ทรงพระเจริญ FREE COPY ปีที่ 5 ฉบับที่ 56 เดือนมกราคม 2560
www.facebook.com/ujunctionmagazine www.ujunction.com
ทรงพระเจริญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้าผู้บริหารและพนักงานบริษัท ทีพี คอนเวอร์เจนซ์ จ�ำกัด
4
U-JUNCTION / MAGAZINE + ONLINE
ไอที
ออปโป้เพิ่มพนักงาน-จ�ำนวนแบรนด์ช็อปในไทย พร้อมเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น
การเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับสามในประเทศไทยของออปโป้มีเบื้องหลัง มาจากความส�ำเร็จของสมาร์ทโฟนรุ่น F1s ซึ่งมียอดขายในประเทศไทยเพิ่มขึ้น อย่างสม�ำ่ เสมอในทุกๆ เดือน จนกลายเป็นสมาร์ทโฟนรุน่ ทีม่ ยี อดขายสูงทีส่ ดุ ในกลุม่ สมาร์ทโฟนราคา 8,000 – 10,000 บาท อ้างอิงจากภาพรวมยอดขายทีไ่ ด้จาก เจมาร์ท ทีจีโฟน ซีเอสซี และร้านขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ชั้นน�ำอื่นๆ หลังออปโป้วางแผนที่จะเพิ่มจ�ำนวนพนักงานคนไทย รวมไปถึงจ�ำนวนสาขา ร้านค้าในไทยแล้ว ทางบริษัทยังมีแผนที่จะน�ำเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเพื่อยกระดับการเป็นสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยมที่สามารถมอบประสบการณ์ การสื่อสารที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยในอนาคต ภายในปี 2559 ออปโป้จะเพิ่มจ�ำนวนพนักงานคนไทยจาก 2,000 คน ให้เป็น 4,000 คน และเพิ่มแบรนด์ช็อปของออปโป้ให้มีจ�ำนวน 8,000 ร้าน จากปัจจุบัน ที่มีอยู่ 5,000 ร้านค้า นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเพิ่มศูนย์ให้บริการลูกค้าอีก 35 แห่ง ที่นอกเหนือไปจากร้านจ�ำหน่ายที่ก�ำลังจะเพิ่มขึ้นเป็น 8,000 ร้าน รวมไปถึง การจัดสรรทรัพยากร การวางจ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงตามมาตรฐานของ ออปโป้ และที่ส�ำคัญคือการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่น F1s Classic Black Limited Edition ซึ่งทั้งหมดเป็นส่วนประกอบที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ ออปโป้ในตลาดสมาร์ทโฟนประเทศไทย และ จะวางจ�ำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟเพียง 2,000 เครื่องเท่านั้นในประเทศไทย” นายลีโอ จ้าว ผู้อ�ำนวยการฝ่ายขาย บริษัท ไทย ออปโป้ จ�ำกัด กล่าวว่า “ถึงแม้ว่า OPPO F1s Classic Black Limited Edition จะมีสเปกคุณภาพสูงและ ฟีเจอร์ตา่ งๆ เหมือนกับรุน่ F1s แต่เรามัน่ ใจว่าความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ จะดึงดูด ทุกสายตามาสู่รุ่นพิเศษนี้ด้วย” หลังเข้าตีตลาดในไทยด้วย OPPO Find 3 อย่างเป็นทางการเมื่อปี 2552 ออปโป้ยังคงมุ่งมั่นที่จะน�ำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ล่าสุดมาให้ผู้บริโภค ชาวไทยได้พบกับสมาร์ทโฟนคุณภาพระดับโลกที่เน้นการใช้งานของผู้ใช้เป็นหลัก ISSUE NO. 056/ January 2017
OPPO Find 3 เป็นสมาร์ทโฟนที่ประสบความส�ำเร็จเป็นอย่างมาก จากการที่ได้รับ ความสนใจจากผู้บริโภคชาวไทยอย่างรวดเร็ว ซึ่งท�ำให้ออปโป้ได้เห็นยอดขาย ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะส�ำคัญในแต่ละปี ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึง แนวโน้มที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้ “สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดในซีรี่ย์ Find อย่าง Find 7 ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2557 เป็น สมาร์ทโฟนที่ยังคงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่ผู้บริโภค นอกจากนี้ ออปโป้ ยังมีเทคโนโลยีขนั้ สูงอีกมาก เช่น สมาร์ทโฟนทีส่ ามารถถ่ายภาพทีม่ คี วามละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซลเป็นเครื่องแรกของโลก นอกจากนี้ยังมีสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลก ทีม่ หี น้าจอขนาด 5.5 นิว้ แบบ QHD และเทคโนโลยีการชาร์จเร็วทีม่ คี วามปลอดภัยสูง อย่าง VOOC Flash Charge" นายลีโอ กล่าวเสริม ภาพลักษณ์ของออปโป้คือ ความเพรียวบางและความทันสมัยในตัวผลิตภัณฑ์ ทุกรุน่ และการมีบคุ คลทีม่ ชี อื่ เสียงและ แบรนด์แอมบาสเดอร์ อาทิ ลีโอนาโด ดิคาปริโอ ในปี 2554 ซึ่งน�ำแสดงในภาพยนตร์โฆษณาที่ได้รับความนิยมส�ำหรับสมาร์ทโฟน ซีรีย์ Find และหนึ่งในแบรนด์แอมบาสเดอร์ของออปโป้ ประเทศไทยคือ พลอยชมพู นักร้องขวัญใจวัยรุ่นสุดฮอตในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ออปโป้เลือก เข้ามาตีตลาดหลังจากประสบความส�ำเร็จในประเทศจีน ปัจจุบันประเทศไทยยังคง เป็นส่วนส�ำคัญของแผนการตลาดของออปโป้ ซึง่ นายลีโอกล่าวว่าประเทศไทยจะยังคง เป็นตลาดที่จะมีแต่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นในอนาคต “ออปโป้ตั้งความหวังไว้สูงส�ำหรับตลาดไทย ซึ่งการเจริญเติบโตของออปโป้ ในระยะเวลา 8 ปีทผี่ า่ นมาได้รบั การสนับสนุนเป็นอย่างดีจากผูบ้ ริโภคชาวไทย ดังนัน้ เราจึงขอขอบคุณผู้บริโภคชาวไทยโดยการมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีเยี่ยมต่อไป ในอนาคต และนอกจากนี้ เราเชื่ อ มั่ น ในความส� ำ คั ญ ของการมี พ นั ก งานที่ มี ความสุขและมีความกระตือรือร้น ดังนั้นพนักงานทั้งหมดของเราจะได้รับสวัสดิการ ต่างๆ เช่น โบนัสและเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นไปพร้อมๆ กับการเติบโตของออปโป้” นายลีโอ กล่าวปิดท้าย
ตลาด-เอสเอ็มอี
U-JUNCTION / MAGAZINE + ONLINE
5
กลุ่มธนชาต เปิดตัวปฏิทินฉายภาพยนตร์ได้ ชุด ‘9 ทศวรรษ ฉัตรชัยประชา’
“ปฏิทินชุดนี้มีความพิเศษในการน�ำเสนอภาพยนตร์ด้วย เทคโนโลยีล�้ำสมัยในรูปแบบมัลติมีเดีย AR Code เพียงแค่สแกน ภาพบนปฏิทนิ ด้วยสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต โดยใช้แอปพลิเคชัน Layar ก็ จ ะสามารถรั บ ชมภาพยนตร์ พระราชประวั ติ แ ละ พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ผ่านภาพวาดพระบรมสาทิสลักษณ์สีน�้ำมันอันวิจิตร ของ อ.สมบูรณ์สุข นิยมศิริ (เปี๊ยก โปสเตอร์) ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์) ประจ�ำปี 2558 และการประพันธ์บทอาเศียรวาทอันล�ำ้ ค่าโดย อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจ�ำปี 2536 และกวีรางวัลซีไรต์ ประจ�ำปี 2523 พร้อมการประพันธ์ค�ำ อธิบายภาพโดย นายอธิชนัน สิงหตระกูล เยาวชนดีเด่นแห่งชาติ สาขาศิลปวัฒนธรรม ประจ�ำปี 2557 จึงนับเป็นการผสมผสาน อย่างลงตัวของความงดงามด้านวิจิตรศิลป์ วรรณศิลป์ ในรูปแบบ ของปฏิ ทิ น ที่ ง ดงามและมี คุ ณ ค่ า ทางจิ ต ใจ ส่ ง ต่ อ คุ ณ ค่ า ผ่ า น กาลเวลาด้วยเทคโนโลยีทันสมัย เพื่อเทิดทูนด�ำรงไว้ซึ่งสถาบัน พระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เคารพยิ่ง” กลุ่มธนชาตรังสรรค์ปฏิทินฉายภาพยนตร์ได้ ประจ�ำปี 2560 ชุด ‘9 ทศวรรษ ฉัตรชัย ประชา’ น้อมร�ำลึกแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และ เทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ล�้ำสมัยด้วยเทคโนโลยี AR Code ให้รับชมภาพยนตร์พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ของรัชกาลที่ 9 ผ่านแอปพลิเคชัน Layar โดยได้รับเกียรติจากศิลปินแห่งชาติ “เปี๊ยก โปสเตอร์” ร่วมเขียนภาพพระบรมสาทิสลักษณ์อันล�้ำค่า และ“อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์” ประพันธ์บทอาเศียรวาท
อาจารย์เนาวรัตน์ นายวิชา กุลกอบเกียรติ ผู้อ�ำนวยการอาวุโส สายงานสื่อสารและบริหารแบรนด์ ธนาคารธนชาต จ�ำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปฏิทินกลุ่มธนชาตประจ�ำปี 2560 ชุด ‘9 ทศวรรษ ฉัตรชัยประชา’ จัดท�ำขึ้นเพื่อน้อมร�ำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้แด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 ผู้ทรงคุณ อันประเสริฐต่อพสกนิกรชาวไทย ทรงปกครองแผ่นดินโดยธรรม และทรงบ�ำเพ็ญพระราชกรณียกิจ นานัปการเพือ่ ประโยชน์สขุ ของปวงชนชาวไทย ยังความวัฒนาสถาพร และความมัน่ คงเป็นปึกแผ่น ของบ้านเมือง และเพือ่ เทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั มหาวชิราลงกรณ บดินทร เทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ซึง่ เป็นโอกาสอันดีทกี่ ลุม่ ธนชาตจะได้ทำ� สิง่ ทีย่ งิ่ ใหญ่ทรงคุณค่า น่าจดจ�ำ ด้วยส�ำนึกใน พระมหากรุณาธิคณ ุ และแสดงออกถึงความจงรักภักดีตราบนิจนิรนั ดร์ตอ่ สถาบันพระมหากษัตริย์
อ.สมบูรณ์สุข นิยมศิริ (เปี๊ยก โปสเตอร์) ศิลปินแห่งชาติ สาขา ศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์) ประจ�ำปี 2558 เผยความรู ้ สึ ก ที่ ไ ด้ บ รรจงเขี ย นพระบรมสาทิ ส ลั ก ษณ์ ใ นปฏิ ทิ น ชุดนีว้ า่ “ถือเป็นสิรมิ งคลของชีวติ อย่างยิง่ ทีไ่ ด้มสี ว่ นร่วมในการรังสรรค์ผล งานภาพเขียนพระบรมสาทิสลักษณ์ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช และสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว มหาวชิ ร าลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร โดยได้ร่วมกับลูกศิษย์บรรจงเขียนภาพด้วยจิตใจ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และ ตลอดการเขียนภาพจะมีความสุขและอิ่มใจอย่างมาก” “เชื่ อ ว่ า ปฏิ ทิ น ธนชาตประจ� ำ ปี 2560 ชุ ด ‘9 ทศวรรษ ฉั ต รชั ย ประชา’ จะเป็ น หนึ่ ง ในบั น ทึ ก ประวั ติ ศ าสตร์ ที่ จ ารึ ก เรื่ อ งราวของพระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช ในทุ ก ช่ ว งพระชนมพรรษา และเพื่ อ เฉลิ ม ฉลองการขึ้ น ทรงราชย์ ของสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว มหาวชิ ร าลงกรณ บดิ น ทรเทพยวรางกู ร รัชกาลที่ 10 ซึ่งจะเป็นปฏิทินที่มีคุณค่าทั้งทางกาย และโดยเฉพาะ อย่างยิ่งมีคุณค่าทางจิตใจกับมหาชนชาวสยามไปตลอดกาล” นายวิชา กล่าวปิดท้าย
เปี๊ยก โปสเตอร์ ISSUE NO. 056/ January 2017
6
U-JUNCTION / MAGAZINE + ONLINE
ตลาด-เอสเอ็มอี
ZELTIQ จัยมือ ฟิลเทค เอ็นเตอร์ไพรส์ 1994 เปิดตัว CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น
ZELTIQ ร่วมกับ บริษทั ฟิลเทค เอ็นเตอร์ไพรส์1994 จ�ำกัด ( มหาชน ) เปิดตัว Coolsculpting นวัตกรรมการสลายไขมันด้วยความเย็นกับการก้าวข้ามขีดจ�ำกัด ของการสลายไขมันส่วนเกินมั่นใจด้วยความส�ำเร็จมากกว่า 3.5 ล้านทรีตเม้นท์ ทั่วโลก ใน 70 ประเทศตั้งเป้าปี 60 อยู่ที่ 150 ล้านบาท คุณอนุวตั ร เลิศพิทกั ษ์สนุ ทร กรรมการผูจ้ ดั การบริษทั ฟิลเทค เอ็นเตอร์ไพรส์ 1994 จ�ำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษทั ZELTIQ ( เซลทีค ) หนึง่ ในบริษทั ชัน้ น�ำ ส�ำหรับ การพัฒนาและผลิตเครือ่ งมือแพทย์รว่ มกับบริษทั ฟิลเทคเอ็นเตอร์ไพรส์ 1994 จ�ำกัด ( มหาชน ) น�ำ CoolSculptingเทคโนโลยีความเย็นในการปรับรูปร่างและสลายไขมัน ส่วนเกิน ทีไ่ ม่ทำ� อันตรายต่อเนือ้ เยือ่ บริเวณข้างเคียงปลอดภัยและมีประสิทธิภาพค้น พบโดย Dr. Dieter Manstainและ R. Rox Anderson ที่ Wellman Center for Photomedicine โรงพยาบาล Massachusetts เมืองบอสตันได้รับการวิจัยและ รับรองจากมหาวิทยาลัย Harwardประเทศสหรัฐอเมริกา นับเป็นวิธที มี่ ปี ระสิทธิภาพ สูงกว่าเทคโนโลยีอนื่ เน้นการเผาผลาญให้ปริมาณไขมันสะสมในเซลล์ลดลงเป็นหลัก และถูกก�ำจัดออกผ่านกระบวนการตามธรรมชาติ ทั้งนี้หลังจากได้รับการรับรอง US FDA Clearance แล้วได้มีการพัฒนา ตัวแอพพลิเคเตอร์ เพื่อเพิ่มบริเวณที่ท�ำการรักษา ให้สามารถท�ำการรักษาได้ หลายบริเวณมากขึ้น อาทิ ต้นขา เอว หน้าท้อง หรือบริเวณคาง เป็นต้น ก้าวข้าม ขีดจ�ำกัดของการสลายไขมันส่วนเกินทีไ่ ม่มแี ผลให้ผลลัพธ์เทียบเคียงกับการดูดไขมัน ซึ่งกระบวนการท�ำงานของ Coolsculptingจะท�ำการปล่อยความเย็น เพื่อแช่แข็ง เซลล์ไขมันในบริเวณต่างๆ ได้แก่ ไขมันที่มีลักษณะเป็นห่วงยางรอบเอว บริเวณ หน้าท้องหรือคางทีเ่ ป็นสองชัน้ เป็นต้น และด้วยเทคโนโลยี Cryolipolysisจะสามารถ ลดจ�ำนวนเซลล์ไขมันได้โดยอาศัยหลักการทีว่ า่ เซลล์ไขมันจะไวต่อความเย็นมากกว่า เซลล์ชนิดอื่นทั้งนี้ไขมันส่วนเกินในบริเวณที่ท�ำการรักษาจะลดลงหลังการรักษา ผลการรักษาจะขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันของคนไข้ก่อนการรักษาราคาอยู่ที่ประมาณ 18,000 ถึง 35,000 บาท ต่อหนึ่งจุดที่ท�ำการรักษา อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับโปรแกรมและโปรโมชันของทางคลินิกหรือโรงพยาบาล Coolsculptingเป็นเทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรโดยบริษัท ZELTIQ Aesthetics สามารถตรวจวัดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิบริเวณผิวหนังได้ และหากตรวจพบ ISSUE NO. 056/ January 2017
อุณหภูมิที่ผิดปกติ เครื่องจะหยุดการท�ำงานทันทีอีกทั้งเจ้าหน้าที่พนักงานทุกคน ยังได้รบั การฝึกอบรมความรูแ้ ละการใช้เครือ่ งเป็นอย่างดี ตามมาตรฐานตามทีก่ ำ� หนด ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยของการใช้บริการส�ำหรับขั้นตอนการท�ำ Coolsculpting นัน้ มีความปลอดภัยสูง ขณะทีท่ ำ� การรักษาจะรูส้ กึ สบาย และสามารถ ท�ำกิจกรรมอื่นได้อย่างผ่อนคลาย อาทิ อ่านหนังสือ ฟังเพลง ใช้โทรศัพท์ ท�ำงาน โดยใช้โน้ตบุ๊ค เป็นต้น ใช้เวลาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง สามารถใช้ชีวิตประจ�ำวัน ได้ตามปกติหลังการรักษา อาจพบอาการแดง ปวดบวม มีรอยช�ำ้ หรืออาจพบอาการชา ในบางที่ แต่ จ ะเกิ ด ขึ้ น เพี ย งชั่ ว คราวและสามารถหายได้ เ องทั้ ง นี้ มี ผู ้ ใ ห้ บ ริ ก าร CoolSculpting แล้วมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก จ�ำนวนมากกว่า 2,200 เครื่อง และมีผู้รับการรักษาแล้วมากกว่า 3,500,000 ทรีทเมนต์ไซเคิลทั่วโลก ซึ่งประมาณ ต้นปี 2560 จะเปิดตัวแอพพลิเคเตอร์ใหม่ที่ใช้ก�ำจัดไขมันในบริเวณเล็กๆ อาทิ บริเวณคาง อีกด้วย อย่างไรก็ตามปัจจุบันธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงามในประเทศไทย มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากอัตราการเติบโตเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ 10 ต่อปี ด้วยมูลค่าตลาดประมาณ 2 - 3 หมื่นล้านบาทและคาดว่าจะมีการเติบโตขึ้นเป็น 3 - 4.5 หมื่นล้านบาท ในปี พ.ศ.2563 ส�ำหรับCoolSculpting เอง ตั้งเป้าท�ำยอด ในปี 2560 อยู่ที่ 150 ล้านบาท สามารถรั บ บริ ก าร CoolSculptingได้ แ ล้ ว ที่ DR.SUPRANEE Laser &amp, Aesthetic clinic, Dr.NATTClinic, Vitallife wellness center โรงพยาบาลบ� ำ รุ ง ราษฎาร์ ,F Clinic, APEX PROFOUNDBEAUTY, รมย์รวินท์คลินิก, โรงพยาบาลยันฮี, Bangkok Laser Clinic, Star Clinic, Dermaster Wellness & Aesthetic Institution, Siam Laser Clinic, RainaParie Laser & Skin Clinic, Laser Premium Clinic ภูเก็ต, โรงพยาบาลกรุงเทพ, ProDerma Aesthetic Clinics,ยศการคลีนิค, iSky Center, โรงพยาบาลนครธน, Med Design Clnic,Clinic Neo, Giffarineclinic, True’ Est, Central Laser Clinic ขอนแก่น, โรงพยาบาลศิริราช, The Love Clinic, 55th Clinic, Rampada International Skin Clinic, Silverine Clinic, โรงพยาบาลสิริโรจน์, โรงพยาบาล แม่ฟ้าหลวง
ตลาด-เอสเอ็มอี
U-JUNCTION / MAGAZINE + ONLINE
7
เรฟเปิดตัว REV RUNNR ครบวงจร เน้นบริการ-เทคโนโลยี ตอบโจทย์นักวิ่งทุกระดับ
REV (เรฟ) หนึง่ ในผูน้ ำ� ด้านธุรกิจกีฬาประเภทค้าปลีกและค้าส่ง เปิดร้าน REV RUNNR (เรฟ รันเนอร์) ร้านจ�ำหน่ายสินค้าเฉพาะอย่าง หรือ สเปเชียลตีส้ โตร์สำ� หรับ กีฬาวิง่ แห่งใหม่ ทีใ่ ห้บริการแบบครบวงจรแห่งแรก ณ เซ็นทรัลพลาซา ปิน่ เกล้า ชูจดุ เด่นในด้านการบริการโดยใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมและการให้ขอ้ มูลจากพนักงาน อย่างมืออาชีพ เพือ่ สรรหาผลิตภัณฑ์ทเี่ หมาะสมและช่วยพัฒนาศักยภาพของนักวิง่ ทุกระดับ นายพรศักดิ์ ชินวงศ์วฒ ั นา ประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหาร REV (เรฟ) กล่าวว่า “กีฬาวิง่ ได้รบั ความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม นักวิง่ มีความชืน่ ชอบ การวิง่ ทีแ่ ตกต่างกันไป อาทิ วิง่ บนถนน วิง่ เทรล นอกจากนีย้ งั แบ่งการวิง่ ตามระยะทาง ระดับการวิง่ และตัวผูว้ งิ่ เองทีม่ ลี กั ษณะการวิง่ ทีห่ ลากหลาย เราจึงอยากใช้ความเชีย่ วชาญ ในธุรกิจกีฬาที่มีกว่า 16 ปี เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายและช่วยส่งเสริมศักยภาพกลุ่มนักวิ่งให้ดียิ่งขึ้น” REV RUNNR (เรฟ รันเนอร์) เปิดบริการสาขาแรกทีเ่ ดอะมอลล์ โคราช เมือ่ ต้นปี 2559 ปัจจุบนั ให้บริการทัง้ สิน้ 5 สาขา รวมทัง้ เดอะ มอลล์ บางกะปิ เทอร์มนิ อล 21 เอ็มโพเรียม และสาขาล่าสุดที่ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นสาขาที่ให้บริการแบบครบวงจรด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เพื่อน�ำเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า REV RUNNR (เรฟ รันเนอร์) ให้ความส�ำคัญในการน�ำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ โดยเป็นร้านแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ใช้ RunTime treadmill (รันไทม์ เทรดมิลล์) ลูว่ งิ่ วิเคราะห์การลงน�ำ้ หนักเท้าเพือ่ น�ำผลวิเคราะห์มาแนะน�ำประเภทรองเท้าให้เหมาะกับรูปแบบการใช้งาน อาทิ รองเท้าทีร่ องรับการกระแทกแบบทัว่ ไปส�ำหรับ รูปเท้าธรรมดา (neutral), รองเท้าที่เสริมความมั่นคง รองรับการกระแทกส�ำหรับรูปเท้าแบน(stability),รองเท้าที่เน้น การท�ำความเร็วเหมาะส�ำหรับการแข่งขัน (racing) และรองเท้าที่ให้ความรู้สึกธรรมชาติ (minimal) REV RUNNR (เรฟ รั น เนอร์ ) คั ด สรรอุ ป กรณ์ กี ฬ าอาทิ อุ ป กรณ์ ส� ำ หรั บ สวมใส่ เ ล่ น กี ฬ าและเสื้ อ ผ้ า หลากสไตล์ ตั้งแต่หัวจรดเท้า จากแบรนด์กีฬาชั้นน�้ำระดับโลก อาทิ Under Armour (อันเดอร์ อาร์เมอร์), Vibram FiveFingers (ไวบรัม ไฟว์ฟงิ เกอร์ส), Asics (เอสิคส์), La Sportiva (ลา สปอติวา) และ Sof Sole (ซอฟ โซล) ซึง่ จะช่วยเสริมประสิทธิภาพ ของนักวิ่งตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับอาชีพ นายพรศักดิ์ กล่าวว่า “REV RUNNR (เรฟ รันเนอร์) มีความรูเ้ รือ่ งของการวิง่ เป็นอย่างดี เราจึงสามารถคัดเลือกผลิตภัณฑ์ และบริการที่หลากหลายที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง ทีมงานเทค เทรนเนอร์ และผู้เชี่ยวชาญ ล้วนเป็นนักวิ่งและมีความรู้ลึกซึ้งในเรื่องผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่ใช้ส�ำหรับการวิ่ง ลูกค้าสามารถเชื่อมั่นได้ว่าจะได้รับบริการ ทีม่ คี ณ ุ ภาพจากทีมงานมืออาชีพ โดย REV RUNNR (เรฟ รันเนอร์) เป็นมากกว่าร้านขายอุปกรณ์กฬี า แต่เป็นชุมชนนักวิง่ อย่างแท้จริง ที่ร่วมแบ่งปันประสบการณ์และอีเวนต์การวิ่งทั้งในและต่างประเทศ” ISSUE NO. 056/ January 2017
8
CSR
U-JUNCTION / MAGAZINE + ONLINE
กลุ่มอินทัชสร้างโอกาสทางการศึกษา มอบทุนนักเรียน-โรงเรียนจังหวัดน่าน
คุณฟิลิป มอบทุน การศึกษาเป็นรากฐานส�ำคัญสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน หากเด็กและเยาวชนได้รับ การศึกษาทีม่ คี ณ ุ ภาพ จะส่งผลให้เติบใหญ่เป็นพลเมืองทีม่ ศี กั ยภาพ มีพลังสร้างสรรค์ สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกให้กับสังคม และประเทศชาติ สอดคล้อง กับใจความส�ำคัญตอนหนึ่งในพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งพระราชทานแก่ครูและนักเรียนที่ได้รับพระราชทานรางวัล เมื่อวันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม 2524 ว่า “...การศึกษาเป็นปัจจัยส�ำคัญในการสร้างและพัฒนาความรู้ ความคิด ความประพฤติ และคุณธรรมของบุคคล สังคมและบ้านเมืองใดให้การศึกษาที่ดี แก่เยาวชนได้อย่างครบถ้วน ล้วนพอเหมาะกันทุกๆ ด้าน สังคมและบ้านเมืองนัน้ ก็จะมีพลเมืองมั่นคงของประเทศชาติไว้ และพัฒนาให้ก้าวหน้าต่อไปได้โดย ตลอด...” ด้วยปณิธานอันแรงกล้าของบริษทั ฯ ในการพัฒนาศักยภาพของเยาวชน การศึกษา ครอบครัว ชุมชน และสังคม ภายใต้แนวคิด “คนไทยแข็งแรง ประเทศไทยแข็งแรง” บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จ�ำกัด (มหาชน) จึงได้ด�ำเนินโครงการ “กลุ่มอินทัชสร้าง โอกาสทางการศึกษา” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา ให้ทั่วถึงมากขึ้น โดยร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจของอินทัชเพื่อกระจายพื้นที่รับผิดชอบ ในภูมภิ าคต่างๆ แบ่งเป็น บมจ อินทัช โฮลดิง้ ส์ (อินทัช) และบมจ.ซีเอส ล็อกซ อินโฟ (ซีเอสล็อกซ) มอบทุนในภาคเหนือ , บมจ.แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส (เอไอเอส) มอบทุนภาคใต้ และบมจ.ไทยคม (ไทยคม) รับผิดชอบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในปี 2559 อินทัชได้มอบทุนให้กับโรงเรียนในจังหวัดน่าน เนื่องจากโรงเรียน ส่วนใหญ่อยู่ในอ�ำเภอที่ห่างไกล นักเรียนในหลายโรงเรียนมาจากครอบครัวชาวเขา เผ่าต่างๆ และประสบปัญหาความยากจน การส่งเสริมให้เยาวชนในจังหวัดน่าน ISSUE NO. 056/ January 2017
เข้าถึงโอกาสที่เท่าเทียมทางการศึกษา จึงมีความส�ำคัญเป็นอย่างมากต่อการพัฒนา ศักยภาพของนักเรียน รวมถึงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัวได้อีกทางหนึ่ง อินทัชจึงได้ร่วมกับส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 1 และ 2 พิจารณามอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนในจังหวัดน่าน 20 โรงเรียน โดยคัดเลือก นักเรียนที่มีความประพฤติดี ตั้งใจเรียนแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อเป็นการขยาย โอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนจ�ำนวน 200 ทุน รวมทั้งมอบทุนสนับสนุนครู ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ มุ่งมั่น อุตสาหะ เพื่อเป็นขวัญและก�ำลังใจ ในการพัฒนาการเรียน การสอนให้เกิดประสิทธิภาพจ�ำนวน 20 ทุน และมอบทุน สนับสนุนโรงเรียนจ�ำนวน 20 ทุน เพือ่ น�ำไปใช้ประโยชน์ในกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน ซึ่งสามารถขยายผลออกไปยังชุมชนโดยรอบโรงเรียนอีกด้วย เช่น โครงการพัฒนา ระบบน�ำ้ ดืม่ สะอาดในโรงเรียนและชุมชน โครงการจัดการขยะและสิง่ แวดล้อมศึกษา และโครงการสร้างความมั่นคงทางอาหารตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมจ� ำ นวนทั้ ง หมด 240 ทุ น เป็ น เงิ น ทั้ ง สิ้ น 3,400,000 บาท นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษทั ยังได้มอบทุนการศึกษาให้กบั นักเรียน และครู เพิม่ เติมอีก 35 ทุน นายฟิลิป เชียง ชอง แทน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จ�ำกัด (มหาชน) กล่าวว่าอินทัช เชื่อเสมอว่า “การศึกษาเป็นรากฐานที่ส�ำคัญ ของการพัฒนาประเทศ หากเด็กและเยาวชนได้รับโอกาสที่ดีในการเข้าถึงการศึกษา ที่เท่าเทียมกันจะช่วยต่อยอดความรู้และทักษะที่จ�ำเป็นในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี โดยท�ำให้สถานะทางเศรษฐกิจของตนเองและครอบครัวดีขนึ้ เพราะ “การศึกษาคือ ชีวิต” และ “ชีวิตคือการศึกษา” อินทัชจึงภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้าง รากฐานทางการศึกษาที่มั่นคง แข็งแรง สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ขององค์การสหประชาชาติในด้านการจัดการศึกษาที่ได้คุณภาพอย่างเท่าเทียมและ ทั่วถึง และส่งเสริมโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิตแก่ทุกคน”
นร.ที่ได้รับทุน
CSR
U-JUNCTION / MAGAZINE + ONLINE
9
“SCG ธุรกิจพอเพียง”
อยู่รอดผ่านวิกฤติ เติบโตอย่างสมดุล และยั่งยืน
หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักคิดหลักปฏิบัติเพื่อความยั่งยืน อันเปี่ยมล้นคุณค่าที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรง พระราชทานแก่สังคมไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 แต่ไม่ได้มีการน�ำมาปฏิบัติ อย่างลึกซึ้ง จนกระทั่งเกิดวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2540 ซึ่งเอสซีจี เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวถึงเหตุการณ์ ครั้งนั้นว่า ขณะที่ประเทศไทยมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง เอสซีจีได้ เร่งลงทุนเพิ่มโดยกู้เงินจากต่างประเทศมาขยายกิจการเช่นเดียวกับหลายบริษัท ต่อมาเมือ่ วิกฤติเศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2540 ปะทุขนึ้ รัฐบาลประกาศอัตราแลกเปลีย่ น ลอยตัว ท�ำให้เอสซีมียอดเงินกู้สุทธิสูงขึ้นเป็นเท่าตัว พร้อมกับมีโครงการที่อยู่ ระหว่างการด�ำเนินงานอีกจ�ำนวนหนึ่งมูลค่าเท่าๆ กับหนี้สิน ส่วนยอดขายในกลุ่ม ธุรกิจกลับลดลงเพราะพิษเศรษฐกิจ ดังนั้น เพื่อน�ำพาองค์กรให้ผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจไปให้ได้เอสซีจีจึงน้อมน�ำ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ โดยเริม่ จากประเมินสถานการณ์ และปรับโครงสร้างองค์กรจากเดิมทีม่ ี 10 กลุม่ ธุรกิจ ให้เหลือ 3 กลุม่ ธุรกิจทีอ่ งค์กร มีความช�ำนาญ จากนั้นจึงระงับโครงการใหม่ทั้งหมดไว้ก่อน และเข้าไปเจรจากับ เจ้าหนี้ทุกคนอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงเพิ่มภูมิคุ้มกันแก่องค์กรด้วยการใส่ใจกับ นโยบายบริหารความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น เวลานั้นเอสซีจีมองว่าวิกฤติคงอยู่ต่อไป อีกนานพอสมควร เราจึงคิดโดยเน้นการแก้ปัญหาระยะยาว จนกระทั่งเข้าสู่ปีที่ห้า เอสซีจีจึงเริ่มกลับมามีก�ำไรและสามารถจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นได้อีกครั้ง ด้านนายยุทธนา เจียมตระการ ผูช้ ว่ ยผูจ้ ดั การใหญ่ - การบริหารกลาง เอสซีจี กล่าวเสริมในส่วนของนวัตกรรมและทรัพยากรบุคคลว่า ทุกวันนี้การแข่งขันจาก ภายในและภายนอกมีแต่จะเพิม่ ขึน้ เรือ่ ยๆ โดยเฉพาะในกลุม่ สินค้าอุปโภคบริโภคทีม่ ี การผลิตคิดค้นสินค้าใหม่ขนึ้ ตลอดเวลา หากจะแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพ เราจึงคิด แค่เรือ่ งการลดต้นทุนแบบเดิมๆ ไม่ได้อกี ต่อไปแล้ว แต่ตอ้ งค�ำนึงถึงการสร้างมูลค่าเพิม่ เพือ่ ต่อยอดธุรกิจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นส�ำคัญด้วย ตัวอย่างทีเ่ ป็น รูปธรรมคือในช่วง 2-3 ปีทผี่ า่ นมา เอสซีจไี ด้มงุ่ มัน่ พัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์สำ� หรับ ผูส้ งู อายุ ซึง่ ไม่ได้มกี ลุม่ ลูกค้าแค่ในประเทศไทยเท่านัน้ แต่สนิ ค้าของเรามีศกั ยภาพ ทีจ่ ะส่งขายไปยังประเทศอืน่ ๆ ด้วย โดยกระบวนการพัฒนาสินค้าและบริการทีม่ มี ลู ค่า
เพิม่ (HVA) จะต้องเริม่ จากการทบทวนตัวเอง จากนัน้ จึงมองหา โอกาสทางธุรกิจ ส�ำรวจสภาพแวดล้อมทัง้ ภายในและภายนอก ด้วยกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบนีเ้ อง ท�ำให้ปจั จุบนั เอสซีจี มียอดขายสินค้า HVA ใน 9 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2559 สูงถึง 120,000 ล้านบาท คิดเป็น 38% ของยอดขายทัง้ หมด ส่ ว นในเรื่ อ งทรั พ ยากรบุ ค คลนั้ น เอสซี จี จ ะเริ่ ม จาก วัตถุประสงค์หลักทางธุรกิจก่อน หากต้องการพัฒนาสินค้า HVA หรือขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ เราก็ตอ้ งย้อนกลับมาดูวา่ เราต้องการคนจ�ำนวนเท่าไร คนเหล่านัน้ ต้องมีประสบการณ์และ พืน้ ฐานการศึกษาอย่างไร หลังจากรับพนักงานใหม่เข้ามาแล้ว ก็ตอ้ งมีกระบวนการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ซึง่ เราจะถ่ายทอด องค์ความรู้ทั้งความส�ำเร็จและผิดพลาด วัฒนธรรมองค์กร ของเราคือพี่สอนน้อง เพื่อให้เกิดความผูกพันระหว่างหัวหน้า กับลูกน้อง และปลูกฝังกระบวนการท�ำงานร่วมกันเป็นทีม รวมถึงมีนโยบายหมุนเวียนให้พนักงานได้เรียนรูง้ านทีแ่ ตกต่าง จากสิง่ ทีเ่ คยท�ำด้วย ดร.อัจฉรา โยมสินธุ์ อาจารย์ภาควิชาการเงิน คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัย กรุงเทพ และทีป่ รึกษาศูนย์สถานศึกษาพอเพียง มูลนิธยิ วุ สถิรคุณ ส�ำนักงานทรัพย์สนิ ส่วนพระมหากษัตริย์ แบ่งปันแนวคิดเกีย่ วกับการด�ำเนินธุรกิจพอเพียงว่า การน้อมน�ำ แนวพระราชด�ำริมาใช้ในเชิงธุรกิจต้องเริม่ จากสองเงือ่ นไขพืน้ ฐานส�ำคัญ คือ ความรู้ และ คุณธรรม ความรูไ้ ม่ใช่แค่สงิ่ ทีอ่ ยูใ่ นต�ำรา แต่ตอ้ งมีความรอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง มีสติ ตลอดเวลาในการใช้ความรู้ และต้องมีคณ ุ ธรรม ซือ่ สัตย์ สุจริตเป็นเครือ่ งน�ำทาง ต่อมาคือ การปฏิบตั ติ ามหลักสามประการ หนึง่ เริม่ ทีพ่ อประมาณและท�ำความรูจ้ กั ตัวเองมากๆ เรามีทรัพยากรอะไรบ้างและเราจะสร้างความสมดุลได้อย่างไร ธุรกิจจะอยู่ยั่งยืนได้ถึง ร้อยปี ถ้าไม่รจู้ กั ตัวเองคงมาได้ไม่ไกลขนาดนี้ สอง มีเหตุมผี ล ต้องตอบตัวเองให้ได้วา่ เราท�ำ สิง่ นีเ้ พือ่ อะไร และมองเป้าหมายระยะยาวเป็นส�ำคัญ สาม มีภมู คิ มุ้ กันในตัวทีด่ ี สามารถ ยืนหยัดอยูท่ า่ มกลางความเปลีย่ นแปลงได้ หากท�ำตามนีพ้ นื้ ฐานธุรกิจเราจะแน่น จากนัน้ ความสมดุลอย่างยั่งยืนในสี่มิติ ได้แก่ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม จะเกิดขึน้ เองโดยอัตโนมัติ การวัดความส�ำเร็จของธุรกิจพอเพียง อันดับแรกเลยคือธุรกิจต้องอยูร่ อด แต่ไม่ใช่ เรือ่ งของการสร้างก�ำไรสูงสุดหรือสร้างความมัง่ คัง่ ให้แก่ผถู้ อื หุน้ เพียงอย่างเดียว เป้าหมาย ของธุรกิจพอเพียงต้องท�ำเพือ่ ทุกคนทีม่ สี ว่ นได้เสียกับองค์กร เช่น ชุมชนอยูไ่ ด้โดยไม่ประท้วง ขับไล่โรงงาน องค์กรสามารถกลมกลืนกับตลาดท้องถิน่ ในต่างประเทศได้ อย่างนีเ้ ป็นต้น สุดท้ายนี้ นายรุง่ โรจน์ รังสิโยภาส ได้กล่าวทิง้ ท้ายไว้วา่ องค์กรจะพัฒนาอย่างยัง่ ยืน ได้พนักงานต้องมีความยั่งยืนด้วย ทั้งหมดนีค้ ือเรือ่ งของวัฒนธรรมองค์กร ในด้านหนึ่ง องค์กรต้องหาวิธีดึงศักยภาพของพนักงานออกมาใช้อย่างเต็มที่ ส่วนอีกด้านหนึ่งเราก็ ต้องดึงคุณธรรมความดีของเขาให้แสดงออกมาด้วย และต้องยอมรับอย่างหนึง่ ว่าหลายๆ ธุรกิจของเอสซีจเี ป็นอุตสาหกรรมทีใ่ ช้ทรัพยากรธรรมชาติ ซึง่ มีความล่อแหลมอาจท�ำให้ เกิดปัญหากับสิง่ แวดล้อมและชุมชนได้ หากชุมชนไม่ตอ้ นรับเอสซีจจี ะไม่สามารถขยาย ธุรกิจออกไปได้เลยและคงไม่มใี ครอยากมาท�ำงานกับเรา เราจึงเน้นเรือ่ งวัฒนธรรมองค์กร ที่ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นอย่างมาก เรามีอุดมการณ์ 4 ประการที่ยึดถือมา ตัง้ แต่กอ่ ตัง้ บริษทั คือ ตัง้ มัน่ ในความเป็นธรรม มุง่ มัน่ ในความเป็นเลิศ เชือ่ มัน่ ในคุณค่า ของคน และถือมัน่ ในความรับผิดชอบต่อสังคม อีกทัง้ เรายังเปิดโอกาสให้พนักงานได้แสดง ความคิดเห็นและลงมือท�ำสิง่ ทีท่ า้ ทายอยูเ่ สมอ ปัจจัยเหล่านีจ้ ะท�ำให้องค์กรของเราพัฒนา อย่างยัง่ ยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสืบต่อไปได้ ISSUE NO. 056/ January 2017
อสังหาริมทรัพย์ บีทีเอส-แสนสิริ เผยโฉม “เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71”
10
U-JUNCTION / MAGAZINE + ONLINE
แล้วเสร็จ 100% ยอดโอน 60%
บีทเี อส-แสนสิริ เผยโฉม “เดอะ ไลน์ สุขมุ วิท71” แล้วเสร็จ 100% โครงการ แรกภายใต้บริษัทร่วมทุนที่จะเริ่มรับรู้ก�ำไร ล่าสุดมียอดโอนแล้วถึง 60% เผยมี ชาวต่างชาติสนใจซื้อโครงการนี้เพื่อพักอาศัยจ�ำนวนมากจนถึงเกือบเต็มโควต้า ซื้อต่างชาติ นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษทั บีทเี อส กรุป๊ โฮลดิง้ ส์ จ�ำกัด (มหาชน) หรือ BTS กล่าวว่า บีทีเอส กรุ๊ปฯ และ แสนสิริ ได้เปิดเผยโฉมโครงการ คอนโดมิเนียมที่แล้วเสร็จ 100% เป็นโครงการแรกภายใต้ความร่วมมือของสอง บริษทั ทีจ่ ะเริม่ รับรูก้ ำ� ไรในโครงการ “เดอะ ไลน์ สุขมุ วิท 71” โดยโครงการนีน้ บั เป็น คอนโดมิเนียมโครงการที่ 2 ที่เปิดการขายต่อเนื่องจากโครงการเดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต และสามารถปิดการขายได้ทันทีในวันพรีเซลล์ โดยประสบความส�ำเร็จ ทัง้ จากยอดขายตลาดต่างชาติ ฮ่องกง – สิงคโปร์ – ไต้หวัน ซึง่ ให้การตอบรับโครงการ นี้ถึงเกือบเต็มโควต้าซื้อต่างชาติ รวมถึงลูกค้าชาวไทยที่ให้ความเชื่อมั่นและตอบรับ อย่างดีตั้งแต่วันเปิดขายในช่วงต้นเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมาจนสามารถปิดการขาย โครงการจ�ำนวน 291 ยูนิต มูลค่า 2,000 ล้านบาทได้ทันที ปัจจุบันมียอดโอนแล้ว ถึง 60%
ส�ำหรับคอนโดมิเนียมโครงการ เดอะ ไลน์ สุขุมวิท71” เป็นคอนโดมิเนียม แบบไฮไรซ์ Fully Furnished ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Opportunity is Everything, Location is Everything” โอกาสทางธุรกิจและที่อยู่อาศัยในอนาคต ด้วยศักยภาพ โครงการที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS พระโขนงเพียง 400 เมตร และเส้นทางต่างๆ ทีเ่ ชือ่ มต่อโซนส�ำคัญได้รอบด้าน รวมทัง้ ยังเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ทใี่ กล้ยา่ น เอกมัยและทองหล่อ ซึง่ ปัจจุบนั พร้อมโอนให้ลกู ค้าเข้าพักอาศัยหรือลงทุนปล่อยเช่า โดยมียอดโอนแล้วถึง 60 % โดยหลังจากนี้ บีทเี อส กรุป๊ ฯ และแสนสิรจิ ะเตรียมเปิดตัว โครงการ เดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต ซึ่งจ่อคิวแล้วเสร็จเป็นโครงการต่อไปในช่วง ปลายปี 2560 ISSUE NO. 056/ January 2017
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จ�ำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กล่าวว่า คอนโดมิเนียมภายใต้ความร่วมมือกับบีทีเอส กรุ๊ปฯ ทุกโครงการ ยังประสบความส�ำเร็จด้านยอดขายในตลาดต่างชาติ ซึ่งมาจากการที่ลูกค้าให้ความ เชือ่ มัน่ ในจุดแข็งด้านการเป็นผูน้ ำ� การพัฒนาทีอ่ ยูอ่ าศัยของแสนสิริ ผนึกศักยภาพของ กลุม่ บริษทั บีทเี อส ในฐานะผูเ้ ชีย่ วชาญด้านการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนซึง่ เป็นทีร่ จู้ กั ของชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวฮ่องกงเป็นอย่างดี โดยการโรดโชว์ทฮี่ อ่ งกงทุกโครงการ มีลกู ค้าชาวฮ่องกงให้ความสนใจโครงการและเข้าร่วมงานโรดโชว์จำ� นวนมาก ส่วนหนึง่ มาจากความมีชอื่ เสียงและการเป็นทีร่ จู้ กั เป็นอย่างดีของคุณคีรี กาญจนพาสน์ ประธาน กรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จ�ำกัด (มหาชน) ในกลุ่มลูกค้าชาวฮ่องกง ซึง่ ให้ความไว้วางใจและเชือ่ มัน่ คุณคีรเี ป็นอย่างมาก จนส่งผลให้สามารถสร้างยอดขาย โครงการจากลูกค้าต่างชาติได้เป็นจ�ำนวนมาก” นายเศรษฐา กล่าว
ส�ำหรับในปีนี้แสนสิริ ตั้งเป้าหมายรายได้คอนโดมิเนียมในปี 2559 ไว้ที่ 20,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายรวมกับการที่บริษัทเริ่มมีรายได้จากการ บริหารโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส ทั้งนี้ล่าสุดบริษัทมีรายได้จาก คอนโดมิเนียมแล้วประมาณ 15,000 ล้านบาท เติบโตจากการทยอยรับรู้รายได้จาก โครงการคอนโดมิเนียมทีท่ ยอยโอนทัง้ ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อาทิ The XXXIX’ (เดอะ เทอร์ทไี นน์), ดีคอนโด รังสิต, ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท บางแสน, บ้านปลายหาด วงอมาตย์ พัทยา, ดีคอนโด นิม เชียงใหม่ รวมถึงล่าสุดยังได้เตรียมโอนโครงการ คอนโดมิเนียมเอดจ์ สุขุมวิท 23 (EDGE Sukhumvit 23) ในเดือนธันวาคมนี้ นอกจากนี้ปัจจุบันแสนสิริและบริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส ยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Presale backloq) ทีร่ องรับการรับรูร้ ายได้ในอีก 4 ปีขา้ งหน้าแล้วประมาณ 38,300 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดขายรอรับรู้รายได้ของแสนสิริ 17,600 ล้านบาท และ ยอดขายรอรับรู้รายได้ของบริษัทร่วมทุนกับบีทีเอสอีก 20,700 ล้านบาท ล่าสุด แสนสิริและบีทีเอส ยังประสบความส�ำเร็จจากการเปิดขายเดอะ ไลน์ 2 โครงการใหม่ ได้แก่ “เดอะ ไลน์ พหลฯ – ประดิพัทธ์” ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าคนไทยสนใจ ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง และ“เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101” ที่สามารถสร้างยอดขายจาก ลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่และสนใจซื้อเพื่อลงทุน รวมทั้งสามารถสร้างยอดขายจากตลาด ต่างชาติได้รวมกว่า 1,000 ล้านบาท หลังเปิด Global Launch พร้อมกันใน 6 ประเทศ เอเชีย ได้แก่ ฮ่องกง-สิงคโปร์-ไต้หวัน-จีน-มาเลเซีย และไทย โดยทั้ง 2 โครงการ มีดีมานด์สูงตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดโครงการ เพราะอยู่ในท�ำเลเมือง ใกล้รถไฟฟ้าและ ความส�ำเร็จจากแนวคิดการอยู่อาศัยแบบ “Co-Living Space” ซึ่งนับเป็นครั้งแรก ในไทยกับคอนโดมิเนียมท�ำเลเมืองที่จัดเต็มพื้นที่ให้สามารถแบ่งปันความสุขร่วมกัน ในทุกพื้นที่ใช้สอย ส่งผลให้เปิดพรีเซลล์ 2 วัน สามารถสร้างยอดขายได้รวมกว่า 4,000 ล้านบาท
ยานยนต์
U-JUNCTION / MAGAZINE + ONLINE
11
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ต่อสัญญาธนบุรีประกอบรถยนต์ พร้อมเผยยอดประกอบรถยนต์ในไทยครบ 100,000 คัน
ภาพหมู่ผู้บริหาร
มร.อันเดรอัส เลทเนอร์ และนายวีระชัย เชาว์ชาญกิจ
บริษทั เมอร์เซเดส-เบนซ์ แมนูแฟคเจอริง่ (ประเทศไทย) ประกาศต่อสัญญาการผลิตกับ บริษทั ธนบุรปี ระกอบรถยนต์ จ�ำกัด ในฐานะผูป้ ระกอบรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน พร้อมเปิดเผยความส�ำเร็จกับยอดประกอบรถยนต์ในประเทศไทยครบ 100,000 คัน หลังจากเดินหน้า ขยายสายการผลิตใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง มร. อันเดรอัส เลทเนอร์ ประธานบริหาร บริษทั เมอร์เซเดส-เบนซ์ แมนูแฟคเจอริง่ (ประเทศไทย) จ�ำกัด กล่าวถึงการด�ำเนินงานด้านการประกอบรถยนต์ในประเทศไทยว่า “เราก�ำลังเดินหน้าตามแผนงานที่จะสร้างสถิติใหม่ด้วยการประกอบรถยนต์ในประเทศไทย 9,000 คันในปีนี้ เราให้ความส�ำคัญกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ระดับโลก และมุ่งมั่นที่จะเพิ่มก�ำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในประเทศไทย ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เรามีพันธมิตรที่ทั้งแข็งแกร่ง และไว้วางใจได้อย่าง บริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ จ�ำกัด ซึ่งมีบทบาทส�ำคัญต่อความส�ำเร็จของเรา และนั่นคือเหตุผลที่เราได้ตัดสินใจสานต่อความร่วมมือที่ดีเช่นนี้ต่อไป” ประเทศไทย เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้แต่งตั้งให้บริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ จ�ำกัด เป็นพันธมิตรด้านการผลิตมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 และล่าสุด บริษัทฯได้ด�ำเนินการ ต่อสัญญากับบริษทั ธนบุรปี ระกอบรถยนต์ จ�ำกัด ให้เป็นผูป้ ระกอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการต่อไป ตลอดระยะเวลาทีผ่ า่ นมา บริษทั ธนบุรี ประกอบรถยนต์ จ�ำกัด ได้ร่วมมือกับบริษัทฯ เป็นอย่างดีในการเดินหน้าประกอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมทั้งเปิดสายการผลิตใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องจนครอบคลุมทั้งกลุ่ม Compact Car, Contemporary Luxury, Dream Car และ SUV รวมถึงการน�ำเสนอเทคโนโลยีลา่ สุดอย่าง เทคโนโลยีปลัก๊ อินไฮบริด ในกลุม่ ELECTRIC INTELLIGENCE by Mercedes-Benz ในรถยนต์ 3 รุ่น ได้แก่ S 500 e C 350 e และ GLE 500 e 4MATIC มร.ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษทั เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จ�ำกัด กล่าวว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ด�ำเนินงานด้วยความความมุง่ มัน่ อย่างต่อเนือ่ ง ที่จะน�ำเสนอ “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้กับลูกค้าของเรา ทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราไม่เคยหยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์ยนตรกรรมรุ่นใหม่ๆ ที่สามารถ ตอบสนองทุกความต้องการและทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า การต่อสัญญาการประกอบรถยนต์ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทฯเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดรถยนต์นั่ง ในประเทศไทย ปัจจุบนั เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) น�ำเสนอรถยนต์รนุ่ ประกอบในประเทศถึง 16 รุน่ ด้วยกัน ทัง้ นีเ้ พือ่ เพิม่ ทางเลือกให้กบั ผูบ้ ริโภคได้มากขึน้ โดยเฉพาะ รุ่นปลั๊กอินไฮบริดใน C-Class และ S-Class ที่เปิดตัวเมื่อช่วงต้นปีพ.ศ. 2559 และล่าสุดคือรุ่น GLE 500 e 4MATIC Exclusive และ GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic” ความส�ำเร็จครั้งส�ำคัญจากยอดการประกอบรถยนต์ในประเทศไทยครบ 100,000 คันในครั้งนี้ เกิดจากการท�ำงานอย่างสอดประสานกันระหว่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) และเมอร์เซเดส-เบนซ์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) ในการศึกษาและคาดการณ์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง และคัดเลือกรุ่นรถยนต์ที่ด�ำเนินการ ประกอบภายในประเทศจนสามารถน�ำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุด รวมถึงมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่างๆ ของรถให้เหมาะสมกับ สภาพท้องถนนตลอดจนลักษณะการขับขี่และการใช้งานในเมืองไทย นอกจากนี้ ยอดการผลิตดังกล่าวยังเป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีถึงมาตรฐานและประสิทธิภาพที่ดี เยี่ยมของการผลิตในเมืองไทย
รถยนต์ประกอบในประเทศไทยคันที่ 100,000
นายวีระชัย เชาว์ชาญกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ จ�ำกัด กล่าวถึง ความร่วมมือในการท�ำหน้าที่ผู้ประกอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในประเทศไทยว่า “เรารู้สึก ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจให้ร่วมงานกับทั้ง เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) และ เมอร์เซเดส-เบนซ์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) โดยความส�ำเร็จจากยอดการประกอบรถยนต์ครบ 100,000 คันในครัง้ นี้ เป็นเสมือนพันธสัญญาว่า ธนบุรปี ระกอบรถยนต์จะมุง่ มัน่ กับ แนวทางการพัฒนา โรงงานและบุคลากรให้มีประสิทธิภาพเพื่อรองรับความต้องการรถยนต์ประกอบในประเทศของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ” ปัจจุบัน บริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ จ�ำกัด มีโรงงานประกอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ 1 แห่ง โดยมีแผนงานที่จะขยายโรงงานแห่งนี้พร้อมทั้งเปิดโรงงานเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่งในปี 2560 ปัจจุบัน สายการผลิตของธนบุรีประกอบรถยนต์ครอบคลุมรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์หลายหลายรุ่นทั้ง C-Class, E-Class, S-Class, GLE, GLA, CLA, GLC และ C-Class Coupe ในปี 2558 ธนบุรี ประกอบรถยนต์สามารถประกอบรถยนต์ให้กับเมอร์เซเดส-เบนซ์รวมทั้งสิ้น 8,000 คัน ISSUE NO. 056/ January 2017
12
U-JUNCTION / MAGAZINE + ONLINE
การศึกษา-เยาวชน
เด็กพิทยาลงกรณ์ คว้าแชมป์ประกวดแผนธุรกิจ โครงการส่งเสริมทักษะการเงินและอาชีพส�ำหรับเยาวชน
“น้ อ งฟ้ า ” ด.ญ.วรรณดี แก้ ว กระจ่ า ง นั ก เรี ย นชั้ น มั ธ ยมศึ ก ษาปี ที่ 3 โรงเรียนพิทยาลงกรณ์ ตัวแทนจากชมรมไอศครีม เล่าให้ฟังว่า โครงการนี้เป็น โครงการที่ดี เปิดโอกาสให้เราเริ่มต้นท�ำธุรกิจ สินค้าที่เลือกมาประกวดในครั้งนี้คือ ไอศครีมปลาหมึก ที่เลือกท�ำไอครีมเพราะเป็นคนชอบทานไอศครีม วัตถุดิบหาง่าย และขั้นตอนการท�ำไม่ยุ่งยาก
ยิ้มแก้มปริกันไปส�ำหรับน้องๆ นักเรียนที่คว้ารางวัลการประกวดแผนธุรกิจ ภายใต้ โ ครงการส่ ง เสริ ม ทั ก ษะการเงิ น และอาชี พ ส� ำ หรั บ เยาวชนที่ ท างมู ล นิ ธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (CCF) มูลนิธิ CiTi Foundation (CiTi) และวิทยาลัยบริหารธุรกิจ เชิงนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อ ส่งเสริมการสร้างอาชีพ และแนวคิดการเป็นผู้ประกอบการให้แก่เยาวชน โดยมี ดร.พะโยม ชิณวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นประธาน ในการแข่งขัน
โดยการแข่งขันครั้งนี้ได้สนับสนุนนักเรียนที่เป็นสมาชิกของชมรมต่างๆ ให้เห็น ถึงความส�ำคัญของการจัดท�ำแผนธุรกิจและการเริ่มต้นเป็นผู้ประกอบการเยาวชน อีกทัง้ ยังเป็นเวทีให้นกั เรียนได้แสดงความสามารถในการเรียนรูแ้ ละการท�ำแผนธุรกิจ อย่างครบวงจร เรียนรู้ตั้งแต่กระบวนการ เส้นทางของการผลิตสินค้า การเงิน และการลงทุน รวมถึงเรียนรู้ในเรื่องของการตลาดและการน�ำเสนอผลิตภัณฑ์ให้มี ความโดดเด่นและน่าสนใจ โดยมีนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันประกวดแผนธุรกิจกว่า 60 คน จาก 15 ทีม ผลการแข่งขันปรากฎว่า รางวัลชนะเลิศ ตกเป็นของโรงเรียนพิทยาลงกรณ์ ประกอบด้วยด.ญ.วรรณดี แก้วกระจ่าง และ ด.ช.วีระยุทธ ประจุสมัย ส่วนรางวัล รองชนะเลิศอันดับ 1 เป็นของโรงเรียนมัธยมวัดหนองแขม ประกอบด้วย ด.ญ.ภัทร ด้วงมั่ง ด.ญ.ชญาดา บุญสุขศรี ด.ญ.สุธิดา เจริญศิริ และ ด.ญ.ปานวลี คชทอง และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เป็นของโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐม ประกอบด้วย ด.ช.ภานุวัฒน์ ชัยบุญเรือง นายตติยะ พรกฤษดานันท์ และ นายชัยวัฒน์ ไชยกุล ISSUE NO. 056/ January 2017
“ก่อนที่ไอศครีมปลาหมึกจะลงตัวได้ก็ผ่านการลองผิดลองถูกมาหลายครั้ง หลายคนที่ ไ ด้ ชิ ม บอกว่ า อร่ อ ย จึ ง เริ่ ม ต้ น ท� ำ อย่ า งจริ ง จั ง โดยวางขายไอศครี ม ทีร่ า้ นสหกรณ์โรงเรียน ไม่คดิ ว่าการประกวดแผนธุรกิจครัง้ นีท้ มี เราจะชนะ แค่ทำ� ให้ เต็มที่แค่นี้ก็ดีใจและภูมิใจมากๆ แล้ว” น้องฟ้า กล่าว
ด้ า น ด.ญ.ภั ท รพร ด้ ว งมั่ ง นั ก เรี ย นชั้ น มั ธ ยมศึ ก ษาปี ที่ 3 โรงเรี ย น วัดหนองแขม จากชมรมเพาะเห็ด ที่คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 กล่าวว่า โรงเรียนได้สอนพื้นฐานการเพาะเห็ดตั้งแต่ ม.1 โดยมีการเรียนเรียนสอนเป็นชั่วโมง อิสระให้เลือกเรียน จึงรวมตัวกันเปิดเป็นชมรมเพาะเห็ดขึ้น “ที่เราเลือกเพาะเห็ด เพราะว่าเห็ดเป็นสิ่งที่หาทานง่าย เพาะพันธุ์ง่าย เรามี อุปกรณ์ที่สามารถเพาะเห็ดอย่างสะดวกสบาย และคิดว่าเห็ดน่าจะสร้างมูลค่า ให้กับเราได้ จึงเริ่มเพาะเห็ดขายอย่างจริงจัง ซึ่งส�ำหรับเด็กๆ อย่างเราเป็นเรื่อง สนุกและท้าทายมาก พวกเราเริ่มตั้งแต่การเขี่ยเชื้อ ท�ำหัวเชื้อเป็นเมล็ดธัญพืช ท� ำ ก้ อ นเชื้ อ เห็ ด ฯลฯ การท� ำ แผนธุ ร กิ จ เราก็ ไ ด้ น�ำ เอาความรู ้ อ าจารย์ ไ ด้ ส อน ในชัน้ เรียนมาปรับใช้ดว้ ย ในอนาคตจะเพิม่ มูลค่าของผลิตภัณฑ์ให้มคี วามหลากหลาย โดยน�ำผลิตภัณฑ์มาแปรรูปเป็นเห็ดทอด และน�ำมาจ�ำหน่ายควบคู่กันไป”
การศึกษา-เยาวชน
U-JUNCTION / MAGAZINE + ONLINE
13
วินเฉลิมพระเกียรติคว้ารางวัลหมวกทองค�ำ จากโครงการสวมหมวกกันน็อก-คลุมผมฯ
จากโครงการสวมหมวกนิรภัย 100 % ของมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ จนกระทั่งได้มีการขยายผลไปยังจักรยานยนต์สาธารณะในการสวมหมวกคลุมผม ก่อนสวมหมวกนิรภัยเพื่อเพิ่มจ�ำนวนการสวมหมวกนิรภัยในจักรยานยนต์สาธารณะของผู้รับบริการ โดยรอบมหาวิทยาลัยมีจักรยานยนต์สาธารณะ จ�ำนวน 16 วิน และ มีผู้ให้บริการถึงจ�ำนวน 520 คัน ทั้งนี้ กิจกรรมการสวมหมวกคลุมผมก่อนสวมหมวกนิรภัยเป็นการท�ำงานร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ อ�ำเภอบางพลี สถานีต�ำรวจภูธรบางพลี องค์การบริหารส่วนต�ำบลบางโฉลง ก�ำนันต�ำบลบางโฉลง สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ ชุดปฏิบัติการกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 21 รักษาพระองค์ประจ�ำศูนย์ด�ำรงธรรม อ�ำเภอบางพลี ชมรมจักรยานยนต์สาธารณะ และวินจักรยานยนต์สาธารณะทัง้ 16 วิน ด้วยความตัง้ ใจของทุกหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้องในการร่วมมือกันสร้างสังคมความปลอดภัย ในชุมชนของเรา และยังแสดงถึงความรับผิดชอบทีม่ ตี อ่ สังคม ในกิจกรรมมีการมอบหมวกคลุมผมก่อนสวมหมวกนิรภัย และมอบหมวกนิรภัยให้เป็นหมวกนิรภัยกลางส�ำหรับวิน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการซื้อหมวกคลุมผมก่อนสวมหมวกนิรภัยจาก คุณวิศิษฏ์ คชสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท ฟูจิ ทัสโก้ จ�ำกัด และ คุณสืบพงศ์ สุขแก้ว เจ้าของหอพัก SK.Home และหลังจากด�ำเนินกิจกรรมได้ระยะหนึง่ ได้มกี ารประเมินผลการให้บริการของจักรยานยนต์สาธารณะเพือ่ ส่งเสริมพฤติกรรมทีเ่ หมาะสม และเป็นก�ำลังใจให้กบั ผูท้ ปี่ ฏิบตั ิ หน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ใส่ใจในสวัสดิภาพ อันแสดงถึงการมีความรับผิดชอบต่อสังคม จึงมีการออกแบบสอบถามพร้อมกับท�ำการเก็บข้อมูลทัศนคติของผู้ให้บริการและ ผู้ใช้บริการจักรยานยนต์สาธารณะเกี่ยวกับการสวมหมวกนิรภัย การสวมหมวกคลุมก่อนสวมหมวกนิรภัย และความพึงพอใจของผู้รับบริการต่อการให้บริการของผู้ขับขี่ จักรยานยนต์สาธารณะ เรื่อง ความสะอาดของเครื่องแต่งกาย ความสะอาดของ หมวกนิรภัย มารยาทในการขับขี่ การสวมหมวกนิรภัย มารยาทในการให้บริการ โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนและนักศึกษาที่เป็นผู้ใช้บริการกับวิน จ�ำนวน 16 วิน รอบมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ โดยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยฯ สถาบันพระปกเกล้า และเก็บข้อมูลในพื้นที่โดย ทหาร ร้อย .รส.ร 21 พัน 2 รอ. ประจ�ำศูนย์ด�ำรงธรรมอ�ำเภอบางพลี ส�ำหรับผลการประเมินวินจักรยานยนต์สาธารณะที่มีคะแนนสูงสุดได้รับ คะแนนในการประเมินความพึงพอใจจากผู้รับบริการสูงสูดคือ 4.85 (มากที่สุด) จากคะแนนเต็ม 5 สมควรที่จะได้รับรางวัล “หมวกทองค�ำ” คือ วินจักรยานยนต์ สาธารณะเฉลิมพระเกียรติ โดยจะได้รับรางวัลประกอบด้วย หมวกทองค�ำ เกียรติบัตร และป้าย “วินหมวกทองค�ำ” ISSUE NO. 056/ January 2017
14
U-JUNCTION / MAGAZINE + ONLINE
Sport Special
เรื่อง : นุ ไร่ส้ม
2 ทีมชาติ ลิ่วชิง ‘ลิโพ กอล์ฟ ทีม 2016’
ทีมเต็งพาเหรดผ่านเข้ารอบตามคาด
ถ่ายรูปร่วมกันก่อนแข่งขัน
2 ทีมชาติคนเก่ง สดมภ์ แก้วกาญจนา-กันยลักษณ์ ปรีดาสุทธิจิตต์ พร้อม โปรปฤณ ศิริสมหมาย แชมป์เก่า ปี 2011 ยังไม่พลาด น�ำทีมผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้ส�ำเร็จ ในศึก “ลิโพ กอล์ฟทีม ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2016” ชิงเงินรางวัล 2.5 ล้านบาท รอบคัดเลือกสนามที่ 1 ณ สนามสวนสนประดิพัทธ์ จ.ประจวบคิรีขันธ์ บริษัท โอสถสภา จ�ำกัด และบรรดาพันธมิตร จัดการแข่งขัน ลิโพ กอล์ฟทีม ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2016 ชิงเงินรางวัล 2.5 ล้านบาท เป็นปีที่10 โดยมี นายประวาล โรจนพฤกษ์ ผู้บริหารเครื่องดื่มลิโพ และ พ.อ.ณัฐเดช จันทรางศุ ผู้จัดการศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบกสวนสนประดิพัทธ์ เป็นประธานในงาน ทีมที่ผ่านรอบคัดเลือกสนามแรก อาทิ โปรวรัญญู รัตนไพบูลย์กิจ-ปิติลักษณ์ พนมชัย (กอล์ฟเอ็กซ์เซล สคูล), โปรพีร์ หิรัญวิวัฒน์-กรธณมงคล จันทร์มูสิก (ร.ร.ธัญบุรี), โปรชยกร เหรียญทองค�ำ-อิทธิกร สายสระสรง (ร.ร.สมถวิล วิเทศศึกษา), สดมภ์ แก้วกาญจนา-วิชยานนท์ โชติหิรัญรุ่งเรือง (ร.ร.หอวัง), โปรนิติธร-พิสิฐชัย ทิพย์พงษ์ (เลควิว กอล์ฟ), โปรจักรพันธ์ เปรมสิริกรณ์-กันยลักษณ์ ปรีดาสุทธิจิตต์ (ปัตตาเวีย เซ็นจูรีย์ กอล์ฟ), โปรปฤณ ศิริสมหมาย -รุ่งคุณ ดิษยสุต (วอเตอร์มิลล์), โปรชาญ วงศ์ลือเกียรติ์-เบนซ์ เพศประเสริฐ (ฟิฟตี้โฟว์ ดีกรี กอล์ฟ สคูล), ส่วนรอบชิงชนะเลิศ หรือรอบแบ่งเงินรางวัล จะชิงชัยวันจันทร์ที่ 6 มี.ค. 60 ณ สนามกอล์ฟไทยคันทรีคลับ จ.ฉะเชิงเทรา ทีมชนะเลิศจะได้เงินรางวัล 1 ล้านบาท ทุกทีมจะได้รับเงินรางวัลตามล�ำดับที่ก�ำหนด ทัวร์นาเม้นท์ นีไ้ ด้รบั การสนับสนุนจากบริษทั โอสถสภา จ�ำกัด, บริษทั ปตท. จ�ำกัด (มหาชน), บริษทั แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จ�ำกัด, บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จ�ำกัด, บริษัท ซูพเพอะฮิท จ�ำกัด, บริษัท แดทโซ เอเซีย คอร์ปอเรชั่น จ�ำกัด
นักกอล์ฟคนดัง พร้อมใจลงแข่งขันคับคั่ง
เติมพลังก่อนลงแข่งขัน
รายงานตัวเรียบร้อย
เพาะกายปลื้มคว้าถ้วยรวมศึกชิงแชมป์โลก
นักเพราะกายไทย รวมใจคว้าถ้วยรวมได้สำ� เร็จ
กฤตกร ทองแสง (กลาง) คว้าแชมป์โลก สปอร์ต ฟิสิค ชาย
“เควิน” วันชัย กาญจนพิมาย (กลาง) แชมป์สมัยที่ 7 ฟิตเนสชาย
อีก 1 แชมป์จาก สาคร มาตรวังแสง ISSUE NO. 056/ January 2017
นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิ ด เผยว่ า การแข่ ง ขั น กี ฬ าเพาะกายและฟิ ต เนสชิ ง ชนะเลิ ศ แห่ ง โลก 2016 ที่ ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ ซี โรงแรมแอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา ซึ่งมี 57 ชาติ เข้าแข่งขัน ได้ปดิ ฉากลงเรียบร้อยด้วยความส�ำเร็จของนักกีฬาไทย ซึง่ ได้มา 13 ทอง 13 เงิน 6 ทองแเดง จากนักกีฬาทั้งหมด 58 คน และได้รางวัลถ้วยคะแนนรวมยอดเยี่ยม โดย ทีมชาย เป็นสมัยที่ 2 ทีมหญิงเป็นสมัยที่ 3 “ส�ำหรับ 13 ทอง มาจากเพาะกาย ชาย รุน่ น�ำ้ หนักไม่เกิน 65 กก. สมคิด สุเมโธเวชกุล แชมป์โลกสมัยที่ 5 ฟิตเนสหญิง ความสูงไม่เกิน 160 ซม.นงเยาว์ โกสีนาม แชมป์โลก สมัยที่ 2 ฟิตเนสหญิง ความสูงเกิน 165 ซม. รุ้งตะวัน จินดาซิงห์ คว้าแชมป์โลกเป็น สมัยที่ 5 เพาะกาย มาสเตอร์ ชาย รุ่นอายุ 50-59 ปี สาคร มาตรวังแสง เพาะกายชาย รุ่นน�้ำหนักไม่เกิน 75 กก. สุวิทย์ เกตุจินสา ฟิตเนสชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 170 ซม. “เควิน”วันชัย กาญจนพิมาย แชมป์สมัยที่ 7 ฟิตเนสชาย รุ่นความสูงเกิน 170 ซม. พ.จ.ท.ด�ำรงศักดิ์ สร้อยศรี แชมป์โลกสมัยที่ 3 โมเดลฟิสิคหญิง รุ่นความสูงไม่เกิน 165 ซม.วันวิสา สังขริม แชมป์โลกสมัยที่ 2 สปอร์ต ฟิสิค ชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 175 ซม. สหรัฐ เคลือบมาศ แชมป์โลกครั้งแรก แอธเลติค ฟิสิค ชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 160 ซม. กิตติพงศ์ จันสุวรรณ และ สปอร์ต ฟิสิค ชาย รุ่นความสูงเกิน 180 ซม.“ต็อบ” กฤตกร ทองแสง นักแสดงจากเรื่องแม่เบี้ย คว้าแชมป์โลก ครั้งแรก ถือว่าผลงานของ นั กกี ฬาไทยยอดเยี่ ย มเพราะมี ทั้งการรั ก ษาแชมป์ แ ละมี แ ชมป์ โ ลกหน้ า ใหม่ เ กิ ด ขึ้ น
รุง้ ตะวัน จินดาซิงห์ คว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 5
สมคิด สุเมโธเวชกุล แชมป์โลกสมัยที่ 5
ส่วนรองแชมป์โลกก็เป็นดาวรุ่งดวงใหม่ หนึ่งในนั้นก็คือราชวัตร แก้วปัญญา อดีตราชายิมนาสติก” “ส�ำหรับในปีหน้า ยังจะมีโปรแกรมแข่งขันเพาะกายและฟิตเนสหลายรายการ โดยจะมีศกึ ชิงแชมป์เอเชีย ทีเ่ กาหลีใต้ ในเดือนส.ค.และชิงแชมป์โลก ที่มองโกเลีย รอก�ำหนดช่วงแข่งขันก่อน ซึ่งทางสมาคมฯ ตั้งเป้ารักษาแชมป์ให้ได้”
Bunterng Report
U-JUNCTION / MAGAZINE + ONLINE
เรื่อง : กบเทวดา
15
มอสคลีน เครื่องดักจับยุง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เครื่องดักจับยุง มอสคลีน เปิดตัวเข้าร่วมงาน การประชุมวิชาการนานาชาติเวชศาสตร์ เขตร้อน ประจ�ำปี 2559 (JITMM 2016) ชูจุดเด่น เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะไม่มีสารปรอทหรือ สารเคมีที่ท�ำให้เกิดอันตราย พร้อมคุณสมบัติการก�ำจัดกลิ่นได้ครบครัน ด้วยการท�ำงานจากปฏิกิริยา สังเคราะห์แสงของหลอด แอลอีดี และผ่านการกรองจากเครื่องเคลือบ ซึ่งย่อยสลายมลพิษในอากาศ ได้เป็นอย่างดี คณะเวชศาสตร์เขตร้อน ม.มหิดล ร่วมกับ SEAMEO TROPMED Network จัดการประชุมวิชาการ นานาชาติเวชศาสตร์เขตร้อน ประจ�ำปี 2559 Joint International Tropical Medicine Meeting 2016 (JITMM 2016) ในหัวข้อ "Uncover Asian Tropical Medicine" ณ โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพมหานครฯ ในโอกาสนี้ บริษัท โซล ไวโอซิส จ�ำกัด น�ำโดย มร. เจเอ็ม คิม รองประธานกรรมการ บริษัท โซล ไวโอซิส จ�ำกัด, มร. ริกกี้ อิม ผู้อ�ำนวยการฝ่ายขายฯ และ มิส ยางชิน ยี ผู้อ�ำนวยการฝ่ายขาย ต่างประเทศฯ ได้น�ำผลิตภัณฑ์ มอสคลีน เครื่องดักจับยุง เข้าร่วมเปิดบูธในครั้งนี้ เพื่อแนะน�ำ ให้คนไทยได้รู้จักกัน มร. เจเอ็ม คิม เผยว่า นับเป็นโอกาสดี ที่คนไทยจะมีโอกาสได้รู้จักกับ ผลิตภัณฑ์เครื่องดักจับยุง มอสคลีน ซึง่ ครอบครัวของท่าน จะปราศจากการรบกวนจากยุงแน่นอน เพราะได้รบั การพิสจู น์แล้วว่า มีประสิทธิภาพในการก�ำจัดยุง โดยใช้ ยูวี แอลอีดี เป็นการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และกระจาย ความร้อน ซึง่ มีประสิทธิภาพมากกว่า เมือ่ เทียบกับหลอดไฟปรอทก�ำจัดยุงทัว่ ไป ใช้งานง่าย ไม่ยงุ่ ยาก ในการติดตั้ง และยังง่ายต่อการท�ำความสะอาด ซึ่งเหมาะแก่การใช้ในชีวิตประจ�ำวันเป็นอย่างมาก ผลิตภัณฑ์ มอสคลีน เป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม เพราะไม่มสี ารปรอทหรือสารเคมีทที่ ำ� ให้เกิดอันตราย ใช้ระบบ แอลอีดี พลังงานต�่ำ รวมทั้งยังประหยัดและง่ายต่อการใช้งานอีกด้วย
3 ผู้บริหาร บ.โซล ไวโอซิส
3 ผู้บริหาร กับผลิตภัณฑ์ มอสคลีน
มร. เจเอ็ม คิม รองประธานกรรมการ บริษัท โซล ไวโอซิส จ�ำกัด
มร. ริกกี้ อิม ผู้อ�ำนวยการฝ่ายขายฯ
มิส ยางชิน ยี ผู้อ�ำนวยการฝ่ายขายต่างประเทศฯ
หนังสือและดอกไม้ กุหลาบลัลตรา lantrarose@gmail.com
สวัสดีปีใหม่..มั่งมีศรีสุข สดชื่นสมดั่งใจหวังและความฝัน ทุกประการ ปฏิทินก้าวตามรอยเท้าพ่อ ปฏิทินในหลวงแบบตั้งโต๊ะ รูปลักษณ์สวยงาม บรรจุในแพ็คเกจ ดีไซน์ เก๋ไก๋ ใช้เป็น ปฏิ ทิ น แขวน ใช้ ด ้ า นหนึ่ ง ดู เ ดื อ นและวั น อี ก ด้ า นดู ภ าพ สาทิ ส ลั ก ษณ์ พ ร้ อ มพระบรมราโชวาทที่ ต รั ส ในวาระต่ า งๆ นับเป็นค�ำสอนที่ทรงคุณค่าที่ควรน้อมน�ำไปประพฤติปฏิบัติ เป็ น อย่ า งยิ่ ง เหมาะส� ำ หรั บ มอบเป็ น ของขวั ญ เพื่ อ แทน ค�ำขอบคุณสวัสดีปีใหม่ ให้สมปรารถนาทุกวัน ราคา 99 บาท ส�ำนักพิมพ์สุขภาพใจ ตามติดชีวิต..ยอดฝีมือผู้ลึกลับแห่งวงการ คว้าแชมป์ สามสมัยให้กบั ต้นสังกัด ทีป่ ระกาศวางมือกะทันหัน เป็นผลให้ ตัวละครระดับเทพทีเ่ ขาปัน้ สูผ่ สู้ บื ทอดคนใหม่ทหี่ นุม่ กว่า เขาจึง ยื่นสมัครงานที่ร้านอินเตอร์เนต เพื่อคุมระบบเกมก�ำลังจะ เปิดให้บริการเซิฟเวอร์ใหม่ มหาเทพสมญานามต�ำราสอน แห่งวงการลีกอาชีพ จึงได้ฤกษ์จุติอีกครา ยุทธ์เซียน Glory เล่ม 1 เขียนโดยหูเตี๋ยหลาน ผู้แปลโดยอนุรักษ์ กิจไพบูลทวี ราคา375บาท ส�ำนักพิมพ์สยามอินเตอร์บุ๊ค ก่อนไปเที่ยวเมืองแอ๊ปเปิ้ล เรียนรู้ความคิด ความทรงจ�ำ บาดแผลในใจ ของนิวยอร์กเกอร์ที่หลายๆ เรื่อง สั่นสะเทือน จิตใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ จนกลายเป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์ ของคนตัวเล็กๆ ในโลกยุคใหม่ ความหวังคือสิ่งส�ำคัญที่สุด ในการใช้ชีวิตในนิวยอร์ก และอาจจะเป็นสิ่งส�ำคัญเดียวต่อ การมีชวี ติ อยูข่ องมนุษย์ดว้ ย Humans of New York Stories เรื่องรัก เรื่องเศร้า เรื่องเล่าชาวนิวยอร์ก เขียนโดย แบรน ดอน สแตนตัน แปลไทยโดย โตมร ศุขปรีชาราคา 455 บาท ส�ำนักพิมพ์ Geek Book ..พบกันใหม่ ฉบับหน้า สวัสดีค่ะ ISSUE NO. 056/ January 2017
16
ท่องเที่ยว Village to The World
U-JUNCTION / MAGAZINE + ONLINE
เปิดตัว 10 ชุมชนต้นแบบฯ CSR Outing
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ 9 หน่วยงานพันธมิตร จัดงาน Village To The World (วิลเลจ ทู เดอะ เวิลด์) เปิดตัว 10 ชุมชนต้นแบบ นวัตกรรมการท่องเที่ยวชุมชน CSR Outing เชิญชวนกลุ่มองค์กร บริษัทเอกชนที่มีงบซีเอสอาร์ให้พาพนักงานไปเปิดประสบการณ์ในชนบทท้องถิ่นและไปท�ำกิจกรรม ช่วยเหลือชุมชน, เชิญองค์กรบริษทั ต่างๆ ทีจ่ ดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และกลุม่ องค์กรในเขตการนิคม อุตสาหกรรม เข้าร่วมงานเพือ่ ชมและซือ้ แพ็คเก็จ CSR outing จากทางชุมชน ททท. ตั้งเป้าดึงองค์กรไปจัดทริปซีเอสอาร์ CSR Outing สร้างรายได้ 1 ล้านบาทต่อชุมชน ภายในปี 2560 ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "โครงการ Village To The World เป็นโครงการที่จัดขึ้นตามยุทธศาสตร์สานพลังประชารัฐเพื่อสร้าง ความเข็มแข็งให้กับชุมชน โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างนวัตกรรมทางการท่องเที่ยวใหม่ให้เหมาะสมกับศักยภาพและอัตลักษณ์ของแต่ละชุมชน ช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาด ให้ชมุ ชน สามารถสร้างรายได้จากการท่องเทีย่ วชุมชนได้อย่างยัง่ ยืน โดยในปีนที้ าง โครงการเปิดตัวโปรแกรมแรกภายใต้ชอื่ MEET IN THE VILLAGE #Best CSR Outing Ever เป็นโปรแกรมท่องเที่ยวรูปแบบ CSR outing ส�ำหรับตลาดกลุ่มองค์กร (Corporate) โดยน�ำอัตลักษณ์ เอกลักษณ์ที่มีอยู่เดิมของชุมชนน�ำมาสร้างสรรค์ต่อยอดพัฒนาใหม่ ให้เป็นโปรแกรมท่องเที่ยวใหม่ส�ำหรับลูกค้าองค์กร ในรูปแบบ CSR outing ที่รับรองได้ว่าจะเป็นประสบการณ์สุดพิเศษที่จะท�ำให้ทุกองค์กร สนุกสนานกับอัตลักษณ์และ เสน่ห์ของวิถีชุมชนที่หลากหลาย และที่ส�ำคัญทุกคนในองค์กรจะมีความสุขที่ได้แบ่งปัน และท�ำกิจกรรมอาสา CSR ที่เป็นประโยชน์กับชุมชน" โดยในปี 2559 นี้ ทางโครงการ ได้คัดเลือก 10 ชุมชน ทีมีรายได้ต่อปีต�่ำกว่า 1 ล้านบาท เป็นชุมชนท่องเที่ยวขนาดเล็กที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมาก และไม่มีจุดขาย ด้านแหล่งท่องเที่ยว (Attraction) แต่มีศักยภาพด้านกิจกรรมทางศิลปะวัฒนธรรมและวิถีชีวิตในชุมชนที่สามารถต่อยอดได้ (Activity based) ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทางโครงการฯ ได้ลงพื้นที่ท�ำงานร่วมกับทั้ง 10 ชุมชนเพื่อพัฒนาชุมชนให้พร้อมส�ำหรับการน�ำเสนอโมเดลท่องเที่ยวในรูปแบบ CSR outing ส�ำหรับกลุ่มองค์กร (Corporate) โดยชุมชนต้นแบบ มีจ�ำนวน 10 ชุมชน ภาคเหนือ 3 ชุมชน ภาคอีสาน 2 ชุมชน ภาคกลาง 3 ชุมชน ภาคใต้ 2 ชุมชน ดังนี้ ชุมชนบ้านไร่ กองขิง จ.เชียงใหม่ ชุมชนเมืองเก่า จ.สุโขทัย ชุมชนพระบาทห้วยต้ม จ.ล�ำพูน ชุมชนกู่กาสิงห์ จ.ร้อยเอ็ด ชุมชนบ้านโคกโก่ง จ.กาฬสินธุ์ ชุมชนบ้านดงเย็น จ.สุพรรณบุรี ชุมชนบ้านถ�้ำเสือโฮมเสตย์ จ.เพชรบุรี ชุมชนบ้านริมคลองโฮมเสตย์ จ.สมุทรสงคราม ชุมชนลีเล็ด จ.สุราษฎร์ธานี และชุมชนวิสาหกิจราไวย์ จ.ภูเก็ต งานส่งเสริมการขายท่องเทีย่ วชุมชน Village to The World ในวันนี้ เป็นการเปิดตัว 10 ชุมชนต้นแบบนวัตกรรมทางการท่องเทีย่ วรูปแบบ CSR Outing โดยทางโครงการ ฯ ได้เชิญกลุ่มองค์กร ภาครัฐ เอกชน และบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มาร่วมงานในวันนี้ เช่น ปตท จ�ำกัด (มหาชน) บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จ�ำกัด (มหาชน) บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต จํากัด บริษัททิปโก้ฟูดส์ จ�ำกัด (มหาชน) กสท โทรคมนาคม จ�ำกัด (มหาชน) บริษัทซาฟารีเวิลด์ จ�ำกัด (มหาชน) เป็นต้น และนอกจากนี้ ยังได้รับ การสนับสนุนจาก การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พากลุ่มบริษัทในเขตการนิคมฯ มาร่วมชมและซื้อแพ็คเก็จ CSR outing จากทางชุมชน ISSUE NO. 056/ January 2017