Magazine ON
Vol.4 Issue 42 October 2016
V.I.P.
แซ็ก ธนินวัฒน์ - คำรณ : ผนึกกำลังสร้างมิติใหม่
ข่าวเกษตรสิ่งแวดล้อมยั่งยืน จัดงาน “มหกรรมนมสร้างชาติ“
รายงาน
พิเศษ : จิ้วฮวด
และ
ตราแม่ครัว
สร้างเด็กไทยยุคใหม่ให้ คิดใส ใจสะอาด เพื่อชาติ เพื่อในหลวง
Green Hot Issue
: เจาะเกาะติด... แล้งหน้า ที่คนไทยต้องรู้
โดนใจคอละคร : เรื่องย่อ “นาคี”
ConTenT Green Hot Issue 6 Green Good 8 Green Think 9 Green Touch 11 ไอทีสิ่งแวดล้อม 12 World Garden 14 V.I.P. 18 รายงานพิเศษ 26 . 30 360 News . 32 360 Entertainment . 33 360 Rising Star เรื่องเล่าจากปก 34 . ข่าวสั้น 360 36 หอมความดี 37
ปีที่ 4 ฉบับที่ 42 เดือนตุลาคม 2559
ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ คุณประสาร มาลีนนท์ คุณประวิทย์ มาลีนนท์ ที่ปรึกษา คุณสำ�ราญ ฉัตรโท คุณสมรักษ์ ณรงค์วิชัย คุณคชาชาญ มงคลเจริญ คุณอัชฌา สุวรรณปากแพรก คุณบริสุทธิ์ บูรณะสัมฤทธิ์ คุณสามารถ ดวงวิจิตรกุล คุณมนต์ชัย แสงสรสิทธิ์ คุณวรรณา บุญก่อเกื้อ บรรณาธิการอำ�นวยการ ธนินวัฒน์ พัฒนวีรคุณ วีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส บรรณาธิการบริหาร พัชริญาภรณ์ นาทองบ่อจรัส ทีมข่าว ทรงศักดิ์ ธาดาธีรพัฒน์ พฤษภาคม อิสราอังกูล ดาวใจ หลักคำ� จิรประภา เพ็งเวลุน ทิพเนตร เลขมาศ ช่างภาพ วีระพล เชื้อบุญมี กราฟิกดีไซน์ เกรียงศักดิ์ ทองจันทร์ ศุภณัฐ ต้องลี้พาล ฝ่ายประชาสัมพันธ์การตลาด สุภางค์วิไล นาทองบ่อจรัส ฝ่ายสื่อสารองค์กร สายหยุด บุญเกลี้ยง ธัญญะสุภางค์ นาทองบ่อจรัส จัดทำ�โดย บริษัท มาร์ค อิน มีเดีย จำ�กัด 190 ถ.รัชดา-รามอินทรา แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230 โทรศัพท์ 0-2519-5559 โทรสาร 0-2519-5545 ผลิตโดย บริษัท 360 องศา เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำ�กัด 111/44 ซ.รามอินทรา 40 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230 โทรศัพท์ 0-2187-1199
eXECUTIVe Editor สวัสดีท่านผู้อ่าน แฟนรายการข่าว ทีวี 360 องศา ครอบครัวข่าว 3 ทุกท่าน แล้วก็เดินทางมาถึงกับเดือนและวันที่รอคอย ส�ำหรับงานใหญ่ประจ�ำปีของ รายการ ทีวี 360 องศา ครอบครัวข่าว 3 “มหกรรมทีวีรักษ์โลก Save The World EXPO 2016” ที่ก�ำหนดจัดขึ้น วันที่ 28 - 30 ตุลาคม 2559 ณ ฮอลล์ 4 อิมแพค เมืองทองธานี ซึ่งปีนี้มาในประเด็น SAVE WATER SAVE LIFE : น�้ำ เพื่อชีวิต พร้อมกับนานาองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมจากหน่วยงานและองค์กรพันธมิตรมากมาย ที่ยังคงเหนียวแน่น และมีอุดมการณ์เดียวกัน ในการปลุกจิตส�ำนึกการใส่ใจปัญหา สิ่งแวดล้อม พร้อมเรียนรู้อยู่ร่วมกับความเปลี่ยนแปลงโลก ตามสโลแกนของงานมา ตั้งแต่ปี 2013 เพราะเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องของเราทุกคนบนโลกใบนี้ งานนี้... จึงต้องห้ามพลาด!! การท�ำหน้าที่สื่อมวลชน นอกเหนือจากหน้าที่หลักในการน�ำเสนอข่าวสาร อันเป็นประโยชน์แล้ว ภารกิจการสร้างสรรค์สังคม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ดี ยังเป็นสิ่งที่ รายการ ทีวี 360 องศา ยึดมั่นมาตลอด และ ขับเคลื่อนยิ่งใหญ่ ทรงพลัง สร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนเสมอมา ภายใต้การน�ำ ของ คุณแซ็ก ธนินวัฒน์ พัฒนวีรคุณ ประธานบริหาร บริษัท มาร์ค อิน มีเดีย จ�ำกัด พร้อมด้วย ดร.วีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส กรรมการผู้จัดการ บริษัท 360 องศา เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จ�ำกัด ทั้งวิสัยทัศน์ และความส�ำนึกรับผิดชอบต่อสังคม จึงได้ก่อเกิดโครงการ หลากหลายและขับเคลือ่ นสังคมอย่างเป็นรูปธรรมเสมอมา ทัง้ งานสิง่ แวดล้อม “มหกรรม ทีวีรักษ์โลก”, โครงการเพื่อเด็กและเยาวชน “คิดใส ใจสะอาด เพื่อชาติ เพื่อในหลวง” และ การประกวด “คิดใส ไทยแลนด์”, “โครงการหลังคาเขียว” ทีไ่ ด้เข้าร่วมเป็นพันธมิตร ในฐานะสื่อฯ รณรงค์รับบริจาคกล่องเครื่องดื่มรีไซเคิลเป็นหลังคาเขียว ร่วมกับ มูลนิธิ อาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย, สถาบันหอมความดี เชิญชวนทุกคน คิดดีท�ำดี และใหม่ล่าสุดที่จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรก ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ คือ งาน “มหกรรมนมสร้างชาติ” เพื่อเกษตรกรไทย สู่สิ่งแวดล้อมยั่งยืน ชวนคนไทย ให้ตระหนักถึงคุณค่าของ “นม” และ “ผู้ผลิตนมของไทย” ซึ่งสามารถติดตามอ่าน รายละเอียดใน “คอลัมน์ VIP” ในเล่มได้ จากบทสัมภาษณ์ คุณแซ็ก ธนินวัฒน์ พัฒนวีรคุณ และ คุณค�ำรณ หว่างหวังศรี นับเป็นการด�ำเนินงานมาอย่างต่อเนือ่ ง ตอกย�ำ้ จุดยืนการเป็นสือ่ สร้างสรรค์โลก ในฐานะ “สถานีรักโลก” ที่ประกาศตัวมาเกือบครบปีแล้ว และจะก้าวเดินต่อไปอย่าง แน่วแน่ต่อไป อย่างไรก็ตาม จะต้องอาศัยความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ทั้งจากภาครัฐ เอกชน รัฐวิสาหกิจ และประชาชนคนไทยทุกคนเช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ในทุกกิจกรรมที่จัดขึ้น ก็ได้รับการสนับสนุน ส่งเสริมด้วยดีเสมอมา ขอขอบพระคุณทุกภาคส่วนอย่างยิ่ง มา ณ โอกาสนี้ และเราจะก้าวเดินไป ด้วยกัน บรรณาธิการบริหาร พัชริญาภรณ์ นาทองบ่อจรัส
รายการ
Green Time ช่วงเวลา ของคุณ ช่วงเวลา ของโลก
ช่วง Green Update
ช่วง Green Think
ช่วง Green Good
ช่วง Green Touch
ทุกวันอาทิตย์ เวลา 07.30 - 08.00 น.
ทางช่อง 3 SD ช่อง 28
www.facebook.com/greentime360 ติดต่อโฆษณา
โทร. 02 519 5559
Green Hot Issue
กองบรรณาธิการ
เจาะ!!
เกาะติด แล้งหน้า
นับตั้งแต่เข้าฤดูฝนมาเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ปีนี้ เท่ากับว่า เราอยู่กับฤดูฝน และ ผ่านแล้งมาเป็นเวลา 3 เดือนกว่าแล้ว ในขณะที่สายฝนก�ำลังให้ปริมาณน�้ำหลายพื้นที่ และท�ำผลงาน สถานการณ์น�้ำในเขื่อนกักเก็บอย่างต่อเนื่อง ที่เห็นได้ชัดคือ ปริมาณน�้ำช่วงต้นเดือนกันยายน ก็มากกว่าวันที่เข้าฤดูแล้งของปีที่แล้ว รวมถึงการตั้งเป้าของ กรมชลประทาน จะมีปริมาณน�้ำ มากถึง 9,000 ล้าน ลบ.ม. เพียงพอในแล้งหน้า “ณ วันนี้ สถานการณ์ดี ถ้าเทียบกับวันที่ 1 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว น�้ำใน 4 เขื่อน หลักใช้การได้ ยังมากกว่าปีที่แล้ว ประมาณ 500 ล้านลูกบาศก์เมตร นี่เป็นสถานการณ์ โดยรวม แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนกันยาไปจนถึงเดือนตุลา เป็นช่วงที่อยู่ในช่วงฤดูฝน” นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีฝ่ายบ�ำรุงรักษา กรมชลประทาน กล่าว
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีฝ่ายบำ�รุงรักษา กรมชลประทาน
6
TV 360 On Magazine
แต่อย่าลืม...พิษภัยแล้งทีเ่ ราผ่าน พ้นมา เพราะหากลองนับดีๆ กลางเดือน ตุลาคมทีจ่ ะถึงนี้ ไทยตอนบนใกล้หมดฤดู ฝน ตามคาดหมายของ กรมอุตนุ ยิ มวิทยา แล้ว แม้วา่ ทัง้ 34 อ่างเก็บนำ�้ ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะ 4 เขื่อนหลัก ที่ต้องหล่อเลี้ยง 22 จังหวัด ลุ่มเจ้าพระยา จะมีปริมาณ น�้ำที่เพียงพอ ทั้งด้านการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ และทีส่ �ำคัญคือเพียงพอ ต่อด้านการเกษตร จะไม่ซ�้ำรอยปี พ.ศ.2558 ในวัน ที่เราเข้าสู่ฤดูแล้งอีกครั้ง แต่ยังคงเหลืออ่างเก็บน�้ำหลักๆ อีก 6 อ่าง ยังมีปริมาณน�้ำใช้การ ในเกณฑ์น�้ำน้อย - พอใช้ และต้องจับตา...เพราะหากฝนยังไม่ช่วยเพิ่มน�้ำ ในเวลาที่เราเหลือฤดูฝนไม่ถึง 2 เดือนนี้ มีแนวโน้มอาจกระทบการท�ำ การเกษตรรอบ 2 ได้ในบางพื้นที่ ของภาคเหนือและอีสานตอนล่าง “สิ่งที่เฝ้าจับตานะครับ ในเรื่องของการบริหารจัดการในเชิง บูรณาการร่วมกัน ก็คือเขื่อนภูมิพล ที่ถือว่าน้อยในตอนนี้ แล้วอีกพื้นที่ ที่น่าเฝ้าจับตาก็คือในพื้นที่บริเวณอีสานตอนล่าง มีเขื่อนล�ำตะคลอง เขื่อนล�ำมูลบน เขื่อนล�ำแซะ และแถวบริเวณของบุรีรัมย์นะครับ” รองอธิบดีฝ่ายบ�ำรุงรักษา กรมชลประทาน กล่าวเสริม เมื่อสถานการณ์น�้ำทุกจุดยังคงวางใจไม่ได้เสียทีเดียว อีกทั้งห้วงเวลาที่จะได้น�้ำจากฟ้าในช่วงที่เหลือ กับนัดหมายส�ำคัญก�ำลังจะมาถึง นั่นก็คือ วันที่ 1 พฤศจิกายน วันของการเริ่มต้นฤดูแล้ง ตามปฏิทินฤดูกาล ต้องเวียนมาบรรจบ อีกครั้ง นับเป็นอีกช่วงส�ำคัญที่คนไทยต้องรู้และเตรียมตัวอีกครั้ง ในการใช้น�้ำต้องขอว่าต้องประหยัดให้มาก คือ ประหยัดทั้งในกรณีที่ในช่วงน�้ำมาก็ดี น�้ำน้อยก็ตาม ไม่ใช่ว่าในช่วงน�้ำน้อย แล้วรณรงค์ให้เกิดการประหยัดน�้ำ เพราะฉะนั้นการใช้น�้ำให้เกิดประโยชน์ และประหยัดนั้นจะต้องท�ำให้เป็นกิจวัตรเป็นกิจกรรม อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากว่าเขื่อนใหญ่ๆ กว่าที่จะปริมาณเข้าสู่ภาวะปกติได้ยังจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 3 ปี แม้วางใจได้...แต่สถานการณ์ทั้งหมด เรายังไม่อยู่ในภาวะปกติ ตอกย�้ำจากบทเรียนภัยแล้ง เพื่อเตรียมตัวให้ทันท่วงที อย่าเตือนตน เมื่อสาย อย่าช้าไปกับเรื่องที่ควรรู้ ดีกว่าไม่เหลือเวลา หากรู้สึกตัวช้า ในวันนั้น...เราอาจไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีกเลย
TV 360 On Magazine
7
Green GOOD
กองบรรณาธิการ
คาร์บอนฟุตพริ้นท์ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นจากการ ใช้พลังงาน การเกษตร การพัฒนาและขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม การขนส่ง รวมถึงการตัดไม้ ท�ำลายป่า และการท�ำลายสิ่งแวดล้อมในรูปแบบอื่นๆ ล้วนเป็นสาเหตุส�ำคัญของการเกิดภาวะโลกร้อน โครงการขยายผลกิจกรรมชดเชยคาร์บอนเพื่อสนับสนุนตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจภายใน ประเทศ จึงเกิดขึ้น เพื่อให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันลดภาวะโลกร้อน ซึ่ง ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้านกลยุทธ์ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (วีกรีน) คณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รบั ความร่วมมือจากหลากหลายหน่วยงาน รวมถึง องค์การบริหารจัดการ ก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. “การที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่ได้หมายความว่า คนที่ปล่อย ก๊าซเรือนกระจกจะเป็นผู้ร้ายนะคะ ในชีวิตประจ�ำวันเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ส่ิงที่เราสามารถท�ำได้คือท�ำอย่างไรให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คุณประเสริฐสุข ลดน้อยลงไปค่ะ” คุณประเสริฐสุข จามรมาน ผู้อ�ำนวยการองค์การ จามรมาน บริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. กล่าว ความส�ำเร็จของโครงการมีองค์กรเข้าร่วมอย่างจริงจัง ซึ่งจะแบ่งออกเป็นได้ 2 กลุ่มหลัก คือ องค์กรที่ตั้งใจลดคาร์บอนนิวทรอลเป็นศูนย์ กับ พยายามลดคาร์บอนให้ได้มากที่สุด หรือเป็น คาร์บอนออฟเซ็ตธรรมดา “เราได้เรียนรู้และเข้าใจว่าการให้บริการของเรา ส่งผล กระทบกับเรื่องของพลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง และ ที่ส�ำคัญคือ เราได้ทราบข้อมูลว่าแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากการให้บริการของห้องสมุดอยู่ตรงไหน ก็น�ำมาสู่การวางแผน การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน แล้วก็การให้บริการเพื่อ ดร.อารีย์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมค่ะ” ดร.อารีย์ ธัญกิจจานุกิจ ผู้อ�ำนวยการส�ำนัก ธัญกิจจานุกิจ หอสมุด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวอย่างภาคภูมิใจที่สามารถลดคาร์บอน นิวทรอลเป็นศูนย์ได้ ส่วนอีกองค์กรก็มีความพยายามจะลดให้ได้มากที่สุด คือ ‘โฮมโปร’ “คาร์บอนฟุตพริ้นท์นี้เราได้เริ่มจากสาขาล�ำลูกกาเป็นสาขาแรก ซึ่งเรา ก็ต้องการที่จะมีการประเมินเรื่องของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ว่าเราเนี่ยปล่อย เท่าไหร่ในเรื่องของการด�ำเนินธุรกิจของเรา แล้วเราก็ได้ท�ำกิจกรรมชดเชย คาร์บอนนะคะ” อรพิน ศิริจิตเกษม ผู้จัดการทั่วไป สายสื่อสารองค์กร บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จ�ำกัด (มหาชน) คุณอรพิน ถือเป็นโครงการน�ำร่องและเป็นการชักชวนให้องค์กรอื่นๆ มาเข้าร่วม ศิริจิตเกษม ในการใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม รวมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกันมากยิ่งขึ้น
8
TV 360 On Magazine
Green Think
กองบรรณาธิการ
อัพไซเคิล คาร์บอนฟุตพริ้นท์ ปัจจุบันนี้...การผลิตวัสดุของโลกให้ความส�ำคัญกับกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อัพไซเคิล คาร์บอนฟุตพริ้นท์ กลายเป็นเทรนด์ใหม่ทเี่ ข้ามามีบทบาทกับการออกแบบมากยิง่ ขึน้ ด้วยกระบวนการน�ำเศษวัสดุมาแปลงสภาพให้กลายเป็นวัสดุใหม่ มีคณ ุ ภาพ ดีขึ้น ทั้งยังเพิ่มมูลค่าเชิงพาณิชย์ และใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะมีฉลากที่รับรองโดย ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านกลยุทธ์ธุรกิจ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่ง ผศ.ดร.รัตนาวรรณ มั่งคั่ง ผู้อ�ำนวยการศูนย์ฯ กล่าวว่า “ฉลากอัพไซเคิล คาร์บอนฟุตปริ้นท์ นี่นะคะ เราตั้งใจว่าจะสร้างขึ้นมาเป็นเครื่องมือทางการตลาด เพื่อที่จะส่งเสริม แบรนด์ของสินค้าอัพไซเคิลจากประเทศไทยสู่ตลาดสากล เป็นการให้การรับรองว่าสินค้านั้นท�ำมาจากเศษวัสดุจริง มีคุณสมบัติ ผศ.ดร.รัตนาวรรณ เหมาะสมกับการใช้งานผ่านการออกแบบเชิงสร้างสรรค์เพื่อสิ่งแวดล้อม ในขณะเดียวกันยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มั่งคั่ง อีกด้วย” ฉลากอัพไซเคิล คาร์บอนฟุตพริ้นท์ เป็นการสร้างคุณค่าผลิตภัณฑ์อัพไซเคิล และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อว่า มาจากอัพไซเคิลจริงๆ ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องผ่านการประเมินทั้งหมด 5 ข้อ ได้แก่ เศษวัสดุ ที่ต้องมีสัดส่วนเศษวัสดุต่อชิ้นงาน อย่างน้อย 20% นอกจากนี้ กระบวนการอัพไซเคิล ทีค่ วรค�ำนึงถึงผลกระทบต่อสิง่ แวดล้อมและก๊าซเรือนกระจก ทางด้าน คุณภาพ ผลิตภัณฑ์ ต้องมีคุณภาพเทียบเท่าหรือดีกว่าเดิม รวมถึง การออกแบบเชิงสร้างสรรค์ และ คาร์บอนฟุตพริ้นท์ “ฉลากอัพไซเคิล คาร์บอนฟุตพริ้นท์ จริงๆ แล้วเนี่ยมีประโยชน์ส�ำหรับผู้ประกอบการมาก เพราะต้องบอกเลยว่า ด้วยความที่โคโคบอร์ด พอได้ออกไปสู่ตลาดโลกเราก็เป็นที่รู้จักอยู่บ้างแล้ว เมื่อก่อนเราเริ่มรู้จักรีไซเคิลนะคะ พอล�ำดับถัดมา คุณอรพินท์ ที่ต่างประเทศเค้ารู้จักค�ำว่าอัพไซเคิลแล้ว เพราะฉะนั้นการที่มีฉลากอัพไซเคิลมารองรับผู้ประกอบการ ก็จะท�ำให้การท�ำธุรกิจ สินอมรเวช การเจรจามีความเข้าใจกันมากขึ้น มีการปิดการขายได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ” คุณอรพินท์ สินอมรเวช ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร บริษัท โคโคบอร์ด จ�ำกัด กล่าว แนวคิดของ ฉลากอัพไซเคิล คาร์บอนฟุตพริ้นท์ ถือเป็นการช่วย ลดขยะ ลดโลกร้อน และเป็นการตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม อ่านมาถึงตรงนี้ คุณก�ำลังคิดอะไรขึ้นมาได้บ้าง เพื่อโลกของเรา?
TV 360 On Magazine
9
Green Touch
กองบรรณาธิการ
3 พลังคนรุ่นใหม่
ห่วงใยสิ่งแวดล้อม พร้อม หัวใจ แบ่งปัน
“ดารารักษ์โลก” ฉบับนี้ เป็นการรวมพลังรักโลกด้วยหัวใจสีเขียว ที่ “ทีวี 360 องศา ออน แมกกาซีน” ได้มีโอกาสไปเก็บภาพบรรยากาศงานพิธี ปิดโครงการหลังคาเขียว ประจ�ำปี 2559 เมื่อไม่นานมานี้ ณ เดอะ มอลล์ บางกะปิ จึงได้มีโอกาสพูดคุยกับ โดม จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม พร้อมนางเอกสาวสวย มิ้น ณัฐวรา วงศ์วาสนา และหนุ่มหล่อหน้าใส เพชร ธกฤต ตวันพงศ์ ทั้ง 3 คน ที่มาให้ความบันเทิง สนุกสนาน แก่น้องๆ นักเรียน ที่มาร่วมงาน เพื่อรณรงค์ การลดปริมาณขยะกล่องเครื่องดื่ม และรีไซเคิลเป็น หลังคาเขียว โดม จารุวัฒน์ : “โครงการหลังคาเขียว เป็นโครงการที่อยากเชิญชวนให้ทุกคนบริจาคกล่องเครื่องดื่ม ไม่วา่ จะดืม่ นม ดืม่ น�ำ้ ผลไม้ ก็จะเป็นกล่องเหลือทิง้ อย่าทิง้ ขว้างนะครับ เก็บมาแล้วก็เอามาบริจาคด้วยกัน เพราะ ว่าเราสามารถเอาไปท�ำประโยชน์ได้เยอะแยะมากมาย โลกของเราตอนนี้ คือมันเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปในทางที่ มันแย่ลงด้วย เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้ว ถ้าเกิดเราสามารถช่วยกันได้คนละมือมันจะดีมาก การน�ำกล่องเครื่องดื่ม มาเปลี่ยนเป็นหลังคาเขียว ก็เป็นอีกวิธีที่ท�ำได้ง่ายมาก ที่ส�ำคัญได้ช่วยเหลือคนที่ไม่มีบ้านด้วยครับ” เพชร ธกฤต : “น้อยมากครับทีจ่ ะมีโครงการดีดแี บบนี้ ทีน่ อ้ งๆ เด็กๆ เข้าร่วมได้ด้วย ฝากถึงน้องๆ เยาวชนทุกคนนะครับ ให้หันมาสนใจ โดม จารุวัฒน์ ในสิ่งแวดล้อมด้วย เพราะว่าปัจจุบันนี้โลกมันร้อนมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ นะครับ แล้วก็สิ่งส�ำคัญคือขยะ ถ้าทุกคนเอาไปทิ้งขยะ แล้วก็เอาไปเผา มันจะก่อเกิดคาร์บอนไดออกไซด์ มันจะท�ำให้อากาศร้อนขึ้น ส�ำหรับครั้งนี้ น่าชื่นชมมากๆ ที่น้องๆ ที่มาร่วมงาน เอากล่องเครื่องดื่มมาบริจาคท�ำเป็นหลังคาเขียวด้วย จ�ำนวนมากมาย บางโรงเรียนเก็บกล่องนมมาบริจาคสูงถึง หลักหมื่นกันเลย รู้สึกดีมากเลยครับ และอยากให้ช่วยกันแบบนี้ตลอดไปครับ” เพชร ธกฤต มิ้น ณัฐวรา : “มิ้นเป็นคนชอบดื่มนม ดื่มน�้ำผลไม้ค่ะ เพิ่งทราบ ในวันนีว้ า่ กล่องเหล่านีเ้ อามาท�ำหลังคาเขียวได้ มิน้ มองว่าเป็นสิง่ ทีใ่ กล้ตวั เรา มากๆ ที่ท�ำให้เราได้มีส่วนร่วมในการช่วยคนอื่นได้ด้วย อยากให้ทุกคนช่วยกันเยอะๆ เอากล่องเครื่องดื่มพวกนี้มา บริจาคกันเยอะๆ ค่ะ จุดรับบริจาคก็มีที่ BigC ทั่วประเทศนะคะ”
มิ้น ณัฐวรา
มาเชิญชวนกันขนาดนี้ เห็นทีอยู่เฉยไม่ได้แล้ว อ่านมาถึงตรงนี้ ท่านผู้อ่านลองกวาดสายตาดูสิว่า มีกล่อง เครื่องดื่มที่เป็นขยะอยู่รอบๆ ตัวตอนนี้หรือไม่ ถ้ามีก็อย่ารอช้า เพราะความหวังของผู้ประสบภัยที่จะมีหลังคาบ้าน หลังใหม่จะเป็นจริง ฝันของพวกเขา ก�ำลังรอการแบ่งปันจากทุกๆ คน TV 360 On Magazine
11
ไอทีสิ่งแวดล้อม นกขมิ้นเหลืองอ่อน atthagorn.sirisuwan@gmail.com
ภัยเงียบ ของ แบตเถื่อน ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือกลายเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ส�ำคัญอุปกรณ์หนึ่งในชีวิตประจ�ำวัน โดยสถิติการใช้งาน โทรศัพท์มือถือล่าสุด ระบุว่าปี พ.ศ.2559 คนไทยมีการใช้งานโทรศัพท์มือถือเป็นจ�ำนวนมากถึง 83 ล้านคน โดยใช้ ส�ำหรับ ติดต่อสื่อสาร, ท�ำธุรกรรมทางการเงิน, เพื่อความบันเทิงและผ่อนคลาย รวมถึง การซื้อขายแลกเปลี่ยน เป็นต้น จนอาจกล่าวได้ว่าเมื่อโทรศัพท์มือถือไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ย่อมส่งผลกระทบต่อชีวิตประจ�ำวัน ของเราอย่างแน่นอน ปัญหาที่พบมากในการใช้โทรศัพท์มือถือ คือ แบตเตอรี่เสื่อม ซึ่งมีหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น การใช้ งานโทรศัพท์มอื ถือขณะชาร์จไฟแบตเตอรี,่ การใช้อปุ กรณ์การชาร์จทีไ่ ม่ได้มาตรฐาน และ การใช้งานแบตเตอรี่ ปลอม เป็นต้น ซึ่งการใช้งานที่ผิดวิธีอาจน�ำมาซึ่งอันตรายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของเราได้ เนคเทค จึงได้ น�ำข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับอันตรายและวิธีการเลือกซื้อแบตเตอรี่ที่ได้มาตรฐานมาน�ำเสนอ เพื่อเป็นแนวทาง ในการร่วมกันป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานแบตเตอรี่เถื่อน แบตเตอรี่เป็นแหล่งเก็บพลังงานของโทรศัพท์มือถือ ประกอบด้วยหลากหลายชิ้นส่วน ทั้งวงจรทาง อิเล็กทรอนิกส์ และสารเคมีหลากหลายชนิด แบตเตอรี่เถื่อน คือ แบตเตอรี่ที่ไม่ผ่านการรับรองคุณภาพ ไม่มี กลไกป้องกันแผงวงจรซึง่ เป็นมาตรฐานโดยทัว่ ไป อาจมีการใช้สารเคมีทไี่ ม่ได้มาตรฐาน เพือ่ ลดต้นทุนในการผลิต และน�ำมาจัดจ�ำหน่ายในราคาถูกกว่าปกติ การน�ำมาใช้งานจึงเสี่ยงต่อการลัดวงจร ไฟไหม้ และระเบิดได้ นอกจากนี้ แบตเตอรีเ่ ถือ่ น ยังเสีย่ งต่อการรัว่ ซึมของสารเคมีทบี่ รรจุอยูภ่ ายใน เนือ่ งจากในแบตเตอรี่ มีสารเคมีมากมายเป็นส่วนประกอบหลากหลายชนิด โดยพิษของสารเคมีในแบตเตอรีท่ มี่ ตี อ่ ร่างกายของเรา มีดังนี้ 1. แคดเมียม ซึ่งหากสะสมในร่างกายในปริมาณถึงระดับหนึ่งก็จะก่อให้เกิดโรคไตวายได้ และเป็น สารที่ก่อให้เกิดมะเร็งโดยการสูดดม 2. ตะกั่ว เป็นสารก่อมะเร็ง และมีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ระบบย่อยอาหาร ไต โลหิต หัวใจ การพัฒนาของทารกในครรภ์ 3. ลิเทียม ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อจมูก ล�ำคอ ท�ำให้หายใจติดขัด ถ้ากลืนกินเข้าไปจะมีฤทธิ์ กัดกร่อนท�ำให้เกิดอาการเจ็บคอ ปวดท้อง และอาเจียนได้ ถ้าเข้าตาจะท�ำให้เกิดการระคายเคืองและอาจท�ำ ให้ตาบอด 4. ทองแดง ท�ำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบหายใจ และเป็นอันตรายหากกลืนกิน 5. นิกเกิล เป็นสารก่อมะเร็ง เมื่อหายใจเข้าไปอาจท�ำให้เกิดอาการหอบหืด หลอดลมอักเสบ หายใจ ติดขัดและท�ำให้ผิวหนัง อักเสบ และถ้ากลืนหรือกินเข้าไปอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เมื่อทราบถึงโทษจากการใช้งาน แบตเตอรี่เถื่อน แล้ว เราจึงควรที่จะเลือกซื้อแบตเตอรี่ที่ได้มาตรฐาน เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน และเพื่อสุภาพที่ดีของตัวผู้ใช้ ซึ่งท่านผู้อ่านสามารถติดตามได้ในฉบับหน้านะครับ
“เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมายรับรองคุณภาพ เพิ่มความอุ่นใจ…ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน”
ข้อมูลอ้างอิงจาก : งานรับรองคุณภาพบริภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ เนคเทค http://ecec.nectec.or.th/
TV 360 On Magazine
13
World GARDEN
บริสุทธิ์ ประสพทรัพย์์
เที่ยว บน สกายวอล์ค เหนือ สวนพฤกษา
คุณกัมพล ตันสัจจา ผู้อ�ำนวยการ สวนนงนุชพัทยา เคยบอกถึงการบริหารสวนแห่งนี้ว่า ประสงค์จะ ให้เป็นแหล่งท่องเทีย่ วรองรับนักท่องเทีย่ วทัง้ คนไทยและต่างชาติทพี่ ำ� นักระยะยาวอยูใ่ นประเทศไทย ตลอดจนนักท่องเทีย่ ว ต่างชาติที่ต้องการเดินทางมาเพื่อการท่องเที่ยว โดยมีเป้าหมายหลักอยู่ว่าผู้มาเยือนทุกผู้หมู่เหล่า จะได้ใช้สถานที่แห่งนี้ เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้ ยังจะได้มีโอกาสเรียนรู้ถึงพืชพันธุ์ไม้ชนิดต่างๆ ภายในอาณาบริเวณกว้างใหญ่ถึง 1,600 ไร่ ประการส�ำคัญที่ สวนนงนุชพัทยา ถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย นอกจากได้ท่องเที่ยวด้วยความเพลิดเพลินใจ และเรียนรู้ด้านพฤกษศาสตร์ไปพร้อมในตัวแล้ว ยังสามารถ ใช้ช่วงเวลาระหว่างการเดินชมสวนแต่ละแห่ง ที่มีอยู่หลากหลายภายในสวนฯ ก็เท่ากับได้ใช้ช่วงเวลา ดังกล่าวเดินออกก�ำลังกายเสริมสุขภาพไปด้วย ด้วยแนวคิดที่ว่านี้ผู้บริหารถึงได้พยายามสรรหาปัจจัยต่างๆ ขึ้นมาสนองตอบต่อความต้องการ ในสิ่งนี้เพิ่มเติม นอกเหนือจากการออกแบบตกแต่งเส้นทางเดินเท้าขึ้นภายในแต่ละสวน ให้เหมาะสม กับการเดินชมสวนอย่างมีคุณภาพ และมั่นคงต่อสุขภาพร่างกาย
14
TV 360 On Magazine
พอปี พ.ศ.2543 จึงได้เริ่มลงมือสร้าง สะพานเชื่อมเป็นทางเดินแบบลอยฟ้า อย่างที่ เรียกกันในหมู่นักออกแบบตกแต่งสวนตามแหล่งท่องเที่ยวทั่วไปว่า Sky Walk ซึ่งจัดได้ว่าเป็น การสร้างสิง่ อ�ำนวยความสะดวกอีกรูปแบบหนึง่ แก่นกั ท่องเทีย่ ว ส�ำหรับจุดแรกทีเ่ ริม่ สร้างขึน้ ได้แก่ ตึกมดที่อยู่เหนืออาคารจัดแสดงประติมากรรมมด บริเวณด้านหน้าห้องอาหารพลับพลึงกับสวน อิตาเลี่ยน อันเป็นจุดใจกลาง สวนนงนุชพัทยา สะพานเชื่อมทางเดินแบบลอยฟ้าที่ว่านี้ ถูกยกคานขึ้นด้วยเสาเหล็กขนาดใหญ่สูงจาก พื้นดินประมาณ 2 - 5.50 เมตร โดยลดหลั่นกันไปตามสภาพพื้นที่เบื้องล่าง ขนาดทางเดินกว้าง 2.50 เมตร เหนือทางเดินถูกยกขึ้นเป็นหลังคาเรือนแถวตลอดแนว เพื่อป้องกันทั้งแดดและฝน ตามความจ�ำเป็น ส่วนตลอดสองข้างทางเดินเปิดโล่งให้ลมพัดผ่าน กับสามารถมองเห็นภาพ การออกแบบตกแต่งสวนที่ปรากฏอยู่ด้านล่างระหว่างทางเดินผ่าน อีกทั้งยังได้มองไกลออกไป เห็นภูมทิ ศั น์รอบด้าน ทีส่ ะท้อนภาพบรรยากาศสวนพฤกษาเชิงภูผา ได้อย่างงามพิสทุ ธิ์ แม้จะเป็นสวนพันธุ์ไม้ที่มนุษย์เป็นผู้คิดสร้างขึ้น ทว่าก็ใกล้เคียงกับสวนป่าธรรมชาติ อย่างกลมกลืนเลยก็ว่าได้! ทางเดินลอยฟ้าแห่งแรกทีส่ ร้างเชือ่ มเป็นทางยาวจากตึกมดผ่านสวนแมมมอส แล้วต่อไปจนถึงสวนลายปีกผีเสือ้ สถานทีจ่ ดั แสดงประติมากรรมผีเสือ้ จ�ำลองจ�ำนวนมาก และเป็นมุมทีน่ กั ท่องเทีย่ วมักจะนิยมเข้าไปเซลฟีถ่ า่ ยภาพกันเป็นประจ�ำทุกวัน หรือแม้แต่ คนที่ขึ้นไปเดินอยู่บนสะพานลอยฟ้าเอง ก็ไม่เว้นที่จะเซลฟี่ภาพตนเองขณะยืนอยู่เหนือ สวนดังกล่าว จากนั้นในปี พ.ศ.2550 การสร้างสะพานเป็นทางเดินลอยฟ้า ก็พลันพัฒนาขึ้น ตามความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวที่ขยายตัวขึ้นอย่างกว้างขวางในแต่ละวัน โดยจุด ต่อมาถูกสร้างขึ้นเหนือบริเวณพื้นที่กลางสระน�้ำ ซึ่งสร้างสีสันและบรรยากาศที่แตกต่างออกไปจากทางเดินลอยฟ้าเหนือตึกมด สูส่ วนลายปีกผีเสือ้ ด้วยคนทีข่ นึ้ ไปเดินอยูบ่ นนัน้ สามารถทีจ่ ะสร้างมะโนขึน้ กับตนเองได้วา่ เสมือนหนึ่งก�ำลังยืนอยู่เหนือเวิ้งอ่าวกลางท้องทะเลสาบอันกว้างใหญ่ ไม่นานต่อมาการขยายเส้นทางเดินแบบลอยฟ้าก็มีแต่จะเพิ่มขึ้น อันได้แก่ การเชื่อม ต่อจากสวนลายปีกผีเสื้อตรงไปยังสวนนกฟลามิงโกจ�ำลอง ยาวไกลต่อไปกระทั่งถึงสวนฝรั่งเศส และหอระฆังอันเป็นแหล่งตระการตาอีกแห่งหนึ่งของอาณาจักรของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ จนปัจจุบัน สะพานเดินเชื่อมแบบลอยฟ้า หรือ Sky Walk ของ สวนนงนุชพัทยา สามารถสร้างจุดสนใจให้กับนักท่องเที่ยวได้ไม่แพ้การนั่งรถกอล์ฟปลอดมลพิษกลุ่มก๊าซคาร์บอนฯ หรือนั่งช้างเที่ยวชมไปรอบๆ สวน ด้วยได้มีการพัฒนาให้เชื่อมต่อเป็นแนวระนาบถึงจุดต่างๆ รายรอบสวนเป็นระยะทางยาวประมาณ 4 กิโลเมตร โดยมีจุดขึ้นและลงอยู่เกือบจะทุกแห่ง เพือ่ อ�ำนวยความสะดวกแก่คนทีม่ เี วลาน้อยและสัน้ หรือไม่เอือ้ ให้ตอ้ งเดิน เป็นระยะทางยาวมากเกินไป ขณะเดียวกัน ทางเดินแห่งนี้ยังสามารถใช้เป็นทางเดินไปสู่แหล่ง อันเป็นสถานที่พักแรมคืน ที่เชื่อมต่อเป็นแนวกับสวนพฤกษา และยังเชื่อมต่อสู่ ห้องอาหารพลับพลึง อีกทั้งโรงละครแสดงศิลปะวัฒนธรรมไทย ลานช้าง สวนสนุก กับอีกมากมายหลายแห่ง โดยที่นักท่องเที่ยวเลือกใช้เวลาอยู่เหนือ พื้นปฐพี สวนนงนุชพัทยา ที่เปรียบประดุจก�ำลังเหิรอยู่กลางเวหาหาว ก็ว่าได้!!
TV 360 On Magazine
15
นิสิตใหม่ KU 76 คณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระดับปริญญาตรี โท และ เอก ร่วมกับ คณาจารย์ และ บุคลากร ท�ำกิจกรรม วันพัฒนาและปลูกต้นไม้ บริเวณโดยรอบมหาวิทยาลัยและ คณะสิ่งแวดล้อม ในวันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2559 ซึ่งถือเป็นกิจกรรม อันดีในการส่งเสริมและสร้างความสามัคคีระหว่างนิสิตและคณาจารย์ รวมถึงบุคลากร อีกทั้งยังช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้แก่มหาวิทยาลัยและ คณะสิง่ แวดล้อมอีกด้วย นอกจากนีใ้ นคืนวันเดียวกันทาง คณะสิง่ แวดล้อม ได้สง่ ตัวแทน เฟรชชีบ่ อยแอนด์เกิรล์ เข้าร่วมประกวดใน โครงการต้อนรับ น้องใหม่เฟรชชี่บอยแอนด์เกิร์ล KU 76 ซึ่งได้จัดขึ้นที่ สนามอินทรี จันทรสถิตย์ โดยภายในงานมีตัวแทนเฟรชชี่บอยแอนด์เกิร์ล และนิสิตใหม่ KU 76 จากทุกคณะเข้าร่วม
TV 360 On Magazine
17
V.I.P.
กองบรรณาธิการ
มหกร
ภายใต้แนวคิด :
แซ็ก ธนิน
ผนึกก�ำลังสื่อกับทุกภาคส่ว เปิดมิติใหม่ในฐานะสื่อมวลชน ของรายการ Green Time 360 องศา โดย คุณแซ็ก ธนินวัฒน์ พัฒนวีรคุณ ไอคอนสิ่งแวดล้อม และ รายการ ค�ำรณพารวยด้วยเกษตร ช่อง 3 SD ช่อง 28 โดย คุณค�ำรณ หว่างหวังศรี พิธีกรผู้เป็นขวัญใจพี่น้องทั่วไทยโดยเฉพาะเกษตรกร ทีไ่ ด้เล็งเห็นถึงความส�ำคัญ ในการขับเคลือ่ นนโยบายอันเป็นประโยชน์ตอ่ การส่งเสริมคุณภาพ ชีวิตของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทั่วไทยให้ดียิ่งขึ้น ร่วมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พร้อมกับการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน กับโครงการใหญ่ครั้งแรกของแวดวงนม เลยก็ว่าได้ กับงาน “มหกรรมนมสร้างชาติ 2016” ประกาศเจตนารมณ์ ไปสู่ ทุกกลุ่มเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งผู้เลี้ยง ผู้ประกอบการ ผู้ดื่ม โดยผนึกก�ำลัง กับองค์กร ภาคีเครือข่ายมากมาย ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน รัฐวิสาหกิจ ผู้ประกอบการ สมาคม ชมรม ชุมนุมสหกรณ์ ในวันที่ 25-27 พฤศจิกายน 2559 นี้ ณ เมืองทองธานี
คุณแซ็ก ธนินวัฒน์ พัฒนวีรคุณ พิธีกรรายการ กรีนทาม 360 องศา ช่อง 3 SD ช่อง 28
คุณแซ็กมีมุมมองความส�ำคัญของเกษตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างไร ตลอดเวลากว่า 7 ปีที่ผมท�ำรายการ “ทีวี 360 องศา” และ อีก 20 กว่าปี กับการคร�่ำหวอดอยู่กับเนื้อหาทางสิ่งแวดล้อม ทั้งในพื้นฐาน ทางการศึกษาของผม และการท�ำรายการข่าว-สารคดีสงิ่ แวดล้อมทางโทรทัศน์ ผมเห็นว่า สิ่งแวดล้อมคือ ทุกเรื่องที่อยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่จับต้องได้ หรือไม่ การทีเ่ ราจะท�ำให้สงิ่ ทีอ่ ยูร่ อบๆ ตัวเรา ดีกบั ตัวเราด้วยนัน้ เราก็ตอ้ งจัดการ ให้สิ่งนั้นๆ ดีกับตัวเราอยู่เสมอ ดังนั้น หากคุณอยากมีชีวิตที่ดี ก็ต้องอยู่กับสิ่งแวดล้อมที่ดีด้วย ส�ำหรับ การเกษตร คือพื้นฐานส�ำคัญของการด�ำรงอยู่ของชีวิตเราก็ว่าได้ เพราะมนุษย์อาศัย การเกษตรเป็นปัจจัย 4 พื้นฐานมาตั้งแต่มีมนุษย์เกิดขึ้นมาบนโลกนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งเกษตรใน ยุคดึกด�ำบรรพ์ หรือเอาในรุ่นปู่ย่าตายายของเราก็ได้ ผมว่ามันเป็นเกษตรที่พึ่งพากันและกัน ด�ำรงอยู่คู่กันของคนกับธรรมชาติที่ไม่เบียดเบียนกัน เกษตรกับคนจึงเกื้อกูลต่อกัน น�ำไปสู่ คุณภาพชีวิตที่ดีซึ่งกันและกันได้ แต่เกษตรในยุคปัจจุบัน ผมว่า หากยากนะครับ ที่จะเป็น เกษตรแบบบริสุทธิ์ที่เหมือนกับยุคบรรพบุรุษเรา เพราะเมื่อประชากรมากขึ้น สังคมต้องอยู่กัน แบบอาศัยพลังอ�ำนาจทางการเงินและทรัพย์สมบัติมากขึ้น การท�ำการเกษตรจากที่เป็นแบบ พอมีพอกิน ได้เปลี่ยนเป็นการผลิตเพื่อการค้าและพาณิชย์ ที่ต้องมีปริมาณมากและมีคุณภาพ ของผลผลิตทีต่ รงตามความต้องการของตลาด จึงหนีไม่พน้ ทีจ่ ะต้องใช้สงิ่ เจือปนทีจ่ ะท�ำอย่างไร ก็ได้ที่จะท�ำให้ผู้ผลิตได้ผลผลิตมากๆ ขายได้ราคาดีมากๆ การจะไขว่คว้าหาเกษตรแบบดั้งเดิม
รรม นม สร้างชาติ
: นมสร้างคน คนสร้างชาติ ชาติยั่งยืน
นวัฒน์ & ค�ำรณ หว่างหวังศรี
วนสร้างมิติใหม่ ข่าวเกษตรสิ่งแวดล้อมยั่งยืน จึงกลายเป็นเรื่องที่ไม่ตอบโจทย์ในการด�ำรงฐานะและยกระดับชีวิตของ เกษตรกรไปเสียแล้ว และเมือ่ วงจรการผลิตและการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมยังเป็น อย่างทุกวันนี้ เราก็จะได้ค�ำตอบเลยว่า “เกษตร” ที่เป็นหนึ่งในสิ่งแวดล้อม ที่อยู่รอบตัวเรา ไม่ได้ดีพอที่จะท�ำให้เราอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีต่อไปได้ ดังนั้น หากเราคิดเอาตัวมนุษย์อย่างเราเป็นตัวตั้ง แล้วท�ำให้เกษตรดีพอที่เราจะ ใช้ชีวิตอยู่ด้วย ค�ำตอบก็จะตามมาทันทีว่า เราก็ต้องไม่ท�ำการเกษตรแบบ เอาเปรียบธรรมชาติ ต้องท�ำการเกษตรที่จะไปสู่ความยั่งยืนชั่วลูกหลาน ไม่ใช่ ผลาญจนหมด ในช่วงอายุของคนรุ่นปัจจุบัน และเมื่อเราท�ำการเกษตรด้วย ความรับผิดชอบ สิ่งแวดล้อมอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ การเกษตรก็จะดีขึ้นด้วยเป็น เงาตามตัว นี่คือความส�ำคัญของเกษตรกับสิ่งแวดล้อม ในมุมมองของสื่อที่ ท�ำงานด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมแบบผมครับ
พี่ค�ำรณ เรารักกันเสมือนพี่เหมือนน้องกันมานานตั้งแต่สมัยเราท�ำงานอยู่ที่ ช่อง 7 สี ด้วยกันแล้ว สิบกว่าปีที่เรารู้จักกันมา เมื่อมาจูนอุดมการณ์และ ประสบการณ์ทเี่ รามีดว้ ยกันทัง้ 2 คน จึงเป็นความเหมาะเจาะทีเ่ ราจะน�ำเรือ่ ง นมกับสิ่งแวดล้อมมาผสมผสานให้คนดูและประชาชนเข้าใจและได้ประโยชน์ จากเนื้อหาที่เรา 2 คน จับนี้ ผมในฐานะรายการ “Green Time 360 องศา” ก็จะน�ำเสนอ นมสร้างชาติ ด้วยการชี้ประเด็นที่เป็นประโยชน์ทางด้านสิ่งแวดล้อม ส่วนพี่ ค�ำรณ เขาถนัดด้านการเกษตรสร้างอาชีพอยู่แล้ว การน�ำเสนอของ “Green Time 360 องศา” ก็จะไปเติมเต็มให้คนดูเห็นมุมมองการเกษตรทีย่ งั่ ยืน และ “นม” ที่จะสร้างชาติยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างไร การรวมพลังของผม กับพี่ค�ำรณครั้งนี้ จึงเป็นสิ่งที่ผู้ชมและประชาชนจะได้ประโยชน์จากการเข้า มาสัมผัส “มหกรรมนมสร้างชาติ” ครั้งนี้แน่ครับ
บทบาทของรายการ Green Time 360 องศา กับการรวมพลัง กับ คุณค�ำรณ ในการขับเคลื่อน “มหกรรมนมสร้างชาติ” เป็นอย่างไร ต้องขอบอกก่อนว่า “Green Time 360 องศา” มาจากการ ต่อยอดรายการ “ทีวี 360 องศา” ทีห่ ลายท่านรูจ้ กั กันดี เพือ่ ให้มาเป็นรายการ ที่น�ำเสนอเรื่องราวต่างๆ ทางสิ่งแวดล้อมประจ�ำสัปดาห์ ออกอากาศด้วย ความยาว 30 นาที ทางช่อง 28 ซึ่งแน่นอน จึงเป็นเสมือนที่ปล่อยของ เวลา ผมและทีมงานทีวี 360 องศา มีประเด็นทางด้านสิ่งแวดล้อมที่ไม่สามารถ รายงานได้หมดในเวลาที่มีอยู่เพียง 2 นาทีต่อตอน ของ “ทีวี 360 องศา” ดังนัน้ เมือ่ การจับประเด็นรายงานเนือ้ หาทางสิง่ แวดล้อม อยูใ่ นสายเลือดของ พวกเราแล้ว เมื่อมาเจอกับคุณค�ำรณ ซึ่งหลายๆ ท่านอาจไม่ทราบว่า ผมกับ
มุมมองต่อ “นมสร้างคน คนสร้างชาติ ชาติยั่งยืน” ผมว่าไม่มีใครปฏิเสธหรอกว่า “นม” ไม่ได้สร้าง “คน” เพราะกว่า เราจะเติบโตมาเป็นก�ำลังส�ำคัญของสังคมและชาติบ้านเมือง เราล้วนแต่ผ่าน นมเข้าปากเรามาแล้วทัง้ สิน้ เมือ่ นมสร้างคนได้ นมทีด่ ี นมทีม่ าจากการเกษตร ทีเ่ ป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม จึงเป็นนมทีส่ ร้างคนให้มคี ณ ุ ภาพ เพือ่ ให้คนนัน่ แหละ กลับไปสร้างและพัฒนาชาติบา้ นเมือง น�ำพาให้ประเทศชาติสคู่ วามยัง่ ยืนอย่าง มั่นคงตลอดไป “นมสร้างคน คนสร้างชาติ ชาติยั่งยืน” จึงเป็นการสร้าง ปัจจัยพื้นฐานจุดเล็กๆ ที่เป็นจุดเริ่มต้น ซึ่งก็คือนม ให้มีคุณภาพ ให้คนเข้าถึง ได้อย่างทั่วถึง เมื่อการพัฒนาจุดเล็กๆ ที่เริ่มต้นนี้ไปได้ด้วยดีและส�ำเร็จ ประเทศชาติเรา ก็จะได้ประโยชน์อย่างยั่งยืนแน่นอนครับ TV 360 On Magazine
19
เชิญชวนประชาชน เข้าร่วมงาน “มหกรรมนมสร้างชาติ” งาน “มหกรรมนมสร้างชาติ” จัดในปีนี้เป็นปีแรก ที่ Hall 2 เมืองทองธานี 25 - 27 พฤศจิกายนนี้ ถือเป็นงานนมที่เกิดขึ้นครั้งแรกหลายอย่าง คือไม่ใช่เพียงแค่การออกสตาร์ทนมสร้างชาติในปีแรกเท่านั้น แต่ยัง เป็นการเริม่ ต้นของการจับมือของ 2 พีน่ อ้ ง ผมและคุณค�ำรณ พร้อมกับการจับมือร่วมกันของเครือข่ายนมทุกวงการ ทั่วประเทศกับสื่ออย่างเรา 2 คน จึงไม่ธรรมดาแน่ เพราะเราจะจัดเต็มเพื่อให้การขับเคลื่อนของสื่อและเครือข่าย ในแวดวงการเกษตรและนมสร้างชาติอย่างยั่งยืนให้ได้ ผมยังไม่เห็นเหตุผลที่คุณควรจะพลาดการมาชมงานนี้เลย เพราะคุณ ก็คือ “คน” ที่ “มหกรรมนมสร้างชาติ” ต้องการสร้างและอยากให้ได้รับประโยชน์ไปนั่นเอง ไปร่วมงาน กันให้ได้นะครับ จากมุมมองด้านสิ่งแวดล้อมของ “คุณแซ็ก” มาถึง “คุณค�ำรณ” ผู้ที่เรียกว่า ลุยมาทุกที่ เห็นมาทุกสิ่ง รับรู้อุปสรรคปัญหามากมายของพี่น้องเกษตรกร และมีวิสัยทัศน์และอุดมการณ์แรงกล้าที่จะผลักดันให้ “นมของไทย” และ “เกษตรกรไทย” พัฒนาไปในทุกมิติ จุดประกายความคิดในการสร้างงานใหญ่ “มหกรรมนมสร้างชาติ” เกิดจากอะไร ตลอดชีวติ การท�ำงานข่าว ผมไปมาเกือบทัว่ ทุกทีใ่ นประเทศไทย ไม่ตำ�่ กว่า 30 ปี ได้พบเห็นสิง่ ทีเ่ กษตรกรเป็นผูส้ ร้างสรรค์ มากมาย เกิดความรู้สึกว่าอยากให้พวกเขาได้มีโอกาสแสดงศักยภาพสิ่งที่พวกเขาท�ำ ให้คนไทยหรือชาวโลกได้เห็นในสิ่งเหล่านั้น ให้เกิดการรับรู้ในวงกว้างขึ้น ผมได้มีโอกาสไปพูดคุยกับ คุณแซ็ก ทีวี 360 องศา ก็เกิดแนวคิดว่า ถ้าเราท�ำได้ในการรวมพลังเกษตรกร กับกลุ่มสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมทั่วประเทศให้มาแสดงศักยภาพที่เขามี คนที่ซื้อนมไปดื่มทั้งเชิงพาณิชย์ นมโรงเรียน หรือผลิตภัณฑ์ แปรรูปจากนม เขาก็จะได้นึกถึงสักนิดว่านี่คือ นมของคนไทย โดยฝีมือคนไทยที่ได้รังสรรค์มาไม่ต�่ำกว่า 30 ปี เพราะผมก็ได้เคยไป ร่วมส่งเสริมให้พี่น้องเกษตรทางภาคตะวันออกแถวปราจีนบุรี และตอนนี้เป็น จ.สระแก้ว แล้ว ชาวบ้านยังไม่รู้จักอาชีพเลี้ยงโคนม วัวนมคืออะไร จะเลีย้ งยังไง ถ้าเขาไม่เข้าใจ นัง่ นอนรอ ก็จะไม่มอี ะไรดีดเี กิดขึน้ ได้แน่ จริงๆ ทีผ่ า่ นมาภาครัฐก็สง่ เสริม ให้ความรู้มาตลอด จนพัฒนามาถึงขั้นที่ว่าผ่านไป 30 ปี วงการนมดิบบ้านเรา ได้กลายเป็นเบอร์ 1 ของอาเซียน ในพริบตา เพราะเพื่อนบ้านเรานั้นไม่สามารถเทียบเคียงเราได้เลย ส�ำคัญกว่านั้นนอกจากเราผลิตส่งนมให้ เพือ่ นบ้านแล้ว เรายังเป็นต้นแบบทีเ่ ขาเข้ามาเยีย่ มชมดูตน้ แบบ มาศึกษาจากเรา เพือ่ น�ำไปท�ำในบ้านเขาด้วย เรื่องการจัดงานใหญ่เกี่ยวกับ “นม” ครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องใหญ่และส�ำคัญมาก ที่จะได้ท�ำคุณประโยชน์ และสิ่งที่สร้างสรรค์ต่างๆ ให้เกิดขึ้น เนื่องจากนมเป็นอาหารนานาติ ระดับโลก กระทั่ง UN ได้ก�ำหนด “วันดื่มนมโลก” ที่ทุกคนต้องให้ความส�ำคัญ ถ้าพูดถึง “นมไทย” แล้ว ต่างชาติเขาเห็นถึง ศักยภาพและพัฒนาการการเลี้ยงวัวนมไทยนานแล้ว เขาได้มาตรวจเช็ค คุณภาพน�้ำนม มาตรฐานการผลิตต่างๆ จนมั่นใจว่านมไทย เทียบเท่าระดับ โลกแล้ ว และ สารอาหารบางตัว เราเหนือกว่าด้วยซ�ำ้ เช่น ญีป่ นุ่ เรา เหนือกว่าเขานะหลายตัว คุณภาพของเรา วันนี้ในระดับสากล ได้รับการรับรองมาแล้ว ตอนนี้เองต่างชาติหลายที่ เช่น ฝรั่งเศส นิวซีแลนด์ จ้างสหกรณ์ไทยผลิต นมให้ แต่เป็นแบรนด์ของเขานะ ดังนั้น เกษตรไทย ตอนนี้โกอินเตอร์แล้ว แต่ก็ยังไม่พอ ต้องท�ำ ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เหนือสิ่งอื่นใดที่ต้องกล่าวถึง คือ พระมหากรุณาธิคุณของในหลวง ที่ทรงเล็งเห็น การณ์ไกลมามากกว่า 30 ปี ว่าอาชีพนี้จะเป็นอาชีพ ที่ท�ำให้ชาวบ้านอยู่บ้าน มี ATM กดเงิน ทุกวันจากการรีดนมวัว ทรงทดลองเลี้ยงใน โครงการสวนจิตรลดา และส่งเสริมให้เกษตรกรได้ เลี้ยง ผ่าน ธกส. ปล่อยเงินกู้ให้ ก็เป็นอีก 1 อาชีพที่ “พ่อ” ให้ เพราะทรงเห็นว่าจะมั่นคง มัง่ คัง่ ยัง่ ยืน แก่เกษตรกรได้ เราท�ำงานในครัง้ นี้ จึงเป็นการสนองพระราชปณิธานของพระองค์ ท่านด้วย ซึ่งจะเป็นคุณูปการอย่างมากแน่นอน
คุณค�ำรณ หว่างหวังศรี
พิธีกรรายการ ค�ำรณพารวยด้วยเกษตร ช่อง 3 SD ช่อง 28
เกษตรกรและผู้ที่มาร่วมงาน “มหกรรมนมสร้างชาติ” จะได้อะไรจากงานนี้บ้าง เกษตรกรทุกท่านจะได้ความเชื่อมั่น ความมั่นใจ เพราะปัจจุบันพวกเขารู้สึก เหมือนอยูใ่ ต้ดนิ พวกเขายากจน ถูกเอารัดเอาเปรียบ ฯลฯ มากมาย การได้มาแสดงศักยภาพ
ให้ทุกคนเห็นว่าพวกเขามีความส�ำคัญ มีคนมารู้มาเห็นสิ่งที่พวกเขาท�ำมาตลอด คนที่ดื่มนม จะได้เห็นบ้างว่าเขามีบุญคุณต่อชาติ ต่อคน ต่อโลก เพราะเป็นผู้ผลิตอาหารให้เรากิน นั่นคือด้านจิตใจ และถ้าเป็นด้านการที่จะพัฒนาศักยภาพนั้น งานนี้จะมีข้อมูลลึกๆ มากมายที่จะให้เขาได้น�ำไปปรับใช้ในวิถีของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น เพราะจะมีการเสวนา มีตัวอย่างผู้ที่ประสบความส�ำเร็จในการบริหาร จัดการฟาร์มที่มีคุณภาพสูงขึ้น เช่น ความสะอาดของคอกและฟาร์ม ก็จะท�ำให้มั่นใจมากขึ้นว่านมที่ผลิตได้มีคุณภาพมาตรฐาน สูงขึ้น มีเท่าไหร่ก็หมด ขายนมหมดแน่นอน อีกส่วนทีน่ า่ สนใจคือ ถ้าเกษตรกรไทยสามารถท�ำได้ระดับโลกจะเป็นเรือ่ งทีด่ มี าก คือ นมอินทรีย์ นมปลอดสารเคมี เพราะ ทั่วโลกต้องการมาก ตอนนี้มีคนริเริ่มแล้ว ลองคิดดูว่าถ้าบ้านเราเริ่มท�ำ เช่น ดื่มนมอินทรีย์ทั้งจังหวัด ต้องดังไปทั่วโลกแน่ ความ มั่นใจก็จะมีมากขึ้น เพราะแค่ตอนนี้เองอย่างคนจีน เขาอยากกินนมไทยนะ เขามั่นใจนมไทยเรามากกว่านมจีน และถ้าพูดไปแล้ว ทุกวันนี้เราเสียเงินปีละ 3 หมื่นกว่าล้านบาท ในการซื้อนมผงมาละลายและแปรรูปบริโภคกัน เกษตรกรจะได้รับรู้ว่า สิ่งที่ท�ำตอนนี้ ยังไม่พอกับตลาดด้วยซ�้ำ ส�ำหรับผู้มาเยี่ยมชมงานก็จะได้เห็นความหลากหลายของนม เด่นสุดพระเอก ก็คือ นมวัว พระรอง ก็พวก นมแพะ นมควาย นมถั่วเหลือง นมมะพร้าว นมข้าวโพด เป็นต้น โดยนมแพะ นมควาย ตอนนี้ไม่พอในตลาด ฝรั่งเขารู้จักดีว่า นมควาย มีโปรตีนสูงกว่า นมวัว ที่อินเดียเองทั้งประเทศ เขาก็กินนมควาย ดังนั้น ผู้มาในงานจะได้รู้และสัมผัส ตื่นตาตื่นใจ กับ “นม” ที่มากกว่าค�ำว่า “นม” แน่นอน และยังจะได้รับองค์ความรู้สถานการณ์นมในระดับเวทีโลกเป็นอย่างไร ในเขตอาเซียนเป็นอย่างไร และบ้านเราเป็น อย่างไร ทิศทางการเดินของเราเป็นอย่างไร และบางคนมาดูงานนี้แล้ว อาจเกิดความรู้สึกว่าอยากเลี้ยงบ้าง อย่างคนที่เกษียณแล้ว อยู่บ้านก็ดี ต้องวางแผน ศึกษาไว้บ้าง เพราะอาจเป็นทางเลือกหนึ่งได้ ส�ำคัญคือ กลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่เราต้องการให้เล็งเห็น และเข้ามาศึกษาให้มาก ที่ผ่านมาก็มีโครงการไทย-แคนนาดา, ไทย-แดนมาร์ก ให้ไปเห็นวิธีการเลี้ยง เห็นความเจริญก้าวหน้า และ กลับมาท�ำที่ไทยก็มีบ้างแล้ว ซึ่งคนรุ่นใหม่นี่แหละ เขาจะเป็นผู้ที่ไม่เต็ม พร้อมรับความรู้ได้ตลอด ซึ่งถ้าได้หันมาเลี้ยงวัวนมกันบ้าง ก็จะช่วยเติมเต็ม และนมของไทยจะมีทิศทางอนาคตที่สวยงามแน่นอน เบื้องต้นเราต้องสร้างความภูมิใจในอาชีพนี้ให้เขาก่อน ในนามสื่อมวลชนที่ลุกขึ้นมาท�ำโครงการนี้ เป็นการสนองนโยบาย “ประชารัฐ” อย่างไร ปัจจุบันรัฐก็ต้องการให้ทุกภาคส่วนร่วมด้วยช่วยกันอยู่แล้วตามนโยบาย “ประชารัฐ” เรารายงานข่าวอยู่แล้ว เราคือ ภาคหนึ่งของสังคมที่มีพลังในแบบของเราที่จะช่วยเชื่อมช่องว่างหลายๆ อย่างให้เข้ากันได้ ให้มาบรรจบกันได้ มีองค์ความรู้ และ ช่วยเป็นกระบอกเสียง รัฐส่งผ่านมาตลอดอยู่แล้ว แต่สิ่งไหนยังไม่พออย่างไร สื่ออย่างเราก็จะช่วยเขย่าขวดยาให้ เพื่อช่วยสังคม เราไม่ได้อะไรตอบแทนมากหรอก นอกไปจากได้ช่วยคนที่อยู่พื้นฐานของประเทศให้ลืมตาอ้าปาก มั่นคง แข็งแรง กระชับความ เชื่อมั่นให้เกิดขึ้น อยากให้คนรู้จักอาชีพนี้มากขึ้น และอยากเห็นภาพใหญ่ที่ทุกคนต้องช่วยกัน ก่อนจัดกิจกรรมครั้งใหญ่ 25 - 27 พฤศจิกายนนี้ จะมีการสัญจรไปส่วนภูมิภาคด้วย มุ่งเป้าประโยชน์ด้านใด การสัญจรจะมี 2 ครั้ง คือ ที่ สหกรณ์โคนมวังน�้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว วันที่ 14 ตุลาคม และ ครั้งที่ 2 ที่อ�ำเภอ มวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี วันที่ 9 พฤศจิกายน เพื่อกระตุ้นคนในพื้นที่ทั้งเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและประชาชนทั่วไป เพราะยังมี หลายพื้นที่ที่เขายังไม่รู้ด้วยซ�้ำว่าในจังหวัดตัวเองมีอาชีพนี้ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมาก ขณะที่บางที่ได้จัดกิจกรรมให้คนในเมืองไปดูฟาร์ม ก็เป็นอีกสิ่งที่ท�ำให้เห็นว่า นี่คือช่องว่างที่เกิดขึ้น คนเมืองยังไม่รู้จักมากพอ การสัญจรนี้ก็จะท�ำให้เกิดความสว่างไสวขึ้นมาได้ “และนี่คืออีกหนึ่งอาชีพ ที่เราต้องรู้จักเขา ผู้สร้างอาหาร สร้างนมให้กับคนทั้งชาติ ได้ดื่ม ได้กิน กันเด้อ สิบอกให่ 5555...” (หัวเราะ) คุณค�ำรณ ฝากส่งท้ายในสไตล์ที่เราคุ้นเคยกันดี... “นม” อาหารที่มีโปรตีนทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินต่างๆ มากมาย ที่ทางการแพทย์ยอมรับเป็นสากลว่า เป็นสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างเยี่ยมยอดที่สุดแก่ร่างกาย แต่กับคนไทยเราสถิติเฉลี่ยคนไทยดื่มนม 14 ลิตรต่อปี ขณะที่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เฉลี่ยคนละ 60 ลิตรต่อปี และ ทั่วโลก 103.9 ลิตรต่อปี นับว่าน้อยกว่าใครในภูมิภาคและโลก ถึง 4 - 7 เท่า เลยทีเดียว งานมหกรรมนมสร้างชาติ 2016 ณ อิมแพคเมืองทองธานี ฮอลล์ 2 วันที่ 25-27 พฤศจิกายน 2559 นี้ จึงนับเป็นอีกมิติหนึ่ง ที่นอกจากจะมุ่งเน้นประโยชน์การแสดงศักยภาพเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทยและส่งเสริมระบบเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศแล้ว ยังจะเป็นการเพิ่มอัตราการบริโภคนมให้มากขึ้น นับว่าเป็นการสร้างหน้าประวัติศาสตร์ สื่อสร้างสรรค์ข่าวเกษตร สิ่งแวดล้อมยั่งยืน ที่รวมพลังกับองค์กรท�ำดีเพื่อสังคม ก่อเกิดโครงการ “มหกรรมนมสร้างชาติ 2016 นมสร้างคน คนสร้างชาติ ชาติยั่งยืน”
TV 360 On Magazine
21
รายงานพิเศษ กองบรรณาธิการ
คุณอัศวินต์ กาญจนวิสิษฐผล กรรมการบริหาร บริษัท จิ้วฮวด จำ�กัด รับโล่เกียรติคุณในฐานะองค์กรทำ�ดี
“จิ้วฮวด” และ “ตราแม่ครัว” ร่วมกับ บ.มาร์ค อินฯ และ บ.360 องศา เอ็นฯ ปลูกฝังเยาวชนไทย คิดดี ทำ�ดี เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โครงการ
คิดใสฯ ปี 2559
“คุณธรรมและจริยธรรม” เป็นสิ่งที่ บริษัท จิ้วฮวด จ�ำกัด และ บริษัท ตราแม่ครัว จ�ำกัด ได้น�ำมาก�ำหนดเป็นนโยบายคุณภาพของบริษัทมายาวนานกว่า 40 ปี ด้วยการเป็นแบบอย่าง ของความซือ่ สัตย์ตอ่ ลูกค้าเสมอมา ผลิตสินค้าทีม่ คี ณ ุ ภาพและราคายุตธิ รรม ทัง้ ยังรับผิดชอบสังคม ในหลากหลายด้านมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ด้านการศึกษา การท�ำนุบ�ำรุงศาสนา กระทั่งการแบ่งปัน ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และ การใส่ใจห่วงใยปัญหาสิ่งแวดล้อม ด้วยความดีที่ยึดมั่น การคิดดีท�ำดีที่ยึดถือนี้เอง บริษัท จิ้วฮวด จ�ำกัด และ บริษัท ตราแม่ครัว จ�ำกัด จึงได้เข้ามาร่วมสนับสนุนโครงการ “คิดใส ใจสะอาด เพือ่ ชาติ เพือ่ ในหลวง” ซึ่งเป็นโครงการของ บริษัท มาร์ค อิน มีเดีย จ�ำกัด และ บริษัท 360 องศา เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จ�ำกัด โดยมี ดร.วีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส เป็นผู้ริเริ่มและเป็นประธานโครงการ มาตั้งแต่
24
TV 360 On Magazine
ปี 2554 และเมื่อปี 2558 เป็นปีแรกที่ “จิ้วฮวด” และ “ตราแม่ครัว” ได้เข้าร่วมเป็น แรงหนุนให้โครงการด�ำเนินไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ด้วยเล็งเห็นว่าเป็นโครงการที่มี ประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์และพัฒนาเยาวชนไทยให้เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า ต่อชาติบ้านเมืองในอนาคต และมาในปี 2559 ในการจัดกิจกรรม คิดใส ใจสะอาด ครัง้ ที่ 5 ประจ�ำปี 2559 เมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา นับเป็นอีกครั้งในการร่วมขับเคลื่อนพัฒนาทักษะทั้ง 5 ด้าน แก่เด็กและเยาวชน ทั้งด้านการศึกษา ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม กีฬา และสิ่งแวดล้อม ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะ มอลล์ บางกะปิ โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ พลเรือเอก ชุมพล ปัจจุสานนท์ องคมนตรี เป็นประธานเปิดงาน พร้อมมอบ โล่เกียรติคุณแก่ ทูตคิดใสไอดอล ผู้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็กและเยาวชน และสังคม ซึ่งปีนี้ ได้แก่ โดม จารุวัฒน์ เขี่ยวอร่าม, บอส จักรพันธ์ วงศ์คณิต, เติ้ล ธนพล นิ่มทัยสุข, ณมน พัชรวลัย พงษ์ภมร และ เด็กหญิงณัชชาวีณ์ โกศลพิศิษฐ์ เป็น ทูตสตาร์คิดส์ คิดใส งานมีน้องๆ นักเรียนทั้งจากต่างจังหวัด และในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เข้าร่วมกิจกรรมจ�ำนวนมาก ซึ่งได้รับทั้งความรู้จากหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและ เอกชนที่มาจัดบูธนิทรรศการและความบันเทิงหลากหลายจากศิลปินดารา พร้อมรับแจก ของที่ระลึกเมื่อเข้าร่วมครบฐานปฏิบัติการภายในงาน นอกจากสาระความรู้แล้ว ในกิจกรรมโครงการครั้งนี้ ยังได้จัดให้มีการประกวด รอบตัดสิน “คิดใส ไทยแลนด์ ซีซนั่ 2” หลังจากคัดเลือกผูส้ มัครจากทัว่ ประเทศทีม่ ที กั ษะ ความสามารถหลากหลาย เพื่อก้าวสู่วงการบันเทิง เป็นอีกเวทีที่เปิดกว้างให้เยาวชน 13 - 18 ปี ได้แสดงออกในสิ่งที่ดี มีประโยชน์ ห่างไกลอบายมุข และยาเสพติด เพราะผู้จะผ่านเข้ารอบมาได้ ต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้มี ความรู้ความสามารถและจิตใจดีงาม มีทักษะครบทั้ง 5 ด้าน โดยปีน้ีมีผู้ผ่านเข้ารอบ 27 คน โดยเมื่อระหว่างวันที่ 25 - 26 กันยายน ได้เข้าอบรมพัฒนาทักษะในค่าย คิดใส ไทยแลนด์ ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดย สถาบัน 360 องศา V Academy เป็นผู้พัฒนาหลักสูตรการอบรม เพื่อเตรียมความพร้อม การก้าวสู่เส้นทางบันเทิงในการเป็นพิธีกร ผู้ประกาศข่าว และรับทุน การศึกษา ซึ่งในรุ่นที่ 1 หรือ ซีซั่นแรก ผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นสุดยอด เยาวชนแห่งปีในด้านต่างๆ ก็ได้พิสูจน์ความสามารถเป็นที่ประจักษ์ แก่สังคมมาแล้ว ส�ำหรับซีซั่น 2 ผู้ชนะการประกวด นอกจากจะได้สัมผัส ประสบการณ์จริงในการท�ำงานวงการบันเทิงและวงการข่าวแล้ว ยังจะได้รับทุนการศึกษา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัย กรุงเทพฯ ในการศึกษาจนจบปริญญาตรี “เพราะทุกย่างก้าวของเด็กไทย คือหัวใจในการพัฒนาชาติ” ดังนั้น เด็กไทยยุคใหม่ต้องเป็นผู้ที่ คิดใส ใจสะอาด เพื่อชาติ เพื่อในหลวง และโครงการดีดีนี้จะขับเคลื่อนเพียงล�ำพังมิได้ หากปราศจากองค์กร ท�ำดี อย่าง “จิ้วฮวด” และ “ตราแม่ครัว” ที่ตระหนักถึงคุณค่าในการ พัฒนาศักยภาพเด็กไทย ด้วยการร่วมสนับสนุนกิจกรรมให้ประสบ น้องมาวิน ความส�ำเร็จอย่างยั่งยืนต่อไป
ผู้เข้าประกวด คิดใส ไทยแลนด์ ซีซั่น 2
ทูตสตาร์คิดส์ คิดใส ปี’58
TV 360 On Magazine
25
พลอากาศเอก อนุพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย (สูทดำ�คนกลาง) ให้เกียรติถ่ายภาพกับผู้เข้าประกวดชุดแฟชั่นรีไซเคิล
สถิติใหม่!! โครงการหลังคาเขียวฯ ประจำ�ปี 2559
12
รณรงค์ 1 ปี ยอดบริจาคกล่อง เกิน ล้านกล่อง รวมหัวใจคนไทยเป็นหนึ่งเพื่อผู้ประสบภัย
มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย โดย พลอากาศเอก อนุพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เป็นประธานในพิธีปิดโครงการพิเศษ “หลังคาเขียว เพื่อนพึ่ง (ภาฯ) เทิดพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” พร้อมด้วยผู้แทนจากองค์กร พันธมิตร ได้แก่ บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จ�ำกัด บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จ�ำกัด (มหาชน) และ รายการ ทีวี 360 องศา ครอบครัวข่าว 3 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2559 ณ ห้างสรรสินค้า เดอะ มอลล์ บางกะปิ หลังการสัญจรทั้ง 2 ครั้ง (ณ จ.เชียงราย และ จ.สุราษฎร์ธานี) ประสบความส�ำเร็จอย่างดีเยี่ยม สามารถรับบริจาคกล่องเครื่องดื่มเพื่อรีไซเคิลเป็น หลังคาเขียวได้จ�ำนวนมาก โดยกิจกรรมสัญจรและพิธีปิดโครงการปีนี้ ได้รับการสนับสนุนการสัญจรจาก ส�ำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ในพิธีปิดโครงการครั้งนี้มีนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมบริจาคกล่อง เครื่องดื่มสูงถึง 65,000 กล่อง สามารถน�ำไปผลิตเป็นหลังคาเขียวได้ 32 แผ่น และส�ำหรับโครงการ “หลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก” ที่ได้ด�ำเนินการ มาตั้งแต่ปี 2553 ถึงปี 2559 ด้วยการรณรงค์หลายรูปแบบดังเช่นในปีนี้ สามารถรับบริจาคกล่อง เครื่องดื่มที่ใช้แล้ว และรีไซเคิลเป็นหลังคาเขียวได้จ�ำนวนกว่า 54,000 แผ่น (หลังคาเขียว 1 แผ่น ใช้กล่องเครื่องดื่มในการผลิต 2,000 กล่อง) สามารถลดปริมาณขยะที่เกิดจากกล่องเครื่องดื่มได้มากกว่า 115 ล้านตัน กิจกรรมภายในงานมีทั้งความรู้จากหน่วยงานและองค์กรพันธมิตร เกี่ยวกับการร่วมดูแล สิ่งแวดล้อมและการจัดการขยะ และยังมีการจัดประกวดแฟชั่นโชว์ชุดรีไซเคิลจากล่องเครื่องดื่ม พร้อมความบันเทิงปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ตจาก โดม จารุวัฒน์ (โดม เดอะ สตาร์), มิ้น ณัฐวรา และ เพชร ธกฤต ส�ำหรับการรณรงค์เพื่อรับบริจาคหลังคาเขียวประจ�ำปี 2559 แม้จะเสร็จสิ้นลงในครั้งนี้แล้ว แต่การด�ำเนินโครงการฯ ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้มีการร่วมลงนาม 6 พันธมิตรภาคี เครือข่าย ในการรณรงค์ประจ�ำปี 2559 - 2562 ผู้ที่สนใจศึกษาความรู้เกี่ยวกับการรีไซเคิลหลังคาเขียว รวมทั้งหากต้องการสมัครเป็นอาสาสมัครหลังคาเขียวในการรวบรวมกล่อง สามารถเข้าไปเยี่ยมชม website ของ โครงการหลังคาเขียว ได้ที่ www.greenroof.in.th มาร่วมเป็น 1 พลังแห่งการให้และการแบ่งปันความสุขแก่ผู้ประสบภัยพิบัติ ด้วยการร่วมบริจาค กล่องเครื่องดื่มให้ตลอดไป TV 360 On Magazine 29
. 36O NEWS
กองบรรณาธิการ
ทางรอด ทางเลือก ปรับตัวอยู่กับความแปรปรวนของหน้าฝน : คน สัตว์ ต้นไม้
และ
การเกษตร
สรุปข่าวชาวบ้านเด่นๆ ส่งท้ายหน้าฝน ขอประมวลผลกระทบแบบครบวงจร ทีท่ กุ สิง่ มีชวี ติ ต่างปรับตัวให้อยูร่ อดกัน เพราะเหนือการควบคุมจริงๆ และจากนี้ก็คงต้องเตรียมปรับตัวเข้าสู่หน้าหนาว ที่ไม่รู้จะเจออะไรอีกปีนี้...
ซากุระบานที่เชียงราย!!
หน้าหนาวจะมาไวกว่าปกติรึเปล่า??
“ต้นซากุระ” ที่สมาคมซากุระญี่ปุ่น มอบไว้ให้บริเวณวงเวียนทางเข้าหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงราย ออกดอกบานแล้วเป็นที่ฮือฮาของ ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก เพราะโดยปกติแล้วมักจะบานช่วงฤดูหนาว ท�ำเอาสงสัยไปตามๆ กันว่า หน้าหนาวจะมาไวกว่าปกติหรือเปล่า เพราะโดยธรรมชาติแล้ว ซากุระจะต้องมีอายุ 3 - 5 ปี ถึงจะออกดอก และจะต้องอยู่ในช่วงฤดูหนาวอย่างที่ “ญี่ปุ่น” จะผลิดอกให้เห็นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และบ้านเราความเย็นที่ใกล้เคียงฤดูใบไม้ผลิในการผลิดอก คือช่วงหน้าหนาวในเดือนธันวาคม - มกราคม แต่ที่ออกเร็วแบบนี้!! อาจเป็นเพราะอากาศเมืองไทย ไม่เหมาะสมกับการอยู่ของต้นซากุระ จึงอาจเกิดความเครียด เลยออกดอกไว้เพื่อ รักษาพันธุ์ หรือที่เรียกว่าเป็นการเอาชีวิตรอดตามธรรมชาติ เพราะเมื่อฝนตกและอากาศเย็นลงมันจึงเอาชีวิตรอดด้วยการออกดอกจนส�ำเร็จ ไม่ได้เป็นสัญญาณการเข้าสู่หน้าหนาวเร็วกว่าปกติตามที่ชาวบ้านสันนิษฐาน ส�ำหรับการเข้าสู่ฤดูหนาว กรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า อยู่ในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้
ฝนชุกตะเข็บอาละวาด
สร้างความรำ�คาญให้ชาวบ้าน!!
เป็นเจ้าประจ�ำที่มาพร้อมกับฝนเลย กับ “ตะเข็บ” เจ้าตัวร้ายตัวด�ำๆ มีหลายขาที่ออกมาอาละวาดนับล้านๆ ตัว ระบาดหนักเห็นจะเป็นที่ นครราชสีมา และ สมุทรปราการ คือที่ ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ ชาวบ้านต้องอกสั่น ขวัญผวา กลัวว่าเจ้าตะเข็บจะเข้าหูเข้าจมูก บางบ้านถึงกับปิดบ้านหนี เจ้าหน้าที่สุขาภิบาลได้น�ำรถแบ็คโฮล เข้าไปจัดการถึงต้นตอ เพื่อเป็นการ ฆ่าไข่ ตัวอ่อนและตัวเต็มไว เพื่อป้องกันทุกวิถีทางไม่ให้กลับมาระบาดอีก ปกติมันจะเพาะพันธุ์และอาศัยอยู่ตามซากพืช หรือสิ่งที่เน่าเปื่อยที่ถับถมกัน แต่ด้วยความชื้นมากจากฝน ท�ำให้พวกมันต้องอพยพ หาที่อยู่ใหม่และบ้านคนก็กลายเป็นเป้าหมายบ้านใหม่ที่เหมาะเหม็งของมันเลย แต่ยังโชคดีที่มันไม่มีพิษ สร้างเพียงความร�ำคาญให้เราเท่านั้น บ้านไหนมีความชื้น น�้ำท่วมขัง มีโอกาสที่มันจะยกขบวนไปพักพิง
30
TV 360 On Magazine
พิษแล้งต่อเนื่องฝน...
“มังคุด” แพงขึ้น 4 เท่า!!
เมื่อฝนตกไม่ทั่วฟ้า และมีผลพวงจากช่วงร้อนแล้งที่ผ่านมา ทำ�ให้ เกษตรกรผู้ปลูกมังคุด โดยเฉพาะที่ จังหวัดตรัง ได้รับผลกระทบ เต็มๆ เดือดร้อน ผลมังคุดร่วงหล่นและยืนต้นตาย แม้หน้าฝนจะมีฝนจะลงมาเพียงพอ แต่ก็ดูจะไม่ทันผลผลิตปีนี้ ที่ลดลงจากปีที่แล้วเหลือเพียง 1,000 กิโลกรัม จากเดิมเคยได้ถึง 4,000 กิโลกรัม ส่วนผลไม้ตามฤดูกาลชนิดอื่นๆ ก็ออกผลช้ากว่ากำ�หนดประมาณ 1 เดือน แต่บนความโชคร้าย กลับกลายเป็นดี เพราะราคามังคุดพุ่งขึ้นกว่าปีก่อน 4 เท่า!! จากเดิมราคาหน้าสวนจะอยู่เพียงแค่กิโลกรัมละ 10 - 15 บาท เท่านั้น แต่ปีนี้ ช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา คนชอบมังคุดถึงกับถอดใจ เพราะต้องจ่ายเงินซื้อมังคุดกิโลกรัมละ 60 - 70 บาท เลยทีเดียว เรียกว่าปีนี้ ผู้บริโภคโดนไปเต็มๆ ซึ่งได้แต่หวังว่า ปีหน้าจะได้กินมังคุดแสนอร่อย และสบายกระเป๋ากว่านี้
“โรคระบาดเหี่ยวหอมแดง”
การมีเมฆฝนลดลง ประปราย และอากาศชื้นๆ เย็นๆ เป็นสัญญาณที่ไม่ดีต่อ “หอมแดง” ช่วงที่ผ่านมา กรมวิชาการเกษตร จึงได้ออกเตือน โรคเหี่ยวหอมแดง ที่จะมีลักษณะคือ ต้นเน่า ที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งสามารถ พบได้ทุกระยะการเจริญเติบโต และมักแสดงอาการเริ่มแรกที่ส่วนปลายใบล่าง หรือที่ใบรอบนอกมีสีเหลือง ต่อมาก็จะเหีย่ วแห้ง และลุกลามทัว่ ทัง้ ต้น เมือ่ ถอน ต้นหอมแดง ก็จะหลุดจากดินง่าย รากและล�ำต้น เน่าเปื่อยสีน�้ำตาล อีกทั้งหัวหอมแดงจะนิ่ม หาก อาการรุนแรง!! จะเน่าทั้งต้น ท�ำผลผลิตเสียหาย ทางแก้คือ ให้เลี่ยงปลูกหอมแดง ในพื้นที่ที่เคยมีการ ระบาดของโรคนี้ เปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นหมุนเวียนก่อน หรือถ้าปลูกแล้วให้ หมั่นตรวจและก�ำจัดวัชพืชในแปลงและรอบแปลงปลูก ถ้าพบต้นที่เป็นโรคให้ถอน แล้วเผาท�ำลายนอกแปลง และควรท�ำความสะอาดอุปกรณ์การเกษตรเมื่อใช้กับ ต้นที่เป็นโรคก่อนน�ำกลับมาใช้ใหม่ ทั้งหมดก็จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคนี้ไปได้... ฟังแล้วถ้าระบาดหนักขึ้น มีหวังช่วงหลังจากนี้ คงได้ซื้อหอมแดงแพงเป็นแน่แล้วกระมัง
ฝนหนักกลับมา..ชาวนาเสี่ยงกระทบผลผลิตข้าวเสียหาย!!
ช่วงต้นกันยายนที่ผ่านมา ร่องมรสุมกลับลงมาพาดผ่านภาคเหนือและอีสานตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต�่ำก�ำลังแรงบริเวณ อ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีก�ำลังปานกลาง ท�ำให้ไทยมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝน ตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในภาคเหนืออีสาน ท�ำเอาอ่วม ท่วมนาข้าว อ�ำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ สูงกว่า 40 เซนติเมตร ชาวนาเลยต้องเร่งเกี่ยวข้าวที่จมน�้ำ ซึ่งเหมือนจะ ไม่ทัน เพราะข้าวก็เสียหายไปแล้วเป็นจ�ำนวนมาก ชาวนาในพื้นที่บอกว่านาข้าวที่ก�ำลังออกรวงทั้งหมด 13 ไร่ ฝนลงท�ำร้าย ได้รับความเสียหาย ไปแล้วจ�ำนวน 9 ไร่ ส่วนที่เหลือก็ต้องลุยน�้ำและเร่งเก็บเกี่ยวให้ ไวที่สุด หากว่าไม่เร่งเก็บเกี่ยว ผลผลิตจะเสียหายทั้งหมดอย่าง แน่นอน ติดตามข่าวสารสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับทุกๆ คน ได้เป็นประจ�ำในรายการ “ข่าวชาวบ้าน” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 05.00 น. - 06.00 น. ทาง ช่อง 28
TV 360 On Magazine
31
36o' eNTERTAinMENT
ละครช่ อ ่ ง 3 สนุก ชวนติดตาม นักแสดงหน้าใหม่ สดใสเต็มจอ กองบรรณาธิการ
ฟีล กู๊ด เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ถือฤกษ์ดีบวงสรวง “รักกันพัลวัน” ดึงพระเอกใหม่ป้ายแดง นาย - นภัทร โคจรประกบคู่ ไอซ์ - ปรีชญา
ถือฤกษ์ดีบวงสรวงเป็นที่เรียบร้อย ส�ำหรับละครเรื่อง “รักกันพัลวัน” ก�ำกับการแสดงโดย ป้าแจ๋ว ยุทธนา ควบคุมการผลิตโดย แหม่ม ธิติมา ซึ่งงานนี้ประเดิมพระเอกใหม่แกะกล่อง นาย นภัทร ที่มาประกบคู่ สาวสวย ไอซ์ ปรีชญา ร่วมด้วยทัพนักแสดงมากความสามารถ เดี่ยว สุริยนต์, น�้ำชา ชีรณัฐ, บิ๊ก ทองภูมิ, แก๊ป ชนกสุดา, แจ๊คกี้ ชาเคอลีน, ฟรอย ณัฎพงษ์, น�้ำหนึ่ง สุทธิเดชานัย พร้อมนักแสดงอื่นๆ อีกคับคั่ง “รักกันพัลวัน” เรื่องราวสาวหล่ออย่าง ตุลญาณา ที่เคยผิดหวังจากความรักซ�้ำแล้วซ�้ำเหล่า จนคิดที่จะ ยอมกลับใจมาเป็นผู้หญิงแบบเต็มตัวและคิดหาผู้ชายดีๆ สักคนมาเป็นแฟน แต่โชคชะตาก็เหมือนเล่นตลกพาเธอ มาเจอคู่ปรับเก่าอย่าง เมธากวิน ที่เธอเคยควงแฟนสาวของเขาตอนเป็นนักเรียนทุน จนเกิดเรื่องราวชุลมุนวุ่นวาย ความชุลมุนวุ่นวายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามชมความสนุกของละคร “รักกันพัลวัน” ทาง ช่อง 3 (ออริจินัล) และ ช่อง 33
อีกเรื่องที่นำ�มาฝาก ละคร “ม่านดอกงิ้ว” ทุกวันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 19.15 - 20.15 น. ช่อง 28
ทั้งนางเอก - นางร้าย ประเดิมละครเรื่องแรก
อร - พัทธ์ธีรา ขึ้นแท่นนางเอกเรื่องแรก ยอมรับดราม่าหนักมาก... พร้อมแสดงฝีมืออย่างเต็มที่
“รับบทมีนรญาค่ะ เป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเอง เอาแต่ใจนิดนึง เป็นคนที่มีความมั่นใจสูงมาก เรื่องนี้ดราม่าเยอะมากค่ะ ไม่คิดว่าจะต้อง ร้องไห้หนักขนาดนี้ ร้องไห้ตั้งแต่อยู่คนเดียว ทะเลาะกัน ทุกเวลาระดับการร้องไห้มารวมอยู่ในเรื่องนี้หมดเลย เข้าฉากวันแรกก็ประเดิมด้วยร้องไห้เลย ร้องทั้งวัน แต่เป็นอะไรที่ท้าทายดีค่ะ ด้วยปมของตัวละครตัวนี้และบทชัดเจนอยู่แล้วเลยไม่ยากที่จะจับจุด ในการแสดง เรื่องนี้ต้องมีการเตรียมตัวพอสมควร มีการศึกษาบทมาก่อน ให้ครูที่ เราสนิทช่วยปูพื้นตัวละคร มีพูดคุยกับพี่หมี (ผู้ก�ำกับ) และอ่านหนังสือนิยายเพิ่มเติม เพราะจริงๆ เรื่องม่านดอกงิ้วเป็นนิยายมาก่อน เพื่อที่จะปูความชัดเจนของตัวละคร มากขึน้ ท�ำการบ้านหนักมากค่ะ ฝากแฟนๆ ติดตามชมละครม่านดอกงิว้ ด้วยนะคะ” ส่วน มุกกี้ - ชณิตา ก็โชว์ฝีมือการแสดงเต็มตัวครั้งแรก ประเดิมบทสาวสุดแซ่บ “รับบทไลลาค่ะ เป็นเด็กมีปม ขาดความอบอุ่น ปัญหาบ้านแตก พยายามผลักดันตัวเองให้ได้เรียนในระดับมหาวิทยาลัย ตัวเราโดนนางเอก เล่นงานจนท�ำให้เราไม่ได้เรียน และเรารู้สึกว่าเค้าไม่ปลื้มเรา และเห็นเรา เป็นคนไม่มีคุณค่าท�ำให้เกิดความแค้นกับนางเอก พอไลลาเค้าเจออะไร แบบนี้มันท�ำให้แกร่งและรู้สึกว่าฉันเป็นคนดีไม่ได้ เพราะฉันโดนกลั่นแกล้ง ฉันต้องแข็งแกร่ง เรื่องนี้เราใช้อารมณ์เยอะเหมือนกัน ต้องใช้อารมณ์ ทุกอย่าง เป็นอะไรที่ใหม่ส�ำหรับเรามากท�ำเต็มที่ค่ะ”
32
TV 360 On Magazine
36o' Rising Star
กองบรรณาธิการ
เรื่องเล่าจากปก กองบรรณาธิการ
แรงฉุดไม่อยู่ ชนิดที่แฟนละครไม่กล้า ลุกไปไหน กับ ละคร “นาคี” ซึ่งตอนนี้เรื่องก�ำลัง เข้มข้นเรือ่ ยๆ เป็นละครทีก่ ารันตีคณ ุ ภาพทัง้ นักแสดง และการผลิตได้เป็นอย่างดีอีกเรื่อง กับ บริษัท แอค-อาร์ต เจเนเรชั่น จ�ำกัด ควบคุมการผลิตโดย คุณธัญญา - คุณพงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ครั้งนี้ ทีวี 360 องศา ออน แมกกาซีน จึงได้น�ำพระเอก นางเอก “แต้ว ณฐพร” และ “เคน ภูภูมิ” มา ขึ้นปก พร้อมน�ำเสนอเรื่องย่อ เอาใจแฟนละครที่ อยากทราบเรื่องราว
โขงเจียม อุบลราชธานี พ.ศ.2480 นายเคน (ชาติชาย งามสรรพ์) สามีของ ค�ำปอง (อริศรา วงษ์ชาลี) จับได้งูลักษณะ ประหลาดคล้ายพญานาค ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นงูเจ้าแม่ที่เรียกกันว่า “นาคี” เขาน�ำไปขายให้กับฝรั่งนักค้างู จอห์น วินสัน ด้วยราคาสูงลิ่ว ค�ำปองซึ่งท้องแปดเดือนมีความเชื่อว่างูเจ้าแม่นี้ หากไปลบหลู่ ดูหมิ่น จะต้องประสบ กับความพินาศฉิบหาย นางพยายามห้ามปรามสามีแต่สายไปเสียแล้ว กลุ่มของสามีนางประกอบด้วยผู้ช่วยชาวไทย อีกสองคนคือ นายกอ (หยอง ลูกหยี) และ นายบุญส่ง (ศักราช ฤกษ์ธ�ำรง) ไปลบหลู่ จนปรากฏอาเพศบนท้องฟ้า เกิดสุริยคราส พายุอื้ออึง ฟ้ามืดครึ้ม เกิดลมพายุรุนแรงจนหมู่บ้านถล่ม ทุกคนตายเหลือแต่นายกอที่หนีรอดไปได้ ด้านค�ำปองนั้นเกิดเจ็บท้องคลอดกะทันหัน เด็กทารกหญิงที่คลอดออกมาเสียชีวิต แต่ก่อนที่ค�ำปองจะหมดสติไป นางบังเกิดเห็นภาพงูใหญ่เลื้อยแทรกกลืนหายเข้าตัวเด็ก และลูกของนางก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ค�ำปองตั้งชื่อ บุตรสาวว่า ค�ำแก้ว (ณฐพร เตมีรักษ์) ย้ายจากโขงเจียมไปอยู่ดอนไม้ป่า เด็กหญิงค�ำแก้วแตกต่างจากเด็กทั่วไป มักปรากฏอสรพิษอยู่ใกล้เสมอแต่ไม่เคยท�ำร้าย ค�ำแก้วมักหายตัวไปบริเวณปราสาทหินร้างท้ายหมู่บ้าน และยัง บอกอีกว่าสามารถพูดคุยกับงูได้และพวกมันเชื่อฟังเธอ ค�ำปองเชื่อว่าเด็กหญิงคิดเอาเองตามประสาเด็ก 20 ปีผ่านไป (พ.ศ.2500) คณะอาจารย์และนักศึกษา น�ำโดย อาจารย์ทัศนัย (ธนากร โปษยานนท์) ลงพื้นที่ขุดค้นโบราณวัตถุ ในจ�ำนวนนี้มี ทศพล (ภูภูมิ พงศ์ภาณุ) นักศึกษาปีสุดท้ายของคณะโบราณคดี รวมอยู่ด้วย เขาหลงใหลในวัตถุโบราณเป็นอย่างมาก ทศพลขุดพบรูปปั้นประหลาดเป็นหินสลักสีขาว อมชมพูรูปหญิงสาวเปลือยท่านอนบิดตัว ช่วงล่างตั้งแต่สะโพกลงไปเป็นหางงู ส่วนบนของหน้าผากที่จรดกับศีรษะ มีหงอน ซึ่งอาจารย์ทัศนัยอธิบายว่านั่นคือสัญลักษณ์ของนาคีหรือพญานาค ทศพลหลงใหลในความงาม ของรูปปั้นจนเก็บไปเพ้อถึง ท�ำให้ พิมพ์พร (ฉัตรฑริกา สิทธิพรม) ที่แอบชอบเขาอยู่ไม่พอใจ ทศพลและเพื่อนๆ ไม่ได้การต้อนรับจาก ก�ำนันแย้ม (มนตรี เจนอักษร) เพราะว่า ก�ำนันแย้ม ไม่ต้องการให้คนต่างถิ่นเข้ามายุ่มย่ามในหมู่บ้าน รวมถึงการขุดค้นที่เทวาลัย จึงขับไล่ทุกคน ไม่ให้นอนค้างที่หมู่บ้าน สุดท้ายทัศนัยจึงพาเด็กๆ ไปอาศัยอยู่ที่บ้านของค�ำปอง และที่นั่นเอง ทศพล ก็ได้พบกับค�ำแก้ว และเริ่มชอบค�ำแก้วในที่สุด หมออ่วม (ประสาท ทองอร่าม) ท�ำนายกับก�ำนันแย้มว่าอีกเจ็ดวันจะเกิดสุริยคราส ซึ่งเขา วิตกมากเนื่องจากทุกครั้งที่เกิดปรากฏการณ์นี้จะต้องมีคนถูกฝูงงูกัดกินจนตายทุกครั้ง หมออ่วมบอกว่านี่เป็น อิทธิฤทธิ์ของเจ้าแม่นาคี เขาท�ำนายว่าพิมพ์พรก�ำลังมีเคราะห์หนักจนอาจถึงสิ้นชีวิตภายในเจ็ดวัน หมออ่วมลอบน�ำว่านพญาลิน้ งูทไี่ ด้จากสัปเหร่อคงไปฝังไว้ทใี่ ต้ถนุ เรือน ค�ำปอง เพื่อทดสอบว่าค�ำแก้วคือร่างแปลงของนาคี จนค�ำแก้วร้อนรนจนอยู่บนเรือน ไม่ได้ ต้องเสาะหาขุดว่านนั้นและท�ำลาย หมออ่วมเริ่มแน่ใจมากขึ้นแต่ยังไม่มีหลักฐาน แน่นหนาพอ ส่วน ทศพล วันชนะ และ ประกิต ต้องค้างที่เทวาลัย เนื่องจากฝนตกหนัก ท�ำให้ทศพลค้นพบถ�้ำใต้เทวาลัย และได้พบกับร่างทิพย์ของเจ้าแม่นาคี ที่มีหน้าตา เหมือนกับค�ำแก้วอย่างไม่มีผิดเพี้ยน ก�ำนันแย้มร่วมมือกับหมออ่วมท�ำพิธีก�ำจัดเจ้าแม่นาคี ใช้แหวนพิรอดพันกับ สายสิญจน์ผูกไว้ และเผาหุ่นเจ้าแม่นาคี ค�ำแก้วซึ่งก�ำลังขายดอกไม้ เริ่มร้อนทุรุนทุราย ทนไม่ไหว ทศพลเห็นหมออ่วมท�ำพิธี รีบวิ่งไปหาค�ำแก้ว แม้จะถูกลูกน้องก�ำนันแย้มท�ำร้ายก็ตาม ร่างทิพย์เจ้าแม่นาคีพุ่งวูบ ออกมาจากร่างค�ำแก้ว ร่ายคาถาเรียกฝนมาสู้กับพิธีของหมออ่วม พายุฝนตกอย่างแรง ฟ้าผ่าจนสายสิญจน์ขาด ไฟที่หุ่นฟาง ดับลง พิธีหยุดลงกะทันหัน ทุกคนวิ่งหลบฝน ค�ำแก้วสลบอยู่ในอ้อมกอดทศพล ค�ำแก้วรีบตามไปดู กลับถูกชาวบ้านขว้างปาหินใส่หาว่าค�ำแก้วเป็นงู ทศพลเข้าช่วย บอกกับก�ำนันแย้มและทุกคนว่า จะไปพิสูจน์เรื่องเจ้าแม่นาคีที่เทวาลัย ถ้าเขารอดกลับมาได้ ต้องยอมปล่อยตัวทุกคน และไม่ต่อว่า ค�ำแก้วอีก ค�ำแก้วเป็นห่วงทศพลอยากตามไปช่วย ทศพลเริ่มหนาวเพราะอากาศในถ�้ำ เขาเห็นเงาทัศนัยจึงเดินตามไป ส่วนงูเขียวพาค�ำแก้ว เข้ามาที่ถ�้ำจนได้ เจ้าแม่นาคีเข้าสิงห์ร่างค�ำแก้ว แล้วก็มาพบกับทศพล ทศพลดีใจมากที่ได้เจอค�ำแก้ว โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นเจ้าแม่นาคี เจ้าแม่พาทศพลมายังสระน�้ำสีมรกต น�้ำใส เป็นประกายระยิบระยับ สระแห่งนี้เป็นเส้นทางเชื่อมไปได้หลายแห่ง เป็นรอยต่อระหว่างโลกมนุษย์กับวังบาดาลเมืองของพวก พญานาค เจ้าแม่เล่าเรื่องอดีตว่าตนเองรออยู่ จน ไชยสิงห์ มาเกิดเป็นทศพล ส่วนค�ำแก้วก็คือเจ้าแม่ นาคีนั่นเอง รุ่งเช้าทศพลหลับอยู่กับค�ำแก้ว ค�ำแก้วตื่นมาตกใจ จ�ำอะไรไม่ได้ ค�ำแก้วกลับบ้านไปแบบ งุนงง ไม่แน่ใจว่าตนเองตกเป็นของทศพลไปแล้วหรือเปล่า ล�ำเจียก บอกกับทุกคนว่าค�ำแก้วกับทศพล ผิดผีกันแล้ว ค�ำปองเสียใจ แต่ทศพลกลับบอกว่าเป็นผัวเมียกันแล้ว ทศพลขอรับผิดชอบ สุดท้ายค�ำแก้วกับทศพลจึงได้แต่งงานกันในทีส่ ดุ ซึง่ ลึกๆ แล้วค�ำปองก็ดใี จทีค่ �ำแก้วจะมีทศพลมาคอยปกป้อง พวกของบุญส่งหลอกทศพลว่าหากต้องการให้ค�ำแก้วพ้นข้อกล่าวหา ขอให้ทศพลน�ำชิ้นส่วนที่เป็นหงอนของรูปปั้นไปติดที่ หน้าผากของค�ำแก้ว หากมีนางพญานาคีสงิ อยูน่ างจะปรากฏร่างออกมาและค�ำแก้วจะปลอดภัยเป็นคนธรรมดาไม่มวี ญิ ญาณร้าย สิงสู่อีก ทศพลท�ำตามแท้ที่จริงแล้วการท�ำเช่นนั้นจะท�ำให้ค�ำแก้วกลายร่างเป็นงูตลอดชีวิต ค�ำแก้วเสียใจหนีไปยังปราสาทร้าง กราบไว้พระ อ้อนวอนขออยู่ในร่างคน เสียงจากพระพุทธรูปบอกเธอว่าให้ถือศีลอยู่แต่ในถ�้ำนี้ห้ามออกไปไหนเด็ดขาดจนครบ ร้อยวัน ค�ำแก้วจะเป็นคนโดยสมบูรณ์ไม่มีวันกลายเป็นงูอีก ค�ำแก้ว จะสามารถถือศีลในถ�้ำให้ครบร้อยวันเพื่อที่จะได้เป็นคนโดยสมบูรณ์ได้หรือไม่ แล้วชีวิตค�ำแก้วจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตาม ชม ละคร “นาคี” ทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 20.20 - 22.50 น. ทาง ช่อง 3 (ออริจินัล) และ ช่อง 33
TV 360 On Magazine
35
ข่าวสั้น 360. กองบรรณาธิการ
กฟผ. ร่วมกับ จังหวัดน่าน จัดโครงการ “กล้าดี”
ชวนเยาวชนเสนอโครงการอนุรักษ์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวคู่เมืองน่าน
คุณสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดงาน วันเยาวชนแห่งชาติ ประจ�ำปี 2559 ของ จังหวัดน่าน ซึ่งปีนี้มีความพิเศษคือ การจัดโครงการ “กล้าดี” โดย คุณทินกร พอจิต ผู้ช่วยผู้อ�ำนวยการฝ่ายกิจการสังคม กฟผ. กล่าวว่า จัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อให้เยาวชนในจังหวัดน่าน ได้มีส่วนร่วมในการช่วยอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน�้ำ โดยการคิดและ น�ำเสนอโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดน่าน มีสถาบันการศึกษาได้รับการคัดเลือกรอบแรก 20 โครงการ เพื่อน�ำเสนอต่อคณะกรรมการคัดเลือกจากเกณฑ์ที่ก�ำหนด คือ มีคณ ุ ประโยชน์ตอ่ ชุมชน โดยเฉพาะในการเพิม่ พืน้ ทีส่ เี ขียว การอนุรกั ษ์ ฟื้นฟูป่าไม้ สามารถสร้างการมีส่วนร่วมทั้งในโรงเรียน และในชุมชน เป็นโครงการที่ยั่งยืน มีความคิดสร้างสรรค์ และเป็นโครงการที่มีการสื่อสาร สร้างการรับรู้ได้อย่าง มีประสิทธิภาพ รวมทั้งต้องมีศักยภาพสามารถก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ของจังหวัดน่าน ทั้งนี้ กฟผ. จะสนับสนุนงบประมาณในการด�ำเนินการโครงการจริงในพื้นที่ โครงการละ 20,000 บาท และเมื่อเสร็จสิ้นการด�ำเนินโครงการภายในเดือนพฤศจิกายน คณะกรรมการจะท�ำการ คัดเลือกและจัดล�ำดับโครงการ เพื่อมอบรางวัลพร้อมทุนการศึกษาอีกครั้ง ในโอกาสนี้ กฟผ. ได้มอบเงินสนับสนุน 200,000 บาท ให้แก่นักศึกษาที่ชนะการประกวด ภายใต้โครงการ กฟผ. เพาะเมล็ดพันธุ์จิตอาสาพัฒนา สังคม รุน่ 8 ได้แก่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ มหาวิทยาลัย พะเยา ร่วมกับ วิทยาลัยเทคนิคน่าน เพื่อน�ำไปพัฒนา ต่อยอดให้แก่พื้นที่ในจังหวัดน่านต่อไป
36
TV 360 On Magazine
หอม ความ
ดี
หอมความดี กองบรรณาธิการ
9 5 5 2 ี ป ำ� จ ะ ร ป ล อ ด อ ไ ของ ทูตคิดใส
ล ก า ส ว ่ ั ท น ิ ด น ่ ผ แ ง ้ ั ท ย า ะจ ร ให้ความดี หอมฟุ้งก
คุณเติ้ล ธนพล นิ่มทัยสุข
คุณบอส จักรพันธ์ วงศ์คณิต
คุณณมน พัชรวลัย พงษ์ภมร
ผ่านไปไม่นานนี้กับ โครงการคิดใส ใจสะอาด เพื่อชาติ เพื่อในหลวง ครั้งที่ 5 ประจ�ำปี 2559 เพื่อปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และการเป็นเด็กและเยาวชนที่ดี คิดดี ท�ำดี ทั้งกาย วาจา ใจ ธ�ำรงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยในแต่ละปีในการจัดกิจกรรมนั้น ได้มีการแต่งตั้ง “ทูตคิดใสไอดอล” เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็ก เยาวชน และสังคม คอลัมน์ “หอมความดี” ครั้งนี้ จึงขอน�ำความดีของเหล่าทูตคิดใสไอดอลปีนี้มาให้ “หอม” กัน รวมทั้งความประทับใจที่เกิดขึ้นจากการท�ำความดีของผู้อื่น ที่ทั้งพระเอก หนุ่มหล่อจากช่อง 7 สี เติ้ล - ธนพล, นางเอกสาวหวาน ณมน พัชรวลัย และหนุ่มหล่อรักษ์โลกอีกคน บอส - จักรพันธ์ ขอมาบอกเล่าให้ความดีหอมฟุ้งไปทั่วแผ่นดินทั่วสากล
คุณเติ้ล ธนพล นิ่มทัยสุข (ทูตคิดใสไอดอล)
“ความดีที่ผมรู้สึกได้ในตัวผมคือ การให้ก�ำลังใจผู้หญิงคนหนึ่งที่นอนเป็นอัมพาตมา 16 ปี ขยับตัวไม่ได้ ท�ำให้เขามีก�ำลังใจที่จะสู้ต่อกับแม่ที่ตาบอด ขณะเดียวกันเขาทั้งสองคนก็เป็นก�ำลังใจให้ผมด้วยในเวลาที่ผมท้อแท้หรือหมดหวัง ส่วนความดีของผู้อื่น ผมขอยกความดีให้กับครูใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ยอมทิ้งความสบาย เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้เด็กๆ แม้จะต้องเสี่ยงชีวิตก็ตามครับ”
คุณบอส จักรพันธ์ วงศ์คณิต (ทูตคิดใสไอดอล)
“ผมว่าความดีเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากๆ อย่างเมื่อวานไปฟิตเนส ผมจอดรถเสร็จแล้ว ก�ำลังจะเดินเข้าไปข้างใน เห็นผู้หญิงคนหนึ่งก�ำลังเข็นรถที่จอดซ้อนกัน ผมก็เข้าไปช่วยเข็น สรุปต้องเข็นทั้งหมด 3 คัน กว่ารถเขาจะออกได้ ถ้าไม่เข้าไปช่วยเขา คงเข็นคนเดียว เหนื่อยน่าดู ความดีง่ายๆ ในชีวิตประจ�ำวันครับ ส่วนเรือ่ งเห็นคนอืน่ ท�ำความดี ก็ยงั อยูท่ ลี่ านจอดรถหน้าฟิตเนสอีก ผมก�ำลังจะขับรถออกจากซอง ทีด่ า้ นหน้ามีรถทีจ่ อดซ้อนคันอีกฝัง่ กัน้ อยู่ ท�ำให้เหลือเนือ้ ที่ ในการตีโค้งออกน้อยกว่าปกติ ซึ่งเราก็กลัวไปชนทั้งด้านหน้าด้านข้าง หมุนไปหมุนมาหลายรอบก็ยังออกไม่ได้เพราะที่น้อยมาก จนมีคนออกจากฟิตเนสและก�ำลัง จะกลับบ้าน เดินมาช่วยโบก ขยับได้อีกนิดๆ ถอยอีกหน่อยๆ หักขวาหักซ้าย จนออกได้แบบพอดี ถ้าขับออกคนเดียวไม่มีคนช่วยบอก คงเสียเวลานานกว่านี้ นี่ก็เป็น อีกเรื่องที่ประทับใจในการท�ำความดีของผู้อื่นที่มีผลต่อเราโดยตรงครับ”
คุณณมน พัชรวลัย พงษ์ภมร (ทูตคิดใสไอดอล)
“ความดีของณมน ณมนเป็นคนรักครอบครัวมากๆ ค่ะ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ท�ำอะไร ณมนจะคิดถึงครอบครัวก่อนเสมอ ณมนรักคุณแม่ รักน้องและคุณพ่อ มากๆ จะท�ำทุกอย่างให้ท่านสบายใจ เชื่อฟังค�ำสั่งสอน ไม่ท�ำให้ท่านเสียใจ ณมนคิดว่าการเป็นเด็กกตัญญู เป็นสิ่งที่ลูกทุกคนควรกระท�ำอย่างตั้งใจอย่างเต็มที่ ส่วนความประทับใจในความดีของผู้อื่นนั่น ณมนชื่นชมและหอมความดีในทุกสิ่งที่คนอื่นๆ ท�ำค่ะ การได้เห็นเขาเป็นผู้ให้ แบ่งปันสิ่งของ แบ่งปันความเมตตา แบ่งปันก�ำลังใจ แบ่งปันความรู้สึกดีดีให้แก่กันและกัน เป็นสิ่งที่ท�ำให้มีความสุขทุกครั้งที่มอง ประทับใจค่ะ เพราะการที่คนจะท�ำดีนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างจะออกมาจาก จิตใต้ส�ำนึกของแต่ละคน บางครั้งอาจจะเป็นมุมเล็กๆ ของเขาที่ทุกคนมองไม่เห็น ไม่มีใครท�ำแต่เขาท�ำ เราจึงภูมิใจในตัวเขาและอยากให้เขาท�ำความดีแบบนี้ต่อไป” “ความดี” นั้น เกิดขึ้นได้ในทุกที่ ทุกสถาน และทุกเวลา อยู่ที่การจะมองเห็น เลือกที่จะลงมือท�ำ สร้างให้เกิดความหอมจากตัวเราและแผ่กระจายไปยังคนรอบข้าง แม้เพียงความคิดดี ก็ก่อเกิดความรู้สึกดีดีขึ้นได้แล้ว ง่ายๆ ในชีวิตประจ�ำวัน และการให้ก�ำลังใจผู้อื่น ชื่นชมเมื่อเขาท�ำความดี เพียงเท่านี้ เราก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้าง ความหอม “ให้ความดี หอมฟุ้งกระจายทั้งแผ่นดิน ทั่วสากล” แล้วนั่นเอง
TV 360 On Magazine
37