Weekly Brief 1 - 6 Jun 11

Page 1

TFPA Trade & Technical

WEEKLY BRIEF 1-6 June 2011

Vol. 2 Issue 18

Vol. 2

issue 18

Thai Food Processors’ Association

สถานการณ์อาหารปนเปื้อน E.coli ในยุโรป พาณิชย์เตือนผู้ส่งออกรับมือระบบควบคุมการ ท�ำประมงผิดกฎหมายของอียู

Pine

ap

pl

w S e

ee

o C t

una T rn

-Eat o t y d a e R s& t n e i d e r Ing d o o F les b a t e eg V & ruits F d o คู่มือในการผลิตเพื่อลดปัญหาการปนเปื้อน o f eS a โดยสหรัฐอเมริกา

ร้ อ งพาณิ ช ย์ ต ่ อ เวลาลดภาษี น� ำ เข้ า 0% ต้ น ทุ น มะพร้ า วพุ ่ ง พาณิชย์เชียร์ไทยท�ำเอฟทีเอแคนาดา th

www.thaifood.org 1


TFPA Trade & Technical

WEEKLY BRIEF 1 - 6 June 2011

สารบัญ 3 แนะน�ำพนักงานใหม่ 4 ข่าวประชาสัมพันธ์ ข้อมูลทางด้านเทคนิค

คู่มือในการผลิตเพื่อลดปัญหาการปนเปื้อน เอกสารแนบ 1 5 สถานการณ์อาหารปนเปื้อน E.coli ในยุโรป 6 ความคืบหน้า...การติดฉลาก COOL เมืองผู้ดี 6 กระทรวงสาธารณสุขฯ ญี่ปุ่น พิจารณาปรับปรุงแก้ไขมาตรฐานสารเคมีทางการเกษตร 7 ไต้หวันเรียกคืนอาหารปนเปื้อนสารก่อมะเร็ง 7 จีนออกระเบียบควบคุมปริมาณสารเมลามีนในอาหารอย่างเป็นทางการ 8 สิงคโปร์ปรับปรุงข้อก�ำหนดการแสดงฉลากอาหาร 8 แคนาดาเตือน น�้ำผลไม้น�ำเข้าจากไต้หวันอาจปนเปื้อน Phthalates 9 พาณิชย์เผยสหรัฐฯ ออกค�ำแนะน�ำในการผลิตอาหารพร้อมบริโภคเพื่อลดการปนเปื้อน 9 ผู้เชี่ยวชาญเรียกร้องให้มะกันเพิ่มความระวังเชื้อ E.coli 10 อียูเริ่มไฟแดงห้ามใช้ขวดนมปนเปื้อนสารบีพีเอและห้ามน�ำเข้า 10 สหภาพยุโรปเกาะติดการแพร่ระบาดเชื้อ E.coli – คาด ‘ถั่วงอก’ ต้นตอการปนเปื้อน 11 รัสเซียไฟแดงน�ำเข้าผักสดจาก EU หวั่น E. coli

12 12 12 13

สถานการณ์ด้านประมง

อุณหภูมิเปลี่ยนเร็ว ปลาปินส์ตายกว่า 800 ตัน ออกซิเจนในอ่าวเม็กซิโกหด ปลาป่วนสับสนเพศ พาณิชย์เตือนผู้ส่งออกรับมือระบบควบคุมการท�ำประมงผิดกฎหมายของอียู กุ้งต้มสุกไทยยังครองใจชาวโลก

สถานการณ์ด้านเกษตร

14 ร้องพาณิชย์ต่อเวลาลดภาษีน�ำเข้า 0% ผู้ผลิตอาหารส�ำเร็จรูปโอดต้นทุนมะพร้าวพุ่งไม่หยุด สถานการณ์ด้านการค้า

15 จีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ พักน�ำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารจากไต้หวัน 16 พาณิชย์เชียร์ไทยท�ำเอฟทีเอแคนาดา 18 ญี่ปุ่น-อียูเล็งเปิดเจรจา FTA 2


Vol. 2 Issue 18

แนะน�ำพนักงานใหม่ รัตนา ชูศรี (น้อยหน่า) ต�ำแหน่ง: เจ้าหน้าที่การค้าและวิชาการ(ข้อมูล)-กลุ่มผลิตภัณฑ์ประมง E-mail : rattana@thaifood.org; fish@thaifood.org เริ่มงาน : 18 พ.ค. 54 ธนัญญา ตั้งจินตนา (ผึ้ง)

ต�ำแหน่ง: เจ้าหน้าที่การค้าและวิชาการ(ประสานงาน)-กลุ่มผลิตภัณฑ์ประมง E-mail: thananya@thaifood.org; fish@thaifood.org เริ่มงาน: 1 มิ.ย. 54

ญดา ชินารักษ์ (พูห์) ต�ำแหน่ง: เจ้าหน้าที่บริหารข้อมูล E-mail: yada@thaifood.org; data-it@thaifood.org เริ่มงาน: 18 พ.ค. 54

ปวัณรัตน์ ใจกล้า (ตุ๊ก) ต�ำแหน่ง: เจ้าหน้าที่สนับสนุนงานสารสนเทศ E-mail: pawanrat@thaifood.org; data-it@thaifood.org เริ่มงาน: 18 พ.ค. 54

3


TFPA Trade & Technical

WEEKLY BRIEF 1 - 6 June 2011

ข่าวประชาสัมพันธ์ ประชาสั ม พั น ธ์ ผ ลการจั ด นิ ท รรศการนานาชาติ ด ้ า น การเกษตรแห่ ง โมร็ อ กโก (Salon International de l’Ariculture du Maroc - SIAM) ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 27 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2554

ณ เมืองเม็คเนส (Meknes) ราชอาณาจักรโมร็อกโก กระทรวงการต่างประเทศจัดท�ำรายงานสรุปผลการเดิน ทางไปร่วมงานดังกล่าวของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุง ราบัต ดังนี้ 1. ภาพรวม SIAM เป็นงานนิทรรศการเกษตรที่ใหญ่ ที่สุดในทวีปแอฟริกา มีการจัดการแสดงสินค้าทางการ เกษตรเช่น ข้าว ข้าวสาลี อาหารสัตว์ โดยมีสินค้าจาก โมร็อกโก และหน่วยงานด้านการเกษตรและการประมง ของโมร็อกโก 2. ผู้เข้าร่วม มีผู้แทนจากประเทศส�ำคัญเข้าร่วมจัด งานฯ ได้แก่ สเปน ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี เบลเยี ย ม สหรั ฐ อเมริ ก า ออสเตรเลี ย ญี่ ปุ ่ น จี น อินโดนีเซีย เซเนกัล ไนจีเรีย และอื่นๆ มากกว่า 7.5 แสนคน 3. ข้อเสนอเพิ่มเติมและข้อคิดเห็น 3.1 งาน SIAM เป็นงานที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ ด้านธุรกิจการเกษตรสาขาต่างๆสามารถเข้าร่วมได้อย่าง เต็มที่โดย 2 วันแรก จัดให้ส�ำหรับผู้ประกอบการพบปะ หารือ เจรจาทางธุรกิจและหาช่องทางการตลาด 3.2 ผู ้ จั ด งานได้ แ สดงความพร้ อ มในการจั ด สรร พื้นที่ส�ำหรับผู้แทนต่างประเทศที่ติดต่อร่วมผ่านสถาน เอกอั ค ราชทู ต ของประเทศตน โดยไม่ มี ค ่ า ใช้ จ ่ า ย กระทรวงการต่างประเทศจึงเห็นว่าในปี 2555 ฝ่าย ไทยน่าจะใช้ประโยชน์จากการเข้าร่วมงานดังกล่าวเพื่อ ประชาสัมพันธ์ศักยภาพและคุณภาพสินค้าเกษตรไทยสู่ ตลาดโมร็อกโกและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคดังกล่าว การ นี้จึงประชาสัมพันธ์ให้สมาชิกที่เป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออก ผลิตภัณฑ์ต่างๆ พิจารณาส่งผู้แทนเข้าร่วมจัดงาน หรือ จัดส่งตัวอย่างสินค้า/เอกสารประชาสัมพันธ์ไปให้สถาน เอกอัครราชทูต ใช้ประโยนช์ส�ำหรับการเข้าร่วมงาน

4

ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ASEAN - Korea FTA Intergrated Information Services เนื่องด้วยองค์กร ASEAN - Korea Center (AKC)

ซึ่งมีหน้าที่ในการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์โอกาสทาง ธุรกิจ การลงทุน การท่องเที่ยวและวัฒนธรรมระหว่าง ประเทศสมาชิกอาเซียนปละสาธารณรัฐเกาหลีได้แจ้งว่า AKC ได้จัดท�ำข้อมูล ASEAN - Korea FTA Intergrated Information Services บรรจุเนื้อหาเกี่ยวกับอัตราภาษี ต่างๆ กฏแหล่งก�ำเนิดสินค้า และข้อมูลทางธุรกิจต่างๆ ระหว่างอาเซียนและสาธารรณรัฐเกาหลีภายใต้ข้อตกลง ASEAN - Korea FTA อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์ www.akfta.net ประชาสัมพันธ์ เชิญเข้าร่วมสัมนาเรื่อง “AEC จุดเปลี่ยน การส่งออกสู่การลงทุนไทยในต่างประเทศ” ด้วยกรมเจรจา

การค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ปละธนาคารเพื่อ การส่งออกและน�ำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ก�ำหนด จัดการสัมมนาเรื่อง “AEC จุดเปลี่ยนการส่งออกสู่การ ลงทุนไทยในต่างประเทศ” ในวันพุธที่ 15 มิถุนายน 2554 ณ โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ กรุงเทพๆ โดยมี วั ต ถุ ป ระสงค์ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ ในการใช้ประโยชน์จาก AEC/FTAs เพื่อการส่งออกและการประกอบธุรกิจทั้งด้าน กฎระเบียบการเปิดตลาด สินค้า/บริการที่มีศักยภาพใน ตลาดเป้าหมาย และลู่ทางการท�ำธุรกิจกับต่างประเทศรวม ทั้งจุดประกายความคิดให้แก่ SMEs ในการสร้างคุณค่าให้ กับสินค้าและบริการ และใช้ประโยชน์จากผลของการเปิด เสรีมาปรับใช้ในการผลิตสินค้าและบริการ จึงขอเรียนเชิญ เข้าร่วมสัมมนา โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และขอความ กรุณาส่งแบบตอบรับเข้าร่วมภายในวันที่ 10 มิ.ย. 54 ดัง เอกสารแนบ 2


Vol. 2 Issue 18

ข้อมูลทางด้านเทคนิค สถานการณ์อาหารปนเปื้อน E.coli ในยุโรป

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2554 มีการเรียกคืนแตงกวา ซึ่งคาดว่าจะปนเปื้อนเชื้อ E.coli จากร้านค้าในออสเตรีย และสาธารณรัฐเชคเพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคดังกล่าวซึ่ง ท�ำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย และท�ำให้มีผู้ป่วย นับร้อยรายทั่วยุโรป เจ้าหน้าที่จากสาธารณรัฐเชคกล่าวว่าแตงกวาอินทรีย์ 120 ผล ก�ำลังถูกเก็บออกจากชั้นจ�ำหน่ายสินค้าขณะ ที่เจ้าหน้าที่ออสเตรียประกาศว่า แตงกวา มะเขือเทศ และมะเขือม่วงจ�ำนวนเล็กน้อยก�ำลังถูกเรียกคืนจากร้าน ค้าจ�ำนวน 33 ร้าน หน่ ว ยงานสุ ข ภาพและความปลอดภั ย อาหารของ ออสเตรียได้รับแจ้งระบบเตือนภัยจากสหภาพยุโรปที่ระบุ ว่า บริษัทเยอรมนีสองแห่งได้เรียกคืนและห้ามจ�ำหน่าย แตงกวา มะเขือเทศและมะเขือม่วงอย่างเร่งด่วน ซึ่ง สินค้าดังกล่าวได้ถูกขนส่งไปยังร้านค้าในออสเตรีย และ หน่วยงานสุขภาพและความปลอดภัยของออสเตรียกล่าว ว่ า สิ น ค้าดัง กล่าวบางส่ว นอาจถูกจ�ำหน่า ยแล้ว และ กระตุ้นให้ผู้บริโภคทิ้งสินค้าเหล่านั้น โดยหน่วยงานตรวจ สอบอาหารและการเกษตรของสาธารณรัฐเชคกล่าวว่า แตงกวาที่ปนเปื้อนถูกส่งมายังฮังการีและลักเซมเบิร์ก แต่ ยังไม่มีรายงานการเจ็บป่วยจากทั้งสองประเทศ

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2554 ยอดผู้เสียชีวิตจาก เชื้อ E.coli ในเยอรมัน เพิ่มขึ้นเป็น 10 ราย จ�ำนวน ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งอย่างน้อย 467 ราย ในทางตอนเหนือของเมือง Hamburg เพียงแห่งเดียว มี อาการติดเชื้อในล�ำไส้ ซึ่งรวมถึงผู้ป่วยที่มีอาการกลุ่มเม็ด เลือดแดงแตกและไตวาย (HUS) จ�ำนวน 91 ราย นาย Cornelia Pruefer-Storcks เจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพของ เมือง Hamburg กล่าวกับ DAPD ส�ำนักข่าวเยอรมนีว่า อาการ HUS เป็นอาการแทรกซ้อนที่เกิดจากเชื้อ E.coli และมีโอกาสเกิดขึ้นได้ยาก ตามข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ ท้องถิ่นคาดว่า ถึงวันที่ 29 พฤษภาคม 2554 ทั่วประเทศ มีผู้ป่วยประมาณ 1,000 ราย ป่วยด้วย อาการติดเชื้อในล�ำไส้ นาย Fabian Fusseis โฆษกประจ� ำ กระทรวง สาธารณสุขของออสเตรียกล่าวว่า พบนักท่องเที่ยวชาว เยอรมันสองคนติดเชื้อ enterohaemorrhagic E.coli หรือ EHEC แต่ไม่มีอาการHUS แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าการ ติดเชื้อดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของเชื้อ E.coli ในเยอรมนีหรือไม่ เจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพของสวีเดนกล่าวว่า มีรายงาน การติดเชื้อ 36 รายในสวีเดนและในจ�ำนวนนี้มี 13 ราย ที่มีอาการ HUS ในเดนมาร์ก มีผู้ติดเชื้อ 11 ราย ซึ่ง 5 รายมีอาการ HUS ด้านหน่วยงานปกป้องสุขภาพของสหราชอาณาจักร กล่าวว่าจนถึงขณะนี้อังกฤษพบผู้ติดเชื้อชาวเยอรมนี 3 ราย ซึ่ง 2 รายมีอาการ HUS ซึ่งหน่วยงานมาตรฐาน อาหารกล่าวว่าไม่มีหลักฐานใดๆยืนยันว่าแตงกวาอินทรีย์ ซึ่งติดเชื้อได้ถูกกระจายสินค้ามายังสหราชอาณาจักร แต่ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เจ้าหน้าที่ในสวิตเซอร์แลนด์ได้จดบันทึกผู้ที่ติดเชื้อ

5


TFPA Trade & Technical

WEEKLY BRIEF 1 - 6 June 2011

enterohaemorrhagic E.coli รายหนึ่ง เป็นผู้หญิงที่ กลับมาจากการท่องเที่ยวในเยอมัน ซึ่งผู้ป่วยได้รับประ ทานบุฟเฟ่สลัดจากที่นั่น เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2554 Frederic Vincent โฆษกจากสหภาพยุโรปกล่าวว่า โรงกระจกในสเปนซึ่ง ถูกระบุว่าเป็นแหล่งของแตงกวาที่ปนเปื้อนเชื้อ E.coli ได้หยุดกิจกรรมแล้ว น�้ำและดินถูกน�ำมาวิเคราะห์เพื่อ พิสูจน์ว่าโรงกระจกทั้งสองแห่งเป็นสาเหตุของปัญหาหรือ สาเหตุการปนเปื้อนเชื้อเกิดขึ้นจากที่อื่น ส่วนผลการ ทดสอบคาดว่าจะทราบได้ในวันที่ 31 พฤษภาคม หรือ 1 มิถุนายน 2554 ที่มา มกอช.(MSNBC News) วันที่ 31 พ.ค. 54

ความคืบหน้า...การติดฉลาก COOL เมืองผู้ดี

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2554 นาย Jim Paice รัฐมนตรีกระทรวงอาหาร แห่งสหราชอาณาจักร เปิดเผย ว่า ขณะนี้ ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และนมมากกว่า 500 ชนิด จากห้างค้าปลีก และร้านค้าทั่วไปในสหราชอาณาจักร ติดฉลากระบุแหล่งก�ำเนิดสินค้า (Country-of-Origin Labelling, COOL) ของส่วนประกอบแล้วโดยระบุแหล่ง ที่มาและแหล่งผลิต นับเป็นการประเมินครั้งแรกของฉลาก COOL ซึ่งเป็น มาตรฐานแบบสมัครใจ หลังจากเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 เริ่มใช้ในอุตสาหกรรมอาหารเพื่อให้ข้อมูลแหล่ง ก�ำเนิดสินค้าแบบชัดเจนยิ่งขึ้นแก่ผู้บริโภค ส�ำหรับสินค้าประเภทเบคอน ไส้กรอก และผลิตภัณฑ์ เนื้อสัตว์แปรรูปเล็กน้อยอื่นๆ ของสหราชอาณาจักร พบ ว่า 82% มีฉลาก COOL หลายแบบ โดย 67% ให้ข้อมูล แหล่งก�ำเนิดของส่วนประกอบของเนื้อสัตว์นั้นๆ และอีก

6

15% ระบุเพียงว่าผลิตภัณฑ์ชนิดนั้นผลิตที่ไหนเท่านั้น อาจกล่าวได้ว่า 1 ใน 5 ของผลิตภัณฑ์ไม่ได้ระบุแหล่ง ก�ำเนิดสินค้า โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ที่มีความซับ ซ้อน เช่น พาย อาหารพร้อมรับประทาน พบว่า มีการ ติดฉลาก COOL เพียง 76% แม้ว่าผลการส�ำรวจจะออกมาว่าต้องปรับปรุงอีก แต่ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีของภาคอุตสาหกรรมอาหารของสห ราชอาณาจักร ที่มา มกอช.(Meat Poultry) วันที่ 31 พ.ค. 54

กระทรวงสาธารณสุขฯ ญี่ปุ่น พิจารณาปรับปรุง แก้ไขมาตรฐานสารเคมีทางการเกษตร

กระทรวงสาธารณสุ ข แรงงาน และสวั ส ดิ ก าร ญี่ ปุ ่ น (MHLW) ได้ จัดการประชุมชี้แจงราย ละเอี ย ดการปรั บ ปรุ ง แก้ ไ ขมาตรฐานสารเคมี ตกค้าง และสารปรุงแต่ง ตามพระราชบัญญัติสุขอนามัยอาหารญี่ปุ่น ครั้งที่ 149 (The 149 th Conference for Promotion of Food Import Facilitation) ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2554 สรุปสาระส�ำคัญของการปรับปรุงแก้ไข ดูรายละเอียด ได้ที่ http://www.acfs.go.th/news/docs/acfs_3105-54-03.pdf ที่มา : มกอช. วันที่ 31 พ.ค. 54


Vol. 2 Issue 18

ไต้หวันเรียกคืนอาหารปนเปื้อนสารก่อมะเร็ง

กระทรวงสาธารณสุข ไต้ห วันเรียกร้องให้ผู ้ ผ ลิ ต อาหาร 168 ราย เรียกคืนสินค้าทั้งอาหารและเครื่อง ดื่มมากกว่า1 ล้านรายการ หลังพบว่าสินค้าปนเปื้อน สาร DEHP (diethylhexyl phthalate) สารดังกล่าว ใช้เป็น plasticizer โดยสารดังกล่าวเป็นสารก่อมะเร็ง แต่ในใต้หวันสารนี้ถูกใช้ในการเพิ่มความขุ่นในอาหาร และเครื่องดื่ม ประเภท เยลลี่ผลไม้ โยเกิร์ตผง น�้ำ ผลไม้ และอาหาร เครื่องดื่มอื่นๆ รวมถึงอาหาร เสริมเพื่อโภชนาการบางรายการ ผู้อ�ำนวยการองค์การ อาหารและยาได้แจ้งเรื่องไปยัง WHO โดยคาดหวัง ว่าจะลดความอันตรายที่เป็นไปได้ต่อมนุษย์ในประเท ศอื่นๆ เนื่องจากสินค้าบางรายการได้ถูกส่งออกข้าม ประเทศไปแล้ว ที่มา มกอช. (Deutsche Presse-Agentur) วันที่ 30 พ.ค. 54

จีนออกระเบียบควบคุมปริมาณสารเมลามีนใน อาหารอย่างเป็นทางการ

เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2554 หน่วยงานของจีน 5 แห่งเช่น กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมมือกันออก ระเบียบควบคุมปริมาณสารเมลามีนในอาหารอย่าง เป็นทางการ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ประกาศ

เป็นต้นไป และยกเลิกระเบียบชั่วคราวควบคุมปริมาณ เมลามีนในนม และผลิตภัณฑ์นม ซึ่งได้รับการร่างขึ้น มาในปี 2551 ประกาศฉบับนี้ได้ก�ำหนดไว้ว่า ผลิตภัณฑ์อาหาร สูตรส�ำหรับทารกจะต้องมีปริมาณสารเมลามีนไม่เกิน 1 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ส่วนผลิตภัณฑ์อาหารชนิดอื่นๆ จะ ต้องมีปริมาณสารเมลามีนไม่เกิน 2.5 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ถ้าหากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีสารเมลามีนเกินกว่าทีก�ำหนด ไว้ จะไม่อนุญาตให้มีการน�ำออกมาจ�ำหน่าย สารเมลามีน เป็นสารเคมีทเี่ ป็นวัตถุดบิ ในอุตสาหกรรม เคมี มีความเป็นพิษน้อย แต่ถ้าหากร่างกายได้รับเข้าไป และมีการสะสมไว้เป็นเวลานาน จะท�ำให้เป็นอันตรายต่อ ระบบสืบพันธุ์ ระบบปัสสาวะ และท�ำให้ไตวาย ตลอด จนท�ำให้เกิดมะเร็งกระเพราะปัสสาวะได้ ทั้งนี้ หน่วยงานดังกล่าวได้ระบุว่า สารเมลามีนไม่ใช่ วั ตถุ ดิบ ส� ำ หรั บ ผลิ ตอาหาร และไม่ ใ ช่ วั ตถุ ดิ บส� ำ หรั บ ผลิตอาหาร และไม่ใช่สารปรุงแต่งอาหาร จึงห้ามมีการ เจือปนลงในอาหารอย่างเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน จะ ถูกด�ำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด อย่างไรก็ตาม สารเมลามีนเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมเคมี ใช้ส�ำหรับ ผลิตพลาสติก สี และภาชนะบรรจุอาหารเป็นต้น และ ผลวิจัยยืนยันว่า สารเมลามีนนี้มีโอกาสเข้าไปในอาหาร ได้ โดยมาจากสิ่งแวดล้อม และภาชนะบรรจุอาหาร แต่ ว่าปริมาณค่อนข้างต�่ำ ที่มา มกอช. (ส�ำนักงานที่ปรึกษาการเกษตร ประจ�ำกรุงปักกิ่ง) วันที่ 1 มิ.ย. 54

7


TFPA Trade & Technical

WEEKLY BRIEF 1 - 6 June 2011

สิงคโปร์ปรับปรุงข้อก�ำหนดการแสดงฉลากอาหาร

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2554 หน่วยงาน Agri-Food and Veterinary Authority of Singapore (AVA) ของสิงคโปร์ได้ออก ประกาศปรับปรุง ข้อก�ำหนดการ แสดงฉลากอาหาร สาระส�ำคัญ สรุปได้ดังนี้ 1. การแสดงปริ ม าณสุ ท ธิ : ก�ำหนดให้แสดงปริมาณขั้นต�่ำ (minimum quantity) ของอาหาร โดยเพิ่มเติมรายละเอียดปริมาณสุทธิของอาหาร ดังนี้ 1) อาหารที่เป็นของแข็งให้แสดงปริมาณเป็นน�้ำหนัก (by weight) ส�ำหรับอาหารที่เป็นของเหลวให้แสดง ปริมาณเป็นปริมาตร (by volume) 2) อาหารประเภท semi-solid foods หรืออาหาร ประเภท viscous foods สามารถแสดงปริมาณได้ทั้งใน รูปของน�้ำหนักหรือปริมาตร 3) อาหารที่อยู่ในของเหลว เช่น ในน�้ำ น�้ำเชื่อม น�้ำ เกลือ น�้ำผักหรือน�้ำผลไม้ และอาหารที่ถูกเคลือบด้วย น�้ำแข็ง ต้องแสดงน�้ำหนักรวม และน�้ำหนักเฉพาะอาหาร 2. การแสดงรายชื่อส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ : ให้ระบุชื่ออาหารและส่วนผสมที่เป็นสาเหตุของอาการแพ้ อาหารในผู้บริโภคบางราย ดังนี้ 1) ธัญพืชที่มีกลูเตน เช่น ข้าวสาลี ไรย์ บาร์เลย์ โอ๊ต สเปลต์ (spelt) และผลิตภัณฑ์จากธัญพืช ดังกล่าว 2) ถั่วลิสง ถั่วเหลือง และผลิตภัณฑ์จากถั่วดังกล่าว 3) ถั่ว ลูกไม้ และผลิตภัณฑ์ (tree nut) 4) ปลา สัตว์น�้ำและผลิตภัณฑ์ 5) นมและผลิตภัณฑ์นม 6) ไข่และผลิตภัณฑ์

8

7) สัตว์น�้ำเปลือกแข็ง (crustacean) และผลิตภัณฑ์ 8) อาหารที่ มี ซั ลไฟต์ ใ นความเข้ ม ข้ นต�่ ำ กว่ า 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัมอาหาร ข้ อ ก� ำ หนดดั ง กล่ า วมี ผ ลบั ง คั บ ใช้ ตั้ ง แต่ วั น ที่ 15 เมษายน 2554 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ไทยส่งออกสินค้าอาหาร ไปสิงคโปร์เฉลี่ย(ปี 2551-2553) มูลค่า15,743 ล้านบาท ต่อปี โดยปี 2553 ส่งออกมูลค่า 15,262 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.33 เมื่อเทียบกับปี 2552 และปี 2554 (ม.ค.-มี.ค.) ส่งออกมูลค่า 4,375 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อย ละ 17 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 ที่มา : สถาบันอาหาร วันที่ 2 มิ.ย. 54

แคนาดาเตือน น�้ำผลไม้น�ำเข้าจากใต้หวันอาจปน เปื้อน Phthalates

หน่วยงานตรวจสอบอาหารแคนาดา (CFIA) ออก มาเตือนประชาชนเรื่องน�้ำผลไม้และเครื่องดื่มบางชนิด ซึ่งน�ำเข้าจากไต้หวันอาจปนเปื้อนสาร Di-Ethyl Hexyl Phthalate (DEHP) โดยการเรียกคืนน�้ำผลไม้น�ำเข้าซึ่งถูกกระจายสินค้า ไปในรัฐ British Columbia และ Ontario เกิดขึ้น


Vol. 2 Issue 18

หลังจากการพบสารปนเปื้อนดังกล่าว CFIA กล่ า วว่ า ก� ำ ลั ง ท� ำ งานร่ ว มกั บ กระทรวง สาธารณสุขแคนาดา พันธมิตรด้านความปลอดภัย อาหารสากลและผู้น�ำเข้าเพื่อตรวจหาอาหารและเครื่องดื่ม อื่นๆที่ปนเปื้อนซึ่งอาจจะมีอยู่ในตลาดของแคนาดา โดย จะเรียกคืนผลิตภัณฑ์ที่ปนเปื้อนสารดังกล่าวและประกาศ รายชื่อลงบนหน้าเวปไซต์ของ CFIA ทั้งนี้ อันตรายของสาร phthalates ที่มีต่อสุขภาพ จะเกิดขึ้นเมื่อได้รับสารนั้นติดต่อกันเป็นเวลานาน จาก ข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน ระดับของ DEHP อยู่ในอาหาร ซึ่งถูกเรียกคืนในไต้หวันนั้นไม่มีแนวโน้มว่าจะท�ำให้เกิด อาการพิษเฉียบพลันแต่อย่างใด ที่มา มกอช. (Food Safety News) วันที 1 มิ.ย. 54

พาณิชย์เผยสหรัฐฯ ออกค�ำแนะน�ำในการผลิตอาหาร พร้อมบริโภคเพื่อลดการปนเปื้อน นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่าง ประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า หน่วยบริการ ตรวจสอบและความปลอดภัยอาหาร (The Food Safety Inspection Service: FSIS ) ภายใต้กระทรวงเกษตร สหรัฐฯ ได้ออกร่างค�ำแนะน�ำส�ำหรับผู้ประกอบการผลิต อาหารพร้อมบริโภค (Ready-to-Eat: RTE) น�ำไปใช้เป็น คู่มือการผลิตเพื่อลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อนแบคทีเรีย ก่อโรคในระหว่างการผลิต ร่างเอกสารค�ำแนะน�ำดังกล่าวจะเน้นให้ผู้ประกอบ การหลีกเลี่ยงกระบวนการที่ท�ำให้เกิดการปนเปื้อนเชื้อ

จุ ลิ น ทรี ย ์ ใ นระหว่ า งการผลิ ต โดยเฉพาะที่ ม าจากส่ ว น ผสม เช่น ช่วงการเติมเครื่องเทศ เครื่องปรุงรสซึ่งไม่ ได้ผ่านการท�ำความสะอาดอย่างเพียงพอและเป็นสาเหตุ ส�ำคัญที่ท�ำให้เชื้อจุลินทรีย์เจริญเติบโตและเป็นอันตราย ต่อผู้บริโภค ทั้งนี้ ร่างค�ำแนะน�ำของ FSIS จะเป็นประโยชน์โดยตรง ต่อผู้ประกอบการ SME ให้สามารถพัฒนาและปรับปรุง คุณภาพการผลิตสินค้าอาหารของตนได้เป็นอย่างดี ปี 2553 ไทยส่งออกสินค้า อาหารไปสหรัฐฯ มูลค่า 114,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ร้อยละ 6 ใน ปี 2554 (ม.ค.-เม.ย.) มีมูลค่าการส่งออก 32,600 ล้าน บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากช่วงเดียวกันของปี 2553 ซึ่ง ส่งออก 31,300 ล้านบาท ที่มา มกอช. Infoquest วันที่ 2 มิ.ย. 54

ผู ้ เ ชี่ ยวชาญเรี ยกร้ องให้ ม ะกั น เพิ่ ม ความระวัง เชื้ อ E.coli

หลังจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ E.coli ทั้ง ในญี่ปุ่นที่มีผู้ป่วยกว่า 100 รายและเสียชีวิต 4 ราย และ ที่ยุโรป ขณะนี้มีผู้ป่วยกว่า 1,534 ราย และเสียชีวิต 17 ราย Bill Marler อัยการความปลอดภัยอาหารเรียกร้อง ให้องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (USFDA) และ หน่วยงานความปลอดภัยอาหารต่างๆ ทั่วโลกขึ้นทะเบียน เชื้อ E.coli ที่เป็นสายพันธุ์อันตรายทุกชนิดนอกเหนือจาก สายพันธุ์ O157 เป็นเชื้อปนเปื้อนที่ลดคุณภาพอาหาร และสร้างวิธีการตรวจสอบอ้างอิงหลักวิทยาศาสตร์ ซึ่ง ปัจจุบันยังไม่มีกฎข้อบังคับให้ผู้ผลิต ผู้กระจายสินค้า หรือ ผู้จ�ำหน่าย ตรวจการปนเปื้อนE.coli นอกจากสาย พันธุ์ O157 ที่มา : มกอช. (EON) วันที่ 3 มิ.ย. 54

9


TFPA Trade & Technical

WEEKLY BRIEF 1 - 6 June 2011

อียูเริ่มไฟแดงห้ามใช้ขวดนมปนเปื้อนสารบีพีเอและ ห้ามน�ำเข้า

สหภาพยุโรป ซึ่งเป็นตลาดการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนปี 2554 เป็นต้นไป ทั้งนี้ แคนาดาเป็นประเทศแรกที่ระบุว่าสารบีพีเอ เป็นอันตรายต่อมนุษย์ สิ่งแวดล้อม และความหลาก หลายทางชีวภาพ ขณะที่มีโรงงานผลิตขวดพลาสติก 6 แห่ง ในสหรัฐฯ ยุติการน�ำสารเคมีดังกล่าวมาใช้ผลิตขวด พลาสติกซึ่งจ�ำหน่ายภายในประเทศเมื่อปีที่แล้ว ส�ำหรับ สารบีพีเอมักน�ำมาใช้เพื่อท�ำให้ขวดเครื่องดื่มพลาสติกต่าง ๆ มีคุณภาพแข็งแรงและใสสะอาด ที่มา มกอช. (มติชน) วันที่ 6 มิ.ย. 54

สหภาพยุโรปเกาะติดการแพร่ระบาดเชื้อ E.coli – คาด ‘ถั่วงอก’ ต้นตอการปนเปื้อน สหภาพยุโรปได้ประกาศห้ามใช้ขวดนมเด็กที่ปนเปื้อน สารเคมี บิสฟีนอล-เอ (บีพีเอ) (Bisphenol A :BPA) เนื่องจากพบว่าสารเคมีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อพัฒนาการ ของเด็ก ทั้ ง ปฏิ กิ ริ ย าตอบสนองเพื่ อ สร้ า งภู มิ คุ ้ ม กั น โรคและ กระตุ้นให้เกิดเนื้องอกในเด็กที่ดื่มนมจากขวดพลาสติก ดังกล่าว โดยจะเริ่มห้ามการน�ำเข้าและจ�ำหน่ายขวดนม พลาสติกปนเปื้อนสารดังกล่าวในวันที่ 1 เดือนมิถุนายน 2554 นายจอห์น ดัลลี คณะกรรมาธิการกิจการนโยบาย สาธารณสุขและ! ผู้บริโภคของสหภาพยุโรป กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวถือเป็นข่าวดีส�ำหรับผู้บริโภคเนื่องจาก มาตรการนี้ ไม่จ�ำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ยุโรปและจะท�ำให้ค�ำสั่งห้ามผลิตขวดนมทารกด้วยโพลี คาร์ บ อนเนตที่ มี ส ารประกอบบี พี เ อปนเปื ้ อ นเป็ น สิ่ ง ผิ ด กฎหมายตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2554 และห้ามจ�ำหน่าย รวมถึ ง การน� ำ เข้ า ขวดนมปนเปื ้ อ นสารบี พี เ อในตลาด

10

หลังจากทางสหภาพยุโรปการทราบการแพร่ระบาด ของเชื้อ E.coli ที่ก่อสารพิษ Shiga-Toxin เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ได้มีการเปิดระบบเครือข่ายต่างๆในการแจ้ง ข่าวได้แก่ รายงานการแจ้งเตือนภัยเร่งด่วนส�ำหรับอาหาร และอาหารสัตว์ (Rapid Alert System for Food and Feed, RASFF) และ ระบบเตือนภัยล่วงหน้าและการตอบ สนอง (Early Warning and Response System, EWRS) เพื่อกระจายข่าวการพบและการกระจายที่มาของเชื้อใน อาหารและคน สมาชิกสหภาพยุโรปออกค�ำแถลงการณ์ จากการประชุมของคณะกรรมการด้านห่วงโซ่อาหารและ


Vol. 2 Issue 18

อาหารสัตว์ (Standing Committee on the Food Chain and Animal Health) เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ระบุว่าทางสหภาพยุโรปจะปรับใช้ทุกมาตรการที่จ�ำเป็น ทันทีที่พบสาเหตุการแพร่เชื้อที่แท้จริง โดยสหภาพยุโรป จะยึดการรับรองความปลอดภัยของสินค้าอาหารที่ออกสู่ ตลาดเป็นหลัก เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค

รัสเซียไฟแดงน�ำเข้าผักสดจาก EU หวั่น E. coli

หัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปได้ส่งจดหมายเน้นย�้ำ ว่าขณะนี้มีมาตรการควบคุมและการแก้ไขสถานการณ์ใน ยุโรปเพื่อป้องกันการเข้ามาของสินค้าปนเปื้อน และให้ผู้ ประกอบธุรกิจอาหารท�ำตามเงื่อนไขด้านสุขอนามัยเพื่อ ป้องกันการปนเปื้อนในอาหารทั้งจากพืชและสัตว์

นาย Gennady Onishchenko หัวหน้าหน่วยงาน คุ้มครองผู้บริโภคประกาศการขยายการห้ามน�ำเข้าผักสด เพิ่มเป็นทั่วทั้งสหภาพยุโรป ซึ่งก่อนหน้านั้น รัสเซียได้ ห้ามเฉพาะการน�ำเข้าฝักสดจากสเปนและเยอรมนี และ เจ้าหน้าที่ภาษีศุลกากรรัสเซียได้รับค�ำสั่งให้หยุดการน�ำ เข้าผักจากสหภาพยุโรป

ขณะที่นาย Gert Lindemann โฆษกกระทรวงเกษตร ของรัฐโลวเวอร์ แซกโซนี ทางตอนเหนือของเยอรมนี กล่าวในแถลงการณ์เตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการรับ ประทานถั่วงอก ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักในสลัดผักหลังการ ตรวจสอบพบว่าน่าจะเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของเชื้อ แบคทีเรีย E. coli โดยถั่วงอกดังกล่าวปลูกจากไร่แห่ง หนึ่งในพื้นที่รัฐโลวเวอร์ แซกโซนี และถูกส่งไปยังร้าน อาหารหลายแห่ง เป็นสาเหตุท�ำให้ร้านอาหารจ�ำนวนมาก ในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศพบการแพร่ระบาดของเชื้อ E. coli ซึ่งท�ำให้ปัจจุบันมีผู้เสียชีวิต 2! 2 คน และ อีกกว่า 2,200 คนในยุโรปล้มป่วย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังได้เตือนประชาชนให้หลีก เลี่ยงการรับประทานมะเขือเทศ แตงกวา และกะหล�่ำต่อ ไปอีกระยะหนึ่ง ที่มา มกอช. (สหภาพยุโรป - ไทยรัฐ ) วันที่ 6 มิ.ย. 54

รัสเซียห้ามการน�ำเข้าผักสดทุกชนิดจากสหภาพยุโรป เนื่องจากเหตุการณ์เชื้อ E. coli ระบาดในเยอรมนี โดย หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของรัสเซียกล่าวว่า จะมี การยึดผักที่ผลิตในยุโรปซึ่งมีวางจ�ำหน่ายทั่วรัสเซีย

นาย Frederic Vincent โฆษกคณะกรรมาธิการ สหภาพยุโรป กล่าวว่า สหภาพยุโรปเห็นว่าการที่รัสเซีย ห้ามน�ำเข้าผักจากยุโรปเป็นการกระท�ำที่มากเกินไปและ จะท�ำให้เกิดการประท้วง และเพิ่มเติมว่า มูลค่าการส่ง ออกผักสดจากสหภาพยุโปรไปยังรัสเซียอยู่ที่ 600 ล้าน ยูโร ต่อปี ซึ่งคิดเป็น 25 % ของการส่งออกทั้งหมด โดยประเทศสเปน ฝรั่งเศส เยอรมนี และโปแลนด์ เป็น ประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุด ทั้ ง นี้ องค์ ก ารอนามั ย โลก (WHO) ระบุ ว ่ า เชื้ อ แบคทีเรีย E.coli ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคระบาดครั้งนี้ เป็นสายพันธุ์ใหม่ และแตงกวาที่ติดเชื้อโรคดังกล่าวเป็น สาเหตุของการระบาดไม่น่าจะเป็นจริง ประกอบกับเจ้า หน้าที่สาธารณสุขเยอรมนีสารภาพว่าไม่ทราบว่าแบคทีเรีย ที่ก่อให้เกิดโรคมาจากแหล่งใด ที่มา มกอช. (BBC News) วันที่ 6 มิ.ย. 54

11


TFPA Trade & Technical

WEEKLY BRIEF 1 - 6 June 2011

สถานการณ์ด้านประมง อุณหภูมิเปลี่ยนเร็ว ปลาปินส์ตายกว่า 800 ตัน

พบปลาจ�ำนวนมากถึง 800 ตัน ลอยตายอยู่ในทะเล สาบเลค ทาล ประเทศฟิลิปปินส์ เจ้าหน้าที่กรมประมง เผย สาเหตุมาจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เกิดเหตุปลานวลจันทร์ (Milkfish) ที่เกษตรกรเลี้ยง ไว้ตามกระชังในทะเลสาบ “เลค ทาล” จังหวัดบาตัง กาส ไม่ไกลจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ลอย ตายส่งกลิ่นเหม็นเน่ามากกว่า 800 ตัน โดยเจ้าหน้าที่ กรมประมงของฟิลิปปินส์เผยว่า พบปลาแถบนี้เริ่มตาย ลงจ�ำนวนมากตั้งแต่สัปดาห์ก่อน สาเหตุเป็นเพราะ อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีผลต่อระดับ ออกซิเจนในทะเลสาบด้วย พร้อมสั่งห้ามขายปลาตาย เหล่านี้แล้ว ก่อนจะน�ำฝังกลบต่อไป ที่มา มกอช.(ไทยรัฐ) วันที่ 30 พ.ค. 54

ออกซิเจนในอ่าวเม็กซิโกหด ปลาป่วนสับสนเพศ

นั ก วิ จั ย พบว่ า ปลาจวดแอตแลนติ ก (Atlantic croakers) ในอ่าวเม็กซิโกก�ำลังได้รับผลกระทบจาก การปริมาณที่มีน้อย ท�ำให้ปลาจวดตัวเมียเริ่มผลิตน�้ำ อสุจิในรังไข่ Peter Thomas นักศึกษาวิจัยจากมหาวิทยาลัย เท็กซัสกล่าวว่า ภาวะพร่องอากาศ (Hypoxia) เกิด

12

เพิ่มขึ้นทั่วโลกอย่างรวดเร็วในรอบ 25 ปีที่ผ่านมา ซึ่ง งานวิจัยปลาจวดแอตแลนติกแสดงให้เห็นถึงผลกระทบ ทางชีววิทยาที่ส�ำคัญของภาวะพร่องอากาศต่อสิ่งมีชีวิต ที่เคลื่อนที่ได้ ซึ่งอาจท�ำให้มีผลกระทบต่อประชากรปลา ในระยะยาว ทั้งนี้ มีเขตมรณะ (Dead zone) ในมหาสมุทรทั่ว โลก ซึ่งมีปริมาณออกซิเจนน้อยเกินกว่าที่สิ่งมีชีวิตจะด�ำรง ชีพได้ โดยพบ Dead zone มากในบริเวณซีกโลกเหนือ จากจ�ำนวนประชากรมนุษย์ที่สูงขึ้นรอบชายฝั่งท�ำให้เกิด มลภาวะเพิ่มขึ้นในน่านน�้ำ และท�ำให้สาหร่ายเจริญเติบโต มากขึ้นซึ่งดูดออกซิเจนที่มีอยู่ในน�้ำ ที่มา มกอช.(FIS) วันที่ 30 พ.ค. 54

พาณิชย์ เตือนผู้ส่งออกรับมือระบบควบคุมการท�ำ ประมงผิดกฎหมายของอียู

นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่าง ประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ล่าสุดสหภาพ ยุ โรปได้ อ อกกฎระเบี ย บรวมภายใต้ EU’s Fisheries Control Policy ก�ำหนดระบบควบคุมการท�ำประมงที่ผิด กฎหมายและการตรวจสอบย้อนกลับตลอดห่วงโซ่ตลาด ตั้งแต่จับปลาจนถึงผู้บริโภค (from net to plate) ถึ ง แม้ ก ฎระเบี ย บดั ง กล่ า วจะบั ง คั บ ใช้ กั บ ประเทศ สมาชิกสหภาพยุโรป แต่ก็มีผลต่อการน�ำเข้าสินค้าประมง จากไทยด้วยกล่าวคือ จะต้องแนบใบรับรองการจับสัตว์ น�้ำ (Catch Certificate) ตามระเบียบ IUU Fishing นอกจากนี้สินค้าประมงที่จ�ำหน่ายในตลาดสหภาพยุโรป มีโอกาสถูกตรวจสอบได้ทุกจุดของห่วงโซ่ตลาด รวมทั้ง สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงแหล่งที่มาซึ่งการตรวจ สอบจะมีการเก็บข้อมูลและตรวจสอบทางอิเล็กทรอนิกส์


Vol. 2 Issue 18

หากผู้ใดละเมิดกฎหมายจะถูกลงโทษตามความผิดและ หากกระท�ำผิดซ�้ำซ้อนก็จะถูกเพิกถอนใบอนุญาตจับปลา ทั้งนี้ สหภาพยุโรปเป็นตลาดส่งออกสินค้าประมง ส�ำคัญล�ำดับที่ 3 ของไทย รองจากสหรัฐอเมริกาและ ญี่ ปุ่ น โดยในปี 2553 ไทยส่งออกสินค้าประมงแช่ เย็น แช่แข็งและแปรรูปไปสหภาพยุโรปมูลค่าประมาณ 37,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 35 ของมูลค่าการส่ง ออกสินค้าอาหารของไทยไปยังสหภาพยุโรป และในปี 2554 (มกราคม-มีนาคม) ไทยส่งออกสินค้าประมงแช่ เย็น แช่แข็งและแปรรูปไปสหภาพยุโรปมูลค่าประมาณ 8,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ร้อยละ 10

ประกอบการร่วมออกบู๊ทกว่า 1,600 ราย จากกว่า 80 ประเทศ และมีผู้เข้าชมงานราว 24,000 คน จากผลการ วิจัย ในปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2553) ร้อยละ 79 ของผู้เข้า ชมงานได้พบกับบริษัทและสินค้าชนิดใหม่ๆ ที่ตนหรือ บริษัทของตนต้องการ และร้อยละ 80 วางแผนที่จะซื้อ ผลิตภัณฑ์และบริการที่จัดแสดงในงาน งาน European Seafood Exposition ครั้งที่ 19 ปีนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 - 5 พฤษภาคม 2554 เช่น เดียวกับทุกปี กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ และสมาคมอาหารแช่ เ ยื อ กแข็ ง ไทยน� ำผู ้ ป ระกอบการ อาหารทะเลแช่แข็งไทยร่วมออกร้านในงาน European Seafood Exhibition ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 16 ที่กรมฯ ได้ จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น โดยมีผู้ประกอบการร่วมออกร้าน ภายใต้ Thai Pavillion 14 ราย บนพื้นที่ 170 ตาราง เมตร ภายใน Hall 7 ของศูนย์แสดงสินค้า Brussels Expo

กุ้งต้มสุกไทยยังครองใจชาวโลก

สินค้าสดใสของไทยในอุตสาหกรรมอาหารทะเลแช่ แข็งปีนี้ ยังคงเป็นกุ้งต้มสุก ซึ่งเป็นเวลากว่า 10 ปีต่อ เนื่องกันแล้ว ที่ไทยยังรักษาต�ำแหน่งผู้ส่งออกรายใหญ่ ที่สุดของโลกในสินค้าสาขานี้ไว้ได้ นอกจากนี้ ยังมีสิน ค้าใหม่ๆ ที่แต่ละบริษัทน�ำมาจัดแสดง ซึ่งเน้นความ สะดวกรวดเร็วในการบริโภค โดยสามารถน�ำเข้าเตาอบ แล้วบริโภคได้เลย ทั้งนี้ส่วนมากเป็นสินค้าที่ได้ผ่านการ เพิ่มมูลค่าแล้ว ซึ่งท�ำให้ก�ำไรต่อหน่วยเพิ่มมากขึ้น เช่น กุ้งตัวตรงห่อแป้งป่อเปี้ยโชว์หาง (filo) กุ้งผ่าผีเสื้อชุบ เกล็ดขนมปัง (breaded butterfly) ถุงทองกุ้ง (money pockets) ป่อเปี้ยกุ้ง และเทมปุระ

ที่มา : มกอช. (ส�ำนักข่าวอินโฟเควสท์) วันที่ 3 มิ.ย. 54

งานเเสดงสินค้าอาหารทะเลแห่งยุโรป (European Seafood Exposition) เป็นงานแสดงสินค้าอาหารทะเลที่ มีชื่อเสียงที่สุดและใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจ�ำ ทุกปี ณ ศูนย์แสดงสินค้า Brussels Expo กรุงบรัสเซลส์ โดยเริ่มจัดตั้งแต่ปี 1993 เป็นงานแสดงสินค้าอาหารทะเล ที่น�ำผู้ซื้อและผู้ขายจาก 140 ประเทศมาพบกัน โดยมีผู้

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://news.thaieurope.net/content/ view/3774/212/

ที่มา ThaiEurope.net วันที่ 30 พ.ค. 54

13


TFPA Trade & Technical

WEEKLY BRIEF 1 - 6 June 2011

สถานการณ์ด้านเกษตร ร้องพาณิชย์ต่อเวลาลดภาษีน�ำเข้า 0% ผู้ผลิตอาหาร ส�ำเร็จรูปโอดต้นทุนมะพร้าวพุ่งไม่หยุด

ขยาดกะทิแพง “เทพผดุงพรฯ” ร้องพาณิชย์ขยายเวลา

ลดภาษีน�ำเข้ามะพร้าว 0% หวังใช้สิทธิอาฟต้า ช่วยลดภาระ ต้นทุนมะพร้าวพุ่ง 100% ด้านผู้ประกอบการฉีกหนีต้นทุน พุ่ง แห่ปรับนวัตกรรมผลิตน�้ำนมมะพร้าว-กะทิธัญพืช มั่นใจ โอกาสเติบโตดี กระแสรักสุขภาพมาแรง

นายอภิศักดิ์ เทพผดุงพร กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จ�ำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตั้งแต่ปลายปี 2553 เป็นต้นมา ผู้ผลิตกะทิส�ำเร็จรูป ประสบปัญหาต้นทุนมะพร้าวปรับราคาสูงขึ้นอย่างมาก ท�ำให้ผู้ประกอบการหลายรายรวมถึงบริษัทเทพผดุงพรฯ ต้องขอน�ำเข้าผลมะพร้าว (พิกัด 0801) จากประเทศ อินโดนีเซีย โดยอาศัยการลดภาษีน�ำเข้าภายใต้กรอบ ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟต้า) ซึ่งรัฐบาล ได้ออกประกาศ กรมการค้าต่างประเทศ เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 53 ประกาศฉบั บ ดั ง กล่ า วอนุ ญ าตให้ ผู ้ ป ระกอบการที่ ขึ้นทะเบียนกับกรมการค้าต่างประเทศ สามารถน�ำเข้า มะพร้าวตามกรอบความตกลงอาฟต้าโดยไม่ต้องเสียภาษี

14

เพื่อมาใช้ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยแบ่งระยะเวลา น�ำเข้าปีละ 2 ครั้ง คือตั้งแต่ ม.ค.-พ.ค. และตั้งแต่ พ.ย.-ธ.ค. เพื่อป้องกันไม่ให้มีการน�ำเข้ามามากจนกระทบ ต่อราคาผลผลิต มะพร้าวในประเทศ และส่งผลกระทบ ต่อเกษตรกร แต่ประกาศดังกล่าวได้สิ้นสุดลงในเดือน พ.ค. 54 ซึ่งผู้ประกอบการต้องกลับไปเสียภาษีน�ำเข้าใน อัตรา 54% “สมาคมผู ้ ผ ลิ ต อาหารส� ำ เร็ จ รู ป จึ ง ได้ มี ก ารหารื อ ในกลุ ่ ม สมาชิ ก และมี ม ติ ใ ห้ ทุ กรายท� ำ หนั ง สื อแจ้ ง ไป ยังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขยายระยะเวลาให้น�ำเข้าผล มะพร้าว 0% ออกไปอีก เพราะผลผลิตภายในไม่เพียงพอ หรือเพียงพอแต่ราคาสูงมาก ผู้ประกอบการไม่สามารถ แบกรับต้นทุนนี้ได้ จึงจะขอให้ขยายเวลาต่อไป” นายอภิศักดิ์กล่าวว่า ในส่วนของบริษัทเทพผดุงพรฯ น�ำเข้าผลมะพร้าวจากอินโดนีเซีย จ�ำนวน 2.8-3 แสนผล ต่อวัน หรือคิดเป็น 70% ของปริมาณความต้องการใช้ วัตถุดิบทั้งหมด 4 แสนผลต่อวัน เพราะปริมาณมะพร้าว ในไทยมีไม่เพียงพอที่จะใช้ในอุตสาหกรรม และมีราคาสูง ขึ้น 100% ตั้งแต่ปลายปี 2553 หากจะปรับราคาก็ส่ง ผลกระทบต่อผู้ซื้อ เพราะที่ผ่านมาได้ปรับราคาขึ้นไปแล้ว ขณะที่นายณัฐพล วิสุทธิไกรสีห์ รองกรรมการผู้ จัดการ บริษัท เอเซียติก อะโกร อินดัสทรี จ�ำกัด ผู้ ผลิตสินค้ามะพร้าวแปรรูปและบรรจุกระป๋อง เปิดเผย ว่า บริษัทต้องปรับตัวรับสถานการณ์หลังจากเจอปัญหา ต้นทุนราคามะพร้าวปรับสูงขึ้น 100% โดยการหันมา พัฒนาผลิตภัณฑ์น�้ำมะพร้าวผสมน�้ำกะทิ (Coconut Milk) ปรุงรส พร้อมดื่ม 3 รสชาติ คือ รสต้นต�ำรับ รส ช็อกโกแลต และรสแมคาเดเมีย เพื่อเพิ่มมูลค่าจากเดิม


Vol. 2 Issue 18

สถานการณ์ด้านการค้า ที่ผลิตและจ�ำหน่ายสินค้ากะทิส�ำเร็จรูปเท่านั้น โดยมีเป้า หมายเพิ่มยอดค�ำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 20%

จีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ พักน�ำเข้าผลิตภัณฑ์ อาหารจากไต้หวัน

“บริษัทเป็นผู้ส่งออกกะทิและผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว คิดเป็นสัดส่วนกว่า 95% มาเป็นเวลา 17-18 ปีแล้ว โดยส่งสินค้าไปทั่วโลก ตลาดหลัก เช่น สหรัฐ ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา เมื่อปีก่อนราคามะพร้าวปรับ ตัวสูงขึ้น เราไม่มีปัญหาด้านวัตถุดิบขาดเพราะมีคอน แทร็กต์ฟาร์มมิ่ง แต่ต้องขอปรับขึ้นราคาสินค้าส่งออก 100% เท่ากับราคาวัตถุดิบ ซึ่งลูกค้าเข้าใจสถานการณ์ดี”

ทางการจีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ พร้อมใจ กันประกาศระงับพักการน�ำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารปนเปื้อน สารไดเอทิลเฮกซิลพทาเลต (DEHP) ซึ่งเป็นอันตรายต่อ สุขภาพ ที่ผลิตโดยบริษัทไต้หวัน 10 ราย ขณะที่ ไต้หวัน รับรองร่างกฎหมายการเพิ่มโทษปรับสูงสุด 33 เท่า แก่ผู้ ผลิตที่ใช้สาร DEHP

นางสาวรวมวดี เลขะกุล ผู้อ�ำนวยการฝ่ายการตลาด และขาย บริษัท ฟอร์แคร์ จ�ำกัด ผู้ผลิตและจ�ำหน่าย สินค้าอาหารแปรรูปเพื่อสุขภาพ กล่าวว่า ราคามะพร้าว ที่เพิ่มขึ้นเป็นโอกาสในการขยายตัวของธุรกิจฟอร์แคร์กะทิ ธัญพืช ซึ่งเป็นสินค้านวัตกรรมอาหารที่ใช้ประกอบอาหาร แทนกะทิได้ อาทิ น�้ำมันร�ำข้าว ถั่วเหลืองและมีต้นทุน ถูกกว่า มี คู่แข่งน้อยเพียง 2-3 ราย ประกอบกับ ผู้ บริโภคใส่ใจอาหารสุขภาพมากขึ้น ตลาดจึงขยายตัวได้ เพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 2 มิย. 54

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2554 คณะรัฐมนตรีไต้หวัน ได้ รับรองร่างกฎหมายการเพิ่มโทษปรับสูงสุด 33 เท่า แก่ผู้ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้สาร DEHP ในการผลิตสินค้า โดยจะถูกปรับเป็นเงินจ�ำนวน 10 ล้านเหรียญไต้หวัน (ราว 350,000 ดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ก�ำหนดไว้เพียง 300,000 เหรียญไต้หวัน นอกจากนี้ ยังอาจได้รับการตัดสิน โทษจ�ำคุก 5 ปี ขณะนี้ อยู่ระหว่างการรอนุมัติขั้นสุดท้าย จากรัฐสภา ซึ่งจะผ่านการรับรองอย่างเป็นทางการก่อนวัน ที่ 14 มิถุนายน 2554 เว็บไซต์ส�ำนักงานตรวจสอบคุณภาพจีนเปิดเผย รายชื่อ สินค้าต้องห้ามจากไต้หวัน 19 ชนิด ซึ่งปนเปื้อนสาร DEHP (Diethyhexylpthalate) ได้แก่ เครื่องดื่มเกลือแร่ น�้ำผล ไม้ ชา เยลลี่ผลไม้ และแป้งดัดแปลงที่ใช้เป็นสารปรุงแต่ง อาหาร เป็นต้น หลังจากที่มีข่าวสินค้าไต้หวันปนเปื้อนสาร DEHP ทางการฟิลิปปินส์และฮ่องกง ได้จ�ำกัดการน�ำเข้า และการจ�ำหน่ายสินค้าจากไต้หวัน ขณะที่ส�ำนักงาน อย. เกาหลีใต้ ได้สั่งการห้ามน�ำเข้าสินค้าจากไต้หวันแล้วเช่นกัน เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2554 ฮ่องกงได้สั่งห้ามน�ำ

15


TFPA Trade & Technical

WEEKLY BRIEF 1 - 6 June 2011

เข้าสินค้าประเภทเครื่องดื่มจากไต้หวัน และในวันที่ 1 มิถุนายน 2554 ได้เรียกคืนยาแก้ปวดท้อง Well Tab หลังจากตรวจพบสาร DEHP นอกจากนี้ ยังเรียกคืนสินค้า อีก 5 ชนิด โดยส่วนใหญ่เป็น สินค้าประเภทวิตามิน ชนิดเม็ด ที่ผลิตโดยบริษัทท้องถิ่นที่ใช้ตัวแทนจ�ำหน่าย วัตถุดิบจากไต้หวัน ขณะที่ ส�ำนักงานอาหารและยาฟิลิปปินส์ ได้สั่งการ เรียกคืนสินค้าน�ำเข้าจากไต้หวัน ราว 300 ชนิด พร้อม ทั้งประกาศแจ้งต่อสาธารณะว่า ห้ามบริโภคสินค้าดัง กล่าว และสั่งห้ามจ�ำหน่ายสินค้าเหล่านั้น หลังจากทราบ ว่า สาร DEHP อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ในสัปดาห์นี้ ไต้หวันได้ด�ำเนินการตรวจสอบคุณภาพ อาหารทั่วประเทศ เพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ปนเปื้อนสารDEHP หรือ สารพลาสติไซเซอร์ตัวอื่นๆ และได้เรียกคืนผลิตภัณฑ์ เครื่องดื่มเกลือแร่และน�้ำผลไม้ ที่พบว่ามีส่วนประกอบของ สารอันตราย DEHP มากกว่า 460,000 ขวด

ไต้ ห วั น ได้ ต รวจพบผลิ ต ภั ณ ฑ์ ป ระเภทอาหารและ เครื่องดื่มที่ปนเปื้อนสาร DEHP มากกว่า 506 ชนิด และ ได้จับกุมเจ้าของบริษัทผู้ผลิตสินค้าที่ใช้สาร DEHP โดย เจ้าของบริษัทดังกล่าวจะถูกจ�ำคุก 6 เดือน นอกจากนี้ ได้ก�ำหนดบทลงโทษขั้นรุนแรงส�ำหรับผู้ที่จ�ำหน่ายสินค้า ปนเปื้อนสารดังกล่าว โดยจะปรับเพิ่มสูงสุดอีก 33 เท่า ทั้งนี้ DEHP เป็นสารพลาสติไซเซอร์ที่ท�ำให้พลาสติก อ่อนตัว ใช้ผสมในโพลิเมอร์หรือผลิตภัณฑ์พลาสติกพี วีซีบรรจุอาหาร อีกทั้งใช้ผสมในอาหารได้ เนื่องจากมี คุณสมบัติท�ำให้สารละลายไม่ตกตะกอน เครื่องดื่มจะดูเข้ม ข้นเสมอกันตลอดขวด นอกจากสาร DEHP แล้ว ก็ยังมี อาทิ DNOP, BBP, DBP, DINP, DIDP ตามกฎระเบียบ

16

ของส�ำนักงาน อย.ไต้หวันระบุว่า ปริมาณสาร DEHP ใน ผลิตภัณฑ์พลาสติกหรือของเล่นเด็ก ห้ามเกิน 1.5 ppm และห้ามใส่ลงในอาหารหรือเครื่องดื่ม เพราะการบริโภคสาร ดังกล่าวเป็นเวลานานจะท�ำลายตับและไต ระบบสืบพันธุ์ ไป ถึงขึ้นเป็นมะเร็ง

อนึ่ง ไต้หวันเผชิญวิกฤตความปลอดภัยอาหารครั้ง ใหญ่จากการตรวจสอบคุณภาพอาหารทั่วประเทศ ที่เผยอ อกมาเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2554 โดยเจ้าหน้าที่พบ สาร DEHP ปนเปื้อนในคลาวดิ่ง (Clouding agent) ที่ ผสมในเครื่องดื่มเกลือแร่ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เครื่องดื่มน�้ำผลไม้บางกลุ่มก็พบพลาสติไซเซอร์ตัวอื่นๆ ปนเปื้อนด้วยได้แก่ DNOP, BBP, DBP, DINP, DIDP ส�ำหรับคลาวดิ่ง กฎหมายให้การรับรองเป็นสารปรุง แต่งอาหาร คลาวดิ่งเป็นเคมีอาหารชนิดหนึ่ง มีคุณสมบัติ ช่วยเพิ่มความขุ่นให้กับเครื่องดื่ม , ท�ำให้ผลิตภัณฑ์มี ลักษณะดีขึ้น น่าบริโภคมากขึ้น ผู้ผลิตจึงมักใช้ในน�้ำผล ไม้ ,เยลลี่ผลไม้, ส่วนผสมของผงโยเกิร์ต และเครื่องดื่ม ชนิดอื่น ๆ ที่มา : มกอช. (ผู้จัดการออนไลน์) วันที่ 3 มิย. 54

พาณิชย์เชียร์ไทยท�ำเอฟทีเอแคนาดา

แคนาดาสนใจท�ำ”เอฟทีเอ”กับไทย เล็งเป้าใช้เป็น สปริ ง บอร์ ด สู ่ อ าเซี ย นชดเชยค้ า กั บ สหรั ฐ ฯหดตั ว ทู ต พาณิ ช ย์ ชู เ ป็ น คู ่ ค ้ า ศั ก ยภาพสู ง แนะดึ ง ถ่ า ยทอด เทคโนโลยีผลิตรถไฟฟ้าตีตลาดโลก พร้อมขอเป็นผู้ผลิต ชิ้นส่วนป้อนแบล็คเบอร์รี่ นางพัจนา ปัญจมรัศม ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานส่ง เสริมการค้าระหว่างประเทศ (สคร.) ณ นครโตรอนโต ประเทศแคนาดา เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า แคนาดา เป็นอีกหนึ่งประเทศที่สนใจเจรจาเพื่อจัดท�ำความตกลง เขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ)กับไทย โดยเมื่อเร็วๆ นี้ได้ส่ง


Vol. 2 Issue 18

เจ้าหน้าที่ระดับ สู ง ม า ห า รื อ เบื้ อ งต้ น กั บ ผู ้ บริหารระดับสูง ของ กระทรวง

พาณิ ช ย์ แ ล้ ว 2 ครั้ง ซึ่งการหารือ ครั้งแรกนั้นน�ำโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า และครั้ง ที่ 2 น�ำโดยผู้ช่วยรัฐมนตรีการค้า ทั้งนี้แคนาดามองไทยเป็น ศูนย์กลางและเป็นผู้น�ำของภูมิภาคอาเซียน

ดังนั้นหากสามารถจัดท�ำเอฟทีเอระหว่างกันได้จะ ท�ำให้การค้าของไทยกับแคนาดาจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่าง มาก นอกจากนี้ยังสามารถใช้ไทยเป็นฐานเพื่อขยายการ ค้า การลงทุนของแคนาดาสู่กลุ่มอาเซียนอีก 9 ประเทศ ได้ ส� ำ หรั บ ในส่ ว นของสคร.นั้ น มองว่ า แคนาดาเป็ น ประเทศที่น่าสนใจเนื่องจากสินค้าที่แคนาดาส่งออกส่วน ใหญ่เป็นสินค้าที่มาจากทรัพยากรธรรมชาติ เช่น สินแร่ โลหะ อะลูมิเนียม ถ่านหิน น�้ำมัน เครื่องเพชร พลอย ไม้ซุง เยื่อกระดาษ และอื่นๆ ซึ่งไทยสามารถน�ำเข้า เพื่อเป็นวัตถุดิบผลิตสินค้าส่งออกหรือใช้ในประเทศได้ ขณะเดียวกันแคนาดายังเป็นเจ้าของเทคโนโลยีระดับสูง ในหลายด้าน เช่น เป็นเจ้าของเทคโนโลยีมือถือแบล็ค เบอร์รี่ เทคโนโลยีพลังงานกังหันลม เทคโนโลยีก่อสร้าง อาคารสูง และรถไฟฟ้าใต้ดิน “ด้ ว ยชื่ อ เสี ย งของไทยที่ เ ป็ น ศู น ย์ ก ลางการผลิ ต รถยนต์และชิ้นส่วนในภูมิภาคอาเซียน เราอาจเจรจา กับเขาเพื่อขอเป็นโกลบัลซัพพลายเชนผลิตรถไฟฟ้าป้อน ตลาดโลก หรือขอเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนมือถือแบล็คเบอร์รี่ หรือให้เขาถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้เรา หากเป็น ไปได้จะช่วยเพิ่มตัวเลขการส่งออกให้เราอีกมาก ขณะ

นี้แคนาดาได้จัดท�ำเอฟทีเอแล้วกับ 6 ประเทศ เช่น สหรัฐฯ เม็กซิโก ชิลี และอยู่ระหว่างเจรจากับสิงคโปร์ และเกาหลีใต้ หากเขาเสร็จก่อนเราจะได้เปรียบมาก” ด้านนางสมจินต์ เปล่งข�ำ ผู้อ�ำนวยการอาวุโส สคร. ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กล่าวเสริมว่า ขณะนี้ แคนาดาเริ่มให้ความส�ำคัญกับตลาดสหรัฐอเมริกาน้อย ลง และหันมามองอาเซียนเพราะเป็นตลาดที่ก�ำลังขยาย ตัว สินค้าที่แคนาดามีศักยภาพส่งมาไทยและอาเซียนได้ นอกจากสินค้าที่มาจากทรัพยากรธรรมชาติข้างต้นแล้ว ยังมีสินค้าเกษตรและอาหารอีกหลายรายการ ที่ผ่านมา แคนาดาอยากให้ไทยเปิดตลาดเนื้อสุกร แต่ติดปัญหาที่ เนื้อสุกรของแคนาดารวมถึงสหรัฐฯอนุญาตให้มีการใช้สาร เร่งเนื้อแดง ขณะที่ไทยสั่งห้ามเพราะเกรงจะเป็นอันตราย ต่อผู้บริโภค อนึ่ง การค้าระหว่างประเทศของไทยกับแคนาดาใน ปี 2553 ที่ผ่านมา (ส่งออก+น�ำเข้า)มีมูลค่าทั้งสิ้น 2,341 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไทยส่งออก 1,428 ล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ น�ำเข้า 913 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไทยเป็นฝ่าย ได้ดุลการค้า 515 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้การค้าระหว่างกัน มีมูลค่า 936 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐฯ ไทยส่งออก 542 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ น�ำ เข้า 394 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า 148 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สินค้าส่งออกส�ำคัญของไทยไปแคนาดา 5 อันดับ แรก ประกอบด้วย อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป, เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, ยางพารา, กุ้งสดแช่เย็น แช่แข็ง และเครื่องนุ่งห่ม ส่วนสินค้าที่ไทย น�ำเข้าจากแคนาดา 5 อันดับแรกประกอบด้วย เครื่อง เพชร พลอย อัญมณี เงินแท่งและทองค�ำ,ปุ๋ย และยา ก�ำจัดศัตรูพืช และสัตว์, เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ,พืช และผลิตภัณฑ์จากพืช และแผงวงจรไฟฟ้า ที่มา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 27 พ.ค. 54

17


TFPA Trade & Technical

WEEKLY BRIEF 1 - 6 June 2011

ญี่ปุ่น-อียูเล็งเปิดเจรจา FTA

ญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป (อียู) เห็นชอบร่วมกันที่จะศึกษา การท�ำข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างทั้งสองฝ่าย ซึ่งญี่ปุ่นมอง ว่ามีความส�ำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งออกไปยังคู่ค้าอันดับ 3 ของประเทศ อย่างไรก็ดี ผู้น�ำทั้งสองฝ่ายยังไม่มีการเปิด เจรจากันอย่างเป็นทางการ นายเฮอร์มัน ฟาน รอมปุย ประธานสหภาพยุโรป เปิด เผยกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุมสุดยอดร่วมกับนายกรัฐมนตรี ญี่ปุ่นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า แม้หนทางของการท�ำ ข้อตกลงการค้าเสรีกับญี่ปุ่นยังอีกยาวไกล แต่ในเวลานี้มี วัตถุประสงค์ที่ชัดเจนแล้ว “บางคนอาจมองว่าเรายังเดิน หน้าไปไม่มากพอ แต่ผมคิดว่าเราไม่ควรประเมินความหมาย ทางการเมืองของการตัดสินใจของเราต�่ำเกินไป” นายฟาน รอมปุย กล่าวเสริมว่า ผลกระทบทาง เศรษฐกิจและการเมืองที่อาจเกิดขึ้นตามมาหากมีการบรรลุ ข้ อ ตกลงร่วมกัน มีค วามส�ำคัญในเรื่องของการจ้างงาน การเติบโตทางเศรษฐกิจ และอนาคตร่วมกันของทั้งสอง ฝ่าย โดยก่อนหน้าที่จะท�ำการตกลงกัน จะต้องมีการด�ำเนิน กระบวนการเบื้องต้นเพื่อก�ำหนดขอบเขตและตัวแปรของการ เจรจาด้านการค้าเสียก่อน ในส่วนของญี่ปุ่น แถลงการณ์ร่วมจากการประชุมระบุ ว่า นายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรี เห็นชอบกับนาย ฟาน รอมปุย และนายโฮเซ่ มานูเอล บาร์โรโซ ประธาน คณะกรรมาธิการยุโรป ให้เริ่มต้นกระบวนการเจรจาเรื่องข้อ ตกลงการค้าเสรีระหว่างกัน ซึ่งกระบวนการดังกล่าวรวมถึง การร่วมหารือเพื่อตัดสินใจว่าข้อตกลงจะครอบคลุมสินค้า

18

ประเภทใดบ้าง เดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัล รายงานว่า ญี่ปุ่นต้องการ ที่จะเดินหน้าท�ำข้อตกลงกับอียู หลังจากที่เกาหลีใต้บรรลุ ข้อตกลงไปแล้วก่อนหน้านี้ ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่าง เกาหลีใต้และอียูจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนกรกฎาคมที่จะ ถึงนี้ และนักธุรกิจญี่ปุ่นพยายามบีบให้รัฐบาลท�ำข้อตกลงใน ลักษณะเดียวกันบ้างเพื่อไม่ให้ตามหลังคู่แข่งอย่างเกาหลีใต้ ส�ำหรับญี่ปุ่น ได้พยายามกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีการส่ง ออกเป็นแรงขับเคลื่อนส�ำคัญมีความเร่งด่วนมากยิ่งขึ้น หลัง ประเทศประสบกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรง จน ท�ำให้กระบวนการผลิตต้องหยุดชะงัก และเศรษฐกิจของ ประเทศต้องตกอยู่ในสภาวะถดถอย นายบาร์โรโซกล่าวว่า ขั้นตอนการก�ำหนดขอบเขต จะช่วยให้ระดับของความคาดหวังในการเจรจาชัดเจนขึ้น และระบุประเด็นที่เป็นข้อกังวล “เราก�ำลังพูดถึงญี่ปุ่น หนึ่ง ในตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ฉะนั้นการตกลงล้มเหลวไม่ได้” พร้อมกับกล่าวเสริมว่า ข้อตกลงการค้าเสรีจะเป็นประโยชน์ กับทั้งญี่ปุ่นและอียู และน่าจะช่วยแก้ปัญหาความกังวลใจ ต่างๆ อาทิ ข้อก�ำหนดการจัดซื้อของภาครัฐ และการกีดกัน การลงทุนของบริษัทยุโรป อียูได้พยายามเรียกร้องให้ญี่ปุ่นยกเลิกมาตรการกีดกัน ที่ไม่ใช่ภาษี และเพิ่มการจัดซื้อของภาครัฐ ซึ่งนายคังได้ มอบหมายให้สมาชิกในคณะรัฐบาลของเขาหารือกันในเรื่อง ดังกล่าวก่อนจะออกเดินทางไปประชุมที่ยุโรป “ผมเชื่อว่า ด้วยความพยายามในเรื่องนี้ เราจะสามารถบรรลุข้อตกลง สุดท้ายที่จะมีความหมายกับเราอย่างยิ่ง” นายคังกล่าวภาย หลังการประชุม เศรษฐกิจญี่ปุ่นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2554 หด ตัวลงด้วยอัตรา 3.7% ต่อปี และเข้าสู่ภาวะถดถอยจาก ผลพวงของแผ่นดินไหวที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภายใน ประเทศ ซึ่งรวมถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการผลิตใน ภาคอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ทางการญี่ปุ่นเน้นย�้ำถึงความ ส�ำคัญของข้อตกลงการค้าเสรีกับอียู โดยกล่าวว่ามติจากการ ประชุมในช่วงสุดสัปดาห์เป็นการส่งสัญญาณว่าญี่ปุ่นมีความ คิดเห็นที่เปลี่ยนแปลงไปต่อข้อตกลงการค้าเสรี ที่มา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 1 มิ.ย. 54


Vol. 2 Issue 18

THAI FOOD PROCESSORS’ ASSOCIATION Tel : (662) 261-2684-6 Fax : (662) 261-2996-7 www.thaifood.org E-mail: thaifood@thaifood.org

สมาคมผู้ผลิตอาหารส�ำเร็จรูป ขอขอบคุณเว็ปไซต์ ดังต่อไปนี้ 1. http://www.thannews.th.com 6. http://www.dailynews.co.th 2. http://www.thairath.co.th 7. http://www.acfs.go.th 3. http://www.bangkokbiznews.com 8. http://www.posttoday.com 4. http://www.tnsc.com 9.http://www.matichon.co.th 5. http://www.prachachat.net เสนอข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………

th

19


norur: drringrJ r{r.rfi aurnru Yr1fi"..9.P.?.? """"''|"r' {ufi..4.$ff Y"'Y5'' fi yreu.*"nro.}*)

fir a:rrnrfrzufr norur:;{ri5o;rJ U a

pnuraurul5nt:n:?aao!uavnrurJaonn-uorur: (TheFoodSafetyInspection Service: vl

q

--.-,

v

\

y

I

o

ty

o

FSIS) nru"[srn:uvr:']{tnun:araigorl3nrkioonirrriruuvrjr*rifi'tJ:vnolnr:zuf;norur:niollSTn 4

.j

j

oeea v i /^ -,r.-.1 _.6r- -'3_9 a , { (HeaOy-to-tat) tv!0t1JufixJ0!un1:tian tv!04ofl'r:lJuL1J0uL|auann']l:JLau{yt01ail1lytnqou9t:'tuFt0 U

v al a 3 a dd '1a1odrtrioufiortu:vav uilotqrnvrtt{ooduvr5uriasurnrfiuia rriurfiod'aTcrLruaar AtnrnzulSlnn lu9

v]21Uil1 I

o

u

o

y

I

q

ey

a

I

J

q

o

w

o

:r { t0na1:F't'l ttuvul0 { nal't avLuu114 zu !:s n0! nr:yd ntau{ n: uu ?u flt:ynir Lutnonr: {

t!

r

.VY,^-.! 4r

d

a

dd6l

d

I

u u t l J 0 u L l J o Q a u v l : u L u : v 1 4 ? 1 . i n 1 : t i a F l L n u t Q l \ ' r s y t : J 1 at'ltjnuat ?r runi rl f: ft inl l t n S o { t v t f i .c

._4_--r-.-

'q2t'

,.44

o

|

4

e

d

tnSo{l:{:afrt"Lrild'zurun'r:li'rFr'l'r:Javorqo vrfluarur,rnrirfrryfilirl#rfionf;uvrid drr.rfi urvro u"a ._a_

_a-

l-

41

I

9J

t

al

r

4

o

o

u

r

4

y

v

5|

ta:fUtgllJtFlttavtuu0u9t:'']uglofl1J:Lt'lFr :1uav!0ufi:1{Flluuuu'tfi{nn1'l alxJ't:flduftutoila$uJtFtx.t ---â‚Ź-'---- -u

lrifi http:ZZwww.fs gov/PDF/Sa|.monella _comp_guide_0,42211 is.usda. .pdf . d

d

-{

v

yA

a'ir: uuilM\ 0L!: n[a { rytngrt o.ru:ru uav L$rJ :y LutumoLl l,

e

8y

fff,,LSo(.ntti.b1:loc\r'>r10 -..p

iitlx'Ito\2 {1?trt u I&e.,,Tnqdelr -q. do

g

ouv

a'runlJrn: n1:111 { n1: Fl't LYll. o bddorj doc(b s

LYI:Af: o bdde'i det6nb

s

d

I

r

@c.tlr,.rCn,

lkl^ u46wAt,

O

t

1 s&\

Qn ) '-u' /^

r""lilqn

rv4a?,+4

/rt,ln





Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.