ผู้เขียน bigger พิสูจน์อักษร วีณ ปก-ศิลปกรรม amany พิมพ์ครั้งที่ 4 สิงหาคม 2556 (ในรูปแบบ e-book)
จากใจ bigger กลลวงรักภาคสองนี้ผู้เขียนได้รับแรงบันดาลใจและแรงยุ มาจากนักอ่านในภาคแรก ซึ่งจากคาพูดดังกล่าวที่อ้างไปข้างต้น น่าจะทาให้ผู้อ่านเข้าใจผู้เขียนได้พอสมควรว่าเป็นคนอย่างไร เรื่องราวในภาคนี้สนุกมากขึ้นเพราะตัวละครที่มากและความรัก ที่มีหลากหลายรูปแบบ จนบางครั้งเมื่อผู้เขียนแต่งจบแล้วอดคิด ไม่ได้ว่าอาจจะมีนักอ่านบางคนที่มีความรักคล้ายๆ กับตัวละคร เหล่านี้บ้าง เมื่อใดที่ความรักบางครั้งยังต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมชิงไหวชิงพริบ กั น อยู่ เมื่ อ นั้ น ความสนุ ก ก็ จ ะคงอยู่ กั บ นิ ย ายเรื่ อ งกลลวงรั ก ต่อไป…ขอให้มีความสุขกับการอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ เพราะ เป็นเรื่องที่ผู้เขียนชอบมากๆ สุดท้าย ขอบคุณเจ๊นี่เช่นเดิมที่ช่วยทั้งทาน ทั้งอาร์ตเวิร์ก ทั้ ง ท าปก และขอบคุ ณ นั ก อ่ า นทุ ก ท่ า นส าหรั บ แรงใจที่ มี ใ ห้ เสมอมาค่ะ ด้วยรัก bigger
1 ผมบลอนด์ซึ่งนั่งทางานด้วยความขะมักเขม้นต้องเงยหน้าขึ้นทัก พร้อมรอยยิ้มที่คุ้นเคย “คุณพอล ต้องการพบท่านประธานหรือคะ” “ครับลีน่า ท่านว่างหรือเปล่า” “ว่างค่ะแต่อีก 10 นาทีนะคะ หลังจากนั้นก็เชิญคุณพอล เลยค่ะ อ้อลีน่าลืมบอกไป ท่านอารมณ์ไม่ค่อยดี” “ผมเห็นไม่ดีทั้งปีอยู่แล้วนี่” ลีน่าหรือลาลีน่า หัวเราะชอบใจกับคาพูดของชายหนุ่มที่ ยืนยิ้มอยู่ตรงหน้า เธอชอบอัธยาศัยของเขามากทีเดียว ถ้าไม่ติด ว่าแต่งงานแล้วก็ค งจะลงสนามเพื่อ แย่งชิงผู้ ช ายคนนี้ ถึงเป็น คนต่างชาติก็เถอะ แต่ถ้านับรวมๆ แล้ว เขาเป็นคนที่น่าสนใจมากๆ ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลาจนติดสวยนั่น ถ้าไม่นับดวงตาที่ดูดุเวลา ทางาน ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาเพราะเขาเป็นทนายความต้องมี ดวงตาที่ข่มขู่อยู่แล้วเป็นบางครั้ง บวกกับเรือนกายสูงใหญ่เท่าๆ
กับคนชาติเธอทีเดียว สิ่งสาคัญที่สุดคือเขาเป็นสุภาพบุรุษเต็มตัว อ่อ นโยน และใจเย็ น สมกับ อาชี พ ของเขา นี่ ต่า งหากที่ผู้ ห ญิ ง ต้องการ “เรื่องชวนเครียดหรือเปล่าคะพอล” “นิดหน่อย เรื่องเดิมๆ” ชายหนุ่มพูดยิ้มๆ ก่อนจะดึงเสื้อสูทซึ่งพาดไว้ที่แขนซ้าย ขึ้นมาสวมให้เรียบร้อย เขารู้นี่นะว่าถึงจะเป็นญาติกันแต่อีกฝ่าย ก็มักต้องการให้ทุกคนเรียบร้อยเสมอเวลาเข้าพบ ซึ่งเขาเองก็ เป็ น คนที่ ไ ม่ คิ ด มาก เพราะถ้ าคิ ด จุ ก จิ ก กับ เรื่ อ งแบบนี้ เ ขาคง ประสาทไปอีกคน “โชคดีนะคะพอล หวังว่าคงไม่มีอะไรร้ายๆ” “ผมก็หวังอย่างนั้น ขอบคุณลีน่า” ปณพลสูดลมหายใจ ลึก จนไหล่ก ว้างเหยียดตึงแล้ วเดิน ตรงเข้าห้อ งที่อ ยู่เบื้อ งหน้า ทันที “สวัสดีครับท่าน” ร่างสูงค้อมศีรษะลงให้หลังกล่าวคาทักทาย พลางเดินไป นั่งที่ชุดรับแขกเมื่ออีกฝ่ายผายมือเชิญ เขาเหลือบมองชายหนุ่ม สูงวัยกว่าเล็ กน้อยที่นั่งหน้าเครียดอยู่ที่เดิม เป็นครู่กว่าร่างสู ง ใหญ่นั่นจะเดินตรงมานั่งไขว่ห้างตรงข้ามกัน ดวงตาสีน้าเงินจัด มองเขานิ่งอยู่นานกว่าจะพูดออกมาได้ “คราวนี้มันทาอะไรอีก ไปนอนกับใคร” “ผู้หญิงที่ทางานในบริษัทท่องเที่ยวน่ ะครับ แต่เธอเป็น คนไทย” “คนไทยอย่างนั้นเหรอ” 6
ปณพลเห็ น ดวงตาสี น้ าเงิ น เข้ ม เปล่ ง แสงวาบก่ อ นจะ หายไปในพริบตา ร่างสูงที่นั่งเอนหลังพิงเบาะเต็มตัวเกร็งขึ้นมา ก่อนจะถามเสียงห้วน “เขาว่ายังไงบ้าง” “ใครครั บ ท่ า น คุ ณ ครี ส หรื อ ว่ า เธอ” ชายหนุ่ ม ถาม น้าเสียงสงสัย “เธอสิ คนอย่างมันจะมาถามทาไม นายก็น่าจะรู้ว่าต้อง ตามเช็ดตามล้างให้มันมากี่ครั้ง ฉันเองก็เคยบอกมันว่าอย่าไปยุ่ง กับผู้หญิงไทย ปัญหามันเยอะ ถ้าเจอคนที่คุยง่ายก็สบายไป แต่ ถ้าไปเจอคนที่เรื่องมาก มันนั่นแหละที่จะเสีย แล้วนี่มันเป็นเรื่อง แล้วใช่ไหมนายถึงมาหาฉัน” เจ้าของร่างสูงกระชากเสียงห้วนจัด “ครั บ ท่ า น ผู้ ห ญิ ง คนนั้ น บอกว่ า ท้ อ งจะให้ คุ ณ ครี ส รับผิดชอบ เธอติดต่อมาทางผมเพราะคุณครีสไม่ยอมพบ พอผม ถามไปที่เขาเขาก็บอกว่าเขาไม่ได้เป็นพ่อเด็ก” “แล้วตกลงความจริงเป็นยังไง” “ไม่ทราบแน่ชัดครับ แต่เธอก็มีผู้ชายเยอะ” “งั้นก็เอาเงินให้ไป” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงห้วนก่อนจะลุกขึ้น “ผมบอกผู้ ห ญิ งไปแล้ ว เธอก็ต กลง แต่ ปั ญ หามัน อยู่ ที่ คุณครีส เพราะเธอไม่ยอมจ่ายเธอบอกว่าสนุกด้วยกันไม่จาเป็น ต้องให้” ร่างสูงใหญ่ที่ลุกขึ้นและทาท่าจะเดินจะกลับที่โต๊ะทางาน หยุดชะงัก ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็นเยียบ “ถ้าไม่จ่ายก็ตอ้ งมาเคลียร์เองไม่ใช่ให้มายุ่งกับเรา ตอนนี้ มันอยู่ที่ไหน” “บาร์โรดิโอครับท่าน” 7
“มันก่อเรื่องแล้วยังมีอารมณ์เที่ยวอีกหรือนี่” ปณพลเห็นร่างสูงนั้นกาหมัดทั้งคู่ไว้แน่น ก่อนจะคลายออก แล้วกาใหม่คล้ายระงับอารมณ์ตัวเอง แค่นี้เขาก็รู้แล้วว่าฝ่ายนั้น เดือดแทบปะทุปานใด เขาเห็นผู้ช ายคนนี้ม าตั้งแต่เด็ก ถ้านับ ตามศักดิ์เขาเองต้องเรียกท่านว่าอาด้วยซ้า แต่การเรียกแบบนั้น ก็สามารถทาได้ถ้าอยู่ที่บ้าน แต่เมื่ออยู่ที่ทางานก็ต้องว่ากันไป ตามหน้าที่ การวางตัวที่เหนือกว่าคนอื่นตั้งแต่เด็กทาให้ใครๆ ไม่กล้า ที่ จ ะยุ่ ง กั บ เขา ยิ่ ง โตมาความฉลาดเป็ น กรดรวมทั้ ง นิ สั ย ที่ ค่อนข้างอามหิตทาให้ทุกคนห่างผูช้ ายคนนี้ไปโดยปริยาย ยกเว้น ก็แ ต่ ต นเองกระมั ง ที่ เข้ า หาเขาติ ด ที่ สุ ด เพราะมั ก ถู ก เรี ย กใช้ บ่ อ ยๆ อาของเขาคนนี้ ห น้ า ตาดี ต ามพั น ธุ ก รรมของตระกู ล เสียอย่างเดียวไม่เคยยิ้มให้ใครเห็น จนเขาเองก็เคยคิดว่าท่านคง จะยิ้มไม่เป็น “เดี๋ยวฉันจะไปกับนาย ฉันจะไปลากมันมาคุยให้รู้เรื่อง” ร่างสูงใหญ่นั้นหันกลับก่อนจะเอ่ยเสียงเครียดๆ “งานท่านยังค้างหรือเปล่าครับ” “ค้ า งสิ แต่ ก็ ต้ อ งไป ฉั น ไม่ อ ยากให้ อ ะไรคาราคาซั ง นายเองก็น่าจะรู้” คิรินทร์ก้าวยาวๆ ไปคว้ากระเป๋าเอกสารได้ก็นามายื่นให้ ชายหนุ่ม ที่ยืน รอ ร่างสู งเดิน น าหน้าออกไปจากห้อ งพลางสั่ ง เลขาเสียงห้วนเมื่อเดินผ่านโดยไม่มองด้วยซ้า “ใครติดต่อมาให้พบผมพรุ่งนี้” “ค่ะท่าน” 8
ลาลิ น่ า รั บ ค าก่ อ นหั น มาหลิ่ ว ตาให้ ช ายหนุ่ ม ที่ เ ดิ น ตามหลัง ปณพลยิ้มรับแล้วเดินตามร่างสูงที่ก้าวยาวๆ แบบคน ทาอะไรรวดเร็วนั่น อยู่ ที่ ไ หนแล้ ว เพื่ อ นๆ ที่ ม าด้ ว ยกั น ไปไหนกั น หมด หญิ ง สาว ลุกพรวดขึ้นก่อนจะร้องลั่น “กรี๊ด!! ไอ้บ้า นายเป็นใคร มานอนกับฉันได้ยังไง” คีตภัทธลืมตาขึ้นมาเพราะเสียงแสบแก้วหูจนลั่นเปรี๊ยะ ร่างสูงใหญ่ที่นอนคว่าอยู่ลุกขึ้นพลางเหลียวไปหาเจ้าของเสียง แหลมเสียดประสาทนั่น เขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งนั่งเบียดร่างจน ชิด กั บ หั ว เตี ย ง มองมาที่ เ ขาด้ ว ยสายตาตื่ น ตระหนก พอเขา ลุกขึ้นนั่งเธอก็เอามือทั้งสองข้างปิดหน้าแล้วกรีดร้องจนเขาแทบ ประสาทเสีย “ปัดโธ่โว้ย จะร้องทาไมวะ เห็นผีรึไง” เขาเอ็ ด ตะโรเสี ย งดั ง ก่ อ นจะคว้ า ผ้ า ขนหนู ม าพั น ร่ า ง เปลือยของตัวเองไว้ลวกๆ จนเธอหยุดร้องไปได้ ก่อนตาโตๆ คู่นั้น จะมองเขาแล้วมองร่างตนเองสลับไปมาหน้าบางใสนั้นเริ่มเหยเก เสียงที่พูดออกมาตะกุกตะกัก “นายเป็ น ใคร ท าไมฉั น มานอนที่ นี่ … แล้ ว นาย…นาย ข่มขืนฉัน” หญิ ง สาวร้ อ งไห้ โ ฮเมื่ อ ก้ ม มองร่ า งตั ว เองที่ มี เ พี ย ง ผ้าขนหนูปิดไว้แค่ผืนเดียว คีตภัทธนั่งมองเธอด้วยความงุนงง เขาเองก็สงสัยว่าทาไมถึงมาอยู่ที่นี่กับผู้หญิงประสาทคนนี้ เขาจาได้ 9
นี่น าว่าก่อ นหน้านั้น ตัวเองอยู่ในบาร์ห รูกลางเมือ งกับ เพื่อ นๆ ที่นัด รวมตั วกัน เพื่ อ เลี้ ย งฉลองสละโสดเพราะไอ้ตั วดี ค นหนึ่ ง กาลังจะแต่งงาน งานเลี้ยงเริ่มไม่นานก็มผี ู้หญิงอย่างว่าที่พวกเขา นั่ น แหละจั ด หามาให้ ไ อ้ เ พื่ อ นตั ว ดี ทิ้ ง ท้ า ยก่ อ นจะไม่ ไ ด้ แ อ้ ม หลังจากนั้นทุกคนก็ดื่มกันจนเมาก่อนจะแยกย้ายกันไปตามห้อง ต่างๆ ที่มีสาวๆ รออยู่ งั้น ก็แสดงว่าเธอคนนี้เป็น สาวอย่างว่า น่ะสิ แล้วถ้าเป็นจริงหล่อนจะมาแหกปากร้องทาไมแบบนี้ “หยุ ด ร้ อ งไห้ ซ ะที สิโ ว้ ย ร้ อ งแล้ ว มั น จะได้ อ ะไรคื น มา ไหม” เขาตวาดเธอเสี ย งดั งเมื่ อ เห็ น หล่ อ นคร่ าครวญไม่ เ ลิ ก ได้ผลเพราะเธอหยุดชะงักไปก่อนจะหันมาเล่นงานเขาแทน “นายมันคนเฮงซวย ปลุกปล้าข่มขืนฉันแล้วยังมาหยาบคาย ไอ้คนทุเรศ” ร่างเล็กๆ นั้นกระโจนเข้าใส่เขาพร้อมทั้งทุบตีเป็นพัลวัน จนชายหนุ่มชักโมโหขึ้นมาบ้าง แขนแข็งแรงใหญ่ด้วยมัดกล้าม รัด ร่างเธอไว้แน่นก่อ นจะพลิ ก ลงด้านล่ า งแล้ วกดตรึงไว้ทั้งตัว พลางพูดเสียงหอบๆ “เธอมันขายตัวอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ แล้วจะมาคร่าครวญ เอาอะไรไม่ทราบ” “ไอ้บ้า ฉันไม่ได้ขายตัวนะ ฉันมาเรียนที่นี่ ปล่อยฉัน” หญิงสาวดิ้นรนอยู่ใต้ร่างสูงที่กดทับไว้จนแนบไปทั้งตัว ปมผ้ าที่ มัด ไว้ต รงหน้า อกท าท่ าจะหลุ ด จนเธอต้อ งหยุด ชะงั ก ตาสี น้ าเงิน เข้ ม มองจนทั่ วหน้า บางใสก่ อ นจะพู ด เหมื อ นเยาะ ขึ้นมาอีก 10
“เรียนบ้าอะไรในนี้ ผู้หญิงที่อยู่ที่นี่ฉันเห็นขายตัวทั้งนั้น ถ้าไม่ขายเธอจะมาอยู่ในห้องกับฉันได้ยังไง” “ฉันบอกว่าไม่ได้ขาย ไม่ขายเข้าใจไหม” เสียงท้ายของเธอหายไปทันควันเมื่อคีตภัทธนอนมองเธอ อยู่เป็นครู่ ร่างนิ่มๆ ที่อยู่ใต้ร่างตัวเองมันเชิญชวนแปลกๆ จนอด ไม่ได้ ยิ่งเธอมาตีโพยตีพายแบบนี้เขาก็เลยอยากลองขึ้นมาบ้าง ปากเรียวกดกระแทกลงบนปากนุ่มที่กาลังด่าเขาฉอดๆ จนเธอ เงียบเสียงก่อนจะเริ่มคลึงไล้รุกรานเอาตามใจชอบ ร่างบางๆ นั่น หยุดชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะเริ่มดิ้นรนต่อสู้อยู่ใต้ร่างเขา ยิ่งเธอดิ้น เขาก็ยิ่งกอดรัดแรงขึ้น ริมฝีปากบดเบียดประทับหนักหน่วงแล้ว แยกริมฝีปากอิ่มเต็มของเธอออกด้วยปากของเขา แค่ลิ้นอุ่นชื้น สอดลึกลงไปร่างที่นอนอยู่ใต้ร่างเขาก็แข็งทื่อ หญิงสาวเบิกตากว้าง ภาพใบหน้าคมจัดที่อยู่ใกล้ทาให้ ตาลายจนต้องพริ้มเปลือกตาลง กลิ่นวิสกี้จางๆ ในปากเขาพรู เข้าปากเธอ ยิ่งลิ้นที่สอดลงมาลึกล้าแล้วกวาดไล้ก่อนจะรัดพัน กับลิ้นเธอไว้แนบแน่นนั้นยิ่งทาให้มึนเมาจนร่างบางสั่นสะท้าน มือเรียวเลื่อนลงต่าแล้วกระตุกผ้าที่รัดอกเธอไว้ก่อนจะกอบกุม อกอวบไว้เต็มกา แค่สัมผัสเขาก็ต้องแปลกใจ ความนิ่มนวลจาก เนินเนื้อนุ่มผิดไปจากที่เคยสัมผัส คล้ายกับว่าอกคู่นี้ไม่เคยมีใคร ได้แตะต้องมาก่อน ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งหวั่นไหวจะให้หยุดมันก็ยาก สุดท้ายเขาก็รกุ เธอหนักขึ้นเรื่อยๆ เขาจูบปากอิ่มหวานจนพอใจ ก่อนจะเลื่อนปากลงต่าไปตามลาคอขาวนวล ร่างบางสะท้าน ตามริม ฝีปากเขาที่ล ากผ่านไปตามจุดต่างๆ จนถึงอกขาวผ่อ ง ชายหนุ่มแนบปากลงชิดแล้วรวบยอดอกตูมไว้ในอุ้งปากตัวเอง 11
เขาได้ยิน เธอครางเสียงแผ่วก่อ นจะตัวอ่อนระทวยลง ยิ่งปาก ร้อนๆ ดูดรัดเธอยิ่งสั่นระรัวไปทัง้ ตัว เสียงเธอห้ามเขาดังมาได้ยิน แว่วๆ ในโสตประสาทที่อื้ออึงด้วยไฟสวาทรุมร้อน ใครจะไปหยุด ได้ในเมื่อเธอหอมหวานไปทั้งตัวแบบนี้ ชายหนุ่มปลุกเร้าร่างเธอจนลุกเป็นไฟ ก่อนจะวางมือเรียว เหนือกลางร่างเธอแผ่วๆ หญิงสาวสะดุ้งเฮือก มือบางคว้าข้อมือ เขาไว้แน่นพร้อมทั้งดึงออก คีตภัทธกดมือตัวเองลงเนินเนื้อนุ่ม แล้วคลึงเคล้าตามอาเภอใจ หญิงสาวห้ามเขาเสียงระรัว ก่อน อุทานเสียงแหลมเมื่อความร้อนชื้นอย่างหนึ่งแทรกสอดลงกลาง ร่าง สะโพกสวยเกร็งสะท้านก่อนจะยกลอยเพราะมือแข็ง แรงที่ จับตรึงไว้แน่นแล้วยกหาปากของตัวเอง หัวสมองเธอหมุนคว้าง จับ ต้ น ชนปลายไม่ ถูก อารมณ์ บิด เกลีย วจนแทบคลั่ ง เมื่ อ ลิ้ น ร้อนๆ แทรกสอดลงมาเป็นจังหวะ ก่อนจะรุกล้าชวนหวามใจ ร่างบางแอ่น หยัดขึ้นหาริม ฝีปากที่แนบอยู่อย่างสุดทน มือบางกดตรึงไหล่กว้างไว้แน่นเมื่ออารมณ์ใคร่ถูกกระพือโหม จากริมฝีปากที่คลุกเคล้าต่อเนื่องก่อนจะจิกเล็บลงรุนแรงพร้อม เสียงหวีดร้องเมื่อลิ้นร้อนๆ แทรกสอดเข้ามารัวเร็วจนอารมณ์ ที่บิดเกลียวถูกกระชากจนขาดผึง สะโพกสวยในมือเขาอ่อนยวบ จนรู้ สึ ก ได้ หน้า คมจัด ยิ้ ม นิ ด ๆ อย่า งพึ งใจเมื่ อ มองร่า งที่ น อน ระทดระทวยดุ จ สิ้ น แรง หน้ า บางใสแดงจั ด และหายใจหอบ สะท้าน เขาเลื่อนร่างตัวเองขึ้นทาบทับเธอไว้ทั้งตัวพลางกระซิบ แผ่วหวาน ตาสีน้าเงินเข้มจัดจ้า “ฉันไม่เคยเจอใครเป็นแบบเธอเลยที่รัก ทาไมถึงแสดง เก่งแบบนี้ทาเหมือนกับว่าไม่เคยก็เก่ง ทีนี้ฉันขอลองบ้าง ว่าถึง 12
เวลานั้นเธอจะแสดงได้ดีหรือเปล่า” หญิงสาวแทบไม่ได้ยินเสียงที่เขาพูด อารมณ์พิศวาสที่ ไม่เคยรู้จักและได้รับการปลดปล่อยไปเมื่อครู่ยังมีผลต่อเนื่องให้สติ ไม่อยู่กับตัว กว่าจะรู้สึกก็ต่อเมื่อมือแข็งๆ ที่สอดเข้ามาใต้สะโพก มนแล้ วยกขึ้น หาร่างแข็งแกร่งนั่น ความร้อ นและแข็งกร้าวที่ สอดแทรกเข้ามาทาให้ต้องลืมตามองเขา หน้าคมเข้มที่อยู่เหนือ เธอเกร็งเครียดจนรู้สึก ได้ กว่าจะรู้เขาก็เข้ามาอยู่ในตัวเธอได้ เกือบครึ่ง หญิงสาวเริ่มดิ้นรนเมื่อรู้ว่าเขากาลังจะทาอะไร ร่างบาง ดิ้นเร่าแต่ก็ไม่พน้ เพราะเขากดสะโพกเธอไว้แน่นเพื่อรองรับร่างที่ กาลังรุกล้าลงมา เมื่อไม่เห็นทางรอดเธอก็เริ่มร้องไห้อย่างเสีย ขวัญ มือบางผลักดันอกกว้างให้พ้นตัว ชายหนุ่มที่กาลังรุกราน เธออยู่ ตั ว แข็ ง ทื่ อ ขึ้ น มากะทั น หั น เมื่ อ รู้ ว่ า ความร้ อ นผ่ า วของ ตัวเองที่สอดแทรกลงไปในความคับแน่นอุ่นจัดนั้นเจออะไร หน้าคม ซีดเผือดก่อนจะผลักร่างเธอออกทันควัน พร้อมๆ กับประตูห้อง ที่ถูกตบดังโครมๆ ร่ า งสู ง ใหญ่ ที่ ท าบทั บ เธออยู่ แ ข็ ง ทื่ อ ไปชั่ ว ครู่ นั ย น์ ต า สี น้ าเงิ น ที่ จ้ อ งมองหน้ า บางใสซึ่ ง เปื้ อ นน้ าตาขุ่ น มั ว ด้ ว ยแรง อารมณ์พิศวาสขาดตอน ชายหนุ่มคิดด้วยความมึนงง เป็นไปได้ อย่ า งไรที่ ผู้ ห ญิ ง หากิ น จะยั ง คงความบริ สุ ท ธิ์ ผุ ด ผ่ อ งอยู่ แต่ หลั ก ฐานจากร่ า งกายเธอมั น เด่ น ชั ด จนต้ อ งเชื่ อ อารมณ์ ที่ กระเจิดกระเจิงเมื่อครู่ถึงจะเหือดหายไปบ้างเพราะตกใจ แต่ร่าง อ่อ นนุ่ม ที่อ ยู่เบื้อ งล่ า งก็ทาให้ต้อ งใช้ค วามพยายามอย่างมาก กว่าจะถดถอยร่างกลับคืน เสียงประตูห้องดังถี่รัว กระตุ้นให้เขา 13
ต้องเคลื่อนกายลุกขึ้นจนพ้นร่างนั้น หญิงสาวตาลีตาลานลุกได้ ก็คว้าผ้ามาคลุมร่างเปลือยขาวผ่องก่อนจะนั่งร้องไห้โฮอยู่ตรงนั้น คีตภัทธยังไม่ทันคิดที่จะทาอะไรประตูห้องก็เปิดผาง ร่างสูงใหญ่ ที่ ยื น หน้ า ถมึ ง ทึ ง อยู่ ห น้ า ห้ อ งท าให้ เ ขาถึ ง กั บ ปวดหั ว ตุ บ ตุ บ ขึ้นมาทันควัน “กลับบ้าน แล้วไปพูดกันให้รู้เรื่อง” เสี ยงกัม ปนาทดังจนห้อ งแทบสะเทือ น หญิ งสาวที่นั่ ง ร้องไห้สะอึกสะอื้นหยุดชะงักไปก่อนจะเริ่มร้องขึ้นมาใหม่จนเขา แทบประสาทกิน นั่นก็พี่ นี่ก็ยายเด็กขี้แย ทาไมวันนี้ดวงเขามัน ถึงซวยไม่รู้จักจบจักสิ้นก็ไม่รู้ คิรินทร์เหลือบสายตาคมปราบมองหญิงสาวนั่ง ร้องไห้ สะอึกสะอื้นอยู่บนเตียงด้วยความเบื่อหน่ายก่อนจะควักกระเป๋า ออกมาหยิบเงินโดยไม่นับแล้วยัดใส่มือชายหนุ่มด้านข้างพยัก หน้ า ไปทางหญิ ง สาวครั้ ง หนึ่ ง ปณพลเดิ น เข้ า ไปในห้ อ งเมื่ อ รับทราบคาสั่งขณะที่คีตภัทธลุกขึ้นมาสวมกางเกงหน้าตาเฉยจน หญิงสาวปิดหน้าไว้ด้วยความอับอายทั้งยังร้องไห้ไ ม่ยอมหยุด เมื่อร่างสูงไปหยุดใกล้ เขาก็พูดเสียงอ่อนโยน “เอาเงินนี่ไปนะคุณ ถ้าไม่พอก็บอกมาผมจะให้เพิ่ม” “สัตว์ พวกคุณมันสัตว์ชัดๆ” หญิงสาวบริภาษเขาเป็นภาษาไทยชัดเปรี๊ยะจนปณพล ถอนใจยาว…เป็นเรื่องอีกจนได้ผู้หญิงไทยอีกแล้ว แค่เบนสายตา ไปหาอาหนุ่มที่ยืนนิ่งอยู่หน้าห้อง เขาก็เห็นรายนั้นกัดฟันกรอด จนแก้มกระตุก พอหันกลับมาเธอก็เล่นงานเขาต่อทันควัน “เขาข่มขืนฉันแล้วคุณยังมาเอาเงินฟาดหัวอีกรึไง” 14
พลอยไพลินด่าเขาเป็นภาษาอังกฤษด้วยน้าเสียงสั่นเครือ และโกรธเกรี้ยวเพราะคิดว่าทั้งหมดเป็นคนต่างชาติ ก็คนที่รังแก เธอตาสีน้าเงินจัดขนาดนั้น “ฉันไม่ได้ขม่ ขืน ใครจะไปรู้ว่าเธอไม่เคย แล้วมาอยู่ทาไม ที่นี่ คนดีๆ ที่ไหนเขามาอยู่กัน ” คีตภัทธเถียงเธอกลับหน้าแดง เพราะชักโมโหคนพูดไม่รู้เรื่อง “ฉันไม่ได้มากับนายนะ นายเอาฉันเข้ามาต่างหาก ไอ้คน เฮงซวย” “เธอมันก็ผู้หญิงก๋ากั่น ถึงกล้าเข้ามาที่นี่” คิรินทร์ยืนมองทั้งคู่ทะเลาะกันชั่วครู่ก่อนจะสูดลมหายใจ ลึกเพราะแทบระงับความโมโหไม่อยู่ ก่อนจะพูดเสียงดุเย็นเยียบ “ตกลงกันดีๆ ฉันให้เวลา 10 นาทีนายครีส แล้วออกไป หาฉัน” ร่างสูงใหญ่เดินออกไปทั้งหน้าตาโกรธจัด โดยไม่สังเกต คนที่ยืนอยู่ใกล้หญิงสาวสักนิดว่าตอนนี้หน้าตาเขาตกใจเพียงใด ปณพลเพิ่ ง เห็ น เธอชั ด ๆ เพราะความสลั ว ของห้ อ งท าให้ เ ขา ไม่สังเกตแต่แรก เมื่อเห็นชัดเจนชายหนุ่มถึงกับครางเสียงเบา “คุณพลอยไพลิน วิชชุภาใช่ไหม” หญิ ง สาวที่ นั่ ง เอาผ้ า ห่ ม คลุ ม ตั ว ไว้ เ งยหน้ า มองผู้ ช าย หน้าสวยที่อยู่ด้านข้างด้วยความสงสัย คราแรกเธอคิดว่าพวกนี้ เป็ น คนต่ า งชาติ แต่ ผู้ ช ายคนนี้ เ ขากลั บ พู ด ภาษาไทยกั บ เธอ หญิงสาวพยักหน้ารับแค่นั้น ชายหนุ่มด้านข้างก็เดินห่างออกไป หาคนที่กาลังแต่งตัวด้วยกิริยากระแทกกระทั้นด้วยความโมโห “ครีส นายก่อเรื่องแล้วรู้ ไ หม ผู้หญิงคนนี้เป็นนักเรียน 15
ทุนของบริษัทนายรู้หรือเปล่า” คีตภัทธเม้มปากแน่น เมื่อจาได้ว่าเธอพูดอะไรไว้ แต่ตอน นั้นเขากลับไม่เชื่อถือเสียนี่ “แล้วนายจะให้เราทายังไง อย่าบอกนะว่าให้รับผิดชอบ เรายังไม่ได้ทาอะไร…หมายถึง เรายั้งตัวเองได้ทันน่ะพอล เธอยัง ไม่มีอะไรเสียหาย” ตาสี น้ าเงิ น เข้ม ตวัด มองสาวน้ อ ยบนเตี ยงเขาเห็ น เธอ ถลึงตากลับมาจนกลั้นหัวเราะเกือบไม่ทัน ยายนี่กวนประสาท เขาเป็นบ้า “แต่เธอพูดปาวๆ ว่านายข่มขืนเธอ” ชายหนุ่มถามเสียง ทุ้มลึ กเหมือนซัก ฟอกตามนิสั ย ทั้งมองญาติห นุ่ม เขม็งเหมือ น จับผิด แต่อีกฝ่ายก็มองตาเขาไม่หลบก่อนพูดเสียงหนัก “เราบอกว่ายั้งทันก็ทันสิ พอลนายก็เป็นผู้ชายนายน่าจะ เคยนอนกับผู้หญิงมาบ้างล่ะ เราไม่รู้ว่านายเคยยั้งได้หรือเปล่า แต่เราทาได้ เราไม่เคยยุ่งกับผู้หญิงบริสุทธิ์เพราะไม่ชอบ สาหรับ คนนี้เราบอกได้ว่าเธอยังเหมือนเดิม” ปณพลหน้าร้อนขึ้นมาบ้างเพราะความกระดาก…ไอ้หมอ นี่มันพูดเรื่องแบบนี้ไม่อายปากซะด้วยสิ แล้วเขาจะทายังไงทีนี้ จะบอกเธอว่าอะไร…ความเป็นทนายทาให้ต้องพูดกับเธอออกไป ตรงๆ ทั้งๆ ที่ไม่อยากพูด “คุ ณ พลอยไพลิ น ผมถามเขาแล้ ว เขาบอกว่ า คุ ณ ยั ง เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเสียหาย” หญิงสาวได้ยินชายหนุ่มหน้าตาใจดีคนนี้พูดออกมา เธอ ก็เหลียวขวับไปมองผู้ชายตัวสูงที่มองเธอด้วยสายตากรุ้มกริ่มนั่น 16
ด้วยความโกรธจัด “พูดออกมาได้ยังไงว่าฉันยังเหมือนเดิม ก็นาย…นาย… ฮือ” คีตภัทธถึงกับประสาทเสีย ทาไมยัยนี่ช่างร้องไห้ได้ง่าย อะไรปานนั้น ด่าเขาอยู่ดๆี ก็ร้องไห้ออกมาหน้าตาเฉย บอกยังไง ก็ไม่ยอมฟัง นี่เธอรู้เรื่องแบบนี้มากน้อยแค่ไหน หรือว่าไม่รู้อะไร เลยกันแน่ ร่างสูงๆ เดินพรวดเข้าไปใกล้ก่อนจะดึงเธอจนลอย ขึ้นมาทั้งตัวแล้วตะคอกใส่หน้าตาตื่นตระหนกนั่น “ฉันบอกว่าเธอยังบริสุทธิ์อยู่ได้ยิน ไหม ฉันยังไม่ได้ผ่าน เข้ า ไปเลย หรื อ ต้อ งให้ พิ สู จ น์ อีก ครั้ง ก็ ไ ด้ น ะถ้ า เธออยากจะรู้ ขนาดนั้น” มื อ แข็ ง ๆ นั่ น ทิ้ ง ร่ า งหญิ ง สาวโครมก่ อ นจะเริ่ ม ปลด กระดุมเสื้อออก แค่นั้นเธอก็ร้องวี้ด “ครีส นายจะแกล้งเขาทาไม…นายไปได้แล้วคุณอารออยู่ ทางนี้ฉันจัดการเอง ไปสิ” ปณพลตัด ความราคาญโดยการไล่ อีก ฝ่ายไปก่อ นที่จ ะ เป็นเรื่องไปมากกว่านี้ คีตภัทธมองหญิงสาวบนเตียงนิ่ง ก่อนที่ เธอจะทันรู้ตัวมือแข็งๆ ก็ดันหน้าเธอขึ้นแล้วทาบปากลงมาทั้ง รุนแรงและหนักหน่วงเขาจูบควานลิ้นจนหนาใจก็ปล่อยร่างนั้น ออกจนหญิ ง สาวเซไปบนเตี ย งกว้ า ง สายตาคมกริ บ มองเธอ เหมือนจะให้ทะลุไปถึงหัวใจก่อนพูดเสียงนุ่มนวลหยอกเย้า “สักวันเราคงได้เจอกัน คราวนี้ฉันจะลองผูห้ ญิงบริสุทธิ์ดู สักที” “ไอ้บ้ากาม ไอ้…ไอ้…” 17
หญิงสาวด่าไล่หลังไหล่กว้างที่เดินออกไปจากห้องทันควัน เมื่อได้แกล้งเธอสมใจ ปณพลมองหญิงสาวที่นั่งห่อตัวด้วยความ สงสารก่อนจะพูดเสียงนุ่มนวล “คุณพลอยไปใส่เสื้อผ้าก่อนแล้วเราค่อยคุยกันว่าเรื่อง มันเป็นยังไง” “ฉัน ไม่คุย คุณ เป็นใคร…ขนาดคนที่ทาเขายังไม่ส นใจ คุณจะมาพูดทาไม” หญิงสาวลุกขึ้นก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจาย อยู่ทั่วห้องแล้วเดินเข้าไปในห้องน้าทั้งลากผ้าห่มเข้าไปด้วย เธอ เปลี่ ยนเสื้ อ ผ้ า ไม่น านก็อ อกมา เห็น เขายัง นั่งรออยู่ก็โ กรธขึ้ น มาอีก “ฝากไปบอกไอ้คนเฮงซวยนั่นด้วยว่า ที่ฉันเสียไปนึกว่า ให้ทานสุนัข” ร่างเล็กๆ เดินปลิวออกไปจากห้องทิ้งไว้แต่ชายหนุ่ม ที่ นั่งนิ่งก่อนเขาจะหัวเราะออกมาเสียงดังเพราะขากับคาพูดของ เธอ รอยยิ้ ม ที่แ ต้ม ติด ปากค่อ ยๆ เจื่อ นลงกลายเป็น เม้ม แน่ น ขึ้นมาอีกเมื่อนึกได้ คราวนี้เขาไม่รู้ว่าจะมีเรื่องอะไรตามมาอีก หรือเปล่า เธอไม่ใช่ผู้หญิงรักสนุกทั่วไปเสียด้วย ที่สาคัญเธอเป็น หนึ่ ง ในนั ก เรี ย นทุ น ที่ บ ริ ษั ท นี้ จั ด สรรให้ กั บ คนเก่ ง และถึ ง ขั้ น เตรียมงานไว้รอเมื่อเรียนจบด้วยซ้า ชายหนุ่มนั่งคิดด้วยความ กลัดกลุ้มอยู่เป็นครู่กว่าจะออกมาจากห้องนั้น ระทึกขึ้นมาเมื่อนึกถึงไอ้ผู้ชายบ้าคนนั้น เขาบอกว่าเธอยังไม่มี 18
อะไรเสียหายแล้วทีเ่ ขาทาล่ะ มันเรียกว่าอะไร เธอไม่ใช่เด็กทาไม จะไม่รู้ว่าผู้หญิงกับผู้ชายทาอะไรกันบ้างถึงจะไม่เคยเห็นและไม่ เคยทา แต่เธอก็พอรู้ เขาทากับเธอถึงขนาดนั้น ทาไมยังบอกว่า ไม่มีอะไร บ้าชัดๆ นี่หมายความว่าเธอเสียท่าเขาแล้วใช่หรือเปล่า… แค่คิดหญิงสาวก็เริ่มร้องไห้ออกมาอีกครั้งด้วยความเสียใจ เธออุตส่ าห์ถ นอมตัวไม่เคยคิด เลยว่าจะมาเสี ยท่าให้ใครง่ายๆ แบบนี้ แล้วเขาเป็นใครเธอก็ยังไม่รู้ …คราวนี้เธอจะทาอย่างไร… จะท้องหรือเปล่า ร่างบางอ่อนยวบเมื่อ คิดถึงผลลัพธ์ที่อาจจะ ตามมา หน้าบางใสซีดเผือดจนเมื่อถึงที่พักเธอก็เดินโซเซเข้าห้อง เพราะแทบจะเป็นลม หญิงสาวสองคนที่นั่งอ่านหนังสือเล่นอยู่ในห้องเอ่ยทัก เสี ย งใสก่ อ นจะรีบ ลุ ก มาหาเมื่ อ เห็น เพื่ อ นสาวหน้ า ตาท่ า ทาง ดูผิดปกติไปจากเคย “พลอย แกเป็นอะไร ทาไมหายไปตั้งครึ่งค่อนคืน ฉัน ห่วงแกแทบแย่” “นั่นสิ มีธุระอะไรทาไมไม่โทรบอก ปล่อยให้คนอื่นห่วง ไม่ดีรู้ไหม” แล้วทั้งสองสาวก็ต้องตกใจเมื่อหญิงสาวที่ยืนหน้าซีดเผือด ร้องไห้โฮออกมา ร่างบางทรุดนั่งกับพื้นจนทั้งคู่ต้องเข้าไปพยุง ช่วยพร้อมถามน้าเสียงร้อนรน “แกเป็น อะไรนังพลอย ทาไมกลั บ มาก็ร้อ งไห้ ใครทา อะไรแก” “ไอ ฉัน…ฉัน” หญิงสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นเมื่อไม่รู้จะบอกกับเพื่อนสาว 19
อย่างไร…ไอรดา ประคองร่างที่พื้นขึ้นก่อนจะพยุงไปนั่งที่เบาะ กลมนุ่มซึ่งวางอยู่กลางห้องก่อนจะกอดร่างเพื่อนสาวที่ร้องไห้ จนตัวโยนไว้แน่นแล้วถามเสียงนุ่มนวล “ยั ง ไม่ ต้ อ งพู ด ก็ ไ ด้ รอให้ อ ารมณ์ ดี ก่ อ นนะพลอย หิ ว อะไรไหมเดี๋ยวไอหาให้” “ไม่…ฉันไม่อยากกิน ฉันอยากนอนน่ ะไอ ฉันเหนื่อย” หญิ ง สาวบอกทั้ ง สะอื้ น แผ่ ว ก่ อ นจะลากสั ง ขารไปนอนขด บนเตียงตัวเอง แล้ วก็เลยนอนน้าตาริน อยู่แบบนั้น จนหลั บไป ไอรดามองเพื่อ นสาวที่หลับ ไปทั้งน้าตา ความสงสั ยทาให้ต้อ ง สังเกตจนทั่วร่างเพื่อนสาวแต่ก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติไปจากเดิม ก่อนจะถามหญิงสาวหน้าหวานที่นั่งอยู่ไม่ห่าง “ษาแกว่ า ยายพลอยมั น เป็ น อะไร” อุ ษ านิ่ ง ไปนาน กว่าจะพูดเสียงทะเล้นตามนิสัย “สงสัยถูกหักอก” “ษาแกพูดบ้าๆ พวกเราเพิ่งมาไม่ถึงอาทิตย์ยายพลอยจะ มีแฟนจนถูกหักอกแล้วรึไง” “จะไปรู้เหรอไอ มัน อาจจะแอบมีก็ไ ด้ ” อุษ าพูด ก่อ น หัวเราะคิกคักจนเพื่อนสาวมองตาขุ่น “เล่นให้มันรู้กาลเทศะมั่ง ไอ้เรายิ่งห่วงๆ มันอยู่” “โอ๊ย ยายไอ แกก็น่าจะรู้ …ยายพลอยน่ะมัน ร้องไห้ไ ด้ ทุกเรื่องแหละ ฉันยังเคยคิดนะว่า ถ้าต้นไม้ที่มันเลี้ยงอยู่น่ะตายไป มันคงร้องไห้ได้เหมือนกัน” ไอรดามองเพื่อนขวางๆ แต่ก็ยิ้มออกมา ก็พลอยไพลิน เป็นแบบนั้นจริงๆ เธอเป็นคนที่ร้องไห้ง่าย อะไรนิดหน่อยก็ร้อง 20
ได้ เ ป็ น วรรคเป็ น เวร นี่ ไ ม่ รู้ ใ ครท าให้ ส ะเทื อ นใจหรื อ เปล่ า ถึงร้องไห้แบบนี้… หญิงสาวมองเพื่อนด้วยความเป็นห่วง ถึงเธอเพิ่งจะรู้จัก ทั้ ง สองคนนี้ ม าไม่ น าน แต่ ค วามผู ก พั น กลั บ มี ม ากจนเหมื อ น เพื่อนสนิท ก็ตั้งแต่สอบชิงทุนของบริษัทยักษ์ใหญ่ของต่างประเทศ แห่ ง นี้ ไ ด้ เธอทั้ ง สามก็ ถู ก ส่ ง เข้ า อบรมภาษาที่ ป ระเทศไทย เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนจะมาเรียนที่นี่ ระยะเวลาร่วมสามเดือน ที่อยู่ด้วยกันมาทาให้เรียนรู้นิสัยต่างๆ ของกันได้ดี นี่เธอต้องอยู่ กับเพื่อ นทั้งสองคนอีกตั้งสองปีกว่าจะเรียนจบโท คงต้องเจอ สภาพแบบนี้ไปอีกนาน…สงสัยต้องทาใจกับยายขี้แยนี่แล้วมัง สายตาเข้มจัด ยิ่งหน้าคมๆ นั่นทาเหมือนไม่รู้ไม่ชี้เขาก็ยิ่งโมโห… ชายหนุ่มคิดด้วยความเดือดดาลว่านี่เขาจะทายังไงกับมันดีถึงจะ เลิกนิสัยบ้าๆ นี้ได้ ร่างสูงนั่งเงียบอยู่เป็นนานกว่าจะข่มใจกัดฟัน พูดออกมาได้ “ครีส เรื่องเก่านายยังไม่หาย ก็ไปก่อเรื่องใหม่อีกแล้วรึ นี่ใจคอนายจะไม่ยอมหยุดไอ้เรื่องแบบนี้เลยรึไง มันสนุกตรงไหน บอกฉันมาซิ” คนเป็นน้องที่นงั่ ไขว่หา้ งเล่นอยู่ต่อหน้าพี่ชายทาท่าคล้าย เบื่อหน่ายก่อนจะพูดยิ้มๆ “คิง นายจะมายุ่งอะไรกับ เรา นายมีงานก็ทางานไปสิ เรื่องของเราเราจัดการเองได้” แค่ไ ด้ยิน ค าพูด เรื่อ ยๆ ของน้อ งชายกับ ท่าทางไม่ทุก ข์ 21
ไม่ร้อนนั่น ชายหนุ่มก็อารมณ์ขาดผึง ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นก่อนจะ เดิ น เข้ า หาแล้ ว กระชากคอเสื้ อ อี ก ฝ่ า ยขึ้ น มาจ้ อ งตาในระยะ ประชิด ดวงตาสี น้าเงิ น เข้ม จนเกือ บด า มองหน้าน้อ งชายนิ่ ง เหมือนจะแผดเผาด้วยอารมณ์โกรธจัด “ตกลงนายจะไม่ให้ฉันยุ่งใช่ไหม แล้วทาไมยายอะไรนั่น ติดต่อผ่านมาทางนายพอล แบบนี้เหรอที่นายบอกว่าจัดการเอง ได้” “คิง นายเป็นอะไร แค่เรื่องนิดๆ หน่อยๆ นายก็เป็นฟืน เป็นไฟไปได้ ทีเรื่องคอขาดบาดตายทาไมนายเย็น เป็นน้าแข็ง ปล่อยผมก่อนคุณพี่ที่รัก ถ้าผมหายใจไม่ออกแล้วตายไปใครจะ อยู่ให้คุณพี่ด่า” คีตภัทธพูดยิ้มๆ ก่อนจะตบมือพี่ชายที่ดึงคอเสื้อไว้แน่น คนเป็นพี่ถอนใจแผ่วยาวพยายามระงับอารมณ์โกรธเกรี้ยวแต่มัน ก็เกินทน ฝ่ามือแข็งๆ ตวัดตบไปที่หน้าน้องชายทันควัน เพียะ หน้าคมสะบัดไปตามแรงฝ่ามือนั่น และก่อนคีตภัทธจะ ทันตั้งหลักหลังมือของพี่ชายก็ตวัดกลับซ้าอีกครั้ง ฉาด! ปณพลที่ ยื น อยู่ ไ ม่ ห่ า งถึ ง กั บ หั น หน้ า หนี เ มื่ อ เห็ น เลือดออกจากมุมปากเรียวของคนเป็นน้อง เขาไม่เคยเห็นอาของ เขาลงมื อ กั บ น้อ งชายสั ก ครั้ง เดีย ว นี่ ถ้ ารู้ เ รื่อ งของเด็ ก ผู้ ห ญิ ง คนนั้นอีก เขาไม่อยากคิดว่านายครีสจะเป็นแบบใด “นายจาไว้ ถ้าไม่อยากมีเรื่องอีกหยุดมั่วผู้หญิงเสียที” มือ ที่จับ คอเสื้ อ น้อ งชายอยู่ป ล่ อ ยโครมลงทัน ควัน แล้ ว 22
เดิ น หนี ไ ปจนห่ า งคล้ า ยกั บ ว่ า ถ้ า อยู่ ใ กล้ จ ะอดลงมื อ อี ก ไม่ ไ ด้ คีตภัทธลงไปนั่งสะบัดหน้าอยู่ที่เก้าอี้ แต่แทนที่จะโกรธ เขายังมี อารมณ์ยั่วพี่ชายเล่นจนปณพลถึงกับอมยิ้ม “คิง นายเองก็มั่วแต่งานจนลืมไปแล้วมัง้ ว่าโลกนี้มีผู้หญิง สวยๆ น่ารักๆ อีกตั้งเยอะ ทาไมนายไม่ลองไปกับเราสักที เผื่อ นายอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้นะ” คิรินทร์ตาลุกวาบ ก่อนจะหันขวับมาทันควันทั้งสีหน้า และแววตา ปณพลต้องเรียกเบาๆ เหมือนเตือนสติ ทาให้เขา หยุดไปได้ ร่างสูงใหญ่หันกลับก่อนจะคว้าที่ทับกระดาษบนโต๊ะ ทางานของตนเองขว้างเปรี้ยงเข้าผนังเหมือนระบายความโกรธ จนสองหนุ่มสะดุ้งโหยง “ครีส นายมาทางไหนออกไปทางนั้น…ไป” “ครับ ท่านคิง สตัน ผมไปแน่ … อ้อ ลื ม บอกไป…มือ นาย หนักเป็นบ้า” ร่างสูงเดินลอยชายออกไปเหมือนไม่ทุกข์ร้อนจนคนเป็น พี่แทบคลั่งอยู่ในห้อ งก่อ นจะบอกหลานหนุ่ม เสี ยงดุทั้งดวงตา ลุกเรืองไม่หาย “พอลนายตามไปดูมันหน่อย ให้ใครดูแผลให้มันด้วย” “ครับอา…เอ่อแล้วเรื่องของเธอ” “เธอไหนอี ก นี่ อ าจะประสาทเสี ยกับ มัน แล้ วนะ นาย ออกไปก่อนพอลเดี๋ยวเราค่อยคุยกันทีหลัง” ปณพลหมุนตัวเดินออกมาจากห้องทันใจ กว่าจะมาทัน คนที่โดนตบที่ห้องรับแขกกว้างก็เห็นชายหนุ่มนั่งหน้านิ่วคลึงแก้ม ตัวเองอยู่ป้อยๆ จนเขาต้องหัวเราะเมื่อทรุดนั่งลงใกล้ๆ 23
“เป็นไงไอ้ตัวดี ฤทธิ์ฝ่ามือท่านคิงสตันเป็นไงบ้าง” คีตภัทธเหลือบมองคนด้านข้างตาขวางก่อนพูดประชด “ถามท าไมอยากรู้ ก็ ไ ปขอลองสิ … อู ย …เจ็ บ ชิ บ เป๋ ง คนอะไรไม่รู้มือหนักเป็นบ้า” “ก็นายมันกวนไม่เลิกเองนี่หว่า รู้ๆ อยู่ว่าคุณอาขี้โมโห แล้วก็ยังไปแหย่” “ใครจะไปคิดว่าจะตบเราได้ เห็นทุกทีไม่เคยทาสักครั้ง” “นายมันมีเรื่องบ่อยเกินไปครีส ตัวเองผิดยังจะไปยั่ว … นี่เราถามจริงนายคิดยังไงถึงไปพูดแบบนั้นกับอา” ปณพลถามทั้งอดหัวเราะไม่ได้เมื่อนึกถึงคาพูดของคน ช่างยั่ว “พอลนายก็รู้ท่านคิงสตันน่ะเป็นยังไง ร้อยวันพันปีก็มี อารมณ์อยู่แบบเดียว หน้างี้เย็นสนิทเราทาเพราะหวังดีนา” “หวังดี…หวังดียังไงไม่เห็นเข้าใจ” “ไอ้ทนายโง่ นายลองคิดดูสถิ ้าไม่มีเรา รับรองทั้งบ้านทั้ง บริษัทสุดที่รักของท่านคิงสตันนั่นป่านนี้น้าแข็งท่วมจนมองไม่ เห็นแล้ว” “นายก็เลยแหย่เขาแล้วเอาหน้าเข้าไปแลกเพื่อพวกเรา กับพนักงานว่างั้นเถอะ ให้ตายนี่พวกเราต้องขอบคุณนายใช่ไหม เนี่ย” ชายหนุ่มพูดเหมือนประชด “ไม่ ต้ อ ง…นี่ พ อลเราถามหน่ อ ย นายว่ า เรามั่ ว ผู้ ห ญิ ง เหมือนที่คิงพูดหรือเปล่า” ปณพลเจอค าถามแบบนี้ก็นิ่ งไปบ้าง สายตาคมดุจ้อ ง หน้าอีกฝ่ายนิ่งก่อนจะย้อนถาม 24
“นายน่า จะรู้ ตัวดี ความจริง เราเองก็ไ ม่ อ ยากพูด มาก เรื่องนี้มันต่างจิตต่างใจ ตราบใดที่นายจัดการเรื่องทุกอย่างได้เอง โดยไม่ยุ่งมาถึงอา นายก็จะไม่เดือดร้อน แต่มันก็ยุ่งมาถึงจนได้… เกื อ บทุ ก ครั้ ง เสี ย ด้ ว ย ถ้ า นั บ จริ ง ๆ นะครี ส เฉพาะครึ่ ง ปี ม านี่ ห้ารายแล้ วนะที่ ยุ่ง มาถึง เรา เฉลี่ ยนายก่อ เรื่ อ งเดื อ นละคน… ครีส เราอยากรู้จริงๆ ว่านายยุ่งกับผู้หญิงทั้งมีเรื่องและไม่มีเรื่อง มันจะมากขนาดไหน” คีตภัทธนั่งนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะยิ้มกว้างจน ตาหยี “เราจะบอกให้ก็ได้ ผู้หญิงที่เรายุ่งด้วยมันก็เท่าๆ กับมี เรื่องนั่นแหละ ถ้านายว่าครึ่งปีห้ารายก็หมายถึงเรายุ่งแค่ห้าคน” “นายหมายความว่านอกนั้นไม่เคยยุ่งกับใครอีก” “ใช่ ไม่มีไม่เคยยุ่ง…พอล บางครั้งนะเราก็ไม่ได้อยากยุ่ง เท่าไหร่หรอก แต่อย่างว่าแหละพูดไปนายก็จะหาว่าเราแก้ตัว เราไม่พูดดีกว่า เอางี้ต่อไปเราจะยุ่งให้น้อยลงก็แล้วกัน แต่บอก ไว้ ก่ อ นว่ า พวกนายนั่ น แหละจะเจ็ บ ตั ว คอยรั บ อารมณ์ คุ ณ คิงสตันดีๆ ก็แล้วกัน” “นายคิดเหรอว่าถ้านายยั่วเขาแล้วจะทาให้อะไรๆ ดีขึ้น” “พอลนายคิดดูสิ คิงน่ะอายุแค่สามสิบ เขาแก่กว่านาย แค่ ส องปี แก่ ก ว่ า เราสามปี แต่ คิ ง ท าตั ว เหมื อ นเจ้ า ชายที่ ถู ก แช่เย็นอยู่ในหอคอยมาสักห้าร้อยปีได้ นายไม่อยากให้ เขาเป็น คนปกติบ้างเหรอ คนที่มีอารมณ์รัก โกรธ สนุกสนานอะไรแบบนี้ หรือนายชอบที่เขาเย็นยะเยือกแบบนี้…เราไม่ชอบ เราอยากให้ เขามี ห ลายๆ อารมณ์ อย่ า งน้ อ ยมั น ก็ บ อกได้ ว่ า เขาเป็ น คน เหมือนกับเรา” 25
ปณพลนิ่งไปเพราะจนด้วยคาพูด ก็จริงของนายครีสมัน ซะด้วย เพราะเขาเห็นอาหนุ่มเป็นแบบนั้นเหมือนกัน คนที่คล้าย ไม่ใช่คน คนที่ถูกสร้างมาจากน้าแข็ง “เงี ย บแบบนี้ แ สดงว่ า เห็ น ด้ ว ยกั บ เราแล้ ว ใช่ ไหม” คีตภัทธถามเสียงรื่นเริง “น่ า จะจริ ง ของนาย งั้ น เราก็ ข อแสดงความยิ น ดี ด้ ว ย ก็ แ ล้ ว กั น เพราะอี ก ไม่ น าน นายก็ จ ะได้ มี เ รื่ อ งให้ พี่ ช ายนาย อารมณ์ ป ะทุ เ หมื อ นภู เ ขาไฟ คราวนี้ รั บ รองน้ าแข็ ง ที่ ท่ ว มอยู่ ไม่เหลือแม้แต่ซาก” “นายพูดเรื่องอะไร” “เรื่องยายเด็กนั่นไง นี่ลืมแล้วรึ ยายเด็กคนที่เราบอกว่า เป็นนักเรียนทุนของบริษัท คราวนี้แหละนายครีสเอ๋ยถ้าเรื่องรู้ถึง หูคุณคิงสตันนายไม่มีชีวิตรอดแน่ แต่ไม่เป็นไรเราจะทาบุญไปให้ อยากกินอะไรก็บอกมาแต่เนิ่นๆ นะครีส ขอบคุณที่ทาให้ภูเขา น้าแข็งกลายเป็นภูเขาไฟ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” คีตภัทธถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดขึ้นมา เขา จาเธอได้ จาได้ดีเชียวล่ะ…เพราะเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาหยุด ได้ทั้งๆ ที่เคยไม่ทามาก่อน สาเหตุที่หยุดก็อย่างที่ว่าถึงตัวเองจะ คบผู้หญิงมาเยอะ แต่ก็ไม่เคยยุ่งกับสาวที่ไม่เคยเพราะไม่อยาก ให้ มี เ รื่ อ งยุ่ ง ยากตามมา แล้ วเธอดั น มาเป็ น นั ก ศึ ก ษาทุ น ของ บริษัทอีก คราวนี้ถ้าเรื่องเกิดขึ้นมาสงสัยเขาคงตายจริงเหมือน นายพอลมันว่า “นายรู้ไ ด้ยั ง ไงว่า เธอเป็ น นั ก เรี ยนทุน ของบริ ษัท เรา” คีตภัทธถามหน้าตาสงสัย 26
“เราเป็นทนายของบริษัทนะครีส อะไรบ้างที่เราไม่รู้ … เรื่องเด็กพวกนี้เราเป็นคนจัดการมาโดยตลอดตั้งแต่อาคิงบอกว่า จะให้ทุนนักเรียนไทย เราจัดการสอบจนได้มาสามคน ตอนนี้เธอ ทั้งหมดก็มาถึงที่นี่แล้ว และกาลังเริ่มเรียน นายมันซวยเองที่ดัน ไปเจอหนึ่งในนั้น นี่เรายังคิดว่าจะไปดูพวกเธอสักทีว่ามีอะไรขาด เหลือบ้าง นายก็มาก่อเรื่องซะก่อน” คีตภัทธฟังญาติหนุ่มพูดอธิบายยืดยาวก่อนถอนใจเฮือก “ใครจะไปรู้วะ…พอลเราพูดจริงนะ เราไม่รู้จริงๆ ว่ายายนั่น เข้ามานอนกับเราได้ยังไงเราดื่มกันมากเพราะงานฉลองสละโสด นั่น เราแทบจะถูกหามเข้าห้องด้วยซ้า ไม่รู้เรื่องเลยพอตื่นมาก็ เห็นเธอนอนอยู่ด้วย แล้วก็เป็นแบบที่นายเห็น” “ตกลงนายจะเอาไง จะไปดูเธอกับเราไหม” “ไม่ เราไม่อ ยากเห็ น ว่ะ ผู้ ห ญิง อะไรกวนประสาทฉิ บ ร้องไห้ได้ทุกสถานการณ์” “ไม่ร้องสิแปลก ก็นายเล่นทาแบบนั้นใครก็ต้องกลัวกัน บ้างแหละ นายบอกเองไม่ใช่เหรอว่าเธอยังไม่…เอ่อ…ไม่เคยน่ะ” ชายหนุ่มชักกระดากเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ “ใช่ แต่เรายังไม่อยากเจอตอนนี้ …รอให้อารมณ์ดีกว่านี้ เราจะไปเอง ตอนนี้นายไปดูก่อน ก็แล้วกัน” “งั้นเราไปนอนนะครีส เหนื่อยชิบ…นายนี่สุดยอดจอม หาเรื่องให้เราจริงๆ เลย อ้อลืมบอกไป ก่อนจะออกมาจากที่นั่น ยายเด็กคนนั้นฝากบอกนายด้วย” “บอกอะไร” ชายหนุ่ม ถามน้าเสียงเรียบเรื่อ ยก่อนจะ เบิกตากว้างเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูด 27
“เธอบอกว่าที่เสียไปนึกว่าให้ทานสุนัข…” ร่างสูงๆ เดินขึ้นไปชั้นบนทั้งเสียงกลั้วหัวเราะ คีตภัทธ กัดกรามกรอดเพราะความโมโหก่อนจะพึมพาเสียงกร้าว “ยังไม่ได้เสียสักนิด หน็อยพูดออกมาได้ว่าให้ทานสุนัข … เดี๋ยวพ่อก็ทาให้เสียจริงๆ ซะนี่” ชายหนุ่มเอนร่างนอนบนโซฟา ยาวซะง่ายๆ แบบนั้น กว่าจะหลับได้ก็ใกล้สว่างเต็มที เรียบร้อย ร่างสูงๆ ก็เดินแกมวิ่งลงบันไดเวียนโค้งสวยของบ้าน หลังมหึมา ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อสายตาเหลือบเห็นร่างสูงที่นอน คุด คู้อ ยู่ที่โ ซฟา…หน้ าคมขมวดคิ้วมุ่น ก่อ นยิ้ม นิด ๆ นี่แสดงว่ า นายครีสนอนที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืนสินะ เมื่อเดินเข้าไปใกล้ ชายหนุ่ม ก็พิจารณาใบหน้าขาวที่เคราเริ่มขึ้นเขียวซึ่งกาลังนอนหลับอย่าง มีค วามสุ ข นั่น …มัน ช่างเป็น คนกิน ง่ายนอนง่ายไปซะทุก อย่าง จริงๆ เขาอดแปลกใจไม่ ไ ด้ ว่ า ท าไมไอ้ ห มอนี่ ถึ ง ผิ ด ไปจาก เทือกเถาเหล่ากอได้ขนาดนี้ ตระกูลเขาก็ไม่เคยได้ข่าวว่าใครเป็น เพลย์บอยสักคน ร่างสูงที่หยุดนิ่งอยู่ตรงนั้นเริ่มก้าวเดินรีบเร่ง เพื่อจะรีบไปทาธุระที่ตั้งใจไว้เมื่อคืน เธอคนนั้นเขาจะพูดอย่างไร อดคิดไม่ได้ว่าถ้าตัวเองมีน้องสาว แล้ ว ถู ก กระทาแบบนี้ บ้ า งคงแทบคลั่ ง หน้ าคมเริ่ม มี แ วววิ ต ก กังวล และกว่าจะมาถึงที่พักเธอได้เขาก็ถอนใจไม่รู้กี่ครั้ง เมื่อ 28
มาถึงที่หมาย ปณพลก็ต้อ งยืนนิ่งอยู่นานกว่าจะตัดใจกดออด หน้าประตู เขารอด้วยความกระวนกระวายผิดไปจากนิสัยที่เคย นิ่งสงบของตัวเอง หญิงสาวคนหนึ่งเปิดประตูนิดเดียวก่อนจะ เยี่ยมหน้าออกมาถามเขาท่าทางสงสัย “ขอโทษค่ะ คุณมาหาใครหรือคะ” “ผมเป็นทนายของบริษัทคิงสตัน คุณเป็นนักศึกษาทุน ใช่หรือเปล่า” หญิงสาวเบิกตาโตก่อนหัวเราะจนตาหยี เมื่อได้ยินเสียง ห้าวแต่นุ่มนวลนัน้ พูดภาษาไทยชัดแจ๋ว เธอพยักหน้ารับหงึกหงัก แล้วพูดรัวเร็ว “ค่ ะ เชิญ ข้ า งในก่ อ นดีก ว่ า คุณ มาเช้า จั ง นะคะ พอดี ตอนนี้เหลือ ษาแค่คนเดียว ยายไอไปออกก าลั งกาย ส่ วนยาย พลอยไปโบสถ์แต่เช้า” ชายหนุ่ม เดิน ตามเธอเข้าไปในห้อ งก่ อ นหัน รี หัน ขวาง เพราะไม่รู้จะนั่งตรงไหน จนเธอหันมาเห็นแล้วมองเขางงๆ “คุณต้องการอะไรหรือคะ” “คือ ผมจะนั่งตรงไหน” เขาพูดเสียงคล้ายไม่มั่นใจจนเธอชี้หมับที่เบาะกลมเล็กๆ นั่นแหละเขาถึงกับทาหน้าแปลกๆ แต่ก็ยอมนั่งลงหลังจากเอา เบาะมาเรียงกันถึงสามอันก่อนจะบ่นเบาๆ “พวกคุณน่าจะมีชุดรับแขกสักชุด ทาไมขาดเหลืออะไร ไม่ติดต่อผ่านเจ้าหน้าที่” “โอ๊ยเราอยู่กันได้ค่ะ แค่นี้ก็หรูจะตายแล้ว อพาร์ตเมนต์ ที่เช่าให้เราอยู่ก็แสนแพง เราจะกล้าเรียกร้องอะไรอีก” 29
อุษาพูดน้าเสียงรื่นเริง ก่อนจะกุลีกุจอไปหาน้ามาให้เขา ดื่ม ชายหนุ่มกวาดสายตาไปทั่วห้องเหมือนประเมินสภาพความ เป็ น อยู่ ห้ อ งก็จั ด เรี ยบร้อ ยดีแ ต่อุ ป กรณ์ เ ครื่ อ งใช้น้ อ ยเกิน ไป จนต้องน่าจะหาเพิ่มให้ พอหญิงสาวกลับมาเขาก็ยิงคาถามทันที “พวกคุ ณ เรี ย นเป็ น อย่ า งไรบ้ า ง ความเป็ น อยู่ ดี ไ หม เดินทางไปมหาวิทยาลัยยังไง แล้วอาหารการกิน …” เขายังพูด ร่ายยาวไม่ทันจบหญิงสาวก็แทรกขึ้นมาเสียงใสหน้าบ้องแบ๊ว “คุณทนายคะ ษาว่าคุณน่าจะทาแบบสอบถามมาให้เช็ก ดีกว่า ถามแบบนี้ใครจะตอบทัน” ชายหนุ่ ม ถึ ง กั บ สะอึ ก พลางมองเธอนิ่ ง ด้ ว ยดวงตาดุ ๆ เหมือนปรามการพูดเล่นของเธอ แต่หญิงสาวตรงหน้ากลับทาท่า ไม่รู้ไม่ชี้เสียอีก หนาซ้ายังยิ้มหน้าระรื่นให้เขาจนชักโมโห “คุณอุษาใช่ไหมถ้าผมดูรูปแล้วจาไม่ผิด ผมไม่ใช่เพื่อน เล่นของคุณ ที่ผมถามเพราะหน้าที่ถ้าตอบไม่ทันก็ถามมา ทีละ ข้อ” ชายหนุ่มบอกเน้นหนักทีละคา “ค่ะ” ปณพลถึงกับกัดฟันแน่นเมื่อได้ยินเธอตอบสั้นๆ…ผู้หญิง คนนี้ช่างก่อกวนอารมณ์เขาได้แต่เช้า ขนาดเขาที่ว่าใจเย็นแล้ว เธอยังกวนโมโหได้ ทั้งที่ตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะเหตุใด อาจเพราะท่ า ทางเธอที่ ดู เ หมื อ นไม่ ก ลั ว เขาสั ก นิ ด ชายหนุ่ ม พยายามทาใจให้เย็นกว่าปกติก่อนจะถามเธอเสียงดุ “เจ้าหน้าที่โอนเงินเข้าบัญชีพวกคุณแล้วรึยัง” “เรียบร้อยตั้งนานแล้วค่ะ …เอ…เมื่อครู่คุณบอกว่าเป็น ทนาย…คุณมีชื่อให้เรียกหรือเปล่าคะหรือจะให้ษาเรียกคุณว่า 30
คุณทนายตลอด” “คุณพูดมากอย่างนี้เสมอรึไง” ชายหนุ่มถามเสียงห้วนเพราะชักราคาญเธอขึ้นมา ปกติ ตัวเองก็ไม่เคยมานัง่ ตอบคาถามใคร เพราะความเคยชินที่จะเป็น ฝ่ า ยถามมากกว่ า แต่ อ ยู่ ๆ ต้ อ งมานั่ ง ให้ เ ด็ ก นี่ ซั ก เขาก็ ชั ก ไม่พอใจ…แต่นอกจากเธอทาท่าเหมือนไม่เข้าใจว่าถูกเขาตาหนิ ยังมีหน้ามาถามซ้าเสียนี่ “คุณชื่ออะไรคะ” “ปณพล” ชายหนุ่มกระชากเสียงห้วน ร่างสูงเริ่มขยับ ยุกยิกเพราะชักหงุดหงิดขึ้นมาเรื่อยๆ “มีชื่อสั้นๆ ไหมคะ” แล้ ว เขาก็ แ ทบตบะแตกเมื่ อ เธอยิ ง ค าถามเข้ า มาอี ก ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะปล่อยออกมาทั้งเตือนตัวเองว่า ให้ใจเย็นๆ กว่าจะตอบเธอทั้งกัดฟันแน่น “หัดพูดให้น้อยลง คุณจะน่ารักกว่านี้เยอะ” “ขอบคุณค่ะ” หญิ ง สาวกล่ า วขอบคุ ณ เขาไปก็ เ ห็ น ดวงตาด าจั ด เปล่งแสงวาบจนคล้ายจะเจือสีน้าเงินขึ้นมา เธอมองเขาแล้วก็อด ยิ้มไม่ได้ ผู้ชายคนนี้แปลก…ท่าทางสงบนิ่งจนเย็นนั้นเหมือนมี ความร้อนแฝงอยู่ข้างใน มันน่าค้นหาน้อยอยู่หรือ ยิ่งรู้ว่าตัวเอง สามารถทาให้เขาหงุดหงิดได้เธอก็ยิ่งมีความสุข เธอรู้…ว่าเขา เป็นคนหน้าตาดีมากๆ คนหนึ่งเพราะรูปหน้ารวมๆ ของเขาที่ สวยจนเกิ น ชาย แต่ พ อแยกดู ตั้ ง แต่ คิ้ ว เข้ ม ที่ ท อดยาวเหนื อ หน้าผากกว้างรับ กับ ดวงตาคมดุซึ่งน่าจะเหมาะส าหรับเอาไว้ 31
ข่มขู่คู่คดีความ รวมทั้งจมูกโด่งจนขึ้นสันสวยเหนือริมฝีปากแดง จัดนั่นยิ่งน่ามอง ใครจะว่าเธอบ้าก็ชา่ งที่มานั่งสารวจผู้ชายแบบนี้ ก็ใครใช้ให้เขาน่ามองทาไม ปณพลร่าๆ จะซัดยายนี่สักตุ้บ ผู้หญิงบ้า…อยู่ๆ ก็มานั่ง มองหน้าเขาแล้วก็ยิ้มเอาๆ ชายหนุ่มแทบหมดความอดทน ที่สุด เขาก็ตบโต๊ะดังปังจนหญิงสาวสะดุ้งเฮือก มองหน้าเขาเหลอหลา “ดูเสร็จแล้วใช่ไหม คุณนี่นอกจากจะต้องเรียนหนังสือ เพิ่ม ผมว่าเราน่าจะมีคอร์สหัดมารยาทให้คุณด้วย” เขาตั้งใจพูด กระแทกเธอเชียวล่ะ “เหรอคะ น่าจะดีเหมือนกัน พอดีษาเป็นเด็กบ้านนอก น่ะค่ะไม่ค่อยรู้เรื่องมารยาทสังคมตกลงคุณจะให้ษาเรียกว่าคุณ ปณพลตลอดใช่หรือเปล่าคะ” “ใช่ เรีย กแบบนั้น แหละ…พวกคุ ณ ยัง เด็ก ไม่ต้ อ งมาตี เสมอ…” เขากระแทกเสียงดุ “ก็ได้ค่ะ” ชายหนุ่มถึงกับถอนใจยาว เมื่อได้ยินเธอรับคาหน้าตา สดชื่นเสีย อย่างนั้น สงสัยถ้าคุยกับยายนี่วันนี้เขาคงไม่ได้เรื่อง เขาไม่ เ ข้ า ใจจนนิ ด เดี ย วว่ า ตอนนี้ เ ขาพู ด อะไรแล้ ว ท าให้ เ ธอ ไม่เข้าใจตรงไหน จะว่าเธอโง่ก็ไม่น่าใช่ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นก็ ไม่ น่า สอบชิง ทุ น หฤโหดนี้ เ ข้า มาได้ ยกเว้น แต่เ ธอจะแกล้ ง โง่ เพราะเขาเห็นตากลมโตนั่นเต้นวับๆ ทีเดียว “ถ้าพวกคุณไม่มีปัญหาผมก็ข อตัวกลั บ …วัน หลังคงได้ เจอครบทุกคน” หญิ ง สาวท้ ว งเสี ย งดั ง เมื่ อ เห็ น เขาตั ด บทหน้ า ตาเฉย 32
พร้อมร่างสูงๆ ที่ลุกขึ้นทันควัน “อ้าวคุณจะไม่รอยายไอกับกับยายพลอยก่อนหรือคะ” “ไม่ จ าเป็ น ถ้ า คุ ย กั บ คุ ณ นานๆ ผมกลั ว จะเป็ น เรื่ อ ง มากกว่านี้ ผมไปล่ะ” ปณพลเดินลิ่วออกจากห้องทันทีแต่ไม่วายเธอยังตะโกน ตามหลังมาอีกจนได้ “วันหลังพบกันใหม่นะคะคุณทนายขี้เก๊ก” ร่างสูงหยุดชะงักก่อนจะหันขวับกลับมา เขาเห็นเธอยืน ยิ้ม ก่อ นจะส่ งจูบให้เขาแล้ วปิดประตูทัน ที ชายหนุ่ม ถึงกับ กัด กรามแน่ น เพราะความโกรธจั ด นี่ เ ธอเห็ น เขาเป็ น อะไร เขา กลายเป็นเพื่อนเล่นของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ ร่างสูงหันรีหันขวาง ก่อนจะกระแทกเท้าจากไปเพราะความเดือดดาล ทาหน้าแปลกใจเมื่อเห็นญาติหนุ่มเดินโครมๆ เข้ามาทั้งหน้าตา บูดบึ้ง เขาอดมองด้วยความสงสัยไม่ได้ว่า คนใจเย็นแบบปณพล ก็อารมณ์เสียเป็นด้วยหรืออย่างไร ชายหนุ่มถามยิ้มๆ เมื่อฝ่าย นั้นกระแทกร่างลงนั่งแล้วทาหน้าเหมือนโกรธใครมาสักสิบชาติ “เป็นอะไรพอล วันนี้อารมณ์เสียแต่เช้า …นี่เราถามจริง นายโกรธคนเป็นด้วยหรือไง” “เป็นสิ ผู้หญิงบ้า…กวนฉิบ…” คีตภัทธได้ยินอีกฝ่ายบ่น พึมพา เขาก็ถามเสียงรื่นเริง “นายไปเจอลูกความมาหรือไง แล้วเธอพูดไม่รู้เรื่องหรือ พอล” 33
“ไม่ใช่ลูกความ เราไปหาเด็กพวกนั้นมา เรื่องที่พูดกับ นายไว้เมื่อคืน นั่นแหละ แต่เราไปเจอแค่คนเดียว ไม่ใช่คู่กรณี ของนายหรอกนะ เจออีกคน…นายรู้ไหมครีส ยายนี่มันซักฉันยัง กับเป็นทนายเสียเอง พูดมากก็เท่านัน้ แถมกวนประสาทไม่เลิก” คีตภัทธถึงกับยิ้มกว้างเมื่อเห็นชายหนุ่มบ่นให้ฟังยืดยาว เขาอยากรู้จริงว่าเธอที่อีกฝ่ายพูดถึง เป็นแบบไหนถึงยั่วไอ้หมอนี่ ให้อารมณ์เสียได้ “สวยไหมพอล ยายอะไรที่นายว่านี่” คีตภัทธถามยิ้มกริ่ม “ทะลึ่ ง มากกว่ า เป็ น เด็ ก ที่ ท ะลึ่ ง ไม่ รู้ จั ก เด็ ก ไม่ รู้ จั ก ผู้ใหญ่” ชายหนุ่มนึกถึงหน้าบ้องแบ๊วนั้นแล้วก็หงุดหงิดขึ้นมาอีก จนต้องกัดฟันแน่น “มีด้วยเหรอผู้หญิงที่ทะลึ่งน่ะ เราไม่เคยเห็น …นี่ตกลง นายพูดถึงผู้หญิงหรือเด็กผู้ชาย” “ผู้หญิงโว้ย…ผูห้ ญิงทะลึ่ง…หน้าทะเล้น…กวนมือกวนตีน เป็นบ้า” คีตภัทธหัวเราะก๊ากออกมาเมื่อเห็นปณพลออกอาการ คล้ายคนสติแตก “ตกลงตอนนี้นายก็คงเข้าใจเราแล้วใช่ ไหมพอล ที่เรา เห็นยายขี้แยนั่นกวนอารมณ์ เพราะแบบนี้แหละเราถึงไม่อยาก ไปเห็ น เธอ เห็ น แล้ ว มั น พานให้ ห งุ ด หงิ ด อยากจะทุ บ สั ก ตุ้ บ คนอะไรพูดไม่รู้เรื่อง…ดีที่นายเป็นแบบนี้บ้างจะได้เข้าใจเรามั่ง” “เขาไม่เหมือนกันครีส คุณพลอยน่ะน่าสงสารแต่ยายนี่ มันน่าตบ” “พอล…นายอาจจะเห็นยายพลอยน่าสงสารแต่ ฉันเห็น ต่างกับนายว่ะ เอาเป็นว่าเลิกคุยเรื่องพวกนี้ไปก่อน ฉันไม่อยาก 34
อารมณ์บูดแต่เช้า…วันนี้นายจะทาอะไรอีก” “คิ ด ว่ า จะไปคุ ย กั บ คู่ ก รณี เ ก่ า ของนายถ้ า เราว่ า งนะ แต่ ต้อ งถามคุณ อาก่ อ นว่ า มีธุ ร ะอะไรกั บ เราหรื อ เปล่ า นี่ค รี ส นายน่าจะมาช่วยแบ่งเบางานมั่ง แค่ทุกวันนี้เรากับคุณอาก็แทบ จะทาไม่ไหวแล้ว นายไม่สงสารพี่นายบ้างหรือไง เขาทางานงกๆ แต่นายดันหาแต่เรื่องมาเพิ่มให้เขาอีก” พอเริ่มพูดเรื่องงาน ชายหนุ่มก็กลับเป็นคนเก่าอีกครั้ง หน้าบูดบึ้งเมื่อครู่กลายเป็นจริงจังจนคีตภัทธทาท่าเซ็ง “อ้าว อยู่ๆ มาเทศน์กันอีก …นี่จะบอกให้ เราก็มีสามัญ สานึกนะโว้ย ไม่ใช่เอาแต่เที่ยวความจริงถึงนายจะไม่บอก เราก็ คิดเป็น…วันจันทร์ว่าจะไปดูงานเหมือนกัน ไม่รู้คุณคิงสตันจะให้ ทาอะไร” “ไปเลยไม่ตอ้ งรอ ตาแหน่งนายค้างเติ่งมาเป็นชาติแล้ว… แต่สงสัยวันจันทร์เราจะหยุดงาน คงจะดีมั้ง ” ปณพลยิ้มนิด ๆ อารมณ์ชักดีขึ้นมาบ้างเมื่อได้ยินหนุ่มเพลย์บอยพูด “หยุดทาไม” ชายหนุ่มถามงงๆ “ก็วัน นั้น สงสั ยฝนจะตก แผ่ นดินจะไหว หรือ ภูเขาไฟ อาจจะระเบิดเพราะนายครีสไปทางาน น่ะสิ” เขาหัวเราะเสียง ดังในขณะที่คีตภัทธมองตาขุ่น “ทาพูดดีไป เราก็ทางานเป็นนะพอล เพียงแต่ไม่อยาก ทา แต่พอดีช่วงนี้เบื่อๆ ขึ้นมานิดหน่อยก็อยากไปดูบ้าง แต่ไม่รู้ จะทนพี่ชายจอมโหดได้ขนาดไหน…เราถามจริงนายเบื่อเขาบ้าง หรือเปล่าหรือว่าชินแล้ว” ปณพลยิ้มออกมาเมื่อคิดถึงคนเป็นอา ก่อนจะสาธยายให้อีกฝ่ายฟัง 35
“นายต้องลองไปดูเอง เราไม่อยากพูด บอกได้แต่ว่าเวลา เราทางานกับอาคิงน่ะสนุกอย่าบอกใคร ขนาดทนายที่อยู่ระดับ แนวหน้ายังถูก เขาต้อนจนติดมุมมาแล้วไม่รู้กี่ราย ถ้าเป็นไปได้ นายน่าจะอยู่ใกล้ๆ อาคิงจะได้เรียนงาน” “สงสั ย นั่ น คงเป็ น สิ่ ง สุ ด ท้ า ยที่ เ ราจะท า…แล้ ว นี่ คุ ณ คิงสตันไปไหนหรือว่ายังไม่ตื่น” “ออกไปแต่เช้าแล้ว นายพูดเหมือนไม่รู้นิสัยเขา วันหยุด แบบนี้นายก็น่าจะรู้ เขาไปทาอะไร” ชายหนุ่มเอ่ยยิ้มๆ ออกมา ในขณะที่คีตภัทธทาท่ากลอกตาไปมา “นี่ก็อีก…คุณคิงสตันนี่ชอบเล่นอะไรแผลงๆ จ้างเราก็ไม่ เล่นหรอกไอ้กีฬาประเภทนี้” ยืนนิ่งเหนือหน้าผาสูงชันจุดหนึ่งบนเทือกเขาสูง ชายหนุ่มกวาด สายตาไปไกลลิบทั้งเบื้องหน้าที่เป็นอากาศเวิ้งว้างและด้านล่างที่ เป็นป่าไม้เขียวชอุม่ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดลึกยาว คิรินทร์ ยืนนิ่งอยู่ชั่วครู่จนสีทองเริ่มจับขอบฟ้า เขาก็เดินย้อนกลับไปทาง เดิม เมื่อได้ระยะที่ตอ้ งการร่างสูงก็หมุนตัวหันหน้าไปทางหน้าผา แล้ ว ออกวิ่ ง เต็ ม ฝี เ ท้ า เมื่ อ ถึ ง ขอบหน้ า ผา ร่ า งสู ง นั้ น ก็ พุ่ ง ตั ว กระโดดลงไปทัน ที ร่า งสู งใหญ่ ล อยละลิ่ วลงจากหน้ าผาด้ ว ย ความเร็วสูงและรอ…เมือ่ ได้ระยะที่ต้องการและเป็นระยะสุดท้าย ของความปลอดภัย มือ แข็งแรงจึงกระตุก เชือ ก เสี ยงดังพรึ บ เบาๆ ร่มสีสดก็กางแผ่อยู่เหนือศีรษะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด เล็กกว่าร่มซึ่งใช้กันตามปกติชายหนุ่มยิ้มนิดๆ เมื่อร่างลอยอยู่ 36
กลางอากาศ ลมที่ตีกระทบใบหน้าให้ความรู้สึกที่เยือกเย็นแต่ แฝงความอบอุ่นที่เขาโหยหาเมื่อพระอาทิตย์ยามเช้าสาดมาต้อง รอยยิ้มนั้นกระจ่างขึ้นเมื่อมือทั้งคู่บังคับร่มให้ลอยเล่นลมไปเรื่อย ตามแต่ต้องการ ยิ้มที่ใครไม่เคยเห็นนอกจากท้องฟ้าและภูเขา ตลอดจนทุ่งหญ้าเขียวขจีที่รออยู่เบื้องล่างเท่านั้น เขาตวัดสายตา เล็งเป้าที่วางไว้สาหรับลงเมื่อเห็นมาแต่ไกล แต่อะไรสักอย่างที่ ตะคุ่มอยู่แถวนั้นทาให้ต้ องเบิกตากว้าง ก่อนจะอุทานเสียงดัง เมื่อร่มใกล้ถึงพื้น คิรินทร์เห็นแล้วว่าเป็นคน เขาพยายามตะโกน เรียกให้หลบเสียงดังลั่น “ออกไป ผมจะลง” เธอเงยหน้าขึ้นมองไปที่เสียงก่อนทาหน้าตกใจ หญิงสาว ลุกพรวดขึ้นแต่ก็ ไม่ทันเสียแล้ว เพราะร่มตกฟุบจนคลุมเธอไว้ ทั้งตัว มิหนาผู้ชายตัวโตคนนั้นถลาเข้าหาเพราะแรงลมที่ดึงร่ม จนต้องวิ่งตามแล้วชนโครมเข้ากับร่างเธอจนจุก ไอรดาได้ยินเสี ยงเขาสบถดังลั่ น เพราะเชือกร่มพันทั้ง เธอและเขาจนวุ่นวายไปหมดยิ่งเขาดึงมันก็ยิ่งรั้งและรัดแขนเธอ จนเจ็บ หญิงสาวชักโมโหเพราะนอกจากเขาจะไม่ดูดาดูดีเธอ แล้วเขาเอาแต่ด่าโขมงทั้งถูกร่มคลุมไว้อย่างนั้น เพียะ เสี ย งดั ง ก้ อ งอยู่ ใ นร่ ม ที่ ทั้ ง คู่ ถู ก คลุ ม อยู่ กว่ า จะรู้ ตั ว หญิงสาวก็ตบเขาไปเรียบร้อย เธอเห็นเขาหยุดด่าไปได้ แต่หันมา มองเธอแทนด้วยดวงตาสีน้าเงินเข้มจัด ความตกใจทาให้ออกวิ่ง ทั้งพยายามแหวกร่ม ไปด้วย แต่เชือ กที่พันอยู่ทาให้ห งายหลั ง กลับไป ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้าหาก่อนกระชากไหล่เธอทั้งๆ ที่นอน 37
อยู่กับพื้นแล้วตะคอกเสียงดัง “ตบผมทาไม ใครใช้ให้มายืนขวางทางผม” “ใครจะไปรู้ละ่ ว่าไอ้แผ่นนั่นมันเป็นอะไร ฉันเห็นมันวาง อยู่ใกล้ๆ รถที่ไม่มีคนก็สงสัย ทาไมคุณไม่เขียนติดไว้ว่าห้ามอยู่ ใกล้มัน” “แล้วทาไมต้องตบ” เขายังตะคอกเธอไม่หยุด “ก็คุณเอาแต่โวยวาย ฉันเจ็บแขนจะตาย แทนที่จะสนใจ คน คุณเอาแต่เอะอะมันก็ต้องเรียกสติกันมั่ง” หญิงสาวเถียงเขาทั้งสงสัยตัวเองว่าทาไมพูดภาษาอังกฤษ ได้ไฟแลบขนาดนี้ “บอกกัน ดีๆ ก็ได้นี่คุณ ไม่จาเป็น ต้อ งทาขนาดนั้น ถ้า คุณถูกตบบ้างจะเป็นยังไง” เขาบอกเธอเสียงเย็นเยียบตาสีน้าเงินลุกวาบเมื่อมือข้าง หนึ่งยกขึ้นตามคาพูดเหมือนจะตบลงมา หญิงสาวมองตาคมดุจัด นั้นก็ต้องหลับตาลงเพราะคิดว่าไอ้ผู้ชายป่าเถื่อนนี่ต้องซัดเธอสัก เปรี้ยงแน่ๆ ไหนๆ เขาก็จะตบแล้วก็อย่าได้เห็นมันเลย “ลืมตาเดี๋ยวนี้” เสียงห้วนๆ ดังขึ้นใกล้หทู าให้หญิงสาวส่ายหน้ารัวเร็ว ทั้ง หลับตาปี๋…ใครเชื่อก็โง่ “ผมบอกให้ลืมตา ไม่กล้าที่จะเห็นตัวเองโดนมั่งหรือไง… ลืมเดี๋ยวนี้” “ไม่…จะตบก็ตบเลยทาไมต้องให้ฉันลืมตาด้วย…” เธอปฏิเสธเสียงดังลั่นทั้งนอนหลับตาแน่นสนิท เกร็งไป ทั้งตัวเหมือ นรอรับ ฝ่ ามือ ของเขา คิรินทร์เห็นท่าทางเธอก็ชัก 38
หงุดหงิด หน้าคมดุเริ่มเครียดขึ้น มือทั้งคู่ที่รั้งไหล่เธอไว้ทั้งสอง ข้างกระชากขึ้นหาร่างตัวเองที่นั่งคุกเข่าด้านหนึ่งอยู่ หญิงสาว ใจหายวาบแล้วกลั้นหายใจอย่างไม่รู้ตัวเพราะแขนแข็งๆ สอดเข้า รองใต้เอวคอดและไหล่ของเธอไว้แน่นถ้าลืมตาขึ้นเธอไม่แน่ใจว่า ตัวเธอและหน้าเธอจะห่างกับ หน้าเขาแค่ไหน เสี ยงเขาพร้อ ม ลมหายใจร้อนรินลดในระยะใกล้เมื่อเขาพูดเสียงเข่นฟัน “ถ้าไม่ลืมตา ผมจะจูบคุณ” ไอรดาเบิกตาโพลงเหมือนเปิดสวิตช์ หน้าคมขาวจัดลอย อยู่เหนือใบหน้าเธอนิดเดี ยว เมื่อเห็นเธอลืมตา ชายหนุ่มก็ยิ้ม นิดๆ แต่มันช่างเป็นรอยยิ้มที่น่าขนลุกเสียเหลือเกิน “ว่าง่ายๆ ค่อยน่ารักหน่อย” เสียงทุ้มเยือกเย็นคล้ายลอยหมุนวนไปมารอบๆ ตัวทั้งคู่… พร้อมๆ กับหางตาของเธอเห็นเขายกมือขึ้นเชื่องช้าจนอยู่สูงใน ระดับศีรษะของเขา ไอรดามองจ้องตาเขานิ่งก่อนกระซิบเสียงดุ “ถ้าคุณตบฉันครั้งหนึ่ง ฉันจะเอาคืนสองครั้ง” ชายหนุ่ ม จ้ อ งหน้ า บางใสที่ ซี ด เผื อ ดของเธอชั่ ว ครู่ ความรู้สึกโมโหแล่นวาบกระจายทั้งตัว ครั้งแรกไม่ได้คิดจะทา อะไรเธอจริงจัง เพราะอย่างน้อยเธอก็เป็นผู้หญิง แต่คาพูดของ เธอต่างหากที่ทาให้เขาต้องเปลี่ยนใจ มือใหญ่ที่อยู่ใต้ถุงมือหนังสีดา ทาบลงแก้มนวลแผ่วเบาก่อนจะตบลงแปะๆ สองสามครั้ง ความนุ่มละมุนที่ได้รับใต้ถุงมือหนังทาให้เกิดความคิด แล่นชั่ววูบ เขารู้วิธีที่จะแกล้งเธอแล้ว คิรินทร์สะบัดถุงมือออก ก่ อ นจะวางมื อ ตั ว เองลงไปอี ก ครั้ ง …ผิ ว เนื้ อ นุ่ ม อุ่ น ใต้ ฝ่ า มื อ ก่อให้เกิดความรู้สึกที่ประหลาด…ตาสีน้าเงินหรี่ลงจนเรียวเล็ก 39
คล้ายพิศวง…ฝ่ามือแข็งแกร่งลูบไล้แก้มหญิงสาวแผ่วเบาเหมือน เหยียดหยาม ก่อนที่นิ้วหัวแม่มือจะแยกออกแล้วกรีดเบาๆ ไปบน ปากอิ่มเต็มตึงเหมือนท้าทาย ตลอดเวลาที่เขาทา หญิงสาวนอนตัวสั่นสะท้าน หน่วยตา กลมเบิกมองเขากว้างและชิงชัง นิ้วอุ่นที่อยู่บนเรียวปากกดหนัก ลงจนเกิด รอยแยก และเมื่อ เขากดลงหนัก ๆ อีก ครั้งปลายนิ้ว ก็สัมผัสไรฟันขาวที่อยู่เบื้องล่าง พร้อมทั้งลิ้นอุ่นๆ ของเธอ ร่างสูง สะท้านเยือก ดวงตาคมมีแววตกใจก่อนจะปล่อยร่างบางจนหลุด จากวงแขน หญิงสาวเหมือนเพิ่งรู้สึกตัว เธอใช้เท้าดันร่างตัวเอง จนหลุดออกมาและลุกนั่งทั้งหน้าตาตื่นตระหนก เมื่อเห็นเขานั่ง ตัวแข็งทื่อเธอก็ถือโอกาสกระชากเชือกที่รัดแขนออกแรงๆ โดย ไม่กลัวความเจ็บ แค่หลุดได้…ไอรดาตบฉาดลงบนหน้าเขาเต็ม แรงที่ มี ก่ อ นจะทั้ ง แหวกทั้ ง ปั ด ร่ ม ที่ ค ลุ ม ร่ า งอยู่ จ นหลุ ด แล้ ว ออกไปยืนใจสั่นอยู่ด้านนอก เมื่อเหลียวกลับมาอีกครั้งก็เห็นเขา กาลังแหวกร่มออกมา หญิงสาวไม่รออะไรอีกแล้ว สิ่งที่คิดได้ใน ตอนนั้นคือ วิ่ง และวิ่งให้เร็วที่สุด… เสี ย งรถจอดท าให้ คี ต ภั ท ธอมยิ้ ม ก่ อ นจะเปลี่ ย นเป็ น ยักไหล่เมื่อได้ยินเสียงปิดประตูโครมแค่ไม่นาน ร่างสูงในชุดผ้าร่ม ของพี่ชายก็ ปรากฏ ชายหนุ่มเห็นหน้าคมคล้ายมีริ้วรอยความ ไม่พอใจอยู่เต็มเปี่ยม…แล้วเขาก็อดไม่ได้จนต้องแกว่งปากไปอีก ตามเคย “คุณคิงสตันโดดร่มไปกี่รอบครับวันนี้ สงสัยท่าจะน้อย กว่าทุกครั้งเพราะหน้าตาดูไม่สดชื่นสักนิด” “ถามทาไม หรือนายอยากไปกับฉัน ” ตาคมตวัดปราด 40
มองหน้าน้องชายดุๆ “ไม่ไหวละครับ ผมไม่นิยมความสูงเชิญท่านตามสบาย” “ทาไมนายต้องพูดประชดประชันฉันนายครีส” คิรินทร์เอ่ยเสียงห้วนก่อนจะทรุดร่างลงข้างๆ น้องชาย จอมกวน แค่เขานั่ง แม่บ้านก็นากาแฟมาเสิร์ฟทันใจจนคีตภัทธ ยิ้ม ดูเอาเถอะ…พี่ชายเขาเหมือนราชาไม่มีผิด แทบไม่ต้องพูด ทุกอย่างก็ป ระเคนเข้ามา เขาเสียอีกที่ก ว่าจะได้ก าแฟสักแก้ว ต้องเดินไปขอเองแล้วแบบนี้จะไม่ให้เขาเรียกชื่อเต็มของคนเป็นพี่ ได้อย่างไร “คิง ชื่อนายมันก็บอกแล้วว่าหมายถึงอะไร ที่บ้านและที่ ทางานคือ อาณาจัก รของนายแล้ วนายจะพูด ว่าเราประชดได้ ยังไง” คิรินทร์เหลือบมองน้องชายก่อนจะพูดเสียงหนัก “นายจะคิดยังไงก็ช่าง ฉันบอกคาเดียวถ้านายอยากมี อาณาจักร นายต้องสร้างมันขึน้ มา ครีส ตอนเด็กๆ นายชอบเล่น เกมไม่ใช่หรือ ถ้านายเล่นเกมเป็นนายต้องเอามาประยุกต์ใช้ใน การสร้างอาณาจักรของตัวเอง ทีนี้ถ้านายมีอาณาจักรนายจะทา อะไรกับมันก็ได้ ไม่ว่าจะขยายหรือทาลายทาได้ทุกอย่าง นายไม่ ชอบหรือไงที่เรามีอานาจที่จะทาอะไรก็ได้ในเมืองของเรา” คีตภัทธมองพี่ชายด้วยสายตาทึ่ง อึ้งและแปลกๆ จนคน เป็นพี่ขมวดคิ้ว “มองแบบนี้หมายความว่ายังไง” “ทึ่งครับคุณคิงสตัน มันเป็นเรื่องจริงจนผมคิดว่าคงทา ไม่ได้” “ได้ สิ ถ้ า พยายาม…ไม่ มี ใ ครได้ อ ะไรมาง่ า ยๆ โดยไม่ 41
พยายามหรอกครีส” “โอเค เรายอมแพ้…ตกลงตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไปเรา จะพยายามเหมือนที่นายพูด” “ฉันดีใจที่นายคิดได้เสียที …แล้วนายล่ะพอลเรื่องที่ไปดู เด็กเป็นยังไงบ้าง” ชายหนุ่มหันไปถามคนเป็นหลานที่นั่งเงียบ ฟังเขาคุยอยู่ตั้งแต่ต้น “ก็ดีครับ แต่อาจจะต้องหาเครื่องใช้ในบ้านเพิ่มให้ ผม จะจัดการให้จนเรียบร้อยครับอา” “ดี ฝากด้วยก็แล้วกัน เพราะอาคงไม่มีเวลาไปยุ่งเรื่องนี้…” เขาพูดไม่ทันจบก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินขึ้นด้านบนรวดเร็วจนคนเป็น น้องมองแล้วส่ายหน้า “แบบนี้ทุกที อะไรๆ ก็ไม่มีเวลา เราไม่เข้าใจเลยนะพอล ว่าวัน ๆ เขาทาอะไร เห็นไปโน่นไปนี่จ นบางครั้งเราเองยังไม่รู้ ด้วยซ้าว่าไปไหน กว่าจะรู้อีกทีก็ตอนกลับมาแล้ว” “อาคิงก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วนี่ ถ้านายอยากรู้ก็ต้อง ไปถามคุณลีน่า รายนั้นน่ะรู้หมดเพราะจัดตารางให้เองกับมือ” “สรุป ว่าพี่เราเป็น นาฬิก าใช่ ไ หมถึงต้อ งเดิน ไม่ไ ด้ห ยุด ตายห่าแบบนี้ถ้าเราไปทางานเราจะกลายเป็นแบบเขาหรือเปล่านี่” คีตภัทธทาหน้าสยดสยองจนคนใกล้ๆ หัวเราะเสียงดัง ร่างลงไปนั่งพิงประตูเหมือนหมดแรงทาให้อุษาต้องเหลียวมอง คิ้วเรียวสวยขมวดนิดๆ เมื่อเห็นเพื่อนสาวนั่งหน้าตาตื่นตระหนก ทั้งเหงื่อพราว 42
“แกเป็นอะไรน่ะไอ จะว่าเจอผีมันก็เช้าแล้วนี่นา” อุษา เอ่ยทักยิ้มๆ เพราะอารมณ์ยังดีไม่หาย ไอรดาปาดเหงื่อหยดเล็กๆ ที่ไหลเข้าตาก่อนจะส่ายหน้า ไปมาเพราะเหนื่อ ยจนพูด ไม่อ อก หญิงสาวหอบหายใจแรงๆ ทางปากทั้งเช็ดหน้าตัวเองด้วยผ้าผืนเล็กๆ ที่เพิ่งนึกได้ว่าพาด ไหล่ ไ ว้ แค่ป ลายนิ้วสั ม ผั ส ริม ฝี ป ากตัวเอง เธอก็ห น้าแดงซ่า น เมื่ อ นึ ก ถึ ง นิ้ ว แข็ ง แรงที่ เ พิ่ ง สั ม ผั ส ไปเมื่ อ ครู่ … ไอ้ ค นป่ า เถื่ อ น ต่ า งชาติ ค นนั้ น มั น ช่ า งไร้ อ ารยธรรมสิ้ น ดี มิ น่ า พ่ อ แม่ ร วมทั้ ง ญาติโกโหติกาเธอถึงบอกให้ระวัง “เอ้า…ตกลงแกเจออะไรกันแน่ เดี๋ยวหน้าซีดเดี๋ยวหน้า แดงแบบนี้” “เจอคนบ้า…ฉันหนีเกือบตาย” หญิงสาวบ่นอุบอิบพลาง ลุกขึ้นมาจนได้ “สมน้าหน้า เพิ่งมาถึงแท้ๆ นึกยังไงถึงไปวิ่งแต่เช้านี่มัน ไม่ใช่บ้านเรานะไอ หัดสังวรไว้มั่งสิแก” “อย่ามาสมน้าหน้าฉันนะษาใครจะไปคิดว่าจะเจอ ถ้ารู้ ฉันก็ไม่ไป” “ชั่งมันเหอะ นึก ว่าฟาดเคราะห์ วัน หน้าวันหลังจะได้ ระวังมากกว่านี้แล้วแกไม่เห็นยายพลอยบ้างเหรอ นั่นก็ไปโบสถ์ แต่เช้ายังไม่กลับเหมือนกัน ฉันละห่วงจริงๆ” “เดี๋ยวก็คงมามั้ง เออนี่ษาติดต่อกลับบ้านบ้างหรือเปล่า นี่เรามาครบอาทิตย์แล้วนะป่านนี้ทางบ้านไม่ห่วงหรือไง” “ติดต่อเรียบร้อยแล้ว แม่ฉันเทศนาสั่งสอนซะยาวเหยียด นั่นไงบ่นถึงก็มาพอดี” 43
หญิงสาวยักคิ้วทั้งหน้าตายิ้มสว่างเมื่อเห็นเพื่อนเดินเข้ามา หงอยๆ ไอรดาขมวดคิ้ ว นิ ด ๆ เมื่ อ สายตาเริ่ ม เห็ น สิ่ ง ผิ ด ปกติ ถึงแม้ยายขี้แยจะร้องไห้บ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ร้องนานและมักไม่ซึมเซา ข้ามคืนขนาดนี้ ร่างเล็กๆ เดินผ่านเพื่อนโดยไม่ทัก แล้วไปล้มตัว ลงนอนบนเตียงตัวเองเงียบกริบจนเธออดถามไม่ได้ “พลอย แกเป็ น อะไร ฉั น เห็ น แกร้ อ งไห้ ตั้ ง แต่ เ มื่ อ คื น ตอนนี้ยังเศร้าไม่หายอีกเหรอ” แค่ เ ธอถามออกไปด้ ว ยความเป็ น ห่ ว ง พลอยไพลิ น ก็ร้องไห้โฮจนทั้งสองสาวตกใจ “แกเป็นอะไรพลอย แบบนี้มันไม่ธรรมดาแล้วนะ บอก ฉันมาเดี๋ยวนี้เลย” ไอรดาเข้าไปนั่งข้างๆ พลางดึงร่างบางนั้นมากอดไว้แน่น ในขณะที่อุษากรากเข้ามานั่งขนาบใกล้ๆ “นั่นสิพลอย แกไม่เคยปิดอะไรเรานีน่ า ทาไมถามอะไรก็ ไม่ยอมพูดหรือใครแกล้งแก” หญิงสาวสะอื้นจนตัวโยน ก่อนจะกอดเพื่อนสาวไว้แน่น “แกไปที่โบสถ์ทาไมพลอย มีอะไรไม่สบายใจอย่างนั้น เหรอ” “ฮื่อ” ทั้งสองคนถอนใจเบาๆ โดยไม่ไ ด้นัด เพราะอย่างน้อ ย เพื่อนเธอก็เริ่มมีการตอบรับคาถาม ไอรดาลูบหลังเพื่อนเบาๆ ก่อนจะถามต่อ “เรื่องอะไร พอจะบอกได้ไหม” พลอยไพลินนิ่งเงียบขณะสะอืน้ เป็นระยะ ความคิดวกวน 44
ที่หาทางออกไม่ได้ทาให้ไม่รู้จะตอบแบบไหน แต่ถ้าเธอไม่เล่า เกิดมีเรื่องขึ้นมาทีหลังใครจะช่วยเธอได้ หญิงสาวนิ่งไปนานก่อน จะเอ่ยเสียงเครือ “ไอ ฉันมีเรื่องสาคัญมาก รับปากฉันก่อนว่าจะไม่เล่าให้ ใครฟัง” “ฉันรับปากรวมทั้งยายษาด้วย บอกมาเถอะถ้ามีอะไร ที่ช่วยได้เราเต็มใจและพร้อมที่จะช่วยแกนะพลอย” พลอยไพลินพยักหน้านิดๆ ก่อนจะพูดทั้งหน้าตาเหยเก “ไอ เมื่อวานเราไปร้านอาหารกัน แกจาได้ใช่ไหม” “จาได้ แล้วเราสองคนก็กลับก่อนเพราะแกไปกับเพื่อน ในห้องแกต่อ แล้วแกไปไหนพลอย พวกเรารอแกตั้งนาน” “พวกเราไปบาร์กันต่อ ฉันก็ไม่ได้กะว่าจะอยู่นานหรอก นะ คิด ว่าจะอยู่แค่ค รู่เดียวฉัน ไม่รู้อ ะไรเลยนะไอ ฉัน จาอะไร ไม่ได้ แต่พอฉันตื่นมาฉันนอนอยู่กับใครก็ไม่รู้ แล้วฉันถูกไอ้บ้า คนหนึ่ง…ข่มขืน…ไอฉันถูกข่มขืนแกได้ยินไหม” ทั้งสองคนที่นั่งฟังอยู่ถึงกับตกตะลึงจนพูดไม่ออก ร่าง เล็กๆ ที่กอดเธออยู่สั่นเทาเพราะคงทั้งเสียขวัญและเสียใจ ไอรดา กัดริมฝีปากจนเจ็บเมื่อกอดร่างเพื่อนไว้แนบแน่น หัวสมองเธอ เหมื อ นจะเบลอไปชั่ ว ครู่ ใ นขณะที่ อุ ษ าก็ มี อ าการไม่ ต่ า งกั น หญิ ง สาวทั้ ง สองคนน้ าตารื้ น นานต่ อ มาจนเสี ย งร้ อ งไห้ ข อง พลอยไพลินจางลง ไอรดาดูจะได้สติก่อนเพื่อน เธอถามหน้าตา คาดคั้น “แกรู้ได้ยังไงว่าเขาข่มขืนแกน่ะพลอย เขาอาจจะไม่ได้ ทาอะไรก็ได้ตอนนั้นแกหลับไม่ใช่เหรอ” 45
“ใช่ ตอนหลับฉันไม่รู้…แต่ตอนตื่นมาฉันรู้นี่ …เขาข่มขืน ฉันตอนมีสตินะไอ แล้วฉันจะทายังไง ฉันกลัวท้อง” ไอรดาใจหายวาบเมื่อได้ยินเพื่อนสาวพูด จริงสิถ้าเป็น แบบที่เพื่อนเธอพูดมันอาจจะมีเหตุการณ์ไ ม่คาดคิดตามมา แล้ว คราวนี้พวกเธอจะทาอย่างไรกัน “ไปบอกคุณทนายดี ไหม เผื่อเขาจะได้ช่วย” อุษาที่อยู่ ใกล้ๆ เสนอความคิดเมื่อนึกได้ “ทนายที่ไหนกันยายษา” “ก็ผู้ปกครองของเราไงชื่อคุณปณพล วันนี้เขามาหาที่หอ พอดีพ วกแกไม่อ ยู่ เขาเป็น ทนายความของบริษัทคิงสตัน เขา อาจจะช่วยเราได้นะ” “แต่เขาเป็นผู้ชายนะ แล้วเป็นคนแบบไหนก็ไม่รู้ เราจะ ไว้ใจเขาได้หรือษา” ไอรดาท้วงเสียงหนักเพราะเธอเองก็ไม่เคย รู้จักเขาคนนี้ “น่าจะไว้ใจได้น ะ เพราะเขาดูแลเราอยู่แกลองคิด ดูสิ เราอยู่ ที่ นี่ ไ ม่ มี ใ ครเลยนอกจากเขา เราน่ า จะให้ เ ขาช่ ว ยนะ อย่างน้อยก็อาจได้ความคิดอะไรดีๆ” “ต้อ งถามพลอยว่าจะเอาไง…ตกลงจะยอมหรือ เปล่ า เพราะถ้าคนอื่นรู้มากขึ้นแกจะมีแต่เสียนะพลอย” หญิงสาวหัน มาถามเพื่อนเสียงเครียด “ก็ไ ด้ ฉัน ไม่ มีท างเลื อ กแล้ วนี่ อี ก อย่า งฉั น เกลี ยดเขา เกลียดผู้ชายบ้าๆ คนนั้น” พลอยไพลินพูดเสียงกร้าวด้วยความ โมโห น้าตาที่คอยแต่จะไหลออกมาหยุดทันทีเมื่อเอ่ยถึงผู้ชาย ร้ายกาจที่ทากับเธอ 46
“แกติดต่อเขาได้ไหมษา” “ได้สิ รอสักครู่นะ” อุษารีบโทรหาเขาทันทีด้วยความห่วงเพื่อนสาว เสียงทุ้ม จากปลายสายที่ ไ ด้ยิ น ทาให้รี บ พูด ทั น ที เ พราะตอนนี้ เ ธอไม่ มี อารมณ์ที่จะยั่วเย้าเขาแม้แต่น้อย “คุณทนายหรือคะ นี่อุษาพูดค่ะ” ปณพลถอนใจเฮือกเมื่อได้ยินเสียงเธอ เขาถามน้าเสียง หงุดหงิดเต็มทน “มีธุระอะไรไม่ทราบ เราเพิ่งพูดกันไม่นานนี้เองไม่ใช่รึ” “ษาไม่อยากโทรมากวนหรอกค่ะถ้าไม่จาเป็น พวกเรามี เรื่องอยากให้คุณช่วย จะให้คุยทางโทรศัพท์หรือคุณจะให้เราไป พบดีคะ” “พูดมาเลยก็ได้ ผมไม่ค่อยว่าง” เขาตัดบทเสียงดุ “ยายพลอยมีเรื่องน่ะค่ะ…คือ” “เดี๋ยวก่อนเรื่องคุณพลอยหรือ เอางี้ เดี๋ยวผมไปพบคุณเอง ผมขอพบแค่คุณกับเพื่อนอีกคน ส่วนคุณพลอยไม่ต้องให้ออกมา ผมจะไปรับที่หน้าอพาร์ตเมนต์ คุณรอสักครู่นะ” ชายหนุ่มรีบกดวางสายทันควัน ก่อนจะเริ่มนั่งกุมขมับ คราวนี้ได้เป็นเรื่องใหญ่โตแน่ๆ นายครีสเอ๋ย แล้วฉันจะช่วยนาย ยังไงกันล่ะทีนี้ คีตภัทธเหลียวมองญาติหนุ่มที่เดินรีบเร่งลงมาจากบันได กว้างหน้าบ้านก่อนจะถามยิ้มๆ “นายจะไปที่ ไ หนอีก พอล วัน หยุด ก็ จ ะไม่พัก เลยหรื อ ยังไง” 47
ร่างสูงใหญ่หยุดชะงักก่อนจะตวัดสายตามองมาแปลกๆ จนต้องถามซ้า “นายเป็นอะไร ทาไมมองเราแบบนี้วะ” “ครีส วันนี้เป็นวันซวยของนายเราจะบอกให้ เพราะเรา กาลังจะไปหาเพื่อนของคุณพลอยเขารู้กันหมดแล้วนะครีส นาย ระวังตัวเอาไปไว้ดีๆ เถอะ” “ทาไม ยายนั่นฟ้องเพื่อนยังงั้นเหรอ…” คีตภัทธถามเสียงเรียบ ทั้งที่จริงๆ แล้วเขาแทบจะแล่น ไปบีบคอยายตัวแสบจอมยุ่งให้ตายคามือ นี่เธอจะเอายังไง จะ บีบให้เขารับผิดชอบให้ได้ยังงั้นใช่ไหม “ครีส เราไม่อยากให้เธอรู้ว่าเราเป็นคนดูแลเธอ เราเลย นัดเพื่อนเธอออกมาคุยกัน นายรออยู่ที่นี่นะ แล้วเราจะโทรมา อีกที” “ตามใจ เราก็ไม่อยากยุ่งเพราะนายน่าจะใจเย็นมากกว่าเรา ว่าแต่ที่พักของพวกนี้อยู่ไกลแค่ไหน นายจะกลับมาหาคิงทันรึ” “ทันสิ อยู่แค่ถนน 7 นี่เอง เราให้พวกเขาพักที่ดๆี สมกับ เป็นนักเรียนทุนหน่อย เราไปนะครีส” ปณพลถอนใจยาวเมื่ อ เห็ น อี ก ฝ่ า ยโบกมื อ ให้ ห น้ า ตา ยิ้มแย้ม ทั้งๆ ที่น่าจะเครียด อดสงสัยตัวเองไม่ได้ว่าในเมื่อเจ้าตัว ไม่เดือดร้อนทาไมเขาต้องเดือดร้อนแทนขนาดนี้ ดวงตาสีน้าเงินเข้มแข็งกร้าวเมื่อเห็น รถสีดาคันใหญ่แล่น ออกไปจากบ้าน เขาโกรธเกือบตายแต่ต้องทายิ้มเข้าไว้เพื่อไม่ให้ อีก ฝ่ ายรู้และสงสั ย เมื่อ เขาแกล้ งถามออกไปถึ งที่ อ ยู่ ข องเธอ จนอีกฝ่ายตอบมาเพราะไม่ระแวง ตั้งแต่เขาโตเป็นหนุ่มและเริ่ม 48
ควงผู้หญิงมาเขายังไม่เคยเจอใครที่กวนประสาทและพูดไม่รู้เรื่อง แบบยายคนนี้…เธออาจจะคิดว่าเป็นฝ่ายต้อนเขาให้จนมุม แต่ ฝันไปเถอะที่คนแบบเขาจะรอ ร่างสูงเดินเชื่องช้าไปที่รถ เมื่อ ตัดสินใจจะจัดการเธอด้วยตัวเอง
49