The Art Of La Fobia.

Page 1









contents preface 11 foreword 12 how to use artivive 15 Section 1 althony family 18 noel althony 20 puffy feet 28 samuel althony 30 abigel althony 34

Section 2 the classmate 38 jasmine lily 40 fitsh rock 42

Section 3 wingston school 46 Section 4 phobia world 52 la foresta 54 la tana 72 lo specchio 88 la farfalla 100 la torre 104 terra oscuro 118 il vuoto 128 equipments 132 the story of la fobia 136



About ME

JIDAPA CHUMPRASONG Facebook : Sixx Frii Instragram : @sixxfriifay Contact : jidapachumprasong68@gmail.com

Preface หนังสื อเล่มนี้เป็น Concept Art ลิขสิ ทธิ์ของนางสาวจิดาภา ชุมประสงค์

อ้างอิงจากวารสารมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติวิชาการ ปีที่ 12

ประกอบวิทยานิพนธ์ เพื่อที่จะไปต่อยอดเป็นอนิเมชั่น เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการ

ฉบับที่ 23 ได้กล่าวว่า นักจิตวิทยาแบ่งโรคกลัวเป็น 3 กลุ่มคือ โรคกลัวที่

ฟั นฝ่ าอุปสรรค ก้าวข้ามผ่านความกลัวของตัวเอง โดยเรื่องนี้ช่ือเรื่องว่า “La

โล่งแจ้ง โรคกลัวแบบเฉพาะเจาะจง และโรคกลัวสั งคม (1.) โรคกลัวที่โล่ง

Fobia” การผจญภัยในดินแดนแห่งความกลัว เป็นเรื่องราวที่ได้แรงบันดาล

แจ้ ง (Agoraphobia) หมายถึ ง โรคกลั ว ที่ โ ล่ ง แจ้ ง มั ก จะเกิ ด ขึ้ น ร่ ว มกั บ

ใจมาจากโรคกลัว ที่ในปั จจุบันอาการป่ วยทางจิตหรือโรคทางจิต สามารถที่

ความตื่นตระหนก (panic disorder) ซึ่งเป็นอาการของความกลัวหรือความ

จะท�ำความเข้าใจได้อย่างง่ายขึ้นในปั จจุบันที่มีส่ื อโซเชียล แต่ในส่ วนของโรค

ตื่นตระหนกอย่างรุนแรงและมีอาการผิดปกติทางกาย บุคคลที่เป็นโรคกลัวที่

กลัว ยังไม่มีการน�ำเสนอที่โทษถึงขนาดนั้น ทางผู้เขียนจึงอาจจะอธิบายออกมา

โล่งแจ้งจะกลัวการออกจากบ้าน กลัวการอยู่ในฝูงชน หรือสถานที่ที่มีคน

ให้ ง่ า ยยิ่ ง ขึ้นโดยการจะท� ำ เป็นตัว ละครที่ท�ำให้เข้าถึงผู้คนได้ง่ายและหลาก

จ�ำนวนมาก (2.) โรคกลัวแบบเฉพาะเจาะจง (Specific Phobias) จะเกิด

หลายวัยยิ่งขึ้น เพื่ อให้ทุกคนได้เข้าใจกับคนที่ป่วยเป็นโรคกลัว ความรู้สึกมัน

ความกลัวต่อวัตถุหรือสถานการณ์เฉพาะอย่าง ซึ่งสามารถจ�ำแนกสิ่ งเร้าได้

เป็นยังไง อาการเป็นแบบไหน โรคกลัวหรือโฟเบีย (Phobia) เป็นโรคที่ส่งผล

เป็น 4 ประเภท ได้แก่ ประเภทแรกคือสั ตว์หรือแมลง สิ่ งแวดล้อมตาม

ให้ ผู้ป่ว ยรู้ สึ กกลั ว สิ่ ง ของหรื อ สถานการณ์บ างอย่างเกิน กว่าเหตุหรือกลัว

ธรรมชาติ สถานการณ์ และเลือด การฉีดยาหรือการบาดเจ็บ (3.) โรคกลัว

อย่างไม่มีเหตุผลแน่ชัด มักแสดงปฏิกิริยาตอบสนองทางร่างกายและจิตใจร่วม

สั งคม (Social Phobias) หมายถึงบุคคลที่เป็นโรคกลัวสั งคมจะกลัวการ

ด้วย เช่น คลื่นไส้ วิงเวียนศี รษะ เหงื่อออก และหายใจถี่ เป็นต้น ซึ่งแตกต่าง

พบปะพู ดคุยกับคนแปลกหน้าและกลัวสถานการณ์ทางสั งคมที่ท�ำให้ตนเอง

จากอาการกลัวที่สามารถระบุต้นตอของอาการและสามารถรับมือได้ กล่าวคือ

ตกเป็นเป้ าสายตาของผู้อ่น ื หรือถูกประเมินจากผู้อ่น ื อ่านจากการอ้างอิงทาง

อาการของโรคดังกล่าวมีความรุนแรงกว่าอาการกลัวทั่วไป ผู้ป่วยโรคกลัวจะ

ความเกี่ยวกับโรคได้ผิด ดังนั้นผู้จัดท�ำจึงอาจจะน�ำเสนอในมุมมองที่ต่างไปที่

เผชิญภาวะนี้เป็นระยะเวลานาน โดยแนวทางหลักในการรักษาโรคกลัวมี 2 วิธี

ไม่ใช่บอกว่าโรคนี้เป็นยังไงเป็นอย่างไร แต่บอกถึงวิธีการปฏิบัติตัวที่เหมาะ

ได้แก่ พฤติกรรมบ�ำบัด (behavioral therapy) และ การรักษาด้วยยา(phar-

สมควรต่อผู้ป่วยมากยิ่งขึ้นด้วย

macotherapy) ซึ่งผู้ที่มีอาการป่ วยในวัยเด็กส่ วนใหญ่จะสามารถหายเองได้ เมื่อโตขึ้น


Foreword ไม่แน่ใจว่าส่ วนนี้ จ ะมี ค นอ่ า นไหม แต่ ถ้ า อ่ า นก็ ช่ว ยฟั งความในใจของผู้

มันยังไม่จบแค่นี้ ประเด็นคือ เขียนมีปัญหาเรื่องโรคระบาดตอนปี 3 ท�ำให้ไม่ได้

เขียนด้วยนะ ในตอนแรกที่ท�ำ Thesis คิดไม่ออกเลยว่าจะท�ำอะไร คิดแค่ว่า

ไปฝึกงานตั้งแต่ตอนนั้น ก็เลยต้องมาเตรียมปั่ นพอร์ตแล้วก็หาที่ฝึกงานตอนก�ำลัง

อยากจะวาดรูปเยอะๆเดี๋ยวจะสร้างตัวละครเป็นของตัวเอง แต่อยู่ๆจะให้

ท�ำ Thesis ดุเดือดตลอด แล้วยิ่งใช้เวลาท�ำ portfolio ก็ใช้เวลาประมาณนึงแล้ว

แต่งเรื่องให้มาก็คงท�ำยาก *ข�ำ* ก็เลยไปหาเกี่ยวกับสิ่ งที่เราสามารถน�ำมา

แต่การรอที่ฝึกงานติดต่อกลับมาเป็นส่ วนที่ทรมานสุ ด ใจมันก็พะวงว่าเขาจะติดต่อ

อ้างอิงในการวาดรู ปได้ ตอนนั้ นคิ ดว่ า ในส่ ว นของ mental Health น่าจะ

เรากลับมาไหม ใจก็ไม่อยู่กับ Thesisแล้ว สรุปก็คือเวลาในการท�ำ Thesis หายไป

ก�ำลังมาแรง ตอนแรกเลยกะว่าจะท�ำเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า แต่คิดว่าโรคนี้น่า

ประมาณเดือนนึงเต็มๆเพราะว่ามัวแต่วุ่นกับการหาที่ฝึกงาน แต่ในช่วงนั้นก็ถือว่า

จะมีคนท�ำเยอะมากแล้ว ก็เลยดูเกี่ยวกับอื่นๆ เลยมาเจอกับโรค phobia ดู

พั ฒนาฝีมือในการวาดฉากขึ้นใช้ได้เลยนะ ส่ วนที่ต้ังใจจะวาดใส่ พอร์ตก็คือส่ วนที่

แล้วมีหลายโรคน่าสนใจน่าจะน�ำมาออกแบบคาแรคเตอร์ได้หลากหลายตามที่

จะตั้งใจใส่ ใน Thesisด้วยเหมือนกัน ก็เลยเป็นเหมือนกันฝึกวาดไป หลังจากกังวล

ต้องการ อืมมม ลองเช็คโรคแล้วน่าจะใช้ในการออกแบบได้สนุก เอานี่แหละ

มาสั กแป๊ บนึง ก็มีบริษัทติดต่อมาเย้ ได้ที่ฝก ึ งานแล้ว ท�ำ Thesis ต่อได้ แต่หลังจาก

เราก็เลยคิดเรื่อง Thesis มาตั้งแต่ปด ิ เทอม ก็ลองหาเรื่องอื่นส� ำรองไว้อยู่นะ

นั้นก็กลายเป็นว่าเหนื่อยล้ากับการท�ำงาน ไม่ใช่ว่าไม่อยากท�ำหรือไม่ชอบท�ำ Thesis

แต่ว่าไม่ค่อยชอบเท่าเรื่องนี้เลย ไปน�ำเสนออาจารย์ที่ปรึกษาตอนแรกก็โอเค

นะ อาจจะเป็นเพราะว่าช่วงเวลาในการท�ำมันน้อยมากด้วย เรายังว่าเสี ยเวลาไปกับ

แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้มั่นใจมากเท่าไหร่เพราะว่าคะแนนตอนที่อธิบายหัวข้อเรา

การหาที่ฝึกงานไปเป็นเดือน เดดไลน์ที่มันค่อยๆใกล้เข้ามาเรื่อยๆมาท�ำให้เรารู้สึก

และก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้คิดมากอะไรนะคิดว่าอาจารย์น่าจะยังไม่

ท้อแล้วก็เครียดอีกแล้ว แต่ก็นะอ่านมาถึงขนาดนี้แล้วก็คงรู้แล้วนะว่าหนังสื อเล่มนี้

เห็นภาพของผลงาน รอบ 2 ก็เลยลองออกแบบให้อาจารย์เห็นรูปร่างของผล

เสร็จสมบูรณ์แล้ว ปรบมือ เก่งมากๆเลยล่ะตัวเรา คุณก็เก่งเหมือนกันนะที่อ่านมา

งานมากยิ่งขึ้น ได้คะแนนดีข้ น ึ ก็ดีใจมากเลยท�ำให้มีก�ำลังใจมากขึ้นด้วยแหละ

ได้ขนาดนี้ ว่าแล้วก็ขอบคุณที่เข้ามาดูนะ

ค�ำสวดในการท�ำเอกสารไปเลยละกัน น่าจะเป็นส่ วนที่ไม่อยากท�ำที่สุดแล้วล่ะ ถ้ามาในส่ วนของเนื้อเรื่องและการวาดรูป การวาดรูปง่ายๆก็มีปัญหาอยู่นิด หน่อยตรงที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยวาดฉากแบบจริงจังเลย แล้วอยู่ๆจะมาท�ำโปร เจคใหญ่ก็เลยรู้สึกว่าใช้เวลานานในการท�ำรูปนึงมากเลย ช่วงนั้นก็เครียดพอ สมควร ไปปรึกษาอาจารย์ ก็เลยลองเทคนิคใหม่ๆในการท�ำงาน ลองทดลอง ท�ำงานในแบบที่เราไม่ถนัดมากขึ้น แล้วก็รู้ว่าเราก็ท�ำได้นี่หว่า ใช้ได้เลยนี่เรา เก่งไม่ใช่เล่นเลยนะ


หนังสื อเล่มนี้สามารถใช้ร่วมกับแอพลิเคชั่น Artivive

หนังสื อเล่มนี้เป็นผลงานส่ วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ ของนางสาวจิดาภา ชุมประสงค์

โดยเป็นหนังสื อ Concept Art เพื่ อน�ำไปต่อยอดเป็นแอนิเมชั่น 2 มิติ โดยจะแบ่งเป็นส่ วนของเนื้อเรื่อง และส่ วนของการออกแบบ ได้แก่ภาพประกอบ ตัวละคร character background และ element อื่นๆ

พิ มพ์ ที่: CMYK Design & Printing 420/8 ม.27 ต.ศิ ลา อ.เมือง เทศบาลนครขอนแก่น 40000 โทรศั พท์: 084-067-9020 E-mail: tappitakthee@gmail.com สงวนลิขสิ ทธิ์ โดย จิดาภา ชุมประสงค์

ห้ามลอกเลียนแบบไม่ว่าส่ วนใดส่ วนหนึ่งของหนังสื อเล่มนี้ ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ

นอกจากจะได้รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากข้าพเจ้า จิดาภา ชุมประสงค์ เท่านั้น ที่ปรึกษา: นิพพิ ชฌ์ ฉันทะปรีดา ผู้สนับสนุน : กษิ ดิศ ชุมประสงค์ และ อรอุมา ชุมประสงค์



how to use artivive? I การใช้งานแอพลิเคชั่น Artivive I

1

2

เปิดรูปภาพที่มีสัญลักษณ์ Artivive ใน หนังสื อเล่มนี้ หรือ E-book

ดาวน์โหลดแอพลิเคชั่น Artivive ได้ท้ง ั ใน App Store และ Google Play

3

เปิดแอพลิเคชั่นและดูรูป ผ่านทางสมาร์ทโฟน





SEction 1

ครอบครั ว อั ล โทนี่

alt hony amily alt honyf f amily


Noel Althony Youngest brother

โนเอล อั ล โทนี่

นเอล อัลโทนี่ อายุ 12 ปี เป็นน้องชายคนสุดท้องของบ้าน ตั้งแต่เด็กเขาเป็นคนที่ค่อนข้าง จะเงียบ ๆและขี้อาย แต่เพราะแซมพี่ชายของเขาที่คอยอยู่เป็นเพื่อน และคอยหาเพื่อนมาเล่นกับ เขาตลอด ท�ำให้ช่วงชีวิตในวัยเด็กที่ผ่านมาไม่มีปัญหาเลยส�ำหรับเขา แซมเคยชวนให้โนเอลมาเล่น กีฬาด้วยกันแต่เขาท�ำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ท�ำให้เขาไปได้ไม่ดีกับกีฬาเท่าไหร่ แซมเลยหากิจกรรมที่ทั้ง สองสามารถที่จะสนุกด้วยกันได้ โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้สึกแย่ ก็คือการท�ำสวนนั่นเอง หลังจากที่ได้ลอง ปลูกต้นไม้ต้นแรกกับแซม เขาก็รู้แล้วว่านี่แหละคือสิ่งที่เขาชอบ แต่ในขณะที่แซมอายุ 8 ปี แซมได้ เกิดอุบัติเหตุ และเสียชีวิต การตายของแซม ท�ำให้จิตใจของเขาดิ่งลงเหว ทุกอย่างมันเคว้งไปหมด เหมือนกับเสาหลักที่เขาเคยยึดพิง คนที่เขารักมากที่สุด อยู่ ๆก็หายไปต่อหน้าต่อตา เขาว้าเหว่มา ตลอด รู้สึกเหมือนถูกทิ้งให้อยู่ตามล�ำพัง ความเจ็บปวดความทรงจ�ำเลวร้ายผ่านไปกี่ปีกี่ปีก็ไม่ดีขึ้น และเริ่มก่อตัวเป็นโรคร้าย นั่นคือโรคกลัวการอยู่คนเดียว และวิตกกังวล แถมพ่อกับแม่ก็แยกทาง กัน ความรู้สึกที่กลัวถูกทิ้งของเขากลับมาอีกครั้ง ตอนนี้แม้กระทั่งการท�ำสวนที่เขาชื่นชอบก็ไม่ สามารถช่วยอะไรได้ โชคดีที่ วันหนึ่งแม่ของเขาสามารถสังเกตอาการได้ทัน และพร้อมที่จะช่วย เหลือ ท�ำทุกทางเพื่อให้ลูกชายของเธอสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างปกติ เขาเคยไปหาจิตแพทย์มาแล้ว แต่ตอนนั้นอาการไม่ดีขึ้นเพราะความเจ็บปวดยังคงอยู่ เขายังไม่ กล้าเปิดใจไม่กล้าอยู่คนเดียว ไม่สามารถบอกหมอเกี่ยวกับสาเหตุที่เกิดขึ้นได้ ความทรมานท�ำให้ เขาบอกแม่ว่าจะเลิกไปหาหมอ ท�ำให้แม่ของเขาต้องเป็นคนที่ดูแลเขาด้วยตัวเองด้วยการอยู่กับ เขาตลอดเวลา เป็นการชดเชยให้กับลูกชายของเธอ จนวันหนึ่งเธอรู้สึกว่าอาการของลูกชายเธอ ค่อนข้างที่จะเสถียรมากยิ่งขึ้น ด้วยความอยากให้ลูกของเธอได้ไปเผชิญหน้ากับโลกกว้าง เธอจึง เลือกที่จะส่งเขาเข้าเรียนที่โรงเรียนภายนอก และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด

18


Noel Althony I Emotions ดังนั้นในส่วนของการออกแบบ ด้วยความที่โนเอลเป็นเด็กที่ไม่มีความมั่นใจ ขี้อายและไม่กล้าที่ จะสื่อสารกับคนอื่น จึงเลือกให้ใส่เป็นเสื้อสเวตเตอร์ คลุมด้วยเสื้อแขนยาวตัวใหญ่ ที่เหมือนโอบล้อม ร่างกายของเขา กับกระเป๋าสะพายข้าง และรองเท้า ผ้าใบที่ท�ำให้ขยับตัวง่ายมากยิ่งขึ้น ส่วนโทนสีเพื่อ ใช้สีเขียวเพื่อให้สื่อถึงการรักการท�ำสวน และส่วนอื่นเลือกเป็นสีน�้ำตาลโทนแดงที่เป็นสีคู่ตรงข้าม แต่ ท�ำให้ออกมาลงตัว ส่วนของอารมณ์หลักที่จะแสดงออกมาผ่านทางสีหน้าของเขาก็คือสีหน้าเป็นกังวล และสีหน้าอื่นๆรองลงมา อีกทั้งชุดนี้เป็นชุดที่คล่องกับการท�ำสวนอีกด้วย ด้านล่างเป็นดีไซน์แบบเก่า เป็นเสื้อสเวตเตอร์ตัวเดียว สีพื้นกับที่ห้อยคอรูปผีเสื้อ รองเท้าผ้าใบ ธรรมดา หลังจากทีล่ องรีดไี ซน์ดแู ล้ว รูส้ กึ ว่าแบบเก่าค่อนข้างทีจ่ ะดูธรรมดาและไม่จดจ�ำมากเกินไป ถึง ได้เลือกดีไซน์แบบใหม่ในการใช้งานแทน

Noel Althony

Noel Althony I Color Schemes 19


Noel Althony I Emotions

20

Noel Althony I Dimension


The Sling Backpack -กระเป๋าสะพายข้าง-

กระเป๋าสะพายข้างอเนกประสงค์ของโนเอล ภายนอก อาจจะดูเล็ก แต่สามารถบรรจุสิ่งของได้หลากหลาย ใบนี้เป็น กระเป๋าที่เขาเลือกมาด้วยตัวเอง เนื่องจากชอบท�ำสวน เลยจะมี พรวนติดกระเป๋าของเขามาอยู่เสมอ ส่วนของเพิ่มเติมในกระเป๋า จะประกอบไปด้วย ลูกบอลคลายเครียด เพื่อลดอาการแพนิค ดินสอ หรือของที่ไม่ได้ตั้งใจหยิบมา

Sling Bag I Color Schemes

-Butterfly Keyring“พวงกุญแจรูปผีเสื้อ” ของดูต่างหน้าของแซม ที่โนเอลเก็บไว้กับตัวเสมอ Stress Ball

21


Noel Althony I Nerdy? ซึ่งในดีไซน์ล่าสุดได้เปลี่ยนให้เป็นพวงกุญแจรูปผีเสื้อ เนื่องจาก ความคล่องตัวในการใช้งานเเละความเข้ากันกับดีไซน์ใหม่ แต่ยังคง ความเป็นที่ห้อยคออยู่และมาปรับเปลี่ยนเป็นพวงกุญแจแทน

Symbol.ของเรื่อง ที่เลือกใช้ผีเสื้อ ที่เป็นสัญลักษณ์ของ ความเป็นอิสระ ซึ่งตอนแรกจะใช้เป็นจี้ห้อยคอรูปผีเสื้อ ที่ได้ มาจากแซมพี่ชายของเขา เป็นเหมือนเครื่องเตือนใจ ที่ท�ำให้ รู้สึกยังเหมือนมีพี่ชายอยู่ข้าง ๆ

สัญลักษณ์นี้เป็นเหมือนเครื่องเตือนใจและสิ่งที่ท�ำให้โนเอลยังคง รู้สึกเชื่อมต่อกับแซมพี่ชายของเขา และเป็นเหมือนสะพานในการ ท�ำให้เขาสามารถฟันฝ่าอุปสรรคได้ และรู้ความหมายของการมีชีวิต อยู่อีกครั้ง Butterfly Necklace I Old design

22

Noel Althony I Color Exploration


Noel Althony I 1st design




Samuel Althony Puffy Feet เท้ า ปุ ย

P

uffy Feet หรือเท้าปุย เป็นจิตวิญญาณของแซม หรือซามูเอลอัลโทนี่ พีช่ ายของโนเอล ทีเ่ กิดอุบัติเหตุ ตั้งแต่วัยเด็ก แต่ไม่มีใครสามารถระบุได้ แม้กระทั่งตัวเเซมเอง ว่าปรากฏการณ์การรวมกันของจิตวิญญาณนี้ เกิดขึ้นได้อย่างไร ว่ากันว่า เขาอาจจะเป็นเพียงภาพหลอนจากความทรงจ�ำของโนเอล หรือเป็นจิตวิญญาณ ที่กลับมาช่วยเหลือน้องชายตัวเอง ในการฟันฝ่าอุปสรรค กล้าข้ามผ่านความกลัวในจิตใจก็เป็นได้เช่นกัน เท้าปุย ใน Phobia World นั้น เป็นเหมือนไกด์ ผู้ช่วยของโนเอล คอยช่วยเหลือในเรื่องต่าง ๆ ทั้งยัง คอยอยู่ข้าง ๆ เสมอเมื่อโนเอลมีอาการโรคกลัวการอยู่คนเดียวก�ำเริบ ท�ำให้โนเอลรู้สึกเชื่อใจ และอุ่นใจเมื่อ ได้อยู่ใกล้ ๆ (ซึ่งในตอนแรกโนเอลไม่รู้ว่าเท้าปุยคือเเซม แต่มีความรู้สึกคุ้นลึกอยู่ภายในใจ) คอยช่วยไกด์ ใน การด�ำเนินผ่านด่านต่าง ๆ ว่าควรไปเส้นทางไหน เครื่องมือนี้ใช้อย่างไร คอยปกป้องเมื่อมีภัยอันตราย อีก เรื่องที่ส�ำคัญคือเขาไม่สามารถออกจากร่างจิตวิญญาณแมวได้ด้วยตัวเอง จนตอนสุดท้าย ที่โนเอลตกที่นั่ง ล�ำบาก พวงกุญแจรูปผีเสื้อ ก็เป็นเหมือนสะพานที่น�ำทางแซมไปหาโนเอล ให้ได้พบเจอกันอีกครั้ง เพื่อช่วย รักษาแผลใจของโนเอล ให้ได้รู้สึกถึงชีวิตอีกครั้ง ชีวิตที่เคยลืมเลือนไปครั้งหนึ่งว่าเป็นอย่างไร

Puffy Feet I Normal Ver.

“มันไม่ส�ำคัญหรอกว่าฉันจะเป็นใคร แต่ฉันไม่มีวันทิ้งนายอย่างแน่นอน นายจะรู้เสมอว่ามีฉันอยู่ข้าง ๆ”

26

Puffy Feet I Mini Ver.

Puffy Feet I Evolution Ver.


Puffy Feet I 1st Design

Puffy Feet I Emotions

Puffy Feet Puffy Feet หรือเท้าปุย เป็นแมวที่ไม่ระบุสายพันธุ์แน่ชัด มีสีฟ้าเทา และที่ท้าวทั้งสี่รวมถึงปลายหางเป็นสีขาว ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเท้าปุย(โน เอลเป็นคนตั้งให้) มีใบหูที่เป็นเหมือนกับปีกผีเสื้อ ซึ่งดีไซน์แบบนี้เพื่อจะ ให้เห็นแล้วนึกถึงสัญลักษณ์ของเรื่องซึ่งก็คือผีเสื้อ พลังความสามารถของ เท้าปุย ไม่ได้มีอะไรเด่นชัด เป็นเหมือนกับจิตวิญญาณที่ช่วยน�ำทางให้ กับผู้ที่หลงทาง แต่ความสามารถอีกอย่างที่มี ก็คือการปรับเปลี่ยนขนาด รูปร่าง ไม่สามารถท�ำได้บ่อยเพราะใช้พลังชีวิตเยอะในการปรับเปลี่ยน รูปร่างแต่ละที ส่วนอุปนิสัยข้างในก็คือแซมคนเดิม ในตอนแรกออกแบบให้เป็นสีเทาเข้ม ดีไซน์จะออกมาดูสุขุมมาก กว่า ปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้มีสีสดขึ้นเข้ากับสีของโนเอล และดูสดใสเข้า กับบุคลิกมากกว่า แต่ยังคงไว้ซึ่งขนาดรูปร่างความคล่องแคล่วของร่าง กาย แซมสามารถปรับตัวให้เข้ากับร่างกายของแมวอย่างดีเนื่องจากเคย เป็นนักกีฬามาก่อนด้วย เขามีลายตรงบริเวณจมูก ซึ่งออกแบบให้คล้าย กับลายของผีเสื้อ

Puffy Feet I Sketch

27


Samuel Althony Older Brother ซามู เ อล อั ล โทนี่

ซม หรือซามูเอล อัลโทนี่ พี่ชายคนโตของบ้านอัลโทนี่ เสียชีวิตเมื่อ อายุ 8 ขวบ จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ แซมและโนเอล สนิทกันมากในตอน ที่เขายังมีชีวิติอยู่ เขาเป็นเหมือนแสงสว่าง เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของคนใน ครอบครัว เป็นคนที่น�ำพาเสียงหัวเราะมากับเขาทุกที่ เป็นคนร่าเริงสดใส มี จิตใจที่ดี และมีความเป็นผู้น�ำสูง เเซมชอบเล่นกีฬาหลายชนิดตั้งแต่เด็ก แต่กีฬาที่เขาชอบมากที่สุดคือ เบสบอล เพราะเป็นกีฬาชนิดเเรกที่เขาได้เริ่มเล่นกับพ่อของเขา เขามีดวง ตาสีเขียวสว่าง ตัดกับผิวสีเเทนจากการตากแดดในการเล่นกีฬากลางแจ้ง มานาน เลข 12 ที่เป็นสัญลักษณ์บนเสื้อ เป็นเหมือนลัคกี้นัมเบอร์ของเขา และสีโทนฟ้าเป็นสีประจ�ำตัว และท�ำให้โทนออกมาเข้ากับโนเอล ตัวละคร หลัก เนื่องจากเขามีนิสัยที่แตกต่างจากน้องชายของตัวเอง ที่เป็นคนเงียบๆ ขี้อาย ไม่กล้าเข้าสังคม เขาจึงเป็นเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง และสะพานที่คอย เชื่อมสัมพันธ์ของโนเอลให้เข้ากับทุกคน

“พี่จะคอยอยู่ข้างๆนายเสมอ ไม่ต้องห่วงนะ”

Samuel Althony I 1st Design

Samuel Althony I 8 years old 28


Samuel Althony I Sketch

Noel & Sam I Sam’s Spirit

Samuel Althony I Emotions

Samuel Althony I Sketch Design

Samuel Althony I If he grow up.


SL amuel Althony How he become a spirit?

ต้ น ตอของการกลายเป็ น จิ ต วิ ญ ญาณ ในเย็นวันหนึ่ง วันที่อากาศไม่แจ่งใส ท้องฟ้าสีเข้ม และเมฆฝนสีด�ำที่เข้ามาปกคลุม พื้นที่ เด็กชายตัวเล็กหรือแซม ที่ก�ำลังเดินทางกลับบ้านค�่ำ จากการช่วยเหลืออาจารย์ที่ โรงเรียน ในตอนแรก แม่ของเขาอาสาที่จะมารับแล้ว แต่เขายืนยันว่าสามารถกลับด้วย ตั​ัวเองได้ ด้วยความเขื่อใจ แม่ของเขาจึงตกลง ระหว่างทาง ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงเรื่อย ๆ พร้อมกับหยดฝนที่ร่วงโรยลงมาไม่หนักไม่เบา แซมยิ้มอย่างภูมิใจ ที่เตรียมใส่เสื้อกันฝน ไว้แล้วเรียบร้อย ในหัวก็พลางนึกเรื่องจิปาถะ

30

พลันนึกถึงเรื่องที่อยากจะขอแม่รับเลี้ยงลูกแมวจรที่ศูนย์ เขาเป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือสัตว์ อีกทั้งแมวยังน่ารักและเขาก็ชอบมันมาก อีกไม่กี่บล็อคก็จะถึง บ้านของเขาแล้ว ระหว่างที่เดินเลียบฟุตบาทไปตามขอบถนน กระโดดหลบกองน�้ำ ไปมา พลันสายตาก็ไปสะดุดอยู่ที่กลางถนน ฝ่าละอองฝนไป มีแมวที่ได้รับบาดเจ็บ นอนอยู่ตรงนั้น ไม่ทันได้ไตร่ตรอง เเซมพุ่งตัวเข้าไป หมายจะช่วยเหลือเจ้าแมว แต่ เขาไม่ได้สังเกตถึงไฟสีขาววาบ จากหน้ารถบรรทุกสีขาวคันใหญ่ ที่สาดแสงสว่างจ้า มาในเวลาเดียวกัน จากนั้นทุกสิ่งก็ได้ดับวูบไป



AbigelSingle Althony Mother aka. Mama

อบิ เ กล อั ล โทนี่

บิเกล อัลโทนี่ แม่ของโนเอลและซามูเอล อายุ 32 ปี มีอาชีพเป็นนักเขียน ปัจจุบันเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เนื่องจากปัญหาครอบครัวที่เกิดขึ้นหลังจากลูกชายคน โตเสียชีวิต ท�ำให้ครอบครัวไปกันไม่รอด ท�ำให้เธอพาโนเอลแยกออกมา หลังจาก การแยกทางกับสามี ท�ำให้เธอเขวไปช่วงหนึ่ง แต่ด้วยความเข้มแข็ง และจิตใจที่ แข็งแกร่งของเธอ ท�ำให้เธอสามารถประคับประคองครอบครัวต่อไปได้ ด้วยความ ที่ต้องเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวและท�ำงานหนัก ท�ำให้ก่อนหน้านั้น เธอไม่ได้สังเกต อาการของลูกชายคนเล็กมากนัก การไม่มีเวลา ขาดความเอาใจใส่ ท�ำให้หลาย ๆ สิ่งมันสายเกินไป หลังจากอาการแพนิคหลายรอบของลูกชายเธอก�ำเริบ ท�ำให้ต้องติดต่อเข้า รับการวินิจฉัย และพบว่าเขาเป็นโรคกลัวการอยู่คนเดียว จากความบอบช�้ำใน อดีต เธอเฝ้าแต่คอยโทษตัวเอง และสัญญาว่าจะกลับมาดูแลเขาอย่างดีอีกครั้ง ท�ำให้ปัจจุบัน เธอท�ำ Home Office ของตัวเอง เพื่อที่จะได้สังเกตอาการของ ลูกชายเธอได้ และตัดสินใจให้โนเอลเริ่มเรียน Home School ไปก่อน ก่อนที่ เธอจะค่อยให้ลูกชายปรับตัวไปตามล�ำดับ

Abigel Althony I Potrait

ในส่วนการออกแบบ อบิเกลเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีความเข้ม แข็ง และท�ำงานอยู่ที่บ้าน จึงออกแบบชุดให้มีความสบาย เป็นชุด ผ้าลื่น คล่องตัว และใช้โทนสีโทนเดียวกับโนเอล และแซม เพื่อให้ สื่อถึงความเป็นครอบครัว อีกทั้งยังมีสีตาสีเดียวกับแซม และผมสี น�้ำตาลเหมือนโนเอล

32


Abigel Althony I Color Schemes

ดีไซน์ คุณแม่นักเขียน มีความเข้มแข็งที่แฝงไปด้วยความอ่อนโยน คอย อยู่ข้างๆ และให้ก�ำลังใจโนเอลมาตลอด และสัญญากับตัวเองว่าเธอจะดูแล ลูกชายของเธอในดีที่สุดให้ได้ Abigel Althony I Potrait

Abigel I 1st Design

Abigel and Noel I Elevator in their apartment



Polaroids



SEction 2

เพื่ อ นร่ ว มชั้ น

T He T heclassmate classmate


Jasmine Lily Classmate , Noel's crush จั ส มิ น ลิ ล ลี่

จั

สมิน ลิลลี่ เพื่อนร่วมชั้นของโนเอล(และเป็นคนที่โนเอล แอบปลื้ม) จัสมินควบต�ำแหน่งหัวหน้าห้อง และหัวหน้าชมรม วารสาร เป็นเด็กเก่ง กล้าแสดงออก และเป็นคนเดียวที่คุยกับ โนเอลได้ ในขณะที่คนอื่นส่งสายตาเหยียดยันมาให้ ความน่า รักและแสนดีนี้ ท�ำให้หลายคนแอบชอบเธอได้ไม่ยากเลย นอก จากนั้น เธอยังเป็นคนที่ช่วยเหลือโนเอลจากการถูกกลั่นแกล้ง จากฟิตซ์อีกด้วย ส�ำหรับในส่วนของการดีไซน์ ออกแบบจัสมินให้ดูมีภาพ ลักษณ์ที่เป็นคนอ่อนโยน เรียนเก่ง ชอบช่วยเหลือผู้อื่น จึง เลือกโทนสีอบอุ่น ที่มีคู่สีตรงข้ามกับโนเอล มาใช้ในการ ออกแบบ รวมถึงเสื้อเบลเซอร์พอดีตัว คล่องแคล่วในการ ท�ำงานโรงเรียน และงานชมรม และเสื้อยืดด้านใน ที่มีลาย ดอกจิสมิน หรือดอกมะลิปักอยู่ เพื่อให้สื่อถึงชื่อของเธอนั่นเอง

Jasmine I Sketch

"I love a cat pen!" -Jasmine-

Jasmine I Sketch 38


จัสมินเป็นคนที่คอยให้ความช่วยเหลือกับเพื่อน ๆ และคนรอบตัว มี ความเป็นผู้น�ำสูง กล้าแสดงออก และได้เป็นตัวแทนในการไปประกวด แข่งขันหลายอย่าง ดังนั้นเธอจึงเป็นเหมือนคนที่คอยดูแลความเรียบร้อย ของโรงเรียนไปโดยปริยาย และการเป็นหัวหน้าชมรมวารสารด้วยแล้ว โรงเรียนก็กลายเป็นเหมือนแหล่งกบดานที่สองของเธอเลยล่ะ ในระหว่างทางเธอจะพกหนังสือลายจุด และปากกาแมวอันโปรดของ เธอไปด้วยทุกที่ เมื่อเธอเจอสิ่งที่น่าสนใจ ก็พร้อมที่จะจดมันลงไปได้ทุก เมื่อ (และยังพร้อมให้ทุกคนยืมได้เสมอ จึงไม่แปลกที่ทุกคนในโรงเรียนจะ รู้จักเธอ

Jasmine Lily I Emotions

Jasmine Lily I SIXXFRIIFAY 39


ฟิ ต ซ์ ร็ อ ค

Fitsh Rock Classmate , The bullies ฟิ

ตซ์ ร็อค เพื่อนร่วมห้อง ควบต�ำแหน่งเพื่อนข้างบ้าน ที่จริงเขาต้องจบจาก Primary School ไป นานแล้ว แต่ด้วยความเกเร ท�ำให้เขาต้องเรียนซ�้ำชั้นหลายปี จึงไม่แปลกที่หลายๆคนจะกลัวเขา อีก ทั้งเขายังเป็นหัวโจกประจ�ำโรงเรียน ชอบกลั่นแกล้งคนอื่น แต่จะมีเป้าหมายในใจอยู่ไม่กี่คน คนที่ อ่อนแอ ไร้ทางสู้ และคนที่เขาคิดว่าน่าหมั่นไส้ และโนเอลก็เป็นหนึ่งในนั้น ด้วยความที่เคยเป็นเพื่อน บ้านกันมานาน ท�ำให้ฟิตซ์รู้ปมหลังและปมด้อยของโนเอล และใช้สิ่งเหล่านั้นมาคอยกลั่นแกล้ง ฟิตซ์ จะมีกลุ่มเพื่อนอีกสองคน ซึ่งเป็นฝาแฝดกัน จะเรียกว่ากลุ่มเพื่อนก็คงเรียกได้ไม่เต็มปาก เหมือนคนที่ ชอบคอยกลั่นแกล้งคนอื่น แล้วมารวมตัวกันก็ว่าได้ ดังนั้นกลุ่มนี้เลยเป็นเหมือนกลุ่มเด็กเกเร ที่คนใน โรงเรียนกลัว และพยายามเลี่ยงให้ได้ในทุกโอกาส แต่แย่ส�ำหรับโนเอล ตรงที่เขาดันอยู่ห้องเดียวกับ ฟิตซ์ ท�ำให้การหลีกเลี่ยงจะยากขึ้นอีก จะให้ปลีกไปอยู่คนเดียวก็ท�ำไม่ได้ สาเหตุที่ท�ำให้ฟิตซ์แกล้งโนเอล เนื่องจากการไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนจากผู้ใหญ่เอง หรือจาก ทางโรงเรียนเองให้ดี และปัญหาทางครอบครัว ท�ำให้เขาเก็บความเครียดมาลงที่คนอื่น และคิดว่า อาการแพนิคของโนเอลเป็นแค่เรื่องที่เขาสร้างขึ้นมาเอง เพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนอื่น การที่ คนแบบนี้ได้รับความสนใจ เป็นสิ่งที่เขายอมได้ยาก จึงเริ่มต้นการกลั่นแกล้ง และท�ำให้เด็กคนอื่นใน โรงเรียนไม่กล้าเข้ามาให้ความช่วยเหลือโนเอลเลย ป้ายชื่อทางการทหารของพ่อของเขาที่ห้อยไว้กับตัวเสมอ พ่อของ เขาให้ไว้ ก่อนที่เขาจะไม่ได้เจอพ่ออีกเลย และต้องอดทนกับพ่อเลี้ยง เวลาเขาใช้ความรุนแรงใส่ทั้งเขา และแม่ของเขา

40

Fitsh Rock I Soldier tag


Fitsh Rock I Sketch Design ส่วนของการดีไซน์ เลือกใช้สีเข้มอย่างสีด�ำเป็นส่วน ใหญ่ สื่อถึงความแข็งแรง และความหม่นหมองในจิตใจ ของเขา ที่ต้องน�ำมาระบายกับคนภายนอก เพราะเขา ไม่สามารถจัดการกับอารมณ์โกรธในจิตใจของตัวเองได้ ในตอนแรกดีไซน์ให้ดูออกมาคล้ายกับทหารตามพ่อ ของเขา แต่ดูโตจากวัยคนอื่นมากเกินไป จึงปรับอายุลง

Fitsh Rock I Portriat Fitsh Rock I Sketch

Fitsh Rock I Sketch

Fitsh Rock I Sketch



Characters


SEction 3

Wingston School

Principle

-Arthur Woodlandอาเธอร์ วูดแลนด์

Teacher

-Anna Kellแอนนา เคล

โรงเรียนวิงซ์ตัน โรงเรียนของเด็กๆ ชั้นประถมถึงม.ต้น ผู้อ�ำนวยการคนปัจจุบันคือนาย อาเธอร์ วูดแลนด์ และอาจารย์ประจ�ำชั้นของโนเอลคือนางแอนนา เคล ที่ก�ำลังตั้งครรภ์อยู่ โรงเรียนวิงซ์ตันอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านของโนเอลมากนัก แต่เขาเดินทางมาด้วยรถยนต์กับ แม่ เพื่อให้มั่นใจว่าเขามาถึงโรงเรียนอย่างปลอดภัย โรงเรียนวิงซ์ตัน มีสัญลักษณ์ประจ�ำโรง เรียนคือนกเหยี่ยว และสีประจ�ำโรงเรียนคือ สีแดงเลือดหมู และเหลืองเข้ม ที่นี่เป็นโรงเรียนขนาดกลาง มีการเรียนที่เข้มข้น ไม่มียูนิฟอร์มของโรงเรียน แต่มีกฏใน การใส่ชุดตาม Dress code เป็นโรงเรียนที่ค่อนข้างเก่าแก่ ปรับปรุงภายในให้ดูโมเดิร์น แต่ ยังคงไว้ด้วยสถาปัตยกรรมแบบเก่า ที่ยังคงดูร่วมสมัย ท�ำให้โรงเรียนไม่ได้เป็นทรงมินิมอล แบบในปัจจุบัน แต่ก็เป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพ และเด็ก ๆในชุมชนก็เลือกที่จะเข้าเรียนที่นี่ เช่นกัน

44




< ป้ายชื่อโรงเรียนวิงซ์ตัน ป้ายชื่อโรงเรียนที่ถูกติดตั้งไว้บริเวณทางเข้าอาคาร โรงเรียนอยู่บริเวณติดถนน ท�ำให้การสัญจรค่อนข้างวุ่นวาย ในตอนเช้า ทั้งรถของทางโรงเรียน และรถของผู้ปกครอง

อาคารเรียนที่มีสีเข้ากับตราสัญลักษณ์ของโรงเรียน มีสถาปัตยกรรม ร่วมสมัย ที่ดูแล้วยังสบายตา ไม่โมเดิร์นจนเกินไป อาคารอิฐสีแดงนี้เป็น อาคารหลักที่เชื่อมกับโถงทางเดิน ตู้ล็อคเกอร์ของนักเรียน เพื่อน�ำไปสู่ส่วน อาคารอื่น ๆ ที่นักเรียนจะได้เข้าไปใช้ ทั้งห้องเรียน ห้องสมุด ห้องอาหาร ห้องน�้ำ และอุปกรณ์อ�ำนวยความสะดวกอื่น ๆ


WS. School I Classroom

WS. School I Restroom


ห้องเรียนของโนเอล ห้องน�้ำที่เกิดเหตุ ห้องอาหาร และ โถงทางเดินตู้เก็บล็อคเกอร์ ของนักเรียนวิงซ์ตัน ไม่ต่างจาก ภายนอก ภายในอาคารก็ยังคงความร่วมสมัย เฟอร์นิเจอร์ ส่วนใหญ่ เป็นไม้ที่แข็งเเรง ทนต่อการใช้งานของเด็กๆ แต่ก็ ยังมีอุปกรณ์ที่ทันสมัยเพิ่มเติม

v WS. School I Locker

^ WS. School I Fitsh & Twin in the canteen

สิ่งอ�ำนวยความสะดวกอื่น ๆของโรงเรียน ป้าย บอกทางเพื่อลดความวุ่นวายของการจราจรในตอน เช้า ถังแยกขยะ(ที่ไม่ค่อยมีคนแยกเท่าไหร่) ไฟทาง ที่ช่วยให้ความสว่างระหว่างทาง ช่วยเพิ่มความรู้สึก ปลอดภัยให้กับนักเรียนมากยิ่งขึ้น ตามในเนื่อเรื้องสถานที่ที่เกิดเหตุหลัก ๆ คือ ภายในห้องเรียน โถงทางเดิน และบริเวณห้องน�้ำ ส่วนที่โนเอลโดนขังคือ ส่วนที่เป็นห้องเก็บอุปกรณ์ ท�ำความสะอาดที่อยู่ด้านในสุดของห้องน�้ำ



section 4

Phobia world -เดินทางเข้าสู่โลกแห่งความกลัว-



la foresta The cursed nymph

“La Foesta” เป็นภาษาอิตาลี ที่เเปลว่า ป่า ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโรคกลัวป่า Hylophobia และ นางไม้ต้องค�ำสาปหรือ “The cursed nymph” ที่ได้แรงบันดาลใจ จากสิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นในป่า ท�ำให้เกิดเป็นหนึงในจิตวิญญาณต้องค�ำสาป ในโลกแห่งความกลัว


the cursed nymph

นางไม้ตอ้ งค�ำสาป

างไม้ต้องค�ำสาป หรือ The cursed nymph เป็นจิตวิญญาณต้องค�ำสาป ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากโรคกลัวป่า หรือ Hylophobia โรคกลัวป่า หรือ Hylophobia เป็นโรคกลัวชนิดหนึ่ง ที่อาจเกิดขึ้นจากความ กลัวของหลาย ๆสิ่งรวมกัน เช่นกลัวความมืดในป่าลึก กลัวสัตว์ร้าย กลัวรูปทรงหรือ เสียงของป่า หรือแม้แต่หนังสยองขวัญเกี่ยวกับป่า ก็อาจท�ำให้เกิดความกลัวเช่นกัน รวมทั้งการกระตุ้นภายนอกอื่น เช่น การเคยเกิดอุบัติเหตุในป่า การถูกท�ำร้ายจาก สัตว์ป่าในยามวิกาล หริอความกลัวว่า ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นในนั้น จะไม่มีใครรับรู้เรื่อง ราว และไม่มีใครมาช่วยได้ทัน ก็สามารถท�ำให้เกิดอาการของโรคกลัวได้ และอาการ ของผู้ป่วยจะแย่มากขึ้นในเวลากลางคืน ทั้งความกลัวจากเรื่องเล่าในป่า ต�ำนานของปีศาจ ผี และแม่มดในป่า อย่างเช่น ในภาพยนตร์เรื่อง Blair Witch Project ซึ่งเป็นส่วนหลักที่ดึงมาใช้ในการออกแบบ หลักคือ ต�ำนาน พิธีกรรม และความเชื่อในป่า โดยเลือกความเชื่อเกี่ยวกับ Voodoo Magic มาใช้ จากการค้นหาข้อมูล เกี่ยวกับศาสตร์นี้ มีความเกี่ยวข้องกับป่าลึก มี พิธีกรรมที่เกี่ยวข้องธรรมชาติ ทั้งความสวยงาม และความลึกลับ น่าค้นหา และยังมี มนตร์ขลัง มีพลังงานบางอย่าง ซึ่งยกมาใช้ในการออกแบบเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะ ดูหมิ่นความเชื่อของผู้อื่นแต่อย่างใด โดย Voodoo Magic ที่เลือกมาประกอบการ ออกแบบคือ Louiciana’s Voodoo ซึ่งเป็นความเขื่อเก่าแก่ เกี่ยวกับป่าลึกพิธีกรรม และของประกอบพิธีกรรม รวมทั้งความเชื่อเกี่ยวกับเทพเจ้าต่างๆ ที่เกี่ยวกับ ศาสตร์ความเชื่อนี้เช่นกัน


ในการออกแบบ ดึงส่วนส�ำคัญที่เกี่ยวกับศาสตร์วูดูมาใช้ อย่างเช่น เครื่องแต่งกาย ของประกอบพิธีกรรม เครื่องประดับในพิธี อย่างที่ยกมา ก็ึคือเครื่องแต่งกายจากผ้าดิบ น�ำมาตัดเย็บเป็นชุดกระโปรงตามชนเผ่า เครื่องประดับ เครื่องราง ที่หญิงสาวในชนเผ่าชอบใส่กัน เพื่อความสวย งาม และเพื่อความเชื่ออื่น ๆ และเขาที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก การใช้ หัวกระโหลกของกระบือ ในการประกอบบพิธีกรรมต่าง ๆ จึงยกในส่วน นั้นมาใช้ และเพื่อให้เห็นแล้วนึกถึงป่า จึงออกแบบผม ให้เป็นเหมือนกับ รากไม้ ที่สามารถควบคุมได้ตามใจนึก แต่ต้องร่ายคาถาเพื่อใช้งาน ครั้งหนึ่งเคยเป็นอาวุธของคาโลมาก่อนที่จะโดนค�ำสาป > สิ่งนี้คือคบเพลิง ที่เธอใช้น�ำทางผู้บุกรุกไปยังหมู่บ้านของเธอ หลังจากที่ โดนค�ำสาป ท�ำให้คบเพลิงนี้ติดค�ำสาป และกลายเป็นของต้องมนตร์

^ Voodoo Dolls I Design ตุ๊กตาวูดูที่เป็นหนึ่งในสิ่งของส�ำคัญที่เป็นสิ่งที่ใช้สะกด วิญญาณของหญิงสาวไว้ ให้มีแต่ความโกรธเเค้น เครื่องราง นี้ ไม่ได้มีแค่ใช้ก่อให้เกิดความเจ็บปวดกับผู้ที่ถูกใช้งาน แต่ ในอีกกรณีหนึ่งก็เป็นเหมือนเครื่องรางที่คอยคุ้มครองผู้ใส่ เช่นกัน

^ Torch stick I Design 55


Carloa I The nymph

Carloa I The nymph sketch ดีไซน์เก่า ที่ออกแบบโดยอิงจาก รูปทรงของ Puppet ที่เป็นเหมือนเครื่องรางที่ท�ำจากไม้ แต่ปรับเปลี่ยนดีไซน์เพราะดูเหมือนเทพมากกว่าปีศาจมากเกินไป ดีไซน์ไม้คบเพลิง เป็นไอเทมที่โนเอลได้รับหลังจากสามารถเข้าใจโรคกลัวป่า > และผ่านด่านนี้มาได้แล้ว เป็นเหมือนของแทนค�ำขอบคุณจากคาโล วิธีการใช้งานคือ ร่ายคาถา แล้วไฟสีเขียวเรืองจะติดขึ้นมา 56

Torch Sticks I sketch


lนางไม้ต ้อ งค� ำ สาปl พลังอ�ำนาจของค�ำสาป จะท�ำให้กลายร่างเป็นปีศาจนางไม้ที่ต้องทนทุกข์ทรมาณ มองทุกสิ่งเป็นสิ่งที่จะเข้ามา บุรุกป่า และท�ำอันตรายตน สายตาพร่ามัว ถ้าหากยังไม่ได้ท�ำลายค�ำสาป จะไม่สามารถเรียกสติของคาโลกลับมา ได้ ในตอนนี้นางไม้ต้องค�ำสาป จะเห็นป่าเป็นสถานที่อันตรายและมืดมน ดังนั้นเธอจะพุ่งเข้าไปท�ำร้ายทุกคนที่ หลุดเข้ามายังป่าของเธอ โดยปกติ เธอจะกบดานอยู่ที่แหล่งกบดานของเธอ ซึ่งเป็นต้นไม้ใหญ่ที่สุดในป่าแห่งนี้ และจะตื่นขึ้น เมื่อรับรู้ถึงผู้บุกรุก

Carloa I The nymph sketch ตุ๊กตาวูดู ส่วนส�ำคัญของเรื่องในการ ผ่านด่าน เจ้าตุ๊กตาวูดูนี้เป็นสิ่งที่คอยสะกด วิญญาณของนางไม้ต้องค�ำสาปไว้ วิธีการผ่านนี้ด่านคือ ต้องท�ำลาย ตุ๊กตา 9 ตัว ที่ซ่อนไว้ตามป่า นั่นจะท�ำให้ ป่าที่เคยมืดมนและน่ากลัว กลับมามีชีวิต และดูมีเวทมนตร์อีกครั้ง และนั่นจะท�ำให้ สามารถดึงสติของคาโลกลับมาได้

Voodoo dolls I Sketch design

Carloa I The nymph 1st design 57


the tribe ชนเผ่า

ลรา ลูกสาวคนโตของหัวหน้าเผ่า ผู้เป็นเหมือนความหวังของหมู่บ้าน เธอมีสาย เลือดบริสุทธิ์ในการที่จะรับช่วงต่อเป็นโซบ๊อป หรือหมอผีประจ�ำหมู่บ้าน เพื่อช่วยปกปักษ์ รักษาผืนผ่า มอบความหวัง ความสงบสุขให้กับชุมชน แต่ไม่ใช่กับคาโล ลูกสาวคนเล็ก เธอไร้ พลัง และขี้อิจฉา เธออิจฉาพี่สาวของเธอมาตลอด จนกระทั่งวันหนี่ง กลุ่มชาวผิวขาวได้เดิน ทางมาถึงยังหมู่บ้านแห่งนี้ และต้องการที่จะยึดครอง ชาวบ้านต่างลุกฮือขึ้นปกป้องหมู่บ้าน แต่คาโลไม่คิดเช่นนั้น ด้วยความโลภ อยากได้อยากมี คาโลติดต่อกับผู้บังคับบัญชาของชาว ผิวขาว และร่วมมือกัน หวังที่จะยึดครองหมู่บ้าน และเธอจะได้ปกครองหมู่บ้านทั้งหมด คาโลกับชนชาวผิวขาว ร่วมมือกัน เผาท�ำลายหมู่บ้าน คร่าชีวิตชาวบ้านไปมากมาย ไลรา อพยพกลุ่มคนที่เหลือรอดเข้าไปในป่า พวกเขาสวดอ้อนวอนต่อจิตวิญญาณแห่งธรรมชาติ เทพี และเทพารักษ์ผู้ดูแลป่า ได้มอบพลังให้กับไลรา เธอรวบรวมก�ำลังพลที่เหลือ พักผ่อน และเตรียมพร้อมให้เต็มที่ ก่อนที่จะพร้อมต่อสู่กับศัตรูเพื่อทวงคืนบ้านของเธอ ในการเผชิญหน้า ทั้งสองฝ่ายต่างห�้ำหั่นกัน เลือดสีแดงสาดนองทั่วพื้น ไฟไหม้โหม และควันคลุ้งจนบดบังทัศนวิสัย ในขณะที่ไลราก�ำลังต่อสู้กับเหล่าคนผิวขาว คาโลใช้จังหวะ ทีเผลอ จะใช้มีดจ้วงแทงใส่พี่สาวของเธอ ไลราไม่ทันได้ระวังตัว เธอยกแขนขึ้นป้องกันตัว ใน ขณะที่ความเงียบเกิดขึ้น เธอเงยหน้าขึ้นมา และพบว่าพ่อของเธอได้น�ำตัวเข้ารับการโจมตี นั้นไว้ เขาล้มลงกองที่พื้นแทบทันที ไลรากรีดร้องก่อนจะวิ่งเข้าไปประคอง ก่อนจะพบว่าเขา ได้สิ้นลมหายใจไปแล้ว ด้วยความโกรธแค้น เธอได้ระเบิดพลังที่อยู่ภายในตัวของเธอออก มา ร่างการของเธอ เปล่งแสงพลังแห่งธรรมชาติ พุ่งเข้าก�ำจัดเหล่าศัตรูจนราบคาบ จนเหลือ เพียงแค่เธอ ชาวบ้าน และคาโล ด้วยความโกรธแค้น เธอได้เอ่ยค�ำสาปแช่งใส่ผู้น้อง ‘เจ้าจะต้องกลายเป็นวิญญาณชั่วร้าย ที่หิวโหย เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน ไม่สามารถหลีกลี้หนีออกจากพงไพรได้อีก เจ้าจะต้องปกปักษ์ป่าแห่งนี้ไปชั่วกัปชั่วกัลป์’

Carloa I Younger sister

58

Lyra I Older sister


ภาพของคาโลที่กลายเป็นปีศาจ จากความโกรธแค้นของคนในหมู่บ้านและ จิตวิญญาณ เธอกลายร่างหน้าต้นไม้ขนาด ใหญ่ ซึ่งกลายเป็นที่กบดานในภายหลัง

Carloa I Turn to the curesd nymph >


la foresta lป่ ามนตราl

ป่ามนตรา เป็นป่าวิเศษ ที่โอบล้อมไปด้วยความมหัศจรรย์ ความลึกลักของผืนป่า ในสมัย ก่อนเป็นเหมือนแหล่งที่อยู่อาศัยของชุมชน แต่หลังจากเกิดเรื่องราวที่น่าสลดใจท�ำให้เหลือเพียง แต่นางไม้ต้องค�ำสาปเพียงผู้เดียว ที่โดนสาบไว้เพื่อให้ปกปักรักษาผืนป่านี้ ไม่มีผู้ใดมาบุกรุกได้อีก ในส่วนของการออกแบบต้นไม้ในป่า ส่วนใหญ่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ต้นไม้ของประ เทศหลุยเซียน่า ที่เป็นต้นไม้ในเขตร้อนชื้น มีแหล่งน�้ำประปราย ต้นไม้มีขนาดใหญ่เป็นที่อยู่อาศัย ของสัตว์ต่างๆ

60



lป่ ามนตราl แหล่งกบดานของนางไม้ต้องค�ำสาป ได้แรงบันดาลใจมาจากต้นโอ๊คแดง ที่เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ มีอายุเก่าแก่ของ Louisiana ซึ่งเกี่ยวข้องกับศาสตร์ ทาง Voodoo เช่นกัน จึงใช้ต้นโอ๊คแดงเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ ร่วมกับสัญลักษณ์ของ Baron Samedi. ที่เป็นสัญลักษณ์ของเทพเจ้าแห่ง ความตาย ที่เป็นรูปทรงเหมือนกางเขน ที่มีหน้ากาก 3 อัน งูสีด�ำตัวใหญ่ และบริเวณรอบๆ จะมีของประกอบพิธีกรรมกระจัดกระจาย ทั้ง Puppet และกระโหลก

The cursed tree I Sketch 62

The cursed tree I Sketch





The nymph


The nymph I Gift

หลังจากที่ถอนค�ำสาปได้แล้ว ป่ามนตราก็กลับมาสวยงามดังเดิม สติของคาโลกลับมา ได้เห็นผืนป่าที่สวยงาม ท�ำให้รู้สึกเข้าใจแล้ว ว่าท�ำไมพี่สาวของตนถึงได้เสียสละชีวิตตัวเองในการปกป้องผืนป่าแห่งนี้ หลังจากที่เธอได้สติ เธอก็ได้มอบคบเพลิงให้กับโนเอล สัญญาว่า จะดูแลผืนป่านี้ต่อไป





la tana

Grief Mud Man

“La Tana” เป็นภาษาอิตาลีที่แปลว่า ถ�้ำ ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก โรคกลัวที่ แคบ Claustrophobia และมนุษย์โคลนที่โศกเศร้า หรือ “Grief Mud Man” ได้รับ แรงบันดาลใจมาจาก ที่แคปจากการติดอยู่ในถ�้ำ ท�ำให้เกิดเป็นหนึ่งในจิตวิญญาณต้อง ค�ำสาป ในโลกแห่งความกลัว


grief mud man

มนุษย์โคลนผูโ้ ศกเศร้า

นุษย์โคลนผู้โศกเศร้า หรือ Grief Mud Man เป็นจิตวิญญาณ ต้องค�ำสาป ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากโรคกลัวที่แคบ หรือ Claustrophobia โรคกลัวที่แคบหรือ Claustrophobia เป็นกลุ่มอาการวิตกกังวล ผิดปกติเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกท�ำให้อยู่คนเดียวในบริเวณที่ปิด ล้อมอยู่ในพื้นที่แออัด เช่นลิฟท์ที่เต็มด้วยคนเยอะๆ กล่าวว่าสาเหตุ ของการเป็นโรคกลัวที่แคบเกิดจากความผิดปกติของสมองในส่วนที่ ควบคุมความรู้สึกกลัวและหวาดระแวง บ้างก็ว่าสามารถเกิดได้จาก เหตุการณ์ฝังใจในวัยเด็ก เช่น การถูกกลั่นแกล้ง การถูกกักขัง หรือ อุบัติเหตุที่ท�ำให้ต้องติดอยู่ในที่แคบ ซึ่งส่งผลให้บริเวณที่มีพื้นที่จ�ำกัด ที่อื่นๆเช่นกัน เช่นในตู้เสื้อผ้า รถไฟใต้ดิน หรืออุโมงค์ ในการออกแบบ เลือกใช้ความกลัวที่แคบเกี่ยวกับถ�้ำ โดยเลือกใช้ เป็นถ�้ำหินปูน ที่อยู่ในเขตร้อนชื้น ท�ำให้มีน�้ำขังอยู่ภายใน และท�ำให้ ดินที่อยู่ในถ�้ำเป็นเหมือนโคลนได้ โดยตัวปีศาจโคลน จะอาศัยอยู่ใน ถ�้ำแห่งนี้ ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจมาจาก wendigo เป็นรูปร่าง หัวกะโหลกสัตว์ สามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนในถ�้ำเป็นเหมือน กับความสามารถของมนุษย์โคลนตัวนี้เป็นทางผ่านไปสู่ความตาย

Mud man I Design


Mud man I Sketch design

Mud man I Power ปกติถ้าหากเข้ามาในถ�้ำจะถูกจับตามองอยู่ แล้ว แต่ถ้าหากเข้ามาในส่วนที่แคบที่สุด ซึ่งเป็น เหมือนที่อยู่หลักของมนุษย์โคลน การเข้าใกล้จะ กระตุ้นมนุษย์โคลน ให้เข้ามาท�ำร้ายผู้บุกรุกด้วย ความสามารถคือบีบอัดท�ำให้ผู้บุกรุกขาดอากาศ หายใจ

< Mud man I Mud man abilities Mud man I Sketch design >


มนุษย์โคลนสามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากผู้บุกรุก ได้ แต่จะไม่ท�ำอะไรจนกว่าจะรู้สึกว่ามีภัยคุกคาม ซึ่งตัวกระตุ้นก็ คือการเข้าใกล้ถึงที่อยู่ของมนุษย์โคลนเข้าเรื่อย ๆ บริเวณนั้นเป็น ส่วนที่แคบที่สุดของถ�้ำ จากค�ำบอกเล่าของเท้าปุยการเดินทางผ่าน ถ�้ำนี้คือ การเดินตามแสงสว่างจากดอกไม้เรืองแสง ที่ถูกสร้างขึ้น มาโดยผู้น�ำทาง ซึ่งมีเรื่องเล่าว่า เมื่อนานมาแล้ว ผู้น�ำทางผู้นี้จะเป็นคนน�ำทาง ผู้ที่ผ่านเข้ามาในถ�้ำ เพื่อให้ไปถึงอีกฝั่งได้โดยปลอดภัย และมีหญิง สาวคนหนึ่ง เธอมาพร้อมกับคบเพลิงรูปร่างแปลก ๆของเธอมาตี สนิทเขา ท�ำให้เขาเชื่อใจในตัวเธอ เธอคนนั้นก็คือคาโลนั่นเอง เธอ ซื้อความเชื่อใจของผู้น�ำทาง และน�ำเหล่าทหารจากต่างแดน เดิน ทางไปบุกยังผืนป่าของชนเผ่าของเธอ หลังจากที่ได้รู้ว่าการน�ำทาง ของตัวเองนั้น น�ำไปสู่ความตายมากมาย ท�ำให้ความด�ำมืดในจิตใจ ครอบง�ำตัวของเขา และกลายเป็นหนึ่งในจิตวิญญาณชั่วร้ายของ โลกแห่งความกลัว

Mud man I Sketch

< ภาพของโนเอล ที่หลงเดินเข้าไปในจุดที่ลึกที่สุดของถ�้ำ และถูกบีบอัดเข้ามาด้วยพลังของมนุษย์โคลน

Noel I Face with Mud man 74

Gypsum Flower I Sketch


Mud man I Awake

Mud man I Rest Pose มนุษย์โคลนในโหมดปกติ จะเป็นเหมือนโทรลล์ ที่จะอยู่ในรูปร่างแข็งนิ่งเหมือนก้อนหิน ไม่ขยับตัว

Mud man I Hiding 75


la tana lถ�้ ำ แห่ ง แสงl

ถ�้ำแห่งแสงเป็นถ�้ำที่ใช้ในการเดินทางผ่านโลกแห่งนี้ โดยที่เรานักเดินทางจะไม่สามารถเดิน ทางผ่านด้วยตัวเองได้ จะต้องให้ผู้น�ำทางเป็นผู้ท่ีน�ำไปสู่ทางออก ซึ่งผู้น�ำทางจะคอยสร้างเส้น ทางใหม่ๆอยู่เสมอ โดยสังเกตได้จากดอกไม้เรืองแสงที่อยู่ภายในถ�้ำ ในถ�้ำแห่งนี้จะมีส่วนที่เป็น ห้องโถงขนาดใหญ่ และจุดที่แคบที่สุด เส้นทางมากมายที่สร้างขึ้นมาภายในนั้นนับไม่ถ้วน เป็น สาเหตุที่คนธรรมดาไม่สามารถที่จะเดินทางผ่านถ�้ำแห่งแสงได้ด้วยตัวเอง ถ�้ำแห่งแสงนี้ได้รับ แรงบันดาลใจมาจากถ�้ำหินปูน ศึกษารูปทรงของเสาหิน และหินงอก หินย้อย และใช้โทนสีที เป็นสีแดงม่วงที่สื่อถึงถ�้ำ

76



Ho w to enter the ca ve ?

-การเดินทางเข้าถ�้ำ-

การเดินทางเข้าถ�้ำแห่งแสง ไม่สามารถระบุจุดที่ชัดเจนในการ เข้าได้ ทางเข้าของถ�้ำจะปรากฏในที่ที่ไม่มีใครรู้ ซึ่งหลังจากที่ป่า กลับมาเป็นปกติ ท�ำให้ประตูของถ�้ำเปิดขึ้น ใต้ต้นโอ๊คแฝด ที่มีใบ ร่วงหล่นอยู่ที่พื้น ท�ำให้โนเอลไม่เห็นทางเข้าถ�้ำที่อยู่บริเวณหลุด เข้ามายังถ�้ำแห่งแสงแห่ง ด้วยความที่เป็นหลุมลึก ท�ำให้พวกเขา ไม่สามารถกลับทางเดิมได้ ทั้งสองจึงจะต้องหาทางออกด้วยการ เดินเข้าไปข้างในลึกยิ่งขึ้น มาตามหาเส้นทางของผู้น�ำทาง

< Maple Tree I Sketch design


แต่มนุษย์โคลนก็ยังมีจุดอ่อน ที่สามารถช่วยให้ชะลอพลังของมนุษย์โคลนได้ ซึ่งก็คือการใช้ไฟ คบเพลิงของโนเอลสามารถชะลอและไล่ให้มนุษย์โคลนถอยหนีไปได้ หลังจากท�ำภารกิจส�ำเร็จ มนุษย์โคลนจะท�ำให้ท�ำกลับมาเป็นเส้นทางในการเดินทางที่สวยงามเหมือนเดิม

ต้ น เมเปิ ้ ล สองต้ น ที่ เ กิ ด ข้ า งกั น จน ท�ำให้ใบเมเปิ้ลร่วงหล่นลงมาจนมองไม่เห็น ทางเข้าถ�้ำที่อยู่บริเวณพื้น >

Twin Maples I Sketch design >

^ The cave I Sketch design






Mud man made Gypsum Flowers I Sketch มนุษย์โคลนได้มอบของขวัญตอบแทนให้กับโนเอล นั่นคือ ผ้าคลุมวิเศษนั่นเอง

A magic scarf I Sketch

พลังของ Mud man คือการสร้างดอกไม้เรืองแสง เพื่อเป็นการน�ำทาง แด่นักเดินทาง เมื่อความเศร้าเข้าครอบง�ำ ท�ำให้เข้าไม่สามารถสร้าง ดอกไม้เพื่อน�ำทางได้อีก แต่หลังจากโนเอลสามารถช่วยเขาได้แล้ว “ดอกไม้จึงกลับมาเบ่งบานอีกครั้ง” Gypsum Flowers I Sketch 84



lo specchio

Bloody mary

“Lo Specchio” เป็นภาษาอิตาลี ที่แปลว่า กระจก ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโรค กลัวกระจก Spectrophobia และ แมรี่ในกระจกหรือ “Bloody Mary” ที่ได้แรงบันดาล

ใจ จากสิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นในกระจก ท�ำให้เกิดเป็นหนึ่งในจิตวิญญาณต้องค�ำสาปในโลกแห่งความกลัว



bloody marry แมรี่ในกระจก

มรี่หรือ Bloody Marry เป็นจิตวิญญาณต้องค�ำสาป ที่ ได้แรงบันดาลใจมาจากโรคกลัวกระจก หรือ Spectrophobia โรคกลัวกระจกหรือ Spectrophobia คือโรคที่ผู้ป่วยไม่ สามารถที่จะมองเข้าไปในกระจกได้ ซึ่งสาเหตุที่ท�ำให้เกิดโรคกลัว กระจก สามารถเกิดได้กับสถานการณ์ร่วมหลากหลายสถานการณ์ เช่นไม่มีความมั่นใจในภาพลักษณ์ของตนเอง อาจท�ำให้เกิดอาการ รังเกียจตัวเองและไม่กล้ามองกระจก หรือแม้แต่ความเชื่อเรื่องโชค ลาง เช่นถ้าหากกระจกแตกจะท�ำให้เกิดโชคร้ายหรือมีวิญญาณร้าย อาศัยอยู่ในกระจก หรือเชื่อว่าในกระจกเป็นโลกอีกมิติหนึ่ง และมี สิ่งน่ากลัวอยู่ในนั้น อาจเกิดจากเหตุการณ์ที่ท�ำร้ายจิตใจเกี่ยวกับ กระจกท�ำให้ไม่สามารถที่จะมองกระจกได้อีกครั้ง กลัวกระจก อาจ จะมีสาเหตุร่วมกับโรคอื่นๆได้เช่นเดียวกัน อย่างเช่นโรคกลัวผี โรค กลัวความตาย โรควิตกกังวลทางสังคม หรือโรคตื่นตระหนก

“สัญลักษณ์ที่อยู่บนกระจกที่แมรี่จะ สามารถอยู่ในนั้นได้ ”


^ Bloody Mary I In the morror Bloody Mary I Mirror sketch

ลักษณะการเกิดโรค หรือแนวทางที่น�ำมาใช้ในการออกแบบ ที่เกี่ยวข้อง กับกระจก ก็คือต�ำนานของ Bloody Mary ที่เป็นต�ำนานของหญิงสาวที่อยู่ ในกระจก แต่ไม่ได้ยกส่วนเนื้อเรื่องทั้งหมดมาใช้ จะมีแนวทางการออกแบบ มาจากหญิงสาวที่อยู่ในกระจกเช่นเดียวกัน ในตอนแรกดีไซน์ให้เป็นเหมือน กับหญิงสาวที่มีรอยแตกของกระจก แต่การออกแบบนั้นไม่ส่ือถึงตัวโรคกลัว จึงได้ปรับเปลี่ยนแนวทางให้เป็นเหมือนรูปร่างที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ภายใน หลังกระจก จะเป็นวิญญาณของหญิงสาว หรือจะเป็นปีศาจที่อยู่ในนั้น ไม่มี ใครสามารถดูรูปร่างที่แท้จริงได้ เป็นเมืองเสมือนลึกลับภายใต้บานกระจกนั้น ที่จะหลอกล่อเราเข้าไปข้างใน แล้วไม่ได้ออกมาอีกเลย “การออกแบบจากแนวความคิดที่ว่าตัว เราในกระจกเป็นอีกคนหนึ่ง วิญญาณ ร้ายที่จะล่อลวง ให้เราท�ำผิดบาปจาก การกระซิบเรียก จากหลังบานสะท้อน”

Bloody Mary I Power

^ Bloody Mary I In the morror


bloody marry? ต�ำนานของหญิงสาวในตระกูลที่ค่อนข้างร�่ำรวย เธอมีใบหน้าที่งดงามราวกับเทพธิดา หนุ่มน้อยใหญ่ต่างหมายปองที่จะ แต่งงานกับเธอ บ้านของเธออยู่ในตระกูลการค้าขุนนาง ถึงแม้จะร�่ำรวย แต่ภายในครอบครัวกลับร้าวฉาน ความหลงระเริง และการขาดความเอาใจใส่จากคนในครอบครัว เธอถูกลากไปดูตัวไปมา จากตระกูลนั้นตระกูลนี้ ไม่เว้นวัน คอยมองเข้าไป ในกระจก แล้วสงสัยว่าใบหน้านี้มีดีอะไร ท�ำไมทุกคนถึงอยากจะแต่งงานกับเธอ เธอคอยมองตัวเองในกระจกวันแล้ววันเล่า ต้นเธอเหมือนถูกดูดเข้าไปในห้วงลึก ของความหลงในใบหน้าและความงามของเธอเอง เธอเอาแต่จ้องตัวเองอยู่อย่างนั้น หลงใหลในความงดงามบนบานกระจก เธอเอาแต่มองตัวเองแบบนั้นไม่ยอมทานข้าว ไม่ดูแลตัวเอง ไม่ขยับร่างกายออกไป ที่ไหน ที่บ้านคงเธอก็ไม่ได้ใส่ใจ ปล่อยปละละเลยเธออยู่แบบนั้น จนใบหน้าที่สะสวย เริ่มสึกหรอลงเรื่อยๆ ใบหน้าหญิงสาว ที่อยู่ในกระจกไม่เหมือนเดิม เธอคือใครคนที่อยู่ในกระจก หญิงสาวเอ่ยถาม แต่เงาในกระจกนั้นก็เพียงแต่ท�ำตามที่ร่างกาย ของเธอขยับ นั่นมันก็คือหน้าตาของเธอ หญิงสาวรับตัวเองไม่ได้ ความงามที่เธอเคยมีหายไปหมดแล้ว เธอเกลียดตัวเอง เธอ กรีดร้อง จากนั้นก็ท�ำการปลิดชีวิตตัวเองหน้ากระจกบานที่เธอส่องทุกวัน และกลายเป็นหนึ่งในจิตญาณชั่วร้ายของโลกแห่ง ความกลัว

Bloody Mary I Sketch Design 90

Bloody Mary I Sketch Design


จะมีแต่กระจกที่มีสัญลักษณ์ของตระกูลของเธอ เท่านั้นที่เธอจะสามารถเข้าไปอยู่ภายใน และล่อลวง ผู้คนจากภายในนั้น ความสามารถของเธอมีหลาก หลาย แต่ไม่สามารถที่จะออกจากกระจกเป็นเวลานาน ได้ ดังนั้นเธอจึงใช้วิธีต่างๆในการล่อลวงผู้คนให้ติดกับ ความสามารถของเธอก็คือสามารถแปลงกายเป็นใคร ก็ได้ ภายใต้ผิวสะท้อนของกระจก อาจจะสะท้อน บุคคลที่ผู้ส่องรักมากที่สุด หรือแม้กระทั่งสิ่งที่ผู้ส่อง ต้องการ จากนั้นก็จะสามารถรอหลวงผู้คนเข้ามาภาย หลังโลกกระจกของเธอ อยู่ที่นี่ไปตลอดกาล

Bloody Mirrors I Design

Bloody Mirrors I Fight

Bloody Mirrors I Abilities

วิธีการผ่านด่านคือ ต้องปิดกระจก ที่เธอสามารถล่อลวงเรา ให้ได้ทุกบาน เธอไม่สามารถปรากฏตัวในกระจกบานที่ไม่มี สัญลักษณ์ได้ ดังนั้นเราจะสามารถเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของ เธอได้โดยการน�ำกระจกที่ไม่มีสัญลักษณ์ ไปส่องเธอ

พลังของแมรี่ในกระจก ที่แปลงกายเป็นแซม พี่ชาย ของโนเอล เพื่อที่จะล่อลวงให้เขาเข้าไปในกระจกกับเธอ

Bloody Mirrors I Abilities 91


lo specchio

lห้อ งกระจกl

ห้องกระจกเป็นสถานที่อยู่อาศัยของผีสาวแมรี่ในกระจก เป็นบ้านของครอบครัวของเธอ เป็น สถาปัตยกรรมในยุคกลาง ในบ้านขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ เป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ซะส่วนใหญ่ เนื่องจากเป็นสิ่งที่หาได้ง่ายในสมัยนั้น การที่บ้านหลังนี้มีกระจกอยู่เต็มไปหมด เนื่องจากเธอสั่งท�ำ ในนามของตระกูลของเธอเอง ซึ่งความร�่ำรวยของเธอ ก็ท�ำให้เธอสามารถที่จะได้สิ่งที่ต้องการมา อย่างง่ายดาย

92



94


lo specchio เดินทางมายังคฤหาสน์หลังนี้ได้ผ่านทางประตูที่เชื่อมต่อกับห้องใต้ดิน ที่ มาจากถ�้ำแห่งแสง ในส่วนของคฤหาสน์จะมีส่วนของห้องอื่นๆด้วยแต่ในรูป isometric นี้ จะแสดงให้เห็นในส่วนที่อยู่ในเนื้อเรื่อง เป็นส่วนของโถงห้องที่ มีส่วนของห้องครัว ห้องเก็บของ ระเบียง ประตูเชื่อมต่อกับห้องใต้ดิน เตาผิง และบันไดเชื่อมต่อกับชั้นลอย ที่เป็นส่วนที่ใช้ติดตั้งกระจก เพื่อให้หญิงสาว สามารถที่จะยลโฉมของตัวเองได้เรื่อยๆ จากรูป perpective ทางด้านขวา จะแสดงให้เห็นถึงบรรยากาศภายในคฤหาสน์นี้ และที่ซ่อนของกระจกบานที่ ไม่มีสัญลักษณ์ และดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ภายในคฤหาสน์แห่งนี้

01

ตรงโต๊ะรูป 5 เหลี่ยมที่อยู่บริเวณครัว มีสิ่งของวางอยู่บนนั้นหลากหลาย บางก็ขึ้นสนิม บางก็มีอาจใหญ่ขึ้นเต็มไปหมด น�้ำในแก้วก็แห้งกรังไปหมดแต่ ในหน้าหนังสือที่วางอยู่บนนั้น มีส่วนที่นูนขึ้นมาแปลกๆ หลังจากที่ทั้งสองได้ เข้ามาในบ้านหลังนี้ ก็ได้พบเจอกับกระจกบางอย่าง ที่เหมือนถูกเอามาซ่อน ไว้ในหน้าหนังสือนี้

02

03

95



lบทสรุ ป l ใบหน้าของหญิงสาวหลังจากที่เธอได้กลับมาเห็นตัวเองในกระจกอีกครั้ง เรื่องราวเก่าๆสะท้อนเข้ามาภายในจิตใจ ของเธอ เธอรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เธอท�ำลงไป เธอนึกถึงสิ่งอื่นๆที่เธอเคยอยากจะท�ำในชีวิต แต่สุดท้ายกลับต้องจบลง วิญญาณของหญิงสาวหลุดพ้นจากในกระจกที่จองจ�ำเธอไว้ด้วยความโกรธแค้นและลุ่มหลง เหมือนกลับมามีชีวิตอีก ครั้ง ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้มีชีวิตจริงๆ เธอส่งยิ้มจากร่างที่เลือนลางพลางกล่าวว่าใบหน้าของเธอมันไม่จีรัง นานวันไป มันก็เปลี่ยนแปลงไปทุกวัน เธอส่งยิ้มให้ทั้งสอง ก่อนจะเล่าเรื่องราวในสมัยเด็ก ว่าแม่ของเธอ เสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก เธอคิดถึงแม่มาก เพราะหล่อนเป็นคนเดียวที่คอยเอาใจใส่เธอ ในตอนยังเด็กแม่ของเธอจะมีโหลให้ใบหนึ่ง แล้วบอก เธอว่าเมื่อเธอรู้สึกเศร้า ให้น�ำความเศร้ามาใส่ไว้ในโหลใบนี้ จากนั้นความเศร้าของเธอก็จะหายไป โหลใบนี้เป็นใบที่ เธอรักมาก แต่เธอมอบให้เขาเป็นการขอบคุณที่ช่วยปลดปล่อยให้ไปสู่สุคติ ลาก่อน

Elena I Sketch Design


The Butterfly


la farfalla

the b utterfly

lผี เสื้ อl

The butterfly I Color Exploration

ผีเสื้อตัวนี้เป็นหนึ่งในจิตวิญญาณธรรมชาติที่อาศัยอยู่ในโลกแห่งความกลัว แห่งนี้ เป็นเหมือนเพื่อนคนแรก หลังจากที่เท้าปุย ได้กลายเป็นจิตวิญญาณ และ เข้ามายังโลกแห่งความกลัวแห่งนี้ ไม่สามารถบอกชื่อของเขาได้ แต่เท้าปุยเรียก เขาว่า มอร์ดี้ เขาคอยให้ความช่วยเหลือ ในทุกๆเรื่อง และจะมาหาในยามที่เรา ต้องการ แนวทางการออกแบบ สัญลักษณ์ของเรื่องนี้เป็นผีเสื้อกลางวัน แต่ใน การออกแบบมอร์ดี้ based on จากรูปทรงของผีเสื้อกลางคืน ลูกไม้ แมลงปอ และดอกแดนดิไลออน ท�ำให้แบ่งเลเยอร์ปีกเป็น 2 ชั้น ชั้นแรกจะเป็นปีกที่มีรูป ร่างเหมือนแมลงปอ และชั้นที่ 2 จะเป็นปีกที่มีรูปร่างของผีเสื้อกลางวัน มอร์ดี้ จะเป็นคนพาไปยังด่านโรคกลัวต่อไป

The butterfly I Inspirations ส่วนการออกแบบได้รับแรงบันดาลใจมาจาก รูปทรงและ ลวดลายของลูกไม้ที่หล่นมาจากต้นไม้ใหญ่ และดอกแดนดิ ไลออน อาจจะดูเหมือนเป็นผีเสื้อกลางคืน แต่เขาเป็น ผีเสื้อกลางวันธรรมดานี่เอง 99





la torre

whisper dust

“La Torre” เป็นภาษาอิตาลี ที่แปลว่า หอคอย ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโรคกลัว ความสูง Acrophobia และ ละอองกระซิบหรือ “Whisper Dust” ที่ได้แรงบันดาลใจ จาก Wil-o-wisp ท�ำให้เกิดเป็นหนึ่งในจิตวิญญาณต้องค�ำสาป ในโลกแห่งความกลัว


whisper princess

่ งแห่งเสียงกระซิบ เจ้าหญิ

จ้าหญิงแห่งเสียงกระซิบหรือ Whisper Princess เป็นจิต วิญญาณต้องค�ำสาป ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากโรคกลัวความสูงหรือ Acrophobia โรคกลัวความสูงหรือ Acrophobia เป็นอาการที่เมื่อรู้ตัวว่า ก�ำลังอยู่ที่สูงหรืออาจจะอยู่บนตึกแล้วมองลงไปที่พื้นด้านล่าง จะท�ำให้ รู้สึกกลัว ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ วิงเวียน หน้ามืด ตัวชา ความจริง แล้วอาการกลัวความสูง เป็นเรื่องธรรมชาติเหมือนกับสัญชาตญาณของ มนุษย์ที่ใช้ในการปกป้องตัวเอง ไปกับผู้ที่มีอาการโรคกลัวความสูงจะมี การหนักยิ่งกว่าซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอันตรายในการใช้ชีวิตด้วย เพราะ อาจจะตื่นตระหนกหรือหมดสติจนท�ำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ความกลัวที่สูง ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากประสบการณ์หรือเหตุการณ์รุนแรงในอดีต ท�ำ ให้เกิดเป็นภาพทับซ้อน ระยะของความสูงที่คนกลัวมักจะไม่ได้มีค�ำจ�ำ กัดความ หรือจากในบทสัมภาษณ์ของผู้ที่เป็นโรคกลัวความสูงได้กล่าว ไว้ว่า ที่จริงแล้วความสูงอาจจะไม่ได้เป็นสิ่งที่เรากลัว แต่เป็นผลที่ตาม มาหลังจากนั้นมากกว่าที่เป็นสิ่งที่น่ากลัว เช่นกันตกลงไปยังพื้นข้างล่าง การตกลงไปเสียชีวิต ซื้อการได้รับบาดเจ็บหนัก บ้างก็มีอาการ Panic จนเหมือนกับได้ยินเสียงกระซิบ ที่ท�ำให้รู้สึกเหมือนต้องกระโดดลงไป ข้างล่าง ดังนั้นในการออกแบบจึงเลือกที่จะดึงส่วนนี้ออกมาใช้ เน้น เรื่องราวของเสียงกระซิบปริศนา มีความใกล้เคียงกับต�ำนานเรื่องเล่า ของ wil-o-wisp ซึ่งเป็นเหมือนพรายกระซิบ ที่คอยอยู่ตามป่าเขา คอย ระวังนักเดินทางคนอื่น

Whisper Dust I Sketch Design


ว่ากันว่าต�ำนานของ wil-o-wisp เกิดมาจากความเข้าใจผิดของผู้ที่เข้าไป อยู่ในป่าเขา เห็นหิ่งห้อย หรือเห็ดเรืองแสง แล้วคิดว่าเป็นวิญญาณ จึงท�ำให้ เกิดความกลัวและเกิดเป็นต�ำนานเล่าต่อกันมา ดังนั้นในการออกแบบจึงเลือก ใช้ส่วนนั้นเป็นส่วนส�ำคัญ ได้ดีไซน์ คือการดึงเอารูปทรงของเห็ดต่างๆมาใช้ใน ตัวของละอองเสียงกระซิบ โดยปกติละอองเสียงกระซิบจะไม่ได้อยู่ในรูปร่างที่ สามารถที่จะมองเห็นได้ง่าย ด้วยขนาดที่เล็กเหมือนหิ่งห้อย ท�ำให้มองเห็นเป็น เหมือนกับละอองแสงมากกว่า มีความสามารถในการกระซิบรอหลวงผู้ที่หลง ทางเข้ามาในหอคอย ให้ท�ำสิ่งที่อันตราย

^ Whisper Dust I Sketch Design

ดีไซน์ชุดของเจ้าหญิง ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของเห็ดต่างๆ การ ดีไซน์ชุดจะเน้นเป็นชุดที่ไม่ดูเป็นทางการมาก สามารถใส่ไปส่งงานได้อย่างสบายตัว คล่องแคล่ว คล้ายกับดีไซน์ของชุดเจ้าหญิงราพันเซล

Whisper Princess I Costume Design Whisper Dust I Movement


la citta lหอคอยพิ ศ วงl

ภาพของละอองกระซิบที่ก�ำลังล่อลวงและสร้างภาพหลอนให้กับโนเอล บอกเรื่องที่ เรารู้สึกผิดอยู่ในใจ หรือแม้กระทั่งเรื่องที่มันไม่เคยเกิดขึ้นก็ตาม ล่อให้เขากระโดดลงไป แล้วกลายเป็นวิญญาณที่นี่ตลอดกาล 106



the clock to wer

จากต�ำนานเรื่องเล่าของโลกแห่งนี้ เราว่าเจ้าหญิงที่เป็นที่รักของทุกคน ในเมืองนี้ ควบต�ำแหน่งผู้ที่ปกครองดูแลบ้านเมือง วันหนึ่งถ้าเกิดล้มป่วยขึ้นมา ชาวบ้านทุกคนเป็นห่วงเจ้าหญิงมาก อาการของพระองค์ไม่ดีข้ึนเลย ด้วยความจนปัญญา ชาวบ้านจึงท�ำการติดต่อกับปีศาจ เพื่อที่จะยอมแลกทุกอย่างเพื่อให้อาการขององค์หญิงดียิ่งขึ้น แม้กระทั่งต้องเสียสละชีวิตตัวเองก็ตาม ปีศาจ ยอมตกลง มันดึงเอาวิญญาณของชาวบ้านทุกคน ใส่ไว้ในร่างของเจ้าหญิง ท�ำให้เจ้าหญิงหายจากอาการประชวร แต่เมื่อเธอตื่นขึ้นมาแล้วไม่พบใคร เธอเที่ยวเสาะตามหาคนในเมือง จนเธอได้รู้ความ จริงว่าชาวเมืองของเธอไม่เสียสละวิญญาณของพวกเขา เพื่อที่จะให้เธอได้มีชีวิตอยู่ขึ้นอีกครั้ง แต่เมื่อเหลืออยู่เพียงคนเดียวก็ไม่ต่างจากการตายทั้งเป็น เจ้าหญิงโศกเศร้าเสียใจ เธอขังตัวเองไว้ในหอ นาฬิกาขนาดยักษ์ของเมือง ด้วยพลังวิญญาณจากปีศาจ ท�ำให้เธอเป็นอมตะและไม่สามารถที่จะปลิดชีวิตตัวเองได้ ความเงียบเข้าครอบง�ำ เธอจึงปล่อยให้ร่างกายของเธอหลับไหลอยู่ในหอคอย ด้วย จิตใจที่ไม่มั่นคง ท�ำให้ร่างกายของเธอค่อยๆแตกร้าวออกมา เป็นละอองวิญญาณของชาวเมือง ที่เสียสละวิญญาณให้กับเธอ หลุดลอยออกมา ความสุขเศร้าของเจ้าหญิงท�ำให้ชาวเหมืองกลายเป็น วิญญาณที่เกรี้ยวกราด คอยท�ำร้ายนักเดินทางที่เดินทางผ่านมา ให้ติดอยู่ที่นี่แล้วกลายเป็นละอองวิญญาณเหมือนกับพวกเขาทุกคน 108



ภาพของละอองกระซิบที่สร้างภาพหลอนให้โนเอลเห็น



la citta whisper dust

การปลุกเจ้าหญิง สามารถท�ำได้ด้วยการรวบรวมละอองกระซิบ ที่ หลุดออกมาจากร่างกายของพระองค์ รวบรวมไว้ในแหล่งเดียวกัน ด้วย การรวมกันของพลังวิญญาณทั้งหมดจะท�ำให้สามารถปลุกเจ้าหญิงขึ้นมา ได้ ในการที่จะฝ่าฟันอุปสรรคนี้ ต้องอาศัยความกล้าหาญอย่างมาก เมื่อ เจ้าหญิงได้รับรู้สึกถึงความเข้มแข็ง ท�ำให้เธอรู้สึกมีก�ำลังใจ และมุ่งมั่นที่ จะหาทางน�ำชาวเมืองของเธอกลับมาให้ได้ หลังจากนั้นเธอจะช่วยซ่อม ทางเดินที่จะน�ำไปสู่ด่านต่อไป

Noel and Puffy feet I They’re going to the dark village


ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในหอคอย หอนาฬิกาแห่งนี้ ไม่สามารถระบุขึ้นได้ว่าเกิดขึ้นจริงหรือเป็นเพียงแค่ ภาพ ลวงตา จับภาพของบันไดหมุน หรือภาพหลอนที่ เกิดภายใน อาจเกิดจากการล่อลวงของละอองวิญญาณ หรือเป็นค�ำสาปที่ติดมากับเจ้าหญิงและท�ำให้หอคอย นาฬิกาแห่งนี้ต้องค�ำสาปและกลายเป็นหอคอยพิศวงไป ด้วย เรื่องนี้ไม่สามารถยืนยันได้





Terra oscura os curo

“Terra Oscura” เป็นภาษาอิตาลี ที่แปลว่า โลกมืด ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโรคกลัวความ มืด Nyctophobia และ ความมืดหรือ “Oscuro” ที่ได้แรงบันดาลใจ จากโรคกลัวความมืด ท�ำให้เกิด เป็นหนึ่งในจิตวิญญาณต้องค�ำสาป ในโลกแห่งความกลัว





oscuro

ความมืด

วามมืดหรือ Oscuro เป็นจิตวิญญาณต้องค�ำสาป ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก โรคกลัวความมืดหรือ Nyctophobia โรคกลัวความมืดหรือ Nyctophobia เป็นโรคกลัว ที่จะมีความวิตกกังวลเมื่อ ถึงเวลากลางคืน หรือเมื่อต้องเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีแสงสว่างน้อย อาจจะส่งผล เสียให้เกิดการนอนไม่หลับในเวลากลางคืนจนกลายเป็นปัญหาสุขภาพได้ โรคกลัว ความมืดอาจจะเกิดจากสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสภาพจิตใจ อาจจะมีปมหลังใน วัยเด็ก ที่ท�ำให้กลัวความมืด เช่นกันกลัวเรื่องผี การถูกขังไว้ในที่มืด หรือแม้กระทั่ง ความผิดปกติของสารเคมีในสมอง เหมือนกับโรคกลัวกระจก โรคกลัวความมืดจะมี อาการกลัวที่แทรกซ้อนอื่นๆ อย่างเช่นกลัวผี กลัวปีศาจ หรือกลัวความตายที่มากับ ความมืด ในการออกแบบปีศาจความมืดนี้ เป็นเศษซากของสภาพจิตใจของแซม หลัง จากที่กลายร่างเป็นจิตวิญญาณใหม่ๆ เขายังเด็กและไม่พร้อมกับการเจอสถานการณ์แบบนี้ ก่อนที่จะได้เจอกับเจ้าผีเสื้อมอร์ดี้ แซมเปลี่ยนไปเป็นคนละคน รอบ กายปกคลุมไปด้วยความมืดมิดจากสภาพจิตใจที่ด�ำดิ่ง แต่หลังจากที่เจอเจ้ามอร์ดี้ เพื่อนคนแรกของเขาทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ เขาสามารถปรับตัวเข้าสู่การเป็นจิต วิญญาณของแห่งนี้ได้ แต่สภาพจิตใจในตอนนั้นยังคงเหลือแต่ซากไว้ เป็นเศษซาก ความมืดของเขานั่นเอง

Oscuro I Sketch Design

Oscuro I Sketch Design


the cursed nymph

grief mud man


phobia spirits รวมเหล่าจิตวิญญาณของโลกแห่งความกลัวที่โนเอลต้องฟันฝ่าอุปสรรคไป

bloody marry

whisper princess

oscuro





il vuoto empty space

“Il Vuoto” เป็นภาษาอิตาลีที่แปลว่า สถานที่ว่างเปล่า ได้รับแรงบันดาลใจมา จากโรคกลัวการอยู่คนเดียว Autophobia สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลก แห่งความกลัว แต่เป็นความรู้สึก สถานที่ในจิตใจส่วนลึกของโนเอล


สถานที่ว่างเปล่า

il vuoto empty space

โรคกลัวการอยู่คนเดียว หรือ Autophobia คือโรคกลัวแบบเฉพาะเจาะจงชนิดหนึ่งและจัดอยู่ในกลุ่มโรควิตกกังวล ที่ส่งผลต่อการด�ำเนินชีวิตประจ�ำวัน โรคกลัวการอยู่คนเดียวมีอาการคือรู้สึกกระวนกระวายและกังวลมากเมื่อรู้ว่าต้องอยู่ คนเดียว ถ้าเกิดหวนคิดถึงความรู้สึกตอนนี้อยู่คนเดียวขึ้นมาจะเกิดอาการหายใจไม่สะดวกใจสั่นหน้ามืด อาเจียน ซึ่งเป็น ผลจากความวิตกกังวลมากเกินไป ไม่สามารถไปไหนมาไหนคนเดียวได้ต้องมีเพื่อนไปด้วยตลอดไม่ได้เป็นสถานที่ที่คุณเคย ก็ตาม สาเหตุของโรคกลัวการอยู่คนเดียวอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ในทางจิตวิทยาสันนิษฐานถึงประสบการณ์ในอดีต ที่ป่วยเคยเจอมาและค่อนข้างเป็นเหตุการณ์ที่ฝังใจ สิ่งนี้อาจจะกระตุ้นให้ผู้ป่วยกลัวการอยู่คนเดียว หรือรู้สึกว่าต้องถูก ทิ้งให้อยู่คนเดียวอีกครั้ง อาจจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจ�ำวันได้ สาเหตุของโรคกลัวการอยู่คนเดียวของโนเอล เกิดจากการสูญเสียพี่ชายที่สนิทและรักในวัยเด็ก ท�ำให้เขาต้องรับมือ กับความคิดเสียใจ ไม่สามารถที่จะก้าวข้ามผ่านความสูญเสียได้ ทุกอย่างฝังลึกอยู่ในจิตใจของเขามาตลอด เหมือนบางที เขาอาจจะลืมสาเหตุที่ท�ำให้เกิดโรคนี้กับเขา แต่ความเจ็บปวดก็ยังฝังรากลึก และแสดงออกมาโดยโรคกลัวการอยู่คนเดียว นั่นเอง

“ต้นไม้ต้นแรกที่แซมเป็นคนให้ไว้ และคอยสอนโนเอลในการดูแล ท�ำให้ โตขึ้นมาเขาก็เป็นคนที่รักการท�ำสวนและรักการปลูกต้นไม้มาก”

ต้นไม้ต้นแรกที่ถูกปลูกลึกไว้ในจิตใจส่วนลึกของโนเอล >

128

Empty place I Sketch Design



Equipments



Equipments l อุปกรณ์ l

ไอเทมเหล่านี้ นอกจากจะเป็นไอเทมที่ช่วยให้ผ่านด่านต่างๆแล้ว ยังสื่อถึง ความพยายาม การเติบโตขึ้นของโนเอล ความมั่นใจที่เพิ่มมากขึ้น ที่แม้ไม่มีไอ เทม ก็ยังสามารถเห็นสายตา และท่าทางที่เปลี่ยนแปลงไป ความสามารถของไอเทม 1.คบเพลิง : สามารถจุดเองได้เมื่อร่ายคาถา และจะไม่มี วันดับถ้าไม่ร่ายคาถาอีกครั้ง 2.ผ้าพันคอ : สามารถยืดหด ปรับขนาดได้ตามที่ผู้ครอบครอง ต้องการ 3.โหลแก้ว : กักเก็บวิญญาณได้เท่าที่ต้องการ 4.แว่นกันลม : กันลม จุดประสงค์ของไอเทมวิเศษ ก็คือให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขึ้นของ โนเอลทางกายภาพ แต่ส่วนที่ส�ำคัญจริงๆ คือความเปลี่ยนแปลงภายในที่เกิด ขึ้นในจิตใจ ไอเทมก็เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของมิตรภาพ แทนค�ำขอบคุณจาก เหล่ามอนสเตอร์ ที่โนเอลช่วยปลดปล่อยพวกเขา ให้หลุดจากความกลัวภาย ในจิตใจ

Noel Althony I After Torch I Sketch Design


อุปกรณ์เหล่านี้ ได้มาจากการท�ำเควสของแต่ละด่าน ถึงจะได้ไอเทมมา ซึ่งไอเทมแต่ละอย่าง จะเป็นตัวช่วยใน การผ่านด่านต่อไป คบเพลิงได้มาจากด่านแรก โรคกลัวป่า ใช้ในการผ่านด่านต่อไปคือโรคกลัวที่แคบ จากนั้ันก็ จะได้ผ้าพันคอวิเศษ มีความสามารถในการยืดหดได้ตามต้องการ เพื่อใช้ในด่านโรคกลัวกระจก ไอเทมที่จะได้จาก ด่านนี้คือ โหลแก้วลึกลับ เพื่อใช้ในด่านโรคกลัวความสูง ส่วนไอเทมแว่นตา ได้มาจากเท้าปุยเป็นคนมอบให้ระหว่าง การเดินทางไปด่านโรคกลัวความสูง

Wisper Dust I Captured





ถงทางเดินที่ขวั่กไขว่ไปด้วยเหล่านักเรียนมากมาย ล็อคเกอร์สีเทาที่มีร่องรอยสกปรกจากความเก่า แบ่งตามฝั่งทางเดิน ตามสีของตราโรงเรียน ธงสัญลักษณ์ประดับประดา นักเรียนคนหนึ่งจากชมรมวารสาร น�ำข่าวไปแปะบนบอร์ดโรงเรียน นักเรียนบางคนก็พากันวิ่งไปหากลุ่มเพื่อนสนิทของตนเพื่อไปจองพื้นที่ใน ห้องเรียน บ้างก็พากันไปรับประทานอาหารที่โรงอาหาร บรรยากาศเต็มไปด้วยความครึกครื้น เด็ก ๆ หลาย คนตื่นเต้นที่จะได้มาพบเจอกับเพื่อนใหม่แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้สึกแบบนั้น เด็กชายคนหนึ่งก�ำลังเดินอยู่ณโถงทางเดินแห่งนี้ด้วยท่าทีก็กล้า ๆกลัว ๆ ทันใดนั้นเขาก็ถูกผลักให้ล้มลง อย่างแรง เด็กผู้ชายอีกคนหนึ่ง ฟิตซ์ ร็อค เด็กเกเรที่เคยเป็นเพื่อนบ้านของเขา และเป็นหัวโจกของโรงเรียน นี้ แกล้งเด็กชายตัวเล็กด้วยท่าทีที่ขบขัน เรียกเขาว่าตัวประหลาดก่อนจะเดินหัวเราะออกไปกับกลุ่มเพื่อน โนเอล อัลโทนี่ เด็กชายตัวเล็กที่มีผมสีน�้ำตาลดูยุ่งเหยิง เสื้อสเวตเตอร์สีเขียวที่ดูมีขนาดใหญ่กว่าตัวมาก รองเท้าสีแดงเช่นเดียวกับกระเป๋าสะพายข้างที่พกติดตัวตลอดเวลา รวมถึงพวงกุญแจรูปผีเสื้อสีฟ้าใสที่ดู สะดุดตา ค่อยๆดันตัวลุกขึ้นด้วยความทุลักทุเล ท่ามกลางสายตาขบขันจากคนรอบข้าง หรือแม้แต่สายตา สมเพชที่ส่งมา เขาเพิ่งเข้าเรียนที่นี่ตอนกลางเทอม เนื่องจากเรียน Home School มาตลอดด้วยเหตุผล บางอย่าง ‘แม่อยากให้ลูกได้เจอสังคมใหม่ๆ โลกใบนี้ออกจะกว้างขวาง ท�ำไมเราไม่ลองออกไปดูซักหน่อยล่ะ’ แม่ ของเขาพูดขึ้นระหว่างขับรถไปยังโรงเรียนด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เธอลูบหัวลูกชายสุดที่รักของเธอก่อนจะยื่น กล่องข้าวให้และโบกมือลาก่อนที่ลูกชายของเธอจะลับตาไป ภาพของแม่ที่พูดกับเขาในยามเช้าผุดขึ้นมาใน หัว เขาถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่ายก่อนที่จะเดินไปยังห้องเรียนของตัวเอง ในห้องเรียนเด็กชายตัวเล็กเดินเข้ามาด้วยท่าทีไม่มั่นใจ แต่ก็รู้สึกอิ่มใจที่ได้เห็นเพื่อนๆอยู่ในห้อง เขา เดินไปยังที่นั่งของตัวเอง ที่อยู่ข้างๆเด็กสาวคนหนึ่ง เธอมีผมสีน�้ำตาลอ่อน ที่รวบไว้เป็นผมเปียสองข้าง เสื้อ สเวตเตอร์สีครีมที่ใส่ทับกับเสื้อยืดสีขาวปักลายดอกมะลิ และกางเกงยีนส์ที่ดูสบายตัว พร้อมกับรอยยิ้ม อบอุ่นที่ระบายอยู่บนใบหน้า เธอคือจัสมิน ลิลลี่ เพื่อนร่วมห้องของเขา ควบต�ำแหน่งหัวหน้าห้องและ หัวหน้าชมรมวารสาร โนเอลรวบรวมความกล้าพยายามที่จะเลยทักเธอเป็นครั้งแรก หลังจากที่เขาไม่กล้าคุย กับใครเลยตลอดเทอมที่ผ่านมา ก่อนที่เขาจะได้เอ่ยปาก เพื่อนของเธอดันมาเรียกไปก่อน ท�ำให้เขารู้สึก เสียดายเป็นอย่างมาก เพราะกว่าที่จะรวบรวมความกล้าออกมา

ฟิตซ์เห็นเหตุการณ์เมื่อสักครู่ ก่อนที่จะพูดเย้ยหยัน ถากถาง ว่าน�้ำหน้าอย่างเขากล้าที่จะคุยกับคนอื่นอีกหรือ ตัวประหลาดอย่างแกใครจะอยากคุยด้วย ก่อนที่จะเดินแท็กมือกับเพื่อนและไปนั่งบริเวณหลังห้องที่ประจ�ำ โนเอล ฟุบหน้าลงกับโต๊ะด้วยท่าทีที่เสียใจอย่างมาก ถ้าเลือกได้เขาก็ไม่อยากจะป่วยเป็นโรคนี้ โนเอลก�ำลังป่วยอยู่ เขาป่วย เป็นโรค ‘Autophobia’ หรือที่ทุกคนอาจจะรู้จักกันในชื่อ ‘โรคกลัวการอยู่คนเดียว’ หรืออาจจะไม่รู้จักก็ได้ เป็นโรค กลัวแบบเฉพาะเจาะจงชนิดหนึ่ง จะมีอาการผิดปกติเมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เขาคิดว่าไม่สามารถจัดการมัน โดยล�ำพังได้ ซึ่งความกลัวที่เกิดขึ้นทันทีทันใด จะส่งผลให้ผู้ป่วยรู้สึกกระวนกระวาย และกังวลมาก เพียงรู้ว่าต้องอยู่ คนเดียว หายใจไม่สะดวก ใจสั่น หน้ามืด อาเจียน แถมยังไม่สามารถไปไหนมาไหนคนเดียวได้ ต้องมีเพื่อนไปด้วย ตลอดแม้จะเป็นสถานที่ที่คุ้นเคยก็ตาม เพราะแบบนี้เขาถึงได้รู้สึกอุ่นใจที่มีเพื่อนนั่งอยู่ในห้อง แต่ด้วยความที่เขา เรียนที่บ้านและอยู่กับแม่ของเขาตามล�ำพังมาตลอด ท�ำให้เขาประหม่าเกินไปที่จะเข้าไปท�ำความรู้จักหรือคุยกับใคร ซักคน หลังจากเรียนไปสักพัก จะถึงเวลาพักกลางวัน เด็กชายตัวเล็กเลือกที่จะกินแซนวิช ในบริเวณที่มีผู้คนเบาบาง ลง เนื่องจากการอยู่ในโรงอาหารที่มีคนเยอะๆท�ำให้เขารู้สึกประหม่ามากเกินไป เมื่อกินเสร็จ เขาจึงเข้าไปล้างมือใน ห้องน�้ำชาย โดยที่มั่นใจว่ายังพอมีคนอยู่ในนั้น บริเวณห้องน�้ำชายแห่งนี้ ก็เหมือนห้องน�้ำของโรงเรียนทั่วไป คือเปิด เข้ามาเจอส่วนของห้องส้วมทางซ้ายมือ และอ่างล้างมืออยู่ตรงข้าม เข้ามาอีกหน่อย จะเจอกับโถปัสสาวะ และส่วนที่ ลึกที่สุดของห้องน�้ำคือบริเวณที่เป็นเหมือนล็อคเกอร์ขนาดพอดีตัวคนไว้ส�ำหรับเก็บอุปกรณ์ท�ำความสะอาด ขณะที่เขาก�ำลังก้มหน้าล้างมือ ก็มีเงาสีด�ำพาดผ่านมาทางด้านหลัง ก่อนที่จะได้เงยหน้าไปดู เขาก็ถูกผลักล้มลงโดย ฝีมือของเด็กขี้แกล้งคนเดิม ฟิตซ์นั่นเอง โนเอลพยายามลุกขึ้น ไม่โต้ตอบอะไร และพยายามเดินแทรกตัวออกไปทางประตูห้องน�้ำ แต่การกระท�ำนั้น ท�ำให้เจ้าหัวโจกโมโหยิ่งกว่าเดิม เขาจับกลุ่มเพื่อน ๆ คิดแผนการบางอย่าง แฝดคนหนึ่ง ที่เป็นหนึ่งในกลุ่มขี้แกล้ง น�ำเอาป้ายก�ำลังท�ำความสะอาดมาวางขวางไว้ ส่วนอีกคนหยิบไม้ถูพื้นขึ้นมา โนเอล ถูกต้อนเข้าไปในส่วนลึกสุดของ ห้องน�้ำ ฟิตซ์กับเพื่อน ๆ ขังโนเอลไว้ในล็อกเกอร์เก็บของ โดยที่ไม่สนใจเสียงร้องขอของเด็กชาย โนเอลพยายามส่งเสียง ทั้งทุบประตู ทั้งตะโกนขอความช่วยเหลือจากทั้งกลุ่มเด็กเกเร หรือคนอื่นๆที่จะเดิน ผ่านมา เสียงของฟิตช์ดังห่างออกไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ลมหายใจของเขาเริ่มติดขัดขึ้นทุกที ๆ โนเอลทุบประตูไปเรื่อย ๆ จนมือเจ็บไปหมด แต่ก็เหมือนจะไม่มีใครได้ยินเขาเลยซักคน ไม่มีเลย ความเงียบเริ่มเข้าครอบง�ำ โนเอลนั่งกอดเข่าคุดคู้อยู่บนฝาชักโครก ฝ่ามือเป็นรอยช�้ำแดงปื้นจากการทุบประตู เป็นเวลานาน เสื้อสเวตเตอร์เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าซีดเซียว ริมฝีปากห้อเลือดจากการกัด นานเท่าไหร่แล้วนะ ที่เขาติดอยู่ในนี้ โนเอลคิดอย่างเหม่อลอย ก่อนที่โลกทั้งใบจะดับวูบไป


chapter i

I โรคกลัวป่า I ลมหนาวพัดผ่านผิวกายของเขา จนรู้สึกเย็นเฉียบไปทั้งร่างกาย ความหนาวเย็นนี้ท�ำให้ เด็กชายรู้สึกตัวขึ้นมา เขาเรียกสติอยู่สักพักก่อนที่จะพบว่าตัวเองไม่ได้อยู่ที่ห้องน�้ำชายของ โรงเรียนอีกต่อไป สถานที่แห่งนี้ปกคลุมไปด้วยหมอก ท�ำให้ทัศนวิสัยแย่มากจนมองไม่เห็น ก่อนที่สายตาจะปรับสภาพกับความมืดได้ ก็มีเสียงอะไรบางอย่างเข้าใกล้เข้ามา โนเอลถอยหลังหนีด้วยความ ตกใจ แต่เพราะเรี่ยวแรงที่ยังไม่กลับมา ท�ำให้เขาไม่สามารถลุกขึ้นพรุ่งนี้ใดอย่างรวดเร็วนัก สิ่งนั้นที่ก�ำลังเข้ามาพูดห้าม ปรามเขาให้ใจเย็น ก่อนที่จะพบว่า สิ่งที่ก�ำลังเดินเข้าใกล้มา มีลักษณะเป็นแมวขนาดใหญ่ ขนสีน�้ำเงินเงาประกาย สะท้อนแสง หน้าตาที่ดูจริงจังแต่ก็แฝงไปด้วยความใจดีอย่างประหลาด บริเวณเท้าทั้งสี่รวมถึงปลายหาง มีขนสีขาวนุ่ม ปกคลุม เด็กชายอึ้งไปสักพักก่อนที่จะเอ่ยถามว่า “คุณพูดได้อย่างนั้นหรือ” เจ้าแมวตัวนั้นหัวเราะ ก่อนที่จะตอบว่าไม่มีอะไรปกติในที่แห่งนี้หรอก ที่แห่งนี้ เด็กชายทวนค�ำด้วยความสงสัย ก่อนที่จะเอ่ยถามว่าที่นี่คือที่ไหน แล้วคุณคืออะไร เจ้าแมวตัวใหญ่ไม่ตอบอะไร ได้แต่พยักพเยิดให้เด็กชายตัวเล็กรีบลุก ขึ้นมาโนเอลนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ได้อยากอยู่ในที่แห่งนี้เพียงล�ำพัง และไม่มีทางเลือกอื่น จึงได้แต่ละรีบลุกขึ้น ปัดฝุ่นแล้ว เดินตามเจ้าแมวตัวนั้นไป ระหว่างทางก็เริ่มสังเกตุสิ่งรอบตัว บริเวณนี้เหมือนเป็นป่าดิบชื้น ต้นไม้ใหญ่ขึ้นสูงเต็ม อาณาเขต พื้นที่สีเขียวถูกปกคลุมด้วยความมืด ไม้เลื้อยและเถาวัลย์ห้อยระโยงระยาง ท�ำให้ที่นี่ดูมีมนต์ขลังและน่ากลัว อย่างแปลกประหลาด ลมหนาวราวกับน�้ำแข็งพัดเข้ามาโดนผิวกาย ท�ำให้เขาหรือยกแขนขึ้นมากอดให้ความอบอุ่นแบบ ไม่รู้ตัว ที่นี่มันที่ไหนกันนะ เขาเข้ามาอยู่ในโลกแห่งใดกันแน่ ท่ามกลางความเงียบ ประกอบกับเสียงลมหวีดหวิวและเสียงไม้สีกันของป่า เจ้าแมวตัวนั้นก็อธิบายขึ้นมาว่า สถาน ที่แห่งนี้คือโลกแห่งความกลัว ประกอบด้วยส่วนส�ำคัญ 5 ส่วน ได้แก่ ป่ามนตรา ถ�้ำแห่งแสง เรือนกระจก หอคอยพิศวง และดินแดนแห่งความมืด ไม่มีใครทราบได้ว่าจิตวิญญาณเหล่านี้เกิดมาได้อย่างไร แต่มีต�ำนานเล่าว่า เมื่อจิตใจที่เศร้า หมองได้เผชิญกับความกลัวอันยากยิ่ง เมื่อนั้นจะมีจิตวิญญาณดวงหนึ่งก�ำเนิดขึ้นในที่แห่งนี้ จิตวิญญาณนั้นจะร้ายหรือ ดีขึ้นอยู่กับเหตุที่เกิดขึ้นมา การเข้ามายังที่แห่งนี้ได้ เมื่อผู้นั้นเผชิญหน้ากับความกลัวในจิตใจอันสูงสุด ประตูจะเปิดออก ให้ติดอยู่ณสถานที่แห่งนี้ตลอดไป ส่วนวิธีการที่จะออกจากที่นี่นั้น มีอยู่หนทางเดียวที่จะต้องเดินออกจากประตู ณ ดิน แดนแห่งความกลัว ซึ่งการจะเดินทางไปที่ดินแดนแห่งนั้น จะต้องผ่านทั้ง 4 ส่วนก่อนตามล�ำดับ ซึ่งระหว่างทางที่ต้อง เดินทาง อาจจะได้พบเจอกับจิตวิญญาณชั่วร้าย หรือจิตวิญญาณที่ดี ไม่สามารถคาดเดาได้ ดังนั้นเราผู้หลงทางจึงต้อง คอยระวังตัว ส่วนเขา มีหน้าที่น�ำทาง ให้ผู้ที่หลงทางออกจากสถานที่แห่งนี้ได้ โนเอลพูดไม่ออก ความรู้สึกเครียดเข้ามาตีกันใน สมองของเขา อาการแพนิคจากโรคที่ก�ำลังเป็นอยู่ ก�ำเริบขึ้น เขารู้สึกหายใจไม่ออก เหงื่อไหลลงมาทั่วไปหน้า เหมือน ก�ำลังจะทรุดลงไป “อย่าคิดมากไปเลยเด็กน้อย มันไม่ส�ำคัญหรอกว่าฉันเป็นใคร แต่ฉันไม่ทิ้งนายแน่นอน” เผู้น�ำทางของเขาได้เข้า มาอยู่ข้างๆ ความรู้สึกอบอุ่นและคุ้นเคยอย่างประหลาด ชาวาบขึ้นมาภายในจิตใจ ความรู้สึกคุ้นเคยบางอย่างจุดติดขึ้น มา แต่เขาก็ไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นเพราะอะไร “งั้นผมขอเรียกคุณว่าเท้าปุยได้ไหม” โนเอลถามเสียงเบา เจ้าแมวไม่ได้ตอบอะไรนอกจากส่งเสียงหัวเราะข�ำ ๆ ออกมาจากล�ำคอ ระหว่างทางเดินผ่านป่าที่เงียบสงัด ดวงตาสีเรืองของสัตว์ป่าน้อยใหญ่ ผุดวาบขึ้นมาตลอดทางจนน่า ขนลุกไปหมด เสียงไม้เบียด กับเสียงฝีเท้าแปลกประหลาดดังขึ้นให้ได้ยินอยู่ทุกก้าวย่างท�ำให้สถานที่แห่งนี้ ดูน่ากลัว จนก้าวขาแทบไม่ออก ยังดีที่เขายังมีเท้าปุยอยู่ข้าง ๆ ไม่อย่างนั้น สิ่งแรกที่จะเกิดกับเขา คงจะเป็นการช็อค ตายอยู่ที่นี่แน่แท้

“ระวังด้วย อยู่ใกล้เข้าไว้” อยู่เสียงของเท้าปุยก็หนักแน่นและดูเป็นกังวลมากขึ้น เขาสังเกตเห็นว่าระหว่างทางที่ ก�ำลังเดินไป ต้นไม้น้อยใหญ่เริ่มเหี่ยวแห้ง และตายลง ต่างกับตอนที่เริ่มเข้ามาในป่าใหม่ ๆ เสียงของสัตว์ป่า เริ่ม เบาบางลง เหลือแต่เสียงลมหวีดหวิว ที่ดังเหมือนเสียงกรีดร้อง ม่านหมอกเริ่มก่อตัวหนามากขึ้นๆ ตามทางที่ก�ำลังมุ่ง หน้าไป กร่อบ โนเอลเดินเหยียบอะไรบางอย่าง ที่มีลักษณะเหมือนมัดกิ่งไม้จนเหมือนจะแตกออกจากกัน เท้าปุยหันมาด้วยความตกใจ ก่อนเสียงกรีดร้องที่ดังจนพื้นสั่นสะเทือนดังขึ้น ป่าทั้งป่าสั่นสะเทือนไปหมด ฝูงนก บินแตกออกด้วยความแตกตื่น ไวกว่าความคิด เท้าปุยดันร่างของโนเอลและตัวเองหลบหลังขอนไม้ใหญ่ เสียงหายใจ อย่างหนักหน่วงดังขึ้น พร้อมกับเสียงของรากไม้เสียดกันเดินใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ร่างสูงใหญ่ของบางสิ่งคืบใกล้เข้ามา รูป ร่างของหญิงสาวผอมเเห้งเหมือนกระดูก ท่าทางที่ดูโอนเอนน่ากลัว เขายาวแหลม ชุดที่เหมือนเคยเป็นสีขาว แต่ขาดรุ่ง ริ่งจนเนื้อผ้าแทบจะไม่เกาะกัน ดวงตาวาวสะท้อนกับสร้อยคอสีแดงสลับขาว และส่วนที่ดูน่าขนลุกอย่างเเปลก ประหลาดที่สุด คือผมที่ยาวลากพื้น แต่สิ่งส�ำคัญคือ นั่นไม่ใช่เส้นผม ! ผมที่ราวกับรากไม้ ชอนไชลงพื้นราวกับฝูงงูที่ ตามล่าเหยื่อ เสียงของพวกมันเสียดกันท�ำให้เกิดเป็นเสียงพิลึกพิลั่นน่ากลัว เจ้าสิ่งนั้น ดูราวกับแม่มดอย่างไรอย่างนั้น โนเอลกลัวจนแทบหยุดหายใจ ร่างกายของเขาแข็งทื่อจนไม่สามารถขยับตัวได้ มือข้างหนึ่งของเขาก�ำบางสิ่งไว้ แน่น สิ่งนั้นมีสภาพเกือบที่จะพังแล้ว เหมือนตุ๊กตาที่ท�ำจากกิ่งไม้และฟางเเห้ง มัดรวมกันเป็นรูปตัวคน บนล�ำตัวมีแผ่น ไม้แบน ท�ำเป็นเหมือนชุดสวมใส่ และมีขีดอยู่ 9 ขีด ตัวนี้มีสีเเดง ป้ายไว้ตรงขีดที่ 3 เท้าปุยพาโนเอลเข้ามาหลบหลังไม้เลื้อยขนาดใหญ่ ก่อนที่จะเล่าว่า เล่าเรื่องราวเล่าขานที่แห่งนี้ คู่น้องพี่สองนางต่างนักหนา อันคนน้องชั่วช้าเหลืออุรา นางน�ำพาบรรลัยมาเยือนเรา ทั้งสงครามคนนอกและชนเผ่า กลับน�ำเหล่าพวกพ้องมาแผดเผา ด้วยความแค้นของคนพี่ไม่บรรเทา คนโง่เขลาจะไม่แคล้วไม่อยู่ดี สถานที่แห่งนี้ คือจุดเริ่มต้นแรกของพวกเรา ‘ป่ามนตรา’ เป็นป่าต้องค�ำสาป ที่เคยมีชนเผ่าอาศัยอยู่ จึงเป็น เหมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการใช้ประกอบพิธีกรรม และวิญญาณที่ปกปักรักษาผืนป่าแห่งนี้ คือนางไม้ต้องค�ำสาป จิต วิญญาณแห่งป่ามนตรา ที่เราได้เจอไปเมื่อครู่นั่นเอง คาดว่าสิ่งที่อยู่ในมือของโนเอล คือตุ๊กตาวิญญาณ ที่ใช้สะกดวิญญาณของนางไม้ต้องค�ำสาปไว้ ให้มีแต่ความโกรธ แค้น คอยเข้ามาจู่โจมผู้ที่เข้ามาบุกรุกพื้นที่ป่าแห่งนี้ ตามต�ำนานเล่าว่า มีตุ๊กตาวิญญาณ 9 ตัว เท้าปุยคิดว่า ถ้าท�ำลาย ตุ๊กตาวิญญาณจนครบแล้ว จะสามารถออกไปจากที่นี่ได้ ดังนั้นเขาทั้งสองจึงต้องออกตามล่าหาตุ๊กตาวิญญาณ และ คอยหลบสายตาของนางไม้ต้องค�ำสาป ด้วยความช่วยเหลือของเจ้าแมวตัวโต เหมือนกับเมื่อเจอตุ๊กตาวิญญาณมากขึ้น เท่าไหร่ ความโกรธเกรี้ยวของนางไม้ต้นนั้นก็ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น เหลืออีก แค่ตัวเดียวตัวก็จะครบ 9 ก้มหลบกันมาในจุด ๆหนึ่ง ก็พบเจอสิ่งของที่กองอยู่บนพื้น ผ้าดิบที่ขาดวิ่น เชิงเทียนสีด�ำ เข็มเล่มใหญ่ และของ ประกอบพิธีกรรมมากมายน่าขนลุก ร่องรอยของการต่อสู้และคราบสีด�ำที่อยู่บริเวณต้นไม้สูงใหญ่จนแทบมองไม่เห็น ปลายยอด แผ่รังสีความสยองขวัญแปลก ๆออกมา ความรู้สึกที่เหมือนกับว่าบริเวณนี้มีความด�ำมืดบางอย่างแฝงอยู่ สถานที่ทั้งหมดที่เขาเดินผ่านมาที่คิดว่าน่ากลัว เทียบบริเวณนี้แล้วเหมือนสนามเด็กเล่นไปเลย คาดว่าสถานที่แห่งนี้น่าจะเป็นจุดที่ส�ำคัญที่สุดของป่า เขาสองคนพยายามที่จะตามหาตุ๊กตาวิญญาณตัวสุดท้าย และตัวสุดท้ายก็ติดอยู่กับต้นไม้ใหญ่ที่น่าขนลุกต้นนั้น โนเอลเดินเข้าไปอย่างกล้าๆกลัวๆ พร้อมกับเท้าปุยที่คอยระวัง หลังให้ ก่อนที่เขาจะได้เอื้อมมือเข้าไปหยิบ อยู่ ๆก็มีรากไม้เลื้อยเข้ามาหาเขา เท้าปุยผลักโนเอลออกให้พ้นทาง นางไม้ ต้องค�ำสาปก�ำลังมาทางนี้ เขาวิ่งล่อเจ้าปีศาจไปอีกทาง พลางตะโกนบอกให้โนเอลท�ำลายตัวสุดท้าย


ความกลัวพุ่งเข้ามาตีในใจของเขา จนแทบก้าวขาไม่ออก แต่เมื่อเห็นว่าปีศาจร้ายก�ำลังจะเข้าถึงตัวเท้าปุยแล้ว เขา จะรวบรวมความกล้า แล้ววิ่งเข้าไปหยิบตุ๊กตาวิญญาณตัวนั้น หักมันออกเป็น 2 ส่วน ตุ๊กตาวิญญาณตัวสุดท้ายถูก ท�ำลายลง แสงสว่างเรืองรองวาบขึ้นตรงใจกลางของต้นไม้ใหญ่ นางไม้ต้องค�ำสาปหยุดนิ่ง พลันทุกสิ่งสว่างวาบจนท�ำให้ ตาของทั้งสองพร่ามัว ระหว่างดวงตาก�ำลังปรับให้เข้ากับแสง สายลมอบอุ่นก็พัดเข้ามา เสียงนกร้องและเสียงสัตว์ป่า ความรู้สึกเหมือนกับว่าป่า กลับมามีชีวิตและมีเวทย์มนต์อีกครั้ง เขาลืมตาขึ้นมา ก็พบกับเท้าปุยก�ำลังส่งยิ้มให้ แสงแดดสาดแสงเรืองรองกระทบต้นไม้น้อย ใหญ่ สัตว์ป่าออกมาจากรัง ต้นไม้ที่เคยดูเหี่ยวเฉา กลับมีชีวิตชีวา ใบสีเขียวพลิ้วไหวบนล�ำต้น กลิ่นหอมสดชื่นของดอกไม้ปลิว มากระทบจมูก เหล่านกน้อยและฝูงผีเสื้อบินออกมาเชยชมความงามของผืนป่าแห่งนี้ ช่างเป็นสถานที่ที่สวยงามเหลือเกิน “ขอบคุณนะ” เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยขึ้น โนเอลรีบหันกลับไปมอง และพบกับนางไม้ตนเดิม แต่ตอนนี้ความโกรธ เกรี้ยวบนใบหน้าของนางได้หายไปหมดแล้ว เหลือเพียงรอยยิ้มอบอุ่น และท่าทีที่ผ่อนคลาย นางเอ่ยขอบคุณที่ช่วยแก้ไขความ ผิดบาปที่อยู่ในใจของนางมาตลอด ขอบคุณที่ท�ำให้ผืนป่ากลับมาสวยงามดั่งเดิมอีกครั้ง ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าท�ำไมที่แห่งนี้ถึง ส�ำคัญต่อทุกคน ไม่มีอะไรที่เธอจะต้องรู้สึกกลัวอีกแล้ว เพื่อเป็นการขอบคุณ เธอจึงมอบสิ่งที่ส�ำคัญที่สุดในตอนที่เธอมีชีวิตอยู่ สิ่งนี้คือเเท่วคบเพลิงที่เธอใช้ติดตัวตลอดเวลา มันมี ความยาวเกือบเท่าตัวของโนเอล มีน�้ำหนักที่ไม่หนักเกินและไม่เบาเกิน ท�ำจากไม้ที่ดูแข็งแรง และรูปทรงม้วนที่ปลายด้านบน เพียงแค่เขาเอ่ยคาถา ‘La Foresta’ (อ่านว่า ลา-ฟอ-เรต-ต้า) ลูกไฟสีเขียวอบอุ่นจุดติดขึ้น ทั้งสองคุยแนะน�ำตัวกันสักพัก ก่อนจะรู้ว่านางไม้ตนนี้เคยเป็นคนของชนเผ่ามาก่อน นางมีชื่อว่าคาโล เพราะความโลภ ของนาง ท�ำให้โดนค�ำสาปและติดอยู่ในที่แห่งนี้ โนเอลกล่าวขอบคุณ ก่อนที่จะรับมันมา เขาเงยหน้าขึ้นมองผืนป่าที่สวยงาม แห่งนี้อีกรอบ ความรู้สึกกลัวที่มีในตอนแรกหายไปหมด ที่จริงผืนป่าแห่งนี้มีความสวยงามอีกมากที่เรายังไม่รับรู้ เขาสูดลม หายใจรับอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเต็มปอด ก่อนที่จะเอ่ยลานางไม้ตนนั้น พร้อมเดินทางต่อไปกับเท้าปุย ระหว่างทางเดิน โนเอล ตื่นเต้นและพูดถึงความสวยงามของป่ามนตราไม่หยุดไม่หย่อน เท้าปุยส่งยิ้มให้อย่างข�ำขัน แต่ก็บอกให้เขาเดินอย่างระมัดระวัง เพราะไม่รู้ว่าจะมีจิตวิญญาณอื่นเข้ามาอีกหรือไม่ จะดูความตื่นตาตื่นใจ ท�ำให้เขาหยุดพูดถึงมันไม่ได้เลย จนเดินมาถึงบริเวณ ด้านหน้า ที่มีต้นเมเปิ้ลแฝดอยู่ เหวอ ยังไม่ทันได้ตั้งตัว โนเอลและเท้าปุย ได้ตกลงมาบริเวณหลุมขนาดใหญ่ ใบของต้นเมเปิ้ล ท�ำให้ทั้งสองไม่ทันสังเกตการมี อยู่ของหลุมกว้าง และตกลงมา ด้วยความสูงของหลุมท�ำให้ทั้งสองไม่สามารถที่จะปีนกลับขึ้นไปทางเดิมได้ พวกเขาจึงออกเดิน ทางต่อ เข้าไปด้านในเพื่อหาทางออกแทน สถานที่แห่งนี้เหมือนเป็นถ�้ำหินปูน เป็นถ�้ำที่มีความแคบอย่างมาก กลิ่นก�ำมะถันที่ อยู่ภายใน ท�ำให้หายใจแทบไม่ออก เสียงน�้ำหยดและเสียงตีปีกของค้างคาว ความรู้สึกที่อยู่ในถ�้ำนี้เป็นสิ่งที่ทรมานมาก ขนาด ตัวของโนเอล ที่ตัวเล็กอยู่แล้ว ยังยากล�ำบากในการเดินทาง เมื่อเดินทางมาถึงเส้นทางหนึ่ง พวกเขาก็พบทางแยกหลายทาง เท้าปุยบอกให้เดินทางไปทางที่มีแสงสว่างออกมา โนเอลถามอย่างสงสัยว่าเท้าปุยทราบได้อย่างไรว่าต้องเดินไปตามเส้นทางนั้น



chapter ii I โรคกลัวที่แคบ I

สถานที่แห่งนี้คือ ‘ถ�้ำแห่งแสง’ มีเรื่องเล่าว่า เมื่อนักเดินทางเดินผ่านที่แห่งนี้ ให้เดินทางตามแสง แล้วจะ สามารถออกสู่อิสรภาพได้ โนเอลพยักหน้าเข้าใจ ก่อนที่จะสังเกตว่า การที่ถ�้ำสามารถเรืองแสงได้นั้นเกิดจากดอกไม้ ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีหน้าตาเหมือนแร่บางอย่าง เรืองแสงออกมาเป็นแสงสีฟ้า แต่ในตอนนี้บางดอกก็เหี่ยวเฉาจนแทบจะ ไม่เปล่งแสงออกมา ยิ่งเดินลึกเข้าไปๆ ถ�้ำแห่งนี้ก็ยิ่งแคบเข้าไปเรื่อย ๆ ความรู้สึกเหมือนก�ำลังโดนจับตามองจากบางสิ่ง เริ่มรุนแรง ขึ้นทุกทีทุกที กลิ่นก�ำมะถันเริ่มแรงขึ้น การหายใจเป็นไปได้อย่างยากล�ำบาก โนเอลหอบหายใจถี่จนแทบหมดสติ เท้าปุยลากเขาออกมานั่งพักที่บริเวณหนึ่ง เป็นช่วงพักระหว่างบริเวณทางเชื่อมที่มีบริเวณไม่กว้างขวาง เพียง แค่พอให้ยืดตัวได้เล็กน้อย พอได้หยุดพักรับออกซิเจน ท�ำให้ได้สังเกตอะไรมากขึ้น บริเวณฝาผนังถ�้ำจุดหนึ่งมีรอย ขีดเขียนบางอย่างอยู่ โนเอลจึงก้มลงไปดูด้วยความสงสัย “เพื่อนกันตลอดไป” อยู่ ๆเท้าปุยก็พูดขึ้นมา เขาบอกว่าอักระแปลกๆ เขียนว่าแบบที่เขากล่าว พร้อมกับรูป วาดของบางอย่าง ที่มีเขา และเด็กสาว เขาใจลอยจนเผลอยื่นมือไปลูบภาพเขียนนั้น ครืนนน ทันใดนั้น ผนังรอบกายของเขา กลับเกิดการสั่นไหวและบีบตัวเข้ามาด้วยความรุนแรง โนเอลและเท้าปุยไม่ สามารถไหวตัวได้ทันท�ำให้ไม่สามารถหลบหนีออกมาได้ กลิ่นก�ำมะถันแรงขึ้นเรื่อยจนแทบหายใจไม่ออก เเรงบีบ แน่นท�ำให้ทั้งสองไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ เวียนศีรษะจนแทบจะอาเจียนออกมา “จุดไฟเร็วเข้า !” เสียงของเท้าปุยตะโกนบอกโนเอล ด้วยความสับสนมึนงง ท�ำให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความ ยากล�ำบาก เขารีบควานหาไม้คบเพลิง ก่อนที่จะตะโกนร่ายคาถา La-fo-res-ta ดวงไฟสีเขียวเรืองจึงถูกจุดขึ้นมา ทันทีที่ดวงไฟสว่างร้อนได้จุดขึ้นมา จากความหนาแน่นของก�ำมะถัน ท�ำให้ไฟลามวาบไปทั่วผนังถ�้ำที่บีบอัดเข้ามา เสียงกรีดร้องทุ้มต�่ำดังขึ้นจนแสบแก้วหูไปหมด ผนังถ�้ำคลายตัวออกท�ำให้โนเอลและเท้าปุยเริ่มหายใจได้สะดวก ก้อนผนังร่นหนีจากเปลวไฟร้อน และก่อตัวเป็นรูปร่างดินโคลนบางอย่างที่มีขนาดใหญ่เต็มตัวถ�้ำไปหมด แสง ไฟเผยให้เห็นกะโหลกสัตว์ ที่มีลักษณะเหมือนกะโหลกของกวาง แตกบิ่นไม่เป็นรูปร่างสมบูรณ์ ดวงตาสีแดงดุร้าย และลมหายใจกลิ่นก�ำมะถัน ทั้งสองสบโอกาสหันหลังหนีจากช่วงชุลมุน วิ่งไปตามทางที่มีแสงของดอกไม้ เท้าปุย บอกว่า เจ้าสิ่งนั้นคือจิตวิญญาณชนิดหนึ่ง ณ โลกแห่งความกลัว เขาคือจิตวิญญาณมนุษย์โคลนผู้โศกเศร้า ก่อน หน้านั้น เขาเป็นผู้น�ำทางภายในถ�้ำแห่งแสงแห่งนี้ แต่วันหนึ่ง เขากลับหายตัวไป และไม่มีใครพบเห็นเขาอีกเลย ใคร จะรู้ว่าที่จริงเขายังอยู่ในสถานที่แห่งนี้มาตลอด

แฮ่ก ๆ เสียงหายใจหอบเหนื่อยดังขึ้นเป็นระยะ เขาทั้งสองวิ่งมาตามทางไกลแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ เหมือนกับว่าถ�้ำแห่งนี้ เป็นเขาวงกตที่ไม่มีที่สิ้นสุด เสียงผนังถ�้ำแตกออก ท�ำให้โนเอลตกใจจนท�ำไม้คบเพลิงหลุดจากมือ ขณะที่เขาก�ำลัง จะพุ่งตัวไปหยิบ เท้าปุยก็พุ่งแทรกเข้ามาขวาง พร้อมส่งเสียงขู่ใส่ผนังถ�้ำตรงนั้น เจ้าหัวกะโหลกกวางขนาดใหญ่ พร้อมกรงเล็บโคลนที่ก�ำลังพุ่งเข้ามาอยู่ ๆก็ชะงักไป ท่าทีของเขาดูอ่อนลง ก่อนที่จะค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบไม้คบเพลิงขึ้นมา โนเอลก�ำลังจะพุ่งเข้าไปแย่งแต่โดนเท้าปุยขวางไว้ ความเงียบก็เข้าปกคลุมพื้นที่ จนได้ยินสียงหายใจหอบเหนื่อยของทั้งสามคน “เธอ...กลับมาแล้วหรือ” เสียงทุ้มใหญ่จากเงามืดเอ่ยถาม ทั้งสองคนมองหน้ากันด้วยความสับสน ก่อนจะค่อยคลายตัวจากท่าทีป้องกันตัว โนเอลกล้าๆกลัวๆเดินเข้าไป ใกล้ขึ้นเล็กน้อย แล้วเอ่ยถามจิตวิญญาณผู้โศกเศร้าว่าเขาหมายถึงผู้ใด “คาโล” ค�ำตอบที่ได้รับกลับมา ท�ำให้โนเอลรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว รูปเด็กหญิงที่ฝาผนัง ค�ำที่เขียนไว้ว่า เพื่อน กันตลอดไปผุดเข้ามาในหัว น�้ำตาเม็ดโตผุดขึ้นมาเต็มหน้าของจิตวิญญาณตนนั้น จนพื้นโคลนเปียกชุ่ม ทุกหยด น�้ำตาท�ำให้มีดอกไม้เรืองแสงงอกขึ้นมา เขาคุกเข่าร้องไห้กอดไม้คบเพลิงอยู่แบบนั้น จนรอบตัวของเขาเรืองไปด้วย แสงของดอกไม้ โนเอลหันมองหน้าผู้น�ำทางขนปุยของเขาเพื่อเรียกความมั่นใจ เท้าปุยพยักหน้าหนักแน่นตอบกลับมาก่อนทั้ง คู่จะสาวเท้าเข้าไปใกล้มนุษย์โคลนที่ยังคงไม่หยุดร้องไห้ตนนั้น เด็กชายตัวเล็กยื่นมือที่สั่นเทาของเขา ลูบปลอบ ประโลมจิตวิญญาณที่น่าสงสาร พร้อมเล่าเรื่องราวของคาโลให้ฟัง มนุษย์โคลนบัดนี้ ทั้ง ๆที่มีขนาดใหญ่เต็มถ�้ำ แต่ ความรู้สึกเหมือนตัวของเขาหดเล็กลงจนน่าสงสาร หัวกะโหลกสัตว์พยักหน้าตอบรับฟังโนเอลเรื่อย ๆ เด็กหนุ่มตั้งใจเล่าจนไม่ทันได้สังเกตว่า ผนังถ�้ำที่ดูมืดมิดหน้ากลัว และเต็มไปด้วยกลิ่นก�ำมะถัน ตอนนี้กลับมี แสงเรืองรองสีฟ้าอ่อนขึ้นอยู่ทุกจุด ถ�้ำที่ดูเศร้าหมอง กลับมีดอกไม้สีฟ้าเรืองขึ้นตลอดทาง กลิ่นก�ำมะถันจางลง จน เหลือแต่กลิ่นดินสดชื่นหลังฝนตก ถ�้ำมืดมิดแห่งนี้ ได้กลับมาเป็นถ�้ำที่สว่างสไวอีกครั้ง แรงสะกิดที่ไหล่ ท�ำให้โนเอลหลุดจากภวังค์ แสงสีฟ้าเรืองรองสวยงาม ท�ำให้เขาประทับใจจนตาค้าง ขาเล็ก ก้าวเดินส�ำรวจอย่างตื่นตาตื่นใจจนเหมือนลืมบางสิ่งไป เสียงกระแอมดังขึ้น เรียกให้เด็กชายหันหน้ากลับไปตาม เสียง ผ้าคลุมสีเดงผืนนุ่มถูกพันรอบคอของเขา ด้วยมือโคลนขนาดใหญ่ แต่ตอนนี้กลับมีแต่ความนุ่มนวล รอยยิ้มแผ่วเผา ถูกส่งกลับมาจากจิตวิญญาณตนเดิม สิ่งนี้เป็นของตอบแทน ที่บอกเล่าเรื่องราวของเพื่อนเก่า ของเขา ให้รู้ความจริง ว่าตอนนี้เป็นอย่างไร และแทนค�ำขอบคุณ ที่ช่วยให้ตัวของเขาและถ�้ำแห่งนี้ ได้เข้าใจความ เป็นไป และสามารถกลับมาท�ำหน้าที่ของตนได้อีกครั้ง และคราวนี้ เขาจะเป็นผู้น�ำทางของทุกคนออกจากที่แห่งนี้ เอง มนุษย์โคลนหรือผู้น�ำทางแห่งแสง ย่อลงต�่ำ เพื่อให้โนเอลและเท้าปุย ขึ้นมาบนตัวของเขา ก่อนที่ทั้งสามจะออก เดินทางผ่านถ�้ำที่สวยงามแห่งนี้ เพื่อออกสู่โลกภายนอก



chapter iii I โรคกลัวกระจก I

หลังจากทั้งสามคนออกเดินทางมาสักพัก ก็เดินทางมาถึงประตูบานหนึ่ง ที่อยู่ติดกับบริเวณถ�้ำ เป็นประตูไม้บานเก่า ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่ดูจากสภาพแล้วยังใช้งานได้ดี ทั้งสองคนกล่าวขอบคุณมนุษย์โคลน ก่อนที่จะเดินทางต่อเข้าไปยังประตูบานนั้น ก่อนจากกัน มนุษย์คนบอกให้เขาระวังตัว และอย่าลืมใช้งานผ้าคลุมที่เขาให้ไว้ด้วย โนเอลท�ำหน้างงด้วยความ สงสัย แต่มนุษย์โคลนก็ไม่ได้ตอบอะไรเพิ่มเติม พวกเขาเลยบอกลากัน และเข้าไปยังบานประตูแห่งนี้ หลังบานประตู เป็นลักษณะเหมือนห้องใต้ดินเก่าแก่ของบ้านหลังหนึ่ง ทุกอย่างภายในนั้นขึ้น สนิมไปหมด กลิ่นของฝุ่นเหม็นคลุ้ง ใยแมงมุมและหยากไย่เกาะอยู่ทั่วบริเวณ โนเอลใช้ไม้คบเพลิง กวาดหยากไย่จ�ำนวนหนึ่งให้พ้นทาง ถัดจากประตูไประยะหนึ่ง จะมีบันไดเหล็กเก่าๆที่เชื่อมกับทาง เดินขึ้นชั้นบน ทั้งสองจึงเดินขึ้นไปทางบันไดนั้น แล้วเจอกับประตูอีกบานที่คาดว่าน่าจะเป็นประตูที่ เชื่อมกับภายในบ้าน ช่วยกันงัดประตูอยู่สักพักหนึ่ง จนสามารถเปิดประตูเข้าไปข้างในได้ บริเวณบ้านมีลักษณะ กว้างขวาง ด้านหน้าของเขาหลังจากที่เปิดประตู จะเห็นโต๊ะทานข้าวขนาดใหญ่ ที่มีสิ่งของเก่าๆวาง ไว้มากมายด้านบน ถัดจากโต๊ะจะเจอบริเวณท�ำครัว ที่เป็นเหมือนกับห้องครัวในสมัยเก่า ในยุคนั้น น่าจะยังไม่มีเคาน์เตอร์ส�ำหรับท�ำครัว จึงเป็นเหมือนช่องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ด้านในเป็นส่วนของฐาน ไม้ที่คาดว่ามีใช้เพื่อก่อไฟในการท�ำอาหาร เพราะมีหม้อห้อยอยู่ภายใน ริมขวาสุดเป็นหน้าต่างขนาดใหญ่ ที่มีแสงสลัวลอดออกมาจากด้านนอก บริเวณติดกันกับ หน้าต่าง เป็นส่วนของบันไดยาวเพื่อขึ้นไปยังชั้นลอย แต่ที่น่าตกใจ คือส่วนของผนังทางขึ้นบันได และผนังชั้นลอย มีกระจกบานเล็กบานใหญ่ ติดอยู่เต็มทั่วบริเวณไปหมด ความเก่าของบ้านหลังนี้ พร้อมกับสถาปัตยกรรมในแบบบ้านสไตล์อังกฤษโบราณ ห้องโถงที่มีขนาดใหญ่ ดูแล้วผู้อยู่อาศัยน่า จะมีฐานะไม่น้อย แต่ด้วยความทรุดโทรม ท�ำให้บ้านทั้งหลังผุพัง มีสนิมเกาะอยู่ทั่วราวบันได และมี ใยแมงมุมห้อยอยู่มากมายทั่วบ้านเต็มไปหมด จนท�ำให้บ้านที่ดูเหมือนเคยสวยงามหลังนี้กลับกลาย เป็นเหมือนบ้านผีสิงอย่างไรอย่างนั้น โนเอลและเท้าปุยเริ่มเดินเข้าไปส�ำรวจบริเวณโต๊ะที่อยู่หน้าครัวก่อน บนโต๊ะมีข้าวของเครื่องใช้ มากมาย ทั้งเครื่องรีดนม ถังน�้ำ ขวดและแก้วไวน์ ที่มีคราบไวน์เกาะเกรอะเต็มไปหมด แต่เขากลับ สะดุดตากับหนังสือเล่มใหญ่ ชื่อท่าทางจะเป็นหนังสือสูตรในการท�ำอาหาร ในระหว่างหน้าหนังสือ เหมือนมีบางสิ่งนูนขึ้นมา ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาต้องเปิดหน้าหนังสือดู และพบกับสิ่งหนึ่ง ที่มีหน้าตาเหมือนกระจกถือ ไม่มีลายและสัญลักษณ์อะไรอยู่ด้านบนตัวกรอบ ด้วยระยะเวลาและ อายุของมัน ท�ำให้ส่วนที่ควรจะสะท้อน กลับปกคลุมไปด้วยคราบสีน�้ำตาลเก่าๆจนแทบจะมองไม่ เห็น แต่ด้วยรูปส่งท�ำให้ยังพอรู้อยู่ว่าเป็นกระจก โนเอลไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก จึงเดินต่อไปยังส่วน ของบันไดเพื่อขึ้นไปส�ำรวจชั้นลอย

ระหว่างขณะที่ก�ำลังเริ่มก้าวเดินขึ้นบันได ความรู้สึกเย็นยะเยือกจนขนลุกก็ผุดขึ้นมา ความ รู้สึกที่เหมือนกับมีดวงตาบางอย่างจับจ้องอยู่ แต่ไม่สามารถระบุได้เลยว่าดวงตานั้นจ้องมองมาจาก ทางไหน โนเอลเริ่มจับราวบันไดขั้นแรก ด้วยมือที่สั่นเทา สายตาของเขาสาดส่องไปรอบรอบด้วย ความหวาดกลัว เขาพยายามเดินติดกับราวบันไดฝั่งด้านนอกให้มากที่สุด เพราะความรู้สึกขนลุกจากบาน กระจกที่ติดอยู่เต็มผนังที่ติดกับบันได รู้สึกเหมือนมีสายตาแปลกประหลาดจ้องมองมาจากภายใน กระจกที่แตกร้าวเหล่านั้น กระจกแต่ละบานจะมีสัญลักษณ์บางอย่างที่เป็นเหมือนกับตราของ ครอบครัวนี้ มีลักษณะเป็นวงก้นหอยคว�่ำสองอันไขว้กัน เขารู้สึกว่าการหายใจเป็นสิ่งที่ท�ำได้อย่าง ยากล�ำบากมากที่สุด กลั้นใจจนเดินมาถึงชั้นพักบันได ส่วนที่มีบานกระจก 3 บานใหญ่ ยาวตั้งแต่ พื้นจนแทบจะถึงฝ้าเพดานด้านบน ทันใดนั้นสายตาของเขาก็เหมือนเห็นอะไรบางอย่างจากภายใน บานกระจกตรงกลาง เหมือนมีเงาของเด็กชายคนหนึ่งอยู่ด้านใน เด็กชายคนนั้นอายุ ประมาณไม่เกิน 10 ขวบ ผมสีน�้ำเงินตัดจนสั้น พร้อมกับชุดกีฬาสีขาว มีหมายเลข 12 ก�ำกับอยู่ โนเอลรู้ได้ทันทีเลยว่านั่นคือพี่ชายของเขา แซมนั่นเอง แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อพี่ชาย ของเขานั้น“มาสิโนเอล เรามาเล่นด้วยกันเถอะ” เสียงนั้นดังขึ้นมาจากภายในของกระจก ความรู้สึกดีใจ ปนสับสนเกิดขึ้นภายในจิตใจของเด็กชายตัวชายตัวเล็ก หูของเขาอื้ออึงจนแทบจะไม่ได้ยินเสียง รอบข้าง ขาเล็กกาวออกไปเองแบบไม่ทันรู้ตัว รู้สึกตัวอีกทีเขาก็เข้ามาอยู่หน้าบานกระจกใบนี้แล้ว โนเอลตกอยู่ในห้วงภวังค์บางอย่าง เขาก�ำลังจะก้าวขาตามคนในกระจกเข้าไป ก่อนที่จะเอา ตัวผ่านบานกระจกนี้ เท้าปุยได้พุ่งเข้ามาดึงตัวของเด็กชายออกไปอย่างแรง จนสติของเขากลับคืน มา และได้พบว่าสิ่งที่อยู่หลังบานกระจกแท้จริงนั้นไม่ใช่พี่ชายของเขา แต่เป็นเงาสีด�ำของบางอย่าง เงานั้นมีรูปร่างเหมือนกับหญิงสาว ผมยาวสยายไปทั่วหลังกระจกบานอื่น รูปร่างบิดเบี้ยวไม่ สามารถคาดเดาได้ว่าหลังบานกระจกนั้นเป็นใครกันแน่ ไวเท่าความคิด โนเอลรีบลุกขึ้นลุกหนีให้ห่างจากบานกระจกทุกบาน แต่หญิงสาวหลังกระจก ก็คอยแต่จะล่อลวงเขาให้หลุดเข้าไปยังโลกหลังกระจกของเธอ แม้แต่ตัวของเท้าปุยเอง ก็ยังแทบ จะต้านทานพลังของเธอไม่ไหว เขาพยายามวิ่งหนีลงบันได เพื่อที่จะไปหลบบริเวณชั้นใต้ดิน แต่ก็ ท�ำได้ด้วยความยากล�ำบาก เนื่องจากตอนหญิงสาวในกระจกขวางทางไว้ ทันใดนั้นก็มีความรู้สึกอุ่นวาบขึ้นมาที่รอบคอของเขา ความร้อนบางอย่างแผ่ออกมาจากผ้า คลุมที่ใช้พันรอบคอของเขานี่เอง พริบตาเท้าปุยก็วิ่งคาบปลายผ้าคลุมด้านหนึ่งลากไปมุมสุดของ ผนังมุมสุดของขอบบันไดที่ติดกับกระจกบานแรก โนเอลตกใจมากตอนแรก แต่เห็นได้ว่าผ้าห่ม สามารถขยายขนาดออกได้ตามต้องการ ทั้งสองมองตากันอย่างรู้ใจ ก่อนที่โนเอลจะวิ่งไปริมสุด ของกระจกบานสุดท้าย แม้จะมีจ�ำนวนมาก แต่ด้วยความสามารถของผ้าคลุมนี้ ท�ำให้ไม่มีกระจก แม้แต่บานเดียวลอดออกมา


chapter 3.5 I เพื่อนเก่า I

ทั้งสองเริ่มออกเดินทางต่อ เนื่องจากระเบียงทางชั้น 2 ถูกปิด ทั้งคู่จึงหาเส้นทางในการออกจากคฤหาสน์หลัง นี้ตรงเส้นทางอื่น หลังจากสอดส่องเส้นทางสักพัก ก็พบทางออกบริเวณหน้าบ้านชั้นหนึ่ง ออกมาจากตัวบ้านจะ เป็นทางเดินต่อไปด้านหน้า ระหว่างทางมีต้นไม้น้อยใหญ่ เติบโตสวยงามอยู่เต็มสองข้างทาง เดินไปสักพักจะเจอกับ ริมน�้ำตกขนาดใหญ่ ด้วยความเหนื่อยล้าและกระหายน�้ำ ทั้งคู่จึงหยุดพักอยู่ที่บริเวณนั้น โนเอลนั่งอยู่บนก้อนหินก้อนใหญ่ที่ริมน�้ำตก พลางเหม่อมองไปยังด้านหน้า เขาติดอยู่ที่นี่มาสักพักแล้ว แต่ อาการป่วยของเขากลับไม่ค่อยก�ำเริบขึ้นมาเท่าไหร่ ความรู้สึกที่เหมือนกับมีคนคุ้นเคยอยู่ข้างๆตลอดเวลานี้มันคือ อะไร ระหว่างที่ก�ำลังนั่งคิดอยู่ เจ้าแมวเหมียวสีฟ้าก็ทิ้งตัวนั่งลงข้างๆเขา เท้าปุยไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ทั้งสอง กลับไม่รู้สึกถึงความอึดอัดระหว่างกันเลย เมื่อพักจนหายเหนื่อยแล้ว ก็เริ่มออกเดินทางกันต่อ หลังจากเดินมาจนสุดทาง ก็พบกับหน้าผากสูง ตรงทาง สุดขอบของเมืองนี้ บริเวณนี้มีต้นไม้ขนาดใหญ่มากต้นหนึ่งที่เห็นแล้วสะดุดตา เหมือนกับเป็นสัญลักษณ์ที่บอกว่า ตรงนี้เป็นจุดสิ้นสุดของเมือง เมืองหน้าปรากฏภาพที่ท�ำให้รู้สึกทั้งน่าอัศจรรย์และน่ากลัวในเวลาเดียวกัน ภาพของเมืองลอยฟ้าขนาดใหญ่ แบ่งออกเป็นเหมือนเกาะที่ลอยฟ้าหลายๆส่วน แต่ละส่วนจะเป็นเหมือน หมู่บ้าน ส่วนตรงกลางที่เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด เหมือนมีม่านหมอกสีด�ำขนาดใหญ่บังไว้ แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ รังสีความ น่าขนลุกที่แผ่ออกมาจากที่นั่น ความรู้สึกเหมือนเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่ร้างมาเนิ่นนาน ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่อีกต่อไป เมฆสีด�ำปกคลุมเมืองทั้งเมืองไว้ จนเหมือนกับเป็นเกาะสีด�ำขนาดใหญ่ เท้าปุยกล่าวว่าที่แห่งนั้นแหละที่เป็นเส้นทางไปต่อของพวกเรา โนเอลกุมขมับ จะสามารถเดินทางต่อได้ อย่างไรในเมื่อตรงนี้เป็นทางที่สุดหน้าผาแล้ว ถ้าจะไปได้ก็คงต้องมีปีกสิ้นเสียงของโนเอล ก็มีเงาสีขาวขนาดใหญ่ โฉบลงมาจากต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ตรงนั​ั้น คู่หูนักเดินทางรีบตั้งการ์ด แต่ เมื่อรอให้สายตาปรับโฟกัสสักครู่ เท้าปุยก็ตะโกนออกมาเสียงดัง “มอร์ดี้ !” มอร์ดี้ เป็นผีเสื้อขนาดใหญ่ แผงปีกขนาดมหึมามีสีเหลืองสวยสะท้อนแสง เข้ากันได้ดีกลับล�ำตัวสีขาวนวล ตัดกับสีฟ้าสวยบริเวณหนวดที่อยู่บนหัว มีลักษณะเป็นแผงเหมือนกับผีเสื้อกลางคืน ดวงตาขนาดใหญ่ฉายแววมุ่ง มั่น และหางยาวที่ปลายหางฟูคล้ายกับดอกแดนดิไลออน เท้าปุยวิ่งไปหาด้วยท่าทีตื่นเต้นตกใจ พร้อมกับบอกว่า มอร์ดี้ เป็นเพื่อนคนแรกของเขาหลังจากที่มาอยู่ที่นี่ มอร์ดี้ยิ้มรับ พร้อมกับพยักหน้าให้เพื่อแสดงความเป็นมิตร เขาเป็นผีเสื้อที่มีขนาดใหญ่มาก ตัวโตกว่าเด็กชาย ประมาณ 2-3 เท่า ผีเสื้อยักษ์พูดอะไรบางอย่างกับผู้น�ำทางของเขา เป็นภาษาที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้ คุยกันสัก พัก เท้าปุยก็หันมาบอกกับโนเอล เพื่อนของเขาอาสาที่จะไปส่งที่เมืองนั้น แต่ด้วยสีหน้าเป็นกังวล เท้าปุยจึงกล่าว ต่อว่า แต่เพื่อนตัวยักษ์นี้ ไม่กล้าที่จะอยู่ที่เมืองนี้นาน เขาพูดถึงค�ำสาป และสิ่งน่ากลัว เขาจึงอาสาที่จะไปส่ง แต่กู จะไม่สามารถอยู่ต่อด้วยได้ เด็กชายตัวเล็กพยักหน้าด้วยความเข้าใจ เมืองที่เหมือนกับเมืองร้างผีสิงแบบนั้นคงไม่มีใครกล้าเข้าไปอยู่หรอก ถ้าไม่ใช่ว่าเป็นเหตุจ�ำเป็นจริง ๆ เมื่อได้ยินดังนั้น ผีเสื้อยักษ์ก็มีท่าทีฮึกเหิมขึ้นมา เขายืดอกขึ้นและย่อตัวให้ทั้งสองคนสามารถขึ้นไปบนหลัง ของเขาได้ โนเอลปีนขึ้นไปด้วยท่าทีกล้าๆกลัวๆ ต่างจากเท้าปุยที่กระโดดขึ้นไปอย่างคุ้นเคย เหวอ แรงออกบินที่รวดเร็ว ท�ำให้เด็กชายตัวน้อยแทบจะทรงตัวไม่อยู่ มือของเขาก�ำแผงคอของผีเสื้อยักษ์ไว้แน่น โนเอลหลับตาปี๋ด้วยความกลัว ก่อนจะรู้สึกถึงแรงสะกิด และความเสถียรของการบินมากขึ้น เขาจึงค่อยๆลืมตาขึ้น มาอย่างช้า ๆ

วิวข้างหน้าสวยจนแทบหยุดหายใจ ท้องฟ้าสีสวยสดใสเหมือนภาพวาดสีน�้ำ ก้อนเมฆน้อยใหญ่นุ่มฟูเป็นประกาย สีชมพูและสีเหลืองอ่อนของท้องฟ้าในยามเย็น ความรู้สึกอบอุ่นและกลิ่นของโอโซนที่สดชื่น ท�ำให้เด็กน้อยตะลึงใน ความสวยงามจนตาค้าง จิตวิญญาณดีทั้งสองหัวเราะกับท่าทีของโนเอล บนความเอ็นดู มอร์ดี้พาบินฉวัดเฉวียน ผ่าน ก้อนเมฆก้อนแล้วก้อนเล่า เด็กชายตัวเล็กหัวเราะอย่างมีความสุข ความอิ่มเอมในใจท�ำให้เขาเผลอเอื้อมมือไปก�ำพวง กุญแจรูปผีเสื้อ เครื่องเตือนใจของเขา

chapter iv I โรคกลัวความสู ง I

ใช้เวลาไม่นานก็เริ่มเข้าเขตเมืองลอยฟ้าแห่งนี้ เมฆสีสวยเมื่อสักครู่เหมือนอันตรธานหายไป เหลือแต่ความวังเวง อ้างว้าง ก้อนเมฆสีสดใสแปรเปลี่ยนเป็นม่านหมอกสีด�ำทะมึน ทั้งสามคนเริ่มเกาะกลุ่มกันด้วยท่าทีระวังตัว เศษก้อน หินน้อยใหญ่กลิ้งตกลงมาตามแถบหินของเมืองลอยฟ้าเหล่านั้น ภาพของหมู่บ้านสไตล์ฝรั่งเศสยุคเก่าที่ร้างผู้คน มี เพียงแต่ฝูงอีกาด�ำบินว่อนไปมา เสียงลมหวีดหวิวท�ำให้สถานที่แห่งนี้ไม่ต่างจากเมืองผีสิงอีกแห่ง มอร์ดี้ถ้าทั้งสองบินเหนือขึ้นไปยังด้านบนท้องฟ้าเหนือเมืองหลัก ที่เป็นเมืองขนาดใหญ่ตรงกลาง วิวที่กว้างขึ้น ท�ำให้มองเห็นอะไรหลายๆอย่างมากขึ้น บริเวณลึกสุดของเมือง เป็นจุดที่มีหมอกหนาครึ้มมากที่สุด เมื่อโฉบลงไปใกล้ ขึ้น พบว่าเป็นเหมือนหอนาฬิกาสูงใหญ่ มีสถาปัตยกรรมชั้นสูง เหมือนเป็นหอคอยของราชวงศ์ จากการออกแบบ สไตล์ฝรั่งเศสเก่า ที่ปลายยอดเป็นปลายแหลม ด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนด้านบน ท�ำให้ทั้งสามคนจ�ำเป็นจะต้องลงจอดทันที มอร์ดี้บินร่อนลงมาที่บริเวณ หน้าหอคอย ประตูทางเข้าที่ดูยิ่งใหญ่ ท�ำให้แม้แต่เจ้าผีเสื้อยักษ์ยังดูตัวเล็กไปเลยถ้าเทียบกับหอคอยแห่งนี้ บรรยากาศเย็นยะเยือกท่ามกลางความมืดท�ำให้รู้สึกเสียวสันหลังวาบโดยไม่รู้ตัว เท้าปุยบอกว่าสถานที่แห่งนี้คงจะ เป็นสถานที่ต่อไปที่เราต้องผ่าน ทั้งสองกล่าวลามอร์ดี้ก่อนจะก้าวเข้าไปภายใน เสียงน�้ำหยดท่ามกลางความเงียบ เสียงเอียดอาดของบันไดสีกัน จนรู้สึกหนักอึ้งในหัวไปหมด กลิ่นไม้เก่า และฝุ่นเหม็นจนต้องยกมือขึ้นมาปิดจมูก ปลายยอดของหอคอยอยู่สูงจนเห็น เป็นเพียงกลุ่มความมืดสีด�ำ ทั้งสองก้าวขึ้นบันไดด้วยความหวั่นใจเพราะสภาพของไม้ที่ผุเก่า ความมืดที่ปกคลุมและ ความน่าสะพรึงกลัวของอาคารแห่งนี้ ท�ำให้ทั้งสองไม่ได้สังเกตถึงละอองบางอย่างที่ลอยวนรอบตัวของพวกเขาตั้งแต่ เริ่มเข้ามาด้านใน ทั้งสองก้าวขึ้นบันไดขั้นแล้วขั้นเล่า แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะถึงปลายยอดของหอคอยสักที ความรู้สึกแปลกๆเหมือน กับว่าบันไดของหอคอยนี้คอยหมุนหนีไม่ให้เขาสามารถขึ้นไปด้านบนได้ แต่โนเอลก็ไม่ได้ใส่ใจลางสังหรณ์ประหลาด ของเขาและเดินต่อไป “มาสิ กระโดดลงมาเลย มาอยู่ด้วยกัน” เสียงกระซิบบางอย่างดังขึ้นในภวังค์ของโนเอล เขาจ�ำไม่ได้ด้วยซ�้ำว่าตัวเองออกเดินมากี่ก้าวแล้ว เหมือนตกอยู่ ในห้วงบางอย่างท�ำให้เขาได้ยินเพียงเสียงกระซิบที่อยู่ในหัว “โอ้ย !” แรงกัดท�ำให้โนเอลได้สติขึ้นมา แล้วพบว่าตนก�ำลังมองลงไปยังพื้นสุดลูกหูลูกตาด้านล่าง ความตกใจท�ำให้เขารีบ ถอยหลังกรูดจนชิดก�ำแพง เกิดอะไรขึ้น ท�ำไมเขาจะกระโดดลงไปล่ะ เท้าปุยรีบวิ่งตามมาถามว่าเขาตั้งใจจะท�ำอะไร ท�ำไมถึงจะกระโดดลงไป เขาไม่สามารถตอบได้เลย ได้ยินเเค่เสียงกระซิบที่ข้างหูที่ไม่รู้มาจากไหนเด็กชายตัวน้อยสูด หายใจเรียกสติสักพัก ก่อนที่เขาจะสังเกตเห็นบางสิ่งที่อยู่รอบตัว ผงละอองเล็กๆสองสามสาย วนอยู่รอบตัวของเขา และตัวของเท้าปุยอีกจ�ำนวนใกล้ๆกัน


เขาลองหลับตาลง เพื่อเปิดประสาทสัมผัสทางการได้ยิน ตั้งสมาธิให้หนักแน่น สักพักเขาก็เริ่มได้ยินเสียง กระซิบแผ่วเบาที่ดังออกมาจากละอองเหล่านั้น เสียงกระซิบที่เบาราวกับเสียงน�้ำหยด แต่กลับสะท้อนก้องในจิตใจ ของเขา ‘นายช่างไร้ค่า อยู่ไปก็เปล่าประโยชน์ มันเป็นความผิดของนายนั่นแหละ นายหยุดมันได้นะ จบมันเลย แค่ นายก้าวขาลงไป…’ โนเอลเหมือนจะเข้าไปอยู่ในภวังค์อีกครั้ง ก่อนที่สัมผัสอบอุ่นที่แฝงไปด้วยความคุ้นเคยแตะลงที่หลังมือ แซม.. พี่อย่างนั้นหรือ เขาลืมตามอง ก็ได้พบกับเท้าปุยที่วางมือไว้บนหลังมือของเขาด้วยสายตาเป็นห่วง เด็กชายเผยรอยยิ้มขบขันขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เจ้าแมวตัวนี้ช่างให้ความรู้สึกเหมือนพี่ชายของเขาจริง ๆนะ “คุณรู้อะไรเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ไหม” โนเอลเอ่ยปากถามท่ามกลางความเงียบ หลังจากที่เรียกสติของตัวเอง กลับมาได้แล้ว สถานที่แห่งนี้ถึงแม้จะดูน่ากลัว แต่ก็แฝงไปด้วยความสวยงามและความหม่นหมองบางอย่างควบคู่ ไปด้วยกัน เท้าปุยสูดหายใจเข้าก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราว สถานที่แห่งนี้ เล่าลือกันว่าคือหอคอยพิศวง เป็นร่องรอยร้าวรอย ใหญ่ที่หลงเหลือไว้จากค�ำสาป ที่ชาวเมืองท�ำสัญญากับปีศาจ เพื่อที่จะรักษาชีวิตของเจ้าหญิงไว้ ถึงแม้จะต้องแลก กับชีวิตของพวกเขาก็ตาม ความโศกเศร้าของเจ้าหญิง ถึงแม้เธอจะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้ แต่เมื่อไม่มีชาวเมือง ชีวิตเธอจะมีความหมายอันใด เธอจึงหลบลี้เข้ามายังหอนาฬิกาแห่งนี้ เพื่อหวังจะหลบหลีกจากความเศร้า เจ้าหญิง ได้หลับไหลลงที่ใจกลางของหอนาฬิกา ร่างกายและจิตใจของเธอแหลกสลายเป็นเสี่ยงๆ เกิดเป็นละอองวิญญาณ คอยปกปักหอนาฬิกาแห่งนี้ และล่อลวงผู้ที่หลงทางเข้ามาสู่วังวนที่ไม่มีที่สิ้นสุด โนเอลอึ้งไปสักพักหลังฟังจบ ก่อนที่จะเอ่ยถามว่าพวกเราจะออกจากที่นี่ได้อย่างไร ต�ำนานกล่าวไว้ว่า หากผู้ใดช่วยปลดปล่อยดวงวิญญาณของราชนิกุล ประตูสู่ทางเดินจะเปิดออก เขาครุ่นคิดก่อนที่จะนึกไอเดียบางอย่างออก ถ้าหากเรื่องราวเล่าว่า ละอองเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของเจ้าหญิง นั่น หมายความว่า ถ้าเรารวบรวมละอองวิญญาณเหล่านี้ ก็อาจจะเรียกวิญญาณของเธอออกมาได้น่ะสิ เท้าปุยท�ำหน้า ไม่มั่นใจ แต่เมื่อเห็นสายตามุ่งมั่นของเด็กหนุ่มที่ตอนนี้เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและความกล้าหาญต่างจากตอนเริ่ม ที่เจอกัน เขาจึงส่งยิ้มด้วยความมั่นใจและอาสาจะช่วยอีกแรง แต่พวกเขาจะรวบรวมละอองทั้งหมดมาไว้ด้วยกันได้อย่างไร ในเมื่อมีละอองเหล่านี้บินว่อนไปทั่วบริเวณแบบ นี้ พลันสายตาของทั้งสองก็กระทบกับเครื่องทองสะท้อนแสง นี่ไงล่ะ โหลใบนี้ ทั้งสองพยักหน้าให้กันก่อนที่จะเริ่มต้นภารกิจ ! ละอองวิญญาณตัวแล้วตัวเล่า ถูกจับมาไว้ในโหลแก้วจนเกือบเต็ม ทั้งสองวิ่งขึ้นมาจนเกือบถึงด้านบนสุด ที่ เป็นทางเชื่อมขึ้นชั้นบนสุดของหอนาฬิกาแบบไม่รู้ตัว โนเอลและเท้าปุยเดินก้าวเท้าเข้ามายังห้องโถงของชั้นบนสุด ภายในเป็นห้องโถงกว้าง มีลานหน้าปัดของนาฬิกาขนาดใหญ่อยู่ด้านหนึ่ง ส่วนที่เหลือเป็นเพียงลานที่ท�ำให้นาฬิกา สามารถขยับได้เพียงเท่านั้น เป็นห้องที่กว้างจนรู้สึกได้ถึงความวังเวง ยังไม่ทันได้ออกเดินส�ำรวจต่อ โหลแก้วในมือก็ส่งเสียงกุกกักออกมา โหลทั้งใบสั่นไหวจนเหมือนจะระเบิดออก มา โนเอลก�ำมันไว้แน่น ทั้งสองคุกเข่าลงมอง ทันใดนั้นแสงสีฟ้าอมม่วงสวยก็สว่างวาบทั่วทั้งห้องโถง เหล่าละออง วิญญาณที่อยู่ในโหลพวยพุ่งขึ้นไปด้านบน เผยให้เห็นเรือนร่างที่งดงามของหญิงสาวคนหนึ่ง ทั้งร่างกายรวมทั้งชุด ของเธอเรืองแสงสีขาวอมฟ้า เธอสวมใส่เดรสยาวที่ดูคล่องตัวแต่ดูสง่างาม ผมยาวของเธอปลิวสไวล่องลอยราวกับไร้ แรงโน้มถ่วง และมงกุฎปลายแหลมที่เป็นเครื่องคอนเฟิร์มว่าเธอคือเจ้าหญิงที่เราตามหาอย่างแน่นอน พลังของพระองค์แผ่ไปทั่วอาณาบริเวณ เหมือนแสงแดดอบอุ่นที่ฉายออกมาแม้จะเป็นเวลาค�่ำคืน ร่างของโนเอล และเท้าปุยลอยขึ้นจากพื้นตามการเคลื่อนไหวของหญิงสาว เธอล่องลอยออกจากหอนาฬิกา แผ่พลังของเธอออก ท�ำให้หมู่บ้านที่วังเวงแห่งนี้กลับมามีชีวิตและงดงามอีกครั้ง เสียงหัวเราะแห่งความสุขของโนเอลดังขึ้นคลอจนเท้าของทั้งคู่กลับมาติดพื้นอีกครั้ง ตอนนี้ทั้งสอง รวมทั้งตัว เจ้าหญิง ได้ออกมาเชยชมความสวยงามของหมู่บ้านอีกครั้ง

ร่างสวยงามเรืองรองของเจ้าหญิงลอยลงมาข้างกายของทั้งสอง กล่าวขอบคุณที่ปลดปล่อยเธอจากสถานที่ แห่งนั้น เพื่อเป็นการตอบแทน เจ้าทั้งสองปรารถนาสิ่งใด โนเอลและเท้าปุยมองหน้ากัน ก่อนที่โนเอลจะพูดขึ้นมา ว่า เขาต้องออกไปจากสถานที่แห่งนี้ โลกที่เขาไม่ได้อยู่มาตั้งแต่แรก เจ้าหญิงพยักหน้ารับรู้ก่อนจะท�ำหน้าเศร้า การพาเขาออกจากที่นี่เกินความสามารถของเธอ แต่เธอสามารถท�ำให้เขาไปยังสถานที่ต่อไปเพื่อไปยังประตู ทางออกได้ เจ้าหญิงเดินน�ำทั้งสองไปยังเส้นทางหนึ่ง ท�ำให้ระหว่างทางเด็กชายได้เชยชมความสวยงามของหมู่บ้านแห่งนี้ เรือนอาคารน้อยใหญ่มีสถาปัตยกรรมเดียวกันกับหอนาฬิกา แต่มีความเบาสบายเรียบง่ายตามเเบบของประชาชน ทั่วไป ระหว่างทางที่เดินไป โนเอลก็ได้สังเกตว่าเหล่าละอองวิญญาณที่ลอยมากับเจ้าหญิงได้เคลื่อนตัวเข้าไปยังบ้าน แต่ละหลัง ปรากฎเป็นร่างเลือนลางของชาวเมืองที่โบกมือลาพวกเขา ความโกรธแค้นของพวกเขาเบาบางลงจาก การกลับมาของเจ้าหญิง จนมาถึงที่หมาย เบื้องหน้าของพวกเขาเป็นทางเชื่อมกับทางไปยังเมืองถัดไป แต่บริเวณทางเชื่อมกลับขาด ออกจากกัน เจ้าหญิงกล่าวว่าด้านหน้าคือจุดหมายถัดไปที่เจ้าจะต้องฝ่าฟัน เราคงช่วยได้แค่นี้ สิ้นค�ำเจ้าหญิงส่งพลัง ของนางเพื่อที่จะเชื่อมทางเดินขนาดใหญ่ที่ขาดออกจากกันให้สมบูรณ์อีกครั้ง พวกเขาเอ่ยขอบคุณก่อนที่จะเดิน ทางต่อไป


chapter v

I โรคกลัวความมืด I เมืองที่พวกเขาก�ำลังจะเดินทางไป ช่างแตกต่างจากเมืองก่อนหน้าเหลือเกิน บรรยากาศแห่งแสงสีและไอแดด อ่อนเริ่มจางหายไป เมืองนี้เหมือนเป็นแถบชานเมืองของหมู่บ้าน เพื่อเดินทางเข้าไปยังป่าใหญ่ ท้องฟ้าปกคลุมไป ด้วยเมฆและหมอกสีด�ำหนา จนเหมือนเป็นเวลากลางคืนตลอดเวลา เงาวูบวาบที่ปลายหางตา ลมหมุนที่พัดพาน�ำฝุ่นลอยไปมา แม้แต่นกสักตัวยังไม่มีมาให้เห็น เมืองแห่งนี้เป็น เมืองร้างโดยสมบูรณ์ เดินต่อไปด้านหน้า ทั้งสองได้เจอกับบึงแห่งหนึ่ง เท้าปุยมีท่าทีกังวลอย่างเห็นได้ชัด น�้ำในบึงมี สีด�ำขลับ มีฟองเดือดขึ้นมาจนรู้สึกขยะแขยง แต่เส้นทางนี้เหมือนเป็นเส้นทางเดียวในการไปต่อ โนเอลพยายามเหยียบโขดหินในการข้ามไปยังอีกฝั่ง แต่ด้วยความมืด ท�ำให้เขาก้าวต่ออย่างยากล�ำบาก ไวเท่า ความคิด เด็กชายหยิบไม้คบเพลิงขึ้นมาจุดท่ามกลางเสียงร้องห้ามของเท้าปุย แต่มันก็สายไปเสียแล้ว เงาสีด�ำขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นมาจากบึง ความจริงแล้วบึงแห่งนี้ไม่เคยมีน�้ำอยู่เลย มีเพียงแค่พลังแห่งความมืด ที่น่าสะพรึงกลัวเท่านั้น “วิ่ง !” เท้าปุยตะโกนลั่นก่อนที่จะดันโนเอลที่ไม่ทันได้ตั้งตัวให้พ้นทาง ก่อนที่สายตาของเด็กน้อยจะปรับได้และ พบว่าเงาสีด�ำนี้มีรูปร่างที่ไม่แน่นอน เหมือนร่างกลมบูดเบี้ยวที่มีมือกรงเล็บงอกออกมา แต่ที่สะดุดตาคือต้น ก�ำเนิดของกลุ่มก้อนความมืดนี้มาจากปลายหนึ่ง ไล่ดูตามความยาวไปจะพบกับบางสิ่ง มีลักษณะเหมือนแมว และมีขนาดใกล้เคียงกับเท้าปุย แต่กลับเป็นสีด�ำทะมึนและดุร้าย

เท้าปุยพาโนเอลวิ่งหลบหลีกเงาด�ำที่พยายามพุ่งเข้ามาท�ำร้ายพวกเขาจนสะบักสะบอมไปหมด แรง หายใจหอบเหนื่อยเหมือนกับเจ้าแมวแทบจะใช้แรงเฮือกสุดท้ายในการช่วยเหลือแล้ว อยู่ ๆกลับมาสายความ มืดพุ่งเข้ามาทางเด็กชายโดยไม่ทันตั้งตัว ความตกใจท�ำให้ขาของเขาแข็งจนก้าวไม่ออก ไวกว่าความคิด เท้า ปุยรีบพุ่งตัวเข้าไปขวาง ขาของเจ้าแมวลอยขึ้นไปตามแรงยก และก�ำลังจะถูกดูดกลืนเข้าไปในความมืดมิด “หนีไป” เสียงที่เปล่งออกมาอย่างยากล�ำบากเอ่ยออกมาจากปากเล็ก เด็กชายไม่ขยับไปไหน จะให้เขา ทิ้งไปได้อย่างไรล่ะ แล้วทุกอย่างที่ผ่านมา เราต้องไปต่อด้วยกันสิ ใบหน้าเหนื่อยล้าของแมวหนุ่มได้แต่ส่งยิ้มที่อบอุ่นกลับมาให้ “ฉันไม่เป็นอะไรหรอก แต่นายต้องเข้มเเข็งและมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้เลยนะ” สายตาแห่งความหวังเฮือก สุดท้ายส่งกลับมาก่อนที่ทั้งร่างจะถูกกลืนกินเข้าไปในห้วงที่ด�ำมืด “ม่ายยยยยยยยยยยยยย” เสียงกรีดร้องดังด้วยความทรมาน ร่างทั้งร่างของเด็กชายทรุดลงกับพื้น อีกแล้วสินะ เขาจะต้องสูญเสีย และต้องโดนทิ้งให้โดดเดี่ยวอีกแล้วสินะ ร่างที่สั่นเทา พร้อมกับน�้ำตาที่ไหลเอ่อ ดวงตาเอ่อน�้ำตาจนมองอะไร ไม่เห็น เขานิ่งอยู่แบบนั้นจนโลกทั้งโลกดับมืดไป


chapter vi

I โรคกลัวการอยู่คนเดียว I แพขนตาเล็กกะพริบ เด็กน้อยหยัดตัวลุกขึ้นมา เขาอยู่ที่ไหนกัน เมื่อสายตาสามารถปรับให้เข้ากับแสงสว่างที่นี่ได้ ก็ พบว่าสถานที่แห่งนี้เป็นดินแดนสีขาวสุดลูกหูลูกตา แสงสีขาวสว้างจ้า แต่กลับไม่มีสิ่งอื่นใด แม้แต่ลม หรือแม้เเต่เงาของ เขาเอง “สวัสดี” ‘สวัสดี...ดี...ดี’ มีเพียงเสียงของเขาที่สะท้อนก้องกลับมา ขาเล็กเริ่มออกวิ่ง เขามาติดอยู่ที่ไหนกันแน่ คุณเท้าปุย ใครก็ได้ มีใครอยู่ ที่นี่ไหม เด็กชายออกวิ่งอย่างสะเปะสะปะ เเต่เสียงที่ตอบกลับเขามาก็มีเพียงแค่เสียงสะท้อนก้องของเขา ทุกอย่างในที่ แห่งนี้ขาวโพลน จนไม่รู้เลยว่าออกวิ่งมาไกลแค่ไหนแล้ว เหมือนเขาวิ่งอยู่กับที่และไม่สามารถที่จะออกจากความอ้างว้าง นี้ได้อีกเลย “ใครก็ได้ แม่ครับ พี่ครับ ฮืออ…” เสียงสั่นเทาอย่าน่าสงสารลอดออกมาจากล�ำคอเล็ก ไม่มีใครเลย เหลือเพียงแค่เขาอีกแล้วสินะ ทุกอย่างมันเป็น ความผิดของเขา ทุกคนเลยทิ้งเขาไป เด็กน้อยอ่อนแรงและนั่งลงกอดเข่ากับพื้น ตอนนี้ร่างกายที่เป็นสีสันของเขา ได้ กลายเป็นสีขาวซีดเซียว เหมือนได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของความอ้างว้างไปแล้ว โหลแก้วขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นรอบตัวของ เขา เหมือนกับเป็นเครื่องปกป้องเขาจากโลกภายนอก ด้านบนโหลมีต้นอ่อนที่เป็นสีขาวซีดเหมือนทุกอย่างในที่แห่งนี้ ต้น อ่อนนี้เหมือนเป็นสิ่งเดียวที่ติดค้างอยู่ในจิตใจของเขา มันจึงปรากฏออกมาในรูปแบบนี้ ความเงียบเข้าปกคลุม แม้แต่เสียงสะอื้นก็ไม่มีเหลือ ประกายดวงตาของเด็กน้อยหายไป เหลือเพียงแค่สายตาสิ้น หวังที่เหลืออยู่ เด็กชายฟุบหน้าอยู่กับเข่าแบบนั้น ก๊อกๆ เสียงเคาะโหลแก้วดังขึ้น เด็กน้อยที่นั่งกอดเข่าเงยหน้าขึ้นมาดูด้วยความสงสัย เป็นไปไม่ได้ น�้ำตาเอ่อนองเต็มสอง หน้าอีกครั้ง ขาเล็กลุกขึ้นเดิน ก้าวแรก ก้าวที่สอง จากนั้นก็วิ่งต่อไปตามต้นเสียง ทะลุจากโหลแก้วที่ปิดกั้นเขา พุ่งเข้าไป กอดผู้มาเยือนเต็มรัก “แซม ! พี่จริง ๆหรือ เป็นไปได้ยังไง ในเมื่อ พี่..ไม่อยู่แล้ว” เด็กหนุ่มในชุดกีฬาสีขาวหมายเลข 12 ตัดกับขอบสีน�้ำเงิน และกางเกงสีเดียวกัน ผมสั้นสีน�้ำเงินและรอยยิ้มอบอุ่น ถึงแม้คนๆนี้จะดูโตกว่าพี่ชายของเขาตอนจากไป แต่สายตาและรอยยิ้ม ท�ำให้โนเอลมั่นใจ ว่าคือพี่ชายของเขาแน่นอน แซมหัวเราะก่อนที่จะกอดตอบเด็กชายโยกไปมา “ใครบอกว่าพี่ไม่อยู่แล้วล่ะ พี่อยู่กับนายมาเสมอเลยนะ” ก่อนที่จะก้าวถอยหลังไป ร่างของเเซมสว่างวาบขึ้น ก่อน ที่จะเผยร่างสัตว์ขนฟู “เท้าปุย...พี่นั่นเอง !” ณ โลกภายนอกก่อนที่เด็กชายจะหมดสติ ขณะที่เท้าปุยก�ำลังโดนจับเข้าไปในความมืดมิด ขาเล็กทั้งสี่ตะเกียกตะกายไปมาในความมืด เจ้าแมวเหมียวฮึดเเรงเฮือกใหญ่ ถีบตัวออกมาจากความมืดที่เหนี่ยงรั้ง เขาไว้จนหลุดออก ก่อนจะออกวิ่งไปยังต้นก�ำเนิดความมืดมิดนี้ เท้าปุยวิ่งเข้ามาเผชิญหน้ากับร่างแมวสีด�ำที่ตอนนี้แสยะยิ้มชั่วร้ายกลับมา “นายจะท�ำอะไรฉันได้ เพราะฉันก็คือนายยังไงล่ะ ฮ่าๆๆ” ใช่แล้ว ร่างเงาที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือเศษเสี้ยวที่หลงเหลือ อยู่ของเขา ตอนที่ทุกอย่างดับสิ้นและต้องเข้ามาติดอยู่ในที่แห่งนี้ ทุกอย่างก้าวเป็นไปด้วยความยากล�ำบากและทุกข์ ทรมาน ถึงแม้ว่าเขาจะก้าวข้ามผ่านจุดนั้นมาได้ แต่เศษเสี้ยวของมันยังคงเหลืออยู่ “ใช่ เพราะนายคือฉันยังไงล่ะ” แมวหนุ่มพุ่งเข้าไปยังร่างเงาของเขา เจ้าเงาด�ำนั้นไม่ทันตั้งตัว ตอนนี้เขายอมรับแล้ว ว่าถึงแม้จะเป็นความชั่วร้าย แต่นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของเขา เงาร้ายกรีดร้องเสียงหลง ควันด�ำมืดหลอมรวมกันเข้ากับร่าง ของเท้าปุย เขายอมรับด้านมืดของเขาแล้ว


เมื่อทุกอย่างกลับสู่ความสงบ เจ้าแมวรีบวิ่งเข้าไปหาเด็กหนุ่มที่นอนสลบอยู่ พยายามเรียกเท่าไหร่เขาก็ไม่ ยอมตื่น ไม่นะ เท้าปุยกระวนกระวาย จนสายตาเค้าเหลือบไปเห็นบางสิ่งที่เปล่งแสงเรืองรองออกมาจากกระเป๋า ของเด็กชาย ณ ปัจจุบัน “เท้าปุย...พี่นั่นเอง !” แซมหัวเราะคิกคักก่อนที่จะกลับคืนร่างคนดังเดิม ก่อนที่เขาจะยื่นสิ่งหนึ่งให้กับเด็กชาย สิ่งนี้… พวงกุญแจรูปผีเสื้อที่เขาพกติดตัวไว้ตลอดเวลา เป็นของๆแซมที่เขาเก็บไว้เป็นเครื่องเตือนใจเสมอ แซม บอกว่าเขาเข้ามาหาโนเอลได้เพราะสิ่งนี้ เพราะโนเอลยังคงจดจ�ำเขาได้เสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะอยู่ตรง นี้ แซมส่งยิ้มกว้างกว่าเดิมก่อนที่จะชี้เข้ามาตรงหัวใจของเด็กน้อย ที่ตอนนี้ร้องไห้ขี้แยจนหน้าตาบูดบี้ไปหมด “ถ้าแบบนั้น แสดงว่าผมไม่ได้ถูกทิ้งใช่มั้ย พี่อยู่ด้วยกันมาตลอดสินะ” เสียงสะอื้นใหญ่ โนเอลพยายามพูด จะสะอึกไปหมด แซมช้อนตัวเข้าไปกอดน้องชายของตน พลางโยกตัวไปมาเหมือนกล่อมเด็ก ตามที่สัญญาไง เขา ไม่มีวันทิ้งน้องชายขี้แยคนนี้แน่นอน หลังจากกอดปลอบเด็กขี้แยสักพัก ทั้งสองจึงพากันมานั่งลงอยู่ที่จุด ๆหนึ่ง สถานที่อ้างว้างสีขาวในตอน แรก ตอนนี้เริ่มมีสีสันและลมอบอุ่นโชยมา แซมชี้ให้โนเอลดูสิ่งหนึ่ง นั่นมัน ต้นกล้าสีขาวซีดต้นนั้น ในตอนนี้กลับมีสีสันแต่งแต้มสวยงาม ต้นอ่อนที่ก�ำลังเจริญเติบโต ต้นไม้ต้น แรก ที่เขาสองคนปลูกด้วยกัน สัญลักษณ์เเห่งสัญญา ที่เขาจะไม่ทิ้งกัน โนเอลยิ้ม เป็นยิ้มที่เขาไม่เคยได้ยิ้มมาเนิ่น นานแล้ว รอยยิ้มแห่งความสุข ความทรงจ�ำ ทั้งสองกอดกันอีกครั้ง แซมลูบหัวเด็กน้อยตรงหน้าไปมา ‘จ�ำไว้นะ นายไม่ได้อยู่คนเดียวอีกแล้ว พี่จะอยู่ตรงนี้ข้างๆนายเสมอ’ โนเอลพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม มือก�ำพวงกุญแจผีเสื้อ ไว้แน่น ก่อนที่เปลือกตาหนักอึ้งจะปิดลง เสียงวุ่นวายดังเข้ามาในโสตประสาท ดวงตาเล็กเริ่มเปิดขึ้น กลิ่นของสารเคมีบางอย่างท�ำให้คนตัวเล็กต้อง ย่นจมูก “โนเอล ! หมอคะ !” เสียงผู้หญิงที่เหมือนกับเสียงแม่ของเขาดังขึ้น เด็กน้อยลืมตาขึ้นมาด้วยความสับสน เขาเงยหน้าขึ้นมาพบกับแม่ของเขาที่น�้ำตานองหน้า เอาแต่พร�่ำเพ้อขอโทษขอโพยเขา นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ

หลังจากที่เหล่าคุณหมอและพยาบาลตรวจเช็คอาการของเขาเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่เขา เเละคุณแม่ เธอสงบสติอารมณ์ได้แล้ว และเล่าว่าเขาไม่ได้สติไปถึงสามวัน ในเย็นวันนั้นภารโรงเป็นคนเจอเขา อยู่ในตู้ล็อคเกอร์ และติดต่อทางอาจารย์ให้เข้าช่วยเหลือ แต่ท�ำอย่างไรเขาก็ไม่ได้สติสักที เธอท�ำท่าจะร้องไห้ อีกรอบ เด็กชายเอื้อมมือไปจับมือแม่ของเขา พร้อมส่งรอยยิ้มแบบที่เธอไม่เคยได้เห็นมานาน รอยยิ้มแห่งความ มั่นใจ โนเอลดูสงบแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาบีบมือของเธอแน่นขึ้น “ผมกลับมาแล้วนะครับ”

epilogue I บทส่ งท้าย I

เด็กหนุ่มก้าวลงจากรถ ก่อนจะเอ่ยลาแม่ของเขา เขามีผมสีน�้ำตาลสวย เป็นทรงไม่สั้นไม่ยาวในแบบของ ผู้ชาย เสื้อสเวตเตอร์ตัวใหญ่แต่ดูมีสไตล์ กระเป๋าสะพายข้างและพวงกุญแจรูปผีเสื้ออันเดิม นี่ก็ผ่านมาสองปีแล้วหลังจากที่เกิดเหตุการณ์นั้น ตัวต้นเหตุอย่างฟิตซ์ก็โดนลงโทษและพักการเรียนไป ตามระเบียบ หลังจากที่เขาพักฟื้นที่โรงพยาบาลอีกสองสามวันก็สามารถที่จะกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้ว แม่ ของเขารู้สึกผิดมาก และเอ่ยโทษตัวเองว่าทุกอย่างเป็นความผิดของเธอ จนเขาต้องรีบแก้ต่างให้ยกใหญ่ เหตุการณ์ที่ผ่านมาท�ำให้เขารู้สึกเข้าใจตัวเองมากขึ้น และมีความกล้ามากพอที่จะขอเข้ารับการบ�ำบัด ด้วยตัวเอง แม่ของเขาช็อคมากหลังจากที่ได้ยินค�ำนั้น เพราะถ้าเป็นก่อนหน้าเขาคงเกาะตัวเองไว้กับเสาแล้ว เด็กชายหัวเราะกับตัวเอง เพราะแบบนั้น ตอนนี้เขาจึงสามารถใช้ชีวิตแบบปกติสุขได้แล้วล่ะ ริมฝีปากของเขา ยกยิ้มพร้อมก�ำพวงกุญแจผีเสื้อไว้ ก่อนจะก้าวเดินเข้าห้องเรียนไปด้วยความมั่นใจ พร้อมกับจัสมินเพื่อนใหม่ ของเขา








Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.