ ผู้เรียนหลากหลายด้าน เช่น - โรงเรียนมาตรฐานสากล - หลั ก สู ต รส่ ง เสริ ม ทั ก ษะด้ า นวิ ท ยาศาสตร์ และ คณิตศาสตร์ - หลักสูตรส่งเสริมทักษะด้านภาษาต่างประเทศ - หลักสูตรส่งเสริมทักษะด้านดนตรี ศิลปะ - โครงการสนับสนุนนักเรียนด้านกีฬา

อีกทั้งยังมีโครงการต่างๆ ที่ช่วยส่งเสริมให้นักเรียน มีความเป็นไทย ปลูกฝังให้เป็นคนดีคนเก่ง มีแหล่งเรียน รูส้ ง่ เสริมทักษะต่าง ๆ อาทิ โครงการ TO BE NUMBER ONE โครงการพฤกษศาสตร์ โครงการ STEM EDUCATION โรงเรียนวิถีพุทธ โครงการโรงเรียน น�ำร่องส�ำนึกพลเมืองดี กิจกรรมส่งเสริมประชาธิป ไตย กิจกรรมค่ายเยาวชนต้นกล้า โรงเรียนต้นแบบการเรียน การสอนภาษาอังกฤษ โรงเรียนศูนย์วิทยาศาสตร์บริดจสโตน ห้องสมุด 3 ดี ห้องคอมพิวเตอร์ทพ ี่ ร้อมต่อ การจัดการเรียนการสอน เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้นักเรียน เป็นคนดี มีความสามารถ ก้าวสู่โลกในวันข้างหน้าได้

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

2

.indd 21

21

27/2/2562 16:10:50


BUENG KAN ต�ำบลบึงโขงหลง อ�ำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ

"โครงการอ่างเก็บน�้ำบึงโขงหลง" อันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ

“โครงการอ่างเก็บน�้ำบึงโขงหลงฯ” เป็นอีกหนึ่งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ ในพระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว ที่ ท รงห่ ว งใยราษฎรในพื้ น ที่ บึ ง กาฬ ซึ่ ง ในอดี ต นั้ น เป็ น อ�ำเภอหนึ่งในจังหวัดหนองคาย ปัจจุบันน�้ำจากอ่างเก็บน�้ำบึงโขงหลงสามารถหล่อเลี้ยง ชีวิตราษฎรในจังหวัดบึงกาฬกว่าสี่แสนคน อีกทั้งยังเป็นแหล่งประมงที่ส�ำคัญ และเป็นพื้นที่ ชุ่มน�้ำโลกที่มาของแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ส�ำคัญของจังหวัดบึงกาฬด้วย พระราชด�ำริ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2520 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ เ สด็ จ พระราชด� ำ เนิ น ไปทอดพระเนตรบริ เ วณที่ จ ะสร้ า งอาคาร บั ง คั บ น�้ ำ ปากห้ ว ยบางบาด และทรงมี พ ระราชด� ำ ริ กั บ อธิ บ ดี กรมชลประทาน และผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เกี่ยวกับงาน ชลประทานว่ าควรพิจารณาวางโครงการพัฒนาบึ ง โขงหลง โดย ก่อสร้างอ่างเก็บน�้ำในเขตพื้นที่อ�ำเภอบึงโขงหลง เพื่อเป็นแหล่งน�้ำ ต้นทุนส�ำหรับช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกและการอุปโภค-บริโภค 22

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

4

.indd 22

26/2/2562 14:23:01


BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

4

.indd 23

23

26/2/2562 14:23:04


รายละเอียดโครงการ บึงโขงหลงเป็นบึงน�ำ้ จืดลักษณะแคบยาว เกิดจากล�ำห้วยหลาย สายไหลมารวมกัน มีความยาวประมาณ 13 กิโลเมตร และความกว้าง ประมาณ 2 กิโลเมตร น�้ำในบึงลึกโดยเฉลี่ยประมาณ 50-100 เซนติ เ มตร โดยมีส่วนที่ลึก ที่สุดประมาณ 6 เมตร บึ ง โขงหลง เป็นส่วนของทีร่ าบน�ำ้ ท่วมถึงของแม่นำ�้ สงคราม น�ำ้ จากบึงไหลลงสู่ แม่น�้ำสงครามก่อนออกแม่น�้ำโขง มีเกาะกลางบึง ได้แก่ ดอนแก้ว ดอนโพธิ์ ดอนน่อง ดอนสวรรค์ มีป่าดิบแล้งที่ค่อนข้างสมบูรณ์ บนเกาะเหล่ า นี้ มี ก ารก่ อ สร้ า งท� ำ นบกั้ น น�้ ำ เพื่ อ เสริ ม ขอบบึ ง ธรรมชาติ และประตูระบายน�้ำทางด้านใต้ พื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่ ค่อนข้างราบเรียบ พื้นที่ติดกับบึงบางแห่งเป็นลูกคลื่นลอนลาด มีชุมชนเมืองอยู่ตอนล่างของบึง พื้นที่ดินรอบบึงเป็นที่นา

ลักษณะทางการชลประทาน 1. มีท�ำนบดินขนาดกว้าง 3.0 เมตร ยาว 1,270.00 เมตร สูงสุดประมาณ 3.50 เมตร 2. มีอาคารประกอบและระบบส่งน�ำ้ อ่างเก็บน�ำ้ มีพนื้ รับน�ำ้ ฝน 59.30 ตารางกิโลเมตร มีปริมาณฝนตกเฉลี่ยปีละ 1,614.00 มิลลิเมตร ปริมาณน�ำ้ นองสูงสุด 118.60 ลูกบาศก์เมตร ต่อ วินาที ปริมาณน�้ำไหลลงอ่างเก็บน�้ำ 28,042,970.00 ลูกบาศก์เมตร พื้นที่ผิวน�้ำที่ระดับเก็บกัก 9,600,000.00 ตารางเมตร ความจุที่ ระดับเก็บกัก 12,000,000 ลูกบาศก์เมตร ความจุทเี่ ก็บกักปัจจุบนั 8,000,000 ลูกบาศก์เมตร ตัวเขือ่ นมีระดับสันเขือ่ น 165.00 เมตร ระดับสูงสุด 165.00 เมตร ระดับเก็บกัก 163.50 เมตร นายประภาส สมานทรัพย์ ผู้อ�ำนวยโครงการชลประทาน บึงกาฬ กล่าวว่าโครงการอ่างเก็บน�้ำบึงโขงหลง อันเนื่องมาจาก พระราชด�ำริ ได้สร้างขึ้นในปี 2523 และแล้วเสร็จในปีเดียวกัน โดยมีความจุเต็มอยู่ที่ 12 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นแหล่งน�้ำที่ คนพื้นที่นี้ใช้ในการอุปโภค-บริโภค, เพาะปลูก และเลี้ยงสัตว์ รวมถึ ง เป็ น แหล่ ง ระบบนิ เ วศน์ ที่ ดี ข องพั น ธุ ์ ป ลาน�้ ำ จื ด และ นกหลากหลายสายพันธุ์ นี่จึงท�ำให้อ่างเก็บน�้ำบึงโขงหลงแห่งนี้ มีความส�ำคัญมากกับคนในจังหวัดบึงกาฬ ทั้งนี้แหล่งน�้ำแห่งนี้ ในทุกๆ ปีจะไม่ประสบปัญหาขาดแคลนน�้ำ เนื่องจากภูมิประเทศ ของจังหวัดบึงกาฬจะมีฝนตกชุกตลอดทั้งปี นี่จึงเป็นท�ำให้ที่นี่ไม่มี ผลกระทบในช่วงหน้าแล้ง 24

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

4

.indd 24

26/2/2562 14:23:08


องคมนตรีติดตามผลการด�ำเนินการ

วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2558 นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี พร้อมด้วยคณะลงพื้นที่ อ่างเก็บน�้ำบึงโขงหลง บ้านดอนกลาง หมู่ที่ 1 ต�ำบลบึงโขงหลง อ�ำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ เพื่อติดตามการด�ำเนินงานโครงการอ่างเก็บน�้ำ บึงโขงหลง อันเนือ่ งมาจากพระราชด�ำริ และเยีย่ ม ชมพื้นที่รับประโยชน์ของเกษตรกรจากโครงการ ดังกล่าว โดยมีนายเทวัญ สรรนิกร รองผูว้ า่ ราชการ จังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ อ่างเก็บน�้ำบึงโขงหลงเป็นแหล่งน�้ำต้นทุน เพือ่ การเพาะปลูกและเกษตรกรรมรอบอ่างเก็บน�ำ้ และด้านท้ายอ่างเก็บน�้ำ ทั้งนี้มีศักยภาพสูงสุด สามารถส่งน�ำ้ ให้แก่พนื้ ทีเ่ พาะปลูกได้อย่างเต็มทีถ่ งึ 2,000 ไร่ ทั้งฤดูฝนและฤดูแล้งและเป็นแหล่งน�้ำ ต้นทุนส�ำหรับการท�ำน�้ำประปาชุมชนโดยรอบ จ�ำนวน 18 หมู่บ้าน เป็นแหล่งประมงที่ส�ำคัญ เป็นแหล่งท่องเที่ยวดูนกน�้ำจ�ำนวนนับพันๆ ตัว ที่ อ พยพในฤดู ห นาว มี ทั ศ นี ย ภาพที่ ส วยงาม อีกทั้งเป็นพื้นที่ชุ่มน�้ำโลก ซึ่งเป็นที่มาของแหล่ง ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การบริหารจัดการน�้ำและการเกษตร มีการ จัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น�้ำ โดยยกระดับจากกลุ่มพื้นฐาน เป็นกลุม่ บริหาร ในปี พ.ศ. 2557 โดยมี ผูใ้ หญ่บา้ น บ้านดอนกลาง (นายสมภาร นาชัย ) เป็นประธาน กลุ่มผู้ใช้น�้ำ ปัจจุบันมีสมาชิก จ�ำนวน 70 คน เป็ น พื้ น ที่ ท� ำ การเกษตรด้ า นท้ า ยน�้ ำ โดยการ ปลูกข้าว จ�ำนวน 378 ไร่ ในฤดูฝน และ จ�ำนวน 536 ไร่ ในฤดูแล้ง การท�ำนาจะด�ำเนินการในช่วง นาปรังเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากพื้นที่เกษตรกรรม

จะถูกน�้ำท่วมในฤดูฝนจากการเอ่อล้นของน�้ำในล�ำน�้ำเมา ชนิดของพืชที่ท�ำการ เพาะปลูก ได้แก่ ข้าวเหนียว ข้าวจ้าว และข้าวก�่ำ จ�ำแนกเป็น ข้าวเหนียว 320 ไร่ ข้าวจ้าว 200 ไร่ ข้าวก�่ำ 16 ไร่ ก่อนมีโครงการอ่างเก็บน�ำ้ บึงโขงหลงฯ เกษตรกรส่วนใหญ่ทำ� นาปี ท�ำประมง และ ปลูกพืชไร่ เช่น มันส�ำปะหลัง ข้าวโพด เป็นต้น แต่หลังจากมีโครงการฯ เกษตรกร สามารถท�ำการเกษตรได้หลากหลายมากขึน้ และมีผลผลิตทีเ่ พิม่ ขึน้ อาทิ สามารถท�ำ นาปี และนาปรัง บางรายได้หนั มาปลูกพืชเศรษฐกิจ โดยเฉพาะยางพารา โดยเฉพาะ พื้นที่เกษตรกรรมรอบอ่างเก็บน�้ำด้านเหนือน�้ำ ส่วนด้านท้ายน�้ำส่วนใหญ่ปลูกข้าว โดยในเขตพื้นที่ชลประทานจะท�ำนาปีละ 2 ครั้ง พบว่าก่อนมีโครงการฯ เกษตรกร ใช้น�้ำฝนในการท�ำนา ได้ผลผลิตประมาณ 360 กิโลกรัมต่อไร่ หลังจากได้ใช้น�้ำจาก โครงการฯ ผลผลิตเพิม่ ขึน้ เป็น 960 กิโลกรัมต่อไร่ เกษตรกรจึงได้ใช้ประโยชน์จากน�ำ้ ในการท�ำนาปี นาปรัง ขณะทีป่ จั จุบนั ได้เปลีย่ นวิถที ำ� นาจากการใช้สารเคมีเป็นการท�ำนา แบบเกษตรอินทรีย์ปลอดสารพิษ ขอขอบคุณ : ส�ำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

4

.indd 25

25

26/2/2562 14:23:13


แวะเติมพลังงานทั้งรถและคุณได้แล้ว วันนี้ที่ปั๊ม รุ่งธเนศ อ.ปากคาด หจก.รุ่งธเนศ คือผู้ ให้บริการน�้ำมันเชื้อเพลิง และแก๊ ส LPG คุ ณ ภาพเต็ ม ถั ง ภายใต้ ชื่ อ CALTEX ซึ่งเปิดให้บริการมานานกว่าสิบปีใน อ�ำเภอปากคาด คุณจึงไว้วางใจได้ ในคุณภาพและ บริการทีส่ ะดวกและรวดเร็ว โดยเปิดบริการตัง้ แต่ เวลา 04.30-20.30 น. ของทุกวัน หจก.รุ ่ ง ธเนศ ที่ ตั้ ง 52 ม.1 ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ โทร.042-481367, 096-1013833

THE OWL ร้านโปรดคอกาแฟ

THE OWL ร้านกาแฟน่ารัก ๆ ที่ให้บริการกาแฟ ชา และเครื่องดื่มหลากหลาย พร้อมเค้ก และเบเกอรี่รสดีและสดใหม่ทุกวัน เพื่อให้คุณได้ผ่อนคลายอย่างมีความสุข THE OWL เปิดบริการตั้งแต่ 08.00-18.00 น. โทร. 093-3420681 Facebook : The Owl

26

Ad Caltex (

SBL บันทึกประเทศไทย I ฉะเชิงเทรา

.

)1

.indd 26

27/2/2562 16:41:32


BUENG KAN

GOVERNOR สารผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ

จั ง หวั ด บึ ง กาฬในพุ ท ธศั ก ราช 2562 นี้ นั บ เป็ น ปี ที่ 8 แห่ ง การจั ด ตั้ ง เป็ น จั ง หวั ด ซึ่ ง ผมรู ้ สึ ก ยิ น ดี อย่ า งยิ่ ง ที่ ไ ด้ รั บ โปรดเกล้ า ฯ ให้ ม าด� ำ รงต� ำ แหน่ ง ผู ้ ว ่ า ราชการจั ง หวั ดบึ ง กาฬ เป็ น ล� ำ ดั บ ที่ 8 เช่ น กั น แม้หลายๆ คนจะมองว่าบึงกาฬเป็นจังหวัดน้องใหม่และ อยู่ไกลปืนเที่ยง แต่ผมกลับรู้สึกว่านี่เป็นข้อได้เปรียบ อย่างหนึ่งของบึงกาฬ ที่ท�ำให้ผมรู้สึกภาคภูมิใจ ประการแรกคือ บึงกาฬได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวง ของยางพาราแห่ ง ภาคอี ส าน ซึ่ ง ปั จ จุ บั น ภาครั ฐ ได้ แก้ ป ั ญ หายางดิ บ ราคาตกต�่ ำ ด้ ว ยการส่ ง เสริ ม ให้ เกษตรกรสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ยางพารา ตั้งแต่การ ท� ำ เป็ น ยางแผ่นไปจนถึงผลิตภัณ ฑ์หมอนยางพารา คุณภาพดี ซึ่งก�ำลังเป็นที่นิยมในหมู่ชาวจีน ประการ ที่สองบึง กาฬมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูร ณ์ มีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และมีพื้นที่ชุ่มน�้ำติดอันดับโลก ถึ ง สองแห่ง ซึ่งจังหวัดอื่นในภาคอีสานไม่มี เราจึ ง มี อากาศที่บริสุทธิ์และมีอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ น�ำไปสู่การมีสุขภาวะที่ดี อารมณ์ดี และมีอายุยืนยาว ในที่สุด ประการที่สามคือ ชาวบึงกาฬ มีความเอื้อเฟื้อ เผื่ อ แผ่ มี น�้ ำ จิ ต มิ ต รใจ มี ค วามสมั ค รสมานสามั ค คี เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ด้วยมีพระพุทธศาสนาและ พระอริ ย สงฆ์ ที่ มี ชื่ อ เสี ย งหลายองค์ เ ป็ น ศู น ย์ ร วม จิตใจ และประการที่สี่คือ บึงกาฬจะเป็นเส้นทางเชื่อม เศรษฐกิจของภูมิภาคอินโดจีน จากโครงการก่อสร้าง

สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 เชื่อมจากบึงกาฬ-ปากซัน(ลาว) ที่จะเริ่ม ในปี 2562 นี้ หากการก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยกระตุ้นการขยายตัวด้าน เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างไทย ลาว เวียดนาม และจีน

ในโอกาสที่นิตยสาร SBL บันทึกประเทศไทย ได้ลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลและเผยแพร่ ผ่านสือ่ ต่างๆ ทัง้ สิง่ พิมพ์และสือ่ สังคมออนไลน์นี้ ผมขอถือโอกาสนีก้ ล่าวขอบคุณหน่วยงาน ราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ องค์กรศาสนา และบริษทั ห้างร้านต่างๆ ทีไ่ ด้รว่ มเป็น ส่วนหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนได้รับรู้รับทราบเกี่ยวกับบึงกาฬ จังหวัดน้องใหม่ ของเรานี้ได้อย่างดียิ่งขึ้น ซึ่งผมเชื่อว่าเมื่อทุกท่านได้รับทราบแล้ว จะรู้สึกได้ทันทีว่าบึงกาฬ เป็นเมืองทีน่ า่ อยู่ น่าเทีย่ ว และน่าลงทุน

(นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร) ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ

SBL บันทึก ประเทศไทย จั งหวั ดบึ งกาฬ พ.ศ. 2562

17

.indd 27

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

27

28/2/2562 16:38:47


EXCL USIV E INT E R V IE W

บันทึกเส้นทางพบผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ

BUENG KAN

GOVERNOR “เมืองสุขภาพดียังมีอยู่จริงที่บึงกาฬ” ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ

นายนิรัตน์ พงษ์สิท ธิถาวร บึงกาฬ จังหวัดน้องใหม่ที่มีอายุย่างเข้าปีที่แปดในวันนี้ ก�ำลังเป็นที่จับตามอง ในหลายมิติ ทัง้ ด้านเกษตรกรรมทีเ่ ป็นแหล่งปลูกยางพารามากเป็นอันดับหนึง่ ในภาคอีสาน ด้านการบริหารจัดการเมืองทีค่ ว้ารางวัลจังหวัดสะอาดอันดับที่ 2 ของประเทศไทย ด้านการ ท่องเทีย่ วเชิงศาสนาเพราะเป็นเมืองทีพ ่ ระอริยสงฆ์หลายองค์ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ด้านการ ปกครอง ซึง่ ปัจจุบนั มีผวู้ า่ ราชการจังหวัดทีอ่ ายุนอ้ ยทีส่ ดุ เท่าทีเ่ คยปรากฏในท�ำเนียบผูว้ า่ ฯ ทัว่ ประเทศไทย ท่านผูน้ นั้ คือ “นายนิรตั น์ พงษ์สทิ ธิถาวร” ผูว้ า่ ราชการจังหวัดบึงกาฬ คนที่ 8 ได้รบั โปรดเกล้าฯ เมือ่ วันที่ 29 มิถนุ ายน 2561

28

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

17

.indd 28

28/2/2562 16:38:52


EXCLUSIVE INTERVIEW

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

17

.indd 29

29

28/2/2562 16:38:56


EXCLUSIVE INTERVIEW

“ผมรู้สึกภูมิใจอย่างมากที่ ได้มาอยู่เมืองนี้ เพราะว่าบึงกาฬเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมที่โดดเด่น และเป็นเมืองพุทธศาสนา” นิตยสาร SBL ได้รับเกียรติอย่างสูงจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬรุ่นใหม่ไฟแรง ให้สัมภาษณ์ในหลากหลายประเด็น อาทิ ความรู้สึก ที่ท่านมีต่อจังหวัดบึงกาฬ การต่อยอดนโยบายของรัฐบาล แนวทางการบริหารราชการยุคใหม่ การดึงศักยภาพที่โดดเด่นของจังหวัดมาเป็น จุดขาย การแก้ไขปัญหาให้แก่พนี่ อ้ งเกษตรกร และทิศทางทีจ่ ะท�ำให้จงั หวัดบึงกาฬก้าวกระโดดอย่างมัน่ คงและเข้มแข็ง ฯลฯ ซึง่ เมือ่ ทุกท่านได้อา่ นจบแล้ว จะมีความคิดเห็นตรงกันว่า ชาวบึงกาฬโชคดีที่มีผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้มีนามว่า “นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร”

ภูมิใจที่ ได้มาอยู่บึงกาฬ

หลังจากที่ผมรู้ว่าคณะรัฐมนตรีมีมติให้มา ด�ำรงต�ำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ผมมี เวลาเตรียมตัวอยู่เกือบ 2 เดือน มีเวลาที่จะ ท�ำการบ้าน ศึกษาข้อมูลว่าจะต้องมาท�ำอะไรทีน่ ี่ เพราะก่อนหน้านีผ้ มไม่มขี อ้ มูลเกีย่ วกับบึงกาฬ อยูใ่ นหัวเลย เท่าทีไ่ ด้ยนิ มาก็คอื สภาพธรรมชาติ ของที่ นี่ ยั ง อยู ่ ดี ก็ เ ลยต้ อ งท� ำ การบ้ า นกั น อย่างรวดเร็วก่อนจะมาบึงกาฬ เมื่อได้มาอยู่แล้ว ผมรู้สึกภูมิใจอย่างมาก ทีไ่ ด้มาอยูเ่ มืองนี้ เพราะว่าบึงกาฬเป็นเมืองทีม่ ี วัฒนธรรมทีโ่ ดดเด่น และเป็นเมืองพุทธศาสนา ทีม่ พี ระอริยสงฆ์ทมี่ ชี อื่ เสียงเยอะมาก แม้ใครเขา 30

จะบอกว่าบึงกาฬมันไกล เดินทางไกลทีส่ ดุ ใช้เวลา นานที่ สุ ด ซึ่ ง ก็ จริ ง ถ้ า จะเดิ น ทางด้ ว ยรถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้เวลา 11 ชัว่ โมง ถึงหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ Google บอก 11 ชัว่ โมง ซึง่ เหนือ่ ยแล้วแหละ กับการขับรถ น่าจะใช้เวลานาน กว่าไปเชียงใหม่

ถ้าจะเดินทางด้วยเครือ่ งบิน ก็ไม่มสี นามบินทีน่ ี่ และเป็นจังหวัดเดียว ทีม่ สี นามบินล้อมถึง 3 สนาม คือ สนามบินอุดรธานี สกลนคร และนครพนม แต่ระยะทางและระยะเวลาไกลพอๆ กัน คือ ประมาณ 2.30-3 ชั่วโมง แต่ที่อุดรธานีจะ มีเที่ยวบินเยอะที่สุด ทั้งนี้ทั้งนั้นกว่าจะออก จากบึงกาฬไปขึ้นเครื่องบินที่อุดรธานี แล้วไป

ถึ ง สุ ว รรณภู มิ ห รื อดอนเมื อ งเพื่ อ กลั บ บ้ า นที่ กรุงเทพฯ ก็ตอ้ ง ใช้เวลาถึง 6 ชัว่ โมง ถ้าคนจะติ เมืองนี้ ก็แค่เรื่องการเดินทางเท่านั้น เพราะผม มาอยู่แล้วอย่างอื่น ไม่มีอะไรให้ติเลย เมืองนี้ ผมมีความสุขและ ก็พอใจมาก ยกเว้นเรื่องการ เดินทางเท่านั้นที่ ยังเทียบกับใครไม่ได้ แต่จุดนี้ เราจะท�ำอย่างไร ให้คนอื่นเห็นว่า แม้ท่านต้อง เสียเวลามากกับการเดินทางมาบึงกาฬไม่วา่ จะ ด้วยวิธีไหน แต่เมื่อมาถึงแล้วท่านจะได้อะไร ในสิ่งที่ท่านไปเมืองอื่นจังหวัดที่ใกล้กว่า เร็วกว่า สะดวกกว่า เขาไม่มี แต่หลายๆ ประเด็ น

หลายๆ มิติมีที่บึงกาฬ

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

17

.indd 30

28/2/2562 16:38:57


“ผู้บริหารรุ่นใหม่ต้องเน้นการท�ำงานแบบ มีส่วนร่วม การจะไปสั่งทุก ๆ ครั้ง สั่งทุก ๆ รายการ มันคงไม่ใช่ส�ำหรับวันนี้”

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

17

.indd 31

31

28/2/2562 16:39:04


EXCLUSIVE INTERVIEW ผู้ว่าฯ ยุคใหม่ ต้องบริหารแบบมีส่วนร่วม

ถ้าจะบอกว่าผมเป็นผูบ้ ริหารรุน่ ใหม่...มันก็ใช่ ผูบ้ ริหารรุน่ ใหม่ ต้องเน้นการท�ำงานแบบมีสว่ นร่วม การจะไปสัง่ ทุกๆ ครัง้ สัง่ ทุกๆ รายการ มันคงไม่ใช่ส�ำหรับวันนี้ เพราะว่าวิถีชีวิตหรือความเจริญ เติบโตของบ้านเมืองมันเปลี่ยนไป ถนนหนทางมีเยอะขึ้น มีความ หนาแน่นเพิม่ ขึน้ จากเดิมถ้าเทียบกับบึงกาฬในอดีต ซึง่ เมือ่ ก่อนนี้ เราใช้ เ ฉพาะก�ำลัง ของภาคส่ว นราชการ สั่ง แล้ว ก็ท�ำ แต่วันนี้ คงไม่ใช่ จ�ำเป็นต้องมีการท�ำงานแบบมีส่วนร่วม คือจากองค์กร ปกครองส่วนท้องถิน่ ก�ำนัน ผูใ้ หญ่บา้ น แต่ทจี่ ำ� เป็นและต้องขยาย ไปถึงก็คือ ภาคเอกชนและภาคประชาชนต้องเข้ามีส่วนร่วม อย่ า งแรกเลยคื อ การรั ก ษา รั ก ษาสิ่ ง ดี ๆ ของบ้ า นเมื อ ง เพราะถ้ารักษาไม่ได้ ก็ไม่ตอ้ งไปคิดเรือ่ งการพัฒนา แต่ถา้ รักษาได้ เราก็จะพัฒนาให้เดินไปถูกทาง โดยที่พี่น้องประชาชนมีส่วนร่วมได้ ผมสังเกต ไม่ว่าเมืองไหนรวมทั้งเมืองนี้ด้วย อะไรก็ตามที่เรา หยิบยื่นให้เขาอย่างเดียว ไม่ได้ฝึกในเรื่องของการมีส่วนร่วม หรือความรูส้ กึ ว่า อยากได้ และอยากให้มนั อยูน่ านๆ อยากใช้เป็น ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นโครงการหรือสิ่งก่อสร้าง ถ้าเขาไม่รู้สึกมี ส่ ว นร่ ว มหรื อ รู้สึกเป็น เจ้า ของ ระยะเวลาไม่น านไม่ถึงหนึ่งปี ทุกอย่างทุกโครงการเลยแทบจะเสื่อมสภาพ รกร้าง ใช้ประโยชน์ ไม่ได้เสียงบประมาณเปล่าๆ มันไม่คุ้ม ดั ง นั้ น การบริ ห ารราชการจั ง หวั ด สมั ย ใหม่ จึ ง จ� ำ เป็ น ที่ จะต้องคิด เรื่องนี้ให้มาก จะไปบอกว่าปีนี้พัง ปีหน้าสร้างใหม่ ของบใหม่...พูดได้ แต่ในทางปฏิบัติมันเป็นไปไม่ได้ มันจ�ำเป็น จะต้องใช้งบประมาณ ที่เป็นเงินของแผ่นดินให้คุ้มค่าที่สุด และ เมื่อเราได้มาสร้างแล้ว เราต้องใช้ประโยชน์ให้นานที่สุด ไม่ใช่คิด แค่ว่า...มือยาวสาวได้สาวเอา ประเภทฉันรู้จักผู้ใหญ่คนนี้ที่จะ ไปวิ่งเต้นเอางบประมาณมาได้ แต่ผมว่ามันเป็นการเอาเปรียบ ประเทศชาติ ในภู มิ ภ าคอื่ น ๆ จั ง หวั ด อื่ น ๆ ผมไม่ นิ ย ม และก็ บอกพี่น้องประชาชนคนบึงกาฬว่า เราคิดอย่างนั้นไม่ได้ เมื่อเรา มีโอกาสได้งบประมาณมาพัฒนาบ้านเมือง เราต้องช่วยกันรักษา ถนนที่สร้างมานี้ ไม่ใช่ 3 เดือนพัง 1 ปีพัง เพราะว่าเราปล่อย ให้รถหนักมาวิ่ง มันก็ทรุดและก็พังไป เราต้องคิดว่าท�ำอย่างไร ให้ใช้อย่างถูกวิธี เพื่อให้มันอยู่ได้ 5-10 ปี...ได้ไหม ต้องรักษาไว้ ให้นานแล้วก็ใช้ประโยชน์ให้นานที่สุด ไม่ใช่ปีหน้าพังแล้วขอ งบใหม่ ประเทศชาติเราคงอยู่ไม่ได้

“จะต้องใช้งบประมาณที่เป็นเงินของแผ่นดินให้คุ้มค่าที่สุด และเมื่อเราได้มาสร้างแล้ว เราต้องใช้ ประโยชน์ ให้นานที่สุด” 32

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

17

.indd 32

28/2/2562 16:39:09


“ข้าราชการทุกคนต้องส�ำนึกว่าเราเป็นข้าราชการ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราท�ำงานเพื่อรักษาประโยชน์ของแผ่นดิน”

ผมเป็ น คนที่ ใ ห้ ค วามส� ำ คั ญ กั บ การ มองภาพรวมของประเทศ ที่ ท ่ า นรองนายก รัฐมนตรี ดร.สมคิด ท่านใช้ค�ำว่าต้องมองแบบ Holistic คือมองแบบองค์รวม ถ้าเราคิดว่าเรา จะเอาอย่างเดียว ทุกอย่างต้องเข้าเมืองของเรา ผมว่าประเทศเราอยู่ไม่ได้ ในความเป็น ผู้ว่า ราชการจังหวัดต้องคิดถึงเรื่องนี้ให้มากแล้วก็ ต้องบอกพี่น้องประชาชน ถ้าเขามองเฉพาะมิติ เฉพาะเมืองของเขา อ�ำเภอของเขา หรือจังหวัด ของเขา แต่ถา้ ภาคอีสานอยูไ่ ม่ได้ ประเทศไทยก็ อยูไ่ ม่ได้ และจังหวัดก็อยูไ่ ม่ได้เช่นกัน จึงจ�ำเป็น ที่เราจะต้องท�ำให้เขาช่วยกันรักษา ท�ำอย่างไร ที่จะพัฒนาและยืดอายุการใช้ประโยชน์ หรือ ใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่ากับงบประมาณแผ่นดินที่ เสียไปมากที่สุด นีเ่ ป็นต้นความคิดทีว่ า่ เมือ่ มาเป็นผูว้ า่ ราชการ จังหวัด ต้องท�ำอย่างนี้ให้ได้ โครงการหลายๆ อย่างที่คิด ไม่ถี่ถ ้วน ต้องไม่เกิดขึ้นที่บึงกาฬ ถ้ า สร้ า งแล้ ว ใครจะใช้ หลายๆ โครงการ ทั่ ว ประเทศ สร้ า งมาแล้ ว เป็ น อนุ ส าวรี ย ์ . .. จะท�ำไปท�ำไม จับต้องแต่สงิ่ ปลูกสร้าง แต่ความ มีชีวิต ของสิ่งปลูกสร้าง กับความคุ้มค่าของ งบประมาณที่ลงไปนั้น ถามว่าใครเป็นคนใช้ ประโยชน์ ใครเป็นคนบริหารโครงการ ต้องตอบ ให้ได้ แล้วต้องถามด้วยว่าจะท�ำได้ไหม ถ้าท�ำ ไม่ได้เราต้องซ้อมมือกันก่อน เราต้องเรียนรูก้ อ่ น ทีจ่ ะไปใช้ประโยชน์มนั เช่น ขุดสระ...ขุดไปท�ำไม ขุดไปก็ปล่อยให้สวะเต็ม ผักตบชวาเต็มหนอง เต็มบึง แล้วก็รอ...เดี๋ยวรัฐมาช่วย ทั้งๆ ที่เรา ก็นั่งอยู่ริมบึง แต่เราไม่เคยคิดจะท�ำอะไรเลย ความคิดแบบนี้ต้องเปลี่ยนไป และผมก็ ช วนพี่ น ้ อ งประชาชนด้ ว ยเหตุ ด้วยผล ด้วยการพูดดีๆ ไม่เคยสั่งเลย ว่าเรา ต้องมาช่วยกัน เพราะว่าถ้าเราท�ำ ถามว่าใคร ได้ประโยชน์ ที่แน่ๆ เลยคือคนบึงกาฬ เพราะ เราจะได้ประโยชน์ 365 วัน นี้เป็นต้นความคิด และผมก็ ใ ช้ กั บ ทุ ก ๆ มิ ติ ไม่ ว ่ า จะเป็ น เรื่ อ ง สิ่งแวดล้อม เรื่องของการพัฒนาเมือง เรื่องของ การรักษาทรัพยากรธรรมชาติ เรื่องของการ ส่งเสริมอาชีพ เรื่องของการก�ำหนดเป้าหมาย ว่าอีก 5 ปีข้างหน้า บึงกาฬจะเดินไปอย่างไร อีก 10 ปี จะมีอะไร และอีก 20 ปี จะมีอะไร ประมาณนี้ครับ

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

17

.indd 33

33

28/2/2562 16:39:12


EXCLUSIVE INTERVIEW ยึดนโยบายแผ่นดินเป็นแนวทาง

ถ้าถามถึงนโยบายส่วนตัวของผูว้ า่ ฯ ผมบอกว่า

ผมไม่ให้ แต่วา่ ทุกส่วนของราชการ หัวหน้าส่วน ราชการทุกท่าน องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ทั้งหมดต้องดูนโยบายรัฐบาล นายกรัฐมนตรี พูดอะไร...ทุกคนรูห้ รือเปล่าว่าท่านหมายความว่า อะไร เอามาดู แล้วท�ำอย่างไรถึงจะท�ำให้มนั เกิด ผลในทางปฏิบตั ิ รัฐบาลพูดถึงศาสตร์พระราชา รู้จักไหม ศึกษาสิ นี่คือนโยบายในการบริหาร จังหวัด ถามว่าผมคิดไม่เป็นหรือ คงไม่ใช่นะ ผมมาขนาดนี้ไม่ได้...ถ้าผมคิดไม่เป็น แต่มัน ไม่ใช่ว่าเราซึ่งเป็นปัจเจกบุคคล แล้วจะต้อง ให้ ค นทั้ ง จั ง หวั ด มาท� ำ ตามนโยบายของเรา มันใช่หรือไม่ใช่ เพราะผู้ว่าราชการจังหวัดเป็น ผูแ้ ทนของรัฐบาล เป็นผูแ้ ทนของนายกรัฐมนตรี เป็น ผู้แทนของทุกกระทรวง ที่จะเอานโยบาย ของรัฐบาล นโยบายของนายกรัฐมนตรี นโยบาย ของแต่กระทรวง มาปฏิบตั ใิ ห้มนั เกิดผลในพืน้ ที่ จังหวัด ให้มันเหมาะสมกับจังหวัด นี่คือสิ่งที่ ผมบอกเป็นเรือ่ งแรก อย่างทีส่ องคือ ข้าราชการ ทุ ก คนต้ อ งส� ำ นึ ก ว่ า เราเป็ น ข้ า ราชการใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราท�ำงานเพื่อ รักษาประโยชน์ของแผ่นดิน เรารับเงินเดือน จากรัฐบาล เพราะฉะนั้นเราต้องรักษาเกียรติ และความเป็นกลางทางการเมืองให้ได้ ถ้ า คิ ด อย่ า งนี้ ไ ด้ บ้ า นเมื อ งจะอยู ่ ไ ด้ สิ่ ง ที่ พู ด และ บอกไม่ได้หมายความว่าไม่ให้คบกับ ผู้ที่เขามี กิจกรรมทางการเมือง คบได้ครับ อยากให้รู้จัก กันด้วย เพราะว่าอย่างไรเราก็คนไทยด้วยกันทุกคน ก็เป็นประชาชน แต่การคบกับใคร สนิทกับใคร หรือไม่สนิทกับใคร ไม่ใช่ปัญหา แต่อย่าไปใช้ ต�ำแหน่งหน้าทีห่ รืออ�ำนาจหน้าทีใ่ นความรับผิดชอบ ในแต่ละส่วนราชการของตนนัน้ ไปอิงหรือไปเอือ้ ประโยชน์ให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมันจะน�ำไปสู่ ความขัดแย้งของประเทศชาติอย่างไม่รู้ จักจบจักสิน้ และสิ่งที่จะตามมาก็คือความศรัทธา ความเชื่อ มัน่ ทีพ่ นี่ อ้ งประชาชนจะมีตอ่ ผูว้ า่ ราชการจังหวัด จะมี ต ่ อ ข้ า ราชการมั น จะเสื่ อ มถอยหายไป ถ้ า ปล่ อ ยให้ ค นแต่ ล ะกลุ ่ ม เอาไปพู ด ได้ ว ่ า ...

“ไฟแดงในเมืองบึงกาฬมีแห่งเดียว ผมไม่ได้อายคนอื่นนะ... จริง ๆ ผมภูมิใจ แต่ผมจะภูมิใจ มากกว่านี้ ถ้าจะท�ำให้มันไม่มีไฟแดง” 34

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

17

.indd 34

28/2/2562 16:39:13


“ผมขอความร่วมมือทุกภาคส่วนว่ามาช่วยกันท�ำบึงกาฬให้สะอาด แรก ๆ ทุกคนก็แปลกใจ ท�ำไมผู้ว่าฯ ไปช่วยกวาดถนน ไปช่วยล้วงท่อระบายน�้ำ”

ผู ้ ว ่ า ฯ คนนั้ น ขอมา หั ว หน้ า ส่ ว นราชการคนนี้ อ ยู ่ ค ่ า ยนี้ ยกตั ว อย่ า ง สมมตินะครับ เราจะเสื่อมเกียรติทันที เมื่อเราพูดอะไรไป คนก็จะไม่ฟัง เราจะบอกให้เขาท�ำแม้บางเรื่องจะเป็นสิ่งดีๆ แต่ถ้าความเชื่อถือศรัทธา ไม่มีอยู่แล้ว มันก็ไม่มีน�้ำหนักที่จะไปบอกให้ใครเขาท�ำ แต่ถ้าเรารักษาเกียรติ ของเราได้ รั ก ษาจุ ด ยื น ของเราที่ เ ราเป็ น ข้ า ราชการ ที่ เ ราจะท� ำ งาน เพื่อแผ่นดิน ท�ำตามนโยบายรัฐบาล ใครมาเป็นรัฐบาลก็คือเราก็ต้องท�ำ ตามนโยบายรัฐบาลนั้น แต่ใ นมิติของการแข่ง ขันทางการเมืองต่างๆ เราต้ อ งไม่ เ ข้ า ไปยุ ่ ง เกี่ ยว อย่ า งเอนเอี ย งเพื่ อ ประโยชน์ ถ้ า เราท� ำ ได้ ไม่ว่าใครเขาก็จะให้ความเชื่อถือและศรัทธา แม้กลุ่มการเมืองเองก็ตาม เราไม่ช่วยเขา เขาไม่ว่าหรอกครับ แต่เราอย่าไปช่วยฝั่งอื่นมาถล่มเขา นี่คือสิ่งที่ผมพยายามบอกคนทุกกลุ่ม ทุกภาคส่วนในบึงกาฬ ผมบอกว่า นี่ คื อ สิ่ ง ที่ ดี แ ละยั่ ง ยื น ที่ สุ ด ไม่ มี ใ ครโกรธผม ไม่ ว ่ า เป็ น คนกลุ ่ ม ไหน นั ก การเมื อ งกลุ ่ ม ไหน เพราะผมคบได้ กั บ ทุ ก บ้ า น คบได้ กั บ ทุ ก กลุ ่ ม แต่เราจะไม่คบกันเพื่อที่จะเอาต�ำแหน่งหน้าที่ของเราไปช่วยกลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง และเอนเอียงกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ช่วยเขาในทางที่ไม่ถูกต้อง

เราจะไม่ท�ำ แล้วถ้าเรารักษาแบบนี้ได้ เราก็ชวนให้ข้าราชการทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นระดับจังหวัด อ�ำเภอ เทศบาล อบต. ท่านสวมหมวกของ ความเป็นข้าราชการ ท่านต้องรักษาประโยชน์แผ่นดิน ถ้าท่านท�ำได้... ความศรัทธาจะมา และรับรองว่ากลุ่มการเมืองไม่โกรธ เพราะอย่างน้อย ก็ไม่ได้ท�ำร้ายกัน แล้วเราค่อยเดินไปสู่การบริหารราชการจังหวัดตาม นโยบายรั ฐ บาลได้ แต่ ถ ้ า เรารั ก ษาจุ ด ยื น นี้ ไ ม่ ไ ด้ ท� ำ ให้ มั น เกิ ด ภาพ ว่ า เราเป็ น คนของกลุ ่ ม นั้ น กลุ ่ ม นี้ ถ้ า ความเป็ น ข้ า ราชการเสื่ อ มแล้ ว อย่าไปคิดว่าจะพัฒนาบ้านเมือง เพราะพัฒนาอะไรไป ก็จะถูกถามว่า... ท�ำเพื่อใคร ค�ำถามนี้จะเกิด แต่ถ้าเราท�ำให้เขาเห็นว่าเราท�ำงานราชการ ด้ ว ยความเป็ น ข้ า ราชการของแผ่ น ดิ น รั ก ษาประโยชน์ ใ ห้ แ ผ่ น ดิ น ท�ำประโยชน์ให้พี่น้องประชาชน นโยบายการเมืองไหนมา ถ้ามันดีเราท�ำ พี่น้องประชาชนก็จะเชื่อถือและศรัทธาเองว่าเราเป็นข้าราชการมืออาชีพ แบบนีเ้ ราถึงจะคิดพัฒนาบ้านเมืองได้ เป็นมิตขิ องผูว้ า่ ราชการจังหวัดและ ข้าราชการทุกกลุ่มทุกระดับที่ท�ำงานในจังหวัดบึงกาฬ

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

17

.indd 35

35

28/2/2562 16:39:13


EXCLUSIVE INTERVIEW

“จุดขายของเราก็คือธรรมชาติสะอาดที่บริสุทธิ์ 3 อา-อาหาร อากาศ อารมณ์ ยังมีอยู่จริงใน ประเทศไทยที่บึงกาฬ”

บึงกาฬ...เมืองดินด�ำน�้ำชุ่ม

บึงกาฬก็เป็นเมืองทีไ่ ม่มอี ะไรในสิง่ ทีเ่ มืองเจริญเขามีกนั เจริญหมายถึง เรื่องโครงสร้างพื้นฐาน เรื่องตึกรามบ้านช่อง เพราะเราไม่ใช่เป็นเมืองที่ เป็นศูนย์กลางทางการคมนาคม แต่ในขณะที่เราไม่มีหลายๆ มิติแบบที่ เมื อ งใหญ่ มี แต่ ผ มก็ บ อกกั บ พี่ น ้ อ งบึ ง กาฬเช่ น กั น ว่ า ที่ บึ ง กาฬ มีเสน่ห์หลายๆ อย่าง ที่เมืองที่ว่าเจริญแล้วเขาไม่มี และไม่มีวันจะมี ไม่จำ� เป็นว่า 76 จังหวัด 76 เมือง กับอีก 1 กรุงเทพมหานคร จะต้องเจริญ เหมือนกัน เจริญในมิตเิ ดียวกัน มีตวั ชีว้ ดั เดียวกัน เช่น มีตกึ สูง 80 ชัน้ ไหม ถ้าบอกว่ากรุงเทพฯ อุดรธานีมี แล้วบึงกาฬต้องมีรึ มันเป็นการพัฒนา ที่ไม่ถูก ที่ไม่จ�ำเป็นต้องเกิดขึ้น เพราะที่บึงกาฬมีอะไรหลายอย่าง เช่น สถานทีท่ อ่ งเทีย่ วทีเ่ ป็นภูตา่ งๆ นีค่ อื สิง่ ทีธ่ รรมชาติสร้างให้อย่างมหัศจรรย์ และก็ไม่มีในจังหวัดอื่นในภาคอีสาน หรือจังหวัดอื่นก็ไม่มีเยอะขนาดนี้ แล้วภาคอีสานเราเคยได้ยนิ ว่ามันแล้ง แต่บงึ กาฬไม่เคยแล้งครับ ปีนฝี้ นตก 3,800 มิลลิเมตร ถ้าท่านไปสุราษฎร์ธานีมาแล้วไปใต้มาแล้ว มีจงั หวัดไหน บ้างฝนตกขนาดนี้ ตกเยอะกว่าภาคใต้ในหลายๆ เมือง ลองไปเทียบกับ 36

ระนองอาจจะใกล้เคียงกัน ปีนี้บึงกาฬอาจจะตกมากกว่าด้วย พายุเข้า 3 ลูก และมันเป็นแบบนีท้ กุ ปี แผ่นดินนีม้ คี วามชุม่ ชืน่ มีความอุดมสมบูรณ์ บึงกาฬมีบึงมีหนองน�้ำที่ขึ้นบัญชี 400 กว่าบึง นี่คือตัวบอกความชุ่มชื่น และความอุดมสมบูรณ์ของบึงกาฬ ซึ่งไม่มีในอีก 19 จังหวัดของอีสาน และอีกหลายๆ จังหวัดของประเทศไทย ไม่ได้มีแบบนี้ เป็นธรรมชาติที่ สร้างมาให้ เราต้องภูมิใจกับสิ่งที่เรามี ไม่ต้องไปเทียบกับอุดรธานี เพราะ ว่าจุดขายต่างกัน อุดรธานีเขาก็ขายของเขา เขาเป็นศูนย์กลาง เป็นฮับของ อีสานเหนือ สนามบินต้องขนาดนี้ แต่จำ� เป็นทีเ่ ราต้องมีสนามบินทันทีไหม อย่าพึ่งรีบ ศึกษาได้ ดูความเหมาะสม ดูความจ�ำเป็น ว่าสร้างแล้วคนจะ มาไหม ต้องถามตัวเองก่อน ผมก็บอกทุกหน่วยทุกภาคส่วนของบึงกาฬ รวมทัง้ ภาคประชาชนว่า เรามีอะไรทีเ่ ป็นจุดขาย เราต้องพัฒนาจุดขายของเรา คืออะไรที่มีอยู่แล้ว ก็ท�ำให้มันน่ามาซื้อ พอน่ามาซื้อ แม้จะไกลแสนไกล วั น นี้ ไ ม่ มี เ ครื่ อ งบิ น คนก็ จ ะมา อย่ า งเช่ น บั้ ง ไฟพญานาค ซึ่ ง จะขึ้ น ที่ หนองคายกับบึงกาฬเท่านั้น จุดขายของแต่ละที่ไม่เหมือนกัน

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

17

.indd 36

28/2/2562 16:39:14


เมืองสุขภาพดีมีจริงที่บึงกาฬ

เมืองที่มีธรรมชาติยังอยู่เกือบ 100% แบบบึงกาฬ ผมว่าหายากมาก หรือหาไม่ได้เลยในประเทศไทย เรานั่งเครื่องบินกันไปถึงประเทศอะไร ที่เราอยากไปดูธรรมชาติ ไปดูภูเขาไฟฟูจิ 5-6 ชั่วโมง ไปท�ำไมแค่ครั้งหนึ่ง ในชีวิต แต่บึงกาฬเป็นอะไรที่ท่านมาได้ทุกปี แล้วที่นี่มี 3 อาครบ 1.อาหารดีมาก ปลาแม่น�้ำโขงท่านกินได้เกือบทุกร้านเลย เป็นปลา ธรรมชาติ เรือ่ งสิง่ แปลกปลอม กินยามาก กินตัวเร่ง ยาฮอร์โมนไม่มี เพราะ ปลาน�้ำโขงไม่ต้องเลี้ยง 2.อากาศที่นี่สูดได้เต็มปอด อาจจะมีกิจกรรมบางอย่างที่บางคนอาจ จะติง เพราะทีน่ มี่ ยี างพาราเยอะ อาจจะมีโรงงานทีค่ วบคุมกลิน่ ได้ไม่ดพี อ ผมก็เข้าไปควบคุมดูแลเพื่อให้อากาศบริสุทธิ์ 100% 3.อารมณ์ดี เมืองนี้ไม่เร่งรีบ ไฟแดงในเมืองบึงกาฬมีแห่งเดียว ผม ไม่ได้อายคนอื่นนะว่าท�ำไมมีไฟแดงเดียว จริงๆ ผมภูมิใจ แต่ผมจะภูมิใจ มากกว่านี้ ถ้าจะท�ำให้มันไม่มีไฟแดงได้ไหม ท�ำให้มันเป็นตัววิ่งสับเลี่ยง กันได้ ยูเทิร์นแบบมีเลนบังคับโดยที่มันไม่ตัดกัน ผมให้การบ้านหน่วย ทางหลวงไว้ แล้วผมจะประกาศว่าเมืองนี้ไม่จ�ำเป็นต้องมีไฟแดง จะบอก ว่าอารมณ์จะดีไม่หงุดหงิด ความเร่งรีบไม่ต้องมี เวลาเดินทางจากไหน ถึงไหนเราก�ำหนดได้ว่าถึงแน่นอนกี่โมง แม้ระยะทางไกลแต่ถึงแน่นอน เมื่อ 3 อาของท่านดี อาหารดี อากาศดี อารมณ์ดี มันก็ไปสู่อาที่ 4 ที่ทุกคนใฝ่ฝัน คือท่านจะอายุยืน อายุขัยเฉลี่ยของคนบึงกาฬสูงขึ้น อันนี้ เป็นตัวเลขของทางคุณหมอบอก ผมมาอยู่ที่นี่ 3 เดือน 2 เดือนครึ่งแรก ฝนตกทุ กวั น พายุเ ข้า ผมก็อ อกไปเยี่ย มประชาชน ออกไปแก้ปัญหา เรื่องต่างๆ ผมตากฝนทุกวัน กลับมาบ้านผมก็ไม่เคยเป็นไข้เป็นหวัด ก็แปลกเหมือนกัน น่าจะป่วยก็ไม่ป่วย เพราะอากาศดีจริงๆ นี่ก็เป็น ตัวบอกว่าที่นี่ไม่เหมือนใคร

“บึงกาฬมีอาชีพหลักคือเกษตรกรรม ยางพาราบึงกาฬปลูกเยอะที่สุด ในภาคอีสาน มีเป็นล้านไร่”

สานต่อนโยบายรัฐบาลเพื่อชาวบึงกาฬ

ตั้งแต่ผมมาอยู่บึงกาฬ นโยบายของรัฐบาลที่ผมท�ำเป็นเรื่องแรกคือ ความเป็นอยู่ รัฐบาลบอกให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดไปสร้างความ เป็นระเบียบเรียบร้อยของเมือง ท�ำให้เมืองสะอาด ซึ่งวันที่ 25 ตุลาคมนี้ เราจะไปรับรางวัลจากคณะนายกรัฐมนตรีในเรื่องของการเป็นจังหวัด สะอาด อันดับที่ 2 ของประเทศ ในกลุ่มจังหวัดขนาดเล็กต่อจากล�ำพูน ไม่มีใครคิดว่าบึงกาฬจะได้ ผมมาอยู่ต้นเดือนกรกฎาคม อยู่ในช่วงใกล้ จะเข้าแข่งขัน ผมขอความร่วมมือทุกภาคส่วนว่ามาช่วยกันท�ำบึงกาฬให้ สะอาด แรกๆ ทุกคนก็แปลกใจ ท�ำไมผูว้ า่ ฯ ไปช่วยกวาดถนน ไปช่วยล้วง ท่อระบายน�้ำ อะไรที่วางเกะกะผู้ว่าฯต้องชวนเก็บ เขาเคยท�ำมาแบบนี้ คนเคยเอาผ้าไปปิดตะแกรงระบายน�้ำบอกกันกลิ่นกันยุง ผมบอกให้เอา ออกให้หมด ไปชวนกันตัดหญ้าชวนกันจัดระเบียบสายไฟ ไปชวนกันท�ำ อะไรเยอะแยะเลย เอาป้ายโฆษณาเถื่อนออก สิ่งที่เขาท�ำมันเกิดผลแทบ จะบัดดล ในเวลา 2 เดือนเท่านั้น ก็เข้าแข่งขันจังหวัดสะอาด แล้วก็ชนะ อันดับ 2 คนบึงกาฬก็แปลกใจกันทั้งเมือง แต่เขาก็คงจะคิดว่าผู้ว่าฯ ก็ เ อาผั ก ชี โ รยหน้ า รึ เ ปล่ า ผมก็ เ ลยบอกว่ า ในเมื่ อ คุ ณ ปลู ก ผั ก ชี กั น ได้ ในรอบเดือน 2 เดือน ผมก็ชวนปลูกทั้งปี หลังน�้ำท่วม ทุกคนคิดว่าเดี๋ยว ผูว้ า่ ฯ ก็สงั่ จัด Big Cleaning Day ล้างขีโ้ คลน เพราะน�ำ้ ท่วม คราบขยะมา ผมบอก 1 Day มันเป็นส่วนหนึง่ ของ 1 Year ถ้าให้ผวู้ า่ ฯ ต้องออกนโยบาย อะไรเพื่อสานต่อนโยบายรัฐบาล ก็คือเรื่องเมืองสะอาด ปีนี้บึงกาฬจะ Big Cleaning Year เราจะท�ำทั้งปี เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ถึงแม้ปีหน้า เราจะได้ อั น ดั บ 2 เท่ า เดิ ม รึ เ ปล่ า ผมไม่ ท ราบ แต่ จ ะต้ อ งอั น ดั บ 2 ที่คนบึงกาฬเห็นความแตกต่างไปจากเดิม ว่ามันสะอาดต่อเนื่องทั้งปี นีค่ อื สิง่ แรกคือเรือ่ งความเป็นอยู่ ถามว่าเขาจะท�ำแบบผมท�ำไม ถนนทุกเส้น เป็นของกรมทางหลวง ทางหลวงชนบท ของเทศบาล ก็ปล่อยให้เขาเก็บกันสิ เมื่อก่อนคนคิดแบบนี้ แต่วันนี้ถนนมันยาวขึ้น มันกว้างขึ้น คนของเขาก็ เท่าเดิม แทนที่เขาจะเก็บได้สัปดาห์ละครั้ง เขาอาจจะเก็บได้เดือนละครั้ง ท� ำ ไมเราไม่ ม าช่ ว ยกั น เอาท้ อ งถิ่ น เข้ า มาช่ ว ยเก็ บ บนถนนของกรม ทางหลวงได้ ไ หม...ได้ ผมจั บมาตกลงกั น ได้ ไม่ ไ ด้ ล�้ ำ อะไรกั น หรอก เอาคนภาคประชาชน เด็กนักเรียนบ้าง คนอยากท�ำความดีเพือ่ แผ่นดินมีเยอะ ประชาชนจิตอาสามีเยอะ ออกมาช่วยกันเก็บอีกสัปดาห์ละครั้งได้ไหม ก็ลองท�ำดู ถามว่าท�ำไปเพือ่ อะไร จะเรียกนักท่องเทีย่ วมาหรือ นัน่ เป็นค�ำถาม จะรอกรรมการมาประกวดหรือ ผมบอกว่านักท่องเที่ยวเขาก็อาจจะมาปี ละครั้งสองครั้ง กรรมการประกวดให้มาตัดสินจังหวัดสะอาดก็อาจจะมา ปีละครั้ง แต่คนที่จะเห็นทุกวันทั้ง 365 วัน คือคนบึงกาฬ ประโยชน์ของ คนบึงกาฬที่ได้แน่ๆ คือ บ้านเมืองที่สะอาด เขียวสดใส ไม่ใช่ว่าทุกเมืองที่ จะท�ำได้ในประเทศไทย เพราะว่าเดีย๋ วนีก้ ารพัฒนามันไปไกลแล้ว การตืน่ ตัวที่จะรักษาสภาพดั้งเดิม สิ่งแวดล้อมดีๆ มันไม่ได้มีทุกเมือง แต่บึงกาฬ ต้องมีตรงนีค้ รับ เพราะจุดขายของเราก็คอื ธรรมชาติสะอาดทีบ่ ริสทุ ธิ์ 3 อา อาหาร อากาศ อารมณ์ ยังมีอยูจ่ ริงในประเทศไทยทีบ่ งึ กาฬ สองเรือ่ งการ ส่งเสริมอาชีพ บึงกาฬมีอาชีพหลักคือเกษตรกรรม 1.ยางพารา บึงกาฬ ปลูกเยอะที่สุดในภาคอีสาน มีเป็นล้านไร่ ไม่มีเยอะเท่าบึงกาฬอีกแล้ว เขากรีดอย่างนี้มา 30 ปีแล้ว แต่เราพยายามในเรื่องของการเปลี่ยนวิธี หลั ง จากกรี ด ได้ แ ล้ ว แทนที่ จ ะให้ เ ขาขายก้ น ถ้ ว ย ภาษาใต้ ห รื อ ตะวันออกเรียกขี้ยาง ซึ่งผมเรียกว่ายางพารา 0.1 มันไม่ใช่ 4.0 นะครับ BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

17

.indd 37

37

28/2/2562 16:39:14


เพราะราคาถอยลงมาเหลือ 20 บาท ณ วันนี้ ท�ำไมไม่ไปท�ำยางแผ่น ท�ำไมไม่ขายน�ำ้ ยาง ทัง้ ยางข้น 40 กว่าบาท เครือ่ งรีดก็มแี ทบทุกสวนไม่ทำ � ผมก็พยายามท�ำความเข้าใจวิถชี วี ติ พีน่ อ้ งประชาชน เขาบอกว่ามีตน้ ทุนสูง มีแรงงานเพิ่มแลยไม่ท�ำ แต่การส่งเสริมก็ต้องเดินต่อไป จนกว่าวันหนึ่ง จะเห็นประโยชน์ของมัน เพราะข้าราชการท้อไม่ได้ การลงทุนเรื่องนี้มีไป เยอะแล้ ว การท� ำ ให้ พี่ น ้ อ งประชาชนเหนื่ อ ยขึ้ น ก็ ย อม ท� ำ ไมภาคอื่ น เขาท�ำได้ ก็คนไทยเหมือนกัน บ้านผมก็ทำ� ยางแผ่น ท�ำมาหลาย 10 ปีแล้ว แต่ ถ ้ า ไม่ ท� ำ แล้ ว เราจะเพิ่ ม มู ล ค่ า ได้ อ ย่ า งไร เมื่ อ ไม่ น านมานี้ ก็ ไ ด้ งบประมาณจากรัฐบาลมา ให้ท�ำโรงงานแปรรูปในนามของกลุ่มเกษตรกรที่ อ�ำเภอเซกา แต่จะเป็นกลุ่มไหนเดี๋ยวว่ากัน จังหวัดสร้างโรงงานให้เอา ยางก้ น ถ้ ว ยเข้ า โรงงานแปรรู ป เป็ น น�้ ำ ยางข้ น กรี ด เสร็ จ น�้ ำ ยางสดไป ส่งโรงงานเลย ให้ไปเป็นน�้ำยางข้น คือชาวบ้านไม่ท�ำเอง ก็โรงงานท�ำให้ เพราะถ้าไปขายน�ำ้ ยางก้นถ้วยมันก็ขายได้เท่านี้ มันมีดมี เี สีย ผมไม่ได้บอก ว่ายางก้นถ้วยมันมีแต่ขอ้ เสีย ดีอย่างเสียหลายอย่าง ก็แล้วแต่จะคิดกันไป แต่ ถ ้ า จะท� ำ ก็ มี ข ้ อ ดี คื อ ราคามั น สู ง ขึ้ น ท่ า นต้ อ งผ่ า นกระบวนการ น�้ำยางข้นให้ได้ แล้วก็มีโรงงานผลิต เช่น หมอน ที่นอนยางพารา ท�ำให้ ดูว่าท�ำไมเราจะท�ำไม่ได้ ประเทศจีนก็ผลิตยางพารา แต่เขามีผลิตภัณฑ์ ทีน่ อนยางพารา หมอนยางพารา สิง่ ประดิษฐ์ยางพาราเยอะแยะ แล้วก็ขาย แพงด้วย ท�ำไมเขาขายได้ นี่คือการสร้างมูลค่า บึงกาฬก็ต้องมาท�ำตรงนี้ เช่นท�ำให้มีมูลค่าสูงขึ้น แล้วที่ผมให้ความสนใจเป็นพิเศษคือ มูลค่าที่ เพิม่ สูงขึน้ นัน้ ตกอยูก่ บั ใคร ถ้าเราเชิญชวนผูป้ ระกอบการโรงงานยางพารา จากทีอ่ นื่ อาจจะเป็นจากภาคใต้มา จากกรุงเทพฯมา หรือจากนักลงทุนจีน มาส่งเสริมการลงทุน ส่วนต่างจาก 20 บาท ที่ขึ้นไปเป็น 40-60 บาท หรือเป็น ผลิตภัณฑ์ ซึ่งหมอนใบเป็นพัน ที่นอน 1 หลังหลายๆ พัน หรือ หลังเป็นหมื่น ตรงนี้ใครได้ ถ้าโรงงานได้หมด แต่ชาวบ้านยังขายยาง ก้นถ้วย ขายขี้ยางได้แค่ 20 บาทเหมือนเดิม ผมก็จะพิจารณาเพิ่มน�้ำหนัก ให้การส่งเสริมชาวบ้านชาวสวนยาง ว่าท�ำอย่างไรที่เขาจะได้ตรงนี้มากกว่า

38

แค่เอายางก้นถ้วยไปขาย แล้วคนรวยคือเศรษฐีอย่างเดียว ผมบอกว่า เศรษฐีไม่ได้ไม่ช่วย ท่านรวยอยู่แล้ว ท่านช่วยตัวเองได้แล้ว ผมอนุมัติ อนุญาตต่างๆ ตามกฎหมายโดยไม่ตุกติก ไม่ดึง ไม่ชะลอ พอแล้ว เพราะ ท่านเดินด้วยตัวเองได้ผมสนับสนุน แต่ว่าการที่จะทุ่มทุนก�ำลังเยอะๆ ไปช่วย ผมขอไปช่วยพี่น้องเกษตรกรดีกว่า ซึ่งจะเป็นคนส่วนใหญ่เป็นหลายแสน คนของบึงกาฬ ท�ำอย่างไรให้เขาได้เพิ่มจาก 20 บาท แต่ถ้าเขามาร่วมกับ กระบวนการแปรรูปเป็นน�้ำยางข้น ก็ได้ถึง 30 บาท หรือ 40 บาทได้ไหม และเมื่ อ ท� ำ แล้ ว จะเห็ น ผลว่ า นี่ คื อ สิ่ ง ที่ รั ฐ บาลท� ำ ให้ พี่ น ้ อ งประชาชน การที่จะไปด่าอะไรกันผิดๆ ว่ารัฐบาลช่วยรึเปล่า ท่านต้องดูตรงนี้ นี่คือ หน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะบอกให้ได้ว่ารัฐบาลช่วยอะไรพี่น้อง ประชาชน เช่น โรงงานที่เกิดขึ้นแทนที่ท่านจะได้ 20 บาท ปล่อยให้มัน เป็นขี้ยาง ไม่ต้องครับ กรีดมาเป็นน�้ำยางท่านเอาใส่ถังเอาไปเข้าโรงงาน ใกล้ๆ บ้านท่าน ราคาจะกลายเป็น 40 บาท หรือกว่านั้น นีค่ อื สิง่ ทีร่ ฐั บาลได้ชว่ ยเหลือพีน่ อ้ งประชาชนคนอีสานคนบึงกาฬครับ จะได้พูดตามข้อเท็จจริง ช่วยก็ยอมรับว่าช่วย ไม่ช่วยค่อยมาบอกกัน แต่อันนี้ คือการช่วยเหลือจากรัฐบาล ท่านต้องยอมรับว่ามันคือเรื่องจริง นี่คือ สิ่งแรกของยางพารา เมื่อสัปดาห์ที่แล้วไปดูถนนลาดยางที่ผสมจาก ยางพาราน�ำ้ ยางข้น ข้าราชการทุกหน่วยทุกฝ่ายมีหน้าทีใ่ ห้ขอ้ มูลทีเ่ ป็นเรือ่ ง จริงแก่พนี่ อ้ งประชาชน ว่าเอาไปท�ำอย่างไรถึงจะมีราคาสูงขึน้ ประชาชนได้ ประโยชน์ รัฐบาลช่วยอะไรมาแล้วบ้างก็ต้องบอก เรามาช่วยกันท�ำให้เกิด ความชืน่ ชมยินดีในสิง่ ทีม่ นั เปลีย่ นแปลงไปในทางทีด่ ขี นึ้ ไม่วา่ จะเป็นระบบ ราชการประจ�ำหรือรัฐบาล เราช่วยกันท�ำกับพี่น้องประชาชนทุกหน่วยใน บึงกาฬ มันเกิดอะไรขึน้ แล้ว หลายๆ ภาคส่วนได้เห็นการเปลีย่ นแปลงแล้ว 2. เรื่องข้าว ข้าวก�ำลังจะออกเดือนพฤศจิกายน ข้าวที่บึงกาฬก็ปลูกมาก เป็นอันดับ 2 รองจากยางพารา เราวางแผนตัง้ แต่ตน้ ฤดู พืน้ ทีป่ ลูกเท่าไหร่ คาดว่าจะได้ผลผลิตเท่าไหร่ เสียไปกับน�้ำท่วมเท่าไหร่ หักลบแล้วเหลือ ปั จ จุ บั น เท่ า ไหร่ ที่ ก� ำ ลั ง ใกล้ จ ะสุ ก แล้ ว จะเก็ บ เกี่ ย วได้ ใ นช่ ว งเดื อ น พฤศจิกายน ดู supply ดู demand มันไม่ต่างกัน ปีนี้ข้าวอาจจะผลิตได้ ไม่พอความต้องการบริโภคภายในจังหวัดก็ได้ มีโอกาสสูง ปริมาณข้าว รวมของประเทศอาจจะผลิตได้ไม่เท่าปีทแี่ ล้วก็ได้ เพราะอีสานเหนือฝนตก น�ำ้ ท่วมเสียหาย ตอนกลางหรือตอนล่างของอีสานฝนน้อย ก็อาจจะมีบาง พื้นที่ที่ผลิตไม่ได้ปริมาณเท่าเดิมก็ได้ ปริมาณต้องลดลง เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราท�ำให้พี่น้องชาวนาก็คือ ข้อมูลวันนี้คืออะไร ท่านจะได้ไม่ต้องถูกปั่นราคาหรือถูกกดราคาจากข้อมูลผิดๆ ผู้ว่าราชการ จังหวัดและส่วนราชการเราท�ำงานเป็นหูเป็นตา ดูสิ่งที่ถูกต้องให้ท่าน วันนีข้ อ้ มูลเป็นแบบนีพ้ นี่ อ้ งไม่ตอ้ งรีบขาย รัฐบาลช่วยอะไรมา 1. ให้เงินช่วย 1,500 บาทแรก เพื่อให้ชะลอการเก็บเกี่ยว คือให้ข้าวได้อายุสูงที่สุด อย่าไปเอาข้าวที่ไม่ได้อายุไปขาย เมื่อเปอร์เซ็นต์ไม่ได้มันก็ถูกกดราคา รอให้ข้าวถึงอายุคุณภาพเต็มร้อยไม่ต้องรีบ 2. เมื่อข้าวได้อายุเต็มร้อย ก็เพิ่มคุณภาพข้าวด้วยการท�ำให้ข้าวแห้งและเก็บไว้ในยุ้ง ไร่หนึ่งจะได้ 1,500 บาท ช่วยให้เฉยๆ เพราะว่าทีท่ า่ นท�ำให้ขา้ วคุณภาพดี รัฐบาลก็ขาย ข้าวได้ง่ายแล้วก็จังหวัดช่วยอะไร ที่นี่โรงสีในจังหวัดเองไม่มีโรงอบจะต้อง ไปอบจังหวัดอื่น ค่าใช้จ่ายสูง บอกไม่ต้อง ช่วงนั้นมันหน้าแล้งหนาวแล้ว

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

17

.indd 38

28/2/2562 16:39:15


แดดดี ตากได้ภายในจังหวัด ผมขอให้ท่านนายอ�ำเภอ นายกเทศมนตรี นายก อบต.ทุกแห่ง ส�ำรวจลานซีเมนต์ หรือเป็นอะไรก็ได้ สนามบาสเก็ตบอล หรือลานกิจกรรมต่างๆ ได้หมด แม้แต่ลานหน้าศูนย์ราชการก็ได้ ให้พนี่ อ้ ง ประชาชนตากข้าว 3 แดดก็แห้งแล้ว เมือ่ ก่อนเราเห็นตากตามถนน อันนัน้ ถ้าจ�ำเป็นจริงๆ ก็จะไปพิจารณาในถนนสายทีก่ ารจราจรไม่คอ่ ยมี เป็นแผนที่ 1, 2, 3 ตามไป นี่คือการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวนา ท่านไม่ต้องรีบขายแข่ง ออกมาปุ๊บทั้งประเทศแข่งกันขายราคาตกแน่ แล้วจะแข่งกันขายไปท�ำไม ในเมื่ออีกไม่กี่เดือนข้าวมันไม่พอกิน ราคามันสูง เก็บไว้ก่อน ธ.ก.ส.ช่วย รั ฐ บาลสั่ ง ช่ ว ย ชะลอการขาย แต่มีเ งิน ใช้ ไม่ใ ช่มาอ้างว่าไม่ข ายแล้ว จะเอาอะไรกิน ธ.ก.ส. และรัฐบาลให้มาแล้ว เพราะฉะนั้นอีก 2-3 เดือน มาว่ากันใหม่ ท่านไม่ตอ้ งรีบ แล้วคุณภาพข้าว ความชืน้ น้อย ไม่ชนื้ มากจน ข้าวขึ้นรา ข้าวเน่า เพราะเราเก็บตากแดดอยู่ได้ทั้งปีครับ ดังนั้นไม่ต้องรีบ เลย ข้าวปีนแี้ พงครับ ขายได้ราคาแน่นอน กลไกการตลาดจะดูดซับปริมาณ

ข้าวของมัน 80-90% อยู่แล้ว ตัวที่จะท�ำให้ราคาตกผมให้ไว้แค่ 10% ไม่เกิน 20% ถ้ามันออกพร้อมกัน มันดูเหมือนมี supply เยอะกว่า demand แต่ตอนนีไ้ ม่เยอะแล้ว เพราะออกไปเยอะ ผมก็ให้แนวไปว่าส่วนเกิน 10% ถ้ามันต้องออก แต่จริงๆ ต้องให้มนั ไม่ออก เพราะว่าเราชะลอการขายด้วย การเอาเงินรัฐบาลผ่าน ธ.ก.ส. ให้ไปแล้ว 1,500+1,500 ต่อไร่ ข้าวที่จะ ประดังออกมาช่วงนี้ไม่น่าจะมี แต่ถ้ามันหลุดมา ผมบอกทุกหน่วยเลย เราจะเข้าไปช่วย เราซื้อให้เลย ถามว่าท�ำไมกล้าพูดว่าซื้อให้เลย เดี๋ยวแห่กัน มาขาย ท�ำไม่ได้หรอกครับ เพราะว่าผมเช็คพื้นที่ปลูกที่ลงทะเบียนเป็น เกษตรกรในบึงกาฬไว้หมดแล้ว ข้าวในบึงกาฬเรารับประกันให้หมด ตามนโยบายรัฐบาล เดี๋ยวหน้าสับปะรดออกเราก็มีวิธีรับมือแล้ว ที่นี่ต้อง ไม่มาเททิ้ง ผมรับซื้อไว้หมด ถามว่าท�ำอย่างไร ก็ใช้หลักการเดียวกับข้าว เรารูว้ า่ เขาปลูกกีไ่ ร่ ผลผลิตกีพ่ นั ตัน รูห้ มดว่าออกวันไหน แล้วเราก็โปรโมท กันในช่วงนัน้ ปริมาณทีเ่ ราเห็นมันท�ำให้เราเตรียมการทีจ่ ะรับมือกับมันได้

“สิ่งที่เราท�ำให้พี่น้องชาวนาก็คือ ข้อมูลวันนี้คืออะไร ท่านจะได้ ไม่ต้องถูกปั่นราคาหรือ ถูกกดราคาจากข้อมูลผิดๆ” BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

17

.indd 39

39

28/2/2562 16:39:15


จากใจผู้ว่าฯ เพื่อบึงกาฬก้าวกระโดด

ที่ นี่ เ ราจั ด ผู ้ ว ่ า ฯ พบประชาชน โดยผมจะไปตามสถานที่ ส� ำ คั ญ อย่ า งเช่ น ศาลาริ ม โขง รอบต่ อ ไปจะไปที่ ก ลางท้ อ งนาที่ อ.ศรี วิ ไ ล ช่วงที่ข้าวใกล้สุก ต่อไปอาจจะไปที่ลานตากข้าวที่เตรียมไว้ ไปเพื่อพบปะพูดคุย ให้ประชาชนได้พบตัวจริง เปิดโอกาสให้ประชาชนได้ถาม ค�ำถาม เวลาที่ผมไปพบพี่น้องประชาชนหรือไปตามอ�ำเภอหรือตามกลุ่มต่างๆ ผมจะพูดค�ำเดียวกันในทุกๆ ครั้ง ว่าบึงกาฬต้องร่วมมือกัน ในทุกภาค อย่าปล่อยให้ทุกภาคราชการท�ำอยู่ฝ่ายเดียว ที่นี่เป็นเมืองใหม่ อะไรหลายๆ อย่างไม่ครบในทางราชการ ต�ำแหน่งของราชการ บางคนมาอยู ่ ไ ม่ เ กิ น ปี เขาก็ ไ ป ส่ ว นราชการบางส่ ว นครึ่ ง หนึ่ ง ของที่ นี่ ถ้ า จะไปเที ย บต� ำ แหน่ ง มั น ต�่ ำ กว่ า จั ง หวั ด ข้ า งเคี ย ง อ� ำ นวยการต้ น อ� ำ นวยการสู ง ก.พ. เขายัง ไม่ใ ห้ มัน ก็ไ ม่เ ป็น ตัว ดึงดูด ให้เขาอยู่ แต่ข องผมนี่เท่ากัน ผมอยู่ได้ ผมไม่ข อย้าย แต่ส่วนราชการต่างๆ อยู่ปุ๊บก็ไป พี่ น ้ อ งประชาชนก็พูด ผมก็บอกว่าอย่า ไปหวัง ข้าราชการให้เขาท�ำฝ่ายเดียว ผมจะขอความร่วมมือให้พี่น้องข้าราชการที่มาอยู่ว่า คุณจะมา อยู่นานหรือสั้นไม่รู้ แต่ขอให้ท�ำที่บึงกาฬทุกวันให้มีความสุขและขอให้เต็มที่ แล้วอีกหน่อยบึงกาฬจะเป็นโรงเรียนผลิตหัวหน้าส่วนราชการที่มีคุณภาพ ที่กระจายไปอยู่ในจังหวัดอื่นของประเทศทั้งนั้น เพราะว่าเกือบทุกคนต้องเริ่มต้นที่นี่ อ�ำนวยการต้นต้องเริ่มที่นี่ แล้วไปเป็นอ�ำนวยการสูงที่อื่น นี่คือธรรมชาติของบึงกาฬ 7 ปีที่ผ่านมา 40

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

17

.indd 40

28/2/2562 16:39:18


EXCLUSIVE INTERVIEW วันนี้ท่านก็มาบ่นให้ผมฟังว่า บึงกาฬตั้งมา 7 ปี ยังไม่ไปไหน ยังซอยเท้าอยูก่ บั ที่ ไม่วา่ เมืองใดประเทศใด ถ้าปล่อยให้ภาคราชการ ท�ำงานอยู่ฝ่ายเดียว บ้านเมืองนั้นคงไปไม่ถึงไหน เราขาดอะไรไป รึเปล่า บึงกาฬจะต้องมีความร่วมมือจากภาคท้องถิ่น ภาคเอกชน และทีส่ ำ� คัญคือภาคประชาชน ถ้าร่วมกันได้ ไม่ตอ้ งรอรัฐบาลทุกเรือ่ ง เราก็ท�ำได้ อย่างที่ยกตัวอย่างที่ท�ำเรื่องจังหวัดสะอาด ผมท�ำให้เห็น ซึ่งพี่น้องประชาชนบอกว่าผู้ว่าฯ มาอยู่แค่ 2 เดือน เราได้รางวัลแล้ว หรือเพราะเรามีศักยภาพ ผมไม่ได้บอกว่าราชการเก่ง ราชการเป็น ส่วนหนึ่ง แต่ที่ท�ำให้เราได้รางวัลก็เพราะเราเอาภาคท้องถิ่น เอกชน และประชาชนมาร่วมช่วยกันท�ำเป็นประชารัฐ เป็นแค่มติ หิ นึง่ ทีท่ ำ� ให้ เห็นว่าถ้าเราร่วมมือกันเราท�ำได้ ผมจะบอกพี่น้องประชาชนว่า บึงกาฬจะเดินไปอย่างไร อย่าให้มันขึ้นอยู่กับผู้ว่าฯ แต่ให้ขึ้นอยู่กับ ความต้องการของประชาชนในจังหวัดเอง ให้เกิดจากทุกภาคส่วนของ บึงกาฬร่วมกันท�ำทุกภาคส่วน ผมใช้ค�ำว่าทีมบึงกาฬ ล้อมาจากทีม ประเทศไทยหรือทีมไทยแลนด์ของท่านรัฐมนตรี เราต้องท�ำงานเป็นทีม ระบบฮีโร่ไม่ใช่ระบบที่ผมชื่นชม ที่นี่เน้นการสร้างทีม ถ้าถามว่าผมมี ความสามารถอะไรในฐานะเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ ผมมีความสามารถ ในการสร้างทีมครับ ผมไม่สั่งแล้ว ให้เขาคิดและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ นี่คือทีมบึงกาฬที่ผมประกอบขึ้นจากภาคราชการ พลเรือน ทหาร ต�ำรวจ ภาคท้องถิ่น อบจ. เทศบาล อบต. ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พี่น้อง ประชาชนรวมถึงภาคเอกชน ต้องออกมาหมด เราต้องท�ำงานด้วย การช่วยกันทุกภาคส่วน ท่านบอกผมว่า 7 ปีที่ผ่านมาของการตั้งเมืองนี้ เราแทบจะ ซอยเท้าอยู่กับที่ แล้ว 2 เดือนล่าสุด ผมบิดให้มันแรงนิดนึงกระทั่ง บึงกาฬได้รางวัลจังหวัดสะอาด ถามว่าปีตอ่ ไปท�ำอะไร คิดปีตอ่ ปีเลย

Big Cleaning Year เราท�ำทั้งปี ท�ำแน่นอน ผมจะชวนภาคเอกชน ภาคประชาชน ว่าอะไรที่คุณอยากให้เกิดขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้า เรามาช่วยกันคิดอย่างน้อยมันต้องมีการนับหนึ่งภายในปีนี้ ผมจะ ชดเชยในสิ่งที่คนบึงกาฬมาบอกผมว่า พวกเราซอยเท้าอยู่กับที่มา 7 ปี ไม่ต้องบอกความผิดของใคร ไม่ต้องพูดเรื่องเก่า แต่วันนี้ในอีก 1 ปีข้างหน้า หรือ 5 ปี 10 ปีข้างหน้าเราจะเดินไปอย่างไร อะไร ที่จ�ำเป็นต้องมีมาคุยกัน แล้วช่วยกันสร้างให้มันเสร็จหรือให้มันเริ่ม ก้าวเดินได้ภายในปีนสี้ ิ ผมจะช่วยสนับสนุนอย่างเต็มก�ำลัง แบบนีถ้ งึ จะอยูไ่ ด้ ถึงแม้จะเป็นจังหวัดน้องใหม่ลา่ สุด ไกลทีส่ ดุ แต่จะเป็นเมือง ทีท่ กุ คนอยากมา ผมมาผมยังไม่อยากกลับบ้านเลย เพราะมันสบาย มีความสุข อาหารดี อากาศดี อารมณ์ดี สุดท้ายอายุยืน แล้วที่ส�ำคัญคือ ที่นี่วัดเยอะ ที่นี่เป็นเมืองพระอริยสงฆ์ หลายๆ ท่านอยากมากราบหลวงปู่ทองพูล หลวงปู่ทุย เราก็ท�ำให้คนเดินต่อ ในสิ่งที่เขาดีอยู่แล้ว สิ่งหนึ่งที่ผมจะไม่ลืมและขอให้ทุกคนท�ำก็คือ แข่งกันสวดมนต์ตงั้ แต่ระดับเด็กอนุบาล ประถม มัธยม แข่งกันสวดมนต์ ผมจัดกิจกรรมนี้แล้วมีรางวัลให้ แล้ววันหนึ่งเราก็จะมารวมตัวกัน สวดมนต์หมู่ ท�ำไมรวมตัวกันร�ำหมื่นคนได้ แล้วสวดมนต์หมื่นคน ...ท�ำไมจะท�ำไม่ได้ ในเมื่อมันคือวิถีชีวิตของคนบึงกาฬ และมันเป็น สิง่ ทีด่ ที ใี่ กล้ชดิ กับศีลธรรม เป็นสิง่ ทีค่ นเขาชืน่ ชม คนต่างจังหวัดหรือ คนจากกรุงเทพฯ มาบึงกาฬ พอถามว่ามาท�ำไม...มาวัด คนบึงกาฬ ต้องมีตรงนี้ผมใช้ค�ำที่เอามาจากศาสนาพุทธว่า ปฏิบัติบูชาจะท�ำให้ คนจิตใจดี การทีเ่ ด็กวัยรุน่ จะตีกนั ต้องลดลง จากกินเหล้าหลงอบายมุข ต้องลดลง นี่คือสิ่งที่ช่วยได้เยอะ ผมไม่ได้สร้างใหม่ มันมีอยู่แล้ว ทีบ่ งึ กาฬเราแค่ทำ� ให้มนั เข้มข้นขึน้ ได้รบั ความสนใจความศรัทธามากขึน้ แล้วเขาก็จะมาหาเราโดยที่เรารับไม่ไหวเลยแล้วกันครับ

“บึงกาฬจะเดินไปอย่างไร อย่าให้มันขึ้นอยู่กับผู้ว่าฯ แต่ให้ขึ้นอยู่กับความต้องการของประชาชนในจังหวัดเอง ”

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

17

.indd 41

41

28/2/2562 16:39:19


EXCLUSIVE INTERVIEW

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ วัน/เดือน/ปีเกิด

วันที่ 19 กรกฎาคม 2515

การศึกษา

- รั ฐ ศาสตรบั ณ ฑิ ต (เกี ย รติ นิ ย ม) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย - รัฐศาสตรมหาบัณฑิต (วิทยานิพนธ์ ดีมาก) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

การรับราชการ

พ.ศ. 2539-2548 ปลัดอ�ำเภอ ระดับ 3-7 จังหวัดตราด กระบี่ มุกดาหาร และ จันทบุรี พ.ศ. 2548 หัวหน้าส�ำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดสระแก้ว และจันทบุรี พ.ศ. 2552 ผู้อ�ำนวยการศูนย์ป้องกัน และการบรรเทาสาธารณภัย เขต 17 จันทบุรี พ.ศ. 2554 ผู้ตรวจราชการกรมป้องกัน และการบรรเทาสาธารณภัยกระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2556 ผูอ้ ำ� นวยการศูนย์อำ� นวยการ บรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2558 รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปทุมธานี พ.ศ. 2560 ผู้ตรวจราชการกระทรวง มหาดไทย 29 มิถุนายน พ.ศ. 2561 ผู้ว่าราชการ จังหวัดบึงกาฬ

“ถึงแม้จะเป็นจังหวัดน้องใหม่ล่าสุด ไกลที่สุด แต่จะเป็นเมืองที่ทุกคนอยากมา... เพราะมันสบาย มีความสุข อาหารดี อากาศดี อารมณ์ดี สุดท้ายอายุยืน” 42

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

17

.indd 42

28/2/2562 16:39:23


BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

17

.indd 43

43

28/2/2562 16:39:27


EXCL USIV E INT E R V IE W

บันทึกเส้นทางพบรองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ

BUENG KAN

VICE GOVERNOR รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ

นายธวัช ชัย ศรีท อง

“ภูมิใจที่พี่น้องในพื้นที่มีความอยู่ดีกินดี”

ระยะเวลา 7 ปี ที่ ผ ่ า นมาหลั ง การก่ อ ตั้ ง จั ง หวั ด บึ ง กาฬนั บ ว่ า อยู ่ ใ นช่ ว งของการสร้ า งบ้ า น แปงเมื อ ง เพื่ อ รองรั บ ความเจริ ญ ก้ า วหน้ า ในอนาคต ประจวบเหมาะกั บ เมื่ อ เดื อ นตุ ล าคม ปี 2561 ชาวบึ ง กาฬมี โ อกาสต้ อ นรั บ นายธวั ช ชั ย ศรี ท อง รองผู ้ ว ่ า ราชการจั ง หวั ด บึ ง กาฬ ท่ า นใหม่ ที่ มี ค วามรู ้ ค วามเชี่ ย วชาญด้ า นนโยบายและแผนยุ ท ธศาสตร์ ก ารพั ฒ นาจั ง หวั ด ผู ้ ม าพร้ อ ม คติ ป ระจ� ำ ใจที่ ว ่ า “จะท� ำ อะไรแล้ ว ต้ อ งตั้ ง ใจท� ำ ให้ ดี ที่ สุ ด ” จึ ง ไม่ ต ้ อ งสงสั ย เลยว่ า นั บ จากนี้ ไ ป จั ง หวั ด น้ อ งใหม่ นี้ จ ะต้ อ งเติ บ โตอย่ า งก้ า วกระโดดในทุ ก ๆ ด้ า นแน่ น อน นิตยสาร SBL บันทึกประเทศไทย ได้รับเกียรติอย่างสูงจากท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ “นายธวั ช ชั ย ศรี ท อง” ให้ สั ม ภาษณ์ ใ นหลากหลายประเด็ น

44

.

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

(

)4

.indd 44

28/2/2562 16:36:20


EXCLUSIVE INTERVIEW

ดูแลด้านเศรษฐกิจและสังคม ท่านผูว้ า่ ราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้มอบหมาย ให้ผมก�ำกับดูแลหน่วยงานด้านเศรษฐกิจและสังคม

ซึ่งประกอบไปด้วย หน่วยงานกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ หน่วยงานด้านพาณิชย์ หน่วยงาน ด้านการศึกษา หน่วยงานท้องถิ่น หน่วยงาน ด้านสาธารณสุข หน่วยงานด้านการท่องเที่ยว การพั ฒ นาบทบาทสตรี การพั ฒ นาชุ ม ชน การพัฒนาเมือง และการวางผังเมืองรวมจังหวัด

ผลงานที่ภาคภูมิใจ รองผู ้ ว ่ า ราชการจั ง หวั ด มี ห น้ า ที่ ท� ำ งาน ประสานงานให้ กั บ ท่ า นผู ้ ว ่ า ราชการจั ง หวั ด ในภารกิจทุกเรือ่ ง ก็จะมีความภาคภูมใิ จทีพ่ นี่ อ้ ง ในพืน้ ทีม่ คี วามอยูด่ กี นิ ดี บ้านเมืองมีความสะดวก

สะอาด คนเข้ามาเที่ยวและชมจังหวัดบึงกาฬ ว่ามีความปลอดภัยน่าอยู่ น่ากลับมาเยือนอีก และการได้ช่วยแบ่งภาระปัญหาต่างๆ ได้ช่วย แก้ไขปัญหาของจังหวัด ก็สามารถภาคภูมิใจได้ ในฐานะที่เป็นข้าราชการของบ้านเมืองก็พอใจ แล้วครับ แต่มสี งิ่ หนึง่ ทีผ่ มภูมใิ จไปกับจังหวัด คือการ รับนายกรัฐมนตรีทา่ น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งได้ม าเยี่ยมที่บึงกาฬ ในคราว ครม.สัญจร

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งในการนี้ มีมติ ครม.อนุมัติงบประมาณให้จังหวัดบึงกาฬ ก่ อ สร้ า งโรงพยาบาลประจ� ำ จั ง หวั ด บึ ง กาฬ ให้มคี วามทันสมัย เป็นโรงพยาบาลประจ�ำจังหวัด ท�ำให้พี่น้องประชาชนมีบริการทางการแพทย์ ที่ ดี ขึ้ น ได้ ม าตรฐาน และปลอดภั ย ยิ่ ง ขึ้ น พร้อมกับยังอนุมัติให้ส�ำรวจการสร้างเส้นทาง มาจังหวัดบึงกาฬ จากจังหวัดอุดรธานี ซึ่งมี ระยะทาง 182 กม. ให้เหลือเพียง 139 กม. ซึ่งร่นระยะการเดินทางได้มาก เพราะจังหวัด บึงกาฬ อยูห่ า่ งไกลสุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน จะท�ำให้นักท่องเที่ยวสามารถมายัง บึงกาฬได้สะดวกและรวดเร็วขึน้ ได้

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

.

(

)4

.indd 45

45

PRACHINBURI I SBL บันทึกประเทศไทย PB 28/2/2562

16:36:24


ยืน”

5 ภารกิจส�ำคัญเพื่อพัฒนาบึงกาฬรอบด้าน ส�ำหรับภารกิจส�ำคัญและเร่งด่วน ทีท่ า่ นผูว้ า่ ราชการจังหวัดบึงกาฬได้มอบหมายให้ก�ำกับ ดูแลเป็นพิเศษ มีอยู่ 5 ประการด้วยกัน คือ หนึ่ง จากการที่จังหวัดบึงกาฬ เป็นจังหวัด น้องใหม่ของประเทศไทย อันดับที่ 76 ท�ำให้ ต้ อ งมี ก ารสร้ า งสรรค์ สิ่ ง ใหม่ เปรี ย บเสมื อ น สร้างเมืองใหม่ เพื่อรองรับกับการพัฒนาหลาย ด้ า นผสมผสานกั น ไป แต่ ป ระการส� ำ คั ญ ที่ ผูว้ า่ ราชการจังหวัดเน้นย�ำ้ ให้ประชาชนในพืน้ ทีท่ ำ� อย่างเร่งด่วนคือ การท�ำเมืองให้สะอาด (Clean) เป็นระเบียบเรียบร้อย เน้นให้ท�ำทุกท้องถิ่น แข่งกันท�ำความสะอาด เก็บขยะเศษวัชพืชทีร่ กรุงรัง

ตกแต่งหน้าบ้านให้มคี วามสวยงามเป็นระเบียบ เรียบร้อยน่าชมน่ามอง

สอง คือการดูแลด้านการเกษตร บึงกาฬเป็น เมืองยางพารา มีเกษตรกรปลูกยางพารามากกว่า ครึง่ หนึง่ ของจังหวัด แต่ยงั ขาดความรูค้ วามเข้าใจ ในการน�ำยางมาท�ำนวัตกรรมทางการเกษตรให้ มีมลู ค่าเพิม่ ขึน้ จากปัจจุบนั ซึง่ เกษตรกรส่วนใหญ่ ท�ำยางก้อนถ้วยขาย เมือ่ ยางราคาตกต�ำ ่ ท�ำให้รายได้ ลดหายไปจากเดิมทีย่ างเคยมีราคา เราก�ำลังเร่ง หาพืชทดแทนมาปลูกเสริมรายได้ให้เพิ่มขึ้น ไม่ใช่รอผลผลิตจากยางพาราอย่างเดียว สาม ด้านการศึกษา เพราะจังหวัดบึงกาฬ มี ผ ลการสอบ O-NET ในกลุ ่ ม ภาคอี ส าน ค่ อ นข้ า งต�่ ำ มากเมื่ อ เปรี ย บเที ย บกั บจั ง หวั ด ข้างเคียง ต้องเร่งยกระดับมาตรฐานกระบวน การเรียนการสอนให้ดียิ่งขึ้น ให้เน้นครูผู้สอน ให้ มี ค วามเอาใจใส่ และทุ ่ ม เทกั บ การเรี ย น การสอนให้มากขึ้น สี่ ด้านการพัฒนาแหล่งน�้ำ จังหวัดบึงกาฬ มีหนองน�ำ้ มากทีส่ ดุ แต่บางทียงั ขาดการดูแลรักษา จึงตื้นเขิน หรือถูกบุกรุกที่ไปท�ำอย่างอื่น ท�ำให้ แหล่งกักเก็บน�ำ้ หายไป ท่านผูว้ า่ ราชการจังหวัด ให้ท�ำการส�ำรวจ ขุดลอก พัฒนาให้เป็นแหล่ง กักเก็บน�้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง หรือสามารถระบาย น�้ำออกได้อย่างมีประสิทธิภาพในฤดูน�้ำมาก ช่วงฤดูฝน ห้า คือด้านการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว จังหวัดบึงกาฬมีความได้เปรียบในเชิงธรรมชาติ อากาศดี ทิวทัศน์สวย เป็นแหล่งทีพ่ ระอริยสงฆ์ มาจ�ำศีลภาวนาในพืน้ ที่ ท่านผูว้ า่ ฯ ได้ให้ความส�ำคัญ กับการดูแลแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ โดย ไม่ได้มุ่งเน้นให้อ�ำนวยความสะดวกมากเกินไป ให้เป็นเรือ่ งธรรมชาติ แค่มคี วามสะดวกพอประมาณ และปลอดภัยในการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวด้วย เช่น อุทยานภูสิงห์(หินสามวาฬ), วัดภูทอก, น�้ำตกต่างๆ ซึ่งมีอยู่หลากหลาย เป็นต้น

46

.

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

(

)4

.indd 46

28/2/2562 16:36:27


ปัญหาและแนวทางแก้ ไข ปั ญ หาที่ ช าวบึ ง กาฬส่ ว นใหญ่ ร ้ อ งเรี ย น เข้ามา ก็จะเป็นเรือ่ งพืชผลทางการเกษตรตกต�ำ่ ดั ง ที่ ไ ด้ น� ำ เรี ย นว่ า จั ง หวั ด บึ ง กาฬมี ก ารปลู ก ยางพาราเกินครึ่งหนึ่งของการเกษตร บางครั้ง พืชผลยางราคาตกต�่ำ จังหวัดก็ได้เข้าช่วยแก้ไข ปัญหา โดยการไปให้ความรู้เพื่อให้เกษตรกรได้ น�ำนวัตกรรมทางการเกษตรมาใช้ เพื่อให้ราคา ดีขึ้น หรือการปลูกพืชเสริม หรืออาชีพเสริมที่ มุ่งเน้นด้านการปศุสัตว์ เช่น เลี้ยงแพะ โค ไก่ ในสวนยาง เพื่อมีรายได้เสริมมากขึ้น เรื่ อ งที่ ส องคือ การสาธารณสุข มีปัญหา โรงพยาบาลมีขนาดและเครื่องมือไม่ทันสมัย

จากใจท่านรองผู้ว่าฯ มุ่งสร้างบึงกาฬให้น่าอยู่ การพัฒนาในทุก ๆ เรือ่ งจะต้องได้รบั ความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน ทัง้ ภาครัฐ และเอกชน ขอให้ทกุ ภาคส่วน พ่อค้า ประชาชนในจังหวัด ร่วมมือร่วมใจกันในการสร้างบ้านเมืองด้วยความเต็มใจ ด้วยใจสมัครสมานสามัคคี โดยมุ่งให้จังหวัดบึงกาฬของเรา พัฒนาไปในทุกๆ ด้าน ในไม่ช้าเราก็จะ เห็นการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองบังเกิดผลขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม

เพือ่ ให้ประชาชนมีความเป็นอยูท่ ดี่ ขี นึ้ ดูแลสุขภาพ

ให้ได้มาตรฐานขึ้น ก็ได้เสนอของบประมาณ ไปยังรัฐบาล และทราบว่าได้เข้าแผนการด�ำเนินการ ในปี 2563 แล้ว ต่อมาคือ การจัดการแหล่งน�ำ้ เพือ่ การเกษตร ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้จัดสรรงบประมาณ ในการเร่งรัดการขุดลอกคลอง และให้สามารถ กักเก็บน�้ำไว้ใช้ได้ รวมไปถึงการปรับปรุงการ พัฒนาแหล่งน�้ำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เช่น หนองเลิง อ�ำเภอพรเจริญ พัฒนาโดยการปลูก บัวสายพันธุ์สีชมพู และมีแพพักผ่อนหย่อนใจ ในหนอง ปั จ จุ บั น ได้ อ อกดอกสวยงามเป็ น หนองบัวที่สวยสุดในจังหวัดบึงกาฬ

ประวัติโดยย่อ นายธวัชชัย ศรีทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ประวัติการศึกษา - ศิลปศาสตร์บัณฑิต (ศศ.บ.รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามค�ำแหง - พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต (สาขานโยบายและการวางแผน) สถาบันบัณฑิต พัฒนบริหารศาสตร์ ประวัติการท�ำงาน - พ.ศ. 2532 ปลัดอ�ำเภอ (จพง.ปค 3) อ�ำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ - พ.ศ. 2536-2540 เจ้าพนักงานฝึกอบรม 6 ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการ อธิการวิทยาลัย การปกครอง อ�ำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี - พ.ศ. 2540-2542 ปลัดอ�ำเภอ (จพง.ปค 6) อ�ำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม - พ.ศ. 2543-2546 หัวหน้าฝ่ายทะเบียนและบัตร (จพง.ปค 7) อ�ำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก - พ.ศ. 2547-2548 ปลัดอ�ำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี - พ.ศ. 2549 โอนมารับราชการส�ำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่ ที่ส�ำนักงานจังหวัดอุทัยธานี - พ.ศ. 2549 ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย / หัวหน้าฝ่ายช่วยอ�ำนวยการ กองกลาง ส�ำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย - พ.ศ. 2550 หัวหน้ากลุ่มงานบริหารทรัพยากรบุคคล ส�ำนักงานจังหวัดปราจีนบุรี - พ.ศ. 2552 หัวหน้ากลุม่ งานข้อมูลสารสนเทศและการสือ่ สาร ส�ำนักงานจังหวัดระยอง - พ.ศ. 2552-2558 หัวหน้ากลุม่ งานบริหารทรัพยากรบุคคล, หัวหน้ากลุม่ งานอ�ำนวยการ, หัวหน้ากลุ่มงานข้อมูลสารสนเทศและการสื่อสาร, หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนา ส�ำนักงานจังหวัดชลบุรี รักษาการหัวหน้าส�ำนักงานจังหวัดชลบุรี - พ.ศ. 2558-2561 หัวหน้าส�ำนักงานจังหวัดปทุมธานี - 8 ต.ค. พ.ศ. 2561-ปัจจุบัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

.

(

)4

.indd 47

47

28/2/2562 16:36:29


S P ECI A L INT E R V IE W

บันทึกเส้นทางพบส�ำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดบึงกาฬ

BUENG KAN

PROVINCIAL OFFICE OF BUDDHISM ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดบึงกาฬ

นายธวัฒชัย ทองสุก นอก

พระพุทธศาสนานับเป็นศาสนาที่คนไทยส่วนใหญ่ศรัทธาและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ สืบทอดต่อกันมานานนับพันปี ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาทีค่ นไทยได้รบั การอบรม บ่มจิตใจมา ท�ำให้ผคู้ นในสังคมไทยอยูร่ ว่ มกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข โดยมีความเมตตาเป็นทีต่ งั้ จึงก่อให้เกิดความรัก ความสมัครสมานสามัคคีกนั ก่อเกิดจารีตประเพณี วัฒนธรรมและ ขนบธรรมเนียมทีด่ งี าม ทีช่ ว่ ยยึดโยงความสัมพันธ์อนั ดีของผูค้ นไว้ดว้ ยกัน นับตัง้ แต่มกี ารก่อตัง้ จังหวัดบึงกาฬขึน้ ในปี พ.ศ. 2554 ส�ำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดบึงกาฬ ก็ได้รบั จัดตัง้ ขึน้ โดยอาศัยการจัดตัง้ หน่วยราชการตามพระราชบัญญัติ ตัง้ จังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2554 อันมีผลใช้บงั คับตัง้ แต่วนั ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554 ปัจจุบนั มีอาคารส�ำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดบึงกาฬ ศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ ชั้น 3 ถนนบึงกาฬ-นครพนม อ�ำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ นิตยสาร SBL บันทึกประเทศไทย ได้รบั เกียรติอย่างสูงจาก นายธวัฒชัย ทองสุกนอก ผูอ้ ำ� นวยการส�ำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดบึงกาฬ ให้สมั ภาษณ์ถงึ ภาพรวมของสังคม ชาวพุทธในจังหวัดบึงกาฬ นโยบายส�ำคัญ วิสยั ทัศน์ พันธกิจ และยุทธศาสตร์ของส�ำนักงานฯ ผลการด�ำเนินงานทีโ่ ดดเด่น และอืน่ ๆ

48

4

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ กาฬ

.indd 48

ยามเย็นริมฝั่งแม่น�้ำโขง

27/2/2562 15:36:16


SPECIAL INTERVIEW

พุทธศาสนากับสังคมบึงกาฬ

บึ ง กาฬเป็ น จั ง หวั ด ที่ แ ยกออกมาจาก จังหวัดหนองคาย ซึ่งแต่เดิมชื่อเมือง “ไชยสุทธิ์ อุตมบุรี” เมืองโบราณที่มีการกล่าวถึงในจารึก ส่วนที่ 1 ของวัดไตรภูมิ (อ�ำเภอท่าอุเทน จังหวัด นครพนม) ซึ่ ง มี เ นื้ อ หาโดยสั ง เขปว่ า เมื่ อ ปี พ.ศ. 2357 เจ้าเมืองหงสาวดีสองพีน่ อ้ ง ซึง่ ย้าย มาจากเมืองหงสา หรือ หงสาวดี (เมืองหนึ่ง ของล้านช้าง อยู่ริมฝั่งแม่น�้ำโขงบริเวณไชยบุรี ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ปัจจุบนั ) ได้มาตัง้ เมืองใหม่บริเวณปากน�ำ้ สงคราม และตัง้ ชือ่ เมืองใหม่วา่ “ไชยสุทธิอ์ ตุ มบุร”ี และ พร้ อ มด้ ว ยเสนามาตย์ ได้ พ ร้ อ มกั น สร้ า ง วั ด สุ นั น ทมหาอาราม นั่ น แสดงให้ เ ห็ น ว่ า พระพุทธศาสนาได้หยั่งรากลงบนผืนแผ่นดิน ของจังหวัดบึงกาฬมานานกว่าสองร้อยปีแล้ว ปัจจุบันจังหวัดบึงกาฬมีวัดจ�ำนวนทั้งสิ้น 433 วัด มีประชากร 423,000 คน ซึ่งคนที่ นั บ ถื อ ศาสนาพุทธมีประมาณร้อ ยละ 99.5 เรียกว่าเกือบทั้งจังหวัด ดังนั้นพระสงฆ์และวัด

จึงมีบทบาทอย่างมากต่อการด�ำเนินชีวิตของชาวจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งเห็นได้จากนิสัยใจคอของผู้คนที่ เป็นมิตร มีน�้ำใจ ยิ้มแย้ม มีความรักใคร่กลมเกลียวกัน มีส่วนร่วมในกิจกรรมงานบุญและประเพณี ที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนา ตลอดจนมีการช่วยเหลือกิจกรรมของวัดและพระสงฆ์อย่างดี ดังที่ มีค�ำขวัญประจ�ำจังหวัดบึงกาฬว่า

“ภูทอกแหล่งพระธรรม ค่าล�้ำยางพารา งามตาแก่งอาฮง บึงโขงหลงเพลินใจ น�้ำตกใสเจ็ดสี ประเพณีแข่งเรือ เหนือสุดแดนอีสาน นมัสการหลวงพ่อใหญ่ ศูนย์รวมใจศาลสองนาง”

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

4

.indd 49

49

27/2/2562 15:36:19


นโยบายหลักของส�ำนักงานฯ

ส�ำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดบึงกาฬ มี ภ ารกิ จ เกี่ ย วกั บ การด� ำ เนิ น งานสนองงาน คณะสงฆ์ โดยการท�ำนุบ�ำรุง ส่งเสริมกิจการ พระพุทธศาสนา ให้การอุปถัมภ์ คุ้มครอง และ ส่งเสริมพัฒนางานพระพุทธศาสนา ดูแล รักษา จัดการศาสนาสมบัติ รวมทั้งให้การสนับสนุน ส่งเสริม พัฒนาบุคลากรทางศาสนา และส่งเสริม คุ ณ ธรรมตามหลั ก พระพุ ท ธศาสนาในหมู ่ ประชาชน

จากวิสยั ทัศน์ พันธกิจ และยุทธศาสตร์

วิ สั ย ทั ศ น์ องค์ ก รขั บ เคลื่ อ นกิ จ การ พระพุทธศาสนา สูค่ วามมัน่ คง สังคมด�ำรงศีลธรรม น�ำสันติสุขอย่างยั่งยืน

พันธกิจ

1) เสริมสร้างให้สถาบันและกิจการทาง พระพุทธศาสนามีความมั่นคงยั่งยืน 2) สนับสนุนส่งเสริมและจัดการการศึกษา สงฆ์และการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เพือ่ พัฒนา ให้มีความรู้คู่คุณธรรม 3) จัดการศึกษาสงฆ์เพื่อผลิตและพัฒนา ศาสนาทายาททีเ่ ปีย่ มปัญญาพุทธธรรม เผยแผ่ ท�ำนุบำ� รุงพระพุทธศาสนาให้เจริญงอกงาม และ ร่วมสร้างสังคมพุทธธรรมที่มีความแข็งแรง 4) ด�ำเนินการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง ทางพระพุทธศาสนาโลก 5) พัฒนาการดูแลรักษาและจัดการศาสนา และศาสนสมบั ติ ให้ เ ป็ น เป็ น ประโยชน์ ต ่ อ พระพุทธศาสนาและสังคม

ยุทธศาสตร์

1. พัฒนาระบบการศึกษาของสงฆ์ (Buddhism Education) 2. ปลูกฝังความเข้าใจเกี่ยวกับ พระพุทธศาสนาให้แก่สังคม (Understanding) 3. เพิม่ ศักยภาพการเป็นศูนย์กลาง พระพุทธศาสนาโลก (Distinctive Organization) 4. เพิม่ ความเข้มแข็งให้ศาสนทายาท (Heir) 5. เพิ่มความคุ้มค่าให้แก่ศาสนสถานและ ศาสนสมบัติ (Asset)

50

4

ผลการด�ำเนินงานที่โดดเด่น

ในปี 2561 ที่ผ่านมา ส�ำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดบึงกาฬ ได้ด�ำเนินโครงการต่างๆ ที่สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ และนโยบายของส�ำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้แก่ • โครงการปฏิบัติบูชาท�ำบุญตักบาตร วันธรรมสวนะ • โครงการเจริญพระพุทธมนต์ • โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 • โครงการปฏิบัติธรรมครอบครัวอบอุ่น • โครงการหนึ่งใจให้ธรรมะ นอกจากนี้ส�ำนักงานฯ ยังได้รับรางวัล “การเบิกจ่ายงบประมาณดีเด่น ปีงบประมาณ 2561”

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 50

27/2/2562 15:36:20


แนะน�ำ 3 วัดดีน่าเที่ยว

วัดเซกาเจติยาราม พระอารามหลวง อ�ำเภอเซกา ในอุโบสถมีพระเจ้า มูลเมืองเซกา ที่ชาวอ�ำเภอเซกาให้ความเคารพศรัทธามาก และยังมี พระธาตุกตัญญูซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้า ซึ่งเหมาะกับการไปสักการะบูชา วัดเจติยาศรีวหิ าร(วัดภูทอก) เป็นสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วส�ำคัญของบึงกาฬ เพราะเป็นวัดทีต่ งั้ อยูบ่ นภูทอก ซึง่ ต้องเดินขึน้ บันไดไม้ทสี่ ร้างวนรอบภูทอก ทัง้ หมด 7 ชัน้ นับเป็นสิง่ มหัศจรรย์ทสี่ ร้างขึน้ จากแรงศรัทธาของชาวพุทธ วัดอาฮงศิลาวาส เป็นวัดที่มีอุโบสถหินอ่อนที่สวยงามโดดเด่นอยู่ ริมแม่น�้ำโขงและตั้งอยู่บนแก่งอาฮง ภายในพระอุโบสถประดิษฐาน พระพุทธคุวานันท์ศาสดา พระพุทธรูปทีม่ ลี กั ษณะเดียวกับพระพุทธชินราช แลดูงดงามน่าเลื่อมใสอย่างยิ่ง

จากใจ ผอ.พศจ.บึงกาฬ

ส�ำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดบึงกาฬ เน้นพัฒนางานทุกด้านไป พร้อมๆ กัน ทั้งด้านการศึกษาสงเคราะห์ ด้านการปกครอง ด้านศาสน ศึกษา ด้านการเผยแผ่ ด้านสาธารณูปการ และด้านสาธารณสงเคราะห์ งานทุกส่วนมีความสัมพันธ์กนั และมีความส�ำคัญเท่ากัน จึงต้องบูรณาการ งานทุกภาคส่วนไปพร้อมๆ กัน ทั้งวัด สถานศึกษา และส่วนราชการ เพื่อ จรรโลงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

4

.indd 51

51

27/2/2562 15:36:28


S P ECI A L INT E R V IE W บันทึกเส้นทางพบท้องถิ่นจังหวัด

BUENG KAN PROVINCIAL OFFICE FOR LOCAL ADMINISTRATION “ มุ่งเน้นผลประโยชน์ของประชาชนเป็นส�ำคัญ ”

ท้องถิ่นจังหวัดบึงกาฬ

นายนิ พัฒ น์ พรเรื อ งวงศ์

52

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 52

. - 01/03/2562 08:50:26 AM ภูลำ� ดวน อ�ำเภอปากชม


SPECIAL INTERVIEW

ศักยภาพที่โดดเด่นของ อปท.บึงกาฬ

องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ มีจุดเด่นในด้านการสร้าง ความร่ ว มมื อ ระหว่ า งหน่ ว ยงาน มี ร ะบบการประสานงาน ในแบบพหุ พ าคี เ ครื อ ข่ า ย ที่ต่างให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นท้องถิ่นขนาดเล็กที่มีรายได้ ไม่มากนัก จุดเด่นที่ส�ำคัญเน้นด้านการพัฒนาส่งเสริมอาชีพของประชาชนที่เป็นการเกษตร การท�ำสวนยาง แปรรูปผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน ผ้าหมักโคลน การท�ำหมอนยางพารา พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดบึงกาฬ เป็นพื้นที่ลุ่มน�้ำ มีแหล่งน�้ำธรรมชาติ ล�ำห้วย อ่างเก็บน�้ำ จ�ำนวนมาก จึงมีศักยภาพด้านการเพาะปลูก การประมงพื้นบ้าน มีธรรมชาติ ที่งดงาม สามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวจ�ำนวนมาก อาทิ บึงโขงหลง บึงกาฬ หนองเลิง ห้วยบังบาตร หินสามวาฬ วัดภูทอก เป็นต้น

“จังหวัดสะอาด” ผลงานที่ภาคภูมิใจ

ในรอบปีที่ผ่านมา มีผลงานที่เกิดจาก การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน จะเกิดผลดี ต่อการบริหารราชการของจังหวัดบึงกาฬ ตามนโยบายของรั ฐ บาล และกระทรวง มหาดไทย ในเรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อม ด้านการจัดการขยะมูลฝอย จนได้รับรางวัล “จังหวัดสะอาด” ในระดับกลุม่ จังหวัดขนาดเล็ก รางวัลรองชนะเลิศ และรางวัลระดับภาค ในปี ง บประมาณ 2560-2561 ทั้ ง นี้ เกิดจากความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกัน เพือ่ ให้ บรรลุเป้าหมายร่วมกัน

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

.indd 53

53

. - 01/03/2562 08:50:29 AM


SPECIAL INTERVIEW 4 หัวใจหลักในการท�ำงานร่วมกับ อปท. หลักการส�ำคัญที่น�ำมาใช้ในการท�ำงาน ร่ ว มกั บ องค์ ก รปกครองส่ ว นท้ อ งถิ่ น เพื่ อ ให้เกิดประสิทธิภาพ มี 4 ประการ คือ

1. ตั้งเป้าหมายในการท�ำงาน ซึ่งก่อนที่ จะเริ่มต้นท�ำงานทุกครั้ง ต้องตั้งเป้าหมาย ในการท�ำงานล่วงหน้า และต้องเป็นเป้าหมาย ที่ชัดเจน มีแผนปฏิบัติการ เป็นกรอบใน การท�ำงาน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว 2. มี ก ารบริ ห ารเวลาในการท� ำ งาน ที่ เ ป็ น ระบบ โดยจั ด ล� ำ ดั บ ความส� ำ คั ญ ของงานก่อน/หลัง ศึกษาข้อมูล/เตรียมข้อมูล เพือ่ น�ำไปสูก่ ารแก้ไขปัญหาของงาน วิเคราะห์ ความเสี่ ย ง ก� ำ หนดทิ ศ ทางในการแก้ ไ ข ปั ญ หาให้ ต รงจุ ด แก้ ป ั ญ หาตามล� ำ ดั บ ความส�ำคัญเร่งด่วนของปัญหานั้นๆ โดย มองปัญหาในเชิงระบบ ครบทุกมิติ 3. สร้างความร่วมมือร่วมใจในการท�ำงาน เป็ น ที ม เพราะที ม งานเป็ น กุ ญ แจส� ำ คั ญ แห่งความส�ำเร็จและความล้มเหลวในการ ท� ำ งานได้ มี ก ารติ ด ต่ อ ประสานงานทั้ ง ในระดับแนวราบ และแนวดิง่ อย่างเหมาะสม ส�ำคัญทีส่ ดุ ในการท�ำงาน ไม่เพียงใช้หลักการ ประสานงานระหว่างกัน แต่เป็นการเชือ่ มโยง การท�ำงานให้มาท�ำงานร่วมกัน ซึ่งจะเกิด ผลส�ำเร็จเร็วกว่าที่คาดหมาย 4. ใช้หลักธรรม “อิทธิบาท 4” ในการ ท�ำงาน คือ ฉันทะ หมายถึง ต้องมีความพอใจ และ รักใคร่ในงานที่ท�ำอย่างจริงจัง วิริยะ หมายถึง ความเพียรพยายาม ในงานที่ได้รับมอบหมายให้บรรลุผลส�ำเร็จ อย่างมีประสิทธิภาพ จิตตะ หมายถึง การมีใจจดจ่อต่องานทีท่ ำ � มีสมาธิ ไม่วอกแวกท�ำงานผิดพลาดน้อย วิมงั สา หมายถึง การทบทวน ตรวจสอบ งานที่ท�ำ อย่างสม�่ำเสมอ ผิดหลักคุณธรรม ในการท�ำงาน โปร่งใส สุจริต และเทีย่ งธรรม 54

หินสามวาฬ

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 54

. - 01/03/2562 08:50:30 AM


แนะแนวทางการแก้ ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

สิง่ ส�ำคัญทีอ่ งค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ จะต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา คือ ท้องถิ่น จะต้ อ งวางแผนการพั ฒนาให้ ส อดคล้ อ ง กั บ ความต้ อ งการที่ แ ท้ จริ ง ของประชาชน ตรงกับบริบทของพื้นที่ การท�ำงานอย่าง สร้างสรรค์ รวดเร็วและฉับไว ใช้กระบวนการ มีส่วนร่วมของภาคประชาชน เข้ามาแก้ไข ปั ญ หาร่ ว มกั น อย่ า งเป็ น ระบบ เพราะ จะเกิ ด ประสิ ท ธิ ภ าพ เกิ ด ผลสั ม ฤทธิ์ อย่างยั่งยืน

เป้าหมายสู่ “ เมืองสะอาด และน่าอยู่”

ส�ำหรับการพัฒนาตามแผนงานของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ในปัจจุบนั จะได้ ด�ำเนินการแก้ไขปัญหาด้านสิง่ แวดล้อมและ การจั ด การสิ่ ง แวดล้ อ มอย่ า งเป็ น ระบบ ขยายผลการด�ำเนินงานให้สานต่อนโยบาย ของกระทรวงมหาดไทย และของท่านผู้ว่า ราชการจังหวัดบึงกาฬในปัจจุบัน ที่มุ่งเน้น พัฒนาให้จังหวัดบึงกาฬ เป็น “เมืองสะอาด และน่าอยู”่ โดยจะใช้กระบวนการมีสว่ นร่วม น� ำ หลั ก การประชารั ฐ มาปรั บ ใช้ ร่ ว มกั บ แนวทางตามหลั ก ของปรั ช ญาเศรษฐกิ จ พอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 เริ่มต้น ที่ตนเอง แล้วจึงขยายผลไปสู่ชุมชนต่อไป

จากใจท้องถิ่นจังหวัดบึงกาฬ

สิ่ ง ที่ อ ยากฝากให้ อ งค์ ก รปกครอง ส่ ว นท้ อ งถิ่ น คื อ การท� ำ งานที่ มุ ่ ง เน้ น ผลประโยชน์ ข องประชาชนเป็ น ส� ำ คั ญ เน้นการท�ำงานที่โปร่งใสตรวจสอบได้ การ ใช้ จ ่ า ยงบประมาณควรให้ เ กิ ด ผลคุ ้ ม ค่ า มากที่ สุ ด สิ่ ง ส� ำ คั ญทั้ ง ผู ้ ก� ำหนดนโยบาย และผู้ปฏิบัติต้องมีเป้าหมายในการท�ำงาน ที่ชัดเจน มีการตรวจสอบและประเมิน ผล จากความพึงพอใจของประชาชนในพื้นที่ เพื่อน�ำผลสรุปดังกล่าวมาด�ำเนินการและ แก้ไขปัญหาร่วมกัน

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

.indd 55

55

. - 01/03/2562 08:50:32 AM


W O R K L IF E

บันทึกเส้นทางพบส�ำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬ

ํ กงานท่องเทีย่ วและกีฬา สานั จังหวัดบึงกาฬ

ชุมชนเข้มแข็งด้วยการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน จังหวัดบึงกาฬได้รับการสถาปนาเป็นจังหวัด เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2554 โดยตั้งอยู่ห่างจากกรุงเทพ 751 กิโลเมตร และ เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง มีน้�ำตก ภูเขา มีพื้นที่ ติ ด ต่ อ กั บ แม่ น�้ ำ โขง และแขวงบอลิ ค� ำ ไซ สาธารณรั ฐ ประชาธิป ไตยประชาชนลาว จึงมีอัตลักษณ์และความหลากหลาย ทางวัฒนธรรม วิถีชีวิต และจารีตประเพณีของชาติพันธุ์ต่าง ๆ อาทิ ผู้ ไท ข่า โซ่ กะเลิง ญ้อ และโย้ย

การท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิง นิเวศ-วิถีวัฒนธรรม จาก เชิ ง เขาสู ่ ช ายโขงเชื่ อ มโยง สองฝั่งล�ำน�้ำโขง ในปี พ.ศ. 2560 จังหวัดบึงกาฬ

ได้ ส ร้ า งความเข้ ม แข็ ง ให้ กั บ ชุมชนโดยใช้กจิ กรรมการท่องเทีย่ ว โดยชุมชน เป็นเครื่องมือช่วย สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และวัฒนธรรม โดยกระบวนการ นางบ� นายอนุ ำ เพ็ชญ า พร เจริสุญริพั ยกมล นธ์ มีส่วนร่วมของคนในชุมชนเป็น โยธาธิ ท่องเที การและผั ่ยวและกีงฬเมืาจั องจั งหวั งหวั ดบึดงบึกาฬ งกาฬ ตั ว ก� ำ หนดทิ ศ ทางการพั ฒ นา และรับประโยชน์จากการท่องเทีย่ ว ซึง่ ตัง้ อยูบ่ นฐานทีเ่ น้นถึงความส�ำคัญ ของการบูรณาการ การฟื้นฟูและอนุรักษ์สภาพแวดล้อม อัตลักษณ์ และความหลากหลายทางวัฒนธรรมของชาติพันธุ์ต่างๆ ในชุมชน อันมีวิถีชีวิตและจารีตประเพณีที่แตกต่างกันสร้างส�ำนึกรักท้องถิ่น มีความภาคภูมิใจในความเป็นอัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์และประเพณี ของตน สามารถอธิบาย ถ่ายทอดให้ผู้ฟัง หรือนักท่องเที่ยวได้รับรู้ และเข้าใจในวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่น ว่ามีความสวยงามและ มีคุณค่าอย่างไร จังหวัดบึงกาฬ จึงได้มอบหมายให้ นางบ�ำเพ็ญพร สุรยิ กมล ท่องเทีย่ ว และกีฬาจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับ ดร.อรุณศรี อือ้ ศรีวงศ์ ผูเ้ ชีย่ วชาญการ ท่องเทีย่ วชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี ด�ำเนินโครงการสร้างเครือข่าย ด้านการท่องเที่ยวจังหวัดบึงกาฬ โดยได้ด�ำเนินการจัดกิจกรรมจัดตั้ง 56

เครือข่ายด้านการท่องเที่ยวชุมชนจังหวัดบึงกาฬ เมื่อเดือนธันวาคม 2560 โดยได้จัดตั้งเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวชุมชนจังหวัดบึงกาฬ ที่มีความโดดเด่นจ�ำนวน 5 ชุมชน คือ แหล่งท่องเทีย่ วชุมชนบ้านค�ำแคนพัฒนา เป็นชุมชนท่องเทีย่ วใกล้ วัดเจติยาคีรวี หิ าร(วัดภูทอก) เป็นชุมชนทีม่ คี วามโดดเด่นเรือ่ งสมุนไพร มีกจิ กรรมเดินชมสวนสมุนไพรนานาชนิด กิจกรรมนวดบ�ำบัด แหล่งท่องเทีย่ ว ชุ ม ชนห้ ว ยเล็ บ มื อ เป็ น ชุ ม ชนของชาวคริ ส ต์ แ ละชาวพุ ท ธที่ มี ความสามัคคีกลมเกลียว และที่โดดเด่นคือเป็นแหล่งก�ำเนิดของ ต้นสิรินธรวัลลีหรือ ต้น 32 ประดง ดอกไม้ประจ�ำจังหวัดบึงกาฬ ทีท่ กุ บ้านปลูกไว้เป็นไม้ประดับ และแปรรูปเป็นสินค้าเพือ่ การท่องเทีย่ ว แหล่งท่องเทีย่ วชุมชนบ้านสะง้อและแหล่งท่องเทีย่ วชุมชนบ้านหอค�ำ เป็นประตูสู่จังหวัดบึงกาฬและแหล่งท่องเที่ยว 3 ที่สุด ได้แก่ เก่าสุด -พระธาตุจุมทองเหนือสุดในอีสาน-แก่งหมอบขาบ ลึกสุด-แก่งอาฮง แหล่งท่องเที่ยวชุมชนดอนหญ้านาง บึงบัวสีชมพูดอกใหญ่บานสะพรัง่ ในฤดูหนาว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมบัวโดยใช้บริการเรือพาย ของชาวบ้านได้ในช่วงเช้า

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

2

.indd 56

27/2/2562 15:11:37


ท่องเที่ยวปี 2561 สถานการณ์สดใส ในปีพ.ศ. 2561 จังหวัดบึงกาฬมีผู้มาเยือนมากขึ้นเมื่อเทียบกับ ปีทผี่ า่ นมา ส่งผลให้จงั หวัดบึงกาฬมีรายได้ดา้ นการท่องเทีย่ วเพิม่ มากขึน้ ซึ่ ง ปั จ จั ย ที่ ส ่ ง ผลต่ อ การเติ บ โตของการท่ อ งเที่ ย วจั ง หวั ด บึ ง กาฬ คือ การเดินทางท่องเที่ยวตามฤดูกาลของนักท่องเที่ยว ประกอบกับ ปี 61 นี้ มีสภาพอากาศหนาวเย็นและยาวนานกว่าปีท่ีผ่านมา ส่งผลให้นกั ท่องเทีย่ วเดินทางท่องเทีย่ วสัมผัสอากาศหนาวเพิม่ มากขึน้ โดยนั ก ท่ อ งเที่ยวส่วนใหญ่จะเดินทางมาเป็นกลุ่มครอบครัว และ กลุ่มเพื่อน อี ก ทั้ ง ในปี นี้ ภ าครั ฐ ประกาศนโยบายส่ ง เสริ ม การท่ อ งเที่ ย ว เมืองรอง เพื่อให้การท่องเที่ยวเมืองรองเป็นกลไกสร้างรากฐานที่ แข็งแกร่ง และกระจายรายได้สชู่ มุ ชน และอยูใ่ นเขตพัฒนาการท่องเทีย่ ว วิ ถี ชี วิ ต ลุ ่ ม น�้ ำ โขง ซึ่ ง มี ส ภาพแวดล้ อ มที่ ส มบู ร ณ์ ด ้ ว ยธรรมชาติ อันงดงาม มีแหล่งท่องเที่ยวน่าประทับใจมากมาย มีพื้นที่ติดกับ แม่น�้ำโขง แขวงบอลิค�ำไซสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่ ง นอกจากความสวยงามตามธรรมชาติ แ ล้ ว ยั ง มี คุ ณ ค่ า ทาง ประวัติศาสตร์โบราณคดี ศิลปกรรม และประเพณีท้องถิ่นที่สืบทอด กันมาอย่างช้านานอีกด้วย และสภาพภูมิศาสตร์ของจังหวัดบึงกาฬ ท�ำให้สามารถก�ำหนดยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว เพื่อเชื่อมต่อ เชื่อมโยงในแถบลุ่มน�้ำโขงได้อย่างมีศักยภาพต่อไปได้ ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว อันจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดบึงกาฬ อย่างยั่งยืน

10 ที่เที่ยวบึงกาฬเบิกบานอุรา จังหวัดบึงกาฬมีสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วหลากหลายประเภท และสามารถ เที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยมีแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นน่ามาเยือน อาทิ 1.กลุ่มทอผ้าพื้นเมืองบ้านสะง้อ 2.สะดือแม่น�้ำโขง วัดอาฮงศิลาวาส 3.ร้ า นค้ า ประชารั ฐ จั ง หวั ด บึ ง กาฬ (IBK Coffee shop) 4.หลวงพ่อพระใหญ่ “วัดโพธาราม” 5.ห้องเรียนธรรมชาติ “ภูสงิ ห์ บึงกาฬ” 6.ท่ อ งเที่ ย วชุ ม ชนห้ ว ยเล็ บ มื อ 7.วั ด เจติ ย าศรี วิ ห าร (วั ด ภู ท อก) 8.น�้ ำ ตกเจ็ ด สี 9.น�้ ำ ตกถ�้ ำ พระ และ 10.พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ชุ ม ชนมี ชี วิ ต ซึง่ สามารถสอบถามรายละเอียดและขอเข้าชมได้ที่ คุณนริศรา วงศ์ภมู ี (สุริยะ)โทร.086-229-7629 FB : พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต จ.บึงกาฬ (สามารถเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินอุดรธานี แล้วต่อรถ อีกประมาณ 130 กิโลเมตร หรือ นั่งรถไฟจากกรุงเทพฯ ลงที่ จ.หนองคาย แล้วต่อรถอีกประมาณ 80 กิโลเมตร)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส�ำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬ โทร. 042-492-471 โทรสาร 042-492-471 PRACHINBURI I SBL บันทึกประเทศไทย

2

.indd 57

57

27/2/2562 15:11:48


เราให้มากกว่าที่คุณคิด บริการดุจญาติมิตร คิดถึงโรงแรมเอ็มแกรนด์นะคะ

M GRAND HOTEL

โ ร ง แรม เ อ็ ม แ กรนด ์ “ถ้าคิดถึงที่พัก คิดถึง M GRAND นะคะ”

M GRAND HOTEL โรงแรมดีไซน์สวย มีเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร ที่ซึ่งคุณจะประทับใจ ในบริการที่อบอุ่นเป็นกันเอง

บริการห้องพักสะอาดสะดวกสบาย หลากหลายรูปแบบ ทัง้ เตียงเดีย่ ว , เตียงคู่ พักได้ตงั้ แต่ 1 ท่านขึน้ ไป และยังมีหอ้ งส�ำหรับครอบครัว หรือพักได้ถงึ 4 ท่าน 58

SBL บันทึกประเทศไทย I ฉะเชิงเทรา

m grand.indd 58

28/2/2562 14:39:09


M GRAND HOTEL

สิ่งอ�ำนวยความสะดวกครบครันอาทิ Wi-Fi แอร์ ตู้ เตียง กระจก โต๊ะ เก้าอี้ เครื่องท�ำน�้ำอุ่น ตู้เย็น พัดลม โคมไฟหวาย ระเบียงรับลม รอบบริ เ วณโรงแรมมี ด อกไม้ ป ระดั บ นานาพั น ธุ ์ ส วยงามให้ ช ม เดินทางสะดวกสบายเพราะเราตัง้ อยูใ่ กล้ถนนใหญ่หา่ งจากตลาดสด โนนสมบูรณ์ 100 ม. ห่างจากร้าน 7-11 แค่ 200 เมตร มีร้านอาหาร หน้าโรงแรมมากมายหลายร้านมีจักรยานบริการ พร้อมที่จอดรถ สะดวกปลอดภัย ใกล้สถานทีท่ อ่ งเทีย่ วชือ่ ดังของ อ.บึงกาฬ อาทิ ภูทอก และหินสามวาฬ น�้ำตกเจ็ดสี น�้ำตกถ�้ำพระ ฯลฯ

095-1465363

m grand.indd 59

โรงแรมเอ็มแกรนด์ (M GRAND HOTEL) 159 หมู่10 ต�ำบลโนนสมบูรณ์ อ�ำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ 38000 : HotelMgrand สามารถจองที่พักได้ที่ www.booking.com www.agoda.com www.hotel.com CHACHOENGSAO I SBL บันทึกประเทศไทย 59

28/2/2562 14:39:16


โรงแรมไชยะบุ รี สงบ สะอาด บรรยากาศดี

โรงแรมไชยะบุ รี โรงแรมที่ ตั้ ง อยู ่ ใ นเมื อ งบึ ง กาฬ ท่ า มกลางบรรยากาศที่ เ งี ย บสงบ เหมาะแก่ ก ารพั ก ผ่ อ นอย่ า งแท้ จ ริ ง ห้ อ งพั ก สะอาด พร้ อ มสิ่ ง อ� ำ นวยความสะดวกครบครั น อาทิ แอร์ ที วี ตู ้ เ ย็ น เครื่ อ งท� ำ น�้ ำ อุ ่ น FREE WI-FI อี ก ทั้ ง ยั ง มี ที่ จ อดรถกว้ า งขวางสะดวกสบาย พร้ อ มด้ ว ยบริ ก ารที่ อ บอุ ่ น เป็ น กั น เอง ในราคามิ ต รภาพ และ อุ ่ น ใจด้ ว ยระบบรั ก ษาความปลอดภั ย ตลอด 24 ชั่ ว โมง โรงแรมไชยะบุ รี เพื่ อ นรั ก นั ก เดิ น ทาง 60

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 60

. - 01/03/2562 09:03:39 AM


สถานที่ ท ่ อ งเที่ ย วใกล้ เ คี ย ง อ� ำ เภอศรี วิ ไล ภู ท อก หรื อ วั ด เจติ ย าคี รี วิห าร เป็ น สถานที่ ปฏิ บั ติ ธ รรมของพระภิ ก ษุ สามเณร และพุ ท ธศาสนิ ก ชนทั่ ว ไป ต� ำ บลบึ ง โขงหลง บึ ง โขงหลง เป็ น สถานที่ ท ่ อ งเที่ ย ว ทางธรรมชาติ ข องจั ง หวั ด บึ ง กาฬ ที่ ยิ่ ง ใหญ่ ไ ม่ แ พ้ บึ ง น�้ ำ แห่ ง ไหน และมี น�้ ำ ตลอดปี

ส� ำ รองห้ อ งพั ก ติ ด ต่ อ (24 ชั่ ว โมง) 419 หมู ่ 9 บ้ า นแสนประเสริ ฐ ต� ำ บลบึ ง กาฬ อ� ำ เภอเมื อ ง จั ง หวั ด บึ ง กาฬ 38000 0-4249-1917, 06-5326-1696 https://chaiyaburi.simdif.com

โรงแรมไชยะบุรี โรงแรมไชยะบุรี บึงกาฬ

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

.indd 61

61

. - 01/03/2562 09:04:00 AM


“ห้องพักสะอาด บริการดุจญาติ สูดอากาศบริสุทธ์ ริมฝั่งโขงบึงกาฬ”

KHONG SUNSHINE

โรงแรมโขงซันไชน์ KHONGSUNSHINE

โรงแรมโขงซันไชน์ โรงแรมเปิดใหม่ทรี่ ใู้ จนักเดินทาง ซึง่ อยูใ่ นตัวเมืองบึงกาฬ ผูม้ าเยือนจะได้ชมวิวสวยๆ ในบรรยากาศติดริมแม่นำ�้ โขง พร้อมสูดอากาศบริสทุ ธิ์ เหมาะแก่การมาพักผ่อนหย่อนใจ ห้องพักของเราได้รบั การตกแต่งอย่างเรียบง่าย ทันสมัย สีสนั สดใส บริการทีน่ อนหนานุม่ ทีวจี อแบน แอร์ ตูเ้ ย็น และ ฟรี WI-FI พร้อมบริการที่จอดรถกว้างขวาง สะดวก ปลอดภัย มาเยือนบึงกาฬครั้งใดให้โรงแรมโขงซันไชน์ ได้รับใช้คุณนะคะ

62

KHONGSUNSHINE (โรงแรมโขงซั น ไชน์ ) เลขที่ 829 หมู่ 7 ถนนชาญสินธุ์(ถนนข้าวเม่า) ต�ำบลวิศิษฐ์ อ�ำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ 38000 SBL บันทึกประเทศไทย I ฉะเชิงเทรา

1

.indd 62

โทร. 062-130-4066, 081-557-8787

: โขงซันไชน์ Khong Sunshine - บึงกาฬ

28/2/2562 14:52:06


โ ร ง แ ร ม ช า น เ มื อ ง คั น ท รี วิ ว

โรงแรมชานเมืองคันทรีวิว ที่อยู่ 129 ม.2 ถ.บึงกาฬ-หนองคาย ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ

โทร. 095-1412355, 081-9743494 CHACHOENGSAO I SBL บันทึกประเทศไทย

1

..indd 63

63

28/2/2562 15:16:02


โ ร ง แ ร ม วิ พั ฒ น ์ บึ ง ก า ฬ ... เ พื่ อ น ใ จ นั ก เ ดิ น ท า ง

VIPAT BUENGKAN

VIPAT HOTEL

โรงแรมวิ พั ฒ น์ บึ ง กาฬ

ไม่ว่าคุณจะเดินทางเพื่อท่องเที่ยวหรือท�ำงานที่จังหวัด บึงกาฬ เราขอแนะน�ำ โรงแรมวิพฒ ั น์ บึงกาฬ ทีพ ่ กั ราคา ประหยัด แต่ให้บริการที่คุ้มค่า ในบรรยากาศเงียบสงบ และอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง ด้วยบริการห้องพักที่สะอาด สะดวก สบาย จ�ำนวน 44 ห้อง ทัง้ แบบเตียงเดีย่ ว-เตียงคู่ พร้อมสิ่งอ�ำนวยความสะดวกในห้องพักและโรงแรม อาทิ บริการ WIFI ฟรี เครือ่ งปรับอากาศ เครือ่ งท�ำน�ำ้ อุน่ ตู้เย็น น�้ำดื่มฟรี กาแฟในห้องพักฟรี ทีวีจอแบน พร้อม ช่องเคเบิ้ล ที่จอดรถกว้างขวาง สะดวกสบาย

โรงแรมวิพัฒน์ บึงกาฬ อบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน พร้อมบริการทุกท่าน โรงแรมวิพัฒน์ บึงกาฬ (VIPAT BUENGKAN HOTEL) 64 SBL426 บันทึกหมู ประเทศไทย งเทรา .่ 9 ถนนวิI ทฉะเชิ ยาลั ยเทคนิคบึงกาฬ ต�ำบลบึงกาฬ อ�ำเภอบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ 38000 โทร. 042-492641,080-6254859

.

.indd 64

: Vipat Hotel

28/2/2562 15:44:38


BK Place Hotel (โรงแรมบีเค เพลส)โรงแรมหรูหรา ทันสมัย ใจกลางเมืองบึงกาฬ

BK Place Hotel (โรงแรมบี เ ค เพลส) เราให้คุณมากกว่าความสะดวกสบาย

โรงแรมบีเคเพลส Bk Place hotel บึงกาฬ

BK Place Hotel (โรงแรมบีเค เพลส) โรงแรมหรูหรา ทันสมัย ใจกลางเมืองบึงกาฬ ที่ซึ่งคุณจะได้ พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม บนเตียงนอนนุ่มสบาย พร้อมสิ่งอ�ำนวยความสะดวกภายในห้องพัก อาทิ เคเบิ้ลทีวี แอร์ ตูเ้ ย็น เครือ่ งท�ำน�ำ้ อุน่ Free Wifi สนุกสนานเพลิดเพลิน กับเครือ่ งเล่นในสวนน�ำ้ แห่งแรกของจังหวัดบึงกาฬ ฟิตเนสคลับ ห้องคาราโอเกะ อิ่มอร่อยกับเมนูเลิศรส ที่ ส วนอาหาร พร้ อ มบริ ก ารจั ด เลี้ ย ง ประชุ ม -สั ม มนา ด้ ว ยที ม งานมื อ อาชี พ และบริการที่อบอุ่นเป็นกันเอง สะดวกสบาย กับที่จอดรถกว้างขวาง พร้อมระบบ รักษาความปลอดภัย 24 ชม.

BK Place Hotel (โรงแรมบีเค เพลส)

168 หมู่ 9 ถนนบึงกาฬ-พังโคน ต�ำบลบึงกาฬ อ�ำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ 38000 CHACHOENGSAO I SBL บันทึกประเทศไทย 65 099-6380988, 085-0050589, 095-6705595, 042-491-805 : 0996380988 และ zhierly20 : Inbox www.facebook.com/bkplace E-mail : bkplace.resort@gmail.com .indd 65

28/2/2562 15:52:11


เปรมสินี อพาร์ทเม้นท์...สะดวก สะอาด บรรยากาศดี

PREMSINEE APARTMENT เปรมสิ นี อพาร์ ท เม้ น ท์ ให้บริการห้องพักรายวัน-รายเดือน สะอาด ราคาย่ อ มเยา มี ใ ห้ เ ลื อ กทั้ ง แบบ ห้ อ งแอร์ ห้ อ งพั ด ลม พร้ อ มเฟอร์ นิ เ จอร์ ฟรี WiFi ทีจ่ อดรถยนต์กว้างขวาง เข้าออกสะดวกสบาย และมั่นใจในระบบการรักษาความปลอดภัย ด้วยกล้องวงจรปิดรอบตัวตึก

เปรมสินี อพาร์ทเม้นท์

สะดวก สะอาด บรรยากาศดี ต้องที่ เปรมสินี อพาร์ทเม้นท์

66

เปรมสินี อพาร์ทเม้นท์ ( PREMSINEE APARTMENT ) 678 ม.7 ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ 38000 099-535-9665, 094-241-7446

SBL บันทึกประเทศไทย I ฉะเชิงเทรา

.indd 66

: เปรมสินี อพาร์ทเม้นท์

28/2/2562 15:59:05


แก่ ง อาฮง ริ เ วอร์ วิ ว ...ที่ พั ก ชิ ล ๆ ริ ม น�้ ำ โขง

R.HONG RIVERVIEW

แก่งอาฮง ริเวอร์วิว

แก่ ง อาฮง ริ เ วอร์ วิ ว ที่พักเปิดใหม่ในบรรยากาศชิลๆ สดชื่น ปลอดโปร่ง เพราะตัง้ อยูร่ มิ น�ำ้ โขงตรงข้ามกับวัดอาฮงศิลาวาส คุณจึง ไม่พลาดชมสะดือแม่น�้ำโขงอย่างแน่นอน ห้องพักโอ่โถง หรูหรา ทันสมัย พร้อมสิ่งอ�ำนวยความสะดวกครบครัน บริการห้องพักแบบรายวัน และห้องประชุมสัมมนา หรือ จั ด เวิ ร ์ ค ช็ อ ป ที่ ส ามารถรองรั บ ได้ ก ว่ า 100 ท่ า น สนนราคาเป็นกันเอง และบริการที่อบอุ่นประทับใจ ใครที่มาเที่ยวบึงกาฬ แล้วไม่ได้ ไปดูสะดือแม่น�้ำโขงที่อยู่บริเวณหน้าวัดอาฮงศิลาวาส ถือว่าไปไม่ถึงบึงกาฬ แก่งอาฮง ริเวอร์วิว (R.HONG RIVERVIEW) CHACHOENGSAO I SBL ริบัเนวอร์ ทึกประเทศไทย 67 101 หมู่ 4 ถ.บึงกาฬ-หนองคาย ต.ไคสี อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ 38000 โทร. 042-490990, 093-0743997 : แก่งอาฮง ววิ

.

.indd 67

4/3/2562 13:05:12


โรงแรมธาราแกรนด์...พักสบายใกล้ชิดธรรมชาติ

TARA GRAND HOTEL

TARA GRAND Hotel

อ�ำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ มีสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วยอดนิยม ทีห่ า้ มพลาดมากมาย อาทิ น�ำ้ ตกถ�ำ้ พระ น�ำ้ ตกเจ็ดสี ภูทอก บึงโขงหลง ฯลฯ เรียกว่าเทีย่ ววันเดียวไม่หมดแน่นอนค่ะ ถ้ า คุ ณ ก� ำ ลั ง มองหาห้ อ งพั ก ที่ ส ะอาด อยู ่ ส บาย ใกล้ ชิ ด ธรรมชาติ ที่ส�ำคัญคือราคาประหยัด เราขอแนะน�ำ โรงแรมธาราแกรนด์ ซึง่ เปิดให้บริการห้องพักรายวันในราคา ตั้งแต่ 400-600 บาท/วัน พร้อมสิ่งอ�ำนวยความสะดวก ภายในห้องพักครบครัน ที่จอดรถกว้างขวาง และสามารถ เดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย

มาเยือนเซกา อย่าลืมถามหา โรงแรมธาราแกรนด์ นะคะ โรงแรมธาราแกรนด์ (TARA GRAND HOTEL) 68

1

SBL บันทึกประเทศไทย I ฉะเชิงเทรา

.indd 68

186 ม.16 ต.เซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ 38150

098-2202443

: ธาราแกรนด์ เซกา

28/2/2562 16:13:57


ให้คณ ุ มากกว่าทีพ ่ กั ด้วยการบริการห้องประชุม-สัมมนา-จัดเลีย้ ง และสระว่ายน�ำ้

SAOWALAK VILLA

เสาวลั ก ษณ์ วิ ล ล่ า ...ที่พักดีท่ีสุดใน อ.เซกา

เสาวลั ก ษณ์ วิ ล ล่ า

เสาวลักษณ์ วิลล่า ห้องพักทีด่ ที ส่ี ดุ ใจกลางเมืองเซกา ที่ให้คุณมากกว่าที่พักสบายบริการที่หลากหลาย ด้วยห้องพักจำ�นวน 62 ห้องให้บริการทัง้ แบบรายวัน รายเดือนมีให้เลือกทั้งแบบห้องเดี่ยว-เรือนแถว สะดวกสบาย ด้วยสิ่งอ�ำนวยความสะดวกภายใน ห้องพักครบครัน ทีจ่ อดรถกว้างขวางและปลอดภัย ใกล้ย่านธุรกิจการค้า สนนราคาถูกใจ ด้วยราคาเบาๆ แบบรายวันเริ่มต้นที่ 400-500-600 บาท แบบรายเดือนเริ่มต้น 3,500 บาทขึ้นไป

SAOWALAK VILLA เสาวลั ก ษณ์ วิ ล ล่ า

เลขที่ 302 ม.10 ต.เซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ 38150

โทร.085-7410974

: โรงแรมเสาวลักษณ์วิลล่า อ.เซกา CHACHOENGSAO I SBL บันทึกประเทศไทย

.indd 69

69

28/2/2562 16:14:22


ย้อนร�ำลึกวันวาน ณ เรือนไทยเกสต์เฮาส์บึงโขงหลง

THAI GUEST HOUSE

เรื อ นไทยเกสต์ เ ฮาส์ บึ ง โขงหลง ....ห้องพักหรูหราบรรยากาศแบบไทยๆ ตั้งอยู่ใจกลางอ�ำเภอบึงโขงหลง บึงกาฬ

Thai Guest House

เรือนไทยเกสต์เฮาส์บึงโขงหลง ห้องพักสะอาด บรรยากาศปลอดโปร่ง ห้องพักมีสไตล์การตกแต่งทีแ่ ตกต่างกัน มีทงั้ หมด 3 แบบ คือ แบบเรือนไทย แบบโมเดิรน์ คลาสสิคและแบบยุโรป พร้อมสิง่ อ�ำนวยความสะดวก อาทิ TV Wi-Fi ความเร็วสูง และบริการอาหารเช้า เดินทางสะดวกสบาย ด้วยที่จอดรถกว้างขวางปลอดภัย บริการรถน�ำเทีย่ ว และรถรับส่งสนามบิน คุม้ ค่าราคาประหยัดด้วยสนนราคาเริม่ ต้น 500 บาทขึน้ ไป

สัมผัสบรรยากาศที่พักแบบไทยที่ได้มาตรฐานสากล ต้องพักที่ เรือนไทยเกสต์เฮาส์บึงโขงหลง

70

เรือนไทยเกสต์เฮาส์บึงโขงหลง ( Thai Guest House ) 195/2 หมู่ที่ 12 ต.บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ 081-9645255, 061-1092700 SBL บันทึกประเทศไทย I ฉะเชิงเทรา

.indd 70

: เรือนไทยเกสต์เฮาส์ บึงโขงหลง Thai Guest House ที่พัก โรงแรม รีสอร์ท บึงกาฬ

28/2/2562 14:19:56


แม่โขงสกายรีสอร์ท..ให้บริการครบ จบที่เดียว

แม่ โ ขง สกายรี ส อร์ ท

แม่โขง สกาย รีสอร์ท

เราเป็นมากกว่าทีพ ่ กั หรู ซึง่ มอบความสุขสบาย ภายใต้บรรยากาศอันแสนรื่นรมย์แก่ท่าน แต่เรายังมีบริการจัดงานเลี้ยงรับรอง จัดอบรมสัมมนา งานเลี้ยงรุ่น งานมงคลสมรส และอื่น ๆ อย่างครบวงจร ด้วยห้องจัดงานที่จุได้ถึง 200 คน พร้อมบริการอาหาร อร่อย และเครื่องโสตทัศนูปกรณ์ที่ทันสมัย ในราคาที่ เป็นกันเอง เพื่อมอบความประทับใจสูงสุดแก่ท่าน

นึกถึงที่พักและการจัดเลี้ยงครั้งใด นึกถึง แม่โขงสกายรีสอร์ท แม่โขงสกายรีสอร์ท (MAEKHONG SKY RESORT) 87 ม.5 ต.หนองเดิน่ อ.บุง่ คล้า จ.บึงกาฬ 38000 062-8327869, 098-9831999, 061-4799898

.indd 71

ทึกประเทศไทย : แม่CHACHOENGSAO โขงสกาย รีสอร์ทI SBL อ.บุบัง่ นคล้ า จ.บึงกาฬ71

28/2/2562 16:16:46


SUKS AN RES OR T

สุขสันต์ รีสอร์ท

SUKSAN RESORT สุขสันต์ รีสอร์ท สุขสันต์ รีสอร์ท ให้บริการที่พักทั้งแบบรายวันและรายเดือน ด้วยบ้านพักเป็นหลัง ท่ามกลางสวนสวย พร้อมสิ่งอ�ำนวยความสะดวก อาทิ ตู้เย็น เครื่องน�้ำอุ่น ทีวี ที่ จ อดรถส่ ว นตั ว และกล้ อ งวงจรปิ ด เพื่ อ ความปลอดภั ย ตลอด 24 ชั่ ว โมง

สุขสันต์ รีสอร์ท (Suksan Resort)...สุขสบายใกล้ชิดธรรมชาติ สุขสันต์ รีสอร์ท (SUKSAN RESORT)

72

72 หมู่ 2 ถนนบึงกาฬ-พังโคน ต�ำบลชุมภูพร อ�ำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ 38210

SBL บันทึกประเทศไทย I ฉะเชิงเทรา

.indd 72

โทร. 042-490-997, 095-232-9696

: สุขสันต์ รีสอร์ท

28/2/2562 14:14:03


เดอะลิ ต เติ้ ล การ์ เ ดนท์ รี ส อร์ ท ...ที่ พั ก ศิ วิ ไ ลซ์ ใน อ.ศรี วิ ไ ล บึ ง กาฬ

The Little Garden Resort

THE LITTLE GARDEN RESORT เดอะลิ ต เติ้ ล การ์ เ ดนท์ รี ส อร์ ท

เดอะลิตเติ้ลการ์เดนท์รีสอร์ท (The Little Garden Resort) รีสอร์ทหรูทา่ มกลางบรรยากาศของสวนสวย บริการบ้านพักที่แยกเป็นเอกเทศ เพื่อให้คุณ หลับสบายและผ่อนคลายได้อย่างแท้จริง

เดอะลิตเติ้ลการ์เดนท์รีสอร์ท เลขที่ 239 หมู่ 5 ต.ศรีวไิ ล อ.ศรีวไิ ล จ.บึงกาฬ 38210 Tel: 098-2965196 ,093-4248388 The Little Garden Resort

พักสบายอุ่นใจเหมือนอยู่บ้าน เพราะบ้านพักแต่ละหลังมีสิ่งอ�ำนวยความสะดวก ครบครัน อาทิ แอร์, ทีวี, ตู้เย็น, เครื่องท�ำน�้ำอุ่น, กาแฟในห้อง และ Free Wi-Fi (ไม่ มี อ าหารเช้ า ) เดิ น ทางสะดวกสบาย เพราะตั้ ง อยู ่ ใ กล้ แ หล่ ง ท่ อ งเที่ ย ว โดยอยู่ห่างจากสถานที่ต่าง ๆ ดังนี้ วัดภูทอก 25 กม. ภูสิงห์ (หินสามวาฬ) 15 กม. ตัวอ�ำเภอศรีวิไล 4 กม. ตัวจังหวัดบึงกาฬ 22 กม. CHACHOENGSAO I SBL บันทึกประเทศไทย

.indd 73

73

4/3/2562 13:19:40


TRAVEL GUIDE

บันทึกเส้นทางความเป็นมาจังหวัดบึงกาฬ

บึงกาฬ จังหวัดน้องใหม่ อนาคตไกล

จังหวัดบึงกาฬ คือ จังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย เดิมเป็นอ�ำเภอบึงกาฬ และเป็นต�ำบล หนึ่งในเขตการปกครองของอ�ำเภอชัยบุรี จังหวัดนครพนม ซึ่งมีที่ว่าการอ�ำเภอ ตั้งอยู่ที่บริเวณ ปากน�้ำสงคราม ต่อมาไม่ทราบชัดว่าปีใด ทางราชการได้ย้ายที่ว่าการอ�ำเภอมาตั้งที่บึงกาญจน์ ริมฝัง่ ตรงข้ามเมืองปากซัน แขวงบลิคำ� ไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ปีพ.ศ.2459 ทางราชการก่อสร้างทีว่ ่าการอ�ำเภอขึน้ ใหม่ และโอนการปกครองอ�ำเภอชัยบุรมี าขึน้ กับจังหวัด หนองคาย ส่วนบริเวณทีต่ งั้ ทีว่ า่ การอ�ำเภอชัยบุรเี ดิมนัน้ ทางราชการยุบมาเป็นต�ำบลอยูใ่ นเขต การปกครองของอ�ำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม พ.ศ. 2475 ข้าราชการกระทรวงมหาดไทยท่านหนึง่ เดินทางมาตรวจราชการทีอ่ ำ� เภอไชยบุรี จังหวัดหนองคายพบว่า หมูบ่ า้ นบึงกาญจน์ มีหนองน�ำ้ ใหญ่แห่งหนึง่ กว้างประมาณ 160 เมตร ยาวประมาณ 3,000 เมตร มีน�้ำขังตลอดปี ชาวบ้านได้อาศัยน�้ำในบึงแห่งนี้บริโภคและใช้สอย ชาวบ้านเรียก “บึงกาญจน์” เป็นทีร่ จู้ กั โดยทัว่ ไป จึงได้พจิ ารณาและจัดท�ำรายงานไปยังกระทรวง มหาดไทย ขอเปลี่ยนแปลงชื่ออ�ำเภอไชยบุรีเป็น “อ�ำเภอบึงกาญจน์” ตั้งแต่นั้นมา พ.ศ. 2477 ทางราชการได้พจิ ารณาเห็นว่า บึงกาญจน์ ซึง่ แปลว่าน�ำ้ สีทองนัน้ ไม่สอดคล้อง กับสภาพความเป็นจริง เพราะน�้ำเป็นสีคล�้ำค่อนข้างด�ำ จึงได้เปลี่ยนชื่อใหม่ให้สอดคล้องกับ ความหมาย และความเป็นจริงของน�ำ้ ในบึงว่า “บึงกาฬ” ทางการจึงได้เปลีย่ นชือ่ อ�ำเภอบึงกาญจน์ เป็น “อ�ำเภอบึงกาฬ” เพือ่ ความสะดวกและเข้าใจง่าย โดยมีนายอ�ำเภอคนแรกคือ รองอ�ำมาตย์โท พระบริบาลศุภกิจ (ค�ำสาย ศิริขันธ์) ต่อมาได้แยกอ�ำเภอเซกา อ�ำเภอพรเจริญ อ�ำเภอศรีวิไล และ อ�ำเภอบุ่งคล้า ออกจากอ�ำเภอบึงกาฬ ตามล�ำดับ เหตุผลของการตั้งจังหวัดบึงกาฬ

การขอจัดตัง้ จังหวัดบึงกาฬ เป็นความต้องการของประชาชนในพืน้ ทีม่ าตัง้ แต่ ปี พ.ศ. 2537 เนือ่ งจากจังหวัดหนองคายมีระยะทางยาวจากเหนือจรดใต้ ประมาณ 330.6 กิโลเมตร ราษฎร ที่อาศัยอยู่ในอ�ำเภอบึงโขงหลง ซึ่งเป็นอ�ำเภอที่ไกลที่สุดต้องเดินทางมาติดต่อราชการโดยมี ระยะทางถึง 238 กิโลเมตร ท�ำให้การเดินทางไปและกลับเสียเวลาและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย ตลอดจนการบริหารราชการและการแก้ไขปัญหาด้านชายแดนแก่ประชาชนไม่สะดวกและไม่ทวั่ ถึง หากมีการจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬแล้ว จะประหยัดเวลาและลดค่าใช้จ่ายของราษฎร การบริหาร ราชการจะสามารถลงไปแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนในพืน้ ทีไ่ ด้สะดวกและทัว่ ถึงมากขึน้ รวมทัง้ สามารถแก้ไขปัญหาการลักลอบค้ายาเสพติด การลักลอบค้าของเถือ่ น การโจรกรรมทรัพย์สนิ ตามแนวชายแดน และปัญหาแรงงานต่างด้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 74

_

แนวโน้มการค้าชายแดนหลัง เป็นจังหวัดบึงกาฬ

ความเชื่ อ มั่ น เรื่ อ งการจั ด ตั้ ง จั ง หวั ด บึงกาฬเป็นผลทางจิตวิทยา ท�ำให้มกี ารขยาย ตัวทางเศรษฐกิจด้านการค้าชายแดน จาก เดิมขยายตัว ร้อยละ 5-6 ต่อปี ในปี 2553 มีการขยายตัวเพิม่ ขึน้ ร้อยละ 10 โดยเฉพาะ สินค้าน�ำเข้าหลัก ซึ่งได้แก่ ไม้แปรรูป จาก แขวงบอลิค�ำไซ และแขวงค�ำม่วน คาดว่าจะ มีการน�ำเข้าเพิม่ ขึน้ ส�ำหรับสินค้าส่งออก ซึง่ ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า ปูนซิเมนต์ คาดว่าจะมีการส่งออกมากขึ้น เช่นกัน การเตรียมความพร้อม เพื่ อจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ

เพื่อให้การจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬมีความ พร้อม และสามารถบริหารราชการได้ทันทีที่ กฎหมายมี ผ ลบั ง คั บ ใช้ และเพื่ อ ให้ ก าร ด�ำเนินจัดตัง้ ศูนย์ราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็น ไปอย่างถูกต้อง เหมาะสมสอดคล้องกับ แนวทางการด�ำเนินงานเรื่องศูนย์ราชการ ภูมิภาค จังหวัดหนองคาย จึงมีค�ำสั่งแต่งตั้ง คณะท�ำงานเฉพาะกิจจัดวางผังแม่บทศูนย์ ราชการจังหวัดบึงกาฬ โดยมีผู้ว่าราชการ จังหวัดหนองคาย เป็นประธานคณะท�ำงาน เพือ่ ท�ำหน้าทีพ่ จิ ารณาความเหมาะสมในการ จัดวางผังแม่บทศูนย์ราชการจังหวัด

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 74

4/3/2562 16:32:26


ศั กยภาพของอ�ำเภอบึงกาฬ สู่ จังหวัดที่ 77

ด้วยศักยภาพของอ�ำเภอบึงกาฬ โดย เฉพาะทางด้านโครงสร้างพืน้ ฐานในการทีจ่ ะ เป็นฐานจัดตั้งจังหวัดที่ 77 ถือว่ามีความ พร้อมเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีทั้งมีศาลจังหวัด เรือนจ�ำ โรงพยาบาลขนาด 90 เตียง และ เตรียมยกระดับเป็น 120 เตียง สถาบันการ ศึกษาระดับอุดมศึกษา ระดับอาชีวศึกษา ด่านตรวจคนเข้าเมืองถาวร ด่านศุลกากร ถาวร การไฟฟ้าฝ่ายผลิต แขวงการทางที่ เที ย บเท่ า แขวงการทางระดั บ จั ง หวั ด โครงสร้างพืน้ ฐานเหล่านี้ ได้บง่ บอกถึงความ พร้อมรับกับการจัดตั้งเป็นจังหวัดบึงกาฬ ผลประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อเป็น จังหวัดบึงกาฬ

1. ด้านการบริหารราชการ ประชาชนชาว จังหวัดบึงกาฬจะได้รับการบริการ การแก้ไข ปั ญ หาจากภาคราชการ ได้ อ ย่ า งสะดวก รวดเร็ว เนื่องจากมีพื้นที่ไม่ห่างไกลเหมือน เช่นการเดินทางมาจังหวัดหนองคาย 2. ด้านความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อน บ้าน สถานะจังหวัดเทียบเท่ากับแขวงบอลิ ค�ำไซของสปป.ลาว 3. ด้ า นความเชื่ อ มั่ น เรื่ อ งการจั ด ตั้ ง จังหวัดบึงกาฬเป็นผลทางจิตวิทยา ท�ำให้มี การขยายตัวทางเศรษฐกิจด้านการค้าชายแดน

4. จั ง หวั ด บึ ง กาฬเป็ น พื้ น ที่ ส ่ ง เสริ ม East-West Development Corridor ให้มี ความเข้มแข็ง อีกทั้งยังเป็นเส้นทางการค้า และการท่ อ งเที่ ย วจากประเทศไทย ไปสู ่ สปป.ลาว ผ่านไปยังเมืองวินห์ ของประเทศ เวียดนาม โดยใช้เส้นทางหมายเลข 13 ของ สปป.ลาว และหมายเลข 8 ของเวียดนาม และสามารถเชื่อมไปยังจีนตอนใต้อีกด้วย 5. จังหวัดบึงกาฬมีพ้ืนที่ปลูกยางพารา มากที่สุดในภาคอีสาน 6. ด้านโลจิสติกส์ ในอนาคตอันใกล้เมือ่ มีการตั้งจังหวัดบึงกาฬแล้ว คาดว่าจะมีการ ก่อสร้างสะพานข้ามแม่น�้ำโขงจากจังหวัด บึงกาฬไปยังเมืองปากซัน แขวงบอลิค�ำไซ เพื่อใช้เป็นเส้นทางขนส่งสินค้า เส้นทางการ ท่องเที่ยวอันส�ำคัญไปสู่ประเทศสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาวและประเทศ เวียดนาม ทั้งนี้ จังหวัดหนองคาย ได้เตรียมพร้อม เพื่อด�ำเนินการส�ำรวจออกแบบและก่อสร้าง โครงการก่อสร้างถนนสายแยกทางหลวง หมายเลข 212 ท่าแพขนานยนต์อ�ำเภอ บึงกาฬ เพื่อเป็นการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ เชื่อมโยงระบบโครงข่ายคมนาคมให้มีความ สมบูรณ์ รวมทั้งเป็นการเตรียมการรองรับ ความเจริญเติบโตของเมืองในอนาคต ประกาศจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ

ต่อมารัฐสภาได้มีมติเห็นชอบ “ร่างพระ ราชบัญญัตจิ ดั ตัง้ จังหวัดบึงกาฬ” เมือ่ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 นายอภิสทิ ธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี (ในขณะนัน้ ) จึงถวายร่างพระ ราชบัญญัติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช เพื่ อ ทรงลงพระ ปรมาภิไธย โดยทรงลงเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 และน�ำประกาศเป็น “พระราชบัญญัติ ตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2554” ในราชกิจ จานุเบกษา เมือ่ วันที่ 22 มีนาคม 2554 และ ใช้บังคับในวันรุ่งขึ้น

เหตุผลในการประกาศ ใช้พระราชบัญญัติ มีว่า

“...เนือ่ งจากจังหวัดหนองคายเป็นจังหวัด ที่ มี ท ้ อ งที่ ติ ด ชายแดน และมี ลั ก ษณะ ภูมิประเทศเป็นแนวยาว ท�ำให้การติดต่อ ระหว่างอ�ำเภอที่ห่างไกลและจังหวัดเป็นไป ด้วยความยากล�ำบาก และใช้ระยะเวลาใน การเดิ น ทางมากเกิ น ควร ดั ง นั้ น เพื่ อ ประโยชน์ในการจัดระเบียบการปกครอง การ รั ก ษาความมั่ น คง และการอ� ำ นวยความ สะดวกให้แก่ประชาชนในท้องที่ สมควรแยก อ�ำเภอบึงกาฬ อ�ำเภอเซกา อ�ำเภอโซ่พิสัย อ�ำเภอบุ่ง คล้า อ�ำเภอบึงโขงหลง อ�ำเภอ ปากคาด อ�ำเภอพรเจริญ และอ�ำเภอศรีวิไล จังหวัดหนองคายออกจากการปกครองของ จั ง หวั ด หนองคาย รวมตั้ ง ขึ้ น เป็ น จั ง หวั ด บึงกาฬ จึงจ�ำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตนิ ”ี้ นอกจากมาตรา 3 ของพระราชบัญญัติ ดังกล่าว ทีใ่ ห้จดั ตัง้ จังหวัดบึงกาฬ โดยมีองค์ ประกอบเป็ น อ� ำ เภอทั้ ง แปดข้ า งต้ น แล้ ว มาตรา 4 ยังให้เปลี่ยนชื่อ “อ�ำเภอบึงกาฬ” เป็น “อ�ำเภอเมืองบึงกาฬ” ด้วย และเมื่ อ วั น ที่ 22-25 มี น าคม พ.ศ. 2554 ได้มีการจัดงานฉลองจังหวัดบึงกาฬ อย่างยิง่ ใหญ่ โดยมีชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรี ว่ า การกระทรวงมหาดไทย ในขณะนั้ น เป็นประธานในพิธี ขอขอบคุณข้อมูลจาก

รายงานการศึกษาดูงานเรือ่ ง “การเตรียม ความพร้อมการตั้งจังหวัดบึงกาฬ” คณะ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราช บัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. สภาผู้แทน ราษฎร ระหว่างวันที่ 20-22 มกราคม 2554 ณ อ�ำเภอบึงกาฬ จังหวัดหนองคาย

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

_

.indd 75

75

4/3/2562 16:32:27


TRAVEL GUIDE

บันทึกเส้นทางท่องเที่ยวจังหวัดบึงกาฬ

76

_

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 76

4/3/2562 16:32:28


เช็คอินที่เที่ยวสุดฮิต @บึงกาฬ แม้บงึ กาฬจะเป็นจังหวัดน้องใหม่ แต่ศกั ยภาพด้านการท่องเทีย่ วนัน้ ไม่ธรรมดาจริงๆ เราจะชวนท่านไปสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยว หลากหลาย ทั้งภูเขา น�้ำตก และหนอง-แก่ง-บึง ซึ่งที่บึงกาฬมีแหล่งน�้ำ ที่ เ ป็ นเพี ย ง 2 แห่ งในภาคอี ส าน ที่ ถู กประกาศเป็ นพื้น ที่ชุ่ม น�้ำโลก รวมถึ ง ไปเยื อ นบ้ า นพญานาคยุ ค ประเทศไทย 4.0 ที่ จ ะท� ำ ให้ คุ ณ จะมี ค วามสุ ข ทุ ก ครั้ ง ที่ นึ ก ถึ ง รี บ วางแผนไปเช็ ค อิ น ที่ เ ที่ ย วสุ ด ฮิ ต @บึ งกาฬกั นเถอะค่ ะ

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

_

.indd 77

77

4/3/2562 16:32:29


อัศจรรย์ล้านบัวแดง

แห่งหนองเลิง

เพิง่ จะฮิตกันไม่นานกับหนองเลิง แหล่ง ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เที่ยวได้ทุกฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว ที่ดอกบัวแดง นับล้านๆ ดอก จะพร้อมใจกันบานสะพรั่ง ดึงดูดทุกสายตา และหน้าร้อนทีน่ กี่ จ็ ะกลาย เป็นสวรรค์ของเด็ก ๆ และหนุ่มสาวผู้รักการ เล่นน�้ำ ล่องแพ บนเนื้อที่กว่า 3,065 ไร่ของหนองเลิง ตั้งแต่เช้าตรู่ถึงราวสิบเอ็ดโมงดอกบัวแดงที่ จับจองพืน้ ทีก่ ว่า 500 ไร่ ต่างพากันชูชอ่ อวด สายตานักท่องเทีย่ วต่างถิน่ ชาวบึงกาฬ และ จังหวัดใกล้เคียง เรียกว่ามองไปทางไหนก็ เห็นแต่สีชมพูอมแดงตัดกับสีของท้องฟ้าที่ สวยงามน่าประทับใจ ท่ามกลางบรรยากาศ 78

_

ทีเ่ ป็นธรรมชาติปราศจากมลพิษทัง้ ทางเสียง และอากาศ ท� ำ ให้ ที่ นี่ มี น กน�้ ำ นานาชนิ ด อพยพหนี ห นาวมาอาศั ย อยู ่ จ� ำ นวนมาก จังหวัดบึงกาฬจึงเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว แห่ ง ใหม่ ภ ายใต้ ชื่ อ “มหั ศ จรรย์ บั ว ริ ม บึ ง @หนองเลิง” ที่ นี่ มี ก ารบริ ห ารจั ด การท่ อ งเที่ ย วโดย เทศบาลต�ำบลดอนหญ้านาง ซึง่ ตระหนักถึง การท่ อ งเที่ ย วอย่ า งยั่ ง ยื น และอยากให้ นักท่องเทีย่ วได้สมั ผัสใกล้ชดิ กับทะเลบัวแดง มากที่สุด จึงได้จัดบริการเรือกีบซึ่งเป็นเรือ พายหาปลาของชาวบ้าน บริการโดยชาวบ้าน ซึ่งตลอดเส้นทางใช้เวลาเที่ยวชมประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ สนนราคาก็ไม่แพงแถมยังได้

ช่วยชาวบ้านให้มรี ายได้เสริมอีกด้วย ฤดูกาล เทีย่ วชมทะเลบัวแดงจะเริม่ ตัง้ แต่กลางเดือน พฤศจิกายนถึงต้นเดือนมีนาคมของทุกปี หลั ง จากนั้ น หนองเลิ ง จะแปรสภาพเป็ น ทะเลสาบให้ลอ่ งแพกินลมชมธรรมชาติ และ เป็นที่เล่นน�้ำคลายร้อนของชาวบึงกาฬ START THE JOURNEY บ้านสันติสุข หมู่ 5 ต�ำบลดอนหญ้านาง อ�ำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 60 กิโลเมตร และห่างจากตัวอ�ำเภอพรเจริญประมาณ 15 กิโลเมตร

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 78

4/3/2562 16:32:32


BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

_

.indd 79

79

4/3/2562 16:32:36


ความอัศจรรย์แห่งแม่น�้ำโขง ที่คละเคล้ากับความเชื่อความศรัทธา และวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น

UNSEEN สะดือแม่นำ�้ โขง

ณ แก่งอาฮง

เป็นทีท่ ราบกันดีวา่ แม่นำ�้ โขงทีม่ คี วาม ยาววัดได้ประมาณ 4,590 กม.นั้น มีต้น ก�ำเนิดจากประเทศจีน และไหลลัดเลาะ เป็นพรมแดนผ่าน 6 ประเทศ แต่ท่าน ทราบไหมคะว่า จุดที่ลึกที่สุดที่เรียกว่า “สะดือแม่น�้ำโขง” อยู่ที่ไหน บริเวณหน้าวัดอาฮงศิลาวาส บ้านอาฮง จะมี แ ก่ ง อาฮงเป็ น สถานที่ ท ่ อ งเที่ ย วที่ ส�ำคัญแห่งหนึ่ง ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวไทย โดยเฉพาะท่านที่เป็นพุทธศาสนิกชน และ 80

_

มีความเชือ่ ความศรัทธาเกีย่ วกับพญานาคราช มักจะเดินทางมาชมจุดทีแ่ ม่นำ�้ โขงมีความลึก ที่สุด ที่เรียกว่า “สะดือแม่น�้ำโขง” โดยมี ความเชื่อว่าจุดนี้เป็นประตูเชื่อมไปสู่เมือง บาดาลของพญานาคราชได้ และในช่วง ประเพณีออกพรรษา ประชาชนชาวบึงกาฬ และนักท่องเทีย่ วจะมารอชมบัง้ ไฟพญานาค บริเวณบ้านอาฮงเป็นจ�ำนวนมาก ซึง่ จะพบ บัง้ ไฟพญานาคขึน้ เป็นจ�ำนวนมาก ในวันขึน้ 15 ค�่ำเดือน 11

แม่นำ�้ โขงทีไ่ หลผ่านบริเวณแก่งอาฮง มี ความกว้างประมาณ 300-400 เมตร ตาม แต่ ฤ ดู ก าล แต่ เ ราจะมองเห็ น แก่ ง หิ น ที่ ปรากฏเป็นรูปร่างต่างๆ ตามแต่จนิ ตนาการ ได้ ใ นช่ ว งเดื อ นมี น าคม-พฤษภาคมของ ทุกปีเท่านั้น บริเวณใต้แก่งจะมีถ�้ำใต้น�้ำ หลายแห่ง และทีบ่ อกว่าเป็นจุดทีแ่ ม่นำ�้ โขง ลึกที่สุด ก็ไม่มีใครบอกได้ว่าลึกเท่าไหร่ เพราะเท่าที่วัดได้คือประมาณ 200 เมตร แต่จะลึกลงไปอีกเท่าไหร่ไม่สามารถวัดได้ เนื่องจากกระแสน�้ำบริเวณแก่งนี้จะไหล เชีย่ วมาก ยิง่ ในฤดูฝนกระแสน�ำ้ จะหมุนวน จนเห็ น เป็ น รู ป กรวยขนาดใหญ่ ถึ ง กั บ สามารถกลืนกินท่อนซุงขนาดใหญ่ให้หาย ไปกับตาได้เลยทีเดียว จึงเชือ่ กันว่าทีน่ เี่ ป็น “สะดือแม่น�้ำโขง” START THE JOURNEY

แก่งอาฮงตั้งอยู่เขตพื้นที่บ้านอาฮง หมู่ 3 ต�ำบลไคสี จังหวัดบึงกาฬ ตั้งอยู่ห่างจาก บึงกาฬ 21 กิโลเมตร

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 80

4/3/2562 16:32:42


BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

_

.indd 81

81

4/3/2562 16:32:49


จังหวัดที่อยู่ห่างไกลจากชายทะเล มักจะมีสถานที่ทดแทนให้ประชาชนในจังหวัดนั้นๆ หายคิดถึงชายทะเลจริง ไม่ว่าจะเป็นหาดทรายริมแม่น�้ำหรือหาดทรายในอ่างเก็บน�้ำ ที่เกิดขึ้นยามหน้าแล้ง และที่บึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬนี้ก็เช่นกัน

หลงเสน่ห์บางแสนอีสาน

ณ บึงโขงหลง

บึ ง โขงหลงเป็ น บึ ง น�้ ำ ขนาดใหญ่ ก ว่ า 11,800 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่เขตอ�ำเภอเซกา และอ�ำเภอบึงโขงหลง ทีไ่ ด้รบั การขึน้ ทะเบียน เป็นพื้นที่ชุ่มน�้ำของโลก (Wetland of International Importance) เป็นล�ำดับที่ 1 ในภาค อีสาน ล�ำดับที่ 2 ในไทย และล�ำดับที่ 1,098 ในโลกเมือ่ ปี พ.ศ. 2544 พืน้ ทีร่ อบๆ บึงมีไม้ปา่ เช่น ยาง ตะแบกแดง ประดู่ป่า ตะเคียนทอง ส่วนบนเกาะแก่งในบึงจะพบต้นหว้า ไทร มะเดือ่ และตะแบกนา ในบึงมีเกาะหรือที่ดอนอยู่ 82

_

มากมาย เช่น ดอนแก้ว ดอนโพธิ์ ดอนน่อง ดอนสวรรค์ ซึ่งบนเกาะเหล่านี้เป็นป่าดิบแล้ง ที่ อุ ด มสมบู ร ณ์ พบไม้ ยื น ต้ น อย่ า งตะแบก กระบก แสมขาว พญาสัตบรรณ กันเกรา กระบาก กกสามเหลีย่ ม บริเวณริมบึงจะปกคลุมไปด้วย ดงของแห้วทรงกระเทียม กกสามเหลีย่ ม และ ผักไผ่นำ�้ กลางผิวน�ำ้ ของบึงจะพบบัวสายและ บัวหลวง ส่วนใต้นำ�้ จะพบสาหร่ายหางกระรอก สันตะวาใบพาย ผักบุ้ง และพืชน�้ำที่ขึ้นรอบๆ เกาะแก่งจะเป็นแพงพวยน�ำ้ และบอน ในน�ำ้ ยัง

เป็นที่เพาะพันธุ์ปลาน�้ำจืดกว่า 25 ชนิด โดย เป็นปลาเศรษฐกิจ 8 ชนิด ได้แก่ ปลากระสูบจุด ปลาตะโกก ปลาสร้อยขาว ปลาสร้อยนกเขา ปลาแขยง ปลากดเหลือง ปลานิล และปลาช่อน และที่นี่ยังเป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์นก โดย ตามริมฝัง่ บึงบริเวณทีเ่ ป็นป่าและทุง่ หญ้า จะเป็น แหล่งวางไข่ของนกอย่างน้อย 29 ชนิด โดย เป็นจ�ำพวกนกเป็ดน�ำ้ และนกชายน�ำ้ 27 ชนิด จากนกทุกชนิดที่พบ จะมีอยู่ 3 ชนิดที่เป็นนก ประจ�ำถิ่น ที่เหลืออีก 26 ชนิดเป็นนกอพยพ นอกจากนี้ บึงโขงหลงยังมีหาดค�ำสมบูรณ์ เป็นหาดทรายที่สวยงาม และทอดยาวกว่า 1 กิโลเมตรในหน้าร้อน จนได้รบั ฉายา “บางแสน แห่งอีสาน” เป็นสถานทีเ่ ล่นน�ำ้ และทีพ่ กั ผ่อน ชมวิวพระอาทิตย์ตกที่งดงาม โดยมีฉากหลัง เป็ น เทื อ กเขาภู ลั ง กาที่ ท อดขนานไปตาม ความยาวของบึงแห่งนี้

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 82

4/3/2562 16:32:54


ขอขอบคุณที่มา : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

_

.indd 83

83

4/3/2562 16:33:00


เที่ยว 3 น�ำ้ ตกดัง

ที่เขตรักษาพั นธุ์ สัตว์ป่าภูวัว

เขตรั ก ษาพั น ธุ ์ สั ต ว์ ป ่ า ภู วั ว มี เ นื้ อ ที่ ประมาณ 186.5 ตารางกิ โ ลเมตร หรื อ 116,526 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ในเขตอ�ำเภอ บึงกาฬ อ�ำเภอเซกา อ�ำเภอบึงโขงหลง และ อ�ำเภอบุ่งคล้า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว อยู่ ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือสุดของภาค เกือบติดพรมแดน 48 ประเทศลาว มีอาณาเขต 2 ด้าน ขนานไปกับแม่น�้ำโขง อยู่ห่างจาก ชายแดนประมาณ 2 กิโลเมตร มีความสูงจาก

84

_

ระดับน�ำ้ ทะเลเฉลีย่ ประมาณ 150-300 เมตร สภาพป่าส่วนใหญ่เป็นป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง และป่ า ดิ บ ชื้ น บริ เ วณหั ว ภู ด ้ า นตะวั น ออก บนยอดภูเป็นลานหินโล่งกว้างทีถ่ กู น�ำ้ กัดเซาะ จนมี ล วดลายสวยงาม มี ร ะดั บ ความสู ง ประมาณ 330 เมตร สามารถมองเห็นทิวทัศน์ ทีเ่ ป็นป่าได้โดยรอบ เห็นได้ไกลถึงป่าในฝัง่ ลาว เช่น ภูควาย ภูงู ภูหมาก่าวของลาวได้ มีความสูง จากระดับน�ำ้ ทะเลเฉลีย่ ประมาณ 150-300 เมตร

สภาพป่าส่วนใหญ่เป็นป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง และป่าดิบชื้น บางส่วนเป็นสันเขาหินทราย ลานหินและทุ่งหญ้าโดยสถานที่แห่งนี้ยังคง ความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายของ ระบบนิเวศวิทยาเอาไว้ดังจะเห็นได้จากว่า สถานทีแ่ ห่งนีย้ งั คงมีสตั ว์หลากหลายสายพันธุ์ อาศัยอยู่ เช่น ช้าง เสือโคร่งเสือดาว หมี ชะมด ไก่ฟ้า ไก่ป่า ลิง ชะนีและนกนานาชนิด

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 84

4/3/2562 16:33:07


BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

_

.indd 85

85

4/3/2562 16:33:15


เยือนบ้านพญานาค

ณ หมู่บ้าน ท่องเที่ยวสตรีทอาร์ท

จังหวัดบึงกาฬได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดหนึ่งที่ มี ค วามเชื่ อ ความศรั ท ธาเกี่ ยวกั บ พญานาค โดยมีสถานทีช่ มบัง้ ไฟพญานาคในช่วงวันออก พรรษาหลายแห่ง มีจุดที่เชื่อว่าเป็นทางเข้าสู่ วังบาดาลของพญานาค แต่ปัจจุบันพญานาค จะไม่เป็นแค่ความเชื่ออีกต่อไป เพราะเรา สามารถพบเห็นพญานาคได้ทวั่ ไปใน “หมูบ่ า้ น ท่องเที่ยวสตรีทอาร์ท” จุดก�ำเนิดของหมูบ่ า้ นท่องเทีย่ วสตรีทอาร์ท นี้ เกิ ด จากส� ำ นึ ก รั ก บ้ า นเกิ ด ของชายหนุ ่ ม ท่านหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกในสาย 86

_

อาชีพฟูด้ สไตลิสท์ และต้องการกลับมาพัฒนา หมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ อ�ำเภอโซ่พิสัย จังหวัด บึงกาฬ อันเป็นบ้านเกิดให้เป็นที่รู้จักของคน ทั่วไป ผ่านการน�ำเอาวิถีชีวิต ความเชื่อความ ศรัทธาของชาวบ้านที่มีต่อพญานาค มาน�ำ เสนอผ่านงานศิลปะ 22 ภาพ บนฝาผนังบ้าน หรื อ สถานที่ ต ่ า งๆ ในหมู ่ บ ้ า น โดยการ สร้างสรรค์ของนักศึกษาและคณาจารย์ คณะ สถาปั ต ยกรรมศาสตร์ สถาบั น เทคโนโลยี พระจอมเกล้ า เจ้ า คุ ณ ทหารลาดกระบั ง ภาพวาดพญานาคแต่ ล ะภาพ จะสะท้ อ น

ตัวตนหรือบ่งบอกถึงอาชีพของเจ้าของสถานที่ ได้ แต่ทุกภาพจะมีความโดดเด่นคือ เป็น พญานาคขี้เล่น น่ารัก ดูมีชีวิตชีวา สีสันสดใส โดยเปิดให้ชมฟรีทุกวัน นอกจากนี้ ยั ง มี ก ารจั ด ตั้ ง พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ชุมชนมีชีวิต โดยเขาได้ปรับปรุงบ้านเก่าอายุ กว่า 60 ปี จัดแสดงภาพถ่าย ของใช้ในชุมชน และข้ า วของเครื่ อ งใช้ ใ นอดี ต เพื่ อ ให้ ช าว บึงกาฬและประชาชนทัว่ ไปได้หวนร�ำลึกถึงวิถี ชีวติ ทีเ่ รียบง่ายในอดีต โดยเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตัง้ แต่เวลา 09.00-17.00 น.ค่าเข้าชมท่านละ 50 บาท หรือท่านใดสนใจทริปท่องเทีย่ ว 3 วัน 2 คืน กับกิจกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ อาทิ ไหว้ พระท�ำบุญ ตักบาตรตอนเช้า ปั่นจักรยาน เรียนท�ำหมากเบ็ง ท�ำอาหารท้องถิน่ นวดแผนไทย ตามชาวบ้านไปชมวิถเี กษตร แต่งกายพืน้ บ้าน ถ่ายรูปพญานาค 22 จุดเช็คอิน พักโฮมสเตย์ ในหมู่บ้านที่รายล้อมด้วยธรรมชาติ พร้อมลิ้ม รสความอร่อยอาหารถิน่ ดีตอ่ กายและใจ สนใจ ติดต่อสอบถามได้ที่โทร 086 229 7626

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 86

4/3/2562 16:33:22


BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

_

.indd 87

87

4/3/2562 16:33:29


88

_

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 88

4/3/2562 16:33:38


หนองกุดทิง

พื้ นที่ชุ่มน�ำ้ โลก แห่งที่ 11 ของไทย ใครที่ ชื่ น ชอบธรรมชาติ ต ้ อ งไม่ พ ลาด หนองกุดทิง หนองน�้ำขนาดใหญ่ที่มีความ กว้างโดยเฉลี่ย 22,000 ไร่ ที่มีความหลาก หลายของสังคมพืชน�ำ้ และพันธุส์ ตั ว์ ทัง้ สัตว์นำ�้ และสัตว์ปกี เพราะมีพนื้ ทีเ่ ชือ่ มต่อแม่นำ�้ โขง และมีพื้นที่อนุรักษ์โดยไม่ให้คนผ่านเข้าไป จับสัตว์หรือเลี้ยงสัตว์โดยเด็ดขาด มากกว่า 5 แห่ง ที่นี่มีการส�ำรวจพบพันธุ์ปลาน�้ำจืดถึง 123 ชนิด ในจ�ำนวนนี้มีปลาประจ�ำถิ่นและ ปลาอพยพที่มาจากแม่น�้ำโขง มากกว่า 56 ชนิด เป็นปลาเศรษฐกิจ และเป็นแหล่งที่พบ ปลาที่มีเฉพาะที่นี่ 20 สายพันธุ์ เช่น ปลา ซิวแคระปลาน�ำ้ จืดขนาดเล็กทีส่ ดุ เป็นอันดับ 3 ของโลก และเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังที่ เล็ ก ที่ สุ ด ของไทย ทั้ ง ยั ง พบปลาที่ อ ยู ่ ใ น สถานภาพเสี่ยงต่อการคุกคามคือปลายี่สก หรือปลาเอิน รวมถึงการพบปลาประจ�ำถิ่น แม่น�้ำโขง คือ ปลาบู่กุดทิง ปลาบู่แคระ ปลา ซิวแก้ว ปลาซิวหางกรรไกรเล็ก ปลากัดอีสาน ปลาปักเป้าควาย ปลาสร้อยปีกแดง และปลา เหล็กใน เป็นแหล่งกุ้งน�้ำจืด 3 ชนิด คือ กุ้ง ฝอยเล็ก กุง้ ฝอยใหญ่ และกุง้ ฝอยแดง ทีช่ าว

กุดทิงจะจับมากินภายในครัวเรือน เหลือจะ ขายในตลาดท้องถิน่ พบพืชน�ำ้ กว่า 200 ชนิด และที่เป็นชนิดใหม่ของโลก คือต้นเล็บม้า และสาหร่ายข้าวเหนียวดอกเหลือง และ พรรณไม้เด่นที่พบมีทั้งกกสามเหลี่ยมหรือ ผือสาหร่ายเทปยักษ์ มีนกพันธุ์ต่างๆ กว่า 40 ชนิด ทั้งที่เป็นนกอพยพและนกประจ�ำ ถิ่นหลายชนิด เช่น นกเป็ดน�้ำ เหยี่ยว และ นกน�ำ้ อืน่ ๆ อีกมากกว่า 100 ชนิด ทีพ่ บมาก ได้แก่ นกเป็ดแดง ยังมีรายงานการพบนกที่

หายากและอยูใ่ นสถานภาพถูกคุกคามของโลก ได้แก่ เป็ดลาย นกเป็ดหัวด�ำ รวมถึงเหยี่ยว หาดูได้ยากอีก 2 ชนิด คือ เหยี่ยวทุ่งแถบ เหนือ และเหยี่ยวทุ่งพันธุ์ยุโรป ด้ ว ยสภาพพื้ น ที่ อั น อุ ด มสมบู ร ณ์ แ ละ ความหลากหลายทางชีวภาพนีเ้ อง หนองกุดทิง จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน�้ำโลก แห่งที่ 11 ของประเทศไทย ดังนั้นใครที่ชื่น ชอบการศึกษาเรียนรูส้ งั คมพืชน�ำ้ และสัตว์นำ�้ แปลกใหม่หายากต้องไม่พลาด BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

_

.indd 89

89

4/3/2562 16:33:39


90

_

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 90

4/3/2562 16:33:40


ผ้าขาวม้าดารานาคี ทอมือ ย้อมสีธรรมชาติหมักโคลนนาคี บึงกาฬ BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

_

.indd 91

91

4/3/2562 16:33:42


S P ECI A L P R O V INC IA L บันทึกเส้นทางพิเศษของจังหวัดบึงกาฬ

5

CHECK IN

Beautiful Place BUENG KAN

92

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

Special Bueng Kan.indd 92

. - 04/03/2562 11:48:03 AM ภูลำ� ดวน อ�ำเภอปากชม


SPECIAL INTERVIEW

BUENG KAN MAP แผนที่จังหวัดบึงกาฬ

3

4 5

2 1

LOCATION 1

บึงโขงหลง อ�ำเภอบึงโขงหลง

2

น�้ำตกถ�้ำพระ อ�ำเภอเซกา

3

กลุ่มทอผ้าฝ้ายพื้นเมืองบ้านสะง้อ อ�ำเภอเมืองบึงกาฬ

4

หาดสีดา อ�ำเภอเซบุ่งคล้า

5

ภูสิงห์ อ�ำเภอศรีวิ ไล BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

Special Bueng Kan.indd 93

93

. - 04/03/2562 11:48:12 AM


1

BUENG KHONG LONG บึงโขงหลง “ เป็นบึงน�้ำจืดในจังหวัดบึงกาฬ มีพื้นที่ครอบคลุมเขตอ�ำเภอเซกา และอ�ำเภอบึงโขงหลง ”

94

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

Special Bueng Kan.indd 94

. - 04/03/2562 11:48:15 AM


BUENG KHONG LONG “บึงโขงหลง” สถานที่น่าเที่ยวจังหวัดบึงกาฬ

ตั้งอยู่ที่ อ�ำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ของจังหวัดบึงกาฬ มีลักษณะเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่เป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์นก โดยเฉพาะนกน�้ำที่ย้ายถิ่นเข้ามาในช่วงฤดูหนาว ทั้งห่านป่า นกเป็ดน�้ำ นกยาง นกกระเต็น

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

Special Bueng Kan.indd 95

95

. - 04/03/2562 11:48:23 AM


2

THAM PHRA WATERFALL น�้ำตกถ�้ำพระ “ น�้ำตกดังในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ” ธารน�้ำไหลผ่านหน้าผากว้าง ตกกระทบแอ่งน�้ำเป็นละอองชุ่มฉ�่ำ

96

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

Special Bueng Kan.indd 96

. - 04/03/2562 11:48:23 AM


THAM PHRA WATERFALL “ น�้ำตกถ�้ำพระ ” เป็นอีกหนึ่งน�้ำตกงามที่อยู่ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว

ตั้งอยู่บริเวณบ้านโนนสมบูรณ์ อยู่ห่างจากอ�ำเภอเซกาประมาณ 34 กิโลเมตร แม้การเดินทางจะเข้าถึงยากล�ำบาก แต่ก็คุ้มค่าทีเดียว น�้ำตกภูถ�้ำพระ เกิดจากล�ำธารห้วยบังบาด บริเวณน�้ำตก เป็นหุบเขารูปแอ่งกระทะ ขนาดใหญ่มีธารน�้ำตกไหลหลดหลั่นลงสู่แอ่งน�้ำกว้าง

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

Special Bueng Kan.indd 97

97

. - 04/03/2562 11:48:29 AM


3

PHA KHAWMA DARANAKEE ผ้าขาวม้าดารานาคี “ กลุ่มทอผ้าฝ้ายพื้นเมืองบ้านสะง้อ ” โคลนนาคีมีคุณสมบัติช่วยให้ผ้านุ่ม สีเด่นชัด

98

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

Special Bueng Kan.indd 98

. - 04/03/2562 11:48:31 AM


PHA KHAWMA DARANAKEE “ผ้าขาวม้าดารานาคี” กลุ่มทอผ้าฝ้ายพื้นเมืองบ้านสะง้อ

ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 91 หมู่ 2 บ้านสะง้อ ต�ำบลหอค�ำ อ�ำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ ตั้งชื่อ “โคลนนาคี” เพราะอยู่ในจุดที่เกิดบั้งไฟพญานาค โคลนบ่อนี้เกิดขึ้นเอง ตามธรรมชาติ มีประวัติยาวนาน สมัยก่อนเป็นทางเดินของสัตว์ จ�ำพวกวัว ควาย ช้าง กระทิง ฯลฯ ลงมากินน�้ำจากแม่น�้ำโขงเดินจนเป็นร่องนับพันปี

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

Special Bueng Kan.indd 99

99

. - 04/03/2562 11:48:39 AM


4

SIDA BEACH หาดสีดา “ แหล่งท่องเที่ยวกลางล�ำน�้ำโขง ” หาดทรายขนาดกลางที่เกิดจากล�ำน�้ำโขง ที่หาดสีดามีจุดชมเขานมสาว

100

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

Special Bueng Kan.indd 100

. - 04/03/2562 11:48:41 AM


SIDA BEACH “หาดสีดา” สถานที่น่าเที่ยวจังหวัดบึงกาฬ

ตั้งอยู่บ้านหนองเดิ่นท่า ต�ำบลหนองเดิ่น อ�ำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ เป็นหาดทรายที่เกิด จากล�ำน�้ำโขง ในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน ฝั่งตรงข้ามหาดสีดา เป็นเมืองปากกระดิ่ง สาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีภูเขาสองลูกแยกออกจากกัน เรียกว่า ช่องเขาขาด มีทัศนียภาพสวยงามและเป็นที่จัดงานสงกรานต์

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

Special Bueng Kan.indd 101

101

. - 04/03/2562 11:48:51 AM


5

PHU SING ภูสิงห์ “ ห้องเรียนศึกษาธรรมชาติ ” ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู

102

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

Special Bueng Kan.indd 102

. - 04/03/2562 11:48:54 AM


PHU SING “ภูสิงห์” ห้องเรียนศึกษาธรรมชาติ

ตั้งอยู่ที่ ภูสิงห์ อ�ำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ เป็นห้องเรียนศึกษาธรรมชาติ อยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู สภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายทอดตัวไปตามทิศเหนือ-ใต้ ครอบคลุมพื้นที่ อ�ำเภอศรีวิไลกับอ�ำเภอเมืองบึงกาฬ มีทรัพยากรป่าไม้ที่คงสภาพสมบูรณ์ ***สามารถเดินทางเข้าเยี่ยมชมธรรมชาติแห่งนี้ได้หลายจุดจะต้องใช้ ความระมัดระวังเป็นพิเศษบางที่เป็นหน้าผาสูงชัน บางจุดอยู่ในป่าลึก

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

Special Bueng Kan.indd 103

103

. - 04/03/2562 11:49:07 AM


H I S TO R Y O F B U D D H IS M บันทึกเส้นทางธรรมหนุนน�ำชีวิต

วัดโพธาราม

...นมัสการหลวงพ่ อพระใหญ่ พระอธิการเอกชัย กตปุญฺโญ

ด�ำรงต�ำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโพธาราม

วั ด โพธาราม ตั้ ง อยู ่ เ ลขที่ 199 บ้ า นท่ า ไคร้ หมู ่ ที่ 5 ต.บึ ง กาฬ อ.เมื อ งบึ ง กาฬ จ.บึ ง กาฬ สั ง กั ด คณะสงฆ์ มหานิ ก าย ที่ ดิ น ตั้ ง วั ด มี เ นื้ อ ที่ 22 ไร่ 2 งาน วั ด โพธารามสร้ า งเมื่ อ พ.ศ. 2300 ชาวบ้ า นเรี ย กว่ า “วั ด บ้ า นท่ า ไคร้ ” เดิ ม ชื่ อ วั ด โพธิ์ ศ รี ต่ อ มา พ.ศ. 2486 ได้ เ ป ลี่ ย น ชื่ อ วั ด เ ป ็ น วั ด โ พ ธ า ร า ม ไ ด ้ รั บ พ ร ะ ร า ช ท า น วิ สุ ง คามสี ม าเมื่ อ พ.ศ. 2308 เขตวิ สุ ง คามสี ม า กว้ า ง 20 เมตร ยาว 40 เมตร

ปูชนียวัตถุส�ำคัญ พระพุทธรูปพระประธาน หน้าตักกว้าง 1.60 เมตร สูง 2.10 เมตร สร้างด้วยอิฐถือปูน หลวงพ่ อ พระใหญ่ เป็ น พระพุ ท ธรู ป ฉาบปู น ศิ ล ปะเชี ย งแสน ปางมารวิชยั ชาวบ้านเรียก “หลวงพ่อใหญ่วดั บ้านท่าไคร้” หน้าตักกว้าง 2 เมตร จากฐานถึงยอดพระเกตุ สูง 2.10 เมตร จากพระฌานุ(เข่า) ถึงพระศอ(คอ) สูง 0.09 เมตร จากพระศอถึงยอดพระเกตุ สูง 1.20 เมตร พระหัตถ์ซ้ายหงายวางบนหน้าตัก พระหัตถ์ขวาคว�่ำวางทับพระชานุ นิว้ พระหัตถ์ ทัง้ 5 เหยียดลงอย่างมีระเบียบ เหมือนพระพุทธรูปทัว่ ไป ประดิษฐานบนแท่นสีเ่ หลีย่ ม ซึง่ ได้บรู ณะขึน้ ใหม่ในปี 2537

ค�ำขวัญวัดโพธาราม นมัสการสรงน�ำ้ หลวงพ่อพระใหญ่ น�ำ้ จัน้ ไหล ต้นใคร้งาม เลือ่ งลือนามเรือก�ำปัน่ มหัศจรรย์ตน้ จ�ำปา บูชาบุญข้าวจี่ ประเพณีถวายปราสาทผึง้ 104

3

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 104

27/2/2562 9:58:12


ประวัติหลวงพ่อพระใหญ่

อาคารเสนาสนะ อุโบสถ ศาลาการเปรียญ ศาลาหน้าโบสถ์ มณฑป โรงเรือก�ำปั่น และเรือยาว โรงจอดรถ กุฏสิ งฆ์ปนู หลังเดีย่ ว ไม้เดีย่ ว ครึง่ ปูนครึง่ ไม้และ อาคารห้องแถว เป็นต้น

ตามต�ำนานและค�ำบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่หลายรุ่น หลายสมัย เล่าสืบกันมาว่า บรรพบุรษุ ได้อพยพครอบครัวมาจากเมืองยศ (บริเวณ จังหวัดยโสธรในปัจจุบนั ) มาตัง้ ถิน่ ฐานริมฝัง่ แม่นำ�้ โขง และร่นขึน้ มาทาง เขตชัยบุรี (ปัจจุบนั คืออ�ำเภอเมืองบึงกาฬ) ในทีส่ ดุ ได้อพยพย้ายถิน่ ฐาน มาจนถึงบ้านท่าไคร้ในปัจจุบนั ซึง่ แต่เดิมเป็นป่าทึบและเต็มไปด้วยสัตว์ปา่ หลายชนิด ชาวบ้านทีม่ าตัง้ ถิน่ ฐานอยูร่ อบๆ จึงได้รว่ มกันในการถากถางป่า จนได้พบพระพุทธรูปซึง่ เต็มไปด้วยเถาวัลย์พนั รอบองค์อยู่ จึงพากันน�ำ เถาวัลย์ออก และปัดกวาดบริเวณรอบๆ ก็พบว่าพระเกตุมาลาของ หลวงพ่อหัก เพราะถูกช้างป่ากระชากเถาวัลย์ลงมาเพื่อหากิน ตาม ธรรมชาติของสัตว์ป่า และตรงบริเวณที่พบองค์หลวงพ่อก็เห็นเป็น รูปร่างของสถานที่บ�ำเพ็ญบุญกุศล หรือสถานที่ประกอบกิจกรรมทาง พุทธศาสนา อีกทัง้ ยังพบซากเครือ่ งปัน้ ดินเผา โอ่งโบราณ รวมทัง้ เครือ่ ง ใช้อีกหลายอย่าง องค์พระพุทธรูปหรือองค์หลวงพ่อพระใหญ่นั้น ตั้งแต่ ได้พบมาถึงปัจจุบัน ไม่เคยเคลื่อนย้ายหรือต่อเติมแต่อย่างใด เพียงแต่ ต่อพระเกตุทหี่ กั ให้คงสภาพเดิม มีเพียงแท่นทีป่ ระดิษฐานเท่านัน้ ทีส่ ร้าง โอบแท่นเดิม เพื่อให้มีความมั่นคงขึ้นกว่าเดิม และมีผู้ที่มาขอพรจาก หลวงพ่อ เมื่อได้สมความปรารถนาแล้วก็ได้น�ำสีทองมาทาสมโภช หลวงพ่อ จึงท�ำให้องค์หลวงพ่อเหลืองอร่ามเป็นสีทองทัง้ องค์ ปัจจุบนั ทางวัดจัดให้มงี านสักการะ “หลวงพ่อพระใหญ่” ปีละ 2 ครัง้ ซึ่งปฏิบัติสืบต่อกันมาทุกปีจนถึงปัจจุบัน คือ ครั้งที่ 1 วันเพ็ญเดือน 3 จะท� ำ บุ ญ ข้ า วจี่ พร้ อ มกั บ ปราสาทผึ้ ง 2 หลั ง เป็ น การสั ก การะแด่ หลวงพ่อพระใหญ่ ครัง้ ที่ 2 ท�ำในเทศกาลวันสงกรานต์ของทุกปี มีการแห่ น�้ำจั้นทิพย์ คารวะและสรงน�้ำหลวงพ่อพระใหญ่ งานนี้ถือเป็นงานใหญ่ ประจ�ำปี ของชาวจั ง หวั ด บึ ง กาฬ มี พุ ท ธบริ ษั ท มาร่ ว มงานเป็ น จ� ำ นวนมาก ทัว่ ทุกสารทิศ จนเป็นประเพณีอนั ดีงามของชาวบ้านท่าไคร้ และจังหวัดบึงกาฬ พิธีคารวะสรงน�้ำหลวงพ่อพระใหญ่ มักจะจัดหลัง วันมหาสงกรานต์ วันที่ 19,20,21 เมษายน ของทุกปี

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

3

.indd 105

105

27/2/2562 9:58:18


ประวัติน�้ำจั้นทิพย์ น�ำ้ จัน้ เป็นสายน�ำ้ ทีไ่ หลออกมาทะลุผา่ นตลิง่ โขง เลยท�ำให้นำ�้ ไหลออก มาอยู่ตลอดเวลา โดยไม่เคยขาดสาย ในบริเวณหมู่ที่ 5 บ้านท่าไคร้ ต�ำบลบึงกาฬ อ�ำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ และเป็นที่มาของ ชือ่ หมูบ่ า้ นคือ บ้านท่าไคร้ เพราะผูท้ มี่ าตัง้ บ้านครัง้ แรก ก็จะตัง้ บ้านท่าไคร้ อยู่บริเวณนั้น ซึ่งมีต้นใคร้และสายน�้ำจั้นอยู่คู่กัน คนที่เดินทางผ่านไป ผ่านมาทัง้ ทางน�ำ้ และทางบก ในสมัยก่อน ก็จะมาแวะพักผ่อนและกรอก เอาน�ำ้ จัน้ เก็บไว้เป็นน�ำ้ ดืม่ ในการเดินทางต่อ โดยใช้ภาชนะจากธรรมชาติ มารองรับเก็บไว้ เช่น กระบอกไม้ไผ่ (บัง้ ทิง), น�ำ้ เต้า, ตระกร้าชัน ซึง่ ถือว่า สายน�้ำจั้นนี้เป็นสายน�้ำที่มีประโยชน์มีคุณค่าต่อทางวัฒนธรรมของ ชาวบ้านท่าไคร้และบ้านใกล้เคียงเป็นอย่างยิง่ และเป็นสายน�ำ้ ทีม่ คี วาม ผูกพันต่อทัง้ สองฝัง่ แม่นำ�้ โขง ไทย - ลาว เพราะสมัยแต่กอ่ นก็มพี นี่ อ้ งทาง ฝัง่ ลาวข้ามมา เล่นมาเอาน�ำ้ จัน้ ตรงนีไ้ ปเป็นน�ำ้ ดืม่ อุปโภคบริโภคเป็นประจ�ำ ทั้งนี้เพื่อเป็นการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่ สูล่ กู หลานต่อไป ชาวบ้านท่าไคร้พร้อมส�ำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ จึงได้กำ� หนดจัดงานประเพณีแห่นำ�้ จัน้ ขึน้ เป็นประจ�ำปี ก่อนวันงานคารวะ และสรงน�ำ้ หลวงพ่อพระใหญ่หนึง่ วัน คือ วันที่ 19 เมษายน ของทุกปี เพื่อจะได้น�ำเอาน�้ำจั้นมาเตรียมพร้อมไว้ในวันงานคารวะและสรงน�้ำ หลวงพ่อพระใหญ่

ประวัติเรือก�ำปั่นโบราณบ้านท่าไคร้ ตามค�ำบอกเล่าเรือก�ำปัน่ โบราณล�ำนี้ เป็นเรือขนสินค้าและใช้โดยสาร ชื่อ “ปาณาวี” มีชาวฝรั่ง ชาวไทย ชาวลาว ใช้สัญจรไปมาในสมัยนั้น เนือ่ งจากการสัญจรทางน�ำ้ สะดวกและเร็วกว่าทางบก เรือก�ำปัน่ ล�ำนีเ้ คยล่ม มาก่อนแล้วที่บ้านหนองแสง จังหวัดนครพนม และเจ้าของเรือได้ไป บนเจ้าพ่อห้วยโต่งทีป่ ากกระดิง่ (เป็นชือ่ แม่นำ�้ สายหนึง่ ทีไ่ หลลงสูแ่ ม่นำ�้ โขง ทีฝ่ ง่ั ประเทศลาว) แต่เจ้าของเรือไม่ยอมแก้บน เมือ่ เรือล�ำนีไ้ ด้แล่นขึน้ ไป ทางจังหวัดหนองคาย ผ่านแม่นำ�้ ปากกระดิง่ เรือก�ำปัน่ ล�ำนีก้ ไ็ ด้เกิดอับปาง จมลงทีร่ มิ โขงตรงกับบ้านท่าไคร้ในปัจจุบนั และมีเรือ่ งเล่าว่า มีชาวฝรัง่ สองผัวเมียคูห่ นึง่ ไม่ยอมลงจากเรือ แต่ได้เข้าไปในห้องเรือแล้วปิดประตู ลงกลอนจมน�ำ้ ตายในเรือล�ำนี้ ชาวบ้านแถวนีเ้ รียกว่า ผีฝรัง่ มีเรือ่ งเล่าว่า เคยเข้าสิงสูช่ าวบ้านแล้วพูดออกมาเป็นภาษาส�ำเนียงฝรัง่ แต่กไ็ ม่มใี คร เข้าใจสือ่ ความหมายได้ และบริเวณตรงเรือก�ำปัน่ ล่มเรียกว่า “ท่าเรือก�ำปัน่ ” ซึ่งในฤดูร้อนน�้ำโขงมีระดับลดลงหัวเรือก�ำปั่นจะอยู่ห่างจากฝั่งไม่เกิน สิบเมตร สามารถสังเกตเห็นได้ และจะมีสายน�ำ้ ไหลวนหมุนให้เห็น จุดเด่นของวัดโพธาราม - เป็นวัดที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อพระใหญ่” พระพุทธรูปประจ�ำ จังหวัดบึงกาฬ - เป็นแหล่งสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วและศึกษาดูงาน - เป็นวัดต้นแบบ โครงการหมูบ่ า้ นรักษาศีล 5 - เป็นชุมชนท่องเทีย่ ว OTOP นวัตวิถี - เป็นชุมชนคุณธรรมน้อมน�ำเศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น - เรือยาว “ธิดาโพธิท์ อง” 55 ฝีพายท้องถิน่ ได้รบั ถ้วยพระราชทานฯ ชนะเลิศ 3 ปีซอ้ น 106

3

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 106

27/2/2562 9:58:25


WORK LIF E

บันทึกเส้นทางพบองค์การบริหารส่วนต�ำบล

องค์การบริหารส่วนตำ�บลโนนสมบูรณ์ “ส่งเสริมเศรษฐกิจ คนมีการศึกษา วัฒนธรรมล�้ำค่า พัฒนาชุมชนให้น่าอยู่ เชิดชูคุณธรรม น�ำการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ” วิสัยทัศน์ขององค์การบริหารส่วนต�ำบลโนนสมบูรณ์

การสืบสานประเพณีรดน�้ำด�ำหัว และกิจกรรมผู้สูงอายุ เนื่องในวันสงกรานต์ องค์การบริหารส่วนต�ำบลโนนสมบูรณ์ จัดงานสืบสานประเพณีรดน�ำ้ ด�ำหัวและกิจกรรม ผู้สูงอายุ เนื่องในวันสงกรานต์ทุกปี วัตถุประสงค์หลักของการจัดงาน เพื่อให้ลูกหลานที่ไป ท�ำงานต่างถิน่ ทีไ่ ด้กลับมาบ้าน ได้นำ� พาผูส้ งู อายุเข้าร่วมกิจกรรมทีอ่ ยูใ่ กล้บา้ น เพือ่ สร้างความสุข และสร้างรอยยิม้ ให้กบั ผูส้ งู อายุในช่วงทีค่ รอบครัวอยูพ่ ร้อมหน้า โดยกิจกรรมจะจัดขึน้ ตัง้ แต่ 06.30 น. ผู้สูงอายุพร้อมด้วยบุตรหลานเข้าร่วมท�ำบุญตักบาตร และรับประทานอาหารร่วมกัน

นายธนาดุ ล ย์ บุ ต รโคตร นายกองค์การบริหารส่วนต�ำบลโนนสมบูรณ์

องค์การบริหารส่วนต�ำบลโนนสมบูรณ์ ตั้งอยู่ที่ 212

หมูท่ ี่ 2 บ้านดอนอุดม ต�ำบลโนนสมบูรณ์ อ�ำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ โดยในปีที่ผ่านมาองค์การบริหารส่วนต�ำบล โนนสมบูรณ์ ได้จัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างให้ชาวต�ำบล โนนสมบูรณ์มีคุณภาพชีวิตที่ดี อาทิ

ภายในงานยังจัดให้มกี ารตรวจสุขภาพ วัดความดันโลหิต การแสดงของผูส้ งู อายุ การแข่งขัน การละเล่นพื้นบ้านต่างๆ ของผู้สูงอายุ อาทิ ปิดตาตีหม้อ เตะปี๊บ เกมแต่งหน้า (ตาคนสวย โดยผูห้ ญิงจะถูกปิดตาแล้วแต่งหน้าให้ผชู้ าย) สุดท้ายทีเ่ ป็นไฮไลท์ของงาน จะเป็นการรดน�ำ้ ด�ำหัวผู้สูงอายุ ซึ่งกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่ได้รับการสนับสนุนและ ส่งเสริมจากผู้บริหารท้องถิ่น ที่มองเห็นถึงความส�ำคัญของวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ของท้องถิ่น

กิจกรรมออกก�ำลังกายเพื่อสุขภาพ (เต้นแอโรบิค) กิจกรรมออกก�ำลังกายเพือ่ สุขภาพ (เต้นแอโรบิค) กลุ่มสตรีในต�ำบลโนนสมบูรณ์ ได้รับงบประมาณ จากกองทุ น หลั ก ประกั น สุ ข ภาพระดั บ ต� ำ บล โนนสมบูรณ์ ซึ่งนายกองค์การบริหารส่วนต�ำบล เป็นประธานกองทุนฯ โดยจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการ ออกก�ำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีให้กลุ่มสตรีในต�ำบล

กิจกรรมฝึกทบทวน อปพร. องค์การบริหารส่วนต�ำบลโนนสมบูรณ์ จัดกิจกรรมฝึกทบทวน อปพร.ทุกปี เพื่อฝึกซ้อม วิธีป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ภายในต�ำบลหรือต�ำบลอื่นหากได้รับการร้องขอ BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

.indd 107

107

4/3/2562 13:54:22


H I S TO R Y O F B U D D H IS M บันทึกเส้นทางธรรมหนุนน�ำชีวิต

วัดป่าพั นล�ำ

...สักการะหลวงพ่ อศิลา เจ้าอธิการสมบัติ สัมปัตติธารโก เจ้าคณะต�ำบลบึงกาฬ เขต 1

จนกระทั่งปี พ.ศ. 2541 พระอาจารย์สมบัติ สัมปัตติธารโก (เจ้าอธิการสมบัติ สัมปัตติธารโก เจ้าคณะต�ำบลบึงกาฬ เขต 1) ได้เดินทาง มาจ�ำพรรษายังสถานที่แห่งนี้ จึงได้น�ำพาพระภิกษุ และบรรดาศรัทธา ญาติโยมร่วมกันพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน จึงได้เป็นสถานที่ ปฏิบตั ธิ รรม อบรมฯ ศึกษาฯ และเผยแผ่พระธรรมค�ำสอนของพระพุทธเจ้า ทีม่ ผี มู้ าปฏิบตั อิ ยูเ่ ป็นประจ�ำ และเป็นทีร่ จู้ กั กันโดยทัว่ ไป

วั ดป่ า พั นล�ำ ตั้งอยู่ที่บ ้า นพัน ล�ำ เลขที่ 101 หมู ่ 2 ต.วิ ศิษฐ์ อ.เมื อ งบึ ง กาฬ จ.บึ ง กาฬ อยู ่ ติ ด ริ ม ฝั ่ ง แม่ น�้ ำ โขง (ตรงข้ า มกั บ ปากซั น สปป.ลาว) มี พื้ น ที่ ทั้ ง หมดเจ็ ด สิ บ กว่ า ไร่ เป็ น สถานที่ สั ป ปายะเหมาะแก่ ก ารปฏิ บั ติ ธ รรมเป็ น อย่ า งยิ่ ง แต่เดิมสถานทีต่ งั้ วัดป่าพันล�ำเคยเป็นป่าช้า ซึง่ มีมาพร้อมกับหมูบ่ า้ น พันล�ำ ต่อมาเป็นสถานทีพ่ กั สงฆ์พร้อมทัง้ เป็นศูนย์ปฏิบตั ธิ รรมมาก่อน แต่ยังไม่มีการพัฒนากันอย่างจริงจัง เนื่องจากไม่มีพระภิกษุอยู่ประจ�ำ อย่างต่อเนือ่ ง

108

2

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 108

27/2/2562 10:29:38


หลวงพ่อศิลา...พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อศิลา เป็นพระพุทธรูปปางประทานพรแกะสลักจากหิน ขนาดหน้าตักกว้าง 40 นิว้ ประดิษฐานอยูก่ ลางแจ้งท่ามกลางความร่มรืน่ ของแมกไม้ในวัด ชาวบ้านมีความเชื่อความศรัทธาว่า หากใครได้มา กราบสักการะขอพรจากหลวงพ่อศิลา จะประสบแต่โชคลาภสิริมงคล แคล้วคลาดจากภยันตรายใดๆ ผู้ที่สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 083-2892355 หรือ Facebook : วัดป่าพันล�ำ

BUENGKAN I SBL บันทึกประเทศไทย

2

.indd 109

109

27/2/2562 10:29:47


W O R K L IF E

บันทึกเส้นทางพบองค์การบริหารส่วนต�ำบล

องค์การบริหารส่วนตำ�บลชัยพร

นายพงศกร เขจรชัย นายกองค์การบริหารส่วนต�ำบลชัยพร

องค์ ก ารบริ ห ารส่ ว นต� ำ บลชั ย พร ตั้ ง อยู ่ เ ลขที่ 299 หมู ่ ที่ 2 ต� ำ บลชั ย พร อ�ำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ปัจจุบันมี นายพงศกร เขจรชัย ด�ำรงต�ำแหน่ง นายกองค์ ก ารบริ ห ารส่ ว นต� ำ บลชั ย พร ซึ่ ง ก� ำ ลั ง ด� ำ เนิ น การตามวิ สั ย ทั ศ น์ และนโยบายการพั ฒ นา เพื่ อ ให้ เ กิ ด ผลงานที่ โ ดดเด่ น และจุ ด เด่ น ทั้ ง ผลิ ต ผล ทางการเกษตร และการอยู ่ ดี กิ น ดี ข องชุ ม ชน

ข้อมูลทั่วไป ต�ำบลชัยพร ประกอบด้วย 13 หมู่บ้าน เป็นต�ำบลที่เป็นพื้นที่ทาง การเกษตร โดยเกษตรกรส่วนมากจะปลูกยางพารามากทีส่ ดุ รองลงมาคือ ข้าว สับปะรด และมะเขือเทศ ตามล�ำดับ 110

.

2

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 110

27/2/2562 11:13:43


5 จุดเด่นของต�ำบลชัยพร เส้นทางสายพิเศษ : ต�ำบลชัยพรเป็นทีต่ งั้ ของโครงการอันเนือ่ งมาจาก พระราชด�ำริ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ถึง 2 โครงการ ได้แก่โครงการอ่างเก็บน�้ำ ห้วยบังบาตร ซึง่ มีตน้ ไม้ทรงปลูก ณ บริเวณอ่างเก็บ ซึง่ ปัจจุบนั โครงการ ชลประทานจังหวัดบึงกาฬ และโครงการอ่างเก็บน�ำ้ บ้านโนนหัวอ่าง

เส้นทางพระพุทธศาสนา : วัดป่าเมืองเหือง เป็นวัดเก่าแก่นับร้อยปี ซึง่ มีตำ� นานเล่าว่ามีสงิ่ ลีล้ บั ก้อนหินศักดิส์ ทิ ธิ์ และมีกอ้ นธาตุ ตัง้ อยูบ่ ริเวณ ริมแม่นำ�้ โขง หมูท่ ี่ 7 ต�ำบลชัยพร อ�ำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ เส้นทางท่องเที่ยว : แก่งสะดอก เป็นเกาะเล็กๆ อยู่ในแม่น�้ำโขง ตัง้ อยูบ่ ริเวณ หมูท่ ี่ 11 ต�ำบลชัยพร เป็นสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วในหน้าแล้ง ซึง่ คน ส่วนมากจะมาเล่นน�้ำช่วงหน้าแล้ง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ นอกจากนี้ต�ำบลชัยพรยังเป็นเส้นทางผ่านไปน�้ำตกถ�้ำฝุ่น น�้ำตกเจ็ดสี น�ำ้ ตกถ�ำ้ พระ และภูทอก เส้นทางการศึกษา : ต�ำบลชัยพรมีศกั ยภาพด้านการศึกษาทีน่ า่ จับตามอง เนือ่ งจากมีโรงเรียนขยายโอกาส 2 โรง โรงเรียนประถมศึกษา 3 โรง และ ศูนย์พฒ ั นาเด็กเล็ก 7 แห่ง เส้นทางน่าอยู่ : อบต.ชัยพร ขอน�ำเสนอภาพรวมด้านการใช้ชวี ติ อย่างมี คุณภาพ อาทิ การจัดให้มสี ถานทีพ่ กั ผ่อนหย่อนใจ เช่น บริเวณริมฝัง่ แม่นำ�้ โขง บริเวณด้านหลังองค์การบริหารส่วนต�ำบลชัยพร ปัจจุบนั อยูร่ ะหว่างการปรับปรุง

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

.

2

.indd 111

111

27/2/2562 11:13:50


สักการะหลวงพ่อพระโตโคตะมะ ณ วัดสว่างอารมณ์ (ถ�้ำศรีธน)

วัดสว่างอารมณ์ (ถ�้ำศรีธน) ตั้งอยู่ที่หมู่ 1 บ้านโนนศิลา ต�ำบลโนนศิลา อ�ำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ เป็นวัดที่ส�ำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดบึงกาฬ มีเนื้อที่ 40 ไร่ มีทิวทัศน์สวยงาม เต็มไปด้วยหินทรายใหญ่น้อยมากมาย บรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่น มีล�ำธารเล็ก ๆ ไหลผ่าน เหมาะกับการปฏิบัติธรรม

112

6

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 112

27/2/2562 9:10:42


HIST ORY OF BUDDH ISM

บันทึกเส้นทางธรรมหนุนน�ำชีวิต

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

6

.indd 113

113

27/2/2562 9:10:44


ประวัติความเป็นมา เดิมบริเวณที่ตั้งวัดสว่างอารมณ์ (ถ�้ำศรีธน) เป็นป่าดงดิบรกทึบ เต็มไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด ตามหลักฐานเกี่ยวกับความเป็นมาของวัดนั้น เริม่ จากท้าวขุนไกรซึง่ อพยพครอบครัวจากบ้านปากกล้วย แขวงเมืองปากซัน ประเทศลาว มาตัง้ บ้านเรือนอยูร่ มิ แม่นำ�้ โขง ใกล้บา้ นห้วยคาด ต่อมาจึง ตั้งชื่อหมู่บ้านนี้ว่า “บ้านปากคาด” โดยทุกปีจะมีพระภิกษุมาจ�ำพรรษา ทีบ่ ริเวณถ�ำ้ ศรีธนเป็นประจ�ำ ชาวบ้านจึงได้รว่ มกันก่อสร้างวัดขึน้ บนทีด่ นิ ของนายจันทรา ไกรราช (บุตรชายของท้าวขุนไกร) เมือ่ วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2425 และได้ตงั้ ชือ่ ว่าวัดสว่างอารมณ์ (ถ�ำ้ ศรีธน) ต่อมาพระอธิการด่อน อินทสาโร หรือหลวงปูด่ อ่ น เจ้าอาวาสรูปแรก ซึ่งเป็นพระที่ชาวบ้านปากคาดเคารพนับถือ ได้มาอยู่จ�ำพรรษาและ พั ฒ นาวั ด ขึ้ น มาจนเจริ ญ ยิ่ ง ขึ้ น ตามล� ำ ดั บ โดยได้ รั บ พระราชทาน วิสุงคามสีมาจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมือ่ วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2517

114

6

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 114

27/2/2562 9:10:53


เหตุทเี่ รียกกันอีกชือ่ หนึง่ ว่า “วัดศรีธน” นัน้ มีตำ� นานเล่าว่า ท้าวศรีธน ซึ่งเป็นโอรสของพระเจ้าอาทิตยวงศ์ แห่งเมืองเปงจานนคร ได้ติดตาม มเหสีชื่อนางมโนราห์ เมื่อผ่านมาถึงถ�้ำฤาษีกัสสปะ จึงได้หยุดศึกษา วิชาอาคมกับพระฤาษีกสั สปะ เมือ่ ร�ำ่ เรียนจบ ท้าวศรีธนจึงอยากลองวิชา จึงได้เลือกก้อนหินมาแล้วเสกคาถาลงบนดาบ จากนั้นได้ฟันดาบลงบน ก้อนหินนั้นสามครั้ง จนก้อนหินแตกออกเป็นสามก้อน และเกิดเสียงดัง สนั่นหวั่นไหวเป็นที่อัศจรรย์ ชาวบ้านจึงเรียกบริเวณนี้ว่า “ถ�้ำศรีธน” จากร่องรอยที่ปรากฏบนตัวถ�้ำและก้อนหินที่รอยฝ่ามืออยู่ด้านล่าง ซึ่งชาวบ้านเรียกว่ารอยมือท้าวศรีธนประลองพลัง นอกจากนี้สถานที่ตั้งวัด ยังอยูใ่ กล้บา้ นเปงจาน แสดงว่าทีแ่ ห่งนีเ้ คยเป็นทีต่ งั้ ของเมืองเปงจานนคร ในอดีตนั่นเอง

การบริหารและการปกครอง

วัดสว่างอารมณ์ (ถ�ำ้ ศรีธน) มีเจ้าอาวาสเท่าทีท่ ราบนาม ดังนี้ รูปที่ 1 พระอธิการด่อน อินทสาโร (หลวงปูด่ อ่ น) พ.ศ. 2450-2460 รูปที่ 2 พระอธิการดาว พุทธสโร พ.ศ. 2460-2471 รูปที่ 3 อธิการดี ฐานวุทโฒ พ.ศ. 2471-2492 รูปที่ 4 พระอธิการเสาร์ ถาวโร พ.ศ. 2492-2529 รูปที่ 5 พระสมานชัย วรปัญโญ พ.ศ. 2529-2535 รูปที่ 6 พระอธิการทองลี โกวิโธ พ.ศ. 2535-2537 รูปที่ 7 พระวัชรญาณประยุต พ.ศ. 2537-จนถึงปัจจุบนั

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

6

.indd 115

115

27/2/2562 9:11:03


สักการะหลวงพ่อพระโตโคตะมะ

วัดสว่างอารมณ์ (ถ�้ำศรีธน) ขอเชิญพุทธศาสนิกชนเดินทางมา เยีย่ มชมวัดและสักการะขอพรหลวงพ่อพระโตโคตะมะ สิง่ ศักดิส์ ทิ ธิส์ ำ� คัญ ภายในวัด เพือ่ ความเป็นสิรมิ งคลแก่ชวี ติ โดยมีคำ� กล่าวอธิษฐานหลวงพ่อ พระโตโคตะมะ ดังนี้

(ตั้งนะโม 3 จบ) นะโม ชัยยะ นะมะ ชัยโย มะหาโคตะมะ ศิวิไล ไชโย อริโย อนาริโย สัมฤทธิ์ สัมฤทธิ์ นะ ศิริสุริยะ ศิวิไล ไชโย ระชะตัง โภคัง ลาภัง นะมะพะธะ นะอะนะอัง นะมามิมา อุอะมะมะ

116

6

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 116

27/2/2562 9:11:14


BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

6

.indd 117

117

27/2/2562 9:11:18


H I S TO R Y O F B U D D H IS M บันทึกเส้นทางธรรมหนุนน�ำชีวิต

วัดสุทธิวนาราม

...สักการะพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ พระสมพร ธมฺมธีโร

ปี พ.ศ. 2520 ได้สร้างศาลาการเปรียญไม้ ขนาด 18 x 27 เมตร พื้นติดดิน ปี พ.ศ. 2523 พระสมพร ธมฺมธีโร ได้ออกเดินธุดงค์ วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2520 มี ต ราตั้ ง หลวงพ่ อ ค� ำ ฝน สุ ท ธิ ว ณฺ โ ณ เป็ น เจ้าอาวาสรูปแรก ต่อมาวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2528 ได้รบั พระราชทาน วิสุงคามสีมา ขนาด 40 x 80 เมตร และก่อสร้างพระอุโบสถ

ด�ำรงต�ำแหน่งเจ้าคณะต�ำบลโนนศิลา เขต 2 และเจ้าอาวาสวัดสุทธิวนาราม

วั ด สุ ท ธิ ว นาราม ตั้ ง อยู ่ เ ลขที่ 200 หมู ่ 11 ต� ำ บลปากคาด อ� ำ เภอปากคาด จั ง หวั ด บึ ง กาฬ สั ง กั ด มหานิ ก าย มี เ นื้ อ ที่ โดยประมาณ 56 ไร่ วัดสุทธิวนาราม หรือทีช่ าวบ้านมักเรียกว่า “วัดบ้านห้วยก้านเหลืองน้อย”

จัดตัง้ ให้เป็นวัดเมือ่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2481 โดยหลวงพ่อค�ำฝน สุทธิวณฺโณ และพระครูภาวนาธรรมวิสุทธิ์(สมพร ธมฺมธีโร) ซึ่งยังเป็นสามเณรได้เดิน ธุดงค์มาปักกลด ณ ที่บริเวณแห่งนี้ ซึ่งชาวบ้านถือว่าเป็นป่าศักดิ์สิทธิ์ ผูใ้ ดย่างกรายเข้ามาถางป่ามักป่วยไข้ทกุ ราย มีลม้ ตายไปก็มี ชาวบ้านเห็น พระมาปักกลดก็ดใี จ จึงพร้อมใจกันสร้างกุฎชี วั่ คราวให้สองหลัง บนทีด่ นิ 15 ไร่ (ในขณะนั้น) โดยการบริจาคของชาวบ้านและนายหลิง ปุระพรม และแล้วจึงเจริญขึ้นมาเป็นล�ำดับ 118

2

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 118

27/2/2562 9:08:06


ปี พ.ศ. 2529 หลวงพ่อค�ำฝน ออกธุดงค์ จึงแต่งตั้ง พระทองพูล จตฺสลฺโล เป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 2 เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2529 ปี พ.ศ. 2530 พระทองพูล ได้ไปด�ำรงต�ำแหน่งเจ้าคณะต�ำบลนากั้ง หลวงพ่อค�ำฝน จึงมีหนังสือไปถึงพระสมพร ธมฺมธีโร ซึ่งออกเดินธุดงควัตร อยูม่ าด�ำเนินการสร้างวัดต่อ และรักษาการเจ้าอาวาสตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2530 เป็นต้นมา พร้อมกับขยายพืน้ ทีข่ องวัดไปด้วยการบริจาคมีเจ้าภาพจนมี พื้นที่ 56 ไร่ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 พระสมพร ธมฺมธีโร ได้รบั แต่งตัง้ เป็นเจ้าอาวาสรูปทีส่ าม และได้รบั แต่งตัง้ เป็นเจ้าคณะต�ำบล โนนศิลาเขต 2 เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2550 และด�ำเนินการสร้าง และพัฒนาวัดมาโดยล�ำดับ ปี พ.ศ. 2534 สร้างพระธาตุพระพุทธรัตนมุนี ศรีสตั นาค ใช้งบประมาณ 14 ล้านบาทเศษ แล้วเสร็จเมือ่ ปี พ.ศ. 2556 สร้างกุฎี 18 หลัง ศาลาโดม หอแสดงธรรม หอไตรกลางน�้ำ เมรุ และ รั้วรอบวัด วันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 09.49 น. วางศิลาฤกษ์ สร้างศาลาการเปรียญเพื่ออนุรักษ์ไม้เก่า ซึ่งก�ำลังด�ำเนินการก่อสร้างใช้ งบประมาณ 50 ล้านบาท จึงเรียนเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่านได้ร่วม บ�ำเพ็ญบุญสร้างกุศลร่วมกันโดยทุกถ้วนหน้ากัน

พระธาตุพระพุทธรัตนมุนีศรีสัตนาค(ศิลาแลงแก่งอาฮง) พระธาตุพระพุทธรัตนมุนีศรีสัตนาค เริ่มก่อสร้างวางฐานรากเมื่อปี

พ.ศ. 2534 โดยพระครูภาวนาธรรมวิสทุ ธิ์ เป็นประธานในการสร้าง และ บอกรูปลักษณะทรงพระธาตุจากนิมิตของท่าน โดยได้รับเมตตาจาก หลวงปูโ่ พธิศ์ รีอนิ แปงโพธิสตั ว์โต พระภิกษุ สามเณร และอุบาสก อุบาสิกา คณะกรรมการชาวบ้านทุกฝ่าย ได้ร่วมกันสร้างมาโดยล�ำดับนอกจากนั้น ท่านผอ.เสรี สุงาม ท่านผอ.พรชัย มิ่งขวัญ จากโครงการสร้างสะพาน เป็นผูใ้ ห้วสั ดุกอ่ สร้างและค�ำนวณโครงสร้าง ในปี พ.ศ. 2534 เป็นต้นมา ปี พ.ศ. 2546 คณะศิษยานุศิษย์ได้จัดท�ำกฐินสามัคคี เพื่อหาทุนทรัพย์ มาสมทบสร้าง จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2556 ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง ประมาณ 14 ล้านบาท ได้รับพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุ จาก องค์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เมือ่ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 ซึง่ ได้ประกอบพิธอี ญ ั เชิญพระบรม สารีริกธาตุขึ้นบรรจุประดิษฐานไว้ที่ส่วนยอดพระธาตุและฐานแจกัน พร้อมด้วยพระพุทธรูปและวัตถุมงคลต่าง ๆ พร้อมกับประทานอนุญาต ให้อัญเชิญ พระนามย่อ ญสส. ประดิษฐานไว้ ณ ซุ้มประตู 2 ด้าน เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ต่อมาทางวัดขอพระราชทานประดับตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสพระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2554 โดย ได้รับอนุญาตจากส�ำนักงานปลัดส�ำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555 และเมือ่ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เวลา 15.09 น. อัญเชิญขึ้นประดับยังซุ้มพระธาตุด้านทิศตะวันออก พร้อมกับพระบรม สารีริกธาตุจากค�ำหมากไปบรรจุยังส่วนพระเกศของพระพุทธรัตนมุนี พระพุทธศรีมงคล พร้อมด้วยพระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกธาตุ พระอรหันตธาตุ ที่เสด็จมายังวัดสุทธิวนารามแห่งนี้ มีพระพุทธรูปและ วัตถุมงคลขึ้นบรรจุในส่วนองค์พระธาตุ พระธาตุพระพุทธรัตนมุนศี รีสตั นาค มีขนาดความกว้าง 9 x 9 เมตร สูง 28 เมตร เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ลายปูนปั้นประดับพลอยและ พระพุทธรูปหินทรายแกะสลักทัง้ องค์ เป็นพระธาตุทงี่ ดงาม ประณีต บรรจง ได้สดั ส่วน มีพระบรมสารีรกิ ธาตุ พระอรหันตธาตุ พระปัจเจกธาตุ และ วัตถุมงคลอันศักดิส์ ทิ ธิ์ ซึง่ เป็นศาสนสถานอันศักดิส์ ทิ ธิ์ ทีพ่ ทุ ธศาสนิกชน ควรเข้ามากราบไหว้สกั การะบูชา อธิษฐานขอพร สมควรทีบ่ คุ คลทัง้ หลาย ต้องรักษาองค์พระธาตุ อันเป็นศาสนสถานไว้ให้ลูกหลานได้กราบไหว้ บูชาต่อไปตราบนานเท่านาน และเพือ่ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ 9 และเป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา ยังศรัทธาพุทธศาสนิกชนให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

2

.indd 119

119

27/2/2562 9:08:12


H I S TO R Y O F B U D D H IS M บันทึกเส้นทางธรรมหนุนน�ำชีวิต

วัดสว่างพั ฒนา

...ศูนย์รวมจิตศรัทธาของชาวนากั้ง

และนายอ้น อินธิกูด เป็น ผู้น�ำสร้างวัดในครั้งนั้น ชาวบ้านส่วนใหญ่ จึงพากันเรียกว่า “วัดกลาง” เพราะเหตุที่สร้างในคุ้มกลางนั้นเอง

พระครูโอภาสพัฒนานุกูล

ด�ำรงต�ำแหน่งรองเจ้าคณะอ�ำเภอปากคาด/ เจ้าอาวาสวัดสว่างพัฒนา

วั ด สว่ า งพั ฒ นา ตั้ ง อยู ่ เ ลขที่ 169 หมู ่ 6 บ้ า นนากั้ ง พั ฒ นา ต�ำบลนากั้ง อ�ำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ ห่างจากตัวอ�ำเภอ ปากคาดประมาณ 14 กิโลเมตร พื้นที่วัดมีประมาณ 12 ไร่ ได้รับ พระราชทานวิสุงคามสีม า เมื่อ วัน ที่ 28 มีน าคม พ.ศ. 2560 วัดสว่างพัฒนา สร้างเมื่อ พ.ศ. 2470 ตามประวัติกล่าวว่าชาวบ้าน นากั้งซึ่งได้อพยพจากบ้านฝั่งแดงมาสร้างบ้านเรือนอยู่ แล้วจึงได้สร้าง วัดขึน้ ชือ่ ว่า วัดศรีชมชืน่ ต่อมาบ้านเรือนราษฎร ได้มจี ำ� นวนมากขึน้ และ อยู ่ กั น เป็ น คุ ้ม คือ คุ้มเหนือ คุ้มกลางและคุ้มใต้ ชาวบ้านทั้งหลาย ได้ ป ระชุ ม พร้ อ มใจกั น ที่ จ ะสร้ า งวั ด ใหม่ ขึ้ น เนื่ อ งจากวั ด ศรี ช มชื่ น มีเนื้อที่น้อย จึงได้พากันสร้างวัดใหม่ขึ้นที่บริเวณคุ้มกลาง เสร็จแล้วจึง ตั้งชื่อว่า “วัดสว่างพัฒนา” โดยมีนายขาว ปานจันทร์ นายน้อย คงทัน 120

2

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 120

26/2/2562 17:17:31


อาคารเสนาสนะ

ประวัติเจ้าอาวาส

อุ โ บสถ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2550 เป็น อาคารคอนกรีต เสริม เหล็ก เขตวิสงุ คามสีมา กว้าง 30 เมตร ยาว 50 เมตร ศาลาการเปรียญ สร้างเมือ่ พ.ศ. 2559 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง 23 เมตร ยาว 42 เมตร กุฏิสงฆ์ 4 หลัง ศาลาอเนกประสงค์ 2 หลัง หอระฆัง 1 หลัง

พระครูโอภาสพัฒนานุกลู (ถวิล ฐานิสสฺ โร) ด�ำรงต�ำแหน่งเจ้าอาวาส วัดสว่างพัฒนา อุปสมบท เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2520 ณ พัทธสีมา วั ด ทรงธรรม ต� ำ บลโพนแพง อ� ำ เภอโพนพิ สั ย จั ง หวั ด หนองคาย พระอุปชั ฌาย์ พระครูพทิ กั ษ์พสิ ยั กิจ พระกรรมวาจาจารย์ เจ้าอธิการมัน่ พระอนุสาวนาจารย์ พระเสถียร อุปสมบทแล้วท่านได้ย้ายมาอยู่ วัดโพธิ์ศรีสร้อย ต�ำบลปากคาด อ�ำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ ในปี พ.ศ. 2521 เพื่อเล่าเรียนศึกษาธรรมกับหลวงปู่ด่อน อินฺทสาโร ซึ่งเป็น พระเกจิอาจารย์ที่คนนับถือมากในสมัยนั้น จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2525 ได้กลับมาจ�ำพรรษาที่วัดสว่างพัฒนา อันเป็นวัดบ้านเกิดจนถึงปัจจุบัน ต�ำแหน่งการปกครอง พ.ศ. 2525 ได้รับแต่งตั้งด�ำรงต�ำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดสว่างพัฒนา และเจ้าคณะต�ำบลนากั้ง พ.ศ. 2530 ได้รบั แต่งตัง้ ด�ำรงต�ำแหน่ง รองเจ้าคณะอ�ำเภอปากคาด พ.ศ. 2531 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ สมณศักดิ์ พ.ศ. 2542 ได้รับเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ชั้นโท พ.ศ. 2547 ได้รับเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ชั้นเอก

รายนามเจ้าอาวาส

1. พระอธิการเอี่ยม อิสิญาโน 2. พระอธิการขาว ฐานวโร 3. พระอธิการนุ นาถธมฺโม 4. พระอธิการเคน ธมฺมวโร 5. พระอธิการสาม สุมงฺคโร 6. พระครูโอภาสพัฒนานุกูล

พ.ศ. 2470-2482 พ.ศ. 2483-2500 พ.ศ. 2501-2508 พ.ศ. 2509-2519 พ.ศ. 2520-2524 พ.ศ. 2525-ปัจจุบัน

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

2

.indd 121

121

26/2/2562 17:17:39


H I S TO R Y O F B U D D H IS M บันทึกเส้นทางธรรมหนุนน�ำชีวิต

วัดสว่างมีชัย

...ส�ำนักปฏิบัติธรรมดีเด่น ปี 2556 พระครูภาวนาปัญญาสาร วิ.

ด�ำรงต�ำแหน่งรองเจ้าคณะอ�ำเภอปากคาด/ เจ้าอาวาสวัดสว่างมีชัย

วัดสว่างมีชัย ตั้งอยู่บ้านศรีสว่างพัฒนา เลขที่ 6 หมู่ที่ 1 ต�ำบลสมสนุก

อ� ำ เภอปากคาด จั ง หวั ด บึ ง กาฬ สั ง กั ด คณะสงฆ์ ม หานิ ก าย ปัจจุบันมี พระครูภาวนาปัญญาสาร วิ. (บัวรินทร์ ปญฺญาสาโร ศรีค�ำ) อายุ 62 ปี 35 พรรษา วุฒิ น.ธ.เอก, ป.ธ.1 – 2, อภิธรรมบัณฑิต, พธ.บ. จาก มจร.วิทยาเขตหนองคาย รองเจ้าคณะอ�ำเภอปากคาด เป็ น เจ้ า อาวาส เมื่อ พ.ศ. 2539 จนถึงปัจจุบั น

ร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์ช่วยกันสร้าง ตั้งชื่อว่า “วัดสว่างมีชัย” ชาวบ้าน ทั่วไปเรียกว่าวัดบ้านศรีสว่าง มีเนื้อที่ 27 ไร่ 1 งาน 33 ตารางวา

ทิศทางการพัฒนาวัด วิสยั ทัศน์ พุทธศาสนามัน่ คง ด�ำรงศีลธรรม น�ำสังคมสันติสขุ อย่างยัง่ ยืน พันธกิจ ด้านการปกครอง, ด้านศาสนศึกษา, ด้านศึกษาสงเคราะห์, ด้านเผยแผ่, ด้านสาธารณูปการ, ด้านสาธารณสงเคราะห์ เป้าหมาย 1. เพือ่ วัดพัฒนาเป็นรมณียสถานด้วยกิจการ 5 ส. 2. เพือ่ สืบต่อกิจการงานคณะสงฆ์ 3. เพือ่ ส่งเสริมพระพุทธศาสนา รักษาพระสัทธรรม 4. เพือ่ น้อมน�ำสันติสขุ สูส่ งั คมอย่างยัง่ ยืน อัตลักษณ์ของวัด สืบสานงานพระพุทธศาสนา น�ำพาพัฒนาจิต อุทศิ ตน เพือ่ สังคม ไม่นยิ มอบายมุข

วั ด สว่ า งมี ชั ย สร้ า งเมื่ อวั น ที่ 17 เดื อ นมี น าคม พ.ศ. 2479 เดิมนายบุญมี แคนวัง ได้อพยพครอบครัวพร้อมด้วยญาติมิตรมาจาก บ้านแคน อ�ำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม มาตั้งบ้านเรือนอยู่ ประมาณ 20 ครอบครัว ต่อมาจึงตั้งชื่อบ้านเป็นทางการว่า “บ้านศรี สว่างพัฒนา” และร่วมกันสร้างวัดโดยนายบุญมี แคนวัง นางก้อม อ่อนน้อย นายอรุณ ประจวบสุข ร่วมกันบริจาคที่ดิน และชาวบ้านศรีสว่างพัฒนา 122

2

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 122

26/2/2562 17:09:01


สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจ�ำวัด พระพุทธมารวิชยั เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชยั องค์ใหญ่ หล่อด้วยอิฐ ถือปูนประดิษฐานอยูบ่ นเงือ้ มหินใหญ่ทอี่ ยูท่ า่ มกลางวัด ชาวบ้านเรียกว่า หินโงมหรือหินโซมโงม (ภาษาอีสาน) หมายถึงเงื้อมหิน สร้างในสมัย พระครูสิริภัทรพิสณฑ์ (หลวงปู่อ่วม สิริภทฺโท) ท่านเป็นเจ้าคณะต�ำบล สมสนุก ได้น�ำพระภิกษุสามเณร อุบาสกอุบาสิกา ก่อสร้างจนแล้วเสร็จ เมื่อ พ.ศ. 2527 บริเวณโดยรอบเป็นป่าไม้แดงไม้สักล้อมรอบ ต่อมา จึงจัดเป็นสถานลานธรรมติดกับวิหารพระพุทธมารวิชัย

พ.ศ. 2544 เริม่ มีการอบรมคุณธรรม จริยธรรมแก่นกั เรียน ข้าราชการครู

ผลงานด้านการบริหารกิจการคณะสงฆ์วัดสว่างมีชัย พ.ศ. 2539 เริม่ มีการอบรมปฏิบตั ธิ รรมวิปสั สนากรรมฐาน หลักสูตร อบรมพัฒนาจิต ให้เกิดปัญญาและสันติสุข ระยะเวลาการอบรม 7 คืน 8 วัน มีผมู้ าปฏิบตั ทิ งั้ บรรพชิตและคฤหัสถ์ โดยพระครูภาวนาปัญญาสาร เป็นพระวิปสั สนาจารย์ มีทมี วิทยากรทัง้ บรรพชิตและคฤหัสถ์ซงึ่ แล้วแต่ ความเหมาะสมกับผูม้ าปฏิบตั ิ มีผสู้ นใจเข้ารับการอบรมปฏิบตั ธิ รรมมากขึน้ ในปีตอ่ ๆ มาทางวัดจึงจัดอบรมเพิม่ ขึน้ ในวันส�ำคัญทางพระพุทธศาสนา คือวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา และวันเฉลิมพระชนมพรรษา พ.ศ. 2543 ได้รบั อนุมตั เิ ป็นส�ำนักเรียนสาขาอภิธรรมโชติกะวิทยาลัย เรียกว่า “หน่วยบริการสาขาอภิธรรมโชติกะวิทยาลัย มหาวิทยาลัย มหาจุ ฬ าลงกรณราชวิทยาลัย ” เมื่อวัน ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2543 โดยให้การศึกษาพระอภิธรรมแก่บรรพชิตและคฤหัสถ์ผู้มีจิตศรัทธา ทุกเพศทุกวัย เพียงอ่านออกเขียนได้กเ็ รียนได้ ยินดีสอนให้ตงั้ แต่ชนั้ จูฬตรี จนถึงชั้นมหาเอก (อภิธรรมบัณฑิต) มีทั้งเรียนประจ�ำ และภาคพิเศษ เสาร์ อาทิตย์

จากโรงเรียนประถมและมัธยมในอ�ำเภอปากคาดและอ�ำเภอใกล้เคียง ที่เข้ามาอบรมเกือบจะทุกเดือน บางเดือนก็มีถึง 2-3 ครั้งๆ ละ 3-5 วัน หลักสูตรการอบรมต้องเน้นการปฏิบตั ธิ รรมเป็นหลัก เมือ่ อบรมเยาวชน มากขึ้นก็ต้องลดการอบรมผู้ใหญ่ลง แต่ก็ยังคง มีอยู่อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง พ.ศ. 2549 ได้รบั อนุมตั เิ ป็นส�ำนักปฏิบตั ธิ รรมประจ�ำจังหวัดหนองคาย แห่งที่ 2 จากมหาเถรสมาคมในการประชุมครัง้ ที่ 5/2549 เมือ่ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 ให้เป็นภารธุระในการฝึกอบรมธรรมปฏิบัติแก่ บรรพชิตและคฤหัสถ์ โดยยึดหลักมหาสติปัฏฐานสูตร เป็นหลักปฏิบัติ ต่ อ มาเมื่ อ มี ก ารจั ด ตั้ ง จั ง หวั ด บึ ง กาฬตาม พ.ร.บ.ตั้ ง จั ง หวั ด บึ ง กาฬ พ.ศ. 2554 วัดสว่างมีชยั จึงเป็นส�ำนักปฏิบตั ธิ รรมประจ�ำจังหวัดบึงกาฬ แห่งที่ 2 พ.ศ. 2554 พระครูภาวนาปัญญาสาร เจ้าอาวาสวัดสว่างมีชยั ได้รบั พระราชทานเสาเสมาธรรมจักร ผู้ท�ำคุณประโยชน์ในพระพุทธศาสนา ด้ า นส่ ง เสริ ม การปฏิ บั ติ ธ รรม จากสมเด็ จ พระเทพรั ต นราชสุ ด า สยามบรมราชกุมารี เมือ่ วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 และวัดสว่างมีชยั ได้รบั คัดเลือกเป็นส�ำนักปฏิบตั ธิ รรมประจ�ำจังหวัดบึงกาฬดีเด่น ประจ�ำปี พ.ศ. 2556 แนวทางการปฏิบตั ธิ รรม เจริญวิปสั สนากรรมฐาน ตามหลักสติปฏั ฐาน 4 รับผู้เข้าอบรมปฏิบัติธรรมทั้งนักเรียน เยาวชน อบรมค่ายคุณธรรม จริยธรรม หลักสูตร 3 วัน 5 วัน ผู้ใหญ่ที่มีศรัทธาหรือตามก�ำลังอินทรีย์ จึงมีหลักสูตร 5 วัน 7 วัน 15 วัน และหลักสูตรการอบรมพัฒนาจิต 7 คืน 8 วัน ปัจจุบันรับทั้งผู้มาปฏิบัติเป็นรายบุคคล อยู่ได้ตามก�ำลังศรัทธา

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

2

.indd 123

123

26/2/2562 17:09:05


WAT ARANYANI

124

6

ขอพรหลวงตาเลิ ศ ชิ น วํ โ ส เมตตาบารมี แ สนล้ า น SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 124

28/2/2562 9:16:56


HIST ORY OF BUDDH ISM

บันทึกเส้นทางธรรมหนุนน�ำชีวิต

วัดอรัญญานี

…Begging for blessing from Luang Ta Loet Shinawangso will bring great virtue to one’s life. วั ด อรั ญ ญานี เลขที่ 73 หมู ่ ที่ 4 บ้ า นสุ ข สาคร ต� ำ บลดอนหญ้ า นาง อ�ำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ แต่เดิมคือ “ที่พักสงฆ์ภาวนาสถานโคกดินแดง” สร้างเมื่อวันที่ 16 เดือนเมษายน พ.ศ. 2512 โดยมีพระอธิการเลิศ ชินวํโส พร้ อ มด้ ว ย นายอุ ไ ร เจริ ญ ศิ ล ป์ , นายปิ ่ น ลายทอง พากั น แผ้ ว ถางป่ า เพื่อก่อสร้างที่ พัก สงฆ์ ปั จจุ บัน มี พระเดชพระคุ ณพระครู บวรธรรมรั กขิ ต (หลวงตาเลิศ ชินวํโส) ที่ปรึกษาเจ้าคณะอ�ำเภอพรเจริญ เป็นเจ้าอาวาส

พระครูบวรธรรมรักขิต (หลวงตาเลิศ ชินวํโส)

ที่ปรึกษาเจ้าคณะอ�ำเภอพรเจริญ/เจ้าอาวาสวัดอรัญญานี Phra Khru Bawornthammarakkit (Luang Ta Loet Shinawangso) Consultant of Phon Charoen district monk dean/ Abbot of Wat Aranyani

Wat Aranyani is located at 73 village no.4, Baan Suksakorn, Don Ya Nang sub-district, Phon Charoen district, Bueng Kan province. Formerly, it was “Koke Din Daeng resting and praying place for monk” which was founded on 16 April B.E.2512 by Phra Athikarn Loet Shinawangso together with Mr.Urai Charoensin, Mr.Pin Laithong who cleared the field to build this place. At present, Phra Dech Phra Khun Phra Khru Bawornthammarakkit (Luang Ta Loet Shinawangso), consultant of Phon Charoen district monk dean, takes a position of abbot at this temple. BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

6

.indd 125

Bawornthammarakkit

125

28/2/2562 9:17:02


ความส�ำคัญของวัด วัดอรัญญานี มีพระภิกษุสามเณรจ�ำพรรษาปีละประมาณ 15-20 รูป ต่อปี วัดแห่งนีย้ งั เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนทัว่ ทุกที่ เป็นสถานที่ อนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี “ฮีต 12 ของอีสาน” อันเป็นประเพณีอันดีงาม ของชาวไทยอีสาน เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้ศึกษาเล่าเรียนในพิธีกรรม ประเพณีน้ันๆ โดยมีปราชญ์ชาวบ้าน คือผู้เฒ่าผู้แก่พ่อตู้แม่ตู้ให้ความรู้ แก่เด็กและเยาวชน นอกจากนีท้ างวัดฯ ยังได้อนุรกั ษ์สงิ่ แวดล้อมทางธรรมชาติไว้ดว้ ย จะเห็น ได้วา่ อาณาบริเวณวัดจะเป็นป่าทีอ่ ดุ มสมบูรณ์ดว้ ยแมกไม้นานาพรรณพร้อม ทัง้ สัตว์ปา่ เช่น ไก่ปา่ กระรอก กระแต ตะกวด กิง้ ก่า เป็นต้น พระเดชพระคุณ หลวงตาพูดเสมอว่า “เรามาอาศัยบ้านของสัตว์ป่าเหล่านั้น เราต้องเป็น ผูอ้ าศัยทีด่ ี อย่าท�ำลายบ้านเขา อย่าท�ำลายชีวติ เขา” เพราะเหตุนวี้ ดั อรัญญานี จึงเป็นป่าทีอ่ ดุ มสมบูรณ์ และทางวัดยังได้จดั โครงการอนุรกั ษ์พนั ธุไ์ ม้ปลูกป่า เฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อเปิดโอกาสให้อุบาสกอุบาสิกา เด็กและเยาวชน ได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ป่าไม้ด้วย อีกทั้งวัดอรัญญานียังมีโครงการ ต่างๆ มากมาย ที่เกิดขึ้นด้วยเจตนารมณ์ของพระเดชพระคุณพระครู บวรธรรมรักขิต(หลวงตาเลิศ ชินวํโส) ผู้เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งมองเห็นคุณค่า ในโครงการต่างๆ ทีเ่ กิดขึน้ ในวัดอรัญญานี อาทิ โครงการบรรพชาอุปสมบท พระภิ ก ษุ ส ามเณรและบวชศี ล จาริ ณี ภ าคฤดู ร ้ อ นเฉลิ ม พระเกี ย รติ ฯ โครงการศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ โครงการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ โครงการสืบสานวัฒนธรรม ประเพณี ฮีต 12 การขับร้องสรภัญญะพื้นบ้าน โครงการลานธรรมวิถีไทย และโครงการสวน เกษตรตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวง ร.9 126

6

Importance of Wat Aranyani

There are approximately 15-20 monks and novices that come and live at Wat Aranyani every year. This temple is the spiritual center of Buddhists from all walks of life and it was also the place that preserved Northeastern culture “Twelve Annual Festival of Isan people which observed one per month” which is fine tradition of northeastern Thais in order to teach the young generations about these cultures. They will be taught by local scholar which is an elder who are ready to enlighten the youngster. Moreover, this temple also conserve natural environment which around temple’s area are abundant forest that filled with various kind of woods together with wild animal such as jungle fowl, squirrel, tree shrew, monitor lizard, chameleon etc.. Luang Ta Loet always said that “We are living in the house of this wild animals, we must be a good inhabitant, do not destroy their house and their lives.” That’s why Wat Aranyani’s area are plentiful forest. Apart from that, this temple also arrange Forestplantation and seeding-conservation honor the Royal family project in order to provide an opportunity to layman, laywoman and youth to take part in forest-conservation. In addition, Wat Aranyani also has various projects that originated from an intention of Phra Dech Phra Khun Phra Khru BawornThammarakkit (Luang Ta Loet Shinawangso), abbot of this temple, who have seen the value of all projects which occurred at this temple such as an ordination of monk, novice and nun in summer to honor the Royal family project, Buddhism-studying center on Sunday project, Forest-plantation and seeding-conservation honor the Royal family project, Twelve Annual Festival of Isan people-inheritance and chanting in local Sorapanya style project, The Thai style Dharma ground project and agricultural garden project which followed sufficient economy principal of King Rama IX.

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 126

4/3/2562 14:35:25


ดังนั้นวัดอรัญญานีจึงเป็นศูนย์รวมทางการศึกษาและศูนย์รวมทาง จิตใจของพุทธศาสนิกชนเด็กและเยาวชน โดยมีพระเดชพระคุณพระครู บวรธรรมรักขิต(หลวงตาเลิศ ชินวํโส) ที่ปรึกษาเจ้าคณะอ�ำเภอพรเจริญ/ เจ้าอาวาสวัดอรัญญานี เป็นผู้น�ำในการก่อตั้งการจัดโครงการต่างๆ ขึ้นเพื่อ พุทธศาสนิกชนเด็กและเยาวชน สมกับราชทินนามของพระเดชพระคุณทีว่ า่ “บวรธรรมรักขิต” ผู้รักษาธรรมอันประเสริฐ ค�ำว่า “บวร” ที่ว่าประเสริฐ เพราะมีอกั ษร 3 ตัว คือ “บวร” ทีเ่ รียกว่า บ้าน วัด โรงเรียน พระเดชพระคุณ ได้รักษาค�ำ 3 ค�ำนี้ไว้เสมอมาจนถึงปัจจุบันนี้ โดยรวมบ้านวัดโรงเรียน เข้าด้วยกัน จนได้ค�ำว่า “บวร” ที่แปลว่าประเสริฐ Therefore, Wat Aranyani becomes educational center and spiritual center of young Buddhists which Phra Dech Phra Khun Phra Khru Bawornthammarakkit (Luang Ta Loet Shinawangso), consultant of Phon Charoen district monk dean/ abbot of Wat Aranyani is the leader of an establishment of many projects that was arranged in this temple as the aforementioned which is well matched with his title “Bawornthammarakkit”, the preserver of brilliant Dharma, the reason why the word “Baworn” was considered brilliant is because three letters of this word “B W R” which it means home, temple and school in Thai. He always preserves these three words consistently until today by combining three words and it will become the word “Baworn” which means brilliant.

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

6

.indd 127

127

4/3/2562 14:35:45


ประวัติเจ้าอาวาส พระครูบวรธรรมรักขิต (หลวงตาเลิศ ชินวํโส) ที่ปรึกษาเจ้าคณะอ�ำเภอพรเจริญ/เจ้าอาวาสวัดอรัญญานี สถานะเดิม นาม เลิศ ฤทธิภ์ ู เกิดเมือ่ วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2475 ปีวอก เวลา 19.19 น. บิดาชื่อ พ่อมี ฤทธิ์ภู มารดาชื่อ แม่เขียว ฤทธิ์ภู อาศัยอยู่ที่บ้านหนองบัว อ�ำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร (ปัจจุบัน บ้านโนนสะอาด อ�ำเภอบ้านม่วง) จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านดอนหญ้านาง เด็กชายเลิศเป็นผูท้ มี่ จี ติ ใจเมตตาและใฝ่ในธรรม เมือ่ อายุประมาณ 12-13 ปี จึงได้บวชเป็นตาผ้าขาวน้อย อุปฏั ฐากหลวงปูว่ งั อยู่บ้านดอนน้อยบ้าง อยู่บนภูลังกาบ้าง บรรพชา เมื่ออายุ 15 ปี ได้บรรพชาในวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2490 ที่ วั ด ภู มิ บ าลวั ฒนา อ�ำ เภอบึ ง กาฬ โดยมี ท ่ า นพระครู พุ ท ธวรประสาท เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นได้เดินทางไปศึกษานักธรรมที่วัดชนะสงคราม กรุงเทพมหานคร โดยมีพระอาจารย์มหาผ่อง สะมะเลิก (อดีตมหาสังฆนายก ลาวองค์ที่ 4) เป็นอาจารย์สอนนักธรรมชั้นโทในขณะนั้น อุปสมบท ในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2495 ณ อุโบสถวัดภูมิบาลวัฒนา โดยมีทา่ นพระครูพทุ ธวรประสาท เป็นพระอุปชั ฌาย์ มีพระมหาสุพจน์ สุวโี ร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระพร้อม ตนฺตวิริโย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า “ชินวํโส” แปลว่า วงศ์ของผู้ชนะ เมื่อบวชเป็นพระแล้ว ท่านได้ ไปเรียนนักธรรมชั้นเอกที่วัดศรีโสภณธรรมทาน อ�ำเภอบึงกาฬ ท่านสอบไล่ ได้นักธรรมชั้นเอก ในปี พ.ศ. 2496 และได้ย้ายไปอยู่ที่อ�ำเภอเมือง หนองคาย และไปทุกทีไ่ ม่วา่ เป็นภาคเหนือ ใต้ ออก ตก ท่านไปเพือ่ แสวงหา ความรู้จากครูบาอาจารย์ ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่มั่น หลวงปู่สิงห์ ขตฺตยาคโม หลวงปู่วัง หลวงปู่สด หลวงปู่มหาปาน อานนฺโท หลวงปู่พ่อถ่านมหา ผ่อง ปิยธีโร(สะมะเลิก) อดีตมหาสังฆนายกลาว หลวงปู่เจ้าคุณพระธรรม ปริยัติมุนี(เจ้าคุณนวล) หลวงปู่ค�ำสิงห์ ฯลฯ

Biography of abbot

Phra Khru Bawornthammarakkit (Luang Ta Loet Shinawangso), consultant of Phon Charoen district monk dean/ abbot of Wat Aranyani Former status – Name Loet Litphu, was born on Tuesday, 25th October B.E.2475, year of the monkey, at 19.19 hrs. His parent name are Mr.Mee Litphu and Mrs.Khio Litphu respectively. He lived at Baan Nong Bua, Wanon Niwat district, Sakon Nakhon province (At present, Baan Non Sa-at, Ban Muang district). He graduated fourth grade from Baan Don Ya Nang School. The little boy Loet was a Samaritan and took an interest in Dharma, when he was around 12-13 years old, he was ordained and became novice which his attendant is Luang Pu Wang who sometime lived at Baan Don Noi or Lanka Mountain. Ordination (Novice) - He became a novice on 9th March B.E.2490 when he was 15 years old at Wat Phumiban Watthana, Bueng Kan district which Phra Khru Buddha Woraprasart was a preceptor. Then, he travelled to Wat Chana Songkram, Bangkok to study Dharma which Phra Ajarn Maha Phong Samalerk (Former the fourth Chairman of the Ecclesiastical of Laos) was a teacher who taught Dhamma scholar secondary level at that time.

128

6

Ordination (Monk) - He went into a monkhood on 9 June B.E.2495 at ubosot of Wat Phumiban Wattana which the preceptor was Phra Khru Puttha Woraprasart and pair of monks who chant the ordination service were Phra Maha Supoj Suwero and Phra Prom Tantawiriyo. He got a title “Shinawangso” which means lineage of a victor. After he was ordained, he went to Wat Srisophon Thammatan, Bueng Kan district to study advanced level Dharma which he became Dhamma scholar advanced level in B.E.2496 and moved to Mueang district, Nong Khai province to live at this place. After that, he have travelled to many places regardless of north, south east and west because he wanted to seek for knowledge from various masters no matter who such as Luang Pu Mun, Luang Pu Sing Kattayakamo, Luang Pu Wang, Luang Pu Sod, Luang Pu Maha Pan Arnanto, Luang Pu Phor Than Maha Phong Piyathiro (Samalerk), former the fourth Chairman of the Ecclesiastical of Laos, Luang Pu Chao Khun Phra Tham Pariyatmuni (Chao Khun Nuan), Luang Pu Khamsing etc.

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 128

4/3/2562 14:45:27


อาคารจักษุ “หลวงตาเลิศ ชินวํโสมหาเถรเมตตา” ด้วยพระเดชพระคุณหลวงตาเลิศ ชินวํโส พระมหาเถระผู้ทรงคุณธรรม อันสูง ผูป้ ฏิบตั ดิ ี ปฏิบตั ชิ อบด้วยข้อวัตรปฏิบตั อิ นั งามยิง่ พระมหาเถระผูม้ าก ด้วยเมตตาบารมี เจ้าวลีบารมีรวยแสนล้านแห่งวัดอรัญญานี พระมหาเถระ ผูเ้ ป็นสังฆบิดรผูม้ อี ายุพรรษากาลมากในจังหวัดบึงกาฬ ได้ดำ� ริจะสร้างเป็น อาคารจักษุ 2 ชัน้ มอบให้แก่โรงพยาบาลเซกา โดยพระเดชพระคุณหลวงตา ได้มอบหมายหน้าทีใ่ นการหาทุนก่อสร้างอาคารจักษุนแี้ ก่ พระโอภาส โอภาโส ซึ่งปัจจุบันคือพระครูสังฆรักษ์โอภาส โอภาโส ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรัญญานี ได้ช่วยเป็นภาระในการด�ำเนินการหาทุนทรัพย์และก่อสร้าง ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์โดยมีพระเดชพระคุณ พระวิ ชั ย ธรรมคณี เจ้ า คณะจั ง หวั ด บึ ง กาฬ และพระเดชพระคุ ณ พระประภัสสรมุนี เจ้าคณะจังหวัดบึงกาฬ (ธ) เป็นประธานในพิธี ในปี พ.ศ. 2557 ได้เริม่ ด�ำเนินการก่อสร้างจนถึงปลายปี พ.ศ. 2559 การก่อสร้าง อาคารจักษุได้ส�ำเร็จเสร็จสิ้นลง รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 9 ล้านบาท

Optical Building “Luang Ta Loet Shinawangso, the great benevolent master

Because of Phra Dech Phra Khun Luang Ta Loet Shinawangso, the great monk who has high prestige and behave himself nicely and morally, who has abundant virtues, the owner of a phase “Great virtue will bring about wealth” of Wat Aranyani, the great monk who is the oldest monk in Bueng Kan province, has considered to build 2-storey optical building and grant it to Seka hospital. He has assigned the duty of constructional fund raising on Phra Opart Opaso which currently is Phra Khru Sangkarak Opart Opaso, assistant abbot of Wat Aranyani to collect money and manage the construction. On 21th February B.E.2556, the foundation stone-laying ceremony has been performed at this temple which Phra Dech Phra Khun Phra Wichai Thamkhani, Bueng Kan province monk dean and Phra Dech Phra Khun Phra Prapatsornmuni, Bueng Kan province monk dean were chairmen of this ceremony. In B.E.2557, the construction was started until end of B.E.2559 that the construction of this building was completed and the total expenses was approximately 9 million Baht.

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

6

.indd 129

129

4/3/2562 14:46:01


WAT PA WIWEK THAMMAKHUN มี ศี ล มี สุ ข ใจ ใต้ ร ่ ม พระอาราม

130

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

6

.indd 130

28/2/2562 9:20:43


HIST ORY OF BUDDH ISM

บันทึกเส้นทางธรรมหนุนน�ำชีวิต

Observing the precepts under the shade of this Buddhist monastery will lead to delighted mind.

พระครูวรวัฒน์คณารักษ์

ด�ำรงต�ำแหน่งเจ้าคณะอ�ำเภอพรเจริญ และเจ้าอาวาสวัดป่าวิเวกธรรมคุณ

วัดป่าวิเวกธรรมคุณ ตั้งอยู่เลขที่ 145 บ้านแก้วสมบูรณ์ ถนนสายบึงกาฬ -พั ง โคน หมู ่ ที่ 8 ต� ำ บลพรเจริ ญ อ� ำ เภอพรเจริ ญ จั ง หวั ด บึ ง กาฬ สังกัดคณะสงฆ์ ม หานิ ก าย เป็ น ส� ำ นั ก กั ม มั ฏ ฐานประจ� ำ อ� ำ เภอ และวั ดได้ มี การพัฒนาจนเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างของอ�ำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ

ประวัติวัดป่าวิเวกธรรมคุณ วัดป่าวิเวกธรรมคุณ ตัง้ วัดเมือ่ พ.ศ. 2483 ชาวบ้านเรียกว่าวัดป่าแก้วสมบูรณ์ โดยมีพ่อทอง บุญเฮ้า พ่อกองมี ท�ำนุ และนายเท แก้วกันหา ได้ร่วมกับ ชาวบ้านยืน่ ค�ำขอออกโฉนดทีด่ นิ โดยอาศัยหนังสือรับรองสภาพวัด ออกโดย กรมศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ เห็นว่าเป็นทีส่ งบมีความวิเวกเหมาะเป็นที่ ท�ำสมาธิ จึงตั้งชื่อว่า “วัดป่าวิเวกธรรมคุณ” วัดมีเนื้อที่ 59 ไร่ 1 งาน 59 ตารางวา

อาคารเสนานะ อุโบสถ 1 หลัง ศาลาการเปรียญ 1 หลัง ศาลาสวดมนต์ 1 หลัง กุฏพิ ระสงฆ์เขตสังฆาวาส จ�ำนวน 7 หลัง กุฏเิ ขตปฏิบตั ธิ รรม จ�ำนวน 21 หลัง ศาลาอบรมเขตปฏิบตั ธิ รรม จ�ำนวน 1 หลัง ศาลาปฏิบตั ธิ รรมเขตสังฆาวาส จ�ำนวน 1 หลัง หอระฆัง จ�ำนวน 1 หลัง (ปัญจศาลา) ศาลาฌาปนสถาน จ�ำนวน 2 หลัง เมรุเผาศพ 1 หลัง ห้องน�ำ้ รวมมี 47 ห้อง และห้องน�ำ้ ส่วนตัว ตามกุฏิ 31 ห้อง

Wat Pa Wiwek Thammakhun is located at 145 Baan Kaewsomboon, Bueng Kan - Phang Khon road, village no.8, Phon Charoen sub-district, Phon Charoen district, Bueng Kan province. This temple belongs to Maha Nikaya clergy. It is a district meditation institute and has been developed until it becomes the model of developed temple of Phon Charoen district, Bueng Kan province.

History of Wat Pa Wiwek Thammakhun

Wat Pa Wiwek Thammakhun was founded in B.E.2483 which called “Wat Pa Kaew Somboon” by locals. It was certified to be official temple because Mr.Thong Boonhao, Mr.Kongme Thamnu and Mr.Tae Kaewkanha together with locals have submit the request to Department of Lands in order to issue title deed by apply with certificate of temple status which issued by Department of Religious Affairs, Ministry of Education. They found out that this place was a peaceful place and suited for meditation. Therefore, they named this temple “Wat Pa Wiwek Thammakhun” (Wiwek means seclusion) which the scale of this temple’s area is 23.6 acres and 636 square meters.

Important Buildings

Ubosot, Sermon hall, Chanting hall, 7 monk’s houses and Dharmapracticing pavilion in monastery area, 21 monk’s houses and teaching pavilion Dharma-practicing area, belfry (five sided-pavilion), 2 crematories, 47 restrooms and 31 private restrooms in each monk’s house.

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

6

.indd 131

131

28/2/2562 9:20:46


132

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

6

.indd 132

28/2/2562 9:20:53


ปูชนียวัตถุส�ำคัญ

พระพุทธรูปปางพุทธชินราช 1 องค์ พระประธานอุโบสถ พระพุทธรูปปางมารวิชยั 23 องค์ (หน้าตัก 5 นิว้ ) พระแก้วมรกต 15 องค์ (หน้าตัก 5 นิว้ ) พระพุทธรูปปางสมาธิ 2 องค์ (หน้าตัก 50 นิว้ )

Important sacred objects

The principal Buddha image in ubosot which is imitated Phra Buddha Chinnarat. 23 Buddha images in attitude of subduing Mara (Na tak 5 inches) 15 Emerald Buddha images (Na tak 5 inches) 2 Buddha images in attitude of meditation (Na tak 50 inches) (Na Tak is a long measure of the Buddha statue in the posture of meditation).

การบริหารและการปกครอง วัดป่าวิเวกธรรมคุณ มีเจ้าอาวาส ดังนี้ รูปที่ 1 พระอธิการทอง ปภงฺกโร พ.ศ. 2483-2500 รูปที่ 2 พระอธิการทองสา สุวณฺโณ พ.ศ. 2501-2520 รูปที่ 3 พระอธิการอ�ำไพ กิตตฺ ปิ ญฺโญ พ.ศ. 2521 จนถึงปัจจุบนั

Administration

Wat Pa Wiwek Thammakhun has been administrated by abbots as following: The first abbot, Phra Athikarn Thong Papangkaro, B.E.2483 – 2520. The second abbot, Phra Athikarn Thongsa Suwanno, B.E.2501 – 2520. The third abbot, Phra Athikarn Aumpai Kittipanyo, B.E.2521 until now.

ร่มอาราม วัดเป็นบุญเขต วิเศษสถาน เหมือนทิพย์พิมาน ของหมู่ประชา สะอาดรื่นรมย์ ด้วยร่มเงาไม้ ได้ร่วมศรัทธา สมเป็นศาลา แห่งพักพึ่งใจ เห็นพระประธาน เหนือแท่นธ�ำรง เหมือนพุทธองค์ เหนืออาสน์อ�ำไพ แผ่ธรรมจุนเจือ โอบเอื้อเราผอง ปัดป้องปวงภัย ขอน้อมดวงใจ กราบไหว้วันทา วัดเล็กหรือใหญ่ นั้นไม่ส�ำคัญ วัดเท่าเทียมกัน ด้วยแรงพัฒนา พระสงฆ์เคร่งครัด ท�ำกิจวัตร ทุกวันเวลา มีจิตเมตตา ต่อชาวสังคม ระฆังวังเวง เหมือนเร่งศรัทธา คิดพัฒนา วัดให้เหมาะสม ดื่มด�่ำธรรมะ ขจัดตัณหา อย่าติดอารมณ์ ขอเชิญชื่นชม สู่ร่มอาราม. (เนื้อความ : พระเอกปิ่น มุทุกันต์)

การศึกษา ได้จดั ตัง้ โรงเรียนพระปริยตั ธิ รรม แผนกธรรม เปิดสอน พ.ศ. 2521 นอกจากนีม้ ที อี่ า่ นหนังสือพิมพ์ประจ�ำวัด และหน่วย อ.ป.ต. ประจ�ำต�ำบล พรเจริญ

Education

There is Tripitaka-studying school, Dharma division which open since B.E.2521. Moreover, there is a place for reading newspaper in this temple and where Phon Charoen district people-training division is located.

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

6

.indd 133

133

28/2/2562 9:20:57


ประวัติเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน พระครูวรวัฒน์คณารักษ์ ฉายา กิตฺติปญฺโญ อายุ 69 พรรษา 46 วิทยฐานะ ม.3 และนักธรรมชั้นเอก ปัจจุบันด�ำรงต�ำแหน่ง เจ้าอาวาส วัดป่าวิเวกธรรมคุณ และเจ้าคณะอ�ำเภอพรเจริญ สถานะเดิม ชื่อเดิม อ�ำไพ นามสกุล ตะนะโส เกิดวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2492 ชือ่ บิดา นายสา นามสกุล ตะนะโส ชือ่ มารดา นางสอน นามสกุล ตะนะโส บ้านเลขที่ 134 หมู่ที่ 9 ต�ำบลพรรณนา อ�ำเภอพรรณนานิคม จังหวัดสกลนคร 4 7ฯ ปีชวด วันที่ 10 มกราคม อุปสมบท เมื่ออายุ 22 ปี ตรงกับวัน 2 พ.ศ. 2515 ณ อุ โ บสถ วั ด ศรี ธ รรมสมโพธิ บ้ า นวั ง ยาง ต� ำ บลวั ง ยาง อ�ำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร นามพระอุปชั ฌาย์ พระครูสถิตธรรมสมโพธิ ฉายา จตฺตสลฺโล วัดศรีธรรมสมโพธิ นามพระกรรมวาจารย์ พระไสย ฉายา ธมฺมิโก วัดศรีบุญเรือง ต�ำบลวังยาง อ�ำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร นามพระอนุสาวนาจารย์ พระอธิการเหรียญชัย ฉายา มหาปญฺโญ (ปัจจุบัน คื อ พระครู ส าธุ กิ จ จารั ก ษ์ เจ้ า คณะอ� ำ เภอสามหมอ จั ง หวั ด อุ ด รธานี ) วัดถ�้ำสุมณฑาภาวนาหรือ (วัดผาสุการาม ) หลั ง จากอุ ป สมบทแล้ ว ได้ พั ก จ� ำ พรรษาที่ วั ด มหาสมณกิ จ ภาวนา บ้านวังยาง ต�ำบลวังยาง อ�ำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร 2 พรรษา (พ.ศ. 2515-2516) เมื่อ พ.ศ. 2517 มีความประสงค์จะแสวงหาที่ปฏิบัติ วิปัสสนากรรมฐาน ขณะนั้นมีหลวงพ่อรูปหนึ่งชื่อ หลวงพ่อจันทา จนฺทูปโม ท่านบวชเมื่อตอนแก่ และใช้ชีวิตในการแสวงหาสัจธรรมตามแนวทางการ ปฏิบตั ขิ ององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยอาศัยพระอาจารย์ทปี่ ฏิบตั ิ จากส�ำนักต่างๆ ในตอนนั้นท่านได้ชักชวนให้ไปปฏิบัติธรรมด้วยกัน และ ได้ตกลงไปกับท่าน หลวงพ่อจันทา จนฺทปู โม ได้พาไปทีว่ ดั ธรรมอโศก บ้านโนนสูง ต�ำบลอีตอื้ อ�ำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ จึงได้พบกับพระอาจารย์บุญธรรม ปริปณ ุ โฺ ณ เจ้าอาวาสวัดธรรมอโศกในขณะนัน้ และได้พบกับคุณแม่สว่างจิตร กาหวาย (ซึ่งเป็นหัวหน้าเขตแม่ชี ) และมีโอกาสได้เข้าปฏิบัติธรรมส�ำนักนี้ โดยมีพระอาจารย์บญ ุ ธรรม ปริปณ ุ โฺ ณ เป็นผูแ้ นะแนวทางการปฏิบตั ใิ ห้ ต่อมา ได้พักการปฏิบัติไว้เพื่อออกมาช่วยงานพระอาจารย์ เมื่อปี พ.ศ. 2520 ได้ยา้ ยมาจ�ำพรรษาทีว่ ดั ป่าเลไลยก์ บ้านเชียง ต�ำบลบ้านเชียง อ�ำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี เพื่อช่วยปฏิบัติงานอาจารย์มหาสมดี สุวณฺโณ (ปัจจุบันคือ พระครูพิศาลธรรมภาณี อดีตเจ้าคณะอ�ำเภอหนองหาน) ปี พ.ศ. 2521 ชาวอ�ำเภอพรเจริญ มีหลวงปู่ทองสา สุวณฺโณ พร้อมด้วย คณะญาติโยมอ�ำเภอพรเจริญได้ไปนิมนต์พระอ�ำไพ กิตตฺ ปิ ญฺโญ จากพระครู พิศาลธรรมภาณี เพือ่ มาจ�ำพรรษาทีอ่ ำ� เภอพรเจริญ ณ วัดป่าวิเวกธรรมคุณ ซึ่งในตอนนั้นส�ำนักวัดป่าวิเวกธรรมคุณยังไม่มีเสนาสนะเป็นหลักฐาน มัน่ คงนัก ( หมายถึงอาคารเสนาสนะยังไม่มน่ั คงเป็นกุฏแิ ละศาลาชัว่ คราว ) ท่านพระครูพิศาลธรรมภาณี ได้ให้พระอ�ำไพ กิตฺติปญฺโญ พร้อมพระภิกษุ มาด้วยกัน 3 รูป สามเณร 1 รูป และมีคุณแม่สว่างจิตร กาหวาย ติดตาม มาด้วย ซึ่งท่านเป็นหัวหน้าเขตปฏิบัติจนถึงปัจจุบันนี้ เมือ่ มาอยูว่ ดั นี้ ท่านได้มกี ารพัฒนาวัดมาโดยล�ำดับจนเป็นทีย่ อมรับจาก ทางคณะสงฆ์ตลอดทั้งทางฝ่ายบ้านเมือง โดยอาศัยบารมีพระเดชพระคุณ 134

หลวงพ่อพระครูบวรธรรมรักขิต เจ้าอาวาสวัดอรัญญานี และเป็นเจ้าคณะ อ�ำเภอพรเจริญรูปแรก วัดจึงเป็นทีร่ องรับนักปฏิบตั ทิ มี่ าจากทัว่ สารทิศ ตัง้ แต่ ปี พ.ศ. 2521 จนถึงปัจจุบัน มีนักปฏิบัติประจ�ำห้องปีละ 10-20 รูป/คน ส่วนที่มาพักปฏิบัติระยะเวลา 7-15 วันก็มีมาตลอดทั้งปี ทางวัดยังได้จัด งานอบรมปฏิบัติธรรมประจ�ำปี มาเป็นเวลา 40 ปีมาแล้ว ซึ่งจัดขึ้นใน ระหว่างวันที่ 23 - 30 มกราคม ของทุกปี มีผู้ปฏิบัติธรรมครั้งละประมาณ 250-500 รูป/คน

งานปกครอง พ.ศ. 2522 เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าวิเวกธรรมคุณ พ.ศ. 2522 เป็นเจ้าคณะต�ำบลศรีชมภู เขต 2 พ.ศ. 2527 เป็นเจ้าคณะต�ำบลพรเจริญ เขต 1 พ.ศ. 2529 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ. 2532 เป็นรองคณะอ�ำเภอพรเจริญ พ.ศ. 2555 เป็นผู้รักษาการเจ้าคณะอ�ำเภอพรเจริญ พ.ศ. 2556 เป็นเจ้าคณะอ�ำเภอพรเจริญ พ.ศ. 2561 ได้รบั พระราชทานเสาเสมาธรรมจักรด้านส่งเสริมการ ปฏิบัติธรรม มีการท�ำอุโบสถกรรม (สวดพระปาฏิโมกข์)ทุกกึ่งเดือน จัดท�ำสังฆกิจ ส่วนนี้ตลอดปี มีพระภิกษุสวดปาฏิโมกข์ได้ จ�ำนวน 1 รูป มีการท�ำวัตร สวดมนต์ เช้า - เย็น ปฏิบัติศาสนกิจส่วนนี้ทุกวัน

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

6

.indd 134

28/2/2562 9:21:00


Biography of current abbot

Phra Khru Worawat Kanarak, title Kittipanyo, 69 years old and has been in a monkhood for 46 years. Academic standing, ninth grade and Dharma scholar advanced level. At present, he rakes a position of abbot of Wat Pa Wiwek Thammakhun and Phon Charoen district monk dean. Former status, his former name was Aumpai Tanaso, he was born on 2 February B.E.2492, his father and mother’s name are Mr.Sa Tanaso and Mrs.Sorn Tanaso which they lived at 134 village no.9, Phanna sub-district, Phanna Nikhom district, Sakon Nakhon province. Ordination – He went into monkhood on 7th day of waxing moon of second moth, Wednesday, 10 January B.E.2515 at ubosot of Wat Sri Thamsompo, Baan Wang Yang, Wang Yang sub-district, Phanna Nikhom district, Sakon Nakhon province. The preceptor is Phra Khru Satit Tham Sompo, his title is Chattasanro, from Wat Sri Thamsompo. The pair of monks who chant the ordination service at his ordination are Phra Sai, his title is Thammiko, from Wat Sri Boon Rueang, Wang Yang sub-district, Phanna Nikhom district, Sakon Nakhon province, and Phra Athikarn Rienchai, his title was Mahapanyo (It is Phra Khru Sathu Kitjarak now, he is Sam Mo district monk dean of Udonthani province), from Wat Tham Sumonthapawana (Wat Pha Sukaram). Administration works B.E.2522 Abbot of Wat Pa Wiwek Thammakhun. B.E.2522 Second area of Sri Chom Phu sub-district monk dean B.E.2527 First area of Phon Charoen sub-district monk dean. B.E.2529 The preceptor B.E.2532 Phon Charoen district vice monk dean. B.E.2555 Acted for Phon Charoen district monk dean B.E.2556 Phon Charoen district monk dean B.E.2561 He was conferred “Sao Sema Thammachak” on supporting the Dharma-practicing. There are a recitation-giving (chanting 227 code of monastic disciplines) on every half of a month for entire year. There is one monk who can giving a recitation. Also, there are morning and evening-praying every day.

Participating in the merit-making ร่ ว มสร้างเส้น ทางบุญ

บันทึก

สาธุชนที่สนใจร่วมอบรมปฏิบัติธรรมประจ�ำปีที่วัดป่าวิเวกธรรมคุณ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ พระครูวรวัฒน์คณารักษ์ เจ้าคณะอ�ำเภอพรเจริญ วัดป่าวิเวกธรรมคุณ ต�ำบลพรเจริญ อ�ำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ โทร 089-572-4634

Anyone who interested to participate in an annual Dharma-practicing class at Wat Pa Wiwek Thammakhun. Please contact at the following details: Phra Khru Worawat Kanarak, Phon Charoen district monk dean, Wat Pa Wiwek Thammakhun, Phon Charoen sub-district, Phon Charoen district, Bueng Kan province. Tel. 089-572-4634. (Sao Sema Thammachak is an honour awards which conferred by Royal family to person or organization that make benefit to Buddhism).

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

6

.indd 135

135

4/3/2562 15:01:57


H I S TO R Y O F B U D D H IS M บันทึกเส้นทางธรรมหนุนน�ำชีวิต

วัดสังฆธรรมาราม ...เห็นธรรมในท่ามกลางธรรมชาติ พระครูประทีปธรรมายุต

วัดสังฆธรรมาราม สร้างเมือ่ พ.ศ. 2500 เดิมเป็นป่าสงวน แห่งชาติดงดิบดงกะลา ซึง่ มีนายสังข์ โซโคตร ชาวบ้านโคกอุดม ได้จบั จองเป็นทีด่ นิ ท�ำกิน ต่อมามีจติ ศรัทธาในพระพุทธศาสนา จึงได้ยกที่ดินถวายเพื่อสร้างวัด โดยเริ่มแรกก่อตั้งเป็นวัดป่า ซึง่ ชาวบ้านเรียกขานว่า “วัดบ้านโคกน้อย”

ด�ำรงต�ำแหน่งรองเจ้าคณะอ�ำเภอพรเจริญ / เจ้าอาวาสวัดสังฆธรรมาราม

วัดสังฆธรรมาราม ตั้งอยู่ที่บ้านสมสะอาด หมู่ 4 ต�ำบลพรเจริญ อ�ำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีเนื้อที่ จ�ำนวน 35 ไร่ 87 ตารางวา

136

2

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 136

26/2/2562 16:40:25


ต่อมาเมื่อประมาณ พ.ศ. 2505 ชุมชนบ้านโคกน้อยได้เจริญขึ้น จึงได้เปลีย่ นชือ่ ชุมชนว่า ชุมชนบ้านสมสะอาด ส่วนทีพ่ กั สงฆ์บา้ นโคกน้อย ชาวบ้านจึงเปลีย่ นเป็นชือ่ เป็น “วัดสังฆธรรมาราม” ตัง้ แต่นนั้ เป็นต้นมา เพือ่ เป็นเกียรติคณ ุ แก่นายสังข์ โซโคตร และครอบครัว เพราะค�ำว่า สังข์ ซึ่งเป็นชื่อเจ้าของที่ดินเดิม แปลงมาจากค�ำว่า สังฆ์ อันหมายถึง สงฆ์ ค�ำว่า ธรรม คือ ค�ำสัง่ สอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่วนค�ำว่า ราม แปลงมาจากค�ำว่า อาราม ซึง่ เป็นทีอ่ ยูข่ องพระภิกษุสงฆ์ เพือ่ เป็นสถานที่ ประพฤติปฏิบตั ธิ รรม ตลอดรวมระยะเวลา 50 กว่าปีที่ผ่านมา ชาวบ้านก็เรียกที่พักสงฆ์ แห่งนี้ว่า วัดสังฆธรรมาราม ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2551 ได้ขออนุญาตตั้งวัดสังฆธรรมาราม สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย จากส�ำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมีนายธนวัฒน์ พลหล่า เป็นผู้ใหญ่บ้าน ได้ด�ำเนินการขออนุญาตตั้งวัด การด�ำเนินการ อยู่ในระหว่างการขออนุญาตนายธนวัฒน์ พลหล่า ได้เสียชีวิตลง และ ได้นายเฮียง การพรมมา ผู้ใหญ่บ้านคนต่อมาได้เสนอเรื่องต่อในวันที่ 19 ธันวาคม 2556 ขอตั้งวัดขึ้นที่บ้านสมสะอาด หมู่ 4 ต�ำบลพรเจริญ อ�ำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ โดยขออนุญาตใช้ชอื่ ว่า “วัดสังฆธรรมาราม” โดยมีพระประมุข ฉายา ธมฺมทีโป เป็นเจ้าอาวาส และได้ประกาศจาก ส�ำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรือ่ งตัง้ วัดในพระพุทธศาสนามีนามว่า “วัดสังฆธรรมาราม” สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ในวันที่ 22 สิงหาคม 2557 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ท�ำเนียบเจ้าอาวาส

1. หลวงปูม่ กุ กตธมฺโม พ.ศ. 2505-2507 2. หลวงปูเ่ คน ปภากโร พ.ศ. 2507-2508 3. พระอธิการสมภาร สุธมฺโม พ.ศ. 2508-2520 4. พระอธิการสมัย ขนฺตธิ มฺโม พ.ศ. 2520-2526 5. พระอธิการทองสา สุวณฺโณ พ.ศ. 2526-2529 6. พระอธิการสงกา โอภาโส พ.ศ. 2529-2532 7. พระอธิการจันทร์ที เตชปญฺโญ พ.ศ. 2532-2533 8. พระอธิการประมุข ธมฺมทีโป (พระครูประทีปธรรมายุต) พ.ศ. 2534-ปัจจุบนั

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

2

.indd 137

137

26/2/2562 16:40:35


W O R K L IF E

บันทึกเส้นทางพบองค์การบริหารส่วนต�ำบล

องค์การบริหารส่วนตำ�บลศรีชมภู “ต�ำบลน่าอยู่ เชิดชูประเพณีวัฒนธรรม ชุมชนร่วมน�ำพัฒนา การศึกษาก้าวหน้า พัฒนาแบบยั่งยืน” วิสัยทัศน์ขององค์การบริหารส่วนต�ำบลศรีชมภู องค์ ก ารบริ ห ารส่ ว นต� ำ บลศรี ช มภู หมู ่ ที่ 3 ต� ำ บลพรเจริ ญ อ� ำ เภอพรเจริ ญ จังหวัดบึงกาฬ โดยตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอ�ำเภอพรเจริ ญ ไปทางทิ ศ ตะวั น ตก ประมาณ 4 กิโลเมตร จากถนนพรเจริญ-โซ่พิสัย ประมาณ 2 กิ โ ลเมตร ปั จ จุ บั น มีร้อยเอกวิมล บรรจง ด�ำรงต�ำแหน่งนายกองค์การบริ ห ารส่ วนต� ำ บลศรี ช มภู

ร้ อ ยเอกวิ ม ล บรรจง

นายกองค์การบริหารส่วนต�ำบลศรีชมภู ประวัติความเป็นมา ต�ำบลศรีชมภู มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 51.1 ตารางกิโลเมตร หรือ 31,909 ไร่ สภาพภูมปิ ระเทศ ด้านทิศใต้เป็นทีร่ าบลุม่ ในหน้าฝนมักมีนำ�้ ท่วม ส่วนด้านทิศเหนือจะเป็นที่ราบลุ่มสลับกับที่ดอน เหมาะส�ำหรับที่จะท�ำ การเกษตร มีแม่น�้ำสงคราม ล�ำห้วยสาร ห้วยอีด่าน เป็นแหล่งน�้ำส�ำคัญ มีหนองน�ำ้ ในพืน้ ทีส่ ามารถกักเก็บน�ำ้ ไว้ใช้ตลอดทัง้ ปีอยูห่ ลายแห่ง เขตการปกครอง ประกอบด้วย 7 หมูบ่ า้ น ดังนี้ หมูท่ ี่ 1 บ้านดงเสียด หมูท่ ี่ 2 บ้านหนองทุม่ หมูท่ ี่ 3 บ้านโนน หมูท่ ี่ 4 บ้านหนองผักแว่น หมูท่ ี่ 5 บ้านหนองบัวน้อย หมูท่ ี่ 6 บ้านนาสาร และหมูท่ ี่ 7 บ้านศรีชมภู ประชากร/จ�ำนวนครัวเรือน มีจ�ำนวนประชากรทั้งหมด 5,034 คน มีจำ� นวนครัวเรือนทัง้ สิน้ 1,436 หลังคาเรือน สภาพทางเศรษฐกิจ ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดย มีพนื้ ทีท่ ำ� การเกษตร 31,409 ไร่ แบ่งเป็นทีน่ า 14,206 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 45 ทีป่ ลูกยางพารา 3,043 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 8 พืน้ ทีถ่ อื ครองการเกษตร 14,755 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 46 และพืน้ ทีอ่ นื่ ๆ 1,650 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 5 138

.

2

คณะผู้บริหาร อบต.ศรีชมภู

ร้อยเอกวิมล บรรจง นายบุญเหลือ ภูศริ ดิ นายนุกลู มาตยาคูณ นายกิตติพงษ์ สุวะมาตย์

นายกองค์การบริหารส่วนต�ำบลศรีชมภู รองนายกองค์การบริหารส่วนต�ำบล รองนายกองค์การบริหารส่วนต�ำบล เลขานุการนายก อบต.

สภาพสังคม - การศึกษา มีโรงเรียนประถมศึกษา จ�ำนวน 3 แห่ง ดังนี้ 1. โรงเรียน บ้ า นหนองผั ก แว่ น (โรงเรี ย นขยายโอกาส) 2. โรงเรี ย นบ้ า นดงเสี ย ด 3. โรงเรี ย นบ้ า นโนน และมี ศู น ย์ พั ฒนาเด็ ก เล็ ก ปฐมวั ย ต� ำ บลศรี ช มภู : ศรีชมภูโมเดล (ตัง้ อยูท่ ี่ รร.บ้านโนน)

- สถาบันและองค์การทางศาสนา มีวดั / ส�ำนักสงฆ์ จ�ำนวน 8 แห่ง ได้แก่ 1. วัดแก้วประดิษฐาน หมู่ 1 บ้านดงเสียด 2. วัดเวฬุวนาราม หมู่ 1 บ้านดงเสียด 3. วัดป่าสถิตย์ธรรมาราม หมู่ 2 บ้านหนองทุม่ 4. วัดนิกรบ�ำรุง หมู่ 3 บ้านโนน 5. วัดป่าวังน�ำ้ ทิพย์ หมู่ 5 บ้านหนองบัวน้อย 6. วัดรัตนประดิษฐ์ หมู่ 5 บ้านหนองบัวน้อย 7. วัดใหม่ศรีสว่างวนาราม หมู่ 6 บ้านนาสาร 8. วัดศรีชมภูสามัคคี หมู่ 7 บ้านศรีชมภู 9. วัดป่าส�ำราญธรรม หมู่ 4 บ้านหนองผักแว่น

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 138

27/2/2562 11:53:18


ศักยภาพที่โดดเด่นของชุมชน หากมองศักยภาพของต�ำบลศรีชมภูในภาพรวม พอที่จะสรุปศักยภาพ

และปัจจัยทีเ่ กือ้ หนุนต่อการพัฒนาต�ำบลในอนาคต ดังนี้ 1. อยู่ห่างจากตัวอ�ำเภอพรเจริญ ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลา เพียงเล็กน้อยในการเดินทาง ประกอบกับเส้นทางคมนาคม ไป-มาสะดวก 2. มีสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วเชิงอนุรกั ษ์ทนี่ า่ พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเทีย่ วส�ำคัญ ของอ�ำเภอได้ เช่น หนองแล้ง ซึง่ เป็นสถานทีท่ มี่ นี ำ�้ สะอาด สภาพแวดล้อม สวยงาม เหมาะแก่การพัฒนาเป็นแหล่งท่องเทีย่ ว 3. วัดป่าสถิตย์ธรรมาราม หมู่ 2 บ้านหนองทุ่ม เป็นวัดที่ศรัทธาของ ชาวบ้านและชาวต�ำบลศรีชมภู นอกจากนี้องค์การบริหารส่วนต�ำบลศรีชมภู ยังเป็นพื้นที่ที่เหมาะสม แก่การเกษตร เพราะมีแหล่งน�ำ้ อยูม่ าก ซึง่ มีลกั ษณะกระจายอยูท่ วั่ ไป รวมทัง้ พืน้ ทีส่ ว่ นใหญ่เป็นทีร่ าบลุม่ สลับกับทีด่ อน เหมาะทีจ่ ะท�ำไร่ผลไม้ตา่ งๆ ไม่วา่ จะเป็น กล้วย ฯลฯ และที่ส�ำคัญคือ องค์การบริหารส่วนต�ำบลศรีชมภูยังเหมาะที่จะเป็น ศูนย์กลางทางการศึกษา โดยเฉพาะโรงเรียนอาชีวะ สถานทีฝ่ กึ อาชีพต่างๆ เพราะสภาพทีเ่ อือ้ อ�ำนวยทุกอย่าง

วัดป่าสถิตย์ธรรมาราม

อบต.ศรีชมภู ตั้งอยู่บริเวณแหล่งเก็บน�้ำหนองแล้ง

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

.

2

.indd 139

139

27/2/2562 11:53:25


H I S TO R Y O F B U D D H IS M บันทึกเส้นทางธรรมหนุนน�ำชีวิต

วัดบึงสาราษฎร์ พระครูสุจิตโชติคุณ (ธนาโรจน์ อธิจิตฺโต)

ด�ำรงต�ำแหน่งเจ้าคณะอ�ำเภอบุ่งคล้า และเจ้าอาวาสวัดบึงสาราษฎร์

เสนาสนะ/ปูชนียวัตถุส�ำคัญ อุ โ บสถ สร้ า งด้ ว ยอิ ฐ ถื อ ปู น หลั ง คา 2 ลด เมื่ อ พ.ศ. 2517 ศาลาการเปรียญหลังใหม่ ทรงไทยประยุกต์ชั้นเดียว กว้าง 20 เมตร ยาว 24 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2546 กุฏิสงฆ์ 10 หลัง เป็นอาคารไม้ เนื้ อ แข็ ง 7 หลั ง สร้ า งด้ ว ยอิ ฐ ถื อ ปู น 3 หลั ง ศาลาเอนกประสงค์ หลังคาโดม 1 หลัง กว้าง 12 เมตร ยาว 24 เมตร โรงครัว 1 หลัง กว้าง 9 เมตร ยาว 9 เมตร ปูชนียวัตถุมพี ระพุทธรูป หน้าตักกว้าง 69 นิว้ ประดิษฐานในอุโบสถ3 องค์ และที่ศาลาการเปรียญ 1 องค์

วั ด บึ ง สาราษฎร์ ตั้ ง อยู ่ บ ้ า นเลขที่ 61 หมู ่ ที่ 1 บ้ า นโคกกว้ า ง ต� ำ บลโคกกว้ า ง อ� ำ เภอบุ ่ ง คล้ า จั ง หวั ด บึ ง กาฬ สั ง กั ด คณะสงฆ์ มหานิ ก าย ที่ ดิ น ตั้ ง วั ด มี เ นื้ อ ที่ 11 ไร่ 3 งาน 79 ตารางวา วัดบึงสาราษฎร์ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2474 มีนายศรีจันทร์ ยี่ขอ เป็นผูถ้ วายทีด่ นิ ให้สร้างวัด โดยชือ่ วัดบึงสาราษฎร์มที มี่ าดังนี้ บึง หมายถึง บึงหมอเฒ่า สา หมายถึง ชือ่ พระภิกษุผสู้ ร้างวัดรูปแรก ราษฎร์ หมายถึง ราษฎร หรือชาวบ้านทีร่ ว่ มสร้างวัด ต่อมาได้รบั พระราชทานวิสงุ คามสีมา เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2531 เขตวิสุงคามสีมากว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร 140

2

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 140

26/2/2562 16:27:16


การบริหารและการปกครอง

1. พระอธิการบุญมา ปวโร 2. พระอธิการบุดสา จารุวณฺโณ 3. พระอธิการสีผา อมโร 4. พระอธิการจันทร์ กิตตฺ สิ ทฺโธ 5. พระอธิการผัน จนฺทธมฺโม 6. พระอธิการราชันย์ ปาสาโล 7. เจ้าอธิการบุญเต็ม สมาหิโต 8. พระครูสจุ ติ โชติคณ ุ (ธนาโรจน์ อธิจติ โฺ ต)

พ.ศ. 2474-2482 พ.ศ. 2482-2491 พ.ศ. 2491-2500 พ.ศ. 2500-2510 พ.ศ. 2510-2535 พ.ศ. 2535-2541 พ.ศ. 2541-2546 พ.ศ. 2546-ปัจจุบนั

การศึกษา วัดบึงสาราษฎร์ มีโรงเรียนพระปริยตั ธิ รรม แผนกธรรม เปิดสอนมา ตั้งแต่ พ.ศ. 2527 จนถึงปัจจุบัน มีนักเรียนนักธรรมและธรรมศึกษา เข้าสอบธรรมสนามหลวงทุกปี

การพัฒนาวัด

เดิมวัดบึงสาราษฎร์อยู่ห่างไกลจากชุมชน ประกอบกับมีพระภิกษุ สามเณรอยูป่ ระจ�ำน้อยมากจึงขาดการดูแลอย่างต่อเนือ่ ง อีกทัง้ บริเวณวัด มักจะประสบปัญหาน�้ำท่วมเกือบทุกปี จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2547 เมือ่ พระอธิการธนาโรจน์ อธิจติ โฺ ต (พระครูสจุ ติ โชติคณ ุ ) เป็นเจ้าอาวาส จึงมีการพัฒนาเป็นรูปธรรม ทั้งทางด้านกายภาพและคุณภาพ ปัจจุบนั วัดบึงสาราษฎร์ มุง่ เน้นให้เป็นวัดทีป่ ระชาชนมีสว่ นร่วมมาก ที่สุด ใช้พื้นที่วัดให้เกิดอรรถประโยชน์มากที่สุด พัฒนาบุคลากรของวัด ให้มคี ณ ุ ภาพ และบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพมากทีส่ ดุ โดยเน้นหลัก ประหยัดสุด ประโยชน์สูง

ประวัติเจ้าอาวาส พระครูสจุ ติ โชติคณ ุ (ธนาโรจน์ อธิจติ โฺ ต) เกิดวันที่ 3 เดือนเมษายน พ.ศ. 2514 ชือ่ บิดา นายเติม กรมแสง ชือ่ มารดานางบาทัย นามสกุลเดิม เสียงสนั่น ณ บ้านเลขที่ 117 หมู่ที่ 3 ต�ำบลโคกกว้าง อ�ำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ อุปสมบท เมื่อวันที่ 11 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2535 ณ พัทธสีมา วัดสิงหารินทราราม ต�ำบลท่าดอกค�ำ อ�ำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ พระอุปชั ฌาย์ เจ้าอธิการบรรจง ฉายา วรปญฺโญ เจ้าคณะต�ำบลท่าดอกค�ำ เขต 1 วัดอรัญญิกาวาส ต�ำบลดงบัง อ�ำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ พระกรรมวาจาจารย์ เจ้าอธิการส�ำลี ฉายา กลฺยาโณ วัดพระซอง ต�ำบลพระซอง อ�ำเภอนาแก จังหวัดนครพนม พระอนุสาวนาจารย์ พระอธิการวิวัฒน์ ฉายา จนฺทวณฺโณ วัดบ้านนายาง ต�ำบลบ้านแพง อ�ำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม วิทยฐานะ นักธรรมชั้นเอก และพุทธศาสตรบัณฑิต (พธ.บ.) สาขา รัฐศาสตร์ (การเมืองการปกครอง) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช วิทยาลัย การศึ ก ษาพิ เ ศษ หลั ก สู ต รประกาศนี ย บั ต รวิ ช าชี พ ครู (ปวค.) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย งานการปกครอง พ.ศ. 2539 เป็นรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดนิโคธาราม ต�ำบลโคกกว้าง พ.ศ. 2540 เป็นเจ้าอาวาสวัดนิโคธาราม พ.ศ. 2544 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดทองอุทัยราษฎร์ ต�ำบลบุ่งคล้า พ.ศ. 2544 เป็นเจ้าคณะต�ำบลบุ่งคล้า เขต 1 พ.ศ. 2546 เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดบึงสาราษฎร์ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 เป็นเจ้าอาวาสวัดบึงสาราษฎร์ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 เป็นเจ้าคณะต�ำบลโคกกว้าง เขต 1 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เป็นรองเจ้าคณะอ�ำเภอบุ่งคล้า 26 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เป็นรักษาการเจ้าคณะอ�ำเภอบุ่งคล้า 26 กันยายน พ.ศ. 2561 เป็นเจ้าคณะอ�ำเภอบุ่งคล้า สมณศักดิ์ วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553 เป็นพระครูสัญญาบัตรใน ราชทินนามที่ พระครูสุจิตโชติคุณ BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

2

.indd 141

141

26/2/2562 16:27:22


H I S TO R Y O F B U D D H IS M บันทึกเส้นทางธรรมหนุนน�ำชีวิต

วัดจิตตภาวันนที

...สักการะพระพุ ทธนาคราชมงคล พระครูนิทัศน์ กิตญาธร

ต่อมาหลังจากพระครูสมุห์ขจรศักดิ์ ผลสกฺโข เจ้าอาวาสมรณภาพลง ในสมัยทีพ่ ระครูนทิ ศั น์ กิตญาธร เป็นเจ้าอาวาส และพระสังวาลย์ ปิยธโร เป็นรองเจ้าอาวาสได้มีการปลูกสร้างเสนาสนะ ในปี พ.ศ. 2547 ดังนี้ โบสถ์ ขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 16 เมตร ศาลาการเปรียญ กว้าง 16 เมตร ยาว 20 เมตร กุฏิ 4 หลัง หอระฆัง หอกลอง โรงครัว และห้องน�้ำ

ด�ำรงต�ำแหน่งเจ้าอาวาสวัดจิตตภาวันนที

วั ด จิ ต ตภาวั น นที บ้ า นท่ า ศิ ริ ขั น ธ์ หมู ่ ที่ 7 ต� ำ บลโคกกว้ า ง อ� ำ เภอบุ ่ ง คล้า จังหวัด บึงกาฬ ที่ดิน ตั้งวัด มีเ นื้ อที่ 13 ไร่ 2 งาน 8 30 ตารางวา ทิ ศ เหนื อ จรดทางสาธารณะประโยชน์ ทิ ศ ใต้ 21 จรดทางสาธารณะประโยชน์ ทิศตะวันออก จรดแม่นำ�้ โขง ทิศตะวันตก จรดทางสาธารณะประโยชน์ วัดจิตตภาวันนที ก่อตัง้ เมือ่ พ.ศ. 2507 โดยมี นายบุญมี ปัดบุญทัน, นางบัวลี ตรงวิเศษ, ผูใ้ หญ่มา ปาริเตาะ, นายบัวพา กรมแสง เป็นผูบ้ ริจาค ทีด่ นิ เพือ่ สร้างวัด เริม่ แรกชาวบ้านช่วยกันสร้างกุฏิ 2 หลัง ศาลาการเปรียญ 1 หลัง เป็นอาคารไม้ มีพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ หน้าตัก 45 เซนติเมตร โดยญาติโยมชาวเวียงจันทน์น�ำมาถวาย ปัจจุบันถูกขโมย 142

2

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 142

26/2/2562 16:23:38


ปูชนียวัตถุส�ำคัญ พระพุทธจิตตภาวันนที เป็นพระพุทธรูปปางนาคปรก 7 เศียร ประดิษฐาน ณ ลานหน้าอุโบสถ มีความสูง 9 เมตร และฐานกว้าง 2 เมตร ท�ำพิธีเบิกพระเนตรเมื่อ 11 มีนาคม พ.ศ. 2560 พระพุทธนาคราชมงคล พระประธานในอุโบสถ เป็นพระพุทธรูป ปางนาคปรก 9 เศียร

ท�ำเนียบเจ้าอาวาส วัดจิตตภาวันนที มีเจ้าอาวาสปกครองวัดเท่าที่ทราบนาม ดังนี้ 1. พระบังเอิญ สิริภทฺโท เป็นเจ้าอาวาส เมื่อ พ.ศ. 2523-2531 2. พระเสงี่ยม 3. พระหมั้น ปญทิโต พ.ศ. 2532 4. พระพรหม รัถขิโต 5. พระครูสมุห์ขจรศักดิ์ ผลสกฺโข 6. พระครูนิทัศน์ กิตญาธร

พระนักพัฒนา

พระอาจารย์สังวาลย์ ปิยธโร รองเจ้าอาวาส เป็นพระนักพัฒนา โดยท่านได้บุกเบิกและก่อสร้างอาคารเสนาสนะต่างๆ ภายในวัดมากมาย ในยามว่างท่านจะลงมือก่อสร้างด้วยตัวเอง

คติธรรมน�ำชีวิต เวลาพลบค�่ำ แสงสว่างส่องน�ำทางส�ำคัญฉันใด แสงธรรมย่อมส่อง น�ำทางฉันนั้น BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

2

.indd 143

143

26/2/2562 16:23:49


W O R K L IF E

บันทึกเส้นทางพบองค์การบริหารส่วนต�ำบล

องค์การบริหารส่วนตำ�บลบุ่งคล้า

เขตพื้นที่

นายชนะ พรหมอารัก ษ์

ปลัดองค์การบริหารส่วนต�ำบล ปฏิบัติหน้าที่ นายกองค์การบริหารส่วนต�ำบลบุ่งคล้า

ทิศเหนือ ติดกับ อบต.หนองเดิ่น อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ทิศใต้ ติดกับ อบต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ทิศตะวันออก ติดกับ แม่น�้ำโขง, สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทิศตะวันตก ติดกับ ต.ชัยพร อ.บึงกาฬ และ ต.บ้านต้อง อ.เซกา จ.บึงกาฬ

ต� ำ บลบุ ่ ง คล้ า เดิ ม เป็ น หมู ่ บ ้ า นที่ อ ยู ่ ใ นต� ำ บลหนองเดิ่ น อ� ำ เภอบึ ง กาฬ จังหวัดหนองคาย ต่อมาได้แบ่งแยกหมู่บ้านขึ้นเป็นต�ำบลบุ่งคล้า และได้ยกฐานะขึ้นเป็น องค์การบริหารส่วนต�ำบลบุ่งคล้า ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2539 เป็นต�ำบลที่ตั้งอยู่ในเขต การปกครองของอ�ำเภอบุ่งคล้า มีจ�ำนวนหมู่บ้านทั้งสิ้น 9 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ 1 บ้านบุ่งคล้า หมู่ 2 บ้านบุ่งคล้าทุ่ง หมู่ 3 บ้านบุ่งคล้าเหนือ หมู่ 4 บ้านนาจาน หมู่ 5 บ้านดอนจิก หมู่ 6 บ้านดอนแพง หมู่ 7 บ้านขามเปี้ย หมู่ 8 บ้านซ�ำบอน หมู่ 9 บ้านโนนสะอาด มีพื้นที่ประมาณ 89 ตารางกิโลเมตร ต�ำบลบุ่งคล้าตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของที่ว่าการอ�ำเภอ บุ่งคล้า

ผลิตภัณฑ์เด่นต�ำบลบุ่งคล้า เครือ่ งจักสานจากต้นคล้า โดยน�ำต้นคล้าซึง่ เป็นพืชทีม่ อี ยูเ่ ป็นจ�ำนวนมาก

ในชุมชนต�ำบลบุง่ คล้า มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เครือ่ งจักสานต่างๆ เช่น กระติบข้าว และยังมีสนิ ค้าทีน่ า่ สนใจอีกมากมาย ได้แก่ ไม้กวาดดอกหญ้า เครื่องจักสานจากเส้นพลาสติก และปลาร้า เป็นต้น 144

.

2

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 144

27/2/2562 14:48:50


สถานที่ท่องเที่ยวส�ำคัญ 1. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ตั้งอยู่ที่บ้านขามเปี้ย หมู่ที่ 7 มีจุดชมวิว ภูวัวเหนือถ�้ำพราย และสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่พบเพียงแห่งเดียวในประเทศ และในโลก คือ กิ้งก่าภูวัว (Ptyctolaemus Phuwuanensis) กิ้งก่าชนิดนี้ มีการด�ำรงชีวิตต่างจากกิ้งก่าชนิดอื่น โดยตอนกลางวันจะอาศัยในถ�้ำหรือ โพรงหิน ตอนกลางคืนจะออกหากิน เหมาะส�ำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบ เดินป่าศึกษาธรรมชาติ นอกจากนั้นภูวัวยังมีพืชสมุนไพร สิรินธรวัลลี หรือ ชื่อพื้นเมืองคือ “สามสิบสองประดง” เป็นพืชถิ่นเดียว และหายากทาง นิเวศวิทยาและการกระจายพันธุ์ แต่พบทีจ่ งั หวัดบึงกาฬ ตามชายป่าดิบแล้ง ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ปัจจุบันเป็นพันธุ์ไม้ประจ�ำจังหวัดบึงกาฬ 2. ริมแม่นำ�้ โขงในช่วงน�ำ้ ลดฤดูหนาว และฤดูรอ้ น จะมีหาดทรายสีขาว สะอาด มีจุดชมวิวแม่น�้ำสองสีบุ่งคล้า-ปากกระดิง 3. อ่างเก็บน�้ำห้วยสหาย

ประเพณีและวัฒนธรรม งานประเพณีแข่งเรือยาวสัมพันธ์ไทย – ลาว ในห้วงเดือนกันยายนของทุกปี จะมีการจัดงานประเพณีแข่งเรือยาว สัมพันธ์ไทย-ลาว ซึง่ เป็นประเพณีทจี่ ดั ต่อเนือ่ งมายาวนานนับ 40 ปี เป็นการ อนุรักษ์ไว้ซึ่งประเพณีที่ดีงาม แสดงให้เห็นถึงความสามัคคี และยังเป็นการ สร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ลาวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเมื่อปี พ.ศ. 2555 ได้เริ่มจัดงานประเพณีแข่งขันเรือยาวสัมพันธ์ไทย-ลาว ชิงถ้วย ประทานพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ครั้งที่ 1 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน

กิจกรรม/โครงการเด่น พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน�้ำชุมชน ตามแนวพระราชด�ำริ ชุมชนต�ำบล บุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ ชุมชนต�ำบลบุง่ คล้า เคยประสบปัญหาทัง้ น�ำ้ ท่วมและน�ำ้ แล้ง มาเป็นเวลา กว่า 30 ปี ทั้งที่มีภูมิประเทศติดริมแม่น�้ำโขง มีแหล่งน�้ำ ห้วย หนอง คลอง บุง่ มากมาย แต่ขาดการเชือ่ มต่อ ถูกรุกล�ำ ้ และเสือ่ มสภาพ ขาดการบริหาร จัดการน�้ำให้เชื่อมโยงกันทั้งระบบ ท�ำให้ในฤดูฝนน�้ำระบายไม่ทัน เกิดน�้ำ ท่วมขัง ไม่สามารถกักเก็บน�้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง ดังนั้น จึงได้เสนอโครงการ ไปยังสถาบันสารสนเทศน�้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สสนก. ซึ่ ง สสนก. ได้ แ นะน� ำ ให้ ชุ ม ชนน้ อ มน� ำ แนวพระราชด� ำ ริ ข องพระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาใช้ในการบริหารจัดการน�้ำ ท�ำให้สามารถ ด�ำเนินงานบริหารจัดการน�้ำได้ด้วยตัวเอง และเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 พระเจ้ า หลานเธอพระองค์ เ จ้ า พั ช รกิ ติ ย าภา เสด็จพระราชด�ำเนินมาติดตามความก้าวหน้าการด�ำเนินงาน “โครงการ จัดการน�ำ ้ ชุมชนเพือ่ แก้ไขปัญหาภัยแล้ง น�ำ้ ท่วมในพืน้ ทีน่ อกเขตชลประทาน โดยชุ ม ชนอย่ า งยั่ ง ยื น 84 แห่ ง เฉลิ ม พระเกี ย รติ พ ระบาทสมเด็ จ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9” เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2554

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

.

2

.indd 145

145

27/2/2562 14:48:52


H I S TO R Y O F B U D D H IS M บันทึกเส้นทางธรรมหนุนน�ำชีวิต

วัดไตรภูมิ

...ขอพร “หลวงปู่ใหญ่”

สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเซกา

พระบวรปริยัติกิจ (ประเวศน์ จนฺทสาโร)

รองเจ้าคณะจังหวัดบึงกาฬ / เจ้าอาวาสวัดไตรภูมิ

วัดไตรภูมิ ตั้งอยู่ที่บ้านเซกา หมู่ที่ 1 ถนนโพธิ์ศรี ต�ำบลเซกา อ�ำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ เป็นวัดราษฎร์ ที่ตั้งวัดแต่เดิมมีที่ดิน 4 ไร่ 1 งาน ต่อมาปี พ.ศ. 2538 หลวงพ่อพระครูโสภิตจันทสาร ร่ ว มกั บ ญาติ โ ยมชลบุ รี โดยการน� ำ โยมวิ เ ชี ย รและคุ ณ โยมสมใจ ดวงเพชร และญาติโ ยมชาวเซกาทั้ง 3 คุ้ม ได้ซื้อเพิ่ ม อี ก จ� ำ นวน 10 ไร่ 4 ตารางวา ปั จ จุ บั น วั ด ไตรภู มิ มี เ นื้ อ ที่ ทั้ ง หมด 20 ไร่ 4 ตารางวา

ประวัติความเป็นมา วั ด ไตรภู มิ ได้ รั บ อนุ ญ าตสร้ า ง เมื่ อวั น ที่ 10 ตุ ล าคม 2450 ตามหนังสือวัดในราชอาณาจักรไทย สังกัดมหานิกาย วัดไตรภูมิเป็น วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองเซกามาหลายยุคหลายสมัย และมีพระเถระ หมุนเวียนเปลีย่ นกันมาอยู่ จ�ำพรรษาหลายรูปด้วยกัน ดังมีรายชือ่ ต่อไปนี้ 1.ญาครูโพธิ์ 2.ญาครูเฒ่า 3.ญาครูทมุ 4.ญาครูกญ ั ญา 5.เจ้าอธิการ ทันตา สุทนฺโต (อดีตเจ้าคณะอ�ำเภอเซกา) 6.พระครูกุนนทีคณารักษ์ (แดง อุดมกัน จนฺสาโร) 7.พระบวรปริยัติกิจ (ประเวศน์ จนฺทสาโร) เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน 146

2

ความเป็นมาของ “พระธาตุรัตนตรัยภูมิ” บริเวณที่สร้างองค์พระธาตุรัตนตรัยภูมินั้น แต่ก่อนเป็นที่ดินวัดเก่า และมีบ่อน�้ำหินโบราณ ไม่มีวันเหือดแห้ง บ่อน�้ำนี้ว่ากันว่าเป็นบ่อน�้ำ ที่มีรูทะลุถึงล�ำน�้ำฮี้ เมื่อมีของหลุดตกลงไปในบ่อ น�้ำจะไหลไปออก ที่ล�ำน�้ำฮี้ ของทุกอย่างต้องไปเอาที่ล�ำน�้ำฮี้ น�้ำในบ่อจะมีลักษณะเป็น สีทองใส เปรียบเสมือนเป็นบ่อน�้ำของชาวเซกาก็ว่าได้ ได้หล่อเลี้ยง ชาวเซกาทุกยุคทุกสมัย ต่อมาในปี พ.ศ. 2549 เกิดปาฏิหาริย์คือ อยู่ๆ หลวงพ่อพระครู โสภิตจันทสาร เจ้าอาวาสวัดไตรภูมิ ได้รับหนังสือจากส�ำนักงานสมเด็จ พระสังฆราช ให้ไปรับพระบรมสารีริกธาตุจากสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งได้รับมาจากรัฐบาลประเทศศรีลังกา หลวงพ่อพระครูโสภิตจันทสาร จึ ง เดิ น ทางไปรั บ จากพระหั ต ถ์ ส มเด็ จ พระสั ง ฆราช ในวั น ที่ 10 พฤษภาคม 2549 เป็นเหตุให้ทา่ นได้คดิ ริเริม่ สร้างพระธาตุรตั นตรัยภูมิ ซึง่ ผูร้ ว่ มเดินทางไปรับพระบรมสารีรกิ ธาตุในครัง้ นัน้ ได้บอกจุดประสงค์ ให้ชาวชุมชนเซกาได้เข้าใจ จึงมาปรึกษาตกลงว่าจะถมที่บริเวณบ่อน�้ำ ดังกล่าว(ซึ่งได้เริ่มเป็นบ่อน�้ำเสียใช้ประโยชน์ไม่ได้) เพื่อสร้างองค์ พระธาตุครอบ แล้วก็ลงรากฐานบวงสรวงพระภูมิเจ้าที่ตลอดจนเทวดา ในบริเวณที่จะสร้างองค์พระธาตุนั้นให้สมบูรณ์

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 146

26/2/2562 16:24:47


องค์พระธาตุรัตนตรัยภูมิเป็นสถาปัตยกรรมทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ฐาน ทรงสี่เหลี่ยม ตัวองค์พระธาตุเป็นทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ประดับลวดลาย มัณฑวะตลอดทัง้ องค์ มีซมุ้ ประตูทงั้ สีท่ ศิ ยอดพระธาตุประดับด้วยพลอย สีเหลือง ด้านในองค์พระธาตุประดิษฐานพระบรมสารีรกิ ธาตุซงึ่ บรรจุไว้ ในบุษบก ส่วนยอดพระธาตุได้บรรจุข้าวของเครื่องใช้โบราณ ตลอดถึง พระเก่าแก่รนุ่ ต่างๆ และเป็นสถานทีศ่ กั ดิส์ ทิ ธิอ์ กี แห่งหนึง่ ทีช่ าวอ�ำเภอ เซกาตลอดถึงอ�ำเภอใกล้เคียงให้ความเคารพสักการะกราบไหว้

ประวัติเจ้าอาวาส

ความเป็นมาของ “หลวงปู่ ใหญ่วัดไตรภูมิ” หลวงปู่ใหญ่วัดไตรภูมิ เป็นองค์พระพุทธรูปดินปั้น ปางมารวิชัย ด้านนอกฉาบด้วยปูนซีเมนต์ทาสีทอง สร้างมาพร้อมกับวัดไตรภูมิ ซึง่ เป็นพระพุทธรูปคูบ่ า้ นคูเ่ มืองเซกา อายุประมาณ 204 ปี หรือมากกว่านัน้ เป็นที่เคารพกราบไหว้ของชาวบ้านเซกาและนอกเขตอ�ำเภอใกล้เคียง อย่างมาก แต่ก่อนประดิษฐานในอุโบสถหลังเก่า พอเริ่มด�ำเนินการ ก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ท่านเจ้าอาวาสพร้อมไปด้วยก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และญาติโยมชาวเซกา ได้อาราธนาอัญเชิญท่านออกไปประดิษฐาน ด้านนอกเป็นการชั่วคราว ในระยะด�ำเนินการเคลื่อนย้ายหลวงปู่ใหญ่ วั ด ไตรภู มิ นั้ น เป็ น ฤดู แ ล้ ง เดื อ น 3 แต่ มี เ หตุ อั ศ จรรย์ ป าฏิ ห าริ ย ์ ขึ้ น คือเกิดพายุโหมกระหน�่ำฝนตกอย่างหนักฟ้ามืดครึ้มโดยไม่ได้คาดคิด พอประดิษฐานหลวงปู่ใหญ่เสร็จแล้วกลับเกิดอัศจรรย์ ดวงอาทิตย์ ทรงกลด เปล่งรัศมีงดงามมาก พอตกกลางคืนมีดวงไฟสีเขียวมรกต ออกจากหลวงปูใ่ หญ่ โดยเฉพาะวันพระขึน้ 15 ค�ำ ่ จะเกิดปรากฎการณ์ อย่างนี้ตลอด บางครั้งก็เห็นเป็นคนแก่ถือไม้เท้า แต่งกายสีขาว เหมือน ชีปะขาว และบางครั้งใส่ผ้าชุดจีวรสีด�ำแก่นขนุนเดินรอบบริเวณวัดรอบ อุโบสถ ท่านได้แสดงให้ผู้คนได้เห็นความเป็นมาของท่านเป็นอย่างดี นอกจากนั้นแล้วหลวงปู่ใหญ่ท่านยังมีความเมตตาเป็นอย่างมาก ถ้าใครมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ หรือว่าไปสมัครสอบเป็นข้าราชการหรือ มีเรื่องราวต่างๆ ก็มาบนบานขอให้ท่านช่วยเหลือ ก็ส�ำเร็จตามค�ำขอ ตามปรารถนาทุกประการ จนเป็นที่เลื่องลือจากญาติโยมทั่วสารทิศ จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังคงความศักดิ์สิทธิ์เช่นเดิม

พระบวรปริยัติกิจ (ประเวศน์ จนฺทสาโร) อายุ 64 พรรษา 39 วิทยฐานะ นักธรรมชั้นเอก ต�ำแหน่ง รองเจ้าคณะจังหวัดบึงกาฬ เจ้าอาวาสวัดไตรภูมิ ต�ำบลเซกา อ�ำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ สถานะเดิม ชื่อ ประเวศน์ เหมพลชม เกิดวัน 113ฯ 4 ค�่ำ ปีมะเมีย เกิดวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2498 อุปสมบท วัน 413ฯ 8 ค�่ำ ปีวอก วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2523 ณ วัดสร้างแก้ว ต�ำบลไผ่ล้อม อ�ำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม นามพระอุปัชฌาย์ พระครูรัตนวิมลญา ฉายา นิปโก วัดสร้างแก้ว นามพระกรรมวาจาจารย์ พระเคน ฉายา โชติ ป ญฺ โ ญ วั ด โพธิ์ ชั ย ต�ำบลไผ่ลอ้ ม อ�ำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม นามพระอนุสาวนาจารย์ พระเลียม ฉายา ฐานวโร วัดสร้างแก้ว วิทยฐานะ พ.ศ. 2510 ส�ำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนบ้านนาทม ต�ำบลนาทม อ�ำเภอนาทม จังหวัดนครพนม พ.ศ. 2529 สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก จากส�ำนักเรียนวัดไตรภูมิ ต�ำบลเซกา อ�ำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2557 ได้รับดุษฎีบัณฑิต กิตติมศักดิ์ (ศาสนาและปรัชญา) มหาวิทยาลัยปากีสถาน

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

2

.indd 147

147

26/2/2562 16:24:57


H I S TO R Y O F B U D D H IS M บันทึกเส้นทางธรรมหนุนน�ำชีวิต

วัดศรีบุญเรือง ...ขอพรหลวงพ่ อเศรษฐี ให้มั่งมีทั้งทรัพย์และสุข พระปลัดศุภวิชย์ ปญฺญาธโร

ด�ำรงต�ำแหน่งเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง

วั ด ศรี บุ ญ เรื อ ง ตั้ ง อยู ่ ที่ 123 หมู ่ ที่ 1 บ้ า นน�้ ำ จั้ น ต� ำ บลน�้ ำ จั้ น อ� ำ เภอเซกา จั ง หวั ด บึ ง กาฬ สั ง กั ด คณะสงฆ์ ม หานิ ก าย ที่ ดิ น ตั้ ง วั ด มี เ นื้ อ ที่ 25 ไร่ 1 งาน 63 ตารางวา อาณาเขต ทิ ศ เหนื อ ประมาณ 19.20 เมตร จดที่ ดิ น นายค� ำ ไผ่ ต าแก้ ว ทิ ศ ใต้ ประมาณ 19.20 เมตร จดที่ ดิ น นายป้ อ ง เอ็ น เหล่ า คาม (ปั จ จุ บั น จดที่ ดิ น นายพั น ธ์ ศั ก ดิ์ หงปิ ด ษา) ทิ ศ ตะวั น ออก ประมาณ 19.20 เมตร จดที่ดิน นายเฮียม แสนแพง ทิ ศ ตะวั น ตก ประมาณ 19.20 เมตร จดถนนสาธารณะ มี ที่ ธ รณี ส งฆ์ จ� ำ นวน 1 แปลง เนื้ อ ที่ 4 ไร่ 148

3

วัดศรีบญ ุ เรือง สร้างเมือ่ วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2460 โดยมีนายจันที ก�ำ่ น�ำ้ จัน้ และนายป้อง เอ็นเหล่าคาม และชาวบ้านได้มอบทีด่ นิ และช่วยกัน สร้างวัดร่วมกับพระสีนวน พระบัว พระก�ำ ่ และพระอุน่ ได้รบั พระราชทาน วิสงุ คามสีมาเมือ่ วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เขตวิสงุ คามสีมา กว้าง 34 เมตร ยาว 48 เมตร

อาคารเสนาสนะ

อุโบสถ เป็นอาคารปูน ขนาดกว้าง 10 เมตร ยาว 24 เมตร สร้างเมือ่ วันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 ศาลาการเปรียญ เป็นอาคารปูน ชั้นเดียว ขนาดกว้าง 21 เมตร ยาว 24 เมตร สร้าง พ.ศ. 2537 กุฏิสงฆ์ เป็นอาคารปูนผสมไม้ชั้นเดียว จ�ำนวน 6 หลัง เป็นอาคารปูนสองชั้น 1 หลัง มีหอระฆัง 1 หอ ศาลาพักสงฆ์ 2 หลัง ศาลาเมรุ 1 หลัง

ปูชนียวัตถุส�ำคัญ

วัดศรีบุญเรืองมีพระพุทธรูปที่ส�ำคัญ หลวงพ่อเศรษฐี (จ�ำลองมา จากหลวงพ่อพุทธโสธร) หน้าตักขนาด 69 นิ้ว สูง 2.50 เมตร ประดิษฐานภายในอุโบสถ ท�ำพิธีเททองหล่อ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 และพระพุทธรูปปางประทานพร ประดิษฐานด้านหลัง อุโบสถ นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปขนาด 49 นิ้ว ประดิษฐานที่ศาลา การเปรียญ ขนาด 39 นิ้ว และพระพุทธรูปไม้แกะสลัก 21 องค์ ที่เก็บรักษาไว้ในอาคาร/ห้องพิพิธภัณฑ์ของวัด

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 148

26/2/2562 16:07:46


การบริหารและการปกครอง

การบูรณะพัฒนาวัด

วัดศรีบญ ุ เรืองมีการบริหารและการปกครองเป็นไปตามหลักพระธรรมวินยั โดยมีเจ้าอาวาสทีป่ กครองดูแลเท่าทีท่ ราบนาม ดังต่อไปนี้ 1. พระสีนวน พ.ศ. 2460-2465 2. พระเปิน้ พ.ศ. 2465-2471 3. พระลี พ.ศ. 2479-2485 4. พระบุญชู พ.ศ. 2485-2490 5. พระทัศน์ พ.ศ. 2490-2499 6. พระไข พ.ศ. 2499-2518 7. พระจันทา พ.ศ. 2518-2523 8. พระสมบูรณ์ พ.ศ. 2523-2527 9. พระอธิการบุญชู ธมฺมทีโป พ.ศ. 2527-2539 10. พระอธิการกายสิทธิ์ เขมปญฺโญ พ.ศ. 2539-2554 11. พระปลัดศุภวิชย์ ปญฺญาธโร พ.ศ. 2555-ปัจจุบนั

วัดได้รับการบูรณะ ซ่อมแซมมาอย่างต่อเนื่องมาตลอด แต่ห้วง ทีไ่ ด้รบั การบูรณะ ซ่อมแซมและพัฒนาอย่างเต็มที่ ก็คอื ห้วงปี พ.ศ. 25552559 เพราะมีการสร้างโบสถ์ กุฏพิ ระหลังใหม่ และอาคารทีพ่ กั รับรอง พระอาคันตุกะ อาคารที่พักรับรองส�ำหรับผู้ที่มาประพฤติปฏิบัติธรรม อาคารพิพิธภัณฑ์ ตลอดจนปรับปรุงภูมิทัศน์ให้น่าดู น่าอยู่แก่ผู้พบเห็น และผู้ที่เข้าไปประพฤติปฏิบัติธรรม

กิจกรรมของวัด วัดศรีบุญเรือง ได้ด�ำเนินกิจกรรมที่ส�ำคัญคือการพัฒนาด้านจิตใจของ พุทธศาสนิกในพืน้ ที่ และพืน้ ทีใ่ กล้เคียง ตลอดจนผูท้ เี่ ดินทางเข้าไปท�ำบุญ ท�ำกุศลที่วัด เพราะที่วัดมีการจัดปฏิบัติธรรมในวันส�ำคัญ (วันมาฆบูชา วิสาขบูชา อาสาฬหบูชา ฯลฯ) และโอกาสพิเศษต่างๆ อย่างต่อเนื่อง หากพุทธศาสนิกชนท่านใดมีความประสงค์ที่จะเดินทางไปท�ำบุญ ท�ำกุศล ไถ่ชวี ติ โค-กระบือ ตลอดจนบวชเนกขัมมะ (ชีพราหมณ์) เพือ่ ลด ละ อกุศล กิเลสตัณหาในห้วงวันส�ำคัญทางพระพุทธศาสนา วันส�ำคัญตาม ประเพณี (วันขึน้ ปีใหม่ สงกรานต์...) หรือวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ท่านสามารถ ติดต่อสอบถามกับทางวัดได้โดยตรง โทร. 08-4742-6990 มีพระอาจารย์ หลายท่านคอยให้คำ� แนะน�ำ ชีแ้ นะ “ธรรม” ให้กบั ทุกท่านทีต่ ดิ ต่อสอบถาม และเดินทางไปเข้าไปท�ำบุญทีว่ ดั รับรองท่านสามารถท�ำบุญได้อย่างสนิทใจ พร้อมกับอิ่มใจกลับไป และที่ส�ำคัญ ท่านใดที่เดินทางไปท�ำบุญกับที่วัด อย่าลืมแวะเข้าไปใน อุโบสถของวัดเพือ่ กราบไหว้ขอพรเพือ่ ความเป็นสิรมิ งคลกับหลวงพ่อเศรษฐี ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่วัด คู่บ้าน เผื่อหลวงพ่อเศรษฐีเมตตาให้โชค ได้เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี เหมือนกับพระนามท่าน...เหมือนคนอื่นๆ ที่ได้ รับโชคมาแล้ว

คติธรรมน�ำชีวิต

มีอยู่ 2 สิ่ง ที่เราต้องมาเสียใจในภายหลัง คือ “ท�ำไปไม่ทันได้คิด และได้แต่คดิ แต่ไม่ได้ทำ� ” และ “พรุง่ นีก้ บั ชาติหน้า ห่างกันแค่เวลาไม่เท่าไหร่... ไม่รอู้ ะไรจะมาก่อนกัน?”

ร่วมสร้างเส้นทางบุญ สร้างเสนาสนะ ฝังลูกนิมิตช่วงวันที่ 31 ธันวาคม 2562-5 มกราคม 2563 BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

3

.indd 149

149

26/2/2562 16:07:57


H I S TO R Y O F B U D D H IS M บันทึกเส้นทางธรรมหนุนน�ำชีวิต

วัดสุทธาวาส

...จากแรงศรัทธาสู่สถานปฏิบัติธรรม พระครูสุทธธรรมสถิต สวรรค์ ฐิตธมฺโม (ขะสุดใจ)

ด�ำรงต�ำแหน่งรองเจ้าคณะอ�ำเภอโซ่พิสัย และเจ้าอาวาสวัดสุทธาวาส

วั ด สุ ท ธาวาส (วั ด ป่ า สุ ท ธาวาส) ตั้ ง อยู ่ บ ้ า นโซ่ หมู ่ ที่ 1 ต� ำ บลโซ่ อ� ำ เภอโซ่ พิ สั ย จั ง หวั ด บึ ง กาฬ สั ง กั ด คณะสงฆ์ มหานิ ก าย ที่ ดิ น ตั้ ง วั ด มี เ นื้ อ ที่ ต ามโฉนดที่ ดิ น เลขที่ 3601 มี เ นื้ อ ที่ 8 ไร่ 1 งาน 84 ตารางวา อาณาเขต ทิ ศ เหนื อ ติ ด กั บ ป่ า ช้ า ทิ ศ ใต้ ติ ด ถนนบ้ า นโซ่ -บ้ า นโคกสะอาด ทิ ศ ตะวั น ออกติ ด ถนนและที่ ดิ น ชาวบ้ า น ทิ ศ ตะวั น ตกติ ด ถนนบ้ า นโซ่ - บ้ า นโคกสะอาด วัดสุทธาวาส สร้างเมือ่ วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2478 ชาวบ้าน เรียกว่า “วัดป่าสุทธาวาส” หรือ “วัดหนองเอีย่ น” 150

2

แต่เดิมนั้นบริเวณที่ตั้งวัดเป็นป่าดงดิบ มีต้นไม้ปกคลุมหนาแน่น เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2501 ครอบครัวนายจันทร์ทอน แพงวงษ์ และ นางบิง้ แพงวงษ์ พร้อมด้วยบุตร 10 คน ชาย 5 คน หญิง 5 คน ได้อพยพ ครอบครัวมาจากบ้านหนองแวง ต�ำบลข้าวสาร อ�ำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี มาอยูท่ บี่ า้ นโซ่ หมูท่ ี่ 1 ในปี พ.ศ. 2509 ได้มาซือ้ ทีด่ นิ บริเวณนีซ้ งึ่ ขณะนัน้ เป็นป่าทึบและเป็นที่นาบางส่วน และได้พบกองซากอิฐโบราณ ซึ่งมี ลักษณะเป็นรูปโบสถ์เก่าอย่างชัดเจน จึงได้สงวนส่วนนีไ้ ว้เพือ่ ทีจ่ ะสร้าง เป็นวัด โดยมีผู้เฒ่าผู้แก่เล่าต่อกันมาว่า ที่แห่งนี้มีวัตถุโบราณอยู่เป็น จ�ำนวนมากและมีมานานประมาณ 200 กว่าปีแล้ว ต่อมาปี พ.ศ. 2510 ได้มบี คุ คลกลุม่ หนึง่ ประมาณ 5 คน ได้มายัง บริเวณกองอิฐโบราณนี้ เพื่อจุดประสงค์ในการค้นหาวัตถุโบราณหรือ ของเก่าแก่ แต่ได้เกิดอิทธิปาฏิหาริย์ ฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า มีพายุพดั กระหน�ำ่ อย่างหนัก ณ บริเวณนัน้ ท�ำให้บคุ คลเหล่านัน้ หวาดกลัว ถึงกับว่ายน�ำ้ และ คลานออกมาจากบริเวณโบสถ์โบราณนัน้ อย่างทุลกั ทุเล ซึง่ ในเวลาต่อมา บุคคลเหล่านัน้ ได้ลม้ ป่วยและถึงแก่ความตายทัง้ หมด จากเหตุการณ์นี้ ท�ำให้นายจันทร์ทอนและนางบิง้ แพงวงษ์ ได้พร้อมใจ กันถวายทีด่ นิ บริเวณนี้ ซึง่ มีเนือ้ ทีป่ ระมาณ 6 ไร่ พร้อมด้วยนายสุพจน์ สุรยิ ะ อาจารย์ใหญ่โรงเรียนโซ่มติ รภาพที่ 140 หรือ โรงเรียนอนุบาล โซ่พสิ ยั ในปัจจุบนั ได้ถวายทีด่ นิ ซึง่ อยูบ่ ริเวณเดียวกันอีกประมาณ 3 ไร่ เพือ่ สร้างวัดไว้ในพระพุทธศาสนา และเรียกวัดแห่งนีว้ า่ “วัดป่าสุทธาวาส”

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 150

28/2/2562 9:24:33


ต่อมา นายถาวร ห้าวหาญ ก�ำนันต�ำบลโซ่ นายจันทร์ทอน-นางบิง้ แพงวงษ์ นายสุพจน์ สุรยิ ะ อาจารย์ใหญ่โรงเรียนโซ่มติ รภาพที่ 140 พร้อมด้วยชาวบ้านโซ่ทกุ ครัวเรือน จึงได้พร้อมใจกันด�ำเนินการก่อสร้าง และบูรณะวัดแห่งนีเ้ รือ่ ยมา โดยใครมีอะไรก็หามาช่วยกันสร้าง เป็นต้น ว่าใครมีไม้กเ็ อาไม้มา ใครมีคอ้ นก็เอาค้อนมา และอืน่ ๆ ตามทีจ่ ะหามาได้ มาร่วมสร้างถาวรวัตถุ เช่น ศาลาการเปรียญ (หลังเดิมสร้างด้วยไม้ ทัง้ หมด) กุฏสิ งฆ์ หอสวดมนต์ ห้องน�ำ้ ฯลฯ ในด้านพระสงฆ์ ชาวบ้านโซ่ได้ไปอาราธนา หลวงปู่พิมพ์ มาอยู่ จ�ำพรรษา ต่อมาก็มพี ระมาอยูจ่ ำ� พรรษาจนถึงปัจจุบนั และมีการพัฒนาวัด ตลอดระยะเวลา โดยมีชาวบ้านโซ่ เป็นก�ำลังส�ำคัญในการด�ำเนินการ ก่อสร้างถาวรวัตถุในวัด

การบริหารและการปกครอง วัดสุทธาวาส มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนาม ดังนี้ 1. พระค�ำมี โกวิโท พ.ศ. 2478-2485 2. พระจันทร์ วรธมฺโม พ.ศ. 2485-2497 3. พระไพรวัลย์ พุทฺธสาโร พ.ศ. 2497-2500 4. พระถนอม ปริสุทฺโธ พ.ศ. 2500-2504 5. พระวรพงษ์ ปภสฺสโร พ.ศ. 2504-2509 6. หลวงปู่พิมพ์ พ.ศ. 2509-2512 7. หลวงปู่ท่อน พ.ศ. 2512-2529 8. เจ้าอธิการเหรียญทอง พ.ศ. 2529-2542 9. พระครูสทุ ธธรรมสถิต สวรรค์ ฐิตธมฺโม (ขะสุดใจ) พ.ศ. 2542-ปัจจุบนั

ถาวรวัตถุภายในวัด 1. ศาลาการเปรียญวัดสุทธาวาส(หลังใหม่) ด�ำเนินการก่อสร้าง พ.ศ. 2529-2550 2. กุฏสิ งฆ์ 1 ด�ำเนินการก่อสร้าง พ.ศ. 2542-2544 3. โรงครัว ด�ำเนินการก่อสร้าง พ.ศ. 2545-2546 4. กุฏสิ งฆ์ 2 ด�ำเนินการก่อสร้าง พ.ศ. 2547-2548 5. กุฏสิ งฆ์ 3 ด�ำเนินการก่อสร้าง พ.ศ. 2549-2550 6. ห้องน�ำ้ -ห้องสุขา จ�ำนวน 5 ห้อง ด�ำเนินการก่อสร้าง พ.ศ. 2551-2552 7. ก�ำแพงรอบวัด ด�ำเนินการก่อสร้าง พ.ศ. 2552-2553 8. กุฏสิ งฆ์ 4 ด�ำเนินการก่อสร้าง พ.ศ. 2553-2554 9. ห้องน�ำ้ -ห้องสุขา จ�ำนวน 10 ห้อง ด�ำเนินการก่อสร้าง พ.ศ. 2554-2554

บันทึก

ร่วมสร้างเส้นทางบุญ วัดสุทธาวาส ก�ำลังด�ำเนินการก่อสร้างอุโบสถ ซึ่งมีการจ�ำลอง แบบจากอุ โ บสถหลวงพระบาง จึ ง ขอเชิ ญ ชวนท่ า นสาธุ ช นผู ้ มี จิตศรัทธาร่วมสมทบทุนสร้างตามก�ำลังศรัทธา

สอบถามเพิ่มเติมที่ 081-050-0778 เจ้าอาวาส BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

2

.indd 151

151

4/3/2562 15:05:15


H I S TO R Y O F B U D D H IS M บันทึกเส้นทางธรรมหนุนน�ำชีวิต

วัดศิลาราษฎร์

...แหล่งเรียนรู้พระพุ ทธศาสนาของคนทุกเพศทุกวัย

พระครูศรีธรรมวงศ์

รองเจ้าคณะต�ำบลหนองพันทา /เจ้าอาวาสวัดศิลาราษฎร์

วัดศิลาราษฎร์ ตั้งอยู่ที่ 313 บ้านห้วยลึก หมู่ที่ 1 ถนนโซ่พิสัยปากคาด ต�ำบลหนองพันทา อ�ำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ 38170 สั ง กั ด คณะสงฆ์ ม หานิ ก าย ที่ ดิ น ตั้ ง วั ด มี เ นื้ อ ที่ 23 ไร่ 1 งาน อาณาเขตทิศเหนือจดหมู่บ้าน ทิศใต้จดล�ำห้วย ทิศตะวันออกจด ถนนโซ่ พิ สั ย -ปากคาด ทิ ศ ตะวั น ตกจดทุ ่ ง นา วั ด ตั้ ง อยู ่ ติ ด กั บ โครงการพัฒนาแหล่งน�้ำห้วยหินพร้อมอาคารประกอบอันเนื่อง มาจากพระราชด�ำริของในหลวงรัชกาลที่ 10 วัดศิลาราษฎร์ เป็นวัดโบราณ ก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2415 ชาวบ้าน เรียกว่า “วัดบ้านห้วยลึก” หรือ “วัดใหญ่” ได้รบั อนุญาตให้ตงั้ วัดเมือ่ พ.ศ. 2415 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2553 152

2

ศาสนสมบัติที่ส�ำคัญ พระพุทธรูปพระประธาน สร้างเมือ่ พ.ศ. 2520 พระพุทธรูปหลวงพ่อทันใจ ซึง่ พระสงฆ์และชาวบ้านได้สร้างขึน้ แล้วได้ สร้างวิหารครอบไว้

ศาสนสถานภายในวัด วิหารหลวงพ่อทันใจ อุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิ จ�ำนวน 7 หลัง โรงครัว ฌาปนสถาน และห้องสุขา

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 152

28/2/2562 9:23:39


ศาสนศึกษา/แหล่งเรียนรู้ภายในวัด โรงเรียนพระปริยตั ธิ รรม แผนกธรรม เปิดสอน พ.ศ. 2521 ศูนย์อบรมเด็กก่อนวัยเรียน

กิจกรรมส�ำคัญของวัด กิจกรรมบวชสามเณรภาคฤดูรอ้ น ช่วงระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน เพื่ อ ให้ เ ยาวชนที่ เ ป็ น นั ก เรี ย นระดั บ ประถมและมั ธ ยมศึ ก ษา ได้เข้ามาบรรพชาในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน โดยจัดให้มีการออกรับ บิณฑบาต ไหว้พระท�ำวัตรเช้า-เย็น เจริญสมาธิภาวนา ฯลฯ งานปฏิบตั ธิ รรมประจ�ำปี ช่วงระหว่างวันที่ 15-20 ธันวาคม เพื่ อ เชิ ญ ชวนพุ ท ธศาสนิ ก ชนผู ้ ส นใจการปฏิ บั ติ ธ รรม เข้ า มาบวช เนกขัมจาริณี บวชชีพราหมณ์ โดยได้นิมนต์พระธรรมกถึก พระนักเทศน์ มาเทศน์และอบรมการปฏิบัติให้แก่ญาติโยม สวดมนต์ท�ำวัตรเช้า-เย็น เดินจงกรม เจริญวิปสั สนากรรมฐาน เป็นต้น

การบริหารการปกครอง วัดศิลาราษฎร์ มีเจ้าอาวาสเท่าทีท่ ราบนาม คือ 1. พระอธิการพันธ์ กตปุญโญ 2. พระสา 3. พระค�ำพันธ์ ฐานวโร 4. พระอธิการอ�ำนวย ปคุโณ 5. พระปัด 6. พระครูศรีธรรมวงศ์

พ.ศ. 2513-2521 พ.ศ. 2521-2525 พ.ศ. 2525-2527 พ.ศ. 2527-2534 พ.ศ. 2534-2544 พ.ศ. 2544-ปัจจุบนั

ประวัติเจ้าอาวาส พระครูศรีธรรมวงศ์ ฉายา สุชาโต อายุ 43 ปี 23 พรรษา สมณศักดิ์ เทียบผูช้ ว่ ยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชัน้ พิเศษ ทผจล.ชพ. สถานะเดิมชือ่ นายชูชาติ นาทันเลิศ ส�ำเร็จการศึกษาปริญญาตรีที่ มจร.นค. ส�ำเร็จการศึกษา นักธรรมเอก เปรียญธรรม 6 ด�ำรงต�ำแหน่งรองเจ้าคณะต�ำบลหนองพันทา และเจ้าอาวาสวัดศิลาราษฎร์ บันทึก

ร่วมสร้างเส้นทางบุญ

ปัจจุบันทางวัดก�ำลังด�ำเนินการก่อสร้างกุฏิสงฆ์ จึงขอเชิญชวน สาธุชนร่วมสมทบทุนตามก�ำลังศรัทธา ได้ทบี่ ญ ั ชี วัดศิลาราษฎร์ เลขที่ บัญชี 01552-2-89032-5 (ออมทรัพย์) ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์ ก ารเกษตร สาขาปากคาด หรื อ สอบถามเพิ่ ม เติ ม 081-9545102 พระครูศรีธรรมวงศ์(เจ้าอาวาส)

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

2

.indd 153

153

28/2/2562 9:23:49


H I S TO R Y O F B U D D H IS M บันทึกเส้นทางธรรมหนุนน�ำชีวิต

วัดอรัญญวิเวก

......ต้นแบบการพั ฒนาจากวัดสู่ชุมชน พระมหาธีระ มหาวีโร

ด�ำรงต�ำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะอ�ำเภอศรีวิไล และเจ้าอาวาสวัดอรัญญวิเวก

โลกทัง้ หลายทีม่ คี วามทุกข์ความเดือดร้อนวุน่ วายใจ เมือ่ มาสูส่ ถานทีน่ กี้ จ็ ะได้ พบความสะอาด สว่าง และสงบ จึงได้สร้างวัดอรัญญวิเวก ขึน้ ตามจุดมุง่ หมาย ทีว่ า่ “สร้างพระ สร้างคน สร้างเยาวชนของชาติ สร้างศาสนทายาทให้มชี วี ติ อยูใ่ นโลกอย่างถูกต้อง ให้มชี วี ติ เรียบร้อยตามหลักค�ำสอนของพระพุทธศาสนา เพือ่ ไม่ให้ตกอยูใ่ นอ�ำนาจวัตถุนยิ มมากเกินไป” วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2483 ได้รบั อนุญาตให้จดั ตัง้ วัดในพระพุทธ ศาสนา ชือ่ ว่า “วัดอรัญญวิเวก”

วั ด อรั ญ ญวิ เ วก ตั้ ง อยู ่ เ ลขที่ 321หมู ่ ท่ี 12 บ้ า นศรี วิ ไ ล พั ฒ นา ต� ำ บลศรี วิ ไ ล อ� ำ เภอศรี วิ ไ ล จั ง หวั ด บึ ง กาฬ สั ง กั ด คณะสงฆ์ ม หานิ ก าย มี เ นื้ อ ที่ ป ระมาณ 26 ไร่ เดิมทีวดั อรัญญวิเวกมีจดุ เริม่ ต้นเป็นทีพ่ กั สงฆ์ โดยนายเบ็ง ค�ำบัว นายเห มือย แสงกมล นายเด่น ฝ่าพงษา นายชา โคตรหานาม นายจันดี ค�ำบัว นาย เม็ง พันธุค์ มุ้ เก่า นายทอง เนตรภักดี และนายพรม เหมวิวฒ ั น์ ได้บกุ เบิกถาง ทีด่ นิ ซึง่ เมือ่ ก่อนเป็นป่า ให้เป็นสมบัตพิ ระศาสนา เมือ่ ปี พ.ศ. 2478 และได้ สร้างเป็น “ทีพ่ กั สงฆ์อรัญญวิเวก” ด้วยเจตนารมณ์ทมี่ งุ่ มัน่ ให้แผ่นดินส่วนนี้ เป็นประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา สถานทีน่ จี้ งึ เหมาะแก่การส่งเสริมกิจกรรม ทางพระพุทธศาสนาให้เจริญก้าวหน้า เป็นเหมือนโรงพยาบาลทางใจของชาว 154

2

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 154

4/3/2562 15:11:43


แนวคิดการพัฒนาบุคลากร วัดอรัญญวิเวก ให้ความส�ำคัญกับการศึกษาของพระภิกษุสามเณร อย่างยิง่ โดยมีการจัดตัง้ เป็นส�ำนักศาสนศึกษาวัดอรัญญวิเวก จัดการเรียน การสอนนักธรรม-บาลี มีพระภิกษุ สามเณร ในส�ำนักเรียนกว่า 30 รูป และมีสถิตกิ ารสอบไล่บาลีได้เป็นอันดับต้นๆ ของจังหวัดบึงกาฬ แนวคิดในการพัฒนาสังคม วัดอรัญญวิเวก โดยพระมหาธีระ มหาวีโร เจ้าอาวาส/ที่ปรึกษา เจ้าคณะอ�ำเภอศรีวไิ ล ได้กำ� หนดแนวทางในการพัฒนาสังคมอย่างยัง่ ยืน (Sustainable Development) ภายใต้ความร่วมมือของ 3 สถาบันหลัก คือ บวร (Bor Worn) บ้าน วัด โรงเรียน (Home –Temple - School) คือการพัฒนาที่เริ่มต้นและผลักดันจากศูนย์กลางทางจิตวิญญาณคือ วัดไปสูช่ มุ ชน ในรูปแบบมิตทิ างศีลธรรม โดยการเป็นต้นแบบการจัดกิจกรรม บูรณาการทางศีลธรรมดังนี้ 1. จัดตัง้ กลุม่ โรงเรียนวิถพี ทุ ธ เพือ่ สร้างภาคีเครือข่ายธรรมะ เพือ่ จัด กิจกรรมในมิตทิ างศีลธรรม 2. จัดโครงการทอดผ้าป่าขยะ โดยความร่วมมือจากกลุม่ โรงเรียนวิถี พุทธ และหน่วยงานราชการตลอดจนชุมชน ในเขตอ�ำเภอศรีวไิ ล 3. สร้างและออกแบบนวัตกรรมการก�ำจัดขยะอย่างยัง่ ยืน ด้วยการ ผลิตเครือ่ งแปรรูปขยะพลาสติกเป็นเชือ้ เพลิง ผ่านกระบวนการไพโรไลซิส (Pyrolysis) ออกแบบและผลิตโดยพระภิกษุทีมวิจัยวัดอรัญญวิเวก ที่มีความช�ำนาญในด้านนี้ จนได้มีโอกาสต้อนรับทีมวิจัยจากคณะ วิศกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมเคมี จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น และ ทีมวิจยั จากคณะวิศกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมเคมี จากมหาวิทยาลัย แห่งชาติลาว รวมถึงผูต้ รวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มาศึกษาดูงาน เพือ่ ผลักดันให้เป็นต้นแบบของการพัฒนาชุมชนต่อไป

ท�ำเนียบเจ้าอาวาส แนวคิด แนวทาง แนวท�ำ ของวัดอรัญญวิเวก วัดอรัญญวิเวก มีแนวคิดอันเป็นแนวทางน�ำไปปฏิบตั ดิ งั นี้ แนวคิดการพัฒนาศาสนสถาน วัดอรัญญวิเวก เป็นวัดทีอ่ ยูใ่ นระหว่างการพัฒนาเสนาสนะรอบด้าน กล่าวคือ ทางวัดมีการน�ำสิง่ ก่อสร้างทีเ่ ป็นศาสนวัตถุ และสิง่ แวดล้อมตาม ธรรมชาติทมี่ อี ยูภ่ ายในวัด มาจัดรูปแบบการเรียนการสอนในเชิงบูรณาการ ทัง้ ในด้านศิลปะ วัฒนธรรม ส�ำหรับการด�ำเนินการสร้างศาสนวัตถุ ของ วัดอรัญญวิเวก ยึดหลัก 3 ป. คือ ประโยชน์ : หมายถึง การก่อสร้างต้องค�ำนึงถึงการใช้สอย ต้องให้เกิด ประโยชน์มากทีส่ ดุ ประหยัด : หมายถึง ต้องประหยัดในการใช้จา่ ย ทัง้ ทีเ่ กิดขึน้ ในปัจจุบนั และการดูแลรักษาในอนาคต ปริศนาธรรม : หมายถึง สิง่ ก่อสร้างต้องสะท้อนการด�ำเนินชีวติ ตามหลัก พระพุทธศาสนาและเป็นสือ่ ธรรม

พ.ศ. 2478-2510 พ.ศ. 2510-2514 พ.ศ. 2514-2515 พ.ศ. 2515-2516 พ.ศ. 2516-2518 พ.ศ. 2518-2519 พ.ศ. 2519-2520 พ.ศ. 2520-2530 พ.ศ. 2530-2534 พ.ศ. 2534–ปัจจุบนั

พระอธิการลา ปภสฺสโร พระโก่ม กนฺตสีโล พระบุญมา พระบัญญัติ พระสอ ถาวโร พระสอน พระซ้อน พระบัว เจ้าอธิการทองพูล พระมหาธีระ มหาวีโร (ป.ธ.7)

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

2

.indd 155

155

4/3/2562 15:11:50


H I S TO R Y O F B U D D H IS M บันทึกเส้นทางธรรมหนุนน�ำชีวิต

วัดเวฬุ วัน

...วัดในพระสังฆราชูปถัมภ์ “สมเด็จพระญาณสังวรฯ” พระปลัดแสง ฐิตธมฺโม

ด�ำรงต�ำแหน่งเจ้าคณะต�ำบลศรีวิไล (ธ) และเจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน 8 30

วั ด เวฬุ วั น หมู ่ ที่ 8 ต.ชุ ม ภู พ ร อ.ศรี วิ ไ ล จ.บึ ง กาฬ หลายๆ คน อาจไม่ คุ ้ น เคย แต่ ห ากทราบประวั ติ ค วามเป็ น มาของวั ด แห่ ง นี้ แล้ ว จะพบว่ า น่ า สนใจไม่ น ้ อ ยไปกว่ า วั ด อื่ น ๆ ในประเทศไทยเลย วัดเวฬุวนั เป็นวัดสายพระป่าอีกแห่งหนึง่ สืบสานการวิปสั สนากรรมฐาน สายตรงจาก พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ปรมาจารย์ผู้สร้างต�ำนานของ “พระป่า” และ “กองทัพธรรม” อันลือลัน่ ซึง่ มีพนื้ ทีก่ ว้างขวางประมาณ 80 ไร่เศษ ตัง้ อยูไ่ ม่ไกลจากชุมชนมากนัก 156

2

ประวัติความเป็นมา วัดแห่งนี้มีประวัติการก่อสร้างมายาวนาน ตั้งแต่มีการตั้งชุมชน (ประมาณ พ.ศ. 2351) โดยผูน้ ำ� ชุมชนผูส้ บื เชือ้ สายมาจาก พระยาหงสาวดี (ท้าวหม้อ) แห่งเมืองไชยสุทธิอ์ ตุ ตมบุรี และผูส้ บื เชือ้ สายจาก พระศรีวรราช (ท้าวปทุม) เจ้าเมืองท่าอุเทน และผูส้ บื เชือ้ สายจาก พระศรีวรราช (พระยาก่า) แห่งเมืองวัง ได้รว่ มกันสร้างวัด และเห็นว่าพืน้ ทีโ่ ดยรอบมีปา่ ไผ่จำ� นวนมาก จึงเรียกนามวัดนี้ว่า “วัดเวฬุวัน” จากนั้นมา วัดเวฬุวนั เป็นวัดราษฎร์ สังกัดธรรมยุตกิ นิกาย มักมีพระภิกษุเดินทาง จากที่ห่างไกลมาจ�ำพรรษาและศึกษาเล่าเรียนพระธรรมและวิปัสสนา กรรมฐานไม่ได้ขาด ดังปรากฏตามหลักฐานตัง้ แต่ พ.ศ. 2482 เป็นต้นมา

ความส�ำคัญของวัดเวฬุวัน

ประการแรก เป็นวัดทีไ่ ด้รบั พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้สร้าง ปูชนียวัตถุส�ำคัญ (พระบรมรูป ร.5) ประดิษฐานไว้ ได้รับพระราชทาน พระราชูปถัมภ์จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯไปทรงทอดผ้าพระกฐิน และสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จ พระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงรับไว้ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ประการที่สอง เป็นวัดที่มีความส�ำคัญทางประวัติศาสตร์การตั้ง ชุมชนในพื้นที่อ�ำเภอศรีวิไลและพื้นที่ใกล้เคียง และเป็นศูนย์กลางของ ชุ ม ชน ดั ง ค� ำ ขวั ญ ของอ� ำ เภอศรี วิ ไ ลที่ ว ่ า “ภู ท อกแดนมหั ศ จรรย์

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 156

26/2/2562 14:37:55


วัดเวฬุวันเรืองชื่อ อดีตเล่าลือบ้านนาทราย” และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ส�ำคัญของจังหวัดบึงกาฬ ประการที่ ส าม เป็ นวั ด ที่ เ ป็ น ศู น ย์ ก ลางด้ า นการจั ด การศึ ก ษา พระปริยัติธรรมแผนกธรรม-บาลี และสามัญศึกษา และเป็นศูนย์กลาง ในการเข้าไปปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนทั่วไป เมื่อคราวเจ้าประคุณ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ยังมีพระพลานามัยแข็งแรง (ระหว่าง พ.ศ. 2505 -2523) เคยเสด็จไปศึกษาและค้นคว้าด้านวิปัสสนากรรมฐานหรือ วิปัสสนาธุระบ่อยครั้งที่วัดเวฬุวัน เป็นเวลา 15 วันบ้าง 1 เดือนบ้าง บางครั้งก็เสด็จไปทรงศึกษาพระกรรมฐานจาก หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ�ำ้ กลองเพล หลวงปูด่ ลุ ย์ อตุโล หลวงปูเ่ ทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ที่วัดเจตยาคีรีวิหาร (ภูทอก) โดยรับสั่งว่า “ที่จริงแล้วฉันไม่ได้ตั้งใจจะเป็นพระในเมือง อยากเป็นพระกรรมฐาน หรือพระป่ามากกว่า แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ไป” สมเด็จพระญาณสังวรฯ ทรงรับวัดเวฬุวันไว้ในพระสังฆราชูปถัมภ์ และประทานปัจจัยทุนทรัพย์ และทรงวางศิลาฤกษ์ในการก่อสร้าง เสนาสนะ กุฏิ อาคารเรียน แหล่งน�ำ้ ใช้อปุ โภคบริโภค ตัง้ แต่ พ.ศ. 2535 เป็ น ต้ น มา ซึ่ ง ทางวั ด ได้ รั บ การพั ฒ นาเป็ น ศู น ย์ ก ลางการศึ ก ษา ของพระพุ ท ธศาสนา มี ก ารเปิ ด สอนแผนกธรรม แผนกบาลี และ แผนกสามั ญ ศึ ก ษา เพื่ อ ให้ พ ระภิ ก ษุ แ ละสามเณรศึ ก ษาเล่ า เรี ย น มีความรูม้ คี วามเข้าใจ อย่างถ่องแท้ในพระธรรมวินยั อันเป็นการสืบสาน พระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองในภายภาคหน้า พระภิ ก ษุ ส ามเณรส่ ว นใหญ่ มั ก ได้ รั บ พระเมตตาจากสมเด็ จ พระญาณสังวรฯ ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์บรรพชาอุปสมบทกุลบุตรที่ วัด บวรนิ เวศวิหาร แล้ว ค่อยส่ง ไปจ�ำพรรษาที่วัดเวฬุวัน เพื่อศึกษา พระธรรมและวิปัสสนาธุระ ท�ำให้ความเจริญด้านพระพุทธศาสนา รุ่งเรืองก้าวหน้ารวดเร็ว ซึ่งในการสอบนักธรรมแต่ละปี พระภิกษุ สามเณรวัดเวฬุวันมักสอบนักธรรมบาลีเพิ่มขึ้นทุกปี สูงสุดเคยสอบได้ มากเป็นอันดับ 6 ของประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2536 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะองค์ อุ ป นายิ ก าสภากาชาดไทย เสด็ จ พระราชด� ำ เนิ น ไป ทรงทอดผ้าพระกฐิน และในปี พ.ศ. 2538 ได้เสด็จพระราชด�ำเนินไป ทรงประกอบพิธเี ททองหล่อพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ประดิษฐานในพลับพลาทรงไทยจัตุรมุข ภายใน วัดเวฬุวัน ปัจจุบันวัดเวฬุวัน กลายเป็นศูนย์กลางการศึกษาและปฏิบัติธรรม ในภาคอีสาน จึงมีการก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ให้เป็นที่เคารพสักการะ แก่พุทธศาสนิกชนทั่วไป

โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา วั ดเวฬุ วั น วิ ท ยา

ลิขิตโดย พระครู ป ระที ป ธรรมานุ ยุ ต รองเจ้ า คณะอ� ำ เภอพรเจริ ญ และ ผู้อ�ำนวยการโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดเวฬุวันวิทยา BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

2

.indd 157

157

26/2/2562 14:38:02


H I S TO R Y O F B U D D H IS M บันทึกเส้นทางธรรมหนุนน�ำชีวิต

วัดถ�ำ้ แสงธรรม (ภูลังกา)

...บ�ำเพ็ ญบารมีธรรม ณ แดนบังบด พระอาจารย์บุญเดช ญาณเตโช เจ้าอาวาสวัดถ�้ำแสงธรรม (ภูลังกา)

วั ด ถ�้ ำ แสงธรรม ตั้ ง อยู ่ ห มู ่ ที่ 4 ต� ำ บลโพธิ์ ห มากแข้ ง อ�ำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ มีที่ดินตั้งวัด 1,770 ไร่ ตั้งวัด เมือ่ วั น ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2460 มี “พระมหาเจดี ย ์ สุ ว รรณ นาคชั ย มงคล” เป็ น ที่ สั ก การะบู ช าของชาวบึ ง โขงหลง

158

2

ขอเชิญร่วมพิธีแสดงมุทิตาจิต ขอเรียนเชิญศิษยานุศษิ ย์ และญาติธรรมทุกท่าน ร่วมพิธแี สดงมุทติ าจิต อายุวัฒนมงคล พระอาจารย์บุญเดช ญาณเตโช ประจ�ำปี พ.ศ. 2562 วันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ณ วัดถ�้ำแสงธรรม (ภูลังกา) จังหวัดบึงกาฬ ในโอกาสนี้พระอาจารย์บุญเดช ได้มีเมตตาด�ำริถึงความประสงค์จะ จัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ให้แก่นักเรียนที่ขาดแคลนโดยไม่ระบุโรงเรียน เพือ่ อนุเคราะห์ให้นกั เรียนได้เข้าถึงการศึกษาได้มากขึน้ โดยท่านผูม้ จี ติ ศรัทธา สามารถร่วมท�ำบุญในกองผ้าป่าเนื่องในงานมุทิตาจิตอายุวัฒนมงคล ได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 034-4-32626-5 ชือ่ บัญชี นายสมภพ มียานนท์ (โดยได้รับอนุญาตในการรวบรวมปัจจัย) ขออนุโมทนากับผู้มีจิตศรัทธา ทุกท่านมา ณ โอกาสนี้

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 158

26/2/2562 14:32:00


พระอาจารย์บุญเดช ญาณเตโช สถานะเดิม ชื่อ นายเดช ภาโนมัย วิทยฐานะ ป.6 อาชีพท�ำนา บิ ด า นายทอง มารดา นางทองสุ ข เกิ ด วั น 3 ฯ7 8 ค�่ ำ ปี ม ะเส็ ง วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2508 ต�ำบลผาขาว อ�ำเภอผาขาว จังหวัดเลย อุ ป สมบท ชื่ อ พระเดช ฉายา ญาณเตโช พระอุ ป ั ช ฌาย์ พระศรีวิสุทธินายก พระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการบุญ สิริปุญฺโญ พระอนุสาวนาจารย์ อุปสมบทเมื่ออายุ 25 ปี ณ วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2533 วัดเขาสุกมิ ต�ำบลเขาบายศรี อ�ำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ให้ ณ วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2533 และได้มาอยู่วัดถ�้ำแสงธรรมวนาราม ต�ำบลโพธิห์ มากแข้ง อ�ำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2545

ก่อนอุปสมบทด�ำรงเพศบรรพชิต ก่ อ นที่ พ ระอาจารย์ บุ ญ เดช ญาณเตโช จะอุ ป สมบทประมาณ 7-8 เดือน ท่านได้เตรียมจิตเตรียมกายล่วงหน้าก่อนด�ำรงเพศพรหมจรรย์ เพื่อการเดินทางแห่งจิตสะดวกราบรื่นปรารถนามุ่งสู่ความบริสุทธิ์สิ้น อาสวะทีห่ มักหมมอยูใ่ นจิตใจให้มลายสูญสิน้ ครัน้ ถึงการก�ำหนดอุปสมบท เป็นพระภิกษุ ท่านจึงได้เดินทางสูจ่ ดุ หมายคือ วัดเขาสุกมิ ต�ำบลเขาบายศรี อ� ำ เภอท่ า ใหม่ จั ง หวั ด จั น ทบุ รี ครั้ น อุ ป สมบทแล้ ว ในค�่ ำ คื น แรก พระอาจารย์บญ ุ เดช ญาณเตโช จึงอธิษฐานตัง้ จิตสมาธิ ได้รบั ธรรมโอวาท จากท่านหลวงปู่สมชาย ฐิติวิริโย ที่ท่านเน้นให้บ�ำเพ็ญบารมี

เยือนแดนบังบดด้วยกายเนื้อ พระอาจารย์บญ ุ เดชพ�ำนักอยูภ่ วู วั พอสมควร จึงได้วเิ วกมาอยูภ่ ลู งั กา จากนัน้ จึงได้วเิ วกไปทางจังหวัดเลย ได้พำ� นักในป่าเขาเป็นแหล่งบ�ำเพ็ญ สมณกิจตน ขณะบ�ำเพ็ญสมาธิได้ทราบทางสมาธิได้พบเห็นพวกสาวๆ พากันมาเก็บดอกฝ้าย ร่างกายนุ่งแต่เพียงกางเกงในเท่านั้น ขณะนั้น พระอาจารย์กท็ ราบว่าโดนภูมชิ าวบังบด(สาวลับแล)ลองภูมิ สติกร็ เู้ ท่าทัน จึงไม่ตามนิมิต ตกตอนดึกพระอาจารย์บุญเดชจึงนั่งพิจารณาลืมตาดู (เปิดจิต) “อ้า จะเป็นอย่างไรก็เป็น” ลืมตาขึ้นก็เห็นสาวชาวลับแลนุ่ง แต่ชุดชั้นในตัวเดียวมายั่วยวนกามารมณ์ พระอาจารย์บุญเดชมีสติ ควบคุมจิตมิให้ออกไปข้างนอก จึงได้นอ้ มน�ำรูปธรรมทีไ่ ด้พบมาพิจารณา จึ ง ได้ ท ราบธรรมบทหนึ่ ง แล้ ว ก� ำ หนดจิ ต ถามผู ้ รู ้ ( พระธรรม) “น�ำ้ กระเพือ่ มหรือจิตกระเพือ่ ม” ก็ได้ยนิ ผูร้ บู้ อก “น�ำ้ ” ถาม “คนหรือสัตว์” เสียงบอก “คน” พระอาจารย์บุญเดชพิจารณาได้ความว่า “อ้าว บรรดา สัตว์ช้างตัวเมีย ท�ำไมไม่เกิดราคะขึ้นมา ช้างก็เป็นสัตว์ จระเข้นั้นก็ ตัวเมีย ท�ำไมเราจึงไม่มีจิตเกิดราคะกามคุณในตัวสัตว์” พิจารณา รูปธรรมภาพนิมิตสาวชาวลับแลก็หายไป ขณะนั้นได้มีช้างสาวสวยอายุ ประมาณ 40 ปี เดินอุ้ยอ้าย ๆ เข้ามา พระอาจารย์เห็นช้างตัวเมียจึงได้ ถามจิตของตน “มันเป็นอะไร จิตตัวนี้จึงไม่เกิดราคะกับสัตว์ บัดใด จิตมันหลงสมมติ จิตเราหลงสมมติ ถ้าเราไม่หลงมัน มันก็ไม่ได้โกหกเรา จิตเราก็ไม่ปรุงแต่ง จิตก็ไม่ฟุ้งซ่าน จิตพิจารณาธรรมตามความเป็นจริง

จิตก็กระจ่างทราบชัดแจ้งประจักษ์ จิตก็ไม่เกิดความฟุ้งซ่าน” จากนั้น จึงได้เดินทางวิเวกมุง่ สูก่ ลางป่าภูววั เพียงล�ำพังรูปเดียวเพือ่ บ�ำเพ็ญสมาธิ จิต พระอาจารย์บุญเดชได้ทราบทางสมาธิเห็น ผู้คนแดนดินถิ่นลับแล พากั น ออกมาร� ำ เซิ้ ง คล้ า ยร� ำ ภู ไ ทตั้ ง หวาย “โอ๊ ย น้ อ สาวภู ไ ทเอ๊ ย บ่าวภูไทเอย” ฟังเพลิดเพลินไพเราะเพราะพริ้ง พระอาจารย์บุญเดช ก็ นั่ ง สมาธิ ฟ ั ง และนึ ก แปลกใจ “เอ เสี ย งใครหนอ” ในทุ ก วั น พระ อาจารย์จะได้ทราบนิมิตเช่นนี้เป็นประจ�ำ BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

2

.indd 159

159

26/2/2562 14:32:05


วันข้างหน้าของ “วิชาชีพครู” ในยุ ค ที่ ค นในสั ง คมสามารถเข้ า ถึ ง ข้ อ มู ล ข่ า วสารและ ความรู ้ ท างวิ ช าการได้ ง ่ า ยๆ เพี ย งแค่ ป ลายนิ้ ว มื อ กระดิ ก ท�ำให้แวดวงการศึกษาโดยเฉพาะในระดับอุดมศึกษา ต่างต้อง เร่งปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ที่นับวันจ�ำนวนนักศึกษาจะ ลดน้ อ ยถอยลงทุ ก ที และไม่ แ น่ ว ่ า วิ ช าชี พ ของครู - อาจารย์ ในอนาคต อาจต้ อ งถู ก เลย์ อ อฟแบบหลายวิ ช าชี พ ที่ เ กิ ด ขึ้ น ในขณะนี้ เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2562 ซึ่งเป็นวันครูแห่งชาติ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ ได้รบั เชิญจากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ไปบรรยายพิเศษ เรื่อง “วันข้างหน้าของวิชาชีพครู” ซึ่งท่านได้สรุปการบรรยายเป็น “7 ประเด็นท้าทายวันข้างหน้าของวิชาชีพครู” และได้เผยแพร่บทความ ในเฟซบุ๊กของท่าน ดังมีรายละเอียดที่น่าสนใจ ดังนี้ 160

4.0 (3

ประเด็นที่ 1 : การขับเคลื่อนประเทศไปสู่ “Thailand 4.0” ต้อง อาศัย “คนไทย 4.0” โดยหัวใจส�ำคัญ คือ “ครู” ผูท้ ำ� หน้าทีเ่ ป็นเบ้าหลอม ที่จะสร้างคนไทย 4.0 โดยครูสอนให้เด็กเข้าถึง 3 องค์ประกอบส�ำคัญ คือ ”ความดี” “ความงาม” และ “ความจริง” อันจะน�ำไปสู่การสร้างคน ให้มี “ความรู้” คู่ “คุณธรรม” ซึ่งเรื่องเหล่านี้ฝังอยู่ใน “จิตวิญญาณของ ความเป็นครู” อย่างแนบแน่นตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน อย่างไรก็ดี แม้ว่าจิตวิญญาณครูจะไม่แปรเปลี่ยน แต่บริบทโดยรอบ ตัวครูและเด็กนั้นมีการผันแปรไปอย่างมาก โลกที่มีพลวัตสูงอย่างเช่น ในปัจจุบันได้ส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คนอย่างน้อยใน 3 มิติ คือ การใช้ชีวิต (Living) การเรียนรู้ (Learning) และการท�ำงาน (Working)โดยเปลีย่ นจาก “การด�ำเนินชีวติ แบบสามขัน้ ” (3 Stages of Life) ที่เริ่มต้นด้วยการเรียนในวัยเด็ก สู่การท�ำงานในช่วงกลางและ การใช้ชีวิตในบั้นปลาย ไปสู่ “การด�ำเนินชีวิตแบบหลายขั้น “(Multi-Stages of Life) คือ มีการเรียนรู้ ท�ำงาน และใช้ชีวิต ในลักษณะเป็นวงจรซ�้ำไป ซ�้ำมาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งครูจะต้องเข้าใจและน�ำไปสู่การปรับเปลี่ยนการ เรียนการสอนให้สอดรับกับพลวัตโลกศตวรรษที่ 21 ประเด็นที่ 2 : แพลทฟอร์มการเรียนรู้ได้เปลี่ยนแปลงไป ปัจจุบัน การเรียนรูไ้ ม่จำ� เป็นจะต้องอาศัยการศึกษาในโรงเรียนเท่านัน้ (Learning is not equal to Schooling) แม้วา่ โรงเรียนถูกมองเป็นสิง่ ที่ “ยังจ�ำเป็น” ต้ อ งมี อ ยู ่ แต่ “ไม่ เ พี ย งพอ” ที่ จ ะตอบโจทย์ ก ารเรี ย นรู ้ ใ นปั จ จุ บั น การเรี ย นรู ้ จ ากนี้ ไ ปสามารถเกิ ด ขึ้ น จากใคร ที่ ไ หน และเมื่ อ ไรก็ ไ ด้ ไม่จ�ำเป็นจะต้องยึดติดกับห้องเรียน โรงเรียน หรือระบบการศึกษาอีก ต่อไป ดังนัน้ ภายใต้แพลทฟอร์มการเรียนรูท้ เี่ ปลีย่ นแปลงไป ครูจะปรับ บทบาทหน้าที่ของตนอย่างไร ประเด็นที่ 3 : พลวัตการเรียนรู้ในปัจจุบันต้องเปิดโอกาสให้เด็กมี “การลองถูกลองผิด” “เปิดรับความผิดพลาด” และ “ยอมรับความล้มเหลว” จากนีไ้ ป การก�ำหนดเป้าหมายสูอ่ นาคต อาจจะต้องเริม่ จากการลงมือท�ำ (Action) เพือ่ ให้เห็นโอกาส ข้อจ�ำกัด ศักยภาพ และขีดความสามารถก่อน จึงไปก�ำหนดวิสัยทัศน์ (Vision) นิยามอนาคตที่สอดรับกันทีหลัง ด้วยเหตุนี้ กระบวนการเรียนรู้เพื่อเตรียมพร้อมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 จ�ำเป็นต้องมีทั้งการเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ (Learn) การไม่ยึดติดกับ ความรูท้ เี่ คยเรียนมา (Unlearn) และการเรียนรูเ้ รือ่ งเดิมด้วยมุมมองใหม่ หรือในบริบทใหม่ (Relearn) การลองถูกลองผิด เปิดรับความผิดพลาด และยอมรับความล้มเหลวจะก่อให้เกิดปัญญาชีวติ และองค์ความรูใ้ หม่ๆ ในปริมณฑลที่กว้างขึ้น ลุ่มลึกมากขึ้น และร่วมสมัยมากขึ้น การเรียนรู้ดังกล่าวตั้งอยู่บนหลักคิดส�ำคัญ 2 ประการ ประการแรก คือ การเปลี่ยนการมอง “ความล้มเหลวเป็นความยาก ล�ำบากของชีวติ ” เป็นการมองว่า “ความล้มเหลวเป็นความท้าทายของชีวติ ” (From Failure as Adversity to Failure as Adventure) ซึ่งจะท�ำให้ เด็กไม่กลัวความล้มเหลว กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้จากความล้มเหลว และพร้อมที่จะลุกขึ้นมาฮึดสู้อีกครั้งแล้วครั้งเล่า จนประสบผลสัมฤทธิ์

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 160

1/3/2562 11:17:34


อีกประการหนึ่ง คือ การเปลี่ยน “ความกลัวต่อการท�ำผิดพลาด” สู่ “ความกลัวต่อการพลาดโอกาส” (From Fear of Mistake to Fear of Missing out) โดยเด็กจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้น (Lesson Learned) พร้อมจะค้นหาแนวทางตัวอย่างจากผูอ้ นื่ ทีป่ ระสบความส�ำเร็จ (Best Practices) พัฒนาแนวทางเหล่านั้นให้ดีขึ้น (Better Practices) และสุดท้ายจะน�ำไปสูก่ ารสร้างแนวทางในการแก้ปญ ั หารูปแบบใหม่ดว้ ย ตนเอง (Next Practices) การเรี ย นรู ้ ใ นศตวรรษที่ 21 จึ ง เป็ น กระบวนการเรี ย นรู ้ ผ ่ า น “ประสบการณ์จริง ” โดยเป็นวงจรที่เ ริ่มจาก “การส�ำรวจค้นคว้า” (Exploring) “การทดลองทดสอบ” (Experimenting) เพื่อ “สร้างเสริม ประสบการณ์ (Experiencing) และน�ำมาสู่ “การแลกเปลี่ยนเรียนรู้” (Exchanging) กับผู้อื่น ประเด็นที่ 4 :โจทย์ใหญ่ของครูคือ “การสร้างมนุษย์ที่สมบูรณ์ใน ศตวรรษที่ 21” ซึง่ มนุษย์ทสี่ มบูรณ์นนั้ จะต้องมีการเรียนรูใ้ น 4 รูปแบบ ที่ยึดโยงกันเป็นองค์รวม ประกอบไปด้วย 1) การเรียนรู้อย่างมี “ความมุ่งมั่นและเป้าหมาย” (Purposeful Learning) เป็นเป้าหมายทีเ่ กิดจากแรงบันดาลใจ ความสนใจหรือความ มุง่ มัน่ ของเด็ก (Passion-Driven Learning) ครูจะมีสว่ นช่วยให้เด็กนิยาม อนาคต ก�ำหนดเป้าหมายในชีวติ ทีย่ งิ่ ใหญ่ ทีก่ า้ วข้ามการง่วนอยูก่ บั การ ท�ำเพื่อตนเอง ไปสู่ความมุ่งมั่นที่จะท�ำให้เกิด Better Self, Better Family, Better Society และ Better World ได้อย่างไร ในการตอบ โจทย์ความมุง่ มัน่ ดังกล่าว การเรียนรูจ้ ะต้องมีลกั ษณะเฉพาะตามความ สนใจของผู้เรียน (Personalized Learning) เป็นส�ำคัญ

2) การเรียนรู้อย่าง “สร้างสรรค์” (Generative Learning) โดยให้ ความส�ำคัญกับการเรียนรูเ้ พือ่ ให้เกิดการใช้ความคิดวิเคราะห์สงั เคราะห์ การประยุกต์ใช้ (Idea-based Learning) มีความยืดหยุ่นทางความคิด และอารมณ์ เปิดมุมมองใหม่ๆ ค้นหาช่องทางการหลุดพ้นข้อจ�ำกัด แบบเดิมๆ เพื่อให้เกิดการรังสรรค์นวัตกรรม จึงเป็นการเรียนรู้อย่าง กระตือรือร้น (Active Learning) และเป็นการเรียนรู้ผ่านการให้ค�ำ ปรึกษาชีแ้ นะ (Mentoring) มากกว่าแค่การถ่ายทอดความรูใ้ นแบบเดิมๆ 3) การเรียนรู้แบบมี “ส่วนร่วมและแบ่งปัน” (Collective Learning) เป็นการปลูกฝังให้เด็กร่วมกันคิด ร่วมกันสร้างสรรค์สงิ่ ต่างๆ (Common Creating) มากกว่าการฉายเดีย่ ว การเป็นพระเอกเพียงคนเดียว รวมถึง การปรับเปลี่ยนแนวคิดเป็นการได้รับรางวัลจากการท�ำงานร่วมกัน (Sharing Incentive) มากกว่าการแข่งขันแย่งชิงรางวัล (Individual Incentive) ฝึกให้เด็กๆ สามารถอยู่ในสภาวะ “สุขก็สุขด้วยกัน ทุกข์ก็ ต้องทุกข์ด้วยกัน” 4) การเรียนรู้โดย “เน้นผลสัมฤทธิ์” (Result-based Learning) คือ การเรียนรูท้ สี่ ามารถวัดผลหรือเห็นผลทีเ่ ป็นรูปธรรมได้อย่างชัดเจน โดย ให้ความส�ำคัญกับการเรียนรูผ้ า่ นประสบการณ์ (Experiential Learning) เน้นการให้ท�ำโครงงาน กิจกรรม และภารกิจ (Workshop/Project/ Assignment) มากกว่าการบรรยายหน้าชั้นเรียน โดยเน้น ผลสัมฤทธิ์ ของงานทีเ่ ด็กร่วมกันท�ำ (Achievement Credit) มากกว่าการสอบให้ผา่ น

BUENG KAN I SBL บันทึกประเทศไทย

4.0 (3

.indd 161

161

1/3/2562 11:17:37


ประเด็นที่ 5 : การสร้าง “คุณค่าของความเป็นมนุษย์” (Human Value) โดยมนุษย์มีธรรมชาติอยู่ 2 ประการ คือ มนุษย์ต้องการการมี อิสระ มีตัวตน หรือที่เรียกว่า ปัจเจกนิทัศน์ (Self-Expression Value) เพื่อปลดปล่อยสิ่งที่ตนเองมี สะท้อน “ความเป็นตน” (Me-in-We) แต่ในขณะเดียวกัน ต้องมีการพึ่งพาอาศัยกัน หรือที่เรียกว่า คุณค่าของ จิ ต สาธารณะ (Communal Value) ซึ่ง จะสะท้อน “ความเป็นคน” (We-in-Me) ความเป็นครูในอนาคตจะสร้างความสมดุลของ 2 คุณค่านี้ ทีเ่ สมือน เบรกและคันเร่งให้เกิดขึ้นในตัวเด็กได้อย่างไร ควบคู่ไปกับคุณค่าความ เป็นมนุษย์ ครูในอนาคตยังต้องสร้าง “คุณค่าร่วมในสังคม” (Social Value) ปัจจุบนั กระบวนทัศน์ของสังคมไทยติดกับดักของ “Me-Society” คือ คิดถึงตนเอง ท�ำเพือ่ ตนเองและพวกพ้อง ไม่คดิ ถึงผูอ้ นื่ หรือคนส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นรากเหง้าของปัญหาของสังคมไทยในปัจจุบัน แต่หากครูสามารถ สร้างสมดุลของความเป็นคนและความเป็นตนได้ จะท�ำให้เกิด “WeSociety” ที่คนในสังคมมองคนรอบข้าง มองการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพื่อน�ำไปสู่การสร้างคน (Growth for People) มากกว่าการสร้างคน เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ (People for Growth) รวมถึงแบ่งปันองค์ ความรู้ สร้างความร่วมมือมากกว่าแข่งขัน และสร้างวัฒนธรรม “ Free Culture” ที่สะท้อนผ่าน Free to Take และ Free to Share รวมถึง ต้องสร้างหลักคิดเพื่อให้เด็กเปลี่ยนแนวคิดที่คับแคบในการคิดเพื่อ ตัวเองไปสูก่ ารให้เด็กมีความเชือ่ ใจต่อกัน (Trusting) เห็นอกเห็นใจผูอ้ นื่ (Caring) เกื้อกูลแบ่งปัน (Sharing) และร่วมมือร่วมใจสร้างประโยชน์ แก่สังคมในภาพรวม (Collaborating) ดังนัน้ ภารกิจใหม่ของครูในอนาคต จึงเป็นการสร้าง Human Value พร้อมการสร้าง Social Value ด้วยการปลูกฝังการสร้าง We-Society โดยทีค่ รูจะต้องสร้างให้เด็กมีตวั ตน ในขณะทีใ่ ส่ใจสิง่ ทีเ่ กิดขึน้ รอบๆ ตัว ดังนั้น ครูจะต้องสร้างให้เด็กเกิด “Deep Learning” ผ่านการมีปัญญา (Head) มีทักษะ (Hand) มีสุขภาพที่ดี (Health) และมีจิตใจที่งดงาม (Heart) เพือ่ ให้เด็กมีสมดุลของการเป็นตนและการเป็นคน ส่งผลให้เกิด สังคมที่มีความหวัง (Hope) มีความสุข (Happiness) และมีความ สมานฉันท์ (Harmony)

162

4.0 (3

ประเด็นที่ 6 : คือ ครูจะต้องสร้างให้เด็กมีความรักในการ เรียนรู้ (Love to Learn) แล้วจึงเรียนรู้ที่จะเรียนรู้ (Learn to Learn) ทั้งรู้ว่าท�ำไมต้องเรียน ต้องเรียนอะไร เรียนอย่างไร และ เรียนกับ ใคร แล้วจึงจะน�ำไปสู่การเรียนรู้เพื่อการด�ำเนินชีวิต (Learn to Live) เพื่อตอบโจทย์ Me-in-We หรือความเป็นตน พร้อมๆ กับการเรียนรู้ท่ีจะรักคนอื่นๆ (Learn to Love) เพื่อ ตอบโจทย์ We-in-Me หรือความเป็นคน ซึง่ สอดคล้องกับหลักการ เรียนในลักษณะ Fun-Find-Focus-Fulfill คือ เด็กเรียนรู้จากเรื่อง สนุกๆ (Fun) เพื่อจะค้นหาสิ่งที่ตนเองรัก (Find) เมื่อพบแล้วจึง มุ่งเป้าชัดเจน (Focus) และเติมเต็มให้ชีวิตตนเองและคนอื่น (Fulfill) ประเด็นที่ 7 : ความสมดุลเป็นหัวใจส�ำคัญไม่ว่าโลกจะ เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตาม ซึ่งสอดรับกับ “หลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง” ครูจะต้องสอนเด็กให้เข้าใจทั้งภาพเล็กและ ภาพใหญ่ ในภาพใหญ่เด็กต้องเข้าใจ “ความสมดุลของระบบ” ทั้ง ระหว่างความสมดุลระหว่างคนกับคน คนกับธรรมชาติ และคน กับเทคโนโลยี และ ในภาพเล็กลงมา เด็กต้องเข้าใจ“สมดุลของ กลไก” ทั้งสมดุลระหว่างการเรียนรู้นอกและในโรงเรียน ระหว่าง ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligent) กับปัญญามนุษย์ (Human Intelligent) ระหว่างอารยธรรมในโลกจริงและอารยธรรมในโลก เสมือน ครูจึงต้องรู้เท่าทันในประเด็นเหล่านี้ และเข้าใจหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อน�ำมาปรับให้เกิดสมดุลให้เกิด ขึ้นทั้งในระบบและกลไก เมื่อเกิดสมดุล “การพัฒนาที่ยั่งยืน” จึงจะบังเกิดขึ้น เมือ่ “เข้าใจ” ในประเด็นเหล่านี้ ครูจงึ จะ “เข้าถึง” บริบทของ พลวัตโลกและการพัฒนาการของเด็ก ด้ว ยความเข้าใจและ เข้าถึง ผนวกกับจิตวิญญาณของความเป็นครู ความคาดหวัง ที่ว่า “ครูสร้างคน คนสร้างชาติ” จึงจะสามารถเกิดขึ้นได้อย่าง แท้จริงครับ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Facebook : Dr.Suvit Maesincee

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 162

1/3/2562 11:17:41



“พระธาตุรัตนตรัยภูมิ” 164

SBL บันทึกประเทศไทย I บึงกาฬ

.indd 164

วัดไตรภูมิ

26/2/2562 16:20:37


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.