History of Microsoft Windows

Page 1


1.วินโดวส์ 1.0 2.วินโดวส์ 2.0 3.วินโดวส์ 2.1 4.วินโดวส์ 3.0 5.วินโดวส์ 3.1 6.วินโดวส์เอ็นที 3.1 7.วินโดวส์เอ็นที 3.5 8.วินโดวส์เอ็นที 3.51 9.วินโดวส์ 95 10.วินโดวส์เอ็นที 4.0


11.วินโดวส์ 98 12.วินโดวส์ 2000 13.วินโดวส์ มี 14.วินโดวส์ เอกซ์พี และเซิร์ฟเวอร์ 2003 15.วินโดวส์ วิสตา และเซิร์ฟเวอร์ 2008 16.วินโดวส์ 7 และเซิร์ฟเวอร์ 2008 และอาร์ 2 17.วินโดวส์ 8 18.ผู้จัดทา 19.แหล่งอ้ างอิง


วินโดวส์ 1.0 เป็ นสภาวะการทางานรุ่นแรกของ วินโดวส์ เปิ ดตัวอย่างเป็ นทางการในวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2528 มีสภาวะการทางาน แบบ 16 บิต ที่เรียกว่า สภาวะการทางาน (Operating Environments) เพราะ วินโดวส์ 1.0 ยังไม่มีความสามารถทางาน ได้ ด้วยตัวเอง จาเป็ นต้ องมีระบบปฏิบัติการ เฉพาะแยกต่างหาก (ระบบปฏิบัติการดังกล่าวคือ ดอส



วินโดวส์ 2.0

วินโดวส์ 2.0 เปิ ดตัวเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530 ยังต้ องอาศัยดอส แต่มีขดี ความสามารถเพิ่มขึ้นมากเมื่อเท กับ 1.0 เช่น สามารถเปิ ดหลายโปรแกรมซ้ อนกันได้ และ โปรแกรม ไมโครซอฟท์ เวิร์ด (Word) และ เอกซ์เซล (Excel) และได้ มีปุ่ม Minimize, Maximiz และปุ่ มลัดอื่นๆ ขึ้นเป็ นครั้งแรก ในช่วงของวินโดวส์ 2.0 วินโดวส์กบั แมคอินทอชมีความใกล้ เคียงกันมาก จนเกิดค ฟ้ องร้ องกันของบริษัทเจ้ าของลิขสิทธิ์ 2 แห่ง คือ ไมโครซ และ แอปเปิ ล


วินโดวส์ 2.0 ยังไม่ประสบ ความสาเร็จมากนัก แต่กถ็ อื ว่ามี กระแสตอบรับ และการสนับสนุน จากผู้พัฒนาซอฟต์แวร์มากขึ้นกว่า รุ่น 1.0 และอยู่ในการสนับสนุน ของไมโครซอฟท์จนถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2544


วินโดวส์ 2.1 เปิ ดตัวในวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2531 ยังเป็ นสภาวะการทางานที่ต้อง อาศัยดอส วินโดวส์ร่นุ นี้มี 2 รุ่นย่อย คือ 286 และ 386 ซึ่งทางานกับโปรเซสเซอร์ Intel 80286 และ 80386 ซึ่งถือว่าประสบ ความสาเร็จอยู่บ้าง แต่ไม่มากนัก ใน พ.ศ. 2532 ไมโครซอฟท์ได้ ออกรุ่นอัป เดตของวินโดวส์ 2.1 คือ วินโดวส์ 2.11 (คล้ ายกับระบบ Service Pack ใน ปัจจุบัน) อยู่ในการสนับสนุนของ ไมโครซอฟท์จนถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2544



4.วินโดวส์ 3.0 วินโดวส์ 3.0 เปิ ดตัวในวันที่22 พฤษภาคม พ.ศ. 2533 ยังต้ องอาศัยดอส และโปรเซสเซอร์ตัวเดียวกับ 2.1 แต่วินโดวส์ 3.0 ได้ มีการออกแบบกราฟิ กในการ ใช้ งานคอมพิวเตอร์ใหม่, มีระบบการบริหารจัดการ หน่วยความจารอมและแรมที่มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่น ก่อน และเปลี่ยนโปรแกรมบริหารจัดการไฟล์และ โปรแกรมในดอสใหม่ท้งั หมด การเรียกใช้ โปรแกรม ต่างๆ ทาได้ ง่ายและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างก้ าว กระโดด อีกทั้งยังมีโปรแกรมใหม่ท่ตี ิดตั้งมาพร้ อม วินโดวส์ คือ โน้ ตแพด, เกม Solitaire ฯลฯ



วินโดวส์ 3.1 เปิ ดตัวเมื่อ 6 เมษายน พ.ศ. 2535 ยังต้ อง อาศัยดอส ในวินโดวส์ร่นุ นี้ได้ ออกแบบโดยมีแพลตฟอร์มเพื่อ การพิมพ์มากขึ้น โดยได้ มีฟอนต์ประเภททรูไทป์ และได้ มีการ ลงเกม ไมน์สวีปเปอร์ มาพร้ อมกับวินโดวส์เป็ นครั้งแรก และ ได้ มีร่นุ ปรับปรุง (อัปเดต) คือรุ่น 3.11 ออกมาในวันที่31 ธันวาคม พ.ศ. 2536 ซึ่งถือได้ ว่าวินโดวส์ในช่วงนี้ประสบ ความสาเร็จอย่างต่อเนื่อง ในรุ่น 3.1 ได้ มีการจาหน่าย Windows for Workgroups ซึ่งเป็ นรุ่นที่มีความสามารถสูงกว่า วินโดวส์ 3.1 ทั่วไป เช่น รองรับระบบเน็ตเวิร์ค และโพรโท คอล, เกม Hearts และได้ มีการทาวินโดวส์ 3.2 สาหรับ วางขายเฉพาะประเทศจีน โดยจะใช้ อกั ษรจีนแสดงตัวย่อ วินโดวส์ 3.1 ได้ รับการสนับสนุนจากไมโครซอฟท์จนถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2544



6.วินโดวส์เอ็นที 3.1 วินโดวส์เอ็นที 3.1 เปิ ดตัวเมื่อ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2536 เป็ นระบบปฏิบัติการรุ่นแรกของวินโดวส์ สามารถทางานต่างๆได้ ด้วยตนเอง คอมพิวเตอร์ท่ลี ง วินโดวส์น้ ี ไม่จาเป็ นต้ องลงระบบดอสอีกต่อไป เอ็นที ออกแบบมาสาหรับธุรกิจที่ต้องการประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ อีกทั้งเป็ นระบบปฏิบัติการแบบ 32 บิต ซึ่ง วินโดวส์ตัวก่อนหน้ าทั้งหมด เป็ นสภาวะการทางาน แบบ 16 บิต โปรแกรม 32 บิต (ซึ่งในขณะนั้นมักเป็ น โปรแกรมขั้นสูง) สามารถใช้ งานกับวินโดวส์เอ็นทีได้ แต่ไม่สามารถใช้ งานกับวินโดวส์ 3.1 ได้ แต่โปรแกรม 16 บิต สามารถใช้ งานกับวินโดวส์ 3.1 และเอ็นที ได้ เพราะเอ็นทีจะมีระบบแปลงไฟล์ ให้ สามารถใช้ งานใน เอ็นทีได้


เอ็นที ย่อมาจาก (New Technology) มี ความสามารถในการรองรับระบบสถาปัตยกรรมทาง คอมพิวเตอร์ได้ หลายประเภท ในช่วงนี้ผ้ ูใช้ วินโดวส์ เอ็นทีส่วนใหญ่ไม่ใช่ผ้ ูใช้ ตามบ้ าน แต่มักเป็ นลูกค้ าที่ ใช้ คอมพิวเตอร์ในระดับสูงและกลุ่มนักธุรกิจ ส่วน ผู้ใช้ ท่วั ไปในช่วงนั้นมักยังใช้ วินโดวส์ 3.1 ธรรมดา วินโดวส์ เอ็นที 3.1 ได้ รับการสนับสนุนจาก ไมโครซอฟท์จนถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2543


วินโดวส์ เอ็นที 3.5 เปิ ดตัวเมื่อ 21 กันยายน พ.ศ. 2537 เป็ นรุ่นต่อของวินโดวส์เอ็นที 3.1 จุดประสงค์หลักของ ไมโครซอฟท์ในการพัฒนาวินโดวส์เอ็นที 3.5 คือ การเพิ่ม ความรวดเร็วในการทางานของวินโดวส์ รวมถึงความสามารถ อื่นๆ เช่น VFAT ที่จะทาให้ สามารถตั้งชื่อไฟล์และต่างๆ ได้ ถงึ 255 ตัวอักษร และความต้ องการขั้นต่าของระบบได้ ลดลงต่ากว่าเอ็นที 3.1 ด้ วย ทาให้ สามารถครอบคลุมเครื่อง คอมพิวเตอร์ได้ มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม วินโดวส์ เอ็นที 3.5 ไม่สามารถติดตั้งได้ ใน โน้ ตบุค๊ คอมพิวเตอร์ ที่ไม่มีไดรเวอร์สาหรับ PCMCIA อแดปเตอร์การ์ด และไม่สามารถติดตั้งในคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่ใช้ โปรเซสเซอร์ร่นุ ที่ใหม่กว่า Intel P5 ได้ วินโดวส์เอ็นที 3.5 อยู่ในการสนับสนุนของไมโครซอฟท์จนถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2544



วินโดวส์ เอ็นที 3.51 เปิ ดตัวเมื่อ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2538 เอ็นที 3.51 สามารถทางานบน สถาปัตยกรรม RISC เป็ นเพียงวินโดวส์ไม่ก่รี ่นุ ที่สามารถรองรับ RISC ได้ และนอกจากนี้ยัง สามารถรองรับไคลเอนต์/เซิร์ฟเวอร์, PCMCIA และระบบบีบอัดไฟล์ หรือ NTFS ได้ เอ็นที 3.51 อยู่ในการสนับสนุนของไมโครซอฟท์ ถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2544



9.วินโดวส์ 95

วินโดวส์ 95 หรือ วินโดวส์ 4.0 (ไม่เอ็นที) เปิ ดตัว 24 สิงหาคม พ.ศ. 2538 เป็ นวินโดวส์ร่นุ ต่อจาก 3.1 เป็ น วินโดวส์ร่นุ แรกที่มีกลุ่มเป้ าหมายเป็ นผู้ใช้ ท่วั ไป ที่ได้ รวมเอาดอ เป็ นส่วนหนึ่งของวินโดวส์ (ยังมีดอสอยู่ในวินโดวส์ แต่ไม่ใช่ ระบบปฏิบัติการแยก) สามารถทางานได้ ท้งั สถานะ 16 และ 32 บิต มีการใช้ สตาร์ทเมนู (ปุ่ มสตาร์ทที่มุมซ้ ายล่าง) และทาสก์ บาร์ (แท่งด้ านล่างหน้ าจอ แสดงโปรแกรมที่ใช้ และเบ็ดเตล็ด อื่นๆ) เป็ นครั้งแรก ซึ่งทั้งสอง จนถึงวินโดวส์ร่นุ ล่าสุด ก็ยังใช้ คอนเซปต์เดียวกับวินโดวส์ 95 เพียงแต่ปรับปรุงรูปลักษณ์ ภายนอกให้ ทนั สมัยขึ้นเท่านั้น ด้ วยความสามารถต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น อย่างก้ าวกระโดดสาหรับผู้ใช้ ท่วั ไป วินโดวส์ 95 ประสบ


ความสาเร็จอย่างสูง ยอดการใช้ วินโดวส์ 95 สูงที่สดุ เป็ นประวัติการณ์ของวินโดวส์ วินโดวส์ 95 อยู่ในการสนับสนุนของ ไมโครซอฟท์จนถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2544


วินโดวส์ เอ็นที 4.0 เปิ ดตัวเมื่อ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 โดยเน้ นตลาดเน็ตเวิร์กมากขึ้น โดยจะมี interface คล้ ายกับวินโดวส์ 95 แต่ว่าระบบมีความเสถียรมากกว่า โดยการเพิ่ม API (Application Programming Interface) เข้ า มาทาให้ ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ติดต่อ กับวินโดวส์ได้ อย่างเป็ นมาตรฐานเดียวกัน วินโดวส์เอ็นที 4.0 ถือว่าได้ รับความนิยมอย่าง มากสาหรับบรรดากลุ่มองค์กรที่ต้องการเครื่อง server ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ซึ่งใน ปัจจุบันก็ยังพอมีเหลือให้ เห็นอยู่บ้างในเครื่อง server รุ่นเก่าๆ


เอ็นที 4.0 มี 2 รุ่นย่อย คือ รุ่น Workstation อยู่ ในการสนับสนุนถึง 30 มิถุนายน พ.ศ. 2547 และ รุ่น Server อยู่ในการสนับสนุน ถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2547


11.วินโดวส์ 98 วินโดวส์ 98 หรือ วินโดวส์ 4.1 (ไม่เอ็นที) เปิ ดตัว เมื่อ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2541 เป็ น ระบบปฏิบัติการรุ่นต่อของวินโดวส์ 95 จุดเด่น ของวินโดวส์ 98 คือการใช้ มาตรฐานไดรเวอร์แบบ WDM และ VxD ซึ่ง WDM เป็ น มาตรฐานใหม่ท่วี ินโดวส์ร่นุ ต่อๆ มา ได้ ใช้ เป็ นหลัก ส่วน VxD เป็ นมาตรฐานเก่า ซึ่งวินโดวส์ร่นุ ต่อ จาก 98 ไม่รองรับ ซึ่งทาให้ วินโดวส์ 98 เป็ นจุด เชื่อมต่อระหว่างโปรแกรมสมัยเก่าและใหม่ โปรแกรมสมัยปัจจุบัน แม้ จะไม่ได้ ออกแบบมาเพื่อ วินโดวส์ 98 แต่หลายโปรแกรมก็สามารถใช้ กบั วินโดวส์ 98 ได้ พอสมควร วินโดวส์ 98 Second Edition รุ่นปรับปรุง เริ่ม จาหน่ายเมื่อ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2542 วินโดวส์ 98 อยู่ในการสนับสนุนจนถึง 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2549



12.วินโดวส์ 2000 วินโดวส์ 2000 หรือ วินโดวส์ เอ็นที 5.0 เปิ ดตัวเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 เป็ นระบบปฏิบัติการเอ็นที มีกลุ่มเป้ าหมาย เป็ นกลุ่มผู้ใช้ ข้นั สูงและกลุ่มธุรกิจ ในช่วงนี้ ได้ แบ่งเป็ น 5 รุ่นย่อย คือ Professional, Server, Advanced Server, Datacenter Server, Advanced Server 64-bit Limited Edition วินโดวส์ 2000 อยู่ในการสนับสนุนจนถึง 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 [แก้ ]วินโดวส์ มี



13.วินโดวส์ มี

วินโดวส์ มี (อังกฤษ: Windows Me) หรือวินโดวส์ 4.9 (ไม่เอ็นที) เป็ นวินโดวส์ร่นุ ต่อจาก 98 และเป็ นรุ่นสุดท้ าย ที่ไม่ใช่วินโดวส์เอ็นที รุ่นสุดท้ ายที่ทางานได้ ท้งั ระบบ 16 และ 32 บิต (เวลาผ่านไป โปรแกรมรุ่นใหม่ ที่เป็ นโปรแกรม พื้นฐานสาหรับผู้ใช้ ตามบ้ าน เริ่มเปลี่ยนจาก 16 เป็ น 32 บิต และโปรแกรมชั้นสูง เริ่มเปลี่ยนจาก 32 เป็ น 64 บิต) เปิ ดตัว 14 กันยายน พ.ศ. 2543 วินโดวส์มี ไม่ใช่วินโดวส์เอ็นที จึงยัง มีดอสอยู่ในวินโดวส์ ซึ่งวินโดวส์ 95 และ 98 แม้ จะรวมดอส เป็ นส่วนหนึ่งของวินโดวส์ แต่ยังเปิ ดให้ เข้ าถึงดอสได้ แต่ วินโดวส์ มี ได้ ปิดการเข้ าถึงดอสในวินโดวส์ เพื่อให้ การบูต เครื่องทาได้ เร็ว แต่ทาให้ โปรแกรมเฉพาะบางโปรแกรมที่ต้อง อาศัย


การเข้ าถึงดอส ไม่สามารถทางานได้ ใน วินโดวส์มี โดยเฉพาะโปรแกรมบริหาร จัดการดิสก์ วินโดวส์ มี อยู่ในการสนับสนุนจนถึง 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2549


14.วินโดวส์ เอกซ์พี และ เซิร์ฟเวอร์ 2003 วินโดวส์ เอกซ์พี หรือ วินโดวส์ เอ็นที 5.1 และ เอ็นที 5.2 เปิ ดตัว 25 ตุลาคม พ.ศ. 2544 เป็ นวินโดวส์เอ็นทีร่นุ แรก ที่ พัฒนาขึ้นโดยมีกลุ่มเป้ าหมายเป็ นผู้ใช้ ท่วั ไป พัฒนาขึ้นจาก วินโดวส์ เนปจูน ถูกยุบรวมกับวินโดวส์ Whistler ส่วน วินโดวส์ท่พี ัฒนาขึ้นเพื่อผู้ใช้ ข้นั สูงและธุรกิจ จะมีแยกต่างหาก อีก 2 ตัว ที่ใช้ เลข เอ็นที 5.1 และ 5.2 คือ วินโดวส์ ฟันเด เมนทัลส์ ฟอร์ เลกาซี พีซีส์ และ วินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2003 ตามลาดับ โดยคาว่า เอกซ์พี มาจากคาว่า Experience แปลว่า ประสบการณ์ ซึ่งเป็ นวินโดวส์ท่ปี ระสบความสาเร็จ ค่อนข้ างสูง แม้ จะเปิ ดตัวมาแล้ วถึง 9 ปี แต่จากข้ อมูลใน เดือนกันยายน 2553 พบว่า ผู้ใช้ คอมพิวเตอร์ ยังใช้ วินโดวส์ เอกซ์พีมากถึงร้ อยละ 60 ของผู้ใช้ ท้งั หมด ในขณะที่วินโดวส์ รุ่นอื่นๆ ทั้งหมดรวมกัน


มีส่วนแบ่งร้ อยละ 31 และระบบปฏิบัติการอื่นที่ไม่ใช่ วินโดวส์ ประมาณร้ อยละ 9 วินโดวส์ เอกซ์พี มีการ ออกรุ่นปรับปรุงตามหลังมาอีกพอสมควร ซึ่งผู้ใช้ สามารถตรวจสอบรุ่นของซอฟต์แวร์ได้ เอง โดยกด Start แล้ วเลือก Run แล้ วพิมพ์ sysdm.cpl หรือ winmsd.exe แล้ วกด Run จะขึ้นหน้ าต่างข้ อมูลให้ ผ้ ูใช้ รับทราบ รุ่น ปรับปรุงที่ออกมา จะปรากฏคาว่า Service Pack


15.วินโดวส์ วิสตา และ เซิร์ฟเวอร์ 2008 วินโดวส์ วิสตา หรือ วินโดวส์ เอ็นที 6.0 ได้ รับลิขสิทธิ์ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 แต่เริ่มขายผู้ใช้ จริง 30 มกราคม พ.ศ. 2550 ในช่วงของวิสตา วินโดวส์ สาหรับผู้ใช้ ข้นั สูงและ องค์กรธุรกิจ คือ วินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2008, วินโดวส์ โฮม เซิร์ฟเวอร์ วิสตามีความสามารถสูงกว่าเอกซ์พีหลายประการ เช่น ในการตัดต่อ การพัฒนาแอปพลิเคชัน, การแสดงผล กราฟิ ก ที่สามารถแสดงผลแบบโปร่งแสง สามารถมองฉาก หลังของหน้ าต่างที่กาลังเปิ ดอยู่ได้ ในมุมมองแบบโปร่งแสง ในพื้นที่ท่เี หมาะสม เช่น บาร์ด้านบนสุดของโปรแกรม, ความสามารถในการค้ นหา, การพิมพ์ ฯลฯ แต่ทว่า วิสตา ไม่ประสบความสาเร็จอย่างที่ควร สาเหตุหลักๆ ที่เป็ นที่ วิจารณ์ คือ ความต้ องการขึ้นต่าของระบบ ที่สงู กว่าวินโดวส์ เอกซ์พีหลายเท่าตัว ดังตัวอย่างเปรียบเทียบในตาราง ประเภทความต้ องการ


เครื่องคอมพิวเตอร์ท่วั ไปในช่วงนั้น มีความสามารถไม่ ถึง หรือ ถึง แต่เกินความต้ องการมาเพียงเล็กน้ อย ทา ให้ วิสตาเป็ นระบบที่มีขนาดใหญ่มาก ทาให้ เครื่องทางาน ไม่มีประสิทธิภาพ หรือช้ า อีกทั้งยังเป็ นที่วิพากษ์วิจารณ์ ว่าซอร์ซโค้ ดไม่มีคุณภาพ ผู้ใช้ ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะที่ ไม่ได้ ใช้ คุณสมบัติพิเศษที่เพิ่มมาของวิสตา จึงยังคงใช้ เอกซ์พี วิสตาจึงไม่ประสบความสาเร็จมากนัก


16.วินโดวส์ 7 และ เซิร์ฟเวอร์ 2008 และอาร์ 2 วินโดวส์ 7 หรือ วินโดวส์ เอ็นที 6.1 เปิ ดตัวการขาย ปลีกเมื่อ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2552 เป็ นวินโดวส์ร่นุ ล่าสุดของไมโครซอฟท์ ส่วน เอ็นที 6.1 อีกรุ่นหนึ่ง ที่ มีกลุ่มเป้ าหมายเป็ นผู้ใช้ ระดับสูง คือ วินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2008 อาร์2 เปิ ดตัวในวันเดียวกับ วินโดวส์ 7 ในวินโดวส์ 7 ได้ มีการแก้ ไขข้ อบกพร่องที่ ทาให้ วิสตาไม่ประสบความสาเร็จ และมีความต้ องการ ขั้นต่าไม่ต่างจากวิสตามากนัก นอกจากแรมและการ์ด จอ ที่ต้องการเพิ่ม แต่ท่ผี ่านมา จากการเปิ ดตัววิสตา ได้ กรุยทางส่วนหนึ่งไว้ ให้ วินโดวส์ 7 เพราะช่องว่าง ระหว่างการเปิ ดตัวนั้น ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์หลายรายได้ เพิ่มความสามารถในหลายด้ าน คอมพิวเตอร์ในช่วง หลังวิสตา



วินโดวส์ 8 เป็ นระบบปฏิบัติการรุ่นต่อไปใน ตระกูลวินโดวส์ เปิ ดตัวเมื่อ 22 ตุลาคม 2553 ผ่านทางบล็อกภาษาดัชต์ของ ไมโครซอฟท์เอง วินโดวส์ 8 มีคุณสมบัติ เพิ่มเติมมากมายหลายอย่าง เช่น ไลฟ์ ไทลส์ ช่วยให้ เข้ าข้ อมูลพื้นฐานได้ ง่ายขึ้น [2][3], วินโดวส์ เอ็กซ์พลอเร่อ ที่ใช้ การจัด ข้ อมูลแบบริบบ้ อนแทนแบบเดิม [4] เป็ น ต้ น ปัจจุบันวินโดวส์ 8 อยู่ระหว่างการ พัฒนา ผู้พัฒนาสามารถดาวน์โหลด วินโดวส์ร่นุ นี้ไปเพื่อพัฒนาโปรแกรมก่อน ได้ [5] ทางไมโครซอฟท์ยังไม่มีแผนการจัด จาหน่ายวินโดวส์ 8



ด.ญ. วิภาพร สายทอง ม 2/6 เลขที่ 36


http://th.wikipedia.org/wiki /%E0%B9%84%E0%B8%A1% E0%B9%82%E0%B8%84%E0% B8%A3%E0%B8%8B%E0%B8 %AD%E0%B8%9F%E0%B8%9 7%E0%B9%8C_%E0%B8%A7 %E0%B8%B4%E0%B8%99%E 0%B9%82%E0%B8%94%E0%B 8%A7%E0%B8%AA%E0%B9 %8C


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.