สตาร์ทเตอร์: พราง (preread)

Page 1

1

แด่ เดนนิส ผู้ที่ศรั ทธาตลอดมา


2

1 พวกเอ็นเดอร์ ทาํ ฉันขนหัวลุก คนเฝ้ าประตูส่งยิม้ ที่ได้รับการฝึ กมาอย่างดีให้แวบหนึ่งขณะเปิ ดรับฉันเข้าไป ในธนาคารร่ างกาย เขาไม่ได้แก่นกั อายุอาจจะสัก 110 ปี แต่ก็ยงั ไม่วายทําฉันสะท้านอยูด่ ี เขาไว้ผมหงอกดุจ เครื่ องหมายเกียรติยศจอมปลอมแห่งอายุขยั เช่นเดียวกับพวกเอ็นเดอร์ ส่วนมาก ภายในธนาคาร พื้นที่ซ่ ึ ง ตกแต่งอย่างลํ้ายุคกับเพดานสู งลิ่วข่มฉันให้เล็กจ้อย ฉันเดินเข้าล็อบบี้ราวกับเยื้องย่างสู่ ความฝัน เท้าแทบไม่ แตะพื้นหิ นอ่อน เขาชี้ให้ฉนั ไปหาพนักงานต้อนรับผมขาวและทาลิปสติกสี แดงด้านซึ่ งเลอะติดฟันหน้ายามเธอยิม้ ในธนาคารร่ างกายนี่พวกเขาต้องทําดีกบั ฉัน แต่หากพบเจอฉันบนท้องถนน ฉันจะล่องหนไม่มีตวั ตน ลืม เรื่ องที่ฉนั เคยเป็ นเด็กเรี ยนเก่งที่สุดในชั้นสมัยก่อนตอนยังมีโรงเรี ยนอยูไ่ ปได้เลย ฉันอายุสิบหก เป็ นทารก สําหรับพวกเขา รองเท้าส้นสู งของพนักงานต้อนรับส่ งเสี ยงดังกริ๊ กๆและสะท้อนก้องในสถานที่แห้งแล้งไร้ชีวติ ชีวา นี้ขณะที่เธอพาฉันเข้าไปในห้องนัง่ รอเล็กๆซึ่ งว่างเปล่าหากไม่นบั เก้าอี้ไหมยกดิ้นเงินตรงมุมห้อง พวกมันดู เหมือนเป็ นของโบราณ แต่กลิ่นสารเคมีในอากาศมาจากสี ทาใหม่และสารสังเคราะห์ เสี ยงซึ่ งเรี ยกกันว่า เป็ น เสี ยงธรรมชาติของเหล่านกป่ าก็ปลอมพอกัน ฉันชําเลืองมองเสื้ อสเวตเตอร์ ดา้ ยหลุดลุ่ยและรองเท้า ถลอกปอกเปิ กของตัวเอง ฉันขัดมันอย่างสุ ดฝี มือแล้ว แต่รอยเปื้ อนไม่ยอมหายไปหมดสักที และเพราะยํ่า ต๊อกท่ามกลางฝนปรอยๆยามเช้ามาตลอดจนถึงเบเวอร์ ลีฮิลส์ ฉันจึงเปี ยกมะลอกมะแลกอย่างกับแมวหลง ทาง เท้าฉันเจ็บ ฉันอยากทรุ ดฮวบลงบนเก้าอี้ แต่ไม่กล้าทิ้งรอยชื้นรู ปบั้นท้ายไว้บนผ้าไหมยกดิ้น เอ็น เดอร์ ร่างสู งนายหนึ่งโผล่เข้ามาในห้อง ขัดจังหวะความคิดสองจิตสองใจของฉันเรื่ องมารยาทพอดี "แคลลี วูดแลนด์" เขาดูนาฬิกาข้อมือ "เธอมาสายนะ" "ขอโทษค่ะ ฝนมัน..." "ไม่เป็ นไร เธอมาก็ดีแล้ว" เขายืน่ มือให้ ผมหงอกของเขายิง่ ดูขาวเมื่อตัดกับผิวทําสี แทน ขณะฉี กยิม้ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ทําให้ฉนั ประหม่าเอ็นเดอร์ ยงิ่ กว่าเก่า พวกเขาไม่สมควรได้ชื่อว่าเป็ นผูอ้ าวุโสอย่างที่ชอบให้เรี ยกกันเลย ไม้ใกล้ฝั่ง โลภมากพวกนี้ ฉันฝื นใจจับมือเหี่ยวๆของเขา "ฉันชื่อมิสเตอร์ ทินเนนบาวม์ ยินดีตอ้ นรับสู่ ไพรม์เดสทิเนชันส์ " เขาใช้อุง้ มืออีกข้างกุมทับมือฉันไว้ "ฉันแค่จะมาดู..." ฉันกวาดตามองผนังราวกับว่ามาตรวจตราการออกแบบภายใน "ว่ามันทํายังไงใช่ไหม ได้อยูแ่ ล้ว ไม่เสี ยค่าใช้จ่ายหรอกเรื่ องนั้น" เขายิม้ ยิงฟันและปล่อยมือฉันใน ที่สุด "ตามฉันมาสิ "


3

เขายืน่ แขนออกไปอย่างกับฉันหาทางออกจากห้องนี้ไม่เจอ ฟันเขาขาวจัว๊ ะ ฉันสะดุง้ นิดหนึ่งเมื่อเขา ยิม้ เราเดินตามทางเดินสั้นๆไปที่หอ้ งทํางานของเขา "เข้าไปเลย แคลลี ไปนัง่ ที่เก้าอี้ขา้ งโต๊ะนะ" เขาปิ ดประตู ฉันกัดลิ้นไม่ให้ตวั เองอุทานออกไปกับความวิลิศมาหราในห้อง นํ้าพุทองแดงขนาดใหญ่มีน้ าํ ไหล ริ นไม่ขาดสายเลียบผนังด้านหนึ่ง การที่เขาปล่อยให้น้ าํ ใสสะอาดตกกระเซ็นแบบนี้พานให้คิดไปว่านํ้านี่เป็ น ของฟรี โต๊ะกระจกฝังไฟแอลอีดีต้ งั เด่นตรงกลางห้อง เหนือโต๊ะขึ้นไปหนึ่งฟุตมีจออากาศลอยอยู่ มันฉาย ภาพเด็กสาวรุ่ นราวคราวเดียวกับฉัน ผมแดงยาว ใส่ กางเกงออกกําลังขาสั้น แม้เธอจะยิม้ แต่ภาพนั้นเป็ นแบบ หน้าตรง คล้ายรู ปถ่ายเต็มตัวของผูต้ อ้ งหา สี หน้าท่าทางเธอดูอ่อนหวาน เปี่ ยมด้วยความหวัง ฉันนัง่ บนเก้าอี้โลหะทันสมัยขณะที่มิสเตอร์ ทินเนนบาวม์ยนื ข้างหลังโต๊ะและชี้ไปที่จออากาศ "สมาชิกล่าสุ ดคนหนึ่งของเราก็ได้ยนิ เรื่ องของเราจากเพื่อนเหมือนเธอ พวกผูห้ ญิงที่เช่าร่ างนี้ไปพอใจมาก ทีเดียว" เขาแตะมุมจอเปลี่ยนภาพไปเป็ นวัยรุ่ นคนหนึ่งในชุดแข่งว่ายนํ้าพร้อมกล้ามท้องเต็มตา "หนุ่มคนนี้ แอดัม เป็ นคนแนะนําผูห้ ญิงคนนี้มา เขาเล่นสโนว์บอร์ ด สกี และปี นเขา เขาเป็ นร่ างเช่าที่นิยมกันในหมู่ผชู ้ าย ซึ่ งชอบชีวติ กลางแจ้งแต่ไม่ได้เล่นกีฬาจําพวกนี้มาหลายทศวรรษแล้ว" ได้ยนิ คําพูดของเขาแล้วยิง่ เหลือเชื่อเข้าไปใหญ่ เอ็นเดอร์ หงําเหงือกน่าแขยงที่แขนขาเป็ นโรคข้อ อักเสบได้ครอบครองร่ างกายของหนุ่มคนนี้เป็ นเวลาหนึ่งสัปดาห์ มีชีวติ อยูใ่ ต้เนื้อหนังของเขา มันทําให้ทอ้ ง ไส้ฉนั ปั่ นป่ วน ฉันอยากเผ่นหนี แต่ความคิดหนึ่งตรึ งฉันไว้ตรงนั้น ไทเลอร์ ฉันใช้สองมือยึดที่นงั่ เก้าอี้ไว้ แล้วท้องก็ร้องครื ดคราด ทินเนนบาวม์ยนื่ จานดีบุกผสมตะกัว่ ใส่ ช็อกโกแลตซูเปอร์ทรัฟเฟิ ลในถ้วยกระดาษมาให้ พ่อแม่ฉนั ก็เคยมีจานแบบนี้เหมือนกัน "เอาสักชิ้นไหม" เขาถาม ฉันหยิบช็อกโกแลตชิ้นเบ้อเริ่ มเทิ่มชิ้นหนึ่งเงียบๆ แล้วก็นึกถึงมารยาทเก่าเก็บสนิมเรื้ อขึ้นได้ "ขอบคุณค่ะ" "เอาไปอีกสิ " เขาเขย่าจานล่อฉัน ฉันหยิบชิ้นที่สองและสามเพราะจานยังลอยอยูใ่ กล้มือ ฉันห่อช็อกโกแลตด้วยถ้วยกระดาษของมัน และเอาใส่ กระเป๋ าเสื้ อวอร์ ม เขาทําหน้าผิดหวังที่ไม่ได้เห็นฉันกิน อย่างกับว่าฉันเป็ นความบันเทิงประจําวัน ของเขา ด้านหลังฉันเสี ยงนํ้าพุผดุ พรายสาดกระเซ็นยัว่ ฉันเล่น ถ้าอีกเดี๋ยวเขายังไม่เสนออะไรให้ฉนั ดื่ม เขา คงมีสิทธิ์ ได้เห็นฉันเอาหัวจุ่มนํ้าพุซดนํ้าอั้กๆเหมือนหมาไปเลยก็ได้ "ฉันขอนํ้าสักแก้วได้ไหมคะ"


4

"แน่นอน" เขาดีดนิ้วเปาะและเปล่งเสี ยงดังขึ้นประหนึ่งว่าพูดกับอุปกรณ์ที่ซ่อนไว้ "ขอนํ้าให้สาว น้อยสักแก้วซิ" ครู่ ต่อมาก็มีเอ็นเดอร์ หุ่นนางแบบถือถาดใส่ แก้วนํ้าเข้ามา แก้วนั้นมีผา้ เช็ดปากห่อไว้ ฉันหยิบแก้ว และแลเห็นก้อนสี่ เหลี่ยมเล็กๆ เป็ นประกายวาววามดุจเพชร นํ้าแข็ง เธอวางถาดลงข้างฉันและกลับออกไป ฉันแหงนหน้ากลืนนํ้ารสหวานฉํ่ารวดเดียวหมดแก้ว ของเหลวเย็นชื่นใจไหลลงคอ ฉันหลับตา ละเลียดนํ้าสะอาดที่สุดที่ฉนั เคยลิ้มลองนับตั้งแต่สงครามสิ้ นสุ ด พอดื่มเสร็ จ ฉันปล่อยให้น้ าํ แข็งก้อนหนึ่งตก ถึงปาก ฉันเคี้ยวมันดังกร้วม ครั้นลืมตาขึ้น ฉันก็เห็นว่าทินเนนบาวม์จอ้ งฉันอยู่ "เอาอีกไหม" เขาถาม ฉันอยากดื่มอีก แต่สายตาเขาบอกว่าเขาไม่ได้หมายความอย่างที่พดู ฉันส่ ายหน้าและกินนํ้าแข็งก้อน นั้นต่อจนหมด เล็บมือฉันยิง่ ดู สกปรกกว่าเก่าเมื่ออยูบ่ นผิวแก้วขณะที่ฉนั วางมันบนถาดตามเดิม การได้เห็น นํ้าแข็งละลายในแก้วเตือนใจให้ฉนั นึกถึงครั้งสุ ดท้ายที่ฉนั ได้ดื่มนํ้าใส่ น้ าํ แข็ง มันรู ้สึกเหมือนชัว่ กัปชัว่ กัลป์ ทั้งที่เพิง่ เกิดขึ้นเมื่อปี ที่แล้วนี่เอง ในวันสุ ดท้ายที่บา้ นของเราก่อนที่พวกผู ้คุมจะมา "เธออยากรู ้ไหมว่าเราทํางานกันยังไง" ทินเนนบาวม์ถาม "ที่ไพรม์เดสทิเนชันส์นี่" ฉันยั้งตัวเองไว้ไม่ให้กลอกตา พวกเอ็นเดอร์ นี่นะ ไม่อย่างนั้นฉันจะมาที่นี่ทาํ ไมเล่า ฉันกึ่งๆ ยิม้ ให้ เขาและพยักหน้า เขาเคาะมุมหนึ่งของจออากาศเพื่อลบหน้าจอ แล้วก็เคาะครั้งที่ สองเพื่อดึงภาพโฮโลขึ้นมา ภาพแรก เป็ นผูส้ ู งอายุเอนกายอยูบ่ นเก้าอี้พกั ผ่อน ด้านหลังศีรษะมีหมวกขนาดเล็กติดอยู่ สายต่อเป็ นสี ๆ ยืน่ ออกจาก หมวกไปเชื่อมกับคอมพิวเตอร์ "ผูเ้ ช่าจะถูกเชื่อมต่อเข้ากับบีซีไอหรื อโปรแกรมต่อประสานร่ างกายกับคอมพิวเตอร์ ในห้องที่มี พยาบาลผูเ้ ชี่ยวชาญประจําอยู"่ เขาบอก "จากนั้นผูเ้ ช่าก็จะได้รับยาสลบให้ไม่รู้สึกตัว" "เหมือนเวลาไปหาหมอฟันน่ะหรื อคะ" "ใช่ จะมีการติดตามดูแลสัญญาณชีพทั้งหมดของผูเ้ ช่าตลอดรายการ" อีกด้านของจอภาพเป็ นเด็ก สาวเอนกายอยูบ่ นเก้าอี้ยาวบุนวม "ส่ วนเธอจะถูกทําให้หมดสติดว้ ยการวางยาสลบชนิดหนึ่ง ไม่เจ็บและไม่มี อันตรายใดๆทั้งสิ้ น เธอจะตื่นขึ้นหลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ จะสะลึมสะลือนิดหน่อยแต่รวยขึ้นอีกจม" เขายิม้ อวดฟันนัน่ อีกแล้ว ฉันบังคับใจไม่นิ่วหน้าออกมา "เกิดอะไรขึ้นระหว่างสัปดาห์น้ นั คะ" "ผูเ้ ช่าจะได้เป็ นเธอ" เขาแบมือแล้วหมุน "เธอรู้จกั จักรกลคอมพิวเตอร์ ที่ช่วยคนแขนขาดขยับมือ เทียมไหม แบบที่พวกเขาเพียงแค่คิดแล้วมันก็จะขยับน่ะ ใกล้เคียงอย่างนั้นละ" "สรุ ปคือผูเ้ ช่านึกภาพในใจว่าเป็ นฉัน ถ้าเขาอยากได้อะไรก็แค่คิด แล้วมือของฉันก็จะหยิบมันขึ้นมา หรื อคะ"


5

"เหมือนว่าเขาอยูใ่ นร่ างเธอนัน่ แหละ เขาใช้จิตของเขาพาร่ างเธอเดินออกไปจากที่นี่และได้กลับเป็ น สาวอีกครั้ง" เขาใช้มือหนึ่งกุมศอกอีกข้างไว้ "ชัว่ คราวนะ" "แต่ทาํ ยังไง..." เขาผงกศีรษะไปทางอีกด้านหนึ่งของจอภาพ "ในอีกห้องหนึ่งทางนี้ ผูบ้ ริ จาคซึ่ งก็คือเธอจะถูกต่อเข้า กับคอมพิวเตอร์ ผา่ นบีซีไอไร้สาย" "ไร้สายงั้นหรื อ" "เราฝังชิปประสาทเข้าในด้านหลังศีรษะเธอ เธอจะไม่รู้สึกอะไรเลย ไร้ความเจ็บปวดโดยสิ้ นเชิง มัน ทําให้เราเชื่อมต่อเธอเข้ากับคอมพิวเตอร์ ได้ตลอดเวลา จากนั้นเราก็ต่อคลื่นสมองของเธอกับคอมพิวเตอร์ และคอมพิวเตอร์ เชื่อมต่อเธอสองคนเข้าด้วยกัน " "เชื่อมต่อ" คิว้ ฉันขมวดมุ่นขณะพยายามจินตนาการจิตสองดวงเชื่อมต่อกันในลักษณะนั้น บีซีไอ ชิปประสาท ฝัง นี่มนั น่าขนลุกขนพองขึ้นทุกขณะจิต แรงกระตุน้ ให้อยากวิง่ หนีหวนกลับมาอย่างรุ นแรง แต่ ขณะเดียวกันฉันก็อยากรู ้มากกว่านี้ "ฉันรู ้ ทุกอย่างมันใหม่ไปหมด" เขายิม้ อย่างคนที่เหนื อกว่า "เราดูให้แน่ใจว่าเธอหลับสนิท จิตของผู ้ เช่าเข้าครองร่ างกายเธอ ผูเ้ ช่าตอบชุดคําถามที่ทีมงานถามเพื่อให้มนั่ ใจว่าทุกอย่างทํางานอย่างที่ควร แล้วก็ ออกไปสนุกกับร่ างเช่าของเขาได้" แผนภาพแสดงรู ปกราฟิ กของร่ างกายที่ถูกเช่ากําลังตีกอล์ฟ เล่นเทนนิส ดํานํ้า "ร่ างกายคงความทรงจําของกล้ามเนื้อไว้ ดังนั้นไม่วา่ เธอเคยเล่นกีฬาอะไร ผูเ้ ช่าก็จะเล่นเป็ นด้วย พอ หมดเวลา ผูเ้ ช่าจะพาร่ างเดินกลับมาที่นี่ การเชื่อมต่อถูกปิ ดลงตามลําดับอย่างเหมาะสม ผูเ้ ช่าพ้นจากยาสลบ เขาจะได้รับการตรวจสภาพร่ างกายและกลับไปอย่างแสนสุ ข ส่ วนเธอ ผูบ้ ริ จาค ก็ จะฟื้ นคืนสู่ การทํางานของ สมองอย่างสมบูรณ์ตามเดิมผ่านคอมพิวเตอร์ เธอจะตื่นขึ้นในร่ างของเธอราวกับว่าเธอนอนหลับไปหลาย วัน" "แล้วถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับฉันระหว่างที่ผเู ้ ช่าอยูใ่ นร่ างฉันล่ะคะ ขณะเล่นสโนว์บอร์ ดหรื อดิ่งพสุ ธา น่ะ ถ้าฉันบาดเจ็บล่ะ" "ไม่เคยมีอะไรทํานองนั้นเกิดขึ้นที่นี่มาก่อนนะ ผูเ้ ช่าของเราลงนามในสัญญาที่ทาํ ให้พวกเขาต้อง รับผิดชอบด้านการเงิน เชื่อฉันเถอะ ทุกคนอยากได้ค่ามัดจํานัน่ คืนทั้งนั้น " เขาทําให้ฉนั ฟังเหมือนเป็ นรถเช่า ความหนาวเยือกมาสู่ ฉนั ราวกับมีใครเอานํ้าแข็งก้อนไล้ข้ ึนมาตาม สันหลัง มันเตือนให้ฉนั นึกถึงไทเลอร์ ซึ่ งเป็ นสิ่ งเดียวที่ทาํ ให้ฉนั ยังนัง่ อยูบ่ นเก้าอี้นนั่ "แล้วชิปล่ะคะ" ฉันถาม "มันจะถูกถอดออกมาหลังการให้เช่าครั้งที่สามของเธอ" เขาส่ งกระดาษแผ่นหนึ่งให้ฉนั "เอ้า นี่อาจ ทําให้เธอเบาใจได้"


6

กฎสําหรับผูเ้ ช่าที่ไพรม์เดสทิเนชันส์ 1. ห้ามปรับเปลี่ยนรู ปลักษณ์ใดๆของร่ างเช่าของท่านทั้งสิ้ น รวมถึงแต่ไม่จาํ กัดเพียงการเจาะ รอย สัก การตัดหรื อย้อมผม คอนแทคเลนส์เพื่อความงาม และกระบวนการศัลยกรรมใดๆ รวมทั้งการเสริ มขนาด 2. ห้ามทําการเปลี่ยนแปลงใดๆ ต่อฟัน รวมทั้งการอุด การถอน และฝังเครื่ องประดับ 3. ท่านต้องอยูใ่ นรัศมี ห้าสิ บไมล์รอบไพรม์เดสทิเนชันส์ เรามีแผนที่ให้ 4. ความพยายามใดๆก็ตามในการแทรกแซงชิปจะส่ งผลให้ เกิดการยกเลิกทันทีโดยไม่คืนเงินและจะมีการเรี ยกเก็บค่าปรับ 5. หากท่านประสบปั ญหากับร่ างเช่าของท่าน ให้กลับมาที่ไพรม์เดสทิเนชันส์โดยเร็ วที่สุด กรุ ณาปฏิบตั ิกบั ร่ างเช่าของท่า นด้วยความใส่ ใจ พึงระลึกไว้ เสมอว่าร่ างเช่าคือคนในวัยหนุ่มสาวจริ งๆ โปรดทราบว่ าชิ ปประสาทแต่ ละตัวป้ องกันไม่ ให้ ผ้ เู ช่ ากระทาการที่ผิดกฎหมาย กฎพวกนี้ไม่ได้ทาํ ให้ฉนั รู ้สึกดีข้ ึนสักนิด แถมมันยังยกปั ญหาที่ฉนั ไม่ทนั ได้ฉุกคิดขึ้นมาด้วย "แล้ว...เรื่ องอื่นๆ ล่ะคะ" ฉันถาม "เช่นอะไรล่ะ" "ไม่รู้สิ" ฉันหวังว่าเขาจะไม่ทาํ ให้ฉนั ต้องพูดคํานั้น แต่เขาก็ทาํ "เซ็กส์ล่ะ" "มันทําไมหรื อ" "ไม่เห็นมีในกฎเลย" ฉันพูด ฉันไม่อยากให้ครั้งแรกของฉันเกิดขึ้นโดยที่ฉนั ไม่ได้อยูต่ รงนั้นแน่ๆ เขาส่ ายหัว "เรื่ องนั้นผูเ้ ช่ารับทราบค่อนข้างชัดเจนนะ มันเป็ นข้อห้าม" เออสิ นะ อย่างน้อยก็เป็ นไปไม่ได้ที่จะเกิดการตั้งครรภ์ ทุกคนรู ้วา่ นัน่ เป็ นผลข้างเคียงของวัคซี น ซึ่ ง หวังว่าคงเป็ นแบบชัว่ คราวนะ ท้องไส้ฉนั เขม็งเกลียว ฉันสะบัดผมให้พน้ ตาและลุกขึ้นยืน "ขอบคุณสําหรับเวลาของคุณค่ะ มิสเตอร์ ทินเนนบาวม์ แล้วก็การสาธิตด้วย" ริ มฝี ปากเขาบิดเบี้ยว เขาพยายามกลบเกลื่อนมันด้วยรอยยิม้ แกนๆ "ถ้าเธอเซ็นวันนี้ จะมีโบนัสให้ ด้วย" เขาดึงแบบฟอร์ มออกจากลิ้นชัก เขียนหวัดๆ ลงบนนั้น และเลื่อนมันข้ามโต๊ะมา "นัน่ สําหรับการให้ เช่าสามครั้ง" เขาปิ ดปลอกปากกา ฉันหยิบสัญญาขึ้นมา จํานวนเงินนั้นซื้ อบ้านหนึ่งหลังกับอาหารให้เราได้ท้ งั ปี ฉันนัง่ ลงตามเดิมและ สู ดลมหายใจลึก เขายืน่ ปากกาให้ ฉันฉวยมันมา


7

"ให้เช่าสามครั้งใช่ไหม" ฉันถาม "ใช่ เธอจะได้เงินเมื่อให้เช่าครบแล้ว " กระดาษไหววูบ ฉันตระหนักว่ามือกําลังสั่น "เป็ นข้อเสนอที่งามมากนะ" เขาพูด "มันรวมโบนัสด้วยถ้าเธอเซ็นวันนี้ " ฉันต้องการเงินนัน่ ไทเลอร์ ตอ้ งการมัน ขณะที่ฉนั กําปากกา เสี ยงผุดพรายของนํ้าพุก็ดงั ขึ้นกว่าเก่าในหัวฉัน ฉันจ้องกระดาษอยูแ่ ต่เห็นภาพ ผ่านแวบของลิปสติกสี แดงด้าน ดวงตาของคนเฝ้ าประตู ฟันที่ดูไม่เป็ นธรรมชาติของมิสเตอร์ ทินเนนบาวม์ ฉันกดปากกากับกระดาษ แต่ก่อนจะทําเครื่ องหมายลงไป ฉันก็เงยหน้าขึ้นมองเขา ฉันคงอยากได้การรับรอง เป็ นมัน่ เหมาะครั้งสุ ดท้าย เขาพยักหน้าและยิม้ ชุดสู ทของเขาไร้ที่ติ เว้นแต่มีเศษด้ายเล็กๆบนปกเสื้ อ มันมี รู ปร่ างเหมือนเครื่ องหมายคําถาม เขากระตือรื อร้นมาก ก่อนที่ฉนั จะรู ้ตวั ฉันก็วางปากกาลง เขาหรี่ ตา "มีอะไรหรื อ" "แค่บางอย่างที่แม่ฉนั เคยพูดเสมอน่ะค่ะ" "อะไรล่ะ" "แม่บอกว่าให้เก็บการตัดสิ นใจสําคัญไปนอนคิดเสมอ ฉันต้องคิดเรื่ องนี้ " ดวงตาเขาแปรเปลี่ยนเป็ นเย็นชา "ฉันให้สัญญาไม่ได้วา่ ข้อเสนอนี้จะยังใช้ได้ทีหลังนะ" "ฉันต้องลองเสี่ ยงดูละค่ะ" ฉันพับสัญญาใส่ กระเป๋ าและลุกจากเก้าอี้ จากนั้นก็ฝืนยิม้ น้อยๆ "เธอมีปัญญาเสี่ ยงได้หรื อ" เขาก้าวมาตรงหน้าฉัน "อาจจะไม่ แต่ฉนั ต้องคิดดูก่อน" ฉันขยับอ้อมเขาและเดินไปที่ประตู "โทร.มานะถ้าเธอมีคาํ ถาม" เขาพูดเสี ยงดังเกินควรนิดหน่อย ฉันเร่ งฝี เท้าผ่านพนักงานต้อนรับซึ่ งดูไม่พอใจที่เห็นฉันกลับเร็ ว เธอมองตามฉันขณะกระแทกปุ่ ม ซึ่ งฉันเดาว่าเป็ นปุ่ มฉุ กเฉิ น ฉันยังไปต่อ คนเฝ้ าประตูจอ้ งฉันผ่านประตูกระจกก่อนจะเปิ ดมันออก "กลับแล้วหรื อครับ" สี หน้าปั้ นแต่งของเขาน่าเกลียดน่ากลัว ฉันเผ่นแน่บผ่านเขา พอฉันออกมาข้างนอก อากาศสดชื่นของฤดูใบไม้ร่วงก็ปะทะใบหน้า ฉันสู ดมันเข้าปอดระหว่างลัด เลาะฝูงชนชาวเอ็นเดอร์ ที่คลาคลํ่าบาทวิถี ฉันคงเป็ นคนเดียวที่ปฏิเสธทินเนนบาวม์ เป็ นคนที่ไม่ตก หลุมพรางของเขา แต่ฉนั ได้เรี ยนรู ้มาแล้วว่าอย่าไว้ใจพวกเอ็นเดอร์ ฉันเดินตัดผ่านเบเวอร์ ลีฮิลส์ ส่ ายหัวให้กบั หย่อมของความมัง่ คัง่ ที่ยงั เหลืออยูห่ ลังจากสงคราม สิ้ นสุ ดมาปี กว่า ที่นี่มีหน้าร้านค้าเพียงหนึ่งในสามเท่านั้นที่วา่ งเปล่า เครื่ องแต่งกายยีห่ อ้ ดัง เครื่ อง อิเล็กทรอนิกส์ฉายภาพ และร้านหุ่นยนต์ ทั้งหมดนี้เพื่อสนองความอยากช็อปของเอ็นเดอร์ ที่ร่ าํ รวย ที่นี่


8

เหมาะต่อการคุย้ หาของ ถ้ามีอะไรพัง พวกเขาต้องโยนทิ้งสถานเดียวเพราะไม่มีคนซ่อมและไม่มีทางหาซื้ อ อะไหล่ได้ ฉันคอยก้มหน้าไว้ แม้ตอนนี้ฉนั จะไม่ได้ทาํ อะไรผิดกฎหมาย แต่ถา้ ผูค้ ุมเรี ยกให้ฉนั หยุดละก็ ฉันไม่ มีเอกสารสําคัญที่ผเู้ ยาว์ในปกครองต้องพกติดตัวมาแสดงให้ดู ขณะที่ฉนั รอไฟจราจร รถบรรทุกพร้อมกับสตาร์ ตเตอร์ สลดหดหู่กลุ่มหนึ่งหยุดวิง่ พวกเขาทั้ง สกปรกและสะบักสะบอม ต่างนัง่ ขัดสมาธิ อยูห่ ลังรถ อีเต้อกับพลัว่ กองสุ มอยูต่ รงกลาง เด็กหญิงคนหนึ่งซึ่ ง มีผา้ พันแผลรอบศีรษะจ้องมองฉันด้วยดวงตาไร้วญ ิ ญาณ ฉันแลเห็นประกายริ ษยาวาบขึ้นในดวงตาคู่น้ นั ราวกับว่าชีวติ ฉันมีอะไรดีกว่า เมื่อรถบรรทุกออกวิง่ เด็กหญิงก็ห่อแขนคล้ายโอบกอดตนเอง ชีวติ ฉันแย่ก็จริ ง แต่ของเธอเลวร้ายกว่า มันต้องมีทางออกจากความ วิปริ ตวิปลาสนี่สิ หนทางสักทางที่ไม่ตอ้ งข้องเกี่ยวกับธนาคารร่ างกายน่าแขยงนัน่ หรื อแรงงานทาสถูก กฎหมาย ฉันยึดถนนสายรองไว้และเลี่ยงวิลเชอร์ บูเลอวาร์ ดซึ่ งดึงดูดผูค้ ุม เอ็นเดอร์ สองคนซึ่ งเป็ นนักธุ รกิจ สวมเสื้ อกันฝนสี ดาํ เดินตรงมาที่ฉนั ฉันเสมองทางอื่นและเอาสองมือล้วงกระเป๋ า ในกระเป๋ าซ้ายมีสัญญา กระเป๋ าขวามีช็อกโกแลตห่อกระดาษ ขมและหวาน ยิง่ ฉันออกห่างจากเบเวอร์ ลีฮิลส์เท่ าไร ย่านต่างๆ ก็ยงิ่ สกปรกโสโครกขึ้นเท่านั้น ฉันอ้อมหลบกอง ขยะรอคนมาเก็บซึ่ งเกินกําหนดนานแล้ว ฉันเงยหน้าขึ้นและพบว่ากําลังเดินผ่านอาคารคลุมด้วยเต็นท์แดง ซึ่ งหมายความว่าอาคารนั้นติดเชื้อ ขีปนาวุธสปอร์ ลูกสุ ดท้ายมันนานกว่าปี มาแล้ว แต่ทีมวัตถุอนั ตรายยัง ไม่ได้แวะมากําจัดเชื้อในบ้านหลังนี้ หรื อไม่ก็ไม่อยากมา ฉันยกแขนเสื้ อขึ้นปิ ดจมูกและปากอย่างที่พอ่ เคย สอนและรี บเดินผ่าน แสงอาทิตย์โรยราและฉันเคลื่อนที่อย่างอิสระขึ้น ฉันดึงไฟพกพาออกมาและรัดมันเข้ากับหลังแขน ซ้ายแต่ไม่ได้เปิ ดไฟ เราตีไฟถนนแถวนี้แตกเพราะเราต้องการการปกป้ องจากเงามืดเพื่อไม่ให้พวกเจ้าหน้าที่ เอาตัวเราไปด้วยข้ออ้างสักข้อที่ฟังไม่ข้ ึน พวกเขาจะยินดีมากที่ได้ขงั เราไว้ในสถาบัน ฉันไม่เคยเห็นข้างใน สถาบันมาก่อนแต่เคยได้ยนิ สถาบัน 37 ซึ่ งเป็ นสถาบันหนึ่งที่เลวร้ายที่สุดอยูไ่ กลออกไปแค่ไม่กี่ไมล์ ฉันเคย ได้ยนิ สตาร์ตเตอร์คนอื่นๆกระซิบกระซาบถึงมัน พอฉันอยูห่ ่างจากบ้านของเราสองสามช่วงตึก มันก็มืดสนิท ฉันกดเปิ ดไฟพกพา นาทีต่อมาฉันเห็น ลําแสงของไฟพกพาสองดวงส่ องวูบวาบตรงหัวมุมจากอีกฟากของถนน เพราะความที่ใครคนนั้นมีไฟพกพา ฉันจึงหวังว่าพวกเขาคือพวกเป็ นมิตร แต่แล้วในวินาทีเดียวกัน ไฟทั้งสองดวงก็ดบั ลง พวกอันธพาล


9

ท้องฉันเขม็งเกลียวและหัวใจเด้งขึ้นมาอยูใ่ นลําคอ ฉันออกวิง่ ฉันไม่มีเวลาคิด สัญชาตญาณพาฉัน มุ่งตรงไปที่ตึกของฉัน คนหนึ่งในพวกนั้นซึ่ งเป็ นเด็กสาวขายาว ร่ างสู ง มีรอยสักข้างใบหน้าตีต้ืนฉันขึ้นมา เธอตามฉันมาติดๆ และยืน่ มือมาคว้าเสื้ อวอร์มฉัน ฉันสาวเท้าวิง่ ให้เร็ วขึ้นอีก ประตูดา้ นข้างเข้าอาคารของฉันอยูห่ ่างไปแค่ครึ่ งช่วงตึก มันกําลังรอคอย ฉันอยู่ เธอลองอีกทีและคราวนี้คว้าหมวกฮูด้ ของฉันไว้ได้ ฉันล้มลงเมื่อเธอกระชาก แล้วฉันก็กระแทกบาทวิถีอย่างจัง หลังฉันเจ็บ ศีรษะร้าวระบม เธอคร่ อม ทับฉันไว้และเอื้อมมาที่กระเป๋ าฉัน เพื่อนของเธอซึ่ งเป็ นเด็กชายร่ างเล็กกว่าเปิ ดไฟอีกและเล็งส่ องตาฉัน "ฉันไม่มีเงิน" ฉันหรี่ ตาและพยายามตีมือเธอให้พน้ ตัว เธอฟาดด้านข้างใบหน้าฉันด้วยฝ่ ามือทั้งสองข้าง ตบลงบนบ้องหูฉนั อย่างแรง เป็ นอุบายสกปรกข้าง ถนนที่ทาํ ให้ศีรษะสะท้านด้วยความเจ็บปวด "ไม่มีเงินให้ฉนั เรอะ" เธอพูด เสี ยงอูอ้ ้ ีของเธอก้องสะท้อนในหัวฉัน "งั้นแกก็ซวยบรมละ" การหลัง่ ของอะดรี นาลินส่ งกําลังให้แขนฉัน แล้วฉันก็ต่อยขากรรไกรเธอเต็มๆ เธอเริ่ มเสี ยหลักแต่ ตั้งตัวทันก่อนที่ฉนั จะหลุดจากใต้ร่างเธอได้ "คราวนี้แกตายแน่ นังอ่อนหัด " ฉันดิ้นรนเตะถีบ แต่เธอตรึ งฉันไว้ดว้ ยต้นขาแกร่ งดัง่ เหล็กกล้า เธอเงื้อหมัดและทุ่มแรงทั้งตัว ฉัน เอียงหัวหลบไปข้างๆในวินาทีสุดท้าย กําปั้ นเธอเลยปะทะเข้ากับบาทวิถี เธอกรี ดร้องออกมา เสี ยงหวีดร้องนั้นส่ งให้ฉนั ตะกายออกจากใต้ร่างเธอระหว่างที่เธอกุมมือด้วยความเจ็บปวด หัวใจฉัน เต้นระทึกราวกับมันอยากกระเด็นหลุดออกมาจากอก เด็กอีกคนขยับเข้ามาพร้อมกับหิ น ลมหายใจฉันขาด เป็ นห้วงๆขณะที่ฉนั ลุกขึ้นยืน บางอย่างร่ วงหล่นจากกระเป๋ าฉัน ทุกคนหยุดเพื่อมอง ซูเปอร์ ทรัฟเฟิ ลลํ้าค่าชิ้นหนึ่ง "อาหาร!" เพื่อนของเธอตะโกนเมื่อเล็งไฟส่ องไปที่มนั เด็กสาวคลานตรงไปหามัน พลางปกป้ องมือข้างที่ยบั เยินไว้แนบอก เพื่อนเธอถลาลงพื้นและฉวยมัน ขึ้นมา เธอคว้ามือเขา บิส่วนหนึ่งจากทรัฟเฟิ ลมาได้ จากนั้นก็เขมือบลงคอ เขาสวาปามส่ วนที่เหลือ ฉันวิง่ ไป ยังทางเข้าด้านข้างตึกจากนั้นก็ผลักประตูเปิ ด ประตูของฉัน และผลุบเข้าข้างใน ฉันภาวนาขออย่าให้พวกนั้นเข้ามาในตึกฉัน ฉันต้องอาศัยให้พวกเขากลัวพวกเป็ นมิตรของฉันและ กับดักที่ฉนั อาจวางไว้ ฉันส่ องไฟพกพาเพื่อตรวจดูบนั ได ทางโล่ง ฉัน ขึ้นไปที่ช้ นั สามและเพ่งมองผ่าน หน้าต่างสกปรก ข้างล่างนั้น หัวขโมยอันธพาลลนลานจากไปเฉกเช่นพวกเศษสวะ ฉันสํารวจสภาพอย่าง รวดเร็ ว ด้านหลังศีรษะฉันเจ็บจากการกระแทกกับบาทวิถี แต่ฉนั รอดมาได้โดยไม่มีแผลแตกสาหัสหรื อ กระดูกหัก ฉันวางมือลงบนอกและพยายามข่มลมหายใจให้สงบ


10

ฉันหันเหความสนใจมายังด้านในของอาคารและตรวจตราตามปกติ ฉันเงี่ยหูฟังอย่างดีที่สุด แต่หู ฉันยังชาจากการต่อสู ้ ฉันสัน่ หัวเพื่อพยายามให้หูโล่ง ไม่มีเสี ยงใหม่ ไม่มีคนเข้าอยูใ่ หม่ ไม่มีอนั ตราย ห้องทํางานสุ ดทางดึงฉันเข้าหาดังไฟนําทาง เป็ น สัญญาณบ่งบอกว่าจะได้นอนหลับ โต๊ะที่เราตั้งเป็ นค่ายพักขวางตรงมุมนั้นไว้ ปิ ดกั้นส่ วนหนึ่งของห้องโล่ง โถงว่างเปล่าและให้ภาพมายาของความสบาย ไทเลอร์ คงหลับไปแล้ว ฉันใช้นิ้วแตะซูเปอร์ ทรัฟเฟิ ลที่ยงั เหลืออยูใ่ นกระเป๋ า บางทีฉนั น่าจะทําให้เขาแปลกใจเล่นในตอนเช้า แต่ฉนั คอยไม่ไหว "นี่ ตื่นเถอะ มีอะไรมาให้เธอแน่ะ" เมื่อฉันเลี้ยวอ้อมโต๊ะ กลับไม่มีอะไรอยูต่ รงนั้น ไม่มีผา้ ห่ม ไม่มี น้องชาย ไม่มีอะไรเลย ข้าวของน้อยนิดที่เราทิ้งไว้ก็หายไปด้วย "ไทเลอร์ " ฉันเรี ยก ลําคอฉันตีบตันขณะฉันกลั้นหายใจ ฉันถลันไปที่ประตู แต่ทนั ทีที่ไปถึง ใบหน้าหนึ่งก็โผล่เข้ามา ตรงช่องประตู "ไมเคิล!" ไมเคิลสะบัดผมสี ทองยุง่ เหยิงไปด้านหลัง "แคลลี" เขาเอาไฟพกพาจ่อใต้คางและแกล้งทําหน้าตาน่า กลัว แต่เขากลั้นไม่อยูแ่ ละหลุดหัวเราะออกมา ถ้าเขาหัวเราะ แสดงว่าไทเลอร์ ตอ้ งไม่เป็ นอะไร ฉันผลักเขาเบาๆ "ไทเลอร์ อยูไ่ หน" ฉันถาม "ฉันต้องย้ายพวกเธอไปที่หอ้ งฉัน หลังคาในนี้มนั ชักจะรั่ว " เขาส่ องไฟไปที่รอยด่างสี ดาํ ๆบนเพดาน "หวังว่าคงโอเคนะ" "ไม่รู้สิ ขึ้นอยูก่ บั ทักษะการตกแต่งของเธอแหละ" ฉันตามเขาไปที่หอ้ งอีกฟากของทางเดิน ภายในห้องนั้น มีโต๊ะตั้งกั้นให้เป็ นหลืบคุม้ กันอุ่นสบายอยู่ ตรงมุมห้องสองมุมแยกกัน ครั้นเข้าไปใกล้ ฉันก็เห็นว่าเขาจัดวางข้าวของของเราเหมือนเดิมเปี๊ ยบ ฉันเข้าไป ในหลืบที่อยูห่ ่างออกไปและเห็นไทเลอร์ นงั่ พิงผนังอยู่ มีผา้ ห่มคลุมขา เขาดูตวั เล็กกว่าวัยเจ็ดขวบ อาจเป็ น เพราะความคิดชัว่ วูบว่าจะสู ญเสี ยเขาไปหรื อเพราะความที่ฉนั ออกไปข้างนอกมาทั้งวัน แต่มนั เหมือนฉันเห็น เขาเป็ นอีกคนหนึ่ง เขาผ่ายผอมลงนับตั้งแต่ตอนที่เราออกมาเร่ ร่อน เผ้าผมของเขาถึงเวลาที่ตอ้ งตัดได้แล้ว เงา มืดทําให้ผวิ ใต้ตาเขาดําคลํ้า "หายไปไหนมา หน้าจ๋ อ" เสี ยงของไทเลอร์แหบแห้ง ฉันใช้ความพยายามผลักไสสี หน้าวิตกกังวลให้หมดไป "ข้างนอกน่ะสิ " "พี่ไปนานชะมัด"


11

"แต่เธอมีไมเคิลอยูด่ ว้ ยนี่ " ฉันคุกเข่าลงข้างเขา "แล้วพี่ก็ใช้เวลานานโขเลยกว่าจะหาของพิเศษมา ฝากเธอได้" รอยยิม้ จางๆ ผุดบนริ มฝี ปากเขา "พี่เอาอะไรมาให้ผมหรื อ" ฉันล้วงถ้วยกระดาษใบหนึ่งออกมาและแกะช็อกโกแลตใส่ วติ ามิน มันมีขนาดเท่าชิ้นคุกกี้ ดวงตาเขา เบิกกว้าง "ซูเปอร์ทรัฟเฟิ ลรึ " เขามองไมเคิลซึ่ งยืนอยูใ่ กล้ฉนั "โอ้โฮ" "พี่มีสองชิ้นแน่ะ" ฉันเอาอีกชิ้นอวดเขา "ให้เธอทั้งสองชิ้นเลย" เขาสัน่ หน้า "พี่เอาไปชิ้นหนึ่งสิ " "เธอต้องการวิตามินนะ" ฉันพูด "วันนี้พี่ได้กินอะไรหรื อยัง" เขาถาม ฉันจ้องเขา ฉันจะโกหกรอดไหมนะ ไม่รอดแน่ เขารู ้จกั ฉันดีเกินไป "พี่สองคนแบ่งกันเถอะ" ไทเลอร์พดู ไมเคิลยักไหล่ ผมเขาตกลงมาปรกดวงตาข้างหนึ่งอย่างสวยงามโดยไม่ตอ้ งพยายามซึ่ งเป็ น เอกลักษณ์ของเขา "อันนั้นไม่เถียงหรอก" ไทเลอร์ ยมิ้ และจับมือฉัน "ขอบคุณนะ พี่แคลลี" *** เรากินซูเปอร์ ทรัฟเฟิ ลโดยนัง่ ล้อมโต๊ะที่ต้ งั กลางห้อง มันทําหน้าที่โต๊ะอาหารให้เรา มีไฟพกพาของ ไมเคิลวางตรงกลางและตั้งไว้ที่โหมดแสงเทียน เราตัดช็อกโกแลตเป็ นชิ้นเล็กๆและพูดตลกกันว่าคําแรกจะ เป็ นอาหารเรี ยกนํ้าย่อย คําที่สองเป็ นจานหลัก และคําที่สามเป็ นของหวาน มันอร่ อยเลิศ ช็อกโกแลตเนื้อแน่น หวานลํ้า เป็ นส่ วนผสมระหว่างบราวนี่กบั ฟัดจ์ ทั้งเข้มข้นและอวลกลิ่นควันบนลิ้นเรา มันหมดเร็ วเหลือเกิน ไทเลอร์ มีชีวติ ชีวาขึ้นหลังได้กิน เขาร้องเพลงกับตัวเองระหว่างที่ไมเคิลเอามือข้างหนึ่งเท้าคางและ จ้องมองฉันข้ามโต๊ะ ฉันรู ้วา่ เขาอยากถามฉันเรื่ องธนาคารร่ างกายจะตายอยูแ่ ล้ว และอาจจะเรื่ องอื่นด้วย ฉัน เห็นสายตาเขากวาดมองรอยถลอกและแผลใหม่ "ทรัฟเฟิ ลทําพี่หิวนํ้าจัง" ฉันเอ่ย "ผมก็เหมือนกัน" ไทเลอร์พดู ไมเคิลลุกขึ้น "ฉันว่าฉันไปเติมนํ้าใส่ กระติกดีกว่า" เขาฉวยกระติกนํ้าของเราซึ่ งมีสายห้อยอยูข่ า้ ง ประตูรวมทั้งถังซักล้างของเราด้วย แล้วเขาก็ออกไป


12

ไทเลอร์ ซบหัวลงกับโต๊ะ ความตื่นเต้นเรื่ องช็อกโกแลตเริ่ มส่ งผลให้อ่อนล้า ฉันลูบผมนิ่มดุจทารก และลําคอของเขา เสื้ อติดหมวกฮูด้ ของเขาเลื่อนตกจากไหล่ขา้ งหนึ่ง เผยให้เห็นแผลเป็ นจากการฉี ดวัคซี น ฉันไล้นิ้วไปบนนั้น รู ้สึกขอบคุณรอยเล็กๆ นี้ ถ้าไม่ใช่เพราะมัน เราก็คงตายกันหมดเหมือนพ่อแม่เรา เหมือน ทุกคนที่อายุระหว่างยีส่ ิ บถึงหกสิ บปี เราก็เช่นเดียวกับเหล่าเอ็นเดอร์ สูงวัยตรงที่อ่อนแอที่สุด เราจึงได้รับ วัคซี นป้ องกันสปอร์ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เป็ นพวกแรก เวลานี้เราคือพวกเดียวที่เหลืออยู่ น่าหัวเราะไหมเล่า หลังจากผ่านไปสองสามนาที ไมเคิลกลับมาพร้อมกระติกที่เติมแล้ว ฉันไปที่หอ้ งนํ้าซึ่ งเขาทิง้ ถังไว้ สัปดาห์แรกที่เรามาอยูท่ ี่นี่ เรายังมีน้ าํ ประปาไหลในตึก ฉันถอนหายใจ แบบนั้นมันง่ายกว่าการขโมยนํ้าจาก ท่อข้างนอกตอนไม่มีใครเห็นมากนัก นํ้าเย็นให้ความรู ้สึกสดชื่น แม้จะเป็ นเดือนพฤศจิกายนและไม่มีความร้อนในอาคาร ฉันก็วกั นํ้าใส่ แผลตามแขนและใบหน้า พอฉันกลับไปที่หอ้ ง ไทเลอร์ เข้าไปปั กหลักในมุมของเราตามเดิมแล้ว ส่ วนไมเคิลนอนอยูใ่ น ปราการที่มุมตรงข้ามเหมือนภาพสะท้อนกลับด้าน ฉันรู ้สึกปลอดภัยขึ้นที่เราทุกคนอยูใ่ นห้องเดียวกัน ถ้ ามี ใครบุกเข้ามา เราคนใดคนหนึ่งจะถึงตัวผูบ้ ุกรุ กได้จากด้านหลัง ไมเคิลมีท่อโลหะท่อนหนึ่ง ฉันมีปืนช็อร์ ต ไฟฟ้ าขนาดเล็กซึ่ งเคยเป็ นของพ่อมาก่อน มันไม่แรงเท่าของพวกผูค้ ุม แต่ฉนั ก็พ่ งึ มันได้ น่าเศร้าที่มนั กลายมา เป็ นวัตถุให้อุ่นใจชิ้นใหม่ของฉัน ฉันนัง่ บนถุงนอนและถอดรองเท้าออก จากนั้นก็ถอดเสื้ อวอร์ มและเลื่อนตัวเข้าถุงนอนเหมือนจะเข้า นอน ฉันเพิ่มชุดนอนเข้าไปในรายการสิ่ งของในใจที่ฉนั คิดถึง ชุดนอนผ้าสักหลาดอ่อนอบอุ่นๆจาก เครื่ องอบผ้า ฉันเหนื่อยหน่ายกับการใส่ เสื้ อผ้าพร้อมวิง่ หรื อต่อสู ้ตลอดเวลา ฉันถวิลหาชุดนอนฟูนุ่มและการ หลับลึกแบบลืมทั้งโลก "ไมเคิลขนของของเรามาที่นี่" ไทเลอร์ ส่องไฟไปที่หนังสื อและสมบัติบนโต๊ะรอบตัวเรา "พี่รู้ เขามีน้ าํ ใจนะ" เขาเล็งไฟไปที่หมาของเล่น "เหมือนก่อนนี้เลย" ทีแรกฉันคิดว่าเขาหมายถึงเหมือนที่บา้ นเรา แต่แล้วฉันก็ตระหนักว่าเขาหมายถึงว่าเราวางของไว้ ยังไงเมื่อวันก่อนหน้า ไมเคิลตั้งใจจัดวางสมบัติของเราอย่างที่เราเคยวางทุกประการ เขารู ้วา่ มันมีค่ากับเรา ขนาดไหน ไทเลอร์ ดึงกรอบรู ปโฮโลลงมา เขาทําเช่นนี้ทุกสองสามคืนยามที่เขารู ้สึกเศร้าเป็ นพิเศษ เขาถือมันไว้ บนฝ่ ามือและหมุนไล่ดูภาพโฮโล—ครอบครัวของเราบนชายหาด พวกเราเล่นกันกลางทราย พ่อตอนฝึ กซ้อม ยิงเป้ า พ่อแม่เราในงานแต่งงานของพวกเขา น้องฉันชะงักที่ภาพเดิมอย่างที่เคยเสมอ เป็ นภาพพ่อกับแม่บน เรื อสําราญ ถ่ายเมื่อสามปี ที่แล้ว ไม่นานก่อนการต่อสู ้จะเริ่ มต้นขึ้นในมหาสมุทรแปซิ ฟิก การได้ยนิ เสี ยงพวก


13

เขาเป็ นเรื่ องยากสําหรับฉัน "เราคิดถึงลูกนะ ไทเลอร์ เรารักลูกจ้ะ แคลลี ดูแลน้องให้ดีนะ" เดือนแรก ฉัน ร้องไห้ทุกครั้งที่ได้ยนิ เสี ยงพวกเขา แล้วฉันก็หยุด ยามนี้เสี ยงพวกเขาฟังกลวงโหวงเหมือนนักแสดงไร้ชื่อ ไทเลอร์ ไม่เคยร้องไห้ เขาเอาแต่ซึมซับคําพูดของทั้งสองซํ้าแล้วซํ้าเล่า สิ่ งนี้คือแม่กบั พ่อ ของเขาใน ยามนี้ "โอเค พอแล้ว ได้เวลานอนแล้ว " ฉันเอื้อมมือไปที่กรอบรู ป "ไม่เอา ผมอยากจําไว้" ดวงตาเขาเว้าวอนฉัน "เธอกลัวจะลืมหรื อ" "คงงั้น" ฉันแตะไฟพกพาบนข้อมือเขา "จําได้ไหมว่าใครประดิษฐ์เจ้านี่ " ไทเลอร์ พยักหน้าอย่างเคร่ งขรึ ม ริ มฝี ปากล่างยืน่ "พ่อ" "ใช่แล้ว กับนักวิทยาศาสตร์ คนอื่นๆ เพราะฉะนั้นเวลาเธอเห็นแสงไฟจากมัน คิดเสี ยว่าพ่อกําลังมอง เธออยูแ่ ล้วกัน" "พี่ทาํ อย่างนั้นหรื อ" "ทุกวันเลย" ฉันลูบหัวเขา "ไม่ตอ้ งห่วงนะ พี่สัญญา เราจะไม่มีวนั ลืมพวกเขา" ฉันแลกกรอบรู ปกับของเล่นสุ ดโปรดของเขา ของเล่นชิ้นเดียวของเขาเวลานี้ ซึ่ งเป็ นหุ่นยนต์หมาตัว เล็ก เขาซุ กมันไว้ใต้แขน มันเปลี่ยนเป็ นโหมดนุ่มนิ่มและนอนลงราวกับเป็ นหมาจริ งๆ เว้นแต่ดวงตาสี เขียวที่ วาววาม ฉันเอากรอบรู ปกลับไปวางบนโต๊ะเหนือหัวเราตามเดิม ไทเลอร์ ไอ ฉันดึงถุงนอนขึ้นปิ ดรอบคอเขา ทุกครั้งที่เขาไอ ฉันดิ้นรนไม่ให้ตวั เองได้ยนิ คําของหมอที่คลินิกซึ่ งก้องในใจฉัน "ภาวะผิดปกติของปอดที่ไม่ ค่อยพบเห็น...อาจหายหรื อไม่หายก็ได้" ฉันมองอกของไทเลอร์ ขยับขึ้นลง และได้ยนิ เสี ยงหายใจอย่างลําบาก ขณะนอนหลับเข้ามาแทนที่ ฉันคลานออกจากถุงนอนและเขม้นมองอ้อมโต๊ะไป ไฟพกพาของไมเคิลส่ องแสงเรื องรองกับผนัง ฉันเหวีย่ งเสื้ อวอร์ มคลุมไหล่และเดินไปหา "ไมเคิล" ฉันกระซิบ "เข้ามาสิ " เขาคอยพูดให้เสี ยงเบาไว้ ฉันเข้าไปในที่มนั่ น้อยๆของเขา ฉันชอบอยูท่ ี่นนั่ และแวดล้อมไปด้วยภาพวาดด้วยดินสอกับดินสอ ถ่านของเขา มีอุปกรณ์ศิลปะเติมเต็มทุกซอกหลืบ เขาวาดฉากเมือง ตีค วามทัศนียภาพของอาคารรกร้าง รวมถึงพวกเป็ นมิตรและพวกอันธพาลพร้อมด้วยไฟพกพาพร้อมและเสื้ อผ้ากะรุ่ งกะริ่ งเป็ นชั้นๆ กระติกนํ้า แขวนพาดลําตัวผอมโซ เขาวางหนังสื อลงและลุกขึ้นนัง่ หันหลังให้ผนัง ก่อนจะทําท่าเรี ยกให้ฉนั ไปนัง่ ข้างเขาบนผ้าห่ม ทหาร "ตกลงเกิดอะไรขึ้นกับหน้าเธอน่ะ"


14

ฉันยกมือขึ้นแตะแก้ม มันแสบร้อน "มันดูแย่ไหม" "ไทเลอร์ ไม่สังเกตนี่ " "แค่เพราะในนี้มนั มืดเท่านั้นแหละ" ฉันนัง่ ขัดสมาธิ หันหน้าเข้าหาเขา "พวกอันธพาลหรื อ" ฉันผงกศีรษะ "ใช่ แต่ฉนั ไม่เป็ นไรหรอก" "ที่นนั่ เป็ นยังไง" "ประหลาด" เขาเงียบไป ศีรษะค้อมลง "อะไรหรื อ" ฉันถาม ไมเคิลเงยหน้าขึ้น "ฉันห่วงว่าเธอจะไม่กลับมา" "ฉันสัญญาแล้วนี่ ใช่ไหม" เขาพยักหน้า "ก็ใช่ แต่ฉนั คิดว่า...ถ้าเกิดเธอกลับมาไม่ได้ล่ะ" ฉันไม่มีคาํ ตอบให้ขอ้ นั้น เรานัง่ กันครู่ หนึ่งจนกระทัง่ เขาทําลายความเงียบ "แล้วเธอคิดว่ามันเป็ น ยังไงบ้างล่ะ" "เธอรู ้ไหมว่าพวกเขาใส่ ชิปประสาทเข้าไปในนี้ " ฉันชี้ที่ดา้ นหลังศีรษะฉัน "ตรงไหน ขอดูหน่อยซิ " เขาจับผมฉัน "บอกแล้วไงว่าฉันแค่ไปดูลาดเลาเฉยๆ" ฉันเห็นความวิตกบนใบหน้าเขา ดวงตาเขาอ่อนโยนด้วยความเอื้ออาทร ตลกดีที่ฉนั ไม่ค่อย สังเกตเห็นเขาจริ งจังนักตอนเขาอาศัยอยูบ่ นถนนเดียวกันกับเรา แปลกที่ตอ้ งถึงขั้นเกิดสงครามสปอร์ จึง นําพาเรามาอยูด่ ว้ ยกันได้ ฉันเอามือซุ กกระเป๋ าและสัมผัสอะไรบางอย่าง กระดาษนัน่ เอง ฉันดึงมันออกมา "อะไรน่ะ" เขาถาม "ผูช้ ายที่ธนาคารร่ างกายให้ฉนั มา มันเป็ นสัญญา" ไมเคิลเอนตัวเข้ามาใกล้กว่าเดิม "นัน่ เงินที่พวกเขาจะจ่ายหรื อ" เขาฉกกระดาษไปจากนิ้วฉัน "เอาคืนมานะ" เขาอ่านสัญญา " '...สําหรับการเชื่อมต่อสามครั้ง' " "ฉันไม่ทาํ หรอก" "ดีแล้ว" เขาเว้นช่วงไป "แต่ทาํ ไมล่ะ ฉันรู ้จกั นิสัยเธอนะ เธอไม่กลัวนี่ " "พวกเขาไม่มีทางจ่ายเยอะขนาดนั้นหรอก มันผิดความจริ ง นั่นละที่ทาํ ให้ฉนั ไหวตัว" "แต่พวกเขาเลี่ยงกฎหมายได้ยงั ไง เรื่ องจ้างสตาร์ ตเตอร์ น่ะ "


15

ฉันยักไหล่ "พวกเขาต้องมีช่องโหว่สักอย่าง" "มันออกจะลึกลับอยูน่ ะ ไม่เคยมีใครเห็นโฆษณาเลย" เขาพูดถูก "ทางเดียวที่ฉนั ได้รู้เรื่ องนี้คือจากผูช้ ายที่เคยอยูช่ ้ นั หนึ่ง " "เขาอาจทําเงินได้จากสตาร์ตเตอร์ทุกคนที่เขาพาเข้าไป" "เขาไม่ได้จากฉันหรอก" ฉันนอนตะแคงข้างและเอนศีรษะซบมือข้างหนึ่ง "ฉันไม่ไว้ใจที่นนั่ " "เธอคงเหนื่อย" เขาพูด "เดินไกลมากนะนัน่ " "ฉันเลยคําว่าเหนื่อยไปแล้วละ" "พรุ่ งนี้เราไปท่าบรรทุกสิ นค้ากันนะ เผือ่ จะได้ผลไม้บา้ ง" คําพูดของเขาพร่ าเลือนและดวงตาฉันหนักอึ้ง พอรู ้ตวั อีกที ฉันก็ลืมตาและเขากําลังยิม้ ให้ฉนั "แคล" เขาพูดอย่างอ่อนโยน "ไปนอนเถอะ" ฉันพยักหน้า ฉันยัดสัญญาลงกระเป๋ าตามเดิมและกลับไปหาไทเลอร์ ร่ างฉันหลอมละลายเข้าสู่ ถุง นอน ฉันตั้งไฟไว้ที่โหมดหลับ มันส่ องแสงนวลตา ฤดูหนาวในแคลิฟอร์ เนียตอนใต้ไม่ได้โหดร้ายนัก แต่มนั จะหนาวเกินไปสําหรับไทเลอร์ ฉันต้องพา เขาเข้าไปอยูส่ ักที่ที่อบอุ่น เป็ นบ้านจริ งๆ แต่ทาํ ยังไงล่ะ นี่คือความหวาดวิตกของฉันที่เกิดขึ้นเป็ นประจําทุก คํ่าคืน ฉันเคยหวังว่าธนาคารร่ างกายจะเป็ นคําตอบ แต่ ก็เปล่า ขณะฉันเลื่อนลอยสู่ การหลับใหล ไฟก็ดบั ลง *** นิทรารมณ์ของฉันพังทลายลงด้วยเสี ยงกรี ดก้องของเครื่ องตรวจจับควัน กลิ่นเหม็นขื่นเต็มรู จมูกฉัน ฉันรู ้สึกว่าไทเลอร์ ที่อยูใ่ กล้ๆ กําลังลุกขึ้นนัง่ และไอ "ไมเคิล" ฉันร้องเรี ยก "ไฟไหม้!" เขาตะโกนมาจากด้านตรงข้ามของห้อง สายข้อมือฉันบอกเวลา 5.00 น. ฉันคลําหากระติกนํ้าและเปิ ดฝา ก่อนจะล้วงลิ้นชักเหนือหัวและดึง เสื้ อยืดออกมาตัวหนึ่ง จากนั้นก็ราดนํ้าใส่ เสื้ อตัวนั้น "เอานี่ปิดจมูกไว้" ฉันบอกไทเลอร์ ไฟของไมเคิลทะลุผา่ นควันมา "ไปกันเร็ ว!" เขาตะโกน ฉันควงแขนน้องชายแน่ น ไฟพกพาของเราส่ องแทรกควันได้บา้ งขณะที่เราทั้งหมดค้อมตัวลงและ ไปที่ประตู


16

ไมเคิลวางมือบนหลังฉัน นําทางฉันไปยังบันได ควันลอยหนาตรงช่องบันได มันเหมือนนานชัว่ กัป ชัว่ กัลป์ แต่เราก็ลงมาข้างล่างสําเร็ จ ขาฉันอ่อนปวกเปี ยกตอนเราออกไปถึงข้างนอก เราขยับห่างจากตัวตึกเพราะกลัวเปลวเพลิงและเศษซากที่ร่วงหล่นลงมา ในความมืดแห่งยํ่ารุ่ ง เรา เห็นพวกเป็ นมิตรคนอื่นๆออกจากอาคาร มีสองคนที่เรารู ้จกั และอีกสามคนซึ่ งคงจะอยูช่ ้ นั ล่างๆกว่าเรา พวกเขาจ้องมองตึกด้วยความช็อก ฉันหมุนตัวไปรอบๆ "ไหนล่ะเปลวไฟ" ฉันถาม "ไฟอยูไ่ หนล่ะ" ไมเคิลพูด "นัน่ ครบทุกคนแล้วใช่ไหม" ชายคนหนึ่งตะเบ็งเสี ยง "ใช่" ฉันเห็นเอ็นเดอร์ นายหนึ่งซึ่ งอายุน่าจะสักหนึ่งร้อยปี กําลังเข้ามาใกล้ เขาสวมชุดสู ทสะอาด เนี้ยบ "แน่ใจนะ" นายเอ็นเดอร์มองพวกเป็ นมิตรซึ่งพยักหน้ารับ "ดี" เขาชูมือขึ้น แล้วเอ็นเดอร์ อีกสามคน ในชุดก่อสร้างก็เดินมาข้างหน้า ช่างก่อสร้างคนหนึ่งกระชากเทปซึ่ งปิ ดทับล็อกบนประตูขา้ งออก อีกคนใช้เครื่ องมือติดประกาศ คน ที่ใส่ สูทส่ งสําเนาของประกาศนั้นให้เราดู ไมเคิลอ่าน "ห้ามบุกรุ ก อาคารมีเจ้าของใหม่" "พวกเขารมควันเรา" พวกเป็ นมิตรคนหนึ่งเอ่ย "พวกเธอต้องออกไปจากบริ เวณนี้เดี๋ยวนี้ " นายชุดสู ทพูดด้วยนํ้าเสี ยงสุ ขมุ แต่คงไว้ซ่ ึ งอํานาจ เมื่อไม่มีใครเขยื้อน เขาก็เสริ มว่า "พวกเธอมีเวลาหนึ่งนาที" "แต่ขา้ วของของเรา..." ฉันขยับไปทางอาคาร "ฉันปล่อยให้เธอกลับเข้าไปในนั้นไม่ได้ เป็ นความรับผิดชอบของประกัน " นายชุดสู ทพูด "คุณเก็บทรัพย์สินของเราไว้ไม่ได้นะ" ไมเคิลพูด "เข้ามาอยูโ่ ดยไม่ได้รับอนุญาตคือการบุกรุ ก " นายเอ็นเดอร์พดู "ฉันเตือนเพื่อประโยชน์ของพวกเธอ เองนะ สามสิ บวินาที" หัวใจฉันจมดิ่ง "ทุกอย่างที่เรามีเหลืออยูย่ งั อยูใ่ นนั้น ถ้าเราเข้าไปไม่ได้ ก็ช่วยเอาของของเราออกมา ให้ทีเถอะค่ะ" เขาส่ ายหัว "ไม่มีเวลาแล้ว เธอต้องไป ผูค้ ุมกําลังมา" นัน่ ทําให้พวกเป็ นมิตรอื่นๆออกวิง่ ฉันโอบไทเลอร์ และหมุนตัวตั้งท่าจะไป แต่บางสิ่ งหยุดฉันไว้ ชายในชุดสู ทหันหลังให้เราแล้ว แต่ช่างก่อสร้างเห็นเราและพยักหน้ากับเขา เขาหันกลับมา


17

"ได้โปรดเถอะค่ะ พ่อแม่เราตายแล้ว" ดวงตาฉันร้อนผ่าวด้วยนํ้าตา "รู ปสุ ดท้ายของพวกเขาที่เรามีอยู่ ในตึก บนชั้นสามสุ ดทางเดิน ให้ใครไปเอากรอบรู ปมาให้เราได้ไหมคะ ถึงต้องโยนลงมาจากหน้าต่างก็ไม่ เป็ นไร" เขาชะงักเพียงชัว่ ครู่ ราวกับตริ ตรอง "ฉันก็อยากทําให้นะ แต่ไม่ได้หรอก ขอโทษที " เขาหันหลังกลับ ฉันไม่เคยรู ้สึกโหวงเหวงข้างในขนาดนี้มาก่อนเลย ไม่มีหวังที่จะเถียงกับเขา เวลากว่าหนึ่งร้อยปี แยกเราจาก กัน เขาไม่มีทางเข้าใจว่าเราต้องพานพบอะไรมาบ้าง "พี่แคลลี ไม่เป็ นไรหรอก" ไทเลอร์ดึงมือฉัน "เราจําพ่อแม่ได้โดยไม่ตอ้ งมีรูป เราไม่ลืมหรอก" เสี ยงไซเรนแผดลัน่ "พวกผูค้ ุม" ไมเคิลพูด "วิง่ เร็ ว!" เราไม่มีทางเลือก เราวิง่ เข้าสู่ ความมืดของเช้าตรู่ ทิง้ สิ่ งจับต้องได้ชิ้นสุ ดท้ายที่เชื่อมเรากับครอบครัว ของเราและชีวติ ที่เราเคยใช้ร่วมกันเมื่อเพียงหนึ่งปี ที่แล้วไว้เบื้องหลัง


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.