บักพัด ตะลุยแดนธรรมชาติ เพื่อ....

Page 1

My note # 10 (July 29, 2014)

บักพัด ตะลุย แดนธรรมชาติ

@ New Zealand

ตายังไม่ทนั จะเปิ ด มือก็คว้ าหาโทรศัพท์แล้ ว นี่เราเป็ นอะไรกันไปแล้ วในยุคแห่งข่าวสาร ผมสไลด์ Iphone4s ขึ ้นด้ านบนเพื่อเชื่อมต่อ Wi-Fiราคาแสนแพงของหอพักในเมืองที่อากาศไม่อบอุน่ เหมือนที่บ้านนอก ….You have 2 new mails

Gmail มันมีเลขติดอยูต ่ รงหัวว่า 177 ขยันส่งมากันจริ งๆ ไม่ร้ ูอะไรบ้ าง ขี ้เกียจจะเข้ า

ไปดู อย่างมากก็ทาเหมือนทุกครัง้ คือเข้ าไปดูเผื่อมีอะไรสาคัญ พบ จดหมายเรื่ องงาน หนึง่ ฉบับ จาก Dr.Karen ที่บอกว่า I am so sorry, the class observation tomorrow is cancelled since I have to meet with Dr. Lynn. Please let me know if you are available on Friday.

ผมตอบจดหมายอย่างคล่องแคล่ว ตามรูปแบบที่ได้ ร่ าเรี ยนมาและจากการทบทวนอยูบ่ อ่ ยๆเวลามีโอกาสสอน ณ Auckland University of Technology ผมพยายามทางานให้ ดีที่สดุ ผมคิดว่าผมต้ องยุง่ ให้ มากที่สดุ .... เพื่อ ให้ ไม่ คิด ถึง บ้ าน ....ผมทา การนัดหมาย อาจารย์ตา่ งชาติหลายท่าน จากหลายๆสถาบัน หลายๆคณะ เพื่อให้ ทกุ วันผมมีงานทา แล้ วหลังจากนัน้ ก่อนนอนผมจะได้ มีงาน ทา ขอบอกเลยว่างานเยอะไม่กลัว ...ผมกลัวจะว่าง ...ผม กลัว คิด ถึง บ้ าน ... แต่วนั นี ้ วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ซวยแล้ วไง.....วันว่าง...งานถูกยกเลิก นาฬกิ า สอง เรื อนที่ผมมี บอกว่า เวลาที่นี่ คือ 7:45 อีกเรื อนบอกว่า เมืองไทย ตี2:45 ผมเดินเดาๆ ออกจากห้ องพักแคบๆ ไปเข้ าห้ องน ้า แล้ วกลับมาที่ห้อง นัง่ ลงบนเก้ าอี ้ ข้ างๆ ฮีทเตอร์ ที่เปิ ดความร้ อนสูงสุด ทังโต๊ ้ ะ เก้ าอี ้ ฮีทเตอร์ และจักรยาน อยูข่ ้ างเตียง ในห้ องแคบๆ พื ้นที่ประมาณ 2.5 x 4 ตารางเมตร


ที่พกั ที่ผมได้ รับคาแนะนาจากมหาลัยที่นี่ ว่าใกล้ มหาลัย เดินไปมาในเมืองสะดวก ทุกอย่างครบครัน ราคาคืนละ 35 $ ถือว่าแพงมาก กับสิง่ ที่ ได้ มา นอกจากนี ้ ที่เมืองแห่งนี ้ อินเตอรเนต ไม่ฟรี ราคามีให้ เลือก คือ 300 MB = 4$, 500 MB = 6$, 1G = 10$, การใช้ งานมีวนั หมดอายุ หากคุณต้ องการจะ ซักผ้ า มีบริ การ เครื่ องซักผ้ า 3$ และ เครื่ องอบผ้ าอีก 3$ โดยที่ ผงซักฟอก ไม่มีให้ ซื ้อได้ ตามร้ านขายของ ถุง 250gram ราคา 2.50$ โดยประมาณ ผมถามผู้จดั การหอพักว่า มีสว่ นลดให้ หรื อไม่ ผมอยูต่ งเป็ ั ้ นเดือน ได้ คาตอบคือ มีสว่ นลด แต่ต้องอยูอ่ ย่างน้ อย สามเดือน หรื อหากผมอยากได้ ราคาที่ถกู กว่านี ้ ให้ ย้ายจากห้ องเดี่ยว เป็ นห้ องแชร์ สองเตียง หรื อถ้ าอยากประหยัดมากๆ ให้ ย้ายไปชันสี ้ ่ ห้ องแชร์ สเี่ ตียง ไม่ต้องกลัวของหาย เพราะทุกคนจะมีต้ ทู ี่ลอ็ กกุญแจได้ เอาไว้ เก็บของสาคัญ ซึง่ จริ งๆแล้ วสาหรับผมมันขนาดพอๆกับลิ ้นชักที่ลอ็ คได้ “ถ้ าจะให้ กอู ยูส่ ามเดือน กูไปหา apartment อยู่ สบายกว่านี ้เยอะ ถูกกว่าด้ วย ไอ้ ควายเอ้ ย”ผมด่าไอ้ ผ้ จู ดั การ หน้ าจีนชื่อ Sam ในใจ ข้ อดีของที่นี่ มีอยูบ่ ้ าง คือ มีโต๊ ะปิ งปอง โต๊ ะพูล มีหนังให้ ดทู กุ วันศุกร์ มีปาร์ ตี ้ทุกวันเสาร์ โดยมีการแข่งขันเกมส์ตา่ งๆ ของรางวัลมักจะเป็ นอิน เทอร์ เนต 1G หรื อไม่ก็ ตัว๋ เข้ าสถานที่ทอ่ งเที่ยว ตู้เย็นขนาดเล็กที่มีในห้ องผมมีอาหารไม่มาก ผมยังเหลือแซนวิส ลดครึ่งราคา ที่ไปรอซื ้อตอนหกโมงเย็น มันยังคงอร่อย แม้ จะเก็บไว้ ตงแต่ ั ้ เมื่อ คืนก่อน..ผมยกขวดนมขึ ้น กรอกนมใส่ปาก มองออกไปนอกหน้ าต่าง เห็นทุกคนกาลังมุง่ หน้ าสู่ สิง่ ที่ตวั เองรับผิดชอบ อีกแค่6 วัน จะได้ กลับบ้ าน ... ผม ไม่ อยาก ให้ วันนี ้ เป็ น วันที่ ไม่ ดี เศษพลาสติกห่อแซนวิส ถูกโยนลงไปในถังขยะที่ผมสมมุติขึ ้นมา ในนันมี ้ เศษกระดาษเปลือกกล้ วย และ brochure (โบชัวร์ ) สถานที่ทอ่ งเที่ยว ที่เคยสนใจ ผมเอามือล้ วงลงในไปนัน้ ใช้ นิ ้วหนีบกระดาษแผ่นนึงขึ ้นมา ผมหยิบขยะ ขึ ้นมาอ่าน ... มันคือเอกสารท่องเที่ยวทัว่ ไป เกี่ยวกับ เกาะ ที่ดงั เกาะหนึง่ ชื่อ Rangitotoและ Motutapo ชื่อ จายากฉิบหาย อ่านดูรายละเอียด ว่าเรื อออกกี่โมงท่าเรื อไหน ราคาตัว๋ เท่าไหร่ เรื อกลับกี่โมงดูไปดูมา เริ่ มสนใจ เราก็มาอยูท่ ี่นี่ตงนาน ั้ ทาไมไม่ไป จะรอให้ เกาะมันลอยมาหารึยงั ไงกัน ผมคิดเล่นๆ ทาเป็ นจริ งจัง ทาไปทามา ถึงขนาดยอมใช้ อินเตอร์ เนท ราคาแพง เช็คข้ อมูลเพิ่ม


เรื อ ออกจากที่ทา่ เรื อ ที่สดุ ถนน Queen St ตอน 9:15 AM ค่าตัว๋ ไปกลับ $29 Kiwi เพื่อนที่เคยไปบอก เป็ นเกาะ มีต้นไม้ มีเนิน มีเรื อ แต่ไม่มีอะไรขายเลย ต้ องเตรี ยมของไปกินเอง น ้าก็ไม่มีขาย เอาไงดี เกาะ เที่ยวเกาะ ดูธรรมชาติ...เสาร์ อาทิตย์ที่แล้ วก็พงึ่ ไปเที่ยว เมืองอื่นมาลองๆอ่านดูข้อมูลเพิ่ม ได้ ใจความว่า ห้ ามนาจักรยานไป ห้ ามสัตว์เลี ้ยง ห้ ามก่อไฟ ห้ ามจับสัตว์น ้า ห้ ามจับสัตว์บก ห้ ามจับสัตว์ ปี ก ห้ ามเดินนอกเส้ นทางที่กาหนด ห้ ามใช้ ตวั๋ ที่ซื ้อนอกวันที่กาหนด ห้ ามเรื อส่วนตัว ห้ ามเรื อธุรกิจ ห้ ามพายเรื อ ห้ ามแม้ กระทัง่ เอาพืชไป ยัง ดีไม่ห้ามหายใจ มึงจะห้ ามอะไรกูนกั หนา ข้ อมูลปะหลาดๆ มากมายทาให้ ผมหิวขึ ้นมาอีกครัง้ จึงเปิ ดตู้เย็นอีกรอบ เจอกะเพา ร้ านพี่อ๊ ุ คนไทย ร้ านแกอยูแ่ ถว Karangahape Road.... โว้ ยยยย เผ็ด เกิ ้นนนน

โชคดี ที่อาหารไทย ชาติไหนก็ชอบ จึงมีทกุ ที่ เวลาคนไทยเราไปไหน เริ่ ม ทนไม่ไหวกับอาหารท้ องถิ่นเมื่อไหร่ ยังพอรอดตาย หายอยากได้ บ้าง ร้ าน พี่คนนี ้ ถ้ าเป็ นคนไทยสัง่ แกจะตามใจมากๆ เอาแบบไหนยังไงบอกได้ เลย อยูๆ่ ผมรู้สกึ คึกขึ ้นมา ไม่ใช่เพราะกะเพา แต่เป็ นเพราะไปนึกถึง ไอ้ ห้อง 221 คนจอร์ แดนชื่อ EYAD ออกเสียงได้ วา่ เอียน ไม่ใช่ “อีแยด” มันเป็ น Computer engineer บริ ษัท Telecom เครื อข่ายที่ผมใช้

ไอ้ บ้านี่ เมื่อสองเสาร์ ที่ผา่ นมา ชวนผมไปไอ้ เจ้ าเกาะ นี ้แหละ แล้ วเสือกไม่ตื่น พอโทรไป มันไม่รับ ผมไปเคาะประตู ไม่มีเสียงตอบ ผมเมสเสจ ไปบอกมันว่า อากาศดีนะไปกันยัง แล้ ว ก็ กูเพิ่งจะเคาะประตูห้องมึง มันเมสเสจกลับมาว่า…..“I’m at the cinema”

งงเลย .... นัดกัน ตอนเช้ าจะไปเที่ยว อยูๆ่ บอก ดูหนังอยู่ สรุป วันเสาร์ นนั ้ ผมเลย ออกไปปั่ นจักรยาน ปั่ นๆอยูด่ ีๆ คุณเอียน ส่งข้ อความมาอีกหน ว่า“โทษที หลับลึกไปหน่อย”


คุยกับมันอีกทีหลังจากนัน้ นายเอียนบอกว่า มือเผลอไปโดนโทรศัพท์ กดวางสายผม แล้ วส่งเมสเสจกลับมาแบบโคตรเดา .... ห่า

พอนึกถึง เหตุการณ์ ที่ มันได้ ทาเราเอาไว้ เยอะ ผมรู้สกึ โมโห โกรธแค้ น มีอารมณ์ก้าวร้ าวขึ ้นมา จนพูดออกมาคนเดียวว่า “ไอ้ แยด....” ความโมโห พุง่ ขึ ้นสูง มนุษย์แสนก้ าวร้ าวอย่างผมไม่มีความอ่อนโยนพอที่จะเมตตาให้ อภัยความผิดในอดีตของผู้อื่นง่ายๆ ผม ขว้ างโบชัวร์ ขวด น ้า ขนมปั งลดราคาที่เหลือชิ ้นสุดท้ าย ไฟฉายจักรยาน กระเป๋ าเงิน โทรศัพท์ และ หูฟังอันโปรด ลงกระเป๋ าสะพายใบเล็ก มือคว้ ากางเกง ฮีท เทค มาใส่ แล้ วทับด้ วยกางเกงยีนส์ที่เข็มขัดค้ างอยูแ่ ล้ ว อีกมือฉวยเอาเสื ้อกล้ ามมาใส่แล้ วทับด้ วยคอเต่าสีเทาตัวตัวเดียวที่มี ตบท้ ายด้ วยเสื ้อ โค๊ ทกันลม ปากคาบแว่นตากันแดด ปิ ดประตูดงั “ต้ าม” (เสียงที่แถวบ้ านผมใช้ เวลามีอะไรเสียงดังมากๆ)เดินออกจากห้ องไป เรื อออก 9:15 ตอนนี ้ 8:50 แล้ ว เหลืออีก 25 นาทีเรื อจะออกจากท่า ที่พกั อยูห่ า่ งจาก ท่าเรื อ Ferry Terminal 1.8 กม. เดินเอา คงได้ ล้ นุ Google บอกเดินเอา 26 นาทีเอง

ลงมาหน้ าที่พกั มองเวลา เหลือ 20 นาทีแล้ ว ไม่นา่ แวะเยี่ยวเลยกู รึวา่ จะขึ ้นรถบัส แต่กว่ามันจะมา.... ลูกผู้ชายอย่างผม รับได้ ทกุ อย่าง ขอเรื่ องเดียวอย่ามาหยามกัน นึกถึงหน้ าเพื่อนชาวจอร์ แดนแล้ ว ผมวิ่งออกไป เร็ วยิ่งกว่าอะไรทังปวง ้ ไอ้ เหี ้ย.... ติดทุกแยก ไฟเขียวสาหรับคนเดินข้ ามถนน ทาไม วันนี ้มันไม่เป็ นใจเลยวะ ขณะที่วิ่งผ่าน สีแ่ ยกหนึง่ ผมมองไปยังตึกที่ทางาน ด้ วยความอาลัย ปนดีใจ เล็กน้ อย

วิ่ง วิ่ง วิ่ง ผมเคยวิ่งที่นี่ มาหลายครัง้ แล้ ว เวลา ไม่สบายใจ วุน่ วายใจ นัน่ หมายความว่า คิดมากเกินไป สิง่ แรกที่ผมใช้ จดั การ กับปั ญหา คือการวิ่ง ผมวิ่งถนนเส้ นนี ้บ่อยจนมัน่ ใจพอตัว ดวงตาผมที่หยุดที่หอนาฬิกา ผมคานวณได้ วา่ เหลืออีก 8 นาที แยกสุดท้ าย อยูๆ่ มีสญ ั ญานบอกห้ ามข้ าม ผมมาช้ าไปประมาณ สามวินาที ยัง ข้ ามไม่ได้ เวลาเหลืออีก 5นาที มองเห็นช่องขายตัว๋ อยูล่ บิ ๆ ที่ทา่ เรื อหมายเลข2 “Are you fucking kidding me!!!” ผมวิ่งข้ ามไปเลย ไม่รอแม่งแล้ ว แถม กระแดะสบถเป็ นภาษาฝรั่ง


“Return ticket 29$ man, Have a great day, I’m sure you’ll love it” พนักงานบอกกับผมว่า ตัว๋ ไปกลับ 29 เหรี ยญ ก่อนที่จะเสริ ม

ว่า เรื อจะออกตอน 9:25ช้ ากว่าปกติ 10 นาที (อ้ าววว ไอ้ นี่) ผ่อนคลายหน่อยน่าจะดี วิ่งมาตัง้ 1.8 กิโลเมตร มันไม่ใช่ใกล้ ๆ เสีย่ งตายข้ ามถนนมาอีก นาทีนี ้คงไม่มีอะไรดีไปกว่า กาแฟร้ อนๆสักถ้ วย หลังจากซื ้อกาแฟและหยิบแผนที่ ผมสังเกตดูนกั ท่องเที่ยว เห็นมีกนั ไม่ถึง 10คน คงเป็ นเรื่ องปกติสาหรับการท่องเที่ยวในวันอังคาร ผมเดินขึ ้นบันไดไปดาดฟ้ าของเรื อ นัง่ ลงดื่มกาแฟราคา 4.80 $ ที่อร่อยรึเปล่าไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆมันแพง และร้ อนกาลังดี ตอนนี ้อากาศหนาว อยูด่ ้ วย ก็จะให้ ทาไงได้ อยากดูวิวทะเล ต้ องยอมตากลมเย็น


เรื อโดยสารแวะที่รับผู้โดยสารจากอีกฝั่ งหนึง่ ชื่อ Devonport ก่อนที่ จะออกเดินทางสูเ่ กาะ Rangitotoที่เชื่อมกับเกาะ Motutapo เห้ ย...นี่อยูบ่ นเรื อแล้ วเหรอวะเนี่ย ความแค้ น ความโกรธ พากูมาซื ้อ ตัว๋ ลองมองกลับไปทางเมืองใหญ่ที่เพิ่งจากมาประมาณยี่สบิ นาที ผมลองมองกลับไปทางท้ ายเรื อ สวยมาก สวยใช้ ได้ ....... ดวงอาทิตย์ทอแสงมาพอให้ แสบตานิดๆ เกาะที่อยูต่ รงข้ ามนี่ก็ดดู ี ทะเลที่นี่สวยมากเป็ นสีน ้าเงิน อากาศเย็นๆ ลมหนาวๆ พอให้ ได้ คิดถึง บ้ าน ผมเพลิดเพลินไปกับการเดินทางที่เพิ่งตัดสินใจเมื่อไม่ถึงชัว่ โมง ที่ผา่ นมา คูร่ ัก คูห่ นึง่ พยายามจะ Selfie ด้ วยกล้ องโปรตัวใหญ่ พวกเขา พยายามมากๆ แต่ดจู ะไม่ได้ ภาพอย่างที่คิดสะที แน่นอนเพราะ อารมณ์กาลังดี ผมเลยบอกว่า “Let me do it” “ปล่อย ฉัน ทา มัน” มีไอ้ โม่งคนนึง แว่นตากันแดดกรอบสีเงิน ยี่ห้อ Oakley หมัน่ ไส้ มันจริ งๆ มันยืนบังวิวตังแต่ ้ เรื อยังไม่ออก จนเรื อจะจอด รูปมันก็ไม่ถ่าย คนอื่นจะถ่ายรูปมันก็ไม่แบ่งมุมวิวสวยให้ คนอื่นเค้ าถ่าย บ้ าง ไม่ถอย ไม่หลบ ผมไม่ร้ ูจะทาไง ผมมาเที่ยว ผมอยากถ่ายรูปเก็บ ไว้ ดู จะด่าก็ไม่ได้ จะไปไล่มนั ก็ใช่เรื่ อง มันก็คงชิวชิวของมัน งันก็ ้ ถ่าย มันไปด้ วยเลยละกัน มึง เป็ น ใคร วะ ??? จะ เท่ ไป ไหน ???


สักพัก กัปตันเรื อประกาศว่า “สวัสดีตอนเช้ าครับทุกคน ท่าเรื อ Rangitotoยังอยูใ่ นช่วงปรับปรุ งนะครับ เราจึงต้ องย้ ายไปที่

ท่าเรื อ........... ชี่ ชี่ ชู่วชู่ววิ ้ววว” ลมแรงมาก ฟั งไม่ร้ ูเรื่ อง เท่าไหร่ ทุกคนบนดาดฟ้ าเรื อต้ องหาที่ เกาะ ที่หลบลมหนาวอันรุนแรง หลายคนลงจากชันดาดฟ้ ้ าไป เลย แต่ มี หนึง่ คน ที่ไม่สะเทือน ... เขาไม่หลบ เขาอยูท่ ี่เดิม มึง เป็ น ใคร ??? ทาไม มึง สุดยอดขนาดนี ้ ชัชชาติรึเปล่าวะ ไอ้ โม่ง Oakley

Rangitoto Island อยูต ่ รงหน้ านี ้แล้ ว ดูลกึ ลับนิดหน่อย และดูเหมือนจะไม่มีอะไรเท่าไหร่

มีแต่ต้นไม้ กูมาทาไมวะเนี่ย

ผมเองยังไม่ร้ ูเลยว่า มันต้ องไปอะไรยังไง ที่ไหนบ้ าง รู้แค่ไอ้ เกาะข้ างๆกัน นัน่ คือ Motutapo Island ในเอกสารมันบอกว่า เกาะนี ้ยังใหม่ๆ 600 กว่าปี เอง พอภูเขาไฟระเบิด มันก็เย็นลง ขนาดใหญ่มากๆ ดินดี ต้ นไม้ หายากมีเยอะ สัตว์ตา่ งๆ เข้ ามาอยู่ แต่ก่อนชาวเมารี ก็มาอยู่ เคยใช้ เป็ นส่วนหนึง่ ในการทาสงครามโลกครัง้ ที่สอง จากยอด Rangitotoสามารถมองเห็นรอบๆได้ อย่างสวยงาม (ก็แน่สวิ ะ) นอกจากนี ้ยังมี บ้ านสมัยก่อนสามารถไปดูได้ ... หึหหึ ึ แล้ วไง

10:10 ถึงท่าเรื อ Islington Bay Wharf พนักงานFuller เดินเรื อ ของที่นี่ กาลังเตรี ยมจอดเรื อ


มีป้ายต้ อนรับ อันเล็กๆ ไม่เหมือนบ้ านเรา บ้ านใหญ่มาก ใหญ่กว่าธรรมชาติ ที่มาดูซะอีก ที่ป้ายบอกว่า มีจดุ สอบถามข้ อมูล เดินเที่ยวเล่นได้ ดูวิวก็ได้ แต่ ห้ ามหมา ห้ ามไฟ ห้ ามกางเต็นท์ ผมมองไปทางจุดบริ การข้ อมูล ไม่มีใครสักคนเดียว มีเพียงโบวชัวร์ แบบที่ผมมี วางเอาไว้

ทุกคน เดินออกไปกันหมด ผมยังคง งง ว่าเอาไงดี ผมหันเจอป้าย รถลากขึ ้นยอดเขา Rangitoto ราคา ค่าเดินทาง ขาเดียว 10$ มีคนรอขึ ้นเยอะมาก แทบจะทุกคนเลยทีเดียว แต่ก็มีคนเดินเองอยูป่ ระมาณ ห้ าคน


ผมกางแผนที่ ออกมาดู ว่าจะเอาไงดี เส้ นทางมันเป็ นยังไง ตรงไหนมีอะไร

กู อยู่ ตรง ไหน วะ เนี่ย!!!!!!!!!! ดูอยูส่ กั พัก ก็เข้ าใจว่า อยูท่ ี่ทา่ เรื อ ระหว่างสองเกาะนี ้ มันคือ หมายเลข 2 นัน่ เอง ผมเห็นทุกคนมุง่ หน้ าสูย่ อดเขา Rangitotoตามเส้ นทางใน แผนที่ ผมเองก็ไม่ได้ มีแผนอะไรในหัว รู้เพียงแค่วา่ ไปยอดเขาก่อนแล้ วกัน เดินไปตามทางเรื่ อยๆ ส่วนรถลาก ปล่อยไอ้ พวกอ่อนแอมันนัง่ ไป พวกกระจอกเอ้ ย เดินนิดหน่อยไม่เป็ น ห่า...ทาตัวเป็ นคนพิการไปได้ เวลาผ่านไป ประมาณ ครึ่งชัว่ โมง ผมหันกลับไปมองข้ างหลัง ไม่เห็นฝรั่งสองคน ที่เริ่ มเดินพร้ อมกัน แน่ละ... ผมเดินเร็ ว พวกมันมัวแต่ดู ต้ นไม้ อะไรไม่ร้ ู มีหนังสือมาเทียบสายพันธุ์อีกต่างหาก บ้ าป่ าววะ ว่าแต่วา่ เราล่ะ อยูต่ รงไหน เดินมาตัง้ ครึ่งชัว่ โมง ทาไมมันไม่มีอะไรน่าสนใจเลย พูดแล้ ว ผมก็ล้วงเอาแผนที่ออกมาดูดีๆ ดูให้ เข้ าใจ สักหน่อย


ในแผนที่ มันบอกด้ วยว่า เดินทางจะใช้ เวลาประมาณกี่นาที ถนนที่ผมเดินอยู่ ใช้ เวลาประมาณ 35 นาที ความยากดาวหนึง่ ดวง แปลว่า ง่าย และตอนนี ้ผมเดินมาถึงทางแยก ที่ผมอยากจะตรงไป เพราะอยากไปที่ยอดเขา มันบอกว่าความยากระดับสองดาว แต่ผมว่างันๆแหละ ้ มันก็แค่ชนั ขึ ้นเท่านันเอง ้

ในที่สดุ ก็เดินมาเจอทางเส้ นประสีเหลือง มันบอกว่าไปทางนี ้ มีถ ้าลาวา Lava Cave ใช้ เวลาแค่ 20 นาที ก็ไปถึง ผมมองเข้ าไป ก็ร้ ูสกึ ว่า น่าสนใจ ลุยป่ าเข้ าไปหน่อยก็ดี เดินถนนธรรมดาน่าเบื่อ อ่อน ง่ายไป สาหรับคนแข็งแรงแบบเรา ไม้ รูปร่างสามเหลีย่ ม ทาหน้ าที่เป็ น ลูกศรสีส้ม คอยบอกว่า ทางนี ้เป็ นทางที่ถกู ต้ อง ผมเองก็เดินตามเข้ าไปเรื่ อยๆ นี่แหละ เมืองนอกเค้ าทา ดีจริ งๆ ไม่ต้องป้ายอะไรเยอะแยะ ให้ แผนที่ ก็พอ ทาอะไรพอดีๆ ให้ นกั ท่องเที่ยว มันเที่ยวเอาเอง เดินเอาเอง อยากดู อยากมี ประสบการณ์ก็หาเอาเอง อยูๆ่ ผมนึกรังเกียจพวกชอบเที่ยวแต่ขี ้เกียจขึ ้นมา พวกขาดอินเทอร์ เนตไม่ได้ อัพแม่งทุกอย่างในชีวิต จนต้ องแอบ Unfriend เบาๆ.... ไม่ใช่อะไร กูเปิ ด Facebook มาทีไร เจอมึงตลอด นี่เฟสกู หรื อเฟสมึง อัพได้ ทงวั ั้ น

กูเบื่อ

บางคน ตัง้ status ว่า เที่ยวทะเล ฟิ นมาก แต่แม่งนัง่ เล่นเน็ท รอตอบคอมเม้ น ไม่ร้ ูมนั มองทะเล สักกี่นาทีกนั เชียว เอาตีนจุ่มน ้าไม่ถึงนาที ถ่ายรูปปุ๊ บ เอามานัง่ ตกแต่งให้ สวยงาม อัพโหลดลงไป นัง่ ตอบคอมเม้ น ไม่ร้ ูมนั ได้ ประสบการณ์หา่ อะไรมากขึ ้นรึเปล่าจากการทาแบบนัน้ เชื่อเลยว่า แม่งจาเรื่ องราวอะไรที่เกิดขึ ้นไม่ได้ มากหรอก .... โลกส่วนตัว สินะ... โลกสมมุติที่ต้องการคนยอมรับ ฟั งแล้ วน่าขัน ถ้ าเป็ น


ลูกหลานกู กูจะเขวี ้ยงโทรศัพท์แม่งทิ ้ง แล้ วตบกะโหลกแม่งให้ หวั มุดทรายลงไปเลย ไอ้ ทเุ รศมึงจะได้ จาวันนี ้ได้ วันที่มาเที่ยวแล้ วกูตบมึงตก ทะเลไง แต่จะว่าไป กูไปยุง่ อะไรกะมันวะ ไม่ต้องสนใจก็จบ

ถ ้าลาวา มีหลายถ ้า ขนาดเล็กมาก ไม่เหมือนแถวบ้ านเราที่ใหญ่มาก มีหินงอกหินย้ อย นักท่องเที่ยวสามารถเข้ าไปได้ เพียงแต่มนั แคบ คุณต้ องมุด และ ไม่มีไฟ เพราะที่เกาะนี ้มันไม่มีไฟฟ้ าเลย ไม่มีไฟฟ้ า ในถ้ า ไม่มีแสงให้ ตามทางเดิน ทุกๆจุด ไม่มีบริ การอะไรเลย ถ ้าที่ยาวที่สดุ น่าจะยาวประมาณสัก ห้ าสิบ เมตร ไม่มีแสงอะไรเลย ทีแรกผมใช้ แสงจาก โทรศัพท์มือถือที่ใช้ ถ่ายรูป ไม่นา่ กลัวอะไร แต่สกั พัก มันมืดจริ งๆ เลยล้ วงเอาไฟฉาย จักรยานแสนแพง ของผมออกมา แล้ วเดิน เข้ าไปในถ ้า มันแคบลงเรื่ อยๆ แต่ไม่ถึงกับ ต้ องลงไปคลานด้ วยศอก แค่เอาเข่าลงพื ้น แล้ ว มุดๆ ขึ ้นเนิน ก็ทะลุออกมาอีกฝั่ งได้ ภายในเวลาประมาณ สี่ ห้ า นาที ใยแมงมุม ติดหัวผมออกมาด้ วยนิดหน่อย เปื อ้ นไปหมด เลยกู หลังจากออกมาจากถ ้า ผมก็มงุ่ หน้ าไปสู่ ยอดเขา ตามเส้ นทางในแผนที่


เวลาผ่านไป นานพอสมควร นี่ยงั ไม่เห็น ยอดเขาเลย แต่ผมเจอกับดักเยอะมาก คงมีไว้ จบั สัตว์เล็กจาพวก หนู งู อะไรประมาณนันมั ้ ง้ เกาะ เค้ าเขียนไว้ วา่ เพื่อเป็ นการ กาจัด Pest ขอให้ นกั ท่องเที่ยวอย่ายุง่ กับ กับดัก ผมก้ มลงมองดูข้างใน ว่ามันจะเหมือนแบบแถวบ้ านนอก บ้ าน ผมหรื อไม่ ปรากฏว่า มันไม่ซบั ซ้ อนอะไรเลย มีไข่วางล่ออยูห่ นึง่ ฟอง นี่ถ้าเป็ น หนูทอ่ แถวบ้ านผม กับดักแบบนี ้ไม่ได้ กินมันหรอก มึงเสียไข่ทิ ้ง แน่ๆ กระจอกเอ้ ย เดี๋ยวกูหรอย (ขโมย) ไข่แม่งดีมยเนี ั ้ ่ย

ในที่สดุ ผมก็มาถึงปากปล่องภูเขาไฟ Rangitoto มองลงไปก็เป็ น หลุม มีต้นไม้ เยอะๆ มีป้ายเขียนว่า เป็ น ต้ นไม้ ที่หาได้ ยาก วิวสวยอยู่ มองไปได้ สดุ ลูกหูลกู ตา ผมเดินกลับออกมา แล้ วขึ ้นบันไดไปอีกทาง เพราะมันบอก ว่า นี่ยงั ไม่ใช่จดุ สูงสุดของเกาะ เสียงพูดคุย ดังมาเข้ าหู หลังจากที่ไม่ได้ ยินเสียงคนมานาน ประมาณเกือบหนึง่ ชัว่ โมง ผมเดินขึ ้นไปเห็นนักท่องเที่ยว ที่มาพร้ อมกัน แต่ดนั อู้ขึ ้นรถลาก กาลังถ่ายรูปกันสนุกสนาน บางคนนัง่ กินอาหารที่นามาด้ วย บางคนยืนมองวิว


มึง อีก แล้ ว .... ไอ้ โม่ง ที่ตอนนี ้ได้ ถอดโม่งออกไปแล้ ว มันกาลังยืนถ่ายภาพ อยูต่ รงจุดสูงสุด จุดเทพสุด จุดชม วิวที่เรี ยกได้ วา่ เจ๋ง cool ที่สดุ มองเยื ้องๆไปทางซ้ าย จะเห็น

Downtown Auckland สามารถเห็น sky tower ได้ แต่ก็เล็กมากๆ มองไปตรงๆ จะเป็ น เมืองย่าน North

Shore ที่มีบ้านคนเยอะแยะมากมาย ถือเป็ นวิวที่ร้ายกาจมากทีเดียว

ทาเอาทุกคนต้ องนัง่ มองนานๆ รวมถึง ไอ้ โม่ง ที่ถอดโม่งแล้ ว

ผมอาศัยช่วงจังหวะที่ ไอ้ แว่นดา (ตอนนี ้ มันเอาแว่นดา มาใส่แล้ ว) มันเดินไปทางอื่น มาถ่ายภาพ Panorama เก็บไว้ ดู มองไปตรงๆ ซึง่ ไกล มากๆ นัน่ คือ ชายหาด Mission Bay แต่ด้วยมือถือ กระจอกๆ ถ่ายได้ แค่นี ้แหละ เก็บไว้ ดเู ล่นๆ ผมนัง่ บนระเบียงไม้ ที่จริ งๆไม่ควรนัง่ เพราะอาจจะตกลงไปก็ได้ แต่ความสวยที่ตามองเห็น มันทาให้ ลมื ความน่ากลัวไปเลย .. สักพัก มี เจ้ าหน้ าที่ หนึง่ ท่าน สวมเสื ้อสีส้มสะท้ อนแสงแสบตา เดินตรงเข้ ามาทางผม ผมคิดว่า มันต้ องมาเตือนแน่ๆ ว่า อย่านัง่ แบบนี ้ เดี๋ยวตกไป ตายห่า ลาบากมันต้ องเก็บศพ


แต่ ผิดคาดครับ ... มันเดินมา ยิ ้มให้ ผม แล้ ว บอกว่า วันนี ้ท้ องฟ้ า สวยมาก มองเห็นทุกอย่าง มันบอกว่า ผมโชคดี นี่ไม่ใช่วนั ที่จะเห็น ท้ องฟ้ าสวยๆในฤดูหนาว

“You are lucky for a perfect sky in the winter.”

เค้ าไม่ได้ ห้ ามอะไรผมเลยครับ กับการนัง่ บนราวไม้ ที่ถ้าพลาด คงต้ องตกลงไปไกลถึงนรก แค่เดินมาทักทายเฉยๆ เค้ าชี ้ ไปทางอีกด้ านหนึง่ ที่ไม่ใช่ วิว เมือง แล้ วบอกผมว่า “ That is Motutapo, not so many trees, but nothing can beat that. You should go. See that huge tree, I love it”ผมมองหาต้ นไม้ ใหญ่ ที่อยูบ ่ นอีกเกาะ ที่มนั บอกว่า เจ๋งสวดยวด

โหยยยยย ไกลมาก แต่ก็สวย

จริ งที่มนั ว่า Go Now!!! You will never regret. ไปเลย

ไปเลย แล้ ว คุณจะไม่เสียดาย

........................................................................ ขณะที่ผมครุ่นคิด ว่าเอาไงดี.... มีเสียงหนึง่ เข้ ามาร่วมวงสนทนา เป็ นใครไปไม่ได้ นอกจากชายผู้ที่ทกุ คน ยาเกรง ... ไอ้ แว่นดา (อดีตไอ้ โม่ง) “Maybe not today. It’s too far, you won’t make it before time. At least you need 4 hours to get there.”

“แต่คงไม่ใช่วนั นี ้ มันไกลไป คุณไปไม่ทนั หรอก” “อย่างน้ อยคุณต้ องมี 4 ชัว่ โมง เพื่อไปถึงที่ต้นไม้ นนั่ ”

จุดดาๆ เล็กๆ ที่อยูใ่ นวงกลมสีแดง นัน่ คือจุดที่เรี ยกว่า Emu Point ต้ นไม้ ยกั ษ์ ใหญ่ แต่จากตรงนี ้ แค่มองไปก็แทบไม่เห็นละ


เจ้ าหน้ าที่ เสื ้อส้ ม เดินจากผมไป ผมหลังหันกลับไปมอง วิว สวยๆ อีกครัง้ นัง่ ลงมองดูภาพนี ้สักพักใหญ่ ก่อนที่จะหยิบแผนที่ขึ ้นมาดู

ตามเส้ นสีเหลืองที่ผมอยากไป มันระบุวา่ ใช้ เวลา 1 ชัว่ โมง ไปถึง ท่าเรื อ Rangitoto Wharf ท่าเรื อหลักที่ช่วงปกติ ทุกคนต้ องมาลงที่นี่ เส้ นทางระดับสองดาว เพราะมันเป็ นทางชันขึ ้นเขา แต่ในเมื่อผมเดินลง.... 1 ชัว่ โมง เหรอ ไม่นา่ จะนานขนาดนันแล้ ้ วทาไมผมต้ องไปที่นนั่ ผม เองก็ไม่ร้ ู แต่ผมไม่อยากกลับทางเก่า ก็มนั เคยมาแล้ ว เหนื่อยครับ เพราะชันมาก ผมต้ องยังตั ้ วเอง ตลอด เหนื่อยเพราะค่อยๆลงไปนี ้แหละ .... ยัง้ ยัง้ ยังขาไม่ ้ ให้ ไปเร็ ว อยูๆ่ ผมตัดสินใจ วิ่งลงไปเลยละกัน ไหนๆ ก็จะเหนื่อยอยูแ่ ล้ ว จะไปยังไว้ ้ ทาไง

55555

เออ เสียวดี แต่ถ้าพลาดนี่ เจ็บไม่กลัว กลัว อาย ผมลงมาถึงเนินเขา ต้ นไม้ หายไปแปบนึงเจอ จุดให้ ความรู้เรื่ องภูเขาไฟลูกนี ้ แวะเข้ าไป อ่านแล้ ว อยากให้ เด็กคณะวิทยาศาสตร์ มา เห็นบ้ าง


ในที่สดุ ก็มาถึง ท่าเรื อ Rangitoto Wharf ผมตะลึงกับความสุดยอดของ สมรรถภาพร่างกายตัวเอง ผมใช้ เวลาจากยอดเขา ลงมาถึงท่าเรื อแค่ 15 นาที จากที่คาดว่าน่าจะสักครึ่ งชัว่ โมง ผมมันช่างเหนือกว่ามนุษย์ทวั่ ไปเหลือเกิน

ที่นงั่ พักผ่อน ดูทะเล อยูห่ ลังจากที่นกั ท่องเที่ยวเดินออกจาก ท่าเรื อ Rangitotoที่ตอนนี ้ กาลังได้ รับการซ่อมแซม มีห้องน ้าอยูท่ ี่นี่ด้วย ตังแต่ ้ ผม มาถึงเกาะนี ้ ยังไม่เห็นห้ องน ้าเลย จึงตื่นเต้ นเล็กน้ อย ผมหยิบแผนที่ออกมาดู นับได้ วา่ เกาะนี ้ มีห้องน ้า 3 จุด คือที่ทา่ เรื อ ทังสองที ้ ่ และจุดไกล สุดของเกาะ แต่เกาะ Motutapo ที่อยากไปดูต้นไม่ใหญ่นนไม่ ั ้ มีห้องน ้าเลย ผมไม่เข้ าห้ องน ้า เพราะผมจัดไปแล้ ว ตอนที่อยูต่ รงปล่องภูเขาไฟ มันอันไม่ ้ ไหวจริ งๆ และวิวมันก็นา่ จัดมากๆ... เลวสมเป็ นกูจริ งๆ แผนที่ อยูไ่ หนวะ


KOWHAI GROVE ชื่อมันแปลกๆ แน่นอน มันคือภาษาเมารี ผมเดินเข้ าไปในนัน้ มันระบุวา่ เดินนาน 10 นาที มีป้ายบอกว่า นี่คือต้ นไม้

สาคัญ แต่สาหรับผม นี่มนั ก็แค่ซอยที่มีต้นไม้ เยอะขึ ้น เท่านันแหละ ้ หลังจากชมต้ นไม้ ที่ผมเองก็ไม่ร้ ูวา่ ต้ นไหนวะ ที่มนั สาคัญ ผมก็ ตัดสินใจ เดินเลี ้ยวซ้ าย เพื่อเข้ าซอย เลียบชายหาดดูบ้านที่ระบุวา่ มีอายุนานมากแล้ ว เมื่อก่อนเคยมีคนมาอยูบ่ นเกาะนี ้ มีคนนึง เป็ นผู้หญิงมาอยูค่ นเดียว เป็ นเวลาสีส่ บิ ปี เป็ นครูสอนว่ายน ้า และเป็ นผู้ที่ทาให้ กีฬาว่ายน ้า เป็ นที่นิยมที่นี่ อ่านแล้ วก็ งง ไหนบอกว่า มาอยูค่ นเดียว รึวา่ นัง่ เรื อเข้ าไปสอน ว่ายน ้าในเมือง หรื อว่า เด็กๆมาเรี ยนว่ายน ้าที่นี่ อะไรวะ ผมผิดเองแหละ ผมอ่านแค่คร่าวๆ แล้ วบ้ านแต่ละหลังก็ ถูกซื ้อไปบ้ าง ขายไปบ้ าง แต่ทกุ หลังไม่ น่าจะมีใครอยูแ่ ล้ ว เพราะมันดูเงียบๆ เกินไป หลังที่ 13 มีป้ายรายละเอียดชัดเจนดีมาก อ่านแล้ วก็ได้ ร้ ูเรื่ องมาก ขึ ้นนิดหน่อย ผมเดาๆว่า ทุกบ้ าน ได้ รับการดูแลอย่างดี เพราะสีมนั ใหม่มากๆ


บ้ านหลังที่ชื่อ WHY WORRY หลังสีขาว นี่ ผมชอบมาก บ้ านหลังนี ้ยังดูใหม่อยูเ่ ลย น่าอยูด่ ีนะสาหรับผม ที่หน้ าต่างมีป้ายหนึง่ ติดอยู่ ผมเข้ าไปอ่าน รู้สกึ ประทับใจ

กังวลไปทาไม ? มีเพียง 2 อย่างที่เราควรกังวล คือ เราสุขภาพดี หรื อ เราป่ วย ถ้ าสุขภาพดี ก็ไม่มีอะไรต้ องกังวล ถ้ าป่ วย มี 2 อย่างที่ต้องกังวล คือ จะตายหรื อ ไม่ตาย ถ้ าไม่ตาย ก็ไม่มีอะไรต้ องกังวล ถ้ าตาย มี 2 อย่างที่ต้องกังวล คือ จะไปสวรรค์ หรื อ ไป นรก ถ้ าไปสวรรค์ ก็ไม่มีอะไรต้ องกังวล ถ้ าไปนรก คุณจะ ...... อ้ าวววววววว

มองไม่เห็น ส่วนที่เหลือ ป้ายมันอยูใ่ นบ้ าน อ้ ากกกกกกกก กูอยากรู้ เว้ ยยยยยย


ผมไปเช็คดูประตูบ้านดันล็อค น่าเสียดาย อดรู้เลยว่า ถ้ าไปนรกจะต้ องทาอย่างไรดี . ... ...... .......... ทน ไม่ ไหว ....... กู อยาก รู้ ผมอยากรู้จริ งๆ ว่าถ้ าไปนรก ต้ องทาอย่างไร ผมไปดูประตูหลังบ้ าน มันล็อค ผมลองเขย่าประตู เขย่าเบาๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ ้น ผมเลยลองเขย่า แรงๆ ........กึก กึก กึก 55555 ประตูแม่งเปิ ด (จริ งๆแล้ ว ผมทาสลักประตูหกั ) ผมเดินเข้ าไปในบ้ าน น่าเสียดายจริ งๆ ที่มนั ยังมีประตูลอ็ คกัน้ เอาไว้ อีกบาน บานนี ้แน่นหนา ทักษะโจรของผมก็ไม่สามารถเปิ ดมันออกได้ ผมเดินออกจากบ้ านหลังสีขาวนี ้ไป ทิ ้งคาถามที่วา่ หลังจากกูลง นรกไปแล้ วกูต้องทาไง? หันหลังกลับไปมองบ้ านหลังนี ้อีกที แล้ วผมยิ ้มออกมาอย่างไม่ร้ ูตวั (แต่เสือกจามาเขียนได้ ) บ้ านหลังนี ้ มีอะไรที่มนั โดนจริ งๆ เคยมัยครั ้ บ เคยมัยเวลาที ้ ่คณ ุ เจออะไรที่ร้ ูสกึ ว่ามันถูกใจ มันโดน ตังแต่ ้ แรกเห็น แล้ วหลังจากนันพอคุ ้ ณรู้จกั มันมากขึ ้น มันมีสงิ่ ที่ทาให้ คณ ุ รู้สกึ ถูกจริ ตเข้ า ไปอีก ผมเองเคยเรี ยนออนไลน์วิชาจิตวิทยาสังคมของมหาลัย Wesleyan อาจารย์ Scott Plousได้ อธิบายว่า จริ งๆแล้ วคนเราตัดสินว่า ชอบ หรื อไม่ชอบ ด้ วยเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านันเอง ้ แล้ วหลังจากนัน้ เราเพียงแค่มองหาหลักฐานมาสนับสนุนการตัดสินใจว่าชอบหรื อไม่ของ ตนเองก็เท่านันเอง ้

ผมเดินวนริ มชายหาด จนในที่ทะลุออกมาที่ทา่ เรื อหลักเดิม ได้ โอกาสดูการทางานของฝรั่งว่าอู้กนั แบบแถวบ้ านผมมัย้


แถวบ้ านผม พี่ๆก่อสร้ าง เก่งมาก สามารถทางานไปสูบบุหรี่ ไป คาบบุหรี่ ไว้ ในปาก แต่สามารถพูดคุยได้ อย่างสะดวก เรื่ องอุปกรณ์ป้องกันไม่ ต้ องใส่ อากาศมันร้ อน เกะกะเปล่าๆ บางคนเสื ้อยังไม่ต้อง กางเกงบอลตัวเดียวเอาอยู่ นอกจากนี ้ยังใจกว้ างมากๆ พาลูกพาเมีย พาหมา พาไก่ตี มาทางานด้ วย เป็ นสถานที่ทางานที่อบอุน่ เหมือน ออฟฟิ ตของกูเกิลเลย และที่สาคัญขาดไม่ได้ คือ ดนตรี ไม่วา่ จะเป็ นการเปิ ดผ่าน วิทยุหรื อ เปิ ดผ่านเครื่ องเสียงรถกระบะ เสียงจะดังเพราะเปิ ดเผื่อให้ ทกุ คนได้ ฟังด้ วยกัน ขนาดผมไม่ได้ ทางานด้ วย ยังได้ ยินชัดเจน ขอบพระคุณจริ งๆ ผมเดินวน ชมวิว แถวนันสั ้ กพัก มี คาถาม ดังมาจาก มุมนึง ว่า “Hey!! You really want to make it to the other island?” “คุณ อยากจะทามันไปถึงอีกเกาะมัย? ้ (คุณอยากจะไปอีกเกาะนึงมัย?) ้

ผมหันไปมอง ผู้ปล่อยคาถามมาตามลม เป็ นใครไปไม่ได้ “เชี่ยโม่ง” เอ้ ย “เชี่ยแว่นดา” I don’t think you would make it, there is not enough time. “ผมไม่คิดว่า คุณจะทาได้ เวลามีไม่พอ”

----------------------------------------มึง ว่า กู .... เทพ อย่าง กู.... จะเชื่อมึงมัย....ไอ้ ้ ควายแว่นดาโม่ง....... แผนที่กู อยูไ่ หนวะ เอามาดูหน่อยเส่ ---------------- End of Part 1 of 2 -------------------


ประโยคสุดท้ าย ป้ายในบ้ านหลังสีขาว เค้ าเขียนไว้ วา่

If you go to hell you will be so damn busy shaking hands with your friends. ถ้ าไปนรก คุณจะ ยุง่ เหี ้ยๆกับการจับมือทักทาย เพื่อนๆ ของคุณ . . Fuck Alligator

มันช่างถูกใจ ผม จริ งๆ

----- อยากเขียน ให้ จบ ----- แต่ไม่ร้ ูเมื่อไหร่ ----


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.