V-Magazine ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 ฉบับปฐมฤกษ์

Page 1

ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 ตุลาคม-ธันวาคม 2554

ไต่คอนโดฯ... ชีวิตคนชั้นสูง ตามดู สัมภาษณ์ : พล.ต.ต. ภาณุ  เกิดลาภผล ท่องนภา เพลินฟ้า ชมเมฆ วิธีเลี้ยงลูกอย่างสั้นที่สุด ท�ำไม...? ต้องจ่ายก่อน อุบัติเหตุจากรถยนต์ สงบใจและกาย ที่สวนโมกข์ กรุงเทพฯ

Free copy http://www.viriyah.co.th/m



จากบรรณาธิการ

03

ประณต...ปฐมบท ปราชญ์ท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า “บนโลกใบนี้ย่อมต้องมีสรรพสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นเป็นวัฏจักร” เฉกเช่นเดียวกันวารสาร V magazine ฉบับปฐมฤกษ์ที่ท่านถืออยู่ในมือนี้  ซึ่งตั้งใจจัดท�ำขึ้นด้วยโจทย์ส�ำคัญเพียงข้อเดียว เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของท่าน ! แต่กระนั้นการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ดี ๆ ในยุคที่กล่าวขานกันว่าเป็น “สังคมอุดมปัญญา” ย่อมมีโจทย์มากมายให้ต้องขบคิด ทุกวันนีผ้ คู้ นต่างสือ่ สารข้อมูลด้วยความรวดเร็วทันสมัย และเพียง “คลิก” ความรูต้ า่ ง ๆ ทัว่ โลกก็ไหลเข้าสูส่ มองเราทันที ด้วยความท่วมท้นของข้อมูลข่าวสารที่ไหลไปไหลมาอย่างเชี่ยวกรากนี้เอง ท�ำให้  V magazine เริ่มพบโจทย์ที่ต้องท�ำ สวนอักษรไร้มลพิษ ! นี่คือวัตถุประสงค์ของหนังสือเล่มนี้  ซึ่งต้องการท�ำหน้าที่น�ำเสนอ “สาระทางปัญญา” ที่เป็นประโยชน์เชิงสาธารณะ  มากกว่าสาระเพื่อประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์องค์กร และแม้จะเป็นก้าวแรกที่ขับเคลื่อน แต่ด้วยพลังร่วมของทุกส่วน คงท�ำให้ก้าวแรกที่เริ่มเดินเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ เพื่อน�ำสารประโยชน์สู่สังคม ที่ส�ำคัญ... รับรู้เจตนาแล้ว “ดอกไม้” หรือ “ก้อนอิฐ” รีบส่งมาโดยพลัน !

ด้วยค�ำสัญญาและรักยิ่ง

(กานดา วัฒนายิ่งสมสุข)

เจ้าของ : กองบรรณาธิการ : จัดท�ำโดย : แยกสี/เพลต : พิมพ์ที่ :

วี แม็กกาซีน วารสารราย 3 เดือน

บริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด เลขที่  121/28, 121/65 อาคารอาร์เอสทาวเวอร์  ถนนรัชดาภิเษก  แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์  0-2641-3500  โทรสาร 0-2641-3900 ส�ำนักพิมพ์สารคดี  (ในนามบริษัทวิริยะธุรกิจ จ�ำกัด) เอ็น. อาร์. ฟิล์ม  โทร. 0-2215-7559 บริษัททวีวัฒน์การพิมพ์  จ�ำกัด โทร. 0-2720-5014

c

ภาพ ข้อเขียน หรือบทความใน V magazine ขอสงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย  ท่านที่น�ำไปตีพิมพ์ อ้างอิง หรือประโยชน์อันใดในสิ่งพิมพ์อื่น กรุณาขออนุญาตล่วงหน้า


วารสารราย 3 เดือน

ตุลาคม-ธันวาคม 2554

34

สารบัญ

25

22

06 07 10 18 20

CRM สาระประกันภัย  ส่งของหวง... ไม่ต้องห่วงกังวล   เรื่องจากปก  ไต่คอนโดฯ... ตามดูชีวิตคนชั้นสูง   เรื่องเก่าเล่าอดีต  โฆษณาเก่า   ไขข้อข้องใจปัญหาประกันภัย  อุบัติเหตุจากรถยนต์

22 25 27 28 30

สัมภาษณ์  พล.ต.ต. ภาณุ  เกิดลาภผล กับบทบาท “นายต�ำรวจบริหารงานด้านจราจรดีเด่น”   รู้รักษ์สุขภาพ  2 เรื่องที่นักดื่มต้องรู้    รอบรั้ววิริยะประกันภัย รักลูกให้ดี  วิธีเลี้ยงลูกอย่างสั้นที่สุด   เยือนลานธรรม  สงบใจและกายที่สวนโมกข์กรุงเทพฯ

32 34 37 38 40

วิทยาศาสตร์/สิ่งแวดล้อม  ท่องนภา เพลินฟ้า ชมเมฆ   ท่องเที่ยวกับวิริยะ  เที่ยวครบรสในเมืองมะขามหวาน   วิริยะชวนชิม  อร่อยขั้นเทพที่เพชรบูรณ์    ดวงชะตาราศี  ท�ำนายทายทัก ตุลาคม-ธันวาคม 2554   ศูนย์ซ่อมฯ  ซ่อมใจ

42 44 46 49 50

ประกันภัยน่ารู้   Cash Before Cover  ท�ำไม...? ต้องจ่ายก่อน Events Calendar  สถาบันเศรษฐกิจพอเพียง  จากดินคืนสู่ดิน... คืนชีวิตให้แผ่นดิน รอบรู้จราจร  จราจรจลาจล ฝ่าไฟเหลือง...ข้อหานี้มีด้วยหรือ ? ผลิตภัณฑ์   กรมธรรม์  “ท่องเที่ยวสุขใจ”

30


ใบตอบรับสมาชิก

http://www.viriyah.co.th/m

ชื่อ-นามสกุล (นาย/นาง/นางสาว)................................................................................................... วัน/เดือน/ปีเกิด.............................................................................................. อายุ.......................ปี ที่อยู่เลขที่......................... อาคาร/หมู่บ้าน................................................ชั้นที่........... ห้อง............. หมู่ที่............ ซอย..................................... ถนน.............................. แขวง/ต�ำบล............................ เขต/อ�ำเภอ..........................................จังหวัด.................................... รหัสไปรษณีย์...................... โทรศัพท์บ้าน............................................. โทรศัพท์มือถือ.............................................................. โทรศัพท์ที่ท�ำงาน............................. โทรสาร.............................. อีเมล............................................

ความสุขในยามว่าง

กิจกรรมที่ท่านท�ำเป็นประจ�ำ หรือที่สนใจอยากจะท�ำเมื่อมีโอกาส (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)

ท่องอินเทอร์เน็ต/เล่นเกม งานประดิษฐ์และของสะสม ฟังเพลง/ดูคอนเสิร์ต ชอปปิง กิจกรรมเพื่อสังคม กิจกรรมเพื่อสุขภาพ

อ่านหนังสือ เลี้ยงสัตว์ ชมภาพยนตร์ ท่องเที่ยวในประเทศ วาดภาพ ความสนใจด้านการเงิน

ท�ำอาหาร/ท�ำขนม ตกแต่งบ้านและสวน รับประทานอาหารนอกบ้าน กีฬา/ฟิตเนส ความสนใจด้านธรรมะ อื่นๆ

กรุณากรอกข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อที่เราจะรู้จักกันมากขึ้น  แล้วส่งกลับมาที่แผนกบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด โทร. 0-2641-3500 ต่อ 7450  อีเมล crm_vmag@viriyah.co.th

ใบอนุญาตเลขที่ ปน. (น.) 1360 ปณจ. ลาดพร้าว ถ้าฝากส่งในประเทศไม่ต้องผนึกตราไปรษณียากร

บริการธุรกิจตอบรับ

บริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด ตู้ ปณ. 64 ปณจ. ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10310


CRM

06

“บัวสีน�้ำเงิน”

กราบสวัสดี... “บัวสีน�้ำเงิน” ...มารายงานตัวในวารสาร V magazine ซึ่งเปิดตัวเป็นฉบับปฐมฤกษ์พร้อมต้อนรับงานสัปดาห์ประกันภัย   ซึง่ ภายในงานนี ้ “คุณลูกค้า” สามารถเข้าไปพบปะพูดคุย แลกเปลีย่ นประสบการณ์ และเลือกซือ้ ประกันภัยในรูปแบบต่างๆ กันได้ทบี่ ทู   “วิริยะประกันภัย” ณ อิมแพค เมืองทองธานี เกริ่นน�ำกันไปยืดยาว วนกลับเข้ามาที่เรื่องการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า หรือที่เรียกกันสะดวกปากว่า CRM กันดีกว่า  และเพื่อให้ตอบโจทย์ ของลูกค้า “ทีมงาน” ได้ท�ำงานอย่างหนักทัง้ ลงพืน้ ที ่ เสาะแสวงหาข้อมูลเพือ่ ให้ได้ค�ำตอบ ในความต้องการของลูกค้า ซึง่ ภายหลังจากทีไ่ ด้กลัน่ กรอง จึงเกิดกิจกรรมดี ๆ ส�ำหรับปี  2554 โดยบริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมพิเศษเฉพาะลูกค้าวิริยะประกันภัยในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างบริษัทฯ กับลูกค้า อันจะช่วยให้เกิดความผูกพันด้วยการจัดกิจกรรมทีเ่ หมาะส�ำหรับลูกค้าทุกเพศทุกวัยขึน้ มาสีก่ จิ กรรมด้วยกัน โดยแต่ละกิจกรรมจะเป็นกิจกรรมพิเศษ เพื่อลูกค้า ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความต้องการเฉพาะกลุ่ม อย่างเมื่อเดือนพฤษภาคม “บัวสีน�้ำเงิน” เอาใจคอหนังด้วยการพาลูกค้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคนไทยรักชาติกับ  ต�ำนานสมเด็จพระนเรศวร มหาราช 3 (ตอนยุทธนาวี) และที่เพิ่งจะผ่านไปสด ๆ ร้อน ๆ กับกิจกรรมวันแม่  “วิริยะ เติมรัก ร้อยใจ สานสายใยแม่ลูก” ด้วยการจัดขบวน คาราวานจากพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ มุ่งหน้าสู่พิพิธภัณฑ์เมืองโบราณ พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้กลางแจ้ง จ. สมุทรปราการ ซึ่งตลอดเส้นทาง จะมีกิจกรรมให้แม่-ลูกได้ร่วมสนุก... สร้างเสียงหัวเราะ... ครื้นเครง... ภายในครอบครัว นอกจากความสนุกที่ทีมงานของ “บัวสีน�้ำเงิน” ได้มอบให้ตลอดทั้งวันแล้ว   ในช่วงสุดท้ายและท้ายสุด เมื่อแดดร่มลมตกและให้เข้ากับ ชื่อกิจกรรม “บัวสีน�้ำเงิน” ได้จัดเตรียมมาลัยดอกมะลิสดกลิ่นหอมเย็นให้ลูก ๆ ได้มอบให้แก่  “คุณแม่” ภายใต้คอนเซ็ปต์  “ไหว้พระในบ้าน... กอดแม่ให้อุ่นไปถึงใจ” ซึ่งบรรยากาศในวันนั้นเรียกน�้ำตาจากคู่แม่–ลูก ได้หลายคู่ทีเดียว เพราะแม่-ลูก บางคู่แอบมากระซิบกับ “บัวสีน�้ำเงิน” ว่า ตั้งแต่ลูกโตมาพ้นอกไม่เคยได้กลับมากอดกันอย่างนี้เลย ต้องขอบคุณ “วิริยะประกันภัย” ที่จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา ส�ำหรับกิจกรรมต่อไปทีค่ ณ ุ ลูกค้าจะได้รว่ มสนุกและเพลิดเพลินไปกับ “บัวสีนำ�้ เงิน” คือ กิจกรรมสยามราตรี ในเดือนพฤศจิกายน ซึง่ กิจกรรม ดังกล่าวเป็นการเปิดมุมมองใหม่สำ� หรับนักท่องเทีย่ วทีจ่ ะได้สมั ผัสความงดงามของสถาปัตยกรรมไทยในบรรยากาศยามค�ำ่ คืน   และกิจกรรมสุดท้าย ของปี  คือ กิจกรรมวันพ่อ ในเดือนธันวาคม ซึ่งเราให้สัญญาเลยว่าคุณลูกค้าจะได้รับความสนุกสนาน และความประทับใจกลับไปไม่แพ้กับ กิจกรรมใด ๆ เลย เพราะคุณคือ “ลูกค้าคนส�ำคัญ” อย่างไรก็ตามแนวทางการจัดกิจกรรมของบริษัทฯ จะดูจากความต้องการของลูกค้าเฉพาะบุคคล เพื่อให้สามารถจัดกิจกรรมได้ตรงตามความ ต้องการและความชอบของลูกค้ามากทีส่ ดุ  โดยจัดรูปแบบกิจกรรมหลากหลาย เช่น กิจกรรมอนุรกั ษ์สงิ่ แวดล้อม กิจกรรมสาธารณประโยชน์  กิจกรรม ธรรมะ กิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมไทย กิจกรรมศิลปะ/หัตถกรรม กิจกรรมบันเทิง กิจกรรมกีฬาและสุขภาพ เป็นต้น แล้วพบกับ “บัวสีนำ�้ เงิน” และกิจกรรมดี ๆ ทีพ่ ร้อมมอบให้ทกุ ท่านได้ใหม่ในฉบับหน้า... ขอเพียงคุณบอกมา เราจัดให้และจัดเต็ม... ไม่มเี ม้ม...


สาระประกันภัย

07

การส่งของหวงชิ้นหนึ่ง หลายท่านคงห่วงกังวล จะบุบสลาย หรือสูญหายไหมหนอ แต่วันนี้อารมณ์กังวลดังว่าจะหายไปโดยพลัน ถ้ารู้ว่ากระบวนการ ขนส่งสินค้าทั้งบริษัทเครือข่ายของรัฐยันภาคเอกชนมีระบบประกันภัย คุ้มครองทุกชิ้น บอกกล่าวกันอย่างนี้  หลายท่านอาจสับสนจนเกิดค�ำถาม ในอดีต ไม่คุ้มครองหรืออย่างไร  ปุจฉาอย่างนี้ต้องวิสัชนาให้ฟังว่า ในอดีตนั้นถ้า ต้องการความคุ้มครองผู้ส่งหรือผู้ต้องการส่งต้องซื้อความคุ้มครองเป็นราย ชิ้น หรือในกรณีที่เป็นผู้ผลิตอาจซื้อแบบเหมาเข่ง เพื่อคุ้มครองสินค้า ตนเองจากแหล่งผลิตไปยังจุดจ�ำหน่าย ความต้องการอย่างนี้ในอดีตต้องไปใช้บริการ “การประกันภัย ขนส่งสินค้าในประเทศ (Inland Transit Insurance)”  แต่ปัจจุบันธุรกิจประกันภัยมี  “การประกันภัยความรับผิดชอบ ของผู้ขนส่ง (Carrier’s Liability Insurance)” ซึ่งเป็นรูปแบบการประกัน ภัยที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อสนองรับรูปแบบการขนส่งสินค้าที่ เปลี่ยนแปลงไป เป็นความเปลี่ยนแปลงที่เราเริ่มเรียกกันติดปากว่า “ธุรกิจโลจิสติกส์” แต่กระนั้นต้องยอมรับว่าคนไทยยังไม่เข้าใจถึงระบบ โลจิสติกส์มากไปกว่าความหมายของการขนส่งสินค้า ทั้ง ๆ ที่ข้อ เท็จจริงระบบโลจิสติกส์จะครอบคลุมกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง กับการไหลของสินค้าตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนจุดสุดท้ายคือถึงมือผู้ บริโภค ถ้าจะแปลนิยามตามหลักวิชาการกันแล้ว ระบบ โลจิสติกส์หมายถึง การจัดล�ำเลียงสินค้าเพื่อให้เกิด ค่าใช้จ่ายโดยรวมในการกระจายสินค้าให้ต�่ำที่สุด ส่วนบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวม  ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ทุกเล่มระบุชัดเป็นปัจจัย ส�ำคัญในการก�ำหนดชะตากรรมของระบบ เศรษฐกิจไทยว่าจะรุง่ หรือร่วงมากน้อยขนาดไหน

07

กองบรรณาธิการ

ดังเห็นได้จากนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองต่าง ๆ ในช่วงเลือก ตั้งที่ผ่านมา ต่างพากันชูนโยบายที่จะพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์เพื่อแก้ไข ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการช่วยลดต้นทุนการผลิตสินค้า อันเป็นความจริงวันนี้ที่มิอาจปฏิเสธได้เลยว่า ต้นทุนสินค้าอันเกี่ยว พันกับค่าขนส่ง คนไทยต้องจ่ายแพงระยับ ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยมี  ต้นทุนโลจิสติกส์สูงถึงร้อยละ 25-30 ของจีดีพี ในขณะที่ต้นทุนโลจิสติกส์โลก จากข้อมูลของส�ำนักงานคณะ กรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระบุวา่  ต้นทุนของโลจิสติกส์โลกอยู่ ที่  3.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยกลุ่มประเทศยุโรปมีต้นทุนโลจิสติกส์อยู่ที่ร้อยละ 7 ต่อจีดีพี  กลุ่มประเทศอเมริกาเหนือร้อยละ 7-10 ต่อจีดีพี  ประเทศแถบเอเชีย แปซิฟิกร้อยละ 11.6 ต่อจีดีพี

Carrier’s Liability ส่งของหวง...ไม่ต้องห่วงกังวล

October-December 2011 ตุลาคม-ธันวาคม 2554


08

ส�ำหรับสภาวะของธุรกิจโลจิสติกส์ไทยในปัจจุบัน จากรายงาน เศรษฐกิจเรือ่ ง “ธุรกิจขนส่งทางบก...แนวโน้มช่วงทีเ่ หลือของปี 2554”  ของศูนย์วจิ ยั กสิกรไทยระบุวา่  ผูใ้ ห้บริการขนส่งและโลจิสติกส์ในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งจากข้อมูลของศูนย์สารสนเทศ และเทคโนโลยี  ส�ำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) พบว่าในปี  2550 ในธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์  มีจ�ำนวนผู้ ประกอบการทั้งสิ้น 102,222 ราย โดยเป็นผู้ประกอบการ SMEs คิดเป็น สัดส่วนร้อยละ 99.9 ในส่วนนีเ้ ป็นผูป้ ระกอบการขนาดเล็กถึงร้อยละ 99.5 ของผู้ประกอบการทั้งหมด ซึ่งอาจสะท้อนข้อจ�ำกัดในการพัฒนาที่จะให้ บริการแบบครบวงจร เนื่องจากปัจจัยด้านเงินทุน เทคโนโลยี  และความรู้ ด้านโลจิสติกส์  รวมทั้งเครือข่ายการให้บริการ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในธุรกิจขนส่งและ โลจิสติกส์จะเป็นสาขาการขนส่งทางบก (ไม่รวมการขนส่งทางรถไฟ) โดยเป็นการขนส่งผูโ้ ดยสารอืน่  ๆ ทีม่ ตี ารางเวลา ไม่มตี ารางเวลา และการ ขนส่งสินค้าทางถนน โดยมีสดั ส่วนต่อผูป้ ระกอบการทัง้ หมดในธุรกิจขนส่ง และโลจิสติกส์คดิ เป็นร้อยละ 22.5, 36.9 และ 20.5 ตามล�ำดับ ซึ่งเกือบทั้งหมดยังเป็นผู้ประกอบการ  SMEs

บาท การขนส่งทางทะเล 88,000 ล้านบาท การขนส่งล�ำน�้ำ 71,000 ล้าน บาท และการขนส่งทางอากาศ 1.66 แสนล้านบาท แน่นอนละครับ ! เมื่อเม็ดเงินในธุรกิจโลจิสติกส์บานสะพรั่งอย่างนี้  ย่อมมีอานิสงส์ไปถึงธุรกิจประกันภัยด้วย เพราะธุรกิจประกันภัยเป็นส่วน หนึ่งที่ส�ำคัญในระบบการบริหารจัดการของธุรกิจโลจิสติกส์

โดยเบี้ยประกันภัยในปี  2553 ส�ำนักงานคณะกรรมการก�ำกับและ ส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) บันทึกข้อมูลไว้วา่ ประเทศไทย มีเบี้ยประกันภัยทางทะเลและขนส่ง แยกเป็นตัวเรือ 398 ล้านบาท ส่วนสินค้า 3,155 ล้านบาท แม้มลู ค่าการตลาดการประกันภัยประเภทนีจ้ ะไม่สวยสดงดงามเท่ากับ เบีย้ ประกันภัยรถยนต์ทมี่ มี ลู ค่ากว่า 6 หมืน่ ล้านบาท และยังเป็นการประกัน ที่เกี่ยวพันเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจเท่านั้น แต่ในปัจจุบันการประกันภัยประเภทนี้มิได้อยู่ไกลห่างจากประชาชน คนธรรมดามากนัก ดังทีเ่ กริน่ น�ำเอาไว้ขา้ งต้นว่า สินค้าหรือวัสดุเพียงชิน้ เดียว ที่ผู้บริโภคใช้บริการกับผู้ประกอบการขนส่งยังได้รับการคุ้มครองจากการ ประกันภัย ซึง่ แตกต่างไปจากในอดีตทีต่ อ้ งเป็นสินค้า ที่ออกมาจากแหล่งผลิตเท่านั้นจึงจะได้รับความ คุม้ ครอง โดยมี  “การประกันภัยขนส่งสินค้าในประเทศ  ทัง้ นีผ้ ปู้ ระกอบการส่วนใหญ่ในธุรกิจขนส่งและ (Inland Transit Insurance)” รองรับความต้องการ โลจิสติกส์แม้สว่ นใหญ่จะเป็นของคนไทย แต่กม็ เี งิน อย่างไรก็ตามเนือ่ งจากว่าเงือ่ นไขความคุม้ ครอง ทุนไม่มากนักเมือ่ เทียบกับผูป้ ระกอบการชาวต่างชาติ ในกรมธรรม์ประเภทนี้   กฎกติกาได้เปิดโอกาสให้ จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมบริษทั ประกันภัยสามารถเสนอความคุม้ ครองได้อย่าง เกล้าธนบุรี  ที่อ้างจากการน�ำเสนอเรื่องการพัฒนา หลากหลาย มีทงั้ ให้ความคุม้ ครองครบทุกหมวด หรือ ระบบโลจิสติกส์ของไทยเพือ่ เพิม่ ขีดความสามารถใน บางหมวด จึงก่อให้เกิดความสับสนและความเข้าใจ การแข่งขันของประเทศปี  2548 ยังพบว่าผู้ประกอบ ผิดได้โดยง่ายเมื่อถึงเวลาเคลมประกันภัย ! การด้านโลจิสติกส์ในไทยจ�ำนวน 215 ราย ที่ ประกอบกับวิธีการท�ำธุรกิจได้เปลี่ยนแปลงไป  แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับทุนจดทะเบียนและรายละเอียด จากการที่ผู้ผลิตมักจะรับผิดชอบขนส่งสินค้าของ ในการให้บริการและการด�ำเนินการที่สมบูรณ์  ส่วน ตนเอง ได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นว่าจ้างให้ผู้ประกอบการ ปรีชา จันทร์ศิริโพธา ใหญ่มีขนาดทุนจดทะเบียนอยู่ประมาณ 1-5 ล้าน ขนส่งเข้ามารับผิดชอบจัดการขนส่งแทน จึงท�ำให้ทาง บาท  และจากจ�ำนวน 215 บริษัทนี้  มีบริษัทชาวต่างชาติอยู่ประมาณ สมาคมประกันวินาศภัยมีแนวคิดที่จะหากรมธรรม์ประกันภัยแบบใหม่ ร้อยละ 30 ส่วนอีกร้อยละ 70 เป็นบริษัทของคนไทย  เพื่อให้เงื่อนไขความคุ้มครองมีมาตรฐานเดียวกันและเพื่อรองรับความ อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากทุนจดทะเบียนทั้งหมด 7,586 ล้าน เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น บาท กลับพบว่าเป็นทุนจดทะเบียนของบริษัทชาวต่างชาติสูงถึงร้อยละ การประกันภัยความรับผิดชอบของผู้ขนส่ง (Carrier’s Liability 53 และเป็นทุนจดทะเบียนของบริษัทของคนไทยร้อยละ 47 Insurance) จึงเข้ามาแทนทีก่ ารประกันภัยขนส่งสินค้าในประเทศ โดยได้รบั ส่วนมูลค่าการตลาดของธุรกิจโลจิสติกส์ในประเทศไทยต้องถือว่า  การอนุมัติจากกรมการประกันภัยเมื่อปี  2550 มีมูลค่าสูงมาก กล่าวคือมีมูลค่าถึง 10% ของจีดีพี หรือประมาณ 7.3   “ถ้าจะอธิบายกันอย่างง่าย ๆ กรมธรรม์ประกันภัยประเภทนี้แตกต่าง แสนล้านบาทจากจีดีพีที่มูลค่า 7-8 ล้านบาท  กว่าการประกันภัยขนส่งสินค้าในประเทศตรงที่ความคุ้มครอง โดย Inland เป็นข้อมูลตัวเลขที่นายอลงกรณ์  พลบุตร ได้กล่าวไว้ในงานสัมมนา Transit เป็นกรมธรรม์แบบระบุภัย ขณะที่  Carrier’s เป็นกรมธรรม์ที่ “มิติใหม่ : โลจิสติกส์ 7.3 แสนล้าน ปลุกฟื้นเศรษฐกิจไทย” เมื่อครั้งยัง คุ้มครองทุกภัย และเกี่ยวพันไปถึงผู้บริโภค และเป็นกรมธรรม์ที่สามารถ ด�ำรงต�ำแหน่ง รมช. กระทรวงพาณิชย์ เข้าถึงประชาชนได้ทุกรูปนาม” คุณปรีชา จันทร์ศิริโพธา ผู้จัดการฝ่าย อีกทัง้ อดีต รมช. กระทรวงพาณิชย์ทา่ นนีย้ งั ได้แจกแจงออกมาให้เห็น ประกันภัย Non-Moter บริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด กล่าว สารประโยชน์ของประกันภัยประเภทนี้ไม่สามารถพิจารณาเฉพาะ ว่ามูลค่าตลาด 7.3 แสนล้านบาทนั้น สามารถแยกเป็นมูลค่าตลาดของ การขนส่งทางถนน 3.6 แสนล้านบาท ธุรกิจตัวแทนขนส่ง 1.66 แสนล้าน ประโยชน์ในการบริหารจัดการความเสี่ยงของผู้ประกอบการขนส่งได้เพียง


09

จ�ำนวนเบี้ยประกันวินาศภัยปี 2553 ประเภท การประกันอัคคีภัย การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง - ตัวเรือ - สินค้า การประกันภัยรถยนต์ - ภาคบังคับ - ภาคสมัครใจ การประกันภัยเบ็ดเตล็ด - ความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน - ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก - วิศวกรรม - อากาศยาน

เบี้ยประกันภัย (หน่วย : ล้านบาท)   7,274 398 3,155 11,102 62,126 9,555 953 2,242 1,481

หมายเหตุ : ไม่รวมเบี้ยประกันของสาขาบริษัทประกันภัยต่างประเทศ ที่มา : ส�ำนักงาน คปภ.

ประการเดียว แต่สามารถมองไปถึงประโยชน์ที่จะช่วยเอื้อให้คนทั่วไป สามารถตัดสินใจเป็นผู้ประกอบการธุรกิจได้โดยง่าย โดยเฉพาะสารประโยชน์ที่จะเข้าไปช่วยสนับสนุนธุรกิจ SMEs เพราะถ้าท�ำให้ผู้ประกอบ การรายย่อยมีความมั่นใจว่าเมื่อผลิตสินค้าแล้ว สินค้าที่ผลิตนั้นไม่ว่าจะ ถึงมือหรือไม่ถึงมือผู้บริโภค สินค้าเหล่านั้นยังเป็นทรัพย์สินที่มีค่า  อันเป็นผลมาจากการได้รับความคุ้มครองจากประกันภัยนั้นเอง  ในขณะเดียวกันก็ยงั เป็นประโยชน์ของผูบ้ ริโภคทีส่ ามารถหาซือ้ สินค้า ได้ในราคาถูก  เพราะไม่ตอ้ งเจอกับต้นทุนสินค้าทีผ่ ปู้ ระกอบการมักจะแฝง ต้นทุนความเสี่ยงไว้ในตัวสินค้าเหมือนในอดีต “เงื่อนไขความคุ้มครองและกระบวนการรับประกันของประกันภัย ประเภทนี้ไม่ยุ่งยาก คล้าย ๆ กับการประกันภัยรถยนต์คือเป็นกรมธรรม์ คุม้ ครองรายปี  โดยผูป้ ระกอบการขนส่งสามารถเลือกซือ้ ทุนประกันได้ตาม ความต้องการ โดยพิจารณาว่ารถยนต์ขนส่งสินค้าของตนเองนั้นในแต่ละ ครั้งได้บรรทุกสินค้ามีมูลค่าเท่าไหร่  โดยอัตราการค�ำนวณเบี้ยประกันภัย ของการประกันภัยความรับผิดของผูข้ นส่งทางบก จะอยูใ่ นราคาเบีย้ ประกัน  1 สตางค์-10 บาทต่อทุนประกัน 100 บาท หรือกล่าวง่าย ๆ ว่า รถบรรทุก หนึ่งคันบรรทุกสินค้ามูลค่า 1 ล้านบาทจะเสียเบี้ยประกันเพียงแค่ 12,000 บาท “โดยเฉพาะวิรยิ ะประกันภัยได้ปรับลดอัตราเบีย้ ประกันภัยลงกว่าเดิม  เพราะเล็งเห็นว่าสภาพของถนนในปัจจุบันนี้ได้รับการพัฒนามากขึ้นท�ำให้ โอกาสเกิดอุบตั เิ หตุมนี อ้ ยลง เมือ่ มีความเสีย่ งลดลงก็ควรลดเบีย้ ประกันให้ กับลูกค้า” คุณปรีชากล่าว ส่วนกระบวนการเคลมสินไหมไม่มีความยุ่งยากเช่นเดียวกัน เพราะ สินค้าที่บรรทุกมากับรถยนต์นั้นทั้งผู้เอาประกันภัยและผู้รับประกันภัยได้ ประเมินกันแล้วว่าน่าจะมีมลู ค่าเท่าไหร่  และเมือ่ เกิดอุบตั เิ หตุหรือความเสีย หายอืน่ ใดขึน้ มา ก็พจิ ารณาไปตามหลักการทีว่ า่ สินค้าดีตอ้ งคืน ส่วนสินค้า

มูลค่าการตลาดธุรกิจโลจิสติกส์ไทย ประเภท การขนส่งทางถนน ธุรกิจตัวแทนขนส่ง การขนส่งทางทะเล การขนส่งล�ำน�้ำ การขนส่งทางอากาศ

จ�ำนวนเงิน 7.3 แสนล้านบาท 1.66 แสนล้านบาท 88,000 ล้านบาท 71,000 ล้านบาท 1.66 แสนล้านบาท

ที่มา : ข้อมูลของ อลงกรณ์  พลบุตร อดีต รมช. กระทรวงพาณิชย์

จ�ำนวนรถบรรทุก (ตัวเลขจดทะเบียนสะสม ณ วันที่  31 พฤษภาคม 2554) รวมรถบรรทุก Truck : Total  แยกเป็น - ไม่ประจ�ำทาง Non Fixed Route Truck - ส่วนบุคคล Private Truck

835,425 คัน 174,630 คัน 660,795 คัน

ที่มา : กรมการขนส่งทางบก

เสียก็ค�ำนวณความเสียหายกันไป “แต่วิริยะประกันภัยมีกรอบการพิจารณาไปมากกว่านั้น มีหลักการ พิจารณาไปถึงระดับที่ว่าสินค้านั้นแม้ไม่เกิดความเสียหายยังอยู่ในสภาพ เดิม แต่ถ้าเกิดการเสื่อมคุณค่าหรือมีผลเสียหายต่อผู้บริโภคหรืออาจเสีย หายได้อกี ก่อนทีจ่ ะถึงปลายทาง บริษทั วิรยิ ะจะถือเป็นสินค้าเสียหายทีต่ อ้ ง ให้ความคุ้มครอง แล้วน�ำสินค้าที่เคลมมาไปท�ำลายทิ้งทันที” คุณปรีชา กล่าว ส่วนจุดบริการเคลมสินค้าเป็นที่รับรู้กันว่า บริษัทวิริยะประกันภัยมี สาขาและศูนย์บริการสินไหมคอยให้บริการเคลมสินไหมทุกพื้นที่ทั่วไทย เพียงเท่านี้ยังไม่พอ บริษัทวิริยะประกันภัยก�ำลังขยายพื้นที่ความ คุ้มครองไปยังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนอีกด้วย โดยในเร็ววันนี้ จะลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมบริการเคลมสินไหมกับบริษัท AGI บริษัทประกันภัยอันดับ 1 ของประเทศลาว หลังจากนั้นจะขยายความ ร่วมมือไปยังบริษัทประกันภัยในประเทศเวียดนาม และรวมไปถึงประเทศ มาเลเซียทางด้านใต้ นับเป็นการขยายพื้นที่การบริการที่บริษัทวิริยะประกันภัยได้ก้าวทัน เส้นทางการค้าทีเ่ ริม่ ไร้พรมแดนมากขึน้ ทุกวัน และเฉกเช่นเดียวกันกับการ ก้าวไกลของผูป้ ระกอบการขนส่ง โดยเฉพาะผูป้ ระกอบการยักษ์ใหญ่ระดับ โลกที่หลายบริษัทก�ำลังวางแผนเปิดคลังสินค้าย่อยตามจุดเชื่อมต่าง ๆ ในโครงข่ายถนนอาเซียน เพื่อรองรับความต้องการของผู้ขนส่งรายย่อย ที่ประสงค์ส่งสินค้าหรือสิ่งของรายชิ้นไปยังจุดหมายที่ต้องการ นัน้ ก็หมายความว่าถ้าท่านผูอ้ า่ นรายใดประสงค์สง่ สิง่ ของหรือสินค้า เมื่อไหร่ นอกจากจะดูความเชื่อถือของผู้รับจ้างขนส่งแล้ว ควรอย่างยิ่งที่ จะต้องตรวจสอบด้วยว่าผู้ประกอบการขนส่งนั้น ๆ มีกรมธรรม์ประกันภัย ความรับผิดของผู้ขนส่งด้วยหรือไม่ ถ้ามี ความกังวลต่อสิ่งของหรือสินค้าของท่านจะหายไปโดยพลัน !

October-December 2011 ตุลาคม-ธันวาคม 2554


10

เรื่อง จาก ปก

ไต่คอนโดฯ...


11

ชีวิตคนชั้นสูง “ชีวิตเหนือระดับกับที่อยู่อาศัยสไตล์คนรุ่นใหม่ อยู่ใจกลางเมือง  เพียง 5 นาทีจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เริ่มต้นเพียง 1.5 ล้านบาท” ถ้าก๊อบปี้โฆษณานี้เป็นคำ�ใบ้ในชุดคำ�ถามมันคืออะไร เชื่อว่าหลายคนคงตอบถูกเป็นเสียงเดียวกัน ว่า คอนโดมิเนียม หนึ่งในอสังหาริมทรัพย์ที่โด่ดเด่นที่สุดในยุคนี้

เรื่อง : เอกพงศ์  ศรทอง  ภาพ : ประเวช ตันตราภิรมย์ ตุลาคม-ธันวาคม 2554


12

คอนโดมิ เ นี ย ม เป็นที่อยู่อาศัยแนวดิ่งที่แบ่งซอยเป็นชั้น ๆ  ตามความสูงของตึก  ซึ่งเป็น

แนวคิ ด การอยู่ อ าศั ย ของชาวยุ โ รปที่ ไ ด้ รั บ ความนิ ย มมาตั้ ง แต่ ส มั ย ปฏิ วั ติ อุ ต สาหกรรม  เมื่ อ จำ � นวน ประชากรเพิ่มขึ้นจนล้นเมือง คอนโดมิเนียมจึงเป็นที่อยู่ทางเลือกรูปแบบใหม่ในยุคนั้น ต่อมาในสมัย อาณานิคม คอนโดมิเนียมจึงแพร่มาถึงเอเชีย โดยเริ่มปักฐานบนเกาะฮ่องกงและสิงคโปร์  และขยาย ตัวอย่างรวดเร็วช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่  2 สำ � หรั บ ประเทศไทย  ธุ ร กิ จ คอนโดมิ เ นี ย มเริ่ ม เข้ า มาในสมั ย รั ฐ บาลถนอม  กิ ต ติ ข จร  (พ.ศ.  2513) โดยนักลงทุนชาวฮ่องกงและสิงคโปร์มาเลือกสร้างคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองบริเวณถนนราชดำ �ริและ แยกราชประสงค์  ทว่ายุคนั้นคนไทยยังไม่คุ้นชินกับการอยู่อาศัยในตึกเป็นชั้นสูง ๆ คอนโดมิเนียมจึงไม่ได้ รับความสนใจ จนกระทั่งเมื่อการพัฒนาประเทศแบบรวมศูนย์  โดยยึดเมืองหลวงเป็นฐานสำ �คัญ ส่งผลให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางแทบทุกด้าน และกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้คนจากทั่วสารทิศเข้ามาแสวงหาอนาคต จากการสำ�รวจของสำ�นักงานสถิติแห่งชาติในปี  2553 พบว่ากรุงเทพฯ มีประชากรอยู่ที่  5,258.6 คน ต่อตารางกิโลเมตร เมื่อเทียบกับที่ดินของกรุงเทพฯ ที่ไม่ได้งอกเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับประชากรมากขนาดนั้น  ราคาที่ดินในพื้นที่ใจกลางเมืองจึงถีบตัวสูงขึ้นมหาศาล ส่งผลให้โครงการบ้านจัดสรรต้องหันไปจับจอง ที่ดินแถบชานเมือง ในขณะที่สถานที่ทำ�งานของคนส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง  การเดินทางจึงเป็น เงื่อนไขสำ�คัญที่ต้องพิจารณา โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับการจราจรที่แทบจะเป็นจลาจลในแต่ละวัน

ถึงตรงนี้บ้านเดี่ยวชานเมืองจึงไม่ใช่สาระสำ�คัญสำ�หรับคนกรุง  คอนโดมิเนียมกลับกลายเป็นทางเลือก ตัวใหม่ที่เข้ามาแทนที่ความนิยม

บ้านผมอยู่บางแค  ต้องตื่นแต่เช้า 6 โมง ให้ทัน 8 โมง  ทุกวันผมอยู่บนถนนประมาณ  3 ชั่วโมง ผมเลยตัดสินใจไปอยู่ คอนโดฯ


13

ตุลาคม-ธันวาคม 2554


14

แก้โจทย์สมการ  คอนโดมิเนียม = ชีวิตคนเมือง ตลอดช่วงเช้าวันจันทร์ถงึ ศุกร์  คงไม่มสี ถานทีใ่ ดวุน่ วายเหมือนย่านสีลม สาทร สุขมุ วิท อโศก และแหล่งธุรกิจกลางเมืองแห่งอื่น ๆ  คลื่นมนุษย์เงินเดือนพากันทะลักออกจากรถเมล์บ้าง รถไฟฟ้า บ้าง แต่ละคนต่างรีบเร่งเข้าบริษัทเพื่อตอกบัตรให้ทันตามเวลากำ �หนด อันเป็นกิจวัตรที่เห็นจน ชินตา  เหตุนี้ทำ�ให้บางคนปิ๊งไอเดียอยู่คอนโดมิเนียมใจกลางเมือง เพื่อช่วยให้เดินทางไปทำ�งานได้ สะดวก    พุ ท ธิ พ งศ์   วงศ์ รั ต น์   เจ้ า ของคอนโดมิ เ นี ย มย่ า นสุ ขุ ม วิ ท   24  ก็ เ ป็ น หนึ่ ง ในนั้ น   ด้ ว ย เหตุผล “บ้านผมอยู่บางแค ต้องตื่นแต่เช้า 6 โมง ให้ทัน 8 โมง ทุกวันผมอยู่บนถนนประมาณ 3 ชั่วโมง ผมเลยตัดสินใจไปอยู่คอนโดฯ” ชีวิตรวบรัดของคนเมือง ทุกอย่างต้องสะดวกสบายและกะทัดรัด คอนโดมิเนียมซึ่งมีพื้นที่ น้อยจึงเหมาะสมอย่างยิ่ง  อีกทั้งคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ยังตั้งอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้า แหล่งพักผ่อน ที่มีบริการครบครัน ไม่ว่าจะเดินชอปปิงหรือดูหนัง 3 มิติในโรงภาพยนตร์ทันสมัย  จะดีแค่ไหน ถ้าสิ่งเหล่านี้มาอยู่หน้าคอนโดมิเนียมของคุณ “ง่ายนิดเดียว ถ้าจะพักผ่อน เราแค่ขับรถไปไม่กี่นาทีก็ถึงซีคอนสแควร์  ถ้าเบื่อก็นั่งบีทีเอส ไปพารากอน ไปสยามก็ได้” ภาวิณี  ตักดี  ซึ่งอาศัยอยู่คอนโดมิเนียมย่านอ่อนนุชเล่าถึงชีวิตในวัน หยุด ความปลอดภัยคือจุดเด่นสำ�คัญของคอนโดมิเนียมที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้  “ที่เลือกซื้อคอนโดฯ เพราะอยู่แล้วปลอดภัย แค่ล็อกประตูก็ไปได้เลย ไม่ต้องมาห่วงบ้าน ไม่ต้องฝากบ้านไว้กับ ตำ�รวจ  การรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ ที่นี่ถือว่าดี” อมรรัตน์  ชนินทร์วงศ์  ผู้อาศัยใน คอนโดมิเนียมแถวถนนนราธิวาสฯ ให้เหตุผลนี้ การแข่งขันทางการตลาดทีท่ วีความรุนแรงขึน้  ท�ำให้คอนโดมิเนียมแต่ละแห่งต้องแข่งขันหาจุด ขาย  มีทงั้ ขึน้ รถไฟฟ้าฟรีตลอดชีวติ  มีสระว่ายน�ำ้ ส่วนตัวหรือสวนตรงระเบียง รวมทัง้ จุดบริการเบ็ดเสร็จ ส�ำหรับลูกค้า “คอนโดฯ ทีอ่ ยูม่ สี ระว่ายน�ำ้ ขนาดใหญ่พอกับคนทีพ่ กั อาศัย  นอกจากนีก้ ม็ รี ถจักรยาน รถกอล์ฟ ขับไปส่งบริเวณหน้าคอนโดฯ และรถตูบ้ ริการส่งคนถึงสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช แต่กต็ อ้ งเสียค่ารถต่างหาก ทุกอย่างก็ดหี มด ยกเว้นไม่มรี า้ นสะดวกซือ้  ดึก ๆ ถ้าอยากหาอะไรกิน ก็ตอ้ งเดินไปซือ้ ปากซอยซึง่ อยู่ ค่อนข้างไกลและอันตรายพอสมควร” ภาวิณีบอกถึงบริการในที่พักของตนเอง ขณะเดียวกันที่จอดรถก็เป็นสิ่งสำ�คัญที่มองข้ามไม่ได้   ภาวิณียังบ่นปัญหานี้ให้ฟังด้วย “ปกติคอนโดฯ จะสร้างพืน้ ทีจ่ อดรถให้ลกู ค้าแค่  70% บางห้องมีรถสองคัน ทีจ่ อดรถเลยไม่พอ”  คล้าย กับพุทธิพงศ์  “แม้คอนโดฯ ที่ผมอยู่จะมีการฟิกซ์ที่จอดรถ  เรามาจองไม่ทันที่จอดที่อยู่ใกล้กับห้อง เรา เราก็ต้องจอดไกล แล้วที่จอดรถที่อยู่ใกล้กับห้องเราบางครั้งมันก็ว่าง เพราะว่าห้องนั้นยังไม่มี คนมาอยู่  ครั้นจะมาจอดก็กลัวว่าวันหนึ่งมีคนมาจอดแล้วมีปัญหา”


15

ขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ คงไม่มีระบบไหนปลอดภัย รวดเร็ว และสะดวกสบายเท่ากับรถไฟฟ้า ทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที  และแอร์พอร์ตลิงก์   แม้โครงข่ายยังไม่ครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ  แต่ ก็ ช่ ว ยอำ � นวยความสะดวกต่ อ การเดิ น ทางในเขตเมื อ งชั้ น ในซึ่ ง เป็ น ที่ ตั้ ง ของคอนโดมิ เ นี ย ม  ที่ ทำ� งาน ห้างสรรพสินค้า ย่านธุรกิจ และแหล่งอำ�นวยความสะดวกของคนเมือง โดยเฉพาะชาวคอนโดมิเนียม “ที่เลือกซื้อคอนโดมิเนียมเพราะไม่อยากซื้อรถ เอาใกล้รถไฟฟ้า จะได้เดินทางไปทำ �งานแถวสาทร ได้สะดวก”  ด้วยเหตุผลเช่นนี้  ไพบูลย์  บุนนาค จึงเลือกซื้อคอนโดมิเนียมแถวซอยอารีย์  ซึ่งอยู่ริมเส้นทาง รถไฟฟ้า ที่ดินริมเส้นทางรถไฟฟ้าเป็นทำ�เลทองที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ต่างต้องการ  จากการสำ�รวจของบริษัท วิจัย พลัส พร็อพเพอร์ตี้  จำ�กัด พบว่าในปี  2553 ที่ดินบริเวณพญาไทมาแรงที่สุด เนื่องจากมีเส้นทางรถไฟฟ้า บีทีเอสและแอร์พอร์ตลิงก์ผ่าน ทั้งยังมีห้างสรรพสินค้า โรงละคร โรงภาพยนตร์  และห้างสินค้าปลอดภาษี  ขณะที่ย่านพหลโยธิน รัชดาภิเษก สุขุมวิท ธนบุรี  และนนทบุรี  เป็นทำ�เลรองลงมา  ราคาที่ดินที่ถีบตัวสูงเป็นต้นทุนให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ต้องบวกราคาขายคอนโดมิเนียมต่อยูนิตสูง ขึ้นสวนทางกับกำ�ลังซื้อ  คนจำ�นวนไม่น้อยจำ�เป็นต้องเลือกซื้อคอนโดมิเนียมห่างจากถนนและสถานีรถไฟฟ้า  โดยเลือกใกล้ชุมชนและแหล่งของกินแทน เหมือนอย่างภาวิณีที่เลือกซื้อคอนโดมิเนียมไกลจากสถานีรถไฟฟ้า และถนนใหญ่  “คนส่วนใหญ่เลือกคอนโดฯ ที่ติดถนนใหญ่  ใกล้รถไฟฟ้า แต่เราชอบคอนโดฯ ที่เงียบก็เลยเลือก เข้ามาในซอยหน่อย” นั่นถือเป็นกฎการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมที่ถูกต้อง คือควรเลือกให้อยู่ห่างจากถนนใหญ่หรือสถานี รถไฟฟ้าประมาณ 800 เมตร ถึง 1 กิโลเมตร เพราะราคาจะไม่แพงมาก จ่ายสบาย อยูแ่ ล้วคุม้  แถมยังเดินทาง สะดวก

รถไฟฟ้า รถประจำ�ตำ�แหน่ง ของชาวคอนโดฯ

ที่เลือกซื้อคอนโดมิเนียม เพราะไม่อยากซื้อรถ   เอาใกล้รถไฟฟ้า   จะได้เดินทางไปท�ำงาน แถวสาทรได้สะดวก

ตุลาคม-ธันวาคม 2554


ข้อพิจารณาก่อนซื้อคอนโดมิเนียม ความน่าเชื่อถือของเจ้าของโครงการ  ดูได้จากโครงการคอนโดมิเนียมที่ผ่านมา  หากเป็นบริษัทใหม่ควรศึกษาเรื่องผู้ถือหุ้น  จำ�นวนหุ้นที่จดทะเบียน เอกสารสิทธิของที่ดิน   ควรศึกษาว่าเป็นเอกสารสิทธิประเภทไหน ติดประกันหรือจำ�นองหรือไม่  ลักษณะของคอนโดมิเนียมที่สร้าง   ควรศึกษาว่าเป็นอาคารกี่ชั้น ห้องชุดทั้งหมดกี่ห้อง  ผังในห้องเป็นอย่างไร พื้นที่ใช้สอยส่วนรวม มากน้อยแค่ไหน  ความปลอดภัยในคอนโดมิเนียม   ได้มาตราฐานตามกฎหมายหรือไม่ เช่น  บันไดหนีไฟ ระบบเตือนไฟไหม้ และความแข็งแรง ของอาคารต่อแผ่นดินไหวอย่างน้อย 7 ริกเตอร์ตาม กฎกระทรวงกำ�หนดการรับนํ้าหนัก ความต้านทาน ความคงทนของอาคารและพื้นดินที่รองรับอาคาร  ในการต้านทานแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว   พ.ศ. 2550

การตกแต่งภายใน   ควรถามรายละเอียดระบบไฟฟ้า นํ้าประปา  การติดตั้งแอร์ และวัสดุที่ใช้ตกแต่งก่อนซื้อ

การประกันภัยในคอนโดมิเนียม 1. ประกันอัคคีภัย   สำ�หรับผู้ที่ซื้อคอนโดมิเนียมแบบผ่อนชำ�ระ  ทางธนาคารจะมีข้อบังคับให้ทำ�  2. ประกันอาคารชุด   กฎหมายบังคับให้นิติบุคคลของคอนโดฯ ทำ�ให้  กับผู้ซื้อทุกคน แต่ถ้าทำ�ประกันอัคคีภัยกับธนาคาร  ไว้แล้ว ผู้ซื้อไม่ต้องทำ�ก็ได้ ค่าประกันเก็บรวมกับ  เงินส่วนกลาง คุ้มครองตั้งแต่โครงสร้างอาคาร   ระยะเวลา 5 ปี และส่วนควบ เช่น เฟอร์นิเจอร์  หลอดไฟ เป็นต้น ระยะ 2 ปี  3. ประกันห้อง   ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ซื้อ   ประกันนี้คุ้มครองทั้งอุบัติเหตุ อัคคีภัย แผ่นดินไหว   ที่เกิดในห้องของผู้ซื้อเท่านั้น พบการเอาเปรียบของเจ้าของโครงการ  หรือนิติบุคคลของคอนโดมิเนียม   สามารถร้องเรียนได้ที่

กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ  ชั้น 15 อาคารกระทรวงยุติธรรม ถ. แจ้งวัฒนะ  ต. คลองเกลือ อ. ปากเกร็ด จ. นนทบุรี 11120  โทร. 0-2502-0881

แผ่นดินไหว ภัยคุกคามใหม่ ของชาวคอนโดมิเนียม ในยุคนี้แผ่นดินไหวเป็นภัยพิบัติที่เกิดขึ้นถี่  จนแทบจะเป็นข่าวรายวัน กระทั่งสั่นสะเทือน ความเชื่อของคนไทยที่เคยคิดว่าโชคดีที่บ้านเราไม่ต้องประสบภัยจากแผ่นดินไหว  ล่าสุดเมื่อวันที่  24 มีนาคม 2554 เกิดแผ่นดินไหวในประเทศพม่า ค่าความรุนแรงวัดได้  5.4 ริกเตอร์  จนความสั่น สะเทือนรู้สึกได้ถึงกรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ดินอ่อน แม้แรงสั่นสะเทือนเพียงเล็กน้อยก็สามารถ เพิ่มทวีความรุนแรงได้หลายเท่า ขณะนี้ประเทศไทยมีกฎหมายกระทรวงควบคุมสิ่งก่อสร้างในกรุงเทพฯ ให้สามารถต้าน ทานแผ่นดินไหวขนาด 7 ริกเตอร์ได้   กฎหมายนี้เพิ่งออกมาในปี  2550 ดังนั้นตึกสูงที่สร้างก่อนหน้า ล้วนวางอยู่บนเส้นด้ายของความเสี่ยงต่อแผ่นดินไหวตลอดเวลา  กรณีนี้น่าสนใจว่าแผ่นดินไหวสั่น สะเทือนถึงคนที่อยู่คอนโดมิเนียมขนาดไหน เริ่มที่พุทธิพงศ์   คอนโดมิเนียมของเขาเพิ่งสร้างเสร็จเมื่อปีที่แล้ว จึงถือว่าปลอดภัยใน ระดับ 7 ริกเตอร์  “จริง ๆ ในวันที่  24 มีนาคม ผมก็รู้สึกนะ โคมไฟในห้องยังแกว่งไปมาเลย แต่ ก็แค่แป๊บเดียว หลังเกิดเหตุก็คิดอยู่พักหนึ่งว่าอยู่คอนโดฯ มันก็อันตรายเหมือนกัน แต่พอผ่านไป นาน ๆ ก็ไม่คิดแล้วละ ลืมไปแล้ว” อมรรัตน์ซึ่งเตรียมแผนจะย้ายไปคอนโดมิเนียมห้องใหม่ให้ความคิดเห็นว่า “ตอนนี้ก็กังวล เรื่องแผ่นดินไหว  แต่ถามว่าจริง ๆ ก็ไม่ควรคิดนะ ต่อให้คุณอยู่บนพื้นดิน ถ้าเกิดแผ่นดินไหว คุณก็ อาจตายได้” ผลจากแผ่นดินไหวส่งผลกระทบต่อจิตใจเพียงระยะสั้นตามพฤติกรรมของคนไทย เพียง เวลาผ่านไปไม่นานก็ลืม อาจเป็นเพราะเรายังไม่ได้เผชิญกับความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่  สังเกตได้จากยอดขายของคอนโดมิเนียมยังคงเติบโตต่อเนื่องประมาณ 3.1% ในปีนี้  จากการคาด การของศูนย์วิจัยกสิกรไทย


17

คอนโดฯ VS บ้าน ย้อนไปหลายสิบปีก่อนบ้านจัดสรรเคยครองสังเวียนอสังหาริมทรัพย์   ทว่า 10 ปีให้หลัง มานี้คอนโดมิเนียมก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่สูสี   ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ระบุข้อมูลว่า 3-4 ปี ที่ผ่านมาคอนโดมิเนียมเป็นสินค้ามาแรงที่สุดในตลาดอสังหาริมทรัพย์   ส่วนบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์มียอดขายชะลอตัว และแนวโน้วตลอดปี  2554 คาดว่าคอนโดมิเนียมจะครองส่วนแบ่งตลาด ประมาณ 45%  ขณะที่บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ครองส่วนแบ่งการตลาดอย่างละ 25%  คนช่วง อายุตํ่ากว่า 40 ปีเริ่มซื้อคอนโดมิเนียมเป็นบ้านหลังแรก โดยไม่สนใจมีบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮาส์ หรือถ้ามีบ้านอยู่แล้ว คอนโดมิเนียมก็เป็นบ้านหลังที่  2 เพราะกลุ่มนี้คำ�นึงถึงเรื่องความสะดวก ในการทำ�งานเป็นสำ�คัญ  ภาวิ ณี เ ป็ น หนึ่ ง ในผู้เลือกซื้อคอนโดมิเนียมเป็นบ้านหลังแรก “ตอนนั้นอยากมีอสังหา ริมทรัพย์สักอย่างที่เป็นของตัวเองและมีความสามารถที่จะจ่ายได้   ตอนที่ซื้อเพิ่งเรียนจบ ทำ�งาน ไม่กี่เดือน อายุประมาณ 23 ปี   ทีแรกก็รู้สึกเครียดอยู่  2 อาทิตย์  ประมาณว่าชีวิตเราเพิ่งเรียนจบก็ ติดหนี้แล้ว แต่ตอนหลังเริ่มปล่อยวางได้   พอมันเป็นของเราปุ๊บ เราก็ภาคภูมิใจ แล้วถามว่าวัยรุ่น อย่างเราก็ไม่ชอบทำ�งานบ้านอยู่แล้วจะอยู่บ้านใหญ่ไปทำ�ไม”  อมรรัตน์อธิบายปัญหาของบ้านที่ทำ�ให้เธอต้องตัดสินใจมาอยู่คอนโดมิเนียมว่า “พี่มีบ้าน อยู่ที่ลาดพร้าว ปัญหาใหญ่ของคนอยู่บ้านคือการหาแม่บ้านนั้นลำ�บาก  สมมติบ้านท่อนํ้าพัง หญ้า ขึ้นรก ก็ต้องหาช่าง หาคนงานตัดหญ้า ยิ่งเดี๋ยวนี้ก็หายากด้วย เลยตัดสินใจหาที่พักที่สะดวก ดูแล ง่าย ปลอดภัย เหมาะสมกับคนอยู่คนเดียว พี่จึงเลือกมาอยู่คอนโดมิเนียม” ใหญ่  ไกล ต้องจ่ายค่าเดินทางสูง คือปัญหาของบ้าน ต่างกับคอนโดมิเนียมทีเ่ ล็ก ประหยัด อยู่ในเมือง ไม่ต้องดูแลรักษา มีความปลอดภัยและใกล้ที่ท�ำ งาน ตื่นสายได้  ดูหนัง เดินช็อปก็ทำ�ได้ สะดวก และสิ่งหนึ่งที่คอนโดมิเนียมมี  แต่บ้านไม่มีคือ ทิวทัศน์   หลายคนฝันอยากอยู่คอนโดมิเนียม ที่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเห็นแสงอาทิตย์แรก ด้านล่างเป็นโค้งแม่นํ้าเจ้าพระยา หรือทิวทัศน์ทะเลตึกที่ ลดหลั่นตามความสูงทอดไกลสุดสายตา แม้ความต้องการคอนโดมิเนียมจะขยายตัวสูงขึ้น แต่สิ่งที่เพิ่มสูงกว่าคือ จำ�นวนยูนิตของ คอนโดมิเนียม ที่บรรดาบริษัทอสังหาริมทรัพย์ต่างผุดขึ้นมาแข่งกัน  ข้อมูลจากฝ่ายวิจัยและพัฒนา พลั ส   พร็ อ พเพอร์ ตี้ แ สดงให้ เ ห็ น ว่ า ในปี   2553  มี ค อนโดมิ เ นี ย มสร้ า งเสร็ จ   43,912  ยู นิ ต   ขาย ได้   25,062  ยู นิ ต   มี ค อนโดมิ เ นี ย มว่ า งอยู่   18,850  ยู นิ ต     และการคาดการณ์ ข องศู น ย์ วิ จั ย กสิกรไทยว่าในปี  2554 น่าจะมีคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นประมาณ 40,000-41,250 ยูนิต  “ผมว่าวันนี้ คอนโดฯ ยังได้รับความนิยมอยู่  แต่มันพ้นจากคำ�ว่าจุดสูงสุดและอยู่ในช่วงอิ่มตัวแล้ว ต่อไปคงมีแต่ ลดลงเรื่อยๆ”  ความคิดเห็นจากพุทธิพงศ์ซึ่งครํ่าหวอดในวงการซื้อขายคอนโดมิเนียม การอยู่คอนโดมิเนียมเป็นเพียงปรากฏการณ์หนึ่งที่สะท้อนความเปลี่ยนแปลงทางสังคม คนซื้อคอนโดมิเนียมมองว่าเป็นที่อยู่ที่สะดวกสบาย  คนซื้อบ้านมองว่าคอนโดมิเนียมเป็นที่อยู่ที่ไม่ มั่นคง  ไม่ว่าใครจะอยู่ในฐานะไหนของสังคม ต่างคนต่างมีปัจจัยชีวิตที่แตกต่างออกไป  คอนโดมิเนียมอาจไม่เหมาะกับทุกคนเหมือนกับบ้าน

อ้างอิง : ทีมข่าวเศรษฐกิจ. “แผ่นดินไหวพ่นพิษ-ตึกสูง-คอนโดเดี้ยง”  โพสต์ทูเดย์, หน้า 3, 30 มีนาคม 2554. แบรนด์เอจ ไทคูน. “คีรี  กาญจนพาสน์  คืนวงการอสังหา ริมทรัพย์ฯ ผุดคอนโดกระชับบีทีเอส”  สยามรัฐ, หน้า 37, 31 พฤษภาคม 2554. ___________. “โมนิเตอร์  อสังหาริมทรัพย์  2554 เติบโตอีก 10% คอนโดยังแรง”  สยามรัฐ, หน้า 37, 6 ธันวาคม 2553

ดังนั้นในสังเวียนระหว่างบ้านกับคอนโดมิเนียม คุณก็คือกรรมการที่นั่งให้คะแนน  ขอบคุณ : พุทธิพงศ์  วงศ์รัตน์   ภาวิณี  ตักดี   อมรรัตน์  ชนินทร์วงศ์    อยู่ข้างเวที

ศุภศิริ  ชนินทร์วงศ์   ไพบูลย์  บุนนาค  อักษิกา อัมพุชนานนท์ ยุพา ปัญโญวัฒน์กุล  ปิยะลักษณ์  นาคะโยธิน จีริกา กำ�เนิดรัตน์ ตุลาคม-ธันวาคม 2554


เรื่องเก่าเล่าอดีต 18 เอนก นาวิกมูล

โฆษณาเก่า

01

03

02

ในสมัยที่เมืองไทยยังไม่มีหนังสือพิมพ์  การโฆษณาสินค้า (อ่านว่า โคด-สะ-นา)  ให้คนหมู่มากทราบ เป็นเรื่องท�ำได้ยาก อย่างเก่งก็คงมีแต่พ่อค้าแม่ค้าที่พายเรือหรือหาบของกิน ขาย ร้องตะโกนปากเปล่าไปตามล�ำคลองและตรอกซอกซอยชั่วบางเวลาเท่านั้น พ.ศ. 2387 (สมัยรัชกาลที่  3) หมอบรัดเลย์  มิชชันนารีชาวอเมริกัน เริ่มออกหนังสือพิมพ์ขึ้น เป็นครั้งแรกชื่อบางกอกรีคอร์เดอร์  ออกไปได้ไม่นาน ท่านก็เริ่มพิมพ์ค�ำบอกเล่าให้คนมาซื้อยา ควินินที่บ้าน จ�ำหน่ายราคาขวดละเท่านั้น ในฉบับเดือนกุมภาพันธ์  พ.ศ. 2388 ข้อความนี้  มีผู้เสนอว่าเป็นโฆษณาชิ้นแรกของเมืองไทย โฆษณาสมัยแรกๆ มักมีแต่ข้อความ พอถึงปลายรัชกาลที่  4 - ต้นรัชกาลที่  5 หมอสมิท  มิชชันนารีอีกคน เริ่มท�ำหนังสือพิมพ์โฆษณาขายสินค้าโดยตรง จึงเริ่มมีภาพชิ้นเล็ก ๆ ประดับ ถ้อยค�ำบ้าง เช่น ภาพตึกฝรั่ง ภาพร่ม และภาพเรือสินค้า เป็นต้น  หนังสือพิมพ์โฆษณาสินค้านี้ ชื่อ  Siam  Daily  Advertiser  เริ่มออกเมื่อ พ.ศ. 2411 ท่านที่สนใจให้ไปอ่านใน หอสมุดแห่งชาติ  ท่าวาสุกรี สมัยรัชกาลที่  5 และรัชกาลต่อ ๆ มา หนังสือพิมพ์และนิตยสารเพิ่มจ�ำนวนมากขึ้น   การลงโฆษณาพร้อมภาพประกอบก็มีให้เห็นมากขึ้น  โฆษณาที่ผู้เขียนพบมากได้แก่โฆษณายา รักษาโรค เพราะมนุษย์ทั้งหลายย่อมกลัวเจ็บกลัวตายเป็นธรรมดา  รองลงไป เป็นจ�ำพวกของกิน ของใช้  เสื้อผ้า เครื่องประดับ และการบันเทิงต่าง ๆ โดยเฉพาะภาพยนตร์  ซึ่งตั้งแต่ยุค 2450  มาจนถึงทุกวันนี้  ยังมีการลงโปรแกรมหรือใบแทรก เชิญชวนให้คนไปดูเป็นประจ�ำ ­

04


19

ผูเ้ ขียนเป็นคนชอบดูโฆษณาเก่า  เสน่หข์ องโฆษณาเก่าประการแรกคือ หากเป็นข้อความ   ถ้าไม่เขียนตรง ๆ อ่านแล้วเข้าใจเลย ก็ใช้วรรณศิลป์แต่งถ้อยค�ำให้ไพเราะ กระตุ้นให้คนอยากไป ซือ้ ของ หรือไม่กเ็ ขียนเป็นเรือ่ งตืน่ เต้นล่อให้คนอยากรู ้ จ�ำพวกผัวพาเมียทีก่ ำ� ลังมีครรภ์ไปดูงานศพ  เมียถูกคนเบียดเสียดจนลูกไหลทะลัก (ตรงนีเ้ ขียนหวาดเสียวไปหน่อย) เมียกลับไปแล้วก็ไม่สบาย  หาหมอหลายหมอก็ไม่หาย จนเพื่อนมาบอกให้ไปซื้อยายมมะนาของห้างขายยาบ้านหม้อ   อยู่ที่พาหุรัด ติดร้านถ่ายรูปขงเบ้ง เมียจึงหายจากโรค... ข้อที่  2  ภาพหรือตัวหนังสือประกอบโฆษณายุคเก่า เขียนและวาดด้วยมือได้น่าชมมาก  ที่เป็นเช่นนี้  เข้าใจว่าเนื่องจากสมัยก่อน คนท�ำงานโฆษณายังมีเวลา มีสมาธิ  ไม่ต้องเร่งออกจาก บ้านแต่เช้าเพื่อไปเสียสุขภาพจิตกันบนท้องถนน ภาพและตัวหนังสือที่เขียนจาก “จิตร” จึงเป็น งานจิตรกรรมที่สละสลวย  ไม่แข็งทื่อเหมือนปัจจุบัน ส่วนประโยชน์ของโฆษณายุคเก่า คือใช้ในการค้นเรือ่ งแรกมีในสยาม ค้นประวัตหิ า้ งร้าน และ ค้นประวัติผลงานของนักวาดได้อย่างดียิ่ง

05

06

01 02 03

07

หมอบรัดเลย์  ซีดีเอนก-056-229 บรรยากาศภายในสยามโฆษณาบริษัท  ถ. รองเมื อ ง แสดงให้ เ ห็ น ถึ ง ความ  ประณีตของคนยุคโน้น  ภาพจาก สมุด  ที่ ร ะฤกในงานฌาปนกิ จ  นายดาบชื่ น  ศาตะมาน พ.ศ. 2477  ห้องสมุดเอนก  นาวิกมูล  สแกน ANP-0003-718 โฆษณาคนยื น ถื อ โทรโข่ ง  ที่   เอนก   นาวิกมูล อ่านลายเส้นแล้วเชื่อว่าเป็น  ฝีมือของครูอาด อ๊อดอ�ำไพ จากบริษัท  คณะช่าง ภาพจากหนังสือ ชูชาติ เล่ม 4  พิมพ์ราว พ.ศ. 2475  ห้องสมุดเอนก  นาวิกมูล สแกน ANP-0003-725

มีข้อสงสัยว่า ข้อความและภาพต่างๆ ในโฆษณา ใครเป็นคนเขียน คนวาด หรือคนท�ำ   โจทย์ขอ้ นี ้ ผูเ้ ขียนพยายามสะสมค�ำตอบมาตลอด เพราะเป็นเรือ่ งทีค่ วรค้นและต้องประมวลให้เป็น กิจจะลักษณะต่อไปอีก เท่าที่พอคิดได้  ผู้เขียนเห็นว่ายุคแรก ๆ หมอบรัดเลย์  หมอสมิท คงเขียนเองเป็นหลัก   ยุคต่อมาเจ้าของสินค้าอาจเขียนเอง หรือมอบหมายให้ทางโรงพิมพ์เขียนให้   ต่อจากนั้นเมื่อเกิด บริษัทรับท�ำโฆษณาโดยตรง บริษัทเหล่านี้ก็ท�ำหน้าที่ให้อย่างดีเลิศ     ตัวอย่างร้านรับท�ำโฆษณาในยุค 2460-2470 ได้แก่  ร้านสยามโฆษณาบริษัท ของ นายดาบชื่น ศาตะมาน ซึ่งทราบจากหนังสืองานศพนายชื่น พ.ศ. 2477 ว่ารับท�ำโฆษณาให้ห้าง นายเลิศ, ห้างวินเซอร์, ห้างขายนมตราแหม่มทูนหัว รับท�ำโฆษณาทั้งในและนอกประเทศ โฆษณาฉากละคร โฆษณาตามเสาโทรเลข โฆษณา ในสถานีรถไฟทั่วพระราชอาณาจักรฯลฯ ยุค 2470-2480 บริษทั รับท�ำโฆษณาทีม่ ชี อื่ เสียงมากคือ “คณะช่าง” ของนายเปรือ่ ง แสงเถกิง จิตรกรคนส�ำคัญของคณะช่างที่ผู้เขียนเห็นว่าวาดโฆษณาได้ยอดเยี่ยมคือ ครูอาด อ๊อดอ�ำไพ  ผู้วาดคนนุ่งผ้าม่วงยืนถือโทรโข่ง บริษัทและนักวาดโฆษณานอกเหนือจากนี้  ได้แก่  บริษัท เอส.พี.อี. ถนนสี่พระยา, ร้าน สยามศิลป์  ของนายฟื้น รอดอริห์, บริษัทนิออน แสงบูรพา, ครูเหม เวชกร, เสน่ห์  คล้ายเคลื่อน,  เฉลิม วุฒิโฆษิต, จ. ศิลป์  เป็นต้น รายละเอียดของบริษทั และนักวาดโฆษณาเหล่านี ้ เขียนในพืน้ ทีส่ องหน้าไม่พอ ต้องเขียนและ รวมงานกันเป็นเล่ม ๆ 04 05 06

โฆษณายาชูกุมาร ของห้างพระจันทร์-  โอสถ วาดโดย เสน่ ห ์   คล้ า ยเคลื่ อ น   ภาพจากปกหลังหนังสือ ชุมนุมปากกา   ฉบับสิงหาคม พ.ศ. 2481  ห้องสมุดเอนก  นาวิกมูล สแกน ANP-0003-721 โฆษณาข้าวอนามัย  ของบริษัทข้าวไทย  จ�ำกัด  จากหนังสือพิมพ์ กรุงเทพฯ วาร-  ศัพท์  ฉบับวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2484   ห้องสมุดเอนก นาวิกมูล ซีดี 333-057 โฆษณาของบริษัทค้าพืชผลไทย จ�ำกัด  ปกหลังนิตยสาร สวนอักษร  ฉบับวันพุธ  ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2485 สแกน ANP-  0003-721

07

โฆษณาใบชาของร้านนิ้มฮงจั๋ว สะพาน  หัน  ภาพจากหนังสือ สามจีน  ที่ระลึก  ในงานฉลองโรงเรียนมัธยมวัดสามจีน  พ.ศ. 2481 ห้องสมุดบ้านพิพิธภัณฑ์ได้  รับจาก ร.ร. เผดิมศึกษา บางไผ่ ธนบุรี  ซีดีเอนก-1130-037

ตุลาคม-ธันวาคม 2554


20 ไขข้อข้องใจปัญหาประกันภัย  “ มิสเตอร์  1557” ภาพประกอบ : เซมเบ้

อุบัติเหตุจากรถยนต์

“มิสเตอร์ 1557”  มารายงานตัว ตามภารกิจที่ได้รับ  ในการไขข้อข้องใจ ปัญหาประกันภัย  แต่ถ้าท่านผู้อ่าน อยากกระจ่างไวๆ  ถามมาได้เลยครับท่าน !

ในวันนี้มีค�ำถามน่าสนใจในประเด็น เกี่ยวกับอุบัติเหตุจากรถยนต์เข้ามา ซึ่งเราไป หาค�ำตอบมาให้ทา่ นได้คลายข้อสงสัยกันแล้ว

1

ถ้าเกิดอุบัติเหตุจนได้รับบาดเจ็บ   จะต้องใช้หลักฐานอะไรบ้างในการยื่น ขอรับค่าเสียหาย ตอบ : หลังประสบอุบัติเหตุ  จนได้รับ บาดเจ็บต่อร่างกาย ผูป้ ระสบภัยต้องยืน่ ร้องขอ ค่าเสียหายเบื้องต้นต่อบริษัทภายใน 180 วัน นับแต่วันที่มีความเสียหายเกิดขึ้น โดยต้องใช้ หลักฐานดังนี้ 1.1.  ความเสียหายต่อร่างกาย - ใบเสร็จรับเงินจากโรงพยาบาล หรือ สถานพยาบาล หรือหลักฐานการแจ้งหนี้ เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล - ส�ำเนาบัตรประจ�ำตัว หรือส�ำเนา ใบส�ำคัญประจ�ำตัวคนต่างด้าว หรือส�ำเนา

หนังสือเดินทาง หรือหลักฐานอื่นใดที่ทาง ราชการเป็นผู้ออกให้ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ผู้ที่มีชื่อในหลักฐานนั้นเป็นผู้ประสบภัย แล้วแต่กรณี 1.2.  ความเสียหายต่อชีวิต - ส�ำเนามรณบัตร - ส�ำเนาบันทึกประจ�ำวันในคดีของพนักงานสอบสวน หรือหลักฐานอื่นที่แสดงว่าผู้นั้น ถึงแก่ความตาย เพราะการประสบภัยจากรถ - การร้องขอรับค่าเสียหายเบื้องต้น ตาม 1.1 และ 1.2 รวมกันให้มีหลักฐานตาม ข้อ 1.1 และข้อ 1.2

2

หลังเกิดอุบัติเหตุกับรถยนต์   ผู้เสียหายต้องแจ้งให้บริษัทประกันภัย ทราบอย่างไรบ้าง ตอบ : ในการแจ้งอุบัติเหตุ  เมื่อมีความ เสียหายต่อผูป้ ระสบภัยจากรถ ผูเ้ อาประกันภัย หรือผู้ขับขี่ต้องด�ำเนินการดังต่อไปนี้ 2.1.  แจ้งให้บริษัททราบโดยไม่ชักช้า 2.2.  ส่งต่อให้บริษทั ทันทีเมือ่ ได้รบั หมาย ศาล หรือค�ำสั่ง หรือค�ำบังคับของศาล 2.3.  มีหนังสือบอกกล่าวให้บริษัททราบ ทันทีเมื่อมีการด�ำเนินคดีแพ่ง หรือคดีอาญา ทางศาลอันอาจท�ำให้เกิดสิทธิเรียกร้องตาม กรมธรรม์ประกันภัยนี้ ถ้าผู้เอาประกันภัยมิได้ปฏิบัติตามข้อนี้  บริษัทอาจเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจาก ผู้เอาประกันภัย เพื่อความเสียหายใด ๆ  อันเกิดจากการนั้น เว้นแต่ผู้เอาประกันภัย จะพิสูจน์ได้ว่าจะไม่สามารถปฏิบัติได้ เมื่อเกิดเหตุขึ้น ผู้เอาประกันภัยควรรีบ แจ้งให้บริษัททราบโดยเร็ว ทั้งนี้เพื่อบริษัทจะ ได้เข้าไปดูแล และรักษาสิทธิอนั พึงมีพงึ ได้ของ ผูเ้ อาประกันภัยและบริษทั  โดยเฉพาะอย่างยิง่


21

เมื่อผู้เอาประกันภัยถูกฟ้องหรือได้รับหมาย เรียกส�ำเนาฟ้อง ทั้งนี้เนื่องจากตามกระบวน พิจารณาความมักจะก�ำหนดเวลาในการ ด�ำเนินการขั้นตอนต่าง ๆ ไว้  เช่น เมื่อผู้เอา ประกันภัยถูกฟ้อง ผู้เอาประกันภัยจะต้องยื่น ค�ำให้การแก้ฟ้องภายใน 15 วัน มิฉะนั้นศาล อาจสั่งขาดนัดยื่นค�ำให้การ ท�ำให้คดีของผู้ เอาประกันภัยไม่มีประเด็นจะต่อสู้  ท�ำให้เสีย เปรียบรูปคดี  โอกาสแพ้คดีมีมาก จึงต้อง ก�ำหนดให้ผู้เอาประกันภัยส่งหมายศาล ค�ำสั่ง หรือค�ำบังคับให้แก่บริษัทโดยเร็ว เพื่อที่บริษัท จะได้มีเวลาหาแนวทางในการต่อสู้คดี   หรือ เมือ่ ผูเ้ อาประกันภัยจะด�ำเนินคดีไม่วา่ ทางแพ่ง  หรือทางอาญา บริษัทควรมีโอกาสเข้าร่วม พิจารณาด�ำเนินการ ทัง้ นีเ้ พือ่ ประโยชน์รว่ มกัน ทั้งสองฝ่าย การที่ผู้เอาประกันภัยมิได้ปฏิบัติตามข้อ ก�ำหนดดังกล่าว ก็มไิ ด้หมายความว่าจะท�ำให้ บริษทั พ้นความรับผิดตามกรมธรรม์แต่อย่างใด  บริษัทมีสิทธิเพียงเรียกค่าเสียหายอันเกิดจาก การที่ผู้เอาประกันภัย มิได้ปฏิบัติตามข้อ ก�ำหนดดังกล่าวนีเ้ ท่านัน้  โดยบริษทั จะต้องเป็น ฝ่ายพิสจู น์ถงึ ความเสียหายทีเ่ กิดขึน้   แต่แม้วา่ จะเกิดความเสียหายแก่บริษัท เพราะเหตุที่ ผู้เอาประกันภัยมิได้ปฏิบัติตามข้อก�ำหนดนี้ ก็ตาม  ผูเ้ อาประกันภัยก็ไม่ตอ้ งรับผิดต่อความ เสียหายของบริษัท หากตนพิสูจน์ได้ว่าไม่ สามารถปฏิบัติตามข้อก�ำหนดนี้ได้

3

หากรถยนต์ที่ท�ำประกันถูกชนจนเสียหาย  จะได้รับค่าชดเชยทั้งหมดหรือไม่   หรือเป็นจ�ำนวนเท่าใด ตอบ : กรณีที่มีความเสียหายจาก อุบัติเหตุเกิดขึ้น ทางบริษัทประกันภัยมีหลัก เกณฑ์จ่ายค่าชดเชยดังต่อไปนี้ 3.1.  ในกรณีรถยนต์เสียหายสิ้นเชิง  บริษทั จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนเต็มจ�ำนวนเงิน เอาประกันภัย ที่ระบุไว้ในตาราง ในกรณีที่เอาประกันภัยไว้ไม่ต�่ำกว่าร้อย ละ 80 ของมูลค่ารถยนต์ในขณะที่เอาประกัน ภัย ผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์แล้วแต่ กรณี  ต้องโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ให้แก่บริษัท ทันที  โดยค่าใช้จ่ายเป็นของบริษัท และให้ ถือว่าการคุ้มครองรถยนต์นั้นเป็นอันสิ้นสุด

รถยนต์เสียหายสิ้นเชิง ในที่นี้หมายถึง  รถยนต์ได้รับความเสียหายจนไม่อาจซ่อมให้ อยู่ในสภาพเดิมได้  หรือเสียหายไม่น้อยกว่า ร้อยละ 70 ของมูลค่ารถยนต์ในขณะเกิด ความเสียหาย 3.2.  ในกรณีรถยนต์ได้รบั ความเสียหาย แต่ไม่ถึงกับเสียหายสิ้นเชิง บริษัทและ ผูเ้ อาประกันภัยอาจตกลงกันให้มกี ารซ่อม หรือ เปลี่ยนรถยนต์ซึ่งมีสภาพเดียวกันแทนได้ ทั้งนี้รวมทั้งอุปกรณ์ของรถยนต์นั้น  หรือจะ ชดใช้เงินเพื่อทดแทนความเสียหายนั้นก็ได้ ในการซ่อมรถยนต์  หรือในการก�ำหนด จ�ำนวนเงินชดใช้  หากตกลงกันไม่ได้ให้จดั ซ่อม โดยอู่กลางการประกันภัยที่ส�ำนักงานคณะ กรรมการก�ำกับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัย แต่งตั้ง ข้อจ�ำกัดความรับผิดของบริษัท ในกรณีที่มีความจ�ำเป็นต้องสั่งอะไหล่ จากต่างประเทศ บริษัทรับผิดไม่เกินกว่าราคา น�ำเข้าที่ส่งมาทางเรือ หากท่านมีขอ้ สงสัยทีต่ อ้ งการสอบถาม  เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องของประกันภัย  ฝาก  ค�ำถามไว้ได้ที่ suwats@viriyah.co.th   กระผมจะเข้ามาตอบค�ำถามให้นะครับ  แล้วพบกันฉบับหน้าครับ...

ตุลาคม-ธันวาคม 2554


สัมภาษณ์

22

กนกวรรณ โสภณวัฒนวิจิตร ภาพ : ประเวช ตันตราภิรมย์

พล.ต.ต. ภาณุ เกิดลาภผล

กับบทบาท “นายต�ำรวจบริหารงานด้านจราจรดีเด่น” ปัญหาจราจรนับเป็นปัญหาส�ำคัญส�ำหรับคนกรุงเทพฯ ไม่วา่ จะมีรถส่วนตัวหรือไม่มกี ย็ ากจะหลีก เลี่ยงได้  V magazine ฉบับนีพ ้ าไปพูดคุยกับผูท้ มี่ บี ทบาทส�ำคัญยิ่งในการแก้ไขปัญหาจราจรทัง้ ระบบ ทัง้ ยังมีประสบการณ์ดา้ นงานจราจรมากว่า 14 ปี โดยด�ำรงต�ำแหน่งก่อนหน้านีค้ อื ผูบ้ งั คับ การต�ำรวจจราจร  นอกจากนีย้ งั เป็นผูร้ เิ ริม่ ระบบกล้องตรวจจับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง  ท่านผู้ นีค้ อื พล.ต.ต. ภาณุ เกิดลาภผล รองผูบ้ ญ ั ชาการต�ำรวจนครบาล  โดยจะพูดในประเด็นการแก้ไข ปัญหาจราจรและความร่วมมือกับบริษัท  วิริยะประกันภัย  จ�ำกัด  และ จส. 100 ท�ำโครงการ “ปัน น�้ำใจช่วยเหลือรถเสียในทาง”

ปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ เกิดจากสาเหตุใด ปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ บ้านเรา การพัฒนาระบบรางค่อนข้างช้ามาก  นครหลวงใหญ่ ๆ แบบนีอ้ ย่างน้อยระบบรางต้องมีแปดถึงเก้าสายขึน้ ไป  จริง ๆ ปี  2552-53 เราควรต้องมีหมดแล้ว คราวนีพ้ อเราพัฒนาช้า ปัญหาคือคนระดมซือ้ รถ ตอนนีร้ ถยนต์ในกรุงเทพฯ มีประมาณ 4 ล้านคัน มอเตอร์ไซค์เกือบ 2 ล้านคัน  อัตราการเพิม่ ของรถยนต์ตงั้ แต่มกราคม-เมษายนทีผ่ า่ นมา  รถยนต์ จดทะเบียนใหม่เฉพาะในกรุงเทพฯ วันละ 1,468 คัน มอเตอร์ไซค์วันละ 1,124 คัน ฉะนั้ น ปั ญ หาก็ ม าทั บ ถมอยู ่ ใ นถนนในกรุ ง เทพฯ  ซึ่ ง มี ค วามยาวแค่ ป ระมาณ  5,000 กว่ากิโล  ในขณะเดียวกันรถยนต์เพิ่มความยาวมาต่อกันวันนึงประมาณ 6 กิโลในเลนเดียว ฉะนั้นเมื่อรถยนต์เยอะ ถนนน้อยลง มันก็ติดขัดมากขึ้น  อุบัติเหตุต่าง ๆ เหมือนจะมากขึ้นตาม ปริมาณรถ  จากวินยั ของคนขับ ความเร่งรีบจากการติดขัดท�ำให้คนใจร้อน เช้า ๆ เคยออกจากบ้าน 6 โมง แต่ตอนนี้ 6 โมงก็ติดแล้ว  การเร่งรีบไปท�ำงาน ก็ท�ำให้อุบัติเหตุเกิดขึ้นตลอดเวลา  ดังนั้น อะไรก็ตามที่เป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง เช่น รถตาย รถเสีย รถเกิดอุบัติเหตุท�ำให้รถติดทั้งนั้น  ตอนนี้ทั้งกรุงเทพฯ ถนนที่มีรถติดอันดับ 1 คือ เพชรเกษม รองลงมาคือพระราม 4 และ สุขมุ วิท ลาดพร้าวก็อยูใ่ นกลุม่ สูงเหมือนกัน มันก็ไล่ไป แล้วยังลามไปถึงรามอินทรา เลยไปถึง กม. 8 ถนนบ้านเราเป็นลักษณะวิง่ เข้าเมืองและจะมีซอยสองฝัง่ ของถนน  เช้าซอยอีกฝัง่ จะมายูเทิรน์ เพือ่ เข้าเมือง เย็นก็สลับกัน  มันจะเป็นอย่างนีส้ ะดุดตลอดทาง  บ้านเราดีไซน์ถนนเป็นก้างปลาทุก เส้นเหมือนกันหมดทั้ง ถ. เพชรเกษม สุขุมวิท ลาดพร้าว พูดถึงไฟจราจร ของเมืองนอกใช้คอมพิวเตอร์คุม ถ้าไฟเขียวมันจะเขียวเป็นแถวไปเรื่อย แต่ กรุงเทพฯ คุมสัญญาณไฟเขียวไฟแดงไม่เป็นระบบอัตโนมัต ิ หนึง่ แยกก็คอื ตัง้ อิสระของตัวเอง  ของ เราใช้เครื่องค�ำนวณไม่ได้  เพราะถนนเราไม่เป็นเส้นตรงและถนนเล็กกว้างไม่เท่ากัน  กทม. เคย ลงทุนประมาณเกือบพันกว่าล้าน ท�ำคอมพิวเตอร์อย่างที่เขาค�ำนวณ ก็ท�ำไม่ได้   เราให้ญี่ปุ่นมา ศึกษาเขาก็หนีกลับ บอกว่ารถบ้านเรามัน over estimate ในเส้นทาง คือเกินระดับที่เครื่องจะ ค�ำนวณได้

รถไฟฟ้าช่วยบรรเทาการจราจรได้หรือไม่ บ้านเรารถไฟฟ้าช่วยได้เยอะ ตอนนี้ขาด ไม่ได้แล้ว  รถไฟฟ้าทุกวันนี้มี  20 กิโลเมตร มันน้อยเกินไป และของเรามันสัน้  มันต้องลาก จากบางกะปิหรือมีนบุรีเข้ามา รังสิตเข้ามา หนองแขมเข้ามา ส�ำโรงเข้ามา  เส้นหลัก ๆ น่า จะมีเพือ่ บรรเทาลาดพร้าว สุขมุ วิท เพชรเกษม วิภาวดี  ให้ได้   สี่เส้นนี้ลากเข้ามาก่อน วิ่งเข้า มา 15-20 นาทีก็ถึง ในอนาคตผมก็ ยั ง อยากให้ เ ราพั ฒ นา ระบบรางให้เร็วทีส่ ดุ  ยาวทีส่ ดุ  รถยนต์คงจะแก้ ล�ำบากในการที่จะไม่ให้ติดขัด เพราะว่าบ้าน เมืองเราลักษณะการขยายเป็นการขยายไปสู่ ชานเมือง ปัญหาที่เกิดขึ้นคือทุกคนต้องซื้อรถ ดิ้นรนซื้อรถ  อันนี้ก็เป็นปัญหาที่เราเจอ ต�ำรวจจราจรมีบทบาทและหน้าที่อย่างไร ต�ำรวจก็เป็นกลไกหนึ่งที่จะขับเคลื่อนใน การบริหารงานจราจร  ต�ำรวจมีสองหน้าทีห่ ลัก คือ การบริการและบังคับใช้กฎหมาย  การ บริการก็คือที่เราเห็นเปิดสัญญาณไฟและโบก รถทั้งหลาย  ท�ำยังไงให้รถไปถึงที่หมายเร็ว ที่สุด  นอกจากอ�ำนวยความสะดวกปกติแล้ว กรณีรถตายรถเสียก็ตอ้ งเอาออกจากผิวถนนให้ เร็วที่สุด  ส่วนการบังคับใช้กฎหมายคือการ กวดขันระเบียบวินยั ของคน ขับรถให้ถกู กฎทุก อย่าง ไม่ให้คนฝ่าไฟแดง ไม่ให้คนท�ำผิดกฎ จราจร รวมทัง้ อีกหน้าทีห่ นึง่ ก็คอื  อุบตั เิ หตุจราจร ก็ เ ป็ น หน้ า ที่ ห นึ่ ง ของต� ำ รวจจราจรในการ พยายามน�ำคนที่เกิดเหตุออกจากท้องถนนให้ เร็วที่สุด ให้ตกลงกันง่ายที่สุด เร็วที่สุด ท�ำให้ มาเกี่ยวข้องกับในหน้าที่ของประกันภัยต่าง ๆ มันก็เลยสัมพันธ์กันค่อนข้างจะใกล้ชิดกับการ ประกันภัย  ทางสมาคมประกันวินาศภัย เราก็ มีสว่ นร่วมในการพูดคุย โดยเฉพาะเรือ่ งการจะ ช่วยกันแก้ไขปัญหาจราจรได้อย่างไรทั้งใน หน้าทีข่ องต�ำรวจและประกัน  ฉะนัน้ ประกันจะ มีส่วนช่วยตรงนี้มาก ๆ


23

ผู้ใช้รถจะหาข้อมูลการเดินทางได้จากทางใด เมื่อไหร่ที่ขับรถออกจากบ้านควรฟังวิทยุสาม สถานี ห ลั ก คื อ   จส. 100  สวพ. 91  และสถานี จราจรเพื่อสังคม คลื่น 99.5  แนะน�ำอีกอย่างคือ ควรมีเนวิเกเตอร์  (navigtor) ถ้าใครไม่ม ี เรามีหมาย เลขโทรศัพท์บริการให้โทรฯ สอบถามเส้นทางได้ที่ 1197  เรามีพนักงานรับโทรศัพท์และแจ้งทางวิทยุ เพื่ อ สั่ ง การให้ ต� ำ รวจไปช่ ว ยแก้ ไ ข    หรื อ โทรฯ 1137 ของ จส. 100 หรือ 1644 ของ สวพ. 91 และ 1125 ของสถานีจราจรเพื่อสังคม  และเรายังมีเว็บ www.trafficpolice.go.th ทีใ่ ห้ความรูท้ วั่ ไป เรือ่ งร้อง เรียน เรือ่ งกฎหมาย คือสงสัยอะไรเข้าไปถาม เรามี คนตอบให้   รวมทัง้ โครงการจราจรตาเพชร  คือหาก เราเจอคนท�ำผิดกฎบนท้องถนน เช่น ไม่ตดิ แผ่นป้าย จอดรถเกะกะกีดขวาง ก็ถา่ ยภาพส่งเข้าเว็บเรา และ เราจะส่งคนไปจัดการตามที่ร้องเรียน  เว็บนี้ทาง วิรยะฯ เป็นสปอนเซอร์ด้วย ความยากง่ายในการคลี่คลายปัญหา กรณีรถชนกันระหว่างมีประกัน กับไม่มีประกัน ต่างกันเยอะ ไหม ต่างกันมากเลย คือ มี ป ระกั น อย่ า งน้ อ ย ผู ้ ขั บ ขี่ ส บายใจ ร้อยเวรสบาย ใจ เพราะว่า


24

ตัวแทนประกันจะมีการอบรมถึงความผิด-ถูก ความรับผิดชอบ  เพียงแต่ผปู้ ระสบเหตุแจ้งประกัน ประกันก็จะมาดูรว่ มกับต�ำรวจและออกใบเคลมไปซ่อมได้เลย  ภาระของตัวผูป้ ระกันก็ไม่ม ี เพราะ รู้อยู่แล้วว่าจะไปซ่อมอู่ไหนในเครือของประกัน แต่ถ้าเราไม่มีประกันจะหนัก หนักทั้งตัวเจ้าของเองและร้อยเวร เนื่องจากว่าค่าเสียหายเท่า ไหร่  ใครจะเป็นคนตี  ใครจะไปหาอูม่ าตีคา่ เสียหาย จะตกลงกันอย่างไร จะไปซ่อมอูไ่ หน มันวุน่ ไป หมด  ฉะนั้นผมว่าเราเข้าสู่ระบบสากลดีกว่า คือต่างประเทศเขาบังคับเลยนะว่ารถทุกคันต้อง ประกัน ไม่ว่าประเภทไหนก็ตามต้องประกัน  ประกันนี่ช่วยทุกอย่าง ช่วยตัวผู้ขับขี่  ช่วยต�ำรวจ และช่วยการจราจรด้วย เราเคยคุยกันถึงเรื่องการประกัน hit to hit ชนแล้วแยก แลกใบเคลม  ทางประกันต่าง ๆ ก็นำ� ไปปฏิบตั  ิ แต่ยงั ไม่คอ่ ยแพร่หลายเท่าไหร่  เรายังอยากให้มกี ฎหมายบังคับให้รถทุกคันทีอ่ ยูบ่ น ถนนต้องมีประกันประเภทนี้  เพื่อช่วยแก้ปัญหาจราจร  มันก็จะลดภาระของเจ้าหน้าที่ต�ำรวจ และการติดขัดบนท้องถนน ซึ่งเราอยากให้เกิดจริง ๆ

อะไรที่เกี่ยวกับสิ่งที่เป็นประโยชน์  เกี่ยวกับการบริก ารของต�ำรวจ ทางวิริยะฯ ไม่เคยขัดข้อง   รวมทั้งโครงการต่างๆ ที่ต�ำรวจ พยายามร่วมกับหน่วยอื่น   รณรงค์ก ารสวมหมวกกันน็อก  ร่วมกับทางชมรมคนห่วงหัว  หรือมูลนิธิเมาไม่ขับ ทางวิริยะฯ  ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุน

ในการร่วมมือกับทางบริษัทวิริยะประกันภัยมีอะไรบ้าง ตัวผมเองจะสนิทกับวิรยิ ะฯ ค่อนข้างมาก เพราะวิรยิ ะฯ มาช่วยเราหลาย ๆ ด้าน  โครงการที่ เด่น ๆ ของวิรยิ ะฯ คือ “โครงการปันน�ำ้ ใจช่วยเหลือรถเสียในทาง” ร่วมกับ จส. 100 วิรยิ ะประกันภัย ต�ำรวจ และพวกอาสาที่เป็นช่างต่าง ๆ  วิริยะฯ คิดโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อให้ต�ำรวจช่วยหาช่าง ตามอูต่ า่ ง ๆ ทัว่ กรุงเทพฯ มาเป็นช่างอาสา เข้าไปช่วยเหลือเบือ้ งต้นแก่รถเสียรถตายในทาง  ทาง เราก็มีจราจรโครงการพระราชด�ำริ  ฝึกเป็นต�ำรวจช่างประมาณแปดคน  ชาวบ้านรถเสียรถตายก็ โทรฯ ไป จส. 100 หรือ 1137  ทาง จส. 100 ก็ประสานกับช่างจากโครงการพระราชด�ำริบ้าง จากช่างอาสาบ้าง เพื่อช่วยเหลือแก้ไขเบื้องต้น ค่าใช้จา่ ยทีเ่ กิดขึน้ จากช่างอาสาก็ด ี ต�ำรวจก็ด ี ทางวิรยิ ะฯ รับผิดชอบให้  รวมทัง้ ค่าน�้ำมันของ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เบี้ยเลี้ยงของผู้ปฏิบัติงานด้วย เป็นความร่วมมือซึ่งช่วยได้เยอะ   ผมประทับใจเขาตรงนี้ว่าเขามาช่วยจริง ๆ และก็ไม่ได้ช่วยปีเดียว แต่ช่วยตั้งแต่ท�ำโครงการ และยาวต่อเนื่องมาเลย  อะไรที่เกี่ยวกับสิ่งที่เป็นประโยชน์  เกี่ยวกับการบริการของต�ำรวจ ทาง วิรยะฯ ไม่เคยขัดข้อง รวมทั้งโครงการต่าง ๆ ที่ต�ำรวจพยายามร่วมกับหน่วยอื่น รณรงค์การสวม หมวกกันน็อก 100% ร่วมกับทางชมรมคนห่วงหัว มูลนิธิเมาไม่ขับ เขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุน หมวก อุปกรณ์  เพื่อให้ต�ำรวจไปแจกจ่ายให้คนที่ไม่มีหรืออยากได้  ซึ่งเราก็ไปท�ำโครงการร่วมกัน บ่อย ๆ  รวมทัง้ วิรยิ ะฯ มาเป็นส่วนหนึง่ ของคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนคดีอบุ ตั เิ หตุ  เราตัง้ เครือ ข่ายตรงนีเ้ ขาจะมาร่วมในแง่ของประกันภัย  อันนีก้ เ็ ป็นตัวอย่างความร่วมมือทีเ่ ราท�ำร่วมกัน  และ มีอะไรอีกมากมายหลายอย่าง การรณรงค์ชว่ งเทศกาลต่าง ๆ ปีใหม่หรือสงกรานต์กด็  ี ทีม่ ปี ระชาชนเดินทางออกต่างจังหวัด เยอะ ๆ ทางวิริยะฯ กึ่งจะเป็นแกนหลักด้วยซ�้ำมาช่วยรณรงค์   เครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ต่าง ๆ ป้าย ค�ำขวัญ เขาก็จะมาช่วยต�ำรวจจราจรในกรุงเทพฯ ส่วนหนึ่ง และส่วนหนึ่งก็ไปช่วยต�ำรวจ ทางหลวง เป็นการรณรงค์ให้ความรูแ้ ก่ผขู้ บั ขี ่  ทัง้ หมดนีเ้ ป็นสิง่ ทีเ่ ราท�ำร่วมกัน ซึง่ วันนีเ้ ลยเหมือน ว่าเป็นพี่น้องผูกพันกัน  คิดอะไรไม่ออก ก็คิดถึงเขาก่อนในการใช้ประกัน


รู้รักษ์สุขภาพ

25

ธิษณา จรรยาชัยเลิศ ภาพประกอบ : เซมเบ้

2 เรื่องที่นักดื่มต้องรู้ ดื่มแอลกอฮอล์ลดความเสี่ยง ต่อการเกิดโรคหัวใจ

พออ่านหัวเรื่องจบนักดื่มหลายท่านคงมีเฮ… ดื่มแอลกอฮอล์ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจได้จริง ๆ แต่ขอเน้น สักนิดว่าต้องดื่มในปริมาณที่เหมาะสม แม้จะมีหลายงานวิจัยที่ออกมาสนับสนุนว่าการดื่มเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์สามารถช่วยลดอัตราการเกิดโรคหัวใจ และช่วยลดความเสี่ยง ต่อการเกิดเส้นเลือดในสมองตีบได้จริง  แต่การดื่มที่จะให้ประโยชน์ต่อ สุขภาพนั้นควรดื่มไม่เกินวันละ 1 ดริงก์ในผู้หญิง และ 1-2 ดริงก์ในผู้ชาย ส�ำหรับปริมาณ 1 ดริงก์นั้นจะเท่ากับ เบียร์  1 กระป๋อง (360 มล.)  ไวน์  1 แก้ว (120 ซีซี) หรือ วิสกี้  1 แก้ว  แต่ทั้งนี้จะไม่มีผลกับผู้ใหญ่ที่มี ประวัติติดเหล้า หรือมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณน้อยนั้นให้ประโยชน์  แต่ในทางกลับ กัน หากดื่มในปริมาณมากก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างมหาศาล จากรายงานการวิจัยเรื่องผลของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อการท�ำงานของ หัวใจพบว่า การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากกว่า 5-6 ดริงก์ต่อวัน มีความสัมพันธ์กับการเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ  และมีความสัมพันธ์กับ อัตราการเสียชีวิตแบบเฉียบพลัน (sudden cardiac death)  “หากรู้อย่างนี้แล้วเลี้ยงสังสรรค์ในครั้งต่อไปก็อย่าลืมดื่มแต่น้อย เพื่อสุขภาพนะคะ”

ทุเรียนกับเหล้า เข้ากันไม่ได้

กินทุเรียนแกล้มเหล้า อาจถึงตาย… ปัจจุบันด้วยความ ก้าวหน้าทางวิทยาการและงาน วิจัยทางชีวเคมีได้ช่วยเน้นย�้ำอีกทีว่า ทุเรียนกับเหล้าเข้ากันไม่ได้จริง ๆ เมื่อเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายจะถูก ดูดซึมผ่านกระเพาะอาหารและล�ำไส้เล็กเพื่อเข้าสู่กระแสเลือด จากนั้น แอลกอฮอล์บางส่วนจะถูกเปลี่ยนให้อยู่ในรูปของสารพิษ  ร่างกายเมื่อรับ รู้ว่ามีสิ่งอันตรายตกค้างอยู่ก็รีบหลั่งสารทางชีวเคมีออกมาเพื่อรีบก�ำจัด สารพิษนั้น  แต่นักดื่มเจ้ากรรมดันกินทุเรียนเข้าไปด้วย สารซัลเฟอร์ซึ่งมี ปริมาณมากในทุเรียนจึงเข้ายับยั้งไม่ให้ร่างกายก�ำจัดสารพิษที่เกิดขึ้นได้  ผลก็คือสารพิษตกค้างอยู่ในกระแสเลือดในปริมาณมาก ท�ำให้เกิดอาการ คลื่นไส้อาเจียน หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ  ช็อก และอาจน�ำไปสู่การเสียชีวิตได้ ทางทีด่ ที เุ รียนกับเครือ่ งดืม่ ทีม่ แี อลกอฮอล์ไม่กนิ พร้อมกันน่าจะดีกว่า  แต่ถึงจะกินไม่พร้อมกันอย่างไร ก็เป็นที่น่าสังเกตว่าอาหารสองชนิดนี้ กินในปริมาณมากแล้วสามารถท�ำให้อ้วนได้  ทุเรียนและแอลกอฮอล์ต่างให้พลังงานสูงทั้งคู่  ทุเรียนชะนีชิ้นเล็ก ๆ ขนาด 2 นิ้ว ให้พลังงานเกือบเท่าข้าว 1 ทัพพี  ส่วนเบียร์  1 กระป๋อง ก็ให้พลังงานเท่ากับข้าวถึง 1 ทัพพีครึ่ง  กินกันหลายชิ้นหลายกระป๋อง พลังงานที่ร่างกายได้รับก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี   พลังงานเหล่านี้หากไม่ถูก เผาผลาญจากการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างเพียงพอก็จะแปรสภาพเป็น ไขมันและสะสมอยู่ตามอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ท�ำให้น�้ำหนักเพิ่ม ขึ้นอย่างไม่รู้ตัว “ถึงจะกินแยกกันอย่างไรก็ต้องควบคุมปริมาณด้วยนะคะ ไม่งั้นละก็ อ้วนอันตรายแน่ ๆ”

เอกสารอ้างอิง ชนิดา ปโชติการ. 2553.  อาหารและสุขภาพ. ส�ำนักพิมพ์เสริมมิตร, กรุงเทพฯ.

John S. Maninang, Ma. Concepcion C. Lizada and Hiroshi Gemma.   Inhibition of aldehyde dehydrogenase enzyme by Durian (Durio zibethnus Murray) fruit extract.  Food Chemistry. 2009; 117: 352-5. Wannamethee G, Shaper AG.  Alcohol and sudden cardiac death. Br Heart J 1992;  68:  443-8.

ตุลาคม-ธันวาคม 2554



รอบรั้ววิริยะประกันภัย

ลงนามถวายพระพร

27

1 2 3 4

กองบรรณาธิการ

คณะผู้บริหารระดับสูง พร้อมด้วยพนักงานบริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด ร่วมลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช  และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์  อัครราชกุมารี  ณ ศาลาศิริราช 100 ปี  และอาคารสยามินทร์  โรงพยาบาลศิริราช พร้อมทูลเกล้าฯ  ถวายพิมเสนน�้ำและยาหม่องน�้ำ จ�ำนวน 3,000 ขวดด้วย

วิริยะประกันภัยมอบสินไหมแก่  พ.ต. พญ. หทัยพร อิ่มวิทยา

บริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด โดยนายพงษ์ศักดิ์  เท็กกิ้ม ผู้จัดการศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทน วิภาวดี  และนายนิเวศน์  สุรพัฒน์พิศิษฐ์  หัวหน้าส่วนสินไหมทดแทน ในฐานะผู้แทนบริษัทฯ ร่วมมอบ สินไหมทดแทนกรณีประสบอุบัติภัยอันเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์  จ�ำนวน 204,000 บาท พร้อมกับ มอบกระเช้าเพื่อเป็นก�ำลังใจแก่  พ.ต. พญ. หทัยพร อิ่มวิทยา ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

สนับสนุนวันชมรมเยาวชนรักความปลอดภัย ครั้งที่  12

นางสาวกานดา วัฒนายิ่งสมสุข ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด  ในฐานะผู้แทนบริษัท ร่วมรับมอบใบประกาศเกียรติคุณในโอกาสร่วมสนับสนุนการจัดงานวันชมรม เยาวชนรักความปลอดภัย ครั้งที่  12 ประจ�ำปี  2554 ซึ่งคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์การป้องกัน อุบัติภัยแห่งชาติ  จัดขึ้นเพื่อการรณรงค์กิจกรรมป้องกันอุบัติภัยและสร้างจิตส�ำนึก วินัย วัฒนธรรม  รวมทั้งวิถีชีวิตด้านความปลอดภัยให้แก่เยาวชน

วิริยะประกันภัยมอบตู้หนังสือสนับสนุนโครงการพี่เพื่อน้อง จากผองเพื่อนชาวประกัน

นางสาวกานดา วัฒนายิ่งสมสุข ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด มอบตู้หนังสือและอุปกรณ์การเรียน เพื่อสนับสนุน ด้านการศึกษาและสร้างเสริมนิสัยรักการอ่านให้กับนักเรียนในถิ่นทุรกันดารจ�ำนวนสี่โรงเรียน ได้แก่  โรงเรียนบ้านท่าเสลา โรงเรียนบ้านลิ้นช้าง โรงเรียน บ้านยางน�้ำกลัดเหนือ และโรงเรียนบ้านพุพลู  โดยมีนายรัฐพล นิโครธานนท์  นายอ�ำเภอหนองหญ้าปล้อง เป็นผู้รับมอบตามโครงการ “พี่เพื่อน้อง  จากผองเพื่อนชาวประกันปีที่  8” ซึ่งนิตยสาร ไทยแลนด์  อินชัวรันส์  ร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจัดขึ้น ณ โรงเรียนบ้านท่าเสลา จ. เพชรบุรี ทั้งนี้คุณกานดาได้น�ำทีมพนักงานวิริยะประกันภัยร่วมกันทาสีอาคารเรียน และห้องน�้ำภายในโรงเรียนท่าเสลา พร้อมร่วมบริการอาหารให้กับเด็ก ๆ  นักเรียนและประชาชนที่มาร่วมงานด้วย


รักลูกให้ด  ี

28

นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ภาพประกอบ : เซมเบ้

ก่อนหน้าจะเขียนต้นฉบับนี้มีรายการโทรทัศน์มาขอสัมภาษณ์ผมออกทีวี    ระหว่างสัมภาษณ์มีเหตุขลุกขลักมากมาย แสงไม่พอ ไฟไม่พอ เสียงก่อสร้าง   เสียงน�้ำพุ และผมเองพูดไม่รู้เรื่อง เดิมก็เป็นคนพูดไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว บางครั้งผู้ก�ำกับ  ยังให้ยกมือยกไม้ประกอบแบบนักแสดงก็ยิ่งไปกันใหญ่  หลังสัมภาษณ์เสร็จผม  ท�ำนายว่าอะไรที่พูดไปคงถูกตัดต่อจนฟังไม่ได้ความอยู่ดี  จึงน�ำค�ำสัมภาษณ์วันนั้น  มาเขียนใหม่

เขาถามผมสี่ข้อ เป็นคำ�ถามสี่ข้อที่ดีมาก

วิธีเลี้ยงลูกอย่างสั้นที่สุด


29

คำ�ถามที่ 2 ถามว่าครอบครัวที่ดี เป็นอย่างไร  ผมตอบว่าครอบครัวที่ดีคือครอบครัวที่ มีเวลาให้กันมาก ๆ  ปริมาณของเวลาเป็น เรื่องสำ�คัญอันดับต้น ๆ ถ้าเรามีเวลาให้กัน และกันมากอะไร ๆ ก็ดีเอง  พ่อแม่ที่มีเวลา ให้ลูกเยอะ ๆ จะเห็นทั้งส่วนที่น่ารักและส่วนที่ น่ารำ�คาญของลูก ๆ  พ่อแม่ที่ไม่มีเวลาให้ลูก เข้าบ้านด้วยอารมณ์หงุดหงิด มักเห็นแต่ข้อ เสียของลูก เช่น เก็บของไม่เรียบร้อย เวลา ลูกทำ�ความดี  เช่น ช่วยล้างจาน กลับไม่ได้ เห็นไม่ได้ชื่นชม ทำ�ให้อะไรต่ออะไรดูแย่ลงไป เรื่อย ๆ  ปริมาณของเวลาจึงเป็นเรื่องสำ�คัญ

คำ�ถามที่ 1 ถามว่าครอบครัวคืออะไร ผมตอบว่าครอบครัวคือ “มีอย่างน้อย หนึ่งคนให้เด็กเล็กสามารถผูกพันด้วยในระยะ ยาว” เขาอนุญาตให้ตอบเท่านี้  ไม่ให้อธิบาย ต่อไปนี้เป็นคำ�อธิบาย  ผมคิดว่าสังคม ปัจจุบันครอบครัวไม่มีโอกาสอยู่กันพร้อม หน้าอีกแล้ว  สังคมเมืองพ่อแม่ต่างไปทำ�งาน  สังคมชนบทก็เช่นกัน เด็กเล็กต้องอาศัยอยู่ กับปู่ย่าตายาย พี่เลี้ยงที่บ้านหรือพี่เลี้ยงที่ ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก  ในสภาพสังคมที่ครอบครัว เสมือนแตกแยกหรือแตกแยกจริงเช่นนี้  จำ�เป็นมากที่สุดที่เด็กเล็กจะต้องผูกพัน หรือสร้างสายสัมพันธ์กับผู้ใหญ่ให้ได้อย่าง น้อยหนึ่งคน  คำ�ว่า “สายสัมพันธ์” มาจาก คำ�ว่า attachment ซึ่งหมายถึงความสัมพันธ์ ที่แน่นแฟ้น ลึกซึ้ง และยาวนานตลอดกาล เสมือนแม่กับลูกเช่นนั้น  วิธีการคือเลี้ยงเขา และเล่นกับเขาให้มากที่สุด บ่อยที่สุดเท่าที่ จะทำ�ได้  และแน่นอนว่ามิใช่ทำ�ไปด้วยหน้าที่ แต่ทำ�ไปด้วยความรักที่เปี่ยมล้นและไม่มี เงื่อนไข สายสัมพันธ์จะทำ�หน้าที่  “ดึงรั้ง” ให้ เด็กอยู่กับเราทางใจตลอดไป ไม่เฉไฉเข้าหา อบายมุข มีความสามารถควบคุมตนเอง และมีความมุ่งมั่นที่จะพุ่งไปสู่อนาคต ในอดีตเราเคยเรียกร้องให้คุณแม่ทำ� หน้าที่นี้  ตอนนี้ผมเรียกร้องใครก็ได้ทำ�หน้าที่นี้

ครอบครัวที่ดีคือครอบครัว  ที่มีเวลาให้กันมากๆ  ปริมาณของเวลาเป็นเรื่อง สำ�คัญอันดับต้นๆ ถ้าเรามีเวลาให้กันและกันมาก  อะไรๆ ก็ดีเอง

คำ�ถามที่ 3 ถามว่าคุณหมอตั้งเป้าหมาย  ของการเลี้ยงลูกอย่างไร ผมตอบว่าผมอยากให้ลูกมีความสุข ไม่ทำ�ความเดือดร้อนให้คนอื่น และสามารถ ทำ�ประโยชน์ให้แก่คนอื่น  อันที่จริงคำ�ตอบ สามข้อนี้คือความหมายกว้าง ๆ ของคนที่มี สุขภาพจิตดี   ข้อแรกคือมีความสุข ซึ่งเถียง กันได้มากว่าแปลว่าอะไรและทำ�อย่างไร  อันนี้ผมคิดว่าให้ลูกไปคิดเอาเอง ข้อ 2 คือไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ คนอื่น  ข้อ 3 สำ�คัญที่สุดและอาจจะสำ�คัญ กว่าสองข้อแรกคือสามารถทำ�ประโยชน์ให้แก่ ผู้อื่น ใจดีกับผู้คน ช่วยเหลือคนอื่น  การให้ การบำ�เพ็ญประโยชน์  ความเมตตากรุณา  เหล่านี้เป็นคุณสมบัติและความสามารถที่ ต้องการการฝึกฝนให้เคยชินเป็นนิสัย ทำ�แล้ว ก็จะมีสุขภาพจิตดี  ทำ�บ่อย ๆ ก็จะเป็นคนมี ความสุขไปเอง ข้อ 3 จึงสำ�คัญที่สุด

คำ�ถามที ่ 4 ถามว่าคุณหมอเลีย้ งลูกอย่างไร ผมตอบว่าผมสอนให้ลูกรู้จักลำ�บากก่อน สบายทีหลัง ให้เขาทำ�งานบ้านก่อนแล้วค่อย ไปเล่นได้  ให้เขาทำ�การบ้านก่อนแล้วค่อยดู หนังได้  ให้เขารู้จักสนุกแต่ก็ต้องรู้จักหยุดสนุก ด้วย ให้เขามีความสามารถถอนตัวจากความ สนุกกลับบ้าน  พูดง่าย ๆ ว่าให้เขามีความ สามารถในการควบคุมตนเอง  พูดสั้น ๆ คือ มีวินัย วินัยคือความสามารถในการควบคุม ตนเองจากภายใน ซึ่งมิใช่เรื่องของศีลธรรม หรือจริยธรรม แต่เป็นเรื่องของสายสัมพันธ์ที่ มีกับพ่อแม่และเป็นเรื่องทักษะคือ skill ดังนั้นวินัยมิได้เกิดจากการเทศนาสั่งสอนหรือ ถือศีลกินเจ  มิได้เกิดจากครูใหญ่อบรมหน้า เสาธง  แต่เกิดจากพ่อแม่สามารถผูกพัน กับลูก  ลูกมีสายสัมพันธ์กับพ่อแม่  คือ  attachment  สายสัมพันธ์นี้มองด้วยตาเปล่า ไม่เห็นและทอดยาวไกลได้ไม่สิ้นสุด ลูกไป เรียนต่างจังหวัดหรือต่างประเทศก็ยังคงมี สายสัมพันธ์ต่อตรงมายังพ่อแม่อยู่เสมอ ลูก ก็จะไม่เลี้ยวเข้าหาอบายมุขโดยง่าย เป็นคน มีความยับยั้งชั่งใจ จะฝ่าไฟเหลืองก็รู้จักเบรก  จะนอนกับเพศตรงข้ามก็รู้จักป้องกันตัว พบเพื่อนชวนเสพยาก็คิดถึงพ่อแม่ก่อนตัดสิน ใจเสพ เป็นต้น  จะเห็นว่าการควบคุมมา จากภายใน มิใช่มาจากภายนอก พ่อแม่ไม่มี ปัญญาตามเขาทุกฝีก้าว “ลำ�บากก่อนสบายทีหลัง” และ “ถอน ตัวจากความสนุก” นอกจากจะเกิดจากวินัย ภายในแล้ว ยังเป็นทักษะที่ต้องฝึกฝนและ ต้องการโค้ชคือพ่อแม่คอยฝึกฝน  พ่อแม่ที่ ปล่อยปละละเลยไม่ฝึกฝนทักษะเหล่านี้เป็น พ่อแม่ที่รักลูกแต่ปาก หากทำ�ร้ายลูกด้วย การกระทำ�  ในอนาคตลูกต้องเผชิญอบายมุข และปิศาจอีกมาก เขาต้องอดทนที่จะผ่านไป และอดทนที่จะไม่ลุ่มหลง ไม่มีใครเก่งเรื่อง แบบนี้ตั้งแต่เกิด ต้องฝึก ผมตอบคำ�สัมภาษณ์ทั้งสี่ข้อสั้นมาก  ผู้ผลิตรายการว่าจะไปตัดต่อให้เหลือ 1 นาที  ตุลาคม-ธันวาคม 2554


เยือนลานธรรม

30

“กนก” ภาพ : ประเวช ตันตราภิรมย์

สงบใจและกาย ที่สวนโมกข์กรุงเทพฯ ในเมืองมหานครซึ่งเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายอย่างกรุงเทพฯ มีสถานที่แห่งหนึ่งเหมาะ ส�ำหรับผู้ต้องการปลีกตัวจากความเคร่งเครียดเร่งรีบทั้งหลาย หลบมาพักกายผ่อนคลายจิตใจใน บรรยากาศสงบร่มรืน่  เพือ่ เติมพลังชีวติ ให้พร้อมเดินหน้าต่อไป  สถานทีแ่ ห่งนีค้ อื   หอจดหมายเหตุ พุทธทาส อินทปัญโญ หรือเรียกกันทัว่ ไปว่า สวนโมกข์กรุงเทพฯ ตัง้ อยูใ่ นบริเวณสวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟ ไม่ไกลจากสวนจตุจักร แหล่งชอปปิงยอดนิยมของชาวกรุง สวนโมกข์กรุงเทพฯ เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อปี  2553 นี้เอง เป็นสถานที่ที่มิได้เพียงเก็บรักษา อนุรักษ์  ศึกษาค้นคว้า และเผยแผ่ผลงานของท่านพุทธทาสเท่านั้น  แต่ยังเปิดกว้างให้คนทั่วไป เข้าไปสัมผัสเพื่อเข้าถึงหัวใจของศาสนาตามปณิธานของท่านพุทธทาสด้วย  ดังนั้นใครที่ยังหา โอกาสไปสวนโมกขพลาราม ที่  อ. ไชยา จ. สุราษฎร์ธานี  ไม่ได้  ก็แวะเข้ามาเยือนสวนโมกข์ กรุงเทพฯ เพื่อท�ำความรู้จักและความเข้าใจในธรรมะของท่านพุทธทาสกันก่อน เมื่อเข้าสู่อาณาบริเวณของสวนโมกข์จะพบอาคารสามชั้นริมสระน�้ำใหญ่หรือสระนาฬิเกร์ ท่ามกลางสวนอันร่มรื่น เย็นสบาย  บริเวณชั้นล่างของตัวอาคารมีพื้นที่โล่งกว้างส�ำหรับนั่งสมาธิ  ปฏิบัติธรรม และท�ำกิจกรรมทางศาสนา  ลานหินโค้งมีภาพสลักพุทธประวัติเรียงรายอยู่บนผนัง  ที่กลางลานหินโค้งประดิษฐานพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร  รวมถึงส่วนของห้องหนังสือและสื่อ ธรรมะ  ชั้น 2 ประกอบด้วยสวนปฏิจจสมุปบาท  ห้องปฏิบัติธรรมและประชุมสัมมนา และที่ ส�ำคัญคือห้องนิทรรศการ “นิพพานชิมลอง” ให้เข้าไปสัมผัสดูว่าที่ท่านพุทธทาสกล่าวไว้ว่า “นิพพาน” อยู่ใกล้แค่ปลายจมูกนั้นเป็นอย่างไร  ส�ำหรับชั้น 3 จัดเป็นห้องประชุม ห้องจดหมาย เหตุ  ส�ำนักงาน ห้องเก็บรวบรวมเอกสารต้นฉบับและผลงานการศึกษาค้นคว้าและสื่อธรรมะของ ท่านพุทธทาส ที่นี่มีกิจกรรมมากมายที่จัดขึ้นเป็นประจ�ำ โดยเฉพาะเสาร์-อาทิตย์  ทั้งการปฏิบัติธรรม  ตักบาตรร่วมกัน บรรยายธรรม กิจกรรมโยคะธรรมะ ฯลฯ ซึง่ จะท�ำให้วนั หยุดสุดสัปดาห์มคี ณ ุ ค่า และความหมาย ทั้งยังท�ำให้บางส่วนเสี้ยวของวิถีชีวิตเกิดความสุขสงบในจิตใจได้ไม่ยาก หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ

โทรฯ  สอบถามได้ที่  0-2936-2800, 0-2936-2900 หรือเข้าไปดูรายละเอียดกิจกรรมที่  www.bia.or.th, www.dhamma4u.com การเดินทาง

-  ส�ำหรับผู้ที่น�ำรถยนต์ส่วนตัวมา สามารถไปจอดที่จอดรถของสวนรถไฟ ค่าบริการ 10 บาท -  ส�ำหรับผู้โดยสารรถสาธารณะ มาได้หลายทางดังนี้ - ด้าน ถ. วิภาวดีรังสิต ลงป้ายหน้าอาคาร ปตท. ส�ำนักงานใหญ่  สายรถเมล์ที่ผ่าน 3, 134, 138  หรือลงป้ายโรงเรียนหอวัง แล้วข้ามสะพานลอยไปฝั่งตรงข้าม สายรถเมล์ที่ผ่าน 69, ปอ. 504 - ด้าน ถ. พหลโยธิน ลงป้ายจตุจักร แล้วเดินลัดสวนสาธารณะจตุจักร ตรงมายังอาคารหอเกียรติภูมิรถไฟ ข้าม ถ. ก�ำแพงเพชร 3 เดินเข้าสวนรถไฟ (สะพานเหล็กเขียว) เลียบสนามกีฬา มุง่ มาบริเวณสระน�ำ้ ใหญ่ สายรถเมล์ที่ผ่าน 8, 26, 27, 28, 34, 39, 44, 52, 63, 90, 96, 104, 112, ปอ. 521


31

สวนโมกข์กรุงเทพฯ  มิได้เผยแผ่ผลงานของ ท่านพุทธทาสเท่านั้น  แต่ยังเปิดกว้างให้เข้าไป สัมผัสเพื่อเข้าถึงหัวใจ ของศาสนาตามปณิธาน ของท่านพุทธทาสด้วย


วิทยาศาสตร์/สิ่งแวดล้อม  32 บัญชา ธนบุญสมบัติ

ท่องนภา เพลินฟ้า ชมเมฆ เมฆสวยฟ้างามนั้นใคร ๆ ก็ชอบมอง และหากเราเห็นเมฆรูปร่างแปลก ๆ  ก็อาจนึกสนุกจินตนาการไปว่าเมฆมีรูปร่างคล้ายอะไรสักอย่างอีกด้วย เมฆรูปสัตว์ดูเหมือนจะเป็นที่นิยมมากที่สุด  ในบ้านเรานั้นเจอมาหมดแล้ว ไม่ว่าเมฆแม่ไก่  เมฆแมวกวัก เมฆหนูยักษ์  เมฆยูงทอง และเมฆช้างน้อยชูงวง  ส่วนฝรั่งนั้นก็จินตนาการเก่ง ไม่แพ้เรา แถมบางกรณียังจริงจังด้วย เช่น มีการตั้งชื่อเมฆบางลักษณะว่า Mackerel sky หรือ ฟ้าลายปลาแมกเคอเรล และมีส�ำนวนเชิงพยากรณ์อย่าง “Mackerel in the sky, three days dry.”  และ “Mackerel sky, mackerel sky, never long wet and never long dry.” หรืออย่างเมฆเส้น ๆ ปลายงอนเป็นกระจุกที่นักอุตุนิยมวิทยาเรียกว่า ซีร์รัส อันไซนัส (Cirrus uncinus) ฝรั่งชาวบ้านก็มองว่าเป็นหางของม้าตัวเมีย เรียกว่า mare’s tail  (ส่วนตัวม้าเจ้าของ หางนั้นวิ่งหายไปแล้วไม่รู้) นอกจากรูปสัตว์แล้ว ก็ยังมีเมฆรูปร่างอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น เมฆจานบิน หรือ UFO cloud ซึ่งนักวิชาการเรียกว่า เลนติคิวลาริส (lenticularis) อันหมายถึงเมฆรูปเลนส์นั่นเอง  ผมเองเคย จ๊ะเอ๋กับเมฆจานบินนี้ครั้งหนึ่งแถว ๆ ปากช่อง โชคดีที่มีคนช่วยขับรถให้  ก็เลยเก็บภาพไว้ได้อย่าง สบายใจเฉิบ

Elephant cloud

Cirrus uncinus

เมฆรูปร่างอื่น ๆ ที่น่าสนใจยังมีอีกจ�ำนวนหนึ่ง คุณผู้อ่านอาจน�ำชื่อภาษาอังกฤษต่อไปนี้ ไปลองเสิร์ชหาใน Google ดูได้  เช่น pileus (เมฆสวมหมวก) Kelvin-Helmholtz wave cloud  (เมฆลายกนก) Cirrus vertebratus (เมฆลายตะขาบ) และ Altocumulus virga  (เมฆแมงกะพรุน) เป็นอาทิ เมฆยังอาจมีสีสันสวยงามชวนฝัน เช่น เมฆสีรุ้ง ซึ่งมีสีคล้ายผิวไข่มุกและค่อย ๆ เปลี่ยน สีสันไปเรื่อย ๆ  ใครสนใจ ลองค้นอินเทอร์เน็ตด้วยค�ำว่า irisation หรือ iridescent cloud ได้ รับรองว่าจะมีเมฆสีรุ้งงาม ๆ ไม่ซ�้ำกันมาให้ชมนับร้อยทีเดียว

UFO cloud


33

หลายคนคงจะเคยประทับใจกับแสงและเงาที่ดูเหมือนว่าพุ่งออกมาจากเมฆบนท้องฟ้า  หรือสาดออกมาจากขอบฟ้า  ซึ่งอันที่จริงแล้วเกิดจากเมฆไปบดบังแสงอาทิตย์ไว้บางส่วน เกิดเป็นเงาเมฆ (cloud shadows) และปล่อยให้บางส่วนสาดส่องออกไป เกิดเป็นแสงที่เรียกว่า รังสีครีพัสคิวลาร์  (crepuscular rays)

Cloud shadows

นอกจากนี้ปรากฏการณ์ทรงกลดที่มีลักษณะเป็นเส้นค่อนข้างคมชัด เรียกว่า เฮโล (halo) ก็ เกิดจากน�้ำแข็งในเมฆที่ปกคลุมฟ้า  และที่น่าสนใจก็คือ ปรากฏการณ์เฮโลเกิดได้ทั้งดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์  แถมยังมีได้หลายสิบแบบ ไม่ใช่เพียงแค่เป็นเส้นวงกลมที่เห็นกันบ่อย ๆ เท่านั้น ส่วนการทรงกลดซึ่งมีลักษณะเป็นวงสีรุ้งรอบดวงจันทร์หรือดวงอาทิตย์  เรียกว่า โคโรนา  (corona) ก็เกิดจากหยดน�้ำ (ของเหลว) ในเมฆที่อยู่สูงกว่าเราขี้นไป  หากคุณมีโอกาสไปเที่ยวภูเขาสูงที่มีเมฆหรือหมอกล่องลอยอยู่ต�่ำลงไป ก็ลองยืนหันหลัง ให้ดวงอาทิตย์  แล้วสังเกตเงาของตนเอง คุณอาจจะได้เห็นวงแสงสีรุ้งอยู่รอบเงาศีรษะซึ่งเรียกว่า กลอรี  (glory)  ปรากฏการณ์นยี้ ังอาจเห็นได้จากเครื่องบินมีเมฆลอยอยูต่ �่ำลงไป โดยหากเงาของ เครื่องบินตกลงบนเมฆ รอบ ๆ เงานั้นก็อาจมีกลอรีด้วย  ที่น่าสนุกก็คือ ทั้งเงาและกลอรีจะ เคลื่อนที่ตามคุณไปด้วย

corona

คุณผู้อ่านที่สนใจเมฆและปรากฏการณ์ท้องฟ้า ขอแนะน�ำชมรมคนรักมวลเมฆ  ใน facebook ที่ www.facebook.com/CloudLoverClub และแวะเก็บเกี่ยวความรู้ได้จาก  เว็บ www.CloudLoverClub.com  เป็นไปได้วา่ คุณจะได้รบั แรงบันดาลใจให้เชิดหน้า ‘หยิง่ ’  มองท้องฟ้าบ่อยขึน้  และอาจจะได้เห็นปรากฏการณ์สนุก ๆ ทีน่ า่ ประทับใจด้วยตัวคุณเอง  ^__^

glory

iridescent cloud

หากมีโอกาสไปเที่ยวภูเขาสูง ที่มีเมฆหรือหมอกล่องลอยอยู่ต�่ำลงไป  ก็ลองยืนหันหลังให้ดวงอาทิตย์  แล้วสังเกตเงาของตนเอง  คุณอาจจะได้เห็นวงแสงสีรุ้ง อยู่รอบเงาศีรษะซึ่งเรียกว่า กลอรี (glory)

ตุลาคม-ธันวาคม 2554


ท่องเที่ยวกับวิริยะ 34

วีรวรรณ ภิญญรัตน์ ภาพ : วิจิตต์  แซ่เฮ้ง

เที่ยวครบรสในเมืองมะขามหวาน ฝนกลางปีเทจั้กๆ เติมสีเขียวให้ต้นไม้ใบหญ้าดูสดใสชุ่มชื่น พอค่อนไปปลายฤดูฝน   ลมหนาวก็พัดมาแทนที่  ส�ำหรับบางพื้นที่ยังพาละอองหมอกเย็น ๆ ลอยมาเป็นสายพร้อมกัน พื้นที่ตอนบนของ จ. เพชรบูรณ์ เป็นภูเขาสลับซับซ้อน มีช่องเขาให้สายหมอกบางเบาไหลผ่าน   ให้บรรยากาศโรแมนติกน่าเดินทางไปสัมผัส อยากเลือกทางสวยเส้นไหนก็แล้วแต่ชอบ    ถ้าต้องการนอนหรูดูป่าสน ขอแนะน�ำ “เขาค้อ”    แต่หากอยากขึ้นเขาไต่ทางคดเคี้ยว นอนเต็นท์ท่ามกลางไร่กะหล�่ำแบบพานอรามา   “ภูทับเบิก” คือจุดมุ่งหมายของคุณ

01

02

03

04


01 02 03 04

พักผ่อน นอน เล่น บนเขาค้อ หลายคนบอกว่าหน้าหนาวจะพาไปชมทะเลหมอกบนเขาค้อ แต่เรียกว่าทะเลหมอก อาจราบเรียบเกินไป ด้วยภูมิประเทศที่มีภูเขา สูงต�่ำของเขาค้อ มีช่องเขาให้หมอกลอยจากที่สูงลงสู่ที่ต�่ำ มองไปคล้าย น�ำ้ ตกไหลผ่านโขดหิน ทีส่ ำ� คัญคือสายหมอกเย็น ๆ นี้ แผ่กระจายปกคลุม ไปทั่วเขาค้อในตอนเช้าตรู่ เมื่ออยู่ท่ามกลางบรรยากาศงาม ย่อมไม่น่าแปลกใจ ที่เคยมีใคร บอกไว้ว่า  “พักเขาค้อ 1 คืน อายุยืน 1 ปี” การพักผ่อนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บ้างอยากพักแบบขยับ ร่างกายให้น้อยลง ชดเชยที่เคยออกแรงมาเยอะในช่วงเวลาที่ผ่านมา  หากคุณอยู่ในกลุ่มนี้อาจเลือกที่พักท�ำเลดีนอนหลับสูดอากาศบริสุทธิ์ ให้เต็มที ่ หาของกินอร่อย ๆ ละเลียดความสุขอย่างช้า ๆ ขากลับลองแวะ ซื้อผักเมืองหนาวสดใหม่ปลอดสารพิษไปท�ำอาหารที่บ้านก็ได้  นอกจาก แผงขายริมทางกับในตลาดตรงแยกแค้มป์สนแล้ว บริเวณสวน รัชมังคลาภิเษก แหล่งของฝากริมทางหลวงหมายเลข 12 ที่  กม. 108

สายหมอกลอยเรี่ยทั่วบริเวณเขาค้อ เครื่องเล่นสุดมันในภูแก้ว แอดเวนเจอร์ ปาร์ค  ภูทับเบิก ไต่เขาชมทิวทัศน์สวย ๆ ลมหนาวพัดมา อะไรจะดีกว่าพาตัวเอง ไปอยู่ในที่พักสบายท่ามกลางไอหนาว

ก็สามารถแวะซื้อได้สะดวก สถานที่อีกแห่งที่อยากแนะน�ำคนชอบกินผักรักสุขภาพ คือ  ไร่  บี.เอ็น.  ทางไร่เปิดให้นกั ท่องเทีย่ วเข้าชมแปลงสาธิต และเก็บผลผลิต ต่าง ๆ โดยสามารถขับรถเข้าไปได้เอง ตามป้ายบอกทางที่เห็นชัดเจน   ภายในมีรา้ นจ�ำหน่ายผักผลไม้สดตามฤดูกาล หน้าหนาวมีซกู นิ  ี ข้าวโพด หวาน มะเขือม่วงญี่ปุ่น มะระหวาน ฯลฯ  นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ โฮมเมดพวกแยมผลไม้   ถ้าอยากได้ไม้ประดับสวย ๆ ก็มีให้เลือกซื้อ ในโรงเรือนบรรยากาศร่มรื่น หากต้องการพักผ่อนสนุก ๆ กับกิจกรรมทีไ่ ม่คอ่ ยได้ทำ� ในชีวติ ปกติ  เขาค้อก็มี  “ภูแก้ว แอดเวนเจอร์  ปาร์ค” ซึ่งอยู่ในภูแก้วรีสอร์ต  เครื่อง เล่นมีตงั้ แต่ฐานไต่เชือกทดสอบการทรงตัว ปีนหน้าผา ใครชอบกิจกรรม เด้งดึง๋ ก็มแี ทรมโปลีนลอยน�ำ้  แทรมโปลีนบันจี ้  อยากเปียกมีทงั้ เรือแคนู  ล่องแก่ง เรือปัน่ หรรษา จักรยานน�ำ้   หรือชอบความตืน่ เต้นก็มเี ลือ่ นภูเขา ความเร็วสูงทีไ่ ด้แนวคิดจากรถเลือ่ นของชาวม้งให้ลองซิง่   ถ้าชอบความ สูงอย่าพลาดความท้าทายบนไจแอนต์สวิง ตุลาคม-ธันวาคม 2554


36

05 07

05 06 07 08 09

แปลงกะหล�่ำทอดยาวทั่วขุนเขา เด็กชาวม้ง ณ ลานกลางหมู่บ้านยามเช้า สวนรัชมังคลาภิเษก แหล่งของฝากจากเขาค้อ ร้านขายผักผลไม้สดในไร่ บี.เอ็น. ยุทโธปกรณ์ที่ใช้ต่อสู้กับ ผกค. ในฐานอิทธิ

08

สนุกกับเครื่องเล่นหรรษาแล้ว หันกลับมาสัมผัส อดีตของเขาค้อกันบ้าง  ย้อนไปราว 30 ปีก่อน เขาค้อเคยเป็นสมรภูมิรบระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่าย ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์  (ผกค.) ก่อนเหตุการณ์จะ สงบลงในปี  พ.ศ. 2525 ต่างฝ่ายต่างเสียเลือด เสียเนื้อไปไม่น้อย ดังปรากฏหลักฐานในพิพิธภัณฑ์ อาวุธ (ฐานอิทธิ) และอนุสรณ์ผู้เสียสละเขาค้อที่อยู่ ไม่ไกลกัน พิพิธภัณฑ์อาวุธ จัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์  ภาพถ่าย ผกค. บังเกอร์  เฮลิคอปเตอร์  หลุมหลบภัย  ฯลฯ แต่ก่อนเคยเป็นฐานยิงปืนใหญ่   ชื่อฐานอิทธิ ตั้งตาม พ.อ. อิทธิ  สิมารักษ์  ผู้มีบทบาทส�ำคัญใน การต่อสู้ยึดพื้นที่เขาค้อคืนจาก ผกค.  ปัจจุบัน นอกจากแสดงร่องรอยการสู้รบในอดีต ด้านหลังฐาน ยังเป็นจุดชมทิวทัศน์สวยงามอีกมุมหนึ่งของเขาค้อ

“โพะออกาหละมาฝะ !” บนภูทับเบิกมีแปลงกะหล�่ำปลีสุดลูกหูลูกตา หันไปทางไหนก็เห็นแต่แปลงกะหล�่ำ แล้วส่วนหนึ่ง

06 09

ของคนปลูกกะหล�่ำก็เป็นชาวม้ง เลยลองสมมติดูว่าถ้าชาวม้งจะเอากะหล�่ำไปฝากใคร ก็อาจจะพูดอย่างนี้ละมั้ง ? ถ้าขึ้นภูทับเบิกทาง อ. หล่มเก่า จนถึงผาชมวิว มองลงไปจะเห็นถนนซ้อนกันเป็นวงโค้ง สองวง ด้านหลังเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน  เมือ่ ขึน้ ไปถึงจุดชมทิวทัศน์หน่วยทับเบิกแล้วมองไป ยังเบื้องล่าง ถนนที่พาเราขึ้นมานั้นเป็นเส้นโค้งยาวคดเคี้ยวลดเลี้ยวราวกับงูเลื้อยอย่างน่าทึ่ง บนภูทบั เบิกไม่คอ่ ยมีรา้ นอาหารหรูหรา แต่มยี า่ นร้านค้าอยูส่ องฟากถนนใกล้สถานีอนามัย ทับเบิก พอให้หาของกินง่าย ๆ กับของใช้จ�ำเป็นได้   ชุมชนที่อาศัยอยู่บนนี้เป็นชุมชนชาวม้ง ซึ่งเคยปลูกฝิ่นและเข้าร่วมกับ ผกค. ช่วงปี  พ.ศ. 2510  เมื่อรัฐบาลปราบปรามอย่างหนัก ชาวม้งบางส่วนก็เข้ามอบตัว รัฐบาลจึงตั้งศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา จ. เพชรบูรณ์ ขึ้นในปี  พ.ศ. 2525 เพื่อส่งเสริมให้ปลูกกะหล�่ำปลีแทนการปลูกฝิ่น  จากครั้งนั้นกะหล�่ำปลีจึง บานเต็มดอยมาถึงวันนี ้ ทัง้ ยังมีการทดลองปลูกพืชเมืองหนาวอืน่  ๆ เช่น อะโวคาโด มันฝรัง่  ฯลฯ ที่พักบนภูทับเบิกอยู่สูงขึ้นไปอีกจากลานกลางหมู่บ้าน มีบ้านแบบเป็นหลังของ อบต. วังบาล และแบบกางเต็นท์ของวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวภูทับเบิก ซึ่งมีเครื่องนอนให้เช่าครบ  ของกินก็มีให้ซื้อหา และท�ำเลดีเพราะอยู่กลางแปลงกะหล�่ำ ณ จุดสูงสุดของภูทับเบิก ดูจากที่ตั้งแล้วคํ่าคืนนี้น่าลงนอนหนุนดินนับดาว...คงท�ำให้หลับฝันดี -  -  -  -

ภูแก้ว แอดเวนเจอร์ ปาร์ค โทร. 0-5675-0053/ www.phukaew.com บ้านพัก อบต. วังบาล โทร. 0-5674-7532 วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวภูทับเบิก โทร. 0-5681-0737, 08-5733-9737 หากมีปัญหาระหว่างเดินทาง ติดต่อบริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด สาขาเพชรบูรณ์ โทร. 0-5672-0423-29 โทรสาร 0-5672-1177


วิริยะชวนชิม

37

พรเพ็ญ วงศ์ศุภชัยนิมิต ภาพ : วิจิตต์  แซ่เฮ้ง

อร่อยขั้นเทพที่เพชรบูรณ์ หนาวนี้ไม่ต้องไปถึงเหนือสุด หยุดแค่ จ. เพชรบูรณ์ เมืองมะขามหวาน ก็เย็นฉ�่ำด้วยไอหมอกและสายลมหนาวแล้ว   ระหว่างทางแวะชิมไก่ย่างของดีขึ้นชื่อประจ�ำ อ. วิเชียรบุรี พร้อมเมนูพืชผัก ผลไม้เมืองหนาวสดใหม่จากสวน  และดื่มด�่ำบรรยากาศท่ามกลางขุนเขาเคล้ากรุ่นกลิ่นกาแฟสด ย่าน อ. เขาค้อ บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 สตรอว์เบอร์รีลอยแก้วหวานเย็นชื่นใจ (ภูแก้ว สเต็ก คอทเทจ)

ไก่ย่างบัวตอง ลิ้มลองไก่ย่างถึงถิ่นวิเชียรบุรี (สามแยกวิเชียรบุรี  เปิดเวลา 07.30-17.00 น. โทร. 0-5679-1349) บัดนี้คนทั้งประเทศคงรู้จัก “ไก่ย่างวิเชียรฯ” ที่มีร้านจ�ำหน่ายไปทั่วทุกหัวระแหง ต้นต�ำรับอยู่ อ. วิเชียรบุรี  เมืองเพชรบูรณ์นี่เอง  มาถึงแล้ว หากไม่ได้ลิ้มลองไก่ย่างของดีอ�ำเภอนี้ก็กระไรอยู่ ขอแนะน�ำร้าน “บัวตอง” เขาย่างไก่ได้เนื้อแห้ง หนังกรอบ รสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นกระเทียม พริกไทยและเครื่องปรุงรสที่หมักจนเข้าเนื้อ จิ้มน�้ำจิ้มแจ่วสูตรเฉพาะ ยิ่งกว่าแซบ  ส้มต�ำก็มีให้เลือก สารพัด ทั้งส้มต�ำทอดกรอบ ส้มต�ำย�ำทะเล ส้มต�ำไข่เค็ม  หรือจะเป็นลาบเป็ด ก็รสเด็ดชวนกินไม่แพ้ กัน

01

02

03

ลิ้มรสสเต๊กเนื้อนุ่มพร้อมสลัดผักสดปลอดสารพิษที่ภูแก้ว สเต็ก คอทเทจ  (อยู่ในภูแก้วรีสอร์ท ริมทางหลวงหมายเลข 12 เปิดเวลา 07.00-14.00 น./17.00-20.00 น. โทร. 0-5675-0053) ร้านอาหารในรีสอร์ตน่ารักท่ามกลางธรรมชาติขุนเขา ช่วงฤดูหนาวเป็นเทศกาลของผักผลไม้เมือง หนาว อย่างผักกาดแก้ว ผักกาดหอม สตรอว์เบอร์รี   “ภูแก้ว สเต็ก คอทเทจ” จึงน�ำมาท�ำเป็นเมนูเพื่อ สุขภาพ อย่างสลัดภูแก้ว เสิร์ฟพร้อมกับสเต๊กภูแก้วจิ้มแจ่ว มีทั้งเนื้อวัว หมู  ไก่  ย่างจนได้ที่  เนื้อนุ่ม หอมกลิ่นเครื่องเทศที่หมักจนเข้าเนื้อ  ตบท้ายด้วยสตรอว์เบอร์รีลอยแก้ว หวานเย็นชื่นใจ และสตรอว์เบอร์รีสดปั่น  รับประกันความสดใหม่และปลอดสารพิษ เพราะปลูกเองที่นี่    ดื่มด�่ำบรรยากาศเคล้ากรุ่นกลิ่นกาแฟสด ที่ รูท 12 (ริมทางหลวงหมายเลข 12 เปิดเวลา 07.00-19.00 น. โทร. 08-9527-1723) ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 บริเวณเขาค้อ เป็นที่ตั้งของร้าน “รูท 12”  ร้านกาแฟที่ โอบล้อมด้วยธรรมชาติขุนเขาอันกว้างไกลสุดสายตา บรรยากาศร้านตกแต่ง เก๋ไก๋สไตล์อเมริกัน  มีมุมเล็ก ๆ น่ารักหลายมุมให้เลือกโพสต์ท่าสวย ๆ เก็บ ภาพไว้เป็นที่ระลึก และนั่งจิบกาแฟพร้อมชิมเค้กรสอร่อยอย่างเค้กบลูเบอร์รี่  เค้กส้ม ฟรุ้ตเค้ก รสชาติกาแฟอันกลมกล่อมและเค้กรสละมุนเป็นอีกหนึ่ง ความสุขที่คุณจะพบได้ที่จุดแวะพักริมทางแห่งนี้

04

01 02  03 04

ไก่ย่างวิเชียรบุรีต้นต�ำรับของแท้ต้องเนื้อแห้ง  หนังกรอบ หอมกลิ่นเครื่องเทศ บรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติขุนเขา ที่ภูแก้ว สเต็ก คอทเทจ ร้านรูท 12 ตกแต่งน่ารัก มีมุมให้โพสต์ท่าสวยๆ ท่ามกลางขุนเขาที่รายล้อม  สั่งกาแฟสดสักแก้วกับเค้กบลูเบอร์รีสักชิ้น ก็ไม่อยากไปที่ไหนแล้ว ตุลาคม-ธันวาคม 2554


ดวงชะตาราศี

38

“ลูกโหร” ภาพประกอบ : เซมเบ้

ราศีมังกร (หรือผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 16 ม.ค.-15 ก.พ.)

การมีปากเสียงหรือทะเลาะเบาะแว้งกับคุณแฟนที่มักเกิดขึ้น บ่อยในช่วงที่ผ่านมา ตอนนี้บรรยากาศเริ่มดีขึ้น หมั่นเอาอกเอาใจคอย ดูแลจะช่วยลดอุณหภูมิระหว่างกันลง  ช่วงนี้ส�ำหรับตัวเองอาจรู้สึก อ่อนระโหยโรยแรงเกิดอาการขี้เกียจไปบ้าง หาอาหารเสริมหรือวิตามิน บ�ำรุงร่างกายให้กระฉับกระเฉง จะได้มีพลังในการท�ำงาน  ระยะนี้การ งานราบรื่นโดยได้รับแรงสนับสนุนจากผู้ใหญ่เป็นอย่างดี    แต่ถึงปลายปีอย่าประมาทหรือเหลิงเพราะเห็นผู้ใหญ่ให้ท้าย  การงานอาจเสียหายได้

ราศีกุมภ์ (หรือผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 16 ก.พ.-15 มี.ค.)

หนุม่ สาวราศีนอี้ ยูใ่ นช่วงวิบากกรรมเหมือนโดนตรึงขยับไม่ได้    การงานต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่ให้พลาด จนอาจเครียดไปลงกับ คุณแฟนพาลจะท�ำให้เป็นปากเสียงทะเลาะกันง่าย ๆ  การเงินดูเหมือน ใช้เพลินจนลืมเก็บ  สุขภาพต้องระวังจิตใจที่เครียดจัด จนมีผลกับ ร่างกายได้   ใกล้ปีใหม่อาจมีเหตุต้องเดินทางชีพจรลงเท้าอยู่ไม่ติดที่

ราศีมีน (หรือผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 16 มี.ค.-15 เม.ย.)

คนราศีมีนก็ชีพจรลงเท้าเดินทางไม่ได้หยุด  การเงินยังหา คล่องหยิบจับอะไรดูเป็นเงินเป็นทองไปหมด  การท�ำงานเหมือนจะราบ รื่นดี  ริเริ่มท�ำสิ่งใหม่ให้รีบท�ำในตอนนี้เลย แต่ควรรอบคอบสักนิดก่อน ตัดสินใจลงมือท�ำ อย่าวู่วาม พลาดแล้วจะเสียชื่อได้   แล้วระวังคุณ แฟนหรือคุณสามีภรรยา อาจสร้างปัญหาให้หนักใจ

ราศีเมษ (หรือผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 16 เม.ย.-15 พ.ค.) เฮง เฮง มีโชคมีลาภ ผู้ใหญ่รักใคร่  แต่ไฉนการงานกลับไม่ ค่อยรุ่ง ต้องพบอุปสรรคตลอด  แถมคุณแฟนพักนี้ดูเหมือนสุขภาพไม่ ค่อยดี  เจ็บไข้ได้ป่วยอีกด้วย  บุตรบริวารก็ชอบเถียงค�ำไม่ตกฟาก   ควรพยายามใจเย็น ใช้สติและปัญญา จึงจะสามารถแก้ไขปัญหา ต่าง ๆ ได้ลุล่วง  ราศีพฤษภ

(หรือผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 16 พ.ค.-15 มิ.ย.) หนุ่มสาวราศีนี้มีปัญาระหองระแหงกับคุณแฟนมาตั้งแต่ต้น ปี  และปัญหายังคาราคาซังต่อไปอีกจนถึงกลางปีหน้า ควรพยายาม ประคับประคองถนอมน�้ำใจกันไว้บ้าง มิฉะนั้นอาจเลิกราได้ง่าย ๆ   เดินทางระวังอุบัติเหตุ  อย่าลืมท�ำประกันอุบัติเหตุก่อนเดินทางทุกครั้ง  เพื่อความอุ่นใจของครอบครัว  การงานพอเอาตัวรอดได้  แม้จะมีสารพัดปัญหาดาหน้าเข้ามาท้าทายความสามารถ หมั่นดูแล สุขภาพของญาติผู้ใหญ่ที่อาจเจ็บไข้ได้ป่วย

ราศีเมถุน (หรือผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 16 มิ.ย.-15 ก.ค.)

หนุ่มสาวราศีนี้ดูเหมือนมีกิจกรรมให้ต้องเดินทางไกลตลอด เวลา แม้การงานจะหนักต้องใช้แรงกายแรงใจตรากตร�ำ แต่ก็ได้รับการ ยอมรับและเมตตาเอ็นดูจากผู้ใหญ่ที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี   บุตร บริวารช่วงนี้เหลือบตาดูไว้บ้าง อาจสร้างปัญหาหรือไม่ยอมท�ำ ตามค�ำสั่งได้

ราศีกรกฎ (หรือผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 16 ก.ค.-15 ส.ค.)

พักนี้ดูเหมือนจะมีรายจ่ายมากมายให้ต้องจับจ่ายใช้สอยมาก เป็นพิเศษ ตัวเองก็มักมีอารมณ์แปรปรวนหงุดหงิดง่ายเกินไป พร้อมจะ ระเบิดใส่คนข้างเคียง  โชคดีที่การงานกลับไปได้ดีผู้ใหญ่รักใคร่ให้การ สนับสนุน แต่หากไม่รู้จักระงับอารมณ์ก็อาจท�ำให้บาดหมางกับเพื่อน ร่วมงานและสร้างศัตรูได้    บุตรบริวารจะสร้างปัญหา และท�ำให้เสียเงินเสียทอง  แถมผลงานก็ไม่ได้ดั่งใจ ดื้อรั้น  ต้องดูแลให้ใกล้ชิด

ท�ำนายทายทัก


39

ราศีสิงห์ (หรือผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 16 ส.ค.-15 ก.ย. )

หนุ่มสาวราศีนี้ดูจะร้อนรุ่ม หงุดหงิด โมโหง่าย  ปากจัดเกินกว่าเหตุในช่วงนี้   แนะน�ำให้เข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรม และ ปฏิบัติธรรมเพื่อช่วยให้ใจสงบเย็นลง  ระวังดูแลสุขภาพของคุณแฟน ที่ดูอ่อนแอ จนอาจถึงเจ็บไข้ได้ป่วย  การเงินไม่ดีเลย มีเหตุให้ต้องใช้ เงินมากมาย กระเป๋ารั่วไม่หยุดฉุดไม่อยู่  เงินทองที่เก็บออมไว้  อาจ ร่อยหรอลง  การงานก็มีปัญหาอุปสรรคให้ต้องเหน็ดเหนื่อยตลอด เวลา แต่จะได้ลูกน้องบริวารช่วยเหลือแบ่งเบาภาระได้ค่อนข้างมาก

ราศีกันย์ (หรือผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 16 ก.ย.-15 ต.ค.)

คนราศีนี้ดูเหมือนจะเคราะห์หามยามร้าย ต้องเหน็ดเหนื่อย สายตัวแทบขาด ท�ำอะไรก็เจอแต่ปัญหาอุปสรรคนานัปการ จนถูก เพ่งเล็งจากผู้ใหญ่   ระวังสุขภาพของตัวเองไว้บ้าง ยิ่งช่วงเดือน พฤศจิกายนอาจล้มหมอนนอนเสื่อ  คนรักก็ดูเหมือนไม่ค่อยลงรอย กัน มีปากเสียงกันประจ�ำ อาจเกิดจากตัวเราเองเหนื่อย เครียด และ พาลไปลงที่คุณแฟนก็ได้   ช่วงนี้ควรหมั่นท�ำบุญตักบาตรเข้าวัดฟัง ธรรม อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร เผื่อจะช่วยผ่อนหนักให้เป็น เบาได้บ้าง  การเงินช่วงเดือนพฤศจิกายน ต้องระมัดระวังการใช้จ่าย  ไม่งั้นจะเกิดอาการกระเป๋ารั่วจนอุดไม่อยู่

ตุลาคม-ธันวาคม 2554 ราศีตุลย์ (หรือผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 16 ต.ค.-15 พ.ย.)

ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจะรู้สึกเหมือนอยู่ในวังวนสารพัด ปัญหา ดาหน้าเข้ามาท้าทายความสามารถตลอดเวลา แต่ไม่เกิน ความสามารถของหนุ่มสาวตุลย์ไปได้  อีกทั้งยังได้ผู้หลักผู้ใหญ่ให้การ สนับสนุนช่วยเหลือ และคนรักคอยเป็นก�ำลังใจ  เท่านี้หนุ่มสาวราศีนี้ ก็ลุยโลด จะให้ไปบุกน�้ำลุยไฟที่ไหนก็ได้   การเงินเอาไปฝาก ให้คุณแฟนช่วยเก็บไว้น่าจะดีกว่าเก็บไว้กับตัวเอง  เพราะดูเหมือนปีนี้กระเป๋าจะรั่ว มีเท่าไหร่ก็รั่วไหลออกหมด   ประหยัดไว้บ้างเท่ากับเป็นการช่วยชาติได้อีกทางหนึ่ง

ราศีพิจิก

(หรือผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 16 พ.ย.-15 ธค.) ช่วงนี้จะมีอาการร้อนรุ่มดังไฟสุมขอน มิจฉาทิฐิเข้า ครอบง�ำ ท�ำการอะไรควรไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าเชื่อใครง่าย ๆ  จะเสียรู้โดนหลอกได้   ในอีกแง่หนึ่งก็อย่าเอาความเห็นของตัวเอง เป็นใหญ่  จนไม่ยอมฟังใคร จะเสียการได้เหมือนกัน พยายามเดิน สายกลางเข้าไว้   การงานพยายามประคับประคองดูแลให้ดี  ช่วงนี้ เก็บตัวเงียบ ๆ น่าจะดีกว่า  เงินทองของหายาก กว่าจะได้มา ล�ำบากยากเย็น หาทางแปลงเป็นหลักทรัพย์เก็บไม่งั้นเผลอใช้หมด แน่   รักใครชอบใครก็หัดมีมธุรสวาจาบ้าง อย่าไปพาลหาเรื่อง จะ เกิดมีปากเสียงกันได้

ราศีธนู (หรือผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 16 ธ.ค.-15 ม.ค.)

หลังจากปีที่แล้วมีแต่เรื่องหนัก ๆ มาตลอด ปีนี้จะรู้สึก ปลอดโปร่ง เหมือนพายุร้ายได้พัดผ่านไปแล้ว แต่ก็อย่าวางใจ  เพราะด้านการงานยังหนักหนา ต้องล�ำบากตรากตร�ำเหน็ดเหนื่อย พอดู  และอาจต้องเดินทางไกลบ่อย ๆ ด้วย  ช่วงนี้ท�ำอะไรอย่าให้ เด่นดังนัก หรือท�ำตัวออกนอกลู่นอกทาง ไม่เช่นนั้นจะมีคนนินทา ให้เสียชื่อ  บุตรบริวารอยู่ในโอวาท ว่านอนสอนง่าย เป็นเรี่ยวแรง ช่วยงานได้เป็นอย่างดี   การเงินอย่าหวังลาภลอย หรือลาภที่มิควร ได้  หรือหาเรื่องเสี่ยงโชคจะหมดตัวเอาได้

ตุลาคม-ธันวาคม 2554


ศูนย์ซ่อมฯ

ซ่อมใจ

ปัญหาข้อพิพาทประกันภัยรถยนต์ที่เกิดการ “วิวาท” กันระหว่างบริษัทประกันภัยกับผู้เอาประกัน ภัย ถ้าเปิดใจกว้างแล้วพิจารณาถึงสาเหตุ ต้องยอมรับกันว่า “ปมพิพาท” ส่วนใหญ่เกิด จาก “ความไม่เข้าใจ” มากกว่า “ความตั้งใจ เอาเปรียบ” ซึ่งกันและกัน อีกทัง้ ต้องยอมรับกันว่าทุกวันนีท้ กุ บริษทั ประกัน ภัยต่างมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบการเคลมสินไหม โดยเฉพาะการซ่อมรถยนต์  เพื่อให้ผู้เอาประกันภัย ของตนเองเกิดความพึงพอใจสูงสุด ความพึงพอใจที่มีผลถึงอัตราความยั่งยืน ของ “เบี้ยประกันภัยต่ออายุ” ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดที่ ส�ำคัญที่บ่งบอกถึงความส�ำเร็จของบริษัทประกัน ภัยนั้น ๆ แต่อย่างไรก็ดีแม้ว่าบริษัทจะมีความมุ่งมั่น ขนาดไหน แต่ด้วยสภาพความ จริงของการให้บริการ ที่จ�ำต้องมี  “มือที่ 3” เข้ามา เกี่ยวข้องด้วย นั้นก็คืออู่ซ่อม รถยนต์ที่เข้ามามีส่วนร่วมใน ฐานะ “คู่ค้า” อย่างว่าละครับ ! ไม่ว่า จะเป็นเรือ่ งอะไร ถ้ามีมอื ที ่ 3  เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเมื่อไหร่  วุ่นวายและวายวอดทุกที

จึงอย่าได้แปลกใจทีท่ กุ วันนีบ้ ริษทั ประกันภัยต่างให้ความส�ำคัญกับการบริหารจัดการ อู่ในเครือของตนเองกันยกใหญ่  ส่วนจะวางอย่างถูกระบบ รักษาถูกโรคของตนเอง หรือ หลงเข้าป่าเข้าพงก็ว่ากันไปตามปัญญาของผู้บริหารแต่ละบริษัท และแน่นอนถ้าโฟกัสกลับมาที่  “ศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะประกันภัย” หลายท่าน อาจเกิดความกังขาในใจกันมานานว่า

ท�ำไมศูนย์ซอ่ มมาตรฐานวิรยิ ะประกันภัย จึงได้รบั การยอมรับว่า มีมาตรฐานการซ่อมที่ดีที่สุดของอุตสาหกรรม

“ความเชื่อถือในมาตรฐานการซ่อมของศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะประกันภัย  ผมเชื่อว่าน่าจะเกิดจากการพัฒนามาตรฐานการซ่อมที่ผู้บริหารบริษัทวิริยะประกัน ภัยได้กระท�ำมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเป็นการให้ความรู้ด้านนวัตกรรมการซ่อมใหม่ ๆ  และความรู้ด้านการบริหารจัดการ และแม้วา่ เราจะได้รบั การยอมรับว่ามีมาตรฐานการซ่อมรถยนต์ทดี่  ี แต่ทกุ วัน นีเ้ รายังไม่หยุดการพัฒนา ดังเห็นได้จากชมรมศูนย์ซอ่ มมาตรฐาน วิรยิ ะประกันภัยมีการประชุมร่วมกันทุก ๆ เดือน เพือ่ พัฒนาความ รูใ้ หม่ ๆ” คุณวรกุล บุญยัษฐิต ิ ประธานชมรมศูนย์ซอ่ มมาตรฐานวิรยิ ะ ประกันภัยกล่าว โดยล่าสุดนวัตกรรมใหม่ที่เหล่าสมาชิกชมรมศูนย์ซ่อมมาตรฐาน วิริยะประกันภัยภาค 6 ก�ำลังให้ความสนใจกันเป็นพิเศษคือนวัตกรรม ใหม่ของการซ่อมสีที่เรียกว่า “ระบบสีสูตรน�้ำ” ซึ่งเป็นระบบที่ผู้ผลิต รถยนต์ค่ายใหญ่เริ่มน�ำมาใช้กันอย่างจริงจัง เช่น โตโยต้า ฮอนด้า  เป็นต้น จากผลการศึกษาของแกนน�ำในชมรมศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะ


41

ประกันภัยพบว่า ระบบสีสูตรน�้ำเป็นมิตรต่อคนและสิ่งแวดล้อม “เราศึกษาแล้วพบว่าการใช้สรี ะบบนีจ้ ะสามารถร่นระยะเวลาการซ่อมสีรถยนต์ได้เร็วขึน้ กว่า ระบบเดิมคือสี 2K ถึง 20-30% เพราะเป็นระบบสีทแี่ ห้งเร็วและทนทาน และแม้วา่ ระบบใหม่จะมี ราคาแพงกว่าระบบเดิมถึง 10% แต่เมื่อมองถึงผลลัพธ์ที่ได้ต้องถือว่าคุ้มค่าจริง เพราะในเชิง เทคนิคแล้วทางศูนย์ซอ่ มสามารถเปลีย่ นมาใช้ได้เลย และไม่ตอ้ งเปลีย่ นแปลงอุปกรณ์การพ่นสี อะไรมากนัก” คุณวรกุลกล่าว นอกจากการพัฒนาทางด้านนวัตกรรมการซ่อมแล้ว ดูเหมือนว่ากระบวนการพัฒนาทางด้านบริหาร จัดการทางชมรมศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะประกันภัยภาค 6 ยังต่อเติมความรู้ใหม่ ๆ ให้แก่มวลสมาชิก อยู่เสมอ ๆ เช่นกัน โดยเฉพาะกระบวนการบริหารจัดการเพื่อรับมือต้นทุนการซ่อมที่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา คุณวรกุล เปิดเผยว่า การรับมือต้นทุนแพงนั้น ทางชมรมเลือกใช้วิธีบริหารจัดการเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการ ซ่อมแทน เช่น การพัฒนาระยะเวลาการซ่อมให้เร็วขึ้น เพราะถ้าเราซ่อมเร็วขึ้นจะส่งผลให้รับงาน ได้เพิ่มขึ้น นั้นก็หมายความว่าเราจะมีรายได้เข้ามาเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามกระบวนการพัฒนาทีถ่ อื ว่าเป็นจุดเด่นของศูนย์ซอ่ มวิรยิ ะประกันภัยมากทีส่ ดุ ทีบ่ ริษทั ประกันภัยอืน่  ๆ ไม่สามารถพัฒนาได้เท่าเทียม นัน้ ก็คอื กระบวนการบริหารจัดการงานด้านอะไหล่รถยนต์ และระบบควบคุมการซ่อมที่เรียกว่าระบบ “Jiss Win” ซึ่งเป็นการประสานงานระหว่างศูนย์ซ่อมฯ ศูนย์ สินไหมวิริยะรวมถึงศูนย์ซัพพลายและศูนย์อะไหล่ผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมด มีเจ้าหน้าที่สรุปความเสีย หายและอนุมัติการซ่อมทุกคันและทุกวัน เพื่อให้การซ่อมเป็นไปอย่างรวดเร็ว เป็นการควบคุมคุณภาพ การซ่อมอย่างใกล้ชิด  “อย่างกรณีอะไหล่ หากร้านนี้ไม่สามารถจัดหาอะไหล่ได้จะติดต่อร้านอื่นได้ทันที และมีการติดตามอะไหล่อย่างใกล้ชิด โดยจะมี อะไหล่มาส่งศูนย์ฯ ทุกวัน เพราะอะไหล่ถอื เป็นหัวใจส�ำคัญของการซ่อมรถ เป็นตัวชีว้ า่ ซ่อมรถทันก�ำหนดหรือไม่ ซึง่ บริษทั มีศนู ย์สนิ ไหม  80 แห่งทั่วประเทศสามารถอนุมัติสินไหมได้ทันทีโดยไม่จ�ำกัดวงเงิน” คุณวรกุลกล่าว ล่าสุดศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะประกันภัยได้พัฒนาไปอีกขั้น เป็นการพัฒนาที่ประธานชมรมศูนย์ซ่อมฯ ให้ค�ำจ�ำกัดความไว้อย่าง เข้าใจและกินใจว่า “ซ่อมใจ” โดยมาจากฐานความคิดของคุณวรกุลที่มองว่า รถยนต์เป็นทรัพย์สินที่เจ้าของรถทุกคนมีความห่วงใยในระดับที่จะกล่าวเปรียบเทียบได้ว่า เสมือนหนึ่งเป็นสิ่งที่มีความส�ำคัญเท่าเทียมกับชีวิตของคนในครอบครัว ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุที่ท�ำให้ต้องซ่อมรถยนต์  ทางศูนย์ซ่อมฯ ก็ควรจะดูแลและให้บริการจนสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้สูงสุด  ในระดับที่วัดเป็นรูปธรรมได้ว่า ลูกค้าจะไม่มีความกังวลความห่วงใยว่ารถยนต์ของเขาจะกลับมาอยู่ในสภาพเดิม “การบริการถึงระดับ “ซ่อมใจ” ที่ว่านี้ ผมมั่นใจได้เลยว่า แม้แต่อู่ห้างยังไม่สามารถ ให้บริการได้ดเี ท่าทีศ่ นู ย์ซอ่ มมาตรฐานวิรยิ ะประกันภัยก�ำลังให้บริการอยู่ ทุกวันนี้  ตัวอย่างง่าย ๆ การน�ำรถเข้าอู่ห้างนั้น ลูกค้าไม่มีโอกาส ปฏิสัมพันธ์กับผู้รับซ่อมได้เลย บางอู่ถึงขนาดไม่ได้เห็นสภาพ ความคืบหน้าของการซ่อมรถยนต์ของตนเองเลย ไม่เหมือนกับศูนย์ซ่อมฯ นอกจากจะมีโอกาสสอบถามเจ้าของอู่ เพือ่ คลายความกังวลใจแล้ว ยังสามารถยืน่ ข้อเสนอในสิง่ ทีล่ กู ค้าต้องการ ได้เองอีกด้วย  หรือกล่าวง่าย ๆ ศูนย์ซอ่ มฯ สามารถบริหารจัดการได้ตาม ความต้องการของลูกค้าทุกประการ” คุณวรกุลกล่าว กระบวนการพัฒนาศูนย์ซอ่ มมาตรฐานวิรยิ ะประกันภัยทีก่ �ำลังยกระดับจาก การซ่อมทัง้ รถและซ่อมทัง้ ใจคนให้หมดความกังวลนัน้  จะจริงเท็จแค่ไหนไม่จำ� เป็น ต้องรอให้เกิดอุบัติเหตุแล้วน�ำรถยนต์เข้าไปพิสูจน์ เพราะเพียงแค่ท่านผู้อ่าน “คลิก” เข้าสู่ www.viriyahcare.com แล้วจะ กระจ่างชัดถึงความจริงทีศ่ นู ย์ซอ่ มมาตรฐานวิรยิ ะประกันภัยก�ำลังพัฒนาไป ให้ถึงความหมายซ่อมใจ


ประกันภัยน่ารู  ้

42

กองบรรณาธิการ

Cash Before Cover ท�ำไม...? ต้องจ่ายก่อน

หากวันนี้ท่านเข้าไปซื้อประกันภัยรถยนต์  อาจจะได้ยินค�ำว่า ต้อง Cash Before Cover (CBC) ท่านสงสัยหรือไม่ว่ามีความหมายว่าอะไร ?  ทุกวันนี้   Cash Before Cover ยังไม่มีค�ำแปลที่ บัญญัติไว้ในศัพท์ประกันภัย แต่ในวงการประกันภัยน�ำมาใช้ในความหมายว่า ต้องช�ำระค่าเบี้ย ประกันก่อน จึงจะได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์   แล้วค�ำถามที่ผุดขึ้นต่อมาก็คือ ท�ำไม ต้อง Cash Before Cover ด้วยล่ะ ? ก่อนอื่นต้องท�ำความเข้าใจกันก่อนว่า การรับประกันภัยเป็นการระดมเงินจากผู้เอาประกันภัย คนละเล็กละน้อยเข้ามาไว้เป็นกองทุน และให้บริษัทประกันภัยเป็นผู้ดูแล เมื่อผู้เอาประกันภัยรายใด เกิดอุบัติเหตุ  บริษัทประกันภัยมีหน้าที่ต้องน�ำเงินจากกองทุนไปจ่ายให้กับผู้เอาประกันภัย และหรือ บุคคลอื่นที่ได้รับความเสียหาย  หากเงินในกองทุนดังกล่าวไม่มี  หรือมีไม่เพียงพอ ท�ำให้เกิดปัญหา การขาดเงินทุนหมุนเวียน บริษัทประกันภัยก็จะไม่มีเงินจ่ายให้กับผู้เอาประกันภัย และหรือบุคคลอื่น ที่ได้รับความเสียหาย ดังนัน้ เมือ่ ผูเ้ อาประกันภัยต้องการทีจ่ ะได้รบั ความคุม้ ครองตามสัญญาประกันภัย จึงต้องมีหน้าที่ จ่ายค่าเบี้ยประกันภัยทันที  เพื่อให้บริษัทมีเงินในกองทุนจ�ำนวนที่เพียงพอ  และพร้อมที่จะจ่ายค่า สินไหมทดแทนเมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้น ซึ่งทางส�ำนักงานคณะกรรมการก�ำกับและส่งเสริมการ ประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ก�ำหนดเงื่อนไขไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ว่า กรมธรรม์จะ ให้ความคุ้มครอง ต่อเมื่อผู้เอาประกันภัยได้ช�ำระเบี้ยประกันภัยแล้ว ในต่างประเทศมีการน�ำหลักการ Cash Before Cover มาใช้กับการประกันภัยรถยนต์นานมา แล้ว เช่น การประกันภัยรถยนต์ในประเทศมาเลเซียน�ำหลักการนี้มาใช้กับการประกันภัยรถยนต์ทุก ประเภทตั้งแต่ปี  2523  ส�ำหรับประเทศไทย ผู้เอาประกันชีวิตมีความคุ้นเคยกับระบบนี้เป็นอย่างดี เนื่องจากการประกันชีวิตได้น�ำหลัก Cash Before Cover มาใช้อย่างเต็มระบบเป็นเวลานานแล้ว แต่ส�ำนักงาน คปภ. เพิ่งน�ำหลัก Cash Before Cover มาใช้กับการประกันภัยในส่วนของรถยนต์ เมื่อวันที่  1 มกราคม 2552 - เมือ่ ท่านจ่ายค่าเบีย้ ประกันภัยแล้ว จะแน่ใจได้อย่างไรว่าท่านได้รบั ความคุม้ ครองทันที ? โดยปกติเมื่อท่านจ่ายเงินซื้อสินค้าแล้วก็จะได้รับใบเสร็จรับเงิน  ในส่วนของการซื้อประกันภัย  เมื่อท่านจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยแล้ว ท่านก็จะได้รับกรมธรรม์พร้อมใบเสร็จรับเงินเช่นเดียวกัน แต่หาก ยังไม่ได้รับกรมธรรม์พร้อมใบเสร็จรับเงิน ก็จะได้รับ ใบรับฝากเงินค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ภาค สมัครใจ ไว้แทน ซึ่งเป็นเอกสารเฉพาะของบริษัทเท่านั้น สังเกตง่าย ๆ จะพบว่า เอกสารมีรูปตรา สัญลักษณ์ของบริษัท และมีบาร์โค้ด 11 หลัก เพื่อใช้เป็นหลักฐานเบื้องต้นว่า ท่านจะได้รับความคุ้ม ครองตามสัญญาประกันภัยในทันที - ถ้าได้รับใบรับฝากเงินค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจแล้ว กรมธรรม์ประกันภัย จะได้รับเมื่อใด ?  ก่อนอื่นต้องขอท�ำความเข้าใจว่า สัญญาประกันภัยเกิดขึ้นตั้งแต่ผู้เอาประกันภัยขอท�ำ

เมื่อผู้เอาประกันภัย ต้องการที่จะได้รับ ความคุ้มครองตาม สัญญาประกันภัย   จึงต้องมีหน้าที่ จ่ายค่าเบี้ยประกันภัย ทันที เพื่อให้บริษัท มีเงินในกองทุน จ�ำนวนที่เพียงพอ   และพร้อมที่จะ จ่ายค่าสินไหมทดแทน เมื่อมีความเสียหาย เกิดขึ้น


43

ประกันภัยและบริษัทตกลงรับประกันภัยแล้ว แต่อาจจะตกลงกันว่า ให้สัญญามีผลคุ้มครองกันในวันที่ท�ำสัญญา หรือให้เริ่มมีผลคุ้มครอง ถัดจากนั้นเป็นระยะเวลาเท่าใดก็ได้  แต่จะตกลงให้มีผลคุ้มครอง ย้อนหลังไม่ได้ ส่วนกรมธรรม์ประกันภัยนั้นเป็นหลักฐานที่แสดงว่าได้มีการท�ำ สัญญาประกันภัยกันแล้ว และการส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัยเป็นเรื่อง ที่ทางบริษัทส่งมอบเอกสารให้แก่ผู้เอาประกันภัยเพื่อยึดถือเป็นหลัก ฐานในการรับประกันภัยเท่านั้น ซึ่งกรมธรรม์อาจจะพิมพ์ก่อนหรือหลัง วันที่ตกลงคุ้มครองก็ได้   ส่วนการพิมพ์กรมธรรม์ย้อนหลังนั้น ไม่ สามารถท�ำได้หากไม่มีการตกลงท�ำสัญญาประกันภัยกันมาก่อน การพิมพ์กรมธรรม์ก่อนวันคุ้มครอง ท่านจะได้รับกรมธรรม์พร้อม ใบเสร็จรับเงินในทันทีที่จ่ายค่าเบี้ยประกันภัย  การพิมพ์กรมธรรม์ในวันคุ้มครอง ท่านจะได้รับกรมธรรม์พร้อมใบ เสร็จรับเงินในทันทีที่จ่ายค่าเบี้ยประกันภัย การพิมพ์กรมธรรม์หลังวันคุ้มครองเป็นกรณีที่ได้จ่ายเบี้ยประกัน ภัยแล้ว และได้รับใบรับฝากเงินเก็บไว้เป็นหลักฐานก่อน บริษัทจะส่ง

มอบกรมธรรม์พร้อมใบเสร็จรับเงินให้โดยทันทีแต่ไม่เกิน 15 วัน ซึ่งระบุ ไว้ในใบรับฝากเงินค่าเบี้ยประกันภัย  หากยังไม่ได้รับกรมธรรม์ภายใน ก�ำหนด 15 วัน ให้ติดต่อสาขา หรือส�ำนักงานตัวแทนที่ท่านท�ำประกัน แต่สาเหตุที่พิมพ์กรมธรรม์ล่าช้าเกินกว่า 15 วัน อาจเกิดขึ้นได้ในกรณี ดังนี้  เช่น   กรณีรถน�ำเข้าจากต่างประเทศ จ�ำเป็นต้องใช้เอกสารใบสัง่ ซือ้ รถยนต์จากต่างประเทศ หรือรอรูปถ่ายจากผู้ขอเอาประกันภัย  กรณีตอ่ อายุกรมธรรม์  อยูใ่ นระหว่างการตรวจสอบค่าสินไหมฯ ซึ่งจะมีผลต่อการเพิ่มเบี้ยและลดเบี้ย  กรณีอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อมูลของผู้ขอ เอาประกันภัยให้ตรงกันระหว่างบริษัทกับตัวแทน/นายหน้า/ดีลเลอร์  เช่น ชื่อ-นามสกุล ปี  รุ่นรถ ส่วนลดค่าเบี้ยประกัน ฯลฯ  กรณีมีการซื้อ-ขาย รถประกันภัย ผู้ซื้อรายใหม่แจ้งท�ำประกัน แต่กรมธรรม์เก่าที่สาขาอื่นยังไม่หมดความคุ้มครอง หรืออยู่ระหว่างผู้ เอาประกันภัยคนเดิมยกเลิกกรมธรรม์  และขอคืนเบี้ยประกันภัย ท�ำให้ ไม่สามารถพิมพ์กรมธรรม์ใหม่ได้ จากตัวอย่างข้างต้นจึงเป็นสาเหตุท�ำให้เกิดความล่าช้า ในการพิมพ์กรมธรรม์ แต่ทงั้ นีจ้ ะไม่เกิน 60 วันนับจากวันคุม้ ครอง ตามข้อตกลงของบริษัทกับส�ำนักงาน คปภ. ตุลาคม-ธันวาคม 2554


Events

เมืองโบราณ

เมืองโบราณ สมุทรปราการ ขอเชิญเที่ยวงาน

ลอยกระทงชมจันทร์ สีสันเมืองโบราณ ปี 3 ในวันที่  10 พฤศจิกายน 2554  ตั้งแต่เวลา 16.00-24.00 น. ณ เมืองโบราณ (บริเวณสวนสุวรรณภูมิ)  พบกับบรรยากาศ ย้อนยุค และการละเล่นแบบไทย ๆ บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ ชมการประกวดนางนพมาศ ประจ�ำปี  2554 การแสดงดนตรีมหกรรมเพลงลูกทุ่ง แสง สี  เสียง ครั้งยิ่งใหญ่ ร่วมลอยกระทงบูชาพระแม่คงคา และเลือกซื้อสินค้าจาก ร้านค้าชุมชนพร้อมรับชมการแสดงล�ำตัด ลิเก  และอื่น ๆ อีกมากมาย งานนี้ชมฟรี !  ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป  ร่วมกันอนุรักษ์ประเพณีไทยในเทศกาล ลอยกระทงชมจันทร์ สีสันเมืองโบราณ ปี 3

สยามราตรี ร.ศ. 230 การท่องเที่ยวแบบใหม่  ส�ำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบในการชมสถาปัตยกรรมสยามในอดีตอันงดงามยามค�่ำคืน   เมืองโบราณมีการจัดกิจกรรมสยามราตรี  ร.ศ. 230 ในทุก ๆ วันเสาร์ของเดือนพฤศจิกายน 2554 - เมษายน 2555   เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่  12 พฤศจิกายน 2554 - 14 เมษายน 2555  ตั้งแต่เวลา 18.30-21.30 น.   เปิดมุมมองเมืองสยามไปกับการนั่งรถรางชมเมือง ชมการแสดงเห่เรือ เพลงฉ่อย ชมการแสดงแสง สี  เสียง นาฏศิลป์ประยุกต์อันตระการตา พร้อมร่วมรับประทานอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ในบรรยากาศสยามยามเย็น  รื่นเริง บันเทิงใจ เที่ยวชมตลาดเก่าเล่าเรื่องเมืองโบราณในงานสยามราตรี ร.ศ. 230  ณ เมืองโบราณ สมุทรปราการ

เดินตามพ่อกับ พ.ศ. พอเพียง เรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และองค์ความรู้ต่าง ๆ  ของพระราชา จากค่ายกสิกรรมธรรมชาติเมืองโบราณ เพื่อสร้างการพึ่งพาตนเองให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน และร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพร องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่  5 ธันวาคม 2554  ณ  เมืองโบราณ สมุทรปราการ

เทศกาลกล้วยไม้ไทย ปีใหม่เมืองโบราณ สมุทรปราการ ร่วมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กับ “เทศกาลกล้วยไม้ไทย ปีใหม่เมือง โบราณ 2555” ตั้งแต่วันที่  31 ธันวาคม 2554 - 3 มกราคม 2555   ร่วมชมพรรณไม้ในอุทยานเทวโลกและการประดับกล้วยไม้ในสวน  ชมการออกร้านจ�ำหน่ายกล้วยไม้นานาพรรณจากทัว่ ประเทศทัง้ พันธุแ์ ท้ และพันธุ์ผสมมากมาย  อิ่มอร่อยในงานทั้งอาหารและเครื่องดื่ม   พร้อมชมกิจกรรมการแสดงหลายชุดสุดประทับใจ ได้แก่  ดนตรีในสวน  มายากลโบโซ่  โชว์จักรยานล้อเดียว และอื่น ๆ อีกมากมาย

*

วันและเวลาในการจัดกิจกรรมสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดงานกิจกรรมต่าง ๆ ได้ที่  โทร. 0-2709-1644-8


Calendar กิจกรรมระหว่างเดือนกันยายน-ธันวาคม กันยายน : งานสารทเดือนสิบ

สารท เป็นค�ำที่มาจากภาษาอินเดีย แปลว่า ฤดู  ซึ่งฤดูสารทนี้ เป็นฤดูที่ต้นไม้เริ่มออกผล  ประเพณีวันสารทไทยถือเป็นประเพณีของ ภาคกลาง เมื่อใกล้ถึงวันสารท ชาวบ้านทุกบ้านจะกวนกระยาสารท  เพื่อน�ำไปตักบาตร และแจกจ่ายให้แก่เพื่อนบ้าน  กระยาสารท เป็นขนมประจ�ำวันสารทในทุกท้องถิ่นของ ประเทศไทย เป็นการท�ำบุญเพื่อส่งเสริมขวัญก�ำลังใจแก่เกษตรกร ผู้เพาะปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหาร เพื่อให้พืชพันธุ์มีความอุดมสมบูรณ์ มากยิ่งขึ้น  ดังนั้นทางพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณจึงจัดงานสารทเดือนสิบ สี่ภาคขึ้น ภายในงานมีการออกร้านขนมกระยาสารทชื่อดังหลากหลาย ร้านค้าจากทั่วประเทศ พร้อมทั้งสาธิตการท�ำขนมต่าง ๆ ในงานสารท เดือนสิบ เพื่อส่งเสริมให้ขนมไทยท้องถิ่นยังคงมีผู้สืบทอดต่อไป

ตุลาคม : งานตุลา ชา ช่ะ ช่า

พบกับประวัติความเป็นมาของชา การจัดนิทรรศการที่บอกเล่า เรื่องราวความมหัศจรรย์ของชาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รายละเอียดของ ชาแต่ละสายพันธุ์  สาธิตวิธีการชงชาแบบดั้งเดิมของผู้คนในเอเชียอาคเนย์  ปั้นชารูปทรงต่าง ๆ ที่หาชมยาก พร้อมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากชาดี  มีคุณภาพ

พฤศจิกายน : งานจองเปรียงเดือน 12

จองเปรียงเดือน 12 ร่วมสืบสานงานลอยกระทงแบบโบราณ  และสัมผัสบรรยากาศภายในงานแบบย้อนยุค  ชมการท�ำกระทงอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อม ลอยกระทงเพื่อเป็นการคารวะสายน�้ำและขอขมา แม่คงคา เพราะเราได้อาศัยน�้ำกินและใช้  ดังนั้นเมื่อคนเรามีชีวิตอยู่รอดได้ ปีหนึ่ง จึงท�ำพิธีขอขมา ขณะเดียวกันก็ท�ำพิธีบูชาพระคุณไปพร้อมกัน

ธันวาคม : งาน Street Art / 5 ธันวา / ปีใหม่

ช่วงเดือนธันวาคมพบกับกิจกรรมมากมายที่ทางพิพิธภัณฑ์ ช้างเอราวัณได้จัดขึ้นทั้งกิจกรรมดนตรี  งานกวี  และศิลปะที่ได้รวบรวม งาน Art มาไว้ในบรรยากาศถนนคนเดิน พร้อมทั้งมีกิจกรรมให้ทุกท่าน ได้เข้าร่วม ทั้งงานปั้น งานหล่อ ตามแบบงานช่างศิลป์ไทย

*

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2371-3135-6 หรือ www.erawan-museum.com กิจกรรมดังกล่าวข้างต้น อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม  โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ


สถาบันเศรษฐกิจพอเพียง ต้น ณ โมบาย 46

จากดินคืนสู่ดิน...  คืนชีวิตให้แผ่นดิน  สุดปลายสายตาของผมขณะนี้  คือทิวเขายาวไกล ระยะขอบฟ้า ตัดกับสีเขียวของผืนทุ่งนา สายลมเย็นสดชื่นพัดโชย ยอดข้าวก�ำลัง แตกแทงช่อดอกอ่อน ๆ  ผมเชื่อลึก ๆ ว่านี่แหละคือภาพแห่งความจริง ของชีวิต และเป็นภาพฝันของทุกคน เท้ายังคงเหยียบคันเร่ง พารถคันใหญ่ที่บรรทุกเรื่องราวมากมาย  เตรียมพร้อมไปบอกเล่า... รถคันนี้เดินทางไปตามจุดหมายต่าง ๆ พร้อมกับผม เสมือนเพื่อน คู่กาย และเพื่อนคู่ใจ หลายครั้งที่ขับผ่านเส้นทางต่าง ๆ ตามชุมชน สายตาหลายสิบคู่ เหลือบมอง ในแววตามีค�ำถาม ผมนึกรู้ว่า ก็คงเป็นค�ำถามเหมือน ๆ  กับที่ผ่านมา “พวกเขาท�ำอะไรกัน พวกเขาคิดอะไรกัน” และลงท้าย แบบข�ำ ข�ำ เหมือนทุกที  “เขาบ้ากันหรือเปล่า...?”  ใช่...พวกเราบ้ากันหรือเปล่า หลายครัง้ ทีผ่ มเองก็ตงั้ ค�ำถามกับตัวเอง  พวกเราบ้าหรือเปล่า (วะ)  หากจะตอบว่าไม่บา้  สิง่ ทีท่ ำ� ก็ดบู า้ บอเหลือเกิน  แต่หากจะตอบว่าบ้า สิ่งที่ท�ำก็ช่างเป็นสิ่งที่ดูมีเหตุผลเหลือเกิน


47

หลายปีก่อนหน้าที่ผมจะเข้ามาในขบวนการชื่อแปลก ๆ “คืนชีวิตให้ แผ่นดิน” ผมเองก็เหมือนกับใครหลาย ๆ คน คือ เรียนให้จบปริญญาตรี เพื่อน�ำเอาปริญญาความรู้ไปประกอบอาชีพ เลี้ยงตัวเองให้รอด  เหลือเงินส่งให้พ่อแม่บ้าง ท�ำงานไปสักพักก็คงจะเก็บเงินสร้างบ้าน  แต่งงาน มีลูก มีเต้า... ก็ว่ากันไปตามประสาเหมือนคนอื่น ๆ ... ใช่ !  เหมือนคนอื่น ๆ  ป้ายโรงเรียนเป้าหมายอยู่ข้างหน้า บอกระยะทางอีกไม่กี่สิบกิโล จะถึงที่... มือบังคับพวงมาลัยเลี้ยวขวาลงจากทางหลัก  เส้นทางขรุขระดึงผมกลับมาสู่ปัจจุบัน... แต่เมื่อสัญชาตญาณ ท�ำหน้าที่ควบคุมรถได้แล้ว ความคิดก็ล่องลอยกลับไปยังจุดค�ำถามที่ แขวนไว้ อะไรท�ำให้ชีวิตเลี้ยวลงทางแยก จากถนนหลัก... อาจจะเป็นเพราะการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ตามวัย การเดินทางที่ได้ ท�ำให้เห็นโลกมาก และที่ส�ำคัญความจริงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า และ โอกาสที่พาผมเข้ามาเจอกับขบวนการเล็ก ๆ ที่หยั่งรากลึกลงไปในผืน ดิน เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ  ขบวนการคืนชีวิตให้แผ่นดิน ซึ่งครั้ง แรกผมเองก็ยังคงไม่ตระหนัก ท�ำไมการท�ำกสิกรรมธรรมชาติจะต้องคืน ชีวิตให้แผ่นดินทีเดียวหรือ แล้วการสอนท�ำปุ๋ย ท�ำการเพาะปลูกแบบ ธรรมชาติ  การสอนให้ท�ำน�้ำส้มควันไม้  สอนเผาถ่าน สอนปลูกข้าว  สอนท�ำบ้านดิน สอนท�ำน�้ำยาอเนกประสงค์  จะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ พอเพียงได้ยังไง  ...ความพอที่แท้จริงควรจะอยู่ที่ใจ... ใจเราพอก็พอแล้วไม่ใช่หรือ  ที่ในหลวงสอนก็หมายถึงทางสายกลาง ท�ำอะไรก็อย่าสุดโต่ง พอเพียง  พอประมาณ มีภูมิคุ้มกัน สามห่วง สองเงื่อนไข ความรู้กับคุณธรรม  สอนกันมานานใครก็ท่องได้  เวลาผ่านไปท�ำให้ผมได้รู้ว่า ผมไม่รู้อะไรอีกมากมาย ชีวิตที่เคย มุ่งแต่จะทะยานไปข้างหน้า กลับตัวแบบ 180 องศา ลงมาหาพื้นดิน ผมเข้าใจแล้วในความหมายของการถอยหลังเข้าคลอง... หรือค�ำ  Our Loss is Our Gain ที่พระองค์ท่านมีพระราชด�ำรัสไว้ ผม เข้าใจมากขึ้นในเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง ว่าไม่ได้หมายความ เพียงแค่การท่องจ�ำ แต่หากจะเข้าใจได้ต้อง “ลงมือท�ำ” การท่องเพียงปากเปล่าไม่ช่วยให้เกิดประโยชน์อะไร แต่การได้ ลงมือท�ำ ลงมือปฏิบัติจริง เพื่อบอกกับตัวเองว่า ตัวเราเองก็สามารถพึ่ง ตนเองได้  ท�ำทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง ปลูกข้าวปลาอาหารที่ปลอดภัย กินได้เองอย่างเพียงพอ ท�ำยาสมุนไพรดูแลตัวเองได้  แชมพู  สบู่ น�้ำยาล้างจาน เราก็ท�ำเป็นนะ ไม่ต้องพึ่งร้านค้า หรือแม้แต่พลังงาน ทดแทนหากโลกใบนี้หมดพลังงานไปจริง ๆ เราก็พอจะมีปัญญา... สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ที่เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติสอนกันนั้น แท้จริงแล้ว ไม่เพียงแค่เป็นการสอนให้ท�ำ แต่พวกเขาใช้เครื่องมือต่าง ๆ เหล่านี้ “สอนให้คิด” และลงมือ “ท�ำให้เห็น” เป็นต้นแบบจริง ด้วยเชื่อมั่นว่า  ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าค�ำสอน...

ป้ายโรงเรียนปรากฏอยู่ตรงหน้า เด็ก ๆ วิ่งเล่นกันวุ่นวาย วันนี้ผม ขับรถอบรมเศรษฐกิจพอเพียงเคลื่อนที่  หรือ mobile unit มาที่ โรงเรียนเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่ห่างไกลหลายสิบกิโล จากสถาบันเศรษฐกิจ พอเพียง มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ที่ผมสังกัดอยู่  ครูใหญ่และครูน้อยในโรงเรียนเร่งเท้าเดินมาต้อนรับ ลูกทีมรถ โมบายพากันขยับตัว ติดตั้งจอทีวี  และเตรียมการฐานเรียนรู้ต่าง ๆ  ผมมองภาพเหล่านี้ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ปีติ  อิ่มเอม และ เชื่อมั่นว่า เราเดินทางมาถูกทางแล้ว แม้ใครจะหาว่าบ้าหรือเพี้ยน แต่ เส้นทางนี้แหละที่ผมและพวกอีกนับพันนับหมื่นคน จะรักษาผืนแผ่นดิน ไทยไว้ได้ด้วยการท�ำกสิกรรมธรรมชาติ   หากพวกเขารอด มีชีวิตที่ดี  พวกเขาก็จะไม่ขายที่ดินให้กับชาวต่างชาติ  แต่จะใช้ผืนแผ่นดินทอง แห่งนี้ผลิตอาหารที่พอเพียง และปลอดภัยให้กับคนไทยทุกคน และหากเด็ก ๆ เหล่านี้ไม่ฟุ้งเฟ้อไปตามกระแส เรียนรู้ที่จะพึ่งตนเอง  ตระหนักถึงคุณค่าในตนเอง แม้สังคมจะวุ่นวาย วกวนมากกว่านี้  พวก เขาก็ยังมีภูมิคุ้มกัน... และนี่ไงล่ะ ความหมายของสองเงื่อนไข ความรู้  และคุณธรรม ที่ต้องมาก่อนสามห่วง คือ ความพอเพียง พอประมาณ  ความมีเหตุมีผล... ก่อนก้าวลงจากรถ ผมนึกถึงค�ำอาจารย์ยักษ์ท่านว่า “ถ้าเอาปลายมา ปลูก ต้นไม้มันจะขึ้นได้อย่างไร เศรษฐกิจพอเพียงก็เช่นกัน ต้อง ปลูกจากราก คือ ความรู้และคุณธรรม จึงจะเกิดผลเป็นความพอ เพียง พอประมาณ ความมีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกัน”  นี่ไงล่ะ ค�ำ ตอบของผม ที่บอกกับคุณว่าแม้ผมจะอยากบอกว่าสิ่งที่ท�ำวันนี้มัน ช่างบ้า แต่ก็เป็นความบ้าที่มีเหตุผล แล้วคุณล่ะคิดอย่างไร ขอขอบคุณ :  การสนับสนุนโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงภาคประชาชน  โดยการมอบรถอบรมเคลื่อนที่และงบประมาณเพื่อการด�ำเนินโครงการ จากบริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด

ตุลาคม-ธันวาคม 2554



49 “ดาบฯ แช่ม” ภาพประกอบ : เซมเบ้ รอบรู้จราจร

หลายคนเมื่อเห็นสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยน จากไฟเขียวเป็นไฟเหลือง ก็จะเร่งเครื่อง  เพื่อไม่ให้ติดไฟแดง  แต่เมื่อพ้นแยกไปแล้ว  กลับเจอคุณจราจรโบกเรียกและแจ้งข้อหา ว่าฝ่าไฟเหลือง...ข้อหานี้มีด้วยหรือ ?   เรามาลองรู้จักกฎหมายเกี่ยวกับสัญญาณ ไฟจราจรกันสักหน่อย ดีไหมครับ พระราชบัญญัติจราจรทางบก   พ.ศ.2522 มาตรา 22 ก�ำหนดให้ผู้ขับขี่  ยวดยานบนท้องถนนต้องปฏิบัติตาม สัญญาณไฟจราจร สรุปได้ดังนี้ 1. ไฟสีเหลืองอ�ำพัน ให้ผู้ขับขี่  เตรียมหยุดรถหลังเส้นให้รถหยุดเพื่อเตรียม ปฏิบัติตามไฟสัญญาณสีแดง เว้นแต่ผู้ขับขี่  ที่ได้เลยเส้นให้รถหยุดไปแล้วให้เลยไปได้ 2. ไฟสีแดง ให้ผู้ขับขี่หยุดรถหลังเส้นให้  รถหยุด 3. ไฟสีเขียว ให้ผู้ขับขี่ขับรถต่อไปได้  เว้นแต่จะมี  เครื่องหมายจราจรก�ำหนดไว้เป็นอย่างอื่น 4. ไฟลูกศรสีเขียวชี้ให้เลี้ยวหรือชี้ให้ตรงไป หรือไฟ สีแดงแสดงพร้อมกับไฟลูกศรสีเขียวชี้ให้เลี้ยวหรือชี้ให้ ตรงไป ให้ผู้ขับขี่เลี้ยวรถหรือขับรถตรงไปได้ตามทิศทางที่  ลูกศรชี้  และต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง และต้องให้สิทธิ แก่คนเดินเท้าในทางข้ามหรือรถที่มาทางขวาก่อน 5. ไฟกะพริบสีแดง ถ้าติดตั้งอยู่ที่ทางร่วมทางแยกใด  เปิดทางด้านใดให้ผู้ขับขี่ที่มาทางด้านนั้นหยุดรถหลังเส้นให้รถหยุด  เมื่อเห็นว่าปลอดภัยและไม่เป็นการกีดขวางการจราจรแล้ว   จึงให้ขับรถต่อไปได้ด้วยความระมัดระวัง 6. ไฟกระพริบสีเหลืองอ�ำพัน ถ้าติดตั้งอยู่ ณ ที่ใด  ให้ผู้ขับขี่ลดความเร็วของรถลงและผ่านทางเดินรถนั้นไปด้วย ความระมัดระวัง จะเห็นว่า ตามกฎหมายแล้ว เมื่อเห็นไฟเหลืองแล้ว  เร่งเครื่องให้พ้นแยก ไม่หยุดรถหลังเส้นให้รถหยุด (เส้นขาว) ก็จะ เป็นการฝ่าฝืนสัญญาณไฟเหลือง คุณจราจรจึงสามารถจับกุมคุณได้  และ  ข้อหานี้มีอัตราเปรียบเทียบปรับ 400-1,000 บาทเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นเมื่อเห็นไฟเหลือง ถ้ารถเลยเส้นขาวไปแล้ว ก็ไปต่อได้  ไม่ถือว่าเป็นการฝ่าไฟเหลือง  แต่ถ้ายังไม่พ้นก็ควรจะหยุดรถหลังเส้นทุกครั้ง นะครับ

จราจรจราจล

ฝ่าไฟเหลือง ...ข้อหานี้มีด้วยหรือ ?

ตุลาคม-ธันวาคม 2554


50 ผลิตภัณฑ์  กองบรรณาธิ การ

วิริยะประกันภัยรุกตลาดรายย่อย ส่งกรมธรรม์ “ท่องเที่ยวสุขใจ” วิริยะประกันภัยรุกตลาดประกันภัยรายย่อย  ส่งกรมธรรม์ “ท่องเทีย่ วสุขใจ” ชูจดุ ขาย “ซือ้  1 ได้ถงึ  3”  ด้วยเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 205 บาท หวังเจาะกลุ่มนักเดินทาง บริษัท วิริยะประกันภัย จ�ำกัด สร้างสรรค์แบบ  ประกันภัยส�ำหรับลูกค้ารายย่อย (Micro Insurance) ขึ้น   เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เน้นความคุ้มครอง  ที่ครบถ้วนและเบี้ยประกันภัยที่ประหยัด ภายใต้ชื่อ   “ท่องเที่ยวสุขใจ” โดยมุ่งเน้นเบี้ยประกันภัยราคาประหยัด ÊÒÁÒöµÔ´µèÍÊͺ¶ÒÁà¾ÔèÁàµÔÁä´é·ÕèàºÍÃì 02-641-3500 µèÍ 1328,3217 และคุ้มค่า ด้วยการรวมความคุ้มครองของกรมธรรม์สามตัว  ได้แก่  กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุขณะเดินทาง กรมธรรม์ ประกันอัคคีภัย และกรมธรรม์ประกันภัยโจรกรรม ไว้ใน  ฉบับเดียว กรมธรรม์  “ท่องเที่ยวสุขใจ” เป็นกรมธรรม์ที่ให้ความ คุ้มครองในระยะสั้น โดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่ต้องการ เดินทางพักผ่อน หรือแม้แต่เดินทางประกอบธุรกิจ ทั้ง ภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งสามารถคุ้มครองได้ทั้ง แบบการเดินทางประเภทเดี่ยว ประเภทคู่  และการเดินทาง ประเภทครอบครัว ที่มีระยะเวลาความคุ้มครองให้เลือกตั้งแต่  5 วัน 7 วัน และ 14 วัน ด้วยเบี้ย  ประกันภัยเริ่มต้นเพียง 205 บาท เพื่อให้ผู้เดินทางมีความรู้สึกอุ่นใจ และมั่นใจตลอดการเดินทาง   โดยวิริยะประกันภัยจะเป็นผู้ท�ำหน้าที่ดูแลชีวิตและทรัพย์สินของผู้เดินทางตลอดระยะเวลาความ คุ้มครองของกรมธรรม์ ส�ำหรับความคุ้มครองนั้นจะแยกเป็นสองส่วนหลัก ๆ คือ 1. อุบัติเหตุขณะเดินทาง ที่ให้ความ  คุ้มครองสูงถึง 200,000 บาท รวมถึงค่ารักษาพยาบาล 20,000 บาทต่อครั้ง และ 2. ที่อยู่อาศัย ซึ่ง  ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งอัคคีภัยและการโจรกรรม ด้วยวงเงินความคุ้มครองสูงสุดถึง 500,000  บาท  อย่างไรก็ตามผูท้ สี่ นใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิม่ เติมได้ทฝี่ า่ ยประกันภัย  Non-Motor ด้านทรัพย์สิน โทร. 0-2641-3500 ต่อ 1328 หรือ 3217 ในเวลาท�ำการ วิริยะประกันภัยต้องการจะเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาและแบ่งเบาปัญหาความกังวลใจให้แก่  ผู้ที่ต้องเดินทางแต่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน บ้าน ในระหว่างที่ไม่มีใครอยู่  โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่เพียงล�ำพัง ที่อาจมีความกังวลเรื่องขโมยขึ้นบ้าน ไฟไหม้บ้าน รวมไปถึง อุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ซึ่งปัญหาดังกล่าวข้างต้นนี้จะหมดไปด้วยกรมธรรม์  “ท่องเที่ยวสุขใจ”  เพียงฉบับเดียว




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.