เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก ตัวอย่างทดลองอ่าน

Page 1

ปกใน




ผู้เขียน ญาณนันต์ พิสูจน์อักษร วีณ ปก-ศิลปกรรม amany พิมพ์ครั้งที่ 2 กันยายน 2556 ในรูปแบบ E-book


จากใจญาณนันต์ งานเขียนนวนิยายชุดแรกจากปลายปากกา “ญาณนันต์ ” ถู ก ร้ อยเรี ย งตัว อัก ษรขึ้ น จากความตั้ งใจจนกลายมาเป็ น ซี รีส์ ชุ ด “ในสวนรัก ” ที่มี พี่ โมริสา พี่ LALA และพี่ฝัน หวาน มาร่ว มสาน จินตนาการไปด้วยกัน ซึ่งตัวผู้เขียนได้รับหน้าที่ให้ถ่ายทอดบทบาท ของน้องสาวคนเล็กแห่งสวนปลูกรักษ์ภายใต้ชื่อตอน “เด็ดดอกไม้ใส่ แจกันรัก” จากครั้งแรกที่งานเขียนเรื่องนี้ออกสู่สายตาของคุณผู้อ่านใน รูปแบบของหนังสือซึ่งผ่านมานานถึงสามปีแล้ว จนตอนนี้ผู้เขียนก็ได้ นากลับมาทาใหม่อีกครั้งในรูปแบบที่แปลกไปจากเดิมนั่นคือการทา อีบุ๊กเพื่อให้เข้ากับสมัยปัจจุบันที่โลกโซเซี่ยลเน็ตเวิร์คกาลังมาแรง นั่นเอง ซึ่งผู้เขียนก็หวังว่าจะได้รับการตอบรับจากคุณผู้อ่านไม่มากก็ น้อยนะคะ และอี บุ๊ ก เล่ ม นี้ จ ะเสร็ จ สมบู ร ณ์ ไ ม่ ไ ด้ ถ้ า ขาดก าลั ง ส าคั ญ อย่างเจ๊นี่ (amany) ขอบคุณสาหรับทุกสิ่งค่ะ พบกับพี่สาวทั้งสามคนของพวงชมพูได้ใน… 1. ดอกไม้ร่ายมนต์รัก โดย โมริสา 2. ดอกไม้ในอ้อมกอดรัก โดย LALA 3. เล่ห์…ลวง…บ่วงดอกไม้ โดย ฝันหวาน รัก…ด้วยหัวใจ ญาณนันต์ 4/9/13



1 ผู้หญิงที่ไม่เหมาะกับดอกไม้ ในแม่น้านครชัยศรีเกิดแสงระยับงามตา เสียงหวานใสคล้ายกับกาลัง ร้อ งเรีย กใครสั ก คนดัง เล็ด ลอดออกมาจากบ้ านทรงไทยหลั งงาม ซึ่งอยู่ในอาณาเขตของสวนกล้วยไม้ปลูกรักษ์ ก่อนที่เสียงเรียกนั้น จะเริ่มดังขึ้ นเรื่อยๆ เมื่อคนที่ตนร้องเรียกยังคงนอนแผ่หลาอยู่บน ที่นอนหนานุ่มไม่มีทีท่าว่าจะตื่นแม้ตะวันจะสายโด่งขนาดนี้แล้ว “ชมพู…ชมพู…ตื่นได้แล้วนะสายแล้ว ชมพูได้ยินพี่ไหม” ใบหน้านวลเนียนสีน้าผึ้งของการะเกดพี่สาวคนโตของบ้าน เริ่มมุ่ยลงเมื่อเรียกเท่าไรก็ไร้วี่แววว่าคนข้างในจะขานตอบรับ “ชมพู…ได้ยินที่พี่เรียกไหมชมพู” เธอลองเรียกดูอีกครั้งแต่ก็ ยั ง เป็ น เช่ น เดิ ม คิ้ ว เรี ย วจึ ง ขมวดมุ่ น เมื่ อ คิ ด ไปว่ า น้ อ งสาวอาจจะ ไม่สบาย เพราะปกติแล้วพวงชมพูไม่ใช่คนตื่นสาย “บานชื่น…บานชื่น” การะเกดร้องเรียกไม่นานร่างเล็กบาง ของเด็กสาวที่มีชื่อว่าบานชื่นก็วิ่งตึกตักเข้ามาด้วยความแตกตื่น “ขาพี่เกด” บานชื่นยิ้มประจบขานรับเสียงอ่อนเสียงหวาน เพราะหากเมื่อใดที่คุณเกดเรียกเต็มยศขนาดนี้ก็แสดงว่ากาลังมีเรื่อง


เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก ให้เคืองอารมณ์อยู่เป็นแน่ เพราะฉะนั้นยิ้มสู้ไว้ก่อนเป็นดี “ไปแอบดูยายบุษย์กับคุณ อัลนี่มาอีกหรือไงทาไมถึ งได้วิ่ ง หน้าตาแตกตื่นเข้ามาอย่างนี้ ” การะเกดหรี่ตามองอย่างรู้ทันเพราะ ขณะนี้ พุ ด น้ าบุ ษ ย์ ลู ก สาวคนที่ สี่ ข องบ้ า นได้ แ ต่ ง งานไปแล้ ว กั บ อธิศนันท์นักเปียโนระดับโลก และช่วงนี้ก็เป็นช่วงพักการแสดงของ อธิศนันท์พวกเขาเลยกลับมาพักผ่อนกันที่สวนปลูกรักษ์ “เปล่านะคะพี่เกด” ถึงแม้จะเป็นความจริงสักแค่ไหน ให้ คาดคั้นอย่างไรบานชื่นก็ไม่ยอมรับให้โดนพี่เกดของเธอดุเอาเด็ดขาด “ช่างเถอะ ไปเอากุญแจสารองห้องยายชมพูมาให้ฉันหน่อย ไม่รู้ว่าทาไมป่านนี้ถึงไม่ยอมตื่น เรียกจนเสียงแหบแห้งไปหมดแล้ว ” การะเกดสั่งอย่างตัดราคาญพร้อมกับบ่นในตอนท้ายเพราะเริ่มจะ หัวเสีย บานชื่นรีบไปทาตามคาสั่งทันทีไม่นานก็วิ่งกลับมาพร้อมกับ กุ ญ แจพวงใหญ่ใ นมื อมายื่น ให้ก าระเกดที่รีบ รับ ไปแล้ว เลือกดอก ที่ พ อจะจ าได้ ว่ า เป็ น ของห้ อ งพวงชมพู ขึ้ น มาลองไขดู ก่ อ น และ ความจาของเธอก็ยังแม่นยาจนน่าพอใจเมื่อมันสามารถเสียบเข้าไป ไขลูกบิดจนได้ยินเสียงดัง กริ๊ก! การะเกดรีบเข้าไปในห้องของน้องสาวโดยมีบานชื่นตามเข้า ไปด้วย เมื่อเข้ามาเห็นท่านอนเป็นจระเข้ขวางคลองพร้อมกับใบหน้า อ่อนใสมีรอยยิ้มละมุน ติด อยู่ที่มุม ปากก็ถ อนหายใจพรืด เมื่อรู้แ น่ แล้ ว ว่ า น้ อ งคงจะไม่ ไ ด้ เ ป็ น อะไรนอกจากต้ อ งการจะเกงานเสี ย มากกว่า เพราะวันนี้เธอต้องการให้พวงชมพูลงไปช่วยงานในสวน เพราะเรียนจบแล้วก็อยากจะให้มาช่วยงานแบบจริงๆ จังๆ แต่เธอก็ พอจะรู้อยู่บ้างว่าน้องไม่ชอบจึงได้ทาทีเป็นนอนตื่นสายเพื่อเป็นการ หลีกเลี่ยงแบบนี้ “สงสั ย ว่ า เมื่ อ คื น พี่ ช มพู จ ะอ่ า นนิ ย ายอี โ รติ ก จนดึ ก ดื่ น ” บานชื่นวิจารณ์เมื่อเห็นหนังสือนวนิยายเล่มหนึ่งที่จาได้ขึ้นใจว่าเป็น 6


ญาณนันต์ ฝีมือการประพันธ์ของนิลปัทม์ลูกสาวคนที่สองของบ้าน และเล่มนี้ ก็คือนวนิยายแนวอีโรติกเล่มแรกที่นิลปัทม์เขียนขึ้นจนสาเร็จออกมา เป็นรูปเล่มสวยงาม ซึ่งตอนนี้มันวางอยู่ที่ข้างหมอนของพวงชมพู เมื่อได้ยินเสียงบานชื่นกล่าววิจารณ์ตัวเองอย่างนั้นคนแกล้ง ทาเป็นตื่นสายก็ลุกพรวดขึ้นนั่ง หันไปทาตาดุใส่บานชื่นที่ทาเป็นรู้ดี จนเด็กสาวต้องถอยฉากไป “ไม่ต้องไปทาตาดุใส่บานชื่นมันเลย ว่าแต่เราน่ะทาไมถึงตื่น สายฮึ ปกติไม่เห็นจะเคยตื่นสายนี่ ” แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าน้องทาเป็น ตื่นสายเพราะไม่อยากลงไปช่วยงานแต่การะเกดก็ยังแกล้งถาม พวงชมพูหัวเราะแหะๆ ก่อนจะแก้ตัวเสียงอ่อย “คือว่าเมื่อ คืนชมพูอ่านหนังสือดึกไปหน่อยค่ะ” “อ่านนิยายอีโรติกใช่ไหมล่ะพี่ชมพู นั่นไงหลักฐานเห็นไหม คะพี่เกด” บานชื่นเอ่ยฟ้องลูกพี่พร้อมกับชี้ไปที่หนังสือเล่มนั้น พวงชมพูรีบตะครุบเก็ บไปซ่อนก่ อนจะหัน ไปแยกเขี้ย วใส่ บานชื่น หยิบหมอนขึ้นมาทาท่าจะปาใส่ถ้าบานชื่นไม่วิ่งออกไปจาก ห้องเสียก่อน “นี่ เธออ่านหนั งสือพวกนี้ ด้ว ยหรือชมพู พี่บ อกหลายครั้ง แล้วว่าไม่อยากให้อ่าน อายุก็เท่านี้จะรีบอยากรู้ไปทาไมนักหนา รีบ ลุกไปอาบน้าเร็วๆ เข้าจะได้ลงไปช่วยพี่ที่ สวนสักที อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้ นะว่าวันนี้เธอแกล้งทาเป็นตื่นสายเพราะว่าไม่อยากลงไปช่วยงาน ที่สวนน่ะ” การะเกดบ่นเรื่องนวนิยายอีโรติกแล้วก็เลยบ่นว่าเรื่องที่ พวงชมพูแกล้งทาเป็นตื่นสายไปด้วย “โธ่ พี่ เ กดขา ในเมื่ อ พี่ เ กดรู้ แ ล้ ว ว่ า ชมพู ไ ม่ ช อบท าสวน ไม่ชอบอยู่กับดอกไม้ แล้วทาไมต้องมาบังคับกันด้วยล่ะ ชมพูไม่ไป ไม่ได้หรือ” พวงชมพูโอดครวญขึ้นมาทันที “ไม่ ไ ด้ ชอบไม่ ช อบเธอก็ ต้ อ งท า นี่ มั น เป็ น กิ จ การของ ครอบครัวเรานะ สวนนี่เราก็ทากันมาก่อนที่เธอจะเกิดอีกนะยายชมพู” 7


เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก “มีอะไรกัน เสียงดังเชียวลูกสาวบ้านนี้ ” คุณแก้วกันเกรา เดินเข้ามาดูเมื่อได้ยินเสียงของสองสาวดังออกไปถึงข้างนอก “ก็ยายชมพูสิคะแม่ แกล้งตื่นสายเพราะไม่อยากลงไปช่วย ที่สวน” การะเกดกอดอกฟ้องมารดาในขณะที่พวงชมพูทาตาปริบๆ อ้อน “ทาไมทาแบบนั้นล่ะชมพู” คุณแก้วกันเกราส่ายหน้าน้อยๆ คล้ายกับจะตาหนิกับพฤติกรรมของลูกสาวคนเล็ก “แม่ขา ก็ชมพูไม่อยากทาสวนนี่นา” พวงชมพูลุกไปกอดเอวแม่ไว้อย่างออดอ้อน การะเกดเห็น แบบนั้นก็ส่ายหน้าระอา “ไม่ต้องไปอ้อนแม่แก้วเลย รีบไปอาบน้าแล้วลงไปช่วยพี่กับ พี่เขมเร็วๆ เข้า ” บอกแล้วก็ รีบ ลงเรือนไปเพื่อไปสมทบกั บเขมรัฐ สามีของเธอในสวน “แม่ขาชมพูไม่อยากทาสวน” เมื่อพี่สาวคนโตออกไปแล้ว พวงชมพูก็หันไปอ้อนมารดาอีกครั้ง “แล้ ว ใครเขาใช้ ใ ห้ เ รามาท าสวนกั น ล่ ะ ชมพู เราเรี ย น การตลาดมาก็ไปช่วยพวกพี่ๆ เขาวางแผนเรื่องการตลาดสิว่าจะทา อย่างไรให้ผลผลิตของเราเป็นที่ต้องการของตลาด” คุณแก้วกันเกรา ลูบผมนุ่มของลูกสาวด้วยความเอ็นดู “แต่ชมพูหมายถึงว่าไม่อยากทางานที่นี่ เพราะอยากจะลอง ทางานที่อื่นดูก่อนค่ะ คือ…แม่จะว่าอะไรไหมคะถ้าชมพูจะขอไปหา งานบริษัททาก่อน” พวงชมพู บ อกในสิ่ ง ที่ ตั ว เองคิ ด เพราะเธออยากลองไป ทางานเป็นลูกน้องของคนอื่นดูก่อนที่ตัวเองจะมาเป็นนายคุมคนงาน ในสวน เรื่องทาสวนดอกไม้นั้นแม้จะรู้ตัวว่า ไม่ชอบสักเท่าไรเพราะ เธอเป็นคนที่ไม่มีความพิสมัยในเรื่องนี้ แต่รู้ว่าอย่างไรมันก็คือชีวิต ไม่ว่าจะชอบหรือไม่เธอก็ควรจะทามันให้ได้อย่างที่การะเกดพี่สาว 8


ญาณนันต์ คนโตทา “ทาไมล่ะชมพู ทางานที่สวนเราก็ดีอยู่แล้ว จะอยากไปเป็น ลูกจ้างเขาทาไม” คุณแก้วกันเกรามีสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย “ตอนที่ชมพูเรียนอยู่ ใครๆ เขาก็พูดกันนะคะแม่ ว่าการที่ เราจะมาคุมคนได้ดี เราก็ต้องฝึกตั้งแต่ยังเป็นลูกน้องเขา” “แม่ขอเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาพ่อก่อนก็แล้วกันนะ” ผู้เป็นแม่ ไม่ยอมเออออด้วยเสียทีเดียว คุ ณ แก้ ว กั น เกราถอนหายใจออกมาอย่ า งหนั ก อกยามเมื่ อ มอง ตามหลังลูกสาวคนเล็กที่วิ่งลงเรือนไป คุณกรินที่ยืนให้น้านกเขาชวา อยู่ไม่ไกลนักเหลือบมาเห็นจึงเอ่ยถาม “เป็นอะไรหรือแม่แก้ว ดูท่าทางไม่สบายใจพิกล มีเรื่องอะไร หรือเปล่า?” “พี่ช้าง” คุณแก้วกันเกราเรียกสามีเสียงอ่อนก่อนจะเดินเข้า ไปยืนเคียงแล้วเท้ามือลงกับระเบียงบ้านที่มองออกไปจะเห็นอาณาเขต ของสวนปลูกรักษ์ได้ถนัดตา “วันนี้ชมพูบอกบางอย่างกับแก้ว” ค าบอกเล่ าของภรรยาทาให้ก ริน ต้อ งชะงัก กั บ สิ่งที่ ทาอยู่ เลิกสนใจนกเขาชวาแล้วหันมามองคุณแก้วกันเกราอย่างรอฟังว่าจะ พู ด อะไรเกี่ ย วกั บ พวงชมพู เพราะส าหรั บ กริ น นั้ น เรื่ อ งของลู ก ๆ จะต้องมาก่อนสิ่งอื่นใด “แกบอกว่าแกไม่ชอบทางานอยู่กับสวนค่ะ” “ลูกพูดแบบนั้นหรือ?” “ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ แต่แกให้เหตุผลกับแก้วว่าถ้าจะเป็นผู้นา ที่ดีได้ ก็ ต้องเริ่ม จากการเป็น ลูก น้องเขาก่อน แกเลยขอไปทางาน บริษัทค่ะ” 9


เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก “งานบริษัทเดี๋ยวนี้ใช่จะหากันได้ง่ายๆ นะ” “นั่นแหละค่ะแก้วถึงเป็นห่วง แล้วแก้วก็ไม่อยากให้ชมพูไป ทางานเป็นลูกน้องเขา อยากให้อยู่สวนบ้านเรามากกว่า งานบริษัท แก้วเคยทามาก่อนแล้วนะคะ มีคนอื่นเป็นเจ้านายมันจะดีกว่าเป็น นายตัวเองได้อย่างไร” “แต่สิ่งที่ลูกพูดมันก็ถูกนะ การที่เราจะเป็นผู้นาที่ดีได้ เราก็ ต้องเริ่มจากการเป็นลูกน้องเขาก่อน” คุณกรินกลับเห็นด้วยในสิ่งที่ ลูก สาวพูด แต่ก็ เกรงๆ ภรรยาเพราะรู้ใ จว่ าไม่ อยากจะให้ลูก สาว คนเล็ ก ไปไกลหู ไ กลตา ท างานบริ ษั ท ก็ ต้ อ งพบเจอคนมากมาย ไม่ น านอาจจะพบใครสัก คนที่เ ฝ้าจะเด็ด ดอกไม้ ง ามดอกเล็ ก ของ สวนปลูกรักษ์ก็เป็นได้ “พี่ช้างพูด อย่ างนี้ จ ะยอมให้ลูก ออกไปทางานบริ ษัทหรื อ อย่างไรคะ” คุณแก้วกันเกราค้อนให้สามีวงใหญ่ “โธ่ … แม่ แ ก้ ว จ๋ า พี่ ไ ม่ ไ ด้ ห มายถึ ง อย่ า งนั้ น สั ก หน่ อ ย ถึ ง อย่างไรพี่ก็ตามใจแม่แก้ว ” คุณกรินต้องวาดวงแขนออกไปโอบไหล่ ของภรรยาไว้อย่างง้องอน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ความรัก ที่เขามีให้กับผู้หญิงคนนี้ก็ไม่เคยเปลี่ยน “ไม่รู้ล่ะ ถึงอย่างไรแก้วก็ไม่ยอมให้ยายชมพูออกไปทางาน บริษัท แน่ๆ ถ้าไปไกลหูไกลตาขนาดนั้นไม่แคล้วจะต้องมีหนุ่มๆ มา ตามเฝ้าตามจ้อง ดอกไม้ ข องสวนปลูก รัก ษ์ไม่ งามเสีย เมื่ อไหร่กั น แล้วอีกอย่างแก้วก็เหลือยายชมพูคนเดียวแล้ว คนอื่นเขาก็แต่งงาน ออกเรื อ นไปหมด ไม่ อ ยากให้ ย ายชมพู เ ดิ น ตามรอยพี่ ๆ ของแก เร็วนัก” “นั่นสินะ” คราวนี้คุณกรินต้องนิ่งคิดบ้าง “นั่นปะไร พี่ช้างเองก็คิดเหมือนแก้ว ถ้าอย่างนั้นอย่าได้ยอม ให้ยายชมพูไปเชียวนะคะ ถึ งอ้อนอย่างไรก็ห้ามใจอ่อนเด็ด ขาด” คุณแก้วกันเกราสั่งกาชับสามีจริงจัง 10


ญาณนันต์ “แล้วเหตุผลของลูกล่ะ แม่แก้วจะมองข้ามไปเชียวหรือ?” “ถ้าเป็นเมื่อก่อนแก้วจะไม่พูดสักคา แต่ตอนนี้แก้วชักกลัว ว่ายายชมพูจะไปเจอใครในที่ทางาน” “กลัวยายชมพูจะมีคนรักล่ะสิ ” คุณกรินย้อนถามยิ้มๆ แต่ แล้วก็ต้องเงียบไปอีกรอบเมื่อโดนภรรยาย้อนถามกลับมา “หรือพี่ช้างไม่กลัวละคะ” มากแล้ว การะเกดจึงขอขึ้นไปช่วยแม่แก้วทากับข้าวบนเรือน ชมพู ที่ ไ ด้ โ อกาสอยู่ กั บ พี่ เ ขยตามล าพั ง จึ ง เปรยเรื่ อ งที่ ตั ว เองอยากไป กรุงเทพฯ ให้ฟังอย่างต้องการจะหาพวก “พี่ เขมคะ พี่เขมว่ าอย่ างชมพูนี่ พ อจะไปทางานบริษัทได้ ไหม?” “หือ…หมายถึงงานที่ต้องนั่งประจาในออฟฟิซน่ะหรือชมพู” เขมรัฐหันมามองน้องสาวคนเล็กของภรรยาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถาม ถึงงานที่พวงชมพูว่าอย่างไม่แน่ใจนัก “ค่ะ ก็อะไรทานองนั้นแหละ” “ไหวหรือ พี่ว่าเราไม่น่าจะทาอะไรแบบนั้นได้นะ วันๆ เห็น วิ่งอยู่แต่ในสวนแล้วจะไปนั่งประจาออฟฟิซได้อย่างไร” “พี่เขมพูดอย่างนี้จะบอกว่าชมพูไม่เหมาะกับงานในออฟฟิซ แต่เหมาะจะทาสวนอย่างนี้มากกว่าหรือคะ” พวงชมพูหน้ าง้ากั บ คาพูดของพี่เขย “เห็นเกดเขาว่าชมพูไม่อยากจะทาสวนงั้นใช่ไหม?” “มันก็ไม่ถึงกับขนาดนั้นหรอกนะคะ ชมพูแค่อยากลองไป เป็นลูกน้องเขาดูบ้าง ถึงตอนนั้นถ้าเบื่อก็ค่อยกลับมาทางานที่สวน ก็ยังทัน” พวงชมพูบอกพร้อมกับให้เหตุผล “แล้วคิดหรือว่าทุกคนจะยอม พ่อช้าง แม่แก้ว พี่เกด หรือ 11


เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก แม้แต่พี่เองก็เถอะ อย่างไรก็ไม่ยอมให้ชมพูไปหรอกนะ” เขมรัฐบอก อย่า งรู้ ทัน ว่ า พวงชมพูก าลั งจะหาพวก แต่ เปล่า ประโยชน์ เพราะ การะเกดพูดเรื่องนี้กับเขาก่อนแล้ว “ชมพูไม่อยากคุยกับพี่เขมแล้ว ” พวงชมพูสะบัดหน้าพรืด แล้วเดินออกไปจากสวนในทันทีเมื่อแน่ใจแล้วว่าอย่างไรเสียเธอก็ ไม่มีทางได้เขมรัฐมาเป็นพวกอย่างแน่นอน หญิงสาวเดินขึ้นเรือนมาชะเง้อมองเข้าไปในครัว เห็นมารดา กาลังง่วนอยู่กับการทาอาหารโดยมีพี่สาวคนโตและบานชื่นคอยเป็น ลูกมือ แต่ตัวกลับไม่คิดเข้าไปช่วยเพราะไม่ค่อยสันทัดกับเรื่องงาน บ้านงานเรือนเท่าไรนัก “ชมพู ไปเรียกพี่บุษย์กับพี่อัลนี่มาทานข้าวหน่อยสิกับข้าว ใกล้ เ สร็ จ แล้ ว ส่ ว นพี่ จ ะไปตามพี่ เ ขมที่ ส วนเอง” การะเกดเห็ น น้องสาวก็เรียกใช้ก่อนจะล้างมือแล้วเดินลงเรือนไปปล่อยให้แม่แก้ว กับบานชื่นช่วยกันนาอาหารมาลาเลียงขึ้นโต๊ะไปก่อน “เอ้า ก็ แ ล้ว ทาไมพี่เกดไม่ ไปตามมาพร้อมๆ กั น เลยเล่า ” พวงชมพูยกมือขึ้นเกาศีรษะแต่ก็ยอมทาตามที่พี่สาวบอกแต่โดยดี หญิงสาวเดินเลยลงเรือนไปก่อนมุดเข้าใต้ถุนบ้าน เยี่ยมหน้า เข้าไปมองยังห้องทางานของพุดน้าบุษย์ที่ถูกกั้นไว้เป็นสัดส่วนเวลา ทาบัญ ชี และนอกจากงานทาบัญ ชีแล้ว พุดน้ าบุษย์ยังใช้เวลาว่าง ทุ่มเทให้กับงานศิลปะของเธอที่ใครๆ ก็ต้องยอมรับในฝีมือการปั้น หม้อของพุดน้าบุษย์ แต่อย่าให้ลองปั้ นเป็นอย่างอื่นเชียวนะเพราะ ไม่ว่าจะพยายามเพ่งมองอย่างไรมันก็จะยังคงเป็นแค่หม้ออยู่เช่นเดิม เมื่ อมองหาเท่าไรก็ ไม่พ บพี่สาว พวงชมพูจึงต้องเดิน กลับ ออกมายืนเท้าสะเอวอยู่หน้าบันได หันมองซ้ายแลขวาก่อนจะยิ้มร่า เมื่อหูของเธอแว่วได้ยินเสียงแซกโซโฟนอีกแล้ว คราวนี้ก็คงไม่ต้อง หากันให้เมื่อยเพราะมันแน่นอนอยู่แล้วว่าพุดน้าบุษย์จะต้องปักหลัก อยู่ที่เรือนแพ 12


ญาณนันต์ พวงชมพูเดินตามเสียงแซกโซโฟนมาที่เรือนแพ และพอเธอ เดินมาถึงเสียงของมันก็หยุดลงไปแล้ว พี่สาวและพี่เขยของเธอนั่งอิง แอบกันหันหน้าออกไปทางริมน้า พวงชมพูจึงแกล้งกระแอมเบาๆ จนทั้งสองรู้ตัวรีบผละออกจากกัน พุดน้าบุษย์หันมายิ้มให้น้องสาวแก้เก้อ ในขณะที่สามีของ เธอนั้นกลับเพียงยิ้มน้อยๆ “มีอะไรหรือยายพวง?” พวงชมพูไม่ระคายหูกับคาเรียกเธอผิดจากคนอื่นของพี่สาว เลยสักนิด เพราะเธอไม่เคยคิดมากเรื่องชื่อเสียงเรียงนาม อยากจะ เรียกอะไรก็เรียกขอให้เรียกแล้วเธอหันก็พอแล้ว แต่อย่าให้เธอได้ยิน จากคนอื่นเชียวเพราะไม่อย่างนั้นแม่พวงคนนี้แหละจะถวายบาทา งามๆ ให้ “พี่เกดให้ม าตามไปทานข้ าวค่ ะ แต่เอ…หรือว่ าพี่บุ ษย์กั บ พี่อัลนี่จะอิ่มน้าตาลกันแล้วคะ” เอ่ยเย้าจนพี่สาวหน้าแดงระเรื่อ “ไม่ต้องมาทาเป็น พูด เลยเราน่ ะ ไปค่ะ พี่ก าแฟ ไม่ต้องไป สนใจยายพวงหรอก เราไปทานข้าวกันดีกว่านะคะ” พุดน้าบุษย์ค้อน ให้น้องสาวเล็กน้อยก่อนจะหันไปดึงแขนอธิศนันท์แล้วลงจากเรือนแพ ไปก่อน เมื่อขึ้นเรือนมาก็เห็นว่าทุกคนรอพร้อมหน้าอยู่ที่โต๊ะอาหาร แล้ว แม่แก้วเรียกลูกสาวทั้งสองกับลูกเขยให้ไปนั่งประจาที่ บานชื่น รีบตักข้าวให้กับทุกคนโดยมีการะเกดช่วยรินน้าให้ พวงชมพูนั่ งทานข้าวด้ว ยอาการยุกยิก เพราะอยากจะพูด เรื่องไปทางานที่กรุงเทพฯ ของตัวเองอย่างจริงจังสักที เพื่อให้ทุกคน รั บ รู้ ว่ า เธอมี ค วามตั้ ง ใจแน่ ว แน่ ไ ม่ ใ ช่ เ พี ย งพู ด ไปเล่ น ๆ เท่ า นั้ น คุณแก้วกันเกราที่เห็นอาการแปลกๆ ของลูกสาวคนเล็กก็เอ่ยถาม ด้วยความสงสัย “เป็นอะไรหรือเปล่าชมพู ดูยุกยิกชอบกล” 13


เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก “เอ่อ…” พวงชมพูเงยหน้าขึ้นจากจานข้าว วางช้อนลงแล้ว ยกแก้วน้าขึ้นจิบก่อนจะรวบรวมกาลังใจพูดออกมาเสียงเบา “คื อ …ชมพู อ ยากลองไปท างานบริ ษั ท ดู ค่ ะ ทุ ก คนคิ ด ว่ า อย่างไรคะ?” “เรื่ อ งนี้ อี ก แล้ ว แม่ คุ ย กั บ พ่ อ เขาแล้ ว นะ สรุ ป ก็ คื อ ชมพู ไม่ควรไปทางานบริษัท ทางานในสวนของเรานี่แหละดีแล้ว คนอยู่ ไม่นิ่งอย่างเราน่ะหรือจะไปนั่งทางานในออฟฟิซ เดี๋ยวทาไปสองสามวัน ก็คงจะเบื่อ” คุณแก้วกันเกราหยุดให้ความสนใจกับอาหารก่อนจะพูด กับลูกสาวคนเล็กเสียงเรียบ “ชมพูบอกเหตุผลไปแล้วนี่คะ ทาไมถึงไม่มีใครเข้าใจชมพู เลย” พวงชมพูบอกอย่างตัดพ้อ “นี่เธอจะออกไปทางานบริษัทหรือยายพวง พี่ไม่เห็นรู้เรื่อง เลย” พุดน้าบุษย์เอ่ยถามน้องสาวเบาๆ เพราะพวงชมพูไม่เคยพูด เรื่องนี้กับเธอเลยทั้งที่สนิทสนมกันเป็นอย่างดีด้วยอายุที่ไล่เลี่ยกัน “ชมพูก็เพิ่งพูดเรื่องนี้เมื่อเช้าเองค่ะ แต่ชมพูก็คิดไว้นานแล้ว เพียงแต่ยังไม่กล้าพูด” พวงชมพูรีบแก้ตัว “งานที่สวนก็มีออกเยอะแยะ ทาไมต้องอยากไปเป็นลูกจ้าง เขาด้วยก็ไม่รู้ ถ้าเราไปแล้วใครจะช่วยงานพี่” การะเกดแทรกขึ้น “ชมพูไม่ชอบทาสวนดอกไม้ ” พวงชมพูโพล่งขึ้ นแล้วต้อง หน้าเสียเมื่อได้ยินคาพูดของพ่อ “ชอบหรือไม่ชอบมันก็เป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิตของชมพูมา ไม่ใ ช่หรือลูก ทาไมถึ งคิด ว่าเป็นพนักงานบริษัทมันจะสนุ กกว่ าทา สวนล่ะ” “ที่แม่ไม่อยากให้ชมพูไปก็เพราะว่าเป็นห่วง งานมันไม่ได้หา ง่ายขนาดนั้นนะชมพู” คุณแก้วกันเกราพูดให้ฟังอย่างใจเย็น “ให้ชมพูลองทาก่ อ นไม่ ได้ ห รือคะ แล้ ว แม่ รู้ไ ด้อย่า งไรว่ า ชมพูจะหางานทาไม่ได้ 14


ญาณนันต์ “ไปทางานความรับผิดชอบมันก็เพิ่มขึ้นไปด้วย แล้วชมพูจะ ไหวหรือ” “ไหวสิคะ ชมพูโตแล้วนะคะแม่ ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว” “เราน่ะหรือโตแล้ว เมื่อเช้ายังแกล้งตื่นสายเพราะไม่อยาก ลงไปช่วยงานพี่ที่ส วนอยู่เลย ทาตัวเป็นเด็กๆ อย่างนี้หรือที่เรียกว่า โตแล้ว” การะเกดแย้งทันควัน “โธ่พี่เกด ก็ชมพู…” “พอแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น เราจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีก แล้วนะชมพู ” คุ ณแก้ว กันเกรายกมือขึ้ นห้ามไม่ใ ห้ชมพูโอดครวญ อะไรอีก “แม่…” พวงชมพูหน้างอง้า น้อยอกน้อยใจลุกขึ้ นจากโต๊ะ แล้วเดินปึงปังลงเรือนไป พุดน้าบุษย์ทาท่าจะลุกไปตามน้องแต่คุณแก้วกันเกรากลับ ห้ามเอาไว้ “ไม่ต้องตามบุษย์ ยายชมพูงอนไม่ได้นานหรอก” เธอบอก อย่างรู้จักนิสัยลูกสาวของตัวเองดี “เอ่อ…” พุดน้าบุษย์ละล้าละลังอยู่เล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจ ออกมาเบาๆ แล้วนั่งลงตามเดิม ทุกคนดูจะไม่สบายใจนัก แม้แต่คุณแก้วกันเกราเองก็ยังต้อง ถอนใจออกมาหนักๆ แต่ก็คิดว่าอีกไม่นานพวงชมพูก็คงจะลืม อยู่ที่ท่าน้าด้วยท่าทางหงอยเหงา คิดถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวันก็ต้อง ถอนหายใจออกมาอย่างหนักอก ก่อนจะก้มมองในมือที่ถือโปสการ์ด หนึ่งใบของนิลปัทม์พี่สาวคนรองที่ส่งมาให้คนละใบจากฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นสถานที่ที่เธอและทิมทองสามีหนุ่มผู้มีอาชีพ เป็นช่างภาพอิสระออกท่องเที่ยวไปด้วยกันตามประสาคนรัก เพื่อหา 15


เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก แรงบันดาลใจในการเขียนนวนิยายอีโรติกเรื่องใหม่ของนิลปัทม์ คิดๆ แล้วพวงชมพูก็อดอิจฉาพี่สาวไม่ได้ ที่ได้ออกไปท่องเที่ยวในโลกกว้าง ในขณะที่ เ ธอยั ง ต้ อ งจมปลั ก อยู่ กั บ สวนอย่ า งนี้ แค่ อ ยากออกไป ทางานบริษัทก็ยังไม่ได้เลย “เฮ้อ…!” พวงชมพูถอนหายใจออกมาอีกครั้ง เมื่อมาคิดดู เสี ย ใหม่ ว่ า ก่ อ นที่ นิ ล ปั ทม์ จะได้ ออกไปไหนมาไหนได้ ต ามใจชอบ ขนาดนี้ก็ยังต้องผ่านด่านแม่แก้วกับพี่เกดมาแล้ว ดูอย่างตอนที่จะขึ้น เหนือไปหาแรงบันดาลใจในการเขียนนวนิยายอีโรติกเรื่องแรกสิ กว่า จะได้ไปเธอยังได้ยินพวกเขาทะเลาะกันเสียงดังไปทั้งคุ้งน้า ขนาด ตอนนั้นนิลปัทม์อายุมากกว่าเธอตอนนี้เสียอีก แล้วอย่างนี้ลูกสาว คนเล็กอย่างเธอจะได้ออกไปที่ไหนกัน เสียงแซกโซโฟนดังแว่วมาให้ได้ยินอยู่ไม่ไกลนัก สายตาจึง อดไม่ได้ที่จะเหลือบแลไปทางต้นเสียง เห็นพุดน้าบุษย์กับอธิศนันท์ สามี นั่ ง ซบกั น ออกอาการหวานซึ้ ง อยู่ บ นเรื อ นแพหลั ง น้ อ ยของ นิลปัทม์ที่สร้างมันขึ้นมาด้วยน้าพักน้าแรงของตัวเอง หากเจ้าตัวกลับ ทิ้งเรือนแพหลังนี้เอาไว้เพราะการที่ได้เดินทางท่องเที่ยวไปกับคนรัก คงจะมีความสุขยิ่งกว่าการที่ต้องมานั่งหงอยเหงาอยู่คนเดียวกระมัง และดูเหมือนว่าตอนนี้พี่ๆ ของเธอคงจะกาลังมีความสุขกันไม่น้อย เลยทีเดียว แม้แต่สร้อยกัทลีพี่สาวคนที่สามอดีตดาราสาวเจ้าบทบาท ที่ ใ ครๆ ก็ ค าดไม่ ถึ ง ว่ า จะได้ ม าลงเอยกั บ จิ ณ ณ์ ลู ก ชายของสวน พฤกษาอนั น ต์ ข้ า งๆ ที่ พ วกเธอเหล่ า พี่ น้ อ งทั้ ง ห้ า ต่ า งให้ ค วาม สนิทสนมกับเขามาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งใครเลยจะคิดว่าสร้อยกัทลีจะได้ เป็ น ผู้ ค รอบครองหั ว ใจจิ ณ ณ์ เพราะตอนแรกยั ง ลุ้ น จิ ณ ณ์ ใ ห้ กั บ การะเกดเสียด้วยซ้าไป แต่แล้วเมื่อวันเวลาพ้นผ่านจึงเหมือนเป็ น การพิสูจน์ใจทาให้คู่รักได้ครองรักกันอย่างไม่ผิดคู่ผิดตัว ตอนนี้จิณณ์ เลยพาสร้ อ ยกั ท ลี ไ ปฮั น นี มู น ผลิ ต ทายาทหลั ง จากที่ ไ ปมาแล้ ว ถึ ง 16


ญาณนันต์ สองครั้งแต่ไม่สาเร็จจนต้องพากันไปอีกเป็นรอบที่สาม พวงชมพู รู้ สึ ก เหงาเพราะเหมื อ นวั น เวลาเก่ า ๆ ที่ เ คยมี ร่ว มกั น กั บ พี่ๆ ทั้ งสี่ข องเธอได้ ห ล่น หายไป อาจเพราะทุก คนต่า ง เติบโตขึ้นและมีทางเดินชีวิตของตัวเอง เหลือทิ้งไว้แต่เธอให้เหมือน โดดเดี่ยวทั้งที่ความจริงแล้วพวกเขาก็ไม่ได้จากไปไหน แต่เธอก็ยัง รู้สึกเหมือนว่าตัวเองยังต้องการอะไรบางอย่างมาเติมเต็มให้หัวใจได้ รู้สึกอบอุ่น หญิงสาวไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทาไมถึงรู้สึกแบบนี้ อาจเป็นเพราะบรรยากาศรอบๆ ข้างของเธอมันหวานชื่นจนกระทั่ง ดอกไม้นานาพันธุ์ที่ปลูกเอาไว้รอบๆ บ้านยังต้องเฉานี่กระมังที่ทาให้ พวงชมพูอยากออกไปค้นหาตัวตนของเธอบ้าง อยากลองออกไปพบ เจอกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ที่เธอไม่คุ้นชิน อยากทางานที่เธอถนัด มากกว่าทาสวนดอกไม้ แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นดังที่คิดเอาไว้ “เฮ้อ…!” พวงชมพูถอนหายใจออกมาอีกครั้งอย่างไม่รู้ว่า จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรดี แล้วเธอจะต้องทาอย่างไรคนในบ้านถึง จะยอมให้ออกไปทางานบริษัท หญิงสาวลุกขึ้นปัดกางเกงไล่ฝุ่นที่แม้จะไม่มีให้เห็นแต่ก็ทาไป เพราะความเคยชิน สองขาเรียวค่อยๆ ก้าวลงจากท่าน้า สายตาพลัน แลไปเห็นบานชื่นทาท่าด้อมๆ มองๆ ไปทางเรือนแพก็ร้องทัก “ทาอะไรน่ะไอ้ชื่น ” สองแขนยกขึ้นกอดอกตั้งท่าจะเอาผิด หากเป็นไปในทางแกล้งทาเสียมากกว่า “พี่ชมพูก็ดูคู่นั้นสิคะ เขาหวานกันอย่างกับอะไร” บานชื่น ทาตาเพ้อฝัน “แอบดูเข้าไปเถอะ ระวังนะเดี๋ยวไปเห็นเขาแอบทาอะไรกัน เข้าจะเป็นตากุ้งยิง” “โธ่ พี่ชมพูก็ แอบดูนิดๆ หน่อยๆ คงไม่ถึงกับเป็นตากุ้งยิง หรอกน่า” บานชื่นอุบอิบแก้ตัว “แหม ทาเป็นรู้ดีนะ” พวงชมพูแขวะให้อย่างหมั่นไส้ 17


เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก “ทีพี่ชมพูยังแอบอ่านนิยายอีโรติกเลย” บานชื่นย้อนเข้าให้ พร้อมกับยิ้มกริ่ม “นี่ๆ ฉันไม่ได้แอบนะ นั่นมันนิยายของพี่ปัทม์หรอก อ่าน เอาไว้จะได้เป็นกาลังใจให้พี่ปัทม์ไง” ร้อนตัวต้องรีบอธิบายให้วุ่น “ถ้าอย่างนั้นก็เอามาให้หนูยืมอ่านมั่งสิพี่ชมพู หนูก็อยากจะ อ่านไว้เพื่อเป็นกาลังใจให้พี่ปัทม์เหมือนกัน ” บานชื่นบอกอย่างซื่อๆ หากแต่แววตากลับระยิบระยับแพรวพราว “ไอ้เด็กบ้า ย้อนนักนะ จะไปไหนก็ไปเลยไป เดี๋ยวก็เตะโด่ง ไปโน่นเลย” พวงชมพูทาท่ายกแข้งยกขาจนบานชื่นทาหน้าขยาด รีบเดินหนีทันที พวงชมพูหัวเราะชอบใจกับท่าทีของบานชื่นแต่พักเดียวก็ ต้องถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ เดินขึ้นเรือนไปด้วย ท่าทางเนือยๆ BBB

18


2 ดอกไม้จากสวนปลูกรักษ์ คิดหาแต่วิธีที่จะทาให้ได้ออกไปทางานบริษัท ที่สุดเมื่อทนนอนต่อไป ไม่ไหวหญิงสาวจึงลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินออกมายืนรับลมที่หน้าต่าง สองแขนยกขึ้นกอดอกพร้อมกับสมองก็ยังทางานอย่างหนัก พลัน สายตาเหลือบไปเห็นกรงนกเขาชวาของบิดาที่แขวนอยู่ตรงระเบียง บ้านก็ยิ้มพราย สมองน้อยนิดขบคิดไม่นานนักก็แอบย่องออกมาจาก ห้องของตนในทัน ที เป้ าหมายคื อกรงนกเขาชวาตัว นั้ น ตัว ที่บิ ด า โปรดปรานเป็นนักหนา ถ้าหากว่าหายไปละก็พ่อจะต้องเสียดายแน่ๆ พวงชมพูปลดกรงนกลงมาแล้วหาที่ซ่อนไว้มิดชิด เอาแค่พอ ไม่ให้มีใครหาเจอจนกว่าเธอจะใช้มันต่อรองกับพ่อช้างเรื่องที่จะขอ ไปทางานบริษัทได้สาเร็จ ถ้าพ่อยอมให้ไปสักคนเดี๋ยวก็ต้องไปช่วย อ้อนแม่ให้เธอได้ แล้วถ้าแม่ยอมเอ่ยอนุญาตแล้วใครก็ขัดไม่ได้ทั้งนั้น เมื่ อจัดการทุก อย่างเรีย บร้อยแล้วพวงชมพูก็เข้านอนเพื่อรอเวลา ตอนเช้าจะได้ยินเสียงร้องโวยวายว่านกเขาหายของพ่อช้าง หญิงสาว รู้ว่ าพ่อชอบนกตัวนี้ ม าก ถื อว่ าเป็น ของรักของหวงเลยก็ ว่าได้ ถ้ า หายไปพ่อคงเสียดายแย่ รอไว้ให้พ่อช้างยอมให้เธอไปทางานบริษัท


เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก ได้ก่อนเถอะ แล้วเธอถึงจะเอาไอ้นกตัวนั้นมาคืนให้ แต่ ทุ ก อย่ า งกลั บ ผิ ด คาดไปหมด เพราะเมื่ อ เช้ า วั น ต่ อ มา ทุกคนกลับไม่มีใครพูดถึงนกเขาชวาของพ่อช้างเลยสักคน แม้แต่พ่อ เองก็ยังไม่เอ่ยถึงทั้งที่เคยไปให้น้ามันทุกเช้า แล้วผิวปากให้มันขัน พวงชมพูลอบมองใบหน้าเรียบเฉยของทุกคนขณะนั่งทาน อาหารเช้ากันอยู่ ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนกเขาจริงๆ พวกเขาพูดแต่เรื่อง สัพเพเหระอย่างที่เคยพูดทุกวันแต่ไม่มีคาว่านกเขาชวาของพ่อช้าง หายเลยสักคา แต่เธอก็ไม่คิดกระโตกกระตาก ยังนั่งกินข้าวไปเงียบๆ จนไม่ได้สังเกตว่าทุกคนหยุดพูดแล้วหันมองหน้ากัน จนได้ยินเสียง เรียบๆ ของแม่แก้วพูดขึ้นถึงได้เงยหน้าขึ้นมอง “มีอะไรจะสารภาพไหมชมพู” พวงชมพูมองหน้าแม่แล้วทาตาปริบๆ เล็กน้อย ก่อนจะยก น้าขึ้นจิบเมื่อรู้สึกว่าคอแห้งอย่างไรชอบกล “เอ่อ…สารภาพเรื่องอะไรหรือคะแม่ ” ยังทาเป็นไม่รู้เรื่อง แต่พอจะหันไปกินข้าวต่อก็ต้องสะดุ้งกับเสียงเข้มดุของพ่อช้าง “ไม่ต้องกินแล้วชมพู” พวงชมพูรีบวางช้อนส้อมลงทันที เหงื่อเริ่มแตกพลั่ก เพราะ นานๆ ทีถึงจะได้ยินน้าเสียงแบบนี้จากคุณกริน “อยากทานักหรืองานบริษัทน่ะ” คุณกรินพยายามพูดกับลูกสาวคนเล็กอย่างใจเย็นที่สุด เมื่อ คืนนี้ทาไมเขาจะไม่เห็นว่าพวงชมพูทาอะไรบ้าง เขาอยากจะโกรธที่ ลูกไม่มีเหตุผลอีกทั้งยังไม่ยอมฟังเหตุผลของใครแม้กระทั่งพ่อกับแม่ แต่ก็โกรธไม่ลงเมื่อเห็นใบหน้าซีดขาวราวกระดาษนั้น “พ่อถามว่าอยากทานักหรืองานบริษัท?” “เอ่อ…ค่ะ ชมพูอยากทางานบริษัท” ตอบออกมาเสียงแผ่ว ไม่กล้าสบตาพ่อเลยสักนิด “งั้นก็ไปทา” 20


ญาณนันต์ “พี่ช้าง…” คุ ณแก้ว กันเกราหันมามองสามีเหมือนจะค้าน ในขณะที่ลูกๆ ก็หันมามองที่คุณกรินอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าท่านจะ ยอมเอ่ยอนุญาตออกมาง่ายๆ โดยเฉพาะพวงชมพูด้วยแล้วก็ยิ่งคิด ไม่ถึงว่าพ่อจะยอมง่ายๆ อย่างนี้ แท้จริงแล้วคนที่เด็ดขาดที่สุดในบ้านนั้นเห็นจะไม่พ้นคุณกริน แต่ส่วนมากที่เขาไม่ค่อยได้ตัดสินใจอะไรแล้วปล่อยให้ภรรยาเป็นคน ตัดสินใจแทนนั้นก็เพราะเห็นว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่เมื่อเป็น เรื่องของลูกๆ เขามองว่ามันเป็นเรื่องสาคัญเสมอ “พ่อโกรธมากนะที่ชมพูทาแบบนี้ แค่เรื่องเพียงเท่านี้ทาไม จะต้องทาอะไรมากมายขนาดนั้น ชมพูบอกว่าโตแล้วแต่ก็ชอบทาให้ คนอื่ น เขาว่ า เป็ น เด็ ก อยู่ เ รื่ อ ยรู้ ตัว หรื อ เปล่ า ลู ก ” ถึ ง จะต าหนิ แ ต่ น้าเสียงของคุณกรินก็ยังบอกถึงความอาทร “ชมพูขอโทษค่ะ ” ก้มหน้าบอกเสีย งเจื่อนเพราะไม่คิ ดว่ า บิดาจะรู้เรื่องที่เธอแอบเอานกเขาท่านไปซ่อน หญิงสาวกระพุ่มมือ ไหว้ด้วยความรู้สึกผิด ทาให้คนเป็นพ่อถึงกับใจอ่อนยวบ “ช่างมันเถอะ คราวหลังอย่าเล่นแบบนี้อีกก็แล้วกัน” “ไม่ทาแล้วค่ะพ่อ” เงยหน้าขึ้นยิ้มแป้นทันที ลุกขึ้นจากโต๊ะ แล้วเดินไปคุกเข่าลงข้างๆ บิดา กอดแขนท่านไว้อย่างประจบ “ขอบคุณนะคะ…โอ๊ย!…” แล้วต้องร้องครางออกมาเบาๆ เมื่อโดนคุณกรินตีที่แขนหากไม่แรงนัก น้าตาที่ทาท่าจะไหลหดหาย ไปทันที “พ่อตีชมพูทาไมคะ” พวงชมพูหน้างอง้า “ไปเอานกเขาชวาพ่อมาแขวนไว้ที่เดิมเลยนะ” “พ่อรู้ได้อย่างไรคะ ชมพูแอบย่องเงียบแล้วเชียว” ถามเสียง อ่อย “เรานี่มันจริงๆ เลยนะ” การะเกดบ่นขึ้นลอยๆ ก่อนจะชวน คนอื่นๆ ทานข้าวต่อ 21


เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก “ก็แหม ชมพูแค่อยากเอามันไว้เป็นตัวประกันเฉยๆ เผื่อว่า พ่ อ ช้ า งไม่ ย อมให้ ไ ปก็ อ าจจะเอาไปขายเก็ บ เงิ น เป็ น ทุ น ระหว่ า ง หางาน…โอ๊ย!…” คราวนี้ร้องดังกว่าเก่าเพราะคุณแก้วกันเกราบิดที่ เอวแรงๆ “ชมพูเจ็บนะแม่แก้ว” “ไม่ต้องมาโอดครวญ รีบไปกินข้าวแล้วก็เอานกมาคืนพ่อ เขาซะ แล้วอย่าเพิ่งดีใจไป ถ้าตราบใดที่เรายังหางานไม่ได้ก็ต้องอยู่ ช่วยพี่เกดเขาทางานที่สวนไปก่อนนั่นแหละ” คุณแก้วกันเกราอด ไม่ได้ต้องแอบหันไปค้อนให้สามีอีกวง รู้สึกไม่ได้ดั่งใจเท่าไรที่สามี ยอมใจอ่อนให้ลูกออกไปทางานบริษัทง่ายๆ แต่เธอก็เชื่อว่าสิ่งไหนที่ คุณกรินตัดสินใจลงไปนั้นก็ย่อมเกิดผลดีมากกว่าผลเสียอย่างแน่นอน หาที่ทางานให้ได้ก่อน พวงชมพูก็คร่าเคร่งอยู่กับเรื่องสมัครงานตาม หนังสือจัดหางานหรือตามหนังสือพิมพ์ที่เขาประกาศจ้างงานแล้ว แทบทุกฉบับ แต่ก็ไม่ค่อยมีงานที่ตรงตามสาขาที่เธอร่าเรียนมาเท่าไร หรือถ้ามีพอยื่นใบสมัครไปทางไปรษณีย์ก็หายเงียบไป ไม่มีบริษัทไหน ตอบกลับมาสักแห่ง จนพวงชมพูเริ่มท้อใจเมื่อคิดว่าความหวังที่จะได้ ไปทางานบริษัทนั้นมันเริ่มจะริบหรี่เต็มที “เฮ้ อ !…ท าไมงานมั น ถึ ง ได้ ห ายากหาเย็ น อย่ า งนี้ น ะ ” พวงชมพูถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเอนกายลงนอนที่แคร่ไม้ไผ่ ใต้ ต้ น มะม่ ว งหลั ง บ้ า น สองมื อ เลื่ อ นขึ้ น ไปรองศี ร ษะ เข่ า ชั น ขึ้ น แล้วโยกไปมา “ถ้ายังหาไม่ได้มีหวังพ่อช้างไม่ให้ไปแน่เลย…เฮ้อ!” บ่นแล้ว ถอนหายใจออกมาอีก “เป็นอะไรฮึยายพวง พี่เห็นเธอถอนหายใจเฮือกๆ อย่างกับ คนแก่” 22


ญาณนันต์ พุ ด น้ าบุ ษ ย์ ที่ เ ดิ น ผ่ า นมาทั น ได้ ยิ น เสี ย งถอนหายใจของ น้ อ งสาวก็ ห ยุด ถามด้ว ยความขบขั น เธอเดิ น เข้ าไปทรุ ด นั่ ง ข้ า งๆ น้องสาวแล้วดึงให้ลุกขึ้นนั่ง “ก็งานน่ะสิพี่บุษย์ ทาไมมันถึงได้หายากหาเย็นอย่างนี้นะ… เฮ้อ !” ว่ าแล้ว ก็ ถ อนหายใจออกมาอีก รอบ จนพี่สาวต้องหั ว เราะ ออกมา “อะไร ถอนหายใจมากๆ เขาว่าจะอายุสั้นนะ แล้วงานน่ะ ใครว่ ามั น หาง่า ยล่ะ ถ้ า มั น หาง่ ายจริงๆ พ่อกั บ แม่ ก็ ค งจะให้ชมพู ออกไปทางานบริษัทตั้งนานแล้ว” “ชมพูเข้าใจแล้วค่ะ” พวงชมพูบอกออกมาเสียงอ่อย เข้าใจ แล้วว่าทาไมทุกคนถึงไม่ค่อยอยากให้เธอทางานบริษัทนัก ก็เพราะว่า มันไม่ค่อยมีงานทาอย่างไรล่ะ “เข้าใจแล้วยังอยากจะทางานบริษัทอยู่ไหมล่ะ” “อยากสิ ค ะ ถึ ง อย่ า งไรชมพู ก็ จ ะท างานบริ ษั ท ให้ ไ ด้ ” พวงชมพูบอกอย่างมุ่งมั่น พุดน้าบุษย์เห็นความมุ่งมั่ นในแววตาของน้องสาวก็คลี่ยิ้ม บางเบาก่อนจะเอ่ยบางอย่างออกมาที่ทาเอาพวงชมพูตาโต “บางที…อาจจะมีคนที่ช่วยเธอได้นะ” “จริงหรือพี่บุษย์” พวงชมพูขยับเข้ากอดคอพี่สาวไว้แน่น “นี่ๆ ไม่ต้องมากอด พี่หายใจไม่ออกแล้วยายพวง” พุดน้าบุษย์ร้องบอกพร้อมกับพยายามแกะวงแขนของน้อง ออกไปด้วย พวงชมพูรีบผละออกแล้วยิ้มแหยให้ ก่อนจะรีบถามด้วย น้าเสียงตื่นเต้น “แล้วใครคะที่พี่บุษย์บอกว่าจะช่วยได้” “ก็…พี่พลินไง เดี๋ยวพี่จะลองโทรไปถามเขาดูว่าพอจะมีงาน อะไรให้เราทาได้บ้างไหม” พุดน้าบุษย์ยักคิ้วให้พลางยิ้มพราย “คุณชายน่ะหรือคะ” พวงชมพูตาวาวขึ้นมาทันทีเมื่อเอ่ยถึง 23


เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก คุณชายหรือหม่อมราชวงศ์พลินพฤกษ์ ธีรติกาญจน์กุล เพราะเขานั้น มี กิ จ การเยอะแยะมากมาย และมั น จะต้ อ งมี สั ก แห่ ง ที่ พ อจะมี ตาแหน่งว่างหลงเหลืออยู่ให้คนตัวเล็กๆ อย่างเธอได้แทรกกายเข้าไป ทางานด้วย แล้วแบบนี้ความหวังที่เธอจะได้ทางานบริษัทนั้นก็เริ่มจะ มองเห็นทางขึ้นมาลางๆ เสียแล้วสิ “อย่าเพิ่งมั่นใจไปยายพวง เดี๋ยวพี่ลองโทรไปถามพี่พลินเขา ดูก่อน ได้เรื่องอย่างไรเดี๋ยวค่อยมาบอกเราอีกที” พุดน้าบุษย์รู้เท่าทัน กับความคิดของน้องสาวจึงแกล้งเบรกเอาไว้ด้วยความหมั่นไส้ “แหมพี่บุษย์ ชมพูเชื่อว่าอย่างไรก็ต้องได้ เพราะถ้าพี่บุษย์ เอ่ยปากแล้ว อย่างไรคุณ ชายเขาก็ต้องช่ว ยอยู่แ ล้วล่ะ ค่ะจริงไหม” พวงชมพูยิ้มประจบ “ไม่ต้องมาประจบ” พุดน้าบุษย์เอานิ้วจิ้มหน้าผากน้องเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้แกมเอ็นดู “ว่ าแต่ทาไมพี่บุ ษย์ไม่ บอกชมพูเร็ว กว่านี้ หน่ อยล่ะ ให้ห า งานอยู่ได้เป็นนานสองนาน” พวงชมพูถามอย่างแปลกใจ “พี่แค่อยากให้เราได้ใช้ความพยายามของตัวเองบ้าง จะได้รู้ ว่ างานมั น ไม่ ได้ห ากั น ง่า ยๆ อย่างที่ คิ ด และมั น ก็ ไม่ ง่ ายเลยจริง ๆ เพราะเธอหาไม่ ไ ด้ สัก ที จนพี่ อดสงสารไม่ ได้ ก็ เลยคิ ด ว่ า จะขอให้ พี่พลินเขาช่วย” พุดน้าบุษย์อธิบายให้ฟังยิ้มๆ “ขอบคุณมากเลยนะคะพี่บุษย์” “ไม่เป็นไรจ้ะ ถ้าอย่างนั้นพี่ขอไปโทรหาพี่พลินก่อนนะ” พุดน้าบุษย์บอกก่อนจะเดินหลบไปที่เรื อนแพ และไม่นานก็ เดินกลับมาด้วยใบหน้าเจื่อนๆ “ว่าอย่างไรคะพี่บุษย์ คุณชายเขาว่าอย่างไรบ้าง ตกลงว่า ชมพูได้งานทาหรือเปล่า” พวงชมพูถามเร็วด้วยความอยากรู้ “ช้าๆ ก็ได้ พี่ตอบไม่ทันแล้ว ” พุดน้าบุษย์ขากับท่าทางของ น้องสาวเล็กน้อย ก่อนจะก้าวขึ้นมานั่งเคียงบนแคร่ 24


ญาณนันต์ “ตกลงว่ า ได้ ไ หมคะพี่ บุ ษ ย์ ” ขยั บ เข้ า ไปถามและรอฟั ง คาตอบอย่างใจจดจ่อ “ชมพู คือ…” พุดน้าบุษย์สีหน้าสลดลงเล็กน้อย เรียกน้องสาว เสียงแผ่วก่อนจะขาดหายไป “ไม่ได้หรือพี่บุษย์ ” พวงชมพูถึงกับหน้าเสีย แต่เมื่อได้ยิน ประโยคถัดมาของพี่สาวก็ค่อยโล่งอกแล้วเปิดยิ้มกว้าง ดวงตาเปล่ง ประกายสดใส “ได้สิ พี่พลินเขายินดีจะฝากงานให้ รับรองว่าเธอได้งานทา แน่ๆ ยายพวง” “โธ่เอ๊ย…แล้วพี่บุษย์ก็มาแกล้งตีหน้าเศร้า ชมพูก็นึกว่าไม่ได้ น่ะสิ ใจเสียหมดเลย” พวงชมพูต่อว่าต่อขานพี่สาวไม่จริงจังนัก “พี่พลินเขาจะให้เธอไปทางานบริษัทเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ชื่ออะไรพี่ก็จาไม่ได้แล้วแต่เดี๋ยวพอเธอไปก็จะรู้เอง พอดีว่าพี่พลิน เขามีหุ้นอยู่ในนั้นด้วย ก็เลยพอจะมีเส้นมีสายฝากงานให้เราทาได้ แถมตาแหน่งยังตรงกับสาขาที่เธอเรียนมาอีกนะ อยู่ฝ่ายการตลาด จ้ะ ” พุด น้ าบุ ษย์บ อกด้ว ยน้ าเสีย งรื่น เริง ยิน ดีไปกั บ น้ องสาวด้ว ย ที่กาลังจะสมหวังได้ทางานตามที่ตัวเองถนัด “ชมพูดีใจจังพี่บุษย์ ฝากพี่บุษย์ขอบคุณคุณชายด้วยนะคะ” “บริษัทนี้อยู่พื้นที่กรุงเทพฯ นะ แล้วแถวนั้นรถก็ติดมากๆ ถ้าเดินทางไปกลับพี่ว่าชมพูอาจจะเหนื่อย ลองหาที่อยู่ใกล้ๆ แถวนั้น ดีไหม” “พ่อกับแม่จะยอมหรือพี่บุษย์” “ทาไมล่ะ เธอเคยไปออกค่ายบ่อยไป แต่ละที่ก็ไกลๆ ทั้งนั้น ไปทีก็เกือบเดือน แล้วกรุงเทพฯ กับบ้านเราใช่ว่าจะไกลกันนะยายพวง นั่งรถชั่วโมงสองชั่วโมงก็ถึง พี่แค่ห่วงว่าถ้าต้องเดินทางไปกลับทุกวัน เธอจะเหนื่อยเท่านั้นเอง” “แล้วอย่างนี้จะให้ชมพูไปเช่าหออยู่หรือคะ” 25


เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก “ก็แล้วแต่เธอนะ หรือจะไปกลับก็ได้” พุดน้าบุษย์ก็เพียงให้ ความเห็นเท่านั้น “ถ้าอย่างนั้นชมพูขอไปปรึกษาพ่อกับแม่ก่อนดีกว่าค่ะว่าจะ เอาอย่างไร ถ้างั้นไปหาพ่อช้างกับแม่แก้วบนบ้านก่อนนะคะ” ว่าแล้ว พวงชมพูก็วิ่งกลับขึ้นเรือนไปทันที พุด น้ าบุ ษ ย์ส่ า ยหน้ า น้ อ ยๆ ด้ ว ยความระอา หากรอยยิ้ ม บางเบากลับปรากฏขึ้นบนใบหน้า “ยิ้มอะไรครับ แก้มป่อง” เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับร่างคุ้นตา ก็เดินเข้ามาใกล้ พุดน้าบุษย์ยิ้มให้สามีก่อนเอ่ยบอกเสียงใส “ยายพวงได้งาน ทาแล้วค่ะ ดีใจใหญ่เลย” “ถ้างั้นบุษย์ก็ว่างแล้วสิครับ” “ทาไมหรือคะ” ถามพร้อมกับเลิกคิ้วให้ หากอธิศนัน ท์ไม่ ยอมตอบ เขากลับฉุด เธอลุกขึ้น ยืนก่อนจะรุนหลังไปทางเรือนแพ พร้อมกับเสียงทุ้มของเขาก็ดังขึ้น “พี่อยากนอนหนุนตักบุษย์” พุด น้ าบุ ษย์หัว เราะเสีย งใส หัน มาคล้ องแขนเขาแล้ว เดิ น เคียงกันขึ้นเรือนแพไป ได้รับอนุญาตให้ไปเช่าหออยู่ที่กรุงเทพฯ ได้ เพราะพ่อกับแม่ไม่อยาก ให้เธอต้องเหนื่อยกับการเดินทาง แต่ถึงอย่างนั้นพวงชมพูก็ยังไม่คอ่ ย พอใจเท่าไรนัก เพราะเธอไม่อยากเสียเงินไปกับค่าเช่าห้องพัก “พ่อกับแม่ช่วยออกให้ก็ได้นะชมพู” คุณกรินเสนอขึ้นเพราะ นั่งมองหน้ายุ่งๆ ของลูกสาวมาได้พักหนึ่งแล้ว “ไม่เอาหรอกค่ะ ชมพูทางานแล้วก็อยากจะใช้เงินตัวเอง อีก อย่างชมพูต่างหากที่ต้องเอาเงินมาให้พ่อกับแม่ใช้ ไม่ใช่มาใช้เงินพ่อ 26


ญาณนันต์ กับแม่นะคะ” “แล้วลูกจะเอาอย่างไร ถ้าจะเดินทางไปกลับละก็แม่ว่ามัน จะเหนื่อยเกินไปนะ” ถึงคุณแก้วกันเกราจะไม่อยากให้ลูกสาวไปค้า ง ที่อื่นแต่ก็ต้องทาใจ เพราะห่วงเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยของ ลูกมากกว่า “เราไม่มีญาติอยู่ที่นั่นเลยหรือคะ หรือไม่มีพี่เขยคนไหนซื้อ บ้านที่โน่นไว้มั่งหรือ” “ไม่มีหรอก แต่เอ…เดี๋ยวนะ คอนโดฯ เก่าของยายสร้อยก็ ยังอยู่นี่นา ใช่ไหมคะพี่ช้าง” คุณแก้วกันเกราเพิ่งนึกขึ้ นได้ก็หันมา ถามสามีด้วยไม่มั่นใจนัก “ก็ยังอยู่นะ เวลาที่ยายสร้อยกับจิณณ์เข้ากรุงเทพฯ ก็เห็น ไปพักกันที่นั่นแหละ” “ถ้างั้น ชมพูโทรไปขอพี่สร้อยดีกว่าค่ะ ” พวงชมพูพูดด้ว ย ดวงตาเป็ น ประกาย ก่ อ นจะรี บ วิ่ ง เข้ า ห้ อ งแล้ ว หยิ บ โทรศั พ ท์ ขึ้ น เตรี ย มกดหาพี่ ส าว แต่ แ ล้ ว ก็ ต้ อ งชะงั ก เมื่ อ คิ ด ว่ า เธออาจจะไป ขัดจังหวะตอนที่เขากาลังจู๋จี๋กันก็ได้ พวงชมพูจึงลังเลเล็กน้อยพร้อม กับปล่อยให้เวลาผ่านไปครู่ใหญ่กว่าจะตัดสินใจโทรไปหาพี่สาวได้ รอสายอยู่นานกว่าที่ฝ่ายนั้นจะกดรับ และคนที่รับสายกลับ เป็นจิณณ์ที่บอกว่าสร้อยกัทลีพี่สาวของเธอนอนหลับอยู่ “ฮั่นแน่…นอนกลางวันหรือไงคะพี่จิณณ์ ” แซวออกไปด้วย น้าเสียงมีเลศนัย “คิ ด อะไรแก่ แ ดดอยู่ห รือเรา แล้ว นี่ โทรมาหาพี่สร้อยเขา มีอะไรหรือเปล่า” “พอดีชมพูมีเรื่องอยากจะถามพี่สร้อยนิดหน่อยค่ะพี่จิณณ์ คือชมพูจะไปทางานที่ก รุงเทพฯ พ่อกั บแม่เห็น ว่าถึงมัน จะไม่ ไกล แต่ถ้าให้ชมพูเดินทางไปกลับคงจะไม่ไหว ก็เลยอยากให้เช่าหอแถวนั้น ค่ะ ทีนี้ชมพูเลยจะถามว่าจะขออยู่ที่คอนโดฯ ของพี่สร้อยได้ไหม” 27


เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก พวงชมพูอธิบายให้พี่เขยฟังคร่าวๆ “งั้นรอเดี๋ยวแล้วกันนะ พี่จะปลุกพี่สร้อยเขาให้” จิณณ์บอก แล้ว ปล่อยให้พ วงชมพูถื อ สายรออยู่พัก ใหญ่ๆ กว่ าที่พ วงชมพูจ ะ ได้ยินเสียงงัวเงียของพี่สาวทักทายมาตามสาย “ว่าไงชมพู” “ป่ านนี้ แ ล้ว ยัง นอนอยู่อีก หรื อคะพี่ส ร้อย ทาอะไรกั น อยู่ เอ่ย” พวงชมพูเอ่ยแซวแล้วหัวเราะคิกคัก “แหม…ก็มาฮันนีมูนเขาทาอะไรกันละยะ” ทางฝ่ายนั้นไม่คิด ปฏิ เ สธกั บ ความคิ ด ทะลึ่ ง ตึ ง ตั ง ของน้ อ งสาวเลยสั ก นิ ด กลั บ ตอบ กลับมาด้วยน้าเสียงร่าเริงและความง่วงงุนก็ได้หายไปสิ้น “แล้วนี่โทรมามีเรื่องอะไร เห็นพี่จิณณ์บอกว่าจะไปทางาน ที่กรุงเทพฯ หรือ แล้วที่บ้านเขายอมให้ไปหรือชมพู” “ที แ รกก็ ไ ม่ ย อมหรอกค่ ะ แต่ ช มพู ไ ปก่ อ วี ร กรรมเอาไว้ พ่อช้างเลยราคาญมั้งก็เลยอนุญาตให้ไปได้ แต่ว่าชมพูต้องหาที่อยู่ ในกรุงเทพฯ เพราะถ้าเดินทางไปกลับจะไม่ไหวค่ะ เลยโทรมาขอ พี่สร้อยว่าให้ชมพูไปอยู่คอนโดฯ พี่สร้อยได้ไหมคะ” “โธ่เอ๊ย เรื่องแค่นี้ก็ต้องมาถาม ชมพูอยากอยู่ก็ย้ายเข้าไปได้ เลยพี่ยกให้ เพราะพี่คงไม่ค่อยได้เข้ากรุงเทพฯ แล้วล่ะ ให้ชมพูไปอยู่ ก็ดีจะได้ช่วยดูแลให้พี่ด้วย แล้วเดี๋ยวพี่จะฝากให้พี่โรสเขาช่วยดูแล เราอีกทีหนึ่ง พ่อกับแม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงมากไง” “โห…จริ ง หรื อ คะ พี่ ส ร้ อ ยจะยกคอนโดฯ ให้ ช มพู จ ริ ง ๆ หรือ” พวงชมพูตาโตเมื่อได้ยินว่าพี่สาวจะยกคอนโดฯ ที่กรุงเทพฯ ให้ “จ้า…ยกให้ฟรีไม่มีเอาคืนด้วย เพราะพี่คงจะไม่ไปแล้วล่ะ กรุงเทพฯ คงจะอยู่แต่บ้านพี่จิณณ์เขานั่นแหละ” “แล้วเรื่องพี่โรสนี่ความจริงไม่ต้องฝากให้ช่วยดูแลชมพูก็ได้ นะคะ ชมพูเกรงใจ” 28


ญาณนันต์ “จะเกรงใจทาไม พี่โรสเขาก็ไปมาหาสู่บ้านเราอยู่บ่อยๆ เขา ก็เป็นเหมือนพี่สาวพวกเราคนหนึ่งนั่นแหละ ถึงจะเป็นพี่สาวข้ามเพศ ก็เถอะนะ แต่รับรองว่าไว้ใจได้” สร้อยกัทลีพูดเสียงกลั้วหัวเราะยาม เมื่อเอ่ยถึงอดีตผู้จัดการส่วนตัว “ถ้ าอย่างนั้ น ก็ แล้ว แต่พี่สร้อยค่ ะ ชมพูไม่ มี ปั ญ หาอยู่แ ล้ว ขอแค่ ใ ห้ ไ ด้ ไ ปท างานเถอะ ขอบคุ ณ นะคะพี่ ส ร้ อ ยที่ ย กคอนโดฯ ให้ชมพู” พวงชมพูบอกเสียงใส “จ้า ถ้าอย่างนั้ นเดี๋ย วแค่นี้ ก่ อนแล้วกั นนะจ๊ะ พี่จิณ ณ์เขา เรียกแล้วน่ะ” สร้อยกัทลีบอกก่อนจะรีบตัดสายไป พวงชมพูยิ้มกริ่มให้กับความรักอันหวานชื่นของพี่สาวและ พี่ เ ขย ไม่ รู้ ว่ า พวกเขาไม่ รู้ สึ ก เบื่ อ กั น บ้ า งหรื อ อย่ า งไรนะกั บ การ ฮันนีมูน เห็นไปกันตั้งหลายครั้งแล้ว อยากจะรู้จริงๆ เลยว่าความรัก นี่มันดียังไง “พ่อช้าง…แม่แก้ว…พี่สร้อยยกคอนโดฯ ให้ชมพูด้วยค่า …” ร้ อ งบอกพร้ อ มกั บ วิ่ ง ออกจากห้ อ งไปหาบิ ด ามารดาด้ ว ยด้ ว ยยิ้ ม เต็มหน้า เพียงเท่านั้นพวกท่านก็รู้แล้วว่าลูกจะต้องไปทางานและพัก อยู่ที่อื่น แต่งตัวเตรียมจะออกเดินทาง เสร็จเรียบร้อยแล้วก็หิ้วกระเป๋าที่จัด เอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนเดินออกมาด้านนอก เห็นทุกคนยืนรอส่งเธออยู่ ก็ยิ้มให้อย่างสดใส “พร้อมแล้วใช่ไหม เดี๋ยวพ่อกับพี่เกดเขาจะขับรถไปส่งให้ ” คุณแก้วกันเกราเดินเข้าไปลูบศีรษะเล็กของลูกแผ่วเบา รู้สึกใจหาย เล็กน้อยที่จะไม่ได้เห็นหน้ากันทุกวันอีกแล้ว ถึงแม้กรุงเทพฯ จะใกล้ แค่นี้ขับรถไปหาแป๊บเดียวก็ถึง แต่เธอก็คงจะไม่ได้ไปเยี่ยมทุกวัน “ไม่ต้องห่วงนะคะแม่ ชมพูดูแลตัวเองได้ค่ะ แล้วก็ไม่ต้อง 29


เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก ลาบากไปหาบ่อยๆ หรอกนะคะ ไว้วันหยุดชมพูจะแวะมาเองค่ะ ” พวงชมพูรู้สึกได้ถึงความห่วงใยของมารดาก็บอกให้ท่านเบาใจ “ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะยายพวง มีอะไรก็โทรมานะ” พุดน้าบุษย์ เข้าไปกอดน้องเอาไว้ “น้องชมพูไปทางานนะครับทุกคน ไม่ ได้ไปรบสัก หน่อย” เขมรัฐเอ่ยขึ้นเสียงกลั้วหัวเราะ การะเกดจิกสายตาใส่สามีเล็กน้อย ก่อนจะเข้าไปดึงพวงชมพูออกมา “ไปได้แล้วล่ะ เดี๋ยวจะสาย” “เดี๋ ย วหนู ช่ ว ยพี่ ช มพู ถื อ กระเป๋ า ค่ ะ ” บานชื่ น รี บ มาแย่ ง กระเป๋าจากมือพวงชมพูแล้วเดินลงเรือนไปก่อน “ไปได้แล้วลูก” พ่อช้างเร่งอีกคน “พี่ ช้ า งก็ เร่ ง อยู่ ไ ด้ ฉั น ก็ อ ยากจะล่ าลากั บ ลู ก นานๆ” คุณแก้วกันเกราหันไปค้อนขวับให้สามี คุณกรินจึงยิ้มแหยส่งกลับไป “ชมพูไปนะคะทุกคน” พวงชมพูยกมือไหว้มารดากับพี่สาว และพี่เขยก่อนจะเดินลงเรือนตามการะเกดและพ่อช้างไป การะเกดเป็นคนขับรถกระบะคันเก่าที่ใช้มานานปี มีพ่อช้าง นั่ ง อยู่ ข้ า งคนขั บ ส่ ว นพวงชมพู นั้ น นั่ ง อยู่ ที่ เ บาะหลั ง เธอเหลี ย ว กลับไปมองตัวบ้านทรงไทยหลังใหญ่นั้นอยู่หลายครั้งขณะที่รถกาลัง เคลื่อนตัวออกจากอาณาเขตของสวนปลูกรักษ์ไปเรื่อยๆ นี่ เ ป็ น ครั้ ง แรกที่ พ วงชมพู ก าลั ง จะจากบ้ า นไปโดยไม่ มี กาหนด เพราะไม่แน่ใจว่าเธอจะทางานที่บริษัทแห่งนั้นได้นานสัก เท่าไร แต่เธอก็มั่นใจว่าเธอทาได้ และเธอก็ต้องทามันได้ดีด้วย จะ ไม่ ใ ห้พ่อช้างกับ แม่แ ก้ ว และก็ พี่ๆ ของเธอต้องผิด หวั ง แม้ ว่าจาก จังหวัดนครปฐมถึงกรุงเทพฯ นั้นระยะทางจะไม่ไกลมากนัก แต่เมื่อ พูดถึงระยะทางใจพวงชมพูคิดว่ามันคงห่างไกลกับสวนปลูกรักษ์ของ เธออยู่ไม่น้อยเลย 30


ญาณนันต์ สร้อยกัทลี โรสมารอรับ อยู่แล้วด้วยใบหน้ ายิ้ม แย้มตามแบบฉบั บ พ่อช้างกับการะเกดเดินขึ้นมาส่งพวงชมพูถึงข้างใน “อย่างไรก็ฝากโรสช่วยดูแลชมพูด้วยนะ” การะเกดเอ่ยฝากฝัง “ไม่ต้องห่วงค่ะพี่เกด ชมพูก็เหมือนน้องสาวคนหนึ่งของโรส ค่ะ” โรสบอกยิ้มๆ แล้วพาทุกคนเข้าไปดูห้องนอนพร้อมกับอธิบาย ไปด้วย “น้องกั๊ทเขาฝากให้โรสจ้างแม่ บ้านมาทาความสะอาดทุก อาทิตย์ ที่นี่ก็เลยยังสะอาดอยู่ค่ะ” “พอจะอยู่ได้ไหมชมพู ในตึกสูงๆ อย่างนี้ ไม่มีท่าน้า ไม่ มี สวนดอกไม้ ไม่มีเรือนแพเหมือนที่บ้านเรานะ และที่สาคัญ ไม่มีพ่อ แม่กับพี่ๆ ด้วย” คุณกรินยังอดไม่ได้ที่จะโน้มน้าวจิตใจของลูกสาว อีกครั้ง พวงชมพูเหมือนจะรู้ว่าพ่อยังห่วงก็ เลยเดิน เข้าไปโอบเอว ท่านไว้หลวมๆ พร้อมกับบอกอย่างเอาใจ “ชมพูจะคิ ด ถึ งทุก อย่างที่บ้ า นเรา ชมพูจะโทรหาพ่อช้า ง บ่อยๆ แล้วก็จะไม่ทาอะไรให้พ่อช้างกับแม่แก้ว แล้วก็พี่ๆ ต้องเป็น ห่วง วันหยุดก็จะแวะไปค้างที่สวนค่ะ” “คืนนี้ให้พ่อกับพี่เกดค้างเป็นเพื่อนสักคืนไหมลูก เผื่อว่าหนู จะอยู่ไม่ได้ค นเดีย ว” คุณ กริน ยังเสนอ ทาท่าจะไม่ ย อมกลับ บ้ าน พวงชมพูต้องส่งสายตาขอให้พี่สาวช่วยพูดให้ “น้องอยู่ได้แน่ค่ะพ่อ โรสเขาก็อยู่ด้วย ถ้ามีอะไรเขาก็โทร ตามกันได้ หรือโทรถามเรายังได้เลย ขับรถแป๊บเดียวก็ถึง ไม่มีอะไร ต้องห่วงหรอกค่ะ” “พ่อก็ห่วงว่าจะอยู่คนเดียวไม่ได้เท่านั้นแหละ ถึงจะมีโรสแต่ ก็ไม่ได้มาอยู่กับยายชมพูที่นี่ แล้วเกิดเจ็บไข้ขึ้นมาใครจะดูแล” “ชมพูแข็งแรงค่ะ ไม่ป่วยง่ายๆ หรอก” พวงชมพูยิ้มประจบ 31


เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก “ถ้างั้นพี่กับพ่อกลับก่อนแล้วกันนะชมพู ถ้ามีอะไรก็รีบโทร ไปที่บ้านเราเลยนะ” การะเกดตัดบทกับนาทุกคนเดินออกมาข้าง นอก พวงชมพูยังเกาะแขนพ่อไว้แน่นเมื่อเดินมาส่งที่ประตู “พ่อกลับ ก่ อนนะลูก หนู ต้องรัก ษาตัว ให้ดีๆ อยู่ที่นี่ จะทา เหมือนอยู่บ้านเราไม่ได้แล้วนะ หนูต้องเรียนรู้อะไรอีกมาก ที่พ่อยอม ให้ ห นู ม าที่นี่ ก็ เ พราะต้ อ งการให้ ห นู ออกมาหาประสบการณ์ ชี วิ ต เรียนรู้วิธีที่จะเอาตัวรอดได้โดยไม่ต้องอยู่ใต้ร่มเงาของพ่อแม่ แต่ถ้า หนูเดินต่อไปไม่ไหวแล้วก็หยุดนะลูก หยุดแล้วหันกลับมามองข้าง หลั ง แล้ว ถอยกลั บ มาตั้ งหลัก ที่ บ้ า นเรา เพราะทุ ก คนพร้ อ มที่ จ ะ ต้อนรับลูกเสมอ” คุ ณ กริน พร่าสอนพร้อ มกั บ ลู บ ศี ร ษะเล็ก ของลู ก อ่ อ นโยน พวงชมพูถึงกับน้าตาซึมแต่เธอจะไม่ยอมร้องไห้ออกมาเด็ดขาด จะ ไม่ทาให้พ่อกับพี่สาวต้องเป็นห่วง “พี่กับพ่อไปก่อนนะชมพู” การะเกดบอกยิ้มๆ “ค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ” พวงชมพูยกมือขึ้นไหว้พี่สาว กับบิดา แต่ก่อนที่พวกเขาจะไปยังอดไม่ได้ต้องโผเข้าไปกอดอีกครั้ง เป็นนานก่อนจะปล่อยให้พวกเขาเดินออกประตูไป เมื่อพวกเขาไปแล้วพวงชมพูก็รู้สึกใจหายไม่น้อย โรสที่ยืน อยู่ใกล้ๆ เดินเข้ามาปลอบเสียงอ่อนโยน “ไม่เป็นไรนะคะน้องชมพู” “ชมพูไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่รู้สึกใจหายนิดหน่อย ชมพูเคย ไปออกค่ายอาสาเป็นเดือนๆ เลยก็มีนะคะ แต่นั่นมันมีกาหนดกลับ ผิดกับตอนนี้ที่ชมพูอาจจะได้กลับไปเยี่ยมบ้านแค่วันหยุด แล้วถ้าเกิด อาทิตย์ไหนยุ่งๆ ก็อาจจะไม่ได้กลับค่ ะ ” พวงชมพูแอบกรีดน้ าตา เล็กน้อยแล้วยิ้มให้บางๆ “ก็โทรหาสิค ะ ถ้าคิดถึ งนั กก็ โทรไปทุกวัน เลย แค่ นี้ก็ หาย คิดถึงแล้ว เดี๋ยวอยู่ไปอีกหน่อยก็ไม่อยากกลับแล้ วละค่ะ” โรสบอก 32


ญาณนันต์ เสียงกลั้วหัวเราะ “ขอบคุณนะคะที่ช่วยปลอบใจชมพู” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ บอกแล้วไงว่าอย่างไรเราก็เหมือนพี่น้อง กั น เออ! แล้ ว นี่ น้ อ งชมพู คิ ด จะมาอยู่ ที่ นี่ น านไหมคะ” โรสชวน เปลี่ยนเรื่องขณะพากันมาล้มตัวลงที่โซฟาราคาแพง “ยังไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ บางทีถ้าชอบชมพูก็อาจจะอยู่ไป เรื่อยๆ แต่ถ้าเบื่อแล้วก็อาจจะกลับ” พวงชมพูไม่ได้คิดมาก่อนว่าเธอ จะมาอยู่ที่นี่ได้นานแค่ไหนเพราะยังนึกภาพตัวเองใช้ชีวิตอยู่เพียง ลาพังในเมืองใหญ่นี้โดยปราศจากพ่อกับแม่และพี่ๆ อันเป็นที่รักของ เธอไม่ออก แต่ก็คิดว่าหากปรับตัวให้ชินกับมันอีกสักนิ ดเธอก็คงจะ อยู่ได้เอง BBB

33


3 พบกันอีกครั้ง ต้องพาดาราในสังกัดคนใหม่ไปอัดรายการ ทีแรกพวงชมพูว่าจะขอ ตามไปดูด้วยแต่เมื่อกลับมาคิดดูอีกทีเห็นว่าไปดูก็ไม่เห็นจะได้อะไร เพราะตอนนี้ เ ธอโตแล้ว ไม่ ไ ด้มี ค วามรู้ สึก ชื่ น ชมดาราคนไหนเป็ น พิเศษจึงไม่ได้ตามโรสไปด้วย แต่พวงชมพูเลือกที่จะเปลี่ยนชุดวอร์ม เตรียมออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะใกล้ๆ ที่เธอเห็นตอนนั่งรถผ่านมา เมื่อตอนกลางวัน สวนสาธารณะที่ ว่ า นั้ น อยู่ ไ ม่ ไ กลจากคอนโดฯ มากนั ก พวงชมพูจึงเลือกที่จะเดินไปมากกว่านั่งรถให้เปลือง แถวนี้มีแต่บ้าน หลังใหญ่หรือที่เขาเรียกกันว่าคฤหาสน์เพราะเป็นย่านคนรวยเขาอยู่ กัน หญิงสาวไม่ได้ติดใจบ้านหลังไหนเป็นพิเศษนอกจากคฤหาสน์ หลังใหญ่สีขาวสะอาดตาเพราะเห็นว่ามีต้นไม้ใบหญ้าผลิดอกออกใบ สวยงามคล้า ยกั บ สวนปลูก รัก ษ์ข องเธอมากที่ สุด แต่นั่ น ยั งไม่ น่ า อมยิ้มเท่ากับรั้วบ้านที่ถูกพันเกี่ยวด้วยดอกพวงชมพูที่กาลังชูช่อออก ดอกสีชมพูสวยสมชื่อ ยืนมองมันอยู่เพียงครู่เดียวหญิงสาวก็ตัดสินใจวิ่งเหยาะๆ


ญาณนันต์ ออกไปที่สวนสาธารณะ เมื่อไปถึ งก็ เห็นผู้ค นมาออกก าลังกายกั น ครึกครื้น บ้างก็ปูเสื่อนั่งอยู่ริมน้าเป็นกลุ่มๆ พวงชมพูเลือกวิ่งไปตาม ทางเดินเล็กๆ หยิบเครื่องเล่นเพลงออกมาเสียบหูฟังไปด้วยเพลินๆ แต่วิ่งไปได้พักเดียวก็ต้องหยุดเมื่อรู้สึกว่ารองเท้าผ้าใบคู่ เก่งจะขาด เสียแล้ว “ตายละหว่ า ใส่ ม าตั้ ง นานจะมาขาดอะไรเอาตอนนี้ ” พวงชมพูบ่นพึมพร้อมกับถอดหูฟังออกเก็บใส่กระเป๋ากางเกง ก่อน จะเดิ น ไปที่ ม้ านั่ ง ยาวใต้ ร่ม ไม้ ข้ า งทางแล้ว ถอดรองเท้ าข้ างที่ข าด ออกมาดูก่อนจะส่ายหน้าอย่างหัวเสียเมื่อเห็นว่าพื้นรองเท้ามันหลุด ออกไปแล้วกว่าครึ่งจะใส่ต่อไปก็คงจะไม่ได้ “แล้วนี่จะเดินกลับอย่างไรละเนี่ย บ้าเอ๊ย!” ด้วยความโมโห พวงชมพูจึงขว้างร้องเท้าในมือทิ้งไปข้างหลังเต็มแรง “โอ๊ะ!” เสียงร้องด้วยความตกใจปนเจ็บปวดของใครบางคน ดังขึ้นจากด้านหลัง พวงชมพูสะดุ้งโหยงใบหน้าซีดเผือดเพราะคิดว่า รองเท้าตัวเองคงจะไปโดนใครเข้า รีบลุกขึ้นจากม้านั่งแล้วค่อยๆ หัน กลับไปมองด้านหลังทันที ภาพของชายคนหนึ่งที่อยู่ในชุดกางเกงวอร์มสีหม่นกับเสื้อ กล้ามสีขาวสะอาดมีผ้าขนหนูพาดไหล่นั่งกุมข้อเท้าปรากฏต่อสายตา อีกทั้งรองเท้าข้างนั้นของเธอก็อยู่ห่างจากเขามากนักทาให้พวงชมพู ต้องลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่ท่าทางของผู้ชายคนนั้น ดูเหมือนคนที่กาลังบาดเจ็บทาให้พวงชมพูอดไม่ได้ต้องเดินเข้าไป ถาม “เอ่อ…คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” “ไม่เป็นไร” เสียงห้าวตอบกลับมาเรียบๆ “แต่เมื่อกี้ฉันได้ยินเสียงคุณร้องเหมือนคุณเจ็บนะคะ” “ผมไม่เป็นไร” พลาธิปลงเสียงหนักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง คนช่างซักด้วยความราคาญ แต่เมื่อได้เห็นใบหน้ารูปไข่นั้นได้ถนัดตา 35


เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก ชายหนุ่มก็ถึงกับนิ่งเงียบไปพักใหญ่คล้ายกาลังนึกตรึกตรองถึงอะไร บางอย่าง ก่อนที่ดวงตาจะเบิกโพลง หากเพียงครู่เดียวก็เมินหน้าหนี จากดวงหน้าที่แสดงถึงความอยากรู้อยากเห็นนั้น ใบหน้าคมคายกับดวงตาดุวับและริมฝีปากบางเฉียบนั้น มัน ทาให้เธอต้องขมวดคิ้ วมุ่น พวงชมพูเองรู้สึกคุ้ นหน้ าของชายหนุ่ ม ชอบกล เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก “คุ ณ ไม่ เ ป็ น ไรแน่ ห รื อ คะ” เพื่ อ ความสบายใจจึ ง ถามย้ า อีกครั้ง ทุกคนที่บ้านสอนให้เธอช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน หากว่า เขาบาดเจ็บขึ้นมาจริงๆ เธอก็พร้อมจะให้การช่วยเหลือ “ก็ บ อกว่ า ไม่ เ ป็ น ไร” ด้ ว ยความร าคาญแม้ จ ะรู้ สึ ก เจ็ บ ที่ ข้ อ เท้ าเพราะเมื่ อครู่เ ขาออกก าลั งกายอยู่ ก็ ต้ องทรุ ด ลงเฉยๆ แต่ ชายหนุ่มก็ยังลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเพื่อให้เธอเลิกสนใจเขาไปเสีย พวงชมพูถึงกับหน้าแดงระเรื่อเมื่อเห็นรูปร่างของชายหนุ่ม ชัดเจน หุ่นของเขายิ่งกว่านายแบบต่างชาติเสียอีก กล้ามเป็นมัดๆ อีกทั้งความสูงนั้นก็ใช่ย่อยเมื่อยื นใกล้กันอย่างนี้เธอก็แค่สูงกว่าไหล่ ของเขานิดเดียว และความรู้สึกในลักษณะนี้ทาให้พวงชมพูย้อนคิด ไปถึงใครคนหนึ่งที่เธอขนานนามเขาไว้ว่าตาหมียักษ์เพราะหุ่นของ เขาใหญ่โตเกินมาตรฐานชายไทยไปมาก ทั น ใดนั้ น หั ว ใจของพวงชมพู ก ระตุ ก วู บ เมื่ อ ความทรงจ า ในครั้งก่อนที่ผ่านมานานหลายเดือนหวนกลับเข้ามาในห้ว งค านึ ง เธอต้องเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้อีกครั้ง และมอง นานทีเดียวก่อนแววตาจะเกิดรอยกระจ่างใสแล้วใบหน้าก็ยิ้มพราย เมื่ อ มั่ น ใจแน่ แ ล้ ว ว่ า ไม่ ผิ ด ตั ว แน่ ผู้ ช ายคนนี้ ก็ คื อ ตาหมี ยั ก ษ์ เจ้าหลักการคนนั้นนั่นเอง “สวั สดี ค่ ะ คุ ณ พลาธิ ป ” พวงชมพู พ นมมื อขึ้ น กั บ อกแล้ ว ย่อเข่าไหว้ชายหนุ่มตรงหน้าอย่างสวยงามและอ่อนช้อยที่สุดเท่าที่จะ ทาได้ 36


ญาณนันต์ พลาธิปถึงกั บสะดุ้งเล็ก น้อยเพราะเขาไม่ได้ป ระสงค์จะให้ หญิงสาวจาเขาได้เลยแม้แต่นิดเดียว เขาไม่ต้องการพบเจอหรือทา ความรู้จักกับยายตัวแสบนี่หรอก “แหม…โลกกลมจังเลยนะคะ” พวงชมพูจีบปากจีบคอพูด “ผมไม่รู้จักคุณ” ชายหนุ่มปฏิเสธเสียงแข็ง “โอ้ … ไม่ คิ ด ว่ า คุ ณ พลาธิ ป จะเป็ น โรคอั ล ไซเมอร์ ด้ ว ยนะ คะเนี่ย” พวงชมพูไม่มีทางเชื่ออย่างแน่นอนว่าเขาจะจาเธอไม่ได้ เธอ มั่นใจว่าคนอย่างเขาคงไม่ได้เป็นโรคความจาเสื่อม พลาธิ ปตวั ด สายตาคมดุม องหญิง สาวคล้ายกั บ ต าหนิ นั่ น ทาให้พ วงชมพูต้องลอบยิ้ม เพราะมั น ยิ่งทาให้เธอหวนคิ ด ถึ งเรื่อ ง คราวนั้น “บ้านคุณพลาธิปอยู่แถวนี้หรือคะ หลังไหนละคะเนี่ย คงจะ ใหญ่โตน่าดูเลยใช่ไหมคะ” ทาทีเป็นเหลียวมองซ้ายขวาเพื่อยั่วโมโห เขา “ขอตัว” แต่พลาธิปไม่คิดเสวนาด้วยจึงจะเดินเลี่ยงออกไป แต่เพราะความเจ็บข้อเท้าทาให้ต้องชะงักอยู่กับที่เพราะไม่อยากเดิน กะเผลกให้หญิงสาวเห็นด้วยกลัวว่าจะต้องเสียฟอร์ม “ขอตัวแล้วไม่ไปหรือคะคุณพลาธิป ” พวงชมพูรู้ว่าเขาต้อง เจ็บขาแน่ๆ จึงแกล้งเย้าออกไป “เด็กบ้า” พลาธิปสบถกับตัวเองเบาๆ อย่างหัวเสีย “ให้ฉันพาไปหาหมอไหมคะ?” เสนอตัวอย่างไม่คิดอะไร “ไม่เป็นไร ผมไปเองได้” “อ้ า ว ก็ ไ หนว่ า ไม่ เ ป็ น ไรไงคะ แล้ ว จะไปหาหมอท าไม” พวงชมพูอยากจะหัวเราะเยาะเขาแต่ก็เกรงสายตาดุๆ นั้นอยู่ไม่น้อย เลย พลาธิปขบกรามแน่นจนขึ้นสัน พยายามตั้งสติแล้วบอกกับ ตัวเองว่าอย่าไปถือสาเด็กไม่รู้ความ แต่ขาเจ้ากรรมก็ยังเดินต่อไปไม่ไหว 37


เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก “ให้ฉันช่วยพยุงไหมคะ?” “ยุ่งจริง ถ้าผมยังได้ยินคุณพูดอีกละก็เป็นเรื่องแน่ ” พลาธิป สุดจะทนต้องข่มขู่ออกไป พวงชมพูทาคอหดแล้วเบ้ปากน้อยๆ “คนเขาอุตส่าห์หวังดี” “ผมไม่เคยต้องการความหวังดีจากคุณ ” พลาธิปบอกเสียง ขรึม “โอเคค่ะ ไม่ต้องการก็ไม่เป็นไร” พวงชมพูทายิ้มแป้นก่อน จะเก็บรองเท้าข้างนั้นของตัวเองไปทิ้งขยะแล้วก็เลยถอดอีกข้างหนึ่ง ทิ้ง ไปด้ ว ย เหลือ เพี ย งถุ ง เท้ าใส่ ติ ด เท้ า เอาไว้ เ ท่ านั้ น ก่ อนจะเดิ น กลับไปนั่งนวดขาตัวเองเพลินๆ ที่ม้านั่งตัวเดิม หางตาก็ลอบสังเกต ชายหนุ่มไปด้วย พลาธิปเป่าลมหายใจออกจากปากเล็กน้อยก่อนจะกลั้นใจ ก้าวเดิน ต่อไป แต่จนแล้ว จนรอดก็ ไปไม่ ไหวเลยทรุดฮวบลงที่พื้น หญ้าเขียวขจี พวงชมพูที่แอบมองอยู่เป็นระยะรีบปราดเข้าไปพยุง เข้าไว้ “ไหนว่าไม่เป็นไรไงล่ะคะ” “ไม่ ต้ อ งพยุ ง ผมไม่ เ ป็ น ไร” ถึ ง ขนาดนี้ แ ล้ ว พลาธิ ป ก็ ยั ง ยืนยันคาเดิม “คุณไปไม่ไหวแล้ว ให้ฉันช่วยดีกว่านะคะ” เวลานี้พวงชมพู ไม่คิดอะไรนอกจากเป็นห่วงอาการของเขา “ผม…” “คุณต้องไปหาหมอค่ะ” พวงชมพูไม่ยอมให้เขาปฏิเสธพยุง เขาออกเดินทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจะพาเดินไปทางไหน และต้องไปที่ไหนถึง จะมีโรงพยาบาลหรือว่าคลินิก “รู้หรือว่าจะไปหาหมอได้ที่ไหน” พลาธิปยิ้มเยาะคนอวดเก่ง “ไม่รู้หรอกค่ะ คุณก็บอกฉันมาสิคะว่าจะให้พาไปหาหมอได้ ที่ไหน” 38


ญาณนันต์ พลาธิปไม่ตอบแต่ชี้มือไปด้านหนึ่งแล้วเอ่ยถาม “รถผมอยู่ ทางโน้น ขับเป็นไหม?” “เป็น ค่ ะ” พวงชมพูพยัก หน้ ารับ ตอนที่อยู่สวนปลูกรัก ษ์ การะเกดเป็นคนสอนให้เธอขับรถเพราะบางครั้งเธอก็ต้องช่วยพี่ สาว ขับไปซื้อปุ๋ยในตลาด ไม่เป็นอะไรมากเพียงแค่พลิกเท่านั้น หมอจึงใช้น้าแข็งประคบแล้ว เอาผ้ายืดมาพันไว้ ก่อนจะให้ยามาทาน “บ้ านคุณ พลาธิป อยู่ไหนคะ เดี๋ยวฉัน จะไปส่ง ” พวงชมพู ทาเหมือนกับว่ารถที่กาลังขับอยู่เป็นของตัวเองกระนั้น “พูดผิดหรือเปล่า” พลาธิปหันมามองคนขับรถตาขุ่น “ผิดอย่างไรคะ?” พวงชมพูลอยหน้าลอยตาทาไม่รู้ไม่ชี้ “ช่างเถอะ ไม่ต้องไปส่งหรอกเดี๋ยวผมขับรถกลับบ้านเอง” พลาธิปตัดบทอย่างไม่ต้องการเสวนาให้มากความ พวงชมพู ถึงกับต้องหักรถเลี้ยวเข้าข้างทางก่อนจะหันมาถามเขาอย่างไม่เข้าใจ “ทาไมคะ?” “ทาไมอะไร?” พลาธิปไม่ตอบ กลับย้อนถามหน้าตาย “ก็…ทาไมถึงไม่ให้ฉันไปส่งละคะ ก็ในเมื่อเท้าคุณเจ็บแล้ว คุณจะขับรถกลับอย่างไร” พวงชมพูไม่เข้าใจเขาเลยสักนิด “นั่นมันก็เรื่องของผม หน้าที่ของคุณจบไปตั้งแต่พาผมไปส่ง ที่ค ลินิ ก แล้ ว นี่ ก็ ค่ ามื ด ไม่ คิ ด จะกลับ บ้ านหรืออย่างไร ออกมากั บ ผู้ชายสองต่อสองอย่างนี้ ไม่ ก ลัว เลยใช่ไหม เด็ ก สมั ย นี้ ท าไมถึ งได้ ใจกล้าอย่างนี้นะ” เพราะความที่มีหลานอายุประมาณหล่อนพลาธิปจึงพูดตาม ความเคยชินในฐานะอาหนุ่มที่เคยพูดกับหลานสาวซึ่งอายุห่างกันแค่ สิบ กว่ า ปี เ พราะพี่ช ายกั บ เขาอายุห่ า งกั น มาก เขาจึ งเผลอเอามา 39


เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก สั่งสอนพวงชมพูด้วย “คุณพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกนะคะ ฉันหวังดีเห็นว่าคุณเจ็บถึงได้ พาไปหาหมอทั้งที่ฉันก็เท้าเปล่า แล้วพอจะกลับจะให้ฉันทิ้งคุณซึ่ง กาลังเจ็บอยู่ได้อย่างไร ข้อเท้าพลิกจะขับรถได้หรือคะ” แม้จะนึก เคืองโกรธกับคาพูดจาของเขา แต่เพราะความที่เห็นว่าเขาเจ็บอยู่จึง ทาเป็นไม่รับรู้ไปเสีย “แล้วนี่บ้านคุณอยู่ไหน หวังดีจะไปส่งคนอื่นน่ะรู้หรือว่าจะ กลับบ้านตัวเองอย่างไร” พลาธิปเริ่มพูดเสียงอ่อนลงเพราะจนต่อ เหตุผลของหญิงสาว “บ้ านฉั น ก็ อ ยู่แ ถวๆ นี้ แ หละค่ ะ ไม่ ต้องห่ว งว่ าฉั น จะเป็ น บ้านนอกเข้ากรุงหรอกนะคะ” พวงชมพูยักคิ้วให้เขาหนึ่งที “คุ ณเรียนอยู่น ครปฐมไม่ใ ช่หรือ ?” เมื่ อเผลอถามออกไป แล้วด้วยความสงสัยพลาธิปก็อยากจะกัดลิ้นตัวเอง “อ้าว ก็ไหนคุณว่าจาฉันไม่ได้ไงคะ” พวงชมพูหลิ่วตามอง เขาคล้ายกับล้อเลียน “อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้น ” พลาธิปเตือนด้วยเสีย ง ที่บ่งบอกว่ากาลังหงุดหงิด พวงชมพูไหวไหล่เล็กน้อยก่อนถามอีกครั้ง “ตกลงจะให้ไป ส่งไหมคะ?” “ไปสิ” จาต้องตอบอย่างเสียไม่ได้ก่อนจะบอกทางไปบ้าน ของตนกับสารถีกิตติมศักดิ์ พวงชมพูแอบยิ้มเล็กน้อยแล้วออกรถไปยังทิศทางที่เขาบอก ขั บ เข้ าซอยที่พ อจะคุ้ น ๆ ในคราแรกก่ อนจะนึ ก ขึ้ น ได้ว่ าเป็ น ซอย เดียวกับที่เธอวิ่งผ่านตอนไปสวนสาธารณะตอนบ่ายก็ถึงบางอ้อ และ ที่น่าตื่นเต้นไปมากกว่านั้นก็คือตาหมียักษ์เป็นเจ้าของคฤหาสน์สีขาว หลังใหญ่ที่เธอต้องใจหลังนั้น “นี่คุณเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้หรือคะ” พวงชมพูร้องถามเขา 40


ญาณนันต์ ด้วยใบหน้าตื่นเต้น ดวงตาแพรวพรายสดใสดังไม่เคยพบเคยเห็นมา ก่อนกระนั้น “ใช่ ทาไม?” พลาธิปเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเป็นเชิงถามขณะรอ คนในบ้านออกมารับที่นอกรั้วเพราะเขาไม่ต้องการให้ยายตัวแสบนี่ เข้าไปถึงในบ้านเขา แค่มาส่งนี่ก็ถือว่าเป็นพระคุณยิ่งแล้ว “ฉั น ชอบ บ้ านคุ ณ สวยดี ” บอกออกไปอย่ างไม่ คิ ด ปิ ด บั ง หรือรักษากิริยาของตัวเองเลยสักนิด พวงชมพูยังชะเง้อชะแง้มอง และยังหวังอีกว่าจะได้เข้าไปเยี่ยมเยียนมันถึงด้านในโดยที่ไม่รู้หรอก ว่าชายหนุ่มได้ปฏิเสธไปในใจตั้งแต่เธอยังไม่ทันจะขอเสียด้วยซ้า “เดี๋ยวคนในบ้านออกมารับแล้วผมจะให้เขาขับรถไปส่งคุณ ที่บ้านก็แล้วกัน ” พลาธิปดักทางไว้อย่างนึกรู้กับสายตาวิบวับยาม เมื่อหญิงสาวเมียงมองเข้าไปในบ้านของเขา “คุ ณ พลาธิ ป นี่ ขี้ ห วงจั ง เลยนะคะ” พวงชมพู ต่ อ ว่ า เขา หน้าตาเฉย แถมยังลอยหน้าลอยตาทาไม่รู้ไม่ชี้อีกด้วย พลาธิปทาท่าจะตอบโต้กลับไปแต่แล้วก็ต้องหุบปากฉับเมื่อ คนของเขาวิ่งออกมาจากบ้านแล้วเปิดประตูรถให้พอดี พวงชมพูก็รีบ ก้าวลงจากรถตามเขาไปด้วยหวังจะช่วยพยุง แต่ยังไม่ทันจะเข้าถึง ตัวเขาด้วยซ้าชายหนุ่มก็ร้องสั่งคนของเขาเสียงห้วน “ขับรถไปส่งผู้หญิงคนนี้กลับบ้านโดยสวัสดิภาพด้วย” “โธ่คุณ คนอุตส่าห์พาไปหาหมอแถมยังขับรถมาส่งอีกจะไล่ กันง่ายๆ อย่างนี้เลยหรือคะ จะไม่ชวนเข้าไปดื่มน้าดื่มท่าข้างในบ้าน ก่อนหรือไง แล้วตอนนี้มันก็เลยเวลาอาหารเย็นฉันมามากแล้วด้วย นะคะ นั่น ก็ เพราะว่ าฉั น ต้องพาคุ ณไปหาหมอ แถมยังไปด้ว ยเท้า เปล่าๆ อย่างนี้ด้วยนะ” พวงชมพูยกเอาเรื่องบุญคุณมาอ้าง ยิ่งเขาทาท่าไม่อยากให้ เข้ าไปเธอก็ ยิ่ งอยากจะเข้ า ไปให้ไ ด้ อยากจะรู้นั ก ว่ า จะหวงอะไร นักหนา หรือจะรังเกียจอะไรกันนักกับการต้อนรับเธอเพียงเท่านี้ 41


เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก พลาธิปถอนใจเฮือกใหญ่ด้วยไม่อยากจะยืนต่อล้อต่อเถียง กับเธอให้เสียเวลาเพราะเขาเองก็เจ็บขาอยู่ จึงบอกปัดออกไปอย่าง ตัดราคาญ “งั้นก็ตามมา” พวงชมพู ถึ ง กั บ ยิ้ ม แก้ ม ปริ ด้ ว ยความสมใจ การเอาชนะ คนหยิ่งยโสอย่างเขาได้นี่มันเป็นอะไรที่น่าภูมิใจไม่น้อยเลย เดี ย วเพราะปกติ พ ลาธิ ป จะไม่ ท านอาหารเย็ น แม่ ค รั ว จึ ง ไม่ ต้ อ ง ทาอาหารเย็น ไว้ ใ ห้ อีก ทั้งชายหนุ่ ม ก็ อยู่ บ้ านหลั งนี้ เพีย งคนเดีย ว คาสัง่ ของเขาก็เลยเด็ดขาด ถ้าไม่ให้ทาอะไรก็คือห้ามทา เพราะหาก ฝ่าฝืนคาสั่งแม้เพียงเล็กน้อยพลาธิปก็จะไล่ออกง่ายๆ โดยไม่ต้องให้ เหตุผลเพียงยื่นซองขาวเท่านั้นก็อันเป็นจบ “ทาอาหารอย่างเดียวเองหรือคะ ต้มจืดสาหร่ายก็จืดสมชื่อ จริงๆ” ขณะกินยังบ่น เพราะไม่ชินกับการกินอาหารที่มีเพียงอย่าง เดียวแบบนี้ ปกติบ้านเธอก็ไม่ได้กินอะไรที่แปลกพิสดารหรือเลิศหรู ไปกว่าคนอื่นหรอกนะ เพียงแต่ว่าการที่อยู่กันหลายคนทาให้แม่แก้ว กับพี่เกดต้องทาอาหารกันมื้อหนึ่งหลายอย่าง และทาคราวละมากๆ เพื่อให้พอกินกันทุกคน ไม่ใช่ทาเพียงจานเดียวแล้ววางแหมะให้เ ธอ กินคนเดียว ส่วนเจ้าบ้านก็เอาแต่นั่งมองคล้ายจะจับผิดอย่างนี้ “เสียมารยาท มาทานข้าวบ้านคนอื่นเขาแล้วยังบ่นอีก แล้ว ที่บ้านคุณไม่ได้อบรมมาหรือว่าเวลาทานข้าวเขาห้ามพูด ” พลาธิป ตาหนิตรงๆ เล่นเอาพวงชมพูแทบสาลักน้าต้มจืดที่กาลังจะตักซด พอดี “สอนสิ ค ะคุ ณ พ่ อ แม่ ฉั น สอนลู ก มาดี ทุ ก คนแหละ” แม้ คาตอบนั้นจะพาซื่อแต่น้าเสียงบ่งบอกถึงอาการประชดประชันได้ เป็นอย่างดี 42


ญาณนันต์ “รีบกินเข้าเถอะ เสร็จแล้วผมจะให้คนรถไปส่งที่บ้าน แล้ว เราจะได้ไม่ต้องมีอะไรติดค้างกันอีก” “ค่ะ” พวงชมพูยิ้มแยกเขี้ยวก่อนจะก้มหน้าก้มตากินต่อไป หากยังแอบเงยหน้าขึ้นชาเลืองมองเขาอยู่เป็นระยะๆ และแปลกที่ว่า ไม่ว่าจะมองคราใดก็ยังพบว่าเขาจับจ้องมองมาที่เธอทุกครั้ง “หน้ า ฉั น มี อ ะไรติ ด อยู่ ห รื อ คะ เห็ น มองจั ง เลย” เมื่ อ ทน อึดอัดต่อไปไม่ไหวเลยตัดสินใจถามเขาออกไป “เปล่า…กินข้าวหก” เขาชี้มือไปที่พื้นใกล้จานข้าวเมื่อเห็น ว่ามันมีเม็ดข้าวเกลื่อนอยู่ พวงชมพูยิ้มแหย ออกอายๆ ก่อนจะแก้ตัวในใจว่าเพราะเขา นั่นแหละที่มองอยู่ได้ทาให้เธอไม่มีสมาธิในการกิน “คุณพลาธิปอยู่บ้านคนเดียวหรือคะ?” ถามอย่างต้องการ จะเปลี่ยนเรื่อง “ถามทาไม?” “ก็…อยากรู้สิคะถึงถาม บ้านใหญ่ๆ อย่างนี้ถ้าอยู่คนเดียวละก็ เหงาแย่เลยนะคะ” “ไม่ต้องมาออกความเห็นหรอก รีบกินเข้าไปเถอะจะได้กลับ สักที” “อะไรกั น คะ ไล่ แ ขกมั น เสี ย มารยาทนะคะคุ ณ พลาธิ ป ” พวงชมพูแสร้งทาตาปริบๆ พลาธิปชักจะเหลืออดแต่ยังไม่ทันจะได้ตอบโต้อะไรออกไป ก็ถูกขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน “บ๊ อ กๆๆ” เสี ย งเห่ า ดั ง ขึ้ น พร้ อ มกั บ สุ นั ข สี ข าวขนยาว มีโบเล็กๆ สีแดงสดผูกติดที่ขนบนหัววิ่งออกมาพันแข้งพันขาพลาธิป ที่นั่งอยู่ไม่ห่างจากพวงชมพูมากนัก “ผักตบ ออกไปห่างๆ เลยไป” “หมามาจากไหนน่ ะ คุ ณ น่ า รั ก จั ง เลย แต่ เ อ๊ ะ ท าไมชื่ อ 43


เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก น่าเกลียดจัง” พวงชมพูละจากจานข้าวลงไปอุ้มเจ้าผักตบเอาไว้ “ปล่อยมันลงเดี๋ยวนี้เลย ไม่ต้องไปยุ่ง คุณน่ะรีบมาทานข้าว ให้เสร็จสักทีเถอะ” พลาธิปบอกอย่างราคาญ “ฉันอิ่มแล้วค่ะ ” พวงชมพูหันไปยิ้มให้ทั้งยังไม่ยอมปล่อย เจ้าผักตบอีกต่างหาก “งั้นกลับ” “ยังค่ะ ฉันอยากเล่นกับเจ้าหมาตัวนี้ก่อน” บอกเขาแล้วก็ อุ้มมันออกไปนอกห้องอาหารอย่างไม่คิดจะเกรงใจเจ้าของบ้านเลย สัก นิ ด ก็ ใ ครใช้ใ ห้เ ขาอยากไล่เ ธอนั ก เล่ า ไล่นั ก ก็ จะอยู่ มั น นานๆ อย่างนี้แหละ พลาธิปต้องถอนหายใจออกมาแรงๆ ด้วยความหงุดหงิด นึก โทษสโรชาหลานสาวตัวยุ่งของเขานักที่เป็นคนซื้อเจ้าสุนัขตัวนี้มา เมื่อเดือนก่อน กลับมาเยี่ยมเขาไม่ทันครบวันก็ดันไปหาซื้อมันมาอ้าง ว่าอยากเลี้ยง แต่ยังไม่ทันจะได้ตั้งชื่อให้พอกลับไปอเมริกาก็ทิ้งมันไว้ ให้เป็นภาระเขาเสียอย่างนั้น ชายหนุ่มหมั่นไส้ก็เลยตั้งชื่อให้มันว่า ผักตบเสียเลย หลังใหญ่อย่างใคร่รู้นักว่าเหตุใดเจ้าของถึงได้หวงนักหวงหนา ขนาด ว่าทาท่าจะไล่เธอตั้งแต่ยังไม่ทันได้เข้ามาเหยียบบ้านเขาเลยก็ว่าได้ รอบๆ บ้านเขามีไม้ดอกเยอะพอดู แต่คิดว่าถึงอย่างไรก็ไม่สวยเท่าที่ สวนปลูกรักษ์ของเธอหรอก “เจ้านายแกนี่ รวยใช่เล่น เลยนะเจ้าหมาน้ อย บ้ านเท่าวั ง ใหญ่กว่าบ้านฉันอีกนะเนี่ย แต่เสียอย่างเดียวสวยไม่เท่ า” พึมพากับ เจ้าผักตบเหมือนว่ามันจะรู้เรื่องกระนั้น “รวยแต่ใจร้ายน่าดู ดูสิแกเป็นหมาตัวเมียแท้ๆ แทนที่จะตั้ง ชื่อให้มันน่ารักหน่อยดันตั้งว่าผักตบ น่าเกลียดจะตาย” 44


ญาณนันต์ “ชื่อผักตบมันน่าเกลียดตรงไหน เพราะจะตาย” คนตั้งชื่อ ให้เดินกะเผลกเข้ามาทันได้ยินพอดีจึงเถียงออกไป พวงชมพูสะดุ้งเล็กน้อย หันกลับไปมองทางต้นเสียงทันควัน พอเห็นว่าเป็นเจ้าของบ้านก็ถอนใจโล่ง “ขาเจ็บแล้วเดินทาไมบ่อยๆ คะ เดี๋ยวก็บวมขึ้นมาหรอก” เตือนออกไปด้วยความหวังดี ไม่รู้ว่าเมื่อครู่เขาจะได้ยินในตอนต้น ประโยคที่เธอหาว่าเขาใจร้ายหรือเปล่า “ว่าอย่างไร ชื่อผักตบแล้วมันเป็นอย่างไร” พลาธิปยังติดใจ เรื่องชื่อของเจ้าผักตบไม่หาย “อ้าว…ชื่ออื่นเพราะๆ ก็มีออกเยอะนี่คะ แต่คุณก็ดันไปตั้ง ว่ า ผั ก ตบ ใครจะว่ า เพราะก็ ไ ม่ รู้ ล่ ะ แต่ ฉั น ว่ า มั น ไม่ เ พราะเลย” พวงชมพูออกความเห็นชัดเจนว่าไม่ชื่นชอบชื่อนี้ของเจ้าหมาน้อย สักเท่าไรนัก “ไม่เพราะอย่างไร ชื่อผักตบน่ารักจะตาย” พลาธิปยังยืนยัน ว่าที่เขาตั้งน่ะมันเพราะกว่าชื่อไหนๆ “โอ้โห…แล้วถ้าคุณมีลูกคุณจะตั้งชื่อให้ลูกคุณว่าผักตบด้วย ใช่ไหมละคะถึงได้บอกว่ามันเพราะน่ะ” พวงชมพูหมั่นไส้เลยประชด เข้าให้ “นั่นมันก็เรื่องของผม คุณน่ะควรจะกลับไปได้แล้ว กระมัง มืดค่าขนาดนี้มาอยู่บ้านผู้ชายนานๆ มันไม่ดีหรอกนะ” “ทราบแล้วค่ะ แต่ไม่เข้าใจว่าทาไมคุ ณต้องไล่ฉั นจัง บ้าน คุณซ่อนขุมสมบัติเอาไว้หรืออย่างไรคะคุณพลาธิป ” แกล้งเน้นตรง ชื่อเขาเสียงหนัก เพื่อยืนยันให้ชัดเจนกันไปเลยว่าเธอนั้นจาเขาได้ ขึ้นใจแล้ว “อย่าอวดเก่งให้มันมากนัก เป็นผู้หญิงไม่ควรจะต่อปากต่อ คากับผู้ชายมันไม่งาม” “โอย…โอเคค่ะ ฉันกลับแล้วก็ได้” เมื่อเจอบทนี้เข้าพวงชมพู 45


เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก เห็นทีต้องขอลา คิดว่าอยู่ที่สวนปลูกรักษ์เสียอีก “กลับแล้วก็ดี งั้นเดี๋ยวผมให้คนรถไปส่ง รับรองว่าไว้ใจได้ ไม่ต้องห่วง” เขาบอกแล้วก็ร้องเรียกคนขับรถเสียงดังลั่น ไม่นานร่าง ผอมเกร็งของชายวัยกลางคนก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา “ครับคุณผู้ชาย” “ไปส่งเธอให้ถึงบ้านด้วย” สั่งแล้วเขาก็หมุนตัวเองออกไป จากตรงนั้นทันที ไม่รอส่งหญิงสาวเสียด้วยซ้าไป “มาว่าคนอื่นเขาอวดเก่ง ตัวเองดีตายละ คนอะไรหยิ่งชะมัด เลย ใช่ไหมหมาน้อย” ก้มลงพูดกับเจ้าผักตบเหมือนมันจะฟังรู้เรื่อง “รี บ ไปเถอะครั บ คุ ณ ” ชายคนขั บ รถบอกก่ อ นจะเดิ น นาออกไป “โชคดีนะเจ้า…ผักตบก็ได้” สุดท้ายก็ต้องยอมรับเพราะมัน เป็นหมาของเขานี่นาไม่ใช่ของเธอจะได้มีสิทธิ์มาชอบหรือไม่ชอบชื่อ ของหมาคนอื่น แต่ ส งสารก็ ต รงที่ว่ า หมาตัว เมี ย ต้ องมาชื่ อ ผัก ตบ นี่แหละ ถ้ามันพูดได้มันก็คงอยากจะขอเปลี่ยนกระมัง แต่ก็เปล่าเลย เพราะพอเธอเรียกชื่อมันเจ้าผักตบก็กระดิกหางรับแล้วซุกไซ้ออด อ้อนทันที พวงชมพูเดินออกมาที่หน้าบ้านก็เห็นว่ามีรถมาจอดรออยู่ ก่อนแล้วโดยที่ลุงคนนั้นขึ้นไปสตาร์ตเครื่องไว้เรียบร้อย หญิงสาวเงย หน้าขึ้นไปมองด้านบนของตัวคฤหาสน์แล้วก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อ พบพลาธิปยืนกอดอกมองลงมาจากระเบียงชัน้ บน “เจ็บ ขาก็ ไปนอนสิคุ ณ ” พวงชมพูป้ องปากตะโกนใส่เขา อย่างนึกขัน ชอบนักที่ได้แหย่ตาหมียักษ์อย่างนี้ และหากว่าเธออยู่ ใกล้เขาก็อาจจะเห็นว่าเขากาลังหน้าดาหน้าแดงเพราะความโกรธอยู่ ก็เป็นได้ ก่อนจะขึ้นรถยังหันไปโบกไม้โบกมือให้เขาอีกด้วย พอเขาไม่ ตอบรับก็หัวเราะคิกคักชอบใจ 46


ญาณนันต์ พลาธิปมองตามท้ายรถที่แล่นหายออกไปนอกรั้วด้วยความ หงุดหงิด ไม่คิดว่าจู่ๆ ก็จะได้มาพบกับผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ใครว่าเขา จาเธอไม่ได้ในเมื่อเขาไม่ได้เป็นโรคความจาเสื่อม ใบหน้าและท่าทาง กวนโมโหอย่างนั้นถึงอย่างไรก็ลืมไม่ลง ยังแปลกใจอยู่เลยว่าทาไม หญิงสาวถึงมาอยู่แถวนี้ได้ทั้งที่ตอนพบกันเมื่อหลายเดือนก่อนเธอยัง เป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยในจังหวัดนครปฐม ชายหนุ่ ม ได้ แ ต่ ภ าวนาว่ า ขออย่ า ให้ โ ลกมั น กลมเช่ น วั น นี้ อีกเลย เขาไม่ชอบเด็กสาวในลักษณะนี้สักเท่าไรนัก ยิ่งเมื่อพบกันทีไร เป็นต้องเกิดเรื่องวุ่นๆ ตามมาเขาก็ยิ่งไม่ชอบใจ ตัวเขามีหลานสาว อยู่คนก็ปวดหัวพอแล้ว ไม่ต้องการพบเจอหรือรู้จักกับแม่ตัวแสบนั่น อีก เพราะเรื่องที่เธอเคยก่อเอาไว้เมื่อคราวก่อนมันก็ทาเอาเขาลืมไม่ลง ถ้าหากว่าต้องมาพบเจอกันอีกชีวิตเขาก็จะไม่เป็นสุขเช่นวันนี้เพราะ เขาไม่เคยต้องเปิดบ้านเพื่อต้อนรับใครมาทานอาหารเย็น BBB

47


ผลงานที่ผ่านมา นามปากกา กระต่ายหมายจันทร์ บ่วงแค้นแสนเสน่หา มีนาคม 2552 เล่ห์รักวิวาห์ชุลมุน กันยายน 2552 พิษรักลวงใจ มกราคม 2553 ไฟรักชโลมใจ ตุลาคม 2553 หนี้รักเชลยใจ มีนาคม 2554 อุบายร้ายพ่ายพิศวาส ตุลาคม 2554 ภารกิจพิชิตรัก มีนาคม 2556

นามปากกา ญาณนันต์ กระตุกบ่วงรัก ตุลาคม 2553 ซีรีส์ชุด ในสวนรัก ตอน เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก มีนาคม 2554 หลงบ่วงวิวาห์ กันยายน 2554 ซีรีส์ชุด ดอกไม้ในมือมาร ตอน กับดักรักบ่วงมาร มีนาคม 2555 เล่ห์รักรัญจวนใจ มกราคม 2556




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.