โครงการพระราชดำริ ฝนหลวง

Page 1

โครงการดด้ านการเกกษตร ควาามเจริ ญของปประเทศ ต้ องอาศัยความมเจริ ญของภาาคเกษตรเป็ นนสําคัญ

พระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระเเจ้าอยูห่ วั ข้างต้ ง นนี้แสดงให้เห็นอย่างชั ง ดเจนถึงคววามสําคัญของภาค การเกษตรทีที่มีต่อประเททศชาติและปประชาชนชาาวไทย เกษตรกรรมมเป็ นอาชีพพืพ้นฐานของคนในสังคมมไทยมาทุกยุคทุกสมัย ประชากรประะมาณสองในนสามอยูใ่ น ภาคเกษตร การพัฒนากการเกษตรเป็ปนเป้ าหมายทีที่สาํ คัญของการพัฒนาปประเทศมาตลลอด สาขาการเกษตรเป็ น สาขาที่ได้รับความสําคัญั อย่างสูงในนแผนพัฒนาาเศรษฐกิจและสังคมแห่หงชาติทุกฉบับับ แนวพระราาชดําริ เกี่ยวกักับการพัฒนาาประสิ ทธิภาพการผลิตทางการเกษต ท ตรที่สาํ คัญ คือ การที่ทรงงเน้นในเรื่ อง ของการค้นคว้ น า ทดลองง และวิจยั หาาพันธุ์พืชต่างๆ ใหม่ๆ ทั้ งั พืชเศรษฐกิกิจ เช่น หม่ออนไหม ยางพพารา ฯลฯ ทั้ง พืชเพื่อการปรับปรุ งบํารุ งดิน และพืพืชสมุนไพร ตลอดจนกาารศึกษาเกี่ยวกั ว บแมลงศัตตรู พืช ทั้งนี้รวมพั ร นธุส์ ตั ว์ ต่างๆ ที่เหมมาะสม เช่น โค กระบือ แพะ แ แกะ พันั ธุ์ปลา ฯลฯฯ และสัตว์ปกทั ปี ้ งหลายด้ด้วย เพื่อแนะะนําให้ เกษตรกรนําํ ไปปฏิบตั ิได้ ไ ราคาถูก ใช้เทคโนโลยียีที่ง่าย และไไม่สลับซับซ้อน ซึ่งเกษตตรกรจะสามมารถรับไป ดําเนินการเเองได้และที่สําคัญ คือ พันธุ์พืช พันธุธ์สตั ว์ หรื อเททคนิควิธีการดูแลต่างๆ นั้น จะต้องเเหมาะสมกับ สภาพสังคมมและสภาพแแวดล้อมของท้องถิ่นนั้นๆ น ด้วย อย่างไรก็ตาม า มีพระราชชประสงค์เป็ นประการแแรก คือ การททําให้เกษตรรกรสามารถพพึ่งตนเองได้ด้โดยเฉพาะใใน ด้านอาหารก่อนเป็ นอันดั น บแรก เช่น ข้าว พืชผัก ผลไม้ ฯลฯฯ

แแนวทางที่สาคั าํ ญอีกประกการหนึ่ง คือการที่ทรงพยายามเน้นมิให้เกษตรกรร พึ่งพาอยูก่ บั พืชเกษตรแต่ต่เพียงอย่างเดีดียว เพราะจะะเกิดความเสีสี ยหายง่าย เนืนื่องจากควาามแปรปรวนนของตลาดแและความไม่แน่นอนของงธรรมชาติ ท ทางออกคื อทรงสนั ท บสนุนให้ น ทาํ การเเกษตรผสมผผสาน เพื่อลดดความเสี่ ยง แ รายได้ตลอดปี และมี ต ขณะเดียวกันเกษษตรกรควรจจะต้องมีรายได้เพิม่ ขึ้น น นอกเหนื อไปปจากภาคเกษษตร เช่น การรอุตสาหกรรรมในครัวเรื อน ดังเช่นใน มูลนิธิส่งเสริ มศิลปาชีพในสมเด็ ใ จพระนางเจ้าสิ ริกิต์ ิพระบรมมราชินีนาถ ที่ ท ทรงสนั บสนุนให้เกษตรกกรได้ทาํ งานนหัตถกรรม โดยใช้วสั ดุในท้ ใ องถิ่น ซึ่ง ทํทาให้เกิดรายยได้เสริ มอีกทางหนึ ท ่ง


นอกจากนั้นทรงเห็ น นว่า การพัฒนาฟืฟื้ นฟูทรัพยาากรธรรมชาตติจะมีผลโดยยตรงต่อการรพัฒนาการเกกษตร จึงทรรง มุ่งที่จะให้มีมีการพัฒนาแและอนุรักษ์ท์ รัพยากรธรรรมชาติอย่างยัง่ ยืน เพื่อเป็ เ นรากฐานนของการพัฒนาประเทศใ ฒ ใน ระยะยาว ทรงสนพระร ท ราชหฤทัยอย่ย่างยิง่ ต่อการรที่จะทํานุบารุ าํ ง ปรับปรุ งสภาพของท ง ทรัพยากรธรรรมชาติต่างๆๆ ไม่วา่ จะเป็ นป่ น าไม้ ที่ดิน แหล่งนํ้า ฯลฯ ฯ ให้อยูใ่ นสภาพที น ่จะมีผลต่อการเเพิม่ ประสิ ทธิ​ิ ภาพการผลิลิตอย่างมาก ที่สุด จากแนวทาางและเป้ าหมมายต่างๆ ดังกล่ ง าว มีแนววพระราชดําริ​ิ ที่ถือเป็ นหลั ห กเกณฑ์หรื อเทคนิควิธีธีการที่จะบรรรลุ ถึงเป้ าหมายยนั้นหลายประการ ประการแรก ทรงเห็นว่าการพัฒนาการเกษตรทีที่จะได้ผลจริ งนั้น จะต้องลงมื ง อทดลอองค้นคว้า ต้องปฏิ อ บตั ิอย่าง ค่อยเป็ นค่อยไป อ ดังพระะราชดํารัวคววามว่า ...เกษษตรกรรมนี ้ หรื อความเป็ป็ นอยู่ของเกษตรนั้นขอใให้ ปฏิ บัติ ไมม่ ใช่ ถือตําราเเป็ นสําคัญอยย่ างเดียว...

และเป็ นที่ทราบกั ท นดีวา่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู า ห่ วั ได้ทรงทํ ร าให้อาณ ณาเขตพระราาชฐานพระตตําหนัก จิตรลดารโหหฐานบางส่ วนเป็ ว นสถานีนีคน้ คว้า ทดดลอง ทางกาารเกษตรในททุกๆ ด้านมาาตั้งแต่ปี พ.ศศ.๒๕๐๕ สําหรับการรค้นคว้าทดลลองนั้น ได้ทรงเน้ ท นให้มีทัท้ งก่อนการผผลิตและหลังั การผลิต คื​ือ พิจารณาดูดูต้ งั แต่เรื่ อง ความเหมะสมของพืช ความเหมาะ ค สมของดิน พืพชอย่างใดจจะเหมาะสมกกับดินประเภภทใด รวมทัทั้งการค้นคว้า้ เกี่ยวกับควาามต้องการขของตลาด คือ การปลูกพืชที่ตลาดต้องการ อ ผลิตออกมาแล้ อ วมีที่ขาย ส่ วนกการค้นคว้าวิจยั หลังการผลิลิต คือ การดูเรืเ ่ องความสอดคล้องของตลาด เรื่ องคุ ง ณภาพของงผลผลิต หรืรื อทําอย่างไรรจึงจะให้ เกษตรกรไดด้มีความรู ้เบื้องต้นในด้านการบัญชีและธุ แ รกิจเกษษตรในลักษณะที่พอจะททําธุรกิจแบบบพึ่งตนเองไได้ สําหรับในเรื่ื องนี้ทรงเห็ห็นว่า การรววมกลุ่มของเกกษตรกรเป็ นปั น จจัยสําคัญประการหนึ ญ นึ่งที่จะช่วยไได้เป็ นอย่างดีดี อย่างไรก็ตาม า ในเรื่ องขของการเพิม่ ประสิ ป ทธิภาพพการผลิตนั้น ทรงให้ความสํ ว าคัญกับบการพัฒนาคคุณภาพชีวติ ของเกษตรกกรในระยะยยาวพระราชปประสงค์ของงพระองค์ที่จะให้ จ เกษตรกรได้มีความมเจริ ญก้าวหหน้าอย่างค่อย เป็ นค่อยไปปและมีสภาพพชีวติ ที่มีควาามสุ ขไม่เคร่ งเครี ยดกับการเร่ ก งรัดให้ห้เกิดความเจริริ ญโดยรวดเเร็ ว นอกเหนือจากเรื จ ่ องที่ทรงเน้ ร นในเรื่ องการผลิ อ ตอาหารให้ อ เพียงพอแล้ ย ว จะะเห็นได้ชดั เจน จากพระะราชดํารัส ความตอนหหนึ่งที่วา่


...ไม่ จาํ เป็ นต้ น องส่ งเสริริ มผลผลิตให้ห้ ได้ ปริ มาณสูสูงสุดแต่ เพียงอย่ ย างเดียว เพราะเป็ นกการสิ ้นเปลืองค่ อ าโสหุ้ ยและ ทําลายคุณภาพดิ ภ น แต่ ควรศึ ค กษาสภภาวะตลาดกาารเกษตร ตลลอดจนการคควบคุมราคาผผลิตผล ไม่ ให้ ใ ประชาชนน ได้ รับความมเดือดร้ อน...

เทคนิควิธีการในการพั ก ฒ ฒนาการเกษ ษตรของพระะองค์อีกประการหนึ่ง คือ การที่ทรงเเน้นการใช้ประโยชน์ ป จากก ธรรมชาติให้มากที่สุด เช่ เ น การใช้ทีที่ดินที่ปล่อยทิ ย ้งไว้วา่ งเปล่าให้เป็ นปรระโยชน์ หรืรื อการมองหาประโยชน์ จากธรรมชชาติในสิ่ งที่ผอู ้ ื่นนึกไม่ถึง เช่น ครั้งหนนึ่งทรงสนับสนุ บ นให้มีการทํ า าครั่งจากกต้นจามจุรีทีท่ีข้ ึนอยู่ ริ มทาง ท หลวงที่จะเสสด็จฯ ไปวังไกลกั ง งวล มีพระราชดํารัสความว่า ...เกิดจากกความคิดที่ จะเอาต้ จ นก้ ามปู ม มา ทําให้ ประชาชนมี ป ง าแล้ วรรวมเป็ นกลุ่ม... งานทํ ม

การมุ่งใช้ประโยชน์จากกธรรมชาติ ยัยงมีลกั ษณะสอดคล้องกักับวิธีการที่สํสาํ คัญของพรระองค์อีกปรระการหนึ่ง คือ ค าเป็ นที่จะลดค่าใช้ช้จ่ายในการททํามาหากินของเกษตรก ข รลงให้เหลือน้ อ อยที่สุด โดย โ การประหยัยัด ทรงเน้นความจํ อาศัยพึ่งพิงธรรมชาติ ง เป็ นปั จจัยสําคัคญ วิธีการของพระองค์มีมีต้ งั แต่การสสนับสนุนให้ห้เกษตรกรใชช้ โค กระบือ ในการทํานามากกว่ น าให้ห้ใช้เครื่ องจักร ก ให้มีการปปลูกพืชหมุนเวี น ยน การใช้พืชตระกูลลถัว่ เพือ่ ปรับปรุ งบํารุ งดิน หรื อกรณี ที่จําเป็ นต้องใใช้ปุ๋ยจะทรงสนับสนุนให้เกษตรใช้ปุ๋ป๋ยธรรมชาติติแทนปุ๋ ยเคมีมี ซึ่งมีราคาแแพง และมี ผลกระทบตต่อสภาพแวดดล้อมและคุณภาพของดิดินในระยะยาว นัน่ คือทรรงสนับสนุนนให้ทาํ การเกกษตรอย่าง ยัง่ ยืน นอกจากนั้นยังทรรงแนะนําในนเรื่ องการผลิลิตก๊าซชีวภาาพ อันจะมีผลดี ผ ท้ งั ในด้านเชื้อเพลิงและปุ๋ แ ย รวมททั้ง ได้ทรงเน้นอยูเ่ สมอที่จะให้ ะ เกษตรกกรมีรายได้เสริ ส มหรื อรายได้นอกการเเกษตร เพื่อเพิม่ รายได้ของตนเอง อ โครงการพัฒั นาด้านการเกษตรอันเนื เ ่องมาจากพพระราชดําริ นั้น ประกอบด้วยงานหลายประเภทท ซึ่งโดยทัว่ ๆ ไปแล้วจะเป็ป็ นงานเกี่ยวกั ว บการศึกษา ษ ค้นคว้า ทดลอง วิจยั หาพั ห นธุ์พืช พันธุส์ ตั ว์ต่างงๆ ที่เหมาะสสมกับสภาพ พื้นที่น้ นั ๆ ซึ่งส่ วนใหญ ญ่ดาํ เนินการออยูใ่ นศูนย์ศึกษาการพั ก ฒนาอันเนื่องมมาจากพระราชดําริ และนําผลสําเร็ จ จากการศึกษาทดลอง ษ ไ ายทอดสูสู่ประชาชน ด้ดวยการฝึ กอบรมให้ ไปถ่ อ เกษษตรกรมีความมรู ้ในวิชากาารเกษตรแผนน ใหม่ นอกจจากนั้นยังประกอบด้วยโครงการเพือ่ การส่ งเสริ มการเกษตร ม เช่น โครงกาารส่ งเสริ มการปลูกข้าว และทํานาขัขั้นบันได อําเภอสุ คิริน จังั หวัดนราธิวาส โครงกาารพัฒนาแบบเบ็ดเสร็ จ จจังหวัดพระนนครศรี อยุธยา ย


หรื อโครงการพัฒนาพื้นที่บริ เวณวัดมงคลชัยพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดําริ จังหวัดสระบุรี โครงการ สาธิตทฤษฎีใหม่ บ้านแดนสามัคคี อําเภอเขาวง จังหวัดกาฬสิ นธุ์ เป็ นต้น โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ ในด้านการพัฒนาการเกษตรที่กระจายอยูท่ วั่ ประเทศ ได้ส่งผลโดยตรง ต่อความกินดีอยูด่ ีของเกษตรกรเป็ นอย่างมาก เนื่องจากเป็ นโครงการที่มุ่งแก้ปัญหาหลักด้านการพัฒนาการ เกษตร โดยเฉพาะอย่างยิง่ ทําให้เกษตรกรได้มีโอกาสเช่นนี้มาก่อน รวมทั้งยังได้มีโอกาสเรี ยนรู ้และเห็น ตัวอย่างของความสําเร็ จของการผลิตในพื้นที่ต่างๆ และสามารถนําไปปรับใช้ในการเพาะปลูกของตนเอง อย่างได้ผล ความเจริ ญของภาคเศรษฐกิจแขนงอื่น และของประเทศชาติโดยส่ วนรวมด้วย

ที่มา: สํานักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ (สํานักงาน กปร.) http://www.rdpb.go.th/RDPB/front/Projects/RDPBProjectType.aspx?p=40


การพัฒนาทางด้ านการเกษตร "...เศรษฐกิจของเราขึ้นอยูก่ บั การเกษตรมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว รายได้ของประเทศที่ ได้มาใช้สร้างความเจริ ญด้านต่างๆ เป็ นรายได้จากการเกษตรเป็ นส่ วนใหญ่ จึงอาจกล่าว ได้วา่ ความเจริ ญของประเทศต้องอาศัยความเจริ ญของการเกษตรเป็ นสําคัญ และงาน ทุกๆ ฝ่ ายจะดําเนินก้าวหน้าไปได้กเ็ พราะการเกษตรของเราเจริ ญ..." พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริ ญญาบัตร และอนุปริ ญญาบัตร ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ๙ กรกฎาคม ๒๕๐๗ ความทัว่ ไป "ความเจริ ญของประเทศ ต้องอาศัยความเจริ ญของภาคเกษตรเป็ นสําคัญ" พระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ข้างต้นนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความสําคัญของภาคเกษตร ที่มีต่อประเทศชาติและประชาชนชาวไทย เกษตรกรรมเป็ นอาชีพพื้นฐานของคนในสังคมไทยทุกยุคทุกสมัย ประชากรประมาณสองในสามอยูใ่ นภาค เกษตร การพัฒนาการเกษตรเป็ นเป้ าหมายที่สาํ คัญของการพัฒนาประเทศมาตลอด สาขาเกษตรเป็ นสาขาที่ได้รับ ความสําคัญอย่างสู งในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทุกฉบับ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้วา่ ผลจากการพัฒนาการเกษตรที่ผา่ นมาจะทําให้ภาคเกษตรได้เจริ ญก้าวหน้าไปอย่างมาก แต่ เกษตรกรรมก็ยงั เป็ นสาขาการผลิตที่มีปัญหาต่างๆ อีกหลายประการ

ปัญหาหลักประการหนึ่งของการพัฒนาการเกษตรในปัจจุบนั คือเรื่ องประสิ ทธิภาพการผลิตที่โยงไปถึงเรื่ อง การตลาด แม้วา่ บางพื้นที่ถือเป็ นเขตเกษตรก้าวหน้า อาจไม่มีปัญหาในเรื่ องนี้ แต่สาํ หรับพื้นที่ที่พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยูห่ วั เสด็จพระราชดําเนินไปทรงเยีย่ มราษฎรนั้น ส่ วนใหญ่มกั เป็ นเขตเกษตรล้าหลังที่อาศัยการผลิตแบบดั้งเดิม คือ เพาะปลูกปี ละครั้ง โดยอาศัยนํ้าฝน ประสิ ทธิภาพการผลิตตํ่า ผลิตได้ไม่พอกิน บางพื้นที่ที่พน้ จากลักษณะเขตล้าหลัง และพอจะทําการผลิตเพื่อการค้าได้บา้ ง แต่เกษตรกรก็ยงั ขาดการรวมตัวกันเป็ นกลุ่ม ตลอดจนความรู ้เชิงพาณิ ชย์ทาํ ให้ เป็ นฝ่ ายที่ถูกเอารัดเอาเปรี ยบในการติดต่อกับพ่อค้าภายใต้กลไกตลาดปั จจุบนั ปั ญหาต่างๆ เหล่านี้ ทําให้เกษตรกรมี รายได้ต่าํ เป็ นหนี้เป็ นสิ นและยากจน


นอกจากนั้น การเร่ งรัดพัฒนาในช่วงที่ผา่ นมา ได้ทาํ ลายสภาพความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติลงไป เป็ นอันมาก ที่ดิน แหล่งนํ้า ป่ าไม้ ตลอดจนทรัพยากรประมง มีลกั ษณะเสื่ อมโทรมไม่อยูใ่ นฐานะที่จะเป็ นฐานให้เกิด การเพิ่มประสิ ทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่องเช่นในอดีต สําหรับการช่วยเหลือจากทางฝ่ ายรัฐบาลนั้น ก็ยงั มีอุปสรรคและข้อขัดข้องอยูอ่ ีกมาก ปัญหาเศรษฐกิจของ ประเทศโดยส่ วนรวมที่มีอยูห่ ลายสิ่ งหลายอย่าง ทําให้งบประมาณที่ใช้สาํ หรับการพัฒนามีจาํ กัด และต้องค่อยๆ ทําไป ตามลําดับความสําคัญ รัฐจึงไม่สามารถเพิ่มบริ การที่จะมีผลต่อการพัฒนาการเกษตรได้อย่างกว้างขวาง และขาดการ สนับสนุนอย่างเพียงพอต่อการวิจยั และการค้นคว้าทดลอง ซึ่งถือว่าเป็ นพื้นฐานสําคัญของการพัฒนาการเกษตร สิ่ ง เหล่านี้ยอ่ มไม่เป็ นผลดีต่อการพัฒนาการเกษตรและเกษตรกรโดยทัว่ ไป แนวพระราชดําริ เกี่ยวกับการพัฒนาการเกษตร แนวพระราชดําริ เกี่ยวกับการพัฒนาประสิ ทธิภาพการผลิตทางการเกษตรที่สาํ คัญคือ การที่ทรงเน้นในเรื่ องของ การค้นคว้าทดลอง และวิจยั หาพันธุ์พืชต่างๆ ใหม่ๆ ทั้งพืชเศรษฐกิจ เช่น หม่อนไหม ยางพารา ฯลฯ ทั้งพืชเพื่อการ ปรับปรุ งบํารุ งดิน และพืชสมุนไพร ตลอดจนการศึกษาเกี่ยวกับแมลงศัตรู พืช ทั้งนี้ รวมทั้งพันธุ์สตั ว์ต่างๆ ที่เหมาะสม เช่น โค กระบือ แพะ แกะ พันธุ์ปลา ฯลฯ และสัตว์ปีกทั้งหลายด้วย เพือ่ แนะนําให้เกษตรกรนําไปปฏิบตั ิได้ดว้ ยราคาถูก และใช้เทคโนโลยีที่ง่าย และไม่สลับซับซ้อน ซึ่งเกษตรกรจะสามารถรับไปดําเนินการเองได้ และที่สาํ คัญคือ พันธุ์พืช พันธุ์สตั ว์ หรื อเทคนิควิธีการดูแลต่างๆ นั้น จะต้องเหมาะสมกับสภาพสังคมและสภาพแวดล้อมของท้องถิ่นนั้นๆ ด้วย อย่างไรก็ตาม ทรงมีพระราชประสงค์เป็ นประการแรกคือ การทําให้เกษตรกรสามารถพึ่งตนเองได้ โดยเฉพาะ ในด้านอาหารก่อนเป็ นอันดับแรก เช่น ข้าว พืชผัก ผลไม้ ฯลฯ แนวทางที่สาํ คัญอีกประการหนึ่ง คือ การที่ทรงพยายามเน้นมิให้เกษตรกรพึ่งพาอยูก่ บั พืชเกษตรแต่เพียงอย่าง เดียว เพราะจะเกิดความเสี ยหายง่าย เนื่องจากความแปรปรวนของตลาดและความไม่แน่นอนของธรรมชาติ ทางออกคือ เกษตรกรควรจะต้องมีรายได้เพิ่มขึ้นนอกเหนือไปจากภาคเกษตร เช่น การอุตสาหกรรมในครัวเรื อน ดังเช่นใน โครงการส่ งเสริ มศิลปาชีพพิเศษที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงดําเนินงานสนับสนุนงานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ในปัจจุบนั นอกจากนั้น ทรงเห็นว่า การพัฒนาฟื้ นฟูทรัพยากรธรรมชาติจะมีผลโดยตรงต่อการพัฒนาการเกษตร จึงทรงมุ่งที่ จะให้มีการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อเป็ นรากฐานของการพัฒนาประเทศในระยะยาว ทรงสนพระราช หฤทัยอย่างยิง่ ต่อการที่จะทะนุบาํ รุ ง ปรับปรุ งสหภาพของทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ ไม่วา่ จะเป็ นป่ าไม้ ที่ดิน แหล่งนํ้า ฯลฯ ให้อยูใ่ นสภาพที่จะมีผลต่อการเพิ่มประสิ ทธิภาพการผลิตอย่างมากที่สุด


จากแนวทางและเป้ าหมายต่างๆ ดังกล่าว มีแนวพระราชดําริ ที่ถือเป็ นหลักเกณฑ์หรื อเทคนิควิธีการที่จะบรรลุ ถึงเป้ าหมายนั้นหลายประการ ประการแรก ทรงเห็นว่า การพัฒนาการเกษตรที่จะได้ผลจริ งจังนั้น จะต้องลงมือทดลองค้นคว้า ต้องปฏิบตั ิอย่าง ค่อยเป็ นค่อยไป มีพระราชดํารัสว่า "...เกษตรกรรมนี้ หรื อความเป็ นอยูข่ องเกษตรกรนั้น ขอให้ปฏิบตั ิ ไม่ใช่ถือตําราเป็ นสําคัญอย่างเดียว..." และเป็ นที่ทราบกันดีวา่ โดยส่ วนพระองค์เองก็ได้ทรงทําให้อาณาเขตพระราชฐานสวนจิตรลดาบางส่ วน กลายเป็ นสถานีคน้ คว้า ทดลอง ทางการเกษตรในทุกๆ ด้านมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 สําหรับการค้นคว้าทดลองนั้น ได้ทรงเน้นให้มีท้ งั ก่อนการผลิตแหละหลังจากผลิตแล้ว คือ พิจารณาดูต้ งั แต่เรื่ อง ความเหมาะสมของพืช ความเหมาะสมของดิน พืชอย่างใดจะเหมาะสมกับดินประเภทใด รวมทั้งการค้นคว้าเกี่ยวกับ ความต้องการของตลาด คือ การปลูกพืชที่ตลาดต้องการ ผลิตออกมาแล้วมีที่ขาย ส่ วนการค้นคว้าวิจยั หลังการผลิตคือ การดูเรื่ องความสอดคล้องของตลาด เรื่ องคุณภาพของผลผลิต หรื อทําอย่างไรจึงจะให้เกษตรกรได้มีความรู ้เบื้องต้นใน ด้านการบัญชีและธุรกิจการเกษตรในลักษณะที่พอจะทําธุรกิจแบบพึ่งตนเองได้ สําหรับในเรื่ องนี้ทรงเห็นว่า การ รวมกลุ่มกันของเกษตรกรเป็ นปัจจัยสําคัญประการหนึ่งที่จะช่วยได้เป็ นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ในเรื่ องของการเพิ่มประสิ ทธิภาพการผลิตนั้น ทรงให้ความสําคัญกับการพัฒนาเรื่ องคุณภาพชีวิต ของเกษตรกรในระยะยาว พระราชประสงค์ของพระองค์ที่จะให้เกษตรกรได้มีความเจริ ญก้าวหน้าอย่างค่อยเป็ นค่อยไป และมีสภาพชีวิตที่มีความสุ ข ไม่เคร่ งเครี ยดกับการเร่ งรัดให้เกิดความเจริ ญโดยรวดเร็ วนั้น นอกเหนือจากเรื่ องที่ทรง เน้นในเรื่ องการผลิตอาหารให้เพียงพอแล้ว จะเห็นได้ชดั เจนจากพระราชดํารัสที่วา่ "...ไม่จาํ เป็ นต้องส่ งเสริ มผลผลิตให้ได้ปริ มาณสูงสุ ดแต่เพียงอย่างเดียว เพราะเป็ นการสิ้ นเปลืองค่าโสหุ ย้ และ ทําลายคุณภาพดิน แต่ควรศึกษาสภาวะการตลาดการเกษตร ตลอดจนการควบคุมราคาผลิตผลไม่ให้ประชาชนได้รับ ความเดือดร้อน.." เทคนิควิธีการในการพัฒนาการเกษตรของพระองค์อีกประการหนึ่ง คือ การที่ทรงเน้นการใช้ประโยชน์ หรื อการ มองหาประโยชน์จากธรรมชาติให้มากที่สุด เช่น การใช้ที่ดินที่ปล่อยทิง้ ไว้เปล่าๆ ให้เป็ นประโยชน์ หรื อการมองหา ประโยชน์จากธรรมชิตในสิ่ งที่ผอู ้ ื่นนึกไม่ถึง เช่น ครั้งหนึ่งทรงสนับสนุนให้มีการทําครั่งจากต้นจามจุรีที่ข้ ึนอยูร่ ิ มทาง หลวงที่จะเสด็จฯ ไปพระราชวังไกลกังวล มีพระราชดํารัสว่า " เกิดจากความคิดที่จะเอาต้นก้ามปูมาทําให้ประชาชนมี งานทํา แล้วรวมเป็ นกลุ่ม " การมุ่งใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ ยังมีลกั ษณะสอดคล้องกับวิธีการที่สาํ คัญของพระองค์อีกประการหนึ่งคือ การประหยัด โดยที่ทรงเน้นความจําเป็ นที่จะลดค่าใช้จ่ายในการทํามาหากินของเกษตรกรลงให้เหลือน้อยที่สุด โดย อาศัยพึ่งพิงธรรมชาติเป็ นปัจจัยสําคัญ วิธีการของพระองค์มีต้ งั แต่การสนับสนุนให้เกษตรกรใช้ววั ควายในการทํานา มากกว่าใช้เครื่ องจักร การปลูกพืชหมุนเวียน โดยเฉพาะพืชตระกูลถัว่ เพื่อลดค่าใช้จ่ายเรื่ องปุ๋ ยหรื อกรณี ที่จาํ เป็ นต้องใช้ ปุ๋ ยก็ทรงสนับสนุนให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยธรรมชาติแทนปุ๋ ยเคมีซ่ ึงมีราคาแพง และมีผลกระทบต่อสภาพและคุณภาพดินใน ระยะยาว นอกจากนั้น ยังทรงแนะนําในเรื่ องการผลิตก๊าซชีวภาพอันจะมีผลดีท้ งั ในด้านเชื้อเพลิงและปุ๋ ย รวมทั้งได้ทรง เน้นอยูเ่ สมอที่จะให้เกษตรกรมีรายได้เสริ มหรื อรายได้นอกการเกษตร จากการหาวัสดุธรรมชาติในท้องถิ่น เช่น ไผ่ ย่าน ลิเพา ฯลฯ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น ในการจักสานเพือ่ เป็ นอาชีพเสริ มเพิ่มรายได้ของตน


ในกรณี ของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ทรงให้ความสําคัญกับความสัมพันธ์หรื อการอยูร่ ่ วมกันระหว่าง ธรรมชาติ สิ่ งแวดล้อม และมนุษย์ อย่างมาก โครงการพระราชดําริ ในด้านการเกษตรหลายโครงการสะท้อนถึง ความสัมพันธ์ที่วา่ นั้นเป็ นอย่างดี โดยที่โครงการนั้นจะมีท้ งั การพัฒนาแหล่งนํ้า มีการปลูกป่ าควบคู่กนั ไปด้วยเสมอ และป่ าที่ปลูกนั้นจะมีท้ งั ป่ าไม้ยนื ต้น ป่ าไม้ผล และป่ าไม้ใช้สอย เพื่อให้ราษฎรมีผลไม้บริ โภคและมีไม้ใช้สอยตาม ความจําเป็ น และยังเป็ นการปลูกป่ าเพื่อช่วยยึดหน้าดินไม่ให้น้ าํ เซาะพังทลาย และเพือ่ ให้เกิดความชุ่มชื้นของดินและ อากาศในบริ เวณนั้นๆ ด้วย

ในกรณี ของพื้นที่สูงทางตอนเหนือของประเทศ ก็ทรงเห็นว่า ชาวไทยภูเขาเป็ นปัจจัยสําคัญที่สุดในการ ดําเนินการเพื่อรักษาแหล่งต้นนํ้าลําธารสําคัญ วิธีการที่สาํ คัญคือ ทรงพยายามเข้าถึงชนกลุ่มน้อยเหล่านี้ จะเห็นว่า แม้ พื้นที่จะทุรกันดารและยากแสนลําบาก พระองค์กจ็ ะเสด็จฯ ไปทรงเยีย่ มเยียน ทรงดําเนินการทุกวิถีทางที่จะ เปลี่ยนแปลงแบบแผนการทํามาหากินของชาวไทยภูเขาจากการตัดไม้ทาํ ลายป่ า โดยทรงแนะนําและส่ งเสริ ม การเกษตรที่สูงโดยเฉพาะพืชเศรษฐกิจที่มีราคาดี และเหมาะกับสภาพภูมิประเทศของภาคเหนือ ทั้งนี้เพื่อให้ชาวไทย ภูเขามีรายได้สูง โดยไม่จาํ เป็ นต้องเคลื่อนย้าย ถางป่ า ทําไร่ เลื่อนลอย หรื อปลูกฝิ่ น ผลการดําเนินงานประสบ ความสําเร็ จจนชาวไทยภูเขาเรี ยกพระองค์และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถว่า "เจ้าพ่อหลวงและเจ้าแม่ หลวง" อาจกล่าวได้วา่ ความสําเร็ จของวิธีการดังกล่าวนี้นอกจากจะมีผลต่อเรื่ องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่าง มากแล้ว ยังมีผลต่อความมัน่ คงของชาติอีกทางหนึ่งด้วย


โครรงการพัฒนาดด้านการเกษตตรตามพระราชชดําริ น้ นั ประะกอบด้วยงานนหลายประเภภท ซึ่งโดยทัวๆ ว่ ไปแล้ว จะะ เป็ นงานที่เกี่ยวกับการศึกษา ค้นคว้า ทดลอง วิจยั หาพันธุ์พืช พันธุ น ์สตั ว์ต่างๆ ที่เหมาะสมกับั สภาพพื้นที่น้ นั ๆ และนํา ก ผลสําเร็ จจากกการศึกษา ทดลองไปถ่ายทอดสู่ประชาาชน นอกจากกนั้น ก็เป็ นงานนในด้านการฝึฝึ กอบรมให้เกษตรกรมี ความรู ้ในวิชาการเกษตรแ ช แผนใหม่ การรทําปุ๋ ยหมัก ปุ๋ ยคอก รวมทั้ งั การส่ งเสริ มให้ ม มีการถนออมอาหารและะแปรรู ปอาหาร และการผลิตอาหารเพื ต ่อโภภชนาการด้วย สรุ ป โครงการอันเนื น ่องมากจากกพระราชดําริ ในด้านการพั พัฒนาการเกษษตรที่กระจายอยูท่ วั่ ประเทศศนั้น ได้ส่งผลล โดยตรงต่อความกิ ค นดีอยูดีด่ ีของเกษตรกกรเป็ นอย่างมาาก เนื่องจากเป็ นโครงการทที่มุ่งแก้ปัญหาหลักด้านการพัฒนาการ เกษตร โดยเฉพาะอย่างยิง่ ทําให้เกษตรรกรได้มีโอกาาสมากขึ้นในการเข้าถึงแหล่งความรู ้ในดด้านเทคนิค และวิ แ ชา การเกษตรสสมัยใหม่ ซึ่งแตต่เดิมเกษตรกกรไม่เคยมีโอกกาสเช่นนี้มากก่อน รวมทั้งยังได้มีโอกาสสเรี ยนรู ้และเห็ห็นตัวอย่างขออง ความสําเร็ จของการผลิ ข ตในพื ใ ้นที่ต่างๆ และสามารถถนําไปปรับใชช้ในการเพาะปลูกของตนเองอย่างได้ผล และความเจริ ญของงเกษตรกรแลละภาคเกษตรกกรรมนี้ มิใช่จุจุดหมายในตัวเอง ว หากแต่ยยังมีความหมาายต่อความเจริ​ิ ญ ของภาคเศรษษฐกิจแขนงอือื่นและของปรระเทศชาติโดยส่ วนรวม ---------------------------------ที่มา: โครรงการอนุรักษ์พั พนธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากกพระราชดําริ สมเเด็จพระเทพรัตนราชสุ ต ดาฯ สยามบรมราชก ส กุมารี httpp://www.rspg.oor.th/special_aarticles/hm_kiing60/king_6002-2.htm


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.