ปีที่ 2 ฉบับที่ 7 กรกฎาคม - กันยายน 2556
7
สาระประกันภัย : เยือนลานธรรม : ศุขสยาม :
เปิดบัญชีประกันภัย หายใจเข้ารับรู้ถึงแก่นธรรม หายใจออกคือความสุขแห่ง การให้ที่ “ศาลาลุงชิน” 50 ปีเมืองโบราณ Ancient Siam
เมื่อวิถส ี ีเขียว เบงบาน ่
World Finance Insurance Awards (ป 2009, 2011, 2012, 2013)
International Star For Leadership In Quality Award (Islq) (ป 2011, 2012, 2013)
Brand Age (ป 2004-2009, 2013)
The Best Insurance Company (ป 2004-2013)
Green Life Society
free! http://www.viriyah.co.th/m
สารบัญ
กรกฎาคม-กันยายน 2556
บท บรรณาธิการ สวัสดีค่ะ...เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ส�ำหรับ V magazine ก้าวสู่ปีที่ 2 เล่มที่ 7 แล้วนะคะ ช่วงนี้กระแสสังคมสีเขียว หรือ Green Life Society เป็นเรื่องที่หลายหน่วยงาน หลายองค์กร ให้ความส�ำคัญ และร่วม กันจัดกิจกรรมเพือ่ อนุรกั ษ์สงิ่ แวดล้อม เช่น การลดการใช้พลังงาน การปลูกและฟืน้ ฟูปา่ ไม้ ถือเป็นการเพิม่ พืน้ ทีป่ อดขนาดใหญ่ การปลูกป่าชายเลนเพือ่ ช่วยป้องกันการกัดเซาะชายฝัง่ ซึ่งทุกกิจกรรมถือเป็นเรื่องดีทั้งสิ้น ส�ำหรับ วิริยะประกันภัย ได้ดำ� เนินกิจกรรมรักษ์โลกอย่างต่อเนื่อง ที่ตึกอาร์เอสทาวเวอร์ของเราก็ได้ด�ำเนินกิจกรรม Reality On Air ปลูกข้าวในออฟฟิซ เรียนรู้ชีวิต ชาวนา ร่วมกับทาง ธกส. และ จส. 100 ที่ระเบียงตึกชั้น 12 อาคารอาร์เอสทาวเวอร์ ภายใต้แนวความคิด ปลูกวันแม่ เกี่ยววันพ่อ เพื่อให้พนักงานได้เรียนรู้ขั้นตอนกระบวนการท�ำนา ปลูกข้าว เริม่ ตัง้ แต่การเพาะกล้า เตรียมดิน ปักช�ำ ดูแลรักษา จนกระทัง่ ต้นข้าวแตกกอ ตัง้ ท้อง และออก รวงเป็นเมล็ดข้าวสีทอง ก่อนจะผ่านกระบวนการขัดสี เพื่อให้เราได้รับประทานเป็นข้าวสวยนั้น มีความ ยากล�ำบากอย่างไร พวกเราจึงควรร่วมกันอนุรักษ์วิถีชีวิตชาวนา ให้ความส�ำคัญและตระหนักถึงคุณค่า ของข้าว ช่วยกัน กินข้าวหมดจาน ดื่มน�้ำหมดแก้ว เพื่อลดเศษอาหารเหลือทิ้ง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อ ให้เกิดภาวะโลกร้อน แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้าค่ะ
(กานดา วัฒนายิ่งสมสุข)
4 เรื่องเด่นจากปก Green Life Society เมื่อสังคมสีเขียวเบ่งบาน 12 เรื่องเก่าเล่าอดีต เรื่องเก่าสุนทรภู่ 14 รู้รักษ์สุขภาพ อาหารต้านแก่ ต้านมะเร็ง 15 ไอที Leap Motion 16 กิจกรรมสร้างสรรค์ เพาะต้นกล้าอาชีวเกษตร 18 ศูนย์ซ่อม ประทับตรา...5 ส. ศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะประกันภัย 22 สาระประกันภัย เปิดบัญชีประกันภัย 24 รอบรั้ววิริยะประกันภัย 26 CSR วิริยะประกันภัยน้อมน�ำ...ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ร่วมสร้าง...สุขภาวะหนองโรง 29 CRM วิริยะ เติมรัก ร้อยใจ สานสายใยแม่ลูก ปี 3
สุขที่ให้...นั่งรถไฟไปท�ำบุญ
32 วิทยาศาสตร์น่ารู ้ หมา VS แมว ใครแจ่มแจ๋วกว่ากัน ? 34 ท่องเที่ยวกับวิริยะ โลกเย็นๆ ที่เขาใหญ่ 37 วิริยะชวนชิม สองสไตล์ความอร่อยลงตัวที่เขาใหญ่ 38 รักลูกให้ดี WON’T BACK DOWN 40 เยือนลานธรรม หายใจเข้ารับรู้ถึงแก่นธรรม หายใจออกคือความสุขแห่งการให้ที่ “ศาลาลุงชิน” 42 ดวงชะตาราศี 44 ศุขสยาม 50 ปีเมืองโบราณ Ancient Siam, Socio-Cultural Park 50th Anniversary (2) 46 50 ปีเมืองโบราณ พระที่นั่งสรรเพชญปราสาทเมืองโบราณ 49 ชีวิตปลอดภัย ระวังภัยในลานจอดรถ
วี แมกกาซีน วารสารราย 3 เดือน เจ้าของ : กองบรรณาธิการ : จัดท�ำโดย : แยกสี/เพลต : พิมพ์ที่ :
บริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด (มหาชน) ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด (มหาชน) เลขที่ 121/28, 121/65 อาคารอาร์เอสทาวเวอร์ ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ 0-2641-3500 โทรสาร 0-2641-3900 ส�ำนักพิมพ์สารคดี (ในนามบริษัทวิริยะธุรกิจ จ�ำกัด) เอ็น. อาร์. ฟิล์ม โทรศัพท์ 0-2215-7559 บริษัททวีวัฒน์การพิมพ์ จ�ำกัด โทรศัพท์ 0-2720-5014
c
ภาพ ข้อเขียน หรือบทความใน V magazine ขอสงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ท่านที่น�ำไปตีพิมพ์ อ้างอิง หรือประโยชน์อันใดในสิ่งพิมพ์อื่น กรุณาขออนุญาตล่วงหน้า
เรื่องเด่น ประจ�ำฉบับ
นคร ลิมปคุปตถาวร ผู้บุกเบิกวิถีปลูกผักกลางเมือง เคยให้สัมภาษณ์นิตยสาร สารคดี ฉบับมีนาคม 2555 ไว้ว่า
เรียบเรียง : ฐิติพันธ์ พัฒนมงคล ภาพ : ฝ่ายภาพนิตยสาร สารคดี
“ในการรณรงค์ ให้คนเมืองหันมาปลูกผัก เขาพบว่า ผู้ที่สนใจเริ่มมีอายุน้อยลง จากเดิมเป็นคนวัยเกษียณ ถอยร่นจนถึงคนวัยท�ำงาน คนกลุ่มนี้อยากน�ำอะไรที่ เป็นธรรมชาติกลับมาใกล้ตัว”
Green Life Society
ชาตรี ลดาลลิตสกุล สถาปนิกผู้ออกแบบอาคารเรียน คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่มีลักษณะเป็น โอเอซิสกลางตึก มีหมู่ไม้น้อยใหญ่ขึ้นสลับซับซ้อนตั้งแต่พืชยืนต้น จนถึงพืชคลุมดิน นักศึกษาเสพความร่มครึ้มจากหมู่ไม้กลางตึก ก็ได้ให้สัมภาษณ์นิตยสาร สารคดี ไว้ว่า
“ไม่มีค�ำตอบใดที่สถาปัตยกรรมในโลกนี้จะตอบแทน ผู้คนได้ดีเท่าความสัมพันธ์กับธรรมชาติ ไม่ว่าการลดใช้ พลังงานหรือความสัมพันธ์ของผู้คน เป็นแนวคิดอันน�ำมา ซึ่งการออกแบบอาคารหลังนี้” งานศิลป์ของชาตรีไม่ได้ซับซ้อนอะไร เพียงใช้พื้นฐาน ทางสถาปัตยกรรม แต่ท�ำให้ผู้อาศัยได้สัมผัสถึงความสุขของชีวิต ได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ทุกวันนี้ผู้คนในเมืองใหญ่หันมาให้ความสนใจในวิถีสีเขียวกันมาก คนเมืองหาวิธีสร้างบ้านหรือออกแบบอาคารให้สอดคล้องกับสภาพ ภูมิอากาศ ภูมิประเทศ ช่วยลดค่าใช้จ่าย พลังงาน มีการน�ำไม้หรือวัสดุจากธรรมชาติมาใช้ในการออกแบบ เพิ่มสัมผัสอันเป็นมิตร ไม่แข็งกระด้างอย่างพื้นปูน เมื่อปลูกบ้านปลูกอาคารเสร็จแล้วยังมีความสุขกับแปลงผักเล็กๆ ที่เจ้าของบ้านเพาะเลี้ยงเองกับมือ
สังคมสีเขียวเบ่งบาน
เรื่องเหล่านี้นับวันจะเบ่งบานเติบโตกลายเป็นเทรนด์ เป็นงานอดิเรก ไปถึงเรื่องเอาจริงเอาจัง ท�ำได้ตั้งแต่คนตัวเล็ก ถึงคนตัวใหญ่ ดั่งหลากหลาย เรื่องราวน่าสนใจใน V magazine ฉบับนี้
4
5
กรกฎาคม - กันยายน 2556
โอเอซิสนักศึกษา
สนามบินสบาย ๆ เกาะสมุย
ภาพสนามบินนานาชาติในความคิดทั่วไปคงเป็นอาคารโอ่อ่าทันสมัย กว้างขวางและเย็นสบายด้วยเครือ่ งปรับอากาศ ตกแต่งด้วยวัสดุดไี ซน์เก๋ อย่างกระจกใสหรือโลหะมันวาว ทว่าใครมีโอกาสเดินทางมาเกาะสมุย จะพบสนามบินนานาชาติเกาะสมุยที่สร้างขึ้นจากอาคารศาลาไร้ผนัง มี เพียงโครงสร้างเสาและหลังคาทรงสูง มุงจากหรือหญ้าแฝก ไม่ติดแอร์ แต่เย็นด้วยสายลมธรรมชาติ จุดเริ่มต้นของสนามบินอันมีเอกลักษณ์มาจากข้อจ�ำกัดเรื่องงบ ประมาณ ผู้สร้างแก้ปัญหาด้วยการไม่น�ำวัสดุแปลกปลอมมาใช้ เลือก วัสดุทหี่ าได้ในท้องถิน่ ซึง่ ล้วนเป็นวัสดุธรรมชาติทเี่ ติบโตเร็ว หรือเรียกว่า renewable เช่น มะพร้าว จาก หญ้าแฝก แล้วออกแบบอาคารที่บริโภค
นักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คงโชคดีกว่าใคร เพราะมีโอเอซิสอันร่มรื่นตั้งอยู่กลางอาคารเรียน ทันทีทกี่ า้ วเข้าสูต่ วั อาคารปฏิบตั กิ ารคณะเศรษฐศาสตร์เราจะพบ สวนป่าแน่นทึบโดดเด่นอยู่กลางวงล้อมตึกเจ็ดชั้น ระเบียงรอบด้านยัง เต็มไปด้วยพลูด่างห้อยระย้าลงมาเป็นม่านต้นไม้ ชาตรี ลดาลลิตสกุล สถาปนิกเล่าว่า เจ้าของโครงการให้ออกแบบ อาคารประหยัดพลังงานเป็นอาคารเรียนและส�ำนักงานคณะ เมือ่ ส�ำรวจ ความต้องการของผู้ใช้ พบว่าขาดพื้นที่ส่วนกลางที่จะสร้างปฏิสัมพันธ์ ต่ อ กั น อาคารสี เ ขี ย วประหยั ด พลั ง งานที่ เ พิ่ ม ทั้ ง คุ ณ ภาพชี วิ ต และ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คนจึงเกิดขึ้น ผูอ้ อกแบบจัดให้พนื้ ทีส่ ว่ นกลางโอเอซิสและทางเดินรอบด้านเป็น พื้นที่สีเขียว ชุ่มเย็นด้วยพลังต้นไม้ รวมทั้งออกแบบทางเดินรอบด้าน บันได ทางเชื่อม เพิ่มพื้นที่ซึ่งคนจะใช้ชีวิตอย่างมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน ลด การใช้ลิฟต์ ตัวอาคารในแต่ละด้านยังเจาะช่องอากาศให้ลมพัดผ่าน สะดวก เพิ่มความชุ่มเย็นโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศแต่อย่างใด เป็นอีกหนึง่ อาคารเรียนสร้างสรรค์ ประหยัดพลังงาน สร้างความ รื่นรมย์ให้แก่นักศึกษาอย่างน่าเลียนแบบ
พลังงานน้อย คือเป็นอาคารศาลาโล่งไม่มีผนัง ให้มีลมที่พัดผ่านอาคาร มีช่องแสงกลางยอดโดมหลังคาให้แสงลอดผ่านเข้ามา ลดการใช้ไฟฟ้า ในตอนกลางวัน ทัง้ หมดด้วยความเชือ่ มัน่ ว่านักท่องเทีย่ วมาสมุยเพือ่ สัมผัสอากาศ บริสุทธิ์และความสดชื่นจากทะเล ที่ส�ำคัญสนามบินขนาดกะทัดรัด ไม่ ได้กินพื้นที่มากมาย ยังช่วยรักษาสังคมชาวเกาะแบบเกาะสมุยเอาไว้ ปัจจุบันสนามบินสมุยเปิดให้บริการตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม รองรับเทีย่ วบินทัง้ ในและต่างประเทศวันละกว่า 20 เทีย่ วบิน กลายเป็น ความภาคภูมใิ จของเกาะกลางอ่าวไทย เป็นตัวอย่างของอาคารทีล่ ดการ บริโภคพลังงานและใช้ประโยชน์จากสิ่งแวดล้อม
ผู้ออกแบบยังเพิ่มความเย็นจากลมธรรมชาติเข้าไปด้วยการวางบ่อน�้ำ ตั้งขวางทางด้านใต้ลมไว้ ตัวบ้านยังถูกออกแบบให้รู้จักปกป้องแสงแดดด้วยตัวเอง โดย วางด้านยาวของบ้านขนานไปตามแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก เพื่อลด การรับแดด แล้วกันความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านโดยวางห้องน�้ำและห้องเก็บ ของที่มีการใช้งานน้อยกว่าขนาบไว้ ท�ำหน้าที่ประหนึ่งบัฟเฟอร์โซน หรือตัวกั้นความร้อนจากดวงอาทิตย์ ไม่ให้แผ่เข้าส่วนที่มีการใช้งาน บ่อยกว่าอย่างห้องนั่งเล่นหรือห้องนอน ลดความจ� ำเป็นในการเปิด เครื่องปรับอากาศ แผ่นบังแดดยังถูกออกแบบเพือ่ กันความร้อนด้านข้าง ค�ำนวณโดย ระบบคอมพิวเตอร์ว่าต้องท�ำมุมกี่องศา แต่ละซี่ถี่ห่างเท่าไหร่ และต้อง เปิดทางให้แสงธรรมชาติที่พึงประสงค์ เป็นแสงที่คนชอบ ช่วยให้รู้สึก สบาย ลอดผ่านเข้ามาได้ เป็นบ้านประหยัดพลังงานสมัยใหม่ตามความคิดโกกรีน ที่เปิด พื้นที่ให้รูปแบบของบ้านออกมาดูโมเดิร์นได้
บ้านโมเดิร์น เขียวได้
ในหมู่บ้านวินด์มิลล์ย่านบางนา -ตราด มีบ้านหลังหนึ่งถูกออกแบบ ให้มลี กั ษณะครบถ้วนตามรูปทรงบ้านโมเดิรน์ เป็นบ้านทรงตึกสีเ่ หลีย่ ม สูงสองชั้น หลังคาดาดฟ้าเป็นตัวอย่างของบ้านสมัยใหม่ที่ถูกออกแบบ มาให้เป็นบ้านประหยัดพลังงานสีเขียว จุดเด่นของบ้านโมเดิร์นหลังนี้คือโถงโล่งส่วนกลางบ้าน เป็นที่ตั้ง ของบันได ผนังในส่วนนี้ถูกออกแบบเป็นกระจกบานเกล็ดเปิดปิดออก รับลมได้ง่าย ใช้เวลาไม่ถึง 15 วินาที ลมในส่วนนี้จะพัดพาผ่านไปถึง ตัวบ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ไม่บังทางลมบ้านหลังใน
6
7
กรกฎาคม - กันยายน 2556
จิ๋วแต่แจ๋ว ห้องแถวธรรมชาติ เมื่อเจ้าของเร่งความชื้นเพื่อสร้างความเย็นด้วยพันธุ์ไม้ชนิดคายน�้ำดี ให้ สวนหย่อมมีความชื้นสูง มีเศษซากใบไม้เน่าอยู่กับพื้นในสวนบ้างก็ยิ่ง เป็นบ่อเกิดของความชื้นเป็นพลังผลักให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกเย็นเรื่อๆ เมื่อ เข้าไปอยูใ่ กล้ความเย็นนีจ้ ะถ่ายเทไปยังห้องพักทีเ่ จาะช่องหน้าต่างถึงกัน ด้วยหลักการเดียวกัน ส�ำหรับห้องทีไ่ ม่มหี น้าต่างติดสวน เจ้าของ ประยุกต์ใช้หอ้ งน�ำ้ ทีม่ คี วามชืน้ ท�ำให้เกิดอุณหภูมทิ แี่ ตกต่างและลมถ่ายเท ภายในโรงแรมเล็กที่เรียบง่ายอย่างเป็นกันเองนี้ยังท�ำความเย็น ด้วยระบบก�ำแพงสองชั้นกันความร้อนเข้าปะทะห้องโดยตรง ไม่บอก คงไม่รู้เพราะก�ำแพงนี้กลมกลืนไปกับผังอาคาร เป็นโถงทางเดินแคบๆ จากล็อบบี้ไปห้องพัก กั้นไอแดดร้อนตอนบ่ายจากผนังอาคารโจมตีห้อง พักโดยตรง การท�ำหน้าทีช่ อ่ งฉนวนลดความร้อนถูกซ่อนไว้อย่างแยบยล คมคาย นี่คือแนวคิดและหลักการของเจ้าของและผู้ออกแบบอาคารที่หา ทางท�ำให้บ้านเย็นที่สุด โดยไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศให้เปลืองไฟ หรืออาจเย็นไปถึงระดับทีไ่ ม่ตอ้ งเปิดพัดลมด้วยซ�ำ้ ไป ความสุนทรียแ์ บบ ง่ายๆ กลมกลืนกับภูมิอากาศนี้แหละที่ผูกพันประทับใจจนชาวต่างชาติ หรือไม่ว่าใครที่เข้ามาพักต้องน�ำกลับไปบอกต่อ
อาคารสู ง เพี ย งชั้ น เดี ย ว พื้ น ที่ ล็ อ บบี้ ก ว้ า งสั ก 2 เมตร พนั ก งาน ต้อนรับนั่งท�ำงานในห้องเล็กๆ และห้องพักแค่สามห้อง ไม่อาจสกัดกั้น ให้ Samsen 5 lodge เป็นบูติกโฮเตลสีเขียวสุดชิลไปได้ โรงแรมเล็กๆ ตัง้ อยูใ่ นซอยสามเสน 5 ย่านบางขุนพรหม ต้นซอย คือวัดสามพระยา โด่งดังไกลถึงต่างประเทศด้วยโฆษณาแบบปากต่อปาก ว่าโรงแรมนีอ้ ยูส่ บาย อากาศเย็นตามธรรมชาติโดยไม่ตอ้ งเปิดเครือ่ งปรับ อากาศ ทุกวันนี้มีชาวต่างชาติจองห้องพักผ่านอินเทอร์เน็ตเข้ามาจน เต็มแทบทุกเดือน เคล็ดลับของความสุขตามธรรมชาติของ Samsen 5 lodge คือ คอร์ตยาร์ดตั้งอยู่ตรงกลางค่อนไปทางด้านหลังของพื้นที่ มีลักษณะเป็น สวนเล็กๆ ในบ้าน คอร์ตยาร์ดเป็นภูมิปัญญาแต่โบราณที่บ้านเมืองใน เขตร้อนทางตะวันออกมีมาเนิ่นนานแล้ว ตัวอย่างเช่นอาคารแถวตลาด นางเลิ้ง หรือห้องแถวแบบชิโน-โปรตุกีสที่ภูเก็ต พื้นที่สีเขียวนี้ท�ำหน้าที่ เหมือนปล่องอากาศช่วยให้อากาศถ่ายเท บ้านหรือที่พักจะเย็นขึ้นได้ ด้วยสวนเล็กจิ๋ว อธิ บ ายได้ ว ่ า เมื่ อ พื้ น ที่ ส องต� ำ แหน่ ง มี อุ ณ หภู มิ ห รื อ ความชื้ น แตกต่างกัน มวลอากาศจะเกิดการเคลื่อนย้าย สายลมเย็นถ่ายเท
ยอดตึกคึกคัก ดาดฟ้าสีเขียว ดาดฟ้าว่างเปล่าของอาคารส�ำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ครึกครื้นขึ้นทันตาเมื่อถูกแปลงโฉม เป็นสวนผักสีเขียว จุดเริ่มต้นของโครงการสวนผักดาดฟ้า เกิดขึ้นเมื่อ ดร. กนกรัตน์ ยศไกร รองผู้อ�ำนวยการส� ำนักวิทยบริการฯ ผู้ริเริ่มโครงการเห็นว่า เจ้าหน้าที่ซึ่งมีอยู่ราว 50 คน ส่วนใหญ่มีรายได้ไม่มาก จะสามารถช่วย เรื่องเศรษฐกิจเขาได้อย่างไร เมื่อค้นข้อมูลก็นึกถึงการปลูกผักเพื่อให้ เจ้าหน้าที่ได้เก็บเกี่ยวไว้กินเองเป็นอาหาร รับทุนเริ่มต้นจากโครงการ “สวนผักคนเมือง” แปลงปลูกเน้นวัสดุน�้ำหนักเบา เน้นวัสดุเหลือใช้เช่นชั้นหนังสือ
ดินในแปลงปลูกปูรองด้วยกาบมะพร้าวเพื่อดูดซับความร้อนจากพื้นปูน ให้ความส�ำคัญกับระบบระบายน�้ำ คุณอัญชนา ธาตุบุรมย์ สมาชิกของโครงการสวนผักดาดฟ้าเล่า ว่าเริ่มกิจการมาตั้งแต่ปี 2553 ผลผลิตรุ่นที่ผ่านมาพอให้เจ้าหน้าที่ขึ้น มาเก็บกินได้ต่อเนื่อง บางครั้งเหลือขายแก่บุคลากรภายในมหาวิทยาลัย ด้วยเป็นกิจการที่ทุกคนร่วมกันคิดร่วมกันท�ำ ทุกวันเช้าเย็นจะมี เจ้าหน้าที่แต่ละฝ่ายผลัดกันขึ้นมาบนดาดฟ้า รดน�้ำ พรวนดิน ตรวจดู แปลงผักว่ามีโรคหรือแมลงบ้างหรือไม่ สวนผักสีเขียวนอกจากจะช่วย เรื่องเศรษฐกิจ ยังพลอยให้เจ้าหน้าที่ต่างฝ่ายรู้จักและสนิทสนมกัน มากขึ้น
8
9
กรกฎาคม - กันยายน 2556
รั้วกินได้
ดู ด สายตาผู ้ พ บเห็ น นอกจากผั ก สลั ด แล้ ว ยั ง ปลู ก คะน้ า กวางตุ ้ ง พริกขี้หนู กะเพรา โหระพา ข่า ตะไคร้ เมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับการดูแล ผักก็ปรึกษาเพื่อนในกลุ่มเฟซบุ๊ก “เมื่อคนเมืองอยากปลูกผัก” ใครมี ปัญหาก็โพสต์ถามกันได้ ใครมีเรื่องราวก็น�ำมาเล่าสู่กันฟัง ทุกวันนีน้ อกเหนือจากงานบ้านทีต่ อ้ งดูแลเป็นประจ�ำ การดูแลผัก เด็ดมาท�ำอาหารให้ครอบครัวกิน ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เรือ่ งราวของคุณศิรกิ ลุ บอกให้รวู้ า่ พืน้ ทีอ่ นั จ�ำกัดไม่ได้เป็นอุปสรรค ต่อการปลูกผักเลย
คนที่ ช อบกิ น สลั ด ผ่ า นมาเห็ น รั้ ว บ้ า นในซอยปรี ดี พนมยงค์ 14 คงน�้ำลายสอ เมื่อแขวนกระถางปลูกผักเรียงรายเป็นแถว ทั้งกรีนโอ๊ก เรดโอ๊ก ผักคอส ใบสีเขียวบ้าง แดงบ้าง ดูอวบแน่นงามสมบูรณ์ เป็นทั้ง ไม้ประดับและก�ำแพงรั้วกินได้ คุ ณ ศิ ริ กุ ล ซื่ อ ต่ อ ชาติ และสามี เริ่ ม ปลู ก ผั ก แล้ ว ตกแต่ ง จน แปลงผักกลายเป็นส่วนหนึ่งของบ้านอย่างกลมกลืนเมื่อปี 2553 จาก ปลูกผักกระถางบริเวณระเบียงไม้ข้างบ้านชั้นสอง ขยับขยายไปท�ำแปลง ผั ก ทรงสวนแนวตั้ ง ด้ า นนอกก� ำ แพงรั้ ว ปล่ อ ยให้ ผั ก สลั ด ใบงามๆ
สวนผักบ้านเดี่ยว
สวนผักกลางย่านเศรษฐกิจ
บ้านเดี่ยวในซอยรามอินทรา 34 เนื้อที่ราว 100 ตารางวากลายเป็น พื้นที่ปลูกผักอันกว้างขวาง มีพืชผักหลายชนิด คุณศุภฤทธิ์ ทวีเกียรติ เจ้าของบ้านเริ่มต้นปลูกผักในบ้านด้วยการลองผิดลองถูก แม้พืชผักรุ่น แรกจะเหีย่ วเฉาคาแปลงผักก็ไม่ทอ้ เขาเดินหน้าค้นคว้าเทคนิคการปลูก ผักจนประสบความส�ำเร็จ ทดลองเทคนิคใหม่ๆ เช่นอาศัยพลังลมจาก คอมเพรสเซอร์ระบายความร้อนเครื่องปรับอากาศเป่าลมเข้าใต้กองปุ๋ย หมัก เพื่อไม่ต้องกลับกองให้ล�ำบาก หัดท�ำหัวเชื้อจุลินทรีย์และน�้ำหมัก ชีวภาพ หรือการเลี้ยงไส้เดือนเพื่อน�ำมูลมากระตุ้นการเจริญเติบโตของ พืชผัก จากปลูกผักคุณศุภฤทธิ์ต่อยอดไปยังการเพาะเห็ด รวมทั้งเลี้ยง ไก่ไข่และจิ้งหรีดไว้กิน ดูเหมือนเขาจะติดใจในวิถีเกษตรกลางเมือง เข้าเสียแล้ว “สมัยก่อนผมเคยคิดว่าจะปลูกผักท�ำไม เราอยู่ในเมืองซื้อเอาดี กว่า ปลูกแล้วมันจะคุม้ หรือ” ถึงวันนีเ้ วลาได้พสิ จู น์แล้วว่า... “มันมีความ สุขเกิดขึ้น คือท�ำแล้วมีความสุข มีความสนุก เหมือนเราเข้าใจธรรมชาติ มากขึ้น” ใครที่อยากรู้จักคุณศุภฤทธิ์ลองเข้าไปในเฟซบุ๊ก “เมื่อคนเมือง อยากปลูกผัก” ทีเ่ ขาริเริม่ ก่อตัง้ เริม่ ต้นจากการเป็นเพือ่ นกัน ชีวติ บ้าน เดี่ยวน่าจะมีความสุขมากขึ้น
บ้านพักกลางเมืองย่านลาดพร้าว แทรกตัวอยู่ในหมู่อาคารอันประกอบด้วยตึกสูง ศูนย์การค้า ส�ำนักงาน ถูกเติมพื้นที่ว่างแทบทุกตารางเมตรด้วยพืชผักสีเขียว เมื่อเจ้าของบ้าน ปริ๊นซ์-นคร ลิมป- คุปตถาวร ได้ทดี่ นิ รกร้างใกล้ๆ มาไว้ในครอบครอง เขาก็เนรมิตแปลงผักนานาชนิดขึน้ ในพืน้ ทีว่ า่ งเปล่า นัน้ จากวันแรกทีเ่ ริม่ ปลูกผักตามทีว่ า่ งในโรงรถ เริม่ ต้นจากการปรับปรุงคุณภาพดิน ท�ำน�ำ้ หมักชีวภาพ วันนี้หันไปทางไหนบ้านของปริ๊นซ์ “เจ้าชายผัก” เต็มไปด้วยผักทั้งผักบุ้ง คะน้า ผักกาดหอม โหระพา แมงลัก ต�ำลึง กะเพรา กับอีกสารพัดผักที่คนหนึ่งจะปลูกได้ ปริน๊ ซ์เล่าว่าการปลูกผักใช่จะได้แต่ผลผลิตกินเป็นอาหาร แต่เขาได้เพือ่ นเพิม่ ขึน้ จากกิจกรรมเผย แพร่ความรู้เรื่องการปลูกผักในพื้นที่จ�ำกัดในเมือง รวมทั้งเฟซบุ๊กผู้ที่ชอบการปลูกผักเหมือนกัน การ ปลูกผักท�ำให้เขาได้เรียนรูส้ งิ่ ใหม่ๆ ได้ออกก�ำลังกาย การเดินเข้าไปในสวนผักให้รา่ งกายได้สมั ผัสต้นไม้ ใบหญ้า ได้รดน�้ำแปลงผักให้ชุ่มฉ�่ำ ท�ำให้จิตใจเขาค่อยๆ ผ่อนคลาย ความคิดฟุ้งซ่านบางเรื่องหายไป สิ่งเหล่านี้ท�ำให้เขาได้นอนหลับอย่างมี ความสุขมากขึ้น ปริ๊นซ์ยังบอกด้วยว่าทุกคนมีสิทธิ์เป็นผู้ปกป้องสภาวะแวดล้อม ของโลกใบนีด้ ว้ ยการปลูกผักหรือต้นไม้ เพราะเมือ่ เราเริม่ ปลูกต้นไม้แล้ว มันค่อยๆ งอกงาม ดินบริเวณนั้นจะดีจึ้น อากาศก็ดีขึ้น จากจุดเริ่มต้นที่ปลูกผักเพราะใจรัก ได้รับแรงบันดาลใจเล็กๆ น้อยๆ จากคนพึ่งพาตัวเองด้านอาหาร พ่อค้าแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวที่ ปลูกถั่วงอกเอง วันนี้การปลูกผักกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตปริ๊นซ์และ บ้านน้อยกลางเมืองใหญ่ไปแล้ว .
10
11
กรกฎาคม - กันยายน 2556
เรื่องเก่า เล่าอดีต เรื่อง : เอนก นาวิกมูล
เชื้อสายสุนทรภู่
01
ทีแรกว่าจะเขียนเรื่อง “นักกลอนนิรพักตร์” เพราะระหว่างหมกมุ่น
ครุ่นคิดอยู่ตลอดวันว่าจะเขียนเรื่องอะไรให้ V magazine ดี ในที่สุดก็ ไปเจอข้อมูลเกี่ยวกับนักกลอนรุ่นเก่าบางคนเข้า ปัญหาคือเท่าที่ค้นคว้า มานานปี นักเขียนคนนี้ไม่มีรูปให้เห็นเลยแม้แต่รูปเดียว ทั้งที่อยู่ในสมัยมี กล้องถ่ายรูปแล้ว จึงคิดว่าเขียนเรื่องนักเขียนที่เราไม่เคยพบเห็นใบหน้า บ้างก็น่าจะดี นิร อ่านว่า นิ-ระ แปลว่าไม่หรือไม่มี เมื่อผสมกับค�ำอื่น มักแปลว่า ไม่อย่างนั้นหรือปราศจากอย่างนี้ เช่น นิรทุกข์ แปลว่าปราศจากทุกข์ นิรโทษ แปลว่าไม่มโี ทษ นิรนาม แปลว่าไม่เผยชือ่ หรือหาชือ่ ไม่ได้ เป็นต้น นิรนามนั้นเรามักได้ยินบ่อยๆ เช่นพูดว่า นักเขียนนิรนาม แต่ “นิร- พักตร์” ซึง่ หมายถึงไม่ปรากฏใบหน้า เป็นค�ำทีท่ า่ นคงไม่เคยได้ยนิ มาก่อน ผูเ้ ขียนเพิง่ คิดตัง้ ขึน้ ใหม่เมือ่ เขียนสารคดีเรือ่ งนี ้ หาได้เป็นค�ำเก่าไม่ เดิมตัง้ ใจจะเขียนสองคนรวมกัน เพราะนึกว่าคงเขียนเรือ่ งได้ไม่ยาว นัก คือสุนทรภู ่ กับนายบุษย์ ซึง่ เป็นคนเขียนกลอนให้โรงพิมพ์ราษฎร์เจริญ หรือโรงพิมพ์วดั เกาะหลายเรือ่ ง แต่เมือ่ เขียนเรือ่ งสุนทรภูไ่ ปหน่อยหนึง่ แล้ว เริม่ รูว้ า่ เห็นจะยาวเกินโควต้า จึงจ�ำต้องตัดเรือ่ งนายบุษย์ออก เอาแต่เรือ่ ง สุนทรภู่คนเดียว โดยเน้นไปที่เชื้อสายสุนทรภู่ซึ่งคาใจมานานและไม่ค่อย มีใครเขียนถึง สุนทรภู่ หรือพระสุนทรโวหาร คนที่ชื่อ ภู่ เป็นนักเขียนนิรพักตร์ที่ มีชอื่ เสียงทีส่ ดุ คนหนึง่ ของไทย สมเด็จฯ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ ทรง กล่าวในพระนิพนธ์เรื่อง ประวัติสุนทรภู่ (พิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2465) ว่า สุนทรภู่เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน (รัฐบาลประกาศให้เป็นวัน สุนทรภู่) พ.ศ. 2329 ถึงแก่กรรมเมื่อปีเถาะ พ.ศ. 2398 อายุ 70 ปี ผลงานที่มีชื่อเสียงของสุนทรภู่มีมากมาย เช่น พระอภัยมณี ซึ่งแต่ง ในขณะตกยากเพราะรัชกาลที่ 3 ไม่โปรด และสุนทรภู่ต้องหลบไปบวช, นิราศเมืองแกลง, นิราศพระบาท, นิราศภูเขาทอง, โคบุตร, ลักษณวงศ์, สิงหไตรภพ, สวัสดิรักษา, สุภาษิตสอนหญิง ฯลฯ พระนิพนธ์กล่าวตอนท้ายๆ ว่า เมื่อพ้นสมัย รัชกาลที่. 3 หรือเมื่อ
12
02
รัชกาลที่ 4 ขึ้นครองราชย์ใน พ.ศ. 2394 แล้ว โปรดให้สุนทรภู่เป็นพระ สุนทรโวหาร เจ้ากรมอาลักษณ์ ฝ่ายพระบวรราชวัง (คือวังหน้าของ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว) เมื่อ พ.ศ. 2395 ขณะสุนทรภู่ อายุ 66 ปีแล้ว เป็นเจ้ากรมอยู่ได้ไม่กี่ปีก็ถึงแก่กรรม บุตรชายคนใหญ่ของสุนทรภูช่ อื่ พัด นางจันเป็นมารดา บุตรชายอีก คนชื่อตาบ นางนิ่มเป็นมารดา นายพัดและนายตาบอยู่มาถึงสมัยใด มีบตุ รหลานกีค่ น ใช้นามสกุลอะไร ไม่ทรงกล่าวไว้ สุนทรภูม่ รี ปู ถ่ายหรือไม่ ไม่ทรงกล่าวถึง ความจริงการถ่ายรูปเข้ามาถึงเมืองไทยตัง้ แต่ พ.ศ. 2388 แต่เมือ่ ต้น สมัยรัชกาลที่ 4 การจะถ่ายรูปคนธรรมดาไว้ดูเล่นยังเป็นเรื่องค่อนข้าง ล�ำบากเพราะต้องใช้ทุนสูง แม้พระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 4 ก็มี เพียงแค่ไม่กี่รูป โอกาสได้เห็นภาพถ่ายสุนทรภู่จึงเป็นไปได้น้อย ยกเว้น มีปาฏิหาริย์ สังฆราชปาเลอกัว กับบาทหลวงลาร์โนดีเห็นความส� ำคัญ ของสุนทรภู่ (ซึ่งอยู่ในระดับปัญญาชนของราชส�ำนัก และควรรู้เรื่องชาว ต่างประเทศพอควร) ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกไว้ รูปปัน้ สุนทรภูท่ เี่ มืองแกลง จ. ระยอง หรือรูปทีป่ น้ั เลียนแบบ เป็นรูป จากจินตนาการ ผูเ้ ขียนเองไม่คอ่ ยชอบรูปนัน้ นักเพราะทรงผมของสุนทรภู่ ดูเป็นสมัยปัจจุบันเกินไป ถ้าจะให้ใกล้เคียงกับคนร่วมสมัยจริงๆ ควรให้ ท่านไว้ผมมหาดไทยตามรูปถ่ายเก่าๆ จะดีกว่า ดูจากภาพวาดลายเส้นที่ วาดจากภาพถ่ายในหนังสือ เล่าเรือ่ งกรุงสยาม ของสังฆราชปาเลอกัวก็ได้ ต่อไปใครจะวาดรูปสุนทรภู่ก็ให้จินตนาการจากรูปสมัยรัชกาลที่ 3 ถึง รัชกาลที่ 4 บ้าง กรณีลกู หลานและผูส้ บื เชือ้ สายของสุนทรภูเ่ ป็นอีกข้อหนึง่ ทีผ่ เู้ ขียน ร�ำคาญใจ อยากให้กรมศิลปากรหรือวงการกวีชี้แจงให้เป็นเรื่องเป็นราว เสียที เพราะสุนทรภู่ถึงแก่กรรมไปแค่ 150 ปีเศษ อีกทั้งเป็นกวีผู้ยิ่งใหญ่ ของชาติ ไม่นา่ ทีจ่ ะสืบสาวราวเรือ่ งทายาทไม่ได้ นีย่ งั ไม่ตอ้ งพูดถึงสมบัติ
01
พระยาปริยัติธรรมธาดา (แพ ตาละลักษมณ์) ผู้แต่งหนังสือชื่อ ประวัติสุนทรภู่ และ ต�ำนานเมืองเพชรบุรี ตั้งแต่ พ.ศ. 2456
02
หนังสือ ภูมิราชภักดี ของ แสร์ ขจรศิลป์ พิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2497 ที่กล่าวว่า สมพูน ภู่เรือหงษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทสหวิศวการ เป็นเหลนของสุนทรภู่
03
สุภาษิตสอนหญิง ผลงานอีกชิ้นหนึ่งของสุนทรภู่ สมเด็จฯ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ ทรงอนุมานว่า แต่งประมาณระหว่าง พ.ศ. 2380-2383 โรงพิมพ์ราษฎร์เจริญ พิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2511 ภาพปกฝีมือ อาด อ๊อดอ�ำไพ
ภาพจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ SLA-0457-020
ซีดีเอนก 0684-01-032 และ ANP-0003-083
ห้องสมุดเอนก นาวิกมูล ซีดี 0151-035
03
ของสุนทรภู่มหากวี ซึ่งไม่มีให้ดูเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
ภูเ่ รือหงษ์” กรรมการผูจ้ ดั การบริษทั สหวิศวการ ส�ำเร็จวิชาพาณิชย์ศาสตร์ จากสิงคโปร์ กลับมาเมือ่ พ.ศ. 2482 และส�ำเร็จวิชาบัญชีจากมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ เมื่อ พ.ศ. 2487 ออกท�ำการค้าส่วนตัวเป็นเจ้าของห้าง Lamode และเป็นผู้จัดการบริษัทสหวิศวการเมื่อ พ.ศ. 2495 สมพูน ภู่เรือหงษ์ “เป็นบุตรของขุนวิจิตร์จักรานุการ (เลียบ ภู่เรือหงษ์) และเป็นเหลนของพระศรีสุนทร (ภู่) ปราชญ์ของไทย ต้นตระกูล ภู่เรือหงส์ ผู้แต่งหนังสือบทเรียนชุดมูลบทบรรพกิจ ท่านปราชญ์ผู้นี้เกิด ในรัชกาลที่ 2 รับราชการตลอดรัชกาลที่ 2-3-4”
หนังสือชือ่ ประวัตสิ นุ ทรภู ่ และ ต�ำนานเมืองเพชรบุร ี แต่งโดยพระยา ปริยัติธรรมธาดา (แพ ตาละลักษมณ์) พิมพ์แจกในงานฌาปนกิจศพ นางจันทร์ ตาละลักษมณ์ เมื่อ พ.ศ. 2533 (ปกหน้ากับปกในพิมพ์ชื่อ หนังสือไม่สอดคล้องกัน และโรงพิมพ์ลมื ลงเลขหน้า เข้าใจว่าเพราะก�ำลัง เร่งรีบท�ำ) ให้เกร็ดเรื่องสุนทรภู่ไว้น่าสนใจมาก พระยาปริยัติธรรมธาดา เขียนประวัติสุนทรภู่ไว้เมื่อ พ.ศ. 2456 หรือเมือ่ ต้นสมัยรัชกาลที่ 6 (เขียนก่อนสมเด็จฯ กรมพระยาด�ำรงฯ 9 ปี) โดยบันทึกเกร็ดจากคนรุ่นเก่าหลายคน ในบรรดาผูใ้ ห้ขอ้ มูลเหล่านัน้ ท่านผูห้ นึง่ คือพระยาสโมสรสรรพการ (ทัด สิริสัมพันธ์) ขณะนั้นอายุ 70 ปี (เคยดูแลงานพิพิธภัณฑ์ยุคแรกๆ) กล่าวว่าเมือ่ ท่านอายุราว 25 ปี นายพัด บุตรของสุนทรภู ่ เคยมาสามิภกั ดิ์ รับใช้ตัวท่านอยู่ จึงได้คุ้นเคยเรื่องสุนทรภู่มาตั้งแต่บัดนั้น เรือ่ งหนึง่ ทีพ่ ระยาสโมสรฯ เล่าคือเหตุทสี่ นุ ทรภูต่ อ้ งโทษ และรัชกาล ที่ 2 มีพระบรมราชโองการให้น�ำไปจ�ำขังหลายหน เนื่องมาจากมารดา กล่าวหาว่า “เป็นคนขัดโอวาท หรือใช้ค�ำทุภาษิตต่อมารดาอย่างแรง” อีกคนหนึ่งคือหม่อมหลวงทองดี แจ้งว่า “ท่านสุนทร มีบุตรชายชื่อ นายพัดๆ มีบุตรหญิงชื่อแม่อวบๆ มีบุตรชายชื่อนายเตียบ นายเตียบได้ เคยท�ำงานอยู่โรงพิมพ์บ�ำรุงนุกูลกิจ สี่กั๊กเสาชิงช้า แลว่าทุกวันนี้ (พ.ศ. 2456) ก็ยังมีตัวอยู่” ตรงนี้น่าสนใจที่สุด สรุปว่าเหลนคนหนึ่งของสุนทรภู่ชื่อเตียบ เคย ท�ำงานที่โรงพิมพ์บ�ำรุงนุกูลกิจ ถนนบ�ำรุงเมือง ซึ่งเป็นโรงพิมพ์เก่าแก่ รับพิมพ์หนังสือราชกิจจานุเบกษาของทางราชการมานาน และเมื่อ พ.ศ. 2527 ก็ยังรับพิมพ์หนังสือ เพลงนอกศตวรรษ ของผู้เขียน (เอนก) อยู่ ชื่อนายเตียบนี้น่าจะสัมพันธ์กับเนื้อความในหนังสืออีกเล่มหนึ่งคือ ภูมิราชภักดี ของ แสร์ ขจรศิลป์ พิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2497 นายแสร์ ก ล่ า วถึ ง นั ก ธุ ร กิ จ คนหนึ่ ง ในหน้ า E 68 ว่ า “สมพู น
เลียบกับเตียบมีความใกล้เคียงกันมาก จนเชื่อว่าน่าจะเป็นคนเดียว กันได้ เพียงแต่นายแสร์อาจจดหรือเรียงพิมพ์ผดิ เพราะข้อความตอนท้าย ทีข่ ยายความว่า สุนทรภูแ่ ต่งมูลบทบรรพกิจ กับรับราชการตลอดรัชกาลที่ 2-3-4 ก็ยังแสดงความคลาดเคลื่อนอยู่ ข้อแรกควรท�ำความเข้าใจว่า สุนทรภูไ่ ม่ได้เป็นผูแ้ ต่งแบบเรียนหลวง ชุดมูลบทบรรพกิจ แบบเรียนชุดนั้นพิมพ์เมื่อต้นสมัยรัชกาลที่ 5 ผู้แต่ง ทีแ่ ท้จริงคือพระยาศรีสนุ ทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) ถ้าจะโยงให้เกีย่ ว กันจริงๆ ก็ท�ำได้เพียงว่า พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย) ลอกเอากาพย์ พระไชยสุริยาของสุนทรภู่มาใส่ในมูลบทบรรพกิจเรื่องหนึ่งเท่านั้น ข้อที่ 2 สุนทรภู่รับราชการตลอดสามรัชกาล ต้องหมายเหตุว่าสมัย รัชกาลที่ 3 สุนทรภู่ประสบปัญหาต้องออกจากราชส� ำนัก จนถึงสมัย รัชกาลที่ 4 จึงได้กลับมารับราชการอีก จะเห็นว่าถ้าเชื่อตามค�ำบอกของหม่อมหลวงทองดี และนายแสร์ เชื้อสายของสุนทรภู่ก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเราเลย ทีบ่ างท่านกล่าวลอยๆ ว่าลูกหลานสุนทรภูใ่ ช้นามสกุล “ภูเ่ รือหงษ์” แล้วไม่แสดงรายละเอียดว่ารู้มาจากใครนั้นเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะ ท�ำให้ต่อเรื่องไม่ติด และยิ่งนานก็จะยิ่งล�ำบาก ท่านผูใ้ ดใช้นามสกุล “ภูเ่ รือหงษ์” กรุณาแสดงหลักฐานให้สาธารณ- ชนได้รับทราบสักครั้งจะเป็นพระคุณยิ่ง .
13
กรกฎาคม - กันยายน 2556
รู้รักษ์ สุขภาพ
12 อาหารไทยจากห้องวิจัย ต้านแก่ ต้านมะเร็ง
เรื่อง : ธิษณา จรรยาชัยเลิศ* ภาพประกอบ : เซมเบ้
ไม่น่าแปลกใจเมื่ออาหารไทยเป็นที่ติดอกติดใจของชาวต่างชาติ
เพราะนอกจากมีรสชาติครบเครื่องทั้งเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ยังอุดมไป ด้วยพืชผักสมุนไพรและเครื่องเทศที่ล้วนให้คุณประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะอยากให้คนไทยภูมิใจในอาหารไทย ครั้งนี้จึงรวบรวมข้อมูล เรื่องอาหารไทยที่ได้รับการยืนยัน มีสมบัติช่วยชะลอความแก่และต้าน มะเร็งได้จริง จากสถาบันโภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดล มาเล่าสู่กันฟัง
น�้ำพริกตาแดง ช่วยชะลอวัย
ดร. เอกราช เกตวัลห์ และทีมนักวิจยั จากห้องปฏิบตั กิ ารทางอาหาร ศึกษาพบว่า น�้ำพริกตาแดงมีส่วนประกอบของเครื่องเทศหลายชนิดที่มี สมบัตชิ ว่ ยต่อต้านอนุมลู อิสระ โดยพบว่า หนูทดลองกลุม่ ทีไ่ ด้รบั ควันบุหรี่ ร่วมกับอาหารผสมน�ำ้ พริกตาแดงเป็นเวลา 2 เดือน สามารถต่อต้านอนุมลู อิสระได้ดีกว่ากลุ่มหนูทดลองที่ได้รับควันบุหรี่เพียงอย่างเดียว เมือ่ วัดปริมาณเอนไซม์ทที่ �ำหน้าทีต่ อ่ ต้านอนุมลู อิสระชะลอแก่ (Superoxide dismutase ; SOD) พบว่า หนูทดลองที่ได้รับควันบุหรี่อย่าง ต่อเนือ่ งมีคา่ เอนไซม์ชะลอแก่สงู กว่าหนูทดลองทีอ่ ยูใ่ นสภาพแวดล้อมปกติ ได้ หากกินอาหารที่ผสมน�้ำพริกตาแดงเป็นประจ�ำ นักวิจยั สรุปว่า น�ำ้ พริกตาแดงประกอบด้วยสารออกฤทธิท์ างชีวภาพ สามารถต้านอนุมูลอิสระ และลดการอักเสบจากควันบุหรี่ได้ ดังนั้นหาก กินน�้ำพริกตาแดงเป็นประจ�ำควบคู่กับพืชผักนานาชนิดก็น่าจะช่วยลด ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่มีสาเหตุจาก สารอนุมูลอิสระได้
สั่งการคอมพิวเตอร์รูปแบบใหม่ ด้วย Leap Motion Controller
เรื่อง : R2D2
เครื่ อ งต้ ม ข่ า พริ ก แกงป่ า พริ ก แกงส้ ม พริ ก แกงเผ็ ด พริ ก แกงกะหรี ่ พริกแกงพะแนง พริกแกงเขียวหวาน และเครื่องต้มย�ำ ล้วนมีฤทธิ์ในการ ยับยั้งการก่อกลายพันธุ์ของสารยูรีเทนซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง โดยพริกแกง มัสมั่นมีประสิทธิภาพสูงสุด รองลงมาคือน�้ำพริกแกงเหลืองและน�้ำพริก แกงพะแนง
แกงเลียง ป้องกันมะเร็งล�ำไส้ใหญ่
แกงเลียงอุดมไปด้วยเส้นใยจากพืชผักสมุนไพร มีไขมันต�่ำ ทั้งยังมี สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่มีประโยชน์ เช่น ฟลาโวนอยด์ แคโรทีนอยด์ ศ. ดร. สมศรี เจริญเกียรติกุล เล็งเห็นว่าแกงเลียงอาจมีสมบัติช่วยยับยั้ง การเกิดมะเร็งล�ำไส้ใหญ่ได้ จึงศึกษาโดยแบ่งหนูทดลองออกเป็นสองกลุม่ กลุม่ แรกให้กนิ อาหารปกติ ส่วนอีกกลุม่ ให้กนิ แกงเลียงร่วมกับอาหารปกติ ระหว่างนี้หนูทดลองทั้งสองกลุ่มจะได้รับสารก่อมะเร็งร่วมด้วย หลัง 6 สัปดาห์พบว่า แกงเลียงสามารถกระตุน้ การท�ำงานของเอนไซม์ ก�ำจัดสารพิษในตับหนูให้มปี ระสิทธิภาพสูงขึ้น จึงช่วยลดการเปลี่ยนแปลง พยาธิสภาพของผนังล�ำไส้ที่อาจน�ำไปสู่การเกิดมะเร็งล�ำไส้ใหญ่ในหนู ทดลอง จากผลการทดลองดังกล่าวนักวิจัยจึงคาดว่าแกงเลียงมีศกั ยภาพ ในการป้องกันการเกิดโรคมะเร็งต่างๆ โดยเฉพาะโรคมะเร็งล�ำไส้ ใหญ่ ในคน มีอาหารที่ช่วยเพิ่มความเป็นหนุ่มเป็นสาวและต้านมะเร็งอยู่ใกล้ตัว ขนาดนี้ รีบจัดหามาเพิ่มในส�ำรับอาหารเพื่อ สุขภาพที่ดีกันเถอะ .
พริกแกง 10 ชนิด ต้านสารก่อมะเร็ง
ห้ อ งปฏิ บั ติ ก ารพิ ษ วิ ท ยา ทางอาหาร น�ำโดย รศ. ดร. แก้ว กังสดาลอ�ำไพ และคณะ ศึกษา ผลของพริ ก แกงที่ ค นไทยนิ ย ม บริโภค 10 ชนิดในการต่อต้าน สารก่อมะเร็ง พริกแกงทัง้ 10 ชนิด ได้แก่ พริกแกงเหลือง พริกแกงมัสมั่น
ไอที
*นักก�ำหนดอาหารวิชาชีพ
(Certified Dietitian of Thailand : CDT)
เมื่อ 3 ปีก่อน Microsoft ออกมา
แล้วไปแสดงผลทางหน้าจอ โดยมีอตั รา การส่ ง ข้ อ มู ล ภาพสู ง สุ ด 120 ภาพ ต่อวินาที ความแม่นย�ำอยู่ที่ 1/100 มิ ล ลิ เ มตร สามารถตรวจจั บ ท่ า ทาง (gesture) ได้สามลักษณะ คือ การ วาดมือเป็นวงกลม (circle) การปัด (swipe) และการแตะ (tap) ซึ่งแน่ นอน Leap Motion ไม่ได้หยุดพัฒนา ความสามารถในการตรวจจับท่าทางของ อุปกรณ์อยู่เพียงเท่านี้ เพราะได้ปล่อยให้ดาวน์โหลด Software Developer Kits (SDK) เต็มรูปแบบให้นกั พัฒนาได้ไปเขียนโค้ดสร้างแอพลิเคชัน เพิ่มเติมอีกด้วย ส่วนความสามารถที่ผู้สร้าง Leap Motion Controller กล่าวถึง ก็ ไล่กนั ไปตัง้ แต่เพิม่ อรรถรสในหมวดความบันเทิงอย่างการดูหนัง ฟังเพลง การเล่นเกมคอมพิวเตอร์ เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่การสร้างสรรค์ งานกราฟิก 3D ช่วยการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ การแพทย์ เทคโนโลยี และความสามารถอีกมากมายทีเ่ มาส์หรืออุปกรณ์เชือ่ มต่ออืน่ ๆ เคยท�ำได้ ราคาทีผ่ ผู้ ลิตเปิดให้สงั่ จอง (Pre Order) ในเว็บไซต์ www.leapmotion.com อยู่ที่ 79.99 ดอลลาร์สหรัฐ ไม่รวมค่าจัดส่ง ภายในกล่อง ประกอบด้วยตัวอุปกรณ์ Leap Motion Controller และ USB Cables อีกสองเส้น ผู้ใช้งานต้องมีระบบปฏิบัติการที่รองรับกับอุปกรณ์ ได้แก่ Windows 7, 8 หรือ Mac OS X 10.6 Snow Leopard ด้วยรูปร่างหน้าตา ศักยภาพของอุปกรณ์ รวมไปถึงราคาที่ถูกกว่า คู่แข่งอย่าง Kinect for Windows ถึงสามเท่า (ราคาปัจจุบันในเว็บไซต์ amazon.com อยูท่ ี่ 249.99 ดอลลาร์สหรัฐ) ท�ำให้นา่ จับตาเป็นอย่างยิง่ ว่าหลังจากเปิดตัวในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ ทาง Leap Motion Controller จะท�ำลายสถิติอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขายดีที่ Microsoft ถือครอง อยู่ได้หรือไม่ ! .
ปฏิวัติวงการเกมคอนโซลด้วยการเปิด ตัว Kinect อุปกรณ์จบั ความเคลือ่ นไหว ของผู้ใช้งานแบบสามมิติ ท�ำให้ผู้เล่น เกมจากเครื่อง Xbox360 ไม่ต้องใช้ คอนโทรลเลอร์อีกต่อไป และยอดขาย 8 ล้านเครือ่ งใน 60 วัน ก็สง่ ให้ Kinect มีชื่ออยู่ใน Guiness World Record ในฐานะอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ทที่ ำ� ยอด ขายได้เร็วทีส่ ดุ ทัง้ ยังต่อยอดผลิตภัณฑ์ดว้ ย Kinect for Windows ทีช่ ว่ ย ท�ำให้เครื่อง Kinect ใช้งานกับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลได้ โดยวางตลาด ไปแล้วสามประเทศทั่วโลก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ในปีนี้ Leap Motion บริษัทผู้พัฒนาอุปกรณ์เพื่อการปฏิสัมพันธ์ ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ ได้ออกมาท้าทาย Microsoft ด้วยการ เปิดตัว Leap Motion Controller อุปกรณ์ควบคุมคอมพิวเตอร์สว่ นบุคคล ด้วยการจับความเคลื่อนไหวของนิ้วและมือออกมาวางตลาดตัดหน้า Kinect for Windows โดยผู้ผลิตอ้างว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ท�ำให้การใช้งาน คอมพิวเตอร์น่าตื่นตาตื่นใจมากขึ้น โดยเฉพาะสิ่งที่อุปกรณ์เชื่อมต่อแบบ เดิมๆ ไม่สามารถท�ำได้ เพราะผู้ใช้งานไม่ต้องใช้เมาส์หรือสัมผัสหน้าจอ แต่หากเป็นการสัง่ การคอมพิวเตอร์ดว้ ย 2 มือและ 10 นิว้ ทีล่ ากไปมาใน อากาศแทน ขนาด 3 นิว้ ของ Leap Motion Controller ชวนให้นกึ ถึง USB Flash Drive เมื่อราว 10 ปีที่แล้ว Inkirby บล็อกเกอร์ไอทีจาก blognone. com ได้อธิบายถึงอุปกรณ์ชิ้นนี้ว่า “ด้านบนเป็นกระจกสีด�ำ ใต้กระจกมี หลอด LED แสงอินฟราเรดจ�ำนวนสามหลอด และมีเซนเซอร์รับแสงอีก สองตัว ด้านข้างท�ำจากอะลูมิเนียม มีช่องเสียบ USB 3.0 (ซึ่งสามารถ ใช้สาย Micro USB เพือ่ เชือ่ มต่อแบบ USB 2.0 ได้ตามปกติ) และช่องไฟ LED สีเขียวเพื่อแสดงสถานะ ด้านใต้เป็นยางกันลื่น” ด้วยความที่เป็น อุปกรณ์เชื่อมต่อแบบ USB นี่เอง ท�ำให้ Leap Motion Controller สามารถใช้ได้กับทั้งเครื่อง PC และ Mac หลักการท�ำงานของ Leap Motion Controller คือให้ล�ำแสงอิน- ฟราเรดทีส่ ง่ ออกมาจากตัวอุปกรณ์ถงึ 150 องศา ตรวจจับการเคลือ่ นไหว ของมือ นิ้วมือ หรือวัตถุทรงกระบอกอย่างปากกา ที่สั่งการคอมพิวเตอร์
15
เรื่อง/ภาพ : กองบรรณาธิการ
ค่ายเยาวชนอาชีวศึกษาเกษตร คิดได้...คิดเป็น...คิดดี สร้างความพร้อมเพื่อก้าวสู่ AEC
ท�ำไมต้องอาชีวเกษตร !!!!!
ปุจฉานี้ถ้าเป็นคนนอกวงการการศึกษาอาจต้องค้นคว้าหาความรู้กัน หลายตลบ แต่ถ้าเป็นคนในแวดวงการศึกษาจะวิสัชนาได้โดยพลันว่า เป็นการ เรี ย นการสอนยุ ค ใหม่ ที่ มุ ่ ง เน้ น สร้ า งบุ ค ลากรเพื่ อ ป้ อ นให้ แ ก่ อุ ต สาหกรรม ภาคเกษตร ซึ่งในปัจจุบันมีการแตกแขนงการศึกษาไปอย่างหลากหลาย อาทิ วิทยาลัยการเกษตรและเทคโนโลยี วิทยาลัยการประมง วิทยาลัยการอาชีพ ถ้ามองย้อนกลับไป การผลิตบุคลากรของประเทศไทยในอดีตมุง่ เน้นสนอง รับความต้องการของอุตสาหกรรมแขนงอืน่ มากกว่า จึงส่งผลให้บคุ ลากรทีจ่ ะเข้า สู่วิชาชีพด้านอุตสาหกรรมการเกษตรเริ่มน้อยลงทุกวัน สวนทางกับความเป็น จริงที่อุตสาหกรรมการเกษตรของไทยทุกวันนี้ มิได้อยู่ในขอบเขตของการเป็น อุตสาหกรรมต้นน�้ำ แต่ก�ำลังจะถูกผลักดันให้กลายเป็น “ครัวของโลก” ทั้งจากนโยบายของ รัฐบาลโดยตรงและศักยภาพของประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพย์ในดิน สินในน�้ำ ประกอบกับในภาพรวมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่อุดมด้วย ทรัพย์ในดิน สินในน�้ำ ก�ำลังจะกลายเป็นหนึ่งเดียว “เขตประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียน” ดังนั้นกระบวนการสร้างบุคลากรด้านอาชีวการเกษตร จึงไม่อาจสร้าง บุคลากรเพียงแค่ให้รู้จริงและก้าวตามทันเทคโนโลยีเท่านั้น เพราะเรื่องของ เทคโนโลยีทจี่ ะน�ำมาพัฒนาอุตสาหกรรมทางด้านเกษตร ทุกประเทศในอาเซียน อาจเท่าเทียมกัน แต่สิ่งที่ต่างกันและเป็นดัชนีชี้วัดถึงศักยภาพนั้นก็คือ “ระบบความคิด” โจทย์ประเทศไทยที่ต้องตอบในประเด็นนี้ เป็นเรื่องที่ส�ำนักงานคณะ กรรมการอาชีวศึกษาก�ำลังให้คำ� ตอบ และเป็นค�ำตอบทีส่ อดรับกับนโยบายความ รับผิดชอบทางสังคมด้านการศึกษาของบริษทั วิรยิ ะประกันภัย จ�ำกัด (มหาชน) โครงการพัฒนาศักยภาพเยาวชนอาชีวศึกษาเกษตรเพื่อเตรียมความ พร้ อ มรองรั บ การเข้ า สู ่ ป ระชาคมอาเซี ย น : Critical Thinking Skills จึงถือก�ำเนิดขึ้นมาด้วยการร่วมกันด�ำเนินงานของทั้งสองฝ่ายดังที่กล่าว ทัง้ นีโ้ ครงการดังกล่าวมีวตั ถุประสงค์เพือ่ พัฒนาทักษะการคิดเชิงระบบให้ แก่เยาวชนอาชีวศึกษาเกษตร ให้ คิดได้ คิดเป็น คิดดี เพราะการคิดอย่างเป็น ระบบถือเป็นรากฐานการคิดที่ส�ำคัญอย่างยิ่งต่อการด�ำรงอยู่และการเติบโต ก้าวหน้าที่มั่นคง และสามารถน�ำมาปรับใช้ในการด�ำเนินชีวิตประจ�ำวันได้ ส่วนรูปแบบการด�ำเนินงานนั้นใช้วิธีการเปิดค่ายอบรม ในกลุ่มแรกที่ได้ ด�ำเนินการไปแล้วคือกลุม่ คณาจารย์ และล่าสุดได้ลงลึกมาในระดับเยาวชน และ ได้เปิดค่ายอบรมครัง้ ล่าสุดทีค่ า่ ยริมขอบฟ้า เมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 3-8 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีเยาวชน คณาจารย์ ครูแกนน�ำจาก วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี วิทยาลัยการประมง วิทยาลัยเทคโนโลยีและการ จัดการ วิทยาลัยการอาชีพ รวม 49 แห่ง ที่มีการจัดการเรียนการสอนด้าน อาชีวศึกษาเกษตร เข้าร่วมอบรมกันอย่างพร้อมเพรียง ส�ำหรับภาพรวมของการอบรม กิจกรรมเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงสายๆ ของวันที่ 3 สิงหาคม ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 8 สิงหาคม นักเรียนอาชีวศึกษาเกษตร อาจารย์ ตลอดจนครูแกนน�ำ เกือบ 400 ชีวิต จากทั่วประเทศ ได้รวมตัวกัน เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อเรียนรู้และพัฒนาทักษะความคิดเชิงระบบ และคุณธรรม จริยธรรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
เวที แ รกในการเปิ ด สมองติ ด อาวุ ธ ทางปั ญ ญา คื อ การรั บ ฟั ง ธรรมะจากพระมหาสมปอง ตาลปุ ตฺ โ ต นอกจากจะได้รับฟังธรรมะที่มีประโยชน์และเข้าใจง่าย แล้ว ยังสร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้ก่แผู้เข้าร่วม อบรมอีกด้วย นอกจากนีย้ งั มีการฝึกปฏิบตั สิ มาธิ การไหว้อย่างมี สติ และการสวดมนต์เจริญสติ การเดินจงกรม จากพระ อาจารย์เอกชัย สิริญาโณ เพื่อเป็นการฝึกจิตและสมาธิ และแน่นอนกิจกรรมนี้ย่อมเป็นภาคบังคับที่ผู้เข้าอบรม ต้องร่วมกันปฏิบัติทุกเช้า เวทีในวันต่อมาผูเ้ ข้าอบรมได้มโี อกาสเปิดโลกทัศน์ ทางภาษา ด้วยการรับฟังค�ำบรรยายเรื่องเทคนิคการ เรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างง่ายเพื่อเตรียมรองรับสู่ AEC โดยครูเคท หรือ ดร. เนตรปรียา ชุมไชโย บรรยากาศ โดยรวมเป็นไปอย่ างสนุกสนาน เพราะภาษาอังกฤษ ง่ายนิดเดียว ในวันถัดๆ มาเวทีการเรียนรู้ได้ลงลึกไปถึงวัตถุ ประสงค์ที่วางไว้ ผู้เข้าอบรมจะได้การอบรมการพัฒนา ทักษะความคิดเชิงระบบโดยครูแกนน�ำ ซึ่งมีการแบ่ง เป็นกลุม่ ย่อย เพือ่ ให้ผเู้ ข้าอบรมได้เข้าใจหลักทฤษฎี และ ได้ร่วมกันระดมความคิดในภาคปฏิบัติ รวมถึงฝึกความ กล้าแสดงออกและความเป็นผู้น�ำ เวทีสุดท้ายแห่งการเรียนรู้คือ เข้ารับฟังบรรยาย พิเศษจากคุณกฤตวิทย์ ศรีพสุธา กรรมการและทีป่ รึกษา บริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด (มหาชน) ที่มาบอกเล่าถึง ประสบการณ์และแนวความคิดให้ตระหนักถึ ง วิ ช าชี พ และความส�ำคัญของเกษตรกรรม อันเป็นหัวใจหลักของ ประเทศไทย ก่อนแยกย้ายกันกลับเพื่อน�ำความรู้ไปพัฒนาแผ่น ดินเกิดของตนเอง ผู้เข้าอบรมได้ร่วมกันไปทัศนศึกษา เมืองโบราณ เพื่อจะได้ตระหนักถึงรากเหง้าของตนเอง และเพื่อสร้างความภาคภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย ดังทีก่ ล่าวมาข้างต้นว่าในปัจจุบนั การบริหารจัดการ และพัฒนาด้านเกษตรกรรมถือเป็นหัวใจของประเทศ ดังนั้นการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความรู้ควบคู่กับการ สร้างจริยธรรมให้แก่เด็กและเยาวชน จึงเป็นสิ่งส�ำคัญยิ่ง ในการพัฒนาศักยภาพบุคลากรชาติ และเพือ่ การต่อยอด ความคิ ด และองค์ ค วามรู ้ ตลอดจนสามารถขยายผล ความเจริญให้เกิดความยัง่ ยืนทัง้ ต่อบุคคลและประเทศชาติ ต่อไป
นี่ คื อ อี ก หนึ่ ง ภารกิ จ หลั ก ที่ บ ริ ษั ท วิ ริ ย ะประกันภัย จ�ำกัด (มหาชน) ตระหนักและให้ ความส�ำคัญเสมอมา เพื่อสังคมไทยที่ยั่งยืน 16
17
ศูนย์ซ่อมฯ/ตัวแทน
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
วิถีการท�ำงานในสังคมยุคดิจิทัล แม้วันนี้เราจะมี อุปกรณ์เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยเสริมสร้าง ประสิทธิภาพการท�ำงานมากน้อยแค่ไหน แต่กระนั้นเครื่องมือเหล่านี้ยังไม่ใช่ตัวแปรที่ส�ำคัญ ที่สุดในการชี้วัดความส�ำเร็จขององค์กร
ประทับตรา...5 ส.
ศูนย์ซอ่ มมาตรฐานวิรยิ ะประกันภัย วันนี... ้ ก้าวข้ามมาตรฐานสากล ทรัพยากรมนุษย์...คือตัวแปรที่ส�ำคัญที่สุด และ
อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่ากิจกรรม 5 ส. นั้น เป็นหลัก การพื้นฐานในการบริหารคุณภาพ ที่จะช่วยเสริมสร้างสภาพ แวดล้อมในที่ท�ำงานให้เกิดบรรยากาศที่ดี มีสุขลักษณะ ท�ำให้ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานสามารถใช้ศักยภาพของตนเองได้อย่าง เต็มความสามารถ แต่กระนัน้ หัวใจส�ำคัญของกิจกรรม 5 ส. มิใช่อยูท่ ี่ สะสาง สะดวก สะอาด สุขลักษณะ แต่อยู่ที่...สร้างนิสัย เพราะเป็ น กุ ศ โลบายที่ เ ห็ น ผลเร็ ว และชั ด เจน ใน การท�ำให้พนักงานทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา คุณภาพของงาน แม้กิจกรรม 5 ส. เสมือนเป็นทฤษฎีแฟชั่นในการบริหาร จัดการองค์กร แต่แปลก ! ถ้าตีกรอบเฉพาะองค์กรที่อยู่ใน อุตสาหกรรมซ่อมรถยนต์หรือเรียกประสาชาวบ้านว่าอู่ซ่อม รถยนต์ มี น ้ อ ยรายหรื อ แทบไม่ มี เ ลยที่ จ ะใช้ ก ระบวนการ
มีคุณค่ามากที่สุดในการด�ำเนินงานและบริหารจัดการองค์กร ให้ประสบความส�ำเร็จ ดังนั้นวิถีการท�ำงานของคนยุคนี้จึงถูกระบบการจัดการ เข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อปรับทัศนคติหรือศัพท์ที่พรรคคอมมิวนิสต์ มักเรียกวิธีการเช่นนี้ว่า...ดัดแปลงตนเอง ทัง้ นีเ้ พือ่ เพิม่ พูนประสิทธิภาพการท�ำงานให้เกิดประสิทธิผล ซึ่งในปัจจุบันนี้วิธีการจัดการมีอยู่หลากหลายทฤษฎี แต่เชื่อว่า มนุษย์ทำ� งานทุกคนย่อมรู้จักและเคยผ่านการอบรมทีเ่ รียกว่า... กิจกรรม 5 ส. เพราะกิจกรรม 5 ส. เปรียบเสมือนเป็นยาสามัญประจ�ำ บ้าน จะปรับปรุงหรือพัฒนาอะไรก็ตามที กิจกรรม 5 ส. มักจะ เป็นตัวเลือกแรกอยู่เสมอ ๆ เผลอๆ ถ้าพูดถึงกิจกรรม 5 ส. มนุษย์ท�ำงานอาจเกิด ความเลี่ยนขึ้นมาโดยบัดดล 18
19
กิจกรรม 5 ส. เข้ามามีสว่ นท�ำให้องค์กรของตนเองประสบ ความส�ำเร็จ ทั้งนี้อาจเป็นไปได้ว่าด้วยกระบวนการของการท�ำงานของ อู่ซ่อมรถยนต์อยู่ในความหมาย...มีซ่อมย่อมมีเลอะ และด้วยปริมาณงานที่สนองรับต่อความต้องการไม่ทัน ส่งผลให้กิจกรรม 5 ส. ในศูนย์ซ่อมรถยนต์ถูกก้าวข้าม แต่ส�ำหรับศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะประกันภัยไม่ได้ก้าว ข้ามในหลักการพื้นฐานของการพัฒนาองค์กรอย่างกิจกรรม 5 ส. แต่เข้าใจและเข้าถึงในวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการท�ำ กิจกรรม 5 ส. เป็นอย่างดีว่า มิใช่เป็นการท�ำให้สถานที่สะอาด ถูกสุขลักษณะเท่านั้น แต่ หั ว ใจส� ำ คั ญ คื อ การพั ฒ นาทรั พ ยากรมนุ ษ ย์ ใ ห้ มี คุณภาพสอดรับกับภารกิจที่แท้จริงของศูนย์ซ่อมรถยนต์...นั้น คือการบริการ ! การบริการที่ศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะประกันภัยตั้งธง ! ไว้ว่าจะไปให้ถึง ซึ่งปัจจุบันนี้ได้ก้าวผ่านความหมาย...เร็ว ดี มีคุณภาพ ล่าสุดก�ำลังถึงธงแห่งจุดหมายที่ได้ปักไว้ คือกระบวน การพัฒนาการให้บริการที่เรียกว่า...ซ่อมใจ ด้วยระบบการซ่อม ด้วยเทคโนโลยี และเครือ่ งมือเครือ่ งใช้ ที่ทันสมัยที่ศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะประกันภัยได้มีการพัฒนา มาอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่ยอมรับจากสาธารณชนว่า ตัววัด ที่แท้จริงในการเป็นศูนย์ซ่อมรถยนต์ที่ได้มาตรฐานสากลคือ มาตรฐานของศูนย์ซ่อมวิริยะประกันภัย ปี 2556 ศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะประกันภัยก�ำลังจะท�ำ ให้สาธารณชนยอมรับและประจักษ์ชัดถึงความหมายของค�ำ ว่า...ซ่อมใจ แน่นอนนี้คือปฏิบัติการที่เรียกได้ว่าก�ำลังก้าวข้ามความ เป็นมาตรฐานสากล เพราะตัววัดความเป็นมาตรฐานสากลนั้น มิได้บ่งบอกว่าจะต้องท�ำอย่างไรให้เจ้าของรถยนต์ยิ้มได้ แต่ศนู ย์ซอ่ มมาตรฐานวิรยิ ะประกันภัยก�ำลังท�ำให้เจ้าของ รถยนต์ซึ่งหมายถึงผู้เอาประกันภัย...ยิ้มได้ ซึ่งการท�ำให้ผู้เอาประกันภัยยิ้มได้ มิใช่อยู่ที่เครื่องมือ เครื่องใช้ หรือความสะดวกสบายของสถานที่ แต่อยู่ที่บุคลากร ทุกรูปนามในศูนย์ซ่อมนั้น ๆ ที่ต้องผ่านกิจกรรม 5 ส. นั้นเอง โดยบริษัทฯ ได้ริเริ่มจัดท�ำเป็นโครงการน�ำร่องให้แก่ ศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะประกันภัยในพื้นที่ กทม. และ ปริมณฑลก่อน หลังจากนัน้ จะเริม่ เข้าไปด�ำเนินการในพืน้ ที่ ส่วนภูมิภาคอื่นๆ ทั่วไทย 20
อีกทัง้ เพือ่ ให้กระบวนการด�ำเนินงานกิจกรรม 5 ส. เป็นไป อย่างคึกคัก และแฝงด้วยกุศโลบายให้เห็นผลได้เร็วที่สุด ทาง ผู ้ รั บ ผิ ด ชอบโครงการคื อ ฝ่ า ยปฏิ บั ติ ก ารภาค 6 ด้ า นศู น ย์ ปฏิ บั ติ ก ารสิ น ไหมทดแทน ฝ่ า ยสิ น ไหมทดแทน และฝ่ า ย มาตรฐานราคาและการจัดซ่อม บริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด (มหาชน) จึ ง ได้ ร ่ ว มกั น จั ด ท� ำ โครงการประกวดมาตรฐาน 5 ส. ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเป็นมาตรฐานในการ ด�ำเนินงานของศูนย์ซ่อมฯ เพื่อให้มีการพัฒนาการให้บริการแก่ ลูกค้าจนเกิดความประทับใจ สร้างแรงจูงใจให้ลกู ค้าน�ำรถเข้าซ่อม และสร้างภาพลักษณ์ที่ดี น่าเชื่อถือ ให้แก่ลูกค้า ตลอดจนให้ ศูนย์ซ่อมฯ ได้มีการจัดการกับสถานประกอบการให้มีความ สะอาด เป็นระเบียบ โดยอาศัยการจัดการแบบมีส่วนร่วมจาก บุคลากรทุกคน รวมถึงเป็นการพัฒนาทรัพยากรบุคคลและสร้าง จิตส�ำนึกให้เป็นบุคคลที่มีความเป็นระเบียบ มีความรับผิดชอบ ต่อตัวเองและองค์กร ที่ส�ำคัญเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่ เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน ที่มาวัตถุประสงค์หลักของการท�ำกิจกรรม 5 ส. คือการ ท�ำให้คนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพของงาน แต่กระนั้นอุปสรรคใหญ่ที่สุดที่ชี้วัดว่าสามารถท�ำกิจกรรม 5 ส. ได้ ส� ำ เร็ จ หรื อ ไม่ ย ่ อ มขึ้ น อยู ่ กั บ ทั ศ นคติ ข องคนเช่ น กั น โดย 21
เฉพาะทัศนคติของผู้บริหารศูนย์ซ่อมฯ แต่อุปสรรคใหญ่ที่ว่านี้ทางคณะท�ำงานร่วมของทั้งสาม ฝ่ายดังทีก่ ล่าวมา สามารถทะลวงใจจนสร้างทัศนคติทดี่ ไี ด้อย่าง รวดเร็ว ท�ำให้ผลการประเมินศูนย์ซ่อมฯ แต่ละแห่งสามารถ ท� ำ คะแนนได้ เ หนื อ ความคาดหมาย เพราะทุ ก ศู น ย์ ซ ่ อ มฯ สามารถเรียกคะแนนได้เกินกว่า 90% ทั้งสิ้น (บริษัทฯ ก�ำหนด เกณฑ์คะแนนมาตรฐานขั้นต�่ำไว้ที่ 75%) ความส�ำเร็จที่เกิดขึ้นนี้ทางบริษัทฯ ได้จัดงานเกียรติยศ ให้อย่างยิง่ ใหญ่ทโี่ รงแรมสวิสโซเทล เลอคองคอร์ด รัชดาภิเษก เมือ่ วันที ่ 22 พฤษภาคมทีผ่ า่ นมา โดย พล.ต.ท. เผ่าไทย ทองธิว กรรมการและทีป่ รึกษา บริษทั วิรยิ ะประกันภัย จ�ำกัด (มหาชน) ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณแก่ศูนย์ ซ่อมฯ ซึ่งผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่ก�ำหนดไว้ทุกศูนย์ และอีกไม่นานบรรยากาศแห่งเกียรติยศเช่นนีจ้ ะเกิดขึน้ ใน ศูนย์ซ่อมฯ พื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งขณะนี้ก�ำลังปฏิบัติการดัดแปลง ตนเอง และปรับสภาพแวดล้อมในพื้นที่การท�ำงานกันอย่าง คึกคัก และแม้ว่าผลการประเมินยังไม่มีการตัดสินออกมา แต่ผลของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากกิจกรรม 5 ส. ที่ก�ำลังด�ำเนินการกันอยู่ในขณะนี้ เริ่มรับรู้กันแล้วว่า สิ่ ง ที่ เ ปลี่ ย นแปลงคื อ ...ผู ้ เ อาประกั น ภั ย ยิ้ ม กว้ า ง มากกว่าเดิม !
สาระประกันภัย
อานนท์ โอภาสพิมลธรรม ภาพประกอบ : ประเวช ตันตราภิรมย์ ้จัดการ รองกรรมการผู บริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด (มหาชน)
เปิดบัญชีประกันภัย
วันนี้ผมได้ฟังข่าวดี มีคนในแวดวงการเมืองเอ่ยปากชมธุรกิจประกันวินาศภัยของพวกเราว่า จ่ายสินไหมทดแทนส�ำหรับมหาอุทกภัยได้เป็นอย่างดี ราบรื่น มีเสียงสะท้อนทางลบน้อย จึงอยากน�ำ มาเล่าให้ฟังต่อเพื่อเป็นก�ำลังใจแก่พวกเรา
หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัย ประชาชนที่สนใจการ
เสี่ยง แต่ความรู้สึกของเจ้าของเงินฝากที่ต้องเปิดบัญชีหลาย ธนาคารก็ไม่รสู้ กึ ยุง่ ยากใจเท่าไหร่ ส่วนคนทีต่ อ้ งประกอบธุรกิจ ยิง่ ชัดเจนมาก การเปิดบัญชีธนาคารเพือ่ การประกอบธุรกิจเป็น เรื่องปกติอย่างที่สุด เหมือนเป็นกติกาบังคับว่าเปิดธุรกิจต้อง เปิดบัญชีธนาคารควบคู่กันไป แล้วท�ำไมไม่เสนอให้เขาเปิด บัญชีประกันภัยไปด้วยกันเลย ลองหลีกเลี่ยงการใช้ค�ำว่า “ซื้อ ประกันภัย” เป็น “เปิดบัญชีประกันภัย” กันดีไหม ที่จริงการประกันภัยเป็นเรื่องเดียวกับการเงินการธนาคาร ในแง่ทเี่ ป็นเรือ่ งการเงินเหมือนกัน จะใช้ค�ำว่า “เปิดบัญชีประกัน ภัย” ก็ไม่นา่ จะเป็นเรือ่ งผิดฝาผิดตัว แต่ดตี รงทีจ่ ะท�ำให้คนทัว่ ไป ได้เริ่มมองการประกันภัยเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้น และไม่ใช่สิ่ง แปลกปลอมในชีวติ อีกต่อไป ทัง้ เป็นการเตือนให้ประชาชนทัว่ ไป ไม่ละเลยการประกันภัยตั้งแต่แรก เริ่มท�ำธุรกิจก็เปิดทั้งบัญชี ธนาคาร (Bank Account) และบัญชีประกันภัย (Insurance Account) ไปพร้อม ๆ กัน จัดการการเงินการทองกับธนาคาร เสร็จ ก็จัดการการประกันภัยให้เรียบร้อยไปเสียทีเดียว หากเราช่วยกันใช้คำ� ว่า “เปิดบัญชีประกันภัย” ให้แพร่หลาย หรือสามารถท�ำให้สถานศึกษาต่าง ๆ สอนนักเรียนนักศึกษา ในแนวคิดนี้กันไปสักระยะ เราก็อาจเปลี่ยนค่านิยมให้ชาวบ้าน เปิดรับการประกันภัยได้อย่างสะดวกใจมากขึ้น คราวหน้าเมื่อเราเสนอการประกันภัยให้ลูกค้า อย่าลืมใช้ ค�ำว่า “เปิดบัญชีประกันภัยแล้วหรือยังครับ (ค่ะ)”
ประกันภัยมีจ�ำนวนเพิ่มขึ้นมาก นับเป็นเรื่องที่ดี ขณะเดียวกัน ก็มีประชาชนอีกมากที่ยังไม่มีใจให้แก่การประกันภัย แม้คนที่ ให้ความสนใจต่อการประกันภัย แต่พอถึงตอนต้องตัดสินใจเอา ประกันภัย อาจเปลี่ยนใจตอนสุดท้ายได้ง่าย ๆ ถ้าเราลองเปรียบเทียบความรู้สึกตอนเดินเข้าไปในสาขา ธนาคาร กับการเดินเข้าไปในสาขาประกันภัย ที่เปิดท�ำการอยู่ ใกล้กัน ก็คงเข้าใจได้ว่าความรู้สึกในการเดินเข้าประตูสองบาน นีแ้ ตกต่างกันอย่างมาก คนทัว่ ไปทีเ่ ดินเข้าไปในธนาคารมักไม่ รู้สึกยุ่งยากใจเท่ากับการต้องเดินเข้าไปขอเอาประกันภัยกับ บริษัทประกันภัย การจะเปลี่ยนความรู้สึกอย่างนี้คงไม่ใช่ เรื่องง่าย และยิ่งหากใจร้อนต้องการแก้ให้ได้ในเวลาสั้น ๆ ยิ่งยากมากเข้าไปอีกหลายเท่า วันนี้เราลองมาคิดนอกกรอบเดิม ๆ กันบ้างดีไหม ทุ ก วั น นี้ ค นในวั ย ท�ำ งานส่ ว นใหญ่ ต ้ อ งมี ก ารเปิ ด บั ญ ชี ธนาคารแทบทุกคน บางคนอาจจะเปิดหลาย ๆ บัญชีพร้อมกัน บางคนใช้บัตรเครดิตหลาย ๆ ใบ คนมีเงินมากปัจจุบันเริ่ม คิดถึงการทีร่ ฐั บาลจะค�ำ้ ประกันเงินฝากแต่ละบัญชีนอ้ ยลง และ เริ่มมองเห็นความเสี่ยงว่า ถ้าฝากเงินเอาไว้ธนาคารเดียว หาก ธนาคารนัน้ มีอนั เป็นไป ก็กลัวเงินสะสมก้อนโตจะสูญหายไปกับ สายลม จึงพยายามกระจายเงินฝากเป็นหลายธนาคาร เพื่อให้ รัฐบาลเข้ามาประกันเงินฝากได้เต็มที่ เห็นภาพแล้วใช่ไหมว่านี่คือรูปแบบของการประกันความ 22
Insurance Insuran Accoun Account 23
เดินเรื่องด้วยภาพ
รอบรั้ววิริยะประกันภัย
เรื่อง/ภาพ : กองบรรณาธิการ
วิริยะฯ คว้ารางวัลระดับโลก 3 ปีซ้อน
มร. Jose E. Prieto ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สถาบัน B.I.D. หรือ Business Initiative Directions (คนแรกจากซ้าย) และคณะผู้บริหารร่วมแสดงความยินดีกับ นางสุภัทรา ทองขาว รองกรรมการ ผูจ้ ดั การ บริษทั วิรยิ ะประกันภัย จ�ำกัด (มหาชน) ซึง่ เข้ารับรางวัล “ผูน้ ำ� ด้านคุณภาพ IQS Award (The International Quality Summit Award) ประจ�ำปี 2013 ในระดับ Diamond ในฐานะเป็น องค์กรทีป่ ระสบความส�ำเร็จและมีชอื่ เสียงในด้านความเป็นผูน้ �ำ สะท้อนประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ที่อยู่ในระดับดีเยี่ยม ณ New York Marriott Marquis Hotel รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ส�ำหรับรางวัล IQS Award (The International Quality Summit Award) ที่บริษัทฯ ได้รับ ในครั้งนี้ ระดับ Diamond ถือเป็นระดับสูงที่สุดของรางวัลดังกล่าว ทั้งนี้เงื่อนไขส�ำคัญในการพิจารณา คัดเลือกคือ ต้องเป็นบริษทั ทีม่ คี วามมุง่ มัน่ พัฒนาคุณภาพองค์กรอย่างต่อเนือ่ งในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะ อย่างยิง่ ด้านคุณภาพการให้บริการลูกค้า ซึง่ วัดจากอัตราความพึงพอใจของลูกค้า รวมถึงด้านการสร้าง สัมพันธภาพที่ดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนขององค์กรอย่างต่อเนื่อง อนึ่ ง ในปี 2554 บริ ษั ท ฯ ได้ รั บ รางวั ล International Star for Leadership in Quality Award (ISLQ) ระดับ Gold ปี 2555 บริษทั ฯ พัฒนาคุณภาพเพิม่ มากขึน้ จนได้รบั รางวัล ISAQ International Star Award for Quality ระดับ Platinum และในปี 2556 ได้รับรางวัล Diamond ในที่สุด
พิธีวางศิลาฤกษ์ส�ำนักงานแห่งใหม่สาขาสระบุรี
นายอมร ทองธิว กรรมการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ส� ำนักงานแห่งใหม่ของสาขาและศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทน จั ง หวั ด สระบุ รี โดยมี ผู ้ บ ริ ห ารและพนั ก งานในสั ง กั ด ฝ่ า ยปฏิ บั ติ ก ารภาค 4 เข้ า ร่ ว มพิ ธี อ ย่ า ง คับคั่ง ส�ำหรับอาคารส�ำนักงานแห่งใหม่นี้ เป็นอาคารขนาดใหญ่สูงสามชั้นและอาคารพัสดุหนึ่งหลัง ตัง้ อยูบ่ ริเวณสีแ่ ยกเสาไห้ ถนนบายพาส อ�ำเภอเมือง จังหวัดสระบุร ี โดยมีกำ� หนดการก่อสร้างแล้วเสร็จ ในเดือนพฤษภาคม 2557
วิริยะประกันภัยจ่ายสินไหมกรณีอุบัติเหตุรถพ่วงชนรถโดยสาร
นายภาณุ ต ร์ เหรี ย ญประยู ร รองผู ้ จั ด การฝ่ า ยปฏิ บั ติ ก ารภาค 4 (ภาคกลางและตะวั น ตก) มอบสินไหมทดแทนจ�ำนวน 900,000 บาท (เก้าแสนบาทถ้วน) ให้แก่ทายาทของคุณตะวัน เกียรติบญ ุ ญาฤทธิ ์ หนึง่ ในผูเ้ สียชีวติ จากอุบตั เิ หตุรถพ่วงชนรถโดยสารทีจ่ งั หวัดสระบุร ี ซึง่ ถือเป็นผูเ้ สียชีวติ รายแรก ที่ได้รับค่าสินไหมทดแทนจากอุบัติเหตุครั้งนี้ โดยท�ำพิธีมอบค่าสินไหมทดแทนที่ สภ. แก่งคอย ทั้งนี้ บริษทั ฯ สามารถด�ำเนินการมอบสินไหมทดแทนแก่ทายาทผูเ้ สียชีวติ ทัง้ 19 รายได้ภายใน 3 วันท�ำการ นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ
วิรยิ ะประกันภัย จัดกิจกรรมสุขทีใ่ ห้ “ผูส้ งู อายุสดใส ใส่ใจธรรมชาติ เยือนปราสาทสัจธรรม ปลูกปะการัง ปี 2” หลังจากเยีย่ มชมปราสาทสัจธรรมเรียบร้อยแล้ว เราเดินทาง ต่อไปยังหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพือ่ ร่วมกิจกรรมรักษ์สงิ่ แวดล้อม แต่ตอ้ งเติมพลังให้เต็มถังกับอาหาร กลางวันที่มาพร้อมทัศนียภาพความงามของหาดเตยงาม ณ ร้าน อาหารเรือนสักประดู่ หลังจากอิ่มหน�ำส�ำราญกับอาหารกลางวัน เรามุ่งหน้าสู่ หาดทุง่ โปร่ง พืน้ ทีอ่ นุรกั ษ์ของหน่วยนาวิกโยธิน เพือ่ ร่วมกิจกรรมปลูก ปะการัง และปลูกต้นโกงกาง เห็นผูส้ งู อายุแต่ละท่านสนุกสนานกับ กิจกรรมนี้ บอกได้ค�ำเดียวลืมวัยลืมเหนื่อยกันไปเลย หลายท่านยัง ยิ้มแย้มแจ่มใสภายใต้อากาศค่อนข้างร้อน สร้างความประทับใจให้ กลุ่มสมาชิกเป็นอย่างมาก จากรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของสมาชิก ท�ำให้เรามั่นใจว่า สมาชิกทุกท่านได้รับ “ความสุขที่เราตั้งใจมอบ ให้” อย่างเต็มเปี่ยม
เมื่อเร็ว ๆ นี้ คุณกานดา วัฒนายิ่งสมสุข ผู้จัดการฝ่าย สื่อสารองค์กร พร้อมด้วยทีมวิริยะจิตอาสา เข้าร่วมกิจกรรมสุขที่ให้ “ผู้สูงอายุสดใส ใส่ใจธรรมชาติ เยือนปราสาทสัจธรรม ปลูก ปะการัง ปี 2” โดยน�ำสมาชิกชมรมผู้สูงอายุจากศูนย์ 8 บุญรอด รุง่ เรือง กว่า 100 คน ทัศนศึกษาชมความงดงามของสถาปัตยกรรม ณ ปราสาทสัจธรรมและร่วมรักษ์ธรรมชาติ ณ หน่วยบัญชาการ นาวิกโยธิน ฐานทัพเรือสัตหีบ ส�ำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ บริษัทฯ จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น ปีที่ 2 ทั้งทีมงานและกลุ่มสมาชิกผู้ร่วมเดินทางทุกท่านเตรียมพร้อม กันตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเดินทางสู่ปราสาทสัจธรรม จังหวัดชลบุรี ในการ เข้าชมภายในปราสาทสัจธรรมได้แบ่งสมาชิกเป็นสองกลุ่มเพื่อชม ความงามของสถาปัตยกรรมไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมรับ ฟังข้อมูลความรู้ต่าง ๆ จากวิทยากร ซึ่งสร้างความอัศจรรย์ใจและ สร้างความประทับใจได้เป็นอย่างมาก
วิริยะประกันภัย ร่วมงาน Amway Expo 2013 ระยอง
บริษทั วิรยิ ะประกันภัย จ�ำกัด (มหาชน) ร่วมออกบูทประชาสัมพันธ์ในงาน Amway Expo 2013 เพือ่ ให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แอมเวย์ และสร้างโอกาสทางธุรกิจและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ให้แก่นักธุรกิจแอมเวย์ สมาชิก และผู้มุ่งหวัง ณ ห้องสุนทรภู่ และห้องเกษรา 1-3 โรงแรมสตาร์ จังหวัดระยอง นอกจากนี้ภายในงานยังน�ำกิจกรรม ความบันเทิง และเกมต่าง ๆ ร่วมสร้างความสนุก แก่ผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
ร่วมสืบฮีต 112 ปี วิถีชาวอุบล
นายสมชาย เกษมทวีศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการภาค 2 น�ำทีมพนักงานสาขาอุบลราชธานี ร่วมขบวนแห่เทียนพรรษา ประจ�ำปี 2556 ในงาน “ย้อนฮอย 112 ปี สืบฮีตวิถีชาวอุบล ยลพุทธศิลป์ถิ่นไทยดี” ณ ทุ่งศรีเมือง อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2556 นับเป็นอีก หนึ่งกิจกรรมที่บริษัทฯ เข้าร่วมสืบสานประเพณีตามวิถีไทย 24
25
25
CSR เรื่อง/ภาพ : กองบรรณาธิการ
วิรยิ ะประกันภัยน้อมน�ำ...ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ร่วมสร้าง...สุขสภาวะหนองโรง การน้อมน�ำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่ภาคประชาชน นับเป็นภารกิจหลัก ที่บริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด (มหาชน) ได้ด�ำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเปิดความร่วมมือกับสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ จัดตั้ง หน่วยปฏิบัติการเศรษฐกิจพอเพียงภาคประชาชน (sufficiency mobile services) การจัดการโดยชาวบ้านที่ดี และได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมาย กระทั่งกลายเป็นศูนย์เรียนรู้ให้แก่ชุมชนอื่น ๆ ในพื้นที่ผืนป่า ภาคตะวันตก ปัจจุบันต� ำบลหนองโรงก� ำ ลังให้ความส� ำ คัญเรื่องของ “สุขสภาวะ” เพื่อให้คนในชุมชนบรรลุจุดประสงค์ในเรื่องของ สุขภาพ ความอยู่ดีกินดี และพัฒนาศักยภาพทุกมิติตั้งแต่เกิด จนตาย เป็นชุมชนทีไ่ ม่จ�ำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีปรุงแต่งมากนัก ดั ง นั้ น ด้ ว ยศั ก ยภาพของพื้ น ที่ เ ป้ า หมายในการจั ด กิจกรรม ท�ำให้กิจกรรมพี่เพื่อน้องฯ ในปี 2556 นี้มิได้เป็น การให้แต่เพียงฝ่ายเดียว แต่ทกุ ฝ่ายทีเ่ ข้าร่วมกิจกรรมได้มี โอกาสเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และแน่นอนหน่วยปฏิบัติการเศรษฐกิจพอเพียงฯ ภายใต้ การสนั บ สนุ น ของวิ ริ ย ะประกั น ภั ย จึ ง เป็ น สาระส�ำ คั ญ ของ กิจกรรมในปีนี้ของกลุ่มพี่เพื่อน้องฯ เพราะจะเป็นก�ำลังหลักใน การต่อยอดความรูใ้ นปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และสอดรับกับ ความต้องการของชุมชนต�ำบลหนองโรง ที่ก�ำลังส่งมอบภารกิจ ในการจัดการป่าและการด�ำรงชีวติ ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จากคนรุ่นบุกเบิกสู่คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนในพื้นที่ วั น ศุ ก ร์ ที่ 12 กรกฎาคม ต่ อ เนื่ อ งไปถึ ง วั น เสาร์ ที่ 13 กรกฎาคม บรรดานักเรียนในพื้นที่ประมาณ 800 คน จากเก้า โรงเรียน และสามศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ได้รวมตัวกันเข้ามา ร่วมกิจกรรมเพือ่ เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงทัง้ ภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ
เพื่อเดินสายปลุกจิตส�ำนึกเศรษฐกิจพอเพียงให้นักเรียน เยาวชน และประชาชนในชุมชนต่าง ๆ สามารถพึ่งตนเองด้าน ความพอกิน พอใช้ พออยู่ และด�ำรงชีวิตได้อย่างมั่นคงและ ยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็วของระบบทุนนิยม ล่าสุดด้วยผลงานที่เป็นประจักษ์และคนในแวดวงองค์กร ภาคประชาสังคมให้การยอมรับว่า หน่วยปฏิบัติการเศรษฐกิจ พอเพียงฯ ที่วิริยะประกันภัยให้การสนับสนุน มีผลปฏิบัติงาน ที่เป็นเยี่ยม สอนให้รู้จริง ปฏิบัติจริง และเอาไปใช้จริง จึงท�ำให้กลุ่มสื่อมวลชนสายข่าวการเงิน-ประกันภัย ที่ได้ รวมตัวกันท�ำกิจกรรมเพือ่ บ�ำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในนามกลุม่ “พี่เพื่อนน้อง จากผองเพื่อนชาวประกันภัยและมวลมิตร ธุรกิจเพื่อสังคม” ได้ประสานงานมายังวิริยะประกันภัย ใน ฐานะที่เป็นหนึ่งในองค์กรที่ร่วมกันจัดตั้งกลุ่มพี่เพื่อน้องฯ เพื่อ ให้ส่งหน่วยปฏิบัติการเศรษฐกิจพอเพียงฯ เข้าไปร่วมกิจกรรม ประจ�ำปี ซึ่งจัดเป็นปีที่ 10 ตอน “สุขสภาวะหนองโรง”
ท�ำไม ! ต้องสุขสภาวะหนองโรง
นิตยสาร ไทยแลนด์ อินชัวรันส์ ซึ่งเป็นแกนหลักของกลุ่ม พี่เพื่อน้องฯ ได้แจกแจงไปยังมวลสมาชิกให้รับรู้ถึงเหตุผลใน การเลือกพื้นที่จัดกิจกรรมประจ�ำปี 2556 ว่า ต�ำบลหนองโรง อ�ำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี เป็นหมู่บ้านที่ให้ความ ส�ำคัญกับเรื่องป่าชุมชน จนเป็นผืนป่าขนาดใหญ่ที่มีกระบวน- 26
27
ก่อนเข้ารับการเรียนรู้ นักเรียนเหล่านี้ได้รับอุปกรณ์การ เรี ย นรู ้ โดยเฉพาะสมุ ด การศึ ก ษาชุ ด เศรษฐกิ จ พอเพี ย ง ซึ่ ง วิริยะประกันภัยได้มอบเงินสนับสนุน 1 ล้านบาทให้แก่มูลนิธิ พลังน�้ำใจจัดท�ำขึ้นมาเพื่อน�ำไปแจกจ่ายให้แก่นักเรียน ผ่าน โครงการพัฒนาการศึกษาตามพระราชด�ำริ ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึง่ จะแจกจ่ายผ่านโรงเรียน ราชประชานุเคราะห์ และองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ฯลฯ โดยการเรี ย นรู ้ ใ นภาคปฏิ บั ติ ทางหน่ ว ยปฏิ บั ติ ก าร เศรษฐกิจพอเพียงได้จัดฐานการเรียนรู้ในระดับนักเรียนไว้สาม ฐานด้ ว ยกั น คื อ ฐานคนรั ก แม่ ธ รณี แ ละการจั ด การขยะใน ครัวเรือน ฐานนี้เป็นการให้ความรู้และสอนวิธีการท�ำปุ๋ยหมัก ชีวภาพ ปุ๋ยผง เพื่อให้เลิกใช้พิษและสารเคมี เป็นการสร้าง อาหารเพื่อสุขภาพปลอดสารพิษ ฐานคนมี น�้ ำ ยา สอนวิ ธี ก ารท� ำ ของใช้ ที่ จ� ำ เป็ น ในชี วิ ต ประจ� ำ วั น เพื่ อ ลดค่ า ใช้ จ ่ า ย เช่ น น�้ ำ ยาล้ า งจานจากมะนาว ยาสระผมผสมมะกรูด สบู่สมุนไพรจากธรรมชาติ ฐานคนรักษ์ปา่ แนะน�ำวิธกี ารปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่ า ง ตามแนวพระราชด� ำ ริ เพื่ อ ให้ ทุ ก คนในครอบครั ว โรงเรียน วัด ชุมชน ร่วมกันปลูกป่าให้เกิดป่าพอกิน ป่าพอใช้ ป่าพออยู่และป่าพอร่วมเย็น นอกจากวิ ท ยากรประจ� ำ หน่ ว ยปฏิ บั ติ ก ารเศรษฐกิ จ พอเพียงท�ำหน้าที่ให้การเรียนรู้แล้ว ด้านพลังจิตอาสาวิริยะประกันภัยทั้งจากส่วนกลางและฝ่ายปฏิบัติการภาค 4 ซึ่งเป็น เจ้าหน้าทีใ่ นสาขาและศูนย์สนิ ไหมฯ ในพืน้ ทีจ่ งั หวัดกาญจนบุรี และจากพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงนครปฐมและสุพรรณบุรี รวม แล้วกว่า 30 ชีวิต ได้ช่วยท� ำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง อีกทั้งก� ำลัง บางส่วนได้เข้าไปช่วยท�ำงานในภารกิจต่าง ๆ ที่องค์กรอื่น ๆ ได้รบั มอบหมายอีกด้วย อาทิ การปรับปรุงอาคารเรียน ห้องน�้ำ สนามเด็กเล่น การจัดสร้างลานกิจกรรม ฯลฯ พลังแห่งความร่วมมือ ร่วมสร้าง ร่วมปลูกฝังความรู้ มรรคผลมิใช่เพียงแค่เสริมความแข็งแกร่งสุขสภาวะหนองโรงเท่านั้น แต่ได้เพาะบ่มเมล็ดพันธุ์แห่งวิถีชีวิตตามแนว ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้ผลิดอกออกผล กลายเป็น ร่ ม ไม้ ใ หญ่ ใ ห้ ชุ ม ชนอื่ น ๆ ได้ เ ข้ า มาใช้ ร ่ ม เงาแห่ ง การ เรียนรู้ น�ำไปขยายผลให้เกิดความเจริญที่ยั่งยืนในพื้นที่ ของตนเองและพื้นที่ใกล้เคียงอื่นๆ นี่ คื อ อี ก หนึ่ ง ภารกิ จ เพื่ อ สั ง คมไทยที่ ยั่ ง ยื น ของวิ ริ ย ะ- ประกันภัย
28
วิรยิ ะ เติมรัก ร้อยใจ สานสายใยแม่ลกู ปี 3
สุขทีใ่ ห้...นัง่ รถไฟไปท�ำบุญ 06.00 น. วันที่ 10 สิงหาคม 2556 สถานีรถไฟหัวล�ำโพงในเวลานีม้ คี วามแตกต่างไปกว่าเมือ่ วันวาน นอกจากผูค้ นทีค่ ลาคล�ำ่ อันเป็นภาวะ ปกติของชุมชนคนเดินทางแล้ว ยังมีกลุ่มคนเสื้อขาวจ�ำนวนไม่น้อยประมาณ 100 ชีวิต ได้รวมตัวกันอย่าง ครึกครื้นในเขตชานชาลาที่ 9 ด้วยพิธีการต้อนรับที่เรียบง่ายแฝงไปด้วยความเป็นกันเอง ท�ำให้ผู้คนที่สัญจรในย่านนั้นรับรู้ได้ทันทีว่า กลุ่มคนเหล่านี้คือ ผู้เอาประกันภัยของบริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด (มหาชน) ซึ่งก�ำลังเดินทางไปจังหวัด พระนครศรีอยุธยา เพื่อร่วมกันท�ำบุญไหว้พระ ย้อนหลังไป 2 ปีก่อนหน้านั้น แผนกบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะ- ประกันภัย จ�ำกัด (มหาชน) ได้เล็งเห็นถึงความส�ำคัญของครอบครัว และตระหนักว่ากรอบเวลาในสังคม ยุคใหม่เป็นเรื่องยากมากที่คนในครอบครัวจะมีโอกาสสร้างความผูกพันซึ่งกันและกันผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ดังนัน้ แนวคิดการจัดกิจกรรมขอบคุณลูกค้าทีบ่ ริษทั ฯ ได้ดำ� เนินมาอย่างต่อเนือ่ งและหลากหลายโอกาส จ�ำต้องเพิ่มวัตถุประสงค์ขึ้นมาใหม่อีกประการหนึ่ง ด้วยการใช้โอกาสพิเศษ “วันแม่แห่งชาติ” จัดกิจกรรมให้แม่ลูกได้มีโอกาสแสดงออกถึงความรัก ความห่วงใยที่มีต่อกัน โครงการ “วิริยะ เติมรัก ร้อยใจ สานสายใยแม่ลูก” จึงถือก�ำเนิดขึ้นมา โดยรูปแบบการด�ำเนินงาน ในปีแรกเป็นการจัดคาราวานแห่งความรัก ด้วยการเชิญกลุ่มผู้เอาประกันภัยกลุ่มเป้าหมายคู่แม่ลูก ร่วมกัน สัมผัสความงดงามทางศิลปวัฒนธรรมที่พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ และพิพิธภัณฑ์เมืองโบราณ นอกจากนั้นยังสอดแทรกกิจกรรมต่าง ๆ ที่ท�ำให้คู่แม่ลูกได้ร่วมสนุกด้วยกันในหลากหลายกิจกรรม แต่ ที่ถือเป็นไฮไลต์คือกิจกรรมล้างเท้าแม่เพื่อแสดงถึงความกตัญญูต่อผู้บังเกิดเกล้า จากความประทับใจในครั้งนั้นท�ำให้กระบวนการจัดกิจกรรมในปีที่ 2 ถูกขยายผลและเพิ่ม มนต์เสน่ห์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูก ๆ ได้มีโอกาสมอบความสุขจากความทรงจ�ำของคุณแม่ อย่างที่ทราบกันว่า ผู้คนในยุคคุณแม่นั้น การเดินทางท่องเที่ยวที่มีมนต์ขลังมากที่สุดคือ การเดินทาง ทางรถไฟออกไปท�ำบุญและกราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดต่าง ๆ ที่อยู่รอบปริมณฑลของพระนคร ดังนั้นกิจกรรมในปีที่ 2 จึงเป็นรายการย้อนรอยสมัยคุณแม่เที่ยว โดยมีเป้าหมายพาคู่แม่ลูกนั่งรถไฟ ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ครบครันทั้งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หลากหลายแหล่ง ท่องเที่ยว อร่อยเลิศอาหารการกินและสินค้าพื้นเมือง แน่นอนผลส�ำเร็จในครั้งนั้นนอกจากท�ำให้ผู้เอาประกันภัยคู่แม่ลูกได้แสดงออกถึงความรักความห่วงใย ซึ่ ง กั น และกั น แล้ ว กิ จ กรรมดั ง กล่ า วยั ง เป็ น การส่ ง เสริ ม การท่ อ งเที่ ย วทางรถไฟของการท่ อ งเที่ ย วแห่ ง ประเทศไทยอีกด้วย
29
07.00 น. ขบวนรถไฟกรุงเทพฯ-เด่นชัยพ่วงโบกี้พิเศษ ชานชาลา 9 โบกี้พิเศษนี้เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจรับส่งคณะนายกรัฐมนตรี “นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ไปร่วมประชุม วางแผนยุทธศาสตร์การรถไฟไทยที่หัวหินไปเมื่อวาน เมื่อถึงวันพรุ่งดังที่กล่าวมาข้างต้น โบกี้พิเศษก็ได้ท�ำหน้าที่สร้างความสุขให้แก่คณะผู้เอาประกันภัย คู่แม่ลูกของบริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด (มหาชน) โดยมีจุดหมายปลายทางที่เมืองมรดกโลก จังหวัด พระนครศรีอยุธยา และที่ส�ำคัญความสุขความสนุกที่ก�ำลังเกิดขึ้น ยังได้รับแรงสนับสนุนจากฝ่ายปฏิบัติการภาค 6 บริ ษั ท วิ ริ ย ะประกั น ภั ย จ� ำ กั ด (มหาชน) ซึ่ ง ดู แ ลอ� ำ นวยความสะดวกให้ แ ก่ ผู ้ เ อาประกั น ภั ย ในพื้ น ที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑลเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย ด้วยความสะดวกสบายของโบกีพ ้ เิ ศษ สามารถสร้างความพึงพอใจสูงสุดกับคณะผูร้ ว่ มเดินทาง ไม่เว้นแม้แต่ทมี งานของบริษทั ฯ ดังนัน้ จึงเป็นเรือ่ งง่ายทีก่ ระบวนการจัดสร้างความสุข ความประทับใจ จะไหลลื่นและสุขสมไปกับล้อรถไฟที่หมุนไปข้างหน้า ใครว่านั่งรถไฟวิ่งช้า ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง แต่ระยะทางจากสถานีหัวล�ำโพงถึงสถานีอยุธยาช่างสั้นนัก ในมโนนึกของคณะเดินทางคู่แม่ลูกซึ่งเป็นผู้เอาประกันภัยของบริษัทฯ เพียงก้าวแรกที่เหยียบลงบนชานชาลาสถานีอยุธยา ความประทับใจถูกตอกย�้ำด้วยไมตรีจิต ของกลุ่มพนักงานสาขาอยุธยา ฝ่ายปฏิบัติการภาค 4 บริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด (มหาชน) ที่ได้ ร้อยเรียงมาลัยคล้องต้อนรับแขกผู้มาเยือนด้วยความยินดี และถือเป็นค�ำมั่นว่าเขาและเธอเหล่านี้จะคอยดูแลอ�ำนวยความสะดวกตลอดการเดินทางในการ ขอพรพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามโปรแกรมที่วางไว้
30
ตลอดทั้งวัน ด้วยยานพาหนะที่การท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจัดไว้รองรับโดยเฉพาะ นั้นคือ “รถราง” จ�ำนวนห้าคัน ได้จัดขบวนแถวเรียงหนึ่ง พร้อมคณะนักเรียนจากโรงเรียนอยุธยาวิทยาลัยอีก 10 ชีวิตท�ำหน้าที่ไกด์กิตติมศักดิ์ น�ำพาคณะเดินทางไปท่องเที่ยวรอบพื้นที่มรดกโลกอยุธยา โดยเฉพาะหลากหลายวัดและแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อที่จอดแวะ เช่น วัดใหญ่ชัยมงคล วัดพนัญเชิงวรวิหาร พระราชวังโบราณ วัดหน้าพระเมรุ ตลาดน�้ำอโยธยา ตลาดน�้ำนานาชาติอโยเดีย สวนเฉลิมพระ- เกียรติฯ ใช่แต่ผู้เอาประกันภัยกลุ่มคู่แม่ลูกของบริษัทฯ จะได้อิ่มเอิบกับแรงบุญที่ได้ปฏิบัติและความตื่นตา ตื่นใจที่ได้ทัศนา บรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ไปเยือนตามสถานที่นั้น ๆ ต่างอิ่มบุญไปพร้อมกันด้วย เพราะมีความปิติที่ได้เห็นบรรดาคู่แม่ลูก 50 ครอบครัวได้แสดงออกความรักความห่วงใยซึ่งกันและกัน เสียงหวูดรถไฟขบวนกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ที่เข้าเทียบชานชาลาที่ 2 พร้อมตู้โบกี้พิเศษ เปรียบเสมือนสัญญาณการอ�ำลาและเวลาแห่งความสุขใกล้สิ้นสุดลง แต่ตราบใดที่หัวรถจักรไม่เทียบชานชาลาสถานีรถไฟหัวล�ำโพง ตราบนั้นการเดินทางยังมีเรื่องราวให้ สนุกตื่นเต้นอยู่เสมอ แต่เที่ยวกลับเพิ่มอารมณ์ลุ้นไปด้วยกับรางวัลที่บริษัทฯ ได้จัดเตรียมมอบให้แก่ลูกค้า มูลค่าของรางวัลบางชิน้ อาจเลยหลักหมืน่ แต่เมือ่ เทียบกับกิจกรรมสุดท้าย ประคองพวงมาลัย ดอกมะลิกราบบนตักแม่เพือ่ แสดงความกตัญญู มูลค่าของก�ำนัลของรางวัลทีม่ อบให้เป็นแค่เศษเสีย้ ว ทันที เพราะนาทีนั้นจะมีมูลค่าอย่างใดเล่าที่จะมีคุณค่ามากกว่าการได้กราบบนตักแม่...
31
วิทยาศาสตร์ น่ารู้ เรื่อง : บัญชา ธนบุญสมบัติ
หมา vs แมว ใครแจ่มแจ๋วกว่ากัน ? หมากับแมวต่างก็เป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมของคนจ�ำนวนไม่น้อย
อย่างที่บ้านผมก็มีแมว 5 หมา 12 ส่วนใหญ่ก็อยู่กันสมานฉันท์ด ี จะมี ฮึ่มๆ ฟ่อๆ โฮ่งๆ เมี้ยวๆ ใส่กันบ้างก็เพียงบางครั้งพอให้ชีวิตมีสีสัน หลักฐานทางโบราณคดีบ่งชี้ว่าหมามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนมา นานกว่าแมว โดยหมาตัวแรกๆ อยูร่ ว่ มกับคนอย่างน้อยเมือ่ 15,000 ปี มาแล้ว สันนิษฐานกันว่าหมาในระยะเริม่ แรกนีเ้ ลีย้ งไว้เพือ่ ใช้แรงงาน ใช้ เฝ้ายาม ใช้ขนของมัน หรือแม้แต่ใช้เป็นอาหาร ! ส่วนแมวนั้นตามมาทีหลัง คือราวๆ 10,000 ปีเท่านั้น และเนื่อง จากช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่มนุษย์เริ่มเปลี่ยนวิถีชีวิตจากเร่ร่อนล่าสัตว์หา ของป่ามาลงหลักปักฐานสร้างชุมชนและเพาะปลูก (ที่เรียกกันว่า คลื่น ลูกที่ 1 หรือเข้าสู่ยุคหินใหม่) จึงเป็นไปได้ว่าแมวตามหนูที่เข้ามากัดกิน เมล็ดพันธุ์ธัญพืชที่คนในยุคนั้นเก็บไว้นั่นเอง คนอียิปต์โบราณเริ่มเลี้ยงแมวในช่วงราว 2,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช และแมวคงมีความส�ำคัญไม่นอ้ ยในวัฒนธรรมอียปิ ต์ เพราะมีหนุ่ แมว ซึ่งบางคนตีความว่าเป็นสัญลักษณ์ของเทพบาสเท็ต (Bastet) อีกด้วย
http://www.free-pet-wallpapers.com/free-pet-wallpapers/free-petdesktop-backgrounds/๖๗๖๙๖๐๗๐๙.jpg
http://salmanspets.files.wordpress.com/ 2011/07/cat-care.jpg
วัตถุหรือสารบางอย่าง เช่น ยาเสพติด หรือแม้แต่ “กลิ่นมะเร็ง” โดย ตรวจหาสารแอลเคน (alkane) และสารประกอบแอโรแมติก (aromatic compound) ในลมหายใจของผู้ป่วยที่อาจเป็นมะเร็งปอด ส่วนแมวนั้นเด่นเรื่องการฟังเสียง เพราะสามารถได้ยินเสียงที่ มีความถี่สูงในช่วง 45 ถึง 64,000 เฮิรตซ์ แจ่มชัดกว่าหมาที่ฟังได้ใน ช่วง 67 ถึง 45,000 เฮิรตซ์ ส่วนคนเราแพ้ทงั้ หมาและแมว (อีกแล้ว !) เพราะฟังเสียงความถี่ได้แค่ในช่วง 64 ถึง 20,000 เฮิรตซ์เท่านั้น แมวโดดเด่นในเรื่องการฟังเสียงเพราะเป็นสัตว์นักล่าโดยก�ำเนิด แมวยังสามารถบิดใบหูเพื่อหันไปตามทิศทางเสียง (ราวกับหมุนจาน เรดาร์) ได้ถึง 180 องศา เนือ่ งจากมีกล้ามเนื้อบริเวณหู 32 ชุด (หมามี กล้ามเนื้อบริเวณหู 30 ชุด ส่วนคนมีแค่ 6 ชุด ท�ำให้คนที่เก่งที่สุดก็ท�ำ ได้แค่กระดิกหูเล่นเท่านั้น)
ลิ้นแมวนั้นสากคล้ายกระดาษทราย เพราะบนลิ้นมีหนามแหลมๆ จ�ำนวนมาก (แต่ละชิ้นเรียกว่า papilla พหูพจน์คือ papillae) แมว ใช้หนามแหลมๆ นี้เหมือนซี่ของหวี คือใช้สางท�ำความสะอาดขน นอก จากนี้ยังใช้ลอกเศษเนื้อออกจากก้างหรือกระดูกขณะกินอาหารอีกด้วย ส่วนหมาลิ้นนุ่มกว่าแมวและไม่ได้เลียขนบ่อยเท่าแมว อาจเพราะ เหตุนี้เองท�ำให้เกิดธุรกิจเสริมความงามหมาผุดขึ้นมาเอาใจคนรักหมา นั่นเอง
ของฉันอยู่ไหน หิวแล้วนะ !”) ยิ่งถ้าแมวแกว่งหางแรงและเร็ว ก็ยิ่งแสดงว่าอารมณ์บูดสุดๆ ! (น่า สงสัยเหมือนกันว่า ถ้าคนเรามีหาง เราจะแกว่งหางคล้ายกับที่หมาหรือ แมวท�ำกันแน่ ?)
โดยเฉลีย่ แล้วใครนอนมากกว่ากัน ? หมานอนวันละ 12
ใครมีญาติใกล้ชดิ ทีน่ า่ เกรงขามมากกว่า ? ค�ำตอบต้อง
ชั่วโมง ส่วนแมวนอนนานกว่าวันละ 18 ชั่วโมง งานนี้แมวชนะการ ประกวดจอมขี้เซา อย่างไรก็ดีแมวมักนอนเป็นช่วงสั้นๆ ท�ำให้ภาษา อังกฤษมีค�ำว่า catnap ซึ่งหมายถึงการงีบหลับสั้นๆ โดยเฉพาะใน เวลากลางวัน
หมากับแมว ใครจมูกไวกว่ากัน ? เรือ่ งนีห้ มาชนะ เพราะ
หมามีเซลล์รับกลิ่นโดยเฉลี่ย 220 ล้านเซลล์ ซึ่งมากกว่าแมวถึง 2 เท่า ส่วนคนนั้นโดนทิ้งห่างแบบไม่เห็นฝุ่น เพราะมีจ�ำนวนเซลล์รับกลิ่นน้อย กว่าหมาถึง 40 เท่า เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ก็คงไม่แปลกใจที่หมาบางตัวถูกฝึกให้ดมกลิ่นหา
แมวกับหมา ใครรักสะอาดมากกว่า ? ใครๆ ก็เห็นแมว
เลียขนท�ำความสะอาดอยูเ่ ป็นประจ�ำ ว่ากันว่าระหว่างตืน่ อยู่ แมวใช้เวลา เลียขนราวครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
32
หมากับแมว ใครฉลาดกว่ากัน ?
ค�ำถามนี้หากถามคนรักหมา ค�ำตอบอาจจะเป็นหมา แต่ถ้าถาม คนรักแมว ค�ำตอบอาจจะเป็นว่า ไม่แน่หรอก ! หมาอาจถูกฝึกให้ทำ� อะไรได้หลายอย่าง เช่น ช่วยน�ำทางคนตาบอด ค้นหาสารและวัตถุสงิ่ ของต่างๆ ช่วยต�ำรวจไล่จบั คนร้าย บางตัวก็เข้าขัน้ หมาอัจฉริยะ เช่น เชเซอร์ (Chaser) หมาพันธุบ์ อร์เดอร์ คอลลี (Border Collie) สามารถจดจ�ำค�ำได้มากถึง 1,022 ค�ำ ส่วนแมวนั้นโดยทั่วไปหากลองสั่งให้มันท�ำอะไร เช่น “นั่งลง” มันก็ จะมองเราด้วยสายตาราวกับจะบอกว่า “ท�ำไมฉันต้องท�ำอย่างนั้นด้วย ล่ะ ?” เพื่อนผมหลายคนที่เลี้ยงหมาและแมวยืนยันตรงกันว่า หมาคิดว่า เราเป็นเจ้าของมัน แต่แมวคิดว่ามันเป็นเจ้านายเรา ! (ใครจะไปสั่งให้เจ้า นายท�ำโน่น-นี-่ นัน่ ได้เล่า ?) อย่างไรก็ดแี มวบางตัวอาจถูกฝึกให้กระโดด ลอดห่วง ตบมือกับคน หรือแม้แต่ใช้โถสุขภัณฑ์ในห้องน�้ำได้ด้วย หมาและแมวเป็นเพื่อน และอาจเป็นครูของเราได้ หากเราลอง สังเกตพฤติกรรมต่างๆ ของมัน และมีปฏิสัมพันธ์กับมันอย่างถูกต้อง –จริงไหม...โฮ่งๆ เมี้ยวๆ...เอ๊ย ! ครับ
หมากับแมว ใครดูน่าเกรงขามกว่า ? แวบแรกค�ำตอบ
อาจจะเป็นหมา เพราะโดยเฉลี่ยแล้วหมาตัวใหญ่กว่าแมว อย่างไรก็ดี แมวบางตัวอาจตบหน้าหมาทีม่ นั ไม่คอ่ ยถูกชะตา จนหมาต้องล่าถอยไป แบบงงๆ ก็มีมาแล้ว (อย่างที่บ้านผมเอง)
เป็นแมวเท่านั้น เพราะแมวมีเสือและสิงโตเป็นญาติใกล้ชิด ซึ่งไม่ว่าจะ เอาหมาพันธุ์ที่ดุที่สุด หรือเอาญาติของหมาที่ดูเท่อย่างหมาป่ามาแข่ง ก็ ไม่อาจเทียบกับนักล่ามืออาชีพอย่าง “แมวใหญ่” ได้ ทัง้ หมาและแมวต่างก็สอื่ สารด้วยภาษาท่าทางได้อย่างหลากหลาย ภาษาท่าทางนี้อาจมีความหมายคล้ายคลึงกัน เช่น เวลาโกรธเกรี้ยว ทั้ง หมาและแมวจะแยกเขี้ยวขู ่ (พร้อมกัด) หรืออาจแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เช่น เวลาหมาดีใจที่ได้เห็นเจ้าของ มันจะกระดิกหางดุ๊กดิ๊กไปมา แต่ ส�ำหรับแมว การแกว่งหางไปมาแสดงว่ามันก�ำลังอารมณ์บจ่ อย (“อาหาร
33
กรกฎาคม - กันยายน 2556
ท่องเที่ยว กับวิริยะ
02
โลกเย็นๆ ทีเ่ ขาใหญ่ เรื่อง : ปณัสย์ พุ่มริ้ว ภาพ : วิจิตต์ แซ่เฮ้ง
01
ย่างเข้าวัสสานฤดูแล้ว ฝนตกแทบทุกวัน หลายคนอาจเบือ่ ความชืน้ แฉะ และการจราจรทีต่ ดิ ขัดมากขึน้ แต่เชือ่ ว่าคงไม่มใี ครเบือ่ ความเย็น ฉ�ำ่ ของสายฝน และภาพต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุม่ หลังฝนตก ...ฤดูฝนเช่นนีค้ อื ห้วงเวลาทองของการเทีย่ วป่า ผืนป่าจะดูสดชืน่ เขียวขจี ดอกไม้ ป่าพากันบานสะพรั่ง น�้ำตกไหลบ่าเต็มหน้าผา อากาศก็ชุ่มชื้นเย็นสบาย เรียกว่าเป็น “โลกเย็นๆ” ที่มีบรรยากาศพิเศษต่างจากฤดูอื่น V magazine ฉบับนี้จึงขอชวนคุณไปเที่ยวป่าหน้าฝน อย่าเพิ่งคิดว่าต้องแบกเป้ใบใหญ่ เดินฝ่าพงไพรยากล�ำบาก เพราะจุดหมายของเราคือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ผืนป่าใกล้กรุง เพียงขับรถแค่ 2-3 ชั่วโมงก็ถึง ที่นี่พร้อมสรรพด้วยสิ่งอ�ำนวยความสะดวก และมีที่เที่ยว “ครบรส” ไม่ว่าจะพาครอบครัวไปเรียนรู้ธรรมชาติ ยกก๊วนเพื่อนสนิทไปผจญภัย หรืออิงแนบคนรักไปดื่มด�่ำบรรยากาศโรแมนติก...โลกเย็นๆ ที่เขาใหญ่สามารถตอบโจทย์ได้ครบครัน
ก้าวแรก สู่ผืนป่ามรดกโลก
เส้ น ทางหลั ก เข้ า สู ่ อุ ท ยานแห่ ง ชาติ เ ขาใหญ่ มี ส องทาง คื อ ด้ า น จ. นครราชสีมา กับทาง จ. ปราจีนบุร ี ไม่วา่ จะใช้เส้นทางไหน หากเข้าเขต ป่าแล้ว อย่าลืมลดกระจกรถลง เพือ่ จะได้สมั ผัสลมป่าอันเย็นสดชืน่ ราวกับ ก�ำลังเดินทางเข้าไปในตู้เย็นธรรมชาติ เมื่อถึงที่ทำ� การอุทยานฯ ควรแวะ ไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเป็นล�ำดับแรก ศูนย์บริการฯ นอกจากเป็น จุดติดต่อบ้านพักและเจ้าหน้าที่น�ำเดินป่า ยังมี นิทรรศการมรดกโลกดง พญาเย็น -เขาใหญ่ ให้ชมอย่างน่าสนใจ นิทรรศการนี้เป็นเสมือนบทเรียน บทแรกทีจ่ ะพาเราไปรูจ้ กั กับผืนป่าเขาใหญ่ ทีม่ คี ณ ุ ค่าจนได้รบั การประกาศ ให้เป็นมรดกโลก
34
ในศูนย์บริการฯ มีหอ้ งน�ำ้ ร้านกาแฟ ร้านขายของทีร่ ะลึก ใครอยาก ซื้อถุงกันทากสามารถหาซื้อได้ที่นี่ ถ้าเตรียมตัวพร้อมแล้วก็ไปเดินเที่ยว เส้นทางศึกษาธรรมชาติกันเลย ใครไม่อยากเดินล�ำบากขอแนะน�ำ เส้น ทางฯ กองแก้ว ทีอ่ ยูด่ า้ นหลังศูนย์บริการฯ เพียงข้ามสะพานแขวนไปก็ถงึ ตลอดเส้นทางประมาณ 1.2 กม. เป็นทางเดินยางมะตอย เดินสะดวกไม่ เฉอะแฉะและไม่มที ากคอยกวนใจ บนเส้นทางมีพรรณไม้ในป่าดิบชืน้ ให้ ชมได้เพลิดเพลิน แต่ถา้ อยากผจญภัยขอแนะน�ำ เส้นทางศึกษาธรรมชาติ กม. 33 ระยะทาง 3.5 กม. ที่มีต้นไม้ใหญ่หลายสิบคนโอบขึ้นดาษดื่น ตลอดทาง สะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าได้อย่างดี บนเส้นทางอาจ
03
04 01 02 03 04
ได้พบนกเงือกด้วย หรือถ้าต้องการชมพรรณไม้แปลกตาและแมลงนานา ชนิด ไม่ควรพลาด เส้นทางผากล้วยไม้ - น�ำ้ ตกเหวสุวตั ระยะทาง 3 กม. ที่ เลาะเลียบไปตามล�ำตะคอง มีผีเสื้อกลางคืน จักจั่นงวง เห็ดรูปหัวใจ ให้ ชมได้ไม่เบื่อ เดินแล้วอาจรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกอีกใบเลยทีเดียว
แอบส่องสัตว์ที่หนองผักชี
ความสนุกอีกอย่างของการมาเทีย่ วเขาใหญ่ คือได้พบเจอกับสัตว์ปา่ นานาชนิด ทั้งสัตว์ที่พบบ่อยอย่างกวางแสนเชื่องแถวร้านอาหาร ลิงที่ มักเดินตามริมถนน รวมทั้งบรรดานกป่านานาชนิดพากันบินโฉบไปมา กระทั่งชะนีแม้ไม่เจอตัวก็ยังได้ยินเสียงร้องก้องไปทั่วราวไพรในยามเช้า ทุกวัน แต่ถา้ อยากแอบเฝ้ามองชีวติ ของสัตว์หายากอย่างช้าง เสือ กระทิง สัตว์เหล่านีไ้ ม่ออกมาให้เห็นง่ายๆ เราจึงต้องสวมบทนักถ�ำ้ มอง ไปซุม่ แอบ ดูบนหอส่องสัตว์
35
บรรยากาศในป่าดิบเขาอันร่มครึ้ม บนเส้นทางผาเดียวดาย เห็ดรูปหัวใจ กวางป่าที่มักพบได้ระหว่างทางเดินเข้าสู่หนองผักชี ดอกเข้าพรรษา หรือข่าลิง
จุดส่องสัตว์ยอดนิยมอยู่ที่หอส่องสัตว์หนองผักชี ต้องเดินจากลาน จอดรถที่ กม. 35 ริม ถ. ธนะรัชต์ เข้าไปประมาณ 800 ม. เส้นทางนี้ตัด ผ่านทุง่ หญ้า ยามลมพัดผ่านจะเห็นต้นหญ้าเอนไหวตามแรงลมดูเพลินตา ระหว่างทางอาจพบรอยตีนและมูลของกวางหรือเก้งทีแ่ วะมาเล็มหญ้าด้วย จนถึงปลายทางจะพบหอส่องสัตว์สูงประมาณตึกสามชั้น ตั้งอยู่ริมหนอง ผักชี อีกฝั่งเป็นโป่ง จากชั้นบนสุดของหอส่องสัตว์สามารถมองเห็นสัตว์ มากินน�้ำในหนองและแร่ธาตุอาหารในโป่ง บ่อยครั้งที่เห็นนกป่า เก้งหรือ กวาง และถ้าโชคดีจริงๆ อาจเจอกับโขลงช้างหรือกระทิงแวะลงมากินโป่ง ด้วย ส�ำหรับโอกาสได้พบสัตว์หายากเหล่านีต้ อ้ งรอคอยอย่างอดทนและ พกดวงไปด้วยไม่นอ้ ย ...กับการเห็นสัตว์หากินอย่างมีชวี ติ ชีวาในธรรมชาติ เหมือนเตือนให้เราไม่ลืมว่า ต้องช่วยกันรักษาผืนป่าไว้ให้เพื่อนร่วมโลกที่ แสนน่ารักเหล่านี้ด้วย
กรกฎาคม - กันยายน 2556
ครัวเขาใหญ่ โฮมเมด เลิศรสเรื่องรมควัน
05 เครื่องเล่นอันชวนตื่นเต้นหวาดเสียว ที่ ไลฟ์ปาร์ค แอท เขาใหญ่ (ภาพ : เอกพงศ์ ศรทอง) 06 บรรยากาศย่านเมืองเก่าสไตล์อิตาลี ที่ ปาลิโอ เขาใหญ่
หากชอบผจญภัยต้องแวะไปที่ ไลฟ์ปาร์ค แอท เขา ใหญ่ มีกิจกรรมให้โหนสลิง ปีนหน้าผา และกิจกรรม น่าตื่นเต้นอีกเพียบ ส่วนใครชอบกินเห็ด ห้ามพลาด เขาใหญ่พานอรามา ฟาร์ม ฟาร์มเห็ดทีจ่ ะได้เก็บเห็ดสดๆ อย่างสนุกสนาน พร้อมทั้งลิ้มลองเมนูเห็ดหลายแบบ หรือถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองเก่าราวกับอยูใ่ นอิตาลี ก็ต้องแวะ ปาลิโอ เขาใหญ่ มีมุมสวยๆ ให้เก็บภาพจน เพลิน แต่ถ้าเป็นคอไวน์ ห้ามพลาด พีบีวัลเลย์ เขาใหญ่ไวน์เนอรี ไปชิม ไวน์และเดินชมไร่องุ่นท่ามกลางขุนเขา
05
เส้นทางโรแมนติกบนผาเดียวดาย
แม้มีชื่อว่าผาเดียวดาย บรรยากาศเส้นทางนี้กลับโรแมนติกชวนฝัน ด้วยสภาพป่าดิบเขาจึงมีม่านหมอกปกคลุมตลอดปี ราวกับดินแดนใน เทพนิยาย ใครบางคนเรียกป่าแบบนี้ว่า “ป่าเมฆ” เพราะอยู่สูงจนได้รับ อิทธิพลจากเมฆอยู่ตลอดเวลา ฤดูฝนเช่นนี้ป่าเมฆดูสวยที่สุด ความ ชุ่มชื้นเอื้อให้เฟิน มอส และตะไคร่ งอกงามตามกิ่งก้านไม้ จนดูเหมือน ต้นไม้กำ� ลังห่มผ้าสีเขียวครึม้ ไปทัง้ ราวป่า ยิง่ ยามฉ�ำ่ ละอองฝนนัน้ สวยงาม น้องๆ ดอยอินทนนท์เลยทีเดียว ทางเดินเส้นนี้เป็นบอร์ดวอล์กหรือทางยกระดับให้เดินสะดวก มี ระยะทาง 500 ม. ตัดผ่านป่าดิบเขาและป่าพรุ ระหว่างทางมีงานศิลปะ จากธรรมชาติชวนให้ค้นหามากมาย อาทิ เฟินหลากหลายพันธุ์ เช่น เฟินตีนตุ๊กแกที่มีใบหยัก ทรีเฟินเป็นเฟินต้นใหญ่ ส่วนพระเอกตัวจริง ของเฟินบนเส้นทางนี้ต้องยกให้ฟิล์มมี่เฟิน เฟินใบบางที่สุดในโลกซึ่งขึ้น เฉพาะบริเวณทีม่ คี วามชืน้ สูงเท่านัน้ นอกจากนีย้ งั มีดอกไม้หลายชนิดบาน อวดสีสันในช่วงฤดูฝน ทั้งดอกกุหลาบพันปีสีขาวที่บานเด่นบนยอดไม้ ดอกบีโกเนียสีชมพูดนู า่ ทะนุถนอม รวมทัง้ ดอกข่าลิงสีเหลืองสดทีม่ อี กี ชือ่ ว่าดอกเข้าพรรษา เพราะมักบานในช่วงเข้าพรรษา รวมทั้งยังมีพรรณไม้ แปลกตาอีกมากชนิด ชวนใช้เวลาดูได้เป็นครึ่งค่อนวัน ไฮไลท์ของเส้นทางอยูท่ จี่ ดุ ชมทิวทัศน์ผาเดียวดาย จากผาสูงจะมอง เห็นป่ายางขึน้ แน่นทึบเบือ้ งหน้า บางครัง้ ได้ยนิ เสียงนกกกดังแว่วมาไกลๆ และสัมผัสได้ถึงสายลมเย็นสดชื่นที่พัดผ่าน จนชวนให้หัวใจแอบอิงเป็น ส่วนหนึ่งของผืนป่าใหญ่อย่างไม่เดียวดาย...
เที่ยวสนุกรอบเขาใหญ่
พืน้ ทีเ่ ขาใหญ่ยงั มีทเี่ ทีย่ วอีกมาก เช่น น�้ำตกเหวสุวตั น�ำ้ ตกเหวนรก เฉพาะในช่วงฤดูฝนจะมีน�้ำหลากเต็มหน้าผาดูสวยงามที่สุดในรอบปี แต่ ถ้าอยากเปลีย่ นบรรยากาศมาเทีย่ วแบบสนุกๆ ขอแนะน�ำให้ลงมาตระเวน รอบเขาใหญ่ดูบ้าง ตลอดสองฝั่ง ถ. ธนะรัชต์ และภายในเขต อ. ปากช่อง มีทเี่ ทีย่ วหลายรูปแบบกับกิจกรรมให้เลือกสนุกมากมายได้ตามความชอบ
36
ที่กล่าวมาเป็นตัวอย่างเพียงเล็กน้อยของกิจกรรมอันหลาก หลายรอบเขาใหญ่ หากได้มาเที่ยวในฤดูฝนพร�ำรับรองว่าต้องติดใจ ความสดชื่นเย็นฉ�่ำของธรรมชาติ จนอยากมาเยือนอีกในทุกฤดูฝน .
(ถ. ธนะรัชต์ กม. 13.5 อ. ปากช่อง เปิดทุกวัน 09.00-21.00 น. โทร. 0-4429-7137-8, 08-6865-9263, 08-9624-1937)
หลากเมนูรมควัน ความอร่อยทีต่ อ้ งลิม้ ลอง >> สละลอยแก้วโฮมเมด
ร้านนีม้ เี คล็ดลับความอร่อยอยูท่ ี่ “โฮมเมด” การท�ำอาหารโดยใส่ความพิถพี ถิ นั และ ใส่ใจทุกขั้นตอนการปรุงเหมือนท�ำกินในครอบครัว ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อหมูชนิดดีที่สุด สะอาด ปลอดสารพิษ และได้มาตรฐานของเบทาโกร คัดเฉพาะส่วนที่ต้องการ เช่น ซีโ่ ครงอ่อน ซีโ่ ครงแก่ สันนอก มาดองน�ำ้ เกลือ 4-5 วัน จากนัน้ น�ำไปรมควันด้วยเตาถ่าน ที่ใช้ไม้เนื้อแข็งไม่มียาง อย่างไม้สัก ไม้แดง เป็นเชื้อเพลิงชั้นเยี่ยม คอย ควบคุมไฟอ่อนๆ ปล่อยให้เนื้อหมูค่อยๆ แห้งจนได้เมนูรมควันชั้นยอด เมนูชูโรงต้องยกให้แฮมซี่โครงอ่อนหรือเบคอน เป็นส่วนเนื้อที่มี มันแทรกมากหน่อย แต่รับรองไม่เลี่ยน เพราะทั้งรมควันและทอดได้ ลงตัวจนสีสนั น่ากิน หอมกลิน่ รมควันอ่อนๆ เนือ้ นุม่ ละมุน หนังกรอบ นิดๆ กินกับมะเฟืองหวานหั่นพอดีค�ำ อร่อยขึ้นแท่นระดับภัตตาคาร เชียวคุณ ส่วนใครชอบแบบเนือ้ ล้วนเคีย้ วกันเพลินๆ ลองสัง่ แฮมซีโ่ ครงแก่ แฮมสันนอก และแฮมพริกไทย รับประกันรสเลิศชวนชิมพอๆ กัน ตบท้ายด้วยของหวานโฮมเมดอย่างสละลอยแก้วที่หอมหวาน ผสานรสเปรี้ยวนิดๆ ขอบอกว่าสละปลูกเองอร่อยปลอดภัยไร้กังวล
สองสไตล์ความอร่อยลงตัวทีเ่ ขาใหญ่
06
ในดินแดนอีสานเคล้ากลิ่นอายคาวบอยอย่างเขาใหญ่ นอกจากเป็นเหมือนจุดรวมพลคนรักธรรมชาติแล้ว ยังเป็นศูนย์ความอร่อยที่หลากหลายทั้งสไตล์โคบาลและลูกอีสานบ้านเฮา อร่อยลงตัวแบบนี้ห้ามพลาดเลยเชียว
วิริยะ ชวนชิม เรื่อง : พรเพ็ญ วงศ์ศุภชัยนิมิต ภาพ : วิจิตต์ แซ่เฮ้ง
เป็นลาว รสแซบต�ำรับอีสานบ้านเฮา (ถนนสายผ่านศึก-กุดคล้า อ. ปากช่อง เปิด 09.00-18.00 น. หยุดวันจันทร์ โทร. 08-3461-3666 / www.penlaos.com) แรกเริม่ เดิมทีรา้ นนีป้ กั หลักปักร่มขายกันแบบง่ายๆ ริมทาง ด้วยเมนูชโู รงอย่าง ไก่นาย่างสมุนไพร และปลาช่อนเผาห่อใบยอ รสชาติเป็นหนึ่งไม่เหมือนใคร ท�ำให้ ลูกค้าติดอกติดใจบอกต่อความอร่อยกันปากต่อปาก จนในทีส่ ดุ ก็เปิดเป็นร้าน “เป็นลาว” ร้านอาหารอีสานสูตรลาวดัง้ เดิม เน้นจุดขายคัดสรรวัตถุดบิ และเครือ่ งปรุงชัน้ ดี อย่างไก่นาย่างสมุนไพรเข้มข้นด้วยเครือ่ งเทศถึงสองชัน้ เพราะใช้ไก่บา้ นพันธุต์ ะนาวศรี ที่เลี้ยงด้วยสมุนไพรอย่างขมิ้นชัน ไพล และฟ้าทะลายโจร น� ำมาปรุงรสและหมัก วันต่อวันด้วยพริกไทย รากผักชี และกระเทียม ย่างเตาถ่านไฟอ่อนๆ จนได้ไก่ย่าง เนื้อนุ่ม หนังเกรียม หอมกลิ่นสมุนไพร เมนูที่ขาดไม่ได้อย่างส้มต�ำมีให้เลือกมาก สารพัดต�ำ ทัง้ ต�ำไทย ต�ำปู ต�ำปลาร้า ต�ำโคราชหมูยอ รสชาติสดุ แซบ แถมวัตถุดบิ ยัง สดกรอบปลอดสารพิษ กินแนมกับผักสดๆ พื้นบ้านที่ส่งเสริมให้ชาวบ้านในละแวก ปลูกมาขาย ทัง้ ผักหิน่ ผักแขยง ผักแพว ยอดเม็ก ยอดติว้ ยอดมะกอก ฯลฯ จัดเรียง ไว้ในล�ำเรือให้บริการฟรีกินได้ไม่อั้น ทางร้านยังสร้างความโดดเด่นโดยใช้ปิ่นโตสังกะสีเคลือบรุ่นเก๋าใส่แกงลาว ต้มแซบ ต้มย�ำ พร้อมด้วยจานสังกะสีลวดลายเก๋ๆ ไม่เหมือนใคร อีกทั้งกระติบข้าว เหนียวก็สีสันสดใส พร้อมเสิร์ฟ “ข้าวเหนียวข้าวกล้อง” อีกด้วย .
37
หลากเมนูสดุ แซบ เน้นคุณภาพทีร่ า้ น เป็นลาว
บรรยากาศเรียบง่าย ภายในร้าน กรกฎาคม - กันยายน 2556
รักลูก ให้ดี ปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่จะเลี้ยงลูกให้ดีอย่างไร... อย่างไรก็ตอ้ งไปเละทีโ่ รงเรียน หากไม่เตรียมการให้ดี
WON’T BACK DOWN เรื่อง : นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ภาพประกอบ : เซมเบ้
Won’t Back Down หนั ง ปี ค.ศ. 2012 ก�ำ กั บ การแสดงโดย Daniel Barnz ได้นักแสดงหญิงมีฝีมือสามคน Maggie Gyllenhaal, Viola Davis และ Holly Hunter เล่าเรื่องการดิ้นรนของกลุ่มพ่อแม่ หนังเล่าเรื่องคุณแม่สองคนที่ต่อสู้เพื่อยึดโรงเรียนมาจัดการบริหาร เอง เมือ่ พบว่าสภาพของโรงเรียนเลวร้ายถึงทีส่ ดุ และพวกเธอได้พยายาม บอกกล่าวหรือขอความช่วยเหลือเพื่อลูกๆ ของเธอจนอ่อนใจแล้ว แมกกี กิลเลนฮาล รับบท เจมี ฟิตซ์แพทริก คุณแม่สาวสวยที่ต้อง ท�ำงานเป็นพนักงานขายรถในเวลากลางวันและบาร์เทนเดอร์ในเวลากลาง คืน เธอมีลกู สาวทีม่ ปี ญ ั หาด้านการอ่านและได้พยายามขอความช่วยเหลือ จากครูทโี่ รงเรียนประถมอดัมส์ทลี่ กู สาวเธอเรียนอยูใ่ ห้กรุณาใส่ใจและตัง้ ใจ ช่วยลูกของเธอเป็นพิเศษ แต่ครูซึ่งมีท่าทีสอนหนังสือซังกะตาย และ อารมณ์เสียเกือบตลอดเวลาไม่ใส่ใจ อีกทั้งปฏิเสธที่จะสอนพิเศษในตอน เย็น โดยอ้างกฎระเบียบของสหภาพครู วิโอลา เดวีส์ รับบท โนนา อัลเบิร์ท คุณแม่ผิวสีที่แยกทางกับสามี นักธุรกิจ เธอรับผิดชอบดูแลลูกชายที่มีปัญหาการเรียนจนเป็นเด็กเอ๋อ ประจ�ำห้อง ที่จริงเธอเป็นครูสอนที่โรงเรียนประถมอดัมส์ แต่เบื่อหน่าย กฎระเบียบของสหภาพครู และผู้บริหารโรงเรียน รวมทั้งครูหลายคนที่ไม่ ใส่ใจนักเรียนเท่าที่ควร ร้อยละ 2 เท่านั้นของนักเรียนจากโรงเรียนประถมอดัมส์ที่สามารถ เข้ามหาวิทยาลัยได้ ขณะที่โรงเรียนประถมอีกแห่งหนึ่งร้อยละ 2 เท่านั้น ที่เข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นนักเรียนส่วนใหญ่ของโรงเรียน ประถมอดัมส์อ่านหนังสือไม่ได้ ทั้งหมดที่เล่ามาเกิดในสหรัฐอเมริกา อย่าเข้าใจผิดว่าก�ำลังเล่าเรื่อง ประเทศไทย หนังแสดงให้เห็นถึงความพยายามของคุณแม่ทั้งสองที่หว่านล้อม ผู้ปกครองคนอื่นและครูจ�ำนวนหนึ่งให้ร่วมลงชื่อได้มากพอที่จะขอใช้ กฎหมายที่เรียกว่า Parent Trigger Law ในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อปี ค.ศ. 2010 กฎหมายฉบับนี้เปิดช่องให้ผู้ปกครองสามารถเข้าไปมีส่วนในการ บริหารโรงเรียนได้ถึงระดับปลดครูหรือผู้อ�ำนวยการโรงเรียนออกได้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ และสมควรเกิดในไทยได้เสียที
38
หนังผลิตโดย Walden Media และทเวนตีเซ็นจูรีฟอกซ์ วอลเดน มีเดียคือผู้ผลิตสารคดีวิพากษ์ระบบการศึกษาสหรัฐอเมริกาชิ้นเยี่ยม ร่วมกับพาราเมาท์พิกเจอร์ และ Participant Media เรื่อง Waiting For Superman ซึง่ ก�ำลังถูกอ้างอิงโดยนักการศึกษาทัว่ โลกรวมทัง้ ประเทศไทย ข้อความส�ำคัญคือเรามีคุกมากกว่าโรงเรียน และเราจะมีคุกมากขึ้น เรื่อยๆ หากเราไม่ปฏิรูปการศึกษาด้วยการเปลี่ยนแปลงโรงเรียน เพราะ สถิติชี้ว่านักเรียนส่วนใหญ่จากโรงเรียนไร้คุณภาพมีอนาคตคือเข้าคุก เป็นหนังที่ดูสนุกพอสมควร แต่มีคุณค่าสมควรดูอย่างมาก หนังไม่ ประสบความส�ำเร็จด้วยบทภาพยนตร์ทดี่ เู หมือนจะขาดๆ เกินๆ ท�ำให้ไม่ เข้าใจหลายตอน และไม่เห็นกระบวนการทั้งหมดอย่างชัดเจน จนกระทั่ง บางครั้งดูเหมือนการต่อสู้ของคุณแม่ทั้งสองออกจะจงใจบีบน�้ำตามากไป แมกกี กิลเลนฮาล คือนักแสดงหญิงที่เพิ่งผ่านสายตาไปในหนัง Hysteria และ The Dark Knight มาครัง้ นีเ้ ธอเปลีย่ นบุคลิกไปเป็นคนละ คน จากสาวมั่นกลายเป็นคุณแม่คนสวยก๋ากั่นชวนมอง วิโอลา เดวีส์ เป็นนักแสดงผิวสีที่ก�ำลังพุ่งแรง หลายคนควรจะจ�ำเธอได้จากบทบาทที่ ยอดเยี่ยมในหนังยอดเยี่ยม The Help หนังได้นักแสดงหญิงมีฝีมือ ฮอลลี ฮันเตอร์ กลับมารับบทผู้แทนจากสหภาพครู หลังจากที่เธอห่าง หายจากจอภาพยนตร์ไปนานถึง 7 ปี นอกจากหนังไม่ประสบความส�ำเร็จแล้ว ยังถูกต่อว่าจากนักวิจารณ์ จ�ำนวนหนึง่ ว่าออกจะเข้าข้างพ่อแม่และเป็นศัตรูกบั สหภาพครูมากเกินไป ทั้งที่สหภาพครูได้ท�ำอะไรหลายอย่างดีๆ ไว้มากมาย ฟังดูคล้ายประเทศไทยอีกแล้ว แน่นอนว่าการต่อสู้ของคุณแม่สองคนกับสหภาพครูมิใช่ของเล่นๆ พวกเธอต้องฝ่าฟันอุปสรรคของระบบราชการสหรัฐฯ มากมายในการหา แนวร่วมและต่อสูจ้ นกว่าจะได้รบั ชัยชนะ กฎหมายนีเ้ ปิดช่องให้ผปู้ กครอง สามารถเอาผู้บริหารโรงเรียนหรือครูออกได้ นั่นท�ำให้ผู้บริหารโรงเรียน และครูต้องรับผิดรับชอบ (accountability) ต่อสังคมอย่างแท้จริง เทียบกับเวลานี้ที่ผู้บริหารโรงเรียนไม่เคยต้องรับผิดอะไร แม้ว่าผล การเรียนของนักเรียนจะลดลงอย่างต่อเนื่องในการวัดผลระดับนานาชาติ ทุกสนามก็ตาม .
39
กรกฎาคม - กันยายน 2556
เยือน ลานธรรม เรื่อง : พรเพ็ญ วงศ์ศุภชัยนิมิต ภาพ : ประเวช ตันตราภิรมย์
หายใจเข้ารับรู้ถึงแก่นธรรม หายใจออกคือความสุขแห่งการให้ ที่ “ศาลาลุงชิน” หากพุ ท ธศาสนิ ก ชน ผู้เลื่อมใสศรัทธาในปฏิปทาของพระสุปฏิปันโน
พระกรรมฐานสายหลวงปูม่ น่ั ภูรทิ ตั โต ต้องการฟังธรรมเทศนา ก็ไม่ต้องเดินทางไกล ไปถึงต่างจังหวัด... V magazine ฉบับนี้จะพาไปรู้จักกับสถานที่ฟังธรรมเพื่อ เจริญสติได้ใกล้ๆ แค่แจ้งวัฒนะนี่เอง “ศาลาลุงชิน” หรือศาลากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2537 ด้วยลุงชินหรือนายชิน เนียวกุล เคยบวชเรียนเป็นศิษย์ก้นกุฏิของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในวัตรปฏิบัติของ ท่าน เมื่อลาสิกขากลับมาใช้บั้นปลายชีวิตที่กรุงเทพฯ จึงได้ริเริ่มก่อตั้งสถานที่แสดงธรรมเทศนาแห่งนี้ขึ้น โดย ชักชวนเพื่อนบ้านที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา รวมตัวกันตั้งเป็น “กลุ่มมรรคปฏิปทา” ยึดแนวทางปฏิบัติสู่ หนทางแห่งการดับทุกข์ พร้อมกับนิมนต์พระคุณเจ้าสายกรรมฐานจากวัดป่าตามต่างจังหวัดมาแสดงพระธรรมเทศนา เช่น หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ หลวงปู่พุธ ฐานิโย หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ เป็นต้น แม้สถานที่แสดงธรรมเทศนาแลดูเรียบง่ายไม่ตระการตา เป็นเพียงศาลาหลังใหญ่โล่งๆ แต่ด้วยหลักธรรม คำ�สอนที่นำ�มาเผยแผ่ ได้ทำ�ให้เกิดศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งเป็นหนทางแห่งการดับทุกข์ ศาลาลุงชินจัดแสดงธรรมเทศนาขึ้นทุกวันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 2 และ 4 ของทุกเดือน ซึ่งจะมีพระหมุนเวียน มาแสดงธรรมตลอดทั้งปี ส่วนวันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 3 ของทุกเดือน พระอาจารย์ปราโมช ปาโมชโช แห่งสวน สันติธรรม จะเป็นผู้แสดงธรรมแก่ญาติโยม ในวันที่ไม่มีกิจกรรมแสดงธรรม ศาลาแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของกลุ่มมรรคปฏิปทา หากท่านใด สนใจเข้าร่วมปฏิบัติธรรมสามารถเข้ามาได้ เพียงแจ้งความประสงค์ให้กลุ่มได้ทราบก่อน วันหยุดสบายๆ แบบนี้ลองพาใจของตนออกมาพักผ่อนอย่างสงบกับธรรมะที่ศาลาลุงชิน กำ�หนดลมหายใจ เข้าออกไปพร้อมกับหลักคำ�สอน ท่านจะพบว่าการหายใจเข้าสามารถรับรู้ได้ถึงแก่นธรรม การหายใจออกย่อม คือความสุขแห่งการให้ . ศาลากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ (ศาลาลุงชิน) ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเกษตรนิเวศน์ ถ. แจ้งวัฒนะ ซ. 14 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 ทุกวันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 2 และ 4 ของทุกเดือน เริ่มตั้งแต่เวลา 07.00 - 10.00 น. ทุกวันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 3 ของทุกเดือน เริ่มตั้งแต่เวลา 08.30 - 10.30 น. (ไม่มีการถวายภัตตาหาร) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 08-1441-5223, 08-1868-6257 และ 08-1332-1510 สามารถดูตารางการทำ�บุญประจำ�ปีได้ที่ www.facebook.com/SalaLungChin การเดินทาง
จาก ถ. วิภาวดีรังสิต มุ่งหน้าสู่ ถ. แจ้งวัฒนะ กลับรถใต้สะพานเลียบคลองประปา แล้วเลี้ยวซ้ายเข้า ซ. แจ้งวัฒนะ 14 ตรงเข้าหมู่บ้านเกษตรนิเวศน์ สังเกตป้อมยามหน้าหมู่บ้านแล้วเลี้ยวขวาบริเวณหลังป้อมยามไปอีกประมาณ 700 ม. จนสุดซอย จาก ถ. ราชพฤกษ์ ให้ข้ามสะพานพระราม 4 มุ่งหน้าสู่ ถ. แจ้งวัฒนะ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้า ซ. แจ้งวัฒนะ 14 (ก่อนถึงเมืองทองธานี) สำ�หรับผู้โดยสารรถสาธารณะ มีสายรถเมล์ที่ผ่าน คือ 52, 150 และ 356
40
41
กรกฎาคม - กันยายน 2556
ดวงชะตา ราศี
ไตรมาสที่ 3 ดาวพฤหัสบดีย้ายราศีจากราศีพฤษภเข้ามายังราศีเมถุนเมื่อ ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา การย้ายราศีของดาวศุภเคราะห์ดวงนี้มีความสำ�คัญและ มีผลกระทบต่อทุกราศี ทั้งนี้เพราะดาวพฤหัสบดีเป็นประธานของดาวศุภเคราะห์ทั้งมวล เมื่อไปอยู่ ในราศี ใดจะดลบันดาลให้ราศีนั้นประสบโชคลาภ หรือปัดเป่าปัญหาให้เบาบางลง ทำ�นองเดียวกันกลับอาจถูกบั่นทอนพลังลงไปหากดาวนี้ ไปตกในราศีร้ายๆ โดย : ลูกโหร ภาพประกอบ : เซมเบ้
ทำ�นายทายทัก เดือนกรกฎาคม – กันยายน 2556
ราศีมังกร
(เกิดวันที่ 16 ม.ค. - 15 ก.พ.) คนราศี นี้ เ หมื อ นเคราะห์ ซ้ำ � กรรมซั ด แม้ ที่ ผ่ า นมาต้ อ งตรากตรำ� งานหนั ก เผชิ ญ การ ถู ก เอารั ด เอาเปรี ย บ หรื อ ถู ก ใส่ ร้ า ยป้ า ยสี สารพั ด ท่ า นก็ ยั ง มี ที่ พึ่ ง จากผู้ ห ลั ก ผู้ ใ หญ่ คอยช่วยเหลือสนับสนุนค้ำ�ชูในบางโอกาส แต่ตอนนี้ดาวพฤหัสบดีได้ย้ายราศีเข้าสู่ภพ อริของท่าน บ่งบอกว่าท่านอาจมีปัญหากับ ผู้ ใ หญ่ ห รื อ ผู้ บั ง คั บ บั ญ ชา อาจโดนตำ � หนิ เพ่งเล็ง หรือผลงานไม่เข้าตา ด้านการงาน ยั ง หนั ก หนาเหนื่ อ ยยากตรากตรำ � เหมื อ น เดิ ม นอกจากนี้ ต้ อ งระวั ง เพื่ อ นสนิ ท คิ ด ไม่ซื่อ หรือมีเหตุให้บาดหมางกับเพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนร่วมงานทำ�งานผิด พลาดที่ส่งผลกระทบถึงตัวเราให้ต้องเดือด ร้อนด้วย การเงินยังพอหาได้ไม่ถึงกับ ฝืด เคืองนัก คู่ครองช่วงเดือนกรกฎาคมอาจมี ปัญหาสุขภาพควรเอาใจใส่ดูแลให้ดี
ราศีกุมภ์
(เกิดวันที่ 16 ก.พ. - 15 มี.ค.)
น่าจับตามองเพราะดาวพฤหัสบดีย้ายมาเข้า มุ ม ตรี โ กณส่ ง ผลด้ า นโชคลาภหรื อ ความ สำ�เร็จบางอย่างกับราศีนี้ อีกทั้งดาวอังคาร เจ้าเรือนการงานได้ย้ายมาเดินร่วมกับดาว พฤหั ส บดี ด้ ว ย ทำ � ให้ ส่ ง ผลดี ด้ า นการงาน สิ่ ง ที่ ทำ � คั่ ง ค้ า งติ ด ขั ด จะได้ รั บ การสะสาง และเดิ น หน้ า จนสำ � เร็ จ หากเริ่ ม โปรเจ็ ก ต์ ใหม่ๆ ก็ทำ�ได้ราบรื่น ทั้งบริวารให้ความช่วย เหลือดี แต่ดาวเสาร์และราหูยังเบียดเบียน อยู่ในเรือนศุภะจนต้องระวังการถูกป้ายสีหรือ โดนอิทธิพลมืดให้ป่นั ป่วน ฉะนั้นคิดทำ�การใด ควรรอบคอบ ด้านการเงินอยู่ในเกณฑ์พอ หาได้ อาจมีปัญหาไม่เข้าใจกับคู่ครองบ้าง แต่พ้นกลางเดือนสิงหาคมไปจะหวานดังเดิม
ราศีมีน
(เกิดวันที่ 16 มี.ค. - 15 เม.ย.)
ขณะที่ราศีอื่นกำ�ลังเผชิญทุกข์ระทม คนราศี นี้กลับได้รับผลกระทบจากดาวร้ายๆ น้อย และยังได้รบั ผลดีจากดาวพฤหัสบดีทโ่ี คจรร่วม กับดาวเจ้าเรือนศุภะ ระยะนี้เลยดูตัวเบาๆ ได้เลือ่ นยศเลือ่ นตำ�แหน่ง หรือได้รบั การชมเชย จากผูใ้ หญ่ เจ้านายเมตตาสนับสนุน การงาน รุดหน้าไปได้ดี เป็นช่วงนาทีทองสำ�หรับเริ่ม โครงการใหม่ๆ เพียงต้องระมัดระวังเพื่อน ฝู ง รอบข้ า งอาจริ ษ ยา พาชั ก ใบให้ เ รื อ เสี ย หรื อ ให้ ข้ อ มู ล ผิ ด ๆ ทั้ ง บริ ว ารก็ ไ ม่ ไ ด้ ดั่ ง ใจ ฉะนั้ น ก่ อ นตั ด สิ น ใจควรรอบคอบ ด้ า นคู่ ครองไม่ค่อยราบรื่น มีความเห็นไม่ค่อยตรง กัน อาจมีการหมางเมิน ท่านอาจต้องเอาใจ เขามาใส่ใจเรา หมั่นเอาอกเอาใจสร้างบรรยากาศที่ดีต่อกันบ้าง
ราศีเมษ
(เกิดวันที่ 16 เม.ย. - 15 พ.ค.)
สองสามเดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงวิกฤตถึงขั้น แทบหยอดน้ำ � ข้ า วต้ ม เลยที เ ดี ย ว ช่ ว งนี้ สถานการณ์ ยั ง หนั ก หนาเช่ น เดิ ม ทำ � อะไร ต้ อ งรอบคอบระมั ด ระวั ง โดยเฉพาะหุ้ น ส่วน คู่ค้าอาจสร้างปัญหาหรือหักหลังท่าน ได้ ควรระมัดระวังและรอบคอบสักนิด จะ เซ็นเอกสารสัญญาใด พยายามตรวจทาน ให้ละเอียด ถ้าจะต้องทำ �สัญญาหรือร่วม หุ้นอะไร หากปีนี้ระงับหรือชะลอไปก่อนได้ จะดีที่สุด คู่ครองเอาแต่ใจ สร้างปัญหาให้ ตลอดเวลา แถมยังคุยกันไม่รู้เรื่อง อาจบาน ปลายถึงขั้นเลิกร้างได้ การเงินยังมีจังหวะ ดีๆ อยู่บ้าง รวมทั้งบุตรบริวารพอเป็นที่พึ่ง
ช่วยเหลือได้ในยามนี้
42
ราศีพฤษภ
(เกิดวันที่ 16 พ.ค. - 15 มิ.ย.)
ระยะนี้คนราศีพฤษภการเงินคล่องตัว หรือ พอมีโชคด้านการเงิน บางคนอาจได้ถอยรถ คันใหม่หรือซื้อบ้านหลังใหม่ อย่างน้อยที่สุด ก็ได้สิทธิต่อเติมตกแต่งบ้านหรือรถใหม่ สิ่ง ที่ต้องระวังคือศัตรูหรือผู้ไม่หวังดีจะกล้าแข็ง คอยจ้องทำ�ร้ายหรือก่อกวนอยู่เนืองๆ อย่า ได้วางใจ ไม่เช่นนั้นอาจเพลี่ยงพล้ำ�เสียคน หรือเสียชื่อได้ง่ายๆ การงานพอไปได้ดี ไม่ มี อ ะไรน่ า หนั ก ใจ เว้ น เพี ย งการเลื่ อ นยศ เลื่อนตำ�แหน่งอาจยากสักนิด จากเหตุโดน ขั ด ขาตลอดเวลา การแก้ ต้ อ งหมั่ น เข้ า หา ผู้ใหญ่หรือผู้บังคับบัญชารายงานผลงานให้ มากขึ้น เพื่อมิให้เกิดความเข้าใจผิดหรือลืม ท่าน
ราศีเมถุน
(เกิดวันที่ 16 มิ.ย. - 15 ก.ค.)
คนราศีเมถุนที่ยังไร้คู่ ปีนี้จะมีโอกาสได้พบ คนถูกใจ หรือมีแฟนอยู่แล้วก็อาจตกลงใจ หมั้ น หมายแต่ ง งานกั น ช่ ว งนี้ ท่ า นมั ก มี อาการร้อนรน ใจร้อนวูว่ าม เจ้าโทสะ กระทัง่ มีเรื่องขัดแย้งใหญ่โตกับบุตรบริวาร ซึ่งช่วงนี้ มักจะสร้างปัญหาหรือทำ�งานพลาดบ่อยๆ อาจต้องใช้สติและปัญญาแก้ไขให้ดี เพราะ ต้องฝากงานให้บริวารช่วยดูแลขณะเดินทาง ไปโน่ น มานี่ ต ลอดเวลา และอย่ า ลื ม หมั่ น ตรวจเช็กผลการทำ�งานของบริวารอย่างใกล้ ชิดอย่าได้ไว้วางใจ
ราศีกรกฎ
(เกิดวันที่ 16 ก.ค. - 15 ส.ค.)
ช่วงกลางเดือนสิงหาคมไปแล้วการเงินจะ คล่องตัวดี หรือมีโอกาสรับเงินจากสิ่งที่รอ คอย ขณะที่มีเกณฑ์เดินทางไกลตลอดเวลา พึงระวังอันตรายจากการใช้ยวดยาน บ้าน ช่องหรื อ รถราอาจเสี ย หายต้ อ งซ่ อ มแซม ญาติพี่น้องยังสร้างความเดือดร้อนหรือก่อ ปัญหาให้ต้องรับผิดชอบ หรืออาจต้องสูญ เสี ย ญาติ ผู้ ใ หญ่ ด้ า นคู่ ค รอง คุ ณ แฟนมั ก กระทำ � ให้ ไ ม่ ส บอารมณ์ นั ก แถมตั ก เตื อ น ไม่ค่อยได้ กลับดื้อรั้นอวดดี จนถึงขั้นปะทะ คารมบ่อยๆ ในช่วงนี้
ราศีสิงห์
(เกิดวันที่ 16 ส.ค. - 15 ก.ย.)
ชาวราศีสิงห์มักพบความสุขเสมอเมื่อใกล้ ช่วงเดือนเกิด ช่วยเติมพลังกล้าแข็งมีความ เป็นตัวของตัวเอง ทั้งหยิ่งผยองเชื่อมั่นด้วย เกียรติศักดิ์ศรีและพลังแห่งราชสีห์ สำ�หรับ วันเกิดปีนี้การเงินพอถูไถไปได้ ความรักมี ผ่านมาให้ช่ืนใจบ้าง เพียงต้องดูแลสุขภาพ ของคนรักไว้บ้าง การงานอาจไม่ดีเหมือน ปีที่ผ่านมา ช่วงนี้ยังประคับประคองไปได้ไม่ น่าหนักใจนัก สิ่งที่ควรใส่ใจที่สุดคือเพื่อน ฝู ง คอยสร้ า งปั ญ หาหนั ก ใจ หรื อ เกิ ด ผิ ด ใจ บาดหมางกัน กระทั่งเพื่อนบางคนคอยสร้าง ปัญหาให้ต้องตามแก้ไขไม่หยุดหย่อน
ราศีกันย์
(เกิดวันที่ 16 ก.ย. - 15 ต.ค.)
ช่วงนี้ชาวราศีกันย์ควรเก็บตัวอยู่เงียบๆ อย่า โฉ่งฉ่าง เข้าทำ�นองพูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสีย ตำ�ลึงทอง เพราะยิง่ พูดยิง่ เข้าเนือ้ การเงินยัง รั่วไหล มีแต่รายจ่ายไม่หยุดหย่อน แต่อาจมี โชคจากการเสี่ยงโชคแบบฟลุกๆ ถ้าไม่หมด ตั ว เสี ย ก่ อ น การงานไปได้ ดี มี ผู้ ใ หญ่ อุ้ ม ชู เพียงต้องระวังคำ�พูดอย่างที่แนะนำ�ข้างต้น จะทำ � ให้ เ กิ ด บาดหมางกั บ เพื่ อ นร่ ว มงาน อย่าเถียงผู้ใหญ่ คู่ครองยังอยู่ไม่ติดที่ มีเหตุ ต้องจรต้องเดินทางไกลตลอดเวลาไม่ค่อย ได้พบกัน บางคราวมักมีเรื่องให้ขัดแย้งไม่ เข้าใจกันได้ โดยสรุประยะนี้เหมือนท่านจะ เข้ า กั บ ผู้ ค นรอบข้ า งไม่ ไ ด้ เ ลย ครั้ น พู ด จา อธิบายก็ยิ่งไปกันใหญ่ ทางที่ดีก้มหน้าก้มตา ทำ�งานที่ดูไปได้ดีจะเหมาะกว่า อยากสะสาง งานหรื อ โครงการใดสมควรรี บ ดำ � เนิ น การ และต้องรอบคอบในการตัดสินใจหรือลงทุน เพราะรายจ่ายเหมือนจะมากกว่ารายรับ
ราศีตุลย์
(เกิดวันที่ 16 ต.ค. - 15 พ.ย.)
ราศีตุลย์ยังส่อแววร่อแร่ พระศุกร์จะไม่เข้า แต่พระเสาร์แทรกแน่นอน ผสมโรงด้วยราหู ในราศี ข องท่ า น บ่ ง บอกถึ ง ความทุ ก ข์ ย าก ตรากตรำ� อึดอัดคับข้องใจ ทำ�การใดไม่สม ดั่งใจ ทว่าท่ามกลางความเหนื่อยยากอาจ ประสบความสำ�เร็จบางประการ มีโอกาส ได้รับการสรรเสริญจากผู้ใหญ่หรือผู้บังคับ บั ญ ชา บางที ก้ า วไกลถึ ง ขั้ น เลื่ อ นยศเลื่ อ น ตำ�แหน่ง หรือได้เดินทางไกลในระยะนี ้ เพียง ต้องหมัน่ เตือนตัวเองให้ระมัดระวัง ทำ�การ ใดควรไตร่ตรองอย่างรอบคอบทุกครั้ง อย่า หุนหันพลันแล่นจะเสียการ
43
ราศีพิจิก
(เกิดวันที่ 16 พ.ย. - 15 ธ.ค.)
ระยะนี้คนราศีพิจิกรู้สึกอ่อนแอลง สติปัญญา ไม่ฉับไวเหมือนเคย ควรระวังสุขภาพให้ดี ทั้ง ยั ง ต้ อ งใส่ ใ จถึ ง สุ ข ภาพญาติ ผู้ใ หญ่ ด้ว ย ด้านการเงินดูจะร่อยหรอขาดสภาพคล่อง หาได้ไม่คล่องเหมือนก่อน ระวังอย่าได้คิด สั้ น เสี่ ย งดวงเป็ น อั น ขาดจะพาจนหมดตั ว เอาได้ ขณะเดียวกันช่วงนี้กลับเป็นจังหวะ ดีด้านความรักหวานฉ่ำ�สดชื่น คนรักเอาอก เอาใจอย่างดี การงานพอประคับประคอง ไปได้ไม่มีสิ่งใดน่าเป็นห่วง
ราศีธนู
(เกิดวันที่ 16 ธ.ค. - 15 ม.ค.)
ดาวพฤหัสบดีประจำ�ราศีของท่านได้ย้ายราศี ออกจากภพอริ ทำ�ให้ความอึดอัดทั้งหลาย รวมทั้งอุปสรรคต่างๆ ดูบางลง แต่ก็เพียง ชั่วขณะ เพราะดาวอังคารตัวร้ายยังตามราวี ไม่เลิกรา โคจรตีคู่กับดาวประจำ�ราศีธนู ส่ง ผลให้เจ้าชะตาระยะนี้ค่อนข้างเจ้าอารมณ์ ใจร้อนเป็นไฟ วู่วาม ปากร้าย ควรจะมีสติ ยั บ ยั้ ง อารมณ์ ไ ว้ บ้ า ง การงานระยะนี้ พ อ ไปได้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ยิ่งเจ้าของราศี มีอาชีพเกี่ยวกับศิลปะหรือความสวยความ งามยิง่ พาจินตนาการบรรเจิด อาจสร้างสรรค์ ผลงานดีๆ หรือไอเดียเจ๋งๆ ออกมาให้ต่นื ตา ตื่นใจ ด้านคู่ครองคนรัก ทั้งคู่ต่างมีอารมณ์ ร้อนถึงขั้นมีปากเสียงเนืองๆ ห่างกันสักพัก น่าจะทำ�ให้บรรยากาศโดยรวมดีขี้นได้ .
กรกฎาคม - กันยายน 2556
ศุขสยาม เรื่อง : นคราภิบาล
50 ปีเมืองโบราณ Ancient Siam, Socio - Cultural Park 50th Anniversary (2) ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การรักษาความสมบูรณ์ของถาวรวัตถุเป็นไป
ด้วยความยากล�ำบาก เพราะเมือ่ กาลเวลาผ่านไปความเปลีย่ นแปลงย่อม เกิดขึ้น ทั้งกับตัวอาคาร สถาปัตยกรรมโบราณ และศิลปวัตถุต่างๆ ล้วน ช�ำรุดทรุดโทรม เสือ่ มสภาพไม่นา่ ชม จึงน�ำไปสูก่ ารปรับปรุงและซ่อมบ�ำรุง พิพิธภัณฑ์ครั้งใหญ่ ทั้งภายในพื้นที่เมืองโบราณ พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ และปราสาทสัจธรรม โดยมีหลักการคงไว้ซึ่งเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้ง เพราะการบูรณะย่อมท�ำให้สภาพทางกายภาพเปลี่ยนแปลง แต่หากยัง ต้องสามารถขับเน้นความหมายอันส�ำคัญของสิ่งเหล่านั้นไว้เช่นเดิม แม้พพิ ธิ ภัณฑ์จะเป็นคลังแห่งความรูม้ หาศาลเพียงใด หากรูปแบบหรือ วิธกี ารน�ำเสนอไม่สอดคล้องกับวิถชี วี ติ ของคนในสังคมปัจจุบนั แล้ว ก็ยาก จะเป็นองค์กรทีส่ ร้างประโยชน์ให้แก่สงั คมอย่างแท้จริง เราจึงเพิม่ โอกาส เข้าศึกษางานด้านวัฒนธรรมให้แก่ทุกกลุ่มบุคคลอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะ ช่องทางส�ำหรับผู้พิการ และการสร้างบรรยากาศสวนป่าอันร่มรื่นเหมาะ แก่การพักผ่อน รวมถึงการพัฒนางานด้านการน�ำชมด้วยกิจกรรมต่างๆ เช่น พิพิธภัณฑ์ทันสมัยและแสงไฟสยามราตรี เพื่อเปิดมุมมองใหม่ของ การเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ยามเย็น กิจกรรม เทศกาลสยามสามฤดู เพื่อ สานต่องานบุญประเพณีทขี่ บั เคลือ่ นวิถชี วี ติ ชาวสยาม และกิจกรรม พุทธ- ชยันตีบูชา พระบรมสารีริกธาตุสี 50 ปีเมืองโบราณ เนื่องในโอกาส ครบ 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยใน วันที่ 4 มิถุนายน 2555 ได้มีพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน
44
พระธาตุบังพวน สัตมหาสถานเพียงแห่งเดียวในภาคอีสานของเมืองโบราณ ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายอันดีของการสืบเนื่องพระพุทธศาสนา และ การส่ ง ผ่ า นเจตนารมณ์ ข องผู ้ ก ่ อ ตั้ ง เมื อ งโบราณสู ่ ป ี ที่ 50 เพื่ อ ความ เป็นหนึ่งใน บันทึกทางประวัติศาสตร์ คลังแห่งอารยธรรม ครูช่างของ งานศิลป์ และองค์กรภาคประชาสังคมทางวัฒนธรรม อีกด้วย ภารกิจนี้มิได้กระท�ำเพียงการจัดการด้านพิพิธภัณฑ์เท่านั้น เพราะ กลุ่มเมืองโบราณได้เข้าเป็นหนึ่งในองค์กรผู้ให้การศึกษาอย่างจริงจัง โดย จัดตัง้ โรงเรียนเมืองโบราณขึน้ เพือ่ ถ่ายทอดองค์ความรูใ้ นงานด้านช่างศิลป์ สกุลเมืองโบราณให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย อีกทั้งยังช่วยรักษาและส่ง ต่อกรรมวิธีการสร้างงานศิลปะจากครูช่างโบราณ สู่เยาวชนรุ่นใหม่ ภาย ใต้ปรัชญา ให้การศึกษา รักษาคุณธรรม ขณะเดียวกันโรงเรียนเมือง โบราณยังท�ำหน้าที่สร้างเครือข่ายทางวัฒนธรรม เพื่อเผยแพร่แนวคิดใน การด�ำรงรักษาไว้ซงึ่ วัฒนธรรมท้องถิน่ ในพืน้ ที่จงั หวัดสมุทรปราการ ด้วย ความร่วมมือจากมูลนิธเิ ล็ก -ประไพ วิรยิ ะพันธุ ์ และบริษทั วิรยิ ะประกันภัย ให้การสนับสนุนโครงการต่างๆ ของโรงเรียนเมืองโบราณอย่างต่อเนื่อง และเพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนในท้องถิ่นให้สูงขึ้น กลุ่ม เมืองโบราณจึงมีแนวคิดทีจ่ ะจัดตัง้ วิทยาลัยร่วมกับสถานศึกษาของรัฐบาล เพื่อเปิดการเรียนการสอนในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือระดับอนุปริญญา และปริญญาในโอกาสต่อๆ ไป แม้ไม่อาจกล่าวได้อย่างชัดเจนว่า วัตถุประสงค์ของผูก้ อ่ ตัง้ ทีป่ รารถนา
จะให้สังคมโลกในปัจจุบันได้ตระหนักและมีความเข้าใจในการธ�ำรงไว้ซึ่ง วัฒนธรรมอันเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและกาลเวลานั้นบรรลุผล แต่ คณะผู้สานต่องานยังมีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะส่งผ่านเจตนารมณ์นี้ ด้วยการสรรค์สร้างกลุม่ พิพธิ ภัณฑ์เมืองโบราณให้เป็นองค์กรแห่งการเรียน รู้ทางสังคมวัฒนธรรมที่คงไว้ซึ่งความดีงามตามวิถีของชาวสยามให้ยืนยง ในสังคมโลกสืบไป ทั้งนี้ภารกิจด้านวัฒนธรรมจะสามารถสัมฤทธิผลได้ ย่อมเนื่องมาจากหลักการสามข้อ
1
2 3
ตัวตน (founder’s statement) ประกอบด้วย เจตนารมณ์ / ความประสงค์ในการสร้าง / และบันทึกความคิดของคุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ตัวตั้ง (vision) ที่จะน�ำไปสู่การท�ำภารกิจ อันประกอบไปด้วย องค์ความรูท้ อ้ งถิน่ / วิชาการ ประวัตศิ าสตร์ และความพอเพียง ตัวเรื่อง (mission) ภารกิจที่ต้องปฏิบัติ ซึ่งมีหัวใจส�ำคัญคือ เข้าใจตัวเรือ่ งทีเ่ กีย่ วข้องกับส่วนต่างๆ และอดทน / ถอดหัวโขน มาคุย (brain storming) และสร้างเครือข่ายครูท้องถิ่นให้ เป็นหนึ่ง ในสยามประเทศ
หรือเรียกรวมทัง้ หมดได้วา่ ปรัชญาการสร้างความจริงให้ประจักษ์ ของเมืองโบราณ อันมาจากหลักการเดียวกันนี้
45
สร้างคนให้คนสร้างพิพิธภัณฑ์ (ตัวตน) สร้างพิพิธภัณฑ์ให้เป็นเมืองโบราณ (ตัวตั้ง) สร้างเมืองโบราณ เพื่อเป็นประจักษ์พยานของความ จริง (ตัวเรื่อง) . กรกฎาคม - กันยายน 2556
พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท เมืองโบราณ พระบรมมหาราชวังของกรุงศรีอยุธยา มีพระทีน่ งั่ และปราสาทหลายองค์ แต่ทเี่ มือง
โบราณเลือกสร้างพระที่นั่งสรรเพชญปราสาทขึ้น เพราะเป็นปราสาทเพียงองค์เดียวที่ ปรากฏชื่อในพระราชพงศาวดารตั้งแต่สมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ราวพุทธศักราช 1991 จนกระทั่งถึงสมัยของสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์พระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายก่อนสิ้น ราชธานีในปีพุทธศักราช 2310 โดยพระที่นั่งสรรเพชญปราสาทถูกใช้งานทั้งในราชการ ของพระมหากษัตริย์ การพระราชพิธีส�ำคัญ และการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง แสดงให้ เห็นว่าพระมหาปราสาทองค์นี้นอกจากมีความเก่าแก่ที่สุดแล้ว ยังเป็นปราสาทที่มีความ ส�ำคัญต่อกรุงศรีอยุธยามากที่สุดอีกด้วย ในพระราชพงศาวดารบันทึกว่า พระทีน่ งั่ สรรเพชญปราสาทถูกสร้างขึน้ ในรัชสมัยของ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ลักษณะของปราสาทมีมขุ หน้า-หลังยาว มุขข้างหรือมุขกลางสัน้ แบ่งออกเป็นสามส่วน คือ ❈ มุขหน้าหรือท้องพระโรงฝ่ายหน้า เป็นที่ส�ำหรับเหล่าเสนาอ�ำมาตย์ ขุนนางฝ่ายชาย เข้าเฝ้า ❈ มุขหลังหรือท้องพระโรงฝ่ายใน เป็นที่ส�ำหรับพระมเหสี พระสนมนางในฝ่ายหญิง เข้าเฝ้า ❈ มุขกลางของปราสาท เป็นที่ประทับรอเวลาออกว่าราชการของพระมหากษัตริย์ ทั้ง ยังใช้ในพระราชพิธที สี่ ำ� คัญ เช่น พระราชพิธบี รมราชาภิเษก พระราชพิธโี สกันต์ชนั้ เจ้าฟ้า
ระวังภัย ในลานจอดรถ นอกจากนี้ ยั ง ปรากฏหลั ก ฐานว่ า พระที่ นั่ ง สรรเพชญปราสาท ยังเคยใช้เป็นสถานที่ต้อนรับคณะราชทูตจากต่างแดนที่เดินทาง มาเจริ ญ สั ม พั น ธไมตรี กั บ กรุ ง ศรี อ ยุ ธ ยา อย่ า งในสมั ย สมเด็ จ พระนารายณ์มหาราช ได้มคี ณะราชทูตจากฝรัง่ เศสน�ำโดย เชอวาลีเย เดอ โชมง (Alexandre, Chevalier de Chaumont) มาเข้าเฝ้า ถวายพระราชสาสน์พร้อมเครื่องบรรณาการของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ในพระที่นั่งองค์นี้ พระทีน่ งั่ สรรเพชญปราสาทได้รบั การบูรณะครัง้ ใหญ่ในช่วงปลายกรุง ศรีอยุธยา ตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พุทธศักราช 2275 - 2301 จนกระทั่งถึงปีพุทธศักราช 2310 พระที่นั่งสรรเพชญ- ปราสาทก็ถูกท�ำลายลงด้วยไฟสงครามคราวเสียกรุงครั้งที่ 2 คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ได้สร้างสัญลักษณ์ของกรุงศรีอยุธยาไว้สอง ลักษณะ คือ แบบเป็นซากปรักหักพังที่ยังคงหลงเหลือร่องรอยให้เห็นใน ปั จ จุ บั น (เขตกรุ ง เก่ า จั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยา) และแบบพระที่ นั่ ง สรรเพชญปราสาท สัญลักษณ์ของราชธานีที่มีความเจริญมั่งคั่ง อีกทั้งยัง เป็นที่รวมงานศิลปะอันโดดเด่นของกรุงศรีอยุธยาเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ เครื่องบนหลังคาล้วนเป็นไม้ดาดด้วย แร่ดีบุก ตามแนวสันหลังคาปัก บราลี ทีไ่ ด้รบั อิทธิพลมาจากสุโขทัย ส่วนฐานของ ปราสาทมีลักษณะโค้งเรียกว่า โค้งตกท้องช้าง (ท้องเชือก) หรือ โค้ง ท้องเรือส�ำเภา ซึ่งเป็นงานสถาปัตยกรรมที่ปรากฏมากในสมัยอยุธยา ตอนปลาย สันนิษฐานว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากการที่อยุธยาเป็น เมืองท่าค้าขาย มีเรือส�ำเภาเข้ามาจอดลอยล�ำมากมาย จึงได้สร้างฐาน อาคารขนาดใหญ่คล้ายส�ำเภาไว้เป็นสัญลักษณ์ ส่วนอีกนัยหนึ่งนั้นแฝง
ชีวิต ปลอดภัย เรื่อง : “ดาบฯ แช่ม” ภาพประกอบ : เซมเบ้
ความหมายทางพระพุทธศาสนาทีก่ ล่าวถึง ส�ำเภานาวา ซึง่ จะขนสรรพสัตว์ ข้ามห้วงทุกข์ ถือเป็นการรวมเอาคติความเชือ่ และหลักทางพระพุทธศาสนา เข้าสู่สถาบันการปกครองของพระมหากษัตริย์ ความพิเศษอีกอย่างหนึง่ ของพระทีน่ งั่ สรรเพชญปราสาทเมืองโบราณ คือภาพเขียน นารายณ์สบิ ปาง ของอาจารย์สนัน่ ศิลากรณ์ ภายในมุขกลาง ของปราสาท เขียนโดยใช้เทคนิคการเขียนภาพบนปูนเปียก (fresco) ซึ่งต้องใช้ความช�ำนาญและความแม่นย�ำในการเขียน ทั้งยังเป็นการน�ำ กรรมวิธีการเขียนภาพอย่างโบราณมาผสานกับลายเส้นสมัยใหม่ได้อย่าง ลงตัว แม้พระที่นั่งสรรเพชญปราสาทเมืองโบราณจะไม่ได้งดงามยิ่งใหญ่ เท่าพระมหาปราสาทแห่งกรุงศรีอยุธยาที่ปรากฏจริงในอดีต แต่ปราสาท หลังนีเ้ ปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งความรุง่ เรืองมัง่ คัง่ แห่งราชธานีทมี่ คี วาม เจริญและพัฒนามาเป็นบ้านเป็นเมืองเป็นราชอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ตาม ล�ำดับ แต่ทงั้ หมดไม่ได้คงอยูเ่ ช่นนัน้ ตลอดไป เพราะผูค้ นเกิดแตกแยกขาด ความสามัคคี แม้มเี หล่าทหารหาญฝีมอื ดีแต่ไร้ผนู้ �ำทีม่ คี วามเข้มแข็ง กรุง ศรีอยุธยาจึงพ่ายแพ้ในสงครามและเป็นผลให้ราชธานีล่มสลายไปในที่สุด ดังที่ปรากฏกลุ่มซากอิฐปรักหักพังรอบบริเวณพระที่นั่งสรรเพชญปราสาทเมืองโบราณ เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้คนรุ่นหลังได้ใคร่ครวญและ ทบทวนในสิ่งที่เป็นไป
ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่ได้เกิดขึ้นแล้ว...ตั้งอยู่แล้ว...ย่อมต้อง ดับไป...เป็นสัจธรรมของโลกใบนี้ แตกต่างกันเพียงกรรมและ วาระของแต่ละสิ่งเท่านั้น .
ช่วงค�่ำเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ณ ลานจอดรถห้างสรรพสินค้า
เมื่อพร้อมก็ลงจากรถ แล้วเดินอย่างรวดเร็วไปยังทางออกจากที่จอดรถ อนึ่งไม่ควรทิ้งของมีค่าล่อตาล่อใจไว้ในรถ เก็บให้มิดชิดก่อนลงจากรถ
ชื่อดังย่านบางกะปิ หญิงสาวผู้เป็นบัณฑิตหมาดๆ เดินกลับมาที่รถยนต์ ส่วนตัวเพื่อขับกลับบ้าน โดยไม่รู้เลยว่ามีคนร้ายฉวยจังหวะที่เธอไม่ทัน ระวังตัว แอบเข้ามาในรถทางประตูด้านหลังคนขับ แล้วจี้บังคับเธอเพื่อ หวังทรัพย์สนิ เมือ่ ต่อสูต้ ามสัญชาตญาณ เธอก็ถกู คนร้ายฆาตกรรมอย่าง โหดเหี้ยม นับเป็นคดีที่สะเทือนขวัญคนไทยทั้งประเทศ เหตุการณ์อนั เลวร้ายครัง้ นีส้ ร้างความหวัน่ วิตกให้คนในสังคมไม่นอ้ ย โดยเฉพาะผูห้ ญิงทีต่ อ้ งไปไหนมาไหนตามล�ำพัง ดังนัน้ ฉบับนีด้ าบฯ แช่ม จะมาแนะน�ำเทคนิคการป้องกันภัยในลานจอดรถให้คุณผู้อ่านน�ำมาใช้ ระแวดระวังกัน เลือกที่จอด ถ้าเป็นสถานที่ไม่คุ้นเคยควรขับรถวนดู สักหนึ่งรอบก่อน จดจ�ำทางเข้าออกอยู่ตรงไหนบ้าง เลือก จอดบริเวณที่มีไฟส่องสว่าง ใกล้ รปภ. หรือมีคนพลุกพล่าน เช่น บริเวณใกล้ทางเข้าออก ใกล้บนั ไดหรือลิฟต์ ควรหลีกเลีย่ งบริเวณที่ มีมุมอับ
ก่อนขึน้ รถ ก่อนถึงรถให้มองไปรอบๆ รถจากระยะไกล ว่ามีสงิ่ ผิดสังเกตใดๆ หรือไม่ หยิบกุญแจเตรียมไว้ให้พร้อม ไม่ใช่ถึงรถแล้วค่อยควานหากุญแจในกระเป๋า ก่อนขึ้นรถดู เบาะหลังด้วยว่ามีใครซ่อนตัวอยู่หรือไม่ เมื่อขึ้นรถแล้วล็อกรถทันที ใน กรณีรู้สึกไม่ปลอดภัยควรหาคนเดินไปส่ง เช่น รปภ. หรือเจ้าหน้าที่ของ อาคาร
3 4
1 2
อย่าคุยโทรศัพท์หรือแชต ไม่ว่าเพิ่งจอดรถเสร็จ
หรือจะขึ้นรถ หลีกเลี่ยงการคุยโทรศัพท์หรือแม้กระทั่งการ แชต การอั พ สเตตั ส ทั้ ง หลาย มิ จ ฉาชี พ มั ก ฉวยโอกาสนี้ เล่นงานคุณเพราะสมาธิของคุณจะจดจ่อกับโทรศัพท์จนไม่ทันระวังตัว
อย่างไรก็ตามสิ่งส�ำคัญที่สุดที่พึงมีก็คือ สติ...ในยามคับขัน ก่อนลงจากรถ อย่าเพิ่งปลดล็อก เตรียมสัมภาระที่ สติจะช่วยคุณวิเคราะห์สถานการณ์และหาทางเอาตัวรอดจาก ต้องการน�ำลงจากรถไปด้วยให้พร้อม มองไปรอบๆ เพื่อ เหตุการณ์ร้าย หรืออย่างน้อยก็ช่วยถ่วงเวลาหรือผ่อนหนักเป็น ส�ำรวจสิ่งผิดปกติ รวมทั้งทิศทางของทางออกจากที่จอดรถ เบาได้ .
49
กรกฎาคม - กันยายน 2556
ใบตอบรับสมาชิก http://www.viriyah.co.th/m
ชื่อ-นามสกุล (นาย/นาง/นางสาว)................................................................................................... วัน/เดือน/ปีเกิด.............................................................................................. อายุ.......................ปี ที่อยู่เลขที่......................... อาคาร/หมู่บ้าน................................................ชั้นที่........... ห้อง............. หมู่ที่............ ซอย..................................... ถนน.............................. แขวง/ต�ำบล............................ เขต/อ�ำเภอ..........................................จังหวัด.................................... รหัสไปรษณีย์...................... โทรศัพท์บ้าน............................................. โทรศัพท์มือถือ.............................................................. โทรศัพท์ที่ท�ำงาน............................. โทรสาร.............................. อีเมล............................................ เลขทะเบียนรถ............................................
ความสุขในยามว่าง
กิจกรรมที่ท่านท�ำเป็นประจ�ำ หรือที่สนใจอยากจะท�ำเมื่อมีโอกาส (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ท่องอินเทอร์เน็ต/เล่นเกม งานประดิษฐ์และของสะสม ฟังเพลง/ดูคอนเสิร์ต ชอปปิง กิจกรรมเพื่อสังคม กิจกรรมเพื่อสุขภาพ
อ่านหนังสือ เลี้ยงสัตว์ ชมภาพยนตร์ ท่องเที่ยวในประเทศ วาดภาพ ความสนใจด้านการเงิน
ท�ำอาหาร/ท�ำขนม ตกแต่งบ้านและสวน รับประทานอาหารนอกบ้าน กีฬา/ฟิตเนส ความสนใจด้านธรรมะ อื่นๆ
กรุณากรอกข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อที่เราจะรู้จักกันมากขึ้น แล้วส่งกลับมาที่แผนกบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด (มหาชน) โทร. 02 641 3500 ต่อ 7450 อีเมล crm_vmag@viriyah.co.th
ใบอนุญาตเลขที่ ปน. (น.) 1360 ปณจ. ลาดพร้าว ถ้าฝากส่งในประเทศไม่ต้องผนึกตราไปรษณียากร
บริการธุรกิจตอบรับ
บริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด (มหาชน)
ตู้ ปณ. 64 ปณจ. ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
10310
50
51
กรกฎาคม - กันยายน 2556