ผู้เขียน โมริสา พิสูจน์อักษร วีณ ปก-ศิลปกรรม amany พิมพ์ครั้งที่ 2 กันยายน 2556 ในรูปแบบ E-book
จากใจโมริสา สาหรับ ดอกไม้ร่ายมนต์รัก เป็นหนึ่งในซีรีส์ชุด ในสวนรัก ที่โมริสาร่วมกับน้องๆ ในวงการร่วมใจกันคิด โปรเจ็กต์นี้ขึ้นมา เป็น งานซีรีส์ชุดแรกที่ให้ประสบการณ์หลายอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ได้จากการ ทางานชุดนี้มากที่สุดก็คือมิตรภาพดีๆ สาหรับโมริสารับหน้าที่ในเรื่อง “ดอกไม้ร่ายมนต์รัก” น้องจอย LALA เขียนเรื่อง “ดอกไม้ในอ้อมกอดรัก” ฝันหวาน นักเขียนอารมณ์ดีกับเรื่อง “เล่ห์ลวง บ่วงดอกไม้” สุดท้ายน้องต่าย ญาณนันต์ “เด็ดดอกไม้ใส่แจกันรัก” จึงขอฝากผลงานทั้งสี่เรื่องในรูปแบบ e-book ไว้ด้วยนะคะ หวังใจว่าท่านจะมีความสุขกับเรื่องราวของสาวๆ ชาวสวน ปลูกรักษ์ค่ะ ด้วยความขอบคุณ โมริสา
1 มีความสุขในคืนแต่งงานของเรา จนคุณลืมไปเลยว่ามันเป็นครั้งแรก ของคุ ณ” การีมกระซิบบอกวีณาเจ้าสาวชาวไทยผู้แสนสวยในคื น วิ ว าห์ ณ ริ ม หาดที่ มี เ ม็ ด ทรายละเอี ย ดดั ง ผงแป้ ง สี ข าวบนเกาะ ส่วนตัวแห่งหนึ่งแถบชายหาดริเวียร่า เขาพาเจ้าสาวบินด้วยเครื่อง ส่วนตัวมาฮันนีมูน ณ ที่แห่งนี้ “การี ม” วี ณากระซิบ เรี ย ก ร่า งบางสะท้ านขึ้ นด้วยความ วาบหวาม เมื่อเจ้าบ่าวก้มลงเชยชมยอดดอกบัวตูมที่กาลังชูช่ออวด ความงามรอให้เขาดื่มกลืนความหวานอย่างหิวกระหาย เลือดสาวใน กายของวีณาวิ่งพล่านด้วยสัมผัสจากปลายลิ้นที่ซุกซนลองลิ้มชิมรส ตั้งแต่ลาดไหล่ขาวนวล จนมาถึงเนินอกอวบอัด ระเรื่อยผ่านมาจนถึง หน้าท้องที่แบนราบ สุดท้ายกุหลาบกลีบงามที่เขาอ้อยอิ่งชิมความ หอมอยู่อย่างไม่รู้เบื่อ! “ปัทม์ ปัทม์ เปิดประตูให้พี่หน่อย” เสียงเรียกของการะเกด พี่สาวคนโตในบรรดาพี่น้องห้าคนของสวนปลูกรักษ์ สวนกล้วยไม้ที่ ขึ้นชื่อในแถบอาเภอนครชัยศรี เคาะเรียกอยู่หน้าห้อง ทาให้นิลปัทม์ น้องสาวคนรองต้องถอนใจและหยุดชะงักนิ้วเรียวสวยเมื่อเธอกาลัง
ดอกไม้ร่ายมนต์รัก พิมพ์ลงบนคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊กเครื่องทันสมัยของบทเริ่มต้นนวนิยาย แนวอีโรติกที่เธอถูกขอร้องจากสานักพิมพ์แห่งหนึ่งให้ช่วยส่งต้นฉบับ ที่ มี ค วามร้ อ นแรงของบทเลิ ฟ ซี น ให้ เพื่ อ การตี พิ ม พ์ เ ป็ น รู ป เล่ ม สาหรับจัดจาหน่ายต่อไป แต่นิลปัทม์นักเขียนนวนิยายแนวสืบสวนฆาตกรรมกลับต้อง มานั่งปวดหัว เพราะไม่ว่าจะพยายามแล้วพยายามอีกแค่ไหน เธอ กลับทาไม่ได้อย่างที่ต้องการ สู้อุตส่าห์แบกโน้ตบุ๊กลงมาทางานใน เรือนแพที่เธอใช้เงินจากน้าพักน้าแรงตัวเองจ้างช่างมาต่อเติมไว้เป็น ห้องทางานริมน้า เพื่อความเป็นส่วนตัวในการทางาน มันก็ยังไม่ไหล ลื่นอย่างที่ต้องการ ‘โธ่เอ๋ยนิลปัทม์ ทาไมเธอทาไม่ได้นะ เซ็งจริงๆ เลย’ ยิ่งคิด ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเมื่อพี่สาวยังเคาะประตูเรียกอยู่อย่างนั้น “ปัทม์ ได้ยินพี่ไหม” ร่างโปร่งระหงของนิลปั ทม์ต้องลุกยืนก่อนส่ งเสีย งตอบไป อย่างเสียไม่ได้ “ได้ยินแล้วค่ะพี่เกด” “ได้ยินแล้วทาไมไม่ตอบล่ะ” “ขี้เกียจ” นิลปัทม์ตะโกนกลับไปอย่างราคาญใจ “แล้วเธอจะไม่ให้พี่เข้าไปหรือไง” “จะเข้ามาทาไมคะ ปัทม์ทางาน” นิลปัทม์ยืนถามอยู่หน้า ประตูห้องบนเรือนแพที่เธอแง้มเพียงครึ่ง ไม่ยอมให้พี่สาวจอมขี้บ่น ก้าวล่วงเข้ามาในห้อง ด้วยไม่อยากฟังเสียงบ่นซ้าซากกับเรื่องที่เธอ คิดเขียนนวนิยายอีโรติกตามคาขอของสานักพิมพ์ เธอให้พี่สาวปิด ไม่ให้พ่อกับแม่รู้ เพราะไม่อยากโดนแม่ดุ ส่วนพ่อก็คงหัวเราะกับสิ่งที่ เธอทา และพ่อก็จะโดนแม่เอ็ดว่าตามใจลูกสาวจนเคยตัว “เขียนนิยายอีโรอยู่ใช่ไหม” คนเป็นพี่ถามดักคออย่างรู้ทัน ก่ อ นถื อ วิ ส าสะเข้ า มาในห้ อ งพั ก ของน้ อ ง โดยไม่ ส นใจอาการ กระเง้ากระงอดไม่พอใจของนิลปัทม์ 6
โมริสา “ใครเอาไปรายงานอี ก ล่ ะ เจ้ า บานชื่ น ใช่ ไ หม” นิ ล ปั ท ม์ พาดพิงถึงเด็กสาวลูกคนงานที่แม่ฝึกไว้ใช้งานบนเรือนใหญ่ “เปล่า บานชื่นไม่ได้ฟ้องพี่ แต่พี่ได้ยินเขาคุยกับยายพวง” นิลปัทม์ถอนใจโล่งอกที่เด็กสาวในคอนโทรลของพวกเธอ ไม่ช่างฟ้อง อย่ า งที่ คิ ด เธอรี บ เดิ น ตามพี่ ส าวเข้ า มายั ง โต๊ ะ ท างานขนาดเล็ ก ของตน ที่ตั้งหันหน้าออกไปทางแม่น้า ลมเย็นพัดม่านหน้าต่างสีขาว พลิ้วไหว มองเห็นเรือบดลาเล็กพายผ่านไป “นี่อะไรเพลิงรัก ทรายร้อน” การะเกดหยิบหนั งสือนิ ยาย เล่มบางของนักเขียนแนวอีโรติกขึ้นมาดูหน้าปกก่อนพลิกเปิดบาง หน้าขึ้นมาอ่าน “หา ยายปั ทม์ เธออ่า นนิ ย ายแนวนี้ ไ ด้อ ย่างไร น่ า เกลีย ด จะตาย!” “น่ าเกลีย ด แต่ข ายดีชะมัด เลย พี่เกดไม่เห็นหรือว่าพิม พ์ ครั้งที่สามแล้ว” นิลปัทม์แย่งหนังสือเล่มนั้นที่เธอใช้มันเป็นครูในการ เขียนบทเลิฟซีนมาโยนใส่ลิ้นชักโต๊ะทางานตัดความราคาญกับเสียง บ่น “เธอก็เลยจะเขียนเพราะอยากได้เงิน?” นิลปั ทม์ ไหวไหล่ “ปั ทม์อยากได้มาต่อเติม เรือนแพหลังนี้ อีกหน่อย มันแคบไปแล้ว” นิลปัทม์ชี้ไปรอบๆ เรือนแพให้พี่สาวดู เธอใช้รายได้จากการ เขี ย นนิ ย ายสร้ า งมั น ขึ้ น โดยใช้ พื้ น ที่ ริ ม คลองด้ า นหลั ง ของสวน ปลู ก รั ก ษ์ ภายในห้ อ งประกอบด้ ว ยเตี ย งเดี่ ย วหนานุ่ ม ผ้ า ปู ล าย ดอกไลแลคสีน้ าเงิน พื้น ขาว ตัว ปลอกหมอนสีฟ้า มุ้ งเป็ น ผ้าโปร่ ง แขวนกับห่วงเหล็กห้อยสูงจากฝ้าเพดานที่ทาจากไม้ไผ่สาน มีห้องน้า สาหรับ สาวโสดพร้ อมด้ว ยสุข ภัณ ฑ์สีเบจ ส่ว นพื้น เป็ น ลายโมเสก น่ า รั ก ส่ว นด้ า นหน้ า ยั ง เป็ น ระเบี ย งกว้ างมี ม้ า ยาวไว้ นั่ งชมจั น ทร์ นอกจากนั้นยังปลูก จันทร์หอมไว้ในกระถางใบเล็กน่ารัก บนราวใต้ 7
ดอกไม้ร่ายมนต์รัก หลังคารอบๆ แพยังแขวนกระถางกล้วยไม้ผลิตผลของสวนปลูกรักษ์ ที่มีพี่การะเกดของเธอรับหน้าที่จัดการดูแลรองจากพ่อของเธออีกที “อีกอย่างนักเขียนที่ดีต้องเขียนให้ได้หลายแนว” “แก้ตัวน่ะสิ” นิ ลปั ทม์ ไ หวไหล่ “เปล๊า แต่คุ ณ ทองหลางนั ก เขี ย นชื่อดั ง เธอบอกปั ทม์ แ บบนั้ น ว่ านั ก เขี ย นที่ดีต้องเขี ย นให้ ได้ห ลายๆ แนว เพื่อเป็นการพัฒนางานเขียนของตัวเองให้ดียิ่งๆ ขึ้น” “ช่ า งเป็ น ข้ อ แก้ ตั ว ที่ ดี ม ากเท่ า ที่ พี่ เ คยฟั ง มา” การะเกด ประชดหน้าตาเฉย “ว่าแต่พี่เกดจะมาห่วงอะไรปัทม์ ยายสร้อยเป็นข่าวอีกแล้ว นะเห็นหรือยัง” นิลปัทม์เดินมาคลิกเปิดหน้าจอโน้ตบุ๊กเข้าไปในหน้า ข่าวบันเทิงของหนังสือพิมพ์ชื่อดังที่ให้บริการทางออนไลน์ ข่าวซุบซิบ ในทางชู้สาวที่เกิดขึ้นระหว่างสร้อยกัทลีดาราสาวชื่อดังผู้เป็นลูกสาว คนที่สามของบ้าน กับชายหนุ่มนักแสดงนาที่เล่นคู่กันในละครเรื่อง ใหม่ที่เธอเป็นผู้เขียนและสร้อยกัทลีนาไปเสนอผู้จัดเพื่อทาเป็นละคร “ไหนดูซ”ิ การะเกดก้มลงอ่านข่าวอย่างสนใจ สมใจคนเป็น น้องที่หันเหให้พี่สาวเลิกสนใจเรื่องของตนไปสนใจข่าวของน้องสาว คนกลางแทน สร้อยกัทลีเป็นนางเอกชื่อดังในวงการบันเทิง และเป็น ผู้หญิงคนเดียวของบ้านที่เป็นดารา เพราะเธอสวยโดดเด่นกว่าพี่น้อง ร่วมท้องเดียวกัน “อีกแล้วหรือยายสร้อย ทาไมช่างขยันทาตัวเป็นข่าวนักนะ” “ดีสิคะพี่เกด เป็นข่าวบ่อยๆ แฟนๆ จะได้ไม่ลืม” “โทรไปถามดีไหม” การะเกดเงยหน้าจากจอโน้ตบุ๊กเครื่องเล็กขึ้นมาขอความเห็น จากน้องสาวคนรองที่กาลังก้มๆ เงยๆ อยู่ตรงหน้าตู้เสื้อผ้า “ปัทม์ว่าไม่มีอะไรหรอก ก็คงแค่ข่าวโปรโมต ละครใกล้ออน แอร์แล้วนี่” 8
โมริสา “พี่กลัวแม่ดุว่าไม่ดูแลน้อง” “โตๆ กันแล้วค่ะพี่เกด” นิลปัทม์โยนเสื้อกันหนาวเนื้อบาง ลงในกระเป๋าสะพายเป็นตัวสุดท้าย ก่อนรูดซิปปิด “เธอจะไปไหนยายปัทม์” “ไปหาแรงบันดาลใจ” “บ้าหรือ ที่ไหน?” คนเป็นพี่เดินตามมาถามอยู่ตรงระเบียง ไม้ที่หันหน้าเข้าหาแม่น้า เรือบดลาเล็กลอยลานิ่งอยู่ตรงท้ายแพ “ขึ้นเหนือ ไปหาน้าบัวตอง” “บ้าจริง แล้วนั่นเธอจะไปไหน” การะเกดถามเสียงหลงเมื่อ เห็นน้องสาวก้าวลงไปนั่งในเรือบดลาเล็ก “ไปหาพี่จิณณ์ พี่เกดจะไปด้วยไหม?” นิลปัทม์สบตาพี่สาว คนโตอย่างจงใจ เธอพบเพียงร่องรอยของมิตรไมตรี ความสนิทสนม เหมือนที่น้องสาวอีกสี่คนแห่งสวนปลูกรักษ์มีให้ จิณณ์ พฤกษาอนันต์ ชายหนุ่มทายาทคนเดียวของสวนพฤกษาอนันต์ผู้เป็นเสมือนพี่ชาย ที่แสนดี เธอรู้ว่าพี่จิณณ์นั้นอยากเลื่อนตาแหน่งมาเป็นพี่เขยคนโต ของสวนปลูกรักษ์ ซึ่งเธอเองก็คิดว่าน่าจะเป็นเช่นนั้นหากว่าจะไม่มี ใครอีกคนมาแทรกแซง หญิงสาวผู้กาลังตกอยู่ในภวังค์ไหวไหล่ คิด ต่อไปอีกว่า ‘อะไรๆ มั น ก็ ไ ม่ แ น่ น อนนะพี่ จิ ณ ณ์ พรหมลิ ขิ ต เขาขี ด โชคชะตาไว้แล้วต่างหากล่ะ’ ผู้ซึ่งมีใบหน้านิ่งขรึมผิดไปจากเดิมก่อนหน้านี้ หรือจะเรียกว่าตั้งแต่ เขากลับจากญี่ปุ่นนั่นเลยทีเดียวที่เปลี่ยนชีวิตจากเดิมไปอย่างสิ้นเชิง “คิ ด ถึ ง ค่ ะ ” นิ ล ปั ท ม์ ส่ ง เชื อ กให้ ช ายหนุ่ ม ใช้ มั น ผู ก กั บ หัวบันไดของท่าน้า จิณณ์หัวเราะเสียงปร่า “เสียดายนะ คนที่พี่อยากให้พูดคานี้ 9
ดอกไม้ร่ายมนต์รัก เขาไม่เคยพูดให้พี่ได้ยินเลยสักครั้ง” “แหมพี่ จิณ ณ์ พูด แบบนี้ ปั ท ม์ แ อบน้ อ ยใจนะ” หญิ งสาว แสร้ ง ท าท่ า กระเง้ า กระงอด จนท าให้ จิ ณ ณ์ ต้ อ งยิ้ ม ออกมาอย่ า ง อ่อนโยน “พี่ชักสงสัยว่านิลปัทม์ต้องมีเรื่องมาให้พี่ปวดหัวแน่เลย” นิลปัทม์ยิ้มพอใจที่จิณณ์คนเดิมเริ่มกลับมา แม้จะยังไม่สดใส เท่าเดิม แต่เธอก็อยากให้เขาได้พูดจายิ้มหัวเล่นบ้าง “พี่จิณณ์ยังเดาใจปัทม์ได้เก่งเหมือนเดิม” “แต่เดาใจไม่ออกอยู่ค นเดีย ว” คนพูดทาหน้ าเศร้าขึ้น มา อีกครั้ง “แอะ ปัทม์อยู่ตรงนี้ค่ะ ห้ามวอกแวกคิดถึงผู้หญิงอีกคน” คนพูดทาท่ายิ้มแย้มแจ่มใส “มาตรงนี้เถอะ ปัทม์มีเรื่องจะปรึกษา” นิลปัทม์เหลียวซ้าย แลขวาก่อนคล้องแขนพี่ชายใจดีพาเดินให้ม ายืน หลบเงาแสงแดด ยามบ่ายอยู่ตรงใต้ต้นโสนที่กาลังออกดอกสีเหลืองสวย “ดูทาท่าเข้า หรือว่ ามีไอ้หนุ่มพายเรือมาเกี้ย วถึงเรือนแพ ริมน้า?” “ถ้ า มี ม าจริ ง ปั ท ม์ จ ะใช้ ต ะขอเกี่ ย วเก็ บ ไว้ บ นเรื อ นเลย ละค่ะ” หญิงสาวยิ้มจนเห็นฟันขาวสะอาด “ปีนี้ยี่สิบแปดแล้วไม่ใช่หรือ ” ชายหนุ่มถามยิ้มๆ แม้ในอก ในใจจะปวดลึ ก กั บ ผู้ ห ญิ ง ที่ เ ขามี ใ จด้ ว ย ไม่ นึ ก เลยว่ า การเก็ บ ง า ความรู้สึกเพื่อที่จะรอเวลาเพาะบ่มให้เต็มที่นั้น กลับเป็นว่าเขาไม่มี โอกาสได้ทาให้มันหวานหอมอย่างที่ต้องการได้อีกแล้ว “ไม่ต้องย้าได้ไหมคะพี่จิณณ์” พูดเสร็จก็ค้อนตาคว่า “ว่าแต่ พี่จิณณ์เถอะ อายุเท่าไรแล้ว ” นิลปั ทม์รอค าตอบยิ้มๆ เธอถูกเขา ผลักศีรษะด้วยความเอ็นดู “ไหนว่ามีเรื่องจะปรึกษา” 10
โมริสา “สัญญาก่อนว่าจะไม่เล่าให้ใครฟัง” “ปั ทม์ ใ ห้พี่ รั บ ปากสั ญ ญาตั้ งหลายเรื่อ ง ถามจริ งๆ เถอะ พี่เคยผิดสัญญาสักครั้งไหม” นิลปัทม์เปิดยิ้มกว้างยามได้ยินชายหนุ่มตอบเสียงทุ้มอย่าง รู้ใจ “ก็รู้ว่าไม่เคยผิดสัญญาไงคะ ปัทม์ถึงมาหาพี่จิณณ์” “เรื่อง?” “นิยายที่ปัทม์เขียนเรื่องใหม่ค่ะ” “อีโรติกน่ะหรือ” “หา! นี่ใครเอามาเล่าให้พี่จิณณ์ฟังคะ” นิลปัทม์ถามเสียง หลง เธอปัดผมเส้นยาวที่พลิ้วไหวเพราะแรงลมให้เหน็บหลังใบหู “ยายบุ ษย์ ยายชมพู … ” เขาถอนใจก่ อนเอ่ย ชื่อหญิงสาว อีกคนให้นิลปัทม์หายข้องใจ “การะเกดด้วย” “โธ่ นี่ไม่รู้กันไปทั่วทั้งคุ้งน้าแล้วหรือป่านนี้” นิลปัทม์หน้ามุ่ย พลางบ่นกระปอดกระแปด “พวกนี้เผลอ เป็นไม่ได้เลย ชอบเข้ามาสืบความลับอยู่เรื่อย” “อย่างนี้เขาไม่เรียกความลับแล้วมั้ง” จิณณ์แหย่ยิ้มๆ “ก็นั่นแหละ ตัวเองรู้ยังไม่พอ ยังอุตส่าห์เผื่อแผ่มาถึงพี่จิณณ์ อีก” “ก็บุษย์กับชมพูเอามาเล่าตามประสา อยากให้พี่รู้ด้วย แต่ที่ เกดมาบอกพี่เพราะไม่รู้จะปรึกษาใคร” จิณณ์ยังแก้ตัวให้การะเกด เหมือนกับทุกครั้งที่เจ้าตัวโดนน้องสาวคนใดคนหนึ่งพาดพิง ‘แต่ตอนนี้การะเกดไม่ต้องมาปรึกษาเขาเหมือนเคยอีกแล้ว ’ ชายหนุ่มคิดอย่างปวดร้าว “พี่จิณณ์” นิลปัทม์กุมมือพี่ชายที่แสนดี มองแววตาปวดร้าว ที่แสนเศร้าด้วยความเห็นใจ “พี่จิณณ์ยังเป็นพี่ชายที่น่ารักสาหรับพวกเรานะคะ อย่าคิด มากได้ไหมไม่อย่างนั้นปัทม์จะไม่กล้ามา เพราะเหมือนกับว่าการมา 11
ดอกไม้ร่ายมนต์รัก ของปัทม์ทาให้พี่จิณณ์ไม่มีความสุข” ชายหนุ่ ม จึง รู้ ตั ว เขาฝื น ยิ้ ม ก่ อ นชวนกั น นั่ ง บนบั น ไดของ ศาลาริม น้ าที่มี แ ม่น้ านครชัย ศรีไหลเอื่อย น้ าในแม่ น้ ายังคงรัก ษา สภาพความใสสะอาดได้อย่างไม่น่าเชื่อ “โอเค พี่ขอโทษ ว่าแต่นึกอย่างไรถึงจะเขียนนิยายแนวนี้” “อยากได้เงิน” “ก็แนวที่เราถนัดทาไมไม่เขียน” นิลปั ทม์ ถ อนใจ “เห็น เขาเขีย นกัน โครมๆ ปั ทม์เลยอยาก เขียนบ้าง ไม่นึกเลยว่ามันยากชะมัดเลย” จิณ ณ์ หัว เราะ เขาห้อยขาลงไปในน้ า “แล้ว คนอื่น เขาท า อย่างไร ทาไมไม่ปรึกษาเพื่อนนักเขียนด้วยกัน” “เขาแนะนาให้ปัทม์หาแฟน” “แต่แฟนหายากกว่าเขียนนิยายอีโรติกอีกใช่ไหม” “พี่จิณ ณ์ น่ ะ ” นิ ลปั ทม์ ก รีด เสี ย งต่อ ว่ าด้ ว ยความไม่ พ อใจ เธอทุบมือลงบนต้นขาของพี่ชายใจดีอย่างหงุดหงิด “ความจริงเพื่อนเขาก็พูดถูกนะ ปัทม์น่าจะมีแฟนได้แล้ว” “พี่จิณณ์น่ะไม่ได้เรื่องเลย ปัทม์จะปรึกษาอะไรบ้างก็พูดเป็น เล่นไปหมดเลย” นิลปัทม์ต่อว่าอย่างไม่จริงจังนัก “ใครจะไม่อยากมี แต่เจ้าชายในฝันของปัทม์ยังไม่เกิดเลยจะให้ทาอย่างไร” “ก็อย่าตั้งมาตรฐานไว้สูงนักสิเรา อยู่บนพื้นฐานความจริง บ้าง เวลาตื่นมันจะได้ไม่เจ็บ” “โห คม คมจริงๆ ประโยคนี้ ขอนะจะเอาไปใส่ไว้ในนิยาย” “เป็ น งั้ น ไป” คนพู ด ปรายตาไปยั ง เรื อ หางยาวที่ ล อยล า เอื่ อ ยๆ อยู่ ก ลางล าน้ า และมาหยุ ด อยู่ ห น้ า ศาลาริ ม น้ าของเขา ชายหนุ่มสองคนนั่งอยู่กลางลาเรือ เขาคะเนด้วยสายตาคนหนึ่งเป็น ชาวต่างชาติ ส่วนอีกคนหนึ่งนั้นคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ ด้วยมีเส้นผม สีด ายาวระต้นคอ มี กล้องดิจิต อลตัว ใหญ่พร้อมเลนส์ซูม อยู่ใ นมื อ 12
โมริสา ดูเหมือนว่าชายหนุ่มคนนั้นเพิ่งจะลดกล้องลงด้วยซ้า “ใครน่ะพี่จิณณ์รู้จักไหม” นิลปัทม์ถามขึ้นด้วยความสงสัย มั่ น ใจว่ า ชายหนุ่ ม เจ้า ของกล้ องเพิ่งจะลดมื อ ลงหลังเขาเล็งกล้อ ง มายังบริเวณที่เธอกับจิณณ์นั่งสนทนากัน “นักท่องเที่ยวละมั้ง” “เหมือนเขาแอบถ่ายรูปเราเลย” “งั้นก็พวกสายลับ” “บ้าจังเลยพี่จิณณ์น่ะ พูดอะไรเป็นเล่นไปเสียหมด” “แล้ว เราล่ ะ นิ ลปั ทม์ ท าไมถึ งได้ช่ างสงสัย ไปเสีย ทุก เรื่อ ง พวกนั้นอาจจะแค่นั กท่องเที่ยวที่ชอบถ่ ายรูป บางทีเขาอาจสนใจ บ้านของพวกเราเลยถ่ายไว้ดูก็ได้” “ให้มั น จริงเถอะ แน่ ะแวะเข้ามาแล้ว ปั ทม์ไปเลยดีกว่ า ” นิลปัทม์จัดแจงก้าวลงไปในเรือบดลาเล็กของเธอ เมื่อเรือหางยาวดับ เครื่องแล้วใช้ไม้พายพายตรงมายังบันไดของศาลาริมน้า “อ้าวนิลปัทม์ ทาไมทิ้งกันง่ายนักล่ะ” “ไม่รู้ ไปละ” นิลปัทม์ไม่อยู่รอ เธอรีบใช้ไม้พายดันให้เรือ ลาเล็กออกห่างจากฝั่ง แล้วพายตามน้ากลับไปยังบ้านของตนโดย ไม่ สนใจว่ าชายหนุ่ ม สองคนจะแวะเข้ ามาที่ศ าลาริม น้ าของจิณ ณ์ ทาไม สาเนี ย งอิต าลี ดัง ขึ้ น ทางด้านหลั งของทิ ม ทองชายหนุ่ ม ผิว สีน้ าผึ้ ง เจ้าของกล้องดิจิตอลและเลนส์ซูมตัวใหญ่ ดวงตาสีดาเข้มทอดมอง จากเรือพายลาเล็กไปยังเรือนแพหลังใหญ่ที่ออกแบบอย่างมีรสนิยม มันจอดลอยลานิ่งอยู่ริมตลิ่งของสวนปลูกรักษ์ผู้เพาะพันธุ์กล้วยไม้ มีชื่อแห่งแม่น้านครชัยศรี “ทิม นายคิดว่าเจ้าของเขาจะขายให้ฉันไหม” 13
ดอกไม้ร่ายมนต์รัก “คิด ว่าไม่ ” ทิม ทองตอบกลับ เป็ นภาษาอังกฤษ เขาก าลัง พึงใจในใบหน้ารูปหัวใจของหญิงสาวผู้พายเรือผ่านไปอย่างไม่สนใจ เขาหรื อเพื่อ นที่นั่ งอยู่ ใ นเรือ ชายหนุ่ ม ยิ้ ม มุ ม ปากเมื่ อมี โอกาสได้ โอภาปราศรัยอย่างมีมิต รไมตรีกั บจิณณ์ เจ้าของศาลาริม น้าที่เขา แวะเข้าไปทักทายและขอถ่ายภาพบ้านเรือนไทยหลังงามของเขา “อย่าถามนะว่าทาไม” “เสียใจนะทิมที่ฉันต้องถามนาย” “ไม่มีเหตุผลอัลนี่ แต่ฉันคาดว่าเธอคงไม่ขายให้นายหรอก” ทิม ทองเอี้ ย วตัวมาบอกเพื่อนรักต่างภาษาที่ค บหาเป็ น เพื่อนสนิ ท ตั้งแต่เมื่อเขาไปเรียนถ่ายภาพที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี แล้ว พบกั บ อั ล นี่ อธิ ศ นั น ท์ อั น โตนิ โ อ คาปู ริ โ อ ชายหนุ่ ม ลู ก ครึ่ ง ไทย อิต าลี นั กเปี ยโนชื่อดังที่แ วะเวี ยนมาหาความสาราญในร้านเหล้า “Lido” ที่อยู่ริมแม่น้าอาโน่ “น่าเสียดายนะทิม ฉันอยากได้บ้านริมน้าสักหลัง เรือนแพ หลังนี้ถูกใจฉันมาก” “เงินนายมีเยอะไปจะซื้อกี่หลังก็ได้ไม่ใช่หรือ” “แน่นอน” “แต่ก็ไม่ใช่ทุกหลัง” ทิมทองขัดคอเพื่อนรัก เขายกกล้องขึ้น เล็งไปยังเรือนแพหลังใหญ่พลางกดชัตเตอร์เก็บความงามยามบ่าย ที่แสงเงาทอดตัวยาวลงบนตัวเรือนอย่างสวยงาม เขายิ้มมุมปากเมื่อ ปรับเลนซ์ซูมให้ชัดขึ้น ภาพหญิงสาวเจ้าของเรือนนั่งชันเข่าอยู่บน ระเบียง ผมเส้นยาวปล่อยให้ปลิวล้อลม เธอกาลังคุยโทรศัพท์อย่าง ออกรสชาติ ราวกับว่าทางปลายสายเป็นหนุ่มคนรักก็ไม่ปาน ใช่ไหม” “โธ่ พี่ปั ทม์ สร้อยเบื่ อจะแย่อยู่แ ล้ว ” สร้อยกั ทลีบ่ น อย่า ง 14
โมริสา หงุดหงิดมาทางโทรศัพท์กับพี่สาวคนรองที่คุยกันถูกคอและปรึกษา ได้ ทุ ก เรื่ อ ง แม้ แ ต่ ข่ า วซุ บ ซิ บ โคมลอยที่ ว่ า เธอเป็ น ข่ า วจั บ คู่ กั บ พระเอกละครหลายคนก็ตาม “อ้าว ตกลงคนนี้ก็ไม่จริงอีกหรือ ” นิลปัทม์หยอกไปอย่าง เห็น ขัน “เสียดายจัง คุณ โมไนยหล่อเข้ม ได้ที่เลย พี่น่ะ เอามาเป็ น อิมเมจในนิยายพี่เชียวนะสร้อย” “ข่าวลือว่าเขาเป็นเกย์ค่ะ” “ว้ า จริ ง หรื อ แต่ ช่ า งเถอะ ไม่ เ ป็ น ไรพี่ ใ ช้ แ ค่ รู ป ลั ก ษณ์ ภายนอกก็พอ” “แล้วเรื่องใหม่นี่เป็นอย่างไรบ้างคะ เขียนถึงไหนแล้ว” “ก็ เ ขี ย นอยู่ แต่พี่ ติ ด ตรงบทเลิฟ ซี น ร้ อ นๆ นี่ แ หละสร้ อ ย พี่ไปไม่รอด” “สร้อยบอกพี่ปัทม์แล้วให้หาแฟนสักคน บทเลิฟซีนในนิยาย ของพี่ปัทม์จะได้ร้อนฉ่าเพราะมีติวเตอร์คอยสอนแบบปากประกบ ปาก เนื้อแนบเนื้อ อุ๊ย พูดแล้วหวิว” สร้อยกัทลีหัวเราะคิกเมื่อพี่สาวบอกคาเดียวสั้นๆ “บ้า” “อี ก อย่ า งนะ พี่ ไ ม่ ส วยเหมื อ นเธอนี่ ส ร้ อ ย จะได้ เ ปลี่ ย น พระเอกควงเช้าควงเย็น” “มันก็แค่ควงหรอกพี่ปัทม์ จริงๆ แล้วเขาก็มีแฟนตัวจริงกัน ทั้งนั้นแหละ” “แล้ ว เมื่ อ ไรพระเอกตั ว จริ งของสร้ อ ยจะเกิ ด เสี ย ที น ะ พี่ อยากรู้จังว่าเขาคนนั้นเป็นใคร?” “นั่นสิคะพี่ปัทม์ บางครั้งสร้อยก็เบื่อนะที่ต้องทาตัวเป็นข่าว กับพวกนี้” “อ้าว พี่นึกว่าเธอชินแล้วเสียอีก” “ชินน่ะชินอยู่แล้ว แต่สร้อยมาคิดดูนะ เป็นข่าวมากๆ บางที มันก็เสียภาพพจน์ เผื่อวันข้างหน้าสร้อยจะมีแฟนสักคน พ่อแม่เขา 15
ดอกไม้ร่ายมนต์รัก อาจรับไม่ได้ก็ได้ที่สร้อยเป็นข่าวฉาวเสียขนาดนี้” “เป็นข่าวฉาวกับพระเอกหนุ่มโสดด้วยกันมันยังไม่เท่าไรนะ สร้อย แต่ถ้าเป็นข่าวกับพวกสามีชาวบ้านเขานี่เรื่องใหญ่นะ อย่างไร ก็อย่าให้มันเกิดขึ้นเชียว เพราะพ่อกับแม่รับไม่ได้แน่” นิลปัทม์เตือน ด้วยความหวังดี เธอไม่ทันคิดว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้าสร้อยกัทลีจะมี ปัญหาดังที่กล่าวมาจริงๆ “อุ๊ย พวกพกเมียมาด้วยนี่สร้อยไม่ยุ่งเด็ดขาด” “ไม่ยุ่งน่ะดีแล้ว พี่เตือนเพราะห่วงหรอก” “ขอบคุณค่ะพี่ปัทม์ แล้วก็สร้อยถือโอกาสขอบคุณที่เขียน บทดีๆ ให้สร้อยเล่นนะคะ” “พี่ก็ขอบใจเธอด้วยสร้อย ที่เอานิยายพี่ไปนาเสนอจนได้ทา ละคร” คนพูดโบกมือให้พวงชมพูน้องสาวคนเล็ก สุดของบ้านที่เพิ่ง กลับจากมหาวิทยาลัยและแวะมาเรียกให้ไปทานข้าวเย็น “ค่ะ เห็นพี่โรสบอกนะคะเนี่ยว่างานโฆษณาจะเข้าอีกหลาย ตัวเลย หากละครเรื่องใหม่ออนแอร์” “ดีใ จด้ ว ยจ้ะ พ่อกั บ แม่ นั่ งดู ละครเธอทุก วั น เลยนะสร้อ ย ดูแล้วก็แย่งกันบอกว่าลูกสาวเก่งเหมือนตัว” นิลปัทม์ได้ยินสร้อยกัทลีหัวเราะเสียงใสมาให้ได้ยินก่อนเล่า ให้น้องสาวฟังต่อไปอีกว่า “พี่ก็เลยแย้งไปว่าสร้อยกัทลีเก่งเหมือน นิลปัทม์ต่างหากล่ะ” คราวนี้เสียงหัวเราะยิ่งดังกว่าเดิม พาให้นิลปัทม์ต้องหัวเราะ ตาม “จริงไหม น้องสาวของพี่ทั้งคนนี่เนอะ ไม่เก่งเหมือนพี่จะไป เก่งเหมือนใคร” นิลปัทม์ยิ้มแย้มแจ่มใส ดีใจกับนวนิยายที่เธอเขียน และสร้อยกัทลีนาไปเสนอให้ผู้จัดลองอ่านดู สุด ท้ายเขาชอบ เลย ตกลงซื้อไปสร้างละคร “แล้วเมื่อไรจะกลับมาเที่ยวบ้านล่ะสร้อย” 16
โมริสา “คงอีกสักพักแหละ นี่พี่โรสให้คิวโดดหนังสือมาดมัวแซลไป เขาขอสัมภาษณ์ชีวิต การทางานแล้ วก็เรื่องส่ว นตัวด้วย สร้อยเลย เจาะจงให้เอาช่างภาพชื่อทิมทอง ศิ วาวุ ธมาถ่ าย เพราะได้ข่าวว่ า ฝีมือขั้นเทพ” “แล้วตกลงเขามาถ่ายให้ไหม” “ไม่รู้สิ เห็นพี่โรสว่าเขาเรื่องมากไม่ใช่เล่น ถ้าพอใจก็รับงาน ไม่พอใจก็เซย์โน ขนาดข่าวลือว่าไส้แห้งจนกรอบด้วยนะ ก็ยังหยิ่งไม่ รับงาน หากช่วงนั้นไม่อยู่ในฟิล” นิลปัทม์เบ้หน้าไม่อยากเชื่อว่าจะมีคนแบบนี้ในโลก “ว่าแต่ ฝีมื อเขาดีข นาดไหนน่ ะ สร้อย ถึ งได้ ห ยิ่งขนาดไม่ มี จะกิ น ยั งไม่ รั บ งาน” “พี่ ปั ท ม์ ต้ อ งไปซื้ อ หนั ง สื อ พวกสารคดี ม าดู ทั้ ง แสงเงา มุ ม กล้ อ ง บรรยากาศสวยมากกก” สร้ อ ยกั ท ลี ล ากเสี ย งยาวจน นิลปัทม์นึกอยากเห็นผลงานของชายหนุ่มคนที่ถูกพูดถึง “แต่ถ่ายแบบกับถ่ายธรรมชาติมันคนละฟิลนะสร้อย” “เขาถ่ายนางแบบนู้ดด้วยพี่ปัทม์ หนังสือสาหรับผู้ชายนั่นไง ลองไปหาซื้อมาเปิดดูเสีย” “แล้วเธอจะให้เขาถ่ายนู้ดหรือไง” “ก็อยากอยู่ถ้าพ่อกับแม่จะรับได้” “พี่ว่าเธอผ่านพี่เกดให้ได้ก่อนเถอะ” นิลปัทม์ได้ยินน้องสาว ทาเสียงจิ๊จ๊ะไม่ พอใจ หากนั่งอยู่ตรงหน้ าสร้อยกัทลีก็อาจไหวไหล่ แล้วตัดสินใจถ่ายนู้ดก็เป็นได้ “สงสัยพี่ต้องให้บานชื่นมันไปซื้อมาดูสักเล่มสองเล่มว่าฝีมือ เขาขนาดไหนกันเชียว สร้อยกัทลีถึงต้องเจาะจงไปว่าต้องเป็นเขา คนเดียว” “ลองไปซื้อมาดูสิ เล่มล่าสุดกาลังวางแผงเลย” “พี่ว่ามันอยู่ที่คนเป็นแบบด้วยไม่ใช่หรือ เธอสวยเสียอย่าง 17
ดอกไม้ร่ายมนต์รัก ใครถ่ายก็สวย” “ก็จริง แต่ถ้าได้ช่างภาพมือโปรมาเสริม ภาพก็จะออกมา สวยแบบไม่ มี ที่ ติ น ะพี่ ปั ท ม์ แต่ เ ห็ น พี่ โ รสบอกว่ า ยั ง ติ ด ต่ อ ไม่ ไ ด้ ความจริงเขาปฏิเสธมาแล้วครั้งหนึ่งนะ” “ถ้ า หยิ่ ง ขนาดนั้ น จะไปง้ อ ท าไม สร้ อ ยกั ท ลี มี ค นอยาก ทางานด้วยเยอะแยะไป” “แต่สร้อยเป็นคนแปลก ไม่ชอบให้ใครมาเชิดใส่” “ตามประสาดาราใหญ่ใช่ไหม” นิลปัทม์ดักคอไปอย่างเห็น ขัน “เป็นตั้งแต่เกิดค่ะ” “นึ ก ว่ าเกิ ด ตอนเป็ น ดาราแล้ว ” นิ ลปั ทม์ เ หน็ บ ไปอี ก ครั้ ง อย่างนึกสนุก “พูดกับพี่ปัทม์ทีไร ดีได้เดี๋ยวเดียว” “สร้อยน่าจะรู้นานแล้วไม่ใช่หรือ” “รู้น่ะรู้แหละ แต่มันลืมทุกทีตอนพี่ปัทม์คุยดีด้วย” สร้อยกัทลี เหน็บพี่สาวไปแบบหมั่นไส้ “งั้นไม่คุยแล้ว เดี๋ยวพี่จะจัดกระเป๋าเพิ่มอีกนิดหน่อย แล้ว แม่ก็ให้ยายชมพูมาเรียกกินข้าวแล้วด้วย” “อะไรนะ พี่ปัทม์จะไปไหน?” สร้อยกัทลีร้องถามเสียงดัง จนนิลปัทม์เอาโทรศัพท์ออกจากหูแทบไม่ทัน “พี่จะไปบ้านน้าบัวตองที่เชียงราย” “อ้าว แล้วสร้อยจะคุยกับใครล่ะ” “บ้า พ่อกับแม่ก็อยู่ พี่เกด พุดน้าบุษย์ พวงชมพูก็อยู่ แล้วยัง พี่จิณณ์อีกคน ขี้คร้านเธอจะหนวกหูราคาญด้วยซ้า” “แหวะพี่จิณณ์น่ะหรือ เหม็นหน้าจะตายชัก ” คนพูดทาท่า แหวะมาให้นิลปัทม์ได้ยิน เธอหัวเราะก่อนตอบน้องสาวไปว่า “ระวังเถอะ ไม่เคยได้ยินหรือที่ว่าเกลียดตัวกิ นไข่ เกลีย ด 18
โมริสา ปลาไหลกินน้าแกง เกลียดอะไรมักได้อย่างนั้น” “บ้า ไม่มีทาง สร้อยไม่คุยด้วยแล้ว” “จ้ะ แม่ดาราคิวทอง แค่นี้แหละ” นิลปัทม์ปิดสัญญาณและ ลุกยืน หลังได้ยินเสียงพุดน้าบุษย์น้องสาวคนที่สี่มาตะโกนเรียกอยู่ บนเชิงตลิ่ง เสื้อผ้าและเนื้อตัวเลอะไปด้วยดินโคลนที่เธอชอบใช้เวลา ว่างจากงานบัญชีของบ้านมาปั้นในสิ่งที่เธอรักและนาไปวางขายโดย บอกว่าเป็นของชิ้นเดียวในโลก นิ ล ปั ท ม์ ยิ้ ม มุ ม ปาก เธอกลั บ เข้ า มาในเรื อ นแพอี ก ครั้ ง กระเป๋าสะพายเตรีย มพร้อม หลังตัดสินใจจะเดินทางขึ้นเหนือหา บัวตอง อดีตพี่เลี้ยงเมื่อหลายปีก่อน และเพื่อหาแรงบันดาลใจกับ งานเขี ย นเรื่องใหม่ ซึ่งเธอหวั งว่ าเมื่ อไปถึ งหมู่ บ้ านของบั ว ตองนั้ น เรื่องราวที่เธอคิดจะเขียน คงไหลลื่นออกมาอย่างไร้อุปสรรค และ เธอคงปิดเรื่องได้อย่างที่ต้องการ แต่นิลปัทม์ไม่มีโอกาสรู้เลยว่าเหตุการณ์ข้างหน้าจะนาพา ความยุ่งยากมาให้ จนเธอแทบไม่อยากเชื่อว่ามันจะเกิดกับชีวิตของ เธอได้เลย!
19
2 หลังทุกคนอิ่มกับอาหารมื้อเย็นแสนอร่อยด้วยฝีมือของเธอกับการะเกด พี่สาวคนโตของบ้าน ทาให้นิลปัทม์ถึงกับชะงักส้อมที่กาลังจิ้มส้มโอ เนื้อหวานเข้าปาก เธอปรายตามองพี่สาว กับน้องสาวคนที่สี่พุดน้าบุษย์ และคนสุดท้องพวงชมพู ก่อนแลเลยไปยังบานชื่นที่ยืนคอยหยิบจับ โน่นนี่เผื่อมีอะไรขาดเหลือให้พ่อนายแม่นายผู้เป็นประมุขของบ้าน รวมถึงเธอกับพี่และน้องสองคน “ไม่ ต้ อ งไปมองบานชื่ น มั น หรอก พี่ บ อกแม่ เ องแหละ ถึงอย่างไรสิทธิ์ขาดก็ยังอยู่ที่แม่คนเดียว” การะเกดพูดหน้าตาเฉย เธอพยักหน้าให้พวงชมพูยกจานชามไปเก็บ โดยมีบานชื่น เข้าช่วย อย่างกุลีกุจอ ในขณะที่พุดน้าบุษย์นั่งเท้าคางรอฟัง “ก็ไหนเมื่อตอนบ่ายเราคุยกันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่หรือพี่เกด” นิลปัทม์ขึ้นเสียงด้วยความไม่พอใจ ที่พี่สาวผิดคาพูดทั้งที่เมื่อตอน บ่ายก็คุยกันดีแล้ว หลังจากเถียงกันนิดหน่อย สุดท้ายพี่เกดก็อนุญาต แต่เธอไม่คิดว่าพี่สาวจะเอามาบอกแม่ด้วย “ปัทม์ ทาไมพูดกับพี่เขาแบบนั้นล่ะ” พ่อช้างผู้ชายคนเดียว ของบ้ า นเปรยขึ้ น ด้ ว ยความหนั ก ใจพลางรั บ แก้ ว กาแฟมาจาก
โมริสา พวงชมพู ก่อนเอ่ยปากขอบใจ มีบานชื่นเลื่อนแก้วน้าเย็นให้จนถึงมือ “ปัทม์ไม่เข้าใจ ทาไมแค่ปัทม์จะไปต่างจังหวัด พี่เกดต้องทา เป็นเรื่องใหญ่ เอามาบอกแม่” “นิลปัทม์ !” แก้ว กัน เกราผู้ม ารดาขึ้น เสียงจนทุก คนสะดุ้ง ไม่เว้นแม้แต่สามีอย่างกริน หรือพี่ช้างของเธอ “นี่ลูกเห็นแม่กับพ่อเป็นอะไร ถึงได้พูดแบบนี้” “แม่แก้ว ฟังลูกก่อนดีไหม” “พี่ช้างอย่ามาออกรับแทนลูกนะ รู้ไหมว่าพี่ช้างน่ะคอยให้ ท้ายจนลูกจะเสียคนหมดแล้ว” “อ้าว ไหงมาลงที่พี่ค นเดีย ว” สามี บ่น เสีย งอ่อย ก่อนเอา รอยยิ้ม จริงใจเข้าสู้กั บอาการปรายตาค้อนของภรรยาผู้ยังคงสวย เสมอสาหรับเขา “พี่แค่บอกให้แม่แก้ วใจเย็นๆ ไม่อยากเห็นเมียพี่หงุดหงิด เดี๋ยวสวยน้อยกว่าเดิม” “อย่ า มาแหย่ น ะ ยิ่ ง อารมณ์ ไ ม่ ดี อยู่ ” เสี ย งพูด นั้ น เบาลง แต่ดวงตาคู่สวยยังมองค้อนด้วยอาการแสนงอน “ไม่ได้แหย่ พี่แค่อยากให้แม่แก้วอารมณ์ดีต่างหากล่ะ จริงๆ นะแก้วกันเกราของกริน ” พี่ช้างยิ้มเอาใจ เขาเอื้อมไปจับมือบางขึ้น กุม พลางพยักหน้าให้ลูกทยอยกันออกจากห้อง “พี่ช้าง!” ภรรยาเอ็ดเสียงเขียว เธอเห็นนิลปัทม์ค่อยๆ ย่อง ออกจากห้องด้วยการช่วยเหลือจากคนเป็นพ่อ “ท าไมนิ สั ย อย่ า งนี้ น ะ แก้ ว ก าลั ง ดุ ลู ก กลั บ มาถ่ ว งเวลา แล้วอย่างนี้เมื่อไรลูกจะโต” สามีไม่ตอบได้แต่ยิ้มเหมือนกับทุกครั้งที่รู้ว่าทาผิด และมัก ใช้ได้ผลเสมอ แต่ครั้งนี้ดูเหมือนเขาจะช่วยลูกไม่ได้ “ไม่รู้ละ ไปตามนิลปัทม์กลับมาให้แก้ วเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นพี่ช้าง นั่นแหละต้องลงไปนอนที่เรือนแพแทน” 21
ดอกไม้ร่ายมนต์รัก เจอไม้นี้เข้า กรินหรือช้างจาต้องลุกยืน ยอมตามคาสั่งของ ภรรยาคนสวยที่เขายกให้เป็นหนึ่งเดียวในใจนับแต่เจอหน้าครั้งแรก จนแต่ ง งานเขาก็ ย กให้ เ ธอเป็ น ใหญ่ ใ นบ้ า นอี ก หนึ่ ง ต าแหน่ ง ด้ ว ย เรียกว่าเป็นแม่ทัพใหญ่ ส่วนเขาขอเป็นนายกองคุมกาลังส่งเสบียง กรังเข้าคลังหลวงอย่างเต็มใจ แต่สิ่งเดียวที่เขาไม่ยอมก็คือการมีลูก คนเดี ย วอย่ า งที่ เ ธอยื่ น ค าขาดตอนเขาขอแต่ ง งาน เขาเลยยื่ น ข้อเสนอขอพบกันแบบครึ่งทางคือขอมีลูกสาวลูกชายอย่างละหนึ่ง สุดท้ายโชคเข้าข้าง เมื่อเขารอลูกชายจนได้ลูกสาวมาห้าคน ครั้นเขา บอกให้รอลูกชายอีก ภรรยาไม่ยอมบอกให้เขารอลูกเขยแทน เขาจึง ยอมไปทาหมันอย่างที่เธอสั่งหลังคลอดพวงชมพูได้เดือนเดียว “ปั ท ม์ ไปหาแม่ เ ขาหน่ อ ยลู ก ” กริ น บอกลู ก สาวคนรอง ตรงชานเรือนหลังใหญ่ ใบหน้ารูปหัวใจไม่สดใสเหมือนเคย จนทาให้ เขาต้องนั่งลงแล้วโอบศีรษะนั้นให้อิงไหล่ด้วยความเอ็นดู “กลุ้มใจอะไร พ่อพอจะช่วยได้ไหม” “งานเขี ย นน่ ะ ค่ ะ พ่ อ ” นิ ล ปั ท ม์ ถ อนใจ ทอดสายตาไป ในความมื ดของสวนที่ปกคลุมด้วยต้น มะม่วง และไม้ห อมต้นใหญ่ หลายต้น “ทาไมไม่เขียนแนวที่เราถนัด” “เพราะนั ก เขี ย นที่ ดี ต้ อ งเขี ย นให้ ไ ด้ ห ลายๆ แนวค่ ะ ” นิลปัทม์เอาคาพูดของนักเขียนในดวงใจมาอ้างอีกครั้ง “แต่แนวที่ว่ามันอยู่ในหมวดอีโรติกไม่ใช่หรือลูก” นิลปัทม์ผละจากอ้อมกอดของคนเป็นพ่อ ก่อนนั่งเงียบด้วย ก าลังคิ ด หาเหตุ ผลดีๆ มาอ้างเพื่อให้พ่อเห็น ด้ว ย แต่พ่อช้างกลั บ เข้าใจว่าลูกกาลังตกอยู่ในภาวะที่ค้นหาตัวเองไม่เจอ “ลู ก ต้ อ งถามตั ว เองก่ อ นว่ า ไอ้ ที่ อ ยากเขี ย นนี่ มั น มาจาก เหตุผลอะไร?” “ก็งานเขียนจะได้พัฒนาไงคะ” 22
โมริสา “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องคิดมาก พ่อว่าถ้าลูกทาทุกอย่างด้วยใจ รัก ลูกจะทางานอย่างมีความสุข” “ปั ท ม์ รั ก การเขี ย นนะคะพ่ อ ท าไมพ่ อ ถึ งคิ ด ว่ า ปั ท ม์ ไ ม่ มี ความสุขในการทางาน” “แล้วงานเขียนแนวนี้ลูกทาแล้วมีความสุขไหมล่ะ?” นิลปัทม์คิดหาคาตอบใหม่อีกครั้ง ก่อนหันเหความสนใจของ พ่อด้วยการถามถึงแม่ “พ่ อ ว่ า แม่ ห ายโมโหหรื อ ยั ง คะ” ถามแล้ ว ก็ นึ ก ขึ้ น ได้ ว่ า คาตอบของพ่อจะทาให้เธอต้องกลุ้มใจใหม่อีกครั้ง กริน หรือช้างหัว เราะเบาๆ เขาลูบ มื อลงบนศี รษะของลู ก อย่างอ่อนโยน “แม่เขาโมโหเพราะรักลูกนะ อย่าลืมข้อนี้” “ทีพ่อไม่เห็นต้องทาท่าโมโหเลย ปัทม์ก็รู้ว่าพ่อรัก” นิลปัทม์ เอียงแก้มลงซบไหล่พ่ออย่างประจบประแจง “อย่าโอ้เอ้อยู่เลย ไปหาแม่เขาก่อนไป๊” “พ่อเข้าไปกับปัทม์ด้วยสิ” “เฮ่ย พ่อไม่อยากโดนดุ เรานั่นแหละรีบไปเลย ลุกๆ” กริน ลุก ยื น ก่ อ นฉุ ด ข้ อ มื อให้ ลู ก ลุก ตาม “ไปเสี ย ก่ อนที่ แ ม่ เ ขาจะโมโห มากกว่านี้” “พ่อกลัวแม่ด้วยหรือ” “อ้ า ว ใครไม่ ก ลั ว ผอ บอ ทอ บอ เชี ย วนะนั่ น ” คนพู ด ทาท่าติดตลกจนนิลปัทม์หัวเราะออกมาเบาๆ “ผู้บัญชาการที่บ้านใช่ไหมคะ พ่อถึงกลัว” “ถูก” “แต่ปัทม์ว่าพ่อกลัวต้องนอนเรือนแพคนเดียวมากกว่า พ่อ ถึงยอมออกมาตามปัทม์ ไม่อย่างนั้นพ่อก็คงอยู่แก้ตัวให้ปัทม์แล้ว” “ไอ้ นี่ รู้ จ ริ ง เว้ ย ” กริ น ตบไหล่ ลู ก สาวคนรองอย่ า งเอ็ น ดู “ไปแก้ต่างให้ตัวเองเสียเร็วๆ ก่อนที่พ่อจะต้องระเห็จไปนอนที่เรือน 23
ดอกไม้ร่ายมนต์รัก แพจริงๆ” “ก็ได้ค่ะ แต่ปัทม์จะเดินทางพรุ่งนี้นะคะ พ่อให้พี่เกดขับไป ส่งปัทม์ที่ท่ารถด้วยนะ” นิลปัทม์สั่งทิ้งท้ายก่อนเดินหนีพ่อช้าง กลับ เข้ามาหาแม่แก้วตรงห้องโถงสาหรับนั่งดูทีวี พุดน้าบุษย์กาลังคร่าเคร่ง กับบัญชีรายรับรายจ่ายของบ้านอยู่ที่โต๊ะทางาน ส่วนพวงชมพูกาลัง ทารายงานส่งอาจารย์อยู่ตรงโต๊ะหนังสือข้างหน้าต่างเรือน “มาแล้วหรือ ทั้งคนตาม คนถูกตามหายเงียบเลย” แม่แก้ว ต่อว่าเสียงเขียว เธอปรายตาค้อนไปทางด้านนอกห้อง แม้สามีไม่ได้ กลับเข้ามาด้วยแต่เธอก็รู้ว่าเขายืนให้กาลังใจลูกอยู่ห่างๆ “มีอะไรจะแก้ตัวไหมนิลปัทม์ ” แก้วกันเกราถามคนเป็นลูก เสียงเรียบ “ไม่มีค่ะ เพราะปัทม์ไม่ได้ทาอะไรผิด” “แต่บุษย์ได้ยินพี่ปัทม์ดุพี่เกด” พุดน้าบุษย์แทรกขึ้นทั้งที่ยัง ก้มหน้าก้มตาอยู่กับตัวเลขในสมุดบัญชี “ไม่เชื่อถามยายพวงสิ ใช่ไหม” คราวนี้พุดน้าบุษย์เงยหน้า มาพยัก พเยิด กับพวงชมพู หรือยายพวงที่เธอมีอภิสิทธิ์เรีย กได้อยู่ คนเดียวโดยน้องเธอไม่โกรธหรือถือสา แต่ถ้านอกเหนือจากนั้นมา เรียกละก็ พวงชมพูจะกลายร่างเป็นสาวห้าวไล่เตะไล่ต่อยเลยทีเดียว คนต้องตอบเงยหน้าขึ้นยิ้มแหยๆ แม้จะได้ยินพี่สาวคนรองดุ พี่สาวคนโตแบบเต็มสองหู แต่เธอก็ไม่อยากเป็ นพยานให้นิลปัทม์ ต้องโดนดุ จึงเสหยิบสมุดรายงานขึ้นกอดแล้วตอบคนเป็นแม่ว่า “ชมพู ลื ม ไปว่ า มี ร ายงานต้ อ งท าอี ก ตั ว เดี๋ ย วไม่ เ สร็ จ ” พวงชมพู ยิ้ ม หวานเอาใจแม่ แ ก้ ว ด้ ว ยค าพู ด ที่ ว่ า “แม่ แ ก้ ว เตรี ย ม แต่งตัวสวยๆ ไปรับงานปริญญาของชมพูด้วยนะคะ ไปละพี่บุษย์” “ยายพวง!” พุด น้ าบุ ษย์เรีย กเสีย งดังไม่ พ อใจที่พ วงชมพู ไม่ยอมร่วมมือด้วย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอคาดคั้นให้น้องช่วยเป็นพยาน เพื่อแกล้งให้พี่สาวโดนแม่ดุเล่น ในฐานะที่มาวิจารณ์คนโทน้าที่เธอ 24
โมริสา ตั้งอกตั้งใจปั้นว่าเหมือนโอ่งราชบุรีมากกว่า “พอแล้วยายบุษย์ พี่ว่าเธอไปแก้โอ่งที่เธอปั้นให้เป็นไหให้ได้ เสียก่อนจะมายุให้ยายชมพูเป็นพยานให้พี่ดีกว่ามั้ง” “นิ ล ปั ท ม์ ” คนเป็ น แม่ ป รามเสี ย งดุ แทบกลั้ น ยิ้ ม ไม่ อ ยู่ เมื่ อ เห็ น ลู ก สาวรองสุ ด ท้ อ งท าแก้ ม ป่ อ งค้ อ นหน้ า มุ่ ย ก่ อ นบ่ น กระปอดกระแปดไปตามประสาสาวขี้อ้อนว่า “บุษย์ปั้นคนโทน้าก็หาว่าปั้นหม้อปั้นไห คอยดูเถอะถ้าวัน ไหนพวกมหาเศรษฐีตาถึง มาขอซื้อคนโทน้าของบุษย์เมื่อไรนะจะ หัว เราะให้ฟัน หัก เลยในฐานะที่ข ายได้ราคาแพงกว่ าต้น ฉบั บ ของ พี่ปัทม์” “จ้ะ จะคอยดู” นิลปัทม์ยังแหย่ไม่เลิก ด้วยเวลาพุดน้าบุษย์ เกิ ด อาการแสนงอน แก้ ม ป่องสองข้ างนั้ น จะออกสีชมพูระเรื่อจน บางครั้งเธออดที่จะหยิกเล่นไม่ได้ “ชิ ” เป็ น เสีย งจากพุด น้ าบุ ษย์พ ร้อมอาการปรายตาค้ อน ตามมา “บุษย์ไปคุยกับพ่อข้างนอกก่อนลูก ” แม่แก้วสั่งเสียงเรียบ เพียงคาเดียว พุดน้าบุษย์รีบปิดสมุดบัญชีของบ้านทันที “อยากรู้ จั ง ว่ า แม่ จ ะดุ พี่ ปั ท ม์ อ ย่ า งไร อย่ า ลื ม รายงานผล ให้ฟังบ้างนะคะ” คนพูดเดินลอยหน้าลอยตาออกจากห้อง ปล่อยให้ ความเงียบเข้าปกคลุมภายในห้องอย่างที่แก้วกันเกราต้องการ “ไหนบอกแม่ ซิ ว่ าทาไมต้องโมโหที่พี่เขาบอกว่ าลูก จะขึ้ น เหนือ” แก้วกันเกราเริ่มชาระความ แอบถอนใจกับใบหน้ารูปหัวใจ ที่ไม่สดใสเหมือนเคย แม้แต่ดวงตากลมโตสีดาเข้มก็ดูอิดโรย แผง ขนตายาวกะพริบ ถี่ราวจะปกปิ ดความในใจไม่ ให้แ ม่อย่างเธอได้มี โอกาสรับรู้ คิ้วโค้งมนขมวดมุ่น กับเรียวปากสีชมพูเม้มสนิททาให้เธอ ต้องถอนใจอีกครั้ง ด้วยรู้นิสัยนิลปัทม์ดีว่าเป็นคนอารมณ์อ่อนไหว ตามประสาสาวช่างฝัน และจินตนาการสูง แต่ขณะเดียวกันลูกคนนี้ 25
ดอกไม้ร่ายมนต์รัก ของเธอก็มีโลกส่วนตัวสูง ไม่อย่างนั้นคงไม่หาเงินไปสร้างเรือนแพ ริมน้าไว้นั่งทางานเขียนที่ตนรักโดยไม่ใช้เงินของกงสีสักบาทเดียว “ปัทม์แค่หงุดหงิดน่ะค่ะแม่” “แต่พี่เกดไม่ใช่ถังขยะของบ้าน” “ค่ะ แต่บางครั้งพี่เกดก็กังวลเกินเหตุ” “ทาไมปัทม์ไม่มองว่าพี่เขารักเขาห่วงล่ะ ” คนเป็นแม่ปลอบ เสียงอ่อน “แล้วบอกแม่หน่อยสิว่า ถ้าพี่เกดเขาไม่รายงานแม่ ปัทม์จะ บอกแม่เมื่อไร หรือว่าพรุ่งนี้เช้าตอนจะลงบันได” “ก็กะว่าอย่างนั้นละค่ะ” “นิลปัทม์!” เจ้าของชื่อสะดุ้งกับเสียงเอ็ดที่ดังขึ้นอย่างหงุดหงิด “เห็นแม่ กับพ่อเป็นอะไร ถึงทาตัวเหมือนฉันอยู่ในโลกนี้คนเดียว หรือคิดว่า ไม่ต้องพึ่งเงินกงสีเหมือนยายสร้อยอีก คนก็ เลยไม่สนใจความรู้สึก ของใครในบ้านนี้” “แม่ก็ พูดเสียเกิ นเหตุ ” นิ ลปัทม์ เถี ย งเสีย งอ่อย ยกมือขึ้ น เกาศีรษะจนผมยุ่ง ปรายตามองไปทางบานหน้าต่างของห้องโถง พ่อกับพุดน้าบุษย์ยืนชะเง้อคอยฟังผลการสอบสวนอย่างสนใจ “ถ้าลูกคิดว่าแม่พูดเกินเหตุละก็ ถ้างั้นพรุ่งนี้ไม่ต้องไปก็แล้ว กัน” คนเป็นแม่สั่งเสียงเฉียบ “แม่ ปัทม์อายุยี่สิบแปดแล้วนะ!” นิลปัทม์เถียงเสียงหลง “โตแต่อายุน่ะสิ แต่ความคิดเหมือนเด็กประถม” “โหแม่ ปัทม์ลูกแม่นะ” “ปัทม์กาลังย้อนแม่นะ รู้ตัวหรือเปล่า” “แม่ ก็ ไ ปกั น ใหญ่ แ ล้ ว ปั ท ม์ ไ ม่ คุ ย ด้ ว ยแล้ ว โมโหอย่ า งนี้ ไปดีกว่า” “นิ ลปั ทม์ นั่ งลงเดี๋ยวนี้ !” แก้ วกั น เกราสั่งเสียงเย็น ทาให้ 26
โมริสา นิลปัทม์ต้องชะงักฝีเท้า เธอเห็นคนเป็นพ่อพยักพเยิดให้นั่งลงตาม คาสั่งของมารดา แล้วทาสัญญาณมือไม่ให้เธอพูดอะไรอีก “เห็นแม่เป็นหัวหลักหัวตอหรือไง ถึงจะไม่สนใจฟังในสิ่งที่ แม่บอกแม่สอน” แก้ วกันเกราบ่ นอย่างหงุดหงิด หลังลูกสาวจอม พยศยอมนั่งลงตามคาสั่ง แม้รู้ว่าจริงๆ แล้วสามีเธอคงขอร้องให้ลูก ทาตาม “ปัทม์แค่จะบอกแม่ว่า ปัทม์อายุยี่สิบแปดแล้วไม่ใช่อย่าง ยายชมพูที่ยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่” นิลปัทม์อธิบายเสียงเบา “ก็ นั่ น แหละ ลู ก ว่ าโตแล้ว แต่ ทาไมยัง ท าตัว เหมื อ นน้ อ ง คนเล็กของบ้านอีกล่ะ” นิลปัทม์นั่งเงียบ ด้วยไม่รู้จะอธิบายให้แม่เข้าใจอย่างไรดีว่า บางครั้ ง การตัด สิ น ใจจะไปไหนของเธอนั้ น มั น ขึ้ น อยู่กั บ อารมณ์ ความรู้สึกในตอนนั้น ยิ่งเขียนงานไม่ออก เธอยิ่งอยากอยู่คนเดียว มากขึ้น “ปัทม์เป็นลูกมีพ่อมีแม่ มีพี่มีน้องไม่ใช่ตัวคนเดียว แม่อยาก ให้ปัทม์คิดถึงความรู้สึกของคนในบ้านนี้ด้วยว่าเขาจะเป็นห่วงแค่ไหน ถ้าอยู่ๆ ปัทม์หายตัวไปโดยไม่บอกให้ใครรู้” นิ ล ปั ท ม์ ถ อนใจ เธอพนมมื อ ไหว้ ม ารดาอย่ า งส านึ ก ผิ ด “ปัทม์ขอโทษค่ะแม่ ปัทม์คิดแค่ว่าตัวเองโตแล้ว ไม่ทันคิดว่าจะมีใคร ห่วงอีกในเมื่อทุกคนก็ดูมีความสุขดี” “เฮ้ อ นิ ล ปั ท ม์ ลู ก ท าให้ แ ม่ เ ป็ น ห่ ว งไม่ แ พ้ ย ายสร้ อ ยเลย รู้ไหม” นิ ล ปั ท ม์ ใ ช้ มื อ เหน็ บ ผมไว้ ห ลั ง ใบหู แ ก้ อึ ด อั ด นึ ก อยากรู้ เหมือนกันว่าหากสร้อยกัทลีลูกสาวคนกลางของบ้านผู้ไปเป็นดารา อยู่ในเมืองใหญ่มีข่าวฉาวแรงๆ ขึ้นมานั้น แม่จะรับได้แค่ไหน บางที แม่อาจเอามือกุมขมับ ตอบคาถามบรรดาเพื่อนบ้านแทบไม่ถูกตอน เอาอาหารคาวหวานไปถวายเพลพระที่วัดแถวบ้านก็ได้ 27
ดอกไม้ร่ายมนต์รัก “แม่แก้ว หายหงุดหงิดยังจ๊ะ ” กรินหรือพี่ช้างพูดแทรกขึ้น เขายืนแอบมองเอาใจช่วยลูกสาวคนรองอยู่ด้านนอกจนขาแข็ง “มีอะไรอีกล่ะ” ถามพลางชายตาค้อนกับรอยยิ้มกระจ่างบน ใบหน้าคล้าแดดที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี ความคมเข้ม สูงล่าไม่เคย หายไปจากชายผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีเลยสักนิด “พูดไม่ เพราะเลยแม่ แก้วจ๋า เลิกหงุดหงิด ได้แล้ว จ้ะละคร ที่ลูกสร้อยเล่นมาแล้วนะ” นิลปัทม์นึกขาที่พ่อช่างหาเรื่องมาเอาใจ ให้แ ม่หันเหจากเรื่องวุ่น ๆ ของเธอไปสนใจเรื่องของลูกสาวอีกคน แทน “เข้าใจหาเรื่องมาช่วยลูกนะพี่ชา้ ง” “จ้ะ เอ๊ยไม่ใช่ พี่ช้างแค่กลัวแม่แก้วอดดูละครต่างหากล่ะ ” พี่ช้างไม่พูดเปล่า รีบช้อนร่างเล็กบางของแม่แก้วไว้ในอ้อมแขน แล้ว พาเดินกลับห้องไม่สนใจอาการทุบแขนทุบไหล่แก้ขัดเขินของภรรยา ที่บอกว่าอายลูก อายุปูนนี้แล้วยังสวีตไม่เลิก! โน้ตบุ๊กเครื่องทันสมัย หลังไปเที่ยวแถบแม่น้านครชัยศรีเมื่อสามวัน ก่ อ น รอยยิ้ ม ผุ ด ขึ้ น บนเรี ย วปากเมื่ อ เลื่ อ นเมาส์ ม ายั ง ภาพของ หญิงสาวผมยาวบนเรือนแพผู้นั่งอยู่ใต้แสงเงาของยามบ่าย มีกระเช้า กล้วยไม้หลากหลายพันธุ์เป็นฉากหลัง ท่าที่นั่งชันเข่าช่างเหมาะเจาะ งดงาม มื อ ข้ า งหนึ่ ง ท้ า วคาง ดวงหน้ า รู ป หั ว ใจแหงนเงยขึ้ น มอง ท้องฟ้า เรียวปากสีชมพูยิ้มแย้มสดใสเมื่อเธอกาลังพูดคุยเจรจากับ ทางปลายสายด้วยท่าทางมีความสุข ทาให้เขาต้องแอบกดชัตเตอร์ เก็บความงามนั้นกลับมาด้วยตอนที่เรือของเขาพายออกมาจากสวน พฤกษาอนัน ต์แ ล้ว เพราะไม่ เคยมีน างแบบคนไหนโพสท่า ได้เป็ น ธรรมชาติเท่าเธอคนนี้อีกแล้ว ‘ทิมนายเป็นอะไรนะ แค่เห็นภาพของหญิงสาวเจ้าของเรือน 28
โมริสา แพหลังนี้ ทาไมถึงรู้สึกเหมือนใจจะขาด อยากเห็นหน้า อยากรู้จัก ให้มากกว่านี้ หรือว่าเขาเป็นพระอภัยมณี แค่เห็นภาพของนางละเวง ก็กินไม่ได้นอนไม่หลับจนต้องออกตามหา เขาได้แต่หวังว่าจะไม่ต้อง รบทัพจับศึกกับนางละเวงยุคสองพันคนนี้ก็แล้วกัน’ ทิ ม ทองคิ ด อย่ า งมี ค วามสุ ข ก่ อ นได้ ยิ น เสี ย งเพลงจาก โทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นข้างตัว “สวั ส ดี ค รั บ พี่ สี สุ ก ” ทิ ม ทองกล่ า วทั ก ทายสี สุ ก ชายวั ย กลางคนผู้ เ ป็ น บก.หนั ง สื อ ประเภทสารคดี ต่ า งประ เทศที่ พิ ม พ์ จ าหน่ า ยทั่ ว โลก นอกจากนั้ น ส านั ก พิ ม พ์ ใ นเครื อ ยั ง มี นิ ต ยสาร อีก หลายหัว ดูแล โดยเขาทางานเป็ นช่างภาพสมั ค รเล่น ถ่ ายและ เขี ย นเล่ า เรื่ อ งราวของวิ ถี ชี วิ ต ที่ ไ ปประสบมาลงในคอลั ม น์ ชื่ อ “สะพายกล้องท่องโลกกว้าง” “ทิมอยู่ไหนน่ะ” “เชียงใหม่ครับ” “ว้า ทาไงดี” เสียงบ่น อย่างหนักใจของสีสุกทาให้เขาต้อง ถามออกไปด้วยความเป็นห่วงว่า “เกิดอะไรขึ้นหรือพี่ มีอะไรให้ผม ช่วยหรือครับ” “ก็เรื่องที่เคยคุยกันไว้ไง จาได้หรือเปล่า” “โหพี่ เราคุยกันหลายเรื่องมากเลยนะครับ” “แต่เรื่องหลักๆ มีสองเรื่อง จาไม่ได้หรือเรื่องต้นฉบับที่พี่ให้ ทิมส่งควบสามเรื่องซ้อนน่ะทาไมเพิ่งส่งมาเรื่องเดียว เดี๋ยวปีใหม่เขา ปิดงานปิดเล่มไม่ทันนะทิม” “ผมกาลังทาครับ รับรองว่าพรุ่งนี้เช้าพี่เปิดเมล์มาเจองาน เขียนของผมแน่” “เฮ้ อ ทิ ม รั บ ปากแล้ ว อย่ า งนี้ ห มดห่ ว งไปอี ก เรื่ อ ง” สี สุ ก ถอนหายใจมาให้ได้ยิน นั่นเป็นอาการที่เขารู้ว่าบก.ใจดีของเขายังพูด ไม่หมด 29
ดอกไม้ร่ายมนต์รัก “แล้วอีกเรื่องล่ะครับ” “พี่นึกว่าทิมจะไม่ถาม” “ว่าจะไม่ถามเหมือนกันแหละครับ แต่ผมมีงานต้องทาอีก เยอะ ขืนรอคืนนี้คงไม่ได้นอน” “ก็เรื่องที่เราคุยกันก่อนหน้านี้ไง คุณสร้อยกัทลีที่เธอเจาะจง มาว่าจะให้ทิมไปถ่ายภาพตอนเธอให้สัมภาษณ์ ไม่งั้นก็เซย์โนอย่าง เดียวเลยจาได้ไหม” “อ๋อ คุณสร้อยกัทลี ” ทิมทองปรายตาดูวันที่ในปฏิทินบน โต๊ะข้างหน้าต่างโรงแรมแถวเชียงใหม่ที่เขาเพิ่งขึ้นมาพักได้สามวัน โดยก่อนหน้านี้เขาพาอัลนี่ เที่ยวนครชัย ศรีจนทั่ว และส่งเพื่อนรัก กลับไปซ้อมดนตรีเพื่อเตรียมแสดงคอนเสิร์ตการกุศลที่ศูนย์ประชุมฯ จากนั้ น เขาถึ ง ขึ้ น มาหาโลเกชั่ น เพื่ อ ถ่ า ยภาพและเขี ย นบทความ ตอนใหม่ และมี กาหนดจะไปเชียงราย เพื่อถ่ายภาพงานแต่งงาน ของชาวเขาเผ่าอาเฮอซึ่งเป็นหลานชายของเพื่อนในสานักพิมพ์ ที่ส่ง ข่าวให้รู้เผื่อเขาสนใจจะเล่าเรื่องราวลงในคอลัมน์ที่เขาดูแล “ใช่ จาได้แล้วใช่ไหมที่ทิมบอกว่าขอคิดดูก่อนน่ะ” “เมื่อไรนะครับ ผมจาวันไม่ได้แล้ว” “วันเสาร์นี้ไงบ่ายสี่โมง ทิมจะบินกลับมาก่อนไหม” “โหพี่ เชียงใหม่กับกรุงเทพฯ นะครับ ไม่ใช่สนามหลวงกับ ท่าพระจันทร์” “เฮ้ ย อย่ า บอกว่ า ไม่ รั บ งานนี้ น ะ เธอเจาะจงทิ ม ทองมา โดยเฉพาะ” สี สุ ก ดั ก คอช่ า งภาพอิ ส ระคนเก่ ง อย่ า งหนั ก ใจ แม้ ความหวังจะริบหรี่ก็ตาม “ผมจาได้ว่าปฏิเสธไปแล้วไม่ใช่หรือพี่” “โธ่ทิม พี่นึกว่าทิมอยากเก็บเอาไปคิดดูก่อน เผื่อตัดสินใจ ใหม่ถึงได้แบ่งรับแบ่งสู้กับคุณสร้อยเธอ งานนี้เราเพิ่งได้คิวสัมภาษณ์ ความจริ ง คิ ว โดดน่ ะ ก็ เ ลยฉุ ก ละหุ ก ตอนแรกพี่ คิ ด ว่ า เอาพิ ศ าล 30
โมริสา ช่างภาพประจาของเราก็ได้ แต่คุณโรสผู้จัดการเธอบอกว่าคุณสร้อย รู้ ว่ า ทิ ม ฝี มื อ ดี เลยอยากให้ ทิ ม ถ่ า ยให้ แฟนคลั บ ของเธอจะได้ ไม่ ผิด หวั ง ” บ.ก.สี สุก ร่า ยยาวให้ช่ างภาพฝีมื อดีฟั งอย่า งละเอีย ด หวั ง ว่ า ชายหนุ่ ม จะเปลี่ ย นใจกลั บ มาตามค าขอร้ อ งของเขา ไม่ อย่างนั้น คิว ทองของสร้อยกั ทลีจะหายไป แล้ว กว่ าเขาจะได้คิ ว อีกครั้ง คงรอกันนานหลายเดือน ซึ่งนิตยสารที่เขาดูแลอยู่อีกหัวนั้น ก็จะช้าไม่ทันนิตยสารคู่แข่งอย่างแน่นอน “ผมก็ อ ยากช่ ว ยนะพี่ แต่ ง านแต่ ง ที่ ผ มจะไปถ่ า ยภาพนี่ เขาไม่ได้มีบ่อยๆ ผมพลาดไม่ได้หรอกครับ วันเสาร์เหมือนกันด้วย” พอปฏิเสธไปทิมทองก็ได้ยินเสียงถอนใจตามมาด้วยท่าทางหนักใจ ทันที “ทิมกาลังฆ่าพี่ทางอ้อมนะเนี่ย” “ผมเสียใจจริงๆ ครับพี่ บอกเธอว่าผมไปสิงคโปร์ก็แล้วกัน เอาเป็ น ว่ า ถ้ า เธอแต่ ง งานเมื่ อ ไรผมรั บ อาสาถ่ า ยให้ ฟ รี เ ลยด้ ว ย ” ทิมทองพูดกลั้วหัวเราะ “พี่ไม่ขาด้วยนะทิม” “ผมพูดจริงนะพี่ ลองเสนอเธอแบบนี้ดูสิครับ อย่าลืมว่างาน แต่ง เธอต้องสวยที่สุดและย่อมต้องการช่างภาพฝีมือดีเก็บภาพความ ประทับใจไว้ ซึ่งถ้าเธอเชื่อมั่นในฝีมือผมละก็ เธอต้องสนใจข้อเสนอนี้ ของพี่ ค รั บ ” ทิ ม ทองหว่ า นล้ อ มให้ สี สุ ก เห็ น ด้ ว ยกั บ ความคิ ด เขา ด้วยมั่นใจว่าเขายินดีไปถ่ายภาพเธอให้โดยไม่คิดเงินด้วยซ้า แต่เขา ไม่ทันคิดว่านอกจากจะไม่มีโอกาสทาเช่นนั้นแล้ว เขายังต้องตกระกา ลาบากโดยมีพี่สาวของสร้อยกัทลีเข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย
31
3 ปัทม์พักบ้านคนเดียวทั้งหลังเลยนะ อาหารก็พร้อมเช้ากลางวันเย็น เลยด้วย” นิลปัทม์ทาเสียงให้สดชื่นแจ่มใส เพราะไม่อยากให้พี่สาว เป็นกังวลมากนักกับการมาหาแรงบันดาลใจไกลถึงเชียงราย และ วันนี้เป็นวันที่สามที่เธอพักค้างคืนอยู่บนดอยแห่งนี้ แต่เพิ่งจะโทร ส่งข่าวกลับไปเพราะความที่มีสัญญาณบ้างไม่มีบ้าง “แล้วทาไมเพิ่งโทรหา แล้วมือถือน่ะปิดทาไม?” “พี่เกดก็ ปัทม์อยู่บนดอยสูงนะ มีสัญญาณให้โทรก็ดีเท่าไร แล้ ว ” คนพู ด นอนเหยี ย ดยาวคุ ย อยู่ บ นเปลญวนใต้ ถุ น เรื อ นไม้ หลังเล็กที่พื้นทาจากไม้สัก ส่วนตัวผนังบ้านเป็นไม้ไผ่ขัดแตะ หลังคา มุ งด้ ว ยจาก ซึ่ง เป็ น บ้ านพัก ที่บั ว ตองจัด ให้เ ธอพั ก ภายในหมู่ บ้ า น ชาวเขาเผ่าอาเฮอ อยู่ในอาณาเขตจังหวัดเชียงรายใกล้กับชายแดน พม่า “นี่ พี่ เ กด ปั ท ม์ มี เ รื่ อ งจะเล่ า ให้ ฟั ง ค่ ะ ” นิ ล ปั ท ม์ ท าเสี ย ง ตื่นเต้นให้ทางปลายสายต้องสนใจฟังแล้วเลิกบ่นเรื่องที่เธอไม่โทร กลับบ้านเสียที “ปัทม์ว่านะ ถ้าพวกเรามาอยู่ที่หมู่บ้านอาเฮอนะ เขาต้อง
โมริสา เรียกเราว่าสาวแก่ขึ้นคานแน่เลย” “ยายปัทม์ เธอปากจัดมากเลยนะ” “จริ ง ค่ ะ เพราะพี่ เ กดคงไม่ เ ชื่ อ ว่ า เจ้ า สาวที่ นี่ อ ายุ สิ บ ห้ า อย่างมากก็สิบเจ็ดแค่นั้นเอง” “หา จริงหรือยายปัทม์!” “จริงค่ะ แล้วเจ้าสาววันนี้ก็คือลูกสาวของน้าบัวตอง เห็นว่า ถ่วงเวลาให้เรียนมอหกจนอายุสิบเจ็ด น้าบัวตองถึงยอมให้แต่งตาม ประเพณีของหมู่บ้าน” นิลปัทม์เล่าอย่างออกรสชาติ “แล้ว ตอนนี้ เขาก็ ก าลัง เตรี ย มงานแต่ง กั น อยู่ แต่ปั ทม์ ยั ง ไม่ได้แต่งตัวเลย” “พี่ จ าได้ น ะ ตอนนั้ น น้ า บั ว ตองลากลั บ บ้ า นบอกว่ า ต้ อ ง กลับไปทาไร่ ที่แท้ไปแต่งงานมีลูกหรอกหรือ!” “ปัทม์กาลังคิดว่า ถ้าเราเกิดที่หมู่บ้านอาเฮอนะ ป่านนี้คง มีลูกเป็นโขยงไปแล้ว” “แต่พี่ไม่เอาหรอก ชีวิตวัยรุ่นหายไปเลย” “นั่นสิคะ ปัทม์ว่านะเราเกิดเป็นลูกพ่อช้าง แม่แก้วดีที่สุด แล้วค่ะ” “จ้ ะ ไม่ อ ย่ า งนั้ น เธอคงไม่ ไ ด้ ไ ปโม้ อ ยู่ ต รงนั้ น หรอก ” การะเกดเหน็บน้องสาวด้วยความหมั่นไส้ “แล้วทางบ้านเป็นไงบ้างคะ” “นึกว่าจะไม่ถามถึงเสียอีก” “ดูทาเสีย งเข้ าสิ มี เรื่องอะไรเหรอคะ” นิ ลปัทม์ พูดคุ ย ไป อย่างอารมณ์ดี ด้วยอากาศบนยอดดอยแห่งนี้กาลังหนาวได้ที่ ทาให้ เธอหายเครียดกับงานเขียนที่ยังค้างอยู่ในเครื่อง อีกทั้งน้าบัวตอง ก็ดูแลเอาใจใส่ดี พาเธอเที่ย วจนทั่ ว แล้ววั นนี้ ต อนบ่ ายจะเป็น พิธี แต่ ง งานซึ่ ง เจ้ า สาวเป็ น ลู ก ของน้ า บั ว ตองอดี ต พี่ เ ลี้ ย งแห่ ง สวน ปลูกรักษ์ 33
ดอกไม้ร่ายมนต์รัก “เรื่องสร้อยต่างหากล่ะ มีแต่ข่าวฉาวทั้งนั้นเลย” การะเกด บ่ น ให้ได้ยิน “เมื่ อวั น ที่พี่ไปส่งเธอที่ท่ารถ ขากลับ แวะร้านเซเว่ น พี่ต้องกวาดหนังสือบันเทิงมาแทบจะหมดร้านเลยรู้ไหม” นิลปัทม์หัวเราะไม่มีท่าทีแปลกใจกับคาบอกเล่าที่พี่สาวมักมี เรื่องหนักใจเกี่ยวกับสร้อยกัทลีมาปรึกษาเสมอ “หรือคะท่าทางจะข่ าวแรง” นิ ลปั ทม์ แ หย่พี่สาวไปอย่า ง เห็นขัน “ยายปัทม์ เธอนี่ท่าทางจะอาศัยไหว้วานปรึกษาอะไรไม่ได้ เลยมั้ง” “แหมพี่ เ กดก็ ท าไมปั ท ม์ จ ะปรึ ก ษาไม่ ไ ด้ ค ะ เมื่ อ กี้ ก่ อ น ที่ปั ทม์จะโทรหาพี่เกดนะ สร้อยโทรมาบ่น ใหญ่เลยว่ าโมโหที่น าย ช่างภาพทิมทองปฏิเสธไม่ยอมถ่ายภาพให้ อ้างว่าจะไปสิงคโปร์” “เห็นสร้อยเล่าให้พี่ฟังเหมือนกัน” “ตอนแรกปั ท ม์ นึ ก ว่ า สร้ อ ยจะไม่ ใ ห้ นิ ต ยสารฉบั บ นั้ น สัม ภาษณ์ น ะ ที่ไ หนได้เป็ น เพราะเขายื่น ข้ อเสนอว่ าถ้ ายายสร้อ ย แต่งงานเมื่อไรจะถ่ายภาพให้ฟรีๆ” “พอถึงเวลานั้น เขาอาจบ่ายเบี่ยงอีกก็ได้” “นั่นสิ ปัทม์ว่าลองเขาได้ปฏิเสธแล้วอย่างนี้ นั่นก็หมายถึงว่า เขาไม่อยากร่วมงานด้วยมากกว่า หยิ่งไม่ใช่เล่นนายคนนี้” “แต่พี่ว่าเขาคงรู้ฤทธิ์คนของเราด้วยมั้งว่าขาวีนไม่ใช่เล่น” “แต่ปัทม์มองว่าเขายโสค่ะ ได้ข่าวว่าจนกรอบไส้แห้งยังทา หยิ่ง อาศัยแค่ฝีมือถ่ายภาพขั้นเทพแค่นั้นเลยนึกว่าตัวเองเก่งกว่าใคร เพื่อน” “นิลปัทม์ พี่ว่าเธอใส่อารมณ์ มากไปหน่อยไหม เธอแค่ฟัง เขาเล่ า ต่ อ กั น มาจะเอามาตั ด สิ น ว่ า เขาเป็ น อย่ า งนั้ น จริ ง ๆ ไม่ ไ ด้ หรอก” “เริ่มเข้าโหมดขี้บ่นอีกแล้ว ไม่เอาไม่ฟังแล้วแค่นี้นะ” 34
โมริสา “เดี๋ยวสิยายปัทม์ พี่ยังไม่ได้เล่าเรื่องยายสร้อยเลย” “ไม่เอาเบื่อ ก็ตั้งแต่คุยมาก็มีแต่เรื่องของสร้อยกัทลีทั้งนั้น พี่เกดอย่ากั งวลกับ ข่ าวตามหน้ าหนั งสือบั น เทิงนั กเลย ถ้ าอยากรู้ ความจริงก็โทรไปถามยายสร้ อยโดยตรงเลยจะได้ไม่ต้องมานั่งกลุ้ม ว่าจริงหรือไม่จริง” “แต่ว่าคราวนี้มันไม่ใช่ข่าวธรรมดานะยายปัทม์” “นั่นแหละค่ะ ข่าวไหนก็เหมือนกัน แค่นี้นะพี่เกด น้าบัวตอง มาแล้ว” นิลปัทม์ไม่เปิดโอกาสให้พี่สาวได้รายงานข่าวของสร้อยกัทลี เธอจึ งไม่ รู้ ว่ าข่ า วที่ก าระเกดหนั ก ใจนั้ น ร้า ยแรงถึ งขนาดน้ อ งสาว คนกลางจะแย่งสามีนักธุรกิจของดาราคนหนึ่งเลยทีเดียว “มีอะไรหรือน้าบัวตอง” นิลปัทม์เก็บโทรศัพท์เหน็บไว้ใน กระเป๋าหลังของกางเกงยีน เมื่อเห็นบัวตองอดีตพี่เลี้ยงวัยสี่สิบเดิน มาหาพร้อมชุดชาวเขาสีชมพูหวาน “มานี่เถอะค่ะคุณปัทม์ มาลองชุดนี้หน่อยดีกว่า” “ลองทาไมคะ” คนถามถูก บั วตองจูงมื อให้ขึ้น ไปบนบ้ าน ที่ จั ด ให้ นิ ล ปั ท ม์ พั ก เพี ย งล าพั ง เธอเพิ่ ง รู้ ว่ า ฐานะของบั ว ตองที่ นี่ เทียบเท่าเศรษฐีคนหนึ่งของหมู่บ้านเลยทีเดียว เพราะมีบ้านหลาย หลังและไร่ชาอีกหลายสิบไร่อีกทั้งลูกน้องอีกหลายสิบคนสาหรับเก็บ ใบชา จะว่าไปแล้วฐานะการเงินของบัวตองเทียบเท่ากับทางบ้าน ของเธอด้วยซ้า “น้ามีชุดที่ทอไว้ให้แขกสาหรับใส่ในงานเยอะเลย แต่เลือก ชุดนี้มาให้คุณปัทม์ น่าจะพอดี” “จริงหรือ ไหนสวยไหม” นิลปัทม์ รับชุดชาวเขาสีชมพูม า กางออกดู “ลองสิคะ ของฝ่ายเจ้าสาวจะเป็นสีชมพูค่ะ ถ้าฝ่ายเจ้าบ่าว จะสีแดง” บัวตองหันไปดึงไม้ค้าหน้าต่างเก็บ ทาให้หน้าต่างไม้ไผ่ สานหุบปิ ดลง แล้วจึงคะยั้นคะยอให้อดีตเด็กสาวที่เธอเคยเลี้ยงดู 35
ดอกไม้ร่ายมนต์รัก เปลี่ยนจากกางเกงยีนเสื้อยืดตัวหนามาเป็นชุดผ้าฝ้ายทอมือสีชมพู หวานคอลึก ปักลูกปัดเม็ดเล็กหลากสีตรงชายทิ้งตัวบานพลิ้วสวย “สวยมากเลยค่ะ” “สวยก็ ใ ส่ เ ลยค่ ะ น้ า ทอไว้ ห ลายตั ว เผื่ อ แขกทางเจ้ า สาว คุณปัทม์มาได้ น้าดีใจมากจริงๆ” แม่เจ้าสาวยิ้มกว้าง รอจนนิลปัทม์ ถอดเสื้อและกางเกงออก จากนั้นช่วยหญิงสาวจัดชุดให้เข้ากับรูปร่าง เพรียวสวยนั้นอย่างเต็มใจ ก่อนยิ้มภูมิใจกับความงามของหญิงสาว ตรงหน้า “สวยมากค่ ะ คุ ณ ปั ทม์ มาน้ าเกล้าผมให้ รูป หน้ าคุ ณ ปั ทม์ สวยอยู่ แ ล้ว เกล้ าผมนิ ด เดีย วน้ า รั บ รองว่ า ไอ้ห นุ่ ม ฝ่ า ยโน้ น จะวิ่ ง ตามมาขอเบอร์โทรกันให้วุ่นไปเลย” “แหมนึกว่าจะขอแต่งงาน” คนพูดยิ้มแย้มแจ่มใส ด้วยกาลัง ชื่ น ชมกั บ ชุ ด สวยบนตั ว อย่ า งมี ค วามสุ ข เธอยอมนั่ ง ลงตรงหน้ า กระจกเงาบานเล็กริมหน้าต่าง ซึ่งบัวตองใช้ไม้ค้าเปิดมันจนกว้างใหม่ อีกครั้ง “น้ ารับ รองว่ าคุ ณ ปั ทม์ ต้องได้แ ต่งงานแน่ ห ากแต่งเสื้อผ้า ชุดนี้ออกงาน” “ให้จริงเถอะค่ะ” “จริงค่ะ ” บั วตองรับค าหนั กแน่ น ก่ อนใช้กิ๊ บ เหน็บ ผมให้ หญิงสาวอย่างคล่องแคล่ว “แล้วน้าจะบอกให้นะว่าฝ่ายเจ้าบ่าวน่ะ มีช่างภาพจากหนังสือสารคดีดังตามมาถ่ายภาพเพื่อจะเอาไปเขียน ลงในคอลัมน์สะพายกล้องท่องโลกกว้างด้วยนะ” นิลปัทม์ขมวดคิ้วสงสัย “สะพายกล้องท่องโลกกว้าง” เธอ เปรยชื่อนี้ออกมาเบาๆ “ค่ ะ สะพายกล้อ งท่ องโลกกว้ า ง คนเขี ย นเขารู้ จัก กั บ อา เจ้าบ่าวก็เลยตามมาถ่ายรูปด้วย” ‘จะใช่เขาหรือเปล่านะ’ นิลปัทม์คิดไปถึงทิมทองช่างภาพ 36
โมริสา ผู้หยิ่งยโส และปฏิเสธงานถ่ายรูปให้น้องสาวเธอด้วยการอ้างว่าไป สิงคโปร์ ที่แท้เขามาขลุกอยู่บนดอยแห่งนี้เองหรือ? “คุณปัทม์อยากรู้จักไหมคะ น้าว่าเขาเหมาะกับคุณปัทม์ของ น้ามากเลย ดาร์ค ทอล แอนด์แฮนซั่มเชียวนะ” นิ ล ปั ท ม์ เบ้ ห น้ า นึ ก ค่ อ นในใจ ‘ชิ จะหล่อ แค่ ไ หนกั น เชี ย ว อี ก อย่ า งหล่ อ กิ น ไม่ ไ ด้ ขื น มี แ ต่ ตั ว เขาจะพาเธอไปเที่ ย วไหนได้ นอกจากงานวัดข้างบ้าน’ “ว่าอย่างไรนั่งเงียบเลย คนสวยของน้า” บัวตองจับใบหน้า หญิงสาวให้หันเข้าหาแสงสว่างจากทางหน้าต่าง ใบหน้ารูปหัวใจสวย โดดเด่ น ดวงตาสี นิ ล เป็ น ประกายสดใส อี ก ทั้ ง รอยยิ้ ม หวานจาก เรียวปากสีชมพู เรียกสายตาคมกริบบาดใจให้ชะงักกล้องในมือลง อย่างแปลกใจ ก่อนเกิดอาการเสียวแปลบที่หัวใจ ทิมทองจาได้ทันที ว่ าสาวงามตรงหน้ าต่างคื อเธอคนเดีย วกั บ ในรูป ที่เขาถ่ ายมาจาก ศาลาริมน้าแถวแม่น้านครชัยศรี “หญิงสาวกั บ แสงสุด ท้ายของวั น ” ทิม ทองเปรยชื่อที่เขา ตั้ ง ไว้ ใ ต้ ภ าพใบใหญ่ ซึ่ ง เขาสั่ ง อั ด มาติ ด ไว้ บ นฝาผนั ง ปลายเตี ย ง ในห้องนอน แล้วนอนดูอย่างหลงใหล “คุณทิมกาลังพูดถึงใครครับ ” คาถามของชายหนุ่มข้างตัว ทาให้ทิมทองยิ้มเก้อก่อนหันมาตอบคมสันต์ผู้เป็นอาของว่าที่เจ้าบ่าว “ผมอยากรู้ว่าเธอคนนั้นเป็นญาติฝ่ายไหน” เขาพยักหน้าไป ยังหญิงสาวบนบ้านพักหลังเล็ก “ถ้าใส่สีชมพูก็ต้องญาติฝ่ายเจ้าสาว” “ญาติข้างไหนกัน ” ทิมทองบอกยิ้มๆ ก็เมื่ อสามสี่วันก่อน เขาเห็ น เธออยู่ ที่ น ครชั ย ศรี พอมาวั น นี้ เ ธอมาอยู่ ห มู่ บ้ า นอาเฮอ เชี ย งราย จนเขาคิ ด ถึ ง ค าว่ า พรหมลิ ขิ ต และเริ่ ม เชื่ อ กั บ ความ มหัศจรรย์ของมัน “คุณทิมอยากรู้จักไหม” 37
ดอกไม้ร่ายมนต์รัก “ก็น่าสนใจดี เขาถ่ายรูปได้ขึ้นกล้องมาก” คนพูดยกกล้อง ขึ้ น ซู ม ไปยั ง นิ ล ปั ทม์ ที่ นั่ ง พู ด คุ ย ยิ้ ม แย้ม แจ่ ม ใสอยู่ กั บ บั ว ตองด้ ว ย ท่าทางมีความสุขจนเขาต้องยิ้มตามรอยยิ้มแสนหวานนั้นด้วย “พี่ บั ว ตองบอกว่ า ชื่ อ นิ ล ปั ท ม์ เป็ น นั ก เขี ย นนิ ย ายแนว ฆาตกรรม เห็ น ว่ า ขึ้ น มาหาวั ต ถุ ดิ บ ส าหรั บ เขี ย นหนั ง สื อ จั ง หวะ เหมาะกับที่ตองอ่อนจะแต่งงานพอดี” “เป็นนักเขียนหรือ?” ทิมทองลดกล้องในมือลง ก่อนย้อนดู ความสมบู รณ์ข องภาพ เขายิ้มพอใจเมื่ อนางแบบคนสวยของเขา ยังคงโพสท่าได้งดงามเหมือนเดิม “ไปกันเถอะครับคุณทิม เดี๋ยวจะมีพิธีสู่ขอเจ้าบ่าวกันแล้ว” ทิมทองหัวเราะอยู่ในลาคอ ก่อนตัดใจจากภาพของหญิงสาว เดินตามคมสันต์กลับมายังบ้านของฝ่ายเจ้าบ่าวซึ่งสวมเสื้อผ้าสีแดง รวมถึงเขาก็ต้องสวมในฐานะเพื่อนทางฝ่ายญาติเจ้าบ่าว “พิธีที่นี่แปลกดีนะ ผมเพิ่งเคยเห็นฝ่ายเจ้าสาวต้องไปสู่ขอ เจ้าบ่าว” คมสันต์หัวเราะ “เดี๋ยวคุณทิมจะได้เห็นอีกหลายอย่างเลย ผมรับรองว่าไม่มีที่ไหนเหมือนที่นี่แน่” ทิมทองเพียงยิ้มรับ ไม่อยากจะบอกว่ าตอนนี้ เขาไม่อยาก เห็นพิธีกรรมอะไรอื่น นอกจากเธอคนนั้นเพียงคนเดียว “นิลปัทม์” หญิงสาว พิธีสู่ขอเจ้าบ่าวเสร็จสิ้นลงอย่างเรียบร้อย จากนั้นช่วงค่า จึงเป็นพิธีส่งตัวเข้าหอและกินเลี้ยงกันอย่างสนุกสนานเฮฮา เขาเดิน ตามนิลปัทม์มาจนถึงใต้ต้นหางนกยูง อากาศตอนค่าหนาวจนต้องใช้ เสื้อกันหนาวเนื้อหนาสวมกันลมที่พัดปะทะผิวหน้าจนชา “เรารู้ จั ก กั น หรื อ ?” นิ ล ปั ท ม์ ถ ามเสี ย งเย็ น เธอขมวดคิ้ ว ไม่พอใจ แม้จะชื่นชมหน้าตาที่คมเข้ม ดวงตาคมกริบเป็นประกาย 38
โมริสา บาดใจ คิ้วโค้งได้รูปราวกับวาดด้วยดินสอ หรือแม้แต่ปากหยักสีชมพู ระเรื่อ จมูกโด่งเป็นสัน รวมถึงเส้นผมสีเมล็ดมะขามยาวประบ่าที่หวี แสกกลางแล้ว นานครั้งเขาจะใช้มื อเสยขึ้ น อย่า งไม่ ใ ส่ใ จ กระเป๋ า กล้องสะพายอยู่บนไหล่ใหญ่ทาให้เธอเดาได้ทันทีว่าเขาต้องไม่ใช่ใคร อื่นที่ไหน ช่างภาพและนักเขียนสารคดีคอลัมน์ “สะพายกล้องท่อง โลกกว้าง” “ผมชื่อทิมทอง ศิวาวุธ” “แล้วไง” นิลปัทม์ถามอย่างเสียไม่ได้ ด้วยนึกหมั่นไส้ที่เขา ปฏิเสธงานถ่ายภาพให้สร้อยกัทลี แล้วระเห็จมาอยู่ตรงนี้แทน แถม ยังอวดรวยโกหกอีกว่าไปสิงคโปร์ “แล้ ว ไง ถ้ า งั้ น ผมก็ ค งทั ก คนผิ ด คุ ณ คงไม่ ไ ด้ ชื่ อ นิ ล ปั ท ม์ นักเขียนนิยายแนวฆาตกรรมสืบสวนที่ผมอยากรู้จักละมั้ง ” ทิมทอง ต่อว่าเสียงห้วนด้วยความผิดหวัง เขารวบรวมความมั่นใจอยู่พักใหญ่ เพื่อทาความรู้จักกับหญิงสาว สุดท้ายสิ่งที่ได้คือความหยิ่ง แม้เขาจะ ไม่ปฏิเสธเลยว่าเธอสวยจับใจเขามาก ยิ่งมายืนอยู่ใกล้ๆ ด้วยอย่างนี้ ก็ยิ่งเห็น ความงาม ยิ่งอยากใกล้ชิดสนิ ทสนมด้ว ย อีกทั้งกลิ่น หอม รวยริน โชยมาอ่อนๆ ชวนให้เลือดหนุ่ ม ของเขาร้อนวู บ วาบ ยิ่งได้ น้ าเมาฝีมื อชาวเขาเข้ าไปอีก หลายอึก ทาให้ เขาตั ด สิน ใจที่จ ะท า ความรู้จักกับเธอ แต่คาพูดนั้นทาให้เขารู้ว่าเธอเล่นตัวไม่น้อยเลย “ใช่ ฉันนี่แหละนิลปัทม์ รู้จักแล้วเป็นไงล่ะ คงไม่ใช่อย่างที่ คุณคิดไว้ละมั้ง” “หัวกับก้อยเลยละ” เขากระแทกเสียงใส่ “แย่กว่าที่คิดไว้ เยอะเลย” เขาเหน็บก่อนหันหลังกลับ แต่กลับถูกนิลปัทม์รั้งแขนไว้ ต่อว่าเสียงแหวว่า “เดี๋ยวก่อนอย่ามาว่ากันแบบนี้นะ” “ทาไมจะว่ าไม่ ได้ก็คุณ เป็ นแบบนั้ นจริงๆ” ทิมทองสะบั ด แขนออกจากมือหญิงสาวด้วยความหงุดหงิด “มีอย่างที่ไหนผมมาทา ความรู้จักด้วย แต่ทาหยิ่งใส่ แล้วเรื่องอะไรที่ผมจะพูดดีกับคุณ” 39
ดอกไม้ร่ายมนต์รัก “ก็คุณ…” นิลปั ทม์ยั้งปากไว้ได้ทัน เธอจะให้เขารู้ไม่ได้ว่ า เป็นพี่สาวของสร้อยกัทลีดาราดัง “ท าไม จะแก้ ตั ว หรื อ ไง สายไปแล้ ว อยู่ บ นคานทองไป เหอะ” “อ๊าย หยาบคายมากๆ เลยไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ” นิลปัทม์กรี๊ดใส่ พลางทุบมื อลงบนหน้าอกของร่างสูงที่ปากคมยิ่งกว่ากรรไกรของ โรงพยาบาล แต่ เธอถู ก เขารั้ง ไว้ ใ นอ้ อ มแขนกอดกระชับ จนแน่ น พูดเสียงลอดไรฟันอยู่ตรงริมหูของหญิงสาวจอมพยศว่า “อย่าเผลอ นะ จะปล้าทาเมียเสียเลยปากดีแบบนี้” “ไอ้ บ้ า อย่ า มาดู ถู ก กั น แบบนี้ น ะ ปล่ อ ยสิ ” นิ ล ปั ท ม์ ดิ้ น ขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม เธอถูกเขาขโมยจูบที่ปากอย่าง ฉาบฉวย ก่อนปล่อยให้เป็นอิสระ นิลปัทม์เงื้อมือหมายจะตบสั่งสอนก่อนหยุดชะงักค้างเมื่อได้ ยิน เสีย งร้ องขอความช่ว ยเหลือของผู้ ชาย ก่ อนมี เสีย งโหวกเหวก โวยวายขึ้น เธอวิ่งตามชายหนุ่มคู่ปรับไปยังต้นเสียงด้วยความร้อนใจ มองเห็นเรือนหลังใหญ่ซึ่งใช้เป็นห้องหอเกิดโกลาหลอลหม่านเมื่อ ผู้คนต่างกรูกันวิ่งตามบัวตองผู้เป็นแม่เจ้าสาวซึ่งวิ่งนาหน้าขึ้นไป “กรี๊ดด ไม่จริงลูกแม่ ลูกแม่ ใครก็ได้ช่วยที” นิลปัทม์ถึงกับตกใจกับเสียงหวีดร้องขอความช่วยเหลือของ บัวตอง “เกิ ด อะไรขึ้ น !?!” ในยามไม่ รู้ ว่ า เกิ ด อะไรขึ้ น กั บ เสี ย ง คร่าครวญนั้น นิลปัทม์จึงหันไปถามชายหนุ่มด้วยความตกใจ ทิมทอง ได้แ ต่ส่ายหน้ า ก่อนตัด สิน ใจปลดกระเป๋ากล้องบนไหล่ออกส่งให้ หญิงสาวหลังได้ยินเสียงร้องโหยหวน “ฝากเก็บไว้ด้วย อย่าให้หายนะ ผมจะขึ้นไปดูเผื่อช่วยอะไร เขาได้” ทิมทองวิ่งแทรกกลุ่มชาวเขาที่จับกลุ่มชะเง้ออยู่หน้าบ้านพัก 40
โมริสา ขึ้นไปยังห้องหอของบ่าวสาว เขาถลาเข้าไปในห้องอย่างถือ วิสาสะ ด้ว ยเสี ย งร้อ งขอความช่ ว ยเหลื อ ของแม่ เจ้ า สาวที่ น้ าตานองหน้ า ใจหายวาบเมื่ อ เห็ น ร่ า งเปลื อ ยเปล่ า อวบอั ด ของเจ้ า สาวหมาดๆ นอนอยู่บนเตียงในสภาพหน้าขาวซีดโดยมีเจ้าบ่าวยืนตัวสั่นงันงก มีผ้าขาวม้าพันกายท่อนล่างเพียงผืนเดียว “เกิด อะไรขึ้น !” ทิมทองปราดเข้ าไปแตะชีพ จรตรงใต้สัน กราม เขาไม่พบการเต้นของชีพจรจึงตัดสินใจคลามือลงบนกระดูก หน้าอกซึ่งอยู่ต่าลงมาจากกึ่งกลางหน้าอก แล้ววางมือประกบซ้อน กันไว้และล็อกนิ้วมือเข้าด้วยกัน เขาออกแรงกดให้หน้าอกยุบแล้ว หยุด พลางนั บ หนึ่ ง แล้ว หยุดแต่เขาไม่เอามื อออก เขานั บ จนครบ สิบห้าครั้ง ก็ยังไม่มี วี่แววว่ าคนบนพื้น จะฟื้นคื นชีวิต มาให้เจ้าบ่าว และบัวตองได้ดีใจ “ช่วยลูกฉันด้วยนะคุณ ลูกเขยฉันเขาบอกว่าอยู่ๆ ตองอ่อน ก็ช็อกจ้ะ” บัวตองบอกทั้งน้าตา เธอเอาใจช่วยชายหนุ่มให้เขาช่วย ยื้อชีวิตลูกคืนมาให้จงได้ “ที่นี่มี หมอไหมครับ ให้ใครไปรับมาได้ไหม” ทิม ทองร้อง บอกก่ อ นเปลี่ ย นใจ จั บ ใบหน้ า ของตองอ่ อ นให้ แ หงนเงย ตั้งขากรรไกรตรง เขาบีบมือลงบนจมูก ก่อนสูดหายใจจนลึก แล้วก้ม ประกบปากลงกั บปากของตองอ่อน ทิมทองทาอย่างตั้งใจหวั งจะ ช่ว ยให้เจ้าสาวฟื้น คื น สติม าอยู่กั บ เจ้าบ่ าวอย่างมี ค วามสุข อีก ครั้ง ลมหายใจอุ่นจากช่องอกที่เป่าเข้าปากหญิงสาวดูเหมือนว่าจะเต็มไป ด้ว ยแรงปรารถนาดี แต่ช ะตาชี วิ ต ที่ ขี ด ไว้ แ ล้ว ไม่ อ าจมี ใ ครฝื น ได้ วิ ญ ญาณของตองอ่ อ นจึ ง ออกจากร่ า งมายื น มองการกระท าของ ชายหนุ่ ม ด้ว ยความประทับ ใจ น้ าตาไหลริน ด้ว ยความเสีย ดายใน ความเป็นสุภาพบุรุษผู้มีน้าใจ ก่อนปรายตามองไปยังสามีที่ยืนหน้า ซีดทาอะไรไม่ถูกด้วยความเคียดแค้นชิงชัง ที่ทาให้เธอต้องจบชีวิตวัย สาวด้ว ยความตะกละตะกราม จนหัว ใจเธอรับ ไม่ ไหวหยุด เต้น ไป 41
ดอกไม้ร่ายมนต์รัก ชั่ว ขณะ แทนที่เขาจะรีบ ปั๊ มหัว ใจหรือเป่ าปาก กั บร้องตะโกนขอ ความช่วยเหลือจากคนอื่น ผัวอย่างนี้ไม่น่าภูมิใจเลยสักนิด วิญญาณ ตองอ่อนมองคาพงษ์อย่างเหยียดหยาม ก่อนหันไปมองทิมทองอย่าง หมายมาด พลางหัวเราะเสียงแหลม เธอลอยตัวออกทางหน้าต่าง ทิ้งความวุ่น วายให้คนในบ้ านยังมี ความหวั งกับ การช่ว ยเหลือของ ทิมทอง “มีแต่หมอผีจ้ะ ถ้าจะเอาหมอจริงๆ ต้องขับลงไปตีนดอย” “พี่ทิม ช่วยเมียผมด้วยนะ” เจ้าบ่าวหมาดๆ นั่งลงขอร้อง เสียงสั่นหลังเห็นภรรยาคนสวยยังไม่ยอมรับรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้น มีเพียง แรงกระแทกจากมือของช่างภาพหนุ่มที่พยายามปั๊มหัวใจให้อย่าง เต็มที่ “คาพงษ์เราต้องพาตองอ่อนไปหาหมอที่ตีนดอย” “ไม่ทันแล้วละ ปล่อยนังตองอ่อนได้แล้ว ” เสียงแหลมเล็ก อู้คาเมืองสั่งมาจากทางหน้าประตู ทาให้ทิ มทองชะงักก่อนหันไปดู ด้ว ยความสนใจในค าพูด ของหญิ ง ชราร่ า งเล็ ก ที่ อยู่ ใ นชุ ด ชาวเขา ประจาเผ่าอาเฮอ ใบหน้าเหี่ยวย่นเต็มไปด้วยสีแดงส้มเหลือง ใบหู สองข้างแขวนตุ้มหูเป็นพวงระย้ายาวจนถึงทรวงอก ในมือมีไม้เท้ารูป หัวสิงห์อันยาวกว่าความสูงของตัวคนถือ “หมายความว่าอย่างไรคาพงษ์” “แม่เฒ่าว่าตองอ่อนตายแล้วครับ” “แต่พี่ว่าถ้าพาไปหาหมอที่ตีนดอย อาจช่วยตองอ่อนได้นะ” ทิมทองยังไม่ละความพยายาม เขาหันมาทามือเพื่อปั๊มหัวใจอีกครั้ง กลับถูกบัวตองรั้งไว้พร้อมกับเสียงกระแทกไม้เท้าก็ดังขึ้นเช่นกัน “ไอ้หนุ่ม ข้าสั่งเจ้าไม่เชื่อหรือไง ระวังจะโดนดี” “ไม่ต้องแล้วค่ะคุณ ถ้าแม่เฒ่าบอกว่าตายก็คือตาย” “แต่…” ทิมทองเงยหน้าขึ้นมองคาพงษ์ขอความเห็น แต่เขา กลับถูกญาติเจ้าบ่าวรั้งให้ลุกยืน แล้วพาลงจากเรือนหอหลังเล็ก 42
โมริสา “เกิ ด อะไรขึ้ น บอกฉั น หน่ อ ยสิ น้ า บั ว ตองเป็ น อะไร” นิลปัทม์ปราดมาถามถึงตัวทิมทองด้วยความร้อนใจ ชะเง้อมองขึ้นไป ยังด้านบน เมื่อเห็นแม่เฒ่าประจาหมู่บ้านเดินขึ้นเรือนหอไปอย่างมี สง่าราศีทั้งที่รู้มาว่าอายุร่วมแปดสิบปีด้วยซ้า “ผมคิดว่าตองอ่อนหัวใจวาย” “อะไรนะ เป็ น ไปได้ อ ย่ า งไร” คนถามตกใจแทบสิ้ น สติ ยกมือปิดปากด้วยไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นความจริง ทั้งที่เมื่อตอน บ่ายเธอยังเดินตามขบวนเจ้าสาวไปบ้านเจ้าบ่าว เพื่อดูเขาทาพิธีสู่ขอ เธอยัง จ าถึ ง รอยยิ้ ม เอี ย งอาย เก้ อ เขิ น ยามก้ ม ลงใช้น้ าล้า งเท้ า ให้ เจ้าบ่าวที่ยืนเอาเท้าข้างขวาวางไว้บนหินก้อนใหญ่ นัยว่าเพื่อความ เข้มแข็งหนักแน่นของการครองเรือน “แต่มันเป็นไปแล้ว แม่เฒ่านั่นบอกว่าตองอ่อนตาย ทุกคน เลยให้ผมหยุดปั๊มหัวใจ” นิลปัทม์ทรุดลงบนพื้นดินอย่างหมดแรง โลกแทบหยุดหมุน กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยที่เธอไม่เคยประสบมาก่อน น้าตาค่อยไหล รินเมื่อได้ยินเสียงบัว ตองร่าไห้ดังขึ้นท่ามกลางความมืดของผืนป่ า แม้แต่เหล่าแมลงกลางคืนยังพากันสงบนิ่งไว้ ทุกข์ให้กับความสูญเสีย ครั้งนี้ “ฉันพอจะช่วยอะไรเขาได้ไหมก็ไม่รู้” “ผมว่ า คุ ณ ควรปล่ อ ยให้ พ วกญาติ ๆ เขาปลอบใจกั น เอง ดี ก ว่ า ” ทิ ม ทองตอบเสี ย งแข็ ง ก่ อ นก้ ม ลงหยิ บ กระเป๋ า กล้ อ งที่ นิลปัทม์วางไว้บนพื้นขึ้นมาสะพายไว้บนไหล่ของตน “คุณจะไปไหนน่ะ” “ผมจะไปบ้านพัก อยู่ตรงนี้ก็คงช่วยอะไรเขาไม่ได้” ทิมทอง ตอบเสียงขื่น เสียใจที่ไม่อาจช่วยอะไรเจ้าบ่าวได้ ทั้งที่เขาเชื่อว่าหาก พาไปรักษาที่โรงพยาบาลตีนดอยด้านล่าง ตองอ่อนอาจรอดชีวิตก็ เป็นได้ 43
ดอกไม้ร่ายมนต์รัก “จะกลับ ไหม ผมจะเดิน ไปส่ง ” ทิม ทองถามอย่างมี น้ าใจ กับอาการซึมเซาของนิลปัทม์ที่นั่งอยู่บนพื้น เขาถอนใจเมื่อเธอเงย หน้าขึ้น ดวงหน้ารูปหัวใจนั้นเต็มไปด้วยคราบน้าตา “ฉันสงสารน้าบัวตอง เมื่อกลางวันเธอยังเล่าให้ฟังอยู่เลยว่า ตองอ่อนเป็ นความภูมิ ใจของเธอ เห็น ว่าแต่งงานแล้ว ก็จะกลับ ไป เรียนต่อทางด้านการเกษตรเพื่อจะกลับมาสานต่อเรื่องไร่ชาของแม่” “แล้วคุณคิดว่าผมไม่เห็ นใจคาพงษ์หรือไง เขาเล่าให้ผมฟัง ว่าเขาหวังจะมีลูกกับตองอ่อนสักสี่คนแล้วช่วยกันดูแลไร่ชาด้วยกัน ไปจนแก่จนเฒ่า” “ฉันจะขึ้นไปดูน้าตองอ่อน เผื่อช่วยอะไรได้” “คุณ จะบ้าหรือไง!” ทิมทองรั้งแขนนิลปัทม์ไว้ไม่ยอมให้เธอ ได้ท าตามพูด “คนเขาก าลั งต้ องการความเป็ น ส่ว นตัว คุ ณ จะไป รบกวนเขาทาไม?” “แต่เขาเคยเป็นพี่เลี้ยงฉันมาก่อนนะ” นิลปัทม์เถียงเสียงดัง “แล้วไง คุณก็เลยจะขึ้นไปอ้อนขอกินนมก่อนนอนหรือไง!” “อ๊าย ไอ้ปากหมา” นิลปัทม์ร้องด่าก่อนเงื้อมือขึ้นหมายตบ สั่งสอน แต่โดนทิมทองรวบไว้ทั้งสองมือแล้วลากตัวให้เดินกลับมายัง บ้านพักของเขาแทน “ปล่อยนะไอ้บ้า จับฉันมาที่นี่ทาไม” “ถ้ า คุ ณ ยั ง พู ด ไม่ รู้ เ รื่ อ ง ผมก็ จ ะมั ด คุ ณ ไว้ ใ ต้ ถุ น นี่ แ หละ” ทิมทองขู่เสียงเข้ม เขารั้งข้อมือนิลปัทม์มาจนถึงบันไดทางขึ้นบ้านพัก ที่ฝ่ายญาติเจ้าบ่าวจัดไว้ให้ “แล้วถ้ายังขืนส่งเสียงไม่เลิกอีกละก็ ผมจะปล่อยให้คุณโดน ผีหลอกให้ผมร่วงหมดหัวไปเลย” “ไม่นะ ไม่” นิลปัทม์รีบถลาเข้ามาสวมกอดทิมทองไว้แน่น “ฉันกลัวผีอย่าทิ้งฉันไว้ตรงนี้นะ ให้ฉันขึ้นไปนอนบนบ้านด้วยคน” คนกลัวผีไม่รอให้ทิมทองเอ่ยปากอนุญาต นิลปัทม์รีบวิ่งหนี 44
โมริสา ขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนมองอย่างไม่เชื่อสายตา ก่อนหัวเราะหึๆ พลางวิ่งตามร่างเพรียวระหงนั้นขึ้นไปเช่นกัน!
45