[ทดลองอ่าน] ความรักครั้งที่จำไม่ได้

Page 1

วันศุกร์ ๑๔/๑๐  (พฤ) เสื้อผ้า: - - -

โรงเรียน: - - - -

กางเกงยีนขากระบอก เสื้อตัวยาวสีน้ำเงินเข้มประดับดอกไม้ดอกเล็ก ๆ (ไม่สกปรก - เอากลับไปเก็บในตู้เสื้อผ้าได้) รองเท้าส้นแบนสีแดงที่ทำให้เท้าเป็นตุ่มพอง

เอาหนังสือวิชาภาษาอังกฤษไปด้วย ให้แม่เซ็นใบอนุญาตวิชาประวัติศาสตร์ พรุ่งนี้สอบภาษาสเปน  (ไม่มีบอกไว้ในใบอธิบายรายวิชา) อ่านการบ้านวิชาประวัติศาสตร์อย่างละเอียดในตอนเช้า... เหนื่อยจัง... 1


แคต  แพทริก

2

บันทึก: - วันนี้กินคาร์โบไฮเดรตเป็นตันเลย  (แม่ซื้อไอศกรีมมินต์ ช็อกโกแลตชิปมา!)  ออกกำลังกายซะ! - สั่งซือ้ ถุงน่องสำหรับวันฮัลโลวีนแล้ว


๑ วันศุกร์  ควรจะเป็นวันที่ดีไม่ใช่เหรอ

แต่วันนี้ดันเริ่มต้นได้แย่มาก บันทึกบนโต๊ะข้างเตียงของฉันไม่ได้ช่วยบอกอะไรที่เป็นประโยชน์ เลยสักนิด  เปลือกตาฉันอยากจะปิดให้สนิทอยู่อย่างนั้น  กางเกงยีนตัวโปรด ยังคงอยู่ในตะกร้าผ้าเตรียมซัก  แถมในตู้เย็นยังไม่มีนมเหลืออีก ที่แย่ที่สุดคือโทรศัพท์มือถือของฉันดันแบตหมด  มือถือสีแดงวาววับ ราวกับสีลูกกวาดที่ฉันตั้งใจจะใช้จนกระทั่งมันพังกันไปข้างหนึ่ง  โทรศัพท์มือถือเครื่องนี้มีทั้งปฏิทินและการตั้งเสียงช่วยเตือนความจำ  แถมมันยังเป็น สิ่งของช่วยให้อุ่นใจซึ่งฉันสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้ในรูปแบบที่สังคม ยอมรับอีกด้วย “ลูกไม่เป็นไรหรอกน่า”  แม่บอกขณะขับรถไปส่งฉันที่โรงเรียนใน ตอนเช้า “แม่รู้ได้ไงคะ”  ฉันถาม  “วันนี้หนูอาจจะมีสอบวิชาเลขครั้งสำคัญ ก็ได้  หรือไม่ก็อาจจะมีการประชุมนักเรียนที่หนูไม่รู้เลย” “แค่วันเดียวเอง  ลอนดอน  ไม่มีโทรศัพท์มือถือแค่วันเดียวลูกก็อยู่ ได้สบาย  ๆ แน่นอน” 3


แคต  แพทริก “แม่ก็พูดได้สิ”  ฉันพึมพำพลางมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ตอนนี้ ฉั น ยื น อยู่ ต รงนี้ พ ร้ อ มกั บ ข้ อ พิ สู จ น์ ที่ ว่ า แม่ คิ ด ผิ ด ถนั ด   ฉั น  ไม่  อาจอยู่ได้อย่างสบาย ๆ เมื่อไม่มีโทรศัพท์มือถือเป็นเวลาหนึ่งวัน วันนีเ้ ป็นวันทีฉ่ นั ต้องเอาเสือ้ ตัวใหม่มาสำหรับวิชาพละ  ถ้ามือถือของฉัน ไม่แบตหมด...มือถือที่เมื่อต้นเทอมฉันกับแม่ช่วยกันใส่ข้อมูลเพื่อให้มันเตือน เรือ่ งสำคัญต่าง  ๆ  อย่างเช่นเรือ่ งนี.้ ..มันก็คงจะสัง่ ด้วยตัวหนังสือจิว๋   ๆ  พวกนัน้ ให้ฉันเอาเสื้อสำหรับวิชาพละมา ดังนั้นวันนี้จึงเป็นวันที่ฉันสวมกางเกงพละขาสั้นกับเสื้อสเวตเตอร์ ฤดูหนาว  พร้อมกับครุ่นคิดว่าจะทำยังไงดี ฉันคงสวมเสื้อสเวตเตอร์เล่นบาสเกตบอลได้ไม่ถนัด  (ตามที่กระดาน ใกล้  ๆ กับประตูห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าประกาศว่าเราจะได้เล่น)  ฉันเลยถามเพจว่า มีเสื้ออีกตัวหรือเปล่า  เราไม่เชิงว่าเป็นเพื่อนกันจริง ๆ หรอก  แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังตอบกลับมาด้วยอาการกระตือรือร้นเกินเหตุ  “มีสิ  ลอนดอน  เอ้านี่  ลืมเอาเสื้อตัวใหม่มาอีกแล้วเหรอ” อีกแล้วงั้นเรอะ ฉันเขียนบันทึกในใจว่าอย่าลืมไปเขียนบันทึกจริง  ๆ ทีหลัง  ในขณะ เดี ย วกั น ฉั น ก็ ส งสั ย ว่ า ทำไมบั น ทึ ก ของวั น นี้ ไ ม่ ไ ด้ พู ด ถึ ง เรื่ อ งเอาเสื้ อ พละ มาเลย เพจขั ด จั ง หวะความคิ ด ของฉั น  เธอยิ้ ม แล้ ว ส่ ง เสื้ อ ยื ด สี เ หลื อ งสด ตัวเบ้อเริ่มมาให้  บนเสื้อมีรูปแมวยิ้มแฉ่งพร้อมกับข้อความว่า  ขอให้มีวันที่ เพอร์เฟ็กต์๑! “ขอบคุ ณ นะ  เพจ”  ฉั น ทำเสี ย งคำรามฮึ่ ม ฮั่ ม ขณะรั บ เสื้ อ จากเธอ มาสวมอย่ า งรวดเร็ ว   มั น แทบจะปิ ด กางเกงขาสั้ น ที่ ฉั น สวมอยู่ ไ ด้ มิ ด  —  กางเกงขาสั้นเนี่ยนะ!  ฉันไม่รู้ว่าทำไมล็อกเกอร์ของฉันถึงมีกางเกงขาสั้น  แต่ไม่ยักมีเสื้อผ้าสำหรับใส่เล่นกีฬาซึ่งช่วยปกปิดบั้นท้ายของฉันและทำให้  ในที่นี้ผู้เขียนใช้คำว่า  purr-fect  ซึ่งเลียนเสียงครางของแมว  เป็นการเล่นกับ คำว่า  perfect  ซึ่งหมายถึงสมบูรณ์แบบ ๑

4


ความรักครั้งที่จำไม่ได้ อุ่นกว่านี้และดูดีกว่านี้ บันทึกถึงตัวเอง:  เพิม่ ข้อความ  “เอากางเกงมา”  ในบันทึกถึงตัวเองด้วย ฉันรู้สึกเหมือนเพจกำลังมองฉันอยู่  ฉันเลยชำเลืองดู  ใช่จริง ๆ ด้วย แฮะ  เธอกำลังมองฉันอยู่  เราพยักพเยิดให้กันฉันมิตร  จากนั้นฉันก็โยน เสื้อผ้าของตัวเองเข้าไปในล็อกเกอร์  กระแทกประตูล็อกเกอร์ปิดดังปัง  แล้ว มุ่งหน้าไปโรงยิม ความคิดสองอย่างผุดขึ้นมาขณะที่ฉันกำลังเดิน  อย่างแรกคือ  ฉัน สงสัยว่ามิสมาร์ติเนซจะยอมให้ฉันไปห้องพยาบาลเพื่อขอปลาสเตอร์มาแปะ ตุ่มพองเจ็บ ๆ ตรงส้นเท้า  ซึ่งฉันรู้สึกได้ว่ามันเสียดสีกับรองเท้ากีฬาในทุก ย่างก้าวหรือเปล่า  อย่างที่สองคือ  ฉันอดรู้สึกขอบคุณดาวนำโชคของตัวเอง ไม่ได้  ที่มีคนโชคร้ายเพียงสิบสองคนซึ่งเรียนพละเป็นคาบแรกจะได้เห็นฉัน ในชุดน่าเกลียดนี่ แต่ฉันโชคร้ายชะมัดที่มิสมาร์ติเนซดันเป็นผู้หญิงใจโหด “ไม่ได้”  ครูตอบ  เมื่อฉันถามว่าฉันจะไปห้องพยาบาลก่อนเริ่มเรียน ได้หรือเปล่า “ไม่ได้หรือคะ”  ฉันถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ไม่ได้”  ครูย้ำอีกครั้ง  ดวงตาสีดำท้าทายฉันให้ประท้วง  แล้วครู ก็ยกนกหวีดขึ้นมาเตรียมจะเป่า ฉันไม่ได้โง่หรอกนะ  ฉันก็เลยไม่ตื๊อต่อ  แล้วโขยกเขยกไปที่ม้านั่ง เพื่ อ รวมกลุ่ ม กั บ เพื่ อ นร่ ว มที ม แทน  และสาบานว่ า จะพยายามเล่ น   โดย กล้ำกลืนความเจ็บปวดเอาไว้ เมือ่ การแข่งขันบาสเกตบอลซึง่ ฉันขอสรุปว่าเป็นการแข่งขันทีท่ ำคะแนน ได้น้อยที่สุดในประวัติศาสตร์การกีฬาของโรงเรียนมัธยมปลายผ่านไปได้ ครึ่งหนึ่ง  เสียงสะท้อนที่ดังก้องอยู่ในโรงยิมพลันทำให้ขนแขนของฉันลุกพรึ่บ  แก้วหูฉันดับสนิท  ส่วนฟันก็กระทบกันกึก  ๆ  ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่ชั่วขณะ มิสมาร์ติเนซโบกแขนไปยังทางออก  แล้วเพื่อนร่วมชั้นของฉันก็เดิน เอื่อย ๆ  ไปทางประตู 5


แคต  แพทริก ตอนนั้นเองฉันถึงได้เข้าใจ เรากำลังซ้อมหนีไฟ พวกเราเหล่านักเรียนเมอริแดนไฮสกูลกำลังจะออกไปข้างนอก  ทั้ง  ๙๕๖  คนนั่นละ  ในขณะที่ฉัน  ลอนดอน  เลน  อยู่ในชุดเสื้อสีเหลืองอ๋อย ซึ่งมีแมวพูดว่า  ขอให้มีวันที่เพอร์เฟ็กต์!   กับกางเกงขาสั้นที่สั้นเกินไปให้ นักเรียนทั้งโรงเรียนได้เมาท์กันสนุกปาก ใช่เลย  ช่างเป็นวันศุกร์ที่ยอดเยี่ยมอะไรอย่างนี้

6


๒ โรงยิม  อยู่ใกล้กับทางออกจากอาคารเรียน  เราก็เลยเป็นพวกแรก ๆ

ที่ออกไปสู่ความปลอดภัยบริเวณลานจอดรถของครู  ตอนนี้ฉันถูกล้อมรอบ ไปด้วยรถสารพัดแบบ  ไล่ตั้งแต่รถสเตชันแวกอนไปจนถึงพอร์ชสีแดงแปร๊ด  ฉันยืนมองบรรดานักเรียนทีไ่ ม่ยนิ ดียนิ ร้ายอะไรทัง้ สิน้ เดินทอดน่องออกมาจาก อาคารคอนกรีตซึง่ เป็นโรงเรียนมัธยมปลายของเรา  ราวกับว่าพวกเขาไม่สะดุง้ สะเทือนกับไฟไหม้เลยสักนิด ฉันไม่ได้เชื่อว่ามีไฟไหม้จริง ๆ หรอกนะ ฉันเดาว่าคงมีคนงี่เง่าสักคนดึงสัญญาณเตือนโดยกะจะให้เป็นเรื่อง ตลก  แต่คนคนนั้นไม่ได้มองการณ์ไกลพอที่จะฉุกคิดได้ว่า  จากนั้นเขาหรือ เธอเองก็ต้องถูกบังคับให้ยืนอยู่ท่ามกลางความหนาวเย็นเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ในขณะที่ต้องรอให้รถดับเพลิงมาถึง   และรอให้พนักงานดับเพลิงตรวจดู สถานที่ ใ ห้ เ รี ย บร้ อ ยเสี ย ก่ อ นถึ ง จะทำให้ สั ญ ญาณนั่ น หยุ ด กรี ด เสี ย งได้ ใ น  ท้ายที่สุด ลมพัดแรง  แถมฉันว่าฉันเห็นละอองหิมะด้วย  ทุกครั้งที่ลมพัดมา  ฉันก็พยายามห่อตัวเองให้กลมเหมือนลูกบอลเพื่อทำให้ตัวเองอบอุ่น ไม่ได้ผลเลย 7


แคต  แพทริก ฉันดึงผมตัวเองให้หลุดออกจากการเป็นปมยุง่ เหยิงตรงท้ายทอย  พลาง หวั ง ว่ า มั น จะสามารถทำหน้ า ที่ เ หมื อ นผ้ า พั น คอได้   ทั น ใดนั้ น ลมก็ พั ด ผม สีน้ำตาลออกแดงของฉัน  จนทำให้ฉันมองอะไรไม่เห็นพร้อมกับถูกผมตีหน้า อย่างต่อเนื่อง ขณะทีบ่ รรดานักเรียนจับกลุม่ รวมกัน  ฉันก็ได้ยนิ เสียงกระซิบกระซาบ และเสียงหัวเราะคิกคัก  สงสัยว่าจะเกี่ยวกับเสื้อผ้าของฉันละมั้ง  ฉันกล้า สาบานเลยว่าได้ยินเสียงกล้องถ่ายรูปในโทรศัพท์มือถือ   แต่กว่าฉันจะมอง ลอดผมที่ไม่สามารถควบคุมได้ของตัวเอง  คนที่ถ่ายรูปก็แอบซ่อนหลักฐาน เรี ย บร้ อ ยแล้ ว   ถึ ง อย่ า งนั้ น เสี ย งหั ว เราะแว่ ว  ๆ จากเหล่ า เชี ย ร์ ลี ด เดอร์ ซึ่ ง เกาะกลุ่มสุมหัวกันก็ทำให้ฉันรู้สึกประหม่า ฉันจ้องแผ่นหลังของพวกเธอ  จนกระทั่งอเล็กซ์  มอร์แกน  สะบัด ผมดำขลั บ เป็ น ประกายของเธอมาทางฉั น แล้ ว สบตาฉั น   ดู เ หมื อ นว่ า เธอ ใช้เวลาแต่งแต้มขอบตาสีดำสนิทเพิ่มเติมก่อนจะอพยพออกจากอาคารด้วย ให้ลำดับความสำคัญได้ดีจริงจริ๊ง อเล็กซ์ส่งยิ้มเยาะ ๆ มาให้ก่อนจะหันกลับไปหากลุ่ม  แล้วเสียงหัวเราะ คิกคักก็ดังขึ้นอีก ตอนนี้ฉันอยากให้เจมี  เพื่อนรักของฉันมาอยู่ด้วยเหลือเกิน  เจมี อาจจะมีข้อเสียอยู่บ้าง  แต่เธอจะไม่มีวันยอมลดราวาศอกให้กับการจิกกัด จากเชียร์ลีดเดอร์เป็นอันขาด ฉันยืนอยู่เพียงลำพังกับท่อนขาเปลือยเปล่าและเสื้อแมวเพอร์เฟ็กต์   พร้อมทั้งได้ยินบทสนทนาเกี่ยวกับแผนการช่วงสุดสัปดาห์  หรือ “การสอบ ที่ตอนนี้เราดันพลาดไป”  รวมถึง  “ออกจากที่นี่และขับรถไปกินอาหารเช้า ที่ร้านเรจจี้ส์กันเถอะ  ในเมื่อไหน ๆ เราก็ออกมาข้างนอกกันแล้ว”  ฉันกอด แขนรอบตั ว เองแน่ น ขึ้ น   ส่ ว นหนึ่ ง เพื่ อ ป้ อ งกั น ตั ว เองจากสภาพอากาศ  อีกส่วนหนึ่งคือเพื่อบังเจ้าแมวนั่น “เสื้อสวยนี่”  เสียงนุ่ม ๆ ของผู้ชายดังขึ้น  ซึ่งมีวี่แววของการล้อเลียน อยูเ่ ล็กน้อย  ฉันใช้มอื ซ้ายแทนยางรัดผมชัว่ คราวรวบผมทัง้ หมดเท่าทีจ่ ะรวบได้  จากนั้นก็หันไปยังทิศทางเดียวกับที่มาของเสียง 8


ความรักครั้งที่จำไม่ได้ แล้วเวลาก็พลันหยุดลง ฉันเห็นรอยยิ้มก่อน  สิ่งที่แทรกอยู่ระหว่างการล้อเลียนนั้นคือความ อ่อนหวานอย่างไม่มีทางเข้าใจเป็นอื่นไปได้  เกราะกำบังของฉันเริ่มทลายลง ก่อนที่ฉันจะได้มองตาเขาเสียอีก  และเกราะส่วนที่เหลือก็ละลายหายไปจน หมดเมื่อฉันได้สบตาคู่นั้น  ดวงตาเป็นประกายของเขามีสีฟ้าอ่อนเหมือน ดอกคอร์นฟลาวเวอร์  แซมด้วยสีฟ้าเข้ม  และล้อมรอบด้วยขนตาที่ไม่ว่า เด็กผู้หญิงคนไหนก็ต้องอิจฉา ดวงตาคู่นั้นกำลังมองฉัน มอง ตรง  มาที่ฉัน มีรอยยิ้มปรากฏอยู่ในดวงตาของเขามากกว่าที่ริมฝีปากเสียอีก ถ้าหากว่ามีอะไรอยู่ใกล้  ๆ ฉัน — เครื่องเรือนสักชิ้น  หรือแม้กระทั่ง คนที่ ไ ม่ ไ ด้ มี ท่ า ที เ ป็ น ศั ต รู   — ฉั น ก็ อ าจจะเอื้ อ มมื อ ออกไปเพื่ อ ช่ ว ยพยุ ง ตั ว  เพราะตอนนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองเสียสมดุล...ในความหมายที่ดีนะ...ไปกับการ ปรากฏตัวของเขา ว้าว จากนั้นทุกอย่างก็หายวับไปจนหมดสิ้น  ทั้งเสื้อ  มือถือ  บาสเกตบอล และอเล็กซ์  มอร์แกน ไม่มีอะไรอยู่เลย  ยกเว้นเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉัน เขาดูเหมาะที่จะอยู่ฮอลลีวู้ดหรือไม่ก็สวรรค์  ให้ฉันจ้องมองเขาทั้งวัน ยังได้ “ขอบคุณ”  ฉันเอ่ยหลังจากเวลาผ่านไปนานเท่าไรก็ไม่รู้  ฉันพยายาม บังคับตัวเองให้กะพริบตา  หน้าตาเขาดูคุ้น ๆ ยังไงชอบกล  แต่ดูคุ้นในแบบที่ ฉันอยากให้เป็นเท่านั้นนะ เดี๋ยวก่อน  ฉันจำเขาได้หรือเปล่า ได้โปรด  ได้โปรดเถอะ  ได้โปรดให้ฉันจำเขาได้ทีเถอะ ฉันพลิกดูอลั บัม้ รูปภาพใบหน้าปีแล้วปีเล่าในสมอง  แต่ไม่พบใบหน้านี้ ที่ไหนเลย ฉันอดรู้สึกเศร้ากับข้อเท็จจริงนี้อยู่ชั่วแวบหนึ่งไม่ได้  แต่แล้วด้านที่ 9


แคต  แพทริก มองโลกในแง่ดีของฉันก็ออกโรง  ฉันอาจจะคิดผิดก็ได้  เขาต้องอยู่ที่ไหน สักแห่งในนั้นแน่นอน เราพูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่นะ  อ๋อ  เรื่องเสื้อผ้า... “ฉันกำลังเริ่มสร้างกระแสใหม่  ๆ น่ะ”  ฉันพูดติดตลก ฉันขยับตัวเล็กน้อยเพื่อให้ลมช่วยพัดเส้นผมออกจากตา  พร้อมกับ บังคับตัวเองให้มองอย่างอื่นนอกจากใบหน้าของเขาบ้าง “ฉันชอบรองเท้าเธอ”  ฉันเสริม “เอ่อ  ขอบคุณ”  เขาตอบอย่างเคอะเขินขณะก้มลงมองรองเท้าคอนเวิรส์ ออลสตาร์สีน้ำตาลช็อกโกแลตของตัวเองด้วยเหมือนกัน  ในเมื่อไม่เหลืออะไร ให้พูดเกี่ยวกับรองเท้าได้มากนัก  เขาเลยรูดซิปเสื้อมีฮู้ดสีแทนลงแล้วถอดมัน ออก ก่ อ นที่ ฉั น จะรู้ ว่ า เกิ ด อะไรขึ้ น   เขาก็ น ำเสื้ อ มาคลุ ม ไหล่ ฉั น   มั น ให้ ความรู้สึกเหมือนฉันได้รับการปกป้องจากทั้งโลก  ไม่ใช่แค่สภาพอากาศแย่  ๆ  ผ้ า บุ ข นแกะได้ รั บ ความอบอุ่ น จากร่ า งกายเขา  และมี ก ลิ่ น จาง ๆ ของสบู่   น้ำยาปรับผ้านุ่ม  รวมทั้งกลิ่นของ...ผู้ชาย  ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ เขายืนใกล้ไปหน่อยนะสำหรับคนทีย่ งั ไม่รจู้ กั มักคุน้ กัน  ตอนนีเ้ ขาสวม แค่เสื้อยืด  มันดูเหมือนของเก่า   ฉันไม่เคยได้ยินชื่อวงดนตรีที่อยู่บนเสื้อ ของเขามาก่อน “ขอบคุณ”  ฉันพูดอีกหน  อย่างกับว่ามันเป็นหนึง่ ในศัพท์ภาษาอังกฤษ เพียงสิบคำที่ฉันรู้อย่างนั้นแหละ  “แต่เธอไม่หนาวเหรอ” เขาหัวเราะ  เหมือนมันเป็นคำถามที่งี่เง่าที่สุดในโลก  จากนั้นก็ตอบ เรียบ ๆ ว่า  “ไม่” พวกผู้ชายนี่หนาวกันไม่เป็นหรือไง “โอเค  เอ่อ  ขอบคุณ”  ฉันพูดเป็นรอบที่ล้านภายในเวลาสองวินาที ฉันเป็นอะไรนักหนากับคำนี้น่ะ “ไม่มปี ญ ั หาเลย”  เขาเอ่ย  “ฉันว่ามันน่าจะมีประโยชน์กบั เธอนะ  ตัวเธอ เขียวไปหมดแล้ว”  เขาเสริม  พลางพยักพเยิดไปที่ขาของฉัน  “อ้อ  ฉันชื่อ ลุค” 10


ความรักครั้งที่จำไม่ได้ “ลอนดอน”  ฉันเค้นออกมาได้แค่นี้ “ชื่อเจ๋งนะ”  เขาชมพร้อมกับยิ้มสบาย ๆ  ฉันเห็นลักยิ้มน้อย ๆ ตรง แก้มข้างหนึ่งด้วย  “จำง่ายดี”  เขาเสริม  ตลกมาก  ฉันนึกในใจ เสียงกรี๊ดดึงฉันให้หลุดจากภวังค์ที่เกิดขึ้นเพราะลุค “ลอนดอน  เธอใส่  อะไร น่ะ”  เจมี  คอนเนอร์  กรีดเสียงลั่นจนกระทั่ง คนอย่างน้อยห้าคนหยุดคุยแล้วหันมามองเรา  “ได้โปรดบอกฉันทีเถอะว่า เธอใส่กางเกงอยู่” ฉันขอยกเลิกคำอธิษฐานที่อยากให้เจมีมาที่นี่  ตอนนี้เธอจะไปไหน ก็ไปเหอะ “จุ  ๆ  เจมี  คนอื่นมองอยู่นะ”  ฉันปรามพร้อมกับดึงเจมีเข้ามาใกล้ เพื่อให้เธอหุบปาก  ฉันได้กลิ่นน้ำหอมที่เพื่อนสนิทของฉันจะใส่อยู่เสมอ “โทษที”  เจมีว่า  “แต่เธอดูไม่จืดเลย  หายนะชัด ๆ”  เธอเสริมพลาง หัวเราะเล็กน้อย  ฉันนิ่วหน้าใส่เพื่อน “เช้ า นี้ ไ ม่ ค่ อ ยดี นั ก เหรอไง”  เจมี ถ ามขณะคล้ อ งแขนตั ว เองเข้ า กั บ แขนฉัน “ช่าย”  ฉันตอบเสียงเบาเพราะรูว้ า่ ลุคยังอยูใ่ กล้  ๆ  “ฉันลืมเอาเสือ้ พละ มา...อีกแล้ว” เจมีผลักไหล่ฉนั เบา  ๆ  อย่างเห็นใจก่อนจะเปลีย่ นเรือ่ งคุย  “ฉันไม่อยาก ถามด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนให้เธอยืมเสื้อตัวนี้มา  เห็นแอนโธนีไหม”  เธอถาม พร้อมทั้งกวาดตามองฝูงชน  แต่ความสนใจที่มีต่อแอนโธนีพลันสะดุดลง ทันควันเมื่อเธอสังเกตเห็นลุค...ลุคของฉัน “หวัดดี”  เจมีทักทายเขา “หวัดดี”  ลุคทักตอบ  เขาไม่ได้มองเจมีตรง  ๆ  ฉันอดรู้สึกพอใจไม่ได้ “เธอชื่ออะไรเหรอ”  เจมีถามพลางเอียงศีรษะเหมือนแมวขี้สงสัย “ลุค  เฮนรี”  ลุคตอบ  ในที่สุดเขาก็หันมาสนใจเธอได้แวบหนึ่ง  “ฉัน มาเรียนที่นี่เป็นวันแรก”  ลุคมองไปทางอื่นอีกครั้งและกวาดตามองฝูงชน  ราวกับว่าเขาชักรู้สึกเหนื่อยหน่ายที่ต้องมาอยู่ตรงนี้   ฉันสังเกตเห็นว่าเขา ก้มศีรษะลงเหมือนกับไม่ต้องการเป็นจุดสนใจ 11


แคต  แพทริก เจมี ไ ม่ ชิ น กั บ การที่ ผู้ ช ายเมิ น มองไปทางอื่ น   และบอกตามตรงนะ  ถ้าดูจากกระโปรงสั้นกับเสื้อรัดรูปที่เธอสวมอยู่ละก็  ฉันเองยังอดแปลกใจ ไม่ได้ที่ลุคไม่สนใจเธอ  เจมีขยับตัว  ยักสะโพกขึ้น  จากนั้นก็ถามต่อ “เธอเรียนอยู่ชั้นไหน”  เจมีถาม “เกรดสิบเอ็ด”  ลุคตอบ “ยอดเลย  พวกเราก็เหมือนกัน”  เจมีว่า  ฉันนึกว่าเธอจะถามจบแล้ว เสี ย อี ก   ปรากฏว่ า ไม่ โ ชคดี ข นาดนั้ น แฮะ  “แล้ ว ทำไมถึ ง มาเริ่ ม เรี ย นเอา วันศุกร์ล่ะ” ลุคมองเจมี  จากนั้นเขาก็สบตาฉัน  มันเกิดขึ้นอีกแล้ว เขากลับมาแล้ว “วั น นี้ ฉั น ไม่ มี อ ะไรที่ ดี ก ว่ า ให้ ท ำน่ ะ ”  เขาตอบอย่ า งเป็ น จริ ง เป็ น จั ง  “เราจัดของเข้าบ้านใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว  งั้นทำไมถึงจะไม่มาโรงเรียนล่ะ” “เข้าใจละ...เธอมาจากที่ไหนเหรอ” ช่วยหยุดทีเถอะ! “ฉันเพิ่งย้ายมาจากบอสตัน” “สำเนียงพูดเธอไม่เหมือนคนที่นั่นเลย”  เจมีตั้งข้อสังเกต “ฉันไม่ได้เกิดที่นั่น” “อ้อ”  เจมีว่าพลางสะบัดเรือนผมสีบลอนด์ออกจากตา  นี่เป็นหนึ่ง ในกระบวนท่าเฉพาะตัวของเธอ — ท่าที่เธอจะทำเมื่อเรียนระดับมหาวิทยาลัย และต่อจากนั้นไปอีกเรื่อย ๆ — นอกจากนี้ไม่ว่าเราจะเป็นเพื่อนซี้กันหรือไม่   ฉันก็เตรียมพร้อมที่จะจัดการเธอแล้ว ท่าทางของฉันคงแข็งทื่ออย่างเห็นได้ชัด  เพราะเจมีถอยหลังออกไป เล็กน้อยเพื่อพินิจพิจารณาหน้าฉัน   เธอมองลุคก่อนจะหันกลับมามองฉัน อีกรอบ “อืม”  เจมีทำเสียงในลำคอ  ฉันกลัวเหลือเกินว่าเธอจะพูดออกมาโต้ง  ๆ  แต่แทนที่จะทำอย่างนั้น  เธอกลับรุกถามต่อ  “งั้นเธออยู่ที่ไหนก่อนจะย้ายไป บอสตัน —” เจมีถูกขัดจังหวะด้วยความเงียบสงบอย่างกะทันหัน  เสียงกริ่งเตือน 12


ความรักครั้งที่จำไม่ได้ ไฟไหม้เงียบลง  ครูใหญ่ฟลาวเวอร์สฉวยโทรโข่งแล้วต้อนเรากลับเข้าข้างใน ด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าเขาชิงชังทุกช่วงนาทีที่ตื่นอยู่ต่อหน้าพวกเรา เจมีกับฉันมองกัน  ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะเมื่อเห็นว่าเสียงกระหึ่ม ขนาดนั้นดังมาจากครูใหญ่ฟลาวเวอร์สร่างจ้อย  อย่างน้อยฉันก็ขำเรื่องนั้นละ พอเราหยุดหัวเราะได้แล้ว  ฉันก็หันไปมองลุค  โอเค  ฉัน อยาก  หัน ไปมองลุค แต่เขาไม่อยู่ ฉั น กวาดตามองฝู ง ชนอย่ า งบ้ า คลั่ ง   ทว่ า สิ่ ง ที่ โ ดดเด้ ง ออกมาจาก มวลหมู่ของสีจืดชืดนั้นคือสีแดงสด  ขาว  และดำจากสเวตเตอร์ของพวก เชียร์ลีดเดอร์  ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ฉันกำลังมองหาอยู่แน่นอน  ฉันรู้สึกว่าตัวเอง เริ่มจะตระหนกตกใจ  เหมือนเวลาที่เราทำของสุดรักหาย  อย่างนาฬิกาข้อมือ เรือนโปรด  หรือปากกา  ไม่ก็กางเกงยีนตัวเก่ง ตอนนี้ ฉั น กั บ เจมี ก ำลั ง เดิ น คล้ อ งแขนกั น ไป  อั น ที่ จ ริ ง ฉั น ค่ อ นข้ า ง แน่ใจเลยแหละว่านั่นคือสาเหตุที่ฉันกำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้า  เพราะเจมี กำลังลากฉันอยู่นั่นเอง ในที่สุดฉันก็เห็น ข้างในตัวฉันตีลังกาล้อเกวียนเสียหลายตลบเมื่อฉันมองเห็นเสื้อยืด ของลุคกำลังมุ่งหน้าไปยังอาคารเรียน  เขาก้มหน้าขณะเดินอย่างช้า ๆ  ทว่า มุ่งมั่น  ทำให้เกิดความรู้สึกสงบเยือกเย็นแบบที่ไม่อาจแตะต้องได้  ฉันรู้สึก ตื่นเต้นเมื่อได้เห็นเขา  แต่แล้วก็พลันรู้สึกผิดหวัง เขาเดินจากไปอย่างนั้นได้อย่างไร เรามีช่วงเวลาที่ดีร่วมกันไม่ใช่เหรอ เรามีช่วงเวลาที่ดีร่วมกัน  เขาให้ฉันยืมเสื้อฮู้ด  แล้วเขาก็เดินจากไป  และตอนนี้เขากำลังเดินกลับห้องเรียนเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ราวกับ ว่าเขาไม่เคยพบสาวผมแดงที่แม้จะร่างเล็ก  แต่ก็น่าสนใจไม่ใช่เล่น เรามีช่วงเวลาที่ดีร่วมกัน  แต่ตอนนี้ลุค  เฮนรี  จากบอสตันลืมมัน เสียแล้ว  ฉันบีบแขนเพื่อนสนิทแน่นเมื่อเห็นด้านหลังของเขา  ซึ่งเพื่อนสนิท คนนั้นก็มองหน้าฉันแล้วบิดแขนให้หลุดออก 13


แคต  แพทริก ช่วงเช้าของฉันพลันหดหู่ลงทันที  แถมฉันยังรู้สึกแย่กว่าตอนที่พบว่า มือถือแบตหมดซะอีก  มันน่าขำดีทคี่ วามเป็นไปได้ทำให้เราสดใส  และน่าตลก ที่ความเป็นจริงทำให้เราจ๋อยสนิท ฉันมองด้านหลังของลุคจากระยะห่างยี่สิบฟุตระหว่างที่เขาก้าวไปตาม ทางเดินของชั้นเรียนพละ  ผ่านห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า  ชั้นเรียนวิชาขับรถ  และ ชั้นเรียนวิชาทหาร  จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ห้องโถงกลาง  เหมือนกับว่าไม่มีอะไร เกิดขึ้น  ไม่เลยแม้แต่น้อย  ใครจะรู้ล่ะ  มันอาจไม่ได้เกิดขึ้นเลยก็ได้ แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ฉันมั่นใจขณะลุค  เฮนรี  เลี้ยวตรงหัวมุมแล้วหายลับ ไปจากสายตา  มันเป็นสิ่งหนึ่งที่ให้เศษเสี้ยวเล็กจ้อยแห่งความหวังแก่ฉันว่า เราจะได้เจอกันอีก ฉันยังคงสวมเสื้อของเขาอยู่ “วันนี้สนุกไหมจ๊ะ”  แม่ถามเมื่อฉันกระโดดเข้าไปนั่งในรถพรีอุส “ก็พอใช้ได้ค่ะ”  ฉันตอบพลางเปิดวิทยุ “ดูเหมือนว่าลูกจะรอดชีวิตมาได้โดยไม่มีโทรศัพท์มือถือนะ  มีอะไร น่าสนใจเกิดขึ้นบ้างหรือเปล่า”  แม่ขับรถออกจากลานจอดรถของโรงเรียน แล้วมุ่งหน้ากลับบ้าน ฉันพูดพร้อมกับยักไหล่  “วันนี้มีเด็กเข้าเรียนใหม่ค่ะ” แม่เหลือบมองมาทางฉันก่อนจะมองตรงไปข้างหน้าตามเดิม  ฉันบอก ได้เลยว่าแม่พยายามกลั้นยิ้ม  แต่พยายามไปก็ไร้ผล “เด็กผูช้ ายหน้าตาดีหรือเปล่า”  แม่ถาม  ฉันเลยอดยิม้ ไม่ได้เหมือนกัน “ค่ะ” “เขาชื่ออะไรเหรอ” “ลุคค่ะ” “ลูกได้คุยกับเขารึเปล่า”  แม่ซัก “นิดหน่อยค่ะ  เราซ้อมหนีไฟกัน  แล้วเราก็ลงเอยด้วยการยืนอยูใ่ กล้กนั   เขาเจ๋งดีค่ะ” แม่เงียบไปครู่หนึ่ง  อาจเป็นเพราะแม่รู้สึกได้ว่าฉันกำลังจะยุติบท14


ความรักครั้งที่จำไม่ได้ สนทนาไว้เพียงเท่านั้น  แต่สุดท้ายแม่ก็อดที่จะถามอีกสักคำถามไม่ได้  แม่ ชอบถามซอกแซกอย่างนี้ตลอดแหละ “มีชื่อเขาอยู่ในบันทึกเมื่อเช้าของลูกหรือเปล่า”  แม่ถามด้วยท่าทาง สบาย ๆ  ฉันกำลังพิจารณาว่าจะเปลี่ยนเรื่องพูดหรือเปิดเสียงวิทยุให้ดังขึ้น อีกดี  แต่ในเมื่อแม่เป็นหนึ่งในสองคนที่ฉันสามารถพูดเรื่องอาการของฉันได้  ฉันก็เลยหันไปตอบ “นั่นแหละค่ะที่แปลก!”  ฉันร้อง “ลูกหมายความว่ายังไง”  แม่ถามอย่างตื่นเต้น “คือว่าเขาไม่ได้อยู่ในบันทึกของหนูเมื่อเช้านี้  แต่หนูได้คุยกับเขาและ ทำนู่นนี่ด้วยกัน”  ฉันเล่า  “มันพิลึกชะมัด” “บางทีลูกอาจจะลืมเขียนเรื่องเขาก็ได้”  แม่ลองออกความเห็น  เรา กำลังเลี้ยวเข้าสู่เขตหมู่บ้านจัดสรรของเรา  ฉันส่ายหน้า “บางทีนะคะ”  ฉันเออออเพราะไม่อยากพูดเรื่องเขาแล้ว  ความจริง ฉันรู้ดีว่าฉันไม่มีทางลืมเขียนเรื่องลุค  เฮนรี  แน่นอน เราเกือบจะถึงบ้านแล้วเมือ่ เสียงโทรศัพท์มอื ถือของแม่ดงั มาจากช่องวาง ของตรงกลาง  “โทษทีจ้ะ  ลูกรัก  แม่ต้องรับสายนี้” “ไม่เป็นไรค่ะ”  ฉันบอกอย่างมีความสุขที่จะได้ฝันกลางวันคนเดียว เงียบ  ๆ  เสียที กลางดึกคืนนั้น  ฉันถือปากกาอยู่ในมือขณะความหวังค่อย ๆ ซึมออกจาก ตัวฉัน  เสื้อฮู้ดของลุคอยู่ในกองผ้าที่จะซัก  แต่ใบหน้าของเขาเลือนหายไป เกือบหมดแล้ว  ฉันใช้เวลาสามชั่วโมงในการพยายามปะติดปะต่อเขาเข้ากับ ความทรงจำที่กำลังจะมาถึง  ฉันตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราจะเรียนด้วยกัน หรือเปล่า  เราจะออกเดตกันไหม  ฉันจะยังคงรูจ้ กั เขาไหมในอีกหลายปีขา้ งหน้า แต่เมื่อเข็มนาฬิกาเคลื่อนไปยังเวลา  ๔.๓๓  น. — ซึ่งเป็นเวลาที่สมองของฉัน จะเริ่มทุกสิ่งทุกอย่างใหม่หมด  และความทรงจำถูกล้างจนเกลี้ยง — ฉันก็ต้อง ยอมรับว่าไม่พบลุค  เฮนรี  ที่ไหนเลย เขาไม่อยู่ในความทรงจำของฉัน  นั่นหมายถึงว่าเขาไม่อยู่ในอนาคต 15


แคต  แพทริก ของฉัน เมื่อฉันยอมรับได้ในท้ายที่สุด  ความจริงก็ทิ่มแทงฉันอย่างเจ็บปวด  แต่ไม่มีเวลามามัวจมอยู่กับเรื่องนั้น  และตอนนี้ฉันมีอยู่สองทางเลือก  คือ ฉันจะเตือนความจำตัวเองเกี่ยวกับใครบางคนที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ฉัน  หรือฉันจะไม่บันทึกเรื่องเขาเพื่อป้องกันไม่ให้พรุ่งนี้ต้องเจอเรื่องช้ำใจซ้ำ แบบเดิมอีก ในเมื่อมันดึกขนาดนี้  แถมสมองของฉันกำลังจะ ‘ตั้งค่าใหม่’ ในอีก ไม่กี่นาทีข้างหน้า  ฉันเลยไม่มีทางเลือกมากนัก  ฉันขบฟัน  กำปากกาแน่น  แล้วลงมือทำสิ่งที่ต้องทำ ฉันโกหกตัวเอง

16


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.