กลลวงรัก ภาค 3 ไฟรักกลางใจ ตัวอย่างทดลองอ่าน

Page 1




ผู้เขียน bigger พิสูจน์อักษร amany ปก-ศิลปกรรม amany พิมพ์ครั้งที่ 5 ตุลาคม 2556


จากใจ bigger ย้อนหลังไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว…และนิยายเรื่องนี้ถูกตีพิมพ์ เป็ น รู ป เล่ ม พร้ อ มวางจ าหน่ า ยครั้ ง แรก ครั้ ง นั้ น เกิ ด กระแส วิพากษ์วิจารณ์ในโลกหนังสือจากนักอ่านพอสมควร ซึ่งเรื่องที่ถูก วิ จ ารณ์ นั้ น นั บ ว่ า หนั ก หนาสาหั ส ส าหรั บ นั ก เขี ย นใหม่ อ ย่ า ง ตัวเองมากๆๆ… ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง โรมานซ์ที่แรง หรือ พระเอกที่ป่าเถื่อน หยาบคาย ตลอดจนเรื่อ งอื่น ๆ อีก กระบุงนึง ทาเอานัก เขีย น อย่างเราเป๋และเสียหลัก ไปพอดู แต่ก็แปลกมาก เพราะยิ่งถูก ต าหนิ ยิ่ ง ถู ก ว่ า …พี่ เ บิ้ ม ของเรา ก็ พิม พ์ เ อ๊ า พิ ม พ์เ อา พิ ม พ์ ซ้ า พิมพ์ซากอยู่ยังงั้น ^^ และเมื่อถึงปัจจุบันนี้ เรากลับมาอ่านอีกครั้งตอนรีไรท์ แล้วเราก็ขากลิ้ง กับสิ่งที่เค้าบอกกันว่าแรง…โรมานซ์ยุคนั้นถ้า เทียบกับปัจจุบันจะถือว่าจิ๊บๆ มาก แล้วพระเอกที่ว่าหยาบคาย โหดร้าย มาเจอพระเอกยุคใหม่ พี่เบิ้มจะกลายเป็นหนุ่มน่ารักไป ทันที ลองอ่ า นดู กั น ก่ อ นนะคะ แล้ ว คุ ณ จะรู้ ว่ า พี่ เ บิ้ ม หรื อ วาคิมของเรา โหดร้ายป่าเถื่อนจริงมั้ย ^^ รักแฟนๆ นักอ่านเสมอ bigger



1 เพรี ย วกะทั ด รั ด เพิ่ ง ออกเดิ น ทางจากบริ ษั ท ตั ว แทนซื้ อ ขาย อสังหาริมทรัพย์ด้วยรถยนต์ส่วนตัว เธอตั้งใจและมั่นใจเต็มเปี่ยม ในการเดินทางไปทางานครั้งนี้ ระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ทาให้เธอตัดสินใจออกจากที่ทางานเอาจนบ่ายแก่ๆ เพราะคิดว่า คงไม่มีปัญหาอะไรเหมือนทุกครั้งที่ผ่านๆ มา ตลอดการเดินทางในช่วงแรกผ่านไปได้ด้วยดีจนเริ่มเข้า ตั ว จั ง หวั ด และเลี้ ย วออกไปตามเส้ น ทางเพื่ อ มุ่ ง สู่ ตั ว อ าเภอ ที่ต้อ งการ เส้ น ทางเริ่ม แปลกตาไปเหมื อ นทุก ครั้งที่อ อกนอก ตั ว เมื อ ง หญิ ง สาวอดชะลอรถเพื่ อ ชื่ น ชมความสวยงามตาม รายทางไม่ได้เหมือนทุกครั้ง …ชีวิตในเมืองใหญ่ก่อให้เกิดความ โหยหาสิ่งที่เป็นธรรมชาติสาหรับคนทางานทุกคนในกรุงเทพฯ กระมัง เพราะเท่าที่เห็นมา เมื่อมีวันหยุดกรุงเทพฯ ก็แทบจะร้าง ผู้คน… มือเล็ กๆ กดปุ่มเปิดกระจกรถเพื่อ รับลมจากภายนอก


ใบหน้าสวยหวานซึง่ ไม่รบั กับทรงผมแบบทอมบอยเพราะซอยสัน้ แม้แต่น้อ ย เธอลู บ ผมตัวเองเบาๆ ก่อ นหัวเราะออกมา…เมื่ อ อาทิตย์ก่อนตอนที่เธอไปตัด ผมซึ่งยาวถึงกลางหลังออก ทุกคน ในที่ทางานต่างเมียงมองและมาถามไถ่จนเกือบกลายเป็นคาถาม สุ ด ฮิ ต …อกหั ก จึ ง ตั ด ผม ตอนนั้ น เธอยั ง หั ว เราะได้ แ ละก็ ยั ง หัวเราะมาจนถึงเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว แต่ขณะนี้…หญิงสาวส่งเสียงหวีดร้องขอความช่วยเหลือ ดังที่สุด เท่าที่จ ะดังได้ในขณะที่วิ่งไปตามถนนลาดยางเส้นเล็ ก ด้วยเท้าที่เปล่าเปลือย เธอรู้สึกคล้ายจะหายใจไม่ทันเนื่องจาก การวิ่ ง ระยะไกล แต่ ค วามกลั ว ที่ ม ากกว่า ท าให้ ต้ อ งกั ด ฟั น วิ่ ง ตะบึงไปข้างหน้าไม่ยอมหยุด ร่างที่วิ่งเร็วจี๋ในความสลัวรางของคืนข้างแรมล้มลงและ กลิ้งหลุนๆ ลงข้างทางพร้อมเสียงหวีดร้องทาให้กลุ่มชายหนุ่มที่ วิ่งตามมากระชั้นชิดหัวเราะเกรียวกราวพลางส่งเสี ยงเรียกไป ด้วย “คุณคร้าบ…เจ็บหรือเปล่าให้พวกเราช่วยน้า” “นั่นสิคุณ อย่าวิ่งเลย ถ้าคุยกันดีๆ พวกเราจะช่วยอุ้มไป ด้วยซ้า” ใบหน้าขะมุกขะมอมเงยขวับเมื่อลุกนั่ง ได้ และก็จะแทบ กลั้นใจตายอยู่ตรงนั้น ผู้ชายรูปร่างบึกบึนสี่ห้าคนยืนล้อมรอบ เธอไว้คล้ายหมาป่าล้อมแกะก็ไม่ปาน หญิงสาวนั่งเกร็งไปชั่วครู่ ก่อนจะหวีดร้องสุดเสียง “กรี๊ด…ช่วยด้วย…” มือกร้านๆ ทั้งสิบข้างยกขึ้นอุดหูแทบจะพร้อมกันและ 6


ต่อจากนั้น ดวงตากรุ้มกริ่มต่างมองตรงไปที่ร่างบางซึ่งนั่งร้องไห้ โฮอยู่ที่พื้น พลางยิ้มให้ด้วยท่าทางกวนๆ “อย่าร้องสิคุณ แถวนี้ไม่มีใครมาหรอกน่า” “ไปกับพี่ดีกว่าน้องสาว…ไม่น่าวิ่งให้เหนื่อยเล้ย” “นั่นสิ ขาเล็กๆ แค่นี้น่าสงสารจริงๆ ให้พี่อุ้มนะ” “ไม่เอ๊า…ไอ้บ้า…ถอยไปนะ…ไปให้ห่างๆ ฉันเลย” “ไปพักบ้านพี่ก่อนนะน้อง รับรองพวกพี่จะดูแลอย่างดี” “อย่าเข้ามาใกล้ฉัน…พวกนายต้องการอะไร เงินหรือข้าว ของ กลับไปที่รถฉันสิ ของอยู่ในนั้นทั้งหมด พวกนายเอาไปเลย นะ…ขอร้องอย่าทาอะไรฉันเลย” ร่างเล็กพยายามกระเถิบหนีก่อนจะร้องออกมาเสียงดัง เมื่อหนึ่งในกลุ่มนั่งลงใกล้ก่อนจะเอื้อมมือมาหา พอคนหนึ่งเริ่ม คนที่เหลือก็ยื่นมือตามมา หลังจากนั้นหญิงสาวก็ทั้งร้องทั้งดิ้นรน อยู่กลางกลุ่ม เสียงด่าทอและเสียงตบตีดังได้ยินถนัดมาจากกลุ่ม จนไม่รู้ใครเป็นใคร ก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้นเสียงขึ้นไกปืนดังคลิก พร้อมเสียงห้าวดุดันก็ดังขึ้น “พวกนายทาอะไร” กลุ่มหนุ่มแตกกระเจิงจนพ้นออกมาจากร่างหญิงสาวใน ขณะนั้นแพรวาแทบไม่เหลือสติเธอตั้งตัวได้ก็ตบฉาดไปที่ใบหน้า คนที่ใกล้ที่สุดก่อนกระโดดเกาะชายหนุ่มร่างสูงที่ถือปืนจังก้าอยู่ “ช่วยฉันด้วยค่ะ ไอ้พวกนี้จะข่มขืนฉัน” “เอ๊า พูดอะไรอย่างนั้นละน้อง…พวกเราจะช่วยแท้ๆ ” หนึ่งในนั้นเถียงทันควันก่อนนวดหน้าตัวเองที่ถูกตบเมื่อครู่พลาง มองหญิงสาวตาคว่า 7


“ช่วยบ้านนายน่ะสิ…พวกนายจะรุมโทรมฉัน” “ไปกันใหญ่แล้วคุ้น…” “หยุดไม่ต้องเถียงกัน …ไหนชาญบอกมาซิว่านี่มันเรื่อง อะไร” ชายหนุ่ม ตะคอกเสียงดุก่อ นจะหันไปถามหนึ่งในกลุ่ ม เท่านั้นแพรวาก็หน้าซี ดเผือด คนพวกนี้เป็นพวกเดียวกัน …แล้ว งานนี้เธอจะรอดไหมเนี่ย… หญิงสาวมองคนด้านข้างก็ค่อยโล่งใจเพราะดูแล้วน่าจะ พอเชื่อ ถือ ได้ เธอรีบ ปั้น หน้าให้ดูน่าสงสารที่สุ ด ก่อนเอ่ยเสี ยง ละล่าละลักและฟ้องเสร็จสรรพ “ฉันมาธุระแถวนี้คะ่ พอดีรถเสีย ก็เจอกับคนพวกนีแ้ หละ แค่เห็น เขาก็ทาหน้าหืน่ เข้ามาหาเลย ฉันก็ต้องหนีสิ พอฉันล้มไอ้ พวกนี้ก็…ฮือออ…ถ้าคุณมาไม่ทันฉันต้องเสียท่าพวกมันแน่” ชายหนุ่ ม ที่ ถู ก เรี ย กว่ า ชาญเกาหั ว แกรกก่ อ นตะคอก ออกมาเสียงดังลั่นเมื่อเห็นเธอยืนบีบน้าตาอยู่พรากๆ “เสียท่าบ้านคุณน่ะสิ ดูฝีมือคุณสิ…เล่นเอาพวกผมหน้า แหกกันเป็นแถว…คุณเพชรอย่าไปเชื่อแม่นี่นะครับ พวกเราคิด จะช่วยเธอแท้ๆ เห็นเราเป็นโจรไปได้ หน็อย…พอเข้ามาถามดัน ทั้งตบทั้งข่วน…คุณดูพวกผมสิคุณเพชร ถ้าคุณมาช้ากว่านี้พวก ผมได้ตายคามือหล่อนกันมั่ง” แพรวาเหลื อ บมองไปตามใบหน้ า กร้ า นๆ ของหนุ่ ม เหล่านั้นที่ปรากฏรอยเล็บของเธอกันโดยถ้วนทั่วก่อนทาหน้าไม่รู้ ไม่ชี้พลางเช็ดน้าตาไปด้วย… “ฉั น ต้ อ งป้ อ งกั น ตั วสิ พวกนายตั้ งหลายคนมาข่ ม เหง 8


ผู้หญิงตัวเล็กๆ ได้ยังไง” พอได้ยินเธอว่าหนุ่มทั้งกลุ่มก็แย่งกันทั้งอธิบายทั้งด่าเธอ โขมงโฉงเฉงจนชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงกลางตวาดเสียงดังเพราะ เริ่มราคาญ “หยุดเถียงกันได้แล้ว กลับบ้าน…” “แล้วฉันล่ะ…รถฉันเสียนี่ฉันจะกลับยังไง” “ถ้าไม่กลัวผมกับไอ้พวกนี้ก็ไปด้วยกัน …” เขาตวัดเสียง กร้าวก่อนเดินนาหน้าเข้าไปข้างทางที่รถจอดอยู่… หญิ ง สาวมองสายตาอาฆาตของหนุ่ ม ทั้ ง กลุ่ ม ก่ อ นจะ ตัดสินใจวิ่งตามร่างสูงที่หายไปทันที และไม่ลืมที่จะหัน มาแลบ ลิ้นให้พวกนั้นจนกัดฟันกรอดไปตามๆ กัน “ยายตั ว แสบ หน็ อ ยคิ ด จะช่ ว ยแท้ ๆ ดั น หาว่ า เราจะ ข่มขืน” “จาไว้พี่ชาญ ผู้หญิงน่ะไว้ใจไม่ได้ ฮ่าฮ่า” ข้ า งหน้ า ด้ ว ยความเร็ ว สู ง ร่ า งเล็ ก ๆ ที่ นั่ ง อยู่ แ ทบกระเด็ น กระดอนออกมานอกรถถ้าไม่เพราะเธอยึดเบาะไว้จนแน่นพลาง เหลี ย วมองไปด้ านหลั ง …รถปิก อั ป อี ก คั น กับ หนุ่ม อี ก โขยงขั บ ตามมากระชั้นชิด แพรวาชักเริ่มคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวแท้ๆ ทาไม ถึงตัดสินใจมากับไอ้พวกนี้ก็ไม่รู้ เผื่อมันบ้าขึ้นมา…เรียงคิวเธอ แล้ วจะเป็น อย่า งไร หญิง สาวชั ก ใจไม่ดีจึ งเริ่ ม เลี ย บเคีย งถาม คนขับที่นั่งหน้าเคร่งอยู่ใกล้ๆ 9


“คุณคะ…ที่นี่ที่ไหนเนี่ย” “คุณมาที่นี่โดยที่ไม่รู้อย่างนั้นเรอะ…สติดีหรือเปล่าแม่ คุณ” “ดีสิคะ…แต่ฉันขับรถออกมาตัง้ ไกลจนชักไม่แน่ใจว่าใช่ที่ จะมาหรือเปล่า” “คุณจะไปที่ไหนยังงั้นรึ” “ไร่ใจดีค่ะ…ฉันต้องการไปที่นั่น” “คุณจะไปที่ไร่นั้นทาไม มีธุระอะไรหรือคุณ ” เขาถาม เสียงหนักทั้งหันมามองเธอ “ธุระส่วนตัวกับ เจ้าของไร่น่ ะค่ะ เอ่อ …คุณชื่อเพชรใช่ หรือเปล่าคะ…ฉันขอถามหน่อยนะ ว่าที่คุณจะพาไปเนี่ย มัน … เป็นบ้านหรือไร่ค่ะ แล้วก็คุณรู้จักไร่ใจดีหรือเปล่า พอจะแนะนา ฉันได้ไหม” ชายหนุ่มเงียบไปทันควันและตวัดตามามองเธออีกครั้ง ก่อนจะหันกลับไป และหลังจากนั้นเขาก็ไม่พูดอะไรอีกเลย หญิงสาวนั่งรถไปทั้งเริ่มใจสั่นขึ้นมาเรื่อยๆ ครู่ใหญ่ต่อมา ขณะที่เธอกาลังระแวงเต็มที่ รถที่ขับตะบึงอยู่ก็เบรกกะทันหัน จนหญิงสาวหน้า ทิ่ม แพรวาเงยหน้ าขึ้น มาทั้ งคล าหน้าผากที่ กระแทกจนเจ็บร้าว เธอกะจะว่าเขาให้เจ็บๆ บ้างก็ต้องตกใจเมื่อ คนใกล้ๆ เอ่ยขึ้นมาเสียงหยัน “คงอ่านหนังสือเป็นนะคุณ เห็นป้ายข้างหน้าใช่ไหม” ใครไม่เ ห็น ก็บ้า ในเมื่ อ ป้ายเบื้ อ งหน้า ใหญ่โ ตมโหฬาร ขนาดนั้น แพรวาเหลือบมองทีเดียวก็อุทานเสียงลั่น “ที่ นี่ ห รื อ คะไร่ ใ จดี น่ ะ …แล้ ว ท าไมคุ ณ ไม่ บ อกฉั น … 10


ขอบคุณมากนะคะที่พามาส่งน่ะ” “ไม่ได้พามาส่ง ผมอยู่ที่นี่รวมทั้งไอ้พวกด้านหลังด้วย…” “คุณเพชรอยู่ที่นี่หรือคะ งั้นคุณก็รู้จักเจ้าของไร่สิ ” เธอ ถามน้าเสียงยินดี “ผมอยู่ที่นี่ถ้าไม่รู้จักเจ้าของไร่คนอื่นก็เรียกควายละมั้ง” หญิ งสาวเงี ยบกริ บ ทั้ง เริ่ม ด่ าผู้ ช ายด้า นข้า งอยู่ ใ นใจ… หน็อยถ้าเธอไม่หวังพึ่งพาอาศัยอย่าหวังจะมากระแทกแดกดัน เธอได้ รถคันนั้นวิ่งต่อไปอีกไม่นานก็จอดลงใต้ต้นไม้ใหญ่ ร่างสูง กระโดดขวับลงไปก่อนจะเดินลิ่วนาหน้าไปที่ตัวบ้านทันที แพรวาค่อยๆ ปีนลงมาและยืนนิ่งที่หน้าบ้านพลางอุทาน ตาโต บ้านไม้ปีกหลังมหึมาแบบตะวันตกตั้งตระหง่านอยู่บนเนิน ดินดูสวยอย่างไม่น่าเชื่อ ขนาดเธอเห็นในตอนกลางคืนยังสวย ขนาดนี้ รอสว่างเธอจะดูอีกทีว่าจะสวยเหมือนที่เห็นในขณะนี้ หรือเปล่า หญิงสาวเห็นรถปิกอัปที่ตามมาจอดใกล้ๆ เธอก็เผ่น แน่บตามร่างสูงนั้นไปทันที เสียงห้าวดังเอะอะอยู่ด้านในหยุดชะงักเมื่อเห็นหญิงสาว ตามเข้ามา เขาหันขวับมามองและเธอก็เลยได้เห็นใบหน้าเขา ชัดๆ ท่ามกลางแสงไฟ แพรวาถึงกับแทบกลั้นหายใจ เธอเพิ่งเคย เห็นผู้ชายที่ถือได้ว่าน่าจะสมบูรณ์แบบคนหนึ่งร่างสูงนัน้ อยู่ในชุด เสื้อแขนยาวสีดาและกางเกงยีนเข้ารูปที่เน้นต้นขาแข็งแรงจน เห็นช่วงขายาวเพรียวของคนใส่…หุน่ เขาที่เธอว่าดีแล้ว เมื่อมองดู หน้าตาเขายิ่งดูดีจนเกินกว่าจะมาเป็นชาวไร่ ดวงตาสีน้าตาลเข้ม คมปลาบตวัดมองเธอก่อนจะเอ่ยเสียงห้วน “คุ ณ คงต้ อ งนอนที่ นี่ ก ระมั ง คื น นี้ จะออกไปก็ น่ า จะ 11


ลาบาก” “คือ…ไหนๆ ฉันก็มาจนถึงไร่แล้ว ฉันอยากพบเจ้าของ คืนนี้เลยจะได้ไหมคะ” ชายหนุ่ม ยังไม่ทัน ตอบเสี ยงหนุ่ม ๆ ที่ต ามเข้ามาก็เอ่ย แทรกทันควัน “คุณเพชรครับ …ผมว่าแม่นี่จุ้นจ้านน่าดู …น่าจะซ่อมรถ แล้วส่งกลับซะก็ดี” “ชาญ…มันคงดึกเกินไป ให้เธอนอนที่นี่แหละ พวกนาย กลับไปพักผ่อนเถอะ ทางนี้เราจัดการเอง” “งั้นพวกผมไปนะครับคุณเพชร…อ้อผมลืมบอกไปคืนนี้ พี่เบิ้มไม่กลับ คุณเพชรไม่ต้องรอนะครับ” “ขอบใจ พวกนายไปเถอะ” หญิงสาวชาเลืองมองหนุ่มทั้งกลุ่มที่เดินออกจากบ้านไป ก่อนจะหันกลับมาอีกครั้ง คราวนี้เขาสั่งเธอเสียงห้วนอีกครั้ง “คุณไปพักผ่อนซะ มีธุระอะไรค่อยคุยกันพรุ่งนี้ ผมเองก็ จะไปพัก เหมือนกัน …นี่กุญแจห้อ งเอาไปเลื อกไขดูเองจะนอน ห้องไหนก็ตามใจ…” แพรวามองตามร่ า งสู ง ที่ เ ดิ น หายไปทั น ที ที่ พู ด จบ หลังจากนั้นเธอก็ยืนงงอยู่กับที่…นี่มันอะไรกัน เขารับเธอมาแล้ว ก็ปล่อยลอยแพยังงั้นเรอะ…แค่โยนกุญแจให้ก็ถือว่าจบหรือไง แล้ ว เธอจะท ายั ง ไง จะเอาของใช้ เ สื้ อ ผ้ า ที่ ไ หนมา เปลี่ยน…แต่เธอจะถามใครได้ในเมื่อ ตอนนี้เธอยืน อยู่คนเดียว กลางห้องโถงกว้าง หญิงสาวหันซ้ายหันขวา ก่อนวิ่งจู๊ดขึ้นไปตามบันไดต่าๆ 12


ด้วยความกลัว มือเล็กๆ คว้ากุญแจหมับก่อนจะไขกุกกักที่ห้อง แรก เมื่ อ ประตู เ ปิ ด ออกหญิ ง สาวก็ ค ล าหาสวิ ต ช์ ไ ฟก่ อ นเปิ ด หมับ…ห้องนอนนัน้ โล่งแทบไม่มีอุปกรณ์ใดๆ นอกจากเตียงกว้าง และโต๊ะเครื่องแป้งที่ไร้สิ่งของวางอยู่ เธอถอนหายใจเฮือกก่อน จะเดินเข้าไปด้านในหลังจากล็อกห้องเรียบร้อย… ตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ที่ติดผนังทาให้เธอมีความหวังขึ้นมาบ้าง แต่ เ มื่ อ เปิ ด ดู ก ลั บ ต้ อ งถอนใจอี ก รอบเพราะแทบไม่ มี สิ่ ง ของ เครื่องใช้นอกจากผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนเดียว แพรวาคว้าผ้าเช็ดตัว ได้ก็เข้าห้องน้า หลังจากนั้นไม่นานเธอก็กลับมานอนบนเตียงกว้างด้วย สลิปติดกันตัวเดียว ก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมร่างเมื่ออากาศยาม ดึกพัดผ่านมาทางหน้าต่างที่เปิดโล่งจนรู้สึกหนาว หญิงสาวบ่นพึมพาทั้งตาเริ่มหรี่ปรือลงเรื่อยๆ “ทาไมเราต้องมาเจออะไรบ้าๆ แบบนี้ด้วยนะ เสื้อผ้าก็ ไม่มีใส่…หนาวก็หนาว แต่ก็ดีเหมือนกันที่ลมพัดซะขนาดนี้ หวัง ว่า พรุ่ งนี้ เสื้ อ ผ้ าที่ ซัก ไว้ น่า จะแห้ งทั น …เฮ้ อ รู้งี้ ให้ ค นอื่น ที่เ ป็ น ผู้ชายมาแทนยังจะดีเสียกว่า ” หญิงสาวบ่นพึมพาทั้งตาเริ่มหรี่ ปรือลงเรื่อยๆ และแพรวาหลับไปไม่นานหลังจากนั้น ตื่น เพราะแรงกระชากที่ แ ขนพร้อ มเสี ย งอุ ท านดุ ดัน ที่ ต ามมา หลังจากนั้นเธอก็รู้สึกเหมือนโลกหมุนกลับ ร่างเล็กๆ ลอยละลิ่ว ลงจากเตียงกว้าง พร้อมเสียงตะโกนปานบ้านจะถล่มก็ดังขึ้น “เธอเป็น ใคร…เพชร…เพชรโว้ ย นายออกมาเดี๋ ย วนี้ … 13


เพชร…ยายบ้านี่เป็นใครถึงมานอนในห้องฉัน” และจอดลงหน้าบ้านไม้ปกี หลังใหญ่ เงาร่างสูงใหญ่กระโดดลงมา จากรถพร้อมตบลงไปตามแขนและขาตัวเองลวกๆ ก่อนจะถอด หมวกปีกกว้างออกจากศีรษะและฟาดแรงๆ ลงกับต้นขาเพื่อไล่ ฝุ่น หลังจากนั้นจึงเดินเอื่อยเข้าบ้านที่มืดสลัว ชายหนุ่มยกน้าทั้ง ขวดขึ้นดื่มและวางลงเรียบร้อยก็เดินลิ่วตรงไปที่ห้องนอนตัวเอง ทันที เขาไขกุญแจเข้าไป ก่อนจะทิ้งร่างลงกับเตียงกว้างทั้งชุด เดิม ร่างที่นอนหงายลงไปเด้งขึ้นแทบไม่ทันเมื่อสัมผัสกับสิ่งที่ ทับอยู่ ชายหนุ่มสอดมือเข้าใต้ผ้าห่มที่นูนขึ้นมาก่อนจะคว้าอะไร สักอย่างในนั้นได้ และหลังจากนั้นเขาก็เหวี่ยงออกไปเพื่อให้พ้น เตียง เสียงอุทานที่ดังขึ้นมันเป็นเสียงผู้หญิงชัดๆ…นั่นมันทาให้ เขาต้องมองตรงไปยังสิ่งที่กองอยู่กับพื้น ชายหนุ่มเดินกลับไป เปิดไฟก่อนจะตะโกนออกมาลั่นบ้านกับสิ่งที่เห็น “เพชร…เพชรโว้ยนายออกมาเดี๋ยวนี้ …เพชร…ยายบ้านี่ เป็นใครถึงมานอนในห้องฉัน” แพรวาเพิ่งลุกขึ้นมานั่งได้หลังจากถูกเหวี่ยงลงไปกองกับ พื้ น ห้ อ ง เมื่ อ มองดู สิ่ ง ที่ ป ระทุ ษ ร้ า ยเธอ หญิ ง สาวก็ ต้ อ งร้ อ ง ออกมาสุดเสียง… “กรี๊ด…ช่วยด้วย…คุณเพชรหมีเข้าบ้าน” เสียงย่าบันไดโครมๆ ขึ้นมาก่อนประตูจะเปิดผาง…คนที่ 14


เข้ามาใหม่ถึงกับตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นหญิงสาวร่างเล็กในชุดนอน บางๆ นั่งตัวสั่นงันงกร้องกรี๊ดๆ อยู่ข้างๆ เตียงทั้งหัวหูยุ่งเหยิง พลางชี้มือไปที่ร่างสูงที่ยืนหน้าบึ้งอยู่กลางห้อง “คุณเพชรระวังนะคะ หมี…” “ปั๊ดโธ่โว้ย…หยุดแหกปากเสียทีซวี ะ…ขืนร้องอีกทีพ่อตบ ชัก” แพรวาหุ บ ปากฉั บ เมื่ อ ได้ ยิ น หมี ที่ เ ธอว่ า อ้ า ปากด่ า พะงาบๆ…ตกลงสิ่งที่เธอเห็นว่าเป็นหมีคือคนยังงั้นหรือนี่ …ร่าง เล็กๆ คลานปรู๊ดผ่านหน้าร่างดาๆ นั้นไปก่อนเกาะขาหนุ่มร่างสูง หมับทั้งเขย่ายิกๆ เมื่อนายหมีควายนั่นด่ากราดไม่ยอมหยุด “เพชร…นายเอาแม่นี่ อ อกไปให้พ้ น หน้าฉั น ที ฉัน ไม่ มี อารมณ์จะถามอะไรทั้งนั้น เหนื่อยโว้ยจะยืนไม่ไหวอยู่แล้ว” กริ ช เพชรมองร่ า งสู ง ที่ พู ด จบก็ ล งไปนอนหงายท้ อ ง แผ่หลาบนเตียงกว้างก่อนจะเอ่ยกับหญิงสาวเสียงเบา “ออกไปกับผมก่อนคุณ…พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน” แพรวาแทบจะเผ่นออกไปก่อนที่หนุ่มด้านข้างจะพูดจบ ด้วยซ้า…หลังจากนั้นเธอก็นอนอกสั่นขวัญแขวนจนพานตาค้าง ขึ้น มา นี่ไ อ้ห มี ค วายที่เ ธอเห็น เป็ น ใครกัน แน่ … หรือ ว่าจะเป็ น เจ้าของไร่แห่งนี้…เป็นไปไม่ได้น่า ในเมื่อชื่อไร่ก็ออกดูว่าเจ้าของ น่าจะใจดีเหมือนชื่อ คงไม่ใช่ไอ้มนุษย์พันปีคนนี้แน่นอน ถึงขณะนี้เธอก็ยังไม่แน่ใจอะไรทั้งนั้น …รอพรุ่งนี้เธอคงรู้ อะไรมากขึ้นกว่าเดิม แต่สิ่งเดียวที่เธอภาวนาก็คืออย่าให้ไอ้หมี ควายตัวนั้นเป็นคนที่เธอตามหาเลย ไม่อย่างนั้นธุระของเธอคง ไม่ เ รี ย บร้ อ ยด้ ว ยดี แ น่ ๆ คิ ด แล้ ว ก็ พ านปวดหั ว ขึ้ น มาจนต้ อ ง 15


พยายามข่ ม ตาให้ ห ลั บ เพื่ อ เตรี ย มรั บ เหตุ ก ารณ์ ยุ่ ง เหยิ ง ใน วันรุ่งขึ้น นอนนิ่งอยู่ชั่วครู่เมื่อลืมตาขึ้นก่อนจะรีบไปล้างหน้าและกลับไป สวมเสื้อผ้าที่ซักไว้พลางเดินไปยืนที่หน้าต่างห้อง…สิ่งที่เธอเห็น ทาให้อดอุทานในใจไม่ ได้…พระเจ้านี่มันซ่องสุมชุมนุมโจรหรือ อย่างไร…ก็ไอ้โต๊ะไม้ยาวเกือบสิบเมตรที่อยู่ใต้ต้นไม้หน้าบ้านนั่น มันเต็มไปด้วยหนุ่มร่วมๆ ยี่สิบคนและแต่ละคน…ดูไม่จืด…ทั้งชุด สีดาที่สวมและหน้าตาที่ทั้งรกและกร้านทาให้เธอแทบไม่กล้าลง ไปด้านล่าง…แล้วนั่นทาอะไรกันอยู่…หญิงสาวกระเย้อกระแหย่ง มอง ก่อนจะเห็นว่าหนุม่ ๆ เหล่านั้นกาลังทานอาหารกันอยู่ทั้งคุย เอะอะโวยวาย…เธอก าลั งเมียงมองและคิด หาทางหนีทีไ ล่ อ ยู่ เสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น “คุณ…ลงไปทานอาหารได้แล้ว” เสียงเรียกหนักๆ ทาให้หญิงสาวต้องหันหลังออกมาจาก จุดที่มองอยู่พลางเดินไปเปิดประตูก็เห็นชายหนุ่มร่างสูงคนนั้น “สวัสดีค่ะคุณเพชร…เขามาหรือยังคะเจ้าของไร่นะ่ ” เธอ ถามทันทีด้วยความใจร้อน “ครับ รออยู่ด้านล่าง ลงไปพร้อมกันเลยนะคุณ” แพรวาเดิน ตัวตรงเชิด หน้าอย่างเตรียมตัวเต็ม ที่ … ร่าง เล็กๆ ที่เดินตามหลังชายหนุ่มลงไปด้วยความมั่นใจในทีแรกเริ่ ม หดหายไปเรื่อยๆ ตามระยะทาง และเมื่อถึงโต๊ะยาวตัวนั้นเธอก็ กลายเป็นยืนก้มหน้าแอบอยู่หลังชายหนุ่มไปแล้ว 16


“นั่งสิ…ที่นี่ไม่มีใครกัดคุณหรอกน่า ” เพชรเอ่ยเสียงนุ่ม พลางดันหญิงสาวมาด้านหน้า “คุณเพชรอย่าเพิ่งพูดยังงั้นสิ อาจจะมีใครอยากกัดเธอ เป็นอาหารเช้าก็ได้” “นั่นสิครับ เมื่อคืนเล่นเราเสียขนาดหนัก น่าจะเอาคืน มั่ง” เสี ย งหนุ่ ม ๆ แซวเธอเกรี ยวกราวพร้ อ มเสี ยงโห่ ฮ าจน แพรวาหน้าเหลือสักสองนิ้ว …หญิงสาวยังไม่ทันพูดอะไรก็ต้อง สะดุ้งโหยงเมื่อเสียงห้าวดังขึ้นจนแก้วหูเธอลั่นเปรี๊ยะ “หยุดเห่ากันเสียที…” เสี ยงหัวเราะเกรียวกราวหายไปเหลื อ แต่เสี ยงหัวเราะ คึกๆ ในลาคอของหลายๆ คน…คนตัวโตที่หัวโต๊ะวางแก้วกาแฟ กึกก่อนเอ่ยเสียงห้วน “เพชรเอายายนั่นมานั่งตรงนีจ้ ะได้คุยให้เสร็จๆ ไป…นาย บอกว่าเธอมีธุระอะไรกับเราไม่ใช่เรอะ” “ครับเห็นเขาว่ามีธุระด้วย” ชายหนุ่มเอ่ยไม่ทันขาดคาก็ มีเสียงแทรกขึ้นทันที “ธุระกับพี่เบิ้มเนี่ยนะ…ไม่อยากเชื่อเล้ย…เอหรือพีเ่ บิ้มไป ทาอะไรมิดีมิร้ายไว้” “ชาญ…หยุ ด สั ก ครู่ ก็ ไ ม่ มี ใ ครว่ า แกเป็ น ใบ้ ห รอกมั้ ง ” กริชเพชรเอ่ยอย่างเหลืออดเหลือทน “คุณเพชร…ผมพูดจริงๆ นา…พี่เบิ้มน่ะชอบหายไปนัน่ ไป นี่บ่อยๆ ใครจะไปรู้ …อาจจะไปทาลูกสาวใครท้องก็ได้จริง ไหม พวกเรา” จบค าพูดคนชอบแหย่ พรรคพวกที่เหลือก็เฮกันลั่ น 17


ด้วยความถูกอกถูกใจ คนตัวใหญ่ทะมึนที่นั่งหัวโต๊ะตวัดตาดุๆ มองลูกน้องตัวดี พร้อมรอยยิ้มใต้หนวดเครารกจนแทบไม่เห็นริมฝีปากด้านบน นั่น…และโดยที่ไม่มีใครคิด ปลายเท้าใต้บูทสูงเกือบถึงเข่าก็ตวัด เข้ากลางอกคนที่ยืนหัวเราะกั๊กๆ จนร่างนั้นหงายผลึ่งจากเก้าอี้ หนุ่มๆ ที่เหลือลุกพรวดด้วยความตกใจ ก่อนจะเฮกันลั่น เมื่ อ เห็ น เพื่ อ นลงไปนอนหน้ า ตาบู ด เบี้ ย วอยู่ ที่ พื้ น ในขณะที่ แพรวาอยากจะมุดหนีหายไปจากที่นี่และตรงนี้ เธอยืนอกสั่ น ขวัญแขวนก่อนจะสะดุ้งอีกรอบเมื่อปลายเท้าข้างเดิมฟาดลงบน โต๊ะเสียงดังสนั่นพร้อมเจ้าของที่เอ่ยออกมาเสียงยียวนในขณะที่ กระดิกเท้าไปด้วย “หมาตัวไหนเสือกเห่าขึ้นมาอีก รับรองได้กินตีนกูแน่…” วิชาญตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาก่อนถลาเข้าไปนวดไหล่ ให้คนที่เพิ่งเตะตัวเองไปแหมบๆ ก่อนยิ้มเรี่ยราด “เล่ น คุ ณ เท้า แต่ เช้ าเลยนะพี่เ บิ้ม …ผมพู ด เล่ น แค่ นี้ก็ มี น้าโหไปได้” “เสือกเล่นไม่รู้เวล่าเวลา…ห่านี่…พ่อไม่เอาตีนให้กินเป็น ไม่หยุดนะมึง…เอ๊าแล้วพวกมึงไม่แดกหรือยังไง…กินเข้าไปสิแล้ว จะได้ไปทางาน…” เสียงห้วนๆ ทาให้กลุ่มหนุ่มๆ ที่ลุกพรึบพรับเมื่อครู่นั่งลง เร็วจี๋ก่อนหัวเราะคึก ๆ กัน สนุกสนานเหมือ นไม่มี อะไรเกิดขึ้น แพรวาค่ อ ยโล่ ง ใจได้ นิ ด หน่ อ ยก่ อ นจะเริ่ ม หั ว หดอี ก รอบเมื่ อ เจ้าของเท้าใหญ่เรียกขึ้นเสียงดัง “ออกมาได้แล้ว เธอเป็นลูกนายเพชรหรือยังไงถึงได้ซุก 18


หลังซะขนาดนั้น” “เปล่าค่ะไม่ได้เป็น” “ไม่เป็นก็มานั่งตรงนี้แล้วคุยธุระของเธอเสียทีผมจะรีบ ไปทางาน” หญิงสาวเดินตัวลีบเข้าไปยืนใกล้เก้าอี้ยาวซึ่งทามาจาก ไม้แผ่นเดียวและยึดติดกับโต๊ะซึ่งเท่าที่เธอเห็นทุกคนนั่งเรียงต่อ กันเป็นพรืด เธอยืนละล้าละลังอยู่เป็นครู่เพราะไม่รู้จะเข้าไปนั่ง ได้อย่างไร ก็ไอ้กระโปรงที่เธอสวมน่ะมันทั้งสั้นและแคบจะปีน ขึ้นไปก็คงน่าเกลียดพิกล และท่าทางของเธอทาให้ชายหนุ่มต้อง หันมามองอีกครั้ง “คุณสูงสักเท่าไหร่นี่ ร้อยห้าสิบถึงไหม” เขาถามไม่มีปี่มี ขลุ่ย “มากกว่านั้นย่ะ ฉันสูงร้อยห้าสิบแปด” “งั้นก็ปีนขึ้นมานั่งสิ หรือว่าขาสั้นเกินไป” เขาถามไม่พอ ยังชะโงกมามองขาเล็กๆ ของหญิงสาวก่อนจุ๊ปากเบาๆ “นี่มันขาหรือว่าแขนนี่…พระเจ้าแขนผมยังโตกว่าขาคุณ เลยมั้ง” แพรวาแทบจะกรากเข้าไปตบปากไอ้หมีควายที่บังอาจ มาวิพากษ์วิจารณ์แข้งขาของเธอเล่น หญิงสาวหน้าแดงก่าด้วย ความโกรธและยิ่งโกรธมากขึ้นเมื่อกลุ่มหนุ่มๆ ที่นั่งทานอาหาร กันก๊อกแก๊กอยู่หัวเราะพรืดออกมาโดยไม่ได้นัดหมาย เธอกัดฟัน แน่นก่อนเอ่ยเสียงเย็นเยียบที่สุดออกมา “ฉันยอมรับว่าปีนขึ้นไอ้เก้าอี้ขนาดยักษ์ของคุณไม่ได้ … แต่ไม่เป็นไรเพราะฉันจะยืนพูดใกล้ๆ คุณตรงนี้คุณคงไม่ถือ” 19


“ถือสิ ถือมากด้วย…ผมไม่ชอบให้ใครมายืนค้าหัว” “แล้วมันจะมีสักกี่คนละคะที่มายืนค้าหัวสูงๆ ของคุณ ได้” หญิงสาวแวดออกมาพลางมองร่างทะมึน ของคนที่นั่ง กระดิกเท้าเล่นด้วยท่าทางไม่ทุกข์ไม่ร้อน เธอไม่รู้ว่าคิดผิดหรือ ถูกที่ยอมใจอ่อนกับคาขอร้องจนต้องมาที่นี่ ทั้งๆ ที่รู้มาล่วงหน้า แล้วว่าจะพบกับอะไรบ้าง และถึงเตรียมใจไว้แล้วก็ตามสิ่งที่เธอ พบกลับหนักหนากว่าที่คิดไว้มากนัก ในส านั ก งานของเธอเรี ยกเขาว่ าอะไรนะ…อ้อ คนยุ ค หิน…ไอ้เถื่อน…หรืออะไรก็ช่างเถอะ แต่เท่าที่เธอเห็นเธอกลับคิด ว่ามันไม่ใช่เสียทีเดียว ผู้ชายตัวโตมโหฬารที่กาลังจ้องเธอด้วย ดวงตาดาสนิทและเขาช่างมีใบหน้าที่คล้าย…อะไรหว่า…เธอนึก ไม่ออกสักนิดเพราะเท่าที่เห็นได้ชัดเจนก็คือคิ้ว หนาปึ้ดแต่เรียง เป็นระเบียบ จมูกที่ขึ้นสันโด่งเรียวกับหนวดเครารกๆ ทั้งเหนือ ริมฝีปากและข้างแก้มรวมไปถึงได้คางจนแทบจะไม่รู้ว่าหน้าตา จริงๆ ของเขาเป็นแบบใด อ้อ…กับเท้าใหญ่ๆ ที่พาดอยู่บนโต๊ะ จนเกื อ บจะใกล้ ใ บหน้ า เธออี ก หนึ่ ง ข้ า ง สรุ ป ว่ า เมื่ อ เธอนึ ก เปรียบเทียบกับอะไรไม่ได้เลยเอาที่ใกล้เคียงที่สุด…หมีควาย หญิ ง สาวมั ว มองเขาและคิ ด อะไรเรื่ อ ยเปื่ อ ยจึ ง ไม่ ทั น สังเกตว่าร่างสูงๆ นั้นยืนขึ้นแล้วก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ “ไอ้ที่คุณพูดมันก็ถูก…ไม่ค่อยมีคนยืนค้าหัวผมได้หรอก แต่ตอนนี้คุณทาอยู่…ดังนั้นขึ้นมานั่งคุยกันซะดีๆ” เขาเอ่ยจบก็ค ว้าเอวเธอหมับ ก่อ นจะยกขึ้น จนตัวลอย แล้วยัดร่างเล็กๆ นั่นเข้าไปนั่งจนเรียบร้อย แพรวาอ้าปากค้าง 20


เพราะตกใจ เธอไม่ทั น ร้อ งหรือ ท าอะไรทั้งสิ้ น ร่า งสู งๆ นั้น ก็ กลับไปนั่งที่เดิมก่อนยกเท้าเสือกพรวดขึ้นมาบนโต๊ะทั้งสองข้าง และคราวนี้มันอยู่ใกล้ใบหน้าเธอสักคืบได้กระมัง หญิงสาวดันเท้าเขาออกห่างก่อนเอ่ยเสียงแหลมเพราะ ความโกรธที่ขึ้นสูงจนทนไม่ได้อีกต่อไป “คุณรู้ไหมว่าฉันมาที่นี่ทาไม…ถ้าไม่เพราะคุณต้องการ ซื้อที่ดินแปลงติดกันนัน่ และให้ทางบริษัทเราจัดการฉันไม่มีวันมา เด็ดขาด…คุณรู้หรือเปล่าว่าไม่มีใครต้องการมาที่นี่เลยเพราะไอ้ กิตติศัพท์ของคุณมันฉาวโฉ่ไปทุกสานักงานแล้ว ฉันสงสัยจริงๆ ว่าทาไมคุณไม่ติดต่อซื้อขายเองหรือว่าคุณกลัวเจ้าของเขาจะไม่ ขายถึงต้องจ้างบริษัทเรามาซื้อน่ะ” “ผมฉาวโฉ่ยังไง ลองบอกให้ฟังซิ” เขาเอ่ยหลังนิ่งฟังเธอ กรีดเสียงจนแหลมปรี๊ด “คุณเรื่องมาก เอาแต่ใจตัวเอง ไม่เคยฟังคาแนะนาของ นายหน้า…บ้าซื้อที่ และซ่องสุมคนเหมือนก๊กโจร” โต๊ ะอาหารเงี ยบกริ บ ทั น ที เมื่ อ เธอจบประโยคสุ ด ท้า ย สายตาทุกคู่มองมาที่เธอพรึบจนหญิงสาวปิดปากตัวเองแน่นที่ เผลอร่ายยาวพร้อมเอาความคิดตัวเองไปใส่ในคาพูดนั้นจนเป็น เรื่อง…แพรวาอึกอักก่อนเตรียมจะขอโทษคนอื่นๆ ในโต๊ะ แต่เธอ ไม่ได้พูดสักนิดเพราะหลังจากที่ทุกคนมองเธอกันได้ครู่เดียวก็ ปรากฏเสียงหัวเราะก๊ากดังสนั่นหวัน่ ไหว คนที่ยืนทุบไหล่หัวหน้า ดังบึกๆ หัวเราะท้องคัดท้องแข็งก่อนจะเอ่ยออกมาทั้งน้าหูน้าตา “พี่เบิ้มสงสัยงานนี้เราได้มีค่าหัวกันมั่งละมั้ง …แกว่าคน ละเท่าไหร่ดีไอ้เวช” 21


“อย่า งเราก็น่ า จะหมื่น นึ ง ส่ วนคุ ณ เพชรก็ สั ก ห้ าหมื่ น พี่เบิ้มเอาไปสักห้าหมื่นห้าเป็นไง ฐานะที่เป็นหัวหน้าซ่องสุม ” หนุ่มหุ่นล่าตอบพร้อมหัวเราะเอิ้กๆ เหมือนถูกอกถูกใจ ตกลงหญิงสาวเลยนั่งงงเป็นไก่ตาแตกเพราะตามอารมณ์ พวกนี้ไม่ทัน เพราะแทนที่จะโกรธกลับหัวเราะกันได้เสียอย่างนัน้ พอถูกขัดเธอก็ชักหาคาพูดไม่เจอ ยิ่งคนตัวโตมองมาทั้งตาพราว เพราะแรงกลั้นหัวเราะหญิงสาวก็ยิ่งตีหน้าไม่ถูก “ถ้าเป็นแบบที่คุณพูดจริง บริษัทคุณจะรับงานของผม ทาไมไม่ทราบ” “นั่น น่ะ สิ ฉั น ก็ ส งสั ยเหมื อ นกัน ” เธอรับ ค าทั้ง ทาหน้ า แคลงใจ “นี่คุณ…แพรวาใช่ไหม…ผมจะบอกให้รู้ ความจริงไม่ใช่มี แต่บริษัทของคุณหรอกนะที่รับงานผมน่ ะ…แต่มันมีมากกว่านั้น อย่ า ว่ า แต่ บ ริ ษั ท คุ ณ เลยที่ ไ หนๆ เขาก็ ต้ อ งการงานผมทั้ ง นั้ น แหละ…ผมจะบอกให้คุณรู้นะว่าทาไม สาเหตุก็เพราะว่าเงิน ดี ยังไงล่ะ…ผมให้ค่าจ้างที่งามจนใครๆ ก็ต้องการ และที่คุณมาที่นี่ เพราะบริษัทคุณต้องการเงินค่าจ้างนี้ ที่สาคัญ ผมไม่ใช่หาบริษัท ไม่ได้…แต่ผมเจาะจงเลือกบริษัทของคุณให้รับงานนี้ เข้าใจหรือ ยัง…ส่วนใครจะมาจัดการผมไม่สนใจ ขอให้เป็นบริษัทนี้เท่านั้น” หญิงสาวฟังคาพูด นั้น ก็แทบไม่เชื่อ เท่าที่รู้ม ามันไม่ใช่ แบบที่เขาพูดจนนิดเดียว เมื่ออดรนทนไม่ไหวเธอจึงลุกขึ้นยืน พรวดก่อนเอ่ยเสียงรัว “ฉันขอตัวสักครู่ เดี๋ยวจะกลับมาคุยด้วยใหม่” แพรวาออกมาจากเก้าอี้ยาวได้อ ย่า งไรไม่รู้เหมือ นกั น 22


เธอรีบจนลืมระวังหรือคิดเรื่องอะไรทั้งนั้น หญิงสาวหลุดออกมา จากโต๊ะได้เธอก็เดินกึ่งวิ่ งไปที่รถตัวเองซึ่งพวกนั้นน่า จะจัดการ เอากลับมาไว้ที่นี่ หลังจากเปิดประตูรถได้เธอก็เข้าไปนั่งก่อนกด โทรศัพท์แล้วเอ่ยเสียงสั่น “ขอสายคุณวุฒิหน่อยจ้ะหลิว” “รอแป๊บนะคะพี่ไหม…ว่าแต่เป็นไงบ้างพี่ ราบรื่นดีไหม… พี่ไหมยังครบสามสิบสองอยู่รึเปล่า เขาเป็นไงบ้าง…ไร่สวยไหม” “หลิว …พี่ข อสายคุณ วุฒิด่วนเลยจ้ะ…เดี๋ยวค่อ ยคุยกัน นะ” “ค่ะๆ รอแป๊บ” แพรวาถอนใจเฮือ กเมื่อเสี ยงซักไซ้นั้นหายไป ครู่เดียว เสียงนุ่มๆ ของคนเป็นเจ้านายก็ดังขึ้น “ว่าไงไหม มีปัญหาอะไรบ้างหรือเปล่า” “มีค่ะหัวหน้า …ไหมไม่เข้าใจเลยที่เ ขาพูดให้ฟัง…ตกลง เขาเลือกเราหรือเราเลือกรับเขากันแน่คะ” “อะไรกันไหม…ใครเลือกใคร” วุฒิชัยถามน้าเสียงสงสัย “ก็เขาบอกว่า เขาเป็นฝ่ายเลือกจ้างเรา ไม่ใช่เราเลือกรับ เขา…ไหมไม่เข้าใจ” “มันต่างกันตรงไหนรึไหม ใครจะเลือกใครก็ต้องทางาน เหมือนกันไม่ใช่หรือ” “ต่างกันสิคะ ไหมมาที่นี่เพราะไม่มีใครยอมมา ทุกคน บอกแต่ว่าเขาพูด ยาก เรื่ องมากไม่มีใครต้องการลู กค้าแบบนี้ ไหมมั่นใจจนพูดกับเขาไปว่าเราเป็นบริษัทเดียวที่รับจ้างเขาแต่ เขาบอกว่าเขาเป็นฝ่ายเลือกเรา…คุณวุฒิคะถ้าเป็นอย่างที่เขาพูด 23


จริงไหมเสียความรู้สึกนะ ไหมคิดมาตลอดการเดินทางที่เลวร้าย ว่าเขาต้อ งง้อเราไม่ใช่เราง้อ เขา แล้ วแบบนี้มันหมายความว่า ยังไง” “คุณไหม ผมบอกคุณตรงนี้เลยนะว่าอย่าคิดมาก ทางาน ของคุณไปเถอะ…ถ้าทุกอย่างโอเคค่าคอมมิชชั่นของคุณผมจะ เพิ่ ม ให้ อี ก ห้ า เปอร์ เ ซ็ น ต์ ตกลงตามนี้ น ะคุ ณ ไหม…ท างานให้ สาเร็จ อย่าให้เสียชื่อบริษัท และผมหวังว่าคุณคงทาได้ดีเหมือน ทุกครั้ง” แพรวานั่งกาโทรศัพท์แน่นเมื่ออีกฝ่ายวางสายไปหลังพูด จบ ตกลงเธอไม่ รู้อ ะไรเพิ่ ม ขึ้ น เลย แล้ วอย่า งนี้ เธอจะทางาน อย่างไรถ้าเป็นจริงเหมือนที่เขาพูด และจากคาขอร้องแกมบังคับ ของเจ้านายยิ่งทาให้เธอค่อนข้างมั่นใจว่า ที่ผู้ชายคนนั้นพูดมา น่าจะเป็นจริงเสียแล้วก็ไม่รู้ หญิงสาวค้นเอกสารในซองออกมาก่ อนจะไล่สายตาไป ตามภาพถ่ายขนาดต่างๆ ที่อยู่ในมือ มันเป็นภาพของที่ซึ่งเธอ จะต้องไปติดต่อซื้อขายให้กับเขา ซึ่งขนาดของมันใหญ่ไม่ใช่เล่น เนื้อที่ของที่ดินแปลงนั้นทั้งหมดร่วมร้อยไร่ แต่ที่เขาต้องการแค่ ห้ า สิ บ ซึ่ ง มั น ก็ กิ น อาณาเขตครึ่ ง หนึ่ ง ของที่ แ ห่ ง นั้ น ที่ ส าคั ญ เจ้าของไร่นี้มีปัญหากับเขาเสียด้วย แพรวาถอนใจแผ่ วด้ ว ยความเหนื่ อ ยใจ เธอกะเกณฑ์ แผนการและวิธีติดต่อซื้อขายมาเสียดิบดี ทั้งด้วยความคิดที่ว่า บริษัทเธอถูกเขาง้อทาให้สะดวกใจมากกว่าที่จะพูดคุยแนะนากับ ผู้ชายหลายนามคนนั้น แต่กลับเป็นว่า เขาต่างหากที่อยู่เหนือ บริษัทเธอซึ่งมันทาให้ความรู้สึกเชื่อมั่นในทีแรกหายไปเกือบหมด 24


หญิง สาวอยากได้อ ะไรสั ก อย่า งมาเพิ่ม ก าลั งใจในการทางาน คราวนี้ แต่ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดคือ…ยาดม ร่างเล็กๆ ที่เดินระทดระทวยกลับมาทาให้ชายหนุ่มต้อง กลั้นยิ้ม ก่อนซัดผัวะไปบนมือที่นวดไหล่และทาท่าเลยไปจนถึ ง ศีรษะ “เตะผมทาไมพี่เบิ้ม” วิชาญถามกวนๆ ก่อนจะโดดหลบ ออกไปเมื่อเห็นเท้าที่วางพาดโต๊ะทาท่าย้ายลงมาที่ร่างตัวเอง “มือโว้ยไม่ใช่ตีน เดี๋ยวพ่อก็ประเคนให้แดกซะจริงๆ…ห่า นี่กูบอกแล้วห้ามยุ่งกับหัวกู เสือกไม่จา” “ขอโทษคร้าบ ผมลืมไปว่า…หัวนี้ห้ามยุ่ง คนที่จับได้มี เฉพาะแม่ใหญ่คนเดียว” “รู้แล้วยังเสือกทา” ชายหนุ่มบ่นพึมพาพลางตวัดสายตา มองหญิงสาวที่เดินมาใกล้ ก่อนจะถามออกไป “ตกลงเรียบร้อยแล้ วใช่ ไ หม…เอาเอกสารมาครบหรือ เปล่า และคุณต้องใช้เวลาทางานนานแค่ไหน ไอ้ที่ผืนนั้นถึงจะ กลายเป็นของผม” “เอกสารครบค่ะ แต่ว่าใช้เวลานานแค่ไ หนตอบไม่ได้ ” หญิงสาวเอ่ยเสียงแผ่ว “ปกติคุณใช้เวลานานแค่ไหนในการทางานแต่ละครั้ง” “ถ้ารู้เรื่องกันเร็วก็แค่สองสามวัน แต่ถ้ามีปัญหาหน่อยก็ เป็นอาทิตย์ แต่กรณีของคุณฉันให้คาตอบไม่ได้” “มันยากกว่าคนอื่นรึไง…ยากตรงไหนเรอะ” “คุ ณ คะ เท่ า ที่ ฉั น รู้ ม า คุ ณ น่ ะ เป็ น ไม้ เ บื่ อ ไม้ เ มากั บ เจ้าของที่ตรงนั้น ถ้าเขารู้ว่าจะต้องขายให้คุณฉันกลัวว่ามันจะ 25


ยากน่ะสิ” “แต่ผมสู้ราคานะคุณแพรวา ผมไม่ได้คุยยากเหมือนที่ คุณรู้มาผมยอมทุกอย่างเขาจะเรียกเท่าไหร่ก็ได้…ความจริงไอ้ที่ สับปะรังเคตรงนั้นน่ะขายไม่ออกด้วยซ้า” “ถ้าที่มันสับปะรังเคจริงคุณจะซื้ อทาไมละคะ ทาไมคุณ ไม่ซื้อที่ผืนอื่น แล้วเท่าที่ฉันรู้ที่ของคุณตอนนี้น่ ะมันก็น่าจะมาก เกินความจาเป็นด้วยซ้าไป” “ผมอยากได้ตรงนั้น …คุณมีหน้าที่ติดต่อซื้อ ขายไม่ใช่รึ คุณ ก็ทาของคุณ ไปสิ หรือ ว่าหมดฝี มือ เสียแล้ ว ” เขาเอ่ยเสี ยง คล้ายเยาะขึ้นมา แพรวาเกือบจะรับปากไปด้วยความหมั่นไส้กึ่งโมโห แต่ หลังจากคิดดูแล้วเธอก็เกิดท้อใจขึ้นมาดื้อๆ หญิงสาวสบตาคม กริบนั่นก่อนจะยิ้มแห้งแล้งให้เขา “ฉั น คงท าไม่ ไ ด้ จ ริ ง ๆ ละค่ ะ สงสั ย คงต้ อ งเปลี่ ย น คนทางาน…เอาอย่างนี้นะคะฉันขอตัวกลับบริษัทก่อนแล้วจะ เปลี่ยนคนมาทางานให้คุณ จะเลือกนักซื้อฝีมือเอกมาให้เลยค่ะ” ร่างสูงนั้นลุกพรวดขึ้นทันควันก่อนจะตะคอกเสียงดังไป ทางกลุ่มคนงานที่ทานอาหารกันจนอิ่มและเดินสูบบุหรี่เล่นอยู่ แถวนั้น “ไปทางานได้สายมากแล้วนะโว้ย…เสียเวลาเป็นบ้า” เสียงห้วนดุดันซึ่งบอกถึงอารมณ์ของเขาในขณะนี้ได้เป็น อย่างดีทาให้หญิงสาวละล่าละลักเอ่ยออกมา “คุณคะ ฉันบอกแล้วว่าจะหาคนมาทางานให้ บริษัทยัง รับงานของคุณอยู่นะคะ” 26


“แพรวา ผมว่าบริษัทคุณไม่ต้องส่งใครมาอีกแล้ว ขนาด คุ ณ ยั ง ไม่ อ ยากท า คนอื่ น ก็ ค งเหมื อ นกั น แปลกนะที่ ผ มมอง บริษัทคุณผิด คิดว่าน่าจะทางานเล็กๆ แค่นี้ได้แต่ไม่เป็นไรถึงคุณ ไม่ทาที่อื่นก็รับทาแน่…ระวังตัวไว้เถอะแพรวา คุณเองนั่นแหละ จะเดือดร้อนเมื่อกลับถึงที่ทางานของตัวเอง” ชายหนุ่ม เอ่ ยจบทั้งทิ้ง สายตาเหยียดหยามให้เธอเห็ น ก่อนจะก้าวยาวๆ หนีเข้าไปในบ้าน กริชเพชรมองหญิงสาวร่าง เล็กที่ยืนด้วยท่าทางหมดอาลัยตายอยากจนอดเข้าไปปลอบไม่ได้ “คุณแพรวา ผมว่าคุณน่าจะรับงานนี้ด้วยตัวเองไม่ดีรึ … คุณคิดดูสิถ้าคุณกลับไปใครจะมาแทนคุณ…คุณคิดหรือว่าก่อนที่ คุณจะมาที่นี่เจ้านายคุณไม่ได้เลือกคุณไว้แล้วให้มาทางานนี้ ถ้า เขาให้คนอื่นทาจริงทาไมต้องส่งคุณมาด้วย…คุณแพรวา เท่าที่ ผมเห็นคุณช่วงสั้นๆ ผมว่าคุณน่าจะเป็นนักสูค้ นหนึง่ แล้วทาไมถึง ยอมถอยง่ายๆ เสียยังงี้” “คุณเพชรคะ ฉัน…ฉันเสียความรู้สึกตั้งแต่รู้ว่าตัวเองถูก หลอก ความจริงฉันก็อยากทานะคะเพียงแต่ตอนนี้มันคิดอะไร ไม่ออกจริงๆ มันมืดแปดด้านไปหมด ฉันกะเกณฑ์อะไรไม่ได้เลย ไม่รู้รายละเอียดสักเรื่อง ไม่รู้แม้กระทั่งเจ้าของที่ตรงนั้น และยิ่ง ไม่รู้เกี่ยวกับพี่เบิ้มของคุณ ฉันอยากกลับไปหารายละเอียดก่อน น่ะค่ะ อยากมีข้อมูลมากกว่านี้ แล้วฉันจะตัดสินใจอีกที” “แต่เขาใจร้อนคุณก็เห็นไม่ใช่รึ เขาอยากได้ที่ตรงนัน้ มาก ยอมทุกอย่างแม้กระทั่งสู้ราคา” “ทาไมเขาถึงอยากได้ละคะ มันต้องมีเหตุผลสิ…คุณเพชร พอจะบอกได้ไหม” 27


“ผมไม่ทราบ คุณต้องให้เขาเล่าให้ฟังเอง” “คุณเพชร คุณดูสิขนาดข้อมูลแค่นี้ฉันยังไม่รู้เลย แล้วถ้า ฉันจะทางานจริงๆ ฉันจะไปคุยกับเจ้าของที่เ ขาได้ยังไง ถ้าเขา ถามฉันจะตอบแบบไหน” “คุณเป็นคนทางานคุณก็หาข้ออ้างเอาสิ เลือกเอาสักข้อ ตอบๆ ไปน่าจะได้ไม่ใช่รึ” หญิงสาวให้คาตอบไม่ได้เพราะจนด้วยคาพูดและเหตุผล ส่วนตัว ดังนั้นเมื่อเธอเดินกลับไปในบ้านเพื่อบอกลาเขาก็พบกับ ชายหนุ่มเดินสวนออกมาพอดี ร่างสูงนั้นเดินผ่านไปโดยไม่แล ด้วยซ้าทาให้แพรวาแทบพูดไม่ออกเธอลั งเลชั่วครู่ก่อนจะเอ่ย เรียกเขาไว้ “คุ ณ คะ ฉั น จะกลั บ แล้ ว นะ…พรุ่ ง นี้ ค งมี อี ก คนมาพบ คุณ” “ไม่ต้องมาแล้วแพรวา ผมตกลงจะจ้างบริษัทอื่น ในเมื่อ คุณทาไม่ได้ก็ไม่ต้องทา ผมไม่จาเป็นต้องรอ” “ฉั น ขอเวลาแค่ วั น เดี ย วไม่ ไ ด้ ห รื อ คะ…รั บ รองพรุ่ ง นี้ บริษัทเราเริ่มงานให้คุณได้ทันที” ชายหนุ่มหันกลับมาก่อนจะยืนมองเธอนิ่งไปชั่วครู่ เขา เองก็ไม่คิดว่าผูห้ ญิงตัวเล็กๆ คนนี้จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ หลังจาก ที่นั่งทนฟังไอ้พวกนั้นเล่าถึงวีรกรรมยามค่าคืนที่ผ่านมาของเธอ แต่ เ ขาจะหวั ง อะไรเล่ า กั บ การท้ อ แท้ ใ นบางครั้ ง ของคน โดยเฉพาะเพศหญิงที่มักอ่อนแอกว่าผู้ชายเสมอ ก็ถูกแล้วที่เขา ทางานในที่แห่งนี้โดยมีเฉพาะเพศชายเท่านั้น… “เอาอย่างนี้ ไ หมแพรวา ผมจะให้โ อกาสคุณ อีก ครั้ง … 28


เพราะสงสารหรอกนะผมคิดว่าถ้าคุณกลับไปและเล่าเรื่องนี้ให้ คุณวุฒิชัยฟัง รับรองเขาไม่มีทางยอมแน่ผมบอกคุณไว้เลยดีกว่า ตกลงผมให้เวลาบริษัทคุณหนึ่งวัน แต่คนที่จะมาทางานวันพรุ่งนี้ ต้องเป็นคุณเท่านั้น” “ฉันยังรับปากไม่ได้หรอกค่ะ …ว่าจะเป็นฉันที่มา คุณคะ ให้เวลาเราหน่อย…พรุ่งนี้ฉันจะให้คาตอบได้หรือเปล่า” “ตามใจ ถ้าพรุ่งนี้คุณไม่มา บริษัทคุณก็ไม่ต้องส่งใครมา เลยแพรวา” เขาพูดจบก็หันหลังจากไปทันควัน หญิงสาวเดินตามร่าง สูงๆ นั้นจนไปทันที่รถจี๊ปคันใหญ่ก่อนเอ่ยละล่าละลัก “คุณคะฉันขอเวลาครึ่งวันก็ได้ ตอนเย็นจะให้คาตอบ” “ผมไม่สน ผมไม่มีเรื่องคุยกับคุณแล้ว” “คุณคะ…ฉัน…” หญิงสาวอึกอักก่อนใจหายเมื่อใบหน้าใต้หมวกปีก กว้าง หันมามองเธอขวับก่อนเอ่ยเสียงห้วนดุดัน “คิ ด จะท างานกั บ ผมต้ อ งเลิ ก เรี ย กคุ ณ คะ คุ ณ คะได้ แล้ว…ผมมีชื่อนะแพรวา…ไม่ต้องเรียกเหมือนไอ้พวกนั้น เพราะ ผมไม่ใช่พี่เบิ้มของคุณ…ผมชื่อวาคิม” รถจี๊ปคันใหญ่พุ่งปราดจากไปในทันทีทิ้งให้หญิงสาวยืน มองตามด้วยหัวใจทดท้ออย่างที่สุด แพรวาตัดสินใจออกมาจาก ไร่แห่งนั้นพร้อมความมุ่งมั่นที่หดหายไปไม่มีเหลือ

29


2 โผล่เข้าไปทุกคนก็ห ยุด ชะงักกันไปหมด หญิงสาวยังไม่ทัน นั่ง ด้วยซ้าเสียงเรียกก็ดังขึ้น “พี่ไหม หัวหน้าเรียกแน่ะ” “เดี๋ยวนี้เลยเหรอหลิว” “ค่ะพี่…ว่าแต่ทาไมเอ่อ…เดี๋ยวค่อยคุยก็แล้วกันนะพี่ ไป หาหัวหน้าก่อนเถอะ” นิภ ารัต น์ ม องชุด ที่ ห ญิง สาวสวมอยู่ ก่อ นทาหน้าสงสั ย และเดินเลี่ยงไปทั้งเหลียวหน้าเหลียวหลัง แพรวาเคาะประตูสอง สามครั้ ง ก่ อ นจะเปิ ด และเดิ น เข้ า ไปนั่ ง ที่ ห น้ า โต๊ ะ ท างานของ เจ้านายหนุ่มใหญ่ที่จ้องเธอตาไม่ กะพริบ ก่อนกระแอมกระไอ แล้วเอ่ยขึ้น “คุณไหม กลับบ้านไปเก็บเสื้อผ้าแล้วไปทางานของคุณ ให้เสร็จๆ ซะ” “อะไรนะคะคุณวุฒิ…ทาไมต้องเก็บเสื้อผ้าด้วย ไหมไม่รับ


งานนี้หรอกถึงแม้จะได้ค่าคอมเพิ่มก็เถอะ คุณส่งคนอื่นไปแทน เถอะนะคะ” “คนอื่นเขาติดงานกันหมดนี่ อีกอย่างคุณก็รู้ว่าตัวเองน่ะ มีฝีมือในการทางานแบบนี้ทาไมถึงท้อง่ายๆ ยังงี้ละไหม” “หัวหน้าคะ ไหมสู้ไม่ไหวหรอกค่ะ มันยากเกินไป อีก อย่างไหมทนคนพวกนั้นไม่ไ ด้หัวหน้าไม่เคยเห็นนี่คะว่าพวกนั้น น่ากลัวจะตาย แค่ไหมเห็นแค่วันเดียวไหมก็จะเป็นลมไม่รู้กี่รอบ ส่งผู้ชายไปน่าจะเหมาะกว่านะคะ” “คุณไหม…ถือว่าผมขอร้องละเอ้า คุณไปเถอะแล้วต้อง ไปวันนี้ด้วย ไม่อย่างนั้นเขาจะจ้างบริษัทอื่นคุณรู้หรือเปล่า” “คุณวุฒิคะ…เราเอ่อ…ปล่อยงานนี้ได้หรือเปล่า” หญิงสาวถามไปแล้วก็ใจแป้วเมื่อเห็นคนเป็นหัวหน้ามอง มาตาขุ่น “คุณไหม คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมาน่ะ คุณรู้ ไหมว่าคุณวาคิมเขาจ้างเรามากี่ครั้งแล้ว รายได้ของเรามาจาก เขาไม่รู้เท่าไหร่ เขาเป็นลูกค้าขาประจานะคุณไหม ไม่ใช่ขาจรที่ จ้างครั้งเดียวแล้วก็หายไป รู้อย่างนี้คุณจะปล่อยลูกค้าดีๆ แบบนี้ ให้ ห ลุ ด มื อ ไปรึ คุ ณ อาจจะยอมเพราะไม่ ไ ด้ ดู แ ลลู ก น้ อ งใน สานักงานเป็นสิบ แต่ผมยอมไม่ได้” แพรวาถึ ง กั บ หน้ า เซี ย วเมื่ อ ได้ ยิ น ค าพู ด ห้ ว นๆ ของ หั ว หน้ า หนุ่ ม เธอรู้ ว่ า เขาไม่ พ อใจแน่ แ ต่ จ ะให้ เ ธอรั บ กลั บ ไป ทางานนั่นมันก็กระไรอยู่ งานนี้อาจจะหินจนเธอต้องอยู่ยาวและ ถูกผูกติดกับไอ้ห่ามพวกนั้นเธอทาใจไม่ได้แน่ๆ “หัวหน้าคะ ไหมลองคิดดูแล้วมันก็จริงเหมือนที่หัวหน้า 31


พูดทุกอย่าง แต่ว่างานนี้มันไม่ได้ง่ายเหมือนทุกครั้ง มันอาจใช้ เวลานานเพราะมีปัญหาระหว่างเจ้าของที่ทั้งคู่ ถ้าไหมไปทาจริง ไหมมิต้องอยู่โยงหรือคะ ไหมว่าน่าจะให้ผู้ชายไปน่าจะดีกว่า” “คุณไหม ผมบอกคุณตรงๆ ก็ได้ว่า ก่อนที่คุณจะมาถึง คุ ณ เพชรโทรมาหาผมแล้ ว เขาบอกว่ า ถ้ า บริ ษั ท จะส่ ง คนไป ทางานที่นั่นขอให้เป็นคุณไหมคนเดียว คนอื่นเขาไม่เอา ถ้าเราส่ง คนอื่นไปเขาจะจ้างบริษัทอื่น” “ทาไมต้องเป็นไหมด้วยล่ะ คนอื่นก็มีตั้งเยอะแยะ แล้ว งานก่อนหน้านี้คนอื่นก็เคยทานี่คะ ไม่เห็นจาเป็นเลย” เธอเถียง เสียงรัวก่อนเริ่มทะแม่งขึ้นมา “เมื่อก่อนอาจจะใช่ เอางี้นะคุณไหมเมื่อวานคุณไปทา อะไรมา เพราะเท่าที่รู้คุณเพชรบอกว่าคนงานที่นั่นพูดกันเป็น เสียงเดียวว่าต้องการคุณ” “ไอ้พวกบ้านัน่ นะ…เอ่อขอโทษค่ะคุณวุฒิ” หญิงสาวร้อง เสียงดังก่อนหน้าแหยเมื่อเห็นเจ้านายมองมาตาดุ “เขาอาจจะชอบคุณก็ได้นะคุณไหม…ยังงี้งานของคุณก็ น่าจะง่ายไม่ใช่เรอะในเมื่อมีคนชอบคุณตั้งเยอะเขาน่าจะอานวย ความสะดวกให้ละน่า” “หัวหน้าขา ใครบอกว่าเขาชอบไหม พวกนั้นน่ะจะเอา ไหมไปแกล้งน่ะสิ คุณรู้ไหมคะแค่คืนเดียวไหมก็ได้ศัตรูเป็นโขยง ตั้งแต่หัวหน้ายันลูกน้อง…คนที่นั่นนะปากยังกับกรรไกรทั้งด่าทั้ง เตะกันเป็นว่าเล่น ไหมหัวใจจะวายไม่รู้กี่รอบขืนไหมไปจริงๆ คง ได้ฝั งศพกัน ที่นั่น ” หญิงสาวโอดครวญทั้งหน้ามุ่ย แต่ค นเป็น เจ้านายกลับไม่สงสารสักนิด 32


“ไปเถอะน่าอย่าเรื่องมากเลย เอางี้นะไหมนอกจากผม จะให้ ค่ า คอมเพิ่ ม แล้ ว ผมจะให้ วั น หยุ ด พั ก ร้ อ นคุ ณ เพิ่ ม ด้ ว ย ตกลงนะไปเก็บเสื้อผ้าได้เลยเดี๋ยวคนของไร่ใจดีจะมารับที่หน้า สานักงาน” ชายหนุ่มเอ่ยคล้ายปลอบโยนแต่หญิงสาวแค่ได้ยิน ชื่อไร่ก็ใจแป้ว “ไร่ใจดี…ไร่กวนใจละไม่ว่า คุณวุฒิคะไหมไม่อยากอยู่ที่ นั่น ถ้ามันนานเป็นเดือนไหมจะทายังไง” “เป็นเดือนก็ได้ผมไม่ว่า” เขาตอบทั้งยิ้มกริ่มจนหญิงสาว ชะโงกเข้าไปถามเสี ยงแผ่วเมื่อเห็นตาพราวระยิบของเจ้านาย หนุ่ม “หัวหน้าคะ ค่านายหน้าครั้งนี้เยอะมากหรือไง” “ผมบอกก็ไ ด้ เกือบล้ านนะคุณไหม” เขากระซิบตอบ เสียงเบา “ล้ า นเลยเหรอคะ” หญิ ง สาวตาโตเท่ า ไข่ ห่ า นก่ อ น คานวณตัวเลขอยู่ในใจ ครู่เดียวเธอก็ยิ้มแฉ่งออกมา “ก็ได้ค่ะหัวหน้า ไหมไปก็ได้ แต่อย่าลืมที่สัญญาไว้นะคะ เพิ่มอีกห้าเปอร์เซ็นต์พร้อมวันหยุดพักร้อน” “ครับคุณแพรวาจอมงก” วุฒิชัยเอ่ยยิ้มๆ ก่อนหัวเราะ ออกมาเมื่อเห็น หญิงสาวเดิน จากไปพร้อมรอยยิ้มเต็ม หน้าจน ต้องบ่นคนเดียวเบาๆ “นึกแล้ว…แม่คนจอมงก…อะไรที่ว่ายากเธอก็ทาได้หมด แหละขอให้เงินถึงเท่านั้นยายไหมเอ๊ย”

33


จะหุบฉับเมื่อเห็นหนุ่มร่างสูงหน้าทะเล้นยืนรออยู่ข้างรถจี๊ ป เธอ ยังไม่ทันตั้งหลักดี อะไรสักอย่างก็ลอยวูบเข้าหา…หญิงสาวคว้า หมับก่อนมองสิ่งที่อยู่ในมือ …ฝักของต้นชัยพฤกษ์ที่มีขนาดยาว เหมาะมืออันหนึ่งคือสิ่งที่เธอกาไว้แน่น วิชาญร้องเสียงดังก่อนกระโดดเข้าหาพร้อมฟาดฝักดาๆ ลงมาจนเธอต้องยกมือแล้วเอาไอ้สิ่งที่อยู่ในมือกันไว้ หลังจากนั้น ก็กลายเป็นว่าเธอต้องยืนดวลดาบฝักชัยพฤกษ์กับนายนั่นไปแล้ว แพรวาทั้งโมโหทั้งขา เธอยืนฟาดไม่ยั้งจนฝักนั่นกระจุยกระจาย พร้อมอุทานเอะอะไปด้วย “ไอ้บ้า…นี่นายเป็นอะไร…อยากสู้ใช่ไหมมานี่เล้ย” หญิงสาวโยนสิ่งที่อยู่ในมือทิ้งเพราะสั้นกุดจากแรงฟาด หลังจากนั้นเธอก็ถลาเข้าหาฝักใหม่ที่ตกเรี่ยราดอยู่แถวนั้นก่อน ฟาดไปตามล าตั วฝ่ ายตรงข้า มไม่ยั้ ง จนชายหนุ่ม ห้ ามเสี ยงรั ว พลางโดดหลบหยองแหยง “คุ้ น หยุ ด ก่ อ น…ไปกั น ได้ แ ล้ ว เดี๋ ย วเขาได้ จั บ เราส่ ง โรงพยาบาลบ้ากันมั่ง” หญิ ง สาวยื น หอบแฮกๆ ก่ อ นเหลี ย วกลั บ ไปทาง สานักงานเมื่ออีกฝ่ายบุ้ยใบ้ให้ดู แพรวายิ้มแหยๆ ก่อนปีนขึ้นไป บนรถเมื่อ หัน กลั บ ไปเห็น เพื่อ นในที่ทางานออกมายืน มองกัน สลอนรวมทั้งเจ้านายหนุ่มของเธอด้วย “เพราะนายนั่นแหละทาให้ฉันเป็นแบบนี้ ออกรถเดี๋ยวนี้ นะฉันอายคนจะแย่แล้ว” “ใครให้คุณบ้าจี้ทาไม” วิชาญเอ่ยทั้งหัวเราะกั๊กๆ เมื่อ เห็นหญิงสาวเอ่ยโกรธๆ 34


“ฉันป้องกันตัวนี่…นายนั่นแหละเล่นเป็นเด็ก ” เธอตอบ พาลๆ ก่อนหันไปโบกมือให้คนที่ยืนสลอนอยู่ด้านหลังและส่งจน ลับสายตา วุฒิชัยหัวเราะเบาๆ เมื่อออกมาเห็น ภาพเมื่อ ครู่ เขารู้ แล้ ว ว่าท าไมพวกนั้น ถึง ระบุ ตัวคนท างานมา หญิงสาวคนนั้ น นอกจากจะทางานเก่งแล้วยังเข้ากับคนได้แทบทุกวัย อาจเพราะ เธอมีเสน่ห์ที่ไม่เคยรู้ตัวมาก่อนก็ได้…งานนี้เขาคิดว่าน่าจะสาเร็จ ลงได้ด้วยดีเหมือนเคย ชายหนุ่มคิดด้วยความเบิกบานโดยไม่รู้ เลยว่า หญิงสาวที่เพิ่งลับตาเขาไปนั้นจะเดินทางจากไปเพื่อพบ กับสิ่งดีๆ และสิ่งเลวร้ายที่สุดในชีวิตของเธอ เก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวต้องหยุดชะงักลงก่อนถอนใจเบาๆ และเอ่ยพร้อมใบหน้ายิ้มแย้มเพื่อปกปิดความห่วงใยของตนเอง เพื่อไม่ให้ทั้งพ่อและแม่รู้ “แม่ขา…หนูอาจจะไปไม่นานหรอกค่ะ หนูจะส่งข่าวมา เรื่อยๆ น้า แม่อย่าห่วงหนูเลย อีกอย่างงานนี้ถ้าสาเร็จหนูได้เงิน เยอะเลยนะแม่…ถ้าได้มาคราวนี้หนูคดิ จะปรับปรุงบ้านใหม่เสียที นี่มันก็เริ่มโทรมแล้วนะคะ” “ไม่ต้องทาหรอกลูก บ้านเราก็ไม่ได้เก่าเท่าไหร่นี่ ห้อง หับก็พออยู่แม่ว่าหนูเบาๆ งานบ้างก็ดีวันๆ ตะลอนไปนั่นไปนี่ไม่ หยุดที่เรามีอยู่ก็พอใช้นะลูก เงินบานาญของพ่อก็มีนี่นะ” “แม่ขาเก็บไว้ก่อนน่ ะดีแล้ว ตอนนี้หนูมีแรงทาได้อยู่ถึง จะเหนื่อยหน่อยพอพักมันก็หายนี่นา…เผื่อไว้วันหน้าก็ไม่เสียหาย 35


ไม่ใช่หรือคะพ่อกับแม่สอนหนูเองน้า” หญิงสาวเอ่ยเสียงนุ่มนวลพลางคลานเข้าไปกอดมารดา ไว้แน่นทั้งรู้สึกใจหายไม่น้อย แปลกเหลือเกินที่เธอไปครั้งนี้มันไม่ เหมือนกับที่แล้วๆ มา…แต่ไหนแต่ไรเธอก็ไปได้ทั้งไม่ได้รู้สึกอาลัย อาวรณ์เหมือนคราวนี้ …หัวใจที่สั่นไหวเป็นบางคราวเหมือนจะ เตือนให้รู้ถึงอะไรบางอย่างที่รออยู่ข้างหน้าทาให้หญิงสาวเอ่ย สะท้อนใจไม่ได้ เธออาจจะคิดมากไปเอง สาเหตุกน็ ่าจะมาจากสถานที่ซึ่ง กาลังจะไปนัน่ มันช่างน่าหวาดหวั่นและดุจมีอะไรหรือใครบางคน รอคอย…แพรวาสูดลมหายใจลึกเพื่อให้กาลังใจตัวเองก่อนจะเอ่ย เสียงนุ่มนวล “แม่ ข า หนู ค งต้ อ งไปแล้ ว ละค่ ะ เขาจะรอนานเกิ น ไป แม่ดูแลตัวเองด้วยนะคะแล้วก็บอกพ่อด้วยว่าอย่าทางานหนัก อย่าลืมบอกลายายแพรแทนหนูด้วยนะคะ” “ไปบอกพ่อเองสิลูก ยืนคุยกับพ่อหนุ่มนั่นอยู่หน้าบ้าน แน่ะส่วนน้องสาวหนูน่ะเย็นๆ โน่นแหละถึงจะกลับ” มารดาเธอ บอกเบาๆ ก่อนจะเดินไปหยิบกล่องกระดาษมายื่นให้ “อะไรคะแม่ เสบียงหรือไงคะ” “จ้ะ แม่ทาเตรียมเอาไว้น่ะ พอดีคุณวุฒิชัยโทรมาบอก แม่ เ มื่ อ สายๆ เขาบอกว่ า หนู อ าจจะไปท างานข้ า งนอกเป็ น อาทิตย์แม่เลยเตรียมน้าพริกเผาบ้าง ของทานเล่นบ้างไว้ให้เผื่อ อยากทานขึ้นมาจะได้หยิบจับสะดวกนะลูก ไม่ต้องไปหาซื้อเขา” “ขอบคุณค่ะแม่ หนูไปนะคะไปส่งหนูหน่อยนะ” แพรวาเดินโอบเอวมารดาออกมาจนถึงหน้าบ้านก็เห็น 36


วิชาญกาลังขุดดินขมีขมัน เสียงพ่อเธอหัวเราะชอบใจก่อนชี้นั่น ชี้นี่ให้ดูด้วยท่าทางปลาบปลื้ม “พ่อหนุ่มนี่เก่งนะลูก ทางานเร็วเป็นไฟเลย อยู่ที่ไหนนะ เราน่ะ” “ไร่ใจดีครับลุง ผมอยู่ที่นั่นทางานหนักกว่านี้เยอะ แค่นี้ ขี้ผง” เขาตอบทั้งขุดดินเป็นครั้งสุดท้ายก่อนใช้สันจอบกระแทก ก้อนดินจนละเอียดพลางเกลี่ยให้เรียบร้อย “เจ้านายใจดีเหมือนชื่อรึเปล่าพ่อหนุ่ม” “ใจดี๊ใจดีครับ” เขาตอบทั้งหันหน้ามายักคิ้วให้หญิงสาว ก่อนหัวเราะร่วน “ยังงั้น พ่อ ก็เบาใจหน่อ ย ฝากดูแลหนูไ หมด้วยนะคุณ เขาค่อนข้างขี้โรคไม่ค่อยแข็งแรงกับใครเขาหรอก พ่อกับแม่ต้อง ดูแลเป็นประจา” วิชาญหันมามองหญิงสาวก่อนยิ้มเหมือนแยกเขี้ยวพลาง ทาตาปะหลับปะเหลือกเมื่อได้ยินชายสูงวัยพูดฝากฝัง…เหอะ ไม่ แข็งแรงเหรอยายนี่ …น่าเชื่อ ตายละ แต่ปากกลับ รับค าไปเสี ย ดิบดีได้ยังไงก็ไม่รู้ “ผมจะทั้งดูทั้งแลเลยครับลุง อย่าห่วงเลย คนของเรามี ตั้งเยอะรับรองลูกสาวลุงเหมือนไข่ในหินเด๊ะๆ…สงสัยผมคงต้อง ไปละครับต้องเดินทางอีกไกลผมลาเลยนะครับ” “โชคดีนะคุณ…ไหม.ระวังเนื้อระวังตัวนะลูกอย่าลืมโทร มาหาทุกวันนะพ่อกับแม่จะรอ” แพรวากราบที่หน้าอกบิดาและมารดาอีกครั้งก่อนจะตัด ใจเดินจากมา…รถจี๊ปคันใหญ่ลับสายตาไปแล้วคุณมานพจึงหัน 37


มาหาภรรยาก่อนเอ่ยปลอบเสียงนุ่ มเมื่อเห็นใบหน้านั้นเศร้าซึม กว่าทุกคราว “เป็นอะไรหรือคุณ ยายไหมเขาก็ไปแบบนี้บ่อยๆ ทาไม ครั้งนี้ทาหน้าเศร้าเสียขนาดนั้น” “ไม่รู้สิคะ ฉันรู้สึกไม่ดีเลยมันไม่เหมือนทุกคราว คล้าย กับว่าลูกจะ…” ท้ายเสียงนั้นหายไปพลางหันมาหาสามีและถาม เบาๆ “คุ ณ รู้ สึ ก ไหมคะว่ า ยายไหมไปครั้ ง นี้ จ ะต้ อ งมี อ ะไร เปลี่ยนไป” “อย่าคิดมากเลยคุณ ลูกเราโตแล้วนะอายุก็ไม่ใช่น้อยๆ ทางานมาก็หลายปีเขารู้หรอกว่าจะทาอย่างไรน่ะ ” เขาเอ่ยตอบ เสียงเบาทั้งที่ความจริงแล้วตัวเองก็รู้สึกไม่ต่างกับภรรยาแม้แต่ น้อย แต่ถ้าจะพูดไปก็กลัวอีกฝ่ายห่วงใยหนักขึ้นดังนั้นจึงปลอบ ไปตามเรื่อง “ฉันก็ขอให้เป็นอย่างนั้นค่ะ…” เสียงตอบกลับมาทั้งแผ่วเบาสั่นเครือด้วยความเศร้าซึม ก่อนที่ทั้งคู่จะกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้งและเฝ้าภาวนาให้ลูกสาว กลับมาด้วยความปลอดภัยและเหมือนทุกคราว เลี้ยวเข้ามาบริเวณลานกว้างหน้าบ้านไม้ปีก หญิงสาวก็ต้องทาใจ แทบไม่ทัน…กลุ่มหนุ่มๆ ทั้งโขยงที่ยืนเรียงรายเป็นแถวยื่นคอขึ้น ดูและพอเห็นว่าเป็นเธอเสียงเฮก็ลั่ นขึ้น มาจนแพรวามองด้วย สายตาขุ่นเขียวเธอแทบไม่ทันลงด้วยซ้ามือแข็งๆ ไม่รู้กี่คู่ก็ยื่นมา 38


เป็นระวิงพลางร้องเสียงขรม “ผมอุ้มดีกว่าคุณแพร ไม่ต้องปีนลงมาหรอก เดี๋ยวหกล้ม จะลาบากเสียเปล่า” “กูเองมึงไม่ต้องแย่งไอ้เวช ถอยไป” “เดี๋ยวกูขนของเอง กระเป๋าอยู่ไหนครับคุณแพร” “ไม่ต้อง…ฉันลงเองได้ ถอยไปห่างๆ” หญิงสาวร้องเสียงหลงพลางปัดมือไม้ที่วุ่นวายอยู่ใกล้ๆ ตัว ก่อนหยุดกึกเมื่อเสียงห้าวๆ ดังแทรกขึ้นมาจากตัวบ้าน “พวกมึงไม่ต้องเสือก เขามีมือมีตีน …ถ้าลงไม่ได้ก็ปล่อย ให้นอนอยู่บนรถนั่นแหละ” แพรวายืนนิ่งอยู่บนรถก่อนมองไปที่กลุ่มหนุ่มซึ่งเงียบไป ทันทีเหมือนกัน หญิงสาวชักไม่พอใจขึ้นมาที่เขาเอ่ยด้วยเสียง หยาบคายเสียขนาดนั้น ก่อนจะยิ้มกริ่มให้คนที่ยื นอยู่ตรงหน้า และเอ่ยเสียงหวานเจี๊ยบ “ช่วยอุ้มลงหน่อยสิ ฉันกลัวหกล้มขึ้นมาแล้วละ” “ทันทีเลยครับคุณแพร” วิชาญรับคาก่อนคว้าเอวหญิงสาวหมับก่อนยกร่างบาง นั้นลงมายืนกับพื้นและเหมือนไม่หนาใจ หน้าทะเล้นๆ นั้นหันไป ยักคิ้วให้ลูกพี่ที่ยืนตาขวางอยู่ที่หน้าบ้านเสียอีกหนึ่ งที แพรวา เดินเหมือนเจ้าหญิงเพราะมีหนุ่มมะรุมมะตุ้มรอบๆ ตัวพลางตรง เข้าไปหาเจ้าของไร่ร่างยักษ์ “จะให้ฉันพักที่ไหนละคะคุณ” “ผมบอกแล้ ว ว่า ผมชื่ อ อะไร…หั ด จ าใส่ หั ว ไว้ มั่ง …นาย เพชรให้เด็กจัดห้องไว้ให้คุณแล้วเอากุญแจห้องไปได้เลย…อ้อ… 39


อาหารเย็น หกโมงตรง หลั งจากนั้น เราต้ อ งตกลงกัน บางเรื่อ ง เพื่อให้เข้าใจตรงกัน” “รับทราบค่ะ มีอะไรสั่งอีกหรือเปล่าคะคุณ…วาคิม” “ผมยังไม่พูดตอนนี้ เอาของของคุณไปเก็บได้…ส่วนพวก มึงจะอยู่เสนอหน้าที่นี่ห รือ จะไปทาอะไรก็ต ามใจ” เขากราด สายตาไปตามใบหน้าหนุ่มๆ เหล่านั้นก่อนย่าเท้าปึงๆ กลับเข้า บ้านไป ใบใหญ่ก่อ นจะจัด การของใช้ส่ วนตัวให้เข้าที่เข้าทาง เวลายัง เหลือเกือบสองชั่วโมงกว่าจะถึงอาหารเย็นทาให้เธอว่างพอจะ สารวจห้องหับกว้างขวางนั่น เธอไม่แปลกใจจนนิดเดียวว่าทาไมที่นี่ทุกสิ่งทุกอย่างมัน จึงได้ใหญ่โตไปกว่าปกติเกือบทั้งหมด ก็เจ้าของบ้านออกตัวโต เสี ยขนาดนั้น พอนึก ถึงเขาขึ้น มาแพรวาก็อ ดแปลกใจไม่ไ ด้ … ทาไมเขาเป็นคนไทยแท้ๆ แต่ร่างกายถึงได้สูงใหญ่เสียขนาดนั้น ไซซ์นั่นมันน่าจะเป็นฝรั่งชัดๆ เพราะเท่าที่ดูแล้วความสูงของเขา น่ า จะมากกว่ า หกฟุ ต ไหล่ นั้ น กว้ า งจนน่ า จะบั ง เธอได้ มิ ด แต่ รูปร่างเขานี่สิ…มันเหมาะกับการเป็นชาวไร่เป็นบ้าด้วยร่างสูงนั้น เพรียวแน่นด้วยกล้ามเนื้อไปทั้งตัวจนดูกร้านแกร่งแปลกๆ แต่ โดยรวมแล้วเขานับว่าเป็นผู้ชายที่มีรูปร่างน่าอิจฉาสาหรับผู้ชาย ด้ ว ยกั น ได้ ที เ ดี ย ว สิ่ ง ที่ ก วนตาของเธอมากที่ สุ ด น่ า จะเป็ น ไอ้หนวดเครารกๆ นั่น ปกติเธอแทบไม่เห็นคนไทยแท้ๆ มีหนวด มากมายได้ขนาดเขาสักคน…แพรวาคิดไปเรื่อยก่อนสงสัยตัวเอง 40


ว่า ทาไมเธอเห็นเขาแค่สองครั้งแต่จาได้แม่นยาเสียขนาดนี้ เสียงโทรศัพท์ที่ดงั ขึน้ ทาให้หญิงสาวต้องหยุดความคิดลง พลางเดินไปหยิบมากดรับ “ถึงไร่เรียบร้อยแล้วใช่ไหมคุณไหม” “เรี ย บร้ อ ยค่ ะ ไหมก าลั ง จั ด ของอยู่ คุ ณ วุ ฒิ มี อ ะไรสั่ ง เพิ่มเติมหรือคะ” “เปล่ า หรอกไหม ผมโทรมาเช็ ก ดู ว่ า สุ ข สบายดี ห รื อ เปล่า…อ้อพรุ่งนี้คงเริ่มทางานเลยสินะ” “คงอย่างนั้นค่ะ…คุณวุฒิคะไหมไม่ทันเตรียมข้อมูลอะไร มาเลยคุณวุฒิพอจะช่วยส่งเมล์มาให้ไหมได้หรือเปล่า ไหมอยาก ได้เรื่องเจ้าของไร่นั้นน่ะค่ะ” “หลิวเขาเตรียมให้แล้ วนี่ อยู่ในคอมของคุณนั่นแหละ ชื่อไฟล์ว่าไร่ใจดีนั่นไงลองเปิดดูนะเผื่อจะได้ใช้บ้าง” แพรวายิ้มออกมาได้ก่อนจะเอ่ยขอบคุณ หลังจากคุยกัน อีกไม่นานหญิงสาวก็วางสายและเริ่มค้นอุปกรณ์ทางานออกมา เมื่อเปิดคอมครั้งแรกหญิงสาวก็อดหัวเราะไม่ได้เพราะปรากฏ ตัวหนังสือโตๆ เต็มหน้าจอทันที…โชคดีนะคะพี่ไหม หลิวเอาใจ ช่วยน้า…กลับมาพร้อมร่างกายครบเหมือนเดิมนะคะ รักค่ะจุ๊ฟ จุ๊ฟ… “ยายหลิวเอ๊ย เธอมันทะลึ่งแต่ก็ขอบใจละนะที่อุตส่าห์ เตรียมไว้ให้” เธอบ่นทั้งรอยยิ้ม ที่แตกออกเป็นสองไฟล์ย่อยไร่ใจดีและไร่กฤติกา…แพรวาสะดุด 41


ใจกับ ชื่อไร่ที่ไพเราะนั่นจนคลิ กเข้าไปก่อนและเริ่มอ่านข้อมูล ด้ า นในอี ก ครั้ ง ข้ อ มู ล ที่ ไ ด้ มี เ พี ย งคร่ า วๆ คื อ จ านวนพื้ น ที่ ไ ร่ ตลอดจนที่ตั้ งและประวัติข องชายกลางคนผู้ เป็น เจ้าของ อ้ อ รวมทั้งลูกสาวอีก สองและลูกชายหนึ่ง คิ้วเรียวขมวดนิดๆ เมื่อ เพ่งมองรูปหญิงสาวทั้งสองคนนั่น…กฤติกา และ ณัฏฐิกานต์ “อ้อชื่อไร่มาจากชื่อลูกสาวนี่เอง แต่จะว่าไปสองคนนี่ก็ สวยดีแฮะ หน้าไม่เหมือนชาวบ้านสักนิด แล้วนี่…” แพรวาสะดุดกึกก่อนใจหายเมื่อไล่สายตาลงต่าไปตาม ตัวหนังสือ…มรณะ…นี่หมายความว่าหญิงสาวที่ชื่อกฤติกานี่ตาย แล้วอย่างนั้นหรือ น่าจะใช่เพราะตัวหนังสือเขียนไว้อย่างนั้น เธอนั่ ง นิ่ ง ไปชั่ ว ครู่ ก่ อ นลมเย็ น จะพั ด วู บ เข้ า มาทาง หน้าต่างจนขนลุกเกรียว หญิงสาวหน้าซีดเผือดเมื่อลางสังหรณ์บางอย่างบอกว่า เรื่องราวความขัดแย้งทั้งหมดที่ได้รู้อาจจะมาจากผู้หญิงคนนี้ … แพรวาปิด ไฟล์ นั้น ทัน ทีเพราะเริ่ม กลั วขึ้น มาอย่างไม่มีส าเหตุ ดวงตาอ่อนเศร้าของหญิงสาวคนนัน้ ยังติดตาเธอไม่หายแม้จะปิด ภาพนั้ น ลงไปแล้ ว ก็ ต าม มื อ บางลู บ หน้ า ตั ว เองสองสามครั้ ง เหมือนพยายามลบภาพนั้นก่อนจะเริ่มเปิดไฟล์ที่อยู่คู่กัน … ร่างเล็กชะโงกเข้าไปใกล้คอมยิ่งขึน้ เมือ่ เห็นภาพชายหนุ่ม สองคนและมีชื่อติดไว้ว่าเป็นเจ้าของไร่ …หญิงสาวคิดด้วยความ งุนงง นี่หมายความว่าอย่างไร หุ้นส่วนกันอย่างนั้นหรือ …ในเมื่อ คนละนามสกุลแท้ๆ เท่าที่เธอเห็น รูปกริชเพชรเหมือนจะเด็ก กว่านี้หลายปีเพราะใบหน้าของเขาดูเป็นเด็กหนุ่มที่ร่าเริงไม่น้อย ผิดกับตอนนี้ลิบลับที่เขาดูแข็งกร้าวและเยือกเย็น ส่วนคนข้างๆ 42


นี่…ดวงตาเธอเบิกกว้างก่อนอุทานออกมา “นี่…คุณวาคิมเรอะ…เป็นไปได้ยังไงเนี่ย…คนละคนหรือ เปล่า” รูปนั้นเหมือนจะถ่ายยามเขาไม่รู้ตัวด้วยซ้าเพราะใบหน้า ขาวคมคล้ายมองอะไรบางอย่างอยู่ ใบหน้าที่เอียงนิดๆ นั่นทาให้ เธอเห็นรูปหน้าเขาชัดเจนทีเดียวเพราะรูปนี้เขาไม่มีหนวดและ เคราให้เห็น นอกจากไรเขียวๆ เท่านั้น สันจมูกเห็นได้ก่อนเพื่อน เพราะโด่งเรียวเสียขนาดนั้น ใบหน้าเขาดูกร้าวและหยิ่งซึ่งรับกับ ลูกตาดาขลับที่ชาเลืองมองไปด้านข้างด้วยท่าทางคล้ายมองใคร สักคน ปากเขาสวยเพราะมันโค้งดุจคันธนูก็ไม่ปาน นี่ถ้ายิ้มเสีย หน่ อ ยเขาน่ า จะดู ดี ขึ้ น อี ก สั ก สิ บ เท่ า กระมั ง หญิ ง สาวไล่ ดู รายละเอียดทั้งหมดก่อนปิดคอมและเริ่มคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอีก รอบ เป็นไปได้หรือเปล่าว่า นายหมีนี่ไปชอบกับลูกสาวไร่โน้น จนเกิดเป็นเรื่องขึ้นมาและขัดแย้งกันอย่างรุนแรง…จนเธอตาย… แพรวาหยุดกึกก่อนด่าตัวเองเบาๆ ทันควัน “คิดอะไรเหมือนหนังเลยนะยายไหม…เราท่าจะบ้าถึงคิด อะไรซะขนาดนี้…แต่ก็ไม่แน่นาอาจจะเป็นไปได้เหมือนกันวุ้ย … ปวดหัวเป็นบ้า…ค่อยคิดละกันตอนนี้มันตื้อไปหมดแล้ว” แพรวาลุกขึ้นเมื่อเริ่มมึนขึ้นมาจริงๆ ก่อนจะตัดสินใจลง ไปด้านล่างเพื่อเดินดูอะไรเล่นๆ หวังจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ บ้าง หญิงสาวออกมาจากตัวบ้านได้ก็เดินตรงไปตามทางซึ่งเกิดจาก รอยล้อรถจนกลายเป็นถนนเส้นเล็ก…เธอเห็นเรือนขนาดย่อมซึ่ง มีควันโขมงและได้ยนิ เสียงออกมาจากที่แห่งนั้นจึงเลียบๆ เคียงๆ 43


เข้าไป ภาพที่เห็นคือห้องโถงโล่งยาวและมีอุปกรณ์การทาครัวทั้ง แขวนทั้งห้อยไว้เต็มไปหมด เสียงทาอาหารดังสนั่นนั่นดังมาจาก ชายหนุ่มร่างสู งที่อยู่ในชุดทางานสีด าและมีผ้ากันเปื้อ นสีข าว สวมทับยืนอยู่หน้ากระทะใบใหญ่และกาลังทางานขะมักเขม้น “ให้ฉันช่วยไหมคะคุณ” ร่างนั้นสะดุ้งโหยงก่อนถอยหลังขวับพลางแกว่งตะหลิว ไปมาทั้งหน้าตาดุดัน “เธอเป็นใคร…เข้ามาในไร่นี้ได้ยังไง ออกไปให้พ้นครัวผม นะ” “ชะ…ฉันมาทางานที่นี่ค่ ะ ฉันชื่อแพรวา ฉันทากับข้าว เป็นนะให้ฉันช่วยคุณเถอะ” “ออกไปเลยไป๊ ย ายทอมบอย…คนอย่ า งเธอจะมาท า อะไรได้” เขาตะคอกเสียงดังสนั่นจนแพรวาหน้าถอดสี ไอ้หมอนี่ ดูๆ ไปแล้วก็หน้าตาจัดว่าดีหรอกขาวสะอาดสะอ้านและท่าทาง เก๊กเป็นบ้าแต่ปากหมาเป็นที่สุด เธอชักสงสัยว่าที่นี่มันจะเกิด โรคติด ต่ อ หรือ ถ่ ายทอดมาจากหั วหน้าก๊ ก พวกนี้ ห รือ อย่า งไร ผู้ชายที่นี่ถึงได้ปากจัดกันทุกคน “ไม่ช่วยก็ไ ด้ … ที่นี่มีพ่อ ครัวคนเดียวหรือ คะ” เธอถาม เสียงเบาเหมือนยอมฟังเขาง่ายๆ “ใช่ ที่นี่ผมทาอาหารอร่อยที่สุด ” เขาตอบด้วยท่าทาง ภาคภูมิก่อนรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้านั้นหายไปทันทีเมื่อเธอเอ่ย ออกมา “คุณแน่ใจหรือคะว่าอร่อยที่สุดน่ ะ พวกนี้อาจจะทนกิน 44


โดยไม่บอกคุณก็ได้ เพราะถ้าบอกไปแล้วก็ต้องโดนมาทาแทนละ สิ” แพรวาเผ่นออกมาจากที่นั่นแทบไม่ทันเมื่อตะหลิวที่อยู่ ในมือใหญ่ๆ นั้นลอยละลิ่วตรงเข้าหาเธอทันที หญิงสาวรอดมา ได้อ ย่างหวุด หวิดพร้อ มเสี ยงด่าโขมงตามหลัง …ร่างเล็ กๆ หนี ออกมายื น หอบเสี ย ไกลก่ อ นจะอดหั ว เราะไม่ ไ ด้ กั บ พ่ อ ครั ว อารมณ์ร้ายคนนั้น เสียงหัวเราะของเธอคงดังพอควรเพราะเรียก วิชาญที่เดินตุหรัดตุเหร่อยู่แถวนั้นหันมาหาได้ “ขาอะไรคุณแพร…หรือโดนตะหลิวคุณภพมา เมื่อกี้ผม ได้ยินเสียงด่าซะดังลั่น” “สงสัยจะใช่จ้ะ…พ่อครัวอะไรขี้โมโหเป็นบ้ายังงี้กับข้าว ออกมาไม่ขมปี๋หรือไง” “โอ๊ย อย่าพูดไปนะคุณแพร…คุณภพน่ะทาอาหารอร่อย ที่ซู้ด” “พูดจริงน่ะ” เธอถามเพราะสงสัยว่าหนุ่มคนนี้จะอาเอา อีก “จริงสิครับ คุณภพน่ะเขาเป็นเชฟใหญ่เชียวนะ เรียนจบ มาจากเมืองนอกโน่นถ้าไม่มาอยู่กับพี่เบิ้มป่านนี้ไปอยู่โรงแรม ใหญ่ๆ แล้วมั้ง” แพรวาแทบไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน สรุปว่าที่นี่ไม่ได้มีเฉพาะ พวกเถื่อนๆ สินะ คนที่มีการศึกษาสูงก็มีเหมื อนกันนะนี่ อย่าง น้ อ ยก็ น ายพ่ อ ครั ว จอมโหดหนึ่ ง ละ เมื่ อ สงสั ย หญิ ง สาวจึ ง ตัดสินใจเลียบเคียงถามออกไป “ชาญเธอพอจะเล่าเรื่องของเพือ่ นๆ ที่นี่ให้ฟังได้ไหม ฉัน 45


อยากรู้จักทุกคนน่ะไหนๆ ฉันก็ต้องอยู่กับพวกเธออีกนาน เรา น่าจะทาความรู้จักกันมากกว่านี้นะ” “เล่าได้สิคุณ งั้นเราเดินเล่นไปด้วยดี ไหมครับคุณจะได้ เห็นอะไรใกล้ๆ แถวนี้ด้วย เผื่อเดินเลยไปถึงบ้านของผม” เขา เอ่ยเสียงรื่นเริงก่อนจะออกเดินนาไปก่อน แพรวามองคนข้างๆ ก่อนอดถามขึ้นมาไม่ได้เมื่อเห็นรอยเล็บของตัวเองบนใบหน้านั่น “แผลใกล้หายรึยัง ฉันขอโทษนะที่เราเข้าใจกันผิดน่ะ” “เรื่องขี้ผงครับคุณแพร ผมเคยเจอมาเยอะกว่านี้ไม่รู้กี่ เท่า รอยเท่าแมวข่วนแค่นี้ไม่ระคายผิวผมด้วยซ้า” เขาตอบเสียง ใสจนเธออดยิ้มด้วยไม่ได้ “ผมเล่ า ให้ ฟั ง เลยละกั น ที่ นี่ มี ค นอยู่ สี่ สิ บ ห้ า คน เป็ น ผู้ชายทั้งหมด” “สี่สิบห้าเชียวรึ ทาไมฉันเห็นแค่สักยี่สิบได้” “ก็ทางานกัน มังครับ ทาแล้วก็กลับบ้านไม่ได้ออกมาที่ เรือนใหญ่ พวกที่คุณเห็นน่ะก็เป็นคนที่พี่เบิ้มเรียกให้มากินข้าว เช้าด้วยกันทุกวันที่บ้านไม้ปีก ส่วนตอนเย็นก็บ้านใครบ้านมัน … เรือนใหญ่นั่นมีอยูส่ ามคนคือพีเ่ บิ้ม คุณเพชรแล้วก็คุณภพ ตอนนี้ ก็กลายเป็นสี่เพราะมีคุณแพรอีกคน” “คุณภพพ่อครัวใช่ไหม ทาไมเขาอยู่ที่เรือนใหญ่ล่ะ แล้ว ก็คุณเพชรอีกคน ตกลงสองคนนี่เป็นอะไรกับคุณวาคิมละจ๊ะ” “คุณภพน่ะเป็นญาติหา่ งๆ กับพี่เบิ้ม ส่วนคุณเพชร…เป็น รุ่นน้อง” “รุ่นน้องเหรอ…รุ่นน้องจากที่ไหนแล้วเขาไม่มีบ้านหรือ อย่างไรถึงมาอยู่ที่นี่” 46


“ผมพูดไม่ได้หรอกครับเรื่องคุณเพชรเนี่ย พี่เบิ้มบอกว่า ถ้าพูดมากเจ็บ” เขาตอบทั้งหัวเราะแต่แพรวากลับหัวเราะไม่ออก เธอ เริ่มปะติดปะต่อกับสิ่งที่ได้รู้มาก็ยิ่งไม่เข้าใจในเมื่อกริชเพชรไม่ใช่ ญาติทาไมจึงเป็นเจ้าของไร่ร่วมกับเขาไปได้ “ชาญ คุณวาคิมนี่เขาเป็นคนที่นี่ตั้งแต่เกิดหรือเปล่า” “เปล่ าครับ คุณ แพร บ้านพี่ เบิ้ม อยู่ ก รุงเทพฯ โน่น แต่ เท่าที่ผมแอบได้ยินมาเขาเกิดที่อังกฤษน่ะครับอยู่ที่นั่นกี่ปีก็ไม่รู้ แล้วก็ย้ายกลับมากับแม่ใหญ่ ผมหมายถึงคุณแม่ของพี่เบิ้มน่ ะ ครับท่านมีบริษัทใหญ่ที่ กรุงเทพฯ ตอนนี้น้องชายพี่เบิ้มเป็นคน ดูแลอยู่ ผมรู้เท่านี้ล ะครับคุณแพร ถ้าอยากรู้มากกว่านี้ต้องไป ถามพี่เบิ้มเอง” “ใครจะกล้ าถามล่ ะ เดี๋ยวโดนด่า กระจาย” หญิงสาว ตอบอุบอิบก่อนคิดอะไรเงียบๆ ถ้าวาคิมเป็นเหมือนที่หนุ่มข้างๆ พูดให้ฟังจริง แสดงว่า เขาก็ไม่ใช่เล่นเพราะดูจากฐานะแล้วถือว่ารวยมากคนหนึ่ง แต่ ทาไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ ทั้งๆ ที่น่าจะดูแลหรือทางานที่ กรุงเทพฯ ด้วยซ้า ในเมื่อเธอให้ค าตอบไม่ไ ด้สัก อย่างสิ่ งที่ทาได้ก็คือ เก็บ ข้อมูลไว้เท่านัน้ เสียงเรียกจากคนด้านข้างทาให้หญิงสาวต้องหัน ไปมองอีกครั้ง “คุณแพรครับ เย็นวันนี้ถ้าคุณไม่อยากมีเรื่องกับคุณภพ อีกรอบ…ผมบอกไว้เลยนะว่าอย่าไปยุ่งกับอาหารการกินของเขา คุณภพเธอจะขนอะไรมาก็อ ย่าไปช่วย คุณมีหน้าที่กิน ก็กินไป อย่างเดียว ไม่งั้นเดี๋ยวเป็นเรื่องอีก” 47


“เขาหวงงานของตัวเองขนาดนั้นเชียว” “แน่ น อนครั บ ประมาณว่ า ครั ว ข้ า ใครอย่ า แตะ ” ชายหนุ่มตอบทั้งหัวเราะคึกคึก “เขาทาอย่างอื่นเป็นอีกหรือเปล่าเนี่ยนอกจากทาอาหาร ฉันว่าแปลกๆ ยังไงไม่รู้เห็นผู้ชายสวมผ้ากันเปื้อนมันพิกลอยู่ ถ้า ใส่ชุดเชฟในโรงแรมก็ไปอย่าง” “อย่าไปดูถูกฝีมือคุณภพเชียวนะครับนั่น นอกจากควง ตะหลิวได้เร็วแล้ว ยิงปืนแม่นยังกับจับวาง ฝีมือพอๆ กับพี่เบิ้ม นั่นแหละคุณแพร” เสียงรื่นเริงที่บอกมาทาให้แพรวาคอย่น “สงสัยฉันต้องห่างๆ ไว้คงจะดี…อ้อ ชาญฉันไม่ได้ชื่อเล่น ว่าแพรนะจ๊ะ นั่นน่ะชื่อน้องสาวฉันเอง ฉันชื่อแพรวาก็จริงแต่ชื่อ เล่นว่าไหมน่ะ” “อ้าวไหงงั้นละครับ นี่ตกลงผมก็เรียกคุณผิ ดมาตลอด มิน่าเวลาเรียกทีคุณดูงงๆ ชอบกล” “ฉันก็งงจริงๆ นั่นแหละ ยายแพรน่ะเขาชื่อจริงว่าแพร พลอย ชื่อเล่นก็เลยเรียกว่าแพรส่วนฉันชื่อแพรวามันมาจากผ้า ไหมแพรวาน่ะ” “งั้ น ผมเรี ย กคุ ณ ว่ า คุ ณ ไหมนะครั บ …แต่ ต อนนี้ เ รา กลับกันดีกว่าใกล้หกโมงแล้วเดีย๋ วพีเ่ บิ้มรอคุณแย่” ชายหนุ่มเอ่ย ชวนพลางเดินกลับมาส่งหญิงสาวถึงหน้าบ้านก่อนจะเดินหายไป ในความสลัวของยามเย็น กริชเพชร ส่วนพี่เบิ้มของพวกนั้นนั่งอ่านหนังสือเล่นในขณะที่รอ 48


หนุ่มร่างสูงเดินเข้าเดินออกเพื่อเรียงอาหารลงบนโต๊ะแพรวารู้สึก ประดั ก ประเดิ ด ชอบกลที่ มี ผู้ ช ายมาเสิ ร์ ฟ อาหารให้ กิ น ถึ ง ที่ อยากจะลุกไปช่วยบ้างเพื่อผ่ อนคลายความเกร็งและเครียดแต่ เมื่อนึกถึงคาเตือนของวิชาญเธอก็ไม่กล้ากระดิกไปไหน ดวงตาคมปลาบของคนที่ ตั ก สปาเก็ ต ตี้ ใ ส่ จ านท าให้ แพรวาต้องก้มหน้าลงก่อนเอ่ยขอบคุณเสียงเบา เมื่อ ทุกอย่าง เรียบร้อยชายหนุ่มก็ถอดผ้ากันเปื้อนออกก่อนจะเดินมานั่งตรง ข้ามเธอ “วันนี้ทาอะไรทานนี่ภพ น่ากินจริง” วาคิมวางหนังสือ พลางมองอาหารเบื้องหน้า “อาหารอิตาเลี่ยนน่ะคิม …วันนี้เราไปท้ายไร่มา เจอทั้ง มะเขือเทศกับผักอีกเยอะแยะเลยเก็บๆ มาทานี่ให้กิน อาจไม่อยู่ ท้องนะเลยทาอย่างอื่นเพิ่มด้วยมีคาร์โก้กับสเต็กอีกนิดหน่อย” ชายหนุ่มเอ่ยตอบก่อนจะมองหน้าหญิง สาวที่นั่งตรงข้ามนิ่งและ ถามเสียงเรียบ “คุณรักษาหุ่นหรือเปล่า” “มะ ไม่ค่ะ…” หญิงสาวตอบเสียงรัวเพราะตกใจที่อยู่ๆ เขาหันมาถามเธอเข้าให้ “งั้ น ก็ท านได้ สิ น ะ ผมเห็ น ผู้ ห ญิ ง ส่ วนใหญ่เ จออาหาร อิตาเลี่ยนโวยวายทุกคน บ่นแต่ว่าแคลอรี่สูง” “ถึงแคลอรี่สูงก็ยอมละค่ะงานนี้ คุณทาอาหารน่าทานจัง นะคะทั้งสวยและก็…อร่อยมาก” แพรวาชมเสร็จก็ตักคาร์โก้ใส่ปากคาโต ท่าทางเอร็ดอร่อย ของเธอดูจะทาให้คนทาพอใจไม่น้อยเนื่องด้วยใบหน้าคมนั่นก้ม 49


หน้าลงเพื่อซ่อนรอยพร่างในแววตาตัวเองเมื่อเห็นหญิงสาวเคี้ยว ตุ้ยๆ แพรวาไม่สนใจใครอีกต่อไป เธอแทบไม่ได้กินอะไรมาทั้ง วันเพราะมัวฉุกละหุกกับการเตรียมของเมื่อมาเจออาหารอร่อย จากเชฟฝีมือดีขนาดนี้หญิงสาวก็เลยตั้งหน้าตั้งตาทานอย่างเดียว เสี ยงห้าวๆ ที่ดังขึ้นทาให้หญิงสาวชะงักนิด หน่อ ยก่อ นจะเริ่ม ทานอีกครั้งทั้งอดแอบฟังไม่ได้… “ภพนายไปทาอะไรที่ท้ายไร่” “ไปทาหน้าที่แทนนายละมั้ง” ชายหนุ่มเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้าเสียง เรียบสนิทแต่ท่าทางคล้ายกวนนิดๆ ด้วยสายตาที่มองคนตัวโต กว่าเหมือนเตรียมหาเรื่องเต็มที่ หญิงสาวเห็นสายตาที่มองกัน ของทั้งคู่ก็ชักหวาดๆ จนต้องก้มหน้าลงพลางภาวนาอย่าให้เกิด เรื่องอะไรขึ้นในระหว่างที่เธอนั่งอยู่ตรงนี้ แพรวามัวตกใจจนลืม มองคนด้านข้างไปสนิท ถ้าเธอมองสัก นิด ก็จ ะเห็นดวงตาวาว โรจน์ของกริชเพชรได้ทันที “ภพ เรื่องนั้นมันไม่เกี่ยวกับนายเลยนะนายจะมาแขวะ เราท าไม นายจะไปท าอะไรก็ เ รื่ อ งของนายเราเพี ย งแต่ ถ าม ธรรมดาๆ เท่านั้น” วาคิมเอ่ยเสียงห้วนจัดทั้งวางช้อนทันที “เราทาในสิ่งที่นายน่าจะทามาตั้งนานแล้ว …ถึงนายจะ คิดว่าเราเสือกก็ช่าง แต่ที่เราทาเพราะมันเป็นสามัญสานึก วันนี้ มันครบปีแล้วนะคิมที่คุณ…” “หยุดพูดเสียที นี่มันโต๊ะอาหารนะอีกอย่างคนอื่นก็นั่ง อยู่ด้วย” 50


วาคิม เอ่ยแทรกเมื่อ ญาติห นุ่ม ทาท่ารวนไม่เลิ ก แต่อีก ฝ่ายเหมือนพู ดแล้วก็หยุดไม่ได้เพราะร่างสูงนั้นลุกขึ้นก่อนเอ่ย เสียงเย็นเยียบ “เพราะอย่ างนี้ ไ งคิ ม เราถึง ต้ อ งไป…ถ้ ามั ว แต่ ร อนาย วิญญาณเขาคงไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดเพราะมันคงเฝ้าวนเวียนอยู่ที่ นายนั่นแหละ เมื่อไหร่นายจะไปหาเขาเสี ยทีเราไม่เข้าใจเลย นะคิม นายทาอะไรตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา แค่ไปตรงนั้นมันจะทา ให้นายตายรึไง” “ไตรภพ ฉันบอกให้หยุด” วาคิมเอ่ยเสียงดุดันพอๆ กับ สีหน้าที่เครียดขึ้ง “ไม่โว้ย…วันนี้ยังไงเราก็จะพูด เราทนมาตั้งปีแล้วนะคิม ทนเห็นนายเป็นบ้าทางานหามรุ่งหามค่าเพราะคิดถึงเธอ ในเมื่อ นายรักเธอทาไมนายถึงไม่ไปหาเธอที่หลุมนั่น แค่ไปให้เธอเห็น บ้ า งก็ ดี แ ล้ ว ไม่ ใ ช่ เ รอะ…” เสี ย งพู ด รั ว ของไตรภพหยุ ด ชะงั ก หายไปกลางคันในขณะที่แพรวาร้องกรี๊ดเพราะตกใจ ร่างสูงของไตรภพหงายลงไปกับ พื้น ทั้งเก้าอี้เมื่อวาคิม ประเคนกาปั้นเข้าหาด้วยความเร็ว และจากนั้นทั้งคู่ก็กอดรัดฟัด เหวี่ยงกันชุลมุนจนแพรวาทาอะไรไม่ถู ก ในขณะที่หญิงสาวลุก ขึ้นยืนและทาท่าจะเรียกกริชเพชรเข้าไปช่วยห้ามคนด้านข้าง กลับนิ่งไปจนหญิงสาวอุทานเสียงดังลั่น “คุณวาคิม คุณภพ…หยุดก่อนคุณเพชรแย่แล้วค่ะ” “เพชร…เพชรเป็นอะไร” วาคิมปล่อยคอเสื้อญาติหนุ่ม ก่อนลุกพรวดขึน้ มาทันควัน ภาพที่เห็นทาให้วาคิมใจหายก่อนจะ ด่าไตรภพดังลั่น 51


“เพราะนายทีเดียวนายภพ…นายมันปากหมา ไม่รู้อะไร เสือกพูด ตามมานี่เร็วๆ โว้ย” วาคิม จับ ร่ างชายหนุ่ ม ที่นั่ งคอพั บ คออ่อ นขึ้ น พาดไหล่ ก่อนจะวิ่งเร็วๆ หายไปในห้องด้านข้างพร้อมกับไตรภพที่วิ่งตาม ไปทั น ควั น ปล่ อ ยให้ ห ญิ ง สาวยื น ตกตะลึ ง พรึ ง เพริ ด อยู่ ที่ โ ต๊ ะ อาหารเพียงคนเดียว ร่างสู งนั้นนอนนิ่งเงียบอยู่บ นเตียงจึงหัน มาหาญาติห นุ่ม ที่ยืน หน้าเผือดอยู่ด้านข้าง…ร่างสูงใหญ่นั้นยืนเงียบอยู่เป็นครู่กว่าจะ เรียกไตรภพเสียงเบา “ภพ นายน่ า จะต้ อ งคุ ย อะไรกั บ เราหน่ อ ยเสี ย แล้ ว กระมัง…ไปห้องเราดีไหม” ไตรภพเดินนาหน้าไปทันทีด้วยความสงสัย เขาไม่เข้าใจ จนนิ ด เดีย วว่ าท าไมจู่ ๆ ไอ้ ห มอนั่ น ถึ งเป็น ลมง่า ยดายเหมือ น ผู้หญิงไปได้ มันน่าจะมีสาเหตุอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเรื่องที่ตวั เอง พูดแน่นอน เมื่อเข้าไปในห้องและนั่งเรียบร้อยวาคิมมองใบหน้า ที่แดงช้าและริมฝีปากที่ แตกนิดๆ ของอีกฝ่ายก็เอ่ยขึ้นมาเสียง นุ่มนวล “ขอโทษนะที่เราทากับนายแบบนี้ ความจริงไม่อยากทา เท่าไหร่หรอกเพียงแต่ไม่อยากให้นายพูดต่อหน้าเพชรเขา” “มันเกี่ยวอะไรกับนายเพชรด้วย เรื่องที่เราพูดมันเป็น เรื่องระหว่างนายกับกฤติกา” “เกี่ยวสิภพ นายไม่รู้อะไร…เรื่องนี้มันนานมาแล้วความ 52


จริงเราไม่อยากจะพูด เราอยากให้มันจบๆ ไปเสียที แต่นายก็พูด ขึ้นมาจนได้…เราจะเล่าให้นายฟังนะภพแล้วก็หวังว่านายจะไม่ พูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก เรื่องกฤติกานั่นมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด เราไม่ เคยรักเธอ ไม่เคยเลย” “นายพูดจริงรึคิมแล้วทาไมจดหมายนั่น…” “จริง…เราไม่เคยรักใคร ไม่รักแม้แต่แม่กฤติกาอะไรนั่น หน้าของเธอเป็นยังไงเราจาไม่ได้ด้วยซ้า เธออาจจะรักเรานะภพ แต่มันเป็น…เรื่องน้าเน่ากระมัง เธอรักเราแต่ดันลืมคนที่รักเธอ ไป” “นายหมายความว่ายังไง” ชายหนุ่มถามน้าเสียงงุนงง “เพชรไง…เพชรคือคนที่รักเธอ เขาหลงรัก เธอมานาน ส่วนกฤติกา…กลับมาสนใจเราแทนประมาณสองหรือสามเดือน ก่อนที่จะเกิดเรื่องนะภพ วันนั้นเราไม่อยู่บ้านส่วนยายกฤติกาก็ เขียนจดหมายฝากมากับเด็กของไร่เขา ให้เอามาให้เรา นัดให้เรา ไปหาที่บ้านเล็กท้ายไร่ เขาเขียนมาว่ามีเรื่องจะพูดด้วย ตอนนั้น เพชรมันโทรไปบอกเราและถามว่าจะทาอย่างไร ความที่เรายุ่ง มากจนไม่มีเวลาคุยเราก็เลยบอกเพชรไปว่าแล้วแต่เ ขา แต่ถ้า อยากไปก็ไป ไปแล้วก็ฝากบอกเธอด้วยว่าเราไม่ต้องการให้เธอ มายุ่งด้วย…ส่วนเขาจะสารภาพรักกันยังไงก็แล้วแต่” “นายหมายความว่าคนที่ไปหาคุณกฤติกาคือนายเพชร ยังงั้นเรอะ” “ใช่ เขาไปหาเธอเพราะไอ้ชาญมันเห็นตอนนายเพชร ขี่ม้าออกไปจากไร่…หลังจากนั้นเราก็ยังไม่รู้เรื่องเพราะกลับมาก็ ลืมๆ ไปมารู้อีกทียายกฤติกาอะไรนี่ก็ตายแล้ว” 53


ไตรภพถึงกับหน้าเผือ ดเมื่อ เพิ่งรู้เรื่อ งราวทั้งหมด เขา อ้าอึ้งอยู่นานกว่าจะอุทานออกมา “พระเจ้ า …มิ น่ า เราพู ด ถึ ง เรื่ อ งนี้ น ายเพชรถึ ง กั บ ช็ อ ก แล้วนายไม่รู้จริงๆ เรอะว่าเกิดอะไรขึ้นที่บ้านหลังนั้นบ้าง” “ไม่รู้เพราะเราไม่ได้สนใจเขานี่ อีกอย่างเราไม่ชอบยุ่ง เรื่องของชาวบ้านเราไม่ได้ไปสุงสิงกับใครนายก็รู้” “นายมั น ซวยเป็ น บ้ า คิ ม …เราจะบอกให้ น ะคิ ม คุ ณ กฤติกาเธอกินยาฆ่าตัวตาย แต่ข่าวลับๆ บอกว่าเธอท้องเสียด้วย ตอนตายน่ะและที่สาคัญ เธอถือจดหมายฉบับนั้นไว้แน่น” วาคิมแทบไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน ชายหนุ่มถึงกับอึ้งไปนาน กว่าจะเอ่ยเสียงแหบออกมาได้ “ภพ…เราเพิ่งรู้นะว่าทาไมคนไร่นั้นถึงได้เกลียดเราเสีย ขนาดนี้ เขาคงคิดสินะว่าเราไปทามิดีมิร้ายลูกสาวเขาไว้” “นายเชื่อไหมว่านายเพชรคือพ่อของเด็กในท้องน่ะ” “เราไม่รู้ มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้นะภพ…นายเพชรอาจจะ แค่ไปพบเธอแล้วกลับ เธออาจจะท้องกับคนอื่นหรือเปล่าเราไม่ แน่ใจ” “ทาไมนายไม่ถามนายเพชรมันละคิม” “ก็เราบอกแล้วว่าไม่เคยรู้เรื่องท้องอะไรนี่ เราไม่ได้สนใจ เพิ่งมารู้ก็จากนายเมื่อครู่นี้เองเราจะไปถามได้ยังไง อีกอย่างถ้า เขาไม่ไ ด้ทาจริงมันไม่ยิ่งทาให้เ ขาเสียใจมากขึ้นรึ ถ้ารู้ว่าคนที่ ตัวเองรักโดนข่มขืนจนท้องน่ะ” ไตรภพถอนใจแผ่วยาวด้วยความเหนื่อยใจ เรื่องที่ปิดบัง ซ่อนเร้นมานานนับ ปีเขาเพิ่งรู้ความจริงในวันนี้ ไฟแค้น คุกรุ่น 54


ระหว่างสองไร่ทเี่ งียบจนผิดปกติเริ่มคุโชนขึ้นมาจนเขาเองสังเกต ได้เมื่อไปท้ายไร่ ภาพคนงานจานวนมากที่ยืนเรียงรายหน้าบ้านน้อยหลัง นั้น พร้ อ มพี่ช ายของกฤติ ก าที่ยื น บงการซ่อ มแซมด้ว ยใบหน้ า เคร่งเครียดพร้อมคามั่นสัญญาจะทวงความแค้นกลับคืนทาให้ เขาร้อนใจจนระเบิดขึ้นมากลางวงอาหาร และนั่นมันกลายเป็น การเปิ ด เผยเรื่อ งราวที่ เขาไม่ เคยรู้ม าก่ อ น ชายหนุ่ม ขยับ ร่า ง ชะโงกเข้าหาร่างสูงใหญ่นั่นก่อนจะเอ่ยเสียงแหบ “คิม นายต้องระวังตัวแล้วนะ วันนี้เราเห็นพวกมันทา อะไรกันบางอย่างที่ท้ายไร่ ไอ้อธิวัฒน์มันสัญญากับน้องสาวมัน ในหลุ ม ว่าจะตามทวงคืน ทุก อย่างให้กับ เธอ ถ้าทุก คนที่ไ ร่นั้น เหมาว่านายเป็นสาเหตุเพราะไอ้จดหมายบ้าๆ นั่น ไร่เราลุกเป็น ไฟแน่” “เราไม่ใช่คนผิดเราจะกลัวทาไมภพ อย่างมากก็ตายกัน ไปข้าง” วาคิมเอ่ยเสียงกร้าว “มั น ก็ถู ก ที่ น ายไม่ไ ด้ ผิ ด แต่ ค นที่ ไ ร่นั้ น จะรู้ เ รอะ…อี ก อย่างเราถามหน่อยเถอะคิมนายจะซื้อที่ข องพวกมันทาไม นาย คิดเรอะว่าพวกนั้นจะขายให้” ไตรภพเอ่ยถามด้วยความสงสัย แต่ต้องขนลุกเกรียวเมื่อ อีกฝ่ายให้คาตอบที่คาดไม่ถึง “เราจะบอกให้นะภพ สาเหตุที่เราจะซื้อเพราะเราอยาก ได้ที่ตรงหลุม ศพแม่นั่น เราอยากเอาเธอขึ้นมาเผา เราสงสาร เธอน่ะถึงแม้เราจะไม่ได้รักเธอก็เถอะ อย่างน้อยเธอก็รักเรา ยิ่ง เรารู้ว่าเธอท้องเราต้องซื้อที่ตรงนั้นแล้วเผาเธอให้ได้ แล้วเราจะ 55


เผาบ้านหลังนั้นให้หมด เราไม่อยากจะเก็บไว้ …อาจจะจริงของ นายที่ ว่ า วิ ญ ญาณของเธอคงไม่ ไ ด้ ผุ ด ไม่ ไ ด้ เ กิ ด เธออาจจะ วนเวียนอยู่แถวนั้นเพื่อรอใครบางคน แต่คงไม่ใช่เราแน่นอน… ส่วนจะขายรึเปล่ าเราก็พ อจะรู้อ ยู่บ้างว่าคงล าบากเราถึงจ้าง บริษัทมาจัดการให้ยังไง บริษัทนี้เขาเก่ง ฉลาดเรื่องการโยกย้าย ทรัพย์สินและเจ้าของ” “นายไม่กลัวเด็กนั่นจะทาพลาดเรอะคิม เราดูแล้วเธอ ต๊องๆ ยังไงไม่รู้…อายุก็ไม่มากไม่น่าจะหลอกล่อไอ้พ วกนั้นได้ สาเร็จ” ไตรภพวิจารณ์ทั้งทาหน้าท้อแท้ขึ้นมา “ได้ สิ น่ า เชื่ อ มื อ เธอเถอะ…ยายนี่ มั น รอบจั ด เราสื บ ประวั ติ กั บ นายวุ ฒิ ม าหมดแล้ ว แม่ นี่ มื อ วางอั น ดั บ หนึ่ ง ของ สานักงานเชียวนะ เรื่องยากขนาดไหนขอให้เงินถึงเธอยอมทาทุก อย่าง” “ขอให้เป็น อย่างนั้น เถอะคิม เราจะพยายามเชื่อ นาย ว่ะ…แต่นายอย่าลืมเรื่องที่ เราเตือนนะคิม บอกไอ้พวกนั้นด้วย ระวังตัวกันไว้บ้าง อ้อแม่นั่นอีกคนยุ่งไม่เข้าเรื่องดีนัก วันนี้เกือบ โดนตะหลิวเข้าหัวไปแล้วดันทะเร่อทะร่าเข้าไปที่ห้องครัวได้ ” เขาบอกทั้งหน้ามุ่ย “ขอบใจ เดี๋ ย วเราจะไปดู เ พชรมั น หน่ อ ยนายไปพั ก เถอะ…วันนี้เลยอดทานของอร่อยเลยนะเรา” “ช่างมัน เถอะน่าคิม พรุ่งนี้จ ะทาให้ใหม่ แต่เราก็ว่าคุ้ม นะคิมเราจะได้หายโกรธนายสักทีอึดอัดมาเป็นปี นายนี่มันบ้า ชิบเป๋งปล่อยให้เราแอบแช่งอยู่ได้ มีอะไรไม่ยักบอก” “ใครจะไปรู้ ล ะวะ บ้า ชิ บ ผู้ ห ญิ งคนเดีย วเล่ น เอาคนที่ 56


เหลือเป็นร้อยเดือดร้อน นี่ขนาดไม่ได้รักยังเป็นเรื่ องซะขนาดนี้ สงสัยถ้าเรามีแฟนสักคนคงได้ป่วนกันทั้งจังหวัด ” วาคิมเอ่ยด้วยความเซ็งจัดก่อนจะเดินออกจากห้องของ ตัวเองไปพร้อมกับคนด้านข้างที่มีท่าทางสบายอกสบายใจกว่า ตอนเข้ามาถึงแม้ว่า บางส่ วนจะยัง อดคิด ไม่ไ ด้ว่าปั ญ หาที่เกิ ด อาจจะต้องลุกลามไปบ้างก็ยังดีที่ผู้ชายที่ตนเองรักและนับถือคน นี้ไม่ได้ก่อ

57





Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.