จะแปดหรือยี่สิบ

Page 1

1


บทนา ‫ ّهي‬، ‫ ًّسزغفرٍ ًّعْر ثبللَ هي شرّر أًفسٌب‬، ٌَ‫إى الحوذ للَ ًحوذٍ ًّسزعي‬ ‫ ّهي يضلل فال ُبدي لَ ّأشِذ أى‬، َ‫ هي يِذٍ اللَ فال هضل ل‬، ‫سيئبد أعوبلٌب‬ ‫ ّأشِذ اَى هحوذا عجذٍ ّرسْلَ أللِن صل‬، َ‫الإلَ إال اللَ ّحذٍ ال شريل ل‬ ‫ّسلن ّثبرك على عجذك ّرسْلل هحوذ ّعلى آلَ ّأصحبثَ ّهي رجعِن‬ ‫أهبثعذ الذيي يْم إلى ثإحسبى‬

อัลฮัมดูลิลละฮฺ ก่อนอื่นเลยก็ขอชูโกรต่ออัลลอฮฺเป็ นอย่างยิง่ ยวดที่ให้โอกาสผม ได้คิดสรุ ปทาสิ่ งนี้ข้ ึนมา จะเรี ยกว่าหนังสื อหรื อบทความ อันไหนจะดีกว่านะ ที่จริ งผม ต้องขอขอบคุณหนังสื อ(วิจารณ์หนังสื อ ไขปมตาราแวะห์) ของ อ.มูรีด ทิมะเสน นี้เป็ น อย่างสู ง ที่ไขข้อข้องใจให้ผมได้อย่างมาก. เท่าที่ผมคิดนะ หนังสื อ(วิจารณ์หนังสื อ ไขปมตาราแวะห์) ของ อ.มูรีด ทิมะเสน อาจจะไม่ได้อยูใ่ นมือของทุกท่านครบทุกคน ผมก็เลยทาอะไรบ้างอย่างเพื่อที่จะให้คนที่ ยังไม่ได้อ่านหนังสื อเล่มนี้ ได้รู้บา้ ง และผมก็ได้ขออนุญาติจากเจ้าของหนังสื อเล็มนี้ แล้ว ด้วย ไม่ได้หากาไรเขาตัวเอง แต่เพื่อความเข้าใจและผลประโยชน์ของทุนคนในการ ประกอบอีบาดะฮฺ.

ฮาบีล ISLAM-IS-THE-ONE 17 เชาวาล 1435 13 สิ งหาคม 2557

2


ฮาดิษซอแฮฮทีอ่ นุญาตให้ นมาซ ตารอวีฮฺ 8 ร็อกอะฮฺ หลักฐานแรก ท่านญาบีร บุตรของท่านอับดุลลอฮฺเล่าว่า َ‫صَلَّى ثٌَِب رَسُْلُ اللَِ صلى اللَ عليَ ّسلن فِي شَِْرِ رَهَضَبىَ ثَوَبىَ رَمَعَبدٍ َّاَّْرَر‬

ความว่า ท่านรอซูล(‫)صلى الله عليه وسلم‬นมาซพร้อมกับพวกเราในเดือนรามาฎอน จานวนแปดร็ อกอะฮฺ และนมาซวิตรฺ บันทึกโดยอิบนุ นัศร์ , และเฏาะบะรอบี ในหนังสื ออัลมุอฺญะมุลเศาะฆีร หน้ า 108 สายสื บฮาดิษ หะ สั น ในหนังสื อ ศอลาตุตตะรอวีฮฺโดยเชคมูหัมหมัด นาศีรุดดีน อัลบานีย์ หน้ า 18 และซอแฮฮอิบนุคูซัยมะฮฺ , ซอแฮฮออิบนุอบั บาน 2409 .

หลักฐานทีส่ อง ท่านสาอิบ บุตรของยะวีด กล่าวว่า َٓ‫اَهَرَعُوَرُ ثيُ الخَطَّبةِ اُثَيَّ ثيَ مَعتٍ َّرَوِيوًب الذَّارِيَّ اَى يَقُْهَب لِلٌَّبشِ ثِبِحذ‬ ً‫عَشرَحً رَمعَخ‬

ความว่า ท่านอุมรั บุตรของค็อฏฏ็อบสัง่ ให้ท่านอุบยั ย์ บุตรของกะอฺ บ์ และท่านตะมีม อัดดารี ย ์ เป็ นอีหม่ามนานมาซผูค้ นทั้งหลายจานวน 11 ร็ อกอะฮฺ (ตะรอวีฮฺ 8 วิตรฺ 3) บันทึกโดยมาลิก 249 และบัยฮากี 4721 3


หลักฐานทีส่ าม ท่านอบูสาลามะฮฺ บุตรของท่านอับดุลเราะหฺ มาน ถามท่านหญิงอาอีชะฮฺว่า َ‫مَيفَ مَبًَذ صَلَاحُ رَسُْلِ اللَ صلى اللَ عليَ ّسلن فِي رَهَضَبىَ فَقَبلَذ هَبمَبى‬ ً‫يَسِيذُ فِي رَهَضَبىَ َّلَا فِي غَيرٍِِ عَلَى اِحذَٓ عَشرَحً رَمعَخ‬

ความว่า ท่านรอซูล(‫)صلى اللَ عليَ ّسلن‬นมาซในเดือนรอมาฎอนอย่างไร ? ท่านหญิง อาอีชะฮฺตอบว่า แท้จริ งท่านรอซูลไม่เคยเพิ่มการนมาซในเดือนรอมาฎอนและ นอกเหนือจากเดือนรอมาฎอนมากกว่า 11 ร็ อกอะฮฺ (ตะรอวีฮฺ 8 วิตรฺ 3) บันทึกโดยท่ านบูคอรีย์ 1079, และท่ านมุสลิม 1220

‘’ ‘’ ‘’ ‘’ ‘’ ‘’ ‘’ ‘’ ‘’ 4


ฮาดิษฎออีฟทีไ่ ม่ อนุญาตให้ นมาซ ตารอวีฮฺ 20 ร็อกอัต หลักฐานแรก ท่านยะซี ด บุตรของรู มานเล่าว่า َ‫مَبىَ الٌَّبشُ يَقُْهُْىَ فِي زَهَبىِ عُوَرَ ثيِ الخَطَّبةِ فِي رَهَضَبىَ ثِثَلَاسِ َّعِشرِيي‬ ً‫رَمعَخ‬

ความว่า ปรากฏว่าผูค้ นในสมัยของท่านอุมรั บุตรของค็อฏฏอบยืนนมาซ(ตะรอวีฮฺ)ใน เดือนรอมาฎอน(จานวน) 23 ร็ อกอะฮฺ (ตะรอวีฮฺ 20 และวิตรฺ อีก 3 ร็ อกอะฮฺ) บันทึกโดยท่ านมาลิก 250 ,และบัยหะกีย์ 4618 ,และอับดุรร็อซซาก 7733

สถานะของฮาดีษข้างต้น ฮาดีษฎออีฟ ในหนังสื อ เศาะลาตุตตะรอวีฮฺ หน้า 53-54 เนื่องจากมีสายรายงายที่ขาดตอน หมายถึงท่านซะยีด บุตรของรู มานสิ้ นชีวิตในปี ฮ.ศ ที่ 130 มีชีวิตไม่ทน ั พบท่านอูมรั บุตรของค็อฏฏอบสิ้ นชีวิตในปี

ฮ.ศ ที่ 23 .

ถ้าเช่นนั้นเมื่อท่านยาซี ด บุตรของรู มานเกิดไม่ทนั ร่ วมสมัยกับท่านอูมรั ไฉนเลย ท่านยะซี ดรู ้ว่าผูค้ นในสมัยท่านอูมรั นมาซตะรอวีฮฺ 20 ร็ อกอะฮฺ ? ฉะนั้นฮาดิษข้างต้นจึง ไม่สามารถนามาเป็ นหลักฐานอ้างอิงใดๆได้เลย.

5


หลักฐานสอง จากท่านยะซี ด บุตรของคุศอ็ ยฟะฮฺ จากท่านซาอิบ บุตรของ ยะซี ด ได้กล่าวว่า : ً‫مَبًُْا يَقُْهُْىَ عَلَى عَِذِ عُوَرَثيِ الخَطَّبةِ فِي شَِرِ رَهَضَبىَ ثِعِشرِييَ رَمعَخ‬

ความว่า ปรากฏว่าผูค้ นในสมัยของท่านอูมรั บุตรของค็อฏฏอบนมาซตะรอวีฮฺในเดือน รอมาฎอน 20 ร็ อกอะฮฺ บันทึกโดยบัยฮากีย์ 4618

สถานะฮาดิษข้างต้น คือ ฮาดีษเมาว์กูฟ หมายถึงฮาดีษ ที่ระบุว่าศอฮาบะฮฺ พูดหรื อ กระทาอย่างนั้นอย่างนี้โดยไม่สนใจว่าสายรายงานจะติดต่อกันหรื อไม่. ประการต่อมา นักรายงานหะดีษที่ชื่อยะซี ด บุตรของคุศอ็ ยฟะฮฺ ถูกวิจารณ์ในแง่ ความบกพร่ องว่าด้วยเรื่ องอากีดะฮฺ และเชคมูหมั หมัด นาศิรุดดีน อัลบานี ย ์ วิจารณ์ว่าเขา เป็ นบุคคลที่ฎออีฟ ในหนังสื อ ตะมามุล มินนะฮฺ หน้ า 254 และเป็ นบุคลที่สับสนการ รายงานในเรื่ องจานวน เพราะบางครั้งเขารายงานว่า 20 ร็ อกอะฮฺ และบางครั้งก็รายงาน ว่า 21 ร็ อกอะฮฺ ในหนังสื อ เศาะลาตุตตะรอวีฮฺ หน้ า 50-51 . ทั้งสองฮาดิษมักจะถูกนามาอ้างอิงสนับสนุนการนมาซตะรอวีฮฺ ร็ อกอะฮฺ อยูเ่ สมอ แต่ อย่างไรก็ตาม ฮาดิ ษทั้งสองข้างต้นอยู่ในสถานะฮาดิ ษฎออีฟซึ่ งไม่สามารถนามา กล่าวอ้างอิงได้เลย.

6


ฮาดิษฮาซันที่อนุญาตินมาซ ตารอวีฮฺ 20 ร็อกอัต ‫" اَىَّ اَحَذَ اَصحَبةِ رَسُْلِ اللَِ صلى اللَ عليَ ّسلن َُّ​َُْ عَجذُ الرَّحويِ ثيِ اَثِي‬ " ً‫ثَكرٍ رضي اللَ عٌِوب مَبىَ يُصَلي ثِبلجَوَبعَخِ عِشرِييَ رَمعَخ‬

ท่านหนึ่งจากบรรดาเศาะฮาบะฮ์ของท่านรสู ลุลอฮฺ (‫)صلى اللَ عليَ ّسلن‬คือท่านอับดุล เราะหฺ มาน บุตรของอบูบกั ร(‫)رضي اللَ عٌِوب‬ซึ่ งเขาเป็ นอิมามนานมาซ (ตะรอวีฮฺ)เป็ นญามะอะฮฺจานวน 20 ร็ อกอะฮฺ บันทึกโดยอิบนุ อะบินดุนยา บทความว่ าด้ วยความประเสริฐของเราะมอฎอน ฮาดิษฮาซัน

7


คาพูดปิ ดท้ายโดย อ.มูรีด ทิมะเสน ในหนังสื อ(วิจารณ์หนังสื อ ไขปมตาราแวะห์) ท่านรสู ลุลลอฮฺ กล่าวว่า ‚การนมาซในเวลากลางคืนครั้งละสองร็ อกอะฮฺ ครั้งละ สองร็ อกอะฮฺ ‛ จากฮาดิษข้างต้นทาให้นักวิชาการเข้าใจว่า การนมาซในเวลากลางคืน กระทาครั้งละ 2 ร็ อกอะฮฺ โดยท่านรซูลมิได้เจาะจงจานวนร็ อกอะฮฺ ที่แน่นอน ดังนั้น จึง ไม่เป็ นไร และไม่มีความผิดอันใดหาดจะต้องนมาซในเวลากลางคืนกระทามากกว่า 8 ร็ อกอะฮฺ (รายละเอียดในหนังสื อ ฟะตาวาเราะมาฎอน) เล่มที่ 2 หน้า 792 ผูเ้ ขียนเองก็ยอมรับในตัวบทหะดีษและการอธิ บายของนักวิชาการดังนั้นมุสลิม คนใดต้องการนมาซตะรอวีหฺ 20 ร็ อกอะฮฺ เขาก็สามารถกระทาได้หรื อบุคคลใดจะนมาซ ตะรอวีหฺ 8 ร็ อกอะฮฺ เขาก็ยอ่ มกระทาได้เช่นกัน แต่ถา้ จะตั้งคาถามว่า จานวนร็ อกอะฮฺ ใด ซึ่ งถือว่าประเสริ ฐกว่า ? คาตอบคือการนมาซตะรอวีหฺ 8 ร็ อกอะฮฺ ถือว่าประเสริ ฐกว่า นั้นเอง เนื่ องจากมีตวั บทชัดเจนจากท่านรสู ลุลลอฮฺ และผูเ้ ขียนเองก็เลือกที่จะนมาซตะ รอวีหฺ 8 ร็ อกอะฮฺดว้ ยเช่นกัน วัลลอฮุอะอฺ ลมั บิศเศาะวาบ.

8


บทสรุ ป อย่างที่เราเข้าใจกันนะครับ การนาฮาดิษมาใช้น้ นั มันจะต้องเป็ นไปตามลาดับ เอา ฮาดิษซอแฮฮก่อนหลังจากนั้นก็ฮาดิษฮาซัน ส่ วนฮาดิษฎออีฟรู ้ไว้ก็ถือว่าดี แต่จะเอามา เป็ นตัวบทหลักฐานในการประกอบอีบาดะฮฺ ไม่ได้ เพราะฉะนั้นในเรื่ องของการนมาซ ตารอวีฮฺน้ ี มีหลักฐานที่ซอแฮฮและฮาซันจากท่านรอซูลเอง เพราะฉะนั้นถือว่าฮาดิษฎอ อีฟนั้นก็โมฆะไปโดยสิ้ นเชิง และไปปฏิบตั ิฮาดิษซอแฮฮฺกบั ฮาดิษหะสัน. หวังว่าหนังสื อเล่มนี้ คงจะให้ประโยชน์ไม่มากก็นอ้ ย คงไม่มีความขัดแย้งถ้าใคร จะนมาซ 8 ร็ อกอะฮฺ หรื อจะนมาซ 20 ร็ อกอะฮฺ อาจจะมีเขียนตกบกพร่ องบ้างก็ขอมาอัฟ ณ ที่น้ ี ดว้ ย สุ ดท้ายนี้ กข็ อขอบคุณหนังสื อดีๆจาก อ.มูรีด ทิมะเสน จากหนังสื อ (วิจารณ์ หนังสื อไขปมตาราแวะห์) ที่ให้ผมได้สรุ ปใจความสาคัญเพื่อเป็ นอ้างอิงที่สาคัญและเพื่อ ความมัน่ ใจในการประกอบอีบาดะฮฺ อย่างถูกต้องตามแบบฉบับของท่านรอซู ล( ‫صلى‬ ‫)اللَ عليَ ّسلن‬ขออัลลอฮฺ ทรงเมตตาและตอบแทนภาคผลอันดียิ่งให้อาจารย์ดว้ ยเถิดอา

มีน.

‫ّاللَ أعلن ثبلصْاة‬

9


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.