(Research)
1.สืบค้น
ชนิดของข้าวโพดหวาน ปัจจุบันประเทศไทย ส่งออกข้าวโพดหวานในรูปแบบต่างๆ สูงเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และฮังการี ยอดส่งออก ข้าวโพดหวานของประเทศไทยมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดมาโดยตลอด จากปริมาณการส่งออก 500 กว่าตัน มูลค่ารวม 10 กว่าล้านบาทในปีแรก ได้เติบโตเป็นมากกว่า 109,774 ตัน มีมูลค่ารวมกว่า 3,200 ล้านบาท ในปี 2548 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 2-3 ปีหลัง มูลค่าการส่งออกในแต่ละปี เติบโตขึ้นอย่างมาก โดยป ริมาณการส่งออกรวมในรู ปแบบต่างๆ เพิ่มขึ้นจาก 77,432 ตัน ในปี 2546 เป็น 109,774 ตัน ในปี 2548 และมูลค่าการ ส่งออกเพิ่มจาก 2,122
(Research)
สืบค้น
แยม
เป็นของหวานประเภทหนึ่งรับประทานโดย การทาลงบนขนมปังเพื่อเพิ่มรสชาติให้ขนม ปังอร่อยมากขึ้น แยมมักจะทำมาจากผลไม้ แต่ก็ไม่จริงเสมอไป วิธีการผลิตแยมเป็นอาหารหวานประเภทห นึ่งใช้ทานกับขนมปัง มีลักษณะคล้ายเยลลี่แ ต่ไม่จับตัวเป็นก้อน โดยมีวิธีการผลิตคือการ นำของที่จะทำเป็นแยมมาต้มกับน้ำและน้ำต าล ด้วยอุณหภูมิราว 104°C เพื่อให้สารเคมีใ นตัวของผลไม้ทำปฏิกิริยากับน้ำตาล แล้วป ล่อยทิ้งไว้ให้เย็นก็จะได้แยมตามที่ต้องการ ประเภทของแยม แยมแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้ แยมหวาน แยมชนิดนี้จะมีรสหวาน ตั้งแต่หวานมากจนกระทั่งหวานน้อย แต่แยมในชนิดนี้จะ ไม่นิยมทาขนมปังมากๆ เพราะมันจะหวานเลี่ยน แยมผลไม้ เป็นแยมที่ได้มาจากการต้มผลไม้ชนิดต่างๆกับน้ำตาล แยมสตอเบอรี่ - เป็นแยมที่ทำจากสตอเบอรี่ แยมชนิดนี้จะมีสีแดง แยมสัปปะรด - เป็นแยมที่ทำมาจากสับปะรด เป็นแยมที่มีสีเหลือง แยมส้ม - แยมส้ม มีสีส้ม แยมองุ่น - เป็นแยมที่ผสมกับองุ่น แยมรสผลไม้รวม - เป็นแยมที่ได้มาจากการผสมผลไม้ทุกชนิดเข้าด้วยกัน แยมสารสังเคราะห์ - แยมชนิดนี้ทำมาจากสารสังเคราะห์แต่ยังไม่แพร่หลายมากนัก แยมที่ไม่หวาน เป็นแยมที่ไม่มีรสหวาน แยมธัญพืช - เป็นแยมที่ทำมาจากธัญพืชหรือเม็ดพืชต่างๆ ที่มาhttp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%A2%E0%B8%A1
(Resume)
ส.2 สมมติฐาน เนื่องจากได้รับโครงการข้าวโพด หวานของจังหวัดกาญจณบุรี นำมาเป็นสินค้าแปรรูปซึ่ง ได้ทำ การสำรวจ แล้วว่าสินค้าที่เป็น ครีมหรือToppingที่ไว้ทนคู่กับ ขนมปังหรือทานกับอย่างอื่น ที่ เป็นทำมาจากข้าวโพดนั้นยังมีไม่ มากและในรูปแบบของเนยหรือ แยมข้าวโพดนั้นยังไม่ ค่อยจะมีให้ เห็นมากนัก กระผมจึงได้นำข้าว โพดหวานของจังหวัดกาญจณบุรี มาแปรรูป ในลักษณะครีมข้าวโพด
แรงบันดาลใจ ได้มาจากการที่ ทานครั้งเดียวหมดจึงเป็นครีม ที่ทำใหม่ สด อยู่ตลอดซึ่งทำให้ รสชาติของตัวเนื้อครีมมีความ หอมหวานอยู่เสมอ ดังนั้น กระผมจึงทำบรรจุภัณฑ์ใน ลักษณะ ที่เป็นแบบถ้วย พลาสติกขนาดเล็ก ในแบบที่ เรียกว่า Dip ซึ่งทำให้เกิดความ สะดวกสะสบายในการพกพา และยังสามารถเป็น Topping ไว้ ทานคู่กับอย่างอื่นได้อีกด้วย
สูตร Cream-Corn ข้าวโพด 50 กรัม เนย 1 ช้อนโต๊ะ นำ้ตาล 30 กรัม เกลือ 5 กรัม แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ วิปปิ้งครีม 80 ซีซี
วิธีการทำ 1.อุ่นวิปปิ้งครีมด้วยไฟอ่อน ๆ และนำกะทะตั้งไฟอ่อนใส่เนย 2.นำข้าวโพดข้าวหวานมาสับให้ละเอียด 3.นำข้าวโพดที่สับใส่ในกะทะที่ตั้งไฟไว้กับเนย ผัดให้มีกลิ่นหอม 4.เช็ควิปปิ้งครีมที่ตั้งอุ่นไว้ให้พออุ่น ๆ และนำน้ำตาลกับเกลือที่เตรียมไว้ใส่ลงใน หม้อและคนให้ละลาย ให้นำโพดที่ผัดใส่ลงไปตั้งทิ้งไว้ต่ออีกซักพัก 5.นำเนยตั้งไฟให้ละลายและนำแป้งข้าวโพดที่เตรียมไว้ลงไปผัด 6.ให้นำวิปปิ้งครีมกับข้าวโพดที่อุ่นไว้เทลงในกะทะแป้งข้าวโพดที่ผัดไว้ 7.เบาไฟเล็กน้อยคนจนวิปปิ้งครีมเริ่มข้น 8.เมื่อข้นจนได้ที่ให้ดับไฟและตั้งพักไว้ก่อนนำไปบรรจุภัณฑ์
สรุปผลการทดลอง จากการที่ลองทำครีมข้าวโพดเป็นครั้งแรกและได้ให้คนในครอบครัวและ บุคคลทั่วไปได้ลองชิม ส่วนใหญ่บอกว่าอร่อย แต่ก็มีเค็มหรือหวานไป พอทานเข้าไปมาก ๆ รู้สึกเลียน ปัญหาที่พบในการทดลอง 1.รสชาติในการทำแต่ละครั้งไม่คงที่ 2.เก็บได้ไม่นาน การแก้ปัญหา 1.ต้องมีวัดปริมาณในแต่ละครั้ง 2.อาจต้องมีการพาสเจอร์ไรส์ (Pasteurization) หรือผสมสารกันเสีย ชนิดโซเดียมเบนโซเอท (Sodium Benzoate)
แบบโลโก้ (sketch) แนวคิดฝักข้าวโพดที่สด ๆ แต่ไม่เหมือนจริงจนเกินไป
แบบโลโก้ที่เลือก
(Results)
ส.3สรุปผล เป็นสินค้าที่แปรรูปแบบที่เสร็จแล้ว
ครีมแบบละเอียด ครีมแบบหยาบ
แบบ Packaging (Sketch Up)
แบบMood Borad
ผู้จัดทำ นายศุภกิจ ศรีสวัสดิ์ รหัส 5111311881 ชั้นปีที่ 4 เอกศิลปกรรม สาขานิเทศศิลป์