Chip special 10 years

Page 1


เทคโนโลยีไม่ใช่เรือ่ งยุง่ ยากอีกต่อไป มันกลายเป็นเรือ่ งง่ายๆ ใกล้ๆ ตัว ทีห่ ลอมรวมกลายเป็น ส่วนหนึ่งของชีวิตประจ�าวัน ทั้งการท�างาน การพักผ่อน และทุกๆ กิจกรรมในทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และวัฒนธรรม ในทุกวันนี้ เราทุกคนต่างก็เคยชินกับการด�ารงชีวิตอยู่ในยุคสมัยที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยี เหมือนกับที่เราเคยชินกับการหายใจเข้าและออก เราใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย โดยแทบไม่ทันรู้สึกตัวเลยด้วยซ�้า ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติมีความเป็นมายาวนานหลายพันปี โดยทุกล�าดับขั้นของ วิวัฒนาการ ล้วนมีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องและเป็นตัวการส�าคัญในการผลักดัน นับตั้งแต่การ เริม่ รูจ้ กั ใช้ไฟและล้อ เรือ่ ยมาจนถึงการคิดค้นแท่นพิมพ์และเครือ่ งจักรกลไอน�า้ มนุษย์เราสามารถ วิวัฒนาการได้มากและเร็วขึ้นแบบทวีคูณ 50 ปีที่ผ่านมา โลกและชีวิตของเรามีวิวัฒนาการไปอย่างรวดเร็วมากกว่านั้นอีก เมื่อมีการ คิดค้น Chip หรือ Integrated circuit แผ่นวงจรขนาดเล็กๆ ที่รวบรวมเอาวงจรไฟฟ้าจ�านวน มหาศาลมาอัดใส่ไว้ภายใน น�าไปสู่การคิดค้นเครื่องมือประมวลผลที่สลับซับซ้อน จนกลายเป็น อุปกรณ์ไฟฟ้ามากมาย และในที่สุด ทุกวันนี้พวกอุปกรณ์เหล่านั้น ก็มาอยู่บนฝ่ามือของเรา และสามารถเชื่อมโยง สื่อสารถึงกันได้หมด 9 ปีที่แล้ว ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2545 นิตยสาร CHIP เริ่มเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทย โดย ร่วมทุนกับ บริษัท โฟเกลบัวร์ด้า คอมมิวนิคเคชั่น ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตนิตยสาร แบบ เรียน คูม่ อื การใช้งาน บทความวิชาการ และเป็นส�านักข่าวด้านเทคโนโลยี ทีม่ ชี อื่ เสียงและมีความ เป็นมายาวนานจากประเทศเยอรมนี นิตยสาร CHIP ได้เฝ้าติดตามความเปลีย่ นแปลงทางเทคโนโลยีในระดับโลก และสังเกตการณ์ ความเปลี่ยนแปลงในสังคมไทยมาโดยตลอด จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาครบ 1 ทศวรรษ เราได้ เรียนรู้แนวความคิดจากแหล่งต่างๆ มากมาย เกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยีที่เหมาะสม ในโอกาสนี้ เราจึงจัดท�า CHIP ฉบับพิเศษ ‘10 ผู้น�าทางความคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยน ประเทศไทย 10 ปีนิตยสาร CHIP’ รวบรวมบทความอันทรงคุณค่า 10 ชิ้น เพื่อที่จะน�าเสนอมุมมองการใช้เทคโนโลยีให้เกิด ประโยชน์ มีประสิทธิภาพ ประหยัด สัมฤทธิ์ผล และสร้างประโยชน์ให้กับสังคมส่วนรวม โดยผ่าน มุมมองของ 10 บุคคลส�าคัญ ทีล่ ว้ นมีบทบาทในการน�าเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ จนสามารถ สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมไทย ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เริ่มต้นที่การน�าเทคโนโลยีดาวเทียม ที่เคยถูกใช้เพื่อความบันเทิงและด้านธุรกิจเท่านั้น มา ใช้ในการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชน ท่าน ขวัญแก้ว วัชโรทัย ประธานกรรมการ บริหาร มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม จะมาบอกเล่าความเป็นมา แรงบันดาลใจ หลัก แนวคิดในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ธรรมดาๆ ในรูปแบบที่ไม่ธรรมดา จนกลายเป็นระบบการ เรียนการสอนทางไกล ที่ช่วยให้เยาวชนไทยนับล้านมีโอกาสในชีวิตที่ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นต้นแบบ ให้กับอีกหลายๆ ประเทศทั่วโลกน�าไปพัฒนาระบบการศึกษาของตน

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


วิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าทีผ่ บู้ ริหาร บริษทั แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วสิ จ�ากัด (มหาชน) จากเด็กหนุม่ หัวรุนแรงทีม่ อี ดุ มการณ์ทางสังคมอันมุง่ มัน่ จนปัจจุบนั เขากลายเป็นหนุม่ ใหญ่ทกี่ า้ วขึน้ มาเป็นเบอร์ 1 ของบริษทั ด้านการสือ่ สารโทรคมนาคมของเมืองไทย เขายังคงยึดมัน่ อุดมการณ์เช่นเดิม โดยหันมาใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ มาเป็นเครื่องมือในการผลักดันสังคมแทน และ เชื่อว่าการเปิดเสรีทางการสื่อสาร จะน�าพาสังคมไทยให้เดินหน้าต่อไปอย่างเท่าเทียม ในยุคสมัยทีข่ อ้ มูลข่าวสารจากทัว่ ทุกมุมโลกสามารถมาอยูบ่ นฝ่ามือ และในยุคสมัยทีผ่ คู้ นทัง้ โลกสามารถติดต่อสือ่ สารกันได้งา่ ยๆ เพียงชัว่ ลัดนิว้ มือ เราจะยังคงต้องการเดินทางท่องเทีย่ วกัน อยู่อีกหรือไม่? นี่คือประเด็นค�าถามที่ สุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะมาให้ค�าตอบกับพวกเรา เราจะได้รู้กันว่านักท่องเที่ยวในยุคปัจจุบัน เขาท่องเที่ยวกันอย่างไร และประเทศไทยเราในฐานะที่มีรายได้หลักจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จะต้องปรับตัวรับมือ กับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างไร สมเกียรติ อ่อนวิมล ปรมาจารย์สอื่ สารมวลชนของเมืองไทย เขาอาจจะไม่ใช่สอื่ ผูเ้ ชีย่ วชาญ ด้านการใช้ทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กมากที่สุดในปัจจุบัน แต่เมื่อเกือบ 20 ปีก่อน เขาคือสื่อมวลชน ผู้เริ่มต้นสร้างสังคมเสมือนทางวิทยุแห่งแรกขึ้นมาในเมืองไทย และเมื่อเกือบ 30 ปีก่อน เขาคือ สื่อมวลชนผู้ปฏิวัติวงการข่าวโทรทัศน์ของเมืองไทย สมเกียรติ อ่อนวิมล จะมาเล่าถึงวิวัฒนาการ ของการท�างานด้านสื่อสารมวลชน ตั้งแต่สมัยที่เขาเริ่มหัดใช้โน้ตบุ๊กเครื่องแรกของโลก กล้อง ยูเมติค โทรศัพท์มือถือแบบกระเป๋าหิ้ว เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ที่เขาใช้สมาร์ทโฟนสุดแสนไฮเทค สังคมออนไลน์แห่งแรกของเมืองไทย ถือก�าเนิดขึ้นด้วยความบังเอิญ นับจากวันที่ วันฉัตร ผดุงรัตน์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เริ่มต้นท�าเว็บแมกาซีนออนไลน์ที่ล้มเหลวจนอย่างสิ้น เชิง จนเขาต้องเปลี่ยนรูปแบบไปมา แล้วในที่สุด มันก็กลายเป็นเว็บบอร์ดฟอรั่มที่มีผู้ใช้มากที่สุด ในประเทศไทยในทุกวันนี้ วันฉัตรรักษาความส�าเร็จและพัฒนาสังคมออนไลน์แห่งนีอ้ ย่างต่อเนือ่ ง และยัง่ ยืน ตลอดระยะเวลายาวนานกว่า 15 ปี แน่นอนว่าต้องไม่ใช่เพียงแค่การอัพเกรดฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์เท่านั้น เขายังใส่ศีลธรรมและจริยธรรมเข้าไปในสังคมแห่งนี้อีกด้วย ผู้ที่ได้รับผลกระทบในด้านลบจากเทคโนโลยีมากที่สุด ในบรรดา 10 ผู้น�าทางความคิดของ CHIP คือเฮียฮ้อ - สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จ�ากัด (มหาชน) เมื่อไฟล์ฟอร์แมต MP3 ไหลบ่ามากวาดล้างวงการเพลงทั้งโลก เหมือนกับสึนามิครัง้ ใหญ่ เฮียฮ้อเล่าให้เราฟังว่าเขามองเห็นคลืน่ ลูกนีก้ อ่ นใคร เขาใช้เวลายาวนาน เกือบทศวรรษ ในการปรับเปลีย่ นองค์กรธุรกิจเพลงทีค่ วามเป็นมายาวนาน เพือ่ รับมือคลืน่ ลูกนีจ้ น ส�าเร็จเสร็จสิ้นแล้ว และต่อไปนี้ เขาจะเปลี่ยนผลกระทบในด้านลบให้กลายเป็นด้านบวก อัจฉรา กิจกัญจนาสน์ กรรมการผูจ้ ดั การ บริษทั กันตนา แอนิเมชัน สตูดโิ อ จ�ากัด คือหัวเรีย่ ว หัวแรงผูอ้ ยูเ่ บือ้ งหลังความส�าเร็จของแอนิเมชันเรือ่ ง “ก้านกล้วย” แอนิเมชันทีเ่ ป็นความภาคภูมใิ จ ของคนไทยทั้งประเทศ เธอและทีมงานคือศิลปินผู้ใช้คอมพิวเตอร์แทนพู่กัน เปลี่ยนความฝันและ จินตนาการในวัยเด็ก ให้กลายเป็นภาพจริงที่โลดแล่นอยู่บนจอภาพยนตร์ เธอบอกว่าเทคโนโลยี

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


นั้นเป็นเพียงแค่เครื่องมือ จะแพงหรือทันสมัยแค่ไหนก็ไม่ส�าคัญ เพราะสิ่งส�าคัญที่แท้จริงนั้นคือ หัวใจที่มุ่งมั่นของศิลปินต่างหาก ที่สร้างสรรค์งานศิลปะออกมาสู่โลกได้ ผู้น�าทางความคิดที่อายุน้อยที่สุดของ CHIP หนุ่ย - พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ หนุ่มน้อยพิธีกร รายการโทรทัศน์ ที่ค่อยๆ ไต่เต้าจนกลายเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท โชว์ไร้ขีด จ�ากัด ตลอด 10 ปีบนเส้นทางการเติบโตหลังจากเรียนจบมา เขารู้จักหยิบจับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในแต่ละยุค มา ใช้เป็นสปริงบอร์ดให้ตัวเองกระโดดข้ามอุปสรรค และก้าวเข้าไปสู่โอกาสใหม่ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า หนุ่ยได้เล่าถึงครั้งแรกที่เขาได้จับคอมพิวเตอร์พีซี หัดต่ออินเทอร์เน็ต จนกระทั่งกลายเป็นเจ้าของ ธุรกิจอีเว้นต์ออแกไนเซอร์ และจัดรายการทีวีด้านไอทียอดฮิตของเมืองไทย อนุชัย ศรีจรูญพู่ทอง เริ่มต้นเรียนรู้การถ่ายภาพและเข้าวงการนี้มาตั้งแต่ยุคสมัยแห่ง อนาล็อก ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิตอล เพื่อนช่างภาพและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ การถ่ายภาพมากมาย ค่อยๆ มลายเลือนหายไป แต่เขาสามารถเอาชีวติ รอดมาได้ดว้ ยการปรับตัว และเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ได้รวดเร็วทันเวลา ถึงอย่างไรก็ตาม ในโลกการถ่ายภาพยุคดิจิตอล ถึง แม้เครื่องไม้เครื่องมือจะทันสมัย เขายังยึดถือสุนทรียศาสตร์แบบยุคอนาล็อกไว้อย่างมั่นคง และ นี่คือเคล็ดลับของความส�าเร็จในงานช่างภาพโฆษณาที่ได้รับการยอมรับระดับโลก ผู้น�าทางความคิดท่านสุดท้ายของเรา คือ พระไพศาล วิสาโล ท่านเคยแปลหนังสือ The Silicon Idol: The Micro Revolution and Its Social Implications ของ ไมเคิล แชลลิส ซึ่งถือ เป็นหนังสือที่มีอิทธิพลทางความคิดต่อคนหนุ่มสาว ตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ในเรื่องเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์และไอที นอกจากนี้ ท่านยังเสนอแนวธรรมของศาสนาพุทธ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ เทคโนโลยีอย่างสันโดษและสมถะ จากบทความอันทรงคุณค่าทัง้ 10 ชิน้ CHIP ได้พบประเด็นทีท่ งั้ หมดมีอยูร่ ว่ มกัน คือเทคโนโลยี นัน้ มีประโยชน์อเนกอนันต์ ถ้าเรารูจ้ กั ค�าว่าเหมาะสม พอเพียง ไม่มากเกินไป ไม่นอ้ ยเกินไป ถึงแม้ ประเทศไทยเราจะไม่ใช่ผู้คิดค้นและสร้างมันขึ้นมา แต่เราสามารถน�ามาประยุกต์ใช้งานและต่อ ยอดขึ้นไปได้อย่างไม่รู้จบสิ้น ในขณะที่หลายคนอาจจะมองเทคโนโลยีในด้านลบ หลายคนต่อต้านเทคโนโลยี หลายคน แนะน�าว่าคนเราควรย้อนกลับไปใช้ชีวิตแบบบรรพกาล แต่บุคคลซึ่งเป็นผู้น�าความคิดทั้ง 10 ท่าน ได้ชี้ให้เราเห็นชัดเจน ว่าในชีวิตประจ�าวันปกติ ธรรมดา การท�างาน การพักผ่อน การสร้างสรรค์งานศิลปะ การเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ความ เปลี่ยนแปลงทางการเมือง และวิวัฒนาการของวัฒนธรรม ทุกมิติของชีวิตเรานั้นดีขึ้นได้ ด้วยการ เลือกเทคโนโลยีทเี่ หมาะสม ขอเพียงเราพิจารณาและตัดสินใจเลือกใช้ให้สอดคล้องกับการพัฒนา ทีย่ งั่ ยืน น�ามาใช้ในทางทีเ่ หมาะสม ในขณะเดียวกัน เรารูเ้ ท่าทันถึงโทษภัยทีอ่ าจจะเกิดขึน้ ของมัน ความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ตลอดช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา และต่อจากนี้เป็นต้นไป ถือ เป็นโอกาสของผู้รู้ ที่จะน�าไปสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นให้กับตนเองและสังคม

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP

ขวัญแก้ว วัชโรทัย วิเชียร เมฆตระการ สุรพล เศวตเศรนี สมเกียรติ อ่อนวิมล วันฉัตร ผดุงรัตน์ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ฉัจฉรา กิจกัญจนาสน์ พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ อนุชัย ศรีจรูญพู่ทอง พระไพศาล วิสาโล

กองบรรณาธิการ มีนาคม 2554


10 ผูนําทางความคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปนิตยสาร CHIP

ขวัญแกว วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิการศึกษาทางไกลผานดาวเทียม ‘เทคโนโลยีเพื่อโอกาสทางการศึกษา’

วิเชียร เมฆตระการ หัวหนาคณะเจาหนาที่ผูบริหาร บริษัท แอดวานซ อินโฟร เซอรวิส จํากัด (มหาชน) ‘เทคโนโลยีการสื่อสารเพื่อความเทาเทียมในสังคม’

สุรพล เศวตเศรนี ผูวาการการทองเที่ยวแหงประเทศไทย ‘การทองเที่ยวในโลกยุคดิจิตอล’

สมเกียรติ ออนวิมล นักวิชาการสื่อสารมวลชน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยวิทัศน จํากัด และผูอํานวยการสถานีโทรทัศนMoney Channel ‘สื่อมวลชนทามกลางความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี’

วันฉัตร ผดุงรัตน ผูกอตั้งเว็บไซต pantio.com บริษัท อินเทอรเน็ต มารเก็ตติ้ง จํากัด ‘วิวัฒนาการของสังคมออนไลน’

สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ รองประธานกรรมการ และประธานเจาหนาที่บริหาร บริษัท อารเอส จํากัด (มหาชน) ‘เทคโนโลยีดิจิตอลปลดปลอยวงการเพลง’

อัจฉรา กิจกัญจนาสน กรรมการผูจัดการ บริษัท กันตนา แอนิเมชั่น สตูดิโอ จํากัด ‘ศิลปนผู ใชคอมพิวเตอรเปนพูกัน’

พงศสุข หิรัญพฤกษ พิธีกรรายการโทรทัศน และกรรมการผูจัดการ บริษัท โชวไรขีด จํากัด ‘ชีวิตและธุรกิจไรขีดจํากัด’

อนุชัย ศรีจรูญพูทอง ชางภาพและกรรมการผูจัดการ บริษัท รีมิกซ สตูดิโอ แบงค็อก จํากัด ‘สุนทรียะของภาพถายในโลกยุคดิจิตอล’

พระไพศาล วิสาโล พระนักเผยแผ นักวิชาการ เจาอาวาส วัดปาสุคะโต อําเภอแกงครอ จังหวัดชัยภูมิ ‘เทคโนโลยีในทัศนะของพุทธศาสนา’


108


ขวัญแก้ว วัชโรทัย ประธำนกรรมกำรบริหำร มูลนิธิกำรศึกษำทำงไกลผ่ำนดำวเทียม

การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม “การศึกษาเป็นรากฐานของความมัน่ คงและผาสุกของประเทศชาติ ก็ กลับมาคิดอีกอย่างหนึง่ ว่า ทีบ่ า้ นเมืองจะมีความมัน่ คงได้ ทุกคนแม้ไม่ใช่ ครู ก็ตอ้ งช่วยกันในด้านการศึกษานี้ อีกอย่างหนึง่ ทุกคนแม้จะเป็นฝ่ายการ ศึกษา ก็ต้องมีหน้าที่บ�ารุงรักษาให้บ้านเมืองมีความมั่นคง” พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาส เสด็จพระราชด�าเนินทรงดนตรี ณ วิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมิตร วันที่ 18 มีนาคม 2515 เทคโนโลยีการสื่อสารได้เจริญรุดหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว และถูกน�า มาประยุกต์ใช้งานในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการศึกษา มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมได้น�าเทคโนโลยีดาวเทียมและ อินเทอร์เน็ต มาเป็นเครื่องมือในการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็ก

ในชนบทห่างไกล ได้เรียนรู้จากครูคนเดียวกัน บทเรียนเดียวกัน ห้องเรียน เดียวกัน ในเวลาเดียวกัน โดยการวางระบบเครือข่าย และประยุกต์ใช้ เครื่องไม้เครื่องมือไฮเทคอย่างชาญฉลาด ประหยัด พอเพียง และสัมฤทธิ์ ผลจริง นายขวัญแก้ว วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ ประธานมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม และบุคลากรทุกคน ของมูลนิธิฯ คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังรอยยิ้มและความส�าเร็จ ของคุณครูและ นักเรียนไทยทั่วประเทศตลอดเวลามากว่า 15 ปีที่ผ่านมา

ปัญหาเร่งด่วนด้านการศึกษา

ปัญหาคือการขาดแคลนครูวิชาต่างๆ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


ภาษาไทย และภาษาอั ง กฤษ นี่ คื อ ความจ� า เป็ น ที่ ต ้ อ งมี ก ารศึ ก ษา ทางไกลผ่ า นดาวเที ย ม ต้ อ งปรั บ ปรุ ง ภาษาต่ า งประเทศ โรงเรี ย นวั ง ไกลกังวลสอนภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส จีน ญี่ปุ่น เยอรมัน เป็นโอกาส ที่ นั ก ท่ อ งเที่ ย ว บริ ษั ท ท่ อ งเที่ ย ว ร้ า นอาหาร ไกด์ คนขี่ ส ามล้ อ วิ น มอเตอร์ไซด์ คนขับแท็กซี่ ตลอดจนบุคลากรด้านการท่องเที่ยวและการ โรงแรม มีโอกาสได้รับความรู้จากโรงเรียนวังไกลกังวล ถือว่า ความรู้ นั้นได้รับพระราชทานจากโรงเรียนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยิ่ง กว่านั้น โรงเรียนวังไกลกังวลยังมีรายการติวเข้มเข้ามหาวิทยาลัยของ แบรนด์เตรียมตัวสอบ GAT, PAT ตัวผมเอง ทัง้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั และสมเด็จย่า ทรงแนะน�า ให้เรียนวิชาการโรงแรมเพื่อมาบริหารงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับส�านัก พระราชวัง เป็นเวลากว่า 60 ปี ที่ผมได้ท�างานสนองพระมหากรุณาธิคุณ และเดีย๋ วนี้ Ecole Hoteliere de Lausanne, Switzerland ได้ตงั้ ให้ผมเป็น Professeur Honoraire เมือ่ จบจากโรงเรียน ผมได้รบั รางวัลเกียรตินยิ มถึง 3 วิชา คือ วิชาการบริการ, วิชาอาหาร และวิชาการจัดการแผนกบัญชี ซึ่ง ในปัจจุบันวิชาการจัดการโรงแรมเป็นสาขาวิชาชีพที่คนรุ่นใหม่ให้ความ สนใจมาก ในเรื่องของปรัชญาการศึกษานั้น ผมเชื่อว่าแท้จริงแล้วมีจุดประสงค์ เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม เราต้องให้การศึกษาเด็กทุกคนให้มากที่สุด และเท่าเทียมกัน เพื่อให้เขาได้น�าความรู้ไปสร้างประโยชน์ให้กับส่วนรวม สังคมเราต้องการคนมีการศึกษาสูงขึ้นเรื่อยๆ ให้คนรู้ ให้คนใช้เหตุผล ถ้า มีความรู้ ก็ไม่มีใครมาหลอกลวงได้ ประเทศไทยเรามีโรงเรียนประถมศึกษาประมาณ 30,000 แห่งทั่ว ประเทศ เปรียบเทียบกับจ�านวนโรงเรียนมัธยม ที่มีรวมทั้งสิ้นเพียงไม่ถึง 3,000 แห่ง อัตราส่วนแตกต่างกันถึง 1 : 10 นั่นหมายความว่าเด็กไทยที่ เรียนจบชั้นประถมแล้วเพียง 1 คนจาก 10 คนเท่านั้น ที่จะได้เรียนต่อชั้น มัธยม ผมคิดว่าเด็กจบชั้นประถม 6 น่าจะอายุประมาณ 12 ขวบเท่านั้น เอง เขายังไม่เป็นผู้ใหญ่ ยังไม่มีวุฒิภาวะ หากไม่มีโอกาสได้เรียนต่อ ไม่ ได้อยู่ในโรงเรียนในระหว่างวัน ก็เสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อของยาเสพติด การใช้แรงงานเด็ก การค้ามนุษย์ เกิดปัญหาต่อตัวเองและสังคมตามมา อีกมากมาย เปรียบเทียบกับเด็กในเมืองทีม่ โี อกาสพร้อม สมัยนีโ้ รงเรียนเอกชนชัน้ น�ามากมาย มีครูเก่งๆ เครื่องไม้เครื่องมือพร้อม แต่ค่าเล่าเรียนกลับแพง เหลือเกิน การเพิ่มจ�านวนโรงเรียนมัธยมของรัฐบาล ก็ไม่สามารถท�าได้ อย่างรวดเร็ว เนื่องจากประเทศเราไม่มีเงินลงทุนมากมายในการก่อสร้าง อาคารโรงเรียนจ�านวนมหาศาล และจ�านวนครูก็มีอยู่จ�ากัด โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง ครูที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะวิชา อย่างภาษาไทย ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ถ้าเราสามารถแก้ไขปัญหาเร่งด่วนได้เสียก่อน คือการรักษาเด็กที่จบ ชั้นประถม ให้เขาได้มีโอกาสเรียนต่อไป มีชีวิตวัยเด็กอยู่ในโรงเรียน ได้วิ่ง เล่นกับเพื่อน ได้นั่งเรียนกับคุณครูต่อไปอีกสักหน่อย ก็จะถือเป็นการแก้ ปัญหาต่างๆ ได้แต่ต้นมือ โชคดีที่เรามีโรงเรียนวังไกลกังวล ซึ่งเป็นโรงเรียนของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ไม่คิดค่าเล่าเรียน มีผู้มาร่วมสนับสนุนเครื่องไม้เครื่องมือ มากมายให้กับโรงเรียนนี้ เพราะถือว่าเป็นการโดยเสด็จพระราชกุศล”

โรงเรียนวังไกลกังวล

เป็นโรงเรียนที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล มีพระบรม ราชานุญาตให้จัดตั้งขึ้น เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2481 มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้การศึกษาแก่บุตรหลานของเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลรักษาวังไกลกังวล ซึ่ง มีอยู่จ�านวนมากแต่ไม่มีสถานที่เล่าเรียน มีฐานะเป็นโรงเรียนราษฎร์ที่ได้ พระราชทานค่าใช้จ่ายจากเงินพระราชกุศลเป็นรายปี โรงเรียนวังไกลกังวล อยู่ในเขตพระราชฐานพระราชวังไกลกังวล มีฐานะ เป็นโรงเรียนราษฎร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นเวลากว่า 32 ปี ที่นายขวัญแก้ว วัชโรทัย ได้บริหารโรงเรียนในฐานะผู้ จัดการโรงเรียนวังไกลกังวลตั้งแต่ปี พ.ศ.2522

“ผมจึงคิดที่จะน�าโอกาสของเด็กนักเรียนที่โรงเรียนวังไกลกังวลแห่ง นี้ที่ได้รับการเรียนการสอนและการอบรมบ่มนิสัยกระจายออกไปสู่เด็ก คนอื่นๆ ทั่วประเทศอย่างเท่าเทียม จะท�าอย่างไร ค�าตอบก็คือเทคโนโลยี ดาวเทียมนั่นเอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานทุนประเดิม 50 ล้านบาท ซึง่ องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยในสมัยนัน้ ทูลเกล้าฯ ถวาย เพือ่ จัดตัง้ มูลนิธกิ ารศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมและยังทรงพระกรุณาพระราชทาน ตราสัญลักษณ์เฉลิมฉลองสิริราชสมบัติ 50 ปี ให้เป็นตราของมูลนิธิฯ ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2538 การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม จาก โรงเรียนวังไกลกังวล หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เริ่มออกอากาศ ถ่ายทอดสดหลักสูตรมัธยมศึกษาเป็นปฐมฤกษ์ เพื่อเฉลิมฉลองมหา มงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครองราชย์ครบ 50 ปี ในปี กาญจนาภิเษก พ.ศ. 2539

สอนง่าย ฟังง่าย เขียนง่าย เข้าใจง่าย

หลักการเรียนการสอน ต้อง “สอนง่าย ฟังง่าย เขียนง่าย เข้าใจง่าย” และหลักในการเลือกใช้เทคโนโลยี ก็ควรใช้หลักเดียวกัน คือเลือกใช้อะไร ที่ธรรมดา ไม่ซับซ้อน ประหยัด แต่ได้ผล ผมท�างานเป็นครูมานาน นานก่อนที่พวกคุณหลายคนจะเกิดเสียอีก คือตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ผมยังเชื่อถือในหลักการเรียนการสอนแบบเก่าๆ คนสมัยก่อนเขาสอนง่าย ฟังง่าย เขียนง่าย เข้าใจง่าย เด็กรุ่นผมไม่ต้อง

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


ท่องจ�ามากมาย แต่ก็สามารถเรียนรู้ได้เร็ว ไม่ว่าเรื่องนั้นๆ จะยุ่งยากซับ ซ้อนแค่ไหน ระบบการศึกษาของไทยในปัจจุบนั ก็เช่นกัน ขอเพียงครูทกุ คน มีวิญญาณครู และให้ยึดหลักนี้ไว้ “สอนง่าย ฟังง่าย เขียนง่าย เข้าใจง่าย” เรื่องเทคโนโลยีการสื่อสารที่น�ามาใช้เพื่อการศึกษานั้นมีการพูดกัน มานาน และในปัจจุบันก็มีคนพูดถึงกันมากขึ้น ท่านรัฐมนตรีกระทรวง ศึกษาธิการคนปัจจุบัน ก็เริ่มมีนโยบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยท่านบอกว่า อย่าว่าแต่โรงเรียนในกรุงเทพมหานครเลย ท่านมีนโยบายจะให้โรงเรียน ทั้งประเทศไทยมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ เพื่อเพื่อช่วยการ ศึกษาของครูและนักเรียน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราทรงเลือกใช้เทคโนโลยีเพื่อการ ศึกษามาก่อนหน้านี้นานหลายสิบปี นับตั้งแต่ที่พระองค์ทรงเริ่มก่อตั้ง สถานีวิทยุ อ.ส.พระราชวังดุสิต มาตั้งแต่ พ.ศ.2495 ซึ่งผมเองได้รับใช้ เยื้องพระยุคลบาทมา 59 ปี ในฐานะนายสถานีวิทยุ อ.ส.พระราชวังดุสิต พระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว เคยรั บ สั่ ง ว่ า การศึ ก ษาส� า คั ญ กั บ ประเทศของเรา ในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย ประชาชนต้อง มีความรู้ ไม่เช่นนั้นเขาจะตัดสินใจเลือกได้อย่างไร คนไม่มีความรู้ก็มีแต่ จะโดนเขาหลอก ดังนั้น เราต้องหาวิธีอย่างไร ให้คนไทยทุกคนได้มีโอกาส ทางการศึกษามากขึ้น หรือเท่าเทียมกัน

ในเรื่องของปรัชญาการศึกษานั้น ผมเชื่อว่าแท้จริงแล้วมีจุดประสงค์เพื่อ ประโยชน์ของส่วนรวม เราต้องให้การ ศึกษาเด็กทุกคนให้มากที่สุด และเท่าเทียมกัน เพื่อให้เขาได้น�าความรู้ไปสร้างประโยชน์ ให้กับส่วนรวม

ผมเป็นนายสถานีวิทยุ อ.ส.พระราชวังดุสิต มาตั้งแต่ พ.ศ. 2495 ก็ รับแนวทางของพระองค์ท่านมาใช้ในการท�างานโดยตลอด สถานีวิทยุ อ.ส.พระราชวังดุสิต จึงได้ให้ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ทั่วไป ดนตรี ความรู้ ทางด้านการสาธารณสุข การศึกษา แก่ประชาชนทั่วไปมาโดยตลอด เมื่อ มีภัยพิบัติหรือโรคระบาด อาทิ โปลิโอ โรคเรื้อน ก็มีผู้โดยเสด็จพระราช กุศล หลังจากท�างานนี้มานานเกือบ 60 ปี จึงพอมีแนวคิดเกี่ยวกับเรื่อง การเผยแพร่กระจายเสียง และก็อยากน�าแนวคิดนี้มาประยุกต์ใช้กับเรื่อง การศึกษาทางไกลอย่างเป็นระบบและจริงจังมากขึ้น เมื่ อ เห็ น ว่ า มี เ ทคโนโลยี ใ หม่ ๆ เข้ า มาในสมั ย นั้ น อย่ า งเช่ น เรื่ อ ง ดาวเทียม ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีความเหมาะสม มีประสิทธิภาพสูง ที่จะ ใช้ในงานเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารจ�านวนมาก ออกไปให้กว้างไกล ถึงผู้รับ พร้อมกันจ�านวนมากๆ คมชัดทั้งภาพและเสียง มีประสิทธิภาพเหนือกว่า การใช้สัญญาณวิทยุอย่างมาก

ในตอนนัน้ เทคโนโลยีดาวเทียมทีใ่ ช้กนั อยู่ ส่วนใหญ่กเ็ พียงเพือ่ ความ บันเทิง หรือเพือ่ งานธุรกิจเท่านัน้ ผมเสียดายทีย่ งั ไม่คอ่ ยเห็นมีใครน�ามาใช้ เพือ่ สาธารณประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในเรือ่ งการศึกษาอย่างเต็มรูป แบบ เทคโนโลยีเหล่านีเ้ ป็นเครือ่ งมือทีแ่ ล้วแต่คนเราน�ามาใช้ ถ้ารูจ้ กั น�าไป ใช้ในทางที่ถูกต้อง ก็จะเกิดประโยชน์อย่างมากต่อส่วนรวม ผมจึงค่อยๆ น�ามาประยุกต์ให้เป็นการศึกษาทางไกล แนวความคิด หลักก็คือ เราควรใช้เทคโนโลยีธรรมดาๆ แต่ให้เกิดประโยชน์มากๆ โดย เฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเปิดโอกาสทางการศึกษา เทคโนโลยีดาวเทียม แบบนี้จึงเหมาะมากที่จะใช้ถ่ายทอดการเรียนการสอน ครูคนเดียวกัน คุณภาพเดียวกัน สอนเรือ่ งเดียวกัน เวลาเดียวกัน เด็กทุกโรงเรียนมีโอกาส เปิดดูได้เท่ากันหมด เราเลือกเทคโนโลยีดาวเทียมเพราะถูกกว่า ทุกคนมีทวี อี ยูท่ บี่ า้ น มีทวี ี ที่โรงเรียนอยู่แล้ว เราก็แค่เอาอุปกรณ์ดาวเทียมราคาไม่แพงนักไปติดตั้ง แล้วต่อสายเข้ากับทีวีของเขาเท่านั้น

รูปแบบการด�าเนินการ

การจัดการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม ของมูลนิธกิ ารศึกษา ทางไกลผ่านดาวเทียม ด�าเนินงานมาย่างเข้าปีที่ 16 ถ่ายทอดสดหลักสูตร การศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน จากโรงเรียนวังไกลกังวลซึง่ เป็นโรงเรียนราษฎร์ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในลักษณะ 1 ช่อง 1 ชั้น ตั้งแต่ชั้นประถม 1 ถึงมัธยม 6 รวม 12 ช่อง และเพิ่มเติมอีก 3 ช่อง เป็นหลักสูตรการอาชีพ หลักสูตรมหาวิทยาลัย และรายการนานาชาติ เป็น 15 ช่องและขยายเวลา เป็น 24 ชัว่ โมง ตามพระราชด�าริของของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทรง ห่วงใยประชาชนจะเครียดเพราะสิ่งแวดล้อม แม้แต่วินมอเตอร์ไซด์และแท็กซี่ก็จะได้ชมรายการความรู้ต่างๆ ที่มี ประโยชน์ เช่น ภาษาต่างประเทศ ฯลฯ โรงเรียนปลายทางที่ได้ชมการถ่ายทอดสด คือโรงเรียนที่ได้รับการติด ตัง้ อุปกรณ์รบั สัญญาณดาวเทียมโดยไม่คดิ มูลค่า แบ่งเป็นโรงเรียนประถม ศึกษา โรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โรงเรียนเอกชน โรงเรียนปริยัติธรรม รวมทั้งหมดมากกว่า 18,000 แห่ง และยังรวมไปถึง โรงเรียนในประเทศเพือ่ นบ้านของเราทีส่ ญ ั ญาณดาวเทียมไปถึง และสนใจ ขออุปกรณ์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมพระราชทาน เช่น ในประเทศ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม จีน และมาเลเซีย การถ่ายทอดสดท�าจากห้องเรียนจริง ส่งสัญญาณภาพและเสียง ผ่านทางเคเบิ้ลใยแก้วที่บริษัท ทีโอที จ�ากัด มหาชน โดยเสด็จพระราช กุศล ระยะทางไกลราว 200 กิโลเมตร จากหัวหินมาถึงสถานีดาวเทียม ลาดหลุมแก้ว แล้วยิงสัญญาณผ่านดาวเทียมระบบ KU Band หมายความ ว่า ทีไ่ หนสามารถเห็นดวงดาว ทีน่ นั่ ก็สามารถรับชมรายการของมูลนิธฯิ ได้ ทางทรูวิชั่นส์ ช่อง 186-200 การใช้ห้องเรียนจริงตั้งแต่ประถม 1 ถึงมัธยม 6 ของโรงเรียนวังไกล กังวลช่วยประหยัดต้นทุน ไม่ต้องจัดฉาก ไม่มีไฟจ้าแบบในสตูดิโอ เมื่อไฟ ไม่จ้า ก็ไม่ต้องแต่งหน้า ประหยัดค่าไฟ ค่าแอร์ ค่าช่างแต่งหน้า ครูทุกคน สวมเครื่องแบบมูลนิธิฯ สอนเด็กในห้องเรียนไปตามธรรมดา โดยมีกล้อง โทรทัศน์ 2 ตัว ตัวหนึ่งคอยจับที่ครู และตัวที่สองคอยจับที่กระดานไวท์ บอร์ด หรือกิจกรรมอื่นๆ ในห้องเรียน ไม่ต้องปูพรมเพราะจ�านวนนักเรียน

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


TV 15 ช่อง

เว็บไซต์ของมูลนิธิฯ www.dlf.ac.th

เป็นอะคูสติค เสียงสะท้อนเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องติดม่านหนาๆ อย่างห้อง ส่งทั่วไปแต่ใช้มู่ลี่ปรับแสง หน้าห้องมีจอมอนิเตอร์เพื่อให้เด็กนักเรียนได้เห็นรายละเอียดต่างๆ ที่ครูสอนอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วนหลังห้องเรียนมีจอมอนิเตอร์เพื่อให้ครู ตรวจตราอิริยาบถของตนเอง และตรวจสอบความถูกต้องของบทเรียนที่ เผยแพร่ออกไป พระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นบรมครูในด้านการถ่ายภาพ ทรงแนะน�า ให้ โฟกัสกล้องที่ต�าแหน่งปลายจมูกของครู จะได้ภาพใบหน้าของครูที่อ่อน โยนและธรรมชาติ เราเรียกวิธีการนี้ว่า “เมจิกคาเมร่า” นอกจากจะทรงรับโรงเรียนวังไกลกังวลไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ยังได้ พระราชทานแนวคิดเกี่ยวกับการด�าเนินงานของมูลนิธิฯ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน ทรงสอนเด็กนักเรียนโรงเรียนวัง ไกลกังวล ในวิชา “ศึกษาทัศน์” หรือ Quest for Knowledge ซึง่ เป็นรายการ ของพระองค์ ทรงพานักเรียนออกไปทัศนศึกษานอกสถานที่ เพือ่ เรียนรูจ้ าก ประสบการณ์จริง และบันทึกเพื่อใช้เผยแพร่ได้ต่อไป เพื่อให้ได้ผลสัมฤทธิ์เต็มที่ มูลนิธิฯ จัดส่งคู่มือครูโรงเรียนปลายทาง ไปให้โรงเรียน ปัจจุบันราว 18,000 โรงเรียนทั้งประเทศ หนึ่งเดือนก่อน เปิดเทอม โรงเรียนปลายทางจะต้องเตรียมจัดตารางและเตรียมคุณครู ให้พร้อม ให้สอดคล้องไปกับการแพร่ภาพจากโรงเรียนต้นทาง คู่มือครูดัง กล่าว ซึ่งจัดท�าด้วยคณะท�างานจัดท�าคู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียม ส�าหรับโรงเรียนปลายทาง พิมพ์ด้วยกระดาษปอนด์ 100 แกรม คมชัด ทนทาน ใช้ได้นาน ให้คุณครูแต่ละชั้นปีน�าไปอ่านเพื่อเตรียมตัว เมื่อถึง เวลาเรียน ก็พาเด็กๆ เข้าห้อง เปิดทีวีและรับชมรายการของเราไป จน กระทั่งจบชั่วโมง ถ้าเด็กนักเรียนมีปัญหาอะไร ก็สามารถซักถามคุณครูที่ โรงเรียนตนเองได้เลย ในกรณีที่ห้องเรียนปลายทางมีค�าถามและต้องการติดต่อกลับมายัง ห้องเรียนต้นทาง เช่นเด็กนักเรียนทีป่ ลายทางมีขอ้ สงสัยอยากซักถามครูใน ทีวีโดยตรง เราเปิดสายโทรศัพท์และโทรสารโทรฟรี 4 เลขหมาย สามารถ โทรมาได้โดยไม่เสียค่าโทรศัพท์ หรือส่งค�าถามมาทางอี-เมล์ก็ได้ เพราะ บนโต๊ะของครูผู้สอนจะมีอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ ครบครัน ทั้งคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์ โทรสาร และ Document Station ถือเป็นการสือ่ สาร แบบ 1 ทางภาพ 2 ทางเสียง คือส่งภาพไปทางเดียว และสามารถโต้ตอบ กัน 2 ทางผ่านทางเสียง เด็กปลายทางทัง้ ประเทศเห็นภาพครูและห้องเรียน ต้นทางและได้ยินเสียง ส่วนครูต้นทางไม่เห็นภาพเด็กปลายทาง แต่ได้ยิน

www.edltv.thai.net

เสียงเด็กปลายทาง ซึ่งก็ใช้การได้ นอกจากนี้ เมื่ออินเทอร์เน็ตก้าวหน้ามากขึ้น ก็สามารถถ่ายทอดสด รายการทุกช่องผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ เหมาะอย่างยิง่ ส�าหรับบุคคลทัว่ ไป ที่ไม่ได้เป็นนักเรียนในโรงเรียน ถ้าอยู่กับบ้านก็สามารถเปิดคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ตเข้ามารับชมได้เลย ทาง www.dlf.ac.th ถือเป็นการศึกษา ตามอัธยาศัย สนองพระบรมราโชบายตามแนวคิดเรื่องการเรียนรู้ตลอด ชีวิต ทั้งประเทศเรียนจากครูคนเดียวกัน บทเรียนเดียวกัน เวลาเดียวกัน ภาพและเสียงคมชัดเหมือนกันทั้งประเทศ ส่วน www.edltv.thai.net ซึ่ง มูลนิธิฯ ร่วมมือกับ NECTEC จัดท�าเป็นเนื้อหา eLearning หลักสูตร มัธยมศึกษาทั้งหมด ส�าหรับเลือกดูตามอัธยาศัย นี่คือโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมกันจริงๆ ถ้าคุณครูที่โรงเรียน ปลายทางช่วยกัน และนักเรียนทุกคนทัว่ ประเทศตัง้ ใจเล่าเรียน ผมหวังให้ คุณครูทโี่ รงเรียนปลายทางซึง่ ได้รบั อุปกรณ์ดาวเทียมไป น�าไปใช้ประโยชน์ อย่างเต็มที่ และเด็กนักเรียนทุกคนก็ต้องมีระเบียบวินัย ดูแลรับผิดชอบ ในหน้าที่ของตนเอง ถึงเวลาเรียนก็เข้าห้องมาให้ตรงเวลาพร้อมเพรียง”

เทคโนโลยีธรรมดาๆ ที่ไม่ธรรมดา

ผมเริม่ หัดขับรถตอนอายุ 16 ปี ตอนนัน้ เป็นช่วงสงครามโลกพอดี บ้าน เรามีรถเฟียตรุ่นเก่ามากอยู่คันหนึ่ง คนที่บ้านผมส่วนใหญ่ต้องขี่จักรยาน เพราะน�้ามันราคาแพงมากๆ แต่ผมเป็นหนุ่มแล้วก็เริ่มอยากขับรถบ้าง ก็ เลยไปขอคุณแม่ คุณแม่ผมบอกว่า ต้องแก้เครื่องยนต์ให้เป็นเสียก่อน ถึงจะให้ขับ คน สมัยนั้นเขาสอนลูกเกี่ยวกับเทคโนโลยีกันแบบนี้ คือคุณต้องรู้จักมันอย่าง ถ่องแท้เสียก่อน จึงจะได้ใช้งาน จนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้จะอายุมากแล้ว แต่ผมสนใจเทคโนโลยีมาโดย ตลอด อย่างไรก็ตาม ความสนใจของผมไม่เน้นไปที่ตัววัตถุ ผมไม่ได้ใช้ ของที่แพงที่สุด หรือดีที่สุด แต่ผมเน้นไปที่แนวคิดและการน�ามาประยุกต์ ใช้ บางคนบอกว่าผมตระหนี่ถี่เหนียว แต่ผมเรียกสิ่งนี้ว่าความประหยัด การเลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมและคุ้มค่าคือหัวใจของการ ท�างานในยุคปัจจุบนั เพราะในทุกวัน มีอปุ กรณ์ใหม่ๆ ออกสูต่ ลาดมาเยอะ แยะ แต่เราตั้งค�าถามตลอดเวลา ว่าจ�าเป็นต้องใช้มันหรือไม่ จ�าเป็นมาก แค่ไหน การลงทุนด้านเทคโนโลยีแต่ละครั้งที่มีการเสนอขอมา ผมจะต้อง ซักถามอย่างละเอียดร้อยแปดพันเก้า ถามจนแน่ใจว่าได้ประโยชน์แน่ๆ แล้วจึงตัดสินใจลงทุน

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


ผมได้ซึมซับเรื่องความประหยัดและการรู้จักเลือกใช้ของที่เหมาะสม จากการถวายงานใกล้ชิดกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรง ท�าให้คนไทยทัง้ ประเทศและผมได้เห็นเป็นตัวอย่างตลอดหลายสิบปีทผี่ า่ น มา ดังนั้น ข้าวของอุปกรณ์ต่างๆ ในมูลนิธิของเรา ถ้าจะซื้อมาแล้วตั้งไว้ เฉยๆ รับรองว่าไม่มีแน่นอน เราใช้ทุกอย่างที่มีอย่างคุ้มค่าที่สุด เราต้องรู้จักใช้ของ หมายความว่า เลือกของที่เหมาะสมราคาไม่ แพง แต่ท�างานได้ดีเพียงพอ ถ้าลองไปถามเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ หนูๆ เลือก ใช้เทคโนโลยีอย่างไร เขาก็บอกว่าซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องละสองหมื่น บาท แต่ผมคิดว่าเราสามารถเลือกใช้ของที่ราคาถูกกว่านั้น และสามารถ ท�างานได้ผลเช่นเดียวกัน นี่คือหลักการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม และเป็นอีกส่วนหนึ่งของแนว ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คณะกรรมาธิ ก ารเศรษฐกิ จ และสั ง คมแห่ ง สหประชาชาติ หรื อ เอสแคป ชืน่ ชมในผลสัมฤทธิข์ องมูลนิธฯิ ตลอด 10 ปีทผี่ า่ นมา เขาอธิบาย ว่า ความร่วมมือกันของหลายฝ่าย ทั้ง ภาครัฐ เอกชน และองค์กรไม่แสวงหา ก� า ไร ประกอบด้ ว ย มู ล นิ ธิ ฯ บริ ษั ท ที โ อที จ� า กั ด มหาชน กระทรวง ศึกษาธิการ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการ สือ่ สาร กองทัพบก ตลอดจนสถาบันการ ศึกษาและโรงเรียนต่างๆ ต่างมารวมตัว เป็นเครือข่ายที่เกื้อกูลด้านการศึกษา เกิดขึ้นได้เพราะประเทศไทยมีพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั เพือ่ ท�าบุญร่วมกับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู ้ เ ชี่ ย วชาญ ผู ้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ ข อง เอสแคป เรียกการรู้จักเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในแบบของเรา ว่า “ธรรมดาที่ไม่ธรรมดา” “เหนือชั้น” รวมไปถึงระบบการบริหารจัดการ กระบวนการท�างาน คือนับตั้งแต่การถ่ายท�าในห้องเรียนต้นทางที่สุด ประหยัด ส่งสัญญาณผ่านสื่อกลางสมัยใหม่ต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพสูง จนกระทั่งไปส่งไปถึงห้องเรียนปลายทางในโรงเรียน ที่อยู่ในชนบทห่าง ไกล ไม่มีครู ไม่มีอาคารเรียนหรูหรา ผู้เชี่ยวชาญถือว่านี่เป็นแบบอย่างที่ มีผลสัมฤทธิ์ สมควรที่จะน�าไปเป็นต้นแบบเพื่อให้ประเทศอื่นๆ ที่ก�าลังมี ปัญหาเรื่องการจัดการศึกษา ได้ลองน�าไปท�าตาม ถึงแม้ว่าการสื่อสารแบบ 1 ทางภาพ 2 ทางเสียง ที่ทางมูลนิธิฯ ท�าอยู่ จะถือเป็นข้อจ�ากัดทางเทคโนโลยีการแพร่ภาพผ่านดาวเทียม แต่บรรดา ผู้เชี่ยวชาญก็เล็งเห็นตรงกันว่าเป็นรูปแบบการใช้เทคโนโลยีที่พอเหมาะ พอควรแล้ว การจะเปิดให้มีการสื่อสาร 2 ทางภาพ 2 ทางเสียง พร้อมกัน ทั้งประเทศ มีผู้ชมปลายทางมากถึง 4 ล้านคน นั้นเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองค่า ใช้จ่ายมากเกินไป ไม่จ�าเป็น และไม่สมเหตุสมผล นักหนังสือพิมพ์จากประเทศรัสเซียคนหนึ่ง เคยมาดูงานร่วมกับคณะ ของเอสแคป กล่าวว่าเขาได้ลองเปรียบเทียบระบบการศึกษาทางไกลของ บ้านเขากับของบ้านเรา พบว่าโดยหลักการนั้นมีความคล้ายคลึงกันอยู่ มาก แต่ความแตกต่างที่เห็นได้ชัด คือการเลือกใช้เทคโนโลยีอย่างชาญ

ฉลาดและการจัดการบริหารทีป่ ระหยัดคุม้ ค่า ถือว่าแนวพระบรมราโชบาย ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และแนวทางของมูลนิธิฯ มีความเหนือ ชั้นกว่าจริงๆ”

ใจครู ใจศิษย์

หลายคนชอบบ่นว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่นั้นแห้งแล้ง ขาดสัมผัสของ ความเป็นมนุษย์ หลายคนจึงตั้งข้อสังเกตกับระบบการศึกษาทางไกล ว่า เทคโนโลยีการสือ่ สารจะท�าให้ศษิ ย์และครูไม่ได้มปี ฏิสมั พันธ์กนั จริงๆ ครูไม่ ได้เห็นหน้าลูกศิษย์ ในขณะทีล่ กู ศิษย์กต็ อ้ งนัง่ ดูครูจากจอตูส้ เี่ หลีย่ ม หลาย คนตั้งค�าถามว่า ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว การศึกษาจะสัมฤทธิ์ผลได้จริงหรือ? ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับการตั้งข้อสังเกตเช่นนี้ และผมยังเห็นความ ส�าคัญของสัมผัสของความเป็นมนุษย์ และความรู้สึกใกล้ชิดกันระหว่าง ครูกับศิษย์ เราคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าสิ่งที่จะขาดไปจากการเรียนทาง ไกล คือความรู้สึกใกล้ชิดกัน เนื่องจากการเลือกใช้ดาวเทียม ท�าให้เรายัง ไม่สามารถท�าวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ได้ เต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตาม ผมก็มีความ เชือ่ ว่า ด้วยประสิทธิภาพของเทคโนโลยี การสือ่ สาร และการเลือกน�ามาประยุกต์ ใช้งานอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้ครู และศิษย์มีความใกล้ชิดกันได้มากกว่า ที่ใครจะคาดคิด ยกตัวอย่างคุณครูของเราคนหนึ่ง ชือ่ คุณครูสายพิณ เธออายุ 28 ปีเท่านัน้ สอนวิ ช าฟิ สิ ก ส์ เธอเรี ย นจบมาจาก ธรรมศาสตร์ ด้านฟิสิกส์โดยตรง แล้ว ขอไปสอนที่ไกลกังวล เด็กนักเรียนที่ ไกลกังวลชอบกันมาก เพราะเธอสอน ง่าย เข้าใจง่าย เด็กตั้งใจเรียนกันใหญ่ แล้วก็แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ที่ไกล กังวลเท่านั้น ภาพและเสียงการสอนของครูสายพิณ ยังเผยแพร่ออกไป ทัว่ ประเทศ มีอยูค่ รัง้ หนึง่ ผมเดินทางไปเยีย่ มโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ แม่ลาน้อย อ�าเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน คุณครูและเด็กๆ ที่นั่นก็ บอกผมมาว่าพวกเขาชอบครูคนนี้ นี่ก็แสดงให้เห็น ถึงแม้ครูสายพิณจะไม่ได้ใกล้ชิดกับตัวลูกศิษย์ที่ แม่ฮ่องสอน แต่พวกเขาก็ติดตามรับชม และชื่นชอบบทเรียน ผมคิดว่าครู ที่มีความรู้ความสามารถในระดับนี้ สามารถถ่ายทอดการสอนออกไปได้ กว้างไกลถึงแม่ฮ่องสอนได้ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว การสอนทางไกล มีส่วนช่วยผลักดันให้คุณครูทุกคนเก่งขึ้น ขยัน ขึ้น และกระตือรือร้นในการท�างานมากขึ้น ครูแต่ละคนที่โรงเรียนวังไกล กังวลของเรา รู้สึกตื่นเต้นดีใจที่จะได้เผยแพร่การสอนออกไปทั่วประเทศ พวกเขาก็เลยเตรียมการสอนมาอย่างดี หาวิธีการสอนให้เด็กๆ ชอบ ท�า สื่อการสอนที่เป็นตัวการ์ตูนสวยงาม ดึงดูดใจเด็กทั้งประเทศ นี่เป็นการ กระตุ้นคุณครูไปด้วยในตัว ในขณะเดียวกันนั้น เด็กที่อยู่ห่างไกล ก็รู้สึกอบอุ่นใจที่รู้ว่าในหลวง ทรงห่วงใย ในหลวงพระราชทานอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือมากมายมา ให้ถึงห้องเรียน เพื่อถ่ายทอดบทเรียนจากโรงเรียนของในหลวงส่งตรงมา

พระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นบรมครูในด้าน การถ่ายภาพ ทรงแนะน�า ให้โฟกัสกล้อง ที่ต�าแหน่งปลายจมูกของครู จะได้ภาพ ใบหน้าของครูที่อ่อนโยนและธรรมชาติ เราเรียกวิธีการนี้ว่า “เมจิกคาเมร่า”

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


ถึงพวกเขา นอกจากนี้ เราแก้ไขปัญหาความรู้สึกห่างไกลกัน และปัญหาเรื่อง การติดต่อสื่อสารแบบ 1 ทางภาพ 2 ทางเสียง ด้วยการออกไปเยี่ยมเยียน โรงเรี ย นที่ อ ยู ่ ห ่ า งไกลอย่ า งสม�่ า เสมอ และเราจั ด เตรี ย มระบบวิ ดี โ อ คอนเฟอร์เรนซ์ไปด้วยทุกครั้ง นี่ก็เท่ากับว่าเด็กๆ ที่ไกลกังวลก็สามารถพูดคุย เห็นหน้าค่าตาเพื่อน ที่หนองคาย ที่แม่ฮ่องสอน เพื่อนที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โต้ตอบ พูดคุย ทักทาย เล่นดนตรีและร้องเพลงร่วมกันได้ โดยกิจกรรมทั้งหมด ถ่ายทอดสดออกทั่วทั้งประเทศไทย พวกเราท�ากันมาหลายสิบปีแล้ว เด็กไม่ควรได้รู้จักความเป็นไทยแต่จากในบทเรียน บนหน้ากระดาษ หรือบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่เขาควรได้เห็นและสนทนากับเพื่อน นักเรียนของเขา เด็กภาคเหนือได้สนทนากับเพื่อนภาคใต้ ชมเพื่อนภาค ใต้เล่นลิเกฮูลู เด็กภาคใต้ได้เห็นเพื่อนภาคเหนือเล่นระบ�ากิงกาลา ได้พูด คุย นี่คือความอบอุ่น ความมั่นคงในใจเขา เคยมีคนมาถามผม ว่าการทีผ่ มและมูลนิธฯิ เดินทางไปลงพืน้ ทีบ่ อ่ ยๆ จะท�าให้ครูและเด็กๆ เดือดร้อนกันหรือเปล่า เพราะว่าพวกเขาต้องเตรียม ต้อนรับ ต้องไปเกณฑ์เด็กมาจัดการแสดง ผมก็บอกว่าไม่เลยครับ พวกเขารู้สึกยินดี พวกเขาดีใจที่พวกเราไป เยี่ยมเยียน เขาอยากมาแสดง เพราะจะได้ออกทีวีให้เพื่อนๆ ได้ดูกันทั้ง ประเทศ นี่คือความภาคภูมิใจไปทั้งชีวิตของเขา โอกาสที่เขาจะได้ออก ทีวีสักครั้ง แสดงสิ่งส�าคัญให้เพื่อนๆ นี่คือโอกาสที่เด็กนักเรียนทั่วประเทศ จะได้รู้จักกัน โอกาสที่พวกเขาจะได้ถ่ายทอดวัฒนธรรมให้กัน และโอกาส เหล่านี้เกิดขึ้นได้จริงก็ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสาร นอกจากนี้ เรายังเทคโนโลยีวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ มาใช้ประโยชน์ใน การอบรมคุณครูผู้สอนได้อีกด้วย เช่นเมื่อ พ.ศ.2547 ที่เราได้รับความ ร่วมมือจากมหาวิทยาลัยโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา ถ่ายทอดวิดีโอ

พิธีเปิดการอบรมวิทยาศาสตร์ด้วย Video- อบรมภาษาอังกฤษด้วยระบบ Videoconference จากมหาวิทยาลัยโอเรกอน conference จากมหาวิทยาลัยโอเรกอน

อบรมเรื่องเคมีสีเขียวด้วยระบบ Videoconference จาก Oak Hill School

อบรมวิชาคณิตศาสตร์ ด้วยระบบ Videoconference จากสหรัฐอเมริกา

คอนเฟอร์เรนซ์เพือ่ อบรมวิธกี ารสอนภาษาอังกฤษให้กบั คุณครูทวั่ ประเทศ เป็นหลักสูตรประกาศนียบัตร ในครั้งนั้น เราน�าคุณครูภาคเหนือและภาคกลางไปนั่งเรียนที่ห้อง ประชุมใหญ่ในตึกส�านักงานทีโอที ส่วนคุณครูจากทางภาคใต้ ก็ไปนั่ง เรียนที่โรงเรียนวังไกลกังวล เราจัดการเรียนการสอนแบบเห็นหน้าเห็นตา พูดคุยกันได้หมด ใช้เวลาประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง เท่ากับครูของเราได้เรียน หลักสูตรต่างประเทศพร้อมกันทั้งประเทศ ไม่ต้องเสียงบประมาณเดิน ทางไปถึงโอเรกอน สหรัฐอเมริกา ถือเป็นความร่วมมือของสถาบันการ ศึกษาระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ของสหรัฐอเมริกา กับ โรงเรียนมัธยมเล็กๆ แห่งหนึ่งในหัวหิน ซึ่งความร่วมมือแบบนี้เกิดขึ้นได้ ยากมาก ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะทางมหาวิทยาลัยโอเรกอน ให้ความสนใจกับ พระราชกรณียกิจของในหลวงของเรา และตัง้ ใจสนองประราชปรารภของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ในเรือ่ งการพัฒนาครู ตลอดเวลา 7 ปี นับแต่ นัน้ มา จนถึงปัจจุบนั มีการจัดวิดโี อคอนเฟอร์เรนซ์อบรมครูวชิ าฟิสกิ ส์ เคมี ชีววิทยา Green Chemistry และคณิตศาสตร์ กับมหาวิทยาลัยต่างๆ และ โรงเรียนในสหรัฐอเมริกา อาทิ มหาวิทยาลัยโซก้า โรงเรียน Oak Hill, S.I.T. Institute เวอร์มอนต์ สหรัฐอเมริกา ฯลฯ

Pilot Project

เมื่อเทคโนโลยีการสื่อสารพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ก็มีความเป็นไปได้ว่า กระบวนการและรูปแบบการด�าเนินงานของเรา จะต้องเปลี่ยนตามไป เพื่อให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าอินเทอร์เน็ต บรอดแบนด์มีประสิทธิภาพสูงขึ้น แพร่กระจายออกไปอย่างทั่วถึงจริงๆ มี ราคาถูกลง และต้นทุนในการใช้งานลดลง ก็มีความเป็นไปได้ว่าเราจะน�า มาใช้ประโยชน์ด้านการศึกษา ข้อดีของบรอดแบนด์หรืออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงคือความสามารถใน การสือ่ สารแบบ 2 ทางภาพและ 2 ทางเสียง เหนือกว่าเทคโนโลยีดาวเทียม ที่เราใช้กันอยู่ คือท�าได้เพียง 1 ทางภาพ 2 ทางเสียง ในปัจจุบัน เราก�าลัง ทดลองท�าไพลอทโปรเจ็กต์ การสื่อสาร 2 ทางเสียง 2 ทางภาพ อยู่กับ 10 โรงเรียน คือ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 19 อ�าเภอทุ่งสง จังหวัด นครศรีธรรมราช, โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 อ�าเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน, โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 22 อ�าเภอปาย จังหวัด แม่ฮ่องสอน, โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 27 อ�าเภอโพนพิสัย จังหวัด หนองคาย, โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 29 อ�าเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ, โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 35 อ�าเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา, โรงเรียน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ จังหวัดระยอง, โรงเรียนร่มเกล้า จังหวัดกาญจนบุรี, โรงเรียนเบ็ดตี้ดูเมน 2 (ช่องเม็ก) จังหวัดอุบลราชธานี และโรงเรียนสายบุรี “แจ้งประชาคาร” จังหวัดปัตตานี ผ่านทางอินเทอร์เน็ต บรอดแบนด์ สิง่ ทีก่ า� ลังพิจารณากันอยูค่ อื เพือ่ ดูความคุม้ ค่า และประโยชน์ ทีเ่ ด็กนักเรียนโรงเรียนปลายทางจะได้รบั จริงๆ ถ้าเราพบว่าเด็กทีป่ ลายทาง ไม่ได้รับประโยชน์สูงขึ้นจริง ระบบนี้ก็ยังไม่มีความจ�าเป็น ระหว่างที่ผมเดินทางไปเยี่ยมโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ที่บ้าน แม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีสุภาพสตรีท่านหนึ่งเป็นรักษาการผู้ อ�านวยการโรงเรียนเดินเข้ามาหา เธอถามว่า ขออะไรท่านอย่างหนึง่ ได้ไหม คะ? ผมบอกว่าได้สิ มีอะไรหรือ? เธอบอกว่าที่โรงเรียนชอบการศึกษาทาง

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


การติดต่อสื่อสารระหว่างนักเรียน ร.ร.วังไกลกังวลกับนักเรียนโรงเรียน จงรักสัตย์วิทยา จ.ปัตตานี ด้วยระบบ Videoconference

การเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์ด้วยระบบ Videoconference จาก ร.ร.วังไกลกังวล กับ ร.ร.ราชประชานุเคราะห์ 27 จ.หนองคาย

ไกลมาก แต่ติดขัดอยู่ตรงที่เด็กไม่สามารถสนทนากับที่ต้นทางได้โดยตรง ทันที เธอถามจะมีวธิ ไี หน? ทีจ่ ะช่วยให้พวกเขาโต้ตอบกับห้องเรียนต้นทาง ได้อย่างทันทีทันใด การมีคุณครูที่กล้าหาญและเดินมาบอกความต้องการตรงๆ แบบนี้ ท�าให้ผมดีใจอย่างมาก ค�าขอร้องและความต้องการแบบนี้ แสดงให้เห็น ชัดเจนว่าเธอมีความมุ่งมั่นตั้งใจ และที่ผ่านมา พวกเขาต้องใช้ประโยชน์ จากอุปกรณ์ของเราอย่างเต็มที่ จนสุดขีดความสามารถของเทคโนโลยีที่ มีอยู่แล้ว พวกเขาก�าลังเจอปัญหาใหม่ และเกิดความต้องการแบบใหม่ และเราต้องให้เทคโนโลยีใหม่ใส่เข้าไปเพือ่ แก้ปญ ั หานี้ นีค่ อื ความต้องการ ใช้จริงๆ มาจากครูและนักเรียนของโรงเรียนนี้ พอดีเราท�าไพลอทโปรเจ็กต์บรอดแบนด์นี้อยู่พอดี เราน�าระบบวิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ใหม่เอี่ยม ไปติดตั้งไว้ในโรงเรียน 9 แห่ง เหลืออุปกรณ์ 1 ชุดสุดท้าย รอไว้โดยยังไม่รู้ว่าจะน�าไปมอบให้ที่ไหน ผมก็บอกคุณครูว่าได้สิ มีข้อแม้ว่าต้องไปเอาเองที่หัวหินในวันรุ่งขึ้น เลยนะ เธอบอกตกลง และก็เดินทางมารับอุปกรณ์ที่หัวหิน และส่งคณะ ครูและส่งทีมเทคนิคมาศึกษาเรื่องการติดตั้ง วิธีการใช้งานอุปกรณ์วิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ เราท�างานกันหามรุ่งหามค�่าและสามารถกลับไปติดตั้งที่ โรงเรียน ทุกอย่างแล้วเสร็จก่อนที่ผมและทีมงานของมูลนิธิฯ จะกลับมา ถึงกรุงเทพฯ เสียอีก นี่ก็พิสูจน์ให้เห็น ว่าเทคโนโลยีมีความจ�าเป็นและเป็นที่ต้องการ โรงเรียนและนักเรียนที่ขาดแคลนอีกมากที่กระตือรือร้นที่จะใช้งานเทคโนโลยีจริงๆ และเมื่อเขาต้องการ เราก็ต้องตอบสนอง ไม่ว่าจะเป็นมูลนิธิ หรือรัฐบาล หรือหน่วยงานใดๆ ทีเ่ กีย่ วข้อง เมือ่ คนแบบนีไ้ ด้ของไป เขาย่อม น�าไปใช้งานอย่างได้ผล ในทางตรงกันข้าม การทุ่มงบประมาณและยื่น อุปกรณ์ใหม่ๆ อะไรไปให้ โดยที่เขายังไม่มีความพร้อม หรือยังไม่มีความ ต้องการที่เกิดขึ้นจากภายในตัวเอง การน�าไปใช้ก็ยังไม่คุ้มค่า การวางนโยบายเพื่อพัฒนา ก็มีอยู่ 2 แนวทาง แนวทางแรกก็มองว่า เราต้องรอให้เขาพร้อมก่อน แล้วค่อยน�าการพัฒนาเข้าไปให้ ซึง่ แนวทางนี้ กว่าจะรอให้เขาพร้อมแล้วค่อยให้ บางทีเราก็ต้องรอไปเรื่อยๆ การพัฒนา ก็เกิดไม่ได้ อีกแนวทางหนึ่ง คือมองว่าเราต้องลงทุนให้ไปก่อน เพื่อเปิด โอกาสให้เขาได้เรียนรู้ ทดลอง การพัฒนาจึงจะเกิด ซึ่งก็อาจจะน�าไปสู่ การลงทุนที่สูญเปล่า ถ้าเขาไม่เกิดการพัฒนาขึ้นมาจริงๆ ในปัจจุบัน ทางมูลนิธิฯ เฝ้าติดตามผลการด�าเนินงานของตนเอง โดยวัดจากความกระตือรือร้นน�าไปใช้งานของโรงเรียนปลายทาง ที่ได้รับ อุปกรณ์ดาวเทียมจากเราไป เราแบ่งโรงเรียนเหล่านี้ออกเป็นกลุ่มๆ คือ

กลุ่มที่ใช้เต็มที่ กลุ่มใช้ปานกลาง และกลุ่มที่ไม่ใช้เลย กลุ่มที่ไม่ใช่เลยนั้น มีอยู่ แต่ไม่เยอะมากนัก เขาบอกว่าเอาของพวกนี้ไปให้ท�าไม เขาไม่ได้ ต้องการใช้งาน เราเอาไปให้เอง ช่วยไม่ได้ ในช่วงแรกที่มูลนิธิเราเริ่มด�าเนินการ โรงเรียนกลุ่มนี้ที่ไม่ใช้งานเลยก็ มีเยอะ แต่เมื่อเวลาผ่านไป โรงเรียนกลุ่มนี้ก็ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ เนื่องจาก เขาได้เห็นผลสัมฤทธิท์ างการเรียนของเด็กนักเรียนในโรงเรียนอืน่ ๆ เปรียบ เทียบกันแล้วพบว่ามีหลายโรงเรียนทีน่ า� ไปใช้ประโยชน์แล้วได้ผล เรามุง่ มัน่ และยืนหยัดท�างานของเราอย่างต่อเนื่อง ส่งตารางสอนไปให้ครูเตรียมตัว อ่านล่วงหน้าไปเป็นเดือนๆ ครูต้นทางก็เตรียมการสอนกันเต็มที่ รายการ ของเราก็สนุกด้วย มีสาระด้วย ถ้าโรงเรียนปลายทางยอมรับ และปรับเวลา ให้ตรงกับต้นทาง ความส�าเร็จก็เกิดขึ้นได้จริง ตอนนี้ โรงเรียนที่ใช้ระบบการศึกษาทางไกลของเราแล้วได้ผลดีมาก ที่สุด คือโรงเรียนทางภาคใต้ เมื่อก่อนเป็นโรงเรียนปอเนาะ มีแต่เด็ก ยากจนทั้งนั้น จะเอาเงินที่ไหนมาโรงเรียน ยิ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์รุนแรง บ่อยครั้ง คุณครูก็ขอลาออกเพราะกลัวอันตรายในการเดินทางประจ�าวัน จนถึงทุกวันนี้ จากที่ไม่มีอะไรเลย พอเริ่มมีการศึกษาทางไกลเข้าไปถึง ก็ ช่วยปรับปรุงเปลีย่ นแปลง และพัฒนาคุณภาพของคุณครูและเด็กนักเรียน อย่างรวดเร็วจริงๆ ยกตัวอย่างเช่น โรงเรียนพัฒนาวิทยาลัย อ�าเภอเมือง จังหวัดยะลา มีนักเรียน 3,000 กว่าคน ได้ติดต่อขอรับอุปกรณ์ดาวเทียมจากเราไปติด ตั้งในทุกห้องเรียน ทุกระดับชั้น ถามว่าเด็กนักเรียนที่จบ ม.6 ที่นี่แล้ว ไป ไหนต่อ ผมขอตอบอย่างภาคภูมใิ จ ข้อมูลทีพ่ วกเราได้รบั มาคือเมือ่ ปี พ.ศ. 2548 เด็กจบ ม.6 พวกเขาได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยร้อยละ 98 บางส่วนก็ ออกไปท�างานประกอบอาชีพ บางส่วนได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ ไปเรียน ที่มหาวิทยาลัยชั้นน�าในประเทศอิสลาม และจนถึงปัจจุบัน เด็กนักเรียน ทุกระดับชั้นก็มีแนวโน้มทางการเรียนที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉลี่ยสามจังหวัด ชายแดนภาคใต้ ปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสงขลา อยู่ที่ร้อยละ 75 พวกเราท�างานกันแบบเงียบๆ ผูท้ เี่ ข้ามาสนับสนุนและให้ความร่วมมือ ส่วนใหญ่เพราะเห็นว่ามูลนิธขิ องเราเป็นของในหลวง ผมคิดว่าทีเ่ ราท�างาน กันมาได้ถึงขั้นนี้ก็ด้วยพระบารมีของในหลวงอย่างแท้จริง ด้วยงบประมาณทีจ่ า� กัด เราก็ทา� มาเรือ่ ยๆ ช้ากว่าก�าหนดเล็กน้อย จน ตอนนี้เราด�าเนินงานเกือบ 16 ปี ยังไม่สามารถติดตั้งอุปกรณ์ให้ครบทุก โรงเรียนทั้งประเทศ เราประมาณกันว่ายังเหลืออีก 5,000-6,000 โรงเรียน ที่ต้องท�าต่อไป ที่ได้ท�าไปแล้วก็คือโรงเรียนที่มีความต้องการเร่งด่วน และจ�าเป็นจริงๆ ไปก่อน จะติดตั้งเนื่องในมหามงคลที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา ความฝันของผม คือการเชื่อมต่อโรงเรียนทั้งหมดในประเทศไทย ให้ คุณครูและเด็กทุกคนได้มองเห็นกัน ได้สนทนา ท�าความรู้จัก แลกเปลี่ยน สิง่ ดีๆ ระหว่างกันฉันเพือ่ น และเราจะมีโอกาสเลือกสิง่ ดีๆ จากท้องถิน่ ต่างๆ มาถ่ายทอดถึงกันให้ได้ เป็นการสร้างความสามัคคี สร้างส�านึกความเป็น ชาติ สร้างอนาคตของเด็กไทยไม่ว่าในเมืองหรือชนบท สร้างความมั่นคง ทางจิตใจและความมั่นคงของประเทศชาติที่ยั่งยืน แน่นอนว่าการศึกษาคือความมั่นคงของชาติ และความมั่นคงจะเกิด ได้ เด็กต้องมีความมั่นคงทางวิชาการความรู้ ไปพร้อมๆ กับความเจริญ ของวุฒิภาวะด้านจิตใจด้วย นี่เป็นเรื่องส�าคัญ

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


116


117

วิเชียร เมฆตระการ หัวหน้ำคณะเจ้ำหน้ำที่ผู้บริหำร บริษัท แอดวำนซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จ�ำกัด (มหำชน)

เทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อความเท่าเทียมในสังคม

จากพนักงานคนที่ 3 ของบริษัทชินแซทเทิลไลท์ ปัจจุบัน วิเชียร เมฆ ตระการ คือ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จ�ากัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เขาเป็นทั้งนักเทคโนโลยีตัวยง และนักสังคมศาสตร์ในเวลาเดียวกัน จากประวัตชิ วี ติ อันโชกโชนเมือ่ สมัย เป็นหนุม่ นักศึกษาเศรษฐศาสตร์ ท�ากิจกรรมทางการเมืองในยุค 14 ตุลาฯ ก่อนจะไปศึกษาต่อด้านวิศวกรรมศาสตร์ ที่ California Polytechnic State University สหรัฐอเมริกา จนเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร และได้ เข้ามาร่วมงานกับบริษัทด้านการสื่อสารที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย มุมมองด้านเทคโนโลยีของเขากลมกล่อมและลงตัว ในการทีจ่ ะน�ามา ใช้เพื่อธุรกิจและเพื่อสังคมในเวลาเดียวกัน ทุกวันนี้เขาไม่ใช่คนที่ทันสมัย

ไฮเทคที่สุด แต่เป็นคนที่พยายามน�าเทคโนโลยีทันสมัยไฮเทคที่สุด มาให้ คนไทยได้ใช้งาน และมาช่วยให้สังคมไทยดีงามขึ้น

เทคโนโลยียิ่งใหญ่ เกิดขึ้นได้ด้วยชิปเล็กๆ

คอนเซ็ปต์เรือ่ งโทรศัพท์มอื ถือไม่ใช่เรือ่ งใหม่ เพราะมีการคิดค้นกันมา นานกว่า 50-60 ปีแล้วในสหรัฐอเมริกา ความพยายามจะเอาคลืน่ ความถี่ มาใช้ประโยชน์แบบพกพาติดตัว ก็เคยมีให้เห็นในอุปกรณ์รุ่นก่อนหน้านี้ อย่างพวกวอล์กกีท้ อล์กกี้ ก็มหี ลักการคล้ายคลึงกัน ในยุคนัน้ ยังติดปัญหา ทีเ่ ราไม่สามารถเอาช่องสัญญาณนัน้ มาให้ผคู้ นได้ใช้ทลี ะหลายๆ คน และ ไม่สามารถให้พูดโต้ตอบกลับไปกลับมาได้ทันที แต่ผู้พัฒนาเทคโนโลยีก็

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


เดินหน้าต่อไป และเอาชนะปัญหานี้ได้ส�าเร็จ ด้วยการน�าชิปเล็กๆ มาใส่ พัฒนาการของโทรศัพท์มอื ถือก็สอดคล้องกับพัฒนาการของอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์อนื่ ๆ คือเป็นไปตามเทคโนโลยีของชิปเล็กๆ ทีเ่ รียกว่าไมโคร โพรเซสเซอร์และไมโครคอนโทรลเลอร์ เมื่อชิปมีขนาดเล็กลง มีความ สามารถในการประมวลผลมากขึ้น เราก็สามารถเอาชิ้นส่วนเล็กๆ เหล่า นี้ไปใส่ไว้ในอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็กลงไปเรื่อยๆ จนสามารถพกพาติดตัวได้ และในที่สุดก็มาอยู่บนฝ่ามือของเรา คล้ายคลึงกับพัฒนาการของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราใช้กันอยู่ในทุก วันนี้ สมัยก่อนก็มีขนาดใหญ่เท่าตึก แต่เดี๋ยวนี้มีขนาดเล็กเท่าสมุดหนึ่ง เล่ม ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เมื่อหลายสิบปีก่อน ยังมีประสิทธิภาพไม่เท่า เครื่องเล่นเกมเพลย์สเตชั่นในทุกวันนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ก็เพราะ การพัฒนาของชิปนี่เอง โทรศัพท์ขนาดเล็กๆ ในทุกวันนี้ สามารถท�างานรับส่งคลื่นได้คมชัด มากกว่าอุปกรณ์ขนาดใหญ่โตในอดีต สมัยก่อนเราเคยใช้โทรศัพท์เครื่อง ใหญ่ติดตั้งอยู่กับที่ และต้องเสียบสายโทรศัพท์ทองแดงอย่างเดียว ถ้า จะเล่นอินเทอร์เน็ตก็ต้องมีโมเด็มเครื่องใหญ่ เสียบสายโทรศัพท์และต่อ เข้าคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่ แต่เมื่อทุกอย่างเล็กลง อุปกรณ์ติดตามตัวได้ รวบรวมเอาทุกสิ่งทุกอย่างมาไว้ในตัวมันเอง เราไปได้ทุกที่ โดยมีข่าวสาร ข้อมูลเข้ามาถึงตัวเราได้ตลอดเวลา ทุกสถานที่ ผ่านทางคลื่นความถี่ ผมยังจ�าได้ในยุคหนึ่ง เมื่อต้องเดินทางไปท�าธุรกิจในต่างประเทศ เรายังติดต่อกันได้ง่ายๆ นอกจากจะใช้โทรศัพท์ในโรงแรมหรือในสถานที่ ประชุม โทรกลับมาที่เมืองไทย จนกระทั่งมีการน�าดาวเทียมมาใช้ในการ โทรศัพท์ข้ามประเทศ คือดาวเทียมอิริเดียม และพร้อมๆ กันในยุคนั้น ก็มี ระบบจีเอสเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนลโรมมิ่ง เกิดขึ้นมาด้วย เมื่อเวลาผ่านไป เทคโนโลยีที่ดีกว่า ประหยัดกว่า มีประสิทธิภาพมากกว่า ก็จะพิสูจน์ตัว เองด้วยการได้รับความนิยมมากขึ้น และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนถึงทุกวันนี้ ระบบจีเอสเอ็มใช้งานได้ดกี ว่า ในขณะทีเ่ ทคโนโลยีดาวเทียม อิริเดียมกลายเป็นเทคโนโลยีคั่นเวลา และเลือนหายไปในเวลาไม่นาน ในยุคนี้ เทคโนโลยีการสื่อสารพัฒนาไปเรื่อยๆ จากยุคของวอยซ์

Iridium

โทรศัพท์มือถือผ่าน ดาวเทียม ของบริษัท Iridium Communications Inc. ใน สหรัฐอเมริกา (หรือ เดิมชื่อ Iridium Satellite LLC) ชื่อ Iridium มาจากการ ใช้ดาวเทียมวงโคจร ระดับต�่าในระบบมากถึง 77 ดวง ตรงกับชื่อธาตุที่ 77 ในตารางธาตุ ถึงแม้ ต่อมาจะลดจ�านวนดาวเทียมลงเหลือ 66 ดวง ก็ยังคงใช้ชื่อเดิม เป็นระบบ การสื่อสารที่มีเสถียรภาพในการสื่อสารอย่างแท้จริง ครอบคลุมพื้นที่ทุก จุดบนพื้นโลก ไม่ว่าจะกลางทะเลทราย ไปจนถึงแผ่นน�้าแข็งในขั้วโลก ใน ปัจจุบันยังคงให้บริการอยู่ แต่ไม่แพร่หลายในระดับคนทั่วไป มีผู้ใช้ประมาณ 320,000 คน เป็นนักวิทยาศาสตร์ ทหาร วิศวกรขุดเจาะน�้ามัน ฯลฯ

กลายมาเป็นยุคของวอยซ์และดาต้า จนถึงยุคนีท้ กุ อย่างกลายเป็นดิจติ อล ท�าให้คอนเท็นต์ บริการ ข้อมูลข่าวสารทุกอย่าง ผสมผสานกลายเป็นเนื้อ เดียวกัน เป็นมัลติมีเดีย ทั้งภาพและเสียง ท�าให้เราต้องการส่งข้อมูล ดิจิตอลจ�านวนมหาศาลถึงกันในเวลาสั้นที่สุด โทรศัพท์ที่มีความสามารถในการรับส่งข้อมูลความเร็วสูงมากขึ้น เรื่อยๆ จึงมีคนชอบมาถามผม ว่าการสื่อสารแบบ VoIP ที่ก�าลังจะมาถึง นี้ จะท�าให้โทรศัพท์ธรรมดาหายไปตลอดกาลเลยหรือเปล่า ผมคิดว่าเป็น ไปได้ แต่จะเมื่อไรก็ยังไม่รู้ ผมเองในฐานะบริษัทผู้ให้บริการ ก็มีหน้าที่น�า เทคโนโลยีเหล่านี้ มาให้บริการแก่ผู้บริโภค ให้ผู้บริโภคได้มีทางเลือกมาก ที่สุด และให้เขาเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเอง

ปัญหาเทคโนโลยีการสื่อสารคือปัญหา ของโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมและ เศรษฐกิจของบ้านเรา ทั้งในวันนี้ ไปจนถึงในวันข้างหน้า

โทรศัพท์มือถือกับความเปลี่ยนแปลงทางสังคม

อย่างทีท่ ราบกันดี เทคโนโลยีสว่ นใหญ่นนั้ พัฒนาขึน้ มาเพือ่ การทหาร มนุษย์แก่งแย่งแข่งขันกัน ต่อสู้เพื่อเอาชนะกัน เราย่อมต้องคิดเทคโนโลยี มาเพือ่ การนี้ วิธกี ารจะเอาชนะกันในยุคแรกๆ คือสร้างอาวุธท�าลายล้าง แต่ ในยุคต่อมา วิธที เี่ หนือกว่าคือการสืบข้อมูลข่าวสารจากฝ่ายตรงข้ามมาให้ ได้มากที่สุด ซึ่งมันก็คือจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสารนั่นเอง จน กระทั่งในเวลาต่อมา มันค่อยๆ กลายเป็นเทคโนโลยีที่ส�าคัญในยุคสมัยนี้ เมื่อ 30 กว่าปีก่อน หลังจากเรียนจบปริญญาตรีในสาขาวิศวกรรมศาสตร์จาก California Polytechnic State University สหรัฐอเมริกา ผม เริม่ ต้นการท�างานทีบ่ ริษทั Hughes Aircraft, Radar System ซึง่ เป็นบริษทั ด้านการสือ่ สารโทรคมนาคมชัน้ น�าในอเมริกา เทคโนโลยีตา่ งๆ ทีเ่ ราใช้งาน กันในปัจจุบนั ผมเคยเห็นมาหมดแล้วในแลปวิจยั ของบริษทั เพียงแต่พวก มันค่อยๆ เล็กลง ถูกลง และกระจายออกไปสู่มือของผู้บริโภคกว้างขึ้น ระบบดาวเทียม เรด้าร์ และกล้องก�าลังขยายสูงๆ ที่เราใช้ในการ สอดแนมทางการทหาร มันก็ถูกท�าให้กลายเป็นเชิงพาณิชย์มากขึ้น สมัย ที่ผมยังท�างานอยู่ที่นั่น ทีมงานเราเคยพัฒนากล้องดาวเทียม ที่ให้ภาพ คมชัดมากถึงขนาดถ่ายต้นไม้ในสวนหลังบ้านได้แล้ว มาจนทุกวันนี้มันก็ กลายเป็น Google Earth และ Google Map อย่างที่เราได้ใช้กัน ระบบ GPS ที่เราใช้งานกันแพร่หลายทุกวันนี้ ก็เคยถูกใช้เพื่อการท�า สงคราม แต่ตอนนี้มันก็กลายเป็นระบบเนวิเกชั่นให้เราไว้ใช้ในการขับรถ ในชีวิตประจ�าวัน ไม่ให้หลงทาง ให้หลบรถติดในชั่วโมงเร่งด่วน ดังนั้นถ้า อยากจะให้ผมท�านายว่าในอีก 10-20 ปีข้างหน้า เราจะใช้อุปกรณ์อะไร ก็ ลองมองดูวา่ ตอนนีท้ างการทหารเขาก�าลังพัฒนาอะไรกันอยู่ แต่จริงๆ เรือ่ ง พวกนี้เป็นความลับมาก เป็นการยากที่เราจะเข้าไปรับรู้เขา

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


119

ในทัศนะของผม เทคโนโลยีเหล่านี้เป็นแค่ตัวกลางแบบหนึ่งในการ เชื่อมต่อเรา แต่ไหนแต่ไรมา ในการเชื่อมต่อเรามักจะนึกถึงสิ่งที่เป็นสาย อย่างเช่นโทรศัพท์ โทรเลข จนกระทั่งเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป เรามี ดาวเทียม เรามีเครือข่ายไร้สาย ก็กลายเป็นการเชื่อมต่ออีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งไม่มีสายอีกต่อไปแล้ว ในขณะที่ดาวเทียมไม่ใช่สิ่งที่ผู้บริโภคสามารถ ใช้งานมันโดยตรง ต้องผ่านทางสถานีสื่อสารต่างๆ แต่เครือข่ายโทรศัพท์ มือถือเป็นการเชื่อมต่อแบบไร้สายก็มาถึงตัวผู้บริโภคโดยตรง เมื่อมีเครือข่ายอยู่บนฝ่ามือ ข้อมูลข่าวสารในทุกวันนี้จึงเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่เราใช้เวลากว่าจะรับรู้ข้อมูลข่าวสารจ�านวนมากขนาดนี้ อาจ จะต้องใช้เวลา 1 ปีเต็ม แต่ในทุกวันนี้ เวลา 1 ปี เราได้รับข้อมูลข่าวสาร มากกว่าสมัยก่อนรวมกันเป็น 10 ปี เราจึงต้องการตัวกลางทีน่ า� เสนออะไร ให้เราได้รวดเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดในยุคสมัยนี้ คือหลายคนเกิดอาการ Multi-tasking หรื อ ชอบอะไรหลายๆ อย่ า งพร้ อ ม ต้ อ งเร่ ง รี บ ต้ อ ง เคร่งเครียด ผมไม่รู้ว่าทิศทางความเปลี่ยนแปลงนี้จะน�าพาเราไปในทาง ที่ดีหรือเปล่า แต่มันเกิดขึ้นแล้วกับเด็กสมัยนี้ เมื่อก่อนเวลาอ่านหนังสือก็ คืออ่านหนังสือ เดี๋ยวนี้เวลาอ่านหนังสือต้องท�าอย่างอื่นไปด้วย ดูสื่ออื่นๆ ไปด้วย โลกปัจจุบนั กลายเป็นแบบนี้ และแน่นอนว่าชีวติ เราเปลีย่ นไปด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ผมยังหวังว่าชีวิตของเราจะดีงามขึ้น พร้อมกับความรุด หน้าของเทคโนโลยี

GPS

ระบบก�าหนดต�าแหน่งบนโลก (Global Positioning System) คือระบบบอกต�าแหน่งบน พื้นผิวโลก โดยอาศัยการค�านวณจากความถี่ สัญญาณนาฬิกาที่ส่งมาจากดาวเทียมที่ก�าลัง โคจรอยู่รอบโลกอย่างน้อย 3 ดวง ระบบนี้ สามารถบอกต�าแหน่ง ณ จุดที่สามารถรับ สัญญาณได้ทั่วโลก เริ่มต้นการใช้งานโดยกองทัพเรือสหรัฐได้ทดลอง ระบบน�าทางด้วยดาวเทียม ชื่อ TRANSIT เป็นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1960 ประกอบด้วยดาวเทียมจ�านวน 5 ดวง ส่วนดาวเทียมที่ใช้ในระบบจีพีเอส (GPS Block-I) ส่งขึ้นทดลองเป็นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1978 เพื่อใช้ในทาง การทหาร ในปัจจุบัน เครื่องจีพีเอส รุ่นใหม่ๆ จะสามารถค�านวณความเร็ว และทิศทางน�ามาใช้ร่วมกับโปรแกรมแผนที่ เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้ใน การน�าทางได้

ผมเป็นคนรุน่ 14 ตุลาฯ และ 6 ตุลาฯ ผมเคยเรียนทีค่ ณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในช่วงเวลานั้น ก่อนที่จะเดินทางไปเรียนและ อาศัยอยู่ที่อเมริกา นับว่าเป็นโอกาสที่ได้ไปเรียนด้านวิศวกรรมศาสตร์ ใน ช่วงเวลาทีเ่ ทคโนโลยีสา� คัญก�าลังเริม่ ต้นถือก�าเนิด ซึง่ อาจจะไม่ใช่คนไทย ทุกคนที่จะมีโอกาสดีเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าสิ่งที่ส�าคัญกว่า และเป็นโอกาสให้กับคนไทย ทุกคนในเวลานี้ คือการมองหาวิธีน�าเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนา ประเทศ ผมก�าลังสนใจในประเด็นการน�าเทคโนโลยีเท่าที่มีอยู่ เท่าที่มีข้อ จ�ากัด มาใช้เพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย ช่วยให้การกินอยู่

สะดวกสบาย ช่วยให้ประเทศของเรามีความสามารถในการแข่งขัน แน่นอนว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ เราไม่ได้คิดค้นและไม่ได้สร้างขึ้นมาเอง เราเป็นแค่ฐานะของผูใ้ ช้งาน แต่ยงั มีบางส่วนทีเ่ ราสามารถน�าไปประยุกต์ ต่อยอด และพัฒนาสิ่งใหม่ขึ้นมาได้เอง ยกตัวอย่างเช่นซอฟต์แวร์ และ งานแอนิเมชั่น ในสายตาของชาวโลก เราเป็นกลุ่มประเทศที่มีชื่อเสียงด้านความคิด สร้างสรรค์ งานฝีมอื และงานศิลปะ จึงไม่ตอ้ งแปลกใจถ้าผลงานแอนิเมชัน ของเราจะได้รับการยอมรับอย่างสูง ไม่ว่าจะเป็นเกม ภาพยนตร์ และการ ท�าเทคนิคพิเศษต่างๆ นัน่ ก็แสดงให้เห็นว่า ถึงแม้เราไม่ได้คดิ ค้นเทคโนโลยี เอง แต่เรามีความสามารถน�ามันมาประยุกต์ใช้ได้อย่างดี เพราะเรามีฝมี อื แรงงานและความละเอียดอ่อน เพียงแต่ใส่ศลิ ปะและความคิดสร้างสรรค์ เพิ่มเข้าไปด้วยเท่านั้น

ความส�าคัญของเทคโนโลยีการสื่อสาร

ผมอยากให้คนทั่วไปได้เข้าใจ ว่าปัญหาของเทคโนโลยีการสื่อสาร ไม่ใช่แค่เรื่องการใช้งานโทรศัพท์มือถือเล็กๆ น้อยๆ ของผู้บริโภคแต่ละ คน และไม่ใช่เพียงแค่เรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจของบริษัทผู้ให้บริการ 3 บริษทั ในประเทศ แต่ปญ ั หาเทคโนโลยีการสือ่ สารคือปัญหาของโครงสร้าง พื้นฐานทางสังคมและเศรษฐกิจของบ้านเรา ทั้งในวันนี้ ไปจนถึงในวัน ข้างหน้า การลงทุนในเทคโนโลยี การน�ามาประยุกต์ใช้ และการจัดสรรให้ ประชาชนอย่างเท่าเทียมเสมอภาค คือโอกาสของประชาชนทั้งประเทศ ในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ถามผมว่า ผู้บริโภคจะตายไหม ถ้าวันนี้ไม่มี 3G ให้ใช้ ถามผมว่า ผู้ประกอบการจะตายไหม ถ้าวันนี้ไม่มี 3G ให้ขาย ค�าตอบของผมคือ ไม่ตายหรอก แต่เราจะไปแข่งขันกับใครได้ ในเมื่อ เทคโนโลยีมาแล้ว เราจะฝืนมันได้อย่างไร ทุกวันนี้ในมือของผู้บริโภคส่วน ใหญ่ก็พร้อมจะใช้ 3G กันหมดแล้ว เราซื้อของพวกนี้มาใช้ประโยชน์ แต่ เราใช้ประโยชน์ได้จริงแค่ 10% ของมันเท่านั้น ถามผมว่า ถ้าวันนีไ้ ม่มบี ริษทั เอไอเอสอยูป่ ระเทศนีแ้ ล้ว จะเป็นอย่างไร ค�าตอบของผมคือ ไม่เป็นไรเลย ถ้าประเทศนี้มีเทคโนโลยีการสื่อสาร ให้ประชาชนใช้งานอย่างพอเพียงแล้ว ถึงแม้เราไม่อยู่แล้ว ประชาชนก็ยัง มีความต้องการใช้งานเทคโนโลยีเหล่านี้อยู่ดี เพราะว่าการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเป็นเรื่องส�าคัญของยุคสมัยเรา แม้ กระทัง่ เวิลด์แบงค์ยงั ใช้เรือ่ งข้อมูลข่าวสาร และโครงสร้างพืน้ ฐานด้านการ สื่อสารโทรคมนาคม เป็นดัชนี้ชี้วัดความเจริญของแต่ละประเทศ เปรียบ เทียบกับในสมัยก่อน เราเคยวัดกันด้วยโทรศัพท์พื้นฐานต่อประชากร ค่า ครองชีพ รายได้ต่อหัว ระดับการศึกษา ฯลฯ แต่ในทุกวันนี้ เรามีดัชนีชี้วัด ตัวใหม่เพิ่มขึ้นมาแล้ว คือจ�านวนบรอดแบนด์ต่อประชากร คนทั้งโลกเชื่อว่าการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร มีความส�าคัญอย่างยิ่งต่อ การพัฒนาประเทศในยุคนี้ มาเลเซียก็ลงทุนและวางแผนระยะยาวก่อตั้ง มัลติมเี ดียซูเปอร์คอร์รดิ อร์ ดึงดูดบริษทั ด้านไอทีชนั้ น�าของโลกไปตัง้ สาขา อยู่ในเมืองซูเปอร์จายาของเขา

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


ในขณะที่สิงคโปร์ก้าวไปไกลกว่านั้นอีกขั้น โดยพยายามตั้งตัวเองให้ เป็นประเทศชั้นน�าด้านดีเอ็นเอ จีโนมโค้ด เขาวิจัยด้านดีเอ็นเอ ที่เชื่อกัน ว่านี่คือสุดยอดของระบบข้อมูลข่าวสาร ที่สลับซับซ้อนที่สุดในโลกและ ชีวติ มนุษย์เรา ประเทศเพือ่ นบ้านเราได้กา้ วไปถึงขัน้ นัน้ ในขณะทีป่ ระเทศ ของเราวางนโยบายขอเป็นแค่เพียง Medical Hub ชาวต่างชาติจดั ทัวร์มา ลงเพื่อจะได้นอนโรงพยาบาลหรูๆ เรากลายเป็นเพียงประเทศที่ให้บริการ รักษาพยาบาลในราคาถูก และพ่วงด้านการพักผ่อนท่องเที่ยวเท่านั้น

นโยบายแห่งชาติด้านไอที

เรามีความสามารถในการประยุกต์ใช้ และทักษะฝีมือแรงงาน แต่น่า เสียดายทีป่ ระเทศของเรายังไม่มนี โยบายแห่งชาติ ทีจ่ ะเข้าไปผลักดันหรือ ช่วยเหลือผู้ประกอบการ ผู้มีความสามารถทางด้านนี้อย่างจริงจัง เรามี เพียงนโยบายขนาดเล็ก และแผนระยะสั้น ที่พร้อมจะเปลี่ยนกลับไปกลับ มาเมื่อเปลี่ยนรัฐบาล หรือเปลี่ยนรัฐมนตรีผู้เข้ามาดูแลงาน งานด้านไอทีไม่สามารถจะท�าให้สา� เร็จเสร็จสิน้ ได้ภายในสมัยรัฐบาล เดียว ในการเลือกตัง้ ครัง้ เดียว เราต้องวางนโยบายกันนาน 30-40 ปี ว่าเรา ในฐานะเป็นผูใ้ ช้ จะเป็นผูใ้ ช้ทชี่ าญฉลาดได้อย่างไร หมายความว่าเราต้อง มีเป้าที่ชัดเจน ว่าจะประยุกต์ต่อไปอย่างไร ในตอนนี้ผมเห็นคนหนุม่ สาว หลายคน จบระดับปริญญาเอกมาทางด้านนี้ มีบางคนบอกว่าเราจะสร้าง โทรศัพท์มอื ถือของเราเอง ผมก็ให้คา� แนะน�าไป ว่าความสามารถระดับเรา นัน้ ย่อมท�าได้อยูแ่ ล้ว แต่ทา� ออกมาแล้วจะเกิดประโยชน์สงู สุดต่อประเทศ ชาติได้อย่างไร การทีภ่ าคเอกชนมองไม่เห็นนโยบายระยะยาว ท�าให้ทกุ วัน นี้เราต่างก็สนองความต้องการของเราคนเดียว ของบริษัทเราเพียงบริษัท เดียว ซึ่งนี่ไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้องนัก การวางนโยบายด้านไอที แตกต่างไปจากการวางแผนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทีต่ อ้ งมีการก่อสร้างใหญ่ๆ เพราะเทคโนโลยีไอทีเป็นเรือ่ ง ที่เราซื้อเข้ามาใช้งานได้รวดเร็ว แต่ประเด็นของการวางนโยบายไอที คือ การมองไปในทิศทางเดียวกัน เปรียบเหมือนกับในเมื่อคนอื่นเขาสร้างล้อ ขึ้นมาไว้แล้ว เราก็มาร่วมกันหาทางเอาล้อมาใช้ประโยชน์ต่อประเทศเรา อย่างไร เรามองความคุ้มค่าและรอบด้าน นอกจากนี้ การก่อสร้างวางโครงข่ายสายไฟเบอร์ออปติกก็ต้องวาง แผนระยะยาว แน่นอนว่าเรามีเงินลงทุนมากพอ เราสามารถซื้อหาเข้ามา ติดตั้งได้แน่ แต่เฉพาะการติดตั้งก็ต้องใช้เวลานานอย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป เริ่มต้นจากเมืองใหญ่ กระจายออกไปสู่ภูมิภาค เข้าสู่ตัวเมืองในภูมิภาค

จากเดิมที่เราใช้เวลากว่าจะรับรู้ข้อมูล ข่าวสารจ�านวนมากขนาดนี้ อาจจะต้องใช้ เวลา 1 ปีแต่ในทุกวันนี้ เวลา 1 ปี เราได้รับข้อมูลข่าวสารมากกว่าสมัยก่อน รวมกันเป็น 10 ปี

VoIP

Voice over Internet Protocol คือโทรศัพท์ผ่าน ทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยไม่จ�าเป็นต้องผ่านทาง สายโทรศัพท์แบบเดิมอีกต่อไป ท�างานโดยการแปลง สัญญาณเสียงแบบอะนาล็อก ไปเป็นดิจิตอล เข้ารหัส ถูกตัดแบ่งเป็นแพ็คเก็ตแล้วส่งผ่านไปบนโครงข่ายที่ใช้ ส�าหรับการสื่อสารข้อมูล ข้อดีคือการสามารถใช้โครง ข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และท�าให้อัตราค่าบริการ โทรศัพท์ที่ถูกลงมาก จนในที่สุดอาจจะกลายเป็นบริการฟรี เช่นเดียวกับ การใช้งานอินเทอร์เน็ตอื่นๆ

ก่อน แล้วค่อยแตกกระจายไปสู่อ�าเภอ ในล�าดับต่อจากนั้น เราก็ต้องมา ดูเทคโนโลยีล่าสุดที่มีอยู่ ว่าเราจะลากเป็นสายไฟเบอร์ออปติกต่อไป หรือจะหาเทคโนโลยีไร้สายมาเชื่อมต่อไป ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างของการ วางแผนระยะยาวทั้งสิ้น ทุกวันนี้ประเทศไทยเรามีไฟเบอร์ออปติกเยอะมาก แม้แต่บริษัท เอไอเอสก็ลงทุนไว้หลายหมืน่ กิโลเมตรทัว่ ประเทศ ผูใ้ ห้บริการรายอืน่ อย่าง ดีแทคและทรู ก็ได้สร้างไว้มากแล้วเช่นกัน การไฟฟ้าแห่งประเทศไทยก็มี ไฟเบอร์ออปติกของตัวเอง ต่างคนต่างสร้างกันไปคนละทิศละทาง โดยไม่ ได้มาวางแผนร่วมกัน และคุณรูไ้ หมว่าทุกวันนีเ้ รามี Dark Fiber Optic อยู่ มากมายทัว่ ประเทศ คือติดตัง้ เสร็จไว้แล้ว แต่ยงั หาวิธใี ช้ประโยชน์มนั ไม่ได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าต่อไปเทคโนโลยีมันจะเปลี่ยนไปอีกแค่ไหน แล้วเมื่อเทคโนโลยี ใหม่มาถึง เราก็ต้องลงทุนกันใหม่ ทั้งที่การลงทุนเดิมยังไม่ได้ใช้งานเลย แม้แต่ตัวผมเองยังดูไม่ออกเลยว่าภาพใหญ่ของโครงข่ายไฟเบอร์ออปติก ในบ้านเราใช้งานอย่างไรดี

ขอให้เชื่อมั่นในระบบการแข่งขันเสรี

การเมืองเป็นเรื่องส�าคัญ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของการพัฒนาประเทศ การเมืองคือวิธีการหนึ่งที่เราใช้เพื่อการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่จ�ากัด โดยแสดงออกผ่านทางการใช้เศรษฐศาสตร์เป็นหลักการ ใช้กฎหมาย เพื่อเป็นกฎเกณฑ์ที่ตกลงร่วมกัน จะเห็นว่าทุกด้านล้วนมีความส�าคัญ และต้องท�างานอย่างสอดประสานกันไป ถ้าแต่ละด้านขัดแย้งกันอยู่ ยก ตัวอย่างเช่นในด้านเศรษฐศาสตร์ เราต้องการเดินไปในทางทุนนิยมเสรี แต่การเมืองเราไม่ได้เลือกตัง้ อย่างเสรี การวางนโยบาย หรือออกกฎหมาย จึงไม่สอดคล้องกันเลย กลายสภาพเป็นระบบเศรษฐกิจที่การแข่งขันไม่ สมบูรณ์ ในที่สุด ความล�าบากจึงตกมาอยู่กับผู้ประกอบการและผู้บริโภค ในยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง คนหนุ่มสาวและรวมถึงตัวผมเอง เคยต่อต้าน ระบบทุนนิยม เพราะมันคือระบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา แต่เมื่อโลก เราเดินมาถึงวันนี้ แม้กระทั่งประเทศจีนก็ต้องหันมาใช้ทุนนิยมเป็นเครื่อง มือ ผลสุดท้ายจะดีหรือเลว จะผิดหรือถูก ก็ยังไม่มีใครรู้ อาจจะต้องรอดู ในอนาคตอีกสัก 10-20 ปีข้างหน้า แต่สิ่งควรท�าคือยอมปล่อยให้ระบบนี้ ท�างานไปตามหลักการที่ควรเป็น ในเมื่อประเทศไทยเราต้องการใช้ระบบทุนนิยม ก็ต้องปล่อยให้ทุน ผลักดันเราไป หน้าที่ของรัฐบาลคือดูแลการแข่งขันให้เสรีเท่าเทียม เรามี ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อควบคุมการท�าธุรกิจของบริษัทให้

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


121

โปร่งใส มีธรรมาภิบาล มีกฎเกณฑ์ด้านบัญชีมากมาย เรามีระบบตรวจ สอบที่น่าจะเพียงพอแล้ว ที่เหลือต่อจากนั้น ก็คือการปล่อยให้ทุกอย่าง เป็นไปตามกลไกตลาด ถ้าเราคิดว่าประเทศนี้ควรเป็นทุนนิยม ควรมีการแข่งขันเสรี ก็ต้อง ปล่อยกลไกตลาดให้ท�างาน ไม่ใช่ท�าอย่างในทุกวันนี้ คือออกกฎเกณฑ์ ใหม่ๆ ออกมาสร้างความสับสน แล้วทุกอย่างก็ต้องไปจบลงที่ศาล ซึ่ง เมื่อมาถึงขั้นนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับหลักฐานที่แต่ละฝ่ายจะสร้างขึ้นมา จะน�า มาอ้างกันในศาล ถ้าเราเชือ่ ระบบนี้ เราก็ตอ้ งเปิดเสรี เปิดให้ผบู้ ริโภคได้เลือกและตัดสิน เอง แล้วระบบนี้จึงจะท�างานได้ อย่างไรก็ตาม เราไม่จ�าเป็นต้องน�าเข้า เทคโนโลยีทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมา ในต่างประเทศมีอะไรใช้ เราก็ไม่ จ�าเป็นต้องใช้ตามเขาทัง้ หมด เพียงแต่ถา้ เราเปิดเสรีให้เป็นทางเลือก แล้ว ปล่อยให้ผบู้ ริโภคเขาลองเลือกดู ถ้าเทคโนโลยีใดไม่ดี ไม่เหมาะสม ในทีส่ ดุ มันก็ออกไปจากตลาดเอง รัฐบาลไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ปล่อยให้ภาค เอกชนรับความเสี่ยงไป และปล่อยให้ผู้บริโภคได้เลือก ความยากจนนั้นมีมาทุกยุคทุกสมัย และการเอารัดเอาเปรียบก็เช่น เดียวกัน แต่ประเด็นคือรัฐบาลจะท�าอย่างไร ที่จะท�าให้ชนชั้นล่างได้มี โอกาสเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจ อาจจะด้วยวิธีการจัดสรรทรัพยากรที่ เหมาะสม ระบบภาษีใหม่ และระบบการผลิตใหม่ ในทุกวันนีเ้ ขาบอกว่าเรา ผลิตข้าว 1 กระสอบ น�าไปแลกไมโครชิป 1 ตัว ตอนนี้เราก็อาจจะถึงเวลา ทีต่ อ้ งจัดสรรพลังการผลิตไปผลิตชิปบ้าง แต่ในอนาคต ผมเชือ่ ว่าประเทศ เราจะย้ายก�าลังไปผลิตชิปทั้งหมดไม่ได้ เรายังต้องผลิตข้าวไปพร้อมกัน เพราะเมือ่ ถึงวันนัน้ เราผลิตชิปมาก็กนิ ไม่ได้ เอาไปขายแลกข้าวไม่ได้แล้ว

เปิดโอกาสทางการศึกษา

ประเด็นทีน่ า่ สนใจส�าหรับการวางนโยบาย คือเมือ่ เทคโนโลยีทนั สมัย ขึน้ ไปเรือ่ ยๆ จะยิง่ น�าพาให้ชนชัน้ ล่างมีชวี ติ ดีขนึ้ หรือมันจะยิง่ เพิม่ ช่องว่าง ระหว่างชนชั้นให้มากยิ่งขึ้น ค�าตอบต่อเรื่องนี้มีหลายมุมมอง ในมุมหนึ่งมองว่าช่องว่างจะยิ่งมี มากขึ้น แน่นอนว่าเมื่อเทคโนโลยีสูงขึ้น ชนชั้นสูงที่มีโอกาสมากกว่าอยู่ แล้ว ก็ยิ่งมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีชั้นสูงเหล่านั้น และน�ามันมาใช้งาน ในการแข่งขันได้มากขึ้น เขาเรียกค�าว่านี้ Competitive Edge ซึ่งเป็นค�า ศัพท์ทางการตลาดทีต่ งั้ กันขึน้ มาให้ฟงั ดูสวยหรู จริงๆ แล้วก็คอื การเอารัด เอาเปรียบคนอื่นนั่นแหละ คือยิ่งมีโอกาส ก็ยิ่งท�านาบนหลังคนได้มากขึ้น ในอีกมุมหนึ่ง เชื่อว่าเมื่อเทคโนโลยีที่สูงขึ้น ก็เปิดโอกาสให้ชนชั้นล่าง ได้เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะอย่างยิง่ โอกาสทางการศึกษาทีจ่ ะมาก ขึ้น ถ้าเรารู้จักน�ามาใช้อย่างถูกวิธี ทุกวันนี้คนในต่างจังหวัดต้องส่งลูก หลานเข้ามาเรียนกวดวิชาในกรุงเทพฯ ก็เพราะคนต่างจังหวัดไม่มีโอกาส

Computer Multitasking

ระบบหลายภารกิจ หมายถึง ความสามารถ ของระบบปฏิบัติการ (Operating System) ที่ จะควบคุมและด�าเนินการให้เครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถจัดสรรทรัพยากรของระบบ ให้ ประมวลผลข้อมูลหรือท�างานได้หลายงานพร้อมกัน

เข้าถึงความรู้เพื่อการแข่งขันกับคนเมือง เขาก�าลังขาดเทคโนโลยีอย่าง มาก เมื่อเห็นชัดเจนเช่นนี้ รัฐบาลก็ควรเข้ามาส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี การสื่อสารเพื่องานด้านการศึกษาให้มากขึ้น ถ้าท�าได้จริงก็จะปิดช่องว่าง และมันจะเป็นโอกาสในการแข่งขัน หรือ Competitive Edge ของชนชั้นล่างไปในที่สุด ต้องยอมรับว่ามีบุ๊กคล ส�าคัญของประเทศเรามากมายที่เป็นเด็กต่างจังหวัด ดิ้นรนมาเรียนใน กรุงเทพ บางคนต้องมาอยู่วัด แล้วเมื่อเรียนจบ เติบโต ได้ท�างานดีๆ ก็ กลายเป็นบุ๊กคลของประเทศ คือเขามีโอกาสทางการศึกษา ก็มีความ สามารถในการแข่งขันเทียบเท่าเด็กในเมือง นี่คือสิ่งที่เทคโนโลยีหยิบยื่น ให้เราได้เหมือนกัน

หลายคนรับข้อมูลข่าวสารไปมากมาย แบบไม่ตั้งค�าถามอะไร แต่ก็มีหลายคนเริ่ม ฉุกคิดแล้วว่าข้อมูลข่าวสารจริงหรือเปล่า เราก�าลังถูกหลอกหรือเปล่าว ถูกล้าง สมองหรือเปล่า

ปัญหาความเหลื่อมล�้าระหว่างชนชั้น และความแตกต่างระหว่างผู้ที่ มีกับผู้ที่ไม่มี มันยิ่งห่างกันมากขึ้น คนทั่วไปที่พลาดการใช้เทคโนโลยีการ สื่อสาร จะยิ่งท�าให้เขาขาดโอกาสในชีวิตที่จะเติบโตขึ้นไป ปัญหาเรื่อง การขาดโอกาสของคนเรา ไม่ได้ลกุ ลามแบบเป็นกราฟเส้นตรงทีส่ งู ขึน้ ด้วย อัตราคงที่ แต่มันจะเพิ่มขึ้นทวีคูณแบบ Multiply Factor บางเรื่องในชีวิต ถ้าเราพลาดโอกาสไปใช้ช่วงเวลานั้น เราจะพลาดโอกาสต่อไปอีกหลาย เรือ่ ง ยกตัวอย่างเช่น เด็กนักเรียนในต่างจังหวัดสักคน ถ้าเขาพลาดโอกาส ไป 1 ปี ก็ไม่ได้หมายความว่าเวลาเขาหายไป 1 ปี แต่มันอาจจะหมายถึง ทัง้ ชีวติ ของเขาทีเ่ หลือ เพราะเขาตามเพือ่ นคนอืน่ ในรุน่ เดียวไม่ทนั อีกต่อไป ถ้าเราเชื่อในเรื่องโอกาสและความเท่าเทียมกัน ถ้าเราเชื่อว่าเวลา เป็นทรัพยากรทีม่ ีคา่ ถ้าเราเชือ่ ว่าเราย้อนเวลากลับไปไม่ได้ เราต้องรักษา โอกาสในวันนี้ให้ดีที่สุด ผมเป็นนักธุรกิจคนหนึ่ง ผมท�างานเพื่อแสวงหาก�าไร เพียงแต่งานที่ ผมท�าอยู่ มีส่วนเกี่ยวข้องกับโอกาสของประชาชน ผมก็คาดหวังว่างานนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนด้วย ดูแลผลประโยชน์ของทุกฝ่าย และรับ ผิดชอบต่อสังคม ไม่ตอ้ งเป็นห่วงเด็กสมัยนีว้ า่ จะถูกเทคโนโลยีครอบง�าและน�าไปในทาง ที่ผิด เด็กสมัยนี้เก่งและฉลาดพอ เขามีธรรมชาติที่ติดตัวมาในรุ่นของเขา คือการเรียนรู้เทคโนโลยีได้รวดเร็ว เราไม่ต้องไปสอน ไม่ต้องบังคับ แค่เอา โทรศัพท์สักเครื่องใส่มือเขา รอเพียงไม่กี่อึดใจ เขาก็ใช้เป็นแล้ว ถ้าเราให้ โอกาส เขาจะขวนขวายเรียนรู้ ใช้งาน และหาประโยชน์ได้ ในทุกวันนี้ เราอาจจะมาไกลเกินกว่าค�าว่าสายเกินไป สิ่งที่ท�าได้ตอน นี้คือท�าให้ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ แล้วก็พยายามวิ่งตามประเทศอื่นไป ผมเองก็

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


เป็นคนไทย อยากเห็นการลงทุนจากต่างชาติ ถ้ารัฐบาลยังไม่มีนโยบายที่ แน่ชัด นักลงทุนจากต่างชาติมีเงินในมือ เขาก็น�าเงินไปลงทุนในประเทศ อื่นอยู่ดี ทั้งที่คลื่นความถี่เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วไม่หมดไป เรา กลับปล่อยให้มันอยู่เฉยๆ ไม่เกิดประโยชน์อะไร นี่คือการเสียโอกาสของ ประเทศวันแล้ววันเล่า ที่เราไม่สามารถเรียกมันกลับมาได้

ให้เสรีภาพทางความคิด

ผมเติบโตในประเทศไทย และเรียนอยู่ในเมืองไทยจนเกือบจบชั้น ปริญญาตรี ผมว่าระบบการศึกษาของไทยเราล้มเหลว เพราะเราไม่เคย สอนให้เด็กคิด ค�าว่า “คิด” ในทีน่ ไี้ ม่ได้หมายถึงการคิดเลข แต่หมายถึงการ มีความคิดเป็นของตัวเอง มีเสรีภาพทางความคิด รู้จักคิดอย่างเป็นระบบ ครบทั้งกระบวนการ และบูรณาการทุกสิ่งทุกอย่างเข้ามาสู่ชีวิตตัวเอง เด็กไม่กล้าสร้างสรรค์ เพราะไม่เคยโต้เถียงกับคุณครูผสู้ อน เด็กทุกคน ห่วงอยู่อย่างเดียวคือการเก็งข้อสอบ เพื่อไปใช้ในการแข่งขันสอบ ถามว่า เด็กเราเก่งไหม ตอบว่าเด็กเราเรียนเก่งมาก ผมไม่แปลกใจเลยเวลาได้ยิน ข่าวเด็กไทยได้เหรียญทองโอลิมปิกวิชาการ แต่ถามว่าเมือ่ เขาเรียนจบออก ไป เติบโตเป็นผู้ใหญ่ ออกไปท�างานในแวดวงต่างๆ แล้วท�าไมไม่มีใครที่ สามารถสร้างสิ่งส�าคัญให้กับประเทศชาติ ให้กับสังคมโลกได้เลย เทียบ กับคนต่างประเทศที่ไม่ได้จบปริญญาเลย แต่เขาคิดค้นอะไรได้มากมาย อย่าง สตีฟ จ๊อบส์ บิล เกตส์ เพราะความคิดของเขาไม่เคยถูกปิดกั้น เปิด กว้างส�าหรับการแสดงออก แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ เยอะแยะไป หมด เรามีคนจบปริญญามากกว่าคนสิงคโปร์ไม่รู้กี่เท่า เพราะประชากร เรามากกว่าเขา แต่เราสร้างอะไรไม่ได้ เอาตัวผมเองเป็นตัวอย่าง จ�าได้ตอนทีไ่ ปเริม่ เรียนมหาวิทยาลัยปีหนึง่ อีกครั้งในต่างประเทศ ผมเป็นคนที่ช่วยติวเพื่อนฝรั่งหลายคนด้วยซ�้าไป เด็กไทยเราเก่งมากเรื่องตรีโกณ แคลคูลัส เพื่อนร่วมชั้นก็รู้กันทุกคน ว่า พวกหัวด�าแบบเราเรียนเก่งกว่าพวกเขา พอเรียนด้วยกันไปเรื่อยๆ กลาย เป็นว่าเราฉลาดเท่ากันแล้ว และพอเรียนจบออกมา เราเหมือนโง่กว่าพวก เขา และยิ่งท�างานไปนานวันเข้า เราตามเขาไม่ทันอีกต่อไป เมื่อไม่ได้คิด เราก็อยู่กันด้วยความเชื่อ ใครสอนอะไร ใครบอกอะไร ก็ เชือ่ และยอมท�าตามเสียหมด ทุกวันนี้ ทีวบี อกอะไร หนังสือพิมพ์วา่ อย่างไร เราก็ตามไปโดยไม่ได้คิดเอง ยิ่งเมื่อสื่อกลายเป็นเน้นอารมณ์ความรู้สึก คนทั้งบ้านทั้งเมืองก็เฮโลสาระพากันไป ปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมือง เลยเป็นแบบนี้ เทคโนโลยีจะแก้ไขปัญหานีไ้ ด้ ทุกวันนีเ้ รามีคนกลุม่ ใหม่ทไี่ ม่ได้เชือ่ สือ่ ไม่ได้ติดตามสื่อเดิมอีกต่อไป คนกลุ่มนี้พยายามไปค้นหาข้อมูลข่าวสาร จากในอินเทอร์เน็ตมากขึน้ และเขาจะได้ขอ้ มูลข่าวสารมากขึน้ เรือ่ ยๆ เพือ่ น�ามาคิดเองได้ ถ้าสื่ออินเทอร์เน็ตไม่โดนปิดกั้นไปเสียก่อน หลายคนต่อต้านข้อมูลข่าวสารจากอินเทอร์เน็ต บอกว่ามันมีมากเกิน ไป และขาดความน่าเชื่อถือ ค�าถามคือคุณจะตัดสินได้อย่างไรว่าอะไรน่า เชือ่ ถือ อะไรดี ถ้าเราเชือ่ ในเรือ่ งเสรีภาพ เราต้องปล่อยให้ประชาชนได้เลือก ต้องเปิดกว้างให้เขาได้รบั ข้อมูลข่าวสารมากเท่าทีเ่ ขาต้องการ และต้องกล้า ให้เขาตัดสินใจเองว่าควรคิดอย่างไร การปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร หรือโฆษณาชวนเชื่อ กรอกหูประชาชนด้วย ข้อมูลเพียงด้านเดียว จะไม่ได้ท�าให้สังคมนี้ยั่งยืนอีกต่อไปแล้ว เพราะใน

Human Multitasking

ความสามารถของบุ๊กคลในการท�างานหลายๆ อย่าง ได้ในเวลาเดียวกันเหมือนคอมพิวเตอร์ เช่นการฟังข่าวจากวิทยุไปพร้อมกับการท�างาน หน้าคอมพิวเตอร์ เชื่อกันว่า Human Multitasking จะช่วยลดความสูญเสียของเวลา แต่ในขณะเดียวกัน มันจะเพิ่มความผิดพลาดในการท�างาน และท�าลาย สมาธิของผู้ท�างาน

ท้ายทีส่ ดุ ความจริงจะต้องปรากฏขึน้ มาอยูด่ ี เพราะเทคโนโลยีการสือ่ สาร เฟซบุก๊ ยูทบู ทวิตเตอร์ ซีเอ็นเอ็น ฯลฯ จะเปิดเผยความจริงทุกสิง่ ทุกอย่าง ออกมาในเวลาไม่นาน และเมือ่ ประชาชนได้รคู้ วามจริง สิง่ ทีเ่ ขาเคยเชือ่ มา ทั้งหมดก็ล้มครืนลง ในสภาวะนั้นจะยิ่งอันตราย ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเมืองในปัจจุบัน ดูเหมือนว่ามันเป็นเพียง แค่ว่า ฝ่ายไหนโกหกได้เก่งกว่าฝ่ายไหน ฝ่ายไหนปิดหูปิดตาได้มากกว่า ฝ่ายไหน ท�าไมไม่ปล่อยให้ประชาชนค้นหาเอง เลือกเอง ในเมื่อข้อมูล เหล่านี้ล้วนมีอยู่แล้ว ช่องทางก็พร้อมแล้ว เครื่องมือต่างๆ เทคโนโลยีก็อยู่ ในมือเราทุกคนแล้ว แล้วในที่สุด เว็บไซต์ไหนโกหก ก็จะถูกเว็บไซต์อื่นมา เปิดโปง เว็บไซต์ทงั้ หมดจะคานกันเอง ข้อเท็จจริงจากทุกฝ่ายจะยันกัน โลก แห่งเสรีภาพในการสื่อสาร จะให้เสรีภาพในการคิดอย่างนี้

ลดความขัดแย้งในสังคมไทย

หลายประเทศในทวีปแอฟริกาตอนนีก้ า� ลังเกิดความโกลาหลทางการ เมือง ลุกลามอย่างต่อเนื่องกันไป หลายคนเชื่อว่าสาเหตุมาจากการที่ ประชาชนแต่ละประเทศ ได้เห็นข่าวสารการลุกฮือขึ้นต่อต้านรัฐบาลและ ประสบความส�าเร็จในประเทศหนึ่ง ก็เลยน�ามาท�าเลียนแบบต่อเนื่องกัน ไปเป็นโดมิโน หลายคนจึงสรุปว่าเทคโนโลยีการสื่อสารเป็นต้นเหตุท�าให้ การเมืองสับสนวุ่นวาย เทคโนโลยีการสื่อสารพัฒนาไปมากกว่าเมื่อ 30-40 ปีก่อน สมัยที่ผม เป็นนักศึกษาในยุค 2516 - 2519 ในสมัยนี้แต่ละฝ่ายต่างก็ใช้เทคโนโลยี การสื่อสารเป็นเครื่องมือในการกระจายข่าวของตนเอง หลายคนก็รับ ข้อมูลข่าวสารไปมากมายแบบไม่ตั้งค�าถามอะไร แต่ก็มีหลายคนที่เริ่ม ฉุกคิดแล้วว่าข้อมูลข่าวสารจริงหรือเปล่า เราก�าลังถูกหลอกหรือเปล่า ถูก ล้างสมองหรือเปล่า เปรียบเทียบกับสมัยของผม เรามีข้อมูลข่าวสารไม่เพียงพอ จนท�าให้ เพื่อนร่วมรุ่นที่เคยร่วมขบวนการนักศึกษากันมา ในทุกวันนี้ หลายคนยัง สับสนกับชีวิต สับสนกับข้อเท็จจริงที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 30 - 40 ปีก่อน ว่า แท้จริงแล้วมันเกิดอะไรขึน้ เขาได้อยูข่ า้ งฝ่ายถูกหรือเปล่า และทุกวันนีเ้ ขา ควรไปอยู่ตรงไหน ควรจะคิดอย่างไร ควรจะท�าอะไรต่อไป หลายคนผิดหวังกับยุคสมัย ก็ตัดสินใจถอยออกจากระบบ ไม่เชื่อ ในระบบอีกต่อไป ไม่ว่าจะระบบใดก็ตาม และก็มีหลายคนใช้เวลานาน หลายสิบปี กว่าที่จะตัดสินใจได้แล้ว ว่าจะไปร่วมกับกลุ่มการเมืองต่างๆ ในปัจจุบัน ลองมาดูนกั ศึกษาสมัยนีจ้ ะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน เขาบอก

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


123

ได้หมดว่ามีอะไรเกิดขึน้ เขาตัดสินใจชัดเจน ว่าฉันเป็นเสือ้ สีไหน หรือมีแม้ กระทั่งบางคน บอกว่าฉันไม่ใช่เสื้อสีไหนเลย เพราะฉันจะต่อต้านพวกมัน ทุกสี นี่เป็นเรื่องปกติมากส�าหรับยุคนี้ คือเรารู้ข้อเท็จจริง และน�ามาใช้ใน การตัดสินใจได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งในสังคมจะลดลงได้ ด้วยการที่เมื่อเรารู้ และตัดสินใจ แต่เราก็ยงั ยอมรับคนอืน่ ด้วย ยอมรับว่าเขารูอ้ ะไรและตัดสิน ใจอย่างไร ความรู้ที่แตกต่างกันไม่ควรน�าไปสู่ความรุนแรง แต่ควรน�าไปสู่ การพูดจาและแลกเปลี่ยน เพราะในความจริง เราต่างก็เป็นเพื่อนมนุษย์ เมื่อมาพบเจอกัน เราก็นั่งกินข้าวด้วยกัน พูดคุยเรื่องราวชีวิตมากมาย หลายหลาก แต่อาจจะเว้นไว้ไม่คุยกันเรื่องการเมือง ไม่ว่าที่ไหนในโลกก็มีการเดินขบวนทางการเมือง มีความขัดแย้ง ทางการเมืองทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่ประเทศที่มีความพัฒนาในระบอบ ประชาธิปไตยไปมากกว่าบ้านเรา แต่ความขัดแย้งนี้ไม่ควรน�าไปสู่ความ แตกแยกและมีการบาดเจ็บล้มตาย ในสังคมทีพ่ ฒ ั นาแล้ว ประชาชนมีชวี ติ ความเป็นอยูท่ ดี่ ี ตกงานก็มเี งินช่วยเหลือ เจ็บป่วยก็มโี รงพยาบาลรักษา มี ระบอบการปกครองที่โปร่งใส ชัดเจน และมีไอทีให้เขาใช้งานค้นหาข้อมูล ข่าวสารกันเต็มที่ เขาจะอยูร่ ว่ มกัน ยอมรับกัน ถึงแม้จะแตกต่างกัน และถึง แม้จะรู้ดีว่ารัฐบาลของพวกเขาไม่ใช่ รัฐบาลที่ดีที่สุดในโลก

เทคโนโลยีเพื่ออุดมการณ์

ของมนุษย์ อย่างเช่น ศาสนา ปรัชญา เทคโนโลยีทั้งหลาย ในทุกยุคสมัย คือสิ่งที่เราน�ามาใช้เพื่อผลักดันความเชื่อเหล่านี้ ผมไม่เล่นเฟซบุก๊ ไม่เล่นทวิตเตอร์ แต่ผมใช้ BB เพือ่ การแชทกับเพือ่ น สนิท นอกจากนี้ ผมไม่ได้ใช้เครื่องมือไฮเทคอื่นๆ ไม่เคยมี iPod และ iPad แต่ไม่เคยปฏิเสธที่จะลองเรียนรู้ และไม่วิพากษ์วิจารณ์ผู้ท่ีช่ืนชอบ อาจ จะเป็นเพราะผมไม่มีเวลามากพอที่จะใช้กับมันทั้งวัน ก็เลยใช้เท่าที่ใช้อยู่ แบบนี้ไปเรื่อยๆ เวลาคนเรามีน้อยลงทุกที เมื่อไม่มีกี่วันก่อนเพิ่งไปร่วมงานศพของ เพื่อนคนหนึ่ง ท่านจากไปด้วยอาการหัวใจล้มเหลว สร้างความโศกเศร้า เสียใจให้กับคนที่ยังอยู่ เพราะกระทันหันเกินไป ยังไม่ทันได้เตรียมใจกัน เลย คนเราก็เท่านีจ้ ริงๆ บทบาทหัวโขน หน้าทีก่ ารงานของเรา อาจจะท�าให้ เราขัดแย้ง แต่จริงๆ ด้วยความเป็นมนุษย์ เราอยู่ด้วยกันได้ เราเศร้าเสียใจ ร่วมกัน มีความสุขด้วยกัน พูดคุยกันเรือ่ งชีวติ ได้ ไม่มปี ญ ั หาอะไรต่อกันเลย ที่เห็นแข่งขันต่อสู้ขึ้นโรงขึ้นศาล มันก็เป็นไปตามวิถที าง ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ผมระลึกขึ้นมาได้ว่าคนเราต้องเตรียมใจอยู่เสมอ คนหนุ่มสาวยังคิด ว่าฉันยังอยู่อีกนาน ฉันต้องหาเงิน ฉันต้องหาความสุข พระพุทธเจ้าถึง สอนเราว่าต้องอยู่ด้วยความไม่ประมาท ผมมองในแง่ดีเสมอ แต่ในขณะ เดียวกัน ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อรับมือความโกลาหลต่างๆ ภัย พิบตั ิ โรคระบาด ความเปลีย่ นแปลง ความไม่นอน เราไม่ประมาทต่อ ชีวิตและโลก ผมคิดว่าค�าสอนของ ศาสนาพุทธถูกต้อง ตรงที่สอนให้ เราเห็นความไม่แน่นอน และความ ไม่ประมาท ในตอนนี้ ผมและเอไอเอส อยากท� า CSR ให้ ม ากขึ้ น โดย เฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับนโยบาย บรอดแบนด์ แ ห่ ง ชาติ ข องรั ฐ บาล เราอยากไปท�าไม่ใช่เพื่อเอาใจท่าน นายกรัฐมนตรี ไม่วา่ ใครจะเป็นนายกฯ ประชาชนก็ควรจะมีบรอดแบนด์ใช้ งาน เรามีสถานีทจี่ ดุ ปลายทางเยอะ เพียงแค่เดินสายต่อไปอีกไม่มาก ก็จะ เข้าไปถึงแต่ละหมูบ่ า้ นได้ เราเชือ่ มั่นว่าเทคโนโลยีสร้างโอกาส โดยเฉพาะ อย่างเรือ่ งโอกาสทางการศึกษา มันเปลีย่ นชีวติ คนทัง้ ชีวติ ได้จริงๆ เอไอเอส อยูใ่ นสถานภาพทีจ่ ะท�าอะไรให้สงั คมได้มาก ถ้ามีคนเห็นด้วยและมาช่วย กัน อย่างน้อยทีส่ ดุ ไม่วา่ ในขณะจะมีความขัดแย้งทางธุรกิจและคดีความ อย่างไร แต่เราต้องท�างานนีต้ อ่ ไปให้ดี เมือ่ เราตายไป ก็ให้คนรุน่ หลังกล่าว ถึงเราในทางที่ดีบ้าง เหมือนทฤษฎีความต้องการของมาสโลว์ ผมท�างาน เพื่อได้เงินทอง จนมาถึงตอนนี้ก็มีอ�านาจในการบริหารงานอยู่บ้าง แต่ขั้น ต่อไปของการท�างาน คือเพื่อความภาคภูมิใจ สมัยก่อนตอนยังเป็นหนุ่ม ผมเคยฝันถึงอุดมการณ์มากมาย อยาก ท�าอะไรเพื่อสังคมเยอะแยะ แต่ยังท�าได้ไม่ส�าเร็จสักอย่าง ตอนนี้มีโอกาส ได้ท�างานนี้แล้ว ก็ถือว่าได้ท�างานเพื่อสังคมส่วนหนึ่ง วางเครือข่ายการ สื่อสารให้ดีๆ ให้คนในชนบทได้ติดต่อถึงกันได้สะดวก สร้างโอกาสให้เขา ฟื้นขึ้นมาได้

คุณรู้ไหมว่าทุกวันนี้เรามี Dark Fiber Optic อยู่มากมายทั่วประเทศ คือติดตั้ง เสร็จไว้แล้ว แต่ยังหาวิธีใช้ประโยชน์มันไม่ได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าต่อไปเทคโนโลยีมันจะเปลี่ยนไป อีกแค่ไหน แล้วเมื่อเทคโนโลยีใหม่มาถึง เราก็ต้องลงทุนกันใหม่

ในทุกวันนี้ เทคโนโลยีกา้ วไปเร็ว มาก และผูบ้ ริโภคก็กา้ วไปเร็วเช่นกัน เราหยุดยั้งเขาไม่ได้ ว่าคุณครับ! ยัง ไม่ต้องไปซื้อรุ่นนั้น เพราะมันยังใช้ งานไม่ได้ ทุกคนทีซ่ อื้ มาไว้แล้ว แล้วก็ รอว่าเมือ่ ไรจะเปิดให้ใช้งาน มีแต่เรา เองที่ไม่มีอะไรไปให้บริการเขา มัน เป็นการตลาดในยุคทีล่ กู ค้าน�าตลาด เราท�าได้เพียงการให้บริการได้สงู สุด เท่าที่จะให้ได้แล้วในตอนนี้ การลงทุนยังคงด�าเนินไป แม้จะไม่คุ้มค่าเลย แต่กล็ งทุนรอไว้ลว่ งหน้า ถึงแม้การเมืองสะดุด แต่เราก็ตอ้ งไม่หยุดพัฒนา เศรษฐกิจพอเพียง ประเด็นหลักคือความสามารถในการพึง่ พาตนเอง ได้อย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะในภาคการเกษตรหรือภาคอุตสาหกรรม ผมเชื่อ ว่าอุตสาหกรรมก็ไม่ใช่เรื่องที่ขัดแย้งกับเศรษฐกิจพอเพียง เพราะทุกวัน นี้ประเทศเราเป็นฐานการผลิตรถกระบะหลายยี่ห้อ เราถือเป็นเศรษฐกิจ พอเพียงในแง่ที่เรามีฝีมือแรงงาน จึงผลิตรถได้มากจนถึงระดับที่เกิด ความประหยัดต่อขนาด น�าไปสู่การลงทุนขนาดใหญ่ สร้างงาน สร้าง รายได้ภายในประเทศ และสามารถส่งออกขายเพื่อน�ารายได้เข้าประเทศ จึงแน่นอนว่าเราสามารถน�าเทคโนโลยีช่วยในด้านนี้ได้ เทคโนโลยีการ สือ่ สารท�าให้เราประหยัด และมีความสามารถในการแข่งขัน ขอให้เลือกใช้ อุปกรณ์ที่ไม่แพงมากนักเพื่อมาท�างาน ผมมองว่าเทคโนโลยีเป็นเพียงแค่เครื่องมือ มันคงไม่ใช่ตัวการในการ เปลี่ยนแปลงโลก แต่เป็นตัวสนับสนุนความเปลี่ยนแปลงให้รวดเร็วขึ้น อย่างมาก สิ่งที่เป็นรากฐานของความเปลี่ยนแปลง คือพื้นฐานความเชื่อ

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


124


สุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่ำกำรกำรท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

การท่องเที่ยวในโลกยุคดิจิตอล

ภารกิจในต�าแหน่งผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในยุคสมัย ที่โลกของเราเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารด้วยดิจิตอล ถือเป็นสิ่ง ท้าทายความสามารถของ สุรพล เศวตเศรนี อย่างยิ่ง เขาเริ่มต้นชีวิตการท�างานกับ ททท. เมื่อปี พ.ศ. 2519 ตั้งแต่โลกของ เรายังเป็นอะนาล็อกล้วนๆ จนถึงในยุคปัจจุบัน ยุคที่ข้อมูลข่าวสาร มากมายมหาศาลหลั่งไหลเข้าสู่ฝ่ามือของคนทั้งโลก ความเปลี่ยนแปลง นี้ได้สร้างผลกระทบต่อทุกมิติของชีวิต และแน่นอนว่ามันต้องกระทบต่อ เรื่องการเดินทางท่องเที่ยวของเราด้วย การให้บริการท่องเที่ยว การโฆษณาประชาสัมพันธ์ และการท�างาน ขององค์กรทีต่ อ้ งรับผิดชอบในเรือ่ งการหารายได้เข้าประเทศไทยแห่งนี้ จึง

ต้องแสวงหาวิถีทางใหม่ เทคโนโลยีใหม่ ช่องทางใหม่ และความสามารถ ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อน�าพา ประเทศไทยให้เข้าไปอยู่ในหัวใจของนักท่องเที่ยวทั้งโลกได้ต่อไป

มนุษย์คือนักเดินทาง

ปฏิเสธไม่ได้ว่า เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ มีบทบาทอย่างมากในโลก ปัจจุบนั ทัง้ ในแง่ของการท�างาน และในแง่ของการใช้ชวี ติ ประจ�าวัน รวมไป ถึงการใช้งานเพื่อความบันเทิง พักผ่อนหย่อนใจ จากเดิมความรวดเร็วใน การติดต่อสื่อสารด้วยอินเทอร์เน็ตเมื่อ 10 ปีก่อน ท�าให้เราสามารถคุยกัน ผ่านจดหมายอีเล็กทรอนิกส์ หรือทีเ่ รียกกันสัน้ ๆ ว่าอี-เมล์เป็นช่องทางการ

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


เผยแพร่/ส่งต่อข้อมูลข่าวสาร ต่อมาเราก็ใช้เว็บแคมพูดคุยกันได้ระหว่าง ผู้คนที่อยู่ห่างไกลแบบเห็นหน้าและเรียลไทม์ สามารถตอบโต้ระหว่างกัน ได้โดยผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ผมคิดว่าเทคโนโลยีอันทันสมัยที่ได้รับการพัฒนามาอย่างรวดเร็วใน รอบไม่กี่ปีมานี้ นับเป็นความอัจฉริยะของผู้คิดค้น ที่ช่วยให้พวกเราทุก คนสามารถค้นหาข้อมูลแทบทุกชนิดได้จากโปรแกรมบราวเซอร์อย่าง Internet Explorer กลายเป็นปัจจัยหนึง่ ในทุกครอบครัว และยังมีผลท�าให้ พฤติกรรมของมนุษย์เปลีย่ นแปลงไป และผมเชือ่ ว่าคนเราส่วนใหญ่ อยาก ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะในเวลาท�างาน และในเวลาพักผ่อน หลายคนสงสัยว่าในยุคสมัยที่คนอยากอยู่กับหน้าจอเช่นนี้ เขาจะ ยังเดินทางท่องเที่ยวกันอีกไหม? ค�าตอบคือเราทุกคนยังออกเดินทางกัน เหมือนเดิม และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นด้วยซ�้า ในส่วนนักธุรกิจทีจ่ ะต้องพกพาแลปทอป หรือคอมพิวเตอร์โน้ตบุก๊ ไป ไหนมาไหนได้ทกุ ที่ แม้กระทัง่ ในระหว่างทริปเดินทางไปประชุมสัมมนา ใน ส่วนนักท่องเทีย่ วทัว่ ไปอีกจ�านวนไม่นอ้ ย ทีม่ คี วามต้องการเดินทางในเชิง ลึก หรือการท่องเที่ยวแบบดื่มด�่ามากๆ เขาก็ต้องเดินทางมาถึงสถานที่ จริง แต่ก่อนออกเดินทาง เขาจะใช้เทคโนโลยีสื่อสาร หน้าจอคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต ในการค้นหาข้อมูล มองหาความคุ้มค่า จัดทริปได้อย่าง ละเอียดและถูกต้องยิ่งขึ้น และผมคิดว่าด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้ จะ ยิ่งท�าให้พวกเขาได้รับประสบการณ์จากการเดินทางที่ดื่มด�่าและลงลึก มากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ�้า

เทรนด์ที่น่าสนใจต่อไป คือโทรศัพท์ มือถือรุ่นใหม่ๆ ที่ช่วยให้นักท่องเที่ยว ออนไลน์อินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา ในระหว่างที่ก�าลังเดินทางท่องเที่ยวอยู่ สิ่งนี้จะท�าให้บริการการท่องเที่ยว เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

อินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีการสื่อสาร ไม่ใช่สิ่งที่จะมา ทดแทนการเดินทาง ในทางตรงข้าม มันกลับจะเป็นสื่อกลางที่ช่วยเผย แพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเดินทาง และกระตุ้นให้เกิดความต้องการ จะเดินทางมากขึ้นไปอีก มนุษย์คือนักเดินทาง มนุษย์เราจะอย่างไรก็รักการท่องเที่ยว เรา ต้องการออกเดินทาง จะใกล้หรือไกล เพื่อไปพบเห็นของจริง สถานที่จริง ประสบการณ์จริง พิสูจน์ได้ด้วยตาตนเอง มากกว่าการชมภาพความ สวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกผ่านโลกไซเบอร์ เพราะอย่างไรเสีย

ผมเชื่อว่า อินเทอร์เน็ตไม่สามารถที่จะสร้างคุณค่าทางอารมณ์ได้เทียบ เท่าการเดินทางจริง

นักท่องเที่ยวที่ชาญฉลาด

ททท. ได้ท�าการศึกษาส�ารวจ ทั ศ นคติ แ ละพฤติ ก รรมนั ก ท่ อ ง เที่ยวใน 12 ตลาดหลัก ที่เป็นนัก ท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ เพื่อให้ ทราบถึงทัศนคติและพฤติกรรมใน ในแง่ของการใช้งานด้านเทคโนโลยี เพื่อการเดินทางมาท่องเที่ยว ในประเทศไทย ตัวเลขออกมาน่าสนใจอย่าง มาก นักท่องเที่ยวกว่าร้อยละ 60 หาข้อมูลเกีย่ วกับประเทศไทยจาก อินเทอร์เน็ตเป็นอันดับหนึ่ง โดยกลุ่มประเทศยุโรปนิยมใช้สื่ออินเทอร์เน็ต มากที่สุด รองลงมาคือ รัสเซีย เยอรมัน สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร รวมทั้งประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก็นิยมใช้สื่ออินเทอร์เน็ตเช่นกัน ส่วนประเทศในแถบเอเชีย ได้แก่ สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย ก็มีการใช้งาน ในล�าดับต้นๆ ในจ�านวนนักท่องเที่ยวที่ใช้อินเทอร์เน็ตดังกล่าว มีคนที่เข้ามาสืบค้น ข้อมูลจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ ททท. มากถึงร้อยละ 16 และ นักท่องเทีย่ วประมาณร้อยละ 8 ท�าการจองโรงแรม ทีพ่ กั ผ่านอินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ต่างๆ รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ได้เป็นเหตุผล เพียงหนึ่งเดียวในการตัดสินใจของนักท่องเที่ยว เรายังต้องการเหตุผล ด้านอื่นๆ ด้วย เช่นภาพลักษณ์ ชื่อเสียง สถานการณ์ภายในประเทศที่ มั่นคง บรรยากาศที่สงบ เหมาะกับการเดินทางมาเที่ยว อย่างไรก็ตาม ผลจากการศึกษาวิเคราะห์ทัศนคติและความต้องการของนักท่องเที่ยว พบว่าปัจจัยที่มีความส�าคัญสูง เมื่อนักท่องเที่ยวจะเลือกประเทศในการ ท่องเที่ยวนั้น ประกอบด้วย แหล่งช็อปปิ้ง กิจกรรมท่องเที่ยว สถานที่ท่อง เที่ยว ภาพลักษณ์ของประเทศ ความคุ้มค่าของราคา คุณภาพการบริการ และความเป็นมิตรของผู้คน เทรนด์ที่น่าสนใจต่อไป คือโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ ที่ช่วยให้นักท่อง เที่ยวออนไลน์อินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา ในระหว่างที่ก�าลังเดินทางท่อง เที่ยวอยู่ สิ่งนี้จะท�าให้บริการการท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก สมาร์ทโฟนในมือของนักท่องเที่ยว มีทั้งด้านความเร็ว หน้าจอคมชัด การ รับชม และดาวน์โหลดคอนเทนท์ รวมทั้งแอพพลิเคชันใหม่ๆ ที่มีลูกเล่น สามารถตอบรับกระแสความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีรูปแบบ การใช้ชีวิตนอกบ้าน หรือที่เรียกว่า On-the-Go ได้อย่างดี การหาวิธีใส่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการท่องเที่ยวของเราเข้าไปใน อินเทอร์เน็ต โดยให้งา่ ยต่อการเปิดโดยเว็บบราวเซอร์ทที่ ตี่ ดิ ตัง้ มากับเครือ่ ง โทรศัพท์เคลื่อนที่ จะส่งผลดีอย่างยิ่ง เพราะจะท�าให้นักท่องเที่ยวสนุก กับการหาข้อมูลการท่องเที่ยวในหมวดหมู่ต่าง ๆ เช่น ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวและแผนที่การเดินทาง ฯลฯ ได้อย่างง่ายดายทุกที่ทุก เวลา และเป็นการช่วยประหยัดเวลาได้มากขึ้น

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


เริ่มต้นด้วยความส�าเร็จจากอีคอมเมิร์ซ

อีคอมเมิร์ชเป็นสิ่งที่นักธุรกิจหลายแขนงพยายามน�าไปประยุกต์ใช้ เพราะเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ให้ประโยชน์โดยตรงแก่ผู้ประกอบ การในยุคโลกาภิวัตน์ ในการสร้างรายได้ในรูปแบบร้านค้าออนไลน์ เป็น ช่องทางการขายที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบัน อีกทั้งยังสร้าง มูลค่าเพิม่ ให้กบั ธุรกิจให้อกี หลายด้าน ในบรรดาธุรกิจทีใ่ ช้อคี อมเมิรซ์ แล้ว ประสบความส�าเร็จ ธุรกิจด้านการท่องเทีย่ วถือเป็นอันดับต้นๆ เลยทีเดียว การน�าอีคอมเมิรซ์ มาใช้กบั ธุรกิจการท่องเทีย่ ว มีขอ้ ได้เปรียบอยูห่ ลาย ประการ ประการแรกคือการออนไลน์อยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด จึง เป็นช่องทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้ง่าย อินเทอร์เน็ตเปิด ให้คนทั้งโลกเข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างไม่มีข้อจ�ากัด ทุกที่ ทุกเวลา ประการ ที่สอง คือความโปร่งใสของข้อมูลข่าวสาร นักท่องเที่ยวก็สามารถเปรียบ เทียบราคากับเว็บไซต์อื่นๆ ได้ทันที เพื่อการวางแผน จัดสรรการเดินทาง ได้ลว่ งหน้า หรือแม้แต่การตัดสินใจแบบฉับพลัน ในลักษณะ Last-Minute Shopping คืออยากจะเทีย่ ว ก็เปิดเข้าไปซือ้ แพ็กเกจหรือจองโรงแรมได้เลย และประการที่สามซึ่งส�าคัญมาก คือการได้แบ่งปันข้อมูลข่าวสารระหว่าง นักท่องเที่ยวด้วยกันเอง ผ่านการแสดงความคิดเห็น ให้คะแนน การติชม บริการ ข้อมูลเหล่านีม้ สี ว่ นในการตัดสินใจของนักท่องเทีย่ วอย่างมาก และ นับวันจะมีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ Thailand Tourism Gateway ประตูสู่การท่องเที่ยวและบริการไทย ที่ นักท่องเทีย่ วทัว่ โลกสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเทีย่ วของ ประเทศได้อย่างครบถ้วน ที่ผ่านมา ททท. ได้จัดท�าเว็บไซต์ท่า หรือ Portal Site โดยปรับปรุงพัฒนาข้อมูลสินค้าและบริการขายออนไลน์ เป็นช่องทาง ให้บริการแก่กลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ระหว่างผู้ซื้อ และผู้ขายโดยตรง ทั้งแบบ Business to Business (B2B) และ Business to Customer (B2C) ทาง www.thailandsuperdeal.com และ www. thaitravelmart.com ในส่วนการท�างานของส�านักงาน ททท. ที่ประจ�าอยู่ในต่างประเทศ ผมได้กา� หนดนโยบายให้เรารูจ้ กั ช่องทางการใช้สอื่ ทีเ่ หมาะสม เพือ่ การส่ง เสริมการตลาดเฉพาะแต่ละกลุม่ เป้าหมาย อาทิเช่น การเลือกใช้เว็บไซต์ที่ มีความจ�าเพาะเจาะจง อย่างเช่นการเสนอขายรายการน�าเทีย่ วส�าหรับนัก กอล์ฟผ่านเว็บไซต์ www.golftripz.com เป็นต้น นอกจากนี้เรายังเลือกใช้ช่องทางเว็บไซต์การท่องเที่ยวอื่นๆ เช่นการ เสนอขายบริการท่องเที่ยวในประเทศไทยผ่านทาง www.cleartrip.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ด้านท่องเที่ยวของอินเดีย เรามีส่วนแบ่งทางการตลาดร้อย ละ 35 และมีผู้เข้าชมเว็บไซต์จ�านวน 1.5 แสนคนต่อวัน หรือการจัดท�า Microsite เพื่อน�าเสนอโครงการ “Amazing Thailand Free Holiday Offer” บนหน้าโฮมเพจของ www.travelmartindia.com เว็บไซต์ทอ่ งเทีย่ วที่ มีชอื่ เสียงของอินเดีย เพือ่ รุกตลาดใหม่ๆ ทีม่ แี นวโน้มการเติบโตสูง เป็นต้น รวมทั้งการเข้าไปท�ากิจกรรมออนไลน์กับตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจ ท่องเที่ยวที่เสนอขายการท่องเที่ยวประเทศไทยในตลาดออสเตรเลีย และ ตลาดอเมริกา ผ่านโครงการต่างๆ ได้แก่ Amazing Thailand Training Online, Thailand Specialist Program และ Virtual Online Travel Seminar ซึ่งได้ประสิทธิภาพอย่างดียิ่ง ในขณะที่ธุรกิจการท่องเที่ยว ที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน ท�าให้ผู้

ประกอบการด้านสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวจ�านวนไม่น้อย ต่าง หันมาท�าการตลาดเชิงรุกมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะเข้าถึงนักท่องเที่ยวในทุกวิถี ทาง และเริ่มเห็นประโยชน์ของการตลาดออนไลน์มากขึ้น ถือเป็นเครื่อง มือทางรอดของธุรกิจ เราพบว่าในปัจจุบนั นักท่องเทีย่ ว นิยมหาข้อมูลทาง อินเทอร์เน็ต เพิม่ ขึน้ ถึงกว่าร้อยละ 80 ดังนัน้ การเสนอบริการผ่านโฆษณา หรือส่งเสริมการขายออนไลน์ นักท่องเทีย่ วสามารถรับรูถ้ งึ โปรโมชัน่ ต่าง ๆ จากโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ต่างๆ

ในบรรดาธุรกิจที่ใช้อีคอมเมิร์ซแล้วประสบ ความส�าเร็จ ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวถือ เป็นอันดับต้นๆ เลยทีเดียว

ก้าวเข้าสู่ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง

นโยบายส�าคัญประการหนึ่งของ ททท. คือ การใช้ประโยชน์ด้าน สารสนเทศเพื่อการตลาด โดยค�านึงถึงความสอดคล้องกับแผนการตลาด การท่องเทีย่ วทีจ่ ดั ท�าขึน้ ประจ�าปี ซึง่ เน้นครอบคลุม และเข้าถึง 3 กลุม่ เป้า หมายหลัก คือ กลุม่ นักท่องเทีย่ ว (Traveler) กลุม่ ตัวแทนการขาย (Trade) และกลุ่มสื่อมวลชน (Media) ทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ ในระดับ Mass และ Niche Market

โดยในขั้นตอนการด�าเนินงาน ททท.ได้แบ่งภารกิจเป็น 3 ภารกิจ หลัก ได้แก่ 1. ด้านสือ่ สารการตลาด รับผิดชอบในการประชาสัมพันธ์ สร้างเนือ้ หา ข้อมูล จัดกิจกรรมและเกม โฆษณาออนไลน์ รวมทั้งการตลาดแบบ Viral Marketing 2. การพัฒนาบริหารระบบด้านเทคโนโยลีสารสนเทศ และพัฒนา แอพพลิเคชั่นบนแต่ละแพลตฟอร์มของโซเชียลเน็ตเวิร์ก 3. การจัดเก็บข้อมูลเพื่อติดตามประเมินผล และสร้างปฏิสัมพันธ์ กล่าวได้ว่าในภาพรวมของการใช้เทคโนโลยีเพื่อการโปรโมทประเทศ ไทยนับว่าประสบผลส�าเร็จอย่างมาก โดยช่วงปีที่ผ่านมา ททท. ได้ท�าการ

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


ปรับปรุงเว็บไซต์ท่า www.TourismThailand.org ให้เป็น One-stop Portal Website มีการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มเติมตามความต้องการ ของนักท่องเที่ยว ยังเน้นการบูรณาการข้อมูลกับ Third Parties มากขึ้น เช่น การแสดงแผนที่แหล่งท่องเที่ยว โดยน�า Google Map มาใช้ หรือการ บูรณาการข้อมูล Review/Rating กับ TripAdvisor เป็นต้น โดยนอกจาก การเข้ามาหาข้อมูลท่องเที่ยวแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถวางแผนการ ท่องเที่ยวได้อีกด้วย นอกจากนี้ ทางททท. ก�าลังจะเปิดตัวฟังก์ชนั ใหม่ Travel Time Calculator เพือ่ ให้นกั ท่องเทีย่ วสามารถค�านวณระยะเวลาการเดินทางทัง้ รถยนต์ รถไฟ และเครื่องบินได้ทั่วประเทศ เมื่อปลายปีที่แล้ว ททท. ได้เปิดตัวเว็บไซต์ท่า www.ThailandMedTourism.com ขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ โดยเว็บไซต์นี้ เน้นไปทางด้าน Medical Tourism ทีส่ มบูรณ์ทสี่ ดุ ในประเทศ และประสบ ความส�าเร็จเป็นอย่างดี มีจา� นวนผูเ้ ข้าชมสูง ถึง 100,000 Unique Visitors (UV) กว่า 300,000 Page Views ภายในระยะเวลาเพียง 5 เดือนหลังจาก เปิดด�าเนินการ และยังติดอันดับ TOP 3 บน Google ใน Keyword ส�าคัญๆ เช่น thailand medical tourism, medical tourism thailand นอกจากนี้ ททท. ได้มุ่งเน้น การผลักดันแบรนด์ Amazing Thailand ซึ่งเป็นเครื่องหมายการประชาสัมพันธ์อย่างหนึ่งให้ก้าวขึ้นสู่เสิร์ชเอนจิ้น ในระดับต้นๆ การจัดท�า Microsite “Discover what you’ve been missing” (สถิติ 408,636 Page Views) จัดท�าแบนเนอร์เผยแพร่ข้อมูลผ่าน www.traveldailyasia.com จัดท�า Minisite ชื่อว่า amazingthailand. tourismthailand.org และปรับปรุงการเชือ่ มต่อกับเว็บไซต์หลักของ ททท. และ www.tourismthailand.org เพื่อขยายการรับรู้ภาพลักษณ์ที่โดดเด่น ของประเทศไทย และกระตุ้นให้เกิดความต้องการเดินทางในแคมเปญ อะเมซิ่งไทยแลนด์

คุณรู้ไหม? ว่าในปัจจุบัน ททท.ได้รับการ จัดอันดับเป็นองค์กรล�าดับ 3 ที่ใช้สื่อ ประเภทนิวมีเดียในการส่งเสริมการตลาด

ก้าวต่อไปคือโซเชียลมีเดีย

ททท. ได้ ด� า เนิ น การเชิ ง รุ ก ในการส่ ง เสริ ม การท่ อ งเที่ ย วไทยโดย อาศัยกระแสความแรงของโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยได้เน้นการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ส่งเสริมภาพลักษณ์ พร้อมทั้งสร้างจุดขายให้กับประเทศ ไทย เพื่อเข้าถึงชุมชนออนไลน์ (Social Networking) ชั้นน�าทั่วโลกที่มี การเติบโตสูง และมีผู้ชมโดยเฉลี่ยไม่ต�่ากว่า 2.5 ล้านคน เช่น Yahoo Weather, Google, Facebook, Bloomberg, Starworld เพื่อให้เกิดการ สื่อสารกระจายไปในวงกว้าง

คุณรู้ไหม? ว่าในปัจจุบัน ททท.ได้รับการจัดอันดับเป็นองค์กรล�าดับ 3 ทีใ่ ช้สอื่ ประเภทนิวมีเดียในการส่งเสริมการตลาด อีกทัง้ ยังเป็นทีน่ า่ ภาค ภูมิใจขององค์กร ซึ่งได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจากสมาคมส่งเสริมการ ท่องเที่ยวแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค PATA Gold Awards 2011 สาขา Marketing – Primary Government Destination จากกิจกรรมการตลาด “Amazing Thailand Social Networking” ซึ่งตอกย�้าความส�าเร็จของ ททท. ด้านการตลาดออนไลน์กับการก้าวขึ้นเป็นองค์กรดิจิตอลในการส่ง เสริมการท่องเที่ยว

Blog

ส�าหรับในแง่การใช้งานประเภทสื่อร่วมสมัย (New Media) ททท. เน้นการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ เพื่อใช้สร้างระดับความเชื่อมั่นของ นักท่องเที่ยวให้เพิ่มสูงขึ้น อาทิเช่น การสร้างกระแสการบอกต่อผ่านนัก ท่องเที่ยวด้วยกันเอง ผ่าน Blogger ที่มีชื่อเสียงเดินทางไปเก็บข้อมูลตาม เมืองท่องเทีย่ ว โดยข้อมูลจะน�าไปเผยแพร่ที่ http://blog.tourismthailand. org/eugenetang/

Facebook

จากการขยายฐานนักท่องเทีย่ วกลุม่ ใหม่ดว้ ยการสร้างเครือข่ายสังคม ออนไลน์ ทัง้ ในประเทศและต่างประเทศ ผ่านทาง www.Facebook.com/ Amazingthailand ในช่วง 1 ปีแรกที่เริ่มด�าเนินการถือว่าประสบความ ส�าเร็จมากจากจ�านวนนักท่องเทีย่ วทีร่ ว่ มเป็นสมาชิก 73,448 และเพิม่ ขึน้ มากกว่า 130,000 คนในขณะนี้ และตัง้ เป้าหมายสมาชิกเพิม่ ถึง 200,000 Fan Page ในปี 2554 ททท. ยังได้น�า “น้องสุขใจ” ซึ่งเป็นตัวละครสมมติเป็นผู้แทนในการ สือ่ สารกับนักท่องเทีย่ วซึง่ ท�าให้นกั ท่องเทีย่ วรูส้ กึ ว่า “น้องสุขใจ” เป็นเพือ่ น และท�าให้เกิดความผูกพันมากขึน้ ในชุมชนออนไลน์ โดยมีการท�ากิจกรรม ร่วมสนุกกับสมาชิกอย่างต่อเนื่อง ในรูป Quiz คุณรู้จักประเทศไทยดีแค่ ไหน ตอบค�าถามเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยเพื่อชิงรางวัล จัดกิจกรรมประกวดหนังสั้น และ วิดีโอคลิปที่สื่อถึงสถานที่ท่องเที่ยวใน ประเทศไทย ฯลฯ เมือ่ เทียบกับหน่วยงานประเภทเดียวกัน ปัจจุบนั แฟนคลับบนเฟชบุก๊ ของ ททท. มีมากเป็นอันดับ 2 รองจากประเทศญี่ปุ่น และมากกว่าของ สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ และมาเลเซีย ตามล�าดับ

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


App

การพัฒนาโมบายแอพพลิเคชัน “Impulsive Travelling” และ “Amazing Thailand” ที่รองรับการใช้งานบนเครื่อง iPhone, Blackberry, Android รวมถึงอุปกรณ์เชื่อมต่อ iPad และ iPod Touch เพื่อน�าเสนอข้อมูล เกม และแอพพลิเคชันทีเ่ กีย่ วกับการส่งเสริมการท่องเทีย่ วสูก่ ลุม่ เป้าหมาย ททท.ยังได้แนะน�า Useful Tool ให้กับนักท่องเที่ยวได้สื่อสารภาษา ไทยกับคนไทยด้วยค�าศัพท์และประโยคง่ายๆ ในระหว่างที่มาเยือนเมือง ไทย จากแอพพลิเคชัน SpeakThai ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นเสมือนล่ามพูด ภาษาไทย โดยบรรจุศัพท์และช่วยแปลศัพท์จากภาษาต่างๆ เป็นภาษา ไทยซึ่งสามารถเลือกจากหมวดหมู่ค�าศัพท์ตามหัวข้อที่ต้องการ สะดวก สบายเพียงแค่ดาวน์โหลดจาก Apple Store ลงติดตัง้ ไว้ในเครือ่ งโทรศัพท์ มือถือ iPhone นอกจากนี้ ยังมีแอพพลิเคชันอื่นๆ ได้แก่ Thai Cookbook, Eat and Drink และ Pick A Trip เป็นกิจกรรมออนไลน์ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุก โดยใช้ประโยชน์จากข้อมูล และน�ามาวางแผนจัดทริปส�าหรับเดินทางท่อง เที่ยวในประเทศไทย

Twitter

นอกจากนีย้ งั มีจา� นวน ผู ้ ติ ด ตาม (Followers) ทางทวิ ต เตอร์ รวมกว่ า 28,000 คน โดยแยกกลุ่ม เป้าหมาย ได้แก่ www. twitter.com/go2thailand (ส�าหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ) และ www. twitter.com/thailandfanclub.com (ส�าหรับนักท่องเที่ยวไทย)

Video Sharing

ขณะเดียวกันในกลุ่มของสังคมออนไลน์ ททท. ยังได้ใช้เป็นช่อง ทางการสื่อสารในภาวะวิกฤต (Online Crisis Management) เพื่อที่จะ รักษาภาพลักษณ์และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ในสถานการณ์ต่างๆ ผ่านมินิไซต์ www.thailandtourismupdate.com และการจัดท�าข่าวสาร ออนไลน์ ePress Release ตลอดจน VDO Testimonial, VDO message from the Governor และอื่นๆ ผ่านทาง Web Publisher รวมทั้งการ อัพโหลดในวิดีโอแชร์ริ่ง เช่น Youtube , Blog Site และ Travel Forums ต่าง ๆ

การออกแบบแอพพลิเคชันนี้ มีการตอบรับอย่างดี จากการดาวน์โหลด ต่อวัน ซึ่งภายในหนึ่งสัปดาห์หลังเปิดตัว มีจ�านวนผู้ดาวน์โหลดทั้งสิ้น เกือบ 3,000 คน อีกทั้ง 2 แอพพลิเคชันดังกล่าว ยังได้รางวัลจากงาน โฆษณา B.A.D. AWARDS 2010 ประกอบด้วยรางวัล Best of Advertising และ Certificate of Excellent Innovative Digital จากผลงาน Speak Thai และรางวัล Certificate of Excellent Web-Site Design และ Certificate of Excellent Integrated Digital จากผลงาน Pick A Trip ส�าหรับการส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยภายในประเทศโดยใช้ นิวมีเดีย ททท. ยังได้รว่ มกับศูนย์เทคโนโลยีอเิ ล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ แห่งชาติ (เนคเทค) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้เพิม่ ทางเลือก ให้กับนักท่องเที่ยว ได้สามารถวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง ผ่าน www.pi-pe.org และสมาร์ทโฟนที่รองรับ GPS ภายใต้แนวคิดไป เทีย่ วไหนๆ ได้อสิ ระ แบกเป้ใบเดียวก็สามารถเข้าถึงแหล่งท่องเทีย่ วได้ ด้วย ระบบแนะน�าแผนทีท่ อ่ งเทีย่ ว ทีร่ วมรวบจุดพิกดั พร้อมข้อมูลท่องเทีย่ ว ผูใ้ ช้ สามารถเลือกประเภทสถานที่ที่ต้องการจะไปและก�าหนดจ�านวนวัน โดย

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


การมาด�ารงต�าแหน่งผู้ว่า ททท. ในยุคนี้ แน่นอนว่าย่อมต้อง มีแนวคิดและนโยบาย ที่แตกต่างไปจากยุคก่อนอย่างมาก ผมเองต้องปรับตัวและปรับองค์กรที่มีความเป็นมายาวนาน ให้เข้ากับวิวัฒนาการที่แปรเปลี่ยนไป ในขณะที่นักท่องเที่ยว ต้องอาศัยพึ่งพิงเทคโนโลยีมากขึ้น

ระบบจะท�าการค�านวณตารางการเดินทาง การใช้เวลาในแต่ละสถานที่ เส้นทางขับขี่ ตารางการเดินทางนัน้ สามารถปรับเปลีย่ นได้ตลอดเวลาทาง มือถือเป็นต้น ซึ่งถือเป็นการใช้สื่อในเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่าง การจัดท�าและทดรองระบบน�าร่องที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ผู้ว่า ททท. ในโลกยุคดิจิตอล

การมาด�ารงต�าแหน่งผูว้ า่ ททท. ในยุคนี้ แน่นอนว่าย่อมต้องมีแนวคิด และนโยบายที่แตกต่างไปจากยุคก่อนอย่างมาก ผมเองต้องปรับตัวและ ปรับองค์กรที่มีความเป็นมายาวนาน ให้เข้ากับวิวัฒนาการที่แปรเปลี่ยน ไป ในขณะที่นักท่องเที่ยวต้องอาศัยพึ่งพิงเทคโนโลยีมากขึ้น เราเองและ ผู้ประกอบการทุกคน ก็ต้องเร่งเพิ่มศักยภาพเพื่อการแข่งขัน อันเป็นหัวใจ ส�าคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวของไทย ในส่วนของตัวเรา คือองค์กร ททท. ผมได้วางพันธกิจขององค์กรใน การเป็น “Digital Organization” อย่างเต็มรูปแบบภายใน 3-5 ปีข้างหน้า โดยเห็นว่าข้อดีของการน�าระบบดิจิตอลมาใช้ในการสื่อสารทางออนไลน์ สามารถสร้างประสิทธิภาพได้สงู สุดและเข้าถึงกลุม่ ลูกค้าได้ดกี ว่า โดยเน้น การสือ่ สารถึงข้อมูลของสินค้าบริการทางการท่องเทีย่ วทีค่ รบถ้วน ชัดแจ้ง ภายใต้คอนเซปต์ “Better - Cheaper - Faster” หรือ ดีกว่า ถูกกว่า และ เร็วกว่า ซึ่งจะท�าให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยเติบโตก้าวหน้า

ทั้งนี้แผนงานต่อเนื่องด้านไอที และเพื่อรักษาภาพลักษณ์การเป็น องค์กรดิจิตอลมากขึ้น โดย ททท. จะเน้นการใช้สื่อผสมมัลติมีเดียต่างๆ เช่น อี-โบรชัวร์ ห้องสมุดภาพ (Photo Library), Video Web รวมถึง การน�า QR Code เข้ามาใช้ในการประชาสัมพันธ์ โดยนักท่องเที่ยวต่าง ประเทศสามารถเข้าถึงข้อมูลการท่องเที่ยวเมื่อสแกน QR Code ผ่าน โทรศัพท์มอื ถือทีม่ โี ปรแกรมอ่านเครือ่ งหมายนี้ จะถูกลิงก์ไปที่ http://wap. tourismthailand.org ในส่วนของผู้ประกอบการทุกคน ผมอยากให้ทุกท่านได้มุ่งให้ความ ส�าคัญกับผู้บริโภคมากขึ้น (Demand Side Marketing) ดังนั้นในแง่ของ การประกอบธุรกิจ ที่ไม่เพียงแข่งขันกันเฉพาะคุณภาพของสินค้า หรือ บริการเท่านัน้ ผูป้ ระกอบการเองควรต้องปรับตัวทีจ่ ะรับมือทีจ่ ะต้องแข่งขัน กันทีค่ ณ ุ ค่าของสินค้า หรือบริการทีเ่ หนือความคาดหมายเพิม่ ขึน้ ด้วย เพือ่ สร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งขัน แนวโน้มต่อไปในอนาคต ผมคิดว่าเราต้องการการพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐานของประเทศไทยในด้านเทคโนโลยีโทรคมนาคม เพื่อให้ส่งผลดี ต่อ การท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของเครือข่ายไร้สาย ซึ่งได้รับ ความสนใจจากทุกภาคส่วน ทั้งในระดับองค์กรและตัวบุคคล จะเห็นว่า ตามสถานศึกษา หน่วยงานราชการ แหล่งชุมชน เช่น สนามบิน ศูนย์ ประชุม โรงแรมห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟจ�านวนมาก ต่าง เสนอบริการฟรี Wi-Fi หรือ Hot Spot เพื่อให้บริการแก่กลุ่มลูกค้า ได้เข้า ถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ต ในตอนนี้ ถือว่าประเทศไทยเรามีความก้าวหน้า ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีโทรคมนาคมในระดับที่ดี แต่ยังอาจติดขัดในเรื่องระบบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง การ กระจายสัญญาณไม่ชดั เจน ซึง่ มีผลให้การเข้าถึงข้อมูลในบางพืน้ ทีม่ คี วาม ล่าช้าอยู่บ้าง และเมื่อเรามีเทคโนโลยี 3G ที่เป็นเทคโนโลยีอีกขั้นหนึ่งใน ระบบไร้สายที่พัฒนาให้มีอัตราความเร็วที่สูงขึ้น ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อ การค้นคว้าและวางแผนด้านการท่องเทีย่ ว หากในอนาคตมีเทคโนโลยี 3G ที่สมบูรณ์ จะท�าให้ค่าส่งข้อมูลถูกลง เชื่อว่าจะเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบ การสามารถท�าการตลาดเฉพาะรายบุคคล ในลักษณะ Personalization Marketing โดยการส่งโปรโมชั่นพิเศษเข้าถึงโทรศัพท์มือถือส่วนตัวได้ มากขึ้น

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


132


สมเกียรติ อ่อนวิมล ประธำนกรรมกำรบริหำร บริษัท ไทยวิทัศน์ จ�ำกัด และผู้อ�ำนวยกำรสถำนีโทรทัศน์ Money Channel

สื่อมวลชนท่ามกลาง ความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี

สมเกี ย รติ อ่ อ นวิ ม ล อดี ต อาจารย์ ค ณะรั ฐ ศาสตร์ จุ ฬ าลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ที่หันมาท�างานด้านสื่อมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นต�านาน ของนักสื่อสารมวลชนที่มีบทบาทอย่างมากในสังคมไทย ตลอดเวลา 30 กว่าปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การจัดรายการวิทยุ ท�าข่าวโทรทัศน์ เป็นนักเขียน คอลัมนิสต์ เรื่อยไปถึงการเป็นสมาชิกวุฒิสภา ที่มีส่วนร่วมในการร่าง รัฐธรรมนูญและกฎหมายเกีย่ วกับสือ่ มวลชนหลายฉบับ หลายยุคสมัย เขา คือพหูสตู รผูร้ กั การอ่านทีม่ คี วามรูร้ อบตัวหลากหลาย และน�ามาถ่ายทอด ในผลงานในทุกๆ ด้านได้อย่างเฉียบคม เขาหลงใหลในเทคโนโลยีใหม่ๆ ตัง้ แต่แลปท็อปรุน่ แรกของโลก โทรศัพท์มอื ถือแบบกระเป๋าสะพายไหล่ ไล่มา จนถึงสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด ในปัจจุบัน เขาเริ่มท�างานให้กับสถานีโทรทัศน์

มันนี่แชนแนล และก�าลังตกหลุมรัก Facebook ในฐานที่มันเป็นนิวมีเดีย และอนาคตของนักสื่อสารมวลชนทั้งโลก

จากวิทยุคลื่นสั้นถึงอินเทอร์เน็ต

ผมเริ่มท�างานด้านสื่อมวลชนครั้งแรก ในขณะที่เป็นอาจารย์คณะ รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเริม่ ต้นทีก่ ารจัดรายการทางวิทยุ จุฬาฯ สมัยนั้นยังออกอากาศกันด้วยเทคโนโลยีธรรมดาที่สุด คืออัดเสียง ใส่เทป แล้วน�าเทปนั้นไปออกอากาศ หลังจากนั้น ผมเริ่มจัดรายการวิทยุ แบบมืออาชีพจริงๆ คือการเป็นผู้จัดรายการแทนอาจารย์พิชัย วาสนาส่ง ชือ่ รายการ “เหตุการณ์บา้ นเมือง” ผมจะได้ไปจัดรายการแทน ในวันทีพ่ วก

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


ท่านป่วย หรือเดินทางไปต่างประเทศนานๆ ผมเรียนรู้วิธีการท�างานวิทยุจากอาจารย์พิชัย คือการเปิดฟังข้อมูล ข่าวสารจากวิทยุคลื่นสั้น แล้วน�าเนื้อหาไปเล่าทางรายการวิทยุ กิจวัตร ในการท�างานคือต้องตื่นตั้งแต่ 3.00 น. จูนวิทยุคลื่นสั้นเครื่องเล็กๆ ยี่ห้อ นอร์เมนเด้ หรือกรุนดิก เพือ่ ฟังสถานี British Broadcasting Corporation (BBC) Voice of America (VOA), All India Radio (AIR) ฟัง แปล จด บันทึก เมื่อได้ข้อมูลมากพอ ก็ขับรถออกจากบ้านไปจัดรายการ ในรถยนต์ก็ติดตั้งวิทยุคลื่นสั้นไว้เช่นกัน เพื่อเอาไว้รับฟังข่าวใน ระหว่างทางขับรถ ซึ่งมักเป็นช่วงสรุปข่าวตลาดหุ้นในต่างประเทศ คือ ดัชนีดาวน์โจนส์ นิเคอิ ซิดนีย์ ราคาทองค�า ราคาน�้ามันดิบ พอข่าวตัวเลข เหล่านีม้ า ผมจะจอดรถข้างทางทันที เพือ่ ให้จดได้ถนัดและไม่ให้สญ ั ญาณ ขาดหาย จ�าได้ว่ามักจะไปจอดรถที่ข้างวัดเบญจมบพิตรแทบทุกวัน คือ ประมาณครึ่งทางระหว่างบ้านกับสถานีวิทยุ

วิทยุคลื่นสั้น

การส่งวิทยุกระจายเสียงคลื่นสั้น ถูกคิดค้นขึ้น มาโดยชาวเยอรมัน ออกอากาศครั้งแรกเมื่อ ปี ค.ศ. 1927 สถานีวิทยุคลื่นสั้นของ BBC เริ่ม ออกอากาศในปี 1932 ถือเป็นช่องทางการ สื่อสารที่มีประสิทธิภาพสูงและได้รับความนิยมมากในช่วงสงครามโลกครั้ง ที่ 2 คุณสมบัติส�าคัญของวิทยุคลื่นสั้น คือสามารถส่งกระจายเสียงระยะ ไกลมาก ส�าหรับการส่งกระจายเสียงภายในประเทศควรใช้คลื่นระดับกลาง MW หรือ Medium Wave ที่จะให้ความคมชัดสูงกว่า

ยุคต่อมา สถานีวิทยุเริ่มมีเครื่องโทรพิมพ์ หรือ Teletype ไว้รอรับข่าว เป็นตัวอักษรจากส�านักข่าวหลักๆ ของโลก เช่นรอยเตอร์ ข้อมูลข่าวจะ ถ่ายทอดผ่านทางดาวเทียม โดยผู้รับต้องมีจานดาวเทียม C Band ตั้งอยู่ ผู้จัดรายการข่าวจึงไม่ต้องรอฟังวิทยุคลื่นสั้นอีกแล้ว เมื่อมาถึงสถานีก็มี ข่าวสารรอไว้มากมาย พิมพ์ออกมาจากเครื่องโทรพิมพ์

คอมพิวเตอร์พีซี เอาไว้ค้นหาข่าวได้ทันทีในระหว่างจัดรายการ โดยส่ง สัญญาณรายการผ่านทางสายโทรศัพท์ ไปออกอากาศทางสถานีวิทยุได้ จนกระทั่งเลิกจัดรายการไป ในยุคที่คุณทักษิณ ชินวัตร เป็นนายก รัฐมนตรี ผมและรายการของผมถูกทางสถานีแบนไป เครื่องไม้เครื่องมือ เหล่านั้นจึงกองไว้ไม่ได้ใช้งานจนทุกวันนี้

ผู้ปฏิวัติวงการข่าวโทรทัศน์

เรือ่ งราวการท�างานข่าวให้กบั สถานีโทรทัศน์ชอ่ ง 9 อสมท. เมือ่ 20 กว่า ปีกอ่ น ได้กลายเป็นต�านานทีผ่ คู้ นกล่าวขานยกย่องกันไป คนส่วนใหญ่เกิด ไม่ทันยุคนั้น และคงไม่เข้าใจบริบททางสังคมในยุคนั้น เมื่อย้อนกลับไปดู เทปข่าวเก่าทีเ่ คยท�า ก็รสู้ กึ ละอายเวลามีใครมาชืน่ ชม เพราะคุณภาพของ มันจริงๆ ยังไม่เท่าข่าวในยุคสมัยนี้เลย บริบททางสังคมในตอนนัน้ มีขอ้ จ�ากัดในการน�าเสนอข่าวอย่างมาก มี การปิดกั้นเสรีภาพสื่อ มีรัฐบาลที่ยังไม่เปิดกว้าง เทคโนโลยีโทรทัศน์ก็ยัง ไม่ทันสมัย รายการข่าวทางโทรทัศน์ยังดูเป็นทางการเกินไป และเนื้อหา ข่าวส่วนใหญ่ผลิตมาจากรัฐบาล ทหาร และราชการ เมื่อบริษัท แปซิฟิค อินเตอร์คอมมูนิเคชั่น จ�ากัด เปิดโอกาสให้และผมเข้าไปเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 เพียงแค่เล็กน้อย มันจึงดูเหมือน เป็นเรื่องยิ่งใหญ่ มีความสลักส�าคัญมาก จ�าได้ว่าในยุคนั้น เราท�าสกูปข่าววิพากษ์วิจารณ์นโยบายของรัฐบาล เพียงเล็กน้อย คนดูกจ็ ะตืน่ เต้นชืน่ ชมกันมาก ยกตัวอย่างเช่น การรายงาน ภาพข่าวจากท้องนาทีแ่ ห้งแล้ง เผยให้เห็นความยากแค้นของชาวนา เพียง เท่านี้ก็ถือว่าเป็นความกล้าหาญทางวิชาชีพสื่อมวลชนในยุคสมัยนั้น ซึ่ง เมื่อมาถึงทุกวันนี้ ผมคิดว่าเรายังท�างานน้อยเกินไป นักข่าวโทรทัศน์ใน สมัยนี้ยังวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลหนักกว่าพวกเรามาก ในส่วนของเทคโนโลยีกเ็ ปลีย่ นแปลงไปมาก ผมท�าข่าวโทรทัศน์ตงั้ แต่ ยุคที่ใช้กล้องแบบ U-matic ม้วนเทปขนาด 3/4 นิ้ว แบบที่มีต้องมีกระเป๋า สะพายเครื่องบันทึกแยกออกมาต่างหาก แต่ถ้าเป็นนักข่าวสมัยนี้ เขา เปลี่ยนไปใช้ระบบเบต้าแคม หรือกล้อง DV ทั้งหมดแล้ว

U-matic

Teletype

เทคโนโลยีสื่อสารด้วยการพิมพ์ที่ล้า สมัยไปแล้ว ใช้งานเพื่อการส่งข้อความ จากจุดหนึ่งถึงจุดหนึ่ง หรือจากจุด หนึ่งไปยังหลายจุด ผ่านทางสาย โทรศัพท์ สายไฟ คลื่นวิทยุ ไมโครเวฟ และดาวเทียม ใช้น�าไปประยุกต์ใช้ ประโยชน์ได้หลายด้าน เช่นการสื่อสารกับเครื่องคอมพิวเตอร์เมนเฟรมที่ตั้ง อยู่ห่างไกล หรือใช้รับข้อมูลข่าวสารจากส�านักข่าวต่างประเทศ

รายการข่าวทางวิทยุสมัยก่อนได้รับความนิยมมาก ผู้คนสมัยก่อน รอฟังข่าวจากวิทยุเท่านั้น เพราะรายการข่าวทางโทรทัศน์ยังไม่ดูทันสมัย และรวดเร็วอย่างในสมัยนี้ ผมเคยตั้งสตูดิโอรายการวิทยุที่บ้าน มีเครื่อง มิกเซอร์ ไมโครโฟน หูฟัง จอโทรทัศน์เปิดเคเบิลทีวี เรื่อยมาจนถึงยุค เทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ ผมก็มีอินเทอร์เน็ตและหน้าจอ

สื่้อบันทึกภาพและเสียงในลักษณะเทปคาส เส็ตต์แบบแรกของโลก เริ่มออกวางตลาด ประมาณปีค.ศ. 1970 ชื่อ U-matic มาจาก ลักษณะของเนื้อเทปที่จะถูกขดเป็นรูปตัว U รอบหัวเทปในระหว่างการอ่านและบันทึก ซึ่ง เป็นกลไกพื้นฐานของเครื่องเล่นวิดีโอเทปที่ได้รับความนิยมในเวลาต่อมา

Betacam

ระบบบันทึกภาพและเสียงส�าหรับมืออาชีพ พัฒนาขึ้นมาโดยโซนี่ ในช่วง ค.ศ. 1980 ขนาดกระทัดรัดกว่า และรวมเอาตัวกล้องและเครื่องบันทึกเทป ไว้ในอุปกรณ์ชิ้นเดียวกัน จึงใช้งานได้ง่ายและ สะดวกในการใช้ถ่ายท�า ปัจจุบันยังมีการใช้งาน อยู่ และมีการพัฒนารุ่นใหม่ออกมาอีก จนสามารถบันทึกภาพในระดับ Hi-definition ได้แล้ว

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


คอมพิวเตอร์กราฟิกก็เป็นอีกเรื่องที่ยังถือเป็นเรื่องยุ่งยากและต้นทุน สูงมากในยุคนั้น การซ้อนตัวหนังสือบนจอภาพ เราใช้วิธีเรียบง่ายๆ คือ น�าพื้นกระดาษสีด�ามาวางตัวหนังสือ เอากล้องตัวหนึ่งมาจับไว้ แล้วน�า ภาพไปซ้อนทับกับอีกภาพหนึ่งซึ่งก�าลังด�าเนินไป เทคนิคนี้เรียกว่า Tele Optic หรือ Telop

DV

Digital Video คือการบันทึกภาพและเสียง แล้วบันทึกลงเทปขนาด 1/4 นิ้ว ในระบบดิจิตอล ซึ่งให้ภาพคมชัดมาก ตลับเทปมีสองขนาด คือ ขนาดมาตรฐานและขนาด Mini DV ถือเป็นระบบที่ ก�าลังเป็นที่นิยม คุณลักษณะส�าคัญคือ DV เป็น มาตรฐานกลางที่ทุกค่ายผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและ คอมพิวเตอร์เข้าร่วม

อุปกรณ์คอมพิวเตอร์กราฟิกที่ทันสมัยส�าหรับวงการโทรทัศน์ เริ่มเข้า มาในประเทศไทย ในช่วงที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้รับความ ช่วยเหลือจากสถานีโทรทัศน์ของประเทศญี่ปุ่น ผมและทีมงานเคยไปดู งาน และน�าแนวความคิดมาประยุกต์ใช้ คุณวิทวัส สุนทรวิเนตร เป็นคน ที่คิดค้นเทคนิคนี้ขึ้นมา คือการน�าผ้าสีด�าผืนใหญ่มาม้วน แล้วก็เอาตัว อักษรเลตเตอร์เพรสขูดลงไป เมื่อจะให้เคลื่อนที่ ก็ใช้มือหมุนม้วนผ้า เอา กล้องมาจับภาพไปซ้อนกับอีกภาพ ด้วยเทคนิค Tele Optic เหมือนเดิม ในยุคนั้น ถ้าใครจะท�าคอมพิวเตอร์กราฟิกจริงๆ ต้องไปจ้างสตูดิโอ มืออาชีพที่คิดราคาแพงมาก เขาใช้คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ระดับเดียว กับฮอลลีวู้ด อย่างเช่นการพลิกตัวหนังสือเพียงนาทีเดียว คิด 7,000 บาท ลองคิดดูว่าทั้งไตเติ้ลที่มีความยาว 1-2 นาที จะมีต้นทุนการผลิตมาก เท่าไร เปรียบเทียบกับคนจบปริญญาตรีตอนนั้น เงินเดือน 4,000-5,000 บาทเท่านั้น ถ้าสังคมถือว่าการท�างานข่าวให้ช่อง 9 อสมท. คือความส�าเร็จ ผม ถือว่านั่นเป็นเพราะซอฟต์แวร์ คือวิธีคิดของผมและทีมงานทุกคนร่วม กัน ที่เราร่วมกันเปลี่ยนแปลงเนื้อหาข่าวทางโทรทัศน์ จากที่เคยมีแต่ข่าว ทางการ ผูป้ ระกาศข่าวก็เคร่งขรึม อ่านข่าวประชาสัมพันธ์รฐั บาลตลอด ไป สู่การท�าข่าวแนวใหม่ ข่าวเจาะ สกูป สารคดี และแนวความคิดที่วิพากษ์ วิจารณ์รัฐบาลในยุคนั้น พอมาถึงยุคสมัยนี้ สื่อมวลชนมีเสรีภาพมากขึ้น ปัญหาที่เหลืออยู่คือ ความคิดสร้างสรรค์ ศิลปะ เจาะลึก ขยันหา ของบรรดาน้องๆ สื่อมวลชน ยุคนี้เท่านั้นเอง ปัจจุบัน ผมมาท�างานให้กับสถานีโทรทัศน์ Money Channel น้อง ทีมงานก็ถามว่าเราจะท�าข่าวเจาะได้หรือไม่ และอย่างไร เพราะเราท�า ข่าวการเงิน ที่เคยท�ามาก็คือข่าวผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยแถลง ข่าว หรือผู้บริหารบริษัทมหาชนแถลงข่าว ผมจึงให้ค�าแนะน�าพวกเขาไป ว่า เราสามารถท�าข่าวเจาะได้ด้วยการขยายผลจากเนื้อหาที่แถลงนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อธนาคารแห่งชาติแถลงข่าวเรื่องดอกเบี้ย เราสามารถ ขยายผลออกไปโดยการตรวจสอบผลกระทบของนโยบายนี้ ด้วยการไปดู วิถชี วี ติ และการท�าธุรกิจของต�าบลหนึง่ หมูบ่ า้ นหนึง่ ว่าเกิดอะไรขึน้ ตามมา

Money Channel

สถานีโทรทัศน์ Money Channel ด�าเนิน การ โดย บริษัท แฟมมิลี่ โนฮาว จ�ากัด เพื่อ น�าเสนอเนื้อหาด้านเศรษฐกิจและการลงทุน จาก 5 ตลาดทุน ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์ mai ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย ตลาดตราสารหนี้ และตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) โดยเน้นเรื่องความถูกต้อง จากแหล่งข้อมูลโดยตรงตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุนและการบริหารเงินส่วนบุ๊กคลที่มี ประสิทธิภาพ อันจะท�าให้เกิดวัฒนธรรมการลงทุนในหมู่ประชาชนขึ้นในระยะ ยาว เริ่มออกอากาศอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2548

จส.100 ชุมชนเสมือนแห่งแรกของเมืองไทย

หลังจากทีบ่ ริษทั แปซิฟกิ อินเตอร์คอมมูนเิ คชัน่ และผมลาออกจากการ ท�าข่าวให้กับช่อง 9 อสมท. เราก็มาเริ่มท�าสถานีวิทยุ ด้วยแนวคิดว่าจะ ท�าสถานีข่าวจราจร จัดรายการตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะไม่ได้มีเพียงแค่ ข่าวรถติด แต่จะน�าเสนอข่าวที่ดราม่ามากขึ้น ไฟไหม้ อุบัติเหตุ คนท้อง ใกล้คลอด ฯลฯ ในยุคนัน้ เทคโนโลยีโทรศัพท์มอื ถือเริม่ พัฒนาและเปลีย่ นแปลงอย่าง รวดเร็ว ท�าให้เครื่องมือถือมีขนาดเครื่องเล็กลง คือไม่ใช่แบบกระเป๋าหิ้ว แต่เป็นเครื่องเหมือนกระติกน�้า เราวางแผนจะรับสมัครนักข่าว 100 คน ให้พวกเขาไปยืนประจ�าตามสีแ่ ยกส�าคัญของกรุงเทพฯ มองหาเหตุการณ์ ดราม่าทีเ่ กิดขึน้ ในละแวกใกล้เคียง โดยทีเ่ ราไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลย ว่า ในทีส่ ดุ แล้วเราแทบไม่ตอ้ งใช้นกั ข่าวเลย แต่เป็นประชาชนผูฟ้ งั จะช่วยกัน โทรเข้ามารายงาน เมือ่ เริม่ เปิดสถานีเรารับสมัครนักข่าวไว้แล้ว 20 คน แต่ มีคนโทรเข้ามาในรายการของเราเป็นหมื่นๆ คนต่อวัน เราจึงเลิกรับสมัคร เพิ่มไปในที่สุด

ชุมชน

คือหมู่ชน, กลุ่มคนที่อยู่รวมกันเป็นสังคมขนาดเล็ก อาศัยอยู่ใน อาณาบริเวณเดียวกัน และมีผลประโยชน์ร่วมกัน ราชบัณฑิตยสถาน. 2525. พจนานุกรมฉบับราชบัญฑิตยสถาน พ.ศ. 2525. กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน.

นั ก วิ ช าการด้ า นสื่ อ สารมวลชน ถื อ ว่ า สถานี วิ ท ยุ จส.100 เป็ น Virtual Community แห่งแรกของประเทศไทย หรือเป็นชุมชนเสมือนทาง สังคมวิทยา ทีผ่ คู้ นสามารถมารวมตัวกันผ่านสือ่ โดยไม่เคยรูจ้ กั กันมาก่อน แต่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสังคมที่ใกล้ชิดกัน ให้ความช่วยเหลือกัน ใน ช่วงเปิดสถานี เราได้สมาชิกอาสาสมัครรายงานข่าวจราจรนับหมืน่ คน นับ ว่าเราประสบความส�าเร็จทันทีที่เริ่มต้นท�าสถานี เพราะสามารถประหยัด ค่าจ้างนักข่าว แถมยังได้ข่าวดีเยี่ยม ดีกว่าให้นักข่าวไปท�าเองเสียอีก

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


ชุมชนเสมือน

คือเครือข่ายสังคมประเภทหนึ่ง ส�าหรับปัจเจกบุ๊กคล ผู้ซึ่งโต้ตอบกันผ่าน สื่อเฉพาะ โดยอาจสื่อสารข้ามพรมแดน ทางภูมิประเทศหรือทางการเมือง เพื่อที่จะ บรรลุความส�าเร็จหรือสิ่งที่สนใจร่วมกัน ชุมชนเสมือนเป็นเครือข่ายทางสังคมของบุ๊กคลที่มีปฏิสัมพันธ์ผ่านสื่อ ที่เฉพาะเจาะจงอาจเกิดขึ้นข้ามขอบเขตทางภูมิศาสตร์และการเมือง เพื่อที่ จะติดตามผลประโยชน์หรือเป้าหมาย หนึ่งในประเภทที่แพร่หลายมากที่สุด ของชุมชนเสมือนรวมบริการเครือข่ายทางสังคมซึ่งประกอบด้วยชุมชน ออนไลน์ต่างๆ (จาก http://th.wikipedia.org)

ด้วยรูปแบบของการจัดรายการแบบออกอากาศสด และเปิดให้ผู้ฟัง โฟนอินตลอดทั้งวัน ท�าให้สถานี จส.100 ถึงแม้จะได้รับค�าชมเชยในแง่ ที่เป็นชุมชนเสมือนจริง แต่ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมของ เนื้อหาอยู่บ่อยครั้ง นับตัง้ แต่การออกอากาศวันแรก เราสัง่ ซือ้ เครือ่ งดีเลย์สญ ั ญาณไว้แล้ว แต่ยังจัดส่งมาไม่ถึง ผมจึงรับเป็นผู้จัดรายการคนแรก เป็นโฆษกคนแรก เป็นเสียงคนพูดประโยคแรกทีถ่ า่ ยทอดผ่าน จส.100 ผมมีประสบการณ์จดั รายการวิทยุมาโชกโชน พอฟังน�้าเสียงของผูท้ โี่ ฟนอินเข้ามา แล้วดูทา่ ทาง ไม่ดี ก็จะรีบตัดเสียงไปเลย ก่อนที่เขาจะพูดค�าหยาบหรือแกล้งด่าคนให้ เสียหาย จนมาถึงทุกวันนี้ เรามีเครื่องดีเลย์สัญญาณมาใช้งานตามปกติ แล้ว เราตั้งดีเลย์ 15 วินาที เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ สถานีวิทยุ จส.100 ยังกลายเป็นประเด็นความขัดแย้ง ในเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2535 ซึ่งถือเป็นกรณีศึกษาที่ส�าคัญใน ประวัตศิ าสตร์สอื่ มวลชนของไทย ผลพวงจากเหตุการณ์ครัง้ นัน้ คือเราถูก ด่ายับเยินจากทัง้ 2 ฝัง่ ทีข่ ดั แย้งกันอยู่ คือระหว่างประชาชนและทหาร จน ในทีส่ ดุ ผมเลิกจัดรายการ จส.100 ไปเลย และทุกวันนี้ เมือ่ เกิดเหตุการณ์ ความขัดแย้งในบ้านเมืองครั้งใด ก็จะมีคนยกเอาเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ และบทบาทของ จส.100 มาเพื่อโจมตีกันโดยตลอด เหตุการณ์ที่เป็นปัญหาอย่างมาก เกิดขึ้น 1 สัปดาห์ก่อนที่จะมี เหตุการณ์นองเลือดในวันที่ 17 พฤษภาคม 2535 ในคืนวันนั้น ประชาชนมาชุมนุมเต็มถนนราชด�าเนิน จส.100 ใน ฐานะที่เป็นสถานีวิทยุแห่งเดียวที่รายงานสดและเปิดให้โฟนอินตลอดทั้ง วัน จึงอยากจะเปิดพืน้ ทีส่ อื่ นีใ้ ห้ใช้เพือ่ สือ่ สารทางการเมืองด้วย คือเปิดให้ ประชาชนทุกฝ่าย ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม ได้โทรศัพท์ เข้ามาแสดงความเห็นโต้แย้งกัน ผมเคยมีประสบการณ์ฟังรายการวิทยุ แนวการเมืองแบบนี้ สมัยไปเรียนที่สหรัฐอเมริกา และคิดว่ามันจะเป็น ประโยชน์ต่อประเทศเราในช่วงเวลานั้น พอตกเย็นผมไปถึงห้องส่ง และอยู่โยงเฝ้าไมโครโฟนในคืนนั้นจนดึก เปิดให้ผู้คนโทรเข้ามาระบายกันเต็มที่ โดยผู้คนที่ก�าลังชุมนุมกันอยู่บน ราชด�าเนินก็มีวิทยุเครื่องเล็กๆ ไว้เปิดฟังกันเอง และใช้โทรศัพท์มือถือ ของตนเองโทรเข้ามารายงานสถานการณ์เป็นระยะๆ ถ้าสิ่งที่ออกอากาศ ไปถูกใจ ผู้ชุมนุมก็เฮโลเห็นด้วย แต่ถ้ามีอะไรไม่ถูกใจ เราก็ถูกผู้ชุมนุมโห่

ฮากัน ผมไม่ได้อยูใ่ นสถานทีจ่ ริง จึงไม่รวู้ า่ เขามีปฏิกริยาอย่างไรกับข้อมูล ที่รายงานออกไป จนถึงจุดที่ผู้สื่อข่าวของสถานี โทรศัพท์เข้ามารายงานว่าแกนน�าม็อบ ได้ประชุมหารือกันแล้ว คุณศิรลิ กั ษณ์ ศรีเมือง ให้สมั ภาษณ์ลา่ สุดว่าจะยุติ การชุมนุมชัว่ คราว 1 สัปดาห์ ผมน�าข่าวนีม้ ารายงานอย่างรวดเร็ว ในขณะ ทีผ่ คู้ นบนถนนราชด�าเนินยังไม่ได้ฟงั การประกาศอย่างเป็นทางการบนเวที เขาจึงได้ข่าวจากผมไปก่อน และความไม่พอใจก็เริ่มก่อตัวขึ้น ความผิดพลาดร้ายแรง เกิดจากการที่ผมยังคงรายงานข่าวนี้พร้อม กับใส่ความคิดเห็นเพิ่มเติมเข้าไป ว่าท่านผู้ฟังที่ก�าลังจะออกจากบ้าน เดินทางไปร่วมก็ไม่ต้องไปแล้ว ให้อยู่บ้านและฟังข่าวจาก จส.100 ของ เรา ซึ่งจะรายงานต่อไปเรื่อยๆ ส่วนประชาชนที่อยู่ในสถานที่ชุมนุม ก็ให้ เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย ผมอธิบายเส้นทางการเดินทางกลับไป เรือ่ ยๆ ในฐานะทีเ่ ป็นสถานีวทิ ยุจราจร โดยไม่รวู้ า่ คนทีอ่ ยูใ่ นสถานทีช่ มุ นุม ก�าลังโกรธจัด และมองว่าผมใช้ จส.100 หลอกลวงประชาชน รับใช้ทหาร เพื่อช่วยในการสลายฝูงชน

นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน ถือว่าสถานี วิทยุ จส.100 เป็น Virtual Community แห่งแรกของประเทศไทย หรือเป็นชุมชน เสมือนจริงทางสังคมวิทยา ที่ผู้คนสามารถ มารวมตัวกันผ่านสื่อ โดยไม่เคยรู้จักกันมา ก่อน แต่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสังคมที่ ใกล้ชิดกัน ให้ความช่วยเหลือกัน

ในความเป็นจริง ข่าวการยุตกิ ารชุมนุมชัว่ คราวทีผ่ มรายงานไปนัน้ ถูก ต้อง เพราะม็อบได้ยุติการชุมนุมตลอด 1 สัปดาห์นั้นจริงๆ แล้วจึงกลับมา ชุมนุมกันใหม่อกี ครัง้ ในสัปดาห์ถดั ไป เพียงแต่ในคืนวันนัน้ ผมท�างานเกิน เลยหน้าที่ของสื่อมวลชน คืนวันนั้น มีโทรศัพท์เข้ามาด่าทางสถานี จส.100 อย่างถล่มทลาย และเริ่มมีรายงานข่าวว่าผู้ชุมนุมก�าลังเคลื่อนตัวกันมาจะเผาตึกเรา นี่คือ ความผิดพลาดในการท�างานของผม และมันได้ส่งผลต่อชีวิตการท�างาน ของผมต่อมา ผมคิดว่าเหตุการณ์นั้นก็ให้บทเรียนที่ส�าคัญกับสังคมไทยและตัว ผมเองอย่างมาก เพราะนั่นคือรายการวิทยุแบบโฟนอินสดทางการเมือง รายการแรกของเมืองไทย ที่แสดงให้เห็นสิทธิ เสรีภาพ และพลังของสื่อ อย่างชัดเจน และถือเป็นบทเรียนให้กับวงการสื่อสารมวลชน ว่าบทบาท หน้าที่ที่เหมาะสมของชุมชนเสมือนจริงควรเป็นอย่างไร

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


หลังจากวันนั้นมา รายการวิทยุโฟนอินทางการเมืองก็เริ่มได้รับความ นิยม จนได้กลายมาเป็นรายการวิทยุชุมชนต่างๆ จนถึงทุกวันนี้ แต่ผมมี ความผิดหวัง เพราะรายการในปัจจุบันไม่มีเนื้อหาสาระอะไร นอกจาก การปล่อยให้คอการเมืองคนเดิมๆ เข้ามาระบายความรู้สึก ค�าหยาบคาย และค�าเสียดสีเหน็บแนว โดยไม่มตี อ้ งความรับผิดชอบใดๆ ตอนนีแ้ ทบไม่มี รายการวิทยุโฟนอินทางการเมืองที่เป็นอิสระและเป็นกลาง มีแต่รายการ ที่มีฝักมีฝ่าย มีนายทุนเป็นนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง แล้วอ้างความเป็น วิทยุชุมชน มาใช้โฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง และสร้างความเกลียดชัง ต่อกันและกัน

เทคโนโลยีเปลี่ยนไปตามยุคสมัย

ผมโชคดีทเี่ ป็นคนรุน่ เกิดทันโลกอนาล็อก ยุคทีไ่ ด้ใช้ชวี ติ อยูก่ บั ท้องนา ในวัยเด็ก และก็ยังไม่แก่เกินไปที่จะเริ่มหัดใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ผมเคยเห็นคอมพิวเตอร์ส่วนตัวหรือพีซีเป็นครั้งแรก เมื่อครั้งที่ท� า รายการความรู้คือประทีป ของบริษัท เอสโซ่ สแตนดาร์ด ประเทศไทย ผมไปที่ออฟฟิศเอสโซ่ก็ตื่นตาตื่นใจ เห็นเขาใช้พีซียี่ห้อ Wang ในการ จัดท�าเอกสาร คนที่เอสโซ่ช่วยอธิบายว่านี่คือโปรแกรมเวิร์ดโพรเซสเซอร์ ก่อนหน้านี้โลกเราเคยมีเพียงแค่พิมพ์ดีดไฟฟ้า ผมเรียนจบปริญญาเอก มาด้วยการท�าวิทยานิพนธ์และพิมพ์ออกมาเป็นเล่มด้วยเครื่องพิมพ์ดีด ไฟฟ้า Olivetti ราคาประหยัด คอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย สเตท ยังเป็นแบบบัตรเจาะรู

Wang Laboratories

บริษัทคอมพิวเตอร์ชื่อดังระดับต�านานใน อเมริกา ก่อตั้งโดย ดร. อัน แวง วิศวกร ชาวจีนที่อพยพไปอาศัยอยู่อเมริกา และ ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด จนจบ ปริญญาเอกด้านฟิสิกส์ เขาก่อตั้งบริษัท Wang Laboratories เพื่อวิจัยพัฒนา และผลิตอุปกรณ์ไฮเทคมากมาย ในช่วง ทศวรรษที่ 70 Wang ประสบความส�าเร็จ อย่างสูงกับเครื่องคิดเลขและเครื่อง Word Processor จนพัฒนามาผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ระดับต่างๆ ตั้งแต่มินิ คอมพิวเตอร์ พีซี โน้ตบุ๊ก นับเป็นบริษัทขนาดเล็กที่คิดค้นนวัตกรรมไว้ มากมาย และกลายเป็นคู่แข่งส�าคัญของบริษัทไอบีเอ็มในยุคนั้น Wang เป็นบริษัทคอมพิวเตอร์บริษัทแรกของโลกที่ออกโฆษณาทางโทรทัศน์ และ ซื้อเวลาโฆษณาในการแข่งขันซูเปอร์โบวล์ จนมีภาพลักษณ์โดดเด่น ก่อน ที่ธุรกิจจะค่อยๆ ซบเซาและตามหลังบริษัทอื่นไม่ทัน จนกระทั่งล้มละลายใน ทศวรรษที่ 90

จนกระทั่งผมไปร่วมประชุมสัมมนาครั้งหนึ่งที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ผมเห็นเด็กนักศึกษาคนหนึ่งนั่งพิมพ์งานอยู่ในห้องประชุม จึงเดินไปถาม ว่านี่คืออะไร เขาบอกว่ามันเรียกว่า แลปท็อป โตชิบา T1100 ซึ่งนั่นคือ โน้ตบุก๊ เครือ่ งแรกๆ ของโลก ผมถามเขาว่าหาซือ้ ทีไ่ หน เขาก็บอกให้เดินไป 4 บล็อก ไปที่ร้านคอมพิวเตอร์เวิลด์ ผมรีบไปซื้อกลับมา และทุกวันนี้ยังมี เครือ่ งนีอ้ ยูท่ บี่ า้ น แต่มนั ใช้งานไม่ได้แล้ว จอร้าวแล้ว ผมเก็บไว้เป็นทีร่ ะลึก

Toshiba T1100

คอมพิวเตอร์แบบพกพาจากโตชิบา ถือเป็นแลปท็อป เครื่องแรกที่ออกขายทั่วโลก “The world’s first mass-market laptop computer” ราคาขาย $1899 CPU Intel 80C88, 4.77 Mhz RAM 256 kb, upgradable to 640 kb Keyboard 83 keys, QWERTZ Drives internal 3.5” floppy drive, 720 kb; external 5,25” floppy drive, 360 kb Operating System MS-DOS 2.11 Screen Resolution Graphic mode: 640 x 200; Textmode: 80 x 25 Weight 4.1 kg

ส่วนโทรศัพท์มอื ถือ ผมเริม่ ใช้ตงั้ แต่สมัยทีท่ า� งานข่าวกับช่อง 9 อสมท. ตอนนั้นโทรศัพท์มือถือเริ่มเข้ามาในประเทศไทย เป็นโทรศัพท์อีริกสัน ราคาเครื่องละเกือบแสนบาท บริษัทแปซิฟิกอินเตอร์คอมมูนิเคชั่น ซื้อมา เพือ่ ให้ผมใช้ทา� งานข่าว ผมหิว้ ติดตัวไปด้วยเสมอๆ โดยเอาไว้ตดิ รถตลอด พอลงจากรถ ก็หิ้วลงมาในสถานี เอามาวางบนโต๊ะรายงานข่าว เพื่อใช้ โทรศัพท์สัมภาษณ์สดแหล่งข่าวที่ก�าลังมีประเด็นร้อนแรง

Ericsson Hotline

ออกจ�าหน่ายในปี ค.ศ.1988 ลักษณะ เป็นกระเป๋าหิ้วและมีสายสะพายไหล่ น�้าหนัก 4 กิโลกรัม ตัวเครื่องประกอบ ด้วยกล่องแบตเตอรี่และอุปกรณ์รับ สัญญาณ และส่วนหูโทรศัพท์ปุ่มกด และจอแอลซีดีสีส้มเรืองแสง

หลังจากยุคนั้น ผมใช้งาน Gadgets หลายชิ้น ตั้งแต่เป็นพอคเก็ตพีซี ระบบปฏิบตั กิ าร Window CE จนปัจจุบนั ผมหันมาใช้สมาร์ทโฟน จะถาม ว่าแกดเจ็ทเหล่านีค้ มุ้ ค่าเงินทีจ่ า่ ยไปหรือเปล่า ค�าถามนีผ้ มไม่รเู้ หมือนกัน อย่างเครื่องพอคเก็ตพีซีที่ผมใช้มาหลายเครื่องนั้น โดยแท้จริงแล้วผมใช้ สมุดบันทึกที่ได้รับแจกมาในช่วงปีใหม่ได้งานเหมือนกัน

Windows CE

มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Windows Embedded Compact หรือ Windows Embedded CE เป็นระบบปฏิบัติการส�าหรับอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์มือถือพัฒนาขึ้นโดยบริษัทไมโครซอฟต์ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1996 ปัจจุบันพัฒนามาถึงเวอร์ชั่น 7.0

ในความคิดของผม ชีวติ ยุคดิจติ อลนีไ้ ม่คอ่ ยมีความสุนทรีย์ เทคโนโลยี ที่ไว รวบรัด สั้น ฉาบฉวย ไปได้กว้างไกล และไม่ล�้าลึก ชีวิตจะไม่สงบสุข

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


และไม่มีเวลาซาบซึ้งกับสิ่้งที่งดงาม การอ่านจากอินเทอร์เน็ตคือการอ่าน เพื่อเอา Data และ Information เพื่อใช้งานอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าจะอ่าน อย่างรื่นรมย์ เราต้องกลับไปหาหนังสือเล่มๆ อนาล็อกจะให้ความสุนท รีย์มากกว่า ชีวิตปกติที่ไม่ใช่การท�างาน คนเราควรอยู่กับอนาล็อก เรา ต้องการหนังสือทีห่ ยิบจับได้ พกพาใส่กระเป๋าไปได้ อยากอ่านเมือ่ ไรก็เปิด อ่านแล้วก็คดิ ตามไป อ่านไม่เข้าใจก็ยอ้ นกลับไปอ่านใหม่ แถมทีส่ า� คัญคือ ไม่ต้องชาร์จไฟให้มัน

ผมเองยังเชื่อการท�าหน้าที่สื่อมวลชน แบบดั้งเดิม สไตล์คลาสสิค ยึดถือคุณค่า แบบเก่าๆ ถือต�าราวิชาสื่อสารมวลชน The Elements of Journalism แล้วเดินเข้าสู่ บริบททางสังคมแบบใหม่ ที่เปลี่ยนแปลง ไปโดยเทคโนโลยี

สมัยทีใ่ ช้พอคเก็ตพีซี ผมเคยซือ้ และดาวน์โหลดอีบกุ๊ ส์มาไว้หลายเล่ม ในฟอร์แมตของโปรแกรม MobiPocket เมือ่ เวลาผ่านไป ผมเปลีย่ นเครือ่ ง พอคเก็ตพีซี มาใช้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ซึ่งไม่ได้ซัพพอร์ท MobiPocket อีกต่อไป หนังสืออีบุ๊กส์ที่ซื้อไว้จึงตายไปพร้อมกับเครื่องเก่าของผม โลก ดิจิตอลจะเป็นเช่นนี้ คือเราต้องเสียตังค์ซื้อหนังสือเล่มเดิม ทุกครั้งที่เรา เปลี่ยนเครื่อง หรือเปลี่ยนระบบปฏิบัติการ จริงๆ แล้ว MobiPocket ให้ โหลดใส่คอมพิวเตอร์พีซีไว้ได้ด้วย และเปิดอ่านบนจอพีซีได้ แต่ใครจะ มานั่งอ่านหนังสือบนจอคอมพิวเตอร์พีซี ในเมื่อข้างๆ โต๊ะคอมพ์ เรามีหิ้ง หนังสืออยู่แล้ว

ปรัชญาของสื่อมวลชนยังคงเดิม

ย้อนกลับไปคิดถึงวันคืนเก่าๆ สมัยตอนที่เริ่มท�ารายการวิทยุ ผมว่า การท�างานเป็นสือ่ มวลชนในยุคนัน้ สนุกกว่า เพราะข้อมูลข่าวสารในยุคนัน้ หายาก คนทั่วไปเข้าถึงไม่ได้ง่ายๆ เราต้องใช้ความพยายามสูงมากกว่า สมัยนี้ การค้นหาข้อมูลในยุคอนาล็อก เราต้องมีความสามารถเฉพาะตัว ต้องรู้จักใช้ทุกๆ เทคโนโลยีเท่าที่มี ต้องเก่งภาษาอังกฤษ มีความช�านาญ พิเศษในการท�างาน และต้องมีความอดทนสูง เราจึงรู้สึกภูมิใจกับการ ท�างานสื่อมวลชน สมัยนั้นโลกยังไม่เป็นโลกาภิวัตน์ ความรู้ในข่าวสารเรื่องราคาน�้ามัน ดิบ ดัชนีตลาดหุ้นต่างประเทศ ราคาทองค�า สถานการณ์เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองในอีกซีกโลกหนึง่ ฯลฯ เหล่านีค้ อื ความเท่ของคนสมัยนัน้ และ คนไทยที่รับฟังรายการผมไป ถ้าเขาได้รู้ก่อน รู้เร็ว ทันโลก ทันเหตุการณ์ อย่างน้อยที่สุด เขาก็ได้หัวข้อพูดคุยกันในตอนเช้าที่ออฟฟิศ

สือ่ มวลชนแต่ละยุคสมัย ล้วนมีเงือ่ นไขของตัวเอง เทคโนโลยีใหม่ทเี่ กิด ขึน้ ก็ได้สร้างเงือ่ นไขใหม่ให้กบั การท�างานของเรา สมัยก่อนนัน้ แค่พยายาม หาข้อมูลข่าวสารมาเล่าต่อก็ยากพอแล้ว เพราะข้อมูลข่าวสารเข้าถึงยาก ในยุคสมัยนี้เรามีเงื่อนไขใหม่ เมื่อทุกคนมีอินเทอร์เน็ตใช้ ทุกคนเปิดอ่าน ข่าวจากเว็บข่าวออนไลน์ได้ทงั้ โลก จึงได้ขา่ วเดียวกัน เหมือนกัน พร้อมกัน คนท�างานสือ่ มวลชนในยุคนี้ จึงต้องมีสมมติฐานใหม่ตงั้ แต่เริม่ ต้น ว่า ทุกคนสามารถรับสื่อได้เท่ากับที่เราได้รับเช่นกัน ต่อมาจึงต้องหาค�าตอบ ให้ได้ว่า ท�าไมเขาจะต้องมาดูเราอีก? ในเมื่อเขาเองก็รู้ข่าวเท่ากับเราแล้ว ในความคิดเห็นของผม การท�างานของสื่อในยุคนี้ คือการจับประเด็น มาย่อย แล้วเพิ่มเติม น�าเสนอใหม่ ในรูปแบบที่เชื่อว่าผู้ชมจะได้ความคิด ใหม่ นอกเหนือไปจากข้อมูลมาจากอินเทอร์เน็ต ยกตัวอย่างการเสนอข่าวจลาจลที่ประเทศอียิปต์ ตอนที่เริ่มชุมนุม กัน คนทั้งโลกจะได้อ่านข่าวการชุมนุมพร้อมกัน สิ่งที่ผมท�าและคิดว่านี่ คือตัวอย่างของการท�างานสื่อในยุคนี้ คือการน�าหนังสือวรรณกรรม ของ นากิบ มาร์ฟซุ นักเขียนรางวัลโนเบลชาวอียปิ ต์ เรือ่ ง The Day The Leader Was Killed มาอธิบายประกอบข่าวเหตุการณ์ประท้วง

The Day The Leader Was Killed

นิยายที่อิงเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ ในช่วงที่อัลวา ซาดัด ถูกลอบสังหาร ในงานตรวจพลสวนสนาม ในวันชาติ โดยกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง นิยายเรื่อง นี้พูดถึงชีวิตอันแร้นแค้นของประชาชนชาวอียิปต์ ในช่วงที่เพิ่งเปิดประเทศใหม่ๆ และอยู่ภายใต้การ ปกครองของอัลวา ซาดัด ชาติตะวันตกเข้ามากอบ โกย ร่วมมือกับพวกคนมีอ�านาจในรัฐบาลและทหาร ท�าให้คนจนก็จนมาก คนรวยก็ล้นฟ้า จนในที่สุด ก็ กลายเป็นเหตุการณ์ลอบสังหารอัลวา ซาดัด ใน ขณะที่ตัวละครเอกในนิยายก็ลงมือฆ่าเจ้านายของเขาที่บริษัท

ผมเขียนเป็นบทความแล้วโพสต์ไว้ในเฟซบุก๊ ส่วนตัว ให้คนใน Friend List ได้เข้ามาอ่าน บางคนกดชอบ บางคนใส่คอมเมนต์ ผมคิดว่านีค่ อื การ ท�างานของสือ่ ในยุคนี้ คือกรองข่าวจากอินเทอร์เน็ตมาให้ครบ แล้วแถมใส่ งานวรรณกรรมที่สะท้อนประวัติศาสตร์ของประเทศนี้ หนังสือแบบนี้ไม่มี ใครอ่านจบใน 1-2 วันที่เพิ่งเกิดเหตุประท้วงในอียิปต์ สื่อมวลชนจึงต้อง มีความรู้กว้างขึ้น และสามารถใส่อะไรเข้าไปในงานของตนเอง ให้เหนือ กว่าผู้ชมของตนเอง อินเทอร์เน็ตนั้นมีอะไรมากมายเหลือเกิน แต่มันมีไม่พอ ข่าวสารสั้นๆ กระชับ ฉับไว มีให้เราติดตามได้ตลอด แต่ไม่มีข้อมูลเชิงลึกที่จะมีใคร สักคนมาสรุปย่อให้สอดคล้องกับเหตุการณ์ปัจจุบัน นี่คือช่องว่างเปิดให้ สื่อมวลชนในยุคนี้ได้ท�างาน สถานีโทรทัศน์มันนี่แชนแนลที่ผมเพิ่งเข้ามาท� างาน ก็เป็นแบบนี้ เหมือนกัน คือเรามีขอ้ มูลตัวเลขให้อยูแ่ ล้ว มีความคิดเห็นจากผูเ้ ชีย่ วชาญ แล้ว แต่สงิ่ ทีต่ อ้ งเพิม่ เข้าไป คือเรือ่ งราวเชิงลึก สารคดี ประวัตศิ าสตร์ สิง่ ที่ ดูแล้วเพลิดเพลิน มีสุนทรีย์ และสอดคล้องกับเหตุการณ์ปัจจุบัน

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


ผมเองยังเชื่อการท�าหน้าที่สื่อมวลชนแบบดั้งเดิม สไตล์คลาสสิค ยึดถือคุณค่าแบบเก่าๆ ถือต�าราวิชาสื่อสารมวลชน The Elements of Journalism แล้วเดินเข้าสู่บริบททางสังคมแบบใหม่ ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเทคโนโลยี The Elements of Journalism: What Newspeople Should Know and The Public Should Expect โดย Bill Kovach และ Tom Rosenstiel ฉบับปรับปรุงแก้ไขล่าสุด เมษายน ค.ศ. 2007

ปรัชญาของสื่อไม่เคยเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนก็แค่เทคโนโลยี ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เราทุกคนยังต้องยึดหลักความจริง ความรับผิดขอบต่อมวลชน จะน� า เสนออะไร ต้ อ งเป็ น ความจริ ง และมี ค วามรั บ ผิ ด ชอบต่ อ คนดู เทคโนโลยีเปลีย่ นไป เราใช้เครือ่ งมือใหม่ๆ มาพัฒนาเทคนิคด้านภาพและ เสียง แต่เนื้อหายังคงยึดถือคุณค่าเดิม การเจาะลึก ความกล้าหาญ และศิลปะในการเรียบเรียง เหล่านีค้ อื สิง่ ทีไ่ ม่เปลีย่ นแปลง ขออย่าให้เราโง่กว่าคนดูเรา เราต้องอ่านมากกว่า ฉลาด มากกว่า หรืออย่างน้อยทีส่ ดุ เราก็เลือกเรือ่ งทีเ่ ราแน่ใจว่ารูม้ ากกว่าเขาแน่ๆ

นิวมีเดียและบทบาทสื่อมวลชน

ผมเริ่มเรียนรู้การใช้ทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา และรู้สึก พอใจมันมาก ถือว่าเราทุกคนสามารถมีทที่ างในการท�างานได้เท่าเทียมกัน แล้ว ในทุกวันนี้ ผมอยากเขียนอะไร ก็ใส่ลงไปในนั้น ถ้าเพื่อนๆ เห็นด้วย กลับมา หรือด่ากลับมา ก็ไม่ว่ากัน ถือว่าผมได้รับรู้อารมณ์ของสังคมด้วย

ผมใช้ทวิตเตอร์ส�าหรับการส่งข้อความสั้นๆ และเช็ค DM กับเพื่อน สนิทไม่กี่คน ว่าใครอยู่ที่ไหน ก�าลังท�าอะไร ทักทายกันนิดหน่อย ส่วน เฟซบุ๊ก ผมใช้ส�าหรับลงบทความที่ยาวขึ้น เขียนโน้ตความคิด และก็เขียน วิจารณ์หนังสือ เมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรส�าคัญๆ มีข่าวที่เป็นประเด็นทาง สังคม ผมก็แสดงความเห็นลงไป หรือน�าบทความเก่าๆ มารีไรต์ใหม่แล้ว ใส่เข้าไปให้คนได้อ่าน หลักในการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กเหล่านี้ คือเราควรเขียนใส่เข้าไป เท่าทีค่ ดิ ว่าจะไม่กอ่ ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง ตอนนีส้ งั คมไทยมีความ แตกแยกทางความคิดสูงมาก เมื่อเขียนอะไรลงไป คนจากสีไหนคิดว่าอยู่ ข้างเขา เขาเข้ามาชม แล้วอีกสีหนึ่งก็จะเข้ามาด่า สื่อมวลชนในโซเชียล เน็ตเวิร์ก สามารถใช้มันในการเผยแพร่ผลงาน ถึงแม้จะไม่มีตัวเล่มที่จับ ต้องได้ และมีคนอ่านไม่กี่คน แต่มันอยู่ตรงนั้น และเปิดให้ทุกคนเข้ามา ได้อย่างเท่าเทียม เราจึงต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขียนลงไป ผมยึดหลักว่า จะไม่ใช้ภาษารุนแรง และไม่ไปเถียงถ้ามีใครมาด่า แต่อาจจะเตือนกลับ ไปให้พวกคนที่ใจร้อนได้ใจเย็นบ้าง นอกจากทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก ผมยังใช้งานเว็บสารานุกรมวิกิพีเดีย เป็นประจ�า ล่าสุดได้บริจาคเงินให้วิกิพีเดียไป 100 เหรียญ ผมมีความสุข มากกับการใช้งานวิกิพีเดีย และคิดว่าถ้าเราช่วยเขาได้ ก็ควรช่วย ไม่ว่า จะเป็นการบริจาคเงิน หรือการช่วยกันเขียนความรู้เพิ่มเติมเข้าไปในนั้น

Wikimedia Foundation

บริจาคเงินให้ Wikipedia เว็บไซต์สารานุกรมฟรี ออนไลน์ เข้าไปที่ http://wikimediafoundation.org/

ถ้าพูดแบบเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางสักหน่อย ก็ต้องบอกว่าโลกในยุค อินเทอร์เน็ต ท�าให้เราได้แสดงอุดมคติ ความคิดอ่าน ความรู้ ภูมิปัญญา ของเราเท่าที่มี และถ้าเราทุกคนพร้อมใจกันใช้ภาษาที่ดี ไม่หยาบคาย แต่งดงาม ถูกต้อง การสื่อสารในยุคสมัยของเราก็จะงดงาม และมีพลัง มี ประโยชน์สูงกว่าสื่อสารมวลชนในยุคก่อนหน้านี้

ถ้าสังคมถือว่าการท�างานข่าวให้ช่อง 9 อสมท. คือความส�าเร็จ ผมถือว่านั่นเป็นเพราะซอฟต์แวร์ คือวิธีคิดของผมและทีมงาน ทุกคนร่วมกัน ที่เราร่วมกันเปลี่ยนแปลงเนื้อหาข่าวทางโทรทัศน์ จากที่เคยมีแต่ข่าวทางการ ผู้ประกาศข่าวก็เคร่งขรึม อ่านข่าว ประชาสัมพันธ์รัฐบาลตลอด ไปสู่การท�าข่าวแนวใหม่ ข่าวเจาะ สกูป สารคดี และแนวความคิดที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลในยุคนั้น 10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


140


วันฉัตร ผดุงรัตน์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์พันทิปดอทคอม บริษัท อินเทอร์เน็ต มำร์เก็ตติ้ง จ�ำกัด

วิวัฒนาการของสังคมออนไลน์ ชายหนุ่มท่าทางเนิร์ดๆ ผู้เคยคิดอยากจะก่อตั้งเว็บไซต์นิตยสาร ออนไลน์ด้วยเงินทุนอันน้อยนิด แต่จับพลัดจับผลู เว็บไซต์แห่งนี้กลับ กลายเป็นสังคมออนไลน์แห่งใหญ่ที่สุดและประสบความส�าเร็จมากที่สุด ของประเทศไทย ตลอด 15 ปีทผี่ า่ นมา สังคมออนไลน์แห่งนีไ้ ด้เกิดเรือ่ งราวหลายหลาก ทั้งด้านดีงามและด้านเลวร้าย จนปัจจุบัน มันกลายเป็นพลังในการขับ เคลือ่ นสังคมในโลกแห่งความเป็นจริง เขาได้ใช้ประสบการณ์ทงั้ ชีวติ หลัก คิดจากหนังสือดีๆ ที่เคยอ่าน และความใฝ่ดีที่มีอยู่ในมนุษย์ทุกคน มาใช้ ในการดูแลรักษาสังคมแห่งนี้ ให้ด�าเนินไปอย่างศิวิไลซ์ขึ้น

พันทิปดอทคอมเป็นของผู้ใช้ทุกคน

ตอนที่เริ่มต้นท�าเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ผมไม่คาดคิดเลยว่ามันจะ กลายมาเป็นสิ่งที่เป็นอย่างทุกวันนี้ ผมลาออกจากงานประจ�า และเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง คือสร้าง เว็บไซต์นิตยสารคอมพิวเตอร์ออนไลน์ เปิดให้คนทั่วไปเข้ามาอ่านได้ฟรีๆ โดยผมจะหารายได้จากโฆษณา แต่ในช่วงเวลานัน้ เศรษฐกิจของไทยก�าลัง ตกต�่า ไม่มีใครให้สปอนเซอร์ เพราะอินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งที่ใหม่มาก อย่า ว่าแต่จะขายโฆษณาเลย บางครั้งพอไปถึงส�านักงานของลูกค้า ผมต้อง อธิบายว่าอินเทอร์เน็ตคืออะไร

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


เงินเก็บประมาณ 200,000 บาท ผมน�ามาลงทุนและคิดว่าเงินก้อนนี้ หมดเมื่อไรก็จะเลิก ในช่วงแรกๆ ที่ท�า ก็เกือบหมดเหมือนกัน ประมาณว่า ต้องขึ้นรถเมล์ไปขายโฆษณาด้วยตัวเอง พอลงจากรถเมล์มาร้อนๆ อยาก จะซือ้ น�า้ กินสักขวดหนึง่ ก็ไม่กล้าซือ้ เพราะกลัวเงินทุนจะหมดเสียก่อน ผม นับถอยหลังทุกๆ เดือน โดยแทบไม่มีรายได้เข้ามาเลย แต่ค่าเซิร์ฟเวอร์ ต้องจ่ายทุกเดือน พอเหตุการณ์มนั กลับกลายเป็นแบบนี้ ผมก็เปลีย่ นแผนไปหลายอย่าง ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ เช่นท�าหน้าคลาสสิฟายด์ ให้คนมาประกาศขาย ของแบบออนไลน์แบบฟรีๆ และนี่คือจุดเริ่มต้นแรกสุดที่ตอนนี้กลายมา เป็นฟอรั่มหรือเว็บบอร์ดอย่างในทุกวันนี้ ผมส่งอี-เมล์แนะน�าเว็บไซต์ของตัวเองไปให้คนทั่วไป จนวันหนึ่งมี คุณหมอท่านหนึ่งอี-เมล์ตอบกลับมา บอกว่าเว็บแห่งนี้น่าสนใจดี แต่ขอ แนะน�าให้น�าเพลงประกอบมาใส่ ด้วยมันจะได้ไม่เงียบเหงา ผมไม่รู้ว่าจะ เอาเพลงไปใส่ไว้ในเว็บได้อย่างไร ก็อี-เมล์กลับไปถาม คุณหมอท่านนั้น ตอบกลับมา พร้อมตัวอย่างวิธีท�าให้อย่างละเอียด ผมเริ่มมีไอเดียว่าถ้า คนอืน่ ๆ ได้อา่ นอี-เมล์ฉบับนีด้ ว้ ยก็คงดี และถ้าผูใ้ ช้ทกุ คนได้มาร่วมกันแชร์ ความรู้ของตนเองได้ก็คงดี จากเว็บบอร์ดที่ให้บริการคลาสสิฟายด์ขายของ ก็เลยเปลี่ยนเป็นเว็บ บอร์ดที่ให้บริการถามตอบปัญหาการใช้คอมพิวเตอร์ แล้วหลังจากนั้น ก็ เริ่มมีผู้ใช้เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ เว็บไซต์พันทิปดอทคอมก็เติบโต จนมาถึง ทุกวันนี้ ผมไม่ถือว่าเว็บไซต์พันทิปดอทคอมเป็นของผมเพียงคนเดียว ถึง แม้มันจะมีจุดเริ่มต้นมาจากผม แต่ในความคิดของผม มันมีจุดเริ่มต้นมา จากอี-เมล์ของคุณหมอท่านนี้ และข้อมูลข่าวสาร เนื้อหา กระทู้ทั้งหมด ในพันทิปดอทคอม ณ วันนี้ ก็มาจากความร่วมมือกันของผู้ใช้หลายร้อย หลายพันคน นี่ก็ชัดเจนในตัวมันเองว่า ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ผลงานของผม เพียงคนเดียว พันทิปดอทคอมน่าจะถือเป็นต้นแบบของเว็บไซต์ในยุคเว็บ 2.0 ถ้าจะ พูดแบบโอ้อวดหน่อย ก็ต้องบอกว่าพวกเราเกิดขึ้นก่อนที่จะมีค�าว่า “เว็บ 2.0” ด้วยซ�้าไป เมื่อ 15 ปีที่แล้วไม่มีใครพูดถึง เรามาก่อนบล็อก ยูทูบ กูเกิล้ และฮอตเมล์ดว้ ยซ�า้ ไป ตอนนัน้ โลกเราอาจจะมีเว็บบอร์ดและบุลเลทินบอร์ดแล้ว แต่มันยังไม่เต็มรูปแบบ ยังไม่เป็นสังคมออนไลน์ที่ผู้ใช้มา รวมตัวกันอย่างกว้างขวาง เพื่อแชร์ข้อมูลข่าวสารกันอย่างในปัจจุบันนี้

Web 2.0

เว็บ 2.0 ค�ำนี้ถูกบัญญัติขึ้นโดย ทิม โอไรล์ลี่ย์ เมื่อปี ค.ศ. 2003 และเริ่ม ได้รับควำมสนใจมำกขึ้น จนกลำยเป็นค�ำ ที่พูดต่อๆ กันมำ เป็นค�ำเรียกลักษณะ ของเว็บไซต์ในยุคปัจจุบัน ที่เน้นกำรแบ่ง ปันข้อมูลระหว่ำงผู้ใช้ด้วยกันเอง เปรียบ เทียบกับเว็บไซต์แบบเก่ำ คือ เว็บ 1.0 ที่ต้องให้ผู้จัดท�ำเว็บอัปเดตเนื้อหำอยู่ ฝ่ำยเดียว เว็บ 2.0 ที่ได้รับควำมนิยมใน ปัจจุบันมีหลำยรูปแบบ เช่น Blog, Video Sharing, Photo Sharing, Facebook, Twitter

ท�ำควำมรู้จักกับเว็บ 2.0 แบบไทยๆ

ในโลกยุคเว็บ 2.0 ผมแบ่งเว็บไซต์ออกเป็นกลุ่มๆ ดังต่อไปนี้ 1. ฟอรั่ม คือเว็บบอร์ด กระทู้ ส�าหรับให้คนมาถาม ตอบ และแชร์กัน ในประเด็นที่ต้องการ ยกตัวอย่างเช่น พันทิปดอทคอมของเรา ที่แบ่งออก เป็นโต๊ะย่อยตามหัวข้อต่างๆ 2. บล็อกและไดอะรี่ออนไลน์ คือเว็บไซต์ที่เปิดให้ผู้ใช้เข้าไปสมัคร สมาชิก และมีทใี่ ห้ใส่ขอ้ มูลต่างๆ เข้าไป เช่นบทความ ภาพถ่าย คลิปวิดโี อ เพลง ยกตัวอย่างเช่น Bloggang ของเราก็ท�าไว้ 3. โซเชียลเน็ตเวิรก์ อย่างเช่นเฟซบุก๊ และทวิตเตอร์ เป็นเว็บไซต์ทใี่ ห้ผู้ ใช้ใส่ข้อมูลตัวเองเข้าไป แล้วแชร์ให้คนอื่น

พันทิปดอทคอมน่าจะถือเป็นต้นแบบของ เว็บไซต์ในยุคเว็บ 2.0 ถ้าจะพูดแบบโอ้อวด หน่อย ก็ต้องบอกว่าพวกเราเกิดขึ้นก่อนที่ จะมีค�าว่า “เว็บ 2.0” ด้วยซ�้าไป เมื่อ 15 ปี ที่แล้วไม่มีใครพูดถึง เรามาก่อนบล็อก ยูทูบ กูเกิ้ล และฮอตเมล์ด้วยซ�้าไป

ผมถือว่าทั้ง 3 กลุ่มนี้ เป็นเว็บ 2.0 เหมือนกัน เพียงแต่คุณสมบัติแตก ต่างกัน ใช้งานไม่เหมือนกัน และเหตุผลที่ผู้ใช้อยากใช้และเลือกใช้กลุ่ม ไหน ก็แตกต่างกันไป ส�าหรับพันทิปดอทคอมซึ่งเป็นแบบฟอรั่ม ผมว่าสิ่ง ที่ดึงดูดให้คนใช้งาน คือความสนใจที่มีร่วมกัน ยกตัวอย่างเช่น ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือ สนใจเรื่องวรรณกรรม สมัยก่อนตอนทีท่ า� งานอยูท่ บี่ ริษทั การบินไทย ผมไม่มที างรูไ้ ด้เลยว่ามีใคร ในบริษัทการบินไทยที่สนใจเรื่องเดียวกับผม ยกเว้นเพื่อนสนิทที่ท�างาน ร่วมกันและพูดคุยกันประจ�า 3-4 คน แต่คนที่อยู่แผนกเดียวกันมีถึง 200 คน ผมไม่สามารถเดินไปถามทุกคน ว่าคุณสนใจเรื่องวรรณกรรมหรือไม่ คุณชอบอ่านหนังสือแนวไหน แต่เมื่อมีฟอรั่มเกิดขึ้นมาสักแห่ง และตั้ง ประเด็นหลักขึน้ มาว่าเกีย่ วกับวรรณกรรม รอไปไม่นาน มันจะดึงดูดให้คน ที่สนใจเรื่องเดียวกัน ให้เข้ามาพูดคุยกัน เปิดประเด็น อภิปราย ถาม-ตอบ ซึ่งกิจกรรมรูปแบบนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยในโลกของความเป็นจริง ส�าหรับกลุ่มบล็อกและไดอะรี่ออนไลน์ ผมเชื่อว่าจริงๆ คนไทยเรา เป็นผู้ริเริ่มท�าไดอะรี่ออนไลน์มาก่อนใครๆ เช่นกัน เช่นที่ Diaryhub.com Storythai.com และ Diaryis.com ก็เปิดมานานมาก ได้รบั ความนิยมจาก วัยรุ่นไทยอย่างมากในยุคนั้น จนกลายเป็นที่เปิดโอกาสให้วัยรุ่นที่มีความ สามารถในการเขียนหนังสือหลายคนได้แสดงผลงาน นั่นอาจจะเป็นช่วง เวลาเดียวกับทีม่ กี ารคิดค้นค�าว่า “บล็อก” ขึน้ มาในประเทศ จนปัจจุบนั เขา ก็เลิกฮิตการเขียนไดอะรี่ออนไลน์ และหันมาใช้ค�าว่า “เขียนบล็อก” แทน โดยถือว่าการเขียนบล็อกนัน้ มีเนือ้ หาสาระกว่าการเขียนไดอะรีอ่ อนไลน์ ก็ ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายที่คนไทยเราไม่ได้รับเครดิตในเรื่องไดอะรี่ออนไลน์

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


สักเท่าไร ทั้งที่มันเป็นแนวความคิดคล้ายคลึงกัน ไดอารี่ออนไลน์เป็นสังคมออนไลน์ที่มีวัฒนธรรมเฉพาะกลุ่ม และคน ทัว่ ๆ ไปอาจจะรูส้ กึ แปลกใจ ว่าท�าไมเราต้องเขียนไดอะรีซ่ งึ่ เป็นเรือ่ งส่วนตัว แล้วเปิดให้คนอืน่ ๆ เข้ามาอ่านได้แบบสาธารณะ ไดอะรีอ่ อนไลน์มลี กั ษณะ เป็นส่วนตัวและเป็นสาธารณะในเวลาเดียวกัน เหมือนเวลาที่ผมเขียน ไดอะรี่ใส่สมุด ถ้ามันเป็นไดอะรี่แบบดั้งเดิมจริงๆ ผมจะไม่ยอมให้ใครมา อ่าน เก็บในลิน้ ชักแล้วใส่กญ ุ แจไว้อย่างแน่นหนา ความรูส้ กึ ณ เวลาเขียนก็ เป็นการคุยระหว่างผมกับไดอารีเ่ พียง 2 คน และเราแชร์เรือ่ งส่วนตัวกันอยู่ ในขณะที่ไดอะรี่ออนไลน์ ผมเขียนแล้วโพสต์ไว้บนอินเทอร์เน็ต โดย ใช้นามแฝงและยูสเซอร์เนมของผม แล้วเปิดให้คนทั่วไปซึ่งผมไม่รู้จักพวก เขา และพวกเขาไม่รู้จักผมเลย ได้เข้ามาอ่าน มันจึงยังคงรักษาความเป็น ส่วนตัวของผมไว้ระดับหนึ่ง เราเแชร์เรื่องส่วนตัวกับคนแปลกหน้าที่ไม่มี ทางเข้าถึงตัวเราได้ ไดอะรีอ่ อนไลน์จงึ เป็นความสัมพันธ์แบบ win-win คือ ทุกคนได้ทา� ตามทีต่ นเองต้องการ ได้เปิดเผยความรูส้ กึ ได้บอกสิง่ ทีเ่ ราคิด สิ่งที่เราฝัน เรื่องราวสารพัดสารพัน แก่ทุกคนในโลก ที่ไม่มีใครรู้จักกัน เรา ยังคงได้รักษาก�าแพงที่ปกป้องความเป็นปัจเจกของตัวเราในระดับหนึ่ง ไดอะรี่จึงได้รับความนิยมจากวัยรุ่นในยุคนั้น ส�าหรับโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กนั้น ถือว่าเป็นสิ่ง ใหม่สา� หรับผม และผมยังไม่คอ่ ยแจ่มชัดกับมันสักเท่าไร ผมมองว่ามันเป็น ช่องทางสื่อสารสั้นๆ ระหว่างคนที่รู้จักกันอยู่แล้ว ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่แนวความ คิดใหม่ เพราะ MSN เคยท�าสิ่งเดียวกันนี้มาก่อน เพียงแต่ผู้ใช้ MSN ต้อง ออนไลน์เวลาเดียวกัน จึงจะพูดคุยกันได้ ในขณะทีโ่ ซเชียลเน็ตเวิรก์ เป็นอีก โหมดหนึง่ ของการคุย คือเราไม่ตอ้ งออนไลน์พร้อมกัน เพือ่ นของเรา เพือ่ น ของเพื่อน เพื่อนของเพื่อนของเพื่อน ฯลฯ ก็มีโอกาสมาคุยกันได้ และรู้ได้ ว่าคนอื่นคุยอะไรกัน ถ้าโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นอย่างที่ผมมอง แปลว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ จะไม่เขียนไดอะรี่หรือเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัวมากเท่าสมัยที่เขียน ไดอะรี่ เพราะเราต่างออนไลน์กับคนที่เรารู้จักอยู่ก่อนแล้ว แต่ผมอาจจะ มองผิดก็ได้ เพราะคนในยุคปัจจุบันกับคนในยุคของผม อาจจะมองเรื่อง ความเป็นส่วนตัวแตกต่างกัน

นอกจากนี้ ยังมีสิ่งที่คล้ายๆ กับเว็บ 2.0 อีกสิ่งหนึ่ง ที่ผมคิดว่าเราไม่ ควรหลงลืมไป และควรให้เครดิตกับผู้คิดค้นมันขึ้นมา ถึงแม้ในเวลานี้มัน ไม่ได้รับความนิยมอีกแล้ว นั่นคือเว็บสติกเกอร์ทั้งหลาย มีอยู่สมัยหนึ่ง บ้านเราเคยฮิตตู้ถ่ายสติกเกอร์อย่างมาก จึงมีคนเปิดเป็นเว็บไซต์ให้ผู้ใช้ น�าภาพสติกเกอร์ของตนเองมาอวดกัน ผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยรุ่น เขา ไปถ่ายตู้สติกเกอร์กันมา แล้วก็โพสต์ไว้เพื่อรอให้คนมาโหวตคะแนนเสียง และเขียนคอมเมนต์ให้ มีการจัดประกวดกัน บางคนได้คะแนนโหวตเป็น หมื่นคะแนน ตอนหลังก็เริ่มเปลี่ยนเป็นรูปที่ถ่ายจากกล้องดิจิตอล เพราะ ตู้สติกเกอร์เริ่มหายไป และกล้องดิจิตอลเริ่มถูกลง ส�าหรับผม ถือว่าเว็บ สติกเกอร์เหล่านี้เป็นนวัตกรรมที่น่าภูมิใจของคนไทยยุคสมัยเดียวกับ ไดอะรี่ออนไลน์เลยทีเดียว

ในพันทิปดอทคอมก็เกิดกลุ่มคนมารวมตัว กันเพื่อท�ากิจกรรมร่วมกัน เมื่อก่อนผมก็ เคยรู้สึกแปลกใจ ตะขิดตะขวงใจเล็กๆ เวลา เห็นชาวพันทิปดอทคอมเขานัดมีตติ้งกัน คนรุ่นผมคงรู้สึกแบบนี้เช่นกัน เพราะใน โลกออฟไลน์เราแทบไม่รู้จักใคร แล้วพอมี โลกออนไลน์ เรารู้จักคนมากขึ้น กว้างขึ้น

สังคมออนไลน์ สื่อใหม่ทางอินเทอร์เน็ต ที่มีความอินเทอร์แรคทีฟสูง ได้มาท�าให้เรามีปฏิสัมพันธ์ต่อกันมากขึ้น กว้างขึ้น หมายความว่าเรามี โอกาสพบเจอและท�าความรูจ้ กั กับผูค้ นมากขึน้ ได้เป็นเพือ่ นกับคนทีเ่ ราไม่ เคยคิดเลยว่าจะมีโอกาสได้รจู้ กั อย่างเช่นผมเองก็ได้รจู้ กั คุณธเนศร์ เสนีย์ วงศ์ ณ อยุธยา ผ่านทางพันทิปดอทคอม ลองคิดดูวา่ ในโลกเมือ่ 15 ปีกอ่ น ผมท�างานอยูใ่ นออฟฟิศ คุณธเนศท�างานเป็นนักข่าวและคอลัมนิสต์เกีย่ ว กับรถยนต์ เราแทบไม่มีโอกาสได้รู้จักกันเลย ผมคิดว่าเพื่อนและมิตรภาพใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นแบบนี้แหละ คือประเด็น ส�าคัญของสังคมออนไลน์ และเป็นผลกระทบที่ส�าคัญที่สุดต่อสังคมไทย ทุกวันนี้ ในพันทิปดอทคอมก็เกิดกลุม่ คนมารวมตัวกันเพือ่ ท�ากิจกรรม ร่วมกัน เมือ่ ก่อนผมก็เคยรูส้ กึ แปลกใจ ตะขิดตะขวงใจเล็กๆ เวลาเห็นชาว พันทิปดอทคอมเขานัดมีตติ้งกัน คนรุ่นผมคงรู้สึกแบบนี้เช่นกัน เพราะใน โลกออฟไลน์เราแทบไม่รจู้ กั ใคร แล้วพอมีโลกออนไลน์ เรารูจ้ กั คนมากขึน้

พันทิปดอทคอมกับผลกระทบต่อสังคมไทย

ผมไม่กล้าอวดอ้างว่าพันทิปดอทคอมช่วยให้สังคมไทยเราดีขึ้นมา ตลอด 15 ปีทผี่ า่ นมา ผมเพียงแค่อยากจะตัง้ ข้อสังเกต ว่าพันทิปดอทคอม และเว็บไซต์อนื่ ๆ ทีเ่ ป็นสังคมออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ ซึง่ เกิดขึน้ มาในรอบ 15 ปีมานี้ ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างมาก ในยุคก่อนที่จะมีสังคมออนไลน์ ชีวิตเราก็อยู่แต่ในออฟฟิศกับที่บ้าน เพียงแค่ 2 แห่งนีเ้ ท่านัน้ ปฏิสมั พันธ์ระหว่างผูค้ นในสังคมก็จะมีเพียงจ�ากัด เราเคยมีแชทรูมและการติดต่อกันผ่านโปรแกรมแชทแบบ IRC แต่ว่าการ จะมาเจอหน้าเจอตากันนั้นยากกว่า เพราะยังมีความรู้สึกไม่ไว้วางใจกัน

IRC

Internet Relay Chat คือระบบเครือข่ำย ในกำรสื่อสำรระหว่ำงเครื่องคอมพิวเตอร์ ในลักษณะ Text หรือกำรส่งข้อควำม โต้ตอบกัน โดยจัดตั้งเป็น Channel หรือ ห้องของกลุ่มตัวเอง สำมำรถคุยพร้อม กันหลำยคน หรือคุยแบบส่วนตัว ผู้ใช้ต้องติดต่อเข้ำไปในเซิร์ฟเวอร์ที่ให้ บริกำร มีโปรแกรมใช้งำน IRC เช่น IPIRCH, MIRC, MsChat และอื่นๆ

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


กว้างขึ้น เท่านั้นยังไม่พอ เรายังนัดมาเจอกันบนโลกออฟไลน์ได้อีก สิ่งที่เกิดขึ้นในพันทิปดอทคอมทุกวันนี้ พอเขารู้จักตัวจริงกัน ก็รวม กลุ่มกันไปท�ากิจกรรมดีๆ ท�างานการกุศล หรือสร้างประโยชน์ต่อชุมชน อย่างกลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยง ก็มานัดมีตติ้งกันเพื่อช่วยดูแลหมาและแมว จรจัด กลุ่ม Blue Planet ที่ชอบท่องเที่ยว ก็รวมตัวกันเรี่ยไรเงินเอาไปช่วย โรงเรียนทีข่ าดแคลน กลุม่ หว้ากอเป็นคนทีช่ อบวิชาวิทยาศาสตร์ เมือ่ เร็วนี้ ก็ไปพิสจู น์โรงเรียนทีอ่ า้ งว่าสามารถสอนให้เด็กอ่านหนังสือได้โดยทีไ่ ม่ตอ้ ง ลืมตา ก่อนหน้านี้เขาก็ไปพิสูจน์เครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT 200 เรื่องราว ที่เป็นประเด็นใหญ่ในสังคมออฟไลน์ มีจุดเริ่มต้นมาจากสังคมออนไลน์ บ่อยขึ้น และผมรู้สึกดีทุกครั้งเมื่อเห็นกลุ่มคนในพันทิปดอทคอมได้ร่วม แสดงพลังในการท�าสิ่งดีๆ ผมเชื่อว่ามนุษย์เราต้องการเพื่อน เมื่อก่อนเราก็แสวงหาเครื่องมือ ออนไลน์ต่างๆ มาใช้ แล้วพอดีเกิดพันทิปดอทคอมขึ้นมา ซึ่งเผอิญตรง จังหวะและความต้องการของผู้ใช้พอดี ฟอรั่มแบบของเรา แตกต่างจาก การแชทด้วย IRC เพราะการแชทนัน้ จะสูญหายไปเมือ่ ปิดโปรแกรม เพราะ ฉะนั้นความต่อเนื่องของประเด็นมันไม่เกิดขึ้น แต่ฟอรั่มนั้นจะมีลักษณะ พิเศษ คือประเด็นยังคงอยู่ต่อไป เปิดไว้รอให้คนอื่นมาแสดงความคิดเห็น เพิ่มเข้าไปได้เรื่อยๆ ฟอรั่มจึงเป็นรูปแบบสังคมออนไลน์ ที่สามารถใช้ใน การผลักดันประเด็นใดๆ อย่างได้ผลมากกว่า

ธรรมชำติที่แท้จริงของมนุษย์

สังคมออนไลน์กเ็ หมือนสังคมในโลกแห่งความเป็นจริง ผูค้ นมาอยูร่ วม กัน เกิดเป็นชุมชน เกิดวัฒนธรรมกลุ่ม กฎระเบียบและวิถีปฏิบัติเพื่อการ อยู่ร่วมกัน สังคมในโลกแห่งความเป็นจริงทุกวันนี้ด�าเนินไปด้วยรูปแบบ ที่ค่อยๆ พัฒนาและปรับตัวมานานหลายพันปี ดังนั้น ประเด็นส�าคัญของ การที่เราได้สร้างสังคมแห่งใหม่ขึ้นมาในโลกออนไลน์ เราจะท�าอย่างไรให้ สังคมออนไลน์แห่งนีส้ ามารถด�าเนินไปด้วยดี หรืออย่างน้อยทีส่ ดุ ก็ไม่เลว ร้ายไปกว่าสังคมในโลกแห่งความจริง

เงินเก็บประมาณ 200,000 บาท ผมน�ามาลงทุนและคิดว่าเงินก้อนนี้หมด เมื่อไรก็จะเลิก ในช่วงแรกๆ ที่ท�า ก็เกือบ หมดเหมือนกัน ประมาณว่าต้องขึ้นรถเมล์ ไปขายโฆษณาด้วยตัวเอง พอลงจาก รถเมล์มาร้อนๆ อยากจะซื้อน�้ากินสักขวด หนึ่งก็ไม่กล้าซื้อ เพราะกลัวเงินทุนจะ หมดเสียก่อน

มีประเด็นหนึ่งที่ผมเคยถกเถียงกับเพื่อนหลายคน และเป็นประเด็น ผมครุ่นคิดมานานตั้งแต่เริ่มต้นสร้างพันทิปดอทคอมขึ้นมา ว่ามนุษย์เรา มีธรรมชาติที่ใฝ่ดีหรือไม่ หรือแท้จริงแล้ว มนุษย์เราโดยส่วนลึกแล้วเลว ร้าย และสังคมมนุษย์จะมีแนวโน้มที่แย่ลงไปเรื่อยๆ ซึ่งนี่ก็จะหมายรวม ถึงสังคมออนไลน์ด้วย เพื่อนของผมเสนอว่า โดยธรรมชาติแบบดิบๆ ของมนุษย์ เราเป็น เหมือนในหนังสือเรื่อง Lord of the Flies หรือ “เจ้าแห่งแมลงวัน” เมื่อเรา อยูร่ ว่ มกัน จะเกิดความขัดแย้ง และจะยิง่ ลุกลามบานปลาย จนในทีส่ ดุ เรา เองก็นึกไม่ถึง ว่าเราจะท�าสิ่งที่เลวร้ายได้มากมายขนาดนี้

Lord of the Flies

วรรณกรรมเรื่องแรกในชีวิต และเป็นเรื่องที่โด่งดังที่สุด ของ วิลเลียม โกลดิ้ง นักเขียน รำงวัลโนเบล ตีพิมพ์เมื่อปี ค.ศ. 1954 เป็นเรื่องรำวเกี่ยวกับเด็ก นักเรียนกลุ่มหนึ่ง ไปติดเกำะ ร้ำงอยู่ร่วมกัน แล้วพวกเด็กๆ เริ่มทะเลำะวิวำทกัน และค่อยๆ แบ่งฝักแบ่งฝ่ำย ในท้ำยที่สุดก็น�ำไปสู่เรื่อง รำวบำนปลำยถึงชีวิต เป็นวรรณกรรมที่สะท้อนให้เห็นควำมไร้เหตุผลของ สงครำม และด้ำนมืดของมนุษย์ที่อยู่ในตัวของเรำทุกคน

ในขณะที่ผมเสนอว่า ไม่ว่าธรรมชาติดิบๆ ของมนุษย์จะเป็นอย่างไร ก็ตาม ถ้าเราจะสร้างสังคมออนไลน์ขึ้นมา เราก็ต้องช่วยเหลือร่วมมือกัน และหาวิถีทางท�าให้สังคมนี้ศิวิไลซ์ขึ้น นี่คือเหตุผลว่าท�าไมพันทิปดอท คอมของเราต้องส่งเสริมระบบสมาชิก ต้องก�าหนดให้ทุกคนแสดงความ เป็นสมาชิก และแสดงความมีตัวตนอยู่จริง ด้วยสัญลักษณ์ “อมยิ้ม” หรือไม่เช่นนั้น ก็ต้องมีบัตรผ่าน ซึ่งลงทะเบียนด้วยอี-เมล์แอคเคานต์ การ ปล่อยให้สังคมออนไลน์ด�าเนินไปแบบไม่มีการควบคุม ไม่มีการแสดงตัว ตนใดๆ เลย ไม่มีการลงทะเบียน ไม่มีการเช็คค�าหยาบ โอกาสที่จะเกิด สังคมแบบเกาะร้างใน Lord of the Flies มีความเป็นไปได้สูงมาก เพราะ ทุกคนไม่มคี วามรับผิดชอบในการกระท�าของตน แล้วในทีส่ ดุ ฟอรัม่ จะถูก ดึงไปในทางที่ต�่าลง ผู้ใช้พันทิปดอทคอมจะสังเกตได้ชัด ว่าสังคมออนไลน์แห่งนี้จะไม่ใช่ การเอาความเป็นมนุษย์ดิบๆ ออกมาเสียทีเดียว เรายังรู้จักกัน บางครั้ง มีการไปมีตติ้ง พบเจอกันจริงๆ แล้วเราจะควบคุมตัวเองได้ในระดับหนึ่ง เราก�าหนดให้การสมัครสมาชิกต้องใช้หมายเลขบัตรประชาชน 1 คน มี ได้เพียง 1 ล็อกอินเนม นีค่ อื การถ่ายเทอารยธรรมดัง้ เดิม สังคมในโลกแห่ง ความเป็นจริงทีศ่ วิ ไิ ลซ์แล้ว ใส่เข้าไปในสังคมทีเ่ พิง่ เกิดใหม่ ผ่านทางกลไก ทางด้านเทคนิค ผมหวังว่าสังคมออนไลน์จะพัฒนาขึ้นไปในเชิงบวก และ ต่อเนื่องได้จากสังคมในโลกแห่งความจริง

จุดเริ่มต้นของสังคมที่ดี

ในยุคสมัยเริม่ ต้น อินเทอร์เน็ตเติบโตอย่างรวดเร็ว มีผลการวิจยั ยืนยัน ว่าเป็นเพราะเรือ่ งเซ็กส์เป็นตัวขับดันการใช้งานอินเทอร์เน็ตในช่วงแรก แต่

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


เมือ่ เวลาผ่านไป มาจนถึงยุคปัจจุบนั สิง่ ทีข่ บั ดันคือข้อมูลข่าวสารและการ สร้างเครือข่าย การเปิดให้ผู้ใช้ได้ใช้งานแบบ Anonymous หรือไร้ตัวตน ในยุคแรกๆ นั้นเป็นเรื่องที่ท�าได้ เพราะผู้ใช้ยังมีจ�านวนน้อยมาก สังคมออนไลน์ขนาด เล็กๆ คนมาอยู่ร่วมกันแบบหลวมๆ คนส่วนใหญ่มีการศึกษา เพราะเป็น คนกลุ่มแรกที่เปิดรับเทคโนโลยีใหม่ สภาพ Anonymous ของผู้ใช้ส่วน ใหญ่ จึงไม่ก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรง ในสมัยนั้น พันทิปดอทคอมของเราก็ ยังไม่มรี ะบบสมาชิก ทุกคนใช้งานได้อย่างสะดวก ง่ายดาย ข้อมูลข่าวสาร ต่างๆ ก็นา่ เชือ่ ถือ เพราะทุกคนเข้ามาช่วยกันโพสต์ขอ้ มูลทีถ่ กู ต้อง และใน แง่ของสังคมเครือข่าย ก็ไม่มีผู้ใช้เข้ามาทะเลาะเบาะแว้งกัน ผมเริม่ คิดตัง้ แต่ยคุ นัน้ แล้ว ว่าสังคมออนไลน์ของเราจะเดินหน้าต่อไป ล�าบาก ถ้าเรายังปล่อยผู้ใช้ให้ Anonymous ในแง่ของข้อมูลข่าวสาร การ ปล่อยให้ผู้ใช้เป็น Anonymous จะท�าให้ข้อมูลข่าวสารลดความ น่าเชื่อถือลงไปเรื่อยๆ เพราะว่า มันไม่มที มี่ าทีไ่ ป ใครอยากจะเขียน อะไรก็เขียนไป ในท้ายที่สุด ข้อมูล ในอินเทอร์เน็ตจะเยอะจริง แต่จะ เยอะแบบขยะ คือไม่มีประโยชน์ หรื อ เต็ ม ไปด้ ว ยโฆษณา การใส่ ร้าย กล่าวหา ไม่สามารถน�าไปใช้ งานหรืออ้างอิงได้เลย ในแง่ ข องสั ง คมเครื อ ข่ า ย ผมนึ ก ภาพผู ้ ใ ช้ บ างคนที่ จ ะเข้ า มาสร้างปัญหา สมมติวันนี้ผมไม่ ชอบใจคนชื่อด�า ผมก็ไปด่าคนนั้น คนนีไ้ ปทัว่ แล้วก็ลงชือ่ ว่า “ด�า” จน ทุกคนในสังคมออนไลน์เกลียดผม พอวันรุ่งขึ้น ผมเปลี่ยนไปใช้ชื่อแดง ปล่อยให้คนชื่อด�ามีปัญหา แล้วผมก็สร้างปัญหากับชื่อแดงต่อไป สมัยที่ ยังไม่มีระบบสมาชิก ผู้ใช้ต้องอาศัยวิธีเช็ค IP Number ของผู้ใช้คนอื่นๆ ซึ่งมันก็เช็คได้เพียงคร่าวๆ เท่านั้น ในยุคสมัยหนึง่ ผูค้ นโจมตีอนิ เทอร์เน็ตว่าเป็นสิง่ อันตราย แล้วผมเคยดู รายการข่าวในฟรีทวี ชี อ่ งหนึง่ เขาไปสัมภาษณ์ผใู้ หญ่เกีย่ วกับอินเทอร์เน็ต ผู้ใหญ่ก็พูดว่า โอ้โห! เป็นเรื่องเสียหายร้ายแรง แล้วนักข่าวก็ไปสัมภาษณ์ เด็กคนหนึ่ง เด็กบอกว่านี่เป็นเรื่องปกติ ไม่เห็นมีไรเลย เขาเห็นเรื่องพวกนี้ ทุกวัน แสดงให้เห็นว่าคนแต่ละรุน่ ก็มองเทคโนโลยีดว้ ยกรอบทีแ่ ตกต่างกัน คนรุ่นถัดไปจากพวกเรา ก็จะมองอินเทอร์เน็ตเปลี่ยนไป ทุกวันนี้ผม อยากจะปรับเปลี่ยนพันทิปดอทคอม ยังไม่สามารถท�าอะไรกับมันได้ด้วย ตัวเองเลย เพราะคิดว่าผมอาจจะล้าสมัยไปแล้ว ต้องปล่อยให้น้องๆ คน รุ่นใหม่เข้ามาช่วยดูแล คนรุ่นใหม่ย่อมแตกต่างไปจากเรา เราเติบโตมาพร้อมกับเทปคาสเซ็ตต์ พร้อมกับการอ่านหนังสือ แต่คนรุ่นใหม่เกิดมาก็มีอินเทอร์เน็ตอยู่ แล้ว เขาใช้พันทิปดอทคอมตั้งแต่เด็ก เขาใช้ชีวิตอยู่กับเกมส์ออนไลน์ เขาหาข้อมูลข่าวสารมาจากแหล่งใหม่ๆ เวลาจะท�าการบ้านส่งครู ก็เอา

ค�าถามมาโพสต์เป็นกระทู้ในพันทิปดอทคอม หรือถ้าคนไหนขยันหน่อย ก็ค้นหาเองในกูเกิ้ลดอทคอม ซึ่งคนยุคเราเวลาท�าการบ้าน มันไม่ใช่แบบ นี้ มันคนละอารมณ์กัน เราต้องไปหอสมุดแห่งชาติ แล้วกางหนังสือไปต่อ แถวถ่ายเอกสาร เทคโนโลยีท�าให้เราทุกคนต้องเปลี่ยนแปลง แม้แต่ครูบาอาจารย์ สมัยนี้ก็ต้องเปลี่ยนโจทย์การบ้าน จะถามเพียงแค่ว่าไทยเราเสียกรุงเมื่อ ปี พ.ศ. อะไร ก็ไม่ได้แล้ว เราต้องให้เด็กนักเรียนท�าไทม์ไลน์ เพื่อแสดงให้ เห็นเหตุการณ์ในช่วงนั้นอย่างละเอียด ค�าถามแบบนี้จะท�าให้เขาค้นคว้า มากขึ้น และผมคิดว่าค�าถามส�าหรับเด็กยุคถัดไป จะต้องถามว่า ให้วาด ภาพสถานการณ์ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่างไร และ เพราะอะไร เด็กยุคต่อไปจะเก่งกว่าเรา เพราะเขามีข้อมูลพร้อมรออยู่แล้ว เขาจะน�ามาไปต่อยอดได้เอง เพียง แต่เราในฐานะคนรุ่นก่อนหน้าเขา จะต้องเตรียมสังคมออนไลน์นี้ไว้ให้ พร้อม สร้างโลกข้อมูลข่าวสารที่ถูก ต้อง มีความน่าเชื่อถือ และทุกคนมี ความรับผิดชอบร่วมกันต่อสังคมนี้

เด็กยุคต่อไปจะเก่งกว่าเรา เพราะเขามีข้อมูล พร้อมรออยู่แล้ว เขาจะน�ามาไปต่อยอดได้เอง เพียงแต่เราในฐานะคนรุ่นก่อนหน้าเขา จะต้อง เตรียมสังคมออนไลน์นี้ไว้ให้พร้อม สร้างโลก ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง มีความน่าเชื่อถือ และทุกคนมีความรับผิดชอบร่วมกัน ต่อสังคมนี้

ควำมเปลี่ยนแปลงที่น่ำผิดหวัง

ฟอรั่ ม นั้ น เหมาะส� า หรั บ ใช้ ใ น การแสดงความคิ ด เห็ น เมื่ อ เรามี เครื่ อ งมื อ ที่ ดี แ ล้ ว วั ฒ นธรรมการ แสดงความคิดเห็น และการรับฟัง ความคิ ด เห็ น ของผู ้ อื่ น ควรจะได้ พัฒนาก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ แต่สิ่ง ที่เกิดขึ้นในความเป็นจริงนั้นค่อน ข้างน่าผิดหวัง ในช่วงหลายปีทผี่ า่ นมา เราก็ยงั เจอการถกเถียงแบบไม่รบั ฟังความคิด เห็นกัน ทุกคนยังคงเชือ่ ในสิง่ ทีต่ วั เองเชือ่ แล้วก็ไม่ยอมเปิดรับฟังข้อเท็จจริง ในมุมที่ไม่ตรงกับเรา ในทางหนึ่ง ต้องยอมรับว่าอินเทอร์เน็ตท�าให้ข้อมูล ข่าวสาร ความคิดเห็น สามารถแพร่กระจายออกไปได้อย่างรวดเร็วและ กว้างขวาง แต่ในอีกทางหนึ่ง กลับเกิดแนวโน้มการลดลงของการยอมรับ ฟังความคิดเห็นที่ตรงกันข้าม สิง่ ทีเ่ กิดขึน้ และพบเห็นบ่อยมากในพันทิปดอทคอม คือเมือ่ มีประเด็น ความขัดแย้งใดๆ ขึน้ มา ผูใ้ ช้ตา่ งฝ่ายต่างก็จะพยายามเถียงเพือ่ จะให้ฝา่ ย ตนเองชนะ บางคนก็เฉไฉบ้าง บางคนก็ใส่อารมณ์บ้าง แล้วในที่สุดก็บาน ปลายจนบางครัง้ เราต้องปิดกระทูน้ นั้ ไปเสีย หรือเราต้องท�าแม้กระทัง่ หยุด ให้บริการโต๊ะราชด�าเนิน ในช่วงเวลาทีเ่ กิดความขัดแย้งทางการเมืองอย่าง รุนแรง ซึ่งผมก็ยอมรับว่าการปิดแบบนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย แต่ผมก็คาด หวังว่าการปิดนี้ จะช่วยให้พันทิปดอทคอมไม่ไปสร้างปัญหาอะไรให้กับ สังคมมากขึ้นไปกว่าเดิม ตัวชี้วัดส�าคัญ คือการที่สมาชิกของเรามีความอดทนมากขึ้นกว่านี้ และยอมรับฟังคนที่เห็นไม่ตรงกับเรา อาจจะมีบางส่วนเราคิดผิด บาง ส่วนเขาคิดถูก ดังนั้น ในแต่ละกระทู้ จะไม่ต้องถูกปิดอีกแล้ว แต่ทุกคน

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


ที่มีส่วนในกระทู้นั้น ควรจะสามารถหาข้อสรุป หรือหาประเด็นร่วมกัน ได้ ในกระทู้หนึ่งๆ ควรจะเริ่มด้วยประเด็น ตามมาด้วยความคิดเห็นของ คนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย เมื่อกระทู้ด�าเนินไป พอมาถึงความคิดเห็น ล�าดับที่ 100 เราทุกคนก็ควรจะได้ขอ้ สรุปร่วมกันและสร้างสรรค์ แต่ทกุ วัน นี้ มันกลายเป็นว่าสุดท้ายแล้วเราก็ยงั ไม่ได้อะไร มีแต่เถียงกัน ทะเลาะกัน ตลอดเบี้ยบ้ายรายทาง ในฐานะที่เป็นผู้ดูแลฟอรั่ม ผมคิดว่าเราสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบ ของมัน ก�าหนดกฎกติกา และชี้น�าให้เกิดวัฒนธรรมที่ดีขึ้นมา ถึงแม้ทีม งานของเราจะเป็นมนุษย์ ผู้ใช้ของเราทุกคนก็เป็นมนุษย์ แต่เราสามารถ พัฒนาตนเองและสังคมขึ้นไปในทางที่ดีขึ้นได้ ไม่จ�าเป็นต้องปล่อยสังคม นี้ให้เลวร้ายลง แล้วอ้างว่านี่เป็นเพราะธรรมชาติของมนุษย์ พวกเราสามารถท�าได้ และพวกเราก็ท�ากันมาหลายพันปีแล้ว ตลอด ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาตินั่นแหละ ที่เราได้เรียนวิชาอารยธรรม หรือ Civilization ทั้งหมดนั้นก็คือเรื่องราวของการพัฒนาตนเองและสังคมขึ้น ไป และสิ่งที่เรามาอยู่ทุกวันนี้ เราพัฒนาในสิ่งที่ฝืนธรรมชาติของมนุษย์ มาตลอด

วำงระบบ Social Control

เมือ่ 15 ปีกอ่ น ตอนทีเ่ ริม่ ต้นท�าพันทิปดอทคอม ผมเขียนโปรแกรมเว็บ บอร์ดแห่งนีข้ นึ้ มากับมือ ตอนนัน้ ก็ยงั ใช้อนิ เทอร์เน็ตกันไม่เยอะ ส่วนใหญ่ คนทีใ่ ช้กเ็ ป็นนักศึกษา ผมก็คดิ ว่าคงไม่มปี ญ ั หาหรอก ทุกคนเรียนหนังสือ กันมาขนาดนี้แล้ว ก็เขียนโปรแกรมเว็บบอร์ด ไม่มีการกรองค�า ไม่มีอะไร สักอย่าง เปิดไปได้สักพัก ก็เริ่มทะเลาะกัน ด่ากันหยาบคาย ก็เลยค่อยๆ ปรับเปลี่ยนกันมา สมัยก่อน ผู้คนในโลกอินเทอร์เน็ตยังไว้เนื้อเชื่อใจกัน เราใช้อินเทอร์เน็ตกันแบบสบายๆ ไม่ต้องคอยระแวง ไม่มีเรื่องซีเรียส ขนาดมีคน ส่งเมล์โฆษณามาหาเรา เรายังไม่โกรธเลย และไม่ได้เรียกมันว่า Spam นะ เรากลับดีใจที่มีคนส่งเมล์มาหาดีใจ แถมยังตอบกลับไปอีก แต่สมัย นี้พอคนเยอะขึ้น เราเริ่มระแวงระวัง และคิดว่าเริ่มมีคนน�าอินเทอร์เน็ตไป ใช้เป็นเครือ่ งมือในทางมิชอบมากขึน้ วิวฒ ั นาการทางสังคมอาจจะเหมือน สั ง คมชนบทกั บ สั ง คมเมื อ ง คนใน ชนบทอยู่กันแบบสงบสุขมากกว่า ใน ขณะทีค่ นในสังคมเมืองต่างหวาดกลัว กันและกัน ระบบ Social Control จึงมีความ จ�าเป็น ผมเริ่มใส่โปรแกรมกรองค�าหยาบในพันทิปดอทคอม เริ่มมีการ แบนผูใ้ ช้ทมี่ ปี ญ ั หา เริม่ ป้องกันโฆษณา แฝง เริ่มมีการรับสมาชิก ทั้งหมดนี้ก็ คือความพยายามสร้างระบบ Social Control เป็นการสร้างสังคมที่ศิวิไลซ์ เป็นการฝืนธรรมชาติของเรา ของผู้ใช้ และของสังคมออนไลน์ ความเปลี่ ย นแปลงที่ ส� า คั ญ อี ก ประการหนึ่ง ซึ่งเพิ่มเริ่มน�ามาใช้เพื่อ

พัฒนาสังคมออนไลน์ คือระบบไฟเขียว-ไฟแดง คือแนวความคิดทีเ่ ราเปิด ให้สมาชิกได้ร่วมกันดูแลกันและกัน แทนที่จะใช้ระบบปัจจุบันที่ค่อนข้าง เป็นเผด็จการ คือมีผู้ดูแลบอร์ดนั่งเฝ้าอยู่ประจ�า และตัดสินใจด้วยตัวเขา เองว่าจะท�าอย่างไรกับกระทูท้ ไี่ ม่เหมาะสม ซึง่ ไม่วา่ เขาจะตัดสินใจอย่างไร ก็จะมีทั้งถูกและผิดในสายตาของผู้ใช้คนอื่นๆ อยู่ดี ผู้ที่มาท�าหน้าที่ดูแล บอร์ดนี้จึงต้องรับค�าวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักตลอดเวลา ซึ่งจริงๆ แล้ว ไม่ใช่ความผิดของพวกเขา พวกเขาท�าตามหน้าที่อยู่แล้ว เพียงแต่ระบบ ยังไม่เหมาะสมเท่านั้นเอง ในตอนแรกสุด ผมเสนอให้เราใช้ระบบลูกขุนเหมือนศาลของอเมริกา ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง หรือเกิดมีใครมาตั้งกระทู้ที่ ดูหมิน่ เหม่ เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม เราจะให้สมาชิกคนอืน่ ๆ ส่งกระทูน้ ี้ เข้าไประบบลูกขุน มันจะกระจายกระทู้นี้ไปให้สมาชิกคนอื่นๆ อีกจ�านวน หนึ่งซึ่งเป็นลูกขุน แล้วให้พวกเขาตัดสินด้วยการลงคะแนนโหวตว่าจะท�า อย่างไรกับกระทู้นี้ แต่ด้วยข้อจ�ากัดของการเขียนโปรแกรม ท�าให้เรายัง สร้างระบบที่สมบูรณ์ขึ้นมาไม่ได้ ตอนนี้เราใช้ระบบไฟเขียว-ไฟแดง คือให้คนที่เข้าไปอ่านกระทู้นั้นๆ โหวตกันเองว่าจะท�าอย่างไรกับกระทู้นั้น ระบบนี้ดีพอใช้ และมันเหมาะ ส�าหรับใช้กับห้องที่ความคิดเห็นไม่แตกต่างกันมาก คนส่วนใหญ่ตัดสิน ตามมาตรฐานจริยธรรม ศีลธรรมเดียวกัน แต่สา� หรับห้องทีม่ คี วามเห็นแตก ต่างกันอย่างสุดขัว้ และแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ระบบนีจ้ ะไม่เวิรค์ ทันที เพราะทุก คนจะกดไฟเขียว-ไฟแดง เพือ่ ให้ฝา่ ยตนเองชนะเท่านัน้ ไม่คดิ ถึงมาตรฐาน อื่นๆ เปรียบเหมือนกับมีกลุ่มคน 2 กลุ่ม ไปชุมนุมกันหน้าศาล แล้วก็โห่ฮา ให้ศาลตัดสินเข้าข้างฝ่ายตนเอง นอกจากนี้ ผมคิดว่าเราอาจจะต้องเปลี่ยนรูปแบบของกระทู้ ตราบใด ที่ยังเป็นรูปแบบเดิมที่เราใช้มาตลอด 15 ปี กระทู้ก็จะออกมาในรูปแบบนี้ ต่อไปเรื่อยๆ ตามธรรมชาติของมนุษย์ ที่ผ่านมา ผมพยายามปรับรูปแบบของโต๊ะราชด�าเนิน ให้เป็นการ โพสต์ความเห็นยาวๆ กระทูข้ องใครของมัน ไม่ตอ้ งมาคอมเมนต์ใส่กนั ถ้า ใครเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยกับกระทู้ไหน ก็ไปตั้งกระทู้ของตัวเองขึ้นมา ใหม่ ตัง้ ใจเขียนความเห็นของตนเองใส่กระทูข้ องตนเองให้ดๆี เพือ่ โน้มน้าว คนอื่นๆ ที่เข้ามาอ่าน แบบนี้จะท�าให้ ผูใ้ ช้ของเราต้องกลัน่ กรอง ต้องครุน่ คิด และใช้ เ วลาในการแสดงความเห็ น มากขึ้น ผมหวังว่ามันจะช่วยพัฒนา โต๊ะราชด�าเนินได้ แต่รูปแบบใหม่นี้ก็ ยังไม่ได้ตกผลึกเสียทีเดียว ยังต้องมี การปรับเปลี่ยนต่อไปอีก เพื่อหารูปแบบที่เหมาะสมที่สุด หลายคนแนะน�าให้ลองเปลี่ยน รู ป แบบของการแสดงล� า ดั บ ความ คิดเห็น เพราะเราพบว่าความคิดเห็น ล� าดับแรกๆ ที่เข้ามาตอบในแต่ละ กระทู้ จะมีอิทธิพลต่อความคิดเห็น อื่นๆ ที่จะตามมาภายหลัง จนมีคน เรี ย กว่ า เป็ น วั ฒ นธรรมไหลตามน�้ า

วิวัฒนาการทางสังคมของพันทิป ดอทคอม เกือบจะเป็นแบบจ�าลองของ สังคมมนุษย์ คือเห็นความเป็นมนุษย์ของ เราทุกคนได้เลย ว่ามีฉันทาคติ มีรัก มี เกลียด มีโกหกหลอกลวง มีช่วยเหลือ เกื้อกูล มันเหมือนมาก จนบางทีผมก็ รู้สึกว่ามันเหมือนจนน่ากลัว

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


ณ วันนี้ ไม่ใช่ยุคของผมอีกต่อไป ผมอยากให้รุ่นน้อง ซึ่งเป็นคนยุคใหม่ ได้เข้ามาสานต่องานของพันทิปดอตคอม งานของผมในตอนนี้ ไม่ใช่การเสนอสิ่งที่ตนเองต้องการ แต่เป็นการเปิดกว้างรับฟังคนรุ่นใหม่ น�าความคิดของน้องๆ ในออฟฟิศมาใช้ให้มากขึ้น ผมเชื่อว่าเขาเป็นรุ่นที่จะก�าหนด ทิศทางที่ถูกต้องได้มากกว่า

ความเห็นดีๆ ทีต่ ามมาภายหลัง ประมาณล�าดับที่ 50 - 60 จะไม่มใี ครอ่าน แล้ว ทุกคนเปิดเข้ามาอ่านกระทู้ อ่านความเห็นต้นๆ แล้วแห่ตามไปทันที วิธีแก้คือการเรียงล�าดับความเห็นท้ายสุดขึ้นมาไว้อันดับแรก แต่ผมก็ยัง ไม่น�าวิธีนี้มาใช้ เพราะมันท�าให้เราอ่านกระทู้ไม่รู้เรื่องเลย ซึ่งเราก็ต้องหา วิธีจัดการกับเรื่องนี้กันต่อไป วิวัฒนาการทางสังคมของพันทิปดอทคอม เกือบจะเป็นแบบจ�าลอง ของสังคมมนุษย์ คือเห็นความเป็นมนุษย์ของเราทุกคนได้เลย ว่ามี ฉันทาคติ มีรัก มีเกลียด มีโกหกหลอกลวง มีช่วยเหลือเกื้อกูล มันเหมือน มาก จนบางทีผมก็รู้สึกว่ามันเหมือนจนน่ากลัว ถ้าเราปล่อยไปโดยไม่มีระบบ Social Control โอกาสที่จะเกิดขึ้นต่อ ไปก็เป็นไปได้ 2 ทาง คือเจริญขึ้น หรือเสื่อมลง ผมมีความหวังว่าพันทิปดอทคอมจะสร้างบรรทัดฐานบางอย่างให้กบั สังคมออนไลน์ทุกแห่ง นอกจากการวาง Social Control ที่กล่าวไว้ข้าง ต้น เราอยากให้มีคนมาเป็น Role Model ให้กับเพื่อนๆ และเราจะช่วยน�า เสนอกิจกรรมดีๆ ของชาวอินเทอร์เน็ต น�ามาไฮไลต์ให้ผู้ใช้คนอื่นๆ ได้เห็น ในเชิงเศรษฐกิจ มีบางคนเชือ่ ใน Invisible Hand หรือมือทีม่ องไม่เห็น เขาบอกว่าเราต้องปล่อยให้ทุกคนท�าเพื่อประโยชน์ส่วนตัว แล้วในที่สุด สังคมส่วนรวมจะดีขึ้นได้เอง ผมไม่เชื่อเรื่องนี้เท่าไร ผมว่าเราก็ต้องเข้าไป จัดกระท�าอะไรบางอย่าง แต่ไม่ใช่การไปบังคับผู้ใช้ ไม่ตีกรอบ ไม่กั้นคอก เพราะในที่สุด ก็จะมีคนแถออกไปข้างทางอยู่ดี แต่ว่าเราจะสร้างแม่เหล็ก บางอย่าง ที่ดึงดูดให้ผู้ใช้ของเราก้าวสูงขึ้นไปได้

Pantip 3.0

ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ผมคิดว่าภาระหน้าที่ของผมในการวาง Social Control และการสร้างบรรทัดฐานทางสังคมออนไลน์ เกือบจะเสร็จสิ้นลง แล้ว และผมเริ่มรู้สึกว่าตนเองก�าลังจะตกยุคไปแล้ว ณ วันนี้ ไม่ใช่ยคุ ของผมอีกต่อไป ผมอยากให้รนุ่ น้องซึง่ เป็นคนยุคใหม่ ได้เข้ามาสานต่องานของพันทิปดอทคอม งานของผมในตอนนี้ ไม่ใช่การ เสนอสิ่งที่ตนเองต้องการ แต่เป็นการเปิดกว้างรับฟังคนรุ่นใหม่ น�าความ คิดของน้องๆ ในออฟฟิศมาใช้ให้มากขึน้ ผมเชือ่ ว่าเขาเป็นรุน่ ทีจ่ ะก�าหนด ทิศทางที่ถูกต้องได้มากกว่า

เราก�าลังเตรียมปรับปรุงพันทิปดอทคอมครัง้ ใหญ่ งานนีก้ า� ลังจะเสร็จ สิ้นในอีกไม่นานนี้ คุณอภิศิลป์ ตรุงกานนท์ หรือนามแฝงในพันทิปดอท คอมว่า MacroArt จะเข้ามารับภาระนี้ต่อไป ผมค่อนข้างมั่นใจและไว้ใจ เขา เพราะเขาเป็นคนร่วมท�าพันทิปดอทคอมมาตั้งแต่ต้น เว็บโปรแกรมที่ เราใช้ๆ กันอยู่ในทุกวันนี้ เขาเป็นคนเขียนตั้งแต่เมื่อสิบปีที่แล้ว เขาไปเก็บ เกี่ยวความรู้จากการท�างานภายนอก ได้มุมมองใหม่ๆ จากโลกภายนอก แล้วน�ากลับมาช่วยพันทิปดอทคอมอีกครั้ง นอกจากในส่วนงานปรับปรุงระบบทีค่ ณ ุ อภิศลิ ป์กา� ลังท�าอยูแ่ ล้ว ก็ยงั มีนอ้ งๆ ทีเ่ ป็นคลืน่ ลูกถัดจากผมอีกจ�านวนหนึง่ ทีเ่ ริม่ ก้าวมาเป็นผูก้ า� หนด ทิศทางของสังคมออนไลน์แห่งนี้ ผมอยากฝากบอกไปยังรุ่นน้องที่จะเข้า มาสานงานต่อ ว่าการดูแลสังคมออนไลน์เป็นเรื่องยากและน่าเหนื่อยใจ เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องเทคนิค แต่เป็นเรื่องของจิตใจคน ปัญหาส่วนใหญ่ เกิดขึน้ จากพืน้ ทีส่ เี ทาระหว่างความถูกและความผิด ไม่วา่ เราตัดสินใจท�า อะไรลงไป ล้วนส่งผลขัดใจกับใครสักคนเสมอ กระทู้ถูก กระทู้ผิด กระทู้ไม่ถูกและไม่ผิด ล้วนกลายเป็นปัญหาได้ทั้ง นัน้ โจทย์คลาสสิคมากๆ สมมติมคี นมาโพสต์กระทูโ้ ฆษณาแฝงสินค้ายีห่ อ้ หนึ่งเอาไว้ รอต่อมาไม่นาน มีผู้ใช้คนอื่นเข้ามาแสดงความเห็น ว่าไม่จริง เลย ยี่ห้อนี้ผมใช้แล้วไม่ดีเลย เราก็กลายเป็นเรื่องเถียงกันไปมา ปัญหา ของคนดูแลที่นี่คือจะลบกระทู้นี้หรือเปล่าต่อไป ถ้าเราลบ ก็ไม่ใช่การตัดสินใจที่ผิด เพราะมันคือการลบโฆษณาแฝง ออกไป และถ้าเราไม่ลบ ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอีกเช่นกัน เพราะสังคมส่วนรวม ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นถ่วงดุลย์ไว้แล้ว การที่เราไปลบ กลับเป็นการ เข้าไปปิดกัน้ และละเมิดสิทธิของผูใ้ ช้คนอืน่ ๆ ทีน่ า่ จะได้เข้ามาเห็นกระทูน้ ี้ และการที่เราลบ อาจจะเป็นการตัดสินใจที่ผิด เพราะนี่อาจจะไม่ใช่กระทู้ โฆษณาแฝงอย่างทีเ่ ราคิดไปเอง อาจจะเป็นผูใ้ ช้ตวั จริงทีเ่ ข้ามาแสดงความ คิดเห็นจริงๆ ทุกการกระท�าของเราต้องมี 2 ฝั่งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้ว ผมเชื่อว่า 15 ปีที่ผ่านมา พวกเราตัดสิน ใจและเลือกกระท�าในสิ่งที่ถูกต้องมากกว่าสิ่งที่ผิดพลาด สังคมออนไลน์ แห่งนี้จึงเดินหน้ามาได้ถึงขั้นนี้ และนี่คือสิ่งที่คนรุ่นต่อไปจะต้องท�างาน สานต่อให้กลาย Pantip 3.0 คือการตัดสินใจและเลือกกระท�าในสิ่งที่ถูก ต้องมากกว่าสิ่งที่ผิดพลาด

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


148


สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธำนเจ้ำหน้ำที่บริหำร บริษัท อำร์เอส จ�ำกัด (มหำชน)

เทคโนโลยีดิจิตอ ลปลดปล่อยวงการ เพลง สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ หรือที่ใครๆ รู้จักกันในนามเฮียฮ้อ ไม่ใช่นัก เทคโนโลยี แต่เขาคือคนที่เฝ้ามอนิเตอร์ความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี แล้วหยิบจับมันขึ้นมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจเพลงที่เขาหลงใหล ความ เปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีครั้งแล้วครั้งเล่า ในกว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ไม่ใช่ปัญหาหรืออุปสรรค แต่กลับเป็นโอกาสและจังหวะให้เขาท�างาน ใหม่ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า ตั้งแต่สมัยแผ่นเสียง เทปคาสเซ็ตต์ ซีดี วีซีดี จน กระทั่งถึงปัจจุบัน ที่ไม่มีสินค้าเป็นชิ้นเป็นอันให้หยิบจับ แต่เป็นไฟล์ ดิจิตอลที่ล่องลอยซื้อขายกันในอากาศธาตุ เทคโนโลยี ดิ จิ ต อลเปลี่ ย นแปลงวงการเพลงอย่ า งหนั ก เฮี ย ฮ้ อ เฝ้าติดตามทุกความเคลื่อนไหวและพยายามน�าพาองค์กรอาร์เอสให้ เปลี่ยนแปลงตามไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อเพลงถูกปลดปล่อย

10 ปีที่แล้วก่อนที่โลกจะเข้าสู่ยุคดิจิตอลค่ายเพลงทั่วโลกจะคอยท�า หน้าที่เป็นผู้คอนโทรลทุกอย่าง ผมบอกได้เลยว่า ค่ายเพลงเล่นบทเป็นผู้ ชี้น�า ชี้แนะ ก�ากับผู้บริโภค มีอ�านาจถึงขั้นก�ากับตลาดก็ได้ พอเข้าสู่ยุค ดิจิตอลมันไม่ใช่แบบนั้นโดยสิ้นเชิง ผู้บริโภคเป็นผู้เลือก เป็นผู้ตัดสินใจ เขามีอิสระมาก เทคโนโลยีดิจิตอลมาปลดปล่อยตรงนี้ ภาษาของผมใช้ค�าว่า “ปล่อย” หลังจากที่ค่ายเพลงกดผู้ฟังมานาน ทีนี้ก็สนุก ผูบ้ ริโภคเขาคว้าทุกอย่างได้กเ็ กิดช่องทางใหม่ คือดิจติ อล เพลงกลาย เป็นไฟล์ พอเกิดช่องทางใหม่ พวกเขาก็มีความต้องการที่ยิบย่อยขึ้น ย้อน กลับไป 10 ปีที่แล้ววงการเพลงทั่วโลกแนวเพลงถูกแยกไว้ไม่เกิน 3 แนว

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


ป๊อบ ร็อก แดนซ์ แต่พอคนฟังเพลงถูกปลดปล่อย ผูบ้ ริโภคทลายกรอบเดิม ทิง้ พวกเขามีความต้องการทีห่ ลากหลายมากขึน้ จากเดิมทีแ่ นวเพลงมีไม่ กี่แนว ผ่านมาไม่กี่ปีก็มีแนวเพลงเป็นสิบแนว หรือว่าเป็นร้อยแนว คุณลองสังเกต....วันนี้อุตสาหกรรมเพลงเกิดค�านิยามแนวเพลงใหม่ โดยน�าดนตรีแนวนัน้ มาผสมกับดนตรีแนวนีท้ ไี่ ม่เชือ่ ว่าจะผสมกันได้ ก็ผสม กันได้ นั่นคือในมุมของผู้บริโภค ส่วนในมุมของค่ายเพลง 10 ปีที่ผ่านมาไม่เฉพาะเมืองไทย ค่ายเพลง ทั่วโลกเจ๊งหมด เป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ไม่เจ๊งก็ต้องมารวมกิจการกัน สิ่งที่เกิดขึ้นกับวงการเพลงมันเร็วมาก ส�าหรับประเทศไทย ทุกคนต้อง มาถามผม ว่าเฮียเดือดร้อนไหม? ผมตอบ “เดือดร้อนมาก!!” เพราะค่าย เพลงเคยพึ่งพาแต่การขายแผ่นเป็น Physical Product เราโตมากับการ ขายซีดี ความย่อยยับทางธุรกิจ ค่ายเพลงทั่วโลกไม่อยากให้เกิด เราทุก คนพยายามต่อต้าน อยากรักษาอ�านาจการชี้น�าผู้บริโภคไว้ แต่ก็ท�าแบบ นั้นไม่ได้อีกต่อไปแล้ว อาร์เอสท�าธุรกิจมา 30 ปี ในช่วง 20 ปีแรก เราก็ร�่ารวยมา เติบโตมา กับการปัม๊ แผ่นขาย มันสนุก คุน้ เคย ในประเทศไทยมีผลกระทบอยู่ 2 ด้าน 1. เจอแผ่นปลอมระบาด มีแผ่นเอ็มพีสามเกลื่อนเมือง 2. พอโลกไอทีเข้า มาผูบ้ ริโภคกลายเป็นผูล้ ะเมิดเสียเอง เมือ่ ก่อนมีคนมาขโมยของเราไปขาย ลูกค้าเรา แต่เทคโนโลยี ณ วันนี้ ท�าให้ลูกค้าเราเป็นผู้ขโมยเอง

เพลงเป็นอุตสาหกรรมที่ถูกเทคโนโลยีดิจิตอลเล่นงานหนักที่สุด เร็ว ทีส่ ดุ รุนแรงทีส่ ดุ ส่วนอุตสาหกรรมอืน่ ยังน้อย เช่น ภาพยนตร์ถกู ผลกระทบ น้อยกว่า เพราะหนังยังมีความเป็นไลฟ์สไตล์ทตี่ อ้ งไปชมในโรงภาพยนตร์ จอใหญ่ แต่เพลงไม่ใช่ เพลงคือสิ่งที่คุณน�าติดตามตัวไปที่ไหนก็ได้ ถึงเป็นที่มาว่าท�าไมค่าย เพลงทั่วโลกที่แข็งแรงมาก ร�่ารวยมากถึงเจ๊ง หรือล่มสลายเต็มไปหมด

ถมบ่อน�้ำเดิม มองหำบ่อใหม่

มีเรือ่ งสนุกๆ ใกล้ๆ ตัว ทีผ่ มชอบเล่าให้เพือ่ นฟัง ผมชอบพาลูกไปเทีย่ ว ทีป่ ระเทศญีป่ นุ่ ประจ�าทุกปี พวกเขาชอบไปซือ้ เครือ่ งใช้ไฟฟ้าและแกดเจ้ท ใหม่ๆ มีอยู่ปีหนึ่ง ผมสังเกตเห็นว่าเครื่อง CD Walkman ไม่มีขายอีกแล้ว ทัง้ ทีท่ กุ ๆ ปีทผี่ า่ นมา เขาจะออกรุน่ ใหม่ แต่ปนี นั้ เดินหาเท่าไรก็ไม่เจอ น่าจะ ประมาณปี พ.ศ.2546-2547 ผ่านไปแค่ปเี ดียวถึงกับหาซือ้ CD Walkman ไม่ได้ ในญีป่ นุ่ เริม่ มีเครือ่ งเล่นขนาดเล็กเท่านิว้ โป้ง เรียกว่า MP3 Player ผม ซือ้ มา 2,000 บาท พวกเราก็ตนื่ เต้นมาก มันใส่เพลงเข้าไปได้เป็นพันเพลง ผมรู้ตั้งแต่วันนั้น ว่าแนวโน้มใหม่ก�าลังเดินทางมาถึงผมแล้ว เมื่อเทคโนโลยีเป็นแบบนี้ อาร์เอสก็เหลือ 2 ทาง คือ จะสู้หรือว่าจะ ถอย ผมมองในมุมผู้บริโภค ไม่มีเหตุผลอะไรเลย ที่พวกเขาจะไม่รับกับ สิ่งใหม่สิ่งนี้ สินค้าเบา เล็ก พกพาไปไหนก็ได้ ใส่ไฟล์เพลงได้มหาศาล จะ

Timeline: Digital Music ค.ศ.2005 สมาคมอุตสาหกรรมค่ายเพลงของสหรัฐฯ หรือ (RIAA) รายงาน ค.ศ. 1981 โซนี่วอล์คแมนวางจ�าหน่ายครั้งแรก และ ว่า CD is Over! (ซีดีตายแล้ว !) ในประเทศไทยก็ถึงยุคที่ริงโทนขายได้ ประสบความส�าเร็จในตลาดอยู่นานประมาณ 20 ปี มากกว่าซีดี ถึงแม้มันจะไม่ใช่เทคโนโลยีดิจิตอล แต่มันน�าเพลงออก ค.ศ. 2006 แผ่น MP3 ใน IT Mall เริ่มซบเซาเพราะพ่ายแพ้แก่ ไปทุกที่ ทุกเวลา และเป็นพื้นฐานของแกดเจ้ทดิจิตอล เทคโนโลยีใหม่อย่าง BitTorrent ทั้งหลาย ที่ก�าลังจะเกิดขึ้นตามมา ค.ศ. 2007 เดือนเมษายน Apple ค.ศ.1989 ในเมืองผู้ดีคาสเซตต์เทปขายได้ 83 ล้านตลับ ประกาศว่า iPod เครื่องที่ 100 ล้าน แต่ในปี 2004 ทั้งประเทศอังกฤษขายคาสเซตต์ได้ 9 แสน ถูกขายไปเรียบร้อย ตลับ เป็นยุคตกต�่าของเทปคาสเซตต์ก็ว่าได้จากนั้นมันก็ ค.ศ. 2008 YouTube ได้กลาย เริ่มเสื่อมความนิยม เป็นคลังมิวสิควิดีโอที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีเอ็มวีและคอนเสิร์ต ค.ศ. 1993 ซีดีเพลงกลายเป็นสินค้ายอดนิยมในโลกท�าเงิน ศิลปินให้ชมทะลุ 200 ล้านคลิป สร้างพฤติกรรมชอบ ระดับดับเบิล-ดับเบิลมิลเลี่ยนดอลลาร์แต่อีก 10 ปีต่อมาปี แต่ไม่อุดหนุนแก่ผู้บริโภคในวงกว้าง ค.ศ.2003 อุตสาหกรรมเพลงทั่วโลกก็ถูกโจมตีอย่างหนัก ค.ศ.2009 – 2010 iTunes ประกาศ ด้วยเอ็มพีสาม และการละเมิดดาวน์โหลดทางเน็ตได้รับความ ว่าขายเพลงไปแล้ว 1 หมื่นล้าน นิยมสูงสุด ท�าค่ายเพลงเจ๊งเป็นว่าเล่น ไฟล์เอ็มพีสามเป็น ดาวน์โหลด รูปแบบบีบอัดไฟล์เสียงที่จดสิทธิบัตรครั้งแรกโดยสถาบัน ค.ศ. 2011 อุปกรณ์สื่อสารพื้นฐาน Fraunhofer Institut ในเยอรมนี ความโดดเด่นของมัน คือ ย่อไฟล์เพียงให้เล็กลง โทรศัพท์มือถือ Gadget ต่างๆ รวม ส่งผ่านทางอี-เมล์ได้ แต่ได้ความคมชัดใกล้เคียงไฟล์จากแผ่นซีดี ถึง Tablet ทุกชิ้นในท้องตลาดล้วน ค.ศ. 2002 สตีฟ จ๊อบส์นอกจากจะคิดค้น iPod แล้ว เขา มีฟีเจอร์ ฟังเพลงและเล่นไฟล์เพลงดิจิตอลได้เป็นคุณสมบัติพื้นฐาน ศิลปินแจ้ง ยังด�าเนินโปรเจกต์ร้านขายเพลงออนไลน์ iTunes ประเดิม เกิดได้แม้ไม่ต้องมีซีดีเพลงวางขาย หรือ 9 เดือนแรก สตีฟ จ็อบส์ ขายเพลงได้ 430 ล้านดา ช่องทางโปรโมทอื่น เพราะพวกเขาใช้ วนโหลด iTunes มีอัตราก้าวหน้าขายเพลงได้ 50 ล้าน พื้นที่สื่อสารกับแฟนเพลงผ่าน โซเชียล ดาวน์โหลด ในทุกๆ 90 วัน นับเป็นการเปิดประตูสู่ยุค เน็ตเวิร์ก ดิจิตอลดาวน์โหลดเต็มขั้น ค.ศ. 2003 - 2004 โลกตกอยู่ในสภาวะ Burning CD-R แผ่นเปล่าขายได้มากกว่า แผ่นจริง ผู้คนลงทุนซื้อ Rom–CD มาถึงวันนีมีหลายคนเริ ้ มจ�าไม ่ ได ้ งสุดท ้ ายเมื ่ ่ แล ้ ว้ วาซื ่ อซีดีเพลงครั ้ อไร Writer มาติดตั้งเพื่อจะเบิร์นแผ่นกันเอง 10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


เลือกใส่เป็นเพลงๆ ก็ได้ ตอนนัน้ โทรศัพท์มอื ถือทีฟ่ งั เพลงได้ยงั เดินทางมา ไม่ถึงด้วย MP3 Player เป็นสเต็ปแรก ผมมองกรณี ศึ ก ษาเรื่ อ งกล้ อ งดิ จิ ต อลกั บ กล้ อ งฟิ ล ์ ม ถื อ ว่ า เป็ น ปรากฏการณ์คล้ายคลึงกัน และเกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกัน เวลานั้น Kodak กับ Fuji ก็มีสองทางเลือกเหมือนกับเรา คือ 1. จะบังคับให้ผู้ บริโภคใช้ฟิล์มต่อไป หรือว่า 2. คุณจะ Go Digital ไปกับผู้บริโภค ผมเอง เป็นผู้บริโภค ก็เลือกกล้องดิจิตอล ชอบถ่ายต่อ ไม่ชอบลบทิ้งได้เลย มัน ง่ายและสะดวก ผมกลับมาจากญี่ปุ่นเที่ยวนั้น มีการบ้านให้ขบคิดหลายเรื่อง กระแส มันเกิดแล้วที่นั่น และมันก�าลังจะมาถึงเราที่น่ีแน่นอน เราก็มานั่งประชุม กัน อาร์เอสต้องเปลี่ยน ผมต้องทุบหม้อข้าวตัวเอง ขายโรงงานผลิตซีดี ทิ้ง เลิกสายงานผลิต อาร์เอสเคยโตมาแบบ Production Base เราโต มากับการผลิตเทป แผ่นซีดี ผลิตเอ็มวี ผลิตภาพยนตร์ คนในอาร์เอส เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิต แต่ด้วยกระแสของดิจิตอลท�าให้ผมต้อง เปลี่ยนองค์กรจาก Production Base เป็น Creative Base ถือเป็นการ เปลี่ยนแปลงแบบ Totally Change ของเรา เราใช้เวลาไป 3 ปี ถือเป็นช่วงที่อาร์เอสขาดทุนเยอะที่สุด เราท�าธุรกิจ เพลงมา 20 กว่าปีไม่เคยเป็นแบบนี้ ถ้าจะให้เปรียบ ก็เหมือนเป็นการถม บ่อน�้าเดิมทิ้ง แล้วไปหาบ่อน�้าใหม่ มีการคุยกันเยอะว่า บ่อเก่าถึงน�้าจะ เหือดแห้ง แต่ก็พอมีน�้าให้เรากิน บ่อใหม่ยังไม่มีอะไรเลย เรากล้าพอหรือ เปล่า ผมตัดสินใจว่าเราต้องไป ระหว่างที่ทุบบ่อเก่าทิ้ง เราก็ต้องอดอยาก แต่เราก็ต้องกล้า อาร์เอสต้องสร้างองค์กรใหม่ ท�าองค์กรให้มีคนน้อย ตัว เบาที่สุด ทีมโปรดักชั่นเปลี่ยน ไปเป็นฟรีแลนซ์ ผมมาลงทุนกับเรื่องไอที เยอะมาก เราจะสร้างองค์กรให้มคี นไอทีเยอะ เริม่ ท�าเทรนนิง่ พนักงานทีจ่ ะ พรีเซนต์ในอาร์เอสอย่างน้อยต้องใช้ Power Point ตารางงานต้องออนไลน์ แม้กระทั่งการลางานก็ต้องเขียนใบลาแบบออนไลน์ 3 ปีนั้นผมท�างานหนักที่สุดในชีวิต เหนื่อยที่สุด ผลประกอบการไม่ดี ขาดทุนไป 600 ล้านบาท ที่ขาดทุนหนักที่สุด คือการเอาซีดีที่อยู่ในสต็อก มาทุบทิ้งทั้งหมด อาร์เอสมีซีดีอยู่ 10 ล้านแผ่น ในวันที่ผมยังโกหกตัวเอง ผมก็บอกว่านีค่ อื สินทรัพย์ ถ้าเราขาย 1 แผ่นก็ตกหลายสิบบาท คูณเข้าไป เป็นเงินเท่าไร แต่ในโลกแห่งความจริง พวกมันขายไม่ได้แล้ว โลกเปลี่ยน ไปแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่เราจะโกหกตัวเองต่อไปให้เสียเวลา ในขณะที่เราขาดทุน เราก็ลงทุนเพิ่มด้านไอที ซื้อคอมพิวเตอร์มา ให้พนักงานใช้กันมากขึ้น จากเดิมที่ทัศนคติของคนในองค์กร คิดว่า คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องของฝ่ายไอทีอย่างเดียว ฉันไม่ได้เกี่ยว แต่ผมบอก ว่าคุณต้องเกี่ยวแล้วล่ะ ผมพยายามจะให้การใช้คอมพิวเตอร์ในองค์กร เป็นหนึ่งคนต่อคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่อง ผมสร้างเรื่องของออนไลน์มิวสิคสโตร์ตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่อง ใหม่มาก จนมีคนปรามาสว่าอาร์เอสเดินเร็วไป บางคนเดาว่าเรื่องเพลง อาร์เอสไม่เอาแล้ว ถอดใจแล้ว เขาก็พูดกันไปเรื่อย วันนั้นพูดได้ สิ่งที่ผม ท�ามันเป็นวิชั่น วิชั่นเป็นเรื่องที่ต้องดูกันยาวๆ 4-5 ปี ซึ่งผมอาจจะผิดก็ได้ เวลาผ่านไป อาร์เอสโตขึน้ อย่างรวดเร็ว ใช้คนน้อยลง ผลประกอบการ ดีขึ้น โมเดลนี้เราก็แฮปปี้ ผมประกาศว่าตั้งแต่ปีนี้ อาร์เอสจะเข้าสู่ยุคทอง เพราะเมื่อก่อน มาร์จิ้นจากการขายแผ่นตกประมาณ 5-10% แต่เดี๋ยวนี้ เราขายดิจติ อล มาร์จนิ้ สูงถึง 65% และต่อไปถ้าเราท�าให้มนั โตขึน้ อีก มาร์

ทุกคนต้องมาถามผม ว่าเฮียเดือดร้อน ไหม? ผมตอบ “เดือดร้อนมาก!!” เพราะ ค่ายเพลงเคยพึ่งพาแต่การขายแผ่นเป็น Physical Product เราโตมากับการขายซีดี ความย่อยยับทางธุรกิจ ค่ายเพลงทั่วโลก ไม่อยากให้เกิด เราทุกคนพยายามต่อต้าน อยากรักษาอ�านาจการชี้น�าผู้บริโภคไว้ แต่ก็ท�าแบบนั้นไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

จิน้ จะขึน้ ไป 70-80 % เพราะมันไม่มตี น้ ทุนการผลิตอะไรอีก เราสร้างเพลง ฮิตเสร็จ ท�าเอ็มวี เราก็เอาเพลงเข้าไปใส่ไว้ที่เซิร์ฟเวอร์เท่านั้น ง่ายมาก ประหยัดมาก ทุกอย่างอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแค่นั้นจบ เปรียบเทียบกับเมื่อก่อน เราต้องลงทุนสร้างโรงงาน น�าเข้าเครื่องจักร เม็ดพลาสติก ขึน้ กระบวนการโรงงาน ท�าแผ่นสแตมเปอร์ แผ่นต้นแบบเพือ่ จะปัม้ แผ่นตามมา ระหว่างนัน้ ก็ตอ้ งไปเข้าโรงพิมพ์พมิ พ์ปก พอพิมพ์เสร็จ ปกเสร็จ ซีดีเสร็จ ก็ต้องมานั่งเสียบใส่กล่อง มีรถไปรับจากโรงงาน เพื่อ ขนส่งไปกระจายสินค้าให้แผงเทป ฝ่ายบัญชีคอยเก็บเงิน ปัจจุบันกระบวนการแบบนี้หายไป อาร์เอสมีลูกค้าเป็นล้านๆ คนทั่ว ประเทศ แต่เราขายผ่าน 3 บริษัทเท่านั้น คือ AIS, TRUE, DTAC

Fully Digital Music

อาร์ เ อสใช้ โ มเดลการท� า เพลงที่ เ รี ย กว่ า “Fully Digital Music“ กระบวนการดิจิตอลตั้งแต่ต้นน�้าจนถึงปลายน�้า ค�าจ�ากัดความสั้นๆ ก็คือ การท�าเพลงให้ผู้ฟังในยุคดิจิตอลฟัง พอคนท�างาน ศิลปิน นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ โปรโมเตอร์เข้าใจโมเดลนี้แล้วก็ง่ายขึ้น เวลาท�างานก็สั้นลง เราต้องตอบค�าถามใหม่ ว่าคนฟังเพลงยุคดิจิตอลจ�าเป็นต้องฟัง 10 เพลงหรือไม่ ?? ไม่ใช่แล้ว !! คนแต่งเพลงเปลีย่ นวิธคี ดิ ได้แล้วว่า คุณไม่ตอ้ งรอแต่งเพลงให้ครบ 12 เพลง เพราะคนฟังเพลงในยุคดิจติ อลเขาจะฟังแต่เพลงฮิตเท่านัน้ เราก็นา� โจทย์และค�าตอบนีก้ ลับมาทีฝ่ า่ ยผลิตว่า คุณจงท�าทีละเพลง และท�าเพลง ฮิตอย่างเดียว ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าจะท�าเพลงให้ใครฟัง ลูกค้าคุณอยู่ที่ไหน เขาฟังด้วยเครื่องมืออะไร เวลาคุยในห้องประชุม ผมไม่จา� เป็นต้องรูเ้ รือ่ งไอทีทงั้ หมด ลูกน้องผม เก่งไอทีมาก แค่นนั้ พอแล้ว เพราะถ้าทุกคนเก่งไอทีกนั หมด เวลามองอะไร

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


ก็จะมองจากมุมไอทีและมุมนักธุรกิจ ผมขอไม่เก่งไอที และผมจะมองใน มุมของผู้บริโภค เวลาลูกน้องมาพรีเซนต์งาน ผมมองในฝั่งผู้บริโภคก่อน เรือ่ งบางเรือ่ งไม่ตอ้ งคิดเยอะ ให้มองในมุมผูบ้ ริโภค ผูบ้ ริโภคจะคิดแค่ 3 เรื่อง สะดวก ถูก และดี แค่นั้นเองไม่มีอย่างอื่น ด้านรายได้ของศิลปิน อาร์เอสคิดสวนทางกับคนอื่น เพราะคนอื่นคิด ว่า เมื่อขายเพลงล�าบาก ก็ต้องไปคิดค่าใช้จ่ายกับตัวศิลปินมากขึ้น เวลา ศิลปินรับงาน ก็เลยต้องหักค่าตัวศิลปินที่ 35% แต่อาร์เอสไม่คิดแบบนั้น วันนี้ศิลปินของอาร์เอสทั้งหมดรับงานอิสระ อาร์เอสไม่หัก เพราะเราคิด ว่าเราสร้างศิลปินหนึ่งคนขึ้นมา รายได้ส่วนนี้ต้องเป็นของเขา เพื่อจะได้ อยู่ด้วยกัน ถ้าศิลปินอยู่ไม่ได้ ค่ายเพลงก็อยู่ไม่ได้ ในระยะยาวค่ายเพลง ก็จะล้ม ศิลปินอาร์เอสจึงแฮปปี้มาก เราสร้างเพลงฮิต เขาก็เอาเพลงฮิต ไปแสดง เราสร้างต้นน�้าที่ดี เขาเป็นปลายน�้าก็เป็นปลายน�้าที่ดี

ผู้ฟังวันนี้

เมื่อโลกเข้าสู่ยุคดิจิตอล พฤติกรรมการเสพเพลงของมนุษย์ก็มากขึ้น เพราะง่ายขึ้น เร็วขึ้น อิสระขึ้น คุณสามารถฟังเพลงได้ทุกเวลา ทุกที่ที่คุณ ต้องการ ทุกประเภทแนวเพลงทีค่ ณ ุ ต้องการ มันอยูใ่ นมือ อยูใ่ นความรูส้ กึ อยู่ในความต้องการของผู้บริโภค ส�าหรับค่ายเพลงที่พร้อม ก็ยุคสมัยนี้ก็คือโอกาส ส�าหรับค่ายเพลงที่ ไม่พร้อม ยุคสมัยนี้ก็คือหายนะ คุณจะถูกผู้บริโภครุมกิน เพราะผู้บริโภค เป็นทั้งลูกค้าและเป็นทั้งศัตรู ผมเพิ่งแถลงข่าวเมื่อเดือนที่แล้ว ถึงวิสัยทัศน์และแผนงาน ว่าวันนี้ ศัตรูและคูแ่ ข่งของอาร์เอสมีเพียงคนเดียว ไม่ใช่ใคร เขาคือผูบ้ ริโภคนัน่ เอง หน้าที่ของเรา คือเปลี่ยนเขาจากศัตรูให้มาเป็นลูกค้าเรา เปลี่ยนมากก็ได้ มาก ไม่ตอ้ งไปมองใครทีไ่ หน ผมบอกกับลูกน้องว่า วันนีใ้ ห้มองลูกค้าอย่า ละสายตา แต่คู่แข่งนี่นานนานช�าเลืองมองทีก็พอ เริ่มต้นมองลูกค้าในกลุ่มมือถือก่อน ลูกค้าของอาร์เอสจะมี 2 กลุ่ม 1. กลุม่ ทีบ่ ริโภคเพลงอาร์เอสผ่านโมบายล์ดาวน์โหลด วันนีเ้ ราท�าได้คอ่ นข้าง ดี พวกเสียงเรียกสาย ริงโทน หรือดาวน์โหลดเพลงได้เต็มเพลง ละเมิดเรา ยากเพราะว่าเซิร์ฟเวอร์อยู่ที่เรา 2. กลุ่มที่ฟังเพลงอาร์เอสบนสื่อออนไลน์ ทั้งบนคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ต้องยอมรับว่าเราได้แค่ 5% ของทั้งหมด สมมติมีคนฟังเพลงอาร์เอส 100 คน มีคนที่ซื้อกับเรามีเพียง 5% อีก 95% คือไม่ได้จ่ายเงิน เช่น ฟังบน YouTube หรือไปดูดกันบน 4Shared ยกตัวอย่างกรณีลา่ สุด มีเพลงหนึง่ ของอาร์เอสชือ่ เพลง “แค่ทรี่ กั ” ของ วง 321 ติดยอดวิวบน YouTube ประมาณ 7 ล้านวิว สูงที่สุดในค่ายเมื่อปี ที่แล้ว แต่เพลงนี้เราขายได้ราว 1 แสนดาวน์โหลดเท่านั้น

เวลาคิด...คิดใหญ่ไว้ก่อน ถ้าไม่ได้ใหญ่มา ก็ยังได้รองใช่ไหม แต่ถ้าคิดรองตั้งแต่ต้น เราก็ได้แค่รองอยู่นั่นแหละ

ในวันนี้ เพลงหนึง่ ๆ เราขายได้ทะลุ 1 แสนดาวน์โหลด เราก็แฮปปีม้ าก แล้ว เรามาคิดกันภายในว่าถ้าเราท�าได้แค่ 1% ของ YouTube ความส�าเร็จ ของเราจะเป็น 100% ทันที ดึงมาได้ความส�าเร็จของเราจะเป็น 100% ทันที ผมมีแนวทางและมีวิธีการที่ไม่เหมือนกับคนอื่น 1. เราไม่มีมาตรการ การใช้กฎหมาย 2. ไม่มีเรื่องไปปิดกั้น 3. ไม่มีเรื่องไปปิดเว็บ เพราะผมไม่ เชื่อเรื่องปิด โลกยุคนี้ถ้าใครคิดจะปิดเว็บ มันก็ผิดตั้งแต่คิดแล้ว ตอนที่ทั่วโลกมีการจัดจ�าหน่ายดาวน์โหลดเพลงออนไลน์ ยังมีระบบ DRM คือ ดาวน์โหลดไปแล้วจะฟังได้แค่ 5 เครือ่ ง ดาวน์โหลดไปแล้วส่งต่อ ไม่ได้ น�าไปก็อปปีต้ อ่ ไม่ได้ อาร์เอสเป็นเจ้าแรกของโลกทีป่ ลดระบบ DRM สุดท้ายค่ายเพลงในต่างประเทศก็ยอมปลด อาร์เอสท�าอย่างนั้นไม่ได้เก่ง กว่าคนอื่น แต่เรารู้ธรรมชาติของเทคโนโลยีที่เราไม่สามารถไปปิดกั้นได้ ถ้าอาร์เอสจะขายเพลงออนไลน์แล้วยังล็อก DRM คุณอย่าไปท�าเลยดีกว่า

DRM

Digital Rights Management คือ ระบบการจัดการสิทธิ์ของเจ้าของ ข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบดิจิตอล นั่น คือเจ้าของข้อมูล จะสามารถ ก�าหนดสิทธิ์ให้กับผู้ฟังหรือผู้ชม ได้ เช่น การป้องกันการคัดลอก การจ�ากัดซึ่งการเข้าถึงข้อมูลบน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น

เปลี่ยนศัตรูมำเป็นเพื่อน

กลางเดือนกุมภาพันธ์ทผี่ า่ นมา อาร์เอสได้เปิดตัวบริการ “ซูเปอร์เหมา ออนไลน์” คือความพยายามและการทดลองท�าอย่างไรให้ผู้บริโภค ที่เคย ดาวน์โหลดเพลงของอาร์เอสแบบเถื่อน มาดาวน์โหลดมันที่เว็บ Pleng. com เว็บนีจ้ ะเป็นทีแ่ รกทีค่ ณ ุ เห็นคอนเท็นต์ของอาร์เอสก่อนใคร ถ้าไปหา ทีอ่ นื่ คุณจะช้ากว่า เพราะเราเป็นเจ้าของคอนเท็นต์เราคอนโทรลได้ เราตัง้ ราคาวันละ 1 บาท เก็บเดือนละ 29 บาทเท่ากับว่าคุณจ่ายวันละบาทเดียว ดาวน์โหลดเพลงไม่จา� กัด คุณอาจจะสงสัยว่าผมจะได้กา� ไรตรงไหน แค่วนั ละบาท ดาวน์โหลดไม่อั้น ลองคิดตรงข้าม ว่าปัจจุบนั ผมก็ไม่ได้เงินจากคุณอยูแ่ ล้ว แม้วนั ละสลึง ผมก็ยังไม่ได้เลย เพราะคุณไปฟังฟรี บน YouTube หมด แต่ถ้าคุณมาอยู่ กับผม ขอให้จา่ ยเพียงวันละบาท เท่ากับว่าผมส�าเร็จ 100% แล้ว จากเดิม ที่ผมไม่เคยได้เงินจากพวกคุณแลย คุณจ่ายหนึ่งบาท คุณดาวน์โหลดได้ เต็มที่ ได้คอนเท็นต์ก่อนใคร ช่องทางการช�าระเงินก็ง่ายแสนง่าย ไปจ่าย กับโอเปอร์เรเตอร์โทรศัพท์มอื ถือ ทีส่ า� คัญคือผมได้ตอ้ นรับคนจ�านวนหนึง่ มาอยู่ในรั้วบ้านของผมแล้ว เขาจะรู้สึกภูมิใจที่ได้สนับสนุนศิลปินที่เขารัก วันต่อไปเขาจะบอกต่อกลุ่มเพื่อนของเขา ว่าจ่าย 29 บาท จะถึง ศิลปินที่เขารัก ทัศนคติของเขาก็จะเริ่มเปลี่ยน การท�าเรื่องนี้ต้องใช้เวลา เราก็ต้องอดทน ก่อนจะมาถึงวันนี้ อาร์เอสทดลองมาหลายรูปแบบ เราท�าส�ารวจอย่าง จริงจัง พบว่ากลุม่ ทีล่ ะเมิดมี 2 กลุม่ คือกลุม่ ทีล่ ะเมิด 100% เราอย่าไปคาด

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


คุณรู้ไหม? ว่าผมไม่ได้ใช้ช่องฟรีทีวี โปรโมทเพลงของอาร์เอสมา 3 ปีแล้ว คุณจะไม่ค่อยเห็นมิวสิควิดีโอของอาร์เอส ทางทีวีแบบถี่ๆ มาสักระยะหนึ่ง คุณอาจ จะสงสัยว่าศิลปินบางคน เพลงบางเพลง อาร์เอสดังได้อย่างไร

หวังกับคนกลุ่มนี้ ไปเปลี่ยนแปลงเขาไม่ได้ เพราะเขาคิดว่าการละเมิดได้ ส่งไฟล์ต่อไปได้ เป็นเรื่องของความภูมิใจ คนกลุ่มนี้มีอยู่ทั่วโลก ไม่เฉพาะ เมืองไทย ส่วนอีกกลุ่มหนึ่ง คือละเมิดเพราะความสะดวก เขาไม่อยากไป เดินหาซื้อแผ่นซีดี เขาแค่เสิร์จหาเจอ แล้วก็ละเมิด เพราะมันสะดวก กลุ่ม นีถ้ อื ว่าเป็นความผิดของค่ายเพลงเองด้วย ทีไ่ ม่ได้สร้างความสะดวกสบาย ให้กับผู้บริโภค การจะจูงใจคนกลุ่มนี้ คือเราต้องมีทางเลือกที่ดีกว่า เสนอ ขายราคาไม่แพง และดูแลเขาดี อย่างบริการ *339 ซูเปอร์เหมาออนไลน์ เราเก็บเขาเดือนละ 29 บาท เราเชื่อว่าเขาไม่รู้สึกอะไรเลย เขาอยู่บนโลกออนไลน์แต่จ่ายเงิน ผ่านโทรศัพท์มือถือ ได้พาสเวิร์ดทาง SMS คุณก็เอารหัสไปล็อคอินเพื่อ ดาวน์โหลดได้ทันที นี่คือสิ่งที่ลูกค้าคุ้นเคย ผมเอาความสะดวกไปให้ เอา ความพิเศษไปให้ในราคาที่ถูกกว่า ผมเชื่อว่าระบบนี้จะช่วยอุดรูรั่วของ อุตสาหกรรมเพลงได้

สุนทรียะของเพลงไม่เคยเปลี่ยน

ทีก่ ล่าวมาทัง้ หมด เป็นเรือ่ งของความเปลีย่ นแปลงทางธุรกิจในวงการ เพลง ในขณะที่เพลง เนื้อเพลง เมโลดี้ ความไพเราะ ผมเชื่อว่ามันไม่ได้ เปลี่ยนแปลงไป หลายคนคิดว่าเพลงสมัยนี้ต้องท�าท่อนฮุคให้โดนๆ ให้ฮิตๆ เพราะเรา จะได้เอาไปท�าริงโทนเสียงเรียกเข้า ผมว่ามันไม่จริงเลย เพราะเพลงทุก เพลง ทุกยุคทุกสมัยก็ต้องมีท่อนฮุคทั้งนั้น และเพลงจะเริ่มฮิตจากท่อน ฮุคก่อนอื่นใด เพลงสุนทราภรณ์ ยุคซิกส์ตี้ เซเว่นตี้ เราก็ฟังกันมาแต่ท่อน ฮุคทั้งนั้น คนฟังเพลงไม่เคยเปลี่ยน คนท�าเพลงก็ไม่เคยเปลี่ยน เขายังต้องท�า เพลงให้ดตี อ่ ไป เพลงเหมือนเดิม ไม่เกีย่ วกับยุคสมัย ไม่เกีย่ วกับเทคโนโลยี ช่องทางการท�าธุรกิจต่างหากที่เปลี่ยนไป เพลงเมื่อ 30 ปีที่แล้ว กับเพลง วันนีย้ งั เหมือนเดิม เหมือนแก้วใบนีก้ ย็ งั เป็นแก้วเหมือนเดิม แต่ในอดีตเรา ต้องส่งไปยีป่ ว้ั แต่เดีย๋ วนีพ้ อเรากดปุม่ คนทางบ้านก็สามารถกดปุม่ ได้เลย เป็นอย่างนั้นแล้ว ผมถูกถามบ่อยๆ ว่า คิดถึงวันชื่นคืนสุขของวงการเพลงยุคก่อนบ้าง ไหม ผมยังคิดถึงเพลงในยุคเก่าๆ แต่เพลงจะเพราะหรือไม่เพราะไม่เกี่ยว

กับเรื่องดิจิตอล ยุคไหนเพลงก็เพราะส�าหรับคนยุคนั้นไป ผมอยู่ในวงการ นี้มาตั้งแต่ยุคแผ่นเสียงสีด�า ยุคเพลง 8 แทร็ค ยุคแผ่นเสียง ต่อมาเป็น คาสเซตต์ ซีดี วีซีดี จนวันนี้ทุกสิ่้งทุกอย่างหายไป กลายมาเป็นดิจิตอลใน เซิรฟ์ เวอร์ ผมเองก็ไม่รดู้ ว้ ยซ�า้ ว่าเซิรฟ์เวอร์ตงั้ อยูท่ ไี่ หน ไม่จา� เป็นต้องรูด้ ว้ ย ส�าหรับผม เพลงอยู่บนอากาศ ผมฟังเพลงตามยุคสมัย ตอนที่ท�าเพลงวัยรุ่น ผมก็ฟังเพลงวัยรุ่นได้ ตอนที่ท�าเพลงลูกทุ่ง ผมก็ฟังเพลงลูกทุ่งได้ ถ้าบอกไป คุณจะเชื่อไหม ว่า ผมชอบฟังเพลงกามิกาเซ่ เนื้อหาในบทเพลงวัยรุ่นก็ยังพูดเรื่องเดียว คือความรัก ส�าหรับผม ความรักมีหลายอารมณ์ ความรักไม่ได้มีแค่จีบกันแล้วอกหัก อาจจะมีแง่ มุมของการคิดถึงกันก็ได้ เหงาก็ได้เราท�าเพลงให้กับผู้ที่มีความรักฟัง เขา หรือเธอจะเป็นใครก็ได้ บทเพลงเป็นเรื่องของคนทุกคน เราท�าเพลงรักที่ อยู่ในแง่มุมของคนฟังเสมอ อาร์เอสประสบความส�าเร็จเรื่องเพลงวัยรุ่น นี่เป็นจุดแข็งของเรามา ตลอด ตลาดวัยรุ่นเป็นตลาดที่ยังไม่มีใครสู้เราได้ เราท�ามานาน ตลาด อื่นเราก็แข็งแรง เช่นการสร้างตลาดลูกทุ่งวัยรุ่น คนไม่เชื่อว่าวัยรุ่นจะฟัง เพลงลูกทุ่ง ผมเป็นนักการตลาด เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยน มาร์เก็ตติ้งก็ต้อง เปลี่ยน เมื่อก่อนนักการตลาดจะมองผู้บริโภคที่เพศ อายุ เกิดนิยามว่า 19 ปีลงไปคือวัยรุ่น 20 ขึ้นมาคือวัยรุ่นตอนปลาย ตอนนี้ผมต้องทุบต�ารานั้น ทิ้งหมด การมองวัยรุ่นวันนี้ต้องมองที่ไลฟ์สไตล์ เรามีวัยรุ่นอายุ 19 อยู่ที่ สยามสแควร์ เรามีวยั รุน่ อายุ 19 อยูท่ นี่ วนคร วังน้อย เรามีวยั รุน่ อายุ 19 อยู่ ทีโ่ รงงาน อยูห่ น้าคอมพิวเตอร์ วัยรุน่ มีไลฟ์สไตล์ทหี่ ลากหลาย เราถึงมีคา่ ย กามิกาเซ่เพื่อเสิร์ฟเพลงให้วัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกัน เราก็มี ค่ายอาร์สยามทีต่ อบกับวัยรุน่ อีกกลุม่ หนึง่ ท�าให้อาร์เอสสามารถสร้างงาน ทีต่ อบโจทย์วยั รุน่ ทุกกลุม่ ได้แม่นย�า อาร์เอสก็สร้างเพลงฮิตในทุกเซกเมนท์ ทีส่ า� คัญ ตลาดวัยรุน่ ก็เป็นตลาดทีต่ อบรับดิจติ อลมากทีส่ ดุ เพราะพวก เขาเป็นกลุ่มที่อยู่กับเทคโนโลยี 95% ของผู้ที่ใช้ดิจิตอลทั้งหมด

The Long Tail

กลยุทธ์การสร้างความหลากหลาย ของสินค้า หรือ บริการ ที่ไม่มีขีดจ�ากัด กฎ Long Tail ท้าทายความคิดนักขายที่เชื่อมา ตลอดว่า “สินค้าขายดี 20% สามารถสร้างยอด ขายได้ถึง 80%” หรือไม่ก็ “ยอดขาย 80% มาจาก ลูกค้าชั้นดีเพียง 20%” กฎลองเทล นั้นตรงข้าม กับกฎ 80/20 และให้แนวทางใหม่ “ยอดขายของ บรรดา สินค้าที่ขายไม่ดี เมื่อรวมกันแล้วอาจจะสูง กว่ายอดขายของ สินค้า ขายดี ก็ได้” สามารถอ่านเพิ่มเติมที่ หนังสือ The Long Tail เขียนโดย Chris Anderson แปลโดย ประวัติ เพียรเจริญ ส�านักพิมพ์ เนชั่นบุ๊ค

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


การตอบโจทย์ผู้ฟังในยุคที่เข้าสู่ยุคดิจิตอลเป็นเรื่องของ Long Tail ตลาดที่ Mass มากๆ นั้นไม่มี จะมีแต่ตลาดที่ยิบย่อย ในอดีตผมเชื่อใน Mass Market แต่วันนี้ตลาด Mass เริ่มหด ไม่ใช่การสร้างศิลปิน 1 คนให้ คนทุกคนฟังหรือชื่นชอบ เมื่อก่อนอาร์เอสสร้างศิลปิน 1 คนก็รู้จักทั่ว เช่น เต๋า-สมชาย เข็มกลัด ตอนนั้นคนที่อายุ 30 ลงไปจนถึง 5 ขวบต้องรู้จัก เต๋า-สมชายหมด ผมสร้างเจมส์ เรืองศักดิ์ ทุกคนรู้จักหมด มาวันนี้ คนแต่ละเซกเมนท์ แต่ละไลฟ์สไตล์ ก็จะมีศิลปินประจ�าเซกเมนท์ไป อาร์เอสสร้างกามิกาเซ่มาเพื่อตอบโจทย์กับวัยรุ่นกลุ่มนี้เท่านั้น คนที่พ้นวัยรุ่นไปแล้วอาจจะไม่รู้จักกามิกาเซ่เลย ตลาดกลุ่มที่ตอนรับ กามิกาเซ่อาจเป็นตลาดทีเ่ ล็ก แต่วา่ มันพอ แค่นเี้ ราก็ประสบความส�าเร็จแล้ว

Content is King

ในโลกยุคดิจติ อล คนทีจ่ ะชนะในเกมส์นี้ คือเจ้าของคอนเท็นต์ เปรียบ ดิจิตอลเป็นถนน เรามี 3G หรือ 4G มันก็คือซูเปอร์ไฮเวย์ คนที่จะชนะ คือ คนที่ผลิตรถดีและสวย อาร์เอสในตอนนี้เรามีเพลง เพลงที่ดีก็คือรถที่ดี กวาดตามองไปในตลาด ว่ามีคอนเท็นต์อะไรบ้างที่คนทั้งโลกเสพกัน อยู่ ได้แก่ เอนเตอร์เทนเมนต์ นิวส์ เกมส์ สปอร์ต แค่นั้นเองที่เป็นคอน เท็นต์กระจายอยู่ในสื่อต่างๆ ข่าวเราคงไม่ไปเพราะเราไม่ถนัด เกมส์ก็ไม่ ไปเพราะเราไม่ถนัด บันเทิงเรามีอยู่แล้วคือเพลง กีฬาเรายังไม่มี แต่ผม เผอิญเป็นคนชอบฟุตบอล ชอบดูมาตัง้ แต่เด็ก ข้อดีของคอนเท็นต์ประเภท นีค้ อื เราไม่ตอ้ งสร้าง เพราะสร้างอย่างไรก็ไม่นา่ สนใจ สูร้ ะดับโลกไม่ได้อยู่ แล้ว คอนเท็นต์ฟุตบอลมีอยู่แล้ว แค่ไปซื้อมา ผมก็ไปโฟกัสเลย ฟุตบอลที่ คนดูกันมีอะไร ฟุตบอลโลก ฟุตบอลยูโร ผมมองเบอร์หนึ่งเลย เด็ดยอด มาก่อนเลย

ส่วนธุรกิจหนังสือค่อนข้างล�าบาก ยากกว่าเพลง เพราะต้นทุนสูง ค่า จัดจ�าหน่ายสูง ด้วยโครงสร้างแบบนีท้ า� ให้ตน้ ทุนการผลิตสูง วันนีห้ ลายคน เริม่ มองช่องทางการจัดจ�าหน่ายแบบดาวน์โหลดออนไลน์ แต่ผมไม่เชือ่ ว่า ธุรกิจหนังสือจะตายเหมือนธุรกิจเพลง ธุรกิจหนังสือไม่ตายแต่ไม่โต การ เติบโตของหนังสือจะไปอยู่ในส่วนของออนไลน์แทน หนังสือไม่ตายเพราะว่ายังมีเรื่องของไลฟ์สไตล์การอ่าน ที่ต้องการ สัมผัส การหยิบจับ คอนเท็นต์ของหนังสือจะกลายเป็นสิ่งส�าคัญ กลาย เป็นสิ่งที่คุณสามารถน�าไปต่อยอดได้ เอาคอนเท็นต์ตัวเดียวกันไปน�า เสนอผ่านช่องทางอื่น เป็นหลักการเดียวกันกับเพลง ที่คนไม่ได้ฟังเพลง จากซีดี แต่ว่ายังฟังเพลง วันที่ผมท�าเรื่องดาวน์โหลดออนไลน์ ผมคุยกับ ทีมว่าเราจะล�าบากในช่วงนี้ แต่ถ้ามันไปถึงตรงนั้นจริง นี่คือสปริงส์บอร์ด ของอาร์เอส

Content Provider

ผู้ที่ท�าหน้าที่บริหารจัดการเนื้อหาในรูปแบบมัลติมีเดียต่างๆ ครอบคลุมทั้ง ภาพและเสียง ตัวหนังสือ โดยผู้ที่เป็น Content Provider จะมีความสามารถ ที่จะกระจายเนื้อหาที่มีอยู่นั้นไปทางสื่อช่องทางต่างๆ ได้ครอบคลุมกว้าง ขว้าง เช่น บนโทรศัทพ์มือถือ บนหน้าจอทีวี บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ และ การรวมไปถึงสื่ออื่นๆ ทั้งในรูปแบบของ Offline และ Online เป็นต้น

เวลาคิด...คิดใหญ่ไว้ก่อน ถ้าไม่ได้ใหญ่มา ก็ยังได้รองใช่ไหม แต่ถ้า คิดรองตั้งแต่ต้น เราก็ได้แค่รองอยู่นั่นแหละ ก่อนหน้านี้ ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก อยู่ในมือเจ้าของ สถานี เขาจะคิดในมุมหนึ่ง คือการขายโฆษณา แต่พอมาอยู่ในมือของ Content Provider อย่างเรา เราก็จะคิดในมุมของนักบริหารเนือ้ หา เราจะ หารายได้จากรอบๆ เป็นการบริหารเนือ้ หาแบบ 360 องศา คอนเท็นต์บาง คอนเท็นต์มคี ณ ุ ค่าในตัวของมันเอง เพียงแค่ทา� ยังไงให้มนั มาอยูใ่ นมือเรา คอนเซ็ปต์ของยุคนี้ คือ คอนเท็นต์เดียวไปได้หลายช่องทาง ถ้าเปรียบ เมื่อก่อน เรามีรถสปอร์ตดีมากเลย แต่ก็มีถนนเดียว วิ่งได้ทางเดียว แต่ เดีย๋ วนีย้ คุ ดิจติ อลมีถนนเพิม่ มากมาย ยิง่ ถ้ามี 3G มาเท่ากับว่าผมมีไฮเวย์ ใหม่ วงการหนังสือเมือ่ ก่อนคนเขียนคนเดียว ลงทีเ่ ดียวแล้วจบ แต่วา่ วันนี้ ไม่ใช่แล้วคนเขียนคนเดียว คอนเท็นต์เดียวแต่ลงหลายช่องทางได้ ลงบน มือถือ ลงบน App ออกคลิป โลกของดิจติ อลอยูท่ กี่ ารบริหารคอนเท็นต์ ยิง่ ท�าได้มากคุณก็ได้มาก เรื่องสร้างคอนเท็นต์ คุณต้องตั้งต้นว่าคุณจะสร้าง คอนเท็นต์ที่ดีก่อน คอนเท็นต์ที่ดีเหมือนมีรถสปอร์ต ถ้าคุณมีรถที่ไม่ดี ถึง มีถนนสิบสายคุณก็วิ่งไปไม่ได้สักสาย ในส่วนของภาพยนตร์ เป็นธุรกิจทีผ่ มจะลดบทบาทลง ให้ความส�าคัญ น้อยที่สุด เพราะมีความเสี่ยงสูง ก�าไรยากที่สุด ผมมีน�้า มีปุ๋ยอย่างจ�ากัด ต้องน�าไปใส่ไปเลี้ยงต้นไม้ที่โตเร็วกว่า เก็บดอกออกผลได้ดีเร็วกว่า

วงกำรเพลงกับโซเชียลเน็ตเวิร์ก

โซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในตอนนี้ ภาษาใน อดีต คือ “Word of Mount” บอกต่อกันแบบปากต่อปาก ตัง้ แต่ผมท�าธุรกิจ มาหลายสิบปี ผมคิดว่าไม่มีวิธีการโฆษณาใดจะดีไปกว่ากระแสปากต่อ ปาก คนดูหนังเรื่องหนึ่งดี เขาก็มาบอกต่อ ดีกว่าการท�าโฆษณา วันนี้การ ท�าโซเชียลเน็ตเวิรก์ ก็คอื การสือ่ สารแบบปากต่อปาก แต่มนั คือปากเดียวที่ ส่งต่อไปถึงทุกปาก หนึ่งปากต่อหนึ่งแสน หนึ่งปากต่อห้าหมื่น อาร์เอสให้ความส�าคัญกับโซเชียลเน็ตเวิร์กมาก โดยส่วนตัวผมมี Twitter ผมบอกให้ศิลปินอาร์เอสมี Facebook และ Twitter ผมไม่ได้ไป สั่งให้เขาต้องมี แต่ผมจะบอกถึงประโยชน์และความส�าคัญของเครือข่าย สังคมออนไลน์ มันจะดีต่ออาชีพการเป็นศิลปินของคุณ ชีวิตคุณแข็งแรง และดีได้ ต้องมีแฟนเพลงสนับสนุน การที่คุณจะมีแฟนเพลงสนับสนุน โซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นเครื่องมือเดียวในยุคนี้ ที่คุณจะคุยกับแฟนเพลงทุก คนได้สะดวกและรวดเร็ว

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


พอนานๆ เข้าศิลปินอาร์เอส 100 คนมี Twitter ผมก็มี แล้วในทุกหน่วย การท�างานของอาร์เอสก็ต้องมี Twitter เพือ่ เป็นกระบอกเสียงให้กบั ลูกค้า เปิดให้ผู้บริโภคเข้ามาพูดว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร น�าไปปรับปรุงได้อีก จะเห็นได้ว่าแต่ละภาคส่วนมีเน็ตเวิร์กของตัวเอง สิ่งที่เราจะท�าต่อไป คือ การเชื่อมศิลปินแต่ละคน มีผู้ติดตาม Follower มารวมกัน ถ้าสามารถน�า เครือข่ายแต่ละเครือข่ายมาเชื่อมกัน ก็จะกลายเป็นคอมมูนิตี้ที่ใหญ่มาก อาร์เอสพิสจู น์เรือ่ งนีม้ าพอสมควร คุณรูไ้ หม? ว่าผมไม่ได้ใช้ชอ่ งฟรีทวี ี โปรโมทเพลงของอาร์เอสมา 3 ปีแล้ว คุณจะไม่ค่อยเห็นมิวสิควิดีโอของ อาร์เอสทางทีวแี บบถีๆ่ มาสักระยะหนึง่ คุณอาจจะสงสัยว่าศิลปินบางคน เพลงบางเพลง อาร์เอสดังได้อย่างไร เมื่อก่อนมิวสิควิดีโอของอาร์เอสออนแอร์ในฟรีทีวี ออกเช้า - ออกเย็น เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ผมยกเลิกหมด คนงง แต่ท�าไมอาร์เอสยังสร้างเพลงฮิตได้ เรือ่ ยๆ มียอดดาวน์โหลดสูง ท�ารายได้ตอ่ เนือ่ ง ผมใช้สอื่ ออนไลน์ ราคาถูก เข้าถึงตรงกลุ่มเป้าหมาย ฟรีทีวีแพงแสนแพง แถมผังรายการก็ไม่แน่นอน อีก ไม่รวู้ า่ จะเปลีย่ นผังเมือ่ ไร ต้นสูง ใช้ คนเยอะ การเลิกส่วนนี้ประหยัดค่าใช้ จ่ายมหาศาล พักหลังผู้บริโภคจะชม เอ็มวีเพลงอาร์เอสผ่านสื่อออนไลน์ ผ่านสื่อแซทเทอร์ไลท์ทีวี ส�าหรับ @HereHorRS ผมเล่น มา 2 ปี บอกได้ โ ดยไม่ ขั ด เขิ น เลย เพราะผมเล่ น แบบเป็ น ตั ว ตนของ ผมเอง ตั้งแต่ที่ได้มาสัมผัสกับสังคม โซเซียลเน็ตเวิรก์ แล้วได้ประสบการณ์ ที่ดีๆ Twitter ให้ผม 2 มุม ในมุมส่วน ตัว มันช่วยให้รีแลกซ์ขึ้น เราได้แชร์ เรามีเพื่อนมากขึ้นโดยไม่มีข้อจ�ากัด เป็นเพื่อนที่ไม่ต้องเจอกันก็ได้ แค่คุยภาษาเดียวกัน รับฟังกันก็เป็นเพื่อน กันได้ ในมุมธุรกิจ Twitter เป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพสูง ราคาถูก เข้าถึงคน มหาศาล อย่างตอนที่มีประเด็นข่าวเรื่องฟิล์ม-รัฐภูมิ Twitter ก็คือที่แถลง ข่าวของผมโดยไม่ต้องผ่านสื่อ ไม่ต้องเชิญส�านักข่าวไหน ไม่ต้องผ่าน พีอาร์ ตืน่ เช้ามาผมอยากจะแถลงอะไร ผมก็ทวีตเข้าไป สือ่ เขามาเฝ้ารออยู่ แล้ว พอเกิดข่าวลือต่างๆ ผมอยากจะชี้แจง ผมก็ทวีตบอกได้ Twitter เป็น เครื่องมือที่ดีมาก ผมมีคนติดตามใกล้จะ 50,000 คนแล้ว ผมใช้ชีวิตง่ายๆ ตอนเช้ามาก็นั่งหน้าจอทีวีดูข่าว แล้วก็จะทวีต ก็ทวีต เรื่องทั่วไป แต่จะไม่แตะเรื่องการเมืองเลย ทั้งที่เป็นคนชอบการเมืองมาก แต่ผมจะพูดเรือ่ งใกล้ตวั ทวีตเรือ่ งทีอ่ ยากพูด ทวีตเช้าแล้วก็ไม่ทวีตอะไรอีก ถ้าไม่มเี รือ่ งจะพูด ผมเข้างานเช้า ตอนแปดโมงกว่าๆ หกโมงเย็นก็กลับบ้าน จะทวีตอีกทีตอนสองทุ่ม เป็นช่วงเวลาที่ผมดูทีวี และอยู่บนโต๊ะท�างานอีก ครั้งหนึ่ง ตอนนี้ใช้ Blackberry ทวีต อีกเครื่องก็พก iPhone4

Speed พนักงานอาร์เอสจะรูแ้ ล้วว่าต้องท�างานเร็วขึน้ คล่องตัว ผมพูด ให้ลกู น้องฟังเสมอว่า “ใครขึน้ เร็วนัง่ หน้า ใครขึน้ ช้านัง่ หลัง ใครขึน้ ไม่ทนั .... เฮียก็ไม่สามารถรอได้” Style เราเป็นอุตสาหกรรมที่อยู่กับไลฟ์สไตล์ พนักงานอาร์เอสต้องรู้ แล้วว่าในโลกวันนีค้ นมีสไตล์เป็นอย่างไร เขาสนใจอะไร ลีฟวิง่ อยูก่ บั อะไร Synergy การท�างานร่วมกันทุกๆ ฝ่าย ผมเจตนาจะไม่พูดเรื่อง Size หรือว่าขนาดขององค์กร เพราะเรื่องขนาดขององค์กรเป็นความส�าคัญ ระดับรองๆ เมื่อเทียบกับการท�างานอย่างประสานสอดคล้องกัน ค�าถามคือ ในยุคนี้ที่มีค่ายเพลงเล็กๆ เกิดขึ้นมากมาย แล้วจะมีผล ต่ออุตสาหกรรมเพลงอย่างไรบ้าง อย่างทีผ่ มมอง คือค่ายเพลงจะเล็กหรือ ใหญ่ เรือ่ งของขนาดขององค์กรไม่ใช่เรือ่ งส�าคัญ ทุกองค์กรมีโอกาสประสบ ความส�าเร็จเท่ากัน ทัว่ โลกมีศลิ ปินเล็กๆ เกิดขึน้ ได้งา่ ย ค่ายเพลงเล็กๆ เกิด ขึ้นได้ง่ายด้วย ศิลปินบางคนไปดังบน YouTube ดังจากโซเชียลเน็ตเวิร์ก มียอดวิวใน YouTube มหาศาล แต่พวกเขาคิดจบหรือยังว่าจะหารายได้ อย่างไร เรื่องพวกนี้คุณต้องมองให้จบ ชอบมีคนมาถามผมว่า แล้วธุรกิจ เพลงในยุคดิจติ อลอีก 10-20 ปีขา้ งหน้า จะเป็นอย่างไร? ผมตอบ ผมมองไม่ไกล ขนาดนั้น และผมก็ไม่สนใจด้วยว่าใคร จะมองได้ไกลขนาดไหน ผมขอแค่วันนี้ ผมเกาะติดไปกับโลกได้ โลกหมุนเร็วแค่ ไหน มีอะไรใหม่ๆ ผมก็รู้ พร้อมจะก้าว ไปกับมัน แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว 20 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ขอ แค่ให้ผมได้ไปยืนอยู่ตรงนั้นด้วย ผมก็ ภูมิใจและพอใจ ในอดีตแผนธุรกิจผม จะท�า 3 ปีล่วงหน้า แต่ปัจจุบันนี้ วิชั่น เราวางได้ 3 ปีก็จริง แต่แผนธุรกิจต้องปรับทุก 3 เดือน ต้องมาปรับปรุง แก้ไข เพิม่ เติมพัฒนา องค์กรต้องยืดหยุน่ ขึน้ การท�าธุรกิจเวลาทีเ่ กิดวิกฤต ผูบ้ ริหารจะมองว่า ถึงเวลาทีเ่ ราจะ ลด เลิก เพิม่ ขยาย อะไร เรือ่ งนีผ้ มก็คดิ แต่คดิ โดยไม่ตอ้ งรอวิกฤต เนือ่ งจากเทคโนโลยีดจิ ติ อลของวันนี้ ท�าให้สปีด ของทุกอย่างเร็วขึ้น เรื่องพวกนี้ ลด เลิก เพิ่ม ขยาย เราต้องคิดกันทุกเดือน การเป็นซีอีโอในยุคดิจิตอล ท�าให้ต้องคิดแบบนี้ ทุกเดือนผมดูบัญชี ของอาร์เอส ผมก็จะมองว่าส่วนงานนี้ต้องเพิ่ม งานส่วนนี้ต้องลด ต้องเลิก เราต้องกล้า มันถึงได้ก้าว มันไม่ใช่รอให้เกิดวิกฤตก่อน ผมเปรียบให้ลูก น้องฟังว่า เหมือนผมมีต้นไม้ ที่มีปุ๋ย มีน�้าอยู่จ�ากัด เมื่อก่อนอยู่กันสบาย ผมตื่นเช้ามาเอาน�้าเอาปุ๋ยไปรดทั้ง 10 กระถางได้ แต่วันนี้เราคิดแบบนั้น ไม่ได้ ตื่นเช้ามาต้องดูว่ามีกระถางใบไหนต้องทิ้งไป เพื่อเอาปุ๋ย เอาน�้าไป ดูแลต้นที่แข็งแรงกว่า เพราะผมมีปุ๋ย มีน�้าจ�ากัด สุดท้ายถ้าให้ผมสรุป โลกของดิจิตอล คือ โลกของผู้บริโภค ไม่มีอะไร ซับซ้อนเลย ในแง่ของผม อาร์เอสยังท�างานเหมือนเดิม มองอะไรก็ยัง มองจากมุมผู้บริโภค เราก็ยังต้องท�าเพลงให้ประชาชนชอบมากที่สุด ต้อง สร้างศิลปินออกมาให้ดที สี่ ดุ สร้างเพลงให้ดี ให้มคี วามแข็งแรง เทคโนโลยี ดิจิตอลเป็นเพียงช่องทาง เป็นตัวเชื่อมระหว่างเพลงกับผู้บริโภคให้พบกัน ง่ายขึ้น เร็วขึ้น สะดวกขึ้น แค่นั้นเอง

ผมมีแนวทางและมีวิธีการที่ไม่เหมือนกับ คนอื่น 1. เราไม่มีมาตรการการใช้กฎหมาย 2. ไม่มีเรื่องไปปิดกั้น 3. ไม่มีเรื่องไปปิด เว็บ เพราะผมไม่เชื่อเรื่องปิด โลกยุคนี้ ถ้าใครคิดจะปิดเว็บ มันก็ผิด

Speed Style & Synergy

โลกของดิจิตอลเป็นโลกของ SME โดยแท้ ความใหญ่ไม่ส�าคัญอีกต่อ ไป ทุกคนมีความสามารถในการประสบความส�าเร็จเท่าเทียมกัน เมือ่ 3 ปี ที่แล้วผมให้กลยุทธ์อาร์เอส คือ 3S ประกอบด้วย Speed Style Synergy

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


156


อัจฉรา กิจกัญจนาสน์ กรรมกำรผู้จัดกำร บริษัท กันตนำ แอนิเมชัน สตูดิโอ จ�ำกัด

ศิลปินผู้ใช้คอมพิวเตอร์เป็นพู่กัน ความน่ารักของการ์ตูนก้านกล้วย 1 และ 2 คงจะท�าให้หัวใจของคุณ พองโต ความตื่นเต้นระทึกของฉากแอคชั่นในหนังเรื่องอินทรีแดง คงจะ ท�าให้คุณตื่นตะลึงจนตาค้าง เป็นเพียงส่วนเสี้ยวเล็กๆ ของผลงานจากกันตนา แอนนิเมชั่น สตูดิ โอ บริษัทรับท�าคอมพิวเตอร์กราฟิกและแอนิเมชันฝีมือเยี่ยม พวกเขาอยู่ ในบ้านเล็กๆ ท่ามกลางหมู่ตึกยักษ์ใหญ่ของกันตนา ท�างานเป็นฟันเฟือง เล็กๆ ช่วยเติมเต็มให้ทั้งองค์กรสร้างสรรค์ความบันเทิงแห่งนี้ อัจฉรา กิจกัญจนาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันตนา แอนนิเมชั่น สตูดิโอ จ�ากัด คือคนรักการ์ตูน ที่เติบโตขึ้นมาเป็นศิลปินผู้ใช้คอมพิวเตอร์ เป็นพู่กัน เธอผลักดันให้เกิดการ์ตูนแอนิเมชันฝีมือคนไทย ที่สร้างจาก เซิร์ฟเวอร์ฟาร์มเล็กๆ แต่มีคุณภาพทัดเทียบกับระดับฮอลลีวู้ด

ส่วนเสี้ยวเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความตั้งใจ

กันตนา แอนนิเมชั่น สตูดิโอ เป็นตัวจิ๊กซอว์เล็กๆ ตัวหนึ่งในเครือ กันตนา ที่จะมีส่วนช่วยเติมเต็มงานสร้างสรรค์ต่างๆ ในด้านภาพ ให้มี ความน่าสนใจมากขึ้น ดิฉันเข้ามาท�างานที่นี่ด้วยความรักในงานศิลปะ โดยเฉพาะความรักในการ์ตูน ตอนเป็นเด็กก็ชอบวาดรูป ชอบเรื่องการใช้ แสงเงา และถือเป็นความใฝ่ฝันตั้งแต่วัยเด็กที่จะวาดภาพการ์ตูนเหล่านี้ และท�าให้มันเคลื่อนไหว มีความสนุกสนาน มีความประทับใจ นับตั้งแต่เรียนจบด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ที่เมืองไทย แล้วไปเรียน ต่อด้าน Computer Graphics Design ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ถ้าจะให้ อธิบายสิง่ ทีร่ า�่ เรียนมา มันก็คอื การเป็นศิลปินทีใ่ ช้คอมพิวเตอร์เป็นเครือ่ งมือนั่นเอง แรกเริ่มเดิมที ตั้งใจจะเรียนด้าน Graphics Design เฉยๆ แต่

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


ในยุคนั้น Computer Graphics Design เริ่มมีบทบาทมากขึ้น จ�าได้ว่า ประทับใจภาพในรายการของ HBO เขาใช้เทคนิคท�าให้ตวั หนังสือลอยไป มา มีการเคลือ่ นไหวได้ ท�าให้รสู้ กึ ว่าสิง่ นีน้ า่ สนใจกว่า งานกราฟิกดีไซน์แต่ เดิมมันอยู่เฉยๆ ถ้าท�าให้มันสามารถเคลื่อนไหวได้ก็คงดีกว่า หลังจากเรียนจบก็กลับมาท�างานที่ประเทศไทย ได้ท�างานโฆษณา อยู่พักหนึ่ง ก่อนจะได้เริ่มท�าวิชวลเอฟเฟ็กต์ให้กับหนังไทย เรื่อง เกิดอีกที ต้องมีเธอ น�าแสดงโดย ทัช ณ ตะกัว่ ทุง่ นัน่ เป็นช่วงจังหวะทีก่ นั ตนาเริม่ ให้ ความส�าคัญกับงานด้านคอมพิวเตอร์กราฟิกอย่างจริงจัง ซึง่ ในช่วงแรกนัน้ งานคอมพิวเตอร์กราฟิกจะเป็นงาน Post Production คือการแก้ไขปัญหา ตกแต่ง และเพิ่มเติม จากสิ่งที่ถ่ายไปแล้ว เริ่มต้นจากการท�างานแบบศิลปิน ไม่ใช่นักบริหารที่ต้องดูแลบริษัท แบบนี้ สมัยแรกๆ นั้นก็แค่บริหารงานที่ท�าอยู่ของตัวเอง ไม่ต้องบริหารคน อื่น พอเริ่มท�างานเป็นโปรดิวเซอร์กลายเป็นว่าเราต้องรู้ทุกอย่าง พอไม่มี คนท�าก็ต้องท�าเองได้ สามารถแก้ไขงานให้ลูกค้าเองได้ รู้ว่าต้องแก้ไขตรง ไหน ตอนนี้เป็นคนควบคุมการการผลิตทั้งหมด ท�าเกือบหมดทุกอย่าง รวมทั้งคิดบทด้วย ทุกวันนี้มีความต้องการใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกเพิ่มขึ้น มาก ทีมงานของเราก็มากขึ้น จนกลายเป็นบริษัทกันตนา แอนนิเมชั่น สตูดิโอ อย่างในทุกวันนี้ สิ่งที่เคยคุยกับผู้บริหารเอาไว้ตอนที่เริ่มเข้ามาท�างาน ว่าเป้าหมาย ของตัวเองคืออยากท�าการ์ตูนของตัวเอง โดยใช้คอมพิวเตอร์ และในที่สุด ก็ได้เข้ามาท�าจริง เนือ่ งจากเป็นคนทีช่ อบการ์ตนู มีความผูกพันกับการ์ตนู เติบโตมาบนพื้นฐานในโลกของการ์ตูน ชอบดูหนังไซไฟ หนังแฟนตาซี มันคือความสนุก บวกกับเป็นคนออกแบบ จบด้านดีไซน์มาด้วย ท�าให้มี ความฝันที่อยากจะมีการ์ตูนเป็นของคนไทย ซึ่งในที่สุดก็ได้เป็นความจริง วงการแอนิเมชันและคอมพิวเตอร์กราฟิกของโลกเรา ก็เปลี่ยนแปลง ไปตามความรุดหน้าของเทคโนโลยี จากสมัยก่อนตอนทีด่ ฉิ นั เริม่ ต้นท�างาน ใหม่ๆ จ�าได้ว่าเราต้องใช้ Silicon Graphics ราคาเครื่องละ 3-4 ล้านบาท เพือ่ การประมวลผลด้านภาพอย่างหนักหน่วงขนาดนี้ ในยุคนัน้ มีคนใช้งาน เป็นอยูไ่ ม่กคี่ น กว่าจะหาคนมาท�างานด้านนีไ้ ด้ ต้องเป็นคนทีจ่ บจากเมือง นอกเท่านั้น ซึ่งก็มีอยู่จ�านวนไม่มากด้วย งานจึงรุดหน้าไปได้ช้า

Silicon Graphics

Silicon Graphics Computer Systems หรือ SGCS ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1981 โดย กลุ่มอาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด น�าโดย จิม คลาร์ก เพื่อสร้างคอมพิวติ้งโซลูชั่น ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ระดับไฮเอนด์ในท้องตลาด เครื่องซิลิคอนกราฟิกส์มีความสามารถสูง และถูกน�า ไปใช้ในค�านวนระดับสูง ประยุกต์ใช้ได้ในแวดวงต่างๆ ทั้งนักวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ รวมไปถึงในวงการฮอลลีวู้ด ที่ใช้ในการท�าวิชวล เอฟเฟ็กต์และหนังการ์ตูนแอนิเมชัน หนังที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขา เทคนิคพิเศษด้านภาพ ในช่วงปี ค.ศ. 1995–2002 ส่วนใหญ่ใช้เครื่อง ซิลิคอนกราฟิกส์ทั้งนั้น จนกระทั่ง มาถึงยุคปัจจุบัน ความสามารถในการ ประมวลผลภาพแบบสามมิติ ถูกน�าไปผนวกอยู่ในชิปของคอมพิวเตอร์ทั่วๆ ไป ผู้ใช้สามารถน�าคอมพิวเตอร์มาร่วมประมวลผลแบบคลัสเตอร์ได้ ความ จ�าเป็นต้องใช้งานเครื่องของซิลิคอนกราฟิกส์จึงค่อยๆ ลดลง

แต่ในปัจจุบัน เมื่อทุกอย่างเปลี่ยนไป เราเปลี่ยนมาใช้เครื่องที่ถูกลง และมีความหลากหลายยี่ห้อ ทั้ง Dell และ Mac ส่วนเซิร์ฟเวอร์จะใช้ของ IBM เทคโนโลยีเหล่านีใ้ ช้งานได้งา่ ยและราคาถูกลง ทุกคนจึงมีโอกาสได้ใช้ งาน มีโอกาสได้เรียนรู้ ท�าให้คนรุ่นนี้มีศักยภาพในการท�างานมากขึ้น เมื่อ ราคาทุกอย่างถูกลง การหาคนมาท�างานด้วยก็งา่ ยขึน้ ท�าให้เราท�างานได้ มากขึ้น และน้องๆ รุ่นนี้ก็มีฝีมือมากขึ้นด้วยเช่นกัน และสุดท้ายผู้บริโภค หรือผู้ชมของเรา ก็จะได้ดูของที่ดีขึ้นกว่ายุคก่อนมาก

เมื่อราคาทุกอย่างถูกลง การหาคนมาท�างาน ด้วยก็ง่ายขึ้น ท�าให้เราท�างานได้มากขึ้น และ น้องๆ รุ่นนี้ก็มีฝีมือมากชึ้นด้วยเช่นกัน และสุดท้ายผู้บริโภคหรือผู้ชมของเรา ก็จะ ได้ดูของที่ดีขึ้นกว่ายุคก่อนมาก

ความส�าคัญของแอนิเมชัน

ในความเห็นของดิฉัน งานคอมพิวเตอร์แอนิเมชันแยกเป็น 2 ทาง 1. วิชวล เอฟเฟ็กต์ คือการสร้างภาพด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ ในสิ่ง ที่คนจริงท�าไม่ได้ ท�าให้มันเกิดขึ้นบนจอ เช่นงานที่เราท�าให้กับหนังเรื่อง อินทรีแดง และกระดึ๊บ หลักในการท�าวิชวลเอฟเฟ็กต์ คือต้องนึกเสมอว่า เราไม่ใช่พระเอก เราเป็นตัวประกอบที่ช่วยส่งเสริมให้ภาพรวมของหนัง ดูสมจริง 2. การ์ตูนแอนิเมชัน คือการวาดการ์ตูนภาพเคลื่อนไหวทั้งเรื่องขึ้นมา ด้วยคอมพิวเตอร์ คือการถ่ายทอดจินตนาการออกมานอกหัวของเรา โดย ใช้คอมพิวเตอร์เป็นดินสอและพู่กัน สิ่งที่ดีของเทคโนโลยี คือมันท�าให้ทุกอย่างง่ายขึ้นส�าหรับเรา แน่นอน ว่าเราไม่ใช่ผู้สร้างคอมพิวเตอร์ และคอมพิวเตอร์ก็ไม่ใช่พระเจ้า เราคือ ศิลปิน มันจึงเป็นเพียงดินสอด้ามหนึ่งของเรา จากสมัยก่อนที่ใช้ดินสอ ก็เปลี่ยนมาเป็นการใช้คอมพิวเตอร์แทน เรียกว่าเปลี่ยนการใช้เครื่องมือ ของศิลปินทั้งโลก อย่างที่คนทั่วไปมักจะพูดกัน ว่าหนังจะดีหรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่กับ บทมากกว่า ปัญหาของหนังไทยในยุคปัจจุบันก็อยู่ที่บท อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อบทด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ว่าบทเขียนมา ให้ดีที่สุด แล้วเทคโนโลยีจะสามารถท�างานรองรับบทนั้นได้อย่างเต็มที่ ยกตัวอย่างเช่น ฉากปลงผมของพระสุพรรณกัลยา ในการ์ตูนเรื่อง ก้านกล้วยภาคสอง นี่ถือเป็นฉากส�าคัญของเรื่อง ที่แสดงให้เห็นถึงความ เสียสละของผูห้ ญิงไทย และเราตัง้ ใจจะสร้างความสะเทือนใจอย่างรุนแรง ต่อผู้ชม ด้วยการให้ผู้ชมเห็นภาพเส้นผมค่อยๆ ถูกตัด และค่อยๆ ร่วงหล่น ลง กว่าจะท�าได้ออกมาได้ตามที่เห็นในหนังนั้นยากมาก เราคิดหาวิธี หา มุมภาพ และใช้การประมวลผลด้านภาพอย่างมาก นั่นคือการที่เราน�า

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


เทคโนโลยีเข้าไปเสริมบท และเรียกว่าใช้เทคโนโลยีเข้าไปเสริมให้มนั ดีขนึ้ เทียบกับการท�าหนังการ์ตนู สมัยก่อน อย่างเรือ่ ง สุดสาคร ของครูปยุต เงากระจ่าง นัน่ แสดงให้เห็นถึงความวิรยิ ะอุตสาหะ ของคนในยุคก่อนจริงๆ ผิดกับพวกเราที่สร้างการ์ตูนในยุคที่สามารถ Ctrl-Z ได้ตลอดเวลา ดิฉัน ถือว่าการ์ตนู ไทยเรือ่ งสุดสาคร คือผลงานชัน้ ครู และคอยเอาไว้เตือนใจคน รุน่ หลัง ว่าคอมพิวเตอร์เป็นแค่เครือ่ งมือ อย่าไปหลงกับเทคโนโลยีใหม่มาก จนเกินไป ต้องรู้จักใช้ให้ถูก

สุดสาคร

ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยาวเรื่องแรกของประเทศไทย ก�ากับโดย ปยุต เงา กระจ่าง สร้างจากตอนหนึ่งในวรรณคดีไทยเรื่องพระอภัยมณี ของ สุนทรภู่ ตั้งแต่ตอนก�าเนิดสุดสาคร พบม้านิลมังกร สู้กับชีเปลือย ไปจนถึง การออกเดินทางตามหาพระอภัยมณี หนังเรื่องนี้ออกฉายครั้งแรกเมื่อ วันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2522 และประสบความส�าเร็จอย่างสูง ปยุต เงา กระจ่าง ถือเป็นบรมครูของวงการแอนิเมชันเมืองไทย บางคนขนานนามให้ เป็น “วอลท์ ดิสนีย์ เมืองไทย” เขาเสียเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ขณะมีอายุได้ 81 ปี

คนทุกวันนี้จะชินกับการถูกท�าให้นิสัยเสียด้วยเทคโนโลยี บางครั้งเรา ต้องพยายามดึงตัวเองกลับเข้ามา แต่จะให้กลับไปนัง่ วาดภาพทีละภาพก็ คงไม่ใช่ เพราะโลกไม่หมุนย้อนกลับ แต่ต้องรู้จักเก็บเรื่องราวดีๆ เหล่านั้น ไว้เป็นบทเรียน เตือนให้เราเดินวันนีใ้ ห้ดที สี่ ดุ เพราะการใช้เทคโนโลยีกม็ นั เหมือนกับการปฏิบัติตัวในชีวิตประจ�าวัน

ไม่ใช่ผู้คิดค้น แต่เป็นผู้ประยุกต์ใช้

ตอนที่เราเพิ่งท�าก้านกล้วยภาคแรกเสร็จใหม่ๆ ดิฉันได้เจอกับเพื่อน ชาวต่างชาติคนหนึ่ง ท�างานอยู่ในวงการฮอลลีวู้ด เขาบอกว่าเราน่าจะ เอาก้านกล้วยไปฉายให้ Pixar ดูบา้ ง ให้พวกนัน้ เห็นว่าถึงแม้เราจะมีกา� ลัง ท�าได้แค่นี้ แต่ผลลัพธ์ออกมาได้มากขนาดนี้ เพื่อนบอกว่าเขารู้สึกทึ่งใน ผลงานที่เราท�าจากเซิร์ฟเวอร์ฟาร์มเล็กๆ ที่เรามี โดยไม่ต้องพึ่งเทคโนโลยี มากมาย ก�าลังใจจากคนไทยที่ชื่นชมผลงานของเรา และจากผู้คนทั่วโลกที่ได้ มีโอกาสดู ท�าให้เราได้เรียนรู้ตัวเอง จุดแข็งและจุดอ่อนในการท�างานของ เรา ว่าเราควรจะท�างานต่อไปอย่างไร แน่นอนว่าเราไม่ได้ทนั สมัยทีส่ ดุ แพง ที่สุด ดีที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเชย ล้าหลัง เราขออยู่ทางสาย กลาง มีเทคโนโลยีใช้แบบปานกลาง พอดีๆ อย่ามากเกินไป อย่าน้อยเกิน ไป นั่นคือวิธีที่เราท�างานกันทุกวันนี้ การลงทุนไปกับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เป็นเรือ่ งหนักหนาส�าหรับคน

ไทยอย่างเรา ที่เวลาสั่งซื้อข้าวของเข้ามาลงแต่ละครั้ง ต้องจ่ายราคาเป็น ดอลลาร์ แต่ค่าจ้างของทีมงานทุกคนเป็นเงินบาท มันจึงไม่สมดุลย์กัน เลย ฉะนั้นเราต้องใช้สมองของเราให้มากที่สุดเท่าที่จะท�าได้เสียก่อน ใน การสร้างสรรค์และประยุกต์ใช้งาน เราไม่มสี ทิ ธิใช้เงินลงทุนได้ตามต้องการ เซิร์ฟเวอร์ฟาร์มเรายังไม่ใหญ่ มันเป็นแค่ฟาร์มเล็กๆ สิ่งที่ต้องท�า นอกจากการพัฒนาบทและไอเดียต่างๆ แล้ว เราต้องคิดแก้ปญ ั หาข้อจ�ากัด ทางเทคโนโลยี ต้องท�าอย่างไรจึงจะเค้นความสามารถของฮาร์ดแวร์และ ซอฟต์แวร์เหล่านี้ออกมาให้ได้มากที่สุด ในขณะทีบ่ ริษทั แอนิเมชันใหญ่ๆ ในฮอลลีวดู้ เขาไม่ตอ้ งห่วงเทคโนโลยี เลย เพราะผู้คิดค้นเทคโนโลยีทุกเจ้าในโลก ต่างแข่งกันคิดและพัฒนา ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ มาป้อนให้เขาใช้ เทคโนโลยีคอยเซิร์ฟช่วยพวก เขาตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม คิดว่านี่คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของแอนิเมชันจากคนไทย คนดูน่าจะสัมผัสได้จากผลงาน ว่าพวกเราท�างานอยู่จากสิ่งที่เรามี เท่าที่ เรามี ท�าอย่างพอเพียง เราไม่ใช่ผู้คิดค้นเทคโนโลยี แต่เป็นผู้ประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีที่มีอยู่

พวกเราที่สร้างการ์ตูนในยุคที่สามารถ Ctrl-Z ได้ตลอดเวลา ถือว่าการ์ตูนไทย เรื่องสุดสาคร คือผลงานชั้นครู และคอย เอาไว้เตือนใจคนรุ่นหลัง ว่าคอมพิวเตอร์ เป็นแค่เครื่องมือ อย่าไปหลงกับเทคโนโลยี ใหม่มากจนเกินไป ต้องรู้จักใช้ให้ถูก

ความเป็นไทยในแอนิเมชัน

“ความเป็นไทย” เป็นประเด็นที่ทีมงานของเราพูดคุยถกเถียงกันอยู่ นาน แน่นอนว่าการให้ช้างเป็นตัวเอก และการให้ตัวละครใส่ชุดไทย มัน ไม่ได้สะท้อนความเป็นไทยออกมาในแอนิเมชันของเรา ในช่วงแรกของการ พัฒนาบทส�าหรับก้านกล้วยภาคแรก ทีมงานเขียนบทเป็นฝรัง่ ทัง้ หมด เรา น�าบทมาอ่านกันอย่างละเอียด และคิดตรงกันเลยว่ายังไม่ใช่ความเป็นไทย ลองเปรียบเทียบกับแอนิเมชันจาก Ghibli ที่คนยอมรับเลยว่าเขา สะท้อนความเป็นญี่ปุ่นมากๆ ค�าถามคือท�าไมเรารู้สึกได้เลยว่ามันเป็น ญี่ปุ่น? ในทีส่ ดุ เราเลือกใช้การเล่าเรือ่ งทีไ่ ม่ใช่ไทยดัง้ เดิม แต่เป็นไทยร่วมสมัย มากขึ้น เราพบว่าคุณค่าความเป็นไทยในทุกวันนี้ อยู่ภายในตัวของเรา เอง คนส่วนใหญ่มักจะไปก�าหนดเอาเอง ว่าเป็นความเป็นไทยต้องเป็น ลายกนก ซึ่งนั่นเป็นเพียงสิ่งนอกตัว สิ่งในตัวหมายถึงสิ่งที่เราเป็นอยู่ใน

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


Studio Ghibli Inc.

สตูดิโอสร้างอะนิเมะหรือการ์ตูน แอนิเมชันของประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1985 โดย ฮายาโอะ มิยาซากิ และ อิซาโอะ ทาคาฮาตะ ใช้โลโก้เป็นรูปตัว คาแรกเตอร์การ์ตูน “โทโทโร่” จากแอนิเมชันเรื่องที่ได้รับความนิยมสูงสุด ของเขา เรื่อง My Neighbor Totoro ผลงานเรื่องอื่นๆ ที่มีชื่อเสียง ได้แก่ Castle in the Sky, Kiki’s Delivery Service, Spirited Away แอนิเมชัน ของจิบลิมักจะได้รับค�าชมเชยจากนักวิจารณ์ทั่วโลก และท�ารายได้สูงใน ประเทศญี่ปุ่นเสมอเมื่อออกฉาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่อง Spirited Away ที่ชนะรางวัลออสการ์สาขาหนังแอนิเมชัน ชื่อ จิบลิ มาจากชื่อเครื่องบินตรวจการณ์ของประเทศอิตาลี ในยุค สงครามโลกครั้งที่สอง มีความหมายว่าสายลมแห่งเมดิเตอร์เรเนียน

ชีวิตประจ�าวัน สิ่งที่เราท�าเป็นประจ�า เคยชิน จนแทบลืมนึกถึง ไม่สังเกต เพราะคิดว่านี่คือเรื่องธรรมดา ยกตัวอย่างเช่น การเป็นคนง่ายๆ อะไรก็ได้ของคนไทย สิ่งนี้ก็จะ สะท้อนออกอย่างมากทางความคิดของตัวละครหลายตัว รวมไปถึงกิริยา มารยาทและความเคารพผูใ้ หญ่ อย่างเช่นฉากพระนเรศวรแตะหัวช้างก้าน กล้วย ถ้าเป็นคนไทยจะรูว้ า่ ศีรษะเป็นของสูง และเราก็จะเข้าใจความรูส้ กึ ของฉากนีไ้ ด้อย่างลึกซึง้ สิง่ เหล่านีค้ อื เอกลักษณ์ความเป็นไทยทีแ่ ทรกอยู่ ในแอนิเมชัน ประเด็นปัญหาเรือ่ งเอกลักษณ์ความเป็นไทย ก็ปรากฏในหนังไทยไทย เช่นกัน มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง ว่าถ้าไม่ใช้นกั แสดงไทย ไม่มฉี าก หลังเป็นเมืองไทย เราก็แทบไม่รู้เลยว่านี่เป็นหนังของคนไทย แต่โดยส่วน ตัว ดิฉันคิดว่าหนังไทยก็มีความเป็นไทยแฝงอยู่เช่นกัน มันอยู่แนวความ คิดของตัวละคร เราต้องไปลองดูดีๆ จะเห็นว่าความคิดบางอย่างเมือง นอกเขาไม่มี วัฒนธรรมบางอย่างต่างชาติไม่มี ซึ่งมันซ่อนอยู่ และเรามัก จะมองข้าม ถ้าเป็นชาวต่างชาติมาดู เขาจะสังเกตเห็นได้ อย่างเช่นหนัง ไทยเรื่อง หมานคร ของคุณวิศิษฎ์ ศาสนเที่ยง ที่มีความเป็นสากลและมี ความเป็นไทยแฝงอยู่เยอะมาก ดิฉนั คิดว่าเรือ่ งของเอกลักษณ์ในงาน เราต้องใช้เวลาในการสัง่ สมและ ค่อยๆ ตกผลึก ญี่ปุ่นเองก็ใช้เวลาหลายสิบปี กว่าจะมีการ์ตูนแบบนี้ออก มาได้ เพราะทุกอย่างมันมีเรื่องของสังคมเข้ามาเกี่ยว เรื่องของการตลาด เข้ามาเกี่ยว มีเรื่องของต้นทุนมาเกี่ยว

พัฒนาการของแอนิเมชัน

พัฒนาการของแอนิเมชันนั้นแยกออกไปหลายแนวทาง แนวทางหนึ่ง คือย้อนกลับไปสูค่ วามเรียบง่ายแบบดัง้ เดิม อย่างเช่นงานแอนิเมชันใหม่ๆ ของญีป่ นุ่ ทีย่ อดเยีย่ มหลายเรือ่ ง ของสตูดโิ อ Ghibli ก็วาดภาพแบบสองมิติ เท่านั้น โดยส่วนตัว ดิฉันคิดว่าเป็นเพราะความอิ่มตัวของผู้ชมและตลาด ด้วย เมือ่ เขาดูงานแอนิเมชันทีภ่ าพสวยงามหวือหวามากๆ ก็อยากจะย้อน กลับไปดูงานแบบดั้งเดิม ที่ให้อารมณ์และความรู้สึกเฉพาะตัว อีกแนวทางหนึ่ง คือการพัฒนางานด้านภาพให้เหมือนจริงมากขึ้น

ไปเรื่อยๆ ยกตัวอย่างเช่นแอนิเมชันเรื่อง Final Fantasy และ Beowulf จากฮอลลีวู้ด ที่วาดจนแทบจะเหมือนคนจริงๆ มีหนวด มีเครา มีทุกอย่าง เหมือนจริง ซึ่งด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่ในทุกวันนี้ ก็พร้อมที่จะท�าให้งานที่ เหมือนจริงในระดับนั้นได้แล้ว แนวทางการพัฒนาของแอนิเมชัน คงเป็นประเด็นทีผ่ คู้ นในวงการนีท้ วั่ ทัง้ โลกก�าลังถกเถียงกันอยู่ ในขณะทีเ่ ทคโนโลยีกา้ วหน้าไปเรือ่ ยๆ ก็ขนึ้ อยู่ กับผูน้ า� มาใช้งานว่าเราจะมุง่ ไปทางไหนดี และมีบางคนทีน่ า� ประเด็นนีม้ า แสดงออก เช่นแอนิเมชันแถมเรื่อง Day&Night ที่ฉายเปิดเรื่อง Toy Story 3 ก็เป็นงานแอนิเมชันที่ผสมผสานงานสองมิติและสามมิติเข้าด้วยกัน ซึ่ง เป็นการผสมที่ค่อนข้างจะลงตัวเลยทีเดียว โดยส่วนตัว ดิฉันชอบการ์ตูนที่เป็นการ์ตูนจริงๆ คือภาพคาแรกเตอร์ การ์ตูนที่เป็นสัตว์ เป็นนก เป็นช้าง เป็นสัตว์ประหลาดต่างๆ ดิฉันไม่คิด ว่าเราต้องใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุด แพงที่สุด ใหม่ที่สุด เพื่อมาวาดการ์ตูนให้ เหมือนคน มิเช่นนั้นเราก็ท�าหนังที่คนเล่นจริงๆ ไปเลยจะคุ้มค่ากว่า ทีมงานของเราเคยคุยกันเล่นๆ ว่าเราน่าจะน�าเรือ่ งของมานะ มานี จาก แบบเรียนภาษาไทยสมัยก่อน มาท�าเป็นหนังการ์ตูน ดิฉันถามว่าท�าไมไม่ ใช้เด็กจริงๆ มาเล่นล่ะ ในเมือ่ เด็กจริงๆ น่ารักกว่า แล้วท�าไมเราต้องท�าเป็น แอนิเมชันด้วยล่ะ? ถ้าจะท�าแอนิเมชัน ก็ตอ้ งท�าอะไรทีเ่ กินจริง มีความเป็น แฟนตาซีเข้าไปอีก มีช้างพูดได้ มีโลกในจินตนาการ

เวลาสั่งซื้อข้าวของเข้ามาลงแต่ละครั้ง ต้องจ่ายราคาเป็นดอลลาร์ แต่ค่าจ้างของ ทีมงานทุกคนเป็นเงินบาท มันจึงไม่ สมดุลย์กันเลย ฉะนั้นเราต้องใช้สมอง ของเราให้มากที่สุดเท่าที่จะท�าได้เสียก่อน ในการสร้างสรรค์และประยุกต์ใช้งาน เรา ไม่มีสิทธิใช้เงินลงทุนได้ตามต้องการ

การน�าคอมพิวเตอร์กราฟิกมาวาดคน เหมาะกับการท�าวิชวลเอฟเฟ็กต์มากกว่า เพื่อใช้เป็นตัวเสริมในหนัง อย่างเช่นที่พวกเราวาด อนันดา เอเวอริง่ แฮม ขึน้ มาทัง้ ตัว ในบทอินทรีแดง เพือ่ แทนการใช้ผแู้ สดงเสีย่ งตาย ลดขัน้ ตอนการถ่ายท�า ประหยัดเงินสร้างเทคนิคระเบิด รักษาชีวติ นักแสดง หน้าทีข่ องเราคือท�าอย่างไร ให้ฉากทีเ่ ป็นไปไม่ได้ทจี่ ะสร้างขึน้ มาจริงๆ ตาม บทประพันธ์ ให้เกิดขึ้นจริงได้บนจอหนัง ดังนั้น ความสามารถของเทคโนโลยีที่เรามีอยู่ จึงใช้เป็นตัวเสริม เหมือนกับตัวประกอบของหนังเรือ่ งหนึง่ เท่านัน้ เอง การจะเอาคอมพิวเตอร์ กราฟิกมาสร้างภาพคนจริงๆ แล้วใช้ไปทั้งเรื่องนั้นถือเป็นเรื่องเกินความ จ�าเป็นส�าหรับประเทศเราที่ยังไม่ได้เป็นผู้คิดค้นและสร้างเทคโนโลยีด้วย

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


ตัวเอง และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อน�าเทคโนโลยีมาใช้มากๆ เพื่อโชว์พลัง มันจะท�าให้ขาดเสน่ห์บางอย่างของหนังไป ดิฉันดูหนังทุกแนว ดูละครทีวี อ่านหนังสือ อ่านการ์ตูน ฟังเพลง เป็น คนที่ชอบเสพป๊อปคัลเจอร์ทุกอย่างรอบตัวอยู่แล้ว แม้กระทั่งโขน หุ่น กระบอก หนังจากฮอลลีวู้ดที่ดิฉันชอบ และคิดว่าเป็นแนวทางการใช้ คอมพิวเตอร์กราฟิกที่น่าสนใจ ตรงกับรสนิยมตนเองมากที่สุด คือ Sky Captain and the World of Tomorrow เป็นการใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก สร้างโลกอนาคตแบบโบราณๆ ทุกอย่างในหนังดู Retro มีสไตล์ กลมกลืน แถมยังดูสนุกเพราะบทหนังดีมาก ถ้าเป็นงานแอนิเมชัน ดิฉันชอบ Toy Story ดูเพื่อจะได้รู้ว่าเทคโนโลยี เดินไปถึงไหนแล้ว How to Train Your Dragon ก็เป็นแอนิเมชันสามมิติ ที่ลงตัว เขาไม่ได้ใช้ภาพสามมิติมาขายอย่างเดียว แต่คนดูจะรู้สึกอินกับ เนื้อเรื่อง และหลงรักตัวคาแรกเตอร์การ์ตูนได้ ส�าหรับแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีนั้น ก็คงจะมีต่อไป เรื่อยๆ แต่ดิฉันก็สุดจะคาดเดา ไม่รู้ว่าจะเกิดจุดเปลี่ยนครั้งส�าคัญ เหมือน เมื่อครั้งที่เกิดกับวงการฮอลลีวู้ดเมื่อ 20 ปีก่อนหรือเปล่า ตอนที่มี ILM คิดค้นเทคนิคพิเศษส�าหรับหนังเรื่อง The Abyss The Terminator 2 และ Jurassic Park

ILM

Industrial Light & Magic บริษัทรับท�า วิชวลเอฟเฟ็กต์ก่อตั้งโดย จอร์จ ลูคัส ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1975 1975: เทคนิคพิเศษในหนังเรื่องสตาร์วอร์ส 1982: สร้างภาพด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิกเป็นครั้งแรกในโลก ในหนัง Star Trek II: The Wrath of Khan 1985: สร้างตัวละครด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิกเป็นครั้งแรกในโลก ในหนัง เรื่อง Young Sherlock Holmes 1988: เปลี่ยนรูปร่างของตัวละครด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิกครั้งแรกในโลก ในหนัง Willow 1989: สร้างตัวละครด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิก 3D ครั้งแรกในโลก ในหนัง The Abyss 1991: ใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก 3D สร้างตัวละครหลักใน หนัง Terminator 2: Judgement Day 1992: สร้างภาพเลียนแบบผิวหนังให้เหมือนจริงด้วย คอมพิวเตอร์กราฟิก Death Becomes Her 1993: ครั้งแรกในโลก ที่ใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก 3D สร้างตัวละครเป็นสิ่งมีชีวิต Jurassic Park และในปี 2011 ILM สร้างหนังการ์ตูนแอนิเมชัน เรื่องแรกของตนเอง คือ Rango ขึ้นครองอันดับ หนึ่งบ๊อกซ์ออฟฟิศทันทีเมื่อออกฉาย

ช่วงเวลานัน้ เป็นช่วงเวลาแห่งการก้าวกระโดดของวงการคอมพิวเตอร์ กราฟิกทัง้ โลก ทีเ่ ราใช้มนั สร้างภาพให้เหมือนจริงมาก จนใช้แทนตัวละคร ส�าคัญของเรื่องได้เลย จากแต่เดิมที่เขาต้องสร้างหุ่นโมเดลแล้วชักรอก ให้มันเคลื่อนไหว เปลี่ยนมาเป็นการวาดทั้งหมดบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ตาม เรารูแ้ นวทางของเราอย่างแน่ชดั แล้ว ว่าจะไม่กา้ วไปเร็ว เท่าเขา แต่เราจะอาศัยเดินตามไป น�าผลพวงจากการพัฒนาใหม่ๆ ของ เขามาใช้ ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ยกตัวอย่างเช่นในอินทรีแดง เราก็ ให้ อนันดา เอเวอริ่งแฮม แสดงท่าทางถือดาบ ในขณะที่เราก็ท�าหน้าที่ใส่ ดาบเข้าไปในมือของเขา เรียกว่าฮอลลีวู้ดพัฒนาไปเร็วแค่ไหน เราก็ตาม ให้ทัน และน�ามันมาก�าจัดขีดจ�ากัดต่างๆ ในงานของเรา

คนไทยยอมรับแอนิเมชันมากขึ้น

คนไทยอาจจะยังคิดว่าการ์ตูนแอนิเมชันเป็นเรื่องของเด็ก แต่ต่าง ประเทศเขาจะดู ก าร์ ตู น เหล่ า นี้ เ หมื อ นเป็ น ป๊ อ ปคั ล เจอร์ ห นึ่ ง ของเขา อย่างไรก็ตาม ในทุกวันนี้คนไทยเริ่มมีความสุขกับการดูการ์ตูนแอนิเมชัน กันมากขึน้ และดิฉนั หวังว่าสักวันหนึง่ คนไทยจะยอมรับแอนิเมชันเท่ากับ คนต่างประเทศ เหมือนกับเรือ่ ง Toy Story ทีเ่ ขานิยมดูกนั ในฐานะทีม่ นั ไม่ ได้แตกต่างไปจากหนังเรื่องหนึ่ง ส�าหรับคนไทยส่วนหนึ่งในเวลานี้ อาจ จะคิดว่ามันเป็นแค่การ์ตูน แต่จริงๆ มันเป็นผลงานที่ต้องทุ่มเท ใช้ความ พยายาม ใช้เงินลงทุน ไม่น้อยไปกว่าการท�าหนังเรื่องหนึ่งเลย และถือว่า เป็นโชคดีของก้านกล้วย เพราะคนไทยยังช่วยอุดหนุนคนไทยด้วยกัน แอนิเมชันของต่างประเทศมีความซับซ้อนแบบผูใ้ หญ่แฝงอยูม่ ากกว่า อย่างเรื่อง Toy Story 3 ในฉากไคลแมกซ์ท้ายเรื่อง พวกพระเอกเกือบจะ ตกลงไปในบ่อหลอม แล้วจับมือเพื่อนๆ เอาไว้ ซึ่งเป็นฉากที่น�าเสนอภาพ การเผชิญหน้ากับความตายอย่างกล้าหาญ ผู้ใหญ่เองดูแล้วยังขนลุกเลย เราอาจจะต้องท�าแอนิเมชันของเราให้มีความซับซ้อนแบบนั้นบ้าง เพราะสั ง คมไทยเราก็ ซั บ ซ้ อ นมากขึ้ น ลองตั ว อย่ า งจากข่ า วบนหน้ า หนังสือพิมพ์ หรือจอโทรทัศน์ทุกวันนี้ก็ได้ ซึ่งแน่นอนว่าเวลาไปดูการ์ตูน แอนิเมชันแบบนีใ้ นโรง ผูใ้ หญ่ตอ้ งไปดูดว้ ย พ่อแม่กต็ อ้ งให้คา� แนะน�า และ ทางโรงก็ไม่มที างปล่อยให้เด็ก 10 ขวบเข้าไปดูคนเดียวอยูแ่ ล้ว แต่ส�าหรับ แอนิเมชันทางทีวี เราอาจจะต้องท�าเนือ้ หาให้เด็กลง เนือ้ เรือ่ งต้องเบาๆ น่า รักๆ เพราะบางทีพ่อแม่ไม่อยู่ ปล่อยให้ทีวีเป็นเพื่อนเขา เวลาเรานัง่ เขียนบทกัน เราต้องคิดว่าเด็กไทยตอนนีเ้ ป็นอย่างไร สังคม ไทยตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว และเราต้องการจะสื่อความคิดอะไรออกไป การ ทีเ่ ราจะเดินเข้าไปสอนหรือบอกกับเขาตรงๆ เลยมันท�าไม่ได้ เราต้องท�าให้ แยบยลทีส่ ดุ ท�าให้เขารูส้ กึ ขึน้ มาหลังจากได้ดแู ล้ว ท�าให้ภาพนัน้ ติดตาเขา กลับไป ท�าให้ความคิดนั้นประทับใจเขากลับไป นั่นคือเป้าหมายความ ส�าเร็จของคนท�าหนังด้วย ไม่ใช่คดิ แค่เรือ่ งเงินรายได้ทเี่ ข้ากระเป๋าเรา หรือ ความสนุกสนานทีค่ นดูได้กลับไปเพียงอย่างเดียว คนดูตอ้ งได้อะไรกลับไป คิด นั่นคือคุณธรรม จริยธรรมที่คนท�าแอนิเมชันต้องมี แอนิเมชันที่เราก�าลังท�าอยู่ตอนนี้ ชื่อเรื่อง Echo Planet เราใช้ ประสบการณ์ทา� งานจากก้านกล้วยทัง้ สองภาค มาปรับปรุงและถ่ายทอด ลงไปในงานชิ้นนี้อย่างเต็มที่ แน่นอนว่าเราจะถ่ายทอดความเป็นไทย ใส่ ความคิดทีเ่ ป็นผูใ้ หญ่ และมีความเป็นสากลมากขึน้ โดยยังคงความเป็นไทย แม้ว่าใครจะบอกว่าหน้าตาของตัวละครจะออกแนวเด็กฝรั่งผมทอง แต่

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


ความคิดของตัวละครยังเป็นแบบไทยมากๆ เป็นเรือ่ งราวเกีย่ วกับการอนุรกั ษ์ สิ่งแวดล้อม เราแกล้งธรรมชาติ และธรรมชาติก็เลยกลับมาแกล้งเราคืน ความพิเศษของ Echo Planet คือเราท�าให้เป็นสามมิติ และมันจะ เป็นแอนิเมชันสามมิติเรื่องแรกของไทย และน่าจะเป็นเรื่องแรกของเอเชีย ตะวันของเฉียงใต้ด้วยที่ท�าแบบนี้ กระบวนการท�างานยากขึ้น ท้าทายขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของมุมภาพ เราต้องคิดเยอะ คิดถึงคนดูว่าจะรับไหว ไหม ไม่ใช่ให้ภาพพุ่งๆ ลอยๆ ออกมาเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องมีความ เหมาะสม ดิฉนั คิดว่าหนังสามมิตเิ ป็นวิวฒ ั นาการของการดูหนัง ทีจ่ ะท�าให้คนดู อินเข้าไปกับเรื่อง ในช่วงแรกๆ ที่มันเริ่มได้รับความนิยมเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่าน มา คนอาจจะตื่นตาตื่นใจและสนใจอยู่เพียงแค่เทคนิค แต่ในที่สุดแล้ว จุดประสงค์ของเทคนิคนี้ คือต้องการให้คนดูรู้สึกเหมือนถูกดูดเข้าไปอยู่ กับเหตุการณ์นั้นจริงๆ ท�าให้คนดูรู้สึกไปกับตัวละคร และถ้าคิดในแง่ของ การบุกเบิก ถ้าเราคิดว่าเราท�าได้ เราก็ต้องลงมือท�าจริง การท�างานคอมพิวเตอร์กราฟิก วิชวลเอฟเฟ็กต์ และการ์ตนู แอนิเมชัน แตกต่างจากการท�างานหนังทัว่ ไป ตรงทีเ่ ราต้องค�านึงถึงเทคโนโลยีทมี่ อี ยู่ ในช่วงเริ่มต้นการท�างานของเราก็เหมือนกับการท�าหนัง คือเริ่มจากบท ก่อน แต่ช่วงหลังจากนั้นจะแตกต่างกัน คือเราต้องย้อนกลับไปดูเรื่องของ เทคโนโลยีที่มีอยู่ ว่ารองรับหรือเปล่า มีความเป็นไปได้ที่จะท�าให้ส�าเร็จ มากแค่ไหน ถ้าท�าไม่ได้ ก็ต้องปรับแก้ไขบท การท�างานอย่างต่อเนือ่ งและประสบการณ์ทสี่ งั่ สมไว้จงึ มีความส�าคัญ ต่อวงการนีอ้ ย่างมาก ส่วนหนึง่ ของความส�าเร็จ อยูท่ คี่ วามช�านาญในการ ใช้เครือ่ งมือและเทคโนโลยี ในขณะทีว่ า่ ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ตอ้ งมีการ เปลีย่ นแปลงไป คือพัฒนาให้ดขี นึ้ ไปเรือ่ ยๆ แต่อย่าลืมว่าคนของเราก็ตอ้ ง ช�านาญขึ้นและเก่งขึ้นด้วย ตอนท�าการ์ตูนเรื่องแรกคือก้านกล้วย ความยากล�าบากและความ กดดันคือต้องท�าให้เสร็จให้ได้ ตอนนั้นเราแทบจะท�าไม่เสร็จทันเวลา หนังฉาย ก�าหนดวันฉายไล่หลังเรามาเรื่อยๆ ในขณะที่การท�างาน Echo Planet นั้นแตกต่างกัน ความยากล�าบากและความกดดันคือเราต้องน�า ประสบการณ์ทั้งหมดมาใช้ เพื่อท�าให้ผลงานชิ้นใหม่ดีขึ้นไปกว่าเดิม ในทุกวันนี้ ดิฉนั และทีมงานทุกคนไม่ได้หวังไกลมาก เราหวังแค่ทกุ ปีๆ เรามีแอนิเมชันให้เด็กไทยได้ดู นี่ถือเป็นเป้าหมายแรก และหลังจากนั้น เราอยากให้เด็กไทยรักเรา อยากให้เขาตั้งหน้าตั้งตารอคอยดูหนังของเรา เหมือนที่ตอนเด็กๆ ดิฉันคอยดูหนังการ์ตูนจากวอลต์ดิสนีย์ ส่วนเป้าหมายต่อไปไกลๆ ซึ่งคิดว่าคงไกลเกินฝันไปหน่อย คือดิฉัน อยากให้เรามี Theme Park ที่สร้างขึ้นมาจากคาแรกเตอร์การ์ตูนของไทย ไม่รวู้ า่ ชีวติ นีจ้ ะได้เห็นภาพนีไ้ หม มันอาจจะเป็นไปได้ ถ้าคนไทยสนับสนุน ผลงานของคนไทย และเราท�างานต่อไปอย่างต่อเนื่อง

สั่งสมองค์ความรู้

จนถึงทุกวันนี้ ดิฉันคิดว่าเราน่าจะเป็นบริษัทแอนิเมชัน ที่มีความ ช�านาญเรื่องการเคลื่อนไหวของช้างมากที่สุดในโลก ในการท�างานแต่ละชิน้ ท�าแอนิเมชันแต่ละเรือ่ ง เราได้เก็บความรูแ้ ละ เครื่องมือต่างๆ ที่สร้างขึ้นมา ไว้ในห้องสมุดของเราเอง เรามี Tools ที่เรา เขียนเอง Management Tools และ Library Tools และ Plug-in ต่างๆ ที่

เราสร้างขึน้ ดังนัน้ น้องใหม่ทเี่ ข้ามาในบริษทั เรา ก็สามารถเลือกหยิบมาใช้ ท�างานต่อยอดขึ้นไปได้ทันที หรือเมื่อเราเริ่มต้นท�างานชิ้นใหม่ เราก็เลือก น�าเครื่องมือที่มีอยู่แล้วออกมาใช้ได้เลย ทุกวันนี้ แอนิเมเตอร์หรือคนท�าแอนิเมชัน ก็ตอ้ งรูเ้ รือ่ งการแสดงเหมือน กับนักแสดง ต้องเข้าใจบทบาท แสดงสีหน้า เคลื่อนไหวร่างกาย ให้เข้า กับบทบาทของตน คนที่เป็นแอนิเมเตอร์ของไดโนเสาร์ คุณก็ต้องเข้าใจ ธรรมชาติของไดโนเสาร์ ว่ามันเป็นอย่างไร กินอะไร เดินอย่างไร ไปศึกษา ประวัติศาสตร์และโบราณคดี ส่วนแอนิเมเตอร์ของช้างก็เช่นเดียวกัน พวกเราไปศึกษาช้างกันอยู่ นาน ท�าโมชัน่ แคปเจอร์ทว่ งท่าต่างๆ วิธเี ดิน วิธใี ช้งวง สิง่ เหล่านีไ้ ม่ได้นา� มา ใช้เพือ่ วาดช้างให้เหมือนช้างตัวจริง แต่เพือ่ สร้างคาแรกเตอร์การ์ตนู ช้างให้ มีเสน่ห์ ผู้ชมจะชอบและหลงรักมัน เพราะเขาเชื่อว่ามันเคลื่อนไหวได้จริง

Motion Capture

คือกระบวนการบันทึกความเคลื่อนไหว แล้วแปลงให้เป็นโมเดลทาง ดิจิตอล เพื่อประโยชน์ในทางการทหาร วิทยาศาสตร์การกีฬา การแพทย์ กายภาพบ�าบัด ออกแบบหุ่นยนต์ รวมไปถึงใช้ในวงการบันเทิง ท�าภาพ เคลื่อนไหวเหมือนบุ๊กคลและสิ่งมีชีวิตต่างๆ ทั้งใบหน้าและส่วนต่างๆ ของ ร่างกาย เพื่อใช้ในการสร้างเกมคอมพิวเตอร์หรือภาพยนตร์

การใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกมาแทนคนจริงๆ ก็ตอ้ งท�าวิธเี ดียวกัน อย่าง ตอนท�าเรื่องอินทรีแดง เราเคยพยายามวาดอนันดาใส่เข้าไปในฉากสั้นๆ แต่วาดเท่าไรก็ยังไม่ได้อารมณ์ ขาดเสน่ห์แบบอนันดา ภาพที่วาดนั้น เหมือนอนันดา แต่ดูแล้วไม่ใช่อนันดา จนกระทัง่ เราก็ตอ้ งท�าโมชัน่ แคปเจอร์อนันดาตัวจริงในอิรยิ าบถต่างๆ แล้วเราวาดอนันดาขึ้นมาใหม่ แล้วใส่เข้าไปในฉากสั้นๆ ผู้ชมจะเห็นเพียง แวบเดียวเท่านั้น จนแทบไม่สังเกตเลยว่าเป็นคอมพิวเตอร์กราฟิก ไม่ใช่ อนันดาตัวจริง เหล่านี้คือองค์ความรู้ที่ผู้ท�าแอนิเมชันต้องสั่งสมไปเรื่อยๆ เราไม่ตอ้ งเลียนแบบอนันดาขึน้ มา แต่เราปล่อยให้อนันดาเป็นตัวของ อนันดาเอง โดยเราใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย แต่ถ้าต้องท�าคอมพิวเตอร์ กราฟิกเป็นอนันดาทั้งเรื่อง นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งมากเกินไป อย่างที่บอก ว่าถ้าพยายามใส่มากเกินไป คนดูกจ็ ะรูส้ กึ เบือ่ เพราะคอมพิวเตอร์กราฟิก ต้องไม่ใช่พระเอก แอนิเมเตอร์และนักแสดงไม่ควรข้ามเส้นกัน การท�างานของที่นี่แบ่งออกเป็นดีพาร์ทเมนต์ มีฝั่งที่เชี่ยวชาญด้าน เทคนิคมากๆ ก็ให้ทา� งานด้านภาพ ทางอีกฝัง่ ก็ทา� สตอรีบ่ อร์ด สคริปต์ งาน ออกแบบ ตัดต่อ ส�าหรับพวกเครื่องไม้เครื่องมือของเรา เราเตรียมเปลี่ยน เซิรฟ์ เวอร์ฟาร์มใหม่ทกุ 3 ปี หลังจากงาน Echo Planet แล้วเราก็จะเปลีย่ น ใหม่ครั้งใหญ่ ซึ่งแต่ละครั้ง ก็ต้องใช้เงินลงทุนจ�านวนมหาศาล

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


งานที่เราท�าเหล่านี้ ถือเป็นการลงทุนระยะยาว ให้คนไทยคิดถึงเรา และมีแอนิเมชัน ของเราอยู่ในหัวใจ กันตนาแอนิเมชันในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ก็ยังคงจะท�า ผลิตงานแบบนี้ออกมาให้คนไทยได้ดูอีก เพื่อให้คนชื่นชม และมีพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ไปอย่างมั่นคง

การลงทุนระยะยาว

ในแง่ของธุรกิจ เราทุกคนรูอ้ ยูแ่ ล้วว่าไม่คมุ้ ค่า โดยเฉพาะอย่างยิง่ การ ท�าการ์ตนู แอนิเมชันแต่ละเรือ่ ง เรารูอ้ ยูแ่ ล้วว่าต้องขาดทุน ก้านกล้วยภาค แรก เราลงทุน 110 ล้าน ในขณะทีบ่ อ็ กซ์ออฟฟิศการ์ตนู เมืองไทยท�ารายได้ ได้มากที่สุด 50 ล้านบาท เราก็จะได้ส่วนแบ่งจากทางโรงมา 25 ล้านบาท แม้จะเป็นการลงทุนที่สูงและเสี่ยง แต่ทางผู้ใหญ่ในเครือกันตนามองว่า เราต้องท�า เพื่อเป็นการปูทางไปสู่อนาคต โชคดีที่เรามีสปอนเซอร์มาช่วย สนับสนุนเงินทุนบางส่วน ก้านกล้วยภาคสองไม่ได้โชคดีแบบนัน้ เราออกฉายในช่วงจังหวะเวลา ไม่ดี เกิดเหตุความขัดแย้งทางการเมืองอย่างรุนแรง เราค่อนข้างขาดทุน ได้รายได้ 79 ล้านบาท ตอนนั้นทางโรงต้องลดราคาค่าตั๋วหนัง เพื่อให้คน ดูเยอะๆ เปรียบเทียบกับตอนที่ก้านกล้วยภาคแรกเข้า ด้วยกระแสที่มัน เป็นแอนิเมชันของคนไทย ทีข่ าดหายมานาน จึงได้รบั การตอบรับทีด่ ี แต่ละ บ้านก็จงู ลูกจูงหลานไปนัง่ ดูกนั คนเฒ่าคนแก่กไ็ ปดู ทุกคนเดินออกมาจาก โรงแล้วร้องไห้ น�้าตาซึม ของช�าร่วยจากก้านกล้วนก็ขายดี ของช�าร่วยเป็นสิ่งบ่งชี้ให้เห็น ว่าผู้ชมรักหนังของเรามากแค่ไหน เขาออกจากโรงแล้วยังรู้สึกผูกพันกับ คาแรกเตอร์ที่เราสร้างขึ้นมาแค่ไหน สิง่ ทีค่ นท�าหนังทุกคนเป็นเหมือนกัน คือเราชอบไปนัง่ ดูหนังของเราเอง ในโรง เพื่อดูปฏิกิริยาของผู้ชมรอบๆ ตัว เมื่อตอนตลกๆ ก็สังเกตว่าคนอื่น จะหัวเราะไหม ตอนสะเทือนใจ ก็สงั เกตว่าคนอืน่ น�า้ ตาไหลหรือไม่ ดิฉนั ไป นัง่ ดูแอนิเมชันของตัวเองในโรงแล้วรูส้ กึ ขนลุกทุกครัง้ มีความสุขเมือ่ เห็นผู้ ชมรับรู้ในผลงานที่พวกเราต้องการจะสื่อออกไป จ�าได้วา่ ตอนก้านกล้วยภาคแรกจัดงานเปิดตัว และฉายรอบสือ่ มวลชน มีแขกมาร่วมงานกันเต็มโรง ทีมงานกังวลกันมาก ว่าผลงานของเราจะไม่ ดีพอ คิดวางแผนจะให้หน้าม้าไปนั่งแฝงตัวแทรกอยู่ในกลุ่มผู้ชม แล้วช่วย หัวเราะหรือปรบมือน�า แต่ในที่สุดแล้วก็ไม่ต้องใช้เลย เพราะผู้ชมรับรู้งาน ของเรา และชอบกันมากๆ ตอนนี้มีแนวโน้มว่าบริษัทแอนิเมชันของไทย ไปร่วมโค-โปรดักชั่น กับบริษัทจากประเทศจีนและอินเดีย เนื่องจากเขาเป็นประเทศใหญ่มาก ถ้าเราได้ไปร่วม ก็จะได้ฉายในประเทศเขา และได้กลุ่มลูกค้าที่กว้างออก ไป ถือเป็นการต่อยอดองค์ความรู้ที่สั่งสมไว้ เป็นการฝึกคนรุ่นใหม่ให้มี ประสบการณ์ และเป็นการใช้เทคโนโลยีทล่ี งทุนซือ้ มาแพงๆ ได้อย่างคุม้ ค่า มากขึน้ อย่างน้อยวัฒนธรรมและรสนิยมของคนเอเชียเราก็ยงั ใกล้เคียงกัน ดิฉันคิดว่างานที่เราท�าเหล่านี้ ถือเป็นการลงทุนระยะยาว ให้คนไทย คิดถึงเรา และมีแอนิเมชันของเราอยู่ในหัวใจ กันตนาแอนิเมชันในอีก

5-10 ปีข้างหน้า ก็ยังคงจะท�าผลิตงานแบบนี้ออกมาให้คนไทยได้ดูอีก เพื่อให้คนชื่นชม และมีพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ไปอย่างมั่นคง และอยู่ไปใน ระยะยาว อยากให้การท�างานแอนิเมชัน กลายเป็นอาชีพให้เด็กรุ่นหลัง ได้ใช้ประกอบอาชีพจริงๆ มีมอื อาชีพจริงๆ ในวงการ อย่างตอนนีเ้ ราก็เปิด โรงเรียนสอนด้านแอนิเมชันด้วย อยากปัน้ รุน่ น้องขึน้ มา โดยมีกนั ตนาเป็น จุดเริ่มต้นของทุกคน ในปัจจุบัน คอมพิวเตอร์กราฟิกใช้กันอย่างแพร่หลาย ไม่ใช่เรื่องยุ่ง ยาก หรือจ�ากัดอยู่ในกลุ่มคนเล็กๆ เมื่อเครื่องไม้เครื่องมือราคาถูก คนรุ่น นี้ก็ได้เรียนรู้และฝึกหัดกันมากขึ้น งานแอนิเมชันของไทยก็มีมากขึ้นกว่า เมื่อก่อน ตอนนี้กฉ็ ายทางทีวีกันมากมาย แต่สิ่งที่ยังขาดคือจุดยืนที่แน่ชัด ตอนนี้คนท�างานในสายนี้ยังสะเปะสะปะ เห่อกระแสอะไรเป็นพักๆ อย่าง เมื่อตอนที่ก้านกล้วยภาคแรกที่ได้รับความนิยม ช่วงนั้นก็จะมีแอนิเมชันที่ เหมือนกับก้านกล้วยออกมาเยอะมาก แต่ดิฉันว่ามันยังเป็นเพียงกระแส อยู่ ยังไม่ใช่สิ่งที่ยั่งยืน ความยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้ถ้าสังคมไทยให้การสนับสนุน ที่ผ่านมา เรา ลงทุนเรื่องละเป็นร้อยล้านบาท ถ้าจะให้แบ่งเป็นสัดส่วน จะพบว่าร้อย ละ 30-40 เราจ่ายไปให้กับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ที่เหลือก็เป็นค่าจ้าง แรงงานส�าหรับคนท�างานแอนิเมชันแค่ร้อยละ 20-30 เท่านั้น และถ้าเป็น แบบนี้บ่อยๆ เราก็ไปไม่ไหว ไปไม่ถูกเหมือนกัน แม้ว่ากระแสของแอนิเมชันเราแต่ละเรื่องจะดูโดดเด่น ประสบความ ส�าเร็จ ตลาดต่างประเทศเริ่มมองเห็น และให้การยอมรับ แต่พอรายได้ จริงๆ ยังไม่คุ้มค่าเลย ดิฉันก็อยากให้คนไทยสนับสนุนแอนิเมชันไทยต่อ ไปเรื่อยๆ และไม่ใช่สนับสนุนแค่กันตนาบริษัทเดียว อยากสนับสนุนทุก บริษัท อยากให้ความคิดว่าแอนิเมชันเป็นเรื่องของเด็ก แต่ให้มองว่ามัน คือความทุ่มเทท�างานของศิลปินที่ผสมผสานกับเทคโนโลยี ต่อไปเราจะ มีแอนิเมชันดีๆ ออกมาอีกมากมาย อาจจะมีแอนิเมชันที่ซับซ้อนและเนื้อ หาหนักๆ ส�าหรับผู้ใหญ่ได้ด้วย ส�าหรับ Echo Planet ที่ก�าลังจะเข้าฉาย ดิฉันว่าคงต้องฮือฮากันอีก ครั้งแน่นอน ด้วยกระแสที่เป็นแอนิเมชันของคนไทย และส�าหรับคนที่ตื่น เต้นกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ก็จะเข้าไปดูเพราะมันเป็นสามมิตทิ งั้ เรือ่ ง ส�าหรับ คนทีช่ อบดูหนัง ก็จะได้ดแู อนิเมชันน่ารักๆ มีเนือ้ หาเกีย่ วกับภาวะโลกร้อน ซึ่งเราน�าค�าสอนเรื่องปรัชญาพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาประยุกต์และสร้างสรรค์ขึ้นมาเป็นบท แต่อาจจะไม่ได้ลงลึกมาก แต่ ก็กล่าวถึงปรัชญาพอเพียง การอยู่อย่างสอดคล้องกับธรรมชาติ และน�า เสนอออกมาในรูปแบบความบันเทิงเต็มที่ เด็กๆ น่าจะชอบไม่นอ้ ยไปกว่า ก้านกล้วย ผลงานเรื่องที่ผ่านมาของพวกเรา

10 ผู้น�ำทำงควำมคิด 10 ไอเดียไอทีเปลี่ยนประเทศไทย 10 ปีนิตยสำร CHIP


164


พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ พิธีกรรำยกำรโทรทัศน์ และกรรมกำรผู้จัดกำร บริษัท โชว์ไร้ขีด จ�ำกัด

ชีวิตและธุรกิจไร้ขีดจ�ำกัด

หนุ่ย - พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ เป็นเด็กหนุ่มที่ประสบความส�าเร็จอย่าง รวดเร็วเมื่อเทียบกับคนรุ่นเดียวกัน เขายอมรับว่าเป็นเพราะความอยากรู้ อยากเห็นแบบเด็กหนุม่ ท�าให้เขาได้กลายเป็นผูน้ า� เสนอไอที คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต เกม และแกดเจ็ทอีกสารพัดสารพัน จากเด็กหนุ่มที่คอยสอน เพื่อนร่วมชั้นในการใช้งานเทคโนโลยีที่แสนยุ่งยาก จนได้กลายเป็นพิธีกร รายการทีวี รายการวิทยุ และในงานอีเว้นต์ต่างๆ มากมาย ที่เกี่ยวข้องกับ เรื่องเทคโนโลยีมาโดยตลอด ในปัจจุบัน เขามีงานอีเว้นต์ใหญ่ประจ�าปี เป็นของตัวเอง มีเวลาท�ารายการทีวีทางสถานดาวเทียม มีโอกาสได้เป็น พรีเซนเตอร์สินค้าเจ๋งมากมาย และแน่นอนว่าก้าวต่อไปของเขา ก็ต้อง เกี่ยวข้องกับเรื่องเทคโนโลยีเหล่านี้ต่อไป

เทคโนโลยีคือจุดเปลี่ยนของชีวิต

ผมไม่ใช่คนทีเ่ ก่งด้านคอมพิวเตอร์มากทีส่ ดุ ในคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ แต่ผมเป็นนิสติ คนแรกของทีน่ นั่ ทีส่ ามารถ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ส�าเร็จ (ฟังดูยิ่งใหญ่มากเลยใช่ไหมล่ะ?) คอมพิวเตอร์และผูใ้ ช้คอมพิวเตอร์มมี าก่อนผมหลายปี จ�าได้วา่ ตอนที่ สอบติดและรูว้ า่ จะได้มาเรียนทีน่ แี่ ล้ว ช่วงก่อนจะเปิดเทอมแรก ผมไปเดิน เล่นทีค่ ณะ ได้พบเห็นรุน่ พีห่ ลายคนก�าลังเรียนซัมเมอร์ บนโต๊ะอาจารย์ผม ไปแอบเปิดดูรายงานของรุ่นพี่แต่ละคน แล้วก็นึกในใจ โอ้โห! ไฮเทคมาก เลย พวกเขาพิมพ์รายงานสวยเหมือนพิมพ์เป็นหนังสือเลยหรือ? เปรียบเทียบกับผมเองที่เพิ่งเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ยังท�า

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


รายงานส่งครูด้วยลายมือเขียน และบนกระดาษก็มีแต่รอยป้ายน�้ายาลบ ค�าผิด ผมก็ไปถามพวกรุ่นพี่ “พี่ครับ! รายงานพวกนี้พี่เอาไปเข้าโรงพิมพ์มา เหรอครับ?” รุ่นพี่ก็ตอบมาแบบเอ็นดูว่า “เขาก็ใช้คอมพิวเตอร์สิวะไอ้โง่!!” ในช่วงปี พ.ศ.2539 การมีคอมพิวเตอร์พีซีสักเครื่องถือเป็นเรื่องใหญ่ มากส�าหรับเด็กวัยรุ่นธรรมดาๆ คนหนึ่ง เพราะมันราคาแพง ใช้งานยุ่ง ยาก และยังไม่สามารถน�ามาประยุกต์ใช้งานอะไรได้มากนัก นอกจากการ ใช้พิมพ์เอกสารให้สวย โชคดีที่ตัวผมเองพอจะมีเงินเก็บอยู่ เพราะเมื่อไม่ กี่ปีก่อนหน้านี้ เคยไปออกรายการทีวี “ตัวต่อตัว” ประกวดความสามารถ ทางการแสดง และได้รางวัลมาเป็นเงิน 1 ล้านบาท เมื่อเห็นคอมพิวเตอร์ท่ีคณะ และเห็นรายงานของรุ่นพี่ ก็อยากได้ขึ้น มาจับใจ รีบไปเบิกเงินสดออกมาจากธนาคาร จ�าได้แม่นเลยว่า 58,000 บาท เพื่อไปซื้อคอมพิวเตอร์พีซีเครื่องแรกในชีวิต ที่ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า สเปกเครื่องดีที่สุดในเวลานั้น คือ Pentium 133MHz แรม 16 MB ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 3.1 เพราะวินโดว์ส 95 ยังไม่ออกสู่ตลาด พร้อมสแกนเนอร์แบบใช้มือกราดอีก 1 เครื่อง เพราะคิดว่าจะได้ใช้สแกน รูปในการท�ารายงานให้สวยงาม การมีคอมพิวเตอร์ในตอนนัน้ ท�าให้ผมติดตามเทคโนโลยีและตามรุน่ พีค่ นอืน่ ๆ ได้ทนั ผมใช้พมิ พ์รายงาน เล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ เสร็จแล้วก็เอาผ้า คลุมไว้แบบนั้น และรู้สึกว่ายังงานมันได้ไม่คุ้มค่าเลย จนถึงช่วงเวลาหลัง จากนัน้ ไม่นาน อินเทอร์เน็ตก็เริม่ ถูกพูดถึงในสือ่ วิชาการ ผมจึงถือเป็นโชค ดีทไี่ ด้กระโดดเข้าสูโ่ ลกอินเทอร์เน็ตก่อนใครๆ ผมใช้คอมพิวเตอร์พซี ที มี่ อี ยู่ แล้วต่ออินเทอร์เน็ตได้ส�าเร็จ วันทีอ่ นิ เทอร์เน็ตเริม่ เข้ามาสูช่ วี ติ ผม ผมจ�าได้แม่นย�าว่าก�าลังดูทวี ชี อ่ ง 11 ดร.บวร ปภัสราทร นักวิชาการด้านเทคโนโลยี มาออกทีวีวันนั้นพอดี “ท่านผู้ชมครับ! ถ้าท่านผู้ชมมีคอมพิวเตอร์อยู่ที่บ้านนะครับ ท่าน ควรจะมีอินเทอร์เน็ตไว้ใช้ด้วยนะครับ เชื่อมต่อ FAX Modem ท่านจะได้ อินเทอร์เน็ตความเร็ว 14.4 kbps นะครับ เข้าสู่โลก World Wide Web ได้ทันทีเลยนะครับ” ผมรีบไปซื้อโมเด็ม ยี่ห้อ US Robotics ราคา 4,400 บาท ก�าเงินไป ซื้อครั้งแรกแล้วท�าหาย เพราะลืมทิ้งไว้ในตู้โทรศัพท์สาธารณะ กลับมา นอนร้องไห้เสียดายเงินอยู่ 1 อาทิตย์ และเริ่มลังเลที่จะไปซื้ออีกรอบหนึ่ง นอนคิดไปคิดมา ด้วยความอยากได้และอยากเล่นอินเทอร์เน็ต ก็กัดฟัน ก�าเงินไปซื้อมาจนได้

เคเอสซี

บริษัท เค เอส ซี คอมเมอร์เชียล อินเตอร์เนต จ�ำกัด ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2537 จำกกำรร่วมทุนของ บริษัท Internet Knowledge Service Center จ�ำกัด (IKSC) และกำรสื่อสำร แห่งประเทศไทย ถือเป็นผู้ให้บริกำร เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในเชิงพำณิชย์รำยแรกในประเทศไทย ปัจจุบัน เคเอสซี ได้ขยำยธุรกิจจำกกำรเป็นเพียงผู้ให้บริกำรอินเทอร์เน็ตส�ำหรับบุ๊กคลทั่วไป ไปเป็นผู้ให้บริกำรอินเทอร์เน็ตและโซลูชั่นส�ำหรับองค์กรขนำดใหญ่

เมือ่ มีโมเด็มแล้ว ก็โทรไปสอบถามบริษทั อินเทอร์เน็ต เคเอสซี จะสมัคร อินเทอร์เน็ตต้องท�าอย่างไร พนักงานก็ตอบกลับมาว่าต้องไปที่อาคารส�านักงานใหญ่ ตั้งอยู่แถว หลักสี่ มีโปรโมชั่นพิเศษคือจะแถมอี-เมล์ฟรีตลอดชีพ ผมตื่นเต้นมากขึ้น “มันคืออะไรครับ อี-เมล์ฟรีตลอดชีพ” มันคืออี-เมล์แอคเคานต์ @ksc.net นั่นเอง

ความช้าหรือเร็วนั้นแท้จริงแล้วเป็นเรื่อง ของความรู้สึก เป็นจินตนาการของเรามีต่อ การใช้งานเทคโนโลยี

อินเทอร์เน็ตในยุคนั้นราคาแพงมาก ชั่วโมงละ 40 - 60 บาท เขาขาย เป็นซองขนาดใหญ่ ภายในบรรจุแผ่นดิสเก็ตต์แบบ 3.5 นิว้ หลายแผ่น เป็น โปรแกรมบราวเซอร์ Internet Explorer และ Netscape Navigator เพื่อ ใช้ในการเล่นอินเทอร์เน็ต และมีแผ่นกระดาษทึบแสงพิมพ์ลอ็ กอินเนมและ พาสเวิร์ดเอาไว้ให้เราเชื่อมต่อ ผมใช้เวลาลงโปรแกรมและลองต่อโมเด็ม นานตลอดคืนกว่าจะส�าเร็จ ในเช้าวันแรกหลังจากที่ต่ออินเทอร์เน็ต ผมพรินต์ส่ิงที่ผมเห็นและ ประทับใจที่สุดในนั้น เอาไปให้เพื่อนที่คณะดู มันคือหน้าโฮมเพจของ เว็บไซต์ Yahoo.com ทุกคนตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ โลกใหม่ที่มีคนไปส�ารวจ พบ หลังจากนั้นมา เพื่อนคนไหนอยากจะต่อเน็ต ต้องเดินมาให้ผมช่วย สอน ช่วยหาซื้อชั่วโมงให้ ในช่วงปีนั้น ศูนย์คอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัย มีการปรับปรุงครัง้ ใหญ่ และเริม่ มีอนิ เทอร์เน็ตให้เด็กนักศึกษาได้ใช้งาน ใน แต่ละวัน ผมใช้เวลาอยู่ในศูนย์คอมพิวเตอร์ คอยสอนเพื่อนๆ ในการใช้ งานคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต เพื่อนบางคนปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ เป็น เขาไปกดปุ่ม Power เลย ผมก็วิ่งไปบอก ว่าท�าแบบนี้ผิด เพราะจะ ท�าให้เครือ่ งเสียเร็ว เราต้อง Shut Down ระบบปฏิบตั กิ ารวินโดว์สเสียก่อน ผมคิดว่าในช่วงเวลานี้ เป็นช่วงที่มีอิทธิพลต่อชีวิตผมอย่างมากใน เวลาต่อมา ผมตื่นเต้นกับเทคโนโลยีใหม่ ผมชอบสอนเพื่อนๆ ให้ใช้งาน ผมได้ทดลองท�าหลายสิ่งหลายอย่างก่อนคนอื่น จนมาถึงในทุกวันนี้ ผม จัดรายการโทรทัศน์ วิทยุ อินเทอร์เน็ต และเป็นอีเว้นต์โปรโมเตอร์ ทุกสิ่ง ทุกอย่างล้วนได้รับอิทธิพลมาจากวันนั้นทั้งสิ้น ถ้าวันนั้นผมไม่ได้ดูทีวีช่อง 11 ถ้าไม่ใช่ ดร.บวร ปภัสราทร ที่มาพูด ออกทีวีเรื่องอินเทอร์เน็ต ถ้าวันนั้นผมท�าเงินหาย 4,400 บาท แล้วล้มเลิก ไม่ไปซื้อโมเด็มมาเพื่อเล่นอินเทอร์เน็ตเป็นครั้งแรก ชีวิตทุกวันนี้คงไม่ได้ เป็นแบบนี้

รายการโทรทัศน์แบบอินเทอร์แรคทีฟ

ด้วยความรักในเทคโนโลยี หน้าที่การงานของผมมักจะเกี่ยวข้องกับ เรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ มาโดยตลอด

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


นิตยสาร CHIP ท�าให้ผมนึกถึงเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ตอนที่ใกล้จะเรียน จบและเริ่มท�างานในวงการใหม่ๆ ผมจ�าได้ว่าเคยมาเล่นละครเพลงใน งานเปิดตัวนิตยสาร CHIP จากการก�ากับของครูเก๋ - สามมิติ สุขบรรจง จ�าได้ว่าเวทีใหญ่มากและตื่นเต้นมาก เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็ว จริงๆ ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา มีความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของผมมากมาย เกิดจากความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในยุคสมัยต่างๆ ตั้งแต่การท�า รายการทีวีแบบอินเทอร์แรคทีฟสุดๆ เรื่อยมาจนถึงการเป็นพิธีกรในงาน อีเว้นต์เปิดตัวกล้องดิจิตอลและเครื่อง PDA สารพัดยี่ห้อ จนตอนนี้ผมมี อีเว้นต์ใหญ่ประจ�าปีเป็นของตัวเอง หลังจากนั้น ผมเริ่มเข้าสู่วงการโทรทัศน์ โดยร่วมงานกับรายการ IE Show ของพี่จอห์น รัตนเวโรจน์ หรือ จอห์น นูโว ซึ่งถือเป็นความ พยายามสร้างสิง่ ใหม่ๆ ในกับวงการโทรทัศน์ในสมัยนัน้ คือการจัดรายการ สด ที่มี Interactive กับผู้ชมมากที่สุด งานของผมคือการควบคุมหน้า จอคอมพิวเตอร์ ที่จะเปิดให้คนดูรายการทั้งประเทศ Interactive ผ่าน โปรแกรม ICQ เราให้เบอร์ 2101949 แก่ผู้ชม แล้วเปิดให้พวกเขาส่งแมสเสจผ่าน ICQ เข้ามา ผมจะเป็นคนคอยตรวจสอบแมสเสจเหล่านี้ คัดเลือก บางแมสเสจขึน้ สูห่ น้าจอ และคอยตอบค�าทักทายกับแมสเสจอืน่ ๆ ทีไ่ ม่ได้ ขึ้นหน้าจอ เช่น สวัสดีครับ ยิ้มๆ ขอบคุณครับ

ICQ

โปรแกรมสื่อสำรที่เคยได้รับควำมนิยมอย่ำง สูง ท�ำงำนแบบ Instant Message คล้ำยกับ MSN ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ชื่อ ICQ มำจำกค�ำ ว่ำ I SEEK YOU เพรำะมันท�ำให้เรำเห็นว่ำมีใคร ออนไลน์พร้อมเรำบ้ำง สร้ำงขึ้นโดย Mirabilis บริษัทสัญชำติอิสรำเอล ในปี ค.ศ.1996 เคย ประสบควำมส�ำเร็จมีผู้ใช้ทั่วโลกมำกถึง 100 ล้ำนคน และถูก America Online ซื้อกิจกำรไป จนกระทั่งค่อยๆ เสื่อม ควำมนิยมลงไป ในปัจจุบันยังมีให้ใช้งำนอยู่ โดยเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ๆ เข้ำไป ให้ใช้งำนร่วมกับโทรศัพท์มือถือมำกขึ้น เข้ำไปดูรำยละเอียดที่ http://www.icq.com

ลักษณะการใช้งาน ICQ ในรายการเรา ก็คล้ายกับการส่ง SMS เข้าไป ในรายการคุยข่าวทุกวันนี้ แต่สมัยนั้นเรายังไม่มี SMS จึงใช้ ICQ ซึ่งก�าลัง เป็นทีน่ ยิ ม และใช้งานได้งา่ ยมาก คนดูรสู้ กึ ตืน่ เต้นหวือหวากับการอินเทอร์แรคทีฟแบบนี้มาก จนถึงตอนนี้ผมเลิกเล่น ICQ มานานแล้ว จ�าได้ว่าเคย กลับไปออน ICQ ครัง้ หนึง่ แต่ไม่พบใครออนอีกเลย ก็เลิกเล่นตัง้ แต่นนั้ มา

ทดลองวิทยุผ่านทางอินเทอร์เน็ต

หลังจากนัน้ คุณจอห์นเริม่ ขยายไปท�ารายการวิทยุ IE Radio เช่าเวลา แพงมาก ราคาตอนละ 40,000 บาท ท�าได้เพียง 2-3 เดือน ก็ทนแบกต้นทุน ค่าเวลาไม่ไหว เขาเลยก้าวกระโดดน�าวิทยุไปใส่ในอินเทอร์เน็ต และต้อง ลองผิดลองถูกกับเทคโนโลยีในยุคนั้นอยู่นาน

เราจึงลองไปปรึกษากับคุณ ศุภเดช สุทธิพงศ์คณาสัย หรือ Ripmilla และก็พบว่ามีเทคโนโลยีใหม่เรียกว่า Streaming ท�างานบน Real Server และผู้ฟังสามารถเปิดฟังได้ด้วยโปรแกรม Real Player เราท�าโครงการ ธุรกิจนี้ไปเสนอบริษัท Venture Capital แห่งหนึ่ง และได้รับการสนับสนุน เงินทุนมาก้อนใหญ่

Venture Capital

กำรร่วมลงทุน คือกำรน�ำเงินลงทุน เข้ำไปร่วมถือหุ้นในกิจกำรหนึ่งๆ ตั้งแต่ เริ่มต้นก่อตั้ง เพรำะเห็นว่ำมีแนวโน้มดี และจะเติบโตในอนำคต เมื่อถึงเวลำที่ กิจกำรเติบโตและมั่นคง ก็จะได้รับแบ่ง เงินปันผลตำมสัดส่วนกำรถือหุ้น ใน ช่วงที่อินเทอร์เน็ตเริ่มบูม มีเว็บไซต์และ ธุรกิจออนไลน์มำกมำยเริ่มต้นก่อตั้งกิจกำร โดยได้รับเงินลงทุนจำก Venture Capital เหล่ำนี้ เว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงอย่ำง yahoo.com หรือแม้แต่ บริษัท แอปเปิล คอมพิวเตอร์ ก็เริ่มต้นโดย Venture Capital เช่นกัน

ตอนนั้นผมยังเรียนไม่จบ แต่พักการเรียนเอาไว้เพื่อมุ่งมั่นกับการ ท�างานเต็มที่ และเริ่มต้นท�ารายการ IE Cyber Radio เป็น Streaming บนเว็บไซต์ IEshow.com จ�าได้ว่าในยุคเดียวกันนั้น มีเว็บไซต์อีกหลาย แห่งทีม่ แี นวโน้มว่าจะประสบความส�าเร็จอย่างสูง และได้รบั การสนับสนุน จาก Venture Capital เดียวกับเรา เช่น Sodamag.com, Hansa.com เพราะผู้ลงทุนคิดว่าแนวโน้มต่อไปข้างหน้าจะต้องมาในแนวทางเดียวกับ ที่เราท�ากันอยู่ ทุกวันออกจากบ้านแต่เช้า บอกแม่ว่าจะไปท�างาน แม่ก็ถามกลับ มาว่าท�าไมไม่ไปเรียน อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยก็โทรศัพท์มาหา เพื่อตาม ให้กลับไปเรียนให้จบเสียที อาจารย์บอกว่าเธอมีเวลา 40 ปีที่จะท�างาน แต่เธอมีเวลาอีกแค่ไม่กี่ปีที่จะเรียนให้จบทันก�าหนด ท�าไมเธอเลือกที่จะ รีบท�างานเกินไป ค�าพูดยังฝังอยู่ในหัวผม แต่ในนาทีนั้นผมนึกในใจว่า ไม่ต้องเรียนก็ได้ เพราะว่าผมมีงานแล้ว ผมหุ้นในบริษัทของพี่จอห์น ใน ความรู้สึกของเด็กอายุ 19 ปี ผมคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่มาก และก�าลังจะ ประสบความส�าเร็จ แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในเวลานั้น คืออินเทอร์เน็ตในบ้านเรายัง เป็น 56Kbps ผ่านทางสายโทรศัพท์ทองแดง ผู้ลงทุนคิดว่าอินเทอร์เน็ต บรอดแบนด์ก�าลังจะมาถึงบ้านเราในอีกไม่นาน และเมื่อถึงเวลานั้น

เมื่อสื่อเก่ายังไม่ล้าสมัยและตายสนิท มันจะ ต้องปรับตัว และหาหนทางที่จะสร้างสิ่งใหม่ ขึ้นมาให้ด�าเนินไปพร้อมกันแบบคู่ขนาน

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


Streaming

กำรส่งไฟล์มัลติมีเดียผ่ำน เครือข่ำย โดยเครื่องรับข้อมูล ไปสำมำรถเริ่มแสดงผลได้เลย ไม่ต้องรอดำวน์โหลดจนครบ ทั้งไฟล์ เป็นวิธีกำรเผยแพร่ที่ สำมำรถเข้ำถึงผู้รับชมจ�ำนวนมำกได้ใน กำรน�ำเสนอเพียงครั้งเดียว โดยเครื่อง คอมพิวเตอร์ที่ใช้จะต้องมีกำรประมวลผลที่เร็ว และเครือข่ำยที่ใช้งำนจะต้อง มีควำมเร็วเพียงพอ ปัจจุบันซอฟต์แวร์ที่ใช้นิยมใช้ท�ำเซิร์ฟเวอร์สตรีมมิ่งมำ จำก Microsoft และ RealNetworks

รายการของเราทีม่ คี วามพร้อมอยูแ่ ล้ว ก็จะได้เป็นคอนเท็นต์แรกทีน่ า� เสนอ ผ่านบรอดแบนด์ พวกเราตื่นเต้นกับค�าว่าบรอดแบนด์ และท�ารายการ อย่างดี ออกอากาศตัง้ แต่เทีย่ งวันยันเทีย่ งคืน ผมก็ทา� งานตัง้ แต่สบิ โมงถึง เที่ยงคืนแทบทุกวัน เราคิดค�าเรียกผู้จัดรายการวิทยุทางอินเทอร์เน็ตเสีย ใหม่ ไม่ได้ใช้ค�าว่า DJ อีกแล้ว แต่เราเรียกว่า Internet Jocky เวลาผ่านไปประมาณ 7 เดือน โดยที่ผู้ฟังของเราส่วนใหญ่ยังใช้ 56Kbps ที่ไม่สามารถเปิดฟังรายการเราได้อย่างถนัดนัก แถมราคา อินเทอร์เน็ตยังแพงมาก และคิดเป็นรายชัว่ โมง ในทีส่ ดุ ผูล้ งทุนและทีมงาน ของเราทุกคน ก็เริม่ รูแ้ ล้วว่าอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ยงั ไม่มา เราพยายาม ปรับเทคนิค ให้บีบอัดไฟล์เล็กลงไปอีก โดยใช้โปรแกรม Winamp แต่ก็ไม่ ประสบความส�าเร็จอยู่ดี ในที่สุด เราต้องหยุดการจัดรายการ และไม่ได้เงินสนับสนุนต่อ ผมซึ่ง เป็นคนบ้างาน เคยคิดว่าจะฝากทุกอย่างในชีวิตไว้กับมัน ถึงกับไปไม่ถูก ผมกลับไปเรียนหนังสืออีกครั้ง ด้วยความช่วยเหลือและให้ค�าแนะน�า จากอาจารย์ ผมน�าประสบการณ์ในการท�างานโทรทัศน์และวิทยุออนไลน์ ทั้งหมดมาเขียนเป็นวิทยานิพนธ์ และเรียนจบมาได้ในที่สุด ความประทับใจทีส่ ดุ ในการท�ารายการวิทยุออนไลน์ คือการสัมภาษณ์ คุณสมัคร สุนทรเวช ในวันโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตัง้ ผูว้ า่ ราชการกรุงเทพ มหานคร ในวันนั้นรายการของเรามีคนฟังมากที่สุดเท่าที่เคยจัดมา คือ 700 คน 700 คน เปรียบเทียบกับรายการวิทยุจริงๆ ทีอ่ า้ งจ�านวนผูฟ้ งั เป็นแสน เราจะไปสู้อะไรเขา ในเวลานั้น โอกาสของเราคือเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต แต่ข้อจ�ากัดของ เราก็คือเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเช่นกัน

สู่ยุคบูมของอีเว้นต์มาร์เก็ตติ้ง

หลังจากเลิกท�ารายการวิทยุ พีจ่ อห์นให้หยุดพักผ่อนสองเดือน โดยผม ยังคงถ่ายท�ารายการโทรทัศน์อยู่บ้าง แต่ไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวันเหมือน เคย ผมใช้เวลาว่างช่วงนั้น ในการเดินเที่ยวงานอีเว้นต์ต่างๆ ซึ่งเป็นช่วงที่ อีเว้นต์มาร์เก็ตติ้งเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ผมเก็บข้อมูลและเริ่มมี ไอเดีย ว่าตนเองท�างานพิธีกรแบบนี้ได้ และงานอีเว้นต์ที่จัดกันอยู่ในเวลา นั้น ผมมีไอเดียที่จะสื่อข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้อย่างตรงประเด็นที่ลูกค้า ต้องการมากกว่า เพราะผมคลุกคลีกับเทคโนโลยีมาจริงๆ มานาน

ในช่วงนั้น มีบริษัทอีเว้นต์ออร์แกไนเซอร์ขนาดใหญ่ในวงการแล้ว เขา ท�าแนวพรีเซนเทชั่นกันมาก่อน ในขณะที่ลูกค้าเริ่มมีความต้องการงาน อีเว้นต์แบบออกบูท หรือท�ากิจกรรมส่งเสริมการขายกับกลุ่มเป้าหมายที่ ผ่านไปมา ผมจึงเริ่มต้นบริษัทโชว์โนลิมิต และรับท�างานเหล่านี้ ที่ผ่านมา ก็ประสบความส�าเร็จดีพอสมควร ได้แบรนด์สินค้าใหญ่ๆ มาเป็นลูกค้า ระยะสั้นและระยะยาว ความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ท�าให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใน วงการโฆษณา เพราะสื่อต่างๆ วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ถูกสั่นคลอน ด้วยอินเทอร์เน็ต ณ วันนี้ นักการตลาดมองว่าว่าคนดูทีวีน้อยลง ฟังวิทยุ น้อยลง อ่านหนังสือพิมพ์น้อยลง ในขณะที่ค่าโฆษณายังแพงอยู่ในระดับ เดิม และยังมีแนวโน้มที่จะแพงเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ในขณะเดียวกัน การ โฆษณาทางอินเทอร์เน็ตก็ยังไม่มีความชัดเจนมากพอ การน�าเงินไปลง โฆษณาทางโทรทัศน์ช่วง Prime Time ต้องใช้อย่างน้อย 4-5 แสนบาท ถ้าเอาเงินจ�านวนเดียวกัน มาท�าอีเว้นต์มาร์เก็ตติ้ง อาจจะจัดอีเว้นต์ได้ นานถึง 2-3 วันเลยทีเดียว ช่วงที่เริ่มเปิดบริษัทโชว์โนลิมิต ตรงกับช่วงที่กล้องดิจิตอล และ PDA จ�าพวก Palm PocketPC เริม่ ออกสูต่ ลาดและได้รบั ความนิยมเพิม่ ขึน้ อย่าง รวดเร็ว มันเป็นสินค้าใหม่ที่ผู้ใช้ต้องมีความรู้และเปลี่ยนแปลงการใช้งาน ไปจากเดิม จึงต้องมีคนคอยให้ค�าแนะน�าอย่างใกล้ชิดกับผู้ใช้ การจัดงาน อีเว้นต์เพือ่ เปิดตัวเหล่านีจ้ งึ มีความจ�าเป็นและได้ผลอย่างมาก ผมจ�าได้วา่ ในช่วงนั้น โชว์โนลิมิตเรารับงานแบบนี้ติดๆ กันเป็นประจ�า

นิตยสาร CHIP ท�าให้ผมนึกถึงเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ตอนที่ใกล้จะเรียนจบและ เริ่มท�างานในวงการใหม่ๆ ผมจ�าได้ว่าเคย มาเล่นละครเพลงในงานเปิดตัวนิตยสาร CHIP จากการก�ากับของครูเก๋ - สามมิติ สุขบรรจง จ�าได้ว่าเวทีใหญ่มากและ ตื่นเต้นมาก

โซเชียลเน็ทเวิร์กในทัศนะของหนุ่ย

ความเปลี่ยนแปลงที่ส�าคัญในยุคนี้ คือโซเชียลเน็ตเวิร์ก มันส่งผล กระทบต่อทัง้ ชีวติ ประจ�าวัน การท�างาน และการท�าธุรกิจของผมอย่างมาก และเชื่อว่าทุกคนก็เป็นเช่นเดียวกัน ในชีวิตประจ�าวัน ผมเริ่มแปลกใจกับตัวเอง ว่าเดี๋ยวนี้ตื่นเช้าขึ้นมา แล้วก็เปิดเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ก่อนเป็นอันดับแรก เทียบกับเมื่อ 2 ปีก่อน ผมเคยเช็คอี-เมล์ก่อนเป็นอันดับแรก ในตอนนี้มันกลายเป็นว่า ผมรับส่ง

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


อี-เมล์น้อยลง แต่ว่าส่ง DM มากขึ้น ใครต้องการติดต่อกับผม ก็ส่งมาทาง DM จะได้รับค�าตอบเร็วที่สุด ผมไม่แน่ใจว่ากิจวัตรการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กแบบนี้เป็นเรื่องที่ดี หรือเปล่า มีครัง้ หนึง่ ผมและภรรยาเดินทางไปต่างประเทศด้วยกัน ในทริป นั้นผมลืมเปิดบริการโรมมิ่ง จึงไม่ได้เล่นทวิตเตอร์เลยใน 2 แรก พอถึงวัน สุดท้ายก่อนเดินทางกลับ ผมอดใจไม่ไหว โทรกลับมาหา call center ที่ เมืองไทยเพื่อขอเปิดแพคเกจ แล้วก็เริ่มทวิตทันที ภรรยาหันมาบอกว่า ทวิตเตอร์พรากเธอไปจากฉันเสียแล้ว ในส่วนของธุรกิจ ผมเชื่อว่าการจัดงานอีเว้นต์จะต้องเปลี่ยนแปลงไป ยกตัวอย่างเช่นผมท�าอีเว้นต์โดยมีผู้เข้าร่วม 200-500 คน ณ จุดนั้น ไม่ สามารถกระจายไปได้ไกลและกว้างกว่านั้น เพราะสื่อแบบดั้งเดิมมีข้อ จ�ากัด ในขณะที่เมื่อเรามีโซเชียลเน็ตเวิร์กใช้งาน ผมพบว่าเราสามารถ ถ่ายทอดสดการจัดงานของเราผ่านทางเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ และมัน ค่อนข้างมีพลังมาก

การรู้จักกันผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์กอาจ จะท�าให้เรารู้จักกันน้อยเกินไป มันท�าให้การ ชื่นชมเพื่อนมนุษย์ลดลง

ผมเคยประเมินในช่วง 2-3 เดือนแรก ที่ทวิตเตอร์เริ่มบูมในเมืองไทย และผมเองก็เริ่มต้นเล่นในช่วงนั้น ผมได้รายได้จากมันเกิดความคาด หมาย จากการที่มีคนติดต่อเข้ามาผ่านทาง DM สามารถเปิดแอคเคานต์ ลูกค้ารายใหม่ รวมถึงการได้รับการสนับสนุนจากลูกค้าหลายรายที่เป็น เพื่อนในทวิตเตอร์ ผมได้รู้จักกับคุณพาที สารสิน แห่งนกแอร์ และเขามา เป็นสปอนเซอร์งาน Thailand Game Show บริษัท แสนสิริ ที่เป็นบริษัท อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งไม่ใช่ลูกค้าแนวเดียวกับบริษัทของผมเลย แต่เมื่อเขา ต้องการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล เขาก�าลังเริ่มท�า Digital Marketing เขาก็ นึกถึงผม และทวิตเข้ามาหา

เตรียมความพร้อมส�าหรับคลื่นลูกต่อไป

ณ วันที่ภูเขาน�้าแข็งวงการสิ่งพิมพ์ละลายแล้ว คนซื้อหนังสือน้อยลง แต่คนไม่ได้หยุดอ่าน เพียงแต่เขาไปอ่านอย่างอื่น ผมเชื่อว่าคอนเท็นต์ยัง เป็นสิ่งที่มีค่า เพียงแต่มันจะต้องเปลี่ยนสื่อกลางและวิธีการ ยกตัวอย่าง เช่น manager.co.th คือเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ที่คนเข้ามากที่สุด เปรียบ เทียบกับตอนสมัยเป็นหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เขาไม่ใช่หนังสือพิมพ์ที่ขาย ดีที่สุด แต่กลับประสบความส�าเร็จเมื่อมาออนไลน์ ค�าถามว่าเพราะอะไร ค�าตอบอาจจะอยูต่ รงการใช้สอื่ ใหม่และวิธกี ารทีเ่ ขาจับด้านมืดของมนุษย์ ออกมาตีแผ่และเปิดช่องให้ทุกคนได้แสดงออกด้านมืดอย่างเต็มที่ ในขณะทีส่ อื่ เก่าอืน่ ๆ อย่างวิทยุและโทรทัศน์ ต่างก็กา� ลังปรับตัวอย่าง มาก แต่จะไม่เลือนหายไปในรุ่นของเรา ผมนึกถึงค�าพูดของ พี่ดี้ นิติพงษ์

ห่อนาค มีคนไปถามเขาว่าเด็กรุ่นนี้ไปแข่งในรายการเดอะสตาร์กันท�าไม ในเมือ่ คนรุน่ นีไ้ ม่ได้ดทู วี กี นั เท่าไรแล้ว พีด่ ตี้ อบว่า เขาไปแข่งตามใจพ่อแม่ เพราะคนรุน่ พ่อแม่ยงั ดูทวี กี นั อยู่ แสดงให้เห็นชัดว่าเมือ่ สือ่ เก่ายังไม่ลา้ สมัย และตายสนิท มันจะต้องปรับตัว และหาหนทางทีจ่ ะสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมาให้ ด�าเนินไปพร้อมกันแบบคู่ขนาน หันมาดูธุรกิจของผมเอง ผมถือว่าตอนนี้เป็นช่วงคลื่นลูกที่สองของ เรา ใน 10 ปีแรก คลื่นลูกแรกได้ผ่านไปแล้ว คือการท�าสื่อทีวี วิทยุ เรื่อยมา จนถึงการท�าอีเว้นต์มาร์เก็ตติ้ง ในช่วงนี้ เราก�าลังเข้าคลื่นลูกที่สอง เรา ต้องมองหาและสร้างนวัตกรรมใหม่ โดยผมเชื่อว่าเรามีงานส�าคัญ 2 ด้าน ที่ต้องท�า 1. การมีงานอีเว้นต์เป็นแบรนด์ของตนเอง ซึ่งตอนนี้เราเริ่มท�าแล้ว 2 งาน คือ Thailand Game Show จัดเป็นปีที่ 5 และ Anime No Limit จัด เป็นปีที่ 2 นี่เป็นช่วงเริ่มต้นอยู่ แต่ก็ประสบความส�าเร็จพอสมควร เด็กรุ่น ใหม่กา� ลังจะโตขึน้ ไปพร้อมกับงานอีเว้นต์ของเรา ผมเชือ่ ว่านีค่ อื การจจอง พื้นที่ในใจของพวกเขาเอาไว้ก่อน เปรียบเหมือนวงการเพลงที่ค่ายยักษ์ ใหญ่ จะต้องสร้างสมผลงานและแฟนเพลงนานนับสิบปี กว่าจะประสบ ความส�าเร็จอย่างเต็มที่ได้ ธุรกิจอื่นที่จะมาท�าตามในภายหลังก็จะไม่ สามารถตามทัน เพราะเขาไม่ได้จองที่ในใจไว้ก่อน ผมอยากให้เด็กรุ่นนี้ เติบโตขึ้นพร้อมกับความคิดว่า เขามีความสุขที่สุดในช่วงเทศกาลวันเด็ก เมื่อมาร่วมงาน Thailand Game Show 2. การสร้างสินค้าบางอย่างที่จับต้องได้ ผมก�าลังมองหาโอกาสทาง ธุรกิจกับสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีใหม่อย่างสมาร์ททีวี ในปัจจุบัน คนไทย 20 ล้านหลังคาเรือนที่ทีวียังเก่าอยู่ ยังเป็น Stupid TV ถ้าเราสามารถสร้างทั้ง ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ด้วยเทคโนโลยีระดับกลาง เพื่อให้คนส่วนใหญ่ อัพเกรดทีวตี วั เองได้ อาจจะเป็นกล่อง Set-top Box ทีเ่ ชือ่ มต่ออินเทอร์เน็ต ความเร็วสูง แล้วเราก็ป้อนรายการที่สามารถดูย้อนหลังได้อยู่ในกล่องนี้ โดยภาพจะมาจากเครื่องตัดต่อของบริษัทผลิตรายการนั้นๆ เลย

Smart TV

สมำร์ททีวีคือทีวีที่ต่ออินเทอร์เน็ตได้ เครื่องรับโทรทัศน์ที่มีควำมสำมำรถมำกกว่ำเดิม ไม่ได้ใช้แค่ดูรำยกำรทีวี เพียงอย่ำงอย่ำงเดียว แต่ยังเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ เล่นเกมได้ ทั้งผ่ำน สำยหรือแบบไวร์เลส และจะมีแอพพลิเคชันอยู่ในเครื่องเลย ท�ำให้มันฉลำด และสำมำรถเพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ ได้

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


บิสสิเนสโมเดลจะแตกต่างจากเคเบิลทีวี ทีวีแบบเพย์เพอวิว และการ ท�าสถานีทีวีทั่วไป ที่ต้องใช้เงินลงทุนสูงมากเกินไป และต้องผลิตรายการ ปริมาณมากมาย แบบ 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน แล้วแพร่ภาพออกไปครั้ง เดียว แต่ในทุกวันนี้ ต้องยอมรับว่าเราไม่ได้ดูทีวีกันแบบเดิมอีกต่อไป คือ เราไม่ได้ดพู ร้อมกันอยูแ่ ล้ว คนส่วนใหญ่ดยู อ้ นหลังจากเว็บยูทบู โดยฝีมอื ของคนดูทวี สี กั คนหนึง่ ทีบ่ นั ทึกรายไว้แล้วอัพโหลดใส่เข้าไป บริษทั ผูผ้ ลิต รายการเองก็สูญเสียรายได้และถูกละเมิดลิขสิทธิ์

ผมมีแฟนรายการดูอยู่ระดับหนึ่ง หนึ่งสัปดาห์ผมมีแรงที่จะผลิต รายการทีวีออกมาอย่างมากที่สุดสัก 20 ตอน แล้วท�าไมผมต้องมีสถานี ของตัวเอง หลายคนยังติดกับโลกของทีวีแบบเก่า และอยากได้สถานีมา เพือ่ จะพบว่าเขาต้องเอารายการเดิมมารีรนั ซ�า้ ๆ เผาเวลาออกอากาศทิง้ ไป เรื่อยๆ ในขณะที่คนท�าทีวีในโลกยุคใหม่ อย่างเช่น iHere TV ของ จอห์น วิญญู เขาท�ารายการอาทิตย์ละ 1 คลิป แต่สนุกสุดๆ และคนเฝ้ารอที่จะดู ผมเชื่อว่าถ้าเรามีพฤติกรรมการดูทีวีแบบใหม่ และมีคนท�าทีวีแบบใหม่ๆ เช่นนี้มากขึ้น สมาร์ททีวีแบบของผมน่าจะได้รับความนิยมได้ไม่ยาก

Set-top Box

สิ่งที่มีค่าเหนือกว่าเทคโนโลยี

Set-top Box (STB) หรือ Set-top Unit (STU) คืออุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อ ระหว่ำงทีวี กับแหล่งข้อมูลจำกภำยนอก ไม่ว่ำจะเป็นสำยใยแก้ว เคเบิล ดำวเทียม อินเทอร์เน็ต ฯลฯ

จากประสบการณ์ในฐานะผู้ใช้งานและผู้ท�าธุรกิจในวงการนี้ ผมเชื่อ ว่าตัวเรามีค่ามากกว่าเทคโนโลยีที่เราใช้ในแต่ละยุคสมัย เทคโนโลยีเปลีย่ นแปลงไปให้เร็วขึน้ เรือ่ ยๆ เทียบกับสมัยก่อนเมือ่ มอง ย้อนกลับไป ก็จะเห็นว่ามันช้าเหลือเกิน 14.4Kbps Pentium 133MHz แต่ เราทุกคนเมื่ออยู่ในยุคนั้น เรารู้สึกว่ามันเร็วเหลือเกิน

“ ถ้าผมมีกล่องหนึง่ ขายในราคาถูกทีส่ ดุ เพือ่ ให้มนั กระจายไปให้ได้มาก ที่สุด แล้วผมเปิดให้ผู้ผลิตรายการเข้ามาอัพโหลดคอนเท็นต์เข้าไป สร้าง ชาแนลตัวเอง โดยผมท�าหน้าที่เป็นตลาดกลางให้ ผู้ใช้บริการก็จ่ายแบบ เหมาเหมือนบุฟเฟ่ต์ อยากจะชมรายการอะไร เมื่อไร มากแค่ไหน ก็แล้ว แต่ความพอใจ จะออนไลน์อินเทอร์เน็ต หรือเปิดดูคลิปจากยูทูปก็ได้ ให้ ภาพที่ใหญ่ขึ้นกว่าดูบนจอทีวีด้วย

ihere.tv

รำยกำรทีวีทำงอินเทอร์เน็ต ของ จอห์น วิญญู วงศ์สุร วัฒน์ ชื่อ iHere ย่อมำจำก Independent Here เพื่อ แสดงจุดยืนควำมเป็นตัวของ ตัวเอง และเป็นรำยกำรทีวี ที่เป็นอิสระ น�ำเสนอเนื้อหำ ที่วิพำกษ์วิจำรณ์สังคม อย่ำงหนักหน่วง ในท่วงท่ำที่ สนุกสนำนเฮฮำ ได้รับควำมนิยมจำกผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจ�ำนวนมำก

ในเช้าวันแรกหลังจากที่ต่ออินเทอร์เน็ต ผมพรินต์สิ่งที่ผมเห็นและประทับใจ ที่สุดในนั้น เอาไปให้เพื่อนที่คณะดู มันคือ หน้าโฮมเพจของเว็บไซต์ Yahoo.com ทุก คนตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ โลกใหม่ที่มีคน ไปส�ารวจพบ

ความช้าหรือเร็วนัน้ แท้จริงแล้วเป็นเรือ่ งของความรูส้ กึ เป็นจินตนาการ ของเรามีตอ่ การใช้งานเทคโนโลยี คนเรามีขอ้ เสียอยู่ 2 อย่าง คือ 1. เมือ่ เรา เจอความเร็วที่สูงขึ้น เราจะไม่ถอยกลับไปใช้ของเก่าที่ช้ากว่า และ 2. ถ้า เราเจอความละเอียดทีช่ ดั ขึน้ เราก็จะไม่ถอยกลับไปดูสงิ่ ทีช่ ดั น้อยอีกต่อไป ยกตัวอย่างซีพยี ู บรอดแบนด์ วีซดี ี ดีวดี ี ทุกวันนีเ้ รานัง่ ดูดวี ดี ี แล้วนึกไปถึง สมัยก่อนว่าเราทนดูวซี ดี มี าได้อย่างไร แล้ววันนีเ้ ราซือ้ Blu-ray เครือ่ งใหม่ แน่นอนว่าเราจะเลิกดูดีวีดีไปเลย เทคโนโลยีใหม่ แกดเจ็ทใหม่ สินค้าใหม่ เกิดขึ้นได้ด้วยการเล่นกับความรู้สึกของคนเราแบบนี้ ในฐานะผู้ใช้ เราก็จับตามองความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี แล้ว ก็ใช้งานมันเพื่อให้ก้าวกระโดดตามไป ยกตัวอย่างเช่น ปีที่ผ่านมาเทรนด์ ของแท็บเล็ตเริ่มเข้ามา แท็บเล็ตรุ่นใหม่ๆ ช่วยในเรื่องการท�างานพิธีกร ผมไม่ต้องใช้กระดาษอีกต่อไป เมื่อขึ้นเวทีกน็ �าแท็บเล็ตที่มีสคริปต์งานขึ้น ไปด้วย ถ้าผู้ก�ากับเวทีที่อยู่เบื้องหลัง ต้องการแจ้งอะไร ส่งค�าถาม หรือมี คิวแทรก ก็ยิงข้อความขึ้นมาหาได้ตลอดเวลา ส�าหรับปีนี้ ผมคิดว่าเทรนด์ ของสมาร์ททีวีก�าลังมา

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


เทคโนโลยีทมี่ าใหม่กจ็ ะกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ และจะเปลีย่ น โอกาสแบบเดิมให้หายไป เหมือนกับเมื่อ 10 ปีก่อน นักธุรกิจดอทคอม สนใจกันแต่เรื่องการจดชื่อโดเมนเนม ต้องคิดชื่อดอทคอมเท่ๆ หรือไป ซื้อชื่อมาในราคาแพงๆ เพราะทุกคนคิดว่าชื่อดอทคอมมีมูลค่าเหมือน กับอสังหาริมทรัพย์ แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป คนไม่ได้เข้าเว็บไซต์แบบนั้น โดยตรง แต่ทุกคนเข้าผ่านลิงก์ต่างๆ เช่นจากการค้นข้อมูลของ Google. com หรือเข้าผ่านลิงค์ของเพื่อนๆ ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ในทุกวันนี้ ชื่อดอท คอมไม่มีค่าเหมือนอย่างที่เราเคยคิดกัน ถ้าผมจะเปิดเว็บไซต์สักแห่ง ผม ไปจดโดเมนฟรี ชือ่ โดเมนธรรมดาๆ ก็ได้ เช่น songco.de หรือ instagr.am

Dot-Com Bubble

สภำพฟองสบู่ในธุรกิจดอทคอมทั่วโลก เกิดขึ้นในช่วง ค.ศ. 1995–2000 ดัชนี NASDAQ เคยพุ่งขึ้นถึง 5132.52 จุด เกิด Venture Capital เข้ำไป สนับสนุนธุรกิจไอทีเกิดใหม่มำกมำย เกิดกำรเก็งก�ำไรในเว็บไซต์และชื่อ โดเมนเนมต่ำงๆ จนรำคำสูงเกินจริง ในอีกไม่นำนหลังจำกนั้น ธุรกิจและ เว็บไซต์ส่วนใหญ่ก็ล้มเหลวลง เพรำะไม่สำมำรถเกิดขึ้นจริง

สิ่งที่มีค่าในทุกวันนี้ ผมเชื่อว่าคือตัวบุ๊กคล หรือที่เรียกว่า Influencer หรือผู้มีอิทธิพลทางความคิด เมื่อโลกอินเทอร์เน็ตมุ่งไปสู่โซเชียลเน็ตเวิร์ก คนทีจ่ ะพูดแล้วท�าให้คนสนใจและเห็นด้วย จะมีมลู ค่าทางธุรกิจ ในวันนี้ มี คนไทยเล่นเฟซบุ๊ก 7 ล้านคน เล่นทวิตเตอร์น่าจะ 5 แสนคน Influencer คือคนที่มี Follower และ Friend จ�านวนมาก และให้ความเชื่อถือ น�ามา พูดต่อ ลิงก์ต่อ ส่งต่อข้อมูล หรือมีสื่อมวลชนแขนงอื่นน�าไปพูดถึงบ่อยๆ Influencer ไม่จา� เป็นต้องเป็น Celebrity ทีเ่ ป็นคนดัง ดารา ทีอ่ อกโชว์ ตัวตามงานเลี้ยงสังสรรค์ แต่ Influencer คือคนที่มีความจริงใจ เป็นมิตร และคนทั่วไปอยากมีสัมพันธภาพที่ดีได้ด้วย ในทุกวันนี้ ผมอยากจะลอง เป็น Influencer บ้าง ด้วยการทวิตเพื่อถ่ายทอดชีวิต การงาน ครอบครัว

ข่าวสาร และทัศนคติที่ดีต่อสังคมไทย และชี้น�าเพื่อนๆ ให้ท�าเรื่องดีๆ เมือ่ ทศวรรษก่อน มูลค่าของบริษทั อาจจะอยูท่ ชี่ อื่ ดอทคอม แต่ปจั จุบนั นี้คุณค่าของบริษัทอยู่ที่ตัวคุณเอง เหมือนกับคุณตัน ภาสกรนที คือสิ่งที่ มีคุณค่าที่สุดของแบรนด์โออิชิ คุณวงศ์ทนงค์ ชัยณรงค์สิงห์ คือตัวแทน ของอะเดย์ และสุขภาพของสตีฟ จ็อบส์ ก็คือสุขภาพของบริษัทแอปเปิล นั่นเอง เมื่อทศวรรษก่อน คนคิดว่าแบนเนอร์ในเว็บไซต์คือโฆษณา แต่ใน ปัจจุบัน เรารู้กันแล้วว่าการพูดปากต่อปากนี่แหละ คือการโฆษณาที่ได้ ผลที่สุด เครือข่ายเพื่อนฝูงกลายเป็นสิ่งส�าคัญ ลองเข้าไปในงานแต่งงาน ของเพือ่ นสักคน เราจะพบว่าเครือข่ายเพือ่ นของเรากว้างใหญ่และซับซ้อน มาก เจอเพือ่ นหนึง่ ทีร่ จู้ กั กับเพือ่ นของเราอีกคนหนึง่ หรือรูจ้ กั กับเพือ่ นของ เพื่อนของเพื่อนเรา ทฤษฎี Six Degrees of Separation เป็นความจริง ว่า เราทุกคนในโลกล้วนเป็นเพือ่ นของเพือ่ นกัน และมันก�าลังจะกลายเป็นสิง่ ส�าคัญในยุคโซเชียลเน็ตเวิร์ก สิง่ หนึง่ ทีผ่ มรูส้ กึ เป็นห่วง คือเมือ่ ก่อนเราจะชืน่ ชมเพือ่ นมนุษย์กนั เยอะ กว่านี้ เวลาดูรายการทีวี อย่างเช่นตีสิบ หรือทไวไลท์โชว์ พิธีกรสัมภาษณ์ ใครสักคนได้น่าสนใจ เราดูตั้งแต่นาทีที่หนึ่งจนนาทีที่หกสิบ เราจะดื่มด�่า กับเรื่องของเขา แล้วก็จะชื่นชมเขา แต่ทุกวันนี้เราเอาแค่หัวๆ ผิวๆ ไม่ได้ ลงเข้าไปในเนื้อ การรู้จักกันผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์กอาจจะท�าให้เรารู้จัก กันน้อยเกินไป มันท�าให้การชื่นชมเพื่อนมนุษย์ลดลง ยิ่งกระบวนการของ ข่าวสมัยนี้ ต้องการจะแฉเรื่องฉาว ข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีเสียตังค์ ท�าให้ เราเกิดความรู้สึกว่าไม่เห็นมีใครน่าชื่นชมเลย เมื่อมนุษย์ไม่ได้ชื่นชมใน มนุษย์ มนุษย์ก็ขาดแรงบันดาลใจที่จะไปท�าสิ่งดี สิ่งที่ดีกว่า สิ่งที่ใหม่กว่า หรือสิ่งที่ดีมีใประโยชน์ต่อคนอื่น เพราะว่าเขาก็ไม่รู้ไม่เห็นคุณค่าของ การท�าสิ่งดี

Six Degrees of Separation

หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ำ Human Web หมำยถึงสภำวะที่โลกของเรำมี ประชำกรมำกขึ้น ในขณะที่กำรติดต่อสื่อสำร กำรคมนำคมขนส่ง และสภำพ สังคมเปิดกว้ำง ให้เรำทุกคนมีโอกำสท�ำควำมรู้จักกันมำกขึ้น จนเชื่อว่ำเรำ ทุกคนล้วนเป็นเพื่อนกันหรือรู้จักกันในด้ำนใดด้ำนหนึ่ง มุมใดมุมหนึ่ง ถ้ำนับ ไล่ไป 6 ล�ำดับชั้น เรำจะพบว่ำทุกคนเป็น “เพื่อนของเพื่อน” ของกันและกัน ทั้งสิ้น

ในเวลานั้น โอกาสของเราคือเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต แต่ข้อจ�ากัดของเราก็คือ เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเช่นกัน

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


172


อนุชัย ศรีจรูญพู่ทอง ช่ำงภำพและกรรมกำรผู้จัดกำร บริษัท รีมิกซ์ สตูดิโอ แบงค็อก จ�ำกัด

สุนทรียะของภาพถ่ายในโลกยุคดิจิตอล อนุชัย ศรีจรูญพู่ทอง เป็นที่ยอมรับในฐานะช่างภาพโฆษณาระดับ World Class เขาเคยกวาดรางวัลมาแล้วแทบจะครบทุกสถาบันในโลก กว่า 300 รางวัล ด้วยประสบการณ์มากกว่า 2 ทศวรรษ เขาจึงเคยหลังวิวไฟน์เดอร์ ยุคอนาล็อก ผ่านงานรีทัชภาพด้วยมือ สู่ยุคบุกเบิก Digital Photo Processing และกลายเป็นผู้อยู่หลังวิวไฟน์เดอร์กล้องดิจิตอลที่หาตัวจับ ยากที่สุดในวงการ ผลงานของอนุชัยผสมผสานเป็นหนึ่งเดียว ระหว่าง ศิลปะภาพถ่าย Fine Art ความคิดสร้างสรรค์อนั สดใหม่ และการประยุกต์ ใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ

จุดเปลี่ยนของคนในยุคฟิล์ม

“New Situation” หมายถึง จุดพลิกผัน วันใดเมื่อเกิดจุดพลิกผันขึ้น สิ่งที่เคยเป็นมาจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ไม่มีใครห้ามหรือหยุด New Situation ได้ ระหว่างที่ฟิล์มก�าลังจะเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิตอล ผมได้เห็น สิ่งหนึ่งเกิดขึ้น อีกสิ่งหนึ่งดับลง เทคโนโลยีสร้าง New Situation ให้การ กับถ่ายภาพ ผมจ�าได้ดี ยุคฟิล์มเป็นยุคแห่งการเรียนรู้ทดลอง กว่าที่ใครสักคน จะก้าวขึ้นมาเป็นช่างภาพที่ดีได้ อย่างน้อยที่สุด เขาจ�าเป็นต้องเรียนรู้ไม่ น้อยกว่า 4 ศาสตร์

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


ศาสตร์ที่หนึ่ง คือ อุปกรณ์ กลไกเมกคานิคของกล้อง ช่วงเลนส์ขนาด ต่างๆ ที่สร้างมิติภาพแตกต่างกัน เลนส์ไวด์ เลนส์เทเล เลนส์มาโคร การ ปรับหน้ากล้องเปิดรู้รับแสง เลือกความเร็วสปีดชัตเตอร์ให้สัมพันธ์กันกับ สภาพแสง ศาสตร์ทสี่ อง คือ ฟิลม์ ฟิลม์แต่ละชนิดให้คณ ุ สมบัตกิ ารรับแสง การอิม่ ตัวของสีที่แตกต่างกัน เช่น งานแลนด์สเคปต้องใช้ฟิล์มสไลด์ Fuji Velvia 50 ที่เก็บแสงธรรมชาติได้ดี งานพอร์เทรทต้องเลือกฟิล์ม Kodak ที่ให้สี วอร์มโทน สีผิวของตัวแบบจะดูดี

Fuji Velvia

ฟิล์มสีสไลด์ที่วางจ�าหน่ายครั้งแรกปี ค.ศ.1990 โดยบริษัทฟูจิฟิล์มประเทศ ญี่ปุ่น เนื้อฟิล์มถูกคิดค้นขึ้นให้บันทึกค่าความสว่างของแสงไล่เฉดสีได้ ละเอียด เก็บค่าความสีสดได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สีเขียวและสีฟ้า ช่างภาพ จึงนิยมน�ามาถ่ายภาพวิวและแลนด์ สเคป จะได้รูปที่มีความอิ่มตัวของสี สูง มีให้เลือกใช้งานทั้งขนาด 135, 120 และ 4X5 นิ้ว ฟิล์มสไลด์ Fuji Velvia ที่สร้างชื่อคือ Fuji Velvia Chrome ISO 50 ปัจจุบัน Fuji Velvia 50 ถูกน�ากลับมาวางจ�าหน่าย ใหม่อีกครั้ง

ศาสตร์ที่สาม ต้องรู้จักธรรมชาติของ Subject ที่จะไปถ่าย เช่น คน ท้องฟ้า พระอาทิตย์ ทะเล ภูเขา ทุกอย่างมีสภาวะที่ไม่เหมือนกัน ศาสตร์ทสี่ ี่ ด้านองค์ประกอบทางศิลปะ คอมโพสิชนั่ อีโมชัน่ คัลเลอร์ โทน ไลท์ติ้ง ชาโดว์ 4 ศาสตร์เหล่านีม้ ใี ห้เรียนรูก้ นั ไม่หมดสิน้ ในยุคฟิลม์ ผูท้ จี่ ะเรียนรูเ้ รือ่ ง พวกนีไ้ ด้ ต้องหมัน่ ทดลอง สังเกต จดจ�า เสียเงินกันไปคนละมหาศาล ถ่าย ด้วยฟิล์มครั้งละ 36 รูปเท่านั้น ฝีมือจะพัฒนาได้ ต้องใช้เวลาเป็นแรมปี ยกตัวอย่าง ผมจะถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกดิน กระบวนการถ่ายรูปเริม่ ต้นตั้งแต่ เตรียมอุปกรณ์อย่างไร เลือกฟิล์มประเภทไหน ใช้ช่วงเลนส์เท่า ไหร่ ท�าการบ้าน เรื่องดินฟ้าอากาศ อย่างน้อยที่สุดผมใช้ฟิล์มสไลด์ 120 จ�านวน 10 ม้วน 1 ม้วนมี 12 รูป ช่างภาพที่ชื่ออนุชัยคนนี้ ต้องกดมาไม่ ต�่ากว่า 120 รูป เพื่อใช้งานแค่ภาพเดียว นั่งไทม์แมชีนข้ามเวลามาอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันคนทั่วไปถ่ายภาพ พระอาทิตย์ตกดินด้วยกล้องดิจติ อล ปรับโหมดออโต้ ถ่ายแล้วคอยเช็ครูป จากมอนิเตอร์แอลซีดที อี่ ยูห่ ลังกล้อง คุณย่อมได้ภาพพระอาทิตย์ตกดินที่ แสงบาลานซ์ที่สุด พอใจแล้วที่สุด คุณอาจจะยืนอยู่ตรงนั้นแค่ครึ่งชั่วโมง โดยใช้เมมโมรี่การ์ด 1 กิกะไบต์ จบ! ในขณะที่ฟิล์มถ่ายเสร็จ รีบส่งล้าง ช่างภาพไม่มั่นใจ กระวนกระวาย จนกว่าได้เห็นสไลด์ในตอนบ่ายของอีกวัน และผมอาจกลับไปรอถ่าย พระอาทิตย์ตกดินเป็นหนที่สอง งานในสตูดโิ อก็ไม่ตา่ งกัน ช่างภาพจ�าเป็นต้องทดสอบสภาพแสงด้วย ฟิล์มโพลารอยด์ ถ่ายจนกว่าจะได้แสงที่เหมาะกับงาน บางครั้งเครื่องวัด

แสงบอกไม่ได้ ต้องมาจากสัญชาตญาณ ช่างภาพต้องถ่ายเผื่อเยอะ ค่า ใช้จ่ายกะเกณฑ์ไม่ค่อยได้ บ่อยครั้งมากช่างภาพต้องยอมท�างานเข้าเนื้อ ตัวเอง เพื่อให้ได้ผลงานที่ดี จ�าได้ว่าในยุคฟิล์ม ค่าจ้างท�างานชิ้นหนึ่งในระดับราคามาตรฐาน ค่าแรงบวกค่าถ่าย 400 บาทต่อม้วน ฟิลม์ โพลารอยด์คดิ แผ่นละ 100 บาท ในวิชาชีพนี้ทุกครั้งที่ท�าพลาด หมายถึงมีค่าใช้จ่ายงอกขึ้นมาเอง ผมเชื่อว่าฟิล์มได้หล่อหลอมช่างภาพเรื่องความแม่นย�า ผมท�างาน กับฟิล์มเป็นสิบปี ฟิล์มถือว่าเป็นครูที่ดีที่สุด เสน่ห์ของฟิล์มที่ยังประทับ ใจมาก คือ ส่องสไลด์ด้วยแว่นได้ เห็นสีสันความอิ่มของสี ได้สัมผัส หยิบ จับผลงานของเรา

วันคืนที่ยังรีทัชภาพด้วยมือ

จริงๆ แล้ว ผมไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นช่างภาพ แต่เริ่มจากการท�า รีทชั ภาพ ยุคนัน้ คอมพิวเตอร์ไม่ได้มบี ทบาทอย่างทุกวันนี้ งานตกแต่งภาพ โฆษณาในอดีต ท�าด้วยมือ 100 เปอร์เซ็นต์ ยกตัวอย่างเช่น มีโฆษณา เครื่องส�าอางค์งานหนึ่ง โจทย์ต้องการภาพใบหน้านางแบบสวยใส แต่ ช่างภาพถ่ายนางแบบมีสิว ขัดกับภาพลักษณ์สินค้า ช่างภาพจะตามมือ รีทัชอย่างผมในทันที การท�างานรีทชั สมัยนัน้ เราต้องเอาฟิลม์ ไปพรินต์เป็นกระดาษออกมา ผมจะใช้มดี คัตเตอร์มาค่อยๆ ขูดเยือ่ ผิวกระดาษเพือ่ ลบสิวบนใบหน้านาง แบบ แล้วผสมสีใหม่ให้ใกล้เคียงสีผิวในรูป น�าสีไปแต้มบนรูปนั้น ภาพที่เสร็จแล้ว ถูกน�าไปถ่ายซ�้า เข้าสู่กระบวนการล้างฟิล์มใหม่ กว่า จะรูปท�าเลย์เอาท์กินเวลาหลายขั้นตอน งานรีทชั แบ่งเป็น 2 เรือ่ ง เรือ่ งแรก เพือ่ แก้ปญ ั หา บางครัง้ ช่างภาพถ่าย นางแบบ ช่างเมคอัพเก็บไม่หมด นางแบบมีสิว มีฝ้า มีรอยแผลเป็น งาน รีทัชด้วยมือช่วยได้ เรื่องที่สอง รีทัชเพื่อสร้างสิ่งใหม่ งานโฆษณาต้องการ ความอิมแพคท์แรงๆ เช่น ต้องการภาพรถยนต์หนึ่งคันมาอยู่จอดอยู่บน ฝ่ามือ ในยุคนั้นไม่มีเทคนิคซ้อนเลเยอร์แบบโฟโต้ชอปในยุคนี้ เราต้องท�า ภาพขึน้ มาทีละชัน้ ทีละขัน้ ตอน แล้วมาประกอบตัดแปะให้แนบเนียน เขา ถึงเรียกเทคนิคนี้ว่าเลเยอร์ เทคนิคต่างๆ เรื่องรีทัชด้วยมือจึงเปรียบเหมือนงานช่าง ต้องประณีต ใช้เวลา ศาสตร์การท�างานประเภทนี้ ไม่มีสอนที่ไหน มือรีทัชต้องค้นคว้า สร้างทักษะเองอยู่แรมปี ลองนึกดูว่ารีทัชในยุคนั้น เริ่มต้นจากพู่กัน มีด คัตเตอร์ ใช้ทักษะของ Fine Art ของตัวน�า

เดินทางเข้าสู่คอมพิวเตอร์ซิสเต็มส์

ระบบคอมพิวเตอร์เริม่ เข้ามาสูว่ งการถ่ายภาพ ในงานการท�ารีทชั ภาพ นี่เอง ก่อนจะมีกล้องดิจิตอล เรามีเครื่องสแกนเนอร์มาใช้งานกันก่อน ผม อยากให้คุณลองจินตนาการถึงเครื่องคอมพิวเตอร์และสแกนเนอร์หนึ่ง เครื่อง ขนาดใหญ่เท่ากับครึ่งห้อง ผมเป็นกราฟิกดีไซเนอร์กลุ่มแรกๆ ที่ท�างานในฟอร์แมตดิจิตอล น�า ภาพที่ถ่ายด้วยกล้องฟิล์ม ไปสแกนด้วยสแกนเนอร์ ออกมาเป็นไฟล์ เพื่อ ไปท�างานกับโปรแกรมตกแต่งภาพ Photoshop เวอร์ชั่น 1.0 เวลานั้นเครื่องสแกนเนอร์ที่แยกเม็ดสีได้ ราคาหนึ่งล้านบาท ทุก อย่างแพงหมดส�าหรับผู้บุกเบิก คอมพิวเตอร์ที่ผมใช้ท�างานรีทัชความจุ

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


จุดพลิกผันครั้งใหญ่ของวงการถ่ายภาพ

Photoshop 1.0

เป็นผลงานการเขียนโปรแกรม ของนักศึกษาปริญญาเอกมหาวิทยาลัยมิชชิแกน ชื่อว่า โทมัส โคลล์ เขาเริ่มต้นเขียนโปรแกรมที่ ท�างานด้านภาพนี้ในปี ค.ศ.1988 โปรแกรมนี้รันได้บนระบบปฏิบัติการ Macintosh Plus เท่านั้นให้เป็นสีเทา Grayscale ต่อมาถูกพัฒนาขึ้น และจ�าหน่ายพิเศษเฉพาะกับคอมพิวเตอร์ Macintosh ในปี ค.ศ. 1990

ฮาร์ดดิสก์ 32 เมกกะไบต์ อัพเกรดฮาร์ดดิสก์เป็น 500 เมกกะไบต์ ในราคา ครึง่ แสน เพราะการรีทชั โปรแกรมตกแต่งภาพ ถ้าแรมไม่สงู ขยับเมาส์หนึง่ ครั้ง เครื่องแฮงค์ทันที หรือต้องรอเป็นวัน ในท้องตลาดขายแรมเมกะไบต์ ละ 1,400 บาท ถ้าต้องการแรม 1 กิกะไบต์ อย่างน้อยที่สุดต้องลงทุน เงินล้าน ในขณะที่ร้านสแกนคิดราคาค่าสแกนเมกกะไบต์ละ 40 บาท งาน โฆษณาชิ้นหนึ่งมีค่าสแกนหลายพันบาท โดยร้านสแกนใส่ไฟล์งานใน ไซเควซ (Syquest) กระบวนการท�างานตั้งแต่ถ่ายรูป ล้างฟิล์ม ส่งฟิล์มไป สแกน ได้ไฟล์ใส่งานไซเควซ กลับมาท�ารีทชั กินเวลาอย่างน้อยหนึง่ สัปดาห์

Syquest

เป็นอุปกรณ์เก็บไฟล์ข้อมูลที่ถูกพัฒนาขึ้น ในปี ค.ศ.1982 เป็นที่นิยมในปี ค.ศ.1990 เป็นฮาร์ดดิสก์พกพาชนิดแรกที่มีขนาด 3.9 นิ้ว ความจุเริ่มจาก 5 เมกกะไบต์ ไป จนถึงรุ่นยอดนิยม SQ555 drive/SQ400 ที่จุ 44 เมกกะไบต์ รุ่นท็อปมีความจุ 500 เมกกะไบต์ Syquest เป็นต้นทางให้กับ เทคโนโลยี Floppy Disk ในเวลาต่อมา

งานรีทัชบนฟอร์แมตดิจิตอล ถือเป็น New Situation ของผมในเวลา นั้น นี่คือหัวข้อใหม่ให้เรียนรู้เพิ่มอีกหลายเรื่อง ท�าให้ช่างรีทัชด้วยมือ ใช้ พู่กันในยุคนั้นเริ่มตกงาน เกิดสไตล์งานใหม่ๆ ขึ้น ถ้าใครไม่ปรับตัวตาม ก็อยู่ล�าบาก การท�างานบนฟอร์แมตดิจิตอลไม่ง่าย พรินต์แอดชิ้นไหน ต้องการ งานปะติดปะต่อภาพทีแ่ นบเนียน มีสงิ่ ของในภาพหลายชิน้ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ รถยนต์ สุนขั เป็นเงือ่ นไขทีอ่ ยูน่ อกเหนือการเซตถ่าย ผมจ�าเป็นต้องน�าข้าว ของเหล่านัน้ มาถ่ายทีละชิน้ น�าฟิลม์ ไปล้าง มาไล่ดทู ลี ะรูป ท�าเครือ่ งหมาย ไปบนซองฟิล์มถึงร้านสแกนฟิล์มว่า ให้สแกนคร็อปภาพต่างๆ เฉพาะจุด บางรูปเอาฉากหลัง บางรูปตัดครึ่ง ถึงขั้นต้องระบุไปด้วยว่าแต่ละภาพใช้ กี่เมกะไบต์ เพื่อค�านวนว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ผมใช้ท�างาน เปิดไฟล์งาน ได้กี่เมกะไบต์ ป้องกันคอมพิวเตอร์แฮงค์

เริ่มแรกสุด วงการถ่ายภาพเราเริ่มใช้ Digital Camera Back หรือ อุปกรณ์ที่ใช้ประกบกับหลังกล้อง 4 x 5 ใช้งานในสตูดิโอเป็นส่วนใหญ่ ตั้งแต่วันนั้น ผมมีความเชื่อว่ากล้องดิจิตอลจะเป็นจุดพลิกผันของวงการ การถ่ายภาพ ผมเชื่อว่าโลกมาทางนี้แน่ วันที่กล้องดิจิตอลเริ่มนับหนึ่ง คงคล้ายกับช่วงเวลาที่กล้องฟิล์มเคย เริม่ นับหนึง่ อุปกรณ์ชนิ้ นีต้ อ้ งการเวลา ต้องการการอัพเกรดคุณสมบัติ แต่ ด้วยความทีเ่ ทคโนโลยีดจิ ติ อลนัน้ รวดเร็ว ผมเชือ่ ว่าการอัพเกรดเทคโนโลยี ในยุคนี้ย่อมกินเวลาน้อยมาก ถ้าเทียบกับเส้นทางกล้องฟิล์มในอดีต จุดหนึ่งที่ผมเห็น คือ กล้องดิจิตอลบูม ทุกอย่างอยู่บนระบบดิจิตอล ระบบ Input - Output จบในคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว ถือเป็นจุดพลิกผัน ที่ท�าให้บางซิสเต็มส์ตายลง ล่มสลายหายไปในระยะเวลาอันสั้น ในยุค นั้น ร้านที่รับท�างานสแกนฟิล์มปิดตัวเป็นว่าเล่น คนในวงการเริ่มตกงาน จ�านวนมาก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่นาน แต่ละเดือนๆ โปรดักชั่นเฮ้าส์ต้องจ่าย เงินให้ร้านสแกนฟิล์มเดือนละ 4-5 แสนบาท โปรดักชั่นถ่ายภาพมีเป็น หลายสิบเจ้า ธุรกิจสสแกนฟิล์มจึงเป็นธุรกิจที่อู้ฟู่ แต่จู่ๆ อยู่มาวันหนึ่ง เมื่อกล้องดิจิตอลเข้ามาถึง บางร้านมีงานแค่เดือนละไม่กี่จ็อบ ดิจิตอล ท�าให้ทุกอย่างจบในสตูดิโอ

ผมเชื่อว่าฟิล์มได้หล่อหลอมช่างภาพ เรื่องความแม่นย�า ผมท�างานกับฟิล์มเป็น สิบปี ฟิล์มถือว่าเป็นครูที่ดีที่สุด เสน่ห์ของ ฟิล์มที่ยังประทับใจมาก คือ ส่องสไลด์ ด้วยแว่นได้เห็นสีสันความอิ่มของสี ได้สัมผัส หยิบจับ ผลงานของเรา

ผมจะยกตัวอย่างเพื่อเปรียบเทียบการท�างานโฆษณาแบบถ่ายด้วย ฟิล์มกับถ่ายด้วยดิจิตอลให้คุณเห็นภาพชัดๆ งานถ่ายฟิล์ม วันนี้ถ่ายจบตอน 5 โมงเย็น ผมต้องส่งฟิล์มไปให้ร้าน ล้างและสแกนฟิลม์ ทันทีหรือว่าอย่างช้าทีส่ ดุ สแกนฟิลม์ คิวแรกวันพรุง่ นี้ 9 โมงเช้า เพือ่ ส่งให้ลกู ค้าดูภายในเทีย่ ง วันทัง้ วันวิง่ วุน่ กับงาน ในกรณีทลี่ า้ ง ฟิล์มออกมาสีเพี้ยน แสงไม่ได้ ต้องกุมขมับแก้ไขใหม่ทั้งหมด เทียบกับการท�างานบนฟอร์แมตดิจิตอล งานทุกขั้นตอนอยู่ในมือเรา ผมถ่ายเสร็จ เช็คไฟล์จากหน้าคอมพิวเตอร์ เลือกงาน The Best บางครั้ง ลูกค้าขับรถกลับยังไม่ทนั ถึงออฟฟิศ ผมส่งอี-เมล์ไปรอให้เขาดูได้แล้ว งาน ชิ้นนี้จบไป พรุ่งนี้เริ่มท�าชิ้นใหม่ได้เลย

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


ภาพใหญ่ล่าสุด Apple ได้สร้าง New Situation ให้วงการ โดยจะ ประกาศจ�าหน่ายซอฟต์แวร์ออนไลน์ผ่าน iTunes ไม่ใช่มีแต่ไอโฟนหรือ ว่าไอแพด ทีด่ าวน์โหลดแอพพลิเคชันได้ แต่เครือ่ งคอมพิวเตอร์เริม่ มีแอพพลิเคชันให้ใช้ Apple ก�าลังก่อกบฏกับอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ต่อการ ขายแบบเดิมๆ เดิมทีซื้อซอฟต์แวร์ 1 โปรแกรม แผ่นซีดีจะถูกบรรจุอยู่ใน แพ็คเกจ มีปก มีกระดาษ มีพลาสติกห่อ มีการขนส่งผ่านศุลกากรเก็บภาษี มีหน้าร้านวางซอฟต์แวร์ ต้องท�าประชาสัมพันธ์ ผ่านกว่า 10 ขั้นตอนกว่า ที่ผู้บริโภคจะได้แกะกล่องโหลดซอฟต์แวร์นั้นลงเครื่อง ระหว่างทางกว่าที่แผ่นโปรแกรมนั้นเดินทางมาคุณ มีอาชีพ มีรายได้ ของคนมากมายอยู่รอบๆ อุตสาหกรรมนี้ แต่พอวันนี้ Apple ตัดฉับ ขายโดยตรงให้ผบู้ ริโภคที่ App Store จากที่ เคยมีคนอู้ฟู่อยู่ในบิสซิเนสนี้ ก็ต้องมีคนพบวิกฤติแบบทันทีทันใด โรงงาน ท�ากล่องแพ็คเกจจะเจ๊ง พิมพ์กระดาษจะเดือดร้อน คนงานจะไม่มีงานท�า กันเป็นหลักพัน สังเกตดูสิ ถนนทุกเส้นที่เทคโนโลยีดิจิตอลตัดผ่าน จะท�าให้คนกลาง หายไปเรื่อยๆ

วันที่ดิจิตอลเบ่งบาน

ในระยะเวลาสั้นๆ ฟอร์แมตดิจิตอลลุกลามเร็วมาก เครื่องไม้เครื่อง มือทุกอย่างมาพร้อมกันแบบเรียงหน้ากระดาน ทั้งอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และ ซอฟต์แวร์ ช่วงหลังมี Plug-in เครือ่ งไม้เครือ่ งมือทีอ่ อกแบบมาจนทุกอย่าง ปรับแก้ได้บนหน้าจอ มีคู่มือเรียนรู้เต็มร้านหนังสือ วิวัฒนาการซอฟต์แวร์ ซับซ้อนขึ้นเพื่อท�าให้คนใช้งานได้ง่ายขึ้น เด็กรุ่นใหม่เกิดและเติบโตมาก็เจอโปรแกรม Photoshop กันทุกคน ทุกคนถ่ายภาพได้ พอรีทชั ภาพเป็น วงการถ่ายภาพก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ผมพูดเสมอบนเวทีเสวนาเสมอๆ ว่าดีใจที่วันนี้มีคนสนใจถ่ายภาพ มากขึ้น แต่ในทางกลับกัน จะเป็นการยากมากที่ผู้สนใจถ่ายภาพขึ้นมา เป็น Photographer ที่ Out-standing เพราะว่า ทุกคนมีกล้องและถ่ายรูปได้ แต่คณ ุ เป็น Camera User หรือ เป็น Photographer กันแน่? ในขณะเดียวกันผู้ที่คิดว่ามีฝีมือ ในความเป็นจริงอาจจะถูกกล้อง หลอกอยู่ก็ได้ เพราะกล้องสมัยใหม่มีระบบการจัดการภาพที่ดีมาก ดีจน ล�้าฝีมือที่แท้จริงของคนถ่าย วันนีค้ วามจริงข้อหนึง่ คือ กล้องดิจติ อลท�าให้ชา่ งภาพถ่ายภาพหยาบ ขึ้น การสร้างทักษะ การสั่งสมประสบการณ์ การฝึกฝนตัวเองมีน้อยกว่า ช่างภาพในอดีตเยอะ สุนทรียะภาพ อัจฉริยะภาพ แบบเดิมๆ หายไป คน

สังเกตดูสิ ถนนทุกเส้นที่เทคโนโลยี ดิจิตอลตัดผ่าน จะท�าให้คนกลาง หายไปเรื่อยๆ

ถ่ายรูปสมัยนี้กดกันเป็นอย่างเดียว ถ่ายแล้วลบ ... ถ่ายแล้วลบ ... ถ่ายใหม่ แม้แต่บนโทรศัพท์มือถือทั่วไป หรือ iPhone มี Application เป็นร้อย ชนิดเพือ่ มาเสิรฟ์ กับคนทีใ่ ช้โทรศัพท์ถา่ ยภาพ เช่น โปรแกรมอินสตาแกรม (Instagram) คุณสามารถเลือกใส่ฟิลเตอร์ใดก็ได้ ความสามารถของการ ถ่ายภาพแบบนี้ไม่ได้อยู่ที่จะถ่ายอะไรให้สวย แต่อยู่ที่จะเลือก จะเล่นฟิล เตอร์ให้กับภาพแบบไหน ... มันเป็นตลกร้ายชัดๆ

Instagram*

แอพลิเคชันเพื่อการถ่ายภาพบน Apple iPhone มีเครื่องมือฟิลเตอร์กล้องเก่าเพื่อท�าให้ภาพมีสไตล์ เฉพาะ แอพลิเคชันอินสตาแกรมถูก จัดอยู่ในกลุ่ม Photo Community ที่ผู้ใช้สามารถติดตามภาพของคน ที่สนใจและส่งภาพของตัวเองเข้าไป ใน Gallery กลาง นอกจากนั้นอินสตาแกรมยังท�างานเชื่อมโยงกับโซเซียล เน็ตเวิร์กเช่น เฟซบุ๊ค ที่สามารถน�าภาพไปแสดงบนหน้าเฟชบุ๊คของผู้ใช้ได้ ทันที *ดาวน์โหลดได้จาก iTunes App Store ได้ฟรี

ที่ส�าคัญเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยน ตลาดกล้องก็เปลี่ยน เมื่อก่อนรายได้ ของบริษัทกล้อง คือผลิตกล้องรุ่นหนึ่งออกมา หวังจะให้มืออาชีพซื้อใช้ เพราะเป็นกลุ่มที่มีก�าลัง มีการเรียนรู้เรื่องอุปกรณ์ แต่ว่าปัจจุบันตลาด กล้องถ่ายรูปเบ่งบานเต็มที่ มีงานเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ทุกเดือน กล้อง ดิจิตอลรุ่นใหม่ๆ ได้ดึงคุณสมบัติที่เลิศหรูมาย�าใส่ไว้ในกล้องราคาไม่สูง มาก เพื่อถ่างให้ตลาดนี้เป็น Mass ให้ทุกคนเข้าถึงกล้องได้ มีคนสนใจ เรียนโฟโต้เยอะขึ้น ผมได้ดภู าพนักศึกษามาพอสมควร สิง่ ทีผ่ มเห็นเยอะทีส่ ดุ คือ การโชว์ เทคนิค แต่ว่ายังขาดกระบวนการคิดที่เป็นระบบ

5 ข้อใหญ่ที่ยึดถือ

แทบทุกเดือนผมจะมีโอกาสไปบรรยายเรื่องถ่ายภาพให้นักศึกษาฟัง ผมให้ความส�าคัญเรื่องวิธีคิดมากกว่าการไปบอกเขาให้มุ่งเน้นแต่เทคนิค ผมคอยไกด์วา่ งานศิลปะไม่วา่ จะอยูใ่ นสาขาไหนก็ตาม องค์ประกอบศิลป์ ในงานชิ้นนั้น จะมีห้าข้อใหญ่ที่ผมยึดถือ 1. Conceptual แนวคิด 2. Emotional อารมณ์ความรู้สึก 3. Expression การแสดงออก 4. Visual การให้ภาพและจินตนาการ 5. Technique เทคนิคการสร้างงาน ห้าเรื่องนี้ผมไม่ได้คิดค้นด้วยตนเอง แต่ฟังและกลั่นกลองมาจาก อาจารย์หลายท่าน อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี อาจารย์พษิ ณุ ศุภ. และคณาจารย์

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


ทีน่ บั ถือหลายๆ ท่าน ครัง้ หนึง่ อาจารย์ถวัลย์ แนะว่าเทคนิคเหมือนกับใบไม้ ที่มีคนท�าให้พลิ้วไหว มีคนหยุดมอง แต่ก็มีวันหยุดนิ่ง ประเดี๋ยวประด๋าว ถ้าให้เปรียบเรื่องเทคนิคที่เด็กสมัยนี้สนใจกันมาก ผมคิดว่าเปรียบ เสมือนยุคที่ภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดมี Jurassic Park มีไดโนเสาร์วิ่งอยู่ในจอ คนตื่นเต้น แต่พอมาถึงวันนี้เราแทบไม่สนใจเลยว่าหนังฟอร์มยักษ์แสดง เทคนิคอะไร เพราะเราต้องการดูที่พล็อตว่าเขาจะเล่าเรื่องอะไร พาเรา ซาบซึ้งกับประเด็นอะไร ดังนัน้ เทคนิคเป็นแค่องค์ประกอบหนึง่ ของการท�างานอาร์ต ผมค้นพบ ว่าสิ่งแรกที่จะหยุดผู้ชมภาพของคุณได้ในวินาทีแรก คือ เรื่อง Emotional อารมณ์ความรู้สึกของภาพๆ นั้น ก็เหมือนกับถามคุณว่า เวลาที่คุณจดจ�า เรือ่ งหนึง่ เรือ่ งใดได้ คุณจดจ�ามันได้จากอะไร ค�าตอบคือมันเป็นเรือ่ งทีฝ่ งั ใจ ฝังใจเพราะว่าอารมณ์ความรู้สึกเรายังประทับอยู่กับโมเมนต์นั้น บางงานที่ใช้เทคนิคสูง เทคนิคจะอยู่ที่ช่วงเวลาหนึ่ง มันไม่ถูกจดจ�า นาน เพราะอีกไม่นานก็ต้องมีเทคนิคอื่นมาถมทับมันลงไป โดยเฉพาะ เทคนิคที่เกิดมาจากเทคโนโลยี วันหนึ่งก็ย่อมมีเทคนิคที่ดีกว่า Wow! มากกว่า

ผลงานระดับโลก

ผมเป็นช่างภาพแบบที่คิดทุกเม็ด บางครั้งต้องหาเทคนิคใดเทคนิค หนึ่งมารับใช้คอนเซปต์นั้นโดยเฉพาะ งานชิ้นหนึ่งของผมชนะรางวัลทั่ว โลก เป็นแคมเปญ Forrest for Life ที่ท�าให้กับองค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม World Wildlife Fund ผลงานชื่อ “Tree” ผมให้ภาพคนตัดต้นไม้จนเหลือ ต้นไม้ตน้ เดียว งานพรินต์แอด WWF ชิน้ นี้ มีความละเอียดอ่อนมาก ทัง้ ใน แง่ของการออกไปถ่ายภาพ การเพ้นท์ การซ้อนเลเยอร์เป็นร้อยเลเยอร์ ท�า คอมพิวเตอร์ผสมเข้าไป ขั้นตอนการท�างานคืองาน Fine Art แต่เมื่อภาพออกมาแล้ว ผู้ชมไม่ ได้สนใจเรื่องเทคนิคเลย เขามุ่งความสนใจไปที่ตัวแมสเสจและอารมณ์ ของภาพนี้ “คนตัดป่าหมด แล้วกูจะอยู่ยังไง เหลือต้นไม้ต้นเดียว” ภาพทีด่ ตี อ้ งชักจูงใจให้คนส่วนใหญ่คดิ ไปในทางทีช่ า่ งภาพต้องการได้

“Tree”

ผลงานที่ได้รางวัล ในปี ค.ศ. 2007 รางวัล CANNES Lions Award GOLD ประเภท Press และรางวัล GOLD ส�าหรับสื่อ ประเภท Outdoor

งานพรินต์แอดระดับโลกเท่าที่ผมดูมาค่อนชีวิต ส่วนใหญ่เป็นเรื่อง

ของการคิดคอนเท็นต์ให้ภาพ มากกว่าการละเลงเทคนิค หรือถ้าเป็นการ ใช้เทคนิค เช่น ภาพกบในแคมเปญ Tamiya ผมต้องท�าเทคนิคไปให้สุด จนพาความคิดแวบแรกของผู้ดูงานว่า “มึงถ่ายออกมาได้ยังไงวะ?” นั่น คือ ความท้าทาย

“Tamiya”

ผลงานได้รับรางวัลปี ค.ศ. 2005 รางวัล CANNES Lions Award GOLD ประเภท Retail Stores และรางวัล Silver Lion ส�าหรับสื่อประเภท Outdoor

ทุกครั้งที่ครีเอทีฟเดินมาหาผมที่รีมิกซ์สตูดิโอ เขาจะมีไอเดียที่ดีอยู่ แล้ว แต่เขาต้องการงานด้านภาพที่สนับสนุนไอเดีย บางทีเป็นงานใหม่ มาประลองความคิด ผมเป็นมนุษย์ทเี่ ข้าใจเรือ่ งคอนเซ็ปต์ดมี าก พอเข้าใจ แล้วอยากส่งคอนเซ็ปต์ในงานโฆษณาชิ้นนั้นไปให้สุดเท่าที่คอนเซ็ปต์ นั้นจะไปได้ ถ้ามีมา 100 ผมจะท�าให้ทะลุไป 150 งาน แต่ละงานผมจะ ใช้เทคโนโลยีภาพดิจิตอลให้เหมาะสมด้วย เป็นการบริหารทั้งความคิด กระบวนการ และเทคโนโลยีที่ใช้ไปพร้อมๆ กัน

ไม่ได้หมายความว่าเมื่อไม่ได้มุ่งมั่นกับ รางวัลหรือชื่อเสียงแล้ว งานจะดร็อบลง จะมีรางวัลหรือไม่มีรางวัล คุณภาพงาน ของช่างภาพทุกคนก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง

ปี 2005 ผมเคยได้รบั การจัดอันดับจากนิตยสาร Archive เป็นช่างภาพ โฆษณาที่มีคะแนนสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก งานผมไปชนะที่เมือง คานส์ (Cannes International Advertising Festival) ประเทศฝรั่งเศส หลายปี เรื่องนี้ผมชอบเปรียบกับเพื่อนว่า ภูกระดึงเขาไปกันมาหมดแล้ว ครั้งหนึ่งผมยังไม่เคยไป ต้องลองขึ้นไปสักครั้ง พอไปถึงยอดแล้ว ก็ไม่มี เหตุผลอะไรให้ผมต้องขึ้นไปทุกปี ผมรู้แล้วว่าถ้าใครพูดเรื่องภูกระดึง ผม ก็คุยกับเขาได้ แต่ 2-3 ปีทผี่ า่ นมา ผมสนใจเรือ่ งเทศกาลประกวดงานโฆษณาทีค่ านส์ น้อยลง มาสนใจท�า Fine Art มากขึ้น ปีนี้มีโครงการไปแสดงที่ Art Core ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ก่อนหน้านี้ผมไปร่วมงานเทศกาลโฆษณาที่ เมืองคานส์มาแล้ว 16 ปี ความมุ่งมั่นถูกเปลี่ยนไปในทิศทางของศิลปะ

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


หลายปีก่อนผมจะคิดเสมอว่าปีนี้จะเอาอะไรไปโชว์ที่คานส์ จะท�าให้คนดู งานผงะได้อย่างไร มีความมุ่งมั่นอย่างนั้น การที่งานไปชนะเมืองคานส์หรือได้รางวัลสูงสุดมาครอง เป็นแค่การ รับรู้ความรู้สึกตรงนั้น ผมไม่จ�าเป็นต้องไปจดจ่อ ถือมั่น หรือยืดความรู้สึก นั้นออกไปให้ตัวเองได้ภูมิใจนานเกินไป เพราะชื่อเสียงจะเป็นอัตตาที่ตี กรอบให้กับตัวคุณทันที ไม่ได้หมายความว่าเมื่อไม่ได้มุ่งมั่นกับรางวัลหรือชื่อเสียงแล้ว งาน จะดร็อบลง จะมีรางวัลหรือไม่มีรางวัล คุณภาพงานของช่างภาพทุกคน ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง

พลังของภาพถ่าย

วันนีม้ นุษย์แทบทุกคนมีกล้องติดตัวอยูต่ ลอดเวลา ภาพจากกล้องโทรศัพท์มือถือเสมือนเป็นสิ่งแทนตัวตนของทุกคนเพื่อส�าหรับใช้ปฏิสัมพันธ์ กับผูอ้ นื่ ในสังคมออนไลน์ ทุกกิจกรรมในโซเซียลเน็ตเวิรก์ ล้วนใช้ภาพเป็น ตัวขับเคลื่อน ภาพดิจิตอลท�าหน้าที่สื่อบุ๊กคลที่ดีที่สุด เล่าเรื่องเกี่ยวกับ คนๆ นั้น กิจกรรมต่างๆ ในชีวิตของเขา ว่าตอนนี้ อยู่ที่ไหน ท�าอะไร เศร้า หรือสุข ในยุคฟิล์มคุณมีโอกาสได้ไปเที่ยวยุโรป ได้ถ่ายรูปกับแลนด์มาร์คที่ ต่างๆ เป็นทีร่ ะลึก ประเภทฟิลม์ ม้วนเดียวเทีย่ ว 3 ประเทศ พอกลับมา ล้าง อัด คุณจัดรูปเรียงใส่อัลบั้ม ตั้งไว้ห้องรับแขก ฝุ่นเกาะ แมลงสาปกัด ร้อย วันพันปีเพื่อนมาเยี่ยมบ้าน ถึงได้เปิดอัลบั้มให้ดู แต่โลกวันนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้น คุณเรียลไทม์ ภาพที่คุณเห็นแล้วคุณ อยากให้คนอืน่ เห็น คุณถ่ายแล้วโพสต์ในโซเซียลเน็ตเวิรก์ ภายในเสีย้ วนาที มากกว่านั้น ภาพบนโซเซียลเน็ตเวิร์กยังท�าให้เกิด Issue ในสังคมอยู่ ตลอดเวลา ภาพที่ว่อนไปว่อนมาทั่วเน็ต ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการยั่วยุ ความคิด ปลุกเร้าความรูส้ กึ ผูช้ ม ใช้ใส่ไข่ ท�าลายฝ่ายตรงข้ามได้งา่ ยๆ ด้วย การบิดเบือนความจริง บางสเตตัสที่ผมอ่าน เขาเลือกรูปใดรูปหนึ่งเพื่อสนองเจตนาที่เขา ต้องการ บางรูปเฟค จ�านวนไม่นอ้ ยทีห่ น้าแฟนเพจตัง้ ชือ่ ประเภทว่า “มัน่ ใจ คนไทยเกินล้านคน....จุด จุด จุด” คนสร้างหน้าแฟนเพจพวกนี้ มีอคติสูง เร้าคนให้มากด Like สร้างจ�านวนแฟนเพจ บ่อยครั้งคนก็เฮโลตาม ไม่ได้ ตรวจสอบอะไรจริง อะไรไม่จริง เราก�าลังสนุกกับวิธกี ารแบบนี้ มันน่าสลด ในทุกยุคที่ผ่านมา ภาพถ่ายมีพลังเกินกว่าที่เราคิดจะคาดคิด ใน ต่างประเทศมีวิชา Power of Photography ภาพถ่ายเปลี่ยนแปลงโลก ภาพถ่ายขับเคลือ่ นการเมือง ขับเคลือ่ นความรัก ความเกลีดยชังของคนได้ ยิ่งยุคดิจิตอลด้วยแล้ว จะไม่หยุดที่แค่ภาพถ่าย แต่ยังมีภาพวิดีโอ ยุคดิจิตอล เวลานั่งหน้าจอคอมพ์ เราต้องมี Destination ไม่อย่างนั้น จะ Lost หลงไปกับภาพที่เห็น เห็นได้ชัดว่ามีขยะ ภาพขยะมากกว่าสิ่งที่ เป็นประโยชน์ เช่นเดียวกับการที่บ้านเราติดเคเบิลทีวีแรกๆ ตื่นเต้นกับทีวี 100 ช่อง แต่สุดท้ายเราก็ดูไม่ไหว เพราะปวดตาเกินไป ในความเป็นจริง คนเราดูได้ไม่กี่ช่องหรอก เราเลือกดูเฉพาะสิ่งที่ถูกจริตกับเราเท่านั้นเอง เกี่ยวกับยุคสมัยดิจิตอลที่แสนจะอลม่านนี้ ผมได้บันทึกไว้ด้วยงาน ศิลปะ ท�างาน Fine Art ชิ้นหนึ่งออกมา ชื่อว่า “Freedom” ในนิทรรศการชื่อ “ฝันถึงสันติภาพ” เป็นภาพตัวผมนั่งอยู่บนโต๊ะที่มี หนังสือพิมพ์วางเต็ม มือถูกมัดพันธนาการ มีกระโหลกจระเข้วางอยู่ด้าน

ข้าง เพื่อแทนความเลวร้าย ความฉ้อฉลที่ไม่เคยเปลี่ยน จระเข้เป็นสัตว์ ดึกด�าบรรพ์ที่รูปร่างหน้าตามันไม่เคยเปลี่ยนมาเป็นพันปี ในรูปที่ใบหน้า ของผมเปิดออก ใบหน้าสงบนิ่งมีสมาธิ มีนกพิราบสีขาวบินออกไป

“Freedom”

ผลงาน Photo Fine Art ที่อนุชัย ศรีจรูญพู่ทอง สร้างขึ้นในนิทรรศการชื่อ ว่า “ฝันถึงสันติภาพ” (Imagine Peace) ที่จัดขึ้นโดยกระทรวงวัฒนธรรม รวมพลังสร้างสรรค์ของศิลปินไทย 50 ท่าน หวังให้งานศิลปะช่วยกอบ กู้ภาพลักษณ์สร้างความสงบสุข และสันติภาพ ให้กับสังคมไทย จัดแสดง ไปเมื่อ 24 มิถุนายน - 23 สิงหาคม 2553 ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่ง กรุงเทพมหานคร

ผมต้องการสือ่ ในงานชุดนีว้ า่ ปัจจุบนั คนบ้าคลัง่ ข้อมูลข่าวสารกันเกิน ไป ข่าวสารเป็นพันธนาการของมนุษย์ในยุคปัจจุบนั แต่ขา้ งในถ้าเรามีสติ ในการรับรู้ เราก็จะพบกับอิสรภาพ ส่วนงานอีกชิ้น ผมถือดอกกุหลาบ สีชมพู มีกลีบกุหลาบบนโต๊ะ มีหนังสือพิมพ์วางกองบนโต๊ะ มีตราชั่ง 2 ชุด ชั่งหัวกระโหลกจระเข้ ใบหน้าผมถูกเปิดออก ข้างในมีอนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย มีผ้าสีเหลืองสีแดง ข้างบนภาพมีนกพิราบสีขาวโบยบินอยู่ หรืองานชุดก่อนหน้านี้ ชื่อว่า “หน้ากาก” เป็น Photo Fine Art ที่ผม สร้างขึ้น โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก inside – outside ของคน เรา ใส่หน้ากากเข้าหากัน บางครั้งหน้ากากที่ว่าแย่แล้ว เจอหน้าจริงของเรา มันยิ่งแย่กว่า

“หน้ากาก”

ผลงาน Photo Fine Art สะท้อนสังคมอีกหนึ่งคอลเลคชั่นของอนุชัย ศรีจรูญพู่ทอง ที่ใช้ตัวเองเป็นแบบ

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


หน้าแฟนเพจตั้งชื่อประเภทว่า “มั่นใจคนไทยเกินล้านคน....จุด จุด จุด” คนสร้างหน้าแฟนเพจพวกนี้ มีอคติสูง เร้าคนให้มากด Like สร้างจ�านวนแฟนเพจ บ่อยครั้งคนก็เฮโลตาม ไม่ได้ตรวจสอบ อะไรจริง อะไรไม่จริง เราก�าลังสนุกกับ วิธีการแบบนี้ มันน่าสลด

ความงามของภาพถ่ายยุคดิจิตอล

ในโลกศิลปะ ไม่ว่ายุคไหน ความงามเป็นเรื่องใหญ่เสมอ ภาพถ่ายหนึง่ ภาพจะเป็นภาพทีม่ คี วามงาม ต้องมีความพอดี มีจงั หวะ ของมัน จะมากไปกว่านัน้ ก็ไม่ได้ น้อยไปกว่านัน้ ก็ไม่ได้ ความงามเป็นเรือ่ ง ทีแ่ นะน�ากันไม่ได้ แต่เท่าทีพ่ อไกด์ได้เบือ้ งต้น ส�าหรับผมก็ยงั อยูใ่ นวิธคี ดิ 5 ประการ คือ สร้างศิลปะโดยอาศัย Conceptual Emotional Expression Visual Technique ดังที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น เมื่อเห็นภาพหนึ่งภาพใช้เทคนิคที่น่าสนใจ มีการปรับสี แต่งเติม ท�า เลเยอร์ซ้อนเข้าไป แต่เทคนิคที่ใช้นั้นได้ผลักดันคอนเซ็ปต์ของภาพแค่ ไหน บางภาพเทคนิคดี แต่แนวคิดอ่อนมาก ดังนั้น ผู้สร้างงานต้องรู้จัก การบริหารจัดการ 5 เรื่องที่ผมแนะน�าไปให้ออกมาลงตัวที่สุด เรื่องพวกนี้ จ�าเป็นต้องฝึก ต้องลงมือปฏิบัติ สิบปีมานี้ ค�าถามที่ผมเจอบ่อย คือ ท�าอย่างไรให้ถ่ายภาพได้เหมือน พี่นุ ท�าอย่างไรให้คิดงานได้อย่างพี่นุ นี่เป็นค�าถามที่ยาก และความเก่งหรือไม่เก่ง ไม่ได้สะท้อนออกมา เพียงแค่ประสบการณ์ท�างานเท่านั้น แต่มันหมายถึงชีวิตทั้งชีวิตของคุณ ถ้าคนเราใช้ไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนกัน อย่าคิดว่าเราจะไปเหมือนเขา ท�างานได้เท่าเขา เก่งเท่าเขา หรือเกินหน้าเขา ผมมีไลฟ์สไตล์ที่โฟกัสกับการท�างาน มีวินัยในการใช้จ่ายชีวิต ถ้าวัน นี้ตั้งใจไปสยามพารากอน ไปหาซื้อหนังสือ 1 เล่ม ผมตรงไปที่ร้านหนังสือ ซื้อเสร็จกลับบ้านทันที ไม่เคยออกนอกเส้นทาง ผมเคยเป็นแบบคุณ เวลาของผมถูกใช้ไปเยอะแล้วกับความว่างเปล่า จากวันและวัยที่ผมยังค้นหาตัวเองไม่เจอ แต่เมื่อผมได้สร้างงาน เริ่มเป้า หมาย ผมสงสัยว่าถ้าเราท�าอะไรบางอย่างให้ถึงที่สุด ความสุดนั้นจะพา เราเดินทางไปไหนได้บ้าง และในที่สุด การท�าอะไรให้สุดๆ นั้นก็ตอบแทน ผมคุม้ ค่า โดยเฉพาะเรือ่ งความภูมใิ จ ทุกวันนีช้ อื่ ของ อนุชยั ศรีจรูญพูท่ อง จากไทยแลนด์ ยังติดท็อปเท็นช่างภาพโฆษณาของโลก โดยผมเป็นช่างภาพคนหนึง่ ทีส่ ร้างงานระหว่างยุคฟิลม์ และยุคดิจติ อล เป็นคนทีอ่ ยูก่ งึ่ กลางระหว่างสิง่ ทีใ่ หม่ทสี่ ดุ และสิง่ เก่า ทุกคนมีชว่ งเวลาทีด่ ี ที่สุดที่คนอื่นจดจ�าคุณได้ ค�าถามต่อมา

แล้วในช่วงเวลาทีด่ ที สี่ ดุ นัน้ คุณได้เอาเวลาและความสามารถของคุณ ไปอะไรให้คนอื่นและสังคมบ้าง ผมเลือกที่จะแชร์ความรู้เรื่องแนวคิดการ ภาพถ่าย ผมเลือกที่จะท�านิตยสาร Photo Art เพื่อน�าเสนอข้อมูลข่าวสาร อินไซต์กับช่างภาพที่มีฝีมือหลายๆ คนในโลก โดยใช้คอนเน็คชั่นที่ตัวผม มีให้มากทีส่ ดุ เพือ่ หวังว่าสิง่ ทีผ่ มท�าจะจุดประกายคนไม่มากก็นอ้ ยได้เห็น คุณค่าของงานศิลปะที่รายล้อมตัวเราอยู่

ดิจิตอลคือการกบฏ

จากอนาล็อกสู่ดิจิตอล ผมเห็นถึงความไม่จีรังยั่งยืนของเทคโนโลยี ท�าให้คิดว่าทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ท�าให้ได้ข้อสรุปว่า ทุกอย่างย่อม มีวันเวลาของมัน ทุกเทคโนโลยีมี New Situation มีจุดผันเปลี่ยนของ เทคโนโลยีนั้นๆ ตลอดสิบปีมานีเ้ กิด New Situation ทีถ่ ขี่ นึ้ หลายอย่างรอบตัวเราวันนี้ เคยเป็นจุดพลิกผันของเทคโนโลยีมาก่อนหน้ามันทั้งนั้น Email, Memory card, iPod, Harddisk Player, พอเกิดสิ่งนี้ขึ้น มันได้รับความนิยม สิ่งที่ มีมาก่อนหน้าก็ล่มสลาย ผมชอบค�าว่า “Revolution” และคิดว่าตัวเองเป็น “Revolutionist” ใน บางขณะ ค�าไทยแปลค�านีว้ า่ ‘กบฏ หรือ ปฏิวตั ’ิ ความหมายเป็นไปในทาง ไม่ดี เป็นเรือ่ งของการล้มล้างสิง่ เก่า สร้างสิง่ ใหม่ คุณต้องไม่ลมื ว่าถ้าวันนัน้ ไม่มีใครคิดกบฏเดินออกจากถ�้า อารยธรรมโลกใหม่ของโลกก็ไม่เกิดขึ้น เวลาที่กบฏเกิดขึ้น มันจะเริ่มต้นที่ความเกลียดชังและการต่อต้าน เพราะจะมีคนกลุ่มหนึ่งที่เดือดร้อน เพราะการเกิดวิกฤติ ทุกวิกฤติที่เกิด ขึน้ กับใคร ก็จะเอือ้ ประโยชน์ให้กบั อีกฝ่ายเสมอ ไม่มใี ครต้านวิกฤติได้ และ ทุกๆ การพยามยามหยุดยัง้ วิกฤติ ก็จะยิง่ เกิดประเด็นขัดแย้ง ยิง่ เร้าให้เกิด การเปลี่ยนแปลงต่อไปอีก เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นสังคมอะนาล็อกหรือว่าดิจิตอล วิธีคิดของ มนุษย์เป็นกบฏอยู่แล้ว ถ้ามนุษย์ไม่กบฏ เราก็คงยังใช้ฟิล์มกันต่อไป ยัง ติดกับปัญหาเดิมต่อไป ถูกกรอบของเทคนิคใดเทคโนโลยีหนึ่งกักไว้ ยิง่ มนุษย์ถกู กดไว้มากเท่าไร มนุษย์กจ็ ะยิง่ สร้างเทคโนโลยีทจี่ ะดีดตัว เองให้ไกลออกไปขึ้นเท่านั้น มนุษย์เป็นกบฏโดยสันดาน ดิจิตอลเป็นหนึ่ง ในการดีดตัวของมนุษย์ เพียงแค่ชั่วระยะเวลา 10 ปี เราได้เห็นถึงความ ก้าวหน้าของการวงการภาพถ่ายดิจิตอลมากถึงขั้นนี้

Black Tape Technique by Anuchai Work Shop

“วิธีที่คุณจะพัฒนาฝีมือด้วยกล้องดิจิตอล ผมแนะน�าให้ฝึกด้วยวิธี น�าเทป ด�ามาแปะทับจอมอนิเตอร์ของกล้อง ห้ามแกะออก ปรับกล้องสู่โหมด แมนนวล ออกไปถ่ายภาพครั้งละ 36 รูป เท่ากับจ�านวนของฟิล์ม ระหว่าง ถ่ายห้าม Delete แม้แต่รูปเดียว การฝึกลักษณะนี้ได้ทักษะการถ่ายภาพเทียบได้กับยุคฟิล์ม อย่างน้อย ก็ให้สติ ให้วิธีคิดของการท�างานไม่ได้สักแต่ถ่ายแล้วไปเลือกเอา วิธีนั้นคนถือ กล้องเป็นแค่ยูสเซอร์ไม่ใช่โฟโต้กราฟเฟอร์ เทปด�าจะท�าให้คุณจดจ่อกับการ ถ่ายรูป ได้เรียนรู้นิสัยใจคอของกล้องที่คุณใช้ว่า ให้คาแรกเตอร์อย่างไร เลนส์ การเปิดหน้ากล้อง การเลือกสปีดชัตเตอร์ การปรับโอเวอร์หรือ อันเดอร์ การเพ่งมองวัตถุผ่านจากวิวไฟน์เดอร์ ไม่ใช่มองจากมอนิเตอร์ แล้วจบ”

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


180


พระไพศาล วิสาโล พระนักเผยแผ่ นักวิชำกำร เจ้ำอำวำสวัดป่ำสุคะโต อ�ำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ

เทคโนโลยีในทัศนะของพุทธศาสนา

พระไพศาล วิสาโล เป็นพระนักเผยแผ่ นักวิชาการ นักคิดนักเขียน เป็นที่รู้จักดีของเมืองไทยในปัจจุบัน ท่านบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ สงฆ์ เมื่อ พ.ศ. 2526 โดยก่อนหน้านั้นเคยเป็นนักศึกษาหัวก้าวหน้า ท�า กิจกรรมทางการเมืองอย่างเข้มข้น หลังจากบวชก็ยังท�างานกิจกรรมเพื่อ สังคมอย่างต่อเนื่องเสมอมา ปัจจุบันพระไพศาลเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัด ป่าสุคะโต อ�าเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ

เทคโนโลยีไม่เป็นกลาง

เทคโนโลยีเมื่อน�ามาใช้ในทางที่ดีก็เป็นสิ่งดี เมื่อเราน�ามาใช้ในทางที่ ไม่ดีก็เป็นสิ่งเลวร้ายได้เช่นกัน

เราไม่ควรมองเทคโนโลยีดว้ ยสายตาทีไ่ ร้เดียงสาจนเกินไป มีหลายคน หลงคิดว่าเทคโนโลยีล้วนเป็นเพียงเครื่องมือ หรือ Tools ที่มนุษย์สร้างขึ้น มาเพื่อการใช้งาน แต่ถ้าเรามองให้ลึกซึ้งลงไปก็จะเห็นถึงความสลับซับ ซ้อนมากกว่านั้น เมื่อ 22 ปีก่อน อาตมาเคยแปลหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อว่า “วิพากษ์ คอมพิวเตอร์ เทวรูปแห่งยุคสมัย” เขียนโดยไมเคิล แชลลิส หนังสือเล่มนี้ วิพากษ์วิจารณ์เทคโนโลยีใหม่ในยุคสมัยนั้น คือเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ว่ามีผลกระทบต่อสังคมและผู้คนทั้งโลกอย่างไร ประเด็นที่เขาหยิบยกขึ้น มานั้นน่าสนใจยิ่ง เขาอธิบายว่าเทคโนโลยีกับสังคมนั้นแยกกันไม่ออก เทคโนโลยีสามารถก่อความเปลี่ยนแปลงทางสังคมได้มากมาย อย่างเช่น

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


คอมพิวเตอร์จะมีผลกระทบต่อแบบแผนการท�างานและความสัมพันธ์ใน สังคม ยิง่ กว่านัน้ มันยังท�าให้ความคิดอ่านของผูค้ นเปลีย่ นไปด้วย เป็นต้น

วิพากษ์คอมพิวเตอร์ เทวรูปแห่งยุคสมัย

The Silicon Idol: The Micro Revolution and Its Social Implications โดย : ไมเคิล แชลลิส แปล : พระไพศาล วิสาโล, สมควร ใฝ่งามดี ส�านักพิมพ์ : มูลนิธิโกมลคีมทอง ISBN 974-7233-03-7

เทคโนโลยีก�าหนดโลกทัศน์ของผู้ใช้เทคโนโลยี เปรียบเหมือนคนที่มี ค้อนอยู่ในมือ ย่อมมองเห็นแต่ตะปู หรือมองอะไรเป็นตะปู คนที่มีมีดพร้า ย่อมสนใจว่ามีอะไรบ้างที่ตัวเองสามารถจะฟันหรือถากด้วยมีดได้ อีกตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คนใช้รถยนต์กับคนใช้จักรยาน จะมีทัศนะ ต่อโลกและชีวิตไม่เหมือนกัน คนใช้รถจะรู้สึกว่าตนเองมีอ�านาจ มอง ว่าคนข้ามถนนและคนเดินบนบาทวิถีคือตัวปัญหา มองว่าต้นไม้ที่เกาะ กลางถนนเป็นตัวกีดขวางการเดินทางที่เร่งด่วน แต่ทัศนะเช่นนี้จะไม่เกิด ขึ้นกับคนขี่จักรยาน เพราะเขาจะมองว่าคนเดินถนนคือเพื่อนร่วมทาง และต้นไม้ที่เกาะกลางถนนคือร่มเงา ทัศนะที่แตกต่างกันเป็นเพราะใช้ เทคโนโลยีที่ต่างกัน ความไม่เป็นกลางของเทคโนโลยี มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ที่มาของมัน เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตมีทมี่ าจากอุตสาหกรรมการทหาร และอาวุธ การทหารท�าให้เกิดความจ�าเป็นทีม่ นุษย์ตอ้ งใช้การประมวลผล ข้อมูลจ�านวนมหาศาล เพื่อค�านวณหาเป้าหมายในการท�าลายล้าง และ เสาะแสวงหาข่าวกรองด้านความมั่นคง เทคโนโลยีดิจิตอลที่เราใช้แปลง ข้อมูลข่าวสารทั้งหลายในโลกเพื่อการส่งถึงกันนั้น ก็มีจุดเริ่มต้นอยู่ที่การ มองโลกแบบทวิลักษณ์ คือ 0 และ 1 ไม่ขาวก็ต้องเป็นด�า ซึ่งก็คือการปิด และเปิดกระแสไฟฟ้าบนแผงวงจรนั่นเอง ทั้งที่สรรพสิ่งในโลกของเราล้วน แตกต่างหลากหลายมากมายกว่านั้น คือนอกจากขาวและด�าแล้ว ยังมี เทาด้วย

Binary

หมายถึงสิ่งที่มีองค์ประกอบ 2 อย่าง ยกตัวอย่างเช่นในทาง คณิตศาสตร์ ระบบเลขฐานสอง หรือ Binary Numeral System คือ ระบบการค�านวนที่ใช้เลขเป็นตัวแทน เพียง 2 ตัวเลข คือ 0 และ 1

อีกตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นความไม่เป็นกลางของเทคโนโลยี คือ อาวุธนิวเคลียร์ แม้จะมีการพูดว่าอาวุธชนิดนี้จะใช้เพื่อรักษาสันติภาพ หรือคุกคามสันติภาพก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้เพื่ออะไร อย่างไรก็ตามเมื่อ อาวุธชนิดนี้อยู่ในมือของประเทศใด ก็จะรู้สึกว่าตัวเองมีอ�านาจมากกว่า เดิม แตกต่างไปจากประเทศอืน่ ๆ ทีไ่ ม่มอี าวุธชนิดนีอ้ ยูใ่ นมือ ตลอดหลาย ทศวรรษที่ผ่านมา สันติภาพโลกและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึง เปลีย่ นแปลงไปส่วนหนึง่ ขึน้ อยูก่ บั ว่าแต่ละประเทศมีการครอบครองอาวุธ นิวเคลียร์หรือไม่ มากน้อยเพียงใด ถึงแม้ทุกวันนี้ มีการน�าเทคโนโลยีนิวเคลียร์มาใช้ในทางสันติ คือใช้ เป็นเชื้อเพลิงพลังงาน มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั่วโลก แต่ในท้าย ทีส่ ดุ กากของเสียนิวเคลียร์ทเี่ กิดขึน้ ก็ยงั สร้างปัญหาเพราะสามารถเอาไป ใช้ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ ดังนัน้ การมีอยูข่ องเทคโนโลยีนวิ เคลียร์ จึงท�าให้ คนทัง้ โลกรูส้ กึ ไม่ปลอดภัยและหวาดกลัวต่อสงครามมาโดยตลอดเช่นกัน แม้วา่ สงครามเย็นจะยุตแิ ล้ว แต่ภยั จากอาวุธนิวเคลียร์กย็ งั ไม่หมด เพราะ มีความเป็นห่วงว่าอาวุธชนิดนี้อาจตกอยู่ในมือของกลุ่มก่อการร้าย โลก เราจึงไม่เคยสงบสุขได้อย่างแท้จริงเลยหลังจากที่มีการคิดค้นเทคโนโลยี ชนิดนี้ขึ้นมา

เทคโนโลยีก�ำหนดโลกทัศน์ของผู้ใช้ เทคโนโลยี เปรียบเหมือนคนที่มีค้อนอยู่ ในมือ ย่อมมองเห็นแต่ตะปู หรือมองอะไร เป็นตะปู คนที่มีมีดพร้ำ ย่อมสนใจว่ำมี อะไรบ้ำงที่ตัวเองสำมำรถจะฟันหรือ ถำกด้วยมีดได้

อย่างไรก็ตามเราก็ตอ้ งยอมรับความจริงว่าเทคโนโลยีเป็นสิง่ ทีเ่ ราหลีก เลี่ยงได้ยาก ขึ้นอยู่ว่าเราจะใช้มันอย่างไรมากกว่า ขณะเดียวกันก็ต้องรู้ เท่าทันมันด้วยว่า มันมีข้อดีข้อเสียอย่างไร และส่งผลต่อทัศนคติของผู้คน อย่างไร ทุกวันนี้เราไม่ค่อยมีหนังสือแนวของไมเคิล แชลลิส ให้อ่านกัน ตอนนี้อาตมาก็ไม่รู้ว่าตัวเขาเองจะหันมาใช้คอมพิวเตอร์แล้วหรือยัง แต่ ข้อเสนอของเขายังน่ารับฟัง และน�ามาอภิปรายเพื่อคิดอ่านร่วมกัน อย่าง น้อยทีส่ ดุ ก็เพือ่ ไม่ให้เทคโนโลยีมาครอบง�าเราไม่วา่ ในด้านการด�าเนินชีวติ หรือในระดับจิตส�านึก

ค�าสอนในพระพุทธศาสนา

ผูท้ เี่ คร่งศาสนาส่วนใหญ่มกั จะมีแนวโน้มต่อต้านเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือ เป็นพวก Luddite ทั้งนี้เพราะผู้ที่สนใจศาสนามักเป็นพวกอนุรักษ์นิยม ส่วนเทคโนโลยีมกั ก่อให้เกิดการเปลีย่ นแปลงใหม่ๆ ทีส่ วนทางกับประเพณี 10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


หรือค่านิยมของศาสนิกชน ดังนัน้ เราจึงพบว่าในกลุม่ ประเทศอิสลาม พวก เคร่งศาสนาแบบสุดโต่งมักต่อต้านอินเทอร์เน็ตหรือจานดาวเทียม เพราะ ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้เป็นสื่อกลางที่น�าเอาค่านิยมตะวันตกไปเผยแพร่ใน ประเทศของคน รวมทั้งท�าให้เกิดความหลงใหลในเรื่อง เซ็กส์ วัตถุนิยม ความรุนแรง ฯลฯ

Luddite

กลุ่มคนที่มีแนวคิดต่อต้าน เทคโนโลยี ค�าว่า Luddite มาจาก ชื่อสกุลของ เน็ด ลัดด์ บุ๊กคลใน ต�านานของประเทศอังกฤษช่วง ศตวรรษที่ 18-19 เขาทุบท�าลาย เครื่องทอผ้าเพื่อต่อต้านเทคโนโลยี ที่จะมาแทนแรงงานคน ชื่อของเขา ถูกเล่าลือกันมากจนถูกน�ามาใช้ เป็นสัญลักษณ์ของขบวนการผู้ใช้แรงงานในศตวรรษต่อมา เพื่อต่อสู้กับ นายทุนและการน�าเทคโนโลยีมาแทนแรงงานคน จนมาถึงในยุคปัจจุบัน ค�า ว่า Luddite ยังใช้เป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านเทคโนโลยีอื่นๆ

ชาวพุทธส่วนใหญ่ก็มีลักษณะอนุรักษ์นิยมเช่นกัน แต่ไม่เข้มข้นหรือ สุดโต่งขนาดนั้น แน่นอนว่าในสมัยพุทธกาลยังไม่มีการคิดค้นเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต ในค�าสอนของพระพุทธเจ้าจึงไม่ได้กล่าว ถึงเรือ่ งนีโ้ ดยตรง แต่อย่างไรก็ตาม เราสามารถน�าค�าสอนของพระองค์ มา ประยุกต์ใช้เพื่อเป็นหลักในการด�าเนินชีวิตในโลกยุคดิจิตอลได้ หลั ก การแรกคื อ การพิ จ ารณาถึ ง คุ ณ ค่ า แท้ แ ละคุ ณ ค่ า เที ย ม ยก ตัวอย่างเรือ่ งการกินอาหาร ก็มคี ณ ุ ค่าอยูท่ งั้ 2 ด้าน คุณค่าแท้คอื ประโยชน์ ด้านสุขภาพอนามัยที่ช่วยบ�ารุงร่างกายให้อยู่ได้ด้วยดี คุณค่าเทียมคือ ความเอร็ดอร่อย ความโก้เก๋ ดังนั้นการกินอาหารในร้านริมถนนกับการ กินอาหารในภัตตาคารหรูหรา ในแง่คณ ุ ค่าแท้กไ็ ม่ตา่ งกัน คือได้ประโยชน์ ในทางสุขภาพใกล้เคียงกันมาก แต่เราทุกคนต่างก็อยากไปกินอาหารใน ภัตตาคาร เพราะมันอร่อยกว่า โก้เก๋กว่า นีค่ อื การให้ความส�าคัญกับคุณค่า เทียมในเรื่องการกินอาหาร พระพุทธเจ้าสอนว่าให้เราเอาคุณค่าแท้เป็นหลัก คือกินอาหารเพื่อ บ�ารุงร่างกาย ให้มีเรี่ยวแรงในการท�างานและมีชีวิต ไม่ใช่กินเพื่อมุ่งเอา ความเอร็ดอร่อยเป็นหลัก ถ้าใครติดคุณค่าเทียม ก็จะเกิดโทษ เช่นเป็นโรค อ้วน หรือถ้ากลัวอ้วน ก็กลายเป็นโรคบูลีเมียและอนอเรกเซีย

Bulimia nervosa & Anorexia nervosa

ความผิดปกติในการรับประทานอาหาร เนื่้องจากความกลัวอ้วน และกังวลเรื่อง รูปลักษณ์ของร่างกายมากเกินไป ผู้เป็น โรคบูลีเมียจะรับประทานอาหารจ�านวนมากๆ แล้วรู้สึกผิดจนต้องอาเจียนออกมา ผู้เป็น โรคอนอเรกเซียจะหมดความอยากอาหาร และไม่ยอมรับประทานอาหาร จนร่างกายผอมแห้งผิดปกติ

ถ้ามองในเรือ่ งเทคโนโลยีทวั่ ไปอย่างเช่นรถยนต์ คุณค่าแท้ของรถยนต์ คือใช้เป็นพาหนะเพื่อเดินทาง เป็นการทุ่นแรงทุ่นเวลา คุณค่าเทียมของ มันคือความโก้เก๋ การสร้างภาพลักษณ์ให้แก่ผู้ขับขี่ สมัยนี้เราเน้นคุณค่า เทียมมาก ดังนั้นเวลาดูโฆษณารถยนต์ ให้สังเกตว่าเขาไม่ค่อยพูดว่ารถ คันนีช้ ว่ ยให้คณ ุ ไปถึงทีห่ มายได้อย่างปลอดภัยและประหยัด แต่เน้นว่ารถ คันนี้ขับแล้วโดดเด่น โก้เก๋ ไม่เหมือนใคร สถานะทางสังคมสูงส่งกว่าผู้อื่น ในสังคมปัจจุบัน โรคภัยไข้เจ็บทางร่างกาย และปัญหาสังคมจ�านวน มาก ล้วนเกิดขึ้นจากการที่ผู้คนหมกมุ่นยึดติดกับคุณค่าเทียมมากเกิน ไป อาตมามีความเห็นว่าคนในยุคปัจจุบัน ไม่ต้องถึงขั้นปฏิเสธคุณค่า เทียมไปเสียทั้งหมด เพียงแต่อย่าให้ความส�าคัญกับมันมากไปจนมอง ข้ามคุณค่าแท้ การใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ก็เช่นกัน เราควรเลือกซื้อและน�ามาใช้ งานเพื่อคุณค่าแท้ คือเพื่อท�างานเอกสาร ใช้ค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ช่วยให้งานส�าเร็จเสร็จสิน้ ได้รวดเร็วขึน้ ไม่ควรเอาคุณค่าเทียมเป็นหลักคือ ใช้เพือ่ ความสนุกสนาน บันเทิง ความตืน่ เต้น หลายคนใช้คอมพิวเตอร์เป็น ประโยชน์ประเภทหลังจนหยุดไม่ได้ ถึงขั้นเสพติดเทคโนโลยี เดี๋ยวนี้คนเสพติดเทคโนโลยีไอทีมาก โดยเฉพาะเกมออนไลน์ ใน ประเทศเกาหลีมีหลายคนติดเกมออนไลน์จนชีวิตย�่าแย่ บางคนติดเกม ออนไลน์จนถูกไล่ออกจากงาน เลยเล่นเกมทั้งวันทั้งคืนจนหัวใจวายตาย มีอยู่ข่าวหนึ่งซึ่งน่าเศร้ามาก สามีและภรรยาชาวเกาหลีคู่หนึ่งติดเล่นเกม ออนไลน์นอกบ้าน ทอดทิ้งลูกอายุเพียง 3 เดือนให้อดอาหารจนตาย ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2553 คิมแจบอม อายุ 40 ปี และ คิมยุนเจียง อายุ 25 ปี ถูกศาลตัดสินให้มีความผิดฐานท�าให้ลูกสาวของตนเองอายุ 3 เดือนเสียชีวิตโดยประมาท เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็คือหลังจากเลิกงาน พวกเขากลับมาบ้านเพื่อเอา ลูกเข้านอน แล้วรีบออกไปเล่นเกมออนไลน์ที่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ นานกว่า 10 ชั่วโมง ก่อนจะกลับมาที่บ้านและพบว่าลูกสาวเสียชีวิตเพราะขาดอาหาร นี่นับเป็นข่าวสะเทือนขวัญของประเทศเกาหลี และน�าไปสู่การออกกฎหมาย จ�ากัดเวลาการเล่นเกมออนไลน์ในเวลาต่อมา เกมออนไลน์ที่พวกเขาเล่นมีชื่อว่า “Prius Online” เป็นเกมที่มีตัวละคร หลักเป็นเด็กผู้หญิงที่สามารถเติบโตขึ้นมาโดยมีพลังพิเศษมากมาย โดย ผู้เล่นจะต้องแข่งกันคอย ประคบประหงมเลี้ยงดูเธอ แบบออนไลน์ตลอดเวลา ลูกสาวอายุ 3 เดือน ที่เสียชีวิต ชื่อว่า “คิมซา ราง” โดยค�าว่า “ซาราง” แปลว่า “ความรัก”

นี่คือตัวอย่างของการใช้ไอทีเพื่อสนองกิเลสจนเกิดความหลง ความ มัวเมา และเสพติด เพราะเราใช้เพื่อมุ่งตอบสนองคุณค่าเทียมที่ไม่มีวัน จบสิ้น จนหลงลืมคุณค่าแท้ไป เทคโนโลยีนั้นสามารถท�าให้เสพติดได้ไม่ต่างจากยาเสพติด โดยนัก วิทยาศาสตร์เคยท�าการวิจัยเรื่องการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ พบว่ามันมีผล ต่อสมองในส่วนที่มีปฏิกิริยาต่อการได้รับรางวัล เหมือนกับคนที่ท�าอะไร

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


ส�าเร็จหรือได้รางวัล จะรู้สึกดีใจขึ้นมา มีความสุข สนุกสนาน เพราะมีสาร เคมีบางอย่างหลั่งออกมาในสมอง เกมคอมพิวเตอร์ก็ให้ผลเช่นเดียวกัน มันท�าให้ผู้เล่นต้องเอาชนะ ต้องท�าให้ส�าเร็จเป็นขั้นๆ ไปเรื่อยๆ และเมื่อ ชนะหรือผ่านได้แต่ละขั้น สารเคมีชนิดนี้หลั่งออกมาเรื่อยๆ ผู้เล่นก็จะ รู้สึกมีความสุขและอยากได้ความรู้สึกเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นการ เสพติดในที่สุด อีกหลักการที่เกี่ยวกับการเลือกใช้เทคโนโลยี คือหลักมหาประเทศ 4 ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่พระพุทธเจ้าวางไว้เพื่อพิจารณาว่าอะไรควร อะไรไม่ควร ในกรณีที่มีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นในอนาคตโดยที่พระองค์ไม่ได้ระบุไว้ว่าอะไร ที่ท�าได้ อะไรที่ท�าไม่ได้ เช่น ถ้าพระองค์ไม่ได้ห้ามไว้ แต่มันเข้ากับหลักที่ ไม่ควร สิ่งนั้นก็ไม่ควรท�าไม่ควรเสพ และถ้าพระองค์ไม่ได้อนุญาตไว้ แต่ มันเข้ากับหลักทีค่ วร สิง่ นัน้ ก็ควรท�าหรือท�าได้ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และ อินเทอร์เน็ตก็เช่นเดียวกัน ถ้าเราน�ามาใช้เพือ่ เผยแผ่ธรรม หรือเพือ่ เพิม่ พูน สติปัญญา ก็ถือว่าใช้ได้หรือควรใช้ แต่ถ้าน�ามาใช้ในทางที่ส่งเสริมกิเลส ท�าให้ขาดสติ ก็ไม่ควรใช้

พระพุทธานุญาตมหาประเทศ 4

ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุทั้งหลายเกิดความรังเกียจในพระบัญญัติบาง สิ่งบางอย่างว่า สิ่งใดหนอ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอนุญาตไว้ สิ่งใดไม่ได้ ทรงอนุญาต จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระมีพระภาคเจ้า วัตถุเป็นกัปปิยะและอกัปปิยะ พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสประทาน ส�าหรับอ้าง 8 ข้อ ดังต่อไปนี้ 1. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่เราไม่ได้ห้ามไว้ว่าสิ่งนี้ไม่ควร หากสิ่ง นั้นเข้ากับสิ่งที่ไม่ควร ขัดกับสิ่งที่ควร สิ่งนั้น ไม่ควรแก่เธอทั้งหลาย 2. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่เราไม่ได้ห้ามไว้ว่าสิ่งนี้ไม่ควร หากสิ่ง นั้นเข้ากับสิ่งที่ควร ขัดกับสิ่งที่ไม่ควร สิ่งนั้นควรแก่เธอทั้งหลาย 3. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่เราไม่ได้อนุญาตไว้ว่าสิ่งนี้ควร หาก สิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ไม่ควร ขัดกับสิ่งที่ควร สิ่งนั้นไม่ควรแก่เธอทั้งหลาย 4. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่เราไม่ได้อนุญาตไว้ว่าสิ่งนี้ควร หาก สิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ควร ขัดกับสิ่งที่ไม่ควร สิ่งนั้นควรแก่เธอทั้งหลาย

Space & Time ที่เปลี่ยนไป

ในยุคนีท้ เี่ ปีย่ มไปด้วยเทคโนโลยีอนั รวดเร็วฉับไว มีสงิ่ หนึง่ ทีน่ า่ แปลก ใจก็ คือคนสมัยนี้มักรู้สึกว่าไม่ค่อยมีเวลา ไม่รู้เวลาหายไปไหน ทั้งๆ ที่ เทคโนโลยีนานาชนิดล้วนทุน่ แรงทุน่ เวลาให้เรา เช่น รถยนต์ ท�าให้เราถึงที่ หมายเร็วขึน้ โทรศัพท์ทา� ให้เราติดต่อคนทีอ่ ยูไ่ กลได้โดยใช้เวลาน้อยลง แต่ ท�าไมทุกวันนี้เราถึงกลับรู้สึกว่า ไม่ค่อยมีเวลาเลย ทุกวันนี้ส�านึกเรื่องเวลาของคนรุ่นเราเปลี่ยนแปลงไป สมัยก่อนเรา เคยนั่งรอกันได้เป็นชั่วโมง ๆ เป็นวัน ๆ เวลาท�างานส�าคัญสักชิ้น เราใช้ เวลานานเป็นเดือนหรือเป็นปี โดยไม่รู้สึกว่ามันนานเกินไป เวลากษัตริย์ ไทยยกทัพไปตีเชียงใหม่ กองทัพต้องเดินเท้าเป็นเดือนๆ กว่าจะถึง โดย ไม่รู้สึกว่ามันนาน แต่เดี๋ยวนี้พวกเราแค่รอรถติด 2 นาที ก็กระสับกระส่าย หงุดหงิด หรือเวลาเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ถ้ามันบูตเกิน 1 นาที ก็ทนไม่ ไหวแล้ว อยากหาซื้อเครื่องใหม่ อยากได้รุ่นที่เร็วกว่านี้ นั้นเป็นเพราะเรา ไม่รู้จักรอ เราจึงหงุดหงิดง่ายขึ้น

อาตมาคิดว่ามันขัดแย้งกันมาก เรามีเทคโนโลยีทุ่นแรง ทุ่นเวลา มากมาย แต่แทนที่เราจะมีเวลาเหลือมากขึ้น มีเวลาสบาย ๆ มากขึ้น กลับกลายเป็นว่าเราไม่ค่อยมีเวลา ผิดกับคนสมัยก่อนกว่าข้าวจะสุกต้อง ใช้เวลาเป็นชั่วโมง ต้องใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะซักผ้าเสร็จ กว่าจะเดิน ออกจากบ้านไปถึงไร่นาก็อีก 1 ชั่วโมง แต่ท�าไมในแต่ละวันเขามีเวลา ว่างเหลือมากมาย ตรงกันข้ามกับคนในเมืองใหญ่ มีรถยนต์ที่เร็วมาก มี คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต สามารถท�างานที่บ้านได้โดยไม่ต้องเสียเวลา เดินทาง แต่กลับมีเวลาว่างน้อยลง ไม่มีเวลาให้ครอบครัว เวลาพักผ่อนก็ ไม่ค่อยมี นอนได้ไม่เต็มที่ ค�าถามคือ “เวลาหายไปไหน?” ค�าตอบคือ “เวลาหายไปอยู่กับเทคโนโลยี” เคยมีคนท�าวิจัยพบว่าคนกรุงเทพฯ ใช้เวลาอยู่บนรถ 65 วันต่อปี คือ ใช้เวลา 1 ใน 6 ของทั้งปีเลยทีเดียว ตัวเลขนี้เป็นสิ่งที่ไม่น่าแปลกหรอก ถ้าเราต้องเดินทางไปกลับที่ท�างานวันละ 4 ชั่วโมง ก็คือ 1 ใน 6 ของวัน เด็กวัยรุ่นไทยในแต่ละวัน อยู่กับ เกมออนไลน์และอินเทอร์เน็ต 3 ชั่วโมง ดูทีวีอีก 3 ชั่วโมง คุยโทรศัพท์อีก 2 ชั่วโมง รวมแล้ว 8 ชั่วโมง ซึ่งก็ คือ 1 ใน 3 ของวัน แล้วเด็กจะมีเวลานอน เวลาเรียน เวลาออกก�าลังกาย เวลาคุยกับพ่อแม่ได้อย่างไร ข้อมูลข่าวสารจ�านวนมากมายมหาศาลในโลกยุคข้อมูลข่าวสาร เป็น อีกสิ่งหนึ่งที่กินเวลาเราอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะในอินเทอร์เน็ตมีข่าวสาร มากมาย อาตมาเองเสียเวลากับเรื่องนี้วันหนึ่ง ๆ ก็ไม่น้อย แค่ตอบอี-เมล์ ก็เกือบชัว่ โมงแล้ว ข้อมูลในอินเทอร์เน็ตเหล่านีบ้ างทีกอ็ ดใจไม่ไหวทีจ่ ะเปิด อ่าน เราจึงควรคุมตัวเองให้ได้ อย่าไปจมกับมันมาก เพราะมันจะดึงดูดเรา ลึกเข้าไปเรือ่ ยๆ ข้อมูลข่าวสารทีม่ ากเกินไปแบบนี้ มันจะดึงเราเข้าไปแบบ ไม่มีวันจบ ได้ข้อมูลมากเท่าไร ก็ไม่มีวันหมด ไม่มีวันสิ้นสุด ต้องเตือนใจ ให้รู้จักหยุด รู้จักพอ ไม่น่าแปลกใจที่คนเราใช้เวลามากมายกับข้อมูลข่าวสาร หรืออยู่ กับเทคโนโลยีไอที จนกระทั่งไม่มีเวลาเหลือ ในบ้านมีพ่อแม่ลูก 4 คน มี โทรทัศน์คนละเครื่อง แต่ละคนก็อยู่ในห้องตัวเอง ทั้งวันก็ต่างคนต่างอยู่ หน้าจอโทรทัศน์ หรืออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ จนไม่มีเวลาคุยกัน พ่อจะ เรียกลูกมากินข้าว ต้องใช้โทรศัพท์มอื ถือเรียกลงมา บางคนถึงกับส่ง SMS หรือเขียนอี-เมล์ถึงลูกให้ลงมากินข้าว

คุณค่ำแท้ของรถยนต์คือใช้เป็นพำหนะ เพื่อเดินทำง เป็นกำรทุ่นแรงทุ่นเวลำ คุณค่ำ เทียมของมันคือควำมโก้เก๋ กำรสร้ำง ภำพลักษณ์ให้แก่ผู้ขับขี่

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


นัน่ แปลว่า ไม่เพียงแค่สา� นึกเรือ่ งเวลาเท่านัน้ ทีเ่ ปลีย่ นแปลงไป ส�านึก ในเรื่อง space รวมทั้งความสัมพันธ์กับผู้คนก็เปลี่ยนไปพร้อมกันด้วย ใน ด้านหนึ่งเทคโนโลยีช่วยให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น แต่ในอีกด้านหนึ่งมัน ท�าให้เราเหินห่างจากคนใกล้ตัวเช่นคนในบ้าน ขณะที่คนไกลได้ใกล้ชิด กันมากขึ้น แต่คนใกล้กลับห่างเหินกัน space บิดเบือนไปหมด เราติดต่อ กับเพื่อนที่อเมริกาทุกวัน แต่เราไม่คุยกับพ่อแม่เราเอง

การปฏิบัติธรรมในยุคดิจิตอล

เทคโนโลยีเป็นเรือ่ งทีต่ รงข้ามกับธรรมะ ในแง่ทวี่ า่ มันมุง่ จัดการกับสิง่ รอบตัว ขณะที่ธรรมะเน้นที่การจัดการกับตัวเอง เมื่อเทคโนโลยีล้อมรอบ ตัวเรามากขึ้น มันบิดเบือน Space & Time ของเราไปทั้งหมด ทุกอย่าง ต้องเร่งรีบ ขณะเดียวกันจิตใจก็ส่งออกนอก ถูกดึงออกนอกตัว จนอยู่เฉย ไม่ได้ ต้องวิ่งวุ่นไปทั่ว เดี๋ยวนี้เราไม่สามารถจะอยู่นิ่งได้นานๆ รอได้นานๆ แค่ 1 ชั่วโมงก็ทนไม่ได้ หากต้องวิ่งวุ่นและเร่งรีบแบบนี้ เราจะรู้จักตัวเอง ได้อย่างไร เราจะมีความสงบใจได้อย่างไร การเข้าถึงธรรมะจึงเป็นเรื่อง ที่ยากขึ้น เพราะธรรมะเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความสงบ การหันมามองตน ดูจิตใจของตนเอง คนเราจะมีความสุขได้ก็ต้องรู้จัก “เป็นมิตรกับตัวเอง” คนเดี๋ยวนี้ไม่ ค่อยเป็นมิตรกับตัวเองเท่าไร ถ้าเรารักตัวเองจริงอย่างที่พูดกัน ท�าไมเรา ไม่อยากอยู่กับตัวเองล่ะ ถ้าให้นั่งอยู่ในห้องคนเดียว จะทนได้นานสักแค่ ไหน นัง่ ไปชัว่ โมงเดียวก็กระสับกระส่าย เบือ่ เหงา อยากโทรศัพท์หาเพือ่ น อยากเล่นเกมออนไลน์ อยากเล่นบีบี อยากแชทกับเพือ่ น หรือไปเทีย่ วห้าง สังเกตจากคนที่มาปฏิบัติธรรมที่วัดของอาตมา วันแรกๆ ที่เข้ามา หลายคนจะมีอาการกระสับกระส่าย อาตมาเรียกว่ามีอาการเหมือนลงแดง เพราะห้ามพูดคุยกัน ต้องเดินจงกรมวันละหลายชั่วโมง ไม่มีโทรทัศน์ให้ดู โทรศัพท์ก็ไม่ได้ คนที่เสพติดเทคโนโลยีจึงรู้สึกเป็นทุกข์ นอกจากการฝึก ปฏิบตั ธิ รรมทีจ่ ดั เป็นประจ�า ทางวัดยังจัดงานเดินธรรมยาตรา ทุกวันที่ 1-8 ธันวาคม ของทุกปี และจะมีโรงเรียนจากกรุงเทพฯ ส่งครูและเด็กนักเรียน ไปร่วมกัน ครูจะยึดโทรศัพท์มอื ถือไว้หมด วันแรก ๆ เด็กวัยรุน่ ทีม่ าร่วมงาน จะกระสับกระส่ายกันมาก โทรก็ไม่ได้ ทีวีก็ไม่มีดู

วัดป่าสุคะโต

ตั้งอยู่ที่หมู่ 8 บ้านใหม่ไทยเจริญ ต�าบลท่ามะไฟหวาน อ�าเภอแก้ง คร้อ จังหวัดชัยภูมิ (http:// www.pasukato.org) ขอเชิญ ชวนท่านเข้าร่วมปฏิบัติธรรม เจริญสติ รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อพระอาจารย์ทรงศิลป์ สุจิณฺโณ และ โยมสุนทรี ศรีพล โทรศัพท์ 087-022-9102

ข้อมูลในอินเทอร์เน็ตเหล่ำนี้บำงทีก็อดใจ ไม่ไหวที่จะเปิดอ่ำน เรำจึงควรคุมตัวเองให้ ได้ อย่ำไปจมกับมันมำก เพรำะมันจะดึงดูด เรำลึกเข้ำไปเรื่อยๆ ข้อมูลข่ำวสำรที่มำกเกิน ไปแบบนี้ มันจะดึงเรำเข้ำไปแบบไม่มีวันจบ

อย่างไรก็ตาม อาการนีจ้ ะมีอยูแ่ ค่ 1-2 วันแรกเท่านัน้ วันหลังๆ พวกเขา จะหาย และไม่ต้องพึ่งพาโทรศัพท์อีกแล้ว ผ่านไปไม่กี่วัน เขาได้เรียนรู้ว่า จริงๆ แล้วชีวิตคนเราไม่จ�าเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีมากขนาดนั้นก็ได้ ถึง แม้ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ก็ยังอยู่ได้อย่างมีความสุข เพียงแต่ทุกวันนี้เราเสพ เทคโนโลยีจนเคยตัว พอไม่มอี ะไรท�าก็ควักโทรศัพท์ขนึ้ มากด แล้วก็เสพติด มัน เด็กนักเรียนหลายคนบอกว่าชีวิตเบาลงเยอะ ได้ดูใจตัวเอง ได้มีเวลา คุยกับเพื่อน ได้มีเวลาท�ากิจกรรมอื่นๆ ในชีวิตบ้างก็ดี การที่คนสมัยนี้เข้าถึงธรรมะได้ยากขึ้น ท�าให้เขาโหยหาธรรมะมาก กว่าเดิม เพราะชีวิตเครียดมากขึ้น สมัยนี้เรามีความพรั่งพร้อมทางวัตถุ ได้เสพได้บริโภคเต็มที่ ก็เลยรู้สึกอิ่มตัวเร็ว สมัยก่อนวัตถุสิ่งเสพไม่อุดม สมบูรณ์เหมือนอย่างตอนนี้ ดังนั้นจึงไม่รู้สึกอิ่มตัวเหมือนคนสมัยนี้ พอ อิ่มตัวเร็ว ก็เลยรู้สึกว่าวัตถุไม่ใช่ค�าตอบ ไม่ได้ให้ความสุขอย่างแท้จริง เกิดความเบื่อหน่าย จึงหันไปแสวงหาสิ่งอื่นที่เชื่อว่าจะท�าให้มีความสุข มากกว่านี้ ในภาวะนี้ เราจะตกอยู่บนทางแพร่ง ทางหนึ่งก็คิดว่าเราต้องมีเงินให้ มากกว่านี้ มีวัตถุให้มากกว่านี้ เราถึงจะมีความสุข เหมือนคนติดยาเสพ ติด ต้องใช้ยามากขึ้น หรือยาแรงขึ้น ถึงจะเพลิดเพลินเหมือนเก่า เหมือน นักการเมือง เสพติดในอ�านาจก็ต้องแสวงหาอ�านาจมากขึ้น หรือต�าแหน่ง สูงขึ้น คนที่ติดเทคโนโลยีก็เช่นกัน พอมีแล้วก็ยังไม่พอใจ อยากได้สินค้า รุ่นใหม่ขึ้น แพงขึ้น ดีขึ้น อีกทางหนึง่ คือการหันหลังให้กบั สิง่ เหล่านัน้ แล้วมาหาธรรมะ เหมือน กับชาวตะวันตกที่มีความเจริญทางวัตถุสูงมาก เสพสุขกันเต็มที่ทั้ง ตา หู จมูก ลิ้น กาย แล้วก็รู้สึกอิ่มตัว เบื่อหน่ายวัตถุ จึงหันเข้าหาธรรมะ ใน อเมริกา ยุโรป คนจึงสนใจพุทธศาสนาหรือท�าสมาธิภาวนามากขึ้น ถึงแม้จะไม่ได้เข้าวัดปฏิบัติธรรมหรือเจริญสติ ในชีวิตประจ�าวันของ เราทุกคน ที่ถูกรายล้อมไปด้วยเทคโนโลยี เราก็สามารถมีชีวิตสงบเย็นได้ โดยใช้หลักการดังต่อไปนี้ 1. ความพอดีและความสันโดษ คือใช้เทคโนโลยีหรือเสพวัตถุแต่พอดี ทั้งในแง่เวลาและปริมาณ คือถ้าเราใช้เทคโนโลยีแต่พอดี เราก็มีเวลามาก ขึน้ ในการท�าสิง่ อืน่ ทีม่ ีความส�าคัญ ดังนัน้ จึงควรก�าหนดเวลาให้ตวั เอง ว่า วันหนึ่งจะใช้เวลากับเฟซบุ๊กนานเท่าไร เล่นเกมนานเท่าไร จะแชทนาน เท่าไร ดูทีวีนานเท่าไร ถ้าไม่ก�าหนด ไม่มีวินัย ความพอดีก็เกิดขึ้นได้ยาก

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


2. มีสติ สติชว่ ยให้เราไม่หลงเพลินกับการเสพเทคโนโลยี รูจ้ กั หยุดเมือ่ ถึงเวลา ถ้าไม่มีสติ ก็จะหลงจนเพลิน จนเสียงานเสียการ บางคนดูละคร เกาหลีตั้งแต่หัวค�่ายันสว่าง แล้วก็มาบ่นว่าท�าอย่างไรดี ติดละครเกาหลี จนไม่มีเวลาท�างาน 3. ต้องรู้คุณและโทษ ของทุกสิ่งมีทั้งคุณและโทษ ใช้ให้มันเป็นคุณ มากกว่าโทษ 4. แยกแยะระหว่างคุณค่าแท้กับคุณค่าเทียม ใช้หรือบริโภคสิ่งต่าง ๆ โดยมุ่งคุณค่าแท้มากกว่าคุณค่าเทียม ถ้าท�าเช่นนี้ได้ เราจะเป็นนายเทคโนโลยี ไม่ใช่ปล่อยให้เทคโนโลยี มาเป็นนายเรา เราจะมีเวลาว่างมากขึ้น รวมทั้งมีเวลาส�าหรับการศึกษา หาความรู้ ดูแลครอบครัว อ่านหนังสือ พัฒนาตัวเอง ออกก�าลังกาย และ ถ้ามีเวลาเหลืออีกก็ออกไปช่วยเหลือผู้อื่น บ�าเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวม

ทุกวันนี้เรำเสพเทคโนโลยีจนเคยตัว พอไม่มีอะไรท�ำก็ควักโทรศัพท์ขึ้นมำกด แล้วก็เสพติดมัน เด็กนักเรียนหลำยคน บอกว่ำชีวิตเบำลงเยอะ ได้ดูใจตัวเอง ได้มีเวลำคุยกับเพื่อน ได้มีเวลำท�ำ กิจกรรมอื่นๆ ในชีวิตบ้ำงก็ดี

เทคโนโลยีเท่าที่มีอยู่

อาตมาใช้คอมพิวเตอร์ครั้งแรกในปี 2537 และเริ่มใช้อินเทอร์เน็ต ตั้งแต่ปี 2538 โดยในสมัยนั้นจะได้ใช้ก็ต่อเมื่อเดินทางมากรุงเทพฯ อาศัย ส�านักงานของเพื่อนๆ ส�าหรับต่ออินเทอร์เน็ต มีอี-เมล์แอคเคานต์ของ ตนเองเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2542 ที่ Yahoo.com และเริ่มมาใช้อินเทอร์เน็ต เป็นประจ�าที่วัด ตั้งแต่ปี 2548 โดยใช้โทรศัพท์มือถือเป็นโมเด็ม ต่อ อินเทอร์เน็ตผ่านทาง GPRS ในปัจจุบนั อาตมาใช้โน้ตบุก๊ 1 เครือ่ ง ส�าหรับการท�างาน เขียนหนังสือ แปลหนังสือ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ในตอนเช้าและเย็น เอาไว้เปิดดูข่าว ประจ�าวัน เช็คข้อมูลในการเขียนหนังสือ ค้นคว้าวิกิพีเดีย เช็คอี-เมล์งาน และเผยแพร่งานในเฟซบุ๊ก นอกจากนี้ มีเน็ตบุ๊ก 1 เครื่อง เอาไว้พกพาไปใช้ในเวลาเดินทางไกลๆ และมีเครื่องเล่นเอ็มพีสาม เพื่ออัดเสียงค�าบรรยาย น�าไฟล์เสียงไปให้ลูก ศิษย์ น�าไปแกะแล้วอาตมาจะขัดเกลาข้อความ เพื่อเผยแพร่ในเว็บไซต์ ส่วนเฟซบุ๊กมี 3 แห่ง คืออาตมาท�าเอง 1 แอคเคานต์ และมีลูกศิษย์ช่วย ท�าให้อีก 2 แอคเคานต์ อาตมามีใช้แพคเกจอินเทอร์เน็ตแบบที่มีเวลาไม่เกิน 30 ชั่วโมงต่อ

เดือน จึงก�าหนดตัวเองว่าจะใช้อนิ เทอร์เน็ตวันละ 1 ชัว่ โมงเท่านัน้ เนือ่ งจาก มีเวลาใช้อย่างจ�ากัด อาตมาจึงไม่ไปเสียเวลาแวะดูเว็บไซต์พร�่าเพรื่อ ไม่ ไปโหลดคลิปวิดีโอ เพราะใช้เวลานานมากและ GPRS ก็โหลดข้อมูลได้ ค่อนข้างช้า ผิดกับหลายคนที่ออนไลน์ทั้งวัน สามารถใช้อินเทอร์เน็ตโดย ไม่จ�ากัด ท�าให้มีความพอดีได้ยาก เพื่อนหลายคนแนะน�าให้อาตมาลองใช้อุปกรณ์ใหม่ๆ อย่าง iPad แต่ อาตมาปฏิเสธ เพราะคิดว่าอุปกรณ์ใหม่ๆ เหล่านี้จะต้องใช้เวลาในการ เรียนรู้ และใช้เวลามากเกินไป ถ้าเสียเงินซื้อมาแล้ว ก็ต้องใช้งานให้คุ้มค่า ซึ่งนั่นก็เท่ากับเราต้องอยู่กับมันมากขึ้น นานขึ้น ในขณะที่อุปกรณ์ต่างๆ เท่าที่มีอยู่ตอนนี้ ก็เพียงพอส�าหรับการท�างานอยู่แล้ว จึงยังไม่อยากไป เริ่มใช้อุปกรณ์ใหม่ๆ เหล่านั้น

อนาคตของมนุษยชาติ

อาตมาไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้า เทคโนโลยีจะน�าพามนุษย์ไปไหน จะ ดีขึ้นหรือแย่ลง ก็บอกไม่ได้ เพราะเมื่อก่อนเราเคยคาดหวังกันไว้สูงมาก ว่าเทคโนโลยีจะท�าให้สังคมเราดีขึ้น ชีวิตของเราดีขึ้น หรือท�าให้โลกมี สันติภาพ แต่กอ็ ย่างทีเ่ รารู้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีกลับท�าให้มนุษย์ ท�าลายล้างกันมากขึ้น จนทุกวันนี้โลกก็ยังไม่มีสันติภาพอย่างแท้จริง ใน เวลาเดียวกันเคยมีคนคาดท�านายว่าในโลกยุคสารสนเทศ คนจะมีความ รู้มากขึ้น อวิชชาจะน้อยลง แต่ความเป็นจริงก็คือทุกวันนี้ ความเท็จก็ยัง แพร่ระบาดอยู่ และยิง่ แพร่ระบาดได้งา่ ยและเร็วกว่าเดิมด้วยซ�า้ แม้กระทัง่ ในหมู่คนที่มีความรู้ สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ ก็ยังมีความหลง มี อวิชชา หรือเชื่อความเท็จได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่น ในอเมริกาทุกวันนี้มีถึง 30 ล้านคนที่เชื่อว่าประธานาธิบดี บารัก โอบามา เป็นมุสลิม คนพวกนี้ใช้ อินเทอร์เน็ตกันทั้งนั้น แต่เขาก็ยังหลงเชื่อข่าวลือนี้เพราะความเท็จเรื่องนี้ แพร่หลายมากในอินเทอร์เน็ต สมัยนี้เว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จและความเห็นแบบสุดโต่ง มีมาก ขึ้นเรื่อยๆ นอกจากมันจะท�าให้ความเท็จแพร่ออกไปมากขึ้นแล้ว มันยัง ท�าให้กลุ่มคนที่สุดโต่งทางความคิดติดต่อสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น เมื่อก่อนก็ มีคนสุดโต่งอยู่ แต่ใน 1 หมู่บ้านอาจจะมีอยู่แค่ 2-3 คน จะติดต่อคนที่คิด แบบเดียวกันก็ยาก เพราะคนเหล่านีม้ กั จะอยูก่ ระจัดกระจาย แต่ในทุกวัน นี้ เขาติดต่อกันได้ง่ายมากเพราะมีอินเทอร์เน็ต คนคอเดียวกันก็เลือกเข้า เว็บไซต์เดียวกัน จึงพากันสุดโต่งยิ่งกว่าเดิม ความสุดโต่งในยุคสารสนเทศนี่น่ากลัวมาก ในอเมริกามีกลุ่มคนสุด โต่งไปในหลากหลายรูปแบบ คนเหยียดผิว คนเกลียดเกย์ คนเกลียดมุสลิม คนเกลียดยิว คนพวกนี้อาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศเผยแพร่ความคิดของ ตัว รวมทั้งพูดกรอกหูพวกเดียวกันจนมีอคติรุนแรงมากขึ้น ข้อสรุปของอาตมาคือ ความดีงาม ความเจริญรุง่ เรือง ของมนุษยชาติ จึงไม่ได้ขนึ้ อยูก่ บั วัตถุเทคโนโลยีมากเท่ากับคุณภาพจิตของผูค้ น ถ้าใจเรา คับแคบ เห็นแก่ตัว เทคโนโลยีก็ยิ่งท�าให้เราคับแคบและเห็นแก่ตัวยิ่งขึ้น การเซนเซอร์ไม่เคยได้ผลยัง่ ยืนไม่วา่ ในยุคใดสมัยใด ไม่วา่ จะใช้กบั สือ่ เก่า หรือสื่อใหม่ในยุคดิจิตอล การเซนเซอร์เป็นดาบสองคมที่จะย้อนกลับมา ท�าร้ายคนทีเ่ ซนเซอร์เอง รัฐบาลจะไม่สามารถปิดเว็บไซต์ของฝ่ายตรงข้าม หรือปิดหูปิดตาประชาชนได้นาน เพราะเขาก็ย้ายไปเปิดที่อื่น สู้เอาความ จริงหรือเหตุผลมาสู้กันไม่ได้

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


เรำอำศัยแค่เฟซบุ๊กอย่ำงเดียวไม่ได้ กำรรอให้คน มำกดไลค์หรือใส่คอมเมนต์เห็นด้วยเท่ำนั้น ยังไม่มี พลังมำกพอที่จะเปลี่ยนแปลงอะไร คนหนุ่มสำวใน ยุคนี้ต้องลงทุนและลงแรงให้มำกกว่ำนี้

อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตและผู้คนที่รวมตัวกันเป็นสังคมใน โลกออนไลน์ ก็ไม่ควรรอให้ใครมาเซนเซอร์ แต่เราควรควบคุมกันเอง ยก ตัวอย่างเช่น ในเฟซบุ๊กมีกลุ่มที่สร้างขึ้นมาเพื่อปลุกปั่นความเกลียดชัง ก็ ควรมีอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อความสันติเป็นต้น ในหมู่ผู้ใช้ควรจะร่วมกันสร้างวัฒนธรรมเพื่อการอยู่ร่วมกัน เช่น ช่วย กันสร้างมาตรฐานว่า ไม่ใช้ค�าหยาบคาย ไม่กล่าวประณามหยามเหยียด ผู้อื่น ไม่ปลุกปั่นความเกลียด เรื่องนี้ควรท�าให้เป็นวัฒนธรรม คือนอกจาก วัฒนธรรมในวงการอินเทอร์เน็ตที่เน้นสิทธิเสรีภาพในด้านข้อมูลข่าวสาร แล้ว เรายังควรมีมารยาทต่อกัน ถกเถียงกันด้วยเหตุผล เมือ่ สังคมออนไลน์ มีวัฒนธรรมที่สร้างสรรค์ เป็นที่ยอมรับร่วมกัน ต่อไปพวกผู้ใช้ที่ค�าหยาบ คายหรือเกเรก็จะพูดเบาลง หรือย้ายไปที่อื่น พวกที่ชอบด่าทอ เผยแพร่ ความเกลียดชัง ใส่ร้าย กล่าวเท็จ ก็จะหดแคบลงไปเรื่อยๆ อาตมาเชื่อว่า วิธีนี้ดีกว่าการเซนเซอร์ ในส่วนของพระสงฆ์ จริงๆ แล้วทุกวันนี้ พระรู้เรื่องเทคโนโลยีกันเยอะ มาก จนมีคนเอาไปพูดล้อกัน “อยากรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ให้ถามพระ อยาก รูเ้ รือ่ งธรรมะให้ถามฆราวาส” พระสมัยนีไ้ ปเดินแถวพันธุท์ พิ ย์กนั เยอะมาก นี่ก็เป็นแนวโน้มที่น่าสังเกต อาตมาคิดว่าพระสงฆ์ควรจะใช้งานให้เหมาะ สม อย่างเช่นการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์ก ถ้าใช้เพื่อการพูดเล่นกัน อาจจะ ไม่เหมาะสมส�าหรับพระสงฆ์ แต่ถา้ ใช้เผยแผ่ธรรมะ ก็นา่ จะเหมาะสม และ พระสงฆ์ควรเรียนรู้ที่จะใช้งานในด้านนี้ให้มากขึ้น

www.visalo.org

เว็บไซต์รวบรวมผลงานของ พระไพศาล วิสาโล เปิดให้ ดาวน์โหลดฟรีคลิปเสียง บรรยายธรรมะ บทความ บทสัมภาษณ์ และหนังสือธรรมะ

เฟซบุ๊กเพจของ พระไพศาล วิสาโล

www.facebook.com/pages/PhraPaisal-Visalo/129633890386228

ทุกวันนีอ้ าตมาใช้เฟซบุก๊ ในการเผยแผ่ธรรมะ คิดว่าเฟซบุก๊ ได้รบั ความ นิยมมากกว่า และเข้าถึงผู้คนได้ง่ายกว่า เว็บไซต์ของอาตมาที่ www. visalo.org ก็ยังท�าอยู่ แต่คนเข้าน้อยกว่ามาก อาจเป็นเพราะว่าเว็บไซต์ เป็นสิ่งที่เราต้องขวนขวายเข้าไปหา ส่วนเฟซบุ๊กนั้น เวลาเราเขียนอะไร ข้อความจะไปปรากฏในหน้าเฟซบุ๊กของคนอื่นทันที คือไม่ต้องไปหา มันมาเอง อาตมาคิดว่าโซเชียลเน็ตเวิร์กเหล่านี้ อาจจะช่วยสร้างความ เปลีย่ นแปลงทางสังคมได้ อย่างเช่นการให้สติแก่ประชาชนไทยในช่วงเวลา ที่ก�าลังมีความขัดแย้งทางการเมืองเมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เราอาศัยแค่เฟซบุ๊กอย่างเดียวไม่ได้ การรอให้คน มากด Like หรือใส่คอมเมนต์เห็นด้วยเท่านั้น ยังไม่มีพลังมากพอที่จะ เปลี่ยนแปลงอะไร คนหนุ่มสาวในยุคนี้ต้องลงทุนและลงแรงให้มากกว่า นี้ แต่คนหนุ่มสาวสมัยนี้ไม่ค่อยมีเวลาต่อสู้กับอะไร แค่ต่อสู้กับความเบื่อ ความเหงา ความหงุดหงิด ความเซ็ง ก็เหนื่อยแล้ว ยังไม่ต้องพูดถึงความ สะดวกสบายจนเคยตัวจากเทคโนโลยีทั้งหลาย ต้องสู้กับสิ่งยั่วยุกิเลส ตัณหาสารพัด รวมทั้งสิ่งดึงดูดความสนใจไปจากสิ่งที่เป็นสาระแท้จริง ของชีวิต ถ้ายังผ่านสิ่งเหล่านี้ไปไม่ได้ ชีวิตเขาก็คงล�าบาก ยากที่คิดท�า อะไรเพื่อผู้อื่นได้

10 ผู้น�ำควำมคิด 10 ไอเดียไอที เปลี่ยนประเทศไทย


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.