(ค.๑) คดีหมายเลขดาที่ ..ฟ.๔๗.../๒๕๔๙........... คาร้อง คดีหมายเลขแดงที่ ..ฟ.๓๕.../๒๕๕๐.......... ขอศาลเพิกถอนกระบวน พิจารณาวินิจฉัยทีไ่ ม่ชอบ ด้วยคาพิพากษาฯ ศาลปกครองสูงสุด และขออนุ ญาตคัดสาเนา เอกสารคดีน้ี ส่วนของ วันที่…๒๔… เดือน….กันยายน...พุทธศักราช ๒๕๖๒...... สานักงานบังคับคดีปกครอง นายศรัลย์ ธนากรภักดี ข้าพเจ้า แอดมินเพจทวงคืนพลังงานไทย และเป็ นหนึ่งในคณะผูร้ อ้ งเรียนต่อสานักงานผูต้ รวจการแผ่นดิน ๒๕๐๖ อายุ ๕๖ ปี อาชีพ รับจ้าง เกิดวันที่ ๒๒ เดือน สิงหาคม อยูท่ ่ี ๑๒๗/๗๑ หมูบ่ า้ นเบญจพร หมูท่ ่ี ถนน สุขมุ วิท ตรอก/ซอย ตาบล/แขวง มาบตาพุด อาเภอ/เขต เมืองฯ ระยอง จังหวัด รหัสไปรษณีย์ ๒๑๑๕๐ โทรศัพท์ ๐๖๔ ๖๙๑๔๙๒๕ ่ กถอนกระบวนพิจารณา มีความประสงค์ขอ ให้ศาลปกครองสูงสุด มีคาสังเพิ วินิจฉัยทีไ่ ม่ชอบด้วยคาพิพากษาในชัน้ บังคับคดี ทีม่ ผี ลเป็ นคาสังค ่ าร้องเมื่อ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๑ อยูท่ ่ี หมูท่ ่ี ถนน ตรอก/ซอย ตาบล/แขวง อาเภอ/เขต จังหวัด รหัสไปรษณีย์ โทรศัพท์ รายละเอียดของการกระทา ข้อเท็จจริง หรือพฤติการณ์ เกีย่ วกับการกระทาทีเ่ ป็ น เหตุให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายทีพ่ อเข้าใจได้ ข้อ ๑. สืบเนื่องกรณีการชีม้ ลู ทุจริต ปตท.และพวก โดยมติของ ๓ องค์กรอิสระตาม รัฐธรรมนูญ มีการตีความข้อโต้แย้งในคาพิพากษาคดีน้ีโดยคณะกรรมการกฤษีกา และมีมติ คณะรัฐมนตรี ให้ดาเนินการตามมติของสานักงานการตรวจเงินแผ่นดินในกรณีการดาเนินการตาม คาพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ ฟ.๓๕/๒๕๕๐ ยังไม่ครบถ้วนถูกต้องในชัน้ บังคับคาพิพากษา หมายเหตุ
๑. ๒. ๓. ๔.
คาฟ้ องต้องใช้ถอ้ ยคาสุภาพและให้ทาเป็ นภาษาไทย ผูฟ้ ้ องคดีแนบพยานหลักฐานทีเ่ กีย่ วข้องกับคาฟ้ อง ถ้าไม่อาจแนบพยานหลักฐานมาได้ ให้ระบุเหตุทไ่ี ม่อาจแนบพยานหลักฐานไว้ดว้ ย ผูฟ้ ้ องคดีตอ้ งจัดทาสาเนาคาฟ้ อง และสาเนาพยานหลักฐานทีผ่ ฟู้ ้ องคดีรบั รองสาเนาถูกต้องตามจานวนของผูถ้ กู ฟ้ องคดีย่นื มาพร้อมกับคาฟ้ อง การจัดทาคาฟ้ อง ผูฟ้ ้ องคดีไม่จาเป็ นต้องทาตามรูปแบบของคาฟ้ องนี้ แต่ตอ้ งมีเนื้อหาสาระสาคัญครบถ้วนตามทีร่ ะบุไว้น้ี
๒
ซึง่ ความปรากฏมาอย่างยาวนานว่า “ปตท.ยังคืนไม่ ครบ” โดยสาระสาคัญในการชี ้มุลทุจริตคือ “กรณีการทุจริตท่ อก๊ าซ มาจากการแจ้ งเท็จคณะรั ฐมนตรี โดยรั ฐมนตรี พลังงาน นายปิ ย สวัสดิ์ อัมระนันทน์ มีผลให้ ปตท.และพวก นาเสนอคาร้ องรายงานเท็จต่ อศาลปกครอง สูงสุด ซึง่ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด มีคาสั่งคาร้ องรั บรองรายงานเท็จของปตท.(ผู้ถูกฟ้ อง ที่ ๔ หรื อลูกหนี้ตามคาพิพากษา) ” ผู้ร้องเห็นตรงกันกับผลของการไต่สวนตรวจสอบขององค์กร อิสระต่างๆ จนมีผลเป็ นมติคณะรัฐมนตรี ซึง่ มีการดาเนินการไปแล้ ว ดังนี ้ ๑. เมื่อ ๔ เมษายน ๒๕๕๙ มีมติของสานักงานผู้ตรวจการแผ่นดินให้ ชี ้มูลความผิด นายปิ ย สวัสดิ์ อัมระนันทน์ ปตท.และพวก โดยมีอานาจตามกฎหมายที่จะเสนอเรื่ องให้ ศาล ปกครองพิจารณาความผิด กรณีทจุ ริตระบบขนส่งปิ โตรเลียมทางท่อ อันได้ แก่ระบบท่อส่ง ก๊ าซธรรมชาติ ระบบท่อส่งน ้ามัน และอุปกรณ์ต่างๆ ซึง่ ฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลาง คดี หมายเลขดาที่ ๕๑๐/๒๕๕๙ คดียงั อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลาง ๒. เมื่อ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙ มีมติของสานักงานการตรวจเงินแผ่นดินและคณะกรรมการ ตรวจเงินแผ่นดิน ให้ ชี ้มูลความผิด ปตท.และพวก กรณีทจุ ริตระบบท่อขนส่งปิ โตรเลียมทาง ท่อ ได้ แก่ระบบท่อส่งก๊ าซธรรมชาติ และอุปกรณ์ต่างๆ โดยมีอานาจตามกฎหมายให้ เสนอ เรื่ องไปยังสานักงานป.ป.ช.และป.ป.ง ให้ พจิ ารณาดาเนินคดีอาญาและแพ่ง ๓. เมื่อ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๙ คณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณาตีความตามคาร้ องของ สานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ที่ดาริของนายกรัฐมนตรี กรณีการทุจริตระบบขนส่ง ปิ โตรเลียมทางท่อ ส่งคืนไม่ครบตามคาพิพากษา โดยมีความเห็นเป็ นเรื่ องเสร็จพอสรุป ความได้ วา่ “ปตท.ยังส่งคืนไม่ครบ เพื่อประโยชน์แผ่นดินให้ สานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และกระทรวงการคลังเรื่ องเรื่ องไปยังศาลปกครองให้ พจิ ารณาวินิจฉัยต่อไป”
๓ ๔. เมื่อ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๙ คณะรัฐมนตรี มีมติให้ ดาเนินการตามมติของสานักงานการ ตรวจเงินแผ่นดินและคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เมื่อ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ๕. เมื่อ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ มีประชุมร่วมของหน่วยงานต่างๆ เพื่อดาเนินการตามมติ คณะรัฐมนตรี เมื่อ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๙ ซึง่ มีรองนายกวิษณุ เครื องามเป็ นประธาน ประกอบด้ วยสานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน กระทรวงการคลัง ปตท. และหน่วยงานที่ เกี่ยวข้ อง โดยยึดคาสัง่ ศาลปกครอง ที่ ๘๐๐/๒๕๕๗ “ที่ให้ หน่วยงานรัฐต้ องไปว่ากันเอง” การดาเนินการขององค์กรตรวจสอบได้ ดาเนินการกันตามกฎหมายรัฐธรรมนูญกาหนด ทุกการ กระทามีกฎหมายให้ ดาเนินการ มีขนตอนในการไต่ ั้ สวนตรวจสอบ รวมถึงการแสวงหาหลักฐาน เพิม่ เติมต่างๆ และอยู่บนพื ้นฐานของบัญชีรายการทรัพย์สิน เช่น บัญชีท่อส่งก๊ าซธรรมาชาติสาย ประธานหลัก ๑๗ โครงการ ทังบนบกและในทะเล ้ ซึง่ มติคณะรัฐมนตรี ที่แจงเท็จโดยนายปิ ยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ระบุให้ คืนเพียง ๓ โครงการบนบก คาร้ องรายงานเท็จที่ปตท.เสนอศาลคืนเพียง ๔ โครงการบนบก ซึง่ สานักงานการตรวจเงินแผ่นดินมีข้อโต้ แย้ งมาตังแต่ ้ วนั ที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๑ ที่ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด นายจรัล หัตถกรรม มีคาสัง่ คาร้ องรับรองรายงานเท็จของปตท. (ผู้ถกู ฟ้องที่ ๔ หรื อลุกหนี ้ตามคาพิพากษา)และกระทรวงการคลังโดยกรมธนารักษ์ โดยไม่รับฟั ง ความเห็นของคณะรัฐมนตรี โดยสานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้ถกู ฟ้องคดีที่ ๑) ซึง่ ครม.มีมติ กาหนดให้ เป็ นหน่วยงานตรวจสอบและรับรองความถูกต้ องในการนาส่งคืนทรัพย์สินตามคา พิพากษาคดีนี ้ ที่คาพิพากษาหน้ า ๘๓ ที่ระบุชดั เจนว่า “ให้ ผ้ ถู กู ฟ้องที่ ๑ (คณะรัฐมนตรี ) นาสา ธารณสมบัติอนั เป็ นสมบัติแผ่นดินที่ได้ มาจากอานาจมหาชน นาคืนให้ กระทรวงการคลังให้ ครบถ้ วน” นันเพราะโดยประมวลกฎหมายแพ่ ้ ง มาตรา ๑๓๐๗ ที่บญ ั ญัติว่า “ท่านห้ ามมิให้ ยดึ
๔ ทรัพย์สินของแผ่นดิน ไม่ว่าทรัพย์สินนัน้ จะเป็ นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรื อไม่” ปตท.ซึง่ เป็ น เอกชนจึงไม่อาจถือครองสาธารณสมบัติ อันเป็ นทรัพย์สินของแผ่นดิน นามาแสวงประโยชน์ได้ ฯ ข้ อ ๒. ผู้ร้องมีผลกระทบจากการที่นายปิ ยสวัสดิ์ อัมระนัทน์ และปตท. นาคาสัง่ คาร้ องเมื่อ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๑ ของนายจรัล หัตถกรรม ตุลาการศาลปกครองสูงสุด และคาสัง่ ยกคาร้ องต่างๆ ของศาลปกครอง ที่ประชาชนร้ องให้ ตรวจสอบใหม่ คาสัง่ กรณีละเมิดอานาจศาล มาใช้ เป็ น พยานหลักฐานเอาผิดผู้ร้องว่า หมิ่นประมาท ซึง่ ผู้ร้องถูกฟ้องรวม ๖ คดี ในคดีหมายเลขแดงที่ ๑๖๑/๒๕๕๙ กรณีการคืนท่อส่งก๊ าซ ศาลชันต้ ้ นรับฟั งว่า “มีข้อยุติแล้ วโดยศาลปกครองสูงสุด” จึง สัง่ ลงโทษขังคุกผู้ร้อง ๔๐ เดือน โดยไม่รอลงอาญา ซึง่ ศาลอุทธรณ์ รอลงอาญาโทษขังคุก ๒ ปี ให้ ปรับ ๘ แสนบาท และคุมประพฤติ หลังมีมติชี ้มูลขององค์กรอิสระต่างๆ จนมีผลเป็ นมติครม. ผู้ร้อง ยังถูกฟ้องเพิม่ อีก ๒ คดี กรณีกล่าวหา ปตท.ทุจริตท่อส่งก๊ าซ ในสื่อสังคมออนไลน์ ทังที ้ ่ผ้ รู ้ องเป็ น หนึง่ ในคณะผู้ร้องต่อสานักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จนมีมติชี ้มูลทุจริตว่า “กรณีการทุจริตท่ อก๊ าซ มาจากการแจ้ งเท็จคณะรั ฐมนตรี โดยรั ฐมนตรี พลังงาน นายปิ ยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ปตท. และพวก เสนอคาร้ องรายงานเท็จต่ อศาล ตุลาการศาลปกครองสูงสุด มีคาสั่งคาร้ อง รั บรองรายงานเท็จของปตท.(ผู้ถูกฟ้ องที่ ๔ หรื อลูกหนีต้ ามคาพิพากษา)” ผู้ร้องจึงเป็ นผู้ ได้ รับผลกระทบโดยตรง จึงมีสิทธิฟอ้ งตามมาตรา ๙ และ๔๒ ของพระราชบัญญัติการจัดตังศาล ้ ปกครองและวิธีพจิ ารณาฯ ปี ๒๕๔๒ และมีสิทธิขอศาลให้ เพิกถอนกระบวนการพิจารณาวินิจฉัยที่ ไม่ชอบจนมีผลเป็ นคาสัง่ คาร้ อง แม้ ไม่ชอบด้ วยกฎหมาย แต่คาสัง่ ยกคาร้ องต่างๆ ในคดีนี ้ กลับใช้ อานาจศาลปกครองโดยไม่ชอบ บิดเบือนว่าเป็ น คาสัง่ ของศาลปกครองสูงสุดที่ชอบด้ วยกฎหมาย มาตรา ๕๔ และ๖๙ ซึง่ ผู้ร้องเห็นว่า เป็ นการเจตนากระทาโดยไม่สจุ ริต เพื่ออ้ างเหตุที่จะยกคาร้ อง ต่างๆ และโดยมาตรา ๕๒ “การฟ้องคดีปกครองที่เกี่ยวกับการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะหรื อ
๕ สถานะของ บุคคลจะยื่นฟ้องคดีเมื่อใดก็ได้ ” และ มาตรา ๗๕ ในกรณีที่ศาลปกครองได้ มีคา พิพากษาหรื อคาสัง่ ชี ้ขาดคดีปกครองเสร็จเด็ดขาดแล้ ว คู่กรณีหรื อบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้ เสีย หรื ออาจถูกกระทบจากผลแห่งคดีนนอาจมี ั้ คาขอให้ ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาคดีหรื อมีคาสัง่ ชี ้ขาดคดีปกครองนันใหม่ ้ ได้ โดยมาตรา ๗๕(๑) กรณีศาลปกครองฟั งข้ อเท็จจริงผิดพลาดหรื อมี พยานหลักฐานใหม่ อันอาจทาให้ ข้อเท็จจริงที่ฟังเป็ นยุติแล้ วนันเปลี ้ ่ยนแปลงไปในสาระสาคัญ” โดยมาตรา ๗๕(๔) คาพิพากษาหรื อคาสัง่ นันได้ ้ ทาขึ ้นโดยอาศัยข้ อเท็จจริงหรื อข้ อกฎหมายใดและ ต่อมาข้ อเท็จจริงหรื อข้ อกฎหมายนันเปลี ้ ่ยนแปลงไปในสาระสาคัญซึง่ ทาให้ ผลแห่งคาพิพากษา หรื อคาสัง่ ขัดกับกฎหมายที่ใช้ บงั คับอยู่ในขณะนันแ ้ ละโดยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๐๕ ทรัพย์สินซึง่ เป็ นสาธารณสมบัติของแผ่นดินนันจะ[2]โอนแก่ ้ กนั มิได้ เว้ นแต่อาศัย อ้ านาจแห่งบทกฎหมายเฉพาะหรื อพระราชกฤษฎีกมาตรา ๑๓๐๖ ท่านห้ ามมิให้ ยกอายุความขึ ้น เป็ นข้ อต่อสู้กบั แผ่นดินในเรื่ องทรัพย์สินอันเป็ นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน อีกทัง้ ตาม พระราชบัญญัติจดั ตังศาลปกครองและวิ ้ ธีพจิ ารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๕๙ ในการ บังคับคดีปกครอง มาตรา ๗๕/๓ เมื่อความปรากฏแก่ ศาลปกครอง หรื อคู่กรณียื่นคาขอ หรื อ เจ้ าพนักงานบังคับคดี รายงานต่อศาลปกครองว่า คู่กรณียงั ไม่ปฏิบตั ิตามคาบังคับของศาล ปกครองหรื อมีข้อขัดข้ องในการปฏิบตั ิตามคาบังคับของศาลปกครอง ให้ ศาลปกครองมีอานาจ พิจารณาหรื อไต่สวนและมีคาสัง่ กาหนดวิธีการดาเนินการให้ เป็ นไปตามคาพิพากษาหรื อคาสัง่ หรื อมีคาสัง่ ใด ๆ เพื่อให้ การบังคับคดีเสร็จสิ ้นไปโดยเร็ว มาตรา ๗๕/๔ เมื่อปรากฏว่าหน่วยงาน ทางปกครองหรื อเจ้ าหน้ าที่ของรัฐมิได้ ปฏิบตั ิตามคาบังคับของศาลปกครองให้ ถกู ต้ องครบถ้ วน หรื อปฏิบตั ิล่าช้ าเกินสมควร ให้ ศาลปกครองไต่สวนหรื อแสวงหาข้ อเท็จจริงฯ เพราะกระบวนการ บังคับคดีเป็ นไปดดยไม่ถกู ต้ องมาตังแต่ ้ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๑ จนถึงปั จจุบนั
๖ ผู้ร้องจึงมีสิทธิโดยชอบทังจากการเป็ ้ นผู้ได้ รับผลกระทบโดยตรงและโดยข้ อกฎหมายนัน้ สามารถขอศาลปกครองให้ ดาเนินการเพิกถอนกระบวนการพิจารณาวินิจฉัยที่ไม่ชอบได้ ข้ อ ๓. การมีคาสัง่ รับรองรายงานเท็จของปตท. (ผู้ถกู ฟ้องที่ ๔ หรื อลูกหนี ้ตามคาพิพากษา) และกระทรวงการคลังโดยกรมธนารักษ์ โดยไม่รับฟั งข้ อท้ วงติงของ คณะรัฐมนตรี โดยสานักงาน การตรวจเงินแผ่นดิน (หน่วยงานที่มีหน้ าที่ตรวจสอบและรับรองความถุกต้ องที่คณะรัฐมนตรี (ผู้ถกู ฟ้องที่ ๑)มีมติแต่งตังให้ ้ ดาเนินการนาส่งคืนทรัพย์สินตามคาพิพากษาในคดีนี ้ เพราะคาพิพากษา หน้ า ๘๓ ระบุอย่างชัดเจนว่า “ให้ ผ้ ถู กู ฟ้องที่ ๑ (คณะรัฐมนตรี ) นาสาธารณสมบัติอนั เป็ นสมบัติ แผ่นดินที่ได้ มาจากอานาจมหาชน นาคืนให้ กระทรวงการคลังให้ ครบถ้ วน”
คาพิพากษาระบุไว้ ว่า เป็ นหน้ าที่ของผู้ถกู ฟ้องคดีที่ ๑ ดาเนินการ ซึง่ ในคาร้ องรายงานที่ปตท.เสนอ ศาล หน้ า ๓ ก็ระบุว่า คณะรัฐมนตรี มีมติให้ สานักงานการตรวจเงินแผ่นดินเป็ นผู้ตรวจสอบและ รับรองความถูกต้ อง หากมีข้อโต้ แย้ งทางกฎหมายเกี่ยวกับการตีความตามคาพิพากษาให้ สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็ นผู้พจิ ารณาเพื่อให้ มีข้อยุติ ในชันบั ้ งคับคดีนี ้ สานักงานการ ตรวจเงินแผ่นดิน จึงทาหน้ าที่หน่วยงานตรวจสอบและรับรองความถูกต้ องของผู้ถกู ฟ้องที่ ๑ ที่ จะต้ องดาเนินการตามคาพิพากษา เพราะเป็ นทรัพย์สินที่ใช้ เพื่อประโยชน์แผ่นดินโดยเฉพาะ
๗
เมื่อ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๑ สานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ ทาหนังสือมายังสานักงานศาล ปกครอง (เอกสารแนบท้ ายคาฟ้ องหมาย...) ซึง่ นายจรัล หัตถกรรม ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ก็ได้ อ่านและมีคาสัง่ บนหนังสือท้ วงติงดังกล่าวที่ระบุวา่ “ปตท.ยังคืนทรัพย์สินไม่ครบถ้ วนตามคา พิพากษาฯ” ซึง่ เป็ นรายงานที่สานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เสนอไปยังคณะกรรมการปตท. เมื่อ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๑ ซึง่ มีการประชุมระหว่างสานักงานการตรวจเงินแผ่นดินและปตท. สองครัง้ เมื่อ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๑ และ๙ ธันวาคม ๒๕๕๑ ซึง่ นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานบริหาร ปตท. ยังขอแก้ ไขข้ อความในหนังสือดังกล่าว (เอกสารแนบท้ ายคาฟ้ องหมาย...) ... แต่ ปตท.กลับเร่ง ยื่นคาร้ องรายงานให้ ศาล เมื่อ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๑ เมื่อหน่วยงานตรวจสอบและรับรองความ ถูกต้ องของผู้ถกู ฟ้องที่ ๑ ท้ วงติง จึงเป็ นกรณีที่ศาลปกครองจะต้ องรับฟั ง และเรี ยกมาไต่สวน แม้ หนังสือดังกล่าวจะมาก่อนหรื อหลัง การมีคาสัง่ คาร้ องในวันดังกล่าว เพราะการไม่รับฟั ง แต่ม่งุ มี คาสัง่ รับรองรายงานเท็จของปตท.(ผู้ถกุ ฟ้องที่ ๔ หรื อลูกหนี ้ตามคาพิพากษา นัน้ เป็ นเจตนาที่ไม่ สุจริต ไม่ชอบด้ วยข้ อเท็จจริง ไม่ชอบด้ วยคาพิพากษา เพราะปตท.เป็ นเอกชนไม่สามารถถือครอง สาธารณสมบัติเป็ นทรัพย์สินที่ใช้ เพื่อประโยชน์แผ่นดินโดยเฉพาะได้ และศาลปกครองไม่มีอานาจ ตามกฎหมายที่จะดาเนินการดังกล่าว ทังเจตนาผิ ้ ดหลง หรื อประการอื่นใด ซึง่ ย่อมจะต้ องรับฟั ง หน่วยงานตรวจสอบและรับรองความถูกต้ องของผู้ถกู ฟ้องที่ ๑ ท้ วงติง .. คาสั่งคาร้ องของนาย จรั ล หัตถกรรม จึงไม่ ชอบด้ วยข้ อเท็จจริง ไม่ ชอบด้ วยคาพิพากษา และไม่ ชอบด้ วย กฎหมายหลายมาตรา ทัง้ ประมวลกฎหมายอาญา ประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ ผิด
๘ กฎหมายรั ฐธรรมนูญทุกฉบับ เพราะล้ วนระบุว่า “ศาลต้ องดาเนินการตามกฎหมาย” เมื่อ คาสั่งคาร้ องดังกล่ าวไม่ ชอบ ยังผลให้ คาสั่งยกคาร้ องต่ างๆ ที่อ้างว่ า ศาลปกครองสูงสุด เคยมีคาสั่ง ว่ า “ผู้ถูกฟ้ องทัง้ ๔ และหน่ วยงานที่เกี่ยวข้ องได้ ดาเนินการการตามคา พิพากษาเป็ นที่เรี ยบร้ อยแล้ ว” นัน้ จึงไม่ ชอบด้ วยประการทัง้ ปวง ข้ อ ๔. ท่ อส่ งก๊ าซเส้ นที่ ๑ จากแปลงเอราวัณขึน้ ฝั่ งที่มาบตาพุด และส่ งก๊ าซไปยัง โรงไฟฟ้ าบางปะกง อันเป็ นคุณูปการของรั ฐบุรุษ สร้ างเสร็จดาเนินการก่ อนการแปรรู ป ปตท. นานถึง ๒๐ ปี ท่ อก๊ าซดังกล่ าว เป็ นสมบัตชิ าติ แต่ ถูกยักยอกไปเป็ นของปตท. (เอกชน) โดยมีการใช้ อานาจศาลปกครองโดยไม่ชอบ นอกจากผู้ร้องได้ ร้องเรี ยนต่อสานักงาน ป.ป.ช.แล้ ว ยังได้ ทาหนังสือเสนอประธานรัฐสภา ให้ ตงคณะกรรมาธิ ั้ การคณะพิเศษ ติดตามนาคืน เพื่อประโยชน์แผ่นดิน (เอกสารแนบท้ ายคาร้ องหมาย...) ซึง่ นอกจากท่อก๊ าซอันเป็ นคุณปู การ รัฐบุรุษแล้ ว ยังมีท่อส่งก๊ าซท่อส่งน ้ามัน แลเครื่ องจักรอุปกรณ์ต่างๆ ที่ปตท.ยังคืนไม่ครบถ้ วนตาม คาพิพากษาฯ ข้ อ ๕. เพื่อขอคัดถ่ ายทัง้ สานวนคดีนีจ้ ากสานักงานบังคับคดีปกครอง และจากกรณี สานักงานอัยการสูงสุด เสนอคาร้ องให้ ศาลปกครองพิจารณาวินิจฉัยใหม่ว่า “ปตท.คืนครบถ้ วน แล้ วหรื อไม่” ตามมติลบั มากของคณะรัฐมนตรี เมื่อ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ และตามหนังสือตอบ กลับหนังสือร้ องเรี ยนของผู้ร้องจากกระทรวงการคลังโดยกรมธนารักษ์ ซงึ่ ระบุไว้ แบบนัน้ เช่นเดียวกัน ผู้ร้องเห็นว่า ศาลปกครองจะต้ องมีคาสัง่ เพิกถอนกระบวนการพิจารณาจนมีผลเป็ น คาสัง่ คาร้ องที่ไม่ชอบก่อน และพิจารณาตาม ตาม พระราชบัญญัติจดั ตังศาลปกครองและวิ ้ ธี พิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.๒๕๔๒ ในการบังคับคดีปกครองตาม มาตรา ๗๕(๑)และ ๗๕(๔) และ เพื่อให้ เป็ นไปด้ วยความบริสทุ ธิ์ยตุ ิธรรม ผู้ร้องขอประทานอนุญาต คัดถ่ายเนาทังส ้ านวนของคดีนี ้
๙ ที่อยู่ในการครอบครองและดาเนินการของสานักงานบังคับคดีปกครอง เพื่อนาไปประกอบการ พิจารณาของคณะกรรมาธิการคณะพิเศษของรัฐภาต่อไป
เพื่อให้ การดาเนินการของศาลปกครองเป็ นไปตามเจตจานงของรัฐธรรมนูญปี ๒๕๔๒ ที่ บัญญัติให้ จดั ตังศาลปกครอง ้ ด้ วยมุ่งหวังที่จะให้ ประชาชนเข้ าถึงความยุติธรรมได้ และมีความเป็ น นิติรัฐ นัน้ ผู้ร้องจาเป็ นต้ องรักษาไว้ ซงึ่ ความถูกต้ องของบ้ านเมืองและปกป้องตนเองจากการเป็ นผู้ ร้ องเรี ยนทุจริต จนถูกฟ้องเอาความผิดอาญาที่ศาลในคดีอาญาสัง่ ลงโทษไว้ สถานหนัก และยังมี คดีเพิม่ อีกสองคดีที่ศาลคดีอาญากาลังพิจารณาความผิด ทังที ้ ่คดีนี ้ ยังไม่เคยมีข้อยุติที่ชอบด้ วย กฎหมาย เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ประโยชน์แผ่นดิน และปกป้องผลกระทบที่ประชาชนทัง้ ชาติ ต้ องซื ้อใช้ พลังงานทังระบบแพง ้ อันมีเหตุมาจากการทุจริต และการใช้ อานาจศาลปกครองใน พระปรมาภิไธย โดยไม่ชอบ หมิ่นเหม่และละเมิดพระราชอานาจของพระมหากษัตริย์ฯ ผู้ร้องขอสงวนสิทธิ์อนั พึงมีตามกฎหมาย ที่จะนาเรื่ องเสนอไปยังศาลคดีทจุ ริต ให้ พจิ ารณา การดาเนินการที่ไม่ชอบด้ วยกฎหมายในคดีนี ้ และขอประทานความกรุณาจากศาลปกครอง ที่จะ ตรวจสอบอย่างถ้ วนถี่ระมัดระวังในการมีคาสัง่ อย่างหนึง่ อย่างใด เพราะอาจจะมีการดาเนินการที่ ไม่ชอบด้ วยกฎหมายซ ้าอีก เพราะแม้ จะมีอานาจอันก้ าวล่วงมิได้ แต่ต้องดาเนินการตามกฎหมาย เพื่อศาลปกครองสูงสุดโปรดพิจารณา
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด นายศรัลย์ ธนากรภักดี (ผู้ฟ้องคดี) แอดมินเพจ ทวงคืนพลังงานไทย และผู้จัดตั้ง กลุ่มทวงคืน ปตท. กลุ่มทวงคืนพลังงานไทยในสื่อสังคม ออนไลน์ เฟซบุ๊ค - ผู้เรียงและผู้พิมพ์
๑๐ คาขอของผูฟ้ ้ องคดี (ระบุวตั ถุประสงค์หรือความต้องการของผูฟ้ ้ องคดี) ๑. เพือ่ ขอให้ศาลปกครองเปลีย่ นองค์คณะในการพิจารณามีคาวินิจฉัยว่า คืนครบถ้วน ตามคาพิพากษา แล้วหรือยัง และให้เปิ ดเผยการทาคาวินิจฉัยของตุลาการแต่ละท่าน ่ กถอนกระบวนการพิจารณาวินิจฉัยทีไ่ ม่ชอบด้วย ๒. เพือ่ ศาลปกครอง มีคาสังเพิ กฎหมาย ไม่ชอบด้วยคาพิพากษา ไม่ชอบด้วยข้อเท็จจริง จนมีผลเป็ นคาสังค ่ าร้องฯ ่ กถอนหรือแก้ไขคาสังยกค ่ าร้องต่างๆ ทีเ่ กีย่ วข้องกับคดี ๓. เพือ่ ศาลปกครอง มีคาสังเพิ นี้ให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะศาลปกครองสูงสุดไม่เคยมีคาสัง่ เมื่อ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๑ ๔. เพือ่ ศาลปกครองสูงสุด อนุ ญาตให้คดั ถ่ายสาเนา เอกสารทัง้ สานวนในการ ครอบครองของสานักงานบังคับคดีปกครอง คดีน้ี เพือ่ คณะกรรมาธิการคณะพิเศษของรัฐสภาฯ ๕.
๖.
(ลงชื่อ)
ผูฟ้ ้ องคดี
นายศรัลย์ ธนากรภักดี (...........................................)
๑๑ บัญชีเอกสารแนบท้ายคาร้องขอเพิ กถอนกระพิ จารณาไม่ชอบฯ ๑. ๒. ๓.
สาเนา คาสังค ่ าร้องของตุลาการศาลปกครองสูงสุด เมื่อ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๑ สาเนา หนังสือของสานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เมื่อ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๑ สาเนา หนังสือของปตท.ส่งให้สานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เมื่อ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๒
๔. ๕. ๖.
สาเนา เอกสารกรณีปตท.ทุจริตท่อส่งก๊าซธรรมชาติ สาเนาหนังสือ ร้องประธานรัฐสภา เมื่อ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๒ สาเนา แถลงการณ์ของนายปิ ยสวัสดิ ์ อัมระนันทน์ และบัญชีพยานเอกสาร ในคดี หมายเลขดาที่ อ.๓๓๖๒/๒๕๖๐ และ อ.๒๐๗๘/๒๕๖๑ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ๗. สาเนา แถลงการณ์คุณกัมพล ทวีการ กรณีศาลอาญา สังให้ ่ เป็ นบุคคลวิกลจริต จากกรณีคดีหมิน่ ประมาท นายปิ ยสวัสดิ ์ อัมระนันทน์ และ ปตท. ทุจริตท่อก๊าซ
เอกสารแนบท้ายคำร้องหมาย...๑
คำร้องรายงานของปตท.เสนอศาล เมื่อ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๑ ข้อ ๒ หน้า ๓
หนังสีอที่มีเนื้อความและเอกสารแนบเดียวกันกับที่เสนอศาลปกครอง
หนังสือของสตง.ส่งให้ปตท. ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๑ ก่อนการประชุมร่วม สตง.-ปตท. ๒ ครั้ง
วันศุกร์
วันจันทร์
เอกสารแนบท้ายคำร้องหมาย...๓