amazing chaing rai

Page 1

Amazing

cHIANG

RAI


ภูช้ ีฟ้า

ภูชี้ฟ้า เป็ นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีชื่อเสี ยงมากที่สุดของจังหวัดเชียงราย และเป็ นจุดหมายปลา ยทางของนักเดินทางที่ชอบความสวยงามของธรรมชาติและยังพอเรี่ ยวแรงที่ฝันอยากจะมาสัมผัสกับความ งามของสถานที่แห่งนี้สกั ครั้งในชีวติ ภูชี้ฟ้า ถ้าพูดถึงความหนาวเย็นก็คงจะไม่แตกตางอะไรมากหนัก กับหลาย ๆ ดอยสูงทางภาคเหนือของไทย แต่สิ่งหนึ่งที่อยูค่ ู่กบั ยอดภูแห่งนี้มาตลอดและสร้างความประทั บใจให้กบั ผูท้ ี่มาพบเห็น ก็คือ ความสวยงามแปลกตาของหน้าผาสู งที่ยนื่ เด่นลอยออกไปในอากาศ สาย ลมหนาวที่วบู ผ่านมาแล้วเลยผ่านไป ทิวทัศน์เบื้องล่างคือ ภาพทะเลหมอกและภาพของดวงอาทิตย์สีแดง ที่กำลังเบียดเสี ยดแทรกตัวออกมาท่ามกลางทะเลหมอกหนา และหุบเขาน้อยใหญ่ ภาพความสวยงามต่าง ๆ เหล่านี้ ได้กลายเป็ นสิ่ งที่ดึงดูดผูค้ นมากมายให้หลัง่ ไหลมาที่นี่ ในแต่ละปี เมื่อลมหนาวมาเยือนจ


ะมีนกั ท่องเที่ยวมากมายจากทัว่ ทุกสารทิศ เดินทางมาสัมผัสกับอากาศหนาวและชมความงามของทะเ ลหมอกยามเช้าที่ภูชี้ฟ้า อย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาว บนยอดดอยสู งแห่งนี้แทบไม่มี ที่ยนื ถ่ายรู ป ทะเลหมอกและพระอาทิตย์ข้ ึนยามเช้าที่ภูชี้ฟ้า ได้รับการกล่าวขานว่าสวยงามกว่าที่ใด ๆ ในประเทศ บริ เวณทางเดินขึ้นสู่ยอดภูช้ ีฟ้า เป็ นทุ่งหญ้ากว้าง มีทุ่งดอกโคลงเคลงขึ้นแซมเป็ นระยะ อ อกดอกสี ชมพูอมม่วงในช่วงเดือนกรกฎาคม – มกราคม ช่วงเพิ่มความสวยงามให้กบั ยอดภูแห่งนี้ได้อี กไม่ใช่นอ้ ย ระหว่างทางขึ้นมายังภูช้ ีฟ้ายังต้องผ่านภูเขาที่มีววิ ทิวทัศน์งดงาม หากมาในช่วงต้นเดือนกุม ภาพันธ์จะได้ชมความงามของดงดอกเสี้ ยวที่ออกดอกสี ขาวอมชมพูบานสะพรั่งระหว่างทางขึ้นสู่ภูชี้ฟ้า


มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ม หาวิ ท ยาลัย แม่ ฟ้ าหลวงได้ รั บ การสถาปนา เป็ นมหาวิ ท ยาลัย ของรั ฐ ตามพระราชบัญ ญัติ จ ัด ตั้ง เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2541 โดยมีสถาน ภาพเป็ นมหาวิ ท ยาลัย ของรั ฐ ที่ มิ ใ ช่ ส่ ว นราชการ การดำเนินการด้านต่างๆ ได้มีการพัฒนามาเป็ นลำดับ ด้วยความมัน่ คงและมีคุณภาพ จวบจนถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2547 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ฯ ไ ด้ ท ร ง มี พ ร ะ ม ห า ก รุ ณ า ธิ คุ ณ โ ป ร ด เ ก ล้ า ฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุ ดาฯ สยามบรมราชกุม ารี เสด็จพระราชดำเนิ นแทนพระองค์ประกอบพิธีเปิ ดมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง พิธีเปิ ดศูนย์ภาษาและวั ฒนธรรมจีนสิ รินธร และพระราชทานปริ ญญาบัตร แก่ผสู ้ ำเร็ จการศึกษาประจำปี การศึกษา 2545 ยังคว ามปลื้ มปิ ติ สำนึ กในพระมหากรุ ณาธิ คุณเป็ นล้นพ้น



วัดร่องขุ่น วัดร่ องขุ่น เป็ นวัดพุทธและวัดฮินดู ที่จงั หวัดเชียงราย ออกแบบและก่อสร้างโดย เฉลิมชัย โฆษิตพิพฒั น์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2540 จนถึงปัจจุบนั โดยเฉลิมชัยคาดว่างานก่อสร้างวัดร่ องขุ่นจะไม่เสร็ จลงภายในช่วงชีวติ ขอ งเขา วัดร่ องขุ่นได้ตน้ แบบการสร้างมาจากวัดมิ่งเมืองในจังหวัดน่าน เฉลิมชัย โฆษิตพิพฒั น์ได้รับแรงบันด าลใจในการสร้างวัดมาจาก 3 สิ่ งต่อไปนี้คือ ชาติ ด้วยความรักบ้านเมือ รักงานศิลป จึงหวังสร้าง งานศิลปะที่ยงิ่ ใหญ่ไว้เป็ นสมบัติของแผ่นดิน ศาสนา : ธรรมะได้เ ปลี่ ย นชี วิ ต ของอาจารย์เ ฉลิ มชัยจากจิตที่ร้อนกลายเป็ นเย็น จึงขออุทิศตนให้แก่พระพุทธศาสนา พระมหากษัตริ ย ์ : จากการเข้าเฝ้ าฯ ถวายงานพระองค์ท่านหลายครั้ง ทำให้อาจารย์เฉลิมชัยรักพระองค์ท่านมาก จากการพบเห็นพระอั จฉริ ยะภาพทางศิลปะและพระเมตตาของพระองค์ท่าน จนบังเกิดความตื้นตันและสำนึกในพระม หากรุ ณาธิคุณ จึงปรารถนาที่จะสร้างงานพุทธศิลป์ ถวายเป็ นงานศิลปะประจำรัชกาลพระองค์ท่าน วัดร่ องขุ่นแห่งนี้เป็ นวัดพุทธ ซึ่งสังกัดอยูใ่ นฝ่ ายมหานิกาย ไม่ใช่วดั ฮินดูเหมือนAAQงที่จวั่ หัวไว้ ในวรรคแรก ซึ่งนัน่ การนำเอาวัฒนธรรมแวดล้อมของตัวเองเข้ามาผสมผสานหรื อถูกอิทธิของศาสน าอื่นเข้ามาแทรกแซงบ้าง ก็เป็ นเรื่ องของธรรมชาติ ตามพระบัญญัติแห่งคณะสงฆ์ไทยแล้ว วัดร่ องขุ่น เป็ น “วัดพุทธ” ไม่ใช่ “มหายาน” ความหมายของอุโบสถสี ขาว : พระบริ สุทธิคุณของพระพุทธเจ้า สะพาน : การเดินข้ามจากวัฎสงสารสู่พทุ ธภูมิเขี้ยว หรื อ ปากพญามาร : กิเลสในใจ สันของสะพาน : มีอสู รอมกัน ข้างละ 8 ตัว 2 ข้าง รวมกันแทนอุปกิเลส 16 กึ่งกลางของสะพาน : เขาพระสุ เมรุ ดอกบัวทิพย์ : มี 4 ดอกใหญ่ตรงทางขึ้นด้านข้างอุโบสถแทนซุม้ พระอริ ยเจ้า 4 พระองค์ คือ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ บันไดทางขึ้น : มี 3 ขั้นแทน อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา


One of the most beautiful temples in Thailand, done in a modern contemporary style, is undoubtedly Wat Rong Khun. This temple, which is in Chiang Rai in Northern Thailand, is more well-known among foreigners as The White Temple. I recently went back for my second visit and was surprised to see that work was still continuing. The temple is located in Ban Rong Khun, about 13 kilometres south-west of Chiang Rai city along Phahonyothin Road. It is the brainchild of Thai artist Chaloemchai Khositphiphat who started building it back in 1998.In an interview, he said that “maybe in 60 to 90 years after my death will the projected be completed”. Chaloemchai Khositphiphat, in his lifetime has become a great Contemporary Thai artist that is admired by many people. He has not only revitalized an interest in the ancient Thai murals found in temples, but he has at the same time produce his only unique style. Most obvious is the choice of white for the temple while others are golden. He said that he believes that gold is only suitable for people who lust for evil deeds. The attention to detail in the temple is remarkable and you do need to spend some time here studying the beautiful artwork. To reach the temple you have to cross a bridge over a pit of hell. Down below there are sculptures of people who are presumably trying to escape from hell. Inside the temple is a beautiful coloured mural of the Buddha. If you take a close look at the devil you will see small portraits of Bin Laden and George Bush in the Devil’s eyes. Also on the murals I spotted the Twin Towers of the World Trade Center and also the creature from Alien. One of the new buildings since my last visit is this Golden Toilet which is probably the most beautiful rest room in Thailand. Surprisingly it is also free, the same as for entry to the White Temple. Though obviously donations are welcome as up-keep of all the buildings is never-ending. You can buy reproductions of Chaloemchai’s impressive artwork in the souvenir shop. The White Temple is open daily from 8 a.m. to 6 p.m.


วัดเวียงกาคำขาว วัดเวียงคำกาขาว ตั้งอยูบ่ า้ นเทอดไทย ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย มีองค์พระทรงชัยรัตนพลังแผ่นดิน ขนาดหน้าตักกว้าง 8 เมตสูง10เมตรอยูบ่ นอาคาร3ชั้นสามารถขึ้นไปเที่ยวชมวิวได้อีกจุดหนึ่ง



สามเหลี่ยมทองคำ สามเหลี่ยมทองคำ (อังกฤษ: Golden Triangle) หมายถึงพื้นที่รอยต่อระหว่างสามประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย (จังหวัดเชียงราย) ลาว (แขวงบ่อแก้ว) และพม่า (แขวงท่าขี้เหล็ก, รัฐฉาน) มีลกั ษณะเป็ นพื้น ที่สามเหลี่ยมบรรจบกัน โดยมีแม่นำ้ โขงตัดผ่านชายแ ดนไทยและลาว นับเป็ นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญแห่งห นึ่งของภูมิภาค นอกจากนี้สามเหลี่ยมทองคำยังมีทิวทั ศน์ที่งดงามโดยเฉพาะยามเช้า ที่ดวงอาทิตย์ข้ ึนท่ามก ลางสายหมอก เดิมสามเหลี่ยมทองคำเป็ นที่รู้จกั ในฐา นะเป็ นแหล่งท่องเที่ยวรอยต่อระหว่างประเทศ แต่ใน ปั จจุบนั มีความสำคัญในทางเศรษฐกิจมากขึ้น เนื่องจ ากเป็ นแหล่งขนถ่ายสิ นค้าที่สำคัญอีกแห่ งหนึ่ งของไ ทย ส า ม เ ห ลี่ ย ม ท อ ง ค ำ ใ น ส่ ว น ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ไทย อยูใ่ นเขตบ้านสบรวก อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย มีท่าเรื อขนาดเล็กขนส่ งสิ นค้าไปยั งประเทศจีนและลาว เมื่อมอฮจากฝั่งไทยไปทางตะ วันออกเฉี ยงเหนื อจะเห็นหมู่บา้ นในฝั่งลาวอย่างชัดเ จน ส่ วนทางพม่าซึ่ งอยูด่ า้ นตะวันตกนั้น ไม่มีหมู่บา้ นหรื อสิ่ งก่อสร้างให้เห็นในระยะใกล้ๆ บริ เวณดังก ล่าวยังเป็ นที่บรรจบกันของแม่นำ้ โขงและแม่นำ้ รวก ที่เรี ยกว่า สบรวก บริ เวณนี้มีเคยมีชนกลุ่มน้อย และ กองกำลังติดอาวุธอยูห่ ลายกลุ่ม พื้นที่ในแถบนี้เคยเป็ นแหล่งปลูกฝิ่ นและผลิตยาเสพติดแหล่งใหญ่ เช่น มี โรงงานผลิตเฮโรอีนและกระจายอยูต่ ามชายแดน ส่ วนการลำเลี ยงฝิ่ นจะไปเป็ นขบวนลัดเลาะไปตามไ หล่เขาพร้อมกำลังคุม้ กัน ว่ากันว่ายาเสพติดและฝิ่ นจ


ะถูกแลกเปลี่ ยนด้วยทองคำในน้ำหนักที่ เท่ากัน จึงเป็ นที่มาของชื่อ สามเหลี่ยมทองคำ นักท่องเที่ ยวนิ ยมเดิ นทางไปยังสามเหลี่ ยม ทองคำในช่วงฤดูหนาว และไปถ่ายรู ปกับป้ าย “สามเหลี่ยมทองคำ” ที่ติดตั้งไว้ริมฝั่งแม่นำ้ โ ขงด้วย นอกจากนี้ยงั นิยมนัง่ เรื อเที่ยวชมทิวทั ศน์จุดบรรจบของพรมแดนไทย ลาว และพม่า ค่าเช่าเรื อประมาณ 300-400 บาท (นัง่ ได้ 6

คน) นอกจากนี้ยงั สามารถล่องแม่นำ้ โขง ไปเที่ยวทางตอนใต้ของประเทศจีน เช่น สิ บสองปันนา คุนหมิง ได้อีกด้วย แต่หาก ต้องการจะชมทิวทัศน์มุมกว้าง ของสามเห ลี่ ย มทองคำบริ เวณสบรวกและเพื่ อ นบ้า น ต้องขึ้นไปบนดอยเชียงเมี่ยง ที่อยูร่ ิ มแม่นำ้ โขง


หอนาฬิ กา หอนาฬิกาหลังใหม่ของจังหวัดเชียงราย โดยความร่ วมมือระหว่างเทศบาลนครเชียงราย และอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพฒั น์ตวั หอนาฬิกามีสีทอง มีเสี ยงระฆังบอกเวลาทุกชัว่ โมง และที่สำคัญเมื่อถึงเวลา 2 ทุ่มและ 3 ทุ่มของทุกวัน จะมีการเล่น แสง สี เสี ยงประกอบเพลงเชียงรายรำลึก หอนาฬิกาจะเปลี่ยนสี จากสี ทอง เป็ นสี แดง ชมพู ฟ้ า เขียว และอื่นๆ สลับกันไปมา ตรงกลางอาคารจะมีดอกบัวค่อยๆโผล่ออกมา และบานออกในที่สุด เป็ นที่ตื่นตาตื่นใจต่อนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่มาเฝ้ ารอเวลานั้นๆ



พระตำหนักดอยตุง พระตำหนักดอยตุง พระตำหนักดอยตุง ตั้งอยูท่ ี่ หมู่ที่ 7 บ้านมูเซอลาบา ตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย บริ เวณสันเขาของเทือกดอยนางนอน ระดับความสู งประมาณ 1,200 ม. เป็ นส่ วนหนึ่งของโคร งการพัฒนาดอยตุง เป็ นที่ประทับแปรพระราชฐานเพื่อท รงงานของสมเด็จพระศรี นคริ นทราบรมราชชนนี พระตำหนักเป็ นอาคารสองชั้น มีรูปทรงผสมผสานระหว่างศิลป ะล้านนากับชาเลย์ของสวิส มีการแกะสลักไม้ตามกาแล เชิง ชายและขอบหน้าต่างเป็ นลวดลายต่าง ๆ ฝี มือช่างชาวเหนือ พระตำหนักดอยตุง ตั้งอยูท่ ี่ หมู่ที่ 7 บ้านมูเซอลาบา ตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย บริ เวณสันเขาของเทือกดอย นางนอนระดับความสูงประมาณ 1,200 ม. เป็ นส่ วนหนึ่งของโครงการพัฒนาดอยตุง Doi Tung Doi Tung is gone of the most famous tourist destinations of Chiang Rai Province. Several places can be seen on “Doi Tung Palace” such as the palace of the King’s Mother which was built fusing Lanna and Swiss architectural styles. Then there is “the Mae Fah Luang garden”, the most beautiful park of the country The doi Tung Roya l Villa was the first residence of Her Royal Highness Princess Srinakarindra,the Princess Mother,built under her supervision. Her Royal Highness the Princess Mother and her daughter,Her Royal Highness Princess Galyani Vadhana,gave the architects a concept of simplicity and multi-functionality for the Royal Villa construction Started on December 26,1987 with a traditional northern Thai ceremony(called “pok Sao Huen”)of planting the main house pillar. The Royal Villa incorporates architectural elements from Switzerland,where Her Royal Highness lived for many years,and from northern Thaior Lanna culture.Her Royal Highness used the Royal Villa as a base to oversee work in the Doi Tung Development Project. The Royal villa consists of 4 connected buildings(1)the personal residence of Her Royal Highness the Princess Mother(2)a large reception hall,(3)the personal residence of than phuying (dame) Tasna Valaya Sorasongkrarn,granddaughter of H.R.H. the Princess Mother,and (4)the personal residence of H.R.H.Princess Galyani Vadhana,daughter of H.R.H. the Princess Motheer.


การเดินทาง พระตำหนักดอยตุงอยูห่ ่างจากตัวเมืองเชียงราย 60 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 110 ไป 45 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1149 ไปประมาณ 15 กิโลเมตร สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางโด ยรถประจำทางสามารถใช้บริ การรถสองแถวส ม่วงบริ เวณปากทาง รถออกตั้งแต่ 07.00 น. มีรถออกทุก 20 นาที Getting to Doi Tung The Doi Tung Development Project is accessible by road from Chiang Rai city (via the airport): - from the city, travel north along Highway 10 for 48 kms. - From the airport, turn right at the Highway 10 intersection, and travel north for 41 kms. - Turn left at the Ban San Kong intersection (between the 870 and 871 km markings on Highway 10) - Follow the sighs to the Doi Tung Royal Villa. The return trip can be made by passing the Pha Me Vocational Center, along a sce\ \nic, winding road, to the border town of Mae Sai (the northermost point of Thailand)


เ ชี ย ง ร า ย


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.