คำนำ หนังสื อเล่มเล็กนี้เป็ นส่ วนหนึ่งในรายวิชา 241203 นวัตกรรมและ เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรี ยนรู้ ใช้สาหรับเป็ นสื่ อการเรี ยนรู้ภาษาญี่ปุ่น โดยมี เนื้อหาสาระสาคัญเกี่ยวกับตัวอักษรคันจิซ่ ึ งเป็ นหนึ่งในประเภทของภาษาญี่ปุ่น เริ่ ม ตั้งแต่ประวัติความเป็ นมาของคันจิ การนาไปใช้และประโยชน์ในการใช้คนั จิใน ชีวติ ประจาวันว่ามีความจาเป็ นอย่างยิง่ ทั้งนี้ทางคณะผูจ้ ดั ทาหวังเป็ นอย่างยิง่ ว่าหนังสื อเล่มเล็กนี้จะมีประโยชน์ต่อ ผูศ้ ึกษาไม่มากก็นอ้ ย หากมีขอ้ ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัย ณ ที่นี่ดว้ ย
คณะผูจ้ ดั
สารบัญ เรื่ อง
หน้า
1ที่มา
5
2 จานวนของคันจิ
6
3วิธีอ่านคันจิ
8
4ความสาคัญของคันจิ
10
6ประโยชน์ของคันจิ
12
7แบบฝึ กหัด
21
มารู้จกั ประวัติความ เป็ นมาของคันจิกนั เถอะ ครับ...............
ที่มาของคันจิ
ตัวคันจิเป็ นการยืมตัวอักษรจากประเทศจีน มาปรับใช้ ในประเทศญี่ปนุ่ คาว่า "คันจิ" หากอ่านตามเสียงภาษาจีนกลางจะอ่านว่า "ฮัน่ จื ้อ" มีความหมายว่า ตัวอักษรของชาว ฮัน่ อันเป็ นชนส่วนใหญ่ของประเทศจีน คา ว่าภาษาจีนในภาษาจีนเอง ก็เรี ยกว่า ภาษา ฮัน่
จานวนของคันจิ มีประมาณ 50,000 ตัว แต่ส่วนใหญ่ จะเป็ นภาษาโบราณที่ปัจจุบนั ไม่มีการ ใช้ งานแล้ ว ในเดือนพฤศจิกายน คศ. 2010 รัฐบาลญี่ปนได้ ุ่ ประกาศแก้ ไข จานวนคันจิที่ใช้ ในชีวิตประจาวัน จาก ที่เคยกาหนดไว้ เดิม 1,945 ตัว เป็ น 2,136 ตัว
ลักษณะของคันจิ คันจิสมัยโบราณ เป็ นอักษรภาพ ซึง่ ต่อมา ค่อยๆ เปลี่ยนรูปมาเรื่ อยๆ จน กลายเป็ นอักษรเส้ นในปั จจุบนั
เช่นตัวอย่างคาว่า 月(ซึกิ) แปลว่า พระจันทร์ ค่อยเปลี่ยนจากรูป มาเป็ นตัวอักษรในปั จจุบนั
คันจิในภาพคือ 馬 อ่าน แปลว่า "ม้ า" ซึ่งสามารถเห็นถึงการค่อยๆ เปลี่ยนรูป จากอักษรโบราณเมื่อหลายพันปี ก่อน จนกลายมาเป็ นคันจิท่ใี ช้ อยู่ในปัจจุบัน
คันจิมีการพัฒนา จากรูปมาเป็ นเส้นมีความหมายในตัวเอง มหมาย
พระอาทิตย์ คน
ต้นไม้
วิธีอา่ นตัวคันจิ เสียงอ่ านแบบจีน (On-yomi 音読み) เสียงอ่ านแบบญี่ปนุ่ (Kun yomi 訓読み)
山
เสียงองแบบจีนอ่านว่า san เสียงคุงแบบญี่ปนอ่ ุ่ านว่า yama
จุดสังเกต คือ 1. ตัวคันจิตวั เดียวสามารถอ่านได้หลายเสี ยง 2. ตัวคันจิถึงแม้จะอ่านแตกต่างกันแต่รากความหมายยังคงตัวของมัน เอง
ความสาความสาคัญ คันจิ ต้องใช้ร่วมกับอักษร อีก4ประเภท ฮิราก นะ คะตาตะนะ ตัวโรมันจิ และเลขอารบิก จึงสาคัญต่อการเรี ยนรู ้
คันจิสามารถพบเจอในชีวิตประจาวันที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ได้เพราะคันจิช่วยในการทาให้ประโยคมี่ความกระชับ และลดการสับสนได้และประหยัดพื้นที่ในการเขียน เป็ น ต้น
ประโยชน์ในการนาไปใช้ คันจิทาให้เข้าใจความหมายของประโยคได้ง่ายขึ้น เพื่อง่ายต่อ ความเข้าใจ ขอยกตัวอย่างประโยคเดิม อีกครั้ง : แบบไม่ใช้ คันจิ :わたくしはタイからまいりまし た、バードともうします。 แบบปกติ :私はタイから参りました、バード と申します。
ใช้ ในการอ่ านสถานทีต่ ่ างๆในประเทศญีป่ ุ่ นเพราะคัน จิถูกใช้ ในชี วติ ประจาวันทีไ่ ม่ อาจหลีกเลีย่ งได้
ใช้ ในการอ่านการ์ ตูน ญี่ปุ่นนิตยสารต่ างๆ เพราะคันจิจะช่ วยให้ ประโยคกระชับและ เข้ าใจมากขึน้
คันจิทาให้ การอ่านหนังสื อญี่ปุ่นได้ มากขึน้ คันจิ ถือเป็ นพืน้ ฐานของควารู้ ภาษษญี่ปุ่น ทีส่ าคัญ อย่ างหนึงเพราะเป็ นส่ วนประกอบสาคัญ ใน พืน้ ฐานด้ านคาศัพท์ ซึ่งช่ วยให้ เกิดประโยชน์ กบั การเรียนภาษาญี่ปุ่นอย่ างมาก
ช่วยในการอ่านหนังสื อพิมพ์ เพราะข้อความที่ใช้ในนี้ จาเป็ น ที่จะต้องกระชับจึงมีการใช้คนั จิ เป็ นจานวนมาก
ใช้สั่งอาหารตาม ร้านอาหารญี่ปุ่น
ช่วยในการอ่านป้ ายบอกทางต่างๆเช่น สถานีรถไฟ หรื อป้ ายบอกทางต่างๆๆ
ช่วยในการหาเพื่อน ชาวญี่ปนุ่ ทาง e-mail
ช่วยการการท่องเที่ยวและ ซื้อของในญี่ปุ่น
อ้างอิง ๒๕๕๗ ออนไลน์) แหล่งที่มา (http://www.minnanokanji.com/php/kno wledge.php?pa_name=features ๒๔ มกราคม ๒๕๕๗ ๒๕๕๗ ออนไลน์) แหล่งที่มา https://www.google.com/search?q=%E0 %B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%99% E๒๔ มกราคม ๒๕๕๗