[ทดลองอ่าน] Assassin's creed ตอน เรอแนซองซ์

Page 1

๑ เปลวไฟจากคบเพลิง  ส่องสว่างวูบไหวอยู่บนหอคอย

พระราชวังเวกกีโอและป้อมปราการบาร์เจลโล  แสงวูบวาบจากตะเกียงทอแสง ลงบนจัตุรัสกลางเมืองซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปทางเหนือเล็กน้อย  เผยให้เห็น ท่าเทียบเรือที่ทอดยาวไปตามริมฝั่งแม่น้ำอาร์โน  แม้จะเป็นยามค่ำที่ผู้คน ภายในเมืองพากันกลับเข้าบ้านเพื่อเตรียมตัวรับราตรีที่กำลังคืบคลานมา  แต่ ยังคงมีเงาร่างของกะลาสีและกรรมกรท่าให้เห็นอยูป่ ระปราย  กะลาสีเรือบางคน ยังคงประจำอยู่บนเรือของพวกตน  ต่างรีบเร่งซ่อมแซมเรือและขดเชือกเก็บ อย่างเป็นระเบียบบนดาดฟ้าเรือที่มืดสลัวและขัดจนสะอาด  เช่นเดียวกับ กรรมกรท่าหลายนายที่ยังคงเร่งขนย้ายสินค้าเข้าไปเก็บไว้ในคลังสินค้าใกล้  ๆ  อย่างขะมักเขม้น แสงไฟสลัวลอดออกมาจากโรงไวน์และซ่องโสเภณี  แต่ผู้คนที่สัญจร อยู่บนท้องถนนกลับบางตา  นับเป็นเวลากว่าเจ็ดปีแล้วตั้งแต่ที่โลเรนโซ  เด  เมดีช ี ได้รับเลือกให้เป็นผู้ปกครองรัฐด้วยวัยเพียงยี่สิบปี  เขานำพาความเป็น ระเบียบเรียบร้อยและความสงบสุขเข้ามาแทนที่ความขัดแย้งระหว่างธนาคาร ระหว่างประเทศชัน้ แนวหน้าและตระกูลวานิชทีท่ ำให้ฟลอเรนซ์เป็นหนึง่ ในนคร 1


A s s a s s i n ’ s   C r e e d  ต อ น  เ ร อ แ น ซ อ ง ซ์ ที่มั่งคั่งที่สุดในโลก  แต่กระนั้น  เมืองก็ไม่เคยสงบสุข  กลับรอเวลาปะทุจาก การแก่งแย่งอำนาจระหว่างฝ่ายต่าง ๆ  บางฝ่ายแปรเปลี่ยนเป็นพันธมิตร  แต่ บางฝ่ายยังคงตั้งตนเป็นศัตรูต่อกัน แม้จะเป็นยามสายัณห์ของฤดูใบไม้ผลิที่อบอวลด้วยกลิ่นหอมหวาน ของดอกมะลิ  จนเกือบจะทำให้ผู้คนหลงลืมกลิ่นเหม็นเน่าของแม่น้ำอาร์โน หากลมพัดถูกทิศ  ฟลอเรนซ์  ปีคริสต์ศกั ราช  ๑๔๗๖  ก็หาใช่สถานทีป่ ลอดภัย นักสำหรับการออกมาอยู่ในที่โล่งแจ้งหลังพระอาทิตย์ตกดิน ดวงจันทร์ดวงเด่นเคลื่อนสูงขึ้นบนท้องฟ้าสีครามเข้ม  ฉายแสงจ้า กลบหมูด่ าวบริวารนับพันทีร่ ายล้อมอยู่  แสงจันทร์ตกกระทบพืน้ ทีร่ ปู สีเ่ หลีย่ ม จัตุรัส  ที่ซึ่งสะพานเวกกีโอบรรจบกับชายฝั่งทางเหนือของแม่น้ำอาร์โน  บัดนี้ ร้านรวงบนสะพานมืดสงัดต่างจากตอนกลางวัน  แสงสว่างเผยให้เห็นเงา ร่างของคนชุดดำ  ยืนตระหง่านอยู่เหนือหลังคาโบสถ์ซานโต  สเตฟาโน  อัล  พอนเต  ร่างสูงสง่านั้นเป็นของเด็กหนุ่มวัยเพียงสิบเจ็ดปี  กำลังสอดส่าย สายตาสำรวจบริเวณโดยรอบอย่างตั้งใจ  เด็กหนุ่มยกมือขึ้นจรดริมฝีปาก และผิวปากเป็นเสียงที่เบา  แต่ได้ยินไปไกล  ทันใดนั้นเขาก็เห็นชายคนแรก ปรากฏตัวขึ้น  ก่อนที่จะเพิ่มเป็นสาม  จากนั้นก็สิบสอง  ท้ายที่สุดชายกว่า ยี่สิบคนก็เคลื่อนตัวออกจากถนนอันมืดมิด  ลอดซุ้มสะพานมายืนอยู่กลาง จัตุรัส  ทุกคนเป็นเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับเขา  ส่วนใหญ่แต่งกายด้วย ชุดสีดำ  บ้างก็สวมหมวกหรือเสื้อคลุมสีฟ้า  บ้างแดง  บ้างเขียว  แต่ละคน เหน็บดาบและกริชไว้ทเี่ ข็มขัด  กลุม่ คนหนุม่ ท่าทางอันตรายค่อย  ๆ  กระจายตัว ออกไปด้วยท่วงท่าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและหยิ่งผยอง เด็ ก หนุ่ ม จ้ อ งมองสี ห น้ า กระตื อ รื อ ร้ น และซี ด นวลด้ ว ยแสงจั น ทร์ ของกลุ่มคนเบื้องล่าง  ทุกสายตาจับจ้องกลับมาที่เขา  เด็กหนุ่มชูกำปั้นขึ้น เหนือศีรษะเล็กน้อย  แสดงทีท่าท้าทาย “เราจะยืนเคียงข้างกัน!”  เขาตะโกนลั่นพร้อมกับที่สหายของเขาเอง ก็ยกกำปั้นขึ้นสูง  บางคนดึงอาวุธของตนออกกวัดแกว่งไปมาพร้อมแผดเสียง ก้อง  “เคียงข้างกัน!” เด็กหนุ่มไต่ลงจากหลังคาโบสถ์อย่างรวดเร็วด้วยท่วงท่าที่เหมือนแมว  2


โ อ ลิ เ ว อ ร์  บ า ว เ ด น ผ่านส่วนหน้าของอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จมายังหน้ามุข  แล้วกระโจนลงมา หมอบอยู่ที่พื้นอย่างปลอดภัย  ท่ามกลางพรรคพวกที่ทยอยรายล้อมเข้ามา อย่างคาดหวัง “เงียบก่อน  สหายข้า”  เขายกมือขึน้ หยุดเสียงตะโกนสุดท้ายทีเ่ ล็ดลอด ออกมา  ก่อนจะแสยะยิม้   “สหายรักทัง้ หลาย  รูห้ รือไม่วา่ คืนนีข้ า้ เรียกพวกเจ้า มาที่นี่ทำไม  เพราะข้าอยากให้พวกเจ้าช่วย  ข้าทนเงียบมานานในขณะที่ศัตรู ของเราใส่ ร้ า ยป้ า ยสี ค รอบครั ว ข้ า จนกระฉ่ อ นไปทั่ ว เมื อ ง  พวกเจ้ า คงรู้ ว่ า ข้าหมายถึงใคร  วีเอรี   เด  ปัซซี  นั่นแหละ  เจ้าหมอนั่นทำให้สกุลของข้า ต้ อ งแปดเปื้ อ น  ซ้ ำ ยั ง พยายามทำให้ ชื่ อ ของพวกเราเสื่ อ มเสี ย ด้ ว ยวิ ธี ก าร อันน่าสมเพช  ปกติข้าคงไม่ลดตัวลงไปไล่เตะพวกสุนัขขี้เรื้อนพรรค์นั้นหรอก  แต่  —”  วาทะของเด็กหนุ่มถูกขัดด้วยหินขรุขระก้อนใหญ่ที่ขว้างมาจากอีกฟาก ของสะพาน  ตกลงข้างเท้าเขา “เลิกพูดพล่อยได้แล้ว  กรุลโล  (เจ้าโง่)”  เสียงหนึ่งดังตามมา เด็กหนุม่ และพรรคพวกหันไปทางต้นเสียงอย่างพร้อมเพรียง  พวกเขา รูด้ อี ยูแ่ ล้วว่าเสียงนัน้ เป็นเสียงของใคร  วัยรุน่ อีกกลุม่ ปรากฏตัวขึน้ ทางสะพาน ฝั่ ง ใต้   กำลั ง เดิ น ข้ า มมายั ง จุ ด ที่ พ วกเขายื น อยู่   ผู้ น ำกลุ่ ม เดิ น วางมาดอยู่ เบื้องหน้า  ผ้าคลุมสีแดงสวมทับชุดกำมะหยี่สีเข้ม  กลัดไว้ด้วยตราประทับ รูปโลมาสีทองและกากบาทบนพื้นน้ำเงิน  มือข้างหนึ่งถือปลายด้ามดาบ  เขา คงจะเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลา  หากไม่มีคางที่สั้นทู่และฝีปากที่ร้ายกาจ  และ แม้รูปร่างจะอวบไปบ้าง  แต่ทั้งท่อนแขนและขากลับทรงพลังอย่างไร้ข้อกังขา  “บวอน  เซรา  (สายัณห์สวัสดิ์)  วีเอรี”  เด็กหนุ่มเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียง ราบเรียบ  “เรากำลังพูดถึงเจ้าอยู่พอดี”  และโค้งให้คู่อริด้วยท่าทางนอบน้อม เกินจริง  สีหน้าแสร้งทำเป็นประหลาดใจ  “ต้องขอประทานโทษจริง  ๆ  ไม่คดิ ว่า เจ้าจะยอมออกมาหาเราด้วยตัวเองแบบนี้  ข้านึกว่าพวกปัซซีจ้างคนอื่นทำงาน สกปรกให้เสียอีก” วีเอรีเชิดร่างขึ้นขณะก้าวเข้ามาใกล้  ก่อนจะหยุดยืนอยู่กับพวกของเขา  ห่างจากกลุ่มของเด็กหนุ่มไปเพียงไม่กี่หลา  “เอซีโอ  เอาดีโตเร!  ไอ้เด็กปาก 3


A s s a s s i n ’ s   C r e e d  ต อ น  เ ร อ แ น ซ อ ง ซ์ ไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม!  ตระกูลเสมียนของเจ้าต่างหากล่ะ  แค่เจอปัญหานิดหน่อย ก็วงิ่ รีไ่ ปฟ้องพวกทหารแล้ว  โกดาร์โด!  (พวกขีข้ ลาด)”  เขาว่าพร้อมกับกุมด้าม ดาบของตนไว้  “คงไม่มีปัญญาจัดการอะไรด้วยตัวเองละสิ” “แหม  จะว่าอย่างไรดีล่ะ  วีเอรี  ชิชชีโอเน  (เจ้าอ้วนวีเอรี)  รู้สึกว่า ครั้งสุดท้ายที่ข้าเจอน้องสาวเจ้า  วีโอลาก็ดูพอใจกับ ‘งาน’ ที่ข้าจัดการให้นะ”  เอซีโอ  เอาดีโตเร  ปิดท้ายด้วยการส่งยิ้มกว้างให้คู่อริ   รู้สึกพอใจกับเสียง โห่ร้องและเสียงหัวเราะจากพวกพ้องด้านหลัง แต่ครั้งนี้เขาแหย่ตรงจุดเกินไป  เพราะวีเอรีโมโหจนหน้าแดงก่ำ  “เกิน ไปแล้วนะ  เอซีโอ!  ไอ้เด็กเวร!  ไหนดูซิว่าเจ้าจะสู้เก่งเหมือนปากรึเปล่า!”  เขาหั น หลั ง ไปยั ง พวกของตน  ก่ อ นจะชู ด าบขึ้ น แผดเสี ย งคำรามลั่ น  “ฆ่ า ไอ้พวกเลวนี่ซะ!” พริบตานัน้   หินอีกก้อนก็พงุ่ แหวกอากาศมา  ทว่าครัง้ นีไ้ ม่ได้เป็นเพียง การท้าทาย  แต่มันพุ่งถากหน้าผากเอซีโอจนได้เลือด  เด็กหนุ่มผงะถอยหลัง ไปหลายก้าวขณะที่พวกของวีเอรีปาหินมา  ยังไม่ทันที่คนของเขาจะตั้งตัว  พวกปัซซีก็พุ่งข้ามสะพานมาถึงแล้ว   การต่อสู้เปิดฉากขึ้นอย่างรวดเร็วจน ไม่มีใครทันชักดาบหรือกริช  ทั้งสองกลุ่มจึงได้แต่เหวี่ยงหมัดลุ่น ๆ แลกกัน แทน การตะลุมบอนดำเนินไปอย่างโหดเหี้ยมและรุนแรง  ทุกการเตะต่อย ตามมาด้วยเสียงกระดูกหักน่าหวาดเสียว  ไม่มีใครบอกได้เลยว่าฝ่ายไหน ได้เปรียบ  สายตาของเอซีโอพร่ามัวด้วยเลือดที่ไหลลงมาจากหน้าผาก  แต่ เขายังพอมองเห็นสองสหายมือฉกาจของตนซวนเซล้มลงและถูกพวกปัซซี รุมกระทืบต่อทันที  วีเอรีแหกปากหัวเราะลัน่   มือข้างหนึง่ กำก้อนหินหนักฟาด ใส่หัวของเอซีโอ  เด็กหนุ่มก้มตัวหลบได้อย่างเฉียดฉิว  แต่เขาไม่มีเวลานึก โล่งใจ  กลุ่มของเอาดีโตเรกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่เต็มทน  และ ก่อนที่จะยันตัวลุกขึ้น  เด็กหนุ่มก็ปลดกริชเฉือนเข้าที่น่องของชายฉกรรจ์ ร่างโตตรงหน้าซึ่งกำลังเงื้อดาบและกริชไร้ฝักหมายจะฟันเขาได้พอดี  คมมีด แหลมกรีดผ่านเนือ้ ผ้า  ผ่าตรงไปยังกล้ามเนือ้ และเส้นเอ็นด้านใน  ชายฉกรรจ์ กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนปล่อยอาวุธและล้มพับลง  สองมือกดปากแผล 4


โ อ ลิ เ ว อ ร์  บ า ว เ ด น เอาไว้แน่น  เลือดข้นไหลทะลักออกมา เอซีโอรีบตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนก่อนเบนสายตามองไปรอบ ๆ  เขา เห็ น พวกปั ซ ซี ล้ อ มคนของเขาไว้ ห มดแล้ ว   และกำลั ง ต้ อ นพวกนั้ น เข้ า หา กำแพงโบสถ์ด้านหนึ่ง  เด็กหนุ่มรีบสาวเท้าตรงเข้าไปหาพวกของเขาทันทีที่ขา เริ่มมีแรง  เขาก้มตัวหลบใบมีดที่เหวี่ยงมา  แล้วสวนหมัดใส่กรามเขียวครึ้ม ของสมุนปัซซีอีกคน  รู้สึกพอใจไม่น้อยเมื่อเห็นฟันหลายซี่หลุดลอยกลาง อากาศพร้อมกับที่เจ้าของฟันทรุดตัวลงคุกเข่าแน่นิ่ง  เอซีโอเปล่งเสียงตะโกน ลัน่ เพือ่ กระตุน้ พวกของตนอีกครัง้   แม้ในหัวตอนนีจ้ ะเริม่ คิดหาหนทางล่าถอย อย่างมีเกียรติแล้วก็ตาม  แต่ทันใดนั้นเอง  เขาก็ได้ยินเสียงดังแฝงแววร่าเริง อย่างที่คุ้นเคยดี  เอ่ยเรียกชื่อเขามาจากทางด้านหลังกลุ่มปัซซี “เฮ้  ฟราเตลลีโน  (ไอ้น้องชาย)  ทำบ้าอะไรของเจ้าอยู่เนี่ย” หัวใจของเอซีโอเต้นระรัวด้วยความโล่งอก  เขารีบกระหืดกระหอบ ตอบกลับไปว่า  “เฮ้  เฟเดรีโก!  มาทำอะไรที่นี่เนี่ย  นึกว่าพี่ออกไปสังสรรค์ เหมือนทุกทีเสียอีก” “ไม่เอาน่า  ข้ารู้นะว่าเจ้ากำลังวางแผนอะไรบางอย่างอยู่  ก็เลยคิดว่า บางทีข้าน่าจะแวะมาดูหน่อยว่าน้องชายข้าดูแลตัวเองเป็นบ้างหรือยัง  แต่ดูท่า เจ้าจะยังต้องเรียนรู้อีกเยอะเลยนะ” เฟเดรีโก  เอาดีโตเร  หรือลูกชายคนโตของตระกูลเอาดีโตเร  พี่ชาย แท้  ๆ ซึ่งอายุห่างกับเอซีโอเพียงไม่กี่ปี  เขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่  ทั่วร่าง อัดแน่นไปด้วยความกระหาย  ทั้งกระหายสุรา  กระหายรัก  และกระหาย การต่อสู้  ชายหนุ่มเดินตรงเข้ามาหาเอซีโอทั้งที่ปากยังจ้อไม่หยุด  มือสองข้าง จับศีรษะของพวกปัซซีสองคนกระแทกกันอย่างจัง  และยกเท้าขึ้นเตะกราม ของพวกปัซซีรายที่สาม  ก่อนจะเดินผ่านความชุลมุนทั้งหมดมายืนอยู่ข้าง ๆ  น้องชาย  ไม่รู้สึกรู้สาอะไรต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นรอบด้านเลยแม้แต่น้อย  คนของเอซีโอที่เพิ่งได้รับขวัญกำลังใจเริ่มลุกขึ้นเตรียมต่อสู้อีกครั้ง  แต่พวก ปัซซีเริ่มออกอาการกระอักกระอ่วน  เสียขวัญเพราะเงาร่างที่เข้าใจไปว่าเป็น กำลังเสริมของพวกเอาดีโตเร  ทัง้ ทีจ่ ริงแล้วเป็นเพียงผูค้ นทีอ่ าศัยอยูแ่ ถวท่าเรือ ซึ่งพากันออกมายืนมุงดูสถานการณ์อยู่ไกล ๆ เท่านั้น  ยิ่งเมื่อผนวกเข้ากับ 5


A s s a s s i n ’ s   C r e e d  ต อ น  เ ร อ แ น ซ อ ง ซ์ เสียงคำรามลั่นจากเฟเดรีโกพร้อมหมัดหนักที่เจ้าตัวปล่อยออกไป  และเอซีโอ ที่เลียนแบบท่วงท่าของพี่ชายตนได้อย่างรวดเร็ว  ก็ยิ่งทำให้เหล่าศัตรูตื่นกลัว ยิ่งกว่าเดิม ในที่สุด  น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธจัดของวีเอรี  เด  ปัซซี  ก็ ดังลั่นขึ้นท่ามกลางความอึกทึกครึกโครม  “ถอยก่อน!”  เขาตะโกนเรียก พวกของตนด้วยเสียงสั่นเครือด้วยความแค้น  ก่อนหันไปถลึงตาพร้อมสบถ คำสาปแช่งใส่เอซีโอโดยที่ไม่ออกเสียง  จากนั้นจึงถอยร่นหายไปในความมืด เบื้องหลังสะพานเวกกีโอพร้อมกับลูกสมุนที่ยังพอเดินได้  ตามติดไปด้วยคน ของเอซีโอที่เพิ่งได้รับชัยชนะมาหมาด ๆ  เอซีโอเองก็กำลังจะพุ่งตัวตามไปอีกคน  แต่ถูกมือหนาของพี่ชายรั้ง เอาไว้ก่อน  “เดี๋ยวก่อน”  เขาว่า “หมายความว่ายังไง  เราอุตส่าห์ทำให้พวกมันถอยไปได้แล้วนะ” “อยู่นิ่ง ๆ”  เฟเดรีโกนิ่วหน้า  พลางแตะบาดแผลที่คิ้วของเอซีโออย่าง แผ่วเบา “แค่แผลถลอก” “นี่ มัน เกิน คำว่า ถลอกแล้ ว ”  คนเป็ น พี่ตั ด สิ น ใจเสร็จสรรพ  สีห น้ า ดูจริงจังขึ้น  “ไปหาหมอสักหน่อยเถอะ” เอซีโอถ่มน้ำลาย  “ข้าไม่มีเวลาว่างพอจะวิ่งไปหาหมอหรอกนะ  แล้ว อีกอย่าง…”  เด็กหนุ่มชะงักพลางทำตาละห้อย  “ข้าไม่มีเงินเหลือแล้วด้วย” “อ้อ  ผลาญเงินไปกับผู้หญิงและไวน์หมดแล้วสิท่า”  เฟเดรีโกเหยียด ยิ้มพร้อมกับตบบ่าน้องชายเบา ๆ  อย่างหยอกล้อ “ข้าไม่อยากใช้คำว่าผลาญหรอกนะ  แถมคนที่เป็นตัวอย่างให้ข้าก็คือ พีเ่ องไม่ใช่เหรอ”  เอซีโอฉีกยิม้ ตอบกลับ  แต่แล้วก็ตอ้ งหุบยิม้ เมือ่ รูส้ กึ ปวดหัว ขึน้ มาเฉย  ๆ  “…แต่บางทีไปตรวจดูหน่อยก็คงไม่เสียหายอะไร  พีพ่ อจะมีให้ขา้ ยืมสักสองสาม ฟีโอรีน ี (ฟลอริน๑)  หรือเปล่า” เฟเดรีโกเอื้อมมือลงตบกระเป๋าเงิน  แต่เสียงกรุ๊งกริ๊งที่น่าจะดังให้

6

สกุลเงินที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอิตาลีและยุโรปสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ


โ อ ลิ เ ว อ ร์  บ า ว เ ด น ได้ยินกลับเงียบสนิท  “อันที่จริงข้าเองก็ถังแตกอยู่เหมือนกัน” เอซีโอยิ้มขำกับท่าทางเขิน ๆ ของพี่ชาย  “แล้วพี่ล่ะ  ผลาญเงินไปกับ อะไร  ทำบุญในโบสถ์หรือบริจาคให้คนยากคนจนรึไง” เฟเดรีโกหัวเราะลั่น  “เอ้า  ก็ได้  ข้ายอมแล้ว”  ชายหนุ่มกวาดสายตา มองไปรอบ ๆ  ท้ายที่สุดแล้วมีคนของเขาเพียงสามสี่คนเท่านั้นที่บาดเจ็บจน ลุกไม่ได้  และถึงแม้จะยังนั่งครวญครางด้วยความเจ็บปวด  แต่พวกเขาก็ ฉีกยิม้ ร่า  แม้การวิวาทเมือ่ ครูจ่ ะดุเดือด  แต่ดที ไี่ ม่มใี ครบาดเจ็บหนักจนถึงขัน้ กระดูกหัก  ตรงกันข้าม  พวกปัซซีเกือบครึ่งโหลนอนแผ่แน่นิ่งอยู่เกลื่อนพื้น  อีกทั้งสองสามคนในนั้นยังแต่งตัวเหมือนพวกมีฐานะเสียด้วย “ไหนดู ซิ ว่ า เจ้ า พวกนี้ จ ะมี เ งิ น แบ่ ง ให้ เ ราบ้ า งไหม”  เฟเดรี โ กแนะ  “อย่างไรซะ  เราก็จำเป็นต้องใช้เงินมากกว่าพวกมันอยู่แล้ว  และข้าพนันเลย ว่าเจ้าคงจะเอาเงินมาโดยที่ไม่ทำให้พวกมันตื่นไม่ได้แน่” “คอยดูแล้วกัน”  เอซีโอรับคำ  แล้วเขาก็ทำได้สำเร็จ  ผ่านไปไม่ทันไร  เด็กหนุ่มก็หาเงินมาได้จนเต็มกระเป๋าของทั้งคู่  เอซีโอส่งสายตาภาคภูมิใจให้ พี่ชายพร้อมเขย่ากระเป๋าเงินของตนให้เสียงเหรียญช่วยยืนยันความสำเร็จ ด้วย “พอได้แล้วน่า”  เฟเดรีโกร้องบอก  “เหลือเอาไว้ให้พวกมันติดกระเป๋า กลับบ้านเสียหน่อยดีกว่า  เราเองก็ไม่ใช่ขโมย  นี่ก็แค่เงินรางวัลจากการต่อสู้ เมื่อครู่  แล้วข้าก็ไม่ชอบแผลบนหัวเจ้าเอาเสียเลย  รีบไปให้หมอดูดีกว่า” เอซีโอผงกศีรษะ  ก่อนเบนหน้าไปชื่นชมชัยชนะของกลุ่มเอาดีโตเร เป็นครั้งสุดท้าย  เฟเดรีโกที่เริ่มทนรอไม่ไหวจึงจำต้องวางมือบนไหล่ของ ผู้เป็นน้องแทนการเตือน  “ไปเถอะ”  เขาย้ำ  ก่อนที่จะออกตัววิ่งนำไปก่อน ด้วยความเร็วที่เอซีโอแทบเร่งฝีเท้าตามไม่ทันเพราะยังไม่หายเหนื่อยจากการ ต่อสู้  แต่หากเมื่อใดที่เขาถูกทิ้งห่างหรือหักเลี้ยวผิดตรอก  เฟเดรีโกก็จะหยุด รอเขาเสมอ  ไม่ก็จะวิ่งกลับมาเพื่อบอกทางที่ถูกต้องให้  “โทษทีนะ  เอซีโอ  พี่แค่อยากพาเจ้าไปหา หมอ  ให้ไวที่สุดน่ะ” อันที่จริงระยะทางทั้งหมดก็ไม่ได้ไกลเสียเท่าไร  แต่ยิ่งเวลาผ่านไป  เอซีโอก็ยิ่งอ่อนล้าลงเรื่อย ๆ  แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็มาถึงห้องมืด ๆ ที่แพทย์ประจำ 7


A s s a s s i n ’ s   C r e e d  ต อ น  เ ร อ แ น ซ อ ง ซ์ ตระกูลของพวกเขาใช้เป็นทีท่ ำการรักษา  รอบห้องเต็มไปด้วยเครือ่ งมือหน้าตา ประหลาด  ขวดโหลเล็ก ๆ ที่ทำจากแก้วและทองเหลืองมากมายวางเรียงกัน อยูบ่ นโต๊ะไม้โอ๊กสีทบึ   บ้างก็ถกู แขวนห้อยลงมาจากเพดานพร้อมมัดสมุนไพร ตากแห้งนานาชนิด  เอซีโอได้แต่มองสำรวจไปรอบ ๆ  พลางพยุงตัวไม่ให้ ล้มลงเสียก่อน ท่านหมอ  เชเรซาดูจะไม่คอ่ ยพอใจเท่าไรนักทีถ่ กู ปลุกขึน้ มากลางดึก  แต่ หลังจากยื่นเทียนเข้าไปส่องดูบาดแผลของเอซีโออย่างละเอียด  ท่าทีของเขา ก็ เ ปลี่ ย นเป็ น กั ง วลอย่ า งรวดเร็ ว   “อื ม …”  เขาส่ ง เสี ย งครางอย่ า งครุ่ น คิ ด  “คราวนี้โดนหนักเหมือนกันนี่  พ่อหนุ่ม  พวกเจ้าทำอย่างอื่นที่สร้างสรรค์กว่า การไล่ตีกับคนอื่นไม่เป็นแล้วหรืออย่างไร” “มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีน่ะ  ท่านหมอ”  เฟเดรีโกแก้ตัวแทน “อย่างนั้นหรอกหรือ”  ผู้เป็นหมอขานตอบเสียงเรียบ “เรื่องเล็กน่า”  เอซีโอบอกทั้งที่ตัวเองรู้สึกหน้ามืด เฟเดรีโกเอ่ยล้อด้วยน้ำเสียงที่ซ่อนความกังวลเอาไว้ได้อย่างมิดชิด เช่นทุกครั้ง  “ช่วยรักษาเขาให้สุดฝีมือเลยนะ  ท่านหมอ  น้องชายข้าคนนี้ มีดีแค่หน้าหล่อ ๆ นี่แหละ” “เงียบไปเลยนะ  ฟอตตีต ิ (ไอ้พเี่ วร)”  เอซีโอตอกกลับพลางยกนิว้ กลาง ใส่หน้าพี่ชาย ท่านหมอไม่แม้แต่จะสนใจคนหนุ่มทั้งคู่  เขาเดินไปล้างมือแล้วแตะ บาดแผลตรวจดูอย่างนุม่ นวล  ก่อนเทของเหลวสีใสจากขวดแก้วลงบนผ้าลินนิ ผืนน้อยและซับมันลงบนปากแผล  มันแสบเสียจนเอซีโอแทบจะกระเด้งตัว ออกจากเก้าอี้  ใบหน้าของเด็กหนุ่มหงิกงอด้วยความเจ็บปวด  และเมื่อหมอ ทำความสะอาดบาดแผลจนเป็นที่พอใจแล้ว  เขาก็หยิบเข็มออกมาร้อยเอ็น เย็บแผล “เอาละ”  เขาว่า  “ทนเจ็บนิดหน่อยนะ” หลังจากที่เย็บบาดแผลและพันผ้าไว้เรียบร้อยแล้ว  เอซีโอก็มีสภาพ ไม่ตา่ งอะไรจากชาวตุรกีทตี่ อ้ งโพกหัวตลอดเวลา  หมอส่งยิม้ ให้เขาแทนกำลังใจ  “ข้าคิดราคาแค่สาม ฟีโอรีนี  ก่อนแล้วกัน  แล้วเดี๋ยวอีกสองสามวันข้าจะไป 8


โ อ ลิ เ ว อ ร์  บ า ว เ ด น ตั ด เอ็ น เย็ บ แผลออกให้ ที่ ค ฤหาสน์ ข องพวกเจ้ า   ค่ า ตั ด ราคาสาม ฟี โ อรี นี   ระหว่างนั้นเจ้าจะปวดหัวหนักหน่อย  แต่มันจะทุเลาลงเอง  และถ้าทำได้ ก็ พั ก ผ่ อ นให้ เ พี ย งพอด้ ว ย  ไม่ ต้ อ งห่ว ง  ถึ งแผลนั่ น จะดูส าหั ส   แต่มั น จะ ไม่เหลือแผลเป็นไว้บนหน้าของเจ้าแน่  ไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้สาว ๆ ผิดหวัง หรอก!” ครั้นเมื่อสองพี่น้องกลับออกมาที่ถนน  เฟเดรีโกก็เหวี่ยงแขนโอบไหล่ ผู้เป็นน้องไว้  ก่อนหยิบเหล้าขวดหนึ่งส่งให้  “อย่าห่วงเลย”  เขาปลอบเมื่อ เห็นสีหน้าของน้องชาย  “นี่แกรปปา๒  ขวดเด็ดของท่านพ่อเลยนะ  ดีกว่านม ของท่านแม่เสียอีก  แถมยังเหมาะกับสภาพเจ้าตอนนี้ที่สุดด้วย”  แล้วคนทั้งสองก็ยกขวดขึ้นดื่ม  เมรัยเร่าร้อนช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น ขึ้นได้บ้าง  “เป็นคืนที่เยี่ยมไปเลย”  เฟเดรีโกเอ่ยขึ้นก่อน “พี่พูดถูก  หวังว่าเจ้าพวกนั้นจะสนุกพอ ๆ กับ —”  เอซีโอหยุดตัวเอง ไว้กลางคันเมื่อเห็นรอยยิ้มของเฟเดรีโกเริ่มขยายกว้างขึ้น   “ไม่สิ”  เขาแก้ กลั้วหัวเราะ  “ต้องสนุกแน่ละ!” “จะว่าไป  ข้าว่าเจ้าควรหาอะไรใส่ปากใส่ท้องก่อนกลับบ้านสักหน่อย ดีกว่า”  เฟเดรีโกกล่าว  “พี่รู้ว่ามันดึกแล้ว  แต่แถวนี้มีร้านเหล้าที่เปิดจนถึง เวลาอาหารเช้าอยู่  แถมยัง —” “— พี่เป็น อามีชี  อินทีมี  (เพื่อนซี้)  กับ  ออสเต  (เจ้าของร้าน)  สินะ” “เจ้ารู้ได้ยังไง” เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงเศษ  หลังจากกินสเต๊กและซุปสไตล์ ตัสกานี  พร้อมดืม่ ซดไวน์บรูเนลโล๓  จนหมดขวด  เอซีโอก็รสู้ กึ ราวกับว่าตัวเอง ไม่ เ คยได้ รั บ บาดเจ็ บ มาก่ อ น  ร่ า งกายหนุ่ ม แน่ น กลั บ มาแข็ ง แรงสมบู ร ณ์   พลังงานทีเ่ หือดหายไปเพิม่ ขึน้ มาอีกครัง้   อีกทัง้ อะดรีนาลินทีพ่ งุ่ สูงจากชัยชนะ เหนือกลุ่มปัซซีเมื่อครู่ก็ยิ่งทำให้เขาฟื้นตัวได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม ๒   เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งของอิตาลี  เป็นเหล้าที่กลั่นมาจากกากองุ่นที่ใช้ในการทำไวน์  ๓  ไวน์บรูเนลโล  ดิ  มอนตาลชิโน  (Brunello  di  Montalcino)  ผลิตจากองุ่นพันธุ์ดีจากแคว้น ตัสกานี  ประเทศอิตาลี

9


A s s a s s i n ’ s   C r e e d  ต อ น  เ ร อ แ น ซ อ ง ซ์ “ได้เวลากลับบ้านแล้ว  เจ้าน้องชาย”  เฟเดรีโกบอก  “ท่านพ่อคงสงสัย อยูแ่ น่  ๆ  วา่ เราหายไปไหนกัน  และเจ้าก็เป็นคนทีเ่ ขาอยากให้อยูช่ ว่ ยบริหารงาน ในธนาคาร  โชคดีทขี่ า้ ไม่ถนัดงานด้านนัน้   แต่อย่างไรซะ  เดีย๋ วข้าก็คงโดนจับ ไปช่วยงานด้านการเมืองอยู่ดี” “ดูจากวิธีการทำงานของพี่ตอนนี้แล้ว  ข้าว่าการเมืองคงจะกลายเป็น โชว์ละครสัตว์มากกว่า” “แล้วมันต่างกันตรงไหน” เอซีโอรู้ดีว่าพี่ชายเขาไม่ได้นึกโกรธเคืองที่ผู้เป็นบิดาเลือกให้เอซีโอเป็น ผูส้ านต่องานประจำตระกูลแทนทีจ่ ะเป็นลูกคนโตของตระกูล  เขารูด้ วี า่ เฟเดรีโก คงเบื่อตายก่อนแน่  ถ้าต้องหมกตัวอยู่แต่ในธนาคาร  แต่ปัญหาก็คือ  เอซีโอ เองก็สังหรณ์ใจว่าเขาก็คงมีสภาพไม่ต่างจากพี่ชายสักเท่าไร  หากแต่ตอนนี้  เขายังเหลือเวลาอีกนานกว่าจะต้องนั่งทำงานเป็นนายธนาคารประจำเมือง ฟลอเรนซ์   สวมชุ ด กำมะหยี่ สี เ ข้ ม คล้ อ งโซ่ ท อง  ดั ง นั้ น แล้ ว   เด็ ก หนุ่ ม จึ ง ตั้งใจว่าจะใช้ช่วงเวลาแห่งอิสรภาพไร้ข้อผูกมัดนี้ให้คุ้มค่าที่สุด  โดยไม่สนใจ ว่าช่วงเวลาเหล่านั้นจะสั้นเพียงใด “ต้องรีบแล้ว”  เฟเดรีโกเอ่ยอีกครั้ง  “ถ้าไม่อยากโดนโวย” “ท่านพ่อคงเป็นห่วงแย่” “ไม่หรอก  เขารู้ว่าพวกเราดูแลตัวเองได้”  เฟเดรีโกเบนสายตามามอง เอซีโออย่างครุน่ คิด  “ถึงยังไงเราก็ตอ้ งรีบอยูด่ ”ี   แต่แล้วชายหนุม่ ก็เว้นช่วงไป  “แต่ก่อนอื่น  สนใจมาพนันกับข้าสักหน่อยไหม  วิ่งแข่งหรืออะไรทำนองนั้น” “ไปไหนล่ะ” “เอาเป็น”  เฟเดรีโกเพ่งสายตามองผ่านทิวทัศน์เมืองอาบแสงจันทร์ ไปยังป้อมปราการสูงตระหง่านที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก  “บนยอดหอคอย โบสถ์ซานตาตรีนิตาแล้วกัน  คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงเจ้าเท่าไร  แถมโบสถ์นั่น ก็อยู่ใกล้บ้านเราด้วย  แต่มีเงื่อนไขอีกอย่าง” “อะไรเหรอ” “เราจะไม่แข่งกันบนถนน  แต่เป็นบนหลังคาแทน” เอซีโอสูดหายใจลึก  “ก็ได้  ลองดู”  เขาว่า 10


โ อ ลิ เ ว อ ร์  บ า ว เ ด น “โอเค  พร้อมนะตาร์ตารูกา  (เจ้าตัวอืดอาด) — ไปได้!” สิ้ น เสี ย งพู ด   เฟเดรี โ กก็ อ อกตั ว ไปก่ อ นทั น ที โ ดยไม่ ต่ อ ปากต่ อ คำ  ใช้ ก ำแพงปู น ที่ อ ยู่ ใ กล้   ๆ โหนร่ า งไต่ ร ะดั บ ขึ้ น ไปด้ า นบนอย่ า งคล่ อ งแคล่ ว ราวกิ้งก่า  ชายหนุ่มหยุดยืนบนหลังคาปูกระเบื้องทรงมนสีแดง  ทำท่าคล้าย จะเสียหลักลื่น  แต่แล้วก็หัวเราะและออกตัวอีกครั้ง  กว่าเอซีโอจะปีนขึ้นไป บนหลังคาได้  คนเป็นพี่ก็นำหน้าไปกว่ายี่สิบหลาแล้ว  เด็กหนุ่มรีบวิ่งถลา ตามไป  ความตื่นเต้นจากการไล่ตามทำให้เขาลืมความเจ็บปวดไปเสียสนิท  ทันใดนั้น  เขาก็เห็นเฟเดรีโกกระโดดข้ามช่องว่างที่มืดมิด  สองเท้าเหยียบลง บนหลังคาแบนราบของอาคารขนาดใหญ่สีเทาครึ้ม  ซึ่งอยู่ต่ำกว่าหลังคาที่เขา กระโดดมาเล็กน้อยอย่างเงียบเชียบ  ชายหนุ่มออกวิ่งต่อไปอีกหน่อยแล้ว หยุดรอ  ความหวาดกลัวแล่นเข้าจู่โจมเอซีโอทันทีที่เห็นเงาสลัวของพื้นถนน ที่อยู่ต่ำลงไปแปดชั้น  แต่เขาขอยอมตายดีกว่าแสดงท่าทีลังเลให้พี่ชายเห็น  พอคิดได้ดังนั้น  เอซีโอจึงรวบรวมความกล้าแล้วกระโดดข้ามไปสุดแรง  ภาพ กรวดหินแกรนิตสะท้อนแสงจันทร์วูบไหวไปมาใต้เท้าระหว่างที่ร่างของเขา พุ่งทะยานข้ามช่องว่าง  ชั่ววินาทีหนึ่ง  เขาคิดว่าตัวเองกะระยะพลาดเมื่อเห็น กำแพงสีเทาหนาของสิ่งก่อสร้างลอยสูงขึ้น  แต่แล้วภาพกำแพงนั้นก็ลดระดับ ลงยามเมื่ อ เท้ า ของเขาแตะพื้ น หลั ง คาอี ก ฝั่ ง  แม้ จ ะลงผิ ด ท่ า ไปสั ก หน่ อ ย  แต่อย่างน้อยเขาก็ยังยืนอยู่ได้  เด็กหนุ่มหอบหายใจแรง  ไม่อาจห้ามความ ปีติยินดีในใจได้ “เจ้าหนูนอ้ ยของพีย่ งั ต้องเรียนรูอ้ กี เยอะ”  แว่วเสียงหยอกจากเฟเดรีโก ที่เริ่มสับเท้าวิ่งต่อ  เห็นเป็นเงาดำแล่นฉิวขนานไปกับแนวปล่องไฟภายใต้ หมู่ เ มฆหมอกซึ่ ง ลอยกระจั ด กระจายอยู่ บ นฟากฟ้ า   เอซี โ อรี บ เหวี่ ย งร่ า ง มุ่งตรงไปข้างหน้า  ในสมองมีแต่เรื่องการแข่งขันอันดุเดือด  เบื้องล่างนั้นยังมี ขุมนรกรออยู่อีกหลายขุม  นรกที่พร้อมจะกลืนกินร่างของเขาหากตกลงไป  บ้างก็มาในรูปแบบของตรอกซอกซอยเล็กใหญ่  บ้างก็มาในรูปแบบของเส้นทาง สัญจรขนาดกว้าง  เด็กหนุ่มมองไม่เห็นเฟเดรีโกอีกต่อไป  ทว่าจู่  ๆ ภาพของ โบสถ์ซานตาตรีนิตาก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา  หอคอยสูงชันตั้งตระหง่านอยู่ เหนื อ พื้ น หลั ง คาซึ่ ง ลาดเอี ย งลงด้ า นล่ า งเล็ ก น้ อ ย  เมื่ อ ย่ า งเท้ า เข้ า ไปใกล้   11


A s s a s s i n ’ s   C r e e d  ต อ น  เ ร อ แ น ซ อ ง ซ์ เด็กหนุ่มก็พลันนึกขึ้นได้ว่าโบสถ์แห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางจัตุรัสพอดี  ระยะห่าง ระหว่างหลังคาโบสถ์และดาดฟ้าตึกโดยรอบล้วนกว้างกว่าทีไ่ หน  ๆ  ทเี่ ขาเคยโดด ผ่านมา  แต่ถึงจะรู้อยู่แก่ใจ  เอซีโอกลับไม่แม้แต่จะลังเลหรือลดความเร็ว ลงเลย  ความหวังเดียวของเขาในตอนนี้ก็คือความหวังที่ว่าหลังคาโบสถ์นั้น จะอยู่ต่ำกว่าหลังคาอาคารที่เขาอยู่  และหากเขาออกแรงโถมร่างไปข้างหน้า พร้อมโหนตัวขึ้นกลางอากาศได้แรงพอ  แรงโน้มถ่วงก็จะทำหน้าที่ของมันเอง  ดี ไ ม่ ดี เ ขาอาจจะได้ โ บยบิ น เหมื อ นนกสั ก สองสามวิ น าที ด้ ว ยซ้ ำ   เด็ ก หนุ่ ม นึกพลางพยายามปัดไล่ความคิดด้านลบออกจากสมอง เท้ า ของเขาย่ ำ ลงบนขอบหลั ง คา  จากนั้ น รอบด้ า นก็ เ หลื อ เพี ย งแค่ ความว่างเปล่า  ร่างของเอซีโอพุ่งทะยานขึ้นกลางอากาศ  ได้ยินเสียงสายลม หวีดกระซิบอยู่ริมใบหูขณะที่นัยน์ตาทั้งคู่เริ่มมีน้ำตาเอ่อคลอเบ้า  ระยะห่าง จากหลังคาโบสถ์นั้นยังเหลืออีกยาวไกลเกินคณานับ  และเขาคงไม่มีวันไปถึง ที่นั่นได้แน่  เขาจะไม่มีวันได้หัวเราะ  ต่อสู้  หรือโอบร่างของหญิงสาวไว้ใน อ้อมแขนอีกต่อไป  เอซีโอหายใจไม่ออก  เขาจึงปิดเปลือกตาลง  แล้ว… ร่างกายช่วงบนของเขาก็คะมำทิ่มลงพื้น  เด็กหนุ่มพยายามทรงตัวโดย ใช้ทั้งมือและเท้า  ตอนนี้เขามีที่ให้ยืนแล้ว  เขาทำได้  แม้จะอยู่ห่างจากขอบ หลังคาเพียงไม่กี่นิ้ว  แต่ในที่สุดเขาก็กระโดดข้ามมายังหลังคาโบสถ์ได้สำเร็จ! จริงสิ  แล้วเฟเดรีโกไปอยู่ไหนเสียล่ะ  เอซีโอตะเกียกตะกายขึ้นไปยัง ส่วนฐานของหอคอยแล้วตวัดสายตากลับไปมองทางที่เขาเพิ่งผ่านมา  ทันได้ เห็นร่างของพี่ชายลอยละลิ่วแหวกอากาศตรงมายังจุดที่เขายืนอยู่   เฟเดรีโก ทิ้งกายลงอย่างมั่นคง  น้ำหนักตัวของเขาทำให้กระเบื้องปูหลังคาสีอิฐหลาย แผ่ น หลุ ด เลื่ อ นออกจากที่   และเกื อ บจะทำให้ เ ขาเสี ย หลั ก ลื่ น ตามไปด้ ว ย  เศษกระเบื้องเหล่านั้นไหลกลิ้งไปตามหลังคา  ก่อนจะหล่นลงกระทบกับพื้น หินแข็งเบื้องล่างจนแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย  เฟเดรีโกกลับมาทรงตัว ได้อีกครั้ง  ชายหนุ่มยืดตัวขึ้นตรงพลางหอบหายใจฮัก  ทั่วใบหน้าประดับ ด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างภาคภูมิใจ “อย่างน้อยเจ้าก็ไม่ได้เป็น  ตาร์ตารูกา  (เจ้าตัวอืดอาด)  เหมือนเดิมแล้วนี”่   เขาว่าพร้อมเดินมาตบบ่าเอซีโอ  “อย่างกับสายฟ้าเลย  ตอนที่เจ้าวิ่งแซงข้าน่ะ” 12


โ อ ลิ เ ว อ ร์  บ า ว เ ด น “ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองแซงพี่ตอนไหน”  เอซีโอตอบสั้น ๆ  พยายาม สูดหายใจให้ทั่วปอด “แต่รับรองได้เลย  เจ้าไม่มีวันปีนขึ้นไปถึงยอดหอคอยก่อนข้าแน่”  เฟเดรีโกแหย่  ก่อนจะดันร่างคนอายุอ่อนกว่าไปข้าง ๆ แล้วเริ่มปีนป่ายขึ้นไป บนหอคอยทรงเตี้ยซึ่งเหล่าผู้วางผังเมืองคิดว่าจะทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่ให้มี รูปทรงทันสมัยขึน้   ครัง้ นีเ้ ฟเดรีโกขึน้ ไปถึงยอดได้กอ่ น  ซ้ำยังยืน่ มือลงมาช่วย ดึงน้องชายที่กำลังบาดเจ็บและเริ่มจะคิดว่าบางทีเตียงนอนก็คงไม่ใช่สิ่งที่ น่ารังเกียจนัก  คนหนุม่ ทัง้ สองยืนพักพลางหอบหายใจ  สายตาสองคูก่ วาดมอง เมืองซึ่งบัดนี้ดูสงบและเยือกเย็นภายใต้แสงนวลแห่งรุ่งอรุณ “ช่ า งเป็ น ชี วิ ต ที่ แ สนสุ ข อะไรเช่ น นี้   เจ้ า ว่ า อย่ า งนั้ น ไหม  น้ อ งพี่ ”  เฟเดรีโกกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมผิดจากปกติ “ดีที่สุดเลย”  เอซีโอเอ่ยรับ  “ขอให้มันไม่แปรเปลี่ยน” ทั้งคู่พร้อมใจกันหยุดนิ่ง —  ด้วยไม่มีใครอยากทำลายบรรยากาศอัน แสนงดงามในขณะนี้  แต่หลังจากผ่านไปชั่วครู่  เฟเดรีโกก็กระซิบต่ออย่าง แผ่วเบา  “และขอให้มันไม่เปลี่ยนเรา  ฟราเตลลีโน…(น้องข้า)  เอาละ  ต้อง กลับแล้ว  นั่นไงหลังคาบ้านเรา  หวังว่าท่านพ่อคงจะเข้านอนแล้ว  ไม่เช่นนั้น พวกเราแย่กันหมดแน่  ไปกันเถอะ” ชายหนุ่มก้าวตรงไปที่ริมหอคอย  เตรียมตัวปีนกลับลงไปบนหลังคา  ทว่าก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าเอซีโอยังหยุดยืนนิ่งอยู่กับที่  “มีอะไรเหรอ” “ขอเวลาเดี๋ยว” “เจ้ามองอะไรอยู”่   เฟเดรีโกถามพลางเขยิบกลับมายืนเคียงข้างน้องชาย อีกครั้ง  ชายหนุ่มเพ่งมองตามสายตาของเอซีโอไป  จากนั้นก็ฉีกยิ้มร่า  “ไอ้ ปีศาจจอมเจ้าเล่ห์!  เจ้าคงไม่คิดจะไปที่นั่นตอนนี้หรอกใช่ไหม  ให้แม่สาวนั่น พักผ่อนเถอะ!” “ไม่ละ  ข้าว่าได้เวลาที่คริสตีนาต้องตื่นแล้ว” แม้เอซีโอจะเพิ่งได้พบคริสตีนา  คัลฟุชชี  เมื่อไม่นานมานี้  แต่หนุ่มสาวทั้งคู่ กลับรู้สึกราวกับว่าไม่อาจแยกห่างจากกันได้เสียแล้ว  พ่อแม่ของทั้งคู่คิดว่า 13


A s s a s s i n ’ s   C r e e d  ต อ น  เ ร อ แ น ซ อ ง ซ์ พวกเขายังเด็กเกินกว่าจะหมั้นหมายกัน  ซึ่งเอซีโอไม่เห็นด้วย  แต่คริสตีนา นั้นเพิ่งอายุสิบเจ็ด  อีกทั้งพ่อแม่ของเธอยังตั้งเงื่อนไขไว้ว่าเอซีโอจะต้องหัด ควบคุมนิสัยมุทะลุของตนให้ได้ก่อน  ทั้งคู่ถึงจะยอมมองเขาเสียใหม่  ซึ่งแน่ ละว่านั่นยิ่งทำให้เขาใจร้อนมากกว่าเดิม ตอนนั้นเฟเดรีโกและเขากำลังเดินเตร่อยู่ในตลาดกลางเมืองหลังจาก ซื้อเครื่องประดับให้น้องสาวเนื่องในวันบูชานักบุญ  คอยมองเหล่าหญิงสาว หน้าตาสะสวยพร้อมพี่เลี้ยงหรือเพื่อนร่วมกลุ่มระหว่างที่พวกเธอโฉบไปตาม ร้านรวงต่าง ๆ  ดูผ้าลูกไม้บ้าง  ริบบิ้นบ้าง  ม้วนผ้าไหมบ้าง  ทว่ายังมีเด็กสาว ผู้หนึ่งที่ดูโดดเด่นน่าจับตากว่าใคร  ทั้งสวยและสง่ากว่าหญิงสาวคนไหน ๆ  ที่เอซีโอเคยเห็นมา  เขาไม่มีทางลืมวันนั้นได้เลย  วันที่เขาได้เห็นเธอผู้นั้น เป็นครั้งแรก “โอ้โห”  เด็กหนุ่มหลุดอุทานออกมา  “ดูสิพี่!  สวยอะไรอย่างนี้” “อย่างนั้นเชียว”  คนเป็นพี่เอ่ยตอบด้วยท่าทีจริงจัง  “ไม่ลองเข้าไปทัก เธอดูล่ะ” “เอาจริงเหรอ”  เอซีโอผงะ  “หลังจากทักทายเสร็จแล้ว  ข้าควรทำยังไง ต่อ” “ก็ลองชวนเธอคุยสิ  เรื่องของที่เจ้าซื้อมา  เรื่องของที่เธอซื้อมา  หรือ เรื่ อ งอะไรก็ ไ ด้   ฟั ง นะน้ อ งชาย  ผู้ ช ายส่ ว นมากน่ ะ กลั ว สาวสวยกั น ทั้ ง นั้ น  เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่กล้าพอจะชวนพวกเธอคุยก่อนก็จะกลายเป็นฝ่าย ได้เปรียบทันที  เจ้าคิดเหรอว่าพวกเธอจะไม่  อยาก ถูกทักทาย  ไม่  อยาก คุยกับ หนุ่ม ๆ อย่างเราน่ะ  ต้องอยากแน่นอนอยู่แล้ว!  เจ้าเองก็ไม่ได้หน้าตาขี้เหร่  ทีส่ ำคัญ  เจ้า  คอื   คนของตระกูลเอาดีโตเรนะ  เพราะฉะนัน้ ไปได้แล้ว  เดีย๋ วข้า จะช่วยเบนความสนใจพีเ่ ลีย้ งของเธอให้เอง  จะว่าไป  พีเ่ ลีย้ งของเธอก็หน้าตาดี ไม่เบาเหมือนกันนี่นา” เอซีโอจดจำขั้นตอนไว้ในหัว  และหลังจากที่รอบกายเหลือแค่เขากับ คริสตีนา  เด็กหนุม่ ก็ตรงดิง่ เข้าไปประจันหน้าเธอทันทีทงั้ ทีย่ งั คิดคำพูดไม่ออก เลยสักคำ  สายตาดืม่ ด่ำกับความงดงามของนัยน์ตาสีเข้มเบือ้ งหน้า  เส้นผมยาว นุ่มสลวยสีน้ำตาลแดง  ปลายจมูกที่เชิดรั้นขึ้นเล็กน้อย… 14


โ อ ลิ เ ว อ ร์  บ า ว เ ด น เด็กสาวจ้องหน้าเขา  “มีอะไรหรือ”  หล่อนถาม “หมายความว่าอย่างไรหรือ”  เขาหลุดโพล่ง “เจ้ามายืนเฉยขวางข้าทำไม” “อ๋อ…เอ่อ…คือข้าอยากจะถามอะไรเจ้าสักหน่อย” “ถามอะไรล่ะ” “เจ้าชื่ออะไร” เธอกลอกตา  ซวยละ  เขาคิด  เธอคงเคยได้ยินคำถามนี้มานับครั้ง ไม่ถ้วนแล้วแน่  ๆ  “ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าควรจะต้องรู้หรอก”  เธอกล่าว  แล้วก็เดิน จากไปทั้งอย่างนั้น  เอซีโอยืนจ้องแผ่นหลังเด็กสาวค้างอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรีบ ก้าวตามไป “เดีย๋ วก่อนสิ!”  เขาร้องพลางรีบเร่งฝีเท้าตามจนทัน  รูส้ กึ เหนือ่ ยราวกับ เพิ่งวิ่งมาเป็นไมล์  ๆ  “เมื่อกี้ข้ายังไม่พร้อมน่ะ  อันที่จริงข้าตั้งใจว่าจะเข้าหาเจ้า อย่างมีเสน่ห์  อบอุ่น  และฉลาด  ให้โอกาสข้าอีกสักครั้งได้ไหม” เด็กสาวเบนหน้ากลับมามองเขาโดยที่ไม่หยุดเดิน  ทว่าส่งยิ้มจาง ๆ  กลับมา  เอซีโอนึกในใจว่าตนคงหมดหวังเสียแล้ว  แต่เฟเดรีโกที่ยืนมองอยู่ ตลอดก็ส่งเสียงเรียกเขาแผ่วเบา  “อย่าเพิ่งยอมแพ้สิ  ข้าเห็นเธอยิ้มให้เจ้า  แปลว่าเธอต้องจำเจ้าได้แน่  ๆ” เอซีโอฮึดสู้แล้วเดินตามเธอไป  คอยระวังไม่ให้เด็กสาวรู้ตัวเสียก่อน  มีอยู่สามสี่ครั้งที่เขาต้องรีบถลาไปหลบอยู่หลังแผงขายของ  เมื่อเด็กสาวเดิน พ้นลานจัตุรัสแล้ว  เขาก็จะใช้บานประตูเป็นที่กำบังแทน  เด็กหนุ่มตามเธอมา ได้จนกระทั่งถึงหน้าคฤหาสน์ของเธอ  ทันใดนั้น  ชายหนุ่มอีกคนที่เขารู้จักดี ก็ก้าวเข้ามาขวางหน้าเธอไว้  เอซีโอจึงต้องรีบหลบฉากออกมาก่อน คริสตีนาจ้องมองชายตรงหน้าด้วยแววตาเกรี้ยวกราด  “ข้าเคยบอก เจ้าแล้วไม่ใช่หรือว่าข้าไม่ได้ชอบเจ้า  วีเอรี  หลีกทางไปเดี๋ยวนี้” เอซีโอลอบสูดลมหายใจลึก  วีเอรี  เด  ปัซซี  กะไว้ไม่มีผิด! “แต่ข้าชอบเจ้านี่  ซิญโญรีนา  (ท่านหญิง)  ชอบมากด้วย”  วีเอรีเอ่ย “ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องรอหน่อย” เด็กสาวพยายามเบี่ยงตัวหลบ  แต่ชายหนุ่มขยับมาขวางหน้าเธอไว้ 15


A s s a s s i n ’ s   C r e e d  ต อ น  เ ร อ แ น ซ อ ง ซ์ อีกครั้ง  “ไม่เอาน่า  อามอเร  มีโอ  (ที่รัก)  ข้าขี้เกียจรอให้เจ้ายอมอ้าขาคู่นั้น ให้แล้วนะ”  เขาว่าพลางฉวยแขนเธอมากุมไว้อย่างแรง  ก่อนจะดึงร่างของ เด็กสาวที่กำลังดิ้นขัดขืนมาโอบไว้ด้วยแขนอีกข้าง  “ฟังเธอพูดไม่รู้เรื่องหรือยังไง”  เอซีโอพูดแทรกขึ้นกะทันหันพลาง ก้าวออกมาข้างหน้า  สบสายตาวีเอรีเขม็ง  “เจ้าลูกแหง่เอาดีโตเรนี่เอง  กาเน  รอญโญโซ  (ไอ้หมาขี้เรื้อน)  แล้ว เจ้ามายุ่งอะไรด้วย  ไปตายซะไป”  “บวอน  จีออร์โน  (อรุณสวัสดิ)์   เจ้าด้วยนะวีเอรี  ขอโทษจริง  ๆ  ทเี่ ข้ามา ก้าวก่ายแบบนี้  แต่ข้ารู้สึกว่าเจ้ากำลังทำให้สาวน้อยผู้นี้เสียเวลาอยู่นะ” “เหอะ  เจ้าเองก็ไม่ตา่ งกันนักหรอก  ขอตัวเดีย๋ วนะทีร่ กั   ข้าว่าจะกระทืบ สัง่ สอนไอ้เด็กเหลือขอนีส่ กั หน่อย”  สิน้ คำพูด  วีเอรีกด็ นั ร่างคริสตีนาไปข้าง  ๆ  แล้วพุ่งเข้าใส่เอซีโอพร้อมหมัดขวาที่ง้างขึ้นเตรียมต่อย  เอซีโอเบี่ยงตัวหลบ ได้อย่างง่ายดายพลางยื่นเท้าไปขัดขาคู่อริ  ส่งผลให้ชายหนุ่มที่ปล่อยหมัด พลาดล้มคะมำลงหน้าทิ่มฝุ่น “สมใจอยากหรือยัง  เพื่อนยาก”  เอซีโอเอ่ยหยัน  ทว่าทันใดนั้นวีเอรี ก็เด้งตัวกลับขึ้นมา  โถมร่างเข้าใส่เขาอย่างบ้าคลั่งพร้อมเหวี่ยงหมัดไปมา กลางอากาศ  หมัดหนัก ๆ หมัดหนึ่งกระทบเข้ากับที่กรามด้านข้างของเอซีโอ  แต่กระนั้นเด็กหนุ่มก็ปัดฮุคซ้ายของอีกฝ่ายออกไปได้และสวนคืนไปทีเดียว สองหมัดรวด  หมัดหนึ่งซัดเปรี้ยงเข้าเต็มท้อง  ส่วนอีกหมัดนั้นปลิวหวือ ใส่กรามของคู่ต่อสู้ที่กำลังโก่งตัวด้วยความเจ็บปวด  เอซีโอหันหน้าไปมอง คริสตีนาเพื่อดูว่าเธอปลอดภัยดีไหม  ขณะที่ฝ่ายอริซึ่งกำลังหอบหายใจเครือ ถอยหลบออกไปตั้งหลัก  ลอบตวัดมือข้างหนึ่งไปที่กริชประจำกาย  คริสตีนา เห็นการเคลื่อนไหวนั้นเข้าพอดี   และเผลอส่งเสียงอุทานเตือน  พอดีกับที่ วีเอรีชูกริชในมือขึ้นหมายจะเสียบแผ่นหลังของเอซีโอ  แต่เด็กหนุ่มได้ยิน เสียงร้องของหญิงสาวและพลิกร่างหลบได้อย่างเฉียดฉิว  ซ้ำยังจับข้อมือนั้น บิดจนวีเอรีต้องปล่อยด้ามกริชลงพื้น  เด็กหนุ่มทั้งสองต่างยืนประจันหน้า กันนิ่ง  หอบหายใจหนักหน่วง “มีปัญญาทำได้แค่นี้เหรอ”  เอซีโอเค้นเสียงลอดไรฟัน 16


โ อ ลิ เ ว อ ร์  บ า ว เ ด น “หุบปากซะ  ไม่อย่างนั้นข้าฆ่าเจ้าแน่!” เอซีโอหัวเราะลั่น  “ดูจากวิธีที่พ่อของเจ้าพยายามเรียกเก็บดอกเบี้ย จากชาวเมืองฟลอเรนซ์แล้ว  ข้าไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าถึงได้พยายามดันทุรงั เสนอตัวให้สาวสวยผู้น ี้ ทั้ง ๆ ที่ในสายตาเธอ  เจ้ามันก็แค่ขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น” “เจ้างั่ง!  คนที่ควรถ่อมตัวน่ะคือพ่อเจ้าต่างหาก!” “หยุดดูหมิ่นตระกูลข้าได้แล้ว  เจ้าพวกปัซซี  ไม่สิ  ถึงยังไงเจ้ามันก็ดี แต่ปากอยู่แล้ว  ส่วนเรื่องต่อสู้น่ะไร้น้ำยาสิ้นดี” ริมฝีปากแตก ๆ ของวีเอรีมีเลือดไหลออกมาอย่างน่ากลัว  เขายกแขน เสื้อขึ้นปาด  “ฝากไว้ก่อนเถอะ  ทั้งเจ้าและคนในตระกูลเจ้าด้วย  ข้าจะไม่มี วันลืมเรื่องนี้เด็ดขาด  ไอ้เอาดีโตเร!”  เขาถ่มน้ำลายใส่เท้าเอซีโอ  โน้มตัวลง ไปเก็บกริชประจำกาย  แล้วหันหลังวิ่งหนีจากไป  ทิ้งให้เอซีโอยืนมองนิ่งอยู่ ตรงนั้น เด็กหนุ่มนึกเท้าความเหตุการณ์ทั้งหมดขณะยืนนิ่งอยู่เหนือหอคอยโบสถ์   ทอดมองไปยังบ้านของคริสตีนา  เขายังจำความรู้สึกอิ่มเอมยามที่หันหลัง กลับไปหาหญิงสาว  และได้เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นขณะที่เธอ เอ่ยขอบคุณเขาได้ดี “เป็นอะไรหรือเปล่า  ซิญโญรินา  (ท่านหญิง)”  เขากล่าว “ไม่เป็นไรแล้วละ  ขอบคุณเจ้าจริง ๆ”  เด็กสาวลังเล  น้ำเสียงยังคง สั่นเครือด้วยความกลัว   “เจ้าเคยถามชื่อข้าใช่ไหม  ข้ายอมบอกแล้วก็ได้   ชื่อของข้าคือคริสตีนา  คริสตีนา  คัลฟุชชี” เอซีโอค้อมกายให้เธอ  “เป็นเกียรติทไี่ ด้พบเจ้าจริง  ๆ  ท่านหญิงคริสตีนา  ข้าชื่อเอซีโอ  เอาดีโตเร” “เจ้ารู้จักชายคนนั้นด้วยหรือ” “วีเอรีน่ะรึ  แค่เคยเจอหน้ากันเป็นครั้งคราวน่ะ  ครอบครัวของเรา ไม่ถูกชะตากันเท่าไร” “ข้าไม่อยากเจอหน้าเขาอีกแล้ว” “ถ้าเจ้ายอมให้ข้าช่วย  เจ้าจะไม่มีวันได้เห็นหน้าเจ้านั่นอีกต่อไป” 17


A s s a s s i n ’ s   C r e e d  ต อ น  เ ร อ แ น ซ อ ง ซ์ เด็กสาวแย้มยิม้ อย่างเขินอาย  แล้วกล่าวต่อ  “เอซีโอ  ข้าซาบซึง้ ในน้ำใจ ของเจ้าจริง ๆ  และเพราะอย่างนั้น  ข้าเลยว่าจะลองให้โอกาสเจ้าดูอีกสักครั้ง  หลังจากทีค่ รัง้ แรกเจ้าเปิดตัวได้แย่สดุ   ๆ!”  เธอหัวเราะเสียงนุม่ ปิดท้าย  ก่อนจะ หอมแก้มเขาแล้วหายลับเข้าไปในคฤหาสน์ ฝูงชนขนาดย่อมที่มุงดูเหตุการณ์ต่างพร้อมใจกันปรบมือให้เอซีโอ  เด็กหนุ่มฉีกยิ้มแล้วค้อมกายลงอีกครั้ง  แต่ระหว่างที่หันหลังกลับ  เขาก็อด ครุ่นคิดกับตัวเองไม่ได้ว่าวันนี้เขาไม่ได้แค่เจอเพื่อนใหม่  แต่เขายังได้สร้าง ศัตรูตัวฉกาจขึ้นมาอีกคนหนึ่งด้วย “ให้คริสตีนานอนต่อเถอะ”  เฟเดรีโกย้ำอีกครั้ง  ดึงสติเอซีโอให้หลุด ออกจากภวังค์ “ไว้ทีหลังก็ได้”  เขาว่า  “ข้าอยากเจอเธอจริง ๆ” “ก็ได้  ๆ  ถ้าเจ้าอยากเจอขนาดนั้นละก็  เดี๋ยวข้าจะช่วยปิดท่านพ่อให้ อีกแรงแล้วกัน  แต่ยังไงก็ระวังตัวด้วยละ  คนของวีเอรีคงยังเพ่นพ่านอยู่ แถวนี”้   พอพูดจบ  เฟเดรีโกก็ปนี หอคอยกลับลงไปทีห่ ลังคา  จากนัน้ จึงทิง้ ตัว ลงสู่เกวียนบรรทุกฟางซึ่งจอดนิ่งอยู่ริมถนนสายที่ทอดตรงไปสู่บ้านพวกเขา เอซีโอหยุดมองจนกระทั่งร่างนั้นหายลับไป  แล้วตัดสินใจว่าจะลอง ทำตามพีช่ าย  เกวียนบรรทุกฟางเบือ้ งล่างนัน้ อาจจะดูหา่ งไกลก็จริง  แต่เอซีโอ ยั ง จำคำสอนทั้ ง หมดได้ ดี   เขาพยายามควบคุ ม ลมหายใจเอาไว้   บั ง คั บ อารมณ์ให้สงบ  และตั้งสมาธิ แล้วร่างของเด็กหนุ่มก็โผนทะยานขึ้นสู่อากาศ  นับเป็นการกระโดดที่ ยอดเยีย่ มทีส่ ดุ เท่าทีเ่ ขาเคยทำมา  ชัว่ วินาทีนนั้   เขาคิดว่าตนคงกะระยะพลาด อีกตามเคย  ทว่าก็ยงั้ ความคิดหวัน่ วิตกชัว่ คราวนัน้ ไว้ได้และทิง้ ตัวลงสูก่ องฟาง อย่างปลอดภัย  ช่างเป็นก้าวกระโดดทีย่ งิ่ ใหญ่อะไรเช่นนี!้   เอซีโอดีดตัวกลับไป ยืนบนถนน  แม้จะยังหายใจไม่ทั่วท้องดี  แต่ก็อดดีใจไม่ได้ที่ทำสำเร็จ แม้ดวงตะวันจะเพิ่งปรากฏขึ้นเหนือเนินเขาทิศตะวันออก  ทว่าผู้คนที่ ออกมาเดินเตร็ดเตร่ก็ยังคงบางตาอยู่เช่นเคย  เอซีโอเพิ่งจะมุ่งหน้าไปตาม เส้นทางสู่คฤหาสน์ของคริสตีนาได้เพียงไม่กี่ก้าวตอนที่ได้ยินเสียงฝีเท้าหลาย คู่ดังใกล้เข้ามา  เด็กหนุ่มรีบแนบกายเข้าหาเงามืดใต้เฉลียงโบสถ์พลางสะกด 18


โ อ ลิ เ ว อ ร์  บ า ว เ ด น ลมหายใจไว้  กลุ่มคนที่โผล่พ้นมุมถนนออกมานั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากวีเอรี และทหารยามประจำตระกูลปัซซีอีกสองนาย “พอเถอะขอรั บ   นายน้ อ ย”  ทหารยามวุ ฒิ สู ง กว่ า เอ่ ย ขึ้ น   “ป่ า นนี้   พวกนั้นคงเผ่นไปไกลแล้ว” “ข้ารู้ว่าพวกมันต้องยังป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้แน่”  วีเอรีค้านเสียงแหลม  “ข้ายัง ได้กลิ่น  พวกมันอยู่เลย”  เขาว่าพลางเดินวนรอบลานกว้างหน้าโบสถ์ พร้อมกับทหารทั้งสองอีกหนึ่งรอบ  ไม่ยอมเคลื่อนที่จากไปไหน  แสงอาทิตย์ ที่สาดส่องเริ่มจะทำให้เงามืดที่เอซีโอซ่อนตัวอยู่หดเล็กลงไปเรื่อย ๆ  เด็กหนุ่ม จึงค่อย ๆ คลานย่องเข้าไปหลบอยู่ในกองฟางอีกครั้งอย่างระมัดระวัง  และ นอนนิ่ ง อยู่ อ ย่ า งนั้ น อี ก ครู่ ใ หญ่   ทั้ ง ที่ ใ นใจร้ อ นรนอยากจะออกไปเต็ ม แก่   มีอยู่ครั้งหนึ่งที่วีเอรีก้าวเฉียดเข้ามาใกล้  ใกล้จนเอซีโอสัมผัสได้ถึงกลิ่นกาย เขา  แต่ในที่สุดเด็กหนุ่มคู่อริก็บุ้ยใบ้ให้คนของตนกลับออกไปจากพื้นที่ด้วย ท่าทางที่เต็มไปด้วยความฉุนเฉียว  เอซีโอยังนอนรออยู่อีกอึดใจหนึ่ง  ก่อน จะปีนกลับออกมาพร้อมถอนหายใจพรืดอย่างโล่งอก  เด็กหนุ่มปัดฝุ่นออก จากตัว  รีบมุ่งหน้าตรงไปหาคริสตีนา  ภาวนาให้คนในครอบครัวเธอยังไม่ตื่น ตัวคฤหาสน์ยังคงเงียบกริบไร้สุ้มเสียง  แต่เอซีโอเดาว่าพวกคนรับใช้ ทั้งหลายคงกำลังเตรียมสุมไฟทำอาหารกันอยู่ที่หลังอาคารแน่  เด็กหนุ่มรู้ดีว่า หน้าต่างห้องคริสตีนาอยู่ตรงไหน  เขาจึงปาก้อนกรวดหนึ่งกำมือไปที่หน้าต่าง ห้องนั้นโดยไม่รอช้า  กรวดก้อนเล็กกระทบบานหน้าต่างเกิดเป็นเสียงแผ่วเบา แทบไม่ ไ ด้ ยิ น   เอซี โ อหยุ ด รอ  หั ว ใจตกดิ่ ง ลงไปอยู่ ที่ ต าตุ่ ม   และแล้ ว  หน้าต่างทั้งสองก็ถูกดันเปิดออกพร้อมกับร่างของเด็กสาวที่ปรากฏกายขึ้น ที่ระเบียง  ชุดนอนตัวบางเผยให้เห็นเรือนร่างน่าจับตา  เอซีโอเงยหน้าขึ้นมอง  แล้วก็ต้องพลัดตกลงไปในหลุมพรางแห่งความปรารถนาอีกครั้ง “ใครกันน่ะ”  เธอเอ่ยถามเบา ๆ  เด็กหนุ่มก้าวถอยหลังเพื่อให้เด็กสาวมองเห็นเขา  “ข้าเอง” คริสตีนาถอนหายใจ  แม้จะไม่ใช่การถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก็ตามที  “เอซีโอ  เจ้านี่เอง!  ข้าน่าจะรู้แต่แรก” “ขอข้าขึ้นไปได้ไหม  มีอา  โคลอมบา  (แม่นกน้อยของข้า)” 19


A s s a s s i n ’ s   C r e e d  ต อ น  เ ร อ แ น ซ อ ง ซ์ เด็กสาวชำเลืองมองทางด้านหลังเล็กน้อย  ก่อนจะกระซิบตอบเสียงแผ่ว  “ก็ได้  แต่แค่แป๊บเดียวนะ” “แค่นั้นก็พอแล้ว” หล่อนยิ้ม  “แน่นะ” เอซีโอถึงกับงงไปครูห่ นึง่   “ไม่  —  โทษที  —  ขา้ ไม่ได้หมายความว่าอย่างนัน้ !  ให้ข้าแสดงให้เจ้าดูดีกว่า…”  เด็กหนุ่มหันมองไปรอบ ๆ  ตรวจดูให้แน่ใจว่า ถนนข้างเคียงไม่มคี นอยู ่ จากนัน้ จึงวางเท้าลงไปบนห่วงเหล็กล่ามม้าซึง่ ติดตรึง อยู่ที่กำแพงหินสีเทา  และดึงร่างตัวเองขึ้นไปด้านบนโดยใช้ทั้งมือและเท้า เกาะเกี่ยวไปตามร่องเล็ก  ๆ ในผนังอิฐหยาบ  พริบตาเดียวเขาก็เหวี่ยงร่าง ข้ามราวระเบียงมาได้  และตรงเข้าไปโอบกอดร่างเล็กกว่าไว้อย่างรวดเร็ว “โอ  เอซี โ อ!”  เด็ ก สาวผ่ อ นลมหายใจขณะแนบริ ม ฝี ป ากเข้ า กั บ อีกฝ่าย  “ดูหัวเจ้าสิ  ไปก่อเรื่องอะไรมาอีกล่ะ” “ไม่มีอะไรหรอก  แค่แผลเล็ก ๆ น้อย ๆ น่ะ”  เอซีโอเว้นช่วงพร้อมกับ ส่งยิ้มให้  “ในเมื่อข้าขึ้นมาถึงนี่แล้ว  ขอข้าเข้าไปข้างในได้ไหม”  เขาถามเสียง นุ่ม “ในไหนคะ” เด็กหนุ่มแสร้งทำหน้าไร้เดียงสา  “ในห้องนอนเจ้าสิ  ถามได้” “ก็อาจจะได้  ถ้าเจ้าแน่ใจว่าแค่แป๊บเดียว…” คู่หนุ่มสาวโอบแขนไว้รอบร่างคนรัก  ก่อนจะก้าวเดินผ่านประตูบานคู่ เข้าไปรับแสงไฟอันอบอุ่นภายในห้องของคริสตีนา หนึ่งชั่วโมงต่อมา  ทั้งสองก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยแสงอรุณที่ลอดผ่านบาน หน้าต่างเข้ามา  เสียงอึกทึกครึกโครมที่ดังมาจากหมู่เกวียนและชาวเมือง บนท้องถนน  และที่แย่ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดก็คือ  เสียงพ่อของคริสตีนาที่เพิ่งจะ เปิดประตูเข้ามาในห้องนอน “คริสตีนา”  เขาเรียก  “ตืน่ ได้แล้วลูกรัก  อีกเดีย๋ วครูของลูกก็จะ  —  นมี่ นั เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย  ไอ้ลูกหมานี่!” เอซีโอยื่นหน้าไปจูบคริสตีนาหนัก ๆ  ทว่าว่องไว  “ข้าต้องไปแล้วละ”  20


โ อ ลิ เ ว อ ร์  บ า ว เ ด น เขาทิ้งท้าย  ก่อนฉวยเสื้อผ้าและพุ่งตรงไปที่หน้าต่าง  ขณะที่กำลังปีนป่าย ลงจากกำแพงและแต่งกายไปด้วยนั้น  อันโตนีโอ  คัลฟุชชี  ก็ปรากฏตัวขึ้น ที่ระเบียงเหนือศีรษะ  ท่าทางกำลังโมโหได้ที่ “แพร์โดนาเต  เมสเซเร  (ขออภัยด้วยครับท่าน)”  เอซีโอขอโทษขอโพย “แล้วเจ้าจะต้องเสียใจ  เมสเซเร  (ท่านชาย)”  คัลฟุชชีผพู้ อ่ แหกปากลัน่ “ทหาร!  ทหาร!  ตามไอ้  ชมิ เิ ช  (ตัวเรือด)  นัน่ ไป!  ตัดหัวมันมา!  เอา  คอกลีโอนิ  (ลูกป๋องแป๋ง)  มันมาให้ข้าด้วย!” “ข้าบอกแล้วไงว่าขอโทษ —”  เอซีโอกำลังจะเอ่ยต่อ  แต่ยังไม่ทันไร  ประตูทางเข้าคฤหาสน์ก็กระแทกเปิดออก  ทหารคุ้มกันประจำบ้านคัลฟุชชี หลายนายวิ่งตรงดิ่งมาทางเขาพร้อมดาบในมือ  เอซีโอรีบจ้ำอ้าวไปตามถนน ทันทีทั้งที่ยังแต่งตัวไม่เสร็จ  พยายามกระโดดหลบเกวียนและเบียดตัวผ่าน ฝูงชนทีข่ วางทาง  มีทงั้ นักธุรกิจผูม้ งั่ คัง่ ในชุดสีดำขลับ  พ่อค้าแม่คา้ ในชุดสีแดง และน้ำตาล  และคนยากคนจนในชุดถักทอเรียบง่าย  เด็กหนุ่มเผ่นพรวด กลับมาที่หน้าโบสถ์อีกครั้ง  ที่ที่ร่างของเขาปะทะเข้ากับรูปปั้นพระแม่มารีย์ ที่นักบวชชุดดำองค์หนึ่งประคองผ่านมาจนรูปปั้นร่วงลงไปกองที่พื้น ในที่สุด  หลังจากที่กระโจนตัวข้ามกำแพงและวิ่งทะลุผ่านซอยต่าง ๆ  เด็กหนุ่มก็หยุดฟัง  บัดนี้รอบด้านหลงเหลือเพียงความเงียบงัน  ไม่มีเสียง ตะโกนด่าทอจากเหล่าผู้คนที่เคยตามเขามาอีกต่อไป  ส่วนพวกทหารทั้งหลาย  เขาก็มั่นใจว่าตัวเองสลัดจนหลุดแล้วเช่นกัน  เด็กหนุ่มได้แต่หวังว่าซิญญอร์คัลฟุชชีจะจำหน้าเขาไม่ได้   และเขา ก็วางใจว่าคริสตีนาคงจะไม่หักหลังเขาแน่  เด็กสาวเอาตัวรอดจากพ่อของเธอ ได้เสมอ  และพ่อของเธอก็รักเธอมาก  หรือต่อให้เขารู้ความจริง  เอซีโอก็ไม่ คิดว่าตัวเองจะเป็นลูกเขยทีแ่ ย่สกั เท่าไร  อย่างไรเสีย  ธุรกิจธนาคารของพ่อเขา ก็เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในฟลอเรนซ์  ไม่แน่ว่าสักวันหนึ่งมันอาจจะ เติบใหญ่กว่าธุรกิจของพวกปัซซีหรือแม้แต่ของพวกเมดีชีด้วยซ้ำ  ใครจะไปรู้ เอซี โ อมุ่ ง หน้ า กลั บ บ้ า นทางถนนเส้ น หลั ง   และก็ เ จอเฟเดรี โ กเป็ น คนแรก  คนเป็นพี่จ้องใบหน้าเขาเขม็ง   ก่อนจะส่ายศีรษะไปมาเป็นนัย  ๆ  “ไปก่อเรื่องมาใช่ไหม”  เขาว่า  “อย่าหาว่าข้าไม่เตือนเชียวนะ” 21


๒ ห้องทำงานของจีโอวันนี  เอาดีโตเร  อยูท่ ชี่ นั้ ล่างสุด

เห็ น วิ ว ของสวนด้ า นหลั ง พระราชวั ง เมื่ อ มองผ่ า นหน้ า ต่ า งบานคู่ ส องชุ ด ซึ่งเปิดออกไปเป็นชานระเบียงกว้าง  ผนังห้องกรุด้วยไม้โอ๊กสีมืดทึบฉลุลาย  ประติมากรรมปูนปั้นนูนต่ำอันวิจิตรบนเพดานแทบไม่สามารถทำให้ความเข้ม ของผนังอ่อนลงได้เลย  ในห้องมีโต๊ะทำงานสองตัวตั้งหันหน้าเข้าหากัน  โต๊ะ ตัวที่มีขนาดใหญ่กว่าเป็นของจีโอวันนี  ส่วนตรงผนังก็มีตู้หนังสือวางเรียงราย  อัดแน่นด้วยบัญชีแยกประเภทและม้วนกระดาษที่มีตราประทับสีแดงห้อยอยู่  ห้องนี้ถูกออกแบบให้ประกาศแก่ผู้มาเยือนว่าพวกเขาจะพบกับความเจริญ รุ่งเรือง  ความน่าเคารพนับถือ  และความไว้เนื้อเชื่อใจ  ในฐานะเสาหลักของ ธนาคารระหว่างประเทศเอาดีโตเร  ซึ่งสันทัดเรื่องการให้สินเชื่อแก่บรรดา อาณาจักรทั้งหลายในภูมิภาคเจอร์มาเนีย  บนพื้นที่ซึ่งอย่างน้อยตามทฤษฎี ก็ จั ด ว่ า เป็ น จั ก รวรรดิ โ รมั น ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์   จี โ อวั น นี   เอาดี โ ตเร  รู้ ดี ว่ า หน้ า ที่ ของตนนั้นสำคัญและต้องอาศัยความรับผิดชอบมากขนาดไหน  เขาหวังว่า ลูกชายทั้งสองจะรู้สำนึกผิดชอบชั่วดีได้อย่างรวดเร็วและมาช่วยแบกรับภาระ ที่เขารับมาจากผู้เป็นพ่ออีกทอดหนึ่งเสียที   แต่เขายังไม่เห็นวี่แววว่าเรื่อง 22


โ อ ลิ เ ว อ ร์  บ า ว เ ด น แบบนั้นจะเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย  ถึงกระนั้นก็… เขาส่งสายตาถมึงทึงจากเก้าอี้โต๊ะทำงานไปยังลูกชายคนกลางที่อยู่ อีกฟากหนึ่งของห้อง  เอซีโอยืนอยู่ใกล้กับโต๊ะอีกตัวที่เลขานุการของจีโอวันนี ทิ้งว่างไว้  เพื่อมอบความเป็นส่วนตัวให้พ่อลูกได้จัดการกับสิ่งที่เอซีโอเกรงว่า จะเป็นการสอบปากคำอันแสนทุกข์ทรมาน  ตอนนี้ก็ย่างเข้าช่วงบ่ายแล้ว  เขา หวั่นว่าจะโดนเรียกตัวอยู่ตลอดทั้งเช้า  แต่เด็กหนุ่มก็ใช้เวลาแอบงีบเอาแรง สองชั่วโมง  พร้อมทั้งแต่งองค์ทรงเครื่องตัวเองให้เรียบร้อย  เดาว่าผู้เป็นพ่อ คงให้โอกาสเขาได้จัดการเรื่องเหล่านั้นก่อนจะเริ่มกระหนาบสวด  “คิดว่าข้าหูหนวกตาบอดหรือ”  จีโอวันนีแผดเสียงดังสนัน่   “คิดหรือว่า ข้าไม่รเู้ รือ่ งทีเ่ จ้าอาละวาดชกต่อยกับวีเอรี  เด  ปัซซี  และพวกของเขาทีส่ ะพาน เมื่อคืนนี้  บางทีนะ  เอซีโอ  ข้าก็ไม่เห็นว่าเจ้าจะดีกว่าเขาตรงไหนเลย  ซ้ำร้าย ตระกูลปัซซีจะกลายเป็นศัตรูที่น่าหวาดกลัวไปเสียอีก”  เอซีโอทำท่าจะพูด  แต่ พ่ อ ของเขากลั บ ยกมื อ ขึ้ น ห้ า ม  “ช่ ว ยกรุ ณ าฟั ง ข้ า พู ด ให้ จ บก่ อ น!”  เขา สูดลมหายใจเข้า  “แค่นนั้ ยังไม่พอ  เจ้ายังหาเรือ่ งใส่ตวั ด้วยการไปไล่เกีย้ วพาน คริสตีนา  คัลฟุชชี  ลูกสาวของพ่อค้าที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง ทัว่ แคว้นตัสกานี  ทีแ่ ย่ไปกว่านัน้   เจ้ายังพาคริสตีนาไปเสพสมบนเตียงของเธอ อีก!  เหลืออดเหลือทนจริง  ๆ!  เจ้าไม่คดิ ถึงชือ่ เสียงของตระกูลเราบ้างเลยหรือ”  จีโอวันนีกล่าวต่อ  “รู้ไหมว่าเจ้าทำให้ข้านึกถึงใคร”  เอซีโอก้มหน้าก้มตา  แต่ทันใดนั้นเขาก็ประหลาดใจเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อ ลุกขึ้นเดินจากอีกฝั่งหนึ่งของห้อง  ตรงมาหาเขาพลางเอามือโอบไหล่  ใบหน้า ยิ้มแป้นจนแก้มปริ “ไอ้ตวั แสบเอ๊ย!  เจ้านีท่ ำให้ขา้ นึกถึงตัวเองสมัยยังหนุม่ เสียเหลือเกิน!”  ทว่าไม่กี่อึดใจจีโอวันนีก็กลับไปทำสีหน้าขึงขังตามเดิม  “อย่างไรก็เถอะ  ถ้า ข้าไม่มีความจำเป็นต้องให้เจ้าอยู่ช่วย  อย่าคิดเชียวว่าจะละเว้นการลงโทษ อันเหีย้ มเกรียมให้  ถ้าเกิดไม่ตดิ ธุระอะไร  จำคำข้าไว้เลย  ข้าจะส่งเจ้าไปอยูก่ บั ลุงมารีโอแล้วให้เขารับเข้ากอง กอนดอตตีเอรี  (ทหารรับจ้าง)  จะได้มีสามัญ สำนึกเสียบ้าง!  แต่ขา้ ต้องหวังพึง่ เจ้า  และถึงแม้เจ้าไม่มปี ญ ั ญาพอจะมองออก  ตอนนี้เรากำลังเผชิญช่วงเวลาวิกฤตของเมืองนี้  แผลที่หัวเป็นอย่างไรบ้าง  23


A s s a s s i n ’ s   C r e e d  ต อ น  เ ร อ แ น ซ อ ง ซ์ ข้าเห็นเอาผ้าพันแผลออกไปแล้ว” “ดีขึ้นมากแล้วครับท่านพ่อ”  “ถ้าเช่นนัน้ ก็คงไม่มอี ะไรมาขัดขวางแผนงานทีข่ า้ เตรียมไว้ให้เจ้าสะสาง ตลอดทั้งวันแล้วสินะ”  “ข้าให้สัญญาเลยครับท่านพ่อ” “ช่วยรักษาสัญญานั้นด้วยก็แล้วกัน”  จีโอวันนีเดินกลับไปที่โต๊ะทำงาน  หยิบจดหมายที่มีตราประทับของตัวเขาออกมาจากช่องเก็บของแล้วยื่นให้ ลูกชายพร้อมด้วยเอกสารอีกสองม้วนที่บรรจุอยู่ในซองหนัง  “ข้าอยากให้เจ้า นำของเหล่านี้ไปมอบให้แก่โลเรนโซ  เด  เมดีชี  ที่ธนาคารของเขาโดยเร็ว ที่สุด”  “ท่านพ่อครับ  จะเป็นอะไรไหมถ้าข้าอยากรู้ว่ามันเกี่ยวกับอะไร”  “ถ้าเป็นเรือ่ งในเอกสาร  ข้าคงจะบอกไม่ได้  แต่เจ้าก็ควรรูไ้ ว้วา่ จดหมาย ฉบับนั้นจะช่วยให้โลเรนโซตระหนักถึงสถานการณ์เรื่องการต่อรองเจรจา ของเรากับเมืองมิลาน  ข้าใช้เวลาจัดเตรียมตลอดทัง้ เช้า  เรือ่ งนีจ้ ะแพร่ออกไป ไม่ได้เด็ดขาด  แต่ถ้าข้าไม่มอบความไว้วางใจให้เจ้า  เจ้าก็จะไม่มีวันรู้จัก ความรับผิดชอบ  มีข่าวลือเกี่ยวกับแผนโค่นล้มดยุคกาเลอัซโซ”  “มีใครสมรู้ร่วมคิดบ้าง” จีโอวันนีหรี่ตามองลูกชาย  “เขาว่ากันว่าผู้ร่วมก่อกบฏคนสำคัญคือ จีโอวันนี  ลัมพูญานี  กับเจโรลาโม  ออลจีอาตี  และคาร์โล  วิสคอนตี  แต่ ดูเหมือนว่างานนี้ฟรานเชสโก  เด  ปัซซี  ที่รักของเราจะมีเอี่ยวด้วย  และ เหนือสิง่ อืน่ ใด  ดูเหมือนเขาจะมีแผนทีจ่ ะหวังผลมากกว่าแค่เรือ่ งการเมืองของ นครรัฐสองแห่งอีกด้วย  ขณะนีก้ อนฟาโลนีเอเรของทีน่ คี่ วบคุมตัวฟรานเชสโก เอาไว้  ทว่าตระกูลปัซซีไม่พอใจเรื่องนั้นเลยแม้แต่น้อย”  จีโอวันนีหยุดไม่ให้ ตัวเองพูดต่อ  “นั่นไง  ข้าบอกเจ้ามากเกินไปเสียแล้ว  จัดการส่งของเหล่านี้ ให้ถึงมือโลเรนโซอย่างรวดเร็ว  ข้าได้ยินมาว่าเร็ว ๆ นี้เขาจะเดินทางไปคาเรจจี เพื่อรับอากาศบริสุทธิ์แถบชนบท  และถ้าแมวไม่อยู่แล้วละก็…” “ข้าจะรีบไปส่งให้เร็วที่สุดครับ” “ดีมาก  รีบไปเถอะ!” 24


โ อ ลิ เ ว อ ร์  บ า ว เ ด น เอซี โ อมุ่ ง หน้ า ออกไปตามลำพั ง   เดิ น เลาะตามตรอกซอกซอยที่ ห่างไกลผู้คนที่สุดเท่าที่จะทำได้  ไม่นึกเอะใจว่าวีเอรีอาจยังตามล่าตัวเขาอยู่  แล้วทันใดนั้นเอง  บนถนนอันเงียบสนิทห่างจากธนาคารเมดีชีเพียงไม่กี่นาที  ปรากฏร่างของเขาคนนัน้   กำลังยืนขวางทางเอซีโออยู ่ เมือ่ พยายามจะถอยกลับ ทางเดิม  เอซีโอก็พบว่าพวกพ้องของวีเอรีได้ปิดทางหนีเรียบร้อยแล้ว  เขา หันกลับมาอีกครัง้   “ขอโทษที  ไอ้หมูนอ้ ย”  เด็กหนุม่ ตะโกนใส่วเี อรี  “แต่ตอนนี้ ข้าไม่มีเวลาหวดก้นแกหรอกนะ” “คนที่จะโดนหวดน่ะไม่ใช่ข้าหรอก”  วีเอรีตะคอกกลับ  “แกถูกล้อมไว้ หมดแล้ว  แต่ไม่ตอ้ งห่วง  ข้าจะส่งพวงหรีดสวย  ๆ  ไปให้ในงานศพแกแน่นอน”  พวกปัซซีเริม่ เคลือ่ นตัวเข้ามาใกล้  ตอนนีว้ เี อรีคงรูเ้ รือ่ งทีพ่ อ่ ของตัวเอง ถูกจองจำแล้วเป็นแน่  เอซีโอมองไปรอบตัวอย่างหมดหนทาง  กำแพงบ้านเรือน สูงตระหง่านริมสองฝัง่ ถนนห้อมล้อมตัวเขาไว้  เด็กหนุม่ จัดการคาดสายกระเป๋า ซึ่งบรรจุเอกสารล้ำค่าไว้รอบตัวอย่างแน่นหนา  เลือกบ้านที่ดูน่าจะอยู่ในระยะ เอื้อมถึง  แล้วกระโจนเข้าหากำแพงบ้านหลังนั้น  เกาะยึดหินขรุขระไว้ด้วยมือ และเท้าทั้งสองข้างก่อนจะไต่ขึ้นไปบนหลังคา  เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนแล้ว  เขา ก็หยุดพักเพื่อก้มลงมายลใบหน้าอันเดือดดาลของวีเอรี  “ข้าไม่มีเวลาพอจะ เยาะเย้ ย แกเสี ย ด้ ว ยซ้ ำ ”  เด็ ก หนุ่ ม กล่ า ว  แล้ ว วิ่ ง สุ ด ฝี เ ท้ า ไปตามหลั ง คา  ก่อนจะกลับลงมาบนพื้นด้วยความคล่องแคล่วเมื่อไร้วี่แววของเหล่าผู้ตามล่า หลังจากนั้นไม่นาน  เขาก็มาถึงหน้าประตูทางเข้าธนาคาร  เด็กหนุ่ม เดินเข้าไป  ก่อนจะสังเกตเห็นโบเอตีโอ  หนึ่งในคนรับใช้ที่โลเรนโซไว้ใจมาก ที่สุดคนหนึ่ง  โชคเข้าข้างแล้ว  เอซีโอรีบรุดไปหาเขาในทันที “เฮ้  เอซีโอ!  เหตุใดเจ้าจึงรีบร้อนมาที่นี่” “โบเอตีโอ  ข้าไม่มเี วลาแล้ว  ข้ามาส่งจดหมายจากท่านพ่อถึงโลเรนโซ” โบเอตีโอแสดงท่าทีเคร่งเครียด  พลางผายมือทัง้ สองข้างออก  “อาอีเม  (ปัดโธ่)  เอซีโอ!  เจ้ามาช้า  เขาออกเดินทางไปคาเรจจีแล้ว”  “เช่นนั้นเจ้าต้องจัดการให้เขาได้รับของพวกนี้อย่างเร็วที่สุด” “ข้ามัน่ ใจว่าเขายังเดินทางไปไม่เกินวันหนึง่ โดยประมาณเลย  ในช่วงเวลา แบบนี้…” 25


A s s a s s i n ’ s   C r e e d  ต อ น  เ ร อ แ น ซ อ ง ซ์ “ข้าเริ่มจะรู้เรื่องเกี่ยวกับช่วงเวลานี้แล้วละ!  เจ้าต้องทำให้แน่ใจว่าเขา จะได้รับเอกสารพวกนี้ทีนะ  โบเอตีโอ  แล้วอย่าแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป!  ต้องรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้!” เมื่อเขากลับมาที่คฤหาสน์ของตัวเอง  เด็กหนุ่มก็รีบมุ่งหน้าตรงไปยัง ห้องทำงานของผู้เป็นพ่อ  ทำหูทวนลมใส่ถ้อยคำหยอกเย้าขี้เล่นของเฟเดรีโก  ผู้ซึ่งกำลังผ่อนคลายอยู่ใต้ต้นไม้ในสวน  รวมทั้งเมินเฉยต่อความพยายาม ของจู ลี โ อ  เลขานุ ก ารของพ่ อ ซึ่ ง ไม่ ย อมให้ เ ด็ ก หนุ่ ม ผ่ า นเข้ า ประตู ห้ อ ง ส่วนตัวที่ปิดอยู่ของจีโอวันนี  เมื่อเข้าไปในห้องดังกล่าว  เขาเห็นว่าผู้เป็นพ่อ กำลังสนทนาอย่างจริงจังกับประธานศาลสูงสุดแห่งเมืองฟลอเรนซ์   หรือ กอนฟาโลนีเอเร  อูเบอร์โต  อัลเบอร์ตี  ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจแต่อย่างใด  เพราะทัง้ สองคนเป็นสหายกันมานาน  และเอซีโอก็ปฏิบตั ติ อ่ อัลเบอร์ตปี ระหนึง่ เขาเป็นลุงแท้  ๆ ของตัวเอง  ทว่าเด็กหนุ่มสัมผัสได้ถึงอารมณ์เคร่งเครียด บนใบหน้าของพวกเขา “เอซีโอ  พ่อหนุ่มน้อยของฉัน!”  อูเบอร์โตเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงร่าเริง  “เป็นอย่างไรบ้าง  หอบโยนมาเหมือนเคยเลยนะ”  เอซีโอหันมองพ่อของตนอย่างเร่งรีบ “ข้ า กำลั ง พยายามพู ด ให้ พ่ อ ของเจ้ า ใจเย็ น ลง”  อู เ บอร์ โ ตกล่ า วต่ อ  “เจ้าเองก็น่าจะรู้ว่ามีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย  แต่ว่า…”  เขาหันไปหาจีโอวันนี  จากนั้นน้ำเสียงของเขาก็จริงจังขึ้น  “…ภัยคุกคามถูกกำจัดแล้ว”  “เจ้านำเอกสารไปส่งเรียบร้อยแล้วหรือยัง”  จีโอวันนีเอ่ยถามอย่าง เฉียบขาด “ครับท่านพ่อ  แต่ว่าท่านดยุคโลเรนโซไม่อยู่แล้วครับ”  จีโอวันนีขมวดคิ้ว  “ข้าคิดไม่ถึงว่าเขาจะออกเดินทางไวขนาดนี้”  “ข้าฝากของไว้กบั โบเอตีโอ”  เอซีโอบอก  “เขาจะส่งต่อให้โลเรนโซอย่าง เร็วที่สุด” “นั่นอาจจะยังไม่เร็วพอก็ได้”  จีโอวันนีกล่าวด้วยน้ำเสียงมืดมน อูเบอร์โตตบหลังสหายของตนเบา  ๆ  “เอาน่า”  เขาเอ่ย  “อย่างมากก็แค่ วันสองวัน  เราได้ตัวฟรานเชสโกมาไว้ในความควบคุมแล้ว  เวลาแค่นั้นจะมี 26


โ อ ลิ เ ว อ ร์  บ า ว เ ด น เรื่องอะไรเกิดขึ้นได้”  จีโอวันนีดูวางใจขึ้นเพียงเล็กน้อย  แต่เห็นได้ชัดว่าชายทั้งสองมีเรื่องที่ ต้องคุยกันอีก  และเห็นได้ชัดว่าเอซีโอไม่ควรอยู่ที่นี่  “ออกไปหาแม่กับน้องสาวของเจ้าเถอะ”  จีโอวันนีกล่าว  “เจ้าควรจะ ใช้เวลากับสมาชิกในครอบครัวคนอื่นนอกจากเฟเดรีโกบ้างนะรู้ไหม!  แล้วก็ พักให้แผลที่หัวดีขึ้นเสีย  ข้ามีงานจะให้ช่วยอีก”  แล้วผู้เป็นพ่อก็โบกมือทำท่า ให้เอซีโอออกจากห้องไป เด็กหนุ่มเดินเตร็ดเตร่ไปตามคฤหาสน์  พยักหน้าทักทายคนรับใช้ของ ตระกูลคนสองคน  รวมทั้งจูลีโอผู้ซึ่งกำลังลุกลี้ลุกลนวิ่งจากที่ไหนสักแห่ง กลับไปยังสำนักงานธนาคาร  ในมือมีกองเอกสารจำนวนหนึ่ง  และมีท่าทาง ประหนึ่งกำลังถูกหน้าที่การงานในหัวของตัวเองหลอกหลอนอยู่เหมือนเคย  เอซีโอโบกมือให้พี่ชายผู้ยังคงอยู่ในสวน  แต่ไม่รู้สึกว่าอยากเดินเข้าไปหา  อีกอย่าง  เขาถูกสั่งให้ไปอยู่เป็นเพื่อนแม่กับน้องสาว  และเขาก็ฉลาดพอจะ ไม่ขัดวาจาของพ่อ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากบทสนทนาที่ทั้งสองได้คุยกัน ไปวันนี้ เขาเจอน้องสาวนั่งอยู่ตามลำพังที่ชานระเบียง  หนังสือของเปตรากวาง ค้างอยู่บนมือของเธอ  ก็ไม่แปลกอะไรหรอก  เขารู้ดีว่าเธอกำลังมีความรัก “ชาว  (สวัสดี)  เคลาเดีย”  เด็กหนุ่มเอ่ยทัก “ชาว  เอซีโอ  พี่หายไปไหนมา”  เอซีโอผายมือทั้งสองข้างออก  “พี่จัดการสะสางธุระให้ท่านพ่ออยู่น่ะ” “ข้าได้ยนิ มามากกว่านัน้ นะ”  เด็กสาวยอกย้อน  แต่รอยยิม้ ของเธอนัน้ เลือนรางและเกิดขึ้นมาเอง “แล้วนี่ท่านแม่ไปไหน”  เคลาเดี ย ถอนหายใจ  “แม่ ไ ปหาจิ ต รกรหนุ่ ม ที่ ผู้ ค นกำลั ง ร่ ำ ลื อ กั น  จำได้ไหม  คนที่เพิ่งสำเร็จการฝึกกับเวร์รอคคีโอน่ะ”  “จริงรึ” “นีพ่ ไี่ ม่คดิ จะใส่ใจกับเรือ่ งทีเ่ กิดขึน้ ในบ้านนีบ้ า้ งเลยหรือ  ท่านแม่ไปจ้าง ให้เขาวาดรูปให้จำนวนหนึง่   ท่านบอกว่าอีกไม่นานภาพพวกนีจ้ ะเป็นการลงทุน 27


A s s a s s i n ’ s   C r e e d  ต อ น  เ ร อ แ น ซ อ ง ซ์ ที่คุ้มค่า”  “ท่านแม่ก็เป็นแบบนี้แหละนะ”  เคลาเดียไม่ตอบ  และนี่เป็นครั้งแรกที่เอซีโอสังเกตเห็นความโศกเศร้า บนใบหน้าของเธอได้อย่างชัดเจน  มันทำให้เธอดูแก่กว่าวัยสิบหกปีที่เป็นอยู่ “มีเรื่องอะไรหรือเปล่า  โซเรลลีนา  (น้องสาว)”  เขาเอ่ยถามพลางนั่งลง ข้างเธอบนม้านั่งหิน เด็กสาวถอนหายใจ  ก่อนจะหันมามองเขาพร้อมรอยยิม้ เศร้า  “ก็ดชุ ชีโอ น่ะสิ”  ในที่สุดเธอก็ยอมพูดออกมา “หมอนั่นทำอะไร”  น้ำตาเอ่อขึ้นมาในดวงตาทั้งสองของเธอ  “ข้าเพิ่งรู้มาว่าเขานอกใจข้า” เอซีโอขมวดคิ้ว   ดุชชีโอเกือบจะได้หมั้นหมายกับเคลาเดียอยู่แล้ว  ถึงแม้จะยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ… “เจ้าได้ยินมาจากใคร”  เขาเอ่ยถามพลางเอามือข้างหนึ่งโอบกอดเธอไว้ “พวกผูห้ ญิงคนอืน่ น่ะสิ”  เด็กสาวปาดน้ำตาแล้วมองมาทางเขา  “ข้าเคย คิดว่าพวกเขาเป็นเพื่อน  แต่รู้สึกว่าพวกนั้นจะเริงร่าเหลือเกินที่ได้บอกข่าวนี้ กับข้า”  เอซีโอลุกขึ้นยืนอย่างโกรธเกรี้ยว  “แบบนี้ผู้หญิงพวกนั้นก็ไม่ต่างอะไร กับงูพิษสักนิด!  ไม่ต้องไปยุ่งกับพวกนางหรอก”  “แต่ข้ารักเขานี่นา!” เอซีโอนิง่ ไปสักพักก่อนจะเอ่ยตอบ  “เจ้าแน่ใจหรือ  เจ้าอาจจะคิดไปเอง ว่ารักเขาก็ได้  แล้วตอนนี้รู้สึกอย่างไรล่ะ”  ดวงตาของเคลาเดียแห้งผาก  “ข้าอยากเห็นเขาทุกข์ทรมาน  ต่อให้ เพียงเล็กน้อยก็ตาม  เขาทำข้าเจ็บมากเหลือเกิน  เอซีโอ”  เอซีโอมองดูนอ้ งสาวของตน  มองดูความโศกเศร้าภายในดวงตาของเธอ  ความโศกเศร้าทีส่ มุ ด้วยเพลิงโทสะมหาศาล  ผูเ้ ป็นพีช่ ายได้เตรียมใจเรียบร้อย แล้ว  “ข้าคิดว่าจะแวะไปทักทายหมอนั่นเสียหน่อย”  28


โ อ ลิ เ ว อ ร์  บ า ว เ ด น ดุชชีโอ  โดวีซี  ไม่อยู่บ้าน  แต่คนรับใช้ของเขาบอกเอซีโอว่าจะหาเขาได้ที่ไหน  เด็กหนุ่มเดินข้ามสะพานพอนเต  เวกกีโอ  แล้วมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก เลียบริมตลิ่งทางทิศใต้ของแม่น้ำอาร์โนไปยังโบสถ์ซาน  ยาโกโป  โซปราโน  แถวนัน้ มีสวนอันเงียบสงบอยูห่ ลายแห่ง  ทีซ่ งึ่ บรรดาคูร่ กั ใช้เป็นสถานทีน่ ดั พบ ชั่ ว ครั้ ง ชั่ ว คราว  เอซี โ อที่ ก ำลั ง เลื อ ดเดื อ ดแทนน้ อ งสาวของตน  แต่ ยั ง ต้องการหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับความไม่ซื่อสัตย์ของดุชชีโอมากกว่าจะเชื่อ เพียงแค่ข่าวโคมลอย  ตอนนี้เขาคิดว่าตนน่าจะใกล้พบคำตอบแล้ว อย่างที่เดาไว้ไม่มีผิด  ไม่นานเขาก็เห็นเด็กหนุ่มผมสีบลอนด์  สวม เสื้อผ้าอาภรณ์หรูหรา  ทอดสายตามองแม่น้ำอยู่บนม้านั่งหิน  แขนข้างหนึ่ง โอบกอดสาวผมสีดำที่เอซีโอไม่คุ้นหน้าค่าตา  เด็กหนุ่มค่อย ๆ ขยับเข้าไป ใกล้ทั้งคู่อย่างระมัดระวัง “ที่รัก  ช่างงดงามเหลือเกิน”  หญิงสาวเอ่ยพลางยื่นมือออกไป  เอซีโอ มองเห็นประกายแสงสะท้อนจากแหวนเพชรวงหนึ่ง “เจ้าต้องได้สิ่งที่ดีที่สุดอยู่แล้ว  อามอเร  (ที่รัก)”  ดุชชีโอพูดจากะหลีกะหลอก่อนจะดึงตัวเธอเข้ามาจูบ แต่สาวเจ้ากลับผละตัวออก  “หยุดเดีย๋ วนีเ้ ลย  เจ้าจะซือ้ ข้าง่าย  ๆ  ไม่ได้ หรอกนะ  เราสองคนเพิ่งเจอกันไม่นาน  แล้วข้าก็ได้ยินว่าเจ้าหมั้นหมายกับ เคลาเดีย  เอาดีโตเร  แล้ว” ดุชชีโอสบถ  “เรื่องของข้ากับเธอจบไปแล้ว  อย่างไรก็เถอะ  ท่านพ่อ บอกว่าข้าหาได้ดีกว่าแม่เอาดีโตเรนั่นอยู่แล้ว”  เขาเอื้อมมือลงไปจับบั้นท้าย ของเธอ  “แบบเจ้านี่ไง”  “บีรบานเต!  (คนลามก)  ไปเดินเล่นกันเถอะ”  “ข้านึกบางอย่างที่น่าสนุกกว่านั้นออก”  ดุชชีโอกล่าวพลางสอดมือเข้า หว่างขาของเธอ แค่นก้ี เ็ พียงพอแล้วสำหรับเอซีโอ  “เฮ้ย!  ลูรโี ด  พอร์โก  (ไอ้หมูสกปรก)”  เขาตะเบ็งเสียงใส่ ดุ ช ชี โ อสะดุ้ ง ตกใจ  ก่ อ นจะหมุ น ตั ว แล้ ว ปล่ อ ยมื อ ที่ โ อบหญิ ง สาว ออกทันที  “เฮ้  เอซีโอ  เพื่อนยาก”  เขาตะโกนตอบ  ทว่าน้ำเสียงกลับเปี่ยม 29


A s s a s s i n ’ s   C r e e d  ต อ น  เ ร อ แ น ซ อ ง ซ์ ไปด้วยความกังวล  เอซีโอมาทันเห็นอะไรไปบ้างนะ  “ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะยัง ไม่เคยพบ…ลูกพี่ลูกน้องของข้าสินะ” เอซีโอผู้กำลังโมโหเป็นฟืนเป็นไฟเพราะถูกหักหลัง  สาวเท้าไปข้างหน้า แล้วหวดหมัดใส่อดีตสหายของตนเข้าเต็มเปา  “ดุชชีโอ  เจ้าควรละอายใน การกระทำของตัวเองเสียบ้าง!  เจ้าดูถูกเหยียดหยามน้องสาวข้า  มัวแต่มา พลอดรักกับนาง…ปุตตานา  (โสเภณี)  คนนี้! ” “เจ้าเรียกใครว่า  ปตุ ตานา!”  หญิงสาวแผดเสียงตอบ  ทว่าก็ลกุ ขึน้ แล้ว เดินถอยออกไป  “ข้าควรคิดได้วา่ แม้แต่ผหู้ ญิงอย่างเจ้ายังหาผูช้ ายทีด่ กี ว่าไอ้เวรนีไ่ ด้เลย” เอซีโอบอกเธอ  “นี่เจ้าคิดว่าเขาจะทำให้เจ้ากลายเป็นกุลสตรีจริง ๆ หรือ” “เจ้าอย่าพูดแบบนีก้ บั เธอนะ”  ดุชชีโอขู ่ “อย่างน้อยเธอก็มนี ำ้ ใจยอมให้ ข้าได้เสพสม  ไม่เหมือนน้องสาวขีเ้ หนียวของเจ้าหรอก  แต่ขา้ ว่าตรงนัน้ ของเธอ คงแห้งจนหินปูนเกาะเสียแล้วกระมัง  น่าเสียดาย  ข้าอาจสอนเคล็ดลับให้เธอ ได้สักอย่างสองอย่าง  แต่ว่านะ…” เอซีโอพูดแทรกด้วยน้ำเสียงเย็นชา  “เจ้าทำให้เธอเสียใจ  ดุชชีโอ…”  “จริงหรือ  แย่จังเลยนะ” “…และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมข้ากำลังจะหักแขนเจ้า” หญิงสาวกรีดร้องและวิ่งหนีไปเมื่อเขาพูดจบ  เอซีโอคว้าตัวดุชชีโอ ที่กำลังสบถแล้วกดแขนขวาของหนุ่มนักรักลงติดขอบม้านั่งหินที่เจ้าตัวเพิ่งนั่ง นกเขาขันอยู่ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่นาที   เด็กหนุ่มกดท่อนแขนช่วงล่างของ อีกฝ่ายเข้ากับหินจนเสียงร้องระงมของดุชชีโอแปรเปลี่ยนเป็นหยาดน้ำตา “หยุดเถอะ  เอซีโอ!  ขอร้องละ!  พ่อข้ามีลูกชายแค่คนเดียวนะ!” เอซีโอมองด้วยสายตาสบประมาทก่อนจะปล่อยเขาไป  ดุชชีโอล้มกลิ้ง ลงพืน้   ประคองแขนทีฟ่ กช้ำของตนพลางส่งเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวด  เสื้อผ้าชั้นดีฉีกขาดและเปรอะเปื้อน  “อย่างเจ้าน่ะไม่มคี า่ พอให้เปลืองแรงด้วยหรอก”  เอซีโอบอกเขา  “แต่ถา้ เจ้าไม่อยากให้ข้าเปลี่ยนใจเรื่องแขนข้างนั้น  ก็จงอยู่ให้ห่างจากเคลาเดีย  และ อยู่ให้ห่างจากข้าด้วย”  30


โ อ ลิ เ ว อ ร์  บ า ว เ ด น หลังจากเหตุการณ์ผา่ นพ้นไป  เอซีโอก็เดินระยะไกลกลับบ้าน  ทอดน่อง ไปตามริมตลิ่งแม่น้ำจนเกือบถึงพื้นที่โล่งกว้าง  เมื่อเขาหันกลับไป  เงาของ สรรพสิ่งทอดยาว  แต่จิตใจของเขาสงบลง เอซีโอมองเห็นน้องชายคนเล็กของตนที่บริเวณใกล้บ้าน  เขาไม่ได้เห็น หน้าน้องมาตั้งแต่เช้าวันก่อน  เด็กหนุ่มทักทายน้องชายด้วยน้ำเสียงอบอุ่น  “ชาว  (สวั ส ดี )   เปตรุ ช ชี โ อ  ทำอะไรอยู่   หนี ค รู ส อนพิ เ ศษมาอี ก แล้ ว หรื อ  ถึงอย่างนั้นก็เถอะ  นี่มันเลยเวลานอนของเจ้าแล้วไม่ใช่หรือไง” “พี่ อ ย่ า เหลวไหลไปหน่ อ ยเลย  ข้ า จวนจะเป็ น ผู้ ใ หญ่ แ ล้ ว นะ  อี ก สองสามปีข้าก็จะจัดการพี่จนน่วม”  พี่น้องทั้งสองยิ้มกว้างให้กัน  เปตรุชชีโอ ถือกล่องไม้สลักลายไว้แนบอก  ฝาของมันเปิดอยู่  และเอซีโอก็สังเกตเห็น ขนนกสีขาวน้ำตาลจำนวนหนึง่ วางอยูภ่ ายใน  “พวกนีค้ อื ขนนกอินทรี”  หนุม่ น้อย อธิบาย  ก่อนจะชีไ้ ปทีย่ อดหอคอยของอาคารทีอ่ ยูแ่ ถวนัน้   “บนนัน้ มีรงั เก่าอยู่  พวกลูกนกคงขนงอกและออกบินไปกันหมดแล้ว  ข้าเห็นขนนกติดอยูต่ ามส่วน ทีเ่ ป็นหินของอาคารอีกเยอะแยะเลย”  เปตรุชชีโอมองพีช่ ายของตนด้วยสายตา อ้อนวอน  “เอซีโอ  พี่ช่วยไปเก็บมาให้ข้าอีกสักสองสามอันได้ไหม”  “แล้วเจ้าอยากได้ไปทำไมกันล่ะ”  เปตรุชชีโอก้มหน้าลง  “นั่นเป็นความลับ”  เขาตอบ “ถ้าข้าไปเก็บให้  เจ้าจะยอมกลับเข้าบ้านไหม  นี่ก็มืดแล้วนะ”  “ได้ครับ”  “สัญญานะ” “สัญญาครับ”  “เอาแบบนัน้ ก็ได้”  เอซีโอนึกในใจ  เอาเถอะ  วันนีก้ ช็ ว่ ยเคลาเดียไปแล้ว เรื่องหนึ่ง  ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ช่วยเปตรุชชีโอบ้าง การปีนหอคอยค่อนข้างยากเพราะพื้นผิวหินเรียบ  อีกทั้งเขายังต้อง จดจ่อกับการมองหาจุดยึดจับและพักเท้าระหว่างรอยต่อของหิน  เมื่อปีน สูงขึ้นไป  เขาใช้รูปปั้นประดับต่าง ๆ เป็นที่ยึดจับ   เขาก็ใช้เวลาไปทั้งหมด ครึ่งชั่วโมง  แต่ก็รวบขนนกทั้งหมดเท่าที่เขามองเห็นมาได้อีกสิบห้าอัน  ก่อน จะนำพวกมันกลับไปให้เปตรุชชีโอ 31


A s s a s s i n ’ s   C r e e d  ต อ น  เ ร อ แ น ซ อ ง ซ์ “พี่พลาดไปหนึ่งอัน”  เปตรุชชีโอกล่าว  พลางชี้นิ้วขึ้นไป “ไปนอนได้แล้ว!”  เอซีโอส่งเสียงขู่ เปตรุชชีโอวิ่งหนีหายไป เอซีโอหวังว่าแม่ของพวกเขาจะโปรดปรานของขวัญดังกล่าว  ความลับ ของเปตรุชชีโอนั้นล่วงรู้ได้ไม่ยาก เด็กหนุ่มยิ้มก่อนจะเดินเข้าบ้าน

32


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.