โจ ลูกอีสาน

Page 1

สุดยอดแนวคิดของนักลงทุนแนว VI รุ่นใหม่ “โจ ลูกอีสาน”

อนุ รกั ษ์ บุญแสวง

โจ ลูกอีสาน

(เนื้ อหาทั้งหมดเป็ นการรวบรวมจากสื่อออนไลน์) รวบรวมและจัดเรียง โดย | เซียว จับอิดนึ้ ง [Type text]

0


คนจนเล่นหวย คนรวยเล่น หุน้ ประโยคพลิกชีวิต 'โจ' อนุ รกั ษ์ บุญแสวง ก่อนชีวติ จะ กลับด้านจาก'คนจน' กลายเป็ น 'เซียนหุน้ ร้อยล้าน' นิ ยายกลายเป็ นจริง ถ้าชีวติ คนคนหนึ่ งคือ กระจกเงาสะท้อนให้เห็นตัวเอง ชีวติ "โจ" อนุ รกั ษ์ บุญแสวง ก็เป็ นยิง่ กว่านวนิ ยาย สะท้อนให้ใครหลายคนเห็นว่าเด็กยากจนคนหนึ่ งชีวติ ยังประสบความสาเร็จได้... นิ ยายกลายเป็ นความจริง!!! ในกลุ่มนักลงทุนวีไอรุ่นใหม่ โจนับว่าประสบความสาเร็จอย่างสูงในวัยเพียง 38 ปี เขามีพอร์ตหุน้ ใหญ่ "เลข 9 หลัก" ด้วยหลักการลงทุน "กาไรทบต้น" พอร์ต ขยายตัวเฉลี่ยปี ละ 60% ทากาไร 400 เท่า ภายในระยะเวลา 12 ปี เขาทาได้มา แล้ว! โจเป็ นคนจังหวัดพังงาแต่ใช้นามแฝง "ลูกอีสาน" ตามนวนิ ยายเรื่อง “ลูก อีสาน” ของ คาพูน บุญทวี หนังสืออ่านนอกเวลาที่บรรยายชีวติ เด็กบ้านนอก ยากจนได้บาดลึกถึงหัวใจ หลังคุณพ่อเสียชีวติ ตั้งแต่ยงั เรียนอยูช่ ้นั ป.6 แม่ตอ้ งยึด อาชีพขายของชาเล็กๆ เลี้ ยงดูครอบครัว 5 ปาก แต่ทุกคนมีหวั ใจเดียวกัน "ชีวติ ต้อง สู"้ ในวัยเด็กโจมีชีวติ ค่อนข้างลาบาก นี่ เองที่ทาให้เขามุง่ มัน่ ตั้งแต่เด็ก ชาตินี้ต้อง ประสบความสาเร็จให้ได้ ช่วงเรียนปริญญาตรีอยูม่ หาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โจใช้เวลาทุกเย็นคลุก อยูใ่ นห้องสมุดอ่านหนังสือพิมพ์และ นิ ตยสารเกี่ยวกับธุรกิจ เพือ่ นคนอื่นไปเที่ยว เฮฮากัน โจนัง่ อ่าน..อ่าน และอ่านอย่างนี้ ทุกวันตลอด 4 ปี เขาเคยล้มเหลวจาก 1 โจ ลูกอีสาน


ความพยายามเล่นหุน้ ครั้งแรก และตามภรรยาไปอเมริกาไปทางานเป็ นผูช้ ่วยพ่อ ครัวในร้านอาหารเกาหลีประมาณ 1 ปี ครึ่ง ก่อนจะกาเงิน 800,000 บาท กลับมา พิชิตความฝันที่รอคอยจนมีเงิน "หลักร้อยล้าน" ในปั จจุบนั เซียนหุน้ วีไอรายนี้ เล่าสไตล์การลงทุนให้กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ฟั งว่า ปกติ จะเป็ นคนถือหุน้ ค่อนข้างนานเฉลี่ยประมาณ 1 ปี เคยถือนานที่สุด 2-3 ปี ลงทุน สั้นที่สุด 2-3 เดือน ที่ขายเพราะราคาหุน้ ขึ้ นมาถึงเป้าหมายเร็วก็ขายทากาไร ออกมา การลงทุนของโจจะวางน้ าหนักหุน้ ไม่กระจุกตัวกันเกินไป เขามีความคิดว่า "นั ่งเก้าอี้ หลายขาดีกว่าสองขา" ถ้าวิเคราะห์พลาดโอกาสเสียหายจะหนักมาก เพราะฉะนั้นจะไม่วดั ดวงกับหุน้ เพียงหนึ่ งหรือสองตัว แต่จะกระจายอย่างเหมาะสม เพื่อ “จากัดความเสี่ยง” “ปกติผมจะมีหนุ ้ ในพอร์ตประมาณ 10-15 ตัว แต่ช่วงนี้ มีเยอะประมาณ 19 ตัว เพราะพอร์ตเริ่มใหญ่ขึ้น ผมจะไม่เล่นหุน้ เป็ นกลุ่ม แต่เน้นเป็ นตัว ผมถือคติวา่ ถ้าหุน้ ดีจริง สุดท้ายราคาต้องขยับ” คาจากัดความของหุน้ ที่เขาชอบลงทุนคือ “หุน้ ถูก คุณภาพใช้ได้” ถ้าใครรูจ้ กั โจแทบ จะไม่เห็นเขาลงทุนในหุน้ กลุ่มค้าปลีกที่วไี อส่วนใหญ่ชอบลงทุน เขาให้เหตุผลง่ายๆ "มันแพงครับ!" (หัวเราะ) โจเล่าว่า ทุกวันนี้ มีนักลงทุนแนววีไออยู่ 3 ประเภท พวก แรก...ประเภทเดียวกับผม คือ ชอบ "หุน้ ถูก คุณภาพใช้ได้" พวกที่สอง...ชอบหุน้ คุณภาพดีหรือเปล่าไม่รู ้ แต่ขอ "ถูก" ไว้ก่อน พวกสุดท้าย...ชอบหุน้ “ซูเปอร์สต็อก” ถูกแพงไม่วา่ ขอให้คุณภาพบริษัทดีไว้กอ่ น ประเภทหลังนี้ ดร.นิ เวศน์ เหมวชิรวรากร ปรมาจารย์วไี อในประเทศไทย “ชอบมาก”

2 โจ ลูกอีสาน


สาหรับวิธีการเลือกหุน้ ลงทุน ข้อแรก.."ผมจะดูกาไร" ส่วนตัวมีความเชื่อว่ากาไรเป็ นเสมือน "มือที่มองไม่ เห็น" กาไรคือ "เจ้ามือตัวจริง" ที่จะผลักดันราคาหุน้ "ผมจะชอบหุน้ ที่มีแนวโน้มว่ากาไรสุทธิจะเติบโตมากๆ อย่างน้อยต้องขยายตัว 20-30% ต่อปี นั ่นแปลว่าบริษทั นั้นมีสตอรี่ที่ดีมารองรับแล้ว" ข้อสอง..ผมจะวิเคราะห์ "มูลค่าหุน้ ที่ควรจะเป็ นภายใน 1 ปี ข้างหน้า" นามา เปรียบเทียบกับราคาหุน้ ที่ซื้อขายในปั จจุบนั ถ้าหุน้ ตัวนั้นมีส่วนเผื่อเพื่อความ ปลอดภัย (margin of safety) ยิง่ มาก..ยิง่ ชอบ ถามว่าวิธีการคานวณต้องทา อย่างไร? เขาบอกว่า เรื่องนี้ ต้องไปศึกษาเอง ไม่มีทางลัด นักลงทุนต้องไปอ่านแบบ แสดงรายการข้อมูลประจาปี (56-1) บ่อยๆ ตัวเองก็อ่านมาแล้วเกือบทุกบริษัท

โจ สรุปให้ฟังว่าหากมองในแง่ของตัวเลขจะดูหลักๆ ดังนี้ หนึ่ง..เน้นดูค่า P/E ควรต ่าเข้าไว้ แต่ถา้ คุณภาพดี ก็ไม่ตอ้ งตา่ มากก็ได้ ปกติหากบริษัทนั้นมีคุณภาพที่ดี "ผมจะเพิ่มพรีเมียม..ให้ค่าเฉลี่ย P/E ขึ้ นไปอีก 1 เท่า" แต่ก็ไม่ได้ใช้หลักการนี้ ตายตัว ถ้าคุณภาพ "ดีปานกลาง" จะเพิ่มพรีเมียม ค่าเฉลี่ย P/E อีกเพียง 0.5 เท่า จากค่าเฉลี่ยปกติ พวกหุน้ ค้าปลีก และโรงพยาบาล จะเป็ นกลุ่มที่มีคุณภาพ "ดีที่สุด" เพราะมีการเจริญเติบโตทุกปี แถมงบการเงินก็ดี ผูบ้ ริหารเก่ง และแทบไม่มีความเสี่ยง

สอง..เน้นหุน้ ที่มีอตั ราผลตอบแทนผูถ้ ือหุน้ (ROE) ต้องมากกว่า 15% 3 โจ ลูกอีสาน


สาม..อัตราหนี้ สินต่อทุน (D/E) ธุรกิจทั ่วไปไม่ควรเกิน 1 เท่า ไม่เช่นนั้นจะเริ่มเสี่ยง แต่บางธุรกิจมีขอ้ ยกเว้น เช่น กลุ่มธนาคาร และกลุ่มลิสซิ่ง เป็ นต้น ข้อสุดท้าย.. ดูวงจรกระแสเงินสด บริษทั ไหนมีเงินนอนอยูใ่ นบริษทั มากๆ ถือว่าน่าสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มโรงพยาบาล และค้าปลีก เพราะเวลาเขาขายสินค้า จะรับเงินสดทันที แต่เวลาซื้ อสินค้ากว่าจะจ่ายเงินก็ 60 วัน เท่ากับว่าเขามีเงินสด กองในบริษัทตลอดเวลา แถมเงินส่วนนี้ มีดอกเบี้ ยด้วย “ถ้าผมเจอหุน้ ที่มีคุณสมบัติอย่างที่บอก ผมจะเคาะขวา (ซื้ อฝัง่ Offer) เลย เพราะกลัวมีคนมาแย่ง ไม่ตอ้ งตั้งรอ ซื้ อแพงหน่ อยไม่เป็ นไร แต่ถา้ ตัวไหนดูแล้วอัพ ไซด์ไม่มาก..ก็รอหน่ อย! ส่วนใหญ่จะซื้ อทีเดียวเลย ถ้าลงมาก็จะซื้ อเพิ่มอีก ตัวไหนดี มากจะซื้ อไม่เกิน 30% ของพอร์ต ปกติจะมีหนุ ้ ตัวหลักในใจ 6-7 ตัว” ก่อนจะเป็ นวีไอที่ประสบความสาเร็จแก่นแท้ขอ้ หนึ่ งที่จะต้องท่องไว้เลยคือ "เราซื้ อธุรกิจไม่ได้ซื้อหุน้ " คนส่วนใหญ่ที่คิดว่าซื้ อหุน้ เพราะเขาเชื่อว่าราคาหุน้ จะ สูงขึ้ น แต่หากคิดว่าซื้ อธุรกิจ เราจะคิดว่าธุรกิจนี้ จะมีกาไรสูงขึ้ น ซึ่งมันจะเป็ นตัว ผลักดันราคาหุน้ ให้สงู ขึ้ น แต่จะคิดแบบซื้ อธุรกิจได้คุณต้องศึกษาธุรกิจนั้นอย่าง ลึกซึ้ ง "บางคนไม่รูจ้ ะเริ่มจากตรงไหน คุณต้องไปอ่านหนังสือ การลงทุนก็ เหมือนปลูกทุเรียนปี เดียวคงไม่มีทางได้กิน แต่ผมวันนี้ ศึกษาข้อมูลเพียง 1 วัน บางครั้ง 5-10 นาที ก็ตดั สินใจได้แล้ว เพราะผมพร้อมตลอดเวลารูจ้ กั ทุกบริษัท แล้ว" มาถึงศาสตร์เรื่องจิตวิทยา และทัศนคติ โจเล่าว่า เคยมีอาจารย์ท่านหนึ่ ง สอนไว้ตลาดหุน้ จะมี 2 คน คือ "ตัวเรา" และ "นายตลาด" ตลอดเวลาเราจะซื้ อ 4 โจ ลูกอีสาน


ขายหุน้ กับนายตลาด ซึ่งนายตลาดเป็ นคนอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ บ้าๆ บอๆ วันไหน อารมณ์ดีจะมาเสนอซื้ อหุน้ เราในราคาสูงๆ แต่หากวันไหนอารมณ์หดหู่ มองโลกใน แง่รา้ ย จะมาเสนอขายหุน้ ให้เราในราคาตา่ ๆ ฉะนั้นเรามี 2 ทางเลือก คือ 1. หาประโยชน์จากนายตลาด หรือ 2. ตกอยูใ่ นอิทธิพลของนายตลาด ดังนั้นหากเราเลือกถูกทาง ก็ไม่ตอ้ ง กลัวหุน้ ตก "ผมพนันเลยว่ากว่า 90% ของคนที่เข้ามาในตลาดหุน้ จะกลายเป็ นนาย ตลาดเสียเอง ยิง่ เขาไม่สามารถแยกตัวเป็ นอิสระจากนายตลาดได้ เขาก็จะ “เจ๊ง” เห็นคนชอบขายหุน้ ตอนราคาตา่ ๆ แล้วไปไล่ซื้อช่วงสูงๆ..ถ้าเรามัน่ ใจถือเลย ขาดทุนก็ไม่เป็ นไร เชื่อมั้ย! ตอนวิกฤติซบั ไพร์ม ผมขาดทุนครึ่งหนึ่ ง แต่ก็ไม่ขายของ ดีราคาตา่ จะขายทาไม! มันไม่สมเหตุสมผล ตรงข้ามเราควรซื้ อเพิม่ ถ้ามีเงิน อย่าไป หวัน่ ไหวตามตลาด คนที่อดทนผมรับรองไม่สาเร็จมากก็สาเร็จน้อยอย่างแน่ นอน" เขากล่าวอย่างมัน่ ใจ โจบอกว่า ทุกๆ วันจะมองหาหุน้ ที่จะซื้ อตลอดเวลา มองหุน้ บางตัวอยูแ่ ต่ ราคาอาจแพงไปนิ ด แถมโอกาสชนะมีแค่ 50% ถ้าเป็ นแบบนั้น "จะยังไม่ซื้อ" เพราะโอกาสชนะแค่ 50% เหมือนเรา "เล่นการพนัน" จะซื้ อก็ตอ่ เมื่อโอกาส ชนะต้องมากถึง 80-90% เท่านั้น “ที่ผ่านมาผมลงทุนในตลาดหุน้ 100% ตลอด จากสถิติพบว่าตั้งแต่ตลาด หลักทรัพย์ก่อตั้งในปี 2518 สร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 12% ต่อปี สูงสุดเมื่อเทียบ กับสินทรัพย์ทุกประเภท ผมยังเชื่อว่าระยะยาวตลาดหุน้ ยังจะให้ผลตอบแทนดี ที่สุดต่อไป” และ "โจ..ลูกอีสาน" ก็จะฝังตัวอยูใ่ นตลาดหุน้ ที่ที่เขารักตลอดไป!!! 5 โจ ลูกอีสาน


รวยแล้ว!!! ยังอาศัยบ้านพักข้าราชการ สาหรับเป้าหมายการลงทุน อนุ รกั ษ์ บุญแสวง บอกว่า ในปี นี้ ขอผลตอบแทน 30% ก็พอใจแล้ว แต่ระยะยาวอยากได้ ผลตอบแทนเฉลี่ย 20% ต่อปี คนที่เก่งที่สุดในโลกอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็ทา ได้เท่านี้ แต่เขาทาได้ติดต่อกัน 50 ปี ถามว่าภายใน 5-10 ปี ข้างหน้า อยากมี พอร์ตสูงขึ้ นเป็ นระดับเท่าไร มาถึงตอนนี้ "ผมพอใจแล้ว" ทุกวันอนุ รกั ษ์จะตื่นเช้าไปส่งลูกทั้ง 3 คน ไปโรงเรียน (ลูกชายคนโต 9 ปี ลูกชายคนรอง 7 ปี ลูกสาวคนสุดท้อง 3 ปี ) ส่งเสร็จจะกลับมาอ่านข่าว บจ.ที่แจ้ง ตลาดหลักทรัพย์ และอ่านบทวิเคราะห์ โดยจะไม่ฟังคาแนะนาของมาร์เก็ตติ้ ง "ผมถือคติว่า ฟั งคนอื่นหรือลอกหุน้ คนอื่นชีวิตการลงทุนคงไม่รอด ที่ ผ่านมาผมปฏิญาณกับตัวเองว่าจะไม่ใช้ “อินไซเดอร์” ถึงได้กาไรก็ไม่ภมู ิใจ เรา โกหกคนอื่นได้ แต่โกหกตัวเองไม่ได้ ไม่อยากเงยหน้าอายฟ้ า ก้มหน้าอายดิน" สาหรับเงินที่ได้กาไรจากการลงทุน โจไม่เคยนาไปซื้ อบ้านหรือที่ดินทุกวันนี้ ครอบครัวเขายังอยูบ่ า้ นพักข้าราชการ (ภรรยาเป็ นอาจารย์) เขามองว่า สินทรัพย์ ประเภทนั้นไม่ได้สร้างรายได้ให้มากมาย และไม่เคยซื้ อทองคา ลองดูราคาย้อนหลัง 30 ปี ผลตอบแทนทองคา "ห่วยที่สุด" แต่คนมองว่าทองคาดีในช่วง 4-5 ปี ที่ผ่าน มา "ผมมีซื้อที่ดินในจังหวัดพังงา 40-50 ไร่ ให้พี่ชาย (อายุหา่ งกัน 2 ปี ) นาไป ปลูกปาล์มและทาสวนยาง ให้เขามีอาชีพเลี้ ยงตัวเอง" ปั จจุบนั อนุ รกั ษ์ซื้อขายหุน้ หลายโบรกเกอร์ที่ บล.เอเซีย พลัส, บล.โนมูระ พัฒนสิน, บล.ไทยพาณิชย์, บล.ภัทร และ บล.ธนชาต ถามว่าทาไม! ต้องเล่นหลาย โบรก เขาตอบว่า อยากได้งานวิจยั ที่หลากหลายและดีที่สุด นอกจากนี้ แต่ละโบ รกเกอร์มีโปรแกรมการซื้ อขายไม่เหมือนกัน ส่วนตัวมองว่า บล.เอเซีย พลัส มี งานวิจยั ดีที่สุด 6 โจ ลูกอีสาน


เซียนหุน้ ร้อยล้าน กล่าวทิ้ งท้ายว่า อยากให้นักลงทุนที่ยงั ไม่ถึงเป้าหมาย ศึกษาหาความรูใ้ ห้มากที่สุด อย่าไปคิดว่าซื้ อแล้วหุน้ ต้องขึ้ นทันที ให้คิดว่าเรา "ซื้ อ ธุรกิจ" ถ้าใครไม่พร้อมก็ให้ไปซื้ อกองทุนรวมแทนก็ได้ ปั จจุบนั มีหลายกองทุนสร้าง ผลตอบแทนได้ค่อนข้างดี "ผมอยากฝากถึงนักลงทุนทุกคนว่า ถ้าอยากมีชีวิตหลังเกษียณที่ดีควรรีบ ลงทุนตั้งแต่อายุนอ้ ยๆ หุน้ เป็ นสินทรัพย์ประเภทหนึ่ งที่พิสจู น์แล้วว่าให้ ผลตอบแทนดีที่สุด แต่ก็ตอ้ งลงทุนด้วยทัศนคติที่ถกู ต้อง คือ มองหุน้ ให้เป็ นธุรกิจ และมีอารมณ์ที่มนั ่ คง หุน้ จึงจะกลายเป็ น “บ่อเงินบ่อทอง” ขุดเท่าไรก็ไม่หมด แต่ ถ้าลงทุนผิดวิธีมีเท่าไรก็หมดได้"

โจ ลูกอีสาน'ถือเงินสด 20%

'

เดินทางไกลจากหาดใหญ่ เพื่อมา อัดรายการที่ กรุงเทพธุรกิจ ทีวี "โจ" อนุ รกั ษ์ บุญแสวง เซียนหุน้ วี ไอ วัยเพียง 38 ปี พอร์ตใหญ่เลข 9 หลัก คนนี้ จัดเป็ นหนึ่ ง ในยอดฝี มือ ที่มีแฟนๆ ติดตามผลงานกัน มากมาย หลังจาก คุณพ่อเสียชีวติ ตั้งแต่ยงั เรียนอยูช่ ้นั ป.6 แม่ตอ้ งยึดอาชีพ ขาย

7 โจ ลูกอีสาน


ของชาเล็กๆ เลี้ ยงดูครอบครัว 5 ชีวติ ทุกคนมีหวั ใจเดียวกัน "ชีวติ ต้องสู"้ ในวัย เด็กโจมีชีวติ ค่อนข้างลาบาก นี่ เองที่ทาให้เขามุง่ มัน่ ตั้งแต่เด็ก ชาตินี้ต้องประสบ ความสาเร็จให้ได้ ความเก่งของโจ เริ่มต้นลงทุนด้วยเงิน 800,000 บาท ด้วยหลักการลงทุน "กาไรทบต้น" พอร์ตขยายตัวเฉลี่ยปี ละ 60% ทากาไร 400 เท่า ภายในระยะเวลา 12 ปี โจเป็ น "นักอ่าน"ช่วงเรียนปริญญาตรีอยูม่ หาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เขาใช้ เวลาทุกเย็นคลุกอยูใ่ นห้องสมุดอ่านหนังสือพิมพ์และ นิ ตยสารเกี่ยวกับธุรกิจ ก่อน จะสาเร็จโจเคยล้มเหลวจาก ความพยายามเล่นหุน้ ครั้งแรก และตามภรรยาไป อเมริกา ไปเป็ นผูช้ ่วยกุก๊ ในร้านอาหารเกาหลี 1 ปี ครึ่ง ก่อนจะกลับมา พิชิตความ ฝันที่รอคอยจนมีเงิน "หลักร้อนล้าน" ในปั จจุบนั เพียงแนะนาตัว "ตะวัน BizWeek" โจจาหนังสือ "16 สูตรสาเร็จรวยด้วย หุน้ " ขึ้ นมาทันที่ "พี่! เล่มนี้ ผมชอบมาก" นัง่ คุยกันเพียงเวลาสั้นๆ ก็สมั ผัสถึงความ เก่งฉกาจ ของเซียนหุน้ หนุ่ มผูน้ ี้ โจระมัดระวังที่จะพูดถึ งรายชื่อหุน้ หลังจาก "บิซวีค" โทรไปขอความเห็นที่ลงในบทความ "เจริญ Effect ปรากฏการณ์หนุ ้ ...ทะลุจุดเดือด" ฉบับวันที่ 1 ตุลาคม 2555 ตอนนั้นไม่มีใครรูเ้ ลยว่าหุน้ อาหารสยาม (SFP) เป็ น ของ "เจ้าสัวเจริญ" พอโจแนะนาว่าหุน้ SFP น่ าสนใจตรงที่มีที่ดินเป็ น 10,000 ไร่ ราคาหุน้ ไม่แพง แถมผลประกอบการขยายตัวทุกปี เท่านั้นแหละ! ราคาหุน้ SFP ทะยานจาก 138 บาท ขึ้ นไปสูงสุด 502 บาท ภายในเวลาเพียง 5 วัน "แนะนาหุน้ SFP ไปตัวเดียวผมเดือดร้อนเลย! คือผมไม่ได้มีซกั หุน้ เลยนะ ไม่ มีส่วนได้เสีย...แนะนาตามจรรยาบรรณเท่านั้นเอง ขอยืนยันผมไม่ได้มีผลประโยชน์ ทับซ้อน" ถามว่าโจมองตลาดหุน้ ช่วงนี้ ยังไง!!! ผมระวังมากกว่าปกติ ปกติจะถือเงิน สดไม่เยอะ 5% ไม่เกิน 10% แต่ตอนนี้ ถือเงินสดประมาณ 20% เมื่อไรที่เราหา 8 โจ ลูกอีสาน


หุน้ ลงทุนได้ยาก ก็แสดงว่าตลาดหุน้ น่ าจะ "เริ่มแพง"...โจบอก จริงๆ ไม่อยากเก็ง ทิศทางตลาด มันสาคัญที่วา่ หุน้ ที่เราถืออยูถ่ า้ ยังตา่ กว่ามูลค่าก็ยงั ถือต่อไป ส่วน ทิศทางตลาดเป็ นเรื่องที่เราคาดเดายาก วิธีการลงทุนของโจจะไม่มองหุน้ เป็ นกลุ่ม ตอนนี้ ในพอร์ตมีหนุ ้ ประมาณ 20 บริษัท แต่ตวั หลักๆ จะถืออยูแ่ ค่ 6-7 ตัว เขาจะวางน้ าหนักหุน้ ไม่กระจุกตัวกัน เกินไป เขามี ความคิดว่า "นั ่งเก้าอี้ หลายขาดีกว่าสองขา" ช่วงที่ผ่านมา นอกจาก ถือเงินสดเยอะขึ้ นแล้ว ถ้าตัวไหนมี Margin of Safety น้อยก็ขายไป เน้นตัวที่มีเงิน ปั นผลรองรับ ธุรกิจไม่ผนั ผวนมาก เขาแพลมๆว่า จะเน้นกลุ่มที่ทาธุรกิจกับ"ราก หญ้า" หน่ อย! มีประกันบ้าง ลิสซิ่งบ้าง ไม่มีตวั ไหนแนะนาเป็ นพิเศษกลัวเหมือน คราวที่แล้ว (กรณีหนุ ้ SFP) แต่ "บิซวีค" แอบรูม้ าว่าโจถือหุน้ SENA จานวน 11.31 ล้านหุน้ สัดส่วน 1.58% หุน้ GL จานวน 571,000 หุน้ สัดส่วน 0.83% หุน้ TKS จานวน 1.88 ล้านหุน้ สัดส่วน 0.76% และหุน้ KTC จานวน 1.72 ล้านหุน้ สัดส่วน 0.67% เฉพาะหุน้ 4 ตัวนี้ มีมลู ค่ารวมกันประมาณ 130 ล้านบาทแล้ว "ผมจะไม่ดูหนุ ้ เป็ นกลุ่ม จะดูเป็ นตัวๆ ไป ตัวไหนราคาต ่าผมก็ซื้อ โดย ไม่สนใจว่าจะอยูใ่ นกลุ่มไหน ตราบใด ที่ยงั หาหุน้ ได้ก็ลงทุน แต่เมื่อไรที่หา ไม่ได้ก็จะถือเงินสด ตอนนี้ ก็ยงั พอหาได้แต่หายากนิ ดนึ งคือตอนนี้ อยากให้นัก ลงทุนระมัดระวัง เพราะว่ามีหนุ ้ ที่ราคาหวือหวาค่อนข้างเยอะ การเลือหุน้ ในจังหวะ เวลานี้ ควรต้องเลือกหุน้ ที่ปลอดภัยพวก Defensive Stock มีปันผลระดับหนึ่ ง เวลา ลงอาจจะไม่ลงมาก แต่หนุ ้ ที่ให้หลีกเลี่ยงเลยคือ หุน้ ร้อน หุน้ ปั ่น ไม่วา่ สภาวะตลาด เป็ นยังไงก็อย่าเข้าไปยุง่ " โจบอกว่า ถ้าดูขอ้ มูลย้อนหลังตลาดหุน้ ไทยไม่เคยขึ้ น มาติดต่อกันมากเท่านี้ มาก่อน ขึ้ นมาตั้งแต่หลังวิกฤติ ซับไพร์ม 4 ปี นี้ ขึ้ นมาตลอด ดังนั้นแทนที่เราจะมอง 9 โจ ลูกอีสาน


โอกาสที่หนุ ้ จะขึ้ นเยอะๆ เราควรต้องมองตลาดหุน้ ด้วยความระมัดระวังมากกว่า แต่ก็ไม่ถึงกับต้องล้างพอร์ต ถือเงินสด ตราบใดที่ยงั หาหุน้ ตา่ กว่ามูลค่าได้เราก็ควร จะถือต่อไป เซียนหุน้ ร้อยล้าน ชี้ ว่า โดยปกติ นักลงทุนวีไอจะหาหุน้ ที่ต ่ากว่ามูลค่า ประมาณ 30% ขึ้ นไป สมมติวา่ หุน้ มีมลู ค่าประมาณ 10 บาท ถ้าราคา 7 บาท เราซื้ อได้ ถ้า 5 บาท ยิง่ ต้องซื้ อ แต่ถา้ เจอหุน้ ราคา 3 บาท เราอาจจะใส่เต็มที่เลย ยังไงก็ควรจะมี "อัพไซด์" ประมาณ 30% ขึ้ นไป ถ้าหุน้ มีอพ ั ไซด์ 20% หรือตา่ กว่านัน้ คิดว่าเป็ นการลงทุนที่ "ไม่คุม้ กับความเสี่ยง" ข้อสาคัญของการลงทุนที่ทาให้พอร์ตหุน้ ของโจเติบโต ขึ้ นอย่างรวดเร็ว เขามี ความเชื่อว่า กาไรเป็ นเสมือน "มือที่มอง ไม่เห็น" กาไรคือ "เจ้ามือตัวจริง" ที่ จะผลักดันราคาหุน้ "ผมจะชอบหุน้ ที่มีแนวโน้มว่ากาไรสุทธิจะเติบโต มากๆ อย่างน้อยต้องขยายตัว 20-30% ต่อปี นั่นแปลว่า บริษทั นัน้ มีสตอรี่ท่ีดีมา รองรับแล้ว" นอกจากนี้ เขาจะเลือกหุน้ ที่มีโอกาสชนะสูงๆ ถ้าเขาคิดว่า ซื้ อหุน้ แล้วมีโอกาส ได้กาไรแค่ 50% โอกาสขาดทุน 50% ถ้าเป็ นแบบนั้น "จะยังไม่ซื้อ" เพราะโอกาส ชนะแค่ 50% เหมือนว่าเรา "เล่นการพนัน" จะซื้ อก็ต่อเมื่อโอกาสชนะต้องมากถึง 80-90% เท่านั้น "ปกติผมจะถือเงินสดไม่เยอะ 5% ไม่เกิน 10% แต่ตอนนี้ ถือเงินสดประมาณ 20% เมื่อไรที่เราหาหุน้ ลงทุนได้ยากก็แสดงว่าตลาดหุน้ น่ าจะ "เริ่มแพง" แล้ว!!!"

10 โจ ลูกอีสาน


คาแนะนาการลงทุนสาหรับคนพอร์ตเล็ก แม้ผมจะเห็นด้วยกับหลายๆท่าน ว่า เงินลงทุนมากน้อย ก็สามารถลงทุน ตามแนวทาง vi ได้ แต่อีกด้านนึ งผม คิดว่า แม้จะลงทุนแบบ vi เหมือนกันแต่ระดับเงินลงทุนก็มีผล ต่อเทคนิคหรือกลยุทธ์ที่ควรจะใช้ ครั้งหนึ่ ง Warren Buffett เคย พูดว่า หากวันนี้ มีเงินลงทุนแค่ 1 ล้านเหรียญ เค้าสามารถทาผลตอบแทนได้ มากกว่า 50% ต่อปี ซึ่งผมคิดว่ามีความเป็ นไปได้สงู เพราะช่วงแรกๆที่วอร์เรน ลงทุนผ่านห้างหุน้ ส่วน เค้าสามารถทาผลตอบแทนได้ประมาณ 30% ต่อปี ใน ทานองเดียวกัน หาก ดร.นิ เวศน์มีเงินลงทุนวันนี้ แค่ 1 ล้านบาท ผมคิดว่าแนว ทางการเลือกหุน้ ของท่าน อาจจะแตกต่างออกไป เงินลงทุนน้อยๆตามนิ ยามง่ายๆของผม อาจจะเป็ นเงินหมื่น เงินแสน และไม่ เกิน 1 ล้านบาท ลาพังหากลงทุนโดยแนวทางอนุ รกั ษ์นิยม อาจได้ผลตอบแทน เฉลี่ย 10-15% ต่อปี ซึ่งอาจจะเพียงพอและน่ าพอใจ หากเป็ นพอร์ตการลงทุน ขนาดกลางหรือใหญ่ แต่ผลตอบแทนระดับนี้ ไม่อาจสร้างความแตกต่างในพอร์ต ขนาดเล็ก

ดังนั้นหากเป็ นพอร์ตการลงระดับเล็กๆ ผมคิดว่าควรมีกลยุทธ์ที่แตกต่าง ออกไป เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้สงู ขึ้ น 11 โจ ลูกอีสาน


กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริม่ ต้นเงินทุนน้อยๆ ผมมองผ่านภาพใหญ่ 2 ประเด็นคือ 1.ควรจะเพิ่มเงินลงทุนให้มากที่สุด 2.ต้องทาให้เงินลงทุนได้ผลตอบแทนมากที่สุด

ประเด็นแรก ควรจะเพิ่มเงินลงทุนให้มากที่สุด สามารถแยกเป็ น ภาพย่อยๆได้อีกคือ 1.1 ควรเพิ่มรายได้ เพิ่มจานวนเงินให้มากที่สุด 1.2 ลดรายจ่ายให้มากที่สุด เพื่อเพิ่มเงินออม ที่จะนามาลงทุน 1.1 เพิ่มรายได้ ผมมองในแง่คนทัว่ ไปที่ทางานกินเงินเดือนไม่สงู มาก การ เพิ่มรายได้สามารถทาได้โดยการหารายได้เสริม การย้ายงานใหม่ การเพิ่มความรู ้ เพื่อเพิ่มค่าจ้าง การแต่งงานที่คชู่ ีวติ มีรายได้ดว้ ย (ถ้าโชคดีได้แฟนรวยจะดีมาก ) การหยิบยืมเงินจากพ่อแม่หรือญาติในระดับที่หากเสียหายก็ไม่ทาให้เดือนร้อนมาก ที่สาคัญไม่ควรกูเ้ งินที่ตอ้ งจ่ายดอกเบี้ ยเพื่อมาลงทุน เพราะจะมีแรงกดดันจากที่ ต้องจ่ายดอกเบี้ ยตลอดเวลา 1.2 การลดรายจ่าย รายจ่ายที่หนักที่สุดสาหรับมนุ ษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ คือการผ่อนรถ-ผ่อนบ้าน คุณสุวภา ผูเ้ ขียนหนังสือ show me the money เคยพูด ไว้วา่ ตัวอย่างการใช้เงินที่เลวที่สุดของหนุ่ มสาวที่กาลังสร้างอนาคตคือการซื้ อรถ แต่ ประเด็นนี้ มีการถกเถียงกันพอสมควร หลายท่านอาจจะบอกว่าทั้งบ้านและรถเป็ น สิ่งจาเป็ นที่ขาดไม่ได้ หรือต้องใช้ประกอบการทางาน ซึ่งผมก็เห็นด้วยในบาง 12 โจ ลูกอีสาน


ประเด็น แต่ถา้ มองรอบด้าน เราอาจจะพบว่ามีทางเลือกอื่นๆอีก ที่ทาให้สามารถ ประหยัดรายจ่ายส่วนนี้ ได้ เช่น -แทนที่จะผ่อนบ้าน เราอาจจะอดทนอาศัยอยูก่ บั พ่อแม่ พี่น้อง ญาติ เพื่อนที่ สนิ ท หรือแม้แต่การเช่าบ้านที่ค่าเช่าไม่สงู มาก เหล่านี้ แม้จะไม่สะดวกสบายเท่า แต่ สามารถประหยัดทั้งดอกเบี้ ยผ่อนและยังสามารถนาเงินต้นไปหาดอกผลจากการ ลงทุน -แทนที่จะผ่อนรถ เสียทั้งเงินต้นและดอกและยังมีค่าใช้จา่ ยน้ ามัน ทางด่วน ซ่อมแซม ค่าประกัน เหล่านี้ เป็ นเงินจานวนมากที่เราคาดไม่ถึง เราอาจจะใช้บริการ ขนส่งสาธารณะ เช่น รถเมล์ รถไฟฟ้ า รถแท็กซี่ หรือกระทัง่ ซื้ อรถมือสองที่ราคาถูก กว่ามาก หรือหากยังมีค่าใช้จา่ ยสูง ก็อาจจะต้องเปลี่ยนงาน หรือย้ายบ้าน ย้ายที่พกั ซะเลย ให้ที่ทางานกับที่พกั อยูใ่ กล้ๆกันเพื่อประหยัดค่าเดินทาง รายจ่ายอื่นๆที่พอจะประหยัดได้เช่น ค่าใช้จา่ ยโทรศัพท์มือถือ ที่เราต้องจ่าย ทุกเดือน ถ้าคิดเป็ นรายจ่ายทั้งปี เราอาจจะตกใจ ทางเลือกคือ เราอาจะโทรน้อยลง หรือไม่โทรเลย (ไม่โทรไม่ตายซักหน่ อย )เปลี่ยนเครื่องนานๆครั้ง ใช้เครื่องถูกๆ ข้างต้นที่เขียนมาคงทาได้ไม่ง่ายครับ เพราะรายจ่ายเหล่านี้ คนปกติทวั ่ ไปใน สังคมเค้าทากัน เรียกว่าบินก่อน ผ่อนทีหลัง เอาสบายไว้ก่อน เรื่องอืนค่อยว่ากัน แต่หากเราต้องการที่จะแตกต่างจากคนอืนๆ เราควรจะทาให้ได้ อาจจะในรูปแบบ หรือวิธีที่ต่างกันออกไปตามฐานะ ความจาเป็ นของแต่ละคน

ประเด็นแรกการหาเงินมาลงทุนให้มากที่สุด ผมคงไม่เน้นมากครับ แต่จะไป เน้นในประเด็นที่สองคือทาอย่างไรให้เงินลงทุนได้ผลตอบแทนมากที่สุด

13 โจ ลูกอีสาน


ประเด็นที่สอง ทาอย่างไรให้เงินลงทุนได้ผลตอบแทนสูงสุด ประเด็นนี้ เชื่อว่านักลงทุนทุกคนต่างต้องการ และยิ่งหากมีเงินลงทุนไม่มาก การทา ผลตอบแทนให้สูงๆยิ่งมีความสาคัญ การมีเงินลงทุนน้อยๆและทาผลตอบแทน ในระดับปกติ เช่น 10-15% ต่อปี กว่าที่เงินลงทุนจะเติบโตสมมุติ 1 เท่าตัว อาจ ใช้เวลา 5-6 ปี ซึ่งอาจจะน่ าพอใจหากเปรียบเทียบกับผลตอบแทนกับเงินฝาก แต่ อาจจะน้อยไปเมื่อเทียบกับเวลาที่ใช้ในการศึกษาการลงทุน นอกจากนั้นแม้เงินทุน จะเพิม่ ขึ้ นมาระดับนี้ แต่ดว้ ยเงินเริ่มต้นที่น้อย กาไรที่ทาได้ก็น้อยไปด้วย และ สุดท้ายจะพาลทาให้นักลงทุนหมดกาลังใจ เพราะดูเหมือนการลงทุนอย่างนี้ ทาให้ รวยช้า อาจหันเหไปเก็งกาไร หรือไปเสี่ยงโชคกับการธุรกิจอื่นๆ ที่เห็นว่าจะทาให้ รวยเร็วกว่า การเพิ่มเทคนิ ค กลยุทธ์เพียงเล็กๆน้อยๆ สาหรับพอร์ตการลงทุนเล็กๆ อาจจะเพิ่มผลตอบแทนได้อย่างน่ าพอใจ ที่จริงกลยุทธิ์เหล่านี้ เพื่อนๆหลายท่านก็ ทราบกันดีจากที่โพสต์มา แต่หากนามาเรียบเรียงรวมกันเป็ นหมวดหมู่ จะเป็ น ประโชน์กบั เพื่อนๆได้พิจารณาเป็ นทางเลือกใหม่ครับ

กลยุทธ์อื่นๆ 1.การทาการบ้าน(หุน้ ) ไม่แน่ ใจว่าเป็ นกลยุทธ์หรือเปล่า แต่ผมเชื่อว่านี่ เป็ นการแปรเปลี่ยนจุดอ่อนให้เป็ นพลัง-เป็ นแรงบันดาลใจที่ชดั เจนที่สุด ยิ่งหาก เราพอร์ตเล็กเท่าไหร่ เราก็ควรจะทาการบ้าน ศึกษาหาข้อมูลหุน้ ให้มากขึ้ น เท่านั้น มีเพียงสิ่งนี้ สิ่งเดียวที่เราควบคุมได้โดยตรง ทาให้ทกุ เวลา ทุกนาที โดยไม่ขึ้นอยูก่ บั คนอื่น หากเราไม่มีความรูท้ ี่จะหาหุน้ ไม่มีความรูด้ า้ นบัญชี ด้าน การเงิน วิธีทีดีที่สุด ก็คือต้องไปเรียน หาหนังสือมาอ่าน หากไม่มีเวลา ไม่ค่อยมี 14 โจ ลูกอีสาน


เงิน ผมแนะนาให้ลงเรียนที่ม.รามคาแหง บัญชีเบื้ องต้น หรือการวิเคราะห์ทางด้าน การเงิน ไม่ตอ้ งเสียเวลาไปเรียน ซื้ อหนังสือซื้ อชีทมาอ่าน ก็เข้าใจได้ครับ 2.ไปหาปลาตรงที่มีปลา

เนื่องจากเราตัง้ โจทย์ว่าเราต้องการ

ผลตอบแทนสูงๆ ดังนั้นเราก็ตอ้ งหาประเภทของหุน้ ที่มีโอกาสให้ผลตอบแทน สูงๆ เสมือนไปหาปลาตรงที่ๆมีปลา ข้อสังเกตุของผมหุน้ ที่ให้ผลตอบแทนสูงๆ มักเป็ นหุน้ ขนาดกลางถึงขนาดเล็ก หุน้ เหล่านี้ แม้มีความเสี่ยงทางธุรกิจบ้าง แต่การ เพิ่มยอดขายหรือผลกาไรจะทาใด้เร็วกว่าหุน้ มัน่ คงขนาดใหญ่มาก ธุรกิจที่มีกาไร เพิ่มขึ้ น ราคาหุน้ ก็จะเพิ่มขึ้ นเป็ นสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนั้นหุน้ เหล่านี้ ไม่คอ่ยมีนักวิเคราะห์คอยติดตาม ทาให้โอกาสที่จะเจอหุน้ ที่ตา่ กว่ามูลค่าที่ควรจะ เป็ นมีสงู หลักทรัพย์บางประเภท เช่น วอร์แรนต์ที่นักลงทุนมักหลีกเลี่ยงเพราะมีความ เสี่ยงสูง ทั้งที่ในความเป็ นจริงวอร์แรนต์เหล่านี้ ในอนาคตก็คือหุน้ สามัญนัน่ เอง ดังนั้นเราควรใช้บรรทัดฐานในการประเมินมูลค่าวอร์แรนต์ในทานองเดียวกับที่เรา ประเมินมูลค่าหุน้ หากมูลค่าวอร์แรนต์ต ่ากว่ามูลค่าที่ควรจะเป็ น ก็ไม่มีเหตุผล ที่เราจะหลีกเลี่ยงการลงทุนในวอร์แรนต์ และที่จริงการลงทุนในวอร์แรนต์โดย ปกติจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าหุน้ สามัญ เพราะคุณสมบัติจากอัตราทวีผลหรือ Gearing นัน่ เอง นักลงทุนที่แสวงหากาไรสูงๆ ไม่ควรมองข้ามการลงทุนในวอร์แร นต์ครับ 3. มองหาตัวเร่งเร้า(ที่รุนแรง) หมายถึงมองหาปั จจัยที่จะเร่งให้ กาไรของกิจการเพิ่มสูงขึ้ นมาก ซึ่งจะหมายถึงราคาหุน้ ที่เพิ่มสูงขึ้ นมากด้วย ตัวเร่ง ในที่นี้อาจจะเป็ นอะไรก็ตาม ที่จะทาให้กาไรของกิจการเพิ่มขึ้ นทั้งโดยตัวพื้ นฐาน เช่น การขยาย ปรับปรุงกาลังการผลิต การขยายตลาด รวมถึงการเจริญเติบโต ปกติของกิจการ การกลับตัวของดีมาน-ซัพพลายของอุตสาหกรรม การซื้ อ 15 โจ ลูกอีสาน


กิจการ การเพิ่มปั นผล กาไรพิเศษ นอกจากนั้นยังอาจเป็ นตัวเร่งทางปั จจัย จิตวิทยา เช่น การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผูถ้ ือหุน้ หรือผูบ้ ริหาร การแตกหุน้ การแจกวอร์แรนต์ หากเปรียบเทียบการลงทุนในหุน้ 2 ตัว ที่มีปัจจัยทางด้านอื่นๆเหมือนๆกัน หรือคุณภาพพอๆกัน หุน้ ตัวที่มีตวั เร่ง มีแนวโน้มที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า 4.เริ่มต้นลงทุนให้เร็วที่สุด เพราะการที่พอร์ตการลงทุนจะโตมากๆ ต้อง อาศัยการทบต้นหรือการนากาไรไปลงทุนต่อ ดังนั้นในปี หลังๆพอร์ตการลงทุนจะ เพิ่มขึ้ นเร็วมากเพราะเงินต้นมากกว่า แม้จะทาผลตอบแทนได้เท่าเดิม การลงทุนให้ เร็วที่สุด จะทาให้เราไปถึงจุดที่เงินลงทุนออกดอกออกผลได้เร็ว นอกจากนั้น การที่ เราเริ่มลงทุนเร็ว เท่ากับว่าเราได้เริ่มเรียนรูเ้ ร็วไปด้วย ซึ่งความรูจ้ ะพอกพูนไปตาม วันเวลา และประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้ น เคยมีผลการวิจยั ศึกษา พบว่านักลงทุนที่เริ่มต้นลงทุนด้วยเงินเท่าๆกัน ทา ผลตอบแทนได้เท่าๆกัน ต่างกันตรงที่เริ่มลงทุนห่างกันหลายปี เมื่อเวลาผ่านไป ผลตอบแทนของทั้งสองคนจะห่างออกจากกันมากขึ้ น เสมือนเส้น 2 เส้นที่ลากออก จากจุดเดียวกัน เส้นทั้ง 2 ทามุมกันเพียงเล็กน้อย ถ้าลากเส้นยาวขึ้ นเรื่อยๆ เส้นทั้ง สองจะออกห่างกันมากขึ้ นทุกที

5. ผูบ้ ริหารในฝัน เพราะผูบ้ ริหารทีด่ ีจะทาให้ผูถ้ ือหุน้ ได้รบั ผลตอบแทน มากกว่าปกติ ผูบ้ ริหารที่นักลงทุนควรมองหาคือ มีความรูซ้ ึ้ งในธุรกิจที่ทา มี ความซื่อสัตย์ มีความโปร่งใสในการเปิ ดเผยข้อมูล มี passion ในงานที่ทา มี ความกระหายที่จะทาให้บริษทั เติบโตและที่สาคัญต้องมองผลประโยชน์ใน มุมมองเดียวกับผูถ้ ือหุน้ รายย่อย 16 โจ ลูกอีสาน


ถ้าเจอผูบ้ ริหารที่มีคุณสมบัติขา้ งต้น ช่วยสะกิดบอกผมด้วย เพราะนี่ เป็ น สัญญานที่ดีที่จะเจอหุน้ ดีๆ การศึกษาปั จจัยพื้ นฐานด้านอื่นๆประกอบเป็ นสิ่งจาเป็ น ก่อนที่เราจะตัดสินใจลงทุนต่อไป (เทคนิ คไม่ยากที่เราอาจจะพบผูบ้ ริหารอย่างนี้ สังเกตุจากบริษัทที่เข้า ร่วมงาน opportunity day บ่อยๆ เพราะนัน่ แสดงว่าผูบ้ ริหารบริษัทเหล่านี้ กล้าที่จะ เปิ ดเผยต่อนักลงทุนรายย่อย แสดงว่าผูบ้ ริหารอาจจะมัน่ ใจว่าบริษัทดีจริง) 6. ถือหุน้ น้อยตัว หากเรามีเงินทุนน้อย การกระจายการถือหุน้ หลายๆตัว อาจทาให้เรารูส้ ึกปลอดภัยมากขึ้ น แต่ผลตอบแทนที่ได้จะหักล้างกันทาให้ ผลตอบแทนไม่สงู เท่าที่ควร การเลือกทีจ่ ะถือหุน้ น้อยตัวเช่น 2-5 ตัว จะทาให้ เรามีความรอบคอบ พิถีพิถนั ที่จะเลือกถือหุน้ ในกลุ่มที่ดีที่สุด ให้ผลตอบแทน สูงที่สุด (ภายใต้ความเสี่ยงที่รบั ได้) และหากเราวิเคราะห์ได้ถกู ต้อง ผลตอบแทนที่ ได้รบั จะคุม้ ค่า ตัวเลข 2-5 ตัวอาจจะปรับเปลี่ยนได้ตามระดับความมัน่ ใจในพื้ นฐานของหุน้ ที่เราจะลงทุน 7. คาดหวังผลลัพธ์ 100% เลือกลงทุนในหุน้ ที่มีโอกาสได้กาไรสูง ที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับความเสี่ยง แม้หนุ ้ เหล่านี้ อาจจะมีความไม่แน่ นอนอยู่ บ้าง แต่เป็ นหน้าที่ ของนักลงทุนที่ จะศึกษาให้มากที่ สุด เพื่ อลดความเสี่ ยงนี้ แน่ นอน ว่าในการลงทุนทุกอย่าง เราไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้ หากเราลงทุน ในหุน้ ที่แพ้ เราจะแพ้ หากเราเลือกลงทุนในหุน้ ที่มีโอกาสทั้งชนะและแพ้ เราจะมี โอกาสทั้งชนะและแพ้ ขึ้ นอยูก่ บั ว่าเราศึกษามากน้อยแค่ไหน และบางทีก็เป็ น โชคชะตา.. 8. Growth always better ถ้าหากหลายท่านจากันได้ กระทูข้ องคุณริวกะเมื่อ ไม่นานมานี้ TVI Index ที่จริงอาจจะมีเพื่อนๆเอะใจว่า คาตอบการลงทุนที่เราค้นหา 17 โจ ลูกอีสาน


มานาน อาจจะซ่อนอยูใ่ นกระทูท้ ี่วา่ นี้ ก็ได้ คาตอบที่ผมหมายถึงคือหากเราดู ผลตอบแทนย้อนหลังของหุน้ หลายๆตัวที่ทากาไรสูงๆ ในกระทูน้ ้ัน สิ่งที่เหมือนกัน อยูอ่ ย่างหนึ่ งคือ ทุกบริษัทเป็ นหุน้ เติบโตสูงหรือ growth stock ทั้งสิ้ น คาอธิบาย แบบเรียบง่ายคือราคาหุน้ ขึ้ นอยูก่ บั กาไรที่กิจการทาได้ ถ้ากาไรเพิม่ ราคาหุน้ ก็เพิ่ม คนที่ถือไว้ก็ได้กาไร นักลงทุนทัว่ โลกที่ประสบความสาเร็จทั้งในอดีตและปั จจุบนั จะ มีหนุ ้ เติบโตสูงอยูใ่ นพอร์ตเสมอๆ ...เวลาจะเป็ นเพื่อนที่ดีเสมอ หากเราลงทุนในหุน้ โกรท... กลยุทธ์สาหรับนักลงทุนเบี้ ยน้อยหอยน้อย คงมีแค่นี้ครับเท่าที่คิดออก ถ้า เพื่อนๆมีความเห็นอื่นจะเสริมก็จะเป็ นประโยชน์ครับ และที่ตอ้ งขอยา้ คือกลยุทธ์ ส่วนใหญ่ คงเหมาะสมกับนักลงทุนที่มีความรูก้ ารลงทุนในระดับนึ งแล้ว และจะไม่ เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ ถ้าถามว่ากลยุทธ์ขอ้ ไหนที่สาคัญและจาเป็ นที่สุดคงเป็ น ข้อแรก ถ้าไม่มีขอ้ แรก ประเด็นอื่นๆก็จะไม่ตามมา ผมและเพื่อนท่านอื่นๆอาจจะเป็ นผูช้ ี้ ทางเท่านั้น แต่นักลงทุนต้องเดินทาง ด้วยตัวเองครับ ระหว่างทางอาจจะมีความยากลาบาก มีอุปสรรค มีเพียงทัศนคติที่ ถูกต้อง ความตั้งใจ และกาลังใจ จะทาให้เราไปถึงจุดหมายครับ มีบทกวีบทหนึ่ ง นามาฝากเป็ นกาลังใจด้วยครับ

Q&A คุณโจ ลูกอีสาน Q. ตัวเร่งที่ทาให้เกิด upside A. ตัวอย่าง ดูหนุ ้ นิ คม มีรายได้ผนั ผวนมาก ขายที่ดินผันแปรตามเศรษฐกิจ ดูค่าเฉลี่ย ย้อนหลังหลายปี ได้กาไร ~ 800 ล้านบาท 18 โจ ลูกอีสาน


พอดีติดตามหุน้ โรงไฟฟ้าทราบว่าลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ 65% และมีนิคมนี้ ถือ หุน้ 35% พอมาประเมินดูหนุ ้ ตัวโรงไฟฟ้ า fwd pe 7-8 เท่า ไม่ถูกเท่าไร แต่ สาหรับนิ คม 35% นี้ จะได้ส่วนแบ่งกาไร 1200-1400 ล้านบาท ซึ่งมีนัยยะมาก แต่ผมก็พลาดที่ไม่ได้ซื้อมาก และเอาไปคุยเยอะไปหน่ อย ตัวเร่งผลกาไรต้องมี ถ้า ไม่มีกาไรไม่โต ราคาหุน้ ก็ไม่โตด้วย

Q. เคยดูเทป money talks เรื่องปั นผล A. ได้ปันผลก็จริง แต่ราคาหุน้ ไม่ไปไหน คุม้ หรือไม่

Q. อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับตัวแปรมากเกินไป A. มีตวั แปรมากที่ส่งผลกับกิจการ แต่ควบคุมไม่ได้ เช่น หุน้ เหล็กที่ตวั แปรเปลี่ยน ไป สมมติฐานที่มองไว้ก็เปลี่ยน วอร์เรนไม่ชอบอุตสาหกรรมที่มีตวั แปรเยอะๆ เช่น โรงงาน ถลุงสังกะสี จากเศษเหล็ก พอมีปัจจัย 5 ตัว พอคิดความน่ าจะเป็ นรวมที่จะ ประสบความสาเร็จเหลือราวๆ 40% เอง

Q. แชร์ประสบการณ์ในอดีตที่ perfect กับ หุน้ ทีช่ ้าสุดๆ กับเหตุผลที่พลาด A. โอกาสที่จะแพ้น้อยมากๆ ปี แรกๆ ที่ลงทุน หุน้ วนชัย ตอนวิกฤติเศรษฐกิจซื้ อได้ ตอน pe 1.5 เท่า และภาวะอุตสาหกรรมนั้นกาลังฟื้ นด้วย เป็ นโอกาสที่นานๆมาที แต่หนุ ้ แบบนี้ ต้องใช้เวลา ผมซื้ อเกือบปี นิ่ งมากไม่ไปไหน แต่พอราคามันขึ้ นใน 1-2 อาทิตย์ 1-2 เท่าตัว และหลังจากนั้นขึ้ นอีก 20 เท่า ส่วนความผิดพลาดที่ผิด หนักๆ ไม่ค่อยเจอ เพราะถ้ามีอะไรไม่เป็ นไปตามที่คาดจะขายไปก่อน มีปีที่แล้วถือ

19 โจ ลูกอีสาน


หุน้ growth ตัวหนึ่ ง ประสบปั ญหา ลูกค้าลดลง แถมเจอน้ าท่วม โรงงานมีที่เดียว ต้องใช้เวลาฟื้ นฟู ตอนนั้นเราไม่ได้คิดความเสี่ยงนี้

Q. ถ้ามั ่นใจมากไม่ควรถือเกิน 40% ในภาวะตลาดแบบนี้ ถ้าถือหุน้ 80% ได้ ไหม A. ถ้าผิดพลาดจะไม่มีอะไรรองรับเลย ในโลกนี้ มีความเสี่ยงที่เราควบคุมได้ และ ควบคุมไม่ได้ แม้แต่ผบู้ ริหารของบริษัทยังไม่ถือหุน้ ตัวเองบริษัทเดียวเลย คนที่ถือ เวลาแบบนี้ ต้องยิ้ มรับเวลาเสียด้วย เป็ นผมถ้าหาหุน้ ไม่ได้อาจถือเงินสด

Q. หุน้ เล็ก หุน้ ใหญ่ เมื่อเช้า อยากให้ช่วยขยายความ A. บ้านปู ล้มได้ เซได้ แต่หนุ ้ เล็กโดยรวมจะมีความเสี่ยงมากกว่า แต่ลดความเสี่ยง ได้โดยเลือกหุน้ ที่งบการเงินแข็งแกร่ง ผูบ้ ริหารซื่อสัตย์ จะเป็ นเบาะรองรับถ้าเกิด วิกฤติ de ไม่สงู โอกาสเจ๊งก็น้อย ผมเชื่อตามงานวิจยั ว่ามีนักลงทุนติดตามน้อยกว่า วันนี้ ตลาดให้ผลตอบแทน 30% รวมปั นผล ปตท. ปูนใหญ่ ราคาขึ้ นมาเท่าไร ในขณะหุน้ ตัวเล็กดีๆ หลายตัว ขึ้ นเป็ นหลายเท่าก็มี

Q. อยากทราบ timing ในการขายหุน้ วัฏจักร และหุน้ ฟื้ นตัว A. หุน้ วัฏจักร ที่จริงไม่ค่อยสาเร็จในหุน้ กลุ่มนี้ เมื่อถึงวัฏจักรรุง่ เรืองกาไรที่ทาได้จะ เป็ นสัดส่วนเยอะมากของยอดขาย ปกติกาไร 5% ของยอดขาย ช่วงที่ boom จะขึ้ น ไปถึง 20-30% อะไรที่มากกว่าปกติ เชื่อได้วา่ ไม่ยงั ่ ยืน อาจต้องกลับไปดูวฏั จักร หลายๆปี หุน้ ฟื้ นตัว ส่วนใหญ่ถา้ ทุกคนคิดว่าหุน้ ตัวนี้ เป็ นหุน้ ฟื้ นตัว แสดงว่า ณ

20 โจ ลูกอีสาน


ราคานั้นๆ ตอบสนองต่อการฟื้ นตัวแล้ว ที่เหลือจะขึ้ นกับการเติบโตหุน้ ตัวนี้ ว่าได้ มากได้น้อยแค่ไหน

Q. ถ้าหุน้ ตก สาหรับมือใหม่ ควร cut loss ไหม เช่น กันยงร่วง A. ผมก็ไม่แน่ ใจ ประเด็นนี้ อยูด่ ีๆมีแรงขายอะไรมากมาย คนส่วนใหญ่จะคิดว่ามี อะไรผิดปกติกบั หุน้ ตัวนี้ หรือเปล่า ถ้าไม่น่าจะมีอะไร เบาะรองรับ เงินสดเพียงพอ ผมจะซื้ อเพิ่ม แต่อย่างที่บอก ผมจะไม่ซื้อเต็มที่ จะมี limit ที่ควบคุมไว้ทุกครั้ง มัน ไม่แน่ อาจมีปัญหาจริงๆ อย่างตัวที่ถามมามีเงินสดรองรับค่อนข้างเยอะ บริษัทลูก ค่อนข้างดี

Q. จะหาปลาอย่างไร อ่านข่าว ภาวะเศรษฐกิจ A. ต้องทาทะเลให้แคบก่อน ทาเป็ นบึงเป็ นสระ คัดตัวที่ไม่เข้าใจออก หุน้ ปั น่ ธรร มา ภิบาลไม่ดี อุตสาหกรรมตกดิน ถ้าเหลือซัก 200 กว่าตัว ส่วนใหญ่ผม ติดตามตัวที่สนใจพิเศษ ตามข่าวตลาดหลักทรัพย์ดวู า่ มีนัยยะกับกาไรบริษัทหรือ เปล่า ตอนเช้า 9 โมงผมจะอ่านข่าวตลาดแล้ว ไม่ได้ติดตามที่ไหนเป็ นพิเศษ ผมจะ มองล่วงหน้าก่อนหนึ่ งปี คอยติดตาม เราอย่าไปจ่ายตลาดตอนวายแล้ว

Q. ให้ mos อย่างไรครับ A. ราคาควรเป็ น 10 บาท สูงสุดที่ผมซื้ อได้คือ 7 บาท คุม้ ที่จะเสี่ยง ถ้าเจอ upside 20% แต่ความแน่ นอนสูงมากๆ ก็ยอมเสี่ยง

21 โจ ลูกอีสาน


Q. จะเก่งขึ้ น ต้องขยายความรูเ้ พิ่มขึ้ น ความรูก้ ารลงทุน ตัวหุน้ ความรูห้ า โอกาส พี่โจหาข่าวใน set อย่างเดียว A. ผมเพิ่งรับหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ข่าวหุน้ ทันหุน้ 2 เล่มหลังๆ เหมือนอ่าน นิ ยาย เอาเล่นๆไม่จริงจัง ว่าจะยกเลิกอยู่ แต่ไม่กี่ตงั ค์ก็ช่างมัน มีคลิปวัน oppday ที่ เป็ นคลังสมบัติเลย จะลึกและอาจดีกว่า อ่าน 56-1 ด้วยซ้า ถ้าบริษัทที่เราติดตาม ดู clip oppday อ่าน 56-1 ดูไว้ก็จะสะสมเป็ นฐานความรู ้ สมมติเขาแจ้งข่าวที่มีนัย ยะต่อผลประกอบการก็เป็ นโอกาส Q. ถ้าถือบริษทั ที่ไม่ได้สมั ผัสธุรกิจจริงๆ จะไม่มั ่นใจ ถามว่าคุณโจจะมั ่นใจมัน ได้อย่างไร A. สิบปากว่าไม่เท่ามือคลานะ ส่วนใหญ่หนุ ้ ที่ผมเลือกมัน่ ใจระดับหนึ่ งทุกครั้ง หุน้ ที่ ผมถือได้ไม่นานเลย คือ หุน้ ที่ลอกคนอื่นมา ถ้าฟั งคนอื่นมาแล้วซื้ อตามจะถือได้ไม่ นาน ส่วนใหญ่จะเชื่อในกรอบความคิดตัวเองมากกว่า เรื่องสัมผัสได้จริงอาจไม่ จาเป็ น อย่างหุน้ เช่าซื้ อมอเตอร์ไซค์ ต้องไปซื้ อมาผ่อนหรือเปล่า อาจแค่หาข้อมูลมา รวมกันเหมือนต่อจิ๊กซอว์ พอได้ภาพนั้นก็ตดั สินใจว่าน่ าลงทุนหรือเปล่า

Q. อยากทราบ activity ประจาวัน มีอะไรบ้าง A. ผมบ้าหุน้ แต่ก็ไม่ถึงกับไม่เล่นกับลูก ไม่พดู กับเมีย เวลาที่ใช้อ่านข่าวไม่เกิน 23 ชัว่ โมงต่อวัน แต่เวลาใช้คิดไม่แน่ ใจ เกือบตลอด เราก็คิดไปเรื่อย บางทีผมก็ได้ ไอเดียตอนที่เคลิ้ มๆ หรือไปวิง่ แล้วปิ๊ งขึ้ นมา คิดว่าไม่น่าจะเกิน 5 ชัว่ โมง ต้องรับส่ง ลูก ทากับข้าว จ่ายตลาด

Q. ถ้าแบ่งเป็ นสัดส่วนเรื่องหุน้ เรื่องครอบครัว ? A. มันแบ่งได้ดว้ ยหรอ? คิดเรื่องหุน้ ซัก 4-5 ชัว่ โมง นอกนั้นก็ทานู่นนี่ ในช่วงแรก 22 โจ ลูกอีสาน


จาไม่ค่อยได้ เราก็สนุ กไปเรื่อย ถ้าเราทาเพราะอยากจะทามันไม่ใช่การงานก็ไม่ รูส้ ึกเหนื่ อย

Q. การประเมินมูลค่าหุน้ ปกติใช้ pe จะ forecast ไปข้างหน้า 1-2 ปี ใช้วิธีการ แบบไหน A. ได้กาไรมา หา eps คูณ pe ที่เหมาะสม แต่ถา้ เป็ นหุน้ growth เรามองไป ข้างหน้า ควรมียอดขายเพิ่ม 1-2 ปี เท่าไร กาไรที่ควรจะเป็ น net margin เท่าไร แล้วเอามาคูณ pe ที่เหมาะสม เช่น โฮมโปร โตปี ละ 20% แล้วมาหา margin พวกหุน้ ค้าปลีก กาไรจะโตความกว่ารายได้ เพราะมี eos เราก็มาแปลง เป็ น margin และกาไรที่เหมาะสม

Q. สงสัยคาขวัญใต้ login การลงทุนคืออาหารที่อร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว ช่วย ขยายความ A. ผมอ่านนิ ยาย godfather หนังที่ได้รางวัลออสการ์ จะมีประโยคหนึ่ ง การแก้แค้น คืออาหารที่อร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว มีวนั หนึ่ งตัวละครในหนังพ่อมาเฟี ยตาย ตระกูลต้องล่มสลายแน่ แต่ปรากฏว่าลูกชายคนรองส่งพวกไปจัดการในคืนเดียว กลับมาครองความยิง่ ใหญ่ได้ ผมเอามาใช้เตือนใจการลงทุนว่า หุน้ บางตัวต้อง อดทนมากๆ กว่าจะเห็นว่าเป็ นหุน้ ที่ดี พอมีวนั หนึ่ งถ้าคิดไม่ผิด ราคาหุน้ ตอบสนอง สิ่งที่อดทนมา วันเดียวเราชนะเด็ดขาดเลย

Q. อยากได้มุมมองว่าเป้าหมายการลงทุนปั จจุบนั คืออะไร A. ถ้าตอบแบบกาปั้ นทุบดิน ก็ไม่มีเป้าหมายแล้ว มันก็ไปเรื่อยๆ ไม่รสู ้ ึกกดดันแล้ว 23 โจ ลูกอีสาน


ถ้าถามว่ามีเงินเท่าไรถึงจะพอ ผมเชื่อว่าเงินที่เพิ่มหลังๆ ไม่ได้เพิ่มความสุข มัน เพิ่มขึ้ นแต่ไม่มาก ผมบอกได้เลยว่าผมไม่ได้ทาเพื่อเงิน คนส่วนใหญ่หลงทาง ถ้าเรา คิดให้ดีตอ้ งการอะไรกันแน่ ที่จริงต้องการความสุข ไม่ใช่มีเงินเยอะๆแล้วจะมี ความสุข ตั้งใจว่าสุดท้ายแล้ว เงินส่วนนี้ จะคืนสู่สงั คม ช่วยเหลือคนที่ดอ้ ยโอกาส กว่า พูดตรงๆว่าคนที่มาเล่นหุน้ เป็ นระดับบนของสังคมแล้ว เกิดมาโชคดี ที่ได้ ช่วยเหลือคนอื่น เงินช่วยเหลือสังคม ช่วยเท่าไรก็ไม่พอ ถามว่าเราจะอยูใ่ นสังคม อย่างไร ถ้ารอบบ้านเราเป็ นสลัม แต่เราเป็ นคฤหาสน์หลังใหญ่อยูท่ ี่เดียว Q. คิด forward pe ปี นี้ 6 บาท ราคาหุน้ ปั จจุบนั 5 บาท ถ้าปี หน้าน่าจะเป็ น 9 บาท เป็ นพี่โจจะถือถึงปี หน้าไหม A. ขึ้ นกับเรามีทางเลือกตัวอื่นดีกว่านี้ หรือเปล่า ถ้าเราหาหุน้ ใหม่ที่ดีกว่าก็ขายไป แต่ถา้ ไม่ได้ก็ถือต่อ

คาถาม เจาะเรื่องการลงทุนหุน้ ของโจ ลูกอีสาน 1 ประเมินสถานการณ์ช่วงนี้ อย่างไร (ณ 24/3/56) ไม่สามารถเดาตลาดได้ ทานายไม่ได้หรอกว่า หุน้ จะขึ้ น หุน้ จะลง

2 AEC ส่งผลอย่างไรต่อตลาดหุน้ หรือไม่ ประเด็นนี้ ยังเลื่อนลอย จับต้องไม่ได้ ปั จจุบนั ธุรกิจก็มีการลงทุน มีการแข่งขัน ระหว่างประเทศอยูแ่ ล้ว แต่ถา้ เปิ ด AEC อาจจะสะดวกขึ้ นง่ายขึ้ น

24 โจ ลูกอีสาน


3 ตลาดไทยตอนนี้ ณ 24/3/56 ร้อนแรงไปไหม จริงๆ ร้อนแรงมา 4-5 ปี แล้ว การลงทุนให้ดูเป็ นรายตัว set ค่อนข้างแพง พี่โจไม่ สนใจดัชนี เน้นรายตัว ความผันผวนในตลาดหุน้ เป็ นเรื่องปกติ จะหวังว่าหุน้ จะขี้ น ขาเดียวเป็ นไปไม่ได้ ดังนั้นต้องมีความรูก้ ารลงทุนที่ถูกต้อง

4 เลือกหุน้ ดูอะไรบ้าง มีปัจจัยอะไรบ้างทีใ่ ช้พิจารณา ราคาหุน้ เคลื่อนไหวตามกาไร ดังนั้นพี่โจจะเน้นลงทุนในหุน้ ที่มีกาไรเติบโตสูงๆ เท่านั้น เจ้ามือตัวจริง คือ กาไร เราต้องประเมิน วิเคราะห์ ตัวอย่างเช่น SF พี่โจท ราบจากการคลิ๊กดูเวปบริษัท ดูการประชุมผูถ้ ือหุน้ แล้วพบว่า บริษัทจะเปิ ดเมกะบางนา และจะมีการเปลี่ยนนโยบายการทาบัญชี ทาให้กาไรจะ เพิ่มขึ้ น ก็ทยอยรับเรื่อยๆ ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีคนสนใจมาก พี่โจ อาศัยความขยัน พลิกหินทุกก้อน จึงพบ ตอนนั้นก็ประเมินมูลค่าได้ประมาณ 6 บาท ก็เริ่มทยอยรับ ประมาณ 3.2 บาท

5 แก่นของ VI 1 หุน้ คือธุรกิจ ไม่ใช่ราคาขึ้ นลงรายวัน ซึ่งจะเป็ นการแยก VI ออกจากลงทุนแนวอื่น เช่น ช่วงหุน้ ตก กิจการยังขายของได้ ยังขยายสาขาได้ ก็ไม่น่ากังวล 2 รูม้ ลู ค่าของสิ่งที่เราจะซื้ อ ตลาดหุน้ ไม่ได้มีป้ายบอกราคา เราต้องประเมิน ส่วน ใหญ่พี่โจจะใช้วธิ ี PE * eps 3 จะซื้ อเมื้ อมีส่วนลดมากเท่านั้น (มี MOS) 25 โจ ลูกอีสาน


4 แยกตัวเองออกจากนายตลาดให้ได้ นายตลาดประกอบด้วยคนส่วนมาก มี อารมณ์ขึ้นลง ควรใช้ประโยชน์จากนายตลาด 6 PE ที่เหมาะสมคิดอย่างไร หลักๆ เทียบกับ SET เช่น cpall มีอานาจต่อรองสูงในทุกๆ ด้านก็ควรมี PE มากกว่า SET (ให้พรีเมี่ยม) บางบริษัทที่กาไรไม่แน่ นอน ก็ให้ค่า PE ตา่ กว่า SET

7 เลือกหุน้ TOP-DOWN หรือ BOTTOM-UP พี่โจชอบ bottom up บริษัทที่ดี จะดีดว้ ยตัวมันเอง ไม่วา่ แนวโน้มภายนอกจะเป็ น อย่างไร

8 วิธีดูหนุ ้ ฟื้ นตัวดูอย่างไร ดูยาก ถ้าดูได้ถูก รวยมหาศาล แต่ถา้ ดูผิดจะแย่มาก เช่น SSI อย่าไปยุง่ พี่โจแชร์ ประสบการณ์เจอหุน้ KAMART เดิมขายเครื่องใช้ไฟฟ้ าขาดทุน แต่เริ่มเปลี่ยนธุรกิจ มาขายเครื่องสาอาง เริ่มมีกาไร และเห็นผูบ้ ริหารซื้ อหุน้ จานวนมาก เลยเริ่มสนใจ

9 หุน้ เติบโตดูอย่างไร หาสัญญาณเติบโตจากอะไร หุน้ เติบโตจะดูง่าย เช่น HMPRO CPALL เห็นจากการขยายสาขา แผนงานต่างๆ ขยายกาลังการผลิต แต่ตอ้ งซื้ อในราคาที่เหมาะสม หุน้ วัฎจักรยากที่สุด หุน้ ฟื้ นตัวยากรองลงมา หุน้ เติบโตดูง่ายที่สุด

26 โจ ลูกอีสาน


10 ณ เวลานี้ เลือกหุน้ อย่างไรดี ไม่วา่ เวลาไหนๆ หลักการไม่เปลี่ยน ซื้ อหุน้ ที่ตา่ กว่ามูลค่าที่ควรจะเป็ น PE ตา่ ยิง่ ดี ระวังหุน้ PE สูงๆ ตลาดลงมีโอกาสลงแรง มีปันผล มีการเติบโต หลีกเลี่ยงหุน้ ร้อน เช่น ค้าปลีกบางตัว พลังงานทางเลือกบางตัว

11 พี่โจมีหนุ ้ ในพอร์ตกี่ตวั ถือเงินสดไหม ตอนนี้ ถือ 20 ตัว ตัวหลัก 10 ตัว แต่แนะนาว่า ถ้าพอร์ตไม่ถึง 10 ล้าน อย่าถือ น้อยกว่า 3 ตัว อย่าถือตัวเดียว ประมาณ 5 ตัวกาลังดี ติดตามง่าย ตอนนี้ ถือเงิน สด 15 % มีประสบการณ์จาก subprime ช่วงนั้นไม่มีเงินสด เหมือนถูกมัดมือมัด เท้า สัดส่วนเงินสดมากน้อยขึ้ นอยูก่ บั เวลาไหนควรโลภ ควรกลัว ส่วน watch list มี ประมาณ 200 ตัว

12 สัญญาณวิกฤต มีอะไรบอกไหม ไม่รวู ้ า่ จะเป็ นระลอกคลื่นหรือพายุรา้ ย หน้าที่เราคือ เลือกบริษัทที่แข็งแกร่ง เติบโต มี MOS เหมือนเลือกเรือออกทะเล การทานายตลาดทาได้ยาก โดยเฉพาะที่ จะทานายได้ถูกต้องอย่างต่อเนื่ อง ไม่เช่นนั้นต้องมีคนรวยกว่า วอเรน บัฟเฟตต์

13 แชร์ประสบการณ์ช่วง Subprime

27 โจ ลูกอีสาน


ตอนต้นปี กาไร 66% พอเกิด Subprime กลางปี กาไรลดเหลือ 3% ตอนนั้นใช้มาร์จิ้ นด้วยประมาณ 10% มาร์จนด้ ิ้ านดีก็มี แต่ผลเสียมหาศาล คนใช้มาร์จนอาจจะมอง ิ้ โลกแง่ดีเกินไป แต่ควรระวังคาว่า ดวงแตก และช่วงนั้นไม่มีเงินสดเหลือ 14 เวลาเกิดวิกฤต จังหวะรับจะดูตอนไหน ดูยาก ถูกยังไงก็ไม่กล้าซื้ อ แต่เมื่อใดที่ P/BV เท่ากับ 1 น่าซื้ อ เพราะจะเท่ากับปี 40 และ subprime ที่จะเด้ง ณ จุดนั้น ปั จจุบนั ประมาณ 2.5-2.6 เริ่มแพง เพราะ เฉลี่ยประมาณ 1.9 (ตอนนี้ ควรกลัวมากกว่ากล้า)

15 ถือยาว VS เล่นรอบ เล่นรอบ ระวังโดนรอบเล่น เช่น cpall ขึ้ นแล้วพักแล้วขึ้ นต่อ ถ้าบริษัทเติบโตเรื่อยๆ โอกาสขายแทบไม่มี บางครั้งประเมินมูลค่าว่าแพงแล้ว แต่กิจการก็เติบโตขึ้ นเรื่อยๆ ก็ตอบปรับราคาตามขึ้ นเรื่อยๆ เป็ น dynamic

16 มองราคาตลาดมากๆ หวั ่นไหว ทาอย่างไรดี อย่าไปจ้องราคามาก เน้นดูกิจการ เช่น โรงพยาบาลขนาดใหญ่ ไปเทคโอเวอร์ โรงพยาบาลอื่นๆ มีผลต่อ eps ไหม

17 โบรคไหนวิเคราะห์ดี พี่โจชอบ Asia plus ภัทร กรุงศรี

28 โจ ลูกอีสาน


18 VI ขายหุน้ ตอนไหน ขายเมื่อเกินมูลค่าที่ควรจะเป็ น ขายเมื่อคิดผิด ขายเมื่อเจอตัวอื่นที่ดีกว่า

19 VI ดูกราฟไหม พี่โจดูราคาบ้าง แต่ไม่ได้ใช้เทคนิ คในการซื้ อขาย ระวังจะเกิดความสับสน VI มอง หุน้ เป็ นธุรกิจ เทคนิ คมองราคา ถ้าเอามาผสมธาตุไฟอาจแตกได้ เช่น สัปดาห์ที่ ผ่านมา เทคนิ คบอกขาย VI บอกซื้ อ สับสนมาก ตัวอย่างนักลงทุนที่ประสบความสาเร็จแบบ VI เห็นมากว่า มีจานวนมากกว่า ทาไม เราไม่เลือกเส้นทางที่คนส่วนใหญ่พิสจู น์วา่ สาเร็จ แล้วนาไปปฎิบตั ิ

20 หุน้ ประกันภัยดูอย่างไร รับเงินลูกค้ามาก่อน แล้วนาไปลงทุน บริษัทไหนลงทุนเก่งจะดี ประกันที่ขายผ่าน แบงค์ก็ดี ได้เปรียบเรื่องจานวนสาขา

29 โจ ลูกอีสาน


วิธีการปรับพอร์ต ผมปรับพอร์ตบ่อยๆครับ เหตุผลมักเป็ นอย่างนี้ 1.เจอหุน้ ตัวที่ดีกว่า แต่ไม่มีเงินก็ตอ้ งขายตัวที่ดอ้ ยที่สุดไป 2.ตัวที่ถือพื้ นฐานเปลี่ยน อันนี้ แน่ นอนก็ตอ้ งขายออก 3.หุน้ ขึ้ นจนราคาสมเหตุสมผล ผมก็อาจจะขายไปเพิ่มตัวที่ยงั ตา่ กว่ามูลค่า 4.หุน้ ลงผมก็ปรับพอร์ต ขายตัวที่ลงน้อยไปซื้ อตัวที่มีอพั ไซด์มาก ผมก็ปรับไปเรื่อยครับ ตามข้อมูลที่ได้รบั มา ไม่มีเกณฑ์ตายตัวว่าบ่อยแค่ไหน หรือกี่เปอร์เซนต์ของพอร์ต ตัง้ แต่ซื้อหุน้ มายังถือไม่เกิน 3 ปี เลยครับ เฉลี่ย เกือบๆปี ประมาณนั้น แต่เห็นด้วยครับว่าตลาดผันผวน เราสามารถใช้การปรับ พอร์ตหาประโยชน์จากความผันผวนนั้นได้ ผมยกตัวอย่างง่ายๆเช่น เราลงทุนใน กองทุนตราสารหนี้ และหุน้ ถ้าตลาดซบเซาหนักๆเราก็ควรย้ายเงินจากกองทุนมา ลงหุน้ ให้มากขึ้ น หรือเปลี่ยนไปถือหุน้ ตัวทีมีอพั ไซด์สงู กว่า หากตลาดเป็ นขาขึ้ นหา หุน้ ลงทุนได้ยาก อาจจะต้องเปลี่ยนไปถือตัวที่ defensive มีปันผลเยอะหน่ อยๆ ประมาณนี้ ครับ ปกตินักวิเคราะห์เป็ นคนมองโลกในแง่ดี ถ้าเชียร์ขายแสดงว่าอาจจะมีอะไร ไม่ดีจริงๆ เราอ่านแล้วก็ตอ้ งคิดเองว่าจริงหรือเปล่า (ผมเคยกาไรหุน้ ที่ นักวิเคราะห์เชียร์ให้ขายน้อยกว่าหุน้ ที่ เชียร์ให้ซ้ ือมาก) ถ้าเราเห็นว่าไม่ดีจริงก็ขาย ไปซื้ อตัวที่ดีกว่า อย่ามองในแง่ดีเพียงเพราะเรามีหนุ้ และอย่ามองในแง่ดีวา่ เดี๋ ยว ราคาก็จะกลับมา ราคาอาจจะกลับมาก็จริงแต่ไม่รเู้ มื่ อไหร่ เสียเวลา เสียโอกาสที่ จะ ซื้อหุน้ ดีๆตัวอื่ นๆครับ 30 โจ ลูกอีสาน


รูไ้ ด้อย่างไรว่ากาไรจะโต? ที่จริงถ้าเราติดตามข่าวสารของบริษัทสมา่ เสมอ ก็พอจะมองออกครับว่ากาไรจะโตหรือเปล่า หรือจะมองแนวโน้มเทรนการบริโภคก็ ได้แต่จะชัดเจนน้อยกว่า เพราะหลายบริษัทขายสินค้าเทคโนโลยีที่เป็ นเทรน แต่ กลับขาดทุนก็เยอะแยะ ผมยกตัวอย่างตอนนี้ ทุกคนก็รวู ้ า่ น้ ามันแพงดังนั้นสินค้า แทนทดน้ ามันน่ าจะได้รบั ผลดี เช่น ums lanna pttep banpu uvan cpi upoic lst สาคัญอยูท่ ี่วา่ ราคาหุน้ ตอนนี้ กับกาไรต่อหุน้ ในอนาคตมีส่วนต่างให้นักลงทุนทา กาไรหรือเปล่า

ผมมีหนุ ้ ที่ตดิ ตามผลกาไรทุกไตรมาสประมาณ 80 ตัว และหุน้ ที่ติดตามแบบ ห่างๆอีกประมาณ 120 ตัว รวมๆก็ครึ่งนึงของตลาดพอดี

ผมเชื่อว่ายิ่งติดตามมาก เราก็ย่ ิงรูพ้ ้ ืนฐานมากขึ้น ขอบข่ายความรูม้ ากขึ้น ยิ่ง ติดตามมากโอกาสที่จะเจอช้างเผือกก็สูง เวลามีขา่ วสารเข้ามาเราก็รูท้ นั ทีว่า เป็ นข่าวดีหรือไม่ดี ซื้อหรือไม่ซ้ ือ ไม่ตอ้ งเสียเวลาไปหาข้อมูลอีก

31 โจ ลูกอีสาน


วิธีการลงทุนของ พี่โจ ลูกอีสาน วิธีการเรียบง่ายที่ผมใช้ทามาหากินแทบ ทุกครั้ง จะเป็ นอย่างนี้ ครับ.. 1. หา P/E ที่เหมาะสมของแต่ละบริษทั บริษัทไหนที่คาดการง่ายหน่ อย กาไรโต เรื่อยๆ ปั นผลดี พวกนี้ จะ P/E สูงเหมือน พวกค้าปลีก โรงพยาบาล เป็ นต้น ส่วนพวกที่ดอ้ ยกว่า เช่น พวกรับเหมา ก็ให้ P/E ตา่ ๆ 2. หา P/E ในอนาคต(อันใกล้)ของบริษทั ที่เราสนใจ นี่ หมายความว่าเรา ต้องประมาณกาไรของกิจการได้ เราจะทาได้ตอ้ งหาข้อมูลเพือ่ ประเมินกาไรให้ ผิดพลาดน้อยที่สุด

หาส่วนต่างของ P/E ที่เหมาะสม และ P/E ที่จะเกิดขึ้ นจริง เช่น เรา ประเมินว่าบริษทั นี้ ควรมี P/E 15 เท่า แต่เราประเมินแล้วราคาตลาด วันนี้ หรือในอนาคตใกล้ๆนี้ P/E แค่ 7 เท่า นั ่นแสดงว่า ราคาตลาดต ่า กว่าที่ควรจะเป็ นถึง 50% (มี margin of safety 50%) อย่างนี้ น่ าสนใจ ครับ ปกติตา่ กว่าราคาที่ควรจะเป็ นซัก 30% ผมก็สนใจแล้ว

32 โจ ลูกอีสาน


ความเชื่อเรื่องหุน้ และการลงทุน *ระยะยาว หุน้ เป็ นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดเสมอ *ตลาดเหมือนฤดูกาลที่มีท้งั รุ่งเรืองตกตา่ หน้าหนาว-หน้าร้อน ขอให้เรา เข้าใจและหาประโยชน์จากความจริงข้อนี้ *นักลงทุนเอกของโลกทุกคน เคยผ่านวิกฤติมาแล้วหลายครั้ง หนักหนากว่า นี้ ก็มี ถ้าหยุดลงทุนก็คงไม่มีวนั นี้ แม้แต่ ดร.นิ เวศน์ ท่านเริ่มลงทุน 10 ปี ที่แล้ว ตอนที่ดชั นี ประมาณ 800 จุด ท่านได้ผลตอบแทน 30 เท่า ทั้งที่วนั นี้ ดัชนี ตลาดตา่ กว่า 10 ปี ที่แล้ว *ผมพูดเสมอๆว่า ตรรกะของการทากาไรจากหุน้ คือ ซื้ อถูกขายแพง คาถาม ต่อไป แล้วเราจะขายได้แพงตอนตลาดเป็ นแบบไหน และหากเราจะซื้ อของให้ได้ ราคาถูก เราจะซื้ อได้ตอนที่ตลาดเป็ นอย่างไร *การขายหุน้ และเลิกลงทุนตอนตลาดตกต ่า เป็ นการละเมิดศีลที่สาคัญ ที่สุดของนักลงทุน vi เพราะนัน่ หมายความว่า เราจะไม่มีโอกาสได้กาไรกลับคืน ตอนตลาดกลับไปรุ่งเรืองเลย *มองไปวันพรุ่งนี้ สัปดาห์หน้า เดือนหน้า ปี หน้า 5 ปี 10 ปี ข้างหน้า แล้วทุก อย่างในวันนี้ มันจะผ่านไป *อย่าให้อารมณ์ของตลาด มาหยุดความมุ่งมั ่นในการลงทุนของเรา อย่า ทาให้เราหมดกาลังใจที่จะทาการบ้าน ศึกษาหาความรู ้ *เราลงทุนวันนี้ ไม่ใช่เพื่อให้รวยพรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้ แต่เพื่อ 10 ปี 20 ปี ข้างหน้า 33 โจ ลูกอีสาน


คาแนะนาในการดูหุน้ 1. หามูลค่าที่เหมาะสมเสียก่อน พิจารณาจากปั จจัยต่างๆ 2. ดูราคาในตลาด ว่าสูงหรือตา่ กว่ามูลค่าที่เราคานวณได้ 3. ตัดสินใจ ซื้ อหรือขาย

ผมมองว่าที่หลักการลงทุน vi เติบโตเด่นได้รบั ความนิ ยมขึ้ นมา ไม่ใช่เพียง เพราะมีตวั อย่างคนที่ประสบความสาเร็จเท่านั้น แต่เป็ นเพราะความเป็ นเหตุเป็ น ผลของมัน คือหุน้ จะขึ้ นจะลงเพราะมีเหตุผลทางธุรกิจ ไม่ใช่หนุ ้ จะขึ้ นเพราะหลาย คนบอกว่าจะขึ้ น และมันจะลงเพราะหลายคนบอกว่ามันจะลง คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพิจารณาด้วยเหตุดว้ ยผลอย่างเดียว เพราะเป็ นคนก็ตอ้ ง มีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ผมก็ยงั เป็ น แต่ถา้ เราจะเป็ น vi ที่ประสบความสาเร็จ เรา ต้องพิจาณาด้วยเหตุผลธุรกิจเป็ นหลักครับ ส่วนเรื่องจาก ซื้ อเพิ่ม, cut loss ผมไม่กล้าแนะนา แต่ผมจาที่ใครคนหนึ่ งเคย พูดทานองว่า ลืมต้นทุนที่ซื้อมา คิดเสียว่าพอร์ตตอนนี้ เป็ นเท่าไหร่ หุน้ ในตลาดตัว ไหนน่ าซื้ อที่สุด ขายไปซื้ อตัวนั้น ถ้าเป็ นตัวเดิมก็ไม่ตอ้ งทาไร

34 โจ ลูกอีสาน


2 แรงทีผ่ ลักดันราคาหุน้ 1. กาไร >> เราเรียกรวมว่า พื้ นฐาน 2. ปั จจัยด้านจิตวิทยา – อารมณ์ของตลาด

ประเด็นแรก เป็ นสิ่งที่นักลงทุนแนว vi ต้องวิเคราะห์อยูแ่ ล้ว แต่ถา้ เข้าใจ ประเด็นที่สองด้วย ก็จะเพิ่มผลตอบแทนได้อีกครับ ผมตอบไม่ได้ชดั เจนว่า เราจะดู อารมณ์จิตวิทยาของตลาดได้อย่างไร(ยังไม่รจู ้ ริง) แต่ประมาณว่า ถ้าเราเข้าใจ อารมณ์ตลาด เรามักจะได้ซื้อหุน้ ที่ดี ที่ราคาไม่แพง เหมือนที่ Graham เปรียบเปรยเป็ นนิ ทาน Mr. Market ครับ นอกจากนั้น เราอาจพิจารณาจิตวิทยาของนักลงทุนในตลาดว่า เค้านิยมหุน้ พิมพ์แบบไหน ในอุตสาหกรรมใดทีก่ าลังจะฮอต หุน้ ตัวเล็กหรือตัวใหญ่ ราคาต ่าหรือราคาสูง เหล่านี้ เป็ นเกร็ดเล็กๆน้อยๆที่ช่วยเพิ่มผลตอบแทนได้ครับ เราลงทุนแนว vi แต่ พิจารณาไว้บา้ งก็ไม่เสียอะไร

และถ้ามองในแง่ผลตอบแทน ดูตวั เลขนี้ ครับ *หุน้ ตัวแรก เราซื้ อผ่านไป 1 ปี ขายที่ราคาเป้าหมายได้กาไร 60% ทั้งปี ได้กาไร 60% *หุน้ ตัวที่ 2 เราซื้ อผ่านไป 6 เดือนได้กาไร 40% ตามเป้าหมาย ขายออกไปซื้ อหุน้ ตัวที่ 3 ผ่านไป 6 เดือนได้กาไร 40% ตามเป้าหมายอีก รวมทั้งปี ได้ผลตอบแทน 96% 35 โจ ลูกอีสาน


หุน้ ตัวแรกให้ผลตอบแทนมากที่สุด แต่ถา้ ให้เลือกผมขอซื้ อหุน้ ตัวที่ 2-3 ดีกว่า นี่ คงคล้ายกับ turnover rate ในงบดุลครับ ยิ่งหมุนมากกาไรก็ยิ่งมาก(เรายังไม่พดู ถึงความเสี่ยงนะ) ผมติดตามพื้ นฐานของหุน้ ที่อยูใ่ น watch list เสมอๆ ผมมีหนุ ้ ที่ติดตามผลกาไรทุกไตรมาส ประมาณ 80 ตัว และหุน้ ที่ติดตามแบบห่างๆ อีกประมาณ 120 ตัว รวมๆก็ครึ่งนึ งของตลาดพอดี ผมเชื่อว่า ยิง่ ติดตามมาก เราก็ยงิ่ รูพ้ นฐานมากขึ้ ื้ น ขอบข่ายความรูม้ ากขึ้ น ยิง่ ติดตามมาก โอกาสที่จะเจอช้างเผือกก็สงู เวลามีข่าวสารเข้ามาเราก็รทู ้ นั ทีวา่ เป็ นข่าวดีหรือไม่ดี ซื้ อหรือไม่ซื้อ ไม่ตอ้ งเสียเวลาไปหาข้อมูลอีก ผมอ่านหนังสือพิมพ์หนุ ้ เกือบทุกฉบับ ทั้งรายวัน รายสัปดาห์ อ่านงานวิจยั ของ โบรคเกอร์ อีไฟแนนซ์ ข่าวตลาด และ tvi ประมาณนี้ ครับ อ่านแบบสแกน ถ้าเจอ หุน้ ที่น่าสนใจจะอ่านแบบละเอียด ไม่อย่างนั้นต้องใช้เวลาเยอะ คือถ้าเราติดตามข่าวสารบ่อยๆเราจะรูว้ า่ แหล่งข่าวไหนที่เราควรจะอ่านครับ ที่จริงใช้เวลาวันละ 2 ชม. ก็น่าจะเพียงพอสาหรับการลงทุนแบบมุง่ เน้น (ผลตอบแทน) หรือวันละ 1 ชม. สาหรับนักลงทุนที่ลงทุนหุน้ แบบการออม ผมเคยทางานประจามาก่อน ยอมรับว่ามีขอ้ จากัดเยอะกว่าคนที่ลงทุนเต็ม เวลา และไม่สนับสนุ นให้ทุกคนลาออกเพียงเพื่อจะได้มีเวลาหาข้อมูล แต่เราก็ควร ให้เวลากับการลงทุนตามสมควร เพราะการใช้เวลาวันละเล็กละน้อยหลังเลิกงาน หาข้อมูล อาจจะเปลี่ยน สถานะภาพทางด้านการเงิน เปลี่ยนชีวติ คนๆนึ งได้เลย ในขณะที่ถา้ ทางานประจา อย่างเดียวมีโอกาสน้อยกว่ามาก 36 โจ ลูกอีสาน


ผมยังจาได้ดร.นิ เวศน์เคยเขียนบทความทานองว่า เราใช้เวลาส่วนใหญ่ วันๆไปกับเรื่องที่ไม่สาคัญ และให้เวลาน้อยเกินไปกับเรื่องทีสาคัญที่สุด

การบริหารพอร์ตโฟลิโอและจิตวิทยาการลงทุน • การจัดพอร์ตมีความสาคัญเท่ากับ stock selection ถ้าจัดการไม่ดีมีโอกาส เสียหายชัดเจน “อะไรก็ตามที่เสี่ยง อย่าทา” • พอร์ตอยูใ่ นชื่อคนอื่น Ex. ชื่อญาติ, แฟน(ภรรยา ยังพอไหว มีอะไรก็หารครึ่ง) • การถือหุน้ ตัวเดียว คนที่ถือคิดว่าไม่เห็นเป็ นอะไร ถ้ามีปัญหาก็ขายทัน แต่บาง เหตุการเช่น ผูบ้ ริหารเสียชีวติ การตกแต่งบัญชีฉอ้ ฉล มันขายไม่ทนั ตลาดขึ้ น SP เช่น SECC มีรุ่นพี่ที่ซื้อขายไว ไม่เคยติดหุน้ ถือหุน้ ตัวนี้ อยู่ 10 ล้านบาท ตลท. ประกาศ SP ตอนนี้ ยังติดหุน้ ตัวนี้ อยูเ่ ลย ซื้ อขายไม่ได้ • ใช้เงินกู ้ ใช้ Margin เป็ นการทาให้เราอ่อนแอโดยไม่จาเป็ น แม้คิดถูกก็อาจ ทาให้เราขาดทุนได้ เช่น เจอหุน้ ตัวหนึ่ ง 5 บาท มูลค่าแท้จริง 10 บาท เราซื้ อ เต็มที่ + margin ปราฏกว่าเราคิดถูกครับ มันไปที่ 10 บาทจริง แต่ระหว่างทาง 5 บาทมันลงไป 3 บาทก่อน โดน force sell ชีวติ การลงทุนจบเห่เลย • Ex. มีพี่คนหนึ่ งมาขอคาปรึกษา ซื้ อหุน้ ตัวหนึ่ งลงไป 20%, ซื้ อตัวเดียว, ใช้ margin, อีก 2 เดือนข้างหน้า(ต.ค.54) ต้องใช้เงิน หลังจากนั้นปรากฏโดนน้ าท่วม หลังจากนั้นผมก็ไม่เจอพี่คนนั้นอีก • คนที่ทาสาเร็จก็มี แต่คนที่ตายไม่ได้มาพูด 37 โจ ลูกอีสาน


การกระจายการลงทุน(ถือหุน้ หลายตัว) • รับประกันได้ว่าเราไม่เจ๊งแน่นอน ถ้าถือหุน้ 5 ตัวแล้วผิดหมด ก็ไม่ตอ้ งเล่นหุน้ แล้ว • การถือหุน้ หลายตัวสุดท้ายจะได้ค่าเฉลี่ย แต่ถา้ ฝี มือดีผลตอบแทนก็จะดีกว่า ตลาด • หุน้ แม้จะมี upside 50% แต่มนั ไม่ได้ขึ้นพร้อมกัน หากเราเผลอไปคิดผิดซื้ อ หุน้ ที่ตอ้ งรอ 2-3 ปี กว่าจะขึ้ น ผลตอบแทนจะแย่ • “ผมพอใจทีจ่ ะถูกพอประมาณ ดีกว่าผิดจังๆ” Anonymous • จะมีพอร์ตที่ตา่ กว่ามูลค่าเสมอและขายหุน้ ที่เกินมูลค่า • ถ้าเป็ นหุน้ Super stock อาจถือตลาดไปก็ได้ • สามารถลงทุนในหุน้ ขนาดกลาง/เล็กได้ • ขยายขอบเขตความรู ้ ยิง่ รูห้ นุ ้ มากเท่าไรก็ได้เปรียบ

ข้อเสีย • ไม่ใช่วธิ ีที่ทากาไรสูงสุด • เสียเวลามากกว่าในการหาความรู ้ • ต้องซื้ อๆขายๆด้วย

38 โจ ลูกอีสาน


พอร์ตควรมีหนุ ้ กี่ตวั ? • มีเวลาติดตามหุน้ มาก ถือมากตัวได้ • “ต้องเข้าใจที่ไปที่มาของบริษัท ถ้าไม่เข้าใจอย่าซื้ อเด็ดขาด” • ในทุกกรณี ไม่ควรตา่ กว่า 3 ตัว ถ้าหุน้ 2 ตัว น้อยไปเก้าอี้ 2 ขาหักไปขาแล้วนัง่ ไม่ได้ • ขนาด 1 แสน – 1 ล้าน 3-5 ตัว • 1 – 10 ล้าน 4-6 ตัว • 10 ล้าน – 100 ล้าน 6-8 ตัว

ควรถือเงินสดในพอร์ตเท่าไร? • เมื่อก่อนผมถือ 100% แต่หลังจากเจอวิกฤติ ผมก็ถือ 10-15% เพราะไม่รวู ้ า่ โอกาสจะมาเมื่อไร เหมือน warren ที่ถือเงินเอาไว้ มีวกิ ฤติเมื่อไรได้ใช้ทุกครั้ง peter lynch ก็เหมือนกัน • ถือเงินสดส่วนใหญ่ได้ หากไม่เห็นโอกาส • การเก็งตลาด เข้าๆออกๆ ไม่ใช่ความคิดที่ดี ทางปฏิบตั ิทาได้ยาก วิกฤติ subprime พูดมา 2-3 ปี กว่าจะลง ถ้าเราคิดว่ามันจะลง แต่ไม่ลง แล้วขึ้ นทา new high วันแล้ววันเล่า ถามว่าการตกรถ เป็ นวิกฤติหรือเปล่า? แถมเป็ นวิกฤติที่เราสร้าง ขึ้ นมาเองด้วย

39 โจ ลูกอีสาน


พอร์ตที่พร้อมรับวิกฤติ (ถ้าจัดพอร์ตแบบนี้ไม่มีวนั ตาย) • ต้องมีเงินสดอยูเ่ สมอไม่ตา่ กว่า 10% • ไม่มีเงินกู ้ (ทาให้พอร์ตอ่อนแอโดยไม่จาเป็ น) • Warren บอกว่า สิ่งที่ทาให้คนเปลี่ยนไป คือ เหล้า การพนัน ในแวดวงการลงทุน สิ่งที่ทาให้เราอ่อนแอที่สุด คือ หนี้ เพราะเจ้าหนี้ ตอนฝนไม่ตกเค้ายืน่ ร่มมาให้เรา พอฝนตกเค้าดึงร่มกลับ

การซื้อเฉลี่ยขาลง • ถ้ามี MOS อยู่ ก็แนะนาให้ซื้อ แต่พนฐานกิ ื้ จการต้องไม่เปลี่ยนแปลงเท่านั้น • การทยอยซื้ อเป็ น step เพราะราคาอาจลงก็ที่เราคาด • เมื่อเจอวิกฤติเศรษฐกิจ จาได้ตอนนั้นใจกล้า 10% เราเข้าไปซื้ อแล้ว มันดันลง ไป 40% มีดยังไม่ตกถึงพื้ นอย่าไปซื้ อ • จะรูไ้ ด้อย่างไรว่ามีดตกถึงพื้ นแล้ว ต้องใช้ขอ้ มูล อย่าใช้อารมณ์ เข้าไปดูขอ้ มูล ตลาดหลักทรัพย์ P/BV ของตลาดหลักทรัพย์เฉลี่ยอยูท่ ี่ 1.9 จุดนี้ คือไม่ถูกไม่พอ เช่น ตอนนี้ 2.2-2.3 แพงพอสมควรแต่ยงั ไม่ฟองสบู่ ตอนวิกฤติ 40/ subprime ของ p/bv ตลาด เหลือประมาณ 1 เท่า ผมคิดว่าปลอดภัยสูงแล้ว • PE เอากาไรปี เดียวมาคิด ถ้าเจอวิกฤติกาไรหายหมด แต่ PBV เป็ นผลรวมของ หลายๆปี ตั้งแต่ต้งั กิจการจะมีความผันผวนตา่ กว่า 40 โจ ลูกอีสาน


• ต้องมีต้งั limit ไว้ในใจเสมอ เช่น พี่โจ ต่อให้หนุ ้ ดีแค่ไหนจะซื้ อไม่เกิน 40% อาจ มีสิ่งที่เราไม่รู ้ หรือคิดผิด

ทาอย่างไร เมื่อเจอหุน้ ตีแตก? • รีบซื้ อให้เยอะที่สุด แต่ไม่เกิน 40%

พอร์ตควรกระจายหลายอุตสาหกรรมหรือไม่? • แน่ นอน เป็ นเรื่องที่ดี • Ex. กระจายในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน บริษัทผลิตไบโอดีเซล พลังงานลม เอทานอล พี่งพาปั จจัยเดียวกันหมด ควรกระจายอุตสาหกรรมด้วย ไม่ใช่แค่บริษัท • ถือกลุ่มเดียวกัน Ex. ค้าปลีก แต่เป็ นค้าปลีก อุปโภคบริโภค ค้าหนังสือ ตกแต่ง บ้าน แบบนี้ ถือเป็ นคนละอุตสาหกรรม

ถือหุน้ ใหญ่หรือเล็ก? • ถ้าใครถามแบบนี้ คือมี bias มันไม่ใช่ประเด็น • ผมเคยได้ยนิ งานวิจยั ใน us ว่าหุน้ ตัวเล็กให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเสมอ • หากหุน้ ตัวเล็กผลตอบแทนดีกว่าแค่ 4% แต่ถา้ ในระยะยาวมีผลมาก • หุน้ ตัวเล็กถูกละเลย คนติดตามมีน้อย • หุน้ ตัวเล็กโอกาสเติบโตได้มาก ตลาดยังไม่อิ่มตัว 41 โจ ลูกอีสาน


• หุน้ ที่กาลังเปลี่ยนสถานะ ex. สมมติหนุ ้ ตัวนั้นเติบโตมาเรื่อยๆ กาลังจะเข้า Set100, set50 สถาบันซื้ อได้ จะทาให้หนุ ้ ขึ้ นเร็วมาก

ดัชนีผลตอบแทนรวม 2518-2554 (37 ปี )? • หุน้ ขึ้ น 80 เท่า (ตกปี ละ 12% ทบต้น) • พันธบัตร ขึ้ น 25 เท่า • เงินฝากประจา 10 เท่า ในช่วง 10 ปี หลังขึ้ นน้อยมาก ตา่ กว่าเงินเฟ้ อด้วยซ้า • ทองคา 8 เท่า • อนุ ภาพปั นผล ถ้านาเข้าไปรวมอยูใ่ นดัชนี ไทยจะอยูท่ ี่ 6000-7000 จุด

ทางเลือกในการสร้างพอร์ตการลงทุน? • หุน้ ในผลตอบแทนสูงสุด แต่ความผันผวนสูงมาก • พันธบัตร ผมคิดว่าเป็ นสิ่งที่ hedging เงินเฟ้ อได้ดีที่สุด • เงินฝากผลตอบแทนตา่ กว่าเงินเฟ้ อ ฝากไว้ขาดทุน และต่อไปรัฐบาลไม่ค้า ประกัน • ทองคาให้ผลตอบแทนตา่ สุด แต่นามาใส่ได้ • ที่ดิน สินทรัพย์ที่ supply จากัด แต่ demand เพิ่ม จะให้ผลตอบแทนที่ดี แต่ตอ้ งมี ความรูค้ วามเข้าใจระดับหนึ่ ง 42 โจ ลูกอีสาน


• บ้านเช่า/คอนโด ข้อดีบา้ นเช่าคือได้ค่าเช่าด้วย ได้ที่ดินด้วย แต่คอนโดได้คา่ เช่า แต่มลู ค่าเพิ่มน้อย ที่ผ่านมาคอนโดดี เพราะรถไฟฟ้ ามากระจุกตัว แล้ว supply มัน จากัด แต่เมื่อไรที่รถไฟฟ้ า 10 สาขา สร้างเสร็จ supply condo จะเพิ่มมาก ต่อไป จะไปปล่อยเช่าแพงก็ยาก

พอร์ตสาหรับคนทั ่วไป? • ตา่ กว่า 40 ปี เน้นลงทุนหุน้ ส่วนใหญ่ ถ้าไม่มีเวลาให้ซื้อกองทุน LTF ที่ลงทุนใน หุน้ เป็ นหลัก มีบลจ.บางแห่งที่บริหารได้ดี • มากกว่า 40 ปี ไม่ควรมีหนุ ้ เกิน 60% ที่เหลือตามความถนัดและความชอบ

พอร์ตลงทุนเชิงรุก? • ลงทุนในหุน้ เป็ นส่วนใหญ่เท่านั้น ระยะยาวผลตอบแทนดีสุด • ถือหุน้ ขนาดกลางและเล็ก • เหมาะกับนักลงทุนอายุน้อย รับความเสี่ยงได้มาก • เหมาะกับนักลงทุนที่อุทิศตัว เวลาให้กบั การลงทุน • หวังผลตอบแทน 25-30% ต่อปี • ถ้าซัก 10 ปี น่ าจะพอได้ แต่ยาวกว่านั้นจะยากแล้ว • ตัวอย่างถือพอร์ต 7 ตัว ในหุน้ กลาง/เล็ก : siri, sat, ktc, kamart, bland, bigc, hmpro 43 โจ ลูกอีสาน


พอร์ตลงทุนเชิงรับ? • ถือหุน้ ไม่เกิน 50% กระจายลงทุนตราสารหนี้ ทอง อสังหา • หุน้ blue ship กับ ขนาดกลาง • เหมาะกับนักลงทุนมีอายุ • ผลตอบแทน 10-15% • ตัวอย่างถือพอร์ต 9 ตัว ในหุน้ ใหญ่ : ptt, scc, advance, scb, bgh, cpf, cpall ,ratch, cpn

พอร์ตวัดดวง? • ลงทุนในหุน้ อย่างเดียว • ใช้ leverage • ถือหุน้ น้อยตัว • มีเวลาเกาะติดข่าวสาร cut loss ได้ทนั • เหมาะกับนักลงทุนที่ลม้ ได้ • หวังผลตอบแทน 50% ขึ้ นไป • ย่นระยะเวลาการลงทุน แต่ไม่ควรใช้นานเกินไป ธรรมชาติแจกการ์ดแห่ง ความโชคดีมาให้ เหมือนคนขับรถด้วยความเร็ว 200 km/hr ไปทางานทุกวัน อาจ มีอยูว่ นั อาจที่กลับไม่ถึงบ้าน 44 โจ ลูกอีสาน


• ข้อดี บางคนเงินต้นไม่เยอะ ถ้าใช้วธิ ีธรรมดาผลตอบแทนไปช้า ถ้าเรารอดจะ สามารถเริ่มต้นได้เร็ว • ตัวอย่างถือพอร์ต 1 ตัว : siri-w2

ติดตามหุน้ อย่างไรจากหุน้ ทั้งตลาด 550 ตัว? • ใครบอกผมรูจ้ กั หุน้ เยอะ จริงแค่บางส่วน ผมเลือกติดตาม และละเว้นบางตัว • หุน้ ที่ผมไม่ติดตาม ไม่เข้าใจที่มาที่ไปกาไรของรายได้ ไม่สามารถหาข้อมูลได้ เช่น หุน้ sawang ต่อให้อ่าน 56-1 ผมก็ไม่รอู ้ ยูด่ ีวา่ เค้าจะเติบโตยังไง • ใครถือ ptt ผมถามว่ารายได้มาจากไหน ถ้าตอบขายน้ ามันไม่ใช่แล้ว ไม่มีผลเลย • ไม่ลงทุนในหุน้ ปั ่น • ไม่ลงทุนหุน้ ไร้อนาคต อย่าเข็นครกขึ้ นภูเขา สิ่งทอ รองเท้า • ไม่ลงทุนหุน้ ระเบิดเวลา สัมปทาน สัญญาชี้ เป็ นชี้ ตาย เช่น rpc ถ้าปตท.ไม่ ขายน้ ามันให้จบเลย , bts สัมปทาน, upoic มีสญ ั ญาเช่าที่ดิน • พวกสัญญาเหล่านี้ ถ้ายังอีกนาน ก็ยงั มีเวลาเก็บเกี่ยวกาไร ผลกระทบก็อาจลดลง แต่ถา้ rpc ชัดเจนว่าสัญญามีความเสี่ยงมาก • ผูบ้ ริหารไม่มีธรรมาภิบาล สังเกตได้วา่ ราคาไปก่อนข่าวจะมา มี insider หรือ ราคาลงไปก่อน เกมพวกนี้ เสียเปรียบ insider อยูแ่ ล้ว • ผูบ้ ริหารไม่ค่อยให้ข่าว แบบนี้ เราไม่รเู ้ สียเปรียบ

45 โจ ลูกอีสาน


• Ex. หุน้ เสี่ย ก. พื้ นฐานธุรกิจก็ใช้ได้ แต่ไม่เคยปั นผล เพราะต้องเผื่อเงินไว้สาหรับ ธุรกิจ และอีกอย่างเก็บเงินไว้ในบริษัทไซฟ่ อน ตัดค่าใช้จา่ ย ซื้ อขายสินค้าที่แพงกว่า ความเป็ นจริง ถ้าคนจะโกงยังไง กลต.ก็ช่วยไม่ได้ ง่ายที่สุดคือหลีกเลี่ยงดีกว่า

ซื้อหุน้ ให้กาไร ผมพยายามมองอะไรให้ง่ายๆเข้าไว้ครับ คือเรื่องซื้ อหุน้ อย่างไรให้กาไร หรือพูดอีกอย่างว่าซื้ อหุน้ อะไรที่ราคาขึ้ น ถามต่อไป ว่า อะไรที่ drive ราคาหุน้ ? บางคนบอกว่าก็มีคนซื้ อมากกว่าคนอยากขายน่ ะซิ ก็ไม่ผิดครับ แต่การที่มีคนอยากซื้ อมากกว่าคนอยากขายเค้าก็คงมีเหตุผลซึ่งน่ าจะ เป็ นอย่างนี้ ครับ..

1.ซื้ อเพราะหุน้ ตัวนั้นราคาต ่ากว่าปั จจัยพื้ นฐาน 2.ซื้ อเพราะคาดว่าราคาจะขึ้ น ประเด็นนี้ หลากหลายหน่ อย มีคนมา multipulate ราคาให้สงู ขึ้ นก็นับเป็ นข้อนี้

แน่ นอนว่าเราสนใจข้อแรก ข้อที่สองนี่ เราควบคุมอะไรไม่ได้ ไม่มีแต้มต่อเลย เราก็ไม่ควรจะไปสนใจ ข้อแรกก็แน่ นอนว่าพื้ นฐานของกิจการประเด็นใหญ่คือกาไร ถ้าเป็ นกาไรจริงๆไม่มีกลการบันทึกบัญชีซ่อนเร้น นักลงทุนทุกคนสนใจกาไร 46 โจ ลูกอีสาน


กาไรนี่เองที่ drive ราคาหุน้ เราก็หาหุน้ ที่กาไรจะเพิ่มซิครับ ถ้าหาเจอแล้วก็ ตามมาดูที่ราคาว่าตอบรับกับกาไรในอนาคตหรือยัง ถ้ายังเราก็หาประโยชน์จาก ส่วนต่างนั้น ทาให้ตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้ น สรุปอีกครั้งว่า ราคาหุน้ ขึ้ นอยูก่ บั กาไรที่กิจการทามาหาได้

น้องฮงถามต่อว่าเอ ถ้าเราสนใจกาไรรายปี รายไตรมาสอย่างนี้ มิกลายเป็ น นักเก็งกาไรเหรอ แถมไม่ทาตัวเป็ นเจ้าของกิจการ เรื่องนี้ ผมไม่มีไอเดีย แต่ผมลอง มองย้อนกลับไปดูนักลงทุนที่ประสบความสาเร็จมากๆอย่างวอร์เรน ดร.นิ เวศน์ หรือเสี่ยป. ทุกคนรูว้ า่ ทั้งสามท่านประสบความสาเร็จมาก มีเงินลงทุนมากถึงมาก ที่สุด ทุกคนดูหุน้ ที่ท่านลงทุน แล้วสรุปเอาว่าท่านรวยมากจากหุน้ แบบนี้ ประเภทนี้ แต่ประเด็นที่ผมอยากตั้งคาถาม คือท่านลงทุนในหุน้ แบบนี้ มาตั้งแต่ตน้ หรือเปล่า หรือเพิ่งมาลงทุนเมื่อท่านมีเงินลงทุนมากแล้ว -ผมลองจินตนาการตัวเองว่าถ้ามีเงินระดับหลายร้อยล้าน หรือถึงล้านล้าน ซึ่งแน่ นอนว่ามีขอ้ จากัดในการย้ายเงินทุน เวลาลงทุนก็ลงทุนในหุน้ เล็กๆไม่ได้ ต้อง ลงทุนในหุน้ ขนาดใหญ่ที่เติบโตอย่างยัง่ ยืน ซึ่งแน่ นอนว่าต้องมี dca แม้จะรูว้ า่ ได้รบั ผลตอบแทนไม่มากนักก็ตาม มีเงินพันล้านทาใด้แค่ปีละ 10% ก็คือ 100 ล.ใช้ ชาตินึงก็ไม่หมด แต่ถา้ เรามี 100,000 ทาให้ 10% คือ 10,000 บ. ซึ่งเอาไปทา อะไรแทบไม่ได้เลยในยุคของแพงอย่างนี้ นัน่ คือนักลงทุนที่มีชื่อเสียงลงทุนในหุน้ แบบที่เราเห็น เป็ นเพราะสถานการณ์บงั คับกลายๆให้ตอ้ งลงทุนอย่างนั้น ได้ ผลตอบแทนตา่ ๆแลกกับความยัง่ ยืน มัน่ คง มองในอดีตวอร์เรนทาผลตอบแทนได้ สูงถึงปี ละ 30-50% ซึ่งคงไม่ใช่เพราะลงทุนในหุน้ ที่มี dca น่ าจะเป็ นหุน้ ก้นบุหรี่ มากกว่า ดร.นิเวศน์ก็เช่นกัน ท่านกาไรในหุน้ ส่งออกหลังลอยตัวเงินบาท ไม่ใช่ หุน้ ที่มี dca แบบที่เรานิยมในปั จจุบนั สุดท้ายคือ เสี่ยป. ท่านประสบ 47 โจ ลูกอีสาน


ความสาเร็จจากหุน้ เก็งกาไร พอรวยท่านก็ลา้ งมือในอ่างทองคา ไม่ตอ้ งไปเสี่ยง กับหุน้ เก็งกาไรและเสี่ยงทางกฎหมายกับกลต. ได้ผลตอบแทนปี ละ 10-15% ก็ใช้ ไม่หมดแล้ว ถามว่านักลงทุนรายย่อยทัว่ ไป มีขอ้ จากัดอย่างนักลงทุนรายใหญ่หรือเปล่า จาเป็ นหรือที่เราต้องลงทุนเหมือนกับนักลงทุนพอร์ตใหญ่ ทาไมไม่ใช้จุดแข็งของนัก ลงทุนพอร์ตเงินน้อยเพื่อสร้างความได้เปรียบ เรากาลังเห็นช้างขี้ ขี้ ตามช้างอยูห่ รือ เปล่า สรุปว่าตอนนี้ ผมชอบหุน้ ทีร่ าคาต ่ากว่าพื้ นฐาน ไม่เกี่ยงว่าจะมี dca หรือไม่ จะยั ่งยืนหรือระยะสั้นไม่สนใจ และผมก็ไม่คิดว่า เป็ นความผิดอะไรที่คน พอร์ตใหญ่ๆจะแนะนาให้ลงทุนในหุน้ ที่มนั ่ คง มีdca ต้องวิเคราะห์ five forces เค้า ก็ถูกของเค้า เราก็ถูกของเรา ลงทุนให้เหมาะกับสถานะของตัวเราเองดีที่สุดครับ

ลาดับความสาคัญในการซื้อหุน้ 1. ความโลภจะทาให้ผมคิดหาทางที่ได้กาไร นัน่ คือซื้ อหุน้ แล้วต้องขึ้ น และตัวที่ผลักดันราคาหุน้ ได้ดีที่สุดคือกาไรของกิจการ สรุปว่า ขั้นแรก ผมดูก่อนว่า กาไรจะเพิ่ มขึ้นหรือเปล่า แล้วมาดูวา่ ราคาตอบรับกับกาไรที่ อาจจะเพิ่ มหรือยัง ถ้า ยังผมก็จะศึกษาต่อ ถ้าราคาตอบรับไปแล้ว ผมก็ผ่านไป การดูวา่ ตัวไหนจะกาไร เพิ่มก็ตอ้ งศึกษาและคาดการณ์บนพื้ นฐานของข้อมูลที่ได้ครับ 2.ความกลัวทาให้ผมคิดถึงทางทีจ่ ะเสีย หากทุกอย่างไม่เป็ นไปตามคาด ผมก็จะไปดูความเป็ นไปได้ที่คาดว่ากาไรจะเพิ่ มขึ้น จะทาได้จริงหรือเปล่า หรือเป็ น เพียงคาหวานๆของผูบ้ ริหาร รวมถึงดูงบการเงินว่าดีหรือเปล่า กาไรเพิ่มต้อง 48 โจ ลูกอีสาน


แลกกับการเพิ่มทุนหรือไม่ ดูปันผล ดูอตั ราส่วนทางการเงิน กระแสเงินสด ดู ผูบ้ ริหาร ถ้าผมคิดผิดไป ราคาหุน้ จะตกหนักหรือเปล่า รวมๆน่ าจะเรียกว่าผมดู margin of safety ครับ

ความเสี่ยงที่ทาให้หนุ ้ ตกแบบแรงๆ ผมลองจาแนกความเสี่ยงที่ทาให้หนุ ้ ตกแบบแรงๆเป็ น 2 แบบดังนี้ ครับ.. 1.ความเสี่ยงที่เรามีเวลาปรับตัว เช่น การเกิดเศรษฐกิจตกตา่ การเปลี่ ยนแปลง เทคโนโลยีที่มีผลต่อกิจการ การเปลี่ ยนแปลงของพฤติกรรมผูบ้ ริโภค ความเสี่ยง เหล่านี้ ไม่ได้เกิดทันทีทนั ใด หากเราติดตามข้อมูล ข่าวสาร ก็พอจะมีเวลาปรับตัวได้ ครับไม่วา่ จะถือหุน้ ในกิจการแบบใด มีหรือไม่มี dca

2.ความเสี่ยงแบบปั จจุบนั ทันด่วน ผมยกตัวอย่างในอดีตให้เห็นชัดเจน เช่น มาตรการ 30% มาตรการลอยตัวค่าเงิน เหตุการณ์9-11 การปฎิวตั ิรฐั ประหาร เหล่านี้ เกิดทันทีทนั ใด ไม่มีเวลาตั้งตัว ใครถือหุน้ อะไรก็ราคาลดลง การรับมือที่ ดี ที่ สุดอย่างที่ ดร.นิ เวศน์แนะนาคือการไม่ตอ้ งทาอะไรเลย เหตุการณ์เหล่านี้ ส่งผล กระทบความรูส้ ึกด้านจิตใจ แต่มีผลกระทบต่อกิจการน้อยมาก

มีความเสี่ยงบางอย่างที่เราอาจจะไม่เคยเจอ แต่ถา้ เกิดจะส่งกระทบต่อชีวติ ความ เป็ นอยูข่ องมนุ ษย์ในวงกว้าง เช่นภัยธรรมชาติที่รา้ ยแรงมากๆ อุบตั ิเหตุจาก เทคโนโนโลยีที่มนุ ษย์สร้างขึ้ น โรคระบาดร้ายแรงในวงกว้าง ความเสี่ยงเหล่านี้ ยัง ไม่เคยเกิดขึ้ น แต่เรารูว้ า่ สักวันจะเกิดขึ้ น ทางรับมือที่ดีทีสุดก็คงเหมือนเดิมคืออยู่ 49 โจ ลูกอีสาน


เฉยๆ เพราะถ้าถึงวันนี้ จริงๆ เราจะยังอยูห่ รือเปล่ายังไม่รู ้ ระบบเงินตราก็อาจล่ม สลายไปแล้ว

ในชีวติ การลงทุนแบบ vi ซึ่งส่วนใหญ่จะมีเงินลงทุนในหุน้ ตลอดเวลา ดังนั้นจึงมี โอกาสที่จะประสบกับเหตุการณ์ต่างๆที่จะทาให้ตลาด ราคาหุน้ ตกตา่ หนทาง รับมือที่ดีท่ีสุดนอกเหนือจากการ"เตรียมใจ" ผมมีความเห็นเล็กๆน้อยๆอย่างนี้ ครับ

-ถือหุน้ ที่มี margin of safety งบการเงินดีๆ พีอีต ่าๆ ปั นผลสูง แม้จะประสบ ปั ญหา กิจการก็ยงั อยูร่ อดได้ หุน้ ที่มี dca ที่ตลาดให้ค่าความนิ ยมซื้ อขายที่พีอี สูงๆ คนถืออาจจะขาดทุนหนักก็ได้นะครับ หากเจอเหตุการณ์ตลาดซบเซา คุณสุมา อี้ เพื่อนเราเคยโพสต์ทานองว่า "เราไม่รวู ้ า่ พายุจะมาเมื่อไหร่ ทางรับมือที่ดีที่สุดคือ ให้เลือกเรือที่แข็งแรงที่สุด"

-หุน้ ไม่เข้าใครออกใคร ถือหุน้ ดีได้กาไร ถือหุน้ ไม่ดีก็ขาดทุน หุน้ บางตัวเราถือ มายาวนาน มีความผูกผัน เกิดเหตุการณ์ในแง่ลบที่ทาให้พนฐานเปลี ื้ ่ยนไป อคติอา จะทาให้เราไม่รบั รูค้ วามจริง ยังผูกผันกับเรื่องราวในอดีต กว่าจะรูต้ วั ก็ขาดทุนหนัก เสียแล้ว ข้อได้เปรียบของผูถ้ ือหุน้ รายย่อยคือถ้าหุน้ ไม่ดี เราขายทิ้ งได้ ไม่เหมือนผู้ ถือหุน้ ใหญ่ที่เป็ นเจ้าของนะครับ อยากขายก็ขายไม่ได้ หุน้ เยอะไม่มีใครซื้ อ ความ คล่องตัวในการซื้ อขายหุน้ คือข้อได้เปรียบของผูถ้ ือหุน้ รายย่อยครับ

50 โจ ลูกอีสาน


-หลีกเลี่ยงการขายหุน้ ตอนที่ตลาดตกต ่า เวลาราคาหุน้ ลง เราจะไม่สบายใจและ หาทางที่จะกาจัดความไม่สบายใจนั้น โดยการขายหุน้ ตอนตลาดขาลง นัน่ เท่ากับว่า ขาดทุนที่ยงั ไม่รบั รูจ้ ะกลายเป็ นขาดทุนจริงๆ หรือกาไรที่เคยมากๆกลายเป็ นเท่า ทุน หลายคนหวังว่าพอขายไปแล้วราคาหุน้ จะลงไปอีก ค่อยไปซื้อคืน แต่ความเป็ น จริงหลายครัง้ ขายไปแล้วราคาไม่ลง หรือลงไปอีกแต่ยงั ไม่กล้าซื้อคืน พอหุน้ เริ่ ม กลับตัวก็ยงั ไม่กล้า มากล้าตอนที่ ราคาหุน้ ขึ้นมามากแล้ว หลายครั้งมากกว่าราคาที่ ขายไป

แม้เราถือหุน้ ที่ดี แต่เลือกขายผิดจังหวะ เท่ากับว่าเราซื้ อแพง ขายถูก คนที่กาไรหุน้ ต้องซื้ อถูก ขายแพง มิใช่หรือ

คำแนะนำธรรมดำๆ เพื่อกำไรที่ไม่ ธรรมดำ 1.การลงทุนในหุน้ ไม่มีทางลัด หากนักลงทุนต้องการผลลัพธ์การลงทุนที่ดี การ ลงทุนศึกษาหาความรู ้ ติดตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับปั จจัยพื้ นฐานของกิจการเป็ น สิ่งจาเป็ น นักลงทุนที่ทามากกว่า ย่อมมีแนวโน้มที่จะทาให้ดีกว่าคนที่ทาน้อย หากเปรียบเทียบผลลัพธ์กบั ความพยายามในแง่ความคุม้ ค่า ชีวติ คนๆหนึ่ งอาจใช้ เวลาในการศึกษา เล่าเรียนศาสตร์ตา่ งๆเกือบ 20 ปี และสาเร็จออกมาเพียงเพื่ อ เป็ นมนุษย์เงินเดือน ซึ่ งมีโอกาสน้อยที่ จะบรรลุอิสรภาพทางการเงิน และมีเวลาที่จะ ทาสิ่งที่อยากจะทา มีกาลังที่จะช่วยเหลือสังคม การมุง่ เน้นศึกษาการลงทุนในหุน้ ตามแนวทางเน้นมูลค่าเพียงระยะเวลาไม่นาน และสละเวลาติดตามข่าวสาร ความก้าวหน้าของกิจการบ้าง อาจจะเปลี่ยนชีวติ คนทั้งชีวติ 51 โจ ลูกอีสาน


2. ตัดสินใจซื้ อและขายหุน้ บนพื้ นฐานของกิจการ การลงทุนซื้ อหรือขายหุน้ ทุก ครั้ง นักลงทุนควรพิจารณาจากปั จจัยพื้ นฐานของกิจการ เพราะหุน้ คือส่วนหนึ่ งของ เจ้าของกิจการ การวิเคราะห์หนุ ้ ก็คือการวิเคราะห์กิจการนัน่ เอง

3. สิ่งที่ยากที่สุดในการลงทุนระยะยาวในหุน้ คือการพยายามเป็ นนักลงทุนที่ใช้ เหตุผล ในสภาวะที่ไม่มีใครมองหาเหตุผล ความสามารถในการมองเห็นกระแส โดยที่ตวั นักลงทุนเองไม่ได้เป็ นส่วนหนึ่ งของกระแสนั้น สิ่งที่นักลงทุนควรเข้าใจคือ เมื่อมนุ ษย์มาอยูร่ วมกัน จะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบคล้ายๆกันเกิดเป็ นพฤติกรรม หมู่ หากเกิดมากๆเรียกว่ากระแส ซึ่งบ่อยครั้งพฤติกรรมเหล่านี้ จะออกห่างจาก ความมีเหตุมีผลมากขึ้ นทุกทีๆ นักลงทุนที่ใช้เหตุผลควรเพิกเฉยและมองหา ประโยชน์จากกระแสนั้นๆ การประสบความสาเร็จในการลงทุนระยะยาวนั้น ต้อง อาศัยทั้งปั ญญาและสติ การขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ งจะทาให้การลงทุนไปไม่ถึงฝัง่

4. การลงทุนอย่างมีความสุข คือการหาจุดสมดุลระหว่างผลตอบแทนและ ความเสี่ยง การมุง่ เน้นผลตอบแทนมากเกินไป อาจจะทาให้การลงทุนประสบ หายนะ ในขณะที่การเน้นปกป้องความเสี่ยงมากเกินไป จะทาให้การลงทุนไม่อาจ สร้างความแตกต่าง เสมือนเรือที่ลอยนิ่ งอยูก่ ลางน้ า

5. รูจ้ กั ตัวเอง และลงทุนให้เหมาะกับสภาพของตัวเอง นักลงทุนแต่ละคนย่อม แตกต่างกันทั้งในด้านทัศนะคติ อุปนิ สยั ใจคอ ความสามารถในการรับความเสี่ยง จานวนเงินทุน ดังนั้นการรูต้ วั เอง เข้าใจตัวเอง และนาจุดแข็งมาใช้ประโยชน์ในการ ลงทุน จะดีกว่าการพยายามเลียนแบบการลงทุนตามนักลงทุนคนอื่นๆ ซึ่งมีสภาพ 52 โจ ลูกอีสาน


ที่แตกต่างออกไป ตัวอย่างเช่น นักลงทุนที่เน้นความปลอดภัยของเงินต้น ย่อมรับ ความเสี่ยงได้น้อยกว่า การลงทุนในหุน้ ขนาดใหญ่และมัน่ คงจะเป็ นทางเลือกต้นๆ ในขณะที่นักลงทุนที่มีเงินลงทุนไม่มาก สามารถลงทุนในหุน้ พื้ นฐานดีที่มีขนาดเล็ก ในขณะที่นักลงทุนที่มีเงินทุนสูงไม่สามารถลงทุนได้

6. แรงผลักดันราคาหุน้ ประการแรกคือโดยปั จจัยพื้ นฐานความก้าวหน้าของ กิจการ ประการที่สองคือแรงผลักดันจากปั จจัยทางด้านอารมณ์ของนักลงทุน ในตลาด การเข้าใจแรงผลักดันประเด็นแรก เพียงพอที่ จะทาให้การลงทุนประสบ ความสาเร็จ แต่การเข้าใจทั้งสองประเด็น จะทาให้การลงทุนประสบความสาเร็จยิง่ กว่า 7. หุน้ ของทุกๆกิจการมีมูลค่าที่ควรจะเป็ น นักลงทุนสามารถทากาไรได้ หากซื้ อ หุน้ ได้ในราคาที่ตา่ กว่ามูลค่าที่ควรจะเป็ น หุน้ ที่แม้จะมีความสามารถในการแข่งขัน ที่โดดเด่น มีการเติบโตของผลกาไรสูง หากนักลงทุนเข้าซื้ อที่ราคาแพงเกินไป การ ลงทุนนั้นอาจจะไม่ทากาไร แย่กว่านั้นอาจจะขาดทุน ในขณะที่ หุน้ ที่ อาจจะมี พื้นฐานด้อยกว่า หากซื้อในราคาที่ ตา่ มีส่วนเผื่ อเพื่ อความปลอดภัยเพียงพอ การ ลงทุนนั้นก็สามารถสร้างกาไรได้ พูดได้วา่ ผลลัพธ์การลงทุนขึ้ นอยูก่ บั ราคาที่เรา จ่ายเปรียบเทียบกับคุณภาพของกิจการที่นักลงทุนได้รบั

8.หุน้ ที่ชนะในระยะยาวคือหุน้ ของกิจการที่มีอตั ราการเติบโตสูง และกิจการ ต้องมีความสามารถในการแข่งขันที่โดดเด่น การขาดอย่างใดอย่างหนึ่ งจะทาให้ ธุรกิจหรือราคาหุน้ ไปได้ไม่ไกล ธุรกิจที่ โดดเด่น มักจะขายผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ ลูกค้าต้องใช้ซา้ ๆ สามารถขยายฐานลูกค้าออกไปได้ ในขณะที่ลกู ค้าเดิมยังคงอยู่ และคู่แข่งไม่สามารถเข้ามาแข่งขัน หรือเข้ามาได้ยาก หากนักลงทุนสามารถซื้ อหุน้ 53 โจ ลูกอีสาน


กิจการเหล่านี้ ได้ในราคาถูกหรือราคาสมเหตุสมผล และถือไว้ในระยะยาว การ ลงทุนเช่นนี้ จะสร้างผลตอบแทนที่ดีเลิศ

9. ราคาหุน้ ในระยะสั้นเหมือนเครื่องโหวตคะแนนเสียง แต่ราคาหุน้ ในระยะ ยาวเสมือนเครื่องชั ่ง ในระยะสั้นๆมีปัจจัยมากมายที่กระทบราคาหุน้ ทั้งข่าวสาร ต่างๆ ภาวะเศรษกิจ อารมณ์โลภ กลัว แรงซื้ อจากรายใหญ่ แรงซื้ อจากต่างชาติ ราคาหุน้ สามารถขึ้ นหรือลงได้อย่างไร้เหตุผล แต่ในระยะยาวราคาหุน้ จะไปตามผล ประกอบการเสมอ ผลประกอบการเป็ นเสมือนมือที่ มองไม่เห็นที่ คอยกาหนดราคา หุน้ ความจริงที่วา่ ราคาหุน้ ในระยะยาวจะสะท้อนผลประกอบการเสมอ เป็ นความ จริงที่สมบูรณ์แบบในตลาดหุน้

10. จังหวะในการซื้ อหุน้ ที่ดีที่สุดคือตอนที่มีข่าวร้ายมากที่สุด ทั้งที่พนฐานของ ื้ ธุรกิจไม่ได้เปลี่ยนแปลง เป็ นเรื่ องปกติที่นักลงทุนทัว่ ไปมีแนวโน้มจะขายหุน้ เมื่ อ ราคาลดลง และเข้าซื้อหุน้ เมื่ อราคาหุน้ เพิ่ มขึ้น เพราะนั่นทาให้นักลงทุนสบายใจ มากกว่า หากซื้อหุน้ แล้วราคาลดลง นักลงทุนจะรูส้ ึกผิด และสงสัยว่าทาไมตลาด หรือนักลงทุนคนอื่ นๆไม่คิดอย่างนั้น ด้วยความไม่แน่ ใจนี้ นักลงทุนจะมีขอ้ อ้าง ต่างๆในการขายหุน้ ออกไป เช่นว่า หุน้ ดีทาไมราคาลง มีข่าวร้ายอะไรที่นักลงทุนยัง ไม่รหู ้ รือเปล่า ขายไปก่อนแล้วรอรับกลับที่ราคาตา่ กว่า หรือคากล่าวที่วา่ ถูกแล้วยัง มีถูกอีก

และในทางตรงกันข้ามเมื่อราคาหุน้ เพิ่มขึ้ น นักลงทุนจะกระตือรือร้นที่จะซื้ อหุน้ ด้วยข้ออ้างที่คล้ายคลึงกัน เช่น หุน้ น่ าจะดี เพราะไม่ดีราคาคงไม่ขึ้น มีข่าวดีๆอะไร 54 โจ ลูกอีสาน


ที่นักลงทุนยังไม่รหู ้ รือเปล่า ด้วยเหตุผลเหล่านี้ หุน้ ที่ราคาสูงขึ้ น จะสูงขึ้ นอีก ยิง่ ซื้ อ ราคาก็ยงิ่ เพิ่มสูงขึ้ นยิง่ ทาให้นักลงทุนสบายใจ เพราะเข้าใจว่าการลงทุนนั้นถูก ตัดสินจากตลาดว่าถูกต้อง แนวโน้มที่ นักลงทุนทาการขายเมื่ อราคาหุน้ ถูก ซื้อเมื่ อ ราคาหุน้ แพง อย่างนี้ จะทาให้การลงทุนล้มเหลวหรือไปได้ไม่ไกล นักลงทุนที่ดี ควรทาในทางตรงกันข้าม โดยตัดสินใจซื้ อและขายบนพื้ นฐานของกิจการ หลีกเลี่ยงไม่ให้อารมณ์ของตลาดเข้ามามีผล ข้อควรระวังของประเด็นนี้ คือ การซื้ อ หุน้ เพียงเพราะเห็นว่าราคาลดลง โดยไม่ได้ตรวจสอบดูวา่ พื้ นฐานของกิจการมีการ เปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่า จะเป็ นอันตรายต่อการลงทุนพอๆกัน

11. มองภาพใหญ่ อย่าใส่ใจภาพเล็ก กิจการทุกกิจการย่อมมีขอ้ ดี ข้อเด่นข้อด้อย แตกต่างกันไป ไม่มีกิจการใดที่ดีพร้อม หรือแย่ไปหมดทุกอย่าง นักลงทุนควรจะ เลือกกิจการที่ มีขอ้ เสียน้อยที่ สุดเมื่ อเปรียบเทียบกับราคา การให้ความสาคัญมาก เกินไปกับข้อเสียเล็กๆน้อยๆ ที่ไม่ได้มีนัยยะสาคัญอะไร ทาให้นักลงทุนหลายๆคน พลาด ปล่อยโอกาสที่จะได้ลงทุนในกิจการที่ดีเยีย่ มหลุดลอยไป

12. พัฒนาการลงทุน เทคนิ ควิธีการลงทุนที่ เคยใช้ได้ผลดีในวันนี้ อาจจะใช้ไม่ได้ ผลดีในวันข้างหน้า วิธีที่เคยใช้ได้ผลดีในต่างประเทศ ไม่สามารถนามาใช้ได้ผลดี ภายในประเทศ ธุรกิจที่ดีในวันนี้ อาจจะไม่ใช่ธุรกิจที่ดีในเวลาต่อมา มีธุรกิจดาว ร่วงก็มีธุรกิจดาวรุ่ง นักลงทุนที่ดีควรยืดหยุน่ ที่จะปรับการลงทุนให้สอดคล้องกับ สภาพแวดล้อม กาลเวลาที่เปลี่ยนไป แต่สิ่งหนึ่ งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือควรตัดสินใจ ลงทุนโดยพิจารณาจากปั จจัยพื้ นฐานของธุรกิจ

55 โจ ลูกอีสาน


13. อย่าเสี่ยงเกินตัว การกูห้ นี้ ยืมสินเพื่อซื้ อหุน้ การทุ่มซื้ อหุน้ ตัวใดตัวหนึ่ งมาก เกินไป แม้อาจจะให้ผลตอบแทนสูงๆติดต่อกันหลายครั้ง แต่หากเกิดความ ผิดพลาดเพียงแค่ครั้งเดียว อาจไม่มีโอกาสแม้จะแก้ตวั แม้ความเสี่ยงสามารถลดลง ได้ดว้ ยความรู ้ แต่เป็ นไปไม่ได้ที่นักลงทุนคนหนึ่ งๆจะมีขอบเขตความรูใ้ นทุกๆเรื่อง นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ การกระจายเงินลงทุน ในสินทรัพย์หรือในจานวนกิจการที่ลงทุนบ้าง เป็ นสิ่งที่นักลงทุนควรใส่ใจ

14. การลงทุนระยาวในหุน้ แน่ นอนที่สุดว่าจะต้องผ่านทั้งวันคืนที่ดี วันคืนที่แย่ และวันที่แย่สุดๆ การรับรูแ้ ละเข้าใจเรื่องนี้ พร้อมที่จะรับมือกับวันร้ายๆ จะดีกว่า การพยายามที่จะหาจังหวะเข้าออกจากตลาด โดยการทานาย ทายทัก คาดเดา ซึ่ง เป็ นไปไม่ได้ที่จะประมาณความถูกต้อง หากการลงทุนระยะยาว สร้างความ หวาดกลัววิตกว่าสักวันเหตุการณ์แย่ๆอาจจะเกิดขึ้ น การมีทศั นคติที่วา่ ในระยะยาว การลงทุนในหุน้ จะให้ผลตอบแทนสูงสุด จะทาให้นักลงทุนถือหุน้ ระยะยาวได้อย่าง มัน่ คง

ทัศนคติเพื่อประสบความสาเร็จ • คนที่ประสบความสาเร็จไม่มีใครงอมีงอเท้า • ต้องมีความฝัน ถ้าไม่มีก็เหมือนอยูไ่ ปวันๆ • ต้องลงมือทา ไม่ง้นั เป็ นฝันกลางวัน • ต้องมีจิตใจที่มุง่ มัน่ ด้วย 56 โจ ลูกอีสาน


• ทุกคนมีใจเหมือนกันทุกคน แต่อะไรทาให้คนเราแตกต่างกัน นัน่ คือมีใจยิง่ ใหญ่ เกินตัว เกินฐานะ

ทัศนคติการลงทุน • ถ้าโชคดี เริ่มถูกทางไปถึงเป้าหมาย เริ่มผิดทาง ต่อให้ IQ สูงก็ไปไม่ถึง • ไปเชียงใหม่ได้หลายทาง เลือกในเส้นทางที่ถูกจริต ถูกนิ สยั เราดีไหม? ผมบอกว่า ไม่ถูกต้อง บางทีจริตเราอาจไม่ใช่วธิ ีที่ถูกต้อง ดีกว่าไหม ถ้าเราปรับจริตเราให้ตรง กับวิธีที่ถูกต้อง ผมเชื่อว่าเล่นหุน้ จะมีวธิ ีการหนึ่ งที่ถูกต้องในระยะยาว นัน่ คือวิธี vi ข้อสังเกตวิธีการอื่นก็ดสู มเหตุสมผล technical บอกประวัติศาสตร์ตอ้ งซ้ารอย ผม ถามว่าทาไมคนไม่รวยด้วยวิธีการนี้ เราต้องมาคิดว่า มันมีสมมติฐานอะไร บางอย่างที่ผิดก็ได้ • VI เราเลือกกิจการดีไม่พอ แต่เราซื้อที่ ราคาตา่ กว่ามูลค่า จะปลอดภัยมากกว่า ได้ ผลตอบแทนมากกว่า • ต้องมีความศรัทธาในการลงทุน ชีวติ การลงทุนมันยาวนาน ความเชื่ออย่าง เดียวไม่พอต้องศรัทธาด้วย(ขนลุก) ผมเชื่อว่าถ้าเรามีศรัทธาจะผ่านวิกฤติไปได้ เรา ไม่ได้ศรัทธาอย่างงมงาย แต่ดว้ ยความเป็ นเหตุเป็ นผล เราเห็นตัวอย่างคนประสบ ความสาเร็จทั้งในและต่างประเทศ

เตรียมใจรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดจะเกิดขึ้น • มันจะเกิดขึ้ นแน่ นอน ไม่รวู ้ า่ วันไหน อุบตั ิเหตุนิวเคลียร์ แผ่นดินไหวรุนแรง น้ า ท่วมใหญ่ โรคระบาดที่มีคนตายมากมาย ในการลงทุนจริงๆ อาจมีโอกาสเกิดได้ 57 โจ ลูกอีสาน


ลองคิดดูวา่ มีวกิ ฤติอะไรเกิดขึ้ นได้ บางอย่างอาจนอกเหนื อจากที่เราคิดได้ อย่างเช่น อิสราเอลโจมตีอิหร่าน แล้วอิหร่านตอบโต้ดว้ ยนิ วเคลียร์ แล้วสหรัฐร่วม ด้วย ซึ่งนิ วเคลียร์เป็ นสิ่งที่คาดการณ์ผลลัพธ์ยาก หรือที่ซาอุฯ มีไวรัสระบาด มันก็ น่ ากลัว • ผมว่าในการลงทุนต้องมองตามความเป็ นจริง ไม่ได้บอกให้ทุกคนกังวลใจ แต่ตอ้ ง เตรียมใจ

วิธีการเอาชนะความโลภ ความกลัว • เราซื้ อเพราะอะไร? เหตุผลทางพื้ นฐานสมเหตุสมผล นัน่ ถูกต้อง • เราซื้ อเพราะอะไร? ซื้ อตาม yoyo ซื้ อตามพี่โจ ไม่ถูกต้อง นัน่ คือโลภ • ในตลาดหุน้ มีรถออกทุกวัน มีหนุ ้ ปั ่นทุกวัน • หุน้ ปั่ นจะทดสอบเราว่ายึดมัน่ ในหลักการหรือเปล่า หรือโดนความโลภชักจูง • เราไม่สามารถคว้าทุกโอกาส แต่ตอ้ งเลือกโอกาสที่เรามัน่ ใจ โอกาสอื่นๆก็แบ่ง กันไป • มองระยะยาวจะทาให้ชนะความโลภความกลัวได้ ระยะยาวตลาดหุน้ ให้ ผลตอบแทน 12% • อย่าหวังผลสั้นๆ ที่จะรวยมองไปเลย 10-20 ปี • อิงกับตัวเลข วัดค่าได้แน่ นอน • ตอน sub-prime หุน้ pe 3-4 เยอะเลย ไม่มีเหตุผลที่จะขายหุน้ 58 โจ ลูกอีสาน


ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ • แม้ผลตอบแทนระยะยาว 12% ทบต้นก็จริง แต่ความผันผวนเยอะ มีขึ้นมีลง

เอาชนะความผันผวน • ห้ามเป็ นส่วนหนึ่ งของนายตลาด คนเล่นหุน้ รวยหมดแล้ว ถ้าแยกตัวเองออกจาก นายตลาดได้

จิตวิทยาการซื้อ • ถ้าเป็ นหุน้ ดีจริงๆ ไม่ชา้ ก็เร็วต้องเป็ นคนเห็นเหมือนเรา ผมเคยต่อราคาช่อง สองช่อง เสียหายมากมาย หรือแม้กระทัง่ warren เคยซื้ อ wal-mart ราคากระโดด ขึ้ น แล้วก็ไม่กล้าซื้ อ เสียหายไปหลาย billion • ฆ่าควาย อย่าเสียดายเกลือ ไม่ง้นั เนื้ อควายจะเน่ าหมด เกลือถุงหนึ่ ง 3-4 บาท • มองภาพใหญ่ อย่าใส่ใจภาพเล็กๆ ผมเคยคุยกับเซียนท่านหนึ่ งจะซื้ อหุน้ ถ่าน หิน ภาพการเติบโตอะไรดีหมด ผมเป็ นคนหนึ่ งที่ซื้อหุน้ ตัวหนึ่ ง ขึ้ น 2 เท่ากว่า แต่ เซียนคนนั้นเห็นเหมือนผมแต่ไม่ซื้อ เค้าพลาดเพราะมองภาพเล็ก ดีทุกอย่าง แต่ผู้ ถือหุน้ ใหญ่ซื้อขายหุน้ บ่อย ดูไม่น่าไว้วางใจเอาเปรียบผูถ้ ือหุน้ รายย่อย • หุน้ ที่ดีพร้อมไม่เคยมี ผมสามารถหาข้อเสียของหุน้ ทุกตัวได้ ต้องมาชัง่ น้ าหนัก อย่าพลาดเพราะอคติ • ทยอยซื้ อ หุน้ ขึ้ นกาไร หุน้ ลงมี mos มากขึ้ น 59 โจ ลูกอีสาน


จิตวิทยาการขาย • หุน้ ทุกตัวที่ผมขายไม่เคยมีประวัติว่าขายได้ราคาสูงสุด ขึ้ นไป 1-2 เท่าเยอะ มาก เลยต้องจาไว้วา่ ทยอยขาย 1/3-1/3-/1/3 บางครั้งหุน้ มี momentum มากกว่าที่เราคาด จากประสบการณ์ • Vi มักจะซื้ อก่อน ขายก่อน เป็ นเรื่องปกติ เวบในเมืองนอกของฝรัง่ ก็ประสบ ปั ญหานี้ ทั้งนั้น • อย่าง warren ขาย sinopec แล้วก็ยงั ขึ้ นอีกหลายเท่า • เหตุผลที่ซื้อเพราะอะไร ถ้ามันเสียไป อย่ารีรอ ต้องตัดอวัยวะ เพื่อรักษาชีวิต • การขายหมูเจอกันทุกคน แม้ดชั นี จะขึ้ นไปสูงสุดวันนี้ แสดงว่าคนที่ขายหุน้ ที่ผ่าน มาเป็ นการขายหมูใช่ไหมครับ ถ้าไม่อยากขายหมูก็อย่าขายหุน้

รับมืออย่างไรเมื่อหุน้ ตก • ต้องปี นกาแพงความกลัวด้วยเหตุและผล ตัวเลข • พื้ นฐานแย่ลง มีเท่าไรก็ขาย อย่าให้ความเสียหายลุกลาม • ถ้าพื้ นฐานไม่เปลี่ยนแปลง เกิดจากผลกระทบระยะสั้น นื่ คือโอกาสซื้ อ • วิกฤติรา้ ยแรง อย่า sub-prime หรือ ปี 40 หุน้ ตกทั้งตลาด วิธีงา่ ยที่สุดคือไม่ตอ้ ง ทาอะไร ยิง่ ทายิง่ เสียหาย แต่… ห้ามขายหุน้ ทิ้ งตอนตลาดตกตา่ เพราะผมเคยทา มาแล้ว ช่วงวิกฤติผมขาย margin ถือเงินสด 10% เสียหายมากเหมือนกัน • เอาชนะความกลัวด้วยตัวเลข 60 โจ ลูกอีสาน


สนามหญ้าบ้านอื่นเขียวกว่าบ้านเราเสมอ • เราดีใจทาผลตอบแทนได้ 100% แต่เพื่อนบอกว่าได้ 150% ความรูส้ ึก เปลี่ยนไปเลย • มีคนค่อนแคะการลงทุนแบบ vi ไม่ได้บอกจังหวะการซื้ อ ต้องใช้ technical ลงทุน vi ต้องมีวนิ ัยสูง ทาไมไม่ใช้ระบบเทรดหุน้ หุน้ ลงจะถือทาไม • อย่างที่ผมเล่า vi ระยะยาวเป็ นวิธีที่ดีที่สุด แต่ระยะสั้นหุน้ ลงจะมีคนมาค่อนแคะ เราเสมอ • เรื่องแบบนี้ ฟั งดูดีทุกอย่าง ในเมื่อผลมันออกมาแล้ว ถ้าหากวิธีการของคุณดีมาก เลย ทาได้ตอ้ งรวยที่สุดในประเทศไปแล้ว ทาไมทาไม่ได้ • คนที่อิจฉาคนอื่นใจมันร้อนรุ่ม คนที่ชอบกิน แม้จะอ้วน แต่ตอนกินก็มีความสุข แต่คนอิจฉามันไม่มีส่วนไหนที่มีความสุข • ใครที่มาแขวะอย่าไปโกรธเขา ถือว่าคนเหล่านี้ เค้าอิจฉาเรา คนจะอิจฉาเพราะเรา เก่งกว่า ไม่ตอ้ งไปตอบโต้อะไรให้วนุ่ วาย

การยึดมั ่น อัตตา อีโก้ น้ าที่เต็มแก้ว • Vi เล่นหุน้ แล้วขาดทุนไม่เป็ น vi ต้องได้กาไร เป็ นพวกไม่ยอมรับความคิดใหม่ๆ เป็ นแบบนั้นจริงหรือเปล่า? ผมบอกได้เลยว่ามีส่วนจริง เพราะหลักการเราถูกต้อง ทุกแนวทางก็คิดว่าหลักการของเขาถูกต้องเหมือนกัน สิ่งสาคัญคือ vi มันยืนอยูบ่ น เหตุและผล ที่สาคัญคือมีคนพิสจู น์มาแล้ว

61 โจ ลูกอีสาน


• ในชีวติ จริงในสังคมเราต้องประนี ประนอม แต่ในการลงทุนไม่ใช่ ผมยึดใน หลักการ ในระยะยาวเราเจอวิกฤติแน่ นอน ถ้าเราเชื่อเพียงครึ่งใจ เราไม่รอดแน่ จะ โดนทดสอบในวันที่เลวร้าย มีสิ่งเดียวที่จะยึดคือหลักการ

อคติ (Bias) • ทาไมคนเราเกิดอคติ ? เพราะใช้อารมณ์ รัก เกลียด กลัว • บางครั้งอคติ เพราะไม่รู ้ ไม่ขวนขวาย

อคติเมื่อซื้อหุน้ • ซื้ อหุน้ เพราะผูบ้ ริหารหน้าตาดี • มีนักวิจยั บอกว่าครึ่งหนึ่ งแรงขับดันของมนุ ษย์คือแรงขับดันทางเพศ เราอยากได้ การยอมรับจากเพศตรงกันข้ามก็เป็ นไปได้ • ซื้ อหุน้ เพราะผูบ้ ริหารปฏิบตั ิดี ไปประชุม เลี้ ยงโต๊ะจีน คุยกับเราดี • อย่าหลงประเด็น ผูบ้ ริหารดี กับ บริษัทดี ต้องดูดว้ ยว่าผูบ้ ริหารทาได้ตามที่พดู หรือเปล่า เช่น คุณ ส. ไอหลิ่ง ฟั งพูดเคลิ้ มเลย แต่ออกมาคนละเรื่อง • คิดว่าคนส่วนใหญ่ใช้ผลิตภัณฑ์ ใช้ชีวติ เหมือนเรา • เราเล่นหุน้ ไม่ได้เล่นการเมือง เสื้ อแดง เสื้ อเหลือง ธุรกิจก็คือธุรกิจ

62 โจ ลูกอีสาน


• ชาตินิยม เช่น จะซื้ อหุน้ ของคนไทย ไปซื้ อกิจการต่างประเทศ อย่าง ยูนิคอด จี เอฟ เป็ นไฟแนนซ์บริษัทเดียวที่ไม่มีใครหนุ นหลัง อัลฟ่ าเทค เป็ นเทคโนโลยีข้นั สูง ปรากฏว่าทั้ง 3 บริษัทนี้ เจ๊งหมดเลย นี่ คือใช้เหตุผลผิดในการซื้ อหุน้ • ซื้ อเพราะอยากติดรายชื่อผูถ้ ือหุน้ ใหญ่ ถ้าไม่ได้เป็ นบริษัทที่ดี อะไร • ซื้ อเพราะกลัวตกรถ หุน้ เสี่ย จ. อยากลองบ้าง เป็ นเหตุผลผิดๆ • ซื้ อเพราะเป็ นธุรกิจบุญ/บาป มันขึ้ นตามกาไร ไม่ได้ขึ้นกับธุรกิจทาให้สงั คมเสีย ประโยชน์ อย่างหุน้ ฟิ ลิปมอร์ริส ผลิตบุหรี่ มีคดีความเยอะแยะ กองทุนก็ไม่กล้าซื้ อ ปรากฏว่าตัวนี้ เป็ นหุน้ หนึ่ งที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในตลาดอเมริกา • บางครั้งคนเราก็ตอ้ งมีอคติเพื่อความภาคภูมิใจของตัวเอง ขึ้ นอยูก่ บั ดีกรีของแต่ ละคน เช่น อาบอบนวดเข้าตลาด ผมก็ไม่ซื้อเหมือนกัน เป็ นความเชื่อของแต่ละคน

อคติเมื่อถือหุน้ • ซื้ อหุน้ เหมือนเราแต่งงาน มองเห็นแต่ดา้ นดี มองข้ามข้อเสียไป • เมื่อไรที่เราขายหุน้ ไป ตาสว่างเห็นข้อเสียเพียบเลย

อคติเมื่อขายหุน้ • หุน้ ขึ้ นมาเท่าตัวขายไปครึ่งหนึ่งเอาทุนคืน เท่ากับที่เหลือไม่มีตน้ ทุน ไม่มีกฏ ข้อไหน ที่ผมอ่านหนังสือเจอมา เป็ นการตั้งตัวเลขเอง บางตัว upside 300-400% ก็มี • ขายเพราะขึ้ นมาเยอะ เจอบ่อย mos ลดลงก็จริง แต่ถา้ มันสูงอยูก่ ็ไม่ตอ้ งขาย 63 โจ ลูกอีสาน


• ไม่ขายเพราะอยากเห็นพอร์ตเขียว • ไม่ขายเพราะผูกพัน เช่น ผมมีหนุ ้ ตีแตกที่ทาให้ผมมีเชื่อเสียงระบือ ได้ ผลตอบแทนเยอะจะเกิดความผูกพัน แม้ upside จะไม่มีแล้ว นัน่ คือเราโดนอคติ เล่นงาน • ไม่ขายเพราะมีตน้ ทุนต ่า เช่น ถือหุน้ ptl, sta ซื้ อตอน sub-prime ต้นทุนตา่ มาก ปรากฏถือ 2-3 ปี วัฏจักรมันบูมมาก ปรากฏว่าพี่คนนี้ รวยเละ เจอครั้งล่าสุด ขายไปหรือยัง เค้ายังไม่ขายซักหุน้ เพราะมีตน้ ทุนตา่

การแสวงหาความภาคภูมิใจ หลีกเลี่ยงความเสียใจ • นักเล่นหุน้ ทัว่ ไป เขียว 2-3% เป็ นขาย แต่ตวั ขาดทุนเมื่อไร ไม่ยอมขาย แพ้ไม่ได้ ดังนั้นพอร์ตคนคิดแบบนี้ จะมีแต่ติดดอย เด็ดดอกไม้ รดน้ าวัชพืช • ไม่ขายไม่ขาดทุน หลอกแม้กระทัง่ ตัวเอง • VI ทมิฬ คืออะไร ลอกหุน้ ตามเซียน ไปซื้ อหุน้ ตอนราคาสูงๆ แล้วขาดทุน ก็ ไปโทษคนอื่น คนที่คอยแต่จะโทษคนอื่นตลอดเวลา ไม่เคยคิดว่าตัวเองผิด เป็ นคน ที่เห็นแก่ตวั อย่างร้ายกาจ ในการลงทุนคนที่ไม่เคยเรียนรูข้ อ้ ผิดพลาดของตัวเอง ไม่ มีทางเจริญ • Sunk cost มีน้องโพสต์ในร้อยคนร้อยหุน้ ถือ xxxมา 5 ปี จะถึงจุดสิ้ นสุดแล้วล่ะ ผมจะรอดูจนถึงวันสุดท้ายที่มนั จบ น้องคนนี้ เสียเวลามา 5 ปี ถ้าคุณถือหุน้ 10 ปี ได้ผลตอบแทนเท่าตัว ผมคิดว่าน้อยมาก ถ้าหุน้ บางตัวกาไร 5% ใน 3-4 วัน คิด เป็ นต่อปี เสียหายมหาศาล 64 โจ ลูกอีสาน


การคานึงถึงอดีต • เงินของเจ้ามือ (House – money effect) เมื่อได้กาไรมา เราคิดว่าเป็ นลาภ ลอย ไม่ใช่เงินเรา แต่ที่จริงกาไรตรงนี้ คือเงินเรา เงินมีค่าเสมอ เราไปแยกว่า เป็ นเงินต้นทุน กับ กาไร ที่จริงมันก็คือเงินเราเหมือนกันหมด พอเอาเงินจากกาไร มากๆ ไปซื้ อหุน้ สุดท้ายของแพงๆเราก็จะซื้ อ เป็ นจุดเริ่มต้นฟองสบู่ • ตอนวิกฤติ pe 2,3 หรือ 1.5 ยังมีเลยครับ ทาไมไม่มีคนซื้ อ? มันเกิดเรื่องความ กลัวความเสี่ยง ไม่มีใครอยากขาดทุนอีก ถูกยังไงก็ไม่กล้าซื้ อ • มีบางคนเสียไปแล้ว แทนที่จะเข็ด กลับพยายามทาอีกแบบคือเอาทุนคืน พอ เราแพ้มากๆ จนไม่รจู ้ ะเอาเงินคืนอย่างไร จะ double ไปจนพนันหมดหน้าตักเพื่อ เอาทุนคืนแล้วเลิก • การคานึ งถึงอดีต ยึดราคาสูงสุด/ตา่ สุด anchoring bias เป็ น technical ใช้การ ฟอร์มตัวราคาอดีตคาดการณ์อนาคต สมมติฐานนี้ สมเหตุสมผลหรือไม่ เหตุการณ์ มันเป็ นอิสระต่อกัน • เช่น บ้านปู เคยไปถึง 800 ถ้าถือยาวไม่มีวนั ขาดทุนหรอก อาจจะจริงครับ แต่ เกิดต้นทุนเสียโอกาส อีกอย่างวันนี้ มี shale gas นะ หรือ ทีทีเอ เคยไปถึง 70 กว่า บาท ตอน BDI สูงๆ ต้องดูวา่ พื้ นฐานเปลี่ยนไปหรือเปล่า

ความมั ่นใจเกินไป • ถือหุน้ ตัวเดียว ใช้ margin เค้าคิดว่าจะหนี ทนั นะ แต่วนั หนึ่ งจะเกิด black swarm

65 โจ ลูกอีสาน


• แม้แต่นักเศรษฐศาสตร์ nobel prize จัดตั้งกองทุนที่มี Model ไม่มีขอ้ ผิดพลาด เลย ใช้ leverage สูง arbitrage แต่ตอนที่เค้าขาดทุน เพราะเกิดเหตุการณ์ไม่อยูใ่ น model ภายใน 1 เดือน กองทุนนี้ เจ๊ง ชื่อเสียงที่สงั ่ สมมาจบทันที

พฤติกรรมแบบฝูง • คนที่อยูใ่ นก๊วนจะมีความคิดคล้ายๆ กัน แตกต่างจะโดนเฉดหัวออก • สมมติมีพวกเราคนหนึ่ งโนเนม ไปโพสต์ในร้อยคนร้อยหุน้ คนที่เข้าไปอ่านดู เหตุผลก็ดี นะ แต่เค้าเป็ นใครไม่รู ้ แต่พอมีคนเข้ามาให้ความเห็นสนับสนุ น จะเริ่ม ลังเล จะเชื่อแล้ว ต่อไปถ้ามีคนบิ๊กเนมหน่ อยมาโพสต์อีก คนอ่านหลังๆจะเชื่อแล้ว • เรื่องในสังคม… ดอกทิวลิป จตุคามรามเทพ หลินปิ ง เสื้ อเหลือง เสื้ อแดง น้ าหมัก ป้าเช็ง • ในสังคมหุน้ … หุน้ ดอทคอม(ต่างประเทศ) หุน้ ไฟแนนซ์(สมัยก่อน) หุน้ ค้าปลีก (อาจจะสมัยนี้ ) • เรื่องจิตใจ เอาชนะด้วยเหตุและผล ด้วยตัวเลข • คนที่ไม่โอนอ่อนไปกับความเห็นคนอื่น จะโดนเยาะเย้ย จาได้ตอนหุน้ ตกๆ มีคน เยาะเย้ย vi ตายหมดแล้ว กอดหุน้ จนตาย • เราถูกเพราะเหตุผลเราถูก ไม่ใช่ถูกเพราะคนส่วนใหญ่ทากัน

66 โจ ลูกอีสาน


ซื้อหุน้ ตามเซียน • เซียนหุน้ เป็ นจิตวิทยาตัวแทนความสาเร็จ ซื้ อตัวไหนก็ขึ้น สมองคนเราเลย หาทางลัดไปซื้ อหุน้ ตามเซียนดีกว่า วิธีน้ ีไม่มีทางประสบความสาเร็จในระยะ ยาว จะเป็ นไปได้อย่างไรที่เราจะลอกหุน้ จากเซียนทุกครั้ง ถ้าไม่ได้เป็ นแฟนเซียน และเซียนก็คิดผิดเหมือนกัน แต่เค้าไม่ได้มาบอกเรา • ทางที่ดีกว่าผมสนับสนุ นให้เราหาปลาเอง เพราะมันอยูก่ บั ตัวเรา เป็ นการทบต้น ความรู ้ มันเยอะยิง่ กว่าทบต้นเงิน

ความคุน้ เคย • มีหลายๆตัวเป็ นหุน้ ไม่รจู ้ กั คนส่วนใหญ่จะเชื่อว่าหุน้ ใหญ่ๆไม่เจ๊ง หรือหุน้ ที่เห็น สินค้าหรือได้ใช้บริการ • ผมมีเพื่อนซื้ อ LTF ทุกสิ้ นปี ของธนาคารสีมว่ ง ซึ่งผลประกอบการห่วยแตกมาก ต่างเป็ น 10% หลายปี ต่อกัน สุดท้ายผลตอบแทนคนละเรื่อง ถ้าจะซื้ อทาการบ้าน หน่ อย

การมุ่งเน้นระยะสั้น • นักลงทุน VIVI มองสั้นๆ ราคาผันผวน แผนบางอย่างประกาศตั้งนานแล้ว มอง สั้นๆเก็งกาไรราคา ระหว่างรอราคาหุน้ ซบเซา เป็ นโอกาส 67 โจ ลูกอีสาน


• Ex. 14/5/55 ประกาศผลประกอบการผลประกอบการลดลง ราคาหุน้ ลดลง 11% และ 4 วันหลังยังลดลงต่อเนื่ อง ทั้งที่เป็ นเรื่องกระทบชัว่ คราว เพราะบริษัทมี ปั ญหางดปล่อยสินเชื่อชัว่ คราว ถ้าศึกษาดีๆจะพบว่าหนี้ สินต่อทุนเยอะ ถ้าไป ประชุมผูถ้ ือหุน้ อะไรจะรูว้ า่ โตได้เยอะ ปรากฏว่าผ่านไป 4 เดือน หุน้ ขึ้ นไปเกือบ 2 เท่า ไม่รวมปั นผลและ warrant ที่ได้ฟรี

Do and Don’t • ศรัทธาในอุดมการณ์ • มีความฝัน • เหตุผลเอาชนะทุกคอคติ • บันทึกความสาเร็จ และความผิดพลาด • อย่าขายหุน้ ตอนตลาดตกตา่ • อย่ารีรอเมื่อเจอหุน้ ตีแตก • อย่าอิจฉาคนอื่น

VI ก็ขาดทุนได้ เห็นหลายท่านบ่นว่าลงทุนแบบ vi ไหงขาดทุนได้ ผมคิดว่าทุกคนที่ลงทุน vi ก็เคยขาดทุนกันแทบทุกคน แต่จะเกิดขึ้ นไม่บ่อย และขาดทุนไม่หนัก 68 โจ ลูกอีสาน


แต่เท่าที่ผมมองหุน้ ที่ทาให้ vi หลายท่านขาดทุน มองแบบดูอดีตนะครับง่ายดี

1.มีความคาดหวังสูง หุน้ จึงมักซื้ อขายที่ P/E ค่อนข้างสูง พอทุกอย่างไม่เป็ นไป ตามที่ คาด ราคาหุน้ จะลงแรง คนที่ยงั มองแง่ดี ก็จะซื้ อเฉลี่ย ซื้ อจนหมดเงินหุน้ ก็ยงั ลง คนที่ถือตั้งแต่ราคาตา่ คงไม่เป็ นไร แต่คนที่เข้าไปซื้ อตอนราคาสูงๆ ทุกอย่างดูดี ไปหมด จะเจ็บมาก คนทีถือตัง้ แต่ราคาตา่ ๆ พอขึ้นไปสูงๆ P/E สูงไม่ขาย ราคา กลับมาเท่าทุนไม่ได้อะไร เปรียบเหมือนนัง่ รถเมล์ สองข้างทางดูสวยงามเหลือเกิน นัง่ เพลินจนเลยป้าย ลงก็ไม่ทนั แล้ว ต้องรอให้รถวกกลับ เสียเวลา เสียโอกาสครับ หุน้ พวกนี้ เช่น tr uec snc bh team แต่ไม่ได้หมายความว่าหุน้ เหล่านี้ ไม่ดีนะครับ เพียงแต่ที่ผ่านมาราคาแซงพื้ นฐานไปเท่านั้นเอง เหมือนที่หลายคนพูดบ่อยๆว่า ไม่มีหุน้ vi ที่แท้จริง เพราะที่ราคาหนึ่งอาจ ตา่ กว่าพื้นฐานเป็ นหุน้ vi พอราคาขึ้นไปมากๆเต็มมูลค่าหรือเกินพื้นฐาน หุน้ นัน้ ก็ไม่ใช่หุน้ vi แล้ว อย่าลืมหุน้ vi ต้องเปรียบเทียบกับราคาด้วย

2.ต่อจากข้อแรก เนื่องจากเราไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้ 100% โดยเฉพาะ ในตลาดหุน้ ดังนั้นการถือหุน้ ตัวเดียวหรือน้อยตัว ต้องระวังให้มาก มือใหม่ หลายคนใจร้อนอยากรวยเร็ว พยายามถือหุo้ น้อยตัว ตัวที่คิดว่าดีที่สุด แต่เนื่ องจาก ความรูอ้ าจจะน้อย วิเคราะห์ผิด ราคาหุน้ ลงมาก คนถือก็ขาดทุนหนัก คนที่ถือน้อย ตัวควรมีความรูใ้ นระดับนึ งแล้ว ไม่เหมาะสาหรับมือใหม่

69 โจ ลูกอีสาน


สรุป • การจะรวยต้องอาศัยกาลังใจค่อนข้างเยอะ ถ้าทาง่ายๆทุกคนรวยหมดแล้ว • ถ้าแรกผลักเหมือนบั้งไฟไม่นานก็รีบ แรงถีบเหมือนกระสวยอวกาศเปลี่ยนชนชั้น จากจนเป็ นรวยได้ • ผมเคยเห็นคนที่ซื้อรถเบนซ์ตอ้ งหาเงินหลายหมื่นไปผ่อนรถคันนี้ หรือไปซื้ อ น้ ามันเถื่อนประหยัดลิตร 5-10 บาท เพราะเขาไม่มีความมัน่ คง สมมติผมขับรถ มือ 2 เก่าๆ แต่ในพอร์ตผมมี 40-50 ล้าน คนไหนจะมีความมัน่ คงมากกว่ากัน ถ้า ใจเราอิ่ม ท่าทางเราจะอิ่มด้วย • เรารวยเมื่อไร อย่ามองแค่ตวั เอง เพื่อร่วมชาติ ร่วมโลก ยังลาบากกว่านี้ เยอะ เรา โชคดีมีเงินเยอะ มีความสามารถ ใช้โอกาสนี้ ช่วยเหลือคนอื่นด้วย บัญชีเรามีเงิน มากพอ เกิดประโยชน์อะไรกับโลกใบนี้ ไหม เศษเงินของเราแต่สาหรับคนอื่น มี ประโยชน์มหาศาล คนที่ดอ้ ยโอกาสกว่าเรามีอีกเยอะ • มองย้อนกลับไปว่าผมฝ่ าฟั นมาถึงจุดนี้ ได้อย่างไร ตอนจบใหม่ๆ ผมทางานใน กรุงเทพ เงินเดือน 8 พันบาท ต้องเช่าหอพักอยูท่ างานในย่านธุรกิจ หอพักธรรมดา แบบมีแอร์ 7 พันบาท ไม่มีแอร์ 5 พันบาท สุดท้ายผมไปเช่าห้องแถวแบ่งให้เช่า 1.6 พันบาท เป็ นห้องน้ ารวมใช้สายยางอาบน้ า ทนอยูห่ ลายปี เพื่อเรียนหนังสือ เก็บตังค์หาเงิน ผมไปเมืองนอก ล้างจาน ไปหาเงิน มองย้อนกลับไปไม่น่าเป็ นไปได้ แต่ผมก็ทามาแล้ว ผมมีบทกวีของคุณ เปลื้ อง ทาให้มีแรงใจให้ต่อสู ้ • เมื่อเริ่มสูน้ ้ันมันมืดยิง่ กว่ามือ ครั้งยืนหยัดยาวยืดมืดค่อยหาย….

70 โจ ลูกอีสาน


อดีตหุน้ /เหตุผลที่ซ้ ือ คัดจากเว็บ thaivi.org (เป็ นข้อมูลที่นานมาแล้วนะครับ ใช้เป็ นกรณีศึกษาเท่านั้น เพราะตอนนี้ พี่โจ อาจจะขายหุน้ พวกนี้ ออกไปหมดแล้ว)

TFI Q: ถามคุณลูกอีสานหน่ อยครับว่า ตอนเลือกซื้ อ TFI ใช้เกณฑ์อะไรในการ เลือกครับ แล้วไปสะดุดได้ยงั งัย ขอทราบเคล็ดลับหน่ อยครับ A: ผมอ่านรายงานผลประกอบการของ MD บ่อยๆครับ ซึ่งบอกว่า วัฎจักรขา ขึ้ นของอุตสาหกรรมฟิ ล์ม BOPP กาลังจะมาถึงกลางปี 50 หลังจากเป็ นวัฎจักร ขาลงมา 3-4 ปี ทาให้บริษัทขาดทุนอย่างหนัก ผลประกอบการq1ปี 50 ขาดทุน -180 ล. q2 -23 ล. q3-130 แต่ถา้ ดูกาไรที่แท้จริงของธุรกิจฟิ ล์ม q1 -45 ล, q2=0, q3 + 105 ล. นั ่นแสดงว่าวัฎจักรขาขึ้ นมาถึงแล้วจริงๆ ประกอบกับไม่มีการตั้งด้อยค่า อีกแล้ว(ตั้งไปหมดแล้ว) ผมคิดง่ายๆว่า q เดียวทาได้ 100 ล. ทั้งปี น่ าจะทาได้ 400 ล. ตอนนั้น market cap ของ tfi ~ 800 ล. เท่ากับซื้ อขายที่ P/E 2 เท่า!!!! ตอนนั้นแม้ประกาศผลประกอบออกมา ราคาหุน้ ก็ไม่ขยับ คงเป็ นเพราะนัก ลงทุนเห็นงบรวมยังขาดทุน ผมก็เริ่มซื้ อที่ .77 บ. ปรากฎว่ามีคนแย่งซื้ อ ลากราคา จน ceiling วันนั้นเลย ผมไม่กล้าซื้ อตามเลยได้หนุ ้ ไม่มาก ไปเริ่มซื้ อใหม่ตอนเงียบๆ กันแล้วประมาณ 90 สตางค์ -1บ. พอประกาศงบq 4 ก็ตามคาดคือ ยังมีผล 71 โจ ลูกอีสาน


ขาดทุน แต่จะเห็นได้ว่าขาดทุนลดจากq 3 200 ล. นั ่นคือกาไรธุรกิจฟิ ล์ม ล้วนๆ ยืนยันขาขึ้ นของฟิ ล์ม BOPP ราคาหุน้ ก็ ceiling อีกรอบ ถือตัวนี้ มาครึ่งปี ceiling ไปแล้ว 3 รอบ

AIT ผมก็ติดตามพื้ นฐานของหุน้ ที่อยูใ่ น watch list เสมอๆ ตัวนี้ มีเหตุผลที่ผม สนใจคือ -เป็ นเหตุผลแปลกๆคือผมสนใจหุน้ ที่เคยฮิตใน tvi พอเลิกฮิตราคาก็ไหลลง กระทูก้ ็ไม่ค่อยมีใครอัพเดท และที่สาคัญพื้ นฐานก็ไม่ได้แย่นัก ผมจะสนใจหุน้ เหล่านี้ มากกว่าปกติ -ผมชอบซื้ อหุน้ ที่เจอกับปั จจัยลบชัว่ คราว ตัว ait ทาธุรกิจวางระบบ IS ซึ่ง ต้องอาศัยงานจากรัฐวิสาหกิจ ภาครัฐค่อนข้างมากและได้รบั ผลกระทบจาก ปั ญหาการเมือง ทาให้มีการตรวจสอบโครงการเก่า โครงการใหม่ๆก็ไม่ออกมา การเบิกจ่ายงบก็ล่าช้า ทาให้ผลการดาเนิ นงานปี ที่ผ่านมาไม่ดี ผมมองในแง่ดีวา่ ถ้า ทุกอย่างกลับมาเป็ นปกติเมื่ อได้รฐั บาลไหม่ ait ควรจะพื้นตัวกลับมาเช่นกัน (ผูบ้ ริหารพูดบ่อยๆว่าปี 50 เป็ นปี ผิดปกติ) -แม้แต่ปีที่แย่ ait ก็ยงั ทากาไรได้คอ่ นข้างดี ที่ราคา 13-14 PE ก็แค่ 6 เท่า ส่วนงบการเงินดี มีเงินสดสุทธิ กระแสเงินสดดีมาก ปั นผลก็ดีมาก - backlog ตอนสิ้ นปี ประมาณ 600 ล.ซึ่งถือว่าน้อย แต่ผ่านไป 2 เดือน ผูบ้ ริหารให้สมั ภาษณ์อีกครั้งว่า backlog เพิ่มเป็ น 2000 ล.แล้ว(ปี 50 ยอดขายแค่ 1650ล) ตอนนั้นหุน้ ก็ประมาณ 13-15 บ. 72 โจ ลูกอีสาน


สรุปว่าตอนนั้นผมซื้ อ ait เพราะหวังว่าจะเป็ นหุน้ turnaround โดยมีความเสี่ยงที่จะ ขาดทุนค่อนข้างน้อย และมีโชคด้วยที่ backlog เพิ่มขึ้ นมากแบบเข็มขัดสั้น

GFPT ตัวนี้ ผมเริ่มมาสนใจเพราะอ่านงานวิจยั ของโบรค บริษัทลุ่มๆดอนๆมาหลาย ปี ผลจากวิกฤติไข้หวัดนก และปริมาณสินค้าที่เกินความต้องการ q1-q2 ยังขาดทุน แต่q3 กาไร 140 ล. ผมก็สนใจแต่ยงั ไม่แน่ ใจว่าดีจริงหรือเปล่า อาจเป็ นความผัน ผวนรายไตรมาส ก็ไม่ได้สนใจอีกเลย จนประกาศผลประกอบการรอบปี กาไรโต ขึ้นมาก ผมก็ดูผ่านๆ ลืมไปแล้วว่าดีตดิ ต่อกัน 2 ไตรมาส วันรุ่งขึ้ นไปส่งลูกที่ โรงเรียนเจอรุ่นพี่นอกเวป บอกว่าตัวนี้ กาไรโตขึ้ นมาก ผมสนใจหรือเปล่า กลับมา ผมรีบหาข้อมูลประมาณ 1 ชม.ก่อนตลาดเปิ ด เปิ ดมาหุน้ ขึ้ นไป 10% ผมก็ยงั ซื้ อ ซื้ อจนเงินหมด ชักสงสัยว่าหุน้ ดีจริงหรือเปล่า เพราะมีแรงขายเยอะเหลือเกิน กลับมาดูพนฐานก็ ื้ พอจะสบายใจได้บา้ ง ถ้าทากาไรได้เหมือนq4 ที่ 180 ล. P/E ที่ ราคา 13.8 ประมาณ 2.4 เท่า

AH PREB NVL ผมเคยผิดหวังกับหุน้ turnaround หลายตัว โชคดีที่ไม่ขาดทุนมากเพราะความ ระแวดระวังนัน่ เอง มี 3 ตัวที่จาได้คือ ah preb nvl

ah หลายท่านติดตาม บริษัทมีปัญหาเรื่องอานาจการต่อรอง ผูบ้ ริหารนาเสนอแต่ แง่ดี การตัดสินใจลงทุนที่ยงั ไม่สร้างกาไร ที่ผมสนใจเพราะยอดขายเกือบหมื่นล้าน แต่กาไรแค่ 3-4% แค่น้ันเอง ซึ่งถ้าดูกาไร/ยอดขายผมคิดว่าตา่ เกินไป แต่สิ่งที่มอง 73 โจ ลูกอีสาน


ก็ยงั ไมเกิดขึ้ น กาไรยังไม่เพิ่มขึ้ น แถมยังมีความเสี่ยงเรื่องสัญญาหลักที่กาลังจะ หมดอายุ

preb

เป็ นหุน้ รับเหมาที่ผมชอบรองจาก syntec บริษัทขาดทุนหนักเพราะรับงาน

ผิดพลาดไม่มีมาร์จิน หลังจากบริษัทมีบทเรียนทุกอย่างก็ดีขึ้น แต่ปัญหาเฉพาะ หน้าคือราคาวัสดุก่อสร้าง น้ ามันเพิ่มขึ้ นมาก ดังนั้นผมไม่คิดว่าบริษัทจะดีขึ้นมากอ ย่างที่หวัง

nvl

บริษัทได้ผบู้ ริหารไหม่ เลิกลดธุรกิจเก่าที่ สูธ้ นาคารไม่ได้ หันมาสู่ธรุ กิจใหม่ที่

ไม่มีค่แู ข่ง แต่ตอนนี้ แบงค์สามารถเข้ามาทาธุรกิจใหม่นี้ได้แล้ว ประกอบกับกาไรยัง ไม่มาเหมือนที่คุยไว้ หากผมติดตามข่าว ความคืบหน้า แล้วไม่เป็ นตามที่ผมคาดหวัง ก็ง่ายๆคือขายทิ้ ง ไปหรือลดสัดส่วนรอความชัดเจนมากกว่านี้

SC ผมสนใจหุน้ ตัวนี้ เพราะอ่านคุณ Alastor ในห้องร้อยคนร้อยหุน้ ครับ สนใจที่วา่ เป็ น บริษัทอสังหาที่มีรายได้ค่อนข้างมัน่ คง เพราะมีสดั ส่วนรายได้จากการให้เช่า ประมาณ 30% สินค้าก็ดีมีกลุ่มเป้าหมาย งบการเงินก็ดีมาก ที่สาคัญซื้ อขายกันที่ P/E ตา่ มากประมาณ 4-5 เท่า หากเปรียบเทียบกับบริษัทระดับเดียวกันควรจะ ซื้ อขายที่ PE ประมาณ 8-9 เท่า 74 โจ ลูกอีสาน


สาเหตุที่ตลาดให้ราคาตา่ กว่าปกติ ก็อย่างที่ หลายคนรูค้ ือมีคดีกล่าวว่าผูถ้ ือ หุน้ ใหญ่ปกปิ ดสัดส่วนการถือหุน้ ตอนขาย IPO ทาให้สามารถยับยัง้ มติสาคัญๆได้ ประเด็นนี้ เป็ นความเสี่ยงที่ตลาดให้ราคาหุน้ ตา่ กว่าที่ควรจะเป็ น ผมลองคิดถึงความ เสี่ ยงข้อนี้ และสรุปเอาเองว่าตลาดอาจจะให้นา้ หนักคดีมากเกินไป ด้วยเหตุผล เหล่านี้ ครับ - หากผิดจริง ควรจะเป็ นความผิดของผูถ้ ือหุน้ เดิม ผูถ้ ือหุน้ รายย่อยไม่มีส่วนรับรู ้ ทาไมต้องปรับบริษัท ทาให้ผถู้ ือหุน้ รายย่อยเสียประโยชน์ไปด้วย - ค่าปรับ ทาไมต้องปรับสูงสุดที่ 2000 ล.บาท ทาไมไม่ปรับที่ตา่ สุด พิสจู น์ได้ อย่างไรว่าผูถ้ ือหุน้ ใหญ่ได้ประโยชน์จาการทาผิดนั้นเป็ นมูลค่า 2000 ล้าน - ถ้าผิดจริง กว่าจะเอาผิดได้คงใช้เวลานาน - ถ้าผิดจริง กิจการก็ยงั ไม่เจ๊ง และสามารถดาเนิ นงานได้ตามปกติ แต่กาไรอาจจะ ลด - สรปุวา่ เป็ นว่าข้อกล่าวหาที่ผมคิดว่ามีแรงจูงใจทางการเมือง และผมคิดว่าพรรค พลังประชาชนน่ าจะได้จดั ตั้งรัฐบาล ผมทยอยซื้ อ 9-9.7 บ. และขายไปที่ 15-16 บ. ก่อนรับปั นผล เพราะราคา ถึงเป้าหมายที่ผมคิดว่าเหมาะสมกับพื้ นฐานแล้ว เพราะผลประกอบการปี นี้ น่ าจะโต 20-25% แต่ปีที่แล้วมีกาไรรายการพิเศษด้วย ดังนั้นปี นี้ กาไรน่ าจะเพิ่มไม่มาก ครับ ที่ราคาตลาด 13.1 บ. พีอี 6.8 ถ้ารวมรายการพิเศษน่ าจะเป็ น 7-8 เท่า ปี นี้ น่ าจะโตอีกนิ ดหน่ อย ก็ยงั พอมี upside แต่ผมขายไปเพราะไปซื้ อตัวอื่นที่คิดว่าดีกว่า ครับ :D สรุปว่าผมซื้ อ SC เพราะเป็ นหุน้ สถานการณ์พิเศษ และผมคิดแล้วว่าความ เสี่ยงของสถานการณ์น้ันน่ าจะลงเอยด้วยดี หรือเสียหายไม่มากครับ 75 โจ ลูกอีสาน


CSL 1.ที่จาได้ csl มีธุรกิจหลายประเภทครับหลักๆเป็ น บริหารอินเตอร์เนต ขายคอน เทนต์มือถือ สมุดหน้าเหลือง และล่าสุดขายแผ่นพับโฆษณา แต่ตวั ที่ สร้างกาไรหลัก น่าจะเป็ นสมุดหน้าเหลือง เพราะเป็ นกึ่ งๆผูกขาด ที่จริงจาได้วา่ ไม่มีสมั ปทานใดๆ แต่ไม่มีคนมาทาแข่งครับ ไม่รเู ้ พราะอะไรเหมือนกัน ส่วนบริการอินเตอร์เนตหลังๆ จะเน้นให้บริการ lease line ลูกค้าที่เป็ นองค์การ มีการเติบโต 14 ไตรมาสติดแล้ว โบรคว่าอย่างงั้น ปี สองปี ที่แล้วไปซื้ อเวปหรือ หนังสือพิมพ์วฎั ฎะ 80 ล. ไม่แน่ ใจว่า ส่วนนี้ สร้างกาไรหรือยัง สรุปได้วา่ ธุรกิจที่สร้างกาไรเป็ นกอบเป็ นกาคือสมุ ดหน้า เหลืองและอินเตอร์เนตที่เน้นลูกค้าองค์กรครับ คาถามที่วา่ csl มีส่วนแบ่งเท่าไหร่ก็ ต้องไปดูแยกแต่ละธุรกิจ ซึ่งผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ไม่แน่ ใจใน 56-1 จะมีตวั เลข หรือเปล่า 2.ธุรกิจบริการอินเตอร์เนตรายได้เกือบทั้งหมดมาจากลูกค้า lease line 3000 รายแล้วครับ ไม่ได้เน้นขายประชาชนทัว่ ไปครับ เพราะคงสูพ้ วกยักษ์ใหญ่ที่ มีความพร้อมกว่าอย่าง tot true tt&t ไม่ได้ 3.ที่หลายท่านมอง csl ว่ากระแสเงินสดดี ลงทุนน้อยซึ่งก็จริง แต่อาจจะมี เหตุผลอย่างนี้ คือ มีการลงทุนไปครัง้ แรกในธุรกิจที่ ได้รบั สัมปทานจาก กสท. หลังจากนั้นก็ตดั ค่าเสื่ อมทุกๆปี นี่ เองที่ ทาให้ csl มีกระแสเงินสดที่ ดี แต่อาจจะไม่ ตลอดไปเพราะสัมปทานนี้ เข้าใจว่าหมดหรือใกล้หมดแล้ว ดังนั้นต่อไปอาจจะต้อง ลงทุนใหม่ และไม่มีการตัดค่าเสื่อมมากๆอีกแล้ว จะเห็นได้วา่ สินทรัพย์ถาวรเหลือ แค่ 300 ล.เท่านั้น

csl

เป็ นหุน้ น้อยตัวในตลาดหลักทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดี

โดยส่วนใหญ่เป็ น

ผลตอบแทนจากเงินปั นผล ที่จา่ ยแบบรีดกันจนหยดสุดท้าย เรียกว่ามีกาไรสะสม (งบเดี่ยว)เมื่อไหร่จา่ ยปั นผลทันทีเกือบทั้งหมด ถ้าไม่มีกาไรสะสมก็มีการลดทุนลด 76 โจ ลูกอีสาน


หุน้ กันเลย ผลจากการปั นผลเกือบหมดทุกปี ทาให้ตอนนี้ งบดุลด้อยลง ยังไม่ถึงกับ แย่ คือมีเงินสดก็จริง แต่เป็ นเงินที่มีภาระผูกผันต้องให้บริการในอนาคต นอกจากนั้นเริ่มมีการเบิกวงเงินกูม้ าใช้บา้ งแล้ว(ดอกเบี้ ยเริ่มเดิน) และผลของการ จ่ายเงินปั นผลมากๆ ทาให้ไม่มีเงินไปขยายซื้ อกิจการ กาไรก็เลยทรงๆ ครับคงหวัง capital gain ได้ยากหน่ อย แม่ของ csl คือ thcom ครับ แม้ลกู จะดีแต่แม่เอาตัวไม่ค่อยจะรอดครับ

SVI ถ้าจาไม่ผิดสินค้าที่ svi รับจ้างผลิตเป็ นชิ้นส่วนที่ ใช้ในอุปกรณ์อตุ สาหกรรมขนาด ใหญ่ ซึ่ งคงได้รบั ผลกระทบน้อยกว่าสินค้าอิเลคทรอนิ คส์ที่ขายให้ผบู้ ริโภคโดยตรง ที่ผบู้ ริหารบอกว่ากาลังการผลิตปี หน้าเต็มแล้วก็เป็ นไปได้มากครับ เพราะคุณโพธิ์ มักพูดแล้วทาได้ เหตผลนึ งอาจเป็ นเพราะ svi เป็ นผูผ้ ลิตต้นทุนตา่ แม้เศรษกิจจะ ไม่ดี ลูกค้าก็อาจจะโยกรายอื่นมาให้ svi ผลิตแทนเพราะต้นทุนตา่ กว่า อย่างนี้ ก็ทา ให้กาลังการผลิตเต็มตลอดเวลาแม้เศรษกิจไม่ดีครับ ปั จจัยนึ งที่ผมแปลกใจคือไม่วา่ ค่าเงินเป็ นอย่างไร svi มีกาไรค่าเงินทุกไตร มาส(คุณพิศมัย สายบัว cfo คงเก่งมากครับ :o ) แต่ไม่รจู ้ ะเป็ นอย่างนี้ นานแค่ไหน ช่วงนี้ เข้าใจว่าเงินยูโรตลาดหลักของ svi ค่าเงินอ่อนลงมาก ทาให้ยอดขายในรูปเงิน บาทอาจจะลดลงครับ

ผมยังถือบางส่วนครับ ที่ราคาตลาด 90 สตางค์ PE ประมาณ 2.3-2.4 เท่า หรือ ผลตอบแทน 40% ถ้ายังทากาไรได้ดีอย่างนี้ แค่ 2 ปี กว่าๆก็เท่ากับราคาหุน้ แล้ว ที่ จริงเศรษกิจอย่างนี้ ไม่ตอ้ งลงทุนมาก กาไรเท่าไหร่น่าจะปั นผลให้หมด ถ้ายิลด์ปัน 77 โจ ลูกอีสาน


ผลปี นี้ 40% หุน้ ไม่ขึ้นก็ให้มนั รูไ้ ป แทนที่คุณโพธิ์จะบ่นว่าทาอย่างไรหุน้ ก็ไม่ขึ้น น่ าจะลองไอเดียที่ผมและหลายท่านเคยเสนอเรื่องปั นผลแบบนี้ บ้างนะครับ เงินก็มี ผูถ้ ือหุน้ กองทุนก็น่าจะสนับสนุ น ไม่ตอ้ งไปเร่ขายหุน้ ให้คนอื่นถูกๆ ปั นผล ออกแบบ asl ก็หมดปั ญหา ดีไปหมด..

คลิปสัมภาษณ์ -

https://www.youtube.com/watch?v=PHEiNj-H8HY https://www.youtube.com/watch?v=StWZn-05zCE https://www.youtube.com/watch?v=JRBedbh5wkA https://www.youtube.com/watch?v=-NzSObxomMo https://www.youtube.com/watch?v=NBfL-f36s2g https://www.youtube.com/watch?v=xU7NAxpxTu4 https://www.youtube.com/watch?v=2q2kK_xwjmc https://www.youtube.com/watch?v=lhhjqVnJVi4 https://www.youtube.com/watch?v=CiGecVw0VUQ https://www.youtube.com/watch?v=K1IjN8CEojY https://www.youtube.com/watch?v=ogxwShvfgAY https://www.youtube.com/watch?v=FBorJM3ME-c https://www.youtube.com/watch?v=vLf7-dZevlE https://www.youtube.com/watch?v=6m7Y70Oj-QI https://www.youtube.com/watch?v=MWcDRnk3Syo

78 โจ ลูกอีสาน


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.