นักบุญ ยากอบ ซึ่งเราเรีย กว่า “องค์ ใหญ่ ” เป็นบุตรของเซเบดีและซาโลเม (มก 15:40; เที ย บ มธ 27:56) และ เป็นพี่ชายของนักบุญ ยอห์น ผู้นิพนธ์ พระวรสาร ท่ า นทั้ ง สองได้ เ ป็ น ผู้ ที่ พระเยซู เ จ้ า ได้ ท รงเรี ย กให้ ม าเป็ น สานุศิษย์ของพระองค์
และอยู่ ในสานุศิ ษย์รุ่ นแรกๆ ของ พระองค์ ท่านทั้งสองไม่ได้ลังเลใจ ที่ จ ะติ ด ตามพระองค์ เ ลย (มก 1:19... ; มธ 4: 21...;ลก5:10) ท่านเป็นคนหนึ่งในพวกอัครสาวก 3 คนแรกของพระเยซูเจ้าที่อยู่กับ พระองค์ในเหตุการณ์สาคัญต่างๆ เสมอ (มก 3:17; มธ10: 2;ลก 6:14 ; กจ 1:13)
เช่ น เดี ย วกั บ น้ อ งชาย นั ก บุ ญ ยากอบ มี นิ สั ย เตรี ย มพร้ อ ม เสมอและใจร้อน พระเยซูเจ้าได้ ท ร ง เ รี ย ก ท่ า น ทั้ ง ส อ ง ว่ า “โบอาแนร์ แ กส” (บุ ต รแห่ง ฟ้ า ร้อง)(มก 3:17)
แต่ ถึ ง กระนั้ น กั บ น้ อ งชายของ ท่านนักบุญเปโตรและอันเดร ท่าน เหล่ า นี้ ก็ เ ป็ น ศิ ษ ย์ ค นโปรดของ พระเยซู เ จ้ า ท่ า นได้ อ ยู่ ใ นเวลาที่ พระเยซูเจ้าทรงรักษาแม่ยายของ นักบุญเปโตรให้หายจากโรค (มก 1:29-31)
ในการปลุ ก ลู ก สาวของยาอี ร์ ใ ห้ ฟื้ น กลั บ คื น ชี พ (มก 5:37-43 ; ล ก 8:51-56 )ในการจาแลงพระกายของ พระเยซูเจ้าบนภูเขาทาบอรื (มก 9: 28;มธ 17:1-8 ; ลก 9:28-36) และ พร้อมกับเพื่อนอัครสาวกอีก 3 ท่าน
ท่ า นได้ ถ ามพระเยซูเ จ้า เรื่ องจะมี หมายสาคั ญ ของเวลามาเตื อ น ก่ อ นที่ จ ะมาถึ ง วั น สิ้ น โลก (มก 13:1-8) ที่ สุ ด พร้ อ มกั บ นั ก บุ ญ เปโตรและนักบุญยวง พระเยซูเจ้า ได้ทรงเรียกให้ไปตื่นเฝ้าพร้อมกับ พระองค์ ใ นสวนเกทเซมานี ( มก 14:33...; มธ 26:37...)
เพราะความมีใจร้อนรนอยากจะ ทาอะไรให้เสร็จ เร็ว ท่านได้บอก พระเยซูเจ้าให้บันดาลให้ไฟตกมา จากฟากฟ้ า เผาพวกชาวซามา เรียซึ่งไม่ ยอมรับพระองค์ และ ท่านก็ต้องถูกพระเยซูเจ้าว่ากล่าว ตักเตือน (ลก9:51-56)
ท่านได้พูดอวดตัวอยากจะได้ที่ต้น ในพระราชัย พลางพูดท้าทายว่า พร้ อ มเสมอส าหรั บ ทุ ก สิ่ ง ทุ ก อย่างซึ่งเป็นเหตุให้เกิด ปฏิกิริยา ในหมู่พวกอัครธรรมทูตด้วยกัน
พระเยซู เ จ้ า จึ ง ถื อ โอกาสสอน เรื่องความสุภาพและการอยากได้ ที่ ต้ น ๆ ว่ า ที่ ต้ น ๆ หรือ ต าแหน่ ง ใดๆ นั้นคือการรับใช้และการเป็น มรณสักขี (มก 10:35-45 ; มธ 10:20-28 )
คาทานายที่พระเยซูเจ้าได้บอกกับ นักบุญ ยากอบว่าท่านจะต้องดื่ม กาลิ ก ส์ แ ห่ ง ยั ญ บู ช าพร้ อ มๆกั บ พระองค์ และก็ ได้เป็น ความจริ ง ตามคากล่าวนั้น
คื อ ท่ า นได้ เ ป็ น อั ค รธรรมทู ต องค์ แ รกที่ ไ ด้ ห ลั่ ง โลหิ ต เพื่ อ พระคริสตเจ้า ท่านได้ถูกกษัตริย์ เฮรอด อากริ ป ปาที่ 1 สั่ ง ให้ ตั ด ศี ร ษะเสี ย เหตุ ก ารณ์ นี้ ไ ด้ เกิดขึ้นในระหว่างเทศกาลปัสกา ( เ ช่ น เ ดี ย ว กั บ พ ร ะ เ ย ซู เ จ้ า ) ในปี 42( กจ 12:1-2)
นั ก บุ ญ ย า ก อ บ ไ ม่ เ ค ย ไ ด้ ไ ป ประกาศพระวรสารในประเทศ สเปน ทั้ง ศพของพวกท่า นก็ ไม่ เคยได้ถูกเคลื่อนย้ายไปที่ประเทศ สเปนด้วยเวนันซีโอ ฟอร์ตูนาโต ได้ ยื นยั น ว่ า ในสมั ย ของท่ า น (ศตวรรษที่ 6)
ศพของนักบุญ ยากอบ ก็ยังอยู่ ที่กรุงเยรูซาเลม แต่ว่าอย่างไรก็ ตาม ตั้ ง แต่ ศ ตวรรษที่ 4 เป็ น ต้ น ไป ท่ า นนั ก บุ ญ ก็ ไ ด้ รั บ การ เคารพให้ เ กี ย รติ เ ป็ น พิ เ ศษเลย ที เ ดี ย วที่ เ มื อ งคั ม โปสแตล ลา ในประเทศสเปน
ท่ า นได้ ช่ ว ยป้ อ งกั น ความเชื่ อ แ ล ะ ค ว า ม เ ป็ น ไ ท ข อ ง พ ว ก ชาวเมืองจากพวกแขกมัวร์ และ สถานที่ นี้ ไ ด้ ก ลายเป็ น ที่ มี ชื่ อ ที่ สุ ด ของการแสวงบุ ญ แห่ ง หนึ่ ง ของทวี ป ยุ โ รปในสมั ย กลางและในสมัยต่อมาด้วย
คาภาวนาทูลขอและข้อปฏิบต ั ิ 1 . ให้เราวิงวอนขอนักบุญยากอบได้ช่วย ป้องกันความเชื่อของเราที่ล่อแหลมอยู่ ในภัยอันตราย 2. ขออย่าให้เราได้แสวงหาสิ่งตอบแทน ของโลกนี้สาหรับกิจกรรมต่างๆ ที่เราได้ กระทา 3. ขอให้เราอย่าได้ถอยหลัง เมื่อเราได้ตั้ง หน้าที่จะเดินอยู่ในหนทางแห่งความดี 4. ให้เราแสวงหาความชิดสนิทสัมพันธ์กับ พระเยซูเจ้าในความศรัทธาที่เข้มแข็งและ จริงใจด้วยเถิด