long live the king Showcase Digital Magazine Free download
DECember 2015
Artist Interviews Design Illustration Photography Fashion Motion/Film Music Lifestyle
Vol.30 オンラインマガジン
artist : HSH
Showcase Digital Magazine Free download
TEAM Editor numpong mudcome Columnist Khatthleeya Srikanta Sukkanok Thongsuk จรณ์ sixdegrees 12091979 Py Indie Campfire Nattawat Sombat Graphic designer Smalllike Photographer Khatthleeya Srikanta Sukkanok Thongsuk Smalllike Bazstation Khingiesss Disc jockey Viewplusplay Dj Boss Arnon Chaiyakham Dj Nook Nick Dj Fangko Dj Tony Jabb
อีกไม่กี่วันก็จะเข้าสู่ปีใหม่แล้วนะครับ ในปีนี้ ผ่านอะไรมามากมาย ทุกเรือ่ งราวใหม่ ๆ ให้ได้เรียนรู้ ในปีหน้าก็เช่นกัน เราอาจไม่รเู้ ลยว่าจะเจอกับอะไรบ้าง แต่ก็ขอให้สิ่งที่พบเจอผ่านมันไปได้ เหมือนกันที่เรา ผ่านมาได้ในปีนี้ ผมขออวยพรให้คุณผู้อ่านทุกท่าน มี ค วามสุ ข สุ ข ภาพแข็ ง แรง และพร้ อ มพบเจอ การเดินทางข้างหน้า อย่างมีพลังใจ : ) “มีความสุขมากๆนะครับ” น�ำพงศ์ หมุดค�ำ บรรณาธิการ
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
VIEWPLUSMAG www.facebook.com/viewplusmagazine issuu.com/viewplusmag Contact : Tel. 086-194-5747 E-mail : viewplusmag@gmail.com 134/42 Moo.1 Tonpao Sankumphang , Chiang Mai 50130
contents december 2015
vol.30
-artBKK BROS. Pakluay kietks -musicmangkorn Pae & B -film-
ข้างห้อง -Writer-
แสงลวง (ฉบับทดลองอ่าน)
event
May the force be with No Signal Concert คอนเสิร์ต No Signal Input 12th Anniversary 28 พ.ย. 58 ณ ลานจอดรถหอศิลป์ มช.
Photo by smalllike
event
Again exhibition watercolor เเสดงผลงานสีน�้ำของ ธเนศ มณีศรี 20 พ.ย. 58 BISTRO
Photo by Baz Station
Tiger UNCAGE Food เทศกาลรสชาตินอกกรอบ 12 - 13 ธ.ค. 58 ลานหน้าศูนย์การค้าเมญ่า
Photo by smalllike
long live the king
“ทรงพระเจริญ”
COVER artist BY
BKK BROS.
BKK BRO
BROS. Bangkok ,Thailand Contact : www.facebook.com/ bkkbros IG : @bkkbros
BKK BROS.
BKK BROS.
BKK BROS.
BKK BROS.
BKK BROS.
BKK BROS.
Natlad Sansanasup
( Pakl
daporn phaphong
luay )
ChiangMai ,Thailand Contact : www.facebook.com/ pakluay.san
Path of me Self portrait photography from Natladaporn Sansanasuphaphong represent about attitude and identity from artist “No one else” don’t know about them except themselves
Pakluay
Pakluay
Pakluay
kiet
tks Bangkok ,Thailand Contact : IG: kietks
kietks
kietks
kietks
kietks
kietks
kietks
kietks
kietks
www.fungjai.com
music
mangkorn “มังกร” ศรัณย์ พลังธนสุกิจ เพลง “โคตรเหงา” เพลง “โคตรเหงา” ของศิลปินเสียงดีอย่าง “มังกร” หรื อ ศรั ณ ย์ พลั ง ธนสุ กิ จ อดี ต นั ก ร้ อ งน� ำ วง Twenty Town หลังจากฝากผลงานไว้เมื่อหลาย ปีก่อน คราวนี้ “มังกร” กลับมาพร้อมกับการแจ้ง เกิดเป็นศิลปินเดี่ยวเต็มตัวอีกครั้ง กับซิงเกิ้ลแรก “โคตรเหงา” ที่น�ำเสนอมุมมองของความเหงา จาก การจดบันทึกเรื่องราวและเพลงต่างๆที่มังกรแต่ง และถูกน�ำมาตีโจทย์ ถ่ายทอด เป็นเนื้อเพลงผ่าน ปลายปากกาของ “นก ฉัตรชัย ดุรยิ ประณีต” อดีต สมาชิ ก วงเฉลี ย ง (ศิ ล ปิ น นั ก แต่ ง เพลง และ โปรดิวเซอร์ท่ีสร้างสรรค์ศิลปินชื่อดังแห่งค่าย คีตา รวมถึงผลงานเพลงฮิตในอดีตมากมาย อาทิ
ตัวส�ำรอง, อีกนาน, ใจนักเลง ฯลฯ) จน กลายมาเป็นเพลง “โคตรเหงา” เพลงเหงาที่ มีกลิ่นอายของเพลงเก่าที่ทุกคนคิดถึง และ เพิ่มความเหงาเข้าไปอีกเมื่อได้นักแสดง หนุม่ มากความสามารถอย่าง “โจ๊ก อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ หรือที่รู้จักและเรียกติ ด ปาก กั น ในนาม “โจ๊ก โกลคลับ” หนุ่มมาดเซอร์ ขวัญใจสาวๆ ยุค 90 ที่ห่างหายจากการเล่น เอ็มวีไปนานยอมตกลงมาถ่ายทอดความ เหงาแบบจั บ ใจในมิ ว สิ ค วิ ดี โ อเพลงนี้ ที่ ใ ครได้ ดู ก็ พู ด เป็ น เสี ย งเดี ย วกั น ว่ า ยิ่งดู ก็ ยิ่ ง “โคตรเหงา” โดยมิ ว สิ ค วิ ดี โ อ ได้ ถ่ายทอดเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่ แสดงโดย “โจ๊ ก ” เค้ าได้สูญเสีย คนที่ เค้ารักไป และเค้าก็ไม่สามารถลืมเธอออก ไปจากใจได้สักที เค้าเลือกที่จะจมอยู่กับ
ชีวิตแบบเดิมๆที่เคยมีคนรักอยู่ด้วย และ ปล่อยให้ความเหงาเข้ามากัดกินในหัวใจ โดย โจ๊ก ได้กล่ าวถึ ง ความรู ้ สึ กที่ ได้ มา ถ่ายทอดความเหงาครั้งนี้ว่า “ปกติผมชอบ สไตล์ก ารแต่ง เพลงของคุ ณ นก ฉั ต รชั ย ดุริยประณีต อยู่แล้วครับ พอทางทีมงาน ได้ติดต่อมาว่าจะให้ผมเล่นมิวสิควิดีโอ เพลงที่พี่นกเป็นคนแต่งและลองส่งเพลง มาให้ฟังผมรีบตอบตกลงเลยครับ เพราะ เพลงนี้เพราะมากจริงๆ ผมว่าเพลงที่แต่ง โดยพี่นกจะมีเสน่ห์ทุกเพลง ทั้งการเอาค�ำ ธรรมดาในชีวติ ประจ�ำวันทีฟ่ งั แล้วเข้าใจง่าย สือ่ สารแบบตรงๆซือ่ ๆมาใส่ในเพลง บวกกับ ซาวด์ดนตรีแบบยุคเก่าที่ฟังง่ายติดหูแล้ว ยั ง ได้ เ สี ย งเพราะๆของน้ อ งมั ง กร มาเป็นคนถ่ายทอด ทุกอย่างมันลงตัวจน
ผมฟังแล้วอินรู้สึกโคตรเหงาไปกับเพลงจึงไม่ยากที่จะ ถ่ายทอดอารมณ์เหงาอย่างที่เห็นในมิวสิควิดีโอ แต่ก็ รู้สึกตื่นเต้นนิดนึงครับเพราะไม่ได้เล่นมิวสิควิดีโอมา นานพอสมควร ยังไงก็ฝากผลงานชิน้ นีข้ องผมด้วยครับ ” ด้าน มัง กร ได้ พู ด ถึ ง ที่ มาที่ไปของมิวสิควิดีโ อนี้ว่า “คนหลายๆคนหรืออาจจะทุกคนเลยแหละครับที่ไม่ ต้องการให้ตัวเองอยู่กับ ความเหงา .. แต่ในความเป็น จริง ความเหงาก็คือตัวเรานี่แหละ มันเลยกลายมาเป็น ค�ำถาม ในใจ ของมังกร ว่าความเหงา เกิดขึ้นเพราะ เขา ..หรือว่า เรา ที่สร้างมันขึ้นมาเองเปรียบเสมือนเชือก ที่มาผูกมัดเราไว้กับสิ่งเดิมๆ บรรยากาศเดิมๆ และชีวิต แบบเดิมๆ ซึ่งมีแค่ตัวเราเท่านั้นที่จะตัดความเหงาออก ไปจากชีวิตเราได้ มังกรว่าทุกคนที่เคยเผชิญกับความ รู้สึกนี้มาจะเข้าใจสิ่งที่มังกรตั้งใจจะน�ำเสนอว่า “เศร้า กว่า เป็นโสด คือ “ โคตรเหงา “
Play Video
เพลง โคตรเหงา ศิลปิน มังกร ศรัณย์ พลังธนสุกิจ https://youtu.be/zJVVSf2QCtM
www.facebook.com/mangkornofficial
music
Pae & B เพลง “อยากเป็นคนรักของเธอ feat. Chocolate-T เพลง อยากเป็นคนรักของเธอ บทเพลงแทนความ รู้สึกของการแอบรักใครสักคน ซึ่งให้อยากคนที่เรา แอบรักได้เปิดใจให้โอกาสสักครั้ง แล้วเขาขะเจอกับรัก แท้จริง ที่มีให้เธอมากมาย ถ้าเธอรักฉันแล้วจะติดใจ เป้&บี” เป้ - จักรพงศ์ เทียนวิจิตร และนักร้องสาว บี - พรรณเพชร ประติมากรรม คือ นักร้องคู่ผู้เป็น ตัวแทนเสียงของความรัก ทุกบทเพลงที่มาจากพวกเขา จะท�ำให้หัวใจของคุณมีความสุขและยิ้มได้ มารับฟัง เพลงจากพวกเค้ากัน และในเพลงนี้ได้พี่น้องนักดนตรี มาช่วยเพิ่มความไพเราะของบทเพลงมากมาย
Play Video
เพลง อยากเป็นคนรักของเธอ feat. Chocolate-T ศิลปิน Pae & B (เป้แอนด์บี) https://youtu.be/vo8GbK0_1sA
www.facebook.com/LeeSaw-RECORD-134792376611252
เพลง อยากเป็นคนรักของเธอ feat. Chocolate-T ค�ำร้อง/ท�ำนอง/เรียบเรียง : เป้ จักรพงศ์ แต่งท่อนแร็พ : Chocolate T โปรดิวเซอร์ : เป้ จักรพงศ์ คีย์บอร์ด : ฮัท ชัชวาล กีตาร์ : แตง Jazz Bacanus เบส : จุน Super Ritard โปรแกรมกลอง : เหม่งน้อย Yin Yang มิกซ์ดาวน์ & มาสเตอริ่ง : เหม่งน้อย Yin Yang บันทึกเสียงทั้งหมดที่ Yin Yang Studio
Film
ข้างห้อง ภาพยนตร์โดย
Korwar production
เป็นเรื่องราวของเด็กมหาลัยคนหนึ่งที่ชอบเล่นเกมส์เป็นชีวิตจิตใจ แต่กลับต้องเจอกับ เสียงประหลาดจากห้องข้างๆที่ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ท�ำให้เค้าหลับได้ไม่เต็มอิ่มและ มาหลับในห้องเรียน เขาจึงคิดหาวิธีต่างๆเพื่อที่จะท�ำให้เค้าหลับได้
Play Video
https://youtu.be/jV0j8lUKMrA
Writer
แสงลวง (ฉบับทดลองอ่าน) ผู้เขียน : จรณ์
1 ล�ำแสงยามเย็นย�่ำลอดผ่านรอยปรุของเมฆลงมาที่ลานหน้าบ้าน ฉาบทามวลบรรยากาศด้วยสีเหลืองอ่อนอบอุ่น ซึ่งแอบซ่อน หมองหม่นจากสายลมเอื่อยกลางฤดูหนาวและเสียงความตาย ของใบไม้แห้ง ชายชราใกล้ฝั่งนั่งอยู่บนม้าหินเป็นเพื่อนยามเย็นที่ คุ้นชินแต่ไม่รู้จัก ความหลังครั้งเก่าก่อนค่อย ๆ หวนคืนรินหลั่ง ในวัยหนุ่มแน่นเขาเคยบอกผู้หญิงคนเดียวที่เขารักว่า โมงยาม ก่อนดวงตะวันลับขอบฟ้าคือช่วงเวลาที่งดงามที่สุด เขามอบให้ เธอและลูกสาวในอุทร แต่นั่นก็นานมาแล้ว นานแสนนานกว่าเขา จะส�ำเหนียกได้ว่า เมื่อคืนวันล่วงผ่าน ฤดูกาลผันแปร แม้กระทั่ง ดวงตะวั น ก็ ไ ม่ อ าจรั ง สรรค์ ย ามเย็ น ให้ เ หมื อ นกั น ทุ ก วั น ได้ เช่นนั้นบางครั้งมันจึงสุขสันต์ แต่บางครั้งก็ตรอมตรม ซึ่งเขา ไม่ทันได้กล่าวแก่เธอและลูกสาว
จากม้าหินเขาทอดสายตาออกไปไกลบนฟากฟ้า เดาไม่ออกว่า ก�ำลังมองหาอะไร ไม่ใช่ปุยเมฆอ่อนไหว ไม่ใช่ฝูงนกเดินทางไกล ไม่ใช่ใบหน้าของใครที่เขารัก มันอาจจะเป็นดาราจักรสักแห่งหน ดาราจักรที่ยามเย็นจะไม่แตกดับ “ตาท�ำไร” ชายชราทิ้งระยะให้ความเงียบหายใจ แล้วค่อย ๆ หันหน้าไปตอบ ค�ำถามที่ถามเหมือนเดิมมาตั้งแต่ช่วงบ่าย น�้ำเสียงยังคงอ่อนโยน “มองท้องฟ้า” “มองท�ำไมเหรอ” “เอ็งเคยเห็นดวงตะวันตกดินไหม มานั่งรอดูกับตานี่มา” เด็ ก ชายวั ย สี่ ข วบกึ่ ง ปี น ป่ า ยขึ้ น บนม้ า หิ น เขาเพิ่ ง ผละจาก ทดสอบอนุภาพการระเบิดของเมล็ดต้อยติ่งที่ดงกล้วยหลังบ้าน ด้วยจินตนาการเฟื่องฟุ้งจากความฝันเมื่อคืน ภาพในนั้นแจ่มชัด เขาเห็นตัวเองก�ำลังนอนดูหนังขบวนการยอดมนุษย์กับพ่อ เขารู้สึก ว่าหนังสนุกมาก ฮีโร่ต่อสู้กับจอมวายร้ายอย่างแข็งขัน
แต่เขาไม่เข้าใจว่าท�ำไมพ่อไม่พูดกับเขาและไม่ยิ้มเหมือนเคย เอาแต่ผายมือลูบหัวของเขาบางเบา แล้วจู่ ๆ แม่ก็เข้ามาอุ้มเขา ออกไป...ออกไปที่ไหนสักแห่งหน ไม่ทันได้รู้ทุกอย่างก็พร่าเลือน จนกระทั่งเขาตื่น เมื่อมองภายนอก ความไม่ประสาของวัยเยาว์ท�ำให้เด็กชายไม่ ต่างจากเด็กคนอื่นมากนัก เขาดูเป็นเด็กร่าเริงและซุกซน บางครั้งขี้ อายนิด ๆ แต่หากพินิจลงให้ลึกกว่าร่างอันผ่ายผอม ผิวคล�้ำ ศีรษะ โตและเบี้ยว ก็จะพบความสับสนอลหม่านนานัปการและความหวัง แห่ ง การค้ น หาทางออก กลับฉายฉานลึก ล�้ำกลางลู กนั ยน์ ต า ถึงกระนั้น ชายชรายังหวังว่ากาลเวลาและความพยายามของเขาจะ ช่วยให้เจือจาง “ตา...พรุ่งนี้เราติดสายรุ้งแบบบ้านอื่นได้ไหม” “ได้สิ มีของเก่าที่แม่เอ็งซื้อมาเมื่อหลายปีก่อน” “ให้หนูช่วยติด” “แต่เอ็งต้องนั่งดูดวงตะวันเป็นเพื่อนตาก่อนนะ...”
2 ฤทธิ์ สุ ร าและราตรี อึ ก ทึ ก ติ ด ต่ อ กั น เกื อ บสั ป ดาห์ ก ดทั บ เปลือกตาหนักอึ้ง เขารู้สึกปวดหัวอย่างแรงจนต้องลุกขึ้นมา นั่งกับขอบเตียง แสงแดดจ้าจัดโถมถาเข้าซัดห้องนอนที่เขา ลืมปิดผ้าม่าน ราวกับจะเซาะท�ำลายร่างให้หลุดลอยด้วยคลืน่ ร้อน เขาลุกขึ้นไปเปิดตู้เย็น หยิบขวดน�้ำขึ้นจ่อปากกระดกกลืน อย่างโหยกระหาย ทดแทนน�้ำในร่างกายอันสูญเสียไปจาก การปรนเปรอบางสิ่ง ซึ่งเขาเริ่มรู้สึกอยู่เบื้องลึกว่า ต่อให้ พยายามอย่างไรก็ไม่มีวันจะถมเต็ม แน่นอน...เขาไม่ปรารถนา ให้ความจริงเป็นเช่นนั้น เพราะเขารู้ว่าไม่มีใครแหงนมอง ดวงตะวันในวันฝนโปรย สิ่งส�ำคัญก็คือ เขาจะยินยอมตกลง ไปในหลุมที่ตัวเองขุดเอาไว้อีกนานเท่าไหร่ อีกนานเพียงใดที่ เขาจะยอมรับว่าดวงตะวันมิได้งดงามทุกยามเย็น
แวะหยิบซองบุหรี่จากหัวเตียง ก่อนเดินไปปิดผ้าม่าน แล้วมาทิ้งตัวลงบนโซฟา อาการปวดหัวยังคงแทรกผ่านร่าง โรยล้า เขาเผลอคิดไปว่า ใช่ความเคยชินหรือไม่ที่ท�ำให้เขา เคาะบุ ห รี่ ออกจากซองแล้วจุดไฟสูบจนสุดปอด จ� ำ ได้ คลับคล้ายคลับคลา เมื่อคืนมีใครคนหนึ่งพูดขึ้นท�ำนองว่า มนุ ษ ย์ ที่ ป ล่ อ ยให้ ค วามเคยชิ น ถื อ ก� ำ เนิ ด ในตั ว ตน ช่ า งไม่ ต ่ า งอะไรกั บ ซากศพที่ ร อวั น ถู ก กั ด กิ น ด้ ว ยความ เปลี่ยนแปลง เขารู้สึกหมั่นไส้ในค�ำพูดอันหยิ่งยโสของใคร คนนั้น ค�ำพูดที่หาได้จากปากลูกคนมีอันจะกินทั่วไป ใช้เงิน ซื้อความสดใหม่จอมปลอมที่ตัวเองไม่ได้นับถือ ต่างจาก เขาที่ ถี บ ตั ว เองออกจากความตรอมตรมและรั ง ดั ก แด้ อ้างว้างเพียงล�ำพัง ด้วยความหวังจะมีชีวิตอยู่ท่ามกลาง แสงอันงดงามชั่วนิรันดร
ในห้องสลัวราง แต่แสงแดดที่ลอดผ่านรอยต่อผ้าม่านก็ บ่ ง ว่ า มั น เริ่ ม ผ่ อ นปรนการลงทั ณ ฑ์ เขาสู บ บุ ห รี่ เ กื อ บถึ ง ก้นกรอง ปล่อยสายควันลอยเคว้งอย่างเงื่องหงอย ในดวงตา ปรากฏภาพหญิงสาวคนหนึ่งโปรยยิ้มให้เขา หยาดเยิ้มเสน่หา หอมหวานดุจกลีบดอกไม้ เธอสะพรั่งความงามอย่างสาวสมัย ใหม่ เส้นผมประกายทองประบ่า เขารู้สึกว่าความปรารถนาใน เรือนกายและริมฝีปากสีเลือดนกของเธอ ท�ำให้สิ่งที่เคยมีความ หมายพลันกลายเป็นสิ่งที่ไร้ความหมาย เขาถูกกลบฝังด้วยรส รักอันยากจะถอน เขาและเธอระเริงไปในแสงอันงดงามด้วย กัน ท่องไปอย่างผู้เปี่ยมสุข เที่ยวไปอย่างผู้ไม่ยินยอมต่อทุกข์ แล้ ว กลั บ มาย�้ำพิศวาสด้วยรสรัก เร่า ร้อน และเร่ าร้ อ นขึ้ น ทุกขณะ เร่าร้อนจนจะทนไม่ไหว เร่าร้อนดุจเปลวไฟ เร่าร้อน จนเขาผวาสะบัดมือ สะเก็ดไฟสุดท้ายจากก้นกรองบุหรี่วาบ ประกายที่พื้นห้อง เขารู้สึกแสบร้อนที่หว่างนิ้ว ทว่าเขายังเห็น เธอ แต่เป็นเธอที่ยังเปลือยกายหลับใหลอยู่บนเตียง ผ้าห่มถก ร่ น ลงไปถึ ง ต้ นขา เส้นผมสีทองนั้นยังเด่นชัด ในความมื ด เธอนอนกึ่งคว�่ำกึ่งตะแคง ล�ำตัวด้านข้างท�ำมุมสี่สิบห้าองศา ปลายถันจรดผ้าปูเตียง ริมฝีปากสีเลือดนกระเรื่อราง
อาการปวดหัวทวีขึ้นอีกค�ำรบ เขาเดินเซซวนเข้าห้องน�้ำ คว้าฝักบัวแนบกระหม่อมแล้วปล่อยน�้ำให้ไหลออกมา ความ เย็นของน�้ำซึมผ่านเส้นผมจนถึงหนังหัว ลู่ไล้ผ่านไรผมและ ซอกหู หัวไหล่ แผงอก แผ่นหลัง ไหลสู่พื้นกระเบื้องจาก ปลายลึงค์และท่อนขา เขาแน่วนิ่งอยู่อย่างนั้นนานเท่าใดไม่รู้ จนกระทั่งบางความจ�ำเกี่ยวกับเมื่อคืนก็ผุดพรายขึ้นในหัว เขาประมวลความจ� ำ เหมื อ นก� ำ ลั ง ดู ภ าพศิ ล ปะคอลลาจ เศษชิ้นเล็กชิ้นน้อยค่อย ๆ ปะติดปะต่อกันจนเป็นเอกภาพ เสียงหัวเราะร่วน ตะโกนโห่ร้อง การเฉลิมฉลองต้อนรับ ศักราชใหม่ สระน�้ำ กลิ่นน�้ำหอม พลุตระการตาราวทุ่งดอกไม้ เศษแก้ว คราบอาเจียน เซ็กส์พิสดาร และค�ำพูดของเธอที่ กระซิบแผ่วเบาข้างใบหู เกี่ยวกับของขวัญสุดวิเศษที่เธอได้ รับ ไม่สิ...ของเรา เธอว่าอย่างนั้น
3 แสงสีเหลืองที่ปรับเฉดเข้มขึ้นจนเกือบจะเป็นสีส้ม แทบไม่หลง เหลือความร้อนอีกแล้ว แต่กลับโปรยความละมุนละไมให้ผืน ดินดูนุ่มนวล และขับประกายเลื่อมวิบวับให้ผิวน�้ำที่คูหน้าบ้าน ดูน่าอัศจรรย์ใจ ชายชรานิ่งมองแสงเหล่านั้น ก็ให้ครุ่นคิดถึง ความจริงอันน่าหวาดไหวของการหักเหล่อลวง ความจริงของ ความลวงที่ครั้งหนึ่งเขาไม่อาจเข้าใจ จนกระทั่งห้วงเวลาแห่ง การจ�ำพรากมาถึง ก็สายเกินไปที่เขาจะโอบกอดบางสิ่งไว้ใน อ้อมแขน เขาปรายตามองเด็กชายที่ตอนนี้ลงไปนั่งคุ้ยดินเล่น ข้างม้าหิน เห็นความไร้เดียงสาที่เริ่มแปดเปื้อน เขาไม่อาจ ปฏิเสธว่า บัดนี้หน้าที่การขจัดริ้วรอยนั้นเป็นหน้าที่ของเขา และมันคงเป็นเหตุผลหนึ่งเดียวที่เขายังไม่ล้มหายตายจาก หนีความตรอมตรมที่คอยช�ำเราทุกเช้าเย็น
“เอ็งไม่หิวข้าวหิวปลาบ้างหรือ” “ตา...ท�ำไมมดถึงมีสองสี” “ตาต้มใบต�ำลึงไว้ให้เอ็งตั้งกะบ่ายแล้ว” “กินพร้อมตานะ” เด็กชายก้มหน้าก้มตาดูขบวนมดสีด�ำตัวใหญ่ เขารู้สึก สงสัยและขยาดชอบกล ฤดูร้อนปีก่อนเขาเคยถูกมันกัดที่ ท้องแขนใต้ต้นหูกวาง เจ็บปวดทรมานถึงที่สุด ไม่รู้ท�ำไม ตอนแรกเขาไม่ร้องสักแอะ แต่พอแม่เดินเข้ามาหาถามว่า เป็นอะไร น�้ำตาจากไหนไม่รู้ก็รื้นออกคลอเบ้า เสียงเขา สั่นเครือฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเมื่อเขาเล่าให้แม่ฟัง และสะอึก สะอื้นยกใหญ่เมื่อแม่พาไปนั่งบนแคร่ และน�้ำตาก็ไหลออก มาอย่างหนักโดยที่เขาไม่สามารถหยุดมันได้ เมื่อแม่ทายา หม่องลงบนผิวที่บวมแดงเท่าหัวแม่มือ น�้ำตาหยดแล้วหยด เล่าร่วงหล่นลงบนพื้นดิน ราวกับจะพร่างพรมให้ดอกหญ้า ร้องไห้ตาม
“พรุ่งนี้เอ็งอยากได้อะไรไหม” เด็กชายนิ่งงันชั่วครู่ ก่อนหันหน้ามายิ้มสดใส “หนูอยากได้ ขนมเค้กวันปีใหม่” “คืนนี้ก็รีบนอน ตอนเช้าตาจะพาไปตลาด” “ตา...นั่นสวยจัง” ชายชราเงยหน้ า ขึ้ น มองตามค� ำ บอกของเด็ ก ชาย โมงยามนั้นเป็นโมงยามที่ความสลัวรางปรากฏขึ้นในความ เงียบ คืบคลานเข้าบรรจบกลืนกินทุกซอกหลืบ แสงสีคราม ที่เกือบจะเป็นสีเทาค่อย ๆ ห่มคลุมฟากฟ้า เหลือเพียงแสงสี ส้มเหลือบแดงของดวงตะวันส่องสว่างงดงาม ย้อมหมู่เมฆ สลับลายพรายพร่างด้วยสีแดง ส้ม เหลือง ม่วง ครามและเทา ดุจจิตรกรวาดแปรงแลพู่กันรังสรรค์บนผืนผ้าใบ แสงนั้น ช่างงดงามน่าหลงใหล เหมือนแสงที่เขาเคยเฝ้าถวิลหาเมื่อ ครั้งวัยหนุ่ม ชายชราพลันคิดถึงหญิงผู้เป็นที่รักและลูกสาว กลิ่นความหลังครั้งเก่าก่อนโชยมากับสายลม หอมหวนยัง ทิ้งร่องรอยในความขื่นขม เขารู้สึกถึงบางอย่างก�ำลังช�ำเรา เขาจากเข้าใน “ตา...หนูอยากให้พ่อกับแม่อยู่ที่นี่”
4 เขาพบเธอกลางออฟฟิ ศ เอเจนซี่ โ ฆษณาแห่ ง หนึ่ ง ที่ เ ขาไป ฝึกงานด้วย เส้นผมประกายทองและริมฝีปากสีเลือดนก ทุ ก ท่ ว งท่ าของเธอเปี่ย มไปด้วยความมั่นใจ ไม่ ป ระหม่ า ต่ า งจากเขาที่ เ อาแต่ ก ้ ม หน้ า ก้ ม ตาท� ำ ตามหน้ า ที่ ที่ ไ ด้ รั บ มอบหมาย เขามักลอบมองเธอทุกครั้งที่สบโอกาส จนกระทั่ง เธอจับพิรุธได้ แต่แทนที่จะมีท่าทีต่อว่า เธอกลับโปรยรอยยิ้ม คื น มาตราตรึ งเขาในทันใด และในวันหนึ่ง โมงยามหลั ง ดวงตะวันกลืนหายในม่านมืด ขณะไม่มีใครทันสังเกต เหมือน ผีเสื้อไม่อาจหักห้ามใจต่อเกสรหอมหวาน เขาอาสาพาเธอไป ส่งบ้าน เขาไม่ได้พาเธอไปส่งบ้าน แต่เป็นเธอที่พาเขามาที่บาร์ แห่งหนึ่ง เป็นบาร์ที่มีนักดนตรีเล่นเพลงสากลที่เขาไม่รู้จัก เพลงส่วนใหญ่ฟงั ดูปวดร้าวและเศร้าระทม เบียร์ถกู ยกมาเสิรฟ์
เธอรินใส่แก้วสองใบ ของเหลวสีอ�ำพันไหลก่อพรายฟอง คล้ายยอดคลื่น เขาและเธอยกเบียร์ขึ้นจิบพลางคุยกันถึง บรรยากาศทีน่ ี่ ขณะเขาครุน่ คิดว่าเหตุใดเธอจึงยอมมากับเขา และเรื่องที่เธอยังเป็นอิสระจากอ้อมแขนของชายอื่น เขาใน เวลานั้นแม้ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ แต่ก็ออกจะธรรมดาเกินไป หาก เทียบกับสาวสมัยใหม่อย่างเธอ แต่เขาก็ไม่ได้ถาม เขาหันมา ชวนเธอคุยถึงเรื่องงานในวันนี้ แต่เธอกลับเล่าให้ฟังว่า เธอ เป็นลูกสาวคนสุดท้องของครอบครัว บ้านของเธอท�ำธุรกิจ ค้าส่งอยู่ที่ต่างจังหวัด เธอเข้ามาอยู่ตัวคนเดียวในเมืองหลวง ตั้งแต่เรียนจบชั้นมอสาม ครั้งหนึ่งเธอเคยรู้สึกอ้างว้างและ สับสน แต่นั่นก็นานมากแล้ว เธอบอกให้เขาเล่าเรื่องราวของเขาให้เธอฟัง เขานั่งนิ่ง อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะบอกเพียงว่าเขาเป็นเด็กต่างจังหวัด เธอ โปรยยิ้มให้ ลึกล�้ำอย่างแฝงความนัย แสงไฟระเรื่อเลื่อม สลับผ่านหน้าของเธอ เขายกเบียร์ขึ้นดื่มเกือบหมดแก้ว ร้อน ผะผ่าวลามใบหน้า ขณะเสียงกีตาร์กรีดพลิ้วเข้ามากลางใจ
บาดร้าวด้วยส�ำเนียงทุกข์ทน ทว่าทระนง เธอโน้มตัวเข้ามา ซบที่ต้นคอ กระซิบแผ่วเบาข้างใบหู น�้ำเสียงนั้นหยั่งลึกลง ในห้วงส�ำนึก “ฉันชอบดวงตาของคุณ ไม่สิ...ฉันรักดวงตา ของคุณ ดวงตาที่ส่อแววอ้างว้างนั่น ฉันหลงรักมัน...” แล้ว เธอก็เอนตัวกลับไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอบอกว่า เพลงนี้ชื่อลูซิลล์ เป็นเพลงของนักกีตาร์ผิวสี ไรลีย์ บี.คิง หรือที่แฟนเพลงรู้จักในสมญานาม บี.บี คิง ตั้งชื่อเพลงนี้ ตามชื่อของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นต้นเหตุให้ชายสองคน วิวาทกันจนบาร์ทั้งบาร์มอดไหม้เป็นจุณ และเป็นที่มาของ ชื่อกีตาร์ที่อเมริกันชนผู้นี้ถือครอง พูดจบเธอโปรยยิ้มอีก ครั้ง เขาแทบไม่ได้ฟังที่เธอพูด ใบหน้าร้อนขึ้นกว่าเก่าราว จับไข้ ช่างหัวลูซิลล์ เขารู้แค่เพียงว่า บัดนี้ความปรารถนาที่ ลุกโชนอยู่ภายใน และความหวั่นไหวที่เขาพยายามหลีกหนี ก�ำลังถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ เธอคือผู้จุดไฟให้เขามอด ไหม้ทั้งเป็น คืนนั้นเขาและเธอเกาะเกี่ยวกันออกจากบาร์ แล้วมาละเลงรสรักเร่าร้อนที่ห้องของเธอ ดูดกลืนกินน�้ำ หวานจนน�้ำค้างแห้งเหือด
แม้จะดูเป็นไปไม่ได้ในสายตาใคร แต่ความสัมพันธ์ของ เขาและเธอก็พฒ ั นาไปอย่างรวดเร็ว ราวกับผูอ้ า้ งว้างเดียวดาย สองคนที่เข้าใจกันและกัน เธอเป็นพวกสุขนิยม เธอสอนให้ เขาทิ้งความเศร้าระทมในอดีต แสวงหาความสุขใส่ตัวโดย อย่าได้เปิดโอกาสให้ความร้าวรานใดมากล�้ำกราย หลังจาก ฝึกงานเสร็จ เขาก็ได้เข้าท�ำงานในบริษัทแห่งนั้น โดยมีเธอเป็น ผู้รับรองความสามารถ และตัดสินใจย้ายมาอยู่ด้วยกันที่ห้อง ของเธอในคอนโดนิเนียมย่านชานเมือง แม้เงินเดือนจะน้อยกว่า แต่เขาก็เสนอตัวเป็นคนออกค่าเช่าและค่าน�้ำค่าไฟ ส่วนเธอ ดูแลเรื่องอาหารการกิน เกือบทุกคืนที่มีโอกาสและไม่เหนื่อย จากงานจนเกินไป เขาและเธอจะท่องราตรีไปด้วยกัน ไม่ว่าจะ เฮฮากันเป็นกลุ่ม หรือนั่งฟังเพลงทุกข์ทนเพียงสองคนที่ก้น บาร์ สุดท้ายก็จะกลับมาย�้ำพิศวาสเร่าร้อนบนเตียงนอน เวลา ผ่านไปปีกว่า น่าแปลกที่พวกเขาไม่เคยทะเลาะกันเลย รั้งแต่ จะพากันแสวงหาความสุข ไม่ว่างเว้น แม้ยามร่างกายโรยล้า
ในคื น ส่ งท้า ยปี หลังจากดวดเหล้า อย่า งหนั กมาเกื อ บ สัปดาห์ ในปาร์ตี้ที่เธอและเพื่อน ๆ หุ้นกันปิดสระน�้ำแห่งหนึ่ง เพื่อเฉลิมฉลอง เธออยู่ในเดรสสีด�ำมะเมื่อม ตัดกับเส้นผม ประกายทองและริมฝีปากสีเลือดนก เธอดูสดใสและเริงร่าเป็น พิเศษ เธอก�ำลังพูดอะไรสักอย่างกับเพื่อนสาว จากนั้นเพื่อน ของเธอกรีดร้องและโผกอดเธอด้วยท่าทางดีอกดีใจ เธอหันมา สบตากับเขาแวบหนึ่ง ไม่นานเธอก็แทรกตัวเข้ามานั่งบนตัก ระหว่างที่เขาก�ำลังสนทนากับเพื่อนชายของเธอถึงเรื่องความ เคยชิน เธอโน้มตัวเข้ามาซบที่ต้นคอ กระซิบแผ่วเบาข้างใบหู น�้ำเสียงนั้นหยั่งลึกลงในห้วงส�ำนึก เขานิ่งใบ้ รู้สึกชาร้าวที่ ใบหน้า เธอถามว่าเขาดีใจแค่ไหน และย�้ำว่านี่คือของขวัญสุด วิเศษที่เธอได้รับ ไม่สิ...ของเรา เธอว่าอย่างนั้น น�้ำไหลผ่านร่างของเขาเนิ่นนาน แต่กาลเวลาราวกลับหยุด นิ่ง ความจ�ำเกี่ยวกับเมื่อคืนปะติดปะต่อเป็นเอกภาพ เขาถาม ตัวเองว่ามีเหตุผลใดต้องลังเล เขาควรดีใจด้วยซ�้ำ หรือเขากลัว เขาจะกลัวท�ำไม เขาก�ำลังจะมีครอบครัว เขากลัว เขารูว้ า่ เขากลัว เขาเคยมีครอบครัวด้วยหรือ เขาจ�ำไม่ได้ เขาเกิดมาจากอะไร
เขาลนลานหมุนปิดฝักบัว คิดได้อย่างจริงจังว่าควรท�ำ อะไรสักอย่างกับเรื่องนี้ นุ่งผ้าเช็ดตัว คว้าโทรศัพท์ทั้งที่ตัวยัง เต็มไปด้วยหยดน�้ำ เห็นเธอยังนอนหลับอยู่บนเตียง เขาเลื่อน ประตูกระจกก้าวออกมายืนที่ระเบียง อาบไล้แสงสีเหลือง อ่อนอบอุ่น จากชั้นสิบเจ็ดทุกอย่างเบื้องล่างดูเล็กเกินความ เป็นจริง เขากดโทรศัพท์เลื่อนหาเบอร์แล้วกดโทรออก รอสัก พักจึงยินเสียงเจ้าหน้าที่รับสาย เขาบอกชื่อของผู้ที่เขาต้องการ พูดด้วย เจ้าหน้าที่ถามว่าเขาเป็นใคร เขาบอกชื่อนามสกุลให้ ทราบ เจ้าหน้าที่คนนั้นไม่ค่อยพอใจ เขาบอกขออนุโลมด้วย วันนี้เป็นวันปีใหม่ เจ้าหน้าที่พูดน�้ำเสียงกระแทกกระทั้นบอก ให้รอ เขานิ่งและรอ
เขาทอดสายตาออกไปไกลบนฟากฟ้า เดาไม่ออกว่า ก�ำลังมองหาอะไร เนิ่นนานผ่านไปเท่าใดไม่รู้ สายลมเริ่มพัด แรงขึ้นและแรงขึ้น เส้นผมพลิ้วสะบัด แสงแดดเมื่อครู่หาย ไปจากฟากฟ้า ไม่เหลือแม้ล�ำแสงเดียว เมฆด�ำทะมึนไล่กลืน กินเมฆขาว ฟ้าค�ำรามครืนครั่น มืดหม่นเหมือนไม่ใช่กลาง วัน เขารู้สึกว่าดวงตะวันก�ำลังจะแตกดับ ก่อนเสียงแหบพร่าของชายแก่จะดังขึ้นจากปลายสาย “ฮัลโหล...”
5 “โลกนี้มีทั้งความงดงามและอัปลักษณ์ อย่าเอาตัวเข้าไปใกล้ ทั้งสองอย่าง และเตรียมตัวรับความเปลี่ยนแปลง...” ค�ำพูดที่ ชายชราเคยพร�่ำบอกกับเด็กชายทุกค�่ำเช้า ตอนนั้นเขาคง ท�ำความเข้าใจได้มากกว่านี้ หากชายชราจะไม่ได้พร�่ำมันบ่อย ขึ้นและบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ หลายครั้งเขาถามอะไรไปชายชรากลับ เบื้อใบ้ เอาแต่นั่งทอดสายตาออกไปไกล พึมพ�ำซ�้ำ ๆ วนไป เวียนมา ก่อนจะล้มป่วยและตายจากตอนเขาอายุได้แปดขวบ ในคืนสวดพระอภิธรรมคืนแรกและคืนสุดท้าย ที่ชาวบ้าน ละแวกนั้นช่วยกันเป็นธุระให้ เขานั่งนิ่งอยู่ในศาลา โศกเศร้า แต่ร้องไห้ไม่ออก ส�ำเหนียกได้ถึงความอ้างว้างที่ค่อย ๆ ห่อ พันร่างของเขา จนรู้สึกแน่นหน้าอก แล้วแม่ก็ปรากฏตัวขึ้น เดินเข้ามาหาเขา หลังจากนั้นน�้ำตาจึงเริ่มไหลริน
รุ่งขึ้นแม่พาเขานั่งรถทัวร์เข้ากรุงเทพ ฯ เพื่อพาไป ฝากกับญาติที่เขาไม่เคยพบหน้า แม่บอกว่าขอท�ำงานอีก สักพัก เก็บเงินได้เมื่อไหร่จะมารับไปอยู่ด้วย ระหว่างทาง เขาถามถึงพ่อ แต่แม่ไม่ตอบ สีหน้าของแม่ท�ำให้เขาไม่กล้า ซักไซ้ วันนั้นเขาได้นั่งรถเมล์ครั้งแรกถึงสามสาย ต่อด้วย รถสองแถว และเดินเข้าซอยเล็ก ๆ จนมาหยุดหน้าตึกแถว เก่ า ทรุ ด โทรม ชั้นล่า งเปิดเป็นร้า นขายอาหารตามสั่ ง แม่บอกให้เขานั่งรอที่โต๊ะ แล้วเดินไปหาผู้หญิงคนหนึ่งที่มี ใบหน้าเรียบเฉย แต่แววตากร้าวดุ แม่ยืนคุยสักพักก็ ยกมือไหว้ผู้หญิงคนนั้นและปล่อยโฮออกมา ไม่นานแม่ก็ เดินกลับมาหาเขา บอกให้ท�ำตัวเป็นเด็กดี ถูกใช้ให้ช่วย การงานใดก็อย่าเกียจคร้าน เขาได้แต่นั่งก้มหน้านิ่ง ความ สับสนท�ำให้พูดอะไรไม่ออก
แม่กลับมาหาเขาปีละหนึ่งหรือสองครั้ง ในวันขึ้นปีใหม่ และวันเกิดบ้างบางปี เขาพยายามถามถึงพ่อ แต่ก็เหมือนเดิม แม่ไม่มีค�ำตอบ ทุกครั้งที่พบกันเขารู้สึกว่าแม่ดูแก่ลงอย่าง รวดเร็ว และเหมือนกับร่างไร้วิญญาณเข้าไปทุกขณะ แต่ถึง กระนั้น แม่ก็ไม่เคยขาดส่งค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายส่วนตัว เล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ทุกเดือน จนกระทั่งหายตัวไปเมื่อเขาเรียน อยู่ชั้นมอสาม หายไปเหมือนสายลมที่เคยวูบผ่านแล้วไม่กลับ มาอีกเลย ทิ้งให้เขาตรอมตรมกับชีวิตโดดเดี่ยว นอนขดในรัง ดักแด้อ้างว้างที่ห่อพันทุกค�่ำคืน และในคืนหนึ่ง เมื่อความ สับสนอลหม่านนานัปการและความหวังแห่งการค้นหาทางออก รั้งรึงจนถึงขีดสุด เขาสาบานกับตัวเองว่า จะท�ำทุกอย่างเพื่อ ถีบตัวเองออกจากรังดักแด้อันด�ำมืด ออกโผบินเช่นผีเสื้อใน หมู่มวลบุปผชาติ เริงร่าในแสงสีอ�ำพันชั่วนิรันดร
เขามุ่งมั่นศึกษาเล่าเรียน แม้จะเกกมะเหรกเกเรตาม เพื่อนฝูงไปบ้าง แต่ก็ไม่เคยเสียดใกล้เส้นทางแห่งความ หวั่นไหว เหมือนผีเสื้อโบยบินตามหาแสงงดงาม โดยไม่ เคยหลงรักดอกไม้ใด จนกระทั่งมาพบกับเธอ บุปผางามใน เรือกสวนคอนกรีต หญิงสาวผู้มีเส้นผมประกายทอง ผู้มา ปลดแอกเขาจากความโดดเดี่ ย วอ้ า งว้ า งและด� ำ มื ด ผู้สะพรั่งหยาดเยิ้มเสน่หา ในวินาทีแรกที่สายตาประสาน กัน เขาไม่คิดเลยว่าจะอาจเอื้อมถึงเธอได้ แต่นั่นก็เป็น วินาทีเดียวกันที่เธออ้าโอบเขาด้วยกลีบดอกหอมหวาน ลึกล�้ำอันยากจะถอดถอน
แสงสว่างที่ค่อย ๆ เปล่งประกายเข้ามาในชีวิต ท�ำให้เขา เกือบลืมเรื่องราวด�ำมืดในอดีต ความสลัวรางและผงฝุ่นของ ห้องนอนเล็ก ๆ ในตึกแถวเก่าทรุดโทรม ท�ำให้หายใจล�ำบาก เขาสะอิดสะเอียนเต็มทน ใช้เท้าเลื่อนลังกระดาษสองลังที่ บรรจุข้าวของมาไว้ข้างฟูกนอน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเอกสารและ ชิ้นงานในสมัยเรียน ซีดีเพลง และภาพถ่ายเก่า ๆ สองอัลบั้ม แล้วหันมาเก็บเสื้อผ้าสามสี่ชุดใส่กระเป๋าเป้ หัวใจพองโตแทบ ไม่สามารถควบคุมจังหวะหายใจได้ เขาตั้งใจทิ้งเสื้อผ้าที่เหลือ และของทีไ่ ม่จำ� เป็นไว้ทนี่ ี่ ราวกับไม่อยากให้อดีตตามติดเขาไป เสียงฝีเท้าก้าวขึ้นบันไดกระชั้นเข้ามา ก่อนมาหยุดที่ด้าน หลังของเขา หันไปสบตา เป็นญาติที่แม่พาเขามาฝากเอาไว้ แต่ไม่เคยหวนกลับมารับ เขาเดาไม่ออกว่าหล่อนจะดีใจกับ การจากไปของเขาหรือไม่ เขามองใบหน้าเรียบเฉยของหล่อน แววตากร้าวดุนั้นอ่อนระโหยลงอย่างเห็นได้ชัด
หล่อนยื่นแผ่นพับชิ้นหนึ่งออกมาตรงหน้า เขาไม่อยากเสีย เวลาปฏิเสธจึงรับเอาไว้ หล่อนบอกว่าวันนี้มีเจ้าหน้าที่มาหา ตอนเขาไม่ อ ยู ่ และบอกว่ า จะกลั บ มาใหม่ ใ นวั น รุ ่ ง ขึ้ น เขาแสร้งท�ำเป็นมองแผ่นพับในมือครู่หนึ่ง เห็นตรากระทรวง การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เขาไม่ได้สนใจ แต่ไม่อยากตอบค�ำถาม จึงเก็บมันลงกระเป๋าเป้พร้อมกับ เสื้อผ้าที่เหลือ ขณะหล่อนพลางพูดเรื่องของใครสักคนหนึ่ง เขาไม่ได้ฟังและไม่อยากฟัง เพราะเขาก�ำลังจะไปแล้ว ไม่ว่า สิ่งใดจะเกิดขึ้นเขาก็ไม่สามารถทนรอได้อีกแล้ว เขาก�ำลังไป...เธอผู้ดุจกลีบดอกหอมหวานและแสงงดงาม รอเขาอยู่.
เพจงานเขีย น จรณ์ www.facebook.com/chorn.is.me
ติดต่อโฆษณา 086 -194-5747