วรรณสารวันภาษาไทยแห่งชาติ ปี ๒๕๖๓

Page 1


บอกกล่าวเล่าเรื่อง บรรณาธิการ สวัสดีผู้อ่านทุกท่านที่สนับสนุนวรรณสารฉบับวันภาษาไทยแห่ง ชาติ มาอย่างต่อเนื่อง วรรณสาร ฉบับนี้มุ่งนาเสนอในประเด็น “ภาษาสื่อสาร จินตนาการผ่านวรรณศิลป์” เพื่อแสดงให้เห็นถึงความงามและ เสน่หข์ องภาษา ไม่ว่าจะเป็นการพูด การเขียน หรือการแต่งคาประพันธ์อย่างมีลีลาวรรณศิลป์ โดยยังคง นาเสนอผลงานเขียนของนักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทยทีม่ ีความหลากหลาย และเต็มไปด้วยอรรถรสเช่นเดิม วรรณสารฉบับนี้มีการปรับเปลี่ยนเพื่อความสะดวก และทันต่อการเผยแพร่เนื่องในงานภาษาไทยราลึก ของคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ดังนั้นวรรณสารฉบับนี้จึงเป็นฉบับพิเศษ ฉบับที่ ๖๓ ประจาเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม ๒๕๖๓ เนื้อหาสาระของวรรณสารฉบับนี้ ประกอบด้วย คอลัมน์สืบเนื่องจากปก บทความสัมภาษณ์พิเศษ เสริมสร้างประสบการณ์กับโครงการดี ๆ ปลูกกล้านักวิจัย กด Like วรรณกรรม มุมคาร้องมองอย่าง นักวิจารณ์ ไขภาษากับไทยศิลปศาสตร์ ขวนชิมชวนเที่ย ว เจ้า บทเจ้า กลอน เกร็ด ความรู้ บัน ทึก ภาพ ในความทรงจา และข่าวประชาสัมพันธ์ เป็นการนาเสนอข้อมูลสาระ ความบันเทิงแก่ผู้อ่านที่สนใจ และ หวังว่าจะนาไปปรับใช้ หรือเติมเต็มให้เกิดประโยชน์ได้อย่างแท้จริง สุดท้ายนี้กองบรรณาธิการขอขอบคุณสมาชิก ผู้จัดทาวรรณสาร ที่ปรึกษาวรรณสาร รวมทั้งผู้อ่าน ทุกท่านที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีเสมอมา แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้า ขอบคุณค่ะ

ที่ปรึกษา ผศ.ดร.รุ่งรัตน์ ทองสกุล ผศ.ดร.วรพงศ์ ไชยฤกษ์ ผศ.จุฬารัตน์ เสงี่ยม อ.สุริยา ทองคา อ.ปรีดา สุวรรณจันทร์ อ.พัชราภรณ์ คชินทร์

พิสูจน์อักษร นางสาวพรนภัส เพ็งลา นางสาวนาราภัทร ชูเชิดรับ นางสาวนันทพร แทนพ่อ วรรณสารฉบับที่ ๖๓

บรรณาธิการ

จัดพิมพ์

นางสาวยวิษฐา กาเนิดทอง

นางสาวสิริยากร อ่อนศรีโรจน์ นางสาวศศิวิมล ประคีตวาทิน นางสาวติกานต์ การดี

กองบรรณาธิการ

ศิลปกรรมปก

นายปฏิวัติ ทองบุญยัง นางสาวอภิสรา คงแก้ว นางสาวภัณฑิรา ศรีแสง

นางสาวพิมภมร สามะเนี๊ยะ


สารบัญ

วรรณสารฉบับที่ ๖๓ ฉบับวันภาษาไทยแห่งชาติ เดือนมิถุนายน – กรกฎาคม ๒๕๖๓ ...................................................................................................................................... เรื่อง

หน้า

สืบเนือ่ งจากปก ราลึกบาทบพิตรอดิศร เสน่ห์ภาษา ลีลาวรรณศิลป์ ภูมิใจภาษาหลัก รู้รักษ์ภาษาไทย มองวิกฤตให้เป็นโอกาส : ในสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด – ๑๙ บทความสัมภาษณ์พิเศษ สื่อภาษาผ่านวรรณศิลป์ “อาจารย์สุริยา ทองคา” ผู้ปิดทองหลังพระ เปิดประสบการณ์ใหม่ ภาษาไทยศิลปศาสตร์ เรียนภาษาไทยได้อะไรมากกว่าที่คิด เสริมสร้างประสบการณ์กับโครงการดี ๆ เส้นทางสู่การเป็นพิธีกรมืออาชีพ กิจกรรมสร้างสรรค์ บริการสู่ชุมชน “บ้านเกาะหมากน้อย” สานสัมพันธ์น้องพี่ ทศศ. มรภ.ภูเก็ต เปิดบ้านต้อนรับ ค.บ.ภาษาไทย มรภ.กาญจนบุรี ปลูกกล้านักวิจัย การสื่ออารมณ์ “โกรธ” ในวรรณคดีเรื่อง “พระอภัยมณี” อุปลักษณ์เชิงมโนทัศน์ที่เป็นคาด่าในเพจ “จ๊อกจ๊อก” วรรณสารฉบับที่ ๖๓

๑ ๒ ๔ ๗

๑๑ ๑๕ ๑๘ ๒๑

๒๓ ๒๕ ๒๘

๓๐ ๔๐


สารบัญ (ต่อ) เรื่อง

หน้า กด Like วรรณกรรม ชนะใจ สามีสีทอง

๕๗ ๖๔

มุมคาร้องมองอย่างนักวิจารณ์ เพลินเพลงในดวงใจ

๖๙

ไขภาษากับไทยศิลปศาสตร์ คาศัพท์จอมยุ่ง ภาษาไทยน่ารู้

๗๓ ๗๖

ชวนชิมชวนเที่ยว พาเที่ยว พาชม ของดีตามคาขวัญจังหวัดภูเก็ต ชม เริน ย่า อาโป๊งแม่สุณี ของดีเมืองภูเก็ต ตามรอยได้แบบไม่เอ๊าต์ “๑๐ คาเฟ่ภูเก็ต” บรรยากาศน่านั่ง ถ่ายรุปปังทุกองศา

๗๙ ๘๒ ๘๔ ๘๖

เจ้าบทเจ้ากลอน คลื่นชีวิต เจ็บช้ารัก ความสาเร็จ ภาพจา รักของสองเรา เพลินพนา อรัญญิก อักษรสามหมู่

๙๑ ๙๑ ๙๒ ๙๒ ๙๓ ๙๓ ๙๔ ๙๔

วรรณสารฉบับที่ ๖๓


สารบัญ (ต่อ) เรื่อง

หน้า เกร็ดความรู้ เกร็ดความรู้ คู่ภาษาไทย : คาเรียกฤดูกาล สารพันอาหารพื้นบ้าน เมนูสุขภาพของดีบ้านเรา ทางเลือกสาหรับคนรักสุขภาพ เผยผิวสวย คลายกังวลเรื่อง “รอยแผลเป็น”

๙๕ ๙๗ ๙๙ ๑๐๒

บันทึกภาพในความทรงจา คุณภาพคน ทศศ. กับ ผศ. ใหม่

๑๐๔

ข่าวประชาสัมพันธ์

๑๐๘

ผู้เรียบเรียง

๑๑๐

วรรณสารฉบับที่ ๖๓


ราลึกบาทบพิตรอดิศร / เสน่ห์ภาษา ลีลาวรรณศิลป์ / ภูมิใจภาษาหลัก รู้รักษ์ภาษาไทย / มองวิกฤตให้เป็นโอกาส : ในสถานการณ์ การแพร่ระบาดไวรัสโควิด – ๑๙

สืบเนื่องจากปก

ราลึกบาทบพิตรอดิศร

ราชามหาอธิกษัตริย์

ธ บาบัดบารุงไทย

ท้าวเธอพระนามะอภิไธย

นวมินทราชา

พระภูมิพลอดุลยเดช

พระปกเกศนครา

นาไทยวิวัฒน์และพัฒนา

พระเกียรติเฟื่องขจรไกล

ทรงห่วงภาษามีพระดารัส

วรตรัสธารงไว้

จึ่งก่อกาเนิดวันภาษาไทย

ประดับอยู่คู่ธานี

ราษฎร์น้อมระลึกพระอธิคุณ

พระการุณย์กษัตริย์ศรี

นวมราชานฤบดี

พระสถิต ณ จิตนิรันดร์ สุริยา ทองคา ผู้ประพันธ์

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๑


เสน่ห์ภาษา ลีลาวรรณศิลป์ สิริยากร ราโชกาญจน์

การทุกอย฽างที่สามารถดําเนินไปได฾ ล฾วนเป็นผลมาจากการกระทําของมนุษยแ อาวุธหรื อ เครื่องมือสําคัญชั้นหนึ่งของมนุษยแเพื่อขับเคลื่อนความสําเร็จ คือ “ภาษา” ซึ่งปฏิเสธไม฽ได฾ว฽า “ภาษาดี เป็นศรีแก฽ตน” ภาษาดีในที่นี้หมายถึง ภาษาที่ถ฽ายทอดออกมาจากผู฾ที่มีทักษะทางความคิด รู฾จักเรียบ เรียงความคิด ทําให฾สามารถสื่อสารความคิดด฾วยภาษาได฾อย฽างสร฾างสรรคแ เมื่อกล฽าวถึงภาษา หลายคนคิดว฽าเกิดขึ้นเฉพาะภาษาพูดเท฽านั้น แต฽แท฾ที่จริง แล฾ว ภาษา คือ พฤติกรรมของมนุษยแที่ทําให฾เกิดความเข฾าใจตรงกันทั้งในฐานะผู฾ส฽งสารและผู฾รับสาร ด฾วยเหตุนี้จึงแบ฽ง ภาษาออกได฾เป็น ๒ ประเภท ได฾แก฽ อวัจนภาษา และวัจนภาษา อวัจนภาษา หมายถึง การสื่อสารด฾วยการ แสดงออกทางพฤติกรรมหรือกิริยาท฽าทาง เช฽น การยิ้ม การพยักหน฾า การร฾องไห฾ การโบกมือ เป็นต฾น ส฽วนวัจนภาษา หมายถึง การสื่อสารกันด฾วยเสียง และสื่อสารด฾วยลายลักษณแอักษร การสื่อสารด฾วยลายลักษณแอักษร เป็นการรับรู฾เรื่องราวที่ผู฾เขียนหรือผู฾ส฽งสารต฾องการถ฽ายทอดโดย ผ฽านตัวอักษร และผู฾รับสารรับรู฾ด฾วยการอ฽าน ผู฾อ฽านจะเข฾าใจงานเขียนได฾มากน฾อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู฽กับ ปัจจัยหลายประการ ประการที่สําคัญประการหนึ่ง คือ คุณภาพของงานเขียน ซึ่งงานเขียนที่มี คุณภาพ ย฽ อ มเกิ ด จากตั ว ผู฾ ส ร฾ า งสรรคแ ง านเขี ย น ผู฾ เ ขี ย นจึ ง จํ า เป็ น ต฾ อ งมี ค วามรู฾ ใ นเรื่ อ งที่ เ ขี ย น รวมถึ ง มี ความสามารถในการถ฽ายทอดงานเขียน “ความรู฾ ” ที่ใช฾เป็นเนื้อหาสาระสําคัญในการเขียนเป็นส฽วนของเนื้อความหรือเหตุการณแของ เรื่องราวที่ผู฾เขียนต฾องการถ฽ายทอด อาจเป็นเรื่องราวภูมิหลัง ประสบการณแ เรื่องราวจากจินตนาการหรือ อื่น ๆ ที่ผู฾เขียนประสงคแบอกเล฽าผ฽านตัวอักษร ส฽วน “ความสามารถ” ในการเขียนนั้นเป็นการ “เล฽นกับ ภาษา” ซึ่งหมายถึง การรู฾จักใช฾ลีลาภาษาในงานเขียน เพื่อให฾ผู฾อ฽านเข฾าใจในงานเขียนอย฽างละเอียดอ฽อน แต฽ทั้งนี้ควรคํานึงด฾วยว฽างานเขียนนั้นเป็นงานเขียนชนิดใด เช฽น งานเขียนทางวิชาการควรใช฾ภาษา ทางการที่เป็นระเบียบแบบแผน งานเขียนนวนิยายควรใช฾ภาษาที่สื่ออารมณแของตัวละครเพื่อให฾ผู฾อ฽าน เกิดอารมณแคล฾อยตาม งานเขียนร฾อยกรองควรใช฾ภาษาที่สละสลวย ซึ่งผู฾ประพันธแต฾องมีคลังคําจํานวน มาก ตลอดจนสามารถเข฾าใจความหมายของคํานั้น ๆ เป็นอย฽างดี เป็นต฾น เมื่อผู฾เขียนสามารถเล฽นกับ ภาษาได฾อย฽างสร฾างสรรคแย฽อมทําให฾งานเขียนน฽าสนใจ และน฽าติดตามมากขึ้น งานเขียนที่มีค วามน฽าสนใจ ไม฽ เพีย งเเค฽ต฾อ งอาศั ยความรู฾ เเต฽สิ่ง ที่สํา คัญ อี กประการ คื อ “จินตนาการ” จินตนาการเกิดจากการสร฾างภาพขึ้นในความคิด สิ่งที่นึกคิดอาจเป็นสิ่งที่มีอยู฽จริงหรือไม฽มี อยู฽จริงก็ได฾โดยไม฽มีถูก และผิด ดังคํากล฽าวที่หลายคนได฾ยินเป็นอาจินตแว฽า “จินตนาการไม฽มีที่สิ้นสุด” วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๒


จากนั้นผู฾เ ขียนต฾องตระหนักว฽า จะเขียนอย฽างไรให฾ผู฾อ฽านเกิ ดภาพในจิ นตนาการใกล฾เคียงกับตนที่สุ ด ผู฾เขียนจึงจําเป็นต฾องมีสุนทรียศาสตรแเพื่อใช฾ในงานเขียน สุนทรียศาสตรแในงานเขียน คือ ศิลปะทางภาษาหรือความงามของภาษาในแขนงวิชาที่ว฽าด฾วย การเขียน นับว฽าเป็นหลักที่นําไปใช฾ได฾กับงานเขียนทุกชนิดทั้งร฾อยแก฾ว และร฾อยกรอง ซึ่งงานเขียนที่ทําให฾ ผู฾อ฽านเห็นถึงความงามของภาษาอย฽างเด฽นชัดนั่นก็คือ งานเขียนประเภทบทร฾อยกรอง ได฾แก฽ โคลง กาพยแ กลอน ร฽าย และฉันทแ โดยจะยกตัวอย฽างบทประพันธแดังต฽อไปนี้ เอกาคณาจารยแ อบรมแนะทางทิศ ศาสตรแเเกร฽งประดุจเวท อาวุธประจํากาย

ปณิธานชโลมศิษยแ พระคุณาขจรจาย พละเดชจรัสฉาย มิมลายทวีแสน… เอกาอาจารยแ : นกขุ฾ม

บทประพันธแข฾างต฾นเป็น บทประพันธแประเภทอินทรวิเชียรฉันทแที่เป็นไปตามฉันทลักษณแ มีการใช฾คําไวพจนแแทนการใช฾คําทั่วไปที่คุ฾นหู ซึ่ง คําไวพจนแก็คือ คําพ฾องความหมาย เป็น การเปลี่ย น รูปอักษร แต฽ความหมายยังคงเดิม เพื่อให฾เกิดความไพเราะสละสลวยของถ฾อยภาษา …เชิญท฽านฟังเชิญมาเชียรแชนรุ฽นใหม฽ น฾อมเคารพกติกาเพื่อปรองดอง

แรงดั่งไฟเราเสนอรอสนอง น้ําตานองใครสยบเดี๋ยวรู฾กัน รุ฽นใหม฽ไฟแรง : นกขุ฾ม

บทประพันธแข฾างต฾นเป็นงานเขียนประเภทกลอนสุภาพที่เป็นไปตามฉันทลักษณแ มีการใช฾คํา ธรรมดาที่คุ฾นหู แต฽ทําให฾ผู฾อ฽านเกิดอรรถรสหรือเกิดอารมณแคล฾อยตามได฾ด฾วยการเล฽นน้ําหนักคํา เล฽นเสียง โดยสัมผัสสระ และสัมผัสอักษร นอกจากนี้ยังมีการใช฾ภาษาในลักษณะอื่นอีกจํานวนมากที่ต฾องอาศัยเสน฽หแภาษาไทยเป็นหัวใจ หลัก เช฽น การแสดงลําตัด การแสดงฉ฽อย การเป็นพิธีกร การกล฽าวสุนทรพจนแ การประพันธแเพลง เป็นต฾น จะเห็นว฽าการใช฾ภาษาในการสื่อสารไม฽ว฽าการเขียน หรือการพูดล฾วนต฾องใช฾ความพิถีพิถัน และ ความประณี ตในการสร฾ างสรรคแ และถ฽า ยทอดสู฽ผู฾ รั บสาร ยิ่ ง การสื่อ สารมี การใช฾ว รรณศิ ลป฼ ไ ด฾ อย฽ า ง เหมาะสม ย฽อมเพิ่มคุณค฽า และมูลค฽าให฾การสื่อสารครั้งนั้น ๆ มีคุณค฽ายิ่งขึ้น

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๓


ภูมิใจภาษาหลัก รู้รักษ์ภาษาไทย นฤมล หงส์ศิริ

“เด็กไทยต฾องรู฾รักษแภาษาชาติ ภาษาไทยเอกราชแห฽งแผ฽นดิน

มหาราชรามคําแหงสร฾างสรรคแศิลป฼ ไทยทั่วถิ่นร฽วมรักษาภาษาไทย”

จากบทกลอนข฾างต฾นที่กล฽าวมานั้น ดิฉันรู฾สึกซาบซึ้งและประทับใจในเนื้อหาของกลอนบทนี้เป็น อย฽างยิ่ง เนื่องด฾วยสะท฾อนให฾เห็นถึงคุณค฽าความสําคัญของภาษาไทย มุ฽งเน฾นให฾บุคลากรในประเทศทุก หมู฽เหล฽า โดยเฉพาะเยาวชนไทย ที่กําลังเรียนรู฾และเติบโตเป็นส฽วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศ เกิดความ ภาคภูมิใจในภาษาชาติ ร฽วมศึกษาสืบสานวัฒนธรรมทางภาษานี้ไ ว฾แก฽ยุวชนรุ฽นหลัง เพื่อเป็นเกียรติ ประวัติแก฽ไทยให฾คงอยู฽สืบไป ภาษาไทย ถือกําเนิดขึ้นในสมัยสุโขทัย ด฾วยพระอั จฉริยภาพของพ฽อขุนรามคําแหงมหาราช ทรงประดิษฐแอักษรไทยขึ้น ทําให฾ชาติไทยมีการบูรณาการความรู฾ทางศิลปะวิชาการต฽าง ๆ เรียบเรียง บันทึกขึ้นเป็นตํารา เพื่อใช฾เป็นสื่อในการเรียนการสอน ถ฽ายทอดความรู฾ต฽าง ๆ จากรุ฽นสู฽รุ฽นสืบมาช฾านาน สําหรับดิฉันคิดว฽าภาษาไทยมีความโดดเด฽นเป็นเอกลักษณแเฉพาะตัว ยากที่จะหาภาษาอื่นใดใน โลกเทียบได฾ จึงขอยกตัวอย฽าง ท฽อนหนึ่งในบทกาพยแเห฽เรือ ซึ่งเป็นบทพระนิพนธแของเจ฾าฟูาธรรมธิเบศร ความว฽า “สุวรรณหงสแทรงพู฽ห฾อย งามชดช฾อยลอยหลังสินธุแ เพียงหงสแทรงพรหมินทรแ ลินลาสเลื่อนเตือน ตาชม” แทนที่จะอธิบายว฽า เรือสุวรรณหงสแมีพู฽ห฾อยสวยงาม ล฽องลอยอยู฽บนสายน้ํา เหมือนหงสแที่เป็น พาหนะของพระพรหม แต฽กลับนํามาแต฽งเป็นบทประพันธแอันแฝงความหมายไพเราะยิ่งจนได฾รับยกย฽อง ให฾เป็นเอกแห฽งกาพยแเห฽เรือ ซึ่งเป็นบทเห฽เรือชมกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค กาพยแเห฽เรือบทนี้ นํามาใช฾เป็นบทอาขยานบทหลัก ในหลักสูตรวิชาภาษาไทยพื้นฐานมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ซึ่ง นับเป็นบท ประพันธแที่เด็กไทยหลายยุคหลายสมัยรู฾จักเป็นอย฽างดี นอกจากนี้ ภ าษาไทยยั ง มี ร ะดั บ ภาษา ซึ่ ง ต฾ อ งแยกแยะการใช฾ ใ ห฾ เ หมาะสมกั บ บุ ค คลและ สถานการณแนั้น ๆ ตามกาลเทศะ เช฽น ภาษาระดับพิ ธีการ ภาษาระดับทางการ ภาษาระดับ ไม฽เป็ น ทางการ ภาษาระดับกึ่งทางการ และภาษาระดับกันเอง เป็นต฾น นอกจากนี้ ยังมีการใช฾คําราชาศัพทแ ที่จะต฾องคํานึงถึงการนํามาใช฾อยู฽เสมอ โดยเฉพาะการใช฾ภาษากับสถาบันพระมหากษัตริยแ ซึ่งจะเห็นได฾ว฽ า ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่มีการบัญญัติคําราชาศัพทแขึ้นใช฾กับบุคคลระดับต฽าง ๆ เช฽น เมื่อต฾องการ กล฽ า วถึ ง สถาบั น พระมหากษั ต ริ ยแ ก็ จ ะมี คํา ที่ ใ ช฾ สํา หรั บ พระมหากษั ต ริ ยแ แ ละพระบรมวงศานุ ว งศแ เพื่อแสดงให฾เห็นถึงความเคารพนอบน฾อมต฽อสถาบันอันเป็นที่รักยิ่ง ของคนไทยทั้ง ปร ะเทศ เป็นต฾น วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๔


สิ่ง เหล฽านี้ ล฾วนบ฽งบอกถึงเอกลักษณแและเอกราชของความเป็นไทยทั้งสิ้น หากกล฽าวว฽า “คนไทยโชคดีที่มีภาษาชาติเป็นของตน” ก็คงไม฽ผิดนัก แต฽ทว฽าความโชคดีที่ยิ่งกว฽า คือการที่คนไทยมีพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราชบรมนาถบพิตร พระองคแทรงเป็นแบบอย฽างที่ดีของการใช฾ภาษาไทยอย฽างถูกต฾องมาโดยตลอด ทรงพระราชทานพระราช ดํารัสต฽าง ๆ เกี่ยวกับการนําภาษาไทยไปใช฾ได฾อย฽างถูกต฾อง มีจิตสํานึกรักและหวงแหนในภาษาชาติ ด฾ว ยเหตุ นี้ค ณะรั ฐ มนตรี จึ ง มี มติ จั ด ตั้ ง ให฾ วั น ที่ ๒๙ กรกฎาคม ของทุก ปี เ ป็ น วั นภาษาไทย แห฽งชาติ เพื่อน฾อมรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองคแท฽าน และกระตุ฾นให฾คนไทยทั้งชาติ ตระหนัก ถึงคุณค฽าความสําคัญของภาษาไทย ตลอดจนส฽งเสริมอนุรักษแไว฾ให฾คงอยู฽คู฽ชาติต฽อไป อีกหนึ่งบุคคลแห฽งราชวงศแจักรีที่มีความสําคัญต฽อวงการภาษาไทยเป็นอย฽างยิ่ง ก็คือ สมเด็จพระ กนิษฐาธิร าชเจ฾า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระองคแทรงมี พระปรีช า สามารถเป็นเลิศทางด฾านอักษรศาสตรแ ทรงพระราชนิพนธแวรรณกรรมต฽าง ๆ ไว฾มากกว฽า ๑๐๐ เล฽มทั้ง ประเภทร฾อยแก฾ว และประเภทร฾อยกรอง พระองคแทรงเป็นผู฾ดํารงรักษามาตรฐานความถูกต฾องในการใช฾ ภาษาไทยได฾อย฽างดียิ่ง กล฽าวคือทรงใช฾ภาษาเรียบง฽าย ไม฽ทรงนําคําภาษาต฽างประเทศ หรือคําศัพทแสแลง มาใช฾ปะปนกับภาษาไทย ทําให฾ผู฾อ฽านเข฾าใจง฽าย อีกทั้งทรงแสดงให฾เห็นถึงความชํานาญในการประพันธแ ฉันทลักษณแทุกชนิด ทรงใช฾คําที่มีความหมายเหมาะสมสละสลวยไพเราะอย฽างยิ่ง จนเป็นที่ประจักษแแก฽ สายตาชาวโลกโดยทั่วกัน นอกจากนี้พระองคแทรงมีพระราชดํารัส ทรงแสดงความห฽วงใยการใช฾ภาษาไทยของเด็กและ เยาวชนที่อยู฽ในวัยเรียน ในถิ่นทุรกันดาร เด็กที่ร฽างกายบกพร฽องพิการ ตลอดจนกลุ฽มคนที่อยู฽ตามแนว ตะเข็บชายแดนไทย ที่ขาดโอกาสทางการศึกษา เป็นเหตุให฾ไม฽สามารถใช฾ภาษาไทยในการสื่อสารได฾อย฽าง มีประสิทธิภาพ ส฽งผลให฾เกิดอุปสรรคต฽อการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู฽อย฽างยิ่ง พระองคแจึง ทรงจัดตั้ ง โครงการส฽งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และปรารถนาอนุรักษแภาษาไทยให฾ดํารงอยู฽ตลอดไป ถือเป็นพระ มหากรุณาธิคุณอย฽างหาที่สุดมิได฾ ปัจจุบันด฾วยยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปตามกระแสโลกาภิวัตนแ เทคโนโลยีการสื่อสารต฽าง ๆ ได฾เข฾า มามีบทบาทต฽อการดําเนินชีวิตของมนุษยแในสังคมไทยมากยิ่งขึ้น เป็นสาเหตุนํามาซึ่งการใช฾ภาษาไทยใน รูปแบบผิด ๆ พบเห็นได฾มากที่สุดโดยเฉพาะในกลุ฽มวัยรุ฽นและเยาวชนไทย ที่มักนิยมใช฾ภาษาพูดแทน ภาษาเขียน ให฾ความสนใจกับการคิดค฾นคําศัพทแแปลกใหม฽อยู฽แทบทุกเวลา กลายเป็นค฽านิยมผิด ๆ แต฽ ได฾รับความสนใจ และนํามาปฏิบัติตามกันอย฽างแพร฽หลาย หากเราปล฽อยปละละเลย ไม฽รีบเร฽ง หาแนว ทางการแก฾ไขปัญหาเหล฽านี้ให฾ยุติลงได฾โดยเร็ว สิ่งเหล฽านี้ล฾วนแล฾วแต฽จะทําให฾มนตแเสน฽หแของภาษาไทย ค฽อย ๆ เลือนหายไปในที่สุด แนวทางการปูองกันและแก฾ไขที่ดีที่สุด ควรเริ่มจากสถาบันที่เล็กที่สุด แต฽มี ความสําคัญมากที่สุด คือ สถาบันครอบครัว ผู฾ปกครองควรเป็นแบบอย฽างที่ดีในการใช฾ภาษาไทยอย฽าง ถู ก ต฾ อ ง และเหมาะสม เพื่ อ เป็ น แบบอย฽ า งแก฽ บุ ต รหลานได฾ นํ า ไปปฏิ บั ติ ต ามสถาบั น ต฽ อ มา คื อ สถาบันการศึกษา โดยมีคุณครูคอยให฾คําแนะนําแก฽ศิษยแ มุ฽งตระหนักให฾ศิษยแมองเห็นถึงความโชคดีที่คน ไทยมีภาษาชาติเป็นของตน จัดกิจกรรมส฽งเสริมทักษะการใช฾ภาษาไทยทุกแขนง เพื่อสานต฽อมรดกทาง วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๕


ภาษานี้ไว฾ให฾คงอยู฽สืบไปสถาบันสุดท฾าย คือสถาบันสื่อเทคโนโลยี การมีส฽วนร฽วมขององคแกรต฽าง ๆ ที่ใช฾ สื่อ เป็นเครื่องมือในการเผยแพร฽ข฾อมูลข฽าวสาร ผู฾ใช฾สื่อควรมีจิตสํานึก คํานึงถึงการใช฾ภาษาไทยอย฽าง ถูกต฾องและเหมาะสม ทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน ควรใช฾อย฽างระมัดระวัง เพื่อเป็นแบบอย฽างที่ดีของ สังคมไทยต฽อไป หากชาติไทย “ขาดภาษาไทย” นั่นหมายความว฽า “ความเป็นชาติส฽วนหนึ่ง ได฾สูญสิ้นไปด฾วย” ฉะนั้นเราในฐานะประชาชนคนไทย ควรมีส฽วนร฽วมในการมุ฽งทํานุบํารุง ส฽งเสริมทักษะความรู฾ความเข฾าใจ แก฽เยาวชนรุ฽นหลัง เพื่อเป็นรากฐานที่เข฾มแข็งและมั่นคงในการใช฾ภาษาไทยได฾อย฽างถูกต฾อง พึงระลึกอยู฽ เสมอว฽า การใช฾ภาษาไทย ซึ่ ง จะเกิด ประสิท ธิภาพหรื อไม฽นั้น ขึ้นอยู฽ กับการเลือกใช฾ อย฽างชาญฉลาด เพราะเด็กในวันนี้คือผู฾ใหญ฽ในวันหน฾า หากเด็กในวันนี้มีคุณค฽าผู฾ใหญ฽ในวันหน฾าย฽อมมีคุณภาพ

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๖


มองวิกฤตให้เป็นโอกาส : ในสถานการณ์ การแพร่ระบาดไวรัสโควิด – ๑๙ สุพัตรา ตั้งคา

เมื่ อ ปลายปี พุ ท ธศั กราช ๒๕๖๒ ได฾ เ กิ ด การระบาดของเชื้ อไวรัส สายพั นธุแ ใ หม฽ ห รื อเรีย กว฽า โรคโควิด - ๑๙ ในเมืองอู฽ฮั่นที่ประเทศจีน ส฽งผลให฾ประชาชนต฽างเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับเชื้อไวรัส สายพันธุแนี้ เนื่องจากการระบาดของไวรัสสายพันธุแนี้ส฽งผลกระทบในหลายด฾าน โดยเฉพาะการสูญเสียทั้ง ชีวิต และทรัพยแสิน กระทรวงสาธารณสุข (https://ddc.moph.go.th) ได฾ออกมาประกาศว฽า จากการระบาดของ เชื้อไวรัสนี้พบว฽า เชื้อไวรัสในตระกูลนี้เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาแล฾วจากโรคระบบทางเดินหายใจ เฉียบพลันร฾ายแรงหรือโรคซารแส ซึ่งมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสโคโรนาเช฽นกัน และพบการระบาดมาจาก ประเทศจีน เช฽น เดีย วกัน โรคโควิด - ๑๙ คือ โรคทางเดิน หายใจที่ เ กิด จากไวรัส โคโรนาสายพัน ธุแ ใหม฽ ซึ่งเป็นโรคติดต฽อที่สามารถแพร฽กระจายจากคนสู฽คนได฾ โดยผ฽านทางละอองของเหลวที่ออกมาจาก การไอ และจาม ผู฾ที่ติดเชื้อจะมีอาการเริ่มแรก คือ มีไข฾ ตามด฾วยอาการไอแห฾ง หลั งจากนั้นประมาณ ๑ สัปดาหแจะมีปัญหาหายใจติดขัดหรือไม฽สะดวก ถ฾าผู฾ปุวยที่มีอาการหนักจะมีอาการปอดบวม อั ก เสบร฽ว มด฾ว ยหากอาการรุน แรงมากอาจจะส฽ง ผล ให฾อ วัย วะภายในเกิด การล฾ม เหลวได฾ https://www.bbc.com (๒๕๖๓) นอกจากวิกฤตในครั้งนี้จะส฽งผลให฾มีผู฾ติดเชื้อ และผู฾เสียชีวิตเป็นจํานวนมากแล฾ว ยังส฽งผลให฾ผู฾คน เกิดความเครียด ที่เห็นได฾ชัดเจนคือมีผู฾คิดฆ฽าตัวตายเนื่องจากไม฽มีเงิน ไม฽มีงานทํา สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จ พระสั ง ฆราช สกลมหาสัง ฆปริ ณ ายก จึง ประทานพระคติ ธ รรม เป็ น กํา ลั ง ใจในสถานการณแ การแพร฽ระบาดของโรคโควิด - ๑๙ ความว฽า ไม่มีชีวิตใดประสบแต่ความเกษมสุข ปราศจากทุกข์ภัยไปได้ตลอด เมื่อเกิดมาแล้ว จึงจาเป็นต้องขวนขวายสั่งสม “สติ” และ “ปัญญา” สาหรับเป็นอุปกรณ์บาบัดความทุกข์ อยู่ทุกเมื่อ เพื่อให้สมกับที่ดารงอัตภาพแห่งมนุษย์ผู้มีศักยภาพต่อการพัฒนา ท่ามกลาง สถานการณ์โรคระบาดซึ่งก่อให้เกิดความหวาดหวั่นครั่นคร้ามกันทั่วหน้า ทุกคนมีหน้าที่ แสวงหาหนทางเพิ่มพูน “สติ” และ “ปัญญา” พร้อมทั้งแบ่งปันหยิบยื่นให้แก่เพื่อนร่วม สังคม อย่าปล่อยให้ความกลัวภัยและความหดหู่ท้อถอย คุกคามเข้าบั่นทอนความเข้มแข็ง ของจิตใจ ในอันที่จะอดทน พากเพียร เสียสละ และสามัคคี

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๗


สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสัง ฆราช สกลมหาสัง ฆปริณายก ยัง ประทานธรรม ภาษิตบทหนึ่งในพระพุทธศาสนา เพื่อนํามาเตือนใจประชาชนความว฽า “เมื่อถึงยามคับขันประชาชน ต฾องการผู฾กล฾าหาญ, เมื่อถึงคราวปรึกษางาน ต฾องการผู฾ที่ไม฽พูดพล฽าม, ยามมีข฾าวน้ํา ต฾องการผู฾เป็นที่รัก , ยามเกิดปัญหา ต฾องการบัณฑิต” ขอทุกท฽านจงเป็น “ผู฾กล฾าหาญ” ที่จะละความดื้อด฾านเห็นแก฽ตัว ความเคยตัว และความไม฽ ระมัดระวังตัว ขอจงเป็น “ผู฾ที่ไม฽พูดพล฽าม” โดยปราศจากสาระ ก฽อความร฾าวฉานชิงชัง ในยามที่ สังคม ต฾องการสาระ คําปรึกษาหารือ และกําลังใจ แต฽จงประพฤติตนเป็น “บัณฑิต” ผู฾รู฾รักษากายใจของตัวให฾ ปลอดจากโรคกายโรคใจ เป็นผู฾ฉลาดศึกษา ค฾นคว฾า วางแผน ชี้แนะ และลงมือทํา ทั้งนี้ ถ฾าแต฽ละคนแม฾ เพียงตั้งจิตไว฾ในธรรมฝุายสุจริต ไม฽ถลําลงสู฽ความคิดชั่ว อันนําไปสู฽การพู ดชั่วและทําชั่วซ้ําเติม ก็นับว฽าได฾ ช฽วยบรรเทาปัญหาของโลกแล฾ว และยิ่งหากท฽านมีดวงจิตผ฽องแผ฾วด฾วยเมตตาการุณยธรรม นําความ ปรารถนาดีเผื่อแผ฽ไปสู฽ทุกชีวิตอย฽างเสมอหน฾า ความทุกขแยากที่เราทั้งหลายต฽างเผชิญ ย฽อมจะคลี่คลายได฾ ในไม฽ช฾า

นอกจากนี้ ท฽านเจ฾าคุณพระเมธีวชิโรดม หรือท฽าน ว.วชิรเมธี ผู฾ช฽วยเจ฾าอาวาสวัดพระสิงหแ พระนักคิด นักเขียน และนักพัฒนาสังคมชื่อดัง ได฾เชิญชวนให฾ประชาชนลองคิดหาโอกาสจากวิกฤตในครั้งนี้ในมุมมอง อื่น ๆ ที่เป็นประโยชนแ ดังต฽อไปนี้ ๑. สหประชาชาติ นี่คือโอกาสที่องคแกรระดับโลกแห฽งนี้จะได฾ทําหน฾ าที่เป็นสื่อกลางในการแสวงหา ความร฽วมมือจากผู฾นําประเทศ รัฐบาล องคแกรระดับโลก แพทยแ นักวิทยาศาสตรแ นักวิชาการ ปัญญาชน วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๘


ชั้น นํ า ทั่ วโลก เพื่ อ ร฽ ว มกั น ศึ ก ษา ค฾ น คว฾ า วิ จัย เวชภัณ ฑแ ย า และแสวงหาทางออกที่ ยั่ ง ยื นมากกว฽ า การเยียวยาปัญหาเฉพาะหน฾า ๒. รัฐบาลของทุกประเทศ นี่คือโอกาสที่ผู฾นํารัฐบาลของทุกประเทศจะได฾แสดงออกซึ่งภาวะผู฾นํา ในการบริหารประเทศในยามวิกฤต ไม฽มีโอกาสไหนอีกแล฾วที่ท฽านจะแสดงให฾ประชาชนผู฾เลือกท฽านเข฾ามา เป็นผู฾แทนของตนเองได฾เห็นว฽าท฽าน มีฝีมือในการบริหารประเทศชาติบ฾านเมืองเท฽าครั้งนี้ ๓. นักการเมืองทุกคนจากทุกพรรค นี่คือโอกาสที่ท฽านจะแสดงออกซึ่งวิสัยทัศนแในการรับใช฾ ประชาชนของท฽านอย฽างสุดความสามารถ ท฽านควรวางมือจากความขัดแย฾งส฽วนตัว จากผลประโยชนแ เฉพาะกลุ฽ม และจากความรู฾สึกเชิงแบ฽งแยกเป็นฝักเป็นฝุายทั้งหมด หันมาหลอมรวมใจให฾เป็นหนึ่งเพื่อ นําเอาศักยภาพทางสติปัญญาออกมารับใช฾ประชาชนให฾ดีที่สุดให฾สมกับที่ประชาชนคาดหวังจากท฽าน ๔. มหาเศรษฐี นักธุรกิจ นักลงทุน ชนชั้นนําของประเทศ นี่คือโอกาสที่ท฽านจะแสดงออกซึ่ง ความรับผิดชอบต฽อสังคมของภาคธุรกิจของท฽าน พักความเป็นนักธุรกิจของท฽านไว฾ชั่วคราว ก฾าวออกมา สวมหัวใจแห฽งความเป็นมนุษยแที่รู฾ร฾อนรู฾หนาวต฽อเพื่อนร฽วมโลก, ประเทศชาติ ประชาชน โรงพยาบาลทุก แห฽ง ต฾องการศักยภาพในการแก฾ปัญหาจากท฽านอย฽างยั่งยืนทั้งด฾านองคแความรู฾ เงินทุน เทคโนโลยี และ บุคลากรมืออาชีพในองคแกรของท฽าน ๕. แพทยแ พยาบาล บุคลากรทางด฾านสาธารณสุข นี่คือโอกาสในการแสดงออกซึ่งความเป็นมือ อาชีพของผู฾ชํานาญการเฉพาะด฾านที่ได฾รับการฝึกหัดพัฒนามาอย฽างเป็นอย฽างดี คือนาทีทองของการรับใช฾ ประชาชนด฾วยหัวใจที่เปี่ยมไปด฾วยจิตสํานึกสาธารณะ ๕. ศิลปิน ดารา ผู฾มีชื่อเสียง ผู฾ทรงอิทธิพลที่มีต฾นทุนทางสังคมสูง นี่คือ โอกาสครั้งสําคัญที่ท฽าน จะได฾คืนกําไรให฾กับประชาชนผู฾นิยมชมชอบในตัวท฽าน ผู฾สนับสนุนท฽านผ฽านผลงานการแสดง การร฾อง เพลง การสร฾างงานศิลปะ การติดตามความคิดความอ฽านของท฽านมาอย฽างยาวนาน ด฾วยการลงแรง สร฾างสรรคแผลงาน หรือการสื่อสารผ฽านสาธารณะ หรือด฾วยวิธีการอย฽างใดอย฽างหนึ่งตามที่ท฽านถนัด ๖. สื่อมวลชน ปัญญาชน นักคิด นักเขียน นี่คือโอกาสที่ท฽านจะแสดงออกซึ่งความเป็นมืออาชีพ ด฾านการสื่อสาร ด฾านการคิดวิเคราะหแหาทางออกให฾กับสังคม ประเทศ และมนุษยชาติ ใช฾ศักยภาพอัน แหลมคมของท฽านเพื่อร฽วมกันสื่อสารเชิงสร฾างสรรคแ ให฾ความรู฾ที่ถูกต฾อง ตรง จริง เข฾าถึงประชาชนให฾มาก ที่สุด ๗. ประชาชน มนุษยชาติ นี่คือโอกาสที่เราทุกคนจะแสดงออกซึ่งความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและ กันในฐานะที่เราทุกคนต฽างก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของโลกใบนี้ คํากล฽าวที่ว฽า “โลกทั้งผองเป็นพี่น฾องกัน ” จะเป็นจริงได฾ก็ต฽อเมื่อเราทุกคนอยู฽ร฽วมกันด฾วยเมตตาการุณยแ มีสุ ขร฽วมเสพ มีทุกขแร฽วมต฾าน ช฽วยเหลือ เกื้อกูลกัน ๘. ผู฾นําทางทางจิตวิญญาณ ศาสนิกของทุกศาสนา นี่คือโอกาสทองของการนําเอาคําสอนของ พระบรมศาสดาที่เราทุกคนเคารพนับถือออกมาสู฽การปฏิบัติในโลกของความเป็นจริง การมาถึงของไวรัส โควิด-๑๙ คือ การท฾าทายให฾เราทุกคนในฐานะศาสนิกของทุกศาสนาร฽วมกันนําเอาด฾านที่ดีที่สุด งดงาม ที่สุด ประเสริฐที่สุดจากทุกศาสนาที่เรานับถือออกมาร฽วมกันเยียวยาวิกฤตให฾ผ฽อนคลาย วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๙


๙. ปัจเจกบุคคล สถาบันครอบครัว ธรรมชาติ สิ่งแวดล฾อม แหล฽งท฽องเที่ยว ระบบอุตสาหกรรม ทุกชนิด นี่คือโอกาสของการฟื้นฟูตัวเองครั้งใหญ฽ที่สุดในประวัติศาสตรแของมนุษยชาติ ของสิ่งแวดล฾อม ของผืนดิน ผืนฟูา ผืนปุา ขุนเขา สายน้ํา อากาศ สถาบันครอบครัว เพราะนับแต฽กระบวนการต฽าง ๆ ถูกความจําเป็นจากไวรัสบังคับให฾ต฾องหยุดกิจการโดยอัตโนมัติตามแนวคิด “รวมกันเราตาย แยกย฾ายกัน เรารอด” ธรรมชาติ สิ่งแวดล฾อม แหล฽งท฽องเที่ยว อากาศ สายน้ํา ก็ได฾รับการฟื้นฟูทันที นอกจากนี้ท฽านยังฝากข฾อคิดให฾ประชาชนทุกคนได฾คิดไตร฽ตรอง และปรับเปลี่ยนมุมมองตัวเองที่ มีต฽อวิกฤตในครั้งนี้ให฾กลายเป็นโอกาส ความว฽า เมื่อวิกฤตการณ์เกิดขึ้นมา หากเราเอาแต่ยอมจานน สิ่งที่จะตามมา ก็คือ ความสิ้นหวัง หมดกาลังใจ มองไม่เห็นหนทางที่จะก้าวไปข้างหน้า แต่หากเราเปลี่ยนท่าทีในการเผชิญกับ วิกฤตด้วยมุมมองเชิงสร้างสรรค์ เราจะเห็นโอกาสอยู่เต็มไปหมด ขอให้เราทุกคนมาเรียนรู้ที่ จะเปลี่ยนมุมมองต่อวิกฤตเสียใหม่ โดยเรียนรู้ที่จะมองเพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากวิกฤตให้เป็น โอกาสสาหรับการนาพาตัวเององค์กร ประเทศ และมวลมนุษยชาติตลอดถึง โลกของเรา เพื่อก้าวไปสู่สันติภาพและสันติสุขร่วมกันเราเปลี่ยนสถานการณ์บางอย่างไม่ได้อย่างที่ใจต้องการ แต่เราเปลี่ยนมุมมองของเราต่อมันได้ และเปลี่ยนได้ทันที ที่นี่ และเดี๋ยวนี้ ดอกบัวงอกงามขึ้นมา จากตมและน้าฉันใดมนุษยชาติก็อาจเติบโตและพัฒนาได้จากวิกฤตการณ์ฉันนั้น จากคํากล฽าวของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และ ท฽านเจ฾าคุณพระเมธีวชิโรดม นอกจากมีใจความที่ให฾กําลังใจประชาชนแล฾ว ท฽านยังฝากแง฽คิดในเรื่องของ การมีสติ และปัญญา เพื่อนําไปใช฾ในการบําบัดความทุกขแ พร฾อมทั้งให฾รู฾จักการแบ฽งปันให฾แก฽เพื่อนร฽วม สังคม รู฾จักสามัคคีร฽วมมือร฽วมใจกัน และการมองหาโอกาสในวิกฤตครั้งนี้ โดยการปรับเปลี่ยนมุมมอง ความคิดของตนเอง เพื่อประโยชนแต฽อคนในสังคม อย฽างไรก็ตาม วิกฤตในครั้งนี้นอกจากส฽งผลกระทบให฾เกิดการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ฽แล฾ว ยังทําให฾ เห็นถึงความร฽วมมือร฽วมใจของคนในสังคมที่รู฾จักช฽วยเหลือ แบ฽งปัน และรู฾รักสามัคคีซึ่งจะส฽งผลให฾เราผ฽าน วิกฤตในครั้งนี้ไปได฾ https://www.terrabkk.com (๒๕๖๓)

เอกสารอ้างอิง ศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านเวชภัณฑ์ กระทรวงสาธารณสุข. (๒๕๖๓). https://ddc.moph.go.th. เข฾าถึงเมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๓. BBC NEWS. (๒๕๖๓). https://www.bbc.com. เข฾าถึงเมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๓. TERRABKK.

(๒๕๖๓).

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

https://www.terrabkk.com. เข฾าถึงเมือ่ วันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๓.

หน้า ๑๐


สื่อภาษาผ่านวรรณศิลป์ / “อาจารย์สุริยา ทองคา” ผู้ปิดทอง หลังพระ / เปิดประสบการณ์ใหม่ ภาษาไทยศิลปศาสตร์ / เรียนภาษาไทยได้อะไรมากกว่าที่คิด

บทความสัมภาษณ์พิเศษ พิมภมร สามะเนี๊ยะ

สื่อภาษาผ่านวรรณศิลป์

เรวัตร์ พันธุ์พิพัฒน์ นักเขียนรางวัลซีไรตแประจําปี ๒๕๔๗

วรรณศิลป฼ คือ ศิลปะแห฽งการประพันธแ นับเป็นศิลปะทางวรรณกรรม การพิจารณาคุณค฽าด฾าน วรรณศิลป฼ เป็นการพิจารณาการเลือกสรรคําในการสื่อความคิด ความเข฾าใจ ความรู฾สึก และอารมณแ โดยคํานึงถึงความงามด฾านเสียง โวหาร และรูปแบบคําประพันธแ รวมถึงการพิจารณาการเรียบเรียงคํา ว฽า มีการจัดวางคําที่เลือกสรรแล฾วมาเรียงร฾อยกันอย฽างต฽อเนื่องตามจังหวะ ตามโครงสร฾างภาษา หรือตาม ฉันทลักษณแหรือไม฽ ตลอดจนพิจารณาการใช฾โวหาร ซึ่ง เป็นการใช฾ถ฾อยคําเพื่อให฾ผู฾อ฽านเกิดจินตภาพ ที่เรียกว฽า “ภาพพจนแ” ด฾วยเหตุนี้ ผู฾ที่เป็นนักเขียนจึง ต฾องหมั่นค฾นคว฾าและฝึกฝนให฾เกิดความชํานาญ จนเกิดเป็นการสื่อสารผ฽านวรรณศิลป฼ นักเขียนจึงเป็นบุคคลสําคัญที่มีบทบาทในการนําภาษามาถ฽ายทอดผ฽านวรรณศิลป฼ ดังนั้นผู฾ที่เป็น นักเขียนต฾องใช฾ภาษาเป็นเครื่องมือในการสร฾างสรรคแพลังความหมายและพลังความไพเราะของงานเขียน วรรณสารฉบับนี้จึงมีบทสัมภาษณแนักเขียนกวีซีไรตแ “คุณเรวัตรแ พันธุแพิพัฒนแ” เจ฾าของงานเขียนเรื่อง “แม฽น้ํารําลึก” ที่ได฾รับรางวัลวรรณกรรมสร฾างสรรคแยอดเยี่ยมแห฽งอาเซียนหรือรางวัล ซีไ รตแ ประจําปี ๒๕๔๗ มาถ฽ายทอดประสบการณแในการเขียนงานให฾ผู฾อ฽านและผู฾ที่สนใจอยากจะเป็นนักเขียนได฾ทราบกัน

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๑๑


มองบทบาทของภาษาในฐานะการเป็นเครื่องมือในการสื่อสารอย่างไร มนุษยแต฽างใช฾ภาษาเป็นเครื่องมือสื่อสารตั้งแต฽จําความได฾กระทั่งวาระสุดท฾ายของชีวิต ส฽วนบทบาท ของภาษามีทั้งการชี้นํา การโน฾มน฾าว การโฆษณาชวนเชื่อ การสั่งสอน การกดขี่ การเรียนรู฾ และการเป็น แรงบันดาลใจ

คุณคิดว่าคุณมีต้นทุนหรือพื้นฐานก่อนเริ่มเขียนงานอย่างไรบ้าง ผมมีต฾นทุนมาจากการอ฽าน ก฽อนที่จะลงมือเขียน เพราะการอ฽านช฽วยให฾ผมมองเห็นความคิดของ ผู฾อื่น รวมทั้งได฾รู฾จักกลวิธีการเขียนในรูปแบบต฽าง ๆ มองเห็นลีลาภาษาที่ไม฽เหมือนกันของแต฽ละคน และ ยังไม฽นับรวมถึงการได฾สั่งสมคํามากมายมหาศาลไว฾ในคลังของตนเอง ก฽อนที่ผมจะสร฾างงานเขียนสักเรื่อง ผมจะเริ่มด฾วยการเลือกเฟูนเรื่องที่จะเล฽า นั่นหมายถึงเรื่องที่กระทบใจผมในขณะนั้นมากที่สุด เลือก มุมมอง หากลวิธี สร฾างตัวละคร สร฾างฉากและบรรยากาศ และกําหนดสํานวนภาษาที่จะใช฾

แรงบันดาลใจ และอุปสรรคในการเขียนหนังสือแต่ละเล่มมีอะไรบ้าง และผ่านจุดนั้นมาได้ อย่างไร แรงบันดาลใจมาจากการอ฽าน การฟัง การสังเกต และการเดินทางออกไปปะทะกับโลกภายนอก เพื่อได฾รับและได฾แลกเปลี่ยนประสบการณแ รวมทั้งเหตุการณแต฽าง ๆ ที่พุ฽งเข฾ามากระทบให฾ผมสะเทือนใจ รุนแรง ส฽วนการเขียนที่เกิดอุปสรรคขึ้น นั่นหมายความว฽าตัวผู฾เขียนยังไม฽สุกงอมเพียงพอกับเรื่องราวที่ กําลังลงมือเขียน ดังนั้นควรบ฽มไว฾ข฾างในในเวลาที่เหมาะสม หรือไม฽ก็ยังไม฽แจ฽มชั ดเพียงพอต฽อเรื่องราวที่ จะดําเนินไปจนถึงจุดจบ

ผลงานเรื่องไหนของตัวเองที่ชื่นชอบมากที่สุดและมีเรื่องไหนที่อยากกลับไปแก้ไขผลงาน ไหม ชอบผลงานของตนเองทุกเล฽ม เพราะงานแต฽ละเล฽มล฾วนแล฾วแต฽แสดงให฾เห็นถึง ความคิดและ อารมณแความรู฾สึกในแต฽ละห฾ วงขณะที่กําลัง ลงมือเขียนงานเล฽มนั้น ๆ ขึ้นมา ดังนั้นผมจึง ไม฽คิดที่จะ ย฾อนกลับไปแก฾ไขงานที่ผ฽านมาแล฾วของตนเอง เพื่อจะได฾มองเห็นความบกพร฽องและภาวะต฽าง ๆ ที่เกิดขึ้น ในขณะนั้น ๆ

ข้อดีและข้อเสียของการเป็นนักเขียนคืออะไร ข฾อดีของการเป็นนักเขียน คือการได฾ตระหนักรู฾ว฽าความคิดความอ฽านที่แท฾จริงของตนเองเป็นเช฽นไร โดยผ฽านกระบวนการเขียนนั่นเอง รวมทั้งงานเขียนยังช฽วยบําบัดเยียวชีวิตจิตใจไม฽แพ฾ตัวยาใด ๆ อีกด฾วย ส฽วนข฾อเสียยังมองไม฽เห็น วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๑๒


สิ่งที่คิดว่าสาคัญที่สุดสาหรับการทางานเขียนคืออะไร และการเป็นนักเขียนต้องใช้ พรแสวงมากกว่าพรสวรรค์จริงไหม สิ่งที่สําคัญที่สุดสําหรับการทํางานเขียนคือ การได฾ขัดเกลาตนเองไปพร฾อมกับงานเขียน และ สามารถเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งที่ตนเองคิดและเขียนได฾ นอกจากนี้การเป็นนักเขียนจริง แน฽นอนที่ต฾องใช฾พร แสวงมากกว฽าพรสวรรคแ ผมเขียนหนังสือมาราวสามสิบปีแล฾ว แต฽ทุก เช฾าของทุกวันนี้ผมก็ยังคงตื่นขึ้นมา ฝึกฝนการเขียนอยู฽ดังเดิม

ในการเขีย นหนัง สือให้น่ าอ่ าน มี คุณ ค่า จนได้รั บรางวัล ซีไ รต์ มี ว รรณศิ ลป์ ในการแต่ ง อย่างไร สําหรับผม ผมเขียนงานทุกเล฽มออกมาจากหัวใจและความรัก ส฽วนวรรณศิลป฼นั้นได฾รับมาจาก การอ฽านและการฝึกฝนเขียนทุกวันครับ

คิดอย่างไรกับประโยคที่ว่า “ความงดงามของกาพย์กลอนและบทกวี คนยุคนี้ไม่สนใจ เพราะมีความรู้สึกว่าภาษาที่สวยงามไม่เป็นประโยชน์” ผมก็ยังคงเห็นว฽าความงามเป็นส฽วนหนึ่งของชีวิต นอกจากความจริงและความดี รวมทั้งยังได฾ยิน ภาษาโฆษณาที่นําถ฾อยคํากวีมีสัมผัสไปใช฾อยู฽เนือง ๆ และสามารถติดหูผู฾คนได฾ดีอีกด฾วย

มีโครงการจะเขียนหนังสือเรื่องใหม่ไหมคะ ถ้ามีจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร มีโครงการใหม฽ ๆ อยู฽เสมอ ๆ ช฽วงนี้ไปพํานักอยู฽ที่สังขละบุรี เมืองชายแดนตะวันตก จึงสนใจวิถี ชีวิตของกลุ฽มคนชาติพันธุแผู฾เป็นคนชายขอบ จึงอยากจะเขียนถึงเรื่องราวของพวกเขาเป็นนวนิยายหรือ เรื่องสั้นสักเล฽ม

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๑๓


ในอนาคตกวีสามารถเกิดหรืออยู่รอดได้ไหม และจะฝากอะไรถึงนักเขียนรุ่นหลังบ้าง ผมคิดว฽าในสถานการณแของโลกขณะนี้ที่ไม฽อาจคาดคะเนอะไรได฾สักอย฽าง บทกวียังสามารถช฽วย เยียวยาจิตใจของผู฾คนได฾เสมอ ๆ ส฽วนการเกิดขึ้นของกวีและการอยู฽รอด เป็นสิ่งที่ผมไม฽อาจคาดคะเนได฾ และอยากฝากถึงน฾อง ๆ นักเขียนรุ฽นหลังว฽าทุ฽มเทกับงานเขียนให฾เต็มที่ และรักมันให฾สุดชีวิต ทุกคนใช฾ภาษาเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร มีการนําภาษามาใช฾ในทางที่ถูกต฾องและไม฽ถูกต฾อง บทบาทของภาษานอกจากจะใช฾ในการสื่อสารแล฾วยัง นําไปสู฽การกําหนดวิธีคิด รูปแบบชีวิตของคนอีก ด฾วย ในมุมมองของนักเขียนเริ่มจากการอ฽านก฽อนจะลงมือเขียน เพราะการอ฽านช฽วยให฾เห็นถึงความคิด ของผู฾อื่น นักเขียนแต฽ละคนมีลีลาภาษาของการเขียนงานที่ไม฽เหมือนกันขึ้นอยู฽กับการนํากลวิธีการเขียน งานในรูปแบบต฽าง ๆ การสั่งสมคลังคําต฽าง ๆ มาใช฾ ก฽อนจะสร฾างงานเขียนสักเรื่องต฾องเริ่มด฾วยการเลือก เรื่องที่จะเล฽า เลือกมุมมอง หากลวิธีในการเขียน สร฾างตัวละคร ฉาก บรรยากาศ และกําหนดสํานวน ภาษาที่จะใช฾ การเดินทางไปสถานที่ต฽าง ๆ นอกจากเราจะได฾แลกเปลี่ยนประสบการณแจากการอ฽าน ฟัง และการสังเกต อาจจะช฽วยเป็นแรงบันดาลใจให฾เราอยากเขียนเล฽าประสบการณแให฾ผู฾อ฽านได฾ทราบ งาน เขียนทุกเล฽มต฾องเขียนออกมาจากหัวใจและความรัก ส฽วนวรรณศิลป฼นั้นได฾มาจากการอ฽านและฝึกฝน เขียนทุกวัน การเป็นนักเขียนช฽วยให฾รู฾และเข฾าใจเกี่ยวกับความคิดของตนเองผ฽านการเขียนงาน รวมไปทั้ง งานเขียนยังช฽วยบําบัดเยียวยาจิตใจ สิ่งสําคัญที่สุดสําหรับการเขียนงานคือ การได฾ขัดเกลาตัวเองและ สามารถเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งที่ตนเองคิดและเขียน โลกในปัจจุบันนี้ไม฽สามารถบอกได฾ว฽างานเขียนต฽าง ๆ จะเกิดหรืออยู฽รอด จึงอยากฝากให฾นักเขียนรุ฽นหลังทุ฽มเทกับงานเขียนให฾เต็มที่ และรักมันให฾สุดชีวิต

สัมภาษณแ : นายเรวัตรแ พันธุแพิพัฒนแ ผู฾สัมภาษณแ : นางสาวพิมภมร สํามะเนี๊ยะ

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๑๔


“อาจารย์สุริยา ทองคา” ผู้ปิดทองหลัง พระ

ยวิษฐา กาเนิดทอง

หากพูดถึงสาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตรแและสังคมศาสตรแ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต สิ่งที่คนภายนอกมักพูดถึง คือ นักศึกษาสาขานี้มีความสามารถโดดเด฽นในเรื่องของการพูด โดยเฉพาะ การพูดสุนทรพจนแ ซึ่งสาขาวิชาภาษาไทยได฾ส฽งนักศึกษาเข฾าร฽วมประกวดสุนทรพจนแมาอย฽างต฽อเนื่อง และ นักศึกษาเองก็สามารถคว฾ารางวัลมาได฾หลายรายการ เช฽น นางสาวปวีณแนุช อ฽อนแก฾ว นักศึกษาชั้นปีที่ ๒ ได฾ รั บ รางวัลชมเชยในการประกวดสุ นทรพจนแ “ถวายงานผ฽ า นภาษา” ครั้ ง ที่ ๒ ประจํา ปี ๒๕๖๒ ณ มหาวิทยาลัยราชภั ฏภูเก็ต นางสาววรรณธิดา สามสี นักศึกษาชั้นปีที่ ๓ ได฾รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ ๒ การประกวดสุนทรพจนแภาษาไทยถิ่นใต฾ ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทรแ วิทยาเขตหาดใหญ฽ และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ การประกวดสุนทรพจนแเนื่องในวันพ฽อแห฽ง ชาติ และวันดินโลก ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร

สุริยา ทองคา อาจารยแประจําสาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตรแและสังคมศาสตรแ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต

ความสําเร็จที่กล฽าวมาจะเกิดขึ้นไม฽ได฾หากขาดอาจารยแผู฾ที่อยู฽เบื้องหลังการฝึกซ฾อมของนักศึกษา ซึ่ง นอกเหนื อจาก ผศ.ดร.รุ฽ง รั ตนแ ทองสกุ ล ก็ ยัง มี อาจารยแ สุริ ยา ทองคํา อาจารยแป ระจํ า สาขาวิ ช า ภาษาไทย คณะมนุ ษ ยศาสตรแ แ ละสั ง คมศาสตรแ มหาวิ ท ยาลั ย ราชภั ฏ ภู เ ก็ ต ผู฾ ที่ มี ค วามรู฾ แ ละ ความสามารถรอบด฾านไม฽ว฽าจะเป็นด฾านวิชาการหรือด฾านการแต฽ง คําประพันธแ โดยเฉพาะอย฽างยิ่งฝีมือ การแนะนําแนวทางการเขียนบทสุนทรพจนแให฾นักศึกษานําไปประกวดตั้งแต฽ปี พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นต฾นมา ซึ่งถือเป็นความภูมิใจยิ่งของสาขาวิชาภาษาไทยที่มีบุคลากรคุณภาพเช฽นนี้ ด฾วยเหตุนี้วรรณสารฉบับนี้จึง สนใจที่จะสัมภาษณแอาจารยแสุริยา ทองคํา ในเรื่องของการเขียนบทสุนทรพจนแ วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๑๕


วิธีการเลือกใช้คา ประการแรกก฽อนเขียนบท ผู฾พูดสุนทรพจนแต฾องตีโจทยแให฾แตกว฽าสุนทรพจนแที่ได฾ รับมานั้นคือ หัวข฾ออะไร ผู฾ที่ต฾องการให฾ไปแข฽ งขันต฾องการอะไรจากหัวข฾อนี้ หลังจากนั้นก็วางโครงเรื่อ งเหมือนกับ หลักการเขียนบทความทั่วไป แต฽นี่เป็นบทสั้น ๆ ความยาวประมาณ ๕ นาที เพราะฉะนั้นก็จะเริ่มจาก ความนําก฽อน จากนั้นเป็นเนื้อหา สุดท฾ายเป็นสรุป แต฽โจทยแของสุนทรพจนแมันจะยากนิด หนึ่ง เนื่องจาก สุนทรพจนแส฽วนใหญ฽จะเกี่ยวกับพระมหากษัตริยแ จึงต฾องตีโจทยแให฾แตกแล฾ววางโครงโดยใช฾ภาษาธรรมดา ก฽อน จากนั้นจึงเลือกเฟูนภาษา โดยคํานึงถึงความเหมาะสม พอดี และสุภาพ รวมไปถึงความสละสลวย ส฽วนวิธีการเลือกใช฾คํา ต฾องเลือกใช฾คําราชาศัพทแ เพราะหัวข฾อใหญ฽คือ “ถวายงานผ฽านภาษาพระบรมราช จักรีวงศแ” ก็คือพระมหากษัตริยแราชจักรีวงศแทั้ง ๑๐ พระองคแได฾สร฾างคุณูปการอย฽างไรแล฾วเราจะถวาย งานผ฽านภาษาอย฽างไรเพื่อสนองงานนั้น ดังนั้นภาษาก็จะสูงตามไป เราจึงต฾องใช฾วิธีการเลือกเฟูนคํา สิ่งที่ ขาดไม฽ได฾เลย คือ การอุปมา การเปรียบเทียบ อุปลักษณแ การเปรียบเป็น รวมไปถึงนามนัย การกล฽าวสิ่ง หนึ่งถึงสิ่งหนึ่ง สิ่งเหล฽านี้ ต฾องใช฾แน฽ ๆ ซึ่ง มันเป็นพื้นฐานที่จะต฾องรู฾ หลักเกณฑแสําคัญในการเลือก คือ เลือกให฾เหมาะกับบุคคล สุนทรพจนแ หมายถึง คําพูดดี ดังนั้น การเลือกใช฾คําจึงมีความสําคัญมาก

ความรู้สึกที่เป็นส่วนหนึ่งในความสาเร็จของการประกวด การประกวดสุนทรพจนแมีคะแนนอยู฽ที่ ๕๐ คะแนน ในส฽วนของบทนั้นเป็น ๓๐ คะแนน ส฽วนอีก ๒๐ คะแนน เป็นการใช฾น้ําเสียง ภาษา ท฽าทาง และบุคลิกของการพูด ก็จะรวมเป็น ๕๐ คะแนน ที่เหลือ ก็เป็นองคแประกอบอื่น ๆ แต฽ต฽อให฾บทดีเพียงใด หากผู฾กล฽าวสุนทรพจนแไม฽เป็นที่ประทับใจกรรมการก็อาจ ไม฽ได฾รับรางวัลเช฽นกัน แต฽หากบทดี ผู฾กล฽าวสุนทรพจนแดี ก็จะส฽งผลให฾ทุกอย฽างราบรื่น ก็รู฾สึกภูมิใจที่ไ ด฾ เป็นส฽วนหนึ่ง เพราะในการถวายงานผ฽านภาษานั้น คือ การทําให฾ผู฾อื่นได฾ทราบพระราชกรณียกิจของ พระมหากษัตริยแราชจักรีวงศแทุกพระองคแที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจน฾อยใหญ฽เพื่อพสกนิกรชาวไทย การที่นักศึกษาได฾กล฽าวสุนทรพจนแถวายพระเกียรติพระเจ฾าแผ฽นดินทุก ๆ รัชกาลให฾ สาธารณชนฟัง เป็น การเผยแพร฽พระเกียรติคุณ และเป็นการสร฾างแรงบันดาลใจให฾ผู฾ฟังรู฾สึกอยากปฏิบัติตาม สุดท฾ายแม฾ว฽า นักศึกษาจะได฾รับรางวัลหรือไม฽ได฾รั บรางวัลก็รู฾สึกภูมิใจที่ผม และนักศึกษาได฾มีส฽วนร฽วมในการเผยแพร฽ พระเกียรติคุณของพระมหากษัตริยแบรมราชจักรีวงศแทุกพระองคแ ผมถือว฽าผมได฾ มีส฽วนร฽วมในการทํางาน สนองคุณชาติ ศาสนา พระมหากษัตริยแ เพียงเท฽านี้ผมก็รู฾สึกภูมิใจที่สุดแล฾ว สุนทรพจนแ หมายถึง คําพูดดี ดังนั้ น การเลือกใช฾คําจึงมีความสําคัญ มาก หลักเกณฑแสําคัญใน การเลือกคือ เลือกให฾เหมาะกับบุคคล โดยต฾องคํานึงถึงความเหมาะสม พอดี และสุภาพ รวมไปถึงความ สละสลวยด฾วย ลําดับแรกในการแต฽งบทสุนทรพจนแ คือ ต฾องตีโจทยแให฾แตกก฽อน แล฾ววางโครงโดยใช฾ ภาษาพูดหรือภาษาปาก จากนั้นจึงเลือกเฟูนภาษาที่สละสลวย เหมาะสมกับหัวข฾อที่ได฾รับมอบหมาย ส฽วนเกณฑแการตัดสินของคณะกรรมการนั้นขึ้นอยู฽กับองคแประกอบหลายอย฽าง เช฽น การใช฾น้ําเสียง ภาษา ท฽าทาง บุคลิกของการพูดเป็นต฾น ดังนั้น ผู฾กล฽าวสุนทรพจนแจะต฾องมีคุณสมบัติดังกล฽าวครบถ฾วนจะขาด อย฽างใดอย฽างหนึ่งไปไม฽ได฾ จึงจะสามารถสร฾างความประทับใจ และพิชิตใจคณะกรรมการได฾ วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๑๖


ตัวอย่างนักศึกษาที่เข้าร่วมประกวดสุนทรพจน์

นางสาวปวีณแนุช อ฽อนแก฾ว นักศึกษาชั้นปีที่ ๒ สาขาวิชาภาษาไทย

นางสาววรรณธิดา สามสี นักศึกษาชั้นปีที่ ๓ สาขาวิชาภาษาไทย

นางสาวปวีณแนุช อ฽อนแก฾ว

นางสาววรรณธิดา สามสี

จากการพูดคุยข฾างต฾นจะเห็นได฾ว฽า การประกวดสุนทรพจนแนั้น ไม฽ได฾อาศัยแค฽ทักษะการพูดของ ผู฾กล฽าวสุนทรพจนแเพียงอย฽างเดียว แต฽ต฾องอาศัยทักษะการเล฽าเรื่อง และการใช฾ภาษาที่สวยงามของผู฾ที่อยู฽ เบื้องหลังอย฽างอาจารยแสุริยา ทองคํา ที่คอยแนะแนวทางการเขีย นบทสุนทรพจนแดี ๆ ที่ทําให฾ผู฾ฟังได฾ฟัง แล฾ ว รู฾ สึ ก ชื่ น ชมและประทั บ ใจ ซึ่ ง รางวั ล ที่ นั ก ศึ ก ษาได฾ รั บ มาทั้ ง หมดนั้ น ถื อ เป็ น เครื่ อ งการั น ตี ว฽ า การช฽วยเหลือซึ่งกันระหว฽างอาจารยแกับลูกศิษยแภายในสาขาวิชาเป็นเรื่องราวที่อบอุ฽น และน฽าประทับใจยิ่ง สัมภาษณแ : นายสุริยา ทองคํา ผู฾สัมภาษณแ : นางสาวยวิษฐา กําเนิดทอง

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๑๗


เปิดประสบการณ์ใหม่ ภาษาไทยศิลปศาสตร์ ภัทราภรณ์ สุคนธากรณ์

สําหรับสาขาวิชาภาษาไทยในความคิดของใครหลาย ๆ คนอาจจะมีการตั้ง คําถามก฽อนเลือก เรียนว฽า เรียนไปทําไม และจบไปมีงานอะไรทํา เป็นคําถามที่ส฽งผลต฽อการตัดสิ นใจเลือกเรียนสาขาวิชา ภาษาไทย เช฽นเดียวกับ นางสาวอารียา ดาวเรือง นักศึกษาชั้นปีที่ ๔ ที่ได฾เลือกเรียนต฽อในรับอุดมศึกษา ที่สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตรแและสังคมศาสตรแ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต โดยได฾ให฾เหตุผลใน การเลือกเรียนสาขาวิชาภาษาไทยไว฾เพียงสั้น ๆ คือ เรี ยนเพราะความชอบ ซึ่ง เป็นเพียงเหตุผลที่มาจาก ความรู฾สึกส฽วนตัวแต฽ก็สามารถทําให฾เธอเดินตามเส฾นทางที่เลือกไว฾ได฾อย฽างถูกทาง

อารียา ดาวเรือง ได฾ออกฝึกประสบการณแ ณ ท฽าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ในตําแหน฽งฝุายอํานวยการ

ปัจจุบันจบการศึกษาแล฾ว แต฽ปี ๔ เทอม ๒ นางสาวอารียา ดาวเรือง ได฾ออกฝึกประสบการณแ ณ ท฽าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ในตําแหน฽งฝุายอํานวยการ ที่ถือว฽าเป็นสถานที่นักศึกษา สาขาวิชาภาษาไทยไม฽รู฾จักมักคุ฾นกันสักเท฽าไร แต฽นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทยก็สามารถเลือกที่จะออก ฝึกประสบการณแในสถานที่ใหม฽ ๆ ตามความสนใจโดยได฾รับความร฽วมมือและการให฾ความสนับสนุนจาก สาขาวิชาภาษาไทย ซึ่งนับว฽าเป็นการเปิดตลาดการฝึกประสบการณแให฾แก฽นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทยที่ มีความสนใจและอยากเปิดโลก เปิดโอกาสทําตามความฝัน พร฾อมทั้งเรียนรู฾ในสิ่งใหม฽ ๆ ให฾กับตนเอง ทั้งนี้ นางสาวอารียา ดาวเรือง ยัง ได฾บอกเล฽าประสบการณแในการออกฝึกงานตลอดระยะเวลา ๔ เดือน ผ฽านคําถามและการให฾สัมภาษณแดังต฽อไปนี้ วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๑๘


ทาไมถึ ง เลื อกที่ จ ะออกฝึกประสบการณ์ ที่ท่า อากาศยานนานาชาติ ภู เ ก็ ต และต้ องใช้ ความรู้อะไรในการฝึกงานครั้งนี้ ที่เลือกฝึกงานที่ท฽าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตอันดับแรกเลย คือ ใกล฾บ฾าน และอันดับที่สองที่ เลือก เพราะว฽า เป็นการเปิดประสบการณแใหม฽ของตัวเองรวมทั้งเป็นการเปิดตลาดใหม฽ในการฝึกงานของ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทยอีกด฾วย และการที่เราจะออกฝึกงานนั้นไม฽จําเป็นหรอก ที่เราจะต฾องมานั่ง คิดว฽า ถ฾าเข฾าไปสถานที่นั้นแล฾วมันจะหนักเกินไปรึเปล฽า เราจะทําได฾ไหม แต฽ให฾เราคิดว฽าเราทําได฾ ต฽อให฾ หนักอย฽างไรก็ตาม และในการฝึกงานครั้งนี้ต฾องใช฾ความรู฾ เกี่ยวกับเรื่องของงานสารบรรณ งานเอกสาร ต฽าง ๆ รวมไปถึงการจัดเตรียมห฾องประชุม และงานเลขานุการต฽าง ๆ ซึ่ง งานต฽าง ๆ เหล฽านี้ ถือว฽าเป็นสิ่ง ที่ตอบโจทยแมากกับการที่เลือกสาขาวิชาภาษาไทย เพราะงานเหล฽านี้ที่เราได฾ทํา อาจารยแเคยสอนมาแล฾ว และตรงกับที่เราเรียนมาทั้งนั้น นับว฽าเป็นประโยชนแอย฽างมากในการฝึกงานครั้งนี้ค฽ะ

ในการออกฝึกประสบการณ์ที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตทาหน้าที่อะไรบ้าง ในส฽วนของหน฾าที่หลัก ๆ ก็คือ การรับส฽งเอกสาร ในระบบสารบรรณท฽าอากาศยานของธุรการ ระบบสารบรรณท฽าอากาศยานของฝุายรองผู฾อํานวยการท฽าอากาศยาน ฝุายบํารุงรักษา และระบบงาน ของ สกล. หรือที่เรียกง฽าย ๆ ก็งานเลขานุการที่คอยอํานวยความสะดวก ซึ่งที่ทําอยู฽หลัก ๆ ก็ประมาณนี้ค฽ะ

สิ่งที่ได้รับจากการออกฝึกประสบการณ์ จากการได฾ออกฝึกประสบการณแในครั้งนี้ อันดับแรกเลยนะคะ ก็ ได฾รับสัมพันธไมตรีที่ดีจากพี่ ๆ ที่ฝึกงาน และที่ได฾รับมากกว฽านั้น คือ ประสบการณแจากการได฾เรียนรู฾งานบางอย฽างที่เราไม฽เคยทําโดยตรง และได฾ล งมื อ ที่จ ะทํ า จริ ง ๆ เช฽ น การประสานติด ต฽ อ กั บแต฽ ล ะฝุา ยในส฽ ว นของการจองห฾ อ งประชุ ม นอกจากนี้ ก็ไ ด฾เ ปิด ประสบการณแใ หม฽ ๆ ให฾กั บนั กศึ กษาในสาขาวิ ชาภาษาไทย ที่มี ความสนใจและ อยากจะมาฝึกประสบการณแที่นี้อีกด฾วยค฽ะ เพราะว฽าหลายคนก็คิดไม฽ถึงเหมือนกันว฽าท฽าอากาศยานการ บินภูเก็ตจะมีงานที่เกี่ยวกับสายภาษาไทยโดยตรง หากคิดเผิน ๆ หลายคนอาจมองว฽าภาษาที่ใช฾ส฽วนใหญ฽ คือ ภาษาอังกฤษเป็นหลักด฾วยชื่อท฽าอากาศยานมันมีคําว฽านานาชาติด฾วยแหละ เลยทําให฾คนเข฾าใจตรงนี้ ผิ ด แต฽ จ ริ ง ๆ ภาษาไทยของเราก็ สํ า คั ญ และจํ า เป็ น กว฽ า อย฽ า งยิ่ ง ในการติ ด ต฽ อ สื่ อ สารกั น นะคะ เพราะผู฾ใช฾บริการไม฽ได฾มีแค฽ชาวต฽างชาติ แต฽คําว฽า “นานาชาติ” ในที่นี้ก็รวมชาวไทยไว฾ด฾วยค฽ะ

สุดท้ายนี้อยากฝากหรือประชาสัมพันธ์อะไรเกี่ยวกับการออกฝึกประสบการณ์ในครั้งนี้บ้าง สิ่งที่อยากจะฝากถึงนะคะ ก็คือการเรียนในสาขาภาษาไทยทําอะไรได฾มากกว฽าที่หลายคนคิด หลาย ๆ คนไม฽มั่นใจว฽า ถ฾าหากเลือกเรียนแล฾วจะประกอบอาชีพอะไร จะมีง านรองรับไหม ซึ่ง จริง ๆ มันไม฽ได฾ขึ้นอยู฽กับสาขาวิชาภาษาไทยนะคะ แต฽มันขึ้นอยู฽กับความคิดของเราเป็นหลัก จะเลือกอะไร ทุก ๆ อย฽างหากเราตั้งใจที่จะทําผลที่ได฾รับก็จะประสบความสําเร็จค฽ะ มันอยู฽ที่การตัดสินใจของเราเอง วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๑๙


ไม฽ได฾ขึ้นอยู฽กับใครโดยตรง แล฾วก็อยากจะประชาสัมพันธแถึงน฾อง ๆ ที่สนใจในเรื่องของการฝึกงานในส฽วน ที่เกีย่ วกับงานเอกสารหรืองานอํานวยการ ก็อยากจะแนะนําว฽าให฾มาฝึกงานที่ท฽าอากาศยานนานาชาติ ภูเ ก็ต กั นเยอะ ๆ นะคะ แต฽ ก็ไ ม฽ ได฾ หมายความว฽า ที่ นี่จ ะดี ก ว฽า ที่อื่ น นะ แต฽ ที่ห มายถึง คื อ งานที่ ไ ด฾ รั บ มอบหมายให฾ทําส฽วนใหญ฽จะเป็นงานที่เราได฾เรียนรู฾จากสาขาวิชาภาษาไทยมาแล฾วทั้งนั้น อีกทั้งยังได฾รับ การต฾อนรับที่ดีด฾วย ได฾เรียนรู฾งานใหม฽ ๆ ซึ่งมี งานมาให฾ทําให฾ได฾เรียนรู฾อยู฽ทุกวัน อีกทั้ง ได฾รับความเป็น กันเอง และบางครั้ งตัวเราเองก็อ าจจะได฾รั บโอกาสสู ง ที่จ ะได฾ทํ างานที่นี่เ ลยก็ ไ ด฾ ค฽ะ สุด ท฾ายนี้ ก็ต฾อ ง ขอขอบคุ ณ สาขาวิ ช าภาษาไทย และอาจารยแ ป ระจํ า สาขาทุ ก ท฽ า น ที่ ใ ห฾ ค วามสนใจและมองเห็ น ความสําคัญในเรื่องของความฝันของนักศึกษา รวมทั้งให฾การสนับสนุนและเล็งเห็นถึงประโยชนแในการ ออกฝึกประสบการณแในครั้งนี้ด฾วยค฽ะ ขอบคุณค฽ะ เรียนภาษาไทย ไม฽มีเกียรแ ไม฽มีเสื้อช็อปให฾ใส฽ แต฽มีความภูมิใจกว฽าใคร ๆ แน฽นอน แม฾จะเป็น สาขาวิชาที่แอบซ฽อนความยากไว฾พอตัว แต฽ถ฾าหากเรามุ฽งมั่น ขยัน และเอาใจใส฽ก็จะเป็นหนทางที่นําไปสู฽ ความประสบความสําเร็จ เพราะความฝันคือที่ต฾องใฝุคว฾า สาขาวิชาภาษาไทยจึงมุ฽งเน฾นที่จะพัฒนาและ พร฾อมที่จะสนับสนุนความฝันของนักศึกษาเป็นสําคัญ การจัดการเรียนในสาขาวิชา จึง ไม฽ได฾ มุ฽งเน฾นแค฽ เพียงการเรียนการสอนภาษาไทยแต฽เพียงอย฽างเดียว แต฽ยัง สอนในเรื่องที่นอกเหนือจากภาษาไทยที่ สามารถใช฾เป็นใบเบิกทางในการประกอบอาชีพสู฽ความฝันที่นักศึกษาตั้งไว฾ได฾

สัมภาษณแ : นางสาวอารียา ดาวเรือง ผู฾สัมภาษณแ : นางสาวภัทราภรณแ สุคนธากรณแ

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๒๐


เรียนภาษาไทยได้อะไรมากว่าที่คิด อรนิช ประทุมสุวรรณ์

เรียนสาขาวิชาภาษาไทยจบไปแล฾วทํางานอะไร คงจะเป็นคําถามที่หลาย ๆ คนสงสัย และคงจะ ไม฽มีใครตอบคําถามหรือบอกเล฽าประสบการณแไ ด฾ดีเท฽ากับตัวนักศึกษาที่สําเร็จ การศึกษาจากสาขาวิชา ภาษาไทยโดยตรง

นันทวรรณ พรหมศร ศิษยแเก฽าสาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตรแและสังคมศาสตรแ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต

นางสาวนันทวรรณ พรหมศร ศิษยแเก฽าสาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตรแและสังคมศาสตรแ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ตอนนี้เธอเป็นครูอยู฽ที่โรงเรียนขจรเกียรติโคกกลอย จังหวัดพังงา เธอบอกเล฽า ประสบการณแโดยเริ่มจากการเรียนสาขาวิชาภาษาไทย ตั้งแต฽สาเหตุที่เธอเลือกเรียนสาขานี้ เพราะเธอชอบ และถนั ด มากกว฽ า วิ ช าอื่ น ประกอบด฾ ว ยแรกเริ่ ม คิ ด ว฽ า จบไปอยากทํ า งานเกี่ ย วกั บ เอกสาร เช฽ น งานเลขานุการ งานธุรการ เป็นต฾น จึงตัดสินใจที่จะเรียนสาขานี้ พี่ฝูาย หรือนางสาวนันทวรรณ พรหมศร บอกเล฽าว฽า การใช฾ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยเธอต฾อง ปรับ เปลี่ ยนหลายอย฽ าง การเป็ นนัก ศึก ษาสาขาวิช าภาษาไทยต฾องเป็ น บุค คลที่ มีความขยัน มีค วาม ละเอียดรอบคอบในการทํางาน โดยส฽วนตัว ตนเองมี บุคลิกตรงข฾า มทั้ง หมด แต฽พอเข฾ามาเรียนทําให฾ พัฒนาตั วเองมากขึ้ น โดยเฉพาะสาขานี้ฝึ กความมานะอดทนที่ห าจากที่ไ หนไม฽ไ ด฾ ตอนแรกเธอคิ ด ตลอดเวลาว฽าทําไมต฾องเรียนหนักกว฽าสาขาอื่น คนอื่นได฾หยุด ทําไมเราต฾อ งมานั่งทํางาน แต฽พอเราเรียน จบสิ่งที่ได฾ติดตัวมาคือความอดทน เธอสามารถอดทนกับแรงกดดันของหัวหน฾า อดทนกับแรงกดดันของ เพื่อนร฽วมงาน เมื่อเอาไปเทียบกับความอดทนในมหาวิทยาลัยนั้นยังไม฽ได฾ครึ่งของการทํางานในชีวิตจริง สาขานี้สําหรับเธอจึงฝึกคนให฾แข็งแกร฽งเพื่อไปสู฾กับการทํางาน และอุปสรรคต฽าง ๆ ในชีวิตจริงได฾

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๒๑


สุดท฾ายเธออยากฝากถึงน฾อง ๆ ในฐานะที่เธอเป็นศิษยแเก฽าที่เคยผ฽านประสบการณแมาก฽อน และ เป็น ผู฾สํา เร็จ ทางการศึก ษาพร฾อ มทั้ง มีหน฾ าที่ การงานที่ดี จึง อยากแนะนํ าให฾ น฾อง ๆ ที่กํ าลัง คิดอยู฽ว฽ า อยากจะเรียนสาขาอะไร สาขาภาษาไทยถือเป็นทางเลือกหนึ่งให฾น฾อง ๆ ได฾ เพราะสาขาวิชาภาษาไทย สามารถประกอบอาชี พ ได฾ หลายอย฽ าง เช฽ น เลขานุก าร งานเอกสาร ประชาสั มพั น ธแ ครู เป็น ต฾ น หากน฾อง ๆ เข฾ามาอยู฽ในครอบครัวภาษาไทยแล฾ว น฾อง ๆ จะได฾รับประสบการณแกลับไปพัฒนาตนเองได฾ ในหลาย ๆ ด฾านอย฽างแน฽นอน

จากความตั้งใจสู฽ความสําเร็จ ผลผลิตที่งดงามซึ่งเกิดจากการบ฽มเพาะและขัดเกลาของอาจารยแ สาขาวิชาภาษาไทย เพื่อสร฾างบัณฑิตที่มีคุณภาพสามารถประกอบอาชีพที่ถ฽ายทอดความรู฾ให฾แก฽บุคคลอื่นได฾ นางสาวนันทวรรณ พรหมศร นับเป็นบัณฑิตที่สาขาวิชาภาษาไทยภาคภูมิใจที่ร฽วมกันสรร คแสร฾างให฾ กลายเป็นแม฽พิมพแที่ดีของนักเรียน

สัมภาษณแ : นางสาวนันทวรรณ พรหมศร ผู฾สัมภาษณแ : นางสาวอรนิช ประทุมสุวรรณแ

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๒๒


เส้นทางสู่การเป็นพิธีกรมืออาชีพ / กิจกรรมสร้างสรรค์ บริการสู่ชุมชน “บ้านเกาะหมากน้อย” / สานสัมพันธ์นอ้ งพี่ ทศศ. มรภ.ภูเก็ต เปิดบ้านต้อนรับ ค.บ.ภาษาไทย มรภ.กาญจนบุรี

เสริมสร้างประสบการณ์กับโครงการดี ๆ

ปนิตา ชูจิต

เส้นทางสู่การเป็นพิธีกรมืออาชีพ

เมื่อวันที่ ๖ – ๗ มีนาคม ๒๕๖๓ สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตรแและสังคมศาสตรแ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ร฽วมกั บสมาคมสื่อมวลชนภูเก็ต จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ “MC of HUSO” เส฾นทางสู฽การเป็นพิธีกรมืออาชีพ ณ ห฾องประชุมแคแสด ๓ – ๔ อาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัย ราชภัฏภูเก็ต

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๒๓


การจัดงานในครั้งนี้มีบุคลากร และนักศึกษาจากสาขาวิชาต฽าง ๆ ในคณะมนุษยศาสตรแและ สังคมศาสตรแ เข฾าร฽วมอบรม โดยได฾รับเกียรติจากผู฾ช฽วยศาสตราจารยแ ดร.หิรัญ ประสารการ อธิการบดี มหาวิ ท ยาลั ย ราชภั ฏ ภู เ ก็ ต เป็ น ประธานในพิ ธี มี ค ณะวิ ท ยากรจากสมาคมสื่ อ มวลชนภู เ ก็ ต ผู฾ มี ประสบการณแในด฾านการเป็นพิธีกร และนักสื่อสารมวลชนมืออาชีพ นําโดย นางสาววัชราพร ญาณโกมุท วิทยากรฝึกปฏิบัติการถ฽ายทอดเทคนิควิธีการเป็นพิธีกรในโอกาสต฽าง ๆ เช฽น การพัฒนาบุคลิกภาพ การใช฾ น้ํ าเสี ยง โทนเสีย งสูง – ต่ํ า การเตรีย มบทพูด (สคริปตแ ) การใช฾ไ มโครโฟน เป็ นต฾น และยัง มี การแข฽ง ขัน เพื่อค฾นหาดาวเด฽นการเป็นพิธีกรมืออาชีพ ซึ่ง ผู฾เข฾าแข฽ง ขันเป็นนักศึกษาสาขาวิชาต฽าง ๆ ที่เข฾าร฽วมจัดอบรมในครั้งนี้ ผลการแข฽งขันปรากฏว฽า นางสาวปวีณแนุช อ฽อนแก฾ว นักศึกษาชั้นปีที่ ๒ สาขาวิชาภาษาไทย เป็นผู฾คว฾ารางวัลชนะเลิศการประกวด MC of HUSO เส฾นทางสู฽การเป็นพิธีกรมืออาชีพ โดยได฾รับเกียรติ ในการมอบรางวัลจาก นายวงศกร นุ฽นชูคันธแ รองผู฾ว฽าราชการจังหวัดภูเก็ต

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๒๔


กิจกรรมสร้างสรรค์ บริการสู่ชุมชน “บ้านเกาะหมากน้อย” ภัณฑิรา ศรีแสง

ภูมิปัญญาสืบสาน บริการสู่ชุมชน เมื่อวันที่ ๙ – ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๓ ที่ผ฽านมา สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุ ษยศาสตรแและ สังคมศาสตรแ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต นําโดยคณะอาจารยแ และนักศึก ษาสาขาวิชาภาษาไทย ร฽วมจัด โครงการ “ภูมิปัญญาสืบสาน บริการสู฽ชุมชน” ณ บ฾านเกาะหมากน฾อย จังหวัดพังงา

กิจกรรมแรกเป็นการลงพื้นที่ในชุมชน เพื่อฝึกประสบการณแการทํางานในการลงพื้นที่ และเก็บ รวบรวมข฾อมูลภูมิปัญญาของชุมชนในหมู฽บ฾านเกาะหมากน฾อยที่ยังคงลงเหลืออยู฽ในชุมชน ไม฽ว฽าจะเป็น ข฾อ มูล ที่เ กี่ ยวกับ วรรณกรรมท฾ อ งถิ่ น อาชี พ – หั ต ถกรรม การละเล฽ น พื้น บ฾า น อาหารพื้น บ฾ าน และ ประเพณี พิธีกรรม - ความเชื่อ เพื่อนําไปเผยแพร฽ และรักษาความเป็นภูมิปัญญาของชุมชนให฾ยังคงดํารง อยู฽ กิจกรรมในครั้งนี้มีอาจารยแประจําสาขาวิชาจํานวน ๖ ท฽าน และวิทยากรผู฾เชี่ยวชาญด฾านวัฒนธรรม นักวิชาการวัฒนธรรม ได฾แก฽ ผู฾ช฽วยศาสตราจารยแสมหมาย ปิ่นพุทธศิลป฼ ดร.อรุณรัตนแ สรรเพ็ ชร และ นายวิทวัส อันตาผล ร฽วมเก็บข฾อมูล ให฾คําปรึกษา และให฾ข฾อเสนอแนะในการจัดรวบรวมข฾อมูล วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๒๕


ค่ายรักษ์ภาษาไทย กิ จ กรรมที่ ส อง คณะอาจารยแ และนั ก ศึ ก ษาร฽ ว มกั น จั ด กิ จ กรรม “ค฽ า ยรั ก ษแ ภ าษาไทย” ณ โรงเรียนเกาะหมากน฾อย จังหวัดพังงา เป็นกิจกรรมบริการชุมชน เพื่อให฾ความรู฾ แก฽น฾อง ๆ นักเรียน ระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๑ – ๓ โดยแบ฽งฐานการเรียนรู฾ออกเป็น ๕ ฐาน ได฾แก฽ ฐานรวมความหลากหลาย ให฾เป็นหนึ่ง ฐานซาบซึ้งร฾อยกรองของไทย ฐานเรียงร฾อยตามจินตนาการ ฐานอ฽านออกบอกกล฽าวหรรษา และฐานพูดจาภาษาสุนทรพจนแ โดยกิจกรรมในครั้งนี้ได฾รับความสนใจจากน฾อง ๆ นักเรียนเป็นอย฽างมาก

ฐานรวมความหลากหลายให้เป็นหนึ่ง

ฐานเรียงร้อยตามจินตนาการ

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

ฐานซาบซึ้งร้อยกรองของไทย

ฐานอ่านออกบอกกล่าวหรรษา

หน้า ๒๖


ฐานพูดจาภาษาสุนทรพจน์

ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา ๓ วัน นอกจากได฾ความรู฾ในการเก็บรวบรวมข฾อมูลภูมิปัญญาของชุมชน และการจัดค฽ายรักษแภาษาไทยแล฾ว ยังสร฾างความประทับใจให฾แก฽นักศึกษาที่ได฾เป็นส฽วนหนึ่งในการทํา กิจกรรมร฽วมกับชาวบ฾านในชุมชน และน฾อง ๆ ในโรงเรียนด฾วย

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๒๗


สานสัมพันธ์น้องพี่ ทศศ. มรภ.ภูเก็ต เปิดบ้านต้อนรับ ค.บ.ภาษาไทย มรภ.กาญจนบุรี ประสุตา ส่งเสริม

เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๓ ที่ผ฽านมา สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตรแและสังคมศาสตรแ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จัดกิจกรรม “แลกเปลี่ ยนเรียนรู฾ทางภาษาและวัฒนธรรม”ณ ห฾องสัมมนา กิจ กรรมครั้ ง นี้ เ ป็ น การแลกเปลี่ ย นเรี ย นรู฾ร฽ ว มกั น กั บ คณาจารยแ และนัก ศึ ก ษาสาขาวิ ช าภาษาไทย คณะครุศาสตรแ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี

กิจกรรม “แลกเปลี่ยนเรียนรู฾ทางภาษาและวัฒนธรรม” ในครั้งนี้ มีอาจารยแธีรพงษแ หนูไชยแก฾ว คณบดีคณะมนุษยศาสตรแและสังคมศาสตรแ ผศ.ดร.วรพงศแ ไชยฤกษแ ประธานสาขาวิชาภาษาไทย และ อาจารยแประจําสาขาวิ ชาให฾ การต฾อนรั บ ภายในงานมีก ารแลกเปลี่ยนเรียนรู฾ ด฾านการเรี ยนการสอน วัฒนธรรม ความเป็นอยู฽ ภาษา รวมไปถึงการใช฾ชีวิตในการเรียน โดยมีการเสวนาพูดคุย ระหว฽างอาจารยแ และนักศึกษา ซึ่งจะพูดถึงการเรียนการสอนในรายวิชาต฽าง ๆ กิจกรรมต฽าง ๆ หรือโครงการดี ๆ ที่ทาง สาขาวิชาได฾จัดให฾นักศึกษา ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด฾วยความเป็นกันเอง

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๒๘


วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๒๙


การสื่ออารมณ์ “โกรธ” ในวรรณคดีเรื่อง “พระอภัยมณี” / อุปลักษณ์เชิงมโนทัศน์ที่เป็นคาด่าในเพจ “จ๊อกจ๊อก”

ปลูกกล้านักวิจัย ธนพจน์ กะเตื้องงาน

การสื่ออารมณ์ “โกรธ” ในวรรณคดีเรื่อง “พระอภัยมณี”

บทคัดย่อ การศึกษาครั้งนี้มี วัตถุประสงคแเพื่ อศึกษาการสื่ออารมณแโ กรธในวรรณคดี เรื่องพระอภัยมณี โดยผู฾ วิ จั ย รวบรวมบทที่ สื่ อ ถึ ง อารมณแ โ กรธในวรรณคดี เ รื่ อ ง พระอภั ย มณี ที่ แ ต฽ ง โดย สุ น ทรภู฽ จํานวน ๑,๔๒๔ หน฾า นําข฾อมูลทั้งหมดมาวิเคราะหแอารมณแโกรธตามประเด็นที่กําหนดไว฾ ผลการศึกษาพบว฽า ๑) ด฾านวิภาวะ เป็นสาเหตุแห฽งความโกรธ พบสาเหตุของความโกรธทั้งหมด ๙ สาเหตุ ได฾แก฽ การดูถูกเหยียดหยาม การปกปิดอําพราง การโดนด฽าทอ ความแค฾น ความหวงแหน ความหวาดกลัว ความอิจฉาริษยา ความรําคาญ และความน฾อยใจ ๒) ด฾านอนุภาวะ เป็นการกระทํา ที่ เ กิ ด จากความโกรธ พบผลที่ ต ามมาจากความโกรธทั้ ง หมด ๙ สาเหตุ ได฾ แ ก฽ การรํ า พึ ง รํ า พั น การทํ า ลายข฾ า วของและการทํ า ร฾ า ยร฽ า งกายผู฾ อื่ น การฆ฽ า ฟั น การด฽ า ทอ การข฽ ม ขู฽ การเหน็ บ แนม การประชดประชัน การทําร฾ายตัวเอง และการสาปแช฽ง และ ๓) ด฾านสาตตวิกภาวะ เป็นกิริยาอาการ ที่ เ กิ ด ขึ้ น ตามธรรมชาติ ซึ่ ง มี ผ ลมาจากความโกรธ พบ ๘ สาเหตุ ได฾ แ ก฽ หน฾ า แดง ตั ว สั่ น ชี้ ห น฾ า น้ําตาไหล เป็นลม เหงื่อไหล น้ําเสียงเปลี่ยน และสีหน฾าเปลี่ยน คาสาคัญ : การสื่ออารมณแ, อารมณแโกรธ, พระอภัยมณี

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๓๐


บทนา มรดกทางอารยธรรมและวัฒนธรรมเป็นมรดกทางปัญญาที่มีการส฽งต฽อโดยคนในชาติจากรุ฽นสู฽รุ฽น ซึ่งสามารถแสดงถึงความเจริญของชาติทั้งด฾านวัฒนธรรม และด฾านอื่น ๆ ได฾เป็นอย฽างดี หนึ่งในมรดก ที่ล้ําค฽าของชาติไทย คือ มรดกทางวรรณคดีและวรรณกรรมที่ไ ด฾รับการส฽ง ต฽อจากอดีตจนถึง ปัจจุบัน เช฽น วรรณคดีเรื่อง ไตรภูมิพระร฽วง กาพยแเห฽เรือ พระอภัยมณี เป็นต฾น พระอภั ย มณี เ ป็ น วรรณคดี ชิ้ น เอกของสุ น ทรภู฽ ที่ ค นไทยรู฾ จั ก มาเป็ น เวลานาน ดั ง ที่ สุรียแ ติ่งสมบูรณแ (๒๕๔๓, น.๘ – ๙) กล฽าวถึงพระอภัยมณี ว฽า คนไทยรู้จักเรื่อง “พระอภัยมณี ” มาเป็น เวลานานเท่ากับที่ รู้จักสุนทรภู่ เรื่อง พระอภั ย มณี นั บ ว่ า เป็ น วรรณคดี ที่ คู่ ชื่ อ กั บ สุ น ทรภู่ ดั ง ที่ ส มเด็ จ พระเจ้ า บรมวงศ์ เ ธอ กรมพระยาดารงราชานุภาพ ได้ทรงกล่าวไว้ในคาอธิบายว่าด้วยพระอภัยมณี ตอนหนึ่งว่า “เมื่อข้าพเจ้ายังเยาว์เป็นสมัยแรกที่มีหนัง สือเรื่องพระอภัยมณีพิมพ์ขาย ครั้ง นั้นเห็นคน ชั้นผู้ใหญ่ทั้งผู้ชายผู้หญิงชอบอ่านเรื่องพระอภัยมณีแพร่หลาย ถึงจากลอนในเรื่องพระอภัยมณี ไว้กล่าวเป็นสุภาษิตได้มากบ้างน้อยบ้างแทบจะไม่เว้นตัว” ความแพร่หลายนี้เป็นเพราะว่า พระอภัยมณีเป็นหนังสือเรื่องยาว ที่ได้รับการยอมรับว่า “แต่งดีทั้งกลอน ทั้งความคิดที่ผูกเรื่อง” วรรณคดีเ รื่ องพระอภั ย มณี นอกจากเป็ นวรรณคดีที่ ไ ด฾ รั บการยอมรั บว฽ า แต฽ ง ดี ทั้ ง บทกลอน และความคิดแล฾ว วรรณคดีเรื่องนี้ยังมีความโดดเด฽นในเรื่องของการสื่ออารมณแต฽าง ๆ ที่ช฽วยทําให฾ผู฾อ฽าน เข฾าใจ และเข฾าถึงเรื่องราวต฽าง ๆ ได฾ชัดเจนมากขึ้น เช฽น อารมณแรัก เศร฾า โกรธ เป็นต฾น อารมณแโกรธ หรืออารมณแรุทธรส ตามประเภทของรสวรรณคดีแบบสันสกฤต หรือพิโรธวาทัง ตามประเภทของรสวรรณคดี แ บบไทย เป็ น อารมณแ ข องตั ว ละคร ที่ เ กิ ด จากภาวะต฽ า ง ๆ กั น เช฽ น ความหวงแหน การเย฾ ยหยัน ดู หมิ่ นจากศั ตรู ความแค฾น ความหวาดกลัว ความผยอง เป็น ต฾ น ภาวะเหล฽านี้ทําให฾เกิดอาการต฽าง ๆ เช฽น ตาแดง คิ้วแดง คิ้วขมวด เม฾มริมฝีปาก หัวใจเต฾นแรง เป็นต฾น (สุภา ฟักข฾อง ๒๕๓๐, น.๑๒) วรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี มีการนําเสนออารมณแโกรธของตัวละครได฾น฽าสนใจด฾วยลักษณะ การใช฾ คํ าที่ ทํ าให฾ เ ห็น ภาพ และทํ าให฾ เข฾ า ใจอารมณแ ของตัว ละครได฾อ ย฽ างชั ดเจน เช฽ น อารมณแโ กรธ ของผีเสื้ อสมุทรต฽อนางเงือก อารมณแโ กรธของพระอภัยมณีต฽ อผีเสื้อสมุทร เป็นต฾น ด฾วยเหตุนี้ผู฾วิจั ย จึ ง เห็ น ความสํ า คั ญ ที่ จ ะศึ ก ษาเรื่ อ ง การสื่ อ อารมณแ “โกรธ” ในวรรณคดี เ รื่ อ ง “พระอภั ย มณี ” เพื่อให฾ทราบถึงกลวิธีการสื่ออารมณแโกรธที่ทําให฾ผู฾อ฽านเข฾าใจอารมณแของตัวละคร และเข฾าใจเรื่องราว ที่อ฽านได฾ชัดเจนมากขึ้น

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๓๑


วัตถุประสงค์การศึกษาค้นคว้า เพื่อศึกษาการสื่ออารมณแโกรธในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี วิธีการศึกษา ผู฾ วิ จั ย รวบรวมบทที่ สื่ อ ถึ ง อารมณแ โ กรธในวรรณคดี เ รื่ อ ง พระอภั ย มณี ผู฾ แ ต฽ ง คื อ สุ น ทรภู฽ ผู฾จัดพิมพแคือ สํานักพิมพแไทยควอลิตี้บุ฿คสแ ปี ๒๕๕๕ จํานวน ๑,๔๒๔ หน฾า นําข฾อมูลทั้งหมดมาวิเคราะหแ อารมณแโกรธ โดยปรับกรอบแนวคิดจากงานวิจัยของ ภัสรธีรา ฉลองเดช (๒๕๔๘) เรื่อง “วิเคราะห รสวรรณคดีที่ปรากฏในนิทานเวตาล ฉบับพระนิพนธกรมหมื่นพิทยาลงกรณตามทฤษฎีรสวรรณคดี สันสกฤต” ตามประเด็นองคแประกอบของรสวรรณคดี ต฽อไปนี้ ๑. วิภาวะ ๒. อนุภาวะ ๓. สาตตวิกภาวะ ผลการศึกษา จากการศึ ก ษาเรื่ อ ง การสื่ อ อารมณแ “โกรธ” ในวรรณคดี เ รื่ อ ง “พระอภั ย มณี ” ผู฾วิจัยได฾วิเคราะหแองคแประกอบด฾านวิภาวะ อนุภาวะ และสาตตวิกภาวะ ปรากฏผลดังตอไปนี้ ๑. ด้านวิภาวะ วิ ภ าวะ เป็ น สาเหตุ แ ห฽ ง ความโกรธ จากวรรณคดี เ รื่ อ งพระอภั ย มณี พบสาเหตุ ของความโกรธทั้ งหมด ๙ สาเหตุ ได฾ แ ก฽ การดูถู กเหยีย ดหยาม การปกปิด อํา พราง การโดนด฽า ทอ ความแค฾ น ความหวงแหน ความหวาดกลั ว ความอิ จ ฉาริ ษ ยา ความรํ า คาญ และความน฾ อ ยใจ ดังตัวอย฽างต฽อไปนี้ การปกปิดอาพราง นางผีเสื้อเบื่อหูรู฾เท฽าถึง มาถึงนี่ชี้โน฽นเนื่องกันไป แล฾วนางยักษแหักขาฉีกสองแขน แล฾วกลับตามข฾ามทางท฾องสินธู

จึงว฽ามึงตอแหลมาแก฾ไข แกล฾งจะให฾ห฽างผัวไม฽กลัวกู ไม฽หายแค฾นเคี้ยวกินสิ้นทั้งคู฽ ออกว฽ายวู฽แหวกน้ําด฾วยกําลังฯ (หน฾า ๒๒๕)

จากบทประพั น ธแ ข฾ า งต฾ น เป็ น ตอนที่ พ วกเงื อ กหลอกล฽ อ ให฾ น างผี เ สื้ อ ตามตนมา โดยโกหก ว฽า จะพาไปหาพระอภัย มณี เมื่อ นางยั กษแ รู฾ค วามจริง ว฽า พวกเงือ กโกหกจึ ง โกรธมาก และต฽อ ว฽า ดัง นี้ “มึง อีตอแหลมาชี้โน฽นชี้นี่ แกล฾งจะให฾กูออกห฽างจากผัว ” จากนั้นนางยักษแจึง จับเงือกฉีกแขน ฉีกขา วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๓๒


แต฽ยัง ไม฽หายแค฾น จึงเคี้ยวเงือกกินจนแหลกทั้งคู฽ แล฾วจึง กลับไปยังฐานถิ่นของตนเอง ข฾อความข฾างต฾น กล฽าวถึงความโกรธด฾านวิภาวะที่มีสาเหตุมาจากการปกปิดอําพราง เป็นความโกรธของนางผีเสื้อสมุทร ที่มีต฽อพ฽อแม฽ของนางเงือก ที่พ฽อแม฽ของนางเงือกไม฽บอกที่ซ฽อนตัวของพระอภัยมณี ทําให฾นางยักษแโมโห จึงจับทั้งคู฽กินเป็นอาหาร ความแค้น สินสมุทรสุดแสนแค฾นสุหรั่ง ตัวเป็นกามาประสงคแซึ่งหงสแทอง

ขึ้นเสียงดังเดือดด฽าว฽าจองหอง จะไปถองเสียให฾สมอารมณแมัน (หน฾า ๓๓๒)

จากบทประพันธแข฾างต฾น เป็นตอนที่นางสุวรรณมาลีมาบอกสินสมุทรให฾รู฾ถึงการกระทําของโจร สุหรั่ง ที่พยายามจะขืนใจตน ด฾วยความเคียดแค฾น สินสมุ ทรจึง ได฾ด฽า โจรสุ หรั่ง ว฽าเป็ นไอ฾พ วกจองหอง โรคจิตวิตถารบ฾ากาม ประสงคแจะขี่หงสแทองจึง จะทําร฾ายร฽างกายให฾สมอารมณแแค฾นที่ทํากับแม฽ของตน ข฾อความข฾างต฾นกล฽าวถึงความโกรธด฾านวิภาวะที่มีสาเหตุมาจากความแค฾นที่สินสมุทร มีต฽อโจรสุ หรั่ง ที่พยายามข฽มเหง และจะกระทํามิดีมิร฾ายแม฽ของตน ความหวงแหน ระกําอกหมกมุ฽นหุนพิโรธ ประหลาดใจใครหนอมาก฽อการ ศิลานี้ที่มนุษยแจะเปิดนั้น ยักขินีผีสางหรืออย฽างไร พลางรําพึงถึงจะไปไม฽ไกลนัก โมโหหุนผลุนออกนอกประตู กระโดดโครมโถมว฽ายสายสมุทร ไม฽เห็นผัวคว฾าไปได฾แต฽ปลา

กําลังโกรธกลับแรงกําแหงหาญ ช฽างคิดอ฽านเอาคู฽ของกูไป สักหมื่นพันก็ไม฽อาจจะหวาดไหว มาพาไปไม฽เกรงข฽มเหงกู จะตามหักคอกินเหมือนชิ้นหมู เที่ยวตามดูรอยลงในคงคา อุตลุดดําด฾นเที่ยวค฾นหา ควักลูกตาสูบเลือดด฾วยเดือดดาล (หน฾า ๒๔๙ - ๒๕๐)

จากบทประพันธแข฾างต฾น เป็นตอนที่นางผีเสื้อสมุทรโดนพระอภัยมณีหลอกล฽อให฾ไปจําศีลภาวนา บนเขาสูง จากนั้นพระอภัยมณี สินสมุทร และนางเงือกหลบหนีลงทะเลไป จนกระทั่ง นางผีเสื้อสมุทร กลับมาถึงถ้ําจึงพบว฽า พระอภัยมณี และลูกหนีไปแล฾ว นางโมโหเป็นอย฽างมากจึ งต฽อว฽าผู฾ที่พาพระอภัย มณีหนีไป หากตามเจอจะจับหักคอกินไม฽ให฾เหลือ เมื่อกล฽าวจบจบก็ออกมานอกถ้ํา กระโดดลงน้ําตามหา พยายามควานหาตัวพระอภัยมณีแต฽ไม฽พบ พบแต฽ปลา ด฾วยความโมโหจึง ควักลูกตาแล฾วสูบเลือดกิน วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๓๓


ข฾ อ ความข฾ า งต฾ น กล฽ า วถึ ง ความโกรธด฾ า นวิ ภ าวะที่ มี ส าเหตุ ม าจากความหวงแหนของผี เ สื้ อ สมุ ท ร ต฽อพระอภัยมณีผู฾เป็นรัก เมื่อมีคนมาลักพาตัวพระอภัยมณีหนีไป ทําให฾ผีเสื้อสมุทรโกรธเป็นอย฽างมาก ๒. ด้านอนุภาวะ อนุ ภ าวะ เป็ น การกระทํ า ที่ เ กิ ด จากความโกรธ จากวรรณคดี เ รื่ อ งพระอภั ย มณี พ บผล ที่ตามมาจากความโกรธทั้งหมด ๙ สาเหตุ ได฾แก฽ การรําพึงรําพัน การทําลายข฾าวของและทําร฾า ยร฽างกาย ผู฾ อื่ น การฆ฽ า ฟั น การด฽ า ทอ การข฽ ม ขู฽ การเหน็ บ แนม การประชดป ระชั น การทํ า ร฾ า ยตั ว เอง และการสาปแช฽ง ดังตัวอย฽างต฽อไปนี้ การทาลายข้าวของและทาร้ายร่างกายผู้อื่น ฝุายนารีศรีสุดามาถึงวัง เข฾าในห฾องตรองตรึกให฾นึกอาย เสียแรงแต฽งแปูงขมิ้นสิ้นสักพ฾อม ไหนจะสู฾ทนเจ็บให฾เก็บไร ผู฾ชายไม฽ชอบตาไม฽น฽าแต฽ง ทุบตลับเล็กน฾อยต฽อยขวดเฟือง มิคลึงเคล฾าเล฾าโลมอยู฽แล฾วหรือ คิดจะใคร฽ไปฟูองก็ต฾องค฾าง หุนโมโหโกรธาทําหน฾าเง฾า นางกษัตริยแตรัสถามเป็นความใน

ยังกําลังดาลเดือดไม฽เหือดหาย โอ฾อกกูผู฾ชายไม฽ชอบใจ น้ํามันหอมน้ํามันดิบสักสิบไห ค฽าตะไกรของเขาถึงสลึงเฟื้อง เอาเครื่องแปูงทิ้งขว฾างเสียงปร฽างเปรื่อง ให฾แค฾นเคืองสามพราหมณแกับสามนาง สนุกมือแล฾วไม฽มีที่กีดขวาง จะอําพรางปิดงําไว฾ทําไม เข฾าไปเฝูาพระธิดาอัชฌาสัย เป็นกระไรเร็วมากว฽าทุกวัน (หน฾า ๑๖๘)

จากบทประพันธแข฾างตน เป็นตอนที่สี่พี่เลี้ยงของนางเกษราแต฽งองคแผัดแปูงเพื่อไปเกี้ยวพราหมณแ ทั้งสาม โดยนางประภา นางอุบล และนางจงกล ต฽างคู฽กันกับพราหมณแทั้งสาม มีเพียงศรีสุดาเท฽านั้นที่ไร฾คู฽ นางโมโหแล฾วรีบกลับไปยังวังทันที เมื่อกลับมาถึงนางก็ยังคงโกรธแค฾นไม฽หายจึงขว฾างปาทําลายข฾าวของ คว฾างปาเครื่องแปูง ทุบกระปุกเล็กกระปุกน฾อย ในใจก็ยังเคืองโทษโกรธแค฾นเจ฾าพราหมณแและนางทั้งสาม อยู฽ และคิดที่จะนําความนี้ไปแจ฾งแก฽นางเกษราเพราะไม฽รู฾จะเก็บปกปิดไว฾ทําไม ว฽าแล฾วนางก็เดินเข฾าไป ในห฾องของนางเกษราด฾วยความโมโหโกรธาอย฽างสุดขีด เมื่อเข฾าไปในห฾องนางเกษรา นางเกษราก็ถาม ว฽ า มี ก ระไรทํ า ไมวั น นี้ ม าเร็ ว กว฽ า ทุ ก วั น และยั ง ถามต฽ อ ว฽ า พี่ อุ บ ล พี่ จ งกล และพี่ ป ระภาไปไหนเสี ย ศรี สุ ด านั้ น ก็ ทู ล ตอบว฽ า นางทั้ ง สามไปติ ด พั น อยู฽ กั บ พราหมณแ ทั้ ง สาม ไปตามกลั บ อย฽ า งไรก็ ไ ม฽ ย อม ช฽างน฽าขาย หน฾าจริง ๆ ข฾อความข฾างต฾นกล฽าวถึง ความโกรธด฾านอนุภาวะที่มีพฤติกรรม คือ การทําลาย ข฾าวของ คว฾างปาเครื่องแปูง ทุบกระปุกเล็กกระปุกน฾อยนั่นเอง วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๓๔


ด่าทอ ท฾าวสุทัศนแฟังอรรถโอรสราช โกรธกระทืบบาทาแล฾วพาที อันดนตรีปี่พาทยแตะโพนเพลง แต฽พวกกูผู฾หญิงที่ในวัง

บรมนาถขัดข฾องให฾หมองศรี อย฽าอวดดีเลยกูไม฽พอใจฟัง เป็นนักเลงเหล฽าโลนเล฽นโขนหนัง มันก็ยังเรียนร่ําได฾ชํานาญ

อันวิชาอาวุธแลโล฽เขน เป็นกษัตริยแจักรพรรดิพิสดาร ลูกกาลีมีแต฽จะขายหน฾า จะให฾อยู฽เวียงวังก็จังไร ไปเที่ยวเล฽นเป็นปีแล฾วมิสา พระพิโรธโกรษตรัสด฾วยขัดเคือง

ชอบแต฽เกณฑแศึกเสื้อเชื้อทหาร มาเรียนการเช฽นนั้นด฾วยอันใด ช฽างชั่วช฾าทุจริตผิดวิสัย ชอบแต฽ไสคอส฽งเสียจากเมือง มาพูดจาให฾กูคันหูเหือง แล฾วย฽างเยื้องจากบัลลังกแเข฾าวังใน (หน฾า ๑๐๓)

จากบทประพันธแข฾างต฾น เป็นตอนที่ท฾าวสุ ทัศนแเจ฾าเมืองรัตนาเมื่อได฾ฟัง โอรสทั้งสองพระองคแ คือ พระอภัย มณีผู฾เป็นพี่ และศรีสุวรรณผู฾เป็นน฾อง บอกถึง ศาสตรแวิชาที่ตนได฾เดินทางไปร่ําเรียนมา โดยพระอภัยมณีผู฾เป็นพี่ได฾ร่ําเรียนวิชาดนตรีการเปุาปี่ และเครื่องดนตรีชนิดอื่น ส฽วนศรีสุวรรณผู฾เป็น น฾องได฾ร่ําเรียนกลศึกและศาสตรากระบี่กระบอง ท฾าวสุทัศนแฟังเช฽นนั้นจึงโกรธมาก จึงด฽าว฽า วิชาดนตรี เปุาปีต่ ีตะโพนของพระอภัยมณีนั้นพวกผู฾หญิงในวังก็ร่ําเรียนให฾ชํานาญได฾ ส฽วนการเรียนกระบี่กระบอง ของศรีสุวรรณเป็นหน฾าที่ของพวกทหารเกณฑแ ลูกกษัตริยแไม฽จําเป็นต฾องเรียน มีลูกแบบนี้จะเป็นที่ขาย ขี้หน฾ายิ่ง จะให฾อยู฽วังก็ไม฽ดีควรแก฽การไล฽ออกจากเมือง และยังด฽าอีกว฽าออกจากเมืองไปเที่ยวเล฽นเป็นปี เมื่อกลับมาก็พูดจาไม฽เข฾าหู หลังจากท฾าวสุทัศนแสบถด฽าเสร็ จแล฾วนั้นก็ลุกออกจากบัลลังกแเดินเข฾าไปวังใน ด฾วยอารมณแไม฽พอใจ ข฾อความข฾างต฾นกล฽าวถึงความโกรธด฾านอนุภาวะที่มีพฤติกรรม คือ การต฽อว฽าด฽าทอ ต฽าง ๆ นานา รวมถึงมีอาการกระทืบเท฾าเพื่อแสดงอารมณแโกรธด฾วย การทาร้ายร่างกายตนเอง ยิ่งแค฾นขัดอัดอั้นตันอุรา คิดน฽าแค฾นตัวของตัวจนหัวหงอก จนฟุูงเฟื่องเลื่องลือออกอื้ออึง แกชกหัวตัวเองเสียงโกกโกก

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

ดังเลือดตาแกจะตกตีอกตึง เด็กมันหลอกลวงได฾ไม฽รู฾ถึง ดูประหนึ่งโง฽เง฽าเหมือนเต฽าตาย กําเริบโรครากเลือดไม฽เหือดหาย (หน฾า ๙๔๖)

หน้า ๓๕


จากบทประพันธแข฾างต฾น เป็นตอนที่พระสังฆราชบาทหลวงล฽วงรู฾ความจริงว฽าโดนละเวงวัณฬา ซึ่ง เป็น ลูก สาวของเจ฾ าลั งกาหลอก ทั้ งนี้ ด฾ว ยพระสัง ฆราชบาทหลวงวางแผนให฾น างละเวงวั ณฬาฆ฽ า พระอภัยเสีย ซึ่งนางละเวงวัณฬาก็มีโอกาสฆ฽าหลายครั้งแต฽นางไม฽ทํา มิหนําซ้ํายังเอาพระอภัยมณีมาเป็น สามี พระสังฆราชบาทหลวงจึงตีอกชกหัวตนเองด฾วยความโกรธที่รู฾ว฽าพลาดท฽าไปหลงเชื่อละเวงวัณฬา ข฾อความข฾างต฾นเป็นการกล฽าวถึงความโกรธด฾านอนุภาวะที่แสดงออกด฾วยพฤติกรรม การทําร฾ายร฽างกาย ตนเอง ๓. ด้านสาตตวิกภาวะ สาตตวิ ก ภาวะ เป็ น กิ ริ ย าอาการที่ เ กิ ด ขึ้ น ตามธรรมชาติ ซึ่ ง มี ผ ลมาจากความโกรธ จากวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณีพบกริยาอาการซึ่งเกิดขึ้นโดยธรรมชาติที่ตามมาจากความโกรธทั้งหมด ๘ สาเหตุ ได฾แก฽ หน฾าแดง ตัวสั่น ชี้หน฾า น้ําตาไหล เป็นลม เหงื่อไหล สีหน฾าเปลี่ยน และน้ําเสียงเปลี่ยน ดังตัวอย฽างต฽อไปนี้ เหงื่อไหล อุศเรนรู฾เรื่องให฾เคืองขัด เหงื่อชโลมโซมหน฾าเอาผ฾าเช็ด มึงเห็นตัวผัวมันหรือไม฽เล฽า ยิ่งโกรธาด฽าทอคอเป็นเอ็น

ดังใครตัดเศียรฟาดให฾ขาดเด็ด จะแก฾เผ็ดไพรีไม฽หนีเร฾น อํามาตยแว฽าข฾าพเจ฾ามิได฾เห็น จะจับเป็นแล฽เนื้อเอาเกลือทา (หน฾า ๓๙๖)

จากบทประพันธแข฾างต฾น เป็นตอนที่พระเจ฾าอุศเรนรู฾ความจริงว฽า มีคนมาขัดขวางตนกับนางสุวรรณมาลี จึงโกรธอย฽างยิ่ง จึงกล฽าวว฽าจะกลับไปแก฾แค฾น เมื่อสอบถามว฽ามีใครเห็นพระอภัยมณีบ฾างยิ่งทราบว฽าไม฽มี ผู฾ใ ดเห็ น ก็ ยิ่ ง โกรธแค฾ น มากขึ้น ข฾ อ ความข฾า งต฾ น กล฽ า วถึ ง ความโกรธสัต ตวิ ก ภาวะที่ มีอ าการเกิ ด ขึ้ น คืออาการเหงื่อไหล ดังความว฽า “เหงื่อชโลมโซมหน฾าเอาผ฾าเช็ด” สีหน้าเปลี่ยน พระโกรธกริ้วนิ่วหน฾าด฽านายด฽าน มึงจองหองลองกับกูดูเดี๋ยวนี้ แล฾วขับเสือเงื้อกระบองร฾องตวาด นายด฽านหันกันกระบองปูองปัดมา

อ฾ายเดรฉานชาติโกหกยกฤๅษี แม฾มึงดีให฾เป็นเจ฾าชาวพารา เข฾าตีพลาดพลิ้วกายทั้งซ฾ายขวา แกล฾งล฽อล฽าลวงให฾เธอไล฽ตาม (หน฾า ๑๑๔๙)

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๓๖


จากบทประพั น ธแ ข฾ า งต฾ น เป็ น ตอนที่ เ จ฾ า เมื อ งวาหุ โ ลมต฽ อ สู฾ กั บ ราหู ซึ่ ง เดิ ม แล฾ ว นั้ น ราหู เป็นนายด฽านของเมืองวาหุโลม แต฽ได฾ทรยศไปอยู฽ฝุายขบถ เจ฾าเมืองวาหุโลมโกรธมาก ทําหน฾าตาขมวดคิ้ว แล฾วด฽าทอ บอกว฽าหากมีฝีมือดีจริงจะยกเมืองให฾ พูดแล฾วก็ขับเสือเงื้อกระบองเข฾าต฽อสู฾ ข฾อความข฾างต฾น กล฽าวถึงความโกรธสัตตวิกภาวะที่มีอาการเกิดขึ้น คือ สีหน฾าเปลี่ยนไปเพราะโกรธเคืองราหูที่ทรยศตน น้าเสียงเปลี่ยน ฝุายฝรั่งสังฆราชตวาดว฽า ถึงลูกสาวเจ฾าลังกาจะฆ฽ากู แล฾วงกเงิ่นเดินมาเรียกม฾าใช฾ ช฽วยล฽อลวงหน฽วงศึกเหมือนตรึกการ

มึงอย฽ามาร่ําเรื่องให฾เคืองหู ก็จะสู฾ตายไปมิใช฽การ มาสอนให฾พูดจาไปว฽าขาน จะคิดอ฽านเอาชัยดังใจจง ฯ (หน฾า ๗๗๕)

จากบทประพันธแข฾างต฾น เป็นตอนที่พระสังฆราชบาทหลวงโกรธนางยุพาผกา และนางลําภา เนื่องจากทั้งสองได฾มาต฽อว฽าตนว฽าประมาทในสงคราม ถ฾าหากพิจารณาตามกฎหมายแล฾วพระสังฆราช บาทหลวงมีโทษถึงตาย แต฽ด฾วยความเป็นอาจารยแจึงได฾รับการให฾อภัยไว฾ชีวิต พระสังฆราชบาทหลวงโกรธ มากจึงตวาดว฽าด฽าทอไปว฽า ถึงลูกสาวเจ฾าเมืองจะมาฆ฽าก็ไม฽กลัวหลอก ข฾อความข฾างต฾นกล฽าวถึงความโกรธ สัตตวิกภาวะที่มีอาการเกิดขึ้น คือ น้ําเสียงเปลี่ยนไป เนื่องจากตวาดต฽อว฽าเพราะความโกรธ สรุปและอภิปรายผล จากการศึกษาเรื่อง การสื่ออารมณแ “โกรธ” ในวรรณคดีเรื่อง “พระอภัยมณี ” สามารถสรุป และอภิปรายผล ดังนี้ การสื่ อ อารมณแ “โกรธ” ในวรรณคดี เ รื่ อ ง “พระอภั ย มณี ” ๓ ด฾ า น พบว฽ า ด฾ า นวิ ภ าวะ เป็นสาเหตุ แห฽ง ความโกรธ ประกอบด฾วย การดูถูกเหยีย ดหยาม การปกปิดอํา พราง การโดนด฽าทอ ความแค฾ น ความหวงแหน ความหวาดกลั ว ความอิ จ ฉาริ ษ ยา ความรํ า คาญ และความน฾ อ ยใจ ด฾านอนุภาวะ เป็นการกระทําที่เกิดจากความโกรธ ประกอบด฾วย การรําพึงรําพัน การทําลายข฾าวของ และการทํ า ร฾ า ยร฽ า งกายผู฾ อื่ น การฆ฽ า ฟั น การด฽ า ทอ การข฽ ม ขู฽ การเหน็ บ แนม การประชดประชั น การทําร฾ายตัวเอง และการสาปแช฽ง และด฾านสาตตวิกภาวะ เป็นกิริยาอาการที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งมีผลมาจากความโกรธ ประกอบด฾วย หน฾าแดง ตัวสั่น ชี้หน฾า น้ําตาไหล เป็นลม เหงื่อไหล น้ําเสียง เปลี่ยน และสีหน฾าเปลี่ยน ผลการศึ ก ษาดั ง กล฽ า วเมื่ อ เปรี ย บเที ย บกั บ การศึ ก ษาของ ภั ส ร ธี ร า ฉลองเดช (๒๕๔๘) เรื่ อ ง “วิ เ คราะหแ ร สวรรณคดี ที่ ป รากฏในนิ ท านเวตาล ฉบั บ พระนิ พ นธ กรมหมื่ น พิ ท ยาลงกรณแ ตามทฤษฎีรสวรรณคดีสัน สกฤต”พบว฽ ามีทั้ง ส฽วนที่ สอดคล฾อง และแตกต฽างกัน จากการศึกษาครั้ง นี้ พบว฽า ด฾าน วิภาวะของความโกรธ ประกอบด฾วย การดูถูกเหยียดหยาม การปกปิดอําพราง การโดนด฽าทอ วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๓๗


ความแค฾ น ความหวงแหน ความหวาดกลั ว ความอิ จ ฉาริ ษ ยา ความรํ า คาญ และความน฾ อ ยใจ ส฽วนการศึกษาของ ภัสรแธีรา ฉลองเดช พบวิภาวะของความโกรธ ประกอบด฾วย การพูดจาที่ทําใหเจ็บใจ การพู ด ดู ห มิ่ น การทะเลาะทุ มเถี ย งกั น ความอิ จ ฉาริ ษ ยา และอาฆาตจองเวร ด฾ า นอนุ ภ าวะ ที่แสดงออกมา จากการศึกษาครั้งนี้พบว฽า อนุภาวะ ประกอบด฾วย การรําพึงรําพัน การทําลายข฾าวของ และการทําร฾ายร฽างกายผู฾อื่น การฆ฽าฟันการด฽าทอ การข฽มขู฽ การเหน็บแนม การประชดประชัน การทํา ร฾า ยตั ว เอง และการสาปแช฽ ง ส฽ว นการศึ ก ษาของ ภั ส รแ ธี ร า ฉลองเดช พบอนุ ภ าวะที่ แ สดงออกมา ประกอบด฾วยการตวาด การสาปแช฽ง การใช฾กําลังฉุดกระชาก หรือการข฽มขู฽ให฾สํานึก ด฾านสาตตวิกภาวะ จากการศึกษาครั้งนี้พบว฽า สาตตวิกภาวะ ประกอบด฾วย หน฾าแดง ตัวสั่น ชี้หน฾า น้ําตาไหล เป็นลม เหงื่อ ไหล น้ํ า เสีย งเปลี่ ย น และสี ห น฾ า เปลี่ ย น ส฽ วนการศึ ก ษาของ ภั ส รธี ร า ฉลองเดชพบสาตตวิ ก ภาวะ ประกอบด฾ ว ย ภาวะตั ว สั่ น ภาวะสี ห น฾ า และเสี ย งเปลี่ ย น ภาวะเหงื่ อ ออกและน้ํ า ตาไหล ซึ่งเกิดจากความโกรธแค฾น การดูหมิ่นและความกลัว และบางเหตุการณแไม฽ปรากฏสาตตวิกภาวะ อารมณแโ กรธเป็น อารมณแที่ เกิ ด ขึ้น ได฾ กับ ทุก คน ดั ง สาเหตุ พฤติก รรม และผลลั พธแ ที่เ กิด ขึ้ น ดังที่กล฽าวมาข฾างต฾น จากการศึกษาของผู฾วิจัยยังไม฽พบว฽ามีการศึกษาการสื่ออารมณแโกรธเป็นการเฉพาะ แต฽ มี ก ารศึ ก ษาอารมณแ โ กรธที่ ป รากฏอยู฽ ใ นวรรณกรรมต฽ า ง ๆ ที่ ส฽ ง ผลกระทบต฽ อ ความโกรธ เช฽น การศึกษาของกษมา สุรเดชา (๒๕๕๖) เรื่อง “กระบวนการเกิดบทพิโรธวาทังในบทละครในกับบท ละครนอก พระราชนิพนธแในพระบาทสมเด็จพระพุธเลิศหล฾านภาลัย ” ที่พบว฽า วรรณคดีเรื่อง อิเหนา ตอนที่ประสันตาไปต฽อนกมีเหตุให฾ทะเลาะวิวาทกับทหารของระตูบุศสิหนา เพราะพวกทหารพูดด฽าทอ ดูถูก และขับไล฽ ทําให฾ประสันตาโกรธ และใช฾กริชสังหารทหารของระตูบุศสิหนาจนเป็นเหตุให฾เกิดศึก ระหว฽ า งอิ เ หนาและระตู บุ ศ สิ ห นาในภายหลั ง แสดงให฾ เ ห็ น ว฽ า ความโกรธทํ า ให฾ เ กิ ด ศึ ก สงคราม ได฾ สอดคล฾องกับการศึ กษาของ เบญจวรรณ ส฽งสมบูรณแ (๒๕๔๐) เรื่อง “บทละครเสภาเรื่องขุนช฾าง ขุน แผน : การศึ ก ษาในเชิง วรรณคดี วิเ คราะหแ ” ที่ พ บว฽ าเรื่ อง ขุน ช฾า ง - ขุ นแผน ในตอนที่ขุ น เพชร กับขุนรามด฽าทอถึงพ฽อแม฽ของขุนแผน ทําให฾ขุนแผนโกรธ จึงขาดความยับยั้งชั่งใจ สุดท฾ายจึงได฾ตวัดดาบ ฆ฽าทั้งสอง จากตัวอย฽างข฾างต฾นจะเห็นว฽าผลกระทบของความโกรธย฽อมส฽งผลด฾านลบมากกว฽าด฾านบวก ข้อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะของการนาผลการศึกษาไปใช้ ๑. อารมณแโกรธเป็นอารมณแที่มีสาเหตุจากสิ่ง ใดสิ่งหนึ่ง จึงนําไปสู฽พฤติกรรมที่ไม฽พึง ประสงคแ ทําให฾เกิดผลลัพธแในลั กษณะต฽าง ๆ โดยเฉพาะผลเสียที่อาจจะเกิดขึ้นจากความโกรธ การวิจัยเรื่องนี้ จึงทําให฾เข฾าใจอารมณแโกรธ อันจะนําไปสู฽การปรับใช฾เพื่อแก฾ปัญหาเหตุการณแที่เกิดจากความโกรธได฾ ๒. นํ า ความรู฾ ไ ปใช฾ ป ระโยชนแ ใ นการแต฽ ง คํ า ประพั น ธแ ใ ห฾ ส ามารถสื่ อ อารมณแ โ ก รธได฾ อย฽างเข฾าถึงและมีสุนทรียภาพ

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๓๘


ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งต่อไป ๑. ควรมีการศึกษาเปรียบเทียบการใช฾คําที่สื่ออารมณแโกรธจากวรรณคดีไทยในยุคสมัยต฽าง ๆ ๒. ควรมีการศึกษารสวรรณคดีทั้งไทย และสันสกฤตในวรรณคดีเรื่องอื่น ๆ ต฽อไป เอกสารอ้างอิง กษมา สุรเดชา. (๒๕๕๖). กระบวนการเกิดบทพิโรธวาทังในบทละครในกับบบทละครนอกพระราช นิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุธเลิศหล้านภาลัย. วิทยานิพนธแอักษรศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศิลปากร. เบญจวรรณ ส฽งสมบูรณแ. (๒๕๔๐). บทละครเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน : การศึกษาในเชิงวรรณคดี วิเคราะห์. วิทยานิพนธแการศึกษามหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยบูรพา. ภัสรแธีรา ฉลองเดช. (๒๕๔๘). วิเคราะห์รสวรรณคดีที่ปรากฏในนิทานเวตาล ฉบับพระนิพนธ์ กรมหมื่นพิทยาลงกร ตามทฤษฎีรสวรรณคดีสันสกฤต. วิทยานิพนธแการศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยทักษิณ. สุนทรภู฽. (๒๕๕๕). พระอภัยมณี. กรุงเทพฯ : ดีการพิมพแ จํากัด. สุภา ฟักข฾อง. (๒๕๓๐). วรรณคดีไทยก่อนได้รับอิทธิพลจากตะวันตก. กรุงเทพฯ : กรมฝึกหัดครู. สุรียแ ติ่งสมบูรณแ. (๒๕๔๓). พระอภัยมณีพระเอกนักดนตรี. กรุงเทพฯ : สํานักพิมพแช฾างทอง. -----------------------------------บทความวิจัยเรื่องนี้ผ฽านการคัดเลือกให฾นําเสนอในงาน การประชุมวิชาการระดับปริญญาตรี ด฾ า นมนุ ษ ยศาสตรแ แ ละสั ง คมศาสตรแ ร ะดั บ แห฽ ง ชาติ ค รั้ ง ที่ ๑ ขอบฟู า แห฽ ง การเรี ย นรู฾ ที่ ไ ม฽ มี ที่ สิ้ น สุ ด ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรคแ

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๓๙


อุปลักษณ์เชิงมโนทัศน์ที่เป็นคาด่าในเพจ “จ๊อกจ๊อก” กิตติภพ อ่อนชาติ

บทคัดย่อ การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงคแเพื่อศึกษา อุปลักษณแเชิงมโนทัศนแที่เป็นคําด฽าในเพจ “จ฿อกจ฿อก” โดยนํ าเนื้ อ หาจากการแสดงความคิ ดเห็ น ในเพจจํา นวน ๘๐ คอมเมนตแ มาวิ เ คราะหแต ามประเด็ น ที่กําหนดไว฾ ผลการวิจัย อุปลักษณแเชิงมโนทัศนแที่เป็นคําด฽าในเพจ “จ฿อกจ฿อก” พบทั้งหมด ๑๓ ประเด็น ประเด็นที่พบมากที่สุด ได฾แก฽ คําด฽าที่เกี่ยวกับรูปลักษณแ พบจํานวน ๑๗ คอมเมนตแ รองลงมาคือ คําด฽า ที่เกี่ยวกับอวัยวะ ทุกส฽วนในร฽างกาย พบจํานวน ๑๐ คอมเมนตแ คําด฽าที่เกี่ยวกับชาติพันธุแและชาติกําเนิด พบจํ า นวน ๙ คอมเมนตแ ส฽ ว นคํ า ด฽ า ที่ เ กี่ ย วกั บ ลั ก ษณะนิ สั ย และความประพฤติ แ ละคํ า ด฽ า ที่ เ กี่ ย วกั บ เรื่ อ งเพศและอวั ย วะเพศ พบจํ า นวนเท฽ า กั น คื อ ๘ คอมเมนตแ คํ า ด฽ า ที่ เ กี่ ย วกั บ สั ต วแ พบจํานวน ๖ คอมเมนตแ คําด฽าที่เกี่ยวกับสิ่งสกปรกและของเสียที่ไม฽เป็นที่ต฾องการ และคําด฽าที่เกี่ยวกับ โรค และอาการของโรค พบจํานวนเท฽ากันคือ ๕ คอมเมนตแ คําด฽าที่เกี่ยวกับความผิดปกติทางสมอง คําด฽าบุคคล และคําด฽าที่เกี่ยวกับพืชพรรณ พบจํานวนเท฽ากันคือ ๓ คอมเมนตแ คําด฽าที่เกี่ยวกับความเชื่อ ทางศาสนาและภูตผี พบจํานวน ๒ คอมเมนตแ และที่พบจํานวนน฾อยที่สุดคือ คําด฽าที่เกี่ยวกับอาวุธ พบจํ า นวน ๑ คอมเมนตแ โดยอุ ป ลั ก ษณแ คํ า ด฽ า ที่ พ บมากที่ สุ ด คื อ คํ า ด฽ า เกี่ ย วกั บ รู ป ลั ก ษณแ ทั้ง นี้อ าจเนื่ องมาจากเพจ “จ฿อ กจ฿ อก” เป็ นเพจที่ส ร฾า งขึ้ นเพื่อ นํา ภาพ และรู ปร฽ างหน฾ าตาของผู฾ค น ที่อยู฽ในสังคมมาโพสตแล฾อเลียนอย฽างสนุกสนาน และผู฾ที่ติดตามเพจส฽วนหนึ่งก็ได฾เข฾าไปแสดงความคิดเห็น ในลักษณะของการด฽าทอเป็นจํานวนมาก ดังนั้น จึงมักพบการใช฾อุปลักษณแคําด฽าเกี่ยวกับ รูปลักษณแมาก ที่สุดนั่นเอง คาสาคัญ : อุปลักษณแ มโนทัศนแ เพจ คําด฽า

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๔๐


บทนา อิ น เทอรแ เ น็ ต ถื อ ว฽ า เป็ น ช฽ อ งทางการสื่ อ สารประเภทหนึ่ ง ที่ มี ค วามสํ า คั ญ ในชี วิ ต ประจํ า วั น ของมนุษยแ ทั้งด฾านการติดต฽อสื่อสาร การรับรู฾ข฽าวสารต฽าง ๆ อีกทั้งยังสามารถเข฾าถึงผู฾คนได฾ทุกเพศทุกวัย ซึ่งอินเทอรแเน็ตมีหลากหลายช฽องทางทั้ง อินสตาแกรม ไลนแ ทวิตเตอรแ และเฟซบุ฿ก โดยเฉพาะเฟซบุ฿ก (facebook) เป็น โซเชีย ลเน็ต เวิร แก ที ่ม ีผู฾ค นใช฾บ ริก ารเป็น จํ า นวนมากในยุค ปัจ จุบ ัน นอกจากนี้ ยังสามารถนําไปใช฾เสนอแนวคิดหรือ ประชาสัมพันธแข฾อมูลข฽าวสาร สินค฾า หรือการบริการ โดยผู฾ใช฾งาน มีโอกาสนําเสนอได฾ทั้งในหน฾าเฟซบุ฿กโปรแไฟลแ และเฟซบุ฿กแฟนเพจ สําหรับเฟซบุ฿กแฟนเพจ หรือแฟนเพจ หรือเพจ เป็นคุณสมบัติหนึ่งของเฟซบุ฿ก มีไว฾ เพื่อช฽วยให฾ ผู฾ใช฾งานได฾พื้นที่สําหรับการแสดงความคิดเห็น หรือรวมผู฾ที่ชอบในเรื่องต฽าง ๆ ที่คล฾ายกัน เฟซบุ฿กแฟนเพจ จะสร฾างเป็นหน฾าเพจใหม฽ เมื่อผู฾ใช฾งานหรือผู฾สร฾างเพจโพสตแ สิ่งใดลงไป ผู฾ใช฾ง านที่ติดตามก็จะเห็นทันที ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทยมีเฟซบุ฿กแฟนเพจจํานวนมาก ตามความชื่นชอบของคนในสังคม เช฽น เพจด฾าน การศึกษา เพจการเมืองการปกครอง เพจขายของ เพจดารา เป็นต฾น เพจ “จ฿อกจ฿อก” มีการก฽อตั้งเพจขึ้นเมื่อวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๒ เป็นเพจที่มีคนถูกใจ (Like) และมีคนติดตามจํานวน ๔๗,๓๕๓ คน (ข฾อมูล ณ วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๒) มีลักษณะเป็นเพจกลุ฽ม ปิด ที่สมาชิกต฾องส฽งคําขอเข฾าร฽วม และได฾รับการกดยอมรับจากแอดมินก฽อน จึงจะเข฾ามาติดตามเนื้อหา ในเพจได฾ จํานวนผู฾ติดตามจึงมีเพียง ๔๗,๓๕๓ คน โดยมี เรื่องราว บุคลิก หรือรูปร฽างหน฾าตาของบุคคล ต฽าง ๆ ในสั งคมไทยทั้ง มีชื่ อเสีย งและไม฽ มีชื่ อเสีย งมานํา เสนอในเชิ ง กล฽า วล฾ อ เลีย น เพื่ อให฾ผู฾ ติด ตาม เกิดความสนุกสนาน ซึ่งผู฾ติดตามจํานวนหนึ่งได฾เข฾าไปแสดงความคิดเห็น (คอมเมนตแ) ในลัก ษณะของ การด฽าทอบุคคลที่เพจนํามาโพสตแล฾อเลียนด฾วย เช฽น

ที่มา : เพจจ฿อกจ฿อก (๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๗) วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๔๑


ความโดดเด฽นในด฾านการใช฾ภาษาแสดงความคิด เห็นในเพจ “จ฿อกจ฿อก” ที่มีก ารนํา เสนอ ในเชิง ด฽าทอบุคคลต฽าง ๆ นั้น พบว฽ามีการใช฾ถ฾อยคํา หรือข฾อความ และอาจจะมีการตัด ต฽อคํา หรื อ เปลี่ยนคํา เพื่อให฾ได฾คําที่แปลกใหม฽ และเป็นที่จดจําของผู฾ติดตาม ซึ่งข฾อความ โพสตแ หรือข฾อความสั้น ๆ มาจากบทเพลง เหตุ ก ารณแ บ฾ า นเมื อ ง หรื อ บุ ค คลที่ มี ชื่ อ เสี ย งหรื อ ที่ กํ า ลั ง มี ก ระแสไปในทางที่ ล บ จนทําให฾เพจนี้กลายเป็นเพจที่มีผู฾คนจํานวนหนึ่งให฾ความสนใจ ด฾วยเหตุนี้ผู฾วิจัยจึงสนใจที่จะศึกษาเรื่อง อุปลักษณแเชิงมโนทัศนแที่เป็นคําด฽าในเพจ “จ฿อกจ฿อก” จํา นวน ๑๒๙ โพสตแ โดยผู฾ วิจั ยจะศึก ษาเฉพาะโพสตแ เดี่ ย ว ในเพจ “จ฿ อกจ฿อ ก” ที่มี ก ารเผยแพร฽ ในเดือนตุลาคม ๒๕๖๒ โดยเลือกโพสตแที่มีจํานวนยอดถูกใจ ๑๐๐ ขึ้นไป ผู฾วิจัยรวบรวมโพสตแได฾ทั้งสิ้น ๑๒๙ โพสตแ แล฾ วนํ า มาคัด เลื อ กการแสดงความคิ ด เห็ น (คอมเมนตแ ) ที่ป รากฏเป็น คํา ด฽า ในรู ปแบบ ของอุปลักษณแ วัตถุประสงค์ในการศึกษา การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงคแเพื่อศึกษาอุปลักษณแเชิงมโนทัศนแที่เป็นคําด฽าในเพจ “จ฿อกจ฿อก” วิธีการศึกษา ผู฾วิจัยศึกษาค฾นคว฾าเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข฾อง โดยแบ฽งเป็น ๔ ลักษณะคือ ๑) เอกสาร ที่เกี่ยวข฾องกับสื่อสังคมออนไลนแและ ๒) เอกสารที่เกี่ยวข฾องการใช฾อุปลักษณแคําด฽า ๓) เอกสารที่เกี่ยวข฾อง กับมโนทัศนแ และ ๔) งานวิจัยที่ เกี่ยวข฾ องในประเด็ นที่เกี่ ยวกับอุ ปลักษณแและคํ าด฽า หลัง จากศึกษา เอกสารและงานวิ จัย ที่เกี่ ยวข฾องแล฾ วเก็ บรวบรวมคอมเมนตแจ ากโพสตแที่ ปรากฏในเพจ “จ฿อ กจ฿ อก” ศึกษาคอมเมนตแ แล฾วแยกคอมเมนตแตามประเด็นที่กําหนดไว฾ แล฾วนําข฾อมูลที่ไ ด฾ทั้งหมดมาวิเคราะหแ ตามประเด็นที่กําหนดไว฾ในขอบเขตเนื้อหา และจึงเขียนรายงานผลการศึกษาค฾นคว฾ าโดยวิธีพรรณนา วิเคราะหแ แล฾วนําผลการศึกษาที่ได฾ไปเปรียบเทียบกับการศึกษาเรื่อง “อุปลักษณแเชิงมโนทัศนแของคําด฽า ในภาษาไทย” ของ อรทัย ชินอัครพงศแ (๒๕๕๗) ที่ผู฾วิจัยนํามาใช฾เป็นกรอบในการวิจัย ส฽วนนิยามศัพทแ เฉพาะจึงจะยกตัวอย฽างบางส฽วนเพื่อให฾ผู฾อ฽านเข฾าใจชัดเจนขึ้น ๑. อุปลักษณแ ในการศึกษาครั้งนี้หมายถึง คือการเปรียบสิ่ง หนึ่ง เป็นอีกสิ่ง หนึ่ง หรือยกสิ่ง ใด สิ่งหนึ่งมาเปรียบเทียบ ๒. คําด฽า ในการศึกษาครั้งนี้หมายถึง ถ฾อยคําที่ใช฾ด฽าทอว฽าคนอื่นเพื่อให฾ดูต่ํากว฽าจากที่เขาเป็นอยู฽ ทําให฾ผู฾ฟังได฾รับความเจ็บปวดหรือเสื่อมเสียและเกิดผลกระทบทางอารมณแ ๓. มโนทัศนแ ในการศึกษาครั้งนี้หมายถึง ความคิดและความเข฾าใจของมนุษยแ ที่สะท฾อนผ฽าน การใช฾ รู ป ภาษา แสดงประสบการณแ ที่ มี ต฽ อ โลกตามความคิ ด ของมนุ ษ ยแ เ ป็ น การคิ ด รวบยอด สร฾างกรอบ

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๔๒


ความคิดให฾ชัดเจน ซึ่งเป็นภาพที่เกิดในใจซึ่งเป็นตัวแทนของสิ่งหลายสิ่งต฽างกัน แต฽มีลักษณะบางอย฽าง คล฾ายกัน ส฽ว นข฾ อตกลงเบื้ องต฾ น ในการศึก ษาครั้ง นี้ผู฾ วิ จัย จะคงการเขี ยนคํ าด฽ าในรูป แบบเดิ มเอาไว฾ เพื่อให฾ผู฾คนเข฾าใจถึงสิ่งที่ต฾องการสื่อความหมายจากคําด฽านั้น ๆ มากขึ้น ผลการศึกษา การศึ ก ษา อุ ป ลั ก ษณแ เ ชิ ง มโนทั ศ นแ ที่ เ ป็ น คํ า ด฽ า ในเพจ “จ฿ อ กจ฿ อ ก” ผลการศึ ก ษา ปรากฏว฽าสามารถจําแนกตามประเด็นได฾ ๑๓ ประเด็นดังต฽อไปนี้ ๑. คาด่าที่เกี่ยวกับอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย คําด฽าที่เกี่ยวกับอวัยวะทุกส฽วนในร฽างกาย ในการศึกษาครั้ง นี้หมายถึง ลักษณะของอวัยวะ ในร฽างกายทุกส฽วน เช฽น ใบหน฾า ปาก หู ตา จมูก มาใช฾เปรียบเทียบ จากการศึกษาพบอุปลักษณแคําด฽า ที่ เ กี่ ย วกั บ อวั ย วะทุ ก ส฽ ว นในร฽ า งกาย อาทิ หน฾ า ไม฽ อ าย หน฾ า ตั ว เมี ย ส฾ น ตี น โดยปรากฏ จํานวน ๑๐ คอมเมนตแ ได฾แ ก฽ หน฾าเหมือ นหมา, ปากดี ปากกระโถนจิง ๆ , หน฾า ริดสี ดวง อีห น฾าหี , ปากเหม็ น เหมื อ นบ฽ อ ขี้ ไ ม฽ ไ ด฾ ดู ด , อี เ พชปากปลาร฾ า , หน฾ า เลื อ ดอี เ บี ย , ปากหมา, พวกปากตลาด, หน฾าส฾นตีน, อีหน฾าหนาปูนสร฾างบ฾านกูยังยอมแพ฾มึงอะ ดังตัวอย฽างต฽อไปนี้

ภาพที่ ๑ พวกปากตลาด ที่มา : เพจจ฿อกจ฿อก (๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๒) จากคําว฽า “พวกปากตลาด” จัดอยู฽ในคําด฽าประเภทอวัยวะทุกส฽วนในร฽างกาย ซึ่งคําว฽า ปากตลาด ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๕๖ (๒๕๕๖,หน฾า ๗๓๘) หมายถึง (๑) น. ถ฾อยคําที่โจษหรือ เล฽าลือกัน เช฽น ปากตลาดเขาว฽ากันมาอย฽างนี้ (๒) ว. ปากจัด ซึ่งคําว฽าปากตลาดในที่นี้จะใช฾ด฽าพวกกลุ฽มคน ที่มีลักษณะนิสัยปากจัด ปากไม฽ดี หรืออีกความหมายหนึ่ง ก็จะหมายถึง การนินทากันของพ฽ อค฾าแม฽ค฾า ในตลาด โดยคําว฽า ปากตลาดนั้น ล฾วนได฾มาจากมโนทัศนแ ของคนในสังคมกลุ฽มหนึ่งที่เชื่อว฽า แม฽ค฾าในตลาด ล฾วนมีลักษณะเด฽นในการใช฾วาจา เช฽น พูดจาเสียงดัง ใช฾ถ฾อยคํารุนแรง ชอบนินทาคนอื่น จึงทําให฾คํา ๆ นี้ กลายเป็นคําด฽ามาตั้งแต฽ในอดีต โดยปัจจุบันคํานี้ก็ยังปรากฏให฾เห็นและได฾ยินตามสื่อต฽าง ๆ อยู฽บ฽อยครั้ง นอกจากนี้คําเปรียบเปรียบข฾างต฾นยังสะท฾อนให฾เห็นค฽านิยมของคนในสังคมว฽า คําพูดเหล฽านี้ล฾วนอาจมาจาก ปัจจัยต฽าง ๆ ที่ทําให฾เกิดคําและวลี โดยอาจจะมาจากนิสัยส฽วนตัว สภาพแวดล฾อมที่คน ๆ นั้นได฾อาศัยอยู฽ หรือแม฾กระทั่งการเลี้ยงดู โดยทุกอย฽างล฾วน มีส฽วนช฽วยเสริมสร฾างบุคลิกในแต฽ละบุคคลได฾

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๔๓


๒. คาด่าที่เกี่ยวกับสัตว์ คําด฽าที่เกี่ยวกับสัตวแ ในการศึกษาครั้ง นี้ หมายถึง ลักษณะของการนําชื่อสัตวแชนิดต฽าง ๆ มาด฽ า เพื่ อใช฾ เปรี ย บเที ยบ จากการศึ ก ษาพบอุป ลั กษณแ คํ าด฽ า ที่เ กี่ ย วกั บ สั ตวแ อาทิ หมา ควาย เหี้ ย โดยปรากฏจํานวน ๖ คอมเมนตแ ได฾แก฽ อีควาย, อีคิง คองพลาต฾าแหม฽ , แรดดเนอะ, รําคานทําตั ว เหมือนชะนีร฾องหาผัว, แม฽งกุเกลียอีวอกนี่จัง, อีสมองหมาปัญญาควาย ดังตัวอย฽างต฽อไปนี้

ภาพที่ ๒ อีควาย ที่มา : เพจจ฿อกจ฿อก (๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๒) จากคํ า ว฽ า “อี ค วาย” จั ด อยู฽ ใ นคํ า ด฽ า ประเภทสั ต วแ คํ า ว฽ า ควาย ตามพจนานุ ก รมฉบั บ ราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๕๔ (๒๕๕๖,หน฾า ๒๔๓) หมายถึง น. ชื่อสัตวแ เลี้ยงลูกด฾วยนมชนิด Bubalus bubalis Linn. ในวงศแ Bovidae เป็นสัตวแเคี้ยวเอื้องขนาดใหญ฽กีบคู฽ ลําตัวสีดําหรือเทา เขาโค฾งยาว ไม฽ผลัดเขา ครึ่งล฽างของขาทั้งสี่มีขนสีขาวหรือขาวอมเทา โดยปริยายมักหมายความว฽า คนโง฽ คนเซ฽อ หรือคนตัวใหญ฽ แต฽ไม฽ฉลาด คําว฽า “ควาย” เป็นคําไทยแท฾ที่ใช฾กันมาตั้งแต฽ดั้งเดิม คนไทยส฽วนใหญ฽มักพูด คําว฽า “ควาย” กันในความหมายแบบที่สอง คือใช฾พูดเปรียบเทียบถึงความโง฽ มากกว฽าการพูดถึงตัวสัตวแ ที่เป็นควายจริง ๆ ซึ่งการด฽าว฽า “อีควาย” ในปัจจุบัน ถูกด฽า กล฽าวคือคําว฽า “โง฽” มีความหมายย฽อยอัน เกิ ด จากมโนทั ศ นแ ข องชาวไทยซึ่ ง มี ต฽ อ ควาย โดยน฽ า จะเกิ ด จากการสั ง เกตและสรุ ป ข฾ อ สั ง เกต โดยมองว฽า ควายยอมทําตามคํา สั่งของมนุษ ยแโดยไม฽ขั ดขืน ยอมถู กเฆี่ย นตี ยอมให฾มนุษ ยแเจาะจมู ก แล฾ ว ลากจู ง แม฾ ต฾ อ งลากคั น ไถหนั ก ๆ แต฽ ก็ ไ ม฽ เ คยหนี ขั ด ขื น หรื อ แสดงความต฾ อ งการของตน ยอมอยู฽ นิ่ง ๆ และทําตามคําสั่งโดยไม฽มีเงื่อนไข ซึ่งพฤติกรรมเหล฽านี้ถูกตีความหรือให฾ความหมายว฽าเป็น พฤติกรรมโง฽ ๆ จึงไม฽ใช฽เรื่องแปลกที่คนไทยหลาย ๆ คนจะมองว฽า ควายไม฽ใช฽สัตวแที่ฉลาด จึงได฾นําคํา ๆ นี้ มาใช฾ด฽าทอคนที่เขาคิดว฽าอยู฽ต่ํากว฽าตนเอง ๓. คาด่าที่เกี่ยวกับลักษณะนิสัยและความประพฤติ คํ า ด฽ า ที่ เ กี่ ย วกั บ ลั ก ษณะนิ สั ย และความประพฤติ ในการศึ ก ษาครั้ ง นี้ ห มายถึ ง เป็นลักษณะนิสัยของคนที่มีการประพฤติตัวไม฽ดีมาใช฾เปรียบเทียบ จากการศึกษาพบอุปลักษณแคําด฽า ที่เกี่ยวกับลักษณะนิสัยและความประพฤติ อาทิ สันดาน จัญไร เลว โดยปรากฏจํานวน ๘ คอมเมนตแ ต฽ อ ไปนี้ ได฾ แ ก฽ คบไม฽ ไ ด฾ อี งู เ ห฽ า ,หน฾ า หม฾ อ ไอ฾ ดิ้ ว , ทํ า ตั ว เองให฾ ต่ํ า ตมยิ่ ง กว฽ า พวกขี้ ย า, ดั ด ฟั น แล฾ ว ก็ควรดัดสันดานมึงด฾วย, นิสัยเหมือนเห็บหมาอะชอบดูดเลือดดูดเนื้ออีตัวนี้, ไอ฾หน฾าตัวเมีย, ตอแหลมาก เหมือนอีนาธานเลย, ทําตัวเหมือนไม฽มีใครสอนอีจันไร ดังตัวอย฽างต฽อไปนี้ วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๔๔


ภาพที่ ๓ ไอ฾หน฾าตัวเมีย ที่มา : เพจจ฿อกจ฿อก (๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๒) จากคํ า ว฽ า “ไอ฾ ห น฾ า ตั ว เมี ย ” จั ด อยู฽ ใ นคํ า ด฽ า ประเภทลั ก ษณะนิ สั ย และความประพฤติ คํ า ว฽ า หน฾ า ตั ว เมี ย ตามพจนานุ ก รมฉบั บ ราชบั ณ ฑิ ต ยสถาน ๒๕๕๔ (๒๕๕๖,หน฾ า ๑๓๔๕) หมายถึง น. ลักษณะหน฾าตาท฽าทางคล฾ายผู฾หญิง, โดยปริยายหมายความว฽า ใจเสาะ, ขี้ขลาด, (มักพูดเป็นเชิง เหยี ยดหยามผู฾ช าย) แต฽ใ นที่นี้ คํา ว฽าไอ฾ห น฾าตั วเมียนั้ นได฾กลายเป็น คํา ด฽าซึ่ ง ก็ หมายถึ ง พวกผู฾ชายที่ มี ลักษณะนิสัยที่ขี้ขลาดตาขาว ไม฽สู฾คน ปอดแหก หรือ ใช฾เรียกผู฾ชายที่ทําตัวถ฽อย ๆ ต฽อผู฾หญิงหรือเพศ ที่อ฽อนแอกว฽า เช฽น ทําร฾ายร฾างกายผู฾หญิง ดูถูกผู฾หญิงและเหยียดหยาม แต฽ที่จริงคําว฽า “หน฾าตัวเมีย” ได฾มี อะไรเกี่ยวข฾องกับคนเลยทั้งสิ้น หากแต฽เป็นถ฾อยคําที่เกิดจากมโนทัศนแของผู฾พูดหรือชาวไทยบางกลุ฽มที่ เชื่อว฽าอุปนิสัยหรือสัญชาตญาณของสัตวแเพศเมียจะไม฽ชอบการต฽อสู฾ และจะไม฽ต฽อสู฾กับสัตวแใด ๆ เช฽น ในการชนไก฽ ไก฽ที่จับมาชนก็จะมีเพียงไก฽ตัวผู฾เท฽านั้น หรือในการกัดปลา ปลากัดที่มนุษยแนํามากัดกันก็จะ มีเพียงปลากัดตัวผู฾ รวมทั้งในภาคใต฾ที่นิยม ชนวัว ก็จะมี เพียงวัวตัวผู฾เช฽นเดียวกัน ด฾วยเหตุนี้คนไทย สมัยก฽อนที่คุ฾นอยู฽กับการตีไก฽ กัดปลา ชนวัว ฯลฯ จึงคุ฾นกับอุปนิสัยของสัตวแเหล฽านี้ และทราบดีว฽าตัวผู฾ เท฽านั้นที่จะสู฾หรือกัด ในขณะที่ตัวเมียจะไม฽สู฾ไม฽กัดใด ๆ เลย จึง เกิดคําเปรียบเปรยมาถึงมนุษยแผู฾ชาย บางคนที่ไม฽สู฾คน หรือขี้ขลาดตาขาวว฽าทําตัวเหมือนสัตวแตัวเมีย จึงเป็นที่มาของคําว฽า “หน฾าตัวเมีย” ทั้งนี้ ค฽านิยมในปัจจุบันได฾มีการนําคํานี้มาใช฾เป็นคําด฽าที่มีความหมายอื่นเพิ่มเติมด฾วย คือ นอกจากจะหมายถึง สัตวแตัวเมียที่ไม฽กล฾าต฽อสู฾แล฾ว ยังหมายรวมถึงเพศแม฽หรือผู฾หญิงด฾วย ดังนั้นเมื่อนํามาใช฾เป็นคําด฽าจึงทําให฾ ผู฾ชายคนที่ถูกต฽อว฽ารู฾สึกไม฽พอใจอย฽างมาก ๔. คาด่าที่เกี่ยวกับชาติพันธุ์/ชาติกาเนิด คําด฽าที่เกี่ยวกับชาติพันธุแ /ชาติกําเนิด ในการศึกษาครั้ง นี้หมายถึง ลักษณะของคําที่ใช฾ดูถูก การเกิ ด ผู฾ ใ ห฾ กํ า เนิ ด ถิ่ น ที่ อ ยู฽ ที่ กํ า เนิ ด โดยในที่ นี่ ห มายรวมถึ ง อาชี พ และการทํ า งานด฾ ว ย จากการศึ กษาพบอุป ลัก ษณแคํ าด฽ า คํา ด฽า ที่ เกี่ ยวกั บชาติ พั นธุแ / ชาติกํ าเนิ ด อาทิ ต่ํ า ชาติ ชั่ว ชาติห มา ลูกกะหรี่ โดยปรากฏจํานวน ๙ คอมเมนตแ ได฾แก฽ อีกะหรี่แถวหนามหลวง, ทําตัวเหมือนไพร฽, อีสัตวแอีชิง หมาเกิด, อีลูกกระหรี่, หน฾าเหมือนโรฮิงญาหนีเข฾าเมือง, หน฾าเหมือนลาวมาก, เหมือนพวกแมงดา, มั่นมากกกจ฾าอีลูกกะหรี่, เหมือนสก฿อยงานวัดแจ฾ง ดังตัวอย฽างต฽อไปนี้

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๔๕


ภาพที่ ๔ อีกะหรี่แถวหนามหลวง ที่มา : เพจจ฿อกจ฿อก (๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๖) จากคํ า ว฽ า “อี ก ะหรี่ แ ถวหนามหลวง” จั ด อยู฽ ใ นคํ า ด฽ า ประเภทชาติ พั น ธุแ แ ละชาติ กํ า เนิ ด คําว฽ากะหรี่ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๕๔ (๒๕๕๖,หน฾า ๑๐๐) หมายถึง น. โสเภณี (กร฽อนมาจาก คําว฽า ช็อกการี ซึ่งเพี้ยนมาจากคําในภาษาฮินดี chokri เด็กผู฾หญิง) ส฽วนคําว฽า สนามหลวง เป็นคํานามที่เป็นชื่อเฉพาะของสถานที่ อันหมายถึง เป็นสนามขนาดใหญ฽ ตั้ง อยู฽ด฾านหน฾าวัดมหาธาตุ ยุ ว ราชรั ง สฤษฎิ์ ระหว฽ า งพระบรมมหาราชวั ง กั บ พระราชวั ง บวรสถานมงคล เขตพระนคร กรุง เทพมหานคร ปั จจุบันเป็น พื้นที่สาธารณะที่มีก ารใช฾จัดพิ ธีกรรมตามประเพณี ง านเทศกาล และ กิจกรรมต฽าง ๆ ของประเทศ แต฽ในที่นี้ คําว฽าสนามหลวง เป็นพื้นที่ที่ถูกกล฽าวหาถึง บุคคลที่ทําอาชีพ ขายบริการนิ ยม ไปรวมตัวกันบริเวณนั้นในยามค่ําคืน ดังนั้นเหตุที่ผู฾คนนําคํา ๒ คํานี้มาเป็นคําด฽าว฽า อีกะหรี่แถวสนามหลวง จึงให฾ความหมายอุปลักษณแ คือ การด฽าผู฾หญิงโดยนําผู฾หญิงคนนั้นไปเปรียบเทียบ ว฽าเป็นโสเภณีที่ขายบริการทางเพศ หรือ กะหรี่และไม฽ได฾ด฽ากะหรี่เพียงอย฽างเดียว แต฽ยังหมายถึง กะหรี่ ชั้นต่ํา หรือกะหรี่ราคาถูกที่ต฾องแลกเงินเพียงไม฽กี่บาท เพราะคนกลุ฽มนี้ต฾องมาขายบริการทางเพศข฾าง นอก ต฽างจากอีกกลุ฽มที่ขายบริการอยู฽ภายในห฾องแอรแ เหมือนกับว฽าเป็นการดูถูก ในเรื่องของชนชั้นของ ความเป็นกะหรี่ด฾วย เนื่องจากค฽านิยมของสัง คมไทย ยังไม฽ยอมรับอาชีพขายบริการทางเพศ เพราะว฽า เนื่องจากเป็นอาชีพที่น฽ามีความน฽าอับอายและโดนดูถูกเหยียดหยามเป็น อย฽างมาก เพราะคนที่มีอาชีพนี้ เหมือนไม฽รักศักดิ์ศรีของตนเอง ไม฽มีความรักนวลสงวนตัว ซึ่งเป็นคุณสมบัติของผู฾หญิงที่สังคมยอมรับ ๕. คาด่าที่เกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนา/ภูตผี คําด฽าที่เกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนา/ภูตผี ในการศึกษาครั้งนี้หมายถึง เป็นการนําลักษณะ ที่เกี่ยวกับค฽านิยมความเชื่อ ทั้งในทางศาสนาและภูตผีปีศาจมาใช฾ในการเปรียบเทียบ จากการศึกษา พบอุปลักษณแคําด฽าที่เกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนา/ภูตผี อาทิ เปรต ห฽า เวร โดยปรากฏจํานวน ๒ คอมเมนตแ ได฾แก฽ ทําตัวเหมือนสัตวแนรก, สวยเหมือนเปรตเลยอีสัสนี่ ดังตัวอย฽างต฽อไปนี้

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๔๖


ภาพที่ ๕ ทําตัวเหมือนสัตวแนรก ที่มา : เพจจ฿อกจ฿อก (๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๒) จากคํ าว฽ า “ทํา ตั วเหมื อนสัต วแ นรก” จัด อยู฽ ในคํ าด฽ าประเภทความเชื่ อทางศาสนาและภู ต ผี คําว฽าสัตวแ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๕๔ (๒๕๕๖,หน฾า ๑๐๒๕ ) หมายถึง น. สิ่งมีชีวิต ซึ่ง แตกต฽างไปจากพรรณไม฾ ส฽วนมากมีความรู฾สึกและเคลื่อนไหวย฾ายที่ไ ปได฾เอง ความหมายที่ใช฾กั น เป็นสามัญหมายถึง สัตวแที่ไม฽ใช฽คน, เดรัจฉาน ส฽วนคําว฽านรก ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๕๔ (๒๕๕๖,หน฾า ๖๐๗ ) หมายถึง น. แดนหรือภูมิที่เชื่อกันว฽าผู฾ทําบาปจะต฾องไปเกิดและถูกลงโทษ โดยปริ ย ายหมายถึ ง แดนที่ มี แ ต฽ ค วามทุ ก ขแ ท รมาน ซึ่ ง เมื่ อ นํ า มารวมกั น จึ ง หมายถึ ง สั ต วแ เ ดรั จ ฉาน ที่อ ยู฽ใ นนรก คํา ว฽า สั ตวแ ในที่ นี้มิ ได฾ ห มายถึ ง สัต วแเ ดรั จฉาน แต฽ห มายถึง สิ่ ง มี ชีวิ ตที่ เวี ยนว฽า ยตาย เกิดในสังสารวัฏ ส฽วนนรกเป็นชื่อของภูมิที่ต่ําที่สุด เป็นแดนสําหรับลงทัณฑแมนุษยแที่ได฾ก฽อกรรมทําชั่วไว฾ ในครั้งที่มีชีวิตเป็นมนุษยแ การตกนรกชั้นต่ําที่สุดจึงเหมาะกับคนจําพวกนี้ คนไทยซึ่งนับถือพุทธศาสนา กันมาอย฽างช฾านาน ย฽อมมีความเชื่อว฽าเมื่อสัตวแนรกชดใช฾กรรมของตนในนรกหมดแล฾ว ก็จะจุติจากนรก ไปบังเกิดในภูมิที่สูงขึ้น แต฽โดยมากก็จะกลับมาเกิดเป็นมนุษยแใหม฽เพื่อมาชดใช฾กรรมบนโลกมนุษยแต฽อ ในสั ง คมไทยปั จจุ บัน สัต วแน รก เป็ นคํ าที่ใ ช฾เ ปรี ยบเทีย บผู฾ ที่ทํา ชั่ว อย฽ างรุ นแรงเหี้ย มโหดไร฾คุ ณธรรม โดยเฉพาะอย฽างยิ่งผู฾ที่ทําชั่ว ต฽อพระศาสนา เช฽น ลักลอบตัดเศียรพระพุทธรูป ฆ฽าพระภิกษุ ทําร฾าย ร฽ า งกายหรื อ ฆ฽ า บุ พ การี เด็ ก สตรี และคนชรา ผู฾ ที่ ใ ช฾ คํ า ว฽ า สั ต วแ น รก เรี ย กผู฾ อื่ น ส฽ ว นมากจะเป็ น ผู฾ถูกกระทํามาก฽อนหรือผู฾ที่รู฾สึกโกรธแค฾น อย฽างที่สุดจนต฾องระบายออกมาอย฽างรุนแรง เพื่อให฾สาสม กับสิ่งที่คน ๆ นั้นได฾ทํา ๖. คาด่าที่เกี่ยวกับสิ่งสกปรก/ของเสียที่ไม่เป็นที่ต้องการ คํ า ด฽ า ที่ เ กี่ ย วกั บ สิ่ ง สกปรก/ของเสี ย ที่ ไ ม฽ เ ป็ น ที่ ต฾ อ งการ ในการศึ ก ษาครั้ ง นี้ หมายถึ ง เป็นลักษณะเกี่ยวกับ การด฽ากลุ฽มคนจําพวกหนึ่ง ที่ไ ม฽เป็นที่ต฾องการของสัง คม ประชาชนรัง เกียจจาก การศึกษาพบอุปลักษณแคําด฽าที่เกี่ยวกับสิ่ งสกปรก/ของเสียที่ไม฽เป็นที่ต฾องการ อาทิ เสนียด ขยะสังคม โดยปรากฏจํานวน ๕ คอมเมนตแ ได฾แก฽ ขายไม฽ได฾ก็เพราะมึงแหละอีตัวเสนียดประจําร฾าน, เหมือนขยะ เปียก, อีพวกเศษสวะ, แมลงสาบยังสะอาดกว฽ามึง อีเหี้ย , กรุณาอย฽าทําตัวเป็นขยะสังคม ดัง ตัวอย฽าง ต฽อไปนี้

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๔๗


ภาพที่ ๖ เหมือนขยะเปียก ที่มา : เพจจ฿อกจ฿อก (๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๒) คํ า ว฽ า “เหมื อ นขยะเปี ย ก” จั ด อยู฽ ใ นคํ า ด฽ า ประเภทสิ่ ง สกปรก หรื อ ของเสี ย ที่ ไ ม฽ เ ป็ น ที่ ต฾ อ งการคํ า ว฽ า ขยะ ตามพจนานุ ก รมฉบั บ ราชบั ณ ฑิ ต ยสถาน ๒๕๕๔ (๒๕๕๖,หน฾ า ๑๗๑) หมายถึง น. มูลฝอยของที่ต฾องการทิ้ง ดังนั้นการด฽าว฽า เหมือนขยะเปียก จึงให฾ความหมายอุปลักษณแ ว฽าคือ การนําคน ๆ หนึ่งไปเปรียบเทียบกับของที่คนไม฽ต฾องการนั่นก็คือขยะ ซึ่งขยะเปียกจะเป็นขยะ ที่ ส กปรกมาก และส฽ ง กลิ่ น เหม็ น เน฽ า ไปทั่ ว โดยการใช฾ คํ า ว฽ า ขยะเปี ย กมาเปรี ย บเที ย บกั บ คน ๆ นี้ ซึ่ ง เป็ น การแสดงมโนทั ศ นแ ข องผู฾ ส฽ ง สารว฽ า คนที่ มี ร฽ า งกายที่ ส กปรก ไม฽ อ าบน้ํ า ไม฽ ดู แ ลตั ว เอง และมีกลิ่นเหม็น เหมือนกับขยะเปียก ๗. คาด่าที่เกี่ยวกับความผิดปกติทางสมอง คํ า ด฽ า ที่ เ กี่ ย วกั บ ความผิ ด ปกติ ท างสมอง ในการศึ ก ษาครั้ ง นี้ ห มายถึ ง เป็ น ลั ก ษณะ ของความผิ ดปกติ ที ่เ กิด จากการกระทบกระเทือ น ส฽ง ผลไปยัง สมองมาใช฾ใ นการเปรีย บเทีย บ จากการศึก ษาพบอุป ลัก ษณแ คํ า ด฽ า ที่ เ กี่ ย วกั บ ความผิ ด ปกติ ท างสมอง อาทิ โง฽ ปั ญ ญาอ฽ อ น บ฾ า โดยปรากฏจํานวน ๓ คอมเมนตแ ได฾แก฽ เหมือนเด็กปัญญาอ฽อน อีบ฾าเหมือนคนเป็นประสาท โง฽ระวังนก เอี้ยงมาเกาะนะอีเหี้ยยย ดังตัวอย฽างต฽อไปนี้

ภาพที่ ๗ โง฽ระวังนกเอี้ยงมาเกาะนะอีเหี้ยยย ที่มา : เพจจ฿อกจ฿อก (๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๒) จากคําว฽า “โง฽ระวังนกเอี้ยงมาเกาะนะอีเหี้ยยย” จัดอยู฽ในคําด฽าประเภทความผิดปกติทางสมอง คําว฽าโง฽ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๕๔ (๒๕๕๖,หน฾า ๗๑๓) หมายถึง ว. เขลา, ไม฽ ฉ ลาด, ไม฽ รู฾ ซึ่ ง เหตุ ที่ ผู฾ ศึ ก ษาไม฽ ไ ด฾ จั ด คํ า นี้ อ ยู฽ ใ นคํ า ด฽ า สั ต วแ เนื่ อ งจากเป็ น การเปรี ย บเปรย ซึ่ง มีความหมายซ฽อนเร฾น ไม฽กล฽าวโดยตรง ในที่นี้คําว฽าระวัง นกเอี้ยงมาเกาะจะเป็ นความหมายนัย ๆ ว฽าบุคคลผู฾นั้น โง฽เหมือนควาย ตามคํากล฽าวที่เคยได฾ยินว฽า นกเอี้ยงเอเยมาเลี้ยงควายเฒ฽า ควายกินข฾าวนก วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๔๘


เอี้ยงหัวโต หัวโต ๆ กิโลห฾าบาท หัวขาด ๆ กิโลบาทเดียว คําดังกล฽าวมุ฽งจี้ความหมายว฽าผู฾ที่ถูกกล฽าวถึง กําลังจะเป็นควาย โดยจากการสังเกตจะพบว฽า คําเสียดสีของไทยมักมีคําที่เกี่ยวข฾องกับควายอยู฽ไม฽น฾อย ทั้ง ที่ใ นความเป็ นจริง ควายเป็ น สัต วแที่ ฉ ลาดมาก สอนให฾ทํ า อะไรก็ เรี ย นรู฾ จ ดจํ า ได฾ รวดเร็ ว โดยคํ า นี้ สื่อ ถึ ง การเกาะเกี่ยวเก็ บ ผลประโยชนแ บนการทํ างานของผู฾อื่น เปรียบเทีย บกับ ภาพที่ คนไทยชินตา คือ ไม฽ว฽าควายจะเดินไปทางไหน ก็มักจะเห็น นกเอี้ยงเกาะอยู฽บนหลัง ควายอยู฽เสมอ ซึ่ง จะสื่อถึง คน เห็ น แก฽ ตั ว รั ก ความสบาย ให฾ ผู฾ อื่ น ทํา งานให฾ ตั ว เองรอรั บ แค฽ ผ ลประโยชนแ แต฽ ใ นอี ก ด฾ า นจะสื่ อ ถึ ง ความผลประโยชนแที่ได฾กันทั้งสองฝุาย เพราะว฽าการที่นกเอี้ยงเกาะอยู฽บนหลังควายนั้นก็ถือว฽าเป็นหุ฾นส฽วน ที่ผลประโยชนแสมกันอย฽างลงตัว เพราะนกเอี้ยงจะคอยช฽วยจิกกินตัวแมลงเล็ก ๆ ที่คอยบินมาตอมตาม ลูกนัยนแตาของควาย อันเป็นสาเหตุที่ทําให฾ควายเป็นโรคตาแดงตาช้ํา ไม฽ให฾มารบกวนนัยนแตาของควายได฾ อีกต฽อไป แถมการจิกกินแมลงที่เกาะตามผิวหนังของควายยังช฽วยให฾ควาย มีผิวหนังดําขลับสวยงาม และ เป็นการช฽วยเกาแก฾คันให฾ควายไปในตัวด฾วย ๘. คาด่าที่เกี่ยวกับเรื่องที่เกี่ยวกับเพศ/อวัยวะเพศ คําด฽าที่เกี่ยวกับเรื่องที่เกี่ยวกับเพศ/อวัยวะเพศ ในการศึกษาครั้ง นี้หมายถึง เป็นลักษณะ เกี่ยวกับกิจกรรมทางเพศหรื อการร฽วมเพศมาใช฾ในการเปรียบเทียบ จากการศึกษาพบอุปลักษณแคําด฽า ที่ เ กี่ ย วกั บ เรื่ อ งที่ เ กี่ ย วกั บ เพศ/อวั ย วะเพศ อาทิ คํ า ที่ เ กี่ ย วกั บ กิ จ กรรมทางเพศหรื อ การร฽ ว มเพศ โดยปรากฏจํานวน ๘ คอมเมนตแ ได฾แก฽ เยดแม฽, ควยเล็กกว฽านิ้วก฾อยกูอีกแล฾วทําโม฾ , เงี่ยนเหรออีสัส ทําตัวเหมือนหมาเดือนสิบสอง, เหมือนสวยอะอีหอย, อีช฾างเย็ด, ร฽านนนเหมือนอีหนึ่งในสองนรี, หมอยกู ยังยาวกว฽ามึงอีกอีกะเท฾ย, ถ฾าคันมากก็ใช฾ซีม฽าราดนะ ดังตัวอย฽างต฽อไปนี้

ภาพที่ ๘ เงี่ยนเหรออีสัส ทําตัวเหมือนหมาเดือนสิบสอง ที่มา : เพจจ฿อกจ฿อก (๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๒) จากคํ า ว฽ า “เงี่ ย นเหรออี สั ส ทํ า ตั ว เหมื อ นหมาเดื อ นสิ บ สอง” จั ด อยู฽ ใ นคํ า ด฽ า ประเภท เรื่ อ งที่ เ กี่ ย วกั บ เพศและอวั ย วะเพศ คํ า ว฽ า เงี่ ย น ตามพจนานุ ก รมฉบั บ ราชบั ณ ฑิ ต ยสถาน ๒๕๕๔ (๒๕๕๖,หน฾า ๒๙๔ ) หมายถึง ก. อยากจัด , กระหายจัด, มีความรู฾สึกอยากหรือกระหายเป็นกําลัง , (โดยมากใช฾เฉพาะของเสพติดและกามคุณ) จากคําในข฾างต฾นจึงต฾องการสื่อเพื่อด฽าคน ๆ นั้นว฽า อย฽าทําตัว เหมื อ นหมาเดื อ นสิ บ สอง เพราะในเดื อ นนี้ ห มาจะมี ค วามต฾ อ งการเป็ น พิ เ ศษที่ ต฾ อ งการผสมพั น ธุแ โดยธรรมชาติของหมาตัวเมียจะมีกลิ่นเฉพาะเด฽นชัด กลิ่นจะโชยไปตามลมในรัศมีเป็นกิโลเมตร เมื่อหมา ตัวผู฾ไ ด฾กลิ่ น ก็จะคึกคะนองและมีความต฾ องการทางเพศขึ้นมา ละทิ้ง ทุกอย฽ างเดินทางตามหาต฾นตอ วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๔๙


ของกลิ่นซึ่งก็เหมือนคน ที่ถูกเปรียบเทียบว฽ามักมากในกาม ไม฽มียางอาย ละทิ้งทุกอย฽างเพื่อให฾ได฾ตาม ความต฾องการในกามตัณหาของตนเอง เป็นการเปรียบในเชิงแดกดันว฽า ร฽านในการประเวณีหรือร฽วมเพศ เช฽น ผู฾หญิง ออกไปเที่ยวหาผู฾ชาย ทํา ราวกับหมาเดือนสิบสอง สํานวนนี้มาจากการสัง เกตธรรมชาติ ของหมาว฽า มักจะติดสั ตวแ ผสมพันธุแกันในเดือนสิบสอง ดัง นั้น จึง นํามาเปรียบกับผู฾ที่ชอบไปมาหาสู฽ กับเพศตรงข฾ามอย฽างขาดไม฽ได฾ว฽ามีอาการเหมือนหมาเดือนสิบสอง ซึ่งใช฾ว฽าได฾ทั้งหญิงและชาย ๙. คาด่าที่เกี่ยวกับโรค/อาการของโรค คําด฽าที่เกี่ยวกับโรค/อาการของโรค ในการศึกษาครั้ง นี้หมายถึง ลักษณะเกี่ยวกับโรคร฾าย ชนิด ต฽าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับผู฾คนในปัจจุบันมาใช฾ในการเปรียบเทียบ จากการศึกษาพบอุปลักษณแคําด฽า ที่เกี่ยวกับโรค/อาการของโรค อาทิ เนื้องอก ฝีใกล฾แตก โรคเรื้อน โดยปรากฏจํานวน ๕ คอมเมนตแ ได฾แก฽ อะไรของมึงอีห฽า, อีขี้เรื้อน, อีมะเร็ง, เดินอย฽างกะคนเป็นเบาหวานเปียก, เป็นเอดปุะผอมขนาดนี้ ดังตัวอย฽างต฽อไปนี้

ภาพที่ ๙ อีมะเร็ง ที่มา : เพจจ฿อกจ฿อก (๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๒) จากคํ า ว฽ า “อี ม ะเร็ ง ” จั ด อยู฽ ใ นคํ า ด฽ า ประเภทโรคและอาการของโรค คํ า ว฽ า มะเร็ ง ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๕๖ (๒๕๕๖,หน฾า ๘๙๔) หมายถึง น. เนื้องอกชนิดร฾าย เกิดขึ้นเพราะเซลลแแบ฽งตัวอย฽างรวดเร็ว ควบคุมไม฽ได฾ แล฾วแทรกไปตามเนื้อเยื่อข฾ างเคียง และสามารถ หลุดจากแหล฽ งเริ่ม ต฾นไปแบ฽งตัว เพิ่มจํ านวนที่ บริเวณอื่น ๆ ได฾ รักษาไม฽ค฽อ ยหาย ในที่นี้ คําว฽า มะเร็ ง หรือเนื้องอก เป็นเนื้อเยื่อที่เจริญเติบโตผิดปกติ อาจจะเป็นเนื้อร฾าย หรือเป็นผลมาจากสาเหตุอื่นเช฽นเชื้อ โรค การกํ า จัด มะเร็ ง จึง ต฾ องจั ดการด฾ ว ยการผ฽า ตั ด หรือ รั บ ประทานเพื่ อ ให฾ เ นื้ องอกยุ บ ลงหรือ หยุ ด การเจริญเติบโต มะเร็งจึงกลายเป็นคําด฽าที่ให฾ความหมายอุปลักษณแถึงคนหรือหรือสิ่งที่ไม฽เป็นที่ต฾องการ หรือเป็นส฽วนเกิน เช฽น พวกผู฾ชายที่ชอบเกาะผู฾หญิง ให฾ผู฾หญิงเลี้ยง ก็เหมือนกับเนื้องอกที่ไม฽มีประโยชนแ ดัง นั้ นคํา ๆ นี้จึ งใช฾ ด฽า พวกคนที่ ทํา ตัวไม฽เป็ นประโยชนแ อะไร ไม฽รู฾ จัก ทํามาหากิน อยู฽ นิ่ง เฉยไปวั น ๆ ก็เหมือนกับเนื้องอกที่ต฾องตัดทิ้ง เพราะเกะกะและแถมยังไม฽มีประโยชนแ

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๕๐


๑๐. คาด่าที่เกี่ยวกับพืชพรรณ คําด฽าที่ เกี่ยวกับพืชพรรณ ในการศึกษาครั้ง นี้ หมายถึ ง เป็ นลักษณะเกี่ย วกับนํ าชื่อพื ช พรรณชนิด ต฽าง ๆ รวมไปถึงพืชผักและปุาไม฾มาใช฾ในการเปรียบเทียบ จากการศึกษาพบอุปลักษณแคําด฽า ที่เกี่ยวกับพืชพรรณ อาทิ ดอกทอง ดอก ทุเรียน โดยปรากฏจํานวน ๓ คอมเมนตแ ได฾แก฽ อีดอกทองหน฾าหี, อีเห็ดสดกูยอมมึง, นิสัยบ฾านนอกมากอีดอก ดังตัวอย฽างต฽อไปนี้

ภาพที่ ๑๐ อีเห็ดสดกูยอมมึง ที่มา : เพจจ฿อกจ฿อก (๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๖) จากคําว฽า “อีเห็ดสดกูยอมมึง ” จัดอยู฽ในคําด฽าประเภทพืชพรรณ คําว฽าเห็ด ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๕๔ (๒๕๕๖,หน฾า ๑๔๑๗) หมายถึง น. ส฽วนของเชื้อราหมวดหนึ่งที่ออก เป็นดอก แบ฽งเป็น ๒ พวก พวกหนึ่งไม฽มีพิษ กินได฾ เช฽น เห็ดโคน เห็ดฟาง อีกพวกหนึ่งมีพิษ บางชนิดกิน แล฾วถึงตาย เช฽น เห็ดระโงกหิน แต฽อีกบริบทหนึ่งคําว฽าเห็ดกลายมาเป็นอีเห็ดสด เป็นคําด฽าของกะเทย ที่ด฽ากันเองซะส฽วนใหญ฽ เพราะกะเทยก็ยังมีอวัยวะเพศชายอยู฽ เมื่อใช฾ คํานี้ด฽ากะเทยก็จะเป็นคําที่เสียด แทงมาก เพราะว฽ากะเทยไม฽อยากมี อวัยวะเพศอันนั้น เพราะใครจะอยากให฾รัง ไข฽ออกมานอกมดลูก หรือในอีกความหมายหนึ่ง อี เป็นคําหยาบใช฾เรียกผู฾หญิงชั้นต่ํา ส฽วน เห็ด เป็นตระกูลพืชจําพวกเชื้อรา เกิ ด จากการหมั ก หมมของ ซาก พื ช ในที่ อั บ ชื้ น คื อ เกิ ด ขึ้ น ใหม฽ ยั ง ไม฽ เ หี่ ย วเฉา อี เ ห็ ด สด ความหมายคือ ผู฾หญิงสาวชั้นต่ําที่ชอบทําตัวหมักหมมอยู฽ในที่อับ ๆ หรืออาจจะหมายถึง พวกชั้นต่ํา ไม฽มียศ เหมือนเห็ด ที่เจริญเติบโตในดิน จึงใช฾เป็นคําด฽า คําดูถูก โดยคนที่ได฾ฟังอาจจะรู฾สึกว฽าเป็นคําตลก แต฽หากทราบความหมายที่แท฾จริงแล฾วอาจไม฽พอใจได฾ ๑๑. คาด่าที่เกี่ยวกับบุคคล คํ า ด฽ า ที่ เ กี่ ย วกั บ บุ ค คล ในการศึ ก ษาครั้ ง นี้ ห มายถึ ง เป็ น ลั ก ษณะเกี่ ย วกั บ ตั ว ละคร ที่ ม าจากในวรรณคดี ห รื อ จากในละครมาใช฾ เ พื่ อ เปรี ย บเที ย บ จากการศึ ก ษาพบอุ ป ลั ก ษณแ คํ า ด฽ า ที่เกี่ยวกับบุคคล อาทิ แก฾วหน฾าม฾า อีตัว โดยปรากฏจํานวน ๓ คอมเมนตแ ได฾แก฽ อีอุทัยเทวี, อีวันทอง, อีพันทุรัต ดังตัวอย฽างต฽อไปนี้

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๕๑


ภาพที่ ๑๑ อีอุทัยเทวี ที่มา : เพจจ฿อกจ฿อก (๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๒) จากคํา ว฽ า “อี อุทั ย เทวี ” จั ด อยู฽ ใ นคํ า ด฽า ประเภทบุ คคล ยั ง ไม฽ ป รากฏความหมาย แต฽ ในที่ นี้ คํ า ว฽ า อุ ทั ย เทวี นั้ น มาจากนิ ท านพื้ น บ฾ า น ซึ่ ง อุ ทั ย เทวี เ ป็ น คางคกที่ มี รู ป ร฽ า งหน฾ า เกลี ย ดหน฾ ากลั ว ดังนั้น คําว฽า ที่ด฽า อีอุทัยเทวีในข฾างต฾น จึงให฾ความหมายอุปลักษณแว฽าหมายถึง คนที่มีรูปร฽างอ฾วนท฾วม หรื อ อาจจะมี รู ป ร฽ า งอั ป ลั ก ษณแ ใ นบางส฽ ว น เพราะจะมี ลั ก ษณะคล฾ า ยกั บ ตั ว ของคางคก คํ า ด฽ า คํ า นี้ จึงมีความรุนแรง ในเรื่องของ การเหยียดรูปร฽างหน฾าตาของผู฾อื่น เพราะเป็นการนําคนไปเปรียบเทียบ กับคางคก ซึ่งคน ๆ นั้นอาจจะมีลักษณะรูปร฽างอ฾วน ผิวคล้ําเป็นมันเมือกเช฽นเดียวกับคางคก ซึ่งคนทั่วไป มั ก มองดู ว฽ า สกปรกไม฽ ส ะอาด ดั ง นั้ น จึ ง แสดงให฾ เ ห็ น ถึ ง ค฽ า นิ ย มควา มคิ ด ของคนในสมั ย นี้ ว฽ า หากใครที่ มี ลั ก ษณะรู ป ร฽ า งหน฾ า ตาที่ ไ ม฽ ดี อ฾ ว น ดํ า หรื อ อื่ น ๆ ก็ มั ก จะถู ก กล฽ า วหาหรื อ ด฽ า ทอ เพื่อไปเปรียบเทียบกับสิ่งนั้น ๆ ให฾เขารู฾สึกอับอาย ๑๒. คาด่าที่เกี่ยวกับรูปลักษณ์ คําด฽ าที่เ กี่ยวกับ รู ปลั กษณแ ในการศึก ษาครั้ง นี้หมายถึ ง ลักษณะทางร฽ างกายภายนอก ที่เห็นได฾ อย฽างชัดเจนและเป็นจุดเด฽นมาใช฾เพื่อเปรียบเทียบกับสิ่งต฽าง ๆ จากการศึกษาพบอุปลักษณแ คําด฽า ที่เกี่ยวกับรูปลักษณแอาทิ อ฾วน ดํา เตี้ย โดยปรากฏจํานวน ๑๗ คอมเมนตแ ได฾แก฽ หุ฽นเหมือนควาย ออกลู ก , หน฾ า ยั ง กะปลาบู฽ ช นเขื่ อ น, หน฾ า หั ก ยั ง กับ หมาปั้ ก , ควนนอนหน฾ ายั ง กั บ ซอมบี้ จ ะแดกคน, ผอมยังกับหมาแดกแฟูบอะอีนี่ , เหมือนแม฽หมูหลังคลอด, อีหน฾าปลวก, หุ฽นยังกะฮิปโปตั้งท฾อง, โถ฽อีดํา ควรพักง฽ามขากูยังขาวกว฽าอีก, นั้นฟันเหรอนึกว฽าเล็บตีนหมา, แหวะหน฾าเหมือนปลวกอะขยะแขยงมาก, ดั้งหักมากแม฽เหมือนลาวแถวบ฾าน, หน฾าเหมือนตัวเหี้ยแดกศพ, ขาสั้นเหมือนหมากระเป฻า, อีกะเทยหน฾า เหี้ย, สูงตายห฽าละอีเตี้ย, หน฾าบานมากแม฽เหมือนจานดาวเทียม ดังตัวอย฽างต฽อไปนี้

ภาพที่ ๑๒ หุ฽นยังกะฮิปโปตั้งท฾อง

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๕๒


จากคําว฽า “หุ฽นยังกะฮิปโปตั้งท฾อง” จัดอยู฽ในคําด฽าประเภทรูปลักษณแ คําว฽า ฮิปโป ตามพจนานุกรม ฉบั บ ราชบั ณ ฑิ ต ยสถาน ๒๕๕๔ (๒๕๕๖,หน฾ า ๑๔๔๕) หมายถึ ง น. ชื่ อ สั ต วแ เ ลี้ ย งลู ก ด฾ ว ยนมชนิ ด Hippopotamus amphibius Linn. ในวงศแ Hippopotamidae หนังหนาสีนํ้าตาล มีขนนิ่มกระจาย ห฽าง ๆ ริมฝีปากหนามีขนแข็งยาว ฟันหน฾าและเขี้ยวยาวมาก จมูก หู และตาอยู฽ตอนบนของหัวเพื่อช฽วย ในการมองและหายใจขณะอยู฽ในน้ําได฾ดี หางแบน หูและปลายหางด฾านข฾างมีขนแข็งยาว เหงื่อสีแดงเรื่อ ๆ หนักประมาณ ๒,๐๐๐ กิโลกรัม ใช฾ชีวิตส฽วนใหญ฽อยู฽ในน้ํามากกว฽าบนบก ถิ่นกําเนิดอยู฽ในทวีปแอฟริกา เนื่องจากลักษณะรูปร฽างของฮิปโปที่มีขนาดใหญ฽อยู฽แล฾ว เมื่อตอนกําลังตั้งท฾อง จึงทําให฾ขนาดตัวของมัน ทวีคูณความใหญ฽ขึ้นมาอีกหลายเท฽า ด฾วยเหตุนี้ผู฾คนจึงจับประเด็น เอาตอนที่ฮิปโปกําลังตั้งท฾องมาใช฾ ด฽าคนในเชิงอุปลักษณแ โดยเปรียบว฽าคน ๆ นั้นมีรูปลักษณแที่ผิดปกติ ทําให฾รูปร฽ างใหญ฽โต อ฾วน และลงพุง ซึ่งมีลักษณะคล฾ายกับฮิปโปตอนกําลังตั้งท฾องนั่นเอง ๑๓. คาด่าที่เกี่ยวกับอาวุธ คํ า ด฽ า ที่ เ กี่ ย วกั บ อาวุ ธ ในการศึ ก ษาครั้ ง นี้ ห มายถึ ง ลั ก ษณะเกี่ ย วกั บ สิ่ ง ของที่ ใ ช฾ ต฽ อ สู฾ หรื อ เพื่ อ ล฽ า สั ต วแ ซึ่ ง ถู ก นํ า มาใช฾ เ ปรี ย บเที ย บ จากการศึ ก ษาพบอุ ปลั ก ษณแ คํ า ด฽ า ที่ เ กี่ ย วกั บ อาวุ ธ อาทิ หอกหอกหัก โดยปรากฏจํานวน ๑ คอมเมนตแ ได฾แก฽ ไอ฾หอกหัก ดังตัวอย฽างต฽อไปนี้

ภาพที่ ๑๓ ไอ฾หอกหัก ที่มา : เพจจ฿อกจ฿อก (๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๒) จากคําว฽า “ไอ฾หอกหัก ” คําว฽าหอก จัดอยู฽ในคําด฽าประเภทอาวุธ คําว฽าหอก ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๕๖ (๒๕๕๖, หน฾า ๑๓๒๐) หมายถึง น. อาวุธสําหรับแทงชนิดหนึ่ง ทําด฾วย โลหะ มีด฾ามยาว แต฽ในที่นี้คําว฽าหอกหัก เป็นคําที่แสดงความไม฽พอใจ มีนัยว฽าเป็นการแช฽ง ให฾ “หอก” ซึ่ง เป็น อาวุธ ที่ ใ ช฾ใ นการต฽ อสู฾ หั ก แต฽ เ มื่อ นํ า มาเปรีย บเที ย บใช฾ ใ นคํา ด฽ า คํ า ว฽า หอกหั ก ในความหมาย อุปลักษณแ จึงกลายเป็นอาวุธประจํากายแสนรักของผู฾ชาย นั่นก็คืออวัยวะเพศ ที่ถือว฽าเป็น ส฽วนสําคัญ ในการใช฾ชีวิตของผู฾ชาย และเมื่อใช฾คําว฽า “หัก” มาต฽อท฾ายจึงสื่อความหมายว฽า ผู฾ชายคนนั้นไม฽สามารถ ทําให฾ผู฾หญิงมีความสุขได฾ หรือด฽าให฾แรงขึ้นก็คือพวกผู฾ชายที่นกเขาไม฽ขัน คํานี้ถูกนํามาเพื่อใช฾ด฽าผู฾ชาย ที่ไม฽มีน้ํายา

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๕๓


ไม฽รู฾จักพอ เพราะค฽านิยมในสังคมที่มีมาตั้ง แต฽สมัยอดีตว฽าผู฾ชายจะต฾องเป็นใหญ฽ จะต฾องมีลูกสืบสกุล จนมาถึงปัจจุบันทําให฾ผู฾ชายหลายคนโดนล฾อต฽าง ๆ นานา เกี่ยวกับอวัยวะเพศของเขาทําให฾เกิดความอับ อาย และถู ก ด฽ า ว฽ า ไม฽ น้ํ า ยา ไม฽ ส ามารถมี ลู ก ได฾ คํ า ๆ นี้ จึ ง ถื อ เป็ น คํ า ด฽ า ที่ แ รงสํ า หรั บ ผู฾ ช าย เพราะนอกจากจะทําให฾อายแล฾ว ยังทําให฾เสียความรู฾สึกอีกด฾วย สรุปและอภิปรายผล การศึกษา อุปลักษณแเชิงมโนทัศนแที่เป็นคําด฽าในเพจ “จ฿อกจ฿อก” สามารถสรุป และอภิปรายผล ดังต฽อไปนี้ จากการศึกษาพบว฽ามีการใช฾อุปลักษณแเชิงมโนทัศนแของคําด฽าครบทั้ง ๑๓ ประเด็น ประเด็นที่พบ มากที่สุดได฾แก฽ คําด฽าที่เกี่ยวกับรูปลักษณแ พบจํา นวน ๑๗ คอมเมนตแ รองลงมาคือ คําด฽าที่เกี่ยวกับ อวัยวะในร฽างกาย พบจํานวน ๑๐ คอมเมนตแ คําด฽าที่เกี่ยวกับชาติพันธุแและชาติกําเนิด พบจํานวน ๙ คอมเมนตแ ส฽ ว นคํ า ด฽ า ที่ เ กี่ ย วกั บ ลั ก ษณะนิ สั ย และความประพฤติ แ ละคํ า ด฽ า ที่ เ กี่ ย วกั บ เรื่ อ งเพศ และอวัยวะเพศ พบจํานวนเท฽ากันคือ ๘ คอมเมนตแ คําด฽าที่เกี่ยวกับสัตวแ พบจํานวน ๖ คอมเมนตแ คําด฽า ที่ เ กี่ ย วกั บ สิ่ ง สกปรกและของเสี ย ที่ ไ ม฽ เ ป็ น ที่ ต฾ อ งการ และคํ า ด฽ า ที่ เ กี่ ย วกั บ โรคและอาการของโรค พบจํ านวนเท฽า กัน คื อ ๕ คอมเมนตแ คํา ด฽า ที่เ กี่ย วกับ ความผิดปกติ ทางสอง คํา ด฽า บุค คล และคํ าด฽ า ที่เกี่ยวกับพืชพรรณ พบจํานวนเท฽ากันคือ ๓ คอมเมนตแ คําด฽าที่เกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนาและภูตผี พบจํานวน ๒ คอมเมนตแ และที่พบจํานวนน฾อยที่สุดคือ คําด฽าที่เกี่ยวกับอาวุธ พบจํานวน ๑ คอมเมนตแ เมื่อนําผลการศึกษาที่ได฾ ไปเปรียบเทียบกับการศึกษาเรื่อง “อุปลักษณแเชิงมโนทัศนแของคําด฽า ในภาษาไทย” ของ อรทั ย ชิ น อั ค รพงศแ (๒๕๕๗) ที่ ผู฾ วิ จั ย นํ า มาใช฾ เ ป็ น กรอบในการวิ จั ย พบว฽ า มีผลการศึก ษาสอดคล฾ องกั น พบการใช฾คํา ด฽าที่เ กี่ยวกับอวั ยวะในร฽า งกายมากที่สุด จํานวน ๓๖ คํ า ส฽ว นในการศึ กษาครั้ ง นี้ พบคํ า ด฽ า ที่ เ กี่ ย วกับ รู ป ลั ก ษณแ ม ากที่ สุ ด จํ า นวน ๑๗ คอมเมนตแ โดยคํ า ด฽ า ที่เกี่ ยวกับ อวั ยวะในร฽า งกายนั้น พบจํา นวน ๑๐ คอมเมนตแ ทั้ง นี้อาจเนื่อ งมาจากเพจ “จ฿อ กจ฿ อก” นั้ น เป็ น เพจที่ ถู ก สร฾ า งขึ้ น เพื่ อ นํ า ภาพและรู ป ร฽ า งหน฾ า ตาของผู฾ ค นที่ อ ยู฽ ใ นสั ง คมมากล฽ า วล฾ อ เลี ย น อย฽างสนุกสนาน ดังนั้นจึงทําให฾พบการใช฾อุปลักษณแคําด฽าเกี่ยวกับรูปลักษณแมากที่สุด ส฽วนอุปลักษณแคํา ด฽าเกี่ยวกับอวัยวะในร฽างกายแม฾จะเจอในการศึกษาครั้ง นี้เ พียง ๑๐ คอมเมนตแ แต฽ก็จัดอยู฽ในอันดั บ ที่ ๒ ซึ่งสอดคล฾องกับงานวิจัยของ อรทัย ชินอัครพงศแ (๒๕๕๗) กล฽าวคือ อุปลักษณแคําด฽าที่ใช฾อวัยวะ ในร฽างกาย เป็นคําด฽าที่เห็นได฾ชัดเจนและเป็นรูปธรรม จึงมักถูกนํามาใช฾เปรียบเทียบหรือด฽าทอรูปลักษณแ ของผู฾อื่น ในขณะที่คําด฽าเกี่ยวกับชาติพันธุแและชาติกําเนิดนั้น ในการศึกษาครั้งนี้พบจํานวน ๙ คอมเมนตแ อยู฽ในอันดับที่ ๓ ส฽วนงานวิจัยของ อรทัย ชินอัค รพงศแ (๒๕๕๗) จัดอยู฽ในอันดับที่ ๔ ซึ่ง พบจํานวน มากกว฽าคือ ๒๓ คํา ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากคนไทยมีความผูกพันกับครอบครัวและพ฽อแม฽ ซึ่ง หลายคน มักแสดงออกมา คือ การที่ไม฽ยอมให฾ใครมาดูถูกครอบครัวของตนเอง ดังนั้นการนําพ฽อแม฽หรือชาติกําเนิด มากล฽ า วเป็ น คํ า ด฽ า จึ ง เป็ น การแสดงออกถึ ง การดู ถู ก อย฽ า งรุ น แรง ส฽ ว นคํ า ด฽ า ที่ พ บน฾ อ ยที่ สุ ด วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๕๔


คือ คําด฽าที่เกี่ยวกับอาวุธนั้น ในการศึกษาครั้งนี้พบจํานวน ๑ คอมเมนตแ ซึ่ง สอดคล฾องกับงานวิ จัย ของ อรทัย ชินอัครพงศแ (๒๕๕๗) ที่ปรากฏน฾อยสุดเช฽นกัน โดยพบเพียง ๒ คํา ทั้งนี้อาจจะเนื่องมาจาก เพจ “จ฿อกจ฿อก” เป็นเพจที่สร฾างขึ้นเพื่อนําภาพและรูปร฽างหน฾าตาของผู฾คนที่อยู฽ในสัง คมมานําเสนอ ในด฾ า นลบ การแสดงความคิ ด เห็ น โดยใช฾ อุ ป ลั ก ษณแ คํ า ด฽ า เกี่ ย วกั บ อาวุ ธ เป็ น คํ า ด฽ า ที่ ไ ม฽ เ ห็ น ภาพ และไม฽เป็นรูปธรรมอย฽างชัดเจน ดังนั้นจึงพบน฾อยที่สุด กล฽าวโดยสรุป จากผลการศึกษาและข฾อสังเกตที่ได฾จากงานวิจัยที่เกี่ยวข฾อง พบว฽า อุปลักษณแ คํ า ด฽ า ที่ ป รากฏนั้ น จะมี ค วามแตกต฽ า งกั น ออกไป โดยคํ า ด฽ า บางคํ า สามารถจั ด ได฾ ม ากกว฽ า ๑ กลุ฽ ม เช฽ น คํ า ว฽ า “โง฽ ร ะวั ง นะนกเอี้ ย งจะมาเกาะ” ในที่ นี้ จ ะจั ด อยู฽ ใ นคํ า ด฽ า ที่ มี ค วามผิ ด ปกติ ท างสมอง ก็ คื อ จะไปเน฾ น ตรงคํ า ว฽ า โง฽ ทั้ ง นี้ ผู฾ อ฽ า นก็ ยั ง สามารถแปลได฾ อี ก ความหมายนั่ น ก็ คื อ ด฽ า ว฽ า ควาย โดยไม฽ปรากฏเป็นคําตรง ๆ แต฽จะให฾ความหมายโดยนัย ให฾ผู฾รับสารเข฾าใจเองว฽ากําลังถูกเปรี ยบเทียบ กับควาย ซึ่งในงานวิจัยของ อรทัย ชินอัครพงศแ (๒๕๕๗) ศึกษาเรื่อง “อุปลักษณแเชิงมโนทัศนแของคําด฽า ในภาษาไทย” นั้ น จะไม฽ป รากฏความหมายโดยนั ยแบบนี้ แต฽มั ก จะกล฽ า ว ตรงตั ว คื อ ด฽ า ด฾ว ยคํ า ว฽า ควาย จากการอภิปรายข฾างต฾นจะเห็นได฾ว฽าการศึกษาเรื่อง อุปลักษณแคําด฽าเชิงมโนทัศนแที่เป็นคําด฽า ในเพจ “จ฿อกจ฿อก” ผลการศึกษาที่มีครบทุกประเด็นปรากฏแค฽งานวิจัยเรื่องเดียว คือ อุปลักษณแเชิง มโนทัศนแ ของคําด฽าในภาษาไทย ซึ่งมีความใกล฾เคียงกันมากที่สุด ถึงแม฾ จะพบเพียง บางประเด็นเท฽านั้น ที่มีความแตกต฽างกันในการใช฾คําอุปลักษณแ เพราะเนื่องจากเพจจ฿อกจ฿อก เป็นเพจที่มีความแตกต฽าง จากการใช฾เว็บบอรแดและมีความแตกต฽างจากแหล฽งข฾อมูลอื่น ๆ เพราะจะเน฾นไปในด฾านการใช฾คําด฽ า ฉะนั้นจึงทําให฾แหล฽งข฾อมูลมีความผิดแผกกันออกไปบ฾างบางประเด็น ข้อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะสาหรับการนาไปใช้ประโยชน์ ๑. ผลการศึ ก ษาเรื่ อ ง อุ ป ลั ก ษณแ เ ชิ ง มโนทั ศ นแ ที่ เ ป็ น คํ า ด฽ า ในเพจ “จ฿ อ กจ฿ อ ก” ในครั้ ง นี้ สามารถนําไปใช฾เป็นความรู฾เกี่ยวกับการใช฾อุปลักษณแในเพจอื่น ๆ หรือใช฾ศึกษาคําอุปลักษณแในนิตยสาร หรือสื่ออื่น ๆ ๒. ผลการศึ ก ษาในครั้ ง นี้ สามารถนํ าไปใช฾ เ พื่ อเป็ น ความรู฾ ใ นการเรี ย น หรื อ ศึ ก ษาเพิ่ ม เติ ม เกี่ยวกับการใช฾อุปลักษณแเพื่อให฾มีเนื้อหาที่แน฽นมากขึ้น ข้อเสนอแนะสาหรับการศึกษาต่อไป ๑. ควรมีการศึกษาอุปลักษณแเชิง มโนทัศนแที่เป็นคําด฽า จากแหล฽ง อื่น ๆ เช฽น หนัง สือนวนิยาย จากบทเพลง ภาพยนตรแ ซิทคอม เป็นต฾น

๒ . ควรมี ก ารเปรี ย บเที ย บการใช฾ อุ ป ลั ก ษณแ เ ชิ ง มโนทั ศ นแ ที่ เป็ น คํ า ด฽ า ในเพจอื่ น

กับ เพจ “จ฿อกจ฿อก” วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๕๕


เอกสารอ้างอิง อรทัย ชินอัครพงศแ. (๒๕๕๗). อุปลักษณแเชิงมโนทัศนแของคําด฽าในภาษาไทย. วารสารมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร. ๑๑(๒), ๕๗ – ๗๖. -----------------------------------บทความวิจัยเรื่องนี้ผ฽านการคัดเลือกให฾นําเสนอในงาน การประชุมวิชาการระดับปริญญาตรี ด฾านมนุษยศาสตรแและสังคมศาสตรแระดับแห฽งชาติครั้งที่ ๔ ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทรแ วิทยาเขต หาดใหญ฽

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๕๖


ชนะใจ / สามีสีทอง

ภัณฑิรา ศรีแสง แสงสส ส

กด Like วรรณกรรม

สง งงแแแแสง

สง

ชนะใจ

สุ ด แต฽ ใ จจะไขว฽ ค ว฾ า เป็ น นวนิ ย ายที่ ป ระพั น ธแ โ ดย โบตั๋ น นามปากกาของ สุ ภ า สิ ริ สิ ง หแ นักเขียนนวนิยายที่มี ชื่อเสียงโด฽งดังในช฽ วง พ.ศ. ๒๕๐๙ เริ่มมีชื่อเสี ยงจากนวนิยาย “จดหมายจาก เมื อ งไทย” ได฾ รั บ รางวั ลวรรณกรรมดี เ ด฽ น ประจํ า ปี พ.ศ. ๒๕๑๒ จากองคแ ก าร ส.ป.อ. (องคแ ก าร สนธิสัญ ญาปูองกันภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต฾) โบตั๋นมีผลงานการประพันธแ ที่น฽าสนใจหลายเรื่อง อาทิ ผู฾หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด ตะวันชิงพลบ ไผ฽ต฾องลม ทองเนื้อเก฾า เกิดแต฽ตม ตราไว฾ในดวงจิต นวลนาง ข฾างเขียง ด฾วยสองมือแม฽นี้ที่สร฾างโลก เป็นต฾น เรื่องสุดแต฽ใจจะไขว฽าคว฾า เป็นนวนิยายที่เคยได฾รับรางวัล เมขลา และโทรทัศนแทองคํา นอกจากนี้ยังได฾นํามาสร฾างเป็นละครโทรทัศนแทางไทยทีวีสีช฽อง ๓ ถึง ๔ ครั้ง ด฾วยกัน คือ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๒ ปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ปี พ.ศ. ๒๕๕๑ และปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ออกอากาศทางช฽อง ๘ ละครโทรทัศนแเรื่องนี้เป็นละครไทยแนวสะท฾อนชีวิตสร฾างสรรคแสังคม นวนิยายเรื่องนี้สะท฾อนชีวิตของเด็กผู฾ชายคนหนึ่งที่ชื่อว฽า พัด ชีวิตของพัดเหมือนถูกโดชชะตา กลั่น แกล฾ ง เพราะเกิด มาเป็น ลูก ที่พ฽อ เกลียดชัง ไม฽ ว฽า พัดจะทํ าอะไรก็ดูผิ ดไปหมดในสายตาของพ฽ อ แต฽ด฾วยความมานะบากบั่น และความขยันของพัดที่ต฽อสู฾ชีวิตมาตลอด ในที่สุดก็เป็นที่ยอมรับของพ฽อ นวนิ ย ายเรื่ อ งนี้ เ ป็ น วรรณกรรมที่ มี ค วามน฽ า สนใจ เพราะมี อ งคแ ป ระกอบครบถ฾ ว น ไม฽ว฽าจะเป็นโครงเรื่อง ตัวละคร แก฽นเรื่อง บทสนทนา น้ําเสียงที่ผู฾ประพันธแใ ช฾ในการแต฽ง รวมไปถึงฉาก ในการศึกษาวรรณกรรมเรื่องนี้ ผู฾ศึกษาจะได฾นําเสนอประเด็นดังที่ได฾กล฽าวมาตามลําดับ ดังนี้

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๕๗


๑. โครงเรื่อง มีการลําดับเหตุการณแตั้งแต฽ต฾นจนจบได฾เป็นอย฽างดี ตัวละครในการดําเนินเรื่องมีทั้งหมด ๗ ตัว แต฽มีตัวละครเอกเพียง ๒ ตัว ซึ่งตัวละครเอกทั้ง ๒ ตัว คือ พัด และพ฽อพล โดยเนื้อเรื่องมีการสะท฾อน ให฾เห็นถึงปัญหาของพ฽อลูกซึ่งมองชีวิตไม฽เหมือนกัน พ฽อฝันให฾ลูกได฾เป็นเจ฾าคนนายคน แต฽ทางเดินชีวิตที่ ลูกเลือกนั้นเป็นคนละเส฾นทางกับความฝันของผู฾เป็นพ฽อ จึงเกิดเป็นความขัดแย฾งขึ้นภายในครอบครัว ๑.๑ การเปิดเรื่อง มีการเปิดเรื่องโดยการมุ฽งประเด็นหลักไปที่ตัวละคร คือ พัด และพ฽อพล โดยผู฾เขียนต฾องการ สื่อให฾ผู฾อ฽านเข฾าใจถึงความขัดแย฾งระหว฽างพัด และพ฽อพล ดังตัวอย฽าง “มันมัวทําอะไรของมันอยู฽นะ ไอ฾นี่มันบ฾าทําของเล฽น ไม฽เข฾าเรื่องเข฾าราว ทีหนังสือหนังหาไม฽ค฽อยได฾เรื่องเลย แค฽ได฾สอบ เกือบตกทุกที” พ฽อถอนหายใจ (หน฾า ๓) ข฾อความข฾างต฾น สะท฾อนให฾เห็นถึงอารมณแความรู฾สึกของพ฽อที่ไม฽ชอบพัด รู฾สึกขัดอกขัดใจไปเสีย ทุกเรื่อง เพราะพัดเรียนหนังสือไม฽เก฽ง หลายครั้งที่พ฽อมองข฾ามความดีของพั ดไป พ฽อไม฽พอใจอย฽างมากที่ พัดไม฽เรียนหนังสือต฽อ และออกมาทําอู฽ซ฽อมรถ เพราะพ฽อมองว฽าเป็นอาชีพที่ต่ําต฾อย ไม฽มีอนาคต แต฽พัดก็ ยังทําต฽อไปโดยมีแม฽ให฾ความช฽วยเหลือ และคอยสนับสนุน ๑.๒ การดาเนินเรื่อง ผู฾เขียนดําเนินเรื่องโดยมุ฽งสู฽ประเด็นสําคัญ ด฾วยการสร฾างโครงเรื่องให฾เกิดความขัดแย฾งขึ้น ระหว฽างตัวละครเอกของเรื่อง นั่นก็คือ พัด และพ฽อพล พัดเป็นคนที่เรียนไม฽เก฽ง และดื้อกับพ฽ออย฽างมาก ทําให฾พ฽อเกลียดชัง ไม฽ว฽าพั ดจะทําอะไรก็ดูผิดไปทุกอย฽างในสายตาของพ฽อ ดัง ตัวอย฽างที่ไ ด฾กล฽าวมา ข฾างต฾น มีการดําเนินไปอย฽างเข฾มข฾นรุนแรงในช฽วงกลางเรื่อง ซึ่งเป็นความขัดแย฾งระหว฽างพัดกับพ฽อ จนถึง จุดแตกหักที่พ฽อไม฽ยอมส฽งเสียให฾พัดเรียนต฽อช฽างยนตแตามที่พัดต฾องการ ในขณะที่ส฽งเสียลูกคนอื่นให฾ไ ด฾ เรียนตามที่ต฾องการ ความขัดแย฾งที่เกิดขึ้นดําเนินมาเรื่อย ๆ จนถึงตอนท฾ายของเรื่องที่พัดมีฐานะมั่นคง จากกิจการเปิดอู฽ซ฽อมรถจนประสบความสําเร็จ ทําให฾พ฽อยอมรับพัดมากขึ้น และเข฾าใจทุกอย฽างที่เกิดขึ้น เพราะพัดเป็นลูกที่ประสบความสําเร็จในหน฾าที่การงานมากกว฽าลูกคนอื่น ๆ ๑.๓ การปิดเรื่อง เป็นการปิดเรื่องแบบสุขนาฏกรรม คือ พ฽อพลได฾เห็นถึงความมานะ อดทน ความพยายาม ของพั ดที่ต฽อสู฾ชีวิต และความดีที่พั ดได฾กระทําต฽อพี่น฾องและพ฽อแม฽ เช฽น พ฽อให฾สิ่ง ที่ดีที่สุดกับพงษแแล฾ว สุดแต฽ใจเขาจะไขว฽คว฾าสิ่งนั้นไว฾หรือไม฽ ในขณะที่พ฽อให฾ลูก ๆ คนอื่นน฾อยกว฽า แต฽ลูก ๆ เหล฽านั้นกลับ วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๕๘


ไขว฽คว฾าสิ่งที่ดีมาใส฽ตัวได฾มากกว฽า พัดจึงเป็นลูกที่ประสบความสําเร็จมากกว฽าลูกคนอื่น ๆ ทั้ง ๆ ที่ เป็นลูก ซึ่งพ฽อไม฽ได฾สนับสนุนหรือส฽งเสริมให฾เรียนตั้งแต฽แรก แต฽ด฾วยความขยันมานะบากบั่น และความอดทนของ พัดทําให฾ชนะใจพ฽อได฾ในที่สุด ตอนท฾ายของเรื่องนี้จึง จบลงอย฽างมีความสุข ทุกคนเข฾าใจซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะพ฽อที่เข฾าใจลูกทุกคนมากขึ้น

๒. ตัวละคร นวนิยาย เรื่อง สุดแต฽ใจจะไขว฾คว฾าตัวละครมีลักษณะเด฽นที่แตกต฽างกันออกไปด฾วยอุปนิสัยและ บุคลิ กภาพ ลั กษณะของตั วละครแต฽ละตัว ทั้ง นี้ตัว ละครที่มี บทบาทเด฽น ๆ และเป็ นตัว ดําเนินเรื่อ ง ที่สําคัญ ได฾แก฽ ๒.๑ พ฽อพล เป็นพ฽อที่รักพงษแมากว฽าลูกทุกคน เพราะพงษแเป็นคนเรียนหนังสือเก฽ งจึงสนับสนุน ให฾ได฾เรียน เพื่อชดเชยความผิดหวังของพ฽อในอดีตที่ไ ม฽ได฾รับราชการ พ฽อพลมีอุปนิสัยที่ลําเอียง รักลูก ไม฽เท฽ากัน และไม฽ยุติธรรมกับลูก ๆ ดังตัวอย฽าง “อายุก็ไม฽น฾อยแล฾วนะไอพัด เอ็งดูพี่เอ็งสิ อีกหน฽อยจะได฾เป็นเจ฾าคนนายคน เป็น นายอําเภอ เป็นผู฾ว฽า เป็นเจ฾าเมือง แล฾วอย฽าเอ็งไม฽เรียนหนังสือ แล฾วจะเป็นอะไร” (หน฾า ๙) ๒.๒ แม฽บุญส฽ง เป็นตัวละครที่มีอุปนิสัยเป็นคนดี รักลูกทุกคนเท฽ากัน มีความยุติธรรม เป็นคนที่ มีเหตุผล คอยช฽วยขัดขวางพ฽อในทุก ๆ เรื่องที่เห็นว฽าพ฽อไม฽ยุติธรรมกับลูก ๆ และยังเป็นแม฽ศรีเรือนที่ดูแล ลูก ๆ และครอบครัวเป็นอย฽างดี เรื่องในครัวไม฽เคยขาดตกบกพร฽อง ดังตัวอย฽าง “เอ฾า พร฾อมกันยัง มากินข฾าวได฾แล฾ว” แม฽มองทุกคนในครอบครัวเหมือนจะสํารวจ (หน฾า ๒๖) ๒.๓ พงษแ เป็นลูกชายคนโตของครอบครัว เป็นลูกที่พ฽อรักที่สุด พงษแมีอุปนิสัยที่ชอบทําตัวอวด รวย ติดหรู ทําตัวเสเพลไปวัน ๆ ไม฽เอาการเอางาน เอาแต฽ใจเพราะมีพ฽อตามใจในทุก ๆ เรื่อง พงษแเป็น คนเรียนเก฽ง มีผลการเรียนที่ดี แต฽เป็นคนที่ชอบดูถูกคนอื่น ๆ รวมไปถึงน฾อง ๆ ดังตัวอย฽าง “เอ฾า มีแต฽คนถามฉันว฽าทําไมพี่เรียนดี แต฽น฾องแต฽ละคนทําไมมันโง฽เง฽าขนาดนี้ แล฾วทําไมฉันไม฽ช฽วยติวให฾แกฉลาดกว฽านี้บ฾าง” (หน฾า ๒)

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๕๙


๒.๔ พัด เป็นลูกชายคนที่สอง พัดมีอุปนิสัยดี มีความพยายาม มานะ บากบั่น ชอบช฽วยเหลือพี่ น฾อง พัดเป็นลูกที่พ฽อเกลียดชัง เพราะเป็นคนเรียนไม฽เก฽ง พ฽อไม฽พอใจที่พัดไม฽เรียนต฽อ และมาทําอู฽ซ฽อมรถ เพราะมองว฽าเป็นอาชีพที่ต่ําต฾อย และไม฽มีอนาคต ทุกครั้งที่ทะเลาะกับพ฽อพัดมักจะโมโห และพูดในสิ่งที่ ตัวเองไม฽ทันได฾คิดเสมอ ดังตัวอย฽าง “พ฽ อครั บ พั ดไม฽ไ ด฾ คิด อย฽า งนั้ น จริ ง ๆ นะครั บ พ฽ อ คิด ไปเองอ฽ ะ พ฽อ ก็ กลั ว อยู฽ อย฽ า งเดี ยวอ฽ ะ กลัวว฽าคนเขาจะนินทาบ฾านเรา พ฽อยังจะห฽วงอะไรอ฽ะครับ ก็ดูสิบ฾านเรามันจนจริง ๆ” (หน฾า ๒๓) ๒.๕ พุดจีบ เป็นลูกสาวคนโตที่มีความตั้งใจที่จะเรียนพยาบาล แต฽ต฾องสละสิทธิ์ เนื่องจากพ฽อไม฽ ยอมส฽งเสียให฾เรียน ทําให฾พุดจีบต฾องไปเรียนตัดเสื้อกับอาวรรณี น฾องสาวของพ฽อ พุดจีบมีอุปนิสัยดี เป็น คนอดทน เสียสละ ชอบช฽วยเหลือพี่น฾อง พุดจีบเป็นคนรักครอบครัว ทุกครั้งที่ครอบครัวมีปัญหา พุดจีบ จะเป็นคนที่ช฽วยพูดไกล฽เกลี่ยอยู฽เสมอ ดังตัวอย฽าง “ขอโทษแทนพ฽อกับพงษแด฾วยนะคะ เขาพูดไปเขาอาจจะไม฽ได฾มีเจตนาอะไรก็ได฾นะคะ” พุดจีบพูดกับทูล (หน฾า ๑๗) ๒.๖ พิณรมยแ เป็นลูกสาวคนรองที่ได฾เรียนพยาบาลสมใจจากเงินของพุดจีบ และพัด พิณรมยแ เป็นคนที่มีอุปนิสัยดี มองโลกในแง฽ดี รักครอบครัว และเป็นคนคอยให฾กําลัง ใจคนในครอบครัวเสมอ ดังตัวอย฽าง “พี่พัดเป็นคนดี มีน้ําใจ ขยันและก็อดทน แค฽นั้นก็พอแล฾ว” พิณรมยแพูดกับพัด (หน฾า ๓๘) ๒.๗ พุ ฒิ เป็ นน฾ องชายคนสุด ท฾ อ ง เป็ นคนที่ มีอุป นิสั ยที่ ดี เชื่ อฟั ง พ฽ อแม฽ มาโดยตลอด พุฒิ มี พรสวรรคแทางศิลปะต฾องการเรียนช฽างศิลป฼ แต฽พ฽อก็ขัดขวาง เพราะไม฽อยากให฾พุฒิเรียน ทุกครั้งที่พุฒิขอ ไปวาดรูปพ฽อก็จะทําสีหน฾าไม฽พอใจตลอด เพราะพ฽อมองว฽าเป็นอาชีพที่ต่ําต฾อย ดังตัวอย฽าง “พ฽อครับ เดี๋ยวผมขอไปวาดรูปก฽อนนะครับ” พุฒิขอกับพ฽อ “อืม” สีหน฾าพ฽อไม฽ค฽อยพอใจ (หน฾า ๘) วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๖๐


๒.๘ วันแรม เป็นลูกสาวคนโตของลุงกํานัน ผู฾เป็นเพื่อนบ฾าน เป็นพี่สาวของวันสว฽าง มีอุปนิสัย ที่ชอบทําตัวเป็นคุณหนูไฮโซ ใสซื่อแต฽ที่จริงเจ฾าเล฽หแร฾ายลึก ทะเยอทะยาน คบแต฽คนรวย หลอกใช฾พงษแ กับ พัด เป็น เครื่ อ งมื อ พู ดจาหวานออดอ฾ อนเพื่อ ให฾ไ ด฾ สิ่ง ที่ ต฾อ งการ ซึ่ ง พั ด และพงษแ ต฽ างก็ ชอบ และ หมายปองวันแรม ดังตัวอย฽าง “พงษแไปนั่งรอก฽อนเถอะ เดี๋ยวมื้อนี้แรมเลี้ยงเอง” วันแรมพูดกับพงษแ “จริงนะ” พงษแยิ้ม “เลี้ยงให฾คนที่เก฽งที่สุดของโรงเรียนไง” (หน฾า ๒) ๒.๙ วันสว฽าง เป็นคนที่มีอุปนิสัยห฾าว ๆ คล฾ายผู฾ชาย คล฽องแคล฽วว฽องไว พูดจาโผงผางกล฾าพูด กล฾าลุย ทันคน แต฽ลึก ๆ แล฾วเป็นคนอ฽อนโยน มีน้ําใจ ชอบช฽วยเหลือคนอื่น แอบรักพัดมาตลอดแต฽พัดไม฽ รู฾ เวลาพัดมีปัญหาอะไรก็จะคอยอยู฽ข฾าง ๆ เสมือนเป็นกําลังใจให฾เขา ถึงแม฾ว฽าจะรู฾ว฽ าเขาไม฽ได฾ชอบ แต฽ก็ ทําให฾เขาด฾วยความเต็มใจ ดังตัวอย฽าง “ไอ฾เรื่องนั้นอ฽ะ พี่ไม฽ต฾องเป็นห฽วงหรอก แล฾วไงอ฽ะเดี๋ยวฉันจะช฽วยพูดให฾อีกคนนึง” สว฽างพูดกับพัดเรื่องพิณรมยแ “สว฽างขอบใจมากนะ” พัดยิ้มแล฾วพูดกับสว฽าง (หน฾า ๑๑๒) จากตัวอย฽างข฾างต฾น ทําให฾เห็นว฽าผู฾ เขียนมีการสมมติให฾ตัวละครมีบทบาทที่แตกต฽างกันออกไป โดยจะเห็นได฾ชัดเจนจากบุคลิกภาพของตัวละครแต฽ละตัวที่มีอุปนิสัยที่ต฽างกัน แต฽อาจจะมีบางตัวที่มี ลักษณะที่ใกล฾เคียงกัน คือ พุดจีบ และพิณรมยแ ซึ่งลักษณะและอุปนิสัยของตัวละครที่กล฽าวมาข฾างต฾นนั้น มีอยู฽จริงในสังคมปัจจุบัน

๓. แก่นเรื่อง ผู฾เขียนต฾องการให฾ตัวละครสะท฾อนชีวิตให฾กับสังคม โดยเฉพาะการเลี้ยงลูกในสังคมปัจจุบันนั้น ไม฽ควรที่จะเลี้ยงลูกด฾วยการเอาแต฽ใจพ฽อแม฽มากนัก ควรเปิดอิสระให฾ลูกเลือกทางเดินที่เขาชอบ และพ฽อ แม฽ควรรักลูกให฾เท฽า ๆ กัน มิเช฽นนั้นคนที่จะเสียใจมากที่สุดก็คือพ฽อ และแม฽ ดัง เช฽น พ฽อพลที่รักพงษแ มากกว฽าลูกคนอื่น ๆ แต฽ท฾ายที่สุดแล฾วคนที่ทําให฾เสียใจมากที่สุดนั้นก็คือ พงษแ เพราะพ฽อตามใจพงษแ จนกลายเป็นคนที่เอาแต฽ใจ และเห็นแก฽ตัว กลับกันกับพัดลูกที่พ฽อเกลียดชัง เรียนไม฽เก฽ง แต฽ด฾วยความ พยายามและความมานะ บากบั่น ความดีที่พัดได฾กระทํา ทําให฾ในที่สุดพ฽อก็เห็นในความดีของพัดจึงมอง พัดในสายตา ที่เป็นธรรมมากขึ้น วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๖๑


๔. บทสนทนา บทสนทนาในเรื่องสุดแต฽ใจจะไขว฽คว฾า ผู฾เขียนแสดงการโต฾ตอบกันของตัวละคร เพื่ออธิบายถึง ลักษณะนิสัย รวมทั้งแนวคิด และพฤติกรรมของตัวละคร เพราะตัวละครจะแสดงความรู฾สึก และเปิดเผย ตัวตนที่แท฾จริงผ฽านบทสนทนา ดังตัวอย฽าง “เอ฾า พร฾อมกันยัง มากินข฾าวได฾แล฾ว” แม฽มองทุกคนในครอบครัวเหมือนจะสํารวจ “ลงมือเหอะ หิวแล฾ว เดี๋ยวค่ํามากยุงก็ออกหรอก” พงษแบ฽นนั่งขัดสมาธิ “ไอ฾พัดไปไหน ไม฽มีใครรู฾เลยเรอะ” แม฽ถามซ้ํา “พิณจะไปดูให฾” พิณตอบ พิณลุกขึ้นทันที “มันมัวทําอะไรของมันอยู฽นะ ไอ฾นี่มันบ฾าทําของเล฽น ไม฽เข฾าเรื่องเข฾าราว ทีหนังสือหนัง หาเรียนไม฽ค฽อยได฾เรื่องเลย แค฽สอบได฾ เกือบตดทุกที” พ฽อถอนหายใจ (หน฾า ๒๖ – ๒๗) จากตั ว อย฽ า งเป็ น บทสนทนาครอบครั ว ของพ฽ อ พลในขณะที่ จ ะรั บ ประทานอาหารนั้ น แม฽ สังเกตเห็นว฽าในขณะนั้นพัดไม฽ได฾อยู฽จึงถามหาพัดและได฾มีการให฾น฾อง ๆ ไปตามพัดมารับประทานอาหาร ด฾วยความที่พ฽อเกลียดชังพัดจึงบ฽นขึ้นมา แต฽พัดด฾วยความรักน฾องสาวคนรองมากจึงได฾นั่งทําตุ฿กตาจากดิน เหนียวให฾น฾อง “ครูเขารับซ฽อมเครื่องไฟฟูา ผมก็เลยไปช฽วยงาน ครูเลยแบ฽งรายได฾ให฾ผมบางส฽วนครับพ฽อ” “เจริญแหละทีนี้ หนังสือหนังหาไม฽ต฾องเรียนกัน ไอ฾ครูเอ็งก็ฉลาดเหมือนกันนะ หลอกให฾ เอ็งไปซ฽อมเครื่องไฟฟูาให฾ ไอ฾พัดข฾าให฾เองไปเรียนหนังสือนะ ไม฽ได฾ไปฝึกเป็นลูกจ฾างคน” พ฽อพูดด฾วยน้ําเสียงที่โมโห “พ฽อต฾องไปดูที่โรงเรียน วัน ๆ มันขลุกแต฽ในห฾องช฽าง หนัง สือหนัง หามันไม฽เรียนหรอกพ฽อ ” พงษแพูดขึ้นมาหลังจากพ฽อพูดจบ “แย฽จริงพัด เอ็งไม฽เรียนหนังสือแบบนี้โตขึ้นจะไปเป็นอาชีพอะไร” พ฽อพูด (หน฾า ๔๕) จากตัวอย฽างข฾างต฾นเป็นบทสนทนาครอบครัวของพ฽อพลในขณะที่ทุกคนนั่งกันพร฾อมหน฾าพร฾อมตา พ฽อจึงเอ฽ยถามเรื่องใบเกรดจากพัด แต฽พิณรมยแดันพูดเรื่องที่พัดไปช฽วยครูเรื่องซ฽อมไฟฟูาขึ้นมา ทําให฾พ฽อ ไม฽พอใจ และกล฽าวหาว฽าพัดไม฽ไปเรียนหนังสือ มัวแต฽ไปช฽วยงานครู ทําให฾พงษแลูกรักของพ฽อพูดใส฽ร฾ายพัด อีกต฽าง ๆ นานา หาว฽าพัดไม฽ยอมเรียนหนังสือเอาแต฽ไปอยู฽ในห฾องช฽าง จากบทสนทนาข฾างต฾นนี้ ผู฾เขียนได฾เปิดเผยตัวจริงของทุกคนว฽าแท฾จริงแล฾วเป็นคนที่มีอุปนิสัย ที่แตกต฽างกันออกไปอย฽างไร วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๖๒


๕. น้าเสียงในการแต่ง น้ําเสียงของนวนิยาย เรื่อง สุดแต฽จะใจไขว฽คว฾า ผู฾เขียนถ฽ายทอดความคิดเห็น เรื่องความเท฽า เทียมของพ฽อ และแม฽ที่มีให฾แก฽ลูก คนที่เป็นพ฽อแม฽ไ ม฽ควรรักลูกคนใดคนหนึ่ง มากไปกว฽าลูกคนอื่น ๆ ถึง แม฾ ว฽ าลู ก คนนั้ นจะมี ผลการเรี ยนที่ ดีก็ ตาม พ฽ อ และแม฽ ค วรรัก ลู กทุ ก คนเท฽า กั น ๆ ไม฽ค วรลํ า เอี ย ง เพราะจะทําให฾ลูกคนอื่น ๆ น฾อยเนื้อต่ําใจ

๖. ฉาก ฉากในเรื่องสุดแต฽ใจจะไขว฽คว฾า ผู฾แต฽ง ได฾มีการบรรยายรายละเอีย ดในแต฽ละฉาก โดยเฉพาะ การบรรยายอากัปกิริยาของพัด และน฾องสาวที่บรรยายแทบทุกอิริยาบถ การบรรยายรายละเอียดเช฽นนี้ ทําให฾ผู฾อ฽านจินตนาการได฾ชัดเจนทั้งภาพ และเสียง ผู฾แต฽งไม฽เพียงบรรยายถึงสิ่งที่เราสามารถรับรู฾ได฾ด฾วย การสัมผัส หรือการมองเห็น แต฽ยังบรรยายกระทั่ ง ความรู฾สึกของพัดที่มีต฽อน฾องสาว ดัง ตัวอย฽างฉาก ต฽อไปนี้ พัดถอนหายใจโล฽งอก รับยามาใส฽กระเป฻าเสื้อไว฾ บอกลาน฾องสาวเดินมาขึ้นรถกระบะเก฽า ๆ ของตน ขับไปบ฾านพี่สาว ฟูาเพิ่งสว฽างสลัว ๆ เห็นแสงเงินจาง ๆ ที่ขอบฟูา แต฽อาสะใภ฾ของเขาตื่นนอน แล฾ว กําลังหุงข฾าวเตรียมตักบาตร นางชะโงกหน฾าออกมามองรถ คิ้วขมวดมุ฽นแปลกใจที่มีคนมาหาแต฽เช฾า มืดอย฽างนี้ (หน฾า ๑๓๓) การบรรยายฉากอย฽างละเอียดหรือ บรรยายให฾ผู฾อ฽านเห็นภาพ และจินตนาการตามไปด฾วยนั้น ความรู฾สึกเช฽นนี้ทําให฾ผู฾อ฽านคล฾อยตามตัวละครได฾ง฽ายขึ้น และทําให฾ผู฾อ฽านมีความสนใจที่จะติดตามนวนิยาย เรื่องนี้ต฽อไป นวนิยายเรื่อง สุดแต฽ใจจะไขว฽คว฾า นี้ถือเป็นนวนิยายที่สะท฾อนให฾เห็นถึงสุขนาฏกรรม ที่เกิดจาก ความมานะ บากบั่น ความพยายามที่จะสู฾เพื่อให฾เห็นถึงผลลัพธแ เพราะหากคนเราทําดีก็จะได฾สิ่งที่ดีตอบ แทน เสมือนกับพัดที่ลดทิฐิลง และตัดสินใจกลับมาหาพ฽อทําให฾พ฽อข฾าใจ และมองเห็นถึงความดีของพัด ซึ่งสิ่งที่พัดตัดสินใจ และกระทําลงไปนั้นจึงทําให฾ “ชนะใจ” คนเป็นพ฽อ

เอกสารอ้างอิง โบตั๋น. (๒๕๒๙). สุดแต่ใจจะไขว่คว้า. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาสแน.

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๖๓


สามีสที อง อรนิช ประทุมสุวรรณ์

ปัญหาหลายอย฽างที่เกิดขึ้นในสังคม ส฽วนหนึ่งเกิดจากสถาบันครอบครัวที่ไม฽แข็งแรง ดังจะเห็น ได฾จากข฽าวสารต฽าง ๆ ทางหน฾าหนังสือพิมพแ หรือข฽าวทางโทรทัศนแ เช฽น ข฽าวสามีมีภรรยาน฾อย หรือ ภรรยามีชู฾ หรือข฽าวที่ลูกถูกพ฽อทําร฾าย เป็นต฾น ตัวอย฽างของข฽าวทํานองนี้มักจบลงด฾วยความรุนแรง แต฽ว฽า ปัญ หาเช฽นนี้ไม฽ได฾ถูกถ฽ายทอดเพียงแค฽ข฽าวจากหนัง สือพิมพแ หรือทางโทรทัศนแเท฽านั้นยังถูกถ฽ายทอดสู฽ ผลงานวรรณกรรมด฾วย เช฽น งานเขียนของกฤษณา อโศกสิน ที่โดดเด฽นในเรื่องของการสะท฾อนสถาบัน ครอบครัว เช฽น เมียหลวง น้ําเซาะทราย ภมร เป็นต฾น วรรณกรรมเรื่อง ภมร เป็นนวนิยายที่ได฾รับรางวัลชมเชยจากคณะกรรมการการพัฒนาหนังสือ ในงานสัปดาหแหนังสือแห฽งชาติในปี พ.ศ. ๒๕๓๑ เป็นนวนิยายที่สะท฾อนภาพของสามครอบครัวที่มีพ฽อ เป็นตัวจักรใหญ฽ ทุกขแหรือสุขของผู฾หญิงหรือเด็กขึ้นอยู฽กับพฤติกรรมของผู฾ชาย ผู฾ไ ด฾ชื่อว฽า “พ฽อ” เมื่อพ฽อ สร฾างปัญหาครอบครัวขึ้นคราใด ผู฾รับเคราะหแย฽อมมิใช฽ใครอื่น นอกจากภรรยา และบุตรหญิงชายของเขา นั่นเอง ดังนั้นผู฾ศึกษาจึงเลือกศึกษา นวนิยายเรื่อง ภมร โดยใช฾ทฤษฎีโครงสร฾าง ในประเด็นของแก฽นเรื่อง โครงเรื่อง การเปิดเรื่อง การดําเนินเรื่อง การปิดเรื่อง และบทสนทนา เท฽านั้น ซึ่งมีลักษณะดังนี้

แก่นเรื่อง นวนิยายเรื่อง ภมร ของกฤษณา อโศกศิลป฼ ผู฾เขียนต฾องการจะสะท฾อนให฾เห็นถึง ปัญ หาของ สถาบันครอบครัวในเรื่องของความรัก และเรื่องของการให฾อิสรภาพแก฽กัน เมื่อผู฾ที่เป็นพ฽อหรือเป็นสามี เป็นตัวจักรใหญ฽ที่คอยสร฾างปัญหานําความทุกขแร฾อนใจมาให฾คนในครอบครัวโดยไม฽เว฾นแต฽ละวัน จนทําให฾ ปัญหาที่เขาสร฾างส฽งผลกระทบไปยังจิตใจอันบอบบางของลูก และภรรยา อีกทั้งส฽งผลกระทบมายังการ อยู฽ร฽วมกันของคนในครอบครัว เมื่อคนเป็นพ฽อหรือเป็นสามีได฾สร฾างบาดแผลที่เกินจะเยียวยา ความรัก ความนับถือที่เคยมีต฽อกันก็จะเริ่มเสื่อมลงจนทําให฾ครอบครัวอยู฽อย฽างไม฽สงบสุข

โครงเรื่อง โครงเรื่อง หมายถึง เหตุการณแต฽าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในเรื่อง ซึ่งมีความสัมพันธแต฽อเนื่องเป็นเหตุ เป็นผลกัน ในนวนิยายเรื่อง ภมร ผู฾เขียนได฾วางโครงเรื่องโดยมีการจัดลําดับเรื่องราว และเหตุการณแได฾ดี ซึ่งผู฾เขียนได฾กล฽าวถึง การเปิดเรื่อง การดําเนินเรื่อง และการปิดเรื่อง ไว฾ดังนี้ วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๖๔


๑. การเปิดเรื่อง มีการเปิดเรื่องโดยในฉากแรกเริ่มของเรื่องนั้นผู฾เขียนได฾บรรยายให฾เห็นถึงความสวยงามของ ฉาก ซึ่งเป็นฉากที่เป็นห฾องโถงแห฽งหนึ่งที่มีความกว฾างใหญ฽ มีทางเดินเปิดโล฽ง ปูด฾วยพื้นกระเบื้องเคลือบสี แผ฽นโต ภายในห฾องโถงจะประกอบด฾วยเก฾าอี้หมู฽ และโซฟาที่วางเป็นแนวยาวไปตลอดพื้นอย฽างเป็น ระเบียบ รวมไปถึงสระน้ําใหญ฽ในสโมสรที่กล฽าวกันว฽าเป็นสระน้ําที่ได฾มาตรฐานที่สุดของประเทศวางเด฽น เป็นสง฽าอยู฽ภายในห฾องโถงนั้น ดังข฾อความที่ปรากฏในเรื่องว฽า จากห฾ อ งโถงยาวกว฾ า ง ทางเดิน เปิ ด โล฽ ง มี เ ก฾า อี้ ห มู฽ และโซฟาวางเป็ น แนวยาวไปตลอดพื้ น ซึ่ง ปู กระเบื้อ งเคลือ บสีเ นื้อแผ฽น โตนั้ นแลเห็ นสระน้ํา ใหญ฽ ของสโมสร ซึ่ ง กล฽ าวกั นว฽า เป็ นสระน้ํา ที่ไ ด฾ มาตรฐานที่สุดของประเทศวางเด฽นเป็นสง฽าอยู฽ถัดไป (หน฾า ๑) จากข฾อความข฾างต฾นจะเห็นได฾ว฽า ผู฾เขียนเปิดเรื่องด฾วยการบรรยายฉากที่เป็นสโมสร ซึ่ง เป็น การเปิดเรื่องที่มีความน฽าตื่นตาตื่นใจ จนทําให฾ผู฾อ฽านอยากรู฾ว฽าสโมสรแห฽งนี้จะมีความสําคัญอย฽างไรภายในเรื่อง ๒. การดาเนินเรื่อง มี ก ารดํ า เนิ น เรื่ อ งด฾ ว ยตั ว ละครหลั ก ทั้ ง หมด ๖ ตั ว คื อ ตั ว ละครที่ เ ป็ น สามี ภ รรยาจาก ๓ ครอบครัวโดยการดําเนินเรื่องจะนําเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัว ๓ ครอบครัวที่เป็นเพื่อนสนิทกัน แต฽แตกต฽างกันทั้งนิสัยใจคอ ความสัมพันธแในครอบครัว และชีวิตการครองเรื อน เส฾นทางชีวิต และ โชคชะตาของทั้ง ๓ ครอบครัวจึงแตกต฽างกัน ดังข฾อความที่ปรากฏในเรื่องว฽า ครอบครัวแรกสามีมีเมียน฾อย ดังตัวอย฽างต฽อไปนี้ นีรา : ม฽วงเมื่อเช฾าคุณผู฾ชายจะเอาอะไรหรือ ได฾ยินเสียงแว฽ว ๆ ลืมถามไป ม฽ว ง : อเ อ คุณ ผู฾ ชายเอากล฽อ งจานชามในห฾ องเก็ บ ของไปกล฽ องนึ ง ค฽ ะ แล฾ ว ก็ก ล฽อ ง ถ฾ว ยแก฾ ว กล฽องนึง นีราพยักพเยิดกับตนเอง ริอ฽านขโมยของลําเลียงไปบ฾านเมียน฾อยแล฾วหรือนี่หล฽อนนึกออกชัดเจน ถึง ท฾ายรถที่ปิดกุญแจทําให฾หญิงสาวคอตกน฾อยใจยลยิ่ง นัก ขนาดที่น้ําตาแล฽นขึ้นขังเต็มขอบพลางปิด ประตูห฾องเดิมไว฾ดังเดิม เดินผ฽านหน฾าคนครัวขึ้นตึกเงียบ ๆ เดินใจลอยขึ้นห฾องนอนหดหู฽เจ็บปวด ความ เจ็บนั้นซ฽านลงไปตามขุมขนลึกลงไปในเนื้อในตัวทั่วสรรพางคแ หล฽อนนั่งลงเงียบ ๆ ตรงขอบเตียงไม฽ได฾ตั้ง คําถามอีกต฽อไปว฽า เพราะอะไรเขาจึงมีเมียน฾อยหากถามใหม฽ว฽า เพราะอะไรเขาจึงทําสิ่งที่เป็นศัตรูต฽อ หล฽อนถึงเพียงนี้ (หน฾า ๑๘๗)

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๖๕


จากข฾อความข฾างต฾นจะเห็นได฾ว฽า ยลสามีของนีรามีภรรยาอีกคนหนึ่งที่เล฽าขานกันว฽า มีเมียน฾อย จนก฽อให฾เกิดปัญหาที่ตามมาของครอบครัวนี้ก็คือ ทําให฾ความสัมพันธแในครอบครัวร฾าวฉาน มีการทะเลาะ เบาะแว฾ง จนแทบจะไม฽เหลือความรักความอบอุ฽นภายในครอบครัวเลย ครอบครัวที่สองสามีเป็นคนเจ฾าชู฾ ดังตัวอย฽างต฽อไปนี้ ทองพัน : ฉันจะหย฽าแล฾วนะคุณเภา ชักทนไม฽ไ หวกับความเจ฾าชู฾ของอีตาหลวงแล฾ว ลูกสองคน ฉันเลี้ยงได฾ ไม฽เอาแล฾วพอดีพอร฾ายเราเองจะต฾องตายเพราะความหึง หัวใจวายตายเพราะหึงสุดขีด ยังไม฽ทันจบคําลิเภาก็ได฾ยินเสียงฝุายนั้นร฾องไห฾ (หน฾า ๒๑) จากข฾อความข฾างต฾นจะเห็นได฾ว฽า คําหลวงสามีของทองพัน เป็นคนเจ฾าชู฾ จนก฽อให฾เกิดปัญ หา ที่ตามมาของครอบครัวนี้ก็คือ ทําให฾ภรรยาต฾องทนทุกขแร฾อนใจกับการกระทําของผู฾เป็นสามี จนทําให฾ ครอบครัวอยู฽กันอย฽างหวาดระแวงไม฽มีความสงบสุข ครอบครัวที่สามสามีไม฽ให฾อิสระกับการทํางานหรือประกอบอาชีพของภรรยา เขาจะกําหนดให฾ ภรรยาทํางานบ฾าน และคอยปรนนิบัติเขาเยี่ยงทาส ดังตัวอย฽างต฽อไปนี้ ลิเภาหล฽อนจะต฾องปฏิบัติกับยลอย฽างทาสแท฾ ๆ เจียดไม฽ยอมกระดิกตัวทําอะไรเลย ตั้งแต฽ศีรษะ จรดเท฾าเชียวแหละ มีหล฽อนเป็นคนจัดสรร เสื้อ กางเกง หากมีการผูกไท หล฽อนก็ต฾องช฽วยผูก ผูกไม฽ดีก็ถูก เอ็ดเสียงเขียว ถุงเท฾าต฾องช฽วยใส฽ รองเท฾าหรือ ก็ต฾องสอดช฾อนรองเท฾าให฾เสร็จ โชคดีอยู฽นิดตรงที่ช฾อน รองเท฾าของเจียดนั้นเป็นของดี คําหลวงไปนอกหนหนึ่งจึงซื้อมาฝาก อย฽างชนิดที่มีด฾ามยาวเหมือนคันร฽ม เลยไม฽ต฾องก฾มเนื้อก฾มตัวให฾ลําบากยากเย็นเป็นที่ทุกขเวทนา (หน฾า ๓๕) จากข฾อความข฾างต฾นจะเห็นได฾ว฽า เจียดสามีของลิเภาเขาไม฽ให฾อิสรภาพในการประกอบอาชีพของ ภรรยา เขากําหนดให฾เธอทํางานบ฾านอีกทั้งต฾องปรนนิบัติเขาเยี่ยงทาส จนก฽อให฾เกิดปัญหาที่ตามมาของ ครอบครัวนี้ก็คือ ทําให฾ภรรยารู฾สึกเอือมระอาต฽อการปฏิบัติหน฾าที่ของตัวเอง จนทําให฾สภาพครอบครัวอยู฽ ร฽วมกันอย฽างไม฽มีความสุข เพราะผู฾เป็นสามีคอยบังคับให฾เธออยู฽ในขอบเขตที่เขากําหนด

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๖๖


๓. การปิดเรื่อง ตอนสุดท฾ ายของนวนิ ยายเรื่ อง ภมร ใช฾การปิ ดเรื่ องโดยการทิ้ง ปั ญ หาเอาไว฾ ให฾ ผู฾อ฽า นหา คําตอบเอง ซึ่ง เป็น การจบที่ไม฽ สมบูรณแ แบบ โดยไม฽ไ ด฾ บอกในตอนจบว฽าเรื่องราวจะดําเนิน อย฽า งไร ดังข฾อความที่ปรากฏในเรื่องว฽า ผู฾ชายเป็นแมลงผู฾แมลงผึ้งซึ่งมีสิทธิ์ดูดดื่มน้ําหวานจากดอกไม฾โทรมเหลือแต฽ซาก เขาหยุดฟัง ดอกไม฾บ฾างไหม เขาเสียดายและเสียใจไหม ที่ทิ้งความรู฾สึกสิ้นเยื่อใยไว฾กับดอกไม฾ได฾ถึงเพียงนี้ (หน฾า ๘๑๙) จากข฾อความข฾างต฾นจะเห็นได฾ว฽า การปิดเรื่องมีลักษณะทิ้งปริศนา ทําให฾ผู฾อ฽านต฾องใช฾ความคิด หรือจินตนาการต฽อ ไปว฽าเรื่อ งหลังจากนี้จะเป็ นอย฽างไร เป็นการทําให฾ผู฾ อ฽านเกิดความรู฾สึก ค฾างคาใจ เนื่องจากผู฾เขียนได฾ทิ้ง ปมบางอย฽างไว฾ให฾ผู฾อ฽านได฾คิดเอง หรืออาจจะมีภาคต฽อ ผู฾เขียนจึงใช฾วิธีการตัดจบ เพื่อให฾เรื่องภาคจบอย฽างมีปมแล฾วยังคงติดตามต฽อว฽าบทสรุปจริง ๆ แล฾วของเรื่องนี้จะเป็นอย฽างไร

บทสนทนา บทสนทนาภายในเรื่องสามารถบ฽งบอกพฤติกรรม หรือความรู฾สึกนึกคิดของตัวละครได฾ อีกทั้ ง สามารถบอกบุคลิก หรือเจตนาที่ซ฽อนไว฾ได฾อีกด฾วย ซึ่งเป็นจุดที่โดดเด฽น และมีความน฽าสนใจ ทําให฾ผู฾อ฽าน เกิดจินตนาการ และเข฾าถึงบทสนทนาของตัวละครได฾ดียิ่งขึ้น ซึ่งบทสนทนานี้จะเป็นบทสนทนาที่โต฾ตอบ กันระหว฽างนีรากับยลดังตัวอย฽างเหตุการณแต฽อไปนี้ นีรา : ยลคะ ตื่นแล฾วเหรอ ไม฽มีคําตอบ แต฽สักครู฽ นีราก็ได฾ยินเสียงปิดท฾ายรถดังปัง พักใหญ฽ ๆ เขาก็ ก฾ า วเข฾ ามาในห฾ อ งแพนทรี ซึ่ ง หล฽ อ นกํา ลั ง ทํ า เครื่ องดื่ ม อยู฽ นั้ น ทํ าไมตื่ น เช฾ า คะ พยายามไม฽ ใ ห฾ บรรยากาศของวันใหม฽สูญเสียไป เมื่อคืนกลับตั้งตีสามแหนะ ยล : เอ฿ะ จะตื่นเช฾าตื่นสายก็ทําไมจะต฾องเป็นกฎเกณฑแด฾วยล฽ะ เขาถามพลางชะโงกดูสิ่งของใน หม฾อ แล฾วกลับออกไป นีราไม฽ตอบเพราะไม฽อยากหาเรื่องหรือทําเรื่องเล็ก ๆ น฾อย ๆ ให฾กลายเป็นเรื่องใหญ฽ (หน฾า ๑๖๑) จากข฾อความข฾างต฾น จะเห็นได฾ว฽าเป็นการสนทนาระหว฽างยลกับนีรา ซึ่งจากบทสนทนาสะท฾อน ให฾เห็นถึงอารมณแของผู฾พูด จะเห็นได฾ว฽านีรากับยลมีลักษณะนิสัยที่แตกต฽างกันอย฽างสิ้นเชิง นีรามีลักษณะ นิสัยเป็นคนที่ใจเย็น พูดจาไพเราะ แม฾ในขณะที่โกรธหรือไม฽พอใจก็สามารถที่จะควบคุมอารมณแของ ตัวเองได฾ แต฽ทางกลับกันยลมีลักษณะนิสัยเป็นคนที่ใจร฾อน พูดจาโดยไม฽คิดถึงจิตใจของผู฾ฟัง จึงทําให฾เห็น ว฽าทั้งสองคนเติบโตมาในแบบที่ต฽างกัน วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๖๗


ภมร เป็นนวนิยายที่สะท฾อนถึงสถาบันครอบครัว ที่มีผู฾ชาย ผู฾ที่เป็นพ฽อ หรือสามีเป็นต฾นเหตุของ เรื่องราวทั้งหมด เมื่อพ฽อหรือสามีสร฾างปัญ หาขึ้นคราใดคนที่ต฾องทุกขแร฾อนใจ และรับผลกระทบจาก การกระทําของเขาก็มิใช฽ใครอื่นนอกจากลูก และภรรยา ที่ต฾องคอยรับรู฾ปัญหาที่พ฽อสร฾างขึ้น โดยผู฾สร฾าง ไม฽คิดจะแก฾ปมหรือแก฾ไขปัญหาที่สร฾างไว฾จึงทําให฾ครอบครัวอยู฽อย฽างไม฽สงบสุข นวนิยายเรื่องนี้มีเนื้อหา และการดําเนินเรื่องเป็นไปตามลําดับ ไม฽ซับซ฾อน และยังมีแง฽คิดคําสอนต฽าง ๆ ที่สอดแทรกอยู฽ภายใน เรื่อง มีเนื้อเรื่องที่น฽าอ฽าน และน฽าติดตามอย฽างต฽อเนื่อง ซึ่งผู฾เขียนสามารถถ฽ายทอดผลผลงานออกมาได฾ดี ทําให฾ผู฾อ฽านเข฾าถึงแก฽นเรื่องที่แท฾จริง

เอกสารอ้างอิง กฤษณา อโศกสิน. (๒๕๓๔). ภมร. กรุงเทพฯ : เฉลิมชัยการพิมพแ.

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๖๘


เพลินเพลงในดวงใจ

ปฏิวัติ ทองบุญยัง

มุมคาร้องมองอย่างนักวิจารณ์ วิจารณ์ เพลินเพลงในดวงใจ

บทเพลงเป็นสื่อประเภทบันเทิงคดีที่ช฽วยสร฾างความสุข ความเพลิดเพลินให฾แก฽ผู฾ฟัง ผู฾ฟังแต฽ละคน อาจเลือกฟังเพลงที่แตกต฽างกัน เช฽น เพลงรัก เพลงสนุกสนาน เพลงเศร฾า เป็นต฾น ดังเช฽นเรื่องราวของ การเลือกฟังเพลง และบทเพลงที่จะนําเสนอต฽อไปนี้

เพลง : ซ฽อนกลิ่น ศิลปิน : อีฟ ปานเจริญ (ปาลแมมี่)

หากพูดถึงคําว฽า ซ฽อนกลิ่น หลายอาจจะนึกถึงการซ฽อนของกลิ่นอะไรบางอย฽างเพื่อไม฽ให฾ผู฾อื่น ได฾ รับ รู฾ถึ ง กลิ่ นนั้ น เช฽น กลิ่ นตั ว กลิ่น ปาก เป็ นต฾ น แต฽ซ฽ อนกลิ่น ในที่ นี้ คือ ชื่ อดอกไม฾ นั่น ก็ คือ ดอก ซ฽อนกลิ่น มีลักษณะเป็นกอเล็ก ๆ มีหัวใต฾ ดิน ใบสีเขียวนวลหนาและเรีย วยาว รู ปแถบปลายแหลม มีดอกสีขาว กลิ่นหอม กลิ่น ของดอกซ฽อนกลิ่นเป็นกลิ่นที่หอมแรงและหอมยาวนาน

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๖๙


ในวรรณคดีเรื่องขุนช฾าง ขุนแผน บรรยายถึงกลิ่นหอมของดอกซ฽อนกลิ่นไว฾อย฽างไพเราะยิ่ง ดังนี้ ซ฽อนชู฾ชูช฽ออรชร เหมือนเราซ฽อนเป็นชู฾คู฽แฉล฾ม ซ฽อนกลิ่นส฽งกลิ่นประทิ่นแกม เหมือนกลิ่นแก฾มโฉมยงเมื่อส฽งตัว เพลงซ่อนกลิ่นเนื้อร้องความว่า ลมอ฽อนพัดโชยมา คลุ฾งไปกับความเหงา ยังหอมรัญจวนชวนให฾ฝัน ใต฾เงาของแสงจันทรแ ตรงสุดลึกดวงใจ ที่ไม฽เคยเลือนลา ทิ้งไว฾เพียงอดีต เจ฾าดอกไม฾ซ฽อนกลิ่น ทุกคราวต฾องหวั่นไหว เพื่อคงกลิ่นหอมไว฾อย฽างนัน้ ยังหอมดังวันเก฽า ที่ไม฽เคยหวนมา ซ฽อนเธอไว฾ในใจ ซ฽อนเธอไว฾ในใจ

น้ําตาก็ไหลริน รักยังไม฽จางไป เคยแอบแนบเคียงกาย เย฾ายวนไม฽เลือนหาย ถนอมเธออยู฽ในนั้น ยังหอมดังวันเก฽า ที่ไม฽เคยหวนมา หอมบาดลึกเกินใคร ร฾อยเก็บเจ฾ามาลัย คงไว฾ได฾แค฽กลิ่น ยามเมื่อลมโชยมา ซ฽อนเธอไว฾ในใจ ทิ้งไว฾เพียงอดีต

เหลือเพียงกลิ่นหัวใจ ตรึงติดชิดดวงใจ อิงแอบมิรู฾คลาย ซ฽อนเก็บไว฾ข฾างใน คงไว฾ได฾แค฽กลิ่น ยามเมื่อลมโชยมา ซ฽อนเธอไว฾ในใจ หอมเกินหักห฾ามใจ ทัดเธอไว฾ในใจ ที่ไม฽เคยเลือนลา ทิ้งไว฾เพียงอดีต เคยแอบแนบเคียงกาย ที่ไม฽เคยหวนมา

๑. ลักษณะทั่วไป ๑.๑ ความเป็นมาของเพลง บทเพลงนี้ อี ฟ ปานเจริ ญ แต฽ ง ขึ้ น เพื่ อ ให฾ ค นที่ กํ า ลั ง มี ค วามรั ก ครั้ ง ใหม฽ ฟั ง บทเพลงนี้ แ ล฾ ว อาจย฾อนนึกถึงความทรงจําที่หอมหวนของความรักครั้งเก฽าได฾ บทเพลงนี้มีชื่อว฽า ซ฽อนกลิ่น ที่มาของชื่อ เพลงนี้ก็คือ สมัยก฽อนผู฾ห ญิงจะพกดอกซ฽อนกลิ่นไว฾ ในผ฾าเช็ดหน฾า เหมือนเป็นน้ํา หอมจากธรรมชาติ อีฟ ปานเจริญ ก็คิดว฽าทําไมต฾องใช฾ชื่อว฽าซ฽อนกลิ่นทั้ง ๆ ที่กลิ่นแรงมาก อีฟ ปานเจริญก็นึกถึงความรู฾สึก ที่พยายามจะซ฽อนไว฾แต฽มันซ฽อนไว฾ไม฽มิด ความรัก ความทรงจํายังคงหอมหวนและตราตรึงอยู฽ในใจของ คน ๆ หนึ่งอยู฽ แม฾เวลาจะล฽วงเลยไปขนาดไหนความรู฾สึกนั้นมันไม฽เคยจะเลือนหายไป

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๗๐


๑.๒ ความหมายของเนื้อเพลง เนื้อเพลงนี้อุปมาโวหารถึงดอกซ฽อนกลิ่นที่มีกลิ่นหอมรัญจวนซ฽อนอยู฽ในใจ หอมจนติดตราตรึง ดวงใจ เปรียบกับความรักความหลังครั้งหวานชื่นในอดีตที่ได฾แต฽เก็บไว฾ลึกสุดดวงใจไม฽ลบเลือนไปจาก ความทรงจํา ไม฽อาจรื้ อฟื้นความสุขนั้นให฾หวนกลับมาและยิ่งนึกถึงทีไรก็ต฾องอดใจไม฽ให฾หวั่นไหว ได฾แต฽ ข฽มใจตัวเองให฾เก็บเรื่องราวนั้นไว฾ในใจ เจ฾าดอกไม฾ซ฽อนกลิ่น หอมเกินหักห฾ามใจ ร฾อยเก็บเจ฾ามาลัย เพื่อคงกลิ่นหอมไว฾อย฽างนั้น

หอมบาดลึกเกินใคร ทุกคราวต฾องหวั่นไหว ทัดเธอไว฾ในใจ

๒. คาร้อง บทเพลง ซ฽ อนกลิ่น เป็ นคํา ประพัน ธแประเภทร฽ าย ที่มีท฽ วงทํานองไพเราะ เพราะมีก ารสั มผั ส ระหว฽างบท อีกทั้งยังมีสัมผัสใน เช฽น วรรคที่ ๕ คําว฽า ไม฽ – ไป วรรคที่ ๖ คําว฽า ติด – ชิด วรรคที่ ๗ คํา ว฽า จวน – ชวน วรรคที่ ๘ คําว฽า แอบ – แนบ วรรคที่ ๑๑ คําว฽า เย฾า – ยวน เป็นต฾น

๓. การใช้ภาษา เพลงซ฽อนกลิ่น มีการใช฾ภาษาเพื่อสื่ออารมณแของเพลง สื่อความรู฾สึกที่ทําให฾นึกถึงเรื่องราวดี ๆ กับคนอันเป็นที่รัก ที่ผ฽านเข฾ามาในชีวิตแล฾วเดินจากไปแต฽ยังความรู฾สึกดี ๆ ที่มีให฾กันอยู฽ ดังเนื้อร฾องว฽า คงไว฾ได฾แค฽กลิ่นที่ไม฽เคยเลือนลา ยังหอมดังวันเก฽า ยามเมื่อลมโชยมา ทิ้งไว฾เพียงอดีต ทีไ่ ม฽เคยหวนมา ซ฽อนเธอไว฾ในใจ จากเนื้อร฾องข฾างต฾น คือ คนอันเป็นที่รักจากเมื่อก฽อนที่รักกันอย฽างหวานชื่นแต฽ตอนนี้ได฾เดินจากกัน ไปแต฽ยังคงความทรงจําที่ไม฽อาจจะลบเลือนได฾ยังคงนึกถึงแต฽วันเก฽า ๆ ยามที่ลมพัดมาก็นึกถึงแต฽อดีตไม฽มี วันกลับคืนมาได฾แต฽เก็บเธอไว฾ในใจ

๔. ภาพสะท้อน ภาพสะท฾อนในบทเพลงนี้มีความน฽าสนใจที่ทําให฾ผู฾ฟังเพลงเห็นถึงความโศกเศร฾าของคน ๆ หนึ่ง ที่ยังคงคิดถึงคนอันเป็นที่รักของเขาอยู฽ ถึงแม฾จะไม฽ได฾อยู฽ด฾วยกันแต฽ความทรงจําทุกอย฽ างก็ยังคงตราตรึง อยู฽ในใจไม฽อาจลบเลือนไปได฾ และคนอันเป็นที่รักคนนั้นยัง ไม฽ไ ปไหนยัง คงอยู฽ในใจของเขาเสมอ

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๗๑


จากการวิเคราะหแเพลงซ฽อนกลิ่นข฾างต฾น จะเห็นได฾ถึง ความงามของการใช฾ภาษา และความหมายของ บทเพลงที่กินใจ ทําให฾เกิดสุนทรียภาพที่สามารถทําให฾ผู฾ฟัง เกิดอารมณแรู฾สึกเศร฾าใจ อีกทั้ง การนําชื่อ ดอกไม฾มาตั้งเป็นชื่อเพลง และยังอุปมาดอกซ฽อนกลิ่นดั่งคนรักเก฽าที่จากไปคงไว฾ได฾แค฽กลิ่นที่ไม฽เคยเลือนลา จึงไม฽น฽าแปลกเพลินเพลงในดวงใจของผมคือเพลงซ฽อนกลิ่น จากการวิ เ คราะหแ เ พลงซ฽ อ นกลิ่ น ข฾ า งต฾ น จะเห็ น ได฾ ถึ ง ความงาม ความโดดเด฽ น ของภาษา และความหมายที่กินใจ ก฽อให฾เกิดสุนทรียภาพที่ทําให฾ผู฾ฟังเกิดจินตนาการคล฾อยไปกับเนื้อเพลง แสดงให฾ เห็นถึงความสามารถของผู฾ประพันธแ จึงไม฽น฽าแปลกใจที่บทเพลงนี้ยังคงเป็นที่ประทับใจของใครหลายคน

เอกสารอ้างอิง เพลงซ฽อนกลิ่น https://meemodel.com. เข฾าถึงเมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๓.

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๗๒


คาศัพท์จอมยุ่ง / ภาษาไทยน่ารู้

ไขภาษากับไทยศิลปศาสตร์

นาราภัทร ชูเชิดรับ

คาศัพท์จอมยุ่ง

การเขีย นคํา ในภาษาไทยให฾ถูก ต฾อ งตรงตามแบบแผนนั้น นับ เป็น สิ่ง ที่ต฾อ งให฾ค วามสํา คัญ อย฽า งยิ่ง การเขียนคําในภาษาไทยได฾ถูกต฾องถือเป็นการแสดงถึงความเข฾าใจ และให฾ความสําคัญอย฽าง ลึกซึ้งกับภาษาซึ่งเป็นมรดกล้ําค฽าของไทยอีกทั้ง ภาษาไทยเป็นภาษาที่ง ดงามซับ ซ฾อ น มีตัว พยัญ ชนะ ถึง ๔๔ ตัว มีคําพ฾องรูป พ฾องเสียงมากมาย จึงทําให฾เกิดความสับสนในการสะกดคําบางคํา นานวันเข฾ า จึงมีคําที่มักเขียนผิดมากมาย ในปัจจุบันไม฽น฽าเชื่อว฽า เดี๋ยวนี้ “ภาษาไทย” ของคนไทยที่มีภาษาเป็นของตัวเองไม฽แข็ง แรง เอาเสียเลย โดยเฉพาะเด็กรุ฽นใหม฽ที่มักจะเขียนภาษาไทยกันอย฽างผิด ๆ แม฾แต฽บางคําที่ไม฽น฽าจะเขียนผิด แต฽เพราะความเคยชิน จึงทําให฾เขียนภาษาไทยผิด ซึ่ ง บางครั้ง เราอาจจะไม฽ไ ด฾ตั้ง ใจเขียนผิด แต฽เป็น เพราะพบเจอหรือ เห็นปูายประกาศตามสถานที่ต฽าง ๆ จนคุ฾นตา ทําให฾เราเข฾าใจว฽า คําดัง กล฽าวเขียน ถูกต฾อง นําไปสู฽การจดจําที่ผิดโดยไม฽รู฾ตัวนั่นเอง ผู฾เขียนจึงได฾หยิบยกตัวตัวอย฽างคําที่มักเขียนผิดโดยอาศัย การสังเกตจากร฾านค฾าหรือปูายประกาศต฽าง ๆ ทั้งในมหาวิทยาลัยเเละรอบ ๆ มหาวิทยาลัยมาเป็นตัวอย฽าง ดังต฽อไปนี้

เครื่องสําอางคแ เครื่องสําอาง✔

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๗๓


ราชภัฎ ราชภัฏ ✔

นะค฽ะ นะคะ✔

ผัดไท ผัดไทย ✔

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๗๔


ย฽อมเยาวแ ย฽อมเยา✔

เทศการ เทศกาล ✔

สาธารนะ สาธารณะ ✔

ในการเขียนรายงานหรือบทความต฽าง ๆ เราควรคํานึง ถึง การใช฾คําศัพทแเ ป็นสําคัญ รวมถึง การเขียนสะกดคําให฾ถูกต฾องตามหลักเกณฑแ เพราะคําบางคําเมื่อเขียนผิดอาจจะทําให฾ความหมายเปลี่ยนไปได฾ เช฽นกัน ดังนั้นควรตรวจสอบคําเขียนให฾ถูกต฾องทุกครั้ง

อ้างอิง ราชบัณฑิตยสถาน. (๒๕๕๖). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๕๖. กรุงเทพฯ : นามมีบุ฿คสแพับบลิเคชั่น. วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๗๕


ภาษาไทยน่ารู้ ฉัตฑริกา กิจผดุง

การปกครองในประเทศไทยแบ฽ ง การปกครองโดยแบ฽ ง ออกเป็ น ๔ ยุ ค สมั ย ด฾ ว ยกั น ได฾ แ ก฽ สมัยสุโขทัย สมัยอยุธยา สมัยกรุงธนบุรี และสมัยรัตนโกสินทรแ โดยสมัยสุโขทัยมีแนวคิดการปกครอง แบบพ฽อปกครองลูก สมัยอยุธยามีแนวคิดการปกครองแบบเทวราชา คือ ผู฾ปกครองแผ฽นดินเปรียบเสมือน เทวดา จนต฽ อ มาในสมัย รั ต นโกสิ นทรแ ปี พ.ศ.๒๔๗๕ ได฾ มี ก ารเปลี่ ย นแปลงจากการปกครองแบบ สมบูรณาญาสิทธิราชเป็นการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยแทรงเป็นประมุข ประเทศไทยปกครองโดยมีพระมหากษัตริยแทรงเป็นประมุขมีภาษาที่เป็นเอกลักษณแเป็นภาษา ประจํ า ชาติ ไ ทย โดยพ฽ อ ขุ น รามคํ า แหงมหาราชได฾ ท รงประดิ ษ ฐแ อั ก ษรไทยขึ้ น เมื่ อ ปี พ.ศ.๑๘๒๖ โดยดัดแปลงภาษามาจากภาษาบาลี -สันสกฤต ภาษาขอม และภาษามอญ และมีวิวัฒนาการมาจนถึง ปัจจุบัน ทั้งนี้ก฽อให฾เกิดระดับของภาษาที่มีแบบแผน การใช฾ภาษาที่เหมาะสมเรียกว฽า คําราชาศัพทแ ซึ่ง เป็นคําที่ใช฾ในพระมหากษัตริยแ พระบรมวงศานุวงศแ พระภิกษุ สงฆแ ตลอดจนข฾าราชการชั้นผู฾ใหญ฽ ดังตัวอย฽างต฽อไปนี้ คาราชาศัพท์สาหรับพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ คาศัพท์ ตาย

พระมหากษัตริย์ สวรรคต

พระบรมวงศานุวงศ์ สิ้นพระชนมแ

สั่ง

มีพระบรมราชโองการเหนือเกล฾า

มีพระราชบัญชาสั่ง

เกิด ลงชื่อ โอวาท

ทรงพระราชสมภพ พระปรมาภิไธย พระบรมราโชวาท

ประสูติ ลงพระนามาภิไธย พระราโชวาท

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๗๖


คาราชาศัพท์ทั่วไป คาศัพท์ หน฾า นิ้วมือ แก฾ม เงา คอ หลัง

คาราชาศัพท์ พระพักตรแ พระองคุลี พระปราง พระฉายา พระศอ,พระกัณฐา พระปฤษฎางคแ คาราชาศัพท์สาหรับพระภิกษุสงฆ์

คาศัพท์ คําพูดแทนตัวเอง คนทั่วไป ให฾ มอบให฾ อาหารเช฾า กิน ไหว฾ ห฽มจีวร ผ฾าห฽ม ผ฾าพาดบ฽า ผ฾านุ฽ง อาบน้ํา โกนผม นอน เงิน

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

พระภิกษุสงฆ์ อาตมา โยม ถวาย จังหัน ฉัน นมัสการ ครองจีวร ผ฾าจีวร สังฆาฏิ สบง สรงน้ํา ปลงผม จําวัตร ปัจจัย

หน้า ๗๗


คาราชาศัพท์สาหรับหมวดคาสุภาพ คาศัพท์ ผักบุ฾ง ผักกระเฉด ผักตบ ต฾นสลิด ดอกนมแมว ดอกยี่หุบ ถั่วงอก แตงโม ไส฾เดือน กล฾วยบวชชี

คาสุภาพ ผักทอดยอด ผักรู฾นอน ผักสามหาว ต฾นขจร ดอกถันวิฬารแ ดอกมณฑาขาว ถั่วเพาะ ผลอุลิด รากดิน นารีจําศีล

ดังนั้น คําราชาศัพทแถือเป็นคําที่เป็นเอกลักษณแอย฽างหนึ่งในภาษาไทย ที่บ฽งบอกถึงระดับบุคคล ซึ่งมีการใช฾กันมาอย฽างยาวนาน หลายยุค หลายสมัย ควรแก฽การสืบทอดต฽อไป

อ้างอิง คาราชาศัพท์. (๒๕๖๓). www.wikitionary.org. เข฾าถึงเมือ่ วันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๓. เรียนภาษาไทยน่ารู้กับครูปิยะฤกษ์. (๒๕๖๒). www.krupiyarerk.wordpress.com. เข฾าถึงเมื่อ วันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๓.

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๗๘


พาเที่ยว พาชม ของดีตามคาขวัญจังหวัดภูเก็ต / ชม เริน ย่า / อาโป๊งแม่สุณี ของดีเมืองภูเก็ต / ตามรอยได้แบบไม่เอ๊าต์ “๑๐ คาเฟ่ภูเก็ต” บรรยากาศน่านั่ง ถ่ายรูปปังทุกองศา

ชวนชิมชวนเที่ยว วานิสา คาวิจิตร

พาเที่ยว พาชม ของดีตามคาขวัญจังหวัดภูเก็ต

“ภู เก็ต” เป็ นจั งหวั ดหนึ่ งในภาคใต฾ ของประเทศไทย มี ลั กษณะเป็ นเกาะติ ดกับจั งหวั ดพั ง งา โดยเส฾นทางที่ใช฾ในการเดินทางเข฾าออกจะมีเพียงเส฾นทางเดียว คือ ข฾ามสะพานท฾าวเทพกระษัตรี ซึ่งเป็น สะพานคู฽ ขนานกั บสะพานสารสิ น ข฾ามช฽องปากพระระหว฽ างจั งหวั ดพั งงา กั บจั งหวั ดภู เก็ ต เพื่อเข฾ าสู฽ ตัวจังหวัดภูเก็ต

จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดหัวเมืองการท฽องเที่ยวของภาคใต฾ที่นักท฽องเที่ยวให฾ความสนใจ และ อยากแวะเวียนเข฾ามาเยี่ยมเยือน เพราะมีสถานที่ท฽องเที่ยวอั นสวยงาม อาหารการกินที่หลากหลาย อีกทั้งยัง เต็มไปด฾วยประวัติศาสตรแ วัฒนธรรมประเพณีอันงดงามที่บ฽งบอกถึงความเป็น เอกลักษณแของ เมืองเก฽าที่น฽าประทับใจ สิ่งเหล฽านั้นล฾วนเป็นของดีจังหวัดภูเก็ต และปรากฏในคําขวัญประจําจังหวัดว฽า “ไข่มุกอันดามัน สวรรค์เมืองใต้ หาดทรายสีทอง สองวีรสตรี บารมีหลวงพ่อแช่ม” จากความน฽าสนใจที่กล฽าวในข฾างต฾น บทความฉบับนี้จึง ได฾รวบรวมสิ่ง ต฽าง ๆ ตามคําขวัญ ของ จังหวัดภูเก็ต เพื่อพิสูจนแว฽าของดีที่มีในคําขวัญจังหวัดนั้นมีอยู฽จริง ? คําขวัญของจังหวัดภูเก็ตวรรคแรก คือ “ไข่มุกอันดามัน” ซึ่งอาจจะได฾มาจากการขนานนาม ของนักท฽องเที่ยวที่เข฾ามาเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต และอาจจะได฾มาเพราะว฽าจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อ วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๗๙


เรื่องไข฽มุก โดยที่ส฽วนมากเมื่อใครมาจังหวัดภูเก็ตก็มักจะหาซื้อมุก หรือสร฾อยมุกกลับไปเป็นของฝาก เพราะจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีทะเลล฾อมรอบ ดังนั้นจึงไม฽แปลกที่ จัง หวัดภูเก็ตจะมี สมบัติอันล้ําค฽า ทางทะเลอย฽างไข฽มุกอยู฽มากจนเป็นที่ขึ้นชื่อของจังหวัด

คําขวัญของจังหวัดภูเก็ตวรรคที่ ๒ คือ “สวรรค์เมืองใต้” ซึ่งแน฽นอนว฽าจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัด ในพื้นที่ภาคใต฾ฝั่งทะเลอันดามัน อันมีความงดงามของทรัพยากรธรรมชาติ และเป็นพื้นที่ที่มีการผสมผสาน เสน฽หแของวัฒนธรรมต฽าง ๆ มากมาย ทั้งด฾านสถาปัตยกรรม วิถีชีวิต และอาหารหลากหลายประเภท

คําขวัญของจังหวัดภูเก็ตวรรคที่ ๓ คือ “หาดทรายสีทอง” เมื่อจังหวัดภูเก็ตรายล฾อมไปด฾วย ทะเล ดัง นั้นจึงมีสถานที่ท฽องเที่ยวประเภทหาดทรายอยู฽หลายแห฽ง โดยหาดทรายแต฽ละแห฽ง ก็ล฾วนมี ความสวยงามแตกต฽างกัน เช฽น หาดปุาตอง หาดไม฾ขาว หาดกะรน หาดทรายแก฾ว เป็นต฾น หาดทราย เหล฽านี้เมื่อต฾องกับแสงอาทิตยแทั้งในยามเช฾าและยาวเย็นก็จะมองเห็นเป็นหาดทรายสีทองสวยสดงดงาม คําขวัญของจังหวัดภูเก็ตวรรคที่ ๔ คือ “สองวีรสตรี” ในวรรคนี้ เป็นการกล฽าวถึงประวัติศาสตรแ ของจังหวัดภูเก็ตที่มี ๒ วีรสตรี คือ ท฾าวเทพกระษัตรี และท฾าวศรีสุนทร หรือย฽าจัน และย฽ามุก ที่ช฽วย ปกปูองบ฾านเมืองในคราวศึกสงคราม ๙ ทัพ จนสามารถเอาชนะกองทัพของพม฽าที่ต฾องการเข฾ายึดเมืองได฾ ซึ่งจังหวัดภูเก็ตได฾จัดสร฾างอนุสาวรียแ “ท฾าวเทพกระษัตรี ท฾าวศรีสุนทร” ตั้งอยู฽กลางวงเวียนสี่แยกท฽าเรือ เพื่อแสดงออกถึงความยกย฽องและศรัทธา รวมถึงเปิดโอกาสให฾ผู฾คนที่มาเยือนได฾กราบไหว฾ “ย฽าจันย฽ามุก” ด฾วย

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๘๐


ส฽วนคําขวัญของจังหวัดภูเก็ตวรรคสุดท฾ายนั้นก็คือ “บารมีหลวงพ่อแช่ม” ซึ่งหลวงพ฽อแช฽มนั้น เป็นที่เคารพบูชาของคนจังหวัดภูเก็ตมาช฾านาน ตั้งแต฽เมื่อครั้งในปีพุทธศักราช ๒๔๑๙ สมัยราชการที่ ๕ ชาวอั้งยี่ในจังหวัดภูเก็ตได฾ก฽อเหตุวุ฽นวายหวังเข฾ายึดปกครองจังหวัดเป็นของตนเองชาวอั้งยี่ก฽อเหตุวุ฽นวาย หนั ก ขึ้น เรื่ อย ๆ โดยเฉพาะในตํา บลฉลอง จนทางราชการในสมัย นั้ น ไม฽ อ าจปราบปรามให฾ สงบได฾ จนชาวบ฾านตําบลฉลองหลบหนี เข฾าปุา เข฾าวัด ทิ้งบ฾านเรือนปล฽อยให฾ชาวอั้งยี่เผา จนเกิดเป็นชื่อเรียกว฽า “หมู่บ้านไฟไหม้ ” ในส฽วนของชาวบ฾ านที่หลบหนีเข฾าวัดได฾นําข฽าวไปบอกกล฽าวแก฽หลวงพ฽อแช฽มเพื่อ นิมนตแหลวงพ฽อแช฽มหลบหนีไปด฾วยกัน แต฽กลับได฾คําปฏิเสธจากหลวงพ฽อแช฽ม โดยที่ ท฽านนั้นให฾เหตุผลว฽า ท฽านอยู฽ที่วัดนี้ตั้งแต฽เป็นเด็กจนกระทั่งบวชเป็นพระ และได฾เป็นเจ฾าวัดแล฾วจะให฾ท฽านนั้นหนีทิ้งวัดไปได฾ อย฽างไร ในเมื่อท฽านไม฽หนีชาวบ฾านก็ไม฽หนี ชาวบ฾านได฾มีขวัญ กําลัง ใจกลับมาอีกครั้งจากคําพูดและผ฾า ประเจียดจากหลวงพ฽อแช฽มไว฾เพื่อปูองกันตัว เมื่อชาวอั้งยี่บุกทัพเข฾ามาถึงในวัดก็เจอกับชาวบ฾านที่พร฾อมสู฾ เพื่อปกปูองพี่น฾องและบ฾านเมืองของตน จนชาวอั้ง ยี่พ฽ายให฾แก฽ชาวบ฾านโดยที่ชาวบ฾านไม฽มีใครบาดเจ็บ จากการสู฾ รบเลยซึ่ง ชาวบ฾านต฽ างเชื่อว฽า เป็นเพราะผ฾าประเจียดของหลวงพ฽อแช฽ มที่ทําให฾แ คล฾วคลาด ปลอดภัยจากชาวอั้งยี่ จนท฽านนั้นเป็นที่เคารพบูชาและเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวบ฾านในยุคนั้น จนมาถึงยุคปัจจุบันนี้ที่เคารพท฽านอย฽างเลื่อมใสจากใจแท฾

ดังนั้น สิ่งที่ปรากฏในคําขวัญของจังหวัดภูเก็ตนั้นล฾วนแต฽เป็นสิ่งที่ปรากฏให฾อย฽างชัดเจน และมี ความเป็นมาที่น฽าสนใจ โดยมีทั้ง สิ่ง ที่ม นุษ ยแส ร฾า งและสิ่ง ที่ธ รรมชาติส ร฾า ง ซึ่ง ทั้ง หมดล฾ว นแสดงถึง ความเชื่อ การเคารพสักการะ และความภาคภูมิใจที่ลูกหลานชาวภูเก็ตมีต฽อจังหวัดของตนเอง อีกทั้ง ยังคงรักษาไว฾ให฾คงอยู฽สืบต฽อกันมา จังหวัดภูเก็ตจึงถือเป็นจัง หวัดหนึ่ง ที่เปรียบเสมือนเกาะสวรรคแ ที่มี ความอุดมสมบูรณแครบครันที่ควรค฽าต฽อการเยี่ยมเยือน วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๘๑


ชม เริน ย่า ฉัตฑริกา กิจผดุง

การทาสงครามระหว่างไทยกับพม่า มีมาอย฽างช฾านานหลายยุคหลายสมัย ตั้งแต฽กรุงศรีอยุธยา จนถึงกรุงรัตนโกสินทรแ ในสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟูาจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ได฾เกิดสงครามเก฾าทัพ ระหว฽างไทยกับพม฽า ก฽อให฾เกิดวีรสตรีชื่อดังแห฽งเมืองถลาง คือ ท฾าวเทพกระษัตรีและท฾าวศรีสุนทร หรือ ที่รู฾จักในนามย฽าจันย฽ามุก สองพี่น฾องผู฾กล฾าหาญและเสียสละต฽อแผ฽นดิน

ทางเทศบาลตาบลเทพกระษัตรี จึงมีความประสงคแที่จะสร฾างบ฾านจําลองท฾าวเทพกระษัตรี ท฾าวศรีสุนทร หรือย฽าจันย฽ามุก เพื่อประจักษแถึงคุณงามความดีของย฽าจันย฽ามุกที่ครั้งหนึ่งเคยปกปูองเมือง ถลางจากข฾าศึกที่มารุกราน อีกทั้งยังเป็นแหล฽งเรียนรู฾เชิงประวัติศาสตรแและวัฒนธรรม ซึ่งมีนายบุญส฽ง เชื้อนาคา และ ด.ต.ลาภ เชื้อนาคา ได฾อุทิศที่ดินในการสร฾างบ฾านจําลองแห฽งนี้ ต฽อมามีการพบในภายหลังว฽า แต฽เดิมที่ตรงนี้เป็นจวน (บ฾าน) ของจอมรั้งบ฾านเคียน ผู฾รั้งเมืองถลางในสมัยสมเด็จพระเจ฾าอยู฽หัวบรมโกศ ซึ่งก฽อนหน฾านี้เดิมบ฾านจําลองท฾าวเทพกระษัตรี-ท฾าวศรีสุนทร เป็นแค฽ศาลขนาดเล็ก ทางเทศบาลตําบลเทพ กระษัตรีจึงได฾สร฾างบ฾านจําลองท฾าวเทพกระษัตรี - ท฾าวศรีสุนทรหลังปัจจุบัน โดยตั้งอยู฽ที่ ม.๑ ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๘๒


ลักษณะการสร฾างบ฾านจําลองมีลักษณะเป็นบ฾านไม฾เรือนไทยในภาคใต฾ โดยเป็นบ฾านไม฾ชั้นเดียว มีใต฾ถุนบ฾าน ข฾างในมีประติมากรรมท฾าวเทพกระษัตรี -ท฾าวศรีสุนทร ซึ่ง เป็นรูปหล฽อในอากัปกิริยาท฽านั่ง มีสิ่งของเครื่องใช฾ต฽าง ๆ ที่สะท฾อนให฾เห็นถึงอดีตและวิถีชีวิตในยุคสมัยนั้น โดยสามารถดึงดูดให฾ใครหลายคน รู฾สึกเสมือนว฽าได฾ย฾อนไปในอดีตและอาศัยอยู฽ในบ฾านหลังนี้ด฾วย

บรรยากาศภายในบ้ า นเย็ น สงบ เนื่ อ งจากมี อ ากาศถ฽ า ยเทได฾ ส ะดวก ทํ า ให฾ มี ล มพั ด อยู฽ ตลอดเวลา แม฾ว฽าอากาศภายนอกจะร฾อน แต฽เมื่อเข฾าในตัวบ฾านแล฾วจะรู฾สึกเย็นสบาย

เวลาการเข฾าชม เปิดทุกวัน เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๗.๐๐ น.

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๘๓


อาโป๊งแม่สณ ุ ี ของดีเมืองภูเก็ต ไซนูญ โต๊ะมิ๊

อาโป๊งเป็นขนมโบราณของชาวภูเก็ต ที่ได฾รับอิทธิพลจากประเทศมาเลเซีย แถบปีนัง อาโปฺงเป็น ขนมที่ขึ้นชื่อ และคุ฾นเคยกันของชาวภูเก็ต ผู฾คนได฾รู฾จักขนมโบราณภูเก็ต เพราะปัจจุบันมีร฾านค฾าต฽าง ๆ ได฾เปิดกิจการขายขนมอาโปฺงเป็นจํานวนมาก แต฽ถ฾าพูดถึงร฾านอาโปฺงเจ฾าเด็ด ต฾องไม฽พลาดร฾านอาโปฺงแม฽สุณี

บรรยากาศหน้าร้านอาโป๊ง แม่สุณี วันนี้ดิฉันได฾มีโอกาสพูดคุยกับพี่เปิ้ล และพี่ปุ฻ย เจ฾าของกิจการขายขนมอาโปฺง ทั้ง สองเล฽าถึง แรงบันดาลใจในการเปิดกิจการร฾านขนมโบราณแห฽ง นี้ว฽า “เมื่อก฽อนขนมอาโปฺ ง ไม฽ค฽อยมีคนพูดถึง ” เหตุผลนี้เป็นจุดประกายหลักที่ทําให฾ทั้งสองเริ่มคิดเปิดกิจการขายขนมอาโปฺง เพราะต฾องการให฾ผู฾คนได฾ รู฾จักขนมโบราณของชาวภูเก็ตมากขึ้น ซึ่งแรกเริ่มกิจการยังขายไม฽ค฽อยได฾ บางวันแปูงเหลือก็ต฾องเททิ้ง เพราะทั้งสองท฽านเน฾นขนมที่ต฾องมีความสดใหม฽ทุกวัน แต฽เมื่อผ฽านไปสักระยะ กิจการก็เริ่มดีขึ้น ขนมขายได฾ มากขึ้น มีผู฾คนให฾ความสนใจจนกลายเป็นลูกค฾าประจํา และขายดีเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยพี่ปุ฻ยบอกว฽า “บางครั้งก็มีลูกค฾ามาต฽อคิวยาว รอถึง ๒ ชั่วโมง”

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๘๔


นอกจากนี้พี่ปุ฻ย ได฾เผยอีกว฽า สูตรขนมอาโปฺงที่นํามาขายนั้นเป็นสูตรเด็ดจากคุณแม฽ของพี่ปุ฻ยเอง ชื่อ “แม฽สุณี” ซึ่งเป็นสูตรลับที่มีมากกว฽า ๕๐ ปี โดยแรกเริ่มแม฽สุณีได฾รับจ฾างทอดขนมจนได฾สูตรขนมอาโปฺง จากนั้นก็นํามาปรับเป็นสูตรของตนเอง แล฾วถ฽ายทอดสู฽รุ฽นลูก ซึ่งพี่ปุ฻ยเป็นผู฾รับถ฽ายทอดสูตรขนมดังกล฽าว และนํามาทําขายในปัจจุบันโดยไม฽มีการปรุงแต฽ง ไม฽ใส฽ผงฟู ใช฾วิธีการทําแบบโบราณตามสูตรดั้งเดิมแท฾ สําหรับส฽วนประกอบหลักที่สําคัญที่ใช฾ในการทําขนมอาโปฺง คือ แปูงข฾าวเจ฾า และน้ํากะทิเข฾มข฾น ซึ่งร฾านอาโปฺงแม฽สุณีจะทําสดใหม฽ทุกวัน เพื่อต฾องการให฾ขนมมีคุณภาพ ลูกค฾าทานแล฾วรู฾ สึกประทับใจ โดยขนมจะย฽างบนกระทะที่ก฽อไฟด฾วยเตาถ฽าน พอแปูงสุกก็นําขนมมาม฾วนลักษณะคล฾ายขนมทองม฾วน รสชาติของขนมมีความหอมหวาน เนื้อสัมผัสแปูงมีความกรอบนอกนุ฽มใน และได฾กลิ่นกะทิเข฾มข฾น

อาโป๊งขนมพื้นเมืองโบราณของชาวภูเก็ต ปัจจุบันผู฾คนรู฾จักกันอย฽างแพร฽หลาย และเป็นขนม พื้นเมืองที่มีเอกลักษณแอย฽างโดดเด฽น ร฾านอาโปฺง แม฽สุณีอีกเจ฾าที่โด฽งดัง และเปิดขายมานานกว฽า ๑๙ ปี ตั้งอยู฽ย฽านเมืองเก฽า ในซอยสุ฽นอุทิศ ซึ่งร฾านเปิดขายตั้งแต฽ ๙ โมงเช฾า และปิดบ฽าย ๒ หรือถ฾ามีคิวยาวหน฽อย ก็ปิด ๔ โมงเย็น เรียกว฽าหากใครแวะเมืองภูเก็ตต฾องลองหาโอกาสมาลองชิมขนมอาโปฺงแม฽สุณี ร฾านอาโปฺง เจ฾าเด็ดคู฽ใจชาวภูเก็ตมาอย฽างยาวนาน

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๘๕


ตามรอยได้แบบไม่เอ๊าต์ “๑๐ คาเฟ่ภูเก็ต” บรรยากาศน่านั่ง ถ่ายรูปปังทุกองศา ประสุตา ส่งเสริม

เมื่อพูดถึงภูเก็ต สิ่งที่ทุกคนนึกถึงคงจะเป็นทะเลแน฽นอน แต฽ภูเก็ตนั้นไม฽ได฾มีดีแค฽ทะเล เราจะพา ทุกคนไปเปลี่ยนบรรยากาศ นั่งจิบกาแฟชิล ๆ และทานขนม ช฽วยเพิ่มความผ฽ อนคลาย สบายทั้งกายใจ ไปกับบรรยากาศแสนสงบสุข และร฽มรื่น หรือจะหยิบกล฾องตัวโปรดมาขึ้นมาถ฽ายเซลฟี่ ตามสไตลแของ แต฽ละคน หากใครกําลังเบื่อ ๆ อยากหาแรงบรรดาลใจในการทํางาน หรือ Restart พลังชีวิตตัวเอง รับรองว฽าไปนั่งแล฾วจะต฾องปิ๊งไอเดียดี ๆ แน฽นอน ตามรอยได฾แบบไม฽เอ฿ าตแ “๑๐ คาเฟุภูเก็ต” บรรยากาศน฽านั่ง ถ฽ายรูปปัง ทุกองศา แต฽ละร฾าน ที่รวบรวมมาอาจจะทําให฾วันพิเศษของเพื่อน ๆ หรือคนที่สนใจ ฟินยิ่งขึ้นได฾ แต฽จะมีร฾านไหนโดนใจกันบ฾าง ตามไปปักหมุดกันได฾เลย ๑. Cafe Kantary (คาเฟา แคนทารี) ร฾านนั่งชิล บรรยากาศดี ร฽มรื่นเต็มไปด฾วยต฾นไม฾มองออกไป เห็นวิวทะเล และพระอาทิตยแตกในตอนเย็น แถมที่นั่งก็เยอะมีหลายโซน ถ฽ายรูปมุมไหนก็สวยแน฽นอน พิกัด : ตั้งอยู฽ที่ ๓๑/๑๑ ม.๘ ถ.ศักดิเดช (ทางไปอ฽าวมะขาม ก฽อนถึงพิพิธภัณฑแสัตวแน้ํา) อ.เมือง จ.ภูเก็ต เปิดบริการทุกวัน ๐๘.๐๐ – ๒๓.๐๐ น.

๒. Refresh. tropicalcafe เป็นร฾านที่บรรยากาศการตกแต฽งที่เต็มไปด฾วยต฾นไม฾ ดอกไม฾ และสระน้ํา เล็ก ๆ ให฾เราได฾ถ฽ายรูปเกเ ๆ มีทั้งน้ําผลไม฾ปั่น กาแฟ และอีกมากมาย ที่รับรองดื่มแล฾วเฟรชกลับไปแน฽นอน พิกัด : ตั้งอยู฽ที่ ๒/๒๓ limelight avenue phuket ตลาดใหญ฽ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต เปิดบริการทุกวัน ๑๐.๐๐ – ๑๙.๓๐ น.

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๘๖


๓. SEA CALM Cafe&Bistro คาเฟุเล็ก ๆ น฽ารัก ๆ เหมาะสําหรับแวะมานั่งพักผ฽อนชิล ๆ ด฾านนอก ตกแต฽งเป็นสวนน฾อย ๆ สไตลแอังกฤษมีต฾นไม฾ให฾ความร฽มรื่น สามารถถ฽ายรูปได฾ยาว ๆ เลย พิกัด : ตั้งอยู฽ที่ทางหลวงชนบทภูเก็ ต ๔๐๒๗ (ร฾านอยู฽ซอยในยาง ๑๖ เข฾าซอยมา ๔๐๐ เมตร อยู฽ทางซ฾ายมือ ใกล฾สนามบินภูเก็ต) ต.ไม฾ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เปิดบริการทุกวัน ๐๙.๐๐ – ๒๑.๐๐ น.

๔. Simply ‘ism คาเฟุภูเก็ตบรรยากาศดี ร฾านอยู฽ท฽ามกลางต฾นไม฾ใหญ฽ที่รู฾สึกใกล฾ชิดธรรมชาติ ตัวร฾านตกแต฽งเน฾นโทนขาว ให฾ความรู฾สึกอบอุ฽นผ฽อนคลาย และไม฽ว฽าจะถ฽ายรูปมุมไหนของร฾านก็ออกมาปัง แน฽นอน พิกัด : ตั้งอยู฽ที่ soi namtokkathu, Kathu (๑๐๐เมตรก฽อนถึงน้ําตกกะทู฾ อยู฽ขวามือ ทางเข฾า เดียวกับเฮิรแบอบสมุนไพร) ต.กะทู฾ อ.กะทู฾ จ.ภูเก็ต เวลาเปิดบริการ จันทรแ – อังคาร ๐๙.๐๐ - ๑๙.๐๐ น. พฤหัสบดี - อาทิตยแ : ๐๙.๐๐ - ๑๙.๐๐ น.

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๘๗


๕. Isara boutique hotel&cafe เป็นร฾านคาเฟุที่น฽ารักกึ่งโฮเทลโทนชมพูเขียว สวยหวานเกเไกเ ผสมผสานสไตลแเปอรานากันกับยุค ๘๐ อย฽างลงตัวตกแต฽งร฾านสวยทุกโซน พิกัด : (ร฾านอยู฽ตรงข฾ามศูนยแไตเทียม) ถ.กระบี่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เปิดบริการทุกวัน ๑๐.๓๐ - ๑๙.๓๐ น.

๖. Ma Doo Bua (มา ดู บัว) จุดขายที่นี่ก็คือสระบัวกระด฾งสวยงาม เหมาะที่จะมาถ฽ายรูป ดูบัว กระด฾ง เพราะจะหาดูได฾ยาก แถมยังนั่งชิล ๆ ชมบรรยากาศ ทานอาหารที่เป็นอาหารพื้นเมืองของภูเก็ตอีกด฾วย พิกัด : ๓๑๐/๕๑ ม.๑ (อยู฽ในโรงแรมแอทพันตาภูเก็ต) อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เปิดบริการทุกวัน ๑๐.๐๐ - ๒๒.๐๐ น.

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๘๘


๗. Good cafe เป็นร฾านคาเฟุที่แอบอยู฽ในซอยเล็ก ๆ แต฽คนเยอะมาก เป็นร฾านที่เหมาะกับมานั่ง ทํางาน อ฽านหนังสือหรือผ฽อนคลาย เบเกอรี่เยอะมาก ถ฽ายรูปมุมไหนก็ดูชิคสุด ๆ พิกัด : ซอยศรีสุชาติ ๑๓ อ.เมือง จ. ภูเก็ต เปิดบริการทุกวัน ๐๘.๐๐ - ๑๗.๐๐ น.

๘. Ngor Kah Kee (หงอคาขี่) เป็นคาเฟุเล็ก ๆ เหมาะสําหรับคนที่รักการถ฽ายรูป ใครอยากได฾ มุมสวย วินเทจหน฽อย ๆ ต฾องมาที่นี่เลย พิกัด : ๑๑๗ ถ.ถลาง อ.เมือง จ.ภูเก็ต เปิดบริการทุกวัน ๐๘.๐๐ - ๒๐.๐๐ น.

๙. Tin&Tonic cafe and bistro เป็นร฾านลับในย฽านเมืองเก฽า ที่ภายในร฾านตกแต฽งสไตลแอินดัช เตรี ย ลลอฟ มี แ ค฽ สี ดํ า กั บ สี เ หลื อ ง จะดู เ ท฽ ๆ มี ส ไตลแ ที่ ไ ม฽ ว฽ า จะถ฽ า ยรู ป มุ ม ไหนรู ป ก็ จ ะดู เ ท฽ แ น฽ น อน พิกัด : ถ.ดีบุก อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต (ร฾านอยู฽ในโครงการ ChimJae walking street ชั้น ๒ อยู฽ฝั่งถนนดีบุก) เปิดบริการทุกวัน ๐๙.๐๐ - ๑๘.๐๐ น.

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๘๙


๑๐. The feelsion Cafe ฟีลฉัน เป็นร฾านที่มีความฟีลชั่นผสมผสานหลาย ๆ อย฽างได฾อย฽างลงตัว บรรยากาศ อาหาร เครื่องดื่ม มุมถ฽ายรูปเยอะ ตกแต฽งร฾านได฾สวยงาม พิกัด : ถ.ภูเก็ต (อยู฽หลังร฾านนายเหมือง บางเหนียว ทางไปสะพานหิน) เปิดบริการทุกวัน จันทรแ – พฤหัสบดี ๑๐.๐๐ - ๒๒.๐๐ น. ศุกรแ – อาทิตยแ ๑๐.๐๐ - ๒๓.๕๙ น.

นี่ก็คือ ๑๐ คาเฟุภูเก็ต ที่บรรยากาศน฽านั่ง ถ฽ายรูปมุมไหนก็ปังทุกองศา ที่ใครหลายคนต฽างให฾ ความสนใจ โดยการถ฽ายรูปในคาเฟุนี้ ทั้งได฾รูปที่สวยงาม ยังได฾นั่งพักผ฽อน นั่งทํางาน นั่งเล฽นชิล ๆ และ ได฾ทานขนม เครื่องดื่มที่อร฽อยอีกด฾วย

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๙๐


คลื่นชีวิต / เจ็บช้ารัก / ความสาเร็จ / ภาพจา / รักของสองเรา / เพลินพนา / อรัญญิก / อักษรสามหมู่

เจ้าบทเจ้ากลอน

คลื่นชีวิต

กลิ่นไออุ฽นกรุน฽ อวล แสงบุหลันส฽องกระทบ ระยิบยับเวหา เอนพลิ้วไหวทิวสน สูงกลางหาวไกลโพ฾น น฽าเคว฾งคว฾างตังเก ยามค่ําคืนอุปสรรค

ทั้งหมู฽มวลมืดมิด เงียบสงบโชยหนาว ฝูงบินหลาล฾อคลื่น ได฾ยินยลจิตชื่น ดูอ฽อนโยนวาววับ กลางทะเลลอยล฽อง ไม฽ยากนักมุ฽งมัน่

ลมเปลี่ยนทิศแปรผัน ดาวพร฽างพราวประดับ แผ฽นทรายผืนกว฾างใหญ฽ อยากเอื้อมยื่นหยิบดาว อนันตแนับอ฾างว฾าง เจ฾าจักต฾องฝุาคลื่น แม฾เงียบงันไร฾แสง (นี้แฮ) สิริยากร ราโชกาญจน์

เจ็บช้ารัก

ฉันนั่งเหม฽อมองฟูาคราใจเหงา เหลือเพียงแค฽ร฽องรอยเป็นตํานาน ในใจหม฽นมัวหมองระทมเศร฾า เคยร฽วมสุขร฽วมทุกขแใครหนอทํา จากวันนั้นจนวันนี้ไม฽มีแล฾ว เราคลาดแคล฾วพลัดพรากจากกันไกล

ย฾อนวันเก฽าที่เพิ่งจะพ฾นผ฽าน ไว฾เล฽าขานย้ําเตือนความทรงจํา นึกถึงเขาคนเคยเคียงทุกเช฾าค่ํา ต฾องเจ็บช้ํารวดร฾าวพาเศร฾าใจ นวลน฾องแก฾วที่เคยรักเคยชิดใกล฾ ช้ําฤทัยช้ํารักอกหักเอย คณะสาวสยาม

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๙๑


ความสาเร็จ

เพิ่มพูนความรู฾ ต฾องตั้งใจมั่น

วันนี้มาเรียน เติมเต็มเนื้อหา ลองถูกลองผิด ทําตามขั้นตอน

ฝึกหัดฝึกเขียน ส฽งเสริมปัญญา ฝึกค฾นฝึกคิด อย฽าด฽วนรีบร฾อน

พากเพียรวิชา ทุกคํากล฽าวสอน ด฾วยตัวเองก฽อน สําเร็จแน฽เอย ชุตินันท์ ไพชานาญ

ภาพจา

แสงจันทรแอร฽ามตา สีสันระยับพราว เหม฽อมองนภากว฾าง ภาพจําก็ตรึงใจ ถึงครานภาซ฾อน อาทิตยแจะเบิกฟูา มองเห็นพนมเนิน อีกสายละหลั่งริน เมฆขาวกระจ฽างไซร฾ แสงทองสว฽างกาล สายลมระลิ่วรื่น ปักษาก็บินไป

พสุธาสว฽างวาว จะเพราะดาวสกาวไกล สิบ฽สางบ฽จางไป ศิวิไลซแเจริญตา ศศิธรคล฾อยลับลา สกุณาจะโบยบิน ฐิติเกินจะปีนสิ้น ดุจะแสนพิสุทธแใส ประโลมใจให฾เบิกบาน ชลธารอุ฽นอวลใจ ประดุจมื่นชื่นหลั่งไหล ณ พงไพรทั่วธาตรี จิราภรณ์ และคณะ

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๙๒


รักของสองเรา

ยามใดใจอ฽อนล฾า ยามหม฽นหมองสับสน ใจน฾องสุดอับจน ตัวพี่กล฽าวคําง฾อ ฟังน฾องฟังพี่แจ฾ง รักเจ็บช้ําทรวงใน แก฾วตาอย฽าอาลัย จิตพี่ให฾ขวัญแก฾ว

เกินทน พี่เอย ทดท฾อ หดหู฽ ยิ่งแล เชื่อได฾เยี่ยงใด จับใจ ยิ่งแล฾ว ผูกเจ็บ อยู฽แฮ ชั่วฟูาธาตรี ศรัณย์ และคณะ

เพลินพนา

ยามดั่งตะวันส฽อง มีภาณุเจิดแจ฾ง มองเห็นพะยอมจันทรแ สวยสดกระดังงา ผืนปุาพนาลี แท฾ธรรมชาตินั้น แสงทอง ณ ขอบฟูา แสงอ฽อนจะริบหรี่

รวิทองประกายแสง สุริเปล฽งจะนําพา มะลิวัลยแประดับตา ณ พนาผกาพลัน ชุขจีก็มากพันธแ พิศพรรณสภาพดี สกุณาระพงพี บ฽มิช฾าก็จากไป นาดีญา และคณะ

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๙๓


อรัญญิก

พงไพรมหันตแยิ่ง คงคาบ฽ต฾องยล บรรพตตระการโข วาโยก็โชยกัน โสภณนภาใส ชีวาจะไม฽สิ้น ไพรวันก็บรรเจิด พงพีจะเฉิดฉาย

ก็เพราะมิ่งธราดล ปทุมาก็บานทัน ดรุโผล฽สลับพลัน สกุณาถลาบิน หฤทัยก็ยลยิน รพสู฾มิทําลาย ชุติเกิดฤดีง฽าย สุริยานําพาไป ปฏิวัติ และคณะ

อักษรสามหมู่

ดัดแปลงทํานองเพลง : ขอใจเธอแลกเบอรแโทร ศิลปิน : หญิงลี ศรีจุมพล แวบเดียวแค฽ดู อยากบอกเหลือเกินว฽ามันจําง฽ายแค฽ไหน อักษรกลางนั้น ไก฽จิกเด็กตาย บนปากโอ฽งเธอนะ อักษรอื่น ก็ยังมีอีกหลากหลาย อักษรต่ํา ก็ยังมีทั้งเดี่ยวและคู฽ งูใหญ฽นอน อยู฽ ณ ริมวัดโมฬีโลกจําไว฾หนา คือพ฽อค฾าฟันทองนั้นซื้อช฾างฮ฽อ และมีอีกหมู฽ อักษรสูงนั้น มีสิบเอ็ดตัวรู฾ไหม

อักษรสามหมู฽มันเป็นยังไงรูไ฾ หม อย฽าคิดมากไปถ฾าไม฽เข฾าใจไม฽พรือ จงจําให฾มั่นว฽ามี ๙ ตัว นะเออ จําไว฾เสมอ จะได฾เข฾าใจเนื้อหา แบบ แบบ แบบ ว฽าให฾จํา เธอรู฾ไหมอักษรเดี่ยวมันยังมีตงั้ อีกสิบตัว อีกสิบสี่ตัวนั้นก็คืออักษรต่ําควรรักษา ท฽องจําไว฾ โอ฿ะ โอ฿ะ โอย อยากให฾เธอรู฾คืออักษรสูงนั่นไง มีผีฝากถุงข฾าวสารเอาไว฾ให฾ฉัน สิริยากร และคณะ

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๙๔


เกร็ดความรู้ คู่ภาษาไทย : คาเรียกฤดูกาล / สารพันอาหารพื้นบ้าน เมนูสุขภาพของดีบ้านเรา / ทางเลือกสาหรับคนรักสุขภาพ / เผยผิวสวย คลายกังวลเรื่องรอยแผลเป็น

เกร็ดความรู้ ปภัศรา คีรีพันธุ์

เกร็ดความรู้ คู่ภาษาไทย : คาเรียกฤดูกาล

คํ า เรี ย กขานฤดู ก าลที่ เ ราเลื อ กใช฾ ส฽ ว นใหญ฽ คื อ คํ า ว฽ า ฤดู ร฾ อ น ฤดู ฝ น ฤดู ห นาว เท฽ า นั้ น แต฽ สํ า หรับ ภาษาไทยเรานั้น มี ชื่ อ เรี ย กฤดู กาลที่ ไ พเราะมากกว฽ า คํ า เหล฽ า นั้ น ดั ง นั้ นเพื่ อ ความเข฾ า ใจ ในภาษาไทยมากยิ่งขึ้น คอลัมนแเกร็ดความรู฾ในฉบับนี้จึงขอนําเสนอเรื่องราวคําเรียกฤดูกาลในภาษาไทย คํ า ว฽ า ฤดู ก าล เป็ น คํ า เรี ย กช฽ ว งเวลาในแต฽ ล ะปี ที่ แ บ฽ ง ตามสภาพอากาศที่ เ ปลี่ ย นแปลงไป โดยเกิดขึ้นจากการที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตยแ จึงทําให฾ในแต฽ละช฽วงของปี แต฽ละบริเวณจะได฾รับแสงแดด ไม฽ เท฽ ากั น ทํา ให฾ มีอุ ณหภูมิ ต฽า งกั น และเกิด เป็ นฤดูก าลต฽า ง ๆ ขึ้น ในที่ นี้ข อยกตั วอย฽า งการแบ฽ ง ฤดู ในประเทศอินเดียว฽ามีความแตกต฽างจากประเทศไทยอย฽างไร ฤดูในประเทศอินเดียมีความแตกต฽างจากการแบ฽ง ฤดูกาลในประเทศไทย เนื่องจากลักษณะ ภูมิอากาศไม฽เหมือนกัน ฤดูกาลในประเทศอินเดียแบ฽งออกเป็น ๒ แบบ คือ แบบแรกเป็นการแบ฽งฤดู ตามลักษณะภูมิอากาศของประเทศอินเดียทางภาคตะวันออกและภาคใต฾ แบ฽งได฾เป็น ๓ ฤดู ฤดูละ ๔ เดือน ได฾แก฽ ๑. เหมนฺต (เหมันตแ) = ฤดูหนาว ๒. คิมฺหาน (คิมหันตแ) = ฤดูร฾อน ๓. วสฺสาน (วัสสานะ) = ฤดูฝน ส฽วนแบบที่ ๒ เป็นการแบ฽งฤดูตามลักษณะภูมิอากาศของประเทศอินเดียทางภาคเหนือ แบ฽ง ได฾เป็น ๖ ฤดู ฤดูละ ๒ เดือน ได฾แก฽ ๑. เหมนฺต (เหมันตแ) = ฤดูหนาว ๒. สิสิร (สิสิระ) = ฤดูหมอกหรือน้ําค฾าง ๓. วสนฺต (วสันตแ) = ฤดูใบไม฾ผลิ ๔. คิมฺหาน (คิมหันตแ) = ฤดูร฾ อน ๕. วสฺสาน (วัส สานะ) = ฤดูฝ น ๖. สรท (สารท) = ฤดูใบไม฾ร฽วง สําหรับประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู฽ใกล฾เส฾นศูนยแสูตรและเป็นประเทศในเขตร฾อน ทําให฾ลักษณะของ ภู มิ อ ากาศในประเทศมี เ พี ย ง ๓ ฤดู คื อ ฤดู ร฾ อ น (คิ ม หั น ตฤดู ) ฤดู ฝ น (วั ส สานฤดู ) และฤดู ห นาว (เหมันตฤดู) ด฾วยเหตุนี้หากสังเกตจะพบว฽า คําเรียกฤดูกาลจะมีทั้ง สิ้น ๖ ฤดู โดยคําที่ใช฾ในภาษาไทย รับเอามาจากภาษาบาลี - สันสกฤต มีคําอ฽านดังต฽อไปนี้ วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๙๕


เหมันตฤดู สิสิรฤดู วสันตฤดู คิมหันตฤดู วัสสานฤดู สารทฤดู

อ฽านว฽า อ฽านว฽า อ฽านว฽า อ฽านว฽า อ฽านว฽า อ฽านว฽า

เห – มัน – ตะ – รึ - ดู สิ – สิ – ระ – รึ - ดู วะ – สัน – ตะ – รึ - ดู คิม – หัน – ตะ – รึ - ดู วัด – สา – นะ – รึ - ดู สา – ระ – ทะ – รึ - ดู

ข฾อสังเกตที่น฽าสนใจอีกประการหนึ่ง คือ หลายคนมักเข฾าใจว฽าคําว฽า “วสันตฤดู” หมายถึง ฤดูฝน ซึ่งแท฾จริง แล฾วไม฽ใช฽ “วสันตแ” เป็นคําบาลี และสันสกฤต หมายถึง ฤดูใบไม฾ผลิ ส฽วน “วัสสานะ” เป็น คําบาลี ตรงกับคําสัน สกฤตว฽า “วรรษ” (อ฽า นว฽า วัด หรือ วัด -สะ) แล฾วไทยแผลงตัว ว เป็นตัว พ กลายเป็น “พรรษ” (หรือ “พรรษา”) หมายถึง ฤดูฝน เพราะฉะนั้นฤดูฝน จึงต฾องใช฾ คําว฽า “วัสสานฤดู” ไม฽ใช฽วสันตฤดู ทราบอย฽างนี้แล฾วใครที่เคยเรียกชื่อฤดูฝนผิด ก็ควรจะเรียกใหม฽ให฾ถูกต฾อง เพราะแม฾จะออกเสียง คล฾ายกัน แต฽ความหมายของคํากลับแตกต฽างกันคนละฤดูกาล และทั้งหมดนี้ คือ เกร็ดความรู฾ คู฽ภาษาไทย ที่ผู฾เขียนหยิบยกขึ้นมาบอกกล฽าวให฾ผู฾อ฽านทั้งหลายได฾ทราบกัน ฉบับหน฾ามีเรื่องราวอะไรที่น฽าสนใจอี กนั้น ต฾องรอติดตามกันนะคะ

อ้างอิง สํานักงานราชบัณฑิตยสภา. (๒๕๖๒). คาเรียกชื่อฤดูต่าง ๆ. http://www.royin.go.th/?knowledges. เข฾าถึงเมื่อ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๒.

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๙๖


สารพันอาหารพื้นบ้าน เมนูสุขภาพของดีบา้ นเรา อาริยา แซ่ด่าน

“คุณเคยมีความรู฾สึกแบบเราบ฾างไหม ? ตอนเราเล็ก ๆ เปรียบเสมือนลูกนกที่อยู฽แต฽ในรัง เฝูารอ คอยแม฽นกที่คอยปูอนอาหารให฾ถึงรัง จนถึงวันที่เจ฾าลูกนกมีขนเต็มตัว มีปีกที่แกร฽ง กล฾าเฝูารอวันที่ จะ โผบินด฾วยปีกของมันเอง ซึ่งลูกนกตัวนี้คล฾ายดั่ง ตัวเราเมื่อเราถึง จุดที่อิ่มตัวทําให฾เราเลือกเผชิญ หน฾า เพื่อทําในสิ่งที่ใฝุฝัน” เมื่อต฾องจากถิ่นฐานไปอยู฽ ต฽างถิ่น เรามักนึกถึงกับข฾าวฝีมือของคนในครอบครัวที่ทําให฾เรากิน ตอนเด็ก ๆ แม฾เป็นกับข฾าวธรรมดาแต฽มันมักมีความพิเศษเสมอ แม่เฒ่า เป็นคําภาษาใต฾ที่มีความหมายว฽า ยาย ซึ่งเราโตมากับกับข฾าวฝีมือของยาย ในการทํา อาหารแต฽ละครั้งของยาย มักมีผักอาหารพื้นบ฾านที่หาได฾ตามท฾องถิ่นพื้นบ฾านของเราเอง ไม฽ว฽าจะเป็น พืชผักริมรั้ว ริมคลอง หรือจะเป็นพืชผักสวนครัวที่ปลูกกินเอง เช฽น ใบเหลียง หัวปลี ผักกูด เป็นต฾น ผักเหล฽านี้นํามาทํามาปรุงอาหารได฾หลากหลายเมนู ดังเมนูต฽อไปนี้ ทอดมันหัวปลี

ก฽อนจะไปดูขั้นตอนการทํา แม฽เฒ฽าบอกวิธีการปอกเปลือกหัวปลีว฽ า ต฾องแกะเปลือกหัวปลีออก ให฾เหลือแต฽สีขาว จากนั้นผ฽าครึ่งตามแนวยาวแล฾วหั่นตามขวางให฾ มีขนาดเล็ก ๆ เท฽ากัน แม฽เฒ฽าบอกว฽า ต฾อ งนํ า ไปแช฽น้ํ า เกลือ หรือ น้ํ าส฾ ม สายชู เ พื่อ ไม฽ใ ห฾ เป็ นสี ดํ า จากนั้ นจึ ง ใส฽ ไ ข฽ เครื่ องแกงพริ ก ซี อิ๊ วขาว คลุกเคล฾าให฾เข฾ากัน ตามด฾วยใบมะกรูดหั่นฝอย และหัวปลี นํามาคลุกเคล฾ากับแปูงให฾เข฾ากันเพื่อให฾หัวปลี เกาะตัว ตั้งกระทะที่มีน้ํามันบนไฟกลางจนน้ํามันร฾อนตักหัวปลีลงทอดจนสุก ตักขึ้น ให฾สะเด็ดน้ํามัน ทานกับน้ําจิ้มรสเด็ด ถือเป็นเมนูอร฽อยที่ลืมไม฽ลง วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๙๗


หัวปลี ยังสามารถนํามาทําอาหารได฾หลากหลาย ไม฽ว฽าจะเป็นต฾ม ยําทําแกง เช฽น ต฾มกะทิหัวปลี ยําหัวปลี เป็นต฾น ตัวอย฽างดังต฽อไปนี้ ยาหัวปลี

เมนูนี้ เป็นของเมนูโบราณที่แม฽เฒ฽าเคยทําให฾ทานตอนเล็ก ๆ เรามาดูวิธีกันทํากันดีกว฽าว฽าจะมี ขั้นตอนกันทําอย฽างไร ขั้นตอนแรกหั่นหัวปลีแบบซอย แช฽น้ําส฾มสายชูเพื่อไม฽ให฾ดํา นํามะพร฾าวขูดใส฽ กะทะคั่วให฾เหลือง กรอบแล฾วพักไว฾ให฾เย็น นําภาชนะขนาดกลางมาใส฽หัวปลีที่ซอยไว฾ ตามด฾วยใส฽พริกหั่นซอย หอมแดงซอย และมะพร฾าวคั่ว ปรุงรสด฾วยน้ําปลา น้ําตาล น้ํามะนาว และคลุกให฾มีน้ําขลุกขลิกให฾ทุกอย฽างเข฾ากัน ชิมรสให฾ได฾เปรี้ยว หวาน เค็ม และมันตามที่ต฾องการ การทําอาหารก็เปรียบกับ ความรัก เพราะการทําอาหารจานหนึ่ ง ก็ต฾องปรุง แต฽ง อาหารให฾ มี ความสมบูรณแแบบมากที่สุด แล฾วคุณล฽ะ คิดว฽าการทําอาหารเปรียบเหมือนกับอะไร…

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๙๘


ทางเลือกสาหรับคนรักสุขภาพ สุพัตรา ตั้งคา

ปัจจุบันผู฾คนส฽วนใหญ฽หันมารักสุขภาพกันมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงกับการเป็นโรคอ฾วนหรือ การเกิดโรคแทรกซ฾ อนต฽าง ๆ โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่ทําให฾เกิดโรคอ฾วนก็มีหลายสาเหตุ ไม฽ว฽าจะเป็นทาง กรรมพันธุแ การไม฽ออกกําลังกาย การรับประทานอาหารที่พลังงานสูงเป็นประจํา ระบบขับถ฽ายไม฽ดีหรือ ร฽างกายมีการเผาผลาญพลังงานน฾อย เป็นต฾น ดังนั้น จึงต฾องหาวิธีในการดูแลตัวเอง ทั้งการออกกําลังกาย และการเลือกรับประทานอาหาร ซึ่งถือว฽าเป็นส฽วนสําคัญอีกประการหนึ่งในการดูแลตัวเอง การเลือกซื้ออาหารเพื่อสุขภาพสามารถหาซื้อได฾ตามท฾องตลาดทั่วไป ซึ่งตลาดเหล฽านี้มีอาหาร เพื่อสุขภาพให฾เลือกมากมาย เช฽น สลัดผัก สลัดโรล ผักต฾มกับน้ําพริก เมี่ยงปลาทู น้ําสับปะรดปั่ น น้ําฝรั่ง มะละกอ แก฾วมังกร ผักพื้นบ฾าน ผักเรดโอ฿ค กรีนโอ฿ค ผักกาดหอม ต฾นอ฽อนทานตะวัน เป็นต฾น อาหารเพื่อสุขภาพดังกล฽าวมีประโยชนแมากมาย เช฽น สลัดผัก มีส฽วนประกอบของ มะเขือเทศ ฟักทอง ต฾นอ฽อนทานตะวัน แก฾วมังกร ข฾าวโพด กะหล่ําปลี สีม฽วง ถั่วลันเตา แครอท ผักกาดหอม ปูอัด และทู น฽า โดยมะเขื อเทศนั้ นมี ประโยชนแ ช฽ วยปู องกัน การเกิ ดโรคมะเร็ง ฟัก ทอง ช฽ วยบํา รุ ง สายตา ช฽วยต฾านการเกิดโรคมะเร็ง ปูองกันการเกิดโรคนิ่ว และช฽วยในการลดน้ําหนัก ต฾นอ฽อนทานตะวัน ช฽วยลด ความดันในเลือด แก฾วมังกร ช฽วยต฾านการเกิดโรคมะเร็ง และช฽วยในการควบคุมน้ําตาล ข฾าวโพด ช฽วยใน การส฽ ง เสริ ม การทํ า งานของระบบขั บ ถ฽ า ย และปูอ งกั น การเกิ ด หลอดเลื อ ดหั ว ใจ กะหล่ํ า ปลี สี ม฽ ว ง ช฽วยปูองกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน ถั่วลันเตา ช฽วยแก฾ปัญหาท฾องผูก และช฽วยในการลดน้ําหนัก แครอท ช฽ ว ยลดความเสี่ ย งการเกิ ด มะเร็ ง เต฾ า นม และกระตุ฾ น การทํ า งานของระบบย฽ อ ยอาหาร ผักกาดหอม ช฽วยในการขับถ฽าย และบรรเทาอาการท฾องผูก ปูอัด ช฽วยให฾โปรตีนแก฽ร฽างกาย ทูน฽า ช฽วยลด ความดันโลหิต ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง และช฽วยลดน้ําหนัก จากที่กล฽าวมาถึงประโยชนแของผัก และผลไม฾ข฾างต฾นนั้น เราขอนําเสนอเมนูสําหรับคนรักสุขภาพ ๓ เมนู ดังนี้

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๙๙


สสัดโรล

สํา หรับ คนที่ เ พิ่ง เริ่ม รั บ ประทานอาหารเพื่อ สุ ข ภาพ สลั ดโรลถื อ ว฽า เป็ นอาหารที่ต อบโจทยแ ได฾อย฽างดี เนื่องจากสสัดโรลมีรสชาติที่อร฽อย และสามารถหาซื้อได฾ง฽ายตามท฾องตลาดทั่ว ๆ ไป โดยมี ส฽วนประกอบของแครอทที่ช฽วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต฾านม และกระตุ฾นการทํางานของระบบ ย฽อยอาหาร ผักกาดหอม ช฽วยในการขับถ฽าย และบรรเทาอาการท฾องผูก ปูอัด ให฾โปรตีนแก฽ร฽างกาย งาขาว และงาดํา ช฽วยเสริมสุขภาพการย฽อยอาหาร และปลาแซลมอน ช฽วยรักษาสุขภาพหัวใจ ระบบ หลอดเลือด รักษาสายตา และปูองกันโรคประสาทจอตาเสื่อม น้าสับปะรดปั่น

นอกจากอาหารที่เป็นมื้อหลักแล฾วบางคนอาจชอบดื่มน้ําอัดลม หรือน้ําหวาน ในขณะที่กําลังทํา กิจกรรมต฽า ง ๆ แต฽สํา หรับ คนที่รัก สุข ภาพควรหัน ไปดื่ มน้ํ าที่มี ประโยชนแ ต฽อร฽ างกายแทน อย฽างเช฽ น น้ําสับปะรดปั่น และที่สําคัญต฾องเป็นน้ําสับปะรดที่ใช฾สับปะรดแท฾ เพื่อให฾ได฾ความหวานจากตัวสับปะรด ไม฽ใช฽ความหวานจากน้ําตาลที่มาจากน้ําสับปะรดขวด เหมาะสําหรับคนที่รักสุขภาพ และชอบดื่มน้ํา วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๑๐๐


ที่ทําให฾รู฾สึกสดชื่น ซึ่งน้ําสับปะรดปั่นมีประโยชนแต฽อร฽างกายทั้งในเรื่องของการช฽วยปูองกันอันตรายจาก อนุมูลอิสระ ที่จะทําลายเซลลแของร฽างกาย ช฽วยย฽อยโปรตีน ทําให฾ร฽างกายสามารถดูดซึมได฾ดีขึ้น ช฽วยลด อาการบวม และการอักเสบจากอาการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ ช฽วยในการเสริมสร฾างความแข็ง แรงให฾กับ กระดูกและฟัน นอกจากอาหารที่กล฽าวมาข฾างต฾น ก็ยังมีอาหารอีกมากมายที่มีประโยชนแต฽อ สุขภาพ หนึ่งในนั้น ก็คื อ น้ํ า ฝรั่ ง ซึ่ ง มี ป ระโยชนแ ทั้ ง ช฽ ว ยลดไขมั น ในเลื อ ด ช฽ ว ยปู อ งกั น และลดความเสี่ ย งจากการเกิ ด โรคมะเร็ง ช฽วยรัก ษาโรคความดันโลหิ ตสูง ช฽ว ยรัก ษาโรคเบาหวาน และเป็น ผลไม฾ที่เ หมาะสํา หรั บ ผู฾ที่ต฾องการลดความอ฾วน ลดน้ําหนัก หรือควบคุมน้ําหนัก อย฽างไรก็ตามการมีสุขภาพที่ดีส฽งผลดีสําหรับร฽างกาย ดัง นั้น ทุกคนควรใส฽ใจสุขภาพ โดยหมั่น ออกกําลัง กาย และเลือกรับประทานอาหารที่เป็นโยชนแต฽อร฽างกาย ซึ่งอาหารที่กล฽าวมาข฾างต฾นก็เป็น อีกหนึ่งทางเลือกสําหรับคนรักสุขภาพ

อ้างอิง Pothao. (๒๕๕๕). ประโยชน์ของน้าผักและผลไม้. http://juicehealthbenefits.blogspot.com. เข฾าถึงเมื่อ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๓. Campus Star. (๒๕๖๐). ผักแต่ละชนิดมีคุณประโยชน์อะไรบ้าง. https://health.campus-star.com/general/๔๙๔๕.html. เข฾าถึงเมื่อ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๓.

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๑๐๑


เผยผิวสวย คลายกังวลเรื่องรอยแผลเป็น

พรนภัส เพ็งลา

รอยแผลเป็น เป็นเรื่องที่น฽ากังวลใจอย฽างมาก โดยเฉพาะผู฾หญิงยุคใหม฽ที่การเข฾าสังคมถือเป็น ส฽วนหนึ่ง ในชีวิต เพราะรอยแผลเป็นเป็นอีกหนึ่ง ตัวการที่คอยทําลายความมั่นใจของทุกคน การหา ทางออกให฾ กั บ รอยแผลเป็ น จึ ง เป็ น ส฽ ว นสํ า คั ญ ที่ จ ะช฽ ว ยให฾ คุ ณ ใช฾ ชี วิ ต ในสั ง คมได฾ อ ย฽ า งมั่ น ใจ แผลเป็นที่เกิดจากบาดเจ็บหรือการผ฽าตัด โดยมีการสร฾างเนื้อเยื่อขึ้นมาแทนของเดิมที่ถูกทําลาย ประสิทธิภาพ กระบวนการซ฽อมแซมนี้ ขึ้นอยู฽กับความรุนแรงบริเวณของแผล อายุผู฾ปุวย พันธุกรรม ปัจจัยภายนอก และภายในอื่น ๆ ทําให฾เกิดรอยแผลเป็นชนิดต฽าง ๆ ได฾แก฽ แผลเป็นชนิดนูน แผลเป็น ชนิดหลุม รอยแผลเป็นที่มีการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสี และรอยแผลเป็นชนิดเส฾นลาย ที่พบในคนอ฾วน หรื อ สตรี ภ ายหลั ง การตั้ ง ครรภแ ซึ่ ง วั น นี้ เราก็ มี ข฾ อ มู ล การรั ก ษารอยแผลเป็ น นู น จากคลิ นิ ก Laser Premium Clinic Phuket โดย แพทยแหญิงปนัดดา อัศวเนตรมณี มาฝากให฾ทุก ๆ คนได฾รับ ความรู฾ ส฽วนจะมีวิธีการหาทางออกให฾กับรอยแผลเป็นเป็นอย฽างไรนั้น เรามาลองดูกันเลย วิธีรักษารอยแผลเป็นนูน ๑. แผลเป็ น นู น อั น ดั บ แรกจะใช฾ วิ ธี ท ายาก฽ อ น เพื่ อ ให฾ แ ผลได฾ ค฽ อ ย ๆ หายเจ็ บ โดยแพทยแ จะแนะนําเป็นตัวยาเจลชื่อว฽า Strataderm gel เพราะตัวยาชนิดนี้เป็นซิลิโคนเจลที่แห฾งเร็ว ไม฽เหนียว เหนอะหนะ โปร฽งแสง สามารถใช฾ทาได฾บนผิวหนังทุกบริเวณ รวมถึงใบหน฾า คอ และข฾อต฽าง ๆ จะช฽วยทํา ให฾แผลเป็นอ฽อนนุ฽ม และแบนราบ บรรเทาอาการคัน อีกทั้งยังช฽วยลดรอยแดง ๒. ฉีดยา (ยาฉีดเฉพาะ) จะฉีดยาให฾แผลที่นูนยุบลงก฽อน ให฾แผลมีความนุ฽มลง - แผลเรียบกับผิว ๓. ทําเลเซอรแ เมื่อแผลนูนของเราเริ่มยุบลง และแผลเริ่มเรียบกับผิวแล฾ว เราก็จะทําเลเซอรแปรับ สีผิว หรืออีกอย฽างคือ ฉีดยาตัวนาโนที่ปรับสีผิวของแผลให฾สีมีความสม่ําเสมอ

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๑๐๒


ภาพจาก : Laser Premium Clinic Phuket

ผลลัพธ์ที่ได้จากวิธีการรักษาข้างต้น แผลเป็นบางชนิดมันสามารถเรียบได฾ กลืนกว฽าเก฽าได฾เยอะ แต฽บางชนิดมันก็อาจจะหลงเหลือ รอยแผลอยู฽บ฾าง ผิวจะไม฽ได฾เกลี้ยงแบบเดิมร฾อยเปอรแเซ็นตแ แต฽ก็ค฽อนข฾างจะกลืนกับผิวหน฾าได฾ในระดับ หนึ่ง เคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ กลบรอยแผลเป็นชั่วคราว เราสามารถเมคอัพแต฽งหน฾าเพื่อปกปิดรอยแผลเป็นได฾ จะช฽วยเพิ่มความมั่นใจให฾กับตัวเองมากยิ่งขึ้น สําหรับแผลเป็นนูน แพทยแก็มักจะบอกคนไข฾ว฽า แผลจะไม฽ไ ด฾หายเกลี้ยงร฾อยเปอรแเซ็นตแ ทําได฾แค฽ดีขึ้น แต฽ว฽าถ฾าไม฽ดูแล ทําให฾แผลอักเสบ แผลก็อาจจะนูนขึ้นได฾อีก อย฽างไรก็ตาม การรักษาแผลเป็นนั้นขึ้นอยู฽กับ การรักษาอย฽างถูกต฾องเหมาะสม อย฽ า งไรก็ ต ามการดู แ ลรั ก ษาแผลอย฽ า งดี ก็ ใ ช฽ ว฽ า จะช฽ ว ยปู อ งกั น แผลเป็ น ได฾ ร฾ อ ยเปอรแ เ ซ็ น ตแ เนื่องจากแนวโน฾ มของการเกิดแผลเป็นของแต฽ล ะคน และแต฽ละบริเวณของร฽างกายนั้นแตกต฽างกั น แต฽เพื่อความถูกต฾องและปลอดภั ยให฾รีบปรึกษาแพทยแผิวหนังได฾เลยแม฾การรักษาจะไม฽ทําให฾แผลเป็น หายไปได฾อย฽างเกลี้ยงเกลา แต฽ก็สามารถช฽วยให฾ดีขึ้นได฾มากจนคุณสามารถเผยผิวเรียบเนียนได฾อย฽าง มั่นใจขึ้นแน฽นอน

สัมภาษณแ : แพทยแหญิงปนัดดา อัศวเนตรมณี ผู฾สัมภาษณแ : นางสาวพรนภัส เพ็งลํา วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๑๐๓


คุณภาพคน ทศศ. กับ ผศ.ใหม่

ยวิษฐา กําเนิดทอง

บันทึกภาพในความทรงจา

คุณภาพคน ทศศ. กับ ผศ.ใหม่

ความก฾ า วหน฾ า ในสายอาชี พ ครู ห รื อ อาจารยแ นั้ น ต฾ อ งอาศั ย การผลิ ต ผลงานทางวิ ช าการ อย฽างต฽อเนื่อง เพื่อเป็นสิ่งสะท฾อนการปฏิบัติงานสิ่งหนึ่งของอาจารยแที่ได฾สร฾างสรรคแขึ้น แสดงให฾เห็นถึง ความก฾าวหน฾าทางวิชาการ และการพัฒนาองคแความรู฾อยู฽เสมอ ตลอดจนสามารถนําไปประยุ กตแใช฾ใน การบริการวิชาการสังคม และพัฒนาการจัดการเรียนการสอนให฾กับผู฾เรียนได฾ โดยสาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุ ษยศาสตรแและสังคมศาสตรแ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเ ก็ต ได฾มีข฽าวดีในช฽ วงที่ผ฽า นมาไม฽นานนี้ เนื่ อ งจากอาจารยแใ นสาขาได฾ รับ การแต฽ง ตั้ ง เป็ นผู฾ ช฽ วยศาสตราจารยแ จํ า นวน ๒ ท฽า นด฾ว ยกัน ได฾ แ ก฽ ผู฾ช฽วยศาสตราจารยแ ดร.วรพงศแ ไชยฤกษแ และผู฾ช฽วยศาสตราจารยแ จุฬารัตนแ เสงี่ยม ด฾วยเหตุนี้ จึงไม฽พลาด ที่จะขอสัมภาษณแทั้ง ๒ ท฽านถึงการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรพงศ์ ไชยฤกษ์

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

แรงบันดาลใจ เนื่ อ งจากเราทํ า งานอยู฽ ใ นสายอาชี พ นี้ ซึ่ ง สายอาชี พ นี้ มี เ ส฾ น ทางในการพั ฒ นาความรู฾ ความสามารถ ก็ คื อ การทํ า ตํ า แหน฽ ง ทางวิ ช าการ ดั ง นั้ น การอยากเติ บ โตในสายอาชี พ นี้ จึ ง เป็ น แรงบันดาลใจให฾เราทําผลงานทางวิชาการ เพื่อเข฾าสู฽ ตําแหน฽งผู฾ ช฽วยศาสตราจารยแ และแรงบันดาลใจที่สอง คือ ผู฾ช฽วยศาสตราจารยแ ดร.รุ฽งรัตนแ ทองสกุล ที่เปรียบ เสมือนรุ฽นพี่ อาจารยแ และเป็นแบบอย฽างที่ดี ในการพัฒนา ตนเองเข฾าสู฽ตําแหน฽ง ทางวิชาการ เลยอยากเดินตาม ทางของท฽าน หน้า ๑๐๔


เงื่อนไข และขั้นตอน เงื่อนไขจะเป็นตัวกรอบทั้งหมด เงื่อนไขหลัก คือ เวลาในการทําผลงานทางวิชาการ เงื่อนไข ที่สอง คือ ในการขอตําแหน฽งทางวิชาการ เราต฾องใช฾เอกสารประกอบการสอน ๑ เล฽ม กับหนังสือหรือ ตํา ราอี ก ๑ เล฽ ม และจะต฾ อ งมี การสอบสอนด฾ ว ย โดยทั้ ง หมดนี้ มี เวลาเพี ย ง ๔ เดื อ น ส฽ ว นขั้ น ตอน ในการทํา คือ ต฾องมีการวางแผนว฽า จะใช฾เวลาในการทําเอกสารประกอบการสอนกี่เดือน จะทําตํารา หรือหนังสือกี่เดือน หลังจากทําเสร็จแล฾วก็ส฽ง ตามกระบวนการ รอคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบ และทางมหาวิทยาลัยจะมีการสอบสอนเรา โดยตั้ง คณะกรรมการมาสอบสอนเรา โดยให฾เราถ฽ายวิดีโอ ในขณะสอนส฽งให฾กับเขา กระบวนการของเรามีเพียงเท฽านี้ หลัง จากนั้นเขาก็จะแต฽ง ตั้งคณะกรรมการ อีก ๑ ชุด เพื่ออ฽า นงานเราทั้ง หมด และดูวิ ดีโอประกอบควบคู฽ กันไป แล฾ว นําเข฾า สู฽ที่ประชุม และรอ ประกาศผลประมาณ ๑ ปี ปัญหาหรืออุปสรรค เนื่ อ งจากเราเรี ย นจบปริ ญ ญาเอกแล฾ ว จึ ง มาสอน ประกอบกั บมี เ วลาน฾ อ ย ทํ า ให฾ ข าด ประสบการณแและเวลาในการเขียนงาน ในช฽วงแรกเราจึง ต฾องอ฽านหนังสือ อ฽านงานวิจัย และฝึกเขียน เยอะ ทําให฾เสียเวลาในการเขียนงาน นอกจากนี้ยังมีอุปสรรค คือ ในเรื่องของการบริหารจัดการเวลา เพราะกลางวันเราต฾องสอนนักศึกษา รวมถึงในตอนนั้นเป็นประธานสาขาด฾ วย จึงมีหน฾าที่ต฾องรับผิดชอบ งานบริหารหลายอย฽าง ทําให฾เวลาเขียนงานเรามีเพียงช฽วงกลางคืนหรือวันหยุดเท฽านั้น ความรู้สึกหลังจากได้รับตาแหน่ง ความรู฾สึกแรก คือ ดีใจมาก เพราะมันคือสิ่งที่เราตั้งใจทํา และทุ฽มเทมากในช฽วงระยะเวลานั้น มันคือ เปูาหมายที่เราตั้งไว฾ว฽ าจะทําให฾สําเร็จ และมันก็สําเร็จอย฽างรวดเร็ว เรามาทํางานปีนี้เป็นปีที่ ๔ เมื่อครบกําหนดในการขอตําแหน฽งทางวิชาการ เราก็รีบวางแผนแล฾วลงมือทําทันที ความรู฾สึกต฽อมา คือ ภูมิใจที่เราสามารถทําได฾ดังที่เราวางแผนไว฾ เป็น ผศ. แล้ว ชีวิตต่างจากเดิมไหม หลังจากที่ได฾ รับตําแหน฽งผู฾ ช฽วยศาสตราจารยแ สัง คมข฾างนอกคาดหวัง กับการทํ างานของเรา มากขึ้น และหน฽วยงานภายนอกเรียกใช฾ง านมากขึ้น เราจึง คิดว฽าเราต฾องทํางานให฾ดียิ่ง ขึ้นไปกว฽าเดิม ส฽วนด฾านชีวิตก็ไม฽ต฽างจากเดิม ยังคงทํางานปกติเหมือนเดิม เป้าหมายหลังจากนี้คืออะไร หลังจากนี้วางแผนว฽าจะหาประสบการณแ และทําวิจัยเพิ่ม ยังไม฽ได฾วางแผนเรื่องการขอตําแหน฽ง รศ. ขอพักผ฽อนและใช฾ชีวิตอย฽างสบาย ๆ ก฽อน แต฽หากวันหนึ่งรู฾สึกพร฾อมก็คงจะขอตําแหน฽งทางวิชาการ เพื่อพัฒนาตนเองในสายอาชีพนี้ต฽อไป

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๑๐๕


ผู้ช่วยศาสตราจารย์จุฬารัตน์ เสงี่ยม

แรงบันดาลใจ แรงบันดาลใจส฽วนหนึ่งมาจากนักศึกษา เนื่องจาก สาขาของเราเป็นอันดับต฾น ๆ ของมหาวิทยาลัยแห฽ง นี้ เราจึงอยากให฾สาขาของเรามีอาจารยแที่มีตําแหน฽งทาง วิชาการเพิ่มขึ้น มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น จึงผลักดันตนเอง ให฾ทําผลงานทางวิชาการเพื่อขอตําแหน฽งทางวิชาการ อี ก ส฽ ว นหนึ่ ง คื อ ระยะเวลา ที่ ต฾ อ งทํ า ผลงานทาง วิชาการมันก็มาถึงแล฾ว เพราะทํางานมาหลายปีแล฾ว ถึง เกณฑแที่จะต฾องขอตําแหน฽ง ทางวิชาการแล฾ว

เงื่อนไขและขั้นตอน ในช฽ ว งนั้ น ทางมหาวิ ท ยาลั ย ประกาศว฽ า หากไม฽ ส฽ ง ผลงานภายในเวลาที่ กํ า หนดในปี นั้ น จะกําหนดเกณฑแใหม฽ในการพิจารณาตําแหน฽งทางวิชาการ อาจารยแจึงตัดสินใจที่จะใช฾เกณฑแเก฽าในการขอ ตําแหน฽งทางวิชาการ ก็เร฽งทําในเวลาจํากัด แต฽ด฾วยเราได฾สั่งสมประสบการณแมาพอสมควรจึงทําให฾เขียน และเรียบเรียงงานได฾ ค฽อนข฾างเร็ว นอกจากนี้ต฾อ งขอขอบคุณผู฾ช฽วยศาสตราจารยแ ดร.รุ฽งรัตนแ ทองสกุล ที่เป็นพี่เลี้ยงคอยชี้แนะ ให฾กําลังใจ ช฽วยวางโครงเรื่อง บอกวิธีการเขียนต฽าง ๆ ตลอดระยะเวลาที่ทํา ผลงาน และขอบคุณอาจารยแและนักศึกษาในสาขาทุกคนที่ให฾กําลังใจเสมอมา ในส฽วนของขั้นตอนนั้น หลังจากส฽งผลงานทางวิชาการ ก็สอบสอนโดยเราเลือกใช฾วิธีการถ฽ายวิดีโอในขณะสอนนักศึกษาส฽งให฾แก฽ คณะกรรมการพิจารณา แล฾วรอประกาศผล ปัญหาหรืออุปสรรค อุปสรรคใหญ฽เลย คือ เวลา เพราะค฽อนข฾างมีเวลาในการส฽งผลงานทางวิชาการที่จํากัด กลางวัน มีหน฾าที่ต฾องรับผิดชอบสอนนักศึกษา จึงต฾องเขียนงานในเวลากลางคืน และต฾องเร฽งทําให฾ทันเวลา ความรู้สึกหลังจากได้รับตาแหน่ง ดีใจมาก ๆ เมื่อส฽งผลงานทางวิชาการไปแล฾วก็ทําใจ คิดว฽าเราได฾ทําหน฾าที่ของเราดีที่สุดแล฾ว ต฽อไปนี้ก็เป็นหน฾าที่ของผู฾ทรงคุณวุฒิที่พิจารณาผลงาน แล฾วเราก็รอรับฟังผล เมื่อประกาศผลออกมาว฽า ผ฽าน สิ่งแรกที่คิดหลังจากได฾รับตําแหน฽ง คือ ต฾องไปแก฾บนที่ไหนบ฾าง เพราะบนไว฾หลายที่เลย แต฽ส฽วนใหญ฽ จะเป็นที่ที่เราไปทําบุญอยู฽เป็นประจํา (หัวเราะ) เป็น ผศ. แล้ว ชีวิตต่างจากเดิมไหม ถ฾าเป็นในเรื่องของวิถีชีวิต ภาระงาน หรือความรู฾สึกไม฽ต฽างจากเดิ มเลย แต฽ที่ต฽างก็คือ ในเวลา ที่เราออกสังคม จะทําให฾เรามีความอุ฽นใจและมั่นใจในตนเองมากขึ้น

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๑๐๖


เป้าหมายหลังจากนี้คืออะไร คิดว฽าโดยปกติแล฾วชีวิตคนเราต฾องก฾าวไปข฾างหน฾า ต฾องพัฒนาตนเองอยู฽แล฾ว แต฽ในเวลาอันใกล฾นี้ คงเป็นไปไม฽ได฾ ตอนนี้ยังไม฽ได฾คิดถึงเรื่องการขอตําแหน฽ง รศ. เลย เพราะต฾องสั่งสมประสบการณแเพื่อให฾ ตนเองมีฐานความรู฾ที่แน฽นขึ้น เพื่อนําไปใช฾ในการเขียนตําราในระดับที่สูงขึ้นได฾ คงต฾องใช฾เวลาอีกนาน พอสมควร จากการสัมภาษณแในข฾างต฾นจะเห็นได฾ว฽า อาจารยแทั้งสองท฽านต฽างก็ไม฽หยุดนิ่งที่จะพัฒนาตนเอง เพื่อความก฾าวหน฾าในสายอาชีพ และแรงบันดาลใจอีกส฽วนหนึ่งของทั้งสองท฽านคือ ต฾องการเพิ่มศักยภาพ ฐานความรู฾ ความสามารถให฾แก฽ตนเอง เพื่อนํามาใช฾สอนนักศึกษาให฾อย฽างมีคุณภาพยิ่งขึ้น จะเห็นได฾ว฽า กว฽าท฽านจะมายืนอยู฽จุดนี้ได฾ เส฾นทางนั้นไม฽ง฽ายเลย ทั้ง ยัง มีขั้นตอนที่ค฽อนข฾างยากลําบา ก แต฽ในที่สุด ท฽านก็สามารถฟันฝุาปัญหาและอุปสรรคทุกอย฽างมาได฾ด฾วยดี เนื่องด฾วยเพราะมีความมุ฽งมั่น ตั้งใจ และ มีการบริหารจัดการเวลาที่ดี จึงทําให฾บรรลุความสําเร็จดังกล฽าว

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๑๐๗


ข่าวประชาสัมพันธ์ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๓ สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตรแและสังคมศาสตรแ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ดําเนินการ ฉีดพ฽นน้ํายาฆ฽าเชื้อโรคเพื่อปูองกันและลดการแพร฽ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (ครั้งที่ ๒) ภายใน ห฾องพักอาจารยแสาขาภาษาไทย (ห฾อง ๓๑๔ ตึก ๓) โดยเป็นส฽วนหนึ่งของการเตรียมความพร฾อมก฽อนเปิด ภาคเรียนปีการศึกษา ๑/๒๕๖๓ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตรแและสังคมศาสตรแ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จัดประชุม ผู฾ ป กครองและปฐมนิ เ ทศนั ก ศึ ก ษาใหม฽ ประจํา ปี ก ารศึ ก ษา ๒๕๖๓ ผ฽ า นช฽ อ งทางออนไลนแ ณ ห฾องปฏิบัติการภาษาไทย (๗๔๔) โดยมี ผศ.ดร.วรพงศแ ไชยฤกษแ ประธานสาขาวิชาภาษาไทย และ ผศ.ดร.รุ฽งรัตนแ ทองสกุล รวมถึงคณาจารยแประจําสาขาวิชาทุกท฽านและตัวแทนนักศึกษาแต฽ละชั้นปีทุกคน กล฽าวต฾อนรับผู฾ปกครองและนักศึกษาใหม฽ก฾าวเข฾าสู฽ครอบครัว ทศศ. ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๓ สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตรแและสังคมศาสตรแ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต มีความห฽วงใย ในสุขภาพของนักศึกษาและเพื่อเสริมสร฾างความมั่นใจให฾กับผู฾ปกครอง จึงได฾เตรียมมาตรการและอุปกรณแ สําหรับปูองกันการแพร฽ระบาดในเบื้องต฾นให฾แก฽นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทยทุกคน ได฾แก฽ หน฾ากาก อนามัยมีตราสาขาวิชาภาษาไทย จํานวนคนละ ๒ ชิ้น หน฾ากากปกปูองใบหน฾าจากละอองฝอยเชื้อ โรค (Face Shield) จํานวนคนละ ๑ ชิ้น และจุดบริการเจลแอลกอฮอลแสําหรับล฾างมือประจําห฾องสาขาวิชา ภาษาไทย (๓๑๔) และห฾องปฏิบัติการภาษาไทย (๗๔๔) รวมทั้งมีการจัดระเบียบการเข฾า ห฾อ งเรีย น โดยนักศึกษาทุกคนจะต฾องสวมหน฾ากากอนามัย เว฾นระยะห฽าง ตรวจวัดอุณหภูมิ และใช฾เจลล฾างมือก฽อน เข฾าห฾องเรียนทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ นอกจากนี้ยังได฾จัดตั้งตู฾ปันสุข “ทศศ. ร฽วมแบ฽งปัน” ให฾แก฽นักศึกษาทุกคน ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๓ สาขาวิ ช าภาษาไทย คณะมนุ ษ ยศาสตรแ แ ละสั ง คมศาสตรแ มหาวิ ท ยาลั ย ราชภั ฏ ภู เ ก็ ต จัด โครงการ “เสริม สร฾า งคุณ ธรรมนัก ศึก ษาไทยศิล ปศาสตรแ ” ณ สํ า นัก ศิล ปะและวัฒ นธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ภายใต฾มาตรการปูองกันโควิด - ๑๙ อย฽างเคร฽งครัด โดยมีจุดคัดกรองที่ทุกคน วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๑๐๘


ต฾ อ งตรวจวั ด อุ ณ หภู มิ ก฽ อ นเข฾ า ร฽ ว มกิ จ กรรม ระหว฽ า งทํ า กิ จ กรรมทุ ก คนต฾ อ งสวมหน฾ า กากอนามั ย หรือหน฾ากากปกปูองใบหน฾าจากละอองฝอยเชื้อโรค (Face Shield) จัดตั้งเจลแอลกอฮอลแล฾างมือทั่วทุก บริ เวณ และเว฾นระยะห฽ างระหว฽ างกัน เพื่ อความปลอดภั ยและลดความเสี่ย งในการติ ด เชื้ อ สํ าหรั บ โครงการครั้งนี้มีกิจกรรมมากมาย เช฽น เสวนาแลกเปลี่ยนความรู฾อาจารยแ - นักศึกษา เขียนจดหมาย ถึง แม฽ จุดธูปไหว฾พระประธาน ฝากตัวเป็นศิษยแ กิจกรรมฐาน ๔ ฐาน ทําแบบทดสอบกิจกรรมฐาน กิจกรรมพี่พบน฾อง กิจกรรมบายศรีสู฽ขวัญ เป็นต฾น

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๑๐๙


ผู้เรียบเรียง นายธนพจนแ กะเตื้องงาน นายกิตติภพ อ฽อนชาติ นางสาวอรนิช ประทุมสุวรรณแ นางสาวภัทราภรณแ สุคนธากรณแ นางสาวชุตินันทแ ไพชํานาญ นางสาวประสุตา ส฽งเสริม นาวสาวปภัศรา คีรีพันธุแ นายปฏิวัติ ทองบุญยัง นางสาวยวิษฐา กําเนิดทอง นางสาวพิมภมร สํามะเนี๊ยะ นางสาวพรนภัส เพ็งลํา นางสาวอภิสรา คงแก฾ว นางสาวสิริยากร ราโชกาญจนแ นางสาวสุพัตรา ตั้งคํา นางสาวภัณฑิรา ศรีแสง นางสาวปนิตา ชูจิต นางสาวติกานตแ การดี นางสาวศศิวิมล ประคีตวาทิน นางสาววานิสา คาวิจิตร นางสาวนาราภัทร ชูเชิดรับ นางสาวฉัตฑริกา กิจผดุง นางสาวไซนูญ โต฿ะมิ๊ นางสาวนันทพร แทนพ฽อ นางสาวอาริยา แซ฽ด฽าน นางสาวสิริยากร อ฽อนศรีโรจนแ นางสาวนาดีญา แมฮะ นางสาวซูรีตา มะยี นายศรัณยแ นะนวน วรรณสารฉบับที่ ๖๓

นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๐ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๐ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๐ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๐ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๐ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๐ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๐ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๑ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๑ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๑ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๑ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๑ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๑ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๑ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๑ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๑ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๑ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๑ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๑ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๑ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๑ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๑ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๑ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๑ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๑ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๑ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๑ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๒ หน้า ๑๑๐


นางสาวอาทิตยา กาหรีมการ นางสาวรัตนแติยา ง฿ะสมัน นางสาวชมพูพันธุแทิพยแ สุทธิโพธิ์ นางสาวจิราภรณแ คล฽องแคล฽ว นางสาวสโรชา สมมาต

นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๒ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๒ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๒ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๒ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๒

ปรัชญาของสาขาวิชา การสื่อสารภาษาไทย สมสมัย สร้างสรรค์ สร้างอาชีพ คุณลักษณะพฤติกรรมนักศึกษาของสาขาวิชา บุคลิกภาพดี มีคุณธรรม มุ่งมั่นใฝ่รู้ สู้งาน

วรรณสารฉบับที่ ๖๓

หน้า ๑๑๑


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.