เค้าแมวฉบับ 12 : B5

Page 1

หนังสือแจกฟรีของ Cat Radio ที่หวังวาจะออกทุกเดือน

by Cat Radio

เคาแมว ฉบับครบโหล ฮาโหล: Happy Anniversary with B5

Max Jenmana, Youth Brush, Daniel, Whal & Dolph, Telex Telexs, Inspirative, Hers, Dood, Sanamluang Music, ไมค ศรีเวียงพิงค, แวะเที่ยวนาน ฯลฯ

1

แจกฟรี มีไมเยอะ เก็บไวเหอะ ...เมี้ยว

12•2018


2

3


Intro

CAT RADIO DJ Shift

“Friendship always triumphed, whatever the outcome of the fight.”

หลังเสื้อโปโลของหนุ่มคนหนึ่ง บนรถไฟฟ้า เมื่อเริ่มท�ำเค้าแมวฉบับนี้ เราตั้งใจให้เป็นการเฉลิมฉลองแบบแผ่วเบาเนื่องในวาระครบโหล แผ่วเบาเพราะเราเองก็เขินที่เวลาผ่านไปเกือบ 2 ปี เพิ่งมีหนังสือ 12 ฉบับ ทั้งที่หวังว่าจะแจกทุกเดือน แต่ยิ่งเขินยิ่งช้า เราใช้เวลากับเล่มนี้นานมาก แม้รู้สึกว่ารีบตลอดเวลา เข้าท�ำนองยิ่งรีบยิ่งช้า จนผู้เขียน เกือบขึ้นต้นบทบรรณาธิการด้วยประโยคว่า “รีบเท่าไหร่ก็ไม่ทันใจ” และขออภัยทุกคนยิ่งนัก ตอนนี้เราก็ยังรู้สึกเช่นนั้น แต่สาเหตุที่เขยิบต�ำแหน่งของข้อความดังกล่าวมาหน่อย เพราะยังสัมผัสได้ถึงการ เฉลิมฉลองของศิลปินที่เป็นหน้าปกฉบับนี้ รวมทั้งทุกศิลปินที่เราสัมภาษณ์และกล่าวถึง ทุกคนมีการเดินทาง ใกล้–ไกล / ไว–นาน เหมือน/ต่างกันไป ระหว่างนั้น ไม่ว่าจะถึงจุดหมายหรือไม่ เราว่า มีจุดให้เฉลิมฉลองหรือยินดีได้ในหลายระดับ จะยิ้มกว้าง ปรบมือ จุดพลุ หรือไม่ท�ำอะไรเลยก็แล้วแต่มุมมองและ ความต้องการของแต่ละคน แต่เราเชื่อว่าผลงานเป็นหลักฐานหนึ่งของการเฉลิมฉลองหรือความยินดี หากพอใจกับสิ่งที่สร้างสรรค์ขึ้น แม้เพียงชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นก็ก้าวต่อไป ระหว่างทาง เราอาจไม่ได้เดินอยู่คนเดียว ทั้งขณะเฉลิมฉลอง งงงัน และร�่ำไห้ ชนะหรือว่าแพ้ หากมีเพื่อน อยู่เคียงข้าง/เบื้องหลัง หรืออยู่ไหนก็ไม่รู้แต่เชื่อว่าอยู่เสมอ ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนกัน และอยู่ด้วยกันต่อนะ (O,O) พัสวรรณ ศรีลาน บรรณาธิการ

CultMaew Team บรรณาธิการอ�ำนวยการ บรรณาธิการบริหาร บรรณาธิการ

รับสมัครสมาชิกอ่าน และสมาชิกแจก

1. เค้าแมวแจกฟรีและอยากให้ทุกคนอ่าน แต่ด้วยความมือใหม่และงงประจ�ำ อาจ แจกได้ไม่ทั่วถึง ใครสนใจอ่านต่อเนื่อง แบบส่งถึงบ้านพร้อมของที่ระลึกเล็กน้อย ติดต่อที่ cultmaew@gmail.com หรือกรอกใบสมัครในเล่ม (ถ้ามี) 2. ใครสนใจช่วยเราแจก ติดต่อที่ cultmaew@gmail.com เช่นกัน แจ้งชื่อ นามสกุล จ�ำนวนเล่มที่ต้องการ พร้อมรายละเอียดจุดที่น�ำไปแจก เรายินดีส่งให้ พร้อมลงเครดิตตามเหมาะใจ

พงศ์นรินทร์ อุลิศ มณเฑียร เกษศิรินทร์เทพ พัสวรรณ ศรีลาน

ผู้ช่วยบรรณาธิการ พิมพกานต์ เกิดศิริ นักเขียนประจ�ำ ทีมเค้าแมว = ทีมแคท เรดิโอ ดีเจ ครีเอทีฟ โปรโค และทีมงานทุกคน ทีมให้ข้อมูล รู้ไปท�ำแมว บรกรณ์ หลงสวาสดิ์ อัญญารัตน์ ชาตะเมธีกุล วีณา ปิยะพินทุ ปัญญพัฒน์ ชัยศุภมงคลลาภ สมเจตน์ ลายอด นุวัตร ฐิติเหมสกุล ไชยปกรณ์ พุทธธีรภาพ นิสิต พัฒนศิริมากร จามร อามระดิษ มานะ จารุวัฒนกิจ วรพจน์ จันทร์สงวน สิรินดา อินทสุข พิมพ์ญาดา โพธิ วิศวกรเสียง ดิศรณ์ ปานเพ็ง นักอ่านตรวจทาน อิทธิกร เทพทรงวัจจ นักออกแบบ วรวุฒิ ตวงวุฒิกุล นักจัดการ กรภัทร์ บุนนาค นักสื่อสารออนไลน์ อภิชญา โพธิ์ศรี ณฐพัชร จันทร์วศิน ผู้อ�ำนวยการแจก กรุงเทพฯ: ป้อง, เชียงใหม่: ขิม ขอนแก่น: โอ๊ต, โคราช: โจ้ บริษัทผู้พิมพ์ บ. ทวีวัฒน์การพิมพ์ จก. บริษัทผู้ผลิต Taf Rodi A Co.,Ltd. ที่อยู่ 1603 ซ.ลาดพร้าว 94 ถ.ลาดพร้าว แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม 10310 โทร. 02-530-9611 ติดต่อโฆษณา 086-609-0489

จุดแจกเค้าแมว กรุงเทพฯ Cat Radio Cat Radio (ทาวน์ อิน ทาวน์ ซ.5) • Cinema House RCA (ชั้น 3 RCA Plaza) • Concerts & Festivals Cat Expo, T-Shirt Festival, Cat Foodival, Cat Gig, Cat Film, งานต่างๆ ของ Cat Radio และ Paradox (บอยแบนด์แสนใจดีช่วยแจกบนเวทีและที่ต่างๆ) Book Shop Happening Shop (ชั้น 3 หอศิลป์ฯ กรุงเทพ) • Tomorrow Close (ชั้น 2 หอศิลป์ฯ กรุงเทพ) • Zombie Books (RCA บล็อก D) ร้านหนังสือก็องดิต The Jam Factory (คลองสาน) • Cafe Ageha Cafe (สุขุมวิท 77 ซอย 25) • Bico Cafe (The Scene Town in Town) • Black Jack Coffee (ทาวน์ อิน ทาวน์) • Cafe Amazon Town ‘n Town • Cafe Now by Propaganda (ทาวน์ อิน ทาวน์ ซ.11) • Caffe Undici (ซ. พหลโยธิน 11) • Catnip Cafe (ซ.นราธิวาสราชนครินทร์ 8) • Caturday CatCafe (Coco Walk ราชเทวี) • Cinamono (ทาวน์​อิน ทาวน์ ซ.19) • EMPTY TASTY soft serve & cafe (ซ.อารีย์ 1) • Happy Hour (ม.จันทรเกษม) Hidden Backyard ประชาชื่น (เลียบคลองประปา) • I’ am A (สุขุมวิท 77) Loft 77 (อ่อนนุช 33) • Magpie (อ่อนนุช 28) • Old Boy Cafe & Bistro (ทาวน์ อิน ทาวน์ ซ.11) • Pickadaily ถนนสุขุมวิท 77 • Tabi Cafe (บางมด) Tempo (RCA Plaza) • The Box No.5 town in town (ทาวน์ อิน ทาวน์) Tiny Tree (สุขุมวิท 31) • What The Cup coffee ‘n Bakery (ระหว่าง ทองหล่อ ซ.5 กับ ซ.2) • WHITE bake.wine.cafe (ทาวน์ อิน ทาวน์) • บางรัก กาแฟสด (ตลาดเฉยพ่วง, รัชดา ซ.4) • ร่มไม้ไออุ่น (ใกล้โรงเรียนบดินทร์เดชา ลาดพร้าว 94) • สวนครูองุ่น มาลิก (ทองหล่อ ซ.3 ข้างสถาบันปรีดีฯ) • สุขใจ Music House & Cafe (ทาวน์ อิน ทาวน์) • อินทนิล (ปั๊มบางจาก สาขาเอกมัย) อุดมสุข coffee happy & more (รัชดา ซ.3) • Co-Working Space x Cafe Growth Cafe And Co. (สยามสแควร์ ซ.2) • Hubba -To (habito Mall โครงการ The Base, สุขุมวิท 77) • Record & Vinyl Shop Garage Records (ลาดพร้าว ซ.8 แยก 9) • Trackaddict Records (สุขุมวิท 69) • REC. (MRT พหลโยธิน ทางออก2) • ร้านน้อง ท่าพระจันทร์ • อมรมูฟวี่ (ถนนจักรวรรดิ) 4

CAT RADIO DJ SHIFT

ติดตาม CAT RADIO ได้ที่ www.thisiscat.com app: Cat Radio (iOS & Android) Facebook.com/thisiscatradio และ IG / Twitter / Youtube : ThisisCatRadio Restaurant / Bar Breathe Bar (BTS สะพานตากสิน ทางออก 3) • Flock dessert bar & bistro (ซอย พหลโยธิน 18/1 แยก 3) • Okinawa Kinjo (สุขุมวิท 69, BTS พระโขนง ทางออก 3) • PLAY YARD by Studio Bar (ลาดพร้าว ซ.8 แยก 3) • Tacos Factory (อารีย์ ซ.1) • TERUAKI (โครงการอารีย์การ์เด้น) • University ใต้คณะดุริยางคศาสตร์ ม.ศิลปากร (ตลิ่งชัน) • ใต้คณะวารสารฯ ม. ธรรมศาสตร์ (รังสิต) • ใต้คณะวิทยาศาสตร์ มศว (ประสานมิตร) • ส�ำนักหอสมุดกลาง มศว (ประสานมิตร) ส�ำนักวิทยบริการและ เทคโนโลยีสารสนเทศ ม.ราชภัฏจันทร เกษม • Others BB Labsnack (Emporium Tower) Condo เมโทรสกาย รัชดา • Margo Dog Shop (อาบน�้ำ ตัดขน สุนัข แมว) (โครงการ S21 ข้างวัดราษฎร์บูรณะ) Salon de Bear พัฒนาการ • บ.คิวบีอี (อาคารอื้อจือ เหลียง) • ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา Big C สะพานควาย อาคาร อปร. (โรงพยาบาลจุฬา) เชียงใหม่ Book Shop Book Smith (นิมมานเหมินท์ ปาก ซ.3) ร้านเล่า (นิมมานเหมินท์ ปาก ซ.2) • Cafe 8 Days a week (ซ.สุขเกษม) • A While Coffee (ซ.ศิริธร หลังตึก CM Computer) • aka ama (สันติธรรม) • Artisan Cafe (ถ. วัวลาย) • Bart Coffee (มูลเมือง ซ.6) Brewing Room (ถ.เจริญเมือง) • C.A.M.P (ชั้น 5 MAYA) Erbaan Cafe • Factory Coffee (ซ.วัดอุโมงค์) • Graph Cafe (ถ.ศรีภูมิ) • Impresso (นิมมานเหมินท์ ซ. 11) • Kantary Terrace (นิมมานเหมินท์ ซ.12) • Less is More Coffee 17 (นิมมานเหมินท์ ซ.17) • Melt Me Freah Hokkaido Chocolate & Gelato (One

Nimman นิมมานเหมินท์ ซ.1) • Mosaic Coffee (ตรง ข้ามBritish Council Chiang Mai) • No. 39 Coffee (ซ. วัดอุโมงค์) • Now Here (มูลเมือง ซ.6) • Oligo (หลัง มช.) • Pacamara (สาขากลางเวียง) • Penguin Ghetto (หมู่บ้านเพนกวิน) • Ristr8to LAB (นิมมานเหมินท์ ซ.3) Rosaniyom (ถ.ศิริมังคลาจารย์) • Rosaniyom (หลังมช.) Rock Presso (ถ.พระปกเกล้า 13) • Slope Motion – Studio & Cafe (หลังมช.) • Somkiat Cafe (ซอยข้าง วัดโป่งน้อย) • Small Cafe (หน้าวัดเกตุ ซ.1) • Time : it’s time to relax (ถนนคันคลองชลประทาน) • The Barn : Eatery Design (ถ.ศรีวิชัย ซ.5) • Thunder Bird (Thunder Bird Hostel มูลเมือง ซ.6) • TOAST-IT : TOAST IN TOWN (ถ.เจริญเมือง) Wakebakeskate Cafe & Skateboard Collective (ท่าแพ ซ. 2) • Wake Up (ถ.นิมมานเหมินท์ + Icon คูเมือง) • ร้านกาแฟ Cup D (ซอยวัดอุโมงค์) • ร้านกาแฟ RaKuDa • ร้านกาแฟ Thammada • ร้านกาแฟ (โ)สด (หลังมช.) • ร้านกาแฟ เมิงระมิงค์ • ร้านกาแฟ มาหาสมุด (โครงการบ้านข้างวัด) • ร้านกาแฟ ลานดิน + ร้านกลิ่น ขะ หนม (ซอยวัดอุโมงค์) • ร้านนม โต และ สด • ร้านไอศกรีม I Berry (นิมมานเหมินท์ ซ. 17) • ร้านไอศกรีม JOHONEY (ถ.มนตรี ซอย รร.พิงครัตน์) • ร�่ำเปิงกาแฟ • ฮิมดอยคอฟฟี่ (ซอยวัดอุโมงค์) • Gallery & Library Gallery Seescape (นิมมานเหมินท์ ซ.17) • Restaurant / Bar Barefoot Cafe (หมู่บ้านเพนกวิน) • FLOUR FLOUR loaf. (โครงการ D – Condo ถ.สุเทพ) • Minimal Bar (ห้าแยกสันติธรรม) • Our Place Chiang Mai (เจ็ดยอด) Raw truckr (หลังมช.) • We Didn’t Land on the 5

Moon Since 1987 (ศิริมังคลาจารย์ ซ.3) • รออยู่ตรงนี้ (หลังตลาดต้นพ ยอม) • ร้านสหภาพสเต็ก (ซ.วัดอุโมงค์) โกเผือกโกด�ำ (ซอยด้านข้าง The Harbour) • เมิงระมิงค์ (บ�ำรุงราษฎร์ ซ.2) • แจ่มเจริญย์ วินเทจ (สันติธรรม) Shop Dibdee Studio (Thapae East) • Rubber Killer (นิมมานเห มินท์ ซ.11) ขอนแก่น Light Here (เส้นหลัง โรงแรมโฆษะขอนแก่น) • ร้าน บ้านมอ Bakery & Coffee • สถาบันดนตรี เคพีเอ็น (ชั้น 5 เซ็นทรัลขอนแก่น) นครราชสีมา Mademan Barber Club (ถ. โพธิ์ กลาง) • ร้าน Must so Kiss (ถ. บัว รอง) • ร้าน Some Might Say (ถ. สุรนารี) • ร้าน Third World Cafe (ชั้นล่าง 9 Ingh Apartment สี่แยก โรงเรียนรวมมิตร) • ห้องซ้อมดนตรี Studio 1234 (ถ. บัวรอง) เชียงราย ก๋วยเตี๋ยวเรือวิทยุ (หน้า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง) จันทบุรี Dejavu by Wanphenjewely ชุมพร Yellow Bear Bar (ตลาด ร้อยร้าน) ชลบุรี NRA Cafe (สัตหีบ) ตาก a coffee • Bann Tak Coffee Boom (ริมน�้ำปิง อ. บ้านตาก) • PlamucH (ปลัมมัช & นมสด ขนมปัง) (ทางเข้าสนมกีฬากลาง จังหวัดตาก / ตรงข้ามรพ.ตากสิน มหาราช) • รวมมิตร (ถ.ท่าเรือ ข้าง รพ.ตากสินมหาราช) • เถียงนา Coffee and Bakery Farm (ถ. พหลโยธิน ทางหลวงหมายเลข 1) พิษณุโลก a coffee (ม.นเรศวร) • ห้องสมุดคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ (ม.นเรศวร) แพร่ คุ้มเดิม คอฟฟี่ (ถนนคุ้มเดิม) นครปฐม Carpe Diem (ซ.ชยาทิพย์ ทับแก้ว) • Lamun Cafe (หน้า ม. ศิลปากร ทับแก้ว) • Tik Cafe (ม. ศิลปากร ทับแก้ว) • ร้าน P’took นนทบุรี มาเจสติก ทาวเวอร์ ประจวบคีรีขันธ์ The Diasy Cafe ลพบุรี The Mellow (ถ. พระยาก�ำจัด) • โกดัง ซอย 2 (ซ. ราชด�ำเนิน 2) สุราษฏร์ธานี Jasmine & Tea House, Samui • ห้องซ้อมดนตรี ROCKETSRA อยุธยา Junk House Cafe & Bar (ท่ารถ 99 ติด Stockhome Hostel ถ.นเรศวร) อุดรธานี ร้าน Beyond Cafe (ทั้ง 4 สาขา) • ร้าน Dose Espresso Thailand • ร้าน Dose Factory • ร้านเลิศอาภรณ์ (ตลาดห้าแยก) *ติดต่อรับไปช่วยแจกได้ที่ 02-530-9611 , cultmaew@gmail.com ขอบคุณทุก ท่านที่ร่วมด้วยช่วยกัน ทั้งนี้ หากตกหล่นชื่อ จุดแจกใดไป เราขออภัยจากใจ รบกวนแจ้งที่ เบอร์และอีเมลดังกล่าวได้เลย


CAT DIARY HAVE YOU HEARD? DEVENDRA BANHART LIVE! (SOLO SET) 16 JUNE 2018 SIAM MOTORS AUDITORIUM

photo: koy, cat team & friends

“It’s silly to be anything but yourself.” Devendra Banhart นักร้องนักแต่งเพลงเชือ ้ สาย เวเนซุเอลา–อเมริกัน มาเปิดการ แสดงสดไกลถึงเมืองไทยครั้งแรก นอกจากบทเพลงโฟล์กอคูสติกที่ บรรเลงแบบกันเองกับเพื่อนและให้ แฟนเพลงที่เปรียบเสมือนเพื่อน สนิทฟังอย่างใกล้ชิดแล้ว เค้าแมว ยังได้ร่วมวงกับสนทนากับเขาสั้นๆ

Mangosteen Music Fest HONNE live in Bangkok 25-26 June 2018 GMM Live House @ Central World fl.8 photo: ppkrn, Warner Music Thailand

Honne เป็นอีกหนึง่ ศิลปิน ต่างประเทศทีแ่ ฟนชาวไทยรักมาก มาครัง้ แรก เมือ ่ ปีทแี่ ล้วบัตรหมด มาครัง้ ทีส ่ องก็หมดจนต้องเพิม ่ รอบ อีก 1 วัน หนุ่มสาวออฟฟิศเราก็ตด ิ อกติดใจไปดูกน ั หลายคนทัง้ 2 ครัง้ ผู้เขียนเองติดภารกิจงานดึก กว่าจะไปถึงคอนเสิร์ตวันสุดท้าย ก็ เกือบหมดเวลา ท�ำให้ได้ดูเพลง ท้ายๆ แต่ Last but not Least ยิ่งเพลงหลังๆ เสียงกรี๊ดยิ่งดังมาก ให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบ ‘Warm On A Cold Night’ และหลง รักกันตั้งแต่วันแรกรู้จักแบบ ‘Day 1’

ใจความที่เราจ�ำขึ้นใจคือ ไม่ ว่าจะท�ำอะไร อย่าละทิ้งความหวัง เพียงเปิดใจให้เห็นตัวเอง คิดอะไร เชื่ออะไรในขณะนั้น ก็ท�ำอย่างที่ ตนเป็น แต่ไม่ลืมที่จะเปิดตา ศึกษา โลกกว้าง อย่างที่เขากล่าวถึง Bangkok ในเพลงทั้งที่ยังไม่เคย มา และเมื่อได้เห็นกับตา เขาก็ พร้อมจะตื่นเต้นและซึมซับทั้ง บรรยากาศ ชีวิต สิ่งแวดล้อม โดย เฉพาะพุทธศาสนาที่เขาศรัทธา และศึกษาค้นคว้า พอได้เข้าไปใน วัด ได้เห็นพระพุทธรูปและพุทธ ศิลป์ต่างๆ ในไทยแล้วยิ่งหลงรัก การเปิดตาเปิดใจนี่เองท�ำให้ เขามีเพื่อนทั่วโลก เขานับแฟน เพลงเป็นเพื่อนด้วย และสิ่งที่ได้ กลับไปจากเพื่อนในเมืองไทย นอกจากความประทับใจและก�ำลัง ใจแล้ว ยังมีพิณ เครื่องดนตรีพื้น บ้านที่แฟนชาวไทยน�ำมามอบให้ ก่อนคอนเสิร์ต ที่เรารู้สึกว่าเขาดู หลงรักเครื่องดนตรีนี้ตั้งแต่ครั้งแรก ที่ได้สัมผัสและลองบรรเลงทันใด (O,O)

CAT DIARY scrubb 18+ โตแล้วท�ำอะไรก็ได้ 1 กันยายน 2561 ธันเดอร์โดม เมืองทอง ธานี

photo: aubaib

คอนเสิร์ตของวงดนตรีอายุ 18+ ที่โตแล้วท�ำอะไรก็ได้ สครับบ จัดเพลย์ลิสต์ครอบคลุมทั้งเพลงฮิต เพลงจากอัลบั้มใหม่ ‘Season’ และเพลงหาฟังยากที่น่าฟังมาก แน่นอนว่าแฟนๆ ฟินกันอย่าง คึกคักทั้งฮอล จนเรารู้สึก 18 อีก ครั้ง และอีกครั้ง (O,O)

รู้ไปท�ำแมว ศิลปินที่เปิดเวทีให้ดี Devendra คือ Little Fox หรือจีน -มหาสมุทร บุณยรักษ์ กับบทเพลงที่เราคิดถึงมาก

B5 NOW 15 CONCERT 8 กันยายน 2561 อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

‘Love Me, Love me Not’ คือ ชื่ออัลบั้มชุดที่ 2 ที่ 2 หนุ่มจากอังกฤษจัดให้แฟนทั่วโลก ฟังทั้งอัลบั้ม ตั้งแต่ 24 สิงหาคม ซึ่งพวกเขายังอยู่ระหว่างทัวร์ แต่ ก่อนหน้านั้นก็ทยอยปล่อยให้ฟัง ครั้งละ 2 เพลง อย่างต่อเนื่องทุก วันศุกร์สัปดาห์สุดท้ายของเดือน ซึ่งเพลงหนึ่งเป็นตัวแทนจากฝั่ง Love Me และ Love Me Not สังเกตสัญลักษณ์กลมที่เปรียบเป็น สัญลักษณ์ของอัลบั้มนี้ เพลงไหน เห็นวงกลมทึบซีกขวาคือเพลงรัก เพลงไหนทึบด้านซ้ายคือเพลงเศร้า นอกจากการแสดงสดและ บทเพลงที่ครองใจแฟนทั่วโลก มิว สิกวิดีโอกลิ่นอายเอเชีย และชื่อ Honne ซึ่งมาจากภาษาญี่ปุ่น ที่ เขาบอกว่าหมายถึงความรู้สึก แท้จริง ท�ำให้เราเชื่อว่าเขาคงติดใจ ซีกโลกนี้ เช่นเดียวกับที่แฟนเพลง น่าจะติดตามทั้งคู่ต่อไปอีกนาน แล้วพบกันใหม่นะ (O,O)

อีกหนึ่งคอนเสิร์ตที่บัตรหมด อย่างรวดเร็ว ซึ่งน่าจะให้ทั้งก�ำลัง ใจและเฉลิมฉลองแก่กลุ่มนักร้อง มากฝีมือที่แฟนเชียร์มาตั้งแต่ครั้ง เป็นนักร้องหน้าใหม่ในสังกัด เบเกอรี่ มิวสิค เมื่อ 15 ปีก่อน แต่ ปีนี้ ทั้งเบน ชลาทิศ มาเรียม เกรย์ เค้ก ปุญญมันต์ คิว สุวีระ และ โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ คือบุคลากรคุณภาพใน วงการเพลงที่สั่งสมประสบการณ์ มาอย่างเข้มข้น การแสดงสดบนเวทีนี้สะท้อน ทั้งสิ่งที่พวกเขาผ่านมาและเป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน ส่วนแรงบันดาลใจและ ความรู้สึกเพิ่มเติม อ่านต่อได้ใน Interview ฉบับนี้ (O,O)

6

7


CAT DIARY ‘The DEVI of DARKNESS’

ริคกับบุรษ ุ อหังการของสุกี้ คอนเสิร์ตสุดวิจิตร ด�ำดิ่งเชื่อมใจถึงเสียง สู่รัตติกาล นับได้ว่าเป็นคอนเสิร์ตทีจ่ ด ั เต็ม และจัดหนักด้วยโปรดักชัน ่ และพลัง การแสดงอย่างล้นเหลือ และล้นหลาม ออกมาสู่คนดูจนทะลักทะลุเข้าสู่ ความทรงจ�ำและจิตใจอย่างผนึกแน่น เลยทีเดียว คอนเสิร์ต ‘The DEVI of DARKNESS’ ของ ริค วชิรปิลน ั ธิ์ หรือ วชิรปิลันธิ์ โชคเจริญรัตน์ ซึ่ง มีชื่อภาษาไทยที่ครอบรวมความ หมายของมิตรภาพทางดนตรีในชื่อ ว่า “เทวีรัตติกาล กับเหล่าบุรุษ อหังการของสุกี้” และว่ากันว่านี่เป็น คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกและครั้ง สุดท้ายของเธอ คนที่มาชมคอนเสิร์ต ของ ริค ในคราครั้งนี้ ย่อมเป็นแฟน พันธุ์แท้และแฟนพันทางที่ชื่นชมและ นิยมชมชอบผลงานของเธอเป็นหลัก ใหญ่ ซึ่งเห็นได้ถึงความตั้งใจมุ่งหน้า ฝ่าการจราจรในวันสารทจีนที่ติดหนึบ หนับทุกสายทั่วกรุงเทพฯ รวมถึงสาย ฝนที่โหมกระหน�่ำอย่างมิลืมหูลืมตา บทเพลงแรกทีโ่ หมล�ำน�ำเห่กล่อม ขึน ้ มาและสะกดคนดูในโรงละคร ULTRA ARENA หรือ องค์บาก ฮอลล์ SHOW DC นั่นคือ ‘กุหลาบ ฟาร์ซี’ และก็ร่ายยาวด้วยพลังของ ฮาร์ดร๊อก เวิลด์บีตภารตะของเธอ อย่างเต็มเปี่ยมด้วยพลังและความ รู้สึก น�ำไปสู่แขกรับเชิญคนแรกผู้เป็น แรงบันดาลใจและพลังขับเคลื่อนทาง ดนตรีและชีวิตในโสตหนึ่งของเธอ ปฐมพร ปฐมพร หรือพี่พราย ของ ริค วชิรปิลันธิ์ ที่มาพร้อมกับมือ กีตาร์ของวงโมเดิร์นด็อก เมธี น้อย จินดา ในส่วนนี้จะเห็นวิธีการขับร้อง และตีความในบทเพลง ‘ปีศาจ’ ของ พราย ในสไตล์ของริค ที่สร้างความ น่าสะพรึงในบรรยากาศของตัวเพลง ได้อย่างคมเข้ม โดยไม่สูญเสียพลัง ของเพลงในต้นฉบับดั้งเดิม และมี เสน่ห์ไปในอีกแนวทางหนึ่งอย่างน่า ชื่นชม อย่างที่ว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้ เป็นการแสดงตัวตนผ่านเสียงเพื่อ

Song Toon

เชื่อมต่อกับดนตรีอันเป็นพาหะน�ำไป สู่ผู้ชม รวมถึงการเชื่อมมิตรภาพทาง ดนตรีกับเพื่อนฝูงที่ผูกพันกันมาใน ค่ายเพลงเบเกอรี่ มิวสิค ซึ่งจะเห็นถึง สายใยและความสัมพันธ์ที่มิอาจกลั่น ออกมาเป็นถ้อยค�ำ แต่การแสดงบน เวทีสามารถเชื่อมโยงเอาอารมณ์ ความรู้สึกเหล่านั้นมาพบบรรจบกัน ได้ส่งสารสื่อไปถึงผู้ชมอย่างเปี่ยม หัวใจ โดยเฉพาะการกล่าวถึง โจ้ วง พอส หรือ อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้วางวาย ใน ช่วงที่ เอ-พลกฤษณ์ วิริยานุภาพ มือกีตาร์วงพอส มาเป็นแขกรับเชิญ ริคกล่าวถึงโจ้อย่างลึกซึ้งว่า "ความ ตายคือการเกิดที่ไม่แตกต่างกัน" หลังหลั่งไหลความรู้สึกในการขับร้อง บทเพลง ‘รักเธอทั้งหมดของหัวใจ’ ซึ่งเป็นเพลงฮิตของวงพอส บทเพลง ในสไตล์ริคที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัวใน การขับร้องผ่านดนตรีฮาร์ดร๊อก เวิลด์บีคภารตะ จะได้เห็นถึงการ ดีไซน์เสียงที่ข้ามพ้นพรมแดนของ ภาษาเน้นถึงผัสสะของใจสู่ใจ เพียง แค่มีเสียงเป็นพาหะในการเชื่อมโยง ต่อกัน ไม่ว่าตัวของริคเอง กับทีม ดนตรี แขกรับเชิญ และน�ำพลังที่ ผนึกแน่นเหล่านัน ้ ลงไปสู่คนดู รวมถึง การใช้ฉากหลังทีแ่ สดงถึงความเป็นนี โอ-ไซเคเดลิค หรือการเลือก เหตุการณ์ต่างๆ รูปเคารพทีเ่ กีย ่ วข้อง ส่งสารจากตัวเพลงของเธอให้ฟงุ้ ก�ำจายพุ่งดิง่ ออกมา บทเพลงอย่าง 'ติชล ิ า', 'เดวี', 'คุรุ ปางอุ้มบาตร' 'คืนร้อยมาร' ฯลฯ บ่งชี้และบอกถึงความรู้สึกและ อารมณ์ที่ลึกล�้ำด�ำดิ่งตรงนั้นได้เป็น อย่างดี การให้ความส�ำคัญกับเสียงที่ ข้ามพ้นสิ่งที่เรียกว่าภาษา เห็นได้ชัด ในช่วงที่ น้อย วงพรู หรือ กฤษดา สุโกศล แคลปป์ มาเป็นแขกเชิญ และ ต่อเนือ ่ งถึง ป๊อด โมเดิร์นด๊อก หรือ ธนชัย อุชชิน ที่พยายามให้ด้นสดเอา พลังและอารมณ์ความรู้สึกของเสียง จากหัวใจโดยตรง โดยไม่ต้องผ่าน กระบวนคิดของสมองออกมา และ พยายามเล่นกับคนดูให้รับถึงผัสสะ ตรงนี้ แขกรับเชิญอีกสองรายคือ คิว วงฟลัวร์ หรือสุวีระ บุญรอด ที่มาขับ ขานและเปล่งพลังทางเสียงประชัน กันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย และ สุกี้-กมล สุโกศล แคลปป์ ในฐานะ มือกีตาร์ที่ถูกรับเชิญมาเล่น ได้แสดง ให้เห็นถึงการเชื่อมต่อทางดนตรีที่มี ความผูกพันในความเคารพนับถือ ระหว่างศิลปินต่อศิลปินในการ รังสรรค์งานออกมา รวมถึงสายใย สายใจระหว่างแม่กับลูกสาว ริคกับ ฬาเม การแสดงที่น่าสนใจอีกสอง อย่างที่อยู่ในจักษุของผู้ชมคือ การ เต้นภารตานาฏยัม โดย MASA กับ การแสดงชุดดาบรัสเซีย DARK

by Song Dox

Diarist: Daosook Panyawan Photo: The DEVI of DARKNESS Team

UTOPIA นับเป็นรสชาติที่หาได้ยาก ในคอนเสิร์ตอย่างแน่นอน และแสดง ถึงความงามของสุนทรียะที่เรียก ว่าการเต้นร�ำบนโลกใบนี้ ในช่วงท้ายกับการล�ำ่ ลาผ่าน บทเพลงของโมเดิร์นด๊อก ทีม ่ กี ารดูเอ็ต ระหว่างป๊อดกับริค โดยมีสุกี้และเมธี เล่นกีตาร์ในแบบอะคูสติก เป็นความ น่าประทับใจที่ส่งท้ายอย่างธรรมดา ทว่ามีอะไรให้รู้สึกมากกว่าที่เห็นของ สายสัมพันธ์กว่าสองทศวรรษของคน 8

ดนตรีเหล่านี้ กับบัตรชมคอนเสิร์ตที่ วางขายเพียง 1,000 ใบ จะเห็นได้ ถึงความเป็นคนดนตรีอิสระที่เดิน ตามความเชื่อมั่นและความบริสุทธิ์ ของดนตรีและเสียงที่สื่อสารต่อกัน รวมถึงการน�ำตัวตนห้วงลึกภายใน ของตัวเองมาแบ่งปันให้สัมผัสรู้สึก กันระหว่างตัวเธอและผู้ชม นี่คือพลังทางดนตรี นี่คือพลังของ เสียง และนี่คือ ริค วิชิรปิลันธิ์ ที่เป็น หนึ่งเดียวแบบเธอเอง 9


INTERVIEW

แมวค้น B5 Happy Anniversary

“แค่ได้กลับมา ก็เป็น ก�ำไรส�ำหรับชีวิตเรา แล้ว ที่ได้ท�ำอะไรที่ เราอยากจะท�ำ” เค้ก

CELEBRATE

B5 ได้แก่ เบน-ชลาทิศ ตันติวุฒ,ิ โต๋-ศักดิส ์ ท ิ ธิ์ เวชสุภาพร, คิว สุวรี ะ บุญรอด, มาเรียม เกรย์ และ เค้ก อุทย ั ปุญญมันต์ คือ คณะนัก ร้องนักดนตรีทม ่ี ผ ี ลงานเมือ ่ ไร เราก็ รู้สก ึ ถึงวาระพิเศษ นับแต่ซงิ เกิลแรก ‘บางสิง่ ’ ในปี 2546 อัลบัม ้ และ คอนเสิร์ต ‘Event’ ในปี 2548 บทเพลงที่พวกเขาขับขานในฐานะ น้องใหม่จากค่ายเพลงเบเกอรี่ มิวสิก เป็นการเรียบเรียงผลงานของ ศิลปินรุ่นพี่ในรูปแบบใหม่ ราวกับ สานต่อประวัติศาสตร์ของค่าย เพลงที่อบปรุงผลงานได้กลมกล่อม แต่แตกต่าง ในช่วง 2537–2547 แม้ปิดกิจการแล้ว แฟนเพลงไม่ น้อยยังคิดถึง และติดตามเหล่า ศิลปินที่ก้าวเดินต่อบนถนนดนตรี เป็นระยะ

NOW15

Interview: Passawan Srilan Photo: Nupat Arjkla

10

นับจากวันแรกที่แฟนๆ รู้จักใน นาม B5 ผ่านไป 15 ปีพวกเขา กลับมาอีกครั้ง ในวันที่หลายคน ไม่เคยได้ยน ิ พวกเขาในวันทีย ่ งั เป็น นักร้องหน้าใหม่ 5 คน ร้องเพลง ร่วมกันโดยมีคนหนึง่ เล่นเปียโนด้วย ในนาม B5 แต่อาจรู้จก ั ในนามอืน ่ อย่างไรก็ดี เมื่อเราไปงานเปิด ตัว ‘Project Launch & Friends Meeting’ เมื่อเดือน มกราคม ที่พวกเขาเปิดมิวสิกวิดีโอ ‘วีนส ั ’ ครัง้ แรก และเล่าถึง Now15 หรือสิ่งที่ B5 จะท�ำในปีนี้ เราเห็น ผู้คนล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็นแฟนเก่า หรือแฟนใหม่ เพื่อนพี่น้องศิลปิน ล้วนดูดีใจกับการกลับมาของ B5 ครั้งนี้ Cat Tshirt5 ต้นเดือน มิถุนายน คือ เวทีแรกที่ B5 โชว์ เต็มๆ ในเทศกาลดนตรีปีนี้ และ เราพบว่าบรรยากาศเต็มไปด้วย ความไพเราะ พลัง มิตรภาพและ ความสุขของแฟนๆ คอนเสิร์ต Now15 ในเดือน กันยายน บัตรหมดตั้งแต่วันแรกที่ เริ่มจ�ำหน่าย เปรียบเหมือนงาน ฉลองที่คาดว่าทั้งแฟนเก่าแฟนใหม่ และเหล่าศิลปิน รวมทั้งทีมงาน เบื้องหน้าเบื้องหลังล้วนมีความสุข บัดนี้คอนเสิร์ตจบแล้ว บทเพลงที่พวกเขาขับร้อง หลาย คนก็ฟังจบหลายรอบแล้ว บทสัมภาษณ์นี้สะสมข้อมูล จากสมาชิกบางส่วนมาตั้งแต่ต้นปี จนคุยกับพวกเขาครบวงอีกครั้ง กลางปี และกว่าผู้อ่านจะได้เห็นก็ ปลายปี แต่เรารู้สึกว่าการเฉลิม ฉลองยังคงอยู่ในบทเพลง B5 เช่น เดียวกับมิตรภาพที่สัมผัสได้ตลอด การสนทนา

‘วีนัส’ ...จุดไฟรักให้กับฉัน ซิงเกิลแรกจาก NOW 15: 31 ม.ค. 61

หลังจากปล่อยซิงเกิล‘วีนัส’ B5 เป็นอย่างไรบ้าง เบน: ผมว่ามีฟีดแบ็กที่ดีจากแฟน คลับกลุ่มเดิมๆ เลยนะฮะ แต่ ดนตรีสมัยนี้เฉพาะกลุ่มมากๆ น่ะ เพลงที่เด็กๆ ฟัง เราก็ไม่ได้ฟัง สมัยก่อนศิลปินคนหนึ่งออกมา ทีวี ทุกสื่อต้องเปิด แต่ในปัจจุบันนี้ ทุก คนอยู่ในมือถือ หรือว่าอยู่ในสื่อที่ เขาเลือกเสพได้ เราก็เลยยังไปไม่ ถึงกลุ่มกว้าง คิว: แล้วอีกอย่าง เพลงเราก็ไม่ใช่ เพลงใหม่ แล้วเพลงที่เราเลือกมาก็

ฟีดแบ็กและความรู้สึกในวันนั้น ถึงขั้น“จุดไฟรักให้กับฉัน“ ได้เลย ไหม เค้ก: เรารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ นะฮะ คิว: ถึงขั้นเค้กจะสั่งท�ำไฟแช็ก ไว้ จุดในคอนเสิร์ต (หัวเราะทั้งวง)

‘เห็นฉันไหม’ ....ฉันอยู่ตรงนี้

ซิงเกิลที่สองจาก NOW 15: 27 เม.ย.61

“B5 ก็คือวงที่มีอยู่ แล้ว แค่มีศิลปิน เดี่ยว 5 คนที่กว่า จะมารวมตัวกันได้ ยากมากน่ะ“ เบน

ไม่ใช่เพลงที่ร้อยล้านวิวแน่นอนเรา เลือกจากสิ่งที่เราชอบ แล้วมีความ ผูกพันกับเราน่ะ เราก็อยากที่จะดึง เอาสิ่งเหล่านั้นกลับมา ให้เป็นกลิ่น B5 เก่า แต่ไม่ได้หมายความว่าทุก เพลงที่ก�ำลังจะปล่อยมาหลังจากนี้ จะเหมือนกัน ต้องลองฟังดู เค้ก: วันแรกที่เราปล่อยเอ็มวี ‘วีนัส’ น่ะครับ เป็นวันเดียวกับที่ เราจัดแถลงข่าว (Project Launch & Friends Meeting) ซึ่งในวัน นั้น (31 ม.ค. 61) ผมรู้สึกว่าฟีดแบ็กต่างๆ ดีเกินคาดมาก อย่างตัว ผมหายจากวงการไปนานพอ สมควร ไม่ได้รับรู้ความรู้สึกแบบนี้ น่าจะ 10 ปีน่ะ วันนั้นเป็นวันแรกที่ เรารู้สึกว่าเขายังต้อนรับเราอยู่ แล้วเราแฮปปี้มากครับ

11

เป้าหมายของการกลับมาออก ซิงเกิล รวมถึงสิ่งที่ท�ำทั้งหมดใน โปรเจกต์ Now15 คืออะไร เค้ก: เส้นชัยอยู่ที่คอนเสิร์ตตั้งแต่ แรกอยู่แล้วฮะ แต่ผมไม่ได้คิดว่า B5 พอกลับมาแล้ว จะเป็นร้อย ล้านวิว ผมรู้สึกว่า แค่ได้กลับมาก็ เป็นก�ำไรส�ำหรับชีวิตเราแล้ว ที่ได้ ท�ำอะไรที่เราอยากจะท�ำ ผลตอบ รับที่กลับมาท�ำให้ผมรู้สึกเหมือนได้ ย้อนกลับไปเมื่อ 15 ปีที่แล้ว เหมือนกับเราเริ่มสร้างอะไรกับ เพื่อนแล้วค่อยๆ สะสมแฟนเพลง เก่าๆ ค่อยๆ ให้เขาได้กลับมาเห็น แล้วก็คนใหม่ๆ ที่สนใจ ผมรู้สึก ดีใจที่ได้ท�ำ คิว: เริ่มจากเรามีความสุขที่ได้กลับ มาท�ำเพลง มาร้องเพลงด้วยกัน มาเที่ยวด้วยกัน มากินข้าวด้วยกัน มาหัวเราะด้วยกัน สนุกด้วยกัน มา แชร์อะไรต่างๆ ผมว่าตรงนั้นเป็น สิ่งแรกที่ท�ำให้เกิดการกลับมารวม กันด้วย เหมือนสนอง need ตัว เองด้วยส่วนหนึ่ง มาเรียม: เราไม่ได้คาดหวังว่าจะ ต้องดัง เบน: ที่เราคาดหวัง คือ 5 คนได้ กลับมาท�ำงานด้วยกัน คาดหวังกัน มานานแล้ว ถึงชื่ออัลบั้ม ‘Now15’ ผ่านไป 15 ปีได้ท�ำกันสักทีหนึ่ง คิว: หลักๆ เหมือนกลับมาเริ่มท�ำ ให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักเราในแบบที่ เป็นเรา เราไม่ได้ไปโอนอ่อนตาม เขา โต๋ ต้อง แร็ป เค้กต้องหาท่อน ค�ำที่ขยี้ใจอกหัก เรียมแต่งโป๊ๆ ซึ่ง ไม่บอกก็โป๊อยู่แล้ว มาเรียม: (หัวเราะ) คิว: ถ้าเราไป Way นั้นหมดก็ ไม่ใช่ B5 ก็ ผมรู้สึกว่า เราเป็นตัว เรานี่แหละ แล้วท�ำเพลงที่อีก 10–20–30 ปีข้างหน้ากลับมาฟัง แล้วยังดีอยู่น่ะ เค้ก: ส�ำหรับตัวผม สิ่งที่คาดหวัง ก็คือคอนเสิร์ตที่จะเกิดขึ้น แต่ว่า ส่วนตัว สิ่งที่คาดหวังและได้มาแล้ว คือความสุขที่ได้ท�ำ


เบน: ความคาดหวังที่เกิดขึ้นมา ตลอด 15 ปีนี้ ไม่ใช่เฉพาะพวกเรา 5 คน แต่เหมือนกับมีเสียงของ แฟนเพลง แฟนคลับตลอดว่า “เมือ ่ ไหร่จะกลับมารวมตัวกันคะ” “เมือ ่ ไหร่จะมีอล ั บัม ้ คะ” “ เมือ ่ ไหร่ จะได้ดูคอนเสิร์ตเต็มของ B5 อีก” เป็นสิ่งที่คาดหวังกับเรามา ตลอด 15 ปี เป็นความฝันเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งแฟนเพลง รวมถึง ตัวศิลปิน แล้วจุดประสงค์หลัก คือ ได้ท�ำในสิ่งที่พวกเรารัก แล้วก็มอบ ให้คนที่รอฟัง

มาเรียม: เพราะว่าคราวที่แล้วใน คอนเสิร์ต B5 Event (2548) ที่ เราจัดขึ้น เราปิดท้ายด้วยเพลงของ Soul After Six ที่ชื่อว่า ‘เคียง เธอ’ (ร้องเพลง) แล้วเพลง ‘เห็นฉันไหม’ พอ มาฟังเนื้อหาจริงๆ มีความคล้าย เพลง ‘เคียงเธอ’ แถมยังเป็นเพลง ของพี่ๆ Soul After Six อีก จาก “นานเพียงใด ฉันยังอยู่” ก็ เหมือนต่อด้วย “เห็นฉันไหมว่าฉัน ยังอยู่ตรงนี้” เบน: เวลาอาจจะท�ำให้เราห่างกัน ไป แต่สุดท้ายแล้วเธอหันกลับมา เธอจะเห็นฉันอยู่ตรงนี้ ที่รอมอบ ความรักให้กับเธออยู่

แฟนๆ รู้สึกว่ารอมานาน แล้วเรา เองรู้สึกว่าเราหายไปนานไหม มาเรียม: ไม่รู้สึกว่าหายไป อาจจะด้วยความที่เราเจอกันตลอด ในเชิงของการใช้ชีวิต เราก็เห็นกัน ตลอดเวลา คิว: เชิงมิตรภาพ เชิงเพื่อนฝูง ก็เจอกันตลอด 15 ปี มาเรียม: เวลาที่มีแฟนคลับถาม B5 เมื่อไหร่จะกลับมา เราก็บอก ว่า เราอยู่นี่แหละ ไม่ได้ไปไหนเลย (หัวเราะ) แต่สุดท้าย พอมานั่งคิด จริงๆ เออเราก็ไม่ได้ออกอะไรกัน มานานมาก

‘แผลเป็น‘ ...กอดคอไปด้วยกัน ซิงเกิลที่สามจาก NOW 15: 27 เม.ย.61

หมายถึงไม่มีเพลงใหม่ ไม่มีผล งานใหม่ร่วมกัน? มาเรียม: ใช่ แต่เพราะเราเจอกัน ตลอด ก็เลยท�ำให้รู้สึกว่า บางทีเรา ก็ลืมไปว่า มีคนรอคอย เหตุผลที่ ‘เห็นฉันไหม’ เป็น ซิงเกิลล�ำดับสอง คิว: ชุดนี้จะมีเพลงที่เราร้องรวม กันครบอยู่ 3 เพลง ที่เหลือเป็น เพลงของแต่ละคนเหมือนชุดแรก แต่คนอื่นก็ ไปช่วยประสาน คือยังอยากได้ภาพที่เป็น 5 คนรวม กัน เพลงนี้ก็เป็นเพลงที่คุณ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร ร้องด้วย เบน: อย่าง ‘วีนัส’ เรารู้สึกว่าได้ ความรู้สึกเดิม มีความเป็น B5 มี ความเพลงเบเกอรี่ฯ เพราะในส่วน ตัวของเรา คือเพลงที่เราผูกพันเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ด้วยซาวด์ ที่ทั้งเปียโน ออริจินัลแบบ B5 รวมถึงลูปกลอง เรารู้สึกว่าลิงก์กับปัจจุบันได้ น่าจะ เป็นซิงเกิลที่ดีในการเปิดตัว 5 คน รวมกัน ส่วนเพลง ‘เห็นฉันไหม’ คือออริจินัล B5 เลย ดนตรี การ ประสาน การเล่นเปียโน คิว: ถ้าเป็นแผ่นของชุดที่แล้วก็ อารมณ์ประมาณเพลง ‘ที่ว่าง’ น่ะ เค้ก: เนื้อหาต่างๆ จรรโลงใจด้วย แล้วมีความต่อเนื่อง

“เราอาจจะดึงความทรงจ�ำเก่าๆ กลับมา แต่สุดท้ายแล้ว เราก็อยู่ ของเราอย่างนี้ ไม่ได้หายไปไหน” มาเรียม

12

ซิงเกิล 3 เพลง ‘แผลเป็น’ คิว: เราเลือกเพลง ‘แผลเป็น’ ของพี่โป้ โยคี เพลย์บอย ช่วยกัน เลือกแหละ แต่ผมกับเบน เคยคิด เคยมโนเพลงนี้ไว้เยอะ ตั้งแต่ช่วง เล่นละคร Miss Saigon แล้วก็ ลืมไป จนกลับมารวมกัน เพลงนี้ ออริจินัลของพี่โป้เป็นกีตาร์โปร่งตัว เดียว แล้วก็มีพี่ริค วชิรปิลันธิ์คอรัส ซึ่งเราว่าเป็นเพลงเศร้าที่ฟังแล้วยิ้ม น่ะ ยิ้มแบบอารมณ์ดีด้วย นั่นคือ ความรู้สึกแรก แล้วพอมาอยู่กับคน พวกนี้ เรียบเรียงออกมา (หัวเราะ) ...ดีไหมไม่รู้นะ แต่ เป็นเพลงที่ฟัง แล้วหัวเราะได้ น้อยเพลงนะ เบน: ฟังเพลงนี้แล้วอารมณ์ เหมือนคนเจ็บจนบ้าไปเลย บ้าไป กับความเจ็บ หัวเราะให้สะใจไป เลยแล้วกัน เราฟังแล้วเรารู้สึกว่า การเรียบเรียง การร้องของแต่ละ คน รวมถึงการเล่นเพลงของโต๋ท�ำ ไปถึงจุดนั้นได้ เหมือนคนๆ นั้น โดนกระท�ำจนข�ำกับความเจ็บปวด นี้แล้วฮะ คิว: เป็นเพลงที่มีเครื่องดนตรีเต็ม วง มีกลอง เป็นเครื่องดนตรีสด ใช้ประสานเสียงกัน เค้ก: อย่างเพลงแรก ‘วีนัส’ จะ ออกเท่ๆ นิดหนึ่ง แบบสังคมเมือง ความเหงากลางคืน เพลงที่สอง ‘เห็นฉันไหม’ ก็อบอุ่น ซาบซึ้ง ส่วนเพลงนี้จะต่างไปเลย มีความ บ้าคลั่ง มีความสู้กันแบบสติแตก เบน: ตอนที่เราอัดเพลงนี้เสร็จ เรารู้สึกว่า อยากให้เพลงไปถึงคน ดูน่ะ อยากให้สิ่งที่เราท�ำไปสู่คนน่ะ เพลงดีจนเราอยากให้ “ฟังเถอะ” นั่นแหละคือที่มาทั้งหมดที่ต่อยอด มาเป็นเอ็มวี

เล่าถึงมิวสิกวิดีโอเพลงนี้หน่อย คิว: ผู้กำ� กับเจ้าเดิม (สาลินี เขมจรัส) เค้ก: แต่ว่าอารมณ์เปลี่ยนตาม เพลง แล้วผมก็ไม่รู้จะท�ำให้พีกกว่า นี้อย่างไรแล้วล่ะ ส�ำหรับเรื่องราว ในเอ็มวี(หัวเราะ) อยากให้ดูกัน แล้วการเรียบเรียงเพลงจะทริบิวต์ ถึงวง Queen นิดหน่อย ไม่ได้ก๊อป แต่ว่า Inspire by Queen มาเรียม: พวกเราชอบ Queen ชอบ Freddie Mercury มาก เบน: คิวเขาจะบอกว่า Queen เป็นไอดอลของเขาน่ะ อย่างผมก็ ชอบ มาเรียมก็ชอบ ทุกคนชอบ Queen น่ะ แล้วน่าจะมีโอกาส สักทีหนึ่งที่เราได้ท�ำอะไรแบบนี้ เพื่อทริบิวต์ให้กับศิลปินที่เรารัก มาเรียม: สมัยอยู่มหาวิทยาลัย เคยมีรูปเฟรดดี้ตั้งอยู่ แล้วมี เหมือนธูปเทียนน่ะ (หัวเราะ) ไว้ขอพร ไว้บชู าเลยนะ คือชอบมาก เวลาเพื่อนฝรั่งถามว่านับถือศาสนา อะไร เราบอก I pray to Freddie Mercury

เพลงเพราะน่ะ แล้วเป็นเพลงที่ มาเรียมไม่อยากให้หายไปไหน เวอร์ชั่นเราหรือเวอร์ชั่นออริจินัล เราก็รู้สึกว่าอยากให้เพลงนี้วน เวียนอยู่ แล้วมาเรียมมีโอกาสได้ไป ร้องกับพี่ๆ Kidnappers ด้วย ตอนช่วงที่พี่เขายังไม่มีนักร้อง เขา ก็ชวนมาเรียมให้ไปช่วยร้องหน่อย แล้วเพลงนี้ดีจริงๆ ทั้งเนื้อหา ทั้ง ตัวเพลง พูดถึงความรู้สึกของการ โดนกั๊ก แบบไปไม่รอดแล้วนะ แต่ เรายังฝืนกันไปอยู่ ยังลากถูกันไป อยู่ ซึ่งมีความรู้สึกหนึ่งเรารู้สึกว่า ปล่อยเถอะ ปล่อยมือได้แล้ว เพื่อ ให้อะไรดีขึ้นกว่าเดิม นั่นแหละ ก็ เลือกเพลงนี้ เพราะว่าชอบส่วนตัว มากๆ แล้วก็น่าจะดีน่ะ เบน: ส่วนตัวชอบเพลงนี้ที่มา เรียมกับโต๋ท�ำมากแค่ขึ้นอินโทรมา เรารู้สึกประทับใจแล้ว เรารู้สึกจาก ใจที่มาเรียมร้อง มาเรียม: อื้ม...รู้สึกเป็นปลื้ม เค้ก: จริงๆ เพลงของมาเรียมดัง มากนะฮะสมัยก่อน แต่ผมเพิ่งมา ได้ยินตอนที่มาเรียมร้อง แล้วผม รู้สึกเหมือนเบน ฟังครั้งแรกรู้สึก เลยว่า ต้องเป็นหนึ่งในเพลงดังของ อัลบั้มนี้

Now ของแต่ละคน

นอกจากสามซิงเกิลแรกที่ร้อง ร่วมกันแล้ว เช่นเดียวกับชุดก่อน จะมีเพลงที่แต่ละคนเลือก และร้อง เป็นเสียงหลัก โดยมีเพื่อนๆ ช่วย กันร้องประสาน

เบน ‘แค่เพียงเขาไม่เคย’

เบน: ก็เป็นเพลง Side B ของ Crescendo แล้วเพลง ‘แค่เพียง เขาไม่เคย’ เป็นเพลงที่ผมรู้สึก ประทับใจมาก ก็ตามเนื้อหาครับ คือ บางทีเราเป็นคนปากหนักน่ะ แล้วปากหนักเสียจนวันหนึ่ง มีคน โทรมาบอก ชอบคนนี้ ในใจเราก็ ชอบ แต่เขาบอกก่อนก็เหมือนตี ตราไว้แล้วน่ะ วิธีร้องกับดนตรีในเพลงนี้เป็น อย่างไรครับ คิว: ดีมาก (หัวเราะ) เบน: เหมือนได้กลับไปร้องเพลง สมัย 15 ปีที่แล้ว ช่วงหลังๆ 10 ปีที่ผ่านมาผม พยายามหาจุดกึ่งกลาง ตัดเทคนิค ตัดทุกอย่างออกไป เหลือเพียงแค่ อารมณ์น่ะครับ แต่พอกลับมา เพลงนี้เหมือนกับว่าต้องดึงความ รู้สึกเมื่อ 15 ปีที่แล้วออกมาด้วย ก็เลยมีอะไรเดิมๆ กลับเข้ามาอยู่ ในเพลง ให้ได้อารมณ์ความรู้สึก นั้น ซึ่งก็ดี รู้สึกแอบรักเพื่อนคนนั้น ใหม่

เค้ก ‘เที่ยงคืน’

เค้ก: ของผมเป็นเพลง ‘เที่ยงคืน’ ของพี่บอย โกสิยพงษ์ที่ร้องโดยพี่ โป้ ในชุด ‘Simplify’ จ�ำได้ว่าเมื่อ ชุดที่แล้ว (‘Event’) เพลงนี้เป็น หนึ่งในเพลงที่อยากร้องเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็มีเพลงอื่นเข้าไปก่อน แล้วชุดนี้ ส่วนใหญ่เพือ ่ นๆ เป็น เพลงช้าเยอะแล้ว ผมรู้สก ึ ว่า ถ้าเกิด เราเติมเพลงทีม ่ จี งั หวะเข้าไปน่าจะ ครบรสมากขึน ้ เราก็เลยเลือกเพลง ทีส ่ ามารถท�ำให้มจี งั หวะในนีไ้ ด้ แล้ว ณ ปัจจุบัน เราโต เรา ผ่านช่วงดราม่าในชีวิตมาแล้ว ถ้า เกิดให้ผมไปร้องเพลงอกหัก เหมือนเมื่อก่อน อาจจะไม่อินเท่า เมื่อก่อน ก็เลยรู้สึกว่าเอาเพลงที่ ฟังแล้วสบายใจ เพลินๆ เพราะ เพลง ‘เที่ยงคืน’ เป็นเพลงที่เรา แอบคิดถึงใครบางคน แล้วเที่ยงคืน นอนฝันถึงเขาไปเลย เนือ ้ หาไม่ ซีเรียสมาก แต่กใ็ ห้ความส�ำคัญที่ การร้อง เทคนิคการร้อง ทัง้ สูง ทัง้ ต�ำ่

มาเรียม ‘ปล่อย’

คิว ‘Happy Anniversary’

มาเรียม: เป็นเพลงของ Kidnappers ที่มาเรียมชอบ รู้สึกว่าเป็น

คิว: ผมเลือก ‘Happy 13

anniversary’ ครับ ของพี่นาเดีย สุทธิกุลพานิช ผมชอบอัลบั้มของพี่เดียทั้ง 2 ชุด เลย (‘Welcome Sweet Morning’: 2543, ‘Resources To Keep My Life Vital’: 2544) มีความเป็น Lounge แบบเก่า เราชอบเพลงเลาจ์น่ะ เรา ฟังแล้วมีความสุข แต่เราไม่ได้ท�ำ เป็นเลาจ์ เราท�ำให้มีกลิ่นของแจ๊ส มีกลิ่นอยู่ในบาร์แล้วมีเปียโนน่ะ อยู่ในมวลบรรยากาศของหนังเก่า เป็นภาพเพ้อฝัน กลางคืนมีหอไอ เฟล มีพระจันทร์ที่มีหน้ายิ้ม ร้อง โอเปร่า ดวงดาวเยอะๆ มาเรียม: Moulin Rouge! คิว: เราชอบเนื้อหา ความมีภาษา ฝรั่งเศสเข้ามาแทรกอยู่ด้วย ภาพที่ อยู่ในหัว เหมือนเราก�ำลังมีความ สุขกับความรักกับคนๆ หนึ่งที่วันนี้ เราจะจัดดินเนอร์กัน ครบรอบ ความสุข ที่เรามีกัน แล้วเรารู้สึกว่า เราเหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่ในโลก นิยาย ไม่ร้น ู ะว่า accent ฝรัง่ เศส เราจะดีหรือเปล่า (หัวเราะ) แต่หวัง ว่าคนฟังจะมีความสุขเหมือนกัน มาเรียม: ฟังแล้วเห็นภาพจริงๆ นะ ตั้งแต่ต้นเห็นภาพหน้าต่างแบบ ฝรั่งเศส (หัวเราะ) คิว: ฟังแล้วมีความสุข คือครึ่ง แรกกับครึ่งหลังจะคนละโทนกัน แต่อยู่ในมวลของความสนุกสนาน โต๋: คือผมว่า คนจะไม่เห็นมุม โรแมนติกของคิวเท่าไหร่เขาเป็น คนให้หวานก็ได้ คิว: คนจะรู้จักเราส่วนใหญ่จาก ‘ฤดูที่ฉันเหงา’ หรือแหกปาก ตะโกนโวยวายบนเวที เราอาจจะ ไปร้อง เพลงเพราะๆ เบาๆตาม งานการกุศลบ้าง แต่ว่าอันนี้เราจะ ได้บันทึกไว้ด้วย แล้วก็มีเพื่อนๆ มาช่วยคอรัสช่วงหลัง ซึ่งเราฟัง แล้วเป็นภาพในหัวเรา เป็นเพลงที่ เราอยากจะได้ยิน เค้ก: ผมรู้สึกว่าพอคิวร้องเพลง แล้วเป็นอีกมิติหนึ่งของคิวน่ะ คือ คิวเก่งมากอยู่แล้วท�ำเสียงได้ทุก แบบในโลกนี้ แล้วมีความนุ่มนวล มีความดัดจริตทีน ่ ่ารักอยู่ในเพลงน่ะ (หัวเราะ)

โต๋ ‘บีบมือ’

โต๋: ผมว่าเสน่ห์อย่างหนึ่งของ B5 คือ เราได้ฟังอีกมุมหนึ่งของเพลง เช่น ‘ปล่อย’ ท�ำเป็นอีกแนวหนึ่ง ของผมชุดแรกที่เคยท�ำ ‘คนไม่ พิเศษ’ คือ ผู้ชายที่เอาเพลงผู้หญิง มาร้อง เอามา adapt ก็เลยมอง หาจาก DOJO City ผมว่าเพลง


‘บีบมือ’ เป็นเพลงที่นึกถึงอารมณ์ ตอนนั้น เพราะว่าเพลงนี้ เป็นเพลง ที่ฮิตที่สุดของ Niece คู่กับเพลง Kiss พอเป็นผู้ชายร้องก็เป็นอีก แบบ อุ่นๆ ดนตรีเพลงนีจ้ ะท�ำเป็นสวิงที่ เปียโนสมัยนีช้ อบเล่นกัน คือโจทย์ เพลงนีเ้ ราตัง้ ใจท�ำให้เหมือนคนไม่ พิเศษ แล้วตรงกลางจะมีการร้อง ประสาน มีอารมณ์ดส ิ โก้เข้ามานิดๆ

ดนตรีของ B5

ภาพรวมของเพลงชุดนี้ที่โต๋รับ หน้าที่ดูแลด้านดนตรี เป็นอย่างไร โต๋: ส�ำหรับดนตรีโดยรวมแล้ว ก็ ยังเป็นสไตล์ของ B5 อยู่ครับ แต่ ผมว่าสิง่ ทีเ่ ปลีย ่ นคือ เสียงร้องทุก คนก็เปลีย ่ น วิธเี ล่นของเราก็เปลีย ่ น พอมีเวลาอยู่ด้วยกัน ก็ได้ลอง หลายๆ แบบ อย่างพาร์ตดนตรีที่ แปลกไป โดดมา 2 เพลง ก็คือ เพลง ‘วีนัส’ ที่เปิดตัว ซาวด์จะมี ลูกกลองที่เราคุยกันว่ามีกลอง อิเล็กทรอนิกส์เข้ามาหน่อยจะได้มี จังหวะบ้าง แต่คงความเป็นเปียโน อยู่ แล้วก็จะมีอีกเพลงที่มาเต็มๆ เพลง ‘แผลเป็น’ นี้เป็นการเรียบ เรียงแบบไม่มีกฎเกณฑ์และเงื่อนไข ใดๆ ใครมีไอเดียอะไร อยากให้ เป็นมิวสิคัล อยากให้ตรงนี้เป็นสวิง นะ ตรงนี้เป็นประสานโอเปร่านะ ปรึกษากัน มาเรียม: มีทุกอย่าง โต๋: เพลงสมัยนี้ส่วนใหญ่ท�ำที่บ้าน ก็ได้ แต่ละคนอยู่บ้านตัวเอง ส่ง เมลไป อัดกีตาร์ส่งกลับมา แต่การ ท�ำงานชุดนี้ เราย้อนกลับไปท�ำ แบบไปสตูดิโอด้วยกัน อนาล็อก เลย อัดร้องด้วยกัน อัดเปียโนก็ใช้ เปียโนแกรนด์จริงๆ อย่าง ‘เห็นฉัน ไหม’ จะเห็นชัด เพราะเป็นแค่เปียโน กับร้อง จะได้ยินเสียงเหยียบ pedal ได้ยินเสียงว่าเล่นไลฟ์อยู่ อัดร้องพร้อมกัน ก็จะเป็นซาวด์ทผ ี่ ม ว่าเป็นชุดที่ Back to Basic มาก เค้ก: สนุก เพราะว่าสีสันของใน เพลงชุดนี้หลากหลายกว่าชุดที่แล้ว ด้วยนะฮะ เบน: เราว่าการท�ำเพลงของ อัลบั้มชุดนี้สนุกกว่าชุดที่แล้วอีกนะ สาเหตุที่สนุกกว่าชุดที่แล้วเพราะ อะไรครับ เบน: สมัยก่อนเรายังเด็กอยู่ โต๋ แยกไปท�ำที่บ้าน ท�ำเพลงเสร็จแล้ว ส่งมาจะได้มาเจอกัน ก็ในห้องอัด ที่มานั่งร้องกัน แต่ว่าอัลบั้มชุดนี้ ขั้นตอนคือเรามาอยู่ด้วยกันเลย เพลงแต่ละเพลง เริ่มท�ำด้วยกัน ตรงนั้นเลย ไอเดียมาจาก 5 คน ช่วยกัน

B5 Now15 CONCERT

เวลาเราอยู่ด้วยกัน 5 คน ใน ฐานะทีท ่ ก ุ คนเป็นนักร้องนักดนตรี มาตรฐานทีจ ่ ะบอกว่าเท่านี้ พอแล้วเพลงนีไ้ ด้แล้ว อยู่ตรงไหน มาเรียม: เรามีพไี่ ก่ (สุธี แสงเสรีชน : โปรดิวเซอร์) คอยกวาด พวกเรา ใส่กันเต็มที่อยู่แล้ว อยู่ด้วยกันที่ Karma Studio (ท�ำเดโม่) หรือ ว่าที่ Studio 28 (บันทึกเสียง) เราคิดอะไรเราก็ใส่ แล้วพี่ไก่เขา เอากลับไปฟัง คัดแต่สิ่งที่เขาคิดว่า มันดี ตัด หรือเพิ่มอะไร ให้พอดี เค้ก: พี่ไก่เทสต์ดีเนอะแล้วก็เรียบ เรียงเก่ง เสร็จแล้วเขาก็ยังส่งให้เรา ฟังอีก เหมือนเขาก็ยังอยากได้ฟีด แบ็กจากพวกเราด้วยแหละ ผมว่า B5 โชคดีที่มีพี่ไก่ที่ทั้งเก่งด้วย แล้ว ก็เปิดโอกาสให้เราลองใส่อะไร ต่างๆ ด้วย ฉะนั้น ความลงตัวว่า แค่ไหนพอแล้ว อันดับแรกเลย พี่ ไก่เป็นคนช่วยขีดเส้นให้ก่อน แล้ว อันดับที่สองคือ พอเราฟังแล้วเรา รู้สึกอย่างไรเราก็ปรับรายละเอียด นั้นต่อ

เบน: ผมว่าทั้งหมดทั้งมวลมาจาก ความช�ำนาญ คอนเสิร์ต B5 Now15 ก็จะมาจากความเป็นตัว ตนของเราทั้ง 5 คน ที่มาแชร์ ไอเดียกัน ส่วนที่จะออกมาให้คน เห็น ก็จะเป็นความเป็นไปได้ที่ทีม Production จะรับความคิดนี้ของ เราได้หรือเปล่า เอาไปต่อยอดต่อ ได้หรือเปล่า คิว: อยากจะเน้นไปที่การร้อง การเล่าเรื่อง อะไรที่เล่าเรื่องผ่าน 5 คนมากกว่าสิ่งอื่นให้ความส�ำคัญ มากที่สุด เบน: ถ้าเราเป็นแฟนเพลงของ B5 จริงๆ เราคงแค่อยากฟังเพลง เพราะๆ ที่ 5 คนนี้ร้อง ที่เล่นให้ฟัง

Happy Anniversary สิ่งที่เราคิดถึงที่สุดในการท�ำงาน B5 ด้วยกัน เบน: คิดถึงทัวร์ มาเรียม: การใช้ชีวิตด้วยกัน คิว: อยากไปทัวร์มาก อยากไป เที่ยวกับเพื่อน เบน: ก่อนหน้านี้คิดถึงช่วงเข้า ห้องอัด แล้วเราก็ได้สมหวัง มี ความสุขมาก แล้วตอนนี้ก็คิดถึง เรื่องทัวร์ มาเรียม: เพราะยุคนั้นเราอยู่ด้วย กันตลอด เบน: สมัยก่อนศิลปินออกอัลบั้ม ปุ๊บจะได้ไปแคมปัสทัวร์ ซึ่งตอนนี้ เราโหยหาเรื่องนั้นมากเลย คิว: ฟีลลิ่งเหมือนเด็กไป ทัศนศึกษาด้วยกันน่ะ สนุกตั้งแต่ ขึ้นรถบัสแล้วน่ะเฮ้!เฮ้! อยู่บนเวทีก็ สนุก ลงมาก็สนุก ตื่นมาก็สนุก ไม่ อยากกลับ ซึ่งในชีวิตจริงเราไม่ สามารถท�ำอย่างนี้ได้บ่อยๆ นะ เค้ก: ผมรู้สึกว่าเวลาที่แยกกัน ท�ำงานของตัวเอง พลังงานไม่ เหมือนกัน เบนไปท�ำของเบน ก็จะ เป็นอีกแบบหนึ่ง แต่พอมารวมกัน กลายเป็นอีกแบบหนึ่ง เหมือนดรา ก้อนบอล

คอนเสิร์ตของ B5

อัลบั้มเสร็จแล้ว เวลาจะท�ำ คอนเสิร์ตด้วยกัน เรา 5 คนคิด เรื่องอะไรบ้าง เบน: เพลงส�ำคัญที่สุด เพลงที่ 5 คนอยากร้อง กับเพลงที่คนฟัง อยากจะฟัง โต๋: คิดว่าคนฟังอยากฟังอะไร คิด ว่าเขาอยากเห็นอะไรบ้าง มาเรียม: มีอะไรที่อยากเล่นอยาก ท�ำเยอะมากเลย เค้ก: แค่ตัวเพลง 2 อัลบั้มรวมกัน ก็ประมาณ 20 กว่าเพลง เบน: เราไม่อยากท�ำคอนเสิร์ตที่ นั่งดูกัน 4–5 ชั่วโมง เพราะว่าเราก็ เป็นห่วงสุขภาพคนฟังด้วย เราน่ะ อยากร้องอยู่แล้ว แต่ว่าบางทีอะไร ที่เยอะไปก็เลี่ยน เราอยากให้เป็น คอนเซปต์ที่อิ่ม พอดี เป็นคอร์สที่มี ออเดิร์ฟ ตบท้ายด้วยของหวาน แล้วก็อิ่มกลับบ้าน กลับบ้านไปแล้ว ยังนึกถึงว่า อาหารมื้อนี้อร่อยจัง เลย คอนเสิร์ตวันนี้เพลงเพราะจัง เลย ต่อยอดกันไปว่า อาหารมื้อนี้ที่ เขาเคยกิน 5 ปี 10 ปี ก็ยังนึกถึง อาหารมื้อนั้นอยู่ ก็เลยอยากให้เป็น ช่วงเวลาที่อยู่ตรงนั้น ซึ่งเป็นเรื่อง ยากในการที่จะท�ำให้พอดีและ กลมกล่อม

ความทรงจ�ำจากทัวร์ B5 15 ปี ก่อน ถึงทุกวันนี้ มาเรียม: ทุกครัง้ ทีเ่ รามารวมกัน มาสัมภาษณ์ เราก็จะชวนนัง่ กินข้าว กันสักหน่อย นัง่ ท�ำอะไรกัน หลายๆ อย่าง จะมีภาพจ�ำจากยุคนัน ้ ทีเ่ รา จ�ำได้ เล็กๆ น้อยๆ เวลาเราไปต่าง จังหวัด หรือเวลาเราไปทัวร์ทไี่ หน เค้ก: ยังจ�ำภาพแฟนเพลงขี่ มอเตอร์ไซค์ตามรถตู้สมัยก่อน สมัยนี้คงต่างไปแล้ว 14

มาเรียม: เมื่อก่อน ศิลปินกับคน ฟังเพลงยังแบ่งแยกออกอย่าง ชัดเจน เขามาถึงตัวเราไม่ได้ง่าย เหมือนสมัยนี้ที่มีโซเชียลมีเดีย มี ทุกอย่างที่มาติดตามเราได้ มาคุย กับเราได้ มาออกความคิดเห็นได้ คิว: ไม่ได้หมายความว่าสมัยนี้ไม่ ดี แต่ว่าพอเราย้อนกลับไป เราโชค ดีที่ได้เกิดมาในยุคที่คาบเกี่ยว ระหว่าง ดิจิตอลกับอนาล็อกพอดี เราได้มีประสบการณ์ 2 แบบ เรา เคยออก B5 เป็นเทปด้วย เป็น CD เป็น MP3 แล้วมาในแบบ Streaming มีหมดเลยฮะ มาเรียม: เย้!

ณ ชีวิตช่วงนี้ เราอยู่ในสภาวะแบบ นี้ฮะ ถ้าเกิดกลับไปฟังชุดที่แล้ว เสียงเราเด็กมาก ซึ่งตอนนั้นเรายัง ไม่รู่ว่าเราเสียงเด็ก แล้ววิธีการ เรียบเรียง วิธีการร้องเพลง วิธีการ ถ่ายทอดอารมณ์ก็ไม่ได้เป็นเหมือน ทุกวันนี้ฮะ ไม่ใช่ความแตกต่าง แบบขาวกับด�ำน่ะ อาจจะเป็นเฉดสี ที่เข้มมากขึ้นฮะ ด้วยวัย ด้วยประสบการณ์ สิ่งที่ท�ำ เบน: ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่ท�ำไม่ดีนะ ทุกวันนี้ ไปฟังเพลงตอนนั้นมันก็ดี ของมัน แต่จะให้เรากลับไปร้อง อย่างนั้น เราก็ไม่ร้อง ข้อดีคือตรงนี้ แหละตัวตนของเรา ณ ตอนนั้นอยู่ ในเพลงแล้วล่ะ สิ่งที่ได้ยินตอนนี้ ก็เป็นตัวตน ตอนนี้ มาเรียม: ใช่ค่ะ

มอง B5 เป็นเรื่องของความทรง จ�ำ หรืออะไร เบน: ก็แค่เป็นวงๆ หนึ่งที่มีผล งานเพลงน้อยมากครับ (หัวเราะ) เราพูดว่าเป็นวงเฉพาะกิจก็จริง แต่เราไม่เคยคิดว่าวง B5 คือมาท�ำ ตรงนี้แล้วจบ เรามองถึงภาพอีก 10 ปีก็ยังมี B5 อยู่ อีก 20 ปี เราก็จะเห็น B5 เราไม่เคยคิดว่า B5 เป็นโปรเจกต์แล้วปิดเคส เมื่อ ไหร่พร้อมอีกแล้วมาท�ำ B5 ก็คือ วงที่มีอยู่แล้ว แค่มีศิลปินเดี่ยว 5 คนที่กว่าคิวจะมารวมตัวกันได้ยาก มากน่ะ แล้วก็ท�ำให้มีผลงานเพลง น้อยครับ มาเรียม: ส่วนใหญ่คนจะมองว่า เป็น Nostalgia จริงๆ แล้วไม่ใช่ เราอาจจะดึงความทรงจ�ำเก่าๆ กลับมา แต่สด ุ ท้ายแล้ว เราก็อยู่ ของเราอย่างนี้ ไม่ได้หายไปไหน แต่ ส�ำหรับคนฟังอาจจะเป็นอย่างนัน ้

แล้วสิ่งที่เหมือนเดิมล่ะ เบน: มิตรภาพ คิว: ไม่ต้องมานั่งคุยกันอะไรที่ เครียด เรามองทุกอย่างเป็นเรื่อง ตลกหมดน่ะ(หัวเราะ) คุยเรื่องอะไรกันเยอะสุด นอกจากเรื่องเพลง เค้ก: กิน มาเรียม: หนัง เพลง เค้ก: แล้วก็คลิปที่ตลกๆ แซวกัน ไปแซวกันมา หมาเหมอ เบน: กับเรื่อง copy–paste ใน กรุ๊ป ถ้าเพื่อนคนหนึ่งพิมพ์อะไร เลวๆ มาก็จะ copy–paste กัน ยาวเลย คิว: ผ่านไปเดือนหนึ่งแล้วบางที ยังก๊อปอันนั้นกลับมาอีก มาเรียม: งง (หัวเราะ) คิว: เปลี่ยนชื่อกรุ๊ปกันทุกวัน เปลี่ยนรูปทุกวัน(หัวเราะ) เค้ก: แล้วคนอื่นไม่รู้ก็หาไม่เจอ

โปรเจกต์ Now15 ก็ว่าด้วยเรื่อง ความเป็นปัจจุบันของ B5 เค้ก: ครับ มาเรียม: Now (นาว) เราคือ Now (นาว) คิว: เน่านะ เค้ก: เน่ากัน 15 ปี (หัวเราะ)

คนที่ขยันเปลี่ยน ขยัน copy– paste คือใครคะ ทั้งวง: คิว เบน: รู้เลยถ้าตอนเช้าโผล่มา อ๋อ คิวตื่นแล้ว (หัวเราะ)

B5 NOW : LIFE

B5 ทุกวันนี้ ภาพรวมแต่ละคน เป็นอย่างไร เค้ก: ก็โตขึ้นนะฮะ คิว: สังขาร ความคิด เนื้อเสียง สุขภาพ ทุกอย่างเปลี่ยนฮะ เค้ก: ผมชอบค�ำที่คิวเคยพูดใน สกู๊ปตอนที่เราอัดเสียงกัน เหมือน เราบันทึกเรื่องราวของชีวิตเราน่ะ บางคนเขาบันทึกผ่านไดอารี่ แต่ว่า เราบันทึกเป็นเสียงในเพลงไม่ใช่มี แค่เสียงเรา มีการถ่ายทอดอารมณ์ มีบางอย่างอยู่ในนั้น ท�ำให้เรารู้ว่า

ใครอ่านไลน์ช้าสุด ทั้งวง: โต๋ โต๋: หึๆ มาเรียม: บางเรื่องต้องการค�ำ ตอบ แล้วนี่ก็เงียบน่ะ โต๋: ไลน์ผม ผมไม่ค่อยตอบฮะ ชอบโทรคุยมากกว่า? โต๋: โทรคุยก็ไม่คุยครับ 15


มาเรียม: บางอย่างต้องการค�ำ ตัดสินของ 5 คนว่า เออๆ โอเคๆ แล้วทุกคน....โอเคโอเคโอเคโอเค... เงียบ โต๋: ส่งสติ๊กเกอร์ไง (เพื่อนในวงบางคนหัวเราะ บางคน บอกว่าสติ๊กเกอร์ โต๋ก็ไม่ค่อยส่ง จากนั้นก็คุยกันต่อ)

บางร้านเจ้าของร้านต้องเดินเข้ามา ดูว่าเขาเลี้ยงฉลองถูกหวยกันมา เหรอจ๊ะ เบน: ประจ�ำๆ แล้วใช้ชีวิตเหมือน ถูกหวยทุกวัน แต่ก็กินได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ข้างทางยันแพง

ความรู้สก ึ ของสมาชิก B5 ถึง B5 เค้ก: สิ่งที่อยู่กับ B5 มาตลอดเลย หนึ่งคือ มิตรภาพ แล้วก็ สอง ผม ว่าเป็นความสุขที่ได้ท�ำ อย่างชุดนี้ ผมไม่ได้รู้สึกว่าผมกลับมาท�ำงาน คืองานเรา บริหารร้านอาหาร ก็จะ มีความยุ่งยากอยู่แล้ว แต่ผมว่าพอ มาท�ำ B5 ไม่เหมือนรู้สึกว่ามา ท�ำงาน คิว: เหนื่อย แต่ก็เหนื่อยไปตามวัน น่ะ ถึงเวลาที่คนต้องนอน เข้า ห้องน�้ำ เหนื่อยล้า คือสิ่งที่มนุษย์ รู้สึกอยู่แล้ว แต่ระหว่างนั้น สนุกไง ไม่มี โอ้เอ้หนี ง่วงบ้าง มีหิว มีล้า แต่ข้างใน อื้อหือ เอาอีกๆ ข�ำคอ แหบคอแห้ง เบน: ส�ำหรับเบน B5 เหมือนเป็น โปรเจกต์ชาร์จแบตน่ะ ผมรู้สึกว่า มาท�ำงานกับ B5 เหมือนไม่ได้มา ท�ำงาน เค้ก: มาสนุก

งานที่แต่ละคนท�ำอยู่นอกจาก B5 โต๋: ตอนนี้ผมท�ำงานกับ Sony Music ที่จีนกับไต้หวันด้วยครับ มี ปล่อยเพลงภาษาจีนของตัวเองแล้ว ได้บินไปเล่นที่นู่น ก็มีไปร่วมงาน เป็น Featuring กับศิลปิน ที่ ฟิลิปปินส์ก็เป็นภาษาอังกฤษ คือ เราแต่งเพลงแล้วสมัยนี้โลกมันเล็ก ลงแล้วน่ะครับ มุมหนึ่งก็เป็นการ ท้าทาย เราได้ออกไปร่วมงานกับ ศิลปินนอกประเทศก็ได้ท�ำในสิ่งที่ เราตั้งใจอยากท�ำ ผมชอบ ผมรู้สึก ตั้งแต่หลายปีแล้วว่าวันหนึ่ง เราก็ อยากให้เพลงไทยดังออกไปข้าง นอก ไม่อย่างนั้นเราจะเป็นฝ่ายรับ ของเขาอย่างเดียว ก็เลยเดินทาง เยอะ ตอนนี้ก�ำลังเริ่มท�ำชุดใหม่บิน ไปอัดที่เมลเบิร์น

ใครกินเก่งสุด เบน: เบน ยอมรับเองเลย โต๋: ก็ชัดเจน คิว: ไม่เรียกว่าเก่งแล้ว มันผิด ธรรมชาติมนุษย์น่ะ(หัวเราะ)นั่งกิน คนเดียว 5–6 พันได้น่ะ เบน: ผมโตมาในครอบครัวใหญ่ (หัวเราะ) แล้วครอบครัวผม ต้อง กินทุกคน เป็นค�ำพูดติดปากพ่อแม่ เบนว่า “กินให้พอ” “สั่งให้พอ” “ไม่พอสั่งอีก” แล้วบ้านเราจะต้อง มีต้ม ผัด แกง ทอดให้ครบ ก็เลยติดเป็นนิสย ั ไม่ว่าจะไป ทีไ่ หน ต้องมี อย่างน้อย 4–5 อย่าง แล้วก็ไปกินกับคนอืน ่ ไม่ได้เพราะ เราจะเกรงใจ ถ้าไป คือ ขอเลีย ้ ง เถอะ เพราะว่าเราจะสัง่ อย่างนี้ คิว: แล้วหมดด้วยนะครับ เบน: เวลาเราไปกินกับแฟนสอง คน เราก็สั่งแบบนี้ หรือว่าอยู่กับ พ่อแม่ เราก็สั่งประมาณนี้ เค้ก: สมมติมีไซส์เล็ก กลาง ใหญ่ ก็ต้องเอาใหญ่สุดน่ะ ทุกอย่าง คิว: อย่างเราๆ ก็จะเป็นเน้นชิมไง อย่างละนิดอย่างละหน่อย อันไหน อร่อยแล้วเดี๋ยวค่อยเบิ้ล แต่เบนจะ “เอาอันนี้ๆๆๆๆ“ (หัวเราะ) จน

ก็กลับมาท�ำงานที่นี่ด้วย ผมว่าก็ เติมไฟซึ่งกันและกันนะ เป้าหมาย ของผมตอนนี้คือ ไป join ทุกๆ อย่างที่เจอข้างหน้าก่อน เท่านี้เลย อาจจะไม่เวิร์กก็ได้ แต่เอนจอย สนุกสนานดี มีความสุข เบนตอนนี้ท�ำอะไรอยู่บ้างครับ เบน: ก็มีรายการล้างตู้เย็นครับ ที่ เห็นชัดๆ เรื่อยๆท�ำให้คนเห็นตัว เราในอีกมุมมองหนึ่ง หลายๆ คน อาจจะมองภาพว่า แต่ก่อนเบน ชลาทิศเป็นนักร้อง เป็นเกย์ แต่ว่า ตอนนี้เขาเห็นภาพเราเป็นพี่ เป็น เพื่อน เป็นน้องที่คุยกันอย่างสนิท สนมมากขึ้น แล้วก็มีหลายรายการ มีละครที่ผ่านไป อย่าง ชายไม่จริง หญิงแท้ เร็วๆ นี้ก็จะมีรายการใหม่ เป็นรายการท�ำอาหารนะครับ แล้ว ก็มีรายการ ที่ท�ำกับโต๋ The Mask Singer ซิทคอม “ครอบครัวตัวสลับ” เล่นคู่กับพี่คิ้ม ก็เป็นซีซั่นที่ 2 แล้ว นะครับ ส่วนเรื่องเพลง ตอนนี้มา โฟกัสกับ B5 คือโปรเจกต์ตัวเองก็ ยังท�ำอยู่ แต่ว่าพอเราเริ่มท�ำ B5 เราก็เลยมาโฟกัส ปีนี้เราก็ให้ B5 ไป เรากะว่าปีหน้าจะเป็นปีของงาน โซโล่ แล้วก็คอนเสิร์ตเดี่ยว แพลน คร่าวๆ คือมีเพลงของเรา แล้วมี เพลงทีท ่ ำ� กับพีค ่ นนู้นคนนี้ กับน้องๆ วง The Parkinson กับพีๆ ่ วง Soul After Six กับพีก ่ ้อ ณฐพล ศรีจอมขวัญ นะครับ แล้วทัวร์ สิงคโปร์ ครับ

B5 : Member’s Other Work

ทุกวันนี้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ บ้างแล้ว เป้าหมายในการ ท�ำงานเพลงของโต๋คืออะไร โต๋: ตอนเด็กๆ เราฝันว่าอยากให้ เพลงออกไปสู่ศิลปินเมืองนอกรู้จัก แต่พอเราได้ท�ำงานมาเยอะๆ ได้ ออกไปเจอคนเยอะๆ ผมว่าตอนนี้ผมเปลี่ยน MindSet ใหม่ เมื่อก่อน เราต้องการท�ำงาน ให้ดี ให้เพอร์เฟกต์ ผมมีความสุข สมัยนี้กลับกันเลย ผมว่าเราต้องมี ความสุขก่อน แล้วเดี๋ยวงานจะดี Mind Set นี้เกี่ยวข้องกับทั้งการ ท�ำดนตรี ตอนขึ้นเวทีด้วย เพราะ ผมรู้สึกว่า เมื่อก่อน อยากขึ้นไป แล้ว เราต้องท�ำให้ดี ทุกอย่างต้อง เพอร์เฟกต์ตามที่เราคิดไว้ จนขึ้น ไปแล้วเกร็ง ไม่เป็นธรรมชาติน่ะ ผมว่า พอเราท�ำงานเยอะๆ ก็เลย กลายเป็นอย่างเดียวเลยคือ เรา ต้องไม่กลัวเวที ไม่กลัวคนดู เพราะ ว่าเปียโนเดี่ยวได้ ผมว่าท�ำอะไร ก็ได้ มีความสุขกับการท�ำ ได้ไปเล่นต่างประเทศบางทีใช้ เวลาท�ำใจค่อนข้างจะล�ำบาก เรา อยู่ที่นี่คนพอรู้จักว่าเราท�ำอะไร พอ ไปที่นั่น เขาอาจจะเคยได้ยินเพลง บ้าง แต่ไม่รู้จักว่าคนนี้เป็นใคร ก็ เหมือนได้ฝึกตัวเอง เป็น New Artist ด้วย ในเวลาเดียวกัน แล้ว

การทีเ่ ป็นกรรมการในการ ประกวดหรือ commentator ใน รายการต่างๆ ให้อะไรแก่เราบ้าง เบน: ให้ความกดดัน (หัวเราะ) ถ้าเกิดใครรู้จักผมก็จะรู้ว่าผมไม่ ชอบตัดสินอะไร เพราะว่าเราเองก็ ไม่ชอบให้ใครมาตัดสินเรา แล้วเรา เป็นคนที่มีความเชื่อว่าแต่ละคนมี เอกลักษณ์ มีความสวยงามในแบบ ของเขา เพราะว่าเราก็อยากให้คน อื่นมองเราแบบนี้ คนอื่นอาจจะ มองเราภายนอก อาจจะเป็นคน ก้าวร้าว แต่ก็จะมีมุมมองที่เวลา เราน�ำเสนองานว่า เราอยากให้คน เห็นมุมนี้นะ ซึ่งการที่จะไปตัดสิน ผมไม่เห็นด้วย แต่ด้วยหน้าที่ เป็น รูปแบบของการให้ความบันเทิง เราก็เลยตอบรับที่จะไป แล้วก็ได้ เปิดโอกาสให้คนด้วย เหมือนเราได้ โอกาสมา ณ ตรงนี้ เราก็ได้เปิด โอกาสให้กับศิลปิน หรือคนที่เขา ชอบในการร้องเพลง เหมือนกับ เรา ได้โอกาสที่ดีครับ

16

เค้ก ร้านมามาริน ก๋วยเตี๋ยว บ้านบึงที่เพิ่งเปิดเป็นอย่างไรบ้าง คิว: มาแล้วๆ ช่วงที่รอคอย เค้ก: ก็ดีครับ จริงๆ แล้ว สาขาที่ เปิดที่เอกมัย 15 ก๋วยเตี๋ยวบ้านบึง เป็นต้นแบบ แล้วเราก็ศึกษาลูกค้า ว่าลูกค้าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร แล้วก็ตั้งใจว่า คงเปิดหลายๆ สาขาในอนาคต มาเรียม: ว้าว มีเทคนิคในการบริหารร้าน อาหารอย่างไร เค้ก: จริงๆ แล้วเราก็ไม่ใช่ Expert นะฮะ เพิ่งเริ่มต้น ผมรู้สึกว่า ธุรกิจนี้เกี่ยวกับคน เยอะมาก ถ้าเกิดไปเรียนระบบมา ก็ได้ประโยชน์ แต่พอไม่ท�ำสักอย่าง หนึ่งก็ ระบบก็ไม่มีความหมาย อะไร ตั้งแต่ท�ำมาสิ่งที่ได้เรียน รู้มากที่สุดคือ จะท�ำอย่างไรให้คน อยากท�ำไปกับเรา แล้วก็เป็นบท เรียนราคาแพง เพราะว่าที่ผ่านมา ก็มีความเสียหายหลายอย่างที่เกิด ขึ้น ตอนที่เรายังท�ำอะไรไม่ถูก หลังๆ ก็เลยมาศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง คนมากขึ้นครับ คิวครับ ภายในปีนี้ Flure จะมี ซิงเกิลใหม่อีกไหม คิว: อยากให้มี ซึ่งก็ตอบไม่ได้เลย เมื่ออยู่กันครบวงอาจจะบอกได้ เป็นวงปริศนา เป็นวงที่คาดเดา อะไรไม่ได้ ไฟมาก็มอดได้ ไฟที่ มอดอยู่ บางทีก็ไหม้ขึ้นมาได้ แล้วงานส่วนตัวของคิวล่ะ ที่ท�ำ อยู่ตอนนี้ คิว: ไม่มีฮะ เล่นเกม กิน ช่วงนี้ยังไม่รับงานละครเวทีใดๆ คิว: เราไม่ได้เป็นคนเลือกนะ คือ ถ้ามีโอกาสก็อยากทดลอง เพราะ เป็นอีกศาสตร์หนึ่งที่เราสนใจและ ชอบ แต่ว่าชั่วโมงบินของเรา ชีวิต เรากับการแสดงยังน้อยอยู่ ไม่ เหมือนกับการร้องเพลงที่ผ่านมา 15 ปี ลองผิดลองถูก จนเจอจุดที่ เราเก็ตมันประมาณหนึ่ง เราด�ำรง มันได้อยู่ แต่ว่า ทางด้านการแสดง ยังใหม่มากส�ำหรับเรา แล้วเราก็ รู้สึกว่าชอบ เหมือนการร้องเพลง เป็นที่ที่เวลาเราร้องแล้วตัวเรามี ความสุขแล้วได้หลุด เหมือนเราได้ ไปท่องเที่ยว ไปอยู่ในห้วงหนึ่ง ซึ่ง ตรงนั้นก็ยังเป็นพื้นที่ที่เรามีความ สุขอยู่

มาเรียม กิจการบราวนี่ไม่อยู่กับ ตัวเป็นอย่างไรบ้าง Cat Foodival ที่ผ่านมา มาเรียม: ก็ดีนะคะ ให้น้องไปขาย มาเรียมก็ไปยืนกินอยู่แป๊บหนึ่งแล้ว ก็ออกมา (หัวเราะ) ขายดีมากเลย วันนั้นคนเยอะมาก ดีค่ะดี ท�ำอะไรอีกในช่วงนี้ มาเรียม: วนเวียนอยู่เบื้องหลังค่ะ อัดคอรัสให้คนนู้นบ้าง อัดสปอต โฆษณา เพลงโฆษณา เพลงละคร เรื่อยๆ ไม่มากมาย คิว: ผมกับมาเรียมคล้ายๆ กัน ก็ จะมีงานพวกอ่านสปอตโฆษณา หรือว่า อะไรแบบเงียบๆ ที่เราไม่ ได้บอกใคร ตลอดการสนทนา เราสัมผัสได้ ถึงความใกล้ชิดสนิทสนม ประสา เพื่อนที่คบกันมา 15 ปี แม้แต่ละ คนต่างมีภารกิจ และการมานั่งคุย กันพร้อมหน้าในระยะเวลา ยาวนาน อาจมีไม่บ่อยนัก แต่ ปริมาณย่อมไม่ส�ำคัญเท่าคุณภาพ และมิตรภาพ ใครยังไม่จุใจ ลองฟังเพลง อัลบั้ม ‘Now15’ หรือไปดูการ แสดงสดของ B5 สักครั้งหนึ่ง ไม่ ว่าเพลงไหน หรือเวทีไหน เราว่าไม่ ธรรมดา (O,O) รู้ไปท�ำแมว - บอย โกสิยพงษ์ คือผู้ตั้งชื่อ B5 สุธี แสงเสรีชน คือ โปรดิวเซอร์คน แรกและคนปัจจุบันของ B5 - เสื้อยืด B5 ที่จ�ำหน่ายในงาน แคททีเชิ้ต 5 เรียงชื่อเพลงคละกันทั้ง ชุด 1 กับ ชุด 2 โดยเค้กบอกว่า “ไม่ อยากให้รู้สึกแปลกแยกจากกัน” - มาเรียมบ้านอยู่ทองหล่อ แต่ชอบ ไปรับของทีส ่ งั่ ซือ ้ ไว้จากไปรษณีย์ สาขาลาดพร้าว เพราะสะดวกในการ จ่ายภาษี และชอบเดินในระยะทางไม่ ไกลนัก เช่น จากทองหล่อไปอาร์ซเี อ - เค้กมีร้านอาหารอีกร้านหนึ่งที่เปิด มา 8 ปีแล้ว ชื่อ LOAF Bakery and Cafe ที่พัทยา จ.ชลบุรี บ้าน เกิด ปัจจุบันมี 2 สาขา - เพลงชุดใหม่ของโต๋มีทั้งภาษาไทย ภาษาจีน เวลาไปโชว์บางประเทศก็มี ภาษาอังกฤษ - เราถามคิวว่าสนใจเป็นครูสอน ร้องเพลงไหม คิวบอกว่าเคยคิด แต่ ยังไม่แน่ใจ แต่คิดว่าถ้าสอนได้ นอกจากวิธีร้องเพลงแล้ว อยากสอน เรื่องแนวคิดด้วย - เบนบอกว่าเขาถนัดกินมากกว่าท�ำ อาหาร แต่เรียนรู้แบบครูลักพักจ�ำ จากแฟนที่ท�ำอาหารเก่งมาก

“เราเป็นตัวเรานี่แหละ แล้วท�ำเพลงที่อีก 10–20–30 ปี ข้างหน้า กลับมาฟัง แล้วยังดีอยู่น่ะ” คิว

17


CAT30

CAT30

of the Month

of the Month

July 2018

August 2018

'แผลเป็น' โดย B5 คือ การ ถ่ายทอดบทเพลงต้นฉบับของ โป้ โยคีเพลย์บอย โดยคณะนักร้อง ฝีมือฉมังทั้ง 5 แม้สมาชิกจะบอก ว่าเป็นเพลงของคิว แต่ลีลาและ อารมณ์ร่วมของทุกคนนั้น สะใจไม่ น้อยไปกว่ากัน ดังทีเ่ บน กล่าวไว้ว่า "ฟังเพลงนี้แล้วเหมือนคน เจ็บจนบ้าไปเลย บ้าไปกับความ เจ็บ หัวเราะกันให้สะใจไปเลย แล้วกัน เราฟังแล้วรู้สึกว่า การ เรียบเรียง รวมถึงการร้องของ แต่ละคนรวมถึงการเล่นเพลง ของโต๋ ท�ำไปถึงจุดนั้นได้ เรารู้สึก เหมือนคนๆ นั้น ที่โดนกระท�ำ เสียจนข�ำกับความเจ็บปวดนี้ฮะ" เบน B5 (O,O) ป.ล. มิวสิกวิดีโอของเพลงนี้ก็สะใจ สุดๆ ทั้งด้านการแสดง เรื่องราว และเสื้อผ้าหน้าผม ลองเสิร์ชดูนะ เมี้ยว

‘ขอบคุณทุกช่วงเวลา / Glad To Have You’ คือ เพลง ใหม่ในรอบ 3 ปี ของ Sqweez Animal ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความ รู้สก ึ ความขอบคุณ และความคิดถึง แฟนๆ ได้ฟัง ดูมิวสิกวิดีโอ รวมถึง ร่วมงาน Glad to Have You อย่างอบอุ่นเมื่อ 13 กรกฎาคม ที่ ผ่านมา เราก็ไป แล้วติดลม จึงชวน วิน ศิริวงศ์ มาคุยกันต่อแบบดื่มด�่ำ ฉ�่ำเย็น ติดตามอ่านได้ใน เค้าแมว ฉบับ 13 นะเมี้ยว (O,O)

18

19


RECOMMEND แนะน�ำผลงานของ ศิลปินหน้าใหม่บ้าง หน้าเก่าบ้างแต่น่าสนใจ

Text: took Photo: ppkrnn รู้ไปท�ำแมว Youth Brush ไม่เคยส่งเพลงมาให้ Cat Radio โดยตรง แต่มิวสิก ไดเร็กเตอร์ ของเราซื้อแผ่นมาเปิด เองและติดตามข่าวทั้ง จากเพจและยูทูปเสมอ ล่าสุดได้ส่งข้อความ ทางเฟสบุ๊กไปเพื่อ ติดต่อเรื่องเปิดเพลง และข้อมูลเพิ่มเติม ทีม งานคนอื่น ดีเจ และผู้ ฟังก็ ชื่นชอบเพลงของ เขา เมื่อดุ่ยตัดสินใจมา พูดคุยแนะน�ำเพลงครั้ง แรกในรายการ เค้า แมวก็ขอแจมคุยด้วย ทันใด

Tracks:

‘เธอของเธอ’ ‘ ได้’

Artist:

Youth Brush

“ได้สิเธอ” ขณะที่เราคุยกัน ทั้ง ‘เธอของ เธอ’ และ ‘ได้’ คือเพลงจากงาน ชุด 4 ที่ยังไม่วางแผง และยังไม่มี ชื่อของ Youth Brush โปรเจกต์ เดี่ยวของ ดุ่ย-วิษณุ ลิขิตสถาพร คนเดียวกับสมาชิกวง Two Million Thanks “เพลง ‘เธอของเธอ‘ เป็น เพลงแรกของอัลบั้มครับ ‘ได้’ เป็นเพลงที่ 5 ครับ ผมจะปล่อย เพลงให้ครบทุกเพลง ก่อนแล้ว ค่อยตั้งชื่ออัลบั้ม 3 ชุดก่อนหน้า นี้ก็เป็นอย่างนั้น” ดุ่ย ส่วนเพลงที่ 2. ‘เริ่มหนาว’ 3. ‘วันนั้น’ 4. ‘Hair’ แฟนยูท บรัช อาจได้ฟังผ่านยูทูปแล้ว และขณะ ที่อ่านหนังสือเล่มนี้ก็อาจจะได้ยิน เพลงใหม่เพิ่มอีก (เช่น ‘ท�ำอะไร’) ทั้งนี้ เขาแต่งทีละเพลง จนครบ อัลบั้ม ผ่านมาแล้วสามชุด มีเพลง เกินสามสิบเพลง ที่แฟนๆ ได้ อุดหนุนผ่านเพจ www.facebook. com/YOUTHBRUSHbkk/ และ งาน Cat Expo ครัง้ ต่างๆ

นอกจากท�ำเอง ขายเอง ดุ่ยยัง ท�ำอาร์ตเวิร์กเอง และท�ำโปรเจกต์ นี้มาเจ็ดปีแล้ว “เป็นงานอดิเรกก็ไม่เชิง เหมือนท�ำเรื่อยๆ แต่ไม่เคยหยุด ท�ำครับ เริ่มจากการแต่ง ด้วยงบ หรือว่าเพลงที่ Youth Brush ท�ำดูเป็นอคูสติก สามารถอัดเอง ได้ง่ายๆ ก็เลยอยากจะแต่งเพลง ที่สามารถบันทึกเสียงเองได้” ดุ่ยเริ่มยูท บรัชตั้งแต่เรียนปี 3 ที่ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกะบัง สาขา วิจิตรศิลป์ ส่วนก�ำหนดการของชุด ทีส ่ วี่ ่าจะครบเมือ ่ ไหร่นน ั้ ดุ่ยบอกว่า “ก็แล้วแต่ความขยันครับ เรา ปล่อยเพลงที่ชอบครับ ผมเป็น คนแต่งแล้วพัก แต่งเป็นคอร์ดไว้ ก่อน แล้วค่อยว่ากัน คราวหน้าก็ เล่นใหม่ ได้อีกเพลงหนึ่ง แล้วก็ พอก่อน กลับไปแต่งเนื้อเพลง เพลงไหนเสร็จก่อนก็ปล่อย” ด้านอาชีพหลัก ดุ่ย เป็น Sound Designer สร้างสรรค์เพลง ประกอบสื่อและเพลงในโปรเจกต์ ต่างๆ “​ผมท�ำซาวด์ประกอบ Installation Art กับพี่ๆ 20

Eyedropper Fill ฮะ เขาท�ำ เกี่ยวกับมีเดีย” ตัวอย่างผลงานอื่นๆ ที่เขาท�ำและ เราคุ้นหูกันก็คือ เนื้อเพลงในโปร เจกต์พิเศษที่มีคณะดนตรีสูงวัย นาม Bennetty ถ่ายทอด เขาใช้ เวลาแต่งเพลงหนึ่งสัปดาห์ และ แต่งไปหกเพลง ‘จุดเดิม’ คือ เพลงที่ผ่านการคัดเลือกและสร้าง แรงบันดาลใจให้คนหลากหลายวัย นอกจากท�ำเพลงและงานด้าน เสียงประกอบแล้ว เรายังเห็นดุ่ยมา ขายของในงานต่างๆ ของแคท เรดิโอ รวมทั้ง แฟต เรดิโอ ตั้งแต่ หลายปีก่อน “มาร่วมสนุกครับ” เขาบอกว่าส่วนใหญ่ไม่ได้ท�ำซีดี หรือเสื้อจ�ำนวนมาก แต่ก็ขายหมด ขอบคุณทุกคนที่มาอุดหนุน แน่นอนว่าเขาขอบคุณผู้ฟังผู้ ชมเพลงและการแสดงสดของเขา ด้วย “ผมจะชอบคุยกับคนฟังฮะ จะแซวๆ แต่ว่าส่วนใหญ่คนที่มา ดู คือ คนที่ชอบจริงๆ ครับ” การที่ได้พบคนที่ชอบเป็นเรื่อง น่ายินดี และเราหวังว่าเขาจะได้พบ คนที่ชอบ Youth Brush มากขึ้น เรื่อยๆ (O,O)

“ลองฟังดูก่อน” สารภาพว่าเราคุยกับแดเนียล ดิษยะศริน (Daniel Didyasarin) ตั้งแต่ได้ยินซิงเกิลแรก ‘คอยดู’ แต่ กว่าทุกคนจะได้อ่าน ซิงเกิลที่สอง ‘แต่ก่อน’ อาจติดหูติดชาร์ตไปแล้ว ข้อความต่อจากนี้อาจไม่น่าตื่น เต้นนัก แต่เราก็ขอบันทึกความตื่น เต้นของหนุ่มที่เพิ่งท�ำงานเดี่ยวครั้ง แรกไว้ตรงนี้ “โอ้โห ตื่นเต้นมาก เพิ่ง ปล่อยเพลงด้วยแหละครับ แล้วก็ ค่อนข้างดีใจกับผลงาน กับฟีด แบ็ก “ปกติผมเขียนเพลงเป็นภาษา อังกฤษมาตลอดเลยครับ แล้ว ไม่รู้คิดอะไรวันนั้น นั่งเกากีตาร์ นั่งเล่นไปเรื่อยๆ แล้วเริ่มมีค�ำขึ้น มาเป็นภาษาไทยครับ เป็นอะไร ใหม่ๆ เข้ามาแล้วรู้สึกว่าสนุกน่ะ ครับ ก็เลยลองอัดเป็นเดโมไว้ ไม่ ได้คิดจะไปท�ำอะไรครับ แต่ส่งให้ เพื่อนๆ ใกล้ตัวฟัง เขาก็ เหมือน encourage (ให้ก�ำลังใจ/ส่ง เสริม) ครับ “มาอัดบ้านเราได้” แล้วสนุกไงครับ พอได้เป็นเพลง ออกมา ตอนแรกก็ปล่อยไปก่อน ข�ำๆ ลงในฟังใจ แล้วส่งให้พี่ดีเจ ในแคทน่ะครับ สักพักหนึ่งก็ข้น ึ ชาร์ตด้วย” งานเดี่ยวของเขาเผย แพร่ผ่านช่องทางของ สนาม หลวง มิวสิก “คิดว่า ถ้าเราเจอ ช่องทางปล่อย ที่อาจไม่ต้อง เหนื่อยเท่ากับท�ำเองคนเดียว มา นั่ง PR อยู่คนเดียว ก็ลองดูครับ” แดเนียล ขณะเดียวกัน แดเนียลหรือ แดน คือ นักร้องน�ำ Penny Time วงดนตรีวัยหนุ่มไร้สังกัดที่มีผู้ ติดตามตั้งแต่ซิงเกิลแรก ‘Conversating’ ซึ่งพวกเขาก็ยัง ท�ำงานร่วมกันมาตลอด แม้ระหว่าง ที่ทั้งแดเนียลและสมาชิกบางส่วนมี โปรเจกต์อื่น Penny Time ก็ ทยอยส่งเสียงมาให้ได้ยิน ‘Jam’ ‘It Hurts’ และ ‘Smile’ คือ ซิงเกิลใหม่ที่เราได้ยินช่วงเดือน มิถุนายน-กันยายนที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ นอกจาก Penny Time แล้ว เรายังเคยได้ยินผลงาน เขาในนาม City Plant อีกหนึ่ง โปรเจกต์ที่แดนบอกว่ายังมีอยู่ แม้ ปีนี้เขาดูโฟกัสที่เพนนี ไทม์ และ งานเดี่ยวในนามแดเนียล แต่ก็ไม่ แน่หรอกว่าเราอาจจะได้ยินอะไรที่ เกินคาดจากเขาอีกก็ได้ “ตั้งแต่ต้นปีมาก็ลุยงานวง 2 เดือนแรกยังเล่นสดอยู่ครับ ต่อ มาก็ตั้งใจอัดอัลบั้ม แล้วก็มาลุย โปรเจกต์ใหม่ ยังเป็นวิธีท�ำงาน ใหม่ ที่ไม่ได้มีกรอบเท่าไหร่ ตื่น เต้นเหมือนกันว่าอีก 6 เดือนของ ปีนี้ จะท�ำอะไรออกมาบ้าง” แดเนียล ดิษยะศริน (O,O)

ส่วนจุดเริม ่ ต้นของงานเดีย ่ ว ของแดเนียล ก็คอ ื เรือ ่ งราวทีผ ่ ่านมา “ตอนนัน ้ เป็นช่วงทีเ่ หมือน รู้ตวั ว่าก�ำลังจะเลิกกับแฟนน่ะ ครับ แล้วไม่ได้ตงั้ ใจจะให้ออกมา เป็นเพลงหรืออะไรหรอกครับ แต่ ก็ออกมาพร้อมกันหมดเลย ทัง้ ท�ำนอง ทัง้ ค�ำ แล้วเราก็ไม่ต้องไป ตบอะไรมากเลยครับ เพราะ ทุก อย่างอยู่ในนัน ้ หมดแล้ว เป็นช่วง ทีค ่ ่อนข้าง sensitive ด้วยครับ ถึงตอนนีก ้ ย ็ งั ชอบฟังอยู่ครับ ทุก ครัง้ ฟังเพลงนีก ้ ย ็ งั คิดอยู่วา่ อะไร เกิดขึน ้ ไปบ้าง ณ ช่วงนัน ้ ครับ เหมือนรูปถ่าย แต่เราท�ำในฟอร์ม เพลงน่ะครับ มีอก ี 2 เพลงด้วย ครับ แต่งใกล้ๆ กันหมดเลย เพือ ่ นในวงเขาก็ร้วู า่ อยากลองท�ำ เดีย ่ วมาสักพักแล้วน่ะครับ แล้ว ทุกคนก็ค่อนข้างสนับสนุนครับ”

RECOMMEND แนะน�ำผลงานของ ศิลปินหน้าใหม่บ้าง หน้าเก่าบ้างแต่น่าสนใจ

Text: took Photo: ppkrnn

Tracks: คอยดู, แต่ก่อน Artist: แดเนียล ดิษยะศริน

รู้ไปท�ำแมว นอกจากท�ำเพลง แล้ว อีกหนึ่งสิ่งใหม่ที่ แดนท�ำคือการเรียน ระดับอุดมศึกษาซึ่งดู เหมือนว่าจะส่งผลต่อ ความคิดของเขาไม่น้อย “ตอนแรกคิดว่าจะไม่ เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ด้วยซ�้ำ ยกเว้น วันหนึ่ง มีคณะที่อยากเข้าแล้ว เราค่อยเข้า ตอนนี้ผม เรียนคณะโลกคดีครับ ภาษาอังกฤษ คือ Global Study เป็น คณะใหม่ ที่ธรรมศาสตร์ เรียนเกี่ยวกับมนุษย์ว่า ท�ำไมเราถึงคิดแบบนี้“

21


RECOMMEND แนะน�ำผลงานของ ศิลปินหน้าใหม่บ้าง หน้าเก่าบ้างแต่น่าสนใจ

“ปลาขยัน” ปอ–กฤษสรัญ จ้องสุวรรณ (ร้องน�ำ/กีตาร์) และ น�้ำวน–วนนท์ กุลวรรธไพสิฐ ในนาม Whal & Dolph (วาฬ แอนด์ ดอล์ฟ) ที่ น�้ำวน คือ “วาฬ” และ ปอ คือ “ดอล์ฟ” ของแฟนๆ เป็นหนึ่งใน คนดนตรีที่แคท เรดิโอ คุ้นเคยและ รู้สึกว่าสองคนนี้ขยันขันแข็ง เพราะ ไม่เพียงท�ำเพลงให้ได้ฟังอย่างต่อ เนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ‘ยิ้ม’ ‘พ’ ‘นาน นาน’ ‘โอ๊ย’ จากอีพี ‘Craft’ (2560) หรือเพลงจากอัลบั้มเต็ม ‘Rayon’ (เรยอน-2560) หลัง พวกเขาเข้าเป็นสมาชิกในสังกัด What The Duck ตลอดจนงาน เบื้องหลัง เช่น มิวสิกวิดีโอหรืองาน ด้านโปรดักชั่น แต่ยังขยันมา แนะน�ำเพลง ร่วมกิจกรรมต่างๆ และแน่นอนว่า หมั่นแสดงสด พบปะแฟนและดูแลกันเสมอ ซึ่งการดูแลผู้ฟังนั้น คณะวาฬ แอนด์ดอล์ฟ เริ่มจากการตอบคอม เมน์ในยูทูป/เฟสบุ๊ก จนกระทั่งได้ พบหน้ากัน ทั้งบนและล่างเวที “ล่าสุดไปเล่นทีข ่ อนแก่น เรา ก็ยน ื คุยกับแฟนเพลงเหมือนเพือ ่ น กัน เพราะว่านานๆ ทีเจอกันที เขาก็อยากมาคุย มาถาม ซือ ้ ขนม มา ให้ เขามาถ่ายรูปกับเราเป็น ชัว่ โมง คนเยอะ แต่ผมรู้สก ึ ว่าตรง นัน ้ เราไม่ได้เหนือ ่ ย” ปอ “เป็นส่วนหนึง่ ของการ เซอร์วส ิ ครับ แต่เราไม่ได้ทำ� ไปตาม หน้าทีน ่ ะ เราชอบคุย บางคนอาจ ไม่มาคุยกับเราทางอินเทอร์เน็ต แต่วา่ เขาอุตส่าห์ตงั้ ใจมาหาเรา สมมติเราไม่สนใจเขา ผมว่าดูไม่ แฟร์สำ� หรับเขา” น�ำ้ วน ส่วนเรื่องที่คุยนั้นก็มีตั้งแต่ “เหนื่อยไหม” “ชอบกินอะไร” “ท�ำไมพระเอกเอ็มวีไม่รูดซิป” ตลอดจนวาดรูปมาให้ “ปอจะมีแฟนคลับผู้หญิง เยอะ ก็จะท�ำนู่นท�ำนีม ่ าให้ ซือ ้ ขนมมา ของผมจะเป็นผู้ชายเยอะ ครับ ก็จะ “พี่ สอนเล่นกีตาร์ หน่อย” น�้ำวน (หัวเราะ) ก่อนคุยเรื่องเพลงต่อ เราขอ

Tracks: ซ่อน, เอายังไง?, Tracks: รอให้เธอบอก, แล้วเธอ Artists: Whal & Dolph

จากซ้ายไปขวา ปอ, น�้ำวน Text: took Photo: ppkrnn

วงอินดีท ้ ท ี่ ำ� ให้เขาอยากมีผลงาน แล้วเขาก็มห ี วัง เหมือนอย่างพวก ผม ตัง้ หลายปีทผ ี่ ่านมา ก่อนจะท�ำ Whal & Dolph ผมก็เคยท�ำวง กันแล้วก็มแ ี คท ตอนนัน ้ ยังเป็น แฟตด้วยซ�ำ้ ทีเ่ ราส่งมาแล้วก็รส ู้ ก ึ ว่า ปลายปี งานใหญ่รออยู่นะ เรา จะได้มโี อกาสไปเล่นบ้างหรือ เปล่า ก็เป็นแรงบันดาลใจให้ หลายๆ วง ขยันท�ำเพลง” น�้ำวน “ไม่ใช่แค่วงอินดี้นะ วงแมส บางวงก็โตมาจากแคท เราก็จะ แวะเวียนตลอดไปครับ” ปอ สองเดือนถัดมาทั้งคู่ก็มา แนะน�ำซิงเกิลใหม่ที่ไม่ได้อยู่ใน อัลบั้มไหน ทั้งชุด 1 และชุด 2 ที่ คาดว่าจะได้อุดหนุนกันใน Cat Expo5 “อัลบัม ้ แรก เป็นเรือ ่ งราวตอน อายุ 24-25 อัลบัม ้ สอง 26-27 แต่เพลงนีผ ้ มแต่งตอน ม.6” ปอ

บอกแฟนอีกสักหน่อยว่า ปอชอบ กินขนมไทย ส่วนน�้ำวนชอบกินเอ แคลร์ “ที่สุดเลยครับ” ‘รอให้เธอบอก’ “ไม่ได้รอเพื่อหาค�ำตอบน่ะ ครับ เป็นการรอแบบไร้จุดหมาย น่ะ เหมือนกับว่าเราอยากรู้เต็ม ไปหมดเลย รอให้เธอบอกอยู่นะ แต่ เป็นการรอฝั่งเดียว” ปอ “เราไม่ได้ถามเขา ได้แต่เฝ้า รอกันต่อไป” น�้ำวน เพลงนี้อยู่ในอัลบั้มเต็มชุดแรก ที่วางแผงไปตั้งแต่ปีก่อน หลายคน อาจได้ยินกันแล้ว แต่เขาก็ยังขอ ติดต่อมาพรีเมียร์หรือเปิดให้ฟัง ผ่านสื่อครั้งแรกที่ แคท เรดิโอ “เราโตมากับแคทน่ะครับ เราก็ต้องเริ่มกับแคท” ปอ “ถ้าไม่มแ ี คท เราอาจไม่ได้ ออกมาขนาดนีก ้ ไ็ ด้ ผมว่าแคท เป็นแรงผลักดันส�ำหรับหลายๆ 22

เราฟังแล้วได้กลิ่นอายของแรง บันดาลใจในวัยนั้น มิวสิกวิดีโอก็ เป็นผลงานที่พวกเขาลุยเบื้องหลัง เอง ส่วนซิงเกิลต่อไป คณะปลา เกริ่นไว้ว่า คือ เพลง ‘ฉันยังเก็บไว้’ จากอัลบั้ม ‘เรยอน’ ที่มีเพื่อน คือ เอิ๊ต ภัทรวี มาร่วมร้อง และคอม เมนต์ไว้ว่า “เหมือนเพลงดิสนีย์ เลย” สาเหตุที่วาฬแอนด์ดอล์ฟท�ำ เพลงอย่างต่อเนื่องและคิดถึงวง ตลอดเวลาจนเรารู้สึกว่าขยันมาก นั้น พวกเขาแสดงทัศนะไว้ว่า “ผมคิดว่าวงดนตรีควรมี เพลงออกมาเยอะๆ ในแบบของ ตัวเอง ผลงานคุณยิง่ ดีเท่าไหร่ จะ มีคนมาเจอ แล้ววงหน้าตาบ้านๆ อย่างเรา อาวุธคือเพลง เราต้อง ท�ำเพลงให้ดท ี ส ี่ ด ุ เป็นหน้าเป็นตา ของเรา ทีส ่ ำ� คัญทีส ่ ด ุ คือพวกผม สนุกทีจ ่ ะท�ำเพลงไปเรือ ่ ย” ส่วนข้อความเพิ่มเติมที่อยาก ส่งให้ถึงแฟนเพลงก็คือ “หนึ่ง ผมรู้สึกว่า เราเป็นใคร ก็ไม่รู้ที่ไม่รู้จักกันเลย แต่วันหนึ่ง เรามีเสียงเพลงมาเชื่อม กลาย เป็นว่าคนรู้จักกันผ่านสิ่งที่เราท�ำ ขึ้นมา เพลงของเราเป็นตัวเชื่อม ให้คนเข้ามารู้จักเรา เป็นเรื่องที่ มหัศจรรย์มากครับ อย่างที่สอง คือ การที่มีแฟนเพลงมาดูเรา เล่นสดน่ะครับ เขาร้องเพลงเรา ได้ ผมรู้สึกว่า ไม่ว่าจะงานเล็ก งานใหญ่ งานนั้นจะกลายเป็น งานที่ท�ำให้ผมมีความสุขมากๆ ท�ำให้ผมรู้สึกมีคุณค่าครับ” ปอ “อย่างแรกเลย ขอบคุณทุก คนทีท ่ ำ� ให้พวกผมหายเหนือ ่ ยนะ ครับ แต่ว่าในการท�ำงานเพลง ผมว่า หลายๆ คนน่าจะรู้แหละว่า ค่อนข้างต้องต่อสู้อะไรหลายๆ อย่าง มีท้อบ้าง แต่กข ็ อบคุณทุก คนที่ คอยมาให้กำ� ลังใจครับ แล้ว ก็ข้อสองก็คอ ื อัลบัม ้ อีพี ปลายปี จะไม่ทำ� ให้ทก ุ คนผิดหวังแน่นอน ครับ ขอบคุณครับ” น�้ำวน (O,O) รู้ไปท�ำแมว Whal & Dolph เคยปรากฏตัว ในคอลัมน์ Recommend ของเค้า แมวเล่ม 4 แล้วครั้งหนึ่ง ว่าด้วยการ แนะน�ำอีพี ‘Craft’ ซึ่งเป็นฉบับและ คอลัมน์เดียวกับเพื่อนเขาที่ชื่อ ‘ Max Jenmana’ แนะน�ำอีพี ‘Let There Be Light’ ฉบับนี้มาพร้อม กันอีกครั้ง แต่คนละคอลัมน์

เพื่อนชื่อความเหงา

Artist: TELEx TELEXs

RECOMMEND แนะน�ำผลงานของ ศิลปินหน้าใหม่บ้าง หน้าเก่าบ้างแต่น่าสนใจ

Text: took Photo: ppkrnn

จากซ้ายไปขวา ออม กร ปิ้ว นาว

“เพลงสั้น3” ปิ้ว-กษิเดช ฤทธิ์งาม (ซินธิไซ เซอร์,ร้อง), กร-พากร พานอ่อง (เบส), ออม-สรรัตน์ ลิมปะนพรัตน์ (ร้องน�ำ), นาว-คิรากร อิงควราภรณ์กลุ (กีตาร์) คือ สมาชิก TELEx TELEXs (เทลเล็ก เทลเล็กซ์) ปิ้วและกร คือ สมาชิกตั้งต้นผู้ เคยมีผลงานกับวงอื่นมาก่อนเริ่ม เส้นทางซินธ์ป๊อปที่มีซิงเกิลล�ำดับ 0 ในชื่อ ‘Bad Old Days’ เมื่อปี 2558 จากนั้นได้เพิ่มสมาชิกร่วม ทางและท�ำเพลงแบบเทลเล็กซ์ เทลเล็กซ์จนเป็นเจ้าของบทเพลง ซินธ์ป๊อปที่ครองอันดับ 1 ในชาร์ต แคท เรดิโอ มาตั้งแต่ซิงเกิลแรก ‘Labelle’ ซิงเกิลที่ 3 ‘ถาม’ และ ซิงเกิลที่ 4 ‘Shibuya’ ในปี 2559 ระหว่างนั้น ทุกเพลงของ พวกเขาได้รับความนิยมในหมู่แฟน และอีพี ‘Melt Your Popsicle!’ เมื่อปี 2560 ก็ได้รับเสียงชื่นชม รวมทั้งรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอด เยี่ยมจากฟังใจ และ คม ชัด ลึก ช่วงกลางปี 2561 ‘ซ่อน’ ‘เอา ยังไง?’ ‘เพือ ่ นชือ ่ ความเหงา‘ คือ บทเพลงใหม่ที่ทยอยแนะน�ำตัวสู่ผู้ ฟังพร้อมมิวสิกวิดีโอที่ร้อยเรียง เนื้อหาและอารมณ์ต่อเนื่องกัน หลายคนอาจเรียกว่า Trilogy -ไตรภาค หรือซีรีส์ แต่มีอีกชื่อที่ สมาชิกเทลเล็กซ์เรียก คือ “เพลงสัน ้ ” “เพลงสั้นครับ คือ อยากให้มี

“มุมเล็กๆ ที่จี๊ดเลย พอฟัง แล้วไม่ใช่แบบรวมๆ อกหัก แต่ แยกลงไปอีกเยอะเลยครับ” ส่วนกระบวนการท�ำเพลงนั้น ออม นักร้องน�ำ เล่าว่า “ปิ้วจะท�ำ เพลงขึน ้ มาก่อน ทัง้ เนือ ้ ร้องและ ท�ำนองค่ะ จากตอนแรกเริม ่ วงเลย ตอนนีท ้ ก ุ คนมีส่วนร่วมกัน มากขึน ้ แต่กจ็ ะมีคอนเซปต์อยู่แล้ว” ออม “ส่วนใหญ่เพลงที่แต่งมา อยากมีคอนเซปต์โดยรวมก่อน ว่าจะเล่าเรื่องอะไร แล้วก็ค่อย มาตีความหมายว่าจะเป็นทิศทาง ไหน” ปิ้ว แม้มม ุ มองจากเพลงทีถ ่ ่ายทอด จะเป็นของผูห ้ ญิง ร้องโดยผูห ้ ญิง แต่เริม ่ จากผู้ชาย และพวกเขาก็หวัง ให้เป็นเพลงของทุกเพศ “ตอนนั้นที่ออมมาร้อง จาก ‘Labelle’ เลยค่ะ ปิ้วอยากเล่า มุมผู้หญิง แล้วเราก็รู้สึกว่าอยาก ท�ำต่อ ฟีดแบ็กก็มีทั้งผู้หญิงทั้ง ผู้ชาย นะที่เอาไปแทนตัวเอง เรา ไม่ได้ไดเร็กว่าเป็นผู้หญิง แต่ หลายๆ อย่าง ด้วยความที่เรา เป็นผู้หญิงด้วย จับประเด็นผู้ หญิง อาจจะ sensitive กว่า” ส่วนเรื่องเซนซิทีฟที่พวกเขา ก�ำลังห่วงแฟนๆ ในช่วงที่เรา สัมภาษณ์ คือ แผ่นเสียง ‘Melt Your Popsicle!’ ที่สั่งผลิตเสร็จ แล้ว แต่ไม่ใช่สีที่ระบุไว้ จึงต้อง ชี้แจงและบันทึกไลฟ์วิดีโออธิบาย

สตอรี่ของเพลงให้มีความต่อกัน ปกติเราดูแต่หนังสั้นที่เป็นซีรี่ส์ อยากให้เพลงมีบ้าง” ปิ้ว “เหมือนเคยคิดไว้ว่าอยาก ท�ำเพลงที่เป็นซีรี่ส์ได้ค่ะ อยาก ท�ำเอ็มวีต่อกันอยู่แล้วมีเพลงอยู่ ประมาณหนึ่ง แล้วก็ลองเรียงดู ว่าเพลงไหนน่าจะต่อกับอะไรได้ ลองโยงเรื่องกันดู” ออม ทั้งสามเพลงไม่ได้แต่งพร้อม กัน แต่สมาชิกวงเห็นว่าคอนเซปต์ ของเพลงมีความเกี่ยวโยงกัน “เหมือนว่าเรื่องเกิดจากคนๆ หนึ่งเป็นจุดก่อเหตุ ผู้ชายท�ำให้ ความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่ง ต้องพังลงไป ประมาณว่า ผู้ชาย คนนี้ไปมีคนอื่น ก็คือเพลง ‘ซ่อน’ ถึงจะเล่าในมุมของผู้หญิงที่แอบ มีความสัมพันธ์ แต่ก็เริ่มจาก ผู้ชาย มาถึงเรื่องที่ 2 ‘เอายังไง’ ก็เป็นผู้ชายคนเดิม เพลง 3 ก็ เหมือนอารมณ์ผู้หญิงที่ ไม่เอา อะไรแล้ว คือ เลือกทางเดินที่ ไม่มีผู้ชาย ไม่เอาความรัก แต่อยู่ กับเพื่อน ชื่อว่าความเหงา” ปิ้ว ปิ้วบอกว่าที่มาของเพลงส่วน ใหญ่มาจากเรื่องที่เขาพบเห็นตาม โซเชียลมีเดีย ส่วนข้อสังเกตที่ว่า เพลงของเทลเล็กซ์ เทลเล็กซ์ มัก ข้องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่จบลง หรือตะกอนของความไม่แน่ใจที่ ค้างคาอยู่ สมาชิกตั้งใจบอกเล่ามุม ที่หลายคนอาจนึกไม่ถึง 23

แฟนในเฟสบุ๊กวง “ตอนแรกที่สั่ง ผลิต เราสั่งอีกสีหนึ่ง แล้วก็เอาม็ อกอัพ (ต้นแบบ) ไปให้ คนดูใน งานแคท โหย ตื่นเต้นมาก สี marble ตัวพื้นเป็นสีมินต์ๆ หน่อยค่ะ แล้วก็มีลายหินอ่อน ปกสีนี้ กระดาษอย่างนี้ ด้วย ความที่ไทย ไม่มีโรงงานไวนิล เราก็สั่งจากอังกฤษ แต่ด้วยการ ติดต่อสื่อสารข้ามประเทศ มี ความยุ่งยาก เลท ก็ส่งมาให้ เทสต์สีแล้ว ทุกอย่างเราโอเค แล้วสั่งผลิตไป รหัสสีนี้ๆ เสร็จ ปุ๊บ เฮ้ย ท�ำไมออกมาเป็นสีนี้ ก็สวยค่ะ แต่ไม่เหมือนที่บอกไว้ เราเลยบอกคนที่สั่งซื้อว่า ถ้าเกิด ว่าไม่โอเค เรายินดีที่จะรับผิด ชอบ แต่ก็ไม่มีใครว่าอะไร แปลก ด้วย มีคนมาสั่งเพิ่ม” ผ่านไป หลายเดือนก็ยังมีแฟนเทลเล็กซ์มา ถามสั่งซื้อรวมถึงถามว่าอัลบั้มชุด ต่อไปที่ทยอยเพลงใหม่มาแล้วจะมี แผ่นเสียงไหม น่าจะเป็นฟีดแบ็กที่ท�ำให้ สมาชิกวงเบาใจและเติมแรงใจใน การท�ำงานต่อไป (O,O)

รู้ไปท�ำแมว 1 เอ็มวีทั้งสามเพลงที่ต่อเนื่องกันนั้น ก�ำกับโดยเสือ พิชย จรัสบุญประชา ผู้ ก�ำกับละคร Spike จาก Project S The Series ที่มีงานเอ็มวีชุกมาก นอกจาก ถ่ายทอดเรื่องราวจากเพลงได้ชัดมากแล้ว ปิ้วยังคึกมากตลอดการถ่ายท�ำตั้งแต่ 10 โมงเช้า จนถึงตี 1 โดยปิ้วชี้แจงว่า “เหนื่อย จนเลยจุดค�ำว่าเหนื่อยไปแล้ว ก็เลยต้อง ดีด” ดีดถึงขั้นผู้ก�ำกับได้ภาพเบื้องหลังกอง ถ่าย เป็นภาพปิ้วเต้นอยู่หน้ารถบรรทุกขน ของ 2. TELEx TELEXs เป็นอีกหนึ่งวง ดนตรีที่มีประสบการณ์ในทุกเทศกาลของ แคท เรดิโอ ทั้งแคท เอ็กซ์โป แคท ทีเชิ้ต และแคท ฟู้ดดิวัล ล่าสุดพวกเขาขายเสื้อสี่ ร้อยตัวหมดตั้งแต่วันแรกในงาน Cat Tshirt5 ต้นเดือน มิ.ย. และมีรายชื่อ แสดงสดใน Cat Expo5 ปีนี้ 3. ปิ้วคือสมาชิกเดียวในวงที่เรียน วิศวะ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง อีกสามสมาชิก เรียนดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล ออมเรียน Voice Jazz เคยเป็นนักร้องในสถาน บันเทิงและสอนเปียโนเด็กเล็ก นาวเอก Guitar Jazz ชอบท�ำอาหาร เคยมาขาย ในงานต่างๆ ของแคท กร เอกดนตรีเชิง พาณิชย์ ท�ำงานบริษัทท่าอากาศยานไทย ที่สนามบินเชียงใหม่ ควบคู่การท�ำเพลง กับเพื่อน ๆ


RECOMMEND แนะน�ำผลงานของ ศิลปินหน้าใหม่บ้าง หน้าเก่าบ้างแต่น่าสนใจ

ภาพเพลงพื้นที่ว่าง

Track: พื้นที่ว่าง Artist: Inspirative

Text: took Photo: Inspirative

พื้นที่ในใจ บทเพลง “นานเท่าไร กี่เหตุผลมากมาย เท่าใด พื้นที่ว่างข้างใน ก็ยังไม่เคย หายไป” พื้นที่ว่าง – Inspirative “ตอนแต่ง เรารู้สก ึ ว่าไม่ร้ส ู ก ึ อะไรเลยนะ นัง่ อยู่ในห้องน�ำ้ ตอน เช้าก็ เอ๊ะ ท�ำไมเราไม่มอ ี นาคตอยู่ ในหัว เหมือนอยู่ดๆ ี ก็นก ึ ภาพตัว เองตอนอนาคตไม่ออก ไม่ใช่เรือ ่ งการท�ำงานหรือว่า อะไรนะ แค่เรานึกภาพตอนเราแก่ ไม่ออก นึกภาพตอนเรามีครอบครัว ไม่ออก ไม่มใี นหัวนะ ซึง่ สมัยตอน เด็กเรามี เราเลยหยิบเอาความรู้สก ึ นีม ้ าท�ำ” อีพีที่แล้ว ‘Mainland’ พูดถึง พื้นที่ ขอบเขตการรับรู้ของคน เรา แทนค�ำ “พื้นที่” ว่าคืออะไรที่เอา มาแต่งเป็นเพลงได้ เลยรู้สึกว่าก็มี พื้นที่ว่างอยู่ คือเราไม่ใช่คนขาด แหว่งเว้าอะไร แต่อยู่ดีๆ สมมติว่า เรามีแฟน เรามีงานการที่มั่นคง มี เงินที่พอใช้บ้าง มีครอบครัวที่ดี แต่ เราก็ยังรู้สึกว่าต้องการอะไรอยู่ดี สักอย่างลึกๆ ในใจ เราเลยหยิบ ความรู้สึกนี้มาพูด ถ้าเปรียบเป็น พื้นที่ ต้องมีพื้นที่ว่างในบริเวณ พื้นที่อื่นที่เต็มอยู่ ก็เลยรู้สก ึ ว่าเข้า กับ ‘Mainland’ และเนือ ้ เพลงจะ เชือ ่ มกับอัลบัม ้ ทีแ ่ ล้ว ‘Mysteriously Awake’ ทีพ ่ ด ู ถึงความฝัน การผีอำ� เรารู้สึกว่าเพลงแรกที่ปล่อย ในอัลบั้มใหม่ ต้องมีอะไรที่พูดถึง อัลบั้มที่แล้วนิดหนึ่งที่พูดถึงความ

จากซ้ายไปขวา ตั้ม เอม นพ โอ๋ เคน

คือ ความรู้สึกที่มองมัน แต่ว่าที่มา ของรูปไปโยงกับเรื่องค�ำว่า “พื้นที่ ว่าง” เหมือน เรามาแตกค�ำว่า “พื้นที่ว่าง” ออก เพื่อจะหาอาร์ต เวิร์กว่าเล่นอะไรได้บ้าง จนตั้มไป เจอรูปนี้ แล้วสะดุดตา น่ามองน่ะ” นพ “เราเสิร์ชค�ำว่า Empty Space ใน Google ภาพนี้ ขึ้น มาเป็นรูปแรก เราก็รู้สึกว่าท�ำไม รูปนี้มีเสน่ห์จัง ก็เลยคลิกเข้า ไปดู” ตั้ม “เป็นการอธิบาย Simulation การทดลองเกี่ยวกับควอน ตั้มฟิสิกส์ (เกี่ยวกับอะตอมและ อนุภาค)ว่าเป็นไปได้หรือไม่ เราจะ ใช้คอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุดในโลกท�ำ กันกี่ปีกี่ชาติกว่า Simulation จะ เสร็จ ก็มีนักคณิตศาสตร์ มา พยายามท�ำให้ง่าย ท�ำให้การ ทดลองนี้เกิดขึ้นจริงได้ แล้วรูปนี้ใช้ อธิบาย ซึ่งเรารู้สึกว่าในบทความ ไม่มีข้อสรุปว่าท�ำได้หรือไม่ได้” นพ

ทรงจ�ำ เรื่องหลับ ก็เลยขึ้นต้นมา ว่า “มีบางสิ่งยังหลับใหลอยู่ข้างใน รอวันตื่น” ซึ่งพูดถึงความรู้สึกที่อยู่ ในนั้นน่ะ แต่พูดไถๆ ไปเรื่องความ ฝันน่ะครับ” ตั้ม-วุฒิพงศ์ ห่วงเพชร (เปียโน, ร้อง) ผู้แต่งเนื้อร้องท�ำนอง เพลงนี้ ก่อนส่งให้ นพ–นพนันท์ พานิชเจริญ (กีตาร์) พี่ใหญ่ของวง เรียบเรียงและเพื่อนสมาชิกอีก 3 คน โอ๋-อมรเทพ มาแสวง (เบส), เคน-ณัฐตนัย จันจรัสศรี (กีตาร์) และ เอม-สุธาสินี สุวรรณวลัยกร (กลอง) เติมเต็มในส่วนของตน “นึกถึงบรรยากาศตั้งแต่ได้ยิน ตั้มเล่นกีตาร์คนเดียวเพลงนี้ครั้ง แรก ภาพในหัวมาเลย เดี๋ยว เวอร์ชั่นสุดท้ายน่าจะประมาณนี้ ฝนตก มีบรรยากาศอยู่ในหัวที่ไม่รู้ จะบรรยายอย่างไร” นพ ทัง้ นี้ พวกเขาเล่าว่า ‘พืน ้ ทีว่ ่าง’ ทีเ่ ราได้ยน ิ กัน คือ เวอร์ชน ั่ ที่ 7 “แก้ไปเรื่อยๆ ถ้าไม่มีเดดไลน์ ว่า จะต้องมาลิงก์กับเสื้อเพื่อจะขาย งานทีเชิ้ต อาจยังไม่จบก็ได้ ช่วง สุดท้ายที่คิดว่าจะโอเคหรือยัง ก็ คือเอาต์โทรตอนท้ายยาวพอไหม สั้นไปไหม แล้วก็เติมๆ จนถึงจุด พอดี” เช่นเดียวกับเพลงอื่นของ อิน สไปเรทีฟ ที่ล้วนผ่านกระบวน การ แต่ง เติม แก้ ซ้อม ท�ำ ปรับปรุง จนกว่าจะถึงเป้าหมายของแต่ละ เพลง ส่วนภาพประกอบเพลงที่เป็น ลายเสื้อยืดดังกล่าวก็คัดกันอยู่นาน ภาพ “เหตุผลหลักเลยที่เลือกรูปนี้

ชีวิต “99.9999% ร่างกายเรา และทุกอย่างในโลกประกอบไป ด้วยโมเลกุล อะตอม โครงสร้าง อะตอม ก็มีนิวเคลียส กับ อิเล็กตรอน ในร่างกายที่เราจับๆ อยู่ จริงๆ แล้วไม่มีอะไรอยู่เลย เพราะว่าอิเล็กตรอนแทบจะไม่มี ตัวตน แทบจะเป็นคลื่นอยู่แล้ว นิวเคลียสก็เล็กมาก จนที่ประกอบ กันอยู่เหมือนเป็นที่ว่างเต็มไปหมด 24

เลย เหมือนดวงดาวน่ะ มองออก ไป สัดส่วนของที่ว่างกับดวงดาว ก็ อารมณ์เดียวกันเลย 99.9999% เขาว่าอีกกี่พันล้านปีไม่รู้ กาแล็กซี แอนโดรเมดาจะมาชนกับทางช้าง เผือกเรา แต่เขาบอกว่าไม่ต้องกลัว เพราะการชนครั้งนั้น จะไม่มีดาว ดวงไหนชนกันเลย เพราะมีแต่ที่ ว่าง เหมือนเอาที่ว่าง 2 ที่ว่างมา merge (รวม) กัน (หัวเราะ) ก็คือ ในร่างกายคน ส่วนเล็กๆ ที่อยู่ข้างใน ก็เหมือนดวงดาวที่อยู่ ในกาแล็กซี่ มีแต่ที่ว่างเต็มไปหมด” นพ ยังมีค�ำอธิบายเรื่องพื้นที่ว่างใน มุมมองของพุทธศาสน+วิทยาศาสตร์ อีกหลายประเด็นที่ตัวแทนจากอินส ไปเรทีฟเล่าให้ฟัง ยิ่งท�ำให้เรา ตระหนักถึงน�้ำหนักของที่ว่างมากขึ้น เรื่อย ๆ เช่นเดียวกับบทเพลงของ อินสไปเรทีฟ พลังแห่งบรรยากาศ อารมณ์ ความรู้สึกที่อาจไม่ค่อยได้ อธิบายผ่านค�ำพูด นั้นมีอานุภาพเมื่อ กระทบใจคน หากไม่ได้โคจรมาเจอ กันก็อาจเป็นพื้นที่ว่างอันไกลโพ้น แต่ ใช่ว่าไม่มีความหมาย จนทุกวันนี้ Inspirative คือ วงโพสต์ร็อกที่เดินทางบนถนนดนตรี จริงจังมาสิบกว่าปี แม้เหล่าสมาชิกมี งานประจ�ำด้านอื่น แต่จากผลงาน ที่ สัมผัสได้ถึงความละเอียดและซับ ซ้อน อีพี ‘Floating Down Through The Clouds’ 2551 อัลบั้ม ‘ Memories Come Rushing Up to Meet Me Now’ 2553, ‘Mysteriously Awake’ 2558 อีพี ‘Mainland’ 2560 อย่างและพื้นที่ว่าง จากอัลบั้มชุดต่อ ไปที่พรีออเดอร์มาตั้งแต่ Cat Expo ปีก่อน และก�ำหนดเสร็จภายในปีนี้ เป็นตัวอย่าง ร่วมกับการแสดงสดแม้คิว ไม่แน่นนัก แต่ได้รับการกล่าวขวัญ เสมอว่าอินสไปเรทีฟเล่นสดเมื่อไหร่ ก็หนักแน่นในบทเพลงที่ลึกล�้ำด้วย ฝีมือ รายละเอียดและบรรยากาศ ซึ่งนอกจากเวทีเล็กใหญ่ในไทยแล้ว พวกเขามีคิวทัวร์ย่านเอเชีย เริ่มจาก จีนที่ได้รับการเชิญไปหลายครั้ง หลายเมือง ญี่ปุ่น ตลอดจนประเทศ ใกล้เคียง ตามโอกาสอ�ำนวย ซึ่งเรา ว่าเป็นการเชื่อมต่อพื้นที่ว่างด้าน โอกาสและแรงบันดาลใจให้ทั้งวง ผู้ชม และอีกหลายคน (O,O) รู้ไปท�ำแมว เพลงนี้ เอม กลับมาตีกลองให้ อย่างเป็นทางการ หลังไปท�ำงานแอร์ โฮสเตส 1 ปี ตอนนี้มีทั้งงานด้าน สถาปัตย์และท�ำผลิตภัณฑ์ดีไซน์ แบรนด์ Hiddenmatter

PIY Play It Yourself

คอลัมน์ส่งเสริมความสนุก ปลุกพลังใจ ด้วยการลงมือ ... เล่น ได้ เล่นดี โดยคณะดีเจนักดนตรี จากรายการแมวสด (เล่นสดออก อากาศทุกวันพุธ 21.00–24.00 น.) แห่ง แคท เรดิโอ ฉบับนี้ ลงมือโดย ดีเจตั้ม-สถา ปัตย์ ธีรนิตยภาพ หรือ ตั้ม Frozen หรือ ตั้ม Monotone นักดนตรี นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ และอาจารย์ ที่แปลงร่างเพลง ‘Lover Boy’ จากต้นฉบับภาษา อังกฤษเป็นภาษาไทยได้เจ็บปวดที เดียว

เล่นได้เล่นดี illus: koy

--- เพลงแปลงร่าง ---

เพลง Lover Boy แปลงเนื้อร้องโดย ดีเจตั้ม แมวสด จากท�ำนองเพลง Lover Boy ของ Phum Viphurit

Lyrics by Phum Viphurit Arranged & Produced by Phum Viphurit & Anucha Ocharoen (Rat Terrier)

Intro : C#m / F# / B / G#m (2 Times) / C#m / F# / Ebm / G#m (2 Times) C#m F# Bmaj7 G#m เปิดมาดูข้อความที่เธอวางไว้ C#m F# Bmaj7 G# หากว่าเราได้อ่าน โทรกลับได้ไหม C#m F# B G#m โทรศัพท์ก็มีและใช้ได้อยู่ C#m F# B G# แต่โทรไปไม่ติดเป็นอะไรไม่รู้ Emaj7 F# * ค่าโทร ก็จ่าย ทุกเดือน ไม่ขาด B G#m วันอื่นก็โทรสบาย Emaj7 F# แล้วไง ยิ่งดึก ยิ่งโทรไม่ติด B G# ใจสั่น วุ่นวาย วันนี้ (*) Instru / C#m / F# / B#m / G# (2 Times) C#m F# B G#m ผ่านไปเกือบสองปีไม่ได้พูดกัน C#m F# B G#m เกิดอะไรมากมายต่อจากวันนั้น G# B และเธอ! ก็เดินมา G# C# เจอเธอกับตา G#maj7 B มากับลูกชาย G#maj7 Emaj7 เป็น ไป ได้ ไง D#m Dm C#m F# B แฮ่ม! ช็อก เกือบ ตาย โอ้ว บอย

Intro : C#m / F# / B / G#m (2 Times) / C#m / F# / Ebm / G#m (2 Times) C#m F# Bmaj7 G#m Wandering the streets all through the night, C#m F# Bmaj7 G# Searching for the one to make me right. C#m F# B G#m Wondering if she’s the shade of you, C#m F# B G# And If so, should I try to see it through. Emaj7 F# * Darling, I got my trust issues. B G#m Warning, you stay away. Emaj7 F# If we meet at the rendezvous, B G# take me away, Sunray (*) Instru / C#m / F# / B#m / G# (2 Times) C#m F# B G#m Time and toys, May fill my heart with joy, C#m F# B G#m I’ll know peace when I’m your lover boy. G# B I’ll be your new school soul. G# C# Silver and gold. G#maj7 B New desire. G#maj7 Emaj7 Friends on fire. D#m Dm C#m F# B Call me ‘lover boy’

(* , *)

(* , *) 25

ป.ล. เนื่องจากนี่คือครั้ง แรกที่คอลัมน์นี้แปลงเพลงจาก ต้นฉบับภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็น เพลงที่นิยมนานาชาติ เฉพาะยอดผู้ชมยูทูปเพลง ‘Lover Boy’ จนปัจจุบัน (ปลายเดือนสิงหาคม 2561) ก็ 16 ล้านกว่าครั้งแล้ว มีท�ำคลิปคัฟเวอร์กันคึกคัก และได้ข่าวว่าหนุ่มสาวทั้งใน และต่างประเทศร้องตามภูมิ ดังมากในเวทีต่างๆ เราจึงยก เนื้อเพลงและคอร์ดมาให้ผู้ อ่านทบทวน ก่อนไปร้องกันให้ ดังๆ ใน Cat Expo 5 และ อีกหลายงาน ไม่ว่าจะที่ไทย หรือที่ใด รู้ไปท�ำแมว ท่ามกลางคอมเมนต์ มากมายใต้ยูทูปเพลง Lover Boy – Phum Viphurit ข้อความหนึ่งที่สะดุดตาและ สะกิดอารมณ์ขันเราคือ Damn! Who knew Luffy from One Piece can sing?! โดย Romel Catap ที่ มีคนมากดไลค์และแสดงความ เห็นด้วยไม่น้อยทีเดียว (O,O)


หมอสอง 3 มิติ

เปิดไพ่ยิปซี ท�ำนายดวงรายเดือนโดยหมองสอง สามมิติ...เดือนพฤศจิกายน 2561...

BABB BED BED แบบ เบด เบด

ท่านที่เกิดเดือน พฤศจิกายน

ท่านที่เกิดเดือน ธันวาคม

ท่านที่เกิดเดือน มกราคม

ท่านที่เกิดเดือน กุมภาพันธ์

ท่านที่เกิดเดือน มีนาคม

ท่านที่เกิดเดือน เมษายน

ไม้เท้า ว่ากันด้วยเรื่อง การงาน การเรียน สี่ไม้ เท้าปักตั้งเสาได้สมบูรณ์ คงทนแข็งแกร่งแข็ง แรง ไม่มีโยกเอนโยกไหว ไปทางใด ข้างบนมีช่อ มะกอกให้งดงาม ข้าง ล่างผู้คนเต้นร�ำร้อง เพลง ดังนั้นเดือนนี้น่าจะ มีสิ่งดีๆ เข้ามาทั้งการ งานและการเรียน หรือ หากมีปัญหา ก็สามารถ แก้ได้สบายๆ เพราะสิ่งที่ ก�ำลังท�ำถือว่ามาถูกทาง แล้ว

หญิงผู้ควบคุมสิงโต หมายถึง การควบคุม ทุกเรื่องราวได้อย่างอยู่ หมัด ทั้งปัญหาคาใจ หรือสิ่งที่กีดขวางเส้น ทางชีวิต ยิ่งเจ้าของไพ่ เป็นหญิง จะยิ่งควบคุม ทุกอย่างแบบ เบ็ดเสร็จ ถือว่าเดือนนี้ เป็นเดือนที่ดีมากเลยที เดียวเชียว จัดการได้ หมดทุกซอกทุกมุม ขอรับ

เด็กถือถ้วย ถ้วยว่าด้วย เรื่องของความรักความ สัมพันธ์ เด็กคือเกี่ยวข้อง กับบุคคล ผู้คน หรือ เจาะจงไปที่คนอายุอ่อน กว่า จะน�ำเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับความรักความ สัมพันธ์ที่ดีๆ มา ให้ หรือ เขาคือกุญแจผู้ที่ จะมาช่วยแก้ไขปัญหา ให้ สบาย ทางสะดวก ครับ

เหรียญนี่อุดมสมบูรณ์ สบายใจไร้สิ่งกังวล ใดๆ อิ่มหน�ำส�ำราญทั้ง กายใจ เห็นอะไรก็มี ความสุขไปหมด อากาศ ดี น�้ำใสไหลเย็น นกร้อง จิ๊บๆๆ ฮ่าๆ ว่าไป นั่น เอาเป็นสุขกาย สุขใจ ยิ่งเรื่องราว ทางการเงิน ยิ่งสมบูรณ์ แบบในเดือนนี้ขอรับ

เอิ้ม จะให้ทายอะไรอี๊ก นี่คือไพ่ใบที่ดีที่สุดใน ส�ำรับ จบนะ คือดีหมด ทุกเรือ ่ งๆ ดีมากๆๆๆๆๆ เลย แง อิจฉาอ่า

ดาบคือปัญหาชีวิตและ สุขภาพ ถึงดาบจะเกี่ยวข้อง กับเรื่องการตัดสินใจ ใดๆ แต่ดาบทั้งเก้าดันเป็น ก�ำแพงหรือมู่ลี่ ท�ำให้เราตื่น ขึ้นกลางดึกในสภาพกลุ้มใจ ตามหน้าไพ่ นั่นแสดงว่าคุณ ก�ำลังเครียด ซีเรียสมากๆ ภายในจิตใจ จนแม้ว่า จะ ยามหลับยามตื่น ก็ยังมิวาย ไม่หายไป เอาเป็นว่า ค่อยๆ ลด ถอยออกมาตั้งหลักจาก ปัญหาสักนิด ค่อยๆ จัดการ ไปทีละข้อ เพราะปัญหา ภายนอกน่าจะค่อยๆ จัดการ ไป แต่ปัญหาภายในใจ มัน จะท�ำลายสุขภาพกายและ ใจ อันนี้น่าห่วง

ท่านที่เกิดเดือน พฤษภาคม

ท่านที่เกิดเดือน มิถุนายน

ท่านที่เกิดเดือน กรกฎาคม

ท่านที่เกิดเดือน สิงหาคม

ท่านที่เกิดเดือน กันยายน

ท่านที่เกิดเดือน ตุลาคม

โหย ดี มากๆ ถ้วย ความรักความสัมพันธ์ สดใส เป็นรุ้งทอแสง สวยงาม ใครคิดหวังสิ่งใด ไว้ ก็จะได้ตามต้องการ สวยงาม สว่างไสว / พอ ไพ่ดี หมอไม่ค่อยอยาก ท�ำนายมาก เพราะดีทุก ด้าน / พอไพ่ไม่ดีนี่ หมอ ร่ายเสียยาวเลยนะ ฮ่าๆ

พระจันทร์ สาวๆ ให้ระวัง ระบบของเหลวใน ร่างกาย เพราะน�้ำขึ้นน�้ำลง ของพระจันทร์น่าจะหมาย ถึงรอบเดือนด้วย ระบบ เลือดด้วย พระจันทร์ว่าด้วย เรื่องความนิ่งสงบสยบ ความเคลื่อนไหว ถ้าเดือนนี้ รู้สึกนิ่งๆ ดีแล้ว เพราะไม่มี ปัญหาใดๆ เข้ามากล�้ำ กราย แต่หากจะท�ำกิจการ ใดๆ ใหญ่ๆ เดือนนี้อาจจะ ยังไม่เหมาะและอาจจะยัง ไม่มาด้วยโอกาส รอไปสัก หน่อย ถือว่าเดือนนี้พักผ่อน ชิลๆ นิ่งๆ ครุ่นคิดวางแผน ไปก่อนสักระยะ

ราชาดาบ ว่าด้วยเรื่อง การตัดสินใจ การ ลงมือ การควบคุม ทั้ง กายใจ ทั้งปัญหาชีวิตการ งาน ทั้งระบบอดีต ปัจจุบันอนาคต ว่ากัน ไป เพราะมีเรื่องให้ตัดสิน ใจแน่ๆ คิงคือความเป็น ใหญ่ ดังนั้นระวังการ ตัดสินใจที่กระทบกระทั่ง จิตใจคน ระวังความใจ ใหญ่ ใจเร็ว ใจร้อน ซึ่ง ดาบอาจจะน�ำปัญหาปวด หัว ปวดใจ มาให้ได้ด้วย

ความรักดี ความสัมพันธ์ ดี ในถ้วยทั้งหก มีดอกไม้ มีของขวัญมาครบถ้วน มี ผู้คนน�ำมามอบให้ ดังนั้น การสื่อสาร การติดต่อ ผู้คน หรือความรักความ สัมพันธ์ จะเป็นไปด้วยดี มากๆ ด�ำเนินทาง สะดวก ลื่นไหล สบาย กายและใจแน่นอน

ราชินถ ี อ ื ถ้วย ความรักความ สัมพันธ์สวยงาม เจ้าดวง เป็นหญิงจะยิง่ ดีงาม หรือ หากเป็นชายก็จะได้ใช้ความ อ่อนโยน ในการติดต่อ สือ ่ สารความรักความ สัมพันธ์ได้อย่าง สวยงาม ติดต่อกิจการงาน ได้เป็นไปได้ในทาง สะดวก ใช้ความยืดหยุ่น อ่อนหวานในการจัดการทัง้ กิจการงานและผู้คน ควบคุม แบบไม่ควบคุมจัดการแบบ ไม่จด ั การ ไร้กระบวนท่าคือ สุดยอดวรยุทธ์ เอ้า! ว่ากัน ไปนัน ่

การงาน การเรียน อยู่ ในช่วงค่อนข้างสับสน วุ่นวาย แต่มิใช่ที่ตัวงาน เนื้องาน กลับกลายเป็น ความวุ่นวายของคน รอบข้าง ทีมงาน หรือ ลูกน้อง เพื่อนพ้องน้อง พี่ / จะว่าไปข้อดีก็ คือ การงาน การเรียน ยังเดินหน้าต่อไปมิได้ หยุดยั้ง แต่คง จะเหนื่อยหนักกันเลยใน ช่วงเดือนนี้ สู้ไป คน ไทยบินได้ (O,O)

รู้ไปท�ำแมว ดวงรายเดือนดูที่นี่ที่เดียว ส่วนดวงรายสัปดาห์ดูแบบสดๆ ได้ที่ Cat Radio รายการหมอสองสามมิติ ทุกวันพฤหัสบดี สี่ทุ่มถึงเที่ยงคืน โดยหมอสอง (2Dox หรือ จักรพงศ์ สิริริน) และ หมอยิป (ยิปโซ – อริย์กันตา) 26

‘Go away’ by Scootslande (สกู๊ตแลนด์)

‘ไม่รู้ต้องไป ทางไหน’ by Panch

‘New Balance’ by Dhrama Plaro

วงเล็กๆ แนวอะคูสติกจากบาง แสนที่เครื่องไม้เครื่องมือค่อนข้าง เป็นธรรมชาติ มีกีตาร์ 2 ตัว เก้าอี้ 1 ช้อน 1 กระดานซักผ้า 1 แม้ เครื่องมือจะดูธรรมดาๆ แต่ฝีมือไม่ ธรรมดา แต่งเพลงดี เรียบเรียงก็ ด้วย ตอนนี้ส่งมาที่ Cat Radio 2 เพลงคือ ‘They Cry’ กับ ‘Go Away’ ยังเร็วเกินไปที่จะจ�ำแนกว่า เพลงของพวกเขาเป็นอะคูสติก แบบไหนเพราะเพิ่งเริ่ม ‘They Cry’ เป็นเพลงอะคูสติกที่มีจังหวะ จะโคนสนุก ส่วน Go Away นี่เป็น อะคูสติกที่มีกลิ่นโพสร็อกต์ ซึ่งทาง ดีทั้งสองเพลง น่าติดตามมากว่า เพลงต่อไปของพวกเขาจะไปทาง ไหน

ฟังรอบแรกก็ติดใจในมู้ดของ เพลง สงสัยว่าเป็นใครมาจากไหน ท�ำไมแต่งเพลงดีจัง เห็นชื่อสกุล จริง "ปัญญ์ชลี จ�้ำแพงจันทร์" ก็นึก ไม่ออก เพราะยุคนี้ศิลปินเยอะเกิน ที่จะจ�ำชื่อจริงได้ ถามไปถามมาถึง รู้ว่าคือน้องปอนด์ มือคีย์บอร์ดของ วง Summer Dress บรรยากาศ ในเพลงดีมาก เริ่มจากแกนของ เพลงเนื้อท�ำนองที่ลื่นหูฟังไม่สะดุด เมโลดี้เศร้าๆ เข้ากันได้ดีกับไลน์ กีตาร์ การร้องซ้อนกันสองไลน์ สูงๆ บางๆ ไลน์หนึ่ง ลงคอไลน์ หนึ่ง สร้างความวังเวงได้อย่างน่า ประหลาด เสียงผิวปากดีมาก องค์ ประกอบพอดี ไล่เรียงอารมณ์ได้ดี เหมือนเวลามีเพื่อนมาระบาย ความในใจหลังเลิกกับแฟน เริ่ม จากพูดและปล่อยโฮในตอนจบ เพลงนี้ได้พี่เจษฎา หันช่อมาช่วย โปรดิวซ์ด้วย

เป็นงานใหม่ล่าสุดของน้อง กล้วย (วิชญ์พล บัวหมื่นชล) อดีต สมาชิกของวงจริญตนาใก ซึ่งหลัง จากยุบวงไป กล้วยก็ท�ำงานอีก หลายโปรเจกต์ เช่น Yaan(World Music), ชากังราว(Noise/ Rock), Freeman (งานเดี่ยว) และเป็นมือปืนรับจ้างเล่นเบสให้ กับศิลปินที่เรารู้จักดีหลายๆ คน เช่น พี่น้อย พรู, Yellow Fang, พี่อรอรีย์ ส�ำหรับ Dhrama Plaro นี้ท�ำกับเพื่อนชื่อต้น สองคนนี้เคย ท�ำเพลงร่วมกันในชื่อวง Tyran ตั้งแต่สมัยเรียน พอกลับมารวมกัน ใหม่เลยเปลี่ยนชื่อ ซึ่งชื่อนี้มาจาก ค�ำว่า "ธรรมะ พโล" เป็นชื่อของ กล้วยตอนบวช แต่บิดค�ำให้เป็น "ดราม่า พะโล" เพื่อจะได้ไม่ต้อง แต่งเพลงที่มีเนื้อหาทางธรรม เพลงนี้เป็น Old School Hip Hop หวานๆ ลอยๆ เหมือนมีปีก ที่ชวนให้บินขึ้นไปท�ำความฝันให้ เป็นจริง

‘ยังเยาว์’ by Anatomy Rabbit

เพลงแนะน�ำ จาก Bedroom Studio โดย ดีเจวราฤทธิ์ มังคลานนท์ แห่ง Cat Radio

‘แล้วเธอจะรู้บ้าง ไหม?’ by Dept ดูจากเครดิตแล้ว นี่เป็นโปร เจกต์ของอดีตมือกีตาร์วง The Kayei ที่แยกตัวออกมาท�ำเพลง ส่วนตัวตั้งแต่ช่วงต้นปี ฟังจากเพลง แล้วก็เห็นถึงความแตกต่าง เพลง ของ The Kayei จะออกพังค์ ส่วน Dept จะเป็นอินดีพ็อพ ซึ่ง เข้าถึงง่ายหมด ถ้าคุณชอบเพลงที่ มีเมโลดี้สวย เสียงร้องบางๆ กีต้าร์ กระชับ เสียงซินธ์เพราะๆ คุณน่า จะชอบเพลงนี้

อินดี้ป๊อปน่ารัก ลูกเล่นใน เพลงฟังแล้วสนุกหู ทั้งกลอง กีตาร์ และการเลือกค�ำ "ยังเยาว์" มาใช้ โทนของเพลงสามารถใช้ประกอบ หนังของเต๋อ นวพลได้สบาย พวก เขามาจากจังหวัดอุดรธานี มีสอง คนคือโอ๊คกับทัช "ยังเยาว์" เพลงนี้ เป็นเพลงที่สองของวง โดยมีซิงเกิล แรกที่จะออกนัวกว่าคือ ‘Every Time’ แรงบันดาลใจในการท�ำ เพลงของพวกเขาก็มาจากงานของ วงเหล่านี้ No Vacation , Men I trust , The Marais , Sunflower Bean

รู้ไปท�ำแมว สแกน QR Code ลองฟังเพลงทัง้ 5 แล้วไปติดตามเพลงดีจากวงดนตรีมไี ฟ แบบ เบด เบด อีกมากมายได้ในรายการเบดรูม สตูดโิ อ ทุกวันเสาร์ 3–4 ทุ่ม ทาง www.thisiscat.com และ app: Cat Radio 27


แมวนอก

แมวนอก

โดย ดีเจ Sonny & Nor

เพลงดีมีทั่วโลก คัดสรรและบอกต่อ โดย ดีเจ Sonny & Nor กูรูคู่รู้รอบ จากรายการ แมวนอก แห่ง แคท เรดิโอ

ดีเจซอนนี่ อาทิตย์ พรหมประสิทธิ์ Heart warming Playlist: 100% Made In Japan เพลย์ลิสต์รวมเพลงญี่ปุ่นเพื่อ ความอบอุ่นของหัวใจ ทุกเพลงขอ ได้ทางรายการ “แมวนอก” ฮะ 1. ‘Summer Touches You’ – Tohusu Shinkansen ดูโอหนุ่มสาว Narumi กับ Etsu ทีเ่ ปี่ยมไปด้วยฝีมอ ื ทางดนตรี ทั้งแต่งเพลงและร้องประสาน นี่ เป็นเพลงดังของทั้งคู่ที่ใน 4 นาที กว่าๆ หัวใจของคุณจะพองโตไป ด้วยความสุข 2. ‘Peace And Magic’ – Lucky Tapes เพลงส�ำหรับใครก็ตามที่อยาก ประดับรอยยิ้มไว้ในหัวใจ 3. ‘Shojo-Kashu’ – Kumiko Suyama ความละเมียดสุดละไม เมื่อ ดนตรีคลาสสิคเปิดบทสนทนากับ

ตัวอย่าง ส่วนงานหน้าบีของฮารุมิ ยูกิที่แค่เสียงกีตาร์อินโทรก็ท�ำให้ใจ เตลิดไปริมหาดแล้ว และ TUBE เป็นวงดนตรีป๊อปที่ก�ำเนิดมาเคียง ข้างกับความวิจิตรของการพักผ่อน ในหน้าร้อนโดยแท้ 9. ‘Let’s Wait Awhile’ – JUJU โซลสโลว์แจมของ Janet Jackson กลายเป็น lovers rock แสนสวยของ JuJu ในปี 2004 ล่าสุดขุดมารวมในการกลับ มาของซีดีซีรีส์ “Relaxin’ With Japanese Lovers” (Volume 6) 10. ‘Tokyo Melody’ – Shoody เมโลดี้ประกอบการเดินเที่ยวชมชื่น แสงสีของนครโตเกียว ใช้ได้กับทุก เทศกาล

ดนตรีพอพฝรั่งเศสแต่ขับร้องออก มาในภาษาญี่ปุ่น 4. ‘04:00 AM’ – Taeko Ohnuki จากอัลบั้มอมตะ “Mignonne” ในปี 1978 ผลงานนัก แต่งเพลงหญิงที่ทรงอิทธิพลและมี บทบาทมากที่สุดคนหนึ่งของญี่ปุ่น 5. ‘Bahama’ – Bal Balloon 6. ‘Town And Country’ – Yuji Dan 7. ‘Seaside Highway’ – Harumi Yuki 8. ‘The Season In The Sun’ – TUBE ความถนัดในการท�ำเพลง กระตุ้นต่อมการใช้ชีวิตเพื่อการ เที่ยวทะเลท่องมหาสมุทรของคน ญี่ปุ่น คู่ควรกับเป็นแชมป์โอลิมปิก สาขานี้ ดูอย่างสองเพลงแรกนี้เป็น 28

รู้ไปท�ำแมว ติดตามฟังรายการ “แมวนอก” ได้ทุกศุกร์ สามทุ่มถึงเที่ยงคืน ที่ Cat Radio ดูรายชื่อเพลงได้ที่ www.facebook.com/sonnyandnorcatradio

ปัญหามลภาวะที่เกิดจากขยะ พลาสติกนั้นมีมากมาย ตั้งแต่ถุง พลาสติกที่คาอยู่ในท้องปลาวาฬ หลอดที่เสียบเข้าไปในรูจมูกเต่า ทะเล ปลาและนกที่ถูกเศษ พลาสติกพันตัว วงดนตรีหลายๆ วง และเทศกาลดนตรีหลายๆ แห่ง เริ่มใส่ใจในการลดขยะพลาสติก เหล่านี้แล้ว ล่าสุดทางผู้จัดเทศกาลดนตรี อินดี้ต่างๆ ในประเทศอังกฤษได้ลง นามร่วมกัน ที่จะแบนขยะพลาสติก (แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง) ทั้งขวดน�้ำดื่ม หลอด ถุงขยะ ถาดอาหาร ช้อน ส้อมต่างๆ ในเทศกาลดนตรีถึง 60 เทศกาล ให้ขยะหมดสิ้นไป ภายในปี 2021 แม้กระทั่ง Glastonbury Festival ก็ได้ประกาศออกมาว่า จะแบนขวดพลาสติกในปีหน้า (2019) เพราะที่ผ่านๆ มา มีการใช้ขวดน�้ำพลาสติกถึง 1 ล้าน ขวด และทางทีมงานก็ได้เริ่ม รณรงค์ในการลดขยะพลาสติกมา ตั้งแต่ปี 2014 โดยการแจกขวดน�้ำ สแตนเลส ซึ่งสามารถเติมน�้ำได้ฟรี ตามจุดเติมน�้ำต่างๆ ในเทศกาล แต่ในปีที่ผ่านมาขยะก็ยังล้นเหลือ จนต้องใช้เวลาในการเก็บเป็นเวลา นาน - ‘Fragments’ - Jack Johnson : ศิลปินหนุ่ม นักอนุรักษ์ธรรมชาติ นักเล่น กระดานโต้คลื่น ได้พยายามครั้ง แล้วครั้ง เล่าในการพูดถึงปัญหาสิ่ง แวดล้อมต่างๆ รอบๆ ตัว และ เพลงนี้ก็พูดถึงปัญหาขยะพลาสติก - Jack Johnson ได้แบน การใช้ขวดน�้ำพลาสติกในทัวร์ คอนเสิร์ตของเขา ที่ออสเตรเลีย ในปีที่ผ่านมา - Katie Noonan ศิลปิน สาวชาวออสเตรเลีย ที่ประดับ ประดาเวทีคอนเสิร์ตของเธอด้วย ขวดพลาสติกที่ใช้แล้ว - องค์กร Green Music Australia ได้รณรงค์แคมเปญ #BYOBottle หรือ #BringYour OwnBottle ซึ่งได้ให้แฟนๆเพลง น�ำภาชนะบรรจุน�้ำของตนเองมาใช้ ขณะชมคอนเสิร์ตในเฟสติวัลต่างๆ - และมีอีก 5 เทศกาลดนตรี ขนาดใหญ่ของอังกฤษอย่าง The

โดย ดีเจ Sonny & Nor

เพลงดีมีทั่วโลก คัดสรรและบอกต่อ โดย ดีเจ Sonny & Nor กูรูคู่รู้รอบ จากรายการ แมวนอก แห่ง แคท เรดิโอ

ดีเจนอร์ วีระยศ เตยะราชกุล

Wayne Cayne The Flaming Lips และ Zero Plastic Cup

หวังว่าเทศกาลดนตรีต่างๆ ใน ประเทศไทย จะมีการรณรงค์การ ลดขยะพลาสติกบ้าง และอาจจะ เป็นประเทศแรกที่ทุกเทศกาล ดนตรีไม่ทิ้งขยะเอาไว้สักชิ้นเดียว (O,O)

Love Box, The Great Escape ได้แบนการใช้หลอด พลาสติกด้วย รวมไปถึงเทศกาล ดนตรีที่เรารู้จักกันดีอย่าง Coachella ก็ได้ตั้งเป้าที่จะก�ำจัด การใช้หลอดพลาสติกออกจาก เฟสติวัล อีกไม่นานเราคงได้เห็น การสูญพันธุ์ของหลอดพลาสติก ต่างๆ บนโลกใบนี้อย่างแน่นอน - ยังมีศิลปินอีกมากมายที่ยัง “รักษ์โลก” และได้ร่วมรณรงค์ใน แคมเปญต่างๆ มากมายทั้งลดโลก ร้อน ลดการใช้แก๊ส อนุรักษ์สัตว์ป่า ป่าไม้ งดการทารุณสัตว์ ทั้ง Pink, Drake, Maroon 5, The Roots, John Legend, Bruno Mars, Pharrell Williams, Slash, Paul McCartney, Wycliff Jean, Will.I.Am,

รู้ไปท�ำแมว แน่นอนว่า Cat Expo และทุก งานที่ Cat Radio จัดนั้น ยินดีอย่าง ยิ่งที่จะส่งเสริมให้ทุกคนทิ้งขยะให้ถูก ที่ และลดขยะทั้งจากพลาสติกและ สิ่งไม่จ�ำเป็นใดๆ ก็ตาม ร่วมมือ ร่วมใจกันนะทุกคน

29


อ่านไป ดูไป ฟังไป

#หนังคส หน้าแมว

Altered Carbon

Burning (2018)

Created by Laeta Kalogridis

จากต้นทางเรื่องสั้นก�ำกวมเลือนรางของคุณมูราคามิ ผกก อีชางดง พลิกกลับนิดหนึ่งแล้วโยนความคับแค้น กดดันของยุคสมัยผสมลงไป จนได้ผลลัพธ์เป็นความเดือด พล่านซึ่งจะเผาผลาญทุกสิ่งให้มอดไหม้ในความเงียบงัน ฉากสามคนหน้าบ้านนี่ Magic Moment เหลือเกิน

Disobedience (2017)

โดย เต่า เดือนสอง

อ่านไป ดูไป ฟังไป

จังหวะหนังช่วงแรกที่ค่อยค่อยเปิดเผย เรื่องหนหลัง ภายใต้ความอึมครึมกดดันนี่ เยี่ยมยอดมาก จนถึงฉากหนึ่งที่คุณ Rachel McAdams ท�ำให้ข้าพเจ้าตื่นตะลึง จะอดทน อยู่หรือหลบหนีไป ตอบได้ไหมว่าใครเสียใจ กว่ากัน? ร้าวราน

Taxi Driver (1976)

ซีรีส์ไซเบอร์พังก์ สืบสวน ฆาตกรรม ในโลกอนาคตหลายร้อย ปี ที่สร้างมาจากนิยายของริชาร์ด เค. มอร์แกน Altered Carbon ก�ำหนดเงื่อนไขที่สลับซับซ้อนอยู่ พอสมควร ในโลกที่ถูกสร้างขึ้น เป็นโลกเฉพาะที่มีความแปลกใหม่ เสียดสี และสามารถสร้างค�ำถาม เจ๋งๆ ให้กับคนดู ทีมผู้สร้างมี เซอร์ไพรส์หักมุมไปตามทาง ตาม จังหวะแบบหนังสืบสวนที่เข้มข้น ขณะเดียวกัน ตัวเรื่องก็เปิดความ คิด มุมมองและจินตนาการสลับไป กับฉากแอ๊กชั่น ที่จัดว่าถึงพริกถึง ขิง Altered Carbon ท�ำงาม ของตัวเองส�ำเร็จ บนโจทย์ที่จะว่า ไปก็ยากเอาการ และมีคู่ให้เปรียบ เทียบอยู่ไม่น้อย

โดย ไก่ เดือนเก้า

Blacklist The Completed 5th Season Created by Jon Bokenkamp

ซีรีส์แอ๊กชั่น – สืบสวน ปีที่ 5 ที่ยังคงเล่นอยู่กับ ความลับ ความสัมพันธ์ และความขยันสับขาหลอก เดี๋ยวซ้าย เดี๋ยวขวา บิดไปบิดมา Blacklist เป็นเรื่อง ของตัวละครหลักๆ 2 คน คนหนึ่งเป็นอาชญากรคน ส�ำคัญ อีกคนเป็นเอฟบีไอสาวกับ

Mr. Robot The Completed 3rd Season

“Loneliness has followed me my whole life, everywhere. In bars, in cars, sidewalks, stores, everywhere. There's no escape. I'm God's lonely man.” Travis Bickle

Created by Sam Esmail

Hereditary (2018) ก่อนออกจากบ้านไม่ลืมห้อยพระ ระหว่างนั่งดูก็ครุ่นค�ำนึงถึงความ เป็นกลไกต่างๆ นานา จึงช่วยบรรเทาความหยองลงไปได้(บ้าง) เมื่อดูจบ แล้วความน่ากลัวจะลดลง แต่ความโหดร้ายเขย่าขวัญกลับทวีมากขึ้น เพราะหลอนเรื่องอะไรละแวกนี้มากกว่าผี (O,O)

30

Mr. Robot เป็นซีรีส์ อาชญากรรม สืบสวน ปี 3 ที่เล่า เรื่องแฮกเกอร์ และการชิงอ�ำนาจ ในโลกทุนนิยม ปีนี้ต่อยอดเรื่อง ทั้งหมด มาจากซีซั่นก่อน ได้อย่าง เข้มข้น สนุก กระชับ มีการใช้ สไตล์ ลีลา ที่โดดเด่น ไม่ฟุ่มเฟือย และเล่าเรื่องได้อย่างน่าติดตาม โดยเฉพาะการเล่นกับปัญหา ความซับซ้อน และความขัดแย้ง ต่างๆ ของตัวละคร Mr. Robot ในปีนี้ พาตัวละครถล�ำลึกลงไปใน สถานการณ์ที่เกินควบคุม กดดัน และโหดร้ายกว่าที่คิด แต่ก็ยังทิ้ง หนทางรับมือเอาไว้ให้ ส่วนคู่มือ การใช้ คงต้องว่ากันใหม่ในซีซั่นต่อ ไป

รู้ไปท�ำแมว สองหน้านี้เป็นพื้นที่ของดีเจ ประจ�ำช่วงหนังหน้าแมว แห่ง Cat Radio ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมา เล่าเรื่องหนัง หนังสือ เพลง หรือ ใดๆ ก็ตาม ที่เขาสนใจและอยาก บอกต่อ เราเองก็อยากชวนทุกคน อ่านแล้วไปร่วมวงสนทนาเรื่อง ต่างๆ นานาได้อย่างเพลิดเพลินทุก วันอาทิตย์ เวลา 3 ทุ่ม ถึงเที่ยงคืน ที่ www.thisiscat.com, app: Cat Radio 31

เงื่อนไขบางอย่าง ที่ท�ำให้ทั้งคู่ต้องมาท�ำงานร่วมกัน บน ปมความลับมากมายที่ค่อยๆ เปิด ค่อยๆ เผย ไปใน แต่ละปี Blacklist เป็นซีรีส์แบบจบในตอน แต่ก็มีเส้น เรื่องหลักๆ ที่วางเอาไว้ให้ติดตาม ใครชอบเนื้อหาสาระ แบบเป็นจริงเป็นจัง แนะน�ำให้ผ่าน แต่ถ้าใครดูหนัง แบบเวอร์ได้ ออกทะเลได้ อ้าวเฮ้ยได้ โดยไม่เสีย อารมณ์ หนังชุดนี้ก็จัดว่าดูได้สนุก และการแสดงของ เจมส์ สเปเดอร์ ก็มีเสน่ห์ และดูเป็นของจริงในโลก ปลอมๆ ที่ปลอมอย่างไรเราก็ดู


รูปแบบการบริหารศิลปินของสนามหลวง หรือ Artist Model ทั้ง 4

GUEST REC Text: พัสวรรณ Photo: พิมพกานต์, ในปีที่ผ่านมา เราได้ยินได้เห็นบทเพลงและมิวสิกวิดีโอของวง ดนตรีที่คุ้นเคยทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่นับสิบผ่านสื่อของสนามหลวง มิวสิก ในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ด้วยความสงสัยถึงแรงจูงใจ นอกจากสอบถามศิลปินที่ สัมภาษณ์ลงเค้าแมวบ้าง พบปะที่แคท เรดิโอและงานต่างๆ บ้าง ก็ได้ค�ำตอบว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่เปิดให้บทเพลงเดินทางถึงผู้ฟัง หมู่มากจึงตกลงลองลงสนามกันดู ส่วนสาเหตุที่สนามแห่งนี้เปิดพื้นที่ให้เหล่าศิลปินมากขึ้นนั้น เป็นอย่างไร เรามีค�ำตอบจากผู้บริหารทั้งด้านภาพรวมและราย ละเอียด เจ๋อ-ภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จี เอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จ�ำกัด (มหาชน) ซีอีโอ ค่ายเพลงที่สั่งสมประสบการณ์จากเอเจนซี่โฆษณา เป็นทีก ่ ล่าวขวัญ เรือ ่ งฝีมอ ื ทัง้ ด้านครีเอทีฟและธุรกิจ คุณมองภาพรวมของสนามหลวงมิวสิก เป็นอย่างไร จริงๆ สนามหลวงมีการก่อตั้งมายาวนาน แล้วก็เปลี่ยนผ่าน มาหลาย Generation นะครับ ตั้งใจให้เป็นที่ที่อินดี้ทุกคน ได้รับ โอกาสที่ดีขึ้น แล้วก็สามารถเดินทางในธุรกิจดนตรีที่เติบโตร่วมกัน ให้ได้ นี่คือภาพใหญ่ เพราะโมเดลของสนามหลวง ไม่ผูกขาด เปิด โอกาส กว้างในเสรีภาพของความคิดที่จะสร้างสรรค์ผลงาน ในแบบ ที่เป็นของศิลปินจริงๆ ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม สิ่งที่สนามหลวง เตรียมพร้อม รองรับไว้ คือ Infrastructure (โครงสร้างพื้นฐาน) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Channel, Promote หรือเวที ที่จะได้ แสดงออกรวมถึงรูปแบบของการ ส่งเสริมการค้านะครับ เพราะ ฉะนั้นน่าจะเป็นโมเดลที่ผมว่าครอบคลุมที่สุดในการท�ำงานร่วมกับ ศิลปินทุกรูปแบบนะครับ ผมเชื่อว่า Business หรือ Artist Model เป็นหัวใจส�ำคัญ ที่สุด สนามหลวงถูกพัฒนาในการ Repositioning ให้มี Artist Model 4 รูปแบบ ซึ่งหัวใจที่ส�ำคัญที่สุดคือแบบที่ 1 คือศิลปินเป็น เจ้าของลิขสิทธิ์ โดยที่เขายังท�ำเพลง ท�ำภาพ ท�ำ เอ็มวี ท�ำทุกอย่าง มาเอง แต่เอาสิทธิ์ให้สนามหลวงเป็นผู้บริหารจัดการสิทธิ์ นั่นหมาย ถึง เขาจะเข้ามาอยู่ใน Eco–System ของ Grammy Group หมายความว่า เขาก็ใช้แพลตฟอร์มของสนามหลวง รวมถึงการใช้ แพลตฟอร์ม ของ Grammy Official ซึ่งปัจจุบัน ก็เป็นแชนแนลที่ ใหญ่ที่สุดในยูทูป ในธุรกิจเพลงนะครับ มี Subscription กว่า 12 ล้าน สนามหลวงเองมี 950,000 แล้วเราก็ยังมี Facebook มี Instagram มี Twitter มี Line นี่คือ Eco–System ทั้งหมดที่ ครอบคลุมในการซัพพอร์ตศิลปินนะครับ ภาพรวมอย่างที่บอก คือ อยากจะให้เติบโตไปด้วยกันครับ จุดแข็งของแกรมมี่และอินดี้สอดคล้องกันไหม อย่างไร สอดคล้องมากๆ เลยครับ ผมเชื่อว่าจุดแข็งของอินดี้ คือ นวัตกรรมใหม่ ความเชื่อเรื่องใหม่ๆ สิ่งที่คิดไม่เหมือนคนอื่นนะครับ และความแตกต่าง ผมว่าตรงนั้นคือจุดเริ่มต้นและจุดใหญ่ที่สุดของ โอกาสที่จะเกิดความส�ำเร็จนะครับ ความเป็นแกรมมี่ Infrastructure หมายความว่า เรามีองค์ประกอบทั้งหมดที่พร้อมที่จะท�ำให้สิ่ง ที่คุณท�ำนั้นกระจายตัวสู่คนได้มากที่สุด เข้าถึงได้มากที่สุด หรือมี โอกาสที่ท�ำให้เกิดความประทับใจได้มากที่สุด Infrastructure มองเห็นได้หลายมิตินะครับ เอามิติที่หนึ่งก่อน ปฏิเสธไม่ได้ว่าใน อุตสาหกรรมเพลง Digital Platform ของแกรมมี่ทั้งระบบก็มี ความแข็งแกร่งในเชิงของการมี Fan Base นะครับ จุดที่สองก็คือ แชนแนลการปล่อยของแกรมมี่ผ่าน JOOX, Spotify, iTunes, Line Music หรือแม้กระทั่ง Youtube ก็มี ความแข็งแกร่ง มันคือ Infrastructure ในการเกื้อกูลให้เกิด โอกาสเพลงดังนะครับ คือ ค�ำว่าเพลงดังของแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่ ผมเชื่อว่า น่าจะดีกว่าเขาปล่อยบนแชนแนลเขาเองนะครับ แล้วเราก็ ไม่ได้มีข้อจ�ำกัด เขาจะลิงก์ไปสู่แชนแนลเขา ก็ยังท�ำแบบเดิมได้ ไม่มี การกีดกัน เพราะเรามองเป็นเรื่องอิสรภาพ ผมว่าสิ่งที่อินดี้เขา ต้องการ คือ เขาอยากให้สิ่งที่เขาเชื่อถูกพิสูจน์ ต่อหน้าสายตาคน ที่รักอินดี้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นวันนี้แกรมมี่ก็วางเน็ตเวิร์กของ

1. ศิลปินอินดี้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ สามารถผลิต สร้างสรรค์เพลงและมิวสิกวิดีโอ ได้ด้วยตนเอง โดย มอบให้สนามหลวง มิวสิกช่วยบริหารจัดการสิทธิ์ ทั้งหมด 2. ศิลปินอินดี้และสนามหลวงมิวสิกร่วมกันผลิต สร้างสรรค์เพลงและมิวสิกวิดีโอ โดยเป็นเจ้าของ ลิขสิทธิ์ร่วมกัน 3. ศิลปินอินดี้เป็นศิลปินในสังกัดสนามหลวงมิวสิ กอย่างเต็มรูปแบบ 4. ศิลปินอินดี้หรือกลุ่มคนดนตรีที่ผลิตสร้างสรรค์ เพลงเอง เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตร โดยเป็นความ ร่วมมือระหว่างสนามหลวงมิวสิก และ Music Community นั้นๆ

กลยุทธ์ของสนามหลวงมิวสิก ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก 1. สนามปล่อยของ คือพื้นที่ของศิลปินอินดี้ทุกแนวดนตรีที่สามารถสร้างสรรค์ ผลงานได้อย่างอิสระ ด้วยรูปแบบของ Artist Model ที่หลากหลาย และได้รับ การสนับสนุนในทุกช่องทางของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่และสนามหลวงมิวสิก 2. สนามโชว์ของ คือเวทีการแสดงความสามารถทางดนตรีของศิลปินอินดี้บน พื้นที่ที่จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่และสนามหลวงมิวสิก ได้จัดเตรียมไว้ เช่น Big Mountain Music Festival, What The Fest, สนามหลวงมิวสิก เพลย์ ไทม์ รวมถึงกิจกรรมอื่นๆของพันธมิตร เช่น The Knack Market ของThe Jam Factory และเวทีต่างๆ ของ Nylon Thailand, De Commune และ You2Play 3. สนามลองของ คือ พื้นที่ของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่และสนามหลวงมิวสิก ที่ได้ จัดเตรียมไว้ให้ศิลปินในสังกัด ได้แก่ อพาร์ตเมนต์คุณป้า, โลโมโซนิค และ ทา บาสโก้ โดยทั้ง 3 ศิลปินยังคงสามารถสร้างสรรค์เพลงที่เป็นเอกลักษณ์ได้อิสระ อย่างเต็มที่

จิราภรณ์

ภาวิต

ลงสนามกับสนามหลวง

ภาพรวมศิลปินจากงาน สนามหลวง Wedding Party พื้นที่ในการโชว์ ที่เราเรียกว่า “สนามโชว์ของ” ไว้ ไม่ว่าจะเป็น Big Mountain, What The Fest, Sanamluang Music Playtime The Knack Market คือการ Co กับ The Jam Factory หรือ You2Play หรือ De Commune ก็เป็นพื้นที่ที่กลุ่มคนอินดี้เขาใช้ชีวิต อยู่ด้วยเช่นกัน ดังนั้น นี้คือ สิ่งที่ผมว่าเป็น Infrastructure ที่สอง ที่ เป็นรูปธรรมนะครับ Infrastructure ที่สามก็คือ เมื่อสิ่งที่เขาเชื่อมั่น ในสิ่งที่เขาท�ำขึ้น มา ได้รับการยอมรับนะครับ แกรมมี่ก็พร้อมที่จะบริหารในการค้าขาย เขาก็ค้าขายเองได้ด้วย เราไม่ได้ไปปิดกั้นนะครับ เราช่วยกันค้า เป็นการเพิ่มพื้นที่ให้คนอินดี้ เหมือนเสริมอาวุธให้เขามากขึ้น ครับ แล้วสิ่งที่แกรมมี่ได้ หรืออยากได้กลับไปล่ะคะ

32

ผมอยากมีเพื่อนมากขึ้นครับ ส�ำคัญอย่างไรคะ การมีเพื่อนมากขึ้น ผมคิดว่าในรูปแบบปัจจุบัน ระบบค่าย เพลงไม่ต้องดูแลเรื่องของตัวเลขหลายด้าน จะเห็นการเปลี่ยนแปลงว่าแกรมมี่ในยุคนี้ไม่ ได้ให้ความรับผิดชอบด้านก�ำไร-ขาดทุน อยู่ ในระบบค่ายเพลงอีกต่อไป ก�ำไร–ขาดทุน เป็นเรื่องของทั้งบริษัทแกรมมี่ เพราะฉะนั้น ถ้าเราสามารถร่วมมือ จับมือ หรือเดินทาง กับคนที่คิดเหมือนกันได้ หรือส่งเสริม อุตสาหกรรมได้ ผมว่านั่นเป็นสิ่งที่แกรมมี่ ตั้งใจจะเดิน

ผมพูดแล้วเหมือนเอาหล่อๆ นะ แต่ จริงๆ แล้วผมว่าเราอยู่บนความเป็นจริง หนึ่ง ผมว่าธุรกิจเพลงไม่ใช่ธุรกิจที่เกิดการแข่งขัน ธุรกิจเพลงเป็นเรื่องของจิตวิญญาณที่คนรัก ธุรกิจส่งเสริมให้อุตสาหกรรมเพลงเติบโต ไม่ ว่าคุณเป็น Pop, Rock, Mainstream, Mass, Urban, Indie ทุกคนก�ำลังสร้าง เอ็นเตอร์เทนเมนต์ทางด้าน Music Value ให้กับประชาชน แกรมมี่เอง ผมว่าด้วย Scale Size ที่เราเป็นอยู่ เป็นเหมือนคนที่น�ำอุตสาหกรรม แล้วการที่เราจะไม่มีวันทิ้งอุตสาหกรรมนี้ และยังด�ำเนินหน้าไป เราคงจะต้องไม่มีเส้น แบ่งระหว่างความเป็นบริษัทกับความฝันของ คน เพราะฉะนั้นที่เห็นได้ชัดที่สุดของ โมเดล สนามหลวงที่เรา Repositioning ก็คือว่า คุณไม่ต้องมาเป็นศิลปินแกรมมี่ คุณก็ท�ำงาน แกรมมี่ได้ ผมว่านี้คือหัวใจที่เติบโตไปด้วยกัน เมื่อผมมีเพื่อนเยอะขึ้น คนรักผมมาก ขึ้น เราก็ท�ำอุตสาหกรรมดนตรีให้โตขึ้น นี่คือ หัวใจส�ำคัญ ศิลปิน ไม่จ�ำเป็นจะต้องเซ็น สัญญา กับสนามหลวงนะครับ เขายังเป็น เจ้าของลิขสิทธิ์ นี่คือหัวใจใหญ่มากที่อินดี้ทุก คนกังวลนะ แล้วงานก็ท�ำได้เอง เราไม่แก้ มา ให้เราบริหารสิ แบบที่สองคือ เป็นเจ้าของ สิทธิ์ร่วม ก็คือแกรมมี่เข้าไปร่วมลงทุน พี่ๆ จะเป็นโค้ชในการซัพพอร์ต แบบที่สาม เซ็น เป็นศิลปินสนามหลวง แบบที่สี่คือ คุณไม่ ต้องเป็นศิลปินแต่คุณมีค่ายเพลงเล็กๆ ก็มา จับ แพลตฟอร์มร่วมกับแบรนด์สนามหลวง สนามหลวงคือหน่วยงานเดียวของแกรมมี่ ที่ใช้โมเดลและยุทธศาสตร์ที่เล่ามาหรือ เปล่าคะ ใช่ครับ ปัจจุบันเราแบ่งค่ายเพลงเป็น ประเภทของ Segment เพลง ก็คือ ป๊อป ร็อก ลูกทุ่ง นะครับ คุณต้องเซ็น สัญญาเป็น ศิลปินแกรมมี่ถ้ามาอยู่ White Music มา อยู่ genie records มาอยู่ Grammy Gold แต่วิธีคิดของสนามหลวงคือวิธีคิดที่ คิดไม่เป็นแกรมมี่ คิดตรงกันข้าม มาอยู่นี่ไม่ ต้องเซ็นสัญญา เพราะว่า Business Model ไม่จ�ำเป็นต้องเดินทางไปในรูปแบบ เดียวกัน ผมเชื่อว่า การที่คุณถูกเรียกว่าอินดี้ คุณคงคิดไม่เหมือนเมนสตรีมน่ะ ค่ายเพลงนี้ ก็ต้องมี Artist Model หรือ Business Model คิดแตกต่างจากที่แกรมมี่ เป็น เพราะฉะนั้นจะสวนทางหมด เทรนบุคลากรที่จะต้องท�ำงานสวนทางกับ ระบบใหญ่ในแกรมมี่อย่างไร ไม่ต้องเทรนเขา เขาคิดนอกกรอบอยู่ แล้ว (หัวเราะ) จริงๆ แล้วเราก็แค่คิดว่า เรา เห็น Logic อย่างนี้ เราตั้งสนามหลวงขึ้นมา เราก็เชื่อว่า เรามีบุคลากรที่มีความเข้าใจอิน ดี้ ป็นตัวตั้งก่อนนะครับ เราไม่ได้คิดว่าเขา ต้องปรับทัศนคติ แต่สิ่งที่ผมคิดว่าบริษัทควร จะท�ำที่สุด คือควรจะ provide structure เพื่อที่จะสนับสนุนให้ทฤษฎีของสนามหลวง เป็นจริงและถูกต้อง สนามหลวงไม่ใช่เทวดา ครับ ไม่ได้แปลว่าจะสามารถ ดีดนิ้วเสกเพลง อะไรก็ได้ที่เขาจะมาจับแล้วส�ำเร็จหมด แต่ ความเป็นโครงสร้าง ยุทธศาสตร์ของแกรมมี่ มาช่วยสนับสนุนสนามหลวงได้แค่ไหน คนละเรื่องกันเลยนะ ฝากบอกเพื่อนๆ ทั้งเพื่อนใหม่และเพื่อน เก่าหน่อยค่ะ อยากฝากให้มองเห็นความตั้งใจที่เรา อยากจะท�ำสิ่งนี้นะครับ ผมไม่อยากขายฝัน ให้คนรู้สึกว่า จะต้องเชื่อผม หรือเชื่อในสิ่งที่ เราพีอาร์ออกไป แต่ผมคิดว่า อย่างน้อย อยากจะให้ลองมีโอกาสมาพูดคุยกับพี่เปิ้ล มาคุยกับสนามหลวง แล้วคุณจะรู้ได้ว่า มี หลายสิ่งที่คุณคาดไม่ถึงมีหลายสิ่งที่น่าจะ

เป็นประโยชน์กับคุณ แล้วสามารถมาท�ำให้ คุณเดินไปด้วยกันได้ครับ

ทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากที่แกรมมี่ที่เป็น แบ็กอัพเรา ให้ช่องทาง ให้โอกาสในการที่ เราจะมี tools ตรงนี้ ไปคุยกับศิลปิน หลัง จากนั้นก็อาจจะความเป็นคุณยายมั้ง (หัวเราะ) อยู่ในวงการมานาน แล้วที่ผ่านมาก็ เป็นเรื่อง connection เรื่องเครดิต ที่พูด อะไรแล้วก็ต้องรักษาค�ำพูด สัญญาต้องเป็น สัญญา หลายๆ คนจะรู้อยู่แล้ว ว่าถ้าเรา รับปาก นั่นหมายความว่า เราจะท�ำทุกวิถี ทางทางให้เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ พอรู้จักกันมาแล้วก็จะรู้ว่า เขาเป็นใคร ชอบอะไร ต้องการอะไร ชีวิตเปลี่ยนไปไหม ตั้งแต่เคยรู้จักกัน จนถึงตอนนี้ ความต้องการ ในชีวิตเป็นอย่างไร ท�ำเพลงเพื่ออะไร แล้ว เขาตีความหมายของค�ำว่าประสบความ ส�ำเร็จ ในความหมายของเขา แปลว่าอะไร เราก็มาดูว่าเราสามารถซัพพอร์ตเขาได้ไหม เราสามารถรับปากอะไรเขาได้แค่ไหนบ้าง ก็ จะบอกเขาตรงๆ พี่ท�ำให้ได้ประมาณนี้นะ 1, 2, 3, 4, 5 แนวทางของแกรมมีท ่ จี่ ะซัพพอร์ต มีอย่างนี้นะ 1, 2, 3, 4, 5 แบบที่ไม่รู้จักกัน มาก่อน ก็จะคุยกันนานมาก บางทีนัดกันบ่าย โมง คุยกันจนถึงสี่โมงเย็น เราก็คุยนั่นคุยนี่ ชีวิตเป็นไง กินอะไร เที่ยวที่ไหน ดื่มหรือ เปล่า ดูหนังเรื่องอะไร ท�ำเพลงแบบไหน แล้วจะจูนกันได้ว่าไลฟ์สไตล์แบบนี้ เพลง แบบนี้เหมาะกับสนามหลวงไหม เราสามารถ จะซัพพอร์ต เขาได้มาก น้อยแค่ไหน ถ้าเกิด เขามีจุดมุ่งหมายอีกแบบหนึ่ง เราก็จะแนะน�ำ เขาว่า เดี๋ยวพี่คุยกับพี่คนนั้นให้ดีกว่า เดี๋ยว พี่นัดให้ ลองดูค่ะ ความส�ำเร็จของสนามหลวงมิวสิกในมุม มองของคุณ ท�ำให้เขาได้ในสิ่งที่เขาอยากได้ สิ่งที่ เขาต้องการ มีบางคนบอก ผมติด Top 10 แคท เรดิโอ ผมพอใจแล้วพี่ เมื่อนึกถึงอินดี้ อยากให้ศิลปินและแฟนเพลงนึกถึงสนามหล วงมิวสิก แล้วคุณและทีมท�ำอย่างไร จริงๆ แล้วเรื่องเพลงส�ำคัญที่สุด จะมี อะไรบางอย่างบอกเราจากเพลงของเขา เพราะด้วยความที่เราฟังเพลงมา เราท�ำงาน เกี่ยวกับเพลงมาตลอดชีวิต เล่นดนตรีไม่เป็น เพราะฉะนั้น เราจะท�ำได้ก็คือเป็นตัวแทนของ คนฟังว่า แบบนี้น่าจะเหมาะกับตรงไหน ช่อง ว่างการตลาดเป็นอย่างไร ช่วงนี้ เพลงแบบนี้ ควรจะไปตรงไหน ยกตัวอย่างความส�ำเร็จของศิลปินใน สังกัดสนามหลวงมิวสิก ถ้าเทียบของเก่า ที่เขาท�ำเอง กับที่เรา ช่วยผลักดันโดยที่มีเครื่องไม้เครื่องมือของแก รมมี่สนับสนุนทุกทาง ต่างกันมาก อย่างเรา คุยกับ West Of East ว่าแฮปปี้ไหม หลัง จากปล่อยเพลงไปแล้ว เป็นไงบ้าง เขาก็ “โห พี่ ถ้าผมปล่อยเองนะ ปีหนึ่ง กว่าจะได้เท่านี้” อีกวงคือ Clockwork Motionless ตอนนี้ กลายเป็นวงที่มีสามสิบล้านวิวไปแล้ว มีคน รู้จักมากขึ้น นอกจากการท�ำงานของสนามหลวงและ ตัวศิลปินเอง ผู้ฟังหรือยอดวิวที่เกิดขึ้น ก็ เป็นฐานแฟนของสนามหลวงอยู่แล้ว มีอยู่ 3 อย่าง ผู้ฟังเขาเอง ที่เป็นฐาน เดิม ผู้ฟังของสนามหลวง และผู้ฟังของแกรม มี่ เพราะว่าไม่ได้ปล่อยแค่สนามหลวงอย่าง เดียว เปิดในยูทูปสนามหลวงก็ลิงก์กลับไปที่ แชนแนลของเขาได้ ลิงก์ไปปล่อยที่ Grammy official ทันที เพราะฉะนั้นของ แกรมมี่ 12 ล้าน ของสนามหลวงเกือบล้าน ของเขาเองอาจจะไม่มากนัก แต่ก็เป็นฐาน แฟนเดิมของเขา เท่ากับว่า โอกาสที่จะได้ มองเห็น โอกาสในการได้ยิน ในการได้รับฟัง เพิ่มมากขึ้น แล้วนอกจากนั้นมันก็จะมีทีม

เปิ้ล จิราภรณ์ สุมณศิริ ผู้อ�ำนวยการฝ่าย สังกัดสนามหลวงมิวสิก ผู้บริหารที่ศิลปินและทีมสนามหลวงมิว สิกคุ้นเคยในนาม “คุณยาย” ก่อนหน้านั้น ท�ำงานด้านสื่อในวงการเพลงมา 20 ปี หน้าที่รับผิดชอบปัจจุบัน ดูแลทั้งหมดในหน่วยงานสนามหลวง เรื่องพนักงาน เรื่องอะไรต่างๆ มีออฟฟิศ เล็กๆ แล้วก็ดูแลศิลปิน สารทุกข์สุขดิบ ตั้งแต่ อพาร์ตเมนต์คุณป้า, Lomosonic, Tabasco ช่วงหลังมีลูกๆ เข้ามาอีกค่อน ข้างเยอะ อีกประมาณ 30 วงก็คอยดูแลเขา มีพนักงานกี่คนคะ พนักงานรวมทั้งพี่ด้วย ทั้งหมด 6 คน แบ่งหน้าที่กันอย่างไรคะ 6 คนนี้ เราคอยดูแลอยู่ข้างบน แล้วก็แบ่งเป็น ภาคโปรดักชั่น แล้วก็ภาคโปรโมชั่น โปรดักชั่นก็จะดูแลเรื่องภาพ เรื่องกราฟิก เรื่องมิวสิ กวิดีโอ เรื่องงานอะไรต่างๆ ที่เป็นชิ้นงาน ฝั่ง โปรโมทก็จะดูแลเรื่องโซเชียลมีเดีย การ ประสานงานกับพีอาร์กลาง ประสานงานกับ สื่อมวลชนข้างนอก ประสานงานกับศิลปิน วันไหนที่จะต้องออกไปพบปะพี่ๆ สื่อมวลชน ก็พาศิลปินออกไปด้วย สนามหลวงคัดเลือกศิลปินเข้าสังกัดอย่างไร ตอนที่เราเข้ามาท�ำงานสนามหลวง 3 ปีก่อน มีอพาร์ตเมนต์คุณป้าวงเดียว วงอื่น เขาขยับขยายไปเป็น Urban Mass ไปเป็น สายร็อก ในสังกัดต่างๆ เราก็เลย recruit (รับสมัคร/คัดเลือก) ก็เริม ่ ตัง้ แต่มี Tabasco เข้ามา แล้วหลังจากนั้นก็เป็น Lomosonic แล้วก็ท�ำ Event Music Playtime เพื่อ recruit ศิลปินที่ตอนนั้นเราให้ค�ำจ�ำกัด ความว่า ไร้ค่ายแต่ไม่ไร้ฝีมือ ให้เขาส่งคลิป เพราะว่าศิลปินอิสระบางทีเขายังไม่มีเพลง เป็นมาสเตอร์ ยังไม่มีมิวสิกวิดีโอ ก็ให้เขาอัด ในห้องซ้อมแล้วส่งมาให้เรา แล้วเราก็เลือก ไปเป็น Opening Act เล่นเปิดให้ศิลปิน ของเราที่เล่นในงานต่างๆ ทุกวันนี้โครงการ Opening Act เราก็ยังท�ำอยู่ หลังจากนั้นดู แววว่าเขาฝีมือดีนะ ท�ำเพลงเองด้วย ลองมา ปล่อยของด้วยกัน ก็ได้มาอย่างเช่น CO Go, Blues Tape, Clockwork Motionless, โคตรยิ้ม สนามปล่อยของคือ เข้ามาท�ำงานกับ เรา ลิขสิทธิ์ยังเป็นของศิลปิน โดยที่ศิลปินท�ำ ภาพ ท�ำเพลง ศิลปินต้องการเล่าเรื่องอะไร ก็เล่าเอง ถ้าอยากให้ช่วยท�ำก็มีทีมงานคอย ช่วย แล้วเราก็มีหน้าที่สนับสนุน ผลักดัน กระจาย ให้มีคนรู้จักเพลงของเขาให้มาก ที่สุด เห็นภาพของเขาให้มากที่สุด แบบนี้จะ เยอะหน่อย แบบที่สอง ก็จะเป็นศิลปินที่เขามีผล งานอยู่แล้ว แต่ไม่อยากอยู่ค่ายไหนๆ อยาก ท�ำเอง ก็คุยกัน มีโมเดลอะไรบ้าง ที่จะ ท�ำงานด้วยกันได้ ก็มี ภูมิจิต, Supersub, เดย์ Thaitanuim แบบที่สามก็เป็น walk–in คือ เดินเข้า มาเลย เห็นว่าสนามหลวง มีศิลปินปล่อย ออกมาค่อนข้างเยอะ บางทีก็ Inbox มาใน Facebook หรือส่งอีเมลมา โทรมา walk–in เข้ามา ส่วนอันที่สี่ก็จะเป็นปากต่อปาก ศิลปิน แนะน�ำศิลปินเข้ามา ลองมาคุยกับพี่เปิ้ลดูสิ เขามีโปรเจกต์แบบนี้ เขามีโมเดลแบบนี้ กลยุทธ์ในการคุยกับศิลปินอินดี้ ซึ่งหลาก หลายมาก ทั้งช่วงอายุ สไตล์เพลง วิธีคิด โมเดลของสนามหลวงก็มีหลายแบบด้วย เริ่มต้น เราว่าโมเดลมันครอบคลุม

33

หลังบ้าน ที่พาศิลปินไปสัมภาษณ์แนะน�ำให้ คนรู้จักเพลงของเขา หรือแม้แต่กระทั่ง Streaming ถ้าเขาท�ำเอง เขาบอก ว่าSocial Media สมัยนี้ใครก็ท�ำได้ แต่พอ หนึ่ง ต้องไป JOOX สอง ต้องไป Spotify สามไป Apple Music สี่ไป iTunes ห้า ไป... กว่าจะติดต่อได้แต่ละอัน แต่ถ้าเกิดส่ง มาที่เรา ส่งมาสเตอร์มา คุยกัน วางแผนกัน แล้วเดี๋ยวพี่จัดการให้ ความตื่นเต้นในการท�ำงานวงการเพลงทุก วันนี้ ตื่นเต้นทุกครั้งที่ปล่อยเพลง ลุ้นไปด้วย กัน ก็คือลุ้นมาตั้งแต่วันเริ่มท�ำงานมาด้วยกัน ว่าอาร์ตเวิร์กจะเป็นอย่างไร เพราะเขาท�ำเอง แต่ว่าเราก็ช่วยดูว่าต้องช่วยปรับให้ไหม พอ ถึงเวลาปุ๊บ ปล่อยเพลงตรงเวลาไหม ขึ้น Youtube หรือยัง โอเคไหม สถานีวิทยุเปิด ไหม ยอดวิวเท่าไหร่แล้ว เป็นไงบ้าง ตื่นเต้น ทุกครั้ง แนวคิดในการท�ำงานของตัวเองล่ะคะ ไม่ ว่าท�ำงานใดๆ ก็ตาม จริงๆ เราได้โอกาสทุกครั้งเลยที่ตั้งแต่ ท�ำงานมา เป็นคนที่ได้รับโอกาสมาโดยตลอด เราก็เลยอยากให้โอกาสกับคนอื่น ถูกสอนมา ว่า เมื่อได้รับโอกาส ก็มอบโอกาสให้คนอื่น ก็ เลยท�ำที่สนามหลวงได้อย่างมีความสุข ค�ำแนะน�ำถึงศิลปินที่อาจจะมาเป็นลูก หลานในอนาคตของบ้านสนามหลวง ท�ำเพลงค่ะ อย่ายอมแพ้ บางทีเรา ท�ำให้สิ่งที่เรารักแล้วเราไม่รู้ว่าจะไปทางไหน ไปไงต่อ ก็มาหาคุณยายค่ะ มานั่งคุยกัน น่า จะมีช่องทางอะไรที่ท�ำไปด้วยกันได้ แต่จริงๆ แล้วในสนามหลวงจะมี Community อยู่ น้องใหม่อาจจะไม่เชี่ยวชาญเรื่องโปรดักชั่น ก็จะมีพี่คอยแนะน�ำ เพราะว่าในบ้านเราก็จะ มีพี่อพาร์ตเมนต์ฯ มีโลโมฯ มีภูมิจิต ฯลฯ ที่ เขาจะช่วยกัน ไม่รู้จะไปอัดที่ไหน ศิลปินเรา ก็มีห้องอัด ไม่รู้จะไปท�ำมิวสิกวิดีโอที่ไหน ก็มี ศิลปินทีม ่ เี พือ ่ นเป็นผู้กำ� กับ ถ้าอยากถ่ายแบบ มุมสูง มีศิลปินเราวงหนึ่ง มีเฮลิคอปเตอร์ให้ เช่า (หัวเราะ) ไม่รู้จะท�ำ Merchandise อย่างไร เราก็มีศิลปินที่เขาท�ำตรงนี้ช่วย แนะน�ำ แล้วพอ ไม่รู้จะกินอะไร ไม่รู้จะไป ประชุมที่ไหน เรามีร้านก๋วยเตี๋ยวของพี่บอล อพาร์ตเมนต์คุณป้า เรามีร้าน ณ หาดใหญ่ ของแชมป์ ทาบาสโก้ เรามีกุยช่าย เรามีครบ วงจร เพราะฉะนั้นทุกอย่างลิงก์กันหมด จากการคุยกับผู้บริหารสนามหลวงมิว สิกในครั้งนี้ ท�ำให้เรานึกถึงการบริหารพื้นที่ที่ ท�ำให้เกิดชุมชน ที่เชื่อมโยงกันด้วยดนตรี และการเอื้อเฟื้อเกื้อหนุนในรูปแบบต่างๆ ซึ่ง หากพอเหมาะพอดีและท�ำอย่างต่อเนื่อง ก็ อาจส่งผลดีต่อวงการเพลงไทย หรือจุด ประกายให้พื้นที่อื่นๆ พัฒนาหรือสร้างสรรค์ รูปแบบการบริหารของตัวเองได้จนมีผู้ร่วมลง สนามกันต่อไปอีกหลายสนาม รู้ไปท�ำแมว - หลังจาก Repositioing ปรับการท�ำงาน และเผยโฉมใหม่ไปตั้งแต่ต้นปี 2561 สนามหลวงได้ จัดงานประกาศโฉมใหม่อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ในรูปแบบของ Wedding Party ที่ De Commune “สนามหลวงสมรสหมู่ (หัวเราะ) จะบอกว่าเรา แต่งงานกับศิลปินเหล่านี้แล้ว สนามหลวงแต่งงานกัน แล้วก็ มีที่ว่างให้กับน้องๆ ที่ยังมองหาทิศทางหรือ อะไรต่างๆ นานาน คือ ยังยินดีต้อนรับ เหมือน เป็นการประกาศให้เขารู้ว่า เรามีโมเดลแบบนี้ให้เลือก นะ 1, 2, 3, ว่างแล้วมาคุยกับเราสิ มีเพลงแล้ว มาคุย กับเรา แล้วเดี๋ยวมาช่วยกันว่า เราจะท�ำยังไงให้เขา ประสบความส�ำเร็จอย่างที่เขาต้องการ” เปิ้ล - ตัวอย่างการเข้ามาท�ำงานกับสนามหลวง ด้วยวิธีปากต่อปาก หรือเพื่อนแนะน�ำมาคือ Supersub ที่เคยให้สัมภาษณ์กับเราว่า ภูมิจิต ชวน ให้ลองมาคุยกับผู้บริหารที่นี่ดู - คุณยายเปิ้ลชอบฟังเพลงฮิปฮอป ตัง้ แต่ ท�ำงานอยู่ MTV ยุค 90 และชอบ EMINEM มาตลอด - ห้องท�ำงานของคุณเจ๋อมีของสะสมให้เรา มองเพลินไม่น้อย เช่น ตุ๊กตา และของตกแต่งต่างๆ ที่ วางอย่างเป็นระเบียบ


Lolay Happyland

Penguin Villa

สนุกที่พอจัดมานานๆ แนวคิดแต่ละคน เริ่มใกล้ๆ ครับ แล้วเริ่มปล่อยได้ รับผิด ชอบแค่ส่วนตัวจริงๆ ผมไม่ต้องคอยไป ดูทุกอย่าง มาลุ้นกันวันงานเหมือนกัน ว่า สิ่งที่คิดจะเป็นไง เราก็จะคุยกันพี่ น้องครับ แล้วก็ โอเค ทุกคนเห็นพร้อม กัน เพราะเป็นองค์กรที่ไม่สามารถจ่าย เงินเดือนใครได้ตอนนี้ เราเอาความ สนุกมาเรียก แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้น ผมก็ นับถือน�้ำใจเพื่อนๆ ทุกคนที่ท�ำด้วยกัน ซึ่งผมก็พยายามบอกเขาว่า ทุกๆ คนที่ ท�ำงานใน DOOD แม้กระทั่งน้องล่าสุด รุ่นอายุประมาณ 22–23 มาช่วยท�ำ Visual ผมก็บอกว่า ไม่ต้องกลัวเลยนะ ถ้าเขาเห็นว่า ในวงเขา หรือในรุ่นเขามี วงดีๆ แล้วลองมาคุยดิ คือ ทุกคนสามารถ ครีเอตอีเวนต์ได้หมดเลย ถ้าน่าสนใจ แล้วเราจะเอามากางดูกันครับ ผมชอบ ตรงนี้ แล้วกลายเป็นว่าสนุกดี เราสนุก ในพื้นที่ตัวเอง แล้วเราพยายามจัดงาน ให้พอดีในงบประมาณที่เราท�ำได้ ตอนนี้แผนแรกของ DOOD คือ ท�ำให้จัดได้เรื่อยๆ โดยที่คนจัดไม่ paranoid มาก ไม่กังวลว่า หูย อีก แล้วเหรอ ซึ่งบางทีก็ยากนะ เพราะ ฉะนั้นผมต้องอัพเดตตัวเองตลอดเวลา หาวงที่เราสนใจ แล้วก็พยายามอธิบาย เขาแหละว่า ที่ท�ำวงนี้เพราะอะไร จัด อันนี้เพราะอะไร ถ้ามีความผิดพลาด ก็ ไม่โบ้ยกัน พยายามท�ำให้งานกลมที่สุด ครับ ในปริมาณที่พอดี โชว์ของก็โชว์ให้ พอดี รู้ว่าเก่งมาก แต่ว่าในภาวะนี้เอา แค่นี้ก่อน เราไม่ได้มีทีมงานเยอะขนาด นั้น ทุกคนต้องท�ำให้มีประสิทธิภาพ ที่สุด แล้วผมพยายามคุยกันว่า คน แฮปปี้หรือเปล่า เราบ่นอยู่นั่นแหละ คน ไม่มา เราจัดกันดีหรือเปล่า เราแน่จริง เปล่าที่เราพูดแบบนี้ ผมพยายามไม่ ประมาทว่า เฮ้ย ชัวร์ 200 คนแน่เลย แต่พยายาม เฮ้ย ชัวร์เลย งานนี้เรา เครื่องดี วงดี ชัวร์ เวลาจะต้องเป๊ะกว่า นี้ พยายามจะควบคุมสิง่ ทีเ่ ราควบคุมได้ ไม่คิดเรื่องเพ้อเจ้อ ค�ำแนะน�ำจากรุ่นพีถ ่ งึ รุ่นน้องนักดนตรี ผมจะบอกน้องๆ ทุกคนเลยว่า เล่นดนตรีเมืองไทยต้องเป็นคนน่ารัก ควรจะท�ำตัวให้เป็นคนที่ไม่มีฝีมือ หมายถึงว่า เราอาจจะเป็นจอมยุทธ์ที่มี ฝีมือ 9 เต็ม 10 แต่ผมจะชวนว่า ลองท�ำ 5 เต็ม 10 ดิ ไม่เห็นต้องเผยให้ทุกคนรู้ ตลอดเวลาว่าเป็นคนเก่ง ท�ำตัวเฉยๆ เก่งตอนเล่นสด พอลงมาก็ไม่ต้องเก่ง ก็ ธรรมดา ปรึกษากับเพือ ่ นๆ แลกเปลีย ่ น กันโดยดี แล้วผมคิดว่า ส�ำคัญกับการ เป็นนักดนตรี ในเมืองไทยด้วย เราไม่ สามารถจะแสดงออกอะไรได้มากเกิน ไปหรอก ในภาวะที่เราเป็นอย่างนี้ แล้ว การที่เรา เป็นคนให้เกียรติคนอื่น เกรงใจ ผมว่าคนที่เราไปหา อย่างเช่น วิทยุ สื่อ บางทีเขาไม่ได้เห็นว่าเพลงดี หรอก เขาเห็นความตั้งใจ เขาเลยช่วย มีคนเก่งๆ ตั้งเยอะ แต่ว่าเขาไม่น่ารัก แล้วเขาก็ซ่าในลูปของเขาได้พักหนึ่ง สุดท้าย เขาก็มาตีโพยตีพาย ผมอยากให้น้องทุกคน มีความ นอบน้อม แล้วก็พยายามในบทบาท ของเรา เรื่องมากในสิ่งที่เราต้องเรื่อง มาก เรื่องอื่น (หัวเราะ) อย่าไปเรื่อง มาก ถ้าเราเป็นวงที่มีเพลงเอง เรามี เวทีให้เล่นแล้ว เรื่องอื่นช่างมันก่อน ให้ ได้เล่นก่อน อย่าไปคิดถึงฟังก์ชั่น ที่เรา คิดไปเอง เช่น เราจะได้ค่ารถไหม เขา จะได้ตังค์ไหม เราจะคุ้มไหม เริ่มแรก

ตัวอย่างโปสเตอร์งาน Dood

GUEST REC เรื่อง: Took ภาพ: Dood

DOOD: ดูดเพลง ด้วยกันเถิดชื่นใจ ค�่ำหนึ่ง หลังเมื่อย-ธวัชพนธ์ วงศ์บุญศิริ (scrubb, popdub) พากลุ่มศิลปินมาสัมภาษณ์ในรายการ Cat Radio เกี่ยวกับงาน DOOD (ดูด) ที่เขาและเพื่อนร่วมกัน ท�ำมาหลายปี ท�ำให้นักดนตรีและผู้ฟังได้มีประสบการณ์ดูด เพลงร่วมกันอย่างดื่มด�่ำ แม้มีบางช่วงเว้นระยะไปบ้าง แต่ท�ำ เมื่อไหร่ก็น่าดูทุกครั้ง เค้าแมวจึงชวนให้เขาเล่าถึงที่มาที่ไป ของโปรเจกต์นี้สักหน่อย จุดเริ่มต้นของ DOOD : อยากเล่นและอยากให้เพื่อนมีที่ เล่นด้วย ผมเริ่มท�ำไซด์โปรเจกต์ก่อน ชื่อ popdub (ป๊อปดั๊บ –ซูเปอร์กรุ๊ปแนวอินสตรูเมนทัล ที่มีสมาชิกอย่าง อดุลย์– รัชดาภิสิทธิ์ จากวงฟรายเดย์ โป้ง จากโมเดิร์นด็อก และอีก หลายคน) แล้วได้รู้จักพี่โลเล (Lolay-ทวีศักดิ์ ศรีทองดี ศิลปินนักวาดที่รักดนตรีและงานทดลอง) ช่วงท�ำอัลบั้ม ‘KID’ (2553) ที่ชวนเขามาท�ำปก แล้วก็คลุกคลี มีความ ชอบหลายๆ อย่างเหมือนกัน อยู่มาวันหนึ่งก็รู้ว่า พี่โลเลท�ำ Happyband เป็นโปรเจกต์ทดลอง ตอนนั้นตั้ม วิศุทธิ์ ตีกลอง ก็เลยคิดเล่นๆ ว่า ดีนะ ถ้าได้ไปช่วยพี่โลเลตีกลอง แล้ววันหนึ่งก็ได้ไป รู้จักกัน ไปตีกลอง ท�ำวงนู่นนั่นนี่ เราก็คุยกันว่าอยากเล่น (หัวเราะ) แล้วก็ง่ายๆ เลย เริ่มไปหาที่เล่น ไปขอเขาเล่นที่ร้านคนญี่ปุ่น บ้าง เป็นคอมมูนิตี้ แล้วก็ร้าน Cosmic ที่ RCA ก็มีพี่ก้อง (พรหมพล สุวรรณประทีป) เจ้าของใจดี ให้ลองดู เราชอบ ท�ำอะไรสนุกๆ วนๆ ก็เป็นอีเวนต์งงๆ หน่อย มี popdub, Happyband สองวงนี้เป็นเจ้าภาพ แล้วก็มีวงอื่นด้วย ซึ่ง เล่นไปเล่นมา ผมรู้สึกว่า มีวงเก่งๆ เยอะเลยครับ​แต่ปัญหา คือ ไม่มีที่เล่นเพลงของตัวเอง 100% เลยคุยกับพี่โลเลว่า เรามาจัดอะไรเล็กๆ กันดีกว่า พี่โลเลก็เลย ตั้งชื่อขึ้นมาว่า DOOD (ดูด) ความหมายของชื่อ “DOOD” พี่โลเลอธิบายว่า เหมือนปกติคนเราฟังเพลง แต่เปลี่ยน จากการฟัง เป็นการดูดเพลง ถ้าคิดง่ายๆ ก็เหมือนเราดูดน�้ำ การฟัง ถ้าเราไม่ฟังเราปิดหูได้ แต่ดูดเลือกไม่ได้ ต้องเข้าไป หมด อย่างมากก็ส�ำลักแต่ต้องเข้าไปก่อน เรา 2 คนเห็นเป็น ความหมายที่ดีครับ แล้วหลังจากนั้น ผมก็หาวง ดูเครื่อง เสียง พี่โลเลรับผิดชอบเรื่องภาพ หมายถึงโปสเตอร์ อะไร ก็ตามที่เป็น Visual ส่วนเรื่องเสียงผม ก็รับผิดชอบ

เมื่อย (เสื้อเหลือง) และชาวคณะ

ตอนแรกน่าจะ 3–5 ปีที่แล้ว แล้วก็จัดมาเรื่อยๆ จัดตามใจตัว เอง (หัวเราะ) หมายถึง เลือกที่ตัวเองชอบ ที่ๆ อยากเล่น วงที่ เราอยากเห็นเขาเล่น แล้วสุดท้ายก็น�ำพามาซึ่งความขาดทุน แต่ละครั้งเรื่อยๆ พอขาดทุนเยอะเข้าก็ “เฮ้ย หยุดจัดกันดี กว่า” นอยด์ เก็บตังค์ก่อน แล้วก็หยุดหลังจากจัดมา 20 กว่า ครั้ง หายไปเป็นปีครับ DOOD ยุคใหม่ : โตไม่ได้นะ เราคงชอบอารมณ์ของความสุขจากการจัดอีเวนต์มั้ง เวลาเห็นวงที่ดี เห็นคนที่ไม่ต้องเยอะก็ได้นะ แต่ว่าทั้งคนเล่น และ คนมาดูกลมน่ะ เล่นเสร็จไม่ต้องมาเก๊กใส่กัน มาคุยกัน เป็นเพื่อนกัน แลกเปลี่ยนกัน วันหนึ่งก็คิดถึงแบบนี้ แต่ว่าจะมา ท�ำอีก โดยที่วางแผนน้อยๆ อาจท�ำให้กลับไปสู่ลูปเดิมได้ครับ ก็เลยเริ่มปรึกษาเพื่อนๆ ตอนนี้ก็มีเพื่อนๆ เกือบ 10 คนเลย ครับ ช่วยกันท�ำ พี่โลเลเหมือนเดิม ท�ำโปสเตอร์แน่นอน เพราะว่าไม่ สามารถจะหาใครมาท�ำโปสเตอร์ได้ขนาดนี้ พี่โลเลต้องรับผิด ชอบต่อไป ผมก็เหมือนเดิม ดูแลเรื่องวงดนตรี แล้วก็จะมี น้องๆ มาช่วยในส่วนต่างๆ คือตอนเริ่มแรก ผมมีเพื่อนอยู่ Duck Unit แล้วชวนเขามาท�ำ เขางานเยอะ เลยส่งน้องมา ช่วย ให้เรายืมเครื่องไฟ DOOD ก็จะได้รับความช่วยเหลือ เป็นพันธมิตร มาตลอดครับ แล้วเหมือนเริ่มสะสม คนที่มีแนว คิดใกล้ๆ กัน น้องที่ให้เช่าเครื่องเสียง ชื่อ Barker Sound 34

ก็พยายามลดคอร์สให้ถูกที่สุด โดยใช้ เครื่องให้เยอะที่สุดให้เราได้ น้อง Sound Engineer อย่างเช่นน้อง เกริก ที่ท�ำ scrubb มายาวนาน แล้ว เดี๋ยวนี้ท�ำ ROOM39 ก็มาช่วย แล้วพอระหว่างทางเดินมา นับ หมุดแรกที่ DOOD กลับมาจัดในร้าน Loyshy (ลอยชาย ราชเทวี) พอเรา รอบคอบหน่อย ท�ำให้ผมและทีมงานไม่ เข้าเนื้อ น้องๆ อย่างเช่น พวกเครื่อง เสียง Visual ทุกอย่างที่ต้องลงแรง เราก็ให้ค่าใช้จ่ายได้ ด้วยความที่เราบอกนักดนตรีว่า เราท�ำแบบนี้ เราหาเครื่องดีๆ ให้ เรา หา Visual ดีๆ ให้ พอเขามาเล่น ก็จะ เข้าใจ เขาก็ช่วยเรา “ผมดีใจแล้ว พี่ เตรียมเครื่องดีๆ ให้ผม พี่หาคนที่ เหมาะกับเพลงผม ซึ่งก็แฮปปี้” ท�ำให้ DOOD โชคดี เวลาชวนวงที่เขาเคยมา เล่นกับเรา เขาก็มาเล่นอีกโดยไม่ต้อง คิดเลย กลายเป็นว่าทั้งวง ทั้งร้าน ทั้ง เครื่องที่เช่ามา หรือว่าน้องๆ ที่ท�ำ

Visual ก็อยู่ในมวลที่สนุกสนาน ใน อัตราส่วนเหมาะสมพอดี ผมคิดว่าน่า จะเป็นจุดนี้มั้งที่ท�ำให้ทุกคนได้สนุกใน พื้นที่ของตัวเองจริงๆ แต่ว่าข้อเสียคือ อาจจะให้ค่าใช้จ่ายไม่ได้เลย ได้แต่ ความสนุก แต่ว่าเราพยายามจะบอก เขาว่า ท�ำไปก่อน ไม่รู้เหมือนกันว่าจะ โตหรือไม่โตนะ แต่ถ้าคิดจริงๆ จะโตไม่ ได้นะ เพราะว่า DOOD เป็น Startup Event เกิดมาเพื่อซัพพอร์ตเด็กที่เล่น ใหม่ เป็นแบบนี้ตลอดไปดีที่สุด เพราะ ว่าถ้าเป็นอีเวนต์พันคนก็จะไม่เหมาะ 5 คนก็น่าจะดีใจแล้ว อีเวนต์ระดับที่มีคนดูเยอะกว่าร้อย คน มีเต็มไปหมดเลย เรามาท�ำสิ่งที่อาจ จะเป็นช่องที่ยังโบ๋อยู่ ผมคิดว่าส�ำคัญ แล้วผมอยากท�ำให้วงที่เริ่มใหม่ เชื่อมั่น ว่าเพลงที่เขาเล่น ไม่ว่าเขาจะเคยมี แฟนเพลงหรือไม่เคยมี ถ้าเขามีที่เล่น ที่เหมาะสมกับเขา เขาก็มีโอกาสที่จะมี แฟนเพลงเขาได้ แล้วคุณเป็นวงเริ่ม ใหม่ ครั้งแรกที่คุณเล่น ถ้าพูดตรงๆ 5 คนก็น่าจะดีใจแล้ว ค่อยๆ สะสมไป เพราะฉะนั้นผมรู้สึกว่า ผมอยากให้เขา เข้าใจตรงนี้ เป็นวงดนตรี อยากมีแฟน เพลง ก็สะสมแฟนเพลงจากการเล่นสด แต่สิ่งที่ผมต้องท�ำให้เขาอีกอัน หนึง่ คือ ท�ำให้เขาเชือ ่ มัน ่ ว่าเล่นได้จริงๆ ผมพยายามให้ความเชื่อมั่นว่า จะเจอ อะไรไม่รู้ แต่เราให้เล่น คุณสามารถ เล่นเพลงตัวเองได้ แล้วในส่วนที่กลัวว่า คนจะไม่สนุก ก็จะมี Visual กับ Light-

ing คอยพยุงคนให้ขยับตามจังหวะ ยิง อาร์ตเวิร์ก ให้คนมีสมาธิอยู่กับโชว์เขา ซึ่ง DOOD ท�ำได้แค่นี้แหละครับ เราพยายามบอกเขาว่า มาเลย เล่นได้ ท�ำได้ แล้วเราก็จะค่อยๆ ท�ำมัน ไปด้วยกัน แต่ตัววงก็ต้องแอ็กทีฟด้วย นะ หมายถึงนอกจากเล่นกับเราแล้ว ถ้าวันงานเจอเพื่อนๆ ที่คิดว่าไปกันได้ ก็รวมกลุ่มกัน ไปคุยกับเจ้าของร้านได้ เลย ไม่ต้องติดกับอีเวนต์เรา คุณเป็นวง ดนตรีที่เดี๋ยวนี้ควรจะจัดอีเวนต์กันได้ แล้วด้วยซ�้ำ ถ้าไม่วอรี่กับคน 30–40 คน ซึ่งผมคิดว่า ผมพยายามให้น้องเขา เข้าใจแบบนี้ ทุกอย่างง่ายนะเว้ย แล้ว ถ้านายมีเพลง นายไม่ได้เล่นสด เพลงก็ จะไม่ได้พัฒนาจริงๆ หรอก การที่นาย คอยมอนิเตอร์แต่ยอดในยูทูป ยอดวิว ในเฟสบุ๊ก ก็อาจจะดี แต่ว่าอาจจะดีแค่ ครึ่งเดียว ควรจะลงสนามด้วย เล่นสด ด้วย นอกจากยอดวิวและยอดไลค์ อาจ จะต้องเอายอดจากคนที่มาดูเล่นสด แล้วมาประมวลผลด้วยว่าพัฒนาแล้ว DOOD เชื่อว่าการที่นักดนตรีได้ เล่นสดมันดีที่สุดเลย อย่างน้อยเขาก็รู้ แล้วล่ะว่า เพลงที่เขาไปเถียงกันในห้อง ซ้อมตั้งนาน ใช้ได้จริงหรือเปล่า คนดูจะ ออกอาการแบบไหน ถ้าไม่สนุกคือไม่ สนุก ไม่ต้องเถียงกันแล้ว ชวนนักดนตรี คุยกับเขาเยอะ แล้ว คนดูล่ะคะ คนดูผมคิดว่าเราควบคุมอะไรไม่ ได้ครับ เพราะว่าเราไม่รู้เลยว่า เขาจะ ชอบแบบไหน แต่เราท�ำได้แค่รู้สิ่งที่เรา ท�ำ เราชอบ ทีมผมชอบวงกรุ๊ปนี้ ครั้งนี้ แล้วเราจะท�ำให้ประทับใจคนมากที่สุด ท�ำได้แค่นั้น DOOD เคยจัดวงที่ No Name หมดเลยนะ คนดู 200 ขึ้นน่ะ แล้วก็เรา Sharing จนให้ค่ารถนัก ดนตรีได้ 5,000 บาท แบ่งรายได้ให้นักดนตรีจากเงินที่คนดู จ่ายมา ใช่ เกิดจากคนดู แล้วในที่เดียวกัน มีวงดังๆ หลายวง มีคนจ่ายเงินแค่ 60 กว่าคนเอง เพราะฉะนั้นที่เราบอกคือ เราไม่ประมาทครับ เรามาคิดดีกว่าว่า จัดอีเวนต์ครั้งหนึ่งใช้เงินเท่าไหร่ ถ้าคน ดูไม่เกิน 100 คน มีค่าใช้จ่ายเท่านี้ เรา จัดได้ไหม ไม่มีความคิดว่า จะต้องมี สปอนเซอร์อะไรแล้ว เพราะว่าก็กะทัดรัด พอดีตัวแล้ว ถ้าจะเข้ามาสนับสนุนก็ ยินดี แต่ว่าเราไม่ท�ำหน้าที่หาน่ะ เพราะ เรารู้ว่า คนที่มางาน DOOD ตอนนี้ สามารถซัพพอร์ต Minimal Cost ได้แล้ว ก็เลย โอเค สิ่งที่ได้จากการท�ำ DOOD ผมคิดว่าสิ่งที่สนุกสุดคือ ตอนนี้ ผมท�ำงานกันโดยที่ผมไม่ทับไลน์กัน ไฟ จะเป็นไงก็แล้วแต่ Visual เป็นไงก็แล้ว แต่ Sound จะเป็นไงก็แล้วแต่ คือ 35

อาจจะมีคนคิดว่า “ผมมีเพลงที่ดีพี่ สัก วันคนต้องเข้ามา” แต่ว่า ถ้าออกมาจาก ถ�้ำด้วย หาที่แสดงฝีมือนะ ผมเชื่อว่าดี กว่า ผมชอบคิดเสมอว่า เพลงเหมือน ส้มต�ำ ท�ำเสร็จแล้วควรให้คนได้กน ิ เลย บางที เพลงเสร็จแล้ว ไม่เล่นสักที รอ ท�ำเอ็มวี รอนู่น รอนี่ รอนั่น กว่าจะเล่น ตัวเองเบื่อแล้ว ซ้อมกันไป 6 เดือนแล้ว ผมว่าไม่ใช่ ผมว่าวงดนตรีสามารถ ท�ำได้เลย เล่นไปเลย แต่ในสถานะของ การเล่นดนตรีในเมืองไทย อาจจะท�ำให้ เราได้เล่นตามใจไม่ได้ 100% วงการเพลงไม่ได้แย่ พอผมมาจัดงานแล้ว ใครมาบอก ว่า โหย วงการแย่ ไม่ได้แย่เลย ถ้าพูด ถึงเรื่องคุณภาพนะ เราไม่ได้พูดถึงเรื่อง การแบ่งค่าใช้จ่ายที่ถูกต้องตามหลัก สากลโลก แต่หมายถึงคุณภาพของ เพลง คนดู คนฟัง ที่มีคุณภาพ แต่ผม ว่าปัญหา คือ คนเล่นไม่รู้ว่าจะไปเล่น ที่ไหน คนดูก็ไม่รู้ไปดูที่ไหน ไม่มีคนตรง กลางเลย ซึ่งพอผมท�ำแล้ว คนตรง กลางก็มี แต่ไม่มีคนบอกต่ออีก ผมก็คิด ว่า ไม่เป็นไร DOOD ก็ท�ำไปเรื่อยๆ ครับ คิดว่าต้องเป็น Startup ก่อน แล้วถ้าวันหนึ่ง เราจะมารวมเป็น Festival Start–Up เลยก็ได้ (หัวเราะ) คน 500 คนก็สนุกดี ก็รวม เด็กที่มาเล่นใน DOOD แต่ว่าอาจจะ เป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจคิดน่ะ แต่อยากท�ำ นะ เฟสติวัลที่เป็นเด็กไทยหมดเลยที่ เราสะสมมา ให้มีแบบ “เฮ้ย ไปดู เฟสติวล ั นีท ้ เี่ มืองไทยดิ มีวงไทยเจ๋งๆ“ ซึ่งโคตรยากเลยนะ โคตรเพ้อเลย (หัวเราะ) แต่ว่าผมเริ่มหน่วยเล็กสุด เริ่มอีเวนต์เล็กๆ กับวงที่เล่นเพลงตัว เอง แล้วผมจัดไปเรื่อยๆ แล้วท�ำโดยไม่ ตีโพยตีพายด้วย เพราะว่าเราก็คิดแล้ว ว่า ในชีวิตจริง มีค่าใช้จ่าย คนที่มางาน DOOD 100 คน เก็บคนละ 200– 300 คัฟเวอร์ทุกอย่างที่เรามี นักดนตรี ที่เราชวนมา เราคุยกันก่อน เราให้เขา มาเที่ยวอีเวนต์เราก่อน แล้วเขาก็จะรู้ ว่า Attitude เป็นอย่างไร ไม่ว่าจะวง ดัง หรือไม่ดัง เราอยากชวนเขามาเล่น เพลงตัวเอง อย่างเช่น เราเคยชวน Penguin Villa (เจ-เจตมนต์ มละโยธา) มาเล่น แล้วสิ่งที่เราได้ ณ วัน งาน ผมชอบมากคือ น้องๆ ทุกคนได้ เห็นธรรมชาติของเจ เจเป็นคนที่เก่ง มาก แต่ว่าเดินถือกีตาร์เอง เซ็ตเอง ไม่ โวยวาย ไม่ขอเหล้าบ้าบอคอแตก ซึ่ง ผมอยากให้เขาเห็น น้องๆ เห็น โห นี่พี่ เจ ยกกีตาร์อยู่เลย เล่นๆ อยู่ ดับ เขาก็ เฮฮา ก็แก้ไข เรารู้สึกว่าเมื่อยเล่าเรื่อง DOOD ได้รสชาติแห่งความสุขมากๆ ตราบใด ที่เขายังท�ำอยู่ น่าจะมีประสบการณ์ ข้อคิด และความรู้สึกต่างๆ มาสานต่อ เป็นเรื่องเล่าดีๆ ได้อีกมาก หวังว่าทุก คนทั้งนักดนตรี นักฟัง นักจัดงาน นัก ท�ำร้านและอีกหลายนักจะไปร่วมดูด เพลงและดื่มด�่ำกับงานที่เมื่อยและคณะ ท�ำจนกลายเป็นเรื่องเล่าต่อไปไม่รู้จบ (O,O) รู้ไปท�ำแมว - วิธีหาวงของเมื่อย ผู้จัด DOOD “ทุกช่องทางเลยครับ ตั้งแต่อินเตอร์เน็ต ยูทูป เฟสบุ๊ก เพื่อนๆ บอกก็มี วงที่เรา ฟังจากวิทยุแล้วเราก็ติ๊กไว้ ผมยังเป็นเหมือนเดิม ฟังวิทยุ จะสะดุดเองในวงที่ตัวเองชอบนะ” - Stoic คือ ตัวอย่างวงที่เขาได้ยินจากวิทยุ แล้วจึงไป เสิร์ชหามิวสิกวิดีโอ คลิปการเล่นสด และข้อมูลต่างๆ ก่อน พูดคุยชักชวนมาร่วมงาน - Monomania คือ ตัวอย่างวงที่พี่ใหญ่แห่ง DOOD เห็น ในการเล่นสดแบบ “พัฒนาการสุดยอด” - ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/ doodworld/


กลับมาจองทริปน่านครั้งหน้า เสียตัง้ แต่เท้าเรากลับมาเหยียบบ้าน ... นี่สินะ น่านถึงได้ชื่อว่า เป็นเมือง ที่มีเสน่ห์ เพราะ น่านจ๋า คิดถึงแล้ว (O,O)

JOURNEY = เจอนี่

รู้ไปท�ำแมว เจอนี่ คือ คอลัมน์ที่เราตั้งใจให้ ผู้เขียนหมุนเวียนกันไปตามจุดหมาย ไม่ว่าใคร ไปไหนมา ก็ส่งบทบันทึก มาเล่าสู่กันอ่านได้ เป็นการส่งต่อ เรื่องราวและแรงบันดาลใจกันเพ ลินๆ เมื่อได้รับต้นฉบับนู่น นี่ น่าน เราจึงดีใจมาก Annabelle คือ Marketing Music Industry ผู้ เปรียบเหมือนเพื่อนบ้านมากความ สามารถ ไม่ว่าเราท�ำอะไร ติดขัดตรง ไหน เธอช่วยได้เสมอแบบเอ็นจอย สุดๆ ที่ส�ำคัญเขียนหนังสือสนุกมาก จนเราทั้งอยากไปน่านและชวนเธอ เขียนประจ�ำยิ่งนัก...น่าน! ส่วน Ohmmu35854 คือ เพื่อนอีกคนที่ ถ่ายรูปดีมีเสน่ห์ นอกจากติดตาม ผ่าน IG ชื่อเดียวกันแล้ว เรายังชอบ รบกวนขอรูปเขามาลงหนังสืออยู่ เนืองๆ...น่าน!

บทบันทึกจากการเดินทาง เจออะไรที่ไหน เล่ากันที่นี่

ส่วนตัวชอบเข้าไปนัง่ ในโบสถ์ของวัดทีน ่ ่าน แล้ว มองไปรอบๆผนัง สวยทุกวัด ลายเส้นและเรือ ่ งราว หลากหลายมาก

วัดภูมน ิ ทร์ ทีม ่ จี ต ิ รกรรมฝาผนัง ที่ ท�ำให้น่าน ได้นย ิ ามว่าเป็นเมืองแห่ง ความรัก จากภาพกระซิบรักบันลือโลก ปล. ทุกวัดในน่าน ไม่เหมือนกันเลย เหมือนเป็น Gallery ศิลปะของสล่า น่าน หลายแขนง มารวมกันในเมือง เล็กกะทัดรัด

เจอนี่ ตอน นู่น นี่ น่าน ... เที่ยวน่าน ไม่ต้องไปนานๆ ก็เบิกบานได้... เรี่อง : Annabelle ภาพ: Ohmmu35854

“ทริปนี้ เป็นการท่องเที่ยว อ�ำเภอเมือง จังหวัดน่าน แบบ เดินเท้าถึง” ประโยคนี้คือความ ตั้งใจ ตั้งแต่เริ่มจัดทริปครั้งนี้ ดังนั้น เราจึงออกแบบทริปนี้ แบบเท้าติดพื้น ตั้งแต่เริ่มเดินทาง มันอาจจะดูล�ำบากในยุคที่คนไทย ทุกคนบินกันเป็นว่าเล่น และเสีย เวลาไปเปล่าๆ กับการต้องขดตัว ในเก้าอี้รถบัสที่มีความจ�ำกัด แต่ใน เมื่อเราเลือกจังหวัดน่าน ที่เค้าว่า กันว่า มีความเนิบๆ แล้วเราจะรีบ กันไปท�ำไมล่ะ ค่อยๆ เดินทาง... เริ่ม! นครชัยแอร์ คือสายการบัสที่ เราเลือกให้ดูแลเราทั้งขาไปและ ขากลับ เวลากว่า 10 ชั่วโมงบนรถ บัส ค่อนข้างผ่านไปอย่างสมเหตุ สมผล เราหลับ เราตื่น เรามึนงงไป เข้าห้องน�้ำ และเราก็ตื่นมากิน เสบียง ที่ทางรถจัดไว้ให้อย่าง เหลือเฟือตลอดทาง ...จนกระทั่ง ได้เจอแสงสว่างยามเช้าตรู่ ที่น่าน พอดี อรุณสวัสดิ์จ้า น่าน หลังจากนั้น เป็นช่วงของการมี เวลาก่อนเช็กอิน กว่า 7 ชั่วโมง โดยเราสามารถแวะไปตามทาง ได้

อาบน�้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า พักขาอยู่สัก พัก แดดก็เริ่มร่มลง เราจึงเริ่มออก เดินอีกครั้ง ไปถนนคนเมืองน่าน เราไปในสัปดาห์ที่ไม่ใช่วันหยุดยาว เราเลือกให้ตัวเองได้นอนในตัว เมืองน่านคืนวันเสาร์ เพื่อให้พอมี ความคึกคักจากถนนคนเมืองน่าน มาช่วยให้เรากระชุ่มกระชวยได้บ้าง ซึ่งก็เป็นจริงตามคาด ถนนคนเมือง เป็นช่วงเวลาที่ชาวน่านจะออกมา นั่งหาอาหารเย็นทานกันแบบ ขันโตก นั่งพื้น พูดคุย วิ่งเล่นพร้อม ชมการร่ายร�ำแบบวัฒนธรรมท้อง ถิ่น เรารู้สึกว่า เราได้พบประชาชน ชาวน่าน หนาแน่นที่สุด จนอยาก เข้าไปกอดทุกคน แล้วถามว่า หาย ไปไหนกันมาทั้งวัน คิดถึงจัง วันรุ่งขึ้น เราตื่นเช้า เพราะเรา ชอบอาหารในตลาดเช้าท้องถิ่น ที่สุด เราจึงตื่นไปซื้ออาหารเช้า ต่างๆ นานา มากินกัน ท�ำให้เรา เจอสุดยอดอาหารที่แสนจะ ธรรมดาแต่เติมเต็มจิตใจเราได้ถึง ขีดสุด มันคือ ซาลาเปาทอดรูปร่าง เหมือนหมอนยาวสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดพอดีมือ ขายคู่กับปาท่องโก๋ เราก็กัดเข้าไปตามปกติ แต่เรา

ตั้งแต่ ขนส่งน่าน ไปจนถึง ศรีนวล ลอร์จ ที่พักของเรา ซึ่งการเดินขน กระเป๋าพร้อมเที่ยวเมือง ก็เริ่มต้น ตั้งแต่นั้นอย่างนุ่มนวล ภาพแรกที่ท�ำเราประหลาดใจ ก็คือ คนที่น่าน เค้าไปอยู่ไหนกัน เพราะตลอดทาง ร้านรวงต่างยังไม่ เปิด ด้วยเพราะเช้ามาก แต่รถรา หรือผู้คนเดินผ่านไปมา ก็น้อย ยยยยยย จนเข้าใจแล้วว่า ท�ำไมบาง คนบอกว่า มาน่าน เพือ ่ หนีความ วุ่นวาย เพราะทีน ่ ไี่ ม่ว่น ุ วายเลย ประสบการณ์ฝังใจ จากความ มุ่งมั่นที่จะใช้สองเท้า ไม่ใช้ล้อเลย ในทริปนี้ นั่นก็คือ เราเดินกันไปถึง พระธาตุแช่แห้ง ใช่ค่ะ ห่างออก จากตัวเมืองไป 3.5 กิโลเมตร บนถนนข้ามต�ำบลทีไ่ ม่มท ี ศ ั นียภาพ ใดๆ อย่างที่เราคิด แต่เมื่อเดิน หน้าแล้ว จะไม่มีหยุดหรือถอยเป็น อันขาด สุดท้ายเราท�ำส�ำเร็จ ไหว้ พระขอพร พร้อมนั่งชมพระธาตุกัน อยู่สักพัก ถึงได้เดินกลับเข้าเมือง แต่ด้วยอานิสงส์อะไรบางอย่าง เรา เจอคุณลุงใจดี รับเรากลับเข้าเมือง ด้วยแอร์รถเย็นฉ�ำ่ ...ขอบพระคุณค่ะ หลังจากนั้น เราได้เข้าเช็กอิน 36

รู้สึกถึงรสนมข้นหวานที่คุ้นเคย เลยลองเอาออกจากปากมาพินิจ พิเคราะห์ คุณพระ ซาลาเปาทอด ทุกก้อน จะซ่อนนมข้นหวาน อร่อย พร้อมทาน พร้อมฟินในทุกชิ้น สุด ยอดดดดดดด หลังจากช่วงเวลาสุดพีกของ อาหารเช้า เราก็เริ่มเก็บของออก เดินทาง ตามเก็บทุกหัวมุมถนน ทั้ง วัดหัวเวียงใต้ วัดภูมินทร์ แนว ต้นลีลาวดี ที่พิพิธภัณฑสถานแห่ง ชาติ จังหวัดน่าน ร้านนาฬิกา Tea Time จบที่ไปนั่ง และนอน รอเวลาขึ้นรถที่ขนส่ง ณ ห้องสมุด บ้านๆ น่านๆ ส�ำหรับเรา ถ้าอยาก รู้จักนิยามค�ำว่าน่าน ในเวลาจ�ำกัด ให้ไปที่ห้องสมุดนี้ ทุกความรู้สึก เนิบของน่าน จะซึมซับเข้าตัวคุณได้ อย่างเต็มเปี่ยม จบท้ายช่วงเย็น เราก็เดินไป รอขึ้นรถกลับ ด้วยความคิดเดิมที่ ยังติดอยู่ในใจ ว่า คนเมืองนี้หาย ไปไหนกันหมด ถ้าพระอาทิตย์ไม่ ตกดิน เหมือนเราแทบจะไม่ได้เจอ ประชาชนน่านอีกเลย ... หรือนี่จะ เป็นเสน่ห์ของน่าน ที่ท�ำให้ทุกอย่าง ดูน้อย ดูเงียบ ดูน่าคิดถึง จนอยาก

พระธาตุแช่แห้ง ... เราท�ำส�ำเร็จ

นาฬิกา Tea Time ณ ศูนย์โอทอป น่าน รับอรุณ ด้วยวัดศรีพันต้น ทองอร่าม ถือเป็นก�ำลังใจในการเดินได้เป็น อย่างดี

คนน่านเต็มไปหมดเลย...ดีใจจัง คิดถึงจัง

วัดหัวเวียงใต้ ซาลาเปาไส้นมข้น คือ จุดสูงสุดของทริปนี้ 37

ห้องสมุดสุดเงียบ คิดถึงจัง บ้านๆ น่านๆ


CAMPUS ช็อกสติ๊กและขนมปังเนยสด

อิ่มอร่อย ฟังเพลง นิดหน่อย ในรั้ว มศว กับ Hers เรื่อง: ตุ๊กติ๊ก ภาพ: อุ๊บอิ๊บ / ปันปัน ขอบคุณ: คณาจารย์ นิสิต มศว และทีมวอท เดอะ ดัก

ช่วงเดือนเมษายน 2561 เราได้ ร่วมโครงการคลินิกภาษา การใช้สื่อ เพลง เพื่อพัฒนาทักษะการออกเสียง ภาษาไทยให้แก่นิสิตต่างชาติ โดย สังเกตการเรียนการสอน และร่วม ตัดสินการประกวดร้องเพลงของนิสิต ชาวต่างประเทศ ภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ นอกจากน้องๆ จะ ร้องได้น่ารักน่าเชียร์แล้ว เรายังได้ชวน วง Hers (เฮอร์ส) รุ่นพี่ที่มีฝีมือการ ร้องเพลงดี ท�ำดนตรีเพราะ และมีเพลง เป็นของตัวเองมาเป็นแขกรับเชิญแสดง สดให้นิสิตและคณาจารย์ชมอย่าง อบอุ่น จากนั้นเราก็ปวารณาตัวเป็นลูก ทัวร์ให้ พลอย–ชลลดา ทองใบ (ร้อง น�ำ), ยีนส์–ณัฐวดี ปฏิเมธีกรณ์ (กีตาร์), กิ๊ก–ณัฐชยา แตงอ่อน (เพอร์คัสชั่น) พาเราชม มศว ประสานมิตร เริ่มจาก คณะศิลปกรรมศาสตร์ ที่ทั้งสาม สมาชิกเรียน เพื่อทบทวนความหลัง และเป็นการเปิดคอลัมน์ Campus น้องใหม่ในเค้าแมวด้วย เดินไปเดินมา ครู่เดียว ไม่รู้ว่า Hers หรือเราที่หิว จึง ปักหลักคุยกันที่ห้องปฏิบัติการเบเกอรี่ มศว และบทสนทนาส่วนใหญ่ก็เข้า ท�ำนองของกินที่อินมากพอๆ กับ บทเพลง

Hers ร้องเพลงให้น้องๆ นิสิตฟัง

จากซ้ายไปขวา: กิ๊ก พลอย ยีนส์ ริมรั้วสนามบาส

เบเกอรี่ มศว : ห้องปฏิบัติการ เบเกอรี่ มศว ประสานมิตร ชั้น 1 ตึกไข่ดาว (อาคารเรียนรวม) แนะน�ำที่นี่หน่อยค่ะ พลอย: เขาเรียกว่าเบเกอรี่ กิก ๊ : จด ุ เด่นเลยคือมีแอร์ แล้วก็ชอ ็ กสติก ๊ เหมือนเขาจะใส่ช็อกโกแลตชิปเอาไว้ค่ะ แล้วมันหอม มันอร่อย พลอย: อร่อยมากจริงๆ ค่ะพี่ มีเมนูอื่นทื่ชื่นชอบกันอีกไหม กิ๊ก: เดนิชแฮมกับเดนิชไส้กรอก ยีนส์: ขนมปังเนยสด พลอย: กินหมดทุกอย่างแล้วน่ะ (หัวเราะ)

Hers และน้องๆ นานาชาติที่ประกวดร้องเพลงไทย 38

ซุ้มมาม่า มาม่าซุ้มแดง อยู่ใกล้ สนามเทนนิส ประกบด้วยร้านน�้ำชง และร้านขนมขบเคี้ยว ก๋วยเตี๋ยวรู ซอกซอยหลังโรงยิม คณะพลศึกษา มาม่าที่นี่เด็ดอย่างไรคะ พลอย: เด็ดมาก ยีนส์: เลือกท้อปปิ้งได้เยอะมาก พลอย: ไส้กรอก ลูกชิ้น ปลาหมึก หมู สับ ผัก กิ๊ก: น�้ำขลุกขลิกระดับไหนก็บอกเขาได้ พลอย: แล้วก็มีก๋วยเตี๋ยวรู อร่อยมาก ก๋วยเตี๋ยวรูคือก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่หายาก อยู่ไกลมาก ขนาดเรายังไม่เดินไปเลย บางที ร้านชายน�้ำ ร้านอาหารตามสั่งริม คลองแสนแสบ ใกล้ท่าเรือ มศว ยีนส์: ชายน�้ำก็จะเป็นที่สัญจร พลอย: เรียกว่าเป็นที่สิงดีกว่าค่ะ กิ๊ก: กินย�ำผักบุ้งทอด รถเข็น ประตูหมาลอด ประตูเล็กๆ ของ มศว ในซอยข้าง โรงพยาบาล จักษุ รัตนิน ยีนส์: ไก่ทอดอร่อยมาก กิ๊ก: อยู่ตรงประตูเล็ก ประตูหมาลอด แล้วก็มีไข่เจียวด้วย พลอย: รถเข็นตรงนั้นจะเป็นของกินที่ เลิศ สาธิต มศว : ร้านและรถเข็นใกล้ๆ ประตูโรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร ตลาดนัด มศว : ลานกว้าง (ระหว่าง อาคาร ศ.ม.ล. ปิ่น มาลากุล และ อาคารนวัตกรรม ศ.ดร. สาโรช บัวศรี) ติดถนนอโศก นัดกันทุกวัน อังคารและพฤหัสบดี ยีนส์: ของกินมีเยอะ ทุกมุมเลยค่ะ แถวๆ สาธิต ประสานมิตรก็ของกิน อร่อย กิ๊ก: เวลามีตลาดนัดวันอังคารกับวัน พฤหัสบดี ก็คือดีมาก พลอย: กดเงินมา 500 ก็ไม่เหลือสัก บาทเลย ยีนส์: มามหาวิทยาลัย คือ มากินแล้วก็ มาช้อปปิ้ง (หัวเราะทั้งวง) คณะศิลปกรรมศาสตร์ มศว เรื่องกิน ฟังแล้วอร่อยมาก เรื่อง เรียนล่ะคะ แต่ละคนเอกอะไรที่คณะ ศิลปกรรม มศว กิ๊ก: เอกดุริยางค์ฯ สากลค่ะ แต่ว่า 2 คนนี้อีกเอก พลอย: เอกดนตรีศึกษาสากลค่ะ ต่างกันอย่างไรคะ ยีนส์: ดนตรีศึกษา เรียนเกี่ยวกับ หลักสูตรการสอน สถานศึกษา กิ๊ก: ซึ่งเรียนทั้งหมด 5 ปี กิ๊ก 4 ปี พลอย: 5 ปีคือ ฝึกสอน 1 ปี เรียน จริงๆ ก็ 4 ปีเหมือนกันค่ะ แต่ว่าเครื่อง เอกทุกคนจะมีกันหมด กิ๊กเอกเบส พลอยเอกวอยส์ ยีนส์เอกกีตาร์ บรรยากาศการเรียนเป็นอย่างไรบ้างคะ ยีนส์: ส่วนใหญ่เอกเราก็ซ้อมข้างบน หรือเรียนข้างบน อย่างพวกการแสดง

เขาก็มีห้องซ้อมข้างบน แล้วก็ซ้อมกัน ทั้งวัน กิ๊ก: แล้วก็จะมีอีกที่หนึ่งที่เราซ้อมได้ ก็ คือตึกตรงหอประชุม เครื่องดีกว่า แต่ ว่าส่วนใหญ่จะไปซ้อมแบบวงซิมโฟนี วงใหญ่ ในมหาวิทยาลัย มีสถานที่ส�ำหรับ แสดงไหมคะ พลอย: เล่น Recital ก็คือสอบวิชา เอกของแต่ละคน อย่างเช่น มิดเทอม ยีนส์ต้องเล่นเพลงนี้ๆ ให้ได้นะ กิ๊กต้อง เล่นเพลงนี้ๆ ให้ได้ กิ๊ก: จะมีวิชารวมวง ที่กิ๊กกับยีนส์จะ รวมวงกัน เพราะเป็นเครื่องดนตรี เดี่ยวๆ ส่วนพลอยเรียนร้องเพลง ก็ร้องได้ กับทุกวงหรือเปล่า พลอย: ไม่ค่ะ พลอยเรียนคลาสสิก กิ๊ก: ก็จะร้องคนเดียว พลอย: ร้องกับเปียโน ทัง้ สามได้นำ� อะไรจากการเรียนดนตรี ทีน ่ ม ี่ าใช้ในการท�ำงานทุกวันนีบ ้ ้าง พลอย: ส�ำหรับพลอย เรื่องร้องก็ช่วย ได้เยอะ เอาเทคนิคมาใช้เยอะ แล้วพื้น ฐานของการร้อง เช่น การหายใจ การ ใช้ค�ำ ไม่ว่าจะร้อง แจ๊ส, คลาสสิก, ป๊อป หรืออะไรก็ตาม เหมือนกันทุก อย่าง ก็ได้ใช้เต็มที่ ยีนส์: จริงๆ ก็เอาไปใช้ในการเล่นนะ คะ บอกไม่ถูก เล่นทุกวัน แต่ว่าอาจจะ ไม่ได้เล่นแจ๊ส ตอนนี้ก็ลืมไปแล้ว (หัวเราะ) กิ๊ก: ก็ได้พวก Rhythm มาค่ะ เพราะ ว่าพอมาเล่น เจมเบ้ (Djembe–กลอง แอฟริกัน คล้ายกลองยาว) เหมือนต้อง เริ่มใหม่เลย เบสกิ๊กก็ชอบ แต่ชอบอันนี้ มากกว่า ก็เลยได้พวกจังหวะของเบส ในการเล่น เรื่องการอ่านโน้ต ซึ่งไม่ เกี่ยวกัน เพราะเจมเบ้ ไม่ได้อ่านโน้ตอยู่ แล้ว (หัวเราะ) เป็นเหมือนเซนส์ มากกว่าค่ะ พลอย: แล้วก็ได้วง Hers นี่แหละค่ะ Hers : สาวๆ ดนตรี อิเล็กทรอนิกส์ และอคูสติก Hers ตั้งวงกันตั้งแต่เรียนที่นี่ กิ๊ก: ใช่ค่ะ เรามีแข่งขันกันใน มหาวิทยาลัย ชื่องาน GOM Graph Of Music แล้วเราก็อยากลงแข่งในปี สุดท้ายก่อนจบ เพราะไม่อย่างนั้นจะไม่ ได้เล่นอีกแล้ว ก็เลยท�ำกัน มี 5 คน ชื่อ Hers ค่ะเป็นผู้หญิงหมดเลยที่อยู่หอ ด้วยกัน พลอย: ความจริงมี 6 คน แต่ว่ามีเปีย โน 2 คน ก็เลยต้องถูกตัดออก 1 คน 5 คนนั้นเล่นเป็นแนวไหนคะ กิก ๊ : อิเล็กทรอนิกส์ แต่มไี วโอลิน มีเปียโน ตอนนั้นเราติด 5 วงสุดท้าย พลอย: เล่นเพลง Beyonce’ ค่ะ จ�ำได้ ‘Run the World (Girls)’ ยีนส์: ยังมีคลิปอยู่เลยอ่ะ ไปเปิดฟัง แล้วแบบ... พลอย: ไปคนละทิศคนละทาง (หัวเราะ) กิ๊ก: แต่ก็สนุกนะ ยีนส์: เรารู้สก ึ สนุก แต่ไม่เหมือนคนอืน ่

ยีนส์: โดยพื้นเราเป็นอคูสติกค่ะ แต่ว่า มีกลิ่นของดนตรีหลากหลายแนวอยู่ใน นั้น เป็นอคูสติกที่มีกรูฟ จากนั้นก็มีเพลงของตัวเอง พลอย: ตอนนี้ มี 6 เพลงแล้ว 2 ซิงเกิลแรกของเราคือ ‘ลืมไปแล้ว’ กับ ‘ยังคงคอย’ และมีเพลงที่ปล่อยกับไลน์ ชื่อ ‘ไม่เหมือนเก่า’ แล้วก็มีเพลงที่ร้อง กับ Mola Mola Sunshine เป็นโปร เจกต์ที่ท�ำต่อเนื่องกันมา ‘ฉันน่าจะ บอกรักไป ในวันที่เธอบอกรักมา’ ‘วับวาว’ ‘ช่วยไม่ได้นะ’ อายุของวง Hers ยีนส์: ถ้าตั้งแต่ปล่อยซิงเกิลก็ 3–4 ปี กิ๊ก: เป็นเพื่อนกันก็ 8 ปีได้แล้วค่ะ ได้ท�ำสิ่งที่อยากท�ำที่สุดแล้วหรือยัง กิ๊ก: ของกิ๊กยัง พลอย: ยังไม่ถึงสิ่งที่อยากท�ำจริงๆ กิ๊ก: แต่ถือว่าจบมาแล้วได้ท�ำซิงเกิล เพลงออกมา พลอย: ก็ประสบความส�ำเร็จแล้วนะ กิ๊ก: ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะได้ท�ำจริงๆ คิดว่านั่นคือความฝัน แต่ได้ท�ำแล้วก็ ภูมิใจในระดับหนึ่ง พลอย: มีคนรู้จักด้วย กิ๊ก: กลายเป็นอาชีพของเราอาชีพหนึ่ง เป็นนักดนตรีแล้ว มีเพลงของตัวเอง แล้ว ยังไปเล่นดนตรีกลางคืนอยู่หรือ เปล่าคะ พลอย: เล่นค่ะ ยีนส์: เล่นกลางคืนเป็นหลักเลยนะ เพื่อ เลี้ยงตัวเอง พลอย: เคยมีช่วงที่แยกกันไปเล่น ก็ เป็นประสบการณ์ที่สะเดิดมาก ใหม่ๆ ก็สนุกดีค่ะ แล้วตอนนี้ก็เริ่มกลับมา รวมๆ กัน เล่นร้านไหน อย่างไรบ้างคะ แฟนๆ จะได้ตามไปเชียร์ กิ๊ก: วันพุธค่ะ พลอย: ที่ กุ๊กกู๋ KuKKuuK อยู่ข้างบน DND ค่ะ เป็นร้านนั่งชิลๆ กิ๊ก: ยากินิกุ มีปิ้งย่างด้วย แล้วก็นั่งฟัง ดนตรีไปได้ด้วย เราจะเล่นแต่เพลงที่ เราอยากเล่น อีกวันหนึ่งก็วันเสาร์ค่ะ ที่ Escape พลอย: เอกมัย 12 ค่ะ ถ้าเล่นด้วยกัน 3 คน ก็จะมี 2 ที่ นอกนั้นก็แยกกัน กิ๊ก: ยีนส์ไปกับพลอยบ้าง ยีนส์ไปกับ กิ๊กบ้าง หรือกิ๊กไปกับพลอยบ้าง ไป ไหน (หัวเราะ) พลอย: ไปตามหาหัวใจกันค่ะ แล้วแต่

ทีเ่ ขามีเครือ ่ งเป่า หรือไม่กว็ งร็อกไปเลย พลอย: ตอนแรกจะเอาอคูสติกแหละ แต่วงอื่นเขามาเต็มกันเลย เราก็เลย พยายามท�ำให้ใหญ่เท่า กิ๊ก: แล้วเราเพิ่งมาหัดกลองไฟฟ้า พลอย: วางแมคบุ๊กด้วย แล้วก็มี ไวโอลินที่จับไม่ค่อยจะตรงเท่าไหร่นัก เขาไม่เคยเล่นแนวนี้ ปกติเล่นคลาสสิก ก็แปลกใหม่มากส�ำหรับเรา มีเวลาซ้อม ประมาณ 3 วัน เรารู้สึกว่าภูมิใจมาก กับวงนี้นะคะ อยากให้มีแต่ว่าก็แยก ย้ายกันไป เรียนแบบหนึ่ง ประกวดอีกแบบหนึ่ง แล้วมาเป็นวง Hers แบบปัจจุบันได้ อย่างไรคะ พลอย: เริ่มแรกเลย พลอยกับยีนส์เล่น ด้วยกันก่อน เพราะเรียนด้วยกัน อยู่ ด้วยกัน แล้วพลอยเป็นนักร้อง ยีนส์ เป็นมือกีตาร์ เหมือนต่างคนก็ต่างมา ช่วยกันซ้อมด้วยแหละ แรกๆ แล้วไปๆ มาๆ อยากได้เงิน เริ่มร้อนเงิน กิ๊ก: เริ่มใช้ไม่พอที่พ่อแม่ให้ พลอย: เริ่มโตขึ้นเนอะ (หัวเราะ) ก็เลย ชวนเพื่อนไปเล่น ยีนส์รู้จักกับที่ร้าน เขา ก็เลยให้โอกาสเราลองเล่นค่ะ เล่น ชั่วโมงครึ่ง ได้ 600 บาท ตัวเราอยู่ รัชดา แล้วไปเล่นที่พระราม 3 ยีนส์: ค่ารถไป รถกลับ ก็หมดแล้ว แต่ ตอนนั้นก็ยังดีกว่าไม่มีเงินไง พลอย: ได้กินข้าวฟรี กินปลาหมึกนึ่ง มะนาว ยีนส์: ทุกวัน กิ๊ก: ส่วนกิ๊กก็เล่นเบสกับวงอื่น เป็นวง หญิงล้วนเหมือนกัน ในผับ เราก็แค่ อยากเล่นบ้าง อยากออกไปหางานท�ำ พลอย: เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ปี 1 เลย อยู่หอด้วยกัน แล้วก็มาเล่นดนตรีจริงๆ จังๆ ตอนปี 3 ที่ออกไปเล่นข้างนอก ยีนส์: พอเรียนจบไปแล้ว ได้มีโอกาส กลับมาเล่นกันครบๆ อย่างนี้ เพราะ ตอนแรกเหมือนคิวไม่ตรงกัน คนนั้นไป ท�ำอันนี้ คนนี้ไปท�ำอันนั้น พลอย: แต่ก็อยากได้เพอร์คัสชั่น ยีนส์: ใช่ ก็เลยไปเล่นกัน จนได้มาเล่น Stu-fe’ เจอพี่ตั้ม (สถาปัตย์ ธีรนิตยภาพ–Monotone หุ้นส่วนร้านสตูเฟ่) พี่ถั่ว (เรวัต ก่อรัตนคุณ Monotone) พลอย: พี่ๆ โมโนโทนทุกคนเลยอยู่ที่ นั่น พี่เปิ้ลหน่อย (วรัษฐา พงษ์ธนานิกร –ผู้บริหารตูเฟ่) ยีนส์: พี่กิจจ๊าซ (กิจจาศักดิ์ ตริยานนท์ –โมโนโทน) แล้วยีนส์ไปประกวดอูคู เลเล่ด้วย เลยเชื่อมกัน ยีนส์ไปประกวดในเวทีที่สิงโต น�ำโชค เคยเป็นแชมป์? ยีนส์: ใช่ๆ พลอย: ซึ่งพี่สิงโตก็เป็นนักร้องในสังกัด ของพี่กิจจ๊าซที่เคยเห็นพวกเราที่ Stu-fe’ ก็เป็นเพื่อนกันหมดเลย กิ๊ก: นั่นแหละค่ะ Stu-fe’ คือจุดเริ่ม ต้นของ Hers แบบจริงๆ จังๆ พลอย: ที่ท�ำให้คนเห็นเรา หลังผ่านการเรียนรู้ในห้องเรียน ใน การประกวด ในเวทีต่างๆ ท�ำไม Hers ถึงเลือกแนวนี้

‘ปลอบ’ ซิงเกิลที่สามของวง Hers พูดถึงเพลงใหม่ ‘ปลอบ’ หน่อย ยีนส์: เพลงนี้เป็นเพลงเศร้าค่ะ พลอย: เพลงเศร้าที่สุด ท�ำไมต้องเศร้าขนาดนั้น พลอย: เริ่มมาจากเมโลดี้ที่เราคิดตอน นั้น อารมณ์ที่เป็นตอนนั้น ความคิดที่ เราคุยกับโปรดิวเซอร์ตอนนั้น พี่เขาก็ เลย กลั่นกรองออกมาแล้วเกิดเพลงนี้ ขึ้นมา ยีนส์: เพลงนี้เริ่มก่อน ‘ยังคงคอย’ อีก หลังจาก ‘ลืมไปแล้ว’ 39

กิ๊ก: แต่กว่าจะกรองออกมาได้จนจบ เพลง 3 ปีได้ พลอย: เพราะว่าค่อนข้างยากค่ะ มุม มองมันประหลาดน่ะ ในเนือ ้ หาของเพลง จะไม่มค ี ่รู ก ั คู่ไหนทีม ่ านัง่ ปลอบใจกัน กิ๊ก: จะไม่ใช่เพลงมีจังหวะอีกต่อไป เหมือนเพลง 2 เพลงแรก พลอย: ส�ำหรับพลอย ร้องยากมาก กิ๊ก: ร้องไห้เลยตอนอัด พลอย: รับรองว่าล้มเลยค่ะ เศร้าจนล้ม เวลาท�ำเพลง ทั้ง 3 คน เริ่มกัน อย่างไรคะ กิ๊ก: เราจะคิดจากอารมณ์ของเพลงขึ้น มาก่อนค่ะ แล้วค่อยคิดค�ำ เป็นประโยค หนึ่ง แล้วก็เมโลดี้หนึ่งขึ้นมาก่อน ยีนส์: เหมือนคิดคอนเซปต์มาค่ะ พลอย: ต้องมีอะไรสักอย่างหนึ่งที่เป็น เราก่อน ที่จะไปบอกเขาได้ว่าเรา ต้องการแบบนี้ แล้วพี่ๆ เขาก็จะช่วยค่ะ พี่กิจ พี่ตั้ม เป้าหมายของ Hers ตอนนี้ค่ะ กิ๊ก: อยากให้ดูฟูขึ้นจากอคูสติก อาจจะ ดูเปลี่ยนไปเลยก็ได้ แต่ว่าก็อยากให้ แน่นขึ้น ในภาคดนตรีนะคะ ยีนส์: ก็จะค่อยๆ โต แล้วค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปตามประสบการณ์ ให้ เป็นเรามากขึ้นด้วย ในเรื่องของแนว เพลง ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้น สาวๆ ท�ำได้ หลายอย่าง พลอยท�ำขนมฝรั่ง เช่น เอแคลร์ เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงแมว กิ๊กชอบ ท�ำอาหาร และท�ำบริษัทท�ำวิดีโอคอน เทนต์ รวมทั้งเป็นไกด์ท่องเที่ยวด้วย ส่วนยีนส์อ่านสปอตโฆษณา ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นงานที่ท�ำได้ทั้งสามคน รวมทั้ง งานเขียนเกี่ยวกับอาหารหรือความงาม และถ่ายรูป ระหว่างคุยทั้งสามก็ยก ตัวอย่างงานที่เคยท�ำ รวมทั้งท�ำให้ดู ทันที เช่น การออกเสียงแบบผู้ประกาศ และสรุปไว้ว่า “เราท�ำได้ทุกอย่าง เหมือนเป็ดเลยค่ะ แต่ไม่ดีสักอย่าง” เราเห็นค้าน เราว่าพวกเธอท�ำได้ดี และปิดท้ายบทสนทนาด้วยการชวนทั้ง สามสมาชิกเขียนคอลัมน์ลงเค้าแมว ด้วย ส่วนบทเพลงนั้น เราเห็นว่าทั้ง บทเพลงของ Hers และบทเพลงที่ เหล่าสมาชิกมีส่วนร่วมทั้งคอรัสในห้อง อัดหรือการแสดงสดนั้นไพเราะแบบ Hers เสมอ ติดตามความสามารถและข่าวสาร ของพวกเธอได้ที่ www.facebook. com/whattheduckmusic/ ส่วนคอลัมน์ Campus คราวหน้า จะติดตามใคร ไปสถานศึกษาแห่งไหน เมื่อไหร่ ติดตามที่เค้าแมวนี่แหละเมี้ยว (O,O) รู้ไปท�ำแมว Hers ยังไม่เคยมีซีดีขายใน Cat Expo แต่เคยมาแสดงสดแล้ว และเป็น ประสบการณ์ที่ พวกเธอบอกว่า “คนดู เยอะมาก ตกใจมาก คนร้องตามได้ด้วย ตื่นเต้นมาก เรามีความสุขมาก”


Gig Talk: Max Jenmana

U O Y K N D A A H T RY M VE

ents pres MAX D U O MAD W DC TAYL y #S ENMANA 9 @ SHO d n a J lc Skul G : MAX e Studio io I Th G tRad 1 ัน T 6 CA 25 ด้วยก Thisis Ca น ด ้ ย ม า แ ย 3 กัน ทุกคนที่มา ดงสดได้ที่ ุณ ค บ ารแส อ ข ันทึกก เมี้ยว บ ม า ติดต หม่นะ บกันใ แล้วพ 40

แมวบันทึก แม้ดเมมโมรี่ มุมหนึ่งในกรุงเทพฯ / ค�่ำคืนฝนพร�ำ / กิ๊กบางคนตัวเปียกปอน / กิ๊กบางคนหิ้ว สแตนดี้แม็กซ์เดินไปทั่วห้าง / กิ๊กบางคนได้หู ฟัง Skullcandy และของที่ระลึกพิเศษๆ กลับบ้าน / กิ๊กหลายคนกลับบ้านพร้อมรูป ถ่าย ลายเซ็นและสัมผัสจากมือพี่แม็กซ์ / กิ๊กทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของ Skullcandy #STAYLOUD presents CAT GIG : MAX JENMANA MAD MAX คอนเสิร์ต เล็กๆ ที่แม็กซ์ เจนมานะ บอกว่าได้แสดง ความแม้ดที่สุด และฟินที่สุด / แคท เรดิโอ ขอขอบคุณกิ๊กทุกคน แม็กซ์ เจนมานะ อังรีดูนังต์ ไมค์ ศรีเวียง พิงค์ นักดนตรี ทีมงาน และผู้สนับสนุนจาก ใจ (O,O)

แม็กซ์ - ณัฐวุฒิ เจนมานะ คือ ชายหนุ่มที่มีทั้งความสามารถและ เสน่ห์มัดใจแฟนๆ นับแต่ก้าวแรก บน เวที เดอะ วอยซ์ ไทยแลนด์ ซีซั่นหนึ่ง (2555) ก่อนหน้าและ หลังจากนั้น เขามีผลงานทั้งเพลง และอื่นๆ ให้ติดตาม แม้ไม่ถี่มาก แต่บางเพลงเราได้ยินนับครั้งไม่ ถ้วนผ่านสื่อต่างๆ ทั้งเวอร์ชั่นต้น ฉบับและคัฟเวอร์ โดยเฉพาะ ‘วัน หนึ่งฉันเดินเข้าป่า‘ นั่นคือเหตุผลที่ตารางโขว์ของ Max Jenmana แน่นทุกเดือนใน ช่วงปีที่ผ่านมา เขาจึงไม่มีเวลาท�ำ อย่างอื่นมากนัก เมื่อทราบว่า แม็กซ์มีนัดคุยกับทีมแคท กิ๊ก เพื่อ เตรียมงาน ของ Skullcandy #STAYLOUD presents CAT GIG : MAX JENMANA MAD MAX คอนเสิร์ตครั้งพิเศษเพื่อ แฟนตัวจริง เค้าแมวจึงขอแจม คุยกับแม็กซ์ด้วย อย่างไรก็ดี ในระยะเวลาอัน สั้น บทสนทนาของเราอาจไม่เต็ม แม็กซ์ หรือไม่แม้ด แต่หวังว่าจะ เป็นอีกหนึ่งบทบันทึกในการเดิน ทางของแม็กซ์ หลังจากทั้งเข้าป่า และเข้าไปในใจแฟน จนแคท กิ๊ก ผ่านพ้นไปแล้ว เขาก็ยังไปต่อ กับ บทเพลงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความ เชี่ยวชาญแบบเจนมานะ หมายเหตุ: “เจนมานะ” แปล ว่าเชี่ยวชาญในความพยายาม / แม็กซ์เรียนจบคณะเศรษฐศาสตร์ ภาควิชาภาษาอังกฤษ จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคย ท�ำงานเป็นที่ปรึกษาด้าน การตลาด ดีเจ พิธีกร นักแสดง ผู้เขียน หนังสือ Strange To Meet You น่าแปลกที่แปลกหน้า, The

Gig Talk Max Jenmana

Chat: Cultmaew x Cat Gig Photo: Jutarat Ninnaihin

“เพลงต่อๆ ไป ผมไม่อยากให้เป็น เศษกระดาษ ผมอยากให้เป็น หนังสืออีกเล่ม หนึ่ง” แม็กซ์ ณัฐวุฒิ เจนมานะ

Boy Who never Grows เด็ก ไม่รู้จักโต นอกจากนี้ยังวาดรูปได้ ระดับรับทุนไปเรียนต่างประเทศมา แล้ว เรียนก็ได้ระดับรับทุนไปต่าง ประเทศเช่นกัน ณัฐวุฒิ เจนมานะ เริ่มสนใจเรื่อง เพลงตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมสนใจตัง้ แต่เด็กอยู่แล้ว เพราะว่า พ่อแม่ผมฟังเพลง ผมก็ฟังมาเรือ ่ ย แล้วผมเป็นคริสเตียน ทีโ่ บสถ์เขาก็ สนับสนุนให้เล่นดนตรีอยู่แล้ว เขา สอนกีตาร์ผมตัง้ แต่เด็ก จ�ำได้ว่า ต้องนัง่ สองแถวไปเรียน โบสถ์แถว บ้านเขาสอนกีตาร์คลาสสิก เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าอยากมีเพลง ของตัวเอง ตอนนั้นไม่มีเลยครับ เล่นให้เหมือน คนอื่นก็บุญแล้วครับ (หัวเราะ) แต่ ถ้าเกิดเริ่มอินเพลงจริงๆ ก็เป็นช่วง ฟังพวก Brit Pop พวก Coldplay, Keane ฟังครั้งแรกตอนม.ต้น แล้วช็อกมากว่ามีเพลงแบบนี้ด้วย เหรอ แม็กซ์เริ่มแต่งเพลงตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมเป็นคนที่เริ่มแต่งเพลงช้ามาก เริ่มตอนที่อยู่ห่างจากแฟน ประมาณปี 3 ที่ไปเรียนแคนาดา เราแต่งเพลงให้เขา แฟนคน ปัจจุบันนี่แหละ ตอนนั้นก็เหมือน แต่งเพลงจบเป็นครั้งแรก สาเหตุของการแต่งเพลงหลัง จากนั้นล่ะคะ ก็แต่งมาเรื่อยๆ เริ่มแต่งเพลงให้ คณะ เหมือนเป็น Music Director ในละครเวที ละคร เศรษฐศาสตร์ ซึ่งแต่ละปีก็แล้วแต่ 41


ระหว่างแสดงสดบนเวทีในรอบ Blind Audition แล้วโค้ชยังไม่ หันมา รู้สึกอย่างไร ปลงแล้วครับตอนแรกก็ตื่นเต้น ที่ ผมนั่งเล่นเพราะผมยืนไม่ได้ครับ ผมขาสั่น (หัวเราะ) เขาก็เลยให้นั่ง แล้วก็ผ่านไปจนจะจบเพลง ('Home' Michael Buble ) แล้ว น่ะครับ ตอนหลังเลยค่อนข้าง Relax มาก พี่แสตมป์เขาก็ตบ (ปุ่ม คัดเลือก) พอดีเลย ขอบคุณเฮียแก

ว่าจะท�ำอะไร ผม Boss Music Director อยากท�ำอะไรก็ท�ำ ผม เป็นพี่ปี 4 (หัวเราะ) ละครเวทีเรื่องอะไรคะ ชื่อว่า Love Insurance เพราะ รักประกันไม่ได้ เหมือนเอาแนวคิด เศรษฐศาสตร์มาประยุกต์ใช้ แต่งเพลงภาษาไทยหรือภาษา อังกฤษคะตอนนั้น มีภาษาอังกฤษด้วย ภาษาไทยด้วย ครับ

ก่อนหน้าที่จะไป The Voice เคยท�ำเพลงลง Youtube ไหม เป็นเพลงละครเวที แต่ก็ไม่ได้บอก ว่าเป็นใคร แล้วก็ท�ำคัฟเวอร์เล่นๆ ครับ ตอนนั้นยอดวิวยูทูปประมาณ สูงสุด 30,000 ดีใจมากเลย

ก่อนเข้า The Voice แม็กซ์ ท�ำงานประจ�ำหรือยังคะ ผมท�ำงานก่อนประมาณเดือน ครึ่งแล้วผมก็ลาออก แต่ว่าจริงๆ ผมท�ำงานตั้งแต่ปี 4 แล้วครับ ช่วย รุ่นพี่เปิดบริษัท อีก Passion หนึ่ง ผมก็ท�ำธุรกิจจริงจังมาก เพิ่งจบปุ๊บ ผมก็เข้าเป็น Business Consult, Marketing Consult ของบริษัท หนึ่ง

ตอนนัน ้ ชือ ่ ใน Youtube ว่าอะไรคะ Maxim1444 (หัวเราะ) เสื้อที่ท�ำขายใน Cat Tshirt5 ก็ระบุยอดวิวยูทูปของ Max Jenmana ยุคปัจจุบันด้วย ใช่ หา Gimmick ครับ ‘วันหนึ่ง ฉันเดินเข้าป่า’ ครบรอบพอดี ก็ เลย โอเค 200M ไปเลย

สาเหตุทแ ี่ ม็กซ์ไปประกวดร้องเพลง เป็นช่วงว่างที่ผมรอว่าผมจะท�ำ อะไรต่อ แล้วตอนนั้นผมก็ดู The Voice US, UK ทุกวัน ผมก็ไป มี Online Audition ก่อน ซึ่งผม ไม่เคยออดิชั่นอะไรมาก่อนเลย ก็ ไม่รู้ว่าเขาท�ำไง ผมก็เลยเอาผ้า ปิดปากปิดหน้าหมดเลย ไม่รู้ว่า คลิปจะหลุดหรือเปล่าไง (ยิม ้ ) แต่ว่า เราก็ส่งไป ตอนนั้น Season1 เขา ก็โทรมาให้ไปออดิชั่นที่ House RCA ให้ผมเข้าไปในห้องแล้วก็ เล่นไปเรื่อยๆ ครับ ผมก็เลือกเพลง ที่ผมพอเล่นได้ ซึ่งมีแต่เพลงสากล

ซึ่งเป็นเสื้อลายแรกที่แม็กซ์ท�ำ ขายด้วย ใช่ครับ ท�ำให้แคทนี่แหละ ดีเลย ต่อเนื่อง มาขายงาน แคท กิ๊ก ด้วย ยอดขายครั้งแรกในงานทีเชิ้ต เป็นไงบ้างคะ โอ้ ดีครับ ผมฝากแฟนขายครับ แล้วก็เพื่อนๆ ม.ปลายผมเขาก็มา ช่วยกัน ขายได้อย่างที่อยากขาย ครับ แล้ว อีกครึ่งหนึ่งจะเก็บไป ทัวร์ แต่สุดท้ายแบกไม่ไหวเดี๋ยว ผมอาจจะเอามาแคท กิ๊ก

แม็กซ์ร้องพร้อมเล่นกีตาร์ด้วย ตั้งแต่ตอนนั้น ใช่ครับ

คิดว่าตอนนี้ร้องเพลง ‘วันหนึ่ง ฉันเดินเข้าป่า’ ไปกี่รอบแล้ว หูย ผมนับไม่ได้เลยครับ ร้องทุกครัง้ แค่ชว่ งปีใหม่ปีทแี่ ล้ว ก็ 200–300 ส่วนใหญ่ร้องเป็นเพลงปิดโชว์ด้วย ใช่ครับ เพราะว่าผมหลอกให้เขาอยู่ จนจบครับ (หัวเราะ) เขาตะโกนขึ้น มา “เมื่อไหร่จะเข้าป่า” ผมก็บอก “ก่อนจะเข้าป่าเดีย ๋ วเรามีเข้าอย่าง อืน ่ อีก” เขาก็อยู่ไปเรื่อยๆ เหมือน Foster The People เขาก็เอา ‘Pumped up Kicks’ ไว้สุดท้าย จนถึงทุกวันนี้เพลง ‘วันหนึ่งฉัน เดินเข้าป่า’ ให้อะไรแก่เราบ้าง 42

โอ้ ให้เยอะมากเลยครับ ไม่คิดว่า จะมาขนาดนี้ เพลงนี้พามาไกลมาก เหมือนเข้าถึงทุกคนน่ะ ผมชอบมาก เวลาทีเ่ ห็นเด็กๆ ร้อง เด็กขวบหนึง่ ยังร้องน่ะครับ เหมือนฝึกพูดเมโลดี้ ง่ายๆ เข้าใจง่าย เหมือนเล่านิทาน? ใช่ ไม่นึกว่าจะมาแบบนี้ ลูกหาบ หาบเร่เขาก็ร้องขึ้นเขา เปิดเพลงไป ร้องไป เหมือนเพลงมันแตะทุกคน เลย ซึ่งดีฮะ ตอนท�ำเพลง “วันหนึง่ ฉันเดินเข้าป่า” คุณคาดหวังอะไรบ้าง ผมคาดหวังความแปลกฮะ คือ มีหลายระลอกว่าเพลงชื่อ ‘วันหนึ่ง ฉันเดินเข้าป่า‘ คืออะไร พอฟังปุ๊บ ผมเคยวิเคราะห์ว่าเป็นการหลอก ว่า วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า ฉันเจอ อะไร ฉันเจอนก แล้วนกท�ำไม แล้ว บอกว่าอะไร คือหลอก จนกว่าจะรู้ เรื่องต้องจบฮุกน่ะ แล้วปิดด้วยค�ำ สุดท้ายว่า “เผื่อเธอเหงาขึ้นมาจะ ได้กลับมารักกัน“ คือกว่าจะรู้เรื่อง ต้องค�ำนี้ จริงๆ เป็นเพลงประชด นะฮะ เป็นเพลงด่าเพื่อน น้อยใจ แต่ว่าก็ไม่ได้น้อยใจจริง เป็นคน ขี้แพ้น่ะครับ ภาพรวมเนื้อหาในเพลงทั้งหมด ของแม็กซ์ มาจากอะไร เรื่องใหญ่ๆ ในชีวิตครับ ผมเก็บๆ จดๆ กระจัดกระจายไว้ 10–20 เพลง ตบๆ ไป ตบๆ มาก็เหลือ 5 เพลงครับ (อีพี ‘Let There Be Light’: 2017) มินิมอลครับ แต่ละเพลงในอีพี ‘Let There Be Light’ มีที่มาอย่างไร บังเอิญว่ามันเรียงกัน คือ พอเสร็จ 5 เพลงปุ๊บ ผมก็มาดู เออ เรียงกัน ได้ เหมือน cover เรื่องใหญ่ๆ ใน ชีวิต เรียงตาม sequence แล้วก็ เล่นสีเล่นโทน พอดีตังค์ไม่ค่อยมี ซิงเกิลกับเอ็มวีก็เลยเน้นสี จะได้ ดูแพง เรียงไว้ เพลงแรก ‘ไวน์’ ก็เหมือน เป็นเพลงที่ชีวิตไม่โอเคแล้ว เริ่ม เฟล ‘วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า’ เข้า ป่าเริ่มงอนแล้ว หนี Into The Woods แล้ว ‘ดารา’ เหมือน โอเค เริ่มเข้าใจแล้ว ‘ปีศาจ’ คือ พยายามกลับมารักตัวเอง ‘ชัดเจน’ เป็นเพลงที่เป็นความหวังที่สุด จริงๆ เป็นการเดินทางผ่านความ มืด สุดท้ายปลายทางต้องมีแสง สว่างฮะ “Let There Be Light” คือ ค�ำที่ Creative ที่สุด เหมือน

เป็นค�ำแรกที่พระเจ้าพูดในไบเบิล บอกว่า “จงมีแสงสว่าง” คนเรา ต้องมีแสงสว่าง ต้องมีความหวัง คุณจะไปหากินกับความมืด ไม่มี ทางให้อะไรดีๆ หรอกครับ จากเนื้อเพลง ‘ปีศาจ’ บอกว่า “บางอย่างในหัวใจ คอยย�้ำว่าฉัน คือปีศาจร้าย” แล้ว ปีศาจร้ายใน ตัวแม็กซ์ เจนมานะ เป็นอย่างไร อ๋อ เขาชิลมากเลยครับ ตอนนี้เชื่อง เลย (หัวเราะ) แล้วยังเป็นปีศาจอยู่ไหม เป็นปีศาจอยู่ฮะ ผมไม่รู้เหมือนกัน นะ (หัวเราะ) บางครั้งเราก็คุมไม่ อยู่ เป็นตัวเราน่ะ เป็นอุปมา อุปไมย ว่าบางครั้ง เราก็ต้อง ยอมรับว่าเรามีน่ะ แล้วอย่าไปโทษ ตัวเองมากครับ โทษตัวเองแล้ว ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก รักๆ รักกัน หลังจากอีพี ‘Let There Be Light’ แม็กซ์ เจนมานะ จะมี เพลงใหม่เมื่อไหร่ เพิ่งปล่อยเพลงไป แต่ว่าเป็นโปร เจกต์ครับ กับคอร์นเนตโต แล้วก็ JOOX แต่ว่าก็ได้ไอเดียที่มาก เหมือนกันนะ เพลงชื่อ ‘แค่เธอเป็น เธอ’ ท�ำงานร่วมกับพี่วิน (วรุตม์ อ่อนอุ่นจิตร) The Ginkz ที่อยาก ท�ำงานด้วยกันมานานแล้ว สนุกดี ส�ำหรับเพลงต่อๆ ไป ผมไม่อยาก ให้เป็นเศษกระดาษ ผมอยากให้เป็น หนังสืออีกเล่มหนึง่ ผมก็เก็บๆๆๆ เหมือนอันทีแ่ ล้ว ซึง่ ผมก็อยากให้ดี ขึน ้ ไปอีก ก็แอบเครียดเหมือนกัน เดือนหนึ่ง แม็กซ์ เจนมานะ รับ งานแสดงสดประมาณกี่งาน ช่วงแรกก็รับไม่อั้น (หัวเราะ) ตอน นี้เริ่มอั้นๆ แล้ว ก็ประมาณเดือน ละ 20 นิดๆ ท�ำไมต้องรับโชว์เยอะขนาดนี้ เป็นหนี้ครับพี่ (หัวเราะ) มีค่าใช้ จ่ายที่ต้องใช้ครับ จริงๆ ก็เป็น ความใฝ่ฝันอยู่แล้วที่จะได้ทัวร์ ผม ชอบมากเลย

โชว์แรกที่ขึ้นเวทีในนามแม็กซ์ เจนมานะ นี่คือที่ไหน เมื่อไหร่ เป็นหน้าปก ‘Let There Be Light’ จากงานที่ Play Yard ตอนนัน ้ เป็นโปรเจกต์กบ ั Boxx Music คือ Mr.Strangers มี 4 คน ผมเล่นปิด เหมือนเป็นคอนเสิร์ต แรกทีผ ่ มกลับมาเล่นจริงจัง แล้วมี คนถ่ายรูป ผมก็ไปขอเขามา แล้วก็ ให้เขาไปออกแบบเป็นปก ที่มาของโปรเจกต์ Henri Dunant (อังรีดูนังต์)

นอกจากเรื่องเพลงแล้วแม็กซ์มี ความช�ำนาญเรื่องใดอีก ผมเป็นคนผักชีโรยหน้าเก่งมาก ผมเป็นคนชอบของสวยๆ งามๆ ครับ แล้วผมสามารถท�ำระยะเวลา สั้นๆ ด้วย Budget ประมาณนี้ และงานประมาณนี้ให้สวยที่สุดได้ ในแบบที่ผมชอบ ผมสามารถใช้ เวลาจ�ำกัดให้ออกมาโอเคได้ ผมว่า เป็นสิ่งที่ดีของผม

ผมไปคุยกับพีอ ่ ๊อฟ (อนุชา โอเจริญ) Rats Records ว่า ผมอยากท�ำ เพลงสากล พี่อ๊อฟบอกว่า “อย่า มาท�ำแม็กซ์ เจนมานะ ไปหา แบนด์ หรือไปท�ำดูโอ้” ผมก็ไปคิด ไปหาพวกมา ก็ได้พี่ไบรท์ (ไบรท์-ชัชชล ศรีสมบูรณานนท์) รุ่นพี่ผมที่มหาวิทยาลัย เขาไปเรียน ต่อแล้วจบ Berkeley กลับมาเจอ กันพอดี เวลาพอดี เหมาะกัน ก็ เลยท�ำงานกัน ก็ดีฮะ

เราสามารถจ้างแม็กซ์ท�ำงาน อะไรก็ได้ ในระยะเวลาสั้น ผมสามารถแก้ปัญหาได้ เพราะผม แก้ปัญหาตัวเองอยู่ เป็นคุณสมบัติที่ได้จากงาน Consult Marketing ที่เคยท�ำ หรือเปล่า ใช่ครับ หลายๆ เรื่องเลย ผม ใช้ในการท�ำงานเยอะเหมือนกันนะ ในการวางแผน ปล่อยเพลง

Henri Dunant ต่างจาก Max Jenmana อย่างไร เป็นงานปล่อยผีน่ะครับ เป็นงาน แชร์อีโก้ เราต้องฟังพี่เขาด้วย เขา ก็ต้องฟังผมด้วย แล้วไม่ได้คาด หวังอะไร ท�ำตามใจ แต่ถ้าแม็กซ์ เจนมานะเป็นงานบาลานซ์เพื่อคน ฟัง ผมท�ำการบ้านมาแล้วว่าเรา อยากจะให้คนไทยฟังแบบไหน ส�ำหรับเพลงไทยแบบนี้ แม็กซ์ เจน มานะ เพลงท�ำเพื่อทุกคน

จากประสบการณ์ทป ี่ รึกษาแบรนด์ อืน ่ คิดว่าแบรนด์ แม็กซ์ เจน มานะ มีจด ุ ด้อยอะไรอยู่อก ี บ้าง จุดที่ผมเองเลยครับ ผมต้องเป็นคน ที่ดีกว่านี้ แต่ผมดีไม่ได้พี่ ผมดีได้ แค่นี้จริงๆ “ดี” ของแม็กซ์ หมายถึงอย่างไร คนดีไม่สิ้นสุดหรอกครับ ผมก็แค่ หาความ Better ไปเรื่อยๆ ถ้าผม ไม่เห็นตัวเองเป็นจุดด้อย ผมก็ว่า ถอยหลังดีกว่า จากผลงาน การคุย และ คอนเสิร์ต Skullcandy #STAYLOUD presents CAT GIG : MAX JENMANA MAD MAX เราเห็นว่าแม็กซ์ก�ำลังก้าวหน้าไป เรื่อยๆ และหวังว่าจะได้พบกันอีก ในเร็ววัน (O,O)

แล้วอังรีดูนังต์ท�ำเพื่อใคร ท�ำเพื่อตัวเอง ความหมายของค�ำว่า “เจน มานะ” ในมุมมองของแม็กซ์ ช�ำนาญด้านความมุมานะครับ คิดว่าตนเองมีความ “มุมานะ” หรือ “พยายาม“ ด้านไหนมากทีส ่ ด ุ ด้านเพลงนี่แหละครับ พยายามจัง (หัวเราะ)

รู้ไปท�ำแมว -เพลงแรกที่ท�ำให้คนทั่วประเทศรู้จัก แม็กซ์ จากเวที เดอะวอยซ์ คือ ‘Home’ ของ Michael Buble ทั้งนี้ แม็กซ์ไม่ได้

43

ต�ำแหน่งใดจากเวทีดังกล่าว แต่ได้รับการ กล่าวขวัญในฐานะผู้มีชื่อเสียงจากการ ประกวดในปีนั้น -นอกจาก เดอะ วอยซ์ แล้วอีกหนึ่ง รายการร้องเพลงที่ท�ำให้คนทั่วประเทศ รู้จักเขามากขึ้นคือ The Mask Singerในฐานะหน้ากาก นายพราน -นอกจากกีตาร์แล้ว แม็กซ์เล่นเปีย โนและกลองได้ด้วย -แม็กซ์ให้สัมภาษณ์ไว้ในเค้าแมว ฉบับ 4 ว่า “วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า” เกิด จาก 2 เพลงที่เขาแต่งไว้ คือ ‘ฉันเดินเข้า ป่า’ กับ ‘สามมิติ’ -เพลงสุดท้ายใน แคท กิ๊ก แม้ด แม็กซ์ ไม่ใช่ วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า แต่เป็น ‘ชัดเจน’ ตบท้ายด้วยการชวนกิ๊กทุกคน เซลฟี่จากบนเวที -แม้แม็กซ์ยังไม่เคยมีคอนเสิร์ตใหญ่ แต่คอนเสิร์ตในบาร์เล็กๆ ที่เขาเล่นต่าง จังหวัด บางครั้งมีผู้ชมถึง 3,000 คน (มุมบาร์ อุดรธานี พฤศจิกายน 2560) -“ต้องโดนลงโทษ” “วันนี้ผมจะมา ท�ำโทษจังหวัดนี้” คือหนึ่งในมุกที่ทีมงาน แม็กซ์คิดไว้โพสต์เวลาจะไปแสดงสดที่ไหน อีกหนึ่งมุกคือ “คิดถึงใครให้ไปหา” - สมาชิกในโปรเจกต์ Mr. Strangers ได้แก่ แม็กซ์ เจนมานะ เบสท์ ณัฐสิทธิ์ มาร์ค ธัชพล และ กันต์ ชุณหวัตร - แม็กซ์ร่วมงานกับหลากหลายค่าย เพลงในโปรเจกต์ต่างๆ แต่ LoF Records หรือ Leap of Faith คือ ชื่อที่ ปรากฏในอีพี Let There Be Light และ เปรียบเป็นชุมชมที่เขาและเพื่อนๆ ศิลปิน นักดนตรี นักแต่งเพลง ท�ำงานร่วมกัน เช่น พรปวีณ์ ตันกิจจานนท์ ที่ร้องฟีเจอริ่งใน เพลง ‘วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า’ ก็มีผลงานใน Lof ติดตามได้ที่ www.facebook. com/lofrecords -แม็กซ์บอกว่าเขาฟังเพลงใหม่ๆ ตัวอย่างศิลปินที่ชอบ ต่างประเทศ เช่น Charlie Puth “ผมชอบมากเลย” ไทย เช่น ภูมิ วิภรู ศ ิ “นีค ่ อ ื คนไทยทีจ่ ะ Go Inter ได้จริงๆ คนแรก เขาเป็นคนท�ำงานเอง เขาให้ค่างาน เขาท�ำสิ่งที่เขาต้องท�ำ” ฮิวโก้ “Dad ผมเขาเท่มากเลยพี่ เหมือน พระเอก หลุดมาจากไหนสักเรื่อง” เจ มณฑล และเจ เพนกวินวิลล่าที่เขาบอกว่า “อยากลองร่วมงานพาร์ตโพรดิวซ์” - ระหว่างเก็บข้อมูลแคท กิ๊ก ทีม งานถามเรื่องกิ๊ก (ที่ไม่ได้หมายถึง คอนเสิร์ต) เท่าไหร่ แม็กซ์ก็ไม่ตอบ ได้แต่ ยืนยันว่า “ไม่มีครับ ไม่มีใครแทนแฟนผม ได้ ครับ”


Mike x Guitar x Rock

บันทึกเสียงจริงจังตอนผมเรียน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะวิจิตร ศิลป์ครับ ตอนนั้นแต่งเพลงเนื้อหา ซีเรียสแล้วฮะ ก็เป็นร็อก พอเริ่มเข้า มหาวิทยาลัยปุ๊บ ผมก็จะเริ่มฟังเพลง ที่หนักแล้วก็มีเพื่อน เปลี่ยนชีวิตอีก แล้ว (หัวเราะ) คราวนี้ให้ยืมเทปมา ม้วนหนึ่ง เป็นวง Rage Against The Machine เปลี่ยนชีวิตจริงๆ เลยครับ ทุกวันนี้ยังมีอิทธิพลต่อการ เล่นกีตาร์ของผมอยู่เลยครับ

Mike Srivieng ping Text: Passawan Photo: Jutarat, Pimpakan

Mike x Hard Core debut

เคยเป็นมือกีตาร์ ท�ำวงกับเพือ ่ น เนือ ้ หาสะท้อนสังคม ออกซีดอ ี ล ั บัม ้ ใน ค่ายเพลงร็อก แล้วโดนพิษ Mp3 ใน ยุคนัน ้ ครับ พอได้ค่าซีดี รอบแรกก็ ต่างคนต่างไป (หัวเราะ) แต่กย ็ งั กัดฟัน ท�ำอัลบัม ้ 2 กันเอง กับเพือ ่ น ท�ำเอง ขายเอง เนือ ้ หานีฮ ่ าร์ดคอร์เลย

แมวพบไมค์ ศรีเวียงพิงค์

Mike x Designer

เรียนจบแล้ว ผมลงมาท�ำงาน กรุงเทพ เป็นหนุ่มออฟฟิศทั่วๆ ไป ครับ อยู่ในฝ่าย Animation แต่ว่า ผมเป็น Character Design ครับ เป็น 2 มิติ เน้นงานดีไซน์ ประมาณปี 2548-49 ทุกวันนีผ ้ มก็ยงั เขียนรูปอยู่ด้วย ครับ สะสมใส่กรอบไว้ ถ้าครบสัก 50 ชิ้น 100 ชิ้น ว่าจะจัดแสดง นิทรรศการอยู่ (หัวเราะ)

Mike Sriviengping Skullcandy #STAYLOUD presents CAT GIG : MAX JENMANA MAD MAX คือครั้ง แรกที่เราได้พบไมค์ ศรีเวียงพิงค์ นัก ดนตรีจากเชียงใหม่ หลังได้ยินเพลง เขาผ่านทาง Cat Radio มาบ้าง เราจึงขอคุยกับเขาสักหน่อย ระหว่างเตรียมซาวด์เช็ก ก่อนแสดง สดครั้งแรกบนเวทีแคทกิ๊ก ในฐานะ Opening Act ไมค์เปิดเส้นทางดนตรีของตัว เองจากการฟังตั้งแต่เขาบอกว่ายัง เป็น “เด็กน้อย” ได้รับอิทธิพลจากพี่ ชายที่ฟังเพลงหลากหลาย เขาจึง ชอบฟังเพลงหลายสไตล์ ตั้งแต่แร็ป ฮิปฮอป เริ่มหัดเล่นกีตาร์ตอนอายุ 17 ปี ช่วงต้นด้วยอิทธิพลจากวงเมทัล อย่าง KORN, Limp Bizkit และ พลังวัยรุ่นท�ำให้เขากับเพื่อนท�ำวง ร็อกสะท้อนสังคม ก่อนมาตกหลุมรัก วิธีเล่นกีตาร์เดี่ยวแบบฟิงเกอร์สไตล์ และเริ่มท�ำเพลงในนาม ไมค์ ศรีเวียง พิงค์ เคยมีผลงานในอัลบั้มรวม ศิลปิน ‘Minimal’s less’ (2014)

เริ่มจากตอนที่ผมท�ำงานอยู่แถว แจ้งวัฒนะครับ เกี่ยวกับ Application แล้วทีนี้วงที่เคยท�ำยุบไปนาน แล้ว ผมก็พยายามหาตัวเอง ด้วย การเล่นคัฟเวอร์วงป๊อปๆ ทั่วไปครับ แต่ว่าก็ยังไม่ใช่ทาง ทีนี้ ได้ไปดูวิดีโอ หนึ่ง เป็นศิลปิน Fingerstyle ชื่อ Andy McKee เขามีการเล่นแบบ Percussive เหมือนเคาะกีตาร์ เป็นกลองได้ ผมก็รู้สึก โอ้โห ทึ่งมาก ผมใช้เวลาเรียนรู้ประมาณ 1 ปี ไม่ สามารถเล่นสไตล์นี้ได้เลย เพราะว่า เราไม่เข้าใจว่าเล่นอย่างไร คือ ศิลปินฟิงเกอร์สไตล์ส่วนใหญ่จะมี การจูนสายกีตาร์แบบ Opening Tune บางทีเป็น Open D, Open G ขึ้นอยู่ที่ไอเดีย แต่ว่ามีพื้นฐานหลักๆ อยู่ ทีนี้ผมก็พยายามเล่น แต่ยังไม่ได้ ฟีลเท่าไหร่ ก็อัดลงยูทูปไปเรื่อยๆ จะ เห็นว่า คลิปเก่าๆ หน้าผมจะยังใสๆ อยู่ (หัวเราะ) แล้วทีนี้มาเจอศิลปิน อีกท่านหนึ่ง คือ Antoine Dufour เขาก็เล่นคอนเสิร์ต ผมก็ดูในยูทูป แหละฮะ ทีนี้เขาก็อธิบาย พูดๆ แล้ว เขาก็มี Tuning ชนิดหนึ่ง ผมก็เลย ลองเอา Tuning อย่างเขามาเล่นดู

กับ Minimal Records จังหวัด เชียงใหม่ แล้วส่งเพลงมาที่ Cat Radio เส้นทางของเขาจึงมาบรรจบ กับกิ๊กที่หลายคนจะได้ฟังเพลงเขาสด ครั้งแรกในงานนี้

Mike x Guitar x Skate

ตอนแรกๆ ผมหัดเล่นกีตาร์ เพื่อนก็มีอัลบั้มเพลงให้ฟัง ซึ่งเปลี่ยน ชีวิตวัยรุ่น คือ Green Day ผมหัด เล่นจาก Green Day หลายเพลง เลย เพราะว่าค่อนข้างเล่นง่าย ส�ำหรับคนหัดเล่นกีตาร์ สับอย่าง เดียวเลยครับ ตอนนั้นผมก็เป็นเด็กวัยรุ่นทั่วไป เล่นสเกตบอร์ด เราก็ประมาณตัวเอง เป็นพวก Skate Punk (หัวเราะ) ท�ำเพลงไปด้วย แต่เพลงไม่ได้ลึกซึ้ง อะไร ไปจีบสาวอกหัก เล่าเกี่ยวกับ ชีวิตวัยรุ่นไปเล่นสเกต ไม่ได้มีบันทึก ไว้ เพราะว่าสมัยนั้น การที่เด็กคน หนึ่งจะไปเข้าห้องอัดเป็นเรื่องที่ยาก มาก ผมก็เอาเทปคาสเซตต์สองหัว เข้าไปที่ห้องซ้อม แล้วก็กดอัด 44

แล้วเรารู้สึกว่า เหมือนเราได้ไขประตู ไปห้องที่เราอยากเข้าไปมาก ได้เข้าไปปุ๊บ ทีนี้ผมรู้แล้วว่า อ๋อ มันคือการ Open Tuning แล้วผม ก็ลอง หัดเล่นแรกๆ นี่อยากร้องไห้ มาก เพราะเราต้องทิ้งความรู้ที่เรามี ทั้งหมดออกไป แล้วเราต้องเริ่มใหม่ พอเรารู้กุญแจไปห้องต่อไป ใน การรู้พื้นฐานคอร์ด เท่าที่เราจะหาได้ เช่น ในเน็ต เราก็ลองคล�ำๆ ดู หรือว่า เรามีเสียงในหัว มีริฟฟ์อะไรสักริฟฟ์ หนึ่งครับ กรูฟสักกรูฟหนึ่ง ผมก็จะ มาไล่หาบนคอกีตาร์ ฟิงเกอร์สไตล์ตามความเข้าใจ ผม อาจจะไม่ถก ู 100% ฟิงเกอร์ สไตล์ ก็คอ ื การเล่นบรรเลงน่ะครับ ถ้า ฟิงเกอร์สไตล์แท้ๆ เขาจะเป็นบรรเลง มีทำ� นอง มีเมโลดี้ มีขน ึ้ มีลง ซึง่ ฟัง ตอนแรกนี่ โอ้โห ผมมหัศจรรย์มาก กีตาร์ตวั เดียวเล่นได้ขนาดนีเ้ ลยเหรอ ผมพยายามฟังหลายๆ แนว พอ เราฟังฟิงเกอร์สไตล์จนเราอิม ่ เราเริม ่ พอจะรู้ฟีลแล้ว เราก็จะเปลีย ่ นไปฟัง เพลงอืน ่ เลย ซึง่ ผมฟังหลายแนวมาก ทุกวันนีผ ้ มก�ำลังชอบฟังพวก Retro–Wave ซาวด์แบบ 80’s พวกเพลงบรรเลงทีท ่ ำ� วงใหม่ๆ อย่าง เช่นพวก Time Cop1983, The Midnight ซึง่ จริงๆไม่ได้เกีย ่ วกับฟิง เกอร์สไตล์เลย แต่ว่าช่วยในด้าน Rhythm ด้านเมโลดีเ้ พราะๆ สวยๆ

Mike Sriviengping’s Style

ผมไม่แน่ใจว่า คนฟิงเกอร์สไตล์ จริงๆ เขาจะยอมรับสไตล์แบบนี้หรือ เปล่า เพราะคนที่เรียนมาโดยตรงจะ ไม่ร้องเลย แต่เราก็ถือว่า เราเหมือน เอาหลายๆ อย่างมาใส่ ซึ่งผมดูของ ศิลปินเมืองนอก ก็มีร้องด้วย ผมก็ เลยปลอบใจตัวเองว่า เรายังพอเรียก ว่า ฟิงเกอร์สไตล์ ได้ แต่ว่าเราขอใช้ ค�ำว่า เราเอาวิธีเล่นแบบฟิงเกอร์ สไตล์มาใช้กับเพลงป๊อปธรรมดา ให้สัดส่วนจัดจ้านขึ้น มีอะไรมากขึ้น แล้วก็เนื้อหาในการเขียนแรกๆ จะ เกี่ยวกับความหวัง ความฝัน ก็อ่าน พวกบทกวี พยายามจะท�ำให้เพลงตัว เองมีความสละสลวยเป็นบทกวี

Mike x Life

ผมเคยส่งแคทมาประมาณ 5 เพลง ช่วงที่ผมส่ง ‘นักเดินทาง’ ภาษาไทยตอนแรก ผมไม่ได้รับเล่น งานทั่วไป เพราะว่าเรายังโนเนม ผม ก็ไปท�ำอาชีพอย่างอื่น กลับมาจาก ท�ำงาน เราก็มาเขียนเพลง มาซ้อม ของเราน่ะครับ แล้วช่วงนั้น ชีวิตจะ ฝืดๆ หน่อย ก็ท�ำธุรกิจหลายอย่าง เสื้อยืด เราก็ออกแบบ ท�ำไป เจ๊งไป แต่เราก็สู้ไป ขายเสื้อผ้ามือสองไป เรื่อยก็เลยท�ำให้เพลงผมขาดหายไป เพราะว่า ถ้าเราเก็บเงินได้สักหมื่นห้า เราต้องมาคิดแล้วว่า ค่าข้าว ค่านู่นนี่

ถ้าเปรียบเทียบตัวเองกับ เพลงของแม็กซ์ เจนมานะ นึกถึงเพลงอะไร ? เพราะอะไร ?

นั่น ค่าน�้ำไฟ ถ้าเราเอาไปท�ำเพลง หมด มันหมดเลย

Mike x Cat Radio

ฟัง Cat Radio ตอนแรกเลย 4–5 ปีทแี่ ล้วเลย ส่งเพลงแรกมาครับ ‘นักเดินทาง’ ตอนนัน ้ ตืน ่ เต้นมาก เพราะคลืน ่ วิทยุทจี่ ะเปิดเพลงศิลปิน ตัวเล็กๆ อินดี้ อย่างนี้ หายากครับ ผมเปิดฟังจากคอมฯ พอเจอเพลงผม ผมก็แคปหน้านัน ้ เก็บไว้ (หัวเราะ)

Mike x Max Jenmana

“ก็เคยได้ยินเพลงเขามาพอ สมควร แต่ว่าเราก็ท�ำความรู้จัก เขามากขึ้น ก็ไปหาข้อมูลว่า เขา ท�ำอะไรมาบ้าง ไม่ได้ลงลึกอะไร มาก แต่ว่าเราต้องนิดหนึ่งว่าเราจะ มาเล่นให้ใคร”

Mike x Mad Mike

จากหลายงานทีผ ่ มไปเล่น ผมดู Mad กว่าชาวบ้าน ไม่ใช่ Mass นะ ครับ Mad เลย (หัวเราะ) บางทีไป เล่นงานโฟล์กเราก็จะดุเดือดกว่าเขา ดูบ้ากว่าเขา เลยท�ำให้งานไม่ค่อยมี เท่าไหร่ เพราะว่าโฟล์กเน้นสือ ่ สาร เนือ ้ หา แต่ผมสือ ่ สารหมดทุกอย่างเลย ฟังจากการซาวด์เช็กแล้ว เสียง กีตาร์จากปลายนิ้วผสานเอฟเฟกต์ เสียงกังวาน ท�ำให้ได้ยินสุ้มซาวด์ แบบไมค์ได้ชัดแจ่ม แล้วพอได้เห็น การแสดงสดทั้งฝีมือบนเวทีและ ความชื่นชมจากกิ๊กที่มารอดูทั้งเขา และแม็กซ์ ท�ำให้ยิ่งอยากดูการแสดง สดของเขาต่อ ซึ่งข่าวดีคือ เราจะได้ พบกันอีกใน Cat Expo5 ปีนี้ พบ กันใหม่นะไมค์ ระหว่างนี้ ติดตามไมค์ทเี่ ฟสบุ๊ก และยูทป ู แชนแนล Mike Sriviengping นอกจากบทเพลงแล้วเขายังมี ผลงานท�ำมือ เช่น เสือ ้ ผ้าย้อมคราม ยาดม ให้อด ุ หนุนกันด้วย (O,O)

รู้ไปท�ำแมว - คนที่ทักเฟสบุ๊กไปชวนไมค์ ศรีเวียงพิงค์ มาเล่นเปิดเวที ให้แม็กซ์ เจนมานะ คือ ดีเจ วราฤทธิ์ มังคลานนท์ ซึ่งไมค์ ก็ตอบรับทันที - ดีเจคนเดิมนี่แหละที่ชวน ไมค์มาเล่นใน Cat Expo5 ปี นี้ เย้ -ในแคทกิ๊กครั้งนี้ ไมค์เล่น 4 เพลงคือ ‘พฤกษา’ ‘แสนไกล’ ‘Far From Horizon’ ‘Traveler’ ซึ่ง 2 เพลงหลัง เป็นภาษาอังกฤษ -สาเหตุทไี่ มค์เริม ่ แต่งเพลง เป็นภาษาอังกฤษ เพราะเขา ได้รบ ั เชิญไปแสดงสดในต่าง ประเทศ เช่น Co–Art ทีเ่ มือง ลีเ่ จียง ประเทศจีน เพราะ อยากให้ชาวต่างประเทศ เข้าใจสิง่ ทีเ่ ขาสือ ่ สารด้วย -แคทกิ๊กครั้งนี้ เขาซ้อมเป็น เดือน ระหว่างเดินทางขึ้นลง ท�ำธุรกิจที่ปาย–เชียงใหม่ จนถึงกรุงเทพฯ ระหว่างกิน ข้าวในห้องพักทีมงาน เราก็ ได้ยินไมค์ซ้อมกีตาร์อย่าง ขยันขันแข็งและเพลิดเพลิน -หนึ่งลักษณะเฉพาะตัวของ ไมค์ นอกจากการเล่นกีตาร์ แบบฟิงเกอร์สไตล์ + ใช้แผง เอฟเฟกต์ชุดใหญ่ที่ต้องเข็น มา + มีเนื้อร้องไพเราะลึกซึ้ง แล้วยังมีสไปเดอร์คาโป้ ซึ่ง เปรียบเสมือนอุปกรณ์ “เพิ่ม มือ” ช่วยให้เขาเล่นกีตาร์ได้ หลายสายหลายเสียงพร้อม เพรียงกันง่ายขึ้น -นอกจากท�ำเพลงแล้ว แม็กซ์ ยังท�ำของแฮนด์เมดขาย โดย เฉพาะ “แมวคราม” เสื้อผ้า มัดย้อมสไตล์ Shibori ที่ใช้ บล็อกไม้แบบญี่ปุ่น เลี้ยงแมว แล้วก็ท�ำกาแฟ ท�ำยาดม สมุนไพร และท�ำรีสอร์ทบ้าน ไม้คนเมืองที่ปาย

Max’s Gig กิ๊กของแม็กซ์

Chat: Aubaib Photo: Ying

จากซ้ายไปขวา น�้ำทิพย์-มุก

1. น�้ำทิพย์ (นักศึกษา) เพลง ‘ไวน์’ เหตุผล เรารู้สึกกับใครไปแล้ว ก็ยากที่จะกลับมาไม่รู้สึก 2. มุก (นักศึกษา) เพลง ‘ปีศาจ’ เหตุผล บางทีเราก็ไม่ได้ดีทั้งหมด อยู่ที่เขาจะรับเราได้รึเปล่า เราอาจเปลี่ยนนิสัยนั้นของเรา ไม่ได้จริงๆ

จากซ้ายไปขวา เอก-โบว์

จากซ้ายไปขวา เอม-เอิร์ธ

3. เอม (ธุรกิจส่วนตัว) เพลง ‘ถ้าพระจันทร์’ เหตุผล เนื้อเพลงน่ารัก 4. เอิร์ธ (ธุรกิจส่วนตัว) เพลง ‘อยากให้อยู่ตรงนี้จริงๆ’ เหตุผล ตอนฟังแรงบันดาลใจ พี่เขาบอกว่า ตอนแรกเขาเหมือน มีจุดมุ่งหมาย แต่ไม่ได้มองรอบข้าง จนถึงวันที่พี่เขาเกิดอุบัติเหตุ แล้วเขา นึกถึงคนรักขึ้นมา เราก็เลยอยากให้ คนส�ำคัญอยู่กับเรา

45

5. เอก (ธุรกิจส่วนตัว) เพลง ‘วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า’ เหตุผล ทุกคนก็คงมีมุมอยาก หลบจากเรื่องต่างๆ ปัญหา ต่างๆ เป็นคนที่เวลาเครียด จะชอบอยู่คนเดียว คิดอะไร ก็เหมือนการเข้าป่า ของพี่แม็กซ์ 6. โบว์ (พนักงานออฟฟิศ) เพลง ‘ปีศาจ’ / ‘Demons’ (ชอบทั้ง 2 เวอร์ชั่น) เหตุผล ฟังเพลงนี้ แล้ว เหมือนทุกคนมี Dark Side อยู่ในตัวของตัวเอง อยู่กับ ใครเราก็พยายามแสดงออก ด้านดีๆ เราสนิทกับใครสักคน เราสามารถแสดงออกได้ทั้ง ด้านดี, ด้านร้าย ใช่ไหม คน จะรับได้ใช่ไหม เป็นเพลงที่ คิดว่ามีมุมมองที่แปลก


46

47


48


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.