เสียงครางที่แผดออกมาตามแรงอารมณ์ เสียงหนึ่งครางออกมาด้วยความสุขสม อีกเสียงที่แผดออกมาเจือความกลัวและความเจ็บปวด ...ความหวาดกลัวที่ไม่มีใครรู้ เสียงเจ็บปวดที่ไม่มีใครได้ยิน ใบหน้าและร่างกายที่ปลุกเร้าด้วยเครื่องมือชนิดต่างๆ แรงอันน้อยนิดที่พยายามขัดขืน แต่ก็ถูกโต้กลับด้วยอารมณ์ที่รุนแรง และสิ่งเหล่านี้..
มันถูกเรียกว่าละคร
ร่างกายที่แสนเย้ายวนถูกปลุกเร้าอารมณ์จนร่างสั่นสะท้านไปหมด พร้อมกับถูกร่างที่ใหญ่กว่าหลายเท่าโถมใส่ด้วยแรงราคะจนน่าสงสาร เสียงเล็กแผดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดคะนึ เสียวซ่านก่อนจะปลดปล่อยออกมา เสียงครางอันหยาบโลนกระซิบใกล้ กับใบหูนิ่ม พร้อมกับการขบเม้มแรงๆอีกหนึ่งทีเป็นการให้รางวัล
“เจอาร์... แฮ่ก.. อีกนิดนึงนะ อีกนิดเดียว ซี้ดส์..”
“อะ..อือ ้ อ๊า แฮ่กๆ อ๊า..”
กายบางถูกพลิกให้ควำ่ากับเตียง สะโพกเล็กถูกหยัดขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะ ถูกแกนกายฝังเข้าไปอีกครั้งและอีกครั้ง.. ร่างเล็กเหนื่อยหอบแทบ ขาดใจ ความเจ็บช่วงล่างยังคงโจมตีมาอย่างถี่รัวจนเขาแทบหายใจ ไม่ทัน ได้แต่กัดฟันกับผ้าปูที่นอนเพื่อห้ามเสียงร้องของตัวเองอยู่อย่าง นั้น..
“อือ ้ ห์ อ่ะ.. ซี๊ดส์..”
“อ้ะ! อ๊า...”
ช่องทางสีหวานขมิบรัวก่อนจะปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง ร่างเล็กทิ้งร่าง นอนราบกับเตียงทันทีที่แกนกายน่าขยะแขยงถูกถอดออกไป นำ้าสีขาว ขุ่นไหลย้อนกลับมาที่ปากช่องทางสีสวยแล้วหยดลงตามแรงโน้มถ่วง ความโหวงในช่องทางแคบนั่นทำาเอาเขาต้องเกร็งตัวอีกรอบแล้วคราง ฮือเบาๆในลำาคอตามสัญชาติญาณ
“เก่งมากคนดี ไหนบอกซิว่าจะดื้ออีกรึเปล่า..”
“อือ ้ .. ไม่ฮะ..”
“ดีมากแมวน้อย หึ..”
มือหยาบกร้านลูบกลุ่มผมหนานุ่มอย่างเอ็นดู พร้อมกับส่งรอยยิ้มที่หื่น กามอย่างชัดเจน ก่อนจะเลื่อนไปกอบกุมมือเล็กที่ไร้เรี่ยวแรงมากอบกุม ส่วนนั้นที่กำาลังชูชันขึ้นมาอีกครั้ง แล้วบีบมือเล็กเบาๆเป็นเชิงสั่งว่า ‘ทำาให้หน่อยสิ’ ตากลมเชยขึ้นมองผู้ชายตรงหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน แวบ หนึ่งดวงตาคู่สวยแสดงได้ถึงความรำาคาญและขยะแขยง เพียงแวบเดียว เท่านั้น ก่อนที่มันจะกลับมาเป็นแววตาซื่อๆปนเย่อหยิ่งอย่างที่ถูกกำาหนด เอาไว้
มือเล็กกอบกุมแกนกายน่าเกลียดไว้ก่อนจะนวดคลึงมันเบาๆแล้วขยับขึ้น ลงช้าๆตามคำาสั่ง เสียงครางตำ่าแสลงหูดังออกมาเป็นระยะๆ มือเล็กเร่ง จังหวะให้เร็วขึ้นก่อนจะถูกมือกร้านหยุดเอาไว้..
“ลองใช้ปากของเธอสิ..” “.............”
“เร็วเข้าสิ!”
“ครับ..”
นี่เป็นกิจกรรมที่อยู่ตอ ่ หน้ากล้องตัวใหญ่ มันมีหน้าที่บันทึกภาพที่มอง เห็นเป็นวิดีโอ โดยมีปุ่มไฟ RED กระพริบอยู่เป็นเชิงว่า ‘ฉันเห็นนะ ฉัน
กำาลังบันทึกอยู่นะ’ มันไม่จำาเป็นต้องถูกซ่อน เพราะที่นี่เหมือนจะเรียกได้ ว่าเป็นกองถ่าย..
กองถ่ายหนังอย่างว่า.. . . .
“เจอาร์เมื่อกี๊เจ็บมากรึเปล่าหืม?”
“ไม่เป็นไรครับ”
“เห็นเมื่อกี๊ร้องดังแล้วทำาหน้าแปลกพี่ก็เลยนึกว่านายเจ็บ ยังไงก็ขอโทษ ด้วยแล้วกัน” “............”
ผมนั่งก้มหน้ามองร่างบางเปลือยเปล่าของตัวเองที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้านวม ผืนใหญ่อยู่บนโซฟาตัวใหญ่หน้าห้องนำ้า เพื่อที่รอไปชำาระร่างกายล้าง
คราบสกปรกออก แม้คราบที่สกปรกที่ว่าจะถูกชำาระออกไปจนเนื้อตัว สะอาดแค่ไหน แต่ในสายตาผมเองมันก็สกปรกอยู่ดี แปดเปื้อนไม่มีชิ้นดี..
“เอ่อ.. เมื่อกี๊นี้เป็นรอยรึเปล่า มาให้พี่ดห ู น่อย..!”
เพี๊ยะ!
“โอ๊ะ! นี่เธอ..”
“ผมสบายดีครับไม่ต้องเป็นห่วง”
ผมปัดความช่วยเหลือจอมปลอมออกอย่างไม่คิดจะใยดี ทำาเอาผู้ที่แสร้ง หวังดีคิ้วกระตุก ก็แหง.. คนตรงหน้าผมนี้เป็นถึงผู้มีชื่อเสียงในแวดวงสีห ม่นแห่งนี้นี่นา.. นางเอกหรือนายเอกคนอื่นๆอยากจะลองเล่นหนังกับเขา จะตาย เหอะ..
กะอีแค่ลุงหื่นๆที่ชอบออกนอกบทและเอาเปรียบคนใต้ร่างอยู่ตลอดเวลา น่าขยะแขยงจะแย่..
เมื่อคิดได้ว่าอีกนานกว่าคนที่อยู่ในห้องนำ้านี้จะเสร็จธุระ ผมเลยตัดสินใจ หอบสัมภาระของตัวเองแล้วไปหาห้องนำ้าอื่นใช้แทน โดยไม่ทันเห็น สายตาที่เหยียดหยามของผู้หวังดีเมื่อสักครู่ หน้ากล้องนี่ระทวยคาอก พอหลังกล้องทำาเป็นเมินหนี ระวังตัวไว้ให้ดี เถอะคิม เจอาร์..
ผมเดินหนีออกมาผ่านทางเดินอับชื้นและมืดสลัว ความเจ็บปวดแล่นริ้ว จากช่องทางหลังผ่านไปทุกอณูของร่างกายยามก้าวเท้าเดิน ทำาให้ผม ต้องหยุดพักเป็นระยะ แล้วเท้ามือไว้กับผนังทางเดินเพื่อพยุงตัวไม่ให้ล้ม ลงไป เจ็บหน่วงไปทั้งตัว โดยเฉพาะบริเวณหัวใจ..
พอคิดได้ดังนั้นความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามากอบกุมหัวใจทันทีทันใด นี่ คงจะเป็นบทลงโทษของคนขี้โกหกอย่างผม ผมโกหกทุกคนที่อยู่รอบตัว ผม ปิดบังความจริงของงานพิเศษที่ผมทำาเอาไว้ไม่ให้ใครรู้แม้แต่คนที่ ผมรักมากที่สุด และไว้ใจมากที่สุด
เพราะรักมาก เลยไม่อยากให้เจ็บปวดไปด้วยกัน Rrrrrrrrrrrrrrrrrrr
เสียงเรียกข้าวของสมาร์ทโฟนหรูทำาเอาผมสะดุ้งน้อยๆ พอดูว่าต้นสายที่ โทรมาเป็นใครผมก็รีบกดรับทันที ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นเย็นๆนั่นแล้ว ซุกหน้าลงกับเข้าที่ชันไว้แล้วปล่อยนำ้าตาให้ลงมาอย่างเงียบๆ
(ฮัลโลวววว สุดหล่อคนนั้นอยู่ที่ไหนครับ จะสามทุ่มครึ่งแล้วนะครับ สุด หล่อกว่าคนนี้หิ๊วหิวรู้มั๊ยครับ) “..............”
เสียงใสดังเจื้อยแจ้วมาจากปลายสายทำาเอาผมอดยิ้มไม่ได้ เสียงที่ฟัง แล้วไม่เคยเบื่อ ผมกำาโทรศัพท์แน่นขึ้นอยากจะสารภาพให้หมดเกี่ยวกับ ความผิดของผมเองที่ทำามันอีกครั้งสำาหรับวันนี้ แต่ปากของผมมันหนัก เกินกว่าจะพูดออกไป เลยทำาได้แค่กลืนก้อนสะอื้นลูกโตลงไปแล้วเลือกที่ จะเงียบไปก่อน เพราะขืนหลุดพูดอะไรไปเสียงคงสั่นและปลายสายจะ ต้องรู้แน่ว่าตอนนี้ผมกำาลังร้องไห้
“เหยยย ได้ยินที่สุดหล่อคนนี้พูดม้อยยย ตอบบบ” “...........”
“พี่จงฮยอน ทำาไมเงียบอ่ะ เป็นอะไรรึเปล่า!”
“....คิก”
ผมหลุดหัวเราะออกไปจนได้พร้อมกับหยดนำ้าที่ร่วงตกเผาะอยู่ที่ผ้านวมสี ขาว มันกระจายเป็นวงกว้างทันทีที่ตกถึงผ้า นำ้าเสียงใสพูดประโยคเมื่อ ครู่ด้วยนำ้าเสียงสลดในแบบที่ไม่ค่อยเคยเห็นบ่อยนัก ปกติแล้วเขาจะ ร่าเริงแจ่มใสตลอดเวลา
(ฮึ่ย ที่แท้ก็ฟังอยู่ ให้ผมบ้าอยู่คนเดียวได้ไง คนเค้าอุตส่าห์เป็นห่วง ไอ้พี่ บ้า!)
“นี่แจฮยอน...”
(อะไรห้ะ)
“พี่เสร็จงานแล้วเดี๋ยวจะซื้ออะไรไปให้กิน”
(เออเร็วๆนะ หิวจนพุงจะแตกละ เอ้อ!แล้วซื้อวิสกัสรสโกเม่ซีฟูดส์ของฟ รานมาด้วย ไม่งั้นผมจะเอาวันพีชของพี่ไปให้ฟรานมันแทะเล่น หึหึ)
“ก็ลองดูสิ ฉันจะจับแกไปนอนข้างถนน”
(พูดมากน่า.. รีบมาได้แล้ว เดี๋ยวหิมะจะตกทับตายซะก่อน)
“เออน่า งั้นแค่นี้นะ”
(...เดี๋ยวก่อนพี่จงฮยอน)
“วะ..ว่าไง”
เสียงที่ดูจริงจังกว่าทีแรกทำาเอาผมแปลกใจจนเผลอหลุดเสียงสั่นๆออก ไป กลอกตาขึ้นบนพยายามหยุดนำ้าตาไม่ให้ไหลอีก พยายามบอกตัวเอง ให้เลิกอ่อนแอ เลิกร้องไห้ แล้วอดทนสู้ต่อไป อีกเพียงแค่สามปีก็จะหมด สัญญากับวงการอันเน่าเฟะแห่งนี้
ขอเวลาพี่อีกหน่อยนะแจฮยอน..
(เสียงพี่ดูเหนื่อยๆนะ งานที่ร้านหนักเหรอ)
อีกแค่สามปีจริงๆ ช่วยไม่รู้ต่อไปทีเถอะ..
“ป่าวหรอก อากาศมันเย็นเลยเหมือนจะเป็นหวัด”
(ให้ผมต้มนำ้าไว้ให้มั๊ย กลับมาพี่จะได้อาบ เผื่อไม่สบาย)
“ไม่ต้องหรอก เฮ้! ฮัลโหลแจฮยอน แจฮยอน! เห้อ.. ไอ้เด็กบ้า”
แจฮยอนคงทิ้งมือถือไว้ที่ไหนซักแห่งในห้อง แล้ววิ่งไปต้มนำ้าให้ผมอา บทั้งๆที่ความจริงแล้วผมไม่ได้ป่วยซักนิด ก็คงมีแต่จิตใจของผมเท่านั้น แหล่ะที่ป่วย แต่ก็คงดีเหมือนกัน ผมอยากให้ร่างกายได้ผอ ่ นคลายบ้าง หลังจากรับศึกหนักมาหมาดๆ
(ฮะโหลๆ มาละ ต้มไว้เรียบร้อย พี่จงฮยอนฟังอยู่รึเปล่า)
“อือ.. ว่าไง”
(กลับมาได้ละ อย่าลืมช็อกโกแลตร้านคุณลุงฮีนิมนะ เอาสองอัน)
“กินเยอะระวังแมงจะกินฟันล่ะ”
(เดี๋ยวนี้ผมแปรงฟันก่อนนอนทุกคืนนะ!)
“โอเคๆ เชื่อก็ได้ งั้นแค่นี้นะ”
(เดี๋ยวก่อน! พี่จงฮยอน...)
“จะอ้อนเอาอะไรอีกหืม”
(เปล่านะ แค่จะบอกว่า..)
“ว่า...?”
(กลับบ้านดีๆนะ เป็นห่วงมาก ฟรานฝากมาบอก แค่นี้แหล่ะ ติด ้ !) ฟรานเป็นแมวมันจะพูดเป็นห่วงฉันได้ยังไงล่ะ เจ้าบ้า...
ผมหัวเราะคนเดียวมือยังคงแนบโทรศัพท์ไว้กับหูของตัวเองถึงแม้ว่าแจฮ ยอนจะวางสายไปแล้ว น้องผมเป็นคนขี้อายมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว คำาว่า รักแจฮยอนจะไม่ค่อยพูดออกมาให้ได้ยินเท่าไหร่ แต่เขาจะแสดงออก ทางการกระทำาที่ออ ้ มโลกเสียไกล
แต่แจฮยอนก็อาจจะเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำาให้ผมรู้ว่าจะมีชีวิตต่อไปเพื่อ อะไร..