ผู้เขียน bigger พิสูจน์อักษร วีณ ปก-ศิลปกรรม amany พิมพ์ครั้งที่ 4 กรกฎาคม 2556 (ในรูปแบบ e-book)
จากใจ bigger “กลลวงรัก” นับเป็นนิยายเรื่องแรกสาหรับผู้เขียนที่ใช้ นามปากกาว่า bigger นิ ยายเรื่อ งนี้เขี ยนขึ้ น ในปี 2551 และ ตีพิมพ์ครั้งแรกในปีเดียวกัน และเรื่องนี้นอกจะเป็นการแจ้งเกิด ของนักเขียนแล้ว ยังถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการเขียนนิยายมา จนถึงปัจจุบันด้วย เมื่อนิยายเรื่องกลลวงรักหมดสัญญากับทางสานักพิมพ์ และคิด ว่าน่าจะเอามาทาอีบุ๊ ก ตัวเจ๊เองก็ยัง คิด อยู่ว่าจะปรั บ หรือรีไรท์ดีไหม แต่สุดท้ายก็แค่แก้ไขคาผิด เท่านั้น สาเหตุจริงๆ ก็เพราะว่า “คนเขียน” อยากให้ “คนอ่าน” ที่อ่านทางอีบุ๊ก ได้รู้ และเห็นสานวนเก่าๆ ของตัวเอง ประกอบกับคิดว่า ถ้าแก้บาง จุด บางช่วง อาจจะทาให้สานวนพิกลพิการยิ่งขึ้น เนื่องจากใน ปัจจุบันเราไม่ได้เขียนสไตล์นี้เลย อยากให้คนที่เคยติดตามงานของผู้เขียนที่ใช้นามปากกา ว่า bigger ได้เห็นพัฒนาการในการเขียนว่าเปลี่ยนแปลงอย่างไร แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากจะบอกนักอ่านใหม่ๆ ที่เพิ่งเข้ามาตามอ่าน งานของเจ๊ได้ทราบว่า เพราะเรื่องนี้จริงๆ ที่ทาให้เจ๊สามารถยืน อยู่บนถนนสายนักเขียนได้จนถึงปัจจุบัน ^^ **กลลวงรักเป็นนิยายที่ มีต่อกัน 3 ภาค ไม่นับรวมตอน พิเศษ ที่เขียนขึ้นอีก 3 ตอน ดังนั้น ถ้าใครชอบนิยายที่ต่อเนื่อง คงจะชอบเป็นพิเศษ ส่วนใครที่ชอบนิยายอ่านจบในเล่มเดียว ก็ สามารถแยกอ่านเป็นเรื่องๆ ได้เช่นกัน เพราะเจ๊พยายามเขียน ให้แยกอ่านได้น่ะค่ะ ขอให้มีค วามสุข กับ การอ่านนะคะ แล้ วภาค 2-3 และ
ตอนพิเศษอื่นๆ จะทยอยตามมาอีกค่ะ สุ ด ท้ายขอบคุ ณ เจ๊นี่ ที่ทาปกสวยๆ และช่วยจัด อาร์ ต กราฟฟิก เนื้อ หา ตลอดจนตรวจทานต้น ฉบับ (สรุป ว่าเจ๊นี่ท า หมดทุกอย่าง^^)…ขอบคุณ สาหรับมิตรภาพดีๆ ที่มีกันมาอย่าง ยาวนาน และขอบคุณไปถึงนักอ่านทุกคนด้วยค่ะ ด้วยรัก bigger
4
1 เสี ยงใสตะโกนโหวกเหวกทาให้ห ญิงกลางคนเงยหน้า จากงานซึ่งกาลังขะมักเขม้นทาอยู่พลางเอ่ยเสียงรัวตอบกลับไป “ยายลิลเดินสิจ๊ะอย่าวิ่ง” “เดินไม่ได้ค่ะแม่หนูจะสายแล้ว” “เดี๋ ย วก็ ช นอะไรเข้ า อี ก เฮ้ อ ! เมื่ อ ไหร่ แ กจะโตเสี ย ที ยายลิล” เสียงมารดาบ่นตามหลังได้ยินแว่ว ๆ แต่เธอต้องรีบ ลลิล จัดการโยนเอกสารทุกชนิดในอ้อมแขนเข้าไปในรถก่อนจะขับรถ คันกะทัดรัดของเธอออกไปเร็วจี๋ “พระเจ้า ขอให้เธอทันด้วยเถอะ” เธอขั บ รถปาดไปมาด้ วยความรีบ สุ ด ชี วิต ขณะสายตา เหลือบมองนาฬิกาเป็นระยะ ติ๊ด…ติ๊ด…ติ๊ด “ขาเจ้านาย”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพร้อมเสียงชายหนุ่มรัวกระชั้นมาฟัง แทบไม่ทัน “ถึงไหนแล้วคุณลิล” “เกือบแล้วค่ะ ไม่น่าจะเกิน 20 นาที” “เร่งหน่อยคุณลิล ถึงแล้วมาหาผมเลยนะ” “ค่า…” อีก 20 นาทีเธอจะทันหรือเปล่า ตอนนี้เธอขับรถเหมือน แข่งกรังด์ปรีซ์เลยทีเดียว ใครจะไปคิดว่าเจ้านายจะรีบขนาดนี้ โทรมาหาตอน 4 ทุ่มสั่ งทางานให้เสร็จทันพรุ่งนี้เช้า เธอแทบ ไม่ได้หลับด้วยซ้าไปแล้วยังต้องมาขับรถน่าหวาดเสียวอีก ทาไม อะไรๆ ที่เคยสงบเรียบร้อยมาตลอดต้องมาปั่นป่วนเอาตอนนี้ เธอเหลือบมองนาฬิกาครั้งสุดท้ายก่อนยิ้มออกมาเธอทาเวลาได้ดี เธอเลี้ยวรถเข้าที่จอดอย่างเร็วและแรงจนเกิดเสียงดังน่ากลัว “รออีกแป๊บนะคะเจ้านายลิลกาลังมา” เธอบอกตัว เองก่อ นรี บ เก็ บ เอกสารออกมาจากรถปิ ด ประตูเสียงดังแล้ววิ่งถลาไปที่ลิฟต์ที่กาลังจะปิด “รอด้วยค่ะ” ลลิลกาลังจะเข้า ลิฟต์อยู่แล้วมีอันต้องหน้าทิ่มไปเพราะ ถู ก กระแทกค่ อ นข้ า งแรง แล้ ว คอเสื้ อ ด้ า นหลั ง ของเธอก็ ถู ก กระชากดึ ง กลั บ จนยื น เหมื อ นเดิ ม ยั ง ไม่ ทั น ตั้ ง หลั ก ร่ า งสู ง ๆ ชุดสูทสีดาก็แทรกร่างเข้าไปก่อนหน้าเธอ เขาเข้าไปเรียบร้อ ย ก็ยืนนิ่งอยู่กับที่เมื่อเห็นเธอยืนนิ่งเขาก็ยื่นมือออกมาคว้าแขนเธอ กระชากปลิวเข้าไปในลิฟต์ “ชักช้า เสียเวลา” 6
ลลิ ล กั ด ฟั น กรอด หน็ อ ยแน่ ชนเธอแล้ ว นอกจากไม่ ขอโทษยั ง มี ห น้ า มาต าหนิ เธอพยายามข่ ม ใจไม่ ต่ อ ว่ า เขา พยายามคิ ด ถึ ง เรื่ อ งอื่ น แทน ลิ ฟ ต์ เ ปิ ด ระหว่ า งชั้ น พนั ก งาน หญิงชายกรูกันเข้ามาอีกกลุ่มใหญ่ เธอถูกดันจนถอยไปด้านหลัง แผ่นหลังกระแทกเข้ากับใครคนหนึ่ง “ขอโทษค่ะ” ‘อีตายักษ์นี่อีกแล้ว’ เธอคิด เขายืนนิ่งเหมือนรากงอกไม่สะดุ้งสะเทือนต่อแรงปะทะ แม้แต่น้อ ยดวงตาใต้แว่น ด าทาให้เธอมองไม่เห็น นัยน์ต าคู่นั้น ผิวขาวจัดเหมือนคนอยู่ต่างประเทศมานาน ไหล่กว้างใต้สูทสีดา ที่ส วมนั้ น ยิ่ งท าให้ดู น่ากลั ว เธอหมดความสนใจที่จ ะมองเขา เพราะลิฟต์หยุดที่ชั้นแผนกเธอ “ป่านนี้เจ้านายเดินจนพรมสึกแล้วมัง” ร่างบอบบางวิ่ง ถลาออกมาด้ว ยความเร็ว จนแซงหน้ า คนอื่นที่ทยอยเดินตามมาจนเกือบหมดเหลือไว้เพียงชายหนุ่ม ร่างสูงคนนั้น ลิฟต์เลื่อนต่อไปเรื่อยๆ จนถึงชั้นบนสุด เขาก้าว ออกจากลิฟต์เดินตรงไปตามทางเล็กๆ ในอาคารเมื่อเลี้ยวมุมก็ พบป้ายหน้าห้อง เขาเข้าไปในนั้น พยักหน้ารับหญิงสาวที่นงั่ หน้า ห้อง โดยไม่แลเลยด้วยซ้า คีต กานต์ ก้ า วเท้ า เข้า ห้ อ งทางานเดิ น ต่ อ ไปจนถึ ง ห้ อ ง พักผ่อน ก่อนทิ้งร่างกับโซฟานุม่ เขาเหนื่อย การเดินทางอันแสน ไกล ถึ ง แม้ จ ะเป็ น เครื่ อ งบิ น แต่ ก็ ไ ม่ ส ะดวกสบายเพราะการ ถูก จ ากัด ในที่ แคบๆ นั้น เขาเบื่อ เต็ม ทน ถ้า ไม่เ พราะที่นี่ เป็ น บริษัทที่ปู่เขาก่อตั้งไว้เมื่อเริ่มดาเนินกิจการเขาจะไม่เหลียวแล 7
แม้แต่น้อย จะปล่อยให้อาบริหารจนรู้ดารู้แดงกันไปข้าง แต่นี่มัน จาเป็นเขาจึงต้องมาเมื่ออาเขาโทรหาแล้วบอกว่าให้กลับเพื่อมา ช่วยกัน ประเทศไทยเปลี่ ยนไปมาก เขาไม่ไ ด้ก ลั บ มาร่วม 5 ปี ชี วิ ต ส่ ว นใหญ่ ข องเขาอยู่ ต่ า งประเทศจนน่ า เชื่ อ ว่ า เขาอยู่ ประเทศไทยตั้งแต่เกิดจนเดี๋ยวนี้รวมกันไม่น่าเกิน 10 ปี “เริ่มงานเร็วเท่าไหร่เราก็ได้กลับเร็วเท่านั้น” เขากดโทรศัพท์ภ ายในสั่ งงานรัวเร็วกั บเลขาหน้าห้อ ง แล้วนั่งรอ “คุณลิล ผมต้องเข้าประชุมแล้วนะ” ลลิลเงยหน้าจาก งานมองผู้จัดการหนุ่ม “คะ เร็วขนาดนั้นเชียว” “ใช่ ท่านประธานลงเครื่องตอน 8 โมงเช้า” “แล้วประชุมตอน 9 โมงเนี่ยนะคะเจ้านาย” “ฮื่อ” “ท่านเป็นคนหรือหุ่นยนต์กันแน่คะนี่” เสียงเลขาสาวพึมพาทาให้โภคินถึงกับหน้าเสีย เขากลัว เหมือนกัน คนที่ทาอะไรเร็วแบบนี้ค่อนข้างน่ากลัว ท่านเรียกพบ ผู้จัดการแผนกทั้งบริษัท หมายความว่าอย่างไร โภคินยืนทาใจหน้าห้องของท่านประธานชั่วครู่ เขาเห็น ผู้ จัด การแผนกอื่น ๆ มี อ าการแทบไม่ต่ างกั บ เขา ชั้ น 16 ของ อาคารสูงแห่งนี้ แทบจะไม่มีใครเคยขึ้นมา รู้กันเพียงว่าเป็นที่พัก ส่ ว นตั ว ทั้ ง ชั้ น บรรยากาศเงี ย บสงบเพราะไม่ มี พ นั ก งานเดิ น พลุกพล่านนั้นยิ่งดูวังเวง เขาถอนใจยาวก่อนตัดใจเดินเข้าห้อง 8
ประชุมชั่วคราวนั้นไป เกือบบ่าย 2 โมง โภคินก็เดินโผเผเข้ามา จนหญิงสาวที่เตรียมจะยิงคาถามต้องหยุด อาการเจ้านายเธอไม่ดี แม้แต่น้อย เขาทรุดร่างลงนั่งพร้อมรับกาแฟที่เลขาสาวยื่นให้ “หนักหนาขนาดนี้เชียวหรือคะเจ้านาย” “ก็…ผมไม่รู้จะพูดยังไงคุณลิล ” เขานิ่งไปชั่วครู่ ก่อนพูด ออกมาจนได้ “น่ากลัวเป็นบ้า” “ท่านประธานหรือคะ” “ก็ใช่น่ะสิ คุณลิลรู้ไหม สายตางี้เหมือนจะฉีกเราเป็นชิ้นๆ ขนาดผมเป็นผู้ชายยังขนลุก” “ขนาดนั้น” เธอครางเมื่อนึกภาพตามเขา “ใช่ ถามเป็นชุด ขุดตั้งแต่ปีมะโว้มาถาม แต่ละแผนก ท่านรู้หมดแล้วยังงี้จะเหลืออะไรคุณลิล” “ท่านกลับมาทาไมคะเจ้านาย” โภคิ น หยุ ด ชะงัก เมื่อ เลขาเอ่ ยถามเขาจะบอกอย่า งไร ว่าในบริษัทนี้มีเรื่องทุจริตจนท่านต้องมา เสียงห้าวๆ นั้นยังก้อง อยู่ในหูเขาอยู่จนบัดนี้ “อย่าคิดว่าจะปิดผมได้ ผมรู้เมื่อไหร่ ผมเอาตาย” “เจ้านายทานอะไรดีคะ เดี๋ยวลิลหาให้นะ” “อย่าเลยคุณลิ ล ผมอยากอาเจียนจนทานอะไรไม่ลง” เขาพึมพาก่อนนั่งหลับตา หญิงสาวออกมาจากห้องของเจ้านายหนุม่ เธอคิดไม่ออก เลยว่าทาไมเจ้านายเธอถึงเป็นเอามากขนาดนี้ ในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาเขาเป็นเจ้านายที่ดี รู้จักการแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง 9
เก่งในสายตาเธอ ควบคุมสถานการณ์ได้ แต่อาการของเขาวันนี้ ทาให้เธอสับสนพอดู เย็นแล้ว ทุกคนรีบเตรียมตัวกลับบ้าน หญิงสาวเหลือบ มองไปที่ห้องผู้จัดการ เขายังคงเงียบอยู่ในนั้นตั้งแต่ออกมาจาก ห้องประชุม เธอตัด สินใจเข้าไปหาเขาเสียงเชิญ ให้เข้าห้อ งดัง ออกมาเมื่อเธอเคาะประตูครั้งที่สาม ลลิ ลแทรกกายเข้าไปใน ห้องเห็นเขานั่งคิดอะไรอยู่ “คุณลิล จะกลับแล้วเหรอ” “ก็คิดจะเข้ามาดูเจ้านายก่อนแล้วจะกลับน่ะค่ะ” “ขอบคุณมาก…ผมไม่เป็นอะไรขนาดนั้นหรอก” เขายิ้ม ออกมา ทาให้เธอสบายใจได้บ้าง “พี่สาวคุณเป็นไง ได้ข่าวบ้างไหม” เขาถามออกมาไม่มี ปี่มีขลุ่ย “พี่ แ ก้ ว เงี ย บไปเลยค่ ะ ลิ ล ไม่ ไ ด้ ข่ า วเลย ครั้ ง สุ ด ท้ า ย ได้ยินว่าอยู่ที่อังกฤษ” “ผมยังคิ ด ถึง เขานะลิ ล ” เขาพูด ออกมามีค วามอาลั ย อาวรณ์เด่นชัดทีเดียว “พี่คินคงรักพี่แก้วมาก” “ใครจะไม่รักเขา เขาออกสวยปานนั้น” ชายหนุ่ ม พึ ม พ าขณะคิ ด ถึ ง หญิ ง สาวคนนั้น เธอท าให้ เขารักแล้วเธอก็จากไปพร้อมๆ กับปัญหาที่ทิ้งไว้ โดยที่แทบไม่มี ใครรู้ ยกเว้นเขาและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่สาคัญ ท่าน ประธานน่าจะมาด้วยสาเหตุนี้ “กลับบ้านเถอะลิล เดี๋ยวแม่เป็นห่วง เราน่ะชอบก่อแต่ 10
เรื่อง” เขาพูดยิ้มๆ ให้ “ค่ะ ลิลก็ว่างั้น ไม่รู้เป็นน้องพี่แก้วได้ยังไง พี่แก้วทั้งสวย แล้วก็เก่ง” “เราก็เก่งนะลิล อย่าถ่อมตัวเลย…เออฝากงานด้วยนะ ผมไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรอีกหรือเปล่า” “ค่ะ เจ้านาย” โภคินนั่งนิ่งหลั งจากหญิงสาวออกไปจากห้อ งเขาแล้ ว ปัญหาทั้งหมดมันเกิดจากตรงไหน เริ่มตั้งแต่แก้วกัล ยาเข้ามา ทางานกระมัง เธอสวยปราดเปรียว เก่งงาน เป็นที่หมายปอง ของหนุ่มเกือบทุกแผนกแต่เธอกลับมาสนใจเขา เขารักเธอมาก จนทาได้ทุกอย่างที่เธอขอร้องสุดท้ายเขาก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่ง ของเธอแค่นั้น เธอจากไปพร้อมกรรมการใหญ่คนหนึ่ง ญาติของ ท่านประธานเอง เขาอกหักเกือบตาย โภคินยิ้มออกมาเหมือน สะใจ ทีนี้เธอและเขาคู่นั้นน่าจะไม่รอด คอยดูเถอะกรงเล็บของ ท่านประธานจะฉีกทั้ง 2 คนออกเป็นชิ้นๆ ขอไปอยู่ต่างประเทศ” ชายสูงวัยหลบตาหลานชายที่เพ่งมองตรงมาเหมือนมี อะไรปิดบัง เขาเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มเบื้องหน้า คีตกานต์โต เป็นหนุ่มฉกรรจ์แต่เขายังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ชอบวางอานาจ คาดคั้นจะเอาคาตอบทุกเรื่องที่อยากรู้ ที่สาคัญหลานชายอีกคน ของเขาเองน่ากลัวจะไม่รอด “อาไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ รู้แต่ว่าเขาแต่งงานแล้วก็เลยพากัน 11
ไปแค่นั้น” “อาปิดผม” ชายหนุ่มพูดเสียงเย็น ตาคมสีน้าเงินเข้มจั ดบ่งบอกถึง อารมณ์เขาได้เป็นอย่างดี เขากาลังหงุดหงิดและน่าจะกาลังโมโห ด้วย “ก็อย่างที่ท่านประธานรู้ ผมไม่อยากพูดอะไรมาก” “อาไม่ต้องประชดผมเหมือนผู้หญิง แค่ที่มันทามาตลอด มันยังไม่พอหรือยังไง ผมเหลืออดเหลือทนกับมันเต็มที งานผม ยุ่งอาก็รู้ แล้วนี่…แทนที่มันจะช่วยแบ่งเบาภาระผม กลับนาแต่ เรื่องเดือดร้อนมาให้” ร่ า งสู ง ใหญ่ เ กิ น ชายไทยนั้ น ลุ ก ยื น ขึ้ น ในกิ ริ ย าเหมื อ น เฉื่อยชา แต่ผู้เป็นอารู้ว่าใต้กิริยานั้นมันหมายถึงอะไร การเตรียม ออกล่าเหยื่อ เขากลัวแทนหลานชายแล้วทีนี้ “ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าอาไม่บอกผม ผมจะลาก มันกลับมาเอง” เสียงเย็นเฉียบนั้นทาให้เขาขนลุกก่อนตัดสินใจจะบอก แต่แล้วก็หยุดชะงักไปเขาไม่รู้จะทาอย่างไร นั่นก็ลูกของญาติทาง ภรรยาเขา นี่ก็บุตรชายคนโตของพี่เขาและเป็นประธานบริษัท ถ้าเจ้าภัทกลับมามันจะเหลือสภาพแบบใดเมื่อเจอกับคนคนนี้ “ตามใจอา ผมพูดแค่นี้ ออกไปได้” ท้ายประโยคเขาพูดเหมือนไล่ลูกน้อง ชายสูงวัยกัดกราม แน่น เขารู้ว่าเขาช่วยหลานชายได้แค่นี้ ต่อไปมัน ต้อ งหัดดูแล ตัวเองบ้างแล้วกระมัง พ้นร่างผู้เป็นอา เขาทิ้งร่างกับเก้าอี้ด้วยความโมโห เขา 12
พอจะรู้ที่มาของการสูญเงินครั้ง นี้แต่ใครที่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด เขา ไม่เชื่อว่าคนอย่างภัทธรจะทาเรื่องแบบนี้ได้ด้วยตนเอง ที่สาคัญ คนที่สมรู้ร่วมคิดจะยังคงอยู่ในบริษัทแห่งนี้ห รือเปล่า ถ้าอยู่ก็ นับว่าอันตราย ชายหนุ่ม ดึงเอกสารที่อ ยู่เบื้องหน้าออกมาวางเต็มโต๊ะ ก่อนพิจารณาทีละชิ้น เขาคีย์คอมฯ รวดเร็วก่อนมองภาพเบื้อง หน้า ผู้หญิงคนนี้หรือที่แต่งงานไปกับไอ้ ภัท เธอเข้ามาทางาน เมื่อห้าปีก่อน ช่วงที่เขาไม่อยู่พอดี “แก้วกัลยา ชลธร อยู่แผนกบัญชีซะด้วย” เขาพู ด เบาๆ ก่ อ นยิ้ ม ลึ ก อะไรๆ ดู จ ะเป็น ช่ อ งทางให้ สองคนนี้ ท าร่ ว มกั น ได้ โ ดยสะดวกเธออาจจะเป็ น คนที่ เ ขา ต้องการตัว อย่างน้อยเขาก็ต้องการคนรับผิดชอบ ไม่ใช่ทาแล้ว หนีไปเสวยสุขกัน เงินนั้นไม่ใช่ปัญหาแต่เขาเจ็บใจมากกว่าทีญ ่ าติ ของเขาเองต่างหากที่ทรยศ “แก้วกัลยา นายภัท เธอสองคนไม่รอดมือคนอย่างฉัน แน่ แต่มีใครอีกที่ร่วมมือกับนาย” เขากดโทรศัพท์ภายในก่อนพูดรัวเร็ว “คุณเลขา ช่วยส่งข้อมูลพนักงานให้ผมหน่อย ขอ 5 ปี ย้อนหลังภายใน 20 นาทีนี้” “เอ่อ ทุกแผนกใช่หรือเปล่าคะท่าน” “ทุกแผนก” เขาเดินไปจิบกาแฟระหว่างรอ ไม่นานต่อมาคอมพิวเตอร์ ของเขาก็ส่งสัญญาณเตือนให้รับข้อมูล ร่างสูงๆ ทรุดนั่งหมิ่น ๆ กับโต๊ะทางานก่อนไล่ดูไปเรื่อยๆ ก่อนในคราแรก แล้วสายตาก็ 13
สะดุดกับหญิงสาวคนหนึ่งที่แผนกออกแบบ เขาก้มดูใกล้คอมฯ ด้วยไม่แน่ใจนัก “นี่บริษัทเรารับเด็กมัธยมทางานด้วยหรือนี่” ก็ ห น้ า ตาแบบนั้ น ผมตั ด สั้ น แค่ ต้ น คอ เหมื อ นหลุ ด ออกมาจากโรงเรี ย นมั ธ ยมที่ ไ หนสั ก แห่ ง เขากดดู ป ระวั ติ เ ธอ คร่าวๆ ก่อนรู้ว่าตนเองเข้าใจผิดเมื่อเห็นวุฒิการศึกษาของเธอ “ลลิล ชลธร” เขานิ่ ง คิ ด ว่ า เหมื อ นเคยได้ ยิ น นามสกุ ล แบบนี้ ที่ ไ หน ไม่นานหน่วยตาของเขาก็หรี่ลงเมื่อนึกได้ เขาขึ้นไฟล์ประวัติของ คนทั้งคู่เทียบเคียงกันก่อนพูดแผ่วเบา “บิงโก…แกเสร็จฉันแน่นายภัท” คราวนี้ผมท่าจะแย่” ลลิลงัวเงียลุกขึ้นรับโทรศัพท์ที่ดังขึ้นตอนตี 4 แล้วเธอ ก็แทบจะดิ้นอยู่ตรงนั้นเมื่อได้ยินเสียงเจ้านายหนุ่ม “ค่ะ…ไม่เป็นไรค่ะ…คะ…อ๋อ ลิลตื่นแล้ว…แค่นี้นะคะลิล จะเตรียมให้” เธอยั ง ไม่ ตื่ น เต็ ม ที่ นั ก สะลึ ม สะลื อ อี ก พั ก ก็ ลุ ก ขึ้ น ก่ อ น หัวฟัดหัวเหวี่ยงด้วยความโมโห “ปั ด โธ่ โ ว้ ย …นี่ ก ารเป็ น ลู ก น้ อ งหมายถึ ง ต้ อ งรั บ ค าสั่ ง ตลอด 24 ชั่วโมงหรือไง” เธอสมควรจะโกรธใครดี เจ้านาย…ท่านประธาน…พี่แก้ว… หรือตัวเอง 14
“ช่างเถอะวะ ใครก็ช่าง อยากเข้าไปทางานที่นั่นเอง” เธอบ่นตัวเองก่อนลุกขึ้นทางานแต่เช้า “แม่ หนูไปนะคะ” “เดินดีๆ ยายลิล” แทบจะไม่ ทั น สิ้ น เสี ย ง มารดาเธอก็ ต้ อ งหลั บ ตาปี๋ เมื่ อ ได้ ยิ น เสี ย งโครมพร้ อ มๆ กับ เสี ย งบุ ต รสาวที่ ร้ อ งโอดโอย เมื่อ เยี่ ยมหน้ าออกไปดู ก็เห็น บุต รสาวที่เขย่งเก็ งกอยไปที่ร ถ เธอถึงกับส่ายหน้าบ่นเบาๆ “โธ่ถัง แม่อุตส่าห์เก็บของให้พ้นเท้าแกแล้วนะ นี่ยังวิ่ง เข้าไปหามันจนได้…เมื่อไหร่แกจะโตเสียทีนะลิลเอ๊ย” ลลิ ลน้าตาซึม เจ็บ ที่เท้าแต่เธอก็รีบ จนไม่มีเวลาดูแผล ขึ้นรถได้ก็ขับเร็วจี๋ออกไปทันทีเมื่อถึงที่ทางานเธอเลี้ยวรถด้วย ความเร็วก่อนเบรกจนแทบไม่ทันเมื่อรถยุโรปราคาแพงปาดเข้า มาเร็วพอกัน เสียงเบรกดังเหยียดยาวก่อนที่เธอจะหลับตาคิดถึง มารดาและค่าซ่อมรถคันนั้น รถหยุดแล้ว เสียงเคาะกระจกรถดัง ขึ้น หล่อนเปิดออกไปพร้อมยิ้มแหยๆ ให้ “ไม่เป็นอะไรนะคุณ” “ค่ะ แล้วคุณละคะ” หล่อนถามกลับพลางชาเลืองมอง รถที่จอดประจันหน้ากันอยู่ “ไม่เป็นอะไรครับ วันหน้าวันหลังระวังหน่อยใจร้อนจริง คุณนี่” ร่างสันทัดของชายวัยกลางคนเดินจากไป หญิงสาวรีบ เอารถเข้าที่จอดก่อนออกมาแล้วเดินกระโผลกกะเผลกตรงไป ที่ลิฟต์ 15
“ไปเลยไหมครับท่าน” คนขับรถคู่กรณีของหญิงสาวหันไปถามชายหนุ่มที่สวม แว่นด านั่งอยู่เบื้อ งหลั งรถ…ใบหน้าคมขาวจัด นั้น พยัก หน้ารับ ขณะที่เหลือบมองร่างบางที่หายเข้าไปในลิฟต์ เธออีกแล้ว ทาไม ชีวิตของผู้หญิงคนนี้ช่างรีบร้อนเสียจริงเขาตวัดตากลับด้วยหมด ความสนใจ “ค่ะ เจ้านาย” “ขอบคุ ณ มาก ผมจะต้ อ งเข้า ประชุ ม ตอน 10 โมงน่ ะ ขอบคุณอีกครั้งนะ” เขาจั บ มื อ เธอเขย่ า ก่ อ นยิ้ ม ให้ แ ล้ ว ก้ ม หน้ า ก้ ม ตาอ่ า น เอกสารที่เธอเตรียมให้ ลลิลออกมาจากห้อง แล้วเธอก็นึกได้ว่า เจ็บเท้า “ป้าขาช่วยเอายาให้หนูหน่อย” แม่บ้านวิ่งเข้ามาหาก่อนทาหน้านิ่วเมื่อเห็นแผลที่เท้าเธอ “คราวนี้โดนอะไรคะนี่ คุณลิลน่ะไม่ค่อยระวังเลย” แม่ บ้ า นสู ง วั ย บ่ น เธอก่ อ นท าแผลให้ ด้ ว ยความสงสาร หญิงสาวร่างเล็กนี้มีแผลแทบไม่เว้นแต่ละวันก็เพราะความเปิ่น ของเธอที่ชนนั่นชนนี่เป็นประจา “ขอบคุณค่ะ” หล่ อ นยิ้ม ก่อ นยกมือ ไหว้แม่บ้านซึ่ง ทาแผลให้ จนเสร็จ ดวงตาคู่นั้นมองเธอด้วยความเอ็นดูก่อนเอาของไปเก็ บ นี่เป็น เสน่ห์อย่างหนึ่งของเธอ ที่ทาให้ทุกคนรักและอยากช่วยเหลื อ 16
แล้วเธอก็ทางานตามปกติ พอ 10 โมงเจ้านายเธอก็เดินออกมา จากห้อง ยิ้มให้แบบฝืดเต็มทนก่อนเดินผ่านไป “โชคดีนะคะเจ้านาย” เธอกระซิบแผ่วตามหลังเขาก่อน ทางานต่อ เสี ยงห้ าวที่ เ รี ยกชื่อ เขานั้ น ท าให้ ช ายหนุ่ ม สะดุ้ ง ทั้ง ตั ว เมื่อเงยหน้า ก็พบดวงตาคมกริบที่มองอยู่ ทาให้รู้สึกไม่สบายใจ อย่างบอกไม่ถูก เสียงที่เอ่ยตอบไปจึงแผ่วอย่างไม่รู้ตัว “ครับ” “หลังเลิกประชุมรอพบผมหน่อย” ชายหนุ่ม ถอนใจแผ่ วยาวทั้ ง ใจเต้น แทบไม่เป็น จังหวะ เมื่อเลิก ประชุมตอนเที่ ยงกว่า ๆ ทุก คนออกไปหมดแล้ ว เขาก็ ถึงกับนั่งเกร็ง ขณะนี้เขาตกเป็นเป้าสายตาของท่านประธานโดย ไม่รู้ตัว “เชิญห้องผมดีกว่าจะได้คุยสะดวก ผมไม่ชอบคุยกับใคร แบบไกลๆ” ‘จะได้เชือดถนัดละสิไม่ว่า ’ โภคินคิดอยู่ในใจขณะเดิน ตามเข้าไปในห้องทางานส่วนตัว เมื่ อ นั่ ง เรี ย บร้ อ ยเขาก็ ถึ ง กั บ สะดุ้ ง โหยงเมื่ อ เอกสาร ปึกหนึ่งถูกโยนมาตรงหน้า “อ่านสิ แล้วอธิบายมา ดูซิว่าผมกับคุณจะเข้าใจตรงกัน ไหม” โภคินเปิดเอกสารก่อนใจหาย แล้วที่สุดเรื่องก็ถูกเขาขุด 17
เจอ นี่สองคนนั่นจะคิดยังไงกับแผนการเป็นปีๆ ที่ทามา แต่ท่าน ประธานกลับพบความผิดภายในเวลาแค่ 2 วัน เขาเหลือบมอง ท่ า นที่ ม องตรงมา ตาเขาฝาดหรื อ อย่ า งไรที่ เ ห็ น ดวงตาคู่ นั้ น เหมือนมันไม่ใช่สีดา พลางหลบตาก่อนตอบ “ก็ อย่างที่ท่านทราบ คุณภัทธร กับคุณแก้วเธอ…” “ใช่ แล้วคุณพอจะรู้หรือเปล่าว่าทั้งคู่อยู่ที่ไหน ในเมื่อผม พอจะรู้ว่าคุณเป็นคนพาเธอเข้ามาทางาน ผมอยากรู้ว่าใครอีกที่ เธอติดต่อด้วย” “ไม่ทราบครับ แต่น้องเธอน่าจะทราบ” โภคินซัดให้ลลิลทันทีด้วยไม่อยากพูดกับชายร่างสูงใหญ่ คนนี้อีก เขากลัวจนแทบจะบ้า “คุณ ลลิ ลใช่ ไ หม งั้น คุณ ช่วยบอกเธอด้วยตอนบ่ายมา พบผม” โภคินรีบเดินออกมาทันทีเมื่อพ้นห้องนั้นออกมาได้เขาก็ แทบทรุด ชายหนุ่ม หัน ไปมองห้อ งนั้น อีก ครั้งก่อ นเดิ นจากมา อย่างรวดเร็วด้วยความอยากไปให้พ้นจากที่นี่ อธิบายไม่ได้ ห้องทางานของท่านประธานที่เธอเข้ามานั่งรออยู่ ดูน่าเกรงขาม สีเทาขรึมนั้นเหมือนกับจะกดทับจนอึดอัด ท่าน ทาอะไรอยู่ทาไมถึงนานขนาดนี้เธอเข้ามาห้องนี้ตั้งแต่บ่ายโมง นี่ มันก็เกือบสามโมงเข้าไปแล้ว ร่างบางสะดุ้งทั้งตัวเมื่อได้ยินเสียงเปิดและปิดประตูห้อง คงมาแล้วกระมัง ร่างสูงใหญ่ที่เดินผ่านเธอไปทาให้ต้องเหลียว 18
มอง แล้วเธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นใบหน้านั้นชัดเจนในระยะใกล้ “คุณลลิลใช่ไหม” เสียงห้าวถามขึน้ ขณะเดินผ่านเธอโดย ไม่มองสักนิด “ค่ะท่าน” เอกสารทั้งแฟ้ม ตกลงบนตักเมื่อชายหนุ่มโยนลงมาโดย ไม่บอกกล่าวอะไรทั้งสิ้นหญิงสาวตกใจจนลุกพรวด “อ่าน แล้วอธิบายมา” เขากระชากเสียงห้วน จ้องเธอเขม็งเหมือนจับผิดเต็มที่ ลลิลก้มลงมองเอกสารที่ตกอยู่บนพืน้ ก่อนหยิบมาดูคร่าวๆ สักครู่ ก็เงยหน้ามองเขาด้วยสายตาไม่เข้าใจ “ผมบอกให้ อ่ า นแล้ ว อธิ บ าย ไม่ ใ ช่ ม านั่ ง จ้ อ งผมด้ ว ย สายตาโง่ๆ แบบนี้” หญิงสาวฉุนกึก เธอข่มความโกรธขณะท่องในใจเหมือน เตือนตัวเอง ‘เขาเป็นประธานบริษัทจาไว้ลิลเอ๋ย’ “ขอโทษค่ะท่าน ดิฉันไม่เข้าใจจริงๆ นี่มันเป็นแฟ้มบัญชี ดิฉันไม่มีความรู้ด้านนี้” “ก็หัดรู้ซะบ้างว่า ไอ้บัญชีเล่มนี้พี่สาวคุณทามันขึ้นมา” “ค่ะ แต่เธอไม่อยู่แล้ว” “นั่นก็ถูก แล้วมันจะถูกต้องมากขึ้นถ้าคุณรู้ว่าพี่สาวตัวดี ของคุณยักยอกเงินบริษัท” คราวนี้หญิงสาวถึงกับตกใจ เมื่อได้ยินเขาพูด “ไม่จริง พี่ดิฉันไม่ได้เป็นคนแบบนั้น” เธอเถียงเขาขึ้น มาบ้า งเมื่ อ อารมณ์ ถูก กวนจนขุ่น เขา 19
หมายความว่ายังไง พี่สาวเธอขี้โกงอย่างนั้นหรือ “คุณลลิล ความจริงก็คือความจริง คุณจะปฏิเสธได้ไหม ว่าพี่คุณกับนายภัทไม่ได้รักกันแล้วก็หนีไปด้วยกัน” เขาถามเสียง เย็นทั้งน้าเสียงและสีหน้า “ข้อนั้นก็จริง ดิฉันไม่เถียง แต่เรื่องโกงเงินดิฉันไม่ทราบ” ตอนนี้เองที่คีตกานต์เริ่มโกรธจนทนไม่ไหว เมื่อดูเธอจะ พูด วกวนและไม่เข้าใจเสี ยที ร่างสูงใหญ่นั้น เคลื่ อนเข้ามาใกล้ เธอ…ยื น ข่ม เธอจนเหมือ นกลายร่า งเป็น เด็ก เมื่ อ เทียบกั บ เขา ปากเรียวบางนั้ น เม้ม สนิท ดวงตาเขาเป็น สี น้าเงิน เข้ม จนเธอ ตกใจเขาไม่ใช่คนไทยหรอกหรือนี่ ร่างเธอถอยกรูดอย่างไม่รู้ตัวเมื่อเจอกับท่าทางของเขา ที่ คุ ก คามนั้ น ชายหนุ่ ม มองเธอด้ ว ยดวงตาเข้ ม จนเหมื อ นไฟ สีน้าเงินที่ลุกอยู่วาบๆ ภายใน เขากระชากแฟ้มจากมือเธอแล้ว ซัดเข้ากับผนังเต็มแรง “ปัดโธ่โว้ย…หัดคิดซะบ้างซิ สองคนนั่นทางานร่วมกัน ยั ก ยอกเงิ น แล้ ว พากั น หนี ไ ป ผมถามครั้ ง สุ ด ท้ า ยนะคุ ณ ลลิ ล คุณมีส่วนกับเรื่องทั้งหมดหรือเปล่า” คราวนี้เธอก็เลยงงหนัก ตอนแรกเขาสบถจนเธอตกใจ แล้วต่อมาเขาก็ถามน้าเสียงเหมือนปลอบโยนให้ตอบเขา “ดิฉันไม่รู้เรื่องค่ะ ไม่ทราบจริงๆ” เขาถอนใจเหมือนเบื่อหน่ายก่อนถามเธอใหม่ “งั้นตอบมา พี่คุณอยู่ที่ไหน” “ไม่ทราบค่ะ พี่แก้วไม่ติดต่อมาเลย” ร่ า งสู ง ที่ ยื น นิ่ ง อยู่ นั่ น แทบจะสั่ น ไปทั้ ง ตั ว ด้ ว ยความ 20
โกรธเกรี้ยว นี่ยายผู้ ห ญิงบ้านี่ไ ม่รู้อ ะไรสัก อย่างเลยหรือ ยังไง เขาคิดด้วยความโกรธจัด ร่างสูงใหญ่นั้นยืนกาหมัดแน่น ปาก เม้มสนิท เขาข่มอารมณ์เกือบแย่ เพราะขณะนี้ความรู้สึกของเขา คืออยากจะจับเธอฟาด หรือตบให้หายโง่สักที “คุณออกไปได้แล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเย็น ก่อนจะหันกลับด้วยไม่อยากเห็น หน้าเธอ เขากลัวจะทนไม่ได้แล้วเผลอทาร้ายเธอเข้าให้ ลลิ ล ฟิ ว ส์ ข าดเหมื อ นกั น เมื่ อ เจอกั บ เหตุ ก ารณ์ เ มื่ อ ครู่ หญิงสาวออกมาจากห้อ งของเขาได้ก็ด่าผู้ ช ายคนนั้น อยู่ในใจ ไอ้ท่านประธานเฮงซวยเธอไม่ใช่ทาสจะได้ด่าว่าหยาบคายแบบ นั้นเมื่อโกรธจนหูอื้อตาลายเธอก็พุ่งไปที่เป้าหมายทันที โภคิน มองเลขาร่างเล็กที่ผลุนผลันเข้ามาในห้องเขาหน้าแดงเหมือ น โกรธใครมา “นั่งก่อนคุณลิล นี่ไปกินรังแตนที่ไหนมา” “ก็ ท่ า นประธานของเจ้ า นายนั่ น แหละ…เอาให้ กิ น … นี่พี่คินลิลถามอะไรหน่อย” เธอเปลี่ยนสรรพนามเรียกกะทัน หัน แสดงว่าจะพูดคุย ธุระส่วนตัว โภคินชักรู้สึกทะแม่งๆ เขามองเธอนิ่งถอนใจยาวลึก “ว่ามาซิลิล พี่ฟังอยู่” “พี่ คิ น รู้ เ รื่ อ งพี่ แ ก้ ว กั บ คุ ณ ภั ท ธร เอ่ อ …ยั ก ยอกเงิ น หรือเปล่า” โภคินนิ่งอึ้งเมือ่ ได้ยินคาถามนั้น ที่สุดเธอก็รู้จนได้นี่แสดง 21
ว่าท่านประธานจิก ไม่ป ล่ อ ยจริง ๆ เขาเงียบไปนานกว่าจะพูด ออกมาได้ “ก็ รู้ เ ท่ า ที่ท่ า นรู้ นั่ น แหละ เรารู้ แ ล้ วเราท าอะไรได้ ลิ ล เงินนั่นมันก็เป็นของพวกเขากันเองทั้งนั้น ญาติเอากันเองแล้วจะ โทษเราได้หรือ” “ท าไมไม่ ไ ด้ พี่ คิ น ก็ ใ นเมื่ อ มั น ไม่ ใ ช่ แ ค่ ญ าติ ข องเขา แต่มันมีญาติของลิลเข้าไปเอากับเขาด้วย พี่คินจะให้ทาอย่างไร ตอนนี้ท่านประธานเหมือนหมาบ้า กัดไม่เลือก วันนี้กัดลิล พรุ่งนี้ อาจจะกัดพี่คินก็ได้ใครจะรู้” โภคิน หน้าซีดเมื่อได้ยิน ประโยคนั้นของเธอ ความจริง หญิงสาวพูดไปเรื่อยมากกว่า เธอไม่รู้อะไรด้วยซ้าแต่โภคินซึ่งมี เรื่ อ งแอบแฝงอยู่ ก็ เ ลยเอาไปคิ ด ต่ อ จนหวาดระแวงเธอไป เหมือนกัน “ลิลพูดบ้าๆ พี่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย แล้วก็ไม่ได้เป็นญาติ กับใครใน 2 คนนี้ท่านจะมาระแวงพี่ทาไม” หญิงสาวมองเขาด้วยคาดไม่ถึงกับ ประโยคออกตัวนั้น นี่เธอกะว่าจะมาถามเขาเรื่ องพี่สาวเธอกับคุณ ภัทธรแต่เขากับ ปฏิเสธไว้ก่อนแบบนี้เธอจะได้เรื่องอะไร เธอนิ่งไปพักหนึ่ง ก่อน ตัดใจไม่ถามทั้งที่อยู่ๆ เธอก็รู้สึกไม่ไว้ใจเขาขึ้นมา “ก็จริงอย่างพี่คินพูด พี่ไม่รู้เรื่องนี้ ลิลเข้าใจค่ะ ขอโทษ ด้วยนะคะที่โมโหจนไม่มีเหตุผล” โภคินถอนใจยาวด้วยโล่ งอกกับ คาพูดของเธอ เขายิ้ม ออกมาได้แล้วตอนนี้ “เย็นนี้พี่เลี้ยงข้าวนะลิล ถือว่าขอบคุณแล้วกันที่ทางาน 22
ด่วนให้” “เอาไว้วันหน้านะคะ พอดีวันนี้ลิลมีนัด” “กับใครเอ่ย” เขาถามยิ้มเหมือนล้อเลียนเธอ “พี่ปัดค่ะ เพิ่งกลับมาจากนอกวันนี้ เลยนัดทานข้าว” “ปัดไหนลิล อย่าบอกนะว่าเป็นคนเดียวกับนายปรัชญ์ ดารงกิจ คนนั้น” “ใช่เลยค่ะ พี่คินรู้จักหรือคะ” โภคินถึงกับอึ้ง นี่เธอจะรู้หรือเปล่านายปรัชญ์เป็นญาติ กับนายภัทธรพี่น้องสองสาวนี่จะหนีไม่พ้น คนตระกูลนี้เลยหรือ อย่างไร “ตามสบายนะลิ ล วัน หลั งพี่ค่อ ยเลี้ ยงแล้ วกัน เดี๋ยวพี่ กลับบ้านก่อนนะ” หญิงสาวมองเจ้านายหนุ่มที่ออกไปจากห้อง เธอนั่งอยู่ พักใหญ่เพราะคิดเรื่องต่างๆ ที่พี่สาวเธอทาไว้ มันน่าจะมีอะไร มากกว่าทุจริตถ้าแค่เรื่องเงิน ท่านประธานไม่น่าจะเดือดร้อ น ขนาดนั้น เขาออกรวย เธอพอรู้หรอกว่าบริษัทที่ดูใหญ่โตแห่งนี้ เมื่อเทียบกับบริษัทของเขาที่ต่างประเทศมันเทียบกันไม่ติดฝุ่น ด้วยซ้าไป หญิงสาวพยายามคิดจนปวดหัวก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี “เอาน่ า ลิ ล เอ๋ ย ค่ อ ยคิ ด ค่ อ ยท า จ าไว้ ค วามลั บ ไม่ มี ในโลก” ร่างบางลุกขึ้นรวดเร็วเมื่อนึกได้ว่ามีนัด “ตายแล้ว เลยเวลามาตั้งนาน นี่พี่ปัดไม่รอเราแย่” ความรีบทาให้เธอออกวิ่งรวดเร็วไปตามทางเดินยาวนั้น แล้วเธอก็แทบทรุดเมื่อรองเท้าส้นแหลมสูงนั้นหักกะทันหัน ลลิล 23
นั่งลงกุมข้อเท้าเพราะเจ็บแปลบ เธอรีบถอดรองเท้าออกทั้ง สอง ข้างก่อนวิ่งเขย่งเข้าลิฟต์ไป เปลี่ยนรองเท้าที่อยู่ในรถซึ่งมันเป็นรองเท้าใส่เล่นรูปหมีขนปุย เธอรู้สึกอายอยู่หรอกที่ใส่ชุดทางานแต่ต้องมาสวมรองเท้าแบบนี้ ร่างบอบบางชะเง้อชะแง้เพื่อมองหาชายหนุ่ม แล้วเธอก็ ต้องร้องอุทานเมื่อวงแขนแข็งแรงรัดรอบเอวบางทางด้านหลัง หน้าสวยเกินชายนั้นอยู่ใกล้เธอนิดเดียว มือเรียวแข็งแรงหมุนตัว เธอกลับขณะพูดหยอกเธอเสียงนุ่ม “จับได้แล้วแม่หมีน้อย” หญิงสาวกระโดดกอดคอเขาแน่นขณะหัวเราะเสียงดัง “ต๊ายพี่ปัด ยังกับฝรั่งแน่ะ ตัวสูงจัง” “แต่ลิลก็ตัวเล็กเหมือนเดิมไม่มผี ิด นี่พี่ไม่เห็นลิลตัง้ สองปี โตได้แค่เนี้ยะ” “บ้าจริงพี่ปัดนี่” เธอหัวเราะก่อนทุบแขนเขา “พี่หิวแล้ว พาไปหาอะไรอร่อยๆ หน่อยสิลิล” “ได้เลยค่ะ เดี๋ยวลิลเลี้ยงเอง” “ได้ไง พี่ต้องเลี้ยงเองถึงจะถูก อย่าพูดมากไปได้แล้ว” ร่ า งสู ง ขาวนั้ น จั บ มื อ เธอกระชั บ ก่ อ นพากั น ออกจาก สนามบิน เมื่อหญิงสาวและแฟนหนุ่มถึงสวนอาหารก็เป็นเวลาค่า แล้ว หลังจากได้อาหารจนครบและหญิงสาวเริ่มทาน ชายหนุ่ม 24
กลับนั่งมองหน้าเธอนิง่ ในขณะที่คดิ อยู่เพียงคนเดียว เขาเรียนอยู่ ต่างประเทศตั้งหลายปีเมื่อกลับมาก็อุตส่าห์รีบมาหาเธอก่อนใคร การกลับ บ้านเร็วกว่ากาหนดนี้ ไ ม่ไ ด้บ อกใครด้วยซ้าเนื่อ งจาก อยากพบเธอก่อน เขาตั้งใจไว้ว่าจะอยู่กับเธอสักพักแล้วค่อยโทร กลับบ้านบอกว่าเขากลับมาแล้วเขาเรียนจบก็อยากมาเห็ นเธอ ก่อ นใครและอะไรทั้ง หมด ถ้า เขาเข้า บ้านแล้ ว งานก็ค งรออยู่ โอกาสมาหาเธอก็คงยาก “นั่งเงียบทาไมพี่ปัด ไหนบอกว่าหิว” “ก็ดูลิลอยู่ คิดถึงน่ะ ลิลคิดถึงพี่ไหม” “คิดถึงซิคะ ไม่เห็นกันตั้ง 2 ปี นึกว่าลืมลิลซะแล้ว” เธอมองเขาด้วยแววตาหวานระยับ จนชายหนุ่มต้องถอน ใจแผ่วยาวก่อนเอ่ยเสียงทุ้มกรุ้มกริ่ม “อย่ามองแบบนั้น เดี๋ยวก็โดนจูบหรอก” เธอหัวเราะเสียงพลิ้วขณะตอบเขา “โดนไม่กลัว กลัวไม่โดน” “จริงหรือเปล่า” หน้าขาวๆ นั้นดูกระตือรือร้นทันที เขาถามก็เพราะอยาก รู้ว่าเธอพูดเล่นหรือพูดจริงเนื่อ งจากคบกันมา 3 ปี เธอไม่เคย ยอมให้เขาจูบสักทีนอกจากจับมือ แค่นั้น “รอก่อนนะคะ แต่คงอีกไม่นาน” หญิ ง สาวตอบเสี ย งเบา อายเขาขึ้ น มาบ้ า งเหมื อ นกั น เธอคบกับเขามาหลายปีค่อนข้างแน่ใจว่าใช่ เขาดูแลเธออย่างดี ไม่เคยทาอะไรที่เป็นการบังคับจิตใจเธอเลยแม้แต่นิด เธอให้รอ เขาก็ รออย่า งอดทนและเธอคิ ด ว่ า ตั ว เองรั ก เขา ถ้า ไม่มี อ ะไร 25
เกิดขึ้นเธอก็จะแต่งงานกับเขาแน่นอน ระหว่างที่ทั้งคู่ทานอาหารและหยอกล้อกันอยู่นั้นทั้งสอง คนไม่ รู้ เ ลยว่ า โภคิ น จะนั่ ง มองอยู่ ไ ม่ ไ กล เขายิ้ ม ขณะคิ ด เขา อยากจะรู้ ว่ า 2 คนนี้ จ ะคบกั น ได้ น านขนาดไหน ถ้ า …ถ้ า เขา วางแผนทาให้คู่นี้เหมือนคู่ที่แล้ว เธอจะกลับบ้านก็ดึก หลังจากที่เขาพาเธอไปทานอาหารแล้วก็ เลยไปฟังเพลงเต้นรากันอีกนิดหน่อย เธอยิ้มขาๆ เมื่อเขาออก ปากขอแต่งงานเมื่อคืนนี้ “ลิล แต่งงานกับพี่ได้ไหม” “ค่ะ” ปรัชญ์มองหน้าหญิงสาวเหมือนไม่เชื่อ เพราะเธอรับคา ง่ายดาย และถึงแม้จะยิ้มแต่ก็ดูแปลกๆ สาหรับเขา “ทาไมพี่ปัดทาหน้าแบบนั้นละคะ” “พี่ไม่แน่ใจ มันน่าจะตื่นเต้นกว่านี้ไม่ใช่เหรอ” “โธ่ พี่ปัดอย่าคิดแบบหนังสิคะเราโตกันแล้ว อีกอย่าง เราคบกันมาตั้งนานลิลก็คิดๆ อยู่ว่าสักวันถ้าเป็นไปได้ก็อยากอยู่ กับพี่ปัด” “คิดแบบนั้นจริงหรือลิล” เขาถามเสียงอ่อนโยน “จริงซิคะ” “ถ้าลิลรับคาแล้วให้พี่มัดจาได้หรือยัง” หน้าสวยขาวนั้น มองดูห ญิง สาวด้วยความรัก และหวั ง เต็มเปี่ยม เธอยิ้มรับก่อนเอียงหน้าให้เขา ชายหนุ่มเชยคางนั้น 26
ขึ้นก่อนจูบประทับหนัก ๆ เขารู้สึกดีจนเกิดอาการติดพันไม่ยอม หยุด ริมฝีปากนั้นหวานหอมจนเขาบดปากแน่นขึ้น จนหญิงสาว ดันอกกว้างเบาๆ “ไหนว่ามัดจา” เธอพูดเสียงแผ่ว หน้าแดงนิดๆ “ก็มัดจาไง ไม่ได้ทาอะไรมากกว่านี้สักหน่อย” เขายิ้มหวานให้เธอก่อนจับมือนุ่มมาจูบหนัก ๆ เอนร่าง พิงกันอย่างมีความสุข “พรุ่งนี้พี่จะบอกกับแม่นะลิล เรื่องของเรา” “พี่ปัดว่า คุณแม่จะยอมไหมคะ” “ลิล พูดตลก ทาไมคุณแม่จะไม่ยอม” “ไม่ รู้ สิ เผื่ อ ไว้ ไ ง” เธอพูด แผ่ ว ก็ ไ ม่ แ น่ใ จนั ก หรอกกั บ ความคิดของเขา
27
2 พลางถอนใจแผ่ว วันนี้เธอไม่ได้รีบเนื่องจากมาทางานเช้ากว่า ปกติ หญิงสาวเดินเอื่อยๆ เข้าไปในลิฟต์ที่ว่าง ยืนคิดถึงเรื่องเมื่อ คืนจนเริ่มปวดหัว แล้วเธอก็สะดุ้งเมื่อมือแข็งแรงข้างหนึ่งแทรก พรวดเข้ามากันไม่ให้ลิฟต์ปดิ ร่างเธอถอยหลังอัตโนมัติเพราะตกใจ ก่อนเบียดร่างติด ผนังและก้มหน้าลงเมื่อเห็นร่างสูงที่เข้ามานั้น เขาเข้ามายืนข้างๆ ยืนนิ่งไม่ไหวติง ยืนหน้าตรงคอตั้งอยู่แบบนั้น หญิงสาวชาเลือง มองเขาจากด้ า นข้ า ง เธอรู้ แ ล้ ว ว่ า ท าไมเขาชอบสวมแว่ น ด า คงไม่อยากให้ใครเห็นดวงตากระมัง แล้วเธอก็สะดุ้งเมื่อเสียงห้าว นั้นทาลายความเงียบขึ้น “เสียมารยาทมากรู้ไหมคุณ…ลิลลี่” ลลิลงงกับค าพูด ลอยๆ นั่นไม่น้อ ย และแปลกใจยิ่งขึ้น เมื่อเขาหันมาทางด้านเธอและถอดแว่นออก “ผมพูดว่า การจ้องคนอื่นเป็นการเสียมารยาท คุณไม่รู้
หรือไง คุณลิลลี่” หญิงสาวหัวเราะกิ๊กทันทีเมื่อได้ยินเขาเรียกชื่อเธอผิด “ดิฉันชื่อลลิลค่ะท่านประธาน” “เหรอ ผมไม่ยักจาได้ แล้วก็เลิกมองผมได้แล้ว ไม่ชอบ เข้าใจไหม” หญิงสาวหยุดยิ้มทันทีเมื่อถูกตะคอกเสียงดัง ก่อนอดคิด ไม่ได้ว่านี่เขาพูดดีๆ ไม่เป็นหรืออย่างไรทาไมต้องขึ้นเสียงด้วย เธอยื น นิ่ ง จนถึ ง ชั้ น ที่ ท างานก็ เ ตรี ย มออกไป แล้ ว เธอก็ ต้ อ ง หยุดชะงัก “ตอนบ่ายขึ้นไปหาผม ผมมีเรื่องพูดด้วย” ร่างสูงใหญ่นั้นมองตรงมา เธอไม่เห็นสายตาเขาหรอกว่า มองอะไรแต่คิดว่าน่าจะมองคู่สนทนานั่นก็คือเธอ ประตูลิฟต์ปิด และนั่นมันทาให้เธอเริ่มคิดหนักขณะเดินเข้าที่ทางาน หญิงสาวแทบไม่มีความสุขกับการทางานในวันนี้ เธอรอ เวลาอย่ างกระวนกระวายจนแทบจะกลายเป็ น โรคประสาท โภคินนั้นเมื่อรู้ว่าเธอถูกเรียกเข้าพบเขาก็ชิ่งหนีออกนอกบริษัท อ้างว่าจะไปพบลูกค้า ความจริงเขากะว่าจะไปตั้งหลั กก่อนแล้ว ค่อยกลับมาสอบถามเธอทีหลัง บ่ายโมงตรงหญิงสาวผ่านเลขา หน้าห้องก่อนไปยืนนิ่งอยู่เป็นครู่และเคาะประตูเสียงเบา “เชิญ คุณลิลลี่” เสียงห้าวนั้นดังออกมาจากห้องของท่านประธาน หญิงสาว เดินเชื่องช้าเข้าไปในห้องยืนอยู่หน้าโต๊ะทางานของเขา “ลลิลค่ะ ดิฉันชื่อลลิล” หญิงสาวพูดเสียงเหมือนราคาญขึ้นมานิด ๆ หลังแจ้งชื่อ 29
ตัวเองซ้าอีกครั้ง นี่เขาไม่เคยจาชื่อลูกน้องบ้างเลยหรือไง “ขอโทษทีคุณลลิล ผมจาชื่อผู้หญิงไม่ค่อยได้ แต่ละคน ชื่อเรียกยากพิลึกพอดีผมรู้สึกว่าชื่อคุณคล้า ยดอกไม้มั้งเลยเรียก ลิลลี่ตลอด นั่งก่อนสิ” เธอทรุดนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทางานของเขา พลางมอง เขาตาไม่กะพริบผู้ช ายคนนี้แปลก หน้าตาก็แปลก เขาดู…เธอ มองดวงหน้าเรียวแข็งแรงนั้ นพลางพิจารณาคิ้วเข้มที่ทอดยาว เหนือดวงตาคมกริบสีน้าเงินเข้ม ซึ่งบางครั้งก็เป็นสีดาเหมือนใน เวลานี้นั้นมันทอดยาวดุจปีกนก จมูกโด่งเรียวรับกับปากที่บาง เฉียบจนเหมือนเม้มปากอยู่ตลอดเวลา หน้าเขาขาวจัด แต่กลับมี ไรเคราที่โ กนไว้จ นเขียวเห็ น เด่ น ชั ด พอดู แยกๆ ทีล ะชิ้น แล้ ว ก็น่ากลัว แต่พอดูรวมๆ กลับน่ามอง “มองพอแล้วใช่ไหม คุณนี่มันน่า…” เขาทาท่าไม่พอใจชัดเจนเมื่อเห็นเธอจ้องแบบนี้ หญิงสาว เหมือนเพิ่งรู้ตัว เธอกะพริบตา สองสามครั้ง ก่อนหัวเราะออกมา “ขอโทษค่ะท่าน พอดีดิฉันอยู่แผนกออกแบบ เลยมอง ท่านเพลินน่ะค่ะ” ร่างสูงใหญ่โตนั้นเอนหลังพิงพนักเก้าอี้และมองเธอเขม็ง “มองทาไม หน้าผมผิดปกติตรงไหน” “ท่านดูเหมือนเอ่อ…เอ…” เธอนิ่งคิดด้วยคิดไม่ออกว่าจะพูดแบบใดก็บอกแล้วหน้า เขาแปลก แต่เขากลับโมโหตบโต๊ะดังเปรี้ยงจนเธอสะดุ้ง “ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้นฟังผมพูด” “ค่ะ ค่ะ ” เธอรั บ ค าละล่ าละลั ก ตกใจกับ อาการผี เข้ า 30
ผีออกของเขา “ผมมี ง านให้ คุ ณ ท าส าคั ญ มากด้ ว ย คุ ณ ลลิ ล ตามหา พี่สาวคุณให้เจอภายใน 2 อาทิตย์ คุณต้องบอกผมได้ว่าพี่คุณอยู่ ที่ไหน จาไว้ลลิลถ้าหาไม่พบคุณไม่ต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป” “ทะ ท่านคะ ท่านเพี้ยนไปหรือเปล่า ดิฉันไม่พบพี่แก้ว มาตั้งนานแล้ว อีกอย่างเธอไม่ติดต่อมาเลย รู้แต่ว่าอยู่อังกฤษ แล้วอังกฤษเนี่ยมันแคบๆ ที่ไหนกัน” “นั่นไง ไหนคุณบอกไม่รู้ คุณโกหกชัดๆ อย่างน้อยคุณก็รู้ ว่าเธออยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้มันก็แคบเข้ามาแล้วเห็น ไหม ตามเข้า สิลลิล เดี๋ยวก็เจอ” หญิงสาวถอนใจหนักหน่วง นี่เธอเจอกับคนประสาทหรือ อย่างไร พูดไม่รู้เรื่องไม่ยอมเข้าใจ เอาแต่สั่งอย่างเดียว “ก็ได้ค่ะ ดิฉันจะพยายาม” “นั่นน่ะ ถูกต้องที่สุด อย่างน้อยคุณก็น่าจะมีเบาะแสบ้าง ละนะ ถ้าพบเธอแล้วก็มาบอกผม คาเดียวผมจะไปลากพี่สาวคุณ กับนายภัทธรกลับมา” แล้วเธอก็ตาเบิกโพลงเมื่อได้ยินชื่อนั้น “ท่านประธานที่เคารพคะ ดิฉันทราบมาว่า คุณภัทธร เป็นหลานของท่าน ท่านน่าจะรู้ว่าคุณภัทธรอยู่ที่ไหน แล้วทาไม ท่านไม่ช่วยหาอีกแรงละคะ” คราวนี้ร่างสูงใหญ่ของเขาก็ลุกพรวด เขายกมือรวดเร็ว จนหญิงสาวหวีดร้องเอนหลังเบียดตัวติดเก้าอี้ หลับตาปี๋ คีตกานต์ หยุด ชะงัก ทัน ทีเหมือนกันเมื่อ เห็น กิริยาของเธอ ชายหนุ่ม บด กรามก่อนลดมือลงจับขอบโต๊ะทางานแล้วบีบไว้แน่น ด้วยกลัว 31
ว่าถ้าปล่อย มันจะทาร้ายเธอเข้าให้ ผู้หญิงคนนี้กวนโทสะเขา เป็นบ้า “ลืมตาได้แล้วลลิล ผมยังไม่ฆ่าคุณหรอก” หญิงสาวค่อ ยลื ม ตาขึ้น หน้าซีด เผื อ ด เธอมองเขาด้ว ย ความระแวดระวังจนเขาถอนใจยาว ร่างสูงนั้นทรุดนั่งก่อนมอง เธอที่เบียดตัวติดเก้าอี้อยู่ “จาไว้ ถ้าไม่อยากเจ็บตัวอย่าย้อนผม ผมไม่ชอบ เกลียด ที่สุดกับคนที่ชอบยอกย้อน” ดวงตาสีน้าเงินเข้มมองเธอนิง่ แน่วนานก่อนจะยิม้ ออกมา ยิ้มที่เธอเห็นแล้วขนลุกทั้งตัว “เอางี้ดีไหมลลิล ผมจะยอมตามหานายภัทธร คุณก็ตาม หาพี่สาวคุณเรามาดูกันซิว่า ใครจะเจอก่อนกัน” เธอมองดูเขาด้วยแปลกใจกับท่าทีนั้น เขาวิกลจริตหรือ เปล่า ดวงตาคมนั้นมองเธอแปลกๆ ชอบกล “ถ้าคุณพบก่อน ผมสัญญาจะไม่เอาเรื่องพี่สาวคุณ แต่ ถ้าผมพบก่อน…ผม…” เขาหยุดไปแล้วยิ้ม ให้ คราวนี้เธอร้อนวูบ วาบทั้งตัวกับ สายตาของเขา ร่างเขาเอนพิงพนักเก้าอี้เต็มตัวมองเธอนิ่งนาน “ผมยั ง ไม่ บ อกดี ก ว่ า รอถึ ง วั น นั้ น แล้ ว ผมจะพู ด อี ก ที ออกไปได้แล้ว” เขาไล่เธอทันทีที่พดู จบ ก้มหน้าทางานต่อเหมือนเธอไม่มี ตั ว ตนอยู่ ต รงนี้ หญิ ง สาวแผ่ น พรวดเดี ย วออกมาจากห้ อ ง เหมือนกัน เธอกลัวเขา กลัวจนเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น ร่างบาง นั้นยืนพิงหน้าประตูห้องทางานของเขาเหมือนอ่อนแรง เธอจะ 32
ทนเขาได้อีกนานแค่ไหน แล้วนี่เธอจะเริ่มตรงไหนถึงจะหาพี่สาว เธอพบ แค่สองอาทิตย์ เชอะถ้าเธอเจอเธอก็น่าจะเปลี่ยนอาชีพ ไปเป็นนักสืบน่าจะดีกว่าอยู่ที่นี่ “ฉันเกลียดคุณ ท่านประธานเฮงซวย” เธอรี บ ตะครุ บ ปากตั ว เองแน่ น เมื่ อ รู้ ว่ า เธอเผลอพู ด ออกไปตามความคิด “ลลิล ผมได้ยินนะ” เสียงห้าวนั้นดังออกมาจากห้องเขา หญิงสาวตกใจเผ่น แน่บทันที ประตูห้องทางานของเขาถูกกระชากออก ด้วยโทสะ เขาเห็นร่างเธอวิ่งเร็ว ๆ หนีไปที่ลิฟต์ ชายหนุ่มโกรธจัด เขาวิ่ง ไม่กี่ก้าวก็ทันร่างบางนั้น กระชากทีเดียวเธอก็ปลิวเข้าหาร่างเขา หญิงสาวหลับตาแน่น เมื่อเห็นดวงตาเขาเป็นสีน้าเงินเข้มลุกโชน ด้วยความโกรธจัด เธอรอ…รอเวลาที่เขาจะตบเปรี้ยงลงมาแต่มัน นานเกินไป แล้วเธอก็ลืมตาขึ้นทีละข้าง มองหน้าเขาด้วยแปลก ใจ เขายืน อยู่ชิด ร่างเธอ มองเธอด้วยสายตาแปลก แล้ วเขาก็ ปล่อยเธอจากวงแขนนั้น “วั น นี้ นึ ก ว่า ผมปล่ อ ยลู ก นกลู ก กาก็แ ล้ ว กัน แต่จ าไว้ วันหลังหัดคิดก่อนพูดซะบ้างจะได้ไม่ต้องเจ็บตัวเปล่า ” เธอพยักหน้ารับเร็ว ๆ แล้วก็ตกใจซ้าเมื่อเขาดึง คางเธอ ขึ้นให้มองหน้าเขา “ขอบคุณผม แล้วก็ไปได้” เขาสั่งเสียงห้วน “ขะ ขอบคุณค่ะ” “ท่านประธาน” เขากล่าวเสียงเย็นเฉียบพอๆ กับใบหน้า เขาในตอนนี้ 33
“ค่ะ ท่านประธาน” ร่างสูงใหญ่นั้นเดินหันหลังจากไปแล้ว แต่เธอยังยืนนิ่งอยู่ ตรงนั้นด้วยคาดไม่ถึงกับพฤติกรรมพิกลของเขา ‘คนบ้า ประสาทหรือเปล่าวะ’ คราวนี้เธอยกมือปิดปากตัวเองไว้แน่นขณะคิดอย่างน้อย ก็มั่นใจได้ว่าเธอจะไม่ได้พูดออกมาแน่นอน เต็มทน เขาไม่น่ามา ถ้าแต่แรกปล่อยให้อาจัดการก็คงสิ้นเรื่อง อย่างมากเขาก็โยนเงิน สักก้อนให้ ปัญหาต่างๆ ก็คงหมด เขาไม่ น่าเชื่ออาสักนิดเลยต้องมานั่งปวดหัวจนนอนไม่หลับอยู่แบบนี้ ผู้หญิงคนนั้น บอกว่านายภัทธรอยู่ที่อังกฤษ เขาน่าจะมี ลู่ทางเพราะเพื่อนก็มีมาก หน้าคมคิ้วเข้มจนดุนั้นยิ้มขึ้นมาบ้าง เมื่อนึกถึงข้อนี้ อย่างน้อยเขาเชื่อว่า เวลา 2 อาทิตย์ของเขาต้อง เกิดผลอะไรขึ้นบ้าง ชายหนุ่ม หลับตาลงเมื่อคิดถึง 2 อาทิตย์ที่พูดไว้ ทาไม เขาถึงพูดแบบนัน้ ออกไปถ้าเขาตามหานายภัทธรพบก่อนเธอจริง สัญญาที่เขาพูดค้างไว้คืออะไร เขาต้องการอะไรแน่ มันเป็นเพียง อารมณ์ชั่ววูบที่เข้ามาเพียงเสี้ยววินาทีแล้วก็หายไป ตอนนี้เขา กลับจาไม่ได้ เขาปัดความคิดนั้นออกจากสมองและพยายามนอนให้ หลั บ เขามีปัญ หาเสมอเรื่ อ งการนอน เป็น แบบนี้ตั้ งแต่ วัยรุ่ น จนถึงเดี๋ยวนี้ การนอนเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ สุดท้ายกว่าเขาจะหลับ ได้ก็เกือบรุ่งสางเหมือนทุกๆ ครั้ง 34
ปรัชญ์เอ่ยถามสาวคนรักด้วยสงสัยเต็มทน เธอออกมา ทานอาหารกับเขาแต่หน้าตากลับไม่มีความสุข สักนิด “นิดหน่อยคะพี่ปัด” “บอกพี่ได้ไหมลิล เผื่อพี่ช่วยเหลืออะไรได้” ลลิล มองหน้าขาวสวยของเขาก่อนถอนใจ ใครจะช่วย เธอได้แต่ก็น่าลองดู “เรื่องพี่แก้วค่ะ” “พี่สาวคุณใช่ไหมลิล” “ค่ะ ลิลไม่รู้จะเริ่มยังไง มันเป็นเรื่องน่าอาย” “ลิล เราเป็นแฟนกันนะ อีกหน่อยก็จะแต่งงานกัน ลิลมี เรื่องทุกข์ร้อนก็ต้องเล่าให้พี่ฟังสิ หรือลิลคิดว่าพี่เป็นคนอื่น” “ไม่ใ ช่แ บบนั้ น นะคะพี่ปั ด …คือ …ลิ ล เล่ าก็ ไ ด้ค่ ะ ” เธอ ถอนใจยาวก่อนเริ่มพูดขึ้น “พี่สาวลิลถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินบริษัทค่ะ” “จริงน่ะ” เขาถามท่าทางแปลกใจ “แล้วลิลจะหลอกทาไมคะพี่ปัด ” เธอชักเสียงขุ่นจนเขา ขอโทษออกมา “พี่แก้วเข้ามาทางานที่บริษัทนี้ ตอนนั้นลิลยังเรียนไม่จบ ด้วยซ้าไป ตอนแรกพี่สาวลิล ชอบพอกับผู้จัดการแผนกออกแบบ ก็แผนกที่ลิลอยู่เดี๋ยวนี้น่ ะค่ะ แต่พี่แก้วอยู่แผนกบัญชี คบกันไม่ นานก็เลิกกันเพราะพี่แก้วเปลี่ยนไปชอบกับคุณภัทธร หลานของ ท่านประธานน่ะค่ะ” “เดี๋ยวลิล ภัทธรนี่คือภัทธรไหน” ชายหนุ่มถามท่าทาง 35
ตกใจ “ก็ คุณภัทธร เกียรติไพศาล ไงคะ พี่ปัดรู้จักเหรอ” หน้าขาวๆ นั้นซีดเผือดขึ้นมาทันที เขาหลับตาแน่นเมื่อรู้ ความจริง นายภัทนายมันหาเรื่องชัดๆ “พี่รู้จัก” เขาตอบแผ่วเบา “นั่นแหละค่ะ คุณภัทธรกับพี่แก้ว ถูกกล่าวหาว่ายักยอก เงินแล้วพากันหนีไปตอนนี้ท่านประธานกลับมาอยู่ที่นี่แล้ว และ ก็บอกว่าให้ลิลตามหาพี่แก้ว” “ท่านประธาน…ลิลหมายถึงใคร” “ก็คุณคีตกานต์ พิทักษ์เกียรติดารง ไงคะ” แล้วคราวนี้หญิงสาวก็ต้องแปลกใจยิ่งขึ้นเมื่อร่างสูงนั้น ผงะทันทีที่เธอพูดจบ “ลิล คราวนี้พี่สาวคุณกับนายภัทตายแน่ๆ” “พี่ ปั ด ท าไมพู ด แบบนี้ ” หญิ ง สาวกระชากเสี ย งด้ ว ย โกรธขึ้นมา “ลิล ฟังพี่ให้ดีนะ ท่านประธานน่ะพี่รู้จักดี รวมทั้งนาย ภัทด้วย เพราะพี่กับนายภัทเป็นหลานของท่าน” หญิงสาวถึงกับตกใจ นี่เธอไม่เคยรู้เลยสักนิดว่าคู่รักของ เธอจะเข้ า มาเป็ น ญาติ กั บ คนแบบเขาคนนั้ น ได้ นี่ เ ธองงไป หมดแล้ว “ที่พี่กล้าพูดแบบนี้เพราะพี่เคยอยู่กับเขาพักหนึ่ง แค่พัก หนึ่งนะลิล ไม่กี่เดือนพี่เกือบประสาทเสีย เขาไม่ค่อยพูดนะลิล แต่ถ้าพูดขึ้นมาเจ็บไปถึงกระดูกนั่นทีเดียว เจ้าระเบียบเรื่องมาก กัดไม่ปล่อยนี่แหละถึงทาให้พี่กลัว” 36
“แล้วพี่ปัดจะให้ลิลทาไง ท่านให้ลิลตามหาพี่แก้วภายใน 2 อาทิตย์ถ้าลิลเจอก่อนท่านจะไม่เอาเรื่อง แต่ถ้าท่านเจอคุณภัท ก่อนลิล” “เขาจะทาไม” เขาถามเสียงตระหนก “ไม่รู้สิคะ ท่านไม่พูด บอกแต่ว่าถ้าถึงเวลาจะบอก” ชายหนุ่มมองหน้าเธอด้วยหวาดระแวงชอบกล เธอเป็น คนสวยหรืออาของเขาจะคิดอะไรกับเธอ ไม่น่าเป็นไปได้ในเมื่อ อาเขาไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนด้วยซ้าไป ตอนอยู่ต่างประเทศ ด้วยกันเขาไม่เคยเห็นอาควงผู้หญิงคนไหนแม้แต่คนเดียว เขารู้ดี ว่าอาเขาไม่ส นผู้หญิงสนแต่งานอย่างเดียวจนเขาคิด ว่าอาเขา น่าจะแต่งงานกับบริษัทของเขาและสมุดบัญชีธนาคารมากกว่า คงเป็นไปไม่ได้ที่อาเขาจะมาสนใจเธอ “เอางี้นะลิล พี่จะช่วยอีกแรงแล้วกัน พี่เคยอยู่อังกฤษ มี คนรู้จักอยู่พอตัวแล้วพี่จะให้เขาช่วยสืบให้ดีไหม” “ขอบคุณค่ะพี่ปัด ขอบคุณมาก” เธอกล่าวเสียงสดใสขึ้นมาก่อนบีบมือเขาแน่น อย่างน้อย ตอนนี้เธอก็ยังมีคนช่วย งานของเธอก็ถือว่าเริ่มต้นเป็นวันแรก แล้วอาหารมื้อนั้นของเธอก็ดนู ่าทานขึน้ อีกเยอะ หญิงสาวทานได้ มากผิดกับเขาที่ดูครุ่นคิดตลอดเวลา ความสลัวนั้นทอดร่างเอนยาวอยู่บนเตียงกว้างมือซ้ายถือรูปใบ หนึ่งมองเหมือนพิจารณาอย่างเพ่งพิศ เธอสวย สวยจนทาให้เขา เจ็บปวดอยู่จนทุกวันนี้ แต่เธอก็โง่ จนถูกเขาหลอกใช้กลับคืน ริม 37
ฝีปากเขาเหยียดออกเหมือนเยาะเมื่อคิดถึงตรงนี้ เขารักเธอ รักมากจนยอมเธอทุกอย่าง แต่ความรักของ เขากลับถูกเธอปฏิเสธอย่างเลือดเย็น …เขาอยากรู้นัก …เธอจะ เป็นอย่างไรในตอนนี้ถ้ารู้ว่ากาลังถูกล่าอยู่โดยคนที่เธอกลัวแทบ จะสุดชีวิตเขาหยิบโทรศัพท์มาหลังมองนาฬิกาแวบหนึ่ง “แก้วหรือเปล่า” เขาถามเสียงนุ่มลงไปเมื่อมีคนรับสาย “ค่ะ แก้วเอง ใครพูดคะนั่น” “ทาไม มันนานจนจาพี่ไม่ได้แล้วเหรอแก้ว” เสียงปลายสายนิ่งไปชั่วครู่ก่อนตอบกลับมาน้าเสียงยินดี “ต๊าย…พี่คิน …พี่คินจริง ๆ หรือคะนี่ แก้วดีใจจังสบายดี ไหมคะพี่ แล้วคิดยังไงถึงโทรหาแก้วได้” “ก็คิดถึงไง หลานเป็นไงบ้างแก้ว” “หลั บ อยู่ ค่ ะ พี่ ภั ท ก็ ไ ปออกก าลั ง กาย มี อ ะไรส าคั ญ ไหมคะนี่ … พี่ คิ น ถึ ง โทรมาหาได้ ” เขายิ้ ม เย็ น กั บ ค าถามนั้ น ก่อนตอบกลับไป “จะว่าสาคัญก็ใช่นะแก้ว เรื่องเก่าไง” “หมายความว่าไงคะ พี่คิน” หญิงสาวถามน้าเสียงงุนงง “ก็เรื่องแก้วกับนายภัท อาเขารู้แล้วนะ ท่านประธานไง เขารู้แล้ว” “พี่คิน” เธอทาเสียงเหมือนตกใจสุดขีด “แก้วกับนายภัทจะทายังไง ถ้ารู้แบบนี้” โภคิน ถามกลั บ กลั้ ว หัวเราะเหมือ นสนุก เต็ม ที่ ใช่ เขา กาลังสนุก สนุกที่ได้เห็นเธอเดือดร้อนกระวนกระวาย 38
“พี่คิน หัวเราะทาไม เรื่อ งทุก ข์ข องแก้วพี่คิน สนุก มาก หรือคะ” หญิงสาวหงุดหงิดกับน้าเสียงนั้น “เปล่ าแก้ว พี่เพี ยงแต่ ส งสารแก้ว กับ นายภัท ต่ างหาก พี่หัวเราะเรื่องอื่น” “แก้วจะลองพูดกับพี่ ภัทดู อย่างมากแก้วก็จะพาหลาน กลับไปกราบปู่ของแก” หญิงสาวพูดเหมือนถูกกดดันจนไม่มีทางออก แต่คาพูด ของเธอทาให้ร่างสูงคร้ามนั้นทะลึ่งพรวดลุกขึ้นเมื่อได้ยินคาตอบ “แก้ วจะท าแบบนั้ น ไม่ไ ด้ น ะ” เขากระชากเสี ยงห้ ว น ทันที “ทาไมคะพี่คิน ไหนๆ เรื่องมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว อีกอย่าง การที่แก้วกับพี่ภัทรักกันแค่นี้มันผิดมากเลยหรือคะ ผิดจนถึงขั้น จะทาลายกันเลยหรือยังไง แก้วไม่สนหรอก แก้วหนีมาอยู่ที่นี่ ตอนนั้นก็เพราะแก้วยังเด็ก เราทั้งคู่กลัวเกินไปถ้าตอนนั้นเราสู้ สักนิด ยอมรับกับอาของพี่ ภัทตรงๆ ว่าเรารักกันก็อาจจะไม่มี ปัญหาก็ได้” โภคินนิ่งอึ้ง ดวงตาคมวาว บดกรามแน่น ถ้าเธอกลับมา เขาก็พัง เขาพยายามข่มใจที่เดือดขึ้นมาให้สงบลง พูดปลอบโยน เธอกลับไป “แก้ว…พี่ว่าเอางี้ดีไหม พี่ว่ารอสักพัก รอให้พี่ดูสถานการณ์ ก่อน แล้วยังไงพี่จะติดต่อมาอีกที” “งั้นก็ได้ค่ะ ขอบคุณพี่คินมากที่ส่งข่าวบอก” เธอตอบเขากลั บ ไปแล้ ว ค่ อ ยวางสายเมื่ อ อี ก ฝ่ า ยวาง โทรศัพท์ไปแล้ว หญิงสาวยืนนิ่งกับความคิดที่ไหลเข้ามา ก่อน 39
สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงออดหน้าห้องดังขึ้น “คะ รอเดี๋ยวค่ะ” ร่างอวบอิ่มถลันไป ก่อนมองช่องเล็กๆ ที่ประตู เมื่อเห็น ว่าเป็นสามีเธอก็ยิ้มออกมาได้ “เป็นอะไรแก้ว หน้าตาแปลกๆ ชอบกล” ภัทธรโอบเอวภรรยาก่อนถามเสียงทุ้ม หน้าขาวคมนั้น มีเหงื่อเกาะพราว เธอรอให้เขานั่งเรียบร้อยก็เดินไปรินน้าแล้ว นามายื่นให้เขา ชายหนุ่มรับมาพร้อมจุมพิตปากอิ่มเบาๆ “คิมเป็นไงบ้างแก้ว” “หลับอยู่ค่ะ เอ่อพี่ภัทคะ พี่คินโทรมาเมื่อกี้” “คุณโภคินหรือ ทาไมมีเรื่องอะไรแก้ว ” เขาถามท่าทาง แปลกใจ “คุณอา รู้เรื่องเราแล้วนะคะ” เธอตอบกลับน้าเสียงไม่ สบายใจ “ตายห่า…เอ่อ พี่ขอโทษที…แล้วนี่มันยังไงกัน ทาไมอา ถึงรู้” “แก้วไม่ทราบค่ะ พี่คินบอกแค่นี้” ชายหนุ่ ม ถอนใจยาวก่ อ นโอบไหล่ ห ญิ ง สาวด้ า นข้ า ง เข้ามาแนบอกกว้างชื้นเหงื่อนั้น “แก้ว…แก้วกลัวไหม” “แก้วกลั วค่ะ กลั วคุณ อา แต่แก้วก็บ อกพี่คิน นะคะว่า อย่างมากเราก็จะพาตาคิมไปกราบปู่แก” “แก้ว แล้ วแก้ว คิด ว่ าถ้าท าแบบนั้น คุณ อาจะยกโทษ ให้ไหม” 40
“แก้ ว ไม่ ท ราบ แต่ ว่ า พี่ ภั ท คะ ตั้ ง แต่ ต้ น จนเดี๋ ย วนี้ แก้วเคยได้ยินแต่ชื่อคุณอา แก้วไม่เคยเห็นหน้าท่านด้วยซ้าไป บางที แ ก้ ว ก็ เ คยคิ ด ว่ า จริ ง ๆ แล้ ว ท่ า นน่ า กลั ว แบบที่ เ รานึ ก หรือเปล่า” “พี่ รู้ แ ก้ ว …ถึ ง แม้ พี่ เ คยพบคุ ณ อาไม่ กี่ ค รั้ ง ก็ จ ริ ง นะ แต่ท่านก็ดุ หยิ่งยโส แล้วก็น่ากลัว” “แบบนี้ พี่คินถึงให้รอก่อนไงคะ” เขานิ่งไปนานก่อนทาท่าเห็นด้วย “ก็ดีนะ พี่ว่าเรารอสักพักก็น่าจะดี รอให้ท่านหายโกรธ เราก่อน” หญิงสาวนั่งนิ่งชั่วครู่เธอก็ตัดใจถามเขาเรื่องที่ค้างคาใจ มาเนิ่นนาน “พี่ภัทคะ แก้วขอโทษถ้าถามพี่แล้วพี่จะไม่พอใจ แก้ว เพียงแต่สงสัย” “เรื่องอะไรแก้ว” “ก็เรื่องของเรา ทาไมคุณอาของพี่ ภัทเกลียดคนจนมาก ขนาดนี้เ ลยหรื อ คะท าไมแค่ เรารั ก กั น แล้ ว ฐานะต่า งกั น แค่ นี้ คุณอาถึงโกรธเกลียดเราได้ขนาดนี้แก้วไม่เข้าใจเลย” “พี่ก็ไ ม่แน่ใจนะแก้ว …ตอนนั้น เราทั้ งคู่ต่างก็ไ ม่รู้อ ะไร แน่ชัด เรายังเด็กนะแก้วเรียนจบมาก็อยู่ด้วยกัน พากันหนีออก จากบ้าน เรื่องของเราก็มีแต่คุณโภคินรู้อยู่คนเดียว บางครั้งพี่ก็ สงสัยแล้วก็เคยคิดเหมือนกันว่า ทาไมเราไม่ไปหาคุณอาทาไม ต้องให้เรื่องนี้ผ่านคุณโภคินทุกครั้ง” “พี่ภัทคิดเหมือนแก้ว” 41
เธอพูดเสียงเบาเมื่อถึงจุดนี้ ด้วยอายุที่มากขึ้นตามลาดับ การรับผิดชอบทั้งตนเองและบุตรทาให้เธอเข้าใจอะไรมากขึ้น หญิงสาวยิ้มออกมาเมื่อคิดอะไรดีๆ ได้ “พี่ภัทคะ ให้แก้วโทรหายายลิลดีไหม” “อย่าเพิ่งเลยแก้ว พี่ว่ารอสักพักดีกว่า เรารอฟังข่าวจาก คุณโภคินอีกสักที คงไม่นานเราน่าจะรู้เรื่อง ดีไหม” “ก็ได้ค่ะ” หญิงสาวรับคาก่อนแนบหน้ากับอกกว้างของเขาด้วยรัก สุดหัวใจ อย่างน้อยตอนนี้เธอก็มีเขาและลูกอยู่ใกล้ ๆ เธอจะทน ทุกอย่าง หญิงสาวโอบแขนรอบเอวเขาด้วยความสงสาร ดูเอา เถอะ เขาอุ ต ส่ า ห์ ห นี ม ากั บ เธอ ทั้ ง ที่ ฐ านะทางบ้ า นเขาออก ร่ารวยอยู่ได้โดยไม่ต้องทางานด้วยซ้าไป แต่เมื่อมาอยู่เสียไกลถึง ที่นี่ เขาต้องทางานเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวอยู่กันแบบพอมีพอกิน เพราะความรั ก เธอ แล้ ว แบบนี้ จ ะไม่ ใ ห้ เ ธอรั ก เขาได้ อ ย่ า งไร ชายหนุ่มกอดภรรยาแนบอกเมื่อรับรู้ถึงแรงกอดรัดจากวงแขน นั้น เขาพูดเสียงเบาเหมือนปลอบโยนเธอ “อดทนนะแก้ว เราต้องอดทนเพื่อลูกของเรา” ร่างสูงใหญ่นั้นลุกพรวดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงจากปลายสาย “ครับท่าน…แต่ก็ไม่เชิงเจอ…คือ” “อะไร ก็เมื่อกี้คุณว่าเจอแล้ว” น้าเสียงห้าวห้วนนั้นเหมือนหงุดหงิดเต็มทน “ก็ได้ข่าวน่ะครับท่าน แต่คงอีกไม่นานคิดว่าน่าจะเจอตัว” 42
แล้วปลายสายก็ต้องหลับพร้อมถอนใจยาวเมื่ออีกฝ่าย บริภาษมาเต็มหู “พูดใหม่ คุณพิสุทธิ์พูดให้ชัดๆ และถูกต้องไม่ต้องรีบ” คีตกานต์เอ่ยเสียงเย็นและช้าด้วยพยายามระงับอารมณ์ เต็มที่ฝ่ายตรงข้ามเสียงสั่นเมื่อตอบกลับมา “คือ…ผมให้คนไปสืบจนพอรู้ว่าคุณภัทกับคุณแก้วอยู่ที่ เมืองไหนแล้วครับท่านแต่ผมยังไม่พบตัวคนจริง ๆ แต่คงอีกไม่ นาน” “ไม่นานน่ ะ ขนาดไหนบอกผมมา” ชายหนุ่มกระชาก เสียงห้วน “น่าจะสัก…ไม่เกินเดือนครับท่าน” “ผมให้เวลาคุณ 1 อาทิตย์คุณพิสุทธิ์ ตามตัวให้พบแล้ว โทรมาบอกผม” “หนึ่งอาทิตย์หรือครับ” เสียงที่ทวนมานั้นแผ่วหวิว “ใช่ ห้ามเกินแม้แต่วันเดียว” เสียงห้วนย้าทีละคาหนัก แน่น เสียงปลายสายเงียบไปนานก่อนอ้อมแอ้มออกมา “ก็ได้ครับ ผมจะพยายาม” “ไม่ใช่พยายามแต่คุณต้องทาให้ได้ รู้ใช่ไหมว่าถ้าทาไม่ได้ จะเป็นยังไง” “ครับท่าน ผมทราบ” “ดี แค่นี้แหละ อย่าลืมรายงานผมทุกระยะด้วย” คีตกานต์วางสายและยืนนิ่งตรงนั้นนาน ก่อนพูดเสียงดุ “นายภัท แกไม่รอดจากฉัน แน่แล้วก็เธอด้วยลลิล เธอ 43
ต้องกระเด็นออกไปจากที่นี่ ไปให้พ้นจากหน้าฉัน” เขาพูด อย่างมุ่งมาด ร่างสู งทรุด นั่งลง หลั บ ตาเหมือ น พยายามเก็บกลั้นความโมโหเมื่อนึกถึงหน้าหญิงสาว เขาเกลียดเธอ เขาไม่อยากเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้น คนที่ทาให้อารมณ์ร้ายๆ ของ เขาต้องปะทุออกมาบ่อยๆ อีกไม่นานเธอต้องถูกอัปเปหิแน่นอน จนชายหนุ่มอดยิ้มไม่ได้ เธอเดินวนไปมา จนเขาต้องกระแอมขึ้น “พี่ปัด โธ่ ทาไมมาช้าจัง ลิลจะบ้าตายอยูแ่ ล้ว…มานี่เร็ว” เธอกรากเข้ามาหาก่อนลากเขาเข้าบ้านรวดเร็ว “ทาไมใจร้อนจริงลิล” เขาพูดยิ้มๆ “ก็พี่ปัดโทรมาบอกล่วงหน้าทาไมละคะ ถ้าไม่โทรมาลิล ก็ไม่คิดมากแบบนี้ เออแล้วพี่ปัดได้ข่าวพี่แก้วยังไง เขาสบายดี ไหม แล้ว…” “หยุดก่อนลิล ใจเย็นๆ หน่อยสิ ” เขาจับเธอให้นั่งนิ่ง ๆ ก่อนหัวเราะท่าทางลุกลนจนหน้าขันนั้น “พี่ปัดก็บอกมาสิคะ” “เอ้า! ก็ได้คืองีน้ ะลิล พี่ให้เพื่อนพี่จ้างนักสืบช่วยตามให้ไง” “แล้วไงคะ” “เขาก็ได้เบาะแสมาว่ามีผู้หญิงกับผู้ ชายไทยชื่อนี้อยู่ที่ เมืองนี้จริง อ้อแล้วก็มีข่าวดีอีกอย่าง” “อะไรพี่ปัด ” เธอถามท่าทางตื่นเต้นขึ้นมาอีกเมื่อมอง หน้าขาวสวยนั้น “ลิลเป็นน้าคนแล้วไง” 44
“ต๊าย จริงนะผู้หญิงหรือผู้ชายคะ” ลลิลเอ่ยเสียงตื่นเต้น “ไม่รู้สินะ รู้แต่ว่าเขามีลูก 1 คนแล้ว พี่ก็เลยให้เขาสืบต่อ” “ขอบคุณพี่ปัดมากเลยค่ะ ถ้าไม่ได้พี่ปัดลิลยังไม่รู้เลยว่า จะเริ่มตรงไหน” หญิ ง สาวกอดแขนเขาแน่ น จนเขายิ้ ม ออกมาเพราะ พอใจกับท่าทางมีความสุขนั้น “ไหนรางวัล” หญิ ง สาวยิ้ ม ก่ อ นท าแก้ ม ป่ อ งแล้ ว เอี ย งหน้ า ให้ เ ขา ชายหนุ่มจูบแก้มป่องๆ นั้นเต็มรักด้วยหมั่นไส้ปนเอ็นดู “ก็ยังดีนะ ค่อยมีกาลังใจทางานหน่อย” “พี่ปัดถ้าเรารู้แบบนี้แล้วท่านประธานจะไม่รู้เหรอเนี่ย ” “พี่ก็คิดแบบนี้ลิล หูตาของคุณอาเป็นสับปะรด คราวนี้ ก็อยู่ที่ว่า ใครจะเร็วกว่ากันพี่ว่าลิลภาวนาไว้เถอะ” “โธ่อย่าพูดแบบนี้สิ ลิลกลัวนะ” “อย่ า กลั ว มากเลยลิ ล ” ชายหนุ่ ม ปลอบเธอเมื่ อ เห็ น ท่าทางหวาดกลัวจริงจังนั้น “ไม่กลัวได้ไง ก็ท่านบอกเองว่าถ้าท่านเจอพี่แก้วก่อนจะ เอาอะไรก็ไม่รู้ นี่ไงลิลถึงกลัว ลิลกลัวว่าท่านจะเอาพี่แก้วติดคุก ยิ่งมีหลานแบบนี้ลิลยิ่งห่วง” “คิดมากลิล คุณอาไม่ทาขนาดนั้นแน่ยิ่งมีหลานยิ่งไม่น่า ทาเอไม่ใช่สินะต้องเรียกว่าหลานปู่ถึงจะถูก” ลลิลนิ่งอึ้งกับคาพูดนั้นเมื่อนึกได้เธอก็หัวเราะคิกคัก ใช่สิ ท่านประธานต้องเป็นปู่แล้วเธอนึกไม่ออกเลยว่าคนอายุขนาด เขาจะเป็นปู่ได้ 45
“พี่ปัด เอ่อท่านประธานนี่อายุเท่าไหร่กันคะนี่” “29 ปี ถามทาไมลิล” “ก็ลิลแค่คิดว่าคนอายุแค่นี้ก็เป็นปู่ได้เหมือนกัน ตลกดี จะตาย” “ลิ ล คุ ณ อาน่ ะ เป็ น ลู ก หลงไงลู ก คนสุ ด ท้ อ งของคุ ณ ปู่ เขาเรียนเก่ง ทางานกับคุณปู่ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ พอจบมาก็เก่ง จนใครเอาไม่อยู่ คุณปู่เลยให้ตาแหน่งประธานกับคุณอาไง ตอน เรียนนะลิล พี่เคยอยู่โรงเรียนเดียวกับคุณอา ก็อายุเราห่างกันแค่ 5 ปี แต่ ลิ ล รู้ ไ หมพี่ อ ายทุ ก ครั้ ง ที่ ต้ อ งเรี ย กเขาว่ า อา เพื่ อ นพี่ หัวเราะกันจะแย่เขาเรียนดี กีฬาเก่ง อะไรเทือกนั้น เขาเป็นขวัญใจ สาวๆ ทั้งโรงเรียนแต่เขาก็บ้างานจนทุกวันนี้แหละ” “แล้วท่านไม่มีคนรักหรือคะ” ชายหนุ่มมองหน้าใสนั้นอย่างพิจารณาเมื่อได้ยินคาถาม แต่แววตาของเธอสงสัยอย่างแท้จริงไม่มีวี่แววความปลื้มให้เห็น เขาเลยเบาใจ “เท่าที่รู้ ไม่มี แล้วก็เหมือนจะไม่เคยคิดด้วยซ้า” “ไม่น่าแปลก” “ทาไมลิลถึงไม่แปลกใจที่อาพี่ไม่มีคนรัก” เขาถามด้วย สงสัยบ้าง “ลิลว่า ท่านน่าจะแต่งงานกับบริษัทของท่านมากกว่า” ชายหนุ่มถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดังเมื่อได้ยินหญิงสาว พูดท่าทางมั่นอกมั่นใจ
46
3 ที่ทางานเขาก็ผุดลุกรวดเร็วยิ้มให้เธอทันทีจนหญิงสาวแปลกใจ “เจ้านาย มีอะไรจะใช้ลิลหรือคะ” เธอถามดักคอเขาทันทีเมื่อดูจากกิริยาที่เห็น “เก่งจังคุณลิลนี่ แค่เห็นหน้าผมก็เดาถูก นั่งก่อนสิ เดี๋ยว ค่อยคุยกัน” “ว่าไงคะเจ้านาย” หญิงสาวเอ่ยเมื่อนั่งเรียบร้อ ย ท่าทางเตรียมพร้อ มรับ คาสั่งของเจ้านายหนุ่ม “อาทิตย์หน้า ผมจะลาพักร้อน คุณช่วยเตรียมเอกสารที พอดีพ รุ่งนี้ ท่านประธานจะประชุ ม ใหญ่เห็ น ว่า เอ่ อ …รู้ ข้อ มู ล อะไรบางอย่าง ท่านขู่จะเอาพนักงานออกยกแผนก ถ้าเรื่องที่ สงสัยเป็นจริง” โภคินพูดจบพร้อมถอนใจยาว ตอนแรกเขาไม่สบายใจ พิกล ออกนึก ตงิดใจว่าเรื่องดังกล่าวที่ท่านสงสัยคือเรื่องอะไร