นั ก บุ ญ ยอห์ น บั ป ติ ส เป็ น บุ ต รชาย ของท่านเศคาริยาห์ ผู้เป็นใบ้และนาง เอลิซา เบธ ผู้เป็นหมัน การบังเกิดมา ข อ ง ท่ า น ย อ ห์ น บั ป ติ ส เ ป็ น ก า ร ประกาศให้ทราบว่าสมัยของพระแมส ซีอาห์ กาลังจะมาถึงแล้ว และในสมัย ของพระแมสซียาห์นี้ ผู้ที่เป็นหมันจะมี ลู ก ดกแ ล ะ ผู้ ที่ เ ป็ น ใบ้ จ ะ กล าย เป็ น ประกาศก
พระวรสารได้ เ ติ ม ชื่ อ เรี ย ก “บั ป ติ ส ” ให้ ท่ า นก็ เ พราะ ว่ า ท่ า นได้ ประกาศ พิธีล้างแบบใหม่ (มธ. 3: 13-17) ซึ่ง ในพิธีนี้ผู้มาขอรับ พิธีล้างไม่ต้องจุ่ม ตัวลงไปแช่ในน้าเหมือนกับในพิธีล้าง ของพวกยิว
แต่ ใ ห้ รั บ น้ าจากท่ อ ธารจากมื อ ของ ศาสนบริกรคือผู้ประกอบพิธี และดังนี้ ท่ า น ยอห์ น ต้ อ งการจ ะสอ นเราว่ า มนุ ษ ย์ เ ราไม่ ส ามารถที่ จ ะช าระตนให้ สะอาดบริ สุ ท ธิ์ ไ ด้ โ ดยล าพั ง ตนเอง แต่ว่าความศักดิ์สิทธิ์นั้นมาจากพระเจ้า
ท่านยอห์น บัปติสเป็นผู้ทาพลีกรรม ใช้โทษบาปมาก ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ที่ ท่านได้เริ่ม ใช้วินัย นี้เ วลาที่ท่านเจริญ ชี วิ ต อ ยู่ ใ น ก ลุ่ ม นั ก บ ว ช ใ น ถิ่ น ทุ ร กั น ดาร แต่ อ ย่ า งไรก็ ต ามธรรม ประเพณี ช วนเราให้ ร ะลึ ก ถึ ง ลั ก ษณะ ข อ ง ก า ร เ ป็ น ป ร ะ ก า ศ ก ข อ ง ท่ า น มากกว่ า ท่ า นเป็ น ประกาศกในสอง ตาแหน่ง ด้วยกันและเป็นต้นท่านเป็น ประกาศกในใจความของพันธสัญญา เดิม
ท่านยอห์นเป็นประกาศกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในบ รร ดาป ระ กาศ กทั้ ง หล าย ขอ ง ชนชาติอิสราแอล ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่า ท่ า นสามารถชี้ ใ ห้ เ ห็ น เป้ า หมายของ คาพยากรณ์ ต่า งๆ (มธ.11: 17-15; ยน.1: 19-28)
และเพื่อเป็นเครื่องหมายชี้แสดงให้เห็น ว่ า ท่ า นเป็ น ประกาศกที่ ยิ่ ง ใหญ่ จ ริ ง ๆ ตามแบบของบรรดาประกาศกทีย่ งิ่ ใหญ่ ในพระธรรมเก่า นักบุญ ลูกา ได้เล่าให้ ฟังถึงเรื่อ งการบังเกิดมาของท่านโดย แสดงให้เราเห็นถึงภูมิหลังของกระแส เรียกที่สาคัญๆ ของบรรดาประกาศกใน สมัยพันธสัญญาเดิม
ประกาศกมิใช่เป็นเพียงแต่ผู้ที่แจ้งข่าว ถึงพระแมสซียาห์ในอนาคตเท่านั้น แต่ ที่สาคัญก็คือเป็นผู้นาเอาพระวาจาของ พระเจ้าไปประกาศและเป็น องค์พยาน ยืน ยัน ว่า พระวาจาที่ส ร้ า งสรรค์นี้อ ยู่ ท่า มกลางพวกเรา อยู่ ใ นโลกที่ ไ ด้ รั บ การสร้างใหม่จากพระเจ้า
ทุ ก ๆ ค รั้ ง ที่ เ ร า ม า ร่ ว ม ถ วา ย บู ช า มิสซา พระวาจาของพระเจ้าก็ประกาศ ซ้า สิ่งที่ท่านยอห์น บัปติส ได้ ประกาศเตื อ นพวกเขาชาวยิ ว ที่ ฝั่ ง แม่น้ายอร์แดนคือ “ขอให้พวกท่านได้ กลับใจ”
เรื่ อ งเล่ า ถึ ง การรั บ ประทานอาหารค่ า ครั้งสุดท้ายของพระคริสตเจ้าซึ่งมีบท สวดเสกศีล อยู่ด้วย และเป็นข้อความ ตอนหนึ่งของพระวรสารนั้นน่าจะต้อง ทาให้เราได้ถามตัวเราเองว่า “เราต้อ ง ทาอะไร” (กจ. 2:37) คาตอบของพระ คริส ตเจ้า พระองค์ผู้ไ ด้ถวายร่า งกาย และหลั่งพระโลหิตเพื่อเราคือว่า “พวก ท่านจงทาสิ่งนี้เพื่อเป็นการระลึกถึงเรา เถิด”
ชี วิ ต และการเป็ น มรณสั ก ขี ข องท่ า น ยอห์น บัปติส ก็เป็นการตอบสนอง คาเชื้อเชิญของพระเยซูเจ้าที่ให้ติดตาม พระองค์ไปจนถึง ที่สุด และมีคริสตชน จ า นว น นั บ ไม่ ถ้ ว น ที่ ไ ด้ ป ฏิ บั ติ ต า ม แบบอย่างของท่านโดยได้พลีชีวิตและ หลั่งเลือ ดเพื่อ พระคริสตเจ้า เพื่อเป็น การระลึกถึงพระองค์