Toilet Buddy Vol.1

Page 1

ฉบับที่ 1 ปีที่ 1 นิตยสารวาไรตี้

เพื่อนคู่ใจยามปลดทุกข์

ส่วนหนึ่งของวิชา Language for Mass Media

MRT ถอดเก้าอี? ้


ตั้งใจให้ว่างไว้


บทบรรณาธิการ
 สวัสดีครับคุณผู้อ่าน ขอต้อนรับสู่ฉบับปฐมฤกษ์และปัจฉิมฤกษ์ของ นิตยสาร ทอยเล็ต บัดดี้ นิตยสารสำหรับคนนั่ง ! ฉบับนี้ เคยไหมครับ จะ เข้าห้องน้ำทีก็ไม่อยากเสียเวลา แถมยังอยากพักสายตาจากหน้าจอเลยไม่อยาก ใช้โทรศัพท์มือถือ แต่ครั้นจะหาอะไรเข้าไปอ่านก็ไม่รู้จะเอาอะไรไปอ่านดี เป้า หมายของพวกเราจึงเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้มีกิจกรรมทำระหว่างนั่ง ปลดทุกข์ เป็นเพื่อนคู่ใจแทนกลิ่น ! และเหงื่อจากอากาศที่ร้อน ให้การทำธุ ระ ของคุณเป็นกิจกรรมที่นอกจากจะผ่อนคลายทุกข์ได้แล้ว ยังได้ความรู้และแรง บันดาลใจกลับไปจากห้องน้ำอีกด้วย หน้าที่ของเราคือนำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจ แก่คุณผู้อ่านไม่ว่าท่านจะสนใจหรือไม่ก็ตาม แต่ท่านมีหน้าที่เพียงอ่าน อ่าน และก็อ่าน อ่านมันเข้าไปเพราะพวกเราตั้งใจเขียนกันด้วยความหวังจะให้ความ บันเทิงแก่ท่านกันไปแล้ว สุดท้ายนี้ หวังว่าท่านจะมีความสุขกับการอ่านนิตยสาร เฉพาะกิจฉบับนี้ครับ

ผู้เขียนในฉบับนี้ นาธาร เยี่ยงศุภพานนทร์ ปิยทัศน์ เทียนบุญส่ง ปิยะวัฒน์ ช่วงกรุด พรพรหม เขียวจักร์ พิชชาพร แก้วพรม ภาณุเดช สุคนธสุโชติ มาวิน จงไกรรัตนกุล ยุศกล บุญวิเศษ รวิภาส ฉิมพาลี สิรวิชญ์ ชูเกียรติโรจน์ สุรเชษฐ์ ใหญ่ธรรมสาร อัครพล อัครสูริย์



สารบัญ คิดอย่างไรกับการถอดเก้าอี้บนรถไฟใต้ดิน MRT (ส่องความคิดเห็น) 6 อยากเรียนภาษาเพิ่ม? ลองภาษาคอมพิวเตอร์ไหม (จุดไฟ) 8 มองผ่านเลนส์ (ภาพเล่าเรื่อง) 11 ซีรี่ส์เกม Tekken (Fighting Game Zone 1) 13 Machine Learning เรื่องที่ควรศึกษา? (วิทยาการ) 15 Mortal Kombat (Fighting Game Zone 2) 17 บอร์ดเกม (กิจกรรมยามว่าง) 19 หางานอดิเรกทำเพื่อคลายเครียด (วิธีคลายเครียด) 21 Become to IT KMITL (ชีวิตมหา’ลัย) 23 เกมที่ใช้ใน E-Sport ไม่ได้มีแค่ MOBA & FPS (Toilet Game Talk) 26 เลือกกล้องอย่างไรให้ถูกใจ? (ประเภทกล้องถ่ายรูป) 28 Twitch TV Streaming for Gamer (บันเทิงออนไลน์) 31 Startup กับประเทศไทย?! (ธุรกิจ) 32

2


คิดอย่างไรกับการถอดเก้าอี้

บนรถไฟใต้ดิน MRT

จากกรณี บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถ รถไฟฟ้าใต้ดิน ถอดเก้าอี้บางส่วนออกจากขบวนรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที เพื่อเพิ่ม พื้นที่ในรถให้สามารถจุผู้โดยสารได้มากขึ้น เร่งระบายผู้โดยสารในเวลาเร่งด่วน จน เกิดเป็นเสียงวิพากย์วิจารณ์ในวงกว้างบนโลกออนไลน์ถึงความเหมาะสมและไม่ เหมาะสมของการตัดสินใจดังกล่าว ทอยเล็ตบัดดี้ จึงออกสำรวจความคิดเห็นของ วัยรุ่นไทยช่วงอายุ 18 ถึง 20 ปีกลุ่มหนึ่ง ว่ามีมุมมองอย่างไรต่อเรื่องดังกล่าว

มันมีประประโยชน์ในระดับหนึ่ง เนื่องจากปัจจุบันการเดินทางด้วย รถไฟฟ้าใต้ดินมีผู้ใช้บริการมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้จำนวนของขบวนรถไม่ เพียงพอต่อความต้องการของผู้โดยสาร การเอาเก้าอี้โดยสารออกไป จำนวนหนึ่งทำให้มีพื้นที่มากขึ้นในการบรรจุผู้โดยสาร และยังมีการลด ค่าโดยสารของผู้ที่ประสงค์ขึ้นขบวนนั้นอีกด้วย พงศ์ธร, 19

เพื่อให้เคลียร์ผู้โดยสารได้เร็ว พวกเขาเลยต้องหาทางแก้ ปัญหา อย่างเช่นการเพิ่มพื้นที่ให้จุคนได้มากขึ้น หรือซื้อรถเพิ่ม แต่ ส ำหรั บ การแก้ ปั ญ หาชั่ ว คราวแล้ ว ผมว่ า อั น นี้ ก็ เ วิ ร์ ก อยู่ สิงคโปร์ก็ทำมาแล้ว ทำให้คนเดินทางต้องรอสั้นลง คุณานนต์, 19 6


ส่องความคิดเห็น

เห็นด้วย ถอดๆ ไปเหอะ เจอมาวันก่อนน้ำตาไหล แถวที่ถอด เก้าอี้ไปเร็วมาก แถวอื่นรอสี่ห้าคัน แถวยืนสองคัน [ก็] ได้ไป [แล้ว] วิพุธ, 18

เป็นการตัดสินใจที่ดี เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนที่ใช้บริการต้องการที่จะ นั่งอยู่แล้ว แต่ต้องการจะเดินทางให้เร็ว และการที่ยังเหลือเก้าอี้บาง ส่วนไว้ ก็ทำให้หายห่วงได้ว่าผู้สูงอายุและผู้ที่จำเป็นต้องนั่งเก้าอี้ จะยัง คงใช้บริการได้ตามปกติ แต่อาจต้องรอนานขึ้นเล็กน้อย นาธาร, 19

คิดว่าดีมากๆเลยครับ เนื่องจากในช่วงเวลาเร่งด่วน นั้นรถไฟฟ้าแทบ ต่อ1ขบวน แทบจะไม่มีที่ขึ้นเลยครับ การที่ถอดเก้าอี้ทำให้มีแผนที่มากขึ้น สำหรับผู้โดยสารครับ นอกจากนี้ผมคิดว่า ทำให้ปัญหาโลกแตกการแบ่ง ปันที่นั่งให้สตรีจนกระทั่งเกิดการแชร์กันบนโซเซียลมีเดียเกี่ยวกับการไม่ แบ่งที่นั่ง นั้นจะหายไปเพราะไม่มีที่นั่งให้แย่งกันครับ แฮร่ พรพรหม, 19

จากข้อมูลที่พบ จะเห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่เห็นด้วย หรือ ไม่ได้มีความรู้สึกทางลบกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม การถอดเก้าอี้บางส่วนออกนี้ ยังเป็น เพียงการทดลองเท่านั้น ในอนาคตอาจมีการนำกลับมา ติดตั้งใหม่ หรืออาจถอดอย่างถาวรไปเลยก็ได้ เราก็ต้อง ติดตามดูกันต่อไปครับ


จุดไฟ

อยากเรียนภาษาเพิ่ม?
 ลองภาษาคอมพิวเตอร์ไหม เรื่อง: นาธาร เยี่ยงศุภพานนทร์

ภาษาที่สาม โดยส่วนมากแล้ว คนเรามักจะเรียนรู้ภาษาเพิ่มเติม จากภาษาแม่เพิ่มมาอีกหนึ่งภาษา เช่น ภาษาอังกฤษ แน่นอนว่าการมีสองภาษานี้ก็เพียงพอต่อการดำรง ชีวิตในสมัยโลกาภิวัตน์แบบนี้แล้ว แต่บางคนก็อาจจะ อยากศึกษาภาษาอื่นเพิ่มเติม ซึ่งถ้าใครกำลังสนใจ อยากศึกษาภาษาใหม่ ผมก็อยากแนะนำภาษาหนึ่ง ให้เข้าไปอยู่ในอ้อมอกอ้อมใจของท่านครับ ภาษานี้ เป็ น ภาษาที่ ใ ช้ สื่ อ สารได้ ทั่ ว โลกไม่ แ พ้ ภ าษาอั ง กฤษ และภาษานี้ก็ทำงานได้โดยตัวมันเองด้วย นั่นก็คือ ภาษาคอมพิวเตอร์นั่นเอง ช่วงสองสามปีที่ผ่านมา มีการผลักดันให้เกิด การเรียนการสอนภาษาคอมพิวเตอร์หรือด้านอื่นๆ ที่ เกี่ยวกับเทคโนโลยีมากขึ้น ที่เรียกว่า วิทยาศาสตร์ คอมพิ ว เตอร์ หรื อ คอมพิ ว เตอร์ ไ ซ-แอนซ์ (Computer Science – CS) ทั้งในสถาบันการศึกษา และบริ ษั ท องค์ ก รทั่ ว ไปต่ า งก็ เ ริ่ ม มาส่ ง เสริ ม ให้ เ ด็ ก นั ก เรี ย นและบุ ค คลทั่ ว ไปมี ค วามรู้ ทั ก ษะทาง เทคโนโลยีพื้นฐาน เนื่องจากภายใต้ระบบแทบทุก อย่างต่างก็เป็นคอมพิวเตอร์ทั้งนั้น ตัวอย่างที่เห็นได้ คือเมื่อปี 2013 ประเทศเอสโตเนียเกิดโครงการ “ProgeTiiger” ขึ้นมาเพื่อสอนการเขียนโปรแกรม หรือ “โปรแกรมมิ่ง” แก่นักเรียนในโรงเรียนตั้งแต่ เกรด 1 ถึงเกรด 12 ในปีถัดมา อังกฤษก็เพิ่มการ เขียนโปรแกรมเข้าในหลักสูตรการศึกษาเช่นกัน และ การผลักดันเช่นนี้ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ในโรงเรียน อ่านถึงตรงนี้ หลายท่านคงสงสัยว่าทำไมเรา ถึงต้องเรียนโปรแกรมมิ่งด้วย แน่นอนครับว่าหลายๆ

ภาพโดย Luca Bravo

8


ท่านก็คงไม่ได้อยากจะศึกษาเพื่อไปเป็นนักพัฒนา โปรแกรมหรือโปรแกรมเมอร์หรอก เหมือนกับการ เรียนวิชาศิลปะในโรงเรียน ที่เราไม่ได้เรียนไปแล้ว นำไปทำอาชีพจิตรกร แต่เราใช้ไปช่วยทำงานอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น ออกแบบรายงาน ทำกราฟ เป็ น ต้ น การเรี ย นโปรแกรมมิ่ ง ก็ เ ช่ น กั น เรา สามารถสร้างเครื่องมือขึ้นมาเพื่อช่วยให้เราทำงาน ง่ายขึ้นได้ เช่น แทนที่จะต้องมาย่อรูปที่จะโพสต์ลง พันทิปเอง ก็มาเขียนโปรแกรมช่วยย่อรูปไปเลยที เดียวได้ หรือถ้าใครเคยเห็นข่าวมาก่อนหน้านี้ ก็มี กรณีที่โปรแกรมเมอร์เขียนโปรแกรมให้มันทำงาน เองแทนเขาเสียเลย! เป็นอย่างไรบ้างครับ พอจะสนใจลงเรือร่วม เรียนรู้การเขียนโปรแกรมไปด้วยกันบ้างไหม ถ้าคิด ว่ามันน่าสนใจแล้ว ลองมาดูกันครับว่าจะต้องเตรี ยมตัวอย่างไรเพื่อเริ่มต้นเรียนภาษาใหม่นี้กัน

และ Sublime Text เป็นต้น โปรแกรมเหล่านี้จะ เข้าใจภาษาที่เราเขียนลงไปได้ และเปลี่ยนตัวอักษร เป็นสีต่างๆ ที่เหมาะสม เหมือนแยกประเภทของ แต่ละข้อความในโค้ดของเรา ให้สามารถอ่านได้ง่าย ขึ้น และบางโปรแกรมยังสามารถแนะนำโค้ดให้เรา ได้ด้วยว่าคำสั่งนี้ต้องเขียนอย่างไร

เขียนนิดเขียนหน่อย กลายเป็น โปรแกรมได้อย่างไร อย่างที่บอกไปว่าโปรแกรมที่เราเขียนนั้นก็เป็นเพียง ข้อความธรรมดา การจะให้คอมพิวเตอร์ “รัน” หรื อ ทำงานตามคำสั่ ง ได้ เราก็ ต้ อ งมี โ ปรแกรม สำหรับให้คอมพิวเตอร์อ่านคำสั่งก่อน แต่อย่าเพิ่ง สับสนหรือคิดว่ายุ่งยากนะครับ เพราะมันเป็นแค่ การบอกคอมพิวเตอร์เฉยๆ ว่าเราเขียนโปรแกรม ด้วยภาษาใด แล้วคอมพิวเตอร์จะได้เปลี่ยนโหมด มาเข้าใจภาษานั้นได้ ยกตัวอย่างเช่นภาษาไพธอน (Python) สามารถพิมพ์คำสั่ง python3 hello.py เพื่อให้คอมพิวเตอร์ใช้โปรแกรม Python 3 ในการ ทำงานกับไฟล์ที่ชื่อว่า hello.py ได้ เอาเป็นว่าอย่า เพิ่งใจเสียกันไปนะครับ เพราะมันง่ายมากจริงๆ

โปรแกรมมิ่งคืออะไร

ภาพโดย Glenn Carstens-Peters

การเขียนโปรแกรมก็คือการออกคำสั่งว่าเราอยาก ให้คอมพิวเตอร์ทำอะไร แต่แทนที่เราจะบอกไปว่า ‘ย่อรูปให้หน่อยนะ’ เราต้องเขียนเป็นคำสั่งที่อยู่ใน รู ป แบบที่ ค อมพิ ว เตอร์ เ ข้ า ใจได้ ตั ว อย่ า งเช่ น resize("cat.jpg") อย่าเพิ่งตกใจกันนะครับ ลองอ่าน ดูดีๆ เข้าใจได้เลยใช่ไหมครับว่า “โค้ด” ข้างต้น นี้ทำอะไร มันคือคำสั่งเดิมนั่นเอง แต่เปลี่ยนมา อยู่ในรูปแบบของภาษาที่คอมพิวเตอร์เข้าใจได้ แต่การเขียนโปรแกรมไม่ได้มีเพียงแค่สั่ง สั่ง สั่ง และสั่ง เรายังต้องมีการกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ให้ คอมพิวเตอร์ทำงานได้ตรงความต้องการมากขึ้น ด้วย เช่น หากไปเจอรูปภาพที่มีขนาดเล็กกว่าที่ กำหนดแล้วก็ไม่ต้องย่อ เป็นต้น โดยการทำงาน ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ว่าทำงานอะไร มีเงื่อนไข อย่างไร เป็นรูปแบบกระบวนการที่เราเรียกว่า อัลกอริทึม (algorithm)

ต้องเขียนโปรแกรมในไหน

ภาษาคอมพิวเตอร์มีอะไรบ้าง

การเขียนโปรแกรมพื้นฐานแล้ว ไม่ได้ใช้โปรแกรม อะไรยุ่ ง ยากเลย เชื่ อ หรื อ ไม่ ว่ า โปรแกรมอย่ า ง Notepad ที่ มี ติ ด มาในคอมพิ ว เตอร์ อ ยู่ แ ล้ ว ก็ สามารถเขียนโปรแกรมได้ นั่นเป็นเพราะคำสั่งที่เรา ออกให้คอมพิวเตอร์ก็คือตัวอักษรธรรมดานั่นเอง แต่ถ้าอยากเขียนโปรแกรมอย่างสะดวกขึ้น ก็ต้องมี โปรแกรมช่ ว ยที่ อ อกแบบมาใช้ ใ นการเขี ย น โปรแกรมโดยเฉพาะ เช่นโปรแกรมที่ชื่อ Atom

คอมพิวเตอร์ของเรา ในเบื้องหน้าแล้วสามารถเข้าใจ ได้หลายภาษา (แต่ภายในจริงๆ นั้นทำงานด้วย ระบบเลขฐานสอง) ภาษาที่ว่านี้ก็คือภาษาสำหรับ การเขียนโปรแกรมออกคำสั่งให้กับคอมพิวเตอร์ มี ด้วยกันหลายภาษา เช่น ไพธอน (Python), 
 ค็อทลิน (Kotlin), จาวาสคริปต์ (JavaScript) และ โก (Go) เป็นต้น แต่ละภาษาอาจจะมีโครงสร้าง แตกต่ า งกั น ไปบ้ า ง แต่ แ นวคิ ด หลั ก ๆ แล้ ว ก็ 9


ส่งท้าย

คล้ายคลึงกัน เมื่อเขียนภาษาหนึ่งเป็นแล้วจะใช้ เวลาศึกษาภาษาอื่นต่อได้ไม่นาน ซึ่งผมขอแนะนำ ให้เริ่มต้นด้วยภาษาไพธอน เนื่องจากมีรูปแบบการ เขียนที่ง่าย ไม่ต้องเขียนให้ยืดยาวก็ทำงานได้แล้ว

การเรียนโปรแกรมมิ่งก็เหมือนการเรียนภาษา ต้อง มีการหมั่นฝึกฝนอยู่เสมอ สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ เรื่อง ที่ยากไม่ใช่ภาษา หากแต่เป็นการออกคำสั่ง ผู้เขียน จะต้องเรียบเรียงความคิด กลั่นเป็นคำสั่งอย่างเป็น ระบบ ก็เหมือนกับการเรียนคณิตศาสตร์ที่จะรู้สูตร รู้วิธีการอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อเลือกวิธีการมาใช้ให้ถูกโอกาสเช่นกัน ขอให้สนุกกับการเขียนโปรแกรมครับ

จะเรียนได้ที่ไหน ปั จ จุ บั น นี้ มี ช่ อ งทางมากมายที่ ท ำให้ ใ ครก็ ต าม สามารถเรียนเขียนโปรแกรมได้ ซึ่งก็มีไม่น้อยเลยที่ เปิ ด ให้ เ รี ย นกั น ได้ ฟ รี ๆ ตั ว อย่ า งเช่ น เว็ บ ไซต์ code.org และ codecademy.com โดยเว็บแรกจะ เหมาะสมกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นมากๆ ยังไม่คุ้นชินกับ การเขี ย นโปรแกรม สามารถเข้ า ไปเรี ย นรู้ เ พื่ อ ทำความเข้าใจแนวคิด (คอนเซ็ปต์) ของการเขียน โปรแกรมได้ มีการใช้ภาพเพื่อทำให้เข้าใจได้ง่าย แม้ เ ด็ ก ๆ ก็ ส ามารถเรี ย นรู้ ไ ด้ ส่ ว นเว็ บ ที่ ส อง สามารถใช้ ต่ อ ยอดเรี ย นให้ ลึ ก ลงไปอี ก อย่ า งไร ก็ตาม เว็บไซต์และคอร์สต่างๆ ที่ใช้ศึกษาโปรแกรม มิ่งส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นภาษาอังกฤษ จึงต้องอาศัย ทักษะภาษาอังกฤษในการเรียนรู้ควบคู่ไปด้วยกัน ซึ่งถ้าหากยังไม่ถนัดภาษาอังกฤษมาก โอกาสนี้ก็ สามารถมองได้ว่าเป็นการพัฒนาไปพร้อมกัน
 ทีเดียวได้

อ้างอิง Computer programming will soon reach all Estonian schoolchildren, http://ubuntulife.net/computer-programmingfor-all-estonian-schoolchildren A computing revolution in schools, http://www.bbc.com/ news/technology-29010511 10


“Áͧ¼‹Ò¹àŹÊ์” ลองมองผ่านเลนส์.. แล้วจะเห็นในสิ่งที่ไม่เคยมอง พิขขาพร แก้วพรม หากคุณกำลังมองหางานอดิเรกที่จะช่วยเติมเต็มเวลาว่างของคุณ อาจมีหลายอย่างที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง วาดรูป แต่สิ่งหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยม คงหนีไม่พ้นการถ่ายภาพ ในปัจจุบันการถ่ายภาพมีอุปกรณ์ให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพจากกล้องในมือถือ การถ่ายภาพจากกล้องดิจิตอล หรือไม่เว้นแม้แต่การถ่ายภาพโดยใช้กล้องฟิล์ม การถ่ายภาพจากกล้องแต่ละตัว ก็มีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความชอบ ความสนใจ ใครที่ชอบแนวย้อนยุค ก็หันไปเล่นกล้องฟิล์ม ส่วนใครที่ชอบถ่ายเพื่อไปลงในโซเชียลก็จะเน้นไปที่ความสะดวกสบาย ก็คงจะหนีไม่พ้นการกดชัตเตอร์จากโทรศัพท์มือถือ แต่หากคุณสนใจการถ่ายภาพจริงๆ อยากให้คุณไปลงกดชัตเตอร์หลังเลนส์ของกล้องดิจิตอลดีๆสักตัว มันคงมีคุณค่าต่อจิตใจของคุณมิใช่น้อย แต่กว่าจะออกมาเป็นภาพถ่ายหนึ่งภาพนั้น ไม่ใช่แค่การกดถ่ายไปงั้นๆ เพราะภาพที่ออกมาจะสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นตัวตนของผู้กดชัตเตอร์ ภาพจะออกมาเป็นยังไง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนางแบบนายแบบ หรือวิทิวทัศน์เพียงเท่านั้น แต่มันยังขึ้นอยู่กับความรู้สึกที่ผู้กดชัตเตอร์ต้องการจะสื่อ ว่ามุมมองและโฟกัสที่ลั่นชัตเตอร์ลงไปนั้น สื่อถึงจังหวะของภาพที่ดีที่สุด และสวยที่สุดแล้วในสายตาของผู้กดชัตเตอร์ มีหลายเหตุผลที่เราชอบถ่ายภาพ ส่วนใหญ่เป็นเพราะว่า “ภาพ” ทำให้ช่วงเวลานั้นเป็นอมตะ ถ้าเราลองค้นรูปเก่า ๆ ออกมาดู เราเชื่อว่าทุกคนจะรู้สึกเหมือนได้กลับไป ณ ช่วงเวลาที่กล้องลั่นชัตเตอร์อีกครั้ง เราจะรู้สึกถึงอารมณ์ในตอนนั้น เราจะสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิของอากาศ เราจะระลึกได้ถึงบทสนทนา 'ภาพ' ทำให้เราได้ระลึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้ขอบคุณตัวเองที่ฝ่าฟันหลากหลายเหตุการณ์ทั้งดีและร้ายมาได้ ได้ขอบคุณชีวิตที่มอบพันล้านประสบการณ์ให้เรา และประสบการณ์พิเศษประสบการณ์หนึ่งที่ทำให้ชอบการถ่ายภาพเป็นพิเศษ นั่นคือ การตกหลุมรักการมองผ่านเลนส์กล้อง เพราะ การถ่ายภาพนอกจากเราจะถ่ายภาพ ภาพเองก็ถ่ายความทรงจำของเราไว้ด้วยเช่นกัน


ผู้อ่านคงเคยได้ยินสำนวนที่ว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ที่จะเปิดเผยให้รู้ว่าเรามีความรู้สึก นึกคิด อะไรอยู่ แต่จริงๆแล้วแม้ว่า ดวงตาจะเป็นหน้าต่างของหัวใจและการกระทำ แต่มันก็ยังคงมองออกได้ยาก และคงไม่สามารถคาดเดาได้ง่ายๆ

L E N S

เชื่อไหมว่า ทุกคนมักจะเป็นตัวของตัวเองเสมอเมื่ออยู่หน้ากล้อง ? ทำไมถึงคิดแบบนั้น.. มันมีที่มานะ บางครั้งเราจะตอบคำถามในใจเราได้โดยแทบไม่ต้องถามเพื่อให้เขาตอบ แต่เพียงแค่เรามีกล้องหนึ่งตัว มองผ่านเลนส์นั้น การมองผ่านเลนส์ช่วยเชื่อมให้เราใช้ใจความคิด เข้าใจตัวตนของคนที่อยู่หน้าเลนส์มากขึ้น หรือบางครั้งการมองผ่านเลนส ก็ช่วยให้เราเข้าใจคนที่อยู่หลังเลนส์ ซึ่งก็คือตัวเราเองด้วยเช่นกัน

"รูปที่สวยที่สุด คือรูปที่คนถูกถ่ายยิ้มให้คนหลังกล้องไม่ใช่ยิ้มให้กล้อง" ความรู้สึกของคนที่มองผ่านเลนส์จะมีความสุขมากแค่ไหน หากรู้ว่าคนที่ถูกเราถ่าย เขาส่งรอยยิ้มของเขาผ่านเลนส์นั้น ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่ผ่านเลนส์ โดยไม่ผ่านการบิดบังความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น เป็นรอยยิ้มที่ผ่านเลนส์ซึ่งเต็มไปด้วยความสุข ส่งรอยยิ้มนั้นมาสู่คนหลังเลนส์โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ถ้าในวันนี้คุณยังมัวนั่งอยู่กับที่ อยากให้คุณลองออกเดินทาง สะพายกล้องไว้แนบกายตลอดเวลา จากนั้นก็มองผ่านเลนส์ ลองกดชัตเตอร์ถ่ายภาพอะไรก็ได้ แล้วแต่ที่คุณสนใจในเสี้ยววินาทีนั้น เมื่อคุณมองกลับมาดูภาพที่คุณถ่าย เชื่อได้เลยว่า คุณจะจำความรู้สึกขณะที่คุรกดชัตเตอร์นั้นได้อย่างแน่นอน

... โลกใบนี้ มีอะไรให้เรียนรู้อีกมากมาย มากกว่าที่คุณจะปิดตัวเองไว้ในกำแพงที่ตัวเองสร้างขึ้นมา ...


เรื่อง: สิรวิชญ์ ชูเกียรติโรจน์



วิทยาการ

Machine Learning

เรื่องที่ควรศึกษา? เรื่อง: พรพรหม เขียวจักร์

เหล่าแอปเปิล

ทุกคนคงเคยผ่านวัยเด็กกันมา จำได้หรือไม่ เรา ”เรียน รู้” สิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันจากอะไร เรารู้ได้อย่างไร ว่าสิ่งนี้คือหนังสือ สิ่งนี้คือแอปเปิ้ล สีนี้คือสีแดง สีนี้คือ สีเขียว แน่นอนว่าเราต้องทราบมาจากการมองเห็น การสัมผัส หรือที่เรียกว่า ประสาทสัมผัสของเราหรือ กล่าวได้ว่าสิ่งเหล่านี้คือ ข้อมูล เราสามารถทำให้คอมพิวเตอร์แยกแยะสิ่งต่างๆ ได้จากสิ่งที่เรียกว่า “แมชชีนเลิร์นนิ่ง" (Machine Learning) ถ้าแปลตรงๆ คงได้ว่า “การเรียนรู้ของ เครื่องจักร” หรืออะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับการเรียนรู้ อย่างแน่นอน เราไปทำความรู้จักกับแมชชีนเลิร์นนิ่งกัน ก่อนดีกว่า แมชชี น เลิร์ นนิ่ ง สามารถใช้ แก้ปั ญ หาอยู่ 2 แบบหลักๆ คือ การแบ่งกลุ่ม (Classification) และ การถดถอย (Regression) โดยเราจะพูดถึงปัญหา การแบ่งกลุ่มก่อน การแบ่งกลุ่ม ปัญหานี้จะเกี่ยวกับการแยกกลุ่ม หรือจัดกลุ่มของข้อมูลที่เราต้องการทราบ ยกตัวอย่าง เช่น เรามีแอปเปิ้ลวางอยู่บนโต๊ะจำนวนหนึ่งดังภาพด้าน ซ้าย (เหล่าแอปเปิ้ล) โจทย์นี้คือ เราต้องการให้ คอมพิวเตอร์ แยกแยะสีของแอปเปิ้ลจากแอปเปิ้ลที่วาง อยู่บนโต๊ะทั้งหมด ซึ่งสามารถแยกออกได้เป็นสองกลุ่ม คือ สีแดง และสีเขียว การถดถอย ส่วนมากจะกล่าวถึงตัวเลข ยกตัวอย่าง เช่น เราต้องการทราบราคาบ้านคร่าวๆ จาก ขนาดพื้นที่ของบ้าน เราก็สามารถคาดเดาได้จากข้อมูล ที่ เ รามี แล้ ว ให้ ค อมพิ ว เตอร์ เ รี ย นรู้ มั น ออกมาเป็ น สมการคณิ ต ศาสตร์ ซึ่ ง อาจจะเป็ น สมการเส้ น ตรง (Linear Regression) ก็ได้ และใช้มันทำนายคำตอบที่ เราต้องการได้ เมื่อกล่าวถึงปัญหาหลักๆ ที่ใช้แมชชีน-เลิร์นนิ่ง มาช่วยเหลือแล้ว เรามารู้จักประเภทของแมชชีนเลิร์น 15


เมื่ อ กล่ า วถึ ง ปั ญ หาหลั ก ๆ ที่ ใ ช้ แ มชชี น เลิร์นนิ่งมาช่วยเหลือแล้ว เรามารู้จักประเภทของ แมชชีนเลิร์นนิ่งกันบ้าง 1. Supervised Learning เป็นการเรียนรู้แบบมีผู้ สอนให้รู้จักข้อมูลจากตัวอย่างจริงๆ เสียก่อน ซึ่ง ประเภทนี้เป็นประเภทที่นิยมใช้กันมากที่สุด เช่น บอกว่าแอปเปิ้ลอันนี้เป็น สี เขียว นะ หรืออันนี้เป็น สีแดง นะ และครั้งต่อๆ ไปก็จะสามารถแยกแยะได้แล้วว่าอันไหนคือแอปเปิ้ลสี เขียวหรือว่าสีแดง 2. Unsupervised Learning คือ การสอนแบบไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับข้อมูลแต่ให้ คอมพิวเตอร์ไปหาความสัมพันธ์ของข้อมูลและจับ กลุ่มกันเองยกตัวอย่างคือ เราเอารูปแอปเปิ้ลหลาก หลายสีเป็นข้อมูล คอมพิวเตอร์ก็สามารถแยกแยะ ได้ว่าสีแดงจะอยู่กับสีแดง สีเขียวจะอยู่กับสีเขียว แต่มันไม่รู้จริงๆ ว่าอันนี้คือสีแดง อันนั้นคือสีเขียว เราคงรู้จักแมชชีนเลิร์นนิ่งกันมาพอสมควร แล้ว ทุกคนคงสงสัยว่าสรุปแล้วคอมพิวเตอร์มัน เรียนรู้จากอะไร คำตอบคือมันเรียนรู้ได้จากข้อมูลที่ เราให้มัน โดยการที่มันสามารถเรียนรู้ได้ก็จะมี หลายอัลกอริธึม (อัลกอริธึมคือ กระบวนการแก้ ปั ญ หาที่ ส ามารถอธิ บ ายออกมาเป็ น ขั้ น ตอนที่ ชัดเจน) ที่มาจากสมการคณิตศาสตร์โดยมีหลักพื้น ฐานมาจาก พีชคณิตเชิงเส้น (Linear Algebra) หรือว่า สถิติ (Statistics) เช่น โครงข่ายประสาทเทียม (Neural Network) คือจำลองระบบประสาท ของคนจากสมการคณิตศาสตร์ ซึ่งการถ่ายทอด แบบย้อนกลับ (Back Propagation) ทำให้โครง ข่ายประสาทเทียมสามารถปรับน้ำหนักของข้อมูลได้ ห รื อ ว่ า จ ะ เ ป็ น ส ม ก า ร เ ส้ น ต ร ง ( L i n e a r Regression) ง่ายๆ ก็สามารถเอามาสร้างโมเดล การทำนาย (Machine Learning Model) ได้ แล้วเราจะทราบได้อย่างไร ว่าโมเดลของเรา มีประสิทธิภาพในการทำนายมากน้อยแค่ไหน ถูกต้องมากแค่ไหน

ค่าการวัดประสิทธิภาพของโมเดลนั้น จะ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามการแก้ปัญหาของ แมชชี น เลิ ร์ น นิ่ ง โดยปั ญ หาแบบการถดถอย (Regression) นั้นเราจะวัดจากค่า Mean Square Error หรือว่าก็คือ นำค่าคลาดเคลื่อนจากที่ทำนาย และค่ า จริ ง มายกกำลั ง สอง และหาค่ า เฉลี่ ย ( M e a n ) ซึ่ ง ค่ า นี้ ยิ่ ง น้ อ ย แ ส ด ง ว่ า โ ม เ ด ล มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ดี ส่ ว น ปั ญ ห า ก า ร แ บ่ ง ก ลุ่ ม (Classification) นั้นจะกล่าวถึงค่าครอสเอนโทรปี (Cross Entropy) ในที่นี้จะไม่ลงถึงรายละเอียดของ ค่าดังกล่าว ในปัจจุบันเรามีข้อมูลอยู่มากมายมหาศาล ในชีวิตประจำวันของเรา ตั้งแต่ตื่นนอนมา อาบน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน ไปเรียนไปทำงาน กลับบ้าน นอน ถ้าหากเราไม่เอามาใช้ประโยชน์มันก็จะไม่มี ประโยชน์อะไรเลย การที่เราทำโมเดลนั้น เรา สามารถคาดเดาคำตอบจากข้อมูลที่เรามี แต่สิ่งนี้ไม่ ได้ เ ป็ น จุ ด ประสงค์ ห ลั ก ของมั น เพี ย งอย่ า งเดี ย ว เพราะมันสามารถเอาไปต่อยอดกับธุรกิจในปัจจุบัน ได้มากมายหลายอย่าง เช่น ใช้ในการช่วยตัดสินใจ ในการลงทุน หรืออื่นๆอีกมากมาย ไม่เพียงแค่นี้แต่ การที่เรานำข้อมูลมาใช้งานยังทำให้องค์กรหลายๆ องค์กรมีการเมืองในองค์กรที่ดีขึ้น โดยใช้ข้อมูลจาก อดีตมาพูดคุยถกเถียงกันเพื่อประกอบการตัดสินใจ ไม่ใช่ตัดสินใจจากประสบการณ์ของผู้บริหารอย่าง เดียว ผู้เขียนบทความขอฝาก แมชชีนเลิร์นนิ่งไว้ เป็ น หั ว ข้ อ ที่ น่ า สนใจของผู้ อ่ า นทุ ก คน เนื่องจากการเอาข้อมูลจากอดีตมา อ้ า งอิ ง หรื อ หาความสั ม พั น ธ์ ที่ เรียกกันว่า วิทยาการทางข้อมูล (Data Science) จะเป็นความรู้ พื้ น ฐานที่ ค นในยุค หน้า ต้ อ งมี ทุ ก คนอย่างแน่นอน

16


เรื่อง: ภาณุเดช สุคนธสุโชติ



19


20


หางานอดิเรกทํา เพื่อคลายเครียด ความเครียด ความเครียด

เป็นภาวะของอารมณ์

หรือ

ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ที่ทําให้รู้สึกไม่สบายใจ คับข้องใจ หรือถูกบีบ คั้นกดดัน

จนทําให้เกิดความรู้สึกทุกข์ใจ

สับสน โกรธ หรือเสียใจ

สาเหตุของความเครียด ความเครียดมีสาเหตุหลักๆอยู่ 3 สาเหตุ 1.

จากจิตใจ

2.

จากการเปลี่ยนแปลง

3.

จากการเจ็บป่วยของร่างกาย

วิธีคลายความเครียด พอมีความเครียดเกิดขึ้น เราก็ต้องหาวิธี ผ่อนคลายเพื่อคลายความเครียด หาก มิฉะนั้นความเครียดจะส่งผลต่อการดําเนิน ชีวิตและการทํางานของเรา วิธีผ่อนคลายความเครียดนั้นมีหลายวิธี มากมาย ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และเวลาใน ตอนนั้นว่าเราสามารถทําสิ่งไหนได้บ้าง


ประเภทงานอดิเรก งานอดิเรกมีหลายประเภท

แต่ละ

ประเภทจะช่วยผ่อนคลายแตกต่างกันไป เรา ควรเลือกงานอดิเรกที่ตัวเองสนใจและถนัด เพื่อผ่อนคลาย

ปลูกตน้ ไม้ การปลูกต้นไม้นอกจากจะช่วยสร้าง

เลน่ ดนตรี ร้องเพลง เลือกเล่นดนตรีที่ถนัด ร้องเพลง หรือเต้น

บรรยากาศรอบข้างให้สดชื่นแล้ว ยังเป็น

เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของงานอดิเรกที่ช่วยผ่อน

กิจกรรมที่ช่วยให้เราผ่อนคลายจาก

คลายความเครียด เพราะสมาธิของเราจะไป

ความเครียดได้อีกด้วย

โฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ทําให้เราไม่มีเรื่อง ให้คิดชั่วขณะ

การช็อปปิ้ ง การออกไปห้างสรรพสินค้าหรือร้าน สะดวกซื้อใกล้ๆ แล้วใช้เวลาจับจ่ายใช้สอย

การนอนหลับพักผอ่ น ลองพักสายตา ปล่อยใจให้สบายแล้วหลับ

หรือเดินเล่นเพื่อผ่อนคลายก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่

พักผ่อนดูจะช่วยให้คลายเครียดได้ ลองพัก

ช่วยคลายความเครียดหรือทุกข์ใจได้ อาจจะ

กิจกรรมหรือสิ่งที่ทําให้เครียดแล้วหลับสักพัก

ไปคนเดียวหรือไปกับเพื่อน ครอบครัวก็ได้

หนึ่งเพื่อให้สมองผ่อนคลาย

ถ่ายรูป บางคนอาจจะถนัดในการถ่ายรูป ก็ อาจจะออกไปข้างนอกเพื่อถ่ายรูปก็เป็น กิจกรรมที่ช่วยให้เราผ่อนคลายเช่นกัน


ชีวิตมหา’ลัย

Become to
 IT KMITL เรื่อง: มาวิน จงไกรรัตนกุล | ภาพ: นาธาร เยี่ยงศุภพานนทร์

วิศวะคอมฯ? วิทย์-คอม? ไอที?

ในด้านนี้ หรือแม้แต่ผู้เขียนเองก็ชอบเล่นเกมเช่น กัน แต่ก็ต้องเข้าใจก่อนว่าการเรียนในคณะไอทีนั้น เราจะต้องเรียนเรื่องคอมพิวเตอร์ในระดับที่ลึกขึ้นไป อี ก ในด้ า นของการสร้ า งซอฟต์ แ วร์ แ ละระบบ สารสนเทศ ดังนั้นคิดให้ดีก่อนว่าเราชอบที่จะเรียน ในเรื่องคอมพิวเตอร์

สำหรับคนที่ชอบเล่นคอมพิวเตอร์เป็นประจำอยู่แล้ว ความคิ ด ที่ จ ะเลื อ กเรี ย นสายคอมก็ ย่ อ มเป็ น เรื่ อ ง ปกติ แต่ว่าคณะที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์นั้นก็มีเยอะ มาก ไม่ว่าจะเป็น วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ (CE: Computer Engineering), วิทยาการคอมพิวเตอร์ (Com-sci: Computer Science), เทคโนโลยี สารสนเทศ (IT: Information Technology) และ อื่นๆ อีกมากมาย แต่ครั้งนี้เราจะมาพูดถึงว่าทำไม ผมถึ ง เลื อ กคณะเทคโนโลยี ส ารสนเทศหรื อ คณะ ไอที

คณะไอทีเรียนอะไร เป็นอย่างไร ถ้ า ให้ พู ด ถึ ง เรื่ อ งที่ เ รี ย นหลั ก ๆ แล้ ว ก็ จ ะเป็ น คณิตศาสตร์: ในเรื่องของคอมพิวเตอร์แล้ว ไม่ว่า จะเป็ น เรื่ อ งอะไรก็ ต ามก็ มั ก จะเกี่ ย วข้ อ งกั บ ทาง คณิตศาสตร์เสมอ แทบจะเป็นหัวใจหลักเลยก็ว่าได้ เช่น การวาดเส้นโค้งในคอมพิวเตอร์ เบื้องหลังของ โปรแกรมที่ใช้วาดนั้นจะต้องใช้สูตรคำนวณในการ สร้างเส้นโค้งขึ้นมา, เวลาคอมพิวเตอร์เข้ารหัสไฟล์ อะไรสักอย่าง ก็ต้องมีคณิตศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นต้น ดังนั้นการมีพื้นฐานคณิตศาสตร์ที่ดี ย่อม ได้เปรียบในการเรียนคณะนี้หรือการสอบเข้าอย่าง

เหตุผลที่เลือกไอที ต้องบอกก่อนว่าผมเป็นคนที่ชอบเล่นเกมจึงได้เลือก คณะไอที ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ได้ผิดอะไร และเป็น เรื่ อ งปกติ ม ากๆอยู่ แ ล้ ว สำหรั บ คนที่ ช อบเล่ น เกม, เล่นคอมพิวเตอร์ แล้วจะมีความรู้สึกอยากเรียนต่อ 23


แน่นอน ระบบต่างๆ ในคอมพิวเตอร์: ในเบื้องต้น ก็จะเรียนว่าส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ทำงาน อย่างไร ทำงานร่วมกันอย่างไร จนไปถึงในระดับถึง ลึกขึ้นในระดับบิท (Bit) ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดใน คอมพิวเตอร์ ว่าการทำงานในส่วนนั้นๆ เกิดอะไร ขึ้นบ้างในระดับบิท เป็นต้น หากมีพื้นฐานในเรื่อง Logic หรือตรรกศาสตร์ในระดับหนึ่ง ก็จะทำให้ เรี ยนเรื่ อ งนี้ เ ข้ า ใจได้ ง่ า ยยิ่ ง ขึ้ น ธุ ร กิ จ และการ จัดการ: ถามว่าทำไมเรียนไอทีแล้วถึงต้องมาเรียน เรื่องธุรกิจเรื่องการจัดการ ก็ต้องตอบว่าเราเรียน เพื่อนำไอทีไปใช้ในธุรกิจ เพื่อทำให้ธุรกิจดำเนินไป ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในเบื้องต้นเราจะเรียน พื้นฐานทางธุรกิจก่อน จนไปถึงศึกษาระบบต่างๆ ที่ องค์กรนำมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

พ้ น เรื่ องการเขี ย นโปรแกรมแน่ ๆ โปรแกรมมิ่ ง (Programming) หรือการเขียนโปรแกรม: ใน การเรียนก็จะมีเขียนโปรแกรมกับเขียนเว็บไซต์ ใน การเรียนในคณะไอทีจะได้เรียนแค่บางภาษาเป็น พื้นฐาน ที่เหลือขึ้นอยู่กับการศึกษาค้นคว้าด้วยตัว เราเองเสียมากกว่า ในเรื่องของการเขียนโปรแกรม นั้น จะต้องใช้เวลาฝึกไปเรื่อยๆ ต้องให้เวลากับมัน มากๆ

เตรียมตัวสอบเข้า IT การเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆเป็นเรื่องที่ดีมากๆและควร ทำมากๆ ในเรื่องของการสอบเข้ามหาลัย โดย หลั ก ๆ แล้ ว ก็ จ ะใช้ ค วามรู้ ท างด้ า นคณิ ต ศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และคอมพิวเตอร์ โดยที่จะแนะนำก็ คือโครงการติวน้องๆ ระดับมัธยมฯ เพื่อเตรียมสอบ เข้าคณะไอทีอย่าง ToBeIT ซึ่งสามารถติดตามราย ละเอียดได้ที่ tobe.it.kmitl.ac.th

เรียนปรับพื้นฐาน ในบางคณะอาจจะมี ก ารเรี ย นปรั บ พื้ น ฐานเพื่ อ เตรียมพร้อมสำหรับการเรียนในชั้นปี 1 ซึ่งต้องขอบ อกเลยว่ า การเรี ย นปรั บ พื้ น ฐานนั้ น เป็ น อะไรที่ สำคัญมากๆ อย่างคณะไอทีก็จะเป็นการเรียนเขียน โปรแกรม โปรแกรมมิ่งเป็นสิ่งที่ต้องให้เวลากับมัน มากๆ เพื่อที่จะเข้าใจในตัวมัน แต่ถ้าเกิดเข้าใจมัน แล้ว ความสามารถในการเขียนโปรแกรมนั้นก็จะ ติดตัวเราไปอีกนานเลยทีเดียว

ระบบเครือข่ายของคอมพิวเตอร์: หรือที่เรียกกัน ว่าเน็ตเวิร์ค (Network) ถามว่าเรียนถึงระดับไหน ถ้าให้กล่าวแบบง่ายๆ ก็คือ คล้ายๆ กับเราเรียน ชี ว วิ ท ยาเกี่ ย วกั บ มนุ ษ ย์ แต่ อั น นี้ เ ราก็ จ ะเรี ย น ชีววิทยาเกี่ยวกับเน็ตเวิร์คแทน และก็เป็นเรื่องของ การวางระบบให้กับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สำหรับ บางคนอาจจะฟังดูแล้วรู้สึกว่ายาก แต่อย่าเพิ่งกลัว ถ้าเกิดเรายังไม่ได้ลองศึกษาดูก่อน ภาษาอังกฤษ: ในการเรียนในระดับมหาวิทยาลัยนั้น ภาษาอังกฤษ แทบจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งกับไอที ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาที่เรียนในห้อง หนังสือเรียนที่เกี่ยวข้อง หรือเวลาไปอ่านอะไรเพิ่ม เติมในอินเตอร์เน็ต ส่วนใหญ่ก็จะเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งนั้น หากมีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่ดี จะทำให้การ เรียนไอทีหรือทุกอย่างๆ เลยก็ว่าได้ง่ายยิ่งขึ้น แถม ถ้าเราอ่านอะไรที่เป็นภาษาอังกฤษเป็นประจำอยู่ แล้ว การสอบภาษาอังกฤษแทบจะไม่เป็นปัญหา อะไรแก่เราเลย และขึ้นชื่อว่าไอทีก็คงหลีกเลี่ยงไม่ 24


ชีวิตเฟรชชี่

ส่งท้าย

การที่เราเข้ามาอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยใหม่ๆ รูปแบบ การเรียนที่เปลี่ยนไป อิสระที่มีมากขึ้น หลายๆ คน อาจจะยังไม่คุ้นชินเป็นธรรมดา เราควรจะแบ่งเวลา ระหว่างเรียนกับกิจกรรมให้เหมาะสม ถึงเวลาเรียน ก็ต้องตั้งใจเรียน การเรียนในห้องเป็นอะไรที่สำคัญ ครับ การถามอาจารย์เมื่อเราไม่เข้าใจในเนื้อหาก็ เป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน ไม่มีอาจารย์คนไหนที่ไม่อยาก ตอบคำถามเมื่อนักศึกษาเกิดข้อสงสัยอย่างแน่นอน ครับ ในส่วนของกิจกรรมในรั้วมหาลัยนั้นสนุกมาก ครับ บางทีก็ไม่จำเป็นต้องเคร่งเครียดกับการเรียน จนเกิ น ไป จะทำให้ เ สี ย สุ ข ภาพเสี ย มากกว่ า กิจกรรมในรั้วมหาลัยนั้นก็มีอยู่หลากหลายรูปแบบ ทั้งวิชาการและสันทนาการ ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะ ไม่มีอะไรทำ

ในการเรียนในระดับมหาวิทยาลัยนั้น ถ้าเราเลือกใน สิ่ ง ที่ ช อบและถนั ด การเรี ย นย่ อ มประสบความ สำเร็จอย่างแน่นอน ดังนั้นการรู้ตัวว่าตัวเองนั้นชอบ อะไร ถนัดอะไรตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ มาก เพราะจะได้เตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ การที่เริ่ม ลงมือทำก่อนเราย่อมได้เปรียบกว่าอยู่แล้วครับ

25


26


27


28


29


30


บันเทิงออนไลน์

TWITCH TV

STREAMING FOR GAMER

เรื่อง: ปิยะวัฒน์ ช่วงกรุด

แล้วจะรับชมได้ที่ไหน

“หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการเล่นเกมหรือการนั่งดู คนอื่นเล่นเกม ผมขอแนะนำ Twitch TV เว็บไซต์ สตรี ม มิ่ ง แพลตฟอร์ ม สำหรั บ คนรั ก การดู video game streaming”

คุ ณสามารถรั บ ชม Twitch TV ได้ ผ่ า นทาง www.twitch.tv โดยเมื่อเข้าไปยังเว็บไซต์นี้ให้เลือก ไปที่ Browse เพื่อทำการเลือกไปยังหน้ารายชื่อเกม โดยที่แสดงขึ้นมาจะเป็นรายชื่อเกมต่างๆ โดยมีแถบ แสดงถึงจำนวนผู้ชมทั้งหมดที่ดูเกมนี้ และเมื่อกด เข้าไปในหัวข้อเกมก็จะมี ชาแนลต่างๆของผู้เล่น ที่ทำการถ่ายทอดสดเกมนั้นอยู่ให้ได้เลือกที่จะรับชม ได้ แต่หากผู้เล่นที่คุณต้องการจะรับชมนั้นไม่ได้ทำ การสตรีมมิ่งอยู่นั้น คุณก็สามารถทำการดูคลิปย้อน หลังของผู้เล่นนั้นๆได้ ผ่านทางคลิปวิดิโอย้อนหลังใน ชาแนลของผู้เล่นคนนั้นนั้นเอง Twitch TV นับเป็น Live Streaming ที่มี ความเฉพาะเจาะจงของกลุ่มผู้บริโภคมาก แต่หาก คุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมหรือรับชมการเล่น เกม Twitch Tv นั้นก็นับได้ว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะ กับคุณมากเลยทีเดียว

TWITCH TV คืออะไร หากคุณรู้จัก YouTube เว็บไซต์แพลตฟอร์มที่รวม คอนเท้ น ต่ า งๆมากมายอั ด ลงวิ ดิ โ อให้ ไ ด้ รั บ ชมกั น คุณก็คงจะเข้าใจ Twitch TV ได้ไม่ยาก Twitch TV นั้นก็มีหลักการคล้ายคลึงกันกับ YouTube เพียงแต่ เนื้อหาในนี้ก็จะเป็นเกี่ยวกับเกมส์เกือบทั้งหมด แต่ จุ ด เด่ น หลั ก ของ Twitch TV คือ การ Live streaming ให้ผู้ชมได้ดูถ่ายทอดสดการเล่นของผู้ เล่นแบบปัจจุบัน รวมทั้งยังมีระบบช่องแชทที่ให้ผู้ชม สามารถแสดงความคิ ด เห็ น พู ด คุ ย ต่ อ กั น และกั น ระหว่างผู้ชมกันเอง รวมถึงผู้เล่นที่ทำการถ่ายทอด สดอีกด้วย ส่งผลให้เนื้อหาคอนเท้นต์นั้นตรงตาม ความต้องการของผู้ชมมากยิ่งขึ้น และผู้เล่นเองก็พึง พอใจที่ได้นำเสนอเนื้อหาได้ตรงตามความต้องการ ของผู้ชม

31


32



หน้านี้ฉีกไว้เช็ด ! ก็ได้


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.