ความเป็นมาและวิวัฒนาการของ Fender Stratocaster.
————————————————————————————————————— ——————————————
1954 Stratocaster Sunburst. Stratocaster ตัวต้นแบบเกิดขึ้นในปี 1954 และมีรายละเอียดที่หลากหลายแตกต่างกันอย่าง มาก. แต่ตัวที่เป็นที่ทำ ออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการนั้นเริ่มที่เดือน ตุลาคม 1954 โดยมีอย่าง นึงที่เปลี่ยนแปลงจากตอนเป็น Telecaster หลักๆเลยคือ มีการปาดบอดี้ หรือ Contoured body นั่นเองและจุดเด่นออีกอย่างคือ มีชุดบริดจ์ แบบ Tremolo system, สีที่ออกมาจำหน่าย คือสี 2 tone sunburst, และคอทรง D-Shaped แบบกว้าง และใช้ ไม้ Ash แบบหนักทำ บอดี้.
1958 Stratocaster Sunburst. จากปี 1954 ถึง 1958 มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญบางอย่างเกิดขึ้น, ช่วงกลางปี 1956 ใช้ Alder ทำลำตัวเป็นไม้หลักแทน Ash, จะมีสี Blonde บ้างซึ่งหาได้ยากนั้นยังคงใช้ไม้ Ash อยู่, ส่วน ส่วนประกอบอื่นๆยังคงมีอยู่เช่น String trees, Tremolo เป็นต้น แต่ รูปทรงของคอได้เปลี่ยน เป็นแบบ V-Shape. และในปี 1958, สี Sunburst แบบ 2 Tone ได้เปลี่ยนเป็น 3 Tone Sunburst ประกอบด้วย สีแดง สีดำ และสีเหลือง. และสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปอีกคือ รูปทรงของคอ เปลี่ยนจาก V-Shape เป็น D-Shape แบบบาง.
1959 Stratocaster Sunburst. ประมาณช่วงกลางปี 1959 ได้เริ่มใช้เฟรตบอร์ดแบบ Slab Broad (ใช้ไม้ Rosewood แบบเต็ม แผ่นปะลงไปบนไม้เม เปิ้ลแล้วค่อยเหลาให้เข้ารูป) โดยใช้ไม้ Rosewood (ใช้วิธีการนี้ไปจนถึง ปลายปี 1962 จึงเปลี่ยนไปใช้วิธีปะแบบ Veneer คือมีไม้ Rosewood ที่บางกว่าแบบ Slab). ในปี 1959 ได้เปลียนจาก ปิ๊คการ์ดแบบหนึ่งชึ้นสีขาว เป็นแบบ สามชั้น สลับ สีขาวและสีดำ ทำ จาก Celluloid nitrate. ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปปิ๊คการ์ดตัวนี้จะมีสีที่เพี้ยนไปออกเป็นสีเขียวๆ ตาม แต่ว่าจะโดนแสงมากน้อยแค่ไหน
1964 Stratocaster Fiesta Red. ช่วงที่ CBS ได้ซื้อธุรกิจต่อมากจาก Leo Fender เป็นช่วงที่เปลี่ยนจากยุคคลาสสิค Fender มา เป็นยุคที่เน้นด้านการ ตลาดและเทคนิคการผลิตโดย CBS จะเริ่มเห็นได้ตั้งแต่ปี 1964 ซึ่งมีการ เปลี่ยนแปลงหลักๆคือ โลกโก้ที่หัว และ inlay แบบเดิมไปเป็นจุดกลมสีมุก.
1965 Stratocaster Olympic White. สำหรับแฟนๆ Fender แล้วในปี 1964, 1965 ,1966 ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สำหรับ Fender Stratocaster ทีเดียว โดยมีการเปลี่ยนรูปทรงหัวกีตาร์ ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และ มีตัว “F” ที่เพลทหลังคอกีตาร์ และกลับ มามี เฟรตบอร์ดแบบเมเปิ้ลให้เลือก. และมีการเปลี่ยน Tunning จาก Kluson Deluxe เป็นแบบ F-Style ในปี 1968.
1969 Stratocaster Lake Placid Blue หรือสีฟ้าแบบน้ำในทะเลสาปที่สงบ เงียบ (แปลได้ตรงตัวมาก) ช่วงปลายๆยุค 60 Fender มีคุณภาพลดลงอย่างต่อเนื่องจากการบริหารของ CBS. โดยในช่วง ต้นปี 1968 Fender ได้ ใช้ แล๊คเกอร์ชนิดหนาที่เรียกว่า Polyurethane ในการเคลือบทำสี (จากเดิมใช้ Nitrocellulose). ในปี 1969 Fender กลับมาใช้ ไม้เมเปลิ้นชิ้นเดียวแบบเดิม “Skunk Stripe” ถ้าเทียบกับที่ใช้แบบก่อนหน้าคือ Glued on Meple Fretboard. หรือแบบมีไม้ เมเปิ้ลมาปะบนคออีกที.
1974 Stratocaster Natural. คุณภาพยังลดลงอย่างต่อเนื่อง ในยุค 70’s นี้ รวมถึงมีการเปลี่ยนน๊อตยึดคอกีตารืกับลำตัวเป็น แบบน๊อต 3 ตัวและ เปลี่ยนมาเป็น “Bullet” Truss rod ในปี 1971,และมีการปาดลำตัว (Countoured body) ที่น้อยลงและน้อยลง เรื่อยๆตามมา.
1976 Stratocaster Mocha. ยุคปลายๆ 70’s นี้ยังมีลักษณะส่วนใหญ่เหมือนๆกับที่ผ่านมา โดยใช้ ปิ๊คการ์ดสีดำ, และในปี 1977 Fender Stratocaster เริ่มใช้ Pickup Selector แบบ 5 ทางจากเดิมที่เป็นแบบ 3 ทาง และทางผู้เล่นได้มีการนำไปปรับแต่งเองให้เป็น 5 ทาง
1983 Stratocaster Sunburst “Smith Strat”. หลังจากที่ CBS ถอนตัวออกไปจาก Fender ในช่วงต้นปี 80’s โดยได้ Dan Smith เป็นหัว หอกในการบริหารใหม่. ซึ่ง Fender ได้นำมาตราฐาน Fender แบบเก่ากลับมาเล่น ขนาดรุป ทรงของหัวแบบเล็ก และน๊อตยึดคอกับลำตัวแบบมีน๊ อต 4 ตัวพร้อมเพรทยึดแบบเก่าก่อนยุค
หอกในการบริหารใหม่. ซึ่ง Fender ได้นำมาตราฐาน Fender แบบเก่ากลับมาเล่น ขนาดรุป ทรงของหัวแบบเล็ก และน๊อตยึดคอกับลำตัวแบบมีน๊ อต 4 ตัวพร้อมเพรทยึดแบบเก่าก่อนยุค CBS. ซึ่งมาพร้อมกับ Modern X-1 ปิ๊คอัพในตำแหน่งบริจด์.
1983 Stratocaster Sunburst. ในยุคท้ายๆของ Dan Smith, Fender ได้เปลี่ยนมาทำ 1 โวลลุ่ม 1 โทน (จากเดิมมี 1โวล ลุ่ม 2 โทน) และย้ายรูแจ๊ค เป็นแบบวางลงบนลำตัวไปตรงๆไม่มีแผ่นเมาท์รองแบบปกติ (แบบ Gibson SG) ในปี 1983 -1984. ซึ่งรูปแบบการตัด ค่าใช้จ่ายนี้ถูกเรียกว่า Standard Stratocaster (ผู้เขียนบอกว่าเข้าใจไม่ผิดครับ ชื่อเดียวกับแบบที่เป็น Made in Mexico).
American Standard. Stratocaster ที่ทำโดย American made ยังคงทำในรูปแบบดั้งเดิมมาอย่างต่อเนื่อง. ซึ่ง Fender ได้เริ่มเรียกกีตาร์นี้ว่า Standard Stratocaster ในปี 1982 และจากนั้นก็มีแบบอื่น ขึ้นในปี 1986. ระหว่างปี 2000 และ 2008 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น American Series Stratocaster. แต่ผู้เล่นส่วนมากก็ยังคงเรียกว่า American Standard อยู่.
Made in Japan Strats. หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงสำคัญก็คือการมีโรงงานผลิตกีตาร์ Fender ใช่ช่วงยุค ‘80s. ซึ่งการ ผลิตนั้นรวมถึงมีรุ่น Reissues ด้วย. และช่วงกลางยุค ‘90s ได้เปลี่ยนคำว่า Made in Japan ที่ด้านหลังคอ เปนคำว่า Craft in Japan. หรือครั้งเราจะเห็นคนเรียกชื่อย่อว่า MIJ และ CIJ.
Made in Mexico Strats. Fender เริ่มดำเนินการในโรงงานที่ Ensenada, Mexico ในปี 1990. ซึ่งมีรุ่นที่ถูกเริ่มทำออก มาเช่น Classic Player และ Blacktop.
American Vintage Reissue.
1988 ’62 Reissue Strat. Fender Reissue เริ่มทำที่โรงงานเดิมคือ Fullerton Fender Factory ในปี 1982. ก่อนที่จะ ย้านโรงงานไปยัง Corona California ในปี 1985. จนถึงปัจจุบันนี้. รุ่น reissue สองรุ่นแรก คือ Re ’57 และ ’62 และได้รับความนิยมมากในกลุ่มนักสะสม.
1991 ’57 Reissue Strat. ในปี 2012 ได้มีการปรับปรุง AVRI Series หรือ American Vintage Series ใหม่, โดลยเลิก ทำรุ่น Re’57 และ ’62 แล้วเริ่มทำ Re’56 / ’59 และ ’65 แทน.
Signature Strat.
Signature Strat กลายเป็นรุ่นที่เป็นแกนนำในการผลิตในช่วงปลายยุร ‘80s โดย ประสบความสำเร็จอย่างมากกับรุ่น Signature ของ Eric Clapton ที่เริ่มทำในปี 1987. Fender ได้เริ่มเปิดตัวรุ่น Signature อย่างมากมายหายรุ่นรวมถึง Jeff Beck ในปี 1991, Stevie Ray Vaughed ในปี 1992, และ Eric Johnson ในปี 2005. ในรุ่น Eric Clapton และ Jeff Beck จะใช้ปิ๊คอัพแบบเดียวกับที่ศิลปินใช้คือ Lace Sensor Pickups, และได้ เปลี่ยนเป็น Noiseless Pickups ต่อมา.
Super Strats.
The Strat. บริษัทหนึ่งเช่น Chavel และ Jackson ได้เริ่มตลาด metaltastic ซึ่งคล้ายกับ Strat กีตาร์ ใน ยุค ‘80s ซึ่งเป็นช่วงเลาสั้นๆที่ทำออกมาสำหรับ Super Strat. ช่วงต้นยุค ‘80s “the STRAT” จะมี คันโยกแบบ Floyd Rose-esque Tremolo และรุ่นใหม่จะมี X-1 ปิ๊คอัพที่ตำ แหน่งบริจด์.
1995 Strat Plus. ในตระกูลของ Strat Plus นี้รวมถึง Strat plus, Strat Plus Deluxe, และ Strat Ultra โดย จะใช้อุปกรณ์ Hardware แบบสมัยใหม่ และใช้ Lace Sensor Pickup ซึ่งทำขึ้นในปี 1987 1999.
Contemporary Strat. MIJ (Made in Japan) Contemporary Strat นั้นผลิตในปี 1985 - 1989 โดยจะยังคงใช้ที่ ล็อคสายกัยสายเพี้ยน และ มีระบบ Coil-Tap Pickup ด้วย.
Custom shop.
Fender ได้เริ่มเปิดสายการผลิตแบบ Custom shop ตั้งแต่ช่วงปลายยุค ‘80s และผลิต ทั้ง เบส และ กีตาร์โดยเน้นไปทางแนว Vintage แบบฉบับของ Leo Fender ในช่วงแรก. โดย ในแบบ Custom shop นี้จะมีให้เลือกทั้งแบบ Closet Classic (เหมือนของเก่าที่ผ่านการเล่น มาน้อยๆ), NOS หรือ New Old Stock คือแบบที่เหมือนถูกเก็บไว้หลังร้านตั้งแต่สมัยนั้นๆ จนถึงปัจจุบัน, และแบบ Relic คือแบบเหมือนที่ผ่านการใช้งานมาจริงๆโดยเลือกระดับความ เก่าได้ตามใจชอบ.
More Eye Candy. จะมีลักษณะที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ทั้งสเปคและรูปแบบ (ผมคิดว่าน่าจะประมาณทำในแบบ สเปคไม้สวยๆพิเศษๆแปลกๆ คล้ายๆ Fender Select ในปัจจุบัน) ในตระกูลนี้ประกอบด้วย
1996 Blue Star Strat.
2012 Wayne Kramer Signature.
2004 12 String Strat.
2005 Stratosonic
1989 HLE Hormer Haynes Limited Edition.
2009 Stratacoustic.
2007 Roland VG Stratocaster.
2012 FSR Black Pailey Stratocaster.
ที่มา และภาพประกอบ : https://reverb.com/news/a-brief-history-of-thestratocaster?_aid=tank?_aid=tank และ https://reverb.com/news/a-brief-history-of-the-stratocasterpart-ii?_aid=tank